สวัสดีวันจันทร์
Last posted
Total of 1000 posts
สวัสดีวันจันทร์
อยากวาร์ปกลับบ้านไปนอนอืดแล้ว
>>919 >>919 กูไปสัมมาละ ออกจากบ้านตอนหกโมง ถึงที่ทำงานสิบโมงกว่า ทันเวลานัดสัมแบบฉิวเฉียด ถ้ากูได้ที่นี่จริงกูคงต้องออกตั้งแต่ตีห้า รถติดแบบชิบหายวายวอดแถมรถเมล์ก็ไม่ค่อยจะมี คือกูรอรถเมล์คันที่มันผ่านทางนั้นประมาณหนึ่งชั่วโมงอะกว่าจะได้ขึ้น กูน่าจะต้องใช้เวลาเดินทางไปกลับจากที่ทำงานร่วมๆแปดชั่วโมงเลย สุขภาพกายและสุขภาพจิตกูคงไม่ไหวถ้าเดินทางนานขนาดนั้น ที่ทำงานเก่ากูเดินทางแค่ครึ่งชั่วโมงเองด้วยรถไฟฟ้าน่ะ เงินเดือนก็ไม่ต่างจากที่ทำงานเก่ากูเท่าไหร่ แถมไม่มีสวัสดิการอะไรน่าสนใจด้วย กูโบกมือบ๊ายบายที่นี่ดีกว่า
เพื่อนโม่งมีใครเคยกังวลเรื่องทัศนคติหรือความคิดที่เพื่อนร่วมงานมองเรามั้ยวะ ;-; กับเพื่อนร่วมงานที่สนิทไม่มีปัญหาเรื่องนี้นะ แต่เวลาต้องทำงานกับคนที่แค่รู้จัก ไม่ได้สนิท หรือคนเพิ่งเคยเจอกัน กุจะชอบคิดว่าถ้ากุทำแบบนี้หรือพูดแบบนี้ไป เค้าจะมองกุยังไง คิดไปคิดมาก็กลายเป็นกังวลง่ะ
burnout ว่ะ สัดๆ
เหนื่อยอะไรไม่รู้ ไม่อยากทำงาน
ทำงานของตัวเองยังไม่เครียดเท่างานที่ต้องทำกับคนอื่น เห้ออออออ
พวกมึงมีวิธีบอกหัวหน้าว่าเขาแบ่งงานไม่แฟร์ยังไงบ้างวะ คือทีมกุน่ะมีสามคน งานก็มีสามชนิด ปกติกุกะเพื่อนก็สลับกันทำงานคนละชนิดคนละเดือนวนลูปไป ทีนี้มีโปรเจคต์ใหม่เข้ามา หน.เขาก็จัดให้กูดูคนเดียวเลยเพราะว่ากูละเอียดสุดในสามคน(เขาว่างี้) มันมีปห.เยอะด้วย ต้องแก้เฉพาะหน้าแต่เจอบ่อยๆ ก้จะจำได้ มีแพทเทิร์นอยุ่ว่าต้องแก้ไง เขาบอกไว้เข้าที่ละจะให้สอนเพื่อนทีหลัง แต่ผ่านมาสองปีละเขายังไม่เปรยถึงการสอนเพื่อนเลยว่ะ ทุกวันนี้กุต้องทำงานหลักและก้อีโปรเจคต์เหี้ยนี่คนเดียว คนอื่นเวลาเปลี่ยนเดือนก้ยังมีช่วงสบายบ้าง ส่วนกุนั้นหัวฟูตลอด กุเคยเปรยๆว่าในเมื่อปห.ของโปรเจคต์ทางไอทีเขาไม่มีแพลนจะแก้ให้ งั้นก้เริ่มสอนเลยดีมั้ย เผื่อกุลาจะได้ไม่ต้องทิ้งงานไว้ให้กุกลับมาทำ เขาก้อ้อมแอ้มแค่บอกว่าไว้หาโอกาสทำพาวเวอร์พ้อยมาสอนนะ เขาก้อยากรุ้ด้วยเผื่อช่วย back up แต่ผ่านมาหลายเดือนละเขาไม่เคยพูดถึงอีกเลย ใจกุน่ะอยากจะขอคุยตรงๆ อีกทีว่าได้เวลาส่งงานนี้แล้วสลับกันทำได้ยัง หรือมีเหตุผลอะไรถึงต้องปกป้องเพื่อนไม่ให้เจอความยากลำบาก แต่ยอมให้กุลำบากคนเดียวได้(คือพูดดีๆ แหละแต่เนื้อหาทำนองนี้) แต่รุ่นพี่กุบอกว่ามันจะดูไม่ดี ถ้าจะพูดจริงๆต้องเลือกใช้คำพูดดีๆ เลย
