Last posted
Total of 1000 posts
กูกลัวคนนอกเข้ากรุ๊ปแล้วโพสแต่รูปซรว่ะ
แค่ลองหาที่อยู่ใหม่ไปก่อน
อยากได้ที่มันคล้ายๆโม่ง ไม่เปิดเผยตัวตนน่ะ
Line openchat สรุปทำไม่ได้นะ ติดปัญหาเรื่องยังไงก็ต้องมีนามแฝงที่ซ้ำไม่ได้
>>140 อืมม ยากแฮะ ไม่ว่าจะแพลตฟอร์มไหนก็คงจะต้องเป็นแบบระบุตัวตนได้ชัดเจนกว่าโม่งทั้งนั้น ไม่งั้นก็นำเสนออีกอย่างคือ kakaotalk อะมึง รู้สึกว่าเวลาเล่นในกรุ๊ปจะตั้งเป็นนามแฝงกะดิสยังไงก็ได้ เปลี่ยนได้ตลอด ละก็ซ้ำได้ ถ้าไม่สะดวกใจจะให้คนรู้ว่าเป็นหน้าเดิมๆ ก็ขยันเปลี่ยนหน่อยไรงี้
กูไม่รู้จัก telegram ที่มึงบอก เลยลองไปกูเกิลดู
เขร้ แม่งแอพแชทจากรัสเซีย มีโหมด secret chat / secure chat ที่เด็ดคือ แม่งตั้งเวลาระเบิดข้อความได้ด้วยเว้ยยย 5555 ทำไมฟีลลิ่งกูเหมือนจะก่อวินาศกรรมไงไม่รู้ เหล่าโม่งจะแชทกันทั้งที หาแบบใต้ดิน ยืนยันตัวตนไม่ได้เหี้ยๆ
ดึกแล้วมาสปอยเทียนกวานต่อ ขอลงให้เยอะที่สุดก่อนเกิดอะไรขึ้นกับโม่งจริงๆ
ต่อจาก >>93 เทียนกวาน Part.14
.
.
.
.
.
แก็งค์ 4 หนุ่มออกเดินทางเข้าสู่เขตทะเลทรายโดยอาศัยดาวเหนือเป็นเครื่องนำทาง ภาพซานหลางชี้ชวนเซี่ยเหลียนดูดาวช่างขัดหูขัดตาหนานเฟิงกับฝูเหยายิ่งนัก แต่พวกเขาก็ไร้เหตุผลเพียงพอที่จะปฏิเสธไม่ให้เด็กหนุ่มร่วมทาง ทั้งผู้อาวุโสในกลุ่มยังปกป้องอีกฝ่ายอย่างเห็นได้ชัด การเดินทางยามค่ำคืนถึงจะหนาวแต่ก็ไม่ได้ลำบากเท่าตอนกลางวันที่แสงอาทิตย์แผดเผา เซี่ยเหลียนคอยหันกลับมาดูอาการของเด็กๆ ในความดูแลเป็นระยะ หนานเฟิงกับฝูเหยาที่เป็นเทพไม่ได้น่าเป็นห่วงนัก ทว่าเมื่อเห็นซานหลางถอดเสื้อตัวนอกออกมากางบังแดดเหนือศีรษะเขาก็อดรู้สึกเอ็นดูไม่ได้ และหลังจากเดินเท้ากันมาได้ระยะหนึ่งพวกเขาก็ได้พบกับโรงแรมร้าง เซี่ยเหลียนจึงเดินนำทุกคนเข้าไปพักเหนื่อยและหลบร้อนข้างใน
เซี่ยเหลียนเอากระบอกน้ำที่พกมาด้วยให้ซานหลางดื่ม พอเด็กหนุ่มดื่มเสร็จเขาก็รับมาดื่มต่อ ซานหลางมองเขาก่อนถามว่ายังมีน้ำเหลืออีกหรือเปล่า เซี่ยเหลียนเลยจะส่งกระบอกให้อีกฝ่ายอีกครั้ง ทว่าฝูเหยากลับขวางไว้แล้วเสนอให้เด็กหนุ่มดื่มน้ำจากกระบอกของเขาแทน เมื่อพิจารณาจากนิสัยของฝูเหยา และจากที่เทพหนุ่มทั้งสองบอกว่าต้องการตรวจสอบซานหลาง เซี่ยเหลียนก็เข้าใจทันทีว่าน้ำในขวดนั้นต้องเป็นน้ำใส่ยาคืนสภาพเป็นแน่ หากคนธรรมดาดื่มน้ำนี้เข้าไปก็ไม่เกิดผลอะไร แต่หากสิ่งที่จำแลงกายดื่มเข้าไป คนๆ นั้นก็จะแสดงร่างจริงออกมา
ซานหลางงอแงบอกว่าตนจะดื่มน้ำกระบอกเดียวกับเกอเกอ แต่ฝูเหยายังคงคะยั้นคะยอแกมบังคับอีกฝ่ายให้ดื่มน้ำกระบอกนั้นให้ได้ เกิดสงครามยัดเหยียดกระบอกน้ำกันอยู่สักพัก ฝูเหยาจึงบอกว่าเด็กหนุ่มไม่บริสุทธิ์ใจถึงไม่ยอมดื่ม แต่ซานหลางก็แย้งว่าด้วยท่าทางไม่เป็นมิตรของฝูเหยา ประกอบกับการดึงดันให้เขาดื่มน้ำเช่นนี้ น้ำนั่นอาจใส่ยาพิษไว้ก็ได้ ฝูเหยาท้าให้เด็กหนุ่มถามเซี่ยเหลียน เซี่ยเหลียนตอบว่าน้ำไม่มียาพิษ แต่ก่อนที่เขาอธิบายต่อว่ามันมียาอย่างอื่นใส่ไว้ เขาก็ถูกหนานเฟิงและฝูเหยาส่งสายตาพิฆาตมาให้ หลังจากได้รับคำยืนยันการคนที่เชื่อใจ ซานหลางก็ยกกระติกขึ้นดื่มน้ำ ทว่าสุดท้ายก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แถมเจ้าตัวยังโยนกระบอกน้ำทิ้งพร้อมบอกว่าน้ำจากกระบอกของเกอเกออร่อยกว่าอีกต่างหาก ซึ่งนั่นก็ทำให้เซี่ยเหลียนอดยิ้มออกมาไม่ได้
หนานเฟิงหยิบกระบี่ขึ้นวางบนโต๊ะพร้อมแจงว่าเขาจะให้ซานหลางยืมอาวุธชิ้นนี้ไปใช้ป้องกันตัว เมื่อเห็นกระบี่เล่มนั้นเซี่ยเหลียนก็เบิกตากว้าง มันคือกระบี่ปราบมาร หากมีสิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์ชักมันออกจากฝัก ใบมีดของมันจะเปลี่ยนเป็นสีแดงราวอาบเลือดและสะท้อนภาพร่างจริงของผู้ถือมันออกมา ซานหลางมองกระบี่เล่มนั้นด้วยความสนใจ แต่เมื่อเขาดึงมันออกจากฝักทุกคนก็ได้เห็นใบมีดของกระบี่แตกหักเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ซานหลางหัวเราะร่า หยิบเศษกระบี่มาโปรยเล่นพร้อมบอกว่ามันน่าจะหักระหว่างทาง แต่ไม่เป็นไรเพราะว่าเขาสามารถปกป้องตัวเองได้อยู่แล้ว
เซี่ยเหลียนไม่อาจทำใจมองกระบี่เล่มนั้นได้ ความจริงมันคือกระบี่ที่เขาได้รับจากมหาเทพสงครามจวินอู๋ แต่ช่วงตกสวรรค์ครั้งแรกเขาให้เฟิงซิ่นนำมันไปจำนำแลกเงินมาซื้อข้าวกิน นึกไม่ถึงว่าเฟิงซิ่นจะไปตามหากลับมาจนตอนนี้ได้มาอยู่ในมือของหนานเฟิง แม้จะรู้สึกได้ว่าทั้งสามกำลังจะทะเลาะกันอีกยก เซี่ยเหลียนก็เบนหน้าออกไปมองข้างนอกโรงแรมพลางคิดว่าอาจจะเกิดพายุทรายในเร็วๆ นี้ แต่ตอนนั้นเองเขาก็เห็นเงาร่างของคนสองคนกำลังเดินอยู่ข้างนอก
ร่างที่กำลังเดินอยู่ในทะเลทราย คนหนึ่งสวมชุดสีดำ ส่วนอีกคนสวมชุดสีขาวและเห็นได้ชัดว่าเป็นสตรี หญิงสาวผู้มีดาบยาวสะพายบนหลังหันมายิ้มให้พวกเขา ก่อนที่ทั้งสองจะเดินผ่านไปอย่างไม่เร่งรีบ ในความคิดของเซี่ยเหลียนอีกฝ่ายต้องไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน แต่เรื่องพายุทรายสำคัญกว่า เขาจึงหันมาบอกให้ทุกคนรีบออกเดินทางต่อเนื่องจากระแสลมเริ่มรุนแรงขึ้น หลังจากที่หนานเฟิงเก็บเศษกระบี่เรียบร้อย ทั้งสี่ก็ออกมาจากโรงแรมร้างนั้น
.
.
.
.
.
โม่งจะล่มหรอมึง ที่มึงพูดๆกันคืออะไรวะ กูโลว์เทคสัสๆอะ ถ้าล่มพวกมึงพากูไปด้วยยยย กูเหงาา
ฮือ กูเสียดายข้อมูลในโม่ง T T
เอ้า ไม่เข้าแปปดียว เว็บจะหายเเล้วหรอ เศร้าว่ะ
ได้ถิ่นใหม่เเล้วก็บอกบุญกันด้วยนะ ลากกูไปด้วยจ้าาา
มึงๆ ฉากปรมาจารย์อี๋หลิงตายยังไงในอนิเมะมันมียังวะ
>>158 กูว่าดูซีรี่ย์แล้วมาดูเมะเข้าใจง่ายกว่านะมึง55 กูว่าเดินเรื่องพอๆกันแต่เมะตัดเร็วแต่พอเข้าใจเพราะดูซีรี่ย์มา
อันนี้กูบ่น กูอยากอ่านนิยายเล่มต่อๆไปมากเลยมึง555 ฮือๆ กูก็เข้าใจสนพนะแต่กูอยากอ่านง่ะ แง กูค้างคา กูทรมาน แต่กูไม่ค่อยเคกับภาษาที่เขาแปลอะมึง กูเฉยๆไม่ได้รู้สึกว่าดีมากอะไร...ความคิดกูนะ
กรี๊ดดดดดมากก วั่งเซียนเวอร์ชั่นอนิเมะมาแว้วววว เซี่ยนอวิ๋นเพราะมาก ให้อารมณ์อุ่นๆเหงาๆ ฟังได้เรื่อยๆหลับตาฟังแล้วได้ฟีลมากกกก กูชอบพอๆกับวั่งเซี่ยนเลย
>>159 กูก็อยากอ่านนิยาย กูอยากอ่าน จนกูเลิกอยากอ่านไปแล้ว กลายเป็นเฉยๆแล้ว งงปะ 5555
เล่ม 2 กูนัดรับวันที่ 20 เดือนหน้าอะ ได้ช้ากว่าตอนจบอนิเมะซีซั่น 2 อีก
ตอนนี้เริ่มมาตามอ่านนิยายหรือมังงะเรื่องอื่นแทนแล้ว มันทิ้งช่วงนาน กูไปตามอย่างอื่นแทนก็ได้ อารมณ์ประมาณนี้
ขอ ky สปอยเทียนกวานต่อนะ
ต่อจาก >>148 เทียนกวาน Part.15
.
.
.
.
.
หลังจากเดินกันมานานพวกเขาก็เจอกับลมที่รุนแรงกว่าปรกติ หลังจากที่ทุกคนเข้ามาอยู่ในระยะที่พอได้ยินเสียงกัน เซี่ยเหลียนก็เอ่ยว่าพายุนี้อาจเป็นฝีมือของปีศาจ ควรไปตั้งหลักกันใหม่ก่อน แต่ฝูเหยาไม่เห็นด้วย และคิดว่าหากอีกฝ่ายต้องการหยุดยั้งพวกตนไว้ สิ่งที่ควรทำก็คือการเดินไปต่อ ทว่ายังไม่ทันที่พวกเขาจะสรุปกันได้ก็มีลมหมุนพัดหอบเซี่ยเหลียนลอยขึ้นไปในอากาศ
เซี่ยเหลียนสั่งให้รั่วเย่ยึดสิ่งที่แข็งแรงไว้ แต่สิ่งที่ผ้าแพรขาวรัดไว้กลับเป็นซานหลาง และก่อนที่เขาจะทันสั่งให้มันหาที่ยึดใหม่ เด็กหนุ่มก็ถูกพัดปลิวลอยขึ้นมาอยู่กลางอากาศกับเขาเสียแล้ว ซานหลางไม่ได้มีท่าทีตื่นตกใจใดๆ ทั้งสิ้น จนเซี่ยเหลียนอดสงสัยไม่ได้ว่าอีกฝ่ายจงใจปล่อยตัวเองลอยขึ้นมาด้วยหรือเปล่า ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังเข้าไปจับตัวอีกฝ่ายไว้ แล้วสั่งให้รั่วเย่หาอย่างอื่นที่ไม่ใช่มนุษย์ และคราวนี้ผ้าแพรก็ไปรัดแขนของหนานเฟิงกับฝูเหยา
ทั้งสองพยายามช่วยดึงเซี่ยเหลียน แต่ลมกลับพัดรุนแรงขึ้นอีกจนทั้งคู่ลอยขึ้นมาด้วย เซี่ยเหลียนสั่งให้รั่วเย่หาของยึดอีกครั้ง คราวนี้เหมือนแพรขาวจะหาสิ่งสมควรใช้เป็นหลักได้แล้ว เมื่อทั้ง 4 ดึงตัวลงมาก็เห็นว่ารั่วเย่มัดอยู่กับหินก้อนยักษ์ซึ่งด้านหนึ่งมีช่องว่างพอให้คนรอดผ่าน มันคือสิ่งที่ชาวปั้นเยวี่ยสร้างไว้เพื่อหลบพายุทะเลทราย แล้วเซี่ยเหลียนก็เดินนำทุกคนเข้าไปข้างในซึ่งถูกเจาะเป็นโพรง
ทุกคนไอสำลักทรายที่เผลอกลืนเข้าไป พลางเอาทรายออกจากเสื้อผ้า มีเพียงซานหลางที่เหมือนจะได้รับผลกระทบน้อยที่สุดที่ปัดทรายออกจากเสื้อไม่กี่ครั้ง เซี่ยเหลียนถามหนานเฟิงกับฝูเหยาว่าทำไมเมื่อครู่ไม่ใช้คาถาทำให้ตัวหนัก แต่ทั้งสองก็ตอบว่าพวกเขาใช้มันแล้วแต่ก็ยังสู้แรงพายุนั่นไม่ได้ ทั้งฝูเหยายังอ้างว่าที่แห่งนี้อยู่ไกลจากเขตแดนของแม่ทัพของพวกตน พลังทิพย์ของพวกเขาจึงไม่แข็งแกร่งนัก พอเห็นทั้งสองมีท่าทีหงุดหงิดอย่างนั้นเซี่ยเหลียนจึงเอ่ยขอบคุณพวกเขาที่มาช่วยงาน
ทั้ง 4 ตั้งใจจะนั่งหลบอยู่ในนี้จนกว่าพายุทรายจะสงบ เซี่ยเหลียนหันไปถามเพศของราชครูปั้นเยวี่ยจากซานหลาง เมื่อรู้ว่าเป็นผู้หญิง เขาก็นึกสงสัยสตรีชุดขาวที่เห็นก่อนหน้านี้ ฝูเหยาตั้งข้อสันนิษฐานว่าถ้าเป็นเช่นนั้นคนแต่งชุดสีดำก็อาจเป็นราชครูฟางซินที่เป็นนักพรตมารอีกคน แต่เซี่ยเหลียนแย้งว่าไม่มีทางเป็นเช่นนั้นเพราะเขาเคยได้ยินเรื่องราวของราชครูฟางซินมาก่อน อีกทั้งช่วงเวลาการมีตัวตนอยู่ของนักพรตมารทั้ง 2 ก็ห่างกันเป็น 100 ปี
ตอนนั้นเองซานหลางก็ชี้ว่าหินที่เซี่ยเหลียนนั่งทับอยู่มีตัวอักษรเขียนไว้ เมื่อหนานเฟิงใช้พลังทิพย์จุดไฟจึงเห็นว่ามันเป็นอักษรของชาวปั้นเยวี่ย พอเห็นเซี่ยเหลียนพยายามอ่านฝูเหยาเลยจุดไฟขึ้นมาอีกคนพร้อมถามว่าเขาอ่านออกหรือ เซี่ยเหลียนจึงเล่าว่าความจริงช่วงหนึ่งก่อนที่จะมีนักพรตมาร เขาเคยเก็บขยะอยู่ที่แคว้นปั้นเยวี่ยมาก่อน แล้วเขาก็อ่านคำแรกบนหินก่อนนั้นออกมาได้ว่า “แม่ทัพ” แต่ก่อนที่เขาได้อ่านคำต่อไปออก แสงไฟก็สาดให้เห็นใบหน้ารางๆ ของมนุษย์แฝงอยู่ในความมืดด้านหน้าเขา
.
.
.
.
.
กูอ่านนิยายจีนโบราณแบบอิ้งแม่งออกมาแนวแฟนตาซีหมดเลย กูกากอิ้งด้วยแหละศัพท์แสงในคลังมีไม่มากแปลได้แบบตรงๆทื่อๆ อย่างชื่อเรียกก็ใช้คำว่ามาสเตอร์ ยังมาสเตอร์ ผู้อาวุโสเว่ยก็เรียกซีเนียร์เว่ย ใจกุแม่งพาลคิดไปแนวแฟนตาซีฝรั่งทุกทีก๊าก
กูลองเข้ากลุ่มแชทในไลน์แม่งไหลเร็วมาก อ่านไม่ทัน คนละฟีลกับโม่งเลย
กูเข้าแค่กลุ่มคู่ชิป ลองเชิงดู ไม่ไหวว่ะ
#โม่เซียงถงซิ่ว อันนี้ๆ
กูมีข้อเสนอ มันมีแชทของโม่ง801หมวดนี้อยู่ พวกมึงจะแยกกันคนละห้องไปเลยหรือจะรวมอยู่ในนั้นแล้วเป็นหมวดแยกเอา
>>177 กูว่าอัน 801 ก้อดีนะ ไปส่องมา เหมือนตอนนี้เราเข้าโม่งหมวดหลัก BL เราจะมีย่อยเป็นมู้ตั่งต่างช่ะ
ใน 801 นั้นมันก้อแยกห้องแชทย่อยได้เหมือนกัน
เหมือนเวลาเราเข้ามู้หิ้ง หรือมาห้องโม่เซียง
อยากคุยวายทั่วไปก้อเข้าแชทหิ้ง อยากคุยงานแม่โม่ก้อเข้าห้องแชทโม่เซียง
ปล มะวานกูลองตั้งแชท #โม่เซียงถงซิ่ว ไว้
แต่กูว่ามันแคบไปแหะ พอเห็นของ 801 มันดีกว่าว่ารวมวายเลย มีห้องย่อยให้เลือก
ส่วนประเด็นเรื่องกัวโม่งแตก เพราะชื่อมันตั้งซ้ำกันไม่ได้ กูยังรอคนหาวิธีแก้อยู่
วิธีเสิช มึงเข้าไลน openchat ละพิม #801
ขอเสียงคนอยากเป็นโม่งต่อไปหน่อยว่าถ้าเป็น cbox pro จะโอเคกันป่ะ กูมี channel เหลือเยอะ เป็นโม่งกันได้หมดทุกคน ไม่ต้องสมัคร ใครสแปมกับโทรลค่อยบึ้มIP แต่อาจจะไม่สะดวกตรงที่มันแสดงข้อความได้แค่ 500 ข้อความล่าสุดต่อ 1 channel ข้อความเก่าๆ เจ้าของห้องแชทต้องดาวน์โหลดจาก admin panel แล้วทำลิ้งค์เอาเอง ถ้าตอนไหนไม่ว่างก็อาจจะดีเลย์นานหน่อยถึงจะทำลิ้งค์ข้อความเก่าให้ได้.... ถ้ามีคนสนใจเดี๋ยวกูแบ่งให้ 6 channel (ุุคุยทั่วไป,สารพัดวาย,สัพเพเหระโม่เซียง + ห้องสปอยนิยายแต่ละเรื่องของโม่เซียงอีก 3 ห้อง เอาไว้คนที่อ่านแล้วคุยกัน)
สนๆ กูชอบสวมโม่ง
>>181 >>182 และเหล่าโม่งที่สนใจก็ลองเล่นกันดูนะ อันนี้เป็น cbox channel เฉยๆ ใช้ได้แต่ bbcode ใช้ html ไม่ได้ เวลากดลิ้งค์ห้องแชทมันเลยเด้งหน้าต่างใหม่ ลองใช้ดูกันก่อนล่ะกัน ถ้าลองใช้กันแล้วเหล่าโม่งคิดว่ามันโอเค เดี๋ยวกูเอาขึ้นโฮสติ้ง เขียนวิธีใช้ เขียนกฏ เขียนหัวห้องแชทให้มันดูดี แล้วทำแถบลิ้งค์ให้มันใช้ง่ายกว่านี้ ...ไม่ต้องสมัครนะ อยากเป็นโม่ง1 โม่ง2 โม่งปริศนา สมาชิกสมาคมโม่ง อะไรก็เชิญเลย
ถ้าลองใช้แล้วไม่เวิร์คกูก็จะปล่อยหน้าแชทไว้ให้เล่นกันเพลินๆ แต่กรณีนั้นกูจะไม่แบ็คอัพข้อความเก่าๆ ให้นะ
ถ้าโม่งตกลงจะใช้กันยาวๆ กูค่อยมาทำให้เป็นเรื่องเป็นราว
>>183 ลืมแปะลิ้งค์ https://my.cbox.ws/mongthai
เข้าลิ้งค์นี้นะ
>>184 bbcode สำหรับใช้ในห้องแชท
โพสต์รูป [img]ลิ้งค์รูปภาพ[/img]
ตัวหนา [b]ข้อความ[/b]
ตัวเอียง [i]ข้อความ[/i]
ขีดเส้นใต้ [u]ข้อความ[/i]
ขีดฆ่า [s]ข้อความ[/s]
ขึ้นบรรดทัดใหม่ [br]
คลุมดำข้อความ สำหรับข้อความสปอยล์ เวลาไม่ได้พิมพ์ในห้องสปอยล์ [color=#000,#000]ข้อความ[/color]
ว่างๆ ก็ลองใช้ดูนะ
กูใช้ไม่เป็น...กูรออ่านเงียบๆนะพวกมึง...
>>189 ก็ใช้เหมือนเว็บแชทปกติอะ
- เลือกห้อง ใส่ชื่อลงช่อง name (จะใช้ชื่อ "โม่ง" กันให้หมดเลยก็ได้)
- พิมพ์ข้อความลงช่อง message กด enter ส่งข้อความ
ถ้าบอร์ดโม่งไม่เน่าก็ไม่จำเป็นต้องไปใช้อันโน้นหรอก คิดซะว่าเป็นของเล่นไว้เล่นเพลินๆ แล้วกัน แค่เปิดห้องเผื่อไว้วันไหนเว็บโม่งปิดกะทันหันแล้วคนอยากสวมโม่งคุยกันต่อ
ky เพลงวั่งเซี่ยน พวกมึงชอบของเวอร์ไหนมากสุดอ่ะ เมะ ไลฟ์ หรือ เรดิโอ
>>191 ของกู อินกับเพลงฮัมในถ้ำอะ เฉพาะท่อนฮัม เล่นฉินก็กินใจกูไปแล้วขนาดไม่มีเนื้อร้อง กูชอบมาก มันทัชหัวใจแย่างบอกไม่ถูก >>เซี่ยนอวิ๋น ชอบเสียงและเนื้อเพลงทำนองดีมากๆ ลองหลับตาฟังเสียงขลุ่ยเสียงฉินในเพลงคือสู่ขิตมากๆ
รองลงมาก็ วั่งเซี่ยน เรดิโอดราม่า เพลงนี้ก็เพราะนะให้อารมณ์อีกแบบอ่ะ แต่กูชอบเสียงฮัมมากกว่า
>>อู๋จี ฟังแค่รอบเดียว ในซีรีส์แหละ เฉยๆ ไม่กินใจเท่าไหร่อาจเพราะเนื้อเำลงแนวมิตรภาพ มันเพราะแหละ แต่ไม่ทัชอะ
มึง ทำไมมันฮวาตัวรายอย่างข้าถึงปลิววะแล้วงดอัพไม่มีกำหนด เกิดมาม่าไรอ่ะกูอึ้งงงง
กูยังงงอยู่เลย ชื่อเพลงอันไหนคืออะไรยัง อู๋จี วั่งเซี่ยน เซี่ยนอวิ๋น
งงกว่าชื่อคู่ชิปก็ชื่อเพลงนี่แหละ
ลังเลว่าจะจองปรมาจารย์ลัทธิมารเล่ม 2 ดีป่ะวะ คือกูไม่ได้อยู่ไทยอ่ะ แล้วเพื่อนที่คอยดูให้ก็กำลังจะย้ายไปทำงานตปท.กลางเดือนหน้า คงไม่ได้อยู่เอานิยายให้กูแล้ว จะฝากที่บ้านเป็นธุระให้ก็วุ่นวายอ่ะ หรือกูควรจะรอกลับมาซื้อปีหน้าตอนที่มาเที่ยวไทยอีกรอบดีวะ
>>197 แยกง่ายๆ เพลงวั่งเซี่ยนมาจากเรดิโอดราม่า เป็นเพลงประจำด้อมเลย ตอนนั้นเมะยังไม่ออก ตามมาด้วยเพลง เซี่ยนอวิ๋น เพลงนี้จอนเมะซีซั่นแรกมีแค่เสียงฮัม กับเสียงฉินของวั่งจี ไม่มีชื่อเพลง (แต่คนก็เรียกว่าวั่งเซี่ยนเวอร์ชั่นเมะแหละ )
อู๋จี คือเพลงเวอร์ชั่น ซีรีส์
>>200 ไหนๆ กูเข้าใจถูกไหม ผิดแก้ให้ด้วย
วั่งเซี่ยนคือเพลงร้อง มาจากเรดิโอดราม่า เสียงผู้ชายร้อง
อู๋จี คือเพลงร้อง มาจากไลฟ์ซีรีส์ เป็นเพลงจบตอน
เซี่ยนอวิ๋น คือเพลงร้อง มาจากอนิเมะซีรีส์ เสียงผู้หญิงร้อง
ส่วนเพลงตามเนื้อเรื่องฉากถ้ำเต่า เพลงที่หลานจ้านแต่ง? เรียกวั่งเซี่ยนเหมือนกัน แต่ก็คือเปิดเพลงของสื่อนั้นๆ อย่างไลฟ์ซีรีส์ก็คือเปิดเพลงอู๋จี อันนี้กูเข้าใจถูกปะ
ปล. ถามหน่อย ในนิยายมีเรียกชื่อเพลงหรือเปล่า
ถามหน่อย เรื่องพี่วั่ง
.
.
.
.
.
ได้ข่าวว่าพอเวลาผ่านไปหน้าน้องโม่(ที่มีวิญญาณพี่วั่ง)จะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นหน้าพี่วั่ง อันนี้มีในนิยายป่ะ
.
.
.
.
.
ว่าแต่มีใครรู้เรื่องแอนตี้แฟนของโม่เซียงมะ เค้าแอนตี้เรื่องอะไร เหลาให้ฟังหน่อยจิ
แง ทำไมตัวร้ายล่มง่า กูรอเนี่ย อย่าล่มเลยยย
แอนตี้แฟนพวกนี้มันมีมานานละเว้ย แต่ใครแม่งจะไปรู้ว่าเสือกไปมีในทีมวาดพวกนี้
มาสปอยเทียนกวานต่อนะ
ต่อจาก >>164 เทียนกวาน Part.16
.
.
.
.
.
เสียงกรีดร้องดังมาจากใบหน้านั้น ก่อนที่หนานเฟิงจะเร่งไฟในมือจนแสงสาดไปทั่วถ้ำ ปรากฏให้เห็นว่ามีผู้ที่หลบอยู่ในความมืดถึง 7-8 คน ต่างกำลังนั่งตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว เมื่อถูกตะคอกถามว่าเป็นใคร ชายที่อายุมากที่สุดในกลุ่มจึงตอบว่าพวกเขาเป็นพ่อค้าธรรมดาที่เข้ามาหลบพายุในนี้ หนานเฟิงถามต่อว่าเหตุใดเมื่อครู่พวกเขาต้องซ่อนตัว ตอนนั้นชายหนุ่มวัยรุ่นคนหนึ่งก็ตะโกนด้วยความไม่พอใจว่าพวกตนไม่ได้ตั้งใจหลบซ่อน แต่ใครจะไปรู้ว่าพวกเซี่ยเหลียนที่จู่ๆ ก็เข้ามาในถ้ำเป็นคนดีหรือคนเลว อีกทั้ง 4 หนุ่มยังพากันคุยเรื่องทหารปั้นเยวี่ย แถมยังจุดไฟจากมือได้อีก พวกเขาย่อมไม่กล้าส่งเสียงอะไรอยู่แล้ว
เซี่ยเหลียนพยายามบอกให้ทุกคนใจเย็น อธิบายว่าพวกตนเป็นนักพรตธรรมดาที่พอใช้วิชาได้นิดหน่อย และบังเอิญเข้ามาหลบพายุทรายเหมือนกัน เมื่อได้ยินดังนั้นทุกคนจึงเริ่มผ่อนคลายลง แต่ซานหลางก็จุดประเด็นขึ้นมาว่าในเมื่อมีข่าวคนหายที่เส้นทางปั้นเยวี่ยลือกันให้แซ่ด อีกฝ่ายจะเป็นพ่อค้าธรรมดาตามที่พูดจริงอย่างนั้นหรือ แต่พ่อค้าอาวุโสก็กล่าวว่าข่าวลือนั่นไม่เป็นความจริงเสียทีเดียว ก่อนหน้านี้มีคณะเดินทางหลายคณะที่สามารถเดินทางผ่านเส้นทางปั้นเยวี่ยได้โดยไม่ได้รับอันตราย เพียงแต่ต้องหาผู้นำทางผู้ชำนาญพื้นที่ให้มานำทางให้ ซึ่งอาเจาที่พาพวกเขามาหลบพายุทรายที่นี่ก็คือคนๆ นั้นนั่นเอง
อาเจาเป็นชายหนุ่มอายุราว 20 ปีซึ่งมีท่าทางน่าเชื่อถือคนหนึ่ง กลุ่มพ่อค้าดูมีความมั่นใจเป็นอย่างมากว่าจะเดินทางกันได้โดยสวัสดิภาพ แต่เซี่ยเหลียนก็หันไปบอกหนานเฟิงกับฝูเหยาว่าก่อนไปซากเมืองปั้นเยวี่ย พวกเขาจะต้องทำให้แน่ใจว่าพวกพ่อค้าจะปลอดภัยจริงๆ เสียก่อน จากนั้นเขาก็อ่านอักษรบนหินก้อนนั้นอีกครั้ง แต่ช่วงที่เขาเคยอาศัยในแคว้นปั้นเยวี่ยก็ผ่านมา 200 ปีแล้ว ทำให้เขาจำวิธีการอ่านไม่ค่อยได้ ทว่าตอนนั้นเองเสียงของซานหลางก็ดังขึ้นว่า สุสานของแม่ทัพ
เซี่ยเหลียนหันไปถามเด็กหนุ่มว่ารู้อักษรปั้นเยวี่ยด้วยหรือ อีกฝ่ายตอบว่าพอรู้แค่นิดหน่อย ถึงเซี่ยเหลียนจะไม่คิดว่าเป็นอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้กล่าวอะไร ก่อนเรียกให้ซานหลางมาช่วยกันอ่านอักษรนั้นด้วยกัน หลังจากใช้เวลาสักพักเขาก็พอแกะข้อความได้ว่ามันเป็นจารึกสดุดีถึงแม่ทัพคนหนึ่งของแคว้นหย่งอัน หรืออันที่จริงอีกฝ่ายเป็นแค่หัวหน้ากองเท่านั้นเนื่องจากเขาถูกลดขั้นลงเรื่อยๆ จนแทบไร้ยศศักดิ์ ดูไปก็คล้ายกับชีวิตของเซี่ยเหลียนเสียจริง
แม่ทัพคนนี้ถูกลขั้นเนื่องจากไม่ยอมเอาชนะในการต่อสู้ เขาอาจคอยปกป้องไม่ให้ชาวปั้นเยวี่ยทำร้ายประชาชนฝั่งของตน แต่ขณะเดียวกันก็คอยกันไม่ให้คนของตัวเองไปเข่นฆ่าประชาชนของอีกฝ่ายด้วย เมื่อได้ยินดังนั้นทุกคนก็เริ่มแสดงความคิดเห็นต่อแม่ทัพผู้นี้ ส่วนมากต่างเห็นพ้องว่าเขาเป็นคนดี ช่วยเหลือชีวิตผู้คน ซึ่งนั่นก็ทำให้เซี่ยเหลียนอดยิ้มไม่ได้ อาเจาแสดงความเห็นว่าในช่วงนั้นปั้นเยวี่ย และหย่งอันมีความสัมพันธ์ที่แย่มาก การที่แม่ทัพคนนี้ถูกลงโทษเพียงแค่ลดขั้นนับว่าเป็นโทษสถานเบามาก กระนั้นฝูเหยากลับบอกว่าในเมื่อเป็นทหารก็ต้องปกป้องบ้านเมืองและทำลายศัตรู ไม่อย่างนั้นผู้ติดตามมีแต่จะเสื่อมศรัทธา ศัตรูก็คงคิดว่าเขาช่างโง่เง่า สุดท้ายก็จะไม่มีผู้ใดคิดขอบคุณ และหากไม่ตายในสนามรบก็คงตายเพราะฝีมือคนของตัวเองเป็นแน่
คำพูดของเขาช่างฟังดูมีเหตุผล แต่มันก็ทำให้ทุกคนเงียบเสียงไป เซี่ยเหลียนเลยทำลายความเงียบโดยการเล่าต่อว่าแม่ทัพผู้นี้ตายในสนามรบจริง ในศึกษาสุดท้ายเชือกรองเท้าของเขาหลุดก็เลยถูกเหยียบตายโดยทั้งฝ่ายตัวเองและศัตรูที่กำลังตะลุมบอนกันอยู่ พอได้ยินดังนั้นกลุ่มพ่อค้าที่หลงนึกว่าเรื่องราวจะต้องโคตรอีพิคก็ปล่อยก๊ากกันทั้งคณะ
.
.
.
.
.
มึงชอบโผล่มาดึกๆวะ เขร้ วันก่อนมึงมาสปอยตีหนึ่งกว่า กูนอนตีสองทันอ่านพอดี
อิเหี้ยอิแม่ทัพเป็นอวตารชาติไหนของเซี่ยเหลียนป่ะวะ ตายอนาถแท้ ถึงจะฮาว่าเชือกรองเท้าหลุดแต่กูแอบเศร้า โดนเหยียบตายนะเว้ย ละเป็นคนดีอีก สงสารง่ะ
219 ดึกจริงปร่ะ
มึงกูเจอม่านฮวาตัวร้าย มีคนเอามาแปลไทย ดีใจชหเพราะกูดำจีนไม่ได้
แต่ๆเค้าบอกหยุดแค่นี้แล้ว?อิเหี้ยกะลังอ่านอ.เสิ่นเพลินๆ
คือมันจะแค่พักชั่วคราว รอดราม่าซาแล้วทำต่อ หรือเปลี่ยนทีมทำไปเลยวะ กูชอบลายเส้นทีมนี้วาดนะสวยดี
อนิเมะจบแล้วอ่าาา กูเสียใจ
กูดูในวีทีวี ดูได้แค่ถึงตอนที่ 22 เองว่ะ เป็นเหมือนกันปะวะ
แค่ที่จีนนี่ จบแล้วใช่มะ
ขอหวีดหน่อย
กูสงสารน้องหนิง โดนพี่วั่งตบหน้าตอนเมาครั้งแรกไม่พอ
โดนพี่เว่ยต่อยหน้า ตอนฆ่าขนมเข่งอีก น้องผิดอัลไล
พี่เว่ยสติแตก น้องเลยเผลอฆ่าเอง อย่าทำน้องงงงงง
เห็นสปอยในทวิต ตอนหน้ากูจะได้เห็นพี่วั่งกับพี่เว่ยสวีทกันแล้วสินะ แอร๊ยยยยย
>>217 เข้ามากราบท่านแม่ทัพที่รัก แอร๊กกกกกกกกก//โดนคุณเจ้าของซัดปลิว
ขอบคุณนะโม่งสปอยล์ อ่านแล้วค่อยอารมณ์ดีขึ้นหน่อยหลังจากเซ็งๆ ที่ช่วงนี้สปอยมั่วเริ่มเกลื่อนอีกแล้ว
สปอยเลอร์wannabeเยอะจริงๆ อยากจะสปอยล์ก็ไม่ว่านะแต่ไปอ่านเองก่อนสิว้อย เสพแฟนเมดแล้วเดามั่วยังจะกล้าสปอยล์อีก
Ky พวกมึงว่าถ้าตัวร้ายทำซีรี่ย์ ใครเหมาะวะ กูเห็นหลายคนเอาอี้จ้าน แต่สำหรับกูอี้ป๋อไม่เหมาะปิงเม่ยวะ มันต้องบึกกว่านี้อะละคือดอกบัวขาวที่ยิ่มพร่ำพรื่ออะ กูว่าอี้ป๋อหน้านิ่งไปเหมาะพี่วั่งแต่ไม่ใช่ปิงเหออ่ะ กูอยากเสนอบ้างแต่กลัวตีนในแท็กชิบหัย แบบมึงอ่านปิงเหอเวอร์ไหนวะถึงว่าเข้าคาร์อี้ป๋อ อี้ป๋อเป็นพี่โม่ยังเหมาะกว่า555555
อีกอย่าง ตัวร้ายมันไม่ได้มีแพลนทำซีรี่ส์
ตัวร้ายมีโปรเจคม่านฮวา แต่ยังไม่มีข่าวทำซีรี่ส์เด้อ
ส่วนเทียนกวาน มีประกาศทำอนิเมะแล้ว ละก้อมีแพลนทำซีรี่ส์ เทียนกวานนี่กูเห็นคนเชียร์คริสลู่มาก แต่กูว่าไม่น่าได้ คริสพึ่งได้เล่นขุยอ๋องในบันทึกปิ่น เทียนกวานยังรอลุ้น นสด.ต่อปาย
สรุปจะไปแชทกันที่ไหนอ่ะ กลัวตามไปไม่ถูก คุยด้วยสนุกมาก ชีวิตออฟไลน์กูไม่มีเพื่อนคุยนิยายแบบนี้
กูเห็นมีคนสร้างหลุมชั่วคราวไว้สองที่ มีห้องโม่เซียงทั้งสองอัน
อันแรก เข้า line openchat เสิช #801
มึงจะเจอ fanboi
อีกอัน บางคนที่ไม่สะดวกทางไลน์ก้อลองอันนี้ https://my.cbox.ws/mongthai
วิธีเล่นมีโม่งบนๆบอกไว้วันสองวันก่อน
มึงลองเลื่อนอ่านดู
มาสปอยเทียนกวานต่อเน้อ
ต่อจาก >>217 เทียนกวาน Part.17
.
.
.
.
.
ซานหลางไม่คิดว่าเรื่องของแม่ทัพชาวหย่งอันคนนี้เป็นเรื่องน่าขัน เซี่ยเหลียนเสริมว่าพวกเขาควรไว้หน้าผู้เสียชีวิต ตอนนั้นเองคนในกลุ่มก็เจองูในถ้ำ ซานหลางเดินเข้าใกล้เพื่อดูว่ามันคืองูชนิดใด แต่มันก็พันแขนของเขาอย่างรวดเร็ว พร้อมใช้หางฉกเด็กหนุ่ม ทว่าซานหลางก็ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว เขาจับหางกับหัวของมันไว้ได้ก่อนที่มันจะโจมตีสำเร็จ หลังจากนั้นจึงนำมันมาอวดเซี่ยเหลียนซึ่งถอนหายใจอย่างโล่งอก เพราะว่ามันคืองูหางแมงป่อง
งูหางแมงป่องเป็นงูที่พบได้เฉพาะในแคว้นปั้นเยวี่ย นอกจากเขี้ยวแล้วมันยังมีเหล็กไนที่หางเหมือนแมงป่อง อีกทั้งมันยังเป็นมาสคอทของราชครูปั้นเยวี่ยเนื่องจากเธอมีความสามารถในการควบคุมพวกมัน เมื่อได้ยินดังนั้นเซี่ยเหลียนจึงตะโกนให้ทุกคนออกไปจากถ้ำ โดยไม่ทันขาดคำ งูหางแมงป่อง 7-8 ตัวก็เลื้อยออกมาจากความมืด
ข้างนอกยังเป็นเวลากลางวัน และพายุก็สงบลงแล้ว ทว่าผู้อาวุโสของกลุ่มพ่อค้ากลับถูกงูกัดและอาการก็แย่ลงอย่างรวดเร็ว อาเจารีบฉีกเสื้อมารัดเนื้อแผลให้อีกฝ่าย แต่ก็ยังอธิบายว่าผู้ที่ถูกพิษของงูหางแมงป่องจะต้องเสียชีวิตภายในเวลา 4 ชม. ส่วนยาที่เซี่ยเหลียนให้หนานเฟิงมอบให้ก็ทำได้เพียงยืดเวลาออกไปเป็น 24 ชม. เท่านั้น ขณะที่ทุกคนกำลังตื่นตระหนก ซานหลางก็เอ่ยว่าความจริงมีวิธีแก้พิษอยู่ เขาเล่าตำนานของงูหางแมงป่องให้ทุกคนฟัง และสรุปได้ว่าพืชที่ใช้แก้พิษของมันอยู่ในเขตเมืองปั้นเยวี่ย หากแต่ตามข่าวลือแล้วที่นั่นคือสถานที่ที่เหล่าผีสิงสู่ เซี่ยเหลียนพยายามเข้าสู่เครือข่ายโทรจิตเพื่อขอยืมตัวเทพชั้นกลางองค์อื่นมาช่วยปกป้องพวกพ่อค้าระหว่างที่พวกตนเข้าไปในซากเมืองเก่า ทว่าเขากลับไม่สามารถเชื่อมจิตเข้าไปได้ เมื่อถามหนานเฟิงกับฝูเหยาก็พบว่าทั้งสองไม่สามารถติดต่อสวรรค์ได้เช่นกัน ดูเหมือนว่าอายปีศาจในที่แห่งนี้จะขัดขวางพลังเทพไว้ และในขณะที่ทุกคนกำลังวุ่นวาย เซี่ยเหลียนก็เห็นงูหางแมงป่องตัวหนึ่งกำลังจะกัดแขนของซานหลาง เขารีบพุ่งเข้าไปช่วยเหลือเด็กหนุ่ม แต่ถึงเขาจะจับหัวของมันไว้ทัน หางของมันก็ปักลงบนหลังมือของเขาเสียแล้ว
ซานหลางจับข้อมือของเซี่ยเหลียนไว้ด้วยสีหน้าหวาดกลัว เขารีบดึงรั่วเย่บนแขนของเซี่ยเหลียนลงมามัดที่ข้อมือของอีกฝ่าย ก่อนหันไปหยิบมีดสั้นจากลุ่มพ่อค้ามาอังไฟที่หนานเฟิงจุดให้ ใช้มันบากเหนือแผลงูกัด แล้วก้มลงดูดพิษให้เซี่ยเหลียน เซี่ยเหลียนพยายามปลอบว่าเขาไม่รู้สึกเจ็บแผลมากเท่าไร เพราะก่อนหน้านี้ที่เขาร่อนเร่ต้องอาศัยตามภูเขาเขาก็โดนสัตว์มีพิษกัดอยู่บ่อยครั้งจนร่างกายทนต่อพิษและความเจ็บปวดในระดับหนึ่ง ทว่าซานหลางกลับมีสีหน้าเย็นชา และเมื่อเด็กหนุ่มหันไปมองงูหางแมงป่องตัวนั้น จู่ๆ ตัวของมันก็ระเบิดโดยไม่มีผู้ใดรู้สาเหตุ
เซี่ยเหลียนกล่าวกับกลุ่มพ่อค้าว่าพวกเขาจะเข้าไปในซากเมืองปั้นเยวี่ยและหาใบไม้แก้พิษกลับมาภายใน 24 ชม. แม้อาเจาจะบอกพวกเขาว่าการไปเมืองปั้นเยวี่ยไม่ใช่เรื่องยาก เพียงเดินตรงไปยังเส้นทางข้างหน้าเรื่อยๆ ก็พบ แต่เซี่ยเหลียนยังจำเป็นต้องขอยืมตัวคนนำทางผู้ชำนาญพื้นที่ให้ไปด้วย และเพื่อความสบายใจ เขาจะให้ฝูเหยาอยู่ปกป้องทุกคนที่นี่แทน เมื่อตกลงกันเรียบร้อยแล้ว อาเจา เซี่ยเหลียน ซานหลาง และหนานเฟิง ก็ออกเดินทางไปยังซากเมืองโบราณของแคว้นปั้นเยวี่ย
เซี่ยเหลียนถามอาเจาว่างูหางป่องปรากฏตัวแถวนี้บ่อยๆ หรือ อีกฝ่ายตอบว่าไม่บ่อย และนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบกับมัน คำตอบนั้นไม่ได้โกหก เพราะตอนอยู่ในแคว้นปั้นเยวี่ยเมื่อ 200 ปีก่อนเขาก็ไม่เคยพบกับงูชนิดนี้เช่นกัน พอเห็นท่าทางของเซี่ยเหลียน หนานเฟิงจึงแอบกระซิบถามว่าเขาสงสัยอาเจาหรือ เซี่ยเหลียนไม่ปฏิเสธ และบอกให้อีกฝ่ายคอยจับตาดูชายหนุ่มไว้ดีๆ ส่วนซานหลางกลับเอาแต่เงียบเฉย ทั้งๆ ที่ตามปรกติเขามักเป็นฝ่ายเข้ามาชวนเซี่ยเหลียนพูด เซี่ยเหลียนที่ไม่เข้าใจว่าทำไมอีกฝ่ายจึงมีท่าทีเช่นนั้นจึงไม่กล้าชวนคุย และเมื่อพระอาทิตย์ตกดิน ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงที่หมาย
.
.
.
.
.
น่าจะเด็กกว่านะ เพราะเรียกเซี่ยเหลียนว่าเกอเกออ่ะ
Ky วงวารแม่ๆอาเหยามาก ซรกับเมะเหมือนปรับบทพี่เว่ยเรื่องปู๋เย่เทียน หรือกบวจีนจะไม่ให้ผ่านหรอถ้าตัวเอกมือไม่สะอาดอะ เพราะ2เวอร์ก้แก้จุดนี้
ถามสปอยล์เรื่องพ่อจินกวงเหยาหน่อย
.
.
.
.
.
ตายเพราะโดนเหยาวางยาแล้วจ้างนางโลมแก่ๆ มามีอะไรด้วยป่ะ จำไม่ได้ว่าอ่านมาจากไหน
.
.
.
.
.
>>239 >>240 ขอบคุณมวาก ๆ
แนวเมะเด็กกว่านี่โครตชอบอ่า (> 3 <)
ตอนอ่าน ๆ ไปก็กลัวว่าซานหลางแกล้งแอ๊บมาเรียกพี่ชายเฉย ๆ
>>244 ในซีรีส์ เมียอาเหยาปาดคอตัวเองตาย โดยมีอาเหยาชักใยอยู่เบื้องหลัง อยู่แถว ๆ ตอน 42
>>245 พ่อจินกวงเหยา ถ้าในซีรีส์ก็โดนอาเหยามัดมือเท้า แล้วจ้างนางโลมกลุ่มหนึ่งมารุมโทรมให้ตายคาอก ? โทษฐานที่เจ้าชู้ไปทั่วมั้ง อันนี้อยู่ตอนที่ 45
เออ จริงๆในนิยายมันไม่เหมือนอนิเมะใช่ปะ
ที่พี่เว่ยสติแตก จนน้องหนิงฆ่าพ่อขนมเข่ง
กับที่พี่เว่ยบุกตระกูลจิน เพื่อล้างแค้นให้น้องหนิงกับพี่สาว
จริงๆแล้ว มาจากความตั้งใจพี่เว่ยใช่ปะ
ไม่มีคนแอบวางแผนไว้เหมือนในอนิเมะสินะ
ในอนิเมะ เหมือนมีคนวางแผนไว้ ทำให้เปลวไฟเป็นสีฟ้า แทนที่จะเป็นสีเขียว
วันนี้มู้นิ่งจัง งั้นขอมาสปอยเทียนกวานต่อนะ
ต่อจาก >>237 เทียนกวาน Part.18
.
.
.
.
.
แคว้นปั้นเยวี่ยมีขนาดเล็กจนหนานเฟิงแสดงความเห็นว่าคงใช้เวลาเพียงไม่กี่วันก็สามารถล้อมแคว้นได้ทั้งหมด เซี่ยเหลียนอธิบายว่าถึงจะเล็ก แต่ปั้นเยวี่ยมีประชากรชายมากกว่าหญิง และส่วนใหญ่ก็มีร่างกายสูงใหญ่แข็งแกร่งยากที่จะรับมือ หลังจากนั้นหนานเฟิงจึงชี้ถามว่าสิ่งก่อสร้างข้างหน้าคืออะไร มันมีลักษณะเป็นแท่งทรงสูง ไม่มีทั้งประตูและหลังคา อีกทั้งด้านบนยังมีเสาซึ่งมีของรุ่งริ่งบางอย่างแขวนไว้
เซี่ยเหลียนเล่าว่ามันคือหลุมคนบาป เป็นอะไรที่คล้ายๆ กับคุก พวกเขาจะโยนนักโทษลงไปในหลุมนั้นซึ่งเต็มไปด้วยงูพิษและสัตว์ร้าย ได้ยินดังนั้นหนานเฟิงก็ถึงกับสบถด่าความโรคจิตของชาวปั้นเยวี่ย จากนั้นเซี่ยเหลียนก็สังเกตว่าสิ่งที่แขวนอยู่บนเสาอาจเป็นมนุษย์ ซานหลางผู้นิ่งเงียบไม่ยอมสบตาเซี่ยเหลียนมาตลอดทางก็เอ่ยสนับสนุนความคิดนั้น และยังลงชัดอีกว่าเป็นสตรี เมื่ออาเจามองร่างนั้นใบหน้าของเขาก็ถึงกับซีดขาวขึ้นมา
จู่ๆ ซานหลางก็เอ่ยเสียงต่ำว่ามีคนมา ทั้ง 4 รีบแยกเป็นสองกลุ่มทันที เซี่ยเหลียนกับซานหลางแอบในบ้านหลังหนึ่ง ส่วนหนานเฟิงกับอาเจาอยู่บ้านฝั่งตรงข้าม ไม่นานนักบนถนนก็ปรากฏร่างของหญิงสาวในชุดนักพรตสีขาวกำลังเดินอย่างไม่รีบร้อน เยื้องไปทางด้านหลังมีสตรีในชุดสีดำท่าทางเย็นชาเดินติดตามมาไม่ห่าง ทั้งสองคือคนที่พวกเซี่ยเหลียนเห็นในทะเลทรายเมื่อตอนกลางวันนั่นเอง
ดูเหมือนทั้งคู่จะตามหาใครบางคนอยู่ หญิงสาวในชุดขาวกล่าวว่าเธออาจต้องขุดฝ่ายตรงข้ามออกมาฆ่าทีละคน สตรีชุดดำมีท่าทีไม่สนใจ และบอกให้เธอไปเรียกคนอื่นมาช่วยงาน หญิงสาวชุดขาวจึงกระเซ้าว่าตนอยากให้หญิงสาวชุดดำมาด้วยกัน และไม่ต้องการเรียกหาผู้อื่น แต่คนฟังกลับปฏิเสธอย่างเย็นชา
ในขณะที่เซี่ยเหลียนพยายามวิเคราะห์ว่าสตรีชุดดำเป็นใคร และมีความเกี่ยวข้องอย่างไรกับหญิงสาวชุดขาวที่น่าจะเป็นราชครูปั้นเยวี่ย จู่ๆ สตรีชุดดำก็หยุดฝีเท้า เธอยกมือขึ้นก่อนที่จะมีลำแสงพุ่งใส่บ้านซึ่งหนานเฟิงกับอาเจาซ่อนตัวอยู่ หนานเฟิงสร้างเพลิงโจมตีใส่สตรีชุดขาวซึ่งอยู่ใกล้ตนมากกว่า แต่หญิงสาวชุดดำก็เข้ามาช่วยป้องกันไว้ เทพหนุ่มปะทะกับเธอ พร้อมวิ่งนำไปอีกทางเพื่อดึงความสนใจให้พวกเซี่ยเหลียนสามารถเดินทางต่อ เมื่อเห็นเพื่อนของตนกำลังต่อสู้ดุเดือด สตรีชุดขาวก็วิ่งตามไปด้วย
อาเจายังคงปลอดภัยดี ทั้งสามรีบเดินทางไปยังราชวังปั้นเยวี่ยที่น่าจะมีพืชแก้พิษงูเติบโตอยู่ เมื่อไปถึงที่นั่นเซี่ยเหลียนก็อดตั้งข้อสังเกตไม่ได้ว่าเหตุใดราชครูปั้นเยวี่ยที่สามารถคบวคุมงูหางแมงป่องถึงไม่ทิ้งงูไว้ในฐานของตนเลย และในตอนที่พวกเขากำลังหาพืชเป้าหมายในสวนของราชวังนั่นเอง เซี่ยเหลียนก็จับถูกของเรียวยาวบางอย่าง และเมื่อเขาก้มมอง สิ่งที่ปรากฏต่อสายตาก็คือขาของมนุษย์
.
