>>>/lifestyle/1579/ โม่งปรึกษาปัญหา&นินทาญาติพี่น้อง
>>>/lifestyle/3178/ โม่งปรึกษาปัญหา&นินทาญาติพี่น้อง ||
Last posted
Total of 1000 posts
>>>/lifestyle/1579/ โม่งปรึกษาปัญหา&นินทาญาติพี่น้อง
>>>/lifestyle/3178/ โม่งปรึกษาปัญหา&นินทาญาติพี่น้อง ||
กูรู้สึกว่า แม่กูเห็นหัวญาติมากกว่ากูว่ะ เฮ้อ เหนื่อย กูควรทำไงดี
กูไม่ชอบป้ากูเลยว่ะ คือกูไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ กูอยู่กะบป้าตั้งแต่เด็ก ป้ากูเป็นคนที่คิดร้าย คิดในแง่ลบมาก ใครเข้าหาก็หาว่าเขาหวังผลประโยชน์งั้นงี้ แต่เรื่องนั้นกูเบื่อจนเลิกสนใจไปละ แต่ที่ทำให้ไม่ชอบสุดๆ รำคาญมากๆคือ คิดแต่ว่าความคิดตัวเองถูกต้อง ตอแหลขี้แถไม่สิ้นสุด
เรื่องแรก กูมีบ้านที่แม่กูให้ไว้ 3 หลัง ตอนนี้กูอายุก็ 22 ละ เรียนจบกูก็จะกลับไปอยู่บ้านตัวเอง แต่บ้านมั้งสามมีคนเช่าอยู่ทุกหลัง กูเลยตั้งใจว่าจะรอให้บ้านหลังนึงที่เป็นนักศึกษาเช่าออกก่อนค่อยกลับไปอยู่ เพราะเขาก็ใกล้จะจบแล้ว ทีนี้ ป้ากูรู้ว่ากูอยากกลับไปอยู่บ้าน ก็ไปไล่เขาออก ไปหาว่าเขาดูแลบ้านไม่ดี ไปพูดจาไม่ดีกับเขา แล้วจบประโยคด้วย "หลานฉันจะกลับมาอยู่แล้ว ออกๆไปเลย" อีห่า กูเสียสิ ละไปไล่เขาออกกูก็แบบ เออ ฝั่งเราผิดสัญญาไง กูก็เลยไม่คิดค่าเช่าเดือนสุดท้าย ไม่เก็บไม่อะไร ค่าน้ำไฟก็เดี๋ยวจ่ายเอง เงินมัดจำก็คืนหมด เพราะ"ฝ่ายกูผิดสัญญา" ผ่านไปเดือนนึง พอป้ากูรู้ว่ากูคืนเงินมัดจำ ไม่เก็บค่าเช่าเดือนสุดท้ายก็ได้ด่าเขางห้องเรียน ที่มหาลัย ไปแจ้งมหาลัยงั้นงี้ ว่าเด็กมันหนีหนี้ ไปทำเขาขายหน้า เด็กมันก็อายจนเหมือนจำใจยอมจ่ายค่าเช่ากับคืนเงินมัดจำมา ละป้ากูก็ไม่เล่าเรื่องนี้ให้กูฟังด้วยนะ จนแม่เด็กโทรมาด่ากูที่ไม่รู้เรื่องห่าเหวอะไรเลยย
เรื่องสอง คนเช่าบ้านอีกแหละ มีหลังนึงที่บ้านจะใกล้บ้านป้ากู ละตอนนั้นกูต้องอยู่ตจวหลายเดือนเลย กูเลยวานให้ป้าไปดูว่า คนเช่าที่จะย้ายเข้าเขาทำอะไรกับโต๊ะเครื่องแป้งของแม่กูไหม กูแค่กลัวเขาเอาออก กูเลยบอกให้ป้าไปดู ย้ำว่า ดูเฉยๆ ว่าของอยู่ไหม สรุป ป้ากูไปขนกลับมา ขนตู้เสื้อผ้า เตียง ตู้เย็น ทีวี ตู้กับข้าว เตาแก๊ส พูดง่ายๆ เฟอร์นิเจอร์ในบ้านป้ากูขนกลับมา จนคนเช่าโทรมาถามกูว่า "ไหนตกลงว่าจะมีเฟอร์นิเจอร์ให้ ทำไมต้องมาขนไปด้วย" กูก็โทรไปหาป้ากู ป้ากูบอก "มันบอกให้เอาไปเลย ไม่ได้ใช้ เอาออกไปให้หมดเลย เพราะมันมีของมันเอง" แบบเนี้ยะะะ เอ้า ละกูต้องเชื่อใคร ป้ากูอาจไปวีนมา แล้วคนเช่าอาจจะพูดจริงแต่ในเชิงประชดประชันหลังป้ากูวีนใส่เขา แต่กูไม่ได้บอกให้เอากละบมา กลายเป็นกูเสียอีก ต้องลดค่าเช่าให้เขาเพราะไม่มีเฟอร์นิเจอร์ให้
เรื่องสาม เรื่องเพื่อน กูคบเพื่อนป้ากูก็มองเพื่อนกูเลววววววววววววทุ้กกกกคน "มันเกาะเรากินน่ะสิ" "มันหวังให้เราเลี้ยงข้าวน่ะสิ(กูไม่เคยเลี้ยงข้าวใคร)" "พามันเข้าออกบ้านบ่อยไง ของเลยหาย(บ้านกูของไม่เคยหาย)" "คบไปทำไมเพื่อนแบบนี้ จะหาเพื่อนทำไมไม่หาเพื่อนที่ดีๆมีเงินเยอะๆมีลู่ทางทำมาหากิน(หาเพื่อนหรือหาผัว)" "คบเพื่อนระวังมันหลอกไปขายตัว" "คบเพื่อนหัดศึกษาครอบครัวเยาด้วย ถ้าจนอย่าไปคบ" บลาๆๆๆๆ อีกเยอะ กูล่ะเพลีย
เรื่องสี่ เรื่องแฟน อีหรอบเดียวกับเพื่อน กลัวเขามาเกาะกู กลัววววววไปหมด แล้วก็บอกว่ามีแฟนไม่ดีอย่างงั้นอย่างงี้ เหมือนๆที่บอกว่าเพื่อนไม่ดีนั่นแหละ
เรื่องห้า เรื่องกินข้าว คือกูจัดฟัน แล้วฟันกูซี่เล็กมากกกกกก ขนาดแปรงที่เป็นซี่ๆที่หมอให้แปรงตามซอกเหล็กยังแปรงไม่สะอาดเลยยยยยยย เอาเศษอาหานออกมายังลำบาก กูเลยไม่ค่อยกินข้าวสวย เพราะเวลาติดฟันเอาออกยาก กูเลยชอบกันข้าวต้มกับปลาบ้าง กุ้งบ้าง ไข่บ้าง กูก็โดนป้าด่า บอกให้กินข้าวสวย กินข้าวเยอะๆ แล้วชอบบังคับให้กูกินข้าว แล้วเวลาตักให้กูที 3 ทัพพีพูนๆ พอกูบอกว่าเยอะไปบ้าง ไม่อยากกินข้าวสวยบ้าง ป้าก็จะพูด "ไม่กินข้าวน่ะเลยโง่ กินแต่กับน่ะถึงได้โง่ กินข้าวเยอะๆสิจะได้ฉลาด" คือ ตรรกะไหนของป้ากูวะเนี่ยยยย แล้วเวลาป้ากูกินนะ ไม่ถึง5นาทีหมด เหมือนยัดเข้าปากแล้วกลืนเลย กูกินกูก็เคี้ยวไง ยิ่งจัดฟันอีก โอ้ยยยยยยยย กูยิ่งช้าไปอี้กกกกก ป้ากูก็ด่ากูอีก "แดกช้าไงเลยโง่ อาหารมันเย็นหมดแล้ว กินแต่อาหารเย็นๆชืดๆมันเลยไม่มีสมอง" อะไรแบบเนี้ยะอะ