>>593 กู >>553 กูหายไปนานมาก ไม่รู้มึงจำได้ไหม เฮ้ย ดีใจด้วย /เอามือตบบ่า เห็นว่าเริ่มงานใหม่ต้นปี กูเดาว่าตอนนี้มึงน่าจะเริ่มทำงานละ เป็นไงบ้างวะ ส่วนกูตอนนี้ยังทำที่เดิม เพิ่มเติมสัมภาษณ์ออนไลน์555 เซ็งมากกูคือพื้นที่สีแดงโควิดจากบ่อน แม่ง หวังว่าโควิดจะหายไวไว ทุกวันนี้กูร่อนรีซูเม่ทุกวัน ให้เขาเรียกสักที ขอให้เป็นวันดีๆกับงานที่ดีตั้งแต่ต้นปีนะเว้ย
>>947 สำหรับกูคิดว่าตำแหน่งเดียวกันงานไม่ได้จำเป็นต้องปริมาณเท่ากันนะ แน่นอนว่าไม่จำเป็นต้องผลตอบแทนเท่ากันด้วย ถ้ามึงคิดว่างานมึงหนักกว่าก็ใช้มันเป็นเหตุผลในการต่อรองเงินเดือน ถ้ามองผลลัพธ์ที่ผลงานยังไงให้คนที่ทำได้ทำไปมันเสี่ยงน้อยกว่าให้คนไม่รู้งานมาเริ่มศึกษาอ่ะ ถ้ามึงมีคุณค่ามากกว่าเพื่อนที่อยู่ในตำแหน่งเดียวกันแปลว่ามึงก็ต้องมีสิทธิ์ต่อรองได้ กูว่าต่อรองเรื่องรายได้จะดีกว่า
>>949 เข้ามานอนยันกับความเห็นนี้
>>947 กูเคยประสบปัญหาตำแหน่งมีคนเดียวทำงานนอก JD เยอะมาก จิปาถะก็เยอะ พอถึงเวลาถ้าเราคิดว่าเราทำงานได้เยอะ คือบอมึงไม่ต้องจ้างหลายตำแหน่งอ่ะ ทำงานได้โอเค ก็ลองไปเรียกเงินเดือนเพิ่มดู ตอนแรกกูก็กลัวนะว่าจะแบบคิดไปเองป่าววะว่ากูก็ทำงานใช้ได้ แต่ต้องบอกว่าขอให้มึงมั่นใจในตัวเองเข้าไว้ถ้าตั้งใจทำงาน สร้างคุณค่าให้บอได้ ลองเรียกดู เรียกไม่ได้ก็ถือว่าได้บอกปัญหาเรื่องงานให้เขาทราบ เรียกได้ก็กำไร สู้ ๆ มึง
เบื่อโปรเจ็คเมเนเจอร์ที่ทำตัวเป็นเมสเซนเจอร์จัง ไม่บรีฟเฮียไรเลยส่งแต่ไฟล์ดิบจากลูกค้ามาให้ ปล่อยให้คนทำต้องตีความเอาเอง เสียเวลาจัง
ช่วงนี้รู้สึก burnout กับงานอยู่ แต่ก็ติดโปรเจคถึงช่วงกลางมีนา
ตั้งแต่เข้ามาคือเหมือนเอามาแทนตำแหน่งขาด transfer งานวันเดียว
และตอนนี้ก็อยู่ช่วงโปรเจคนี่แหละ เลยคิดว่ายังไปไหนไม่ได้เร็วๆ นี้
ถ้าหลังโปรเจคนี่จบแล้วหางานใหม่ไปเลยดีมั้ยวะ
ช่วงนี้ก็ดูๆ งานเก่ากับงานอื่นๆ อยู่ Headhunter ก็เริ่มติดต่อมาเจ้าสองเจ้าละ
ที่บ้านต้องโกรธแน่ถ้ารู้ว่าลาออก
>>948 ขอบคุณมาก ตอนนี้ก็เริ่มงานใหม่แล้วแหละ งานใหม่ก็ดีนะ เข้ามาได้แป๊ปเดียวก็ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆเยอะแยะเลย
คนในทีมก็ช่วยเหลือดี แต่ว่าการเมืองนอกทีมดูจะแรงอยู่ ก็ปกติตามประสาบริษัทใหญ่ๆแหละ ต้องทำใจ
อีกอย่างก็เข้ามาแล้วเจอ tool ที่ไม่เคยใช้เยอะมาก ต้องใช้เวลาปรับตัวเยอะ
ก็แอบกลัวอยู่เหมือนกันว่าหัวหน้าเค้าจะมองว่าทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควรมั้ย เพราะกูก็อายุงานเยอะแล้ว แต่หลายๆเรื่องยังต้องให้น้องช่วย