.
.
.
.
>>248 thx ที่มาสปอยล์ให้อ่าน
สงสัยเรื่อง setting ในเรื่องนิดนึง
ถ้ากูจำไม่ผิด คือนิยายเรื่องล่าสุดของแม่โม่จะเป็นยุคปัจจุบัน ซึ่งหมายถึงเรื่องนี้? หรือเรื่องที่ 4 ที่กำลังจะแต่งอ่ะ?
ตอนแรกกูเข้าใจว่าเทียนกวานคือ setting ยุคปัจจุบัน เวลาอ่านแรกๆ ก็นึกภาพตามนั้น
แต่หลังๆ ชักไม่แน่ใจว่านี่มันแนวย้อนยุคเหมือนที่ผ่านมาแต่ไม่มีกำลังภายใน? ไรงี้หรือป่าว??
ขออนุญาตบ่น คือจะด่ากูก็ได้ แค่แบบ.. กูรู้สึกว่าจ้านเกอที่เป็นเว่ยคือแบบหน้าเข้มมากอะมึง ขณะที่อี้ป๋อนี่หน้าคุณชาย หน้าหวานๆ พอดูซีรี่ย์กูเลยไม่ค่อยอินเลยว่ะ.. มันแบบ ยังไงไม่รุ้
>>255 ตอนแรกกูก็ไม่ค่อยโอเค แต่แค่กับป๋ออะ กูรู้สึกหลานจ้านน่าจะแบบเข้มกว่านี้แต่จ้านเกอกูโอเค ที่รอยยิ้ม55 พอดูๆไป น่ารักดี เล่นกันโอเคเคมีได้ก็เลยตัดความรู้สึกตรงนั้นไป...แล้วก็อาจเพราะกูสนใจแต่คนร้อยมีมของกูอะ...กูเลยไม่ติดอะไร555555 ทั้วเรื่องกูนั่งแคปแต่ผู้ชายยย
กูชอบป๋อนะบอกไว้ก่อน แต่คหสต. คิดว่าป๋อตอนยิ้มกว้างกับทำหน้าบูดนี่ตัวร้ายโคตรอ่ะ 555 ส่วนเว่ยอิงสวยทุกฉาก กูอวยยย
ตอนแรกกูยี้หลานจ้านซีรีส์มากหน้าหวานเด้กเด็กหุ่นเหมือนจิ้งจกแห้งๆ แต่ดูเพราะเว่ยอิงแม่งยิ้มน่ารัก ดูไปดูมากูเมนอี้ป๋อ งงชิบหาย สรุปคือกูให้ผ่านทุกคนแหละแม่หลานจ้านตอนแรกจะฝืนความรู้สึกนิดหน่อย กูชอบเวินฉินมากสวยชิบหายกูอยากยกพี่เว่ยให้แต่พี่เว่ยดันมีผัวแล้ว
ไม่ใช่แค่พี่วั่งพี่เว่จ ตอนแรกกูก็ไม่อินคนเล่นเจียงเฉิงด้วย กูชอบแบบในอนิเมมากกว่า กูไม่รู้สึกว่าคนเล่นเจียงเฉิงสวย หน้ามีมก็เยอะ หล่อก็ไม่สุด คนเล่นพี่ซีกูก็ไม่ค่อยชอบ หล่อคนละแบบกับที่กูจิ้นพี่ซีไว้ คนเล่นเหยาก็ไม่ชอบหน้าหวานไปกูจิ้นว่านิ่งๆหล่อๆกว่านี้ แต่ดูจนจบก็โอเคกับทุกคนนะ มุมกล้องซีรีย์กับการแสดงของแต่ละคนทำให้อิน
>>261 เออ ตอนแรกกูก็ไม่อินเจียงเฉิงในซีรี่ย์...แต่ตอนนี้กูตกน้องวะ555 กูว่าหน้าน้องเป็นเอกลักษณ์และหล่อในแบบตัวเอง...และกูมองน้องสวยถึงจะไม่ได้เหมือนในเมะหรือตามนิยายที่กูคิดจินตนาการแต่...แต่กูตกน้องเขาจริงๆปฏิเสธมะได้ พูดๆมากูก็ชมเขา กูหลงผู้ชาย...เห็นแสดงเรื่องแรกอินไปเลยหลุดไปเยอะ กูว่าเก่งแล้ว
เรื่องอาเหยามึงคิดเหมือนกู กูก็คิดไว้ว่าหน้าไม่หวานขนาดนี้ กูว่าน้องแบ๊วไปแต่จบมากูโอเค ทุกคนเล่นดี...
แต่กูรู้สึกว่าในซีรี่ย์มันยังขาดๆเกินๆอะไรไปวะ กูยังอินไม่สุดอะ...ทั้งเรื่องสามพี่น้องสาบาน เรื่องที่พี่ซีต้องอินกับความสัมพันธ์มากขนาดนั้น กูว่ามันปูมาไม่มากพอให้กูรู้สึกว่าพี่ซีจะยอมตายอะ แล้วแม่งพี่ซีของกูอ่อนแอไปเลยในซีรี่ย์...
>>261 พี่ซี ในซร. กูก็แอบขัดใจนิดนึง คือพอคู่กับพี่วั่งแล้วไม่ค่อยมีความเป็นหยกคู่สกุลหลานแบบที่บรรยายในนิยาย สีชุดของพี่ซีในซร. ก็ดูโดดๆ กว่า'จารย์อากับพี่วั่ง หล่อคนละแบบกับที่กูคิดไว้เหมือนกัน
แต่ที่รู้สึกว่าอินคือพี่ซีในซร.ดูมีความเป็นผู้ชายอบอุ่น 555 กูเลยกาวคู่ เจียงเฉิง x พี่ซี ของกูอยู่คนเดียว 555
จ้านเกอยิ้มโคตรน่ารักเหมือนกระต่าย
ปรจ. ทำให้กูที่ชอบกระต่ายอยู่แล้ว ชอบมากขึ้นอีกหลายเท่า
กูชอบน้องเจียงในซีรี่ส์นะ ยิ่งผมทรงวัยกระเตาะที่มีปอยหวาน แม่งงงง โคตรสวย หน้าตึงๆเหวี่ยงๆแต่มีความน้อง ใครไม่เอากูขอ กูจะเก็บกลับบ้าน ส่วนเว่ยอิงซีรี่ส์นี่อีกความดีงามในใจกูเลย อิงอิงเธอยิ้มโลกละลาย อยากเหลวลงไปแทบเท้าแล้วให้ปรมาจารย์อี๋หลิงเหยียบกูแบบเฟียสๆ มายควีน
ในซีรีส์พี่วั่งตอนแรกๆทำตาปรือมากมึงกูขำ แต่กูไม่แอนตี้นะเพราะกะดูข้ามๆพี่วั่งแบบปล่อยเบลอ อิงอิงคนเดียวก้เอาอยู่ แต่พี่วั่งมาฉายแววตอนรักเว่ยอิงแล้วนี่แหละ โอโหแสดงได้ดีมากกกกกกกกก สายตาคือได้คือรักเธอสุดหัวใจแต่ไม่แสดงออก คลุมเคลือสัสๆ เอาไปสิบกระโหลก เสียดายหน่องป๋อเตี้ยอละผอมกว่าจ้านเกอไปหน่อยดีที่ส้นตึกเอาอยู่55555
แม่โม่บอกไม่ให้ทำของขาย แต่คนจะทำของขายก็หาวิธีแถได้เนอะ นักวาดบางคนก็ทุเรศเกิ๊น
มาสปอยเทียนกวานต่อนะ
ต่อจาก >>248 เทียนกวาน Part.19
.
.
.
.
.
เสียงคนร้องเสียงหลงดังขึ้นก่อนที่เซี่ยเหลียนจะทันได้ร้องตกใจ ปรากฏว่าเจ้าของขาข้างนั้นคือชายหนุ่มในคณะพ่อค้าคนนั้นนั่นเอง เซี่ยเหลียนคิดว่าในสถานการณ์เช่นนี้คนตรงหน้าอาจเป็นภาพลวงตาของปีศาจ แต่ชายหนุ่มยืนยันว่าเขาเป็นตัวจริงเสียงจริง นอกจากนี้ยังมีคนในกลุ่มอีก 3 คนเดินทางมากับเขาด้วย เพราะหลังจากพวกเซี่ยเหลียนจากมาอาการของผู้อาวุโสก็ดูย่ำแย่ลงอย่างมาก พวกเขาต่างร้อนใจว่าพวกเซี่ยเหลียนอาจกลับมาไม่ทัน และคิดว่ามีกันหลายคนน่าจะดีกว่าจึงได้เดินทางตามมายังเมืองปั้นเยวี่ยด้วย
ฝูเหยาไม่ใช่คนที่จะเห็นใจคนที่ไม่ยอมฟังคำเตือนของคนอื่น จึงไม่น่าแปลกใจหากเขาจะขี้เกียจรั้งคนเหล่านี้ไว้ในที่ปลอดภัย เซี่ยเหลียนต่อว่าชายหนุ่มที่ทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลังซึ่งอีกฝ่ายก็มีท่าทีรู้สึกผิด ตอนนั้นเองซานหลางก็เอ่ยขึ้นว่าเขาเจอใบไม้เป้าหมายแล้ว เขาใช้มือขย้ำมันเป็นผงแล้วเอามาแปะบนแผลของเซี่ยเหลียน แต่ถึงเซี่ยเหลียนจะเอ่ยขอบคุณอีกฝ่าย เด็กหนุ่มชุดแดงก็ไม่กล่าวอะไร และเดินห่างออกไปเงียบๆ
เมื่อสังเกตดีๆ ก็พบว่ามีพืชชนิดนั้นบนพื้นเต็มไปหมด กลุ่มพ่อค้ารีบก้มลงเก็บ และยังมีความคิดจะเอาไปขายด้วย เซี่ยเหลียนพยายามชวนซานหลางคุยโดยถามว่าก่อนหน้าที่อีกฝ่ายสำรวจบริเวณนี้ ทำไมเด็กหนุ่มจึงไม่เห็นพืชพวกนั้น ซานหลางตอบว่าเพราะว่าพืชที่โตบริเวณนี้ไม่สมควรนำมาใช้ แต่ก่อนที่เซี่ยเหลียนจะถามเหตุผลก็มีเสียงชายคนหนึ่งตะโกนไล่พวกเขา และยังกล่าวว่าพวกเขากำลังเหยียบตนเองอยู่ เมื่อเซี่ยเหลียนแหวกพงต้นไม้ บริเวณนั้นก็ปรากฏใบหน้าของมนุษย์คนหนึ่งโผล่พ้นพื้นดินขึ้นมา
เซี่ยเหลียนถามเจ้าของใบหน้านั้นว่าเป็นใคร แต่คนๆ นั้นก็ถามกลับด้วยคำถามเดียวกัน เซี่ยเหลียนจึงบอกไปว่าพวกตนเป็นกลุ่มพ่อค้า เมื่อได้ยินดังนั้นใบหน้านั้นจึงตอบว่าเขาก็เคยเป็นพ่อค้าเหมือนกัน หากแต่มันเป็นเรื่องเมื่อ 50-60 ปีก่อน คำตอบนั้นทำให้สถานการณ์ข้างหน้ายิ่งสยองขึ้นไปอีก ผ่านมานานขนาดนั้นคนๆ นี้จะเป็นมนุษย์จริงๆ หรือ ชายคนนั้นอธิบายเพิ่มว่าเขาถูกทหารปั้นเยวี่ยจับมาฝังที่นี่เพื่อใช้เป็นปุ๋ยให้กับต้นไม้แก้พิษงูหางแมงป่อง เมื่อได้ยินดังนั้นพวกพ่อค้าก็พากับโยนพืชในมือทิ้ง และเซี่ยเหลียนก็เข้าใจทันทีว่าเหตุใดซานหลางจึงไปหาใบไม้จากจุดอื่นมาให้ตน
ชายที่ถูกฝังในดินเอ่ยว่าเขาไม่ได้เห็นผู้คนมาหลายปี และร้องขอให้พวกเขาเดินเข้าไปใกล้ตน แต่เมื่อไม่มีผู้ใดกล้าเข้าไป เขาก็กล่าวว่าตนเพียงแค่อยากมองหน้าทุกคนให้ชัด เพราะเหมือนจะมีคนๆ หนึ่งที่เขาเคยเห็นเมื่อ 50-60 ปีก่อน คำพูดนั้นทำเอาทุกคนขนหัวลุก สมาชิกในกลุ่มทุกคนล้วนเป็นคนหนุ่มแน่น หากเป็นจริงตามที่อีกฝ่ายอ้าง คนๆ นั้นก็ต้องไม่ใช่มนุษย์
เซี่ยเหลียนสังเกตอาเจาและสมาชิกกลุ่มพ่อค้าทุกคน แต่ก็ไม่มีใครมีอาการผิดสังเกต เขาจึงถามใบหน้าบนดินว่าคนที่เอ่ยถึงคือใคร ทว่าชายคนนั้นกลับยังขอให้พวกเขาเข้าไปใกล้ตนเองอีก สถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจเช่นนี้ใครกันจะไปเชื่อ เซี่ยเหลียนทำท่าจะจากไป เมื่อเห็นอย่างนั้นชายในดินก็รีบพูดขึ้นว่า ไม่อยากรู้จริงๆ หรือว่าคนๆ นั้นคือใคร เพราะอีกฝ่ายจะต้องฆ่าพวกเซี่ยเหลียนทุกคนอย่างแน่นอน
เซี่ยเหลียนห้ามไม่ให้ทุกคนเข้าใกล้ใบหน้าบนพื้น และอย่าได้ฟังสิ่งที่อีกฝ่ายบอก ตอนนั้นเองพ่อค้าคนหนึ่งก็ตัดสินใจก้มลงเก็บใบไม้ที่โยนทิ้งไปก่อนหน้า แม้เซี่ยเหลียนจะตะโกนห้ามพร้อมพุ่งไปดึงตัวอีกฝ่ายออกมา แต่ใบหน้าบนพื้นก็ตวัดลิ้นที่ยาวผิดมนุษย์กระชากอะไรบางอย่างที่เต็มไปด้วยเลือดออกจากหูของพ่อค้าผู้โชคร้ายไปเคี้ยวอย่างยินดี และในขณะที่เซี่ยเหลียนกำลังจะเข้าไปโจมตี ใบหน้านั้นก็ร้องตะโกนว่า “ท่านแม่ทัพ พวกมันอยู่ตรงนี้” แล้วร่างใหญ่ยักษ์ร่างหนึ่งก็กระโดดลงมาตรงหน้าเซี่ยเหลียนจนพื้นดินทั้งราชวังสั่นสะเทือน
.
.
.
.
.
กูชอบแคสเว่ยอิงสุด เวินฉิง ซือจุย เรื่องการแสดงแอคติ้งคือไม่เท่ากันสักคน บางคนเล่นใหญ่มาก เหมือนผกก.บรีฟคนละคนอะ เสียอรรถรสตรงนี้
แคสวั่งจี คือ เขาผอมจริงๆนะ ความหล่ออะไรนี่ไม่พูดถึง แรกๆคือไม่ได้เลย แอคติ้งตอนคิวบู๊ ก็ไม่ค่อยดี ความเป็นหานกวงจวินมันไม่ส่งออกมา หลังๆดีขึ้นเพราะชุดหนาทำให้ดูไม่ผอมแห้ง
(กูจะโดนว่าไหมเนี่ย555)
กูว่าอี้ป๋อชอบหลุดอะ หลายซีนเลย
งานโปรดักชั่นดีนะ แต่ช่วง10ตอนแรกๆ มุมกล้องไม่สวยเลย หลังๆคือดีขึ้นมาก
ky หน่อย เพิ่งว่างไล่ดูอนิเม มาบ่นๆ
.
.
.
.
.
ตอนเว่ยอิงไปงานครบรอบหนึ่งเดือนของจินหลิงกุแอบเสียดายเบาๆ ว่ะ
คือตอนที่เว่ยอิงถามจินจื่อเซวียนว่าเมิงไม่รู้มาก่อนจริงๆ เหรอว่ามีคนล่อกุมาฆ่างี้ เห็นรีแอคก็รู้ละว่าจินจื่อเซวียนเองก็รู้
กุไม่ค่อยชอบเลย มันทำให้กุนึกถึงนิยายจีนหลายๆ เรื่องอะแหละ ประเภทที่รู้ทั้งรู้ว่าคนของตัวเองจะทำอะไร แต่ก็ไม่เด็ดขาด คิดแค่ว่าไปจับตรงนี้ไปแก้ตรงนั้นก็จะทำให้มันผ่านไปได้ด้วยดี คิดแค่ว่าถ้าตัวเองเข้าไปช่วยทันก็พอแล้ว ผลลัพธ์ก็เป็นเงี้ย
แต่ใจนึงก็คิดว่าถ้าเว่ยอิงไม่เอาเวินหนิงไปแต่แรกก็คงดี จะได้ไม่มีใครตาย แต่พอคิดแบบนั้นคนที่ตายก่อนแม่งต้องเป็นเว่ยอิงแน่นอนว่ะ แล้วกุก็โทษจินจื่อเซวียนเต็มๆ ไม่ได้ ยังไงตอนนั้นนางก็ยังไม่ได้เป็นประมุข จะมีปัญญาห้ามอะไรได้ หรือต่อให้ห้ามได้แต่คนมันจะทำมันก็หาทางได้อยู่ดีอะนะ
ไม่ได้ติ่งใครเป็นพิเศษ แต่กุพยายามหาทางออกว่าถ้าคนนั้นปรับตรงนี้นิดนึง คนนี้ปรับตรงนั้นนิดหน่อย เรื่องมันจะไม่ออกมาเหี้ยขนาดนี้ป้ะวะ
กุไม่อยากให้เจียงเหยียนหลี่ตาย และกุก็สงสารจินหลิงสัสๆ ขนาดกุรู้สปอยล์มาหมดแล้วดูยังน้ำตาคลอเบาๆ (แต่กุว่าเมะบิ้วท์ยังไม่ค่อยดีอะนะซีซั่นนี้ ซีซั่นแรกทำดีกว่ามาก เส้า)
กุก็คิดว่าไม่ตั้งใจฆ่า ดูจากที่สติแตกใส่เวินหนิงว่าแล้วนางล่ะจะทำยังไง แล้วจินหลิงล่ะจะทำยังไง แล้วข้าล่ะจะทำยังไง?
คือฟังแล้วรู้เลยว่าเว่ยอิงตระหนักถึงผลกระทบที่จะตามมาได้แบบชัดเห้ๆ ขนาดตอนสติแตกยังรู้ตัวได้ขนาดนั้น แสดงว่าเรื่องฆ่าคนรักพี่จนทำให้พี่กับหลานไม่มีความสุขต้องไม่เคยอยู่ในหัวอยู่แล้ว
เว่ยอิงอาจไม่ได้คิดชื่นชมความดีของจินจื่อเซวียนอะไรมากมาย แต่ท้ายที่สุดพี่สาวก็รักผู้ชายคนนั้นแล้ว ละก่อนนางแต่งเว่ยอิงยังบอกว่าจะพาหลานไปซน ก็ชัดนะว่ายอมรับเด็กที่จะเกิดจากจินจื่อเซวียนได้ มันไม่มีแค้นอาฆาตขนาดจะต้องเอาชีวิตเมื่อสบโอกาสอยู่แล้ว
ส่วนนิยายกุไม่ได้อ่านว่ะ เล่มหนึ่งมาส่งนานละก็ยังไม่ได้แตะสักที รอเล่มสองมาถึงค่อยอ่านทีเดียว
ไม่ตั้งใจแน่นอน กูว่าพี่หญิงนี่เป็นคนที่สำคัญมากๆๆๆๆสำหรับพี่เว่ยอ่ะ คือทำได้ทุกอย่างเพื่อความสุขของพี่ แล้วจินจื่อเซวียนนางก็ไม่ได้เลวร้ายอ่ะ คือพี่เว่ยแกอาจจะมีหมั่นไส้นางเพราะเรื่องที่แต่ก่อนดูถูกพี่หญิงงี้ แต่สุดท้ายคือนี่ก็คือผู้ชายที่พี่รักอ่ะ เห็นพี่มีความสุขยังไงก็ยอมปล่อยวางเรื่องเล็กๆน้อยๆอยู่แล้ว
>>255 ยังทันมั้ยวะ คือกูดูตอนแรกกูโคตรไม่ชอบอี้ป๋อเลย แบบหน้าง่วงไม่เข้ากับบท คือพี่วั่งมันต้องคนคูลที่ไม่แสดงทางสีหน้าแต่ใจข้างในนี่...
แล้วฉากเปิดตัวแรกก็อิหยังวะมาก ลอยมาโฉบๆ ทื่อๆ งงๆ ไร้ซึ่งความหล่อ แต่พอเล่นๆ ไปกูว่าก็เริ่มเข้าบทแหละ หลังกูก็รุ้สึกโดนตก จากที่คิดว่าไม่หล่อ ดูๆไปก็หล่อดี
ส่วนพี่เว่ย จ้านจ้าน นั้น...... กูไม่มีอะไรจะกล่าว 10/10 100/100 1000/1000 นี่แหละเว่ยอิง..!!!! หล่อ สวย น่ารัก เท่ห์ ตั้งแต่ต้นยันจบ (กุอวย)
ถามตัวร้ายอย่างข้า นิยาย คือกูอ่าน 1-3 จบแล้ว แต่ไม่ได้อ่านตอนพิเศษต่อ กูอยากรู้ว่าตอนพิเศษที่มากกว่าครึ่งเล่ม 3 ยังมีเรื่องราวของซือจุนกับปิงเหอไหม ตอนที่กูอ่านจบ จำได้แค่ปิดท้ายด้วย nc แห้งแล้ง ยังไม่รู้สึกถึงความหวานชื่นหลังหมดเรื่องร้ายๆ เลย
.
.
.
.
.
การมีอะไรกันก็เป็นตอนปิงเหอสติแตก พอรู้ตัวก็เอาออก แล้วมันก็จบ ต่อไปคือตอนพิเศษ กูเลยหยุดอ่านแค่นั้น
.
.
.
.
.
อ่านแรกๆ กูเหนื่อยมาก เกือบไปต่อไม่ได้ แต่พรีมาทั้งสามเล่มก็เสียดายถ้าไม่อ่าน รำคาญความมีอะไรก็คิดไปเองของนายเอกยึดตามเนื้อเรื่องเดิม ไม่มีความเชื่อใจ แถมมีอะไรก็ไม่พูดกันจนกลายเป็นเข้าใจผิด เป็นเนื้อเรื่องที่ไม่สนุกเท่าไรสำหรับกู แต่ทำไมเดี๋ยวนี้คนถึงตามหากันหลายคนแถมราคาก็พุ่ง
มาสปอยเทียนกวานต่อเน้อ แต่ก่อนสปอยขอสารภาพบาปหน่อยคือกูน่าจะสปอยผิดไปจุดหนึ่งว่ะ เหมือนในเรื่องมันจะไม่ได้บอกว่าแคว้นที่สู้กับแคว้นปั้นเยวี่ยชื่อแคว้นอะไร บอกแค่ว่าเป็นแคว้นจากที่ราบภาคกลาง แต่กูเบลอเองว่าเป็นหย่งอัน เพราะฉะนั้นพวกมึงล้างความจำกันก่อนนะว่าปั้นเยวี่ยไม่ได้สู้กับแคว้นหย่งอัน และท่านแม่ทัพที่มีสุสานในถ้ำหินก็ไม่ใช่ชาวหย่งอันอะ T^T
ต่อจาก >>280 เทียนกวาน Part.20
.
.
.
.
.
ชายผู้มาใหม่มีใบหน้าดุดันราวสัตว์ป่า และร่างกายใหญ่มหึมากว่า 3 เมตร เบื้องหลังมีชายร่างยักษ์อีกกว่า 10 คนถือกระบองหนามกระโดดลงจากหลังคาพระราชวังล้อมพวกเซี่ยเหลียน พวกเขาคือทหารปั้นเยวี่ย อีกฝ่ายไม่ได้เข้ามาทำร้ายผู้บุกรุกในทันที ต่างพากันคำรามคุยกันด้วยภาษาประจำชาติซึ่งเซี่ยเหลียนพอจับใจความได้ว่าอีกฝ่ายต้องการพาพวกตนไปที่ไหนสักแห่ง เขาจึงหันไปบอกให้ทุกคนอย่าเพิ่งตื่นตระหนกและดูสถานการณ์กันไปก่อน
ชายที่ถูกฝังดินขอให้ทหารปั้นเยวี่ยปล่อยตัวเขาไป แต่คนที่ถูกเรียกว่าแม่ทัพกลับก้มมองเขาอย่างรังเกียจก่อนหวดอาวุธในมือใส่หน้าของอีกฝ่าย และในตอนที่แม่ทัพยกอาวุธขึ้นมา ร่างของชายคนนั้นก็ติดขึ้นมาด้วย ทว่ามันกลับเป็นแค่โครงกระดูกเท่านั้น เขาร้องอย่างไม่อย่างเชื่อว่ามันคือร่างกายของตน และยังคงหลอกตัวเองว่าเขายังคงเป็นมนุษย์ธรรมดา เพียงแต่ลิ้นยาวก็เพราะพยายามตวัดแมลงกินประทังชีวิต เขาพยายามคลานไปบนพื้นด้วยความหวังว่าจะได้กลับบ้าน แต่สุดท้ายก็ถูกแม่ทัพคนนั้นฟาดอาวุธใส่อีกครั้งจนร่างแหลกสลาย
พวกเซี่ยเหลียนถูกทหารปั้นเยวี่ยกวาดต้อนออกไปนอกพระราชวัง เมื่อสบโอกาสเซี่ยเหลียนก็คุยเรื่องแม่ทัพร่างยักษ์กับซานหลางซึ่งตอบว่าแม่ทัพในตอนนั้นที่แคว้นปั้นเยวี่ยล่มสลายมีชื่อว่าเค่อหมอ และเขายังเป็นผู้สนับสนุนคนสำคัญของนักพรตมารอีกด้วย ขณะกำลังคิดหาวิธีกลับไปที่ถ้ำหินให้ทันเวลา เซี่ยเหลียนก็สังเกตว่าสถานที่ที่ทหารปั้นเยวี่ยพาพวกตนไปคือหลุมคนบาป สำหรับเขาแล้วสิ่งที่น่ากลัวไม่ใช่การหล่นลงไป แต่เป็นเพราะในนั้นมีค่ายกลซึ่งทำให้ผู้ที่อยู่ก้นหลุมไม่อาจปีนกลับขึ้นมาได้อีก
ภายในหลุมคนบาปคือความมืดมิดไร้ที่สิ้นสุด และกลิ่นคาวเลือดที่ลอยคลุ้งขึ้นมา ตอนนี้พวกเขายังได้เห็นร่างเล็กของสตรีในชุดนักพรตสีดำซึ่งถูกแขวนบนเสาเพื่อประจานเต็มๆ ตา ร่างที่ยังไม่เน่าเปื่อยเผยว่าเธอน่าจะถูกฆ่าไม่นาน จู่ๆ พวกทหารก็หยุดดันพวกเซี่ยเหลียน แล้วแม่ทัพผีก็หันมาสั่งให้ลูกน้องจับพวกเซี่ยเหลียนโยนลงไป 2 คน ส่วนที่เหลือให้เก็บไว้ก่อน
โดยไม่ทันคาดคิด จู่ๆ อาเจาก็พุ่งเข้าใส่เค่อหมอ พยายามลากอีกฝ่ายลงไปในหลุมคนบาปกับตน แต่เขาก็ถูกเค่อหมอจับเหวี่ยงลงไปในหลุมคนบาปอย่างง่ายดาย เสียงเนื้อถูกฉีกกระฉากที่ดังขึ้นมาจากก้นหลุมบอกชัดว่าอาเจาคงไม่รอดชีวิต สิ่งที่เกิดขึ้นทำเอาเซี่ยเหลียนสับสน ก่อนหน้านี้เขาสงสัยมาตลอดว่าอาเจาเป็นคนของราชครูปั้นเยวี่ยที่คอยหลอกพ่อค้าให้เข้ามาในเมือง แต่ตอนนี้ชายหนุ่มกลับถูก first kill ไปเสียแล้ว
ทหารปั้นเยวี่ยชี้ไปที่เด็กหนุ่มพ่อค้าคนนั้นซึ่งถึงกับร้องไห้เข่าทรุดด้วยความกลัว เซี่ยเหลียนจึงรีบเดินออกไปข้างหน้า แล้วเอ่ยกับเค่อหมอด้วยภาษาปั้นเยวี่ยว่าเขาเป็นคนจากที่ราบภาคกลาง ระหว่างที่ทหารคนอื่นด่าทอเขาด้วยความเคียดแค้นคนจากแคว้นศัตรู เค่อหมอกลับยังใจเย็นถามว่าปั้นเยวี่ยล่มสลายมา 200 ปีแล้วเหตุใดเซี่ยเหลียนจึงสามารถพูดภาษานี้ได้ แต่ก่อนที่เขาจะทันคิดแผนอะไรต่อเสียงจากก้นหลุมก็ดังขึ้นมา ทหารปั้นเยวี่ยจึงทำท่าจะจับเด็กหนุ่มพ่อค้าโยนลงไป เซี่ยเหลียนเลยเสนอให้โยนเขาลงไปแทน
ทว่าเมื่อได้ยินดังนั้น เค่อหมอกลับยิ่งสงสัยในตัวเซี่ยเหลียนเลยอยากเก็บไว้สอบปากคำเสียก่อน ตอนนั้นเองซานหลางก็เดินออกมาข้างหน้า ภาพที่อีกฝ่ายก้มมองลงไปในหลุมทำให้หัวใจของเซี่ยเหลียนเกือบหยุดเต้น เขาส่งเสียงเรียกอีกฝ่าย แต่เด็กหนุ่มชุดแดงก็เพียงหันมายิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยน พร้อมบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วง อย่ากลัวไปเลย เขาจะไปแค่ประเดี๋ยวหนึ่งเท่านั้น และถึงแม้เซี่ยเหลียนจะตะโกนเรียกให้คนตรงหน้ากลับมา แต่ร่างของซานหลางก็หายลงไปในความมืดมิดของหลุมคนบาปเสียแล้ว
.
.
.
.
.
>>295 คงเพราะกระแส ปรมจ คนเลยตามหางานเก่าของแม่โม่มาอ่านด้วยจนขาดตลาดน่ะ ส่วนเรื่องตอนพิเศษก็มีซือจุนกับปิงเหอเยอะนะ ส่วนใหญ่จะเป็นฉาก NC ชีวิตหลังจากเนื้อเรื่องหลัก แล้วก็มีเนื้อเรื่องของคนอื่นมาเสริม
ส่วนตัวกูก็ว่าตัวร้ายความสัมพันธ์ของซือจุนกับปิงเหอมันยังไม่สมูทเท่าไร เสิ่นหยวนเองก็ไม่เคยแสดงนิสัยจริงๆ ให้ปิงเหอรู้ แถมยังสัมผัสไม่ค่อยได้ด้วยว่าความรักแบบศิษย์อาจารย์สำหรับเสิ่นหยวนมันเปลี่ยนไปเป็นรักแบบคนรักได้ยังไง คล้ายๆ สถานการณ์พาไปเลยยอมๆ เป็นแฟนกันไปก็ได้มากกว่า แต่เรื่องนี้แม่โม่ก็เขียนตั้งแต่ยังเรียนอยู่ มุมมองเนื้อเรื่องมันก็เลยออกไปทางเด็กๆ ความนุ่มลึกของตัวละครก็มีไม่เท่า ปรมจ กับเทียนกวาน ถ้าอ่านอีก 2 เรื่องมาก่อน พอมาอ่านตัวร้ายแล้วผิดหวังก็ไม่แปลกอะ
คือสรุปตัวร้ายนี่มันน่าผิดหวังมากเลยเหรอวะมึง คือกูก็ได้ยินคนพูดกันเยอะว่าถ้าเทียบกับปรมจ เทียนกวานแล้วถือว่าไม่สนุก แต่คือกูอยากเก็บงานแม่โม่ เลยสงสัยว่าถ้ากูยังไม่เคยอ่านเรื่องอื่น รู้สปอยปรมจบ้างแต่ไม่ละเอียด แล้วมาอ่านคัวร้ายก่อนมันจะเฟลป่ะวะ
>>299 กูอ่านแล้วไม่เฟลนะ ตอนอ่านแม้จะรำคาญ หงุดหงิด ไม่ได้ดั่งใจ แต่อ่านจบเนื้อเรื่องหลักกูก็ค่อนข้างประทับใจ งงปะ คือมันหลงเหลืออยู่ในความทรงจำ ติดอยู่ในใจหลังอ่านจบ แต่ผ่านมาหลายเดือนกูก็ลืมๆ ไปแล้วจำได้แค่ก่อนจบเนื้อเรื่องหลักมัน nc แห้งแล้ง เห็นคนตามหากันช่วงนี้เลยมาถามว่าตอนพิเศษเป็นยังไงเผื่อจะกลับไปอ่านต่อให้จบ
>>298 เนอะ แต่ถ้ามึงชอบความนุ่มลึกในมิติของตัวละคร กูก็แนะนำให้อ่านตอนพิเศษของเสิ่นจิ่ว กับจู๋จื่อหลาง กูว่าแม่โม่สื่ออารมณ์ของสองคนนี้ออกมาได้ดีมาก โดยเฉพาะเสิ่นจิ่วที่มีมิติกว่าตัวละครหลายๆ ตัวเลยทีเดียว
>>299 สำหรับกูมันก็ไม่ได้น่าผิดหวังอะ ถือว่าอ่านได้สนุกเลยล่ะ แต่มันจะมีอารมณ์แบบนิยายวัยรุ่นที่ตรรกะหลายๆ มันไม่เมคเซนท์ เน้นบันเทิงและความฮา บางคนก็อาจจะขัดใจกับจุดนี้ได้ แต่กูก็ว่าจุดแข็งของนิยายแม่โม่คือการที่มันมีเนื้อเรื่องหลัก ไม่ได้เน้นแต่ความรักของพระนายอย่างเดียว และที่สำคัญตัวละครหลายตัวค่อนข้างมีมิติ ตัวร้ายไม่ได้ร้ายโง่ๆ กัน
Ky ได้ว่าข่าวลือว่าปรจ 3 จะมาสิ้นปีนี้ มาเถอะ เงินมี พร้อมเปย์
Ky กูมาบ่น กูรู้สึกช่วงนี้ทำไมดราม่าเรือกันเก่งจังวะ ทำไมเรือใครเรือมันไม่ได้วะ55 มันก็ไม่ใช่เรือออฟฟิเชียลสักเรืออะ...ถ้าไม่ใช่วั่งเซียน
กูก็ไม่ได้อะไรกับอีกเรือไม่ได้ไม่ชอบไม่ได้เกลียดแต่ไมเรือกูโดนแซะเยอะจังวะ...เศร้า ฮือๆๆ กูแค่ชิปอีกเรือไม่ลงเพราะกูไม่เห็นว่ามันน่าชิปอะ กูคิดอีกมุม กูเลยแบบ มึงเคสตัวอย่างมันก็เกิดแล้วมึงยังชิปไรกันนน555 เค กูพอใจล่ะ
>>303 จริงหรอวะ แต่ล่าสุดกูเห็นเขาสปอยปกอีกเล่ม เขาจะทำทันหรอวะมึง
>>304 อีกเรือมันก็คิดเหมือนมึงน่ะแหละ สิ่งที่ด้อมนี้ขาดคือการเอาใจเขามาใส่ใจเรา แม้แต่ในคำพูดบ่นของมึงเองก็ยังไม่สามารถเรือใครเรือมันได้เลย ถ้ามึงสามารถคิดว่าเรือใครเรือมันได้ มึงจะไม่คิดว่าทำไมอีกฝั่งถึงชิปแบบนั้นแบบนี้ มึงจะไม่สนว่าเขาชิปอะไรจากอะไร ทำไมมึงถึงไม่ชิป เพราะมึงตระหนักได้เองว่าคนเรามีสิ่งที่ชอบไม่เหมือนกัน มองโลกต่างกัน
อีกอย่างตั้งแต่มีซร. คนไร้มารยาทก็เริ่มเยอะขึ้นไงเพราะคนเหล่านี้บางทีก็เพิ่งเคยเข้าด้อมอะไรแบบนี้เป็นครั้งแรก ไม่ได้รู้หรอกว่าบางทีคำพูดบ่นลงในแท็กก็ทำให้เกิดสงครามเรือได้ คราวนี้พวกแรงๆของแต่ละเรือก็ฟาดกันไม่หยุดไงเพราะต่างฝ่ายต่างคิดว่าอีกฝ่ายทำได้ทำไมตัวเองทำไม่ได้ ยิ่งไปอยู่ในแชทในกรุ๊ปก็ยิ่งแล้วใหญ่มีแต่คนให้ท้ายจนมองไม่เห็นผลของสิ่งที่ตัวเองทำ ดราม่าตอนนี้กูว่าแต่ละฝ่ายคือความผิดคนอื่นเท่าภูเขา ความผิดเราเท่าเส้นผมอ่ะ ทั้งๆที่ก็ทำตัวเหมือนๆกันแท้ๆ
ให้เป็นเกย์กันทั้งยุทธภาพ มนุษย์คงสูญพันธุ์
แล้วก็ซานหลางหล่อมาก หล่อชห.!!
อ๋อ มี Jian Yu กับ Gu Zi ด้วย
>>295 กุก็ยังขอใช้คำพูดเดิมมาแนะในมุมกุละกัน
ตัวร้ายฯมันมีจุดเด่นพิเศษเรื่อง character depth
ถ้าจะถามกุต่อว่าแล้วมันเด่นดีแค่ไหนยังไง กุจะบอกมึงว่าแค่ตอนพิเศษ "เสินจิ่วและชีเกอ" ตอนเดียว ทำให้กุยอมเก็บทั้งสามเล่มไว้ไม่บริจาคไม่ขายต่อแบบหัวเด็ดตีนขาดอะ
ถ้าจะเอาแบบยาวๆ
กุ ในฐานะนักอ่านที่ฝันว่าสักวันจะเขียนและอยากเขียน ไอ้พาร์ทเดียวของเสินจิ่วและชีเกอเนี่ย เก็บเป็น reference ที่มึงหยิบมาอ่านทุกครั้งที่อยากเข้าใจพฤติกรรมเหี้ยๆ ของตัวละครได้เลย (กุแทบจะยกย่องพาร์ทนั้นเป็นไบเบิลสำหรับการสร้างตัวร้ายแล้ว) แค่พาร์ทนั้นพาร์ทเดียวสำหรับกุถือว่าโม่เซียงถงซิ่วสอบผ่านในฐานะการสร้างตัวร้ายอะ ก็สมชื่อนิยายเขาดีนะ
ส่วนที่เหลือในเรื่องกุก็คล้ายๆ มึง คืออึนๆ กับรายละเอียดอะ ย้ำเหมือนเดิมว่าถ้าเรื่องนี้ไม่มีตอนพิเศษเสินจิ่วและชีเกอ ก็คงปล่อยตลาดมือสองไปนานละ แปลกเหมือนกันที่กุไม่ได้อินคู่หลักขนาดนั้น555
แต่กุโฆษณามาขนาดนี้ มึงอาจจะกลายเป็นคาดหวังสูงแต่พอไปอ่านอ่านจะรู้สึกว่าอะไรว้า ไม่เห็นเท่าที่โม้เลย อะไรงี้ แต่ก็นะ ถือซะว่ากุเข้ามารีวิวในฐานะติ่งของตอนพิเศษพาร์ทนั้นแล้วกันนะ55555555555555555
>>316 อนึ่ง เหตุเพราะกุเชื่อว่ากุค่อนข้างมาตราฐานสูงในการอ่านนิยาย พวกสำบัดสำนวนหรือวิธีการเล่ากุชอบเก็บทุกเม็ด
ดังนั้นเรื่องที่ทำให้กุอินได้นี่กุจะเทินไว้สูงมาก เพราะสมัยนี้มีนิยายเยอะ แต่ที่จะทำให้กุจมลึกกับตัวละครมากขนาดนี้เสือกมีไม่เยอะเลย
ดังนั้น ตอนพิเศษ : เสินจิ่วและชีเกอ 10/10 อ่านซ้ำแน่นอนค่ะ
>>316 กูมองว่าพาร์ทเรื่องของเสิ่นจิ่วเป็นตัวละครรองได้ตัวนึงเลยแต่ถูกลดระดับเนื้อเรื่องให้เป็นแค่ตัวร้ายเพราะไม่มีพื้นที่ให้เขามากพอด้วยพล็อตต่างๆที่คนเขียนตั้งใจปล่อยทิ้งไว้ด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ ทั้งเรื่องระบบ เรื่องหลุดมิติ ตกลงเรื่องในนิยายเป็นอะไรกันแน่ เป็นมิติหนึ่งหรือเรื่องราวที่เขียนขึ้น ถ้าเป็นเรื่องที่เขียนขึ้นแล้วทำไมมีตัวตนขนาดนี้ ซรวมไปถึงคนในโลกก่อนเป็นอะไรกันแน่ เมื่อไม่มีคำตอบในจุดนี้เลยเป็นการหายไปของบทเสิ่นจิ่วไปง่ายๆ และพอลดระดับจากตัวละครที่มีเนื้อเรื่องเยอะเป็นแค่ตัวประกอบพอเปิดเผยเหตุผลขึ้นมาเลยรู้สึกสุดยอด
ถ้ามึงอยากหาเรฟเกี่ยวกับการกระทำร้ายๆของตัวละครที่ทำให้อินได้กูแนะนำให้มึงอ่านการ์ตูนเยอะๆว่ะ ถ้าการ์ตูนยุคนี้กูแนะนำpandora heart, tokyo ghoul เรื่องHunterxHunterก็พีค เก่าแล้วแต่ยังไม่จบหาซื้อได้ทั่วไป พวกนี้คือร้ายมาเยอะแต่คนเขียนสามารถใช้ไม่กี่หน้าในการทำให้คนอ่านรู้สึกอินได้
แต่กูก็นับถือโม่เซียงนะ ในการเขียนตัวละครได้มีเสน่ห์ และกูนับถือสุดๆที่เขารู้ว่าอะไรควรจริงจังไม่ควรจริงจัง ถึงพล็อตโฮลจะเยอะ การตัดสินใจของตัวเองจะงงๆว่าทำไปได้ยังไง แต่เพราะเขาเลือกจะละทิ้งเหตุผลตรงนั้นแล้วปั่นดราม่าซึ่งความไร้เหตุผลเป็นสาเหตุ ทำให้เรื่องราวสนุกได้ เมื่อสนุกแล้วคนก็มองข้ามเหตุผลเล็กๆน้อยๆไปเพราะนิยายโดยหลักแล้วมีไว้เพื่อเสพความบันเทิง ชอบที่ใช้จุดเด่นของการหลุดเข้าไปในนิยายด้วย ด่านิยายว่าแย่ ตัวละครไร้เหตุผลไว้ก่อน จากนั้นตัวประกอบในเรื่องจะทำตัวไอคิวต่ำชงเนื้อเรื่องให้เข้มข้นเสริมความน้ำเน่าแบบแบนๆยังไงก็สามารถอ้างได้ว่าเป็นเพราะต้นฉบับนิยายมันแย่ สรุปโดยรวมกูชอบตัวร้ายนะในฐานะนิยายรัก ส่วนปรมาจารย์กูรออ่านจบก่อนแล้วค่อยแสดงความเห็น
>>316 อีกหนึ่งเสียงเห็นด้วยว่าส่วนที่ดีที่สุดของเรื่องตัวร้ายคือเส้นเรื่องเสิ่นจิ่วกับชีเกอ ส่วนตัวไม่ได้ชิบคู่นี้เลย แต่สะเทือนใจกับคู่นี้มากในฐานะครอบครัว แล้วดันมาเข้าใจไม่ตรงกัน ตอนอ่านถึงประโยคสุดท้ายของเสิ่นจิ่วในตอนพิเศษคือสะอึกมาก ประทับใจมาก กลายเป็นชอบเสิ่นจิ่วเฉย ส่วนชีเกอนี่ยกไว้ทูนหัวทูนเกล้า นึกถึงเรื่องตัวร้าย สิ่งแรกที่นึกถึงกลับกลายเป็นชีเกอซะอีก
ส่วนคู่หลัก ถึงจะชอบความสัมพันธ์รูปแบบนี้ ชอบเมะลูกหมาด้วย แต่มันยังไม่ลงตัว เหมือนขาดอะไรบางอย่าง อาจจะไม่ชอบเส้นเรื่องในเรื่องด้วยมั้ง แต่ก็อ่านได้ จุดแข็งของโม่เซียงจริงๆก็คือตัวละครเลยแหละที่ทำให้อินได้เป็นบ้าเป็นบอ ถึงตัวเนื้อเรื่องจะยังไม่แข็งแรงขนาดนั้น แต่เรื่องการสร้างตัวละครนี่ซูฮกเค้าเลยทั้งสามเรื่อง ยกให้เป็นนักเขียนที่จะตามเปย์ให้ครบ
>>318 อาจจะอย่างที่มึงว่า เพราะเราไม่คาดหวังพอได้เกินหวังมันเลยว้าวล่ะมั้ง
แต่ถึงอย่างนั้น กุก็คิดว่ามันดีเกิน the best ของ the best อยู่ดี
จริงๆ กุเป็นสายญี่ปุ่นมากกว่าจีนด้วยนะจะบอกให้555555555555555 เพราะของจีนกุจับแค่นิยายพีเรียดเท่านั้นด้วย เพิ่งมาดูอนิเมกะซีรี่ส์ก็เพราะปรมาจารย์ที่เขาว่าอนิเมทำดีนี่แหละ pandora heart กุเก็บมังงะครบนะ แต่จำได้ว่าอ่านจบแล้วก็ไม่ค่อยได้หยิบมาอ่านอีกเท่าไหร่ จำได้ว่าที่เศร้าและหน่วงที่สุดก็เรื่องของเอเลียตกับเลโอมั้ง รู้สึกว่ามันไม่น่าเกิดขึ้นเลย
ส่วนฮันเตอร์นี่กุมักจะวนมาดูอนิเมทุกๆ สองสามปี บาง arc แม่งก็บ้าคลั่งดี กุชอบ บอกไม่ถูกว่าชอบตัวละครไหนที่สุด แต่ว่ากุไม่ชอบกอน55555555555555 เพราะมันออกแนวเดียวกันกับคิริซึงุอะ พวกที่มุ่งไปหาเป้าหมายเป็นเส้นตรงเลย กุคิดว่าคนประเภทนี้น่ากลัวและไม่ค่อยน่าคบในมุมของกุ (กุขอโทษ ฮือ) ถ้าให้คอมเมนต์กุมองว่าฮันเตอร์มันเด่นในด้านการตั้งปณิธานว่ะ (กราบขออภัยปณิธานแห่งอาบิสด้วยค่ะ) หลายอย่างของหลายคนมันสุดโต่งเลเวลที่ว่ามึงไม่มีทางมาใช้ชีวิตในโลกธรรมดาได้เลย แต่มันทำให้กุชอบเรื่องนี้เพราะกุคิดว่าบางครั้งชีวิตธรรมดาๆ ของคนเรา มันก็ต้องการการพุ่งไปหาเป้าหมายแบบดับเครื่องชนแบบนี้แหละ สรุปกุคิดว่าเรื่องนี้สอนกุได้ดีในเรื่องการตั้งจิตแน่วแน่ (เหมือนกำลังฝึกเน็นเลย ขอโทษที่ร่ายยาว55555555)
ปอบโตเกียวนี่เคยดูสองสามตอนตอนอนิเมออก เพื่อนกุติ่งมากกก แต่ได้ยินมาว่ามังงะช่วงหลังคนเขียนเหมือนหมดไฟ+สตูอนิเมย่อเอาเรื่องทั้ง arc มายัดในตอนเดียว กุเลยติ๊กเข้าลิสต์ที่ว่างแล้วจะดู (แต่ตอนที่โดนสปอยล์ว่าฮิเดะตายนี่กุก็อึ้งไปเหมือนกันนะ เพื่อนกุเล่าว่าวันนั้นคาเนกิแม่งสติแตก จับทุกคนที่ผ่านตรงนั้นมาแดกหมดเลย ไม่รู้ว่ามันบิวท์ดีไหม แต่ได้ยินมาว่าเวรี่กู๊ด)
อาจจะนอกเรื่องอีกหน่อยแต่มีมังงะ magi พาร์ทย้อนอดีตสมัยโซโลม่อนอะที่ทำให้กุอินแบบเข้าใจความรู้สึกของคนที่ตกลงสู่ความเสื่อม คือมันเก็ตว่าทำไมคนพวกนั้นถึงเลือก join the dark side แต่กว่าจะไปถึงพาร์ทนั้นก็ยาวอยู่ แถมหลังๆ คุมเรื่องไม่ค่อยดีก็เลยจบไป
สุดท้ายแล้ว ถ้าให้แนะนำสองอันดับท็อปในใจกุตลอดกาล ถ้ารับดราม่าได้ก็ไป Attack on Titan ถ้ายังอยากเป็นสายโชเนนจั๊มป์ก็แนะนำ My Hero Academia เท่านี้แล อนิเมสองเรื่องนี้ทำดีฉิบหายวายวอด อย่าเตะกุออกนอกมู้เลยกุจบเมนต์แล้ววว
>>319 กุต่างจากมึงนิดหน่อย... ตรงที่กุชิปหนักมากถึงขั้นสรุปไปแล้วว่าวาสนาคู่ครองของเสินจิ่วที่ขาดไปเป็นเพราะเสินจิ่วควรจะได้คู่กับชีเกอ พอละหมอเรียกกุไปพ่นยา (แต่ต่อให้ไม่ใช่คนรัก มันก็ยังช้ำอย่างที่มึงว่าจริงๆ นั่นแหละ)
จริงๆ ไม่รู้จะยกตัวอย่างได้ไหม เกมในสตีม stardew valley อะมึง (กุขอนอกเรื่องเพื่อยกตัวอย่างอีกนี้สนึง ฮือ) มันเป็นเกมปลูกผักจีบสาวคล้ายๆ harvest moon มีตัวละครชายชื่อแซมซึ่งสั้นๆ ก็เป็นผู้ชายไทป์หมาเลยอะแหละ ละกุตกหลุมคนนี้มาก ถึงขนาดที่ว่าสร้างเซฟใหม่มาพยายามจีบคนอื่น แต่เวลาเห็นแซมเดินผ่านกุก็รู้สึกเหมือนกุกำลังนอกใจเขา เลยสรุปที่ไม่ได้จีบคนอื่นเลยตลอดเวลาที่เล่นมาทั้งหมด 1223 ชั่วโมง...
แต่กับปิงเหอกุไม่กรี๊ดกร๊าดว่ะ ทั้งที่กุก็เข้าใจว่ากุชอบผู้ชายไทป์นี้นะ อาจจะเพราะตั้งแต่ตอนฆาตรกรมารถลกหนังที่เสิ่นชิงชิวถูกมัดละมันไปสปาร์คต่อมเกย์ในตัวปิงเหออะ นั่นล่ะกุหยุดตื่นเต้นเลย แล้วก็รู้เลยว่าคนเขียนเขียนแบบแรงคุของญี่ปุ่นจริงๆ เพราะกุเสพแนวญี่ปุ่นมาเยอะ กุรู้เลยว่าฉากเรื่องเนื้อหาถัดๆ ไปมันจะเป็นไง เลยไม่ตื่นเต้นไม่อินเท่าไรมั้ง เพราะญี่ปุ่นแม่งใช้สไตล์นี้มาจนเกร่อ กุเลยอ่านต่อแบบอืมๆ อ่อๆ อะ...
