มู้ก่อนๆ
++++++++++++++++
มู้ที่1ไม่มีวาป
>>>/lifestyle/8212/ โม่งปรึกษาปัญหาสุขภาพจิต มู้ที่เท่าไหร่ไม่รู้ (มู้ก่อนตันแล้วหาไม่เจอ)
Last posted
Total of 1000 posts
มู้ก่อนๆ
++++++++++++++++
มู้ที่1ไม่มีวาป
>>>/lifestyle/8212/ โม่งปรึกษาปัญหาสุขภาพจิต มู้ที่เท่าไหร่ไม่รู้ (มู้ก่อนตันแล้วหาไม่เจอ)
ถามในนี้ได้มั้ยอ่ะ คือเพื่อนนี่เป็นซึมเศร้า มันก็กินยามานานแล้วนะ แต่จู่ๆมันก็เลิกกินแบบที่เลิกไปดื้อๆเลยอ่ะ จะบอกมันยังไงดีว่าให้มันกลับไปกินยา ถามมันบอกว่ามันหายแล้ว แต่กูว่ามันยังไม่หายอ่ะ วินิจฉัยตัวเองไม่ได้มั้ย กลัวมันแย่กว่าเดิมเพราะหยุดยาเองอ่ะทำไงดี
กุคิดว่าสมัยนี้ทุกคนจะยอมรับโรงซึมเศร้าได้ซะอีก แต่แม่งไม่ว่ะ กลุ่มเพื่อนกุคือแบบไปแอบบุลลี่คนเป็นโรคนี้อะแล้วเอาวีรกรรมเหี้ยๆมาเล่าให้กุฟัง กุก็เตือนว่าอย่าทำเพราะแม่งก็ยังไปแอบแกล้งแอบนินทาเขา อิเวร
คือกุเคยเป็นโรคนี้แล้วรู้ว่าตอนเป็นแม่งเหี้ยมาก มันเหมือนทุกอย่างในชีวิตคือแย่หมด อยากฆ่าตัวตายตลอดเวลา ทีนี้พอกุเห็นคนเป็นโรคนี้เลยเข้าใจแต่กลุ่มเพื่อนกุยังเสือกไปแกล้งเขาอีก
กินยาแล้วรู้สึกอาการซึมเศร้าไม่ดีขึ้นเลย เปลี่ยนยามาหลายตัวแล้ว กุควรทำไงดี
แฟนกูกลัวเซ็กส์ เราทำอะไรกันภายนอกได้ทุกอย่าง กอด หอม จูบ ใช้ปากทำให้ แต่พอจะสอดใส่ ก็จะไม่ทำต่อและถีบกูออกมาทุกครั้ง เคยพยายามหลายๆรอบแล้ว หลายวิธีแล้ว ทั้งแบบดีๆไปเที่ยวทะเลกัน เปิดเพลงบิ๊วท์ แต่พอตอนกำลังจะใส่ก็จะถีบกูออกมา ทั้งแบบเมาๆดื่มกันกรึ่มๆพอให้มีอารมณ์แต่ก็ยังโดนถีบออกมา จนตอนนี้กลายเป็นกูหมดความมั่นใจและเริ่มจะเกลียดเวลาเค้ามานัวเนีย มาหอม กูแล้วว่ะ คือพอเหมือนว่ากูมีอารมณ์แล้วสุดท้ายก็เฟลกลายเป็นโดนปฏิเสธออกมาตลอดๆ ถ้ากูขอเลิกเพราะเหตุผลที่กล่าวไป มันจะดูเลวมั้ยวะ กูกลัวถ้าปล่อยไปเรื่อยๆ กูจะกลายเป็นคนเกลียดเซ็กส์ซะเอง
>>13 ยัง พอบอกเลิก แฟนกูก็จะซึมเศร้ากำเริบรัวๆๆ เลยต้องทนอยู่อย่างนี้ อีกไม่นานกูก็คงซึมเศร้าไปตามๆกัน
>>11 ไม่เคยทำเลย เหมือนจะกลัวครั้งแรกด้วยมั้ง กูก็พยายามทำให้ผ่อนคลายสุดๆละนะ แต่ก็ไม่ได้อยู่ดี จนหลังๆกูก็เริ่มเกลียดตัวกูเองเวลามีอารมณ์พวกนี้ละ พอกูโดนปฏิเสธบ่อยๆก็เริ่มหมดความมั่นใจ เหมือนกูผิดปกติที่มีอารมณ์พวกนี้ เหมือนกูเป็นสิ่งที่เค้าไม่ยอมรับถึงได้ถีบออกมาอ่ะ
ละกูมันน่าขยะแขยงขนาดนั้นเลยหรอวะถึงต้องปฏิเสธทุกครั้งเลย ทำไมคนอื่นๆก็มีกันตามปกติได้ แต่กลายเป็นกูที่โดนปฏิเสธตลอด พยายามคิดเหตุผลหลายๆรอบละ แต่มันก็ไม่ตอบคำถามกูได้เลย กูเคยคิดว่าอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆแบบไม่ต้องมีอะไรกันก็ได้ แต่มันฝืนธรรมชาติตัวเองไง เพราะพอกูมีอารมณ์ กูก็ไม่สามารถปล่อยมันออกมาได้ ต้องระงับ ถ้าไม่ระงับเดี๋ยวก็โดนถีบออกมาอีก โดนปฏิเสธอีก รู้สึกเหมือนตัวเองน่ารังเกียจมากๆขนาดนั้นเลย
กูเลิกกับแฟนมา 2-3 เดือน แล้วพักหลังกูรู้สึกดูหนังแล้วอินขึ้น ซึ่งกูรู้สึกแปลกๆะ ปกติดูหนังแล้วก็เฉยๆ กับสนุก มีแค่นั้น
ปล กูไม่รู้จะไปห้องไหน 55555
มีความรักแล้วทำให้insecureกับทุกอย่างที่ตัวเองเป็นสุดๆ จะบ้าตาย
อยากเป็นคนที่เห็นคนอื่นประสบความสำเร็จแล้วดีใจกับเค้าได้อ่ะ ไม่ใช่มานั่งอิจฉาเค้า อยากเป็นอย่างเค้า แล้วก็พาลรู้สึกแย่ว่าตัวเองไร้ประสิทธิภาพแบบนี้ แม่งแย่ว่ะ แปลว่ากูเป็นคนที่ไม่มีความสุขใช่มะ เลยไม่สามารถยินดีกับคนอื่นได้
อยากมีความสุข
>>25 ฟิลเดียวกับกูตอนนี้เลยมึง กูรู้สึกตื่นเต้นดีใจกับความสำเร็จของเพื่อนนะ แต่ในขณะเดียวกันก็น้อยเนื้อต่ำใจและอิจฉาเพื่อนไปด้วย ตอนนี้กูพยายามจัดการกับความรู้สึกของตัวเองด้วยการพยายามไม่เอาตัวเองไปทาบกับเขา Journeyของเรากับเพื่อนไม่เหมือนกัน ก้าวของเราไม่เท่ากัน พยายามมองความสำเร็จของเขาให้เป็นความเป็นไปได้แล้วฮึดพยายามขึ้นมาบ้าง กูอาจจะไปไม่ถึงความสำเร็จแบบเขาในเร็วๆ นี้หรอก แต่อย่างน้อยถ้าได้พยายยามกูก็จะเป็นตัวกูในเวอร์ชั่นที่ดีกว่าเมื่อวานนิดนึง สู้ๆ นะมึง
ปรึกษาหนาอย เป็นซืมเศร้าต้องกินยาอะไรไหม ชื้อในร้านขายยาได้ไหมอะ ที่ๆกูอยู่ไม่มีคลีนิคจิตแพทย์ และกูไปไหนเองไม่ได้ อยากทรีคตัวเองก่อนต้องทำยังไง
>>29 ต้องกิน ไม่กินไม่หาย ต้องได้ยาจากจิตแพทย์เท่านั้นนะ เรียนมหาลัยอยู่ป่าว หลายๆมหาลัยจะมีศูนย์ไว้ปรึกษาสุขภาพจิต เราสามารถโทรไปได้ แล้วก็อาจจะวิดเโอคอลกับจิตแพทย์ แล้วให้เค้าส่งยาให้งี้ หรือโหลดแอพ Raksa มา เค้ามีหมอหลายแผนกให้เลือกโทรไปหา แต่ไม่รู้จะจ่ายยาให้มั้ย
มีวิธีฮีลใจตัวเองยังไงหรอ เพื่อนเราเสียเพราะซึมเศร้า และเราก็รู้ว่าเพื่อนเป็นโรคนี้แต่ไม่เคยรู้เลยว่ามันมีปัญหาอะไร มันชอบเก็บทุกอย่างไว้กับตัวเอง แล้วทำตัวร่าเริงกับเราตลอด จนเรานึกว่ามันหายแล้ว แต่พอมาทราบข่าวว่าเพื่อนเสีย เราช็อค เราเศร้า และเรารู้สึกแย่มาก รู้สึกแย่ที่ไม่เคยรับรู้ความทุกข์ของเพื่อนเลย แล้วก็คิดว่าถ้าเราใส่ใจมันมากกว่านี้ ถ้าตอนนี้ยังสนิทกันอยู่เหมือนเมื่อก่อน เรื่องแบบนี้อาจจะไม่เกิดขึ้นรึเปล่า ตอนนี้จิตใจเราแย่มากเลย ทำใจไม่ได้สักที เผลอคิดถึงมันตลอดเลย ทั้งๆที่ก่อนเกิดเรื่องเราไม่ได้คุยกันมาสักพักแล้ว แต่พอมันจากไปเรากับนึกถึงความทรงจำเก่าๆและเสียดายที่ไม่คุยกับมัน ไม่ใส่ใจมันให้มากกว่านี้
มีใครเคยเป็นโรคซึมเศร้าแบบไม่มีเหตุผลบ้างมั้ย คือกูรักษาซึมเศร้ามา 4 ปีแล้วอ่ะ ไม่หายขาดสักที คืออาการมันก็ไม่ได้เป็นหนักมาก แต่เคยลองหยุดยาเองไปช่วงนึงเพราะคิดว่าหายแล้ว สุดท้ายต้องกลับไปหาหมอ แล้วคือตอนนี้กูก็งง ครอบครัวกูก็งง หมอกูก็งง เพราะกูเป็นคนที่ไม่มี trauma ไม่มีเรื่องแย่ๆในชีวิต ชีวิตดีมาตลอด ครอบครัวดี เพื่อนดี ปัญหาโรงเรียนก็ไม่มี พ่อแม่พี่น้องกูก็ไม่มีใครป่วยทางจิต แล้วกูก็ร่าเริงแจ่มใสมากๆด้วย ตอนนี้หมอก็เอาแต่บอกให้ลองนึกดูดีๆว่ามีอะไรกระทบกระเทือนจิตใจหรือเปล่า แต่กูก็ไม่รู้จริงๆว่ะ คิดไม่ออกเลยจริงๆ
กูคิดว่ากูเป็นโรคจิตว่ะ คือเวลามีงานหรือกิจกรรมอะไรที่ต้องใช้เวลาทำสักพัก กูจะไม่ค่อยอยากทำก็จะผลัดไปเรื่อยๆ ทำอย่างอื่นๆแทนที่จะทำสิ่งที่ต้องทำ แล้วสุดท้ายมารีบทำทีหลัง คือกูเคยลองนั่งสำรวจความคิดตัวกูเองว่าทำไมถึงผลัดสิ่งที่ควรทำออกไปเรื่อยๆ สรุปว่า กูกลัวมันเสร็จแล้วจะไม่มีอะไรทำ หรือบางอย่างก็กลัวจะทำออกมาได้ไม่ดี มีใครเป็นแบบกูมั่งมั้ย แก้ให้หายยังไง ขนาดกูว่าจะไปหาหมอเพื่อปรึกษาเรื่องนี้ตั้งแต่เดือนที่แล้ว ยังไม่ได้ไปสักทีเลย
กูไม่แน่ใจว่ากูเป็นบ้าไปแล้วหรือเปล่า กูเคยโดนทำร้ายจิตใจอยู่หลายปี ถึงจะหลุดออกมาได้เป็นปีแล้วแต่ก็ไม่ดีขึ้นเลย เหมือนทุกคำพูดมันยังคงอยู่กับกูทุกวันไม่มีวันไหนเลยที่ไม่แว้บเข้ามาในหัวใช้เวลากับเรื่องนั้นไม่ต่ำกว่า8ชม
ต่อวัน กูเหนื่อย กูอยากลืมๆไปซะ
>>34 คล้ายเพื่อนกุคนนึง ออกแนวผลัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อย มันบอกไม่อยากรีบดูหนังอ่านหนังสือทำไรที่ชอบเพราะกลัวว่ทำไปแล้วจะไม่มีอะไรให้ทำ ละคนนี้คือนิสัยไม่ค่อยมีความรับผิดชอบด้วยนะ กุไม่รู้ว่าเป็นอาการทางจิตหรือเปล่าแต่กุชอบพูดใส่ว่ามึงไม่กลัวพรุ่งนี้นอนละไม่ตื่นทุกสิ่งทีมึงอยากทำจะไม่ได้ทำอีกแล้วเหรอ ละมันก็เลิกคุยกับกุเลย555
การที่ชอบจินตนาการว่าฆ่าคนตอนที่โกรธมันผิดปกติหรือเปล่าวะ
กูเป็นแผลเป็นที่คางอ่ะดูแล้วน่าเกลียดจังคงต้องเกบเงินมารักษาแล้วรู้สึกแม่งเปนปมกับตัวกูมากเลยมีใครทำใจกับความน่าเกลียดของตัวเองไงมั่งวพ
กูเกลียดตัวเองชิบหายเพราะอีโรคซึมเศร้าเหี้ยนี่ทำให้กูกินยาแล้วนอนไม่ตื่นโดนอาจารย์ด่ากลางคลาสให้คนเป็นร้อยฟัง กูเกลียดตัวเองชิบหาย
กูไม่มีอารมณ์ทางเพศกับคนแต่เสือกมีกับพวกสาว2D
พวกหนังโป๊เวลาลองดูมันก็ไม่เกิดอารมณ์เลยว่ะ แถมยังรู้สึกขยะแขยงอีกเห็นหีแล้วอยากอ้วก แบบนี้กูควรพบแพทย์ป่าววะ
จะสิ้นปีเรื่องเหี้ยๆ ประดังเข้ามาในชีวิตไม่หยุด เป็นโควิดหาย เจ็บเส้นเอ็นมือขวา พอจะหายเป็นกระเพาะ ร่างกายซีกซ้ายก็มามีปัญหา ไล่มาตั้งแต่บ่ายันเท้า สภาพจิตก็แย่ เครียดจะเป็นซึมเศร้าอีกหรือเปล่าก็ไม่รู้ ควยๆๆๆๆๆๆ
กูชอบคิดไปเองอ่ะ ว่าในสถานการณ์แบบนี้ๆ ในเวลาแบบนี้ๆคนอื่นจะต้องคิดแบบนั้นแบบนี้กับกูแน่ๆ ทั้งที่เค้าอาจจะไม่ได้คิดอะไรก็ได้ กูชอบคิดไปเองว่าคนอื่นชอบด่าชอบว่ากูตลอดเวลาทั้งที่เค้าอาจจะไม่ได้ทำอ่ะ แต่ก็อดคิดไม่ได้ มันเป็นอาการที่เรียกว่าอะไร
กูเครียดง่ายมากง่ายเกินไป เจออะไรนิดหน่อยก็เครียด ล่าสุดกูผิดหวังเรื่องที่หวังไว้มาก กูเครียดถึงขั้นไม่ได้นอนมา3คืน ร้องไห้ กระสับกระส่าย ตัวร้อนทั้งที่เปิดแอร์20องศา ไปจนถึงขั้นอยากทำร้ายตัวเอง กูแปลกใจมากที่กูเครียดง่าย เศร้าง่าย ทั้งที่พื้นฐานครอบครัวดีมาก กูไม่เคยลำบาก กูไม่เคยโดนทำร้ายจิตใจ ไม่ถึงขั้นอยากได้/หวังอะไรแล้วต้องได้แต่ไม่เคยขาดสิ่งจำเป็นในชีวิต ทำไมกูถึงโตมาเป็นงี้ได้วะ
>>54 พื้นฐานคงดีเกินไปจริงอย่างมึงว่า กับ >>55 ประชดกู จริงๆพอออกจากบ้านมาสังคมแม่งก็ไม่อ่อนโยนกับกูเท่าไหร่ แต่ก็เซอร์ไวมาได้แบบเครียดจะตายห่าตลอดตั้งแต่เด็กจนโตนั่นแหละ แต่อินิสัยเจอเหี้ยอะไรสะดุดก็เครียดแม่งไม่หายสักที ทั้งที่ก็ล้มมาเยอะผ่านมาเยอะ
กูไม่เคยบอกที่บ้านด้วยว่าโลกใจร้ายกับกูยังไงบ้าง แต่พอกูดูเครียดให้เห็นแล้วที่บ้านก็ชอบด่ากูนะว่าเขาเลี้ยงลูกดีขนาดนี้แล้วทำไมกูถึงเป็นแบบนี้ กูเครียดกว่าเดิมอีก 555555
คือกูเป็นพวกชอบเก็บข้อมูลแบบผ่านไปหลายปี ถ้ากูอยากกลับมาดูกูต้องมีให้ดูและสามารถหาเจอได้ง่ายอะ ไฟล์วิดิโอไร้สาระอันไหนถูกใจกูยังโหลดเก็บเผื่ออยากกลับมาดูด้วยซ้ำ //ซึ่งล่าสุดกูอยากดูคลิปนึงของหลายปีก่อน สุดท้ายก็หาเจอแต่หายากมากจนโคตรขัดใจเพราะสมัยนั้นกูโยนๆไฟล์เก็บอย่างเดียวไม่ได้จัดเรียง ไอ้นิสัยเก็บข้อมูลแม่งทุกอย่างแล้วต้องมีให้ดูอยากอยู่ๆอยากดูนี่มันปกติปะวะ หรือกูเก็บจนเป็นบ้ามากไป
เบื่อว่ะ วันๆตื่นมาเรียน เจอหน้าคนในบ้าน วนลูปมา2ปีละเนี่ย
หวงอานาเขตนี่นับเป็นโรคประสาทประเภทหนื่งไหมอะ กูโครตไม่ชอบเวลามีคนเข้ามาในห้องกู
ขนาดแม่ตัวเอง ถ้าขอก่อนจะพอทำใจได้อยู่ แต่บางทีก็ถือวิสาสะไขกุญแจเข้ามาเอง เจอแบบนี้ทีไรกูโมโหจนไมเกรนขื้น แล้วยิ่งพอเข้ามาเดินไปมา จับของในห้องนะ กูยิ่งเครียดจนเหงื่อแตก ทั้งโกรธจนจะอ้วกอะ กูไม่มีปัญหากับการเข้าสังคมนะ แต่ห้องกูคือหวงมากจริงๆ เพื่อนยังไม่เคยชวนเข้าชักครั้ง ล่าสุดคือร้องแทบคอแตกเพราะแม่แอบไขกุญแจเข้าห้องมาแอบดูกูนอน
กูคุมอารมณ์ไม่อยู่ :(
ทำยังไงให้เป็นคนเข้ากับคนอื่นง่ายดีคะ
กูแก้แค้นผญที่มันกวนตีนกูโดนการเอารุปหน้าพวกมันมาตัดใส่รูปดาราเอบรีละชัวว่าวใส่แม่งเลยเอาให้ชุ่มเหนอะหนะ เปนไงละมึงเสือกมากวนตีนกูกลายเปนกระหรี่ถังแชมให้กูช่ำยีซะเตมอิ่มเลย(ถ้ามันสวยนะแต่ถ้าอุบาทกุจะช่างมันขยะเกิน)กูเท่มะ
>>62 ค่อยๆดูว่าเขาคุยอะไรกัน อาจมีหัวข้อที่ตรงกันได้บ้าง ไม่จำเป็นต้องเข้าได้กับทุกคนเพราะคนเราโตมาไม่เหมือนกัน
อาจจะเริ่มจากเลือกคนที่มีความชอบเหมือนกันดูก่อน แต่การสร้างนิสัยที่ตัวเองอยากเป็นไม่ใช่เรื่องแย่ นิสัยมันสร้างกันได้พอเราชินไปมันก็ตะเป็นไปเองโดยธรรมชาติ
เปลี่ยนคำว่าฝืนทำฝืนฟังมาเป็นเรียนรู้เรื่องที่อีกฝ่ายชอบแทน เรียนรู้ไปก่อนชอบไม่ชอบรู้ไว้ก็ไม่ได้เสียหาย
สู้ๆ
รู้สึกตัวเองเป็นคนกลัวการเริ่มต้นการมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น คือเวลามีคาเฟ่หรือร้านอาหารมาเปิดใหม่แล้วคนขายเป็นประเภทชวนคุยเก่ง เราเห็นเวลาลูกค้าคนอื่นไปซื้อก็ชวนลูกค้าคุยรอไรงี้ เรารู้สึกไม่ถูกโรคกับคนแบบนี้อะ แล้วพอเราไปซื้อร้านนั้นครั้งที่ 3 ครั้งที่ 4 คนขายก็จะชวนเราคุยละ เช่น มาบ่อยเลย วันนี้อยากกินอะไร มีเมนูใหม่มาอยากลองไหม คือเราก็คิดในใจละ มาซื้อแค่ 3-4 ครั้งเอง ไม่ต้องมาชวนคุยมาก เราแค่อยากมาซื้อเงียบๆเฉยๆ พอเจอแบบนี้เรารู้สึกคิดมาก เหมือนลำบากใจที่จะไปซื้ออะ คือเราก็ไม่ได้เป็นคนเก็บตัวนะ ก็มีไปเทียว ไปไหนบ้าง แค่ชอบไปคนเดียว มีโรคส่วนตัวสูง สงสัยว่าจะแก้ยังไงดี รู้สึกเดียวนี้ชอบคิดมาก
ไม่เคยแฮปปี้เลยที้ตัวเองยังมีชีวิตอยู่
รู้สึกหมดไฟกับการใช้ชีวิตว่ะ แบบตายไปตอนนี้ก็ไม่เป็นไร
คือกูเป็นคนไม่มีเป้าหมายชีวิต เลยเป็นพวกที่ชอบตั้งเป้าหมายในชีวิตว่า เออตอน 20 ว่าจะตาย งั้นก่อนตาย หาไรทำหน่อยละกัน
แล้วก็เป็นแบบนั้นวนมาเรื่อยๆ จนจะสามสิบแล้วว่ะ
คนรอบตัวก็ว่าจะล่องลอยแบบนี้ไปเรื่อยไม่ได้ แต่กูก็ไม่รู้จะพยายามมากไปกว่านี้เพื่ออะไรว่ะ ไม่มีเพื่อน ไม่มีแฟน ไม่มีอะไรที่ชอบเลย อยู่ก็เป็นภาระบุพการี ตายก็เป็นภาระบุพการี แม่ง คนเราเกิดมาเพื่ออะไรวะ
กูอยากตาย แต่ไม่อยากฆ่าตัวตาย อยากแบบแค่อยู่ดี ๆ ตายแล้วทิ้งปัญหาถ่มถุยไว้กับคนที่อยู่ข้างหลังกู กูเศร้าที่ตัวเองเกิด ในขณะที่โกรธคนที่ทำให้กูเกิด หาหมอหมอบอกกูเป็นไบโพล่า แต่กูว่าไม่น่าใช่ มันไม่สองขั้วในเวลาเดียวนี่ แล้วสรุปกูเป็นเหี้ยไรวะ ใข้ชีวิตอยู่กับการเกลียดทุกคนรอบตัว กับรักตัวเองชิบหายนี่มันมีชื่อภาวะมั้ย กูว่าหมอที่กูไปแม่งพึ่งไม่ได้ จ่ายยามาว้อแดกกว่าเดิมอีก
กรวยเหอะครัชตอกไข่จะมาทอดแทกตอกไป2ฟองปกติเปนเหรี้ยไรฟอง3เสือกเน่าสรุปอดแดกทิ้งให้หมดเปรเหรี้ยยยยยไรรรห้ะะะะกรวยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
เครียดว่ะ รักษาโรคซึมเศร้ามาจะสองปีละ ก็ดีขึ้นอยู่นะ แต่แม่งก็ชอบมีอารมณ์เครียดง่ายหดหู่หมดอาลัยตายอยากในชีวิตผุดขึ้นมาในหัวเดือนละ 3-4 ครั้ง ทำไมมันไม่หายไปให้หมดๆวะ แม่ง
กุสงสัยคนประเภทนี้เขารู้สึกยังไงวะไม่ชอบแล้วแต่ยังติดตามข่าวแล้วเอามาด่าอีกอ่ะ อารมณ์แบบรอมึงล้มจะเหยียบซ้ำงี้ แต่มันก็ได้แค่ด่าเพราะคนถูกด่าไม่ได้มารับรู้และใช้ชีวิตดีเหมือนเดิม เกลียดแล้วตามด่าไม่เลิกนี่เอาแค่พอสะใจใช่มั้ย ถ้าเกลียดจริงมันต้องไม่อยากรับรู้หรือเห็นในรัศมีสายตาป่ะวะ
