Fanboi Channel

วันศุกร์ที่สิบเอ็ด ของเหล่าซาลารี่แมน

Last posted

Total of 1000 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:K/Fh0wFzaU

>>>/lounge/68/ วันศุกร์ที่หนึ่ง
>>>/lounge/216/ วันศุกร์ที่สอง
>>>/lounge/286/ วันศุกร์ที่สาม
>>>/lounge/408/ วันศุกร์ที่สี่
>>>/lounge/765/ วันศุกร์ที่ห้า
>>>/lifestyle/1530/ วันศุกร์ที่หก
>>>/lifestyle/2284/ วันศุกร์ที่เจ็ด
>>>/lifestyle/3353/ วันศุกร์ที่แปด
>>>/lifestyle/5047/ วันศุกร์ที่เก้า
>>>/lifestyle/6139/ วันศุกร์ที่สิบ

2 Nameless Fanboi Posted ID:3rQCXOMEdA

ต่อจากมู้ที่แล้ว ไม่เรียกว่า loser หรอก อยากแดกอะไรก็แดก แต่มันมีมุมนึงคือถ้ามีเงินจ่ายได้ก็ควรเลือกกินอะไรที่ดีกับร่างกายหน่อย พวกร้านตามสั่งข้างทางที่สุขอนามัยแย่แต่ราคาถูกก็ควรเลี่ยง ยอมเสียเงินมากหน่อยกินของที่ปลอดภัยกับตัวเองดีกว่า ที่ระดับผู้บริหารบางคนให้คนทำมาให้ถึงห้องนอกจากเรื่องเวลาส่วนนึงก็เพราะเหตุนี้ด้วย ร่างกายเป็นอะไรมามันไม่คุ้มค่าดูแล

ไม่ได้หมายความว่าห้ามแดกบุฟแดกเหล้านะ อันนั้นไม่ดีต่อร่างกายในคนละความหมาย

3 Nameless Fanboi Posted ID:pdmk003DkJ

อ่ะต่อจากมู้เก่ากูเห็นแว้บๆเรื่องข้ออ้างออกจากงานเก่าอย่าตอบว่าหมดแพชชั่นนะเว้ยยย ไม่งั้นเดี๋ยวHRจะสวนว่า อ้าวถ้าหากหมดจากที่นี่คุณจะไม่ออกหรอ กูเคยเจอสวนมาแบบนี้ไม่ได้ที่นั่นเลยขอบคุณ

4 Nameless Fanboi Posted ID:z/7vGPwqXO

>>3 กูกำลังจะออก เหตุผลจริงๆ คือเบื่อ เหนื่อย งานเพิ่มขึ้นแต่บ.ไม่มีนโยบายจ้างคนเพิ่ม/จ่ายโอที/ขึ้นเงินเดือน กูรู้สึกไม่แฟร์ ยังไม่ได้หางานใหม่หรอก แต่ไม่ได้ร้อนเงิน กูพอจะว่างงานละเช่าห้องอยู่ในกทม.ได้ราวสองสามปีด้วยเงินเก็บของกู ทีนี้ที่กูรำคาญใจคือตอนลาออก บ.กูมีขั้นตอนเรียกคุยหลายทีมากแม้กับระดับสตาฟฟ์ธรรมดา 1คุยกับเอชอาร์ 2คุยกับหน. 3คุยกับหน.บวกหน.ของหน. 4คุยกับหน.อีกที คือถามวนๆว่าไปที่ไหน ให้เท่าไหร่ สัมภาษณ์มายัง พอบอกว่าไม่ได้ที่ไหนก็เซ้าซี้ พี่กูตอนลาออกบอกความจริงว่างานมันเยอะยังไงเขาก็แก้ตัวราวๆ ว่าทุกอย่างกำลังจะดีขึ้นละตื๊อให้ลองเปิดใจ แค่นี้กูเพลียแรงแล้ว ถ้าออกมาได้เดี๋ยวกูต้องคิดเหตุผลตอนสมัครงานใหม่อีกสินะ