แต่ก็นะ มันก็ยังเป็นการอืมๆ อ่อๆ ที่ไม่ทำให้กุพลาดของดีท้ายเล่ม ต้องข่อมคุณแรงอวยของหลายคนที่ทำให้กุพยายามไถต่อจนจบได้555555555555555555555
เออ กุเพิ่งเห็น >>314 มึงสนใจจะให้พินอินไหมเพื่อนโม่ง
คือต้องเข้าใจว่าจีนเป็นภาษามีวรรณยุกต์เหมือนกะไทย ถ้าไม่มีพินอินก็เอาตัวจีนมาเลยน่าจะง่าย (จริงๆ ก๊อปแปะกู๋ทรานส์เอาก็ได้ ถ้าเสียงสามกับสามมาเจอกันก็เปลี่ยนตัวแรกเป็นเสียงสอง เว้นแต่มันจะเป็นคำคำเดียวกันหรือชื่อเฉพาะที่เจ้าของชื่อกำหนดวิธีอ่านไว้อีกแบบ)
มันเหมือนมึงเขียนชื่อไทยแบบไม่มีวรรณยุกต์อะ ลอง เปเป ถ้าใส่วรรณยุกต์มันอาจจะเป็นเป่เป๊ เปเป้ เป๋เป่ อ่านได้ไม่รู้กี่แบบ5555555555555555555 ยังไงลองดูนะเพื่อนโม่ง
เออ พูดถึงชื่อไทยแล้ว เสินจิ่วนี่แหละที่กุยอมอ่านตามเป็นเสิ่นจิ่วไม่ได้จริงๆ เสียงสามบวกสามมันต้องเป็นเสียงสองตัวแรกโง้ย รมด orz จริงๆ กุคิดว่าแค่โน้ตว่าเสียงเปลี่ยนเลยพิมพ์ต่างก็น่าจะพอแล้วนะ ยังไงอ่านไปก็ต้องจำได้และเก็ตอยู่แล้ว นี่จริงๆ อ่านไปกุก็แอบขัดๆ ใจไป แต่ก็พยายามปล่อยเบลอแทน ฮือ
>>320 อ่านความเห็นมึงแล้วกูเก็ทเลยว่าความคิดตัวละครมันแฟนตาซีไป เลยอารมณ์ร่วมไม่เท่า เห็นด้วยนะ สายญี่ปุ่นมักสุดโต่งไปทางไหนสักทาง ต่างกับสายจีนที่วนๆกับรักโลภโกรธหลงแค้นเคือง วนอยู่เท่านั้นแต่ก็เป็นอารมณ์พื้นฐานของมนุษย์ที่ใครๆก็มี
กูก็ชอบปมระหว่างเสิ่นจิ่วกับชีเกอมาก จากความคาดหวังกลายเป็นผิดหวัง จังหวะการเขียนก็ดี ชีเกอที่พยายามยึดเสิ่นจิ่วไว้ไม่ให้จากไปไหนอีกแต่รู้สึกผิดเกินกว่าจะบอกความจริงซึ่งเหมือนหาข้ออ้างแก้ตัว กับเสิ่นจิ่วที่รอให้เขาบอกเหตุผลมาตรงๆ สุดท้ายชีเกอก็ช้าไปตลอด กูเลยบอกว่าในฐานะนิยายรักเป็นนิยายที่ดี แต่ในฐานะนิยายกูไม่มองว่าดี โลกในเรื่องมันเป็นอะไร มีระบบเพื่ออะไร แค่ประโยคเสิ่นหยวนตายเพราะอะไรในเรื่องยังไม่บอก คนอ่านรู้ว่าตายเพราะเสิ่นหยวนบอกกลับโลกเดิมก็ตายน่ะสิจนคนเขียนต้องมาเฉลยทีหลัง แล้วระบบของต้าเทียนที่บอกว่าจะให้รางวัลกลับบ้านได้ล่ะ ก็คนเขียนเฉลยสาเหตุการตายของต้าเทียนแล้ว ในตอนพิเศษถ้าไม่อาวรพ่อภูเขาน้ำแข็งกลับบ้านคือตายเรอะ ระบบแค้นเคืองอะไรคนแต่งนิยายวะ
ที่เหลือกูไปพูดมู้ดอกไม้นะเดี๋ยวนอกเรื่องเกิน https://fanboi.ch/801/6652/451/
>>324 ชีเกอแปลไทยยังเป็นพี่เจ็ดได้ แต่เสิ่นจิ่วแปลว่าไรดีวะ เสิ่นหมายเลข9 ฮ่าๆๆๆ
ไม่นับเรื่องเสิ่นจิ่วกับชีเกอ ตัวร้ายนี่กูชอบปิงเกอที่มาตีกับปิงเม่ยมากกว่าอีก กูชอบความไม่ยินยอมของปิงเกอที่แบบมีความอิจฉา แบบพระเอกนิยายตบหน้าที่หงุดหงิดว่าทำไมกูถึงด้อยกว่าวะ อันนี้ดูเข้าท่าดี ส่วนปิงเม่ยกูแอบรำคาญความเยอะสิ่งของนางอ่ะ
>>326 เฮ้ย กุชอบช่วงนั้นเหมือนกันนะ ละมันตอกย้ำทฤษฏีกุมากว่า คนเราไม่ว่าในอนาคตจะกลายเป็นใคร จะยิ่งใหญ่ขนาดไหน แต่ท้ายที่สุดแล้วสิ่งที่พวกเขาตระหนักได้ว่าต้องการอย่างแท้จริงแต่ไม่มีวันได้มาก็คือวัยเด็กที่สมบูรณ์อะ
เพราะสิ่งที่กลายเป็นปมไปแล้วไม่มีทางชดใช้ได้หมด (เหมือนเสินจิ่วกับชีเกอนั่นแหละ) ไม่ว่ามึงจะโตไปเป็นยอดบุรุษที่มีฮาเร็มเป็นร้อยพัน มีพลังแกร่งกล้าโค่นนรกปราบสวรรค์ก็ตาม
ท้ายที่สุด สิ่งที่มึงทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มา ก็เป็นแค่ผู้ใหญ่ใจดีที่จัดหาที่ทางให้มึงนอนหลับสบาย ปกป้องมึงตอนที่มึงอ่อนแอ คนที่จะอยู่ข้างมึงเวลามึงเจอปัญหา เพื่อนหรือพี่น้องที่อยู่กันแบบเข้าใจและให้เกียรติมึง มันเท่านั้นเองที่ชีวิตในวัยเด็กมันจะ complete ได้
แต่พอมาถึงจุดที่สร้างทุกอย่างด้วยตัวเองได้ มันก็สายไปซะแล้ว
>>322 ที่ช้ำขนาดนั้นมันเพราะคาแรคเตอร์ของสองคนนั้นด้วยแหละ คาแรกเตอร์ชีเกอมันพระเอ๊กพระเอกอ่ะเป็นพวกที่แบบตรงสุดๆ ไม่งอสักองศา ถ้าพูดไปแล้ว ไม่ว่าจะแลกด้วยอะไรก็จะรักษาสัญญาให้ได้ ส่วนเสินจิ่วก็เป็นเด็กที่ถูกโลกทำร้ายจนกลายเป็นแบบนั้น จนต้องสร้างเกราะปกป้องตัวเอง (แต่ก็ไม่ใช่ว่าการทำร้ายคนอื่นต่อจะถูกอะนะ) พอมารวมกันมันเลยเป็นความรู้สึกที่ว่าทำไมพวกเขาต้องมาเขอทอพไรแบบนี้ด้วย
เอาจริงถึงไม่ได้ชิปแต่ว่าเสินจิ่วนี่คือสิ่งสำคัญสุดในชีวิตชีเกออะ เป็นความเสียใจที่สุดในชีวิตของเขา ข้ามขั้นคนรักไปแล้วอ่ะ สำหรับกุอะนะ กุเลยเศร้ามากทุกครั้งที่บรรยายถึงรอยกระบี่ในถ้ำที่กักตนกับเหตุผลที่ทำไมเจ้าสำนักถึงไม่เคยชักกระบี่เลย ตอนอ่านคือในหัวมีแต่คำว่า ถ้าเกิดว่า ตลอดเวลา
คอมเมนต์มึงทำให้กุมูฟออนเป็นวงกลม ขอบพระใจมากค่ะ
ฮืออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออ เนี่ย เนี่ย เนี่ย แม่โม่ต้องออฟฟิเชียลคู่นี้แล้วป้ะ ฮื่อฮื่อฮื่อ
ส่วนอิการทำร้ายคนอื่นต่ออะเหรอ? จริงๆ กุเคยเปิดประเด็นเรื่องคาร์เสินจิ่วไปละน่าจะมู้ที่แล้ว ระบายไปค่อนข้างครบ ก็บอกได้แค่ว่ากุอินกับเสินจิ่วมากจนฉากลั่วปิงเหอโดนสาดน้ำชาราดหัวกุก็แบบ อ่อๆ อืมๆ รีบๆ ร้องแล้วลุกไปเลยได้ป้ะ? คือจะอินกะเสินจิ่วต่ออะ ไปกอดกันตรงนู้นนะ โทษที ขอทางให้เสินจิ่วเดินหน่อย
กุรู้ กุมันเหี้ย ทั้งที่ปกติกุจะใจอ่อนใจบางกะเด็กที่ถูกทำร้ายมากนะ
แต่โทษที พอดีในสายตากุเสินจิ่วเป็นเด็กที่ถูกทำร้ายมามากกว่าและหนักกว่าฉิบหายกว่า ไม่ได้กะจะบลัฟหรอก แต่อย่างน้อยลั่วปิงเหอก็ยังมีแม่บุญธรรมที่ดี มีโอกาสได้ยิ้มและพูดว่าตัวเองมีแม่ที่ดีที่สุดในโลก
ในขณะที่เสินจิ่ว แม้แต่คำว่าแม่บางทีคงยังไม่เข้าใจความหมายด้วยซ้ำ
เฮ้อ เนี่ย กุไบแอสเสินจิ่วแล้วป้ะ คือคุยเรื่องนี้ทีไรไม่มีใครเอากุลงจากแท่นอวยเสินจิ่วได้ กุขอโทษนะเพื่อนโม่ง
>>330 จริงๆ ถามในนี้ก็น่าจะมีคนตอบอยู่นะคือกุไม่ได้ไล่ไปที่อื่นหรืออะไรนะเผื่อสหายเข้าใจผิด คือกุเองเรียนจีนบางทีก็ยังใช้แอพใช้ดิคเช็คเพื่อความชัวร์เหมือนกัน เหล่าซือต่างๆ ของกุก็ยังใช้เลย5555555 เลยแนะนำมึงเผื่อมึงขี้เกียจมาถามแล้วรอในนี้ กุว่าถามที่นี่ได้แหละมึง ยังไงมันก็เป็นที่ไว้พูดคุยกัน อย่างที่กุเพิ่งถกไปว่าเสินจิ่วควรจะเขียนเป็นไทยยังไง มันก็แบบเดียวกะที่มึงถามนั่นแหละ มาแชร์ได้ๆ กุก็อยากรู้เหมือนกันว่าสรุปมันอ่านว่าไง5555555555555555
>>326 ปิงเกอที่มาตีกับปิงเหอกูเคยลองกาวเล่นๆว่าถ้าปิงเกอกลับไป(สมมุติว่าเป็นปิงเกอจากช่วงเวลาที่เสิ่นจิ่วยังไม่ตาย)แล้วพยายามทำให้เสิ่นจิ่วเป็นเหมือนเสิ่นหยวน เป็นรักแบบจำเลยรัก รักสามเศร้าแบบอยากให้เสิ่นจิ่วเป็นแบบเสิ่นหยวน แม่งยิ่งดาร์กเข้าไปอีก เป็นหมาเหมือนกัน แต่เป็นรอดไวเลอร์ ฮืออออ
>>333 เชี่ย กุชอบ กุชอบมาก กุชอบพล็อตคลิเช่ มึงเป็นสายแต่งฟิคไหม ช่วยเข็นมาโปรดกุที
จริงๆ กุก็เคยคิดเหมือนมึงนะ ว่าปิงเกอคงจะกลับไปหาเสินจิ่วถ้ายังเสินจิ่วยังอยู่ ละก็คงจะไปเทสอะไรหลายๆ อย่างเลย
แต่ก็คงเป็นพล็อตจำเลยรักที่ปวดตับไปทั้งชีวิตอะ เสินจิ่วไม่ได้เป็นแบบเสิ่นหยวน แถมผ่านอดีตที่ต้องเห็นแก่ตัวเพื่อเอาตัวรอดมาขนาดนั้น ไม่มีน้ำใจกว้างขวางมากพอจะไปเหลือให้ใครหรอก ก็คงเจ็บๆ ช้ำๆ กันไปแบบนั้นตลอดชีวิตแหละ
ฮืออออ กุมูฟออนเป็นวงกลมรอบที่สอง
>>331 ถ้ามองตามมาตรฐานคนทั่วไปแล้วที่เสินจิ่วไปทำร้ายคนอื่นต่อมันก็ผิดอะแหละ แต่ถ้ามองไปถึงพื้นฐานตัวตนของเสินจิ่วแล้ว เราไม่สามารถเอามาตรฐานคนทั่วไปอย่างเราไปตัดสินเค้าได้อะ อันนี้คิดเองนะ เสินจิ่วอาจจะรู้สึกว่าไม่เคยมีใครรักจนต้องรักตัวเอง สุดท้ายกลายเป็นว่ารักตัวเองมากไปจนไม่ได้คิดถึงคนอื่น กลายเป็นเห็นแก่ตัวไป เหมือนที่เค้าบอกกันแหละว่ามีแต่คนที่มีเหลือพอจะแบ่งถึงจะรู้จักแบ่งปันกับคนอื่น เสินจิ่วที่ไม่เคยได้รับความเมตตา จะไม่เมตตาคนอื่นก็ไม่แปลกเลย กุมองว่าเสินจิ่วอะทำไม่ถูก แต่ก็โกรธไม่ลงเท่าไรหรอก
กุก็ยังอินไม่หาย อยากให้เสินจิ่วตอนเป็นเด็กน้อยได้รู้ว่าชีเกอพยายามจะช่วยแล้วจริงๆ บนโลกนี้ยังมีคนใส่ใจเขาอยู่ ถ้าเป็นยังงั้นคงยังพอปลอบประโลมจิตใจเขาได้ อยากได้ฟิคประมาณที่เสินจิ่วตายละย้อนกลับไปสมัยเพิ่งเข้าสำนักใหม่ๆอ่ะ อยากเห็นว่าเสินจิ่วจะแก้ไขอนาคตบัดซบของตัวเองกับชีเกอยังไง แน่นอนว่าคนซึนๆคงไม่พูดเปิดอกกับชีเกอหรอก แต่ก็คงไม่ได้แค้นเหมือนตอนเด็กแล้ว แล้วก็คงจะไม่รับปิงเหอเป็นศิษย์ด้วย(มั้ง) อยากเห็นเค้าสองคนปล่อยวางอดีตแล้วมีความสุขอ่ะเอาจริง
>>295 กูเข้าใจมึงนะ ตัวร้ายฯนี่พ้อยของเรื่องมันไม่ค่อยมีอะไรอะ เน้นไปที่ตลค.มากกว่า พลอตจริงไม่มีไรเลย
แต่ทั้งสามเรื่องของโม่เซียง ส่วนตัวกูชอบตัวร้ายฯสุดนะ กูชอบตัวละครเรื่องนี้เกือบทุกตัวกับพลอตค่อนข้างตรงกับเทสกู ไม่เอาซับซ้อนซ่อนเงื่อนดราม่าอิรุงตุงนังกูชอบหมด อ่านเอาสนุกก็พอไรงี้ อีกคู่ที่กูชอบก็คู่โม่ซั่ง น่ารักชิบหายแม่งเป็นตอนพิเศษที่กูอ่านซ้ำบ่อยสุด พาร์ทชีเกอกะเสิ่นจิ่วนี่กูอ่านซ้ำไม่ได้น้ำไหลเป็นเขื่อนแตก กูไม่ชอบอะไรที่มันหนักหน่วงจริงๆนั่นแหละฮือ
ขอ ky แหวกกระแสพี่เจ็ด กับเจ้าเก้ามาสปอยเทียนกวานต่อนะ
ต่อจาก >>296 เทียนกวาน Part.21
.
.
.
.
.
เซี่ยเหลียนรีบส่งรั่วเย่ออกไปจับตัวซานหลางแต่ก็ไม่ทันการณ์ และโดยไม่ต้องคิดมาก เซี่ยเหลียนก็รีบกระโดดตามลงไปทันที แต่ก็ถูกเค่อหมอคว้าคอเสื้อไว้ เขาเลยให้รั่วเย่มัดอีกฝ่ายหมายจะดึงให้ตกลงไปด้วยกัน ระหว่างที่ทั้งคู่กำลังฉุดกระชากกันอยู่นั่นเอง จู่ๆ หญิงสาวผู้ถูกแขวนบนเสาก็เงยหน้าขึ้นมา
เมื่อเห็นดังนั้นทหารปั้นเยวี่ยก็โวยวายพากันโจมตีใส่หญิงสาวไม่ยั้ง ทว่าเธอกลับเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วจนทำให้พวกทหารเสียสมดุลจนหล่นลงไปในหลุมคนบาปทีละคนสองคน ขณะที่เค่อหมอหันไปคำรามว่านังนั่นอีกแล้วหรือ เซี่ยเหลียนก็ดึงอีกฝ่ายลงไปในหลุมด้วยกันสำเร็จ และในตอนที่คิดว่าร่างกำลังจะกระแทกพื้นนั่นเอง มือคู่หนึ่งก็รับตัวเขาเอาไว้อย่างนุ่มนวล
ก้นของหลุมคนบาปมืดมิดจนมองสิ่งใดไม่เห็น เซี่ยเหลียนยึดไหล่ของคนๆ นั้นไว้ ถามว่าอีกฝ่ายคือซานหลางหรือเปล่า ขณะเดียวกันก็ใช้มือตบเบาๆ ที่อกกับไหล่ของอีกฝ่ายเพื่อตรวจสอบ สักพักเสียงทุ้มต่ำจึงตอบกลับมาว่าตนไม่เป็นอะไร เขาขอให้อีกฝ่ายวางตนลง แต่เด็กหนุ่มกลับปฏิเสธราวกับว่ามีอะไรบางอย่างอยู่บนพื้น ตอนนั้นเองเสียงของเค่อหมอก็ดังขึ้นมา แม่ทัพผีร้องหาพี่น้องร่วมรบของตนซึ่งติดอยู่ในหลุมคนบาป และทั้งๆ ที่ตอนอาเจาหล่นลงมาจะมีเสียงของผีนับร้อยตนตอบรับเค่อหมอ ทว่าตอนนี้นอกจากเสียงตะโกนของอีกฝ่ายแล้ว เซี่ยเหลียนกลับไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย นั่นรวมไปถึงเสียงหัวใจเต้น และเสียงหายใจที่ควรจะมีของคนที่อุ้มเขาอยู่ด้วย
คนที่สังหารผีภายในหลุมจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเด็กหนุ่มเสื้อแดง เค่อหมออาศัยการฟังเสียงพุ่งเข้าใส่พวกเซี่ยเหลียน แต่ซานหลางก็ก้าวหลบได้อย่างพลิ้วไหวมั่นคง เซี่ยเหลียนรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่เย็น และแข็งกระด้างบนมือของเด็กหนุ่ม พร้อมกันนั้นก็มีเสียงโลหะกระทบกัน เสียงของแข็งแทงเข้าผิวเนื้อ และเสียงคำรามด้วยความเจ็บของแม่ทัพผี แต่ไม่ว่าอย่างไรเค่อหมอก็ไม่ยอมแพ้ เซี่ยเหลียนจึงส่งรั่วเย่ออกไปมัดอีกฝ่ายเอาไว้
เซี่ยเหลียนบอกให้ซานหลางปล่อยเขาลงอีกครั้ง แต่อีกฝ่ายยังไม่ยอมทำตาม ก่อนอธิบายว่าเป็นเพราะพื้นสกปรก เมื่อคิดถึงกลิ่นเลือดที่ลอยคลุ้งกับเสียงผีทหารปั้นเยวี่ยที่เงียบไป เขาก็ถามซานหลางว่าทั้งหมดเป็นฝีมือของอีกฝ่ายหรือเปล่า ซานหลางยอมรับ เซี่ยเหลียนจึงตำหนิอีกฝ่ายที่จู่ๆ ก็กระโดดลงมาในหลุม เด็กหนุ่มงุนงงปฏิกิริยาตอบรับนั้น แล้วถามว่าเซี่ยเหลียนไม่ถามหรือว่าเขาใช่มนุษย์หรือเปล่า แต่เซี่ยเหลียนก็ตอบไปว่าความสัมพันธ์ขึ้นกับโอกาส ไม่ใช่สถานะ ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นอะไรก็ไม่ได้สำคัญสำหรับเขา ทั้งสองหัวเราะด้วยกัน ก่อนที่เซี่ยเหลียนจะนึกขึ้นได้ว่าตัวเองชักจะชินกับการถูกอุ้มเกินไป เขาจึงบอกให้ซานหลางวางเขาลงอีกรอบ คราวนี้เด็กหนุ่มปล่อยเขาลงบนพื้นจุดหนึ่ง
จู่ๆ เค่อหมอก็ถามขึ้นมาด้วยเสียงเย็นชากล่าวหาว่าทั้งสองทำงานให้นังนั่น เซี่ยเหลียนนึกถึงสตรีชุดขาวที่เจอบนถนน ก่อนถามว่าแม่ทัพผีไม่ได้เป็นฝ่ายเดียวกับราชครูปั้นเยวี่ยหรือ เมื่อได้ยินดังนั้นเค่อเมอก็ยิ่งโกรธ เขาบอกว่าตนไม่ได้ภักดีต่อนักพรตมาร และไม่มีวันยกโทษให้อีกฝ่าย ราชครูปั้นเยวี่ยทรยศประเทศด้วยการเปิดประตูเมืองให้ศัตรูเข้ามาเข่นฆ่าประชาชน ผลักพี่น้องร่วมรบของเขาลงในหลุมคนบาป เขาจะจับร่างไร้ชีวิตของเธอมามาเสียบเสาประจานเป็นพันเป็นหมื่นครั้งในสาสม
ได้ฟังอย่างนั้นเซี่ยเหลียนจึงรู้ว่าตนเองเข้าใจผิดมาตลอด ราชครูปั้นเยวี่ยคือศพหญิงสาวที่ถูกแขวนไว้เหนือหลุมคนบาปต่างหาก แต่เช่นนั้นแล้วสตรีชุดขาว กับหญิงสาวชุดดำที่จ้องจะฆ่าพวกเขาคือใครกัน เหตุใดราชครูปั้นเยวี่ยที่เขาได้เห็นก่อนตกลงมาในหลุมว่าเธอสามารถต่อสู้กับทหารได้อย่างไม่ยากเย็นจึงได้ถูกจับมาแขวนได้กันแน่
.
.
.
.
.
7500 7500 7500 7500 7500 7500 7500 7500 7500 7500 7500 7500 7500 7500 7500 7500 7500 7500 7500 7500 7500 7500 7500 7500 7500 7500 7500 7500 7500 7500 7500 7500 7500 7500 7500 7500 7500 7500 7500 7500 7500 7500 7500 7500 7500 7500
เหอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แล้วยังไม่ประกาศสิทธิด้วยนะ ว่าได้อะไรบ้าง
>>339 ราคาทำเอากูลังเลเลย
ถ้าคิดว่างานมันจัดที่จีน แล้วกูต้องบินตามไปติ่ง ราคานี้ก็ถือว่าคุ้มที่ไม่ต้องเสียค่าตั๋ว ค่ารร.และ วันลา
แต่กูเห็นแว่บๆ ว่า DVD boxset ที่กำลังจะออกก็มีแถมงาน Fanmeet ที่จีนกับไทยให้ด้วย
เล่นเอากูลังเลว่าจะไปดูสด หรือเก็บเฉพาะ DVD อย่างเดียวดีว้า //เหลือไตแค่ข้างเดียว
>>337 เริ่มชินกับการถูกอุ้ม งุ้ยย เขาชอบกันแล้วค่ะแม่ >///< เนื้อเรื่องแม่งสนุกดีว่ะ ผจญภัยเจอผีบลาๆ มิน่าแม่งเอาทำซีรี่ย์ได้ ตอนแรกก้อว่ามันจะโฟกัสเนื้อเรื่องตรงไหน พาร์ทความรักเยอะมั้ยไรงี้ กูนี่รอดูความคลุมเครือของเกอเกอกะซานหลาง หลังจากเจอความคลุมเครือจากซีรี่ย์ปรมจ ก๊าวสัด 55555 ขายไตกันไปละกันมึง 7500 ถถถถ
พอมึงพูดว่า 7500฿ ยังไม่ประกาศสิทธิ์บัตรเครดิตในมือกุสั่นไปหมดเลยค่ะ
สรุปด้อมนี้เปิดโดเนทเพื่อแฟนมีตได้นาจาาาาาาาา กฎแม่ก็ช่างหัวแม่จ้าาาาาาาา
มาสปอยเทียนกวานต่อนะ ต่อจาก >>337 เทียนกวาน Part.22
.
.
.
.
.
เค่อหมอไม่เชื่อว่าเซี่ยเหลียนมาที่นี่เพื่อจัดการกับนักพรตมาร สุดท้ายซานหลางก็เอาศพของทหารคนอื่นมาขู่ แม่ทัพผีจึงจำยอมเล่าเรื่องของราชครูให้ฟัง นักพรตมารมีมารดาเป็นชาวปั้นเยวี่ย ส่วนบิดาเป็นชาวที่ราบภาคกลาง ทั้ง 3 อาศัยอยู่ที่เขตชายแดน แต่ด้วยความที่ทั้งสองประเทศมีปัญหากัน พวกเขาจึงถูกดูแคลนกลั่นแกล้งจนสุดท้ายฝ่ายสามีก็ทนไม่ไหว เขาทอดทิ้งภรรยากับลูกสาวกลับบ้านเกิด ทำให้ฝ่ายภรรยาตรอมใจและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ราชครูปั้นเยวี่ยกลายเป็นเด็กเร่ร่อนหิวโหยไร้ผู้ดูแล เด็กหญิงมักถูกผู้คนรังแกอยู่เสมอ ไม่มีเด็กชาวปั้นเยวี่ยคนใดเล่นกับเธอ แต่โชคดีที่ยังมีเด็กจากที่ราบภาคกลางบางคนที่ใส่ใจเธอ
เมื่อสงครามเกิดขึ้น ราชครูปั้นเยวี่ยในวัย 12 ปีได้หายตัวไป เด็กหญิงเดินทางบำเพ็ญเพียรจนสามารถใช้มนต์ดำควบคุมงูหางแมงป่องได้ เมื่อกลับมายังแคว้นปั้นเยวี่ย คนที่เคยรังแกเธอต่างหวาดกลัวว่าหากปล่อยให้เธอได้ทำงานในราชสำนัก เด็กหญิงจะกลับมาล้างแค้นพวกตนจึงพยายามใส่ร้ายป้ายสี ในเวลานั้นเค่อหมอเป็นนักรบมีชื่อเสียงแล้ว เขารู้สึกว่าอีกฝ่ายเป็นคนน่าเชื่อถือ ประจวบกับที่เมื่อสมัยเด็กเขามีร่างกายอ่อนแอ มักถูกผู้คนรังแกไม่ต่างกัน เขาจึงรู้สึกเห็นใจเธออยู่ไม่น้อย เค่อหมอช่วยแก้ต่างข่าวลือให้เด็กหญิง และให้การสนับสนุนจนเธอได้เป็นราชครูแห่งปั้นเยวี่ย
แต่แท้จริงแล้วราชครูเก็บฝังความแค้นต่อชาวปั้นเยวี่ยไว้ในใจจึงได้หักหลังประเทศ เมื่อเค่อหมอทราบข่าวเขาก็รีบไปจับตัวเธอมาเขวนไว้บนเสาจนถึงแก่ความตาย หลังจากที่พวกเขากลายเป็นผีติดอยู่ในเมือง เค่อหมอจะคอยจับหญิงสาวมาแขวนครั้งแล้วครั้งเล่า ราชครูปั้นเยวี่ยเองก็ผลักพวกทหารลงไปในหลุมคนบาป สร้างค่ายกลไม่ให้ผู้ใดขึ้นมาได้ โชคดีที่เวลางูหางแมงป่องออกไปหาเหยื่อนอกเมือง พิษของมันทำให้นักเดินทางต้องเข้าเมืองมาหายาแก้พิษ แม่ทัพผีจึงจับสามารถจับคนเหล่านั้นมาโยนลงหลุม บรรเทาความเคียดแค้นให้พี่น้องที่ถูกจองจำของเขา
เซี่ยเหลียนรู้สึกว่าเค่อเมอปิดบังความจริงบางอย่างไว้ การที่ทหารผียังปลูกพืชแก้พิษไว้ย่อมหมายความว่าพวกเขายังคงหวาดกลัวงูหางแมงป่อง แล้วทำไมราชครูปั้นเยวี่ยผู้บังคับงูได้จึงได้ถูกพวกเขาจับตัวมาแขวนเหนือหลุดคนบาปบ่อยครั้ง การที่งูออกไปล่าเหยื่อนอกเมืองเป็นแค่เรื่องบังเอิญ หรือนักพรตสาวพยายามช่วยพวกทหารจับมนุษย์ แต่หากเธอช่วยเหลือพวกทหารจริง เหตุใดถึงไม่ปล่อยพวกเขาออกมาจากค่ายกล ทว่าก่อนที่เซี่ยเหลียนจะสอบถามเค่อหมอเพิ่มเติม ร่างของราชครูปั้นเยวี่ยก็ปรากฏขึ้นที่ปากหลุมคนบาป
ราชครูกระโดดลงมาข้างล่าง เธอถามเค่อหมอว่าเกิดอะไรขึ้น แม่ทัพผีตะคอกว่าเป็นเพราะเธอทุกคนจึงตายหมด ได้ยินดังนั้นนักพรตสาวจึงจุดไฟบนมือ แสงไฟดวงน้อยส่องให้เห็นศพทหารเกลื่อนกลาดบนพื้นรอบตัวเธอ เค่อหมอที่ได้เห็นร่างของเพื่อนร่วมรบก็ร้องโหยหวน ในขณะที่ราชครูสาวเอ่ยเสียงเรียบว่าดีแล้วที่พวกเขาได้รับการปลดปล่อย
นักพรตหญิงถามเซี่ยเหลียนว่าเขาเป็นใคร เซี่ยเหลียนตอบไปตามจริงว่าเขาเป็นเจ้าหน้าที่สวรรค์ คำตอบนั้นทำให้ราชครูแปลกใจด้วยนึกว่าเทพเจ้าละทิ้งที่แห่งนี้ไปแล้ว เธอหันไปปลดค่ายกลให้โดยง่าย ตอนนั้นเองฝูเหยาก็ตะโกนลงจากปากหลุมคนบาป พอทราบว่าเซี่ยเหลียนอยู่ที่ก้นหลุม เขาก็โยนเพลิงลูกใหญ่ลงมา เมื่อมีแสงสว่างเซี่ยเหลียนจึงได้เห็นสภาพรอบตัวที่เต็มไปด้วยกองศพท่วมเลือดของทหารปั้นเยวี่ย มีเพียงจุดที่เขายืนอยู่ที่ไม่มีเลือดเปรอะเปื้อน จากนั้นฝูเหยาก็กระโดดลงมาอีกคน
เซี่ยเหลียนถามถึงกลุ่มพ่อค้าที่ถ้ำหิน แต่เทพหนุ่มมีท่าทีไม่ใส่ใจและบอกว่าเขาวาดวงคุ้มภัยให้คนเหล่านั้นแล้ว ตอนนั้นจู่ๆ เค่อหมอก็พุ่งไปต่อยราชครูปั้นเยวี่ยซึ่งไม่มีท่าทีจะปัดป้องการโจมตีจากอีกฝ่ายเลย แม่ทัพผีตะคอกถามว่าเหตุใดเธอจึงไม่นำงูหางแมงป่องออกมาฆ่าเขา แต่นักพรตสาวอธิบายว่าเธอไม่สามารถควบคุมพวกมันได้อีกแล้ว เขาถามต่อว่าเธอเกลียดพวกเขามากใช่ไหม พอเห็นหญิงสาวส่ายหน้า เขาก็กระชากผมของเธอ ถามว่าแล้วเหตุใดเธอถึงทรยศพวกเขา
เซี่ยเหลียนไม่อาจทนดูภาพข้างหน้าได้อีกต่อไป เขารีบเข้าไปห้ามเค่อหมอไม่ให้ทำร้ายหญิงสาวอีก ตอนนั้นเองจู่ๆ ราชครูปั้นเยวี่ยก็คว้าข้อมือของเซี่ยเหลียนไว้ เธอมองเขาไม่วางตา ทำท่าเหมือนอยากเอ่ยอะไร แต่ก็ไร้เสียงใดจากริมฝีปากสั่นเทา และภาพนั้นก็เรียกความทรงจำของเซี่ยเหลียนที่ผ่านมาเนิ่นนานให้คืนกลับมา
เซี่ยเหลียน : เป็นเจ้าเองอย่างนั้นเหรอ
ราชครูปั้นเยวี่ย : … ท่านแม่ทัพฮวา
.
.
.
.
.
Ky กูจะบ่น มันคือบ่นแหละ มึงอาจจะงงๆกะน กูคิดไรออกกูก็จะเขียนลงไป555 กูว่ากูสปอยมากๆสำหรับใครยังไม่ดูก็ควรข้ามไป...
กูไปดูซีรี่ย์อีกรอบ พอมาถึงฉากเฉลยเรื่องจินตันของเจียงเฉิงกูไม่อินเหมือนรอบแรกเลย55 กูรู้อยู่ล่ะความจริงอะเพราะกูดำน้ำมามากมาย พอมาดูรอบนี้กูก็ยังสงสารแต่กูไม่ชอบคำพูดเวินหนิงเลย โอเคมันแทงใจดำ แต่พอประโยคท้ายที่บอกว่าท่านชอบเอาแต่เปรียบเทียบ มันก็มาจากปมน้องไหมอะ...ยิ่งกูเห็นคอมเม้นกูก็รู้สึกว่า เหย ดูแล้วไม่คิดตามกันหรอวะ เหมือนดูเอามันเอาฟินกันเฉยๆ จบ ฉากน้ำตาแตกของกูป่นปี้เลย กูไม่น่านั่งอ่านคอมเม้นแล้วมาดูซ้ำเลย.
ความคิดกูนะ วิเคราะห์ช้าแบบคนเพิ่งมาอ่านโม่งย้อนหลัง... กูจะโดนด่าไหมเนี่ยแต่กูอยากพูดแบบนี้มานานล่ะ ขอระบายหน่อยเหอะ มันก็แล้วแต่คนก็เนอะ กูมันคนดูแล้วคิดเยอะ กูไปที่อื่นไม่ได้ไม่งั้นกูน่าจะโดนเละ นี่ถือว่าเกี่ยวกับห้องนี้ไหมวะ...
ทุกคนมองจากมุมของเว่ยอิงกันหมดเลย อะ อาจเพราะน้องอิงเป็นตัวเอกดำเนินเรื่องก็ไม่แปลก แต่เจียงเฉิงไม่รู้ไหมวะ นี่ด่าน้องกันกระจุยกระจาย
สำหรับกูกูรู้สึกว่าทุกคนลำเอียงวะ หมายถึงตัวละครในเรื่อง อย่างครอบครัวเจียง พี่หญิงกับพ่อเงี้ยก็เอ็นดูอาอิงกันเหลือเกินจนกูแบบ เหย ลูกแท้ๆ น้องแท้ๆอยู่ตรงนั้นอะ เป็นกูกูก็มีปมวะ คือกูจำที่ไปดำอิ้งมาไม่หมดเพราะกูข้ามๆรอแปลไทยอ่านแต่ฉากสำคัญ กูเลยไม่แน่ใจว่าไอ้ฉากพวกนี้ในนิยายพี่หญิงมันลำเอียงขนาดนี้ไหม แต่กูไม่ชอบในซีรี่ย์555 กูรู้สึกว่าพี่หญิงควรโอ๋อาเฉิงบ้างไหมอะ กูเห็นตลอดเลยว่าไม่เคยปลอบ...ที่กูเห็นมากสุดคือฉากดีใจที่เจอกันแล้วกูก็ไม่เห็นความรักของพี่หญิงที่มีให้อาเฉิงอีกเลย...อะ อีกฉากก็ตอนที่น้องเสียจินตัน...ขนาดจะตายกูก็ยังไม่เห็นพี่หญิงจะสนใจอาเฉิง..
หรือเพราะน้องต้องเป็นประมุขเลยแม่งไม่มีใครสนวะ...แบบ เทอ เทอต้องแกร่งเอง งี้หรอ...ถ้าในนิยายเป็นแบบนี้ด้วยกูว่าส่วนนี้ไม่สมเหตุสมผลสำหรับกูในฐานะกูที่เป็นพี่นะ ต่อให้กูด่าน้องเถียงกับน้อง น้องกูปากหมาเอารองเท้าปาใส่หัวกู กูก็ห่วงน้อง กูก็รักน้องกู กูยังปลอบยังถาม ถึงน้องกูจะซึนไม่ตอบแล้วด่ากูกลับว่าเสือก...น้องกูแม่ง..อะ ไม่ใช่ประเด็น นั้นแหละๆ
ส่วนเรื่องพ่อกูโอเค พ่อกูเป็นแบบพ่ออาเฉิงเลย ไม่พูดอะไรแล้วก็คาดหวัง ไม่สอนเอาแต่บอกว่าทนไปดิเดี๋ยวก็ผ่านไป กูเข้าใจตรงนี้ เรื่องแม่อาเฉิงกูก็เข้าใจเหมือนแม่กูเช่นกัน ขยันค่อนขอดด่าพ่อแล้วพาลกู... อ้าว จริงๆกูเป็นคนสกุลเจียงนี่หวา...กูไปหาชุดสีม่วงมาใส่แปป พวกมึงมาช่วยกูปลูกดอกบัวเร็ว
กลับมาๆ เออ นั้นแหละตามที่กูเขียน พอกูมาดูใหม่กูเลยไม่อินไปเลย...อินอยู่แค่เรื่องสองสามอย่าง อาเฉิงกับอาอิงอะ(อีกอันก็เมืองอี้ที่กูรู้สึกว่าแสดงดี พี่เนี่ยอาเหยา) แค่นั้นเลย กูรู่สึกว่า เออสองคนนี้เล่นดี ถ่ายทอดได้ดีว่าแม่งรักกันแต่ชอบกัดอะ บางฉากที่อาอิงโดนว่าเงี้ย อาเฉิงแม่งก็แสดงออกมาได้ดีว่าไม่ชอบอยากขัดแต่ทำไม่ได้...สีหน้าน้องตอนแสดงดี เว่ยอิงก็เหมือนกัน กูชอบโคตรๆความรักสองพี่น้องตรงนี้ ซีรี่ย์ทำดี...
หลานจ้านกับอาอิงกูก็เสือกไม่อิน...อะไรของกูวะ พี่ซีเฉินกับเมิ่งเหยากูก็ไม่อิน...กูอินเมิ่งเหยากับพี่เนี่ยมากกว่า กูไม่ได้หมายถึงเรือนะ กูว่าสองคนนี้เล่นดี อย่างฉากที่พี่เนี่ยจะตายกูชอบมาก หรือฉากขับไล่พอเล่นด้วยกันกูแบบพลังง กูตรึงตราตรึงใจ...ส่วนอาเหยาไม่ต้องพูดถึงแสดงเก่งมากแสดงให้กูแบบ นังนี่ๆๆ55 ชื่นชมที่น้องได้รางวัล กูรู้สึกว่าพี่เนี่ยกับอาเหยาดูแบบยังไงวะอาจเพราะปูเนื้อเรื่องย้อนความให้ดู กูเลย ว้าว แบบรู้สึกว่ามันผูกพัน สมควรทั้งโกรธทั้วแค้นทั้งรัก พอมาดูทางพี่ซีกับอาเหยากูแบบ...ไม่อะ กูไม่อิน ก็แค่ดีด้วยไหม...ก็แค่ใจดีเฉยๆไหมวะ อะ อาจมีเรื่อวที่ข่วยตอนพี่ซีหลบหนีแต่กูก็ยังไม่อิน.. ถ้ากูเป็นพี่ซีในซีรี่ย์กูไม่รู้สึกว่ากูต้องยอมตายไปด้วยเลย กูสามารถข้ามไปเลยได้ แบบไม่น่าดจำสำหรับกู ส่วนตัวกูไม่เห็นว่าเขาจะรักอะไรกันมากกว่าพี่น้อง ยิ่งมีโม่งบนๆเก่าๆนู่นวิเคราะห์กูก็คิดตามนั้นว่า ถ้าพี่ซีเปบี่ยนอาเหยาก็ฆ่า สำหรับกู กูว่าเคสขอวพี่เนี่ยก็เป็นกรณีตัวอย่างปะ... แต่มีฉากของพี่ซีกับอาเหยาที่กูอินคือ ฉากที่น้องเนี่ยบอกว่าอาเหยาจะทำร้ายแล้วพี่ซียกกระบี่หันไปแทงอาเหยา ฉากนี้กูอินที่สุดแล้ว รู้สึกถึงความเชื่อใจที่ไม่เหลือแล้วของพี่ซีอะ เดอะเบสสำหรับกู ตกลงกูมาพูดเรื่องอะไรวะ...ฉากที่กูชอบไม่ชอบหรอ555 เอาน่าพวกมึงอ่านมาตรงนี่แล้ว มึงก็จะรู้ว่ากูอัดอั้นอยากบ่นจริงๆ บ่นไม่รู้เรื่องด้วย กูเหมือนคนเมาแล้วหยิบมือถือมาพิมพ์
ขอบคุณพื้นที่สำหรับการบ่นห่าอะไรสักอย่างของกู...กูดีใจที่แม่งมีโม่งเพราะอย่างน้อยพวกมึงก็ด่ากูได้แต่ไม่รู้กูเป็นใครรร555 กูสบายใจล่ะ
>>350 ฉากนั้นกูว่าน้องหนิงพูดแรงไปจริงๆ แหละ แต่คือน้องหนิงมีความลำเอียงไง เข้าข้างเว่ยอิงมากกว่า ซึ่งก็ไม่ได้ถูกต้องถ้ามองจากคนกลาง เพราะอาเฉิงก็ไม่ผิด เว่ยอิงก็ไม่ผิด
กูว่าทุกคนในครอบครัวรักอาเฉิงหมดแหละแต่แสดงออกต่างกัน แล้วเว่ยอิงมันขี้อ้อน ชอบหาเรื่องยุ่งชอบหาเรื่องใส่ตัว พี่หญิงจะห่วงเว่ยอิงมากกว่าอาเฉิงก็ไม่แปลก กูว่าในซีรีย์นี้จริงๆ ชีวิตอาเฉิงบัดซบที่สุดเลย โคตรน่าสงสาร แน่นอนว่าตอนอาเฉิงใส่ๆๆๆ เว่ยอิงกูก็ไม่ชอบเหมือนกัน แต่ทุกคนมองจากมุมเว่ยอิงไง ลืมไปว่าถ้ามองจากมุมอาเฉิงคืออาเฉิงเป็นคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยและเป็นคนถูกกระทำ ถูกทรยศ แต่ถูกคนมองข้ามไป เศร้าว่ะ
>>350 กูว่าศิษย์พี่ก็รักทั้ง 2 คนเท่ากันนะ แต่เว่ยอิงขี้อ้อนกว่า เข้าหามากกว่า แนวทรีตผู้หญิงดีอ่ะ ศิษย์พี่เลยเอ็นดู แต่เจียงเฉิงคือนิ่งๆตรงๆ กระโชกโฮกฮากตามสไตล์ผู้ชาย ดูไม่ค่อยเข้าหาผู้หญิงมาก เลยไม่สนิทใจเท่า แต่ดูๆเค้าก็รัก 2 คนเท่ากันนะ ต้มน้ำแกงอะไรก็ทำเผื่อหมดป่ะ 55555 เบื้องหลังศิษย์พี่กับเจียงเฉิงอาจจะแสดงความรักกันมากกว่านี้ แต่เราไม่รู้เพราะเค้าเล่าเรื่องโดยเอาเว่ยอิงเป็นหลัก ไม่ได้มีฉากแสดงความรักของศิษย์พี่กับเจียงเฉิงมากอ่ะ
KY กูไม่รู้ว่าหวีดฟิคตัวร้ายได้รึเปล่านะ แต่ใครอ่านอิงค์ออกกูขอแนะนำเรื่องนี้ คือดีมาก เสิ่นหยวนหลุดเข้าไปเป็นตัวประกอบที่ถูกฆ่าล้างตระกูล ได้พี่เยวี่ยกับเสิ่นชิงชิวช่วยไว้ แล้วพี่เยวี่ยรับเป็นศิษย์
ปกติกูไม่ชอบอ่านฟิคที่มีเสิ่นชิงชิวตัวจริงนะ แต่เรื่องนี้ดีมาก คือเสิ่นจิ่วไม่ได้โคตรเลว แต่ก็ไม่ได้ลูกกวาดจนคาร์หลุดมาก
Scum Villain's AU Manual ใน ao3
>>352 >>353 กูคนบ่นเอง ตอนอาเฉิงใส่ๆเว่ยอิงกูเข้าใจน้องนะเว้ย55 คือกูเรียนด้านที่มันต้องเข้าใจพฤติกรรมของมนุษย์ แล้วการแสดงออกของน้องคือกลไกตอบสนองต่อความโศกเศร้า ถ้าพวกมึงอยากรู้กูจะอธิบาย
ซึ่งกูรู้สึกเคสของอาเฉิงแม่งตอบโจทย์ข้อมูลที่กูเรียนมาแล้ว เยี่ยมกูตอบข้อสอบได้55
ถ้าแม่โม่ใช้ตรงนี้ด้วยกูรู้สึกว่า เก่งมากที่เอาตรงนี้มาใช้ อะ ต่อๆๆ
เออ ประเด็นพี่หญิงก็อาจจะเป็นแบบนั้นจริงๆ มันก็มีแหละที่ดูรักแค่กูรู้สึกพี่หญิงรักเว่ยอิงมากกว่าในหลายๆตอน กูสงสารอาเฉิง พอกูมีความรู้สึกว่าพี่หญิงไม่ค่อยซัฟน้องก็ก็ยิ่งสงสาร...แต่ตามพวกมึงพูด เขารักกันแค่อาเฉิงไม่ค่อยพึ่งใคร ไม่พึ่งเลยด้วย ฮือๆๆ กูอยากบ่นอีกแต่อีโพสที่แล้วที่กูบ่นกว่ากูจะกดโพสได้อะ ต้องลบๆออกโคตรเยอะเพราะตัวอักษรเกิน...
กูแอบเห็นด้วยเบาๆเรื่องศิษย์พี่ ถ้าดูจากแค่ซีรีส์ มันก็เห็นได้ชัดจริงๆว่านางมีโมเม้นกับเว่ยอิงมากกว่า แต่เข้าใจว่าเว่ยอิงเป็นตัวเอกของเรื่อง ก็ไม่แปลกที่ซีรีส์จะไปเน้นทางเว่ยอิง
แต่ถ้าวิเคราะห์ตัวละคร กูก็เห็นด้วยกับโม่งข้างบนแหละว่าส่วนนึงเป็นเพราะนิสัยของอาเฉิงเอง น้องไม่ใช่คนขี้อ้อนชอบเข้าหาคนอื่น ถ้าพี่สาวมาโอ๋ๆ แบบที่ทำกับเว่ยอิง กูว่าน้องมันก็คงไม่อิน ทำตัวไม่ถูก (ทั้งที่จริงๆแล้วตัวเองก็อยากให้เค้าโอ๋นั่นแหละ เด็กแม่งซึน) กูเลยค่อนข้างไปทางทฤษฎีว่าศิษย์พี่รักน้องสองคนเท่าๆ กัน แต่แสดงออกไม่เหมือนกัน
กับท่านพ่อ อันนี้กูว่าบทแอบโหว่ไปหน่อย คือดูแล้วรู้นะว่าท่านพ่อก็รักอาเฉิงแหละ แต่มันไม่เก็ทพอยนท์ไงว่าทำไมต้องเมินลูกตัวเองขนาดนั้น พอท่านแม่มาขยี้เรื่องเลี้ยงลูกคนอื่นดีกว่าลูกตัวเอง อาเฉิงก็มีปมด้อยไปอีก ท่านพ่อก็ไม่เคยแก้ความเข้าใจผิดนั้นเลย เมียด่าว่าไม่รักลูกก็เงียบ สงบสยบเคลื่อนไหวชิบหาย แต่จะว่าบาปไป อาเฉิงก็จิตใจดีมาก สมมติถ้าเป็นกู อยู่ดีๆ พ่อเอาใครที่ไหนไม่รู้มาเป็นพี่น้องกู ไล่หมากูออกจากบ้าน อุ้มเค้าแต่ไม่อุ้มกู กูคงโตมาแบบนับญาติกับเด็กคนนั้นไม่ได้อะ
ท่านแม่เจียงก็นะ ถ่ายทอดนิสัยมาให้ลูกชายเป๊ะๆ นี่ก็น้อยใจผัวแต่ไม่พูดตรงๆ เอะอะแม่ฟาด ใช้สกิลมนุษย์ป้าฝีปากยืนหนึ่งจนลูกเก็บมาน้อยใจตามตัวเองไปด้วย (กูไม่ได้เกลียดท่านแม่นะ ท่านแม่คือตลค.หญิงที่กูชอบที่สุดในเรื่องละ) ถ้าเป็นซีรีส์ปัจจุบัน กูจะแนะนำให้บ้านเจียงไปหาจิตแพทย์ครอบครัวให้ช่วยละลายพฤติกรรม ทุกคนรักกันหมดแต่ปากแข็งขี้ซึนเหลือเกิน
ทั้งนี้ทั้งนั้น กูรักอาเฉิง ลูกชั้นเป็นคนดี
กูไม่รู้จะแท็กใคร แต่กูอยากอธิบายเรื่องทฤษฏี แนวคิดการรับมือกับความโศกเศร้าของคน ไว้เป็นวิทยาธาน กับประกอบความรู้ คือกูอยากปาข้อมูลความรู้ตรงนี้ใส่คนที่ด่าอาเฉิงมาก55 กูจะอธิบายพร้อมยกตัวอย่างในซีรี่ย์ไม่แม่นมากกูลืมๆ.. ข้อมูลกูอาจไม่เป๊ะ กูอธิบายจากความจำที่อ่านมา
พฤติกรรมของคนที่พบเจอความโศกเศ้รา มันจะแบ่งออกเป็น5 ระดับ
1. ปฏิเสธ ซึ่งช่วงนี้ อาเฉิงแสดงออกมาได้ดีนะ คือช่วงนี้คือการไม่ยอมรับความจริง เสียสติไปขณะหนึ่ง ตั้งสติเรียงลำดับเหตุการณ์ไม่ได้ ตรงนี้คือช่วงที่ครอบครัวน้องถูกล้างบาง
2. โกรธ ตรงนี้คือตอนที่น้องด่าเว่ยอิงแล้วโยนความผิด ช่วงตรงนี้คือจะเริ่มโทษคนอื่น สถานที่ สิ่งแวดล้อม รู้สึกว่าทำไมมันถึงเกิดกับตนเอง
3.ต่อรอง ตรงนี้คือรับรู้ว่าเกิดการสูญเสีย แต่ยังไม่ยอมรับ ยังคิดว่าแม่งทำไมเกิดขึ้นวะ ไม่ควรเกิดกับตัวเอง นี่ไง ช่วงด่าสกุลหลานเบาๆ55
4.ซึมเศร้า คือแยกตัว ไม่รับรู้มีแนวโน้มทำร้ายคนอื่น.. น้องกู อุแว อันนี้น้องแม่งเหมือนคนสติหลุดไปเลย
5.ยอมรับความจริง เข้าใจแล้วว่าเกิดอะไร ยอมรับว่าสูญเสียแต่สามารถมีโอกาสวนกลับไปข้อ4. คือซึมเศร้าอาจเกิดจากสิ่งแวดล้อม บุคคลที่ไม่เอื้อให้หลุดพ้นจากความเสียใจ ตรงนี้กูว่าสามคนไม่มีใครปลอบกันเลยต่างคนต่างอยู่ไม่มีใครเป็นหลักให้พึ่งกันได้..ไม่แปลกที่น้องไม่มูฟออกมา ซึ่งจากที่กูดูอาเฉิงแม่งมูฟไม่ออกตามทฤษฏีมาก
เนี่ยพิมพ์มาคือใช่มาก อาการของอาเฉิงคือตรงกับทั้งหมดที่กูเรียน กูไม่บอกนะว่ากูเรียนอะไร...ไม่บอกด้วยว่ามาจากหนังสืออะไร555 แต่นั้นแหละกูเข้าใจน้อง...เออ แล้วน้องไม่ได้เสียแค่ครอบครัวด้วยมีจินตันอีก น้องแม่งเข้มแข็งสัสๆ
>>358 กูเห็นด้วยกับมึง แต่กูก็ยังคิดว่าไม่ขี้อ้อนไม่เข้าหา อย่างน้อยความเป็นพี่ก็น่าจะดูน้องดีกว่านี้หน่อยดิ นี่กูแบบดูซ้ำอีกรอบแล้วรู่สึกว่าเว่ยอิงเป็นน้องเป็นลูกชายแท้ๆมากกว่าอะ...
