โม่งคุยเรื่องเพื่อน >>>/lounge/1154/
โม่งคุยเรื่องเพื่อน >>>/lifestyle/1526/
โม่งคุยเรื่องเพื่อนx2 >>>/lifestyle/2189/
โม่งคุยเรื่องเพื่อน x3 >>>/lifestyle/3960/
Last posted
Total of 1000 posts
โม่งคุยเรื่องเพื่อน >>>/lounge/1154/
โม่งคุยเรื่องเพื่อน >>>/lifestyle/1526/
โม่งคุยเรื่องเพื่อนx2 >>>/lifestyle/2189/
โม่งคุยเรื่องเพื่อน x3 >>>/lifestyle/3960/
โม่งๆ โรลเพลย์นี่มันคืออะไรวะ เพื่อนกลุ่มใหม่กูมันชอบเล่นกัน กูไม่เข้าใจจริงๆ จะเล่นตามแม่งก็น่าอายสัส
แต่กูสงสัยไง แก่นแท้ของโรลเพลย์คืออะไร เล่นแล้วได้อะไร กูต้องการจะเข้าใจ ไม่ได้ประชดนะ แต่จะถามพวกมันก็ไม่กล้า
พวกคอมมู วาดรูปบลาๆเชิญทางนี้นะหนูๆ
https://fanboi.ch/subculture/
เพื่อนกูไปคบกับผู้หญิงตอแหลว่ะ กูรู้จักนางดี ขณะที่เพื่อนกูไม่รู้อะไรเลย กูไม่ควรบอกอะไรมันใช่มั้ยวะ ปล่อยให้มันเจอกับตัวเองเลยจะดีกว่ามั้ย
>>8 อันนี้ยากว่ะ ขึ้นอยู่กับว่าเพื่อนมึงฟังมึงมากแค่ไหน ถ้าสนิทกันมากเตือนได้เตือนไปเถอะ แต่ถ้ามึงกลัวมันไม่เชื่อก็ให้มันเจอกับตัวเองก็ได้ เดี๋ยวมึงไปพูดให้ฟังก่อนแล้วมันจะหาว่ามึงไส่สีตีไข่นาง อีกแง่คือถ้านางไม่ตอแหลใส่เพื่อนมึงแล้วอยู่ด้วยกันได้หรือเพื่อนมึงรับนิสัยนางได้งี้มึงก็คงทำไรไม่ได้ว่ะ รอดูท่าทีไปก่อนดีสุด
ทุกวันนี้เวลากูเจอหน้าเพื่อนเก่ากูละกูรู้สึกเจ็บใจตลอดเลยวะ กูไม่อยากมีความรู้สึกแบบนี้เลยกูควรจะทำยังไงให้หายวะ คือกูเคยโดนเค้าตัดเพื่อน ทำร้ายความรู้สึกกูสาระพัดแต่ก็ยังต้องวนเวียนอยู่ในสังคมเดียวกับมันอีกนานอะ แค่มองหน้าเหมือนเรื่องร้ายๆมันก็ขึ้นมาในหัวกูขนาดห่างหายกันไปหลายเดือนก็ยังไม่ดีขึ้นเลย
>>11 กูให้คำปรึกษามึงไม่ได้ว่ะ เพราะกูก็เป็นแบบมึง กูเชื่อคำว่าแก้วที่แตกไปแล้วทำยังไงก็ให้กลับมาเหมือนเดิมไม่ได้ คสพ.ที่พังไปแล้วให้กลับมายิ้มให้กันสดใสเหมือนเดิมแม่งยาก กูก็พยายามไม่ทำอะไรให้ได้อยู่ใกลๆให้ได้เจอหน้ามันว่ะ ถ้าเจอก็ช่างแม่งทำเฉยเอาไว้ ทำปกติสุดๆเอาไว้
คนรู้จักใตห้องแม่งโคตรเหี้ย รร.กูมีงานบำเพ็ญประโยชน์ ซึ่ง มี8คนที่แม่งจะออกแนวผู้นำหน่อย ตอนพรีเซ้นท์มันออกมาไม่ค่อยดี กลุ่มนางแม่งเรียกไปประชุม ไม่ดิ กูว่าเรียกไปด่ามากกว่า “ทำไมเงียบกันวะ ปากมีไว้ประดับหน้าหรอ” “มึงเป็นเหี้ยไรกันวะ ไม่ช่วยงานเหี้ยไรเลย” ด่าสารพัดต่างๆนาๆ กูอยากจะถีบหน้ามึงให้หยุดพูดมาก กูก็รู้ว่ากูมีส่วนผิดนะ แต่กูรู้สึกว่า การทำงานเนี่ย แม่งต้องมีส่วนนึงที่เป็นผู้นำค่อยสั่งการว่ะ ซึ่งพวกมึงเป็นคนเริ่มเป็นผู้นำแล้วแล้วมึงไม่สั่งลูกน้องแล้วไปทำอยู่ส่วนด้วย บวกกับมาด่า กุว่าแม่งเหี้ยเกิน มึบอกว่าเด็กใหม่”ไม่มีทางรู้ความรู้สึก” กุเกลียดคำนี้มาก มึงไปรู้อะไรกูวะ มึงรู้หรอว่ากูเรียนอะไร กุทำอะไรบ้างตอนม.ต้น มาบอกว่ากูไม่รู้เรื่อง อีเหี้ย เก็บปากเน่าๆของมึงไปแดกปลาเหอะ เผื่อทำให้มึงฉลาดขึ้น
กูเป็นคนที่พูดเบามาก ขนาดเวลาที่คิดว่าพูดดังแล้วเพื่อนก็ยังไม่ได้ยิน สามคนแล้วที่บอกว่ากูพูดเบามาก TT. แต่เวลาอยู่กับน้องกูพูดปกติมันก็ได้ยินนะ ทำไงดีเพื่อนโม่ง ทำยังไงให้พูดเสียงดังขึ้น กูสังเกตุเพื่อนคนนึงเขาไม่ต้องทำอะไรมากก็พูดออกมาได้เสียงดังฟังชัดคล่องปรื๋อ ทำไมกูพูดไม่ดังเหมือนคนอื่นเขาวะ
>>14 กูเป็นคนพูดเบาเหมือนกัน ชอบพูดอยู่ในคอ เวลาพูดก็จะอ้าปากไม่ค่อยกว้าง แต่เพราะรู้ตัวว่าเป็นคนเสียงไม่ดังนี่แหละ ตอนเรียนเวลาต้องพรีเซนต์หรือแสดงละครหน้าห้องกูจะรีบหยิบไมค์เลย อันนี้แก้ที่ปลายเหตุนะ
ถ้าแบบแก้ที่ต้นเหตุก็คือ เวลาพูดมึงต้องมั่นใจในตัวเองหน่อย ถ้าต้องการสื่อสารอะไรที่มันสำคัญๆ ก็พูดช้าๆชัดๆ อ้าปากกว้างๆ ใช้แรงลมจากในช่องท้องในการช่วยเปล่งเสียง แต่สิ่งสำคัญคือความมั่นใจเวลาพูดอะ
>>11 สำหรับวิถีคนเหี้ยอย่างกู กูทําตัวเหี้ยใส่มัน และทําตัวให้ดูสูงกว่าแล้วรู้สึกดีขึ้นหว่ะ
ของกูคือโดนบุลลี่จากเพื่อนกลุ่มเดียวกัน แต่ชีวิตกูไปได้ดีกว่ามัน เป็นแบบนี้เพราะกุตั้งใจด้วยแหละ ทําทุกอย่างให้เก่งไม่ให้ถูกดูถูกได้
หลังๆเจอกันก็เป็นประจบทําตัวดีเลียขากุใหญ่ พูดด่ามันต่อหน้าโครตสะใจ lol แบบมันเป็นสัญชาตญาณพอกูใหญ่กว่าก็กลัว โดนด่าก็ไม่กล้าทําอะไร
ไอ่สัสวันนี้เพื่อนเก่าสมัยม.ต้นนัดเจอเว้ย กูไม่ค่อยสนิทกับมันหรอก แต่เห็นมันนัดเจอที่โรงเรียนเก่าเลยไปหาหน่อยก็แล้วกัน ไอ้เหี้ย นั่งคุยได้ไม่ถึง 3 นาที แม่งขายยาสีฟันให้กูแล้ว ถ้าไม่เห็นว่าลูกมันนั่งอยู่ด้วย กูจะแฉว่าแม่งแอบชักว่าวในห้องเรียนตอนม. 2 แล้ว ไอ้สัส เยดเข้
กูโดนเพื่อนแกล้ง ล้อบ่อยครั้ง วันนึงแม่งล้อเสียงกู กูเลยหยิบขวดน้ำฟาดหน้าหันแต่ทุกคนหัวเราะ ขอหาวิธีตอบโต้ที่ทำให้มันล้อหรือแกล้งกูน้อยลงที(จะเลิกเลยคงไม่ได้ สันดานแม่งอย่างนั้นแหละ) หรือกูต้องตบมันด้วยมือจริงๆ วะ
เขาบอกเอ็นดูล้อเล่นกับกู แต่กูรำคาญ เพราะมันหลายครั้งแล้ว กูบอกไม่ชอบก็แซะกู ด่ากูอีก คือกูต้องทนใช่มะ?
กูเรียนคนละคณะกับเอและบี เคยเห็นเอโพสต์ตัดพ้อแบบ ไม่มีใครเข้าใจหรอก,จบไปแล้วก็ต่างคนต่างอยู่ดิ ฯลฯ
จนบีมาเล่าให้ฟังว่าจริงๆช่วงนั้นคือ เอไปแซ่บนัวกับแฟนเพื่อนอีกกลุ่ม จนมาถึงแฟนเพื่อนในกลุ่ม ก็เลยโดนแบนไปตามระเบียบ มาล่าสุดนางโพสต์ทำนองว่า ไม่เข้าใจคนที่มีแฟนแล้วแต่ยังไปคุยกับคนอื่น บลาๆๆ เหมือนจะโดนเข้าเองแต่มันย้อนแย้งกับสิ่งที่ไปทำกับคนอื่นอะมึง
ละกูเพิ่งนึกได้ว่าตอนมัธยมเวลามีคนมาคุยกับกูเค้าก็จะรู้จักเพื่อนๆกูปกติใช่ปะ พวกเพื่อนในกลุ่มมันเคยทักว่ากูไม่สังเกตบ้างหรอ กูคุย6คน เอทักเค้าไปคุยด้วยทุกวัน3คนละ แต่ตอนนั้นกูใสๆ เค้าอาจจะคุยกันคลิกกว่ากูก็ได้ พวกมึงอะคิดมาก
ยาวจัง โทด อะพอมาตอนนี้กูเริ่มวิเคราะห์ละว่านี่คืออาการป่วย ต้องการความรัก กลัวว่าคนอื่นจะได้รับความรักมากกว่ารึเปล่า (เอเป็นลูกคนเดียว) ตอนกูเริ่มสนิทกับเพื่อนอีกคน นางก็เคยบอกว่าไม่ชอบละเริ่มพาลเพื่อนคนนั้นนิดๆ
หรือจริงๆแล้วไม่มีอะไรวะ ก็แค่หงี่ แล้วแฟนเพื่อนก็หงี่ เลยเอากัน จบ
ไลฟ์สไตล์การใช้เงินกูกับเพื่อนไม่ค่อยตรงกันว่ะ แบบมีเงินพอใช้จ่ายกันได้ทั้งคู่อะ ละกูก็ชอบเอาเงินไปกิน ซื้อหนังสือบ้างละมันแพง(แต่ก็เงินกูนะ)เพื่อนก็ชอบว่าว่ากูใช้เงินเยอะ ฯลฯ เวลาไปห้างกันกูอยากกินตามร้านเพื่อนก็ไม่ยอมเว้ย จะกินในฟู้ดพาร์ก ทั้งๆที่แม่งก็มีเงินอะ บางทีไปไหนกูก็เน้นสะดวกสบายแต่เสียเงินนิดหน่อย เพื่อนก็ไม่เว้ยจะเดิน กูเศร้าว่ะ ทำไงดีวะ บางเรื่องที่ประหยัดได้ก็โอเค แต่แบบบางเรื่องที่แม่งประหยัดแล้วลำบากตัวเองเนี่ย ทำไมต้องทำวะ
>>25 คำตอบก็อยู่ในคำถามมึงไง ไลฟ์สไตล์การใช้เงินไม่ตรงกัน ไอ้เรื่องกินฟู้ดคอร์ทเนี่ยต้องดูว่ามึงกับมันไปเดินห้างบ่อยไหม ถ้านานๆ ทีเนี่ยแปลก แต่ถ้าไปแม่งเกือบทุกวัน มันจะประหยัดเงิน ไม่แดกร้านอาหารก็ไม่ใช่เรื่องน่าตื่นเต้นอะไร
สำหรับเรื่องการเดินทาง มึงบอกว่าเสียเงินนิดหน่อย อันนี้กูว่ามึงพูดเข้าข้างตัวเอง บอกหน่อยดิว่าเสียเงินนิดหน่อยคืออะไร เช่น จะเดินไปเรียนก็ได้ แต่มึงขี้เกียจ มึงเลยนั่งมอไซค์วิน แบบนี้ใช่ปะ? ถถถ ส่วนตัวกูไม่นิยมขึ้นมอไซค์ว่ะถ้าไม่สายจริงๆ หรืออย่าง bts เนี่ย ถ้าสถานีเดียวกูไม่ขึ้นนะ เดินอย่างเดียว
มันอาจไม่มีใครผิดไม่มีใครถูกสำหรับเรื่องนี้ แต่อยากให้มึงลองคิดดูว่า ปัจจุบันมึงมีเงินเก็บมากน้อยเท่าไหร่ กูเห็นเพื่อนกูบางคนพ่อแม่ก็ให้เงินใช้เดือนละเป็นหมื่นแต่เงินเก็บแม่งยังน้อยกว่ากูและเพื่อนหลายๆคนที่ได้เดือนละหลักพันอีก (สมัยยังเรียนอยู่) ก็แนะนำว่าให้หัดประหยัดบ้างนะ ต่อไปจะได้บริหารเงินเป็น ไม่ต้องรบกวนพ่อแม่เวลาชักหน้าไม่ถึงหลัง
>>26 เดินห้างนานมากๆทีนึงวะ ปีนึงไม่ถึงสี่ครั้งอะที่ไปด้วยกัน เสียเงินที่กูพูดถึงคือไปตจว.กันมีกระเป๋าสัมภาระ เดินระยะทางประมาณเกิน 5-8 กม. เพื่อไปที่พักอะ ละแดดแม่งแรงเหี้ยๆ ถ้าระยะทางสั้นๆแบบที่มึงยกมากูจะไม่อะไรเลย
เรื่องเงินเก็บกูก็เริ่มเก็บๆอยู่แหละ ตอนนี้ประหยัดละ กูก็มีเงินเก็บแหละแค่ไม่ได้เยอะมากอะไร แต่นานๆไปเที่ยวกันทีก็อยากชิวๆบ้าง
>>19 โดนแกล้งแบบไหนอะ แบบเล็กๆน้อยๆ หรือโดนรุมแกล้งแบบเล่นใหญ่ใส่ไข่พิเศษ กูแยกไม่ออก
คือถ้าโดนแกล้งเล็กน้อยกูก็จะเมินๆไปอะ(ปกติกูไม่คิดมากอยู่แล้ว) ไปมีปฏิกิริยาทุกครั้งมันก็เหนื่อยใช่ปะ แต่ถ้ามึงคิดจะสู้ต้องสู้แบบเลือตกยางออกไปเลย อย่าไปทำครึ่งๆกลางๆไม่งั้นมันก็มองมึงแบบเดิมนั้นแหละ ถึงมึงจะสู้มันไม่ได้ก็ต้องสู้ มันจะรู้ว่าเล่นกับมึงไม่ได้ แล้วมันก็จะหันไปหาคนอื่นต่อ
ตอนนี้กูรู้สึกแย่สัสๆ จะร้องไห้น้ำตาปริ่มล้ะ แต่ก็ไม่อยากร้อง จะว่าเป็นเรื่องเล็กก็ได้ แต่ก็รู้สึก bully เหี้ยๆ คือกุอ่ะอาจจะรสนิยมไม่ดี กุชอบแต่งตัวแบบเสื้อฮูด กางเกงวอมไรงี้ คือกูก็อยากใส่เสื้อแขนกุดขาสั้นกางเกงยีนนะ แต่คือกูอวบๆอ่ะ ขาใหญ่มากกก ให้แต่งก็ไม่มั่นใจ ประเด็นคือวันนี้กูไปกินข้าว แล้วเพื่อนสายโคก็ลงรูปที่ถ่ายรวม แล้วเพื่อนกลุ่มที่กุอยู่แบบสนิทอ่ะ เห็นในไอจีก็แคปมาลงไลน์กลุ่ม แล้วก็ขำ หัวเราะ แชทประมาณมึงเปลี่ยนการแต่งตัวเถอะ แต่งอะไรของมึง แล้วก็ขำกันไม่หยุด คือรูปนั้นอ่ะมันก็อาจจะดูอ้วนก็จริง เพราะกุยืนริมหันเฉียงๆ แต่ชุดนี้กุยืนส่องกระจกก่อนออกจากบ้านมันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น ไม่ได้ฮู้ดวอมแบบแย่ ก็แฟชั่นเรียบๆหน่อยๆ กุก็ค่อนข้างมั่นใจว่าไม่แปลกเลยออกจากบ้าน แต่เจอเพื่อนทั้งกลุ่มกุพิมพ์แบบนั้น กุเฟลเหี้ย โอเค กุอาจจะรสนิยมแย่ แต่มึงต้องพิมพ์ขนาดนั้นเลยหรอวะ เพื่อนอาจจะหวังดี กุรับฟังนะถ้าพวกมึงจะคอมเม้นอะไรกุ แต่กุไม่โอเคที่พิมพ์เชิงลบแล้วหัวเราะต่อท้าย หัวเราะแบบ555ยาวมาก เรียกว่าทุกประโยคต้องมี55555ต่อท้าย ตอนนี้กุเลยอ่านไม่ตอบ กุคิดอยู่ว่าพรุ่งนี้เจอหน้ากุควรทำตัวปกติ หรือถ้าเพื่อนถามว่าทำไมไม่ตอบกุควรพูดตรงๆ รึเปล่า กุน้อยใจอ่ะมึง มันไม่ใช่ครั้งแรกนะ ก่อนหน้านี้ก็มีเรื่อยๆ แต่มันต่อหน้าอ่ะ กุยังพอผ่านๆได้ แต่ครั้งนี้กุว่าแรงสุด ถึงจะรู้จักได้ปีครึ่ง แต่กุยังไม่กล้าพูดแบบนี้ใส่เพื่อนอ่ะ จะว่ากุมีปมเรื่องการแต่งตัวก็ได้เลยยิ่งคิดมาก ไม่ว่ากุจะเลือกอะไรแม่กุชอบค้านตลอดว่าไม่สวยเฉยบลาๆ ทำให้กูรู้สึกว่าตัวเองรสนิยมไม่ดี กุเวลาจะซื้อเสื้อผ้าคือให้แม่เลือกตลอด กุก็พยายามเลียนแบบการแต่งตัวของเพื่อนๆนะว่าสมัยนี้วัยรุ่นแต่งไง แต่ส่วนใหญ่ก็แบบแขยกุดเกงขาฟิตๆ ซึ่งกุไม่กล้าใส่อ่ะ
กุ >30 หรือว่าเพื่อนกุไม่ชอบกุจริงๆวะ.. เป็นการ bully แบบตั้งใจรึเปล่า?