กูไม่แปลกใจเลย ที่ป้าไม่มีลูกไม่มีผัว
ละพอกูจะพูดจะอธิบายอะไร ก็ไม่ฟัง หาว่ากูมั่วบ้าง โง่บ้าง ไปเรียนรู้อะไรผิดๆมาบ้าง ขนาดกูป่วย เป็นกล้ามเนื้อที่หลังกับขาฉีก ป้ากูยังบอกเลย "ไปค
ดว่ามันเป็นมันก็เป็น ถ้าคิดว่าไม่เป็นอะไรก็จะไม่เป็น" คือ มึง ...กูโดนรถชนมา จะต้องคิดว่าไม่เป็นไรอีกเหรอ พอกูบอกว่ากูโดนรถชนมา ป้ากูก็บอก "ป้าก็เคยโดนรถช้า ยังไม่เจ็บเลย วันต่อมาก็ทำงานได้ตามปกติ" โอ้ยอีห่า มนุษย์ป้าหรือเทอร์มิเนเตอร์วะ
กูพูดอะไรแกก็ไม่ฟัง ครั้นจะทิ้งแกไปก็ลำบากใจเพราะแกเลี้ยงกูมาตั้งแต่เด็ก ทุกวันนี้ได้แต่คิดว่าอยากให้แกตายเร็ว อีห่า บาปชิบหาย
โอ้ย เหนื่อย
ป้ามึงเค้าระแวงว่ามึงจะทิ้งเค้าปะวะ แล้วรายได้เค้ามาจากไหนหรือว่าเกาะพ่อแม่มึงเหมือนกัน
พักหลังกูทะเลาะกับแม่บ่อยขึ้น ทะเลาะกันแทบจะทุกวัน เพราะกูกำลังจะย้ายไปอยู่หอ ละทีนี้แม่กูก็เลยมาเจ้ากี้เจ้าการใหญ่ นั่นนี่นู่นของต้องเตรียม ซึ่งแค่นั้นกูก็ไม่ว่าอะไร ประเด็นคือกูจองหอได้ชั้นสี่ แม่กูก็ไม่พอใจ จะไปหาผปค.หอ ไปทำเรื่องให้กูย้ายลงมาชั้นต่ำกว่าให้ได้ ซึ่งกูก็บอกไปแล้วว่ามันยุ่งยาก เหตุผลมันไม่เพียงพอ เสือกมาด่าว่ากูไม่เชื่อฟัง ถ้าแม่จะไปหาก็ต้องเดินขึ้นชั้นสี่อีกไรงี้ ซึ่งหอกูเขาไม่ให้ใครขึ้นอยู่แล้วเว้ย แม้กระทั่งผปค.ก็ห้ามขึ้น แต่แม่กูก็ไม่ฟัง เอาตัวเองเป็นหลัก อยากได้ไรต้องได้ ถ้าลูกทำไม่ได้หรือแย้งก็จะด่าว่าไม่เชื่อฟัง โคตรหงุดหงิดเลยห่า
กูทนไม่ไหวกับพ่อตัวเองแล้วว่ะ เขาเริ่มแก่แล้ว(60กว่า) แล้วแม่งชอบหาเรื่องมาทะเลาะกับคนในบ้านตลอด เรื่องเล็กๆก็เอามาทะเลาะหมด ไม่ได้ขึ้นเสียงนะแต่แม่งเอาแต่ใจ แบบกูต้องได้สิ่งที่กูต้องการ กูคิดว่าตัวเองถูกตลอดอะ แล้วแม่งก็พูดประชด โยงไปนู่นนี่ มันทำให้กูปรี๊ดมาก วันนี้ก็ทะเลาะกันแล้วกูก็เดินหนีออกมาแม่ง กูเหนื่อย กูคิดจะฆ่าตัวตายหรือหนีไปไกลๆซะเดี๋ยวนั้น แต่กูก็ทำไม่ได้กูรู้ว่าถ้ากูตายหรือกูหายไปแม่กูต้องเสียใจแน่ๆ กูเลยพักสงบสติชม.นึงละกลับไป สิ่งที่เจอคือแม่กูออกไปตามหากู ส่วนเขาก็อยู่เฉยๆทำนู่นนี่ไป ตอนนั้นกูเศร้ามาก ถ้ากูตายไปแม่กูคงเสียใจ กูรักแม่ แต่กูไม่อยากอยู่กับเขาแล้ว ถึงจะทะเลาะกันเรื่องเล็กๆแต่มันหลายครั้งมากตั้งแต่กูยังเด็ก เมื่อก่อนกูก็สนิทกับเขานะแต่ตอนนี้กูรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่กูไม่อยากยุ่งด้วยไปแล้ว ไม่อยากพูด ไม่อยากมีส่วนเกี่ยวข้องอะไรทั้งนั้นในชีวิต กูอยากตัดเขาออกไปจากชีวิต แม้แต่นามสกุลก็ไม่อยากใช้ กูไม่อยากคุยกับเขาอีกแล้ว แต่บ้านที่กูอยู่ก็บ้านเขา ถ้ากูตัดเขา เขาก็คงบอกว่าให้ออกไปจากบ้านเพราะนี่บ้านเขาแน่ๆ ตอนทะเลาะกับแม่เขายังเคยไล่แม่เลย กูควรทำไงดีวะ ถ้าไม่มีแม่กูคงฆ่าตัวตายไปตั้งแต่ 11ขวบ มึงคิดดูละกันว่าพ่อแบบไหนที่ทำให้เด็กอายุ11คิดฆ่าตัวตายได้จนถึงทุกวันนี้ กูเหนื่อยจัง นอกจากแม่พี่ๆกูก็คงเศร้า กูรักพวกเขานะ แต่กูเหนื่อยเหลือเกิน
ทำไงดีกับยายกูว่ะ ยายกูอายุ75 คือยายกูก็ไม่ได้ป่วยติดเตียงอะไรขนาดนั้นนะ พูดรู้เรื่อง แต่ก็ป่วยตามภาษาคนแก่แหละ แต่ที่กูเครียดคือ แกบ่นว่าอยากตายวันละร้อยรอบเห็นจะได้ แล้วแบบ พอใจแกไม่สู้ร่างกายแกก็ทรุดอ่ะ เรื่องซึมเศร้า กูว่าไม่น่าเป็นว่ะ ถึงเป็นแม่กูก็ไม่ยอมให้ไปหาหมอหรอก นี้ขนาดแม่กูเป็นพยาบาลนะ กูก็เคยไปหาจิตแพทย์อยู่ พอแม่กูรู้ ก็น้อยใจ ทำไมปรึกษาแม่ไม่ได้ ทำไมต้องปรึกษาคนอื่น กูล่ะไม่รุ้จะทำยังไง
>>19 ขีดเส้นใต้ พันรอบ ใต้คำว่า “แม่กูเป็นพยาบาล” แม่กูคัดกรอง คนเป็นซึมเศร้า หรือไม่เป็น ได้อยู่แล้ว แต่ปัญหาคือยายกูไม่ได้เป็นซึมเศร้าไง ชัดมากด้วย คือ แกไม่ได้อยากตายๆจริงๆอ่ะ ถ้าตอนแกดีๆ พูดกับกูว่าจะไปงานรับปริญญากู อยากดูหน้าว่าที่ผัวกู (หนูก็อยากเห็นค่ะยาย) ชีวิตประจำวันก็ปกติดีตามภาษาคนแก่ ตอนแกป่วยก็ไม่พูดว่าอยากตายอย่างเดียว แต่พูดแบบ ใจนึงก็อยากจะอยู่ดูกูรับปริญญา มีผัว แต่ใจนึงก็ไม่อยากอยู่ แก่แล้ว อยู่มานานพอแล้ว แต่เพราะความครึ่งๆกลาง ใจนึงก็อยากอยู่ ใจนึงก็อยากตาย มันทำให้แกป่วยแล้ว แกทรุดว่ะ
