มู้ก่อนๆ
++++++++++++++++
มู้ที่1ไม่มีวาป
>>>/lifestyle/8212/ โม่งปรึกษาปัญหาสุขภาพจิต มู้ที่เท่าไหร่ไม่รู้ (มู้ก่อนตันแล้วหาไม่เจอ)
Last posted
Total of 1000 posts
มู้ก่อนๆ
++++++++++++++++
มู้ที่1ไม่มีวาป
>>>/lifestyle/8212/ โม่งปรึกษาปัญหาสุขภาพจิต มู้ที่เท่าไหร่ไม่รู้ (มู้ก่อนตันแล้วหาไม่เจอ)
ถามในนี้ได้มั้ยอ่ะ คือเพื่อนนี่เป็นซึมเศร้า มันก็กินยามานานแล้วนะ แต่จู่ๆมันก็เลิกกินแบบที่เลิกไปดื้อๆเลยอ่ะ จะบอกมันยังไงดีว่าให้มันกลับไปกินยา ถามมันบอกว่ามันหายแล้ว แต่กูว่ามันยังไม่หายอ่ะ วินิจฉัยตัวเองไม่ได้มั้ย กลัวมันแย่กว่าเดิมเพราะหยุดยาเองอ่ะทำไงดี
กุคิดว่าสมัยนี้ทุกคนจะยอมรับโรงซึมเศร้าได้ซะอีก แต่แม่งไม่ว่ะ กลุ่มเพื่อนกุคือแบบไปแอบบุลลี่คนเป็นโรคนี้อะแล้วเอาวีรกรรมเหี้ยๆมาเล่าให้กุฟัง กุก็เตือนว่าอย่าทำเพราะแม่งก็ยังไปแอบแกล้งแอบนินทาเขา อิเวร
คือกุเคยเป็นโรคนี้แล้วรู้ว่าตอนเป็นแม่งเหี้ยมาก มันเหมือนทุกอย่างในชีวิตคือแย่หมด อยากฆ่าตัวตายตลอดเวลา ทีนี้พอกุเห็นคนเป็นโรคนี้เลยเข้าใจแต่กลุ่มเพื่อนกุยังเสือกไปแกล้งเขาอีก
กินยาแล้วรู้สึกอาการซึมเศร้าไม่ดีขึ้นเลย เปลี่ยนยามาหลายตัวแล้ว กุควรทำไงดี
แฟนกูกลัวเซ็กส์ เราทำอะไรกันภายนอกได้ทุกอย่าง กอด หอม จูบ ใช้ปากทำให้ แต่พอจะสอดใส่ ก็จะไม่ทำต่อและถีบกูออกมาทุกครั้ง เคยพยายามหลายๆรอบแล้ว หลายวิธีแล้ว ทั้งแบบดีๆไปเที่ยวทะเลกัน เปิดเพลงบิ๊วท์ แต่พอตอนกำลังจะใส่ก็จะถีบกูออกมา ทั้งแบบเมาๆดื่มกันกรึ่มๆพอให้มีอารมณ์แต่ก็ยังโดนถีบออกมา จนตอนนี้กลายเป็นกูหมดความมั่นใจและเริ่มจะเกลียดเวลาเค้ามานัวเนีย มาหอม กูแล้วว่ะ คือพอเหมือนว่ากูมีอารมณ์แล้วสุดท้ายก็เฟลกลายเป็นโดนปฏิเสธออกมาตลอดๆ ถ้ากูขอเลิกเพราะเหตุผลที่กล่าวไป มันจะดูเลวมั้ยวะ กูกลัวถ้าปล่อยไปเรื่อยๆ กูจะกลายเป็นคนเกลียดเซ็กส์ซะเอง
>>13 ยัง พอบอกเลิก แฟนกูก็จะซึมเศร้ากำเริบรัวๆๆ เลยต้องทนอยู่อย่างนี้ อีกไม่นานกูก็คงซึมเศร้าไปตามๆกัน
>>11 ไม่เคยทำเลย เหมือนจะกลัวครั้งแรกด้วยมั้ง กูก็พยายามทำให้ผ่อนคลายสุดๆละนะ แต่ก็ไม่ได้อยู่ดี จนหลังๆกูก็เริ่มเกลียดตัวกูเองเวลามีอารมณ์พวกนี้ละ พอกูโดนปฏิเสธบ่อยๆก็เริ่มหมดความมั่นใจ เหมือนกูผิดปกติที่มีอารมณ์พวกนี้ เหมือนกูเป็นสิ่งที่เค้าไม่ยอมรับถึงได้ถีบออกมาอ่ะ
ละกูมันน่าขยะแขยงขนาดนั้นเลยหรอวะถึงต้องปฏิเสธทุกครั้งเลย ทำไมคนอื่นๆก็มีกันตามปกติได้ แต่กลายเป็นกูที่โดนปฏิเสธตลอด พยายามคิดเหตุผลหลายๆรอบละ แต่มันก็ไม่ตอบคำถามกูได้เลย กูเคยคิดว่าอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆแบบไม่ต้องมีอะไรกันก็ได้ แต่มันฝืนธรรมชาติตัวเองไง เพราะพอกูมีอารมณ์ กูก็ไม่สามารถปล่อยมันออกมาได้ ต้องระงับ ถ้าไม่ระงับเดี๋ยวก็โดนถีบออกมาอีก โดนปฏิเสธอีก รู้สึกเหมือนตัวเองน่ารังเกียจมากๆขนาดนั้นเลย
กูเลิกกับแฟนมา 2-3 เดือน แล้วพักหลังกูรู้สึกดูหนังแล้วอินขึ้น ซึ่งกูรู้สึกแปลกๆะ ปกติดูหนังแล้วก็เฉยๆ กับสนุก มีแค่นั้น
ปล กูไม่รู้จะไปห้องไหน 55555
มีความรักแล้วทำให้insecureกับทุกอย่างที่ตัวเองเป็นสุดๆ จะบ้าตาย
อยากเป็นคนที่เห็นคนอื่นประสบความสำเร็จแล้วดีใจกับเค้าได้อ่ะ ไม่ใช่มานั่งอิจฉาเค้า อยากเป็นอย่างเค้า แล้วก็พาลรู้สึกแย่ว่าตัวเองไร้ประสิทธิภาพแบบนี้ แม่งแย่ว่ะ แปลว่ากูเป็นคนที่ไม่มีความสุขใช่มะ เลยไม่สามารถยินดีกับคนอื่นได้
อยากมีความสุข
>>25 ฟิลเดียวกับกูตอนนี้เลยมึง กูรู้สึกตื่นเต้นดีใจกับความสำเร็จของเพื่อนนะ แต่ในขณะเดียวกันก็น้อยเนื้อต่ำใจและอิจฉาเพื่อนไปด้วย ตอนนี้กูพยายามจัดการกับความรู้สึกของตัวเองด้วยการพยายามไม่เอาตัวเองไปทาบกับเขา Journeyของเรากับเพื่อนไม่เหมือนกัน ก้าวของเราไม่เท่ากัน พยายามมองความสำเร็จของเขาให้เป็นความเป็นไปได้แล้วฮึดพยายามขึ้นมาบ้าง กูอาจจะไปไม่ถึงความสำเร็จแบบเขาในเร็วๆ นี้หรอก แต่อย่างน้อยถ้าได้พยายยามกูก็จะเป็นตัวกูในเวอร์ชั่นที่ดีกว่าเมื่อวานนิดนึง สู้ๆ นะมึง
ปรึกษาหนาอย เป็นซืมเศร้าต้องกินยาอะไรไหม ชื้อในร้านขายยาได้ไหมอะ ที่ๆกูอยู่ไม่มีคลีนิคจิตแพทย์ และกูไปไหนเองไม่ได้ อยากทรีคตัวเองก่อนต้องทำยังไง
>>29 ต้องกิน ไม่กินไม่หาย ต้องได้ยาจากจิตแพทย์เท่านั้นนะ เรียนมหาลัยอยู่ป่าว หลายๆมหาลัยจะมีศูนย์ไว้ปรึกษาสุขภาพจิต เราสามารถโทรไปได้ แล้วก็อาจจะวิดเโอคอลกับจิตแพทย์ แล้วให้เค้าส่งยาให้งี้ หรือโหลดแอพ Raksa มา เค้ามีหมอหลายแผนกให้เลือกโทรไปหา แต่ไม่รู้จะจ่ายยาให้มั้ย
มีวิธีฮีลใจตัวเองยังไงหรอ เพื่อนเราเสียเพราะซึมเศร้า และเราก็รู้ว่าเพื่อนเป็นโรคนี้แต่ไม่เคยรู้เลยว่ามันมีปัญหาอะไร มันชอบเก็บทุกอย่างไว้กับตัวเอง แล้วทำตัวร่าเริงกับเราตลอด จนเรานึกว่ามันหายแล้ว แต่พอมาทราบข่าวว่าเพื่อนเสีย เราช็อค เราเศร้า และเรารู้สึกแย่มาก รู้สึกแย่ที่ไม่เคยรับรู้ความทุกข์ของเพื่อนเลย แล้วก็คิดว่าถ้าเราใส่ใจมันมากกว่านี้ ถ้าตอนนี้ยังสนิทกันอยู่เหมือนเมื่อก่อน เรื่องแบบนี้อาจจะไม่เกิดขึ้นรึเปล่า ตอนนี้จิตใจเราแย่มากเลย ทำใจไม่ได้สักที เผลอคิดถึงมันตลอดเลย ทั้งๆที่ก่อนเกิดเรื่องเราไม่ได้คุยกันมาสักพักแล้ว แต่พอมันจากไปเรากับนึกถึงความทรงจำเก่าๆและเสียดายที่ไม่คุยกับมัน ไม่ใส่ใจมันให้มากกว่านี้
มีใครเคยเป็นโรคซึมเศร้าแบบไม่มีเหตุผลบ้างมั้ย คือกูรักษาซึมเศร้ามา 4 ปีแล้วอ่ะ ไม่หายขาดสักที คืออาการมันก็ไม่ได้เป็นหนักมาก แต่เคยลองหยุดยาเองไปช่วงนึงเพราะคิดว่าหายแล้ว สุดท้ายต้องกลับไปหาหมอ แล้วคือตอนนี้กูก็งง ครอบครัวกูก็งง หมอกูก็งง เพราะกูเป็นคนที่ไม่มี trauma ไม่มีเรื่องแย่ๆในชีวิต ชีวิตดีมาตลอด ครอบครัวดี เพื่อนดี ปัญหาโรงเรียนก็ไม่มี พ่อแม่พี่น้องกูก็ไม่มีใครป่วยทางจิต แล้วกูก็ร่าเริงแจ่มใสมากๆด้วย ตอนนี้หมอก็เอาแต่บอกให้ลองนึกดูดีๆว่ามีอะไรกระทบกระเทือนจิตใจหรือเปล่า แต่กูก็ไม่รู้จริงๆว่ะ คิดไม่ออกเลยจริงๆ
