Fanboi Channel

[รวมมิตรโม่เซียง] เม้าท์เรื่อง ปรมาจารย์, ตัวร้าย​อย่างข้า, เทียน​กวาน​ ฯลฯ​ เล่มที่​ 12 [นิยาย อนิเม ดราม่า ละคร สปอย]

Last posted

Total of 1000 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:asHNnV9AsO

กระทู้ 1​ >>>/801/5933/
กระทู้ 2 >>>/801/6012/
กระทู้ 3 >>>/801/6083/
กระทู้ 4 >>>/801/6178/
กระทู้ 5 >>>/801/6235/
กระทู้ 6 >>>/801/6331/
กระทู้ 7 >>>/801/6492/
กระทู้ 8 >>>/801/6709/
กระทู้ 9 >>>/801/7090/
กระทู้ 10 >>>/801/7386/
กระทู้ 11 >>>/801/7776/

2 Nameless Fanboi Posted ID:Ubkmk8g3+C

สาระน่ารู้ ข้อห้าม และข้อควรระวัง
(มีคนอื่นสรุปทุกอย่างไว้ที่นี่เป็นข้อ ๆ สรุปดีและชัดเจน ครอบคลุมทุกประเด็นดราม่าด้วย พิมพ์ในนี้เองเสร็จหมดแล้วเพิ่งเห็น
https://twitter.com/Sinnerdarker/status/1056487008174915595ดีงาม เก็บไว้ดูได้ สั้นดีด้วย )
---------------------------------------------
1. แม่โม่ห้ามทำของขายเชิงพาณิชย์ ห้ามเรี่ยไรเงิน/ระดมทุนด้วยการอ้างชื่อ/นิยาย/ตัวละคร
---------------------------------------------
สรุปภาษาไทยเรื่องทางอฟช. ของปรมาจารย์ลัทธิมาร "ไม่อนุญาต" ให้ทำงาน Fan Made ขาย
https://twitter.com/Sinnerdarker/status/1052084168375422980
*ข้อมูลเพิ่มเติม*
มีคนสรุปเป็นภาษาอังกฤษเรื่องแม่โม่ไม่อนุญาตให้ทำสินค้าปรมจ. ขาย
https://twitter.com/rossogattino/status/1049632239913295873
แปลแบบสรุป ๆ คือคุณโม่เซียงถงซิ่วแจ้งว่าห้ามขายของแฟนเมด ห้ามเอาชื่อเรื่อง ชื่อตัวละคร หรือตัวละครไปใช้ในเชิงพาณิชย์หรือหาเงิน และแฟน ๆ ที่รู้เรื่องกฎนี้ก็ควรแบน ไม่ไปอุดหนุนของพวกนั้นด้วย
ส่วนสาเหตุที่ห้าม ก็คือเรื่อง ปรมจ. (MDZS) นี่มันติดสัญญาลิขสิทธิ์อยู่กับ Jinjiang และทางนั้นก็เป็นผู้ถือสิทธ์โดยเด็ดขาดเกี่ยวกับสินค้าทุกอย่างที่มาจากเรื่องนี้
ส่วนอันนี้เป็นข้อความจากแม่โม่ มีคนเอามาแปลอังกฤษ
https://twitter.com/YSFYC_CRT/status/1052545036045283329
ลิ้งก์นี้มีรูปต้นฉบับ เป็นข้อความของแม่โม่จากใน Weibo แล้วก็มีแปลภาษาอังกฤษให้ ถ้าแปลเป็นไทยคร่าว ๆ ก็ประมาณนี้
1. เกี่ยวกะเรื่องเข้าร่วมโหวตอันดับอะไรสักอย่าง ขอข้ามละกัน มึน
2. ห้ามรวมตัวเรี่ยไรเงินหรือระดมทุน หรือระดมเงินบริจาคใด ๆ โดยอ้างชื่อแม่โม่หรือผลงานของแม่โม่ หรือตัวละครของแม่โม่ ห้ามชักชวนรวมกลุ่มกันไปจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อเฉลิมฉลอง หรือซื้อสินค้า หรือไปโหวตอันดับ หรือหาเงินการกุศล หรือกิจกรรมใด ๆ โดยใช้ชื่อหรือตัวละครที่เกี่ยวกับแม่โม่หรือนิยายของแม่โม่
3. ห้ามตั้งโฮมเพจใหม่ใด ๆ โดยใช้ชื่อเกี่ยวข้องเกี่ยวพันกับงานนิยายของแม่โม่ ห้ามอ้างชื่อไปจัดตั้งกลุ่มเรียกผู้อ่านเพื่อไปฉลอง ซื้อของ โหวตอันดับ จัดงานการกุศล หรือกิจกรรมอื่น ๆ (เช่น ห้ามจัดงานใหญ่ที่เปลืองเงินหรือใช้เงิน สมตติ งานวันเกิดตัวละคร (จัดได้ แต่ห้ามใหญ่โตและห้ามเปลืองเงิน - เค้าคงกลัวคนฉวยโอกาสหากำไรจากติ่งนิยายสายเปย์พร่ำเพรื่อ และถ้าเป็นไปได้อยากให้วาดรูปหรือเขียนอะไรเพื่อฉลองดีกว่า อย่าไปเปย์เลย))
ท้ายข้อความมีแปลบอกแม่โม่บ่นแบบน้อยใจด้วย ว่าห้ามจนปากเปียกปากแฉะจนเบื่อจะพูดแล้ว ถ้าคนจะหัดฟังบ้างก็คงดี ถถถ คับแค้นเหลือคณา
อันนี้ละเมิดไม่ได้ เพราะเป็นกฎหมายว่าด้วยเรื่องลิขสิทธิ์และทรัพย์สินทางปัญญา
อ้อ ไหน ๆ พูดถึงลิขสิทธิ์แล้ว แถมอีกเรื่อง คือเรื่องการแต่ง cosplay เนื่องจากบริษัทที่ถือลิขสิทธิ์นั้นออกชุด "เลียนแบบตัวละคร" มาเป็นสินค้าอฟช. ดังนั้นจึงห้ามคอสเพลย์โดยตัดชุดเองหรือสั่งจากร้านอื่น เพราะถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์ ใครอยากแต่งตัวตามแบบตัวละครก็สั่งจากอฟช. จากร้าน Uwowo เถอะจ้ะ
อันนี้มีแฟน (มั้ง) ประกาศเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าเขาแปลมาถูกต้องแม่นยำแค่ไหน แต่ก็คงพอจะใช้อ่านไว้เป็นแนวทางได้
https://twitter.com/aubrey8810/status/1035823028444098560
คนแปลจีนเป็นอังกฤษอีกคนหนึ่งสรุปให้ว่า แต่งได้ (โดยใช้ชุดจากอฟช.) ถ่ายรูปไปเผยแพร่ได้ แค่อย่าใช้คำว่าคอสเพลย์ ให้เรียกว่าแต่งตัวเลียนแบบตัวละครxxx อะไรก็ว่าไป (บางคนอาจงงหรือเห็นว่ามันประหลาด แต่ก็เป็นกฎจากผู้ถือลิขสิทธิ์อะนะ ยอม ๆ เขาไปเถอะ)
https://twitter.com/ManhuaAssistant/status/1036148201651204101
อ้างอิงข้อมูลและความคิดเห็นจากในโม่งที่มีการพูดคุยเรื่อง "คอสเพลย์"
>>>/801/6178/860/
>>>/801/6178/868/
>>>/801/6178/869/
>>>/801/6178/873/
>>>/801/6178/878/

3 Nameless Fanboi Posted ID:Ubkmk8g3+C

---------------------------------------------
2. ไม่ควรโรลเพลย์สาธารณะหรือทำบอทตัวละคร
---------------------------------------------
อันนี้จากที่เคยคุย ๆ กันว่าแม่โม่ห้ามบอท วันนี้เพิ่งเห็นทวิตคนอื่น (อันเดิมที่คุยต่อจากคนที่เขียนสรุปข้อห้ามไว้นั่นแหละ) เขาไปทราบมาว่า ที่บอก ๆ กันว่าห้ามบอทนี่ที่จริงเป็นการที่ด้อมฝั่งฝรั่งเขาตีความกันเองจากที่แม่โม่บอกว่าไม่ให้ OOC เพราะการโรลเพลย์หรือทำบอทมันมักจะ OOC
ก็ไม่รู้จริงเท็จอย่างไร แต่ฝากไว้ให้พิจารณาด้วยก็แล้วกัน
ถ้าใครอ่านจีนคล่องแล้วหาต้นฉบับที่บอกว่าห้ามทำบอทเจอจริง ๆ ก็ช่วยแปะให้ดูที
อ้างอิงเรื่องแม่โม่ห้ามบอท และเหตุที่ห้าม (เพราะมันจะ OOC)
>>>/801/6012/962/
>>>/801/6012/963/
>>>/801/6083/172/
อ้างอิงเรื่องบอทคืออะไร เผื่อใครยังไม่เก็ต
>>>/801/6012/972/
>>>/801/6012/973/
>>>/801/6083/173/
---------------------------------------------
3. เขียนฟิกชั่น โดจิน แฟนอาร์ตได้ แต่ห้ามแหก(แยก)คู่หลักของแต่ละเรื่อง ห้ามสลับตำแหน่งเมะ-เคะ
---------------------------------------------
ข้อมูลอ้างอิง ภาษาจีน มีคนแปลรวบย่อเป็นอังกฤษ
https://twitter.com/_momokame/status/1046859622982799361
ข้อมูลอ้างอิงเหมือนอันบน แต่เป็นภาษาจีนเอามาแปลไทยแบบละเอียด
https://twitter.com/fay_13666/status/1056077697984557056
สำหรับอันนี้เนื่องจากเรื่องจิตใจจะชอบใครจะชิปคู่ไหนมันห้ามกันไม่ได้ และโม่งก็ไม่ประสงค์จะทำตัวเป็นตำรวจด้อม ไม่มีสิทธิ์บังคับหรือสั่งใครได้ จึงได้เพียงขอความร่วมมือ ได้โปรดอย่าแหกคู่หรือสลับโพ
เพราะถ้าใครรักและเคารพเจ้าของผลงาน ก็จะให้เกียรติคำขอของเขา ไม่ทำไอ้ที่เขาห้าม
*ข้อสำคัญ* แฟนฟิกชั่น แฟนอาร์ต โดจิน ฯลฯ ต้องไม่นำไปใช้ในเชิงพาณิชย์
แม่โม่ไม่ได้ห้ามต่อยอด ไม่ได้ห้ามจิ้น ไม่ได้ห้ามกาว ไม่ได้ห้ามมโน ใครใคร่จิ้นจิ้น ใครใคร่เขียนเขียน จะเขียนจะวาดอะไรก็ทำได้ตามใจชอบ อยากกาวคู่ไหนก็ตามสบาย แม่โม่ไม่สน ตราบที่ไม่ได้ใช้หาเงินและไม่แหกหรือสลับโพคู่หลัก