มีบ้านไหนแบบหัวโบราณมาก แบบกลัวหลานสาวไม่ได้แต่งงานมั่งมะ กูโคตรหนักใจ จนตอนนี้ไม่โผล่หน้าไปหาย่าที่เลี้ยงกูมาเลย วันๆถามถึงแต่เรื่องรักๆใคร่ๆ มีคนมาจีบไหม กูสนิทกะเพื่อนก็คิดว่า เป็นแฟน ไม่เว้นกระทั่งเพื่อนผู้หญิง โคตรเครียด แต่ไม่รู้จะทำยังไง
>>21 พูดรู้เรื่อง เข้าห้องน้ำเองได้ ทำงานบ้านเล็กๆน้อยๆได้ อุ่นกับข้าวให้ตัวเองกินได้ กูว่าแข็งแรงอยู่นะ สำหรับคนอายุ75 ปัญหาก็ตามที่กูบอก แกมองโลกในแง่ร้าย จนแกทรุดเอง แล้วก็ทำให้กูดาวน์ตามแกแล้วเนี่ย แบบแกชอบพูดว่า ไม่รู้จะอยู่ไปทำไม ไม่ได้ทำอะไรให้ อ่าว กระทบกูอีก กูเนี่ยปิดเทอม เป็นนีท วันๆไม่ได้ทำอะไรของแท้555TT555
คือกูเพิ่งจบใหม่ยังไม่ถึงครึ่งเดือนใบเกรดยังไม่ออกด้วยซ้ำ กลับมาอยู่บ้านกลางคืนน่ะก็นอนอยู่ในห้องของกู เปิดแอร์แบบที่กูโอเค 25 องศาธรรมดาๆ แล้วแม่กูเป็นจะต้องเป็นเดือดเป็นร้อนบ่นๆๆๆๆๆๆให้กูปิดแอร์ตอนนั้นตอนนี้ ตอนเช้าๆที่เช้าแบบชิบหายสำหรับกูคือ6โมงก็เดินมาบ่นเสียงดังให้กูตื่นแล้วปิดแอร์กู งงและโกรธมากๆ
>>22 ของกุเปนแบบพ่อกับแม่เหมือนไม่อยากให้กุมีผชสักคนเลยอ่ะ แบบอยุ่หอต้องหอญล้วน เพื่อนผชก็เหมือนไม่ให้กุมีตอนนั้นกุไปอ่านนสกับเพื่อนมีทั้งผชและผญคือสังคมมหาลัยมันต้องเจอหมดปะวะเพื่อนผชกุก้ต้องมีบ้างป แล้วพวกนางก้บ่นกุอ่านนสทำไมต้องมีผช เอ้าเพื่อนกุปะงงชหตอนนั้นแล้วแม่งบอกจะโทรหาเปิดวิดีโอคอลด้วยเหมือนอยากเห็นอ่ะว่าพวกกุทำไรมีใครบ้าง(แต่ไม่ได้โทร) พวกนางชอบห้ามนุ้นห้ามนี่กุแบบอยากไปเที่ยวกับเพื่อนนอยากไปเที่ยงกันเองพวกนางก็ไม่ให้ขนาดกุโตแล้ว กลับบ้านต้องกลับก่อน6โมงบางทีกุอยากเที่ยวเย็นๆดึกๆกับเพื่อนบ้าง แบบเจเจกรีนมันเปิดดึกกุก้อยากไป พอกุชวนพ่อกับแม่เดินแล้วก้เดินแปปเดียวบ่นอยากกลับกันแล้วยังเดินไม่ทั่วไม่ถึงชมด้วยซ้ำ กุถึงอยากไปเที่ยวกัยเพื่อนมากกว่าแล้วนางก็จะแซะแบบทีพ่อกับแม่ชวนทำไมไม่ไป ไปแล้วก็เป็นกันแบบนี้ไง เบื่อสึสสสสส
>>27
พ่อแม่มึงนี่โคตรน่ารำคาญเลย ช่วงprime ของร่างกายผู้หญิงคือ16-20นิดๆนะหลังจากนั้น ทำงานหนักมึงก็โทรมแล้ว บอกเลยอย่าปล่อยซิงถึง 30
เคยมีคนเก็บซิงจนถึง30 แต่งกะผัวอายุ40 สุดท้ายไม่กี่ปีผัวหมดสมรรถภาพ อยากเลิก มาบ่นในพันทิปสุดท้ายคนดีพันทิปรุมด่าจนต้องลบข้อความทิ้งหมด หีแห้งเลยดิ
กูสุดจะทนกับพ่อกูละ ติดเหล้าหนักมาก คือตัวเองก็ป่วยหมอก็ห้ามกิน ก็ยังจะกินอีก ทุกคนเตือนจนปากเปียกปากแฉะก็ไม่ฟัง แถมยังด่าซ้ำ คือพ่อเเม่งเป็นพวกหัวแข็ง ไม่รับฟังใครทั้งนั้นอ่ะ คุยเรื่องนี้ทีไรก็ทะเลาะกันทุกที แล้วคือกูเป็นลูก พอกูเถียงแม่งก็มาด่ากู เคยพูดว่าถ้ากินจนเข้ารพ.ป่วยเป็นโรคก็ปล่อยให้เค้าตายไปเลย ไม่ต้องมารักษา คือแม่งก็พูดได้ปะวะ แต่พอเอาจริงๆก็ต้องรักษาอยู่ดี กูเบื่อ เบื่อๆๆๆๆ สงสารแม่ด้วยที่ต้องมาทนอะไรแบบนี่ กูไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนฟังมาก่อนเลยว่ะ ทุกคนชอบคิดว่าครอบครัวกูแฮปปี้รักกัน แต่จริงๆไม่ใช่ ได้แต่มาบ่นในโม่งนี่แหละ
กูโครตเบื่อพวกคนชวนไปเที่ยว พอเอาจริง คิดทริป ห่าเหวอะไรเสร็จแม่งก็ไม่ไปกันจริงๆ
ปีก่อนกูเป็นคนชวน ก็บอกอยากไปๆๆ จนแม่งจะหมดฤดูเที่ยว กูยังต้องมาตามถามตกลงจะไปไหม ตอบมา ไป ไม่ไป อย่าเงียบ แล้วแม่งก็ไม่ไป(ตามคาดอยู่แล้ว)
มาปีนี้ แม่งมาชวนกู(เพราะกูคงไม่ชวนมันแล้วในชีวิตนี้) บอกอยากไปเที่ยว พูดดิบดี พอกูถามแล้วตกลงว่างกันเมื่อไหร่ ก็ยังบอกกูไม่ได้อีก จนกูต้องจี้ถาม สุดท้ายได้วัน คิดแพลน วางแผนเรียบร้อย แม่งก็อ้ำอึ้งอีก คือรอบนี้กูไม่ถามไรต่อละ กูจองของกูเองไปแล้ว(ที่อื่น) เรื่องของพวกมึงเลยแล้วกัน รอบหน้าถามกู กูจะทำแบบพวกมึงมั่ง
ญาติกับแฟนมันหน่ะนะ แฟนมันอยากเที่ยวมาให้กูคิดแพลนแล้วแม่งก็ไม่ไปกัน
