Last posted
Total of 1000 posts
ไอด้อลในการทำงานของกูเลย สรุปคือเป็นนักกีฬาดาวรุ่งที่เก่ง ถ้าพยายามอย่างหนักมีสิทธิติด 1 ใน 10 ของโลก
แต่พี่แกไม่เอาว่ะ เลือกเล่นแบบสบายๆรับเงินดีกว่า เกมส์ไหนที่ทำท่าจะแพ้ก็โยนเกมแม่งเลย ฮ่าๆๆๆๆ
เพราะยังไงอันดับปัจจุบันก็ได้เงินค่าลงแข่งสูงอยู่แล้ว จะพยายามให้ติดอันดับโลกทำไมวะ
เล่นเรื่อยๆรับตั้งไปดีกว่า
>>944 ก็คงไม่ถึงขั้นอยู่ได้สบายๆจนเกษียณแบบข้าราชการ และดูไม่ค่อยมั่นคง
ที่ๆกูอยู่คือเป็น outsource ที่งานป้อนมาไม่ค่อยเยอะ แล้วกูอยู่มานานจนเข้าใจภาพรวมระบบแล้ว เลยทำงานได้เร็ว
งานก็ทำเสร็จทัน deadline สบายๆ อยู่ใกล้บ้าน เงินเดือนเรียกได้ว่าก็เยอะพอประมาณแต่ไม่เยอะเวอร์ ส่วนสวัสดิการไม่มีอะไรให้เลย
ด้วยสไตล์งานทำงานหนักหรือขยันไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ก็เลยอยู่เหมือนทำงานไปวันๆ
แต่กูก็กำลังหางานใหม่แล้ว เพราะมันดูไม่ค่อยมีอนาคตหรือช่องทางให้เติบโต เงินเดือนก็ขึ้นน้อยมากจนน่าเกลียด
แถมสไตล์การสั่งงานของลูกค้าเริ่มเหี้ย เหมือนฟังคนข้างล่างน้อยลง บางเรื่องมันไม่ควรทำเราเตือนเพราะหวังดีก็โดนด่า
ปัญหาคือยังไม่มีงานไหนที่ถูกใจเลยนี่สิ
>>944 กูอยู่บ.ญี่ปุ่นเก่าแก่เปิดในไทยมาเกิน 40 ปี ก็มีเยอะนะพวกป้าๆ ลุงๆ ที่อยู่ยันเกษียณโดยไม่ได้เป็นใหญ่เป็นโต เป็นพนักงานระดับปฏิบัติการทั่วไป เค้าก็เลี้ยงยันเกษียณ บางคนก็ทำงานเช้าชามเย็นชามแว้ดผู้ติดต่องานแทบไม่ต่างกับราชการเลย บางคนทำงานดี๊ดีนิสัยดี๊ดีก็มี
กูไม่เคยพอใจกับงานและเงินเดือนตัวเองเลยว่ะ
ไม่รู้เพราะแม่กดดัน เพราะเปรียบเทียบกับเพื่อนข้างบ้าน หรือเพราะตัวกูเอง
15k ตจว ไม่ปรับเงิน
กูก็พยายามมองเพื่อนที่ได้13k หรืองานเก่าได้ 12k ว่าขนาดนี่ก็ดีมากแล้วกับคนที่ทำงานไม่ถึงปี
แต่แม่กูก็มาบอกว่าให้ตั้งใจสอบกพ จะได้ไม่เงินเดือนแค่15k เจ็บว่ะ ทำไมต้องเอากรอบตัวเองมาครอบงำกูด้วย ขรก.แม่งไม่ใช่ทางกูเลย ต้องไปงานอะไรก็ไม่รู้ นาน ร้อน เสียเวลา
>>948 กูนี่อายุ25 เงินเดือน28k กูว่ากุพอใจตัวเองแล้วนะ อาจจะเจ็บใจที่ค่าหอแพง (6k) นิดหน่อย ทีนี้เพื่อนกุเนี่ยเพื่อนกูทำงานสายสุขภาพสตาร์ท40k กันทั้งนั้น ได้ไปเที่ยวสวยๆ กันทุกเดือน ก็รุ้แหละว่าเทียบอาชีพเฉพาะกับพนักงานบ.ไม่ได้ แต่กูก็ยังเทียบน่ะ นอกจากนี้ที่บ้านกูยังยกเรื่องขรก.มาพูดทุกครั้งที่มีโอกาศ ไล่ให้ไปสอบกระทรวงบลาๆๆๆ ตลอดเพราะฝังใจมาแต่เด็กว่าขรก.