Ky กูจำได้ว่ามีโม่งคนนึงบอกว่าพ่อๆแม่ๆ ตัวหลักในเรื่องนี้เลี้ยงลูกไม่ดี
หัวหน้าตระกูลเจียงเอาใจใส่ลูกคนอื่นมากกว่าลูกตัวเอง
หัวหน้าตระกูลหลานไม่ได้เลี้ยงลูก ขังตัวเองเพราะสำนึกผิด ส่งให้คนท่านอาเลี้ยงแทน
หัวหน้าตระกูลจิน เจ้าชู้ไปทั่ว มีลูกแล้วไม่รับผิดชอบ อีตัวต้นเหตุของเรื่องเลย (อินจัด)
หัวหน้าตระกูลเวินมักใหญ่ใฝ่สูง น่าจะเลี้ยงลูกไม่ดีด้วยแหละ (จำไม่ได้)
ไม่เกี่ยวอะไรกับข้างต้น แต่อยากอ่านตอนพิเศษเรื่องแม่ของเว่ยอิงกับพ่อของเจียงเฉิง และสงสัยว่าพ่อแม่ของเว่ยอิงตายเพราะอะไร แล้วน้องเว่ยตอนเด็กเอาตัวรอดตามข้างถนนได้ยังไงตั้งสี่ปี
อาจจะเพราะความไบแอสอาเฉิง แต่มานึกย้อนดูแล้ว กูเสียดายที่ซีรีส์ถ่ายทอดมุมของน้องได้ละเอียดน้อยไปหน่อย แบบคนดูก็พอรับรู้ได้แหละว่าน้องเจออะไรมา ลำบากใจตรงไหน แต่มันยังไม่มากพอที่จะเคลียร์ว่าตลค.ตัวนี้ จริงๆ แล้วไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรเลย
อย่างตอนเว่ยอิงกลับมาจากล่วนจั้งกั่งทีแรก ชาวยุทธภพประณามเว่ยอิงว่าเล่นสายมาร อาเฉิงเพิ่งขึ้นเป็นประมุขน้อย น้องก็พยายามปกป้องพี่ในระดับนึงเวลาพวกลุงๆเล่นงานในที่ประชุม แต่น้องแม่งก็น้ำท่วมปากเวลาโดนเค้าด่า ตัวเองก็ไม่เข้าใจด้วยว่าทำไมเว่ยอิงถึงทำแบบนั้นแบบนี้ เถียงแทนไม่ได้ แล้วแม่งก็กลายเป็นอาเฉิงโดนคนดูด่าว่าเห็นแก่ตัว กลัวไม่ได้เป็นประมุขซะงั้น ผ่ามมมม
หลายเหตุการณ์อะมึงที่กุูว่าบทมันพาลให้คนดูเข้าใจอาเฉิงผิด โอเค มีหลายครั้งที่น้องงี่เง่าจริง ทำตัวน่าหงุดหงิดจนกูอยากส่งโทรเลขไปถามว่าน้องเป็นวันนั้นของเดือนเหรอ แต่หลายๆครั้งมันก็ไม่ใช่อะมึง
ตอนโดนน้องหนิงด่าเรื่องจินตานก็เซ็ตบทให้น้องเงียบ ช็อก เลยกลายเป็นว่าที่อาหนิงพูดมาคือถูกต้อง ซึ่งมันไม่ถูกทั้งหมดไง ต่อให้อาหนิงรู้เรื่องราวความเจ็บปวดแค่จากฝั่งของเว่ยอิง แต่มาพูดเหมือนอาเฉิงทำตัวเหมือนวัยทองเพราะอิจฉาเว่ยอิง กูว่ามันไม่ได้ มันไม่ใช่ แงงงงงง
พ่อแม่บ้านเจียงเหมือนจะดี แต่จริงโคตรจะเป็นแบบสเตอริโอไทป์ asian toxic parenting (พ่อห่างเหิน แม่ดุด่ากดดันเปรียบเทียบ)
กูว่าโม่งหลายคนโตมาแบบนี้มะ (ปล กูด้วย แต่แม่กูดีกว่าม๊าอวี๋)
>>362 กูรู้สึกว่าคนเอ็นดูอาเฉิงเวอร์ชั่นซีรีส์เยอะเหมือนกันนะ คือดูแล้วรู้แหละว่าน้องมันเป็นพวกปากร้าย เอะอะว่าไว้ก่อนแต่จริงๆ เป็นพวกคิดเยอะพอสมควร กูยังไม่ได้อ่านนิยายเลยไม่แน่ใจว่าพอเทรตน้องต่างกันมากมั้ย แต่ถ้ามองในภาพซีรีส์อย่างเดียวกูคิดว่าเขาสร้างตัวละครออกมาได้ดีเลยแหละ
กุอ่านนิยายมา ก็ไม่ได้ทรีทมากขึ้นจากซีรีส์นะ กุยืนหนึ่งเรื่องอาเฉิงลูกกุเป็นคนดี น้องอยู่ผิดเรื่อง น้องควรมาเป็นลูกกุ!!!
มือลั่น กุส่งเร็วไปหน่อย สำหรับคนที่วนรอบสอง แต่กลัวหมั่นพี่เว่ย มึงไม่ต้องห่วง กุอ่านจบรอบสองหมั่นพี่เว่ยไปเรียบร้อย พูดกลางแจ้งก็โดนแหกว่าไม่ชอบตัวเอกก็ไม่ต้องเสพ ถถถถถถถ
มึงงงง ลิปสติกที่วางขายวันนี้ แม่งงงง ของบ้านหลานกับเจียง หมื่นแท่งหมดใน 1 ชม.
บัตรงานมีตพวกมึงก็สู้ๆนะ พอนึกภาพออก สงคราม
>>367 กูบวกมึวกูหมั่นไส้เว่ยอิงเหมือนกัน55 กูไม่ชอบบางอย่างในตัวน้องแต่ก็ไม่ได้เกลียดนะ เอาจริงๆ...กูสงสารน้องแต่บางอย่างกูก็แบบ มันก็สมควร กูเห็นแต่คนเอ็นดูเอาแต่ปลอบ55 กูว่าบางทีน้องก็สมควรโดนดุบ้าง ทางเลือกบางอย่างมันมีเยอะนะ แต่นั้นแหละๆ เขาเป็นตัวเอกของเรื่อง กูก็โดนเพื่อนเขม่นเพราะพูดเรื่องนี้เหมือนกัน...
>>368 กูวางมือตั้งแต่ราคาแล้ว กับชุดคอสที่กูกดซื้อไม่ทันแม่จีน กูไม่คาดหวังว่ากูจะกดทัน กูนอนรอดูภาพที่บ้าน
งานมีตนี่กูออกแนวปลงแล้วว่ะ ได้ก็ได้ ไม่ได้ก็ไม่ได้ อีกอย่างกูไม่ใช่แฟนคลับนสด.คนไหนเลยด้วย กูชอบเฉินฉิงลิ่งเพราะมันคือภาคซีรีส์ของม่อเต้า ชอบเนื้อเรื่อง ชอบตัวละครที่แม่โม่สร้าง
แต่ถึงจะพูดแบบนี้ กูก็เปย์หมดเจ็บนมไปหมดละ ลิปกูก็ฝากร้านพรี หมอนกูก็ซื้อ สุดท้ายล้องห้ายเหมียนหมา
ky เจ็บนมคืออะไรวะ
ส่วนกูอวย+หมั่นไส้พี่เว่ย พอๆ กับที่สงสาร+เห็นใจ+แอบโกรธเวลาอาเฉิงใส่ๆๆ เว่ยอิงว่ะ (หลายอารมณ์เหลือเกิน คือกูรู้ว่าเฉิงไม่ผิด แต่กูมีความลำเอียงให้พี่เว่ยน่ะ แต่หลายคนจะลำเอียงให้เว่ยอิงก็ไม่แปลกนะ เพราะมันดำเนินเรื่องแบบที่เราไม่รู้ตื้นลึกหนาบ้างว่าอาเฉิงรู้สึกยังไง (นอกจากตอนสุดท้าย)
กูเห็นมีคนได้เล่มสองแล้ว และเห็นเล่ม 1 พร้อมซื้อที่คิโนะ แต่บ้านไกล และไม่ใจพอจะจ่ายเพิ่มค่ารถเพื่อปรจ. (ค่ารถแทบจะซื้อเพิ่มได้อีกเล่ม) เมื่อไหร่จะกลับมาวางขายหน้าร้านวะเนี่ย ฮือ อยากอ่าน เป็นพวกไม่ชอบพรีฯ
ตอนกูอ่านนิยายก็หมั่นไว้พี่เว่ยเหมือนกันว่ะ แต่พอดูซีรี่ย์แล้วพี่เว่ยน่ารักมาก กูหมั่นไส้ไม่ลง ลูกกูๆๆๆๆๆ
>>372 นั้นแหละสุดท้ายเราก็ให้คนมาคิดเหมือนเราไม่ได้นี่แหละคงามคิดเห็นที่ดีที่กูอยากอ่าน...ไม่ใช่เอะอะก็ด่ากู เจ็บช้ำใจ กูก็เมนอาเฉิงกูรู้สึกตัวละครนี้ดูเรียลสุดในความคิดกู มีเรื่องที่ทำได้ มีเรื่องที่ทำไม่ได้ มีสิ่งที่ต้องคิด มีเรื่องต้องเห็นแก่ตัว มีสิ่งให้ยึดติด รักโลภ โกรธ หลงแบบคนทั่วไป...
กูวิเคราะห์ในความคิดกูนะ ในความคิดกูเว่ยอิงคือชายในฝัน พระเอกการ์ตูน55 ทำดีทุกอย่างไม่คำนึงถึงความรู้สึกของคนใกล้ชิด คิดว่าตัวเองเก่งและคุมได้ทุกอย่าง กูเลยค่อนข้างรู้สึกกลางๆกับตัวละครนี้ไม่ระกไม่เกลียด กูชอบเวลาน้องกวนตีน...เป็นพิเศษ55
ส่วนหลานจ้านในความคิดกูคือพระรอง แต่เกิดมาได้กับพระเอก...
มึง สรุปงานมีต คือผังไม่มี สิทธิไม่ประกาศอ่อวะ. คือกุพร้อมซื้อบัตรมาก แต่ไม่รู้เหี้ยไรเลย กุงง
ตอนแรกกูเมนพี่เว่ยนะ ชอบความสดใส หลังๆเริ่มเห็นใจในชะตากรรมเจียงเฉิงเลยเอาใจช่วยให้ตัวละครตัวนี้มีความสุขสักที สรุปตอนนี้กลายเป็นเมนเจียงเฉิงเต็มตัว พอเริ่มมามองอีกมุมกูอดหมั่นไส้พี่เว่ยไม่ได้จริงๆ 555555 ตอนที่เฉลยเรื่องเจียงเฉิงเป็นคนล่อให้คนมาจับจนเสียจินตัน กูเจอคนบอกว่าต่อให้เจียงเฉิงไม่มาช่วยพี่เว่ยก็เอาชนะได้อยู่ดี กูแบบ อืมๆ
นี่อาจเป็นเหตุผลนึงที่ช่วงนี้กูหานิยายที่ตรงจริตไม่ค่อยเจอ อ่านไปกลางเรื่องรำคาญสกิลพระเอกที่โชคชะตาพร้อมจะเข้าข้างตลอด มันยากมากนะที่จะหาตัวเอกที่เทพ ดวงดีแล้วรู้สึกไม่น่าหมั่นไส้
มึงคิดว่าถ้าตอนพี่เว่ยฟื้นแขนไม่แผลงฤทธิ์ฆ่ายกตระกูล พี่เว่ยจะแก้เงื่อนไขไงวะเพราะคงไม่ฆ่าคนทั้งตระกูล จะตายก็ใช่ที่หรือไหนๆก็อัจฉริยะแล้วคงหาทางยกเลิกเงื่อนไขเองได้
สำหรับกู กูรักพี่เว่ยมาก และไม่เคยเกลียดอาเฉิงเลย ส่วนตัวกูก็ไม่ได้รู้สึกว่าพี่เว่ยรอดเพราะสกิลพระเอกห่าเหวอะไรด้วย. เป็นแค่คนๆ หนึ่งที่เชื่อมั่นในความคิดของตัวเอง ดื้อด้านมากคนนึงเลยด้วยซ้ำ. อาเฉิงก็เรื่องปกติเลยที่จะชอบเปรียบเทียบตัวเองกับพี่เว่ย หนึ่งเด็กผู้ชายก็ชอบการแข่งขัน. สองคือพ่อแม่รังแกฉัน ชอบพูดจาประชดแดกตลอด สร้างแต่สภาพแวดล้อมที่ไม่ดี พ่อก็เงียบเกิน
สุดท้ายตัวละครในเรื่องนี้จริงๆ ไม่มีใครสมบูรณ์แบบเลยด้วยซ้ำ. ยิ่งอ่านก็ยิ่งรู้สึกตามที่พี่วั่งพูดอ่ะ
ต่างก็เป็นมนุษย์.....
ต่างคนต่างนิสัย คาแรกเตอร์ของอาเฉิงกับเว่ยอิงต่างกัน พื้นเพนิสัยก็ต่างกันอะ พระเอกใช้สกิลพระเอกคนก็หมั่นไส้เป็นธรรมดา ยิ่งมีไบแอสตัวละครแล้วก็คงให้ลบความรู้สึกนั้นออกยาก
ที่พูดๆมานี่ หมั่นไส้เว่ยอิงเพราะมีคนไปด่าเมนตัวเอง แล้วเกิดความขุ่นข้องหมองใจจนกลับไปมองตัวละครนั้นๆไม่เหมือนเดิม ก็ได้แต่อืมๆๆ คนที่ด่าอาเฉิงอย่างเดียวก็คงจะไบแอสเกินไป
แต่กูไม่เคยด่าอาเฉิงนะ อ่านเพราะเนื้อเรื่อง พล็อตและคาแรกเตอร์ของตัวละครมีมิติมาก
ในเรื่องไม่มีใครสมบูรณ์ ทุกชีวิตมีเรื่องราวของตัวเอง ในมุมมองคนอ่าน เรารู้เราเข้าใจผ่านชีวิตของเว่ยอิงเป็นหลัก คนที่ไม่ชอบนิสัยเว่ยอิงคงจะขัดใจละนะ
ขอแหวกถามนอกเรื่อง อาเฉิงมีฉายามั้ยอ่ะ แบบหานกวงจวิน อี๋หลิงเหลาจู่ ขุนพลผี คุณชายถามอะไรไม่รู้สักอย่าง ฯลฯ
ทำไมไม่เห็นใครเรียกฉายาอาเฉิงมั่ง แล้วฉายานี่ใครตั้งอ่ะ? คนในยุทธภพเรียกตามกัน?
กูก็ไม่ได้เกลียดเว่ยอิงนะ แค่ไม่ชอบบ้างแล้วก็ไม่ใช่เพราะสกิลพระเอกหรือคนด่าเมนกูนะ กูไม่ชอบบางความคิดและการกระทำที่สุดโต่งไปอะไรแบบนั้น ในความคิดกูมันดีเกินไป55 คนเรามันไม่มีใครดีขนาดนั้นร้อยเปอร์เซ็นอย่างน้อยนิดนึงมึงต้องเห็นแก่ตัว กูเลยบอกไงว่ากูมองเว่ยอิงเป็นพระเอก ผู้ชายในฝัน...
>>380 กูบวกด้วย ก็เพราะเป็นมนุษย์ เลยไม่เหมือนกัน พวกเรายังคิดต่างกันเลยนับประสาอะไรกับตัวละครในเรื่อง555
ถ้าดูซีรีส์แบบไม่รู้จักนิยายเลย แบบคนทั่วไปดู กูว่าแรกๆก็น่าลุ้นศิษย์พี่หญิงนางเอกนะ สาวอ่อนหวาน ใจดี พอมากลางๆเรื่องก็น่าลุ้นอาฉิง มาแรงเหมือนกัน สาวเก่ง เข้าใจตัวเอก ดูไปอีกสักพัก ทำไมผู้หญิงมันล้มหายตายจากไปหมดเลยล่ะ
>>393 >>394 ดีที่กูไม่ค่อยเจอคนปสดแดกอะ แต่เคยเห็นเคยเจอ บางคนใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล ใช้อารมณ์ที่นอกเหนือจากนิยายมาตีกรอบตัวละคร ใส่ฟีลเตอร์ลงไปจนทำให้เกลัยดตลค นั้นไปเลย นี่พูดในหลายๆกรณีเลยนะ ทุกตัวละครอะ
วิจารณ์เว่ยอิงในสิ่งที่เขาทำพลาดได้นะ ความผิดพลั้ง ความยึดมั่นในความคิด(ที่บางทีเหมือนหาเรื่องใส่ตัว) แต่อย่าใช้อารมณ์แบบลูกรักลูกชังอะ
เจียงเฉิงเป็นคนน่าสงสารนะ ในแง่ครอบครัว พ่อแม่ สภาพแวดล้อมที่เติบโตมา ไม่แปลกเลยที่นิสัยของเจียงเฉิงจะเป็นแบบนี้ แสดงออกมาแบบนี้ ทุกอย่างหบ่อหลอมมาจากพ่อแม่ทั้งนั้น ยิ่งพอมาเจอเหตุการณ์กดดัน+การแสดงความรักไมาเป็น/ไม่เท้ากันของเตี่ยเจียงเข้าไป ก็หนัก
แต่ที่กูเคยพูููด(มู้บนๆ) อาเฉิง/เว่ยอิง นิสัย/พื้นเพคนละอย่างกันเลย ปากหนัก ไม่ค่อยแสดงออก ไม่พึ่งใคร
กูรักทุกตัวละคนนะ เรื่องนี้ทำให้กูอินหนัก ตามเก็บทุกอย่าง กูึงหลุดพ้นจากโม่เซียงไม่ได้แน่ๆ555 ณ ตอนนี้ ให้ปรมจ อันดับหนึ่ง เทียนหวาน และตัวร้าย
กูก็ยังไม่เคยเจอ...แต่กูพอเห็นผ่านตามาบ้างว่า เออ แรงจริง ในฐานะกูเมนอาเฉิงกูก็ได้แต่มองอะ เมนกูก็ผิดนะไม่ได้ถูกหมด กูก็เอ็นดูในส่วนที่เมนูไม่ผิด ผิดกูก็ว่า55 กูยังคอมเม้นดุน้องอยู่เลย... คือกูว่ามันก็ผิดกันทุกคนในเรื่อง55 ผิดมากผิดน้อยตามแต่กันไป ไม่มีไม่ผิด
>>395 เออ กูก็ไม่หลุดตอนนี้ชุดคอสอฟซเป็นของกูแล้ว...กูสูญเงินไปมหาศาล555 ด้อมนี้ทำลายล้างกระเป๋าเงินกูแต่กูยอม...กูยอมม
ky ได้มะ กูขอบ่นหน่อยดิ ทำไมกูไปที่ไหนต้องเจอเม้นแบบ ภาพในหัวเป็นอี้ป๋อเซี่ยวจ้าน ในเมะ เรดิโอ ทุกอย่าง เจอหมด กูรำคาญมากเลยว่ะ ไม่ได้แอนตี้อะไรนะ แต่รู้สึกพื้นที่เดิมมันหายไปหมด
>>399 กูเข้าใจมึงนะ คือกูว่าตอนนี้เส้นแบ่งแม่งคาบเกี่ยวกันมากอ่ะ แบบคนรู้จักปรมจเพราะซีรีส์ก็จะมองป๋อจ้านเป็นวั่งเซี่ยนไปเลย ซึ่งบางคนพอมาตามเนื้อหาในซีรีส์ เรดิโอก็กลายเป็นหวีดโดยมีอิมเมจป๋อจ้านในหัว ตอนนี้เส้นแบ่งระหว่างชิปป๋อจ้านกับหวีดวั่งเซี่ยนมันเลยไม่เหลือแล้วอ่ะ แต่กูว่าบางคนก็เกินไปจริงๆ คืออย่างกูอ่ะ กูมาจากมันฮวา อนิเมะ วั่งเซี่ยนในหัวกูก็จะเป็น 2D แต่ก็จะมีคนที่ชอบมายัดเยียดว่าวั่งเซี่ยนแบบซีรีส์ดีสุดอะไรงี้ ซึ่งกูชอบ 2D ของกูมานานอ่ะ อยู่ๆมาบอกให้กูไปชอบแบบซีรีส์ ก็ไม่ใช่เรื่องอ่ะ
ขอ ky มาสปอยเทียนกวานต่อนะ ต่อจาก >>345 เทียนกวาน Part.23
.
.
.
.
.
ด้วยความที่เวลาผ่านมานาน และอีกฝ่ายก็เติบโตขึ้นกว่าตอนที่จากกัน ทำให้ตอนแรกเซี่ยเหลียนจำหญิงสาวไม่ได้ เขาหลงนึกว่าราชครูปั้นเยวี่ยคือชื่อเรียกตำแหน่ง หากแต่ปั้นเยวี่ยคือชื่อจริงของเธอ
ปั้นเยวี่ยมีสีหน้ายินดีอย่างยิ่งที่คนตรงหน้าจดจำตนเองได้ เมื่อเซี่ยเหลียนถามว่าทำไมเธอจึงกลายเป็นเช่นนี้ น้ำตาก็รื้นขึ้นในดวงตาของราชครูสาว เธอเปลี่ยนมาเรียกเขาว่าท่านนายกอง กล่าวขอโทษ ก่อนคุกเข่าหมอบศีรษะแนบพื้น เซี่ยเหลียนรู้สึกสับสน เขาพยายามดึงปั้นเยวี่ยให้ลุกขึ้น ตอนนั้นเองฝูเหยาก็เริ่มเชื่อมโยงเรื่องได้ และถามถึงสุสานแม่ทัพที่ถูกเหยียบตาย ซึ่งเซี่ยเหลียนก็ยอมรับว่านั่นคือสุสานของเขาเอง
เมื่อ 200 ปีก่อนเซี่ยเหลียนที่ตั้งใจลงใต้กลับหลงทางขึ้นมาทางเหนือเพราะเข็มทิศพัง ในเมื่อแก้ไขอะไรไม่ได้เขาจึงตัดสินใจเดินทางต่อจนมาถึงชายแดนแคว้นปั้นเยวี่ย แต่ในสถานการณ์ที่มีการปะทะกันเนืองๆ จึงทำให้มีทหารหนีทัพอยู่มาก ทางกองทัพเลยทำการมัวจับคนไปเติมให้ครบ เป็นเหตุให้เซี่ยเหลียนผู้เก็บขยะอยู่ดีๆ โดนลากไปเป็นทหารด้วย หลังจากทำงานจับโจรอยู่พักหนึ่งเขาก็ได้เลื่อนเป็นนายกอง และชาวบ้านที่คาดหวังในตัวเขาก็พากันเรียกเขาว่าแม่ทัพ ส่วนชื่อแม่ทัพฮวานั้นเป็นเพราะตอนนั้นเขาใช้ชื่อปลอมว่าฮวาเซี่ย
พอได้ยินชื่อนั้นริมฝีปากของซานหลางก็กระตุก แต่เซี่ยเหลียนไม่ได้สนใจมากนักและเล่าต่อว่าการสู้รบทำให้มีเด็กกำพร้าอยู่มาก เขาจึงไปเล่นเป็นเพื่อน และหนึ่งในเด็กเหล่านั้นก็มีเด็กหญิงที่ชื่อปั้นเยวี่ยอยู่ด้วย ด้วยความที่เธอตัวเล็กกว่าเด็กคนอื่นทำให้เซี่ยเหลียนดูแลเธอเป็นพิเศษ และยังสอนเรื่องต่างๆ ให้อีกฝ่าย ก่อนที่เรื่องราวจะเป็นเหมือนคำสดุดีในถ้ำหินนั้น เขาอับอายจนไม่อยากจดจำมัน เขาเพียงแค่แกล้งตาย และหลังจากที่ถูกโยนทิ้งลงน้ำร่วมกับศพอื่นๆ เขาก็พักฟื้นรักษาตัวแล้วเดินทางลงใต้ตามที่ตั้งใจแต่แรกโดยไม่คิดถึงเรื่องแคว้นปั้นเยวี่ยอีก
ปั้นเยวี่ยเล่าว่าเหตุการณ์ในครั้งนั้นเกิดขึ้นเพราะเซี่ยเหลียนพยายามช่วยเธอที่ไม่ทราบว่าการต่อสู้กำลังจะเริ่มขึ้น หญิงสาวเอ่ยขอโทษอีกจนเซี่ยเหลียนบอกว่ามันไม่ใช่ความผิดของเธอ และมีคนที่เธอควรเอ่ยคำขอโทษมากกว่า จากนั้นเขาก็ขอให้อีกฝ่ายอธิบายเรื่องราวที่เธอเปิดประตูเมืองให้ศัตรู รวมไปถึงเรื่องที่เธอปล่อยงูไปกัดนักเดินทางให้ฟัง
นักพรตสาวโขกศีรษะกับพื้นอีกหลายครั้ง เธอยอมรับว่าเรื่องเปิดประตูเป็นความผิดของเธอจริงๆ หากแต่เธอไม่ได้เป็นคนปล่อยงูไปทำร้ายผู้คน พลังของเธออ่อนแอลงจนไม่สามารถสั่งงานพวกงูได้อีกแล้ว ฝูเหยาไม่เชื่อ เขาจัดการมัดตัวหญิงสาวกับเค่อหมอไว้เตรียมส่งให้สวรรค์จัดการ แต่เซี่ยเหลียนไม่คิดว่าเธอโกหก เขาจึงสอบถามเรื่องงูเพิ่มเติม
ปั้นเยวี่ยอธิบายว่าความจริงเธอยังคงสั่งการพวกงูได้ หากแต่มีบางช่วงที่พวกมันไม่ยอมรับคำสั่ง เซี่ยเหลียนจึงขอให้เธอสาธิตให้ดู ราชครูสาวยืนขึ้น ไม่นานนักก็มีงูหางแมงป่องซึ่งแฝงตัวกับศพเลื้อยออกมา ทว่าปั้นเยวี่ยกลับเบิกตากว้าง งูตัวนั้นพุ่งเข้าหาเซี่ยเหลียน ทว่ายังไม่ทันถึงเป้าหมายร่างของมันก็ระเบิดออกต่อหน้าทุกคนซึ่งเซี่ยเหลียนก็ไม่นึกสงสัยว่าเป็นฝีมือของใคร ปั้นเยวี่ยเอ่ยว่าเธอไม่ได้ทำ และงูตัวนั้นเธอก็ไม่ได้เป็นคนเรียกออกมา ไม่ทันขาดคำดีงูหางแมงป่องจำนวนมากก็เริ่มเลื้อยออกมาจากที่ซ่อน และแม้ราชครูสาวจะพยายามควบคุมพวกมัน แต่กลับไม่มีงูตัวใดฟังคำสั่งของเธอ ดูเหมือนพวกมันจะรู้ว่าไม่อาจโจมตีเซี่ยเหลียนหรือซานหลางได้โดยง่าย จึงพากันพุ่งเข้าฝูเหยาแทน หลังจากที่เซี่ยเหลียนบอกให้ทุกคนเตรียมหนีขึ้นไปทางปากหลุม ตอนนั้นเองงูอีกนับร้อยก็ทิ้งตัวลงมาจากปากหลุมราวห่าฝน ปิดกั้นหนทางหนีของพวกเขาไว้ทั้งหมด
.
.
.
.
.
KY กูขอโทษนะ...กูอยากด่าคน555 เค กูหัวร้อน มีคนด่าเมนกู...ฮือๆๆๆ
แต่กูไม่รู้จะบ่นอะไรแล้ว...กูบ่นไปหมดล่ะ กูเลยจะมาชวนคุยให้กูเลิกหัวร้อน กูรู้สึกแย่และต้องตั้งสติไม่ให้ไปโต้ตอบเขา
พวกมึงได้หนังสือกันยัง เล่มสอง ปรมจ กูเห็นบางคนได้ถ่ายอวดกันแล้ว มีใครได้แล้วอ่านบ้างแล้วไหม กูอยากรู้ว่าเนื้อเรื่องในเล่มสองมันถึงตรงไหน..?? กูสั่งแล้วแต่สนพบอกจัดส่งหลัง13 ก.ย. ซึ่งนานอะ กูจาลงแดงงงงง
>410 กูได้แล้ว ขับรถไปรับมาที่อนิเมทเมื่อวาน
กูขอถามเรื่องเซี่ยเหลียนนิดนึง คือกูเห็นแฟนอาร์ตเทียนกวานวาดเรื่องสกิลทำอาหารเซี่ยเหลียนไว้เยอะ อยากรู้ว่าในเรื่องนี่มีบอกป่ะว่าสกิลทำอาหารของเซี่ยเหลียนมันแย่ขนาดที่้เขาวาดๆแฟนอาร์ตล้อกันเปล่า
>>417 สกิลทำอาหารของเซี่ยเหลียนนั้นสามารถทำให้เว่ยอิงกลายเป็นกอร์ดอน แรมซีย์ได้อะ 555 ตอนกูอ่านนี่โคตรสงสารเหยื่อแต่ละคนของแก แถมตอนหลังยังไปประสิทธิ์ประสาทวิชาให้ปั้นเยวี่ยอีก แล้วก็ Like Mother Like Daughter
>>418 มึงชอบเหมือนกูเลย สองคนนี้ดูเป็นความรักแบบผู้ใหญ่จริงๆ มีอะไรก็ค่อยๆ พูดจาทำความเข้าใจกัน
ขอกูกาวเทียนกวานอีกนิด...
กูชอบคู่ กู่จือxฉีหรงว่ะ ทั้งกาวทั้งบาป มีใครลงเรือเดียวกับกูมั่งป่ะ
(谷子 ชื่อน้องสะกดเป็นไทยแบบนี้ป่าวฟะ อาจผิดก็ได้ รอคนแม่นจีนมาคอนเฟิร์ม)
.
.
.
.
.
ควรจะบอกว่าเป็นคู่เลี้ยงต้อย หรือโดนต้อยเลี้ยงกันแน่หว่า ฉีหรงดูแลลูกได้เฮงซวยมาก แต่ก็รู้สึกได้อะว่าอีตานี่รักเด็กคนนี้จริงๆ แค่เลี้ยงแบบส่งเดชเพราะไม่มีปสก. แถมชอบมโนไปเองว่าลูกชายต้องแข็งแกร่ง (อยากจะด่าหลายๆ รอบว่าลูกเอ็งเป็นมนุษย์ธรรมดา ยังเด็กอยู่ด้วย ดูแลให้ดีกว่านี้สิว้อยยยย!!!)
แต่เวลาปกติที่ไม่มีเรื่องอะไร ฉีหรงเป็นฝ่ายถูกดูแลชัดๆ กูมีความรู้สึกว่าน้องโตมาต้องแซ่บมาก ต้องกดป๊ะป๋าได้แน่ๆ >_<
.
.
.
.
.
ต่อจาก >>425 ส่วนตัวกูอวยคู่นอร์มอลคู่หนึ่ง
.
.
.
.
.
เผยซู่ x ปั้นเยวี่ย รู้สึกน่ารักแปลกๆ ตอนที่เซี่ยเหลียนสอนปั้นเยวี่ยทำอาหาร ก็มโนว่าเซี่ยเหลียนเป็นแม่ปั้นเยวี่ย แล้วถ้าปั้นเยวี่ยไปแต่งงานกับเผยซู่ เซี่ยเหลียนก็จะได้ดองญาติกับเผยหมิง กูชอบเผยหมิงอะ เวลามาเข้าตี้ด้วยกันแล้วเหมือนจะช่วยแบ่งปันค่าโชคติดลบจากเซี่ยเหลียน มีอะไรแกโดนตลอด 5555
.
.
.
.
.
พวกมึง กูมีปัญหานิดหน่อย คือตั้งแต่อ่านสปอยเทียนกวานมาจนตอนนี้อ่ะกูจำชื่อคนในตี้เซี่ยเหลียนไม่ได้ว่ะ 5555555 รบกวนมึงพวกสรุปให้หน่อยได้ป่ะว่าตอนนี้คือมีใคร ตำแหน่งอะไรยังไงบ้าง กูพยายามอ่านจำเองแล้วลืมตลอด คงเพราะไม่มีอิมเมจหน้าตาในหัวด้วยเลยจำชื่อไม่ได้
>>427 ช่าย ตอนออกมาแรกๆ หมั่นไส้เผยหมิงมาก แต่อ่านๆ ไปกูชอบป๋าแกมาก แล้วแกก็เป็นเพื่อนที่ดีคนหนึ่งเลยล่ะ ขนาดเฮียตู้กับหลิงเหวินชอบหาโอกาสยำแก แกก็ยังคอยช่วยเหลือสองคนนี้ตลอด
>>428 เอาเฉพาะตัวละครที่มีบทหรือถูกเอ่ยชื่อเท่าที่กูสปอยไปแล้วนะ (คงไม่ต้องนับเซี่ยเหลียนกับซานหลางเนอะ)
- เฟิงซิ่น อดีตองค์รักษ์ของเซี่ยเหลียนสมัยที่ยังเป็นองค์ชายรัชทายาท หลังเซี่ยเหลียนตกสวรรค์ยังติดตามเซี่ยเหลียนต่อพักหนึ่ง แต่สุดท้ายก็ทิ้งเซี่ยเหลียนไป ชอบสบถคำหยาบ แต่เป็นคนตรงๆ กลัวผู้หญิง ผิวเข้ม ใช้อาวุธเป็นธนู ไม่ถูกกับกับมู่ฉิง ปัจจุบันเป็นเทพสงครามประจำทิศตะวันออกเฉียงใต้
- มู่ฉิง อดีตพ่อบ้านประจำตัวของเซี่ยเหลียน หลังเซี่ยเหลียนตกสวรรค์ก็ทิ้งเซี่ยเหลียนไปทันที พูดจาสุภาพแต่ชอบประชดประชัน ผิวซีด ใช้ดาบใหญ่เป็นอาวุธ ไม่ถูกกับเฟิงซิ่น ปัจจุบันเป็นเทพสงครามประจำทิศตะวันตกเฉียงใต้
- หลิงเหวินเจินจวิน เทพวรรณกรรมหญิงที่คอยประสานงานให้เซี่ยเหลียน มักแต่งกายด้วยชุดสีดำ แม้ไม่สนิทเป็นการส่วนตัว แต่เป็นคนเดียวที่ปฏิบัติกับเซี่ยเหลียนเหมือนกับก่อนที่เขาจะตกสวรรค์
- หนานเฟิง เทพชั้นกลางจากตำหนักของเฟิงซิ่น นิสัยเหมือนกับเจ้านาย เป็น 1 ในเทพที่อาสามาช่วยเซี่ยเหลียนทำงาน
- ฝูเหยา เทพชั้นกลางจากตำหนักของมู่ฉิง นิสัยเหมือนกับเจ้านาย เป็น 1 ในเทพที่อาสามาช่วยเซี่ยเหลียนทำงาน
- จวินอู๋ มหาเทพที่ปกครองสวรรค์ เป็นคนที่คอยดูแลเซี่ยเหลียนตอนที่เขายังอยู่บนสวรรค์ เอ็นดูเซี่ยเหลียนมาก
- เผยหมิง เทพสงครามประจำทิศเหนือ นับว่าเป็นคนใหญ่คนโตระดับรองๆ จากจวินอู๋ แต่มีนิสัยขี้หม้อ เห็นสาวสวยพ่อขอฟาดเรียบ สมัยเป็นมนุษย์มีแต่คนแอบแช่งให้เป็นหนองในตาย ผีเจ้าสาวเซวียนจีเคยเป็นคนรักของเขา
- เผยซู่ เทพสงคราม ลูกหลานของเผยหมิง ปัจจุบันเป็นรองแม่ทัพในตำหนักหมิงกวงของเผยหมิง ปากหนัก หน้าตานิ่งไม่แสดงอารมณ์ เป็นคนที่มาจับเซวียนจีในตอนเจ้าบ่าวผี
- ปั้นเยวี่ย ราชครูแห่งแคว้นปั้นเยวี่ย สามารถบังคับงูหางแมงป่อง สมัยเด็กเคยได้รับการช่วยเหลือจากเซี่ยเหลียนเลยนับถืออีกฝ่ายมาก เรียกเซี่ยเหลียนว่าแม่ทัพฮวา
มึงๆ กูขอคำอธิบายเรื่องคู่ชิป beefleaf ในเทียนกวานที ทำไมถึงใช้คำนี้ แล้วมันคือคู่ไหน กูเห็นแฟนอาร์ตผ่านๆน่ารักดี
beefleaf = หมิงอี้ x ชิงเสวียน มันเริ่มมาจากตรงนี้
https://twitter.com/cucumberbros/status/1096249988332572673?s=20
Ky แป๊ป มีใครทีมกดบัตรมีตพรุ่งนี้มั้ยวะ? กุเห็นแม่จีนในเว่ยป๋อได้บัตรแล้วกุท้อ
>>434 กูกำลังลังเลหนักมาก กำลังทรัพย์ที่มีคงกล้ากดแค่บัตร 2,500 ไม่ก็ 3,500
แต่กู้ดตัวอื่นก็อยากได้ ไตก็เหลือแค่ข้างเดียว ฮือ
และกูไม่มีปสก. งานแฟนมี้ตดาราต่างประเทศเลยว่ะ ไม่รู้มันจะดำเนินรายการยังไง ดาราพูดไป ล่ามก็แปลออกไมค์ เงี้ยเหรอ ?
หรือมีตัววิ่งซับไตเติ้ลแปลสดเหมือนดูละครเวที ?
ผังหลังๆคงมองอะไรไม่เห็นแล้วว่ะ พื้นราบแบบนั้น แต่ถ้าไปเอาบรรยากาศก็ได้เพราะคงไม่มีงานแบบนี้แล้ว
มาสปอยเทียนกวานต่อนะ ต่อจาก >>406 เทียนกวาน Part.24
.
.
.
.
.
ฝูเหยาโยนงูไปทางปั้นเยวี่ย ถึงมันจะรัดแขนของหญิงสาวไว้มันก็ไม่ได้กัดเธอ เซี่ยเหลียนสั่งให้ฝูเหยาใช้หลังทิพย์โจมตีใส่พวกงูก่อนที่มันจะถึงพื้น ทำให้เทพหนุ่มสูญเสียพลังทิพย์ไปอย่างมาก แล้วไฟที่เกิดจากพลังของฝูเหยาก็ดับลง ซานหลางรีบดึงเซี่ยเหลียนเข้าไปใกล้ กางร่มขึ้นป้องกันงูที่ตกลงมา ฝูเหยาเริ่มกล่าวหาว่าต้องเป็นซานหลางที่ขัดขวางพลังทิพย์ของเขาไว้ เช่นเดียวกับเค่อหมอที่ต่อว่าว่าเป็นฝีมือของปั้นเยวี่ย เซี่ยเหลียนใช้สมองอย่างหนัก ราชครูกับแม่ทัพผีที่ถูกเชือกสวรรค์มัดไว้ย่อมไม่สามารถใช้พลังอะไรได้ และเขาก็ไม่คิดว่าจะเป็นฝีมือของซานหลาง หรือว่าจะมีบุคคลที่ 6 อยู่กับพวกเขา คิดดังนั้นเขาก็หันไปบอกให้ปั้นเยวี่ยช่วยตรวจสอบ แต่จู่ๆ เสียงของเธอก็เงียบไป
ข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทางปั้นเยวี่ยถูกเก็บเป็นความลับในหมู่เจ้าหน้าที่สวรรค์ หลิงเหวินเตือนไม่ให้เขายุ่งกับเรื่องนี้ เมื่อบวกรวมกับปัญหาที่กำลังเผชิญก็ยิ่งชัดว่ามีใครบางคนอยู่ข้างล่างหลุมคนบาปกับพวกเขา เมื่อเขาหันไปบอกซานหลางว่าต้องการช่วยปั้นเยวี่ย เด็กหนุ่มก็กระชับไหล่ของเซี่ยเหลียนมากขึ้น แต่ในตอนนี้ทั้งสองกำลังเดินไปข้างหน้า จู่ๆ ก็มีประกายแสงแล่นผ่าน ก่อนเกิดเสียงกระบี่กระทบกันดังขึ้น มีบุคคลที่ 6 อยู่กับพวกเขาจริงๆ
เซี่ยเหลียนไม่ทราบว่าซานหลางควบคุมอาวุธได้อย่างไรหรือใช้อาวุธประเภทไหน แต่เรื่องตรงหน้าสำคัญกว่า บุคคลปริศนายังคงนิ่งเงียบแม้ในขณะที่รับมือกับเด็กหนุ่มชุดแดง ฝูเหยาตั้งแง่ว่าอีกฝ่ายน่าจะเป็นราชครูปั้นเยวี่ย แต่เมื่อนึกถึงแขนเล็กของหญิงสาวเซี่ยเหลียนก็ไม่คิดเธอจะสามารถโรมรันกับซานหลางได้เช่นนี้ ฝูเหยาเลยค่อนขอดว่าเหตุใดเขาถึงเชื่อใจคนที่ทรยศประเทศตัวเองซึ่งไม่ต่างกับผีสาวเซวียนจี ทว่าเมื่อได้ยินคำต่อว่านั้นเซี่ยเหลียนก็นึกอะไรบางอย่างออก เขาหันไปบอกให้ซานหลางและคนๆ นั้นหยุดต่อสู้กัน เพราะเขารู้ตัวจริงของอีกฝ่ายแล้ว คนที่แฝงตัวอยู่ในเงามืดนั้นจะเป็นใครอื่นไปไม่ได้นอกจากแม่ทัพเผยน้อย
เกือบ 200 ปีแล้วที่เส้นทางปั้นเยวี่ยเกิดเรื่องราวขึ้นแต่กลับไม่มีเจ้าหน้าที่สวรรค์คนใดมาจัดการหรือกล่าวถึงราวกับต้องการซ่อนเรื่องอื้อฉาวไว้ ในตอนที่ฝูเหยาเอ่ยชื่อเซวียนจีขึ้นมา ย่อมเป็นเรื่องปรกติที่เขาจะนึกถึงแม้ทัพเผยทั้งสองคนซึ่งดูแลพื้นที่ภาคเหนือ อีกทั้งฝูเหยาเองก็เคยบอกว่าเผยซู่ขึ้นสวรรค์มาได้เพราะฆ่าล้างแคว้นๆ หนึ่ง แล้วแคว้นนั้นจะเป็นที่ไหนได้นอกจากแคว้นปั้นเยวี่ย แม้เทพสงครามจะล้วนมือเปื้อนเลือด แต่การสังหารโหดทั้งแคว้นย่อมไม่ใช่เรื่องน่าสรรเสริญ จึงไม่แปลกหากหลังจากขึ้นสวรรค์แล้วเทพองค์นั้นจะพยายามปกปิดเรื่องราวเหล่านั้นไว้ กระนั้นถึงจะมีผู้ใดล่วงรู้คนๆ นั้นก็คงไม่อยากขุดหารายละเอียด หรืออยากมีเรื่องกับเผยหมิงซึ่งเป็นป๋าดันให้ลูกหลานตัวเองอยู่ดี
ชายที่ถูกฝังเป็นปุ๋ยให้ต้นไม้กล่าวว่ามีคนๆ หนึ่งที่เขาเคยพบเมื่อ 50-60 ปีก่อน อีกทั้งงูหางแมงป่องก็ไม่ใช่สัตว์ที่จะพบเจอได้โดยง่าย เหตุใดกลุ่มพ่อค้าที่ถ้ำหินกลับพบกับมันราวกับมีคนวางแผนไว้ ใครกันที่เป็นคนชี้ให้พ่อค้าคนอื่นเห็นว่าทางไปเมืองปั้นเยวี่ยอยู่ที่ใดเพื่อให้อีกฝ่ายสามารถตามมาได้ถูก และเมื่อเซี่ยเหลียนทำท่าจะเสนอตัวลงมาในหลุมคนบาปก่อน ชายที่ท่าทางใจเย็นมากกลับเลือดร้อนชิงตัดหน้า ที่สวรรค์ไม่ล่วงรู้ว่าเขาลงมายังภพมนุษย์ก็เป็นเพราะเขาสร้างร่างอื่นลงมาแทน เผยซู่ก็คืออาเจา คนนำทางให้คณะเดินทางนั่นเอง
เสียงการต่อสู้หยุดลง และไฟก็ถูกจุดขึ้นทั่วหลุมคนบาปเผยให้เห็นร่างสีแดง 2 ร่าง หนึ่งคือซานหลางในชุดสีเพลิง ส่วนอีกคนคืออาเจาซึ่งเสื้อผ้าเต็มไปด้วยเลือด บนบ่าของเขามีร่างของปั้นเยวี่ยที่หมดสติพาดอยู่ แม้จะหน้าตาไม่เหมือนกัน แต่ความเยือกเย็นไม่แสดงความรู้สึกบนใบหน้าเรียบๆ ของชายหนุ่มก็แทบไม่ต่างจากเผยซู่ที่เซี่ยเหลียนได้เห็นก่อนหน้านี้เลย
.
.
.
.
.
Ky กูไปอ่านกำยานตอนพิเศษมา ถ้าหลานจ้านไม่หื่...แค่กๆๆๆ ขนาดนี้ กูคงคิดว่าโคตรอภิชาติผัวอ่ะ สุดยอดแห่งความดูแลเอาใจใส่ ทำทุกอย่างให้โดยไม่หวังอะไรตอบแทน ขอหักคะแนนหลานจ้านตอนกำยาน 0.00001%
เมื่อคุณอ่านตอนกำยานแล้ว ฟิคใดๆ ก็ไม่อาจเทียบได้ 555555
พูดถึงตอนกำยานแล้ว สรุปของไทยนี่จะมีตอนพิเศษมั้ยวะ
>>446 เป็นฝันเสมือนจริง อันนึงเหมือนส่องกระจกเห็นตัวเองในอดีต กับอีกอันเหมือนย้อนอดีตเอง รู้สึกว่าจะฝันสักสองสามครั้งได้ ตอนกำยานนี่ผิดคาด แสดงความหื่น แค่กกก ของพี่วั่งสุดๆ
นี่อยากรู้มากว่าห้าเล่มจะแบ่งนิยายจบตรงไหนยังไง เพราะเห็นว่ามีตอนพิเศษสี่ตอน จริงๆ ต้นฉบับมันมีสี่เล่มป่ะ ทำไมสนพ ไทยชอบตัดให้มีเล่มมากกว่าต้นฉบับ
กูร่วมสงครามบัตรแต่นก ปลอบใจกูหน่อย ฮือออออออออออ
วันนี้กูขอมาเป็นโทรลฝึกหัดวันนึง คิดว่าป๋อจ้านเหมาะคาร์ตัวร้ายอย่างข้ามากเหรอ ไม่จ้า อย่าคิดว่าแสดง ปรมจ ดีแล้ว จะมาบทซือจุนปิงเม่ยดีหน่อยเลย ไม่เข้าไม่อิน เลิกออนได้ป่ะ หน้าแบบนั้นพี่วั่งพี่เว่ยได้ แต่ซือจุนกับหมาปิงไม่ได้ เครป่ะ มาบอกเหมาะๆ เหมาะพ่องสิ เป็นตอไม้หน้านิ่งแบบพี่วั่งไป อย่ามายุ่งกับหมาปิง!
แล้วกูเพิ่งเห็นคนอยากให้หยางๆเป็นปิงเหอ 55555
หยางบางไปปะ ไม่ไหวไปพักกกกกก
กูเห็นมีคนจับจ้านเกอใส่ชุดเขียวแบบซือจุน กูว่าสวยไป...ซือจุนจากที่กูอ่านกูว่าไม่ต้องหน้าหวานขนาดนั้นอะ ออกภูมิฐาน สง่างามหล่อมากกว่าสวยด้วยซ้ำเพราะกูเห็นชอบย้ำในเรื่อง555 แล้วปิงเหอ...ไม่รู้ดิกูอยากได้คนลุคดูแบดหน้าคมหน่อย ป๋อกูว่าไม่อะ...ไม่ได้จริงๆอย่าเลย5555
>>457 กูกินน้ำอยู่ อ่านของมึงแล้วแทบสำลัก 555 เก็บรายละเอียดโทรลคุงได้ครบดีมาก
>>454 มึงอย่าไปให้ราคาอะไรมาก ความเห็นใครความเห็นมัน ตัวร้ายฯ ยังไม่ประกาศเป็นซีรีส์ด้วยซ้ำ ดูจากตัวอย่างอนิเม 3D แล้วกูแอบปลงว่ากระแสไม่น่าจะดีถึงขั้นได้ทำซีรีส์ว่ะ และถึงได้ทำซีรีส์ก็ไม่แน่ว่าจะโชคดี ได้โปรดักชันที่จัดว่าดี อย่างปรมจ
สรุปมันเป็นเรื่องมโนของมโนของมโน มึงไม่ต้องไปเปลืองอารมณ์หรอก
ปรมจ กูยังไม่อินเลย คือใส่ชุดแล้วบางมากแม่หน้าก็เรียวเล็ก ยิ่งภาพนิ่งทำตาดุๆเหวี่ยงคือนี่มันเคะราชินีในฝันของกูชัดๆ เหมาะแก่การเป็นเมียกูมากกว่าพี่วั่ง
ถ้าจะพูดเรื่องนดส ย้ายไปมู้ชิปเป้อมั้ย
ป่ะ ย้ายไปมู้ชิปกันนน
Ky เออ พวกมึง ข่าวเรื่องนิยายเล่มล่าสุดของแม่โม่ที่ว่าเป็นยุคปัจจุบัน มีอะไรบ้างมะ แม่โม่เขียนออกมายังหรือเกริ่นไว้
แล้วก็อีกเรื่อง...มึงว่าบุญคุณระหว่างสกุลเจียงกับพีาน้องสกุลเวินอะไรมีมากน้อยกว่ากันวะ หรือเทียบกันไม่ได้ กูขยันหาเรื่องมาให้พวกมึงช่วยวิเคราะห์5555
ky เรื่องเทียนกวานมีฉากเรทป่ะ ที่ถามนี่คือมีไม่มีก็ได้ แต่ถ้ามีจะได้เตรียมใจเตรียมทิชชู่ มึงเอ๋ยยย ฉากเรทปรจ. เรียกเลือดมาก ปกติกูอ่านแต่ชญ เจอนิยายชชเรื่องแรก แทบจะเสียเลือดหมดตัว โดดข้ามเวลมาก
>>469 กูว่าถ้าพูดถึงบุญคุณตระกูลเจียงก็มากกว่าแหละ แต่พี่น้องเวินก็คือช่วยในช่วงความเป็นความตายพอดีอ่ะ คือถ้าสองคนนี้ไม่ช่วยแล้วไปฟ้องเวินเฉาก็คงไม่รอดทั้งคู่ แล้วไหนจะช่วยรักษาเจียงเฉิงอีก มันเลยเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยลูกของผู้มีพระคุณอีกต่ออ่ะ แต่ถ้ามึงจะเทียบกันว่าบุญคุณใครมากกว่าเพื่อจะดูว่าพี่เว่ยควรเลือกข้างไหน กูว่ามันเทียบกันไม่ได้อ่ะ คืออย่างนึงที่ทำให้พี่เว่ยเลือกช่วยสกุลเวินเพราะเรื่องความถูกต้องด้วย
มาสปอยเทียนกวานต่อนะ ต่อจาก >>441 เทียนกวาน Part.25
.
.
.
.
.