>>30 โหหห กูพอเข้าใจฟีล คือกูก็อวบๆ ส่วนใหญ่จะใส่แต่ชุดนักศึกษา แต่โชคดีตอนมาเรียนตปท.ไม่ค่อยมีคนสนใจเสื้อผ้ากูเท่าไรเสื้อที่ไม่เคยใส่ตอนอยู่ไทยเลยได้มาใส่ตอนอยู่ตปท. เสื้อผ้ามันอยู่ที่ความมั่นใจด้วยมึง กูเป็นคนไม่ชอบใส่ขาสั้นเกงขาดๆ แนวนั้นเพราะรู้สึกไม่เข้ากะกู ที่กูใส่เลยเป็นแนวยูนิโคลอะ ใส่ง่าย แล้วก็ไม่ได้ดูแย่ กูชอบใส่ชุดทรงตรงไม่เข้าเอว ไม่จัมป์ใต้อก มันทำให้กูดูอ้วน555 รองเท้าใส่แบบเสริมส้นนิดๆ ให้ขาดูเรียว กางเกงกูจะพยายยามเลือกขา 4 ส่วนที่โชว์ข้อเท้า คือถ้าใส่ขายาวละขากางเกงมันไปกองๆ มันทำให้กูดูตันอะ ลองดูวิธีการแต่งตัวของดาราก็ได้ ส่วนใหญ่ที่กูดูไว้เป็นเรฟคือ คุณแม่โอปอลล์ พี่แก้มวิชญ์ เจนนี่ปาหนัน ถ้าสายเกาก็เป็นทไวซ์จีฮโย คือเขาผอมกว่ากูมากแหละ แต่เป็นคนมีหน้าอกเหมือนกันก็พอใช้เป็นเรฟได้5555 คือถ้าเอาการแต่ตัวของมึงไปเทียบกับเพื่อนในกลุ่มอาจจะโดนขำเพราะว่าคนละแนวกับเพื่อนส่วนใหญ่ไง แต่กูชอบแต่งสไตล์นี้เพราะมันใส่ไปไหนก็ได้ 5555 เวลาไปซื้อเสื้อผ้าก็ขอร้านลองเลย คือดูในหุ่นมันสวยแต่เอามาใส่จริงๆ แล้วสั้นบ้าง อ้วนบ้าง กูก็ท้อ5555 ร้านไหนไม่ให้ลองกูก็เทจ้าาา สู้ๆ นะมึงงงง
>>30 เพื่อนกูหนักร้อยโล ใส่แซคแขนกุด ใส่แขนกุดขาสั้น ไม่เห็นเป็นไรรึมีใครว่าไรเลย เอาจริงๆฮู้ดวอมมันทำให้มึงยิ่งดูอ้วนป่าววะ บางที่เสื้อที่ใหญ่กว่าตัวมันทำให้ยิ่งดูอ้วนมากกว่าจะช่วยพรางนะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อนมึงควรให้คำปรึกษาดีๆไม่ใช่มารวมกลุ่มกันหัวเราะมึง เพื่อนกูใส่อะไรแล้วดูไม่ดีกูก้อบอก ไปซื้อเสื้อด้วยกันกูก้อห้าม ถ้ามันไม่ฟังกูก้แค่แอบมาบ่นกันเองลับหลังไม่เคยไปว่าให้เพื่อนเสียใจ
มีใครมีแนวทาง ห้ามเพื่อน ให้หยุดแดกไหมว่ะ เพื่อนกูแม่งเบาหวานแดกแล้ว ตอนนี้อายุแค่20เอง ชอบชวนกูไปแดกไอติม ขนม เบเกอรี่ชิบหาย กูเป็นเพื่อนกับมันมา6-7ปี กูไม่เคยเห็นมันกินน้ำเปล่าแม้แต่ครั้งเดียว กินแต่น้ำอัดลม หรือไม่ก็น้ำหวานกลิ่นชา แถมยังเสือกกินเค็มชิบหาย เค็มชนิดที่คนปกติ เอาเข้าบอกไปแล้วสะดุ้ง แดกต่อไม่ได้อ่ะ พอกูบอกเบาๆเค็มหน่อย แม่งก็บอก เงินกู กูจะกินยังไงก็ได้ ส่วนเรื่องชวนกูไปแดกขนม กูก็พยายามบอกว่า กูไม่อยากกิน เผื่อว่ามันจะได้ไม่กินด้วย ผลคือ ล่อทุเรียนเป็นลูก ใช่ค่ะ มึงอ่านไม่ผิด เป็นลูก ล่อบิงชูทั้งถ้วย แล้วมันเสือกเป็นคนเป็นเบาหวานที่ผอมแห้งไง มีการมาบอกกู “ที่มึง ไม่กินหวาน ทำไมอ้วนกว่ากู” โธ่อีสัส ฮอร์โมนอินซูลินกูไม่เพี้ยนไหมล่ะ กูไม่ได้อ้วนนะ กูน้ำหนัก50กว่าๆเอง แต่ก็อ้วนกว่ามันแหละ น้ำหนักแค่40ต้นๆเองมั้ง กูล่ะเป็นห่วงมันจัง ไม่รู้ว่า ระหว่างไตพังกับขาเน่า อะไรจะเจอก่อนกัน
>>30 มึงลองพูดแย้ปๆไหมว่าเฮ้ยยยเค้าเสียยยใจจน้าาาา เวลากุไม่อยากปะทะความรู้สึกตรงๆกุก็แกล้งพูดเล่นๆแต่เนื้อความในใจจริงๆไปอ่ะ5555555555 อย่างน้อยก็ได้สื่อสารออกไปอีกฝั่งจะคิดได้ไหมก็แล้วแต่ละ แต่การเอามาขำยาวมากๆนี่ก็แย่อ่ะ.... มึงมั่นใจปะว่าเค้าชอบมึง ไม่ใช่ลับหลังเอาไปนินทาไรงี้นะ
กูรู้สึกแย่มาก เพื่อนที่มหาลัยคิดว่าคนที่โดนbully เค้าจะไม่คิดอะไรหรอ กูอยู่ในคณะที่ผชเยอะกว่าผญมากๆ เพื่อนผชเรียกกูว่าอิช้าง มึงกูรู้ว่ากูอ้วนนะ แต่กูแค่รู้สึกว่าไม่มีใครควรโดนแบบนี้อะ
ปล.เอาจริงก็ไม่อ้วนมากๆ คือกูสูง159 หนัก64
เห็นเพื่อนโม่งระบายกันกุก็อยากระบายด้วย
กูเป็นคนที่ชอบคุยอะ ไม่ได้พูดมากนะแค่ชอบคุย แต่รสนิยมกูจะไม่ตรงกับคนอื่นเลยเว้ย แบบว่ากูเรียนสายวาดรูป คณะกูเพื่อนๆก็แนวนึง แต่กูก็อีกแนวนึงเลย ประมาณว่ากูชอบfine artแต่คนอื่นจะการ์ตูนมากๆ(กุมาทำอะไรที่นี่) อึดอัดแบบเต็มMax ส่วนเรื่องอื่นกูชวนคุยแต่เขาก็ไม่รู้จักอะ ที่เขาคุยๆกันชอบๆกันกูก็ไม่รู้จักอีก มันไม่ใช่รสนิยมกุกุก็นั่งเหงาฟังเขาพูดไปยาวๆ55555555 บางพยายามชวนคุยเพิ่มแล้วแต่มันก็ต่อหัวข้อไม่ได้ ส่วนเมทกุก็พูดน้อยมากมากกกกกกก โลกส่วนตัวสูงด้วย เหงาสัสๆ ทุกวันนี้เวลาอยากคุยก็แชทกับพี่ที่รู้จักในไลน์เอา เจอหน้าพี่ๆเขาทีก็บ่นยาวเป็นมหากาพย์
ก่อนมาคิดว่าจะมีเพื่อนๆแนวเดียวกันแล้วนะ เหมือนคิดผิดเลย หรือว่าหน้าตากูดูเป็นคนเรียบร้อยเงียบๆเขาเลยเกรงใจวะ เพื่อนโม่งทำยังไงกัน เราต้องปรับบุคลิกรึเปล่า หรือก็เป็นในแบบที่เราเป็นไปวะ
กูควรจะอัปเปหิเพื่อนที่เป็นมนุษย์ย้อนแย้งดีไหมวะ ตอนแรก ๆ แม่งก็มาเป็นคนปกติแค่เป็นคนแบบแนวเมโทรหน่อย ๆ รสนิยมสูง ชอบของแบรนด์ ชอบอะไรตามกระแสสังคม ซึ่งอันนี้ทุกคนในกลุ่มยอมรับได้มันเป็นปกติ แต่หลัง ๆ นี่พอมันอกหักไปนี่เริ่มทำตัวนิวโลว์มาก กลายเป็นคนย้อนแย้ง อะไรที่เคยด่าเคยไม่ชอบ มันจะทำแบบนั่นเช่นปากบอกไม่ชอบคนไทยแบ่งแยกฐานะ แต่ตัวมันเสือกเลือกผู้หญิงที่การศึกษาต้องดี การงานต้องดี หน้าตาต้องดี ยอมให้เย็ดตลอด เพอร์เฟควูแมนอะไรของมัน เอาจริง ๆ คือแค่ดีนิดหน่อยแม่งก็จบแค่เย็ดแล้วไม่คบ เงี่ยนก็ไม่ซื้อกินบอกไม่เร้าใจ พอได้เย็ดก็ไม่ถูกใจว่ะ อยากได้ดีกว่านี้อีก กูนี่อึ้งไปเลย แถมแม่งพลัสความน่ารำคาญขึ้นเช่นเตือน พร่ำเพ้อทำอะไรในสิ่งที่คนอื่นเค้าไม่ทำอย่าง KY
คือโอเคกูไม่ได้เดือดร้อนเพราะมันนะ แต่บางทีก็แบบคุยกับมันไม่รู้เรื่องว่ะ เหมือนคุยกับเด็กที่โตแค่ขนหมอยมากกว่าอายุก็ไม่น้อย ๆ แต่จุดยืนแม่งเหมือนไม่มี เรื่องรสนิยมกูไม่เถียงเพราะอย่างน้อยมันก็มีปัญญาหาหญิงมาเย็ดซึ่งน่าจะดีกว่ากู แต่นิสัยแบบเอาย้อนแย้งและเอาตัวเองเป็นมาตราฐานนี่แหละที่กูและคนในกลุ่มเริ่มจะรับไม่ได้
กูเกลียดตัวเองที่ขี้อาย ขี้กลัวไม่เข้าเรื่อง กลัวคนเยอะๆ
ตัวสั่น ใจสั่น รู้สึกหายใจไม่ทัน คิดอะไรไม่ออก เวลาต้องคุยหรือพูดต่อหน้าคนอื่นๆ
ตอนประถมไปเข้าค่ายก็ไม่กล้าคุยกับใครเลย คนที่เรียนชั้นเดียวกันบางคนจำกูไม่ได้ด้วยซ้ำ
สมัยอนุบาลกูกลัวแม่ค้าทั้งๆที่ป้าเค้าก็ดูใจดี ก็ยังกลัว ตอนนั้นไปซื้อขนมเองยังไม่กล้าเลย
ตอนนี้ดีขึ้นนิดนึง มีเพื่อนแล้ว2-3คนแต่ไม่สนิทมาก คือไม่รู้จะคุยอะไรกับเขาดี
เพราะเป็นแบบนี้ล่ะมั้งถึงมีเพื่อนน้อย สมเพชตัวเองว่ะ เป็นเหี้ยไรไม่รู้
กูอยากคุยกับคนเก่งกว่านี้ อยากมีเพื่อน อยากเลิกกลัวคน กูควรทำยังไงดี ต้องทำยังไง...
>>46 จะไปเข้าค่าย,ไปเข้าชมรม,งานสัมมนาอะไรก็ว่ากันไป หรือไม่ก็ไปหางานพิเศษทำที่มันต้องเจอกับคนเยอะๆเช่น พนักงานเสิฟไรงี้ แต่อันนี้กูแนะนำวิธีของกูนะ ถ้ามึงอยู่ในกรุงเทพแล้วมีเวลาว่าง(ตังค์เยอะๆด้วย)มึงก็นั่งแท็กซี่ไปลงที่ไกลๆก็ได้ที่มีรถเมล์ผ่าน(ต้องไม่รู้ทางกลับ) ไม่ต้องพกโทรศัพท์ไปด้วยนะ
แล้วพอมึงจะนั่งรถเมล์กลับ มึงก็ต้องถามกระเป๋ารถเมล์ว่าไปลงไหนต่อสายไหน เป็นการฝึกแบบภาคบังคับไปในตัว
>>46 กูเคยเป็นคล้ายๆมึงแต่ตอนนี้้หายละ เดี๋ยวกูจะบอกวิธีที่กูเคยฝึกจนได้ผลให้เท่าที่นึกออก
ขั้นแรกคือส่วนวิธีคิด : ก่อนอื่นมึงต้องเข้าใจคอนเซ็ปท์ของความกล้าก่อน ความกล้าคือการที่จู่ๆมึงก็ลุกขึ้นมาทำในสิ่งที่กลัวไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม หรืออาจจะไม่ต้องสนเหตุผลเลยก็ได้ ดังนั้นสิ่งที่มึงต้องเข้าใจก็คือ ถ้ามึงอยากหายกลัวอะไร มึงก็ต้องทำสิ่งนั้นไปเรื่อยๆจนความกลัวมันจะหายไปเอง แรกๆมึงจะรู้สึกฝืนใจและทรมาณเหี้ยๆเพราะมึงกำลังหักดิบทำสิ่งที่ขัดกับตัวตนเดิมของมึง แต่ถ้ามึงสามารถอดทนจนผ่านช่วงนีี้ไปได้ ตัวตนเดิมของมึงจะค่อยๆเปลี่ยนไปกลายเป็นตัวมึงคนใหม่ที่มีความกลัวน้อยลงเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็หมดไป พูดสั้นๆก็คือ มึงทำติดต่อกันจนชิน ซึ่งระยะเวลาที่คนเราต้องใช้ในการเข้าสู่ความเคยชินอย่างเร็วที่สุดก็จะอยู่ที่ประมาณ 30 วัน และเป็น 30 วันที่มึงต้องทำทุกๆวันห้ามขาด ดังนั้น วิธีฝึกก็คือ มึงจะต้องเริ่มโดยการไปหาเรื่องชวนคุยกับใครก็ได้ที่ไม่ใช่คนในครอบครัวมึง จะเป็นเพื่อนหรือใครก็ได้ หรือถ้าจะเอาแบบง่ายๆก็พวกพ่อค้าแม่ค้าก็ได้ ปกติถ้ามึงไปซื้อของหรือกินข้าวที่ไหน ก็ลองหาเรื่องชวนเขาคุยดู อย่างเช่นถามรายละเอียดสินค้า ยังไงซะพวกคนค้าขายก็ย่อมยินดีคุยกะลูกค้าอยู่แล้ว แล้วก็ไม่จำเป็นต้องคุยมากก็ได้ เอาแค่ไม่กี่ประโยคก็โอเคแล้ว และถ้ากลัวจริงๆก็สามารถหาใครไปเป็นเพื่อนก็ได้ไม่ว่ากัน แต่เงื่อนไขสำคัญคือมึงต้องเป็นคนคุยเอง และต้องฝึกแบบนี้สม่ำเสมอจนครบ 30 วัน ขอย้ำอีกครั้งว่ามึงจะรู้สึกฝืนใจและทรมาณเหี้ยๆจากการที่จุู่ๆมึงลุกขึ้นมาหักดิบทำในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวมึง ซึ่งไอ้ความรู้สึกนี้นี่แหละที่มันมาจากความกลัว ความกลัวที่มึงไม่รู้ว่ากำลังจะเจอกับอะไร ความกลัวว่ามึงจะทำผิดพลาด เผลอพูดผิดพูดอะไรแปลกๆ หรือเผลอทำอะไรเปิ่นๆ ซึ่งกูบอกเลยว่ามึงจะได้ทำพลาดจุดใดจุดนึงแน่ แต่อย่าไปกลัว ใครๆก็พูดผิดทำพลาดกันทั้งนั้น อย่างกูนี่เมื่อวานก็เผลอพูดอะไรมึนๆในกลุ่มเพื่อนไปสองรอบ ก็สตั๊นกลางวงไปพักนึงก็แค่นั้น 555555