กระทรวงดูเท่ มั่นคง เป็นใหญ่เป็นโต กุรักแม่กูนะ รุ้แหละว่าอยากให้ได้ดี แต่ไอ้พวกนั้นมันไม่ได้เปิดรับบ่อย กุเปิดเข้าไปดูรายชื่อคนติดสัมทีไรก็เจอแต่นามสกุลดัง ถึงกุสอบติดเข้าไปสัม คิดว่าเขาจะรับใครวะ (ที่พูดงี้เพราะเคยมีปสก.มาแล้วตอนสอบไฟฟ้าตจว. รอบสัมพอดีมีโอกาสได้คุยกับคนอื่นๆ ที่ติดสัมอีก 5 คน กุอาจจะหลงตัวเองก้ได้ แต่คนที่เขาเลือกดูเฉื่อยๆ ไม่มีความคิด กุมั่นใจว่ากุทำงานดีกว่าอ่ะ) กุเลยพอเลยกับขรก.ที่เขาว่ากันว่าเงินดีตอนปลายทาง
โม่ง บ้านกูอยู่ชานเมือง ชานเมืองแบบว่าไกลจาก รฟฟ.สิบกิโล แล้วสิบกิโลนี่ชั่วโมงเร่งด่วน เช้า-เย็น รถติดสาหัสตลอด แถมจะติดขึ้นเรื่อยๆเพราะแถวบ้านกูจะเอารฟฟ.มาลงเพิ่มอีกติดไปยาวๆ5ปีแบบสาหัสกว่าเดิมจากที่มันติดธรรมดาก็เหี้ยพอแล้ว ประเด็นคือกูกำลังจบใหม่ด้วย เห็นหลายๆครั้งคือที่ทำงานสายงานITมักเข้าตัวเมืองฝั่งพระนครตลอด ฝั่งธนฯคือเจอน้อยมาก(ทั้งบางกอกน้อย บางกอกใหญ่) ไม่ตรงสายเฉพาะๆแม่งก็ไม่รับอีก ไม่งั้นก็ไปอีกทีก็แถวลาดพร้าว+เมืองนนท์เลย ทีนี้กูคาดเดาไว้เลยว่าจบใหม่ปุ๊บได้งานปั๊บมันไม่ใช่ว่ากูรับผิดชอบแต่ตัวเอง กูต้องช่วยที่บ้านผ่อนหนี้สารพัดด้วย แน่นอนว่ากูเจียดเงินจากการแบ่งเบาภาระที่บ้านไปเช่าที่ไหนเพิ่มยากมาก กูจะหนีไปตายเอาดาบหน้าตัดความสัมพันธ์กับครอบครัวดื้อๆนี่แม่งพลิกแผ่นดินไล่ทวงบุญคุณแน่นอน ซึ่งปัญหาคือเรื่องการเดินทางนี่แหละ ถ้ากูมีปัญญาหารายได้ถึง2หมื่นต้นๆ มันจะพอเหรอวะ? โม่งซาราลี่แมนบ้านไกลจาก รฟฟ. แล้วที่ทำงานเข้าพระนครหาทางแก้ปัญหานี้กันยังไงอ่ะ?
มีป้าที่ทำงานคนนึงเห็นกูไม่มีแฟนก็ชอบมาแซวกูว่า เป็น(เกย์)ใช่ไหม เป็นใช่ป่าววว
อีเหี้ย กูรำคาญโว้ย ชวนกูคยเรื่องอื่นไม่เป็นรึไง ถ้ากูเป็นแล้วมันจะทำไม หุ้นบริษัทจะตกรึไงวะ อยากจะด่ากลับไปว่าเพราะมีผู้หญิงแบบมึงกูถึงไม่อยากมีนี่แหละ แต่ทำได้แค่หัวเราะแห้งๆ
เรื่องพ่อแม่ไม่พอใจกับลูกไม่รู้เป็นปัญหา asian parents อย่างที่ฝรั่งล้อกันรึเปล่า
กูคิดว่าถึงเงินกูจะไม่ได้เยอะเวอร์ แต่สำหรับคนอาชีพนี้ อายุประมาณนี้มันก็มากพอตัวแล้ว
แต่พ่อแม่กูเค้าอยากให้กูไปเรียนโทเมืองนอก ซึ่งสาย IT ใบปริญญามันสำคัญน้อยลงมากเทียบกับแต่ก่อน
ถ้าไม่ได้จะขึ้นสายบริหารอ่ะนะ ซึ่งมันไม่ใช่ทางกูอยู่แล้ว
แล้วเค้าก็เอาแต่เพ้อว่าจบโทเมืองนอกจะได้เงินเดือนเป็นแสน พูดวนอยู่แค่นี้
กูอธิบายไปหลายรอบแล้วว่ามันไม่ใช่เค้าก็ไม่ฟัง ซึ่งกูเหนื่อยกับเรื่องนี้มากแล้วจริงๆ
