สปอยเทียนกวาน อาร์ค 2 ต่อจาก >>5 เทียนกวาน Part.56
.
.
.
.
.
มู่ฉิงยังตั้งข้อสังเกตอีกว่าเสื้อผ้าของเด็กชายมีรอยปะชุน ย่อมต้องมีผู้ใหญ่ทำให้ เพราะฉะนั้นต่อให้สถานการณ์ที่บ้านไม่ดี แต่เด็กชายก็ไม่ใช่เด็กเร่ร่อน เซี่ยเหลียนจึงถามที่อยู่ของอีกฝ่ายอีกครั้ง ทว่าเด็กชายกลับจับเซี่ยเหลียนไว้แน่น บอกว่าตนทะเลาะกับทางบ้านและถูกไล่ออกมาตอนนี้จึงไม่มีที่ไป หลังจากใคร่ครวญดูแล้วเซี่ยเหลียนก็ตัดสินใจที่จะดูแลอีกฝ่ายจนกว่าบาดแผลจะหายดีก่อน เฟิงซิ่นรู้สึกไม่ดีที่องค์ชายรัชทายาทมาอุ้มเด็กจร ขณะที่กำลังถกเถียงกันอยู่ ชาวบ้านที่สังเกตเห็นเซี่ยเหลียนก็ตะโกนเรียกกันเพื่อจับตัวเขาไว้
พวกเซี่ยเหลียนตกใจคิดว่าพวกชาวบ้านไม่พอใจที่เมื่อวานเขาทำหน้ากากหลุดซึ่งอาจพาโชคร้ายมาจึงพากันวิ่งหนี แต่ด้วยจำนวนคนทำให้ทั้ง 4 คนโดนล้อมอย่างรวดเร็ว แล้วเซี่ยเหลียนก็ถูกชาวบ้านรุมยกตัวเขาโยนขึ้นไปบนอากาศพร้อมส่งเสียงเชียร์ยกย่องการแสดงของเขา และยังชื่นชมที่องค์ชายรัชทายาทช่วยเหลือชีวิตเด็กชายชาวบ้านยากไร้ แม้ราชครูจะไม่พอใจในสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เมื่อเห็นท่าทีของชาวบ้านเซี่ยเหลียนก็รู้สึกว่าสิ่งที่ตัวเองทำลงไปเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว กว่าพวกเซี่ยเหลียนจะปลีกตัวจากฝูงชนมาได้ก็เป็นเวลาเย็น ระหว่างที่กำลังไต่ขึ้นเขากันเซี่ยเหลียนก็ถามชื่อเด็กชายให้แน่ใจอีกครั้ง อีกฝ่ายจึงบอกว่ามารดาเรียกตนว่าหงหงเอ๋อร์ หากแต่เธอเสียชีวิตไปแล้ว
เมื่อขึ้นมาถึงยอดเขา ศิษยร่วมสำนักคนหนึ่งก็วิ่งมาแจ้งว่าราชครูต้องการพบเซี่ยเหลียนที่หอมหายุทธ์ เซี่ยเหลียนจึงให้เฟิงซิ่นกับมู่ฉิงพาหงหงเอ๋อร์กลับไปที่ตำหนักเซียนเล่อก่อน ตอนที่เขาไปถึงหอมหายุทธ์ก็พบว่าราชครู กับรองราชครูทั้ง 3 กำลังจุดธูปไหว้มหาเทพ หลังจากทักทายแล้วเขาจึงเข้าไปจุดธูปด้วย ราชครูกล่าวว่าพวกเขาหารือวิธีแก้เคล็ดได้ 2 วิธี วิธีแรกให้พาเด็กชายที่หล่นจากกำแพงคนนั้นมาผนึก 1 ในสัมผัสทั้ง 5 เป็นการไถ่โทษ แต่พวกเขารู้ดีว่าเซี่ยเหลียนไม่มีทางยอมจึงคิดวิธีที่ 2 ขึ้นมา นั่นคือให้เซี่ยเหลียนแสดงความสำนึกผิดต่อหน้าสาธารณะชน ขอให้สวรรค์ยกโทษ แล้วหันหน้าเข้าหากำแพงเป็นเวลา 1 เดือน ทว่าเซี่ยเหลียนก็ยังปฏิเสธอยู่ดี เขากล่าววันนี้ชาวบ้านในเมืองต่างยกย่องที่เขาช่วยเหลือเด็กชายไว้ หากเขาทำตามที่ราชครูว่าและถูกลงโทษเพราะทำในสิ่งที่ถูกต้อง ประชาชนจะคิดอย่างไรกัน
ราชครูแย้งว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับว่ามันถูกหรือผิดเพราะโลกนี้ไม่ได้สมบูรณ์แบบ เซี่ยเหลียนบอกว่าหากเช่นนั้นเขาขอเลือกทางเลือกที่ 3 เซี่ยเหลียนกล่าวกับอาจารย์ว่าตั้งแต่ที่เขาบำเพ็ญอยู่ที่นี่เขาก็คิดมาตลอดว่าการที่พวกเขากราบไหว้เทพเจ้าเช่นนี้เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้วหรือ ก่อนขึ้นสวรรค์พวกเขาต่างก็เป็นมนุษย์ พระเจ้าอาจเปรียบดั่งผู้อาวุโส เปรียบดั่งอาจารย์ เป็นดั่งแสงนำทาง แต่ก็ไม่ใช่นายเหนือหัว มนุษย์สมควรแสดงความกตัญญูชื่นชมขอบคุณ แต่ก็ไม่น่าต้องกราบไหว้ ไม่น่าจะต้องเกรงกลัว ไม่น่าจะต้องร้องขอความเมตตา ไม่น่าจะต้องฝืนให้ตัวเองต้องลำบาก เขายินดีถวายตะเกียง 1000 ดวงแสดงความเคารพ แต่ขอปฏิเสธการก้มหัวในเมื่อสิ่งที่เขาทำถูกต้อง หากสวรรค์มีตาก็ไม่ควรลงโทษเขาด้วยเรื่องนี้ เมื่อราชครูถามว่าแล้วถ้าสวรรค์ต้องการทำโทษจริงๆ เซี่ยเหลียนจะยอมขอโทษหรือไม่ เซี่ยเหลียนก็ตอบว่าหากเป็นเช่นนั้นเขาก็จะต่อต้านสวรรค์เอง
ได้ยินดังนั้นใบหน้าของราชครูกลับปรากฏรอยยิ้มขึ้น เขากล่าวว่าเซี่ยเหลียนกล้าหาญมากที่พูดอย่างนั้น ตอนนั้นเองสัญญาณเตือนภัยก็ดังออกมาจากข้างนอก ราชครูทั้ง 4 กับเซี่ยเหลียนจึงพากันรีบวิ่งออกไปที่เจดีย์กาฬซึ่งประตูถูกเปิดออก ไอสีดำพวยพุ่งออกมาจากด้านใน ราชครูตะโกนถามเรื่องราวจากพวกลูกศิษย์ ก่อนได้รับคำตอบว่าจู่ๆ ประตูเจดีย์ก็เปิดออกเอง ภาชนะผนึกวิญญาณร้ายที่เก็บอยู่ด้านในพากันสั่นสะเทือน ยันต์คาถาที่ปิดผนึกพวกมันหลุดออก ราชครูสั่งให้พวกลูกศิษย์ไปนำไหผนึกวิญญาณใบใหม่มาให้เขา แต่ดูเหมือนจะสายไปเสียแล้ว
.
.
.
.
.