ต่อไปเป็นเรื่องวิธีการในการเข้าวงสนทนากับคนอื่น : คือปกติคนที่คุยไม่เก่ง ไม่รู้จะคุยอะไร ไม่กล้าคุย ก็มักจะมีสาเหตุหลักๆคือ การที่ไม่ได้เตรียมวัตถุดิบของบทสนทนาไว้ในหัวเลย ไอ้วัตถุดิบที่ว่านี้ก็คือ ข้อมูลข่าวสารหรือความรู้ทั่วไปในกระแสสังคมในปัจจุบัน พวกนี้แหละคือวัตถุดิบอย่างดีในการเปิดการสนทนาในแต่ละกลุ่มคน สิ่งที่มึงต้องทำก็คือติดตามข้อมูลข่าวสารหรือกระแสในสังคม เรื่องอะไรก็ได้หามาให้จำนวนหัวข้อมันเยอะๆ แล้วก็ไม่ต้องเจาะลึกมาก เอาแค่พอให้รู้คร่าวๆ รู้แบบกว้างๆแต่ไม่ต้องรู้ลึกเพราะเดี๋ยวคู่สนทนามึงจะเป็นคนพามึงเจาะลึกให้เอง ถ้ามึงตั้งใจจะเป็นคนที่จะชวนเขาคุยบทบาทของมึงส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนเปิดประเด็น เผลอๆถ้าเป็นเรื่องที่มึงชอบหรือสนใจเป็นการส่วนตัวแล้วบังเอิญว่าคู่สนทนาก็สนใจเรื่องเดียวกันพอดีก็จะยิ่งคุยกันมันส์แถมยังเป็นโอกาสในการกระชับความสนิทสนมเพิ่มขึ้น ส่วนตัวอย่างหัวข้อเรื่องเม้าท์ตามกระแสช่วงนี้ก็เช่น เด็กติดถ้ำ บอลโลก น้ำท่วมหนักที่ญี่ปุ่น ละครทีวี ดารา ไอดอล bnk หนังดังตามกระแสแต่ละช่วง ก็อะไรประมาณนี้ หรือถ้าเป็นเรื่องอื่นๆก็เอาง่ายๆเลยคือสิ่งที่อยู่รอบๆตัวมึงก็เอามาเปิดประเด็นคุยก็ได้นะ อย่างเช่นช่วงนี้มึงไปเจอเรื่องอะไรที่น่าสนใจมาก็สามารถเอามาเปิดประเด็นได้ สมมติมึงเผลอเดินเหยียบขี้มา งวดที่แล้วโดนหวยแดก หรือแม้แต่ปัญหาเรื่องที่มึงอยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง อยากเลิกกลัวคน เรื่องพวกนี้ก็สามารถใช้คุยได้หมด โดยเฉพาะเรื่องปัญหาของมึงเรื่องนี้ ถ้ามึงยังไม่เคยปรึกษาเพื่อนไม่สนิท 2-3 คนที่ว่านี่ ถ้ายังไงกูคิดว่ามึงน่าจะลองชวนคุยขอคำแนะนำเขาดูก็ได้นะ ถ้า 2-3 คนที่ว่านี่เขาก็เห็นมึงเป็นเพื่อนเหมือนกันกูว่าอย่างน้อยเขาก็น่าจะรับฟังปัญหาของมึง ช่วยได้รึเปล่าไม่สำคัญ สำคัญคือมึงได้หัดเป็นฝ่ายเริ่มคุย เริ่มเข้าหาคน
วิธีแบบ >>47 ก็ดีนะ กูเคยลองทำมาหมดแล้วได้ผลดีทีเดียว (แต่กูไม่นั่งแท็กนะแม่งเปลือง กูขึ้นรถเมล์นี่แหละ แต่เสือกงี่เง่าขึ้นผิดสายเลยได้หลงทางอยู่พักนึงเลยได้คุยกระเป๋ายาว 55555) งานสมนานี่ก็เป็นที่ฝึกที่ดี แต่ต้องหาที่มันไม่แพง ฟรีได้ยิ่งดี แล้วก็อาจจะต้องเลือกงานหน่อย ระวังเจอพวกสัมนาหลอกลวง
ส่วนเรื่องตัวสั่นใจสั่น หายใจไม่ทันอันนี้กูไม่รู้ว่ะ บางทีมึงอาจจะลองหาหมอดูก่อน กูกลัวๆอยู่ว่าถ้าเป็นโรคอะไรที่มันไม่ควรฝึกแบบหักดิบแบบที่กูแนะนำไปแล้วมึงเสือกเป็นอะไรไปนี่กูเหี้ยยาวๆเลย ก็เอาเป็นว่าก่อนจะทำอะไรไปปรึกษาหมอเช็คสุขภาพให้ชัวร์ว่าร่างกายมึงพร้อมไว้ก่อนจะดีกว่า ที่จริงก็ลองไปหาจิตแพทย์แล้วก็ปรึกษาเรื่องกลัวคนโดยตรงเลยก็ได้ หมอเขาน่าจะช่วยมึงได้ตรงจุดกว่ากูชัวร์แหละ
กูเหงาอะ กูมีเพื่อนนะแต่กูรู้สึกว่ากลุ่มเพื่อนก็ไม่ได้สนิทกันมากๆอะไรแบบคนอื่น ไม่ได้ไปไหนไปกัน หรือมีอะไรก็แชร์ให้กัน ถ้าเดือดร้อนก็คงไม่ได้ช่วยอะไรกันอาจจะยืนมองแบบเห็นใจเฉยๆ ไม่มีการช่วยบอกงานเวลาเพื่อนหยุด อ.ต้องบอกเองตลอด ทุกคนมีจุดของตัวเอง พอกูไปมองกลุ่มเพื่อนคนอื่นๆเขาพร้อมจะยืนข้างกัน เป็นห่วงกัน ช่วยเหลือกัน ละกูก็รู้สึกแบบอยากมีแบบนั้นบ้าง ทั้งๆที่กูก็มีเพื่อนกลุ่มกูอะ กูอาจจะรู้สึกไปคนเดียวรึเปล่า กูมีเพื่อนเยอะนะแต่ไม่มีใครสนิทมากๆแบบคนอื่นๆเลย กูคิดว่าถ้าจบม.6ไป กลุ่มกูอาจจะไม่คุยกันอีกเลยก็ได้มั้ง เพราะเรื่องที่คุยในแต่ละวันก็แค่เรื่องเรียน งานที่ทำร่วมกันเฉยๆ
กูควรทำไงดีวะ คือกูกับเพื่อนสนิทตอนเด็กอยู่กลุ่มด้วยกัน แล้วคือกูบอกให้แม่งไปทำงาน (ตอนแรกแม่งบอกทำงานส่วนนี้เอง) สักพักมันบอกไม่ทำแล้ว แล้วโยนให้กูทำละโทษคนอื่นในกลุ่มทุกคนยกเว้นตัวเอง
ไอสัส ถ้ากูรู้ว่ามันจะไม่ทำ ป่านนี้กูซิ่งอยู่คนละกลุ่มกับแม่งละ ไม่อยากใส่ชื่อแม่งแต่ก็ไม่อยากมีปัญหา ทำงานร่วมกันหลายอย่างบ่อย แต่ก็สุดจะทน แม่งโยนงานมาให้กูตอนวันสุดท้ายด้วย
แต่กูก็ผิดที่ไม่ได้เฉลียวใจอะไรเลย ไม่ได้ถามความคืบหน้ามันมาก (ตอนถามมันก็ตอบกำลังทำ)
คือเบื่อ แม่งเคยตัดกูออกจากกลุ่มด้วยครั้งนึงแล้วหัวเราะเยาะ กูอยากใจแข็งแบบแม่งบ้างอะ ทำไงดี
>>50 ตอนมัธยมกลุ่มเพื่อนกูค่อนข้างเกื้อกูลกัน แต่พอมามหาลัยแล้วก็อาการเดียวกะมึงอะ กูก็โอเคนะ เพราะไม่ได้อยากสนิทกับพวกมหาลัยมากเท่าไร ทุกคนนิสัยดี แต่กูมาเรียนไกลบ้าน มันไม่ค่อยผูกพันกับคนที่นี่ด้วยอะ ส่วนเพื่อนมัธยมแม่งไปเรียนที่เดียวกันเป็นก้อน ยังสนิทกันเหมือนเดิม ยกเว้นกูที่เด้งมาไกลชาวบ้าน ห่างเหินกันสุดๆ เศร้าสัสๆ
กุผมหยึกมาก ไปโรงเรียนเพื่อนก็ล้อกู ดึงผมกูแรงๆบ้าง กูท้อ บอกแม่แม่ก็บอกให้ทน แค่นี้ทำไมทนไม่ได้ บอกครูครูก็บอกว่าเะอนแค่เล่นก้วยทำไมต้องคิดมาก แต่เวลาเพื่อนล้อก็ล้อกูว่า หัวหมอยบ้าง หมอยขึ้นหัวบ้าง กระชากหัวกูแรงๆบ้าง กูเจ็บทั้งหัวเจ็บทั้งใจ กูเสียใจที่ครูไม่ห้ามเพื่อน แม่กูไม่ใส่ใจบอกให้กูทน กูไม่ไหวแล้ว กูไม่อยากอยู่โรงเรียนนี้ กูไม่อยากเจอใคร กูไม่ไหวแล้ว กูร้องไห้ทุกวันเลย แต่ไม่มีใครเห็นใจกู ตอนเพื่อนแกล้งจนกูร้องไห้ก็โดนด่าว่าสำออย มีแต่คนพูดว่าแค่นี้เองทำไมไม่ทน แต่กูโดนแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก จนทุกวันนี้ก็ยังโดน ทำไมไม่มีใครแคร์ว่ากูโดนมาจนรับไม่ไหวแล้วบ้าง ทำไมวะ ไม่มีใครเข้าใจกูเลย
มีใครหาเพื่อนทางโลกโซเชียลบ้างประมาณว่าพิมพ์แชท+นานๆทีนัดเจอกัน กูคนนึง ส่วนตัวกูว่าเพื่อนในโรงเรียนส่วนมากไม่เข้ากับกูซะเท่าไหร่ ประมาณว่ากูชอบอ่านการ์ตูนแต่มีแค่2-3คนในขั้นเท่านั้นที่อ่าน คือกูก็ไม่ได้ไรมากมาย ประเด็นคือคนอื่นมีคติว่าพวกอ่านการ์ตูนเป็นพวกโง่ไม่เอาการเอางานประมาณนี้ นิสัยก็ใช่ว่าจะดีด้วย กูเลยตัดสินใจหาเพื่อนในเฟสดีกว่า คุยแล้วสบายใจกว่าในรร.มาก เสียอยู่อย่างคือถ้าไม่ค่อยคุยแล้วจะโคตรเหงา แต่อยู่แบบนี้รู้สึกสบายใจกว่าจริงๆ
>>56 กูมีเพื่อนสนิทสองคนจากในเกมนี่แหละ แต่คนอื่นๆเลิกคบไปแล้ว คือโลกเสมมือนจริงอ่ะมึงเราจะสร้างตัวตน เปิดเผยตัวตนยังไงก็ได้ เพื่อนกูสองคนนี้คือมันเหมือนกับในเกมเลยอ่ะนะ ไม่ได้สร้าง แต่คนอื่นๆไม่โอเคว่ะ ถ้าพูดจริงๆตามความรู้สึกกู เพื่อนจริงๆแม่งดีกว่าคบกับเพื่อนในเฟสว่ะ แต่ถ้านานๆเจอทีก็เพื่อนในเฟสอยู่ด้วยกันแล้วสบายใจดี
>>50 กูนึกว่ามึงคือกูอะ55555 คือกูประสบปัญหาเดียวกันเป๊ะ ละคือพวกมันอยู่ห้องเดียวกันด้วย กูเสือกแยกมาอีกห้องปีนี้ ทำให้กูรู้สึกแบบคุยเหี้ยอะไรไม่ค่อยได้ แล้วก็มีช่องว่างระหว่างกูกับเพื่อนกูมากขึ้นอะ... กูปลงๆละเรื่องนี้ กูปีนี้ก็ม.6เซม มึงโฟกัสเรื่องสอบเข้ามหาลัยเหอะ ละรอหาเพื่อนใหม่ในนั้นเอา กูแบบเห็นกลุ่มอื่นไปเที่ยวกัน ละหันมาดูกลุ่มตัวเองแล้วท้อชิบหาย55555 ทำไมดูไม่สนิทกันจังเลยวะ
เริ่มเป็นเพื่อนกับผู้ชายนี่เริ่มยังไงดีอะ กูไม่เคยมีเพื่อนผู้ชายมาก่อนเลย ตั้งแต่ประถมจนมัธยมคือกูเรียนสหนะ แต่กูแทบไม่คุยกับเพื่อนผู้ชายเลย แต่พอขึ้นมหาลัยแล้วในกลุ่มมีเพื่อนผู้ชาย ซึ่งกูก็ไม่ค่อยชินเท่าไหร่เลยไม่ค่อยได้คุย ไม่รู้จะคุยอะไรกันด้วย แล้วทางกลับบ้านกูกับเขามันทางเดียวกัน ระหว่างทางคือนั่งเงียบกันตลอด พอหาเรื่องคุยกันได้ซักพักก็กลับไปเงียบอีกอะ โคตรอึดอัดเลย แล้วกูก็ชวนคุยไม่เก่งด้วย ไม่อยากคุยแต่เรื่องเรียน(คือทอปิคที่คุยได้เยอะสุดคือเรื่องเรียน แต่มันดูจะเครียดไปอะ)
และเพื่อนกูในกลุ่มมันเพิ่งมาเล่าให้ฟังว่าเพื่อนผู้ชายคนนั้นเขาไม่โอเคกับกู เขาคิดว่ากูดูแปลกๆอะ ที่เหมือนจะคุยแต่ก็ไม่คุย ไม่อยู่ใกล้ไม่อะไร เหมือนพยายามเลี่ยงเขา ซึ่ง มันก็ไม่ใช่เว้ย แต่กูแค่ทำตัวไม่ถูกเฉยๆอะ...
สรุปคือ เป็นเพื่อนกับผู้ชายนี่ต้องทำยังไงวะ ต้องคุยอะไรยังไงอะ กูคิดหาเรื่องที่คุยกันเหมือนแบบที่คุยกับเพื่อนผู้หญิงไม่ออกเลย ไม่รู้เริ่มต้นคุยยังไงด้วย..
>>60 ก็ไม่รู้นะ ผู้ชายก็เหมือนผู้หญิงปะ อยากเป็นเพื่อนก็ทำดีด้วย แต่อย่าให้มากเกินงามเดี๋ยวแม่งเสือกมีคนเข้าใจผิดว่าแอบชอบเค้าหรอเธอว์
เรื่องชวนคุยก็ดูว่าเขาสนใจอะไร ของกินก็ได้ มนุษษย์คนไหนก็ชอบของกินปะ 555 เรื่องอะไรอีกอะ เรื่องหนัง เรื่องดนตรี เรื่องเกมมั้ง เจอหน้ากันก็แซวบ้าง หยอดมุกตลกขำๆบ้างไรงี้ พูดเหี้ยอะไรก็ได้ ทุกแป้กก็เล่นๆไป ดีกว่านั่งเงียบใส่กันปะ คนเราพอไม่รู้ว่าอีกฝั่งคิดอะไรก็ชอบคาดเดาไปในทางไม่ดีก่อนอยู่แล้ว
เอาจริงๆนะ มึงอยากเป็นเพื่อนกับเค้า แต่ถ้าเค้าไม่อยากเป็นเพื่อนกับมึง ก็ปล่อยๆไปดีกว่าปะ เพื่อนมันควรเป็นได้โดยธรรมชาติ ฝืนตัวเองเพื่อคนอื่นไปมากๆ คอยดูเหอะจะเครียดตายห่า ไม่มีใครมาชื่นชมหรอกนะ
บางคนมึงโดนแบนบ้างเพื่อนเมินบ้างเพราะมึงเบียว เลิกๆเบียวๆบ้าง โครตรำคาญ โตได้แล้วหี
แนะนําวิธีดูว่าเบียวปล่าว มึงลองเอาการกระทํามึงไปเปรียบเทียบคนปกติ มันจะมีความแตกต่างเยอะ แบบการกระทํามึงโครตเด็กเห่อหมอยอ่ะ
วันนี้เพื่อนกูแข่งบอลกับรร.อื่น มันจะมีเสื้อบอลประจำทีมช้ะ แล้วมีชื่อติดอยู่หลังเสื้อ ชื่อเพื่อนกูฮาสัส แม่งชื่อ Gaylord แล้วเสือกเป็นตัวเต็ง ยิงคนเดียว 3 ลูก ความฮาเริ่มตรงเพื่อนกูคนนึงเริ่มตะโกนชื่อมันซ้ำๆตอนที่มันยิงเข้า คนแม่งเริ่มเชียร์ตาม เกย์ลอร์ดๆๆๆ ตะโกนกันดังสัส แม่งโคตรจี้
เพื่อนกูมันรวยเพราะผัวมันมีเงิน แต่งได้ซักพักก็เปิดร้านค้าเป็นของตัวเองพร้อมแคปชั่นสวยๆ อยากมีเงินต้องพยายาม พยายามไร พยายามหาผัวรวยหรอ //มองบน
ครูที่เรียนพิเศษเค้าแนะนำมาว่าไปเจอเพื่อนใหม่มหาลัย อย่าพูดมาก อย่าบอกเรื่องของตัวเองให้ใครรู้เยอะ อย่าแสดงตัว ละแบบนิสัยกูนี่ตรงกันข้ามเลย แต่กูก็พยายามทำตามก็พอได้เพื่อนกันแต่ไม่ได้สนิทอ่ะ ในขณะที่เพื่อนอีกคนคือโชว์ความเป็นตัวเองสุดๆๆมาก กบายเป็นก็สนิทกับเพื่อนสองสามคนเลย กูควรทำไงดี อยากสนิทกับเพื่อนควรทำตามคำครูมั้ยเนี่ย
มาเล่าเรื่องเพื่อนให้ฟัง ถ้ากูเล่าว่ากูมีเพื่อนเป็นเจ้าชายคงไม่มีใครเชื่อสินะ แต่ก็อยากเล่าอยู่ดี 555