เหมือนเค้าคาดหวังกับกูมากจนเวอร์วังโดยไม่ดูฐานเงินเดือนเฉลี่ยของวงการนี้เลย
50k ครอบครัวมึงจะหวังมากกว่านี้ก็ไม่แปลก เยอะมากนะถ้าเทียบกับสายอาชีพอื่น
เซม เอาจริงนะ เงินเดือนเราเองแท้ๆ แต่คนอื่นคาดหวังกว่าตัวเราเองอีก ซึ่งเราโอเคกับเงินแล้วอะ ซึ้งเลยสกิลที่เราควรพัฒนาคือไม่เอาความกังวลคนอื่นมาเป็นความกังวลตัวเองว่ะ
>>952-953 เป็นการทองโลกแบบคนที่เกิดก่อนปี 80-90 อ่ะ ยุคก่อนหน้านี้สื่อบรรเทิงมันยังไม่พัฒนามาก เพราะงั้นการใช้ชีวิตของคนยุคนี้คือมีงานดีๆทพและสร้างครอบครัว แต่งงานมีลูกใช้เวลากับครอบครับ
แต่คนที่เกิดยุค 90 ลงมา สื่อบันเทิงมันพัฒนามากขึ้นเยอะ เกมส์ อินเตอร์เน็ต ดูหนังดูซีรี่ย์ออนไลน์ มังงะ อนิเมะ ศิลปินเกาหลี ไอด้อล
เลิกงานกลับบ้านดูหนังเล่นเกมส์ไม่ใช่เรื่องแปลก
แต่มันจะแปลกในสายตาคนยุคเก่าว่าทำไมโตขนาดนี้อายุขนาดนี้ ยังติดเกมส์ติดการ์ตูน ติดซีรี่ย์เกาหลี ทำไมไม่หาครอบครัว
คนยุคเก่าไม่ได้โตมากับสื่อบันเทิงพวกนี้ เพราะงั้นพวกเขาจะไม่เข้าใจว่าของพวกนี้มันทำให้คนรุ่นใหม่อยู่คนเดียวอย่างมีความสุขมากกว่าการแต่งงานสร้างครอบครัวอีก
แต่อีกซัก 10-20 ปี พอเด็กยุค 90 กลายเป็นประชากรส่วนใหญ่ของวัยทำงาน คำถามพวกนี้น่าจะหมดไปอ่ะ ทำงานแล้วเอาเงินมาซื้อของที่ตัวเองชอบนี่ไม่ใช่เรื่องแปลกแล้ว
>>957 คือกูพอมีทางที่จะหางานเงินเดือนเยอะกว่านี้อีกได้แหละ แต่ยังไม่ค่อยรู้สึกอยากเสี่ยง
งานนี้มันใกล้บ้านและงานไม่หนักด้วย ถ้าเงินเยอะแต่โดนใช้ทำโอฟรีบ่อยๆกับไกลบ้านก็ไม่คุ้มอยู่ดี
คืองานนี้มันก็มีข้อเสียหลายอย่าง แต่กูอยากค่อยๆดูค่อยๆคิดไปมากกว่าว่าจะเอาไง ส่วนพ่อแม่กูก็เอาแต่พูดเรื่องนี้กดดันกูตลอดเวลา
ที่สำคัญคือกูคิดว่าการเรียนโทไม่ใช่คำตอบเท่าไหร่ กูเองก็ไม่ได้สนใจด้านไหนเป็นพิเศษด้วย
>>958 มันทำยากว่ะมึง เจอหน้ากันทุกอาทิตย์ กินข้าวทีไรเค้าก็พูดแต่เรื่องนี้ ทำหูทวนลมไม่ตอบไปตลอดก็ไม่ได้
อธิบายไปเค้าก็ไม่ฟัง จนวันก่อนกูทนไม่ไหวระเบิดลงไปรอบนึงเค้าก็บีบน้ำตาหาว่ากูเป็นลูกอกตัญญู เริ่มรำเลิกบุณคุณ
คือรู้นะว่าเค้าหวังดี แต่หวังดีแบบยัดเยียดอยู่ฝ่ายเดียวแล้วไม่เคยจะฟังอะไรที่เราพูดเลยนี่มันไม่ไหวจริงๆ
ต่อให้กูไปเรียนโทกลับมาไม่ได้มีเงินเดือนเป็นแสนๆตามที่เค้าคิดว่าจะได้ เดี๋ยวเค้าก็ไม่พอใจอีกอยู่ดี
>>949 ถ้ามึงคิดแบบว่า สอบเข้าไปยังไง ก็แพ้เส้นสาย แล้วตอนมึงไปสัม มึงแพ้คนที่ดูเฉื่อยกว่า เลยคิดว่าตัวเองน่าจะได้ คือมึงชัวร์ได้ไงว่ามึงเก่งกว่าเค้าแน่ๆ ตอนสอบข้อเขียนเขาออาจทำได้ดีกว่ามึง ประวัติการทำงานนู่นนี่นั่น หรือ ตอนสัม เค้าอาจทำได้ดีกว่ามึงก็ได้