ดูเหมือนว่าที่แม่ทัพเผยน้อยในร่างอาเจาก่อความวุ่นวายด้วยการเรียกงูออกมาก็เพื่อขโมยตัวราชครูปั้นเยวี่ยไป เมื่อถูกเปิดเผยตัวจริงแล้วจึงไม่มีความจำเป็นต้องใช้งานพวกมันอีก เขาเก็บกระบี่เข้าฝัก และค่อยๆ วางหญิงสาวลงบนพื้น เมื่อเค่อหมอเห็นก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมชายหนุ่มถึงยังไม่ตาย แต่เมื่อได้ยินน้ำเสียงสุขุมนั้นก็ทำให้เค่อหมอจำคนตรงหน้าได้ทันที เขาคำรามด้วยความเคียดแค้น ทว่าเชือกสวรรค์ที่มัดอยู่ก็ทำให้เขาไม่สามารถพุ่งไปต่อสู้กับเทพหนุ่มได้ดั่งใจ
เซี่ยเหลียนถามแม่ทัพเผยน้อยว่านักพรตสาวเป็นคนสอนเขาบังคับงูหรือ แต่เผยซู่บอกว่าเขามองวิธีที่เธอใช้แล้วมาเรียนรู้ด้วยตัวเอง แม้เซี่ยเหลียนจะจดจำใบหน้าของเด็กที่เล่นกับปั้นเยวี่ยไม่ได้ ทว่าพวกเขาส่วนมากเกิดในตระกูลทหาร และเผยซู่ก็คงเป็นหนึ่งในเด็กเหล่านั้น ราชครูสาวคงเป็นสายคอยส่งข้อมูลของแคว้นปั้นเยวี่ย และเปิดประตูเมืองให้อีกฝ่าย
เมื่อได้ทราบความจริงเค่อหมอก็ยิ่งทวีความโกรธ เขาด่าชายตรงหน้าว่าเป็นพวกมากเล่ห์ขี้โกง แม่ทัพเผยน้อยบอกว่าถึงปั้นเยวี่ยไม่เปิดประตู อย่างไรแม่ทัพผีก็ต้องพ่ายแพ้กองทัพของเขาอยู่ดี แต่ที่เขาร่วมมือกับนักพรตมารก็เพื่อกวาดล้างแคว้นปั้นเยวี่ยให้สิ้นซาก เพราะในคืนก่อนที่เขาจะนำกองกำลังบุกเมือง ชาวเมืองปั้นเยวี่ยที่รู้ว่าตนจะต้องพ่ายแพ้แน่นอนได้ประชุมลับ กัน ประชาชนทั้งชาย หญิง เด็กและคนชราต่างวางแผนเป็นหน่วยระเบิดพลีชีพ เมื่อยามที่แคว้นถูกตีจนสิ้น พวกเขาจะติดระเบิดไว้กับตัวแล้วมุ่งหน้าไปยังที่ราบภาคกลาง ลากชาวเมืองของแคว้นศัตรูให้ตายตกตามกันให้มากที่สุด เมื่อเซี่ยเหลียนสอบถามแม่ทัพผี อีกฝ่ายก็ยืนยันว่าสิ่งที่เผยซู่เป็นความจริง เพื่อป้องกันความเสียหาย แม่ทัพเผยน้อยจึงไม่อาจปล่อยประชาชนชาวยปั้นเยวี่ยไปแม้แต่คนเดียว เค่อหมอกับเผยซู่เถียงกัน ก่อนที่เทพหนุ่มจะเข้าไปชกอีกฝ่ายสลบ
แม้เซี่ยเหลียนไม่อาจบอกได้ว่าสิ่งใดถูก และสิ่งใดผิด แต่ไม่ว่าเหตุผลที่ปั้นเยวี่ยเปิดประตูเมืองจะคืออะไร ในเมื่อหญิงสาวเป็นผู้กระทำเธอก็ต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ทว่าเมื่อทุกคนสิ้นชีวิตแล้วทุกอย่างก็ควรหยุดอยู่แค่นั้น ความวุ่นวายในเวลาต่อมาไม่สมควรเกิดขึ้น เผยซู่แก้ตัวให้หญิงสาวว่าเธอไม่ได้เป็นผู้ก่อเรื่องราว และเมื่อถูกถามว่าเขาเป็นคนหลอกห้พ่อค้าเข้ามาในเมืองใช่หรือเปล่า เขาก็ยอมรับอย่างตรงไปตรงมา แต่ก็ไม่ยอมอธิบายว่าเขาทำเรื่องนั้นไปเพราะเหตุผลใด
ตอนนั้นเองจู่ๆ ก็เกิดพายุหมุนในก้นหลุมคนบาปม้วนพัดทุกคนลอยขึ้นไปด้านบน เซี่ยเหลียนรีบจับซานหลางไว้ แต่เมื่อถึงปากหลุมแล้วลมกลับสงบลง และเมื่อพวกเขาเหยียบพื้นได้โดยปลอดภัย เซี่ยเหลียนก็เห็นหนานเฟิงเดินเข้ามาหา ก่อนที่ร่างของสตรีสองคนจะปรากฏขึ้น ในขณะที่หญิงสาวชุดขาวเข้ามาทักทายเซี่ยเหลียนอย่างเป็นมิตร หญิงสาวชุดดำกลับมองเขาอย่างไม่ใส่ใจ แต่เมื่อเธอสังเกตเห็นซานหลางก็ชะงัก ก่อนมองเด็กหนุ่มด้วยสายตาไม่ไว้วางใจ
สตรีทั้งสองเดินผ่านเซี่ยเหลียนไปหาเผยซู่ในร่างอาเจา ชายหนุ่มมีสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง แต่เขาก็คุกเข่าหมอบศีรษะให้หญิงสาวชุดสีขาวแล้วเรียกอีกฝ่ายว่าเทพแห่งลม เมื่อได้ยินดังนั้นเซี่ยเหลียนก็อึ้ง เขาไม่คิดมาก่อนว่าอีกฝ่ายจะเป็นเจ้าหน้าที่สวรรค์ ที่สำคัญยังเป็นเทพแห่งลมสายเปย์ที่แจกกุศลทีเดียวแสนหนึ่งในตอนนั้นด้วย เขาถามหนานเฟิงว่าเหตุใดถึงไม่รีบบอกเรื่องนี้กับเขา แต่เทพหนุ่มก็ตอบว่าตนไม่เคยเห็นเทพแห่งลมในรูปลักษณ์นี้มาก่อน จึงเพิ่งทราบตัวจริงของอีกฝ่ายเช่นกัน และเทพสาวก็เดินทางมาที่นี่เพื่อให้ความช่วยเหลือพวกเซี่ยเหลียนจัดการผีทหารปั้นเยวี่ย
เทพแห่งลมต่อว่าเผยซู่ว่าเขาทำเรื่องเกินขอบเขตที่เทพกระทำได้ ซึ่งอีกฝ่ายก็ก้มหัวยอมรับโดยไม่ขัดขืน แล้วเธอจึงหันมาเอ่ยขอโทษเซี่ยเหลียน เป็นเธอเองที่สร้างพายุหมุนในทะเลทรายเพราะต้องการหยุดไม่ให้พวกเขาเข้าใกล้เส้นทางปั้นเยวี่ย และยังแนะนำให้ระมัดระวังอย่าเข้าไปยุ่งกับเรื่องของเทพองค์อื่น แต่เซี่ยเหลียนเกรงว่าสวรรค์จะโยนความผิดให้ราชครูปั้นเยวี่ยเพื่อช่วยแม่ทัพเผยน้อย เขาจึงไม่ยอมละมือโดยง่าย เทพแห่งลมเลยบอกเพิ่มว่าเขาสามารถพาตัวราชครูสาวไปได้ คนที่ควรรับผิดชอบเรื่องนี้จะมีเพียงเค่อหมอ และเผยซู่เท่านั้น ตอนนั้นเองหญิงสาวชุดดำก็เอ่ยเร่งเพื่อนของตน เทพแห่งลมจึงขอตัวกลับสวรรค์พร้อมพาผู้ต้องหาทั้งสองไปด้วย
.
.
.
.
.
จะมาติ่งมาคุยดาราก็ไปที่อื่นเหอะ กูรำคาญว่ะ
>>478 กูแค่ลองมาคิดอีกหลายๆมุมกับการกระทำพี่เว่ย แต่ก็จริงตามมึงว่ามันคนละส่วนกันจริงๆจะเทียบกันไม่ได้ ถ้าไม่มีสกุลเจียงช่วยตอนนั้นก็ไม่มีเว่ยอิงแต่ถ้าไม่มีพี่น้องสกุลเวินทั้งคู่ก็ไม่รอดจริงๆ
กูลองคิดแบบอารมณ์ทฤษฏีผีเสื้อขยับปีกอะ เอ๊ะ หรือกระพือนะ555 นั้นแหละ ถ้าเปลี่ยนอะไรไปบ้าง จุดจบมันจะลงเอยยังไง กูคิดว่ามันจะมีทางไหนที่ทำให้ช่วยคนได้และทำให้พี่น้องอยู่ด้วยกันได้ไหม...
เห็นมีคนคอมเม้นว่าถ้าสมมติบทสรุปเจียงเฉิงบอกว่าเสียจินตันไปเพราะอะไรอาจรั้งให้เว่ยอิงอยู่ด้วย พวกมึงว่าจริงไหม กูแค่ชอบความสัมพันธ์ของครอบครัวนี้และแย่วะที่มันต้องเสียไป
>>484 กูว่าตามนิสัยเจียงเฉิงแล้วไม่มีทางพูดอ่ะ ยิ่งได้ยินว่าเว่ยอิงยอมสละจินตานให้ตัวเองด้วย มันเหมือนเรายอมสละให้อีกฝ่าย อีกฝ่ายก็ยอมสละให้เรา หมายความว่าเราทั้งคู่ต่างก็รักและยอมตายได้เพื่ออีกฝ่าย แล้วเจียงเฉิงที่รักและอยากเห็นเว่ยอิงมีความสุข (แต่ปากแข็ง) ไม่มีทางบอกเพื่อรั้งให้เว่ยอิงอยู่ด้วยหรอก เพราะมันหมายความว่าเว่ยอิงจะไม่มีทางได้เป็นอิสระ ได้ใช้ชีวิตอย่างที่ต้องการ ถ้าเจียงเฉิงบอกออกไปนะจบแบบดราม่าน้ำตาท่วมแน่ คนอ่านคงแบบโยนหนังสือทิ้งอ่ะมึง
จริงๆ จบแบบนิยายเศร้าไปนิด อยากให้จบแบบซีรีย์ ฝากสายลมพัดพาความห่วงใย "ดูแลตัวเองด้วย" ฮืออออ น้ำตาแตก
ตอนนี้ในทวิตภพบ่นกันเรื่องแปล กระบี่แล้วแต่โรมรันกับกระบี่ชังชาติ แงงงง กูจะร้อง บางคำมันก็ควรทับศัพท์แล้วไปอธิบายด้านหลังป่ะวะ
อยากให้มีฉบับแปล eng ถูกลิขสิทธิ์ กูจะซื้อ!
มือไวไปนิด อยากถามว่าตัวร้ายเค้าแปลแบบนี้หรือทับศัพท์ไปเลย
>>487 เอาจริงๆกูชอบทับศัพท์นะ แปลไทยกูก็โอเคถ้าแปลไทยแล้วมันแปลกและไม่สวยพออะ สวยไปจนต้องนึกกูก็ไม่เค ถ้าอย่างนิยายเก่าๆรุ่นพ่อ อย่างดาบวงพระจันทร์ กูก็ว่าได้อยู่ไม่ต้องสวยมากแต่คืออ่านแล้วไม่ขัด กระบี่อิงฟ้าเงี้ย พอมาเร้นถุลี กูว่ามันก็สวยแต่กูว่าอ่านแล้วติดขัด...กูจะอธิบายยังไงดีวะ555 แต่กูว่าแปลมันก็ได้แต่คำมันแบบ...
กูรู้สึกแก่เลย...พูดถึงดาบวงพระจันทร์เนี่ย555
>>491 กูก็ชอบแปลไทยเหมือนมึง เพิ่มเติมคือเอาให้กระชับ คล่องปาก ยกเว้นคำทับศัพท์นั้นมันสากลมากๆ
ถ้ากูอ่านนิยาย อ่านตัวหนังสือ กูชอบให้แปลมาเลยมากกว่า ไม่ต้องโพรเซสคำแปลในหัว ไม่ต้องเพิ่มคลังคำในการอ่านนิยายเรื่องนั้น เพราะเอาแค่ชื่อตัวละครกูก็แรมเต็มแล้ว
หรือถ้าทับศัพท์แล้วใส่โน้ตคำแปลให้ด้วยก็ดี แบบนี้กูก็ชอบเหมือนกัน ถ้ามา สุยเปี้ยน ปี้เฉิน จื่อเตี้ยน อวิ๋นเซินปู้จื้อฉู่ แล้วไม่รู้ความหมาย มันก็จะได้แค่ความเป็นชื่อจีน บรรยากาศจีน แต่ได้รับสารไม่ครบ เพราะไม่ใช่ทุกคนจะรู้ความหมายหรือจะขยันไปค้นหาต่อถ้าไม่ติ่งพอ ทับศัพท์เหมาะกับคนที่เสพหลายสื่อ ตัวหนังสือภาพเสียงงานแฟนเวิร์คต่างๆ หรือคนที่เสพจนชินแล้วคุ้นเคยกับคำนั้น มันดีตรงเอาไปค้นเอาไปติ่งต่อได้หลายแพลทฟอร์มกว่า
กูชอบ...อะไรก็ได้ ขอให้มีแปลภาษาไทย 5555
>>487 มึงแน่ใจได้ยังว่าถูกลิขสิทธิ์แล้วจะไม่แปลชื่อ กูเจอเรื่องที่ไทยแปลทับศัพท์ อิ้งก์แปลความหมาย สับสนพอๆกับปรมาจารย์
กูชอบให้กระบี่เรื่องนี้แปลเพราะแล้วแต่ ถ้าทับกูคงไม่จำความหมายอะต่อให้ใส่ฟุตโน้ต อย่างตัวร้ายกูก็อยากให้แปลชื่อนามปากกาของแต่ละคนทั้งแตงกวาที่เสิ่นเอามาแปลงชื่อทีหลัง หรือนามแฝงซั่งชิงหัวที่เสื่อมสุดๆแต่พอทับศัพท์ก็ดูชื่อจีนธรรมดา ถ้าแปลคงอ่านลื่นกว่านี้ ยิ่งซือจุนกูยิ่งเซ็ง จากบาปศิษย์อาจารย์ ซือจุนกลายเป็นpet nameเก๋ๆซะงั้น
>>496 ไม่ได้มีความนัย แค่มีคนถามชื่อแล้วเสิ่นหยวนจะใช้ชื่อปลอมแต่นึกไม่ออกว่าจะใช้ชื่ออะไรเลยใช้นามแฝงบนเน็ต แตงกวาxxx แต่มันดูเป็นชื่อล้อเลียนมากกว่าชื่อในยุทธภพ คนฟังนึกว่าฟังผิดแล้วพยายามหาคำที่ดูเท่ๆมาแทน ซึ่งพอแปลจีนกูก็ไม่รู้สึกแปลกไรกว่าจะเลื่อนสายตามาอ่านฟุตโน้ตก็เหลืออารมณ์แค่รับรู้ว่าคนเขียนเล่นมุก ส่วนนามปากกาคนเขียนประมาณชักว่าว ซึ่งพอทับศัพท์ก็แค่ชื่อจีนเท่ๆชื่อนึง ฟีลตอนอ่านไม่ต่างจากอ่านชื่อหลานจ้านเลย หมดกันความเสื่อม
>>495 ตัวร้ายมันก็แปลไปแล้วก็ทำใจกันไป แต่กูหวังว่าเรื่อง2haที่แนวศิษย์อาจารย์เหมือนกันจะแปลเป็นท่านอาจารย์ไม่ใช่ซือจุนนะ
>>491 กูชอบอะไรแบบนี้เหมือนกัน มันให้ความรู้สึกแบบฮึกเหิมดีอ่ะ โคตรเท่5555 อย่างนิยายแปลกำลังภายในเรื่องสยบฟ้าอ่ะ เรื่องนี้กูโดนตกเพราะการแปลส่วนหนึ่ง ฉายาอะไรงี้โคตรเท่ อย่างผู้งมงายบุปผางี้ ผู้งมงายอักษร ผู้งมงายยุทธ อาศรมเทพ ศิษย์พี่ใหญ่ พี่รอง อาจารย์อา บลาๆๆ อ่านแล้วมันเท่จนอยากได้ฉายาอะไรแบบนี้มั่งอ่ะ 5555
คำง่ายๆที่มีคำไทยกูว่าควรแปลไทยนะ อย่างซือจุนเงี้ย กูไม่เข้าใจว่าจะทับศัพท์ไปทำไม อ่านไปหงุดหงิดไป
อะไรที่แปลได้ก็ควรจะแปลอะ ไม่งั้นจะเรียกนิยายแปลหรอ ให้แปลแล้วออกมาเป็นแบบป้าหลอนกูก็ไม่ไหวนะ ต้องอ่านซ้ำอีกรอบถึงจะเข้าใจเนื้อเรื่องเพราะทับศัพท์ยุ่บยั่บไปหมด
แต่กูชอบที่แปลว่าซือจุนนะ...555 แต่เห็นด้วยอะไรที่ง่ายๆก็ควรแปล สำหรับกู..มุกกระบี่แล้วแต่อะ อย่างน้อยก็ควรแปบสุ้ยเปี้ยน พอมาแล้วแต่สองรอบมันไม่ขำ...สำหรับกูนะ
กูขำกระบี่ชื่อชังชาติ 55555555
พวกมึงพูดถึงเรื่องแปลแล้วกุขอเข้ามาอวยสยบฟ้าแล้วก็แซะอีกครั้ง
"ยามเดินผ่านศาลาเฟิงชุน (ลมวสันต์) กลับให้หวนนึกถึงวันวาน"
ยกตัวอย่างคร่าวๆ เนี่ย พวกมึงเห็นไหม เนี่ย มันเก็ตในทันทีนะ คือถ้ามึงไม่ชื่อไทยวงเล็บชื่อจีน ก็ชื่อจีนวงเล็บชื่อไทยเถอะ ทับศัพท์เห้ไรนักหนา
ไม่งั้นอีกหน่อย "จิบชา" มึงไม่แปลเป็น "จิบฉา" เลยล่ะคะ ฉา 茶 เนี่ย 茶茶茶 ฉาฉาฉา
แล้วก็โน้ตสวยๆ ว่า ฉา (茶) เป็นเครื่องดื่มที่คนจีนนิยมดื่ม ออกเสียงในภาษาไทยว่า "ชา" แต่เพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน จึงจะขอใช้คำว่า "ฉา" ทับศัพท์เรียกจากนี้ไป
เอาเลยค่ะอิสัส กุรอวันที่นิยายจีนแปลไทยจะหลุดสิ่งนี้ออกมาอยู่ กุช่วยแถให้เลยเอ้า มึงมา!
เออ นอกนั้นก็ "หว่อรักหนี่นะ"
โน้ตไปว่า หว่อ (我) คำที่ใช้เรียกแทนตัวเอง สามารถใช้ได้ทั้งเพศชายแหละเพศหญิง แปลให้ใกล้เคียงในภาษาไทยจะตรงกับคำว่า "ฉัน" หรือ "ข้า"
หนี่ (你) คำที่ใช้เรียกผู้อื่น เป็นระดับความสุภาพของคนที่สนิทกัน แปลให้ใกล้เคียงกับภาษาไทยจะได้คำว่า "คุณ" หรือ "เจ้า"
เรื่องแปล เห็นคนที่อยากให้ทับศัพท์บอกว่าบางคำมันมีความหมายมากกว่าคำที่ไทยใช้ เช่นอาจบ่งที่ความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครหรือสถานะด้วย แต่กูก็คิดเหมือนกันว่ายังไงก็ควรแปลอะ ถ้าให้เหตุผลนั้นภาษาญี่ปุ่น คำว่า วะตะชิ โอะเระ โบะคุ โอะมะเอะ คิมิ อะไรพวกนี้มันก็แฝงนัยยะความสัมพันธ์ระหว่างคนพูดกับคนฟังได้เหมือนกัน ถ้าการ์ตูนญี่ปุ่นแปลทับศัพท์มาอย่างนี้ตลกตายเลย
>>509
.
.
.
.
.
น่าจะอารมณ์โอตาคุเตี้ยนเซี่ยคนหนึ่งที่ไปงานการ์ตูนแล้วเจอเพื่อนแต่งคอสเพลย์สายครอสเดรสพอดี ตอนแรกกูก็คิดนะว่าหมิงอี้จะอายที่อีกฝ่ายเห็นหรือเปล่า แต่พอมานึกๆ แล้วตอนไปอารามผู้จี้นางก็ trap คู่กับซือชิงเสวียนอย่างผ่าเผย ฝ่ายนั้นคงไม่อาย แต่ฮวาเฉิงคงแอบขำ จะว่าไปก็เอ็นดูนางอะ บ่นนู้นนี่แต่ยอมแต่งหญิงเป็นเพื่อนให้ตลอด เวลาจิ้นสองคนนี้กูชอบจิ้นไปแนวสาวๆ แต่งตัวไปชอปปิ้งกันอะไรงี้ 5555
.
.
.
.
.
มาสปอยเทียนกวานต่อนะ ต่อจาก >>480 เทียนกวาน Part.26
.
.
.
.
.
ในที่สุดเรื่องราวที่แคว้นปั้นเยวี่ยก็สิ้นสุดลง หนานเฟิงย้ำกับเซี่ยเหลียนว่าที่เทพแห่งลมยื่นมือมาช่วยก็เพราะไม่อยากให้เซี่ยเหลียนไปเหยียบเท้าเผยหมิงเข้า แม่ทัพเผยมีอิทธิพลบนสวรรค์รองจากจวินอู๋ และเขาก็ตั้งความหวังกับเผยซู่ไว้มากถึงขนาดมีข่าวลือว่าเขากำลังพยายามหาทางเขี่ยเฉวียนอี้เจินเพื่อเอาตำแหน่งเทพสงครามแห่งทิศตะวันตกมาให้ทายาทของตนแทน สิ่งที่เซี่ยเหลียนทำในครั้งนี้อาจทำให้เผยซู่ต้องถูกเนรเทศจากสวรรค์ และคงไม่ดีต่อตัวเซี่ยเหลียนแน่ แต่แม้ซานหลางจะบอกว่าเผยหมิงไม่ใช่คนชอบใช้เล่ห์กลจัดการผู้อื่น หนานเฟิงก็ยังบอกว่าอย่างไรก็ต้องระวังตัวอยู่ดี
แต่เช่นนี้ไม่ใช่ว่าการที่เทพแห่งลมมาออกหน้าจะทำให้เธอเดือดร้อนแทนหรือ หนานเฟิงอธิบายว่าเผยหมิงคงไม่กล้าทำอะไรเพราะว่าฝ่ายนั้นก็เป็นเทพที่มีอิทธิพลมากเช่นกัน ซานหลางเอ่ยเสริมอย่างติดตลกว่าหญิงสาวชุดดำเองก็น่าจะเป็น 1 ในเทพแห่งธาตุทั้ง 5 จึงไม่ควรไปหาเรื่องเธอเหมือนกัน พอนึกถึงสายตาที่หญิงสาวมองเด็กหนุ่มเสื้อแดง เซี่ยเหลียนก็รู้สึกเห็นด้วย
เซี่ยเหลียนเพิ่งสังเกตว่าตั้งแต่ขึ้นมาจากหลุมคนบาปฝูเหยาก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย แต่ไม่ว่าอย่างไรอีกฝ่ายก็คงดูแลตัวเองได้ พวกเซี่ยเหลียนจึงคิดถึงเรื่องที่สำคัญกว่าคือการนำพืชแก้พิษงูหางแมงป่องกลับไปให้พ่อค้าอาวุโสที่ถ้ำหิน เขาแบกปั้นเยวี่ยขึ้นหลัง แล้วนำทุกคนกลับไปเก็บพืชที่ราชวัง ตอนนั้นซานหลางได้นำหม้อใบหนึ่งมาให้ เซี่ยเหลียนจึงย่อตัวของราชครูสาวลงไปไว้ในนั้นเพื่อให้เธอพักฟื้นตัว
พวกเขานำพืชกลับไปช่วยพ่อค้าอาวุโส ก่อนจะสังเกตได้ว่ากลุ่มของเด็กหนุ่มพ่อค้าที่เข้าไปในเมืองปั้นเยวี่ยยังไม่ได้กลับมา แต่ไม่นานนักทั้ง 3 ก็กลับมาโดยสวัสดิภาพ ปรากฏว่าหลังเหตุการณ์ที่หลุมคนบาปปั้นเยวี่ยได้ช่วยพวกเขาไว้ พวกเขาจึงกลับไปเก็บพืชพร้อมฝังร่างของเพื่อนที่เสียชีวิต หลังจากนั้นพวกเซี่ยเหลียนก็ช่วยคุ้มครองกลุ่มพ่อค้าจนพวกเขาสามารถออกจากทะเลทรายอย่างปลอดภัย ในตอนที่กำลังกล่าวลากัน พ่อค้าหนุ่มคนนั้นก็กระซิบถามเซี่ยเหลียนว่าเขาเป็นเทพเจ้าใช่หรือไม่ และเนื่องจากเซี่ยเหลียนช่วยชีวิตของเขาไว้ เด็กหนุ่มจึงสัญญาว่าเมื่อกลับถึงบ้านเกิด เขาจะสร้างอารามบูชาเซี่ยเหลียนอย่างแน่นอน เมื่อได้ยินอย่างนั้นเซี่ยเหลียนก็หัวเราะเสียงดัง และกล่าวขอบคุณอีกฝ่าย
หนานเฟิงวาดวงเวทย์ย่นระยะนำทุกคนกลับมายังอารามผูจี้ เซี่ยเหลียนถึงกับทิ้งตัวลงเหยียดตัวบนเสื่อด้วยความเหนื่อยล้า ก่อนถามเทพหนุ่มว่าเขาไม่จำเป็นต้องกลับไปรายการเรื่องกับเจ้านายหรือ เมื่ออีกฝ่ายบอกว่าไม่จำเป็นต้องรีบ เซี่ยเหลียนจึงตั้งใจจะทำอาหารเลี้ยงขอบคุณ ทันใดนั้นสีหน้าของหนานเฟิงก็เปลี่ยนอย่างรวดเร็ว รีบทำท่าเหมือนมีคนติดต่อมาทางโทรจิต ก่อนบอกว่าเขามีเรื่องเร่งด่วนต้องกลับไปในทันที แม้เซี่ยเหลียนจะพยายามรั้งไว้ เทพหนุ่มก็ยังรีบเปิดประตูอารามออกไป แต่ก็ไม่ลืมหันมาขี้นิ้วมาที่เซี่ยเหลียนกับซานหลาง และบอกว่าเขาจะกลับมาอย่างแน่นอน เมื่อเหลือกันสองคนเซี่ยเหลียนจึงหันไปถามเด็กหนุ่มเสื้อแดงว่าหิวหรือไม่ ซึ่งอีกฝ่ายก็ตอบอย่างกระตือรือร้นว่าหิวมาก เซี่ยเหลียนเลยลุกไปดูของบนโต๊ะวางของไหว้ก่อนเอ่ยถาม
เซี่ยเหลียน : ถ้าอย่างนั้น เจ้าอยากกินอะไรล่ะ ฮวาเฉิง
เบื้องหลังของเขาตกอยู่ในความเงียบก่อนที่จะมีเสียงหัวเราะเบาๆ ดังขึ้นมา
ฮวาเฉิง : เรียกข้าว่าซานหลางเหมือนเดิมดีกว่า
.
.
.
.
.
กูไม่มีเงินซื้อห่าอะไรแล้ว...ซ้ำชิบหาย ฮือๆๆๆ แค่ด้อมแม่โม่กูก็จนแล้ว
>>525 เหมือนกันมึง แต่กูว่าช่วงนี้อุดมสมบูรณ์ก็ดีนะ
กูจำได้ว่าปีก่อนๆ แห้งเหี่ยวไม่มีอะไรน่าอ่าน
ปีนี้หลายสนพ.ขยันซื้อเรื่องน่าอ่านมาแปล เหมือนเป็นน้ำหล่อเลี้ยงใจกู แต่แม่งสวนทางกับกระเป๋าตังค์ที่แห้งเหี่ยวทุกเดือน 5555
อย่างน้อยเทียวกวานก็ยังไม่ออกเร็วๆ นี้หรอก กูเก็งว่าอย่างเก่งก็ปลายปีหน้า
>>519 เพิ่งเห็นอะ ฝีมือเซี่ยเหลียนน่าสะพรึงกว่าโจ๊กเผ็ดหลายขุมนะ 5555
สปอยเทียนกวานต่อนะ ต่อจาก >>514 เทียนกวาน Part.27
.
.
.
.
.
เซี่ยเหลียนกับฮวาเฉิงทักทายด้วยชื่อทางการของกันและกันเป็นครั้งแรก ก่อนที่เซี่ยเหลียนจะบอกให้คนตรงหน้าเรียกตนว่าเกอเกอเหมือนเดิม แล้วถามว่าอีกฝ่ายคือคนที่ปลอมเป็นเจ้าบ่าวผีมานำทางให้เขาใช่หรือเปล่า ฮวาเฉิงปฏิเสธว่าตนไม่ได้ปลอมตัว จากนั้นจึงถามเซี่ยเหลียนว่ารู้ได้อย่างไรว่าเขาเป็นใคร เซี่ยเหลียนจึงบอกว่าฮวาเฉิงใส่ชุดสีแดง มีความรู้มาก จัดการทุกอย่างได้โดยไร้ความกลัว โดนใช้วิธีพิสูจน์ร่างสารพัดก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วจะให้เขาคิดว่าเป็นคนอื่นไปได้อย่างไร ส่วนเรื่องแรงจูงใจว่าทำไมอ๋องผีถึงได้มาตีสนิทกับเขา ถ้าเด็กหนุ่มไม่อยากบอก เขาก็จะไม่ถามต่อ
จู่ๆ หม้อที่ใส่ปั้นเยวี่ยไว้ก็กลิ้งไปชนประตู เมื่อเซี่ยเหลียนเปิดประตูอารามให้มันก็กลิ้งออกไปตั้งอยู่ด้านนอกราวกับกำลังเงยหน้ามองท้องฟ้าสีหมึก เซี่ยเหลียนจึงเดินออกไปนั่งข้างๆ ส่วนฮวาเฉิงยืนอยู่ที่ต้นไม้ใกล้ๆ กัน เซี่ยเหลียนปลอบปั้นเยวี่ยให้เลิกกังวลเกี่ยวกับเค่อหมอและพวกทหาร ที่งูหางแมงป่องออกไปทำร้ายผู้คนไม่ใช่ความผิดของหญิงสาว ปั้นเยวี่ยบอกว่าในตอนนั้นเธอไม่ได้หมดสติ แต่แค่ถูกสกัดจุดไม่ให้เคลื่อนไหวจึงได้ยินเรื่องราวทั้งหมดแล้ว เธอถามเผยซู่จะเป็นอย่างไรต่อไป แต่เซี่ยเหลียนก็ยังไม่ทราบเช่นกัน ราชครูสาวจึงเอ่ยว่าแม่ทัพเผยน้อยไม่ใช่คนไม่ดี เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังคงเรียกเขาว่าแม่ทัพฮวา เซี่ยเหลียนจึงบอกให้เธอเปลี่ยนเนื่องจากตอนนี้มีคนแซ่ฮวาอีกคนอยู่ แต่เมื่อถูกถามว่าต้องการให้เรียกว่าอย่างไร เขาก็นึกไม่ออกเช่นกัน
ปั้นเยวี่ยขอโทษเซี่ยเหลียนอีกครั้ง และกล่าวว่าเธออยากช่วยเหลือโลกใบนี้เช่นที่เขาเคยเอ่ยไว้ทำให้คนฟังตกใจเพราะจำไม่ได้ว่าตนไปบอกเรื่องนี้กับอีกฝ่ายตอนไหน เธอเล่าว่าเมื่อ 200 ปีก่อนตอนที่ทุกคนล้อมวงคุยเรื่องความฝันที่อยากทำเมื่อโตขึ้น เซี่ยเหลียนบอกว่าความฝันวัยเด็กของเขาคือการได้ช่วยเหลือโลกและไพร่ฟ้าประชาชน ทั้งยังบอกให้ทำในสิ่งที่คิดว่าถูกต้อง คำพูดนั้นติดตรึงในใจปั้นเยวี่ยมาก หญิงสาวจึงพยายามทำตามความฝันนั้น เธอคิดว่าตนทำในสิ่งที่ถูกต้อง แต่ก็เป็นเธอเองที่เปิดประตูเมืองให้ศัตรูฆ่าผู้คน ทว่าหากเธอไม่ทำเช่นนั้นประชาชนของเธอก็จะไปทำร้ายคนของที่ราบภาคกลางจนมีผู้สูญเสียมากขึ้น เซี่ยเหลียนและคนจากที่ราบภาคกลางบางคนดีกับเธอมาก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเค่อหมอกับทหารปั้นเยวี่ยก็มีไมตรีจิตให้เธอเช่นกัน เธอทำให้พวกเขาต้องตาย กระนั้นก็ไม่ยอมให้พวกเขาฆ่าคนเพื่อลดความแค้นจนได้ไปสู่สุขคติ และไม่สามารถหาทางอื่นช่วยให้พวกเขาหลุดพ้นด้วย ไม่ว่าเธอจะเลือกหนทางไหนสุดท้ายทุกอย่างก็ผิดไปหมด เธอรู้ตัวว่าตนทำเรื่องไม่ถูกต้อง และขอให้เซี่ยเหลียนบอกว่าเธอทำผิดที่ตรงไหนกันแน่ เมื่อถูกถามเช่นนั้น เซี่ยเหลียนผู้ผ่านเรื่องราวมามากมายก็ได้เพียงเอ่ยว่าเขาเองก็ไม่รู้คำตอบเช่นกัน
เซี่ยเหลียนปล่อยให้ปั้นเยวี่ยได้อยู่กับความคิดของตัวเองแล้วเดินกลับเข้าไปในอารามพร้อมกับฮวาเฉิง เด็กหนุ่มเกริ่นเรื่องที่เส้นทางปั้นเยวี่ย เซี่ยเหลียนมีความเห็นว่าเผยซู่น่าจะกวาดล้างทหารผีเพื่อปลดปล่อยอีกฝ่ายมากกว่าใช้วิธีการส่งคนไปให้ฆ่าเช่นนี้ แต่ฮวาเฉิงแย้งว่าหากแม่ทัพเผยน้อยเลือกทำแบบนั้นเขาจำเป็นต้องแจ้งให้สวรรค์ทราบ เช่นนั้นแล้วราชครูปั้นเยวี่ยก็คงถูกกำจัดไปด้วย เทพหนุ่มจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหาทางจัดการด้วยตัวของเขาเอง อีกทั้งในสายตาของเทพเจ้าแล้วชีวิตของมนุษย์ก็ไม่ต่างจากมดปลวกสักเท่าไร
พอพูดถึงเผยซู่แล้วก็นึกถึงอาเจา เซี่ยเหลียนมองคนตรงหน้าแล้วเอ่ยว่าขนาดเป็นร่างปลอม อ๋องผีก็ยังมีพลังมาก ฮวาเฉิงจึงอธิบายว่านี่คือร่างจริงสามารถมาสัมผัสพิสูจน์ได้ เซี่ยเหลียนยื่นมือไปแตะใบหน้าของอีกฝ่ายเบาๆ โดยไม่รู้ตัว ก่อนจะรีบเอาออก เด็กหนุ่มเองก็ดูแปลกใจที่อีกฝ่ายมาจับตัวเขาจริงๆ เซี่ยเหลียนเลยต้องแก้เก้อด้วยการเอ่ยชมว่าผิวหนังปลอมของอีกฝ่ายใช้ได้เลยทีเดียว ก่อนถามว่าขอเขาดูใบหน้าทีแท้จริงของเด็กหนุ่มได้หรือไม่ พอนึกได้ว่าอาจเป็นการเสียมรรยาทก็รีบเสริมว่าอย่าได้ใส่ใจ แต่ฮวาเฉิงก็ยิ้มอ่อนโยน บอกว่าหากวันข้างหน้ามีโอกาสเขาจะให้คนตรงหน้าได้เห็น แม้ปรกติคำว่าหากมีโอกาสมักจะใช้เพื่อปฏิเสธอย่างสุภาพ แต่ในใจของเซี่ยเหลียนกลับรู้สึกได้ว่าเมื่อคนพูดคือฮวาเฉิง วันข้างหน้านั้นจะต้องมาถึงอย่างแน่นอน
.
.
.
.
.
>>528 อืม เซี่ยเหลียนอยู่มานานจำอะไรได้ไม่หมด อีกอย่างเรื่องตอนอยู่ที่ชายแดนปั้นเยวี่ยก็ไม่ค่อยอยากจำด้วยเพราะนับว่าเป็นเรื่องแย่ๆ ครั้งหนึ่งในชีวิต เซี่ยเหลียนเคยบอกว่าแทนที่จะเอาสมองไปจำว่าเมื่อหลายร้อยปีก่อนเกิดเรื่องอะไรไม่ดีกับตัวเองบ้าง สู้จำเรื่องดีๆ หรือเรื่องที่เพิ่งเกิดอย่างเมื่อวานได้กินซาลาเปาไส้เนื้อ อะไรประมาณนี้ดีกว่า
พวกมึง กูอ่านเทียนกวานถึงตอนที่ 103 ละขำชห. สกิลทำอาหารของเซี่ยเหลียนต้องเลวร้ายขนาดไหนวะ กูสงสารคนกินมาก ยาพิษชั้นดี 55555555 ฮวาเฉิงก็ไม่ห้ามบ้างเลย ให้ท้ายตลอด กูขำจนเป็นบ้าแล้วเนี่ย🤣
ขอถามถึงตัวละครนึงในเทียนกวานหน่อย พอดีกูไถแฟนอาร์ตเทียนกวานล่ะไปเจอน้องปีศาจคนนึงที่จะใส่ชุดเขียวๆ เหมือนจะเป็นญาติกับเซี่ยเหลียนป่ะ (เห็นอิ้งเรียก cousin)แล้วน้องดูไม่ชอบเซี่ยเหลียนอ่ะ คือไม่ใช่ไรกูเอ็นดูแฟนอาร์ตน้องมาก ดูเป็นความตัวจ้อยแต่ด่าปากฉอดๆๆๆดี 555555555 น้องจะออกมาช่วงไหนของเรื่องอ่ะ แล้วถ้าเป็นญาติกับเซี่ยเหลียนทำไมน้องเขาดูไม่ชอบเซี่ยเหลียนขนาดนั้น
>>534 คนๆ นั้นคือ... สปอยนะ
.
.
.
.
.
ผีเขียวฉีหรงที่มีเกริ่นมาตั้งแต่ตอนแรกๆ อะ เป็นลูกพี่ลูกน้องของเซี่ยเหลียน (ลูกของน้องสาวของแม่เซี่ยเหลียน แต่แม่เซี่ยเหลียนเป็นคนเลี้ยง) จากที่กูสปอยอยู่ผ่านช่วงเมืองผีไปก็จะออกมาล่ะ สมัยเด็กมองเซี่ยเหลียนเป็นไอดอล แต่หลังจากที่เซียนเล่อล่มสลายฉีหรงก็เปลี่ยนไปเกลียดแทน
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ไม่มีอะไรมาก กูแค่อยากมาระบายแต่ไม่รู้จะระบายอะไรดี เพิ่งอ่านพาร์ทเฮ่อเสวียนแล้วเพิ่งรู้เรื่องราวครอบครัวของเขา กูมึน ๆ เบลอ ๆ แล้วโกรธมาก โกรธชะตาชีวิตเมนกู TT
.
.
.
.
.
มีใครอ่าน ปรมจ เล่ม 2 แล้วบ้าง
กูอยากรู้ว่ามีคำผิดบ้างมั้ย
กูยังไม่ได้หนังสือเลย
สปอยเทียนกวานต่อนะ ต่อจาก >>527 เทียนกวาน Part.28
.
.
.
.
.
ผ่านมาครึ่งคืนเซี่ยเหลียนจึงล้มเลิกความตั้งใจที่จะทำอาหาร หนึ่งเทพกับหนึ่งผีเลยพักผ่อนนอนข้างกันบนเสื่อเก่าขาด หลังจากพูดเรื่องวิธีการทำงานบนสวรรค์กับโลกผี เซี่ยเหลียนก็ถามฮวาเฉิงว่าเคยเจอกับอ๋องผีอีกคนหรือไม่ อีกฝ่ายตอบว่าเคย แต่เมื่อถามถึงฉีหรง ฮวาเฉิงกลับบอกว่าเขาไม่ชอบหน้าของอีกฝ่าย ผีเขียวมีนิสัยต่ำช้า แถมยังหนีเก่งอีก เซี่ยเหลียนรู้สึกแปลกใจว่าแม้แต่ในโลกผีฉีหรงก็ยังเป็นที่รังเกียจ อ๋องผีชุดแดงเลยเสริมว่าธาราทมิฬก็ไม่ชอบผีเขียวเช่นกัน ตอนแรกเซี่ยเหลียนงงว่าหมายถึงใคร ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าน่าจะเป็นธาราทมิฬล่มเรือผู้เป็นเจวี๋ยอีกคน ฮวาเฉิงบอกเพิ่มว่าอีกฝ่ายเป็นที่รู้จักในนามผีธาราทมิฬเสวียนด้วย
เซี่ยเหลียนถามฮวาเฉิงต่อว่าเขาสนิทกับธาราทมิฬล่มเรือหรือเปล่า และแม้คนที่อยู่ข้างกันจะบอกว่าในโลกผีตนไม่ได้สนิทกับใครเป็นพิเศษ เซี่ยเหลียนก็ยังเอ่ยชมว่าขนาดไม่สนิทฮวาเฉิงก็ยังรู้เรื่องเกี่ยวกับผีตนอื่นเป็นอย่างดี ทั้งคู่คุยต่ออีกพักหนึ่งก่อนที่เซี่ยเหลียนจะบ่นว่าทำไมปั้นเยวี่ยถึงไม่กลับเข้ามา เด็กหนุ่มชุดแดงจึงเอ่ยว่าเขารู้สึกชื่นชมคำกล่าวว่าต้องการช่วยเหลือโลกและไพร่ฟ้าประชาชน ทว่าเซี่ยเหลียนกลับรู้สึกไม่ดีและคิดว่ามันเป็นเรื่องที่โง่มาก ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องว่าอย่างน้อยที่ปั้นเยวี่ยพูดก็ยังพอน่าฟัง เพราะในสมัยเด็กเขาเคยพูดเรื่องที่ฟังดูโง่เง่ากว่านี้เสียอีก
เซี่ยเหลียนเล่าว่าเมื่อหลายร้อยปีที่แล้วมีคนๆ หนึ่งบอกกับเขาว่าไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไป และถามเขาว่าตนจะอยู่ไปเพื่ออะไร ชีวิตนี้มีความหมายอะไรกัน เขาจึงตอบคนๆ นั้นไปว่า “หากเจ้าไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่เพื่ออะไรก็จงมีชีวิตเพื่อข้า หากเจ้าไม่รู้ว่าความหมายของชีวิตของเจ้าคืออะไรก็ให้ข้าเป็นความหมายนั้น และใช้ข้าเป็นเหตุผลที่จะมีชีวิตต่อไป” พูดเสร็จเซี่ยเหลียนก็หัวเราะออกมาด้วยไม่รู้ว่าตนเองในตอนนั้นนึกอะไรถึงได้เอาตัวเองไปให้คนอื่นใช้เป็นเหตุผลในการมีชีวิต ไม่มีทางที่ตัวเขาในตอนนี้จะพูดประโยคนั้นอีกอย่างแน่นอน ทว่าฮวาเฉิงกลับบอกว่าความโง่ก็เป็นความกล้าอย่างหนึ่งเช่นกัน
อ๋องผีตั้งข้อสังเกตว่าพวกเขาเพิ่งรู้จักกันไม่กี่วัน เซี่ยเหลียนมาเล่าเรื่องราวให้เขาฟังมากมายขนาดนี้จะดีหรือ แต่เซี่ยเหลียนบอกว่าคนเราได้พบกันด้วยวาสนา และพลัดจากกันด้วยโชคชะตา ถ้าเราชอบอีกฝ่ายก็มาพบกันอีก หากไม่ก็แยกจากกัน ให้ทุกอย่างไหลไปตามธรรมชาติ และเขาก็จะพูดในสิ่งที่อยากพูด ฮวาเฉิงจึงถามว่าหากใบหน้าที่แท้จริงของเขาน่าเกลียดเซี่ยเหลียนยังอยากพบเขาอีกหรือเปล่า เมื่อเห็นท่าทีจริงจังของอีกฝ่าย เซี่ยเหลียนจึงจริงจังขึ้นบ้าง หลังจากคิดอยู่พักหนึ่งเขาก็บอกไปว่าที่เขาต้องการเห็นหน้าจริงของฮวาเฉิงเป็นเพราะตอนนี้พวกเขาเป็นเพื่อนกันแล้วจึงควรมีความจริงใจต่อกัน ไม่ว่าหน้าตาของอีกฝ่ายจะเป็นอย่างไรเขาก็ไม่คิดมากความ แต่จู่ๆ คนฟังก็หัวเราะออกมา ทำให้เซี่ยเหลียนรู้สึกเหมือนโดนแกล้ง และต่อว่าอีกฝ่ายไม่จริงใจ
“ข้าสัญญาว่าในโลกนี้ท่านจะไม่เจอคนที่จริงใจต่อท่านมากไปกว่าข้าอีกแล้ว” ฮวาเฉิงบอกเช่นนั้น แล้วเสริมว่าครั้งหน้าที่พวกเขาได้เจอกันเขาจะใช้ใบหน้าที่แท้จริงมาทักทายเซี่ยเหลียน จากนั้นไม่นานเซี่ยเหลียนก็พล่อยหลับไป เมื่อตื่นขึ้นมาในตอนเช้าคนที่นอนอยู่ข้างกันเมื่อคืนก็หายไปแล้ว พอเปิดประตูออกไปข้างนอกก็ไม่พบผู้ใด นอกจากกองใบไม้ที่ถูกกวาดมากองรวมกัน บนพื้นยังมีหม้อของปั้นเยวี่ยตั้งอยู่ เซี่ยเหลียนหยิบมันขึ้นมาแล้วเดินกลับเข้าไปในอาราม ในขณะที่เขากำลังจะเปลี่ยนชุด เซี่ยเหลียนก็สังเกตว่ามีของบางอย่างอยู่บนหน้าอกของเขา เมื่อยกขึ้นดูจึงเห็นว่ามันเป็นโซ่สีเงินบางเบาซึ่งห้อยแหวนผลึกแก้วใสวงหนึ่งไว้
.
.
.
.
.
PVC ปล่อยราคากันแรงมากเลยอ่ะ หรือกุควรจะขายแล้วเอาไปรอซื้อนิยายต่อดี เพื่อนโม่งว่าไง
>>543 ราคาแรงมาก กูก็อยากได้นะ แต่ถ้าใครขายราคาแรงก็ไม่มีปัญญาซื้อ โชคดีที่เลิกสะสมของพรีเมี่ยมแล้ว สมัยก่อนถ้าเห็นของแถมแบบนี้กูโดดเข้าใส่เลย
ถ้าคิดว่าเล่มต่อๆ ไปจะไม่พรีหรือไม่สะสมให้ครบก็ขายไปเลย ตอนนี้กระแสกำลังแรง
แต่ถ้าคิดว่าจะพรีอีกก็รอให้ครบชุดไปเลย กูว่าตอนนั้นราคาที่คั่นรวมกันสิบอัน+บ็อกและหนังสือต้องราคาดีแน่
สปอยเทียนกวานต่อนะ ต่อจาก >>539 เทียนกวาน Part.29
.
.
.
.
.
เซี่ยเหลียนคิดว่าแหวนวงนี้ต้องเป็นสิ่งที่ฮวาเฉิงทิ้งไว้ แม้จะไม่รู้ว่ามันทำมาจากอะไรแต่อย่างไรก็คงไม่ใช่ของธรรมดา และในเมื่อมันเป็นสิ่งที่อีกฝ่ายมอบให้ เขาจึงตั้งใจเก็บมันเอาก่อนซึ่งก็ไม่มีที่ใดดีไปกว่าเก็บไว้กับตัว เซี่ยเหลียนใช้เวลาอยู่ในอารามผูจี้หลายวัน จนวันหนึ่งเขาก็ได้รับการติดต่อจากหลิงเหวินให้กลับขึ้นไปบนสวรรค์เพื่อไปร่วมพิจารณาคดีเส้นทางปั้นเยวี่ยที่หอมหายุทธ์ การที่หอประชุมใหญ่ถูกเปิดใช้ย่อมหมายความว่าจวินอู๋กลับมาแล้ว เซี่ยเหลียนที่ยังไม่ได้พบอีกฝ่ายตั้งแต่ได้กลับขึ้นสวรรค์จึงตั้งใจใช้โอกาสนี้ไปทักทายมหาเทพด้วย
ถนนใหญ่บนสวรรค์เต็มไปเทพที่กำลังรีบเดินทางไปยังหอมหายุทธ์เช่นกัน หากแต่ไม่มีใครเข้ามาทักทายเซี่ยเหลียนแม้แต่คนเดียว ซึ่งอาจเป็นเพราะเขาไปก่อเรื่องกับเผยซู่เข้าจึงไม่มีผู้ใดคิดอยากเข้าใกล้ให้เสี่ยงซวยไปด้วย ตอนนั้นเองเขาก็ได้ยินเสียงใครบางคนร้องเรียกองค์ชายรัชทายาท ตอนแรกเซี่ยเหลียนนึกว่าอีกฝ่ายเรียกเขา แต่ไม่นานก็ได้รู้ว่าเจ้าหน้าที่ระดับล่างคนนั้นเรียกเทพอีกองค์ซึ่งอยู่ข้างหน้าเขาต่างหาก
เทพองค์ชายรัชทายาทคนนั้นมีใบหน้าหล่อเหลา แม้อยู่ในเสื้อเกราะแต่กลับดูใสซื่อ เมื่อเทพสองคนนั้นหันมาสบตาเข้ากับเซี่ยเหลียนพอดี เจ้าหน้าที่ระดับล่างก็ถึงกับหน้าเปลี่ยนสี เซี่ยเหลียนยิ้มพร้อมก้มหัวทักทายเทพหนุ่มหน้าตาซื่อคนนั้นซึ่งยิ้มกว้างกล่าวทักทายตอบ ทว่าเขาก็ถูกลูกน้องเร่งให้รีบเดินทางไปหอประชุม เซี่ยเหลียนทิ้งระยะห่างจากทั้งคู่ช่วงหนึ่งจึงค่อยเดินต่อ ก่อนจะได้ยินเสียงเจ้าหน้าที่ระดับล่างคนอื่นกระซิบกระซาบกันว่าโลกนี้ช่างแคบนัก และยังกล่าวอีกว่าองค์ชายรัชาทายาทคนนั้นสมกับเป็นเชื้อพระวงศ์ยิ่งกว่าเซี่ยเหลียน และคงไม่มีทางทำอะไรน่าอับอายลับหลังผู้คนเหมือนกันแน่นอน ที่คนอื่นพูดเช่นนั้นเป็นเพราะเทพองค์นั้นคือหลางเชียนชิว เทพสงครามแห่งทิศตะวันออก ผู้เป็นองค์ชายรัชทายาทแห่งอาณาจักรหย่งอัน อาณาจักรที่ก่อกบฏจนทำให้อาณาจักรเซียนเล่อต้องล่มสลายนั่นเอง
มีเสียงเรียกองค์ชายรัชทายาทดังขึ้นอีก แต่ในคราวนี้อีกฝ่ายเรียกเซี่ยเหลียนจริงๆ และคนๆ นั้นคือหลิงเหวิน เซี่ยเหลียนได้ทราบจากอีกฝ่ายว่าโทษที่เผยซู่จะได้รับคือการเนรเทศซึ่งเขาที่ผ่านการตกสวรรค์สองรอบไม่ได้เห็นว่าเป็นเรื่องเลวร้ายนัก เพราะอย่างไรก็ยังมีโอกาสกลับขึ้นสวรรค์อีกครั้งได้ เขาถามเทพสาวว่าพอได้ข่าวเรื่องของเด็กชายผ้าพันแผลที่เขาฝากเรื่องไว้หรือเปล่า แต่เธอก็ยังไม่สามารถหาข้อมูลได้คืบหน้า จากนั้นทั้งสองก็เดินไปหอมหายุทธ์ด้วยกัน
ภายในหอประชุมเทพทุกคนต่างแยกกลุ่มพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน โดยมีจวินอู๋ในชุดเกราะสีขาวนั่งอย่างสง่างามอยู่บนบัลลังก์ เมื่อมหาเทพเอ่ยทักเซียนเหลียนทุกคนก็มองมาทางเขาเป็นตาเดียว หลิงเหวินผู้ทำหน้าที่เหมือนเลขานุการของสวรรค์เข้าไปรายการจวินอู๋ว่ามีเทพบางองค์ยังลาดตระเวนบนภพมนุษย์จึงไม่สามารถมาร่วมประชุมได้ แต่เนื่องจากพวกเขารายงานมาก่อนแล้ว การประชุมจึงเริ่มขึ้นโดยไม่ติดขัด และเมื่อเซี่ยเหลียนเห็นเทพสงครามหน้าตาหล่อลากดินคนหนึ่งเดินออกมาด้านหน้า เขาก็รู้ในทันทีว่าคนๆ นี้จะต้องเป็นเผยหมิงอย่างแน่นอน
เผยหมิงนำร่างของอาเจาซึ่งเป็นเปลือกเปล่าที่เผยซู่สร้างขึ้นมายังหอประชุม บอกว่าแม่ทัพเผยน้อยเล่าให้เขาฟังว่าที่เส้นทางปั้นเยวี่ยมีเด็กหนุ่มชุดแดงคนหนึ่งอยู่ข้างกายเซี่ยเหลียน แม้การใช้ร่างเปลือกเปล่าจะทำให้ความสามารถของเผยซู่โดยเนิฟลงบ้าง แต่อีกฝ่ายก็ยังสามารถทำให้ร่างปลอมของเทพอาบเลือด และยังจัดการทหารปั้นเยวี่ยได้ในพริบตา เขาจึงต้องการทราบว่าเด็กหนุ่มคนนั้นเป็นใคร แม้จะได้ฟังรายละเอียดเพียงเท่านี้ แต่ดูเหมือนเทพทุกองค์จะพอเดาออกแล้วว่าคนๆ นั้นคือผู้ใดจึงพากันเปลี่ยนสีหน้า ท่าทางคดีเส้นทางปั้นเยวี่ยคงไม่อาจสรุปผลออกมาโดยง่ายเสียแล้ว
.