ขอให้มึงได้งานใหม่เร็วๆนะ
มีใครไม่ได้จบพวกคอม แต่มาทำงานสายไอทีบ้างวะ แบบชอบโค้ดเลยเรียนเองมาเรื่อยๆประมาณนี้
ในอนาคตสายไอทีจะล้นตลาดไหม ช่วงนี้คนย้ายสายเยอะมาก ใกล้จบแล้ว ตรงสาย ร่อนใบสมัครไปหลายที่แล้วยังเงียบกริบ ใจคอไม่ดีเลย ไม่รู้จะปรึกษาใครดีด้วย 😅
อันนี้กูสงสัยเฉยๆ อาชีพสาย IT มันมีอะไรน่าดึงดูดให้คนสายอื่นจะต้องอยากย้ายสายมาทำขนาดนั้นเลยหรอ
คงไม่ใช่ว่าไปเชื่อโฆษณาของสถาบันสอนเขียนโปรแกรมหลอกคนเจ้านั้น (ที่เคยเอามาโทรลเล่นกันจนเป็นมีมในโม่งกัน) ใช่มั้ย
>>958 กูคนนอกสายไอทีนะ ถ้าเอาจากความคิดดู
- เงินดีกว่าสายอื่นๆ
- รองรับอนาคต
- ภาพลักษณ์ดูเป็นงานสมัยใหม่ ทำแล้วเท่ดูเป็นคนรุ่นใหม่ไรงี้
- มีโอกาสเติบโตได้มาก เห็นพวกที่ได้ไปทำงานตปท.ส่วนมากที่รู้จักก้สายนี้ทั้งนั้น
ย้ำว่าเป็นความรู้สึกนะ กูรู้ว่าของจริงมันไม่สวยหรูเหมือนคิดหรอก ซึ่งกูคิดว่าคนนอกสายน่าจะมองงานไอทีแบบนี้กันเกือบหมดละนะ
เมื่อไหร่จะวันเสาร์
>>954 ส่งกำลังใจให้มึงนะเพื่อนโม่ง เรื่องงานก็ค่อยๆเรียนรู้ไป ตาม kpi เข้าไว้เพื่อนยังไงก็รอด หัวหน้าเห็นเราพยายามมีพัฒนาบ้างก็คงไม่ว่าอะไรหรอกมึง ตอนนี้ทีมดีมีชัยไปกว่าครึ่งละ เริ่มต้นปีได้ดีมากสหาย ขอบคุณสำหรับคำอวยพร งานมีเรียกมา 2-3 ที่ แต่ว่ากูก็เอาที่สนใจและคิดว่าไปแล้วน่าจะดีกว่าเดิมจริงๆ เอาไว้ได้ใหม่กูจะมาบอกมึงที่นี่แน่นอนสหายโม่ง
>>958 สำหรับกูนะ (กู >>956 ) เรื่องความชอบมาเป็นอันดับแรก ต่อมาก็เรื่องเงิน จริงๆ กูหัดเขียนเว็บหัดทำเกมง่อยๆ มาตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว ซึ่งอะไรพวกนี้มันมิกซ์กันระหว่างศิลป์กับลอจิก แล้วกูเลือกเรียนต่อไปทางศิลป์ก็จริง แต่ความสนใจกูมันก็ยังอยู่แบบนั้นแหละ แต่ก็ทำเป็นงานอดิเรกไป จนวันนึงที่รู้สึกว่าเงินเดือนตัวเองมันตัน ระหว่างอยู่สายงานเดิมแต่เถิบไปเป็นเมเนเจอร์ ไปทางบริหาร หรือจะเปลี่ยนสายงานไปทางไอที คือกูยังรู้สึกสนุกกับการลงมีทำตัวงานมากกว่าจัดการปัญหาระหว่างงานเงินคน กูก็เลยเลือกเปลี่ยนสายงานน่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นที่กูสามารถเปลี่ยนได้เลยเป็นเพราะกูไม่เคยทิ้งการทำเว็บเลย ยังคงดีไซน์เองโค้ดเองมาตลอด เลยมีสกิลพอจะเปลี่ยนได้อ่ะ
