Fanboi Channel

วันศุกร์ที่สิบเอ็ด ของเหล่าซาลารี่แมน

Last posted

Total of 1000 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:K/Fh0wFzaU

>>>/lounge/68/ วันศุกร์ที่หนึ่ง
>>>/lounge/216/ วันศุกร์ที่สอง
>>>/lounge/286/ วันศุกร์ที่สาม
>>>/lounge/408/ วันศุกร์ที่สี่
>>>/lounge/765/ วันศุกร์ที่ห้า
>>>/lifestyle/1530/ วันศุกร์ที่หก
>>>/lifestyle/2284/ วันศุกร์ที่เจ็ด
>>>/lifestyle/3353/ วันศุกร์ที่แปด
>>>/lifestyle/5047/ วันศุกร์ที่เก้า
>>>/lifestyle/6139/ วันศุกร์ที่สิบ

2 Nameless Fanboi Posted ID:3rQCXOMEdA

ต่อจากมู้ที่แล้ว ไม่เรียกว่า loser หรอก อยากแดกอะไรก็แดก แต่มันมีมุมนึงคือถ้ามีเงินจ่ายได้ก็ควรเลือกกินอะไรที่ดีกับร่างกายหน่อย พวกร้านตามสั่งข้างทางที่สุขอนามัยแย่แต่ราคาถูกก็ควรเลี่ยง ยอมเสียเงินมากหน่อยกินของที่ปลอดภัยกับตัวเองดีกว่า ที่ระดับผู้บริหารบางคนให้คนทำมาให้ถึงห้องนอกจากเรื่องเวลาส่วนนึงก็เพราะเหตุนี้ด้วย ร่างกายเป็นอะไรมามันไม่คุ้มค่าดูแล

ไม่ได้หมายความว่าห้ามแดกบุฟแดกเหล้านะ อันนั้นไม่ดีต่อร่างกายในคนละความหมาย

3 Nameless Fanboi Posted ID:pdmk003DkJ

อ่ะต่อจากมู้เก่ากูเห็นแว้บๆเรื่องข้ออ้างออกจากงานเก่าอย่าตอบว่าหมดแพชชั่นนะเว้ยยย ไม่งั้นเดี๋ยวHRจะสวนว่า อ้าวถ้าหากหมดจากที่นี่คุณจะไม่ออกหรอ กูเคยเจอสวนมาแบบนี้ไม่ได้ที่นั่นเลยขอบคุณ

4 Nameless Fanboi Posted ID:z/7vGPwqXO

>>3 กูกำลังจะออก เหตุผลจริงๆ คือเบื่อ เหนื่อย งานเพิ่มขึ้นแต่บ.ไม่มีนโยบายจ้างคนเพิ่ม/จ่ายโอที/ขึ้นเงินเดือน กูรู้สึกไม่แฟร์ ยังไม่ได้หางานใหม่หรอก แต่ไม่ได้ร้อนเงิน กูพอจะว่างงานละเช่าห้องอยู่ในกทม.ได้ราวสองสามปีด้วยเงินเก็บของกู ทีนี้ที่กูรำคาญใจคือตอนลาออก บ.กูมีขั้นตอนเรียกคุยหลายทีมากแม้กับระดับสตาฟฟ์ธรรมดา 1คุยกับเอชอาร์ 2คุยกับหน. 3คุยกับหน.บวกหน.ของหน. 4คุยกับหน.อีกที คือถามวนๆว่าไปที่ไหน ให้เท่าไหร่ สัมภาษณ์มายัง พอบอกว่าไม่ได้ที่ไหนก็เซ้าซี้ พี่กูตอนลาออกบอกความจริงว่างานมันเยอะยังไงเขาก็แก้ตัวราวๆ ว่าทุกอย่างกำลังจะดีขึ้นละตื๊อให้ลองเปิดใจ แค่นี้กูเพลียแรงแล้ว ถ้าออกมาได้เดี๋ยวกูต้องคิดเหตุผลตอนสมัครงานใหม่อีกสินะ

5 Nameless Fanboi Posted ID:SRJ5guKTnJ

>>4 อ๋อ อันนี้คือหมายถึงว่าจะบอกที่ทำงานเก่าว่ายังไงดีอะหรอ ก็บอกตรงๆ เลย เขาจะได้รู้ว่ามีปัญหาอะไรบ้าง เวลาที่เขาเซ้าซี้ให้อยู่ต่อก็แค่ยืนยันไปว่าไม่สะดวกจะอยู่จริงๆ ก็น่าจะโอเคแล้วมั้ง

6 Nameless Fanboi Posted ID:jX7/Cofd0K

พูดเรื่องมีความสุขเล็กๆน้อยๆจากเรื่องกินหลังเลิกงานนี่กูก็เป็นนะ คือเงินเดือนกูจะไปแดกซูชิโอมากาเสะตามโรงแรมหรือร้านแถวทองหล่ออาทิตย์ละครั้งก็ไหว จะแดกเหลาแพงๆ ตึกระฟ้าก็ทำได้ แต่กูไม่ชอบไง แล้วไม่มีเพื่อนไปแดกด้วยล่ะ

กูน่ะชอบซูชิ ซาชิมิ หรือพวกกับข้าวลดราคาตามซุปเปอร์มาร์เก็ตดีๆหน่อยอย่างเช่นที่ท็อปส์ กรูเม่ต์มาร์เก็ต ฟู้ดฮอลล์ หรือที่ max value ถ้าแย่งกับข้าวลดราคาทันกูจะรู้สึกฟินมาก แต่กูไม่ค่อยชอบกับข้าวป้ายเหลืองพวกโลตัสว่ะ ให้เนื้อน้อย แถมคนรอแย่งเยอะจนกูแย่งไม่เคยทัน ได้แต่อะไรที่เขาไม่เอาแล้วทุกที ซื้อมาตุนในตู้เย็นกินกับเบียร์หรือสาเกเย็นๆในห้อง เปิดแอร์ ลูบแมว ดูซีรีย์ แค่นี้กูก็ฟินแล้ว

7 Nameless Fanboi Posted ID:x5BZZlbn0D

หลังโอทีมันเป็นฟีลแบบ อร่อยง่ายๆ ชิลๆไง กูเหนื่อยแล้วไม่อยากเยอะ
ของกูเมื่อก่อนเป็นร้านที่กว้างๆคนน้อยๆ เงียบๆ ชิลๆ เชสเตอร์ ยาโยอิ บางทีก็ซื้อกลับบ้าน แซลม่อน อาหารอีสาน ไปนั่งกินกับแป๊บซี่ น้ำผลไม้เย็นๆ
ร้านแนวแดกเหล้า อิซากายะ แถวที่ทำงานกูคนเยอะสัส แย่งกันแดกแย่งกันนั่ง อันนั้นเอาไว้ไปกินสังสรรค์กับเพื่อน

8 Nameless Fanboi Posted ID:b0k8TVnz9b

งาน บ เทพ สตารท 30K แต่งานหนักอย่างทาส กัดกินกันไต่เต้าตลอดเวลา
กับงาน บ เล็กๆ น่ารักๆ สตารท20k อันไหนเวิรคกว่าครับ

9 Nameless Fanboi Posted ID:A5+VZZLiVI

>>8 คับที่อยู่ได้ คับใจอยู่ยาก

10 Nameless Fanboi Posted ID:uWy5oKa9a7

>>4 ตอนนี้กูเจอแบบเดียวกับมึงเลย งานเพิ่มขึ้น JD ก็เพิ่มขึ้น แต่เงินเดือนไม่เพิ่มสักบาท .... T-T กูร้องไห้บ่อยมาก ได้แต่บอกตัวเองว่าให้ทนๆไปก่อน เก็บเกี่ยว ปสก ชีวิตหลังจากนี้จะง่ายขึ้นเยอะ สิ่งที่ บ.กูดีกว่าคือ ถ้าทำงานล่วงเวลาอย่างน้อยแม่งก็ยังจ่าย ot

กูปรึกษาคนรู้จักที่เป็นรีครุท เขาบอกว่าควรจะหางานให้ได้ก่อนออกนะ ไม่งั้นตอนนี้ดักดานยังไงอนาคตก็ดักดานอย่างนั้นอยู่ดี ... กูเข้าใจว่า บ. มึงไม่แฟร์นะแต่ถ้ามันไม่ได้ถึงขนาดที่ว่าทนไม่ได้มึงลองทนอยู่ไปก่อนดีไหม อันนี้กูแค่แนะนำนะ กูก็รู้สึกเหมือนกันว่า บ. กูไม่แฟร์ ถ้ากูทนได้จนอยู่ถึง 2 ปี ค่าเหนื่อยกูควรจะอัพอย่างน้อยก็ 30 % ว่ะ ถ้า บ. กูไม่เห็นค่า อย่างน้อย บ. อื่นก็เห็นค่าแหละ ทนดักดานให้ครบ 2 ปีจะเป็นไรไป T-T

11 Nameless Fanboi Posted ID:EtQ861xG0n

>>10 กู 3 ปีแล้วยังไม่อัพเลย โอทีก็ไม่มี เป็นจังหวัดท่องเที่ยวทั้งที ค่าข้าวแพงค่าแรงถูกหยั่งขี้ กูจะกลับไปหางานกรุงเทพอีกดีมั้ยเนี่ย

12 Nameless Fanboi Posted ID:BUgDdKlCTP

>>9 ขอบคุณมากพี่โม่ง แม่งเป็นคำง่ายๆแต่กระแทกใจ ตัดสินได้เลย

13 Nameless Fanboi Posted ID:Cv4Le8gMMz

เบื่อชิบหายพวกทำงานเกินหน้าที่เนี้ย คือตำแหน่งมึงมึงก็ทำงานของมึงไปถ้ามีงานตรงไหนเริ่มเกินขอบเขตมึงแล้วก็ควรโทรมาถามหรือปรึกษาคน
ที่มีหน้าที่ดูแลรับผิดในงานนั้นๆ คือไม่ต้องเสร่อมาทำแทนไง พอมาทำแทนแล้วทำพลาดก็โทษกูอีก หาว่ากูไม่ยอมทำ ทั้งๆที่ตอนมึงเอางานกูไปทำ
มึงไม่บอกอะไรกูเลย แต่พอพลาดขึ้นมารีบโยนขี้ใส่ก่อนเลย วันไหนงานไม่พลาดก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เดินหานายทั้งวัน โคตรเกลียดคนแบบนี้

14 Nameless Fanboi Posted ID:Xe8EEwtfAD

>>13 สมัยเรียนกูเคยเจอตอนทำงานกลุ่มแล้วมันประสานงานกับอาจารย์ แม่งแบ่งหน้าที่ให้กูแล้วงานกูมีต้องแก้ ไอ้เหี้ยแทนที่แม่งจะเอามาให้กูแก้เสือกเอาไปทำเองจนทำหน้สที่หลักของตัวเองไม่ทัน แล้วก็มาด่ากูว่ากูไม่ช่วยงาน ควยเหอะอีดอก

15 Nameless Fanboi Posted ID:Cv4Le8gMMz

เห้อ ใกล้เวลาเลิกงานโอทีวันเสาร์ละรู้สึกเหนื่อยๆเพลียๆ เลยโทรไปสั่งต้มแซ่มเอ็นแก้ว+คอหมูย่างตับหวานไว้ที่ร้านประจำ ขากลับคงแวะ7-11ไปซื้อ
เบียร์ลีโอไว้ซัก 3 ขวด คืนนี้ก็มีบอล ซื้อถั่วแมคคาเดีเมียไว้กินด้วยดีกว่า อิอิ พรุ่งนี้คงนอนตื่นสายๆหน่อย 9 โมงก็น่าจะลุกละ ทำงานบ้าน ให้อาหารเเมว
ซักเที่ยงๆก็ออกไปดูคอนพี่ตูนต่อ เออ พอคิดแบบนี้ก็มีความสุขขึ้นมาหน่อยๆละ

16 Nameless Fanboi Posted ID:USGwyqF1ts

ช่วงทดลองงานพวกมึงได้เท่าไหร่กัน

17 Nameless Fanboi Posted ID:BUgDdKlCTP

>>16 18k จ้า

18 Nameless Fanboi Posted ID:xTnngNK6Iq

ถามโม่งซาลารี่แมนที่แต่งงานแล้ว อายุเท่าไหนถึงเริ่มคิดว่าควรแต่งงานได้แล้ววะ แบบกูก็เจอคนดีๆที่คิดว่าฝากชีวิตไปด้วยกันได้ตลอดแน่ๆ
แต่อีกใจหนึ่งที่คิดคือ กูเองเพิ่ง 26 ยังไม่อยากปิดกั้นตัวเอง จะรีบแต่งงานไปทำไมวะครับ

19 Nameless Fanboi Posted ID:xTnngNK6Iq

>>18 นี่กูเองนะ มานั่งคิดต่อ อายุเท่านี้ ขอเวลาอีกแค่ 1-3 ปี กูเอาเวลาไปเรียนภาษา เรียนต่อ ตอนนั้นคงยังไม่ถึงกับอายุ 30 แต่วุฒิภาวะทุกอย่าง
คงเพียบพร้อมแล้ว และจะหาคนดีๆที่ตรงใจได้ไม่ยาก แต่ประเด็นคือ คนที่อยู่ปัจจุบันนี่ก็ดีมากนะ กูเลยลังเลไง ปัจจุบันก็ดีอยู่ แต่อนาคตก็น่าเสี่ยง
กูคิดเรื่องนี้มาเดือนนึงและ จนแทบไม่เป็นอันทำงานเลย มันเรื่องสำคัญมากๆเลยไม่อยากตัดสินด้วยตัวเองคนเดียว ขออาศัยประสบการณ์พี่ๆโม่งงับ

20 Nameless Fanboi Posted ID:KB6UpJANmT

กูถามหน่อยทำงานอยู่อยู่ตจวมี2ที่ให้กูเลือก
1-เงินเดือน9000 กินอยู่ฟรี3มื้อ
2-เงินเดือน16,000ต้องรับผิดชอบค่ากินอยู่เอง
เลือกแบบใหนดีวะ

21 Nameless Fanboi Posted ID:4X+/bkUJVY

>>20 ค่าเดินทางอะไรพวกนี้ล่ะ?

