>>343 มีจริง หัวหน้าทีมกูเอง เวลางานมันเสร็จมันกลับบ้านนะ แต่เวลางานมันไม่เสร็จ คนอื่นห้ามกลับโว้ย บางทีก็ต้องช่วยมันทำงาน
แต่ถ้างานที่มันทำอยู่แบ่งให้คนอื่นทำไม่ได้แล้ว ลูกน้องก็ต้องอยู่ทำงานตัวเอง(ที่ไม่ด่วน)ไปเรื่อยๆ รอจนกว่ามันจะทำงานมันเสร็จ ลูกน้องถึงได้กลับ ใครกลับก่อนมันจะจิก แขวะ ประชดประชัน น้องๆ จิตอ่อนรับไม่ได้เลยยอมอยู่ ส่วนกูสตรองละ กูไม่สน กลับแม่ง ความจริงก็รู้เหตุผลแหละ ที่มันไม่อยากให้คนอื่นกลับก่อนเพราะมันน่ะแทบไม่รู้ห่าอะไรเรื่องงานเลย ทีนี้ถ้ามันทำๆ งานไปโดยไม่มีใครอยู่แล้วเกิดติดขัดอะไรขึ้นมา มันจะไปต่อไม่ได้ ไม่รู้จะถามใคร แก้ไขปัญหาเองไม่ได้ (ต่อให้โทรมาถามกู แต่ถ้าอยู่นอกออฟฟิศไม่เห็นไฟล์บางทีกูก็จำไม่ได้) แต่ด้วยความที่ตัวมันไม่รู้เหี้ยอะไรเลย มันกลับก่อน มันไม่อยู่ ทีมก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร เลยไม่มีใครสนใจว่ามันจะอยู่หรือไม่อยู่ กูว่าเคสเพื่อนมึงน่าจะเหมือนกัน คืออยากหนีบเพื่อนมึงไปด้วยให้อุ่นใจเพราะตัวหัวหน้าแม่งน่าจะไม่รู้เรื่องงาน กลัวมีอะไรเกิดขึ้นแล้ว response เองไม่ได้....พูดละความจริงกูแฮปปี้กับงานปัจจุบันมากนะ มีแค่เรื่องหัวหน้าทีมนี่แหละที่ทำให้ท้อชิบหาย ถ้าคนแบบนี้บริษัทดันให้เป็นหัวหน้าทีม กูว่าวิสัยทัศน์บ.กับกูน่าจะสวนทางกันอย่างสิ้นเชิงแล้วว่ะ กูไม่ได้อยากเป็นหัวหน้าแทนมันหรอกนะ กูรู้ว่าศักยภาพตัวเองยังห่างไกล ไม่อยากเป็นหัวหน้ากากๆ ให้ลูกน้องสาปส่งด้วย แต่กูแค่อยากได้หัวหน้าที่เหมาะสมกับตำแหน่งกว่านี้ รับคนใหม่เข้ามาก็ได้ ไม่รู้เหี้ยอะไรเลยก็ได้ กุยินดีสอนงานแบบไม่กั๊ก ขอแค่ mindset ดี เก่ง ใฝ่เรียนรู้งาน ตัดสินใจถูกต้อง พึ่งพาได้ ไม่ใช่นอกจากพึ่งพาเหี้ยอะไรไม่ได้ยังทำตัวเป็นภาระทีมไปวันๆ และไม่คิดจะอยากรู้เรื่องงานอะไรเลยเพราะคิดว่าตัวเองเป็นหัวหน้าไม่จำเป็นต้องรู้ มีหน้าที่สั่งอย่างเดียว พอไม่รู้เรื่องงานก็เลยตัดสินใจอะไรให้มันถูกต้องไม่ได้ เก่งอยู่สองเรื่องคือปัดทุกอย่างให้พ้นตัวกับพรีเซนต์ตัวเองเก่งชิบหาย