>>958 >>957 ถ้าให้มองแบบกว้างๆ นะ ความต้องการของสายงานนี้มันเยอะขึ้นเรื่อยๆ และคำว่าไอทีแม่งก็ครอบคลุมกว้างขึ้นเรื่อยๆ โปรแกรมก็ใช่ สัญญาณมือถือก็ใช่ โรบอทใช่ IoT ทั้งหลาย ไม่ต้องดูที่เรื่องตำแหน่งงานก็ได้ ดูจากชีวิตประจำวันพวกมึงอ่ะว่ามีเรื่องเกี่ยวกับไอทีวนอยู่เต็มไปหมดและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ด้วย บางที่เขาบอกว่าสกิลเกี่ยวกับไอทีจะเป็นพื้นฐานที่ทุกวิชาชีพต้องมีนะ เดี๋ยวนี้ทำเอกสารทำบัญชีมึงก็ต้องใช้ระบบได้นะ พนักงานต้อนรับต้องใช้ระบบจองได้นะ แล้วเบื้องหลังระบบพวกนั้นมีคนทำงานมากมายทั้งนั้น ยิ่งตอนนี้กระแสการเก็บดาต้ามาแรง ต่อให้ธุรกิจไม่ทำเองก็ต้องจ้างคนอื่นเขาทำเพื่อตามโลกให้ทัน ต่อให้บางเทคโนโลยีตายไปก็จะมีเทคโนโลยีใหม่ๆ ผุดขึ้นมาอีก กูว่ายังไงงานสายไอทีก็ยังเพิ่มขึ้นและต้องการคนมากขึ้นตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับว่าสกิลมึงถึงตามที่เขาต้องการหรือเปล่า
>>962 ขอบคุณมากนะ ขอให้ได้งานเหมือนกันนะ T_T
>>965 ขอบคุณที่มาตอบค่ะ เรื่องสกิลนี่สำคัญมากจริงๆ แหละ คนเก่งๆ จ่ายค่าตัวกันแพงจริงๆ
ตอนนี้รู้สึกเสียใจที่เลือกภาคคอม สมัยนี้เห็นเรียนคอร์สกันเดือนสองเดือนก็สมัครงานได้แล้ว (ตัดภาพมาที่กูเรียน 4 ปี...) รู้สึกว่าเป็นสายที่ชอบและใช่อยู่หรอก แต่บ้านกูฐานะไม่ดี มีหนี้สิน ถ้าไม่ได้งานดีๆ ชีวิตกูจบเห่แน่ หวังว่าจะมีโอกาสดีๆ เข้ามาบ้างนะ เพื่อนโม่งคนอื่นๆ ก็ด้วยนะ T_T ขอให้ผ่านช่วงแย่ๆ แบบนี้ไปได้ด้วยดีทุกคน
ปกติแล้ว hr โทรไปถามประวัติจากที่เก่ากันมั้ยวะ พอดีวันนี้กูได้รับโทรศัพท์จากที่ทำงานเก่าที่แรกที่เคยทำ เขาบอกว่าวันนี้บ.นี้โทรมาถามว่ากูเคยทำงานที่นี่จริงมั้ย ทำเมื่อไหร่ ได้เงินเท่าไหร่ กูก็ตกใจดิ มึงโทรไปที่แรกเลยเหรอ ถ้าที่ล่าสุดยังพอเข้าใจนะ แต่เล่นโทรไปที่แรกเลยทั้งที่มันผ่านมาเกือบสิบปีแล้ว กูไม่ได้ทำงานเกี่ยวกับพวกการเงินอะไรด้วย แค่สงสัยว่าทำไมตรวจเช็คเข้มขนาดนั้น
>>966 กูเรียนสายอื่นมาแล้วเสียใจมากที่ไม่ได้เลือกภาคคอมไป งานกำลังมาแรงเลย สายที่กูเรียนอยู่ไม่ต้องจบมาตรงสายก็เป็นได้ barrier to entry ต่ำมาก ตอนนี้กำลังพยายามดีดตัวเองไปสายคอมอยู่แต่ยากจังอ่ะ กูว่าเรียนเดือนสองเดือนได้งานเลยนี่ต้องเทพมาก ๆ ไม่ก็ต้องโม้มาก ๆ แน่ ๆ ฮือ
>>958 แค่มึงเขียน ja... (สมัยนี้ react ก็ได้) เป็น มันก็แทบจะการันตีว่าจะไม่ตกงาน และงานที่มีก็เงินโอเคไปจนถึงดีและดีมาก(ขึ้นกับความสามารถ)
>>957 สาย it ล้นตลาดนี่ คำถามนี้กูโดนคนรอบตัวถามมาตั้งแต่สมัยอยู่ม.ปลายแล้ว ปัจจุบันก็อย่างที่เห็น ตำแหน่งงานสายนี้มีแต่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และ variation ก็แตกออกไปเรื่อยๆ