เซ็งว่ะ อายุ30แล้วแต่ยังรักษาสันดานขี้อิจฉาของตัวเองไม่ได้ซักที คนที่เก่งแล้วได้ดีไม่เท่าไร แต่คนที่ฝีมือห่วยแต่เสือกได้ดีกูโคตรอิจฉา
ได้ยินเรื่องคนที่เครียดมากๆแล้วทำร้ายตัวเองมาบ่อย
กูเพิ่งมีอาการเป็นครั้งแรก ที่ได้ยินบ่อยๆเป็นกรีดแขนกัน แต่กูมาแปลก รู้สึกอยากเอาหัวโขกกำแพงแทนซะงั้น
ไม่ชอบตัวเองเลยว่ะ คือกูเป็นคนพูดน้อยมากๆ ขนาดคุยกับคนที่สนิทหรือครอบครัวก็ยังรู้สึกว่าตัวเองพูดน้อยเลย ในหัวมันว่างเปล่าอะ ถ้าไม่ใช่ประโยคคำถามก็แทบไม่มีอะไรให้ตอบกลับไป เหมือนรับฟังมาแล้วก็แค่แบบ อืมๆ อ่า อื้ม คือไม่ใช่ว่าเราไม่ใส่ใจนะ แต่มันไม่มีอะไรให้ตอบ ถ้าไม่ใช่คำถามก็ทำได้แค่รับฟังอย่างตั้งใจ ในแชทยิ่งแย่ไปใหญ่ คือกูเปิดคอมมิชชั่นวาดรูป พอมีลูกค้ามาบรีฟงานแล้วเค้าก็น่ารักนะ เฟรนลี่ ชวนกูคุย ก็พยายามที่จะตอบกลับไปบ้างเท่าที่พอนึกออก ถ้าไปไม่ถูกบางทีก็ส่งสติกเกอร์ หรือบางทีก็ทำได้แค่อ่านเฉยๆ จนตอนนี้ดูเหมือนเค้าจะเริ่มอึดอัดนิดๆ แล้ว รู้สึกแย่มาก ไม่ได้อยากจะทำให้เค้ารู้สึกอึดอัดเลย แบบนี้มันเป็นเรื่องปกติของ introvert รึเปล่า หรือว่ากูเข้าขั้นมีปัญหาในการสื่อสารแล้ววะ
>>84 มึงคือกูหรือเปล่า กูตกใจนึกว่ากูละเมอมาพิมพ์ไว้ แต่รู้แก่ใจแค่มึงออกไปจากหน้าจอออกจากสังคมคอมพิวเตอร์ อารมณ์เหมือนมึงเล่นเกมอยู่คนเดียว คลิ้๊กเข้าไปจอยห้องรวมคนอื่นบ้าง เริ่มจากคุยกับคนไม่รู้จักง่ายสุด
แต่เหมือนโชคชะตาบังคับให้กูไม่มีเพื่อนไม่มีสังคม พอนานวันไปคนก็เริ่มไม่ตอบกู ทำไมไม่มีคนอยากคุยกับกูเลยวะ ทั้งที่กูพยายามเอนจอยแล้วก็เหอะ เหนื่อยใจ
>>84 กูไม่รู้ว่านี่จะช่วยมึงได้หรือเปล่านะ บางทีมึงไม่จำเป็นต้องให้บทสนทนาสุดที่มึงเสมอไปก็ได้ ถ้ามีคนถามอะไร อย่าตอบสั้นๆ จะไม่เกี่ยวกับที่ถามก็ลองพูดๆไปก่อน ตัวอย่าง "กินข้าวยัง" ตอบ "ยังเลย" จบทันที แต่ถ้าเปลี่บนมาเป็น "งานยุ่งมากเลยยังไม่ได้กิน ซื้อก๋วยเตี๋ยวมา ตอนนี้เย็นชืดหมดแล้วมั้ง" มีหลายประเด็นให้คู่สนทนาชวนเราคุยต่อได้อีก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานยุ่งช่วงนี้สงสัยมันค้างมาจากช่วงปีใหม่ หรือเรื่องก๋วยเตี๋ยวร้านนั้นให้หมูน้อยลงเพราะหมูแพงขึ้น
หรือจะตอบกลับด้วยคำถามก็ได้ "ยังไม่ได้กินเลย แล้วนี่กินข้าวหรือยัง" จะไปสู่บทสนทนาถัดไปเรื่องอาหารการกินได้ หวังว่าจะช่วยมึงได้นะ จากคนทำแบบทดสอบบุคลิกเป็น introvert มาหลายปี รอบล่าสุดเพิ่งเป็น extrovert 555555
กุเครียด หลายเรื่องมาก มันเรื้อรังมานาน แต่ล่าสุดกุเริ่มเครียดกับการเห็นข่าวในเน็ต ทุกครั้งที่เห็นอะไรไม่ดี กุจะชอบเครียดเหมือนตัวเองเป็นคนในข่าวที่โดนเอง มันวิตก กังวลไปหมด กุก็พยายามเลิกอ่านอะไรพวกนี้นะ แต่มันก็ยังมีอยู่ เหมือนกุแยกไม่ออกแล้วว่าอะไรคือเรื่องของกุ อะไรไม่ใช่ มันเครียดจริงๆ นะ ทุกอย่างมันอยู่ในหัวเต็มไปหมดเลยอะ
กูอยากตาย ไม่มีพ่อแม่คอยซัพพอร์ต ไม่มีคนคอยให้คำปรึกษา ไม่มีเหี้ยอะไรเลย
อยากทำงานที่ไม่ต้องใช้ไลน์คุยกันอ่ะ ไม่อยากตอบเลย แพนิคทุกครั้งที่ไลน์งานเด้งกลัวสะสมไปสุขภาพจิตจะแย่
กุเริ่มใกล้ประสาทละ ตกกลางคืนทีไรชอบนึกถึงเหตุการณ์ในอดีตแล้วมาคิดว่า ถ้าทำแบบนั้น นู้น นี้ ชีวิตมันคงจะดีกว่าที่เป็นอยู่
มึง วันนี้กุเป็นไรไม่รู้ ทำไมคิดแต่เรื่องฆ่าตัวตาย ออกจากหัวไม่ได้เลย ไม่รู้จะบอกใครไม่กล้าโพสลงเฟสบุ้ค
ยิ่งอายุมากขึ้นยิ่งหมดไฟ ที่บ้านกูก็ฐานะไม่ได้ดีมาก จะลาออกก็กลัวสร้างภาระเขาอีก เหนื่อยชิบหายเลยแต่ละวันกูคิดอยากจะตายแบบเงียบ ๆ แต่ถ้าตายกูก็สร้างความเดือดร้อนให้ครอบครัวอีก เคยคุยปัญหากับครอบครัวน่ะแต่เขาก็ไม่เข้าใจเราเลย บางทีก็คิดน่ะว่าคนอย่างเราไม่ควรเกิดมารึเปล่า
โม่งสุขภาพจิตว่า งานมันทำให้คน Breakdown จนมีปัญหาสภาพจิตใจได้ไหมวะ เคยมีคนแบบทำร้ายตัวเองเพราะเรื่องงานมั้ย
>>91 มึงกำลังเครียดมาก ถ้าไม่ดีขึ้นในครึ่งเดือน หรือความอยากตายมันรุนแรงมากขึ้น (เช่น เลือกหาวิธีฆ่าตัวตายที่น่าสนใจ ซื้ออุปกรณ์ฆ่าตัวตายมาเตรียมไว้ เขียนจดหมายลาตาย) ก็ไปหาหมอ ขอยาหมอกินนะ เผื่อจะเปลี่ยนใจ
ถ้าโชคดีมึงเจอหมอดี มึงน่าจะได้ใช้ชีวิตสั้นๆของมึงไปอีกซักพัก แต่ถ้าเจอหมอนิสัยเหี้ยหน่อยก็ทนอีกนิดนะเพื่อนโม่ง ชีวิตมึงคงแย่อยู่เดิมแล้ว เจออะไรแย่ๆเพิ่มอีกอย่างมันก็ไม่เปลี่ยนอะไรเท่าไหร่หรอก
บ่นในนี้ได้ ช่วงนี้กูก็เศร้าๆ เลยแวะเว็บโม่งมาระบายบ่อยๆ น่าจะพอเป็นเพื่อนคุยกับมึงได้บางครั้งบางคราว
>>91 มึงเครียดมาก มากเกินไป กูไม่รู้หรอกนะว่าปัญหาที่มึงเจอจะเหี้ยขนาดไหน ลองอยู่กับตัวเองแล้วค่อย ๆ คิดว่าจะแก้ปัญหาง่าย ๆ ได้ไง ถึงเปนความคิดโง่ ๆ แบบช่างแม่งมัน ก้ได้ เรื่องนี้ไม่มีใครรู้มากกว่าตัวมึงเองหรอก คิดใตร่ตรองดี ๆ มึงหาทางออกได้แน่ ทุกปัญหามันมีเส้นผมบังภูเขาทั้งนั้น
คือเราเกลียดคนที่บ้านมากเลยเป็นศูนย์รวมคนที่ไม่มีเหตุผลและใช้แต่อารมณ์อ่ะ มีอะไรผิดก็โทษเราไปหมดทั้งๆที่คนทําก็คือคนอื่น หรือโดนด่าว่าไม่ทํางานบ้านทั้งที่เราก็ทําตอนทุกคนไม่อยู่บ้าน คนในครอบครัวเป็นพวกหลงตัวเองชอบนินทาชาวบ้าน มองว่าตัวเองคือดีที่สุด ถูกต้องที่สุด อีโก้สูงมากๆ ทั้งพ่อแม่พี่เลย แล้วเราเป็นคนที่ทําตัวตรงกันข้ามหมดเรามองว่าการแสดงอีโก้มันCringeอ่ะ ทําให้การกระทำของเราหลายๆอย่างโดนด่าหมด แต่เราไม่เคยเถียงนะ คือเถียงไปก็ไม่มีประโยชน์ แค่ช่องทางที่ให้เราพูดมันยังไม่มีเลย ต้องมาทนๆฟังๆกับความงี่เง่าทั้งพ่อแม่พี่เลย ตั้งแต่เด็กๆแล้ว
ปี2021ต้องอยู่บ้านตลอดทั้งปีอีก ออกไปข้างนอกก็โดนด่า เราเลยเริ่มมีอาการเหมือนเป็นฮิคิโกโมริ เมื่อก่อนเราก็ไม่เขเาใจหรอกว่าทําไมพวกนี้มันอยู่ห้องสกปรกๆได้ไงวะ แต่พอมาเป็นเองก็เริ่มเข้าใจ เรารู้สึกไม่อย่กมีชีวิตเลย ไม่อยากทําอะไร ตื่นนอนมาเราก็นอนต่อเพราะเครียดไม่อยากคิดมาก ไม่ออกจากห้องเพราะไม่อยากเจอคนในครอบครัว ห้องตัวเองเริ่มรกขึ้นเพราะไม่มีกำลังใจทําอะไรเลย ปกติเรามีกิจกรรมเยอะมากแต่ตอนนี้ลืมไปหมดแล้ว ได้แต่นั่งเรียน นั่งดูหนังดูเมะยูทูปวนไป
เราไม่อยากเป็นงี้เลย เราไม่อยากไปหาหมอด้วยคือไปรับยามามันก็ไม่ได้อะไร เพราะสิ่งที่จะแก้ปัญหาได้คือการออกจากครอบครัวนี้
จริงๆจะฆ่าตัวตาย คิดว่าจะแขวนคอดู แต่มานึกๆว่าเราก็ยังกลัวตาย เรายังไม่ได้อยากตายจริงๆ เราอยากหลุดออกไปจากที่นี่ เรายังมีหวังอยู่ถ้าในอนาคตหางานที่ไกลๆบ้านได้ ถ้าเกิดไม่ได้เราว่าซักวันเราคงต้องฆ่าตัวตายแหละ ถึงตอนนั้นคงจะกล้าตายขึ้นมาเอง
>>97 สาเหตุที่เครียดเพราะครอบครัวมึงนิสัยไม่เหมือนมึง มึงก็มองว่าครอบครัวมึงมันCringe ส่วนครอบครัวมึงก็มองว่ามึงเป็นเด็กมีปัญหาแปลกแยกอะไรซักอย่าง แล้วครอบครัวแม่งซับซ้อน พอมึงคิดว่าแก้ไขยาก ก็เลยคิดว่าตายน่าจะง่ายกว่า งี้ปะ
อ่านแบบนี้แล้ว ความตายไม่ใช่สิ่งที่มึงต้องการจริงๆ แต่สิ่งที่มึงต้องการมันได้มายาก มึงเลยคิดว่าตายดีกว่า
สิ่งสำคัญคือความความชัดเจนในเป้าหมาย
มึงตั้งเป้าใช้ชัดเจนก่อน ว่าสิ่งที่มึงต้องการคืออะไรกันแน่ อยากแค่ให้ที่บ้านเลิกด่ามึง (อันนี้ง่ายกว่า) หรืออยากให้คนที่บ้านเปลี่ยนนิสัยด้วย (อันนี้ยาก กูเห็นด้วยว่าไม่คุ้มจะลอง เปลี่ยนเป้าหมายเป็นการออกจากบ้านอาจจะเหมาะสมกว่า ยกเว้นว่ามึงมีวิชาสะกดจิตล้างสมองคนในบ้านได้ก็ลุยเลย)
การแก้ปัญหาไปสู่เป้าหมายก็มี2แบบ
1.แก้ปัญหาเฉพาะหน้า: มันไม่แก้ปัญหาที่แท้จริง แต่ว่ามึงฟังนะ มึงถูกด่าจนเครียดมาก เครียดจนไม่อยากออกจากห้อง ไม่มีแรง จนพฤติกรรมมึงเปลี่ยน ถ้าเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ กว่าจะออกจากบ้านสำเร็จมึงน่าจะตายสมใจอยาก และมันลดประสิทธิภาพของการแก้ปัญหาที่แท้จริงด้วย ดังนั้นมึงต้องลดความเครียดก่อน
เช่น หาคนรับฟัง, แกล้งทำตัวเป็นเด็กดีเอาใจคนในบ้านไปก่อน, หาหมอกินยา, ฯลฯ
2.แก้ปัญหาที่แท้จริง: คือการที่มึงไม่ต้องทนทรมานกับนิสัยคนบ้านมึง
เช่น หาโรงเรียนประจำ หาทุนไปเรียนต่างประเทศ พิสูจน์ตัวเองว่ามึงเก่งจนลำบากใจจะด่า หางานทำแล้วย้ายออก ฝึกวิชาล้างสมองมนุษย์ ฯลฯ, จริงๆการฆ่าตัวตายก็เป็นทางเลือกนึง แต่กุว่ามึงน่าลองก่อนวิธีอื่นก่อนนะ
>>98 แก้ปัญหาเฉพาะหน้านี่แทบทําไม่ได้เลยหว่ะ กูเป็นผู้ฟังที่ดี?มั้ง คนอื่นๆเลยชอบคุยกับกูแต่กูไม่เคยมีโอกาสเป็นผู้พูดเลย เพื่อนสนิทกูก็ไม่เคยปรึกษาอะไรได้ เลยมาระบายในโม่งเนี่ยแหละก็ขอบคุณที่มึงมารับฟังแล้วช่วยเขียนวิธีการแก้ปัญหาอะไรให้นะ คือกูว่ากูพยายามเป็นเด็กดีสุดๆแล้วนะ เรียนดียังโดนที่บ้านด่าว่าวันๆเอาแต่เรียน ไม่ออกมาทํางานบ้าน ซึ่งหารู้ไม่ว่าพอกูว่างตอนกลางวันที่คนในบ้านกูไม่อยู่กูก็ลงมากวาดบ้านล้างจานตลอด คือห้องกูปล่อยรกแต่ส่วนรวมกูก็ทําสะอาดนะ แต่คือมันเป็นการด่าที่ไม่มีเหตุผลอย่างที่กูบ่นไป คือยัดความผิดให้กูเพื่อเป็นที่ระบายอารมณ์เฉยๆหรือเป็นซาดิสม์ก็ไม่รู้เหมือนกัน แบบคิดสภาพในบ้านอยู่ๆมีของหายกูก็จะโดนเรียกมาด่าคนแรก คือเป็นแบบนี้ตลอดเพราะกูเป็นคนเล็กที่สุดในบ้านด้วยมั้ง เลยต้องมารองรับอารมณ์ผู้ใหญ่ กูไม่เข้าใจว่าเขาเกลียดกูเหรอ เพราะกูเป็นพวกเก็บตัวไม่มีสังคมแบบมึงเลยเกลียดขี้หน้าเหรอวะ แต่กูเป็นตัวก็เพราะพวกมึงเนี่ยแหละ อะไรๆกูก็ผิดจนกูไม่มีความมั่นใจในตัวเองแล้ว
คือกูก็อยู่ปี 4 แล้วหล่ะ คือเดี๋ยวเทอมนี้ก็จะกลับไปหอ แต่กูเครียดกังวลเรื่องหางานเนี่ยแหละ กูอยากรับได้งานเร็วๆจะได้หนีๆไป แต่คือโอกาสหางานช่วงนี้มันยากด้วยกูเลยเครียดสัสๆ คือกูอยู่บ้านกูไม่สามารถทําอะไรproductiveได้เลย กูกลัวว่าถ้าช่วงหางานต้องมาอยู่บ้านกูจะบ้าจนหางานการไม่ได้แน่ๆ แต่มันก็ต้องหาทางกันต่อไป กูยื่นทุนเรียนโทต่ออยู่ด้วย ก็ขอให้มันได้เถอะ เพราะสายที่กูเรียนรุ่นพี่10%เพิ่งได้งาน ถ้ามืดแปดด้านจริงๆกูว่าถึงจุดนั้นกูคงกล้าไปตายเอง ก็ปล่อยไปตามสภาพจิตแล้วว่าจะทนได้แค่ไหน
วันนี้ต้องมาระบายในนี้แบบทนไม่ไหวจริงๆ โดนด่าลั่นบ้านเพราะตู้เย็นของเต็มแล้วหาว่ากูไม่จัดตู้เย็น แต่ของในตู้เย็นเป็นของคนในครอบครัวทั้งนั้นซึ่งเอามายัดๆเอง ด่าแรงว่าเลวชาติชั่วเป็นเหี้ยไรมากก็ไม่รู้ กูเดินหนีออกจากบ้านไปยังด่ากูอยู่เลย คือแม่งไม่ได้ขึ้นเสียงเพราะกูเถียงนะ กูไม่ได้ปริปากพูดอะไรเลยแม่งเป็นเครื่องจักรการด่าแล้วอ่ะ แล้วยังโดนสมาชิกครอบครัวที่เหลือมายําซํ้าอีกว่าแม่งมึงไม่น่าทําแบบนี้เลยมึงเลยโดนด่าไง อ่าหะ เมื่อก่อนเคยจัดตู้เย็นแล้วทิ้งของที่มันบูดก็โดนด่าว่าไม่รู้จักคุณค่าของของ คือจะให้กูทําไงได้นะ เผาตู้เย็นเลยดีมั้ย นี่ก็จดๆที่มันทํากับกูไว้เผื่อวันตายจะได้เอามาเขียนในจดหมายลาตาย
คือตอนที่ไม่ได้อยู่กับครอบครัวนี้กูเปลี่ยนเป็นคนละคนจริงๆ มีความสุขร่าเริงมากกว่า เป็นอิสระมากกว่า แล้วเรียนทํางานอะไรมันดีขึ้นมากๆด้วยพอมาอยู่สภาพแวดล้อมดีๆ กูเตรียมจะกลับหอแล้วก็หวังว่าตัวกูคนนั้นจะกลับมา แล้วเป็นคนอย่างนั้นไปตลอดนานๆนะ
บางทีก็ต้องช่างแม่งกะหูทวนลมมั่งว่ะ ไหนๆ ก็ไหนๆ
เอาตรงๆ ตอนนี้เป็นการฟังและมองข้างเดียวจากฝั่งมึง
ซึ่งถ้ามันจริงทั้งหมด กูว่ามึงควรต้องออกจากที่นั่น
และวางแผนไว้ได้เลย ว่าจะทำไง
ปล. ห้องมึงในส่วนของมึง ทำๆ ให้มันไม่รกมากก็ดี เอาเวลาที่ทำบ้านนั่นแหละ 555 กูแค่สงสัยว่าทำไมฟังดูงานบ้านอยู่กะมึงหมด
กูชอบhallucinatingว่าตัวเองทรงเซอร์หล่อวๆแบบเด็กช่างหว่ะ แต่จริงๆน่าจะทรงตัดอ้อยหรือทรงโจรมากกว่า เห้อ
แม่กูเป็นโรคซึมเศร้า ละคิดมากกับทุกอย่าง ย่ำคิดย้ำทำ ชอบพูดเรื่องเดิมๆซ้ำๆ แล้วช่วงนี้มีปัญหาการเงินก็มาบ่นกับกู กูก็ให้คำแนะนำไปเค้าก็ไม่ยอมทำ กูเลยนั้งฟังเค้าพูดระบายเฉยๆ แต่กลายเป็นว่าแม่งมาพูดกับกูทุกอาทิตย์ในเรื่องเดิมๆ พูดเหมือนเดิมเป๊ะ จยกูเครียด แล้วรู้สึกแย่ กูเลยปลีกตัวออกห่าง ไม่พูด ไม่เจอหน้าแม่กูเลย รู้สึกผิดมากๆว่ะ เพราะที่เค้าห่วงเรื่องเงินก็เพราะต้องการเงินมาดูแลกูด้วย แต่กูก็ทนฟังไม่ไหว สุขภาพจิตกูมันแย่ที่ต้องมาฟังเรื่องแบบเดิมทุกวันๆๆ ละพอกูแนะนำวิธีการก็ไม่ยอมทำ แล้วจะให้กูทำยังไง
>>104 >>104 กูแนะนำว่าให้มึงแกล้งฟังๆไป มึงน่าจะเคยทำจนเบื่อแล้วแหละ แต่มันเป็นวิธีที่ดีที่สุดตามหลักแล้ว เพราะพวกขี้กังวล ย้ำคิดย้ำทำ ขี้บ่น ส่วนใหญ่คือหาคนฟังกับคนเห็นด้วยแค่นั้นแหละ
แกล้งฟังไป แต่จริงๆฟังบ้างไม่ฟังบ้าง จะได้ไม่เหนื่อยมาก แต่ต้องแอดติ้งเหมือนตั้งใจฟัง พูด อืออาอ๋อ พยักหน้าหงึกๆ ครับๆ ใช่ๆ ส่งเสียงเหมือนเห็นด้วยไปเรื่อยๆให้ตรงจังหวะ ถามคำถามสั้นๆกลับ (แล้วเป็นยังไงต่อ? แล้วทำยังไงดี?) หรือไม่ก็พูดตามแม่มึงเลย ทำบ่อยๆก็จะเนียนขึ้น และเคยชินขึ้น ถ้ายิ่งแม่มึงพูดแต่เรื่องเดิมๆก็ยิ่งง่ายเพราะตามน้ำง่ายขึ้น, สิ่งสำคัญคือมึงไม่ควรออกความเห็นอะไรเลย เพราะแม่มึงก็คงไม่ฟังอยู่ดี แล้วมึงจะยิ่งเหนื่อยง่ายด้วย
แต่มึงก็ทำถูกแล้วที่หลีกหนีออกมาตอนเหนื่อย บางทีไม่ไหวก็คือไม่ไหว ก็มาพักก่อน แต่ถ้ายิ่งปล่อยไว้ไม่ดูแลก็กลัวจะสร้างปัญหาอย่างอื่นขึ้นมาแทน ก็ปรับๆให้สมดุลเอาเนอะ
เริ่มรู้สึกตัวว่าเป็นซึมเศร้า แต่พอไปถามราคาที่จะต้องพบจิตแพทย์แล้วก็คิดหนัก
เพราะค่อนข้างแพง มีใครมียาอะไรแนะนำไหม คือต้องพบแพทย์ถึงจะวางยาได้ แต่กูไม่มีเงินช่วงนี้จริงๆ ถามคนที่เป็นหน่อยว่าพอใช้ยาอะไรแล้วดีบ้าง
เป็นซึมเศร้ามา 3 ปี กูอยากตายมาก อยากตายทุกวัน วันนี้กูว่าจะผูกคอตาย แต่หาโอกาสไม่ได้ กับไม่กล้าด้วย แค่จะตายยังไม่กล้า กูมันอ่อนแอ
อยากติ่งอะไรซักอย่างแบบสมัยเด็กติ่งไอดอลเกาหลี รู้สึกชีวิตมันสนุกมาก ได้มีความสุข ได้ตื่นเต้น ได้มีโมเมนต์ที่แบบยิ้มแบบหุบยิ้มไม่ได้ แต่พอโตมา (วัยทำงาน) ก็เบื่อและเลิกติ่งไปเอง จนตอนนี้เหมือนไม่อินกับอะไรเลย ดูซีรีส์ที่ชอบ ดูไอดอลเกาหลีญี่ปุ่น มันก็หยุดตรงแค่คำว่าชอบแค่นั้น มันไม่สามารถพาอารมณ์ไปถึงคำว่าติ่งได้แล้วอะ ทำให้ชีวิตมันเฉาๆ ยังไงไม่รู้ รู้สึกไม่มี passion ในชีวิตเลย...