เรื่องก็คือ กูเจอเจ้าชายคนนี้ในเกมๆนึงชื่อ Dota 2 ตอนแรกกูก็ไม่รู้หรอกว่าเป็นถึงเจ้าชาย แต่นานๆทีจะเจอคนเล่นซัพพอร์ท ซัพไม่พอแถมยังโดนด่าอีก กูนี่ออกตัวช่วยเลย มันเปนไรกัน เขาซัพให้ก็ดีแล้ว กูโน้มน้าวจนพวกแม่งร่วมมือกันได้ในที่สุด ไม่พอกูช่วยซัพออกหวาดด้วยแครี่ด้วยนะกู สุดท้ายจบเกมชนะได้เพราะพวกกู 2 คน เขาแอดกูมาเว้ย ตอนแรกก็อึ้งมาก สตรีมเลเวล 200 กว่า เวลคอมเพนเดี้ยมเป็นแสน ไอสัสตอนแรกกูนึกว่าบัคเลยไม่ได้สนใจ เขาก็ทักมาคุยว่าอยากเป็นเพื่อนกับกู กูดูเป็นคนดี ขนาดเจอเกรียนยังใจเย็น ใจดีกับพวกเกรียน กูรู้สึกได้ถึงความเหงาแปลกๆของเขาพอคุยๆไป แบบเขาเล่าให้ฟังว่าไม่เคยเจอใครจริงใจเลย มีน้อยมาก คนที่เจอ เจอไปก็จำหน้าไม่ได้ ต้องใส่หน้ากากอีก นานๆจะเจอคนแบบกูที่ไม่ได้สนใจเปลือกนอก กูรู้สึกสงสัยความรู้สึกแบบนี้มันจะเป็นในกลุ่มคนรวยเว้ย กูก็เข้าใจ เพราะกูก็รวยพอสมควรแต่ไม่ถึงกับมหาเศรษฐีนะ แต่กูเริ่มสงสัย เลยลองไปเสริ์ชชื่อเขาดู เชี่ย ปรากฏเป็นเจ้าชายอาหรับที่ผลักดันสิทธิของผู้หญิงให้ขับรถได้ ให้มีโอกาสทำงานได้มากขึ้น แบบใจโคตรงาม คุยกันเผินๆกูยังสัมผัสได้ ขนาดตอนไม่รู้ว่าเป็นเจ้าชาย จะว่าเก๊ก็ไม่น่าใช่ เพราะต้องเติมอย่างน้อยเกือบๆ 3 ล้านเวลแม่งถึงจะขึ้นขนาดนั้น ประวัติตัวจริงก็อายุแค่ 30 กว่า เป็นไปได้ว่าวัยนี้ยังเล่นเกมอยู่แบบพวกกู แต่เขาทำให้กูรู้สึกมั่นใจในตัวเองมากขึ้นเลย เพราะอย่างน้อยขนาดเจ้าชายอายุ 30 ก็ยังดูเมะ 55555 กูนึกว่าตัวเองดูเมะตอนอายุ 28 ประหลาดมาตลอด แม่งรู้สึกเหมือนคุ แต่คงจะไม่ใช่สินะ แบบคนมีหน้าที่การงานดีกว่ากูเขาก็ยังดูยังติดเมะ
กูพูดเหี้ยไรไปคนก็ไม่เชื่อถือ คือกูเป็นคนที่พูดวนไปมาพูดไม่ค่อยรูเรื่องด้วยอ่ะ พูดแล้วคนก็จะชอบขัดขึ้นมาเลย บางทีก็จะถูกจับผิดตลอดเวลาเหมือนพูดเหี้ยไรไปแล้วกูก็ต้องเป็นงั้นให้ได้ตลอดพอไม่ได้เป็นตามนั้นก็จะถูกหาว่าย้อนแย้ง ทั้งๆที่บางทีสิ่งที่กูพูดกับสิ่งที่มันคิดเป็นคนละอย่างกัน แต่กูก็จะกายเป็นคนผิดตลอด เพราะอธิบายอะไรไปก็ไม่ฟัง พอให้เหตุผลมากๆก็จะโดนหาว่าแถ เวิ่นเว้อ
คือพอไปๆมาๆ กูก็ชักจะรำคาญคนที่ขัด แม่งเหมือนทำเหี้ยไร พุดเหี้ยไรแม่งก็จ้องจะจับผิดตลอด บางทีแค่เล่าเรื่องอะไรให้ฟังแม่งก้ต้องขัด รำคาญชิบหาย จนไปๆมาๆพอพูดไม่เข้าใจกันกูก็เริ่มคืดละว่า กูพูดไม่รู้เรื่องเองหรือแม่งอคติจับผิดกูทุกเม็ดจนตีความไปคนละทางเองกันแน่ รู้สึกประสาทแดกมาก รู้สึกว่าไม่อยากพูดเหี้ยไรละ ยิ่งพูดยิ่งรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนโง่ เหมือนโดนด่าว่าโง่ตลอดเวลา
หรือเพราะกูไม่เคยขัดใครเลยวะ คนอื่นเลยไม่เคยคิดว่าตัวเองก็เข้าใจผิด แม่งก็เลยยิ่งเสริมความมั่นใจให้แม่งว่ากูพูดอะไรก็ผิดไปหมด จนกูโดนซ้ำๆๆอย่างงี้
แล้วเพื่อนโม่งอ่านดู มึงคิดว่ากูพูดจาไม่รู้เรื่องรึเปล่าวะ
ทำไมคน (กูไม่อยากใช้คำว่าเพื่อนอ่ะ แต่มันจะดูเป็นการตั้งแง่ไปป่ะวะ ช่างเหอะ) ในกรุ๊ปไลน์คณะกูนี่เขาดูเข้ากับคนอื่นได้ง่ายกันจังวะ
กูนี่แบบ เงียบ ๆ หงิม ๆ ไปเลยอ่ะ ทั้งที่ตอนอยู่โรงเรียน ถึงกูจะไม่ใช่คนที่ชอบไปคุยกับคนแปลกหน้าก่อน แต่พอมีนักเรียนใหม่เข้ามา
กูก็เป็นฝ่ายชวนเขาคุยก่อนแทบทุกคนอ่ะ ไม่รู้ทำไมกูถึงกลายเป็นคนแบบนี้ แล้วกูจะหาเพื่อนได้มั้ยวะเพื่อนโม่ง รู้สึกโดดเดี่ยวชิบหาย
เหงาว่ะไม่มีเพื่อนคุยเรื่องที่สนใจเลย มีแต่มาเม้าท์คนอื่นกับบ่นชีวิตหมูหมากาไก่ของตัวเอง
มีเพื่อนเป็นผู้ชายคนนึง ชอบมาปรึกษาเรื่องผู้หญิงที่มันคุยอยู่อะ แล้วชอบพิมพ์รัวๆ มาหาทั้งวัน ปรึกษาทุกประโยค ตอบยังไงต่อดี เครียด คิดมาก นู่นนี่ วอแวมาก นี่นานๆ ทีตอบแล้วเพราะรำคาญ ก็ยังทักมาเช้ากลางวันเย็นก่อนนอน กูควรทำไงกะมันดีวะเพื่อนโม่ง ตอนแรกก็พิมพ์ดีๆ เห็นเพื่อนเครียดอะไรแบบนี้ หลังๆ แม่งเริ่มไม่ใช่แล้วอะ ให้คำแนะนำไปก็เถียงอยู่นั่น แล้วก็พิมพ์มาเรื่อยๆ ทำไงดี เค้าจะเทกูมั้ย รำคาญมันสัสๆ จะไม่ตอบก็ไม่ได้เพราะเห็นโนติเด้งทั้งวันจนประสาทเสีย ช่วยแนะนำกูที ปรึกษาเพื่อนไม่ได้เลย เพราะเพื่อนคนนี้แม่งเป็นแฟนเก่ากูอะ ที่เลิกกันตั้งแต่สมัยมัธยม แต่กลับมาสนิทกันปีที่แล้ว ตอนนี้รำคาญมันจนทนไม่ไหว พอไปปรึกษาเพื่อนก็บอกว่ากูดราม่ารึเปล่า แบบไม่อยากเห็นมันไปคบคนอื่น -*-
>>79 ไหนข้างบนมึงบอกโนติเด้งทั้งวันจนประสาทเสีย? แก้ง่ายๆ 2 วิธี 1.เลิกตามใจมัน เปิดแชทมาอ่านตอนที่อยากตอบ 2.เลิกเกรงใจบอกแม่งตรงๆ
คือกูไม่เข้าใจว่ามึงมาปรึกษาทำไม กลัวมันงอล? ผู้ชายนะไอ้เหี้ย ถ้าแม่งจะงอนกับเรื่องแค่นี้ให้แม่งไปตัดหำเหอะ กลัวมันตัดเพื่อน? มันสำคัญกับชีวิตมึงมากขนาดที่มึงต้องเก็บมาหงุดหงิดคนเดียว? คือกูไม่เคยเห็นคนอื่นมาปรึกษาเรื่องง้องแง้งกับเพื่อนผชแบบมึงเลย ผชไม่ใช่เพศที่ต้องมาคอยเกรงใจรักษาน้ำใจแบบผญ ผชที่ด่าไม่ได้ไม่ใช่เพื่อนว่ะ
อยากเลิกคบเพื่อนคนนึง คือเมื่อ2ปีก่อนจารฝากให้กูดูแลนางที เพราะนางเป็นโรคเกี่ยวกับสารในสมองไรงี้(ประมาณโรคซึมเศร้า เท่าที่จารบอกนะ) กุก็เลยยอม คุยกับมันจนสนิท ประเด็นคือกุอยากเลิกคบกับมันมาก มันจะมีบางช่วงที่อารมณ์นางเปลี่ยนไป ตรรกะนางก็จะเปลี่ยน ทำให้กูรำคาญมากๆ แต่ถ้ากูเลิกคบนาง นางก็จะโดดเดี่ยวทันที แถมจารแม่งก็จะจับกูอยู่กับนางทุกปี อีกปีเดียวกุก็จะจบแล้ว ขอให้กูอยู่แบบไม่มีนางเหอะะะ
เพื่อนกูไปติดเพื่อนใหม่ที่เจอในเนต กูก็ไม่ได้สนใจอะไรหรอก เพราะไปไหนก็ไป2คนไม่ชวนกู แต่พอมันอยากไปเที่ยวที่แพงๆแบบเพื่อนในเนตคนนั้นไม่มีเงินจ่าย มันกลับมาชวนกูไปแทน เพื่อนงี้เลิกคุยด้วยดีมั้ยวะ
ชวนเพื่อนคุยในแชทแล้วโดนเมินบ่อยมาก พยายามคิดว่าเขาอาจจะไม่ว่างตอบ แต่เรารู้สึกไม่ค่อยโอเค T T)
ถามหน่อยมึง คือเมื่อก่อนกูก็ติดการ์ตูนละมีความบ้าๆบอๆอ่ะ คนที่เป็นคนปกติไม่ค่อยคบกู จนตอนนี้ขึ้นมหาลัย คือกูเลิกบ้าๆบอๆละไง แต่เหมือนพวกที่บ้าการ์ตูนคือเพื่อนในคอมฟอร์ทโซนกูเพราะแม่งคุยง่าย เป็นพวกไม่ทำอันตรายคนไรงี้ แต่พอกูคบกับพวกนี้คนปกติจะไม่ค่อยมาคบด้วยเพราะเพื่อนชอบพูดจาแปลกๆไง กูอยากคบกับเพื่อนคนปกติอ่ะ กูก็หันมาบ้าเกาหลี แต่งหน้าได้ หัดเล่นกีตาร์ ออกกำลังกายงี้ แต่ก็เหมือนคุยกับคนปกติไม่ค่อยสนิทกันซักที แล้วอยู่ด้วยไม่สบายใจเท่ากับพวกบ้าการ์ตูนอ่ะ แต่แบบกูไม่อยากคบกับเพื่อนสายการ์ตูนแล้วเข้าใจกูป่ะ กูอยากคบกับคนธรรมดาอ่ะ กูไม่อยากใข้ชีวิตกับคนเบียวๆ พูดจาแปลกๆ ทำตัวแปลกแยกจากสังคมอ่ะ กูอยากมีเพื่อนเยอะๆ คุยเก่งๆ มีแต่คนเข้าหาอ่ะ ไม่อยากปลีกวิเวกมากับพวกโอตาคุแล้วง่ะ แงๆๆๆๆ ช่วยด้วย กูแใงมีปัญหารุนแรงจัง
>>90 มึงทำให้กูรู้สาเหตุว่าทำไมเพื่อนไม่ค่อยไปเที่ยวกะกูเหมือนตอนเด็กๆละ เพื่อนกลุ่มกูก็เบียวแต่โตมาเป็นคนธรรมดากันหมด เที่ยวกลางคืน แดกเหล้า ติดผัว กูก็เข้าใจนะว่ามันต้องเข้าสังคม แต่บางทีก็อยากให้มันไปกะกูบ้าง มันคงรู้สึกว่ากูเบียวจนไม่อยากคบกะกูแบบมึงก็ได้มั้ง
ความจริงทุกวันนี้ไปเรียนกูก็แอ๊บเป็นคนธรรมดานะ แต่กูอยู่กะพวกมันกูก็สบายใจที่จะทำตัวเบียวๆเฮฮาบ้าบอไปตามประสา อยู่กับเพื่อนที่มหาลัยเป็นแบบนึง อยู่กะเพื่อนติดการ์ตูนกูก็เป็นอีกแบบนึง ถ้าอยู่กับพวกมันแล้วกูเป็นตัวของตัวเองไม่ได้อีกแล้ว กูก็ไม่มีเพื่อนที่ไหนที่จะแสดงออกด้านนี้ได้แล้วว่ะ มึงจำไว้นะว่ายิ่งโตคนที่นับเป็นเพื่อนได้จริงๆยิ่งน้อยลงเรื่อยๆ กูเองยังรู้สึกว่าโตมาโดยที่โดนพวกมันทิ้งให้กูอยู่กับความสนุกในวัยเด็กคนเดียวเลย ทั้งที่เมื่อก่อนเคยสนุกด้วยกันขนาดนั้นแท้ๆ สุดท้ายก็เหลือกูที่ยังติดการ์ตูนอยู่คนเดียว กูน่ะเหงาชิบหายเลย เหมือนทำเพื่อนสนิทในตอนเด็กหายไปตอนไหนก็ไม่รู้
ยังไงสำหรับกูพวกมันก็ยังเป็นไม่กี่คนที่เรียกว่าเพื่อนได้อยู่ ต่อให้ทุกวันนี้กูจะต้องทนไปเที่ยวกับพวกมันแบบคนธรรมดา เล่นมุกไรเบียวๆกันไม่ได้แล้ว แต่กูก็ยอมไปกับมันเพราะเป็นเพื่อนกันอยู่ดี เพื่อนมันวัดที่คุณภาพไม่ใช่จำนวนเว้ย ถ้าเป็นเพื่อนดีๆมึงก็รักษาไว้เหอะ
สำหรับเรื่องที่มึงถามว่าทำไงดี มึงคุยกะเพื่อนมึงได้ป่ะล่ะ ว่ามึงอยากเป็นคนธรรมดา ดูจากนิสัยมันแล้วมันจะโกรธมึงไหม สำหรับตัวกูตอนพวกเพื่อนกูบอกแบบนี้กูไม่โกรธนะ กูแค่เสียดายหน่อยๆ แล้วก็แซวมันไปว่า เดี๋ยวนี้มึงแม่งเป็นคนธรรมดาแล้วว่ะ5555
>>90 _กูก็โอตะแต่แอ๊บคนปกติตอนมหาลัยและตอนนี้ประสบความสำเร็จสัสๆ อาจจะแนะนําอะไรได้?
_ที่กูอยากเปลี่ยนคือที่ผ่านมากูอยู่กลุ่มคุตลอดแล้วโดนบุลลี่หลายๆครั้ง แบบไม่ได้แรงแต่กูก็รำคาญ
และกูก็รําคานพวกเบียวๆด้วย แม่งเด็กเกินแล้วไม่เข้าสังคม ตามที่มึงว่าๆกัน
แต่ความเป็นคุมันก็เอาออกไปไม่ได้หรอก แม่งอนิเมะคือความผิดพลาดสัสๆ
_ขึ้นมหาลัยมากูเลยเปลี่ยน
โดยกูเป็นพวกเวียนหลายๆกลุ่ม มีทั้งกลุ่มปกติกลุ่มคุ แต่ที่แฮงค์เอาท์หลักๆเลยไปเรียนไปแดกคือกลุ่มปกติ แล้วกลุ่มปกติกูจะไม่บอกว่าเป็นคุ ไม่แสดงตัวคุๆ เวลาคุยกับกลุ่มคุมันก็จะไม่เห็นกูเลยด้วย55555
_สําหรับวิธีเข้าหาคนปกติ
การแต่งตัว ก็แต่งตัวให้ชิคๆ คิดไม่ออกก็เอาแนวๆที่เด็กสยามใส่ๆกัน ส่วนกูก็มีสไตล์แฟชั่นกูเองแต่ไม่บอกหรอกเดี๋ยวโม่งแตก
_เรื่องที่พวกมันคุยก็ไม่ได้ยากนะ คุยเรื่องส่วนตัวกันส่วนใหญ่ เช่นเครื่องสำอาง ผู้ชาย กิจวัตรประจำวัน ก็เอ่อๆอ่อๆไป แซวๆไป แต่คําพูดพวกคุเราๆจะไม่รู้ตัวว่าพูดอะไรแปลกๆไป มันจะมีสํานวนการพูดเบียวๆแฝง ของกูใช้วิธีก๊อปปี้คําเอาจากพวกปกติ เอาตรงๆบางครั้งกูก็พลาดพูดอะไรเอ๋อๆ แต่ก็แก้เกมโดยพูดอะไรปกติๆมาทดแทนเย๊อะๆ อ่อเสียงบางครั้งต้องดัดเสียงสองเสียงสาม ก็ดูว่าไอเพื่อนมึงทําไงก็ทําให้คล้ายๆ เพราะถ้ามากไปก็โดนรำคาญ
_เรื่องโซเชียลนี่ก็ต้องแคร์สัสๆ อัพไอจีสตอรี่อะไรบลาๆ
_ถามว่าสนิทมั้ย?
ก็คบมาไม่ได้สนิทขนาดนั้น แล้วก็คบหลายๆกลุ่ม
แล้วในรั้วมหาลัยก็มีกิจกรรม ก็เข้าไปทําเลยถ้าแย่กได้เพื่อนเยอะ แบบไปไหนไปกับใครได้หมด แต่ถ้าอยากมีคนไว้ใจก็หากลุ่มหลักซัก1-2กลุ่ม ซึ่งกูก็มีกลุ่มหลักเป็นเพื่อนเก่าที่เป็นคุ และก็เพื่อนเรียนอีกลุ่มไรงี้ แค่นี้ก็สบายใจละ
_กูอยากเสริมเรื่องนี้ คือเพื่อนคนรู้จักที่เป็นโอตะแล้วพยายามเปลี่ยนตัวเองแต่ยังโดนเมินมีเยอะ ซึ่งแสดงว่ามึงยังแสดงออกความเบียว คนปกติก็ยี้กันอ่ะมึง อ่อและถ้ามึงเป็นคนที่แบบอยากมีจุดยืน กูจะเป็นโอตะแล้วไปมีเพื่อนปกติ กูเห็นไปไม่รอดหลายรายละ ก็นะสังคมตอนนี้ก็ยี้ๆพวกWeaboosเยอะ
_ถามว่าชีวิตโอเครมั้ย?