เรื่องสายไอทีล้นตลาดอ่ะ กูว่ามันแล้วแต่สายนะ อย่างโปรแกรมเมอร์นี่หากันทุกวันยังไม่ได้คนเลยบางที เด็กไอทีจบมาไม่อยากเขียนโปรแกรมผันตัวไปเป็น SA บ้าง BA บ้าง ย้ายมาทำ data บ้าง
ปัญหาของที่หาโปรแกรมเมอร์ไม่ได้คือกูรู้สึกว่าหลายๆบริษัทจะเอาคนเก่งๆแต่ไม่สู้เงินว่ะ
>>968 กูว่าอาจจะเป็นเพราะโฆษณาแหละมึง สู้ๆ นะ เป็นกำลังใจให้
ปกติแล้วคนที่หางานได้ตั้งแต่ยังเรียนไม่จบนี่ได้งานช่วงเดือนไหนกันคะ สมัครไปแล้วมีทั้งหายเงียบไปเลยและต้องรอผล ขอคำแนะนำหน่อยได้ไหมคะว่ายังขาดอะไรไปถึงยังไม่โดนเรียกสัมภาษณ์ เพื่อนๆ คนอื่นโดนเรียกกันไปตั้งนานแล้ว
สมัครงานเน้นสาย dev ค่ะ โปรไฟล์คร่าวๆ เรียนวิศวะคอมอินเตอร์ (ได้ทุนเรียนฟรี) เกรด 3.9x โทอิค 9xx มีทำกิจกรรมชมรม มีแนบพอร์ต เรื่องปสก.ทำงานยอมรับว่าไม่แข็ง ส่วนใหญ่เป็นโปรเจคตอนเรียน แต่ที่ไปฝึกงานมาฟีดแบ็กก็ถือว่าดีเลย
ปรึกษาอาจารย์มาหลายท่านแล้วยังหาคำตอบไม่ได้เลยค่ะ ไม่รู้ว่าปัญหามาจากตรงไหน ลองเปลี่ยนรูปแบบเรซูเม่หลายๆ แบบและยื่นใหม่แล้ว ยอมรับว่าคาดหวังสูงและสมัครแต่บ.ดังค่ะ แต่คนอื่นๆ เขาก็ได้งานกัน เลยคิดว่าตัวเองก็อาจจะมีสิทธิ์ด้วย ท้อมาก :( สิ้นหวังมากๆ กะจะไปทำราชการแทนแล้ว
>>976 ใจเย็นๆ ช่วงวิกฤติแบบนี้หลาย บ.เองยังตั้งตัวไม่ถูกเลย มันก็มีแหละที่เปิดรับสมัครงาน แต่เชื่อว่าไม่กว้างเท่าตอนไม่มีวิกฤติ แถมคัดเลือกกันเข้มข้นกว่าเดิมด้วย บางทีแม่งเป็นเรื่องของกลัวการเรียกค่าตัวแพง เรื่องของจังหวะของดวง ไม่มีเหตุผลไหนจะเอาตอบให้มึงรู้สึกสบายใจขึ้นได้ ได้แต่เป็นกำลังใจให้นะ (แต่ถ้ามึงหลงไปทำราชการมึงจะสิ้นหวังมากกว่านี้ 555)
>>976 กูทำงานโปรแกรมเมอร์อยู่ เรื่องเขียนเรซูเม่อะไรงี้แนะนำไม่ค่อยได้
แต่สงสัยตรงคำว่า บ. ดัง ที่มึงว่าน่ะ ไม่แน่ใจว่า บ. ดังแบบที่มึงอยากได้คือแบบไหน
แบบบริษัทดังๆของสาย IT ที่ชอบมีชื่อเป็นสปอนเซอร์ตามงาน event มั้ย หรือหมายถึงบริษัทใหญ่ๆที่คนทั่วไปรู้จัก
ถ้าแบบแรกนี่กูไม่ค่อยรู้มาก แต่ตามงาน event (ซึ่งส่วนมากเค้าเป็นสปอนเซอร์งานก็จะมีบูทรับสมัครงานอยู่แล้ว) ไม่รู้ว่าวิธีนี้จะดีกว่ามั้ย
แต่ถ้าแบบสองหลายๆบริษัทเริ่มรับ outsource (ส่วนมากเป็นสัญญาจ้าง) มากขึ้น ถ้าไม่ยึดติดกับการเป็นพนักงานประจำอาจจะลองทางนี้ดู
หรือบางคนก็อาจจะเริ่มจากการเป็นสัญญาจ้างก่อน แล้วถ้ามึงผลงานดีเค้าถูกใจค่อยไปหาลู่ทางขอเปลี่ยนเป็นประจำทีหลัง