ต่างกัน 7000 ก็เยอะอยู่ ตีค่าหอ 2000-3000

4000 กินข้าวเดือนนึงพอมั้ย

กุอยู่ กทม วันนึงอย่างต่ำๆเลยคือ 200 เผลอๆ 300 ไม่นับค่าอาหารแบบเข้าสังคมอีกเดือนนึงน่าจะเฉียดหมื่น แค่ค่าแดก

22 Nameless Fanboi Posted ID:4X+/bkUJVY

อย่าลืมพวกค่าไฟ ค่าไรพวกนี้อีก

23 Nameless Fanboi Posted ID:CjG4u/J9q7

>>19 ถ้ามึงยังมีความคิดหวังน้ำบ่อหน้า คนนี้ก็ไม่ใช่ที่สุดของมึงหรอก
ถ้ามึงคิดว่าคนนี่ดีที่สุดแล้ว มึงจะไม่มีความคิดแบบนี้เลย

24 Nameless Fanboi Posted ID:YS/50480fZ

ก็อยู่ กทม ขนาดไม่มีลูกเมีย เงินเดือน 35k+ ถ้าน้อยกว่านี้บอกเลยไม่พอแดก นี่กูไม่กินของแพง ไม่แดกเหล้า ไม่เที่ยวผู้หญิง ยังอยู่แบบเดือนชนเดือนเลยว่ะ เงินเก็บได้เดือนละ 2000-4000 เมื่อไหร่จะได้เที่ยวยุโรปวะ

25 Nameless Fanboi Posted ID:m4jS5.SsSm

>>10 ขอบใจสำหรับคำแนะนำนะ กูกำลังเร่งหางานใหม่อยู่เพราะจริงๆ ก็รู้แหละว่ามันยังไม่ถึงขั้นรีบออกไม่อยากเผาผี ความจริงบ.กูน่ะขึ้นเงินเดือนแหละ แต่ขึ้นมา 570 กว่าบาท เทียบกับฐานสองหมื่นหกของกูแล้วขึ้นมาไม่ถึงหนึ่งเปอร์เซ็นกูเลยไม่นับ แค่ลำพังทนอยู่มาถึงปีนึงเพื่อนก็บอกว่าทนทำไมมม ให้มาสมัครบ.มันดีกว่า เพื่อนกูที่ทำงานเป็นน้อยกว่ากู ปสก. น้อยกว่า ไหวพริบน้อยกว่า(ทั้งสามอย่างนี่มันบอกมา กุไม่ได้อวยตัวเอง) แต่มันกลับได้งานดีๆ สบายๆ เงินเยอะตลอดเลยว่ะ หรือดวงกูเนี่ยจะถูกลิขิตให้ไปเจอแต่บริษัทที่ดูดีแต่ที่จริงแย่กันวะ

26 Nameless Fanboi Posted ID:OqbrmBPxGG

>>25 กูเป็นคนไม่เชื่อเรื่องดวง แต่กูเชื่อเรื่องกฎของการดึงดูดว่ะ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราเราเป็นคนดึงดูดมันเข้ามาเองทั้งนั้น คนที่เอาจริงเอาจังกับงาน ไม่ว่าจะไปทำงานที่ไหนก็มักจะต้องทำงานหนักอยู่ดี แต่คนที่ขี้เกียจทำงานแต่เอาตัวรอดเก่ง ไปอยู่ไหนมันก็หาทางหลบเลี่ยงงานให้สบายได้ อีกอย่างเจ้านายส่วนมากจะเหมือนกัน คือรู้ว่าใครใช้ได้ ใช้ง่าย ก็จะใช้เยอะ คือถ้าเป็นคนดีตามปกติเค้าก็รู้สึกผิดแหละแต่ทำไงได้เมื่ออยากได้งาน อย่างนายกูเนี่ยอะไรๆ ก็กู เพราะเค้ารู้ไงว่าถ้าไปใช้คนอื่น 1 ช้า 2 ต้องสอนวิธีทำ คิดเองไม่เป็น แต่ถ้าใช้กู เค้าแค่บอกว่าต้องการอะไร กูสามารถคิดหาวิธีทำของกูเองได้และเร็วด้วย ถ้างานไม่ด่วนเค้าก็จะยอมเสียเวลาไปใช้คนอื่น แต่ส่วนมากอะไรๆ มันก็ด่วนเนี่ยสิ ผลคือไม่ว่าจะทำงานที่ไหน กูก็งานหนักไม่เปลี่ยนแปลง แต่ข้อดีคือเงินเยอะ ประเมินออกมาดีตลอด โบเยอะตลอด เงินเดือนตำแหน่งขึ้นโดยไม่เคยต้องเรียกร้อง ... กูอยากแก้นิสัยตัวเองให้เลิกดึงดูดงานหนักเหมือนกัน แต่สันดานมันแก้ยาก จะให้เพิกเฉยหรือแกล้งโง่ก็ทำไม่ลง ... ถ้ามึงยังดึงดูดงานเยอะๆ แถมเงินเดือนน้อย มึงต้องลองทบทวนแล้วว่าอะไรคือสิ่งที่ดึงดูดมันเข้ามาหามึงนะ

27 Nameless Fanboi Posted ID:ptlxu5heWz

โอ้เยสมีเพื่อนโม่งเงินเดือน9000เหมือนกุแล้ววววว

28 Nameless Fanboi Posted ID:R0L1Nbvzvy

>>26 เชี่ยแม่งจริงว่ะ เพราะกูดึงดูดงานมาเองกูก็เลยเครียดเองสินะ พอลองทำตามคนอื่นที่สักแต่ว่าทำไปใช้เวลาเยอะๆ กูก็เสือกเครียดกับตัวเองอีก หัวหน้าเป็นห่วงอีกว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่า(ดูก็รู้ว่าเพอร์ฟอร์แมนซ์แย่ลง) แต่คือก็ไม่รู้จะทำยังไงให้ตัวเองสามารถทำงานที่นี่ได้อย่างสบายใจ ในเมื่อทำงานดีแล้วเหนื่อยอย่างเดียว เงินไม่พอสร้างตัว ปรับตำแหน่งไม่ได้ เงินเดือนไม่ขึ้น กูไม่มีใจจะทำงานที่นี่ให้แบบเต็มที่อีกแล้วว่ะ แต่ถ้าเปลี่ยนงานคือกูต้องกลับไปหางาน กทม.ละ แยกกับแฟนก็มีแววจะเลิกกันอีกทั้งๆ ที่คบกันมาเก้าปีแล้ว รู้สึกว่ายิ่งโตทางเลือกแม่งยิ่งยากขึ้นไปเรื่อยๆ ว่ะ

29 Nameless Fanboi Posted ID:l1YmcxVSdk

>>28 ยิ่งโตยิ่งต้องคิดเยอะจริงๆ ว่ะ ไม่เหมือนตอนจบใหม่แค่มีงานทำก็ดีใจแล้ว เรื่องแฟนจนปัญญาแนะนำ แต่กูพอเข้าใจว่า ตจว.แม่งทางเลือกน้อยหางานดีๆ ยากจริง ถ้าเป็นจังหวัดอุตสาหกรรมนี่งานเยอะเงินดีหน่อย แต่นอกนั้นค่าแรงต่ำอย่างกับขี้ แถมงานไม่ค่อยหลากหลายเพราะมักมีแต่สำนักงานสาขาไม่ก็บ.เล็ก ไม่มีหรอก head quarter ของบ.ระดับ global แล้วจะหางานดีๆ ยังไง ถ้าอยู่ตจว.กูแนะนำราชการมากกว่าว่ะ

30 Nameless Fanboi Posted ID:l1YmcxVSdk

>>29 พิมพ์ผิด โทษที
× head quarter
o headquarters

31 Nameless Fanboi Posted ID:m4jS5.SsSm

กุจบธุรกิจระหว่างประเทศ ทำงานส่งออกมาสองปี แต่จริงๆ พึ่งรู้ตัวว่าสนใจไฟแนนซ์ว่ะ มีพวกประกาศนียบัตรหรือคอร์สอะไรแนะนำให้ไปลงเรียนมั้ย หรือกูควรมั่นหน้าหาตน.ด้านไฟแนนซ์แล้วสมัครไปเลยดี ยอมลดเงินเดือนหน่อย

32 Nameless Fanboi Posted ID:vs1x3ugKf3

>>29 ตจว.ค่าแรงนิดเดียวหาเพื่อนร่วมงานดีๆยากอีกกัดกันพอสมควรใครนอกกรอบไฟแรงพวกแม่งก็แบน ปสก.ส่วนตัว

33 Nameless Fanboi Posted ID:CKmOk5T11H

>>31 ถ้าเอาแบบที่คนทั่วๆ ไปทำกันก็ไปเรียนโท

34 Nameless Fanboi Posted ID:CKmOk5T11H

>>32 ถ้าที่ทำงานมีคนกากๆ เยอะจะเป็นแบบนั้น ตัวเองกาก ไม่ชอบพัฒนาตัวเอง เห็นคนอื่นดีกว่าก็เลยมีวิธีเดียวก็หาทางกดคนอื่นให้ต่ำลง กูเคยอยู่สังคมหัวกะทิ ตรงกันข้ามเลย คนพวกนี้เก่งและจะเก่งขึ้นเรื่อยๆ ตลอดเวลา ถีบตัวเองให้สูงโดยไม่ต้องมานั่งกีดกันใคร ไม่ค่อยมานั่งดราม่ากับใครเพราะเอาเวลาไปพัฒนาตัวเองอยู่ ส่วนพวกกากๆ จะขี้เกียจพัฒนาตัวเอง แต่ขยันในการจ้องจับผิดและหาเรื่องดราม่า

35 Nameless Fanboi Posted ID:P7+oSps/Cv

มึงอยากรู้ว่าคนจบเสดสาสอ่ะถ้าไม่ได้จบสายการเงินมาคือทำงานไรกันวะแล้วเรียนด้านไหนกัน กุยังไม่รู้ตัวเองเลยว่าอยากทำงานไรรู้สึกเคว้งคว้างมาก

36 Nameless Fanboi Posted ID:iDAJr1fG7D

>>35 หางานที่มึงจบมาก่อน ลองทำดูระหว่างนั้นหาทำงานอดิเรกที่คิดว่าใช่ศึกษาอะไรที่ชอบถ้ามันต่อยอดไปสายงานใหม่ได้ค่อยว่ากัน

37 Nameless Fanboi Posted ID:xQGnuSTQ4M

>>26 แบบนี้ก็ยังดีนะ กูเป็น outsource ไม่มีพวกโบนัสหรือบอกผลประเมินเราอยู่แล้ว โอทีก็ไม่มี
บางทีก็รู้สึกเหี้ยนะที่อะไรๆกูก็ต้องทำ บางคนงานง่ายๆกูทำ 30 นาทีเสร็จ คนอื่นให้มันทำล่อไปเป็นอาทิตย์หัวหน้าก็ไม่บ่นอะไร
บางคนเข้ามานั่งอู้แบบไม่ทำเหี้ออะไรเลยจริงๆ แบบสั่งงานแล้วไม่ได้งานอะไรเลย กว่าหัวหน้าจะไล่ออกก็รอไปครึ่งปี ไม่รู้ความรู้สึกช้าจัดหรืออะไร

38 Nameless Fanboi Posted ID:I10uVk04M8

>>37 ตัวข้างๆกูเป็นซีเนียร์เงินเดือนน่าจะแตะแสน นั่งโง่ๆมา 3 ปีแล้ว เคยทำโปรเจ็คเจ๊งยับหลังจากนั้นก็โดนดอง แต่ไม่โดนปลดออกงงมะ ให้แม่งนั่งเฉยๆได้เงินเป็นแสนไปเรื่อยๆ งานการไม่ต้องทำดีจังวะ

39 Nameless Fanboi Posted ID:wqb0N.Wa9Y

ไม่ต้องทำวันนี้ให้ดีที่สุด เดี๋ยวพรุ่งนี้ไม่มีอะไรทำำ #มิตรสหายท่านหนึ่ง

40 Nameless Fanboi Posted ID:n.tphCfwz/

>>39 แหมเป็นคนนึกถึงอนาคต

41 Nameless Fanboi Posted ID:hkHm5ukwXi

>>40 กุพาเพื่อนโม่งที่ทำงานหนักๆให้คิดบวก

42 Nameless Fanboi Posted ID:n.tphCfwz/

>>41 บวกแม่งเลย /ผิดๆๆ

43 Nameless Fanboi Posted ID:a3hxF1kptm

จังหวะคาเฟ่มากพวกมึงแต่ละคน 555

44 Nameless Fanboi Posted ID:y6ujl/im6Q

ถามห้องนี้ถูกปะวะ
ยังเรียนไม่จบป.ตรี ตอนไปยื่นสมัครงานไม่ได้ยื่นแบบคำร้องขอฝึกงาน แต่เป็นสมัครงานปกติเลย เขาบอกว่าฝึกงาน 4 เดือน 4 เดือนนี่คือกูจะได้ค่าจ้างมะ หรือเขาถือว่ากูไปฝึกงานแบบเด็กมหาลัยปกติ?

45 Nameless Fanboi Posted ID:.pthnfI/kk

>>44 คือฝึกงาน ลองถามดีๆ แต่ละบริษัทให้ไม่เหมือนกัน บางที่ฝึกงานคือใช้ฟรี บางที่ให้ค่าแรงขั้นต่ำ
ถ้าสมัครงานตามปกติเขาใช้คำว่าระยะทดลองงาน(probation)

46 Nameless Fanboi Posted ID:prkq48T+vG

>>44 แล้วแต่ที่อ่ะ กูเคยฝึกกับพวกราชการประมาณ3เดือนได้ 400........

47 Nameless Fanboi Posted ID:9fPtA8Uvlg

เห้อมมมม เริ่มทำงานได้สองวันกูก็ทำงานผิดละอ่ะรู้สึกแย่ว่ะ ทั้งๆที่กูตั้งใจทำมากๆจะผ่านทดลองงานมั้ยวะกูชอบงานนี้มากเลยนะฮือ

48 Nameless Fanboi Posted ID:6SZzhr.alB

>>47 เอ้า ผิดตอนนี้ก็ถูกแล้วจะได้เรียนรู้ เพิ่งจะเริ่มเอง ก็ระยะทดลองงานนี่นา อย่าเพิ่งท้อ
>>44 ถามกลับไปทางคนที่บอกเลยว่ายังไงแน่ เรื่องเงินๆ ทองๆ เคลียร์กันให้แน่นอนก่อนดีที่สุดไม่เสียเวลาทั้งสองฝ่าย ถามได้ไม่เสียมารยาทหรอก

49 Nameless Fanboi Posted ID:8FQD9lB18Z

งานกะกับงานเวรนี่มันเหมือนกันไหม?