แต่ถึงจะพ้เส้นสายจริง กุอยากให้มึงพยายามอีกนะ.มันต้องมีบ้างล่ะสักที่ที่เส้นสายไม่มี หรือมีน้อย ที่จะทำให้มึงสอดแทรกไปได้
>>960 แบบนี้มึงควรไปให้ไกลๆจากพ่อแม่มึงเลย ห่างไปยาวๆสักพัก อาทิตย์นึงบอกไปว่ากลับมาบ้านไม่ได้เดี๋ยวช่วงนี้มีงานทำหนักๆ เรื่องนี้ปัญหาไม่ได้อยู่ที่งานมึงละ อยู่กับพ่อแม่มึงนี่แหละ แต่ไม่เข้าใจพ่อแม่มึงว่ามีทุนส่งเรียนได้ถึงขนาดนั้นเลยเหรอ? ไปเรียนนอกทีค่าใช้จ่ายสูงสัสๆแถมเป็นล้านเลยด้วยซ้ำ กูเห็นในโม่งมีคนทำสายกราฟฟิกชีวิตชิบหายเพราะพ่อแม่แนะแนวชีวิตให้มาคนนึงละ ไม่รู้ตอนนี้ผูกคอตายคาตึกไปรึยังนะ พยายามหาเรื่องปั่นให้วีซ่าไม่ผ่านดูถ้าชีวิตนี้มึงคิดว่าจะอยู่ไทยไปตลอดกาล แบบนี้พ่อแม่มึงจะมารำเลิกบุญคุณอะไรได้อีก มึงลองถามประชดไปก็ได้ว่างั้นจบนอกจาก ม.ห้องแถวจะเอาไหม? เรียนป.โทออนไลน์เดี๋ยวนี้ก็มี แต่รอเก็บเงินสักสี่ปีก่อนนะเพราะค่าใช้จ่ายก็สูงไรงี้
เสริมไรให้ U of Illinois at Urbana-Champaign มี ป.โทออนไลน์ของcoursera ไปหาๆดูว่ามันเน้นทำทีสิสไรไหม ไปเรียนๆมาสักใบเอาไปแปะกบาลพ่อแม่มึงซะนะถ้าเค้าดื้อชิบหายแบบนั้น หรือถ้ามีป โทออนไลน์ที่ถูกกว่านี้ก็ว่าไป
>>964 อันนี้กูไม่รู้ว่าเค้ากราฟฟิกแบบงานศิลปะวาดรูป ตัดต่อ หรือพวกเล่นใหญ่แบบเรนเดอร์นะ เนื้อหามันออกแนวในโม่งมู้ปรึกษาปัญหา นินทาญาติพี่น้องที่เอาไว้คุย(นินทา)สันดาน นิสัย มารยาท คนในบ้านอ่ะ กูอ่านเจอๆในมู้อยู่ว่ามันทำงานด้านกราฟฟิค ด้านตัดต่อ แล้วมันโดนพ่อแม่รบเร้าให้เรียนต่อนอกป.โทแบบ >>954 >>960 เลย ทีนี้พ่อแม่มันล้มเลิกความตั้งใจปุ๊บมันไม่ได้จะมาทำงานต่อแต่มันมาเปิดธุรกิจเองตามที่คนในบ้านให้ทำแล้วพ่อแม่มันชอบทำให้เสียกิจการและลูกค้าบ่อยๆ แถมยังมารบกวนเงินเก็บสะสมของโม่งคนนั้นจากหลักแสนเหลือแค่2หมื่นอีก สุดท้ายเลยมาปรึกษาโม่งว่าจะผูกคอตายคาชั้นสองของบ้านดีไหม เนื้อหามันไม่ใช่เรื่องทำงานแต่มันคือเรื่องครอบครัวหว่ะ ส่วนเจ้าตัวจะหางานใหม่อะไรยังไงไหมกูไม่รู้แล้ว เลยไปมาบอกเนี่ยแหละว่างานการอะไร ชีวิตยังไงตัดสินใจเอาเอง ซึ่งเรื่องแบบนี้ถ้าเน้นหนักไปทางครอบครัวกูว่าควรไปอีกมู้นะ ไม่ใช่มู้นี้ มู้นี้มันคุยเรื่องไลฟ์สไตล์การทำงาน การเมือง/สังคมในที่ทำงานและเพื่อร่วมงานกับรายได้มากกว่า