การที่มาคบคนปกติมีเพื่อนเยอะๆมันดีนะตรงที่เราได้ขึ้นมาเป็นผู้นํากิจกรรมได้ มีเพื่อนเยอะ มีคนนับถือ มีความเป้นผู้เป็นคนมีตัวตน
แต่โมเม้นน่าเบื่อก็มีแบบพวกนี้มันทําอะไรซํ้าๆเป็นกิจวัตรเยอะเกิน ไอช่วงน่าเบื่อกูก็ไปกลุ่มอื่น ไปหาพวกคุบ้างก็มี
แต่โดยรวมดีกว่าตอนเป็นคุเต็มตัวหลังตีนเป็นหน้ามือเลยสัส
>>90 กูไม่ค่อยเข้าใจคำว่าคนธรรมดาของมึงว่ะ คือเพื่อนสายการ์ตูนมึงนี่เบียวระดับไหนว่ะ ถึงว่าอยู่ด้วยกันไม่ได้ คือถ้ามึงจะนิยามคนปกติต้องมีสังคมแบบเที่ยวกลางคืน แดรกเหล้า ติดผัว ติดเมีย มึงต้องเปลี่ยนความคิดอย่างแรง เพราะไอ้พวกนี้แหละแม่งคือปลายทางแห่งความเสื่อมของแท้ ยิ่งมึงไปให้น้ำหนักมันมากชีวิตมึงจะเลวร้ายยิ่งกว่ามึงคบกับพวกเบียวอีก ถ้าเป็นชายมึงก็อาจโดนยัดเยียดความเป็นผัว โดนเจ้าที่เล่นงาน มึงอาจจะตายทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ฟันหญิง ถ้าเป็นหญิงก็อาจได้ประสบการณ์ gangbang อะไรแบบนี้
ถ้าตราบใดที่ไอ้พวกนั่นมันยังมีการมีงานทำ ไม่ก่อความเดือดร้อนให้มึง ส่วนตัวกูก็ไม่เห็นว่ามันจะน่ารังเกียจอะไรนะ แต่ถ้าแบบคุสัด ๆ คุแบบที่พวกเมะยุ่นมันชอบนำเสนออันนี้กูเข้าใจว่ามันก็เกินไป คือกูอยากให้มึงมองว่ามันก็เป็นสังคมแบบนึงเหมือนกัน คน ๆ นึงมึงจะอยู่กี่สังคมก็ได้ตราบใดที่มึงคุยกับเค้ารู้เรื่องและโอเคในสิ่งสังคมนั่น ๆ มันเป็น คนเรามันไม่จำเป็นเบียวจนพูดไม่รู้เรื่องอย่างเดียว มันต้องเป็นไปตามกาลเทศะ
ส่วนตัวกูโม่งชาย ยังไม่เที่ยวกลางคืน ไม่ลงอ่างเลย แต่กูก็คบกับคนแบบนี้ได้เพราะกูมองว่าพวกมันก็คนเหมือนกัน นอกจากเรื่องนั่นมันก็ต้องคุยเรื่องงาน บ้านเมือง สารพัดเรื่องได้ตามปกติแหละ คิดซะว่าตราบใดที่มันไม่ทำตัวหนักหัวเรามันก็โอเค อย่าไปคิดมากเกิน
>>94 ก็พวกเบียวๆมันแปลกแยกกว่าสังคมทั่วไป มันก็โดนคนมองแปลกๆอยู่แล้วป่ะ 90 มันไม่อยากโดนสังคมมองแปลกๆแค่นั้น มันมีผลกับสถานะทางสังคม มึงจะมาเพ้อคนธรรมดาคือปลายทางแห่งความเสื่อมเห้ยอะไรของมึงโคตรเบียวเลย
อ่ะเอาเรื่องสังคมการ์ดเกมก็ได้สังคมเล็กๆ มึงเคยเจอไม้พวกเบียวๆที่จั่วการ์ดด้วยท่า destiny draw ตลอด พอได้การ์ดที่ต้องการจะเปิดลำโพงโทรศัพท์ ธีมการ์ดใบนั้นมาเลย ตามด้วยการวาดมือแปลกๆเหมือนฝึกหน้ากระจกหลายร้อยรอบ ลงการ์ดด้วยท่าแปลกๆตามด้วยคำพูดที่ซ้อมในห้องน้ำ
กูเห็นฝั่งตรงข้ามที่เล่นด้วย กับโต๊ะข้างๆยังแสดงท่าทีรังเกียจเลย นี่ขนาดสังคมเดียวกัน
คนมันเบียวไปอยู่สังคมไหนมันก็เบียวหมดแหละ
>>94 กู >>90 เองนะ คือกูเป็นคนนึงที่อยากเป็นคนสำคัญ มีคนนับถือ มีเพื่อนเยอะๆ เป็นแกนนำอะไรแบบนี้ แต่ด้วยนิสัยคุที่ส่วนใหญ่ จะไม่กล้าออกมาแสดงตัว พูดจาแปลกๆ ทำตัวแปลกแยก ถ้ากูต้องคบด้วยก็ต้องทำตามเค้าด้วยไง แต่กูไม่อยากทำ แต่พอมาทำตัวกับคนธรรมดาๆกูก็รู้สึกเข้ากับเค้าไม่ได้เพราะกูก็เคยเบียวมาตั้งสามสี่ปีจนทำให้มีปัญหาเรื่องโดนเพื่อนแบนไปปีนึงอ่ะเป็นปัญหาฝังใจกูเลย กูเลยไม่อยากอยู่ในโลกคุๆแบบนี้แล้วโว้ย ละม.กูก็เด็กค่อนข้างมีคุณภาพอ่ะ กูเลยไม่ห่วงเท่าไหร่ จริงๆกูยอมไปกินเหล้าเข้าผับก็ได้นะถ้ามันทำให้กู fit in อ่ะ กูโอเค
>>94 จาก ปสกกุ กลุ่มคนธรรมดามันค่อนข้างแคร์กิจกรรมแนวสังสรรค์เชื่อมสัมพันธ์พวกนี้มาก
เช่นไปกินข้าวด้วยกัน ตีแบด อะไรเทือกนี้ต่อให้กิจกรรมนั้นเมิงไม่สนใจเช่าไปร้านข้าวที่ไม่ชอบ พวกคนธรรมดาก็ยังไปอยู่ดีเพราะถือเป็นการเข้าสังคม
ส่วนพวกคุถ้าร้านไม่โดนก็บอกว่าไม่ไปแล้ว ทีนี้พวกคนธรรมดามันมักจะมองพวกคุว่าเป็นไรมากปะทำไมไม่ไปด้วยกันเมิงมีประเด็นเหรอ
จุดนี่แหละทำคุคบกับคนธรรมดาไม่ค่อยติดด้วยแรกๆตอนที่กุคบกลุ่มธรรมดาก็รู้สึกว่าไม่ค่อยมีคนชวนไปไหนซึ่งตอนนั้นกุก็ไม่โชว์ความคุอะไรนะเก็บเงียบ พอเปลี่ยนกลุ่มแล้วทีนี้กุลองแบบไปไหนไปกันกิจกรรมกากสถุลแค่ไหนถ้าคนไปกันกุก็ไป ก็รู้สึกว่าสังคมดีขึ้นนะมีคนทักคนชวนไปไหนมาไหนแบบเราไม่ต้องเริ่มเข้าหาเอง
เรื่องพวกแก้งกินเหล้าอะไรนี่เราก็ยังสามารถไปได้โดนไม่กินนะไปนั่งเฉยๆคุยเล่นเก็บศพกลับบ้านไม่ถึงกลับต้องไปทุกครั้งแต่มีเสนอหน้าไปบ้างก็ดี
>>97 นี่แหละอีกปัญหาหลักกูเลย คือกูโคตรเบื่อเต้นไก่ย่าง โอ้ทะเลแสนงาม แต่เพื่อนที่ป๊อบๆกูนี่บอกว่าสนุกมากกก กูก็ทำท่าสนุกไปกับพวกนางแต่อารมณ์เบื่อมันล้นมากๆ ส่วนพวกไปนู่นมานี่กูพยายามไปทุกครั้งแต่แบบเหมือนเป็นคนชวนคุยไม่เก่งอ่ะ ไปทีไรก็จะเป็นฝ่ายเงียบๆ ทำหน้าอึนๆ(พยายามปั้นหน้ายิ้มแล้ว แต่อารมณ์คือมันเบื่อสุดๆจนปิดไม่มิด) มันอึดอัดอ่ะ อยากพูดมากแต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไร พอเงียบเยอะก็กลายเป็นโดน left out เค้าเฮฮากันเองไม่ต้องมีกูก็ได้ มันเลยไม่อยากไป
กุล่ะเบื่อขอพูดหน่อยแล้วกันคนที่ชอบไปสังสรรค์ไปผับหรือไปเยก็มีหลายระดับ ไม่ใช่มีแต่พวกตลาดล่างเยแล้วท้องหรือไปขมขืนก่อcrimeอย่างเดียวนะสัส
>>100 มันก็ถูก แต่มันก็ปฏิเสธไม่ได้ถูกป่ะ ว่าถึงมึงจะไปแบบมีระดับมันก็ต้องมีความเสี่ยงที่เจอไอ้พวกระดับล่าง ๆ อยู่ดีป่ะ บางทีไอ้เขม่นกันก็เป็นไอ้พวกเจ้าถิ่นนี่แหละ
แต่ก็นะ บางทีในแถว ๆ ที่กูอยู่มันอาจจะมีแต่ไอ้พวกระดับล่าง ๆ ก็ได้ กูเลยมองแบบนั่นเพราะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ แต่ถ้าเอาประสบการณ์ถิ่นกูนี่แบบกล้าคอนเฟิร์มเลย 80% Crime เลยมึง
>>96 กู 94 นะ คือกูว่าถ้าอยากเป็นผู้นำกลุ่ม ก่อนอื่นมึงต้องเป็นตัวของตัวเองก่อนว่ะ ส่วนตัวกูคิดว่ามึงไม่จำเป็นต้องไปตามน้ำมึงก็สามารถเป็นผู้นำเป็นจุดสนใจของเพื่อน ๆ ได้นะ ส่วนใหญ่คนที่มันป็อปจุดร่วมที่สังเกตคือมันต้องเข้าแล้วรู้สึกคุยง่ายอะไร ไม่ทำตัวน่ารำคาญ
อย่างถ้ามึงอยู่กับเพื่อนคุ ๆ ก็คุยบ้างอะไรบ้างแต่อยู่ในจุดที่มึงไม่ไหวจะเคลียร์กับพวกมันมันแล้วนี่ ต้องหาจุดที่สามารถแฟดตัวเองออกมาโดยที่พวกมันไม่เคืองได้นี่ ส่วนตัวกูนับว่ามึงเป็นที่สนใจแล้วนะ
คนเราจะสนใจหลาย ๆ อย่างมันก็เป็นเรื่องที่ดี คนเรามีคอนเนคชั่นเยอะดีกว่าไม่มีเลยไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่งแหละ แต่กูคิดว่ามันไม่จำเป็นที่ต้องไปพยายามทำให้ Fit in 100% อยู่ดี
คิดว่าตัวเองจะมีกลุ่มที่อยู่กันไปยันจบ พอขึ้นปีสองแล้วดันมีเรื่องกัน กุกลายเป็นหมาหัวเน่า
เข้าคณะเกี่ยวกับภาษา ละมีเพื่อนใหม่แนะนำตัวแบบ ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ พร้อมติ้กเก้อสองนิ้วแตะหางคิ้วขยิบตา บอกช่องทางติดต่อก็พิมพ์มาเป็นญี่ปุ่น อยากสะกิดเตือนว่ามึงเพลาๆความเบียวหน่อย
เบื่อพวกอยากเป็นหัวหน้า เพื่อให้เป็นที่โดดเด่น แต่ไม่มีความเป็นหัวหน้าแม้แต่นิดเดียว งานก็ไม่ส่ง อาจารย์รับผิดชอบอะไรก็มาโยนให้คนข้างๆ เคยเป็นเพื่อนกับนาง ตอนแรกก็ดีนะ ผ่านไปปีนึงนางเปลี่ยนไปเยอะเลย ถือว่านั่นคือธาตุแท้ของนางละกัน
กูเพิ่งรู้ว่าใกล้ถึงวันเกิดเพื่อนละ แล้วทีนี้เพิ่งไปซื้อครีมมาตัวนึงเป็นแบบซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง กูจะเอาที่แถมไปให้เป็นของขวัญ มันจะน่าเกลียดมั้ย
มึง กุเศร้า ตอนม.ปลายกุเปนชนกลุ่มน้อย พอเข้ามอเลยพยายามเปลี่ยนตัวเอง พยายามชวนเพื่อนไปนู่นนี่นั่น แต่เขาไม่เคยึิดจะชวนกุกลับเลยอิเหิ้ย กุเสียเจย ปล.ม.กุเพิ่งเปิดได้สองทิต กุรีบคาดหวังเกินไปป่ะวะ?
กูมีเพื่อนชอบเล่นมุกเสี่ยงคุกบ่อยๆ กูรู้สึกรำคาญมุกที่แม่งเล่นมากๆไม่เสี่ยงคุกก็มักจะเป็นมุกฝืด แล้วกูไม่รู้จะตอบยังไงได้แต่หัวเราะแห้งๆไปไม่ก็เมินๆทำเป็นไม่ได้ยิน มีใครพอจะให้คำแนะนำกับกูบ้างว่าควรทำไงเวลาเพื่อนเล่นดี
ป.ล. จริงๆกูก็ว่ามันเล่นบ่อยอยู่วันนึงแม่งเล่นครั้งสองครั้ง………
เพื่อนโม่งคิดว่า คนที่มองโลกในแง่ดี(ไม่ใช่ทุ่งลาเวนเดอร์ ไม่ยอมรับว่าเรื่องแย่ๆมีจริงนะ แต่เป็นมองแบบหาข้อดีในเรื่องแย่ๆได้ มองโลกแบบปลงๆ) พูดแบบตรงไปตรงมา(ไม่หยาบคาย แต่พูดแบบอาจฟังดูเย็นชาหน่อยๆ) แล้วก็ไม่ขัดคนอื่น ใครพูดไรก็เออออห่อหมกตามเค้าหมด ไม่ก็รับคำเฉยๆแล้วก้ยิ้มแย้มแจ่มใสตลอดเวลาเนี่ย มึงว่าน่าคบมั้ย ดูเป็นคนโง่ไม่มีความเป็นตัวของตัวเองป่าววะ
>>116 มีแบบหลังอยู่คน ไม่ได้ดูโง่ ฉลาดด้วยซ้ำ แต่บางอารมณ์รู้สึกเหมือนไม่จริงใจกะกูอะ แบบกูอะไรก็ผสมโรงเออออห่อหมกไปทุกอย่าง บางทีกูก็อยากได้ความเห็นบ้าง อยากได้เพื่อนไม่ใช่ลูกไล่ในละคร พูดกะมัรไปหน สักพักก็เป็นเหมือนเก่า พื้นฐานครอบครัวมันไม่ค่อยดี กลัวถูกเท เลยตามใจชาวบ้านไปทั่ว
ถามว่าฉลาดยังไง คือบุคคลอกมันเหมือนเป็นลูกไล่แบบนี้แหล่ะ เพื่อนแม่งเยอะ งอกที่โน่นที่นี่ไปหมด ตอนคุยกับกูเหมือนเป็นคนไม่มีเพื่อน มันย้ำแกต่างหากอย่าทิ้งกูนะๆ ปรากฏพูดงี้กับทุกคนจ้า ตอนไปงานคอมิคด้วยกันมันไปทักคนนั้นคนนี้กูนี่แบบขนลุก เหมือนไม่ใช่เพื่อนที่กูรู้จัก ไปๆใาๆแม่วสร้าวคอนเนคชัานไว้เยอะกว่ากูอีก ทุกวันนี้กูก็คุนนะ แต่กูคุยน้อยลง รู้สึกว่าแม่งน่ากลัวสัดๆ
*คำผิดเยอะนะกูรีบพิม รถเมมาพอดัเดวขึ้นรถไม่ทัน 555
ไม่มีอะไรแค่อยากระบาย มีใครรู้สึกบ้างว่าเวลาเจอตัวจริงต่อหน้าแล้วไม่ค่อยรู้สึกอะไร แต่พอเห็นความคิดบางอย่างในเฟซหรือทวีตแล้วโคตรรำคาญมั้ยมึง... ทำยังไงให้ทำใจกับความเบียวของคนอื่นบ้างวะ เห็นทีไรแล้วอยากแย้งขึ้นมาทุกที กุไม่อยากเป็นคนใจแคบเลย