50 Nameless Fanboi Posted ID:Zi6CFiCnnz

>>48 มันเป็นงานพวกตัวเลขด้วยน่ะ ผิดคือผิดไปหมดกลัวคนสอนงานเค้ารำคาญ

51 Nameless Fanboi Posted ID:K5qGDnqHmu

>>44 กูเคยฝึกกับราชการ ไม่ได้ซักบาท แถมต้องเสียค่าหน่วยกิจให้อ.ขับรถมาเยี่ยมกู1ครั้งถ้วน

แต่งานลูกจ้างขรก.นี่หนักหัวหมุน ยิบย่อยทำไม่ทัน ต่อไปงานฝ่ายไหนมีพนักงานคนเดียวกูไม่เอาละ

52 Nameless Fanboi Posted ID:z6H0E9dROm

>>50 ดีแล้วที่มึงคิดแบบนี้ คราวหลังจะได้ระวังและรอบคอบขึ้น

53 Nameless Fanboi Posted ID:uS1BeR5hKV

บ.ประเมินโบนัสจากวันลาถือว่าแฟร์มั้ยครับ ในกรณีที่ได้โบน้อยกว่าคนอื่นเพราะลามากกว่าคนอื่นแต่จำนวนวันที่ลาก็ไม่ได้เกินตามที่บ.กำหนด

54 Nameless Fanboi Posted ID:K1XW.FwBfk

>>53 ถ้าเทียบกับคนอื่นคือแฟร์กับเขา (เพราะเขามาทำงานเยอะกว่า)

55 Nameless Fanboi Posted ID:qFxfh5g8.O

>>53 ถ้าเอามาเป็นส่วนหนึ่งในการคำนวณโบนัสถือว่าแฟร์ ไม่เกินกำหนดก็คือไม่ผิดกฎเฉยๆ ไม่ได้แปลว่าจะต้องได้คะแนนประสิทธิภาพ(ที่ใช้คำนวณโบนัส)เยอะเท่าคนที่ลาน้อยกว่า ในกรณีที่ปัจจัยอย่างอื่นเท่ากันนะ

56 Nameless Fanboi Posted ID:uS1BeR5hKV

ผม >>53 นะ อธิบายเพิ่มนิดนึง คือโบที่นี่มันเป็นแบบแบ่งเค้กอะครับ
การที่ลาไม่เกินไม่ได้แปลว่าได้โบเท่าเดิม แต่มันหมายถึงได้น้อยลงเพราะถูกหักเอาไปให้คนที่ลาน้อยกว่า

57 Nameless Fanboi Posted ID:qFxfh5g8.O

>>56 ที่คิดว่ามันไม่แฟร์ก็เพราะไปมองว่าคนอื่นได้เยอะขึ้นจากส่วน"ที่คิดเองเออเองว่าควรจะเป็นของ"ตัวเองไง
ซึ่งมันไม่ใช่ ไม่ว่าโบนัสจะเป็นแบบแบ่งเค้กหรือ multiply มันก็ไม่เกี่ยวกับวิธีคำนวณตัวคูณของรายคน ตัวคูณของคุณมันน้อยกว่าเพราะคะแนนคุณต่ำกว่า พอเอาไปคำนวณคุณเลยได้น้อยกว่า แค่นั้นเอง
ถ้าจะมองว่ามันไม่แฟร์คุณต้องมองตั้งแต่ตอนสมัครเข้าทำงานแล้ว เพราะคุณมีสิทธิ์เต็มที่ในการถามวิธีการคำนวณรายได้ทุกบาททุกสตางค์ของคุณก่อนที่คุณจะตัดสินใจ sign
หรือถ้ารู้แล้วคุณยังคิดที่จะลาเยอะๆก็เท่ากับคุณเลือกทิ้งเงินเองด้วยตัวเอง

58 Nameless Fanboi Posted ID:7JJ.GYrVhS

>>3 ถ้าตอบว่าอยากหาความท้าทายให้ตัวเองผลมันเหมือนกันป่ะ เพราะสุดท้ายถ้าหมดความท้าทายก็ออกเหมือนกัน

59 Nameless Fanboi Posted ID:F4pHqDLbxu

แต่ทำไมกูรู้สึกว่าไม่แฟร์วะ เพื่อนกูก็เจอบริษัทบอกว่าถ้าลาเต็มโควต้าจะไม่ได้โบนัสเงี้ยอะ แล้วมันก็คือวันลาตามสิทธิ์ป่าววะ ทำไมคนไทยชอบตัดสินจากจำนวนวันที่มาทำงาน หรือเลิกงานช้าอะไรงี้อะ ทั้งๆ ที่เวลาตรงนี้ไม่ได้สะท้อนประสิทธิภาพการทำงานด้วยซ้ำไป

60 Nameless Fanboi Posted ID:Z0Sjj/LavQ

>>59 กูเป็นคนที่ลาบ่อย ลากระจุย แต่กูว่าแฟร์นะ ถึงมันไม่ได้สะท้อนประสิทธิภาพในการทำงาน แต่อย่างน้อยๆ มันก็สะท้อนความขยันในการถ่อไปทำงาน ส่วนเรื่องประสิทธิภาพในการทำงานมันก็อยู่ในหัวข้อประเมินข้ออื่นอยู่แล้ว ประเมินโบมันก็ต้องมีทั้ง efficiency และ attendance เป็นเรื่องปกติ จะมาอ้างว่าขอทำงานมีประสิทธิภาพอย่างเดียวแต่โนสนโนแคร์ attendance มันก็ไม่ได้หรอก อีกอย่างคำว่าโบนัสมันก็คือโบนัส กฎหมายไม่รองรับ มันคือน้ำใจคือรางวัลจากบริษัท เค้าจะตั้งกฎการประเมินแบบไหนมันก็สิทธิ์ของเค้า ถ้าอยากได้รางวัลจากเค้าก็มีหน้าที่ทำตาม ถ้าไม่พอใจกฎเกณฑ์ที่เค้าตั้งก็ไปหางานใหม่ แต่คงหายากหน่อยอะนะ โบนัสที่ไหนๆ ส่วนมากก็เอา attendance มาประเมินร่วมทั้งนั้น ยกเว้นระดับ management ที่ไม่ต้องตอกบัตรไม่ต้องเขียนใบลาแล้วนั่นแหละ

61 Nameless Fanboi Posted ID:9vlo5TjiCM

โบนัสบริษัทกูขึ้นกับผลประเมินกับผลประกอบการเป็นหลัก สุดท้ายผลประเมินเยอะแค่ไหนก็โบนัสน้อยเพราะอ้างว่าผลประกอบการไม่ดีอยู่ดี
แต่เวลาผู้บริหารแถลงนี่ก็ไม่รู้เค้าเอาอะไรไม่รู้มาอวดได้เป็นวรรคเป็นเวรอ่ะนะ

62 Nameless Fanboi Posted ID:wjXRBX0Iea

โบนัสบริษัทกุให้น้อยเท่ากันทุกคนทุกปี คือfixเลย แต่ถ้ามึงลาป่วยลากิจบ่อยเกินโควต้าก็โดนหักอีก ไปๆมาๆกุรำคาญไม่สนใจแม่ง น้อยจนไม่อยากจะเอ่ย

63 Nameless Fanboi Posted ID:Y5j0EEJl9m

>>59 ไม่แฟร์ก็ลาออก บริษัทที่ไม่สน attendance ก็มีเยอะแยะ เข้าให้ได้ละกัน

64 Nameless Fanboi Posted ID:HIY6d+ZZKF

ช่วงนี้รู้สึกไม่ค่อยโอเคกับหัวหน้าเท่าไหร่เลยว่ะ วางแผนอะไรมาให้ไม่ค่อยมีรายละเอียด บางทีถึงหน้างานแล้วมันก็ไม่ใช่อย่างที่เค้าคิดบ้าง
พอไปถามหรือบอกว่ามันต้องแก้ ช่วยมาคุยกันหน่อยก็ปัดๆว่ามันไม่ใช่หน้าที่เค้า คนที่อยู่หน้างานต้องตัดสินใจเอง
แต่ไปเปลี่ยนอะไรที่เค้าคิดมานี่เป็นเรื่องทุกที คือสรุปจะให้กูคิดเองหรือไม่ให้คิดเองก็ช่วยเอาซักอย่างได้มั้ยวะ

65 Nameless Fanboi Posted ID:DrPYeFh4/w

เฮ่อ สอนพวกซีเนียร์หมดไฟนั่งรอซองนี่แม่งยากกว่าสอนเด็กใหม่อีก สอนไปแม่งก็ไม่จำกูต้องมานั่งสอนใหม่ทุกครั้ง ไม่คิดจะจดอีกสัด

66 Nameless Fanboi Posted ID:bSZx2RT/is

ผู้หญิงที่ชอบเอาตะไคร้มาให้วันนี้สื่อความหมายอะไรวะ

67 Nameless Fanboi Posted ID:h5eSKG8Jfd

>>66 ปักตะไคร้ = สาวพรหมจรรย์

68 Nameless Fanboi Posted ID:prHZheSmSr

>>66 ถึงช่วงเก็บเกี่ยวพอดีป่ะ

69 Nameless Fanboi Posted ID:bSZx2RT/is

หรือเป็นการชวนไปเยสในสวนสาธารณะตอนค่ำๆวะ ตะไคร้คงเอาไว้กันยุง

70 Nameless Fanboi Posted ID:prHZheSmSr

>>58 เอาเป็นว่าดูบริษัทที่ไปสมัครด้วยล่ะกันบางที่ก็ชอบคำตอบแบบนั้น เคร๊

71 Nameless Fanboi Posted ID:0Vp1+0uN4i

>>70 นั่นสิ พวก startup น่าจะชอบ
>>66 คนปกติเขาให้ตะไคร้กันด้วยหรอวะ??

72 Nameless Fanboi Posted ID:2lWaj8S6r2

ตอนนี้เงินเดือน 80k มีโอกาสจะได้ไปทำงานที่โตเกียว คำนวนดูแล้วถ้าจะคุ้ม น่าจะอยู่ที่ 7-8 แสนเย็นต่อเดือน แต่กลัวเรียกมากไปเค้าจะไม่เอา เรียกน้อยไปกลัวจะลำบาก เอาเท่าไหร่ดี

73 Nameless Fanboi Posted ID:xppnHqgwsd

>>71 ถ้าไม่ใช่เชิงชู้สาวก็จะเป็นแบบบ้านกูปลูกกูมีเยอะเอามาแจก คิดมากกกกก

74 Nameless Fanboi Posted ID:9qrcalshRk

>>72 เงินเดือนเดิมมึงดีอยู่แล้ว ไม่รู้ว่ามึงอยากไปหรือไม่อยากไปกันแน่ ดูมึงจะรู้ว่าต้องเรียกเงินประมาณไหนถึงจะมีโอกาสได้ไปใช่ปะ ถ้าไปก็คงเป็นประสบการณ์ดีๆมั้ง (แต่เงินเดือนขนาดนี้มึงจะเอาประสบการณ์ไรอีกวะ -_-)

75 Nameless Fanboi Posted ID:NA8lV/eQdw

>>72 เงินขนาดนี้อยู่ไทยก็สบายๆเลยนะมืง แต่ถ้าต้องการอยู่แบบเจริญๆก็ไปญี่ปุ่นเถอะ

76 Nameless Fanboi Posted ID:wHpRkgMSo0

>>75 แต่แออัดชิบหายเลยนี่ ยิ่งโตเกียวนี่จะเหยียบกันตายได้

77 Nameless Fanboi Posted ID:5KMJpPpFPw

>>65 กูพึ่งเข้ามาไม่เท่าไหร่แต่เด็กสุดในแผนก พอมีคนลาออกไปคนใหม่เข้ามาแม่งก็โยนให้กูสอน ไม่ถึงเดือนถัดมามีอีกคนเข้ามาก็โยนมาให้กูสอนอีก ไม่ต้องทำงงทำงานมันแล้ว แต่ละคนที่หามานี่ไปขุดมาจากไหนวะเนี่ย ตอนสัมภาษฟังคำพูดจาดูไม่ออกเหรอวะว่าไม่ได้เรื่อง กูสอนสี่ห้ารอบ พอได้งานชิ้นใหม่ที่ทำแบบเดิมไปแล้วเสือกยังมาถามอีกว่าต้องทำไงทั้งๆ ที่จดไปแล้ว กูเอาสมุดมาแล้วช่วยมันหาว่าจดไว้ตรงไหนก็พูดอย่างจริงจังว่าอ่านลายมือตัวเองไม่ออก เรางง ขอจดใหม่ได้ไหม ไอ้เหี้ยยยยยยย

78 Nameless Fanboi Posted ID:7TE3uT7wQ+

รู้สึกเหนื่อย ท้อ เคว้งคว้าง หวาดกลัว

79 Nameless Fanboi Posted ID:gkMwEiWWBb

>>78 สู้เพื่อน

80 Nameless Fanboi Posted ID:3FZI9/nbGm

>>79 ขอบคุณนะ

81 Nameless Fanboi Posted ID:yk4CLNAKAo

บางทีกุเจองานแย่ๆวันแย่ๆมาอ่านโม่งแม่งหายเครียดหายเหนื่อยไปเยอะ กุไม่ได้เจอคนเดียว บางทีกุว่าสังคมโม่งแม่งดี มีน้ำใจมากกว่าโลกจริงๆอีก

82 Nameless Fanboi Posted ID:mjfTkPfoWk

>>77 เหี้ยจริงจังเหมือนคนหมดไฟอ่ะสัด

83 Nameless Fanboi Posted ID:ZRKtNyPiXQ

>>81 หลักๆ กูก็มาระบายเรื่องที่ระบายกับคนอื่นไม่ได้เหมือนกัน ถ้าระบายกับเพื่อนร่วมงานบางทีมันก็มีผลพวงตามมา มาระบายกับโม่งที่ไม่รู้จักฉันไม่รู้จักเธอแบบนี้สบายใจกว่า รวมถึงให้กำลังใจกันเองโดยที่ไม่ต้องมีผลประโยชน์อะไรมาข้องเกี่ยว สบายใจดี

84 Nameless Fanboi Posted ID:bo7RQV4nZ0

อาการหมดไฟที่ชัดที่สุดคือไรวะ ตอนนี้กูเริ่มเบื่อๆงานว่ะ พอทำงานเดินวิธีเดิมเสือกลืมไอ้ซั้สสสส

85 Nameless Fanboi Posted ID:fv+P4.hi/Z

>>74 >>76 คิดว่าถ้าได้ภาษาญี่ปุ่น มีความรู้เกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่น น่าจะมีโอกาสในชีวิตมากกว่าน่ะ

86 Nameless Fanboi Posted ID:mjfTkPfoWk

อาการหมดไฟหรือ Burnout Syndrome อาการชัดๆก็ รู้สึกหดหู่ มองที่ทำงานในแง่ลบ ขาดแรงจูงใจในการทำงาน ไม่มีสมาธิ บ้างก็ว่าคล้ายคนเป็นซึมเศร้าอ่อนๆ (แค่ไม่คิดจะฆ่าตัวตาย) เทงาน ไม่สนใจทำงาน
โดยสาเหตุหลักๆคือ พนักงานขาดทรัพยากรที่เพียงพอในการทำหน้าที่ให้ดี แทนที่มึงกำลังรู้สึกว่าทำให้โลกใบนี้ดีขึ้น กลับต้องจมอยู่กับการต่อสู้กับระบบทำงานเฮงซวย ที่มึงไม่สามารถแก้ไขได้
จากผมสำรวจพบว่าพนักงานระดับกลางในบ.มักเจอสภาวะหมดไฟ เนื่องจากหมดความหวังที่จะไต่เต้าในระดับที่สูงกว่า และไม่มีความรู้สึกอยากก้าวหน้าในสายอาชีพ

ทั้งหลายทั้งแหล่ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง เช่น งานที่เคยทำเสร็จภายในชม. ก็กดไป 3 วัน

87 Nameless Fanboi Posted ID:ZRKtNyPiXQ

>>86 เป๊ะ พอทำงานง่วงๆ ก็แว่บเข้าโม่งตลอด อยากรีบกลับบ้านไปทำงานอดิเรกมากกว่า

88 Nameless Fanboi Posted ID:HU4g4+tztK

เซ็งว่ะพี่ที่ทำงานหาว่ากูไปถอยรถชนรถเขาเฉย ทั้งๆที่มุมชนมันก็ไม่ใช่ รอยชนก็ไม่ใช่ เรียกประกันมาดูประกันก็บอกว่าไม่ใช่รถกูชนแน่ๆ แต่เขาอ้างว่ายางกูไปโดนรถเขา มีรอยนิดนึงเพราะวันก่อนกูไปจอดชิดฟุตบาทไปหน่อย