ช่วงนี้กูรำคาญพ่อมากเลย คือครอบครัวหย่ากันตั้งแต่กู 10 ขวบ ตอนนี้ 25 ละ กูอยู่กับพ่อ พ่อเป็นคนตั้งใจทำงาน กลับบ้านตรงเวลา ไม่เที่ยว ไม่ดื่ม ไม่สูบ ให้เวลากับลูกดีมาก ไม่มีเรื่องชู้สาว จนมาปีนี้มีเด็กใหม่เข้า บ. พ่อมา แก่กว่ากูไม่กี่ปี เพิ่งหย่าผัวลูกติดคนนึง สไตล์เปรี้ยวเข็ดฟันมาก ทำกับข้าวมาให้พ่อกูกินทุกวัน ไลน์มาหา ส่งคลิปทำกับข้าว ส่งรูปแต่งตัวโป๊ๆ ให้ เทคแคร์ทุกอย่าง ทีแรกก็ก็ไม่ได้สนใจ จนแม่งมาขอเงินพ่อกูใช้ ขอนะ ไม่ได้ยืม ดอกแรกบอกแม่ป่วย ได้ไป 2 หมื่น อีก 3 วันมาขอค่าเทอมลูกอีก 5 หมื่น วีคต่อมารถพัง จัดไปอีก 3 หมื่น และเงินแค่นี้ไม่ระคายพ่อกูไง เหมือนช่วยเหลือลูกน้องทั่วๆ ไป แต่แบบ มึง เงินเดือนก็ไม่ได้น้อย มาขอพ่อกูไม่มีศักดิ์ศรีเลย แล้วพ่อกูก็นะ หลังๆ หลงหัวปักหัวปำ กลายเป็นเหมือนเลี้ยง ผญ. นั่นกับลูกเพิ่ม ได้วีคละ 2-3 หมื่น
มันจะไม่มีอะไรเลย ถ้าอากูไม่ได้ไปช่วยพ่อปรับปรุงบ้านอีกหลัง แล้วโดนลูกหลงบาดเจ็บที่ขา แต่พ่อกูเลือกที่จะไปหานังนั่นที่โทรมาบอกให้พ่อไปช่วยมันเพราะรถชน แล้วทิ้งให้อากับลูกสาวที่ไม่มีใครขับรถเป็น และบ้านอยู่นอกเมืองเดินทางลำบากมาก พออาขอให้ไปส่ง พ่อแกว่าให้เรียก taxi ไปเอาแล้วออกไปเลย กูแบบ เชี่ยยย เกิดอะไรขึ้นกับพ่อกู!?! มาล่าสุด กูไปหัดขับรถ มีรถของตัวเอง จากน้ำแรงตัวเอง จอดทิ้งไว้ที่บ้าน 2-3 วัน กลับมารถหาย พ่อกูเอาไปให้ ผญ. ใช้โว้ยยย ไม่ถามสุขภาพกูสักคำ แล้วมันมีหลายเรื่องเกิดขึ้นที่ทำให้กูปรี๊ด จนกูด่าออกไปเลยอะ ด่าพ่อนี่ล่ะ ไม่รู้เป็นบ้าบออะไร แก่ตัณหากลับรึไงไม่รู้ โคตรน่ารำคาญ
ที่สยองคือ พ่อไม่สะเทือนกับที่กูด่าไป นึกว่ากูแซ็วขำๆ ทั้งที่ย่า อา น้องบอกกูพูดแรวเกินไป กูไม่กลับแล้ว แม่งเอ๊ย ทุกวันกลับบ้านมาก็พล่ามเรื่องความอร่อยขออาหารที่สาวทำ และจำนวนเงินที่ให้ไปไม่หยุดหย่อน กูบอกไม่ได้อยากรู้ ก็ยังจะชอบเล่า คนในบ้านหนีขึ้นบ้านหมด ยังจะตามขึ้นไปเมาท์ถึงห้อง กูหนีไปอยู่หอ วันดีคืนดี 3-4 ทุ่มก็โทรมาคุยจนกูแม่วต้องเปิดโหมดเครื่องบินทั้งคืนแทน รำคาญสัสๆ
ทำไมบ้านจนแล้วต้องให้กูเกิดมาด้วยวะ มีลูกตั้งสองคนอีเหี้ย คืออยากให้มีคนมาเลี้ยงตัวเองตอนแก่หรอ เลยต้องให้กูมาลำบากตรากตรำด้วย แล้วมาทวงบุญคุณตอนแก่เงี้ยหรอ มันไม่เห็นแก่ตัวไปหน่อยหรอวะ ถ้ากูมีผัวแล้วยังไม่มีเงินในบัญชีหลักแปดกูก็ไม่มีลูกว่า เห็นใจเด็กชิบหาย เป็นแค่อสุจิไม่มีทางเลือก ต้องมาเป็นเครื่องมือให้ผู้ใหญ่ ควัยๆๆ
>>35 คนมีเงินแปดหลักในไทยมีกี่คนกันวะ แม่งก็จนกันทั้งประเทศนั่นแหละ ส่วนที่ไห้มึงเกิดมาเพื่อไห้เลี้ยงตอนแก่บอกเลยไม่มีทาง เพราะมันไม่คุ้ม พ่อแม่ส่งลูกเรียน ไห้ข้าวกิน 18 ปีอย่างต่ำ แต่ลูกเลี้ยงพ่อแม่หลังเกษียณ ราวๆ 10 ปีเท่านั้นก็ไปแล้ว แถมคนเลี้ยงพ่อแม่ปัจจุบันมีนิดเดียวเท่านั้น บอร์ดโม่งมีใครเลี้ยงพ่อแม่บ้าง
ขอระบายหน่อย คือกูเป็นโม่งหญิงที่มีน้องชายคนนึง กูกับน้องสนิทกันมากชนิดที่กูกับมันคุยกันได้ในทุกเรื่องที่ไม่รู้จะคุยกับใคร แล้วทีนี้กูใกล้จะเรียนจบแล้ว แม่กับป้ากูก็คุยกันว่าเออถ้ากูทำงานต่างประเทศไรงี้ก็ทันส่งเสียน้องพอดี ทีนี้เรื่องมันอยู่ที่ป้ากูพูดขึ้นมาว่าฝันเถอะถ้ากูมีผัวกูก็ทิ้งน้องแล้วไม่สนใจมันหรอก คือเขาพูดเล่นไง แล้วกูก็รู้สึกผิดที่กูโกรธ แต่มันเป็นเรื่องsensitiveสำหรับกูอะ ทีนี้พอกูบอกว่าไม่ชอบที่พูดงี้ป้าก็มาโกรธแล้วพูดใส่กูว่าแค่เรื่องเล่นยังรับไม่ได้ก็ไม่ต้องคุยกันแล้ว คือน้องกูก็โกรธเว้ยมันเลยไม่คุยกับป้าแล้วเก็บตัวในห้อง แม่ก็มาบอกว่ากูทำให้น้องเป็นงี้ ถ้ากูไม่โกรธน้องมันก็ไม่โกรธหรอก บอกน้องกูหัวรุนแรงมันคลั่งทำอะไรขึ้นมาจะทำไง แล้วพูดประมาณว่ากูอะโตแล้วเรื่องแค่นี้ทำไมต้องโกรธ กูก็พยายามอธิบายให้ฟังว่ากูไม่ชอบจริงๆเค้าก็พูดอยู่นั่นแหละว่าเรื่องล้อเล่นไม่เห็นต้องจริงจัง คือเรื่องล้อเล่นบางเรื่องมันก็ไม่ใช่เรื่องเล็กสำหรับบางคนป่ะวะ แล้วเค้าก็บอกว่ากูควรไปขอโทษป้า กูรำคาญไม่อยากมีเรื่องแล้วเลยไปขอโทษตามนั้น ป้ากูดันเถียงว่าเค้าไม่ผิด กูผิดเองที่รับไม่ได้ โตแล้วยังไม่รู้จักคิดว่าอะไรควรโกรธไม่ควรโกรธ เรื่องแบบนี้มันบังคับกันได้ด้วยเหรอวะ สุดท้ายกูก็ไม่ได้รับคำขอโทษอะไรทั้งสิ้น กลายเป็นว่าฝ่ายที่ต้องก้มหัวขอโทษคือกูฝ่ายเดียว ทั้งเสียความรู้สึกทั้งเก็บกด ทำไมผู้ใหญ่ไม่คิดว่าตัวเองผิดบ้างวะ