4 Nameless Fanboi Posted ID:Ubkmk8g3+C

---------------------------------------------
4. การใช้ hashtag (#) ใน twitter และการ mute
---------------------------------------------
หากสายผลิตจะกรุณาเมตตา เวลาเขียนฟิกชั่นมาลง โปรดช่วยติดแท็ก #ฟิคปรมจ ด้วย
(ส่วนแฟนอาร์ตเชิญตามสะดวก ใช้แท็กหลักต่อก็ได้ เพราะนักวาดที่เป็นแฟนตปท.ก็ลงอาร์ตในแท็กหลักของเขาเหมือนกัน แต่คนตั้งแท็กไทยอันนี้เขาก็เชื้อเชิญให้ไปใช้ของเขาด้วยถ้าใครอยากใช้และเห็นว่าใช้แล้วสะดวก)
ส่วนจะติดแท็กหลักหรือไม่ติดแท็กหลัก ก็เชิญพิจารณาเอาเองตามความเหมาะสมและอัธยาศัย
เคยเห็นบางท่านกล่าวว่าจะติดแท็กหลักเฉพาะตอนแรกของฟิกชั่น เพื่อให้ฟิกชั่นเข้าไปอยู่ในสารบบการเซิร์ชแท็กหลักก่อน คนอื่นจะได้มีโอกาสหาเจอง่าย แล้วหลังจากนั้นค่อยเลิกใช้แท็กหลัก ใส่แต่แท็ก#ฟิคปรมจอย่างเดียว หรือให้ผู้อ่านคอยติดตามด้วยแท็กของชื่อฟิกชั่นเอาเอง เอออันนี้ก็ไอเดียดี น่าสนใจ แลดูสะดวกและดีกับทั้งสองฝ่าย ยังไงก็ขอฝากไว้ให้พิจารณาเป็นอีกทางเลือกหนึ่งแล้วกัน
*สำหรับการติดแท็กแฟนฟิก ไม่ว่าจะติดเดี่ยว หรือติดเพิ่มเข้าไปควบคู่กับแท็กหลัก จะมีผลดีคือ*
1. คนที่อยากอ่านแต่แฟนฟิกชั่นสามารถใช้คำนี้หาเฉพาะฟิกได้เลย ง่ายดี
2. คนที่อยากคุ้ยแท็กหลักแบบไม่อยากได้ผลลัพธ์จาก #ฟิคปรมจ ก็จะสามารถใช้ระบบ mute ช่วยตนเองกรองฟิกชั่นทิ้งไปตั้งแต่ต้นได้ ทำให้เวลาเซิร์ชแล้วจะได้มองไม่เห็น #ฟิคปรมจ ทั้งหมด
เผื่อมีฟิกชั่นใดปนอยู่ในแท็กหลัก ผลการค้นหาที่ถูกกรองแล้วนี้ก็จะช่วยลดปริมาณผลลัพธ์ที่แสดงขึ้นมา ช่วยย่นระยะเวลาในการไถหน้าจอหรือขุดหาข้อมูลที่ต้องการได้เร็วขึ้น ง่ายขึ้น สบายขึ้น
+ การติดแท็กระบุคู่ ก็จะสามารถช่วยให้ผู้ไม่ประสงค์จะเห็นบางคู่ที่เฉพาะเจาะจง สามารถ mute แท็กของคู่นั้น ๆ ได้ด้วยเช่นกัน
วิธีตั้งค่าใน twitter ให้ mute บางคำ (mute = ทำให้เป็นใบ้ - หมายถึงกรองคีย์เวิร์ดคำนั้น ๆ ทิ้ง ทำให้ไม่เห็นโพสต์ใด ๆ ที่มีคำนี้หรือแฮชแท็กนี้)
https://help.twitter.com/en/using-twitter/advanced-twitter-mute-options
เลื่อนลงไปดูตรงกรอบสีฟ้า ๆ ที่เขียนว่า "How to mute words and hashtags" จะมีวิธีอย่างละเอียดสอนอยู่
สั้น ๆ คือเข้าไปที่ Settings and privacy เลือก Muted words แล้วกด add
***แนะนำให้สั่ง mute แบบมี hashtag ระบุตรง ๆ ไปเลย*** เพราะไม่งั้นระบบมันจะดูเนื้อหาของทวีตด้วย แล้วกรองทิ้งหมดเลย
เช่น สมมติถ้าไปสั่ง mute "ฟิคปรมจ" เวลารีทวีตคุยกับใครแล้วเขาพิมพ์มาในคำตอบว่า "เออว่าแต่เรื่องฟิคปรมจน่ะตกลงมันดราม่าได้ไง" อิระบบ mute ก็จะทำให้คำตอบนั้นเป็นใบ้ไปเลย คุณก็จะมองไม่เห็นข้อความนั้น
แต่ถ้าสั่ง mute เจาะจงไปเลยว่า "#ฟิคปรมจ" ระบบจะกรองทิ้งเฉพาะทวีตที่ติดแท็ก #ฟิคปรมจ เท่านั้น
หรือถ้ารำคาญ user ไหนในทุกทวีต อยากหลบสปอยล์ อยากหลีกเลี่ยงบางคน แม้ไม่ได้ฟอลโล่ว์แต่ก็เห็นเพราะคนอื่นรีมา แล้วไม่อยากเห็นอีกต่อไป ก็ใช้ mute account ได้เช่นกัน
https://help.twitter.com/en/using-twitter/twitter-mute

5 Nameless Fanboi Posted ID:St0ZKlt8M3

สปอยเทียนกวาน อาร์ค 2 ต่อจาก >>>/801/7776/975 เทียนกวาน Part.55
.
.
.
.
.
เมื่อเซี่ยเหลียนเห็นปริมาณเลือดที่ไหลจากตัวเด็กชายเขาก็ตัดสินใจตะโกนบอกชาวบ้านว่าความเสียหายทั้งหมดเขาจะเป็นคนรับผิดชอบเอง ก่อนบอกให้เฟิงซิ่นกับมู่ฉิงจับฉีหรงไว้แล้วตามเขามา เขารีบอุ้มเด็กชายวิ่งไปหาหมอหลวง แต่เด็กชายกลับไม่ยอมเอามือออกจากใบหน้าข้างขวา เซี่ยเหลียนพยายามทำให้อีกฝ่ายสบายใจโดยการถามชื่อ เด็กชายพึมพำออกมาว่าหง (แดง) เมื่อถามอายุก็บอกว่า 10 ขวบ แต่พอเซี่ยเหลียนบอกให้เอามือออกจากหน้าให้หมอดูก็ได้รับการปฏิเสธ เด็กชายอ้างว่ามันน่าเกลียด เขาจึงบอกว่าจะหันหลังให้ระหว่างที่อีกฝ่ายตรวจ เด็กชายเลยยอมให้หมอดูอาการ และหมอหลวงก็อดเอ่ยด้วยความทึ่งไม่ได้ว่าอาการบาดเจ็บของเด็กชายหนักมาก แต่อีกฝ่ายกลับยังมีสติ ยังพูดคุยได้อย่างปรกติ

ตอนที่หมอหลวงทำแผลให้เด็กชายเรียบร้อย ราชากับราชินีที่นึกว่าลูกชายได้รับบาดเจ็บก็เข้ามาพอดี เช่นเดียวกับฉีหรงที่ร้องเรียกให้ป้าช่วยเหลือ เซี่ยเหลียนเล่าเรื่องที่ลูกพี่ลูกน้องทำลงไปให้พ่อแม่ฟัง ราชาโกรธมาก เขาสั่งยึดรถม้าและกักบริเวณฉีหรง 1 เดือน ฉีหรงโวยวาย แต่แล้วเขากลับยอมรับโทษง่ายๆ ก่อนเอ่ยให้ลงโทษเฟิงซิ่นที่ทำแขนของเขาหักด้วย เมื่อถูกราชาต่อว่า แม้เซี่ยเหลียนจะห้ามเฟิงซิ่นก็รีบคุกเข่า ท่าทางต่อต้านไม่เชื่อฟังของลูกชายทำให้ราชาไม่พอใจ บอกว่าหากเขาจะสั่งโบยเฟิงซิ่น 100 ครั้งก็ไม่ได้เป็นเรื่องไม่เหมาะสม ฉีหรงรีบเอ่ยเสริมว่าถ้าเฟิงซิ่นหักแขนตัวเอง เขาจะยอมไม่เอาเรื่อง เซี่ยเหลียนไม่พอใจมาก บอกว่าหากจะลงโทษเฟิงซิ่นต้องลงโทษเขาก่อน เพราะเขาเป็นคนสั่งให้เฟิงซิ่นทำเช่นนั้น เขาจะรับโทษของเฟิงซิ่นไว้เอง

ราชายิ่งโกรธลูกชาย เมื่อตอนยังเล็กเซี่ยเหลียนมองพ่อเป็นไอดอลจึงเชื่อฟังทุกอย่าง แต่ยิ่งโตขึ้น เขาก็ยิ่งมีคำถามเกี่ยวกับการการกระทำของผู้เป็นบิดา บางครั้งก็ถึงขั้นรังเกียจ และเหตุผลหลักที่เขาไปบำเพ็ญที่เขาไท่ชางก็เป็นเพราะรู้สึกว่าตนเข้ากับราชาไม่ได้ ทั้งคู่ไม่ยอมคุยกันนัก ทำให้ราชินีต้องคอยเป็นสื่อกลางให้ แล้วพ่อลูกก็เริ่มทะเลาะกันจนราชินีกังวล เมื่อเห็นดังนั้นเฟิงซิ่นเลยหักแขนตัวเอง ทั้งยังคุกเข่าโขกหัวให้ฉีหรงเพื่อจบปัญหา ขณะที่มู่ฉิงยืนนิ่งหน้าเครียด เซี่ยเหลียนก็หันไปหาพ่อ ตะโกนด้วยความโกรธ เฟิงซิ่นกับราชินีจึงมาช่วยกันจับแขนเขาไว้ เมื่อราชาไปแล้ว ราชินีก็เอ่ยขอโทษเฟิงซิ่น เซี่ยเหลียนต่อว่าแม่ว่าถ้าจัดการฉีหรงไม่ได้ก็ให้ขังอีกฝ่ายไว้ ราชินีถอนหายใจ พยักหน้าก่อนจะส่ายหน้าแล้วเดินจากไป

เฟิงซิ่นเตือนเซี่ยเหลียนว่าคนรุ่นก่อนมีวิธีคิดไม่เหมือนพวกตน และบอกว่าราชินีก็ลำบากใจเช่นกัน เซี่ยเหลียนเองก็พอเข้าใจความรู้สึกของแม่ ราชินีกับน้องสาวสนิทกันมาก แม่ของฉีหรงเป็นคนเชื่อมั่นในรักแท้ ไม่ยอมฟังคำของผู้ใหญ่ สุดท้ายก็หนีตามกันไปกับคนรักซึ่งเป็นองครักษ์ ทว่าหลังจากครึ่งปีผ่านไปฝ่ายชายก็เริ่มเผยธาตุแท้ออกมา เขาเป็นคนขี้เหล้าชอบทำร้ายผู้อื่น ในที่สุดฝ่ายหญิงก็ทนไม่ไหวตัดสินใจอุ้มลูกชายวัย 5 ขวบกลับบ้านของตน แต่การที่เธอทำเรื่องเสื่อมเสียให้กับราชวงศ์ทำให้แม่ของฉีหรงได้แต่อยู่ในห้องไม่กล้าออกไปพบหน้าผู้ใด ใช้ชีวิตที่เหลืออย่างหดหู่ซึมเศร้า มีเพียงความรักให้ลูกชาย ทว่าในช่วงที่เกิดความโกลาหลในราชวัง แม่ของฉีหรงได้สละชีพช่วยเหลือพี่สาว ราชินีจึงเลี้ยงดูฉีหรงนับแต่นั้น ด้วยความที่มีบิดาเช่นนั้นทำให้ฉีหรงติดนิสัยไม่ดีมา แต่อย่างไรฉีหรงก็ไม่ใช่ลูกชายของตัวเอง หากเข้มงวดเกินไปจะถูกหาว่ารังแกหลานซึ่งกำพร้าไร้ทั้งพ่อและแม่ สุดท้ายก็เลยทำให้ฉีหรงกลายเป็นเด็กเปรตลูกเทพอย่างในปัจจุบัน