แต่กูไม่อยากมีปัญหาเลยบอกประกันว่ายอมๆไป ไม่อยากมองหน้ากันไม่ติด
ประเด็นคือพี่แกส่อเจตนาแปลกๆ ลงมาดูรถเวลาที่คนอื่นทำงานทั้งๆที่ไม่ได้จะเอารถออก รอยนิดเดียวเสือกมองเห็น เหมือนเล็งหาแพะไว้อยู่ละ

แบบนี้พวกมึงว่ากูโง่มั๊ยที่ยอมเขาอะ แรกๆกูก็ไม่คิดอะไรเพราะประกันจ่าย แต่พอกลับบ้านมาเหมือนตัวเองยอมคนง่ายไป กลัวคราวหน้าจะถูกเอาเปรียบอีก

89 Nameless Fanboi Posted ID:0nGdrc2LGp

>>88 เคยเจอคล้ายๆกันที่คอนโด แต่ของกูไม่ยอมอะ แล้วซวยช่วงยังไม่ต่อประกัน คือหลักฐานมันก็ไม่มีแค่จอดข้างกันแล้วรถกูมีรอย(ชนนานแล้ว)ทีนี้แม่งไปนินทากูหาว่าทำผิดแล้วไม่ยอมรับ
แต่กรณีมึงก็ยอมๆไปเหอะ ไม่ได้จ่ายตังค์เองอยู่ละ คนแบบนี้มันกล้าหาเรื่องได้ ถ้าไม่ยอมนี่เรื่องยาวแน่ๆยิ่งที่ทำงานเดียวกันด้วย เผื่อมันไปฟ้องนายหรือนินทาในบริษัทมึงจะแย่เอา

90 Nameless Fanboi Posted ID:FGYCd8FoIN

>>86 กูไงทำดีแค่ไหน ดักดานเหมือนเดิม หน้าที่ของกูทำได้ดีหมด กูทำงานเกินjdด้วยแต่เงินเดือนไม่ขึ้นซักบาท กุไม่รู้จะทำดีไปทำไมแล้วว่ะ มันไม่มีแรงจูงใจจริงๆ นายกุกึโง่ด้วยเคยบอกจะขึ้นเงินเดือนให้ลูกน้องกากๆทำงานไม่ได้เรื่องของกู มันขาดงานโดยไม่ได้แจ้ง(ขาดบ่อยด้วย)ก็อยากจะเก็บมันไว้กล้วตัวเองเสียหน้าเพราะเคยไปชมมัน หารู้ไม่ว่าถ้ามันปรับเครื่องจักรเองม้นก็รู้วิธีแก้ป่าววะ ตอนนี้กูทำได้แค่อัพเดทรีซูเม่เตรียมตัวชิ่ง บ.กาก นายกาก ว่ะ

จากที่กูเคยไม่ขาดไม่อู้ไม่สาย กลายเป็นว่าถ้านายไม่อยู่ กุมาทำงานก็มานั่งโง่นอนโง่ให้มันหมดวันไป โอขี้เกียจทำว่ะกูปฐิเสธที่จะทำโอเพราะเบสต่ำส้ด งานออกมาไม่ดีกูไม่ค่อยสนเพราะเดี๋ยวกูก็ออกจาก บ. หัวควยนี่แล้วว่ะ

91 Nameless Fanboi Posted ID:BULeD91MVX

>>88 ถึงเคสนี้ประกันจ่ายแต่มึงก็เสียประวัติแล้วนะ พอถึงเวลาต่อประกันเบี้ยมันจะแพงขึ้น แต่ในเมื่อมึงยอมไปแล้วก็แล้วไป ให้รู้ไว้ว่าไอ้พี่เหี้ยนี่คบไม่ได้แล้ว ยอมให้มันเอาเปรียบแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวพอ

92 Nameless Fanboi Posted ID:fve+OnuIra

>>82 ที่สำคัญแม่งพึ่งอายุ 24 เอาอะไรมาหมดไฟวะ5เอ๊ย
>>86 กูนึกว่าเบิร์นเอาท์นี่คือทำงานหนักมาก ใช้ความคิดภายใต้ความกดดันตลอดเวลาจนสมาธิแย่ลง ร่างกายเสื่อมโทรม สมองช้านะเนี่ย งั้นกูแค่คงทำงานจนเอือมเฉยๆ เพราะมันยังไม่ถึงจุดที่เทงาน คืองานกุเนี่ยเทไม่ได้ด้วยล่ะ มันมีลีดไทม์ที่ต้องทำแต่ละชุดให้เสร็จในสามวันห้าวันก่อนจะมีล็อตใหม่เข้ามาให้ทำแบบเดิมวนซ้ำไปอีก ไหนๆพูดก็พูดแล้ว ใครเคยมีเพื่อนหรือเพื่อนของเพื่อนที่อยู่ในบ.ที่ดูมันจะชีวิตดีบ้างวะ คือขอไม่พูดถึงสังคมนะ มันไม่ใช่โรงเรียนประถมที่เราจะจับมือเดินไปด้วยกันอยู่แล้ว กูขอแค่สภาพโดยรวมของการทำงานเขาดูแฮปปี้ มีเครียดบ้างเป็นช่วงๆ ขายให้กูฟังหน่อยได้มั้ย เผื่อกูจะได้ตาสว่างซะทีว่าบ.กูเหี้ยขนาดนี้ละทนทำไมเนี่ย

93 Nameless Fanboi Posted ID:VXp94iXmvw

>>88 ยอมไปก่อนอะถูกแล้ว เราไม่รู้ว่าคนเหี้ยๆมันจะทำอะไรได้บ้าง โดนนินทาในที่ทำงานมันไม่สนุกเลย กูเคยโดนมาแล้วจากเรื่องเล็กน้อยกว่ามึงอีก แต่ต่อไปคือมึงต้องพยายามออกให้ห่างๆไอ้เหี้ยนี่เลย

94 Nameless Fanboi Posted ID:.hr6/c8uH/

เพื่อนโม่งทำงานกันกี่วันบ้าง ของกู จ-ส

95 Nameless Fanboi Posted ID:OMa.Vm7HUZ

>>94 จ-ศ

96 Nameless Fanboi Posted ID:+z.4U8NV2Z

>> จ-ศ แต่มีโอที ส-อา

97 Nameless Fanboi Posted ID:HdgN0hbFv8

>>95 >>96 กูอิจจจจจพวกมึงงงงง แล้ววันหยุดนักขัตฯล่ะกูลืมบอกวันหยุดของกูคือสงกรานต์กับปีใหม่แค่นั้น.... ถือว่าน้อยไปมั้ย

98 Nameless Fanboi Posted ID:+z.4U8NV2Z

>>97 ของกูมี วันปีใหม่ วันสงกรานต์ วันเข้า-ออกพรรษา วันจักรี วันก่อตั้งบริษัท วันแรงงาน รวมๆประมาน 18 วันต่อปี

99 Nameless Fanboi Posted ID:k6Hlcn3aYi

>>97 กูมี 15 วันเป๊ะทุกปีเลยว่ะ ทำปกติจันทร์ - ศุกร์
โอทีของกูไม่มี ได้เป็นเบี้ยเลี้ยงนอกเวลาแทน แต่ไม่ค่อยได้ทำหรอก งานกูถ้าวางแผนดีๆเสร็จทันไม่ต้องปั่น แต่มันต้องใช้ความรู้เฉพาะด้าน เชิงวิเคราะห์กึ่งวิจัย บางทีงานเดียวทำเป็นเดือนสองเดือน ถ้าไม่วางแผนดีๆก็จะเสร็จไม่ทัน

100 Nameless Fanboi Posted ID:wafHAdEnFL

>>94 จ-อา

101 Nameless Fanboi Posted ID:+z.4U8NV2Z

ว่าจะหาสมัครบัตรเครดิตสักใบนึง เพราะต้องการไว้ซื้อของแบบผ่อนชำระเป็นงวดๆประมาน 0% 10เดือน ไรงี้ เพราะกูไม่อยากจ่ายทีเดียวเลย
ค่อยๆแบ่งเงินผ่อนแล้วเอาเงินที่เหลือไปทำอย่างอื่น(อาจจะตัดเข้าออมทรัพย์/ลงพอร์ท) คิดว่าดีไหมวะ แล้วเพื่อนๆมีบัตรของธนาคารไหนแนะนำมั่ง
เงินเดือนกูได้รับเข้าบัญชีของ SCB

102 Nameless Fanboi Posted ID:J1aGPWbklU

>>101 เลือกธนาคารที่มึงสะดวก จบ เพราะถ้าไม่ได้ใช้เยอะเดือนละหลายแสน/ล้าน merit ที่จะได้จากการใช้บัตรมันไม่ค่อยมีผลต่างกันมากหรอก เอาบัตรธนาคารที่มึงสะดวกจะกดจ่ายค่าบัตรได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมและไม่ต้องกลัวลืมจ่าย แค่นั้นพอ แต่ถ้ากะจะใช้เดือนละหลายแสน-ล้าน ต้องมาลงรายละเอียดอีกทีว่าใช้จ่ายหมวดไหนบ้างถึงจะเลือกบัตรได้

103 Nameless Fanboi Posted ID:J1aGPWbklU

>>102 ตัวเลขเว่อร์ไปนิด ความจริงใช้ประมาณเดือนละแสน+ ก็น่าจะเริ่มคุ้มแล้วล่ะที่จะเลือกหาบัตรที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ตัวเอง แต่ต่ำกว่านั้นไม่ต้องคิดให้ปวดสมองหรอก เน้นพวกบัตรฟรีค่าธรรมเนียมแล้วก็มึงสะดวกจ่ายดีกว่า

104 Nameless Fanboi Posted ID:4LSQtQ4Ku8

>>101 เงินเดือนเข้าธนาคารไหนไม่ค่อยมีผล เงินเดือนถึง 15k ก็สมัครได้เกือบหมดละ เอาบัตรที่มีโปรเข้ากับไลฟ์สไตล์

105 Nameless Fanboi Posted ID:+z.4U8NV2Z

>>104 ที่มองๆไว้คือบัตรของ TMB เพราะผ่อน 0% 3เดือนได้ทุกสินค้า(ซื้อเกิน1000) กับบัตรของ KTC ที่ฟรีค่าธรรมเนียม คือกูก็ไม่ได้กะใช้รูดบ่อยๆ
ไว้ใช้เวลาจะซื้อโทรศัพท์ คอม โน๊ตบุ๊คใหม่ไรงี้ กะว่าจะซื้อรุ่นดีๆไปเลย แต่ก็ไม่อยากเอาเงินก้อนไปจ่ายทีเดียวจบ

106 Nameless Fanboi Posted ID:OMa.Vm7HUZ

>>101 แนะนำว่าสมัครของ SCB นั่นแหละครับ ถ้าปกติใช้แอพ SCB easy ด้วยยิ่งสะดวก สามารถจ่ายบัตรเครดิตด้วยบัญชีออมทรัพย์ที่ผูกกับ SCB Easy ได้ง่ายๆ ไม่มีค่าธรรมเนียม / มีโปรผ่อน 0% ค่อนข้างเยอะ สินค้าไหนที่ไม่มีโปรผ่อน 0% ก็สามารถเลือกผ่อน 0.9%*10 ได้ (ไม่ชัวร์ตัวเลขดอกเบี้ยนะ แต่ไม่ถึง 1% นี่แหละ) ทำรายการด้วยตัวเองเลยไม่ต้องโทรไปขอให้ธนาคารทำให้แบบ TMB / จริงๆ กูก็สนใจบัตร TMB เหมือนกันครับเพราะเคลมว่าผ่อน 0 ได้ทุกสินค้านี่แหละ แต่สมัครไม่ผ่านมา 2 รอบแล้ว หอยหลอดเปลืองค่าขอเสตทเม้นท์เปล่าๆ ทีหลังมึงไม่ต้องให้เซลล์โทรมาชวนกูอีกนะ (หมันไส้ส่วนตัว)

107 Nameless Fanboi Posted ID:OMa.Vm7HUZ

>>101 กูไม่ใช่เซลล์ SCB นะแต่ขออวยอีกหน่อยละกัน อีกบริการนึงที่กูชอบมากคือ โอนวงเงินบัตรเข้าออมทรัพย์ แล้วผ่อน 0.9% ได้ 4 6 10 เดือน ไว้ใช้หมุนเวลาเงินสดขาดมือได้ ดีกว่าค้างชำระแล้วโดนดอกเบี้ยบานเบอะ

108 Nameless Fanboi Posted ID:OMa.Vm7HUZ

>>101 นอกจากของ SCB แล้วมีอีก 2 ใบที่กูชอบ 1 คือของกรุงศรี ชอบมีโปรกับร้านอาหารที่กูชอบกิน (โปรร้านอาหารของ SCB แม่งหรูเกินกูไปหน่อย) ของกรุงศรีนี่กูสมัครเป็นบัตร JCB ก็จะมีโปรเกี่ยวกับญี่ปุ่นเยอะหน่อย มีทั้งโปรญี่ปุ่นในไทย และโปรที่ญี่ปุ่นเองด้วย / อีกใบที่กูชอบคือ Aeon BigC (เครดิตนะไม่ใช่เดบิต) ใช้เพื่อการช็อปของกินใช้เข้าบ้านโดยเฉพาะ ที่ชอบคือแม่งไม่ต้องเก็บแต้ม ไม่ต้องรอรอบเงินคืน แม่งลดกันจะๆ ทุกครั้งที่ใช้จ่ายที่บิ๊กซีเลย ลดกันให้เห็นๆ ที่ท้ายบิลเลยว่าครั้งนี้ประหยัดไปกี่บาท ตั้งแต่ได้ใบนี้มากูก็ไม่เข้าโลตัสอีกเลย / ที่เหลือกูมีของ ธ.กรุงเทพอีกสองใบ ไม่ค่อยมีโปรไรกับเขาเลย จืดชืดมาก ใบนึงเป็นบัตรร่วม Airasia ว่าจะไปปิดบัตรละ เพราะขนาดใช้บัตรนี้รูดจองเครื่องบินมันยังต้องเสียค่าธรรมเนียมรูดบัตรอีก เหี้ยมาก เหมือนถือไว้ไม่ได้ประโยชน์อะไร

109 Nameless Fanboi Posted ID:OJ+YA+2q04

ใครเคยโดนใส่ร้ายนินทาในที่ทำงานบ้างปะ
คือกูโดนหาว่ากูด่าหัวหน้า โดนหาว่าทำงานเอาหน้า ทั้งๆที่กูไม่ได้ทำอะไรเลย ทำงานของกูปกติ ไม่เคยซุบซิบกับใคร
ล่าสุดกูต้องไปทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ ก็มานินทาว่ากูแอบอู้ ทำงานที่ไซต์เสร็จแล้วไม่รีบกลับออฟฟิศอีก
ดีหน่อยคือหัวหน้ากูรู้ว่ากูไม่ได้เป็นแบบที่เขานินทาอะ งานกูกึ่งๆผู้เชี่ยวชาญต้องทำคนเดียวไม่มีทีม คือโดนนินทาเนี่ยมันไม่ได้มีผลต่อเนื้องาน แต่บรรยากาศที่กูนั่งทำงานในออฟฟิศมันไม่ดีเลยว่ะ ทำงานไปก็ห่อเหี่ยวไป