กูเป็นลูกที่เกิดจากความรักนะ พ่อแม่มีตอนพร้อม ตอนที่ความรักเขาสุกงอมเต็มที่เลยล่ะ พอโตมาบ้านก็มีเงิน คุณหนูในระดับนึงเลย เรียนโรงเรียนเอกชน มีคนไปรับไปส่ง ที่บ้านก็ตามใจในระดับหนึ่ง แต่อะไรมันก็ไม่แน่ไม่นอน พ่อแม่ก็เลิกกันไป กูเลยวิมานล่ม ชีวิตลำบากแทน เวลากูแย่ๆ กูไม่คิดโทษพ่อแม่นะว่าให้กูเกิดมาทำไม เพราะการเลี้ยงลูกหรือชีวิตคู่มันมีความเสี่ยง ไม่ใช่ว่าเราจะควบคุมความเสี่ยงทุกอย่างป่ะวะ
>>42 มันก็มีแหละ คือแบบบ้านพ่อกูเป็นกงสีใหญ่ ทำกันหลายธุรกิจ มีกันหลายสิบคนอ่ะ เมื่อก่อนแม่กูคุมเงิน พอเขาเลิกกับพ่อ เขาก็ไปขวนขวายทำธุรกิจของเขาใหม่ เหมือนแม่ต้องเริ่มจาก 0 อีกรอบอ่ะ
ส่วนกงสีมันก็มีคนอื่นที่เป็นญาติกูมาทำแทน เขาแบบบาทนึงก็ไม่ได้อ่ะ ให้รายเดือนจบแล้วจบเลย พ่อกูก็ไม่ได้มีอำนาจอะไร เหมือนเขาไม่ทำงานจริงจังอะ รับแต่งานเบาๆ ในกงสีมาทำ เพราะยังไงลุงกูก็จ่ายเงินเดือนเขาอยู่แล้ว ส่วนกูจะเบิกเรียนพิเศษหรือซื้อเสื้อผ้าก็ให้เอาเงินเดือนไปออกเอง มีปัญหาเยอะมาก มากแบบว่าลูกหลานคนอื่นเขาเรียนจบกลับมาช่วยกงสี เงินเดือน 3-4 หมื่น รถอีกคันน้ำมันเติมฟรี แต่กูที่เรียนเก่งที่สุดในรุ่น กูยอมทำงานหาเลี้ยงตัวเอง เพราะไม่อยากยุ่งกับเงินกงสีอ่ะ ถถถถถถ นี่ยังคิดอยู่เลยว่าถ้าพ่อตาย หุ้นบริษัทเขาจะให้กูไหม ที่ดินของพ่ออีก 30 กว่าไร่เนี่ย กูจะได้ไหม
อยากถูกหวยสักที จะได้ให้แม่ส่วนนึงไปตั้งตัว
แล้วกูก็ขออยู่กับพ่อ2คนละ พ่อกูจะได้ตายอย่างสบายใจ ...
บ้านกูพ่อแม่แยกกันอยู่ แม่กูก่อนนี้ก็ไม่ทำงาน พึ่งมาหาทำช่วงหลัง แต่ก็ยังเสือกขอเงินพ่อกูอยู่ แล้วก่อนนี้รับหลานมาเลี้ยง เพราะแม่เด็กตาย พ่อไม่มีปัญญาเลี้ยง แต่ตัวเองก็ไม่ได้เป็นคนส่งเสียเลี้ยงดู เป็นพ่อกูเองที่ออกทุกอย่างจนเข้ามหาลัยดังได้
แม่กูก็ไปส่งเข้าหอ แต่เสือกจะมาขอเงินล้าน5 เพื่อปลูกบ้านไว้อยู่กับหลานที่เลี้ยงด้วย คือถ้าอยากอยู่ใกล้กันทำไมไม่ให้เข้ามหาลัยใกล้ๆบ้านวะ แม่งสมองกลับเหรอไง
ไม่รู้เลยเหรอว่า สถานะการเงินที่บ้านเป้นยังไง เงินจะหมดและหมุนไม่ทันอยู่แล้ว
เงินก้อนสุดท้ายพ่อกูถอนออกมา เพื่อจะส่งเรียนเนี่ย ..
คู่ชีวิตแม่งควรส่งเสริมกันและกันไม่ใช่เหรอวะ เจองี้กูขออยู่คนเดียวดีกว่า
ขอกูบ่นหน่อย เบื่อพ่อตาตัวเองโว้ยสัด แม่งถือว่าจะตายอยู่แล้วมั้งอยากได้อะไรกูก็ต้องได้ห้ามขัดใจ มึงไม่คิดจะให้ลูกมึงสร้างเนื้อสร้างตัวเลยใช่ไม้วะ
ล้างผลาญชิบหาย เมียกูก็พึ่งพาไม่ได้พอกูมาทำงานต่างจังหวัดไม่อยู่ด้วยง่อยแดกทำห่าอะไรก็ไม่เป็น ทำเป็นแต่ออกจากบ้านไปทำงานไปกินข้าวกะเพื่อนสาวนอกนั้นต้องรอกูกลับมาจากต่างจังหวัดถึงจะได้ทำอะไรทีสัด
เรื่องมันเริ่มมาจากพ่อตากูบ่นอยากไปญี่ปุ่น แม่งงานเข้าคือพ่อตากูเนี่ยน้อยใจง่ายสัดๆดาวน์ง่ายสัดๆ แล้วไม่ฟังใครทำตัวเหมือนเด็กไม่รู้จักโตอ่ะ +เป็นโรคไตทีนี้ใครขัดใจไม่ได้เลย แล้วเป็นพวกใช้เงินเกินตัวฟุ่มเฟือยมาก แม่ยายกูเอือมมากคือนับวันรอว่าเมื่อไหร่จะไปเลย สมัยยังไม่เป็นโรคไต ถึงขนาดกู้เงินมาซื้อบิ๊กไบท์ (???) ซื้อปืนแล้วไม่ใช่กระบอกเดียว 4-5 กระบอก (โคตรพ่อมึงเป็นแรมโบ้หรอวะครับ) โดยไม่บอกที่บ้าน แม่ยายกูนี่ต้องหาเงินไปผ่อน เสือกขี้เบ่งด้วยกูมีปืนโตกูมีปืนเยอะ เดินเอาขยะไปทิ้งหน้าบ้านสะพายลูกซองไป ออกจากบ้านมีปืนเหน็บหลังตลอด หาจังหวะให้กูได้โชว์ปืนตลอด ไปตลาดน้ำเค้ามีให้ยิงปืนลมบอกพ่อถนัดยิงปืนจริงมากกว่าควั้กปืนออกมาโชว์ มึงเป็นเหี้ยอะไรเนี่ย
เมียกูบอกว่าพ่อมันทำไปเพื่อลบปมในใจตัวเอง จริงๆแม่งเป็นคนจิตใจอ่อนแอมากภายนอกเลยต้องเบ่งให้ตัวใหญ่ๆ ควยกูบอกไว้เลยมึงไม่อยู่เมื่อไหร่กูจะขายให้หมดปืนมึง มอไซมึงเนี่ย เอามาใช้เงินที่มึงกู้มาทำชาวบ้านเค้าเดือดร้อน
ทีนี้พอเป็นโรคไตไงล่ะมึง หมอให้คุมน้ำมึงก็คุมไม่ได้ หมอฟอกเอาออกเท่าไหร่ มึงก็ใส่กลับไปเท่าเดิมภายในวันเดียว ใครเตือนก็ไม่ฟัง หมอยังเอือมแทนที่จะอยู่ได้เป็น 10 ปี นี่ฟอกมาขึ้นปีที่ 2 สภาพแม่งทรุดจากปีแรกเร็วมาก คือแม่งฟอกอาทิตย์ล่ะ 3-4 ครั้งเพราะมึงคุมน้ำไม่ได้ร่างกายมึงไม่ไหวไง