กุไปมหาลัยแล้วแทบไม่มีเพื่อนเลยว่ะ กิจกรรมคณะก่อนเปิดเทอมก็มีเยอะอยู่นะ แต่กุก็แทบไม่ได้รู้จักใครเท่าไหร่ ตอนนี้เปิดเทอมมาวันที่ 3 แล้ว กุอยากรู้ว่าใช้เวลาเท่าไหร่กันวะถึงเจอกลุ่มเพื่อนที่คลิกกับเราจริงๆ อย่างกุอยู่วิดวะแต่ไม่ได้เป็นคนแบบ เล่นกีฬา แดกเหล้า เล่นเกม อะไรงั้นอะ ซึ่งคนส่วนใหญ่ในคณะกุเป็นแนวนั้น กุชอบอ่านนิยาย ดูหนัง เล่นบอร์ดเกม ทำอะไรแนวๆนั้นมากกว่า แล้วกุก็ค่อนข้างเงียบมากๆถ้ายังไม่สนิทกันจริงๆ แต่เห็นคนส่วนใหญ่เค้าก็มีเพื่อนกันแล้ว ชีวิตมหาลัยดูสนุกสนาน ซึ่งต่างจากกุโดยสิ้นเชิง เวลาไปกินข้าวโรงอาหารไรงี้ก็อึดอัดที่มีคนเยอะๆ คือกุก็ไม่ได้เหงานะ แต่รู้สึกแบบ I don’t belong here อะ ทำไงดีวะ
ขอระบายหน่อย กูเบื่อเพื่อนในห้องมาก คือเฟสจะเป็นเฟรนด์ทุกคนในห้อง แล้วเพื่อนคนนึงชอบแซะคนอื่น เอาไอนั่นไอนี่มาแซะ บางทีก็ไปเม้นสอน เม้นวุ่นวายคนอื่น หัวร้อนง่าย วีนเก่ง คำเรียกนั่นนี่นู่นค่อนข้างเป็นคำไม่ให้เกียรติคนอื่น รวมๆก็คือเป็นคนไม่มีมารยาท
ทีนี้มันไปนินทาอะไรก็ไม่รู้กับเพื่อนกู แล้วเพื่อนต่างห้องเขามาเห็น เพื่อนต่างห้องคนนี้เคยมีประเด็นกับมันเรื่องที่มันเอารูปถ่ายเขาไปไม่ขอ แล้วพอเขาโพสต์ลอยๆว่าอย่าเอารูปคนอื่นไปใช้ไม่ขอเพราะไม่อยากชี้ตัวก็ลบหนี ไม่ไปขอโทษเขาด้วย ละเขามาเจอมันเม้นคุยกับเพื่อนกูว่าไม่ชอบมัฟฟินที่แจกเลย เป็นขนมที่ทำคาบคหกรรมของต่าวห้อง เพื่อนคนนั้นทำแต่คือมันไปแดกของเขามาเยอะ เขาก็ไม่ชอบ เขาก็แซะมันว่าเออเนอะ ไม่ชอบมัฟฟิน แต่กินมัฟฟินเขาสี่ห้าชิ้น
ทีนี้แม่งมาโวยวายกับเพื่อนกู ว่าเพื่อนกูคาบข่าวไปบอกเขา (เพื่อนกูกับคนต่างห้องรู้จักกัน นั่งรถรร.กลับด้วยกัน) ตอนแรกก็พูดว่าไม่รู้จักนางมาแขวะกันทำไม ไปๆมาๆก็บอกมึง(เพื่อนกู)ไม่รู้เหรอว่ามันกับเขาไม่ถูกกัน บลาๆ กลายเป็นว่าเพื่อนกูเป็นที่รองรับอารมณฺ ทั้งที่โพสต์นั้นมันสาธารณะ ใครจะเห็นก็ได้
สุดท้ายแล้วแม่งก็พ่นดราม่าลงเฟสยาวเหยียดไปหมด มีแต่คนรำคาญ แต่ก็ไม่มีใครอยากไปยุ่ง ตอนนี้กูกดเลิกติดตามแม่งละ
กูเป็นโม่งหญิงนะ พูดไม่ค่อยเก่งอ่ะ หาหัวข้อมาพูดไม่ค่อยได้ แล้วกูเจอเพื่อนผช.ในคณะแต่ละคนคือตลกมาก พูดน้ำไหลไฟดับ เลขมุขเก่ง กูอยากทำให้ได้อย่างเค้าอ่ะ มันดูถึงหน้าตาไม่่ดี แค่ดูมีเสน่ห์ว่ะ ดูน่าเข้าหา อยากมีเพื่อนเยอะๆแบบเค้า แนะนำหน่อย
>>128 กูชอบอ่านมุกตลกนะ อ่านแบบตั้งใจจะจำไปเล่นกับเพื่อน ตั้งแต่เด็กๆแล้ว แรกๆมึงจะมีมุกก๊อบทื่อๆ ไม่มีการประยุกต์อยู่ในหัวเยอะมาก แล้วก็อาจจะนึกมาใช้ไม่ทันตามสถานการณ์ แต่มึงจะเริ่มเรียนรู้จังหวะความตลก อะไรควรเล่นอะไรไม่ควรเล่น และมึงจะเริ่มหัวไวขึ้น นึกมุกทันเหตุการณ์มากขึ้น พอมึงคล่องแล้วก็กลายเป็นคนมีอารมณ์ขัน หลังจากนั้นมึงก็อาจจะลองไปยื่นใบสมัครเข้าคณะเชิญยิ้ม ชวนชื่น เถิดเทิง หรือกระทั่งจ๊กมกได้เลยนะเว้ยยย
หงุดหงิดเพื่อนสนิทตัวเองว่ะ เมื่อวานบังเอิญเจอแฟนเก่ามัน ที่จริงๆ ก็เป็นเพื่อนสนิทกูเหมือนกัน แต่โอเคตอนมันคบกันกูก็เฟดตัวออกมา ไม่อยากให้มีปัญหากัน พอเลิกแล้วเพื่อนกูดันเกลียดแฟนเก่ามัน (ที่เป็นเพื่อนกูอีกคน) แบบเข้าไส้ ทีนี้พอเจอกูก็ทักทายปกติ ไม่ได้จงใจทักมันคนเดียวด้วย แค่บังเอิญไปกินข้าวร้านเดียวกัน กูก็ทักเพื่อนกลุ่มมันเฉยๆ ยังไงก็สนิทกันหมดอยู่แล้ว คนอื่นๆ ในกลุ่มมันกูก็สนิทเหมือนกัน
ปรากฏว่าเพื่อนกูเสือกนอยด์แดก พอเห็นกูทักก็ด่ากูยับเลย แล้วไม่ยอมคุยกับกูด้วย คุยกับทุกคน แต่พอกูเรียกก็ไม่สนใจ เวลากูพูดไรก็ไม่ตอบ ประชดกูด้วย หงุดหงิดเหี้ยๆ คือกูทำอะไรผิดวะ โตๆ กันแล้ว ไม่เห็นใช้เหตุผลคุยกันเลย ไม่อยากง้อแม่ง เดี๋ยวเคยตัว แต่เดี๋ยววันจันทร์ต้องเจอ ต้องทำงานด้วยกันอีก ทำไงดีวะเพื่อนโม่ง
>>130 กูเคยมีเพื่อนเเบบนี้ ใครทักแฟนเก่าหรือเเฟนใหม่ของเเฟนเก่ามันไม่ได้เลย เป็นบ้าด่าว่ากูหักหลังเพื่อนไรของเเม่งไม่รู้ เเนะนำให้มึงทำตามปกติ เเฟนเก่าเพื่อนไม่ใช่ปัญหาของมึง เเล้วมึงก็ไม่จำเป็นต้องโอ๋เพื่อนของมึง ปล่อยมันนอยด์แดกของมันไปคนเดียว มีงานก็คุยเฉพาะเรื่องงานไป
รู้สึกเลยว่าเพื่อนเมินแชทกูแบบไม่ใยดี พอยิงมุกก็ด่าใส่ ทุกคนกริบหมด ไม่อ่านแชทกูแต่ไปตอลไลน์กลุ่ม ไลน์กลุ่มก็เมินกู ลากคนอื่นเข้ากลุ่มโดยไม่ถามก่อน แล้วมันไม่เคยบอกกูเลยว่าไม่พอใจเรื่องไร กูรู้สึกได้มาสองสามวันแล้ว กูไม่กล้าถามด้วย กลัวพวกมันหาว่าคิดไปเอง
ไม่รู้จะปรึกษาได้ไหม คือเวลาทำงานคู่กูไม่มีคู่เลย โดนเพื่อนทอดทิ้งตลอด บอกไปหาคู่กันเอง (ละกูก็ไปไม่ได้ด้วยเพราะในห้องเขาก็มีคู่เป็นของตัวเองกันอยู่ละ อีผี) ละจะไปขอจาร์ย จาร์ยก็ด่าเป็นเด็กมีปัญหาหรือไง ไปหาคู่มาให้ได้ จนกูหงุดหงิดพาลไม่ส่งงานแม่ง ทำไงถึงจะแก้หายวะ พยายามไปขอคู่นู่นนั่นก็บอกมีคู่กันละ เบื่อสัส
กูได้เมทเป็นรุ่นพี่ แล้วแม่งไม่ชอบทำความสะอาดห้อง จานชามแดกมาสี่วันแล้วยังไม่ล้าง ถังขยะถ้ากูไม่เอาถุงไปใส่ก็กองๆข้าวเอาไว้ปลายเตียง นอนตีสองตีสาม แล้วเปิดดูหนังตลอด ไม่ยอมใส่หูฟัง เปิดไฟทิ้งไว้จนกว่าแม่งจะนอน กว่าจะอาบน้ำก็ตีสามตีสี่กว้าจะนอน บางทีแม่งไม่ล็อคประตูห้อง แล้วชอบเปิดไฟทิ้งไว้เป็นสามสี่ชั่วโมงตอนออกไปเรียนกูก็ไม่อยู่ห้องไง อยู่มาอาทิตย์กว่ากูไม่ไหวแล้วสัด อยากย้ายแต่ก็ไม่มีตังค์ ต้องรอกว่าจะได้หอในเทอมหน้าหรือปีหน้า แม่งๆๆ
อยู่มากูยังไม่เห็นแม่งเก็บห้อง กงาดห้อง หรือขัดห้องน้ำเลยสัด มาก็เปิดแอร์ ดูหนัง อิสัส
กูขอระบายหน่อย
กูโม่งหญิง นิสัยแมนๆหน่อย กวนตีน คุยง่าย ชอบเล่นมุกไปเรื่อย แล้วปกติกูก็จะเป็นที่ปรึกษา/ที่ระบายให้กับทุกๆคน แล้วชีวิตกูมีปัญหาที่กูมีเพื่อนผช.เยอะ เพราะแม่งสบายใจดี ไม่งี่เง่าเท่าผญ. งานอดิเรกคล้ายกันด้วย แล้วทีนี้คนที่กูคิดว่าเราเป็นเพื่อนกัน มักจะชอบกู บางคนก็สนิทมากๆ ก็ดันชอบกู หลายกลุ่ม หลายคนเลย
มันทำให้กูรู้สึกว่ากูเสียคอมฟอร์ทโซนอ่ะ จะเล่นเหมือนเดิมก็ไม่ได้ จะห่างไปเลยก็ไม่ดี เพราะกูก็ยังอยากรักษามิตรภาพอ่ะ
กูแค่อยากเป็นเพื่อนกับมึง ไหงชอบกูซะงั้นวะ กูทำอะไรผิดตรงไหน กูก็ปฏิบัติแบบนี้กับทุกคนนะ กูไม่รู้ว่ากูควรแก้ตรงไหน กูไม่ได้ให้ความหวังใครเลย กูมั่นใจว่าวางตัวค่อนข้างดีนะ ไม่เคยหยอด ไม่ชวนเที่ยว2:2 ไม่เสี่ยว ไม่แสดงความเป็นห่วงจนมากเกินขอบเขต
ทำไมมันต้องออกมาเป็นแบบนี้ตลอดเลยวะ กูกลุ้ม กูแค่อยากเป็นเพื่อนกับพวกมึง
กูอวบ(เข้าขั้นจะอ้วนละ) แล้วเพื่อในกลุ่มกูที่ผอมมากๆ(นน.ประมาณ39-41) ก็เอาแต่พูดใส่กูว่ากูอ้วน ไปลดน้ำหนักหรือให้หยุดกินไรงี้ กูไม่ชอบเลย กูรู้กูอ้วน แล้วจะมายุ่งเรื่องเหี้ยไรกู คิดว่ากูอยากอ้วนรึไงวะ เบื่อ
เพื่อน กุอยากขอคำปรึกษาหน่อย กุมีเพื่อนสนิทคนนึง สนิทมาตั้งแต่เด็กละ แล้วทีนี้มันเป็นคนค่อนข้างเอาแต่ใจอ่ะ ยกตัวอย่าง กุเก็บเงินก้อนแรกในชีวิตอยากไปเที่ยวตปท.ครั้งแรก กุก็ชวนมันไป ตกลงกันว่าจะไปสถานที่หรือทำกิจกรรมที่ตัวเองอยากทำคนละครึ่ง ปรากฎว่าแม่งก็ไปแต่ที่ๆมันอยากไป กินของที่มันอยากกิน กุอยากทำอะไรก็ไม่ได้ทำ จนกุรู้สึกว่ากูเสียเงินเก็บกุไปโดยเปล่าประโยชน์มาก กุก็อยากจะทิ้งมันแล้วเที่ยวคนเดียวนะ แต่แม่งก็หาว่ากุเป็นคนชวนมันมาแล้วจะมาทิ้งมัน กูก็อดทน ทีนี้ต่อมาช่วงนี้มันเพิ่งเลิกกับแฟนมันก็ชอบชวนกูกินข้าวเป็นเพื่อนอ่ะ แล้วคือมันชวนกูบ่อยมากก แทบจะทุกอาทิตย์เลย แล้วกินแต่ร้านในห้าง คือวันนึงหมดเป็นพันอ่ะ แล้วกุก็ทำงานไม่ได้มีเงินมากอะไร คือกุเดือดร้อน บอกมันแม่งก็หาว่ากุไม่เห็นมันเป็นเพื่อน พอมาวันนี้ ตอนแรกก็คุยกันตั้งแต่4-5วันก่อนว่าจะไปเที่ยวกัน แล้วมันก็ว่าจะนัดวันกะสถานที่กุมาอีกที แล้วมันก็หายไปเลย กุรอจนเมื่อคืนก็ยังเงียบ ปกติกุก็จะโทรไปถามมันว่าตกลงเอาไง กี่โมงไรงี้ แต่กุอยากรู้ว่าถ้ากุไม่ทำมันจะโทรมาไหม ซึ่งก็ไม่ จน11โมงวันต่อมา เพิ่งโทรมาว่ามันออกจากบ้านแล้ว ให้มาเจอมันที่นี่ๆ คือกุก็ต้องมีแผนชีวิตกุเปล่าวะ มันไม่นัดมากุก็แพลนไปทำอย่างอื่นไง แล้วพอกุบอกว่ากุไม่ว่างแล้วแม่งก็หาว่ากุผิดนัด นัดตั้งนานแล้ว แล้วมาโกรธกุ คือกุงง กุต้องพร้อมแสตนด์บายกระดิกหางไปหาเวลามันเรียกเหรอวะ เพื่อนมันเป็นความสัมพันธ์สองฝ่ายเปล่า กุรู้สึกโดนเอาเปรียบและเริ่มอึดอัดมากขึ้นทุกที กุอยากจะเลิกคบ แต่แม่งก็เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กแล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตแบบจะตัดเพื่อนได้ กุควรทำยังไงดี กุอึดอัดมาก
>>140 กูว่ากูก็อยู่ของกูดีๆนะ ถ้ากูอ่อยจริงๆแม่งไม่รอดแล้ว 5555555
>>141 ถูกหวยรางวัลที่ 1 ง่ายกว่า 55555
>>144 นั่นไม่ใช่เพื่อนแล้วเว่ย เพื่อนจริงๆเค้าจะไม่เอาเปรียบมึงแบบนี่ กูแนะนำว่าให้เลิกสนใจมันไป ถ้าแม่งคิดได้คงปรับปรุงตัว แต่ถ้าไม่ได้ก็ตัดทิ้งเลย เวลาเปลี่ยน คนก็เปลี่ยน อย่าเอาความผูกพันมาทำให้มึงต้องลำบากดิ่
>>147 ถ้ามึงยังเห็นแก่มันอยู่ มึงต้องปฏิเสธบ้าง อย่างมันไปร้านแพงบอกเลยว่าให้ไปอีกร้านช่วงนี้ไม่มีเงิน จากเจอบ่อยๆเอาแต่อาทิตย์ละหนพอ คืออย่าตามใจมันหมด มันเหมือนไปเที่ยวกัน มึงมีลิสของมึง มึงก็ต้องแข็ง ถ้ามันไม่อยากไปด้วยก็ให้มีวันนึงฟรีเดย์ที่แยกกันเที่ยว ถ้าอันไหน อยากไปด้วยกันถึงจะไป กูเที่ยวกับเพื่อนก็ทำแบบนี้ เพราะถ้าตกลงจะไปไหนด้วยกันจะไม่มีบ่นและไม่ต้องเกรงใจ.