110 Nameless Fanboi Posted ID:E7yiW9sCwW

มีวิธีทำให้ตัวเองสดชื่นตอนมาทำงานทุกเช้ามะ กุแม่งเพลียหัวจะโขกโต๊ะหลับอยู่ละะะคิดงานไม่ออกอีก ทรมานสัสๆ

111 Nameless Fanboi Posted ID:qs0q65J/87

วันนี้ใครหยุดกันบ้าง

112 Nameless Fanboi Posted ID:2xvQ+Dd3Ye

>>110 life cycle, เบื่องาน, ปัญหาสุขภาพ กูว่าแก้ที่สาเหตุดีกว่านะ

113 Nameless Fanboi Posted ID:RAAcmHEiTp

>>112 อ่อรู้ละ แต่กูนอนน้อย แต่นอนนะ 6 ชม.ไม่พอหรอวะ

114 Nameless Fanboi Posted ID:2xvQ+Dd3Ye

>>113 นอนหลับสนิทมั้ย นิสัยการนอนเป็นไง Non REM พอรึเปล่า

115 Nameless Fanboi Posted ID:9+DPYCYf1N

>>111 อ๋อวันนี้เขาหยุดกันหรอ วันไรวะ? ถึงว่าวันนี้ถนนโล่งๆ

116 Nameless Fanboi Posted ID:RAAcmHEiTp

>>114 สนิทนะแต่ตื่นมาก็อยากนอนต่อ เพลียสุด

117 Nameless Fanboi Posted ID:VYlJs1NTmf

>>116 ลองหาอุปกรณ์จับการนอนมาใช้ดู บางทีนอน6ชม. แต่เป็น6ชม.ที่หลับลึกน้อย ตื่นมามันก็เพลียๆไง อย่างกูพยายามนอนใหได้6ชม. ++
แล้วก็กำหนดเวลาตั้งปลุกตามเวลาเข้านอนเช่น ปิดไฟขึ้นเตียงตอน 23:00 หลับตานอนแล้วกว่าจะหลับจริงๆก็ + 15 นาที เวลานอนจริงก็เท่ากับ
ประมาน 23:15 แล้วเอาเวลานี้ไปตั้งปลุกโดยคำนวนตามCycleการนอนที่อ่านมาคือ 1 Cycle ( Light sleep > Deep sleep > REM) จะเป็นทุก1.30 ชมก็คูณไปให้ได้เวลาตื่นเช้าพอดี เช่น คิดไว้ว่าจะตื่นประมาน 6 โมงเช้า ก็จะได้ 23:15 + 6 ชม.( 4 Cycle) = ตั้งปลุกประมาน 6:15ถ้าจะเผื่อๆหน่อยก็ 6:20
ประมานนี้นะเพื่อนโม่ง

118 Nameless Fanboi Posted ID:2xvQ+Dd3Ye

>>117 ละเอียดดี แต่ที่จริงกูตั้งใจให้คนถามมันเอาคำว่า NON REM ไปกูเกิลต่อเองอะนะ คือกูคิดว่าวัยทำงานกันแล้วอะไรที่หาเองได้ง่ายๆแบบนี้ก็ควรจะหาเองก่อน ถามคำตอบคำ หวังให้คนป้อนแบบนี้มันติดนิสัยเด็กไปหน่อย จะทำงานลำบากเอานะมึง

119 Nameless Fanboi Posted ID:VYlJs1NTmf

>>118 โทดๆ พอดีกูเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับการนอน เลยอินมากไปหน่อยว่ะ โม่งนอนไม่หลับมาอ่านแล้วก็ไปเซิร์จหาต่อเองนะ มันมีปัจจัยอื่นๆอีก
เช่น แสงไฟ อุณหภูมิห้อง ความชื้นห้อง เรื่องความหนานุ่มของเตียง ความสูงของหมอน น้ำหนักของผ้าห่มอีก

120 Nameless Fanboi Posted ID:oB56akXU+o

เอ่อกุชินกับการไหว้คนอื่นว่ะ แบบไปมาลาไหว้ทีนี้กุเป็นเด็กใหม่ของบริษัทในองค์กรไม่มีใครไหว้กันเลยอันนี้ไม่ติดใจ แต่พอกุยกมือไหว้พวกเขาเขาทำหน้าไม่ถูกกันว่ะ รับไหว้ปลกๆอ่ะ คือกูควรเลิกไหว้มั้ย แต่ๆๆพอกูไม่ไหว้ใครกูก็อึดอัดง่ะ โอ้ยย

121 Nameless Fanboi Posted ID:1CGTi7UhEB

>>120 โค้งคำนับแทน

122 Nameless Fanboi Posted ID:SQ03yBveD/

>>120 ถ้าเค้าบอกไม่ต้องไหว้ก็คือไม่ไหว้นะ ทำงานต้องรู้จักเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม วัฒนธรรมองค์กรแต่ละที่ไม่เหมือนกัน

123 Nameless Fanboi Posted ID:QdFekuZ6q7

>>120 แนะนำว่าควรเลิกให้ได้อีกเสียง แต่ก็แล้วแต่ด้วยว่าบริษัทมึงซีเรียสมั้ย
ที่ๆกูเคยอยู่เค้าซีเรียสเรื่องห้ามไหว้กันเลยนะ แบบว่าใครอยู่มาซักพักแล้วไหว้พี่ที่ทำงานจะโดนแซะแบบแรงๆเลย

124 Nameless Fanboi Posted ID:0gG383ACNr

>>122 ที่เก่าๆเค้าไหว้กันไงละมันติดเป็นนิสัยอ่ะกูจะพยายามนะ T___T

>>123 เหมือนจะไม่ซีเรียสนะ แต่แบบพอรู้ตัวอีกทีกูยกมือหวัดดีทุกเช้าทุกคนทุกวัย แล้วเค้าก็เอ่อะๆอ่ะๆกับกิริยาของกู ฮือออออออ

125 Nameless Fanboi Posted ID:Hh83cmKFG8

กูเบื่อแผนกจ่ายของมากกงานมีระบบนะแต่ชอบทำงานไม่มีระบบไม่ลงจำนวนไม่เขียนบันทึกพอถึงเวลาถามก็ลืมสัส แล้วไม่เขียนตอนจ่ายออกละแม่งคาราคาซังไม่แก้ไขกันซักทีหายอดทีหัวหมุนห่า

126 Nameless Fanboi Posted ID:MBrUMuR4t2

>>124 ที่ทำงานกุตอนนี้แต่ก่อนคือไม่รับเด็กใหม่นานมากเป็นสิบปี ก็อยู่กันหน้าเดิมๆไม่มีใครไหว้ใคร ทีนี้พอมาปีนี้รับเด็กใหม่เข้ามา พอเด็กไหว้ก็ตกใจ ทำไรไม่ถูกเว้ย คือไม่โดนไหว้มานานมาก แต่สักพักก็ปรับตัวได้กัน กุแนะนำว่ามึงต้องดูว่าที่เค้าทำตัวไม่ถูกเพราะอะไร ถ้าวัฒนธรรมไม่ไหว้ก็ไม่ไหว้อ่ะ

127 Nameless Fanboi Posted ID:PM7hXS9ig9

กูเคยไหว้ ละเค้าบอกว่าไม่ต้องไหว้ อายุห่างกันไม่กี่ปีเอง
ส่วนบอสที่อายุ 40+ เค้าก็ไม่อยากรู้สึกว่าตัวเองแก่ หรือ อาวุโสมาก เค้าบอกแค่ทักทายก็พอ

128 Nameless Fanboi Posted ID:TntcBHxwhk

เออ ไหนๆ ก็พูดเรื่องไหว้ กูเป็นร้านขายของอ่ะ แรกๆ ก็ไม่มีไร
แต่หลังๆ เด็กที่มาซื้อของก็เริ่มไหว้กูละ แบบพอมีคนทำ คนอื่นก็ตาม
ซึ่งมันแปลกๆ ป่ะวะ กูก็ไม่ได้ห้ามนะ แต่แบบกูก็ยังไม่ได้อาวุโสมากนักอ่ะ
ปกติกูซื้อของกูขายของกูก็พูกขอบคุณเจ้าของร้าน/ขอบคุณลูกค้านะ แต่ก็ไม่ถึงกะไหว้ 555

129 Nameless Fanboi Posted ID:T/mV+xJ6N+

การไหว้มันเป็นเอกลักษณ์ไทยแหละ เขาไหว้ก็ไม่เห็นต้องซีเรียสกันเลยนี่นา มึงไม่ได้ดูแก่อะไรหรอก ควรมองว่าคนที่ไหว้มึงเขามีมารยาทดีกว่า ส่วนมึงไม่อยากรับไหว้บ่อยๆ ก็แค่ยิ้มทักทายก็ได้

130 Nameless Fanboi Posted ID:+LRI+I1wxc

>>128 ก็บอกเด็กไม่ต้องไหว้ดิ ง่ายๆ

131 Nameless Fanboi Posted ID:LfQMkSWcOw

>>129 บริษัทฝรั่งบางที่เค้าซีเรียสเพราะต้องการสร้างภาพลักษณ์อินเตอร์ แล้วถ้าให้คนในบริษัทมาไหว้คนแก่กว่ากันมันเหมือนสนับสนุนระบบอาวุโสไง

132 Nameless Fanboi Posted ID:+LRI+I1wxc

>>131 +1

133 Nameless Fanboi Posted ID:T/mV+xJ6N+

>>131 จริงๆการไหว้มันก็เป็นการทักทายแบบไทยๆ แบบฝรั่งจับมือ ญี่ปุ่นคำนับไรงี้แหละ
ถ้าจะซีเรียสกับเรื่องแค่นี้กูว่าประสาทแดก
กูเคยเห็นแต่ข้าราชการซีเรียสเรื่องเด็กไม่ยอมไหว้ แต่ บ.ฝรั่ง มาซีเรียสเพราะเด็กมันมาไหว้หรอวะ งง
จริงๆถ้าไม่ชอบก็บอกว่าไม่ต้องไหว้ก็ได้ แค่นี้คนที่ไหว้เขาก็รู้แล้วว่าไม่ต้องไหว้
ส่วนที่ทำงานกูส่วนใหญ่จะโค้งหัวกล่าวสวัสดีเอา ยกเว้นบางคนชอบไหว้กูก็ไหว้/รับไหว้ ก็ไม่เห็นมันจะเป็นเรื่องคอขาดบาดตายนี่ แค่ทักทายกัน

134 Nameless Fanboi Posted ID:MYrW1B+xop

กูเคยเป็นตอนมอต้น ย้ายเข้ารรหญิงล้วนไปวันแรกเพื่อนเดินกลุ่มนึงเจอกูตอนเช้า หยุดยืนยกมือไหว้ก้มหัวพร้อมกันอย่างสวย สวัสดี(ชื่อกู)
ไอ้เหี้ย ช็อค ตกใจหยั่งกับหลุดมาจากรักเดียวของเจนจิรา นึกว่ามีแต่ในละคร ในหัวนี่แบบเหี้ยไรเนี่ย ที่นี่ที่ไหน ไหว้กูทำไม
เขาไม่อยากให้ไหว้ก็ไม่ต้องไหว้เมิง ถ้าอยากทักทายก็เปลี่ยนเป็นทักสวัสดีค่ะ มาเช้าจัง กินข้าวเช้ารึยังคะ อะไรแบบนี้แทน

135 Nameless Fanboi Posted ID:LfQMkSWcOw

>>133 ญี่ปุ่นนี่กูไม่รู้ แต่ฝรั่งจับมือมันเป็นการทักทายที่ไม่ได้แฝงเรื่องความอาวุโสอยู่ในนั้นไง ใครจะยื่นมือก่อนหลังหรือพร้อมกันยังไงก็ได้
การไหว้ของไทยคือเด็กต้องยกมือไหว้ผู้ใหญ่ก่อน แล้วผู้ใหญ่ถึงยกมือไหว้กลับ ผู้ใหญ่ไม่ยกมือไหว้เด็กก่อน
ตัวกูก็ไม่ได้ซีเรียสหรอก แต่ถ้าวัฒนธรรมบริษัทมันมาแบบนี้กูก็ไม่ค่อยอยากให้เด็กมาไหว้
บริษัทเค้าจ้างคนมาทำงานแล้วเค้าอยากสร้างภาพลักษณ์บริษัทเค้าเป็นแบบนี้ ถ้าไม่เหลือทนจริงๆทำตามเค้าไปได้ก็ดี

136 Nameless Fanboi Posted ID:ZHK3dY2W9E

กูอยู่แผนกตรวจสอบทีนี้กูชอบมีปัญหากับพวกไม่จริงจังกับงานว่ะ กูจะมีปัญหากับแผนกจ่ายของซึ่งพวกมันไม่ได้ทำห่าไรมากยกของเข้าตู้ ขายหน้าร้านซึ่งลูกค้านานน้านนนนนเข้า พอกูไปตรวจสอบอ่ะ ของหายไปไหน บลาๆๆๆ

พวกแม่งชอบแซวอย่าไปตื่นเต้น อย่าซีเรียส พอกูเครียดหา-ยอดไม่เจอแม่งนั่งขำกูสัส กูตรวจสอบแล้วเวลาเลขมันไม่ตรงใครโดนควยยยยหงุดหงิดเว้ยยยย ขอเสนอวิธีรับมือหน่อยกูปวดหัวกูไม่ไหวแล้วววววว

137 Nameless Fanboi Posted ID:sFNXHLvG7v

>>134 นึกถึงเรื่องตัวเองเลย เราอยู่คอนแวนต์หญิงล้วน มีเพื่อนคนนึงพูดค่ะคะกับเราทุกคำ วันเกิดเราให้ของขวัญ ยกมือไหว้เราแบบบรรจงมาก โคตรแอฟทักษอรอะเพื่อนคนนี้ สวยด้วย ตอนแรกไม่ชิน หลังๆ ชินก็ว่าทำแบบนี้ก็น่ารักดีเหมือนกันนะ ความผู้ดีของเพื่อนทำให้เราสุภาพขึ้นนิดหน่อยด้วยทั้งที่ส่วนตัวเป็นคนสถุลต่ำตมมาก 555 เขาถึงว่าให้เลือกคบคน มันมีผลจริงๆ

138 Nameless Fanboi Posted ID:sFNXHLvG7v

>>135 ญี่ปุ่นหนักกว่าไทยเยอะจ้า เรื่อง manner เรื่องชนชั้น โดยเฉพาะ business manner และระดับภาษานี่แบ่งชนชั้นวรรณะสุดๆ เอาแค่เรื่องโค้งก็มีหลายระดับแล้ว