.
.
.
.
ขอโทษนะมึง กูเพิ่งดูปรมจ.จบ ไม่รู้จะถามมู้ไหน ถ้าผิดช่วยชี้มู้ให้กูด้วย ขอบคุณล่วงหน้า
กูเพิ่งรู้จัก ป๋อกับจ้าน อยากอ่านฟิคป๋อจ้านว่ะ มีใครอ่านฟิคไหม ช่วยแนะนำฟิคสนุก ๆ กูด้วย ตอนนี้อ่านป๋อปอสี่ไปเรื่องเดียว
>>553 ในทวิตมึง เต็มเลยจะป๋อจ้าน จ้านอิง ซีเฉิง ซีเหยา ควานเฉิง สารพัดเลยมึง มหาศาลมึงลองค้นหาดู กูเห็นจบหลายเรื่องล่ะ...ดีๆก็เยอะ
ออกนอกเรื่องมา พวกมึง ช่วงนี้โม่งเงียบจังวะ555 กูรอตามอ่านแล้วเหงามาก ถ้าไม่มีโม่งสปอยกูไม่เหลือเหตุผลให้เข้าโม่งแล้วเนี่ยย พวกมึงวิเคราะห์กันเร็วว
กูมาสปอยต่อแล้ว มีใครรอไหม 555 วันนี้กูงานเยอะ เพิ่งได้มาเรียบเรียงตอนเที่ยงคืนกว่าเอง
สปอยเทียนกวานต่อจาก >>547 เทียนกวาน Part.30
.
.
.
.
.
ขณะที่แม่ทัพเผยพยายามไล่ต้อนเซี่ยเหลียน เทพชุดขาวองค์หนึ่งก็ช่วยแย้งว่าคำพูดของอาชญากรอย่างเผยซู่ไม่น่าเชื่อถือ เผยหมิงจึงขอให้เฟิงซิ่นกับมู่ฉิงผู้เคยปะมือกับฮวาเฉิงเข้าไปดูบาดแผลบนร่างของอาเจาว่าเกิดจากดาบโค้งเอ้อมิ่งของอ๋องผีหรือไม่ แม้ทั้งสองจะมีท่าทีไม่อยากยุ่งด้วย แต่เมื่อถูกถามก็ตอบไปตามตรงว่าน่าจะเป็นฝีมือของอีกฝ่ายจริงๆ เข้าทางเผยหมิงที่ต้องการเบี่ยงประเด็นเพื่อช่วยเผยซู่ ทว่าเทพชุดสีขาวก็กล่าวขึ้นอีกว่าแม่ทัพเผยต้องการใส่ร้ายว่าเซี่ยเหลียนสมคบคิดกับฮวาเฉิงหรือ เมื่อถูกช่วยพูดถึงสองครั้ง เซี่ยเหลียนจึงมองเทพองค์นั้นซึ่งอีกฝ่ายก็ดูคุ้นตาอย่างน่าประหลาด แต่เขาก็จำไม่ได้อยู่ดีว่าเขาเป็นใคร
เผยหมิงกับเทพองค์นั้นพูดกันด้วยคำพูดสุภาพที่ดูแสแสร้งเป็นอย่างมาก ก่อนที่แม่ทัพเผยจะเปิดประเด็นให้นำตัวปั้นเยวี่ยมาพิจารณาคดีด้วยซึ่งไม่แคล้วต้องการโยนความผิดไปให้ราชครูสาวแทน แต่เซี่ยเหลียนก็บอกว่าเทพแห่งลมเป็นพยานได้ว่าเผยซู่ยอมรับความผิดเอง และไม่ว่าชายหนุ่มเสื้อแดงที่อยู่กับเขาจะเป็นฮวาเฉิงจริงหรือไม่ มันก็ไม่ได้ทำให้แม่ทัพเผยน้อยพ้นความผิดแต่อย่างใด เผยหมิงอยากเถียงกลับ แต่มหาเทพห้ามไว้ก่อน แล้วสรุปว่าในเมื่อเผยซู่ความรับความผิดเอง และเค่อหมอก็สารภาพความจริงแล้ว เรื่องราวที่เส้นทางปั้นเยวี่ยถือเป็นที่สิ้นสุด ส่วนเรื่องที่อ๋องผีเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องเขาจะให้คนสืบความให้
เมื่อประมุขสวรรค์กล่าวเช่นนั้นจึงไม่มีผู้ใดโต้แย้งอีก จวินอู๋เชิญให้เทพทุกองค์กลับแต่ให้เซี่ยเหลียนอยู่ที่นี่ก่อน เผยหมิงเข้าไปต่อว่าเทพชุดขาวที่เข้ามายุ่งแต่ก็ถูกอีกฝ่ายตอกกลับทุกประโยค เมื่อทุกคนกลับไปแล้วเซี่ยเหลียนก็รีบคุกเข่าขอโทษจวินอู่ถึงเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นก่อนที่ทั้งสองจะเดินออกมาจากหอปะรชุมด้วยกัน มหาเทพบอกกับเซี่ยเหลียนว่าเขาไม่ถือโทษเรื่องที่เซี่ยเหลียนกระทำในอดีต จากนั้นจึงกลับมาพูดเรื่องของฮวาเฉิงอีก เซี่ยเหลียนอธิบายไปว่าเขาแค่บังเอิญพบกับเด็กชายและใช้เวลาร่วมกันช่วงหนึ่งเท่านั้น ซึ่งมหาเทพก็บอกว่าเขาเชื่อใจเซี่ยเหลียน
จวินอู๋เข้าประเด็นว่าเขาต้องการมอบหมายหน้าที่ให้เซี่ยเหลียนไปสืบเรื่องๆ หนึ่ง เมื่อ 7 วันก่อนมีเพลิงรูปมังกรซึ่งเป็นสัญญาณขอความช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่สวรรค์ซึ่งตกอยู่ในอันตรายลุกโชติช่วงขึ้นเหนือฟ้าที่ป่าทางทิศตะวันออก ที่วันนี้เขาเรียกเทพทุกองค์มาประชุมเรื่องเส้นทางปั้นเยวี่ยก็เพื่อดูด้วยว่าเทพองค์ใดที่ไม่สามารถมาได้ แต่นอกจากเทพแห่งฝนกับเทพแห่งดินผู้ไม่มาร่วมงานประชุมเป็นประจำ เทพองค์อื่นที่ไม่ได้มาต่างก็รายงานมาให้ทราบก่อนแล้ว ทำให้เขาใม่รู้ว่าเจ้าหน้าที่ผู้ขอความช่วยเหลือคนนั้นเป็นใคร และหากเป็นเทพที่เกษียณไปแล้วก็จะยิ่งตามหาความจริงได้ยากยิ่งขึ้นไปอีก
เซี่ยเหลียนเสนอความเห็นว่าเทพองค์นั้นอาจเผชิญหน้ากับผีปีศาจที่พลังแกร่งกล้า จวินอู๋จึงบอกว่าจุดที่เจ้าหน้าที่คนนั้นส่งสัญญาณมาอยู่ใกล้กับเมืองผี เมืองผีเป็นเมืองที่พลุกพล่าน นอกจากภูตผีแล้วนักพรตวิชากล้าแกร่งบางคนก็อาจเข้าไปหาข้อมูลข่าวสารที่นั่น บางทีก็มีเจ้าหน้าที่สวรรค์ไปที่นั่นด้วยกิจส่วนตัว แต่บางคนก็อาจพลัดหลงเข้าไปโดยไม่ตั้งใจจนถูกทำร้าย และเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายไหวตัวทัน มหาเทพจึงอยากลอบส่งคนเข้าไปสืบหาความจริงภายในเมืองซึ่งคนที่เขาคิดถึงคนแรกคือเซี่ยเหลียน แต่หากส่งเซี่ยเหลียนเข้าไป เขาก็จำเป็นต้องส่งหลางเชียนชิวผู้ดูแลทิศตะวันออกไปด้วย อีกทั้งเจ้าของเมืองผีก็คือฮวาเฉิง ซึ่งเขาก็ไม่อยากให้เซี่ยเหลียนต้องผิดใจกับอีกฝ่าย
เซี่ยเหลียนยืนยันที่จะรับงานนี้ จวินอู๋จึงเตือนให้เขาระวังฮวาเฉิง และให้เซี่ยเหลียนเลือกเทพองค์อื่นไปช่วยงานคนหนึ่ง เซี่ยเหลียนอยากได้คนที่นิสัยเข้ากันได้ และยอมให้เขายืมพลังทิพย์โดยไม่อิดออด มหาเทพเลยเอ่ยถามว่าเซี่ยเหลียนได้คุยกับเฟิงซิ่นกับมู่ฉิงบ้างหรือยัง นอกจากนี้เขายังได้ยินมาว่าเซี่ยเหลียนทำตำหนักของเพิ่งซิ่นพังด้วย เซี่ยเหลียนกระแอมไอบอกว่าด้วยงานคดีเจ้าบ่าวผีที่จวินอู๋ให้หลิงเหวินช่วยหาให้ ทำให้เขาชดใช้หนี้ได้หมดแล้ว แต่จวินอู๋บอกว่าความจริงเป็นเพราะเฟิงซิ่นบอกกับหลิงเหวินว่าเขาไม่ขอรับค่าชดใช้ใดจากเซี่ยเหลียน และมหาเทพก็บอกให้เซี่ยเหลียนทำเป็นไม่รู้ต่อไปเพราะทางนั้นบอกให้หลิงเหวินเก็บเป็นความลับจากเซี่ยเหลียน จากนั้นจวินอู๋ก็เสนอชื่อของเทพแห่งลมขึ้นมา
.
.
.
.
.
จะว่าไปเวอร์ชันซีรีย์ การที่ท่านเทพแห่งลมชอบ genderswap มันจะเข้าข่ายข้อต้องห้ามที่ทางจีนแบนหรือเปล่าวะ เพราะว่ามันก็ชายชอบแต่งหญิงอย่างหนึ่ง แต่อันนี้แฟนตาซีตรงที่เปลี่ยนเพศไปเลยจริงๆ แล้วมีหลิงเหวินอีกคนที่ genderswap เป็นระยะๆ ด้วย
>>566 หูยยยยยยยย มีซีรีส์จริงดิ กูตกข่าว ขอบคุณมึงมากที่มาบอกข่าวดี
มีแพลม ๆ ออกมาบ้างยังอ่ะ ว่าแคสใครไว้แล้วบ้าง
จ้างนักแสดง 2 คนต่อ 1 คลค. แล้วเปลืองกว่าจริงๆ ถ้ากูเป็นผู้กำกับคงแอบเลวด้วยการให้โผล่มาในรูปอื่นที่ไม่ใช่ร่างจำแลง เช่น แผ่นยันต์ ลมหมุนที่มาแต่เสียง นกพิราบ ฯลฯ ลดต้นทุน 555
เผลอๆ ท่านเทพลมอาจโดนลดบทเปลี่ยนให้เป็นผู้หญิงหรือผู้ชายเพศเดียวไปเลย...ถ้างั้นกูจะเสียใจมาก 5555555555
ใครสั่ง ปรมจ2 กับ บกร. ไปบ้าง ได้หนังสือหรือยัง เห็นว่าเริ่มจัดส่งตามคิวแล้วแต่ของกูยังเงียบกริบไม่ได้รับแม้แต่เมล เลยสงสัยว่ายังไม่ถึงคิวกูหรือ สนพ.ลืมกู -*-
สปอยเทียนกวานต่อเน้อ ต่อจาก >>556 เทียนกวาน Part.31
.
.
.
.
.
จวินอู๋บอกว่าเทพแห่งลมมีพลังแข็งกล้า ทั้งยังมีนิสัยร่าเริงชอบผูกมิตรใหม่ และเมื่อดูจากที่อีกฝ่ายช่วยเหลือเซี่ยเหลียนที่เส้นทางปั้นเยวี่ยแล้วก็น่าจะตรงตามเงื่อนไขที่เซี่ยเหลียนต้องการ ทั้งสองคุยกันอีกเล็กน้อยก่อนที่มหาเทพจะไปตามเทพแห่งลมให้ เซี่ยเหลียนจึงไปรออีกฝ่ายที่หน้าประตูสวรรค์เพื่อเตรียมลงไปยังภพมนุษย์ด้วยกัน ทว่าคนที่เดินมาหาเขากลับไม่ใช่สตรีในชุดนักพรต แต่เป็นเทพในชุดขาวที่ช่วยพูดในหอประชุมคนนั้น อีกฝ่ายชวนเขาออกเดินทางอย่างกระตือรือร้น เซี่ยเหลียนเลยบอกคนตรงหน้าว่าเขากำลังรอเทพแห่งลมอยู่ เทพองค์นั้นมีสีหน้างุนงง บอกว่าเขาก็อยู่นี่แล้วไงล่ะ
เทพชุดขาวกางพัดที่มีตัวอักษร เฟิง (ลม) ซึ่งเป็นพัดเล่มเดียวกับที่เขาเห็นเทพหญิงใช้ที่แคว้นปั้นเยวี่ย ฝูเหยาเคยบอกว่ามีเทพบางองค์เชี่ยวชาญการจำแลงกาย และหนานเฟิงก็บอกว่าเขาไม่เคยเห็นเทพแห่งลมในรูปลักษณ์นี้มาก่อน... ความจริงแล้วเทพแห่งลมเป็นผู้ชาย เซี่ยเหลียนที่ยังไม่อาจยอมรับความจริงได้ทันทีจึงถามอีกฝ่ายว่าเหตุใดคราวก่อนจึงได้ใช้ร่างของสตรี แต่เทพแห่งลมกลับถามกลับว่าตอนนั้นเขาไม่สวยหรือ เพราะเขามั่นใจว่าร่างจำแลงของเขางดงามมาก
เทพแห่งลมมีชื่อว่าซือชิงเสวียน ด้วยความที่เป็นคนเข้ากับคนง่ายและใจกว้างทำให้เขาค่อนข้างเป็นที่นิยมชมชอบบนสวรรค์ อีกทั้งซืออู๋ตู้ เทพแห่งน้ำ เจ้าของฉายาทรราชย์วารีผู้เป็นพี่ชายร่วมอุทรของเขาก็เป็นเทพที่บันดาลความมั่งคั่งให้แก่มนุษย์ ทำให้ซือชิงเสวียนสามารถเปย์กุศลได้อย่างชิลๆ ไม่คิดมาก การที่พี่น้องสามารถขึ้นสวรรค์ได้ทั้งสองคนเช่นนี้ก็เป็นเรื่องโคตรแรร์ยิ่งกว่าสุ่มกาชาได้ UR แถมเป็นเมนตัวเอง ผู้คนจึงมักกราบไหว้เทพทั้งสองคู่กัน และดูเหมือนที่เผยหมิงไม่กล้าทำอะไรซือชิงเสวียนจะเป็นเพราะซืออู๋ตู้
ซือชิงเสวียนอธิบายว่าซืออู๋ตู้เป็นเพื่อนกับเผยหมิง แต่เขาไม่อยากให้พี่ชายคบหากับอีกฝ่าย จะได้ทิ้งชื่อ 3 เนื้อร้ายไปเสียที พอเซี่ยเหลียนไม่รู้ว่าหมายถึงอะไรเทพแห่งลมก็ตกใจก่อนบอกว่า 3 เนื้อร้ายเป็นฉายาที่ถูกตั้งให้เจ้าหน้าที่สวรรค์ 3 คนซึ่งไม่ค่อยเป็นที่ชมชอบของคนอื่นเลยมาสนิทกันเอง สมาคมคนเพื่อนน้อยนี้ประกอบด้วยเผยหมิง หลิงเหวิน และซืออู๋ตู้ แล้วเขาจึงกลับมาพูดเรื่องเส้นทางปั้นเยวี่ยว่าถึงเขาคนเดียวจะรับมือเผยหมิงไม่ได้ แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็จะไม่ยอมให้แม่ทัพเผยโยนความผิดของเผยซู่ไปให้ราชครูปั้นเยวี่ยเด็ดขาด ก่อนหน้านี้เขาก็เคยได้ยินข่าวเรื่องเส้นทางปั้นเยวี่ยมาบ้างแต่ถูกพี่ชายห้ามเข้าไปยุ่ง พอได้ยินเซี่ยเหลียนถามเรื่องนี้ในเครือข่ายโทรจิตก็เลยถือโอกาสเข้ามามีส่วนร่วมด้วย
เซียเหลียนรู้สึกถูกชะตากับซือชิงเสวียนจึงยิ้มอย่างมีความสุขที่ได้ผูกมิตรกับด้วย แต่จู่ๆ อีกฝ่ายก็เปลี่ยนร่างเป็นผู้หญิง เทพแห่งลมบอกว่าเมื่อใช้รูปลักษณ์นี้เขาจะมีพลังแกร่งกล้าขึ้น ซึ่งมีเหตุผลมาจากการที่เขาถูกกราบไหว้คู่กับพี่ชาย จนวันหนึ่งเหล่าผู้ศรัทธาที่รู้สึกแปลกๆ กับการบูชาผู้ชายสองคนในที่เดียวกันก็ได้เปลี่ยนประวัติของซือชิงเสวียนเป็นเทพธิดาแทน บางตำนานทั้งสองก็เป็นคู่พี่ชายน้องสาว แต่บางตำนานก็กลายเป็นคู่สามีภรรยาจนทำเอาสองพี่น้องขนลุก แต่เรื่องนี้เป็นที่เข้าใจของเซี่ยเหลียนเพราะเขาก็ทราบว่าหลิงเหวินเองก็มีร่างจำแลงเพศชายเพราะหลายคนมองว่าเทพวรรณกรรมที่ส่งเสริมดวงด้านการงานควรเป็นบุรุษมากกว่า ไม่ว่าความจริงจะเป็นอย่างไร แต่เทพก็จะมีพลังมากขึ้นเมื่ออยู่ในรูปลักษณ์ที่ผู้คนเชื่อว่าเป็นอย่างนั้น
ดูเหมือนซือชิงเสวียนจะไม่ได้สนใจเรื่องที่ตัวเองถูกเปลี่ยนเพศ ทั้งยังดูสนุกเสียอีก ขณะที่เซี่ยเหลียนกำลังคิดว่าสตรีชุดดำที่อยู่กับอีกฝ่ายที่เส้นทางปั้นเยวี่ยเป็นใคร เทพแห่งลมก็หันมาชักชวนให้เขาปลอมตัวแต่งหญิงด้วยกัน ทั้งยังพยายามยกเหตุผลต่างๆ มาสนับสนุนความคิดของตน แต่เซี่ยเหลียนก็ปฏิเสธไป และในที่สุดทั้งสองก็มาถึงทุ่งกว้างแห่งหนึ่งในภพมนุษย์
.
.
.
.
.
>>571 กูได้ละนะ ตามคิวโอนอ่ะ กูโอนวันแรกเลย 5555
ถามหน่อยไม่รู้ถามมู้ไหนได้บ้าง ตอนนี้กูพึ่งเริ่มติ่งนสด ละกูไม่เข้าใจวัฒนธรรมเอารูปมาโพสต่อเป็นทอดๆในทวิตมากเลยอ่ะ คือในแท้กจะเจอรูปเดียวกันซ้ำๆ ถ้าเป็นทวิตบ้านใหญ่ๆอันนี้เข้าใจว่าเค้าน่าจะมีแหล่งของเค้า ไม่ว่าจะเอามาจากเวยป๋อจีน หรือ ไปถ่ายมาเอง แต่กูไม่เข้าใจแอคที่เซฟรูปเดิมๆมาโพส สองสามแอดที่โพสๆรูปนี่คือไหลตาม TL ติดกันเลยอ่ะมึง ถ้าปกติกูจะได้พยายามทำความเข้าใจ
Ky มีใครรู้บ้างวะว่าเลขพัสดุที่บกรให้มันของบ.ขนส่งไหน
คือเอาจริง ควรแจ้งในเมลป้ะวะว่าให้เช็คที่ไหน กุจิ้มมาสามสี่บ.แล้วไม่พบพัสดุสักอันเลย ทั้งที่เล่ม 1 ก็บอกได้แท้ๆ ว่าส่งกะเคอรี่ แล้วกุต้องทำไง กุไม่ได้อยู่บ้านด้วยจะรู้ตัวไหมว่าวันไหนต้องลงไปเอาของ
กูอยากเห็นเซี่ยเหลียนแต่งหญิง ทำไมไม่รับปาก 555
>>572 สมาคมคนเพื่อนน้อย โอ๊ย เอ็นดู5555555
ยิ่งแม่ทัพเผยหมิงที่ชื่อโผล่แต่แรกในออร่าตัวร้ายตัวน่ารำคาญเอาเข้าจริงแมร่งมีแต่ออร่าน่ารังแก 555555
.
.
.
.
.
.
.
แต่สำหรับกูที่เพิ่งอ่านพาร์ทเฮ่อเสวียนมา กูยังปรับอารมณ์กับเทพลมไม่ได้ว่ะ แล้วยิ่งที่บอกว่าทั้งพี่ทั้งน้องขึ้นสวรรค์คู่เป็นเคสแรร์กว่าสุ่มกาชา UR แล้วชีวิตดันดี๊ดี กูยิ่งกระอักแสลงตาแสลงใจ
.
.
.
.
.
.
.
>>578 .
.
.
.
.
.
.
.
.
กูเลยไม่อินคู่นี้เลยว่ะ ถ้าคิดว่าเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น เจอคนนิสัยแบบชิงเสวียนไปนี้กูเกลียดกว่าเดิมนะ ชิงเสวียนไม่รู้เรื่อง ไม่ผิดหรอก ผิดที่พี่ชาย แต่มันแสลงใจแบบที่เพื่อนโม่งว่าอ่ะ ยิ่งอยู่ใกล้ยิ่งแค้นขึ้นอีก แถมเฮ่ยสุ่ยเคยมีคนรักอยู่แล้วด้วยนะ แล้วทั้งคนรักทั้งครอบครัวที่นิสัยดีมากๆ น่ารักมากๆ ต้องมาตายเพื่อให้คนที่ลั้ลล้าไม่ต้องอาศัยความพยายามแบบนี้ ถ้าเป็นกูเอง กูเกลียดมากขึ้น
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
อาร์คน้ำดำแม่ง ทำกูกระอักกระอ่วนต้องพักจากการอ่านเรื่องนี้ไปหลายวันเลย อยากอ้วก อึดอัด55555555
ถึงจะรู้สปอยอยู่แล้วก็เถอะ แต่อ่านเองมันจุกกว่าหลายเท่า ดีที่ยังมีฮวาเหลียน ไม่งั้นคนจิตใจอ่อนแออย่างกูคงอ่านต่อไม่ไหวว่ะ 5555555
(แล้วก็ไปตายกับพาร์ทต่อๆ ไปอีกสองสามรอบ)
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
Ky พวกมึงๆ น้องเนี่ยพี่เนี่ย มีตอนไหนที่เจอกับเจียงเฉิง เว่ยอิงเยอะๆบ้างไหม คือ เท่าที่กูเห็นมีแต่คาราวะกันไม่ค่อยได้พูดกันเท่าไหร่ ถ้าพี่เนี่ยน้องเนี่ยกูคิดออกแค่จินกวงเหยากับซีเฉิน55
>>572 ขอบคุณนะโม่งสปอย เซี่ยเหลียนน่าจะเออออไปกับชิงเสวียนด้วยนะ ถ้าเซี่ยเหลียนยอมเล่นด้วย ฮวาเฉิงต้องเล่นตามแน่ๆ แล้วเราก็ได้เห็นทุ่งลิลลี่สีขาวแดง
>>576 กูว่าไม่ได้ใจร้ายอะ สมควรแล้ว แต่ถ้าเทียบกับหลิงเหวินกับพี่ตู้ ลุงเผยนั้น LV.ความมะเร็งต่ำมาก ดูน่ารักน่าเอ็นดู(aka น่ารังแก)ไปเลย
>>586 เราจะรังแกลุงด้วยความรักให้มากพอๆ กับความรักที่ลุงแจกจ่ายให้เหล่ากิ๊กลุงค่ะ (●'◡'●)ノ♥ ส่วนเฮ่อเสวียนชิงเสวียนนั้น...
.
.
.
.
.
.
.
.
กูทำใจจิ้นคู่นี้ไม่ลงจริงๆ ว่ะ กูว่าเฮ่อเสวียนน่าจะรักคู่หมั้นมากด้วยแหละ แต่ก็คงมีความผูกพันกับชิงเสวียนอยู่บ้าง ยังไงก็เคยเป็นเพื่อนกัน(ถึงฝ่ายนึงจะเสแสร้งก็ตาม) มิตรภาพกับความจริงใจที่ชิงเสวียนเคยให้อาจช่วยให้ปล่อยวางเลิกราวีได้ก็จริงแต่กูว่าเรื่องหยุดแก้แค้นกับการให้อภัยมันคนละเรื่องว่ะ ถ้าแค้นแต่ก็ทำใจจองล้างจองผลาญให้ถึงที่สุดไม่ลงคงกลายเป็นเสี้ยนตำใจที่บ่งไม่ออกเข้าไปอีก ฝ่ายชิงเสวียนก็คงรักคนที่ทำกับพี่ชายตัวเองแบบนั้นไม่ลงด้วย ความสัมพันธ์มันหยุดที่มิตรภาพตั้งแต่แรกแล้วจากนั้นกราฟก็ดิ่งเหวพร้อมกับความฉิบหายวายวอด กูเลยไม่มีความคิดว่าความรู้สึกของทั้งสองคนจะพัฒนาไปในทางเรื่องรักๆ ได้เลย ถ้าจะให้จิ้นคู่นี้กูยิ่งกระอักกระอ่วนว่ะ... แต่ก็เข้าใจคนที่จิ้นนะ มัน Angst ตับแหกทำร้ายจิตใจได้โหดร้ายเหมาะกับคนชอบดราม่า และ Bad Romance หรือถ้าจิ้นแบบโรยน้ำตาลเข้าไปหน่อยก็พอจะช่วยเยียวยาจิตใจจากในเนื้อเรื่องออริได้
.
.
.
.
.
.
>>589
.
.
.
.
.
ส่วนตัวกูก็ไม่ได้มองคู่นี้แบบโรมานซ์นะ มองเป็นรักแบบมิตรภาพ แต่เพราะว่าแม่โม่เคยให้สัมภาษณ์ว่าหลังจากเรื่องราวทั้งหมดจบลง เฮ่อเสวียนยังแอบตามคอยดูชิงเสวียนอยู่ห่างๆ แต่ก็ไม่ปรากฏตัวให้อีกฝ่ายเห็นอีกเลย แสดงว่ายังเป็นห่วงชิงเสวียนอยู่ หลังจากจัดหนักเฮียตู้ไป ความแค้นคงลดไปเยอะแล้ว ส่วนตัวกูจิ้นคู่นี้ แต่จะจิ้นในช่วงที่ยังไม่รู้ความจริงให้เป็นแบบมิตรภาพเพื่อนสาว (?) หรือ AU ไปเลยมากกว่า แล้วก็อดคิดไม่ได้ว่าถ้าชิงเสวียนตาย เฮ่อเสวียนจะไปสู่สุขคติหรือเปล่า เพราะไม่มีห่วงในโลกนี้แล้ว ทั้งแก้แค้นได้ คนที่ห่วงคนสุดท้ายก็ไม่อยู่ ยกเว้นจะนับเหล่าปลาน้อยที่เลี้ยงไว้เข้าไปด้วย
.
.
.
.
.
>>593 มีเขียนไว้ทั้งหน้าของเฮ่อเสวียน กับซือชิงเสวียน
https://heaven-officials-blessing.fandom.com/wiki/He_Xuan
https://heaven-officials-blessing.fandom.com/wiki/Shi_Qingxuan
>>594 ขอบคุณมาก พอดีกูไปดูwikiaอีกเวบ(tianguancifu) ที่มันยังเปล่าๆมา
แต่ในนิยายไม่ได้บอกซักหน่อย นอกจากซ่อมพัดมาคืนให้ ตอน****เฮ่อสุ่ยก็จำศีลอยู่ ไม่ได้มาดูแลอะไรเลย
ที่มาตอน***ก็เพราะ***ขอให้มาแทนที่ให้ มาอีกทีก็ตอนจบที่มากินฟรีที่ศาล
จะพูดถึงสัมภาษณ์โม่เซียงกูว่ากูก็ไม่เคยเห็นเค้าพูดแบบนี้เลยนะ เลยต้องรบกวนถามที่มาว่ามาจากไหน
>>594 >>595 >>596 wiki มันมีหลายเว็บน่ะ บางเว็บมันก็กาวอะพวกมึง บางคนเขียนแบบอิงค.ห.ตัวเองเข้าไปด้วย ไม่ได้ใส่แค่ Fact อย่างเดียว กูยังเคยเห็นผ่านตาเว็บนึงว่าเฮ่อเสวียนชิงเสวียนมีดราม่ากันเพราะเรื่องเข้าใจผิดด้วย เข้าใจผิดกะผีสิ เหตุการณ์ก็เกิดขึ้นจริง ความเจ็บปวดของเฮ่อเสวียนก็ของจริง ต้องใส่ฟิลเตอร์หนาขนาดไหนวะถึงเขียนออกมาว่าผิดใจกันเพราะเรื่องเข้าใจผิด
วิกิมันก็กาวอยู่แล้วล่ะ เคยอยู่ด้อมนึง แม่งเขียนคาร์analysisยาวมาเป็นพรืดเลย ไม่มีอันไหนที่อฟช.บอกมาโต้งๆ ซักอย่าง555555555555555
สปอยเทียนกวานต่อจาก >>572 เทียนกวาน Part.32
.
.
.
.
.
เซี่ยเหลียนกับซือชิงเสวียนปลอมตัวเป็นผีชายหญิงปะปนไปกับผีสาวกลุ่มหนึ่งจนสามารถเข้าไปในเมืองผีได้ ตลาดผีเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยสีสัน และความดิบเถื่อน ร้านรวงต่างๆ ตั้งเต็ม มีทั้งผี มนุษย์ ปีศาจเดินควักไขว่ พอเซี่ยเหลียนมองอาหารตามแผงลอยที่มีหน้าตาไม่น่ากิน และชวนสยดสยองอย่างยิ่งก็เกิดความมั่นใจในตัวเองขึ้นมา แต่แล้วเขาก็พลัดหลงกับซือชิงเสวียนที่ถูกบรรดาผีสาวพาไปหาร้านทำหน้าใส แถมดูเหมือนเครือข่ายโทรจิตของสวรรค์จะไม่สามารถใช้งานในเมืองผีได้อีกด้วย ระหว่างที่เขากำลังเดินหาอีกฝ่ายจู่ๆ ก็มีมือข้างหนึ่งจับเขาเอาไว้
คนที่หยุดเขาเป็นสตรีแต่งกายฉูดฉาดโชว์เนินอกอวบอิ่ม และประทินหน้าด้วยเครื่องสำอางหนาเตอะ เธอพยายามชักชวนเซี่ยเหลียนไปใช้บริการ ซึ่งเขาก็พยายามปฏิเสธอย่างสุภาพ แม้อีกฝ่ายจะแหวกเสื้อผ้าโชว์นมมากขึ้น แต่เซี่ยเหลียนผู้ฝึกตนมานานมีใจแข็งกล้าดุจหินผาจึงไม่เผลอตัวปล่อยใจไปกับสิ่งยั่วยวน ถึงอย่างนั้นหญิงสาวก็ยังตื้อเขาไม่เลิก เซี่ยเหลียนจึงต้องใช้ท่าไม้ตายบอกไปว่าเขาไม่ขัน ทำเอาผู้คนในตลาดบริเวณนั้นหัวเราะลั่น แต่อย่างน้อยเขาก็สลัดผู้หญิงคนนั้นได้ ในขณะที่เธอหันไปมีเรื่องกับพ่อค้าขายเนื้อแทน เขาก็ได้ยินเสียงผู้คนตะโกนว่า ผีสาวหลันฉางก่อเรื่องอีกแล้ว
เซี่ยเหลียนเดินไปพบกับอาคารสีแดงตกแต่งหรูหราซึ่งมีผู้คนเดินเข้าออกตลอดเวลา เมื่อเข้าไปใกล้จึงได้ทราบว่าที่นี่คือบ่อนการพนัน แล้วก็เหมือนมีอะไรดลใจให้เขาเดินเข้าไปข้างใน พนักงานหญิงคนหนึ่งเดินมาตอนรับเขา ถึงเซี่ยเหลียนจะบอกว่าตนไม่มีเงิน แต่พนักงานก็บอกว่าสามารถใช้สิ่งอื่นได้ เมื่อเห็นชายคนหนึ่งถูกตัดขาทั้งสองข้างก่อนโดนอุ้มออกไปเขาก็พอเข้าใจแล้วว่าสิ่งอื่นคืออะไร จากนั้นพนักงานก็เดินนำเขาเข้าไปที่ห้องพนันห้องหนึ่ง เสียงเกียจคร้านของคนที่อยู่ตรงนั้นทำให้หัวใจของเซี่ยเหลียนกระตุกเพราะมันคือเสียงของฮวาเฉิง และเมื่อเขามองฝั่งด้านในสุดของโต๊ะยาวซึ่งมีม่านกั้น เขาก็เห็นเงาร่างสีแดงกำลังนั่งด้วยท่าทีสบายๆ บนเก้าอี้ยาว
เซี่ยเหลียนเดินแหวกผู้คนจนสามารถเข้าไปถึงโต๊ะตัวนั้น ผู้ที่กำลังพนันกับอ๋องผีเป็นมนุษย์ซึ่งหน้าตาซีดขาวยิ่งกว่าผีในห้อง แม้เขาจะเสนอชีวิตหรือแขนขาของตน อีกฝ่ายก็บอกว่ามันไม่มีค่าพอกับโชคด้านธุรกิจที่ร้องขอมา เขาจึงเสนออายุขัย 10 ปีของลูกสาวของตนแทน คราวนี้ฮวาเฉิงยอมรับเงื่อนไข หลังจากทอดลูกเต๋าผลก็ออกมาว่าชายคนนั้นชนะ ทว่าเขากลับยังไม่พอใจและอยากให้คู่แข่งทางการค้าของเขาทุกคนต้องมีอันเป็นไป และขอใช้อายุขัย 20 ปีของลูกสาวและคู่ชีวิตของเธอในการลงพนันครั้งนี้ ทำเอาทุกคนในห้องส่งเสียงฮือฮา
ระหว่างที่ชายคนนั้นกำลังเขย่าถ้วยลูกเต๋า ถึงแม้เซี่ยเหลียนจะไม่คิดว่าฮวาเฉิงจะปล่อยให้การพนันเห็นแก่ได้นี้ดำเนินต่อ เขาก็ยังคิดหาวิธีแอบแทรกแซงเกมอยู่ในใจ ตอนนั้นเองซือชิงเสวียนซึ่งกลับมาใช้ร่างผู้ชายแล้วก็มาจับตัวเขาไว้ พร้อมบอกว่าอย่าได้หุนหัน เทพแห่งลมเล่าว่าผีสาวเหล่านั้นลากเขาเข้าร้านเสริมสวยหลายร้าน หน้าของเขาก็โดนตบเครื่องสำอางค์อะไรไม่รู้มากมายจึงเปลี่ยนร่างคืนเพื่อหนีมา เขาขอให้เซี่ยเหลียนช่วยดูใบหน้าให้ว่าเป็นอะไรหรือเปล่า แต่เมื่อเซี่ยเหลียนบอกว่าผิวของอีกฝ่ายดูเนียนขึ้น ซือชิงเสวียนก็รู้สึกยินดีแทบอยากหาคันฉ่องมาส่องเดี๋ยวนั้น
เซี่ยเหลียนถามอีกฝ่ายว่ารู้ได้อย่างไรว่าเขาอยู่ที่นี่ ซือชิงเสวียนตอบว่าเขากับหลางเชียนชิวนัดมาเจอกันที่บ่อนนี้ แล้วก็มาเจอกับเซี่ยเหลียนเข้าพอดี เซี่ยเหลียนไม่แปลกใจนักที่หลางเชียนชิวจะมาด้วยเพราะจวินอู๋เกริ่นไว้แล้ว เขาหันมาบอกซือชิงเสวียนเกี่ยวกันชายที่กำลังพนันอยู่ แต่เทพแห่งลมเตือนว่าอย่างไรที่นี่ก็เป็นที่ของฮวาเฉิง หากเข้าไปยุ่งแม้แต่สวรรค์ก็ช่วยเหลืออะไรไม่ได้ หากเกิดอะไรขึ้นค่อยหาวิธีแก้ไขทีหลัง เซี่ยเหลียนรู้สึกเห็นด้วย แต่ในตอนที่ถ้วยลูกเต๋ากำลังจะถูกเปิดก็มีใครบางคนพุ่งเข้ามาปิดถ้วยลงพร้อมบดมันแตกไปพร้อมกับมือของชายที่ลงพนันคนนั้น
.
.
.
.
.
มึงกุเห็นคุณป. สปอยฉากพี่วั่งเรดิโอ ดราม่า กูอนากรู้ว่าเว่ยอิงในนิยายตายยังไง คาใจมาก ใครก็ได้สปอยที ยังไม่ได้อ่านนิยาย
สปอยเทียนกวานต่อจาก >>602 เทียนกวาน Part.33
.
.
.
.
.
ชายที่ลงพนันร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด และทุกคนในห้องก็โวยวายขึ้นมาทันที ทว่าผู้มาใหม่หาได้สนใจ เขาด่าชายที่อยากเอาชีวิตคู่แข่งทางการค้า และใช้อายุขัยของลูกสาวตัวเองกับคู่ชีวิตมาเดิมพัน เขาคือหลางเชียนชิว เห็นดังนั้นเซี่ยเหลียนกับซือชิงเสวียนก็พากันเอามือปิดหน้าอย่างเหนื่อยใจที่ฝ่ายนั้นก็ทำตัวเป็นพระเอกการ์ตูนโชเน็นเลือดร้อนผู้รักความยุติธรรมทั้งๆ ที่ลอบเข้ามาในเมืองกันอยู่ สถานการณ์เลวร้ายลงเรื่อยๆ แถมฮวาเฉิงยังพูดข่มขู่ราวกับรู้ว่าหลางเชียนชิวคือเจ้าหน้าที่สวรรค์ ทว่าตัวก่อเรื่องดันไม่รู้ตัว ฮวาเฉิงปัดมือเล็กน้อยโต๊ะพนันก็ลอยใส่หลางเชียนชิว เทพหนุ่มใช้สองมือดันกลับ แต่เพียงอ๋องผีขยับมือโต๊ะตัวนั้นก็ระเบิด แล้วเศษไม้ก็พุ่งเข้าใส่หลางเชียนชิว
หลางเชียนชิวรู้ตัวว่าร่างมนุษย์ไม่อาจรับมือคนตรงหน้าได้ก็เกือบจะปล่อยบังไคกลับร่างเดิม โชคดีที่ยังนึกทันว่าต้องปลอมตัวทำภารกิจเลยเก็บพลังกลับ ฮวาเฉิงได้โอกาสใช้พลังดันเทพหนุ่มลอยไปติดกับเพดานห้อง ทั้งพลังทิพย์ยังถูกปิดกั้นจนนึกจะใช้พลังเทพก็ไม่ได้แล้ว ผู้คนต่างหัวเราะเยาะหลางเชียนชิวที่พยายามขยับร่างกายแต่ไม่สามารถทำได้ ตอนนั้นเองฮวาเฉิงก็ประกาศว่าหากผู้ใดเล่นพนันชนะเขาก็เอาเจ้าหนุ่มคนนี้กลับบ้านไปต้มยำทำแกงได้เลย เซี่ยเหลียนกับซือชิงเสวียนจึงต้องเข้าร่วมวงพนันเพื่อช่วยหลางเชียนชิว
เซี่ยเหลียนหันไปถามดวงด้านโชคของเทพแห่งลมเพราะตัวเขานั้นโชคติดลบ ไม่ว่าจะทอยลูกเต๋ากี่ครั้งก็ออกแค่แต้ม 1 ซือชิงเสวียนเลยแนะนำให้กลับกฎเป็นผู้ชนะคือผู้ที่ได้แต้มต่ำที่สุด ทว่าเมื่อเซี่ยเหลียนทอยลูกเต๋ากลับได้แต้ม 6 ทั้งสองลูก เห็นดังนั้นเทพแห่งลมก็อดคิดไม่ได้ว่าอย่างนี้เข้าไปบวกเลยน่าจะมีโอกาสชนะมากกว่า ตอนนั้นพนักงานหญิงก็ประกาศหาผู้ที่ต้องการลงเดิมพัน เซี่ยเหลียนที่ไร้ทางถอยจึงเสนอตัวออกไป และเมื่ออ๋องผีได้ยินเสียงของเขา อีกฝ่ายก็ลุกขึ้นยืนในทันที
เซี่ยเหลียนรับถ้วยลูกเต๋ามาเขย่า เหลือบมองหลางเชียนชิวที่ส่งสายตาขอบคุณมาให้ แต่ในตอนที่เขาจะเปิดถ้วยออกนั่นเอง พนักงานหญิงก็บอกให้หยุดเนื่องจากอ๋องผีกล่าวว่าเขาเขย่าถ้วยผิดวิธี จึงเรียกให้เขาเข้าไปใกล้เพื่อสอนวิธีที่ถูกต้องให้ ทุกคนในห้องเริ่มซุบซิบกันว่าฮวาเฉิงต้องการอะไร และการเขย่าถ้วยมีวิธีที่ถูกต้องด้วยหรือ เซี่ยเหลียนหยิบถ้วยเข้าไปใกล้ม่าน ก่อนที่มือเรียวยาวขาวซีดซึ่งมีเชือกสีแดงผูกบนนิ้วกลางจะยืนมาประคองถ้วยในมือของเขา เซี่ยเหลียนค่อยๆ เลื่อนสายตาขึ้น เบื้องหน้าของเขาคือชายหนุ่มอายุราว18-19 ปี ในชุดสีแดง แม้ดวงตาข้างขวาจะมีผ้าปิดตาปกปิดไว้ แต่ดวงตาข้างซ้ายนั้นไม่ละออกจากเซี่ยเหลียนเลย
อ๋องผีจับมือของเซี่ยเหลียนเขย่าถ้วยลูกเต๋า บอกว่าตานี้นับเป็นตาของเขาก่อน เมื่อเปิดออกมาก็ได้แต้ม 5 และ 6 สร้างเสียงฮือฮาให้แก่ผู้ชมว่าหรือมันจะวิธีเขย่าถ้วยให้ได้แต้มสูงจริงๆ ฮวาเฉิงบอกให้เซี่ยเหลียนลองทำแบบเมื่อครู่ดู แต่สุดท้ายก็กุมมือของเซี่ยเหลียนสอนเขย่าถ้วยอีก เซี่ยเหลียนรู้สึกถึงความชาที่แผ่จากหลังมือไล่ไปจนทั่วร่างกาย เขาเหลือบมองคนที่อยู่ข้างกัน แล้วก็เห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้มองถ้วยเลยแม้แต่น้อย ตาข้างซ้ายนั้นจับจองมาที่เขาพร้อมริมฝีปากที่โค้งขึ้น และมันก็ทำให้เซี่ยเหลียนยิ้มตอบ
ฮวาเฉิงจับมือสอนเซี่ยเหลียนอีกหลายครั้ง แต่ละครั้งแต้มก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จู่ๆ อ๋องผีก็ถามว่าหากเซี่ยเหลียนแพ้จะให้อะไรกับเขา แต่เซี่ยเหลียนไม่มีอะไรติดตัวนอกจากหมั่นโถวที่กินไปแล้วครึ่งหนึ่ง ทว่าอ๋องผีกลับยอมรับของสิ่งนั้น และยังเรียกเขาว่าเกอเกอ ทำเอาทั้งซือชิงเสวียน หลางเชียนชิว และผู้คนที่อยู่ในห้องอึ้งทั้งหมู่เหล่า ในครั้งนี้เซี่ยเหลียนก็เขย่าได้แต้ม 6 ทั้งสองลูก แล้วฮวาเฉิงจึงประกาศยอมรับความพ่ายแพ้เอง แม้ทุกคนในห้องจะรู้ว่าอ๋องผียอมให้กับนักพรตผู้นี้ แต่ทุกคนก็พร้อมใจแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น เซี่ยเหลียนจึงช่วยหลางเชียนชิวได้สำเร็จ
.
.
.
.
.
มีใครคิดรวบรวมทุกสิ่งที่โม่งสปอย สปอยมะ55 เป็นอนุสรณ์เพื่อที่นี่หาย...
สปอยเทียนกวานกูพิมพ์ใน word ไว้นะ มีแก้ไขคำที่พิมพ์ผิด กับที่สปอยผิดแล้วแก้ในคอมเมนท์อื่นด้วย ถ้าโม่งล่มก็ยังมีไฟล์อยู่ แต่ที่ให้ลงคงต้องดูอีกที
สปอยเทียนกวานต่อจาก >>610 เทียนกวาน Part.34
.
.
.
.
.
ฮวาเฉิงเดินออกมาจากหลังม่าน ผมปล่อยยาวมีลูกปัดสีแดงผูกประดับ 1 เม็ด เซี่ยเหลียนอยากพูดอะไรกับชายเสื้อแดงตรงหน้า แต่ด้วยสายตามากมายที่จับจ้อง ใบหน้าที่แสร้งทำเป็นไม่รู้จักกันของเจ้าเมืองผี และหลางเชียวชิวที่ไม่รู้ว่าจะพูดจาไม่พาทีอีกหรือเปล่า เซี่ยเหลียนจึงกล่าวขอบคุณพร้อมทำท่าจะจากไป ทว่าฮวาเฉิงกลับกล่าวให้เซี่ยเหลียนจ่ายสิ่งเดิมพันมา เพราะตอนที่เซี่ยเหลียนทอดเต๋าโชว์สกิล Luck E ให้ซือชิงเสวียนดูนั้นถือว่าเซี่ยเหลียนพ่ายแพ้ พอเห็นหลางเชียวชิวทำท่าจะเข้าไปบวก เซี่ยเหลียนจึงรีบล้วงหมั่นโถวครึ่งลูกให้อ๋องผี อับอายจนรู้สึกว่าหนังหน้าหนาๆ ที่สั่งสมมา 800 ปีถึงกับแตกร้าว
ทุกคนในห้องพากันเงียบกริบด้วยไม่คิดว่าฮวาเฉิงจะทวงเอาสิ่งนี้ ถ้าไม่ใช่ว่าไอ้หมั่นโถวลูกนี้มีความลับซ่อนไว้ นักพรตคนนี้คงเป็นพี่ชายของอ๋องผีจริงๆ หลังจากนั้นทุกคนจึงเปลี่ยนไปมองเซี่ยเหลียนด้วยความเคารพยำเกรง ฮวาเฉิงรับของไปก่อนประกาศว่าเขาจะไปที่อนุสรณ์สุขาวดี เซี่ยเหลียนทันเห็นว่าอีกฝ่ายโยนหมั่นโถวในมือเล่นแถมยังกัดไปคำหนึ่ง แล้วเขาจึงลากหลางเชียวชิวออกมาข้างนอก โดยมีซือชิงเสวียนรีบวิ่งตามมาสมทบ
เทพแห่งลมตำหนิหลางเชียวชิวทันที อีกฝ่ายอ้างว่าตนไม่อาจปล่อยให้การพนันนั้นทราบผลได้ เซี่ยเหลียนจึงเสริมว่าถึงต้องการเข้าไปปรามแต่ก็ไม่ควรใช้วิธีเสี่ยงเปิดเผยตัวจริงเช่นนั้น หลางเชียวชิวพยักหน้าเข้าใจ ซือชิงเสวียนเอ่ยเรียกองค์ชายรัชทายาท ทำให้องค์ชายรัชทายาททั้งสองหันไปหาพร้อมกัน เขาจึงแก้ว่าตนหมายถึงคนที่อายุมากกว่า ทำเอาเซี่ยเหลียนรู้สึกแก่อย่างบอกไม่ถูก แล้วเทพแห่งลมก็แนะนำก็ให้ทั้งสองคนรู้จักกันอย่างเป็นทางการ
ดูเหมือนหลางเชียนชิวจะไม่คิดมากเรื่องความเป็นมาของอาณาจักรบ้านเกิดของตนกับเซี่ยเหลียน เขากล่าวขอบคุณที่ช่วยเหลือเขาไว้ ถามว่าเซี่ยเหลียนรู้จักกับฮวาเฉิงหรือ และนั่นคือร่างจริงของอีกฝ่ายหรือเปล่า ซือชิงเสวียนก็ชิงตัดหน้าตอบว่าอ๋องผีมีผิวหนังปลอมมากมาย นั่นก็ต้องเป็นของปลอมอย่างแน่นอน แม้เซี่ยเหลียนจะรู้ว่านั่นคือร่างจรงิของฮวาเฉิง ทว่าเขาก็ไม่ได้กล่าวอะไรออกไป อีกฝ่ายสัญญาไว้แล้วว่าคราวหน้าจะใช้ร่างจริงมาพบ เมื่อคิดว่าการที่ร่างของอ๋องผีในตอนนี้เกือบไม่ต่างจากตอนที่ได้พบกันแสดงว่าอีกฝ่ายแทบจะใช้ร่างจริงมาหาเขาแต่แรก เซี่ยเหลียนรู้สึกมีความสุขขึ้นมา
ขณะที่ทั้งสามกำลังคิดหาวิธีสืบเรื่องเจ้าหน้าที่สวรรค์ที่ขอความช่วยเหลือคนนั้น พวกเขาก็ได้ยินเสียงฝูงชนโห่ร้องตามล่าเด็กชายที่ใบหน้าพันไว้ด้วยผ้าพันแผล เซี่ยเหลียนรีบวิ่งไปทางต้นเสียงนั้น แล้วเขาก็ได้พบกับเด็กชายที่เขาพยายามหาตัวมานานกำลังถูกกลุ่มผีรุมทุบตีเพราะไปขโมยของ ที่หลิงเหวินหาตัวอีกฝ่ายไม่พบเป็นเพราะเด็กชายเข้ามาอยู่ในเมืองผีนี่เอง
เมื่อเห็นเซี่ยเหลียนพยายามเข้าไปหาเด็กชายผ้าพันแผล หลางเซียนชิวก็ตามมาจนไปมีเรื่องกับพวกผีเข้า ซือชิงเสวียนพยายามห้ามไว้แต่สุดท้ายอีกฝ่ายก็ไปดวลกำปั้นอยู่ดี เทพแห่งลมร้องว่าคราวหน้าเขาจะไม่ไปที่ไหนกับหลางเชียวชิวอีก ก่อนจะเข้าไปร่วมวงด้วยอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง ส่วนเซี่ยเหลียนอาศัยช่วงที่ทุกคนกำลังชุลมุนกันแทรกตัวไปถึงเด็กชายผ้าพันแผลที่กำลังนั่งเลือดชุ่มหัว แต่เมื่อเห็นเซี่ยเหลียนเด็กชายก็กรีดร้องด้วยความหวาดกลัวแล้ววิ่งหนีไป เซี่ยเหลียนจึงตะโกนบอกเพื่อนร่วมงานทั้งสองคนว่าค่อยเจอกันอีก 3 วันให้หลัง จากนั้นจึงรีบวิ่งตามเด็กชายผ้าพันแผลไป แต่เขาก็ชนกับกับแผงขายของเสียหายไปหลายที่จนพวกผีจับเขาไว้ ทำให้ในที่สุดเด็กชายก็หายไปจากสายตา
เซี่ยเหลียนพยายามขอโทษพวกพ่อค้า ทว่าไม่ว่าอย่างไรอีกฝ่ายก็ต้องการสั่งสอนเซี่ยเหลียนให้ได้ ตอนนั้นเองฝูงชนก็แหวกออกพร้อมการปรากฏตัวของชายในชุดสีดำคนหนึ่งซึ่งสวมหน้ากากปีศาจแย้มยิ้ม ฝ่ายนั้นตะโกนสั่งให้พวกผีปล่อยตัวเซี่ยเหลียน พวกผีต่างร้องว่าผู้ตรวจการเมืองและทำตามคำสั่งของอีกฝ่ายทันที แล้วชายคนนั้นก็หันมาหา แจ้งว่าเจ้าเมืองผีต้องการพบเซี่ยเหลียน และตอนนี้อีกฝ่ายก็กำลังรออยู่ที่อนุสรณ์สุขาวดีแล้ว
.
.
.
.