ในนี้มีใคนเป็น hr บ้าง ขอปรึกษาหน่อย คือว่ากูเซ็นสัญญาจ้างงานละ แต่นายจ้างตัวจริงไม่อยู่ ไปต่างประเทศ กลางๆ เดือนถึงจะกลับ ตอนนี้ในสัญญาก็เลยมีแต่ลายเซ็นกู กับลายเซ็น hr ที่เป็นพยาน (ไม่มีลายเซ็นนายจ้าง)
เลยอยากทราบว่าแบบนี้คือชัวร์แล้วใช่ไหม ไม่ใช่มีการยึกยักแก้สัญญาอะไรทีหลังนะ
สงสัยว่าเวลามีคนบอกอายุกับเงินเดือนแล้ววพกมึงบอกได้ว่าขนาดนี้คือเยอะหรือน้อยนี่พวกมึงมีหลักเกณฑ์ชัดๆมั้ยว่าอายุเท่าไหร่ควรเงินเดือนเท่าไหร่
กูอยากรู้ว่าของตัวเองเยอะมั้ย แยกตามสายอาชีพได้ยิ่งดี
ทำไมการเป็นคนให้นี่มันทุกข์ใจจังวะ กูเป็นฝ่ายที่ให้อยู่ฝ่ายเดียวตลอด แม่งทั้งเหนื่อย ทั้งท้อ อยากจะเลิก ๆ แม่งไปให้จบ ๆ แต่แม่งก็ทำใจไม่ได้ว่ะ
กุตกงาน กุหางานไม่ได้ กุความสามารถต่ำไป กุได้ 13k 15k.
กุอยากรู้ว่าระดับ 17 อัพ ต้องมีสกิลอะไร เรียนแบบไหน บอกมาหน่อย กุจะฝึกเพื่อให้ได้เงินสูงๆ กุรู้ว่าอาชีพกุมันสายธุรการ มันคงเงินเดือนต่ำๆ แต่กุก็อยากได้สูงอะแต่ไม่รู้ว่าต้องมีสกิลอะไรเพิ่มอีก
เคยคิดว่าถ้ากุได้เงินเดือนแสน กุก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว
แต่พอได้มาแล้ว กุก็ยังอิจฉากับเพื่อนที่ทำธุรกิจ หรือค้าขายอยู่บ้าน แล้วได้เงินเป็นแสน แถมได้อยู่กับบ้านตัวเองที่ ตจว.
กุคิดมาตลอดเลยนะว่ากุเป็นคนที่ไม่ค่อยมักมากได้เท่าที่พอใจเมื่อไร ก็พอแล้ว ทึกอย่าง จะไม่ทะเยอทะยาน อยากได้อะไรอีกแล้ว
สรุปกุก็ไม่ต่างกับคนทั่วไป
ทำงานมาปี เงินเดือน 19k กำลังคิดจะหางานใหม่ ใจเคยคิดรอโบนัส 3 เดือนแต่ก็คิดว่าถ้าที่ใหม่ดีกว่าก็คงยอมทิ้งไป สาเหตุที่อยากออก งานเหนื่อยไหม ตอบยากเพราะงานที่กูทำแทบไม่ตรง jd ผู้บริหารไม่สนับสนุนไม่ค่อยอนุมัติเหี้ยอะไร เลยอยากไปโตที่อื่น ให้ได้สกิล มีประสิทธิภาพมากกว่านี้ที่ทำเหี้ยไรไม่รู้อยู่ แต่ถ้าไปที่ใหม่ก็กลัวจะหนีไม่พ้นต้องเจอปัญหาแบบเก่าๆ เลยลังเลว่ากูควรพอหรือรอต่อไป กูเด็กจบใหม่มีเเต่คนบอกให้สัก 1-2ปี ค่อยไปเอาประสบการณ์ก่อน ไอ้ห่ามองเเล้วอยู่ก็ย่ำอยู่กับที่เเต่งานไม่หนักเงินพอได้ ใจก็อยากลองอีกใจก็ไม่อยากเสี่ยงกลัวไปที่ใหม่แล้วน้ำตาไหลเสียดายเงินโบนัสอีกด้วยโม่ง
เครียดว่ะ ช่วงนี้งานน้อยๆ กูได้แต่อ่านเปเปอร์ ดูคอร์สออนไลน์ ทำโปรเจ็คส่วนตัวไปเรื่อยๆ แล้วก็รับเงินเดือนไปเฉยๆ รู้สึกตัวเองไม่ค่อยมีประโยชน์กับ บ. เลยว่ะ แล้วดูเขาก็ไม่อยากให้ใครในทีมกูลาออก เข้าใจว่าเดี๋ยวงานมันกำลังจะมีมาในไม่กี่เดือนหรอก แต่ช่วงนี้แม่งโคตรเซ็งเลยว่ะ เพราะที่ผ่านมามันยุ่งๆ พอว่างมา 2 เดือน แม่งเหมือนชีวิตเคว้งคว้าง ชวนให้หมดไฟ