กูคิดว่ากูเป็นโรคจิตว่ะ คือเวลามีงานหรือกิจกรรมอะไรที่ต้องใช้เวลาทำสักพัก กูจะไม่ค่อยอยากทำก็จะผลัดไปเรื่อยๆ ทำอย่างอื่นๆแทนที่จะทำสิ่งที่ต้องทำ แล้วสุดท้ายมารีบทำทีหลัง คือกูเคยลองนั่งสำรวจความคิดตัวกูเองว่าทำไมถึงผลัดสิ่งที่ควรทำออกไปเรื่อยๆ สรุปว่า กูกลัวมันเสร็จแล้วจะไม่มีอะไรทำ หรือบางอย่างก็กลัวจะทำออกมาได้ไม่ดี มีใครเป็นแบบกูมั่งมั้ย แก้ให้หายยังไง ขนาดกูว่าจะไปหาหมอเพื่อปรึกษาเรื่องนี้ตั้งแต่เดือนที่แล้ว ยังไม่ได้ไปสักทีเลย
กูไม่แน่ใจว่ากูเป็นบ้าไปแล้วหรือเปล่า กูเคยโดนทำร้ายจิตใจอยู่หลายปี ถึงจะหลุดออกมาได้เป็นปีแล้วแต่ก็ไม่ดีขึ้นเลย เหมือนทุกคำพูดมันยังคงอยู่กับกูทุกวันไม่มีวันไหนเลยที่ไม่แว้บเข้ามาในหัวใช้เวลากับเรื่องนั้นไม่ต่ำกว่า8ชม
ต่อวัน กูเหนื่อย กูอยากลืมๆไปซะ
>>34 คล้ายเพื่อนกุคนนึง ออกแนวผลัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อย มันบอกไม่อยากรีบดูหนังอ่านหนังสือทำไรที่ชอบเพราะกลัวว่ทำไปแล้วจะไม่มีอะไรให้ทำ ละคนนี้คือนิสัยไม่ค่อยมีความรับผิดชอบด้วยนะ กุไม่รู้ว่าเป็นอาการทางจิตหรือเปล่าแต่กุชอบพูดใส่ว่ามึงไม่กลัวพรุ่งนี้นอนละไม่ตื่นทุกสิ่งทีมึงอยากทำจะไม่ได้ทำอีกแล้วเหรอ ละมันก็เลิกคุยกับกุเลย555
การที่ชอบจินตนาการว่าฆ่าคนตอนที่โกรธมันผิดปกติหรือเปล่าวะ
กูเป็นแผลเป็นที่คางอ่ะดูแล้วน่าเกลียดจังคงต้องเกบเงินมารักษาแล้วรู้สึกแม่งเปนปมกับตัวกูมากเลยมีใครทำใจกับความน่าเกลียดของตัวเองไงมั่งวพ
กูเกลียดตัวเองชิบหายเพราะอีโรคซึมเศร้าเหี้ยนี่ทำให้กูกินยาแล้วนอนไม่ตื่นโดนอาจารย์ด่ากลางคลาสให้คนเป็นร้อยฟัง กูเกลียดตัวเองชิบหาย
กูไม่มีอารมณ์ทางเพศกับคนแต่เสือกมีกับพวกสาว2D
พวกหนังโป๊เวลาลองดูมันก็ไม่เกิดอารมณ์เลยว่ะ แถมยังรู้สึกขยะแขยงอีกเห็นหีแล้วอยากอ้วก แบบนี้กูควรพบแพทย์ป่าววะ
จะสิ้นปีเรื่องเหี้ยๆ ประดังเข้ามาในชีวิตไม่หยุด เป็นโควิดหาย เจ็บเส้นเอ็นมือขวา พอจะหายเป็นกระเพาะ ร่างกายซีกซ้ายก็มามีปัญหา ไล่มาตั้งแต่บ่ายันเท้า สภาพจิตก็แย่ เครียดจะเป็นซึมเศร้าอีกหรือเปล่าก็ไม่รู้ ควยๆๆๆๆๆๆ
กูชอบคิดไปเองอ่ะ ว่าในสถานการณ์แบบนี้ๆ ในเวลาแบบนี้ๆคนอื่นจะต้องคิดแบบนั้นแบบนี้กับกูแน่ๆ ทั้งที่เค้าอาจจะไม่ได้คิดอะไรก็ได้ กูชอบคิดไปเองว่าคนอื่นชอบด่าชอบว่ากูตลอดเวลาทั้งที่เค้าอาจจะไม่ได้ทำอ่ะ แต่ก็อดคิดไม่ได้ มันเป็นอาการที่เรียกว่าอะไร
กูเครียดง่ายมากง่ายเกินไป เจออะไรนิดหน่อยก็เครียด ล่าสุดกูผิดหวังเรื่องที่หวังไว้มาก กูเครียดถึงขั้นไม่ได้นอนมา3คืน ร้องไห้ กระสับกระส่าย ตัวร้อนทั้งที่เปิดแอร์20องศา ไปจนถึงขั้นอยากทำร้ายตัวเอง กูแปลกใจมากที่กูเครียดง่าย เศร้าง่าย ทั้งที่พื้นฐานครอบครัวดีมาก กูไม่เคยลำบาก กูไม่เคยโดนทำร้ายจิตใจ ไม่ถึงขั้นอยากได้/หวังอะไรแล้วต้องได้แต่ไม่เคยขาดสิ่งจำเป็นในชีวิต ทำไมกูถึงโตมาเป็นงี้ได้วะ
>>54 พื้นฐานคงดีเกินไปจริงอย่างมึงว่า กับ >>55 ประชดกู จริงๆพอออกจากบ้านมาสังคมแม่งก็ไม่อ่อนโยนกับกูเท่าไหร่ แต่ก็เซอร์ไวมาได้แบบเครียดจะตายห่าตลอดตั้งแต่เด็กจนโตนั่นแหละ แต่อินิสัยเจอเหี้ยอะไรสะดุดก็เครียดแม่งไม่หายสักที ทั้งที่ก็ล้มมาเยอะผ่านมาเยอะ
กูไม่เคยบอกที่บ้านด้วยว่าโลกใจร้ายกับกูยังไงบ้าง แต่พอกูดูเครียดให้เห็นแล้วที่บ้านก็ชอบด่ากูนะว่าเขาเลี้ยงลูกดีขนาดนี้แล้วทำไมกูถึงเป็นแบบนี้ กูเครียดกว่าเดิมอีก 555555
คือกูเป็นพวกชอบเก็บข้อมูลแบบผ่านไปหลายปี ถ้ากูอยากกลับมาดูกูต้องมีให้ดูและสามารถหาเจอได้ง่ายอะ ไฟล์วิดิโอไร้สาระอันไหนถูกใจกูยังโหลดเก็บเผื่ออยากกลับมาดูด้วยซ้ำ //ซึ่งล่าสุดกูอยากดูคลิปนึงของหลายปีก่อน สุดท้ายก็หาเจอแต่หายากมากจนโคตรขัดใจเพราะสมัยนั้นกูโยนๆไฟล์เก็บอย่างเดียวไม่ได้จัดเรียง ไอ้นิสัยเก็บข้อมูลแม่งทุกอย่างแล้วต้องมีให้ดูอยากอยู่ๆอยากดูนี่มันปกติปะวะ หรือกูเก็บจนเป็นบ้ามากไป
เบื่อว่ะ วันๆตื่นมาเรียน เจอหน้าคนในบ้าน วนลูปมา2ปีละเนี่ย
หวงอานาเขตนี่นับเป็นโรคประสาทประเภทหนื่งไหมอะ กูโครตไม่ชอบเวลามีคนเข้ามาในห้องกู
ขนาดแม่ตัวเอง ถ้าขอก่อนจะพอทำใจได้อยู่ แต่บางทีก็ถือวิสาสะไขกุญแจเข้ามาเอง เจอแบบนี้ทีไรกูโมโหจนไมเกรนขื้น แล้วยิ่งพอเข้ามาเดินไปมา จับของในห้องนะ กูยิ่งเครียดจนเหงื่อแตก ทั้งโกรธจนจะอ้วกอะ กูไม่มีปัญหากับการเข้าสังคมนะ แต่ห้องกูคือหวงมากจริงๆ เพื่อนยังไม่เคยชวนเข้าชักครั้ง ล่าสุดคือร้องแทบคอแตกเพราะแม่แอบไขกุญแจเข้าห้องมาแอบดูกูนอน
กูคุมอารมณ์ไม่อยู่ :(
ทำยังไงให้เป็นคนเข้ากับคนอื่นง่ายดีคะ
กูแก้แค้นผญที่มันกวนตีนกูโดนการเอารุปหน้าพวกมันมาตัดใส่รูปดาราเอบรีละชัวว่าวใส่แม่งเลยเอาให้ชุ่มเหนอะหนะ เปนไงละมึงเสือกมากวนตีนกูกลายเปนกระหรี่ถังแชมให้กูช่ำยีซะเตมอิ่มเลย(ถ้ามันสวยนะแต่ถ้าอุบาทกุจะช่างมันขยะเกิน)กูเท่มะ
>>62 ค่อยๆดูว่าเขาคุยอะไรกัน อาจมีหัวข้อที่ตรงกันได้บ้าง ไม่จำเป็นต้องเข้าได้กับทุกคนเพราะคนเราโตมาไม่เหมือนกัน
อาจจะเริ่มจากเลือกคนที่มีความชอบเหมือนกันดูก่อน แต่การสร้างนิสัยที่ตัวเองอยากเป็นไม่ใช่เรื่องแย่ นิสัยมันสร้างกันได้พอเราชินไปมันก็ตะเป็นไปเองโดยธรรมชาติ
เปลี่ยนคำว่าฝืนทำฝืนฟังมาเป็นเรียนรู้เรื่องที่อีกฝ่ายชอบแทน เรียนรู้ไปก่อนชอบไม่ชอบรู้ไว้ก็ไม่ได้เสียหาย
สู้ๆ
รู้สึกตัวเองเป็นคนกลัวการเริ่มต้นการมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น คือเวลามีคาเฟ่หรือร้านอาหารมาเปิดใหม่แล้วคนขายเป็นประเภทชวนคุยเก่ง เราเห็นเวลาลูกค้าคนอื่นไปซื้อก็ชวนลูกค้าคุยรอไรงี้ เรารู้สึกไม่ถูกโรคกับคนแบบนี้อะ แล้วพอเราไปซื้อร้านนั้นครั้งที่ 3 ครั้งที่ 4 คนขายก็จะชวนเราคุยละ เช่น มาบ่อยเลย วันนี้อยากกินอะไร มีเมนูใหม่มาอยากลองไหม คือเราก็คิดในใจละ มาซื้อแค่ 3-4 ครั้งเอง ไม่ต้องมาชวนคุยมาก เราแค่อยากมาซื้อเงียบๆเฉยๆ พอเจอแบบนี้เรารู้สึกคิดมาก เหมือนลำบากใจที่จะไปซื้ออะ คือเราก็ไม่ได้เป็นคนเก็บตัวนะ ก็มีไปเทียว ไปไหนบ้าง แค่ชอบไปคนเดียว มีโรคส่วนตัวสูง สงสัยว่าจะแก้ยังไงดี รู้สึกเดียวนี้ชอบคิดมาก
ไม่เคยแฮปปี้เลยที้ตัวเองยังมีชีวิตอยู่
รู้สึกหมดไฟกับการใช้ชีวิตว่ะ แบบตายไปตอนนี้ก็ไม่เป็นไร