เขานัดกันฆ่าตัวตายช่องทางไหนกันอะ
เหนื่อยโว้ยย
TT…..
เหนื่อยวะ เหนื่อยจนอยากปลีกวิเวก ไม่อยากทืำอะไรเลย
กูไม่อยากทำงานเลย passionเดียวที่มีคืออยากฟาร์มตัง จุดหมายกูคืออนาคตสามารถอยู่ชิวๆเรื่อยเปื่อยใช้เงินไปวันๆโดยไม่ต้องทำงาน แม่งหนทางอีกยาวไกลมาก
>>121 ชีวิตกูมีเหี้ยอะไรดีมั่งเนี่ย
ตอนเด็กก็มีแม่ที่แม่งเหมือนเป็นวิตกจริต พ่อที่เฉยไม่สนใจกู บ้านก็กลางๆค่อนไปทางจน กลัวไปหมดทุกอย่าง ไม่ยอมให้กูคบเพื่อน ไม่ให้กูไปไหน จะทำอะไรจะไปไหนต้องโทรบอกตลอด passion กูตอนนั้นคือกูต้องหนีไปจากที่นี่เลยพยายามเรียนหนักจนสอบติดมหาลัยในกรุงเทพได้ถึงหัวกูจะไม่ได้มาทางวายวิดวะเลยก็เหอะ(กูติดเกมต้องการเงินด้วยเลยเลือกอาชีพที่หาเงินง่ายหน่อย) แต่กูแม่งก็ไม่รู้ว่ากูถนัดอะไรเหมือนกันเลยต้องไถไปเลยตามเลย แม่งเกือบจะตามมาอยู่หอกับกูแล้ว กูหัวเด็ดตีนขาดยังไงก็ไม่ยอม กว่าจะยอมปล่อยกูออกมาจากบ้านบ้าๆนั้น
ตอนเรียนมหาลัย ผลจากที่ตอนเด็กๆกูโดนเลี้ยงมาแบบไม่ให้เข้าสังคม ทำให้กูเลือกเข้ากลุ่มผิด กูดันไปอยู่ในกลุ่มคนรวย คือแม่งใช้ชีวิตรวยๆกันอ่ะ กูก็ไปใช้ชีวิตแบบนั้นไม่ได้ไง สรุปกูเป็นเบ้ประจำกลุ่มจนกูเรียนจบน่ะแหละ มีดีแค่อีกลุ่มนี้มันมีคนฉลาดระดับเหรียญเงินเหรียญทองอยู่เลยช่วยเข็นกูที่แม่งไม่มีหัวทางวิดวะจนจบมาได้เกรดกลางๆ ส่วนตอนนี้กูน่าจะโดนดีดออกจากกลุ่มแล้ว น่าจะไปตั้งกลุ่มไลน์กันใหม่ที่ไม่มีกูเอาไว้คุยกันแค่พวกรวยๆแล้วมั้ง
ตอนทำงาน ก็ทำๆไป แต่ด้วยกูก็ไม่ได้มีหัวทางนี้จริงๆ ก็เริ่มตามรุ่นเดียวกันไม่ทัน พอ 30 กว่าคนอื่นเค้าเป้นซีเนียร์กันหมดแล้วเงินเดือนไม่แสนก็ใกล้แสนกันหมดแล้ว กูยังต๊อกต๋อยอยู่เลยเงินเดือนก็แค่ 50-60k พอเจอโควิดกูโดนออกจากงานกว่าจะได้งานก็ปีกว่าผลาญเงินเก็บหมด แถมได้งานก็เหมือนรู้ว่ากูไม่มีทางเลือกก็กดเงินกูซะเหลือ 40k นิดหน่อยสัส จ่ายค่านู่นค่านี่ เลี้ยงลูกกูก็แทบจะไม่มีกินแล้ว ทำได้แค่ใช้ชีวิตไปวันๆ
ระหว่างทำงานกูก็มีแฟนแต่งงาน กูกล้าพูดเลยว่าสมัยแฟนกูกับกูคบกันคือช่วงที่มีความสุขที่สุดในชีวิต แต่พอแต่งเท่านั้นแหละเหมือนที่ผ่านๆมาแม่งไม่ใช่ตัวจริงว่ะ เหมือนเป็นช่วงโปรโมชั่น ที่ทำเป็นทำกับข้าวให้กูห่อไปกิน ช่วยกันทำงานบ้าน นานๆไปเที่ยวกันทีช่วยกันเก็บตัง มีเซ็กซ์กัน นอนดูหนังด้วยกันจนหลับอยู่ในอ้อมแขนกู แม่งแค่ภาพปลอมๆที่สร้างขึ้นมา พอแต่งแล้วมันกลับจากหน้ามือเป็นหลังตีน เมียกูมันแทบจะไม่แตะครัวเลย ซื้อกินตลอด เสื้อผ้าส่งรีดหมด เซ็กซ์ก็เลื่อนห่างออกไปเรื่อยๆเพราะจริงๆแม่งไม่อยากมีเหลือเดือนละครั้งเพื่อมีลูก พอมีลูกก็ไม่มีเลย(เหี้ยมาก) แยกห้องนอนให้กูไปนอนโซฟาเพราะกูกรนมันนอนไม่หลับ(เมื่อก่อนกูก็กรนเสือกนอนหลับ) ผลาญเงินกูแทบไม่เหลือกับการเที่ยวแทบจะเดือนเว้นเดือน
นี่แหละชีวิตกูอ่ะสัส มีเรื่องอะไรดีๆมั่งวะสัส เออมีมั่งแหละแต่สั้นเหี้ยๆ
ตอนนี้ชีวิตกูเหลือแค่เอาเงินเก็บก้อนสุดท้ายไปลงทุนใน blockchain อยู่ตอนนี้ก็ได้เงินมาท่วมทุนแล้วแหละ แต่กำลังเก็บเหรียญอยู่ตัวนึงใน blockchain ที่ตามข่าวใกล้จะดีดเต็มที่แล้ว ขอให้มันดีดเหอะ ชีวิตนี้ให้กูมีความสุขบ้าง ให้กูได้ลาออกจากงานบ้าๆ ให้กูได้นั่งเล่นเกมทั้งวัน ก่อนที่กูจะเป็นบ้าไปซะก่อน T_T
ทั้งบ้านกูมีแต่ยาพอนสแตน กูเลยแดกไปแล้ว 7 เม็ด ไม่รู้จะตายจริงไหม หรือจะทรมานไหม เอาจริงๆกูกลัวนะ ตอนนี้กูกลัวมาก แต่การมีชีวิตอยู่แม่งน่ากลัวกว่า พวกมึงช่วยอยู่เป็นเพื่อนกูได้ไหม
พอนสแตนแค่ 7 เม็ดไม่ตายหรอก ถ้าท้องไม่ว่างก็ไม่รู้สึกอะไรเลย แต่ตับมึงพังไปส่วนนึงแค่นั้น
กูอยากตายชิบหาย อีเปรต อีกวย อีเหี้ย อีหต้าหี แใ่งงงงงง
ไอ้โม่งที่แดกยาไป 7 เม็ดเป็นไงบ้างแล้ว
อยากใจกล้าๆกว่านี้จังว่ะ
หาหมอมาหลายปีหมอยังง้างปากกูให้พูดไม่ได้เลย นัดสองสามเดือนครั้ง สั่งยา เพิ่มขนาด จบ หรือนักจิตวิทยาจะตอบโจทย์มากกว่า
มึง กูอยากได้วิธีคลายเครียดอ่ะ ช่วงนี้รู้สึกเครียดจนผากจะย่นแล้วแงง
ออกกำลังกาย ช่วยคลายเครียดได้นะเวลาเหนื่อยๆ
อีเหี้ยกูอยากตายยยย
กูโสดมาประมาณสามปี ไม่เคยเกิดความรู้สึกสนใจใครอีกเลยว่ะ มองใครรู้จักใครก็ไม่รู้สึกชอบ ไม่เงี่ยน ไม่อะไรทั้งนั้น กุตายด้านหรือกูแค่แก่เนี่ย (28)
กูเป็นคนที่ชอบสงสัยอะไรแปลกๆ หาคำตอบเกี่ยวกับอะไรแปลกๆ ซึ่งบางทีมันไร้สาระบ้างก็ใช่แหละ (อารมณ์แบบพวกน้ำกะทิราดข้าวเหนียวหรือราดมะม่วง ไม่ก็ สายฉีดตูดฉีดจากข้างหน้าข้างหลังอะไรทำนองนี้) ปกติกูก็จะคุยกับเพื่อนเป็นท็อปปิกฮาๆ แต่ว่าวันนี้กูคุยกับพ่อ กูโดนด่าหนักมากว่ากูเป็นคนที่ไร้สาระปัญญาอ่อน เอ้า กูก็ไม่ได้จะหาสาระอะไรอยู่แล้วไหมอ่ะ หรือเขารำคาญกู เอาจริงๆก็ไม่ใช่แค่เรื่องไร้สาระแบบนี้อ่ะ เรื่องทั่วไปกูก็โดน เรื่องจริงจังกูก็โดน แต่วันนี้เป็นเรื่องไร้สาระพอดีเลยสบโอกาสได้ด่าแรงหน่อย เหมือนการมีอยู่ของกูมันน่าหงุดหงิดเกะกะสายตาเขามาก กูก็น้อยใจเป็นนะ เซ็งว่ะ
>>155 ใช่เลยมึง คืองี้ กูรู้สึกเหมือนเขาไม่ค่อยชอบขี้หน้ากูอ่ะ เวลากูพูดอะไรจริงจังเช่นแผนในอนาคตเขาก็ต้องขัดคอ แล้วก็หาเรื่องบ่นกูให้ได้ จับผิดข้อด้อยกูเอามาพูดให้ได้ พอกูตัดพ้อเหมือนที่ 156 บอก เขาก็จะแบบว่าที่พูดเนี่ยเพราะหวังดี แตะไม่ได้เลยใช่ไหม เมื่อวานกูเลยหาท็อปปิกไร้สาระที่กูชอบมาพูดแทน แต่สุดท้ายก็โดนอยู่ดี
>>153 >>154 >>156 ขอบคุณในความคิดเห็นนะเพื่อนโม่ง
ใครที่หายซึมเศร้า วิตกกังวลนี่หายกันยังไง มาแชร์ได้ปะ
ซึมเศร้ามันเป็นโรคติดต่อป่าววะ แฟนกูหายซึมเศร้าแล้ว แต่ความ Toxic ที่กูเจอระหว่างพาไปรักษามาตลอด ทำให้กูเป็นซึมเศร้าแทน
>>161 มึงควรคุยกับหมอ การจะกินหรือไม่กินยาไม่ควรเป็นสิทธิของมึงคนเดียว มึงควรให้หมอเจ้าของไข้ได้ร่วมพิจารณา ถ้าอาการมึงหนักควรกินยาก็ไม่ควรดื้อ แต่ถ้าไม่หนักมึงก็ลองขอหมอไม่กินยาดู กูเองคิดว่ามันควรยืดหยุ่นได้เรื่องกิน/ไม่กินยากรณีผู้ป่วยไม่มีความเสี่ยงถึงแก่ชีวิต
>>161 ไม่กินยาก็ได้ จากใจคนที่เคยเป็นนะ
ไอ้พวกที่บอกว่าซึมเศร้าเป็นแค่เรื่องสารเคมีในสมอง กินยาไปปรับสมดุลละก็จะหาย แม่งไม่รู้เรื่อง
ยาเป็นตัวช่วยออกสตาร์ทที่ดีมากในการพลิกฟื้นชีวิต แต่ถ้าชีวิตมึงเฮงซวย มึงยังไม่เข้าใจชีวิตมึง มึงก็ไม่หายซึมเศร้าหรอก ถ้ามึงไม่อยากกินยามึงก็ต้องรับประเด็นนี้ให้ได้ รับผิดชอบดึงตัวเองขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเอง
ถ้าคิดว่าทำได้ก็ลุย ไม่ต้องแดกยา
ไม่ค่อยโอเวลานัดหมอ แล้วเจอนักศึกษาแพทย์มา observe ด้วย คือเข้าห้องปุ๊บหมอไม่มีการพูดเกริ่นขอว่าวันนี้จะมีนศพ.มานั่งฟังด้วยนะ ให้กูเล่าเรื่องกูเลย คือกูไม่ได้อาย แต่อยากให้หมอแจ้งหรือขออนุญาตเราก่อน ถ้าเป็นต่างประเทศเค้าจะแคร์มากกว่านี้ปะวะ
>>167 มึงไม่โอมึงบอกเลย คือเคสปัญหาแบบนี้มึงขอความเป็นส่วนตัวได้ มึงอาจจะบอกหมอเค้าว่าครั้งนี้มึงไม่สะดวกใจ ไม่ได้เตรียมใจมา ครั้งหน้าขอให้แจ้งมึงก่อนเข้ามาในห้องให้มึงทำใจก่อน
หมอที่ดีเค้าจะไม่ว่าอะไรมึงเลย เพราะคนไข้แบบที่เปิดใจ/ไม่เปิดใจคือนอร์มอลที่เค้าต้องเจออยู่แล้ว มึงไม่ได้เรื่องมาก
>>167 ปกติอาจารย์หมอเข้าต้องขออนุญาติมึงก่อนนะ แล้วจริงๆมึงสามารถปฏิเสธไม่ให้มีคนอื่นมาร่วมฟังได้ แต่กูบอกไว้ก่อนเลยว่าส่วนใหญ่เข้าจะตื้อขอให้มึงร่วมมือ แต่อาจจะต่อรอง เช่น ขอแค่เฉพาะผู้หญิงได้ไหม ขอแค่1คนได้ไหม เป็นต้น
แต่กูยืนยันให้ได้ ว่าถ้ามึงต้องการความเป็นส่วนตัวจริงๆ และปฏิเสธอย่างหนักแน่น กูมั่นใจว่าหมอจะยอมรับและทำตามความต้องการของมึงแน่นอน
เบื่อความสัมพันธ์วะ เบื่อที่ต้องมานั่งกังวลว่าคนนั้นคนนี้เกลียดเราหรือเปล่าระแวงว่าจะมีคนนินทาไหม อยากเป็นคนเห็นแก่ตัวที่คบกับคนอื่นเพื่อหวังผลประโยชน์วะจะได้ไม่ต้องมานั่งเครียด หมดประโยชน์เมื่อไหร่ก็แค่ทิ้ง
คิดถึงแพรกิ ไปเยใครอยู่ ปวดใจจัง
เราเครียดว่ะ เราเข้าสังคมแย่มาก เราคุยไม่เก่ง เราไม่รู้ว่าควรพูด หรือ ควรทำอะไรยังไง เรามีเพื่อนน้อยมาก ตอนนี้เราอยู่มหาลัย เราไม่กังวลการอยู่คนเดียวเท่าไหร่ เรามีความสุขดี แค่เราเครียดเรื่องในอนาคต การทำงาน แม่เราชอบบอกว่า ไม่ต้องเก่งมาก แต่ต้องเข้ากับคนให้ได้ แล้วเราทั้งไม่เก่ง ทั้งเข้ากับคนไม่ได้อ่ะ T^T ทำไมเราต้องเป็นคนแบบนี้ด้วยว่ะ
ใครเป็นวิสัญญีบ้าง ช่วยมาฉีดยาสลบให้กูตายที
เหนื่อยจังเลยเพื่อนโม่ง สิ่งที่อยากทำก็ติดปัญหาด้านเงิน สิ่งที่ทำอยู่ก็ไม่ใช่สุดๆ ทุกวันนี้ใช้ชีวิตแบบไม่อยู่กับความเป็นจริง เหมือนมีชีวิตไปวันๆรอวันตาย ทุกวันต้องต่อสู้กับความอยากตายของตัวเอง หาความสุขชั่วคราวมาใส่เผื่อมันจะดีขึ้นแต่มันก็ชั่วคราว พอมันจบกุก็ยังรู้สึกห่วยแตกอยู่ดี ทำไม แค่มีเงินอีกนิดหน่อยกุคงได้ทำตามฝันแล้วแท้ๆ
ชีวิตที่คนอื่นมองมาแล้วคิดว่าดูดีตอนนี้มันไม่ใช่สิ่งที่กุต้องการเลยสักนิดมันทำกุเครียด เกลียดตัวเอง ฮือ กุเกลียดตัวเอง กุพยายามไม่มากพอรึเปล่า ทำไม ทำไมกุถึงทำได้แค่นี้ คนภายนอกมองว่ากุเก่งแต่กุมันห่วยแตกที่สุดเลย ทำตามฝันที่ตัวเองต้องการก็ไม่ได้ ไปไม่เคยถึงเป้าหมายเลย ที่บ้านไม่ได้ซัพพอร์ตกุ สิ่งที่กุควรทำคือไปให้ถึงด้วยตัวเองแต่กุก็ทำไม่ได้ กุมันทำอะไรด้วยตัวเองไม่ได้เลย ไม่สำเร็จสักอย่าง แล้วก็มาเศร้าเสียใจที่ไม่ลงมือกุแม่ง ฮือๆๆๆ กุพยายามไม่มากพอ กุไม่อยากพยายามแล้ว
เบื่ออาการซึมเศร้าเต็มทีละ แต่เงินก็ไม่ค่อยมี กูว่าจะไปหาหมอที่สมเด็จเจ้าพระยา ที่นี่มันแพงปะ
เป็น Social Anxiety Disorder อ่อนๆอ่ะ ทําไงดีโม่ง กรณีกูควรไปพบแพทย์มั้ยอ่ะ
มีอาการกลัวแพนิคเวลาคุยกับคน มีความรู้สึกผสมๆทั้งรำคาญคนและกลัวคนด้วยกัน รู้สึกเหนื่อยเวลาเข้าหาคน ก็คือไม่ได้เป็นหนักขนาดที่มีอาการหนัามืด ตัวสั่น ปวดท้องอ่ะ แต่กูก็เกร็งๆทุกครั้งที่คุยกับคนอื่น
คือแบบแต่กูไม่ได้อยากคิดกับคนอื่นแบบนี้เลย หลายครั้งกูเลยแก้ปัญหาโดยไม่พูดมากหรือการเมินคนอื่นไปเลย แต่มันก็ทําให้คนคิดว่ากูหยิ่ง กูอีโก้ กูบ้าอ่ะ ทั้งๆที่จริงๆกูไม่ได้อยากจะคิดร้ายกับใคร ความมั่นใจในตัวเองก็น้อยชิบหายเลยเป็นงี้
นี่ยังไม่ได้ทํางานแต่ใกล้จะจบแล้ว กูกลัวว่าจะหางานเข้ากับสังคมใหม่ๆได้ยาก คือกูก็ฝืนเป็นได้แหละคนเฟรนลี่อ่ะแต่มันตอแหลไงแล้วมันจะจบไม่สวยหรอกแล้วกูควรจะทําไงให้ปกติ หรืออันนี้สมองกูผิดปกติป่าววะ ควรไปกินยาพบแพทย์มั้ยนะ
ใครเป็นโรค Maladaptive Daydreaming บ้าง โดดเดี่ยวไหมกับความปกติที่ไม่ปกติ โรคที่เหมือนไม่ใช่โรค
กูเผลอให้เพื่อนยืมตังไปจำนวนนึง(ค่อนข้างเยอะ) กูควรจัดการความรู้สึกตัวเองยังไงดีวะ
พวกมึงรู้ได้ไงว่าตัวเองเป็นโรคซึมเศร้า ไม่ใช่โรคเรียกร้องความสนใจ อันนี้กูไม่ได้ประชดหรือหาตีนมันมีคนประเภทนี้จริงๆคืออยากให้คนอื่นสนใจตัวเอง กับเป็นซึมเศร้าจริงๆ
>>184 พวกมโนไปเองไปต้องให้ค่าเลย จิตแพทย์โอนลี่เท่านั้นที่ให้คำตอบได้ ไม่มีภาพถุงยาพร้อมชื่อแปะคือสตอเบอแหลทั้งนั้น กูนี่เคยเข้าใจว่าตัวเองเครียดเลยมีอาการ overeating แค่นั้น เป็นมาหลายปี สุดท้ายมีโอกาสได้ไปตรวจ หมอว่านี่ไม่ใช่เพราะเครียดนะ จบที่ซึมเศร้า เหอๆ ไม่นึกว่าจะเป็นได้เลย ฉะนั้นเรื่องแบบนี้กูเกิ้ลให้คำตอบไม่ได้ แค่พอไกด์ให้เข้าใจอาการบ้างเท่านั้นเอง
หนักกว่าเรียกร้องความสนใจคือพวกเหี้ยที่ชอบเอาโรคมาเป็นข้ออ้างนี่แหละ ฮิตชิบหายทำผิดเหี้ยไรอ้างแต่ซึมเศร้าคนเป็นจริงเลยพลอยโดนหางเลขจากสังคมไปด้วย ถ้าโรคมันด่าได้มันด่าไปแล้ว
กูจะบอกอะไรให้ มึงไดแอกเองได้นะอันที่จริงแล้ว ไปหาไกด์ไลน์การไดแอกซึมเศร้ามาอ่าน มันมีพับลิชให้หมอโหลดไปใช้น่ะแหละ โรคเหี้ยนี่มันไม่ได้ต้องเทสสมองเจาะเลือดไปตรวจอะไร มันก็ไดแอกจากอาการนี่แหละ
หาเพื่อนซักคนมาช่วยดูไม่ให้มึงไบแอสละก็ไล่ตามลิสไป
>>184 รู้สึกชีวิตไร้ค่า ไม่มีกระจิตกระใจจะทำอะไรนานติดต่อกันหลายเดือน หนักเข้าก็เริ่มอยากตาย คิดหาวิธีตายหลายๆแบบกูถึงเรียกว่าซึมเศร้า เป็นแล้วไม่ค่อยอยากให้ใครรู้หรือมาช่วยหรอก แต่ก็หลุดออกมาด้วยตัวเองได้ยากถ้าจะปรึกษาก็ต้องคนที่เชื่อใจจริงๆเท่านั้น ส่วนคนอื่นไม่รู้เป็นแบบนี้ไหมนะ
ซึมเศร้าไม่ใช่โรค แต่เป็นเพราะมึงมันจิตใจอ่อนแอต่างหาก
การบัญญัติว่าอะไรที่มันกำกวมๆเป็นโรคหรือไม่เป็นโรคทางการแพทย์
หลักๆขึ้นอยู่กับว่าบริษัทยายัดเงินหมอมากพอรึเปล่า ถ้ายัดมากพอหมอก็แอพพรูฟให้เป็นโรคได้ แบบไอ้ซึมเศร้านี่แหละ
อนาคตพอความรู้พื้นฐานไปไกลกว่านี้ก็อาจจะโดนถอดจากการเป็นโรคก็ได้ เหมือนแต่ก่อนมีโรคเกย์ โรคฮิสทีเรียอะไรงี้ที่ปัจจุบันก็ไม่ยอมรับกันแล้ว
>>194 แล้วเข้าทางพวกมนุษย์อ่อนหัดด้วยไง เอะอะๆก็เป็นซึมเศร้า อย่าพูดคำนั้น ไม่อยากได้ยินคำนี้ ต้องไม่ทิ้งกันไปไหนแต่อยู่ใกล้ไปก็ uncomfort พอเอาแต่ใจมากๆก็จะลงมือทำเรื่องไร้สาระลงไปจนมันมีคนอื่นเดือดร้อน ก็มาตีบทเศร้า กำถุงวิตามินซีหลอกเด็ก โพสท์ทวิตอุนเทอ เราไม่หวายแน้ว ลาก่อย แง
>>197 องค์การโลกไรวะ ช็อคเก้อป่าว 555
ถ้ามึงจะเอา who มาอ้างอิงในการเถียงว่าเป็น fact ที่คัดง้างไม่ได้ แปลว่ามึงไม่ได้เข้าใจวิทยาศาสตร์ และหนำซ้ำไม่รู้เรื่องประวัติศาสตร์การแพทย์ด้วย
ลองกระตุกต่อมความคิดด้วยการอ่านฟูโกต์พูดถึงจิตเวชดูก็ได้นะเพิ่ล จะได้ไม่ฝังหัวว่าวงการแพทย์พูดอะไรมึงต้องเชื่อไปซะหมด
เอาไว้ถ้าหมอไดแอกโรคที่บอกว่าเกิดจาก"สารเคมีในสมองแปรปรวน" ด้วยการตรวจสารเคมีในสมองที่ว่าน่ะ กูถึงจะเชื่อ
แต่ถ้ามาไดแอกด้วยการถามๆเอาว่าชีวิตมึงเฮงซวยมั๊ย ถ้าเฮงซวยเอายาอารมณ์ดีกูไปแดกนะ
คนสติดีๆที่ไหนจะอยากเชื่อวะ
>>201 เฮ้อ ต้องให้กูสอนบวกเลขด้วยมั๊ยนิ
คือมึงจะมาเถียงว่าโรคซึมเศร้ามีจริง แต่มึงแปะบทความที่พูดถึงโรคซึมเศร้าว่ามีลักษณะยังไง รักษายังไง