เซี่ยเหลียนนึกได้ว่าลืมเด็กชายที่ช่วยเหลือมา เขาหันมาปลอบอีกฝ่ายที่ทำให้ต้องเห็นภาพคนทะเลาะกัน แล้วถามถึงบ้านของเด็กชาย แต่เด็กชายกลับบอกว่าตนไม่มีบ้าน เมื่อคิดว่าอีกฝ่ายอาจเป็นเด็กเร่ร่อน เขาก็ตั้งใจจะพาเด็กชายกลับเขาไท่ชางด้วย แต่ตอนนั้นเองมู่ฉิงที่เงียบมานานก็พูดขึ้นมาว่าเด็กชายโกหก เพราะเด็กเร่ร่อนในเมืองหลวงมักรวมกลุ่มกันเป็นแก็งค์ อีกทั้งเขาก็รู้จักเด็กพวกนั้นทุกคน หากแต่ไม่เคยเห็นหน้าเด็กชายตรงหน้ามาก่อน
.
.
.
.
.

6 Nameless Fanboi Posted ID:BqztxDqJBO

>>5 ขอบคุณ​เช่นเคยนะโม่สปอย ดีใจฟาฟามีบทเยอะกว่าที่คิด คิดว่าช่วยจากกำแพงแล้วหายไปเลย ตาขวาบอดตั้งแต่ตอนนี้สินะ

7 Nameless Fanboi Posted ID:+qIwgbslcD

>>5 ขอบใจโม่งสปอย ฟาฟานี่น่าจะเป็นลูกท่านหลานเธอหรือไม่ก็พวกพวกขุนนางกบฏโดนใส่ร้าย เอาว่ะ ยิ่งอ่านยิ่งซับซ้อน ทุกตัวละครมีเหตุผลของการกระทำ ตัดสินไม่ได้ว่ะว่าใครผิดถูก

>>6 เหมือนจะไม่ได้บอกไว้นะว่าสาเหตุที่ฟาฟาตาบอดมาจากเหตุการณ์นี้อ่ะ กูเคยถามโม่งสปอยอยู่

8 Nameless Fanboi Posted ID:4Qdocf/MBe

>>6 ฮวาเฉิงไม่ได้ตาบอดตอนที่ยังเป็นคน

9 Nameless Fanboi Posted ID:mgvYJmRAin

ขอบคุณโม่งสปอยจ้า มาไวอีกแล้ว

10 Nameless Fanboi Posted ID:In8CCyDIf+

>>7 >>8 อ้าวเหรอ เห็นพยายามปิดหน้าด้านขวา คิดว่ามันคือสาเหตุ​ที่ต้องมีผ้าปิดตาตอนโต
โอเช รอดูต่อปาย

11 Nameless Fanboi Posted ID:mgvYJmRAin

จากทู้ที่แล้ว สายสะสมกลายเป็นเหมือนทวิตตั้งแต่เมื่อไหร่ ออกความเห็นส่วนทางโม่งก็โดนอีก ยังไม่ได้บอกสักคำว่าซื้อเวียต กุซื้อเล่มเกา แล้วเค้าทำดีจริงๆ เทียบกับราคา จบ มาพูดแค่นี้ ใครจะคิดยังไงก็ช่าง กุน้อยใจของไทยจบ

12 Nameless Fanboi Posted ID:O8hr281klb

>>5 Thanks นะโม่งสปอย กูรออ่านสปอยทุกเช้าเลยเนี่ย

13 Nameless Fanboi Posted ID:ReRcVZeTNI

>>11 มึงพูดยกเวียตมาเองนี่หว่า
ปาดนะมึง

14 Nameless Fanboi Posted ID:ReRcVZeTNI

>>13 *ปสด

15 Nameless Fanboi Posted ID:Hfu8i21Rrq

>>11 มึงต้องเยียวยาใจตัวเองอะ คนส่วนมากไม่สะสมนี่หว่า ไม่ได้ดั่งใจก็ต้องฮีลตัวเองต่อไป กูยังต้องฮีลตัวเองเรื่องซบ.ได้เทียนกวานเลย (ห่าาา)(ไม่ได้ด่ามึงนะ กูสบถ)

16 Nameless Fanboi Posted ID:u/Gyvn.Kii

>>11 มึงพูดเวียดเกา กูเลยค้านเวียดให้ไง ถ้าไม่อยากรับผิดชอบคำพูดตัวเองก็อย่ามโนเองสิ มึงงงงง นี่บอร์ดสำหรับพูดคุยไม่ใช่สเตตัสลอยๆในทวิตน้า มึงต้องการอะไรจากการคุยในบอร์ดอ่ะ ต้องการให้คนพยักหน้าเห็นด้วยๆช่วยกันกดบกรที่ไม่แจกของแถมเหรอ และอีกอย่างถึงมึงพูดลอยๆก็เป็นการเผยแพร่ความเชื่อผิดๆมั้ยว่าของเวียดดีควรเอาเป็นแบบอย่าง มีคนมาให้ข้อมูลว่ามันไม่ได้ดี คนอื่นจะไม่เข้าใจผิดก็ถูกแล้วนี่ กูก็ออกความเห็นเหมือนกันว่าจะให้ลดคุณภาพหนังสือไปทำของแถมไม่เอา สนพไหนอย่าคิดทำเชียว กูจะด่าาา

และกูก็ไม่ได้พูดผิดจากความจริงเลย มึงไม่ได้ซื้อเวียดจริงๆ เหอๆ กูสะสมแต่ไม่ต้องการของแถมจากเล่มเท่าไหร่เพราะแต่ละคนมีรสนิยมต่างกันและปรมาจารย์ก็มีหลายอาร์ทหลายสินค้าให้เลือกตามใจ ดังนั้นไม่เห็นจำเป็นต้องบังคับให้ทุกคนซื้อของที่ไม่อยากซื้อเลย

17 Nameless Fanboi Posted ID:fSQh5nVkR.

>>16 +1 จริง กูไม่ได้ต้องการของแถม กูเน้นเล่ม ถ้าเอาของแถมออกแล้วลดราคา กูไม่เอาของแถมก็ได้

18 Nameless Fanboi Posted ID:hLmtweLrgG

>>16 กูเห็นด้วย กูซื้อนิยายกูต้องการอ่านเนื้อหาไม่ใช่ของแถม ขอแค่แปลดี ไม่มีคำผิดเยอะ สันกาวหนังสือมาให้ดีๆ หน่อยแค่นั้นก็พอแล้ว ถ้าสนพ.ต้องการเอาใจพวกสายสะสมด้วยก็ทำชุดสะสมแยกไปก็ได้

แล้วพวกที่ออกมาบ่นนั่น นี่ โน่น คือกูอยากให้พวกมึงใจเย็นก่อน หนังสือเพิ่งออกมาแค่สองเล่มเอง ยังไม่ทันครบเลย มึงรู้ได้ไงจะไม่มีของแถมมาให้มึงสะสม เค้าอาจจะมาทีเดียวพร้อมเล่มสุดท้ายก็ได้ รีบบ่นอะไรขนาดนั้นวะ

19 Nameless Fanboi Posted ID:jTZBlP7eMa

>>16 เออ คือมันน่าจะทำแยกไปตั้งนานละ ของแถมรกบ้านชิบหาย ไม่ได้ต้องการ กูซื้อเพื่อเสพนิยายเท่านั้น

20 Nameless Fanboi Posted ID:gWRTlXXVxM

พวกอ้างตัวว่าเป็นสายสะสม อยากมีพิเศษมาพร้อมกับหนังสือ ถ้าเป็นตัวร้ายกับเทียนกวานกูพอเข้าใจนะเพราะไม่มีกู้ดส์ให้ซื้อแยกเลยฝากความหวังกับของแถมหนังสือ แต่ปรมจของขายเยอะมาก ระหว่างซื้อของจากบริษัทผลิตสินค้าขายเป็นงานหลักรู้โรงงานมีคุณภาพ กับสนพที่หน้าที่หลักพิมพ์หนังสือ คิดว่าไรน่าสะสมกว่ากัน

กูงงอีกอย่างตรงชมซบเรื่องของแถม ที่ไม่แถมไรนอกจากการ์ดภาพปกซ้ำๆ มีอาร์ทใหม่แค่ภาพแขวนกับกล่อง เทียบบกรมีที่คั่นsd อาร์ทใหม่เล่มละสองรูป หรือชอบสะสมภาพเดิมๆหลายขนาดวะ ส่วนกล่องกูว่าออกจบน่าจะมี เทียนซือของบกรทำกล่องรึเปล่าวะ กูไม่แน่ใจ

21 Nameless Fanboi Posted ID:hLmtweLrgG

>>20 มีทำด้วย มีกล่องแล้วก็เซ็ตโปสการ์ด

22 Nameless Fanboi Posted ID:QQpkm98QFm

Ky สปอยล์หน่อยสิ ว่าทำไมวั่งจีถึงเล่นพิณหาเว่ยอิงไม่ได้อะ แล้วก็ทำไมวั่งจีมีแผลที่หลัง
กูไม่ได้ดูซีรี่ย์อะ ขอบคุณล่วงหน้า แต้งกิ้วว

23 Nameless Fanboi Posted ID:G1n9jQpy/c

>>22 ไต่ถามวิญญาณเว่ยอิงแล้วเว่ยอิงไม่ตอบ อันนี้ไม่รู้เหมือนกัน ส่วนแผลเป็นที่หลัง พี่วั่งพาเว่ยอิงไปซ่อนในถ้ำตอนที่เว่ยอิงสติแตก ควบคุมศพไม่ได้ แล้วผู้อาวุโสในสกุลมาเจอก็ปกป้องเว่ยอิง ทำร้ายผู้อาวุโส 33 คน แล้วไปรับโทษโดนแส้ 33 รอย