คือกูเป็นคนไม่มีเป้าหมายชีวิต เลยเป็นพวกที่ชอบตั้งเป้าหมายในชีวิตว่า เออตอน 20 ว่าจะตาย งั้นก่อนตาย หาไรทำหน่อยละกัน
แล้วก็เป็นแบบนั้นวนมาเรื่อยๆ จนจะสามสิบแล้วว่ะ
คนรอบตัวก็ว่าจะล่องลอยแบบนี้ไปเรื่อยไม่ได้ แต่กูก็ไม่รู้จะพยายามมากไปกว่านี้เพื่ออะไรว่ะ ไม่มีเพื่อน ไม่มีแฟน ไม่มีอะไรที่ชอบเลย อยู่ก็เป็นภาระบุพการี ตายก็เป็นภาระบุพการี แม่ง คนเราเกิดมาเพื่ออะไรวะ
กูอยากตาย แต่ไม่อยากฆ่าตัวตาย อยากแบบแค่อยู่ดี ๆ ตายแล้วทิ้งปัญหาถ่มถุยไว้กับคนที่อยู่ข้างหลังกู กูเศร้าที่ตัวเองเกิด ในขณะที่โกรธคนที่ทำให้กูเกิด หาหมอหมอบอกกูเป็นไบโพล่า แต่กูว่าไม่น่าใช่ มันไม่สองขั้วในเวลาเดียวนี่ แล้วสรุปกูเป็นเหี้ยไรวะ ใข้ชีวิตอยู่กับการเกลียดทุกคนรอบตัว กับรักตัวเองชิบหายนี่มันมีชื่อภาวะมั้ย กูว่าหมอที่กูไปแม่งพึ่งไม่ได้ จ่ายยามาว้อแดกกว่าเดิมอีก
กรวยเหอะครัชตอกไข่จะมาทอดแทกตอกไป2ฟองปกติเปนเหรี้ยไรฟอง3เสือกเน่าสรุปอดแดกทิ้งให้หมดเปรเหรี้ยยยยยไรรรห้ะะะะกรวยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
เครียดว่ะ รักษาโรคซึมเศร้ามาจะสองปีละ ก็ดีขึ้นอยู่นะ แต่แม่งก็ชอบมีอารมณ์เครียดง่ายหดหู่หมดอาลัยตายอยากในชีวิตผุดขึ้นมาในหัวเดือนละ 3-4 ครั้ง ทำไมมันไม่หายไปให้หมดๆวะ แม่ง
กุสงสัยคนประเภทนี้เขารู้สึกยังไงวะไม่ชอบแล้วแต่ยังติดตามข่าวแล้วเอามาด่าอีกอ่ะ อารมณ์แบบรอมึงล้มจะเหยียบซ้ำงี้ แต่มันก็ได้แค่ด่าเพราะคนถูกด่าไม่ได้มารับรู้และใช้ชีวิตดีเหมือนเดิม เกลียดแล้วตามด่าไม่เลิกนี่เอาแค่พอสะใจใช่มั้ย ถ้าเกลียดจริงมันต้องไม่อยากรับรู้หรือเห็นในรัศมีสายตาป่ะวะ
เซ็งว่ะ อายุ30แล้วแต่ยังรักษาสันดานขี้อิจฉาของตัวเองไม่ได้ซักที คนที่เก่งแล้วได้ดีไม่เท่าไร แต่คนที่ฝีมือห่วยแต่เสือกได้ดีกูโคตรอิจฉา
ได้ยินเรื่องคนที่เครียดมากๆแล้วทำร้ายตัวเองมาบ่อย
กูเพิ่งมีอาการเป็นครั้งแรก ที่ได้ยินบ่อยๆเป็นกรีดแขนกัน แต่กูมาแปลก รู้สึกอยากเอาหัวโขกกำแพงแทนซะงั้น
ไม่ชอบตัวเองเลยว่ะ คือกูเป็นคนพูดน้อยมากๆ ขนาดคุยกับคนที่สนิทหรือครอบครัวก็ยังรู้สึกว่าตัวเองพูดน้อยเลย ในหัวมันว่างเปล่าอะ ถ้าไม่ใช่ประโยคคำถามก็แทบไม่มีอะไรให้ตอบกลับไป เหมือนรับฟังมาแล้วก็แค่แบบ อืมๆ อ่า อื้ม คือไม่ใช่ว่าเราไม่ใส่ใจนะ แต่มันไม่มีอะไรให้ตอบ ถ้าไม่ใช่คำถามก็ทำได้แค่รับฟังอย่างตั้งใจ ในแชทยิ่งแย่ไปใหญ่ คือกูเปิดคอมมิชชั่นวาดรูป พอมีลูกค้ามาบรีฟงานแล้วเค้าก็น่ารักนะ เฟรนลี่ ชวนกูคุย ก็พยายามที่จะตอบกลับไปบ้างเท่าที่พอนึกออก ถ้าไปไม่ถูกบางทีก็ส่งสติกเกอร์ หรือบางทีก็ทำได้แค่อ่านเฉยๆ จนตอนนี้ดูเหมือนเค้าจะเริ่มอึดอัดนิดๆ แล้ว รู้สึกแย่มาก ไม่ได้อยากจะทำให้เค้ารู้สึกอึดอัดเลย แบบนี้มันเป็นเรื่องปกติของ introvert รึเปล่า หรือว่ากูเข้าขั้นมีปัญหาในการสื่อสารแล้ววะ
>>84 มึงคือกูหรือเปล่า กูตกใจนึกว่ากูละเมอมาพิมพ์ไว้ แต่รู้แก่ใจแค่มึงออกไปจากหน้าจอออกจากสังคมคอมพิวเตอร์ อารมณ์เหมือนมึงเล่นเกมอยู่คนเดียว คลิ้๊กเข้าไปจอยห้องรวมคนอื่นบ้าง เริ่มจากคุยกับคนไม่รู้จักง่ายสุด
แต่เหมือนโชคชะตาบังคับให้กูไม่มีเพื่อนไม่มีสังคม พอนานวันไปคนก็เริ่มไม่ตอบกู ทำไมไม่มีคนอยากคุยกับกูเลยวะ ทั้งที่กูพยายามเอนจอยแล้วก็เหอะ เหนื่อยใจ
>>84 กูไม่รู้ว่านี่จะช่วยมึงได้หรือเปล่านะ บางทีมึงไม่จำเป็นต้องให้บทสนทนาสุดที่มึงเสมอไปก็ได้ ถ้ามีคนถามอะไร อย่าตอบสั้นๆ จะไม่เกี่ยวกับที่ถามก็ลองพูดๆไปก่อน ตัวอย่าง "กินข้าวยัง" ตอบ "ยังเลย" จบทันที แต่ถ้าเปลี่บนมาเป็น "งานยุ่งมากเลยยังไม่ได้กิน ซื้อก๋วยเตี๋ยวมา ตอนนี้เย็นชืดหมดแล้วมั้ง" มีหลายประเด็นให้คู่สนทนาชวนเราคุยต่อได้อีก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานยุ่งช่วงนี้สงสัยมันค้างมาจากช่วงปีใหม่ หรือเรื่องก๋วยเตี๋ยวร้านนั้นให้หมูน้อยลงเพราะหมูแพงขึ้น
หรือจะตอบกลับด้วยคำถามก็ได้ "ยังไม่ได้กินเลย แล้วนี่กินข้าวหรือยัง" จะไปสู่บทสนทนาถัดไปเรื่องอาหารการกินได้ หวังว่าจะช่วยมึงได้นะ จากคนทำแบบทดสอบบุคลิกเป็น introvert มาหลายปี รอบล่าสุดเพิ่งเป็น extrovert 555555
กุเครียด หลายเรื่องมาก มันเรื้อรังมานาน แต่ล่าสุดกุเริ่มเครียดกับการเห็นข่าวในเน็ต ทุกครั้งที่เห็นอะไรไม่ดี กุจะชอบเครียดเหมือนตัวเองเป็นคนในข่าวที่โดนเอง มันวิตก กังวลไปหมด กุก็พยายามเลิกอ่านอะไรพวกนี้นะ แต่มันก็ยังมีอยู่ เหมือนกุแยกไม่ออกแล้วว่าอะไรคือเรื่องของกุ อะไรไม่ใช่ มันเครียดจริงๆ นะ ทุกอย่างมันอยู่ในหัวเต็มไปหมดเลยอะ
กูอยากตาย ไม่มีพ่อแม่คอยซัพพอร์ต ไม่มีคนคอยให้คำปรึกษา ไม่มีเหี้ยอะไรเลย
อยากทำงานที่ไม่ต้องใช้ไลน์คุยกันอ่ะ ไม่อยากตอบเลย แพนิคทุกครั้งที่ไลน์งานเด้งกลัวสะสมไปสุขภาพจิตจะแย่
กุเริ่มใกล้ประสาทละ ตกกลางคืนทีไรชอบนึกถึงเหตุการณ์ในอดีตแล้วมาคิดว่า ถ้าทำแบบนั้น นู้น นี้ ชีวิตมันคงจะดีกว่าที่เป็นอยู่
มึง วันนี้กุเป็นไรไม่รู้ ทำไมคิดแต่เรื่องฆ่าตัวตาย ออกจากหัวไม่ได้เลย ไม่รู้จะบอกใครไม่กล้าโพสลงเฟสบุ้ค
ยิ่งอายุมากขึ้นยิ่งหมดไฟ ที่บ้านกูก็ฐานะไม่ได้ดีมาก จะลาออกก็กลัวสร้างภาระเขาอีก เหนื่อยชิบหายเลยแต่ละวันกูคิดอยากจะตายแบบเงียบ ๆ แต่ถ้าตายกูก็สร้างความเดือดร้อนให้ครอบครัวอีก เคยคุยปัญหากับครอบครัวน่ะแต่เขาก็ไม่เข้าใจเราเลย บางทีก็คิดน่ะว่าคนอย่างเราไม่ควรเกิดมารึเปล่า
โม่งสุขภาพจิตว่า งานมันทำให้คน Breakdown จนมีปัญหาสภาพจิตใจได้ไหมวะ เคยมีคนแบบทำร้ายตัวเองเพราะเรื่องงานมั้ย
>>91 มึงกำลังเครียดมาก ถ้าไม่ดีขึ้นในครึ่งเดือน หรือความอยากตายมันรุนแรงมากขึ้น (เช่น เลือกหาวิธีฆ่าตัวตายที่น่าสนใจ ซื้ออุปกรณ์ฆ่าตัวตายมาเตรียมไว้ เขียนจดหมายลาตาย) ก็ไปหาหมอ ขอยาหมอกินนะ เผื่อจะเปลี่ยนใจ
ถ้าโชคดีมึงเจอหมอดี มึงน่าจะได้ใช้ชีวิตสั้นๆของมึงไปอีกซักพัก แต่ถ้าเจอหมอนิสัยเหี้ยหน่อยก็ทนอีกนิดนะเพื่อนโม่ง ชีวิตมึงคงแย่อยู่เดิมแล้ว เจออะไรแย่ๆเพิ่มอีกอย่างมันก็ไม่เปลี่ยนอะไรเท่าไหร่หรอก
บ่นในนี้ได้ ช่วงนี้กูก็เศร้าๆ เลยแวะเว็บโม่งมาระบายบ่อยๆ น่าจะพอเป็นเพื่อนคุยกับมึงได้บางครั้งบางคราว