5 Nameless Fanboi Posted ID:SRJ5guKTnJ

>>4 อ๋อ อันนี้คือหมายถึงว่าจะบอกที่ทำงานเก่าว่ายังไงดีอะหรอ ก็บอกตรงๆ เลย เขาจะได้รู้ว่ามีปัญหาอะไรบ้าง เวลาที่เขาเซ้าซี้ให้อยู่ต่อก็แค่ยืนยันไปว่าไม่สะดวกจะอยู่จริงๆ ก็น่าจะโอเคแล้วมั้ง

6 Nameless Fanboi Posted ID:jX7/Cofd0K

พูดเรื่องมีความสุขเล็กๆน้อยๆจากเรื่องกินหลังเลิกงานนี่กูก็เป็นนะ คือเงินเดือนกูจะไปแดกซูชิโอมากาเสะตามโรงแรมหรือร้านแถวทองหล่ออาทิตย์ละครั้งก็ไหว จะแดกเหลาแพงๆ ตึกระฟ้าก็ทำได้ แต่กูไม่ชอบไง แล้วไม่มีเพื่อนไปแดกด้วยล่ะ

กูน่ะชอบซูชิ ซาชิมิ หรือพวกกับข้าวลดราคาตามซุปเปอร์มาร์เก็ตดีๆหน่อยอย่างเช่นที่ท็อปส์ กรูเม่ต์มาร์เก็ต ฟู้ดฮอลล์ หรือที่ max value ถ้าแย่งกับข้าวลดราคาทันกูจะรู้สึกฟินมาก แต่กูไม่ค่อยชอบกับข้าวป้ายเหลืองพวกโลตัสว่ะ ให้เนื้อน้อย แถมคนรอแย่งเยอะจนกูแย่งไม่เคยทัน ได้แต่อะไรที่เขาไม่เอาแล้วทุกที ซื้อมาตุนในตู้เย็นกินกับเบียร์หรือสาเกเย็นๆในห้อง เปิดแอร์ ลูบแมว ดูซีรีย์ แค่นี้กูก็ฟินแล้ว

7 Nameless Fanboi Posted ID:x5BZZlbn0D

หลังโอทีมันเป็นฟีลแบบ อร่อยง่ายๆ ชิลๆไง กูเหนื่อยแล้วไม่อยากเยอะ
ของกูเมื่อก่อนเป็นร้านที่กว้างๆคนน้อยๆ เงียบๆ ชิลๆ เชสเตอร์ ยาโยอิ บางทีก็ซื้อกลับบ้าน แซลม่อน อาหารอีสาน ไปนั่งกินกับแป๊บซี่ น้ำผลไม้เย็นๆ
ร้านแนวแดกเหล้า อิซากายะ แถวที่ทำงานกูคนเยอะสัส แย่งกันแดกแย่งกันนั่ง อันนั้นเอาไว้ไปกินสังสรรค์กับเพื่อน

8 Nameless Fanboi Posted ID:b0k8TVnz9b

งาน บ เทพ สตารท 30K แต่งานหนักอย่างทาส กัดกินกันไต่เต้าตลอดเวลา
กับงาน บ เล็กๆ น่ารักๆ สตารท20k อันไหนเวิรคกว่าครับ

9 Nameless Fanboi Posted ID:A5+VZZLiVI

>>8 คับที่อยู่ได้ คับใจอยู่ยาก

10 Nameless Fanboi Posted ID:uWy5oKa9a7

>>4 ตอนนี้กูเจอแบบเดียวกับมึงเลย งานเพิ่มขึ้น JD ก็เพิ่มขึ้น แต่เงินเดือนไม่เพิ่มสักบาท .... T-T กูร้องไห้บ่อยมาก ได้แต่บอกตัวเองว่าให้ทนๆไปก่อน เก็บเกี่ยว ปสก ชีวิตหลังจากนี้จะง่ายขึ้นเยอะ สิ่งที่ บ.กูดีกว่าคือ ถ้าทำงานล่วงเวลาอย่างน้อยแม่งก็ยังจ่าย ot