24 Nameless Fanboi Posted ID:JjY4OcUCHt

>>23 อันนี้แม่โม่เฉลยมั้ยว่าทำไมไม่ตอบ? กุแอบสงสัย ถถถถถ

25 Nameless Fanboi Posted ID:+c5BAKuMBg

>>23 ในเล่มก็ไม่มีบอกหรอ

26 Nameless Fanboi Posted ID:G1n9jQpy/c

>>24 >>25 ในนิยายไม่มีบอกว่าทำไมไต่ถามแล้วไม่ตอบ

27 Nameless Fanboi Posted ID:qFb8wzUjbi

>>24 ประมาณว่าเว่ยอิงไม่ได้มีห่วงหรือสนใจอะไรทางนี้แล้ว เลยไม่ตอบ

28 Nameless Fanboi Posted ID:tkU5L0FPyo

สปอยเทียนกวาน อาร์ค 2 ต่อจาก >>5 เทียนกวาน Part.56
.
.
.
.
.
มู่ฉิงยังตั้งข้อสังเกตอีกว่าเสื้อผ้าของเด็กชายมีรอยปะชุน ย่อมต้องมีผู้ใหญ่ทำให้ เพราะฉะนั้นต่อให้สถานการณ์ที่บ้านไม่ดี แต่เด็กชายก็ไม่ใช่เด็กเร่ร่อน เซี่ยเหลียนจึงถามที่อยู่ของอีกฝ่ายอีกครั้ง ทว่าเด็กชายกลับจับเซี่ยเหลียนไว้แน่น บอกว่าตนทะเลาะกับทางบ้านและถูกไล่ออกมาตอนนี้จึงไม่มีที่ไป หลังจากใคร่ครวญดูแล้วเซี่ยเหลียนก็ตัดสินใจที่จะดูแลอีกฝ่ายจนกว่าบาดแผลจะหายดีก่อน เฟิงซิ่นรู้สึกไม่ดีที่องค์ชายรัชทายาทมาอุ้มเด็กจร ขณะที่กำลังถกเถียงกันอยู่ ชาวบ้านที่สังเกตเห็นเซี่ยเหลียนก็ตะโกนเรียกกันเพื่อจับตัวเขาไว้

พวกเซี่ยเหลียนตกใจคิดว่าพวกชาวบ้านไม่พอใจที่เมื่อวานเขาทำหน้ากากหลุดซึ่งอาจพาโชคร้ายมาจึงพากันวิ่งหนี แต่ด้วยจำนวนคนทำให้ทั้ง 4 คนโดนล้อมอย่างรวดเร็ว แล้วเซี่ยเหลียนก็ถูกชาวบ้านรุมยกตัวเขาโยนขึ้นไปบนอากาศพร้อมส่งเสียงเชียร์ยกย่องการแสดงของเขา และยังชื่นชมที่องค์ชายรัชทายาทช่วยเหลือชีวิตเด็กชายชาวบ้านยากไร้ แม้ราชครูจะไม่พอใจในสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เมื่อเห็นท่าทีของชาวบ้านเซี่ยเหลียนก็รู้สึกว่าสิ่งที่ตัวเองทำลงไปเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว กว่าพวกเซี่ยเหลียนจะปลีกตัวจากฝูงชนมาได้ก็เป็นเวลาเย็น ระหว่างที่กำลังไต่ขึ้นเขากันเซี่ยเหลียนก็ถามชื่อเด็กชายให้แน่ใจอีกครั้ง อีกฝ่ายจึงบอกว่ามารดาเรียกตนว่าหงหงเอ๋อร์ หากแต่เธอเสียชีวิตไปแล้ว

เมื่อขึ้นมาถึงยอดเขา ศิษยร่วมสำนักคนหนึ่งก็วิ่งมาแจ้งว่าราชครูต้องการพบเซี่ยเหลียนที่หอมหายุทธ์ เซี่ยเหลียนจึงให้เฟิงซิ่นกับมู่ฉิงพาหงหงเอ๋อร์กลับไปที่ตำหนักเซียนเล่อก่อน ตอนที่เขาไปถึงหอมหายุทธ์ก็พบว่าราชครู กับรองราชครูทั้ง 3 กำลังจุดธูปไหว้มหาเทพ หลังจากทักทายแล้วเขาจึงเข้าไปจุดธูปด้วย ราชครูกล่าวว่าพวกเขาหารือวิธีแก้เคล็ดได้ 2 วิธี วิธีแรกให้พาเด็กชายที่หล่นจากกำแพงคนนั้นมาผนึก 1 ในสัมผัสทั้ง 5 เป็นการไถ่โทษ แต่พวกเขารู้ดีว่าเซี่ยเหลียนไม่มีทางยอมจึงคิดวิธีที่ 2 ขึ้นมา นั่นคือให้เซี่ยเหลียนแสดงความสำนึกผิดต่อหน้าสาธารณะชน ขอให้สวรรค์ยกโทษ แล้วหันหน้าเข้าหากำแพงเป็นเวลา 1 เดือน ทว่าเซี่ยเหลียนก็ยังปฏิเสธอยู่ดี เขากล่าววันนี้ชาวบ้านในเมืองต่างยกย่องที่เขาช่วยเหลือเด็กชายไว้ หากเขาทำตามที่ราชครูว่าและถูกลงโทษเพราะทำในสิ่งที่ถูกต้อง ประชาชนจะคิดอย่างไรกัน

ราชครูแย้งว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับว่ามันถูกหรือผิดเพราะโลกนี้ไม่ได้สมบูรณ์แบบ เซี่ยเหลียนบอกว่าหากเช่นนั้นเขาขอเลือกทางเลือกที่ 3 เซี่ยเหลียนกล่าวกับอาจารย์ว่าตั้งแต่ที่เขาบำเพ็ญอยู่ที่นี่เขาก็คิดมาตลอดว่าการที่พวกเขากราบไหว้เทพเจ้าเช่นนี้เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้วหรือ ก่อนขึ้นสวรรค์พวกเขาต่างก็เป็นมนุษย์ พระเจ้าอาจเปรียบดั่งผู้อาวุโส เปรียบดั่งอาจารย์ เป็นดั่งแสงนำทาง แต่ก็ไม่ใช่นายเหนือหัว มนุษย์สมควรแสดงความกตัญญูชื่นชมขอบคุณ แต่ก็ไม่น่าต้องกราบไหว้ ไม่น่าจะต้องเกรงกลัว ไม่น่าจะต้องร้องขอความเมตตา ไม่น่าจะต้องฝืนให้ตัวเองต้องลำบาก เขายินดีถวายตะเกียง 1000 ดวงแสดงความเคารพ แต่ขอปฏิเสธการก้มหัวในเมื่อสิ่งที่เขาทำถูกต้อง หากสวรรค์มีตาก็ไม่ควรลงโทษเขาด้วยเรื่องนี้ เมื่อราชครูถามว่าแล้วถ้าสวรรค์ต้องการทำโทษจริงๆ เซี่ยเหลียนจะยอมขอโทษหรือไม่ เซี่ยเหลียนก็ตอบว่าหากเป็นเช่นนั้นเขาก็จะต่อต้านสวรรค์เอง

ได้ยินดังนั้นใบหน้าของราชครูกลับปรากฏรอยยิ้มขึ้น เขากล่าวว่าเซี่ยเหลียนกล้าหาญมากที่พูดอย่างนั้น ตอนนั้นเองสัญญาณเตือนภัยก็ดังออกมาจากข้างนอก ราชครูทั้ง 4 กับเซี่ยเหลียนจึงพากันรีบวิ่งออกไปที่เจดีย์กาฬซึ่งประตูถูกเปิดออก ไอสีดำพวยพุ่งออกมาจากด้านใน ราชครูตะโกนถามเรื่องราวจากพวกลูกศิษย์ ก่อนได้รับคำตอบว่าจู่ๆ ประตูเจดีย์ก็เปิดออกเอง ภาชนะผนึกวิญญาณร้ายที่เก็บอยู่ด้านในพากันสั่นสะเทือน ยันต์คาถาที่ปิดผนึกพวกมันหลุดออก ราชครูสั่งให้พวกลูกศิษย์ไปนำไหผนึกวิญญาณใบใหม่มาให้เขา แต่ดูเหมือนจะสายไปเสียแล้ว
.
.
.
.
.

29 Nameless Fanboi Posted ID:BQBZWVATEI

>>28 ขอบคุณ​โม่งสปอย ขอให้นอนหลับ​ฝันดีนะจุ๊บๆ
หงหงมีบทเยอะกว่าที่คิดเยอะจริงๆ ว่ะ เซี่ยเหลียนสมัยอดีตก็แอบหัวแข็งนะ ปัจจุบัน​ self esteem ต่ำมาก คงเจออะไรมาเยอะจริงๆ //เศร้าแทน

30 Nameless Fanboi Posted ID:tkU5L0FPyo

>>29 อืม หัวแข็งจนทำให้อดคิดไม่ได้ว่าหลางเชียนชิวนี่ก็แอบคล้ายเซี่ยเหลียนตอนเด็กหลายอย่าง เซี่ยเหลียนถึงได้เซนซิทีฟกับเรื่องของลูกศิษย์ ไม่อยากให้ต้องเจออะไรเหมือนที่ตัวเองเคยเจอมา

31 Nameless Fanboi Posted ID:bKF+9lSif2

กูอยากรู้ว่าระหว่างตายไปสิบสามปีพี่เว่ยไปอยู่ไหนเอามากๆ เลย คือ 13 ปีนะมึง ถ้าช้ากว่านี้อีกนิด คงไปเกิดใหม่แล้วอ่ะ

32 Nameless Fanboi Posted ID:1GRcU0dAXX

>>31 กูคิดว่าตายไปเฉยๆเลย ไม่รับรู้ พอแล้วกับโลกนี้
สงสัยอย่างตรงที่เจียงเฉิงไปหาศพแต่ก็ไม่เจอ ศพไปไหน แล้วทำไมโม่ถึงเรียกวิญญาณมาได้ แต่วั่งจีเรียกไม่ได้

33 Nameless Fanboi Posted ID:4JMfbmEixG

>>32 เหมือนร่างโดนวิชาย้อนกลับมั้ง วิชาที่โม่ใช้เป็นวิชาของพวกมารอะ(และไม่น่าจะมีคนใช้หรือรู้จักมาก)จุดนี้ไม่แน่ใจ แต่ วั่งจีใช้ฉินเรียก ถามวิญญาณ เป็นวิชาของสกุลหลาน

34 Nameless Fanboi Posted ID:2gyEsp4NH.

>>32 ถ้าตามฉบับนิยายไม่ได้ตกเหว แต่โดนวิชามารย้อนกลับมากัดกินจนร่างสลายหายไปเลย ส่วนเรื่องถามวิญญาณพี่วั่งแต่ดีดฉินถามเหมือนโทรศัพท์ไปแล้วเขาไม่รับอ่ะ(อาจจะไม่มีสัญญาณ แบตหมดไรงี้)แต่ของน้องโม่คือเหมือนเปลี่ยนซิมเลย วิชาน้องโม่ก็เป็นวิชามาร เป็นการบังคับเอาวิญญาณคนตายมาสิงสู่ร่างตัวเองโดยมีค่าจ้างแลกเปลี่ยนเป็นวิญญาณของน้องโม่เอง

35 Nameless Fanboi Posted ID:zQ3nPIF.XW

>>32 น่าตะเป็นเรื่องของวิชาหรือเปล่ามึง ของโม่ที่เรียกเหมือนการอัญเชิญปีศาจของตะวันตกแล้วทำสัญญาณ คืออยากมา ไม่อยากมาก็ต้องมา ส่วรของพี่วั่งเหมือนวิชาที่สะอาดกว่าคือถ้าดวงจิตเดิมทีไม่อยากพบเจอใครอยู่แล้ว ไม่อยากตอบ ก็แล้วเลยกันไป ? ? เป็นคำถามที่น่าสนใจ ในนิยายมีบอกไหมวะ