139 Nameless Fanboi Posted ID:OUyQmsNLCJ

>>137 อันนี้สงสัย โรงเรียนหญิงล้วนเค้าสอนมาว่าให้ไหว้คนรุ่นเดียวกันหรอ
กูเรียนโรงเรียนสหะเค้าไม่ไหว้คนรุ่นเดียวกันนะ ไหว้แต่คนแก่กว่า

140 Nameless Fanboi Posted ID:5ozc5J8XoG

>>139 แล้วแต่วัฒนธรรมของโรงเรียนว่าเขาจะปลูกฝังไรมา และนิสัยส่วนบุคคลด้วยแหละ

141 Nameless Fanboi Posted ID:9eYUQ4X6PW

>>139 ไหว้รุ่นเดียวกันนิ้วหัวแม่มือจรดคาง ประถมมีสอน แต่มึงคงลืมแล้ว

142 Nameless Fanboi Posted ID:ZBY6xN/9bi

>>135 จริงๆ วัฒนธรรมจับมือมันก็มีรายละเอียดของมันอยู่นะมึง เช่นถ้าคนละเพศกันต้องรอให้ฝ่ายหญิงยื่นมือก่อนอะไรงี้ ลำดับชั้น ฐานะในสังคมก็มีผลเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าเดินๆ ไปแล้วจะไปเชคแฮนด์กับใครก็ได้

143 Nameless Fanboi Posted ID:LDtyEv3dvz

>>139 โรงเรียนเราไม่ได้สอนนะ อย่างเพื่อนคนที่เล่าให้ฟังคนนี้ก็ถือว่าแปลกประหลาด คนทั่วไปก็จะพูดค่ะ/คะและไหว้แค่กับผู้ใหญ่ ถึงจะเป็นคอนแวนต์หญิงล้วนแต่ก็มีคนหลากหลายแหละ พวกเรียบร้อยผู้ดีกุลสตรีสุดๆ ก็มี พวกหยาบๆ แรงๆ ก็มี แต่อย่างน้อยถ้าอยู่หน้าซิสเตอร์ก็ต้องแอ๊บกันนิดนึง ถถถ

144 Nameless Fanboi Posted ID:LDtyEv3dvz

>>141 เอ่อจริง ลืมแล้วจริงด้วย เพราะปกติถ้าเป็นเพื่อนที่โรงเรียนหรือเพื่อนร่วมงานอายุเท่ากันเราก็ไม่ไหว้นะ ปัจจุบันวัยทำงานไหว้แค่ผู้ใหญ่กว่า&คู่ค้า

145 Nameless Fanboi Posted ID:Dv5EPTtXq3

>>142 ในออฟฟิซกูไม่สนใจรายละเอียดหยุมหยิมพวกนี้เลย หรือเพราะมีคนไทยกับฝรั่งปนๆเค้าเลยขี้เกียจอธิบายให้คนไทยฟังก็ไม่รู้

146 Nameless Fanboi Posted ID:IjEJfW2EGb

>>145 เออเหมือนกัน CEO บ.กู(ฝรั่ง)ยกมือไหว้ก่อนเลย ตกใจ รับไหว้แทบไม่ทัน แต่ก็ไม่ใช่ฝรั่งทุกคนหรือไทยทุกคนจะไหว้อ่ะ กูก็เหมือนกันใครไหว้กูไหว้ด้วย ใครไม่ไหวกูก็ไม่ไหว้

147 Nameless Fanboi Posted ID:ZWpBfV9lFv

>>145 ตามในออฟฟิศปกติคงไม่มีมั้ง ยิ่งออฟฟิศในไทยด้วย ปกติเรื่องพวกนี้จะต้องระวังถ้าออกงานสังคมมากกว่า

148 Nameless Fanboi Posted ID:ski0FFTBnz

ขอบ่นหน่อย เบื่อจังวันที่ประชุมทั้งวันเนี่ย เลิกก็ค่ำ

149 Nameless Fanboi Posted ID:8C2CCPg/Wb

มึง... กูสงสัยมากๆ ตอนสัมฯกูบอกว่าไม่มีประสบการณ์ด้านนี้นะแต่รับกูเข้าทำงานพอผ่านไปสัปดาห์เดียวทั้งๆที่ยังอยู่ในช่วงทดลองงานแม่งไล่กูออก บอกกูไม่เหมาะสมอีสัสสสสส สัปดาห์เดียวมันวัดไรได้วะกุถามหน่อย

150 Nameless Fanboi Posted ID:SuIRjRnOIs

คนในออฟฟิศเมียเพิ่งคลอดลูกแล้วร่อนจดหมายขอเงินค่ารับขวัญหลานว่ะ มันมีงี้ด้วยหรอวะ แล้วตามมารยาทกูควรให้เท่าไร แต่ถ้าเอาตามใจกูจริงๆ กูจะให้เป็นโปสการ์ดพร้อมข้อความว่า "โตมาเป็นเด็กดี ไม่ทำตัวเป็นภาระคนอื่นนะครับ^^"

151 Nameless Fanboi Posted ID:mSu4e0T7CU

มีใครเคยเป็นแบบกูมั่งไหมวะ แค่คิดว่าต้องไปทำงานพรุ่งนี้ก็ปวดหัวแล้วว่ะ เบื่อสัดๆ

152 Nameless Fanboi Posted ID:cB/xSYWKgE

>>151 เรื่องธรรมดาว่ะเพื่อนโม่ง กูนี่ตอนนี้เหมือนทำงานไปวันๆ

153 Nameless Fanboi Posted ID:R1kVJu7+r9

>>150 กูเพิ่งเคยได้ยินว่ามีงี้ด้วย อีห่า ท้องเองเสือกเอามาเป็นภาระคนอื่น ทำไมต้องจ่ายวะ มันอยู่ที่ใครจะเสนอให้ไม่ใช่หรอ นี่มาขอกันเฉย

154 Nameless Fanboi Posted ID:BTT2tf+/YT

ยินดีด้วยนะครับ คุณพ่อเป็นขอทาน

155 Nameless Fanboi Posted ID:LSNF+Y30h/

กูมีสัมภาษณ์ฝึกงานแต่กูขกไปต้องโทรไปยลเลิกเค้ามั้ยวะหรือปล่อยไปเลย

156 Nameless Fanboi Posted ID:5bWcDWlxJF

>>155 ไปไม่ไปก็โทรแจ้งล่วงหน้า อย่าให้ต้องเสียเวลารอ

157 Nameless Fanboi Posted ID:BTT2tf+/YT

>>156 +1 ทำไว้เป็นมารยาท ใจเขาใจเราว่ะ

158 Nameless Fanboi Posted ID:Lw+fGlo+7K

>>155 โทรไปเลย เขาจะได้ไปทำอย่างอื่นไม่ต้องมารอมึง ไม่ไปไม่ว่ากันอยู่แล้ว ขอให้บอกก่อน แต่ถ้าไม่บอกก่อนนี่มีสิทธิ์โดนแบนเลยนะ

159 Nameless Fanboi Posted ID:psBLkBk6R5

>>155 บอกก่อนหลายๆวันด้วยนะ เค้าต้องบุ๊คเวลาไว้ จะได้ปรับตารางงาน ไม่ต้องเสียเวลาไปเปล่าๆ

160 Nameless Fanboi Posted ID:LSNF+Y30h/

โอเคพวกมึง

161 Nameless Fanboi Posted ID:MpzwVviMcX

เออ กูทำงานส่วนตัวอยู่ ปัจจุบันงานดี เงินไม่ค่อยดี
อยู่ได้มั้ย ก็ว่า ถ้าไม่แต่งงาน ไม่ไปซื้อเหี้ยไรแพงๆ (รถ บ้าน) กูคงอยู่สบาย
แต่ก็มานั่งคิดกะตัวเอง นี่กูกะไม่แต่งงานจริงๆ หรือ? กูอธิบายอารมณ์ไม่ถูกวุ้ย
เอาเป็นว่ากูแค่มาบ่นละจากไปละกัน

162 Nameless Fanboi Posted ID:9oGZbQNTrU

เวลาคนอื่นทำงานพลาดหรือไม่ถูกใจกูทำไมเขามีข้อแก้ตัววะ พอกูพลาดแม่งเอ้ยกูหาข้อแก้ตัวไม่ได้ว่ะ

163 Nameless Fanboi Posted ID:OPCuylMp7B

>>161 เหมือนกูเลย เงินกูไม่ค่อยดี ถ้าไม่แต่งงาน+ซื้อของแพงๆ น่าจะอยู่ได้สบาย

164 Nameless Fanboi Posted ID:tMzxoRV28q

>>162 ถ้าเป็นกู ส่วนใหญ่ก่อนจะรับงานอะไร กูจะขอไปประเมินความเป็นไปได้ก่อน แล้วค่อยมาคุยกับทีมว่าอันไหนทำได้ อันไหนอาจจะทำนาน หรือทำไม่ได้
เวลาพลาดก็แก้ตัวไม่ยาก เพราะเราได้คุยกันแล้ว
แต่มันก็ขึ้นกับลักษณะงานด้วยอะ กูเป็น dev ถ้าวางแผนดี คุยงานเคลียร์มันไม่ค่อยพลาดอะ ถ้าพลาดก็พอแก้ตัว แก้งานได้ไม่ค่อยมีเหตุสุดวิสัย แต่ถ้างานลักษณะอื่นอาจแก้ตัวตามสภาพแวดล้อมได้มั้ง

165 Nameless Fanboi Posted ID:5bWcDWlxJF

>>161 เออกูทำงานประจำอยู่ แต่ก่อนเคยเป็นฟรีแลนซ์อยู่พักนึง พอกลับมาระบบงานประจำรู้ว่าตัวเองเลยว่าไม่เหมาะ ทำไปก็อยากลาออกตลอด แต่ติดกับดักงานประจำก็เลยออกไม่ได้เนี่ย เพราะอยากซื้อบ้านแท้ๆ นี่ถ้าไม่มีแฟนกูคงไม่ทนทำงานประจำเสียสุขภาพจิตแบบนี้ แต่ก่อนอยู่ห้องเช่าถูกๆ กินข้าวเดิมๆ ทุกวันไม่ต้องไปเที่ยวไหนซื้อของอะไรมากมายก็อยู่ได้ แต่พอมีแฟนแล้วเหมือนต้องวางแผนอนาคตมากขึ้น อยากพัฒนาคุณภาพชีวิต ต้องการความมั่นคง ให้เขาเชื่อว่าเราจะฝากชีวิตไว้กับกันและกันได้ ก็เลยทุกข์แต่ก็ต้องทน

166 Nameless Fanboi Posted ID:vxEsCKnfR0

ทำไมที่ทำงานแถวบ้านกูเป็นแบบนี้วะะะ พวกมีครอบครัว มีภาระชีวิตไม่ว่าจะทำงานผิดก็มีโอกาสได้แก้ไข ส่วนคนที่ไม่ได้แต่งงานไม่มีภาระ ไม่มีลูกพลาดนิดเดียวทำงานถวายตัวชิบหายกลับถูกเพ่งเล็งให้ออกหัวแรกๆ คือเหี้ยอะไรวะไม่ยุติธรรมเลยสัส

167 Nameless Fanboi Posted ID:T4lUUeWV3.

>>166 กิจการไม่ดีป่าวเพื่อน ปกติถ้ากิจการไม่ดีแล้วจะออฟคนออก แนวๆว่าเขาจะเน้นคนที่อายุงานยังน้อย ยังไม่แก่มาก ไม่มีภาระ ไรงี้มั้งง

168 Nameless Fanboi Posted ID:iHNmSTfDtz

>>164 มันแหลตามสถานการณ์ว่ะเพื่อนโม่ง อันนี้จากที่กูไปถามคนที่ทำงานด้านนี้มานะ โอกาสที่มันจะแหลเกิน 50% ว่ะ ที่จริงคือมันไม่ได้สนใจแผนกกูเลย คือที่ผ่านมาไม่เคยมีบ่นแต่ตอนนี้มีบ่นแม่งเลยแถไม่เนียนเลย 555

169 Nameless Fanboi Posted ID:TzDrVFHH0e

ถ้าไม่สุดทางจริงๆ ก็ไม่ได้อยากเปลี่ยนงานหรอก การเปลี่ยนงานสำหรับบางคนคงเป็นการอัพเงินเดือน อัพตำแหน่ง เป็นความก้าวหน้า เป็นความท้าทาย แต่สำหรับเราทุกครั้งการเปลี่ยนงานคือการทนจนทนไม่ไหวอีกต่อไป แม้ทุกครั้งที่เปลี่ยนงานเงินเดือนจะอัพขึ้น แต่นั่นไม่ใช่เป้าหมายของเราเลยสักนิด เงินที่อัพขึ้นเหมือนเป็นเงินค่าความเสี่ยงค่า insecure ซะมากกว่า ถ้าเปรียบเหมือนชีวิตครอบครัว ก็คงเหมือนผู้หญิงที่หย่าร้างซ้ำแล้วซ้ำเล่า ล้มเหลวในชีวิตซ้ำๆ รู้สึก insecure ในทุกครั้งที่ต้องหางานใหม่ เริ่มงานที่ใหม่ แต่มันก็ทนจนทนไม่ไหวแล้วจริงๆ เหมือนจะเป็นโรคประสาทในทุกวันที่กลับจากทำงาน กลายเป็นเหมือนคนโรคจิตที่ไม่อยากได้ยินเสียงมือถือ สายเรียกเข้าที่มีแต่เรื่องงานมีปัญหา เครียด เหนื่อย และท้อเหลือเกิน คิดจะทนให้นานแต่นานกว่านี้คงไม่ไหว สุดท้ายก็ต้องเปลี่ยนงานอีกครั้ง อายุก็มากขึ้นทุกวัน แต่ความ loser ไม่เคยจางหาย รู้ตัวว่าตัวเองห่วย ความอดทนต่ำ ก็พยายามจะทน ยื้อจนสุดทาง จนทนไม่ไหว ก็กลับเข้าสู่วังวนเดิมๆ อยากเปลี่ยน mindset อยากทำงานแบบคนอื่น ทำแบบขอไปทีอยู่ไปวันๆ ไม่ต้องคิดอะไรมากมายอาศัยหน้าด้านหน้าทนไป ทำงานพลาดก็โทษคนอื่นไปวันๆ แต่ทำไมมันทำไม่ได้

170 Nameless Fanboi Posted ID:pswoswfIw3

>>169 ถ้า้ปลี่ยนงานไม่ช่วยก็ต้องเปลี่ยนทัศนคติต่องาน พยายามมองในแง่ดีบ้าง เอาจริงๆคนไม่อยากทำงานกูว่าปกตินะ คนอยากทำงานนี่หายาก ปกติมันต้องก้มหน้าก้มตาทำเอาเงินไปแหละ ทนๆไปดีกว่าไม่มีงาน

171 Nameless Fanboi Posted ID:/ak3JB2phq

>>169 รู้สึกอิน แต่เราน่าจะเจอมาไม่หนักเท่านาย คนบางคนไม่สามารถทำงานเพื่อคนที่เราไม่ศรัทธาได้นาน เราก็เป็นคนนึงที่เคยทำเต็มที่แล้วผิดหวัง เหมือนทำดีให้นายเหี้ยๆ สบาย นายรักเพราะเขาเอาเปรียบเราได้ และไม่แคร์ถ้าเราจะไปเช่นกัน มองรอบข้างคนที่อยู่นานได้คือต้องทำแบบขอไปที ไม่แคร์ว่างานจะออกมาแบบไหนในเมื่ออ้างได้ว่า ก็ชั้นทำแล้ว สักแต่ว่าทำๆ ไปรอรับเงินเดือน พอเราพยายามจะปรับตัว ลองทำแบบเขา ปรากฎว่าเครียดหนักกว่าเก่า เหมือนกดตัวเองให้ห่วยลง รู้สึกว่าเกลียดตัวเองที่เป็นแบบนี้ ได้เรียนรู้ว่าไม่ใช่ทุกคนจะเป็นเหมือนกันได้ และไม่ใช่ทุก บ.เป็นแบบนี้ แต่ไม่แปลกใจเลยถ้าในชีวิตใครคนนึงจะเจอแต่ บ.แบบนี้
เราขีดเส้นให้ตัวเองว่าจะออกเดือน พค. ระหว่างนี้จะเตรียมตัวอะไรให้พร้อม แล้วจะลองออกมาเป็นนายตัวเองแล้ว จะเจ๊งก็ให้มันเจ๊งด้วยน้ำมือด้วยความสามารถตัวเองแล้วกัน

172 Nameless Fanboi Posted ID:dTyYClCOHb

>>171 "นายรักเพราะเขาเอาเปรียบเราได้" เหี้ย เจ็บเหมือนโดนแทงกลางสี่แยกอโศกเย็นวันศุกร์ฝนตก ที่รั้งกูจะเป็นจะตายเพราะเหตุผลนี้เองสินะ...