.
มีใครยังตาม ปรมจ อยู่มั้ย
กูขอหวีดนิดนึง
กูอ่านเล่ม 2 จบแล้วววววววว
5555
ดีใจมาก ในฐานะที่ตามเฉพาะ นิยาย อนิเมะ และม่านฮวา
ในที่สุดก็ได้อ่านนิยายเล่ม 2
ดีใจมาก ดีต่อใจ
ออริจินอลแม่งดีจริงๆ เข้าใจอะไรๆขึ้นเยอะ
กระจ่างแจ้งต่อใจเลยทีเดียว
นิยายปูทางความสัมพันธ์ได้ดีเลยอะ
อินมาก รู้สึกเห็นใจทุกตัวละคร
ทั้งฝ่ายดี ทั้งฝ่ายร้าย เห็นใจหมดเลย แม่งมีที่มามีที่ไปหมดจริงๆ
เออ ตินิดนึง เหมือนนิยายจะพิมพ์ผิดไปคำนึงเปล่าวะ
คำว่า แล้วล่ะ ในนิยายเขียนเป็น แล้วละ
มันผิดใช่มั้ย หรือกูเข้าใจผิดไปเอง
แต่เจออยู่คำเดียวอะ ไม่เป็นไรหรอกมั้ง
ข้างบน "ใช้" นะ กูพิมพ์ไม้เอกเฉยเลย
>>621 อีเวนท์เมืองผีนี่เหมือนเซี่ยเหลียนเป็นลูก GM อ่ะ มีคนคุ้มกะลาหัวตลอด ไม่น่าทุลักทุเลมากมั้งเมืองนี้
ขอถามสปอยนิดนึง เทียนกวานนี่จะมีตัวละครตัวนึงที่ใส่ชุดขาวแบบเซี่ยเหลียนแต่ใส่หน้ากากขาวด้วยช้ะ ตัวละครนั้นเป็นใคร จะโผล่มาตอนไหน เกี่ยวข้องอะไรกับเซี่ยเหลียนป่ะ
>>623 อย่าดิมึง กูยังไม่ได้เล่มสองเลย ยังออกจากกูซูไม่ได้ แถมมีวี่แววจะติดหนักขึ้นกว่าเดิมอีก
เวลากูชอบอะไรจะชอบไม่ลืมหูลืมตาหนักมาก นี่โดนปรจ. ไป เทียนกวานก็น่าสน (แต่ตัวร้ายยังสองจิดสองใจอยู่เพราะไม่ชอบแนวระบบ และไม่ค่อยชอบแนวข้ามมิติ/ตายแล้วเกิดใหม่) กูคงตัองโล๊ะชั้นหนังสือหนึ่งชั้นบูชาแม่โม่แล้ว
>>621 ขอบคุณในความอุตสาหะที่มาสปอยเช่นเคย หล่อเลี้ยงจิตใจพวกเราระหว่างรอเล่มออกได้ดี
>>627 สปอยนะ
.
.
.
.
.
ไป๋อู๋เซียง (เศวตไร้หน้า) เจวี๋ยตนแรกที่ออกมาช่วงที่อาณาจักรเซียนเล่อของเซี่ยเหลียนล่มสลาย หน้ากากครึ่งหนึ่งเป็นหน้ายิ้มหัวเราะ อีกครึ่งร้องไห้ ถูกจวินอู๋จัดการไปแล้ว จะออกมาครั้งแรกช่วงอาร์คที่ 2 ที่เป็นช่วงย้อนอดีต ปรกติเซี่ยเหลียนใส่ชุดนักพรตสีขาว แต่ไป๋อู๋เซียงใส่ชุดไว้ทุกข์สีขาวนะ
.
.
.
.
.
>>621 ขอบใจจ้าโม่งสปอย
เจ้าพวกพ่อค้า ถ้าพวกแกทำอะไรเกอเกอของฟาฟา แม้แต่ผีก็จะไม่ได้เป็นนะ วิญญาณไม่เหลือซากแน่ๆ
ความลับของหมั่นโถวนั่นคือ... ความลับอะไร ไม่มี๊ไม่มี แค่เพราะมันเป็นของเกอเกอเลยกินแล้วฟินเท่านั้นแหละ
ไม่ต้องอายนะคะเตี้ยนเซี่ย ให้หน้าร้าวเพิ่มอีก 1,000,000% ความรักที่ซานหลางให้ท่านก็ไม่ลดลงหรอก
...
กูนึกไม่ออกว่าความสัมพันธ์คู่นี้ทำซีรี่ส์กับอนิเมแล้วจะแปลงบทยังไงวะ โคตรชัดเจนทั้งคู่
.
.
.
.
.
ฮวาเฉิงชัดเจนทุกคำพูดทุกการกระทำ อย่าว่าแต่การกระทำเลย พร็อพติดตัวก็ชี้ไปที่เซี่ยเหลียนตั้ง 3 อย่างแล้ว (คิดให้เป็นมิตรภาพหรือความบูชาเทพไม่ได้จริงๆ) ฝั่งเซี่ยเหลียนขนาดยังไม่รู้ความรู้สึกจริงๆ ของตัวเองยังแสดงออกชัดมากว่าชอบเค้า หลงมาก เห็นว่าหล่อทุกซอกทุกมุม หล่อยันเงาอะคะ โอ๋มากแบบไม่บันยะบันยัง ซานหลางแกล้งคนอื่นไม่เป็นไร แต่คนอื่นทำไม่ดีใส่ฮวาเฉิงจะกลายเป็นรังแกซานหลางนะคะ เข้าโหมด Protect San Lang ทันที (ทั้งที่ถ้าเป็นเรื่องคนอื่นก็ไม่ได้ลำเอียงขนาดนี้นะ) ไม่เหมือนคู่วั่งเซี่ยนที่แถง่ายหน่อยเพราะเว่ยอิงความรู้สึกช้า นิสัยก็อ้อนๆ กวนๆ อย่างนั้นปกติอยู่แล้ว พี่วั่งบุคลิกภายนอกก็ดูนิ่งๆ อ่านออกยากด้วย
.
.
.
.
.
กูจะรอจนวันที่ 20 กว่าๆ จนมั่นใจแล้วว่าหนังสือถึงมือเพื่อนโม่ง แล้วกูค่อยมาหวีดเล่มสองแล้วกันนะ
กูสั่งเล่มสองรับหนังสือหน้าร้านนายอินทร์ วันนี้กูได้หนังสือละนะ เขต กทม.
พึ่งมาสนในเทียนกวานอ่ะ อยากรุ้คารพระนายอ่ะ
ตอนนี้จากที่ปัดทวิตผ่าน
เคะ คือคนดี นิสัยดี นุ่มนวล ไม่ปากหมา ไม่กวนตีน ไม่ตลก ชีวิตดร่าม่าแต่ยังมองโลกแง่ดีใช้ม่ะ
เมะ รู้แค่เป็นสตอกเกอรแฟนคลับเบอร์หนึ่ง
ช่วยสปอย์นิสัยใจคอตัวหลักให้หน่อยสิเพื่อนโม่ง
>>637
.
.
.
.
.
เซี่ยเหลียน...
พื้นฐานนิสัยดี แต่จะเรียกเป็นคนดีก็แปลกๆ เพราะมีมุมเทาๆ มีช่วงสติแตกอยู่เหมือนกัน ถ้าจะให้เล่าสั้นๆ ก็...
ในอดีตเป็นเด็กสปอยล์ที่อยากให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุดสำหรับทุกคน แต่อ่อนต่อโลกเกินไปจนกระทั่งโดนเผาทุ่งลาเวนเดอร์ หลังผ่านดราม่าสะเทือนใจมาก็มองเห็นโลกตามความเป็นจริงว่าโลกมันก็มีทั้งดีทั้งร้ายเลยปล่อยวางได้มากขึ้น แต่สิ่งที่ตามมากับการปล่อยวางคือ Self Esteem ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน
นุ่มนวล<-เห็นท่าทางเหมือนจะนุ่มนิ่มแต่บู๊ทีมหาประลัยมาก เวลาโกรธก็น่ากลัวนะ (ฉีหรงเป็นพยาน)
ไม่ปากหมา ไม่กวนตีน<- เรื่องปากหมาอะไม่ เรื่องกวนตีนโดยปกติก็ไม่ แต่บางทีก็มีหลุดบ้าง โดยเฉพาะช่วงเวลาเล่นลูกรับลูกส่งกับฟาฟาที่ทำให้คนอื่นรู้สึกว่าโดนโทรล
ฮวาเฉิง...
ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตและความตายคือเกอเกอของเค้าค่ะ นอกจากเตี้ยนเซี่ยแล้วทุกสรรพสิ่งบนโลกและสวรรค์ล้วนอยู่นอกสายตา การปฏิบัติต่อคนอื่นส่วนใหญ่เป็นไปในทิศทางที่จำกัดความได้สั้นๆ ว่า 'เกรียน' รักและทะนุถนอมเซี่ยเหลียนเป็นที่สุด เป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นมาก ใครทำอะไรไม่ดีกับเซี่ยเหลียนไว้จับขึ้นบัญชีดำหมด ดูเผินๆ เหมือนจะมั่นหน้ากับการจีบเกอเกอมาก แต่ใจจริงค่อนข้างป๊อดเลยล่ะ ความมั่นใจในตัวเองสักนิดก็ไม่มี
.
.
.
.
.
สปอยเทียนกวานต่อจาก >>621 เทียนกวาน Part.35
.
.
.
.
.
พอนึกได้ว่าเซี่ยเหลียนคือคนที่อ๋องผีสอนเขย่าถ้วยลูกเต๋าก็ไม่มีใครกล้ายุ่งกับเขาอีก เซี่ยเหลียนเดินตามผู้ตรวจการเมืองผีไม่ห่าง แต่เมื่อเขาเหลือบไปเห็นว่าที่ข้อมือของอีกฝ่ายมีคำสาปพันธนาการสายตาก็เบิกตากว้าง ตอนนั้นเองพวกเขาก็มาถึงอาคารสวยงามใหญ่โตหลังหนึ่ง ป้ายเหนือทางเข้าเขียนไว้อนุสรณ์สุขาวดี เซี่ยเหลียนถูกนำทางไปที่ห้องโถงซึ่งมีเหล่าสาวงามร่ายรำเล่นดนตรีแสดง ด้านในสุดของห้องฮวาเฉิงกำลังเล่นสร้างปราสาทจากกระดาษทองคำซึ่งเป็นสิ่งที่สมัยเด็กเซี่ยเหลียนก็ชอบเล่นเช่นกัน ไม่นานนักอ๋องผีก็เดินมารับเซี่ยเหลียน บอกว่าที่ต้องแสร้งเป็นไม่รู้จักกันที่บ่อนเพราะว่าตอนนั้นหลางเชียนชิวอยู่ด้วย และไม่ว่าเซี่ยเหลียนจะตั้งใจมาเยี่ยมเขาหรือไม่ เขาก็ดีใจดี จากนั้นฮวาเฉิงก็เชิญเซี่ยเหลียนเข้าไปนั่งข้างใน
เซี่ยเหลียนชมว่าร่างจริงของอีกฝ่ายดูไม่เลว ก่อนหยิบแหวนผลึกแก้วออกมาถามว่าอ๋องผีทิ้งสิ่งนี้ไว้ใช่ไหม ฮวาเฉิงยอมรับ พร้อมเสริมว่ามันไม่ใช่สิ่งสำคัญอะไร และให้เซี่ยเหลียนเก็บไว้ดูเล่น เซี่ยเหลียนจึงกล่าวขอบคุณ แล้วบอกว่าตอนแรกที่เขาได้ยินชื่ออนุสรณ์สุขาวดีก็นึกว่าจะเป็นสถานเริงรมย์เสียอีก ชายชุดแดงแย้งว่าเขาไม่เคยไปสถานที่แบบนั้น ที่นี่เป็นที่พักแต่ก็ไม่ใช่บ้าน เพราะสถานที่ที่มีตัวเองอาศัยอยู่คนเดียวไม่อาจเรียกอย่างนั้นได้ อารามผูจี้ยังให้ความรู้สึเหมือนบ้านมากกว่า เซี่ยเหลียนเองก็ไม่มีบ้านมา 800 ปีแล้วจึงรู้สึกปวดใจไม่น้อย และบอกอีกฝ่ายว่าหากชอบก็มาหาเขาที่อารามได้เสมอ
เซี่ยเหลียนเล่าเรื่องของเด็กชายผ้าพันแผลให้ฮวาเฉิงฟัง ขอให้อีกฝ่ายช่วยตามหาเด็กชายให้เนื่องจากที่นี่เป็นเมืองของอ๋องผี ชายชุดแดงจึงใช้เครือข่ายโทรจิตติดต่อใครบางคน ก่อนบอกว่าเขาจัดการเรื่องให้เรียบร้อยแล้ว และเมื่อพูดถึงหลางเชียนชิว ฮวาเฉิงก็บอกว่าตราบเท่าที่อีกฝ่ายไม่มาให้เขาเห็น เขาจะไม่ทำอะไร อีกทั้งปรกติเจ้าหน้าที่สวรรค์บางคนก็ชอบปลอมตัวมาทำธุระที่ไม่อาจบอกใครได้ในเมืองผีอยู่แล้ว เซี่ยเหลียนขอโทษเรื่องพฤติกรรมพระเอกโชเน็นของหลางเชียนชิว และยังแนะนำอ๋องผีว่าบ่อนแห่งนั้นอันตราย เกรงว่าสักวันอาจทำให้งเดือดร้อน ทว่าอีกฝ่ายก็อธิบายว่า หากเขาไม่เข้าไปดูแลบ่อนแห่งนั้นเอง ก็ต้องมีผู้อื่นทำอยู่ดี
ตอนนั้นเองผู้ตรวจการเมืองก็เข้ามาแจ้งว่าหาตัวเด็กชายผ้าพันแผลพบแล้ว ฮวาเฉิงสั่งให้นำอีกฝ่ายเข้ามาในห้อง เมื่อเซี่ยเหลียนเห็นเด็กชายมองอาหารบนโต๊ะไม่วางตา เขาก็หันไปหาอ๋องผีซึ่งบอกว่าหากต้องการทำอะไรก็ทำได้เลย เซี่ยเหลียนจึงหยิบถาดผลไม้ส่งให้เด็กชายที่รีบหยิบไปกินด้วยความหิวโหย เขาถามชื่อของเด็กชาย แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ได้พูดกับใครมานานจนลืมวิธีการพูดไปแล้ว จากนั้นเซี่ยเหลียนก็นั่งลงข้างๆ ตั้งใจช่วยทำแผลให้อีกฝ่าย เมื่อเห็นดังนั้นฮวาเฉิงก็กล่าวว่าเขาจะช่วยทำเอง แต่เซี่ยเหลียนต้องการทำแผลให้เด็กชายด้วยตัวเอง ตอนนี้ใบหน้านั้นไม่มีใบหน้าเล็กๆ ของคนเหลืออยู่แล้ว และรอยแผลน่ากลัวก็บ่งบอกได้ว่าเขาเฉือนใบหน้ามนุษย์พวกนั้นออกไป ขณะที่เซี่ยเหลียนพันแผลพันแผลใหม่ให้เขาก็ถามเด็กชายว่ามาจากเซียนเล่อหรือเปล่า ทว่าอีกฝ่ายกลับตอบว่าเขาเป็นคนหย่งอัน
เมื่อได้ยินชื่อนั้นเซี่ยเหลียนก็รู้สึกว่าภาพเบื้องหน้ามืดไปหมด เขาถามเด็กชายว่าเคยพบกับไป๋อู๋เซียง (เศวตไร้หน้า) หรือไม่ ไป๋อู๋เซียง คือเจวี๋ยตนแรก และเป็นผู้สร้างโรคระบาดในตอนที่อาณาจักรเซียนเล่อล่มสลาย อีกฝ่ายสวมชุดไว้ทุกข์สีขาว บนใบหน้ามีหน้ากากที่ครึ่งใบหน้ายิ้มหัวเราะ ส่วนอีกครึ่งร่ำไห้ เซี่ยเหลียนยังคงจำครั้งแรกที่พบกับอีกฝ่ายได้ดี ในตอนนั้นเขากำลังยืนอยู่บนยอดหอคอยสูง หลั่งน้ำตาขณะจ้องมองดูอาณาจักรของตนเอง เงาร่างสีขาวนั้นยืนอยู่บนท่ามกลางซากศพ และเมื่อเขาหันไปมอง อีกฝ่ายก็โบกมือให้ หน้ากากแย้มยิ้มร่ำไห้นั่นคือฝันร้ายของเซี่ยเหลียน ไม่ว่าจะผ่านมากี่ร้อยปีมันก็ยังคงตามหลอกหลอนเขามาตลอด
เด็กชายดูจะไม่รู้จักไป๋อู๋เซียง แต่แล้วเขาก็ร้องด้วยความเจ็บเพราะเซี่ยเหลียนเผลอบีบไหล่อีกฝ่ายแน่นโดยไม่รู้ตัว ฮวาเฉิงจึงให้คนมาพาเด็กชายไปพักก่อน แล้วหันมาบอกเซี่ยเหลียนว่าหากต้องการถามอะไร เขาก็มีวิธีที่จะทำให้เด็กชายต้องเปิดปากพูด ทว่าเซี่ยเหลียนไม่ต้องการเช่นนั้น อีกทั้งยังต้องการพาเด็กชายไปกับตน แม้ฮวาเฉิงจะบอกว่าในเมื่อเด็กชายเป็นผีก็ควรอยู่ในเมืองผี และเขาจะเป็นคนดูแลปากท้องของอีกฝ่ายให้เอง เซี่ยเหลียนก็ยังคงยืนยันคำเดิม ในตอนนั้นเองเซี่ยเหลียนก็สัมผัสได้ว่าดาบโค้งที่เอวของฮวาเฉิงมีการเปลี่ยนแปลง ลวดลายเหมือนดวงตาที่ด้ามอาวุธนั้นเริ่มขยับ แล้วเปลือกตาที่ปิดสนิทในตอนแรกก็เปิดออกเผยให้เห็นดวงตาสีแดงก่ำกลอกไปมา
.
.
.
.
.
>>641 บ้านไม่ใช่บ้านเพราะไม่มีคนที่รักอยู่ด้วยสินะ ฮือออออออออ เข้าใจเซี่ยเหลียนเลยอ่ะว่าทำไมหลงเด็กมันนัก คือฮวาเฉิงนางหล่อจริงๆอ่ะ คือยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกว่านางหล่อ หรือเพราะมันเป็นอย่างที่โม่งคนอื่นบอกวะว่าก่อนจะปรากฏตัวนางคิดมาแล้วว่าออกตอนนี้จะหล่อ 555555555555555555
มึงกูมีความสุขมากที่มีสปอยมึง คือถ้ารอหนังสือกูว่าอีกนานอ่ะ ดีไม่ดีมาหลังซีรี่ย์ มีสปอยมึงได้หวีดกันก่อนและอย่างน้อยเป็นไกด์ไลน์ให้ไม่งงตอนดูซีรี่ย์ จะได้ก๊าวเต็มที่ 55555 ขอบจัยนะ
ในนิยายมีบอกป่ะว่าพี่ซีกับวั่งจีอายุห่างกันเท่าไหร่ กูดูม่านฮวา ตอนเด็กเหมือนฝาแฝด แต่ตอนโตเหมือนวั่งจีแก่กว่าซะงั้น 5555555
เช้านี้มา กูตกใจ กูเพิ่งได้หนังสือปรมาจารย์เล่ม 2 มะวานยังอ่านไม่ทันจบ เว็บบิทแม่งมีให้โหลดแระ แม่งโหดมาก
กูมาส่งท้ายของวัดด้วยฟาฟา ฮืออออ เออเหมือนในดด เขาจะเปิดให้อ่านเทียนกว่าอยู่นะ ไปตำกันได้ แต่กูว่าโม่งสปอยด์น่าจะสปอยด์เกินเเล้วป่ะ กูยังไม่ได้เข้าไปอ่านเพิ่มเลย /ห่าเอ๊ยยเลิกงานสักที
อ่านเรื่องย่อ (มีสปอยล์) ของเทียนกวานแล้วขำ อห พระเอกมีวางแผนรอนายเอกว่าควรจะออกตอนไหนให้หล่อที่สุดด้วย กูนี่ขำก๊ากเลย
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2080079075629549&id=1798131457157647
สปอยเทียนกวานต่อจาก >>641 เทียนกวาน Part.36
.
.
.
.
.
จู่ๆ ฮวาเฉิงก็ขอตัวไปทำธุระ เซี่ยเหลียนจึงพยายามปรับอารมณ์ที่ยุ่งเหยิงหลังจากนึกถึงไป๋อู๋เซียง แต่ก็ทำไม่สำเร็จเลยตั้งใจไปเดินหาเด็กชายผ้าพันแผล เมื่อผ่านสวนเขาก็เห็นผู้ตรวจการเมืองคนนั้นผ่านมาพอดี พอนึกถึงคำสาปพันธนาการบนข้อมือของอีกฝ่าย เซี่ยเหลียนก็อยากคุยด้วย แต่ชายหน้ากากผีกลับมีท่าทางลับๆ ล่อๆ เขาจึงตัดสินใจแอบตามไปเงียบๆ ในที่สุดก็เห็นชายคนนั้นหยุดที่ประตูบานหนึ่งซึ่งตกแต่งอย่างสวยงาม แล้วจู่ๆ ผู้ตรวจการก็หันกลับมา เซี่ยเหลียนเลยขึ้นไปซ่อนตัวบนเพดาน
ผู้ตรวจการเดินไปหยิบลูกเต๋าจากถาดในมือของรูปปั้นหญิงสาวซึ่งอยู่ใกล้ๆ ออกมาทอย เซี่ยเหลียนเห็นว่ามันออกหน้า 6 แต้มทั้งสองลูก แล้วชายชุดดำก็เปิดประตูเข้าไปในห้อง หลังจากรอพักหนึ่งเซี่ยเหลียนก็กระโดดลงมา แต่เขากลับไม่ได้ยินเสียงอะไรดังออกมาจากห้องนั้น พอเขาตัดสินใจเปิดประตูเข้าไปก็พบว่ามันเป็นห้องนอนเล็กๆ ห้องหนึ่งซึ่งไม่มีที่ใดให้ซ่อนตัวได้ แล้วผู้ตรวจการหายไปไหน เขาเดินไปดูถาดลูกเต๋าที่รูปปั้นพลางคิดว่ามันต้องเป็นกลไกอะไรบางอย่าง หลังจากที่พิจารณาแล้วว่าตัวเองไม่อาจทอยเต๋าให้ได้แต้ม 6 ทั้งสองลูก เซี่ยเหลียนก็เดินกลับไปที่ห้องโถง แต่ระหว่างทางก็พบกับฮวาเฉิงเข้า
ตอนแรกเซี่ยเหลียนจะบอกเรื่องที่เขาเห็นกับอ๋องผี แต่เมื่อนึกถึงเรื่องที่ตัวเองมาสืบเรื่องเจ้าหน้าที่สวรรค์ที่ขอความช่วยเหลือจึงตัดสินใจเงียบไว้ บอกไปเพียงว่าเขาออกมาหาเด็กชายผ้าพันแผล ฮวาเฉิงเอ่ยให้เซี่ยเหลียนรอที่ห้องโถง แล้วเขาจะให้คนไปตามอีกฝ่ายมาให้ เมื่อเซี่ยเหลียนถามถึงธุระที่อ๋องผีไปจัดการมา ฮวาเฉิงก็บอกว่าผีเขียวฉีหรมักแอบมาก่อความวุ่นวายด้วยการเผาจุดนั้นจุดนี้ของเมืองด้วยความอิจฉาเป็นประจำ จากนั้นเขาก็กล่าวว่ามีสถานที่แห่งหนึ่งอยากให้เซี่ยเหลียนดู
สถานที่ที่ฮวาเฉิงพาเซี่ยเหลียนไปดูคือคลังแสงเก็บอาวุธชั้นเลิศ ทำเอาเซี่ยเหลียนผู้เป็นโอตาคุการต่อสู้ตาลุกวาวด้วยความตื่นเต้น เขารีบเขาไปสำรวจของในห้อง เมื่ออีกฝ่ายถามว่าเขาชอบของพวกนี้หรือไม่ มีชิ้นไหนใช้ได้หรือเปล่า เซี่ยเหลียนก็ตอบทันทีว่าชอบมาก และทุกชิ้นก็ล้วนดีงาม ฮวาเฉิงจึงจะยกอาวุธทุกชิ้นให้เซี่ยเหลียนประหนึ่งอสูรยกห้องสมุดให้โฉมงาม เมื่อเซี่ยเหลียนปฏิเสธอย่างเกรงใจ บอกว่าตนไม่มีที่เก็บของพวกนี้ เขาก็บอกว่าจะมอบคลังแสงห้องนี้ให้อีกฝ่าย อีกทั้งจะคอยดูแลรักษาอาวุธพวกนี้ให้ หากเซี่ยเหลียนมีเวลาว่างก็มาที่นี่ได้
เซี่ยเหลียนนึกขึ้นได้ว่าจวินอู๋เตือนเขาไว้ว่าดาบโค้งเอ้อมิ่งของฮวาเฉิงเป็นอาวุธต้องสาปกระหายเลือด อย่าได้ไปจับโดยเด็ดขาด เซี่ยเหลียนคิดว่านั่นอาจเป็นแค่ข่าวลือ และขออ๋องผีดูอาวุธชิ้นนั้น ฮวาเฉิงจึงเข้ามาใกล้แล้วแนะนำเอ้อมิ่ง ดาบโค้งที่ด้ามจับมีดวงตาซึ่งห้อยอยู่ที่เอวของเขาเล่มนั้น เอ้อมิ่งลืมตาขึ้นมองเซี่ยเหลียน แม้ไม่มีปาก แต่เปลือกตาที่โค้งขึ้นก็ทำให้เซี่ยเหลียนรู้สึกว่ามันกำลังยิ้มให้ เขาจึงเอ่ยทักทาย ส่งผลให้ดวงตาสีแดงกลอกไปมาอย่างมีชีวิตชีวา ฮวาเฉิงอธิบายว่าเอ้อมิ่งชอบเซี่ยเหลียน เซี่ยเหลียนจึงบอกไปว่าเขาก็ชอบมันเช่นกัน เอ้อมิ่งกระพริบตาอย่างบ้าคลั่งเพราะอยากให้เซี่ยเหลียนจับ ถึงอ๋องผีจะดุมัน แต่เซี่ยเหลียนก็ยื่นมือไปลูบด้ามจับของมันด้วยความเอ็นดู
หลังจากใช้เวลาในคลังแสงพักหนึ่ง ทั้งสองก็กลับมาที่ห้องโถงซึ่งเด็กชายผ้าพันแผลผู้ได้รับการชำระตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วยืนรออยู่ ท่าทางหวาดกลัวไม่วางใจผู้คนของอีกฝ่ายทำให้เซี่ยเหลียนรู้สึกปวดใจ เขาเข้าไปถามว่าเด็กชายสมัครใจไปบำเพ็ญเพียรกับเขาหรือเปล่า โดยไม่สังเกตเลยว่าฮวาเฉิงมองเด็กชายด้วยสายตาเย็นชา เซี่ยเหลียนบอกเด็กชายว่าในเมื่อจำชื่อตนเองไม่ได้ ก็สมควรมีชื่อใหม่ เด็กชายจึงส่งเสียงออกมาว่าอิ๋ง เมื่อนึกได้ว่าอีกฝ่ายคงอยากมีสิ่งรำลึกถึงเสี่ยวอิ๋ง เขาก็เห็นด้วย และในเมื่อเป็นชาวหย่งอันก็น่าใช้แซ่หลาง เด็กชายผ้าพันแผลจึงมีชื่อใหม่ว่าหลางอิ๋ง
งานเลี้ยงต้อนรับแขกเริ่มต้นขึ้น อาหารมากมายถูกยกเข้ามาวางตรงหน้า เมื่อเซี่ยเหลียนมองหลางอิ๋งกินอาหาร ภาพเด็กชายอีกคนที่พันศีรษะด้วยผ้าพันแผล เนื้อตัวมอมแมมสกปรกกำลังนั่งอยู่ด้านหน้าถาดวางของเซ่นไหว้ก็กลับเข้ามาในความทรงจำ ตอนนั้นเองสตรีชุดผ้าไหมสีม่วงคนหนึ่งก็เข้ามาเสนอรินน้ำให้ เซี่ยเหลียนซึ่งตกอยู่ในห้วงความคิดพยักหน้าไปโดยไม่มอง เมื่อดื่มเข้าไปจึงเพิ่งรู้ว่าเป็นเหล้า เขาหันไปมองหญิงสาวคนนั้นซึ่งยืนอยู่ด้านหลังของฮวาเฉิง เมื่อเห็นอีกฝ่ายขยิบตาให้เขาก็ถึงกับสำลักพ่นน้ำพรูดออกมาจากปากโดยไม่ตั้งใจ เพราะอีกฝ่ายคือซือชิงเสวียนเวอร์ชันสาวน้อยนั่นเอง
.
.
.
.
.
เล่มสองทำกูน้ำตาไหล แม่งเอ๊ย แม่งเอ๊ยยยยยย
>>651 ฟาฟาน้อฟาฟา ถึงเตี้ยนเซี่ยจะเป็นโอตะอาวุธแต่ก็ไม่ได้อยากได้สมบัติของคนอื่นหรอกนะ ถ้าอยากให้จริงๆ เอาตัวกับหัวใจนายนั่นแหละให้เตี้ยนเซี่ยเดี๋ยวนี้เลย รับรองว่าเกอเกอของนายจะรับไว้ด้วยความยินดี ...แล้วนายก็อย่าใจร้ายกับเอ้อมิ่งมากนักสิ นั่นน่ะเป็นxxxxxของนายแท้ๆ นะ โหดร้ายกับลูกชายจริงๆ (ในหัวมโนเอ้อมิ่งเป็นลูกชาย รั่วเย่เป็นลูกสาวของทั้งสองคนไปแล้ว)
>>653 >>656 เราว่าต่างกับเว่ยอิงนะ เซี่ยเหลียนความรู้สึกไม่ช้าอะ ประสาทไวมากแค่ขาดความมั่นใจ รู้แจ่มแจ้งว่าฮวาเฉิงให้ความสำคัญและปฏิบัติกับเขาต่างกับคนอื่นชัดเจน แต่ Self Esteem ต่ำยิ่งกว่าแชลเลนเจอร์ดีปของร่องสมุทรมาเรียน่าเลยไม่คิดว่าคนที่(เขาคิดว่า)เพอร์เฟ็คต์อย่างฮวาเฉิงจะมีใจให้ตัวเองได้
>>658 มีป๊ะป๋าขี้หวงต้องทำใจค่ะ รั่วเย่ยังดีได้อยู่กับแม่ตลอด เอ้อมิ่งนี่สิจะอ้อนแต่ละทีโดนพิษรักแรงหึงจากพ่อตลอด 555+++
สปอยเทียนกวานต่อจาก >>651 เทียนกวาน Part.37
.
.
.
.
.
ฮวาเฉิงช่วยลูบหลังให้เซี่ยเหลียนที่ยังไอไม่หยุด แล้วเซี่ยเหลียนจึงแถไปว่าเขาเพิ่งนึกได้ว่าวิถีบำเพ็ญของเขาต้องงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พออ๋องผีมีสีหน้าดูไม่ออกว่ารู้สึกอย่างไร เขาก็เล่าเพิ่มว่าการบำเพ็ญของเขายังต้องละความเกลียดชัง เรื่องการพนันก็เช่นกัน แต่หากสามารถทำใจให้สงบเล่นโดยไม่ได้หวังแพ้ชนะก็ไม่นับ พอพูดถึงพนันเซี่ยเหลียนก็ถามว่าความจริงมันมีเทคนิคทอดลูกเต๋าให้ได้แต้มสูงจริงไหม ฮวาเฉิงบอกว่ามี และขอมือเซี่ยเหลียนไปบีบเบาๆ จากนั้นก็ให้เซี่ยเหลียนลองทอยลูกเต๋าดู ซึ่งผลออกมาก็ได้แต้ม 6 ทั้งสองลูก อ๋องผีเผยว่าที่เป็นเช่นนี้เพราะเขามอบโชคให้เซี่ยเหลียนยืม หากคราวหน้าเซี่ยเหลียนจะไปพนันที่ไหนก็มาขอยืมโชคจากเขาก่อนได้เลย
เซี่ยเหลียนลองทอยเต๋าอีกหลายครั้งก็สรุปได้ว่าน่าจะเป็นความจริง เมื่อเขาบอกว่าเหนื่อย ฮวาเฉิงก็ให้คนมาดูแลหลางอิ๋ง ส่วนเขาเดินไปส่งเซี่ยเหลียนที่ห้องรับรองแขก เมื่ออีกฝ่ายกลับไปแล้ว ไม่นานเซี่ยเหลียนก็ได้ยินเสียงเรียกของหญิงสาว เมื่อเปิดประตูซือชิงเสวียนก็รีบเข้ามาในห้องก่อนเปลี่ยนร่างกลับเป็นผู้ชาย เอามือฉีกทึ้งเสื้อผ้าบริเวณหน้าอกกับเอวซึ่งรัดแน่นจนเขาหายใจไม่ออก ภาพข้างหน้าทำเอาเซี่ยเหลียนไม่อาจทนมอง ถามเทพแห่งลมว่าทำไมไม่กลับไปใส่ชุดนักพรตสีขาวตัวเดิม แต่ซือชิงเสวียนบอกว่าชุดขาวโดดเด่นจะตกเป็นเป้าได้ง่าย แม้ในใจของเซี่ยเหลียนจะคิดว่าสภาพนี้ของอีกฝ่ายยังสะดุดตาซะกว่า เขาก็เปลี่ยนไปถามว่าอีกฝ่ายลอบเข้ามาที่นี่ได้อย่างไร
ซือชิงเสวียนเล่าว่าเขาได้ยินว่าเซี่ยเหลียนถูกพามาที่อนุสรณ์สุขาวดี พอแอบมาสังเกตการณ์จากข้างนอกก็รู้สึกว่าที่นี่ต้องเป็นย่านโคมแดงเมาโลกีย์อย่างแน่นอน ด้วยความเป็นห่วงเซี่ยเหลียนเขาจึงตัดสินใจปลอมตัวเข้ามา ทั้งยังต้องเสื่อมเสียเกียรติด้วยการแต่งกายเช่นนี้ ถึงเซี่ยเหลียนจะแอบคิดว่าอีกฝ่ายดูสนุกกับการแต่งหญิง เขาก็เปลี่ยนไปถามถึงหลางเชียนชิว เทพแห่งลมบอกว่าเขาสั่งให้อีกฝ่ายห้ามขยับไปไหนมาไหนแล้ว น่าจะไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอีก แต่ก็ยังอดบ่นไม่ได้ว่าขณะที่เขากับหลางเชียนชิวเผชิญวิบากในตลาด เซี่ยเหลียนกลับมาใช้ชีวิตดี๊ดีมีอ๋องผีเทคแคร์
เซี่ยเหลียนบอกว่าตอนอยู่ที่ห้องโถงเขาได้เตรียมกาสำหรับสืบคดีไว้แล้ว ซือชิงเสวียนไม่ค่อยเชื่อ บอกว่าเขาเห็นเซี่ยเหลียนเอาแต่เล่นทอยเต๋ากับฮวาเฉิง หรือที่จริงดูจะเอาแต่จับมือถือแขนกันเสียมากกว่า เซี่ยเหลียนขออีกฝ่ายว่าอย่าพูดไปในเชิงแปลกๆ เช่นนั้น เขาทำไปเพื่อยืมโชคของอ๋องผีต่างหาก จากนั้นทั้งสองก็ค่อยๆ ลัดเลาะไปตามทางจนถึงประตูที่ผู้ตรวจการหายเข้าไป ก่อนที่เซี่ยเหลียนจะหยิบลูกเต๋าที่รูปปั้นมาทอยและก็ได้แต้ม 6 ทั้งสองลูก เห็นเซี่ยเหลียนมีท่าทางหนักใจที่หลอกใช้ความเชื่อใจของฮวาเฉิงมาแอบสืบเรื่องในบ้านเขา เทพแห่งลมก็เอ่ยอย่างเห็นใจว่าเซี่ยเหลียนไปน่ารับงานนี้เลย
เซี่ยเหลียนคว้าลูกเต๋าสองลูกนั้นไปด้วย เมื่อเปิดประตูเข้าไปในห้องก็ปรากฏว่ามันเปลี่ยนเป็นบันไดยาวทอดลึกลงไปยังใต้ดิน ซือชิงเสวียนจุดไฟในมือแล้วเดินนำไปข้างหน้า ขณะที่ทั้งสองเดินอยู่ เซี่ยเหลียนก็ถามว่าในช่วงไม่กี่ปีมานี้มีเทพองค์อื่นนอกจากเขาถูกเนรเทศจากสวรรค์อีกหรือไม่ เพราะเขาเห็นว่าผู้ตรวจการเมืองผีมีคำสาปพันธนาการอยู่ที่ข้อมือ เมื่อได้ยินดังนั้นเทพแห่งลมก็ตกใจที่อดีตเจ้าหน้าที่สวรรค์มาทำงานให้อ๋องผี หลังจากคิดสักพักเขาก็บอกว่าอีกฝ่ายอาจจะเป็นเทพสงครามแห่งทิศตะวันตก แต่เขาก็ยังไม่อยากเชื่อว่าคนจริงจังอย่างนั้นจะกลายเป็นเช่นนี้ได้ เซี่ยเหลียนรู้สึกงุนงงว่าเทพสงครามแห่งทิศตะวันตกไม่ใช่เฉวียนอี้เจินหรอกหรือ แล้วเหตุใดเทพองค์นั้นถึงได้ถูกเนเทศ แต่ยังไม่ทันสอบถามเพิ่มเติม เขาก็พบว่าเบื้องหน้าของพวกเขาในตอนนี้คือทางตัน
ทั้งสองพยายามมองหาว่ามีกลไกลับอะไรอยู่อีกหรือเปล่า ในที่สุดเซี่ยเหลียนก็พบว่าบนทางเดินเต็มไปด้วยแผ่นหินขนาดเท่าประตูเล็กๆ วางอยู่หลายชิ้น และแท่นหินไม่ห่างนักก็มีรูปคนโยนลูกเต๋าวาดไว้ พวกเขาจึงคิดได้ว่าอาจต้องใช้วิธีทอยลูกเต๋าเหมือนเดิม ทว่าทั้งสองไม่รู้ว่าต้องโยนให้ได้แต้มเท่าใด และด้วยความไม่รู้ว่าโชคที่ยืมมาจากฮวาเฉิงจะใช้ได้อีกกี่ครั้ง เซี่ยเหลียนจึงยกหน้าที่เสี่ยงโชคให้ซือชิงเสวียน เมื่อเทพแห่งลททอยได้แต้ม 5 และ 2 ไม่นานภาพที่หินก้อนนั้นก็เปลี่ยนไปเป็นสิ่งมีชีวิตตัวอ้วน ดำ ยาว อัปลักษณ์ซึ่งเซี่ยเหลียนคิดว่าอาจเป็นปลิงหรือไส้เดือน ทันใดนั้นร่างของเทพทั้งสองคนก็หล่นลงไปในแผ่นหินที่เปิดออกราวประตู แล้วพวกเขาก็มาอยู่ในอุโมงค์ดำมืดซึ่งรอบๆ เป็นดินชื้นแฉะแห่งหนึ่ง ดูเหมือนว่าพวกเขาจะทอยเต๋าได้แต้มผิดเสียแล้ว
.
.
.
.
.
ขำเมีย GM 55555
อ่านเล่ม 2 ละเนือยๆ กระตือรือล้นตามอ่านแต่โมเม้นวั่งเซียน
ตอนยังไม่ได้หนังสือนี่ตื่นเต้นมาก พอได้แล้วรู้สึกตื่นเต้นน้อยลง อยากจะอ่านแต่โมเม้นท์วั่งเซียนเหมือนกัน อยากวาร์ปม่านฉวาข้ามไปเจอวั่งเซียนและเหล่ากูซูบอย (ม่านฉวาก็สนุกแหละแต่อยากเจอวั่งเซียนเร็วๆ)
อ่านสปอยเทียนกวานแล้วรู้สึกว่าตอนอ่านจะต้องเบาหวานขึ้นแน่ ฮวาเซิงออกมาแต่ละฉากเทน้ำตาลมาก >\\\<
ลืมไป กู 666 นะ ว่าจะถามเรื่องชุดของเว่ยอิง (ชุดในอ่านฮวาตอนไปเรียนที่กูซูอ่ะ ชุดที่มันเหมือนมีแฉกๆ เรียกไม่ถูก) มันเป็นชุดที่คนจีนใส่จริงๆ หรือว่าเป็นชุดที่จินตนาการขึ้นมาใช้เฉพาะในนิยาย/การ์ตูนอ่ะกูไม่เข้าใจโครงสร้างชุดเลย งงมาสามวันละ
>>667 แฟชั่นสมัยราชวงศ์ถังมึง ใส่เป็นเสื้อคลุมตัวนอก รวยๆหน่อยจะมีผ้าคาดข้างหน้า เป็นคนละชิ้นกับเสื้อคลุมแล้วใส่ทับด้วยผ้าคาดเอว ปกติอิผ้าคาดข้างหน้ามันจะคนละลายคนละสีกับเสื้อคลุม ทีนี้ของพี่เว่ยมันไม่มีลายแถมสีเดียวกับเสื้อคลุมมึงเลยเข้าใจผิดว่าเป็นชิ้นเดียวกัน
หลานจ้านถามวิญญาณเว่ยอิง 13 ปีอยู่ตรงไหนในนิยายวะมึง
ใครอยากอ่านโมเม้นท์ในเทียนกวาน (แต่สปอยล์นะ) ไปนี่เลยจ้า https://twitter.com/OrangeNaidong/status/1160450963653611520?s=19
สปอยเทียนกวานต่อจาก >>661 เทียนกวาน Part.38
.
.
.
.
.
เซี่ยเหลียนกับซือชิงเสวียนพยายามหาทางออกจากอุโมงค์ดินแฉะอุ่นเหนียวโคลน ตอนนั้นเองก็มีเสียงอะไรบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ข้างหน้าพร้อมทำให้แผ่นดินไหวสั่นเทือน ทั้งสองมองหน้ากันแล้วรีบเปลี่ยนทิศไปฝั่งตรงข้ามโดยพร้อมเพรียง ทว่าอีกทางก็มีเสียงดังขึ้นเช่นกัน พวกเขาถูกล้อมทั้งหน้าหลัง ไม่นานไส้เดือนยักษ์สีม่วงก็ปรากฏให้เห็น เซี่ยเหลียนบอกให้ซือชิงเสวียนเร่งไฟในมือ ทำให้ไส้เดือนที่กลัวแสงต้องเว้นระยะห่างจากพวกเขา แต่นอกจากพลังของเทพแห่งลมจะค่อยๆ ลดจนแสงไฟริบหรี่ลงเรื่อยๆ อากาศหายใจก็เริ่มจะไม่พอ ตอนแรกพวกเขาตั้งใจจะวาดคาถาย่นระยะทาง แต่ผิวดินเละๆ ก็ส่งผลให้ไม่สามารถวาดอะไรลงไปได้ แล้วเซี่ยเหลียนก็เหยียบเจอประตูหินบนพื้นเหมือนก่อนหน้านี้ เขารีบส่งลูกเต๋าให้เทพแห่งลม คราวนี้แต้มออก 3 และ 4 ภาพบนแผ่นหินเปลี่ยนไปเป็นภาพป่าซึ่งมีผู้คนเต้นเป็นวงกลม และในตอนที่ไส้เดือนพุ่งเข้ามา ประตูก็เปิดออกพอดี
เทพทั้งสองหล่นมาอยู่ในโพรงต้นไม้ ร่างกายที่กระแทกกันเองระหว่างทางทำให้ระบมไม่น้อย เซี่ยเหลียนผู้คุ้นชินกับความเจ็บแล้วไม่มีปฏิกิริยาอะไรมากนัก ส่วนซือชิงเสวียนร้องโอดโอย บอกว่าทำงานกับเซี่ยเหลียนช่างเต็มไปด้วยเรื่องตื่นต้นเสียจริง ทำให้คนฟังหัวเราะเบาๆ แล้วกล่าวขอบคุณอีกฝ่ายที่มาร่วมงานด้วยกัน ตอนนี้พวกเขาน่าจะอยู่ในป่ากลางหุบเขาลึกที่ใดที่หนึ่ง แต่ไม่ทันทำอะไรทั้งสองก็เจอกับคนป่าเผ่ากินคนเข้ามาล้อมจึงรีบเผ่นแน่บตามหาประตูกันอีกรอบ หนึ่งในกลุ่มคนป่าปาก้อนหินโดนแก้มของซือชิงเสวียนได้แผล ทำให้เทพแห่งลมโกรธจนไม่สนกฎสวรรค์ว่าห้ามใช้พลังทำร้ายมนุษย์ เขาใช้พัดเทพเป่าพวกคนป่าไปกระแทกต้นไม้ ทั้งสองจึงสามารถเดินหาประตูกันได้โดยไร้คนก่อกวนอีก และในที่สุดพวกเขาก็หามันพบ
ซือชิงเสวียนบอกให้เซี่ยเหลียนเป็นคนลองเสี่ยงดวงทอยเต๋าเพราะโชคที่ฮวาเฉิงให้ยืมมาอาจพอมีเหลืออยู่ ได้ยินอีกฝ่ายเรียกอ๋องผีว่าซานหลางของท่านก็ทำให้เซี่ยเหลียนรู้สึกอายขึ้นมา อยากจะแก้ตัวแต่ก็ไม่รู้จะอธิบายอะไรเลยหันไปทอยเต๋าแทน คราวนี้ได้แต้ม 6 ทั้งสองลูก แต่รูปบนหินไม่ได้เปลี่ยนไป แล้วพวกเขาก็มาโผล่ที่บันไดยาวมืดที่ทอดลงลึกใต้ดิน ในขณะที่คิดว่าพวกตนอาจกลับมาที่จุดแรก ทั้งสองก็พบว่าบันไดนี้มีหลายขั้นกว่าคราวก่อน แล้วพวกเขาก็ได้กลิ่นคาวเลือดกับเสียงหอบหายใจของใครบางคน จากนั้นเสียงเย็นชาของชายคนหนึ่งก็ดังขึ้นมาว่าเขาไม่มีอะไรจะพูดทั้งนั้น
หลังจากได้ยินเสียงนั้นซือชิงเสวียนก็รีบจุดไฟขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่สนใจอันตราย เบื้องหน้าคือชายในชุดสีดำกำลังนั่งพิงกำแพงหินด้วยใบหน้าซีดขาว แต่สายตาเยียบเย็นราวน้ำแข็ง กลิ่นเลือดทำให้รู้ได้ว่าอีกฝ่ายเจ็บหนัก พอเห็นหน้าอีกฝ่ายเทพแห่งลมก็ร้องว่าเป็นเจ้าเองหรือ เสียงของซือชิงเสวียนทำให้ชายคนนั้นเกือบจะเอ่ยคำเดียวกันออกมา แต่หลังจากเห็นคนตรงหน้าในสภาพครอสเดรสหลุดลุ่ยสกปรกเละเทะ ชายคนนั้นก็เงียบไป พอเซี่ยเหลียนถามว่าทั้งสองรู้จักกันหรือ ชายชุดดำก็รีบตอบว่าไม่รู้จัก ทำเอาซือชิงเสวียนครวญว่าการรู้จักกับเขามันน่าอายหรือหมิงซ่ง ทั้งยังเคลมว่าพวกตนเป็นเพื่อนสนิทกัน แต่อีกฝ่ายก็ตอกกลับว่าเขาไม่มีเพื่อนที่วิ่งไปไหนมาไหนด้วยสภาพเช่นนี้ (คำว่าซ่ง ความหมายประมาณเพื่อนผู้ชายเรียกกันว่า Bro ในภาษาอังกฤษ)
ได้ยินเทพแห่งลมเรียกชายตรงหน้าอย่างนั้น เซี่ยเหลียนก็นึกขึ้นได้ว่าเทพแห่งดินมีชื่อว่าหมิงอี้ พอซือชิงเสวียนบอกเพิ่มว่าเซี่ยเหลียนกับหมิงอี้เคยกันแล้วที่เส้นทางปั้นเยวี่ยก็ทำเอาหน้าซีดๆ ของหมิงอี้ดำทมึน และเซี่ยเหลียนก็ถึงบางอ้อว่าอีกฝ่ายคือสตรีชุดสีดำที่อยู่กับเทพแห่งลมในตอนนั้น นอกจากซือชิงเสวียนจะชอบแต่งหญิงแล้ว ดูท่าจะยังชอบดึงคนอื่นมา Trap ด้วย พอนึกว่าก่อนหน้านี้เทพแห่งลมพยายามชวนเขาปลอมเป็นสตรีก็รู้สึกดีใจที่ไม่ได้หลวมตัว join the dark side ไป จากนั้นเซี่ยเหลียนจึงถามหมิงอี้ว่าเขาคือคนที่ส่งสัญญาณมังกรไฟหรือเปล่า ซึ่งเทพแห่งดินก็ยอมรับว่าเป็นเขาเอง แต่ด้วยอาการบาดเจ็บของอีกฝ่าย เซี่ยเหลียนจึงยังไม่สอบถามรายละเอียดและตั้งใจจะพากันหนีออกไปจากที่แห่งนี้ก่อน ซือชิงเสวียนแบกหมิงอี้ขึ้นหลัง ไม่นานนักเทพแห่งดินก็หลับไปทั้งอย่างนั้น เมื่อถึงประตูเซี่ยเหลียนก็ทอยลูกเต๋า ทว่าด้วยความมืดทำให้เขาไม่ทราบว่ามันออกแต้มอะไร เขาเปิดประตูพลางคิดหาทางพาหลางอิ๋งไปด้วยกัน แต่แล้วเขาก็พบว่าตัวเองกำลังลอยอยู่กลางอากาศก่อนตกลงบนอะไรบางอย่าง หลังจากตั้งสติได้ก็รู้ว่าตนหล่นมาใส่ฮวาเฉิงผู้นั่งอยู่บนบัลลังก์ในคลังแสง อ๋องผีเลิกคิ้วสูงมองใบหน้าของเซี่ยเหลียนอย่างต้องการคำอธิบาย และเมื่อเซี่ยเหลียนมองไปรอบๆ เขาก็เห็นหลางอิ๋งนั่งอยู่บนพื้น ร่างกายสั่นเทาด้วยความหวาดกลัวเหมือนกำลังถูกสอบปากคำ และที่ประตูมิติ ซือชิงเสวียนก็กำลังจะตามเขาออกมา
.
.
.
.
.
เพื่อนโม่งกูถามหน่อยคือกูบังเอิญผ่านไปเห็นคนนึงพูดว่าในกฏสกุลหลานมีข้อนึงหลานจ้านเป็นคนเขียนเองว่าห้ามเข้าใกล้พี่เว่ยอันนี้จริงหรือกาว เพราะเท่าที่ตามมากูไม่เคยได้ยินคนพูดถึงเรื่องี้เลย รู้แค่ว่าตอนแรกกฏสกุลหลานมีสามพันข้อ แล้วตอนหลังเพิ่มเป็นสี่พันเพราะเรื่องพี่เว่ย แต่ก็เป็นกฏทำนองว่าห้ามไม่ให้คบค้าสมาคมกับพวกนอกรีตอะไรทำนองนั้นเฉยๆป่ะ
มีกฎว่าห้ามเว่ยอู๋เซี่ยนเข้ามาข้างใน แต่ถ้าอิงจากออริจริงๆ คนที่ขึ้นเป็นผู้นำตระกูลแทนพี่ซีคือท่านอา เพราะงั้นกฎข้อนี้คนเขียนจริงๆต้องเป็นท่านอา แต่ซีรีย์พี่วั่งขึ้นเป็นเซียนตู เลยดูเหมือนพี่วั่งเป็นคนเขียนอะนะ ถ้ากูจำไม่ผิดมีในสัมนักแสดงนะ ของซือจุยถามว่าไม่ชอบกฎตระกูลข้อไหนน้องตอบข้อที่ไม่ให้เว่นอู๋เซี่ยนเข้าข้างในเพราะเว่ยอู๋เซี่บนเป็นคนสำคัญของ อีกอันกูไม่แน่ใจว่าสัมพี่ซีมั้งที่บอกว่าเพิ่มกฎแล้วมีข้อที่ว่าห้ามเว่ยอู๋เซียนเข้ามาเป็นข้อสุดท้าย
Ky พวกมึงง ตกชงในนิยายพี่ซีก็ทิ่งตำแหน่งประมุขหรอวะะะ
เพิ่งได้ข่าวว่าตัวร้ายอย่างข้า ได้ตอนพิเศษมาไม่ครบ สรุปว่าขาดตอนพิเศษไปกี่ตอนอ่ะ (รู้แต่ว่าตอน "แต่งงาน" ไม่มีแปลไทย)
ปรจ. ก็เห็นว่าไม่ครบอีกนั่นแหละ แล้วแบบนี้เทียนกวานก็จะได้ตอนพิเศษอีกป่ะเนี่ย
>>683 เฮ้ย กูเพิ่งรู้ว่าตรยข ได้ตอนพิเศษมาไม่ครบ กูนี่รีบวิ่งไปค้นฉบับไต้หวันมาเปิดดูเลย
เออ ของไทยมันจบที่ตอนคำถามคู่รัก แต่ของจีนมันมีตอน "แต่งงาน" อย่างที่มึงบอกจริง ๆ ด้วยว่ะ
(ปล. กูอ่านจีนไม่ออก ใช้แอ็ปทรานสเลตเป็นคำ ๆ เอา และไม่มีปัญญาดำเองทั้งตอนแน่ ๆ )
ทำไมของไทยไม่ครบวะ ? ตอนเซนส์บุ้คซื้อลิขสิทธิ์มาก็น่าจะได้มาทุกตอนตามต้นฉบับไม่ใช่เหรอ ? กูงง ?