36 Nameless Fanboi Posted ID:LwwRuiauQW

>>34 มิน่าน้องหนิงถึงบอกเว่ยอิงตายอย่างอนาจ T T เรื่องนี้คนดีอายุสั้น งืออออ

37 Nameless Fanboi Posted ID:3gXgdeg3Vs

>>33-35 โฮฮฮฮ ขอบใจเมิงกูยังไม่ได้อ่านหนังสือ
ฉากตกหน้าผานั่นก็ทำมาเพื่อขยี้สินะ ;_;

38 Nameless Fanboi Posted ID:2gyEsp4NH.

กูว่าฉบับซีรีย์ทำให้พี่เว่ยดูเป็นฮีโร่มากไปหน่อยจริงๆน่ะแหละ ทั้งเรื่องเปลี่ยนจากควบคุมศพคนตาย(มองในมุมนึงคือเป็นการไม่เคารพคนตาย บังคับใช้ร่างเขาโดยที่จริงๆเขาอาจจะไม่ยินยอม )เป็นเปลี่ยนเป็นควบคุมจิตหรือผีดิบเฉยๆ ทั้งเรื่องที่ว่าพี่เว่ยควบคุมพลังไม่ได้จนทำร้ายตัวเองและคนรอบข้าง ก็เปลี่ยนเป็นมีคนมาซ้อนแผนแทน แถมผลร้ายของการใช้วิชามาร+ความทะนงตนของพี่เว่ยก็ไม่ค่อยชัดด้วย(เปลี่ยนจากโดนวิชาย้อนเข้าตัวจนร่างสลายเป็นตกผา) แต่อย่างว่าถ้าทำตามนิยายน่าจะดาร์กไปหน่อย คนดูที่คิดวิเคราะห์แยกแยะได้ก็ใช่จะมีเยอะด้วยนี่สิ

39 Nameless Fanboi Posted ID:cXnUr7DiyR

>>38 ขนาดชอบกินกระต่ายย่าง ในซีรีย์พี่เว่ยยังโดนเปลี่ยนเป็นอุดหูกระต่ายตอนเจียงเฉิงพูดถึงกระต่ายย่างเลย (แต่ก็น่ารักดีนะ)

40 Nameless Fanboi Posted ID:dGWTm5TLC1

>>38 กุก็ไม่ชอบจุดนี้ ที่พาชิบหายคือนิสัยทะนงตัวของพี่เว่ย พอซีรีส์เปลี่ยนว่ามีคนยุยงก็ฉอดกันใหญ่ว่าพี่เว่ยเป็นคนดี มีคนร้ายตั้งหาก ชีวิตเลยพลิกผัน ในนิยายคือทำตัวเองทั้งนันพ่อ ถถถถถ

41 Nameless Fanboi Posted ID:9eVCh4qb1W

>>40 กูดูแต่ซีรี่ส์ก็ว่าทำตัวเองทั้งนั้น แรกๆนี่ซ่าเหลือเกิน มีหลังๆที่ดูเป็นเหยื่อเป็นแพะรับบาป
>>39 เพิ่งรู้เรื่องกระต่าย ในซีรี่ส์แม่งเหมือนเป็นลูกเลยนะเว้ย เหมือนทิ้งไว้เป็นโซ่ทองคล้องใจ เมียไม่อยู่ผัวก็เลี้ยงกระต่ายไป นิยายเอามาแดกเลยเรอะะะ

42 Nameless Fanboi Posted ID:QxBCC2eBUD

เว่ยอิงทำตัวเองทั้งนั้นแหละ ผลที่ได้รับก็สมควรกับการกระทำแล้ว แต่บ้านเจียงซวยสัดๆ ไม่ได้ทำห่าไรเลย แต่ต้องมารับกรรมที่อิพี่เว่ยทำทั้งนั้น สุดท้ายอิพี่เว่ยไปมีความสุขกับหลัว เจียงเฉิงทูนหัวของบ่าวระทมทุกข์ โดดเดี่ยวต่อไป ร้องห้าย

43 Nameless Fanboi Posted ID:4/HPzRvSer

>>42 //กอดมึงร้องห้ายด้วย ลูกรักแม่โม่ก็สบายปลิวเลย แล้วอาเฉิงกูล่ะ ฮือ

44 Nameless Fanboi Posted ID:7nHBvHjhso

>>41 ก็น่าจะเคยกินอยู่ หรือจะพูดหยอกๆ วะ ไม่แน่ใจ ยังไงก็เถอะ ในนิยายคนพูดคือพี่เว่ยเลยล่ะ ไม่ได้ชอบแบบเอ็นดูขนาดซีรีย์

45 Nameless Fanboi Posted ID:e8SBocrC47

กูงงการแปลปรจ. ชื่อสถานที่ ชื่อกระบี่มีการแปล แต่ทำไมชื่อหมาไม่แปลหรืออธิบาย เซียนจื่อ โมลี่ เพ่ยเพ่ย คนทั่วไปจะรู้มั้ยอ่ะ (ตรงนี้คือมุกที่บอกว่าจินหลิงและเจียงเฉิงมีเซ้นท์การตั้งชื่อที่แย่มาก)

46 Nameless Fanboi Posted ID:9287CLCK79

>>45 แอปเปิ้ลด้วยทำไมต้องแปลทับศัพท์ ไม่รู้เล่ม 2 แก้ยัง

47 Nameless Fanboi Posted ID:dGWTm5TLC1

>>42 บ้านเจียงซวยสัดๆ เลยนะ เพราะความปากดี ซ่าไม่หยุดพี่เว่ย แต่พอมารุ่นเจียงเฉิง play safe เน้นความมั่นคง เสือกด่าว่าไม่เชื่อในตัวพี่น้องที่โตมาด้วยกัน เอาอะไรมาเชื่อ ถามห่าไรก็บ่ายเบี่ยงไม่ตอบ กุขึ้นนนน

อาเฉิงซีรีส์ยังดี บทดูมุฟออน แต่นิยายกุอ่านจบตอนเฉลยเรื่องเสียจินตาน กุไปต่อไม่ได้เลย น้องไห้เหมียนหมา คนดีไม่มีใครเห็นที่แท้คือลูกกุ

48 Nameless Fanboi Posted ID:3gXgdeg3Vs

>>47 เรื่องเสียจินตานกูดูซีรี่ส์แล้วรักอาเฉิงมากกกก ตอนแรกคือหงุดหงิดแม่งแส่หาเรื่องออกไปแท้ พอเฉลยแล้วรักน้องเลย ช่วยกันไปช่วยกันมาโฮรววว เฉลยเสร็จจบเรื่องพอดี
คนที่มีฝ่ามือสลายจินตานกูก็ติดใจนิดๆนะ เหมือนจะคนดี กูเชียร์ให้กลับใจมาก

49 Nameless Fanboi Posted ID:d/77WTxPvS

>>45 กูเคยไปพูดในมู้ปรมจ.ล่ะติ่งแย้งกูรัวๆบอกใข้กูอธิบายว่าแปลกยังไงบลาๆ ดุเหมียนหมา

50 Nameless Fanboi Posted ID:d/77WTxPvS

>>49 คนเดิมนะ กุก็ติ่งนะ แต่กุยังคิดว่าการแปลมันแปลกๆเลย กุพูดในมู้ก่อนๆนะ ไม่ใช่มู้นี้

51 Nameless Fanboi Posted ID:2C8Q39TP4z

กูมาตอนมู้วายอีก่ะ ขอถามนิดนึงสรุปที่น้องหนิงฆ่าจินจื่อเซวียนนี่เพราะพี่เว่ยแกคุมพลังไม่ได้จริงๆหรือมีคนเสี้ยม เพราะตอนช่วงซีรีส์ฉายกูเคยเห็นคนพูดว่าคุมพลังไม่ได้เอง ไม่ได้มีใครเสี้ยม แต่กูเพิ่งนั่งดูอนิเมะซีซั่น 2 จบ ก็สรุปว่ามีคนเสี้ยมเหมือนกัน กูเลยงง เพราะอนิเมะซีซั่นแรกมันตรงกับม่านฮวาซึ่งตรงกับนิยายพอสมควร ตอนแรกกูเลยคิดจะเชื่ออนิเมะมากกว่านิยาย แต่สรุปตอนนี้คือกูงงไปหมดว่ายังไงกันแน่ หรือสุดท้ายอนิเมะจะไม่อิงม่านฮวาแต่มาอิงบทนิยายแทน

52 Nameless Fanboi Posted ID:2wpAq.L6wk

แล้วเฉิงมันไม่สบายตรงไหนอะมึง ถึงเรื่องปัจจุบันเนี่ย พ่อแม่พี่สาวตายก็เอาชีวิตคืนมาไม่ได้แล้ว มึงต้องการให้มันเป็นไปในทางไหนอะหรือต้องให้เว่ยอิงตายให้จบแบด?? กูไม่รู้ความคิดพวกมึงจริงๆอย่าพึ่งด่ากูแค่บอกกูก็พอ ถ้าเรื่องตอนจบยังดูไม่คืนดี แต่มันก็เคลียร์กันแล้วนะคงต้องรอเวลา

53 Nameless Fanboi Posted ID:CYdQLUuvtw

>>46 แอปเปิ้ลมันก็ทับศัพท์ภาษาอังกฤษ พอเรื่องมันแปลจากนิยายจีนโบราณ แปลมาใช้ศัพท์ฝรั่งอ่านแล้วมันก็แปลกๆดิไม่เข้ากับบรรยากาศความโบราณ
แต่กูเห็นด้วยเรื่องชื่อหมานะ ทำไมไม่แปลชื่อหว่า

54 Nameless Fanboi Posted ID:QxBCC2eBUD

>>51 ในนิยายเว่ยอิงควบคุมพลังไม่ได้เอง

55 Nameless Fanboi Posted ID:/cgXhzKBxs

>>53 เรื่องแอปเปิ้ลก็ควรแปลเป็นแอปเปิ้ลไปนะ เพราะนี่แปลไทย คนไทยเรียกแอปเปิ้ล ไม่ได้เรียกผิงกั่ว

56 Nameless Fanboi Posted ID:v2JOmxrb1w

>>55 แต่นิยายจีนโบราณแปลไทยใช้ผิงกั่วมาชาติกว่าแล้ว บอกแบบนั้นเหมือนบอกว่าฮ่องเต้ต้องแปลว่าพระมหากษัตริย์ เสี่ยวต้องแปลว่าน้อย

จริงๆชื่อเฉพาะเนี่ยไม่แปลน่ะถูกแล้ว แต่การแปลชื่อสถานที่หรือสิ่งของเฉพาะบางอย่างจำเป็นเพื่ออรรถรส ชื่อสัตว์เลี้ยงถ้าจะเล่นมุกก็ใส่เชิงอรรถไว้ก็ได้เถอะ สนพ.จะแปลไม่แปลก็จริตเขา ไม่ถูกจริตมึงก็อาจจะถูกจริตคนอื่น กูว่าถ้ามันไม่ใช่เรื่องอย่างแปลผิดหรือแปลมาแล้วอ่านไม่ได้เลยก็ไม่ใช่เรื่องมหญ่ขนาดนั้นนะ