ความเกรงใจคือความไม่เกรงใจ
>>139 (เข้าใจว่า >>145 ก็คนเดียวกัน)
นี่โม่งชายนะ อยากบอกว่าเหมือนเราเห็นเพื่อนสนิทเราในตัวทางนั้นเลยอ่ะ
และใช่ เราก็ชอบเพื่อนสนิทคนนั้นเหมือนกัน เพราะว่าการที่สามารถคุยได้ทุกเรื่อง เข้าใจทุกเรื่อง สามารถแม้แต่จะขอว่ามึงบีบมือกูหน่อย ลูบหัวกูหน่อยอ่ะ มันไม่ใช่อะไรที่ผู้ชายปกติทำกันเอง และไม่ใช่อะไรที่จะขอให้เพื่อนผู้หญิงที่ไหนก็ได้ทำนะ
ความรู้สึกว่าคนนี้แหละที่คุยได้ทุกเรื่อง คนนี้แหละที่พร้อมเข้าใจเรา ต่อให้วางตัวดีแค่ไหนว่ามันเป็นไปไม่ได้ เราว่าสองความรู้สึกข้างต้นมันคือ baseline ที่โคตรแน่นหนาในการจะชอบใครก็ตามนะ และใช่ ความรู้สึกมันห้ามกันไม่ได้หรอก เราเคยพยายามห้ามแล้ว กลายเป็นแย่กว่าเดิมอีก
เพราะแบบนี้แหละ ถึงเราจะชอบคนไปแล้วกี่คนก็เหอะ ลึกๆ เราก็ยังชอบเพื่อนคนนี้อยู่ดี ต่างกันหน่อยตรงที่เคสเราฝ่ายเพื่อนหญิงก็รู้ว่าเราชอบนะ แต่ว่าเค้าก็รู้ว่าเรารู้ดีว่ามันเป็นไปไม่ได้ และเราก็เข้าใจดีว่ามันเป็นไปไม่ได้จริงๆ ก็วางตัวให้ถูก ไม่ขออะไรที่ไม่ควรขอ (ลูบหัวนี่ขอเมื่อสองปีที่แล้ว 5555555) ถึงตอนนี้ก็ยังคุยกันแบบสบายใจมากๆ ทั้งคู่อยู่ดี
ทำไมรู้สึกว่าความเอาใจใส่ที่มีให้เพื่อน กับที่ได้รับกลับมามันไม่เท่ากันวะ จะว่ากูขี้น้อยใจก็ได้ แต่อยากงอแงอะ ตอนกูจะออกไปซื้อข้าว กูก็หันมาถามรูมเมทเสมอนะ ว่าจะฝากซื้ออะไรมั้ย ส่วนใหญ่มันก็ฝากอะ จนบางครั้งกูรู้สึกว่ามันรอกูถามเปล่าวะ แต่พอมันจะออกไปซื้อบ้าง อยู่ดีๆก็ออกไปเลย ไม่บอกไม่กล่าว ไม่ถามว่ากูหิวมั้ยด้วยซ้ำ
>>149 ก็เข้าใจนะว่าความรู้สึกมันห้ามกันไม่ได้ คือกูก็แคร์ความรู้สึกของเพื่อนกูเหมือนกัน เพราะว่ากูไม่ได้ชอบมันอ่ะ แต่ก็ไใ่อยากให้มันรู้สึกแย่ พยามจะประณีประนอมความรู้สึกทั้งสองฝ่าย แต่มันก็ยากอ่ะ เก็ทป่ะ
ถ้ากูเว้นระยะห่างไปเลย(เพื่อให้มันตัดใจ) เพื่อนก็จะเสียใจ โทษตัวเอง นู่นนี่ ที่หนักๆหน่อยคือมางี่เง่าโวยวายใส่กู ซึ่งกูไม่ชอบมากๆ
ถ้ายังทำตัวเหมือนเดิม กูจะรู้สึกอึดอัด ละเพื่อนมันก็จะตัดใจไม่ได้ซักที
แค่อยากให้มัน move on อ่ะ ไม่อยากให้ยึดติดกับคนอย่างกู 5555555
อือ แต่บางคนพอตัดใจได้ มันก็เอาเรื่องที่กูเคยปรึกษาไปเล่าให้คนอื่นฟังงี้ คือความไว้ใจในช่วงที่เราสนิทกัน มันพังไปเลย
บางทีก็รุ้สึกแค่ว่าแบบ ที่ทำดีด้วยเพราะอยากจีบแค่นี้ พอมีคนใหมาได้ก็ขายกันทิ้งแบบนี้เลยอ่ะนะ โคตรผิดหวังที่กูจริงใจกับมึง มีค่าแค่นี้เองหรอ
ขอระบายหน่อย ตั้งแต่กุขึ้นม.6 มานี่เหมือนกุห่างๆเพื่อนยังไงก็ไม่รู้ เล่าก่อนคือกุเป็นคนค่อนข้างขยันและมองอนาคตอ่ะ กุเลยอ่านหนังสือทุกครั้งที่มีเวลาว่างที่ รร. แต่เพื่อนกุส่วนใหญ่นั่งเล่นทรศ.กัน(มีคนอ่านแบบกุประมาณ 2-3 คน)แล้วการที่กุอ่านแทบตลอดนี่แหละเลยไม่ค่อยได้คุยอะไรกับเพื่อน ตอน ม.5 ยังเล่นๆกันปกตินะ (ตอนนั้นก้อ่านอยู่แต่ไม่ขยันเท่าตอนนี้) กุสังเกตได้เลยว่าเพื่อนเริ่มห่างๆบางครั้งกุพูดอะไรก็เมินหรือตอบกุแบบหน้านิ่งๆ ความจริงกุก็ค่อนข้างน้อยใจแหละ แต่กุก็ต้องอ่านเพื่อสอบให้ได้มหาลัยดีๆ บางทีกุก้คิดนะว่าเพื่อนกุหมั่นไส้กุรึเปล่าคือกุเป็นคนที่ค่อนข้างเก่งอ่ะ รางวัลวิชาการได้มาหลายรายการ บางครั้งก็ไปแข่งเป็นตัวแทน รร. ตอนนี้กุรู้สึกเหงาและน้อยใจมากเหมือนไม่มีเพื่อนเลย เศร้าชิหัย
เพื่อนไม่ยอมคุยกับกูเพราะกูไปสนิทกับคนที่มันชอบ คือมันเป็นความผิดกูหรอวะที่กุจะมีเพื่อนเยอะ แล้วหนึ่งในนั้นคือคนที่มันชอบ กูไม่ได้ไปแข่งไปแย่งเลยนะ ที่สำคัญคือเค้าเข้ามาหากูเองด้วย แล้วการที่เราจะมีไมตรีกลับไปมันผิดหรอ
กูก้เชียร์ให้มัน บางทียังช่วยหาโอกาสให้มันด้วยซ้ำ แต่แค่การที่กูสนิมกับเค้ามากขึ้น ก็มาโกรธกูเลยหรอ คือกูไม่ควรมีเพื่อนผู้ชายว่างั้น ผู้หญิงแม่งคบยากจังวะ กูโดนตึงใส่จากคนมาสามคนละทั้งเดาสาเหตุได้และไม่ได้ แต่แม่งไม่เมกเซ้นเลย กูยังไม่ได้แย่งเลยนะ ตอนกูหาโอกาสให้ก็ไม่สานต่อเอง กูผิดหมายยยย
กูไม่ได้วางเค้าอยู่ในฐานะคนที่จะจีบเลยนะโว้ย แค่เป็นเพื่อนธรรมดาแล้วมีปัญหามากนัก งั้นกูก็ไม่คบผู้หญิงแล้วก็ได้ อยากได้เค้าก็พยายามดิวะ มาโกรธเวลาคนอื่นไปเป็นเพื่อนเค้ามันใช่หรอ
เบื่อจังไม่มีเพื่อน ไม่ได้เข้าสังคม
ขอปรึกษาหน่อย เครียด+จิตตกมาซักพักแล้ว ขอเล่าตั้งแต่เนิ่นๆ คือตอนเราเข้ามหาลัยมาตอนแรกๆเราก็อยู่กับเพื่อนสนิทที่มาจากโรงเรียนเดียวกัน แล้วตอนนั้นเพื่อนในห้องก็เริ่มจับกลุ่มกันแล้ว ทำให้เราไม่ค่อยสนิทและไม่มีกลุ่มอยู่ในห้อง เวลาทำอะไรไปไหนมาไหนก็ทำคนเดียวตลอด เราลองเข้าหาคนอื่นแล้ว แต่เขาก็มีเพื่อนสนิทกันหมดแล้วเข้าไปแทรกไม่ทันแล้วอ่ะ เวลาไปกินข้าวตอนเย็นจะไปกับกลุ่มเพื่อนผช เพราะมันไปกินข้าวหน้ามอกัน แล้วทีนี้กุชอบเพื่อนผช คนนึงในกลุ่มที่ไปกินข้าวด้วยกัน (แต่มันมีคนที่ชอบแล้ว) แรกๆก็สนิทกัน คุยกันเล่นกัน แต่พอโดนแซวจากเพื่อนในห้อง มันก็เริ่มห่างๆเราไปอ่ะ แบบว่า คุยด้วยก็ไม่ค่อยคุย เล่นด้วยก็ไม่ เวลาเราเดินไปใกล้ๆมันก็เดินหนีอ่ะ คือเครียดมากคือกลัวเสียเพื่อน เพราะเราไม่มีเพื่อนเลย แล้วคือในห้องเราจะเป็นคนที่โดนเมินตลอด ตอนทำกยศ เพื่อนก็ไปกันโดยไม่บอก แล้วเราต้องไปย้อนหลังคนเดียว เวลามีงานอะไรหรือจะไปไหนก็เป็นคนที่โดนลืมตลอดอ่ะ พอโดนมากๆมันเฟล มันเครียด ถามอะไรในกลุ่มเพื่อนไม่เคยตอบเลย ถามงานก็ไม่ตอบ เวลามีเรื่องอะไรพอหันไปจะคุยกับเพื่อนรอบข้าง พอหันไปแล้วไม่มีใครที่จะคุยด้วยได้มันจุกมากๆ แต่เวลามีงานอะไรเราช่วยทำหมด ไม่ว่าจะงานกลุ่มงานเดี่ยว คือเครียดมากจนร้องไห้ ในห้องก็มีคนที่ไม่ชอบเราด้วย ชอบแซะอะไรงี้อ่ะมันทำให้ท้อ ไม่รู้จะเรียกใครว่าเพื่อนได้เลย เหมือนเป็นส่วนเกินของห้อง รู้สึกว่าถ้าเราหายไปคงไม่มีใครรู้สึกอะไรอยู่ดี แล้วเมื่อวานเราถามในแชทว่ามีใครจะไปกินข้าวหน้ามอไหม มีแต่คนอ่านไม่ตอบเราก็นั่งรออ ประมาณครึ่งชม พอถามอีกทีเพื่อนบอกว่าออกมากันแล้วแล้วเราก็ต้องเดินไปหน้ามอคนเดียวตอนทุ่มกว่าๆ เราไม่ได้เป็นคนเข้มแข็งอะไรขนาดนั้นอ่ะ เป็นคนคิดมากแล้วก็เซ็นส์สทีฟด้วย จิตตกสุดๆเลย
กูรู้สึกว่าเพื่อนผู้หญิงคบยากจังวะ คือกูโดนผู้หญิงตึงๆใส่ตลอดแต่ไม่ค่อยมีปัญหากับเพื่อนผู้ชายเลย ทำไมวะ แบบปกติตอนอยู่ในเฟสก็พูดดีด้วย แต่พอเจอกันก็จะทำเหมือนกับกูเป็นคนนอก ไม่คุยด้วย เมิน หรือพูดจาแบบอยากให้กูไปไกลๆ
เอาจริงๆนะถึงเค้าจะไม่ได้แสดงออกประเจิดประเจ้อแต่คนโดนแม่งก็รู้สึกได้ ทั้งๆที่กูก็ทำดีกับทุกคนนะ จะผุ้หญิงหรือชายก็ให้ความสำคัญเท่ากัน แต่พอโดนตึงใส่บ่อยๆกูก็อึดอัดนะ พาลจะไม่อยากคบผู้หญิงไปด้วย ทำไมวะ ทั้งๆที่ตอนแรกก็ดีๆกันแท้ๆ เรื่องเหี้ยๆกูก็ไม่เคยไปทำใส่ใคร หรือเพราะกูสนิทกับเพื้อนเค้าที่เป็นผู้ชายมากไป หรือยังไงวะ กูล่ะงงสัส
แต่กูเนี่ยโดนผู้หญิงหมั่นใส้บ่อยมาก ทั้งๆที่ก็ไม่ได้สวยหุ่นดีด้วย อะไรของพวกแม่งวะ
กูผู้หญิง อันนี้เป็นประสบการณ์กู ผู้ชายคุยง่ายกว่า ตอนทำงานด้วยไม่ค่อยมีปัญหา เคยอยู่กับผู้หญิงนี่งานนึงนัดเป็นสิบ เถียงกันไปเถียงกันมา ตกลงกันไม่ได้ซักที ตอนหลังถ้าหากลุ่มไม่ได้กูก็เข้าไปหากลุ่มผู้ชายขออยู่ด้วยก็ไม่เห็นมีปัญหา ส่วนผู้ชายที่มักจะมีปัญหาส่วนใหญ่เป็นเพศที่สาม ต้องเป๊ะๆๆ แต่เพศที่สามก็มักจะไปอยู่กับผู้หญิงอยู่แล้ว อีกอย่างคือกูเหม็นเครื่องสำอาง เหม็นน้ำหอมผู้หญิง เหม็นอะไรหวานๆ ขึ้นลิฟต์ทีนี่แม่งมาหมด วนิลา กุหลาบ ขนมอะไรซักอย่าง แล้วกูก็คุยกับผู้หญิงไม่รู้เรื่องด้วย สนใจคนละแนวกัน
>>159 ตกลงเพื่อนสนิทที่มาจากโรงเรียนมึงอยู่ไหน จับมันมาถามเลยว่า มึงไปทำอะไรให้ใครไม่อยากคบ ดูแล้วมึงเหมือนไม่รู้ตัวเลย กูว่ามันต้องมีสาเหตุ เขาแซะมึงเรื่องอะไรกัน
ปกติคนที่ไม่สนิท กูก็คุยด้วยหมดนะ ยิ่งเปิดเทอมใหม่ๆกูคุยดะ จะแบนใครก็มักมีเรื่องนิสัยเป็นหลัก มึงต้องถาม ขอร้องเพื่อนเคยสนิทคนนั้นให้มันช่วยมึง จะได้แก้ถูกจุด
ของกูนี่สมัยมัธยมเพื่อนผู้หญิงนี่ดี แต่ผู้ชายแย่มาก ต่อหน้าก็ทำเป็นปกติแต่นินทากันลับหลังแรงมากๆ พอกูรู้ตัวก็รวมหัวกันเมินกู
กูเคยอยู่กับเพื่อนผู้หญิงเจ็ดแปดคน บอกเลยอีเหี้ยงูพิษ แย่งรุ่นพี่ ขิงกัน คุยกันอยู่ดีๆพอคนนึงลุกหนีแม่งนินทาอีกคนที่ลุก จุกจิกไม่เข้าเรื่อง ไปเยี่ยวก็ต้องชวนกันไป ทำงานห่าเหวอะไรก็เถียงกันวุ่นวายไปหมด
พอกูเปลี่ยนที่เรียน กูอยู่กลุ่มสี่คน เพื่อนผู้ชายสาม เก้งสองโอตาคุหนึ่ง แต่คบแล้วสบายใจชิบหาย คุยง่าย เพื่อนเก้งกูดูแลกูดีมาก เป็นเพื่อนสาว เป็นเจ๊ เป็นขุ่นแม่ ไอ่ที่เป็นโอตะก็ง่ายๆสบายๆ กวนตีนๆ คบสามคนนี้แม่งโคตรดีกว่าตอนมีเพื่อนผู้หญิงเป็นสิบ
อ่ะกูลืม >>159 อยู่มหาลัยแล้วเหรอ กูบอกเลยมึงต้องหัดอยู่คนเดียวให้ได้ ไปไหนคนเดียวให้ได้ ไม่ต้องรอใครทั้งนั้น มีคนมากมายบนโลกที่รอทำความรู้จักกับมึงมากกว่าพวกนี้ อย่าลืมว่าตัวมึงใจมึงสำคัญที่สุด เซ็นซิทีฟกับตัวเอง อย่าไปเซ็นซิทีฟกับคนอื่น ไม่มีใครอยู่กับมึงตลอดไป ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ก็จะเหลือแค่มึงที่อยู่กับตัวมึง ดูแลตัวเองให้ดีที่สุดก็พอ
กู >>161 นะ คือแบบแม่งไม่ใช่แค่คนเดียวนะที่หมั่นกูอ่ะ มีช่องให้กัด ก็กัดกูตลอด มีอะไรหักล้างความน่าเชื่อถือกูได้ก็ทำ ถึงขนาดให้ไปคุ้ยขยะมาเพื่อหาข้อโต้แย้งในสิ่งที่กูพูดเลยอ่ะ ทั้งๆที่ได้คำตอบแล้วด้วยนะไม่จำเป็นต้องหาหลักฐานมายืนยัน แต่ลงทุนทำขนาดนั้นเพื่อความสาแก่ใจ เสร็จแล้วก็ยิ้มเยาะ
คือพอใจมากมั้ยอ่ะที่แบบได้กดกูให้จมตีนไปเลย เรื่องเล็กๆ เรื่องไม่เป็นเรื่องก็ทำซะยังกับมันใหญ่โต กูล่ะโมโหหนักมาก มองหาประโยชน์จากสิ่งที่ทำไม่เจอนอกจากการได้ฉีกหน้ากัน การได้บอกว่าตัวเองถูก เบื่อสัส กูยังไม่ทำถึงขนาดนี้กับใครเลยนะ มันเหี้ยไรวะ ทำไมต้องเกลียดกูกันขนาดนั้น กูนี่แม่งขวางหูขวางตามากรึไง
เพื่อนสนิทกูก็มีแต่คนออกไปทางแมนๆทั้งนั้นเลย เออ คบผู้ชายแม่งง่ายกว่าเยอะเลยสัส
กูเบื่อเพื่อนกูมาก นิสัยนาง แบบกูพูดไรไม่ตั้งใจฟัง แต่ชอบตามน้ำ คือจะว่าอยู่เป็นก็อยู่เป็น แต่กูดูออกว่าไม่จริงใจกะกูอะ
อย่างกูเล่าเรื่องๆนึง ไปงี้ แม่งยังไม่เข้าใจเลยว่าพุดเรื่องอะไร รัวเลขห้ามาก่อนเลย เนียนๆเหมือนรุ้เรื่อง
เคยบอกมันตรงๆแล้วว่าถ้าไม่เก็ทไม่อินก็พูด แสดงตัวเองออกมา จริงใจกะกูหน่อย ทำแบบนี้มันปลอม มันก็เออๆขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจ ไม่อยากขัดมึง
แล้วก็เหมือนเดิม เวลาเม้าใครแม่งเออออตามไปหมด ย จนเริ่มคิดว่าควรคบมันต่อดีมั้ย หรือเฟดแม่งห่างออกมาดี เพราะมันก็ไมไ่ด้สนิทกับกูคนเดียว สนิทคนไปทั่ว น่ากลัว
ไม่รู้จะถามตรงไหนขอถามมู้นี้ละกัน ในนี้มีใครอยู่ มก แล้วสักบ้าง พอดีกูอยากไปสักตรงแขนอ่ะ กูอยากรู้ว่ามันจะมีปัญหาอะไรป่าว
>>170 วิทยาเขตไหนอ่ะ ศรีราชาห้ามให้เห็น บางเขนไม่ได้มีบอกเป็นพิเศษแต่เอาให้ชัวร์ไปถามองค์การนิสิต แต่อาจารย์ในม.รุ่นใหญ่ๆกุก็กลัวจะมาคอยจับผิดมึงมากกว่า เอาให้ปัญหาน้อยสุดสักใต้ร่มผ้าหรือเล็กๆพอเอาคอนซีลกลบได้ ถึงมึงเป็นนิสิตชายก็ใส่เสื้อแขนยาวก็คงไม่ได้อีกอ่ะพอพละก็ต้องใส่แขนสั้นอยู่ดี
>>171 ร้านปกติเค้าเทพวกสีกับน้ำออกมาแบ่งไว้ในถ้วย/แก้ว แบบใช้แล้วทิ้งให้เห็นเลยนะ เอาจากขวดมันลำบากเลอะเทอะกว่าอีก แต่ก็นั่นแหละ ดูร้านดีๆละกัน