ช่องทางนี้คงต้องเริ่มจากสมัครงานตามบริษัทที่ทำธุรกิจ outsource แทน หรือไปสร้าง profile + upload resume ไว้ใน jobsdb ก็ได้
พวกนี้เค้าคอยดูเวลามีคนมาอัพข้อมูลอยู่แล้ว ถ้าใส่เบอร์ไว้แล้วเค้าคิดว่า match มึงกับประกาศรับคนของลูกค้าที่เค้ามีได้เค้าก็จะโทรมาหามึงเลย
แล้วพอเค้าโทรมามึงเดี๋ยวเค้าก็จะบอกมึงเองว่ามีลูกค้าเจ้าไหนบ้าง แล้วมึงก็ค่อยเลือกเอาว่าบริษัทไหนที่มึงโอเค
คำแนะนำอีกอย่างนึงที่อาจจะพูดง่ายแต่ทำยาก คือพยายามอย่านอยด์ถ้าสมัครไปแล้วเค้าไม่ติดต่อกลับ หรือสัมภาษณ์แล้วไม่ผ่าน / เจอคนแย่ๆ
ไม่ผ่านก็หาที่ใหม่ไปเรื่อยๆ พวกบริษัทดังๆส่วนมากมันใหญ่อยู่แล้ว บางทีทีมนึงเค้าไม่อยากได้มึงก็อาจจะมีอีกที่อยากได้ก็ได้
ปล. มึงลองไปถามใน >>>/tech/8162/ อีกที่ไว้เผื่อก็ได้ เผื่อมีคนทำงานสายนี้คนอื่นไม่เห็นตรงนี้ แล้วจะให้คำตอบดีๆกับมึงได้
ได้งานแล้ว แต่เงินเดือนน้อยกว่าที่เก่าราวๆ 7000 แถมทำงานวันเสาร์อีก ถ้าลดลงสองสามพันก็ยังโอเค แต่นี่ไม่มีสวัสดิการอะไรให้เลยนอกจากประกันสังคม ทำงานวันเสาร์ เดินทางไม่ลำบากรถเมล์ต่อเดียวถึงแต่รถติดสัส กูควรปฏิเสธดีมั้ยวะ หรือทำๆไปก่อนงานหายาก
>>979 แล้วแต่ circumstances ของมึงเลยอะ รีบมั้ย มีเงินใช้หรึอเปล่า มีภาระอะไรมั้ย อายุเท่าไหร่ คิดว่าโปรไฟล์ตัวเองอยู่ในระดับไหน
กูเคยยอมลดเงินเดือนเพราะต้องการเปลี่ยนสายงาน กูมอง career path ระยะยาว (รู้ว่าเค้าไม่มีทางมีใครให้เงินเดือนเท่าหรือมากกว่าเดิมได้อยู่แล้ว เพราะมาสายนี้กูคือมือใหม่ แค่ได้โอกาสก็บุญ) แล้วกูก็คิดว่ากูตัดสินใจไม่ผิด ทุกวันนี้กูกลับมาได้เงินเดือนมากกว่าสมัยก่อนหลายเท่า
แต่ถ้าเงินเดือนลดแบบไม่มีเหตุผล เป็นกูไม่เอานะ กูไม่รีบ และกูคิดว่ากูยังพอมีทางเลือกอยู่ แต่ถ้ากูรู้ตัวว่ากูไม่มีทางเลือก มีภาระ ไม่มีตังค์จะใช้แล้ว โปรไฟล์ไม่ได้โดดเด่นพอจะไปแข่งกับใคร แบบนี้ก็คงยอมเอางานนี้ไปก่อน
>>980 ภาระไม่มี หนี้สินก็บัตรเครดิตอย่างเดียว ไม่มีค่าเช่าบ้านหรือค่าผ่อนรถ มีเงินเก็บพอจะอยู่ได้แบบไม่ต้องทำงานไปอีกปี แต่กูก็ไม่อยากใช้เงินเก็บมากไปกว่านี้แล้วไง อะไรๆมันก็ไม่แน่นอน เป็นไปได้ก็อยากได้งานมากกว่าจะได้มีเงินเข้ามาแบบชัวร์ๆ แต่มาเจอเงื่อนไขทำงานวันเสาร์กูก็ไม่โอเคว่ะ กูมีตารางที่ตายตัวในวันเสาร์อยู่แล้ว คือกูรับจ็อบสอนพิเศษเล็กๆน้อยๆน่ะ ชม.ละ 300 สอนประมาณ 4-5 ชั่วโมง ถ้าให้ทำงานวันเสาร์กูต้องเลิกสอน รายได้ในส่วนนี้ก็จะหายไป แถมยังได้เงินน้อยกว่าที่เก่าอีก