57 Nameless Fanboi Posted ID:WFtf.18KgT

>>53 ค้านว่ะ กูอ่านนิยาย/การ์ตูนญี่ปุ่นโบราณเรื่องไหนก็แปลเป็นแอปเปิ้ล ไม่เห็นแปลเป็นริงโกะเลย ทั้งที่ญี่ปุ่นปิดประเทศห่างไกลต่างชาติกว่าจีน อันไหนแปลได้ก็แปลเถอะขนาดชื่อเฉพาะอย่างกระบี่ยังแปลได้คำนี้แปลตรงๆง่ายกว่าอีก กูไม่จำเป็นต้องรู้ศัพท์ภาษาจีนวันละคำว่าด้วยชื่อผลไม้ทับศัพท์ กูมองเหตุผลเดียวกึบแปลชื่อกระบี่ว่ะ ในเรื่องก็เล่นมุกตั้งเป็นชื่ออาหารด้วย

กูมองว่าทับศัพท์แบบเป็นอันรู้กันแค่ที่คนทั่วไปที่ไม่ใช่สายอ่านนิยายรู้จักกันว่ะ พวกฮ่องเต้ ฮองเฮา ไม่ใช่อ่านนิยายทีต้องริเริ่มบทเรียนจีนวันละคำ เสี่ยว เอ๋อก็แปลเป็นหนูเป็นน้อยไปตามเรื่อง เชิงอรรถมีไว้สำหรับคำที่จนปัญญาแปลไม่ได้จริงๆไม่ใช่ใช้เรี่ยราด

58 Nameless Fanboi Posted ID:/cgXhzKBxs

>>57 +111111111111111111

59 Nameless Fanboi Posted ID:CYdQLUuvtw

>>57 งั้นใบเฟิงก็ต้องแปลว่าใบเมเปิล เพราะคนไทยไม่เรียกใบเฟิงแต่เรียกใบเมเปิล แปลทับศัพท์อิ้งคำนึงที่เหลือก็ต้องทับด้วยเป็นมาตราฐานเดียวกัน

60 Nameless Fanboi Posted ID:TOLYC0bz1v

>>59 ใช่

61 Nameless Fanboi Posted ID:edacJ4/T8v

>>59 ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่

62 Nameless Fanboi Posted ID:CYdQLUuvtw

>>61 เอางี้ถ้ามึงจะให้แปลผิงกั่วเป็นแอ๊ปเปิ้ลเพราะไทยใช้คำนี้ มึงลองนึกบทบรรยายสวนในนิยาย จีนมันเมืองหนาวมีพืชที่เมืองร้อนอย่างไทยไม่มี แล้วพืชเมืองหนาวพวกนี้ไทยก็ทับศัพท์ชื่อเป็นอิ้งหมด จื่อถิงหลัวต้องแปลว่าวิสเทอเรีย อิงฮวาก็ต้องแปลว่าซากุระ สุ่ยเซียนต้องแปลว่านาร์ซิสซัส ฉาฮวาแปลเป็นดอกคามิเลีย ซิ่งฮวาเป็นแอพพิคอท จากสวนจีนแม่งกลายเป็นสวนยุโรปเฉย

63 Nameless Fanboi Posted ID:v2JOmxrb1w

>>57 ก็การ์ตูนญี่ปุ่นมันแปลเป็นแอปเปิ้ลมาแต่แรกปะ กูพูดถึงนิยายจีนโบราณ มึงดันพูดถึงการ์ตูนญี่ปุ่นโบราณคือมึงงงหรือกูงง การ์ตูนญี่ปุ่นนิยายญี่ปุ่นกูก็อ่านอะไรที่มันทับได้เขาก็ทับเพื่ออรรถรสกันบ่อยไปว่ะ แล้วเรื่องชื่อเนี่ยถ้าหมานางเอกชื่อริงโกะต้องแปลว่าน้องแอปเปิ้ลมั้ย ถ้าแมวนางเอกชื่อทามะต้องแปลว่าน้องแมวมั้ย บริบทเรื่องชื่อง่ายๆแค่นี้เองนะมึง ถ้าจะทู่ซี้ว่าชื่อเรียกเฉพาะบางอย่างก็ต้องแปลให้หมด แล้วแบบนั้นชื่อตัวละครต้องแปลด้วยเลยมั้ย

เล่นมุกเรื่องชื่อมันก็ใส่เชิงอรรถแค่ครั้งเดียวปะ มึงจะใส่มันทุกเล่มเลยเหรอ นิยายเรื่องอื่นเล่นมุกชื่อใส่เชิงอรรถได้ เรื่องนี้ใส่เชิงอรรถ=เรี่ยราด ?? แล้วใครบอกมึงว่าเชิงอรรถคือใช้กับคำที่จนปัญญา พวกมุก สำนวนทั้งหลายมันก็ลงเชิงอรรถทั้งนั้นนะ แล้วปัญหาการแปลชื่อโดยไม่ทับศัพท์เลยก็คือโดนด่าไงว่าไม่เหมือนอ่านนิยายจีน เวลามึงขายหนังสิอมึงจะเจาะกลุ่มไหนล่ะ คนทั่วไปที่ไม่รู้จะซื้อจริงๆมั้ยกับลูกค้าประจำที่ซื้อแน่ๆอยู่แล้ว

64 Nameless Fanboi Posted ID:9287CLCK79

>>56 ไม่ใช่ทุกคนจะอ่านนิยายจีนมาก่อนนะมึง อย่างกูก็เพิ่งมาตามจากเรื่องนี้

65 Nameless Fanboi Posted ID:Em3hNI4L1m

กูว่าสนพ พลาดตรงที่ไม่ใส่เชิงอรรถ ไม่ต้องใส่ตลอดก็ได้ เอาเฉพาะตรงที่มันเล่นมุขก็พอ
ถ้าไม่ได้ดูจากทวิตภพ กูนี่งงไปกับหลายๆ มุขเลยนะ

66 Nameless Fanboi Posted ID:GAeUOpfXDr

>>63 กูไม่รู้จักทั้งจื่อถิงหลัว สุ่ยเซียน ซิ่งฮวา ฉาฮวา อิด๊อกกกก อ่านนิยายกูจำเป็นต้องจำชื่อพรรณไม้เพิ่มเหรอ เข้าสวนทีกูต้องเงยหน้าขึ้นๆลงๆ ท่องศัพท์ปานอ่านหนังสือสอบแล้วค่อยจินตนาการตามนิยาย นิยายแปลก็แปลให้เข้าใจเถิดอย่าได้ให้จำเลย กูเอาการ์ตูนญี่ปุ่นมาเพื่อชี้ให้เห็นการแปลว่ะ ว่าปกติชื่อผลไม้มันไม่ทับศัพท์ถ้ามีคำไทยอยู่แล้ว ในแง่ชื่อเฉพาะตัวอย่างสัตว์สามารถแปลและทับศัพท์ได้ทั้งคู่ แต่เรื่องนี้คนแปลเลือกแปลชื่อ กระบี่'แล้วแต่' ของเว่ยอิงเพื่อเล่นมุกทางภาษา แต่กลับไม่แปล'แอปเปิ้ล'ที่เล่นมุกด้วย กูมองว่าการแปลควรใช้มาตรฐานเดียวกันในการแปลเรื่องนึงว่ะไม่ใช่เดี๋ยวแปลเดี๋ยวไม่แปล

การทับศัพท์ใส่เชิงอรรถคือการลดทอนความหมายของชื่อว่ะ จากที่ตั้งใจเล่นมุกก็กลายเป็นชื่อจีนๆชื่อนึง ผ่านไปคนไม่ได้สนใจความหมายก็สูญเสียความหมายนั้นไป เรื่องอื่นใส่เชิงอรรถเรี่ยราดกูก็บ่น ตอนนี้พูดถึงปรมาจารย์กูก็บ่นปรมาจารย์ ตัวร้ายกูก็นั่งเสียดายนามแฝงของเสิ่นหยวนกับซั่งชิงหัวจะตาย

จากกูผู้ชมชื่อกระบี่แปลไทย นิยายแปลไม่ใช่หนังสือเรียนจีนแสนสนุกวันละคำ จะอ่านทีต้องมานั่งจำชื่อ กูเลิกรากับเอะอะก็เชิงอรรถจนเชิงอรรถหนาเป็นนิ้วแล้ว และคนชอบแปลไทยมันก็คนอ่านหนังสือแหละจ้า

67 Nameless Fanboi Posted ID:v2JOmxrb1w

>>64 แล้วไงวะ ในเมื่อไม่ว่ามึงจะตามมาจากเรื่องไหนมันก็ใช้ผิงกั่วเกือบหมด บางทีอ่านไปสักสองสามเรื่องมึงก็ต้องรู้บ้างแล้วนะ ทุกคนเขาก็มาจากการไม่เคยอ่านทั้งนั้นไม่มีใครคลอดมาแล้วรู้เลยหรอกว่าผิงกั่วคือแอปเปิ้ล มันก็มาจากการอ่านการสังเกตุการเรียนรู้หรือบางทีต้องค้นคว้าต่อมั้ย ยิ่งอ่านเยอะยิ่งรู้มาก จะมาอ่านเล่มเดียวรู้ทุกอย่างมันก็ไม่ใช่นะ อะไรไม่รู้ก็ขวยขวายหาคำตอบกันบ้างสิจะรอให้ทุกอย่างมาป้อนตรงปากก็ไม่ใช่มั้ยวะ

ถ้าสมมติชีวิตมึงไม่เคยดูหนังจีนเลยไม่มีเชื้อจีนไม่สนเรื่องจีนๆ แต่มึงมาอ่านนิยายจีนครั้งแรกในชีวิต เจอศัพท์ง่ายๆอย่างฮ่องเต้ ฮองเฮา อ๋อง กงกง มึงก็ต้องมีงงปะว่าคืออะไรแต่ก็ไม่เห็นใครมีปัญหานี่ ก็ล้วนแต่ต้องค่อยๆเรียนรู้กันไปทั้งนั้น

68 Nameless Fanboi Posted ID:v2JOmxrb1w

>>66 ก็มึงยกตัวอย่างญี่ปุ่นมา กูก็ถามมึงกลับนี่ไง แมวนางเอกชื่อทามะมึงเห็นเขาแปลกันมั้ยล่ะทั้งที่นี่ก็เล่นมุกเหมือนกันว่าตั้งชื่อมักง่าย หรือหมาพระเอกชื่อวังโกะงี้ เต่าชื่อคาเมะงี้ นกชื่อโทริ นี่เล่นมุกทั้งนั้นเลยนะ กูถึงบอกไงเรื่องมุกชื่อจะแปลไม่แปลมันไม่ใช่ปัญหาใหญ่ขนาดนั้น แล้วเอาจริงๆ ถ้าเสือกแปลชื่อหมาว่านางฟ้ามาก็โดนด่าอยู่ดีว่าแปลมาทำไม ทำไมไม่เชิงอรรถเอา ถ้ามันจะพลาดก็พลาดตรงดันไม่เก็ตว่ามันคือมุกเลยปล่อยผ่านมานี่แหละ