มันถูกโลจิคตรงไหนวะ มึงลองกลับไปอ่านบทความมึงเองตรงไหนที่ใช้พิสูจน์ได้บ้างว่ามันสมควรจะเป็นโรคทางการแพทย์จริงๆ ทั้งสาเหตุก็ไม่รู้แน่ชัด อาการก็คลุมเครือ อาการไม่หนักให้หมอชี้แนะแนวทางใช้ชีวิตให้ก็หาย แถมมีความแตกต่างอย่างชัดเจนกับจิตเภทอีก หรือมึงจะบอกว่าแค่หมอบอกว่ามันมี มึงก็เชื่อว่ามันมี? กูก็อุตส่าห์ยกตัวอย่างโรคเกย์ให้มึงแล้วว่านิยามของการเป็นโรคทางการแพทย์แม่งก็ผิดได้ เปลี่ยนได้
มึงรีพลายๆมาเนี่ย ไม่เห็นมีโลจิคมีสาระอะไรเลย มีแต่มาขำๆเย้ยๆ เหมือนเข้าใจว่าตัวเองฉลาดแต่จริงๆไม่รู้อะไรเลยง่ะ ถ้าจะเฟียซก็ทำพื้นฐานให้มันแน่นก่อนดิ ไม่งั้นมันเขินนะ
>>203 จับแพะชนแกะสัสๆ
ถ้ามึงพูดถึงฟูโกต์ กูแค่ยกมาเพราะเขาวิจารณ์ให้เห็นว่ามันมีปัจจัยภายนอกเยอะแยะที่มาส่งผลต่การแพทย์ทั้งการเมืองวัฒนธรรมนู่นนี่นั่น ซึ่งหมายความว่ากูเชื่อฟูโกต์มั๊ย? ไม่ใช่ แม่งพูดถึงเรื่องซึมเศร้ารึเปล่ากุยังไม่รู้เลย
กูเสนอว่ามันยังมีวิธีคิดอีกแบบที่ไม่ใช่เชื่อตามหมอไปซะหมด
กูเชื่อในหลักฐานเขิงประจักษ์ มีข้อมูลอะไรที่เอามาทำให้มันดิ้นไม่หลุดบ้างว่าโรคซึมเศร้าของมึงเนี่ย มันเป็นความผิดปกติของร่างกาย ที่ต้องเอาสารเคมีที่ผลิตโดยบริษัททุนเข้าไปช่วยปรับสารเคมีในสมองมึง มึงถึงจะกลับเป็นปกติ ก็ไม่มีไงไอสัส หมอยังบอกเลยว่าไม่รู้ว่ามันเกิดได้ยังไง น่าจะประมาณนี้ๆๆมั๊ง แต่เสือกรณรงค์กันใหญ่โตว่าเศร้าต้องหาหมอแดกยา
แล้วมึงควรจะรู้ว่าหมอปัจจุบัน overdiagnosis มากๆ ไม่ใช่แค่ซึมเศร้า ลามไปยันโรคทางระบบอย่างความดันสูงหรือแม้แต่เหงือกอักเสบ บางอย่างมันไม่จำเป็นต้องรักษาด้วยการกินยา แต่เพราะการแทรกแซงจากปัจจัยภายนอก ไกด์ไลน์การรักษาที่"ส่วนกลาง"ทำออกแจกจ่ายให้หมอไปใช้รักษามันเลยไม่โปร่งใสไง หมอแม่งก็เป็นคนเหมือนกูมึง มันก็ทำตามรูทีน ตำราบอกให้ทำอะไรมันก็ทำไปอย่างนั้น ยกตัวอย่าง ในเรื่องเบสิกสัสๆเลย ในยุคนึงหมอสอนกันนักหนาเรื่องสามเหลี่ยมโภชนาการว่าควรจะกินสิ่งนั้นสิ่งนี้เท่านั้นเท่านี้ทั้งๆที่ข้อมูลจริงๆก็มีตั้งแต่สมัยนั้นแล้วว่ามันถูกต้องเลย ทุกวันนี้โภชนาการที่หมอแนะนำก็เปลี่ยนไปมาก มีทั้งคีโต ไอเอฟ ห่าเหวอะไรกันผุดขึ้นมาเต็มไปหมด
เพราะฉะนั้นกูเชื่อในหลักฐานกับการตัดสินใจของตัวเอง ถ้ามีหลักฐานที่ดี กูก็พร้อมจะเปลี่ยนความคิด แต่มึงไม่มี แล้วก็พยายามจะเบี่ยงประเด็นมาย้อนถามกู แต่กูใจดีเลยตอบมึงให้ อิอิ
เชื่อคนอื่นเพราะเขาเรียนสูง หัวจะปวด
ยกตัวอย่างให้เอกสตรีมขึ้น หมอไทย อาจารย์แพทย์เป็นส ลิ่มเยอะสัสๆ
แปลว่าอะไร แปลว่าการตัดสินใจ การใช้ตรรกะเหตุผลพวกแม่งก็ไม่ได้ปราศจากไบแอส ไม่ได้เลิศเลอกว่าคนอาชีพอื่นเลย
ถ้าเคยอ่านtextแพทย์ ตำราแพทย์ไม่ได้สอนให้คิด มันสอนให้ทำตาม ซึ่งหมอส่วนมากก็ไม่ได้สรรหาจะไปดูที่มาที่ไปของข้อมูลนั้นหรอก ท่องจำแค่ตรงหน้าก็เหนื่อยสมองพวกมันแล้ว
ดังนั้นหน้าที่คิดตัดสินใจกับร่างกายกับชีวิตตัวมึงเองก็ต้องคิดเอง เข้าใจยังไอสัส
จะปล่อยให้หมอทำอะไรกับร่างกายมึงก็ได้โดยมึงจะไม่ฉุกใจคิดซักนิดเลยเหรอ?
ทีนี้ก็ไปคิดดูว่าทำไมมึงถึงเชื่อว่าโรคซึมเศร้ามีจริง ถ้ามึงจะเชื่ออยู่ก็ไม่ได้ผิดอะไร มันก็อาจจะจริงก็ได้ ปัจจุบันไม่มีconcensus แต่หวังว่าจะเลิกอวดฉลาดว่าเชื่อหมอ(หมอเอหมอบีหมออ้อยไหนก็ไม่รู้แหละ ขึ้นชื่อว่าหมอก็เชื่อแระ)ถูกต้องที่สุด
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/books/NBK361016/ กูไปหานั่งอ่านมา สรุปก็ไม่มี pathophysio ชัดเลย แต่ก็มีงานวิจัยบอกว่าการแดกยาช่วยได้นะ
>>204 เออ ถ้ามึงไม่แยกเรื่องรสนิยมทางการเมืองกับทักษะทางวิชาชีพกูก็ว่ามึงไม่ไหวนะ การตรวจรักษามันมีขั้นตอน ไม่ได้ใช้แค่เป็นขนมหวาน ตรรกะป่วย แล้วจะเป็นหมอไม่ได้
กูไม่ได้พูดสักคำว่ากูเชื่อหมอชิบหายแบบนั้น กูแค่ถาม ว่าระหว่างคนที่เค้าเรียนมากับใครไม่รู้ที่พูดเรื่องเดียวกันทำไมมึงไม่เชื่อคนที่เรียนมา ตรงนี้ถ้ามึงแย้งว่ามึงไม่ได้พูดถึงการรักษา/วินิจฉัยโรค มึงหมายถึงให้คิดต่าง อันนี้ก็ผ่านไปเพราะตอนอ่านถึงฟูโกต์กูเข้าใจว่ามึงฟังเค้าพูดเรื่องจิตเภชแล้วเชื่อทางนู้น
ส่วนเรื่องคิดต่างกับเรื่องให้ตัดสินใจกับร่างกายกูโนคอมเม้นท์ กูเชื่อว่าจะคิดต่างได้ตัดสินใจได้ต้องมีความรู้ก่อน ตอนกูป่วย (ทางกาย) กูไม่โอเคกับผลวินิจฉัยกูหาความรู้ได้ กูขอตรวจเพิ่มได้ แต่ถ้ากูป่วย (ทางจิต) กูจะยังมีสติคิดไหมนี่กูไม่รู้
เพราะงั้นเรื่องซึมเศร้าอันที่จริงกูก็โนคอมเม้นท์อีก กูเคยเจอดีเพรสที่น่ากัวสัด ๆ และดีเพรสหาแสง แต่จะให้กูคิดว่าซึมเศร้าเป็นความเชื่อ ต้องมีวิธีการตรวจที่เป็นโกลด์สแตนดาร์ดถึงจะเชื่อว่ามีโรคนี้จิงอันนี้กูว่าเกินไป โรคบางโรคไม่มีวินิจฉัยโกลด์สแตนดาร์ด มีแค่วิธีมาตรฐานที่ก็เพียงพอใช้ในการประเมินการรักษา
ถ้ารู้ตัวว่าตัวเองไม่ปกติ อย่างน้อยหาหมอมันต้องดีกว่ามานั่งมโนเอาเองว่ะ ยังไงกูก็ยังจะบอกให้หาหมอและรังยามาแดกถ้ามันมีแนวโน้มอันตรายถึงชีวิต
>>208 ขึ้นต้นมามึงก็อ่านที่กูตอบไม่แตกซะละ แต่ไม่เป็นไรข้ามไป มึงลองดูที่ >>207 แปะลิงค์มาก็ได้
ถ้ามึงเข้าไปอ่าน มึงจะเห็นว่ายาซึมเศร้าเป็นตัวช่วยในการหายจากอาการซึมเศร้าได้จริง แต่ว่าการรักษาด้วยการปรับพฤติกรรมตัวเองก็ได้ผลว่ะ แล้วถ้าไปค้นการวิจัยเพิ่ม ในไทม์เฟรมที่นานขึ้น ผลของยากันเศร้าก็ยิ่งน้อยลงไปอีกอย่างมีนัยสำคัญ และในงานวิจัยนี้ก็ยังบอกว่าปัจจุบันพวกหมอนี่แหละ ที่จ่ายยากันเศร้าเกินความจำเป็นไปมาก เคสที่ไม่จำเป็นก็ยังจ่าย ถ้ามึงคิดว่านี่ยังไม่สำคัญกับชีวิตมึงลองดูผลที่เกิดจากทศวรรษที่ผ่านมาที่พวกหมอชอบจ่ายแอนตี้ไบโอติกเกินขนาด ทุกวันนี้มนุษย์ทั้งโลกแทบจะสู้เชื้อใหม่ๆไม่ได้แล้ว มีเหี้ยไรมาก็ติดเชื้อหมดและต้องใช้ยาแรงขึ้นเรื่อยๆ วงการหมอมันไม่ใส่ใจบอกเรื่องนี้กับมึงหรอก และถ้ามึงจะรอความรู้ทางการแพทย์นิ่งก่อนค่อยตัดสินใจเอง ก็นู่นอะอีกสิบปียี่สิบปี ซึ่งก็จะมีคนที่ซัฟเฟ่อจากผลข้างเคียงของยากันเศร้าที่จ่ายเกินความจำเป็นไปอีกไม่รู้กี่ล้านคน
พูดถึงผลข้างเคียงขิงยากันเศร้า มันแย่มากๆ ซึ่งบริษัทยาก็พยายามปกปิด จนคนไข้ที่ใช้ไปแล้วโดนผลกระทบหนักๆมาฟ้องถึงค่อยอ้อมแอ้มใส่ข้อควรระวังเพิ่มมาทีละข้อ จำนวนมากที่แดกแล้วอัตราฆ่าตัวตายสูงกว่าเดิม บางรายเซ็กเสื่อมไปตลอดชีวิต ที่สำคัญการแดกยาที่เข้าไปยุ่งกับสมองมึงเป็นปีๆ ต่อให้มึงจะหายเศร้าเร็วขึ้น แต่มันจะเปลี่ยนสมองมึงไปตลอดกาล และไม่ใช่ในทางที่ดีด้วย ซึ่งหมอหรือบริษัทยาไม่มาแคร์มึงหรอกนะ มึงเองนั่นแหละที่ผ่านมรสุมซึมเศร้ามาแล้วแต่ต้องแบกวิบากกรรมใหม่นี้ไปตลอดชีวิต
ฝากถึงไอ้พวกคิดว่าตัวเองซึมเศร้าที่ผ่านมาอ่าน พวกมึงพยายามอย่างเต็มที่แล้วรึยังในการเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเอง ถ้ายัง ไปลองซะก่อน ยอมรับว่าที่มึงเศร้าน่ะเกิดจากชีวิตที่เฮงซวย ไม่ว่าจะเฮงซวยจากคนอื่นหรือจากตัวมึงเองก็ตาม ไม่ใช่โทษว่าเกิดจากความโชคร้ายที่เป็นโรคและจะหาทางลัดด้วยการใช้ยา หาที่ปรึกษาดีๆ จะผู้ใหญ่ดีๆที่มึงนับถือ นักจิตบำบัดหรือจิตแพทย์ก็ได้ แก้ปัญชีวิตไปทีละเปลาะ ออกกำลังกาย นอนให้เต็มอิ่ม แดกให้เฮลตี้ ยากันเศร้าไม่ได้ทำให้มึงหาย ยาแค่ช่วยให้มึงแก้ปัญหาชีวิตง่ายขึ้นเร็วขึ้น แต่ต้องแลกด้วยสมองมึงเองนะ
อย่าแดกยาจนกว่ามันจะอับจนหนทางจริงๆ
>>209 มึง ๆ คือกูหนับหนุนใช้ยากรณีจำเป็น กูเขียนไว้แล้วไงงงงงงง
เรื่องดื้อยาปฏิชีวนะกูรู้วววว ผลข้างเคียงยาแต่ละตัวกูก็อ่านเองเวลากูต้องใช้ แต่มึง กูแนะนำใข้ยา ถ้ า มั น จ ำ เ ป็ น ไงงงงง
กูไม่อยากให้มัวรอปรับตัวปรับใจก่อน คือบางคนมันอาจจะทำเองไม่ได้จิง ๆ งี้ ว้อยยย
กูเบื่อความรู้ต่ำของคนส่วนใหญ่ตั้งแต่ ยาลดอักเสบ = ยาปฏิชีวนะแล้ว สัด ใกล้เคียงกันชิบหายอ่ะ
แดกยาเถอะโม่ง กูเคยเป็น แดกแล้วมันดีขึ้นจริงๆ
คนที่เคยเป็น anxiety disorder แล้วหาย ความจำจะดีขึ้นมั้ยวะ ทุกวันนี้กูความจำสั้นมาก สมาธิสั้นด้วย
กูเคยลองแดกยาแล้วมันเหมือนความสุขปลอมเลยว่ะ กูเลยเลิกแดก
กูเลิกแดกเพราะแดกแล้วอารมณ์เงี่ยนมันหาย
กุว่ากุเริ่มมีอาการทางจิตว่ะ ไม่รู้ว่าเป็นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่มันทำให้กูขาดความมั่นใจในการทำงานจนจะ suffer ไปเลยอ่ะ
แบบกุมักรู้สึกส่าตัวเองกระจอกอ่ะ ทำพลาดนิดเดียวแต่รู้สึกเหมือนกุทำโลกระเบิด โทษตัวเองซ้ำๆ พอตามใครไม่ทันหรือต้องออกมาพูดไร มวนท้อง มือสั่น ใจสั่นไปหมด แล้วก็จะเริ่มรู้สึกแย่กับตัวเองเรื่อยๆ เหมือนว่ากุมันกระจอก ไร้ความสามารถไม่ควรมาอยู่ตรงนี้ คิดลบๆว่าคนอื่นต้องด่ากุในใจ หัวหน้าต้องไม่ให้กุผ่านโปน ทุกคนต้องมองว่ากุแย่ จนกุกลัวไม่กล้าถาม ไม่กล้าแสดงออกอะไรเลย พูดอะไรติดขัดเพราะไม่มั่นใจ ทำยังไงดี กูเหนื่อยมากเลยที่ความคิดมันเฆี่ยนตีกุแบบนี้
>>214 แล้วความสุขจริงๆคืออะไร มนุษย์มันไม่มีหรอก ก็แค่ตอนสมองหลั่งเอนโดฟินเท่านั้นแหละ ไอความสุขจริงๆมันมีที่ไหน พอไต่ขึ้นมาคว้าสิ่งที่ตัวเองต้องการก็มาได้ก็ไม่มีความสุขอยู่ดี พี้ยาดีกว่าชาวเรา อุดมคติเป็นแค่ภาพลวงตา ในโลกนี้มนุษย์เราอุบัติสมมุติความหมายกันเองทั้งสิ้น ของจริงมันก็แค่การหลั่งสารในสมอง การมีชีวิตเพื่อให้มีความสุขอย่างเดียวมันไม่มีหรอก หรือไอแนวคิดอะนไหนสุขจรองสุขปลอมมันก็ไม่มีหรอก
>>218 ก็แย่ละ นี่คือแนวคิดNihilismหว่ะ โลกนี้มันไม่มีความหมายใช่มั้ย มึงก็สรรสร้างขึ้นมาเองสิวะ ความหมายของการมีชีวิตของมึงเองอ่ะ
สําหรับกูคิดว่าไม่ต้องไล่ตามหาความสุข เพราะสําหรับกูชีวิตมันเกิดมาเพื่อเจ็บปวดอยู่แล้ว ถ้ามึงไม่เจ็บเลยคือมึงผิดปกติอ่ะสัส //ไม่ได้บอกว่าต้องคิดตาม จะคิดไรก็เรื่องมึง แต่ถ้าไม่แดกยามึงก็ไม่หาย สุขจิรงสุขปลอมแม่งลวงตาทั้งสองอย่างจะไปคิดให้ปวดจิตทําไม กินยาเถอะ แค่นั้นแหละ
>>219
มึงกำลังสับสนความสุขกับความหมายของชีวิตรึเปล่า มันคนละอย่างกันว่ะ
โลกนี้อาจจะไม่มีความหมายอะไรเลยจริงๆก็ได้ แต่แล้วยังไงอะ
คนเราต่อให้ใช้ชีวิตอย่างไร้ค่าไร้ความหมายก็ยังมีความสุขได้
บางคนขอแค่ไม่ทุกข์ไม่เจ็บปวดก็สุขแล้ว ก็ยังได้
ถ้าพูดถึงสุขจริงสุขปลอม มันมีจริงรึเปล่ากุไม่รู้
แต่มันมีความสุขที่มีความหมาย กับความสุขที่ไม่มีความหมายอยู่
ถ้ามึงจะเชื่อว่าความสุขเป็นแค่สารเคมีในสมอง ความเจ็บปวดที่มึงเชื่อมันก็สารเคมีในสมองเหมือนกันอะ ต่างกันตรงไหน
แล้วที่สำคัญถ้ามึงจะเชื่อ nihilism ว่าโลกนี้ไม่มีความหมาย แต่แนะนำให้คนสร้างความหมายขึ้นเอง แม่งก็ขัดแย้งในตัวเองอยู่ละปะ มึงเป็นใครยิ่งใหญ่มาจากไหนถึงจะสร้างความหมายให้ตัวเองได้ยิ่งใหญ่กว่าความหมายของโลก จริงกว่าความหมายของโลก ถ้ามันไม่มีอยู่จริง
มีกระบวนคิดที่เป็นทางแก้ของ nihilism สองทางคือ
1. เลิกเชื่อ nihilsm
2. nihilism แล้วไง ฉันก็มีความสุขได้นี่
ไปเลือกกันเอาเอง แล้วแต่ศรัทธา ไม่มีผิดมีถูก
ส่วนตัวกูเชื่อว่าการขบคิดว่าชีวิตคืออะไร เกิดมาเพื่ออะไรเป็นคำถามที่ไร้สาระและสร้างความยากลำบากในการใช้ชีวิตมากกว่าเดิม โดยเฉพาะกับพวกที่มีปัญหาทางจิต
ปัญหาของอารมณ์และความคิดแก้ได้ด้วยอารมณ์และความคิด
ถ้าซัฟเฟ่อ คิดเองไม่ได้ แก้เองไม่ได้ ก็แสวงหาผู้รู้ครูบาอาจารย์ช่วยก่อน
เอะอะแนะนำให้แดกยาอีกละ น่าเบื่อ
>>220 ไม่กูไม่สับสนกูยกตัวอย่างเรื่องนิฮิลลิสมันไม่เชื่อเรื่องเป้สหมานในชีวิต แล้วเข้าเอามาดูเรื่องความสุขก็เช่นกันหรือจะความทุกข์ก็ตามที่มึงว่ามันไม่ได้มัความหมายตายตัว ขอบคุณครับ ตอนนี้กูก็สบายดีครับจากที่กูคิดแบบกู มึงเองก็มีชุดความคิดอะไรเชื่อเห้อะไรที่มึงพิมมายาวเหยียดอ่ะบูลชิทพอกัน ไบแอสดีครับ เพราะมึงมองโลกในอีกมุม ส่วนกูก็มองในอีกมุม มันมีตัวกำหนดด้วยเหรอว่าอันไหนคือสัจจะธรรม ถูกแท้100%
แบบว่าถ้ามีคนมีความสุขกับการเชื่อในศาสนาอันหนึ่ง จะมาตั้งกฎเลิกให้เชื่อ 1/2 แบบนี้มั้ยอ่ะครับ
กูก็เหมือนกันครับ ชีวิตตอนนี้กูสบายดีจากการไม่คิดมากเหมือนเมื่อก่อนแล้วดิ่ง อยากให้ชีวิตดีมีความสุขเหมือนคนอื่น แต่ไม่พยายามเข้าใจเลยว่าทุกคนมันไม่ได้มีความสุขตลอดเวลา ต่างคนก็มีมุมที่มีความทุกข์ด้วย นั่นคือปกติของชีวิตมนุษย์ ดังนั้นกูจะไปหวังสุขแท้เหี้ยไร //และเหมือนเดิมกุไม่ได้บอกให้คิดตามงี้ซะหน่อย
https://youtu.be/EZEfN5z8Mlg
กูน่าจะไปทริกเกอร์ไอนี่เรื่องแดกยาแน่ ถถถถ ก็ตามใจคร้าบ
ไม่ยอมแดกยาหมอก็ลองดูดม้าดูครับ เหล่า’พวกที่มีปัญหาทางจิต‘ทั้งหลาย 😱😩
>>221 ยาก็เรื่องนึง กุเป็นผีเฝ้าโซเชียลคอยด่าทุกคนที่เอะอะแนะนำแดกยา 5555
คือกูรู้ว่ามึงไม่ได้บังคับให้กุเชื่อตามมึง กุก็ไม่ได้บังคับให้มึงเชื่อตามกู ไม่ต้องย้ำก็ได้
ไม่มีชาวเน็ตไหนสติดีๆจะมาเชื่อคำพูดไร้แก่นสารของโม่งอย่างเราๆอยู่แล้วงับ
กุเถียงเล่นเพราะเห็นคนเอ๋อปรัชญาแพร่มเลยหมั่นไส้เฉยๆงับ
เอาจริงๆกูไม่ได้ให้มึงหรือให้ใครแดกยานะ คืออันนั้นกูบอกว่าหมายถึงตัวกูเองกูว่ากูแดกยาเนี่ยถึงดีดได้มาถึงวันนี้ครับท่านผู้เจริญ แล้วยํ้าไว้ด้วยแล้วว่าไม่ต้องคิดตามแบบกู
>>209 กูเห็นด้วยกับความเห็นมึงในฐานะที่เป็นคนแดกยามาเกือบสองปี กูรู้สึกว่ายาช่วยให้กูนอนง่ายขึ้นเฉยๆ เพราะถ้าไม่แดกเลย นอนยากสัสๆ ช่วงระหว่างสองปีที่แดกยา ถ้ามีเรื่องดีๆในชีวิตก็มีความสุขปกติ แต่พอชีวิตกลับมาเหี้ย ก็เศร้าเหมือนเดิม วิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุดคือพยายามแก้ไขความชิบหายของชีวิตตัวเอง สิ่งที่กูทำควบคู่ไปด้วยคือออกกำลังกายแล้วพยายามหาความรู้เข้าสมอง ถ้าไม่ลงมือทำอะไรเลยแดกยาจนตาย ชีวิตก็เหี้ยเหมือนเดิมอยู่ดี และ เพื่อพวกมึงสงสัย กูแดกยา anti-depression(remeron) จริง หมอจ่ายยาให้ ไม่ใช่ยานอนหลับ
กระสุนที่ได้วาดไป เปรียบความยุติธรรมไหม
ยิ่งยิงมากเท่าไร ก็เหมือน ยิ่งเป็นเช่นวีรชน
หลับตาคู่นั้นมืดลง เอื้อมมือไปสัมผัสไว้
ยังปีศาจที่มี ซึ่งกายา และความร้อนเหมือนเช่นคนทั่วไป
ถ้าฉันนั้นช่างแสนเลว ส่วนเขาน่ะดีกว่าไหม ?