กูปรึกษาคนรู้จักที่เป็นรีครุท เขาบอกว่าควรจะหางานให้ได้ก่อนออกนะ ไม่งั้นตอนนี้ดักดานยังไงอนาคตก็ดักดานอย่างนั้นอยู่ดี ... กูเข้าใจว่า บ. มึงไม่แฟร์นะแต่ถ้ามันไม่ได้ถึงขนาดที่ว่าทนไม่ได้มึงลองทนอยู่ไปก่อนดีไหม อันนี้กูแค่แนะนำนะ กูก็รู้สึกเหมือนกันว่า บ. กูไม่แฟร์ ถ้ากูทนได้จนอยู่ถึง 2 ปี ค่าเหนื่อยกูควรจะอัพอย่างน้อยก็ 30 % ว่ะ ถ้า บ. กูไม่เห็นค่า อย่างน้อย บ. อื่นก็เห็นค่าแหละ ทนดักดานให้ครบ 2 ปีจะเป็นไรไป T-T

11 Nameless Fanboi Posted ID:EtQ861xG0n

>>10 กู 3 ปีแล้วยังไม่อัพเลย โอทีก็ไม่มี เป็นจังหวัดท่องเที่ยวทั้งที ค่าข้าวแพงค่าแรงถูกหยั่งขี้ กูจะกลับไปหางานกรุงเทพอีกดีมั้ยเนี่ย

12 Nameless Fanboi Posted ID:BUgDdKlCTP

>>9 ขอบคุณมากพี่โม่ง แม่งเป็นคำง่ายๆแต่กระแทกใจ ตัดสินได้เลย

13 Nameless Fanboi Posted ID:Cv4Le8gMMz

เบื่อชิบหายพวกทำงานเกินหน้าที่เนี้ย คือตำแหน่งมึงมึงก็ทำงานของมึงไปถ้ามีงานตรงไหนเริ่มเกินขอบเขตมึงแล้วก็ควรโทรมาถามหรือปรึกษาคน
ที่มีหน้าที่ดูแลรับผิดในงานนั้นๆ คือไม่ต้องเสร่อมาทำแทนไง พอมาทำแทนแล้วทำพลาดก็โทษกูอีก หาว่ากูไม่ยอมทำ ทั้งๆที่ตอนมึงเอางานกูไปทำ
มึงไม่บอกอะไรกูเลย แต่พอพลาดขึ้นมารีบโยนขี้ใส่ก่อนเลย วันไหนงานไม่พลาดก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เดินหานายทั้งวัน โคตรเกลียดคนแบบนี้

14 Nameless Fanboi Posted ID:Xe8EEwtfAD

>>13 สมัยเรียนกูเคยเจอตอนทำงานกลุ่มแล้วมันประสานงานกับอาจารย์ แม่งแบ่งหน้าที่ให้กูแล้วงานกูมีต้องแก้ ไอ้เหี้ยแทนที่แม่งจะเอามาให้กูแก้เสือกเอาไปทำเองจนทำหน้สที่หลักของตัวเองไม่ทัน แล้วก็มาด่ากูว่ากูไม่ช่วยงาน ควยเหอะอีดอก

15 Nameless Fanboi Posted ID:Cv4Le8gMMz

เห้อ ใกล้เวลาเลิกงานโอทีวันเสาร์ละรู้สึกเหนื่อยๆเพลียๆ เลยโทรไปสั่งต้มแซ่มเอ็นแก้ว+คอหมูย่างตับหวานไว้ที่ร้านประจำ ขากลับคงแวะ7-11ไปซื้อ
เบียร์ลีโอไว้ซัก 3 ขวด คืนนี้ก็มีบอล ซื้อถั่วแมคคาเดีเมียไว้กินด้วยดีกว่า อิอิ พรุ่งนี้คงนอนตื่นสายๆหน่อย 9 โมงก็น่าจะลุกละ ทำงานบ้าน ให้อาหารเเมว
ซักเที่ยงๆก็ออกไปดูคอนพี่ตูนต่อ เออ พอคิดแบบนี้ก็มีความสุขขึ้นมาหน่อยๆละ