>>91 มึงเครียดมาก มากเกินไป กูไม่รู้หรอกนะว่าปัญหาที่มึงเจอจะเหี้ยขนาดไหน ลองอยู่กับตัวเองแล้วค่อย ๆ คิดว่าจะแก้ปัญหาง่าย ๆ ได้ไง ถึงเปนความคิดโง่ ๆ แบบช่างแม่งมัน ก้ได้ เรื่องนี้ไม่มีใครรู้มากกว่าตัวมึงเองหรอก คิดใตร่ตรองดี ๆ มึงหาทางออกได้แน่ ทุกปัญหามันมีเส้นผมบังภูเขาทั้งนั้น
คือเราเกลียดคนที่บ้านมากเลยเป็นศูนย์รวมคนที่ไม่มีเหตุผลและใช้แต่อารมณ์อ่ะ มีอะไรผิดก็โทษเราไปหมดทั้งๆที่คนทําก็คือคนอื่น หรือโดนด่าว่าไม่ทํางานบ้านทั้งที่เราก็ทําตอนทุกคนไม่อยู่บ้าน คนในครอบครัวเป็นพวกหลงตัวเองชอบนินทาชาวบ้าน มองว่าตัวเองคือดีที่สุด ถูกต้องที่สุด อีโก้สูงมากๆ ทั้งพ่อแม่พี่เลย แล้วเราเป็นคนที่ทําตัวตรงกันข้ามหมดเรามองว่าการแสดงอีโก้มันCringeอ่ะ ทําให้การกระทำของเราหลายๆอย่างโดนด่าหมด แต่เราไม่เคยเถียงนะ คือเถียงไปก็ไม่มีประโยชน์ แค่ช่องทางที่ให้เราพูดมันยังไม่มีเลย ต้องมาทนๆฟังๆกับความงี่เง่าทั้งพ่อแม่พี่เลย ตั้งแต่เด็กๆแล้ว
ปี2021ต้องอยู่บ้านตลอดทั้งปีอีก ออกไปข้างนอกก็โดนด่า เราเลยเริ่มมีอาการเหมือนเป็นฮิคิโกโมริ เมื่อก่อนเราก็ไม่เขเาใจหรอกว่าทําไมพวกนี้มันอยู่ห้องสกปรกๆได้ไงวะ แต่พอมาเป็นเองก็เริ่มเข้าใจ เรารู้สึกไม่อย่กมีชีวิตเลย ไม่อยากทําอะไร ตื่นนอนมาเราก็นอนต่อเพราะเครียดไม่อยากคิดมาก ไม่ออกจากห้องเพราะไม่อยากเจอคนในครอบครัว ห้องตัวเองเริ่มรกขึ้นเพราะไม่มีกำลังใจทําอะไรเลย ปกติเรามีกิจกรรมเยอะมากแต่ตอนนี้ลืมไปหมดแล้ว ได้แต่นั่งเรียน นั่งดูหนังดูเมะยูทูปวนไป
เราไม่อยากเป็นงี้เลย เราไม่อยากไปหาหมอด้วยคือไปรับยามามันก็ไม่ได้อะไร เพราะสิ่งที่จะแก้ปัญหาได้คือการออกจากครอบครัวนี้
จริงๆจะฆ่าตัวตาย คิดว่าจะแขวนคอดู แต่มานึกๆว่าเราก็ยังกลัวตาย เรายังไม่ได้อยากตายจริงๆ เราอยากหลุดออกไปจากที่นี่ เรายังมีหวังอยู่ถ้าในอนาคตหางานที่ไกลๆบ้านได้ ถ้าเกิดไม่ได้เราว่าซักวันเราคงต้องฆ่าตัวตายแหละ ถึงตอนนั้นคงจะกล้าตายขึ้นมาเอง
>>97 สาเหตุที่เครียดเพราะครอบครัวมึงนิสัยไม่เหมือนมึง มึงก็มองว่าครอบครัวมึงมันCringe ส่วนครอบครัวมึงก็มองว่ามึงเป็นเด็กมีปัญหาแปลกแยกอะไรซักอย่าง แล้วครอบครัวแม่งซับซ้อน พอมึงคิดว่าแก้ไขยาก ก็เลยคิดว่าตายน่าจะง่ายกว่า งี้ปะ
อ่านแบบนี้แล้ว ความตายไม่ใช่สิ่งที่มึงต้องการจริงๆ แต่สิ่งที่มึงต้องการมันได้มายาก มึงเลยคิดว่าตายดีกว่า
สิ่งสำคัญคือความความชัดเจนในเป้าหมาย
มึงตั้งเป้าใช้ชัดเจนก่อน ว่าสิ่งที่มึงต้องการคืออะไรกันแน่ อยากแค่ให้ที่บ้านเลิกด่ามึง (อันนี้ง่ายกว่า) หรืออยากให้คนที่บ้านเปลี่ยนนิสัยด้วย (อันนี้ยาก กูเห็นด้วยว่าไม่คุ้มจะลอง เปลี่ยนเป้าหมายเป็นการออกจากบ้านอาจจะเหมาะสมกว่า ยกเว้นว่ามึงมีวิชาสะกดจิตล้างสมองคนในบ้านได้ก็ลุยเลย)
การแก้ปัญหาไปสู่เป้าหมายก็มี2แบบ
1.แก้ปัญหาเฉพาะหน้า: มันไม่แก้ปัญหาที่แท้จริง แต่ว่ามึงฟังนะ มึงถูกด่าจนเครียดมาก เครียดจนไม่อยากออกจากห้อง ไม่มีแรง จนพฤติกรรมมึงเปลี่ยน ถ้าเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ กว่าจะออกจากบ้านสำเร็จมึงน่าจะตายสมใจอยาก และมันลดประสิทธิภาพของการแก้ปัญหาที่แท้จริงด้วย ดังนั้นมึงต้องลดความเครียดก่อน
เช่น หาคนรับฟัง, แกล้งทำตัวเป็นเด็กดีเอาใจคนในบ้านไปก่อน, หาหมอกินยา, ฯลฯ
2.แก้ปัญหาที่แท้จริง: คือการที่มึงไม่ต้องทนทรมานกับนิสัยคนบ้านมึง
เช่น หาโรงเรียนประจำ หาทุนไปเรียนต่างประเทศ พิสูจน์ตัวเองว่ามึงเก่งจนลำบากใจจะด่า หางานทำแล้วย้ายออก ฝึกวิชาล้างสมองมนุษย์ ฯลฯ, จริงๆการฆ่าตัวตายก็เป็นทางเลือกนึง แต่กุว่ามึงน่าลองก่อนวิธีอื่นก่อนนะ
>>98 แก้ปัญหาเฉพาะหน้านี่แทบทําไม่ได้เลยหว่ะ กูเป็นผู้ฟังที่ดี?มั้ง คนอื่นๆเลยชอบคุยกับกูแต่กูไม่เคยมีโอกาสเป็นผู้พูดเลย เพื่อนสนิทกูก็ไม่เคยปรึกษาอะไรได้ เลยมาระบายในโม่งเนี่ยแหละก็ขอบคุณที่มึงมารับฟังแล้วช่วยเขียนวิธีการแก้ปัญหาอะไรให้นะ คือกูว่ากูพยายามเป็นเด็กดีสุดๆแล้วนะ เรียนดียังโดนที่บ้านด่าว่าวันๆเอาแต่เรียน ไม่ออกมาทํางานบ้าน ซึ่งหารู้ไม่ว่าพอกูว่างตอนกลางวันที่คนในบ้านกูไม่อยู่กูก็ลงมากวาดบ้านล้างจานตลอด คือห้องกูปล่อยรกแต่ส่วนรวมกูก็ทําสะอาดนะ แต่คือมันเป็นการด่าที่ไม่มีเหตุผลอย่างที่กูบ่นไป คือยัดความผิดให้กูเพื่อเป็นที่ระบายอารมณ์เฉยๆหรือเป็นซาดิสม์ก็ไม่รู้เหมือนกัน แบบคิดสภาพในบ้านอยู่ๆมีของหายกูก็จะโดนเรียกมาด่าคนแรก คือเป็นแบบนี้ตลอดเพราะกูเป็นคนเล็กที่สุดในบ้านด้วยมั้ง เลยต้องมารองรับอารมณ์ผู้ใหญ่ กูไม่เข้าใจว่าเขาเกลียดกูเหรอ เพราะกูเป็นพวกเก็บตัวไม่มีสังคมแบบมึงเลยเกลียดขี้หน้าเหรอวะ แต่กูเป็นตัวก็เพราะพวกมึงเนี่ยแหละ อะไรๆกูก็ผิดจนกูไม่มีความมั่นใจในตัวเองแล้ว
คือกูก็อยู่ปี 4 แล้วหล่ะ คือเดี๋ยวเทอมนี้ก็จะกลับไปหอ แต่กูเครียดกังวลเรื่องหางานเนี่ยแหละ กูอยากรับได้งานเร็วๆจะได้หนีๆไป แต่คือโอกาสหางานช่วงนี้มันยากด้วยกูเลยเครียดสัสๆ คือกูอยู่บ้านกูไม่สามารถทําอะไรproductiveได้เลย กูกลัวว่าถ้าช่วงหางานต้องมาอยู่บ้านกูจะบ้าจนหางานการไม่ได้แน่ๆ แต่มันก็ต้องหาทางกันต่อไป กูยื่นทุนเรียนโทต่ออยู่ด้วย ก็ขอให้มันได้เถอะ เพราะสายที่กูเรียนรุ่นพี่10%เพิ่งได้งาน ถ้ามืดแปดด้านจริงๆกูว่าถึงจุดนั้นกูคงกล้าไปตายเอง ก็ปล่อยไปตามสภาพจิตแล้วว่าจะทนได้แค่ไหน
วันนี้ต้องมาระบายในนี้แบบทนไม่ไหวจริงๆ โดนด่าลั่นบ้านเพราะตู้เย็นของเต็มแล้วหาว่ากูไม่จัดตู้เย็น แต่ของในตู้เย็นเป็นของคนในครอบครัวทั้งนั้นซึ่งเอามายัดๆเอง ด่าแรงว่าเลวชาติชั่วเป็นเหี้ยไรมากก็ไม่รู้ กูเดินหนีออกจากบ้านไปยังด่ากูอยู่เลย คือแม่งไม่ได้ขึ้นเสียงเพราะกูเถียงนะ กูไม่ได้ปริปากพูดอะไรเลยแม่งเป็นเครื่องจักรการด่าแล้วอ่ะ แล้วยังโดนสมาชิกครอบครัวที่เหลือมายําซํ้าอีกว่าแม่งมึงไม่น่าทําแบบนี้เลยมึงเลยโดนด่าไง อ่าหะ เมื่อก่อนเคยจัดตู้เย็นแล้วทิ้งของที่มันบูดก็โดนด่าว่าไม่รู้จักคุณค่าของของ คือจะให้กูทําไงได้นะ เผาตู้เย็นเลยดีมั้ย นี่ก็จดๆที่มันทํากับกูไว้เผื่อวันตายจะได้เอามาเขียนในจดหมายลาตาย