173 Nameless Fanboi Posted ID:Z72Q8m1nHP

>>172 ดีนะยังรั้ง ของกูเขาไม่แคร์ว่ะ กูวัดจากตอนประเมินปลายปีกูบอกเขาไปตรงๆ นะ ว่ากูอยากได้เงินเดือนเพิ่ม บอกว่ากูอยากได้บ้านแต่เงินเดือนตอนนี้กูไม่สามารถยื่นกู้ได้จำนวนตามที่ต้องการ (ทำมา 3 ปีเงินเดือนขึ้น 3%) แต่เขาก็เงียบไป ไม่ขึ้นเงินเดือนให้กู กูก็เลยถือว่านี่คือคำตอบว่ากูควรไปที่อื่น

174 Nameless Fanboi Posted ID:xHGGIx1lGv

>>172 นายกูรักกูมากเหมือนกันว่ะ ถ้าให้กูประเมินตัวเองแบบเป็นกลางที่สุดกูนี่ระดับ A+ เลยเว้ย งานเนี๊ยบ งานเยอะ งานกว้างเหี้ยๆ(กูทำได้ทั้งฝั่งโรงงาน ทั้งฝั่งสนง.) แต่เงินเดือนกูไม่เพิ่มซักบาท และกูก็ไม่บ่นเหี้ยไรเลยซักคำ ลูกจ้างแบบนี้ไม่รักได้ไงวะ ... แต่กูไม่ใช่ควายนะเว้ย ถ้ามึงไม่ขึ้นเงินกู กูไม่ทนเป็นควายต่อไปหรอก ควย

175 Nameless Fanboi Posted ID:IBC+9pNqZL

ถ้ามึงยังมองไม่เห็นอนาคตตัวเองในบริษัทขยันไปก็เท่านั้น โดยเฉพาะบริษัทมหาชนทั้งหลายให้คิดไว้เลย บริษัทไม่เคยรักมึง เลียนาย หรือพูดให้สวยก็สร้าง connection จำเป็นเสมอ
เดี๋ยวนี้หัวหน้าสไตล์ กร่าง สั่งจิกหัวตามโครงสร้างบริษัทมันเริ่มเป็นอดีตไปแล้ว สไตล์ใหม่นี่พูดดี ทำดี รักลูกน้อง แต่จริงๆคือหลอกใช้มึงให้อยู่ทนทำไปนานๆ

176 Nameless Fanboi Posted ID:H.Po5KT+dn

>>151 ตอนนี้ของกูกำลังวนลูป เจองานหนัก เบื่อ ไม่อยากทำงาน หาทางลาออก ฝืนทำงานต่อ ทำงานเสร็จ โล่ง วนกลับไปเจองานแบบเดิมๆ

แต่วันศุกร์ที่ผ่านมากูลางานไปสอบกับบริษัทยักใหญ่แห่งหนึ่ง เงินเดือนดีสวัสดิการดี มึงเชื่อมั้ย กูรู้สึกมีความสุขมากกว่าไปทำงานปรกติอีกว่ะ
มันเหมือนกับว่ากูได้กลับไปเป็นเด็ก ได้เจอข้อสอบยากๆ ที่ทำเสร้จแล้วลุ้นว่าจะผ่านมั้ย พอกูกลับมาที่ห้องกูก็วางแผนต่อเลยว่า
หลังจากนี้กูต้องเตรียมตัวยังไงเพื่อให้ได้งานใหม่ และกลายเป็นว่างานปัจจุบันของกู กูอยู่เพื่อเก็บประสบการณ์เพื่อไปหาที่อื่นที่มันดีกว่า

177 Nameless Fanboi Posted ID:/UESVccPIZ

ขอปรึกษาหน่อยได้ไหมรุ่นพี่ กูไม่รู้จะปรึกษาใครว่ะ
กูอายุ 26 เเต่ยังไม่เคยทำงานบริษัท เรียนจบมาปีนึงเเล้ว จบช้าไปปีนึง มันหางานยากไหมวะความรู้ที่เรียนก็หลงๆลืมไปหน่อย รู้สึกเริ่มเเก่กว่าเด็กเเล้วเเถมยังไม่มีประสบการณ์อีก ควรหาที่มันเขียนว่ารับเด็กจบใหม่ไหมวะ

คือกูจบมากูก็ทำงานอื่นๆไปพลางๆ เป็นงานพวกฟรีเเลนซ์มันก็อยู่ได้นะ สบายดี เเละประกอบกับกูไม่ได้ชื่นชอบสิ่งที่เรียนมาด้วย เเต่ความซวยมาเยือนคือต้องการเงินมากขึ้น มีเหตุจำเป็นต้องใช้เงินมากขึ้นเเบบไม่ทันตั้งตัว เลยอยากจะไปหางานที่มันมั่นคงมากกว่านี้ หรืออายุเท่านี้ประสบการณ์ไม่มีมันจะเริ่มหายากละ
โปรไฟล์กูเรียนจบวิศวะเครื่องกลเกรดห่วยๆ 2กว่าๆ ส่วนภาษากูคิดว่ากูพอได้บ้างอยู่นะ มีTOEIC 750 มีภาษาญี่ปุ่นN5

ประเด็นคือเรียนจบมานานความรู้ลืมคืนอาจารย์ไปหมด ตำราเรียนก็หาย เลยไม่มีความมั่นใจเลยว่ะ เเต่คิดว่าอาจจะพอไปเรียนรู้เพิ่มเติมได้ถ้าได้งาน เพื่อนก็น้อยไม่มีเพื่อนร่วมรุ่นที่จะปรึกษาว่าหางานยังไงได้ อายุเท่านี้จบมานานประสบการณ์ไม่มีนี่พอจะหางานได้ไหมวะ กูลองๆหานี่ส่วนใหญ่ที่เขียนรับเด็กจบใหม่รับอายุไม่เกิน22-24ซะส่วนใหญ่อีก
หรือกูควรลองยื่นบ.ที่เขียนว่ารับประสบการณ์ 0-x ปี ไปเลยก็ได้ ไม่ต้องมีrequireว่ารับเด็กจบใหม่

178 Nameless Fanboi Posted ID:C3IWFYLm9Y

>>177 อายุ 26 ยังไม่ถือว่าเยอะหรอก แต่ถ้าไม่มีประสบการณ์แน่นอนว่ามันก็เสียเปรียบเด็กจบใหม่ และคนที่อายุเท่ากันแต่มีประสบการณ์ เพราะงั้นมึงก็ตั้งหน้าตั้งตาสมัครงานให้เยอะๆ เข้าไป ยื่นแม่งให้หมดนั่นแหละอายุเกินนิดเกินหน่อยไม่ต้องไปซีเรียสมาก ถ้าเค้าพิจารณาแล้วโยน resume มึงทิ้งมันก็แค่นั้น แต่ถ้ามึงไม่ยื่นเลยมึงก็จะไม่มีวันถูกพิจารณาเลย แล้วอย่าไปพูดเด็ดขาดว่าลืมที่เรียนมาหมดแล้วแต่ขอโอกาสไปทำงานคิดว่าจะไปเรียนรู้ในงานเอา มึงควรทบทวนความรู้ตั้งแต่ตอนนี้ ตำราหายก็ไปหามาซะ จะหาซื้อใหม่หรือหาจากเน็ตจากที่ไหนก็ไปหามา บริษัทดีๆ ส่วนมากเค้าไม่สัมภาษณ์อย่างเดียวหรอก เค้าต้องมีสอบความรู้กันนิดนึง ถ้ามึงทำไม่ได้เลยมึงก็อด ส่วนมากข้อสอบมันไม่ได้ยากขนาดนั้น แต่อย่างน้อยมันต้องมีร่องรอยว่ามึงทำได้บ้าง อังกฤษโอเคแล้ว ส่วนญี่ปุ่น N5 แทบไม่มีความหมายสื่อสารอะไรแทบไม่ได้ ถ้าจะเอาระดับสื่อสารได้ควรได้ N3 แต่อย่างน้อยมี N5 ก็ยังพอทำให้เห็นว่ามึงสนใจในภาษาญี่ปุ่น ก็โม้ๆ ไปก็ได้ว่ากำลังเตรียมสอบ N3 อยู่

179 Nameless Fanboi Posted ID:C3IWFYLm9Y

>>178 กูพูดผิด ข้อสอบบางที่ก็ยากสัสๆ แต่เค้าไม่ได้คาดหวังว่ามึงต้องทำได้ เค้าแค่อยากเห็นร่องรอยว่ามึงยังพอทำได้บ้าง อย่างตอนกูสอบเข้า automobile ค่ายหนึ่ง ตอนแรกกูยังคิดเลยว่าตกแน่นอนเพราะรู้สึกว่าทำข้อสอบไม่ได้เลย ยากชิบหาย ปรากฎได้งานว่ะ พอทำมาซักปีถึงช่วงรับเด็กใหม่อีกครั้ง คุยกันเรื่องรับเด็กใหม่เข้าแผนก ตอนนั้นกูเริ่มสนิทกับนายแล้วเลยคุยกับนายขำๆ ว่ารับกูเข้ามาทำได้ไงเนี่ยกูว่ากูทำข้อสอบไม่ได้เลยนะ เค้าบอกเค้าก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องทำได้คะแนนดี เค้าแค่ดูแววว่าพอมีแววจะพัฒนาได้ ประเภทส่งกระดาษเปล่าแม่งก็ไม่ไหวนะ

180 Nameless Fanboi Posted ID:XLpu28tLK7

>>177 วิศวะเครื่องกล ถ้ามึงยังไม่หมดไฟในชีวิต พยายามเรียนญี่ปุ่นจนให้ได้ N2 แล้วชีวิตมึงจะสบายขึ้นเยอะ จับเงินเดือนครึ่งแสนสบายๆ

181 Nameless Fanboi Posted ID:R8BF2Njlvt

>>180 ขอถามในฐานะคนนอกวงการ ทำไมมึงแนะนำภาษาญี่ปุ่นวะ
มันทำเงินได้เยอะกว่าภาษาอังกฤษเหรอ หรือมึงเห็นว่า เจ้าของเม้นได้
TOEIC 750 แล้ว เลยแนะนำให้เพิ่มภาษาญี่ปุ่นแทน

182 Nameless Fanboi Posted ID:WhcEuln86U

>>181 ญี่ปุ่นทำเงินดีกว่าอังกฤษมาก

183 Nameless Fanboi Posted ID:BvFxDuvejt

>>176 รักษาภาวะหมดไฟด้วยการเตรียมหางานใหม่ ฟังดูสิ้นหวังนิดๆ
เพราะถ้ามองในแง่ร้ายถ้าเราไม่เจอบริษัทที่ตอบโจทย์จริงๆมันก็วนไปเรื่อย
ได้งาน หมดไฟ หางานใหม่ ได้งาน หมดไฟ

184 Nameless Fanboi Posted ID:g.t7qq2JAy

>>183 กูคือไอ้ >>151 นะ ปัจจุบันกูอยู่ใน บ. เล็กๆ ที่ระบบงานเหี้ยมากๆ นายเหี้ยด้วย แต่การประเมินจะขึ้นอยู่กับนายคนเดียว ทีนี้แทนที่จะโฟกัสไปที่งานกัน แม่งโฟกัสไปที่นายกับว่ะ เลีย ทำงานเอาหน้า ทำอะไรก็ได้ที่นายชอบ ผลคือแต่ละคนทำงานกันมักง่ายมากๆ คล้ายๆกับแต่ละคนจะคิดว่าถ้านายไม่อยู่กูจะพยายามไปทำไม ปัญหาที่เกิดขึ้นภายใน บ. ก็ไม่มีใครสนใจ เพราะเลียนายดีกว่า ทำงานให้มันดูเมพๆเฉพาะตอนที่นายอยู่ดีกว่า ผลคือหัวหน้างานอย่างกูโครตปวดกบาล กูเคยรายงานปัญหาไปว่าลูกน้องทำงานมักง่ายไปผลคือเขาไม่สนใจจร้าาาาา แต่ถ้างานออกมาไม่ดีกูจะโดนด่า ทีนี้มึงเห็นรึยังว่า บ. กูมันเหี้ยขนาดไหน

ตอนนี้กูกำลังคิดอยู่ว่าถ้ากูได้ย้ายไป บ. ใหญ่ๆ กูจะได้ทำงานอย่างเต็มที่ แถมยังได้รับค่าตอบแทนที่คุ้มค่าอีก ... พวกมึงคิดว่าไงวะ ย้ายไป บ. ใหญ่ๆ มันคือคำตอบสุดท้ายของอาการเบื่อ บ. เล็กๆกากๆ รึเปล่า

185 Nameless Fanboi Posted ID:H.Po5KT+dn

>>184 ขอวกูนี่กลับกันนะ งานแรกกูเป็นบริษัทเล็กงานสบาย เงินเดือนน้อยแต่กูรับได้ เพราะชั่วโมงทำงานมันน้อยจริง
ทั้งวันทำงานจริงๆแค่ 5 ชั่วโมง วันหยุดก็เยอะ เจ้านายดี ผู้บริหารดี เพื่อนร่วมงานงี่เง่าบ้างแต่โดยรวมไม่แย่อะไร
การประเมินเข้าขั้นเหี้ย กูอยู่มาสองปีเงินเดือนขึ้นไม่ถึง 5% แต่ก็นะกูรับสภาพได้แหละเพราะเนื้องานมันไม่มีอะไรให้ประเมินเงินเดือนจริงๆ