กูเปิดเว็บเครื่องสำอางแล้วกูก็วี้ดว้ายกับเพื่อนไปตามประสาผู้หญิงว่าจะซื้อตัวไหนก่อนดี คือมันก็เป็นเซ็ตเครื่องสำอางราคาแพงประมาณ 10000+ แต่กูอยากได้มาก เสือกโดนบอกว่าไม่ต้องซื้อหรอก เอาเงินมาให้มันยืมจะดีกว่า แล้วมันก็ยืมเงินกู กล่อมกูสารพัดว่าเครื่องสำอางซื้อเมื่อไหร่ก็ได้ แต่เพื่อนเดือดร้อนควรช่วยเพื่อน พอกูทำท่าจะไม่ให้ยืมจะไปซื้อเครื่องสำอางมันก็น้อยใจนั่นนี่ กูควรทำไงดีวะ เงินกูก็ควรซื้ออะไรที่กูอยากได้ แล้วซื้อทีหลังอาจจะไม่ได้ราคานี้แล้ว แต่มันจะยืมตังหมื่นนึงกูเห็นแววว่าไม่ได้คืนแหงๆอะดิ
ปรึกษาหน่อยคือเพื่อนสนิทกูคบกันมาตั้งแต่ม.ต้น แม่งชอบยืมเงิน ก็มียืมๆคืนๆมาเรื่อยๆตั้งแต่ช่วงมหาลัย ส่วนนึงเพราะแม่งชอบแทงบอลและกีฬาอื่นๆทางเว็บ พอทำงานช่วงปีก่อนดีขึ้น มันบอกว่าเลิกเล่นแล้ว แต่เดือนที่ผ่านมาช่วงบอลโลกนี่เกิดมายืมเงินอีกแล้วซึ่งกูก็ไม่รู้นะว่าเกี่ยวกับบอลโลกมั้ย ถามแม่งก็บอกเลิกแล้วแต่กูเห็นแม่งมีเข้าเว็บพนันเรื่อยๆ(ซึ่งแม่งบอกเข้าไปดูถ่ายทอดสด)
ทีนี้ที่หนักคืออาทิตย์ที่ผ่านมาแม่งซมซานมาบ้านกูไม่พูดไม่จาบอกมีเรื่องอยากพักใจไรงี้ กูก็ให้ขึ้นบ้านไป เสือกเดินไปทำท่าจะเอาดิ้วเหล็กของกูตีหัวตัวเอง ซักพักถามครัวอยู่ไหนมีมีดมั้ยจะเอามีดฆ่าตัวตาย มีบอกถ้าโดดลงจากระเบียงสองชั้นจะตายมั้ยอีกกูก็ถามไปมาตกลงบอกว่าแม่แฟนป่วยเลยเอาเงินบริษัทไปช่วยแสนกว่าบาท จนตอนนี้ความแตก แฟนหนีไปแล้วไม่รู้ไปไหน จะโดนไล่ออกโดนเค้าฟ้องติดคุก ที่บ้านก็ไม่ช่วยโดนพ่อไล่ออกจากบ้านมา พ่อบอกเห็นผู้หญิงดีกว่าพ่อแม่เลยโกรธจัดขู่จะเอาปืนยิง ก็ระบายไปเรื่อยๆกูแม่งเริ่มเอะใจขึ้นมาละ หลังจากระบายไปชั่วโมง2ชั่วโมงก็ตามคาด แม่งจบลงที่อยากขอให้พ่อกูช่วยให้เอาบัตรเครดิตไปซื้อทองแล้วขายเอาเงินมาใช้บริษัทส่วนนึงซัก3หมื่น(กูใช้บัตรเสริมของพ่ออยู่) กูก็เห้ยแม่งไม่ใช่ละแม่งจะให้โทรขอพ่อให้ได้เลย อิดออดอยู่พักใหญ่ๆแม่งก็ก้มหัวขอร้องเลยว่ะจนกูต้องยอมจนได้แต่แน่นอนพ่อกูไม่ให้แล้วด่าเช็ดเลยบอกอยู่ดีไม่ว่าดีเสือกจะหาหนี้ให้พ่อใช้แทนคนอื่นหละ มันก็ยังตื๊อเว้ยจนสุดท้ายพ่อกูบอกถ้ากูจะช่วยก็เอาเงินเดือนที่กูเก็บไว้ในบช.เตรียมซื้อหุ้นสะสมทุกเดือนให้มันไป ของเดือนนี้ยังเหลือหมื่นกว่าๆ กูก็เสียไม่ได้ต้องโอนให้แม่งไป แต่แม่งก็บอกยังไม่พอเลยขอค้างซักคืน ใช้คอมติดต่อคนโน้นคนนี้ทางแชทเฟสตลอด มีคุยโทรศัพท์เถียงกับที่บ้านกับบริษัทเรื่อยๆ จนตอนเช้าบอกเงินเกือบครบแล้วเลยกลับไป
ทีนี้พอวันจันทร์มาบอกว่าโอเคละ ที่ทะเลาะกับที่บ้านก็ตกลงกันได้กลับไปง้อเค้า บริษัทยังให้ทำงานต่อแต่ต้องหักเงินส่วนที่เหลือใช้เค้า แล้วเงินบริษัทก็ยังได้ถืออยู่นะแต่ต้องมีคนอื่นเซ็นให้ก่อนด้วยเวลาเอาไปใช้ บอกจะค่อยๆผ่อนคืนกู ส่วนผู้หญิงที่ไปเปย์ก็ไม่ใช่ว่าที่เมียที่จะแต่งด้วย เป็นอีกคนที่คบซ้อนอยู่ กูก็เอ๊ะแม่งแปลกๆว่ะ จากเรื่องที่ดูหนักเหมือนแม่งจบง่ายไงไม่รู้แถมรายละเอียดบางอย่างแม่งเปลี่ยนไป ที่กูงงคือยักยอกเงินบริษัทนะเว้ยแม่งยังให้ทำงานอยู่ได้ไงวะถึงจะคืนแล้วไม่ฟ้องแล้วมันก็น่าจะโดนไล่ออกปะ มันบอกหัวหน้าช่วยปิดให้เพราะเอาเงินไปคืนส่วนใหญ่แล้ว แต่ตอนแรกบอกโดนไล่ออกแล้วนี่หว่า -*- คือตอนนี้กูไม่รู้แล้วว่าถ้าแม่งบอกว่าแย่แล้วๆนี่คือมันแย่จริงรึเปล่า ที่เล่าให้กูฟังนี่จริงซักกี่เปอร์เซน ถ้าครั้งนี้แกล้งคือเล่นใหญ่มากขนาดจะฆ่าตัวตายเลยนะเว้ย แล้วต่อไปจะเชื่ออะไรมันได้มั่ง พ่อแม่กูก็เตือนว่าแบบนี้อันตรายต่อไปจะยืมมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าต้องทำใจตัดเพื่อนก็ต้องทำ แต่กูก็กลัวนะว่าถ้าตอนไหนเกิดเรื่องจริงแล้วกูไม่ให้แม่งจะไปฆ่าตัวตายจริงไหม นี่กูก็พยายามพูดเตือนเรื่องพนันบ่อยๆมาตลอดอยู่แล้ว เรื่องใช้เงินเปย์หญิงก็เคยคุยกันมาบ้างแล้ว แม่งทำไมคิดไม่ได้วะ ตอนนี้กูก็ได้แต่เตือนเรื่องใช้เงินก็ไม่รู้จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาอีกเมื่อไหร่ แม่งเงินเดือนมันเยอะกว่ากูอีกทำไมเป็นงี้ก็ไม่รู้
>>178 เรื่องที่เพื่อนมึงพูดน่ะจะเชื่อได้กี่เปอร์เซ็นต์กัน
ไม่มีหรอกโว้ยขโมยเงิน บ. แล้วเค้ายังให้ทำงานต่อน่ะ + เรื่องจบง่ายเกิน
ถ้ามีประวัติติดพนันด้วยนี่ กูเดาว่าจะยืมเงินมึงไปจ่ายที่ค้างโต๊ะบอลน่ะแหละ มันเล่นใหญ่เพราะถ้าขอมึงไปจ่ายโต๊ะบอลมึงไม่ยอมแน่ๆ
พวกนี้กูเคยรู้จัก โกหกได้ทุกอย่างเพื่อเอาเงินไปจ่ายพนัน กูเคยเจอหนักสุดก็หลอกเอารถแฟนไปขาย เลวชาติมากๆ เป็นไปได้มึงตัดมันดีกว่า
เกิดมา20กว่าปีไม่เคบเจอความคิดแบบนี้
คืองี้ อาจารย์สั่งงานกลุ่ม แล้วส่งพร้อมกัน2งาน งานแรก10คะแนนงานสอง20คะแนน แล้วในกลุ่มใหญ่ก็จะมีกลุ่มกูกับอีกกลุ่ม คือไม่สนิทกัน แล้วคือกลุ่มกูก็ไปของาน10คะแนนมาทำเองคือแบบแบ่งงานกันทำไปเลยเพราะกลุ่มกูคนน้อยกว่า แล้วอีกกลุ่มมันไม่ให้เว้ย เหตุผลของมันคือ ถ้าแยกกันทำแล้วเหมือนกลุ่มเขาทำงานหนักกว่าแล้วพวกกูได้คะแนนเยอะฟรีงี้ พวกกูก็เงิบไปดิเถียงไม่ออก แต่ไม่เคยเจออะไรแบบนี้จริง
>>180 บางคนเค้ารักษาผลประโยชน์ตัวเองน่ะ อยู่ที่ดีเทลงานด้วย บางทีงาน 20 คะแนนมันมีดีเทลเยอะกว่าก็เหมือนมึงเอาเปรียบมัน
หรืออีกประเด็นคือ คนในกลุ่มใหญ่มันไม่ค่อยทำงานกัน คนที่โวยน่าจะรู้ว่าเอางาน 20 คะแนนมาน่าจะมีคนทำไม่กี่คนที่เหลือเกาะเป็นปลิง
มึงก็ให้ทั้งกลุ่มทำๆแม่งทั้ง 2 งานให้มันจบๆไปน่ะแหละไม่ต้องแบ่ง
>>179 เรื่องบ.ตามคอมมอนเซนส์ก็ควรจะแบบนั้นแหละ แต่กูก็เผื่อใจไว้นิดนึงว่ากูอาจมีปสก.ทำงานบ.น้อยกว่ามันเพราะของกูเพิ่งทำที่แรกส่วนมันเปลี่ยนงานมาบ่อยแล้ว แต่ถามใครๆเค้าก็พูดเหมือนมึง5555 บ.แม่งค่อนข้างใหญ่ด้วยนะไม่ใช่กิจการครอบครัวไรงี้ ครั้งนี้เรื่องที่มันเล่าแม่งแหม่งๆเกือบหมดเลย
ตอนนี้กูก็คุยๆดูท่าทีไปก่อน พอคิดๆดู รู้สึกเหมือนมันเริ่มพูดเรื่องพวกเรา(กู มันและเพื่อนอีก5-6คน)คบกันมานานตั้งแต่ม.ต้น ผูกพันกันมานานบลาๆๆมาพักนึงตั้งแต่ก่อนเกิดเรื่องนี้ละ นี่เมื่อวานโทรมาก็ยังพูดเรื่องนี้อยู่ไม่รู้ว่าเป็นจิตวิทยาให้กูใจอ่อนเบิกทางสำหรับการขอยืมเงินรึเปล่า ห่าตอนนี้แม่งทำอะไรกูก็ระแวงไปหมด แต่อีกใจก็เพื่อนกันมานานถ้าไม่ถึงที่สุดก็ไม่อยากตัด แถมนอกจากมันในกลุ่มกูก็ไม่ได้สนิทกับคนอื่นเท่านี้
>>182 ให้มึงบ่นๆเรื่องเงินให้มันฟัง แบบอยากได้นั่นนี่แต่ไม่ค่อยมีเงินเลยว่ะช่วงนี้ เวลามันยืมเงินจะได้บอกว่าไม่มีได้เต็มปาก
ถ้ามึงอยากรู้ความจริงต้องถามที่บ้านมัน แต่ถ้ามันรู้มีวงแตก 555
ปล. เรื่องมันขโมยเงินไปช่วยแฟนแม่งโคตรแปลก เหมือนเรื่องแต่ง มึงไม่รู้จักแฟนมันใช่มะ?
>>185 กูก็พูดเรื่อยๆมานานหลายปีแล้วแหละเรื่องพ่อแม่ไม่ค่อยให้เงิน เงินเดือนจะเข้ากองกลางให้พ่อแม่หมดไรงี้ซึ่งส่วนนึงก็จริงด้วย แต่แม่งก็ยังจะยืม555 ต่อไปก็ต้องปฏิเสธจริงจังแล้วแหละ ต่อไปคงต้องเริ่มพูดว่าถ้ามีอะไรมากูช่วยไม่ได้ละนะไรงี้ เพราะกูเริ่มรู้สึกเหมือนมันหรืออาจจะบ้านมันด้วยเห็นกูเป็นของตายว่ะ คือทางบ้านพ่อแม่แม่งเหมือนปัดสวะอะ มีเหี้ยไรมามันก็จะบอกพ่อแม่ไม่สนไม่ช่วย แล้วสุดท้ายก็คือทางกูที่จะต้องให้ยืมมากบ้างน้อยบ้างแต่ก็ต้องให้แบบเสียไม่ได้ตลอด แล้วตอนนี้ก็จะเริ่มลามมาพ่อกู พ่อกูบอกกลัวมรดกที่จะให้กูกลายเป็นขายบ้านใช้ให้พวกแม่งหมดจะชิบหาย
ส่วนแฟน คนที่แม่งบอกจะแต่งเป็นเมียกูไม่รู้จัก แค่เคยได้ยินผ่านที่มันเล่าให้ฟังตลอดมาหลายปี ส่วนคนที่เป็นปัญหาเนี่ยยิ่งไม่รู้จักมากกว่า เพราะเป็นคนที่มันคบซ้อน เพิ่งเล่าให้ฟังได้ไม่กี่เดือนมั้ง รายละเอียดรู้ไม่เยอะ เคยเห็นแค่รูป
มึงทำไงดี บางทีกูก็อยากมีโมเม้นไปเที่ยวเล่นไรงี้กับเพื่อนมั่งนะเว้ย แต่พอกูชวนทีไรแม่งก็ตอบกูแบบ ไม่ไปอ่ะ ขี้เกียจ ไรงี้อ่ะมึง บางทีกูก็นอยนะ ชวนแล้วไม่ไปแม่งรู้สึกเหมือนตัวเองไม่สำคัญเลยว่ะ
เบื่อเพื่อนคนนึง บ้าทำกิจกรรมมอชนิดที่ร่างพังก็ไม่หยุด ยอมขาดเรียนไปทำงาน โดดงานกลุ่ม อดนอนประชุมงานมอจนดึกดื่นละตื่นสาย ก็มาสาย ขาดเรียน ทุกวันนี้ร่างกายมีปัญหาสารพัดทั้งขาทั้งเข่าทั้งระบบทางเดินอาหารเพราะชีวิตที่แม่งกินนอนไม่เป็นเวลา แต่บอกรึด่าให้ตายยังไงก็ไม่สน จะทำ กูจะทำ กูต้องทำอยู่นั่น ขนาดเพื่อนนัดทำงานด่วนก็ไม่ยอมมา บอกนั่นงานใหญ่นี่งานเล็กจนเพื่อนเอือมกันหมด ทะเลาะกับเพื่อนที่ทำวิจัยคู่กันเพราะไม่ยอมไปช่วยทำแล็บเก็บผล แต่พยายามเตือน บอกกล่าวยังไงก็ไม่ฟังเลย จนกูปลง เตือนเท่าที่มันซีเรียส ที่เหลือมึงจะไม่มาจนโดนเพื่อนเกลียดก็เรื่องของมึง คนดื้อด้านดันทุรังในเรื่องแบบนี้จะทำยังไงถึฃจะเปลี่ยนความคิดวะ รึควรปล่อยแม่งไปให้ชีวิตมันพังไปตามยถากรรมของมันเองดี ทุกวันนี้ที่ไม่ยอมปล่อยก็เพราะคำว่าเพื่อนมันค้ำคอ แต่ก็เกินจะทนแล้วเหมือนกันบางที
>>190 ถามจริง มึงจะไปแคร์ทำไมวะ มันยังไม่แคร์ไม่ห่วงอนาคตตัวเองเลย มาเรียนมหาลัยนะโว้ย เป้าหมายหลักของมึงคือเรียนให้จบ เก็บความรู้ให้แน่นๆ ทำพอร์ตให้เยอะๆก่อนจบ ออกไปทำงานจริงๆเด๋อๆด๋าๆไม่รู้เรื่อง ความรู้ไม่แน่น โดนเค้าดูถูกอีก มึงไม่ต้องไปห่วงมันหรอก ห่วงตัวเองดีกว่า ถึงขั้นทิ้งงานกลุ่ม ทิ้งงานวิจัยคู่เพราะบ้ากิจกรรมได้ นี่มึงควรจะตัดได้แล้ว
มึงเป็นเพื่อนนะ ท่องไว้ ไม่ใช่พ่อแม่มัน โตเป็นควายเป็นปัญญาชนขนาดนี้ยังคิดไม่ได้ว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ เรียงลำดับความสำคัญไม่ได้ มึงก็ปล่อยมันไปเถอะ เดี๋ยวมัน F มันติดโปร โดนไทร์แล้วเดี๋ยวมันก็ตาสว่างเอง ไม่มีใครทำให้มันคิดได้หรอกพวกเหี้ยนี่กูเจอตอนเรียนจนเบื่อละ นอกจากมันจะโดนแบบที่กูบอกอะถึงจะตาสว่าง
ช่วยเท่าที่ช่วยได้ เอาเท่าที่ไหว เพราะมึงคือเพื่อน ไม่ใช่พ่อแม่มัน มึงท่องไว้ มันไม่ทำก็ตัดมันออกจากกลุ่มไปแค่นั้น มึงเลือกเอาว่าจะรักษาเพื่อนดีๆที่ช่วยกันเรียน กับเสียเวลาไปตามรักษานํ้าใจว่าจะต้องช่วยเพื่อนช่วย คนแบบนี้คนเดียวที่จะทำให้เหนื่อยและปวดหัวกันไปหมด
มึงสมมุติมึงมีเพื่อนกลุ่ม 1 แต่เขาไม่ค่อยคุยไรกับมึงมาก แต่ก็คุยบ้างอะ (แต่แบบไม่สนิท แต่กูอยากสนิทกับเขา) แล้วพอกลุ่มมีเพื่อนเขามาใหม่ แม่งสนิทกว่ากูอีก
ถามว่ากูเคยทำอะไรให้คนในกลุ่มไม่พอใจไหม ก็มีบ้าง
คือ กูควรทำไงวะ กูรู้สึกเหมือนโดนมองข้ามอะ โคตรน้อยใจเอาจริงๆ ในกลุ่มก็มีที่ให้ปรึกษานะ แต่กลัวเขาบอกว่าคิดมาก
>>192 อะไรที่มึงเคยทำให้คนในกลุ่มไม่พอใจล่ะ ถ้ามึงรู้ตัวแล้วก็อย่าทำซํ้า แค่นั้นแหละ
อะไรที่ไม่ดีที่เคยทำให้คนอื่นไม่ชอบมึงก็อย่าทำอีก อยู่กับคนหมู่มากก็ต้องเก็บนิสัยแย่ๆหรือที่คนในสังคมเค้าคิดว่าไม่โอเคไว้ที่บ้าน
ของอย่างนี้มันต้องใช้เวลาหน่อยว่ะ ก็ทำตัวปกติอย่าทำนิสัยแบบนั้นอีก ปรับตัวให้ดีขึ้น ใช้เวลานานหน่อย เดี๋ยวเพื่อนมึงก็คงเห็นเองว่ามึงเปลี่ยนแล้ว
แต่ถ้าทำแล้วยังไม่เวิร์คเค้ายังเมินอีก ก็ต้องแล้วแต่มึงจะพิจารณาแล้วล่ะว่าจะอยู่กับพวกนี้ได้รึเปล่า
>>194 ปกติในกลุ่มสังคมมันจะมีการจัดอันดับความสำคัญบุคคลอยู่แล้ว ในกรณีนี้คือมึงไม่ค่อยมีความสำคัญกับกลุ่มไงมีก็ได้ไม่มีก็ได้ +เพื่อนที่เข้าใหม่อาจจะเข้าสังคมเก่ง คุยเก่งมันก็เรื่องธรรมดาว่ะ
กูก็เป็นคนอยู่ในเงามืดของกลุ่มมาตลอดตั้งกะเรียนจนจบ ความเห็นกูถึงจะถูกต้องแต่ถูกมองข้ามเสมอ มีช่วงน้อยใจไม้ก็มี เพียงแต่มองๆไปก็มีคนอย่างกูอยู่ในกลุ่มอีกหลายคน กูเลยไม่คิดมากไปเฮฮากะคนที่ถูกจัดอันดับในกลุ่มไว้ต่ำแบบกูแทน
ถ้าสมมติแชร์คลิปหมาแมวให้เพื่อนผุ้ชายทางอินบอปซ์ มันจะดูเหมือนเราไปจีบมันมั้ยวะ
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.