16 Nameless Fanboi Posted ID:USGwyqF1ts

ช่วงทดลองงานพวกมึงได้เท่าไหร่กัน

17 Nameless Fanboi Posted ID:BUgDdKlCTP

>>16 18k จ้า

18 Nameless Fanboi Posted ID:xTnngNK6Iq

ถามโม่งซาลารี่แมนที่แต่งงานแล้ว อายุเท่าไหนถึงเริ่มคิดว่าควรแต่งงานได้แล้ววะ แบบกูก็เจอคนดีๆที่คิดว่าฝากชีวิตไปด้วยกันได้ตลอดแน่ๆ
แต่อีกใจหนึ่งที่คิดคือ กูเองเพิ่ง 26 ยังไม่อยากปิดกั้นตัวเอง จะรีบแต่งงานไปทำไมวะครับ

19 Nameless Fanboi Posted ID:xTnngNK6Iq

>>18 นี่กูเองนะ มานั่งคิดต่อ อายุเท่านี้ ขอเวลาอีกแค่ 1-3 ปี กูเอาเวลาไปเรียนภาษา เรียนต่อ ตอนนั้นคงยังไม่ถึงกับอายุ 30 แต่วุฒิภาวะทุกอย่าง
คงเพียบพร้อมแล้ว และจะหาคนดีๆที่ตรงใจได้ไม่ยาก แต่ประเด็นคือ คนที่อยู่ปัจจุบันนี่ก็ดีมากนะ กูเลยลังเลไง ปัจจุบันก็ดีอยู่ แต่อนาคตก็น่าเสี่ยง
กูคิดเรื่องนี้มาเดือนนึงและ จนแทบไม่เป็นอันทำงานเลย มันเรื่องสำคัญมากๆเลยไม่อยากตัดสินด้วยตัวเองคนเดียว ขออาศัยประสบการณ์พี่ๆโม่งงับ

20 Nameless Fanboi Posted ID:KB6UpJANmT

กูถามหน่อยทำงานอยู่อยู่ตจวมี2ที่ให้กูเลือก
1-เงินเดือน9000 กินอยู่ฟรี3มื้อ
2-เงินเดือน16,000ต้องรับผิดชอบค่ากินอยู่เอง
เลือกแบบใหนดีวะ

21 Nameless Fanboi Posted ID:4X+/bkUJVY

>>20 ค่าเดินทางอะไรพวกนี้ล่ะ?

ต่างกัน 7000 ก็เยอะอยู่ ตีค่าหอ 2000-3000

4000 กินข้าวเดือนนึงพอมั้ย

กุอยู่ กทม วันนึงอย่างต่ำๆเลยคือ 200 เผลอๆ 300 ไม่นับค่าอาหารแบบเข้าสังคมอีกเดือนนึงน่าจะเฉียดหมื่น แค่ค่าแดก

22 Nameless Fanboi Posted ID:4X+/bkUJVY

อย่าลืมพวกค่าไฟ ค่าไรพวกนี้อีก

23 Nameless Fanboi Posted ID:CjG4u/J9q7

>>19 ถ้ามึงยังมีความคิดหวังน้ำบ่อหน้า คนนี้ก็ไม่ใช่ที่สุดของมึงหรอก
ถ้ามึงคิดว่าคนนี่ดีที่สุดแล้ว มึงจะไม่มีความคิดแบบนี้เลย

24 Nameless Fanboi Posted ID:YS/50480fZ

ก็อยู่ กทม ขนาดไม่มีลูกเมีย เงินเดือน 35k+ ถ้าน้อยกว่านี้บอกเลยไม่พอแดก นี่กูไม่กินของแพง ไม่แดกเหล้า ไม่เที่ยวผู้หญิง ยังอยู่แบบเดือนชนเดือนเลยว่ะ เงินเก็บได้เดือนละ 2000-4000 เมื่อไหร่จะได้เที่ยวยุโรปวะ