คือตอนที่ไม่ได้อยู่กับครอบครัวนี้กูเปลี่ยนเป็นคนละคนจริงๆ มีความสุขร่าเริงมากกว่า เป็นอิสระมากกว่า แล้วเรียนทํางานอะไรมันดีขึ้นมากๆด้วยพอมาอยู่สภาพแวดล้อมดีๆ กูเตรียมจะกลับหอแล้วก็หวังว่าตัวกูคนนั้นจะกลับมา แล้วเป็นคนอย่างนั้นไปตลอดนานๆนะ
บางทีก็ต้องช่างแม่งกะหูทวนลมมั่งว่ะ ไหนๆ ก็ไหนๆ
เอาตรงๆ ตอนนี้เป็นการฟังและมองข้างเดียวจากฝั่งมึง
ซึ่งถ้ามันจริงทั้งหมด กูว่ามึงควรต้องออกจากที่นั่น
และวางแผนไว้ได้เลย ว่าจะทำไง
ปล. ห้องมึงในส่วนของมึง ทำๆ ให้มันไม่รกมากก็ดี เอาเวลาที่ทำบ้านนั่นแหละ 555 กูแค่สงสัยว่าทำไมฟังดูงานบ้านอยู่กะมึงหมด
กูชอบhallucinatingว่าตัวเองทรงเซอร์หล่อวๆแบบเด็กช่างหว่ะ แต่จริงๆน่าจะทรงตัดอ้อยหรือทรงโจรมากกว่า เห้อ
แม่กูเป็นโรคซึมเศร้า ละคิดมากกับทุกอย่าง ย่ำคิดย้ำทำ ชอบพูดเรื่องเดิมๆซ้ำๆ แล้วช่วงนี้มีปัญหาการเงินก็มาบ่นกับกู กูก็ให้คำแนะนำไปเค้าก็ไม่ยอมทำ กูเลยนั้งฟังเค้าพูดระบายเฉยๆ แต่กลายเป็นว่าแม่งมาพูดกับกูทุกอาทิตย์ในเรื่องเดิมๆ พูดเหมือนเดิมเป๊ะ จยกูเครียด แล้วรู้สึกแย่ กูเลยปลีกตัวออกห่าง ไม่พูด ไม่เจอหน้าแม่กูเลย รู้สึกผิดมากๆว่ะ เพราะที่เค้าห่วงเรื่องเงินก็เพราะต้องการเงินมาดูแลกูด้วย แต่กูก็ทนฟังไม่ไหว สุขภาพจิตกูมันแย่ที่ต้องมาฟังเรื่องแบบเดิมทุกวันๆๆ ละพอกูแนะนำวิธีการก็ไม่ยอมทำ แล้วจะให้กูทำยังไง
>>104 >>104 กูแนะนำว่าให้มึงแกล้งฟังๆไป มึงน่าจะเคยทำจนเบื่อแล้วแหละ แต่มันเป็นวิธีที่ดีที่สุดตามหลักแล้ว เพราะพวกขี้กังวล ย้ำคิดย้ำทำ ขี้บ่น ส่วนใหญ่คือหาคนฟังกับคนเห็นด้วยแค่นั้นแหละ
แกล้งฟังไป แต่จริงๆฟังบ้างไม่ฟังบ้าง จะได้ไม่เหนื่อยมาก แต่ต้องแอดติ้งเหมือนตั้งใจฟัง พูด อืออาอ๋อ พยักหน้าหงึกๆ ครับๆ ใช่ๆ ส่งเสียงเหมือนเห็นด้วยไปเรื่อยๆให้ตรงจังหวะ ถามคำถามสั้นๆกลับ (แล้วเป็นยังไงต่อ? แล้วทำยังไงดี?) หรือไม่ก็พูดตามแม่มึงเลย ทำบ่อยๆก็จะเนียนขึ้น และเคยชินขึ้น ถ้ายิ่งแม่มึงพูดแต่เรื่องเดิมๆก็ยิ่งง่ายเพราะตามน้ำง่ายขึ้น, สิ่งสำคัญคือมึงไม่ควรออกความเห็นอะไรเลย เพราะแม่มึงก็คงไม่ฟังอยู่ดี แล้วมึงจะยิ่งเหนื่อยง่ายด้วย
แต่มึงก็ทำถูกแล้วที่หลีกหนีออกมาตอนเหนื่อย บางทีไม่ไหวก็คือไม่ไหว ก็มาพักก่อน แต่ถ้ายิ่งปล่อยไว้ไม่ดูแลก็กลัวจะสร้างปัญหาอย่างอื่นขึ้นมาแทน ก็ปรับๆให้สมดุลเอาเนอะ
เริ่มรู้สึกตัวว่าเป็นซึมเศร้า แต่พอไปถามราคาที่จะต้องพบจิตแพทย์แล้วก็คิดหนัก
เพราะค่อนข้างแพง มีใครมียาอะไรแนะนำไหม คือต้องพบแพทย์ถึงจะวางยาได้ แต่กูไม่มีเงินช่วงนี้จริงๆ ถามคนที่เป็นหน่อยว่าพอใช้ยาอะไรแล้วดีบ้าง
เป็นซึมเศร้ามา 3 ปี กูอยากตายมาก อยากตายทุกวัน วันนี้กูว่าจะผูกคอตาย แต่หาโอกาสไม่ได้ กับไม่กล้าด้วย แค่จะตายยังไม่กล้า กูมันอ่อนแอ
อยากติ่งอะไรซักอย่างแบบสมัยเด็กติ่งไอดอลเกาหลี รู้สึกชีวิตมันสนุกมาก ได้มีความสุข ได้ตื่นเต้น ได้มีโมเมนต์ที่แบบยิ้มแบบหุบยิ้มไม่ได้ แต่พอโตมา (วัยทำงาน) ก็เบื่อและเลิกติ่งไปเอง จนตอนนี้เหมือนไม่อินกับอะไรเลย ดูซีรีส์ที่ชอบ ดูไอดอลเกาหลีญี่ปุ่น มันก็หยุดตรงแค่คำว่าชอบแค่นั้น มันไม่สามารถพาอารมณ์ไปถึงคำว่าติ่งได้แล้วอะ ทำให้ชีวิตมันเฉาๆ ยังไงไม่รู้ รู้สึกไม่มี passion ในชีวิตเลย...
เขานัดกันฆ่าตัวตายช่องทางไหนกันอะ
เหนื่อยโว้ยย
TT…..
เหนื่อยวะ เหนื่อยจนอยากปลีกวิเวก ไม่อยากทืำอะไรเลย
กูไม่อยากทำงานเลย passionเดียวที่มีคืออยากฟาร์มตัง จุดหมายกูคืออนาคตสามารถอยู่ชิวๆเรื่อยเปื่อยใช้เงินไปวันๆโดยไม่ต้องทำงาน แม่งหนทางอีกยาวไกลมาก
>>121 ชีวิตกูมีเหี้ยอะไรดีมั่งเนี่ย
ตอนเด็กก็มีแม่ที่แม่งเหมือนเป็นวิตกจริต พ่อที่เฉยไม่สนใจกู บ้านก็กลางๆค่อนไปทางจน กลัวไปหมดทุกอย่าง ไม่ยอมให้กูคบเพื่อน ไม่ให้กูไปไหน จะทำอะไรจะไปไหนต้องโทรบอกตลอด passion กูตอนนั้นคือกูต้องหนีไปจากที่นี่เลยพยายามเรียนหนักจนสอบติดมหาลัยในกรุงเทพได้ถึงหัวกูจะไม่ได้มาทางวายวิดวะเลยก็เหอะ(กูติดเกมต้องการเงินด้วยเลยเลือกอาชีพที่หาเงินง่ายหน่อย) แต่กูแม่งก็ไม่รู้ว่ากูถนัดอะไรเหมือนกันเลยต้องไถไปเลยตามเลย แม่งเกือบจะตามมาอยู่หอกับกูแล้ว กูหัวเด็ดตีนขาดยังไงก็ไม่ยอม กว่าจะยอมปล่อยกูออกมาจากบ้านบ้าๆนั้น
ตอนเรียนมหาลัย ผลจากที่ตอนเด็กๆกูโดนเลี้ยงมาแบบไม่ให้เข้าสังคม ทำให้กูเลือกเข้ากลุ่มผิด กูดันไปอยู่ในกลุ่มคนรวย คือแม่งใช้ชีวิตรวยๆกันอ่ะ กูก็ไปใช้ชีวิตแบบนั้นไม่ได้ไง สรุปกูเป็นเบ้ประจำกลุ่มจนกูเรียนจบน่ะแหละ มีดีแค่อีกลุ่มนี้มันมีคนฉลาดระดับเหรียญเงินเหรียญทองอยู่เลยช่วยเข็นกูที่แม่งไม่มีหัวทางวิดวะจนจบมาได้เกรดกลางๆ ส่วนตอนนี้กูน่าจะโดนดีดออกจากกลุ่มแล้ว น่าจะไปตั้งกลุ่มไลน์กันใหม่ที่ไม่มีกูเอาไว้คุยกันแค่พวกรวยๆแล้วมั้ง
ตอนทำงาน ก็ทำๆไป แต่ด้วยกูก็ไม่ได้มีหัวทางนี้จริงๆ ก็เริ่มตามรุ่นเดียวกันไม่ทัน พอ 30 กว่าคนอื่นเค้าเป้นซีเนียร์กันหมดแล้วเงินเดือนไม่แสนก็ใกล้แสนกันหมดแล้ว กูยังต๊อกต๋อยอยู่เลยเงินเดือนก็แค่ 50-60k พอเจอโควิดกูโดนออกจากงานกว่าจะได้งานก็ปีกว่าผลาญเงินเก็บหมด แถมได้งานก็เหมือนรู้ว่ากูไม่มีทางเลือกก็กดเงินกูซะเหลือ 40k นิดหน่อยสัส จ่ายค่านู่นค่านี่ เลี้ยงลูกกูก็แทบจะไม่มีกินแล้ว ทำได้แค่ใช้ชีวิตไปวันๆ
ระหว่างทำงานกูก็มีแฟนแต่งงาน กูกล้าพูดเลยว่าสมัยแฟนกูกับกูคบกันคือช่วงที่มีความสุขที่สุดในชีวิต แต่พอแต่งเท่านั้นแหละเหมือนที่ผ่านๆมาแม่งไม่ใช่ตัวจริงว่ะ เหมือนเป็นช่วงโปรโมชั่น ที่ทำเป็นทำกับข้าวให้กูห่อไปกิน ช่วยกันทำงานบ้าน นานๆไปเที่ยวกันทีช่วยกันเก็บตัง มีเซ็กซ์กัน นอนดูหนังด้วยกันจนหลับอยู่ในอ้อมแขนกู แม่งแค่ภาพปลอมๆที่สร้างขึ้นมา พอแต่งแล้วมันกลับจากหน้ามือเป็นหลังตีน เมียกูมันแทบจะไม่แตะครัวเลย ซื้อกินตลอด เสื้อผ้าส่งรีดหมด เซ็กซ์ก็เลื่อนห่างออกไปเรื่อยๆเพราะจริงๆแม่งไม่อยากมีเหลือเดือนละครั้งเพื่อมีลูก พอมีลูกก็ไม่มีเลย(เหี้ยมาก) แยกห้องนอนให้กูไปนอนโซฟาเพราะกูกรนมันนอนไม่หลับ(เมื่อก่อนกูก็กรนเสือกนอนหลับ) ผลาญเงินกูแทบไม่เหลือกับการเที่ยวแทบจะเดือนเว้นเดือน