ถ้ามึงยกว่านิยายแปลไม่ใช่หนังสือเรียนจีนวันละคำ งี้ชื่อของตัวละครที่เสือกเป็นมุกมีความหมายแฝงก็ต้องแปลหมดเหรอ หรือแค่เชิงอรรถเอาก็เข้าใจกันแล้ว การแปลมันก็มียุคสมัยของมันนะมึง ถ้ามาตามยุคลูกปลาน้อย ไม่ต้องเรียกพี่เว่ยว่าไร้ริษยาเว่ยอู๋เซี่ยนมันทั้งเรื่องเลยเรอะ

69 Nameless Fanboi Posted ID:9287CLCK79

>>66 +1
>>67 กูอ่านนิยายนะไม่ใช่อ่านหนังสือเรียนภาษาวันละคำ อีกอย่างกูไม่ได้มีเวลามาอ่านนิยายจีนตลอดเปล่าวะ เวลาอ่านไปกูต้องมาระลึกชาติงี้เหรอ

70 Nameless Fanboi Posted ID:9287CLCK79

>>68 มึงออกทะเลแล้ว ที่เขาว่ากันเนี่ยคือทำไมไม่แปลแอปเปิ้ลกับหมาเพราะเป็นมุกคำ แต่กระบี่สถานที่เสือกแปลตรงตัว

71 Nameless Fanboi Posted ID:wHZAvQ+ULB

กูยังไม่ได้อ่านนะ ขอถามหน่อยว่าที่ไม่แปลแอปเปิ้ล/ชื่อหมานี่ เค้าใส่เชิงอรรถไว้หรือเปล่า ถ้าไม่ใส่ก็น่าด่าอยู่ แต่ถ้าใส่ก็ไม่มีปัญหานะ เรื่องอื่นก็ทำแบบนี้

72 Nameless Fanboi Posted ID:v2JOmxrb1w

>>69 ปกติมันก็มีเชิงอรรถตลอดนะ สำหรับคำที่เขาคิดว่ายากเกินไป มึงไม่โอเคก็เรื่องของมึงสิ ในเมื่อคนส่วนมากมันไม่มีปัญหากับเรื่องแค่นี้นี่ กูพูดถึงคำว่าผิงกั่วคำเดียวเลยนะ ระลึกไม่ได้ก็งงต่อไปนั่นแหละ

แล้วกูก็บอกอยู่นะว่าการแปลหรือไม่แปลไม่ใช่ปัญหาใหญ่ กูบอกว่ามันพลาดที่เสือกไม่เก็ตมุกแล้วไม่ใส่เชิงอรรถมา ส่วนตัวกูไม่มีปัญหาว่าจะแปลหรือไม่แปลมา แต่ถ้าไม่แปลแล้วเป็นมุก กรุณาใส่เชิงอรรถมาด้วย

แต่ถึงมันแปลมาแล้วยังกับว่าพวกมึงจะเก็ตทันทีน่ะว่ามันเป็นมุก แว่บแรกเห็นชื่อเก็ตเลยเหรอว่ามุกนี่ขนาดไม่รู้ภาษาจีนกันนะเนี่ยหรือไปอ่านที่เขารวบรวมข้อมูลมาให้(ซึ่งเทียบแล้วมันก็เชิงอรรถนั่นแหละ)เลยรู้ว่าเป็นมุกกันแน่คิดให้ดีๆ

ส่วนเรื่องภาษาญี่ปุ่น ก็ข้างบนยกมาว่ามันไม่เห็นแปลริงโกะว่าแอปเปิ้ลเลย กูก็เลยถามไงว่าแล้วริงโกะที่เป็นชื่อสัตว์เลี้ยงมันแปลมั้ยล่ะ มันก็ไม่แปลมั้ย

กูแยกให้ง่ายๆเลย ไม่ว่าจะงานแปลไหนๆ โดยส่วนมากชื่อสิ่งมีชีวิตจะคนสัตว์เลี้ยงเขาไม่ค่อยแปลหรอกยกเว้นจะเป็นมุกหรือมีเชิงอรรถไว้

ชื่อสถานที่หรือชื่อพลังส่วนมากจะยาวจำยากเข้าใจยาก จึงแปลเพื่อให้เข้าใจง่าย

ชื่อตำแหน่ง ต้นไม้ สั้นๆ ที่ไม่ค่อยคุ้นหูมักทับศัพท์แล้วใส่เชิงอรรถไว้

ชื่อสิ่งของเฉพาะที่ถ้าไม่แปลก็ไม่รู้เรื่องมักจะแปล
ที่เหลือจริตคนแปลล้วนๆ เช่น ชื่อดาบ ที่แปลก็ได้ไม่แปลก็ไม่ตายอ่ะ

กูก็งงว่ามันเป็นเรื่องปกติ ปกติมากๆชิบหาย ปกติชิบหาย โคตรจะปกติ ในงานแปลจีน พวกมึงงอะไรกัน...

73 Nameless Fanboi Posted ID:1aPoVb4g72

ทู้ลากยาวเชียว กูยังไม่ได้อ่าน แต่เท่าๆที่ตามๆมา เสี่ยวผิงกั๋ว คือ แอปเปิ้ลน้อย นี่ตั้งใจเรียกให้เป็นนิกเนมไปเลยป่าว แบบ ฉายาอะ คนแปลเลยไม่แปลมั้ย ชื่อหมา ก็เหมือนกัน ใช้ทัพศัพย์เพราะมันเปนชื่อป่าว (กูไม่รู้นะ)

เหมือน เรียกคนว่า เสี่ยวหลี่ อะไรก็ว่าไป

คนแปลใส่เชิงอรรถไหมว่า ผิงกั๋ว คืออะไรงี้

ส่วนพวกชื่อกระบี่ ก็ปกติที่จะต้องแปลอยู่แล้วอ่ะ

74 Nameless Fanboi Posted ID:DKqZEzd/96

ขอ KY สปอยเทียนกวาน อาร์ค 2 ต่อจาก >>28 เทียนกวาน Part.57
.
.
.
.
.
เซี่ยเหลียนวิ่งไปปิดประตูเจดีย์ ใช้กระบี่วาดคาถาก่อนปักมันบนพื้นเพื่อกันไม่ให้วิญญาณข้างในออกมาอีก แต่ส่วนที่ออกมาแล้วก็รวมตัวกันเป็นกลุ่มควันสีดำพุ่งไปยังตำหนักเซียนเล่อ ราชครูถามเซี่ยเหลียนว่าเอาอะไรมาไว้ในตำหนัก ทำให้เซี่ยเหลียนนึกออกว่าตนพาเด็กชายคนนั้นกลับมาด้วย ตอนนั้นเองพวกลูกศิษย์ก็ตะโกนบอกว่าตำหนักของเซี่ยเหลียนถูกไฟไหม้ ทุกคนรีบช่วยตักน้ำดับไฟ เมื่อไม่เห็นผู้ติดตามทั้งสอง เซี่ยเหลียนก็ฝาดงควันวิญญาณเข้าไป เฟิงซิ่นกับมู่ฉิงช่วยกันกางเขตคุ้มกันอยู่ที่ห้องโถงหลักโดยมีวิญญาณล้อมรอบ เฟิงซิ่นตะโกนห้ามไม่ให้เซี่ยเหลียนเข้ามา และบอกว่าพวกวิญญาณมีเป้าหมายที่เด็กชาย หงหงเอ๋อร์นั่งคุกเข่ากับพื้นกรีดร้องว่า “ไม่ใช่ช้า”

เซี่ยเหลียนรีบเข้าไปจับวิญญาณร้ายตัวหัวหน้าไว้ก่อนบดขยี้มันหายไปในฝ่ามือ วิญญาณลูกกระจ๊อกเลยยอมแพ้กลับเข้าไปในภาชนะผนึกซึ่งพวกราชครูถือมา เมื่อสถานการณ์เริ่มสงบลง ราชครูก็ถามเรื่องของเด็กชาย เซี่ยเหลียนตอบไปตามจริงว่าหงหงเอ๋อร์คือเด็กที่หล่นจากกำแพง อีกฝ่ายจึงเข้ามาสอบถามวันเดือนปีและเวลาเกิดของเด็กชาย ราชครูเหม่ยเนี่ยนชิงมีชื่อเสียงด้านการดูดวงมาก เขารีบคำนวณดวงชะตาของเด็กชาย ในที่สุดก็บอกว่าหงหงเอ๋อร์มีดวงเกิดในช่วงดาวมฤตยู จะนำพาโชคร้ายและความเสียหายติดตามตัว ผู้คนใกล้ชิดจะถูกดึงให้ต้องพบกับหายนะและอาจถึงขั้นเสียชีวิต เมื่ออีกฝ่ายพูดจบหงหงเอ๋อร์ก็ร้องเสียงดังด้วยความเจ็บปวด เด็กชายพุ่งเข้าไปจะเอาหัวกระแทกราชครู ก่อนที่ราชครูจะสั่งห้ามผู้ใดเข้าไปสัมผัสถูกตัวของอีกฝ่าย หงหงเอ๋อร์เอาแต่ตะโกนว่า “ไม่ใช่ช้า” เซี่ยเหลียนเลยรีบเข้าไปกอดปลอบเด็กชายซึ่งน้ำตาไหลพลั่งพลูร้องไห้ออกมาเสียงดังราวจะขาดใจ พร้อมบอกว่าไม่ใช่ความผิดของเจ้า

ราชครูกับเฟิงซิ่นบอกให้เซี่ยเหลียนปล่อยเด็กชาย ศิษย์ในสำนักหลายคนพยายามมาดึงหงหงเอ๋อร์ซึ่งเกาะเซี่ยเหลียนแน่นออก แต่เซี่ยเหลียนก็บอกทุกคนว่าไม่เป็นไร แล้วหันไปถามว่ามีใครในตำหนักได้รับบาดเจ็บหรือไม่ จึงทราบว่ามีเพียงตำหนักที่ได้รับความเสียหาย ส่วนกระบี่ในคอลเลคชันทั้ง 200 เล่มของเขาที่สร้างจากวัสดุทนไฟก็ไม่น่าจะเป็นอะไร เด็กชายร้องไห้จนหลับไป จากนั้นราชครูก็เรียกเขาไปคุยในที่พักของตน เซี่ยเหลียนถามอาจารย์ว่ามีวิธีเปลี่ยนดวงชะตาให้หงหงเอ๋อร์ได้หรือไม่ ทำให้ราชครูบ่นว่าเพราะเซี่ยเหลียนไม่เข้าใจศาสตร์เกี่ยวกับโชคชะตาจึงได้ไม่เข้าใจอะไรเลย