มีใครเคยออกจากงานเพราะดันไปชอบคนในที่ทำงานที่เดียวกัน แต่อีกฝ่ายเขาดันมีแฟนแล้วบ้างไหมวะ
คือเงินอาจจะไม่เยอะ แต่งานก็ดีนะไม่หนักมาก แต่พอกูคิดเรื่องเขากับแฟนเขาแล้วกูรู้สึกเจ็บจนทนไม่ไหวจริงๆว่ะ
ปล. กูกับเขาคุยกันแค่ในที่ทำงานเฉยๆนะ ไม่เคยนัดกันไปเที่ยว
มีงานอะไรที่งานไม่หนักเเล้วจบมาทุกอาชีพก็ทำได้บ้างวะ
คือกูจบวิศวะ เเล้วพอมาลองสัมผัสงานวิศวะ เเม่งไม่ใช่ทางกูเลยว่ะสัส เเล้วเวลามันน้อยมากสำหรับอยากจะทำจ๊อบอื่น
กูมีจ๊อบเสริมงานฟรีเเลนซ์อยู่ไง ทีนี้งานวิศวะบ.ที่ทำเเม่งงานเยอะจริงโอรัวๆ ได้เงินเยอะเเต่กูก็อยากทำจ๊อบเสริมด้วย(เป็นงานที่ชอบ)
กูทำมาสองปีละทีนี้กูเริ่มได้เงินฟรีเเลนซ์พอๆกับเงินเดือน เเถมทำเเค่ไม่กี่วัน กูอยากลาออกเหมือนกันเเต่ฟรีเเลนซ์ก็ยังไม่มั่นคงขนาดนั้น คำถามคือ กูจะหางานประจำที่งานไม่หนักสบายๆ เลิกหกโมงทุ่ม เอาเเบบไม่ต้องเเบกงานกลับมาทำที่บ้านได้บ้างไหมวะ เงินไม่ต้องเยอะ ต้องการเวลากับพลังงานไปลงกับงานฟรีเเลนซ์ ไม่ต้องสายวิศวะก็ได้มีอะไรบ้าง เปิดกะลาให้กูหน่อย ไปทำบัญชีอะไรพวกนี้งานหนักไหม
บัญชีมึงจะตายเอา กุแนะนำประสานงาน ธุรการนะ มันจะจบ ไม่ก็งานประเภทเอกสารล้วนๆ
งานประสานงานธุรการ งานเอกสาร นี่อะไรบ้างอะ พวกcall center อะไรพวกนี้เหรอ ถ้าจะเซิร์จค้นหาต้องเซิร์จว่าไง
ตอนนี้เเพลนโง่ๆเเบบสิ้นคิดของกูคือ พยายามเข้าราชการหน่วยงานที่งานไม่หนักมากให้ได้ จะได้มีเวลาตามที่หวัง
เเต่ถ้าเข้าไม่ได้ก็จะหาเเผนสองเนี่ยเเหละ งานอะไรก็ได้ที่ทำได้สบายๆ จบเป็นวันไป
>>984 เออ งานธุรการนี่แหละไม่หนักแน่นอน อีกงานที่กูว่าไม่หนักด้วยคือ กูว่าคงเป็นพนักงานรายวันตามพวกเทกซ์ไทล์ ตามโรงงานอุตสาหกรรมรายวันหว่ะ อันนั้นคือวันละ300บาท เลิกงานปุ๊บจบตรงนั้นเลย มึงจะสนไหมล่ะ? ส่วนข้าราชการที่ไม่หนักมากสุดๆเลยนะ รู้สึกว่าการปกครองส่วนท้องถิ่นนี่แหละหนักน้อยสุด แต่คนสมัครเยอะสัสๆเพราะรู้กันทั่วว่าสบายง่ายๆ ถ้ามึงจะราชการมึงไปเป็นลูกจ้างชั่วคราวให้เค้าง่ายกว่านะ ไม่ก็ พนง.ราชการก็ได้อยู่
>>980 พี่เพื่อนกุจบวิศวะ แต่ทำงานแบงค์ มันบอกว่ามีตน.ที่เขาชอบจ้างเด็กวิศวะอยู่เว้ย ไม่รู้เอาไปคิดเลขหรือไรเดี๋ยวกูไปถามมาให้ อย่างอื่นก็พวกแอดมิน เซลโค ไฟแนนซ์บางที่ก็ไม่จำเป็นต้องจบด้านนี้ ส่วนมาเก็ตติ้งกูแลดูจะไม่ใช่ทางมึงกูตัดออก งานฟรีแลนซ์มึงทำอะไรวะ ทำไมรายได้ดีขนาดไม่กี่วันเท่าเงินเดือน