ตรงนั้นมีแค่กำแพงสูง ที่ล้อมเอาไว้มากมาย
อย่ารวดร้าวร่ำน้ำตา ชะตาที่เราได้เกิดมา
ก็เพราะว่าเรานั้นมี ซึ่งเสรีพร้อมบินสู่ฟ้า
หากพวกเราได้มีปีก ดั่งนกในท้องนภา
แห่งหนใดทั่วโลกา เราจะโผไป
แต่ถ้าไม่เหลือซึ่งทาง แห่งไหนให้เราหวนกลับมา
ก็ไม่อาจจะไปที่ไหน
ทว่า ฉันนี้ ไม่อยากมีชีวิตอยู่เช่นนั้น
แม้ว่าโลกาโหดร้ายมากเพียงใด
ฉันนั้นยังคงมอบความรักให้เธอเรื่อยไป
ขอเพียงคุ้มครองปกป้องเธอด้วยใจ
แม้ต้องมลายต้องสูญเสียมากมายเท่าไร
และถ้าเรื่องเหล่านี้จะผิดพลาดไป
ฉันก็คงไม่แคลงใจไม่เสียดาย
ก็เพราะว่าความจริงแท้ ถูกต้องคือเชื่อมั่นใน
สิ่งที่เราทำลงไปจนสุดหัวใจ
ฉากที่เต็มด้วยฝนเหล็ก หล่นลงมาไม่ขาดสาย
ดั่งดูภาพยนตร์ ในทีวี ไม่คิดว่าเจอด้วยตา
อันสงครามก็แค่เพียง ความทารุณที่ขลาดเขลา
มันเป็นซึ่งเรื่องราว ของทั้งสอง เมืองที่ไม่เคยแม้ข้องเกี่ยว
ฉันก็ไม่รู้เลย เหตุใดจึงเกลียดพวกเขา
เหตุผลที่พวกเรา ไม่สามารถ จะปิดซ่อนความมืดในใจ
ยากเกินอธิบาย ความขัดแย้งที่มากหลาย
ก็ไม่รู้ว่าทำไม จึงมีเพียงแค่รอยร้าว
ความหมายของคำได้เคย ถูกแปลออกไปเนิ่นนาน
กระนั้นไม่มีผู้ใดเข้าใจอย่างแท้จริง
สิ่งที่เชื่อมั่นเรื่อยมา ก็คือเมื่อยามที่เบิกตา
อันโลกาของเธอผู้นี้
ทว่า ฉันน่ะ ไม่อยากมีชีวิตอยู่เช่นนั้น
แม้ว่าโลกาโหดร้ายมากเพียงใด
ฉันนั้นยังคงมอบความรักให้เธอเรื่อยไป
ขอเพียงคุ้มครองปกป้องเธอด้วยใจ
แม้ต้องมลายต้องสูญเสียมากสักเท่าไร
ภาพเงาของผู้ใดที่ฉันเลือกไป
ร่างกายอันมลายที่โยนทิ้งไกล
ตัวฉันนั้นจึงได้รู้ สิ่งที่โตขึ้นในใจ
นั่นก็คือลูกแห่งปีศาจฝังข้างใน
ภายใต้ความยุติธรรม ที่ต้องสูญเสียมากมาย
นั่นเพราะมีปีศาจร้ายภายในหัวใจ
สับสนทางเพศตอนอายุ 30 ว่ะ
จริงๆกู(ช)อยากเป็นผู้หญิงมานานละล่ะ แต่มันไม่ได้เป็นความรู้สึกที่รุนแรงจนต้องอยากแสดงออก แค่แบบลึกๆจะชอบจินตนาการอยู่ตลอดเลยว่ามันคงจะดีถ้ากูมีรูปร่างแบบผู้หญิง ถ้ากูได้เป็นบทบาทผู้หญิงในความสัมพันธ์ อะไรเงี้ย แต่ชีวิตก็เหนื่อยกับการเรียนการทำงานใช้หนี้ครอบครัว รู้ตัวอีกทีก็แก่ละ พอตอนนี้ปลดภาระไปหล่ยๆอย่างก็กลับมาเริ่มคิดมากขึ้นว่าอยากสวยซักที
ที่แย่คือร่างกายมันเป็นชายแก่หยาบกร้านละว่ะ 555 แดกฮอโมนยังไงมันไม่น่าจะสามารถจะสวยละมุนได้แล้ว เศร้าใจ
>>230 จับมือเลยเพื่อน กูเป็นเหมือนมึงเลย กู 30 กลางๆ ละ
เอาจริงกูไม่แคร์สายตาคนอื่นหรอกถ้ากูจะแต่งหญิงแล้วอุบาทว์ ใครจะนินทายังไงไม่แคร์เลย
แต่กูแคร์สายตาตัวเอง รับตัวเองไม่ได้จริงๆ ถ้าแต่งหญิงแล้วอุบาทว์ ตอนนี้เลยได้แค่เก็บไว้ในใจ
วันๆ นั่งส่องเว็บขายเสื้อผ้าสวยๆ จินตนาการไปเรื่อยเปื่อย
ปล. ส่วนตัวกูถึงอยากเป็นผู้หญิง แต่ไม่ได้แปลว่ากูชอบผู้ชาย กูแค่อยากสวย ใส่เสื้อผ้าสวยๆ น่ารักๆ และมีแฟนสวยๆ น่ารักๆ เช่นกัน
>>231 เกทฟีลๆ กูไม่สามารถก้าวผ่านภาพจำฝังหัวได้ว่ะว่าชายต้องแบบนี้ หญิงต้องแบบนี้
ถ้ากูต้องเป็นอะไรที่ครึ่งๆกลางๆ แถมรู้ตัวดีว่ายังไงก็คงไม่สามารถจะดูเป็นผู้หญิงได้ กูก็คงไม่แฮปปี้กับตัวเองเท่าไหร่อะ
ทั้งนี้กูไม่ได้เหยียดตุ๊ดไฮบริดนะ แบบพวกพาวเว่อพัฟเกย์ไรเงี้ย กูชื่นชมด้วยซ้ำที่เขากล้าจะไปในทางที่เขาเลือก รักตัวเองโดยไม่แคร์สายตาคนอื่น
>>230 >>231 กว่ามันยังไม่แก่โว้ยสหาย https://youtu.be/XsSS_7Xyz5s
แต่งหน้าให้เป็นก่อน พวกอปป้าเกาหลีหน้าหวานแม่งก็ธรรมดาถ้าไม่แต่งหน้า
แพ้คำว่าอปป้า พอเจอคนพูดว่าอปป้า ต้องโยงให้เป็นติ่งเกาหมด กุว่าแม่งเอ๋อแล้ว
แหม ดิ้นใหญ่เลย ถึงกับต้องเม้นติดๆ กัน
เป็นติ่งเกาก็ยอมรับตรงๆ เถอะ การหลอกตัวเองมันไม่ดีนะ
บ่นเหี้ยไรปัญญาอ่อนอ่ะพวกมึง ดิ้นทั้ง2คนแหละ
เลิกทะเลาะกันเรื่องอปป้าแล้วไปแดกยาซะ
อย่าทะเาะกันเลนน้าTTTTTTTTTT
กู(ฆ่าตัว)ตายแล้วรอดมา4รอบอ่ะ แล้วมันมีเสียงในหัวกู แบบหนังmoon knightมั้ง เป็นมาเกือบ10ปีได้แล้ว มันดูเบียวๆป่ะ แต่กูพูดจริงนะ ไปหาหมอเขาจะจับกูเข้าโรงพยาบาลบ้ารึเปล่า
กูแม่งรำคาญตัวเองมากชอบเปราะบางกับคำพูดคนที่ทำงานว่ะ บางทีกูทำงานพลาดนินหน่อยเสียฃซุบซิบตามสายลอยมาละ แล้วกูก็มานั่งคิดมากนั่งเครียดแม้กูจะยังหัวเราะก็ตาม กูลองระบายให้ที่บ้านฟังก็เหมือนว่าเรื่องกุมันไรสาระเรื่องเล็กๆน้อยๆ หลายครั้งที่กุฆ่าตัวตาย ยังไม่สำเร็จซักมีกูเหนื่อย
ยิ่งพ่อแม่ทำดีด้วยด้วย กูดีใจเขาดีกับกูแต่ลึกๆแล้วกูรู้สึกสิ้นหวังกับตัวเองกว่าเดิม กูรู้สึกผิดที่กูไม่สามารถทำตามเป้าที่เขาคาดหวังได้อะ กูมันคนจืดๆตัวประกอบเรียนกลางๆในสังคม ไม่ทำให้ที่บ้านเดือดร้อนแต่ก็ไม่มีอะไรให้ภูมิใจ ญาติๆก็คิดว่ากูเก่ง กูไม่ได้เก่งเว้ย คนที่เก่งอะคือกูตอนเด็กๆ ตอนนี้กูไม่ใช่เด็กเก่งคนนั้นแล้ว
คิดเรื่องพ่อแม่แก่แล้วโหวงทุกที
เรื่องที่ไม่น่าคิดก่อนนอนจริงๆ
>>257 กูมากอดมึงแน่น ๆ ตอนนี้กูก็เป็นแบบนั้นอยู่เหมือนกัน ไม่บอกกูคงนึกว่าตัวเองมาเขียน กูโคตรอยากกลับไปเป็นไอ้เด็กเก่งคนนั้นชิบหายเลย
แต่กูอยากให้มึงรักตัวเองในตอนนี้มาก ๆ นะ ถึงมันจะไม่ได้ดีเท้าตัวเราในวัยเด็กแต่เราก็ย้อนเวลาไปทำอะไรไม่ได้อยู่ดี แต่บางทีถ้าวันไหนมึงมีแรงฮึบขึ้นมา มึงอาจจะได้เจออะไรที่ทำให้ตัวมึงในตอนนี้อยากเป็นตัวมึงเวอร์ชั่นปรับปรุงก็ได้ แต่ไม่ต้องรีบหรอก
ตอนนี้กูก็ยังไม่มี แต่กูก็หวังว่าสักวันกูจะมีได้ เป็นกำลังใจให้นะ ถึงจะไม่รู้จักแต่อยู่ข้างๆมึงนะเพื่อนโม่ง(จริงๆกุเป็นกำแพงข้างหลังมึงเอง เชื่อดิ)
มีใครมีรพ.จิตแนะนำแถวเกษตรบางเขนมั้ยหรือแถวบีเส้นนั้นก็ได้ จะเป็นคลินิกก็ได้ กูไม่ชอบรอคิวนานน่ะ
อาจจะเหี้ยไปหน่อยที่กูไม่ได้พิมพ์ทีเดียว กูเพิ่งนึกและไตร่ตรองได้
กูรู้สึกอารมณ์กูเปลี่ยนไวมาก กูนั่งร้องไห้อยู่สามชั่วโมงแต่บทจะอารมณ์ดีคือดีเลย ช่างแม่งเรื่องที่คิด เจอคลิปตลกกูก็ขำเลย ไอ้เหี้ย กูไม่เข้าใจตัวเองเหี้ย ๆ เลย บางทีทะเลาะกับแฟน แฟนยังเครียดอยู่แต่กูแม่งหายเครียดแล้ว หายไม่พอ กูลืมความรู้สึก ความคิดตอนเครียดไปด้วย พอโดนถามกูก็ตอบไม่ได้เพราะกุลืมไปแล้ว
กูไม่ชอบตัวเองที่เป็นแบบนี้เลย แล้วคนรอบตัวกูเหมือนไม่มีใครเข้าใจกู เขาว่าการกระทำการตัดสินใจบางอย่างกูมันแปลก แต่ในสมองกูก็คิดมาแล้วว่ามันคงเป็นแบบนี้ แบบนี้ ทำแบบนี้ไปน่าจะดี แต่สุดท้ายกูก็โดนว่า คำที่กูโดนบ่อยที่สุดคือคำว่าโง่กับเอ๋อ สายตาที่มองมาก็รู้สึกว่าเป็นสายตาที่สงสารปนสมเพช
กูไม่ชอบเลย แล้วกูก็ปากหมาด้วย โง่มากูเถียงกลับทั้งๆที่ใจกูพังชิบหาย ใครแม่งจะอยากโง่บ้างวะ สมองกูมันคิดได้แค่นี้อ่ะ55555555 กูพูดเลยนะว่าเมื่อก่อนกูไม่ได้เป็นแบบนี้ กูเป็นหัวหน้าโปรเจค เป็นคนตัดสินใจอะไรสำคัญๆ แต่ตอนนนี้กูทำเหี้ยอะไรไม่ได้เลย โคตรขยะ
กูควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ เวลากูเครียดมากๆ กูชอบหยิกมือตัวเอง เมื่อก่อนกูแอบไปทำตอนไม่มีใครเห็น แต่ตอนนี้กูเหมือนควบคุมตัวเองไม่ได้ กูไม่ได้สนเลยว่าตรงนั้นมีใครมั้ย พอกูทำไป กูรู้ว่าคงไม่มีใครรู้สึกดี แต่กูได้ยินว่าเขาคนอื่นเขามองว่าเรื่องแค่นั้นทำไมต้องเครียดขนาดนั้นด้วย กูแบบ โห ไอ้เหี้ย555555555555555555 น้ำตากูแตก กูไม่เคยหวังให้เพื่อนเข้าใจเลยนะ แต่กูเจอแบบนี้ไปกูก็ไม่ไหว
หรือจริงๆกูไม่ได้เป็นโรค กูแค่แปลก? กูไม่มั่นใจอะไรสักอย่างเลย
แค่เนี่ย แปลก?
ดูคลิปตลก ถ้ามันตลก ก็ขำได้ปะวะ ยิ่งมึงร้องไห้มา สามชม. มันก็นานมากละ มึงจะร้องไห้ทั้งวันเลยหรือไง
เรื่องเครียด แต่ละคนก็มีเรื่องเครียดกันทั้งนั้น แล้วเวลาเครียด คนเราก็มีพฤติกรรมต่างกันไป
ถ้ามึงทะเลาะกับแฟน แล้วหายครียดเร็ว ก็ดีแล้วปะวะ คนบางคนเครียดนาน โกรธนาน เหนื่อยกว่าอีก
>>261 ไอเหี้นนี่เบียวเป็นโรคของจริง แม่งจะทําตัวคิดว่าตัวเองแบบอารมณ์แปรปรวน ต้องทําเป็นทําร้ายร่างกายตัวเอง ไอเหี้ยอารมณ์ปกติแหละค้าบจองมนุษยชาติ วันๆหนึ่งคนเรามันก็เป็นแบบนี้ทุกคน อารมณ์เปลี่ยนเช้าอาจจะเครียดชิบหายพอบ่ายกูมานั่งขรรมก็ได้ ไม่ใช่อารมณ์แปรปรวนโว้ย แล้วมึงยังควบคุมตัวเองได้อยู่เพราะกูมีคนรู้จักที่แม่งควบคุมตัวเองไม่ได้คือมันหนักกว่านี้ไอควาย คือมันจะไม่รู้ตัวเลยโว้ย แต่ของมึงก็ควรไปหาแพทย์กูว่ามึงก็มีปัญหาบางอย่างอ่ะ ไม่ได้แปลว่ามึงแปลก ทุกคนก็มีปัญหาทางจิตกันหมดแหละไม่มากก็น้อย ของมึงคือแค่ขาดวุฒิภาวะ ไม่โต เหมือนเด็กมอต้นเป็นกันอาการงี้เลย เห่อหมอยอีโม
มึงๆ ถ้าไม่ได้รู้สึกอยากฆ่าตัวตาย แต่มันแบบเริ่มหมดอาลัย แบบพรุ่งนี้ตายก็ไม่นึกเสียดายอะไร ยังอยู่ในขั้นปกติมั้ย แต่กูหน่ายชีวติมาก
เอ้อ มีเรื่องจะปรึกษาหน่อย เคยมั้ยเวลาอยู่คนเดียวแล้วในหัวชอบฉายภาพอดีตซ้ำๆ ทั้งดีและไม่ดี บางครั้งก็พูดคนเดียว
มีแอปจิตแพทย์ออนไลน์แนะนำกูมั้ย อูก้า ครึ่งชั่วโมงพัน กุแอบถอยนิดๆ แต่ถ้าไม่มี กูจะไปลอง
>>269 ถ้าติดขัดเรื่องเงินลองอันนี้ดู
https://www.facebook.com/talkmoment/ ล่าสุดคือมีเก็บเงิน แต่ขอไม่จ่ายหรือจ่ายไม่เต็มได้ถ้าไม่มีจริงๆ ไม่รู้เค้าเปลี่ยนรึยังนะ
https://heretohealproject.com/ อันนี้ฟรี
>>270 กูเคยใช้บริการแล้วรู้สึกว่าเหี้ยมากเหมือนกัน แต่ตอนนั้นหลายปีมาแล้วนะ
แต่ลองไป search ดูเจอคนที่ใช้แล้วดีด้วยนะ อาจจะขึ้นอยู่กับดวงว่าสายติดคนที่แนะนำดีๆมั้ย
https://pantip.com/topic/38958439
ต้นแพทย์ = จิตแพทย์ 🤣
หมาที่บ้านเดือนนี้ตายไป2ตัว ต้นเดือนตัวนึงเมื่อสายอีกตัว แล้วที่บ้านกุอยู่กับแม่2คนแล้วก็หมาอีก3ตัว แม่กุร้องให้ไม่หยุดเลยเครียดชิบหายวันนี้
ขอวิธีรับมือกับคนเป็นจิตเวชหนักๆหน่อย กุมีเพื่อนสนิทเป็นซึมเศร้าที่หนักจนน่ากลัวแต่กุไม่รู้ว่าจะต้องทำตัวยังไงตอนอยู่ด้วยหรือแม้แต่จะช่วยยังไงให้รู้สึกดีขึ้น มันหนักถึงขั้นที่เข้าโรงบาลมาหลายปีก่อนรู้จักกัน นิสัยแปรปรวน วันนึงดี วันนึงร้ายขึ้นมาได้ แล้วไม่แคร์ด้วย ช่วงที่กำเริบมากๆจะต่อต้านสังคมไปเลย มันสิ้นหวังจนรู้สึกว่าตายก็ไม่เสียดาย แต่กุว่ามันสับสนอยู่ พอมันพยายามทำจริงๆก็นึกถึงชีวิตตัวเอง คนรอบตัว สุดท้ายก็ยังรอดจนตอนนี้ ประมาณนี้อ่ะมึง กุไม่รู้จะช่วยยังไงหรือทำอะไรให้ไม่แย่ลง ต่อให้เป็นโรคแล้วมาระรานกุก็อดโกรธไม่ได้
>>281 บอกแล้วยิ่งถ้าคนใดคนนึงเป็นซึมเศร้าเวลารักจางคือชีวิตพัง แล้วกับเพื่อนมึงไม่พัง? เพื่อนหรือหมาวะ ถ้าไปไม่ได้สุดท้ายก็ต้องแยกกันอยู่ดี ที่ต่างคือคนรักมึงสามารถเอาใจใส่ได้มากกว่าเพื่อน ข้างต้นเรื่องมันก็พูดถึงเพื่อน อ่านบ้างหรือเปล่า
กูก็พยายามแนะนำแล้วนะ งงนะ ขัดมั่วๆไม่รู้เรื่อง แล้วดูไม่ใช่ซึมเศร้าข้างต้น น่าจะไบโพล่า ขึ้นๆลงๆเพื่อนกูก็เป็นแนวนี้
- โรคซึมเศร้าไม่เกี่ยวกับ serotonin แต่การใช้ยาซึมเศร้าอาจทำให้ serotonin ต่ำลง
- แต่หมอก็ยังยืนยันจะรักษาด้วยวิธีจ่ายยาเหมือนเดิมจ้า เย่
>>285
😀ดังนั้นหากท่านได้อ่านงานศึกษาที่เกี่ยวกับ serotonin กับโรคซึมเศร้าชิ้นนี้ อย่ารีบสรุปว่า การรักษาด้วยยาแก้ซึมเศร้าไม่มีประโยชน์ และสำหรับทางการแพทย์ก็ยังเป็นเรื่องน่าสนใจว่า
กลไกที่แท้จริงของการเกิดโรค และยารักษาโรคยังมีเรื่องให้ศึกษาและทำความเข้าใจอีกมาก
รีบด่าอีกละ คนทั่วไปถึงได้เกลียดคน toxic แบบมึงไง
การที่กุเอะใจกับการที่วงการหมอเข้าใจผิดเกี่ยวกับความเกี่ยวข้องของฮอโมนกับโรค กับการที่หมอไม่เข้าใจกลไกการเกิดโรคดีพอแต่หมอกลับจ่ายยาให้มึงเป็นปีๆทั้งๆที่ยามีโอกาสทำให้ฮอโมนความสุขมึงต่ำลงในระยะยาว ก็กลายเป็นคน toxic แล้วอ่าา การเอะใจนี่มันไม่ใช่คอมม่อนเซนส์เหรอวะ
แถมให้นะจ๊ะ ถ้าคุณไม่หัดเอะใจ ไม่หัดคิดให้เป็น
ล่าสุดวงการอัลไซเม่อเขาพึ่งสะเทือนกันไปไม่นานนี้
ถ้าบอกคนไข้ว่าไปบำบัดพัฒนาทำชีวิตให้ดีขึ้นแล้วจะหายซึมเศร้าได้เอง บริษัทยา โรงพยาบาล องค์กรนู่นนี่นั่นทางการแพทย์ แพทย์ที่ออกนโยบาย แพทย์ที่เป็นคนจ่ายยา เขาก็ไม่ได้กำไรงามๆกันน่ะสิ ใครจะบอกมึง หว่ายยย
สรุปง่ายๆเลยว่า โรคซึมเศร้าไม่เกี่ยวกับ สารเคมีในสมอง
โดนพวกบริษัทขายยาหลอกมาตลอด
แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธว่าปัจจัยทางกายไม่มีผลเลย แต่สิ่งแวดล้อมอาจมีผลมากกว่า
พวกเมิงก็เลิกแดกยา และออกกำลังกาย อ่านหนังสือ
หาไรทำให้สมองไม่ฟุ้งซ่าน
>>287 ใช่ >>285 ส่วนแรกแปะข้อมูล แต่ลงท้ายจ้ากับเย่มึงกล้าบอกมั้ยว่าที่พิมพ์มาแบบนั้นไม่มีความรู้สึกปนเข้าไป? ไม่มีการติดสินว่าการไม่เลิกใช้ยาคือความผิด?