ราชครูถามเซี่ยเหลียนว่ายังจำคำถามที่เขาเคยถามในวันที่เขาไปดูดวงชะตาให้ตอนเซี่ยเหลียน 6 ขวบหรือไม่ หลังจากนึกสักพักเซี่ยเหลียนจึงถามว่าใช่เรื่องของคน 2 คนกับน้ำ 1 ถ้วยหรือเปล่า ในวันนั้นราชครูชื่นชมคำตอบของเขาหลายครั้ง มีเพียงคำถามข้อนั้นที่ราชครูไม่พูดอะไรออกมา คนสองคนกำลังเดินอยู่กลางทะเลทรายและกำลังจะขาดน้ำตาย ผู้ที่ได้รับน้ำจะมีชีวิตรอด ส่วนอีกคนจะเสียชีวิต หากเซี่ยเหลียนเป็นเทพเจ้า เขาจะมอบน้ำถ้วยนั้นให้กับคนใด ราชครูหันไปบอกให้เฟิงซิ่นกับมู่ฉิงลองตอบคำถาม ในขณะที่มู่ฉิงขอข้อมูลของคนทั้งสองเพื่อประกอบการตัดสินใจ เฟิงซิ่นกลับบอกให้ทั้งสองคนไปตัดสินกันเอาเอง ส่วนเซี่ยเหลียนในตอนเด็กตอบไปว่าหากเขาเป็นพระเจ้า เขาจะมอบน้ำอีกถ้วยหนึ่งให้กับทั้งสองคน

ราชครูกล่าวว่าในโลกนี้ไม่ว่าจะเป็นโชคชะตาที่ดีหรือแย่ล้วนแต่มีจำกัดเหมือนน้ำหนึ่งถ้วย หากคนหนึ่งได้ดื่ม อีกคนย่อมไม่ได้ หากคนหนึ่งได้มากขึ้น อีกคนย่อมได้น้อยลง ทุกปัญหาล้วนเกิดจากการที่มีผู้คนอยู่มากมาย หากแต่มีน้ำเพียงแค่ถ้วยเดียว ทว่าการที่คนๆ หนึ่งได้รับน้ำถ้วยนั้นไปก็ย่อมมีเหตุผลของมัน ถ้าเปลี่ยนดวงชะตาของเด็กชายย่อมทำให้ชะตาของใครบางคนต้องเปลี่ยนไปด้วย ซึ่งนั่นย่อมนำมาซึ่งความแค้น การที่เซี่ยเหลียนต้องการมอบน้ำเพิ่มอีกถ้วยหนึ่งเช่นเดียวกับที่วันนี้ต้องการทางเลือกที่ 3 แม้จะทำไปด้วยเจตนาดี แต่เรื่องนั้นไม่มีทางเป็นไปได้

ถึงจะไม่เห็นด้วยแต่เซี่ยเหลียนก็ตอบรับอาจารย์ ราชครูกล่าวเสริมว่าเซี่ยเหลียนเป็นลูกศิษย์ที่เขาภูมิใจ แต่เขาก็ยังกลัวว่าจะมีบททดสอบบางอย่างที่เซี่ยเหลียนไปอาจผ่านได้ มีหลายเรื่องที่เซี่ยเหลียนไม่เข้าใจและไม่อาจให้ใครสอน ที่เซี่ยเหลียนกล่าวเกี่ยวกับการไม่ยอมก้มหัวให้พระเจ้านั้นก็เคยมีผู้อื่นเคยเอ่ยมาก่อนแล้ว แต่ความคิดเหล่านั้นกลับไม่อาจเป็นรูปร่าง เซี่ยเหลียนเลยบอกว่าเป็นเพราะคนเหล่านั้นได้เพียงคิดแต่ไม่ลงมือกระทำ หากวันหนึ่งเขาได้ขึ้นสวรรค์ เขาจะทำอย่างที่ได้พูดในวันนี้ และจะไม่มีอะไรห้ามเขาได้
.
.
.
.
.

75 Nameless Fanboi Posted ID:+hO5Y3fdNz

>>74 ขอบคุณ​มากโม่งสปอย
ฟาฟาก็เหมือนเจออะไรมาเยอะนะ กว่าเซี่ยเหลียนกันฟาฟาจะพบเจอความสุขในชีวิตนี่แม่ง ยาวนานจนเขียนเป็นหนังสือได้หนาแปดเมตร 555
กูอ่านสปอยตอนนี้ บอกเลยว่าราชครูทำนายไม่แม่น เพราะถ้าแม่นจริงต้องทายได้สิว่าเด็กคนนี้คือเนื้อคู่ของเจ้าชายในอนาคต 555

76 Nameless Fanboi Posted ID:LmHX/S6yql

>>55 โถ่อีควาย นิยายโบราณเรียก Apple ใช้หัวไหนคิด

77 Nameless Fanboi Posted ID:VjymokhRMo

>>76 หัวหน่าวแม่มึงมั้ง

78 Nameless Fanboi Posted ID:dk4q4KbJDw

เมื่อวานม่านฮวาเทียนกวานมาแล้ว ภาพ โคตร สวย เล้ย!

79 Nameless Fanboi Posted ID:dnFhQ68YA5

>>78 สวยมาก

80 Nameless Fanboi Posted ID:AQhOvHa11E

เหมือนปลอบใจ ปรจ ดราม่าเรดิโอ จบ ม่านฮวาเทียนกวานก็มาพอดี มีอะไรให้ติดตาม
ตอนนี้มีม่านฮวาปรจและเทียนกวาน ขาดแต่ตัวร้าย ทวิตภพแซวกันใหญ่ ออกจากไมโครเวฟแล้วก็กลับเข้าไปใหม่ โถถถถถถถ

81 Nameless Fanboi Posted ID:JBmtbAc77u

กูขอย้อนกลับไปที่ซีรีส์ปรมจ.แป้บนะ ในซีรีส์ดัดแปลงให้พี่เว่ยใช้วิชาพิศดาร ไม่ใช่วิชามาร วิชาออกเทาๆ ไม่ถึงกับดำเลย ยังพอจะเข้ากับบริบทที่ว่า 'ใครถูกใครผิด ใครขาวใครดำ' ได้อยู่ แต่ในหนังสือเห็นบอกกันว่าพี่เว่ยไม่ได้วีรบุรุษขนาดนี้ พี่เขาใช้วิชามารเลยป่ะ หรือก้ใช้คำว่าวิชาพิศดารอีก เล่นกับศพ โดนวิชาย้อนกลับจนร่างสลาย กูว่าอันนี้จะไม่เข้ากับคำว่าใครขาวใครดำแล้วนะ มันก็ดำชัดๆไปเลยนี่ หรือในหนังสือไม่ได้ชูประเด็นว่าการกระทำขึ้นกับมุมมองของคน

82 Nameless Fanboi Posted ID:VI+IMtcA4J

>>75 อาจารย์เหม่ยเขาทำนายได้แต่ช่วงที่ยังมีชีวิตน่ะ หลังกลายเป็นผีก็ไม่รู้ชะตาแล้ว เหมือนเซี่ยเหลียนกลายเป็นเทพก็ดูชะตาให้ไม่ได้เหมือนกัน แต่เซี่ยเหลียนนี่อาจารย์เหม่ยห้ามอะไรไว้ทำหมด ห้ามไม่ให้ยุ่งกับเด็ก ตอนหลังก็ไปได้กับเด็ก 5555

83 Nameless Fanboi Posted ID:8x0hQ+6eUr

>>76 จริง นิยายเรื่องเรื่องไหนเซตติ้งโบราณใช้แอปเปิ้ลกุนี่ปิดเลย ไม่เข้ากันอย่างแรง

84 Nameless Fanboi Posted ID:nz+UJOl/P5

>>81 กูว่าตรงเปรียบขาวเปรียบดำ สำหรับกูหมายถึงการกระทำการนำสิ่งนั้นนี่มาใช้ในทางใดพี่เว่ยพยายามจะใช้มันในทางที่ดี แต่ขึ้นชื่อว่าพลังมารอะเนอะ

มันน่าจะสื่อประมาณอารมณ์ไม่ใช่มารทุกคนจะเลว ไรงี้ ไม่ใช่เซียนทุกคนจะดี ถึงสำหรับกู...กูจะมองว่าพี่เว่ยไม่ค่อยดี55555 กูไบแอสเก่ง

85 Nameless Fanboi Posted ID:dLPcxB+QEp

>>84 เกือบคิดเหมือนมึง แต่ก็คิดเหมือนมึงแหละ 55555 กูคิดว่าเขาพยายามเล่นประเด็นว่ามารไม่ได้เลวทุกคน เว่ยแม่งจำเป็นต้องใช้มารเพราะใช้กระบี่ต่อไม่ได้ แต่แค่ใช้มารก็เลวเลยซะงั้น แต่กูก็ไม่ได้มองมันเป็นคนดีหรอก มันก็เป็นจูนิเบียวมาก่อนแล้วค่อยมาเป็นนางเอกแจ่มใสทีหลัง

86 Nameless Fanboi Posted ID:1g0A.eDmmv

>>82 กูก็คิดว่าเซี่ยเหลียนตอนเป็นองค์ชายก็แอบรั้น ห้ามไม่ฟัง ถึงขนบบางอย่างไม่เมคเซนส์จริงๆ ก็เหอะ ตอนต่อจากนี้คงต้องเจอเหตุการณ์​ที่จนปัญญา​จะช่วยทุกคนตามอุดมคติ หลายครั้งเข้า เลยใจฝ่อไปเลย

87 Nameless Fanboi Posted ID:O2Y0MPBp/2

>>81 จริงๆในซีรีย์กูนับเป็นขาวกิ๊งเลย แค่ขัดวิถีเซียน แต่ในนิยายอ่ะเทาจริง เพราะด้วยเจตนาแล้วพี่เว่ยก็ไม่ได้จะใช้วิชานี้ในทางที่ผิดขนาดนั้น แต่จุดที่เสียจริงๆของนางคือนิสัยที่ค่อนข้างทะนงตนมั่นใจในตัวเองสูงว่าข้าเก่งข้าแน่จัดการทุกอย่างได้ด้วยตัวคนเดียว เอาแต่ใจตัวเองและไม่ค่อยคำนึงถึงความรู้สึกของคนรอบข้าง อิพี่มันเลยต้องเรียนรู้จากความผิดพลาดและสูญเสียสิ่งสำคัญไปนี่แหละถึงค่อยกลายเป็นเว่ยอิงฉบับที่มาเข้าร่างน้องโม่แล้ว กูว่าแม่โม่น่าจะเป็นจำพวกรำคาญตัวเอกแบบนิยายแฟนตาซี จำพวกทำเรื่องเอาแต่ใจตัวเองแล้วเสือกเกิดผลดี มีอะไรผิดพลาดมาก็โทษสิ่งรอบข้างไม่ยอมรับว่าจริงๆตัวเองน่ะแหละที่ประมาท กูยกตัวเองง่ายๆเช่นเฟมีลจากเซวีน่า รายนั้นก็แนวๆนี้เลย เก่ง ทำได้ทุกอย่างทะนงตัวว่าฉันสามารถจัดการทุกเรื่องได้ แต่รายนั้นมีนักเขียนให้ท้ายไง ถ้าอ่านสมัยยังเด็กๆเบียวๆก็ชอบหรอกตัวเอกโชว์เทพ แต่พอมาอ่านตอนโตแล้วนี่เหลือกตามองรัวๆ แค่เรื่องที่ว่าตัวเองเป็นพวกชอบหลงทางแล้วยังเสือกรั้นจนหลงทางจนเกือบไปแดกของไม่ดี ยังไม่ยอมรับตัวเองแล้วโทษว่าเป็นความผิดของสิ่งรอบข้างเลย

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.