นี่แหละชีวิตกูอ่ะสัส มีเรื่องอะไรดีๆมั่งวะสัส เออมีมั่งแหละแต่สั้นเหี้ยๆ
ตอนนี้ชีวิตกูเหลือแค่เอาเงินเก็บก้อนสุดท้ายไปลงทุนใน blockchain อยู่ตอนนี้ก็ได้เงินมาท่วมทุนแล้วแหละ แต่กำลังเก็บเหรียญอยู่ตัวนึงใน blockchain ที่ตามข่าวใกล้จะดีดเต็มที่แล้ว ขอให้มันดีดเหอะ ชีวิตนี้ให้กูมีความสุขบ้าง ให้กูได้ลาออกจากงานบ้าๆ ให้กูได้นั่งเล่นเกมทั้งวัน ก่อนที่กูจะเป็นบ้าไปซะก่อน T_T
ทั้งบ้านกูมีแต่ยาพอนสแตน กูเลยแดกไปแล้ว 7 เม็ด ไม่รู้จะตายจริงไหม หรือจะทรมานไหม เอาจริงๆกูกลัวนะ ตอนนี้กูกลัวมาก แต่การมีชีวิตอยู่แม่งน่ากลัวกว่า พวกมึงช่วยอยู่เป็นเพื่อนกูได้ไหม
พอนสแตนแค่ 7 เม็ดไม่ตายหรอก ถ้าท้องไม่ว่างก็ไม่รู้สึกอะไรเลย แต่ตับมึงพังไปส่วนนึงแค่นั้น
กูอยากตายชิบหาย อีเปรต อีกวย อีเหี้ย อีหต้าหี แใ่งงงงงง
ไอ้โม่งที่แดกยาไป 7 เม็ดเป็นไงบ้างแล้ว
อยากใจกล้าๆกว่านี้จังว่ะ
หาหมอมาหลายปีหมอยังง้างปากกูให้พูดไม่ได้เลย นัดสองสามเดือนครั้ง สั่งยา เพิ่มขนาด จบ หรือนักจิตวิทยาจะตอบโจทย์มากกว่า
มึง กูอยากได้วิธีคลายเครียดอ่ะ ช่วงนี้รู้สึกเครียดจนผากจะย่นแล้วแงง
ออกกำลังกาย ช่วยคลายเครียดได้นะเวลาเหนื่อยๆ
อีเหี้ยกูอยากตายยยย
กูโสดมาประมาณสามปี ไม่เคยเกิดความรู้สึกสนใจใครอีกเลยว่ะ มองใครรู้จักใครก็ไม่รู้สึกชอบ ไม่เงี่ยน ไม่อะไรทั้งนั้น กุตายด้านหรือกูแค่แก่เนี่ย (28)
กูเป็นคนที่ชอบสงสัยอะไรแปลกๆ หาคำตอบเกี่ยวกับอะไรแปลกๆ ซึ่งบางทีมันไร้สาระบ้างก็ใช่แหละ (อารมณ์แบบพวกน้ำกะทิราดข้าวเหนียวหรือราดมะม่วง ไม่ก็ สายฉีดตูดฉีดจากข้างหน้าข้างหลังอะไรทำนองนี้) ปกติกูก็จะคุยกับเพื่อนเป็นท็อปปิกฮาๆ แต่ว่าวันนี้กูคุยกับพ่อ กูโดนด่าหนักมากว่ากูเป็นคนที่ไร้สาระปัญญาอ่อน เอ้า กูก็ไม่ได้จะหาสาระอะไรอยู่แล้วไหมอ่ะ หรือเขารำคาญกู เอาจริงๆก็ไม่ใช่แค่เรื่องไร้สาระแบบนี้อ่ะ เรื่องทั่วไปกูก็โดน เรื่องจริงจังกูก็โดน แต่วันนี้เป็นเรื่องไร้สาระพอดีเลยสบโอกาสได้ด่าแรงหน่อย เหมือนการมีอยู่ของกูมันน่าหงุดหงิดเกะกะสายตาเขามาก กูก็น้อยใจเป็นนะ เซ็งว่ะ
>>155 ใช่เลยมึง คืองี้ กูรู้สึกเหมือนเขาไม่ค่อยชอบขี้หน้ากูอ่ะ เวลากูพูดอะไรจริงจังเช่นแผนในอนาคตเขาก็ต้องขัดคอ แล้วก็หาเรื่องบ่นกูให้ได้ จับผิดข้อด้อยกูเอามาพูดให้ได้ พอกูตัดพ้อเหมือนที่ 156 บอก เขาก็จะแบบว่าที่พูดเนี่ยเพราะหวังดี แตะไม่ได้เลยใช่ไหม เมื่อวานกูเลยหาท็อปปิกไร้สาระที่กูชอบมาพูดแทน แต่สุดท้ายก็โดนอยู่ดี
>>153 >>154 >>156 ขอบคุณในความคิดเห็นนะเพื่อนโม่ง
ใครที่หายซึมเศร้า วิตกกังวลนี่หายกันยังไง มาแชร์ได้ปะ
ซึมเศร้ามันเป็นโรคติดต่อป่าววะ แฟนกูหายซึมเศร้าแล้ว แต่ความ Toxic ที่กูเจอระหว่างพาไปรักษามาตลอด ทำให้กูเป็นซึมเศร้าแทน
>>161 มึงควรคุยกับหมอ การจะกินหรือไม่กินยาไม่ควรเป็นสิทธิของมึงคนเดียว มึงควรให้หมอเจ้าของไข้ได้ร่วมพิจารณา ถ้าอาการมึงหนักควรกินยาก็ไม่ควรดื้อ แต่ถ้าไม่หนักมึงก็ลองขอหมอไม่กินยาดู กูเองคิดว่ามันควรยืดหยุ่นได้เรื่องกิน/ไม่กินยากรณีผู้ป่วยไม่มีความเสี่ยงถึงแก่ชีวิต
>>161 ไม่กินยาก็ได้ จากใจคนที่เคยเป็นนะ
ไอ้พวกที่บอกว่าซึมเศร้าเป็นแค่เรื่องสารเคมีในสมอง กินยาไปปรับสมดุลละก็จะหาย แม่งไม่รู้เรื่อง
ยาเป็นตัวช่วยออกสตาร์ทที่ดีมากในการพลิกฟื้นชีวิต แต่ถ้าชีวิตมึงเฮงซวย มึงยังไม่เข้าใจชีวิตมึง มึงก็ไม่หายซึมเศร้าหรอก ถ้ามึงไม่อยากกินยามึงก็ต้องรับประเด็นนี้ให้ได้ รับผิดชอบดึงตัวเองขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเอง
ถ้าคิดว่าทำได้ก็ลุย ไม่ต้องแดกยา
ไม่ค่อยโอเวลานัดหมอ แล้วเจอนักศึกษาแพทย์มา observe ด้วย คือเข้าห้องปุ๊บหมอไม่มีการพูดเกริ่นขอว่าวันนี้จะมีนศพ.มานั่งฟังด้วยนะ ให้กูเล่าเรื่องกูเลย คือกูไม่ได้อาย แต่อยากให้หมอแจ้งหรือขออนุญาตเราก่อน ถ้าเป็นต่างประเทศเค้าจะแคร์มากกว่านี้ปะวะ
>>167 มึงไม่โอมึงบอกเลย คือเคสปัญหาแบบนี้มึงขอความเป็นส่วนตัวได้ มึงอาจจะบอกหมอเค้าว่าครั้งนี้มึงไม่สะดวกใจ ไม่ได้เตรียมใจมา ครั้งหน้าขอให้แจ้งมึงก่อนเข้ามาในห้องให้มึงทำใจก่อน
หมอที่ดีเค้าจะไม่ว่าอะไรมึงเลย เพราะคนไข้แบบที่เปิดใจ/ไม่เปิดใจคือนอร์มอลที่เค้าต้องเจออยู่แล้ว มึงไม่ได้เรื่องมาก
>>167 ปกติอาจารย์หมอเข้าต้องขออนุญาติมึงก่อนนะ แล้วจริงๆมึงสามารถปฏิเสธไม่ให้มีคนอื่นมาร่วมฟังได้ แต่กูบอกไว้ก่อนเลยว่าส่วนใหญ่เข้าจะตื้อขอให้มึงร่วมมือ แต่อาจจะต่อรอง เช่น ขอแค่เฉพาะผู้หญิงได้ไหม ขอแค่1คนได้ไหม เป็นต้น
แต่กูยืนยันให้ได้ ว่าถ้ามึงต้องการความเป็นส่วนตัวจริงๆ และปฏิเสธอย่างหนักแน่น กูมั่นใจว่าหมอจะยอมรับและทำตามความต้องการของมึงแน่นอน
เบื่อความสัมพันธ์วะ เบื่อที่ต้องมานั่งกังวลว่าคนนั้นคนนี้เกลียดเราหรือเปล่าระแวงว่าจะมีคนนินทาไหม อยากเป็นคนเห็นแก่ตัวที่คบกับคนอื่นเพื่อหวังผลประโยชน์วะจะได้ไม่ต้องมานั่งเครียด หมดประโยชน์เมื่อไหร่ก็แค่ทิ้ง
คิดถึงแพรกิ ไปเยใครอยู่ ปวดใจจัง
เราเครียดว่ะ เราเข้าสังคมแย่มาก เราคุยไม่เก่ง เราไม่รู้ว่าควรพูด หรือ ควรทำอะไรยังไง เรามีเพื่อนน้อยมาก ตอนนี้เราอยู่มหาลัย เราไม่กังวลการอยู่คนเดียวเท่าไหร่ เรามีความสุขดี แค่เราเครียดเรื่องในอนาคต การทำงาน แม่เราชอบบอกว่า ไม่ต้องเก่งมาก แต่ต้องเข้ากับคนให้ได้ แล้วเราทั้งไม่เก่ง ทั้งเข้ากับคนไม่ได้อ่ะ T^T ทำไมเราต้องเป็นคนแบบนี้ด้วยว่ะ
ใครเป็นวิสัญญีบ้าง ช่วยมาฉีดยาสลบให้กูตายที
เหนื่อยจังเลยเพื่อนโม่ง สิ่งที่อยากทำก็ติดปัญหาด้านเงิน สิ่งที่ทำอยู่ก็ไม่ใช่สุดๆ ทุกวันนี้ใช้ชีวิตแบบไม่อยู่กับความเป็นจริง เหมือนมีชีวิตไปวันๆรอวันตาย ทุกวันต้องต่อสู้กับความอยากตายของตัวเอง หาความสุขชั่วคราวมาใส่เผื่อมันจะดีขึ้นแต่มันก็ชั่วคราว พอมันจบกุก็ยังรู้สึกห่วยแตกอยู่ดี ทำไม แค่มีเงินอีกนิดหน่อยกุคงได้ทำตามฝันแล้วแท้ๆ