>>288 เอะใจคือเรื่องดี การศึกษาพัฒนาความรู้ทางการแพทย์คือเรื่องที่ควรทำแน่นอนอยู่แล้ว แต่การที่มึงจะตัดสินว่าหมอทำผิดมาตลอดทั้งๆที่บทความที่มึงอ้างอิงยังใช้คำว่าอาจจะอยู่เลยนั่นแหล่ะ toxic
>>289 พูดเหมือนเคลมว่าตัวเองเป็นคนในวงการวิจัยเลยว่ะ ทั้งๆที่มึงก็แค่อ่านที่เค้าวิจัยมาเฉยๆเอง มึงทำไรมั่งอะนอกจากเอะใจ
ความรู้ทางการแพทย์มันก็วิจัยต่อยอดและล้มล้างทฤษฎีกันมาตลอดอยู่แล้ว การรักษาที่เชื่อมั่นในยุคนึงในอนาคตอาจค้นพบว่ามีผลเสียมากกว่าผลดีเป็นเรื่องที่เจอได้ปกติ การตัดสินใจรับการรักษาหรือไม่เป็นสิทธิ์ของคนไข้(และคนรอบตัว)เอง ถ้ามัวแต่ติเตียนทุกครั้งที่ความรู้ใหม่ขัดกับความรู้เดิม ก็ไม่ต้องมีใครริเริ่มอะไรใหม่ๆอะ มึงก็ไม่สามารถแดกอะไรทำอะไรได้เลยเพราะไม่เชื่อว่ามันดีต่อสุขภาพมึงจริงๆ นอนเป็นผักมั้ย ไม่ดื นอนเป็นผักก็ยังไม่รู้ว่าดีจริงมั้ยอีกนั่นแหล่ะ
ที่คุณรู้สึกโกรธ ก็มีผลมาจากสารเคมีในสมองของคุณไม่ใช่เหรอครับ
ผมเลิกชอบไอดอล แล้วก็เลิกว่าวด้วยสาว 2d หันกลับมาชอบผู้หญิงจริงๆ แบบนี้ผมควรพบแพทย์ไหมครับ
กูอัดอั้นอยากระบาย เป็น Thanatophobia มาเป็น 10 ปี กูพยายามทำทุกอย่างแล้ว กูไปหาหมอ หมอก็ให้ยา ให้กูเข้าหาศาสนา กูพยายามเชื่อแล้วแต่ลึกๆสุดท้ายกูก็รู้ตัวว่ากูไม่เชื่อ กูพยายามหาอะไรทำให้ไม่คิด กูพยายามทำใจ พยายามเปลี่ยนความคิดแต่มันเหมือนแค่กดอาการไว้ พอมีอะไรมาสะกิดนิดเดียวสุขภาพจิตกูก็พังทันที กูท้อมากเลย ไม่กล้าบอกใครเพราะคนก็พร้อมจะหัวเราะเยาะ หาว่ากูบ้า กระแนะกระแหนกู ยัดธรรมะ ไบเบิ้ลใส่กู กูรู้สึกเหมือนกูเป็นตัวประหลาดแค่เพราะกูอยากมีชีวิตอยู่กับคนที่กูรักมากๆไปเรื่อยๆ ทรมานมาก
>>298 กูก็ไม่เชื่อศาสนา หลายคนก็ไม่เลื่อศาสนา ไม่ได้มีแค่มึงคนเดียว แล้วการยัดศาสนาจะพระเจ้าไหนไปเป็นกูกูก็รู้สึกว่าไม่ได้ช่วยอะไร ไม่แปลกหรอกเว้ย ก็มันเชื่อไม่เหมือนกัน จะมายัดความคิดห่าไรมันทําไม่ได้หรอก
เชื่อในสิ่งที่มึงเชื่อเนี่ยแหละ แล้วก็จบแค่นั้น ไม่ต้องไปคิดมาก เอาใจช่วยนะเว้ย
>>298 ใครๆ ก็กลัวแหละ แต่ถ้ามึงกลัวมากมันก็ผิดปกติ แต่มันรักษษยากเว้ยอันนี้
(>>299 มันคือ โรคกลัวความตายน่ะ) สมัยกูอายุ 12-13 กูก็กลัวมาก แต่พอ 14 กูก็เลิกกลัวละ
ตอนกลัวนี่กูระดับร้องไห้มาเฉยๆ เลยนะ แค่คิดว่าจะตาย แต่แม่ง พอได้รู้ศาสน์ แห่งการช่างแม่ง
ชีวิตกูดีขึ้นเยอะ ปล. บัดนาวกูจะ 40 ละ การช่างแม่งยังได้ผลอยู่
อยากตาย มันเกินไปแล้ว
กูรู้สึกแย่กับข่าวตอนนี้ แต่เป็นคนละเหตุผลกับคนทั่วไป ตอนโคราชก็เจ็บหัวใจมากถึงขั้นต้องข่มตานอนสงบอารมณ์ไม่ยอมตามข่าวต่อ แต่มาอันนี้ที่กูเสียใจเหมือนกัน แต่กูรู้สึกชัดเจนเลยว่าหัวใจกูด้านชาขึ้น กูไม่อยากรู้สึกแบบตอนโคราชอีกแล้ว แต่พอมันไม่รู้สึกแบบที่ควรรู้สึกกูดันกลัวใจตัวเองขึ้นมา กูจะกลายเป็นคนหัวใจด้านชาไม่รู้สึกอะไรรึเปล่า
เวลาเมิงกินซากศพไก่ วัว หมู หมึก กุ้ง หอย ปู ปลา เมิงรู้สึกยังไงบ้างอ่ะ ถ้าเมิงกินวีแกน แล้วค่อยมาเสียใจนะที่ด้านชา
อันนี้ไม่รู้เป็นที่สภาพจิตมั้ย แต่เวลากูเจอเพื่อนที่ทำงานที่ยังไม่สนิทคือกูเพิ่งเข้ามาใหม่ไง ยิ่งพวกระดับหัวหน้า กูจะมีอาการเกร็งขึ้นมาทันทีว่ะ ซึ่งพอเวลาคุยด้วยก็จะหัวตื้อๆคิดไรไม่ค่อยออก พูดอะไรทำอะไรก็ไม่มั่นใจกลัวพูดผิดกลัวเค้ามองเราโง่ พอพูดไปก็รู้สึกว่ามันทื่อๆตันๆ ต่อบทสนทนาไม่ได้ เค้าคุยเล่นกันก็ต่อมุกไม่ได้ บางทีตอนคุยงานก็เกร็งๆอายๆพูดเร็วๆล่กๆหัวว่างไปเฉยๆ คือกูกลัวว่ามันจะส่งผลให้คนอื่นน่าจะมองว่ากูเป็นพวกทำงานไม่เก่ง คุยด้วยก็น่าเบื่อ ทำไงถึงจะวางตัวได้ชิลๆเหมือนคุยกับแฟนกับพี่น้องวะเพื่อนโม่ง ตอนกูคุยกะคนสนิทนี่กูว่ากูฉลาดมากนะ พ่นอะไรสาระไร้สาระได้เป็นคุ้งเป็นแคว แต่พอกับคนร่วมงานแล้วหน้ามือเป็นหลังมือเลยว่ะ เฮ้ออ
ถามหน่อย ใครมีเพื่อนเป็นซึมเศร้ารุนแรงมั้งวะ คือกูมีเพื่อนคนนึงแม่งซึมเศร้าแล้วทีนี้เวลาเล่นเกมด้วยกันแม่งก็เฮฮาปกติ ไม่มีใครด่ากัน ไม่มีคำหยาบด้วย เป็นเพื่อนที่คบกันแบบสุภาพมาก คุยกันด้วยเรากับนายไม่ก็เรากับคุณตลอด ทีนี้แม่งพอเล่นเกมเสร็จกูกำลังจะไปนอนละ เพราะพรุ่งนี้กูต้องตื่นเช้าตั้งแต่ 6.30 เพื่อไปทำงาน อยู่ๆ พอกูจะไปนอนแม่งก็รั้งกูไว้ แล้วแม่งมาดราม่าใส่เว้ย แบบ อยู่ๆ อารมณ์แม่งก็ดาวน์อ่ะ แล้วก็ใส่กูรัวๆ ทั้งๆ ที่กูบอกแล้วว่ากูมีงานต้องทำเช้านะ กูทำงาน จันทร์-ศุกร์ กว่าจะได้เล่นเกมก็ดึกมากแล้ว เลยมีเวลาเล่นเกมแค่วันละ 1 - 2 ชั่วโมง แล้วช่วงนี้แม่งเป็นบ่อยมาก คือมันว่างงานด้วยอ่ะ กูก็เลยแนะนำให้ไปหาหมอ แม่งก็บอกว่าไม่ไป มันมีปมกับหมอ กูก็แนะนำโรงบาลยอดฮิตของซึมเศร้าไป แม่งก็ยังยืนยันว่าไม่ไปอยู่ดี คือจากที่คุย อาการมึงหนักมากละ แต่เสือกไม่ยอมไปหาหมอทุกที แล้วมีแนวคิดที่ว่าหมอทุกคนแม่งเหี้ย ไปหาหมอแล้วจะหนักกว่าเดิม โอ้ยยย คือกูจะไปนอนไอ้เหี้ย กูมีงานต้องทำ แต่จะทิ้งมันไปแบบนั้นก็กลัวแม่งจะไปsuicideอีก กูเครียดชิบหาย กูเป็นคนมองโลกในแง่ดีมากนะ เฮฮาปาร์ตี้ หัวเราะง่าย กูมีความสุขตลอดปีอ่ะทุกวันนี้ แทบไม่เครียดกับอะไรเลย แต่ตอนนี้กูรู้สึกจะเป็นซึมเศร้าตามแม่งแล้วเนี่ย รู้สึกเหมือนตัวเองแม่งเป็นกระโถนให้โดนแม่งพ่นความเครียดใส่เลยว่ะ กูไม่รู้จะทำไงแล้วเนี่ย อึดอัดชิบหาย สุดท้ายกูเลยตัดบทหนีไปนอนแม่ง ใครมีเพื่อนแบบกูบ้างวะ ปล. เป็นผู้ชายทั้งคู่นะ รู้จักกันตั้งแต่สมัยเรียนละ
เห็นใจเพื่อนหน่อยครับ เขารู้จักหลายคนก็จริง แต่เขาต้องพึ่งเมิงคนเดียว เมิงเคยรู้สึกว่าพึ่งใครไม่ได้ตัวเองไม่มีอำนาจเปล่าหล่ะ
ปกติกูไม่เล่น sns นะ พอมาลองเล่นทวิตแล้วดิ่งยังไงไม่รู้แค่ยอดไลค์น้อยก็ดาวน์ เห็นคนอื่นมีชีวิตดี๋ดีก็ดาวน์
กูชอบอยู่กับคนเยอะๆ อยู้ไปอยู่มาแล้วรู้สึกดูดพลังเยอะมาก จนกลับมาเก็บตัวอยู่คนเดี่ยว พออยู่คนเดี่ยวนานๆเสือกติดเกมอีก เหนื่อยกับตัวเองชิบหาย
ไม่ติตตามการเมือง ไม่เล่นทิวตเตอร์มาเกือบปีแล้ว แทบไม่เครียด ไม่เหนื่อย มีความสุข ignorance is bless
ช่วงนี้เซ็งตัวเองทำงานอดิเรกไม่สนุกสุดท้ายเลยพึ่งการทำงานให้ลืมเอา สัปดาห์นี้กูเพิ่งกลับมาจากทำงานยาวต่างจังหวัด พอกลับมาก็เครียดไม่มีงานทำ วันต่อมากูทำงานเสร็จกลับมานอนยาวถึงเที่ยงคืนแล้วตื่นมาทำงานต่อนิดหน่อยก่อนนอนไปทำงานตอนเช้า พอเมื่อวานกูกลัวว้าวุ่นเลยขับมอไซค์เล่นไป เดี๋ยวนี้กูเครียดง่ายมากอย่างตอนที่ขับมอไซค์รถติดก็ด่าแม่ในใจที่แนะนำกูซื้อมอไซค์มีเกียร์มาขับในกรุงเทพทำไร ตอนนี้ลองไรใหม่ๆอย่างดื่มเหล้าที่ปกติไม่ดื่มจนอ้วกแตกเสียค่าเหล้าไปหลายพันก่อนจะมานั่งคิดวันต่อมาว่าเสียดายเงินปวดหัวอีกต่างหากทำเพื่อไรวะ กับรู้สึกตัวเองทำไรและบ่นเพ้อเจ้อเรื่องเดิมๆจนรู้สึกว่าเพื่อนรำคาญเลยลบแอคที่คุยกับเพื่อนไปหมดเหลือLineที่ใช้ติดต่อทำงาน กูควรทำไงดีวะ
กูชอบดูพวกคลิปราดใส่รูปแบบนี้มาก ยิ่งถ้าจู๋ใหญ่ๆชักแรงๆน้ำเยอะๆ เวลาดูยิ่งทำให้กูเงี่ยนกว่าดูพวกคลิปโป๊อีก แต่พอไปหาดูตามเว็บโป๊ มันจัดอยู่ในแท็กเกย์ว่ะ แต่กูชอบดูเพราะมันราดน้ำใส่หน้าผู้หญิงนะ หรือกูแค่เป็นพวกโรคจิต ล่าสุดไปเจอแอคนึงครางเรียกชื่อผู้หญิงว่าเมียด้วย โคตรชอบเลย กูจัดอยู่ในรสนิยมแบบไหนวะ
https://imgur.com/Dx8v4JP
>>321 กูก็งงว่ามันจะดูอะไรกันวะพวกลงคลิปแบบนี้ คือแบบถ้าเป็นเกย์แล้วดูครวยไปก็เมคเซ้นท์ แต่ที่ชัดใส่รูปผญ ชายแท้ที่ไหนจะไปอยากดูครวยใครไม่รู้วะ หรือมันอยากลงคลิปสนองนีทตัวเอง พอมาเจอมึงกูหายสงสัยเลย แบบอ่อมันมีเฟติชงี้ด้วย มีคนเ งี่ยนกับแบบนี้นี่เอง
ส่วนชื่อเฟติชเหรอ ไม่รู้หว่ะ อิอิ
เบื่อชิบหายยย เป็นโรคหมดไฟเนี้ย เป็นทุกปี หงุดหงิดชิบหาย เป็นที 2-3 เดือน
รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนเห็นแก่ตัวว่ะ จากเรื่องคือกุขึ้นบีทีเอสปลายสาย แล้วคือปกติคนมันจะมายืนตรงช่องทางลูกศรชี้ออกเรียงแถวเลยไง ให้แถวมันสั้นไม่กินที่+ให้เข้าเร็ว แต่คราวนี้ประตูที่กูต่อคนที่อยู่ข้างหน้ากูไม่ขยับ กูเลยตัดขึ้นไปต่อแถวใหม่เอง ทีนี้ป้าคนคนที่ต่อแถวกับคนหน้ากูคอนแรกน่ะแหละ เลยทักกุว่าแบบกุแซงคิว ถ้าประตูเปิดกุห้ามขึ้นก่อนนะต้องรอให้แกขึ้นก่อนกูถึงขึ้นได้ กูก็เข้าใจป้าแกแหละว่าเออตอนแรกกุมาต่อทีหลังอยู่ดีๆ มาตัดแถวใหม่นำแก แต่อีกใจหนึ่งกูก็คิดว่าถ้ากูไม่ตัด ไม่มีใครตัดมันก็เสียเวลา แทนที่ตะได้รีบขึ้น ไอ้เหี้ยกูแม่งเห็นแก่ตัวชิบหาย กูอยากเลิกใช้ชีวิตแบบเร่งรีบจนสันดานเสียแล้วว่ะ TT
หวังว่าวันนึงสมองจะยอมให้กูตายสักที เบื่อเป็นซึมเศร้าแล้ว อยากหายแล้วแต่ไม่หายสักที
>>330 เฟมทวิตซึมเศร้าที่กูหลงรัก
https://www.instagram.com/praekiintheskywithdiamonds/
https://i.imgur.com/3gV1SlF.jpeg
กูควรไปหาหมอซ้ำดีไหมวะ จิตแพทย์เฉพาะทางไปเลยอ่ะ (เคยไปหาหมอทั่วไปนะ หมอวินิจฉัยแล้วว่าเป็นไบโพล่า) แต่กูรู้สึกว่าตัวกูมีอาการทางจิตที่มากกว่านี้ เพื่อนคนนึงบอกว่ากูเหมือนพวกย้ำคิดย้ำทำ(อันนี้กูไม่เคยรู้ตัวเลย) และหลายๆอย่าง
กูเคยมาพิมพ์ในโม่งว่าจะฆตตเพราะไม่ไหวแล้ว เมื่อหลายเดือนแล้ว เกือบครึ่งปีแหล่ะ ไม่แน่ใจว่ามู้นี้ไหม แต่กูทำไม่สำเร็จนะ ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ แต่กูก็ยังอยากทำมันอยู่ดี ยิ่งจังหวัดที่กูอยู่มีเด็กมัธยมโดดตึกเยอะ กูยิ่งรู้สึกว่าสักวันกูอยากกระโดดลงมาบ้าง เพราะกูเคยลองโอเวอร์โดสแล้วแต่มันไม่ตาย มีวิธีไหนที่ตายแบบไม่ทรมานไหม กูเหนื่อยจัง ไม่อยากอยู่แล้ว
กูไม่กล้าปรึกษาใครอีกเลยหลังจากเพื่อนเปิดใจว่าเวลากูพูดว่าอยากตายแล้วเขาท็อคซิค กูเก็บปัญหาไว้ในใจมาตลอดทโกหกตัวเองว่าไม่เป็นไร แต่กูไม่ไหวแล้ว
โตเป็นผู้ใหญ่จะเหนื่อยกว่านี้เยอะเลยใช่ไหม กูอยู่ม.6 หัวเลี้ยวหัวต่อกำลังจะขึ้นมหาลัย กูต้องอ่านหนังสือ มีปัญหาส่วนตัวหลายเรื่อง ถ้ากูตายตั้งแต่ตอนนี้ ทุกอย่างจะง่ายขึ้นรึเปล่า
>>335 กูคิดไว้ด้วยว่าจะบริจาคร่างกายกับอวัยวะ แต่พอค้นข้อมูลถึงรู้ว่าเขาไม่รับร่างกายของคนที่ฆตต ส่วนอวัยวะก็ต้องตายแบบให้สมองตาย กูนึกไม่ออกว่าต้องตายยังไงให้สมองตาย ส่วนบริจาคดวงตาศึกษาไว้นิดหน่อย เหลืออย่างเดียวที่กูพอจะบริจาคได้คือเลือด แต่กูเลือดจาง+กินยาประจำอยู่ด้วย ลองไปบริจาคหลายครั้งแล้วก็ความเข้มข้นเลือดไม่ผ่าน มีทางไหนที่กูจะพอทำเพื่อคนอื่นก่อนตายได้ไหมในฐานะเด็กม.6ที่ไม่ได้มีเงินพอจะบริจาคให้องค์กรนู้นนี้เยอะขนาดนั้น กูวางแผนเขียนจดหมายให้ทุกคนไว้หมดแล้ว เหลือแค่รอเวลาไป
>>335 ไม่รู้ว่ามึงเจออะไรมา แต่อยากให้มองว่าชีวิตมึงยังมีอะไรให้ทำอีกเยอะ เพิ่งจะ ม.6 เอง ไม่เสียดายชีวิตที่เหลือหรอ ถ้ามึงผ่านตรงนี้ไปได้จะแข็งแกร่งขนาดไหน
แต่ถ้ายังอยากฆตตอยู่ ก็ทำได้นะ กูก็ไม่รู้ว่าทำไมคนเราต้องห้ามฆตตกันด้วย ทำไมเราจะเลือกจบตัวเองไม่ได้ การตุยมันก็คือทางเลือกๆหนึ่งอะ เวลากูเห็นใครทรมานกับการมีชีวิตอยู่มากๆ เป็นโรคที่รักษาไม่หายแล้วอะไรงี้ กูอยากให้เขาหลุดพ้นจากความเจ็บปวดมากๆเหมือนกัน คิดว่าการตุยคืออีก 1 ทางเลือก
กูพูดด้วยความหวังดี(ฉบับกู)นะ เป็นไปได้ไม่อยากให้ตุยหรอก แต่แค่ถ้ามันไม่ไหวจริงๆ ก็ใช้มันเป็นทางเลือกก็ได้
วิธีตุยกูไม่กล้าแนะนำว่ะ ถ้ามึงตุยจริงกูจะโดนอะไรทางกฎหมายมั้ย5555
กุรู้สึกว่าเครียดว่ะ ยิ่งโตขึ้นก็นิ่งเครียด นึกว่าจะรับมือกับความล้มเหลวได้ดีกว่านี้ซะอีก ตอนเด็กๆสอบตกเกือบทุกวิชากุยังไม่เครียดเท่างานไม่เฟอเฟกนิดเดียวในตอนนี้เลย เหมือนยิ่งโตกุยิ่งรับไม่ได้ที่ตัวเองจะผิดพลาด แล้วมันเหนื่อยมากเลยว่ะ ทำอะไรผิดนิดหน่อยกุจะรู้สึกว่าคนอื่นจะเกลียดกุ คนอื่นจะมองว่ากุไม่เก่ง หรือบางทีใครสั่งงานข้ามหัวกุไป กุก็จะคิดอีกว่าเป็นเพราะกุไม่น่าไว้ว่งใจมากพอ เค้าเลยไม่ assign ให้กุทำ ไม่ว่าจะมีอะไรผิดพลาดกุมักจะมีความคิดแบบนี้ขึ้นมาไม่หยุด กุจะทำยังไงดี
สำหรับกูชีวิตเหี้ยสุดคือช่วงม.ปลายน่ะแหละ ตอนนี้ทำงานแล้วดีขึ้นเยอะ อย่าพึ่งรีบตุย ยังไงก็ตายซักวันอยู่ดี รอดูไปก่อน เผื่อมีเรื่องดีๆ ถ้าไม่มีก็แล้วไป ไม่มีไรเสียหาย
ลักษณะแบบนี้คือควรไปหาหมอสักทีไหม คือส่วนตัวเป็นคนหงุดหงิดง่าย เก็บอารมณ์ไม่ค่อยจะอยู่ ทำอะไรแบบพรวด ๆ ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยถาม โดนที่บ้านว่าบ่อย ๆ สมัยฝึกงานก็โดนเป็นคนดูแปลก ๆ บุคลิกดูหลุกหลิก ทุกวันนี้ทำงานกิจการของที่บ้าน แต่ก็ยังหงุดหงิดง่าย ชอบชักสีหน้าไม่หาย
มีวิธีรับมือเพื่อนที่ชอบคิดมากหรือบอกอยากตายตลอดเวลามั้ย กูอยากช่วยเยียวยาเขาว่ะ
กูไม่อยากแก่เลยวะ พอเริ่มรู้ตัวว่าใกล้แก่กูก็ร้องไห้ แบบนี้หนักปะ
ไม่อยากเรียนป.เอกแล้ว จะลาออกก็ไม่อยากเป็นขี้ปากคนอื่น + ไม่กล้าสู้หน้าคนรู้จัก จะโดดตึกก็ใจไม่แข็งพอ ปืนก็ไม่มี เอาไงดี
คนแก่หลายคนนี่โลกหมุนรอบตัวเองจริงๆ ตัวเองทำได้คนอื่นห้ามทำ