25 Nameless Fanboi Posted ID:m4jS5.SsSm

>>10 ขอบใจสำหรับคำแนะนำนะ กูกำลังเร่งหางานใหม่อยู่เพราะจริงๆ ก็รู้แหละว่ามันยังไม่ถึงขั้นรีบออกไม่อยากเผาผี ความจริงบ.กูน่ะขึ้นเงินเดือนแหละ แต่ขึ้นมา 570 กว่าบาท เทียบกับฐานสองหมื่นหกของกูแล้วขึ้นมาไม่ถึงหนึ่งเปอร์เซ็นกูเลยไม่นับ แค่ลำพังทนอยู่มาถึงปีนึงเพื่อนก็บอกว่าทนทำไมมม ให้มาสมัครบ.มันดีกว่า เพื่อนกูที่ทำงานเป็นน้อยกว่ากู ปสก. น้อยกว่า ไหวพริบน้อยกว่า(ทั้งสามอย่างนี่มันบอกมา กุไม่ได้อวยตัวเอง) แต่มันกลับได้งานดีๆ สบายๆ เงินเยอะตลอดเลยว่ะ หรือดวงกูเนี่ยจะถูกลิขิตให้ไปเจอแต่บริษัทที่ดูดีแต่ที่จริงแย่กันวะ

26 Nameless Fanboi Posted ID:OqbrmBPxGG

>>25 กูเป็นคนไม่เชื่อเรื่องดวง แต่กูเชื่อเรื่องกฎของการดึงดูดว่ะ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราเราเป็นคนดึงดูดมันเข้ามาเองทั้งนั้น คนที่เอาจริงเอาจังกับงาน ไม่ว่าจะไปทำงานที่ไหนก็มักจะต้องทำงานหนักอยู่ดี แต่คนที่ขี้เกียจทำงานแต่เอาตัวรอดเก่ง ไปอยู่ไหนมันก็หาทางหลบเลี่ยงงานให้สบายได้ อีกอย่างเจ้านายส่วนมากจะเหมือนกัน คือรู้ว่าใครใช้ได้ ใช้ง่าย ก็จะใช้เยอะ คือถ้าเป็นคนดีตามปกติเค้าก็รู้สึกผิดแหละแต่ทำไงได้เมื่ออยากได้งาน อย่างนายกูเนี่ยอะไรๆ ก็กู เพราะเค้ารู้ไงว่าถ้าไปใช้คนอื่น 1 ช้า 2 ต้องสอนวิธีทำ คิดเองไม่เป็น แต่ถ้าใช้กู เค้าแค่บอกว่าต้องการอะไร กูสามารถคิดหาวิธีทำของกูเองได้และเร็วด้วย ถ้างานไม่ด่วนเค้าก็จะยอมเสียเวลาไปใช้คนอื่น แต่ส่วนมากอะไรๆ มันก็ด่วนเนี่ยสิ ผลคือไม่ว่าจะทำงานที่ไหน กูก็งานหนักไม่เปลี่ยนแปลง แต่ข้อดีคือเงินเยอะ ประเมินออกมาดีตลอด โบเยอะตลอด เงินเดือนตำแหน่งขึ้นโดยไม่เคยต้องเรียกร้อง ... กูอยากแก้นิสัยตัวเองให้เลิกดึงดูดงานหนักเหมือนกัน แต่สันดานมันแก้ยาก จะให้เพิกเฉยหรือแกล้งโง่ก็ทำไม่ลง ... ถ้ามึงยังดึงดูดงานเยอะๆ แถมเงินเดือนน้อย มึงต้องลองทบทวนแล้วว่าอะไรคือสิ่งที่ดึงดูดมันเข้ามาหามึงนะ

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.