ชีวิตที่คนอื่นมองมาแล้วคิดว่าดูดีตอนนี้มันไม่ใช่สิ่งที่กุต้องการเลยสักนิดมันทำกุเครียด เกลียดตัวเอง ฮือ กุเกลียดตัวเอง กุพยายามไม่มากพอรึเปล่า ทำไม ทำไมกุถึงทำได้แค่นี้ คนภายนอกมองว่ากุเก่งแต่กุมันห่วยแตกที่สุดเลย ทำตามฝันที่ตัวเองต้องการก็ไม่ได้ ไปไม่เคยถึงเป้าหมายเลย ที่บ้านไม่ได้ซัพพอร์ตกุ สิ่งที่กุควรทำคือไปให้ถึงด้วยตัวเองแต่กุก็ทำไม่ได้ กุมันทำอะไรด้วยตัวเองไม่ได้เลย ไม่สำเร็จสักอย่าง แล้วก็มาเศร้าเสียใจที่ไม่ลงมือกุแม่ง ฮือๆๆๆ กุพยายามไม่มากพอ กุไม่อยากพยายามแล้ว
เบื่ออาการซึมเศร้าเต็มทีละ แต่เงินก็ไม่ค่อยมี กูว่าจะไปหาหมอที่สมเด็จเจ้าพระยา ที่นี่มันแพงปะ
เป็น Social Anxiety Disorder อ่อนๆอ่ะ ทําไงดีโม่ง กรณีกูควรไปพบแพทย์มั้ยอ่ะ
มีอาการกลัวแพนิคเวลาคุยกับคน มีความรู้สึกผสมๆทั้งรำคาญคนและกลัวคนด้วยกัน รู้สึกเหนื่อยเวลาเข้าหาคน ก็คือไม่ได้เป็นหนักขนาดที่มีอาการหนัามืด ตัวสั่น ปวดท้องอ่ะ แต่กูก็เกร็งๆทุกครั้งที่คุยกับคนอื่น
คือแบบแต่กูไม่ได้อยากคิดกับคนอื่นแบบนี้เลย หลายครั้งกูเลยแก้ปัญหาโดยไม่พูดมากหรือการเมินคนอื่นไปเลย แต่มันก็ทําให้คนคิดว่ากูหยิ่ง กูอีโก้ กูบ้าอ่ะ ทั้งๆที่จริงๆกูไม่ได้อยากจะคิดร้ายกับใคร ความมั่นใจในตัวเองก็น้อยชิบหายเลยเป็นงี้
นี่ยังไม่ได้ทํางานแต่ใกล้จะจบแล้ว กูกลัวว่าจะหางานเข้ากับสังคมใหม่ๆได้ยาก คือกูก็ฝืนเป็นได้แหละคนเฟรนลี่อ่ะแต่มันตอแหลไงแล้วมันจะจบไม่สวยหรอกแล้วกูควรจะทําไงให้ปกติ หรืออันนี้สมองกูผิดปกติป่าววะ ควรไปกินยาพบแพทย์มั้ยนะ
ใครเป็นโรค Maladaptive Daydreaming บ้าง โดดเดี่ยวไหมกับความปกติที่ไม่ปกติ โรคที่เหมือนไม่ใช่โรค
กูเผลอให้เพื่อนยืมตังไปจำนวนนึง(ค่อนข้างเยอะ) กูควรจัดการความรู้สึกตัวเองยังไงดีวะ
พวกมึงรู้ได้ไงว่าตัวเองเป็นโรคซึมเศร้า ไม่ใช่โรคเรียกร้องความสนใจ อันนี้กูไม่ได้ประชดหรือหาตีนมันมีคนประเภทนี้จริงๆคืออยากให้คนอื่นสนใจตัวเอง กับเป็นซึมเศร้าจริงๆ
>>184 พวกมโนไปเองไปต้องให้ค่าเลย จิตแพทย์โอนลี่เท่านั้นที่ให้คำตอบได้ ไม่มีภาพถุงยาพร้อมชื่อแปะคือสตอเบอแหลทั้งนั้น กูนี่เคยเข้าใจว่าตัวเองเครียดเลยมีอาการ overeating แค่นั้น เป็นมาหลายปี สุดท้ายมีโอกาสได้ไปตรวจ หมอว่านี่ไม่ใช่เพราะเครียดนะ จบที่ซึมเศร้า เหอๆ ไม่นึกว่าจะเป็นได้เลย ฉะนั้นเรื่องแบบนี้กูเกิ้ลให้คำตอบไม่ได้ แค่พอไกด์ให้เข้าใจอาการบ้างเท่านั้นเอง
หนักกว่าเรียกร้องความสนใจคือพวกเหี้ยที่ชอบเอาโรคมาเป็นข้ออ้างนี่แหละ ฮิตชิบหายทำผิดเหี้ยไรอ้างแต่ซึมเศร้าคนเป็นจริงเลยพลอยโดนหางเลขจากสังคมไปด้วย ถ้าโรคมันด่าได้มันด่าไปแล้ว
กูจะบอกอะไรให้ มึงไดแอกเองได้นะอันที่จริงแล้ว ไปหาไกด์ไลน์การไดแอกซึมเศร้ามาอ่าน มันมีพับลิชให้หมอโหลดไปใช้น่ะแหละ โรคเหี้ยนี่มันไม่ได้ต้องเทสสมองเจาะเลือดไปตรวจอะไร มันก็ไดแอกจากอาการนี่แหละ
หาเพื่อนซักคนมาช่วยดูไม่ให้มึงไบแอสละก็ไล่ตามลิสไป
>>184 รู้สึกชีวิตไร้ค่า ไม่มีกระจิตกระใจจะทำอะไรนานติดต่อกันหลายเดือน หนักเข้าก็เริ่มอยากตาย คิดหาวิธีตายหลายๆแบบกูถึงเรียกว่าซึมเศร้า เป็นแล้วไม่ค่อยอยากให้ใครรู้หรือมาช่วยหรอก แต่ก็หลุดออกมาด้วยตัวเองได้ยากถ้าจะปรึกษาก็ต้องคนที่เชื่อใจจริงๆเท่านั้น ส่วนคนอื่นไม่รู้เป็นแบบนี้ไหมนะ
ซึมเศร้าไม่ใช่โรค แต่เป็นเพราะมึงมันจิตใจอ่อนแอต่างหาก
การบัญญัติว่าอะไรที่มันกำกวมๆเป็นโรคหรือไม่เป็นโรคทางการแพทย์
หลักๆขึ้นอยู่กับว่าบริษัทยายัดเงินหมอมากพอรึเปล่า ถ้ายัดมากพอหมอก็แอพพรูฟให้เป็นโรคได้ แบบไอ้ซึมเศร้านี่แหละ
อนาคตพอความรู้พื้นฐานไปไกลกว่านี้ก็อาจจะโดนถอดจากการเป็นโรคก็ได้ เหมือนแต่ก่อนมีโรคเกย์ โรคฮิสทีเรียอะไรงี้ที่ปัจจุบันก็ไม่ยอมรับกันแล้ว
>>194 แล้วเข้าทางพวกมนุษย์อ่อนหัดด้วยไง เอะอะๆก็เป็นซึมเศร้า อย่าพูดคำนั้น ไม่อยากได้ยินคำนี้ ต้องไม่ทิ้งกันไปไหนแต่อยู่ใกล้ไปก็ uncomfort พอเอาแต่ใจมากๆก็จะลงมือทำเรื่องไร้สาระลงไปจนมันมีคนอื่นเดือดร้อน ก็มาตีบทเศร้า กำถุงวิตามินซีหลอกเด็ก โพสท์ทวิตอุนเทอ เราไม่หวายแน้ว ลาก่อย แง
>>197 องค์การโลกไรวะ ช็อคเก้อป่าว 555
ถ้ามึงจะเอา who มาอ้างอิงในการเถียงว่าเป็น fact ที่คัดง้างไม่ได้ แปลว่ามึงไม่ได้เข้าใจวิทยาศาสตร์ และหนำซ้ำไม่รู้เรื่องประวัติศาสตร์การแพทย์ด้วย
ลองกระตุกต่อมความคิดด้วยการอ่านฟูโกต์พูดถึงจิตเวชดูก็ได้นะเพิ่ล จะได้ไม่ฝังหัวว่าวงการแพทย์พูดอะไรมึงต้องเชื่อไปซะหมด
เอาไว้ถ้าหมอไดแอกโรคที่บอกว่าเกิดจาก"สารเคมีในสมองแปรปรวน" ด้วยการตรวจสารเคมีในสมองที่ว่าน่ะ กูถึงจะเชื่อ
แต่ถ้ามาไดแอกด้วยการถามๆเอาว่าชีวิตมึงเฮงซวยมั๊ย ถ้าเฮงซวยเอายาอารมณ์ดีกูไปแดกนะ
คนสติดีๆที่ไหนจะอยากเชื่อวะ
>>201 เฮ้อ ต้องให้กูสอนบวกเลขด้วยมั๊ยนิ
คือมึงจะมาเถียงว่าโรคซึมเศร้ามีจริง แต่มึงแปะบทความที่พูดถึงโรคซึมเศร้าว่ามีลักษณะยังไง รักษายังไง
มันถูกโลจิคตรงไหนวะ มึงลองกลับไปอ่านบทความมึงเองตรงไหนที่ใช้พิสูจน์ได้บ้างว่ามันสมควรจะเป็นโรคทางการแพทย์จริงๆ ทั้งสาเหตุก็ไม่รู้แน่ชัด อาการก็คลุมเครือ อาการไม่หนักให้หมอชี้แนะแนวทางใช้ชีวิตให้ก็หาย แถมมีความแตกต่างอย่างชัดเจนกับจิตเภทอีก หรือมึงจะบอกว่าแค่หมอบอกว่ามันมี มึงก็เชื่อว่ามันมี? กูก็อุตส่าห์ยกตัวอย่างโรคเกย์ให้มึงแล้วว่านิยามของการเป็นโรคทางการแพทย์แม่งก็ผิดได้ เปลี่ยนได้
มึงรีพลายๆมาเนี่ย ไม่เห็นมีโลจิคมีสาระอะไรเลย มีแต่มาขำๆเย้ยๆ เหมือนเข้าใจว่าตัวเองฉลาดแต่จริงๆไม่รู้อะไรเลยง่ะ ถ้าจะเฟียซก็ทำพื้นฐานให้มันแน่นก่อนดิ ไม่งั้นมันเขินนะ
>>203 จับแพะชนแกะสัสๆ
ถ้ามึงพูดถึงฟูโกต์ กูแค่ยกมาเพราะเขาวิจารณ์ให้เห็นว่ามันมีปัจจัยภายนอกเยอะแยะที่มาส่งผลต่การแพทย์ทั้งการเมืองวัฒนธรรมนู่นนี่นั่น ซึ่งหมายความว่ากูเชื่อฟูโกต์มั๊ย? ไม่ใช่ แม่งพูดถึงเรื่องซึมเศร้ารึเปล่ากุยังไม่รู้เลย
กูเสนอว่ามันยังมีวิธีคิดอีกแบบที่ไม่ใช่เชื่อตามหมอไปซะหมด
กูเชื่อในหลักฐานเขิงประจักษ์ มีข้อมูลอะไรที่เอามาทำให้มันดิ้นไม่หลุดบ้างว่าโรคซึมเศร้าของมึงเนี่ย มันเป็นความผิดปกติของร่างกาย ที่ต้องเอาสารเคมีที่ผลิตโดยบริษัททุนเข้าไปช่วยปรับสารเคมีในสมองมึง มึงถึงจะกลับเป็นปกติ ก็ไม่มีไงไอสัส หมอยังบอกเลยว่าไม่รู้ว่ามันเกิดได้ยังไง น่าจะประมาณนี้ๆๆมั๊ง แต่เสือกรณรงค์กันใหญ่โตว่าเศร้าต้องหาหมอแดกยา