ตอนแรกกูป่วยกับการใช้ไลน์เพราะที่ทำงาน ใกล้หายก็มาป่วยอีกเพราะครอบครัว กูอาการหนักขึ้น แค่เห็นโนติไลน์ก็อ่วมท้อง
เหนื่อยว่ะทั้งจากที่ทำงานและที่บ้าน บางทีกูก็อยากจะหนีไปให้ไกลๆไปอยู่เงียบๆคนเดียว
ใครเบื่อ เหงา เศร้า เพื่อนน้อย ไม่รู้จะหันหน้าหาใคร บ้านไม่ใช่เซฟโซน
เรารับจ้างเป็นเพื่อนอยู่เฉยๆนะ
(แบบที่คนญี่ปุ่นทำ) ไปเป็นเพื่อน ไปทำธุระ
มีอัพเกรดรับจ้างกอดด้วย(มีคนสนใจแต่เสือกอยู่คนละจังหวัด)
แต่ไม่มีคนจ้างจริงๆซักที มีแต่คนจ้างแชทด้วย โทรคุยด้วย ได้ค่าขนม100-150
แต่อยากได้ลูกค้าแบบพี่คนญี่ปุ่นจริงๆ แต่ยังไม่มีใครจ้างเลย
ปล.เราผชนะ อายุ2x แต่ผอมสูง170 ไม่ได้ท่าทางน่ากลัวแบบลุงๆ
>>355 รับบบ นั่นงานหลักที่อยากทำเลย ความฝันคืออยากได้ฟิลเดียวกับบาเทนเดอร์ที่ลูกค้ามานั่งเศร้าละบ่นให้ฟังอะ
ตอนนี้มีประสบการณ์ 4-5เคสแล้ว 1.คนเลิกงานตี2ไม่มีเพื่อนเลยจ้างกูโทรคุยเป็นเพื่อน / 2.คนอยากจ้างกูไปกอดเพราะที่บ้านไม่รัก ทำงานมาเท่าไหร่แม่ยึดเงินหมด(แต่ไม่ได้จ้างเพราะอยู่คนละจังหวัด) / คนจ้างคุยแชทด้วย ฟังระบายเพราะพ่อแม่งอย่างเหี้ย #ครอบครัวไม่ใช่เซฟโซน / คนกินยา/ผูกคอ5รอบ รอบล่าสุดเพราะแฟนทิ้ง เลยให้กูคอลคุยด้วย ก็คุยจนเค้าไม่ทำแล้ว(คนนี้ไม่ได้จ้างไม่ได้ให้เงิน แต่จะให้กูไปทวงยังไงก่อน เดี๋ยวกลายเปงคนเหี้ย)
เรื่องมันกึ่งจิตวิทยากึ่งปรัชญากูลงมันทั้งคู่เลยละกัน
สงสัยว่าแนวคิดว่าเราไม่ยินดียินร้ายใจนิ่งๆกับสิ่งต่างๆเนี่ย มันดีกับสภาพจิตใจคนเรามากกว่าจริงๆหรอ
เห็นแนวคิดนี้อยู่ในทั้งศาสนาในตะวันออก หรือปรัชญาตะวันตกอย่างพวก Stoic เลย
แต่กูรู้สึกอยากเป็นคนที่เวลามีความสุขก็ไปสุด เวลาทุกข์ก็ไปสุด มากกว่าจะเป็นคนที่ต้องคอยกดความรู้สึกของตัวเองตลอดเวลา
เวลาที่กูเห็นคนแบบนี้แล้วรู้สึกว่าเค้าได้เต็มที่กับชีวิตดี อยากเป็นแบบนั้นได้บ้าง
รู้สึกว่าการไม่ยินดียินร้ายมันไม่ใช่การเป็นโตผู้ใหญ่เหมือนที่หลายๆคนมอง แต่มันคือไม่เข้มแข็งพอที่เผชิญหน้ากับความรู้สึกจริงๆของตัวเองมากกว่า
กูไม่รู้จะเชื่อใครในบ้านเลย พูดว่ารักกูมากแต่ลับหลังกันว่าทำไมกูไม่คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด เขาเข้าใจคำนี้ผิดมั้ยวะ จะพึงบุญพอไม่รวยก็โทษกู เงินที่เขามีไม่พอส่งกูเรียนต่อด้วยซ้ำ กูไม่บ่น กูพยายามเก็บเกรดสามขึ้นจนจบ
ต่อหน้าบอกกูว่า ไม่อยากให้กูไปลำบาก สรุปจริงๆกลัวคนอื่นว่าตัวเองเสียๆหายๆเลยไม่อยากให้กูทำงาน
เงินมีหมุนเท่าไหร่ไม่บอก ไม่กล้าลองทำอะไรใหม่บอกเสี่ยง บ่นทำไมไม่รวย แล้วก็วกมาลงที่กูคนเดียว
กูว่าตัวเองก็เป็นเด็กรรมดาไม่เกเรพยายามเรียนแบ่งงานบ้านมาทำ ดูแลร้านให้ตอนเขาไม่อยู่
กูไม่เคยพอสำหรับพวกเขาเลย กูสับสนว่าเกิดมาทำไม มาเลี้ยงพ่อแม่เหรอ ไม่เอาแล้วได้มั้ย
>>359 ส่วนตัวกูมองว่าแสดงอารมณ์ความรู้สึกจริงๆแล้วมึงต้องมาผิดหวังที่หลังหว่ะ มันจะมีคนไม่ชอบมึงแน่ๆละ1 ทั้งพวกที่มันไม่เห็นด้วยหรือพวกที่มองว่ามึงเว่อร์เกินไป แล้วจริงๆตอนที่มึงแสดงออกความรู้สึกดีใจสุดๆเศร้าๆสุดๆมันก็ไม่ใช่เจตจำนงของมึงจริงๆ แต่เป็นสิ่งเร้าจากสังคมภายนอก เช่นสถานการณ์พาไปว่าทุกคนต้องดีใจ ทั้งที่ลึกๆมันก็เฉยๆงั้นๆ
ไม่ใช่ความเป็นผู้ใหญ่เขี่ยไรหรอก ความอยู่รอดในสังคมล้วนๆ การตอแหลเนี่ย
>>358 https://www.menhouse.net/img/ib/jAKdfqgyvL
นี่เด้อ เผื่อหาไม่เจจอ
กูในวัยสามสิบเหมือนกำลังประสบปัญหามิดไลฟ์ไครซิสมากๆ คือมีปัญหากับการมีอยู่และตัวตนของตัวเองจนวันไหนที่เจอทริกเกอร์หนักๆคือทำเหี้ยอะไรไม่ได้เลย นอนไม่ได้ กินไม่ได้ กูเกลียดตัวเองขั้นสุด เกลียดมาก คิดว่าน่าจะตายๆไปซะโลกจะได้ดีขึ้น แต่ก็ยังตายไม่ได้ลงท้ายด้วยการข่วนตัวเองจนหลังคอมีแต่รอยเล็บไปหมด ตบหัวตบหน้าตัวเอง
กูคิดว่าตัวทริกเกอร์คือเวลาที่แม่ด่า ตอนนี้กูทำงานให้ที่บ้าน รับเงินเดือนจากแม่ แม่ไม่รู้ตัวว่าเขาทำให้กูรู้สึกด้อยค่าในทุกเรื่อง หน้าตา รูปร่าง การแต่งตัว ทรงผม นิสัย การทำงาน การกิน การออกกำลังกาย การเก็บเงิน การใช้ชีวิตตั้งแต่ตื่นยันหลับ ทุกอย่างคือไม่ได้มาตรฐานของเขาหมดเลย ถ้ากูจะไปจากเขา ก็จะมีคำแบบว่าเขามีแค่กู ถ้าไม่มีกูกิจการที่บ้านก็คงไปไม่รอด แต่สำหรับกู กูคือคนที่เขาแคร์น้อยที่สุด เวลาพูดกับคนงาน เขายังระวังคำพูดมากกว่าพูดกับกูอีก เพราะเขารู้ว่ากูเป็นของตาย เป็นทาสรับใช้ เป็นคนงานที่ซื่อสัตย์ที่สุดที่จะไม่ทิ้งเขาไปไหน กูก็แค่หมารับใช้ของแม่ตัวหนึ่งที่ไม่มีคุณค่าห่าอะไรเลย นอกจากรอกระดูกที่เขาจะโยนทิ้งให้เวลาเขานึกอยากเมตตา 555555555555555555555555555555
ปัญหารุมเร้า+พึ่งเลิกกับแฟน อยากร้องไห้ทุกวัน อยากไปอยู่กับคนอื่นแต่กลัวตัวคนอื่นกร่อยวะ
>>366 จริงๆ ควรจะออกไปทำงานนอกบ้านด้วยตัวเองจะดีที่สุด แต่กูเดาว่ามึงคงจะมีเงื่อนไขบางอย่างทำให้ออกไปหางานทำข้างนอกไม่ได้ อันนี้อยู่ที่ตัวมึงละว่าจะจัดการยังไง
เคสนี้ไปหาหมอกูว่าไม่ค่อยช่วย การไปหาหมอ รับยา มันจะช่วยได้อย่างเห็นผลในกรณีซึมเศร้าจากสารเคมีในสมอง พวกที่อยู่ดีๆ ก็เศร้าโดยไม่มีสาเหตุน่ะ (คล้าย pms ผู้หญิงจะเข้าใจดี อยู่ดีๆ แม่งเศร้าเฉย นอยด์เฉย เรื่องเล็กน้อยไม่เคยนอยด์ก็นอยด์ แต่พอผ่านช่วงนั้นไปก็กลับมาเป็นปกติ) แต่กรณีมึง จริงๆ มันมีสาเหตุอยู่แล้ว ถ้าไม่แก้ที่สาเหตุ ก็น่าจะไม่หาย ยาและคนรับฟังช่วยให้บรรเทาลงได้ครั้งคราวหรือก็อาจจะไม่ช่วยเลยด้วยซ้ำ
กูขนาดกูทำงานนอกบ้าน เป็นคนหาเงินเข้าบ้าน ออกค่าใช้จ่ายทุกอย่าง เอาเงินให้พ่อแม่ทุกเดือน กูยังโดนเลย อยู่กับพ่อแม่ยังไงก็เห็นเราเป็นเด็กตลอดชาติ ไม่เคยให้เกียรติความคิดเห็น ไม่เคยเคารพกันในฐานะมนุษย์คนนึง ตอนแรกกูก็คิดว่าตัวกูเองไม่มีสิทธิ์ย้ายออก ย้ายออก=ไม่ดูแลพ่อแม่=อกตัญญู แต่อยู่ด้วยกันก็ปสด.เป็นบ้าทั้งบ้าน ไม่มีใครมีความสุข สุดท้ายกูตัดสินใจย้ายออก แต่ยังส่งเงินให้เท่าเดิม แน่นอนว่าตอนออกก็มีดราม่าแหละ แต่กูก็จะออก อย่างน้อยถ้าพวกเขายังบ้าเหมือนเดิม ก็จะมีคนนึงที่สุขภาพจิตดีขึ้น คือกู ดีกว่าอยู่ด้วยกันแล้วก็เป็นผีบ้ากันหมดทั้งบ้าน ไม่มีใครได้มีความสุขซักคน
>>370 เมื่อก่อนกูเคยคิดว่าแม่อยากได้แต่เงินจากกู แต่พอกูจะย้ายออก กูเลยได้รู้ว่า ไม่ใช่แค่เงินหรอก เขาต้องการครอบงำกูไปตลอดชีวิตด้วย ต้องการให้กูอยู่คอยรับใช้ปรนนิบัติด้วย แต่ตอนนี้กูให้แค่เงินอย่างเดียวละ อย่างหลังกูหลุดพ้นออกมาละ
แต่จะว่าเข้าใจไหมก็เข้าใจอะนะ สมัยก่อนคนเลี้ยงลูกมาเพื่อการนั้นจริงๆ เหมือนที่คนยุคแรกเริ่มเลี้ยงสัตว์เพราะต้องการเอาไว้ใช้งานต่างๆ เช่น ล่าสัตว์ เฝ้าบ้าน เพิ่งมายุคหลังๆ นี่เอที่มีการเลี้ยงสัตว์เป็นสัตว์เลี้ยง เลี้ยงเพราะรักเฉยๆ ไม่ได้ต้องการหาผลประโยชน์อะไรจากมัน และดูแลสัตว์เลี้ยงเป็นอย่างดี คนก็เหมือนกันนั่นแหละ มันค่อยๆ วิวัฒนาการมาเรื่อยๆ วัฒนธรรมด้วยอะไรด้วย กูไม่โทษเขาหรอก แต่กูก็จะต้องรักและแคร์ตัวเองด้วยเหมือนกัน กูไม่อยากทนทุกข์ไปจนกว่าจะตายกันไปข้าง รู้ตัวอีกที อ้าว ชิบหาย แก่จะลงโลงแล้ว ไม่มีเรี่ยวแรงจะไปทำอะไรแล้ว แต่ยังไม่เคยมีโอกาสได้มีความสุขเลย ได้แต่โดนครอบงำและต้องอดทนมาทั้งชีวิต
กูไม่รู้เป็นไรว่ะ ทำไงดีวะ
อ้างว่าอายบ้าง อึดอัดบ้าง มึงโหยหาทุกอย่างแต่ไม่เคยให้กูกลับเลย
กูไม่อยากให้คนรู้ว่ากุอายุมากเลยว่ะ กุรู้สึกว่ายิ่งแก่ยิ่งต้องเป็นที่พึ่งพาให้กับคนอื่นทั้งๆที่กูเองก็ยังไม่พร้อม กูยังอยากเรียนรู้อะไรใหม่ๆแบบที่ตัวเองไม่เคยทำ และให้อภัยตัวเองถ้าทำได้ไม่ดี แต่พอแก่คนก็จะคาดหวังว่าต้องทำนั่นนี่ได้ ถ้ากุทำตัวปัญญาอ่อนขึ้นมาก็จะดูไม่โอเคอีก กุว่าสังคมคาดหวังกับคนเป็นผู้ใหญ่มากไปอ่ะ ไม่ว่าอายุเท่าไหร่ก็ทำเรื่องโง่ได้ ผิดพลาดได้ และไม่เก่งได้
บอกเลิกแฟน สักพักเขาทักกลับมาเป็นเพื่อนกันได้ไหม กูก็โอเค นึกว่าเขาทำใจได้แล้วเลยคุยเป็นเพื่อน ไปๆมาๆ เริ่มมาบอกคิดถึง ตื๊อจะมาหากู เริ่มล้ำเส้นความเป็นเพื่อนเข้ามาเรื่อยๆ กูบอกปัดไปว่าไม่ต้องมาหา ไม่ว่าง ก็ยังจะตื๊อถามว่าไปทำอะไรทำไมไม่ว่าง จากตอนแรกยังรู้สึกดีๆ อยู่ตอนนี้เริ่มรำคาญ ถ้ายังทำใจไม่ได้แล้วจะมาขอเป็นเพื่อนทำไม กูอึดอัด เพราะพอตอบช้าก็บ่น ทั้งๆที่ปกติกับเพื่อนกูแทบไม่คุยไลน์ด้วยซ้ำ กูรู้สึกเหมือนโดนคุกคาม รู้สึกแพนิค พอคิดจะตอบแชทเขายังไงดีก็มวนท้อง ใจหวิว เล่าให้ใครฟังก็ไม่มีใครเข้าใจ เอาแต่บอกว่าสงสารอีกฝ่าย แต่ไม่มีใครถามกูเลยว่ากูรู้สึกยังไง เศร้ามากจนไปวิ่งๆอยู่ที่ยิมก็น้ำตาไหล กลั้นไว้ไม่ได้ กินข้าวอยู่ๆก็น้ำตาไหล จนกูต้องบล็อกเขาไปก่อน อีกสักเดือนค่อยปลดแล้วกัน ไม่งั้นกูคงเป็นบ้าไปก่อนแน่
แม่งเครียดกับมหาลัย งานกูโดนอาจารย์ตีกลับหลายรอบมากเลย แถมไม่มีใครคอยช่วยด้วยนะ ห้าห้าห้า
พวกเมิงเคยปะ นอนแบบกึ่งหลับกึ่งตื่น ก่อนนอนก็คิดว่า ถ้าให้คนอื่นมาครองร่างเรา พยายามคิดให้คนอื่นในตัวเรารับรู้ว่าเราตั้งใจทำแบบนี้นะ
และถ้าทำสำเร็จทุกๆอย่างมันจะดีกว่าที่เป็นแบบนี้ไหม ก็เหมือนร่างกายของกุจะตอบสนองกับความคิดนั้น
แต่พอในฝันที่กึ่งหลับกึ่งตื่น มันกำลังเข้ามาครองร่างกุตามที่กุบอกไป เหมือนมันรับข้อเสนอ มันมีตัวจิตวิญญาณหลากหลาย หรือฝูงแร้งฝูงกาไม่รู้ มารุมกู กุกลัวจะสูญเสียการควบคุมของตัวเองไป บางที จิตวิญญาณกุอาจหายไปเลย ถ้าให้มันครอบงำร่างได้ กุเลยเปลี่ยนใจว่ากุต้องมาครองร่างตัวเองอีกครั้งทำให้กุยังไม่หายไป ทำให้กุรู้ว่าจริงๆแล้ว พวกเราไม่เคยอยู่ตามลำพังเลย แม้จะมีแค่ตัวเราคนเดียว แต่ในตัวเรานั้นมี วิญญาณเล็กๆ ที่ไม่สามารถรวมพลังมาโค่นล้มเราจากภายในได้เท่านั้น และเป็นสิ่งที่วิทยศาสตร์ให้คำตอบ เรื่องอารมณ์ของมนุษย์ ความอิจฉา ความโลภ ความโกรธ ความเศร้านั้น
มันสามารถมองในทางวิทยศาสตร์หรือจับต้องได้จริงๆไหม
กูเหนื่อย เครียดจนอยากหายไปเฉยๆ
เวลาเหนื่อยใจหรือเครียดเราชอบอ่านบทกวีอันนี้ อ่านแล้วทำให้จิตใจสดใส https://fb.watch/hSElc1WXui/?mibextid=RUbZ1f
แฟนทักมาสารภาพว่านอกใจไปมีอะไรกับคนในที่ทำงานมาครั้งนึง บอกขอโทษ รู้สึกผิด ถ้ากุรับได้ ต่อไปจะไม่ทำอีก กุเองใจนึงก็ทำใจบอกเลิกเขาไม่ได้ แต่อีกใจก็ไม่เชื่อใจเขาอีกแล้ว ยิ่งเป็นคนที่ทำงานยังไงก็ต้องใกล้ชิดกัน กุไม่ได้อยู่บ้านเดียว/ใกล้กับแฟนอีก อยากให้โอกาสแต่ก็กลัวเจ็บซ้ำอีก แม่ง โคตรเจ็บ โคตรเสียใจเลยว่ะ นอนไม่หลับ กินอะไรไม่ลงมาเป็นอาทิตย์ ถามว่าชอบคนนั้นเหรอ อยากเลิกกันแล้วไปคบกับคนนั้นมั้ยก็บอกว่าไม่ได้ชอบขนาดนั้น แต่กุจะเชื่ออะไรคำพูดเขาได้เหรอวะ เครียดสัส ร้องไห้มาหลายวันจนปวดหัว รู้สึกดิ่งโคตรๆ
ขอระบายหน่อยนะ เรื่องมีอยู่ว่านายที่สำนักงานใหญ่เลือกกูไปทำงานด้วย โดยให้กูเข้าสำนักงาน3วันบ้าง 2วันบ้างสลับกับเข้าสาขา ปัญหาคือพวกอีบ้าที่สำนักงานใหญ่แม่งแบ่งพรรคแบ่งพวกแยกกูออกจากอะไรก็ตามที่กูควรรู้ควรทำ มันชัดเจนเพราะมีวันนึงตอนเที่ยงนายจะพาไปเลี้ยง แต่กูไม่รู้เพราะไปคุยงานที่ชั้นอื่น มารู้ก็ตอนเที่ยงที่กูจะลงไปกินข้าว นายถึงถามว่าไม่ไปด้วยกันไง หลังจากนั้นจนถึงตอนนี้กูก็ตึงๆกับพวกอีบ้ามาเรื่อยๆ
ทำไมกูต้องมานั่งเสียใจเพราะความไม่แคร์ของเขาด้วยวะ
ทำไมกูต้องเจอคนเหี้ยขนาดนี้วะ
https://www.sanook.com/campus/1404068/
กุเป็นเเบบนี้เลยอะกุควรงดโซเชียลใช่ไหมหรืออะไรที่มันเป็นพลังบวก
ถามมู้นี้ได้มั้ย กูเป็นคนชอบจดอะไรที่ต้องทำห้ามลืม แต่เวลาคนเห็นกูจดหรือหยิบไปอ่านเองเขาจะดุกูว่าถ้าแค่นี้จำไม่ได้ก็ไม่ต้องทำ สมองไม่คิดจะพยายามจำเองเหรอ กูเคยไม่จดแล้วลืมจนงานมันพลาด กูเลยยิ่งสับสนว่าแบบนี้ไม่ใช่พยายามเหรอวะ มีงานมาเรื่อยๆไม่ซ้ำกันทุกวัน จดไว้ไม่ดียังไงวะ กูสับสนชิบหาย
>>392 ตอนกูไปฝึกงานเขาบอกให้พกสมุดจดคนละเล่มเลยมึง กูก็เห็นทุกคนจดปกตินะ เอกสารอ่านเพิ่มเติมไรงี้บางทีเขาก็ให้คนไปปริ้นมาให้กูอ่านจดเลย จำอะไรไม่ได้ก็จด งานอะไรก็ต้องจดอยู่แล้ว บางคนก็จดใส่ไอแพตงี้ทั่วโลกก็เป็นกันปะวะไม่งั้นมันจะมีมาได้ไงของพวกนี้ พวกที่มีปัญหาน่าจะเป็นพวกชอบอับอายการกระทำของคนอื่น แต่หน้าด้านฉันไม่ทำตามหรอก เก็ตปะ
มีตัวท้อกซิกอยู่ในบ้านทแบะคือแม่กูเองนี่ต้องทำไงวะ
กูอยากให้แม่งตายๆไปซะที
จะเอายังไงกับชีวิตตอนนี้ดีวะ เป็นผู้ป่วยที่หยุดยา เพราะมีปัญหาเรื่องภาระและค่าใช้จ่าย กำลังรู้สึกเคว้งกับชีวิต ไร้แรงจูงใจการใช้ชีวิตชิบหาย
อยากฆตต.ให้จบ ๆ แต่กลัวคนที่บ้าน กลัวญาติ ต้องลำบากมานั่งจัดงานศพ กลายเป็นอะไรที่น่าเวทนากับคนรอบตัว จะทำไงดีวะ
>>401 เหมือนกันเลยหว่ะ แม่งคลอดกูมาเอง ถุงยางก็ไม่ใช้ กูอยากฆ่าแม่ง แต่ทําไม่ได้กูไม่อยากเอาชีวิตกูไปลงกับเรื่องแม่ง อดทนไว้จนถึงวันทํางานและก็ไปไกลๆจากมันแล้วกันนะ
กูจะเอาเรื่องนี้ไปคุยกับมครก็ไม่ได้อีก เพราะคนรอบข้างแม่งก็มีความสัมพันธ์ดีๆกับครอบครัว ระบายไปก็ไม่มีใครเข้าใจหรอกมีแต่จะสมเพช