ที่จริงกูก็มีไปสัมหลายที่ มีที่ที่ให้เงินดีกว่าและหยุดส-อ ด้วย แต่ที่นี่มันตอบรับกูมาเร็วกว่า แถมบีบให้กูตัดสินใจอีกว่าจะทำมั้ย ตอบรับมาภายในสิ้นเดือนนี้นะ กูเลยว่ามันกระชั้นชิดไป แถมแม่งหมกเม็ดไม่ยอมบอกกูตอนสัมด้วยว่าทำงานวันเสาร์ มาบอกตอนโทรมาแจ้งว่าสัมภาษณ์ผ่านแล้ว ให้ไปตรวจร่างกายบลาๆ แล้วก็แจ้งเวลาทำงานจ-ส วันอาทิตย์อาจจะไม่ได้หยุดบ้างเพราะต้องสลับกันมาดูงานที่ออฟฟิศ กูอยากปฏิเสธนะ แต่แม่งยังไม่มีที่ไหนตอบรับมากูเลยสองจิตสองใจนี่ล่ะ
วันนี้wfhนอนอยู่บ้านดีๆมีประกันโทรมาว่ะ มันเป็นประกันที่มาจากบัตรเครดิตอะกูเพิ่งสมัครไป
เหมือนแรกจะมันจะถามเกี่ยวกับพวกบัตรแต่ไปๆมาๆดันให้สมัครประกันซะงั้น แต่กูดันอึนๆตอบตกลงไป
พอจะโทรกลับแม่งไม่รับสายเลยว่ะ จะยกเลิกยังไงวะ
ขอบคุณมากที่มาตอบ กูโทรไปปฏิเสธแล้วล่ะ ถึงจะเสียดายที่ไม่ได้งานแต่กูเอาความสบายใจไว้ก่อน ถ้ามันหยุดส-อ กูก็ยังพอถัวๆไปได้นะ แต่นี่เล่นได้เงินน้อยกว่าเดิมแล้วยังทำงานวันเสาร์อีก แถมไกลบ้านกูด้วยอะ ถ้านั่งรถเมล์ก็ 2 ชั่วโมง+เพราะแถวนั้นไม่มีรถไฟฟ้าผ่าน ไปกลับใช้เวลา 4 ชั่วโมง คิดทางไหนก็ไม่คุ้มเลยไม่เอาดีกว่า
กูเพิ่งโดนเลย์ออฟมา สิ่งที่ควรทำขั้นต่อมาคือการสมัครงานแต่อยู่ดี ๆ ก็เสือกกลัวการสมัครงานขึ้นมาซะอย่างนั้น กลัวแบบไม่กล้ากดสมัครอ่ะ ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่ว่ากดไปแล้วเค้าจะโทรมาเรียกไปสัมซะที่ไหน กดสมัครไปแล้วก็ร้องไห้ไม่กล้าไปสัม รู้สึกจิตตกมาก ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลย ไม่รู้ว่ากลัวอะไรกับการสมัครงาน
>>992 มึงโดนทำลาย self esteem มา กูก็เคยเป็นตอนโดนเลย์ออฟ ในหัวกูมีแต่คำถามว่ากูไม่ดีตรงไหนถึงไม่ถูกเลือกให้ทำงานต่อ กูมันห่วยใช่มั้ยเขาถึงไม่เอากูไว้ เคยเจอ hr ถามทำนองว่าทำไมกูถึงออกจากที่เก่า กูบอกว่ากูโดนเลย์ออฟแม่งถามต่ออีกว่างั้นคุณก็ทำงานไม่ดีสิ เขาถึงไม่เอาคุณ กูเลยกลัวการสัมภาษณ์งานไปพักใหญ่ๆเลย เป็นถึงขนาดไม่กล้ากดไปสมัครที่ไหนเพราะคิดว่าตัวเองไม่ดีพอที่จะทำงาน ให้โปรไฟล์ห่วยๆของกูไปผ่านตา hr นี่แม่งทำให้เขาเสียเวลาซะเปล่าๆ จิตตกไปเป็นเดือน กูเคยมาบ่นลงโม่งด้วยเรื่องนี้ 5555555 แต่พอคิดว่าตัวเองยังตายไม่ได้ ยังต้องหาเงินกินข้าว ผ่อนคอนโด กูยังไม่ได้ไปที่ที่อยากไปเลยก็มีแรงฮึดขึ้นมาเอง ตอนนี้ก็ได้งานทำแล้วนะ