ทีนี้เรื่องญี่ปุ่น นอกจากจะไปแล้วกูต้องไปหาคลีนิคฟอกไตที่นู่นให้แม่งด้วยลำบากสัด แล้วก็คงเที่ยวได้แค่ครึ่งวันก็ต้องกลับเอามาพะงาบๆที่รร.และ แล้วกูเห็นเป็นผู้ใหญ่สภาพก็อย่างที่กูบรรยาย กูเลยให้นั่งการบินไทยสบายๆไป แม่งคงลำบากไปมั้ง รีเควสบิซิเนส...ควย คือทั้งชีวิตไม่เคยนั่งบิซิเนสไงเลยขอสักครั้งก่อนตายล่ะมั้ง กูจะจัดให้นั่งกะแม่ยายกู 2 คน แม่งก็น่าจะน้อยใจอีกคือต้องอพยพไปนั่งกันให้หมด 4 คน มึงถึงสบายใจ คือกูไม่ใช่เครื่องผลิตแบงค์ แถมสภาพมึงนี่กูก็ไม่แน่ใจว่ากว่าจะถึงปลายปี สภาพมึงยังสามารถไปไหวไม้
ก็บอกเลยถึงมึงรักกันมากแค่ไหน ก่อนแต่งงานมึงไปจ้างนักสืบตรวจสอบการเงินที่บ้านเมียมึงด้วยก่อนจะโดนแบบตัว ทุกวันนี้แม่งผลาญเงินเก็บกูจนจะหมดตัวแล้ว กูก็นับวันรอแม่งไปๆซักทีไม่ต่างจากแม่ยายกูซักเท่าไหร่
ไปเป็นอะไรที่ญี่ปุ่น ค่าหมอมึงหมดตัวเลยมั้ง
สภาพแบบนี้ประกันเดินทางก็คงไม่รับทำ
อย่างโม่งบนๆบอก ดึงเช็งไปเหอะ จากสภาพที่มึงบอก คงอยู่อีกไม่นาน
>>51 เออว่ะมึงฉลาดมากๆ เดี๋ยวกูลองคุ้ยดูใน pantip ก่อนว่าเคสไหนมันขึ้นเครื่องไม่ได้บ้าง
แต่ติดที่มันจะไม่ยอมนี่สิตะแบงจะไปท่าเดียว กูจำได้ปีก่อนตอนมันเริ่มๆฟอกไตพาไปสิงคโปร์แค่ 3 วัน วันสุดท้ายยังพะงาบๆกว่าจะลากสังขาลมาขึ้นเครื่องกลับได้แทบแย่
พูดถึงสิงคโปร์กูนี่ก็แค้นสัด มึงรู้จักร้านจัมโบ้มะ อีร้านปูผัดผงกระหรี่ที่คนไปสิงคโปรชอบไปกินน่ะ ตอนนั้นกูพาไปกูก็กะว่าจะพากินหรูซักมื้อปูผัดผง+นู่นนี่นิดหน่อย น่าจะแฮปปี้กันแล้ว...อีดอกแม่งสั่งหอยงวงช้าง คือมึงแพงสุดในร้านจานล่ะเกือบหมื่นมั้งกูหน้าซีด ทั้งโต๊ะบอกไม่มีใครกินด้วยนะ แพงนะ ไอ้เหี้ยก็ตะแบงจะกินให้ได้ คือไอ้เหี้ยนี่ไม่ได้ดูราคา มองไม่เห็นไงสัดเห็นแต่รูปหอยกูจะกิน แม่ยายกูรำคาญให้แม่งแดกๆไป ดีนะแม่ยายกูช่วยออกสัด แม่งตอนขากลับคนอื่นไปช็อปรองเท้านู่นนี่กัน แม่ยายกูถามมันว่าจะเอาอะไรแม่งบอกเกรงใจกูไม่อยากซื้ออะไร...ควย มึงควรเกรงใจกูตั้งกะร้านอาหารแล้วว้อย
กูมองว่า พ่อตาแม่ยายมึงนี่ เข้าช่วงวัยทองด้วยนี่แหละ วัยนี่จะน้อยใจง่ายๆ บางรายก็แก่ไปตามวัยอ่ะมึง สติก็เลอะเลือนตาม ไม่ค่อยมีเหตุผลเหมือนเมื่อก่อน เรื่องนี้พูดยากมาก เข้าใจว่าลำบากการเงินมึงจริงๆ วะ แต่ถ้าให้กูตอบแบบนางงามคือ มึงก็จัดให้เขาก่อนตายนั่นแหละ แต่อย่าให้มันเกินงบมากจนเกินไปวะ
มึงอาจจะบอกเลยก็ได้ว่า มีงบเท่านี้นะ หรือไม่ก็ตามโม่งบนบอก บอกเดี๋ยวเก็บเงินพาไป ระหว่างนั้น มึงเลือกพาเขาไปเที่ยวต่างจังหวัด หรือที่อื่นในไทยแทน บอกว่าระหว่างรอเงิน พาไปเที่ยวคั่นเวลา มึงจะดูเป็นลูกเขยที่ดีเชี่ยๆ ในสายตาคนนอกทันที
อีกอย่างคือทำทรงพาพ่อตาแม่ยายมึงไปเช็กสุขภาพก่อนบินด้วย ไปเตี๊ยมกับหมอให้เรียบร้อยว่าไม่ควรเดินทางช่วงีน้ รักษาตัวให้ดีขึ้นก่อนอีกหน่อย อนุโลมให้แค่ในประเทศเท่านั้น กูว่าอาจจะดีกว่านะมึง
>>53 เอาน่า อย่างน้อยต่อมเกรงใจก็มีขึ้นมาบ้าง ดีกว่าไม่เกรงใจเหี้ยห่าอะไร แล้วช็อปต่อเลยนะมึง
>>55 คือกูอ่ะบอกไปจนขี้เกียจบอกแล้ว เมียกูก็ประมาณเคยบอกว่าจะพาแม่งไป คือถ้าไม่ไปปีนี้ก็ไม่น่าจะได้ไปแล้วเพราะปีหน้าสภาพน่าจะเจียนอยู่เจียนไป (ถ้ายังรอดปีนี้นะ)
ตอนนี้กูอ่ะจะสบายใจมากถ้าใกล้ๆจะไปแล้วอาการมันหนักแม่งจนไปไม่ได้เพราะอย่างน้อยกูก็ไม่ต้องไปลุ้นตอนอยู่ที่นู่นว่าจะน็อคไปเมื่อไหร่ ไปขอเปลี่ยนคนไปเอา
ไปหาหมอให้ออกใบรับรองแพทย์ ว่า Fit to Fly
ซึ่งในกรณีมึงถ้า not fit to fly อยู่แล้วก็ไม่มีปัญหา
แต่ถ้าหมอยอมให้บิน ก็ลองคุยดูก่อนว่าอย่าออกใบรับรองให้
แต่จากสภาพที่มึงว่ามาบอกหมอได้มั้งว่าอย่ารับรองให้ เพราะไม่ได้บินไปรักษาโรคหรือบินกลับบ้านแต่จะบินไปเที่ยวเนี่ย
แล้วบอกว่าถ้าไม่มีใบรับรองแพทย์แล้วถ้าเชคอินอเห็นว่าสภาพไม่พร้อมเขาปฏิเสธไม่รับขึ้นเครื่องได้
>>58 สวยถ้าแต่งหน้า คือแต่งหน้าเป็นหว่ะ แต่ถ้าอยู่บ้านไม่แต่งหน้าเมื่อไหร่มึงยายแถวบ้านนี่แหละ
เป็นคนที่เข้าใจกูที่สุดและสัด เพราะเป็นคนทำงานหาเงินเข้าบ้านเหมือนกัน กูเอือมเมียกู แม่ยายกูก็เอือมพ่อตาเข้าใจกันดี เวลากูจะระบายหรือนินทาเมียกูก็เล่าให้แม่ยายกูฟังเนี่ยทั้งบ้านเข้าข้างกูอยู่คนเดียว พ่อแม่กูยังเข้าข้างเมียกูเลยสัดเลียเก่งนะมึง จำไว้กูมันลูกชัง