กูทำซักพัก แม่กูอยากให้มาสอบราชการ แล้วกูสอบติด แรกๆก็ดีอ่ะ เงินเดือนไม่มากแต่ก็ไม่น้อย สวัสดิการดี
แต่ระบบงานมันปัญหาเยอะ จนกูกำลังหาทางลาออกอยู่ แต่ข้อดีของการอยู่ บ.ใหญ่ๆ หรืองานที่ให้ค่าตอบแทนสูง
คือเวลามึงเบื่อมึงจะไม่สิ้นหวังทีเดียว มึงจะรู้สึกว่าถึงระบบงานเหี้ยแต่อย่างน้อยเงินที่ได้ก็คุ้มค่าพอให้ทนอยู่

186 Nameless Fanboi Posted ID:Hw87CFnx7B

>>177 เชี้ยยยกูนึกว่ากำลังอ่านชีวิตตัวเองกูจบบริหารธุรกิจอายุเท่ามึงเลยยังเตะฝุ่นหางานอยู่เหมือนกัน ตอนนี้กูหาสอบราชการไปเรื่อยแอบท้อนะแต่ก็ยังหาส่งใบสมัคงานอยู่

187 Nameless Fanboi Posted ID:G0cAbOOSVv

บ ใหญ่ เงินมันจะดี โอกาสก้าวหน้าเยอะ การประเมินผลงานจะมีประสิทธิภาพ แต่คัดคนมากๆเช่นกัน
บ เล็ก จะมั่วๆ ร้ายมากกว่าดี เงินน้อย งานมั่ว ประเมินผลมั่ว แต่ไม่คัดคนเท่า บ ใหญ่

188 Nameless Fanboi Posted ID:8CsqCX09QY

>>187 บ เล็กพวกมากลากไป ไม่เข้าพวกฟ้องนายโดนดีดง่ายมากมั่นคงไม่มี

189 Nameless Fanboi Posted ID:E.N5Deyzyx

บ.ใครมี Time tracking มั่งป๊ะ จริงๆ งานกูอยู่แต่หน้าคอมอยู่แล้วก็ไม่มีปัญหาอะไรกับการแทร็คนะ แต่ไอ้การที่ถ้าแต่ละวันลงเวลางานต่ำว่า 6 ชม.แล้วจะมีปัญหาจนต้องเฟคเวลาทำงานบ้าง ทำงานแบบอู้ๆ บ้างให้เวลางานมันครบเนี่ย ประสาทแดกว่ะ

190 Nameless Fanboi Posted ID:eXbmQU8x5x

>>189 ส่วนตัวกูว่าไม่ดีเหมือนกัน แบบ อ่าว งานเท่ากัน แต่กูทำเร็วอ่ะ กูผิดเหรอ

191 Nameless Fanboi Posted ID:IT1gdhi.dO

>>189 ว่างก็ไปของานเพิ่มสิ

192 Nameless Fanboi Posted ID:mbuu+PTs5c

>>191 กูก็เป็นพวกว่างแล้วชอบหาอะไรทำเพิ่มนะ ถ้าไม่มีอะไรทำจะชอบมานั่งดูงานเก่าๆ ที่ทำเสร็จไปแล้ว ว่ามันมีตรงไหนน่าปรับปรุงวิธีการทำงานให้ดีขึ้นบ้าง ให้นั่งว่างๆ ยันเลิกงานเบื่อตายห่า เวลาจะเดินช้ามาก

193 Nameless Fanboi Posted ID:8CsqCX09QY

>>189 เออจริงโคตรน่าเบื่อ แล้วบางทีต้องทำหน้าขรึมทำยุ่งๆให้คนอื่นเห็นด้วยนะ ถ้าเขาเห็นว่าว่างเขาจะยัดๆๆๆงานมาให้ซึ่งบางทีงานนั่นไม่ใช่หน้าที่เรา ฉะนั้นนั่งทำคิ้วขมวดไปซะมึง ถถถถถถ

194 Nameless Fanboi Posted ID:yq7Fn7wUZ8

ว่าจะทำเพจอาหารในเวลาว่าง

ทำำ content อะไรดีให้ไม่น่าเบื่อ

195 Nameless Fanboi Posted ID:SdFqtFbwxx

>>194 เพิ่งเริ่มยังไม่มีคนตามเยอะ ก็ทำตามที่มึงชอบไปก่อนป่ะวะ ไม่ได้ทำกะดังไม่ต้องแคร์มากมั้ง

196 Nameless Fanboi Posted ID:ATREsMwZVv

>>194 เพจอาหารนี่ ทำ หรือว่า กิน?

197 Nameless Fanboi Posted ID:yq7Fn7wUZ8

>>196 สองอย่างเลย

198 Nameless Fanboi Posted ID:yq7Fn7wUZ8

>>195 ละทำไรดีวะ

199 Nameless Fanboi Posted ID:7drDAZQdS7

>>194 ทำอาหารเก่งหรือยังอ่ะ ถ้ายังก็เอาแนวไปเจอสูตรคนนั้น คนนี้ แล้วเอามามิกซ์รวมกันในแบบของมึงมั้ยล่ะ ทำผิดทำถูกอัดคลิปเรียนรู้ไประหว่างนั้น กูชอบดูคนงงๆ

200 Nameless Fanboi Posted ID:4xiOONTv9l

แหม่กูทำเปรียบเทียบราคา+เสป็คไป 3 บ. เคลียร์เสป็คกันเป็นเดือนพอส่งไป มึงบอกไม่เอาอ่ะจะเอาเจ้าที่ 4 แล้วให้คอนแทคกูไปติดต่อเคลียร์เสป็คอีกรอบคืออะไรวะ มึงได้ใต้โต๊ะกับบ.นั้นหรอวะ

วันหลังก็ส่งมาให้กูทำแต่แรกจะได้ไม่ต้องลำบากทำหลายรอบเสียเวลาสัด

201 Nameless Fanboi Posted ID:cX6bT85sWD

>>200 เหมือนกูเลย ให้กูหาราคา กูก็หาๆๆๆๆๆๆ พอแพงไปให้กูไปขอลด คุยๆๆๆๆๆๆจนเขาลดให้ สุดท้ายบอกเอาไว้ก่อน อีเห้ ซัพก็โทรจิงกูยิกๆๆๆโครงการไปถึงไหนแล้ว หลายรอบละสัส น่าเบื่อเห้ๆ

202 Nameless Fanboi Posted ID:delGw0Bd6f

กูอยากให้ลูกน้องกูลาออกไปซะทีว่ะ นอกจากจะกากแล้วพฤติกรรมยังแย่อีก ... ก่อนหน้านี้มันว่างงานมา 3 เดือนน่ะ กากอย่างมันไม่มีใครเอาน่ะ ก็เลยต้องหน้าด้านหน้าทนอยู่ บ. กูต่ออะ .... HR กูก็เสือกโง่ไม่คิดจะหาคนใหม่ ทั้งๆที่จริงๆแล้วถ้าไม่มีมัน บ.ก็ไม่สะเทือนเลยแม้แต่น้อย ... เบื่อที่ต้องมาปวดหัวกับความกากของมันชิบหายเลยเว้ยยยย

203 Nameless Fanboi Posted ID:Hp/jBL6INp

อันนี้ขอถามเเบบโง่ๆในฐานะเด็กจบใหม่หน่อยได้ไหมพี่โม่ง
กูสงสัยว่าวิธีการดูว่า บริษัทนี้ องค์กรใหญ่ ไม่ใหญ่ เล็ก หรือกลางๆ ดูยังไง อย่างที่เคยอ่านมาหรือได้ยินมา เช่น จบมาไม่เก่งก็เลือกบ.เล็กๆ จบเก่งโปรไฟล์ดีก็เลือกบ.ใหญ่อะไรเเบบนี้ พวกดังๆก็พอจะรู้บ้าง เเต่พวกบ.ที่เเบบเปิดในเว็บสมัครงานเเล้วมีเเต่ชื่อไม่รู้จักเลย เราจะรู้ได้อย่างไรว่าบ.นี้เป็น บ.เล็กบ.ใหญ่ หรือให้ดูที่จำนวนสาขาที่มี,หรือดูอะไรได้บ้างคร่าวๆ

หรือพอจะมีวิธีคร่าวๆเช็คไหมว่า บ.นี้น่าไปทำไหม อื่นๆ

204 Nameless Fanboi Posted ID:HMpozuqpzf

>>199 ไม่กล้าถ่ายคลิบดิวะ

205 Nameless Fanboi Posted ID:BscgX7VTZf

>>202 กากยังไงวะเพื่อนโม่งขอเสือกหน่อย

206 Nameless Fanboi Posted ID:gonuwYE4St

>>202 มึงเป็นหัวหน้ามัน รู้ว่ามันกากแล้วไม่รีพอร์ต บ.หรอวะ? บอก HR? ถ้าออกไปไม่สะเทือนก็ให้ บ.จ้างออกไปดิวะ เอาแต่รอให้มันออกเองแปลว่า บ.มึงไม่มีปัญญาจ้างออกหรอ?

207 Nameless Fanboi Posted ID:Jz+BRHhgTr

>>202 บีบแม่งออกดิ ง่ายจะตาย หัวหน้าทุกคนนอกจากต้องรู้วิธีทรีทลูกน้อง ก็ต้องรู้วิธีบีบออกด้วย กรณีลูกน้องนิสัยมะเร็ง ทำให้บ.ชะบอความก้าวหน้า เช็คอำนาจในมือมึงหน่อย

208 Nameless Fanboi Posted ID:Uv7e/Wq5Zb

>>205 ผิดพลาดซ้ำซากเรื่องเดิมๆ บอกกี่รอบๆ ก็เหมือนเดิม เวลาสอนเรื่องที่ยากๆหน่อยแม่งจะไม่มีวันเข้าใจเลยเว้ย เนี่ยวันนี้สดๆร้อนๆเลย โชว์โง่มา3รอบแล้ว

>>206 กูแจ้ง HR แล้วเว้ย แต่เขาไม่สนใจเว้ย คล้ายๆกับเขารับมันมา เขาเลยไม่อยากทำให้ถูกคิดว่าเขาไม่คัดคนหรือเหี้ยไรก็ไม่รู้กูไม่เข้าใจเหมือนกัน

>>207 บีบไงวะด่าแม่ง แม่งก็โง่เกินกว่าจะเข้าใจ บอก HR แม่งก็มักง่ายไม่ทำเหี้ยไรให้กูเลย บอกนาย นายก็ไม่สนใจ

209 Nameless Fanboi Posted ID:2c9qqmjIm/

>>208 น่าจะไม่เหมาะกับงานแล้วนั่นน่ะ

210 Nameless Fanboi Posted ID:vwPfra7Uu4

>>208 วันนี้โชว์โง่รอบที่สี่แล้วโว้ย สั่งของมาผิด บ. เสียหายด้วยดิ นายก็อยู่ด้วย เหี้ยเอ้ยมันส์จริงๆว่ะ

211 Nameless Fanboi Posted ID:0I.atcR0Ve

>>210 มึงจะเอายังไงก็มาคุยกับกูดีๆมา คิดว่าคนอื่นไม่เล่นโม่งหรอ

212 Nameless Fanboi Posted ID:G1NYLB3H6.

>>211 >>210 โป๊ะแตกหรือ 211 มโนเองวะ5555เคลียร์กันเองนะแล้วมาบอกด้วยกูอยากเสือกอิอิ

213 Nameless Fanboi Posted ID:gonuwYE4St

>>211 ถถถถถ มึงหยอกหรือจริงเนี่ย เล่นเอากูตื่นเต้นไปด้วยเลย

214 Nameless Fanboi Posted ID:gonuwYE4St

>>208 ถ้าไม่จ้างออกก็บีบออก เอาตามระบบก็ออกใบ warning ทุกครั้งที่มีการทำพลาด ให้เจ้าตัวเซ็นรับรู้ เรื่องนี้ HR ต้องร่วมรับผิดชอบด้วย พอครบสามครั้งให้ออกได้โดยไม่ต้องจ่ายเงินชดเชย ถ้าบีบแบบน่าเกลียดๆ (ซึ่งอาจจะโดนฟ้องกรมแรงงานได้)ก็เช่น ยกคอมยกโต๊ะทำงานมันออกไป ให้มันมางงๆ แล้วหาทางออกเอง

215 Nameless Fanboi Posted ID:qVshpMVENW

>>213 ที่นี่คือโม่ง

216 Nameless Fanboi Posted ID:M9ZXB8riS5

>>203 http://datawarehouse2.dbd.go.th/bdw/home/login.html เชกเอา

217 Nameless Fanboi Posted ID:UZDBLZoO8u

สรุปว่าไอ้ที่จะเอาลูกน้องออกมันเคลียร์กันยังหรือต่อยกันไปแล้ว

218 Nameless Fanboi Posted ID:KJaPnxM+LO

พูดถึงเรื่องไล่ลูกน้องออก กูขอพูดเรื่องของกูมั่ง
ของกูนี่ยื่นลาออกตอนปลายปีที่แล้ว เหตุผลคือกูเบื่องาน กูไม่ชอบระบบงานที่นี่
แต่หัวหน้ากูรั้งกูไว้ แกถามว่ากูออกแล้วจะไปทำอะไร ซึ่งกูก็ตอบไม่ได้เพราะกูเองก็ยังหางานใหม่ไม่ได้
อีกเหตุผลที่หัวหน้ากูยังไม่อยากให้ออกก็เรื่องงานด้วย เพราะสายงานกูเป็นสายงานกฎหมาย
กว่าจะสร้างคนที่เป็นงานแต่ละคนก็ใช้เวลานาน จะหาคนใหม่ก็ไม่ใช่ว่าหามาแล้วจะเอามาทำแทนได้เลย

สรุปว่ากูต้องอยู่ต่อ แล้วพยายามหางานใหม่ไปเรื่อยๆ อึดอัดฉิบหาย
ลูกน้องก็ทนอยู่เพื่อเก็บประสบการณ์เพื่อไปหางานใหม่ แต่ใจไม่อยู่แล้ว
หัวหน้าก็ต้องมาทนรับสภาพที่ว่า ลูกน้องปั้นไม่ขึ้นแล้ว หรือปั้นให้ทำงานเก่งเมื่อไรก็พร้อมลาออกไปที่อื่นอยู่ดี
เป็นภาวะที่เจอหน้ากันเพื่อให้วันหนึ่งมันผ่านๆไปว่ะ

219 Nameless Fanboi Posted ID:3aJR+im.8R

ใจกูก็ไม่อยู่แล้ว ขี้เกียจไปทำงานทุกเช้า ตื่นอะตื่นได้ แต่ไม่อยากไปทำงาน อยู่เพื่อเก็บประสบการณ์ แต่อยู่นานๆไม่ไหวจริงๆ

220 Nameless Fanboi Posted ID:08+m9J/wIM

>>219 ถ้าคิดว่าเก็บเกี่ยว ปสก.หมดแล้วก็ออกเพื่อน แล้วมึงมีปัญหาไรเพื่อนโม่งสังคมการทำงานหรือตัวงาน

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.