สู้ๆมึง ไปชาร์ตแบตพักผ่อนสมองแล้วกลับมาลุยต่อ ตอนนี้ก็กดสมัครไปก่อนเถอะ ให้เขาเรียกไปสัมพบเจอผู้คนบ้าง อย่าอยู่คนเดียวหรือไม่ก็หางานอดิเรกทำจะได้ไม่ฟุ้งซ่าน ไปอัพเกรดสกิลการทำงานหรือหาคอร์สเรียนเสริมออนไลน์ก็ได้ เผื่อมึงจะพบทางที่ถนัดแล้วไม่ต้องไปสมัครงานอีก เป็นกำลังใจให้มึงกลับมาเข้มแข็งไวๆ แล้วก็ท่องเอาไว้ว่าเรามีดีเว้ย
>>991 หมายถึงรูดผ่อนของสินะ
>>992 พักหน่อยมั้ย อาการหนักอยู่นะ ร้องไห้ไม่กล้าไปสัมภาษณ์เนี่ย... ถ้าโดนเลย์ออฟช่วงปกติก็ไม่แปลกนะที่จะถูกมองว่าเป็นคนไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควรเลยโดนเขี่ยทิ้ง แต่โดนเลย์ออฟช่วงโควิดนี่ถือว่าปกติมากๆ น่าจะมีแต่คนเห็นใจมากกว่า ไปพักให้เต็มที่แล้วกลับมาหางานใหม่ ถ้าบ้านมึงไม่ได้รวยล้นฟ้า ยังไงมึงก็ต้องหางาน มึงหนีไม่ได้หรอก เพราะงั้นมึงก็ต้องสู้ เว้นแต่บ้านมึงรวยมากนอนกระดิกตีนเฉยๆ ทั้งชีวิตก็อยู่ได้ อันนี้ก็แล้วแต่ แต่ถึงยังไงต่อให้รวยกูก็เชียร์ให้ทำงาน ขืนอยู่เฉยๆ มึงจะยิ่งดิ่งไปเรื่อยๆ
>>992 กอดนะมึง ตั้งหลักจนกว่าสบายใจค่อยเริ่มใหม่ กูก็รู้สึกแบบมึงนะ เพราะไปสัมมา แล้วทำได้ไม่ดี รู้สึกหน้าชากับบางคำถามด้วย พอสัมเสร็จ กูสงสัยว่าหรือกูไม่ดีพอจริงๆวะ ดาวน์ไป 2-3 วันแต่พอที่ใหม่เรียกสัม ก็ฮีลขึ้นมานิดหนึ่ง รอบนี้จะพยายามทำให้ดี มาสู้ไปพร้อมกันนะ
ถ้ามีครูที่ประสาทแดกมากๆ มาจุ่นจ่านกับมึงบ่อยๆ มึงจะหนียังไงอ่ะ น่ารำคาญมาก
>>957 กูว่ายากนะที่สาย it จะล้นตลาด แถมตอนนี้น่าจะขาดตลาดอยู่พอสมควรด้วย ขอยกตัวอย่างใกล้ตัวสุดก็กูเอง เมื่อปีที่แล้วช่วงเดือน9-10 ด้วยความที่บ.ที่กูทำอยู่มันปิดตัว กูเลยมีเวลาว่างไปไล่เดินสายสมัคร-สัมภาษณ์ดู รวมๆเกือบ10ที่ โดยทุกที่กูเรียกเงินเดือนเท่ากัน ซึ่งสูงกว่า skill ที่กูมี แต่กลายเป็นว่าแม่งรับทุกที่เลย บางที่ตอนสัมกูตอบเรื่อง technical หลายๆอย่างไม่ได้ด้วยซ้ำ แถมมีแค่2ที่ที่ต่อเรื่องเงินเดือน นอกนั้นให้ตามที่ขอเลย
กู >>992 นะ ขอบคุณพวกมึงมาก ๆ เลยนะ >>993 >>994 >>995 กูก็โดนเลย์ออฟเพราะโควิดจริง ๆ นั่นแหล่ะ TT คนโดนให้ออกกันเป็นร้อย แต่ถึงอย่างนั้น self-esteem กูก็เหลวแหลกอยู่ดี วันก่อนมี hr โทรมาถามว่าทำไมออกจากที่เก่า หน้าชาเลยอ่ะ ปากได้แต่ตอบไปเบา ๆ ว่าโดนเลย์ออฟ รู้สึกเหมือนมึงเลยว่าเรานี่ไม่ดีพอที่จะทำงานป่าววะ ไปทำงานแล้วจะผ่านโปรไหม สารพัดความคิดด้านลบ คิดว่าจะให้เวลาตัวเองเยียวยาจิตใจสักหน่อยแล้วค่อยเริ่มสมัคร ขอบคุณพวกมึงทุกคนมากนะ สู้ไปด้วยกันนะ
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.