มือลั่น กุคิดว่าตน.งานมันล้านแปดเลยนะ แต่เอาที่ดีกว่า 300 ต่อวันเถอะ มึงเองก็เป็นแรงงานมีสกิล ถ้าเอาตามข้อกำหนดของมึงว่า 1.ไม่หนักมาก เลิกหก-ทุ่ม (เทียบบ.ทั่วไปแล้วคือโอ1-2ชม. หรือไม่มีโอถ้าเวลายืดหยุ่น) 2.ไม่หวังเลื่อนขั้น/ก้าวหน้า/โบหนักๆ เพราะยังไงมึงมีรายได้สองทางอยู่แล้วเลยไม่แคร์ตรงนี้มาก มึงลองบราวซ์เอาจากเขตบ้านมึงละนั่งไล่อ่านอันที่ถูกใจดูเลย คนอาจจะถามนิดหน่อยที่จบวิศวะแต่ไม่ทำตามสาย กุงงมากเวลาคนบ่นงานหายาก ที่มีปห.น่ะเพราะคิดว่าเงินสูงไม่เท่าที่หวัง/โบน้อยกันทั้งนั้น แต่ถ้าตัดสองอย่างนี้ไปกุว่างานกลางๆ ไม่หวือหวาทั้งแง่ของการใช้งานเราและรายได้น่ะเยอะจะตาย
เงินเดือนกูตอนนี้ประมาณ 27000 อะ ทำวิศวะบ.ยุ่นมาสองปี อันนี้คือรวมสวัสดิการเสริม ใบกว.+ค่าภาษาTOEIC+ญี่ปุ่น เเล้วนะ(กูได้TOEIC 870, n3)
ทีนี้มันก็บ.ยุ่นอะ งานหนัก โอเยอะ เน้นทำงาน ทีนี้งานฟรีเเลนซ์กูคืออิลลัส ,รับงานแปล รายได้ทำเฉพาะวันหยุดตอนมีงานก็ราวๆ 8000-35000 เเกว่งไปมาตามความที่ไม่มีงาน หรือ ไม่มีเวลาทำงาน บางเดือนเเม่งก็ได้เยอะมากกว่างานประจำกูอีก
คือจะให้กูออกไปทำฟรีเเลนซ์เต็มตัวก็ยังพออยู่ได้เเละคิดว่าหาเงินได้มากกว่านี้ เเต่มันก็ไม่มั่นคงอะมึงเเละกูคิดว่า หางานประจำโง่ๆ เอาเงินเดือนซัก12000-15000 เเต่อยากได้งานที่เติบโตฐานเงินบ้างไปเรื่อยๆตามอายุน่าจะดีกว่าออกมาฟรีเเลนซ์เพียวๆ เสี่ยงเกินไป อนึ่งกูคิดว่ากูยังมีเเรงทำอยู่ จะทำสองงานไปก็ไม่เสียหาย
ที่กูอยากเข้าราชการ ไม่ก็รัฐวิสาหกิจเพราะมันก็โตตามCเเละอายุใช่ปะ สวัสดิการมีเเถมเลิกตรงเวลา ตรงสเปคกูเลย เข้าไปทำงานโง่ๆ หรือไม่โง่ก็ได้ มีงานไม่เป็นไร เเต่ขอเลิกตรงเวลา โอบ้างไม่เน้นโอ ไม่ต้องงานเยอะเเบบต้องกลับมาทำที่บ้านเเบบบ.ยุ่น หยุดเสาร์อาทิตย์ มีความก้าวหน้าทางเงินเดือนพอละ ยิ่งงานไม่เครียดยิ่งดี งานวิศวะเเม่งก็เครียดว่ะ กดดัน เเต่ราชการ,รัฐวิสาเเม่งก็เข้ายากอยู่ เลยเผื่อมองอาชีพที่ไม่ใช้วิชาชีพเป็นทางเลือก อยากหนีวิศวะละ
จะปรับเงินเดือนขั้นต่ำจริงหรอวะ หรือแค่คิด
ถ้าจริงนี่ข้าวกูจานเท่าไหร่เนี่ย
https://www.thairath.co.th/news/business/1519793