แล้วมึงควรจะรู้ว่าหมอปัจจุบัน overdiagnosis มากๆ ไม่ใช่แค่ซึมเศร้า ลามไปยันโรคทางระบบอย่างความดันสูงหรือแม้แต่เหงือกอักเสบ บางอย่างมันไม่จำเป็นต้องรักษาด้วยการกินยา แต่เพราะการแทรกแซงจากปัจจัยภายนอก ไกด์ไลน์การรักษาที่"ส่วนกลาง"ทำออกแจกจ่ายให้หมอไปใช้รักษามันเลยไม่โปร่งใสไง หมอแม่งก็เป็นคนเหมือนกูมึง มันก็ทำตามรูทีน ตำราบอกให้ทำอะไรมันก็ทำไปอย่างนั้น ยกตัวอย่าง ในเรื่องเบสิกสัสๆเลย ในยุคนึงหมอสอนกันนักหนาเรื่องสามเหลี่ยมโภชนาการว่าควรจะกินสิ่งนั้นสิ่งนี้เท่านั้นเท่านี้ทั้งๆที่ข้อมูลจริงๆก็มีตั้งแต่สมัยนั้นแล้วว่ามันถูกต้องเลย ทุกวันนี้โภชนาการที่หมอแนะนำก็เปลี่ยนไปมาก มีทั้งคีโต ไอเอฟ ห่าเหวอะไรกันผุดขึ้นมาเต็มไปหมด
เพราะฉะนั้นกูเชื่อในหลักฐานกับการตัดสินใจของตัวเอง ถ้ามีหลักฐานที่ดี กูก็พร้อมจะเปลี่ยนความคิด แต่มึงไม่มี แล้วก็พยายามจะเบี่ยงประเด็นมาย้อนถามกู แต่กูใจดีเลยตอบมึงให้ อิอิ
เชื่อคนอื่นเพราะเขาเรียนสูง หัวจะปวด
ยกตัวอย่างให้เอกสตรีมขึ้น หมอไทย อาจารย์แพทย์เป็นส ลิ่มเยอะสัสๆ
แปลว่าอะไร แปลว่าการตัดสินใจ การใช้ตรรกะเหตุผลพวกแม่งก็ไม่ได้ปราศจากไบแอส ไม่ได้เลิศเลอกว่าคนอาชีพอื่นเลย
ถ้าเคยอ่านtextแพทย์ ตำราแพทย์ไม่ได้สอนให้คิด มันสอนให้ทำตาม ซึ่งหมอส่วนมากก็ไม่ได้สรรหาจะไปดูที่มาที่ไปของข้อมูลนั้นหรอก ท่องจำแค่ตรงหน้าก็เหนื่อยสมองพวกมันแล้ว
ดังนั้นหน้าที่คิดตัดสินใจกับร่างกายกับชีวิตตัวมึงเองก็ต้องคิดเอง เข้าใจยังไอสัส
จะปล่อยให้หมอทำอะไรกับร่างกายมึงก็ได้โดยมึงจะไม่ฉุกใจคิดซักนิดเลยเหรอ?
ทีนี้ก็ไปคิดดูว่าทำไมมึงถึงเชื่อว่าโรคซึมเศร้ามีจริง ถ้ามึงจะเชื่ออยู่ก็ไม่ได้ผิดอะไร มันก็อาจจะจริงก็ได้ ปัจจุบันไม่มีconcensus แต่หวังว่าจะเลิกอวดฉลาดว่าเชื่อหมอ(หมอเอหมอบีหมออ้อยไหนก็ไม่รู้แหละ ขึ้นชื่อว่าหมอก็เชื่อแระ)ถูกต้องที่สุด
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/books/NBK361016/ กูไปหานั่งอ่านมา สรุปก็ไม่มี pathophysio ชัดเลย แต่ก็มีงานวิจัยบอกว่าการแดกยาช่วยได้นะ
>>204 เออ ถ้ามึงไม่แยกเรื่องรสนิยมทางการเมืองกับทักษะทางวิชาชีพกูก็ว่ามึงไม่ไหวนะ การตรวจรักษามันมีขั้นตอน ไม่ได้ใช้แค่เป็นขนมหวาน ตรรกะป่วย แล้วจะเป็นหมอไม่ได้
กูไม่ได้พูดสักคำว่ากูเชื่อหมอชิบหายแบบนั้น กูแค่ถาม ว่าระหว่างคนที่เค้าเรียนมากับใครไม่รู้ที่พูดเรื่องเดียวกันทำไมมึงไม่เชื่อคนที่เรียนมา ตรงนี้ถ้ามึงแย้งว่ามึงไม่ได้พูดถึงการรักษา/วินิจฉัยโรค มึงหมายถึงให้คิดต่าง อันนี้ก็ผ่านไปเพราะตอนอ่านถึงฟูโกต์กูเข้าใจว่ามึงฟังเค้าพูดเรื่องจิตเภชแล้วเชื่อทางนู้น
ส่วนเรื่องคิดต่างกับเรื่องให้ตัดสินใจกับร่างกายกูโนคอมเม้นท์ กูเชื่อว่าจะคิดต่างได้ตัดสินใจได้ต้องมีความรู้ก่อน ตอนกูป่วย (ทางกาย) กูไม่โอเคกับผลวินิจฉัยกูหาความรู้ได้ กูขอตรวจเพิ่มได้ แต่ถ้ากูป่วย (ทางจิต) กูจะยังมีสติคิดไหมนี่กูไม่รู้
เพราะงั้นเรื่องซึมเศร้าอันที่จริงกูก็โนคอมเม้นท์อีก กูเคยเจอดีเพรสที่น่ากัวสัด ๆ และดีเพรสหาแสง แต่จะให้กูคิดว่าซึมเศร้าเป็นความเชื่อ ต้องมีวิธีการตรวจที่เป็นโกลด์สแตนดาร์ดถึงจะเชื่อว่ามีโรคนี้จิงอันนี้กูว่าเกินไป โรคบางโรคไม่มีวินิจฉัยโกลด์สแตนดาร์ด มีแค่วิธีมาตรฐานที่ก็เพียงพอใช้ในการประเมินการรักษา
ถ้ารู้ตัวว่าตัวเองไม่ปกติ อย่างน้อยหาหมอมันต้องดีกว่ามานั่งมโนเอาเองว่ะ ยังไงกูก็ยังจะบอกให้หาหมอและรังยามาแดกถ้ามันมีแนวโน้มอันตรายถึงชีวิต
>>208 ขึ้นต้นมามึงก็อ่านที่กูตอบไม่แตกซะละ แต่ไม่เป็นไรข้ามไป มึงลองดูที่ >>207 แปะลิงค์มาก็ได้
ถ้ามึงเข้าไปอ่าน มึงจะเห็นว่ายาซึมเศร้าเป็นตัวช่วยในการหายจากอาการซึมเศร้าได้จริง แต่ว่าการรักษาด้วยการปรับพฤติกรรมตัวเองก็ได้ผลว่ะ แล้วถ้าไปค้นการวิจัยเพิ่ม ในไทม์เฟรมที่นานขึ้น ผลของยากันเศร้าก็ยิ่งน้อยลงไปอีกอย่างมีนัยสำคัญ และในงานวิจัยนี้ก็ยังบอกว่าปัจจุบันพวกหมอนี่แหละ ที่จ่ายยากันเศร้าเกินความจำเป็นไปมาก เคสที่ไม่จำเป็นก็ยังจ่าย ถ้ามึงคิดว่านี่ยังไม่สำคัญกับชีวิตมึงลองดูผลที่เกิดจากทศวรรษที่ผ่านมาที่พวกหมอชอบจ่ายแอนตี้ไบโอติกเกินขนาด ทุกวันนี้มนุษย์ทั้งโลกแทบจะสู้เชื้อใหม่ๆไม่ได้แล้ว มีเหี้ยไรมาก็ติดเชื้อหมดและต้องใช้ยาแรงขึ้นเรื่อยๆ วงการหมอมันไม่ใส่ใจบอกเรื่องนี้กับมึงหรอก และถ้ามึงจะรอความรู้ทางการแพทย์นิ่งก่อนค่อยตัดสินใจเอง ก็นู่นอะอีกสิบปียี่สิบปี ซึ่งก็จะมีคนที่ซัฟเฟ่อจากผลข้างเคียงของยากันเศร้าที่จ่ายเกินความจำเป็นไปอีกไม่รู้กี่ล้านคน
พูดถึงผลข้างเคียงขิงยากันเศร้า มันแย่มากๆ ซึ่งบริษัทยาก็พยายามปกปิด จนคนไข้ที่ใช้ไปแล้วโดนผลกระทบหนักๆมาฟ้องถึงค่อยอ้อมแอ้มใส่ข้อควรระวังเพิ่มมาทีละข้อ จำนวนมากที่แดกแล้วอัตราฆ่าตัวตายสูงกว่าเดิม บางรายเซ็กเสื่อมไปตลอดชีวิต ที่สำคัญการแดกยาที่เข้าไปยุ่งกับสมองมึงเป็นปีๆ ต่อให้มึงจะหายเศร้าเร็วขึ้น แต่มันจะเปลี่ยนสมองมึงไปตลอดกาล และไม่ใช่ในทางที่ดีด้วย ซึ่งหมอหรือบริษัทยาไม่มาแคร์มึงหรอกนะ มึงเองนั่นแหละที่ผ่านมรสุมซึมเศร้ามาแล้วแต่ต้องแบกวิบากกรรมใหม่นี้ไปตลอดชีวิต
ฝากถึงไอ้พวกคิดว่าตัวเองซึมเศร้าที่ผ่านมาอ่าน พวกมึงพยายามอย่างเต็มที่แล้วรึยังในการเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเอง ถ้ายัง ไปลองซะก่อน ยอมรับว่าที่มึงเศร้าน่ะเกิดจากชีวิตที่เฮงซวย ไม่ว่าจะเฮงซวยจากคนอื่นหรือจากตัวมึงเองก็ตาม ไม่ใช่โทษว่าเกิดจากความโชคร้ายที่เป็นโรคและจะหาทางลัดด้วยการใช้ยา หาที่ปรึกษาดีๆ จะผู้ใหญ่ดีๆที่มึงนับถือ นักจิตบำบัดหรือจิตแพทย์ก็ได้ แก้ปัญชีวิตไปทีละเปลาะ ออกกำลังกาย นอนให้เต็มอิ่ม แดกให้เฮลตี้ ยากันเศร้าไม่ได้ทำให้มึงหาย ยาแค่ช่วยให้มึงแก้ปัญหาชีวิตง่ายขึ้นเร็วขึ้น แต่ต้องแลกด้วยสมองมึงเองนะ
อย่าแดกยาจนกว่ามันจะอับจนหนทางจริงๆ
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.