ส่วนกูก็จะเป็นบ้า อยู่กับคนประสาทแดก นอนร้องไห้แทบจะทุกคืน จนตอนนี้ระแวงคนไปหมดแล้ว อยากไปหาหมอ แต่จะทําอะไรได้ต่อให้กูแดกยา ไอคนประสาทแดกมันก็ยังมีตัวคนอยู่ กูอยู่ไม่สุขหรอก
พี่แท้ๆกูก็ไม่สนิท แม่งทําตัวออกห่างกูตั้งแต่กูเด็กๆ แล้วทําร้ายกูด้วย มาตอนนี้ก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆทํัาเป็นเหมือนไม่มีอะไรจริงๆกูกลัวพี่ขึ้นสมอง
ส่วนพ่อกูก็ไม่สนิท พ่อขี้กลัวแม่ อะไรที่ไม่สมเหตุสมแม่งก็ไม่แย้ง ถ้ากูโดนแม่หาเรื่องงี่เง่าๆ กูผิดตลอด
กูผิดตลอดทุกเรื่อง พอกูได้ดีก็อวดชาวบ้าน พอกูทําตัวไม่เป็นไปตามที่ครอบครัวต้องการกูก็แค่ขี้
เคว้งชิบหาย ไอเหี้ย กูไม่มีใครเลยหว่ะ
คนบ้าอะไรแม่งเห็นแก่ตัว หลงตัวเอง จะเอาชนะทุกอย่าง แม่แต่ลูกแท้ๆยังไม่ใส่ใจ จิตใจลูกจริงๆเป็นยังไงกูไม่แคร์
กูเหงาไอ่เหี้ย อายุยี่สิบอัพแล้วเรื่องครอบครัวแม่งก็มาหลอกหลอนกูตลอด ต่อไปกูจะใช้ชีวิตยังไงวะ เหมือนชีวิตกูมันไม่สมบูรณ์ ขาดความอบอุ่น
อยากตายชิบหายเกลียดความจน
กูเบื่อชิบหาย ทำไมเหลือแต่ที่นี่ที่พอจะมีความเห็นใจโผล่มาบ้าง ทำไมต้องมีแค่คนไม่เห็นหัวกู ไม่เห็นใจไม่คิดถึงกูบ้างเลย ไม่ว่าความรู้สึกหรือสุขภาพกายสุขภาพใจ
ทำไมคนเรามันต้องเหี้ยแบบนี้วะ
กูเป็น psychopath ไหมวะ
คือทุกครั้งเวลาเห็นข่าวคนยิงกันตาย ฆ่ากันตาย หรือกราดยิงที่คนตายเยอะๆ กูจะรู้สึกสะใจตลอด ยิ่งจำนวนคนตายเยอะยิ่งรู้สึกชอบใจ
อย่างตอนที่เห็นข่าวรัสเซียยิงถล่มยูเครนกูก็รู้สึกชอบใจ คือไม่สนอ่ะว่าฝ่ายไหน แค่มีคนตายก็รู้สึกสนุกแล้ว
แต่ในขณะเดียวกันเวลาดูหนังที่มีฉากทารุณคนแบบโหดๆ กูจะรู้สึกโกรธไอ้คนทำมากเลย
อย่างล่าสุดเรื่องอลิส ฉากที่ไอ้คิงโพธิ์ดำแม่งยิงรัวใส่สาวนักธนูแบบเผาขน แล้วก็แทงกระหน่ำใส่สาวบิกินี่ กูรู้สึกโกรธจนน้ำตาซึมเลย
ตอนนี้กูเลยงงกับตัวเองว่ากูเป็นอะไร ยังไงกันแน่
อลิสอินบอร์ดเดอร์แลนด์ กุว่าถ้าอ่านกาตูนมา มันก็แทบจะรู้หมดแล้วนะ ไม่จำเป็นต้องดูซีรีย์
เพื่อนกุเอาคลิปพวกฆ่ากันหรือผู้ก่อการร้ายฆ่าตัวประกันให้ดูกูรู้สึกเฉยๆ
แต่พอเป็นคลิปสัตว์โดนทำร้ายแล้วกูกลับทนดูจนจบไม่ได้
แม่กุแม่งไม่เคยยอมรับอะไรซักอย่าง พูดจาหมาๆใส่กุ ไล่กุไปตุย พอผ่านไปเสือกบอกไม่เคยพูด บางทีแม่งแถว่าเป็นคนตรงๆ พอก็ทำจริงเข้าicuอยู่รพเป็นเดือนแม่งดีกะกุได้พักนึง ผ่านไปแล้วย้อนพูดถึงตอนนั้นแม่งใช้คำว่ากุสร้างเรื่อง พอกุออกจากบ้านก็บอกเหงา พอกุอยู่บ้านกุไม่มีดี เป็นที่รองรับอารมณ์แม่ง กุไม่น่าสงสารมึงละกลับมาดูแลเมิงเล้ยยยย โทษใครไม่ได้นอกจากตัวเองว่ะ
>>415 ออกจากบ้านไปอยู่สังคมใหม่ๆที่ใหม่ๆเหอะ แม่บางคนก็ใช้ความเป็นแม่เป็นข้ออ้างทำร้ายเราบ้างต้องตอบแทนบ้าง ยิ่งคนรุ่นก่อนๆออกลูกเพื่อหวังให้เลี้ยงตอนแก่เลย ยังไงชีวิตเราเป็นของเราอะไรที่มันถ่วงเราก็ตัดออกไป
กุโตมากับครอบครัวที่อบอุ่นนะ แต่เมียกุกับแม่ยายตัดขาดแม่ลูกกันเรียบร้อยไม่ติดต่อกันอีกเลยเพราะปัญหาทำร้ายร่างกายกับบังคับให้ซื้อรถชื่อแม่เพื่อตอบแทนบุญคุณ กุเลยเข้าใจ
>>416 กูเนี่ยแหละ เกิดมาในยุคแซนด์วิช ยุคที่พ่อแม่เกิดลูกมาเพื่อใช้ประโยชน์ คาดหวังให้ลูกเลี้ยงและดูแลดูยามแก่เฒ่า แต่เด็กสมัยนี้จะคิดว่าพ่อแม่เป็นคนเลือกที่จะเกิดกูมาเอง กูไม่ได้ขอมาเกิด เรื่องอะไรต้องมาตอบแทนบุญคุณ ต้องมาเลี้ยงพวกมึงตอนแก่ (แต่กูไม่มีลูกนะ) กูไม่โทษคนสมัยก่อนนะ มันคือชุดความคิดตามยุคสมัย เหมือนที่คนยุคหินเลี้ยงสัตว์อะ ไม่ได้มีใครเลี้ยงเพราะรักเหมือนที่คนสมัยนี้เป็นทาสหมาทาสแมวหรอก เขาเลี้ยงไว้ใช้ประโยชน์กันทั้งนั้น เอาไว้ต้อนวัว เฝ้าสัตว์ ล่าเนื้อ กันขโมย ฯลฯ มันก็เหมือนกันนั่นแหละ คนสมัยก่อนมีลูกเพื่อเป็นแรงงาน เพื่อให้เลี้ยงดูตัวเองยามแก่ มันคือยุคของการเปลี่ยนผ่านแห่งชุดความคิด ทางแก้คือต้องเข้าใจ ยอมรับ ทำใจ และเอาเท่าที่ตัวเองไหว อย่าลืมดูแลจิตใจตัวเองด้วย พวกเราทำได้แค่นั้นแหละ อีกอย่างมันเป็นเรื่องที่พบเจอได้ทั่วไปนะ ครอบครัวที่อยู่ด้วยกันแล้วมีเรื่องตีกันแทบทุกวัน แต่พออยู่ไกลกันแล้วรักกันชิบหาย อย่างยุคโควิดที่คนต้องอยู่ด้วยกันมากขึ้น ยังพบเจอสถิติการหย่าร้างเพิ่มสูงทั่วโลกเลย คนเราพออยู่ใกล้กัน มันมีโอกาสจะเห็นพฤติกรรมที่ทำให้ขัดใจ จนกลายเป็นการกระทบกระทั่งกันเป็นธรรมดา ถ้ารู้ว่าเป็นแบบนั้นก็ต้องรู้จักเข็ดหลาบ อยู่ให้ห่างแล้วอย่ากลับไปอีก ไม่งั้นหนังเรื่องเดิมมันก็วนกลับมาเหมือนเดิมแหละ
>>417 กูคนนึงเลยที่ยอมตายข้างถนนหรือตายในคุกให้มีชีวิตตัดสินใจเองได้ดีกว่ามาเป็นร่างไร้วิญญาณให้พ่อแม่แท้ๆที่ให้กำเนิดมาเพื่อใช้เป็นตัวอะไรสักอย่างในชีวิต ชุดความคิดที่พอมึงบอกมาคือแบบนี้ละดูน่ากลัวชิบหาย ทุกวันนี้กูหนีออกมาแล้วจะใช้แรงกายตัวเองทั้งหมดเท่าที่มีเพื่อทำให้ตัวเองไปอยู่จุดที่มั่นคงกว่านี้ให้ได้แทนละ ไม่เอาแล้วบ้าน ไม่เอาแล้วครอบครัวที่แม่งสุดท้ายคือจริงๆแล้วไม่ได้ห่วงใยชีวิตกูมาแต่แรกหว่ะ มันเหมือนกับมึงขี่มอไซค์ใน กทม.ชัดๆเลย โอกาสเกิดอุบัติเหตุสูง ชีวิตไม่ได้ดีไปตามความเร็วความสะดวก ถ้าเกิดอุบัติเหตุจริง เลือกสิ้นชีพจรดีกว่าอยู่
แม่ลูกมาเล่นโม่งกันเองป่าววะ 555
พ่อแม่ทำทุกอย่างให้เมิง เมิงเสือกบอว่าให้กำเนิดเมิงทำไม อยู่ร่วมกันมันต้องปรับตัวเข้าหากัน ไม่งั้นมันจะเรียกว่าครอบครัวได้ไง ไม่มีอะไรฟรีในโลกหรอกนะ เมิงได้ร่างหนัง จิตวิญญาณ ความฉลาด มาจากใคร
รู้ว่าตัวเองผิดก็เรื่องนึง ความคิดชั่ววูบก็เรื่องนึง
ทำหน้าที่ลูกให้ดีที่สุดในชีวิตนี้ ไม่งั้นคนที่เสียใจคงเป็นเมิงและมันแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว เป็นตราบาปตลอดชีวิต เป็นลูกอวชาติบุตร ชิงหมาเกิด ถ้าคิดว่าเพื่อน เขามองเมิงดีกว่าพ่อแม่ ก็เชิญ ตอนทุกข์ อย่ามาหาครอบครัวให้ช่วยเหลือละกัน
>>421 ไอคามว่าอยู่ล่วมกัน ปราบข้าวหากันนี่คือฆนแบบเมิงก้มหัวให้กับพ่อแม่เมิงถูกใช้ให้เอาเงินไปประเคนให้พรวกแม่งโจนถึงวันตัยห่าใช่ป้ะ? ถ้านั่นมเมิงมองว่าครือน่าที่ลุกเนี่ย โคนแบบมึงสมควนเข้าจายคามว่าครอบครัวหมั่ยซะนะ พ่อแม่เิมงเปิดฟาร์มเลี้ยงคนมั่ยชั่ยสร้างครอบครัว ซึ่งความคิดแบบสัตว์ของตระกูลเมิงจะให้คนอื่นมองว่าเปนดอกบัวก็คงไม่ได้ละเนอะ แร้วมึงไปทำแบบนี้กับชีวิตเลือดเนื้อเชื้อไขมึงเองอีก ต้องปัยตามราวีหั้ยลุกๆมาเลี้ยงมึงตอนแก่ด้วยความเป็นเจ้านายกับทาสนี่มึงมันชิงหมาเกิดมากกว่าอีกนะ ทุกวันนี้นี่โคตรพ่อแม่มึงจับมึงติดกำไลEMที่ข้อเท้าป่าว้าาา? หรือเวลาลุกมึงกลับมาบั้นนี่จาบล่ามโซ่วั้ยป่ะเนี่ย อ๊๋ ครอบครัวป่าเถื่อน
ID6:2ZALZfzmjY
ID:TQuT+aeikk
มีพร่อกาบแม่ที่ให้กำเนิดลุกมาไว้เลี้ยงเมื๋อนสัด ทุบตีแบบมั่ยนึกถึงใจลุกในไส้ตัวเอง ชั้ยคามป่าเถื่อนเลี้ยงดูเพื่อส่งไปทามรั้ยคนอื่นในสางคม แร้วมาทวงบุนคุนจิกหัวใช้ห้ายไปทำงานหาเงินมาปรนเปรอหั้ยตอนแก่ ไม่ทามก็ทุบตี น่าคาหยะคาแหยง ใครด้ายเกี่วดองกับบไอตระกุลของอีเหี้ยนี่คือเฮงซวยสุดๆ
สุดท้าย อีพวกที่มาด่าคนที่มีปัญหาครอบครัวนี่แม่งก็แค่พวกที่อยากหาปมด้อยของคนอื่นมาด่าให้ดูเลวแล้วยกให้ตัวเองดูดีนั่นแหละ พวกเหี้ยนี่สมองไม่มีด้วยหัวใจที่มองคนด้วยกันก็ไม่มี ดูจากที่มันเติบโตมาจากครอบครัวความคิดแบบนี้ก็รู้เลย แถมเหตุผลที่ยกมาแต่ละอย่าง ถ้าเถียงไปมากกว่านี้เผลอๆแม่งคงยกบาปบุญ สวรรค์นรก เปิดพระคัมภีร์สักศาสนานึงมาเถียงแทนทั้งๆที่ใช้พิสูจน์บนโลกความจริงไม่ได้
กุไม่รู้พวกเมิงเติบโตมาในครอบครัวยังไงนะแต่สำหรับกุ ไม่ใช่แค่พ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย พี่ป้าน้าอา เพื่อน กัลยณมิตร
มีบุญคุณก็ต้องทดแทน ทั้งนั้น มันไม่ต้องเป็นคำสอน แต่มันคือสามัญสำนึกของคนทั่วไป โลกนี้เราไม่ได้เติบโตมาด้วยลำพัง
เรายืมกายเนื้อ กินสัตว์อื่นเพื่อเอาตัวรอด ถ้าเป็นคนทั้งที ยังมีจิตใจแบบสัตว์อยู่ แบบนี้จะเรียกเป็นมนุษย์ได้ไง
หรือเมิงอยากจะขึ้นชื่อว่า ลูกเนรคุณ มันไม่สำคัญคนอื่นจะคิดกับเมิงยังไง แต่มันสำคัญที่ทำอะไรที่ไม่ผิดใจตัวเอง ไม่ได้รู้สึกผิดภายหลัง ไม่ใช่มโนว่ากุถูกต้อง ถูกที่สุด กุไม่ตกเป็นทาสพ่อแม่ แล้วทำไมพ่อแม่เขาถึงยอมลำบากเลี้ยงดูเรามา ท่านไม่เหนื่อยหรอ ถ้าเป็นเรา เราจะทนเลี้ยงดูเด็กเปรตที่จะมาทิ้งเราอย่างงั้นหรอ ลองมองในมุมมองกลับกันบ้าง
ถ้าป่วยก็ไปหาหมอ ให้เขาวินิจฉัยว่าเป็นโรคประสาทหรือเปล่า ต้องกินยา ดับอาการ ถ้าไม่ใช่คนปกติ ก็คงใช้ตรรกะคนปกติไม่ได้สินะ ตอนมีสติ จิตกระจ่าง ก็ลองคิดคำลองคลองธรรมดูละกัน ไม่ใช่คิดเข้าข้างตัวเอง
>>429 ไปอ่าน >>415 "กุไม่รู้พวกเมิงเติบโตมาในครอบครัวยังไงนะ" 415 ก็บอกอยู่ปัญหาขอมันคืออะไร มึงจับประเด็นไม่ได้เองแล้วเสือกฟุ้ง บาปบุญคุณโทษอะไรของมึงเนี่ย
ถ้าป่วยก็ไปหาหมอ ให้เขาวินิจฉัยว่าเป็นโรคประสาทหรือเปล่า ต้องกินยา ดับอาการ ถ้าไม่ใช่คนปกติ ก็คงใช้ตรรกะคนปกติไม่ได้สินะ ตอนมีสติ จิตกระจ่าง ก็ลองคิดคำลองคลองธรรมดูละกัน ไม่ใช่คิดเข้าข้างตัวเอง
ไอ้พวกบาปหนา ต้องเจอพลังแห่งการตีพ่อตีแม่ อ๊าทำไมมือเอ็งใหญ่โตแบบนั้น ข้าไม่เคยเห็นใครตีพ่อตีแม่มากขนาดนี้มาก่อนเลยอ๊าาา
>>429 ว่าแล้ว สุดท้ายก็ใช้ธรรมะเพื่อปกป้องว่าตัวเองถูก 55555+ ก็นะ คนเรามันข้ออ้างร้อยแปดและนี่ก็คือหนึ่งในเหตุผลว่าตัวเองเป็นมนุษย์เพราะบาป บุญ คุณ โทษที่พิสูจน์บนโลกความจริงไม่ได้ พ่อแม่ไม่ดีบนโลกนี้มันมีอีสัส ไม่เคยเจอเพื่อนที่มีครอบครัวแย่ๆ ถูกพ่อแม่ทำร้ายก็โลกสวยไปเหอะนะ หนังสือที่กูแนะนำให้อ่าน I'm glad my mom died , ชีวิประวัติBritney Spears และประวัติครอบครัวพ่อแม่Nicki Minaj หรืออีกอันของคนไทย(ที่เชื้อจีนหน่อย)ก็ประวัติYoutuber คุณอำนวย Zystem อยู่คลิปแรกสุดเลยของช่อง .....ถ้ามองว่าพ่อแม่คนพวกนี้ก็ทนเลี้ยงดูมาด้วยวิธีที่สมควรทดแทนบุญคุณจริงๆมึงน่าจะไม่ปกติและควรไปหาหมอมากกว่า แถมคนแบบมึงอ่ะตรรกะป่วยมากกว่านะ หรือถ้าคิดในแง่ที่ดีกว่านี้ก็คือคงโลกแคบเพราะไม่รู้ว่ามีคนบนโลกนี้เจอแบบนี้มาก่อนอ่ะเนอะ
ออกข่าวเยอะแยะ ไม่เลี้ยงดูพ่อแม่ ปล่อยบ้านพักคนชรา พอมีลูก ก็ส่งมาให้เลี้ยง สังคมแย่ลงจริงๆ พัฒนาทางวัตถุ แต่จิตใจคนกลับต่ำลงเรื่อยๆ ตัวเองเกิดมาโชคดีขนาดไหนแล้ว ไม่มีโรค ครบ32 เกิดเป็นคนทั้งทีแต่เสือกเป็นคนดีไม่ได้ ตอนเมิงแก่ นอนพะงาบๆ เดียวก็รู้ อิอิ
>>435 กุมีลูกแล้ว แล้วกุต่างหากที่ต้องขอบคุณลูกที่พวกเขาเกิดมาให้กุมีความสุข กุไม่ให้ลูกต้องมาเลี้ยงกุตอบแทนกุ กุวางแผนการเงินจนมีใช้ยันบั้นปลายชีวิตอยู่แล้วก่อนมีลูก กุไม่ใช่พวกตรรกะตลาดล่างแบบเมิงหรอก ยังมีหน้ามาบอก"ออกข่าวเยอะแยะ ไม่เลี้ยงดูพ่อแม่"เมิงไม่ไปแหกตาดูสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าบ้างล่ะว่าพ่อแม่เหี้ยๆออกขยันออกลูกเยอะขนาดไหน ส่วน"สังคมแย่ลงจริงๆ"อันนี้ถูกเพราะมีคนตรรกะแบบเมิงอยู่ในสังคมไง
ไอประเภทที่แก่ละลูกหลานต้องส่งเสียเงินมาใช้นี่ กูเห็นmindsetแบบนี้ล่าสุดคือพวกพม่ากับเขมรนะที่สมัยทำงานกับพวกแม่งมีมาถามว่ามีส่งเงินให้พ่อแม่บ้างยัง ต้องส่งนะบลาๆ เอาตรงๆเหมือนดูถูกบุพการีกูว่าด้อยฝีมือ แก่แล้วไม่มีปัญญาหาแดกเองหว่ะ ซึ่งตอนกูแก่กูไม่ได้อยากแก่ละงอมืองอตีนงานการไม่ทำเร่ขอเงินลูกหลานไปเรื่อยหรอก มันน่าสมเพชที่อยู่ในชาติที่พัฒนาดีกว่าประเทศเพื่อนบ้านซะเปล่าแต่ความคิดเหมือนชิงคนไร้สัญชาติมาเกิดอ่ะ
เราเป็นอะไรวะ เรารู้สึกเบื่อชีวิตมากๆ อยากตา-ยบ่อยๆ
เรามีสิ่งที่อยากทำอีกหลายอย่าง และสิ่งที่บรรลุเป้าหมายไปแล้วหลายอย่าง
เราเป็นคนที่เมื่อก่อนอยู่ไม่นิ่งชอบทำนู่นทำนี่ แต่พอมีแฟน แฟนก็เข้ามาควบคุมเข้ามาทำให้แทบทุกอย่าง จนเราไม่ได้ทำอะไรเองเท่าที่ควร
ตอนนี้เราก็ไม่ได้ทำงานประจำ อยู่บ้านนอนเล่น เราทำงานแค่เดือนละไม่กี่วัน ก็ได้เงินเยอะกว่าออกไปทำงานของพนักงาน บริษัทแล้ว แต่ก็อยู่ในเกณฑ์พออยู่พอกิน
เราอยากทำอะไรอีกหลายอย่างนะ แต่ก็ไม่ยอมทำอะไรเลย อยากทำแต่ก็คิดไม่ออกว่าจะทำอะไรสมองมันตื้อไปหมด ชีวิตเรามีความสุขดีมีแฟนที่รักและไว้ใจได้ ครอบครัวก็ดี ถึงจะจนไปหน่อย
แต่เราชอบคิดว่าเราไม่อยากอยู่บนโลกใบนี้
ชอบจินตนาการว่าเราจะตา-ยยังไงบ่อยมากจนเราเองก็รู้สึกไม่ปกติ
ตอนล้างห้องน้ำก็อยากจะกินน้ำยาล้างห้องน้ำ ตอนไปที่สูงๆก็อยากกระโดดลงไป อยากเอามีดแท-งตัวเอง
แต่เราห้ามใจตัวเองได้อยู่นะกลัวเจ็บ ไม่อยากฆ่-าตัวตา-ย แต่ความรู้สึก
อยากตา-ยมันอยู่ในหัวตลอดเวลา แถมรุนแรงและถี่มากขึ้นทุกวัน •́ ‿ ,•̀
>>439 เหยดเข้ แล้วคนแบบมึงอยู่บ้านนอนเล่นทำไมวะ? ไม่ไปเที่ยวในเมือง หาอะไรกิน ไปสวนสนุกก็ได้ แฟนว่างก็ชวนแฟนไป ...... บนโลกนี้แม่งมีมุมสวยๆงามๆตั้งเยอะ ละจังหวะชีวิตที่มึงออกไปเที่ยวเล่นได้จริงๆตอนนี้ละกูอิจมึงจังเล้ย 555+ เพราะกูยุ่งวุ่นวายกับงานเพื่อหารายได้ไปแล้วนี่ดิ
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.