กูไม่มีเพื่อนที่ทำงานเลย ซึ่งในชีวิตประจำวันกูแฮปปี้ดีนะ กูชอบอยู่คนเดียว กินข้าวคนเดียว ไม่เม้ามอยกับใครทำงานของกูไป ส่วนเรื่องงานก็คุยประสานงานกับเพื่อนร่วมงานได้ทั่วไปตามปกติ แต่เวลาบริษัทมีอีเวนต์ต่างๆ กูจะประดักประเดิดมาก เพราะกูไม่มีกลุ่มแบบคนอื่น ไม่รู้จะไปนั่งโต๊ะไหนกับใครดี ไม่มีคนทำกิจกรรมกลุ่มด้วย จะไปแจมกลุ่มคนอื่นเค้าก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ แต่ก็คือรู้สึกได้อะว่าเค้าก็อยากอยู่ของเค้าเองสนิทๆ กันเนอะ เราคนนอกไปอยู่ด้วยเค้าก็อึดอัด จะทำอะไรตัวคนเดียวแบบในชีวิตประจำวันก็ทำไม่ได้เพราะรูปแบบงานมันบังคับให้ต้องทำร่วมกับคนอื่น ตั้งแต่การนั่งรถบัส นั่งโต๊ะกินข้าว ทำกิจกรรม ฯลฯ
>>994 หาคนที่มีความชอบแบบเดียวกันแล้วชวนคุยมันก็ไม่อยากอะ อย่างกูตอนแรกๆเข้าไปก็ไม่กล้าคุยกับใคร แต่ทำไปซักพักพอรู้ว่าคนนั้นคนนี้มีไลฟ์สไตล์แบบเดียวกับกู เช่นชอบเล่นเกมคอนโซล ชอบไอดอลญี่ปุ่น เกาหลี ชอบดูช่องยูทูปเดียวกัน ชอบรถยนต์ ปรากฏว่ากูก็เข้าได้กลับทุกกลุ่มไม่ยากเลย แต่เผอิญกูเป็นคนติดสื่อบันเทิงทุกรูปแบบอะ เลยกลายเป็นใครคุยอะไรกันกูรู้เรื่องหมด
อีช่อ ล้มเจ้า !! อีช่อ ล้มเจ้า !! อีช่อ ล้มเจ้า !! อีช่อ ล้มเจ้า !! อีช่อ ล้มเจ้า !!
พรรคอนาคตใหม่ ล้มเจ้า !! พรรคอนาคตใหม่ ล้มเจ้า !! พรรคอนาคตใหม่ ล้มเจ้า !!
คนเลือกพรรคอนาคตใหม่ คือพวกล้มเจ้า !! คนเลือกพรรคอนาคตใหม่ คือพวกล้มเจ้า !!
กูเป็นฟรีแลนซ์ ก่อนหน้านี้กูขยันมากๆ รับงานเยอะสุดๆ ชีวิตประจำวันคือ ตื่นมาออกกำลังกายตอนเช้า อาบน้ำ กินข้าวเช้า อ่านหนังสือดีๆพร้อมจิบกาแฟชมดอกไม้ จากนั้นก็ทำงาน กินข้าวกลางวัน ทำงาน กินข้าวเย็นกับครอบครัว ทำงาน เข้านอน บางวันถ้ามีเพื่อนชวนก็ออกไปเที่ยวบ้าง ชีวิตดูเป็นรูทีนที่สงบสุข แต่จู่ๆกูก็รู้สึกไม่อยากทำงานว่ะ กูค่อยๆลดงานที่รับลง รู้สึกไม่อยากทำงานนั้น ไม่อยากทำงานนี้ กูค่อยๆปฏิเสธ จนสุดท้ายไม่รับสักงานเลยว่ะ ตอนแรกก็คิดว่าขี้เกียจหรือป่าว แต่อาการมันหนักกว่าขี้เกียจอีก คือมันไม่อยากแตะงานเลยอ่ะ ขี้เกียจของกูคือทนๆทำไป แต่นี่คือกูไม่สามารถแตะงานได้เลย กูไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนอ่ะ คิดว่ากูดูแลตัวเองดีแล้วนะ ทั้งการนอนหลับ สุขภาพกาย และความสัมพันธ์กับคนอื่น แต่กูลืมนึกถึงสุขภาพใจไปว่ะ ตอนนี้กูทำตัวเรื่อยเปื่อยเป็นผักมา 2 เดือนละ นั่งดูซีรี่ย์โง่ เล่นเกม กิน ไปเที่ยว ช็อปปิ้ง ผลาญเงินเก็บ มันก็ไม่มีความสุขขึ้นเลยว่ะ แต่ก็ไม่ได้เศร้านะ (กูเคยเป็นโรคซึมเศร้ามาก่อน อาการมันก็ไม่ได้เป็นแบบนี้) มันรู้สึกเฉยๆว่ะ เหมือนกูเป็นมันฝรั่งอ่ะ กลวงๆไงไม่รู้ว่ะ มันคืออาการที่เค้าเรียกว่า burn out หรือเปล่าวะ มีใครเคยเป็นแบบกูบ้าง กูควรไปหาจิตแพทย์มะ
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.