สอบติดคณะ มหาลัย คนเก่งแย่งกันเข้าหัวขวิด ไม่ดีใจกับกูซักแอะ แซะกูว่าเรียนไม่ไหว มีแต่คนรวยเดี๋ยวเข้ากับเค้าไม่ได้ ทำไมไม่เรียนมรภ.ใกล้ๆบ้าน ด่ากู โอ้ย กูปวดหัว
555 พวกมึงมีแววจะไม่ได้ไปแล้วว่ะ โอซาก้ามันโดนน้ำท่วม+แผ่นดินไหวช่ะ กูเมลล์ไปถามเรื่องฟอกไตกะคลีนิค ทางนั้นบอกว่ายังไม่รับคนไข้ที่เป็นนักเดินทางนะเพราะอีเรื่องแผ่นดินไหวเนี่ย
กูเมลล์ไปถามอีกเจ้าอยู่เนี่ย ถ้าไม่ได้ทั้ง 2 เจ้ากูจะเอาเมลล์ไปยันให้อีเมียกูกะแม่ยายไปคุยกะพ่อตากูเอาสัด 555
ระบายนิดนึงนะโม่ง คือกูอยู่มหาลัย มีรูมเมทอยู่คนนึงอ่ะ นิสัยดีอยู่แต่แกค่อนข้างจุ้นจ้านกูพอสมควร
กูมาคิดดูดีๆแล้วกูน่าจะอยู่คนเดียวดีกว่า กูอยากย้ายออกเพราะรู้สึกไม่เป็นส่วนตัวว่ะ รูมเมทกูชอบมายุ่งเรื่องของกูเกินไปด้วย กูก็พยายามตอบแบบระวังๆรักษาน้ำใจละว่ากูไม่ชอบให้มายุ่งเรื่องตรงนั้นตรงนี้
แต่คือมันมีประวัติเป็นโรคซึมเศร้าว่ะ กูก็ไม่อยากให้อาการมันมาอีกไง ทุกอย่างกูเลยทำแบบรักษาน้ำใจ มันก็ไม่ใช่คนแย่อะไรด้วย
กูว่าจะย้ายออกไปอยู่คนเดียวในครึ่งปีนี้ละ แต่กูจะบอกมันยังไงดีวะว่าไม่ใช่ความผิดมัน กูแค่อยากออกไปอยู่คนเดียวเฉยๆ กลัวมันคิดมากว่ะ
กูไม่รู้ต้องไปบอร์ดไหนดี กูอยากปรึกษา
คือกูเป็นคนเก็บตัวเพราะโดนสังคมในรร.รังแกมาตั้งแต่ม.1 จนม.4 กูก็ทนไม่ไหวจนไม่ยอมไปเรียน
พ่อแม่หรือใครๆเอาแต่บอกว่ากูขี้เกียจไปเรียนไม่คิดจะฟังเหตุผลของกูเลย จนตอนนี้กู อายุ18แล้วกูใช้ชีวิตแบบไม่มีอิสระพ่อแม่ไม่ยอมปล่อยให้กูใช้ชีวิตกับโลกภายนอกเลย กูจะขอไปเรียนกศน.เขาก็ไม่ให้ไป จนตอนนี้กูอยากได้อิสระ อยากออกไปเจอโลกภายนอกบ้าง กูควรจะบอกพวกเขายังไงดีกูไม่อยากอยู่แบบนี้ไปตลอดอ่ะมึง
>>68 อ่อที่กูสงสัยว่ามึงเป็นพวกเก็บตัวอยุ่บ้านเพาาะมึงบอกว่ามีปัญหาม1-4 แล้วตอนนี้อายุ18 ถ้าเข้าใจผิดก็จอโทดละกัน คือ
ถ้ามึงเป็นนีทอยู่บ้านไม่ได้เรียนหนีปัญหาบูลลี่ กูขอบอกเลยว่ามึงขังตัวมึงเอง ไม่ใช่พ่อแม่ ไม่ใช่ว่าพ่อแม่มึงบังคับเลย มึงอยู่บ้านไม่มีที่เรียนไม่ทําห่าอะไรแล้วพ่อแม่ไม่ไล่ออกจากบ้านถือว่าพ่อแม่ตามใจสัสๆแล้ว อีกอย่างมึงโตแล้ว บางอย่างไม่ต้องขอพ่อขอแม่ มึงต้องลงมือทําเองเลยแล้วทําให้ชัดเจนด้วย เพราะจากสภาพมึงพ่อแม่ไม่ให้เรียนกศนไม่ใช่ว่าบังคับขู่เข็ญเลยแต่เขากลัวว่ามึงจะไปไม่รอดมากกว่าอ่ะ
เรื่องเรียนกศนเพราะหลบปัญหาบูลลี่ กูขอบอกเลยว่าผู้ปกครองคงไม่โอเคอ่ะ ผู้ใหญ่จะมีความคิดแบบว่ามึงลูซเซอร์ แล้วมึงไปเปลี่ยนความคิดเขาไม่ได้หรอก กูว่ามึงควรตั้งจุดมุ่งหมายในการเรียนกศนไปทางทิศทางบวกมากกว่า สมุมถติแบบว่าเรียนไปเพื่อจะทํางานอะไร แล้วแสดงแพทชั่นให้เขาเห็น เริ่มจากการหยิบสมุดมาเล่มนึงแล้วเปิดเน็ตเปิดหนังสือเรียนด้วยตนเองให้เขารับรู้ว่ากูอยากเรียนจริงๆ
เรื่องปัญหาการเข้าสังคม อะไรที่เป็นอดีตแล้วก็ให้ผ่านไป ลองเอามาทบทวนด้วยก็ดีว่าทําไมเราถึงโดนอย่างงั้นอย่างนี้ แล้วเอาไปวางแผนเริ่มกับสังคมใหม่ๆซะ เพราะเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสังคมได้ เราก็ต้องปรับตัวให้อยู่ได้ ลองเอาคู่มือปรับบุคลิกภาพหรือหนังสือจิตวิทยามาอ่านก็ดีช่วยในการเข้าสังคมได้
เรื่องเจอสังคมบูลลี่จริงอยู่ว่ามันมีพวกนี้อยุ่ในทุกสังคมทั้งไม่ใช่การบุลบี่โดยทางตรงก็ทางอ้อม มันหลากหลายมาก ยังไงก็ต้องเจอบ้าง แต่จําไว้ไม่มีอะไรผิดพลาดซํ้าวนเหมือนเดิมไปหรอก ถ้าเราทําถูกทาง(บางครั้งอาจจะไม่ใช่ถูกต้องหรอก แต่มันก็ต้องทํา)
และเรื่องพ่อแม่ไม่ให้ไปไหน กูก็เจอนะ อันนี้กูว่าเป็นพ่อแม่รังแกฉันเกินไป เพราะแม่งจะไปไหนไม่เป็นเลย แต่ต้องทําอะไรซักอย่างไม่งั้นก็ไม่ได้ไปไหนได้ อย่างกูก็เริ่มเอาเวลาช่วงเรียนเกินเถลไถลไปไหนไกลๆบ้าง แล้วโกหกว่ามีทํางานกับเพื่อนนู่นนี่ จนเริ่มไปไกลๆ ดูรถดูเส้นทาง คือรวมๆก็จะบอกให้มึงลองหาทางออกมาบ้าง เพราะอันนี้แม่งบูลชิทเกิน โดนขังในบ้านเพราะห่วงลูกอ่ะ
ลูกพี่ลูกน้องกูอยู่ป.2 บ้านอยู่ใกล้กัน มันเป็นเด็กผู้หญิงที่ไม่มีมารยาทเลย โดยสปอยจนเคยตัว ใครว่าอะไรทำหน้าเชิ่ด เมินเก่ง ปากจัด ชอบทุบแม่ตัวเอง บ้านกูเคยบอกให้แม่มันดุมันนะ แต่แม่มันก็ไม่ค่อยดุ บอกกลัวน้องร้องไห้ เดี๋ยวลูกชั้นเสียใจ พอกูดุ พ่อแม่กูก็ว่ากูว่า ว่าน้องมันทำไม ทำไมต้องดุขนาดนั้น(เอ๊ะ ก็ไหนตอนนั้นบอกเองว่าให้ดุ) ที่กูปรี๊ดมากคือ มันมาเล่นบ้านกูค่ะ แล้วเดินสำรวจบ้านกูไปทั่ว ยายมัน(ก็ยายกูนี่แหละ)เข้ามาตามไปกินข้าว ไม่ตอบ กูเลยช่วยหา ปรากฎว่ามันเดินไปชั้นบนบ้านกู เข้าไปอยู่ในห้องพ่อแม่กู ทำเหี้ยอะไรไม่รู้ กูถามว่า เข้ามาทำอะไร มันมองหน้ากูเฉยๆ ไม่ตอบ เดินหนี ที่โมโหยิ่งกว่าคือประตูห้องกูก็เปิดอ้าอยู่ เหี้ยนี่แม่งค้นทุกห้อง กูนี่เอาไปรายงานพ่อแม่กับคนอื่นๆเลย รบกวนอบรมเด็กด้วย สุดท้าย เมื่อวานมันยังขึ้นไปบนบ้านกูอยู่เลย คือมึงเข้าไปค้นอะไร นี่มันบ้านคนอื่น ห้องคนอื่นมั้ย พ่อแม่ก็ไม่ช่วยดุ กูเกลียดมันมาก อีเด็กเปรต
ทำไมครอบครัวกูเห็นแก่ตัวจังวะ จนแล้วยังมีลูกอีกตั้งสองคน ครอบครัวฝ่ายแม่คือเป็นโรคซึมเศร้าแล้วส่งต่อมาที่แม่กู แล้วตอนนี้กูก็รู้ตัวว่าเป็น แม่กูก็เอาแต่พูดว่าจะฆ่าตัวตาย กูเนี้ยจะฆ่าตัวตายก่อนแม่อีก เบื่ออิสัส
>>68 ลองดูสถาบันการศึกษาทางไกล เป็นกศนเหมือนกันแต่ไม่ต้องเข้าเรียน แล้วใช้วุฒิม.ต้นเรียนพรีดีกรีที่รามควบดีกว่าถ้าอยากเริ่มใหม่เร็วๆ ได้เจอคนหลากหลายและได้พึ่งพาตัวเองเยอะมาก
ปล.ตอนนี้กูจบแล้ว ระหว่างเรียน2ที่ข้างบนก็เตรียมสอบโอเน็ตแกทแพทไปด้วย ติดม.ที่มีกระทู้ของตัวเองในโม่งนี่แหละ เป็นความภูมิใจเรื่องนึงที่ทำให้รู้สึกว่ากูยังมีคุณค่าจะเดินต่อไปอยู่
อาจจะมีช่วงเวลาที่กระอักกระอ่วนหรือรู้สึกเหี้ยอยู่บ้าง แต่ก็ช่างหัวมันเถอะ สู้ๆมึง ขอให้ผ่านไปได้
มึง ไม่รู้ว่ากูมาถูกที่ไหม แต่กูเบื่อบ้านกูอะ ตากูชอบมาจับมาบีบแถวพุงแถวอกเรา บอกว่าอยากให้มันโตสวยบ้างอะไรบ้าง พอไปบอกพ่อแม่เขาก็ตอบกลับมาแค่ตาหวังดี ไม่คิดอกุศลกับหลานตัวเองหรอก แล้วพอกูปฏิเสธเขามาก ๆ เข้าเขาจะทำน้อยใจ ไม่รักก็ไม่มายุ่งมาช่วยเเกหรอก แล้วแม่ก็มาด้าดูว่าอกตัญญู ปฏิเสธความหวังดีของผู้ใหญ่ได้ไง
คือกูว่าข่าวก็ออกโครม ๆ นะเรื่อง sexual harassment / abuse ในครอบครัวเนี่ยยย
กูควรรีบเรียนจบรีบออกจากบ้านไหมวะเพื่อนโม่ง กูโซแซด ;-;
ถ้าญาติผู้หญิงเริ่มโตก็ไม่เล่นจับเนื้อจับตัวแล้ว เป็นที่รู้กัน
>>96 ถ้าไม่อยากมีปัญหาก็ไม่ต้องไปหาเรื่องเขา แต่หนีออกมาเป็นเรื่องที่ดีนะ บ้านมึงมันเพี้ยน คือปกติมันก็ไม่ต้องขนาดพ่อห้ามนอนกะลูกสาวอ่ะ แต่ถ้าลุงตาอะไรปกติเขาไม่มาใกล้ชิดขนาดนี้ มึงเริ่มแตกสาวก็ไม่ควรจับเนื้อต้องตัวละโดยทั่วไป แล้วปกติจับหน้าอกนี่มันก็ไม่ใช่เรื่องปกติด้วย กูไม่รู้ว่าตามึงนิสัยดีจริงไม่จริง แต่แม่งอายุเท่านี้แล้วยังจับกูว่าไม่ใช่ละ
กู 86 เอง ตอนนี้ภาวนาให้ตัวเองได้งานไว ๆ อยู่ว่ะ จะได้ย้ายออก
วันนี้หนักว่ะ แม่กูด่ากูแล้วพูดออกมาประโยคนึงว่ากูเป็นคนทำลายชีวิตแม่ เพราะต้องเอาเงินไปส่งกูเรียน แล้วเสือกไม่เรียนครูให้แม่ เสือกไปเรียนนิติศาสตร์ แล้วแม่บอกกูจะดูถูกมึงอย่างนี้แหละ จบไปเป็นทนายต๊อกต๋อย อีควายยยยยยยย กูแบบไม่รู้จะพูดเหี้ยอะไรละ คณะนี้มหาลัยนี้คนแย่งกันเข้าตายห่า ไม่มีคำแสดงความยินดีตอนกูติด มีแต่ถามจะเรียนได้มั้ย เกือบทุกวันมาพูดดูถูกกู(คิดว่าดูถูกกูแล้วจะเป็นแรงผลักดันให้กูหรอ?) เอาแต่พูดกรอกหูด่ากู เรียนไม่ได้ๆ ทำไมไม่เรียนครู เรียนสบายทำงานสบายๆไม่ชอบ(สบายเหี้ยอะไรล่ะ)
กูหมดคำจะพูด ไม่ได้ไปเข้าฝันให้ทำให้กูเกิดมาเลย เสือกอยากมีกูเอง แล้วมาบอกกูเป็นคนทำลายชีวิต ตลก อีสัส
>>105 ถูก แกคงติดภาพครูยุคแกน่ะแหล่ะ >>102 แม่มึงเป็นประเภทไม่ฟังลูก เรื่องเดียวกันลูกบอกไม่เชื่อแต่คนอื่นจะเชื่อ ถ้ามึงอยากเปลี่ยนความคิดแม่ก็สังเกตดูว่าแกเชื่อใครแล้วผูกมิตรกับคนนั้น แล้วอยากบอกอะไรก็บอกผ่านเอา บ่นลอยๆ ลูกหลานคนข้างบ้านชั้นไปเป็นครู นึกว่าจะสบายเหมือนสมัยเรา ที่ไหนได้ ฯลฯ ลูกอาแปะร้านโจ๊กหน้าตลาดเป็นทนายมา 5 ปี สอบผู้พิพากษาอยู่ แหม มีแต่คนเกรงใจ ฯลฯ เป่าหูไปเรื่อยๆ รับรองเห็นผลก่อนมึงจะเรียนจบ
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.