>>687 ปรมจ. นี่ก็โครตเซ็งตอนได้ข่าวว่าฉบับจีนแผ่นดินใหญ่มีตอนพิเศษที่ไม่มีในฉบับไต้หวัน
ซึ่งกูว่าฉบับไทยน่าจะอิงตามไต้หวัน เพราะของจีนแผ่นดินใหญ่เพิ่งออกมาแค่เล่มเดียว
กูว่าเล่มที่เหลือก็ต้องมีตอนพิเศษอีกแหง ๆ ถึงจะเป็นตอนธรรมดา ไม่มี NC เพราะกบว.จีน แต่กูก็ยังอยากอ่านว่ะ แม่ง
>>688 กูก็เซ็ง นักเขียนไทยออกตอนพิเศษเฉพาะรอบพรียังพอหาซื้อได้ งานแม่โม่ชอบงอกตอนพิเศษแล้วไม่ขายลิขสิทธิ์ ก็ต้องไปดำน้ำ ดำไปดำมาดีไม่ดีเจอคนแต่งฟิคแล้วหลอกว่าเป็นตอนพิเศษที่ไม่มีในเล่มไปอีก
พูดแล้วก็คิดว่าถ้าสนพนี้มาอยู่ไทยคงโดนด่ายันเงา ออกเวอร์ชันใหม่มีตอนพิเศษเพิ่มไม่สนใจลูกค้าเก่า ใครอยากอ่านก็ซื้อใหม่วนไป เปลี่ยนปกๆ
กูว่าที่เขาไม่ขายสิทธิ์ด้วยอาจเพราะขายความลิมิเตดด้วยป่ะ ฟิลแบบปรมจไต้หวันอิดิชั่นงี้ ก็ได้ตอนพิเศษเฉพาะเพิ่มไปพิเศษของประเทศนี้งี้ แต่หลักๆได้ตอนพิเศษเพิ่มก็น่าจะมีแค่จีนกับไต้หวันล่ะมั้ง
สปอยเทียนกวานต่อจาก >>672 เทียนกวาน Part.39
.
.
.
.
.
เซี่ยเหลียนร้องขอโทษก่อนผลักฮวาเฉิงกลิ้งหลุนๆ ไป 2 ตลบ พอดีกับที่ซือชิงเสวียนซึ่งแบกหมิงอี้อยู่หล่นลงมาตรงจุดที่อ๋องผีเคยนั่งอยู่พอดี ในขณะที่หลางอิ๋งวิ่งมาหลบด้านหลังเซี่ยเหลียน เทพแห่งลมก็โวยวายใส่อ๋องผีที่จับเจ้าหน้าที่สวรรค์มาขังไว้ เซี่ยเหลียนพยายามไกล่เกลี่ย แต่ฮวาเฉิงก็บอกว่าหมิงอี้เป็นสายลับที่แอบปลอมตัวมาเป็นลูกน้องของเขาถึง 10 ปี เขาสงสัยอีกฝ่ายมานานแต่เพิ่งมาจับได้จริงๆ ตอนเห็นเทพแห่งดินอยู่กับซือชิงเสวียนที่เส้นทางปั้นเยวี่ย หลังจากผละจากอารามผูจี้เขาจึงไปจับตัวหมิงอี้ไว้
หากผู้ใดล่วงรู้ว่าสวรรค์แอบส่งคนมาสืบข้อมูลในเมืองผีก็คงไม่ส่งผลดี นี่คงเป็นเหตุให้จวินอู๋เรียกเซี่ยเหลียนมาทำงานลับๆ โดยไม่เล่าความจริงให้ฟังทั้งหมด เซี่ยเหลียนบอกฮวาเฉิงว่าเขาเข้าใจดีว่าสวรรค์ทำผิด แต่ก็ขอให้อีกฝ่ายช่วยปล่อยพวกเขาไป กระนั้นด้วยความร้อนใจซือชิงเสวียนชิงเลยหยิบพัดขึ้นโบกรุนแรงจนเพดานคลังแสงลอยขึ้นไปบนอากาศ ฮวาเฉิงหยิบพัดสีทองมาจากคลังอาวุธ เมื่อเขาตวัดมือก็มีเข็มเล่มเล็กพุ่งออกมาจากมัน แม้ทั้งสามจะสามารถหลบจากการโจมตี แต่ลมก็พัดเข็มเหล่านั้นหมุนวนไปทั่วห้อง เซี่ยเหลียนเข้าไปปกป้องหลางอิ๋ง พร้อมตะโกนบอกให้เทพแห่งลมหยุดลมไว้ ทว่าหากทำเช่นนั้นหลังคาที่ลอยอยู่ก็จะหล่นลงมาทับพวกเขาทั้งปาร์ตี้ ซือชิงเสวียนเลยไม่ได้ทำตามนั้น
ตอนนั้นจู่ๆ เข็มก็พุ่งขึ้นไปข้างบน แล้วหลางเชียนชิวก็กระโดดลงมาจากเพดานซึ่งเปิดโล่ง ดาบยาวในมือดูดเข็มสีทองพวกนั้นไว้ราวแม่เหล็ก ก่อนหลอมพวกมันเป็นเนื้อเดียวกับดาบ หลางเชียนชิวก็พุ่งเข้าใส่อ๋องผี ฮวาเฉิงหยิบเอ้อมิ่งขึ้นมาแล้วทั้งสองก็ฟาดฟันกันอย่างดุเดือด ทว่าฝีมือของพวกเขาต่างกันเกินไป ในขณะที่ดาบโค้งกำลังจะปะทะกับดาบยาวนั่นเอง ทันใดนั้นก็มีแสงสีขาวสว่างจ้าขึ้น เซี่ยเหลียนอาศัยจังหวะนั้นรวบรวมพลังทิพย์ที่นี้ยืมมาจากเทพแห่งลมยิงลำแสงออกไป ส่งผลให้มุมหนึ่งของคลังแสงไฟไหม้ เขารีบใช้รั่วเย่มัดตัวเอง ซือชิงเสวียน หมิงอี้ หลางเชียวชิว และหลางอิ๋งไว้ด้วยกัน แล้วบอกให้เทพแห่งลมพัดพวกตนขึ้นไป
เมื่อขึ้นมาอยู่บนอากาศแล้ว ซือชิงเสวียนที่กลัวว่าฮวาเฉิงจะตามมาก็รีบพัดกองไฟจนมันลุกท่วมคลังแสง เซี่ยเหลียนรีบคว้ามืออีกฝ่ายให้หยุด เมื่อมองลงไปในกองเพลิงเบื้องล่าง แม้จะอยู่ไกลจนมองไม่เห็น แต่เขาก็รับรู้ได้ว่าอ๋องผีกำลังยืนนิ่งจ้องมองเขาอยู่ท่ามกลางเปลวไฟนั้นซึ่งกำลังลามไปทั่วอนุสรณ์สุขาวดี เขาตั้งใจจะจุดไฟกองเล็กๆ เพื่อดึงความสนใจของอีกฝ่ายไปเท่านั้น ไม่ได้หวังให้กลายเป็นเช่นนี้เลย เห็นท่าทางของเซี่ยเหลียน เทพแห่งลมก็รีบกล่าวขอโทษ และบอกว่าตนจะยอมจ่ายค่าเสียหายทั้งหมดให้เอง เซี่ยเหลียนหลับตาลงอย่างกลัดกลุ้ม ตอนนั้นเองซือชิงเสวียนก็สังเกตว่าแขนขวาของเซี่ยเหลียนชุ่มไปด้วยเลือด ไม่นานก็นึกได้ว่าแสงสีขาวในตอนนั้นน่าจะเป็นฝีมือของคนตรงหน้า เขาเกือบลืมไปแล้วว่าเซี่ยเหลียนเคยขึ้นสวรรค์มาด้วยความสามารถในการใช้ดาบ
ในช่วงวลานั้นเซี่ยเหลียนหยิบดาบเล่มหนึ่งในคลังแสงพุ่งเข้าขวางการโจมตีของฮวาเฉิงกับหลานเชียนชิว ส่งผลให้เขาเป็นผู้รับแรงปะทะทั้งหมดเอาไว้ หลางเชียนชิวแม้ไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่เขากลับมีสีหน้าแข็งค้างราววิญญาณออกจากร่าง แม้เทพแห่งลมจะพยายามเรียกก็ไม่มีการตอบรับใดๆ ในที่สุดพวกเขาก็กลับมาถึงสวรรค์ เซี่ยเหลียนให้หลางอิ๋งไปอยู่ที่ห้องข้างหอประชุม ในขณะที่เขาใช้โทรจิตเรียกให้เทพทุกองค์มาประชุม และแจ้งว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บต้องการคนดูแลคนหนึ่ง ซือชิงเสวียนเปลี่ยนกลับไปใส่ชุดนักพรตสีขาว กล่าวเสริมว่ามีคนบาดเจ็บ 2 คน ก่อนโปรยกุศลรัวๆ โดยอ้างว่าทำอย่างนี้จะเรียกคนมาได้เร็วกว่า
เฟิงซิ่นกับมู่ฉิงเป็น 2 คนแรกที่มาถึง เมื่อเห็นเฟิงซิ่นเข้าไปดูแขนของเซี่ยเหลียน มู่ฉิงจึงหันไปดูอาการของหมิงอี้ พอคนมามากขึ้นก็มีเจ้าหน้าที่ช่วยพาเทพแห่งดินออกไปรักษา เซี่ยเหลียนบอกเฟิงซิ่นว่าเขาไม่เป็นอะไร ก่อนเห็นว่าหลางเชียนชิวกำลังจ้องเขาตาไม่กระพริบ เมื่อเซี่ยเหลียนเข้าไปดูว่าอีกฝ่ายได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า หลางเชียนชิวก็คว้าข้อมือของเขาไว้ ก่อนจะกัดฟันเรียกเขาอย่างไม่แน่ใจว่าราชครู เทพทุกองค์ในหอประชุมหันมามองทั้งสองคน หลางเชียนชิวเป็นองค์ชายรัชทายาทแห่งอาณาจักรหย่งอัน ในสมัยนั้นเขามีราชครู 2 คน และคนที่ไม่มีใครรู้ตัวตนที่แท้จริงก็มีเพียงราชครูฟางซิ่น การที่หลางเชียนชิวเรียกเซี่ยเหลียนเช่นนั้นไม่ได้หมายความว่าอีกฝ่ายคือราชครูฟางซิ่น 1 ใน 2 นักพรตมารในตำนานผู้นำความล่มสลายมาสู่หย่งอันหรอกหรือ
.
.
.
.
.
>>691 อ่านตอนนี้แล้วสงสารเตี้ยเซี่ยนจริงๆ ตอนแรกก็ต้องมาคอยห้ามทัพแก๊งค์เด็กเลือดร้อน ห้ามซ้ายทีขวาที พอจะเบี่ยงเบนความสนใจก็กลายเป็นยิ่งลุกลาม อ่านตอนที่ว่าไฟไหม้คลังแสงแล้วเศร้าอ่ะ แบบทั้งๆที่ฟาฟาเก็บไว้ให้จะยกให้ตัวเองแต่สุดท้ายก็ทำลายคลังแสงที่เขาอุตส่าห์ตั้งใจเก็บไว้ให้จนเสียหาย ปวดใจเลยอ่ะ ฮืออออออ แต่เรื่องโปรยกุศลนี่ฟิลมันเป็นยังไงอ่ะ เหมือนโปรยทานมะ 555555555
>>685 อ๋อ อย่างนี้นี่เองเรื่องน้องชายร่วมสาบานคงหนักมากจริงๆสำหรับพี่ซี โอเค กูเข้าใจผิดมาตลอดว่าพี่ซีเทตำแหน่งทิ้ง หวังว่าพี่ซีจะหายเจ็บปวดเร็วๆนะ คนที่แสนดีของกูTT
เออ กูถามอีกก ในนิยายวิธีที่อาเหยาใช้ฆ่าพี่เนี่ยเหมือนในซีรี่ย์ไหม555 เพราะถ้าใช่ กูว่าพี่ซีคงเสียใจเรื่องนั้นด้วยแน่ๆเพราะก็เหมือนตัวเองฆ่าพี่ใหญ่ทางอ้อมอะ คนดีของกูน่าสงสารจังเลย...
>>693 หลายอย่างเลยนะปมพี่ซี ทั้งเรื่องที่อาเหยาเอาวิธีรักษาของตัวเองไปเป็นวิธีฆ่า คนที่ตัวเองไว้ใจเชื่อใจมากที่แท้แล้วกลับเหมือนไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเจ้าตัวเลยทั้งเรื่องที่อาเหยาทำเรื่องเลวร้ายต่างๆหักหลังความเชื่อใจ ทั้งเรื่องปมของเจ้าตัวที่ทำให้เจ้าตัวกลายเป็นคนแบบนี้ ทั้งเรื่องความแตกหักระหว่างอาเหยากับพี่หมิง ทั้งเรื่องที่พี่หมิงทำกับอาเหยา ไหนจะเรื่องที่เป็นคนลงดาบคนที่ตัวเองไว้ใจที่สุดเพราะน้องชายอีกคนที่ไว้ใจใช้ความหวาดระแวงของตัวเองเป็นเครื่องมือ สุดท้ายแล้วยินยอมจะตายไปกับเขาแต่เขากลับผลักออกมาพร้อมคำพูดที่ว่าคนเดียวที่ไม่เคยคิดทำร้ายคือเจ้าตัว พี่ซีเลยพังทลายลงไปน่ะ แบบไม่รู้จะเชื่อใจใครได้แล้ว อันไหนคือเรื่องจริงอันไหนคือเรื่องลวง พี่ไม่อยากรับรู้แล้ว
กูเข้าใจน้องเนี่ยนะแต่ก็โกรธนางเรื่องนี้ด้วย เพราะน้องไม่ใช่แค่ให้พี่ซีฆ่าคนที่ตัวเองเชื่อใจที่สุดแต่ตัวน้องเนี่ยเองก็ทรยศความไว้ใจของพี่ซีเหมือนกันเลยเป็นหนึ่งในปมเรื่องความเชื่อใจของพี่ซีด้วย
>>697 กูหวังว่าเวลาจะช่วยรักษาพี่ซีได้ คนดีชิบหายแบบนี้ไม่ควรมาเจออะไรแบบนี้เลย...พี่ซีเฉินของกู กูอยากจะพาพี่เขากลับบ้านแล้วซ่อนไว้...กูดูแลเอง555
เออแล้วที่เขาวิเคราะห์ว่าเพราะอาเหยาชวนแบบนั้นแล้วผลักออกเพื่อให้พี่ซีจดจำและเจ็บปวด อะไรนั้นกูว่าจริงส่วนหนึ่งวะ...กูคิดว่าตอนโดนแทงอาเหยาก็คงรู้สึกมองพี่ซีเปลี่ยนไปเหมือนกันก็เลยแบบ ฉันจะตายแล้วนะ จำไว้แล้วกันว่าเธอฆ่า...ไม่รู้ดิ กูมองยังไงกูก็มองอาเหยาดีไม่ได้555
>>698 ตรงนั้นกูว่าคิดแบบไหนก็ไม่ผิดเพราะโม่เซียงทำเป็นปลายเปิดไว้ จะคิดว่าอาเหยาไม่มีวันทำร้ายพี่ซีจริงๆก็ได้ หรือพูดเพื่อทำร้ายจิตใจก็ได้ ส่วนตัวกูคิดว่าทั้งสองอย่างรวมกัน อาเหยามีคนที่รักไม่เยอะ จินหลิงเอย พี่ซีเอย แต่ในใจเองก็คงอยากแก้แค้นเล็กๆที่ตัวเองไม่มีวันคิดทำร้ายพี่ซีจริงๆแต่กลับโดนแบบนี้ น้องเนี่ยเองก็เป็นคนที่อาเหยารักนะ จนถึงที่สุดก็ยังไม่ลงมือกับน้องเลย กูว่าตลค.มันมีขาวมีดำ จะดำหมดก็คงผิดหลักการแม่โม่ อันนี้ความคิดส่วนตัวกูนะ
เพื่อนกูเคยบอกว่าจินกวงเหยาในซีรีย์คือเสิ่นจิ่วในตัวร้ายอย่างข้า กูไม่เก็ตจนวันนี้ได้อ่านตัวร้ายนี่แหละ กูเข้าใจเลยว่าทำไมแม่โม่ถึงสร้างจินกวงเหยามาแบบนี้ แต่สุดท้ายจินกวงเหยาในซีรีย์ก็ดันย้อนกลับไปเป็นสิ่งที่แม่โม่เขียนไว้ซะงั้น
>>691 ขอบใจจ้า
แต่ละคน เพื่อนร่วมงานหรือเด็กฝากเลี้ยงในเซี่ยเหลียนเนิร์สเซอรี่คะ
คลังแสงวอดวายก็ไม่ต้องซีเรียสหรอกค่ะเตี้ยนเซี่ย ต่อให้วอดทั้งเมืองผีซานหลางของท่านก็ don't care ค่ะ ทุกอย่างของฟาฟาถวายให้ท่านหมดแล้ว
แต่อย่าหาเรื่องเจ็บตัวบ่อยนักสิคะ ถนอมพระวรกายด้วย ไม่งั้นฟาฟาจะ Hurt หนักมาก ในใจฟาฟากับเอ้อมิ่งเป็นหน้า ˚‧º·(˚ ˃̣̣̥᷄⌓˂̣̣̥᷅ )‧º·˚ ไปแล้วนะคะ
>>698 >>700
ความรู้สึกกู คืออาเหยาไม่รักใครจริงสักคนนอกจากแม่. ที่นางคิดจะลากพี่ซีลงโลงไปด้วยแล้วเปลี่ยนใจนี่ ความรู้สึกกูเหมือนนางอยากให้พี่ซีเจ็บปวด แวบแรกอาจจะแบบตายด้วยกันเถอะ แวบต่อมาปล่อยให้แมร่งเจ็บแบบอยู่ไม่สู้ตาย คือถ้ากูรักใครสักคนมากๆ กูจะไม่ไปบอกเค้าหรอกว่าไม่มีวันทำร้ายเค้า กุจะแสดงให้เห็นเองจริงๆ ว่ากุไม่ทำ ไม่ใช่พอจะตายแล้วก็มาพูดให้กระทบใจ
ปล กุไม่ได้เกลียดอาเหยา. นี่แค่ความรู้สึกกรุเฉยๆ
แม่โม่เป็นอะไรกับตัวละครสายพี่ชายแสนดีป่ะวะ ชะตาชีวิตบัดซบมาสองคนรวด พี่เยวี่ยงร้ พี่ซีงี้ กุอยากกอดเก็บเขาไว้ ไม่ให้พี่ชายคนดีของกุต้องมาเจอเรื่องเลวร้ายพวกนี้
>>703 กูคิดแบบมึง แต่ด้วยบทที่ปูมาอาเหยาต้องมีความเห็นแก่ตัวอยู่กูว่าก็มีความเป็นไปได้ว่ามีส่วนลึกที่แบบ อยากให้ตายไปด้วยจริงๆแต่อาจจะมาคิดได้ มันก็เป็นไปอีกแบบหนึ่ง...
อะนั้นอะกูดูแก้ตัวไปอีกแต่คือกูก็ไม่ได้มองงี้หรอก เข้าใจปมน้องแหละแต่กูว่ามันเล็กน้อยสำหรัยกูแต่ก็นั้นอีกแหละ ความอดทนของคนเรามันมีไม่เท่ากัน...แต่กูก็อภัยอาเหยาไม่ได้อยู่ดีถึงกูจะบอกว่ากูเข้าใจ
>>704 เออ กูเห็นด้วยย คนแสนดีของกูอาภัพกันไปหมดเลยยยยยย กูอยากจะพาเขามาซ่อนบ้านกูกอดเขาไว้แน่นๆ พร้อมเอามีดทำครัวฟาดคนที่ร้ายใส่คนดีของกูทั้งหมดดดด
ปูเสื่อรอโม่งสปอย
สปอยเทียนกวานต่อจาก >>691 เทียนกวาน Part.40
ก่อนสปอยขอสารภาพบาปอีกหนว่าพาร์ทที่แล้วกูแปลผิดที่ว่าหลางเชียนชิวมีราชครู 2 คน ความจริงหลางเชียนชิวมีอาจารย์แค่คนเดียวนะ T^T
.
.
.
.
.
เมื่อได้ยินคำของหลางเชียนชิว เฟิงซิ่นและมู่ฉิงก็ตกใจเป็นอย่างมาก ซือชิงเสวียนรีบเอ่ยถามว่าหลางเชียนชิวจำคนผิดหรือเปล่า ไม่นานนักจวินอู่ก็เข้ามาในหอประชุม บอกให้เล่ารายละเอียดให้ฟังว่าเหตุใดหลางเชียนชิวถึงไม่ยอมปล่อยเซี่ยเหลียน พอคิดว่าตอนนี้เซี่ยเหลียนไม่มีทางหนีไปได้ หลางเชียนชิวก็ปล่อยมือคนตรงหน้า แล้วหันไปบอกวินอู๋ฟังว่าเมื่อหลายร้อยปีก่อนเซี่ยเหลียนใช้ชื่อว่าฟางซิ่น และได้สังหารราชวงศ์ของเขาจนส่งผลให้อาณาจักรหย่งอันล่มสลายในเวลาต่อมา เขาจึงขอจัด Death Match กับเซี่ยเหลียนโดยมีจวินอู๋เป็นพยาน
ในขณะที่เทพหลายองค์กำลังพยายามหาข้อมูลของราชครูฟางซิ่นในเครือข่ายโทรจิต หลิงเหวินก็ปรากฏตัวขึ้น เธออธิบายให้ฟังว่าราชครูฟางซิ่นเป็นอาจารย์ของหลางเชียนชิว และที่เขาถูกเรียกว่าเป็น 1 ใน 2 นักพรตมารก็เป็นเพราะเหตุการณ์งานเลี้ยงฉลองทองคำอาบเลือดของราชวงศ์หย่งอัน ซึ่งจัดขึ้นในคืนวันเกิดปีที่ 17 ขององค์ชายรัชทายาท ราชครูฟางซิ่นถือกระบี่เข้าไปงานเลี้ยงและสังหารเหล่าราชวงศ์ทุกคนที่เข้าร่วมงาน มีเพียงหลางเชียนชิวที่ไปร่วมงานสายเพียงคนเดียวที่รอดชีวิตมาได้ เมื่อราชครูถูกจับตัว หลางเชียนชิวจึงสังหารอีกฝ่ายด้วยมือของตน ก่อนเอาร่างของราชครูใส่ลงในโลงศพ 3 ชั้น แล้วนำไปฝังไว้ใต้ดินอีกที แต่ถึงคนร้ายจะถูกจัดการ ราชวงศ์หย่งอันก็สูญเสียเป็นอย่างมากจนในที่สุดก็ถูกอาณาจักรอื่นกลืนกิน
หลางเชียนชิวบอกว่าที่ผ่านมาเขาไม่เข้าใจว่าเหตุใดราชครูฟางซิ่นถึงได้กระทำการอย่างนั้น แต่ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่ามันคือการล้างแค้น ในเมื่อหย่งอันทำให้เซียนเล่อล่มสลาย และทำให้พ่อแม่ของเซี่ยเหลียนต้องเสียชีวิต อีกฝ่ายจึงใช้วิธีเดียวกันกับหลางเชียนชิว เทพองค์อื่นพากันซุบซิบนินทา ก่อนที่จวินอู๋ก็ขอให้หลางเชียนชิวแสดงหลักฐานว่าเซี่ยเหลียนคือราชครูฟางซิ่นจริงๆ เพราะราชครูมารใส่หน้ากากปิดบังใบหน้าไว้ตลอด ทำให้ไม่มีผู้ใดรู้ว่าเขามีหน้าตาเป็นเช่นไร หลางเชียนชิวบอกว่าเซี่ยเหลียนเป็นผู้สอนการใช้ดาบให้แก่เขา มีหรือที่เขาจะจำวิธีที่อีกฝ่ายโจมตีไม่ได้ ตอนที่เขาอายุ 12 ปี เขาเคยลูกลักพาตัว ในตอนนั้นมีนักแสดงข้างถนนคนหนึ่งเข้ามาช่วยเขาโดยใช้เพียงกิ่งไม้ในการต่อสู้ เวลาต่อมาเขาจึงได้รับการแต่งตั้งเป็นราชครูและสอนหลางเชียนชิวเป็นเวลาถึง 5 ปี เขาจึงคุ้นเคยกับเพลงดาบของอีกฝ่ายเป็นอย่างดี
หลางเชียนชิวขอให้เทพองค์อื่นส่งกระบี่มาให้เขากับเซี่ยเหลียนต่อสู้กัน ทุกคนจะได้เห็นว่าทั้งสองมีวิธีการใช้ดาบแบบเดียวกัน ซือชิงเสวียนยังคงพยายามช่วยพูดโดยการบอกว่าแขนขวาของเซี่ยเหลียนบาดเจ็บอยู่ ทว่าหลางเชียนชิวกลับรวบรวมพลังที่มือซ้ายซัดใส่แขนขวาของตัวเองจนเลือดอาบ และร้องให้เซี่ยเหลียนต่อสู้กับเขาอย่างลูกผู้ชาย เซี่ยเหลียนส่ายหน้า บอกว่าเขาสาบานกับตัวเองไว้แล้วว่าจะไม่ใช้กระบี่สังหารผู้ใดอีก ได้ยินดังนั้นภาพที่ราชครูฟางซิ่นกำลังดึงกระบี่ออกจากร่างของบิดาก็กลับเข้ามาในหัวของหลางเชียนชิว เทพแห่งลมพยายามช่วยแก้ต่าง บอกว่าอาจเป็นเรื่องเข้าใจผิด เพราะในเมื่อราชครูฟางซิ่นสวมหน้ากากตลอดเวลา ก็อาจมีคนปลอมตัวเป็นเขามาก่อเรื่องก็ได้ แล้วเขาก็หันไปหาจวินอู๋อย่างขอให้อีกฝ่ายช่วยพูด กระนั้นเมื่อมหาเทพสอบถามเพิ่มเติม เซี่ยเหลียนกลับยอมรับว่าเขาคือราชครูฟางซิ่น และเป็นผู้ก่อเหตุสังหารในงานเลี้ยงฉลองทองคำอาบเลือดของราชวงศ์หย่งอันจริงๆ
ก่อนหน้านี้ แม้เผยซู่จะมีเผยหมิงคอยช่วย เขาก็ยังถูกเนรเทศ สำหรับเซี่ยเหลียน เขาจะตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกันหรือไม่ย่อมขึ้นอยู่กับจวินอู๋ว่าจะว่าอย่างไร ตอนขึ้นสวรรค์ครั้งแรกมหาเทพมองเขาเป็นคนโปรด ตอนขึ้นสวรรค์ครั้งที่ 2 พวกเขาต่อสู้กันอย่างดุเดือด ส่วนในการขึ้นสวรรค์ครั้งที่ 3 จวินอู๋ก็ยังแสดงมิตรไมตรี ถึงขั้นเป็นคนสั่งสร้างตำหนักให้เซี่ยเหลียนในจุดที่สวยที่สุดจุดหนึ่งของสวรรค์ ในขณะที่เทพทุกองค์หันไปมองมหาเทพว่าจะว่าอย่างไร จู่ๆ เซี่ยเหลียนก็ขอให้อีกฝ่ายปลดเขาจากการเป็นเทพ และเนรเทศเขากลับลงสู่ภพมนุษย์ สร้างเสียงฮือฮาในหอประชุมเป็นอย่างมาก หลางเชียนชิวไม่อาจยอมรับคำของเซี่ยเหลียน เขาเพียงต้องการดวลและไม่ได้ต้องการให้อีกฝ่ายถูกเนรเทศ แต่เซี่ยเหลียนก็ยืนยันว่าเขาไม่อยากต่อสู้ เพราะหากเขาทำอย่างนั้น คนที่ต้องเสียชีวิตจะต้องเป็นหลางเชียนชิวอย่างแน่นอน
.
.
.
.
.
สปอยเทียนกวานต่อจาก >>707 เทียนกวาน Part.41
.
.
.
.
.
เทพหลายองค์แอบคิดในใจว่าเทพเก็บขยะไร้พลังอย่างเซี่ยเหลียนช่างเหิมเกริมไร้ยางอายที่อ้างว่าสามารถสังหารเทพสงครามแห่งทิศตะวันออกอย่างหลางเชียนชิว สงสัยที่ขอถูกเนรเทศเองจะเป็นเพราะกลัวถูกอีกฝ่ายฆ่าตาย หลางเชียนชิวไม่คิดอย่างนั้น บอกว่าจะอยู่หรือตายไม่สำคัญและต้องการต่อสู้ให้ได้ ซือชิงเสวียนพยายามช่วยพูดอีกครั้ง เขาตั้งข้อสังเกตว่าหากเซี่ยเหลียนต้องการฆ่าล้างแค้นราชวงศ์หย่งอันจริงๆ เหตุใดจึงปล่อยให้หลางเชียนชิวรอดชีวิต แถมตอนอยู่ที่เมืองผี เซี่ยเหลียนก็ยังเข้าไปช่วยอีกฝ่ายตอนกำลังจะเสียท่าให้กับฮวาเฉิงอีกต่างหาก แต่เผยหมิงก็รีบกวนน้ำให้ขุ่นโดยบอกว่าในเมื่อเซี่ยเหลียนเป็นคนยอมรับความผิดเองไม่ต่างจากเผยซู่ เหตุใดจึงปฏิบัติแตกต่าง
ในที่สุดจวินอู๋ก็เอ่ยเสียงเรียบให้ทุกคนสงบ กล่าวให้หลางเชียนชิวค่อยๆ ประเมินเรื่องราวจนรู้ความจริงทั้งหมดเสียก่อน ส่วนเซี่ยเหลียนที่ไม่ยอมเล่าเรื่องทั้งหมดก็ให้คุมตัวกักบริเวณที่ตำหนักเซียนเล่อ แล้วเขาจะไปซักถามรายละเอียดด้วยตัวเอง โดยระหว่างนั้นห้ามหลางเชียนชิวกับเซี่ยเหลียนพบกันโดยเด็ดขาด เห็นจวินอู๋ปกป้องเซี่ยเหลียน เทพองค์อื่นก็ตั้งใจว่าจะไม่เผลอเรียกเซี่ยเหลียนว่าที่ขบขันของทั้ง 3 ภพในที่สาธารณะอีก แม้จะไม่พอใจกับคำตัดสินแต่หลางเชียวชิวก็ยอมผละมือ โดยเอ่ยทิ้งท้ายไว้ว่าไม่ว่าผลสรุปจะออกมาเป็นอย่างไรเขาก็จะสู้กับเซี่ยเหลียนอยู่ดี
เซี่ยเหลียนขอบคุณเทพแห่งลมที่พยายามช่วย แต่อย่าพูดอะไรไปมากกว่านี้ดีกว่า ก่อนขอให้อีกฝ่ายช่วยดูแลหลางอิ๋งระหว่างที่เขาถูกคุมตัว และหากแม่ทัพเผยพยายามไปวุ่นวายกับปั้นเยวี่ยก็ขอให้ช่วยเหลือเธอให้หน่อย เขาถูกเจ้าหน้าที่พามาที่ตำหนักเซียนเล่อ เมื่อมองไปรอบๆ ก็พบว่าที่นี่ถูกสร้างเหมือนกับตำหนักเดิมของเขาทุกประการ หลังจากผ่านเรื่องราวมากมายในช่วงไม่กี่วันนี้ เซี่ยเหลียนที่รู้สึกเหนื่อยแทบขาดใจก็นอนสลบไปบนพื้น
เซี่ยเหลียนฝันถึงวันที่เขายังคงใช้ชื่อราชครูฟางซิ่น หลางเชียนชิวในวัย 14 ปีร้องขอให้เขาสอนวิชาดาบสกัดการโจมตีจากคนสองคนพร้อมกัน เซี่ยเหลียนปฏิเสธ แต่เมื่อเด็กชายก็ยังคงเรียกร้อง เขาก็ถามคำถามว่าหากมีคนหิวโหย 2 คนกำลังต่อสู้กันเพื่อขโมยอาหารของอีกฝ่าย ถ้าคนที่ 3 อยากหยุดการต่อสู้จะต้องพูดอย่างไร หลางเชียนชิวตอบว่าไม่มีทางทำได้ เพราะทั้งสองต้องการเพียงอาหาร เซี่ยเหลียนสอนต่อว่าเพราะปัญหาแรกไม่ได้ถูกคลี่คลายจึงจะไม่มีใครฟังสิ่งที่บุคคลที่ 3 พูด การใช้ดาบสกัดการโจมตีของคนสองคนก็เหมือนกัน และที่ตอนนั้นเขาใช้มันช่วยหลางเชียนชิวจากโจรลักพาตัวก็เพราะไม่มีทางเลือกอื่น เด็กชายถามต่อว่าแล้วถ้าบุคคลที่ 3 มีอาหารไม่เพียงพอจนทั้งสองทะเลาะกันหนักขึ้น และเรียกร้องจะเอาอาหารจากบุคคลที่ 3 มากขึ้นจะต้องทำอย่างไร เซี่ยเหลียนจึงถามกลับว่าอีกฝ่ายคิดว่าต้องทำอย่างไร หลางเชียนชิวบอกว่าตนก็ไม่รู้เช่นกัน บางทีคนๆ นั้นอาจไม่ควรเข้าไปยุ่งแต่แรกก็เป็นไปได้
จากนั้นภาพฝันก็ตัดไปที่ท้องพระโรงทองคำที่ถูกของเหลวสีแดงย้อมไปทั่ว ทุกร่างที่อยู่ในห้องล้วนถูกปาดคอเสียชีวิต มือสั่นเทาของเขากำลังถือกระบี่ เท้าค่อยๆ ย่างเข้าไปใกล้ราชาซึ่งดวงตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและเกลียด เมื่อราชายกศีรษะขึ้นมาจ้องมองเขา เซี่ยเหลียนก็แทงอาวุธในมือลงในร่างนั้นซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่องค์ชายรัชาทายาทมาถึงพอดี หลางเชียนชิวมองภาพตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อ และในตอนที่อีกฝ่ายเดินเข้ามาอย่างเลื่อนลอย เซี่ยเหลียนก็ดึงกระบี่ออกจากร่างของราชา หลางเชียนชิวร้องเรียกบิดามารดาแต่ก็ไร้การตอบสนองใดๆ จากทั้งคู่ แล้วเด็กชายก็หันมาตะโกนถามอาจารย์ว่าท่านทำอะไรลงไป สักพักหนึ่งเซี่ยเหลียนก็ได้ยินเสียงเย็นชาของตัวเองตอบกลับไปว่าพวกเจ้าทุกคนสมควรได้รับสิ่งนี้แล้ว
เซี่ยเหลียนตื่นขึ้นมาจากห้วงฝัน รู้สึกมีบางอย่างอยู่ที่หน้าอก เมื่อหยิบขึ้นมาก็พบว่ามันคือลูกเต๋าที่เขาเอามาจากอนุสรณ์สุขวดี พอนึกถึงภาพที่ฮวาเฉิงยืนอยู่ในเปลวไฟจ้องมองมาที่เขาก็อดคิดไม่ได้ว่าจะต้องเก็บขยะอีกเท่าไรถึงจะขดใช้อีกฝ่ายได้ทั้งหมด หรือไม่เขาก็คงต้องยกชีวิตทั้งชีวิตในอีกฝ่ายไปแทน เมื่อลองโยนเต๋าดูก็ได้แต้ม 1 ทั้งสองลูก โชคที่เขายืมมาจากอ๋องผีหมดไปแล้วจริงๆ ตอนนั้นเองเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเข้ามาใกล้จึงรีบเก็บลูกเต๋าขึ้นมา เมื่อหันกลับไปเขาก็เห็นใบหน้าที่คุ้นเคยปรากฏต่อสายตา อีกฝ่ายคือมู่ฉิง
.
.
.
.
.
>>715 thanks
ลุงเผยเอ๋ย ลุงต้องเข้าใจนะ ความลำเอียงมันคือสัจธรรมของโลก+สวรรค์ (≖ ‿ ≖ )
เตี้ยนเซี่ยคะซานหลางของท่านไม่ต้องการชีวิตท่านค่ะ เขาต้องการความรัก รีบส่ง ❤ ไปให้เขาเลยค่ะ
//ด้านบนคือส่วนที่โดกิโดกิตอนนี้ ส่วนด้านล่างคือสภาพจิตใจอีกด้าน
.
.
.
.
.
(;へ:)(༎ຶ⌑༎ຶ) (╥_╥) (☍﹏⁰)。
ตัวอย่างที่ยกขึ้นมาให้เชียนชิวคิดนั่น... มันอิงมาจากเรื่อง *** ที่เป็นปสก.ตรงของท่านใช่มั้ยเตี้ยนเซี่ย
เหมือนจะเป็นคนละเรื่อง แต่ในความต่างมันมีความคล้าย...
ขนาดเรายังปวดใจเหมือนโดนลูกธนูเสียบอกทะลุหัวใจ แล้วฟาฟาจะต้องปวดใจหนักขนาดไหน
รีบมาปลอบเตี้ยนเซี่ยของนายเร็วเข้า ขอแสงสว่างให้ชีวิตเซี่ยเหลียนหน่อยเถอะ
.
.
.
.
.
ขอบคุณพวกมึงทุกคนมากนะ
สปอยเทียนกวานต่อจาก >>715 เทียนกวาน Part.42
.
.
.
.
.
มู่ฉิงประชดใส่เซี่ยเหลียนว่านึกว่าคนที่มาคือเฟิงซิ่นหรือ เมื่อเซี่ยเหลียนถามคนตรงหน้าว่ามาทำอะไร อีกฝ่ายก็แฉไฉว่าจวินอู๋ห้ามหลางเชียนชิวมาพบเซี่ยเหลียน แต่ไม่ได้ห้ามเขา มู่ฉิงมองสำรวจตำหนักใหม่ของเซี่ยเหลียน ก่อนโยนขวดยารักษาอย่างดีให้ เซี่ยเหลียนมองอีกฝ่ายอย่างไม่ไว้วางใจ ตั้งแต่ขึ้นสวรรค์ครั้งที่ 3 มู่ฉิงเหมือนจะรอให้เขาถูกเตะออกจากสวรรค์มาตลอด แต่พอเขากำลังจะถูกเนรเทศไปจริงๆ ก็มาทำดีด้วย แต่ถึงแม้ตอนที่จวินอู๋เข้ามาในหอประชุม มหาเทพจะแตะแขนขวาของเซี่ยเหลียนใช้พลังหยุดเลือดให้แล้ว ก็คงเป็นการดีกว่าที่จะรักษาอาการบาดเจ็บ เขาจึงใช้ยาที่มู่ฉิงให้มาเทใส่แขนตัวเอง
มู่ฉิงย้ำว่าคงไม่มีใครอื่นมาที่นี่อีก ก่อนถามเซี่ยเหลียนว่าเรื่องที่หลางเชียนชิวพูดเป็นความจริงหรือไม่ และขอให้เล่ารายละเอียดเพิ่มเติมให้ฟัง แม้อีกฝ่ายจะเก็บอาการอย่างรวดเร็ว เซี่ยเหลียนก็ทันเห็นแววตาที่ต้องการเผือกเป็นอย่างยิ่งของคนตรงหน้า แต่ตอนนั้นเองเฟิงซิ่นก็ปรากฏตัวขึ้น พอเห็นมู่ฉิงเขาก็เริ่มโวยวายว่าอีกฝ่ายมาทำอะไรที่นี่ หลังจากเซี่ยเหลียนโบกขวดยาให้ดู เฟิงซิ่นจึงเมินมู่ฉิงแล้วเดินมาหาเขา ทำท่าเหมือนอยากถามอะไร เซี่ยเหลียนรีบตัดบทว่าหากทั้งสองจะถามคำถามเดียวกัน เขาก็จะตอบเลยว่าสิ่งที่เขาพูดในหอประชุมเป็นความจริง เห็นเฟิงซิ่นหน้าซีด มู่ฉิงก็แขวะคนตรงหน้าอีก จากนั้นทั้งสองก็เริ่มทะเลาะกัน ต่างงัดเรื่องที่ต่างฝ่ายต่างทอดทิ้งเซี่ยเหลียนในยามลำบากขึ้นมา และทั้งๆ ที่เซี่ยเหลียนกับหลางเชียนชิวยังไม่ได้ลงไม้ลงมือกัน เฟิงซิ่นกับมู่ฉิงก็ชิงเริ่มวางมวยกันก่อนแล้ว
ตอนที่เซี่ยเหลียนกำลังวิ่งไปที่ประตูเพื่อขอความช่วยเหลือ จู่ๆ ประตูตรงหน้าก็กระแทกเปิดออกเอง ทว่าสิ่งที่อยู่อีกฝั่งกลับเป็นความมืดมิดไร้ที่สิ้นสุด ทันใดนั้นฝูงผีเสื้อสีเงินก็พุ่งเข้าใส่เฟิงซิ่นกับมู่ฉิง แม้ทั้งสองจะใช้พลังทิพย์สร้างกำแพงกันการโจมตีไว้ได้ แต่พวกผีเสื้อที่พุ่งใส่ไม่หยุดหย่อนก็ทำให้พวกเขาต้องถอยร่น เฟิงซิ่นตะโกนเรียกให้เซี่ยเหลียนมาหลบข้างหลัง แต่พอเห็นอีกฝ่ายกำลังให้ผีเสื้อตัวหนึ่งเกาะมือ ทั้งเฟิงซิ่นกับมู่ฉิงก็แทบกระอักเลือดด้วยความโกรธ ร้องพร้อมกันว่าอย่าเอามือไปจับมัน ตอนนั้นเองก็มีใครบางคนจับข้อมือของเซี่ยเหลียนแล้วดึงเขาหายเข้าไปในความมืด แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น เซี่ยเหลียนกลับรู้สึกปลอดภัยและสงบมาก เจ้าของผีเสื้อสีเงินนั่นจะเป็นใครไปได้อีก
ประตูปิดลง แล้วฮวาเฉิงก็จูงเซี่ยเหลียนออกเดินไปข้างหน้า แต่ยังไม่ทันที่เขาจะพูดหรือถามอะไรอีกฝ่าย เฟิงซิ่นก็ตะโกนในเครือข่ายโทรจิตถามหาเซี่ยเหลียน ทำเอาเจ้าหน้าที่สวรรค์ทุกคนแตกตื่น มู่ฉิงถามหาตัวหลิงเหวิน บอกว่าเซี่ยเหลียนหนีไปแล้ว เฟิงซิ่นจึงร้องว่าเซี่ยเหลียนถูกลักพาตัวไปต่างหาก ก่อนถามว่าเซี่ยเหลียนได้ยินเสียงเขาหรือเปล่าและตอนนี้อยู่ที่ไหน
เจ้าหน้าที่สวรรค์ต่างส่งเสียงพูดคุยสอบถามกันวุ่นวาย หลิงเหวินพยายามตามหาตำแหน่งของเซี่ยเหลียน เฟิงซิ่นกับมู่ฉิงตะโกนหาเทพสงครามมาช่วยไล่ตาม ซือชิงเสวียนแจกกุศลเรียกคนมาช่วย ขณะที่เซี่ยเหลียนกำลังจะพูดแทรกบอกให้ทุกคนใจเย็นลง จู่ๆ นิ้วของฮวาเฉิงก็แตะลงบนขมับของเขา อ๋องผีหัวเราะทักทายเจ้าหน้าที่สวรรค์ในเครือข่ายผ่านเซี่ยเหลียน พอได้ยินเสียงนั้นความโกลาหลก่อนหน้าก็ตกลงสู่ความเงียบสนิท แม้อ๋องผีจะพูดเกรียนไปอีก 2-3 ประโยคก็ไร้เสียงตอบรับ ด้วยชื่อเสียงอันลือลั่นของฮวาเฉิงทำให้ทุกคนต่างพยายามทำตัวจืดจางที่สุดเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายจดจำตัวเองได้ มีเพียงเฟิงซิ่นที่ยังคงสบถด่าให้ได้ยิน
ฮวาเฉิงเอามือออกจากขมับของเซี่ยเหลียนก่อนเรียกอีกฝ่ายเดินไปด้วยกัน ตอนแรกเซี่ยเหลียนคิดว่าอ๋องผีอาจมาช่วย แต่พอคิดว่าคนตรงหน้าอาจมาทวงแค้นสิ่งที่เขาทำในเมืองผีก็ได้ เซี่ยเหลียนจึงเอ่ยขอโทษและบอกว่าจะหาทางชดใช้ค่าเสียหายให้ แต่ฮวาเฉิงกลับถามว่าเซี่ยเหลียนขอโทษเรื่องอะไร เป็นเขาต่างหากที่ทำให้เซี่ยเหลียนได้รับบาดเจ็บ ตอนนั้นจู่ๆ เอ้อมิ่งที่เอวของฮวาเฉิงก็สั่นไม่หยุด อีกทั้งดวงตาของมันก็ยังมีน้ำตาคลออยู่ เซี่ยเหลียนยื่นมือจะไปปลอบมัน ทว่าอ๋องผีกลับเบี่ยงตัวหลบ ก่อนบอกว่าอย่าได้สนใจมัน แล้วเซี่ยเหลียนก็ได้ยินเสียงของเฟิงซิ่นในเครือข่ายโทรจิตอีกครั้ง ดูเหมือนอีกฝ่ายจะพยายามหาทางเปิดประตูมิติตามมาแต่ไม่ทราบวิธี ซือชิงเสวียนที่ผ่านการผจญภัยมากับเซี่ยเหลียนจึงรีบออกตัวบอกว่าต้องใช้ลูกเต๋ามาทอย พอนึกถึงสถานที่ที่เขากับเทพแห่งลมได้เจอมา เซี่ยเหลียนก็รีบร้องห้ามไว้ ทว่าพลังทิพย์ของเขายังไม่ฟื้นฟู ทำให้ไม่มีใครได้ยินเสียงของเขา
.
.
.
.
.
กูรอนิยายไม่ไหว ปรมจ ไปดูซีรี่ส์ ช่วงที่เว่ยอิงฟื้นกลับมาแล้ว
.
.
.
.
.
โศกนาฏกรรมเมืองอี้ทำกูร้องไห้เลยฉิบหาย ปวดใจมาก เซวียหยางมึงรักเขา แต่มึงแม่งโรคจิต แสดงความรักไม่เป็น เลยทำให้เรื่องราวเลวร้าย สุดท้ายต้องจมอยู่กับความเศร้าโศกเหมือนผีบ้า อยากให้เขาฟื้นคืนกลับมา กระทั่งตายยังคิดถึงเขาจนลมหายใจสุดท้าย ขอตัวไปร้องไห้ต่อ
.
.
.
.
.
>>720 ขอบคุณจ้าโม่งสปอย
มู่ฉิง เฟิงซิ่น พวกแกยังมีหน้ามาโกรธอีกเรอะ!!! ไม่ต้องมาทำเป็นห่วงเลย หมั่นไส้ อยากเขกกะโหลก ชิๆๆๆ!!!! แต่ขำเซี่ยเหลียนอะ ขอแค่เป็นซานหลางของเค้าก็พร้อมจะเชื่อใจเกิน 1,000,000% ทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข หลงเกินไปแล้ว ฮวาเฉิงก็อาการหนักมาก หึงกระทั่งดาบ เอ้อมิ่งโหยหาความรักความเมตตาจากเตี้ยนเซี่ยนะคะ โปรดแบ่งปันให้น้องสักเศษเสี้ยวเถอะ (ฟาฟาบอกฝันไปเถอะ)
ในที่สุดก็สปอยมาเกินจากที่มีคนแปลไว้ในเด็กดีแล้วแฮะ
สปอยเทียนกวานต่อจาก >>720 เทียนกวาน Part.43
.
.
.
.
.
เฟิงซิ่นกรีดร้องสบถด่าด้วยคำไม่ผ่านกองเซนเซอร์ลั่นเครือข่ายโทรจิต และเสียงมู่ฉิงที่ดังขึ้นก็ทำให้เซี่ยเหลียนรู้ว่าทั้งสองน่าจะข้ามมาแล้ว ซือชิงเสวียนรีบอธิบายว่าแต้มแต่ละแต้มจะพาไปสถานที่ที่แตกต่างกัน เมื่อได้ยินว่าเฟิงซิ่นทอยได้ 4 ด้วยความเป็นห่วงเซี่ยเหลียนเลยหันไปถามฮวาเฉิงว่ามันคือที่ใด อ๋องผีตอบว่าเป็นสถานที่ที่คนทอยกลัวที่สุด พอได้ยินเสียงมู่ฉิงด่าเฟิงซิ่นที่ทอยมาเจอห้องอาบน้ำสตรี เซี่ยเหลียนก็ถึงกับยกมือปิดหน้า มู่ฉิงแย่งลูกเต๋าไปทอยบ้าง แล้วทั้งคู่ก็ไปตกอยู่ในดงจระเข้ เกิดเสียงต่อสู้อุตลุดให้ได้ยิน จากนั้นทั้งสองก็ทะเลาะแย่งชิงลูกเต๋ากันอีก ทำเอาบรรดาเทพที่ฟังอยู่สุดตื่นเต้นลุ้นระทึกจนนึกอยากให้มีไลฟ์สตรีมถ่ายทอดภาพสดให้ดู
ด้วยฝีมือของทั้งคู่พวกจระเข้คงไม่คณนามือ เซี่ยเหลียนจึงเลิกสนใจแล้วหันไปถามฮวาเฉิงว่าการที่เขาทอยได้ 1 ทั้งสองลูกจะได้พบกับอีกฝ่ายหรือ อ๋องผีจึงบอกว่าไม่ใช่ เพราะไม่ว่าเซี่ยเหลียนจะทอยได้แต้มเท่าไร หากอยากพบเขาก็จะได้พบอยู่ดี ขณะที่เซี่ยเหลียนกำลังอึ้ง เขาก็ได้ยินเสียงของใครบางคนขอเป็นฝ่ายทอยเต๋าบ้าง จากนั้นอะไรบางอย่างก็พุ่งผ่านเซี่ยเหลียนกับฮวาเฉิงไปปิดกั้นทางของทั้งสอง มันคือกระบี่ใบดาบสีดำเล่มหนึ่ง ชื่อของมันคือฟางซิ่น และเงาของคนๆ หนึ่งก็กระโดดลงมาข้างอาวุธเล่มนั้น
หลังจากที่ราชครูฟางซิ่นถูกสังหาร กระบี่ของเขาก็ตกไปอยู่ในมือขององค์ชายรัชาทายาทแห่งหย่งอัน ดูเหมือนหลางเชียนชิวจะทอยลูกเต๋าได้แต้มที่ถูกต้อง ฮวาเฉิงทำท่าเหมือนจะมายืนบัง แต่เซี่ยเหลียนห้ามไว้และออกหน้าเอง หลางเชียนชิวยังคงเรียกให้เซี่ยเหลียนต่อสู้กับตน ในที่สุดเซี่ยเหลียนก็ตอบตกลงแล้วเดินไปหยิบกระบี่ที่อีกฝ่ายดรอปให้ หลางเชียนชิวตั้งท่าพร้อมต่อสู้ สายตาไม่ละไปจากกระบี่ฟางซิ่นในมือของเซี่ยเหลียน ทว่าในตอนที่เซี่ยเหลียนพุ่งเข้ามาร่างกายของเขากลับแข็งค้างเหมือนถูกมัด เขาล้มลงกับพื้นแล้วจึงเห็นว่ารั่วเย่รัดเขาไว้ทั้งตัว
เซี่ยเหลียนถอนหายใจอย่างโล่งอกขณะที่หลางเชียนชิวดิ้นกระแด่วตะโกนให้ปล่อยเขา แล้วต่อสู้จนกว่าจะตายกันไปข้างหนึ่ง เซี่ยเหลียนจึงบอกไปว่ารั่วเย่คือหนึ่งในอาวุธของเขาจึงนับว่าหลางเชียนชิวพ่ายแพ้เรียบร้อย หลางเชียนชิวไม่ยอมรับ บอกว่าเซี่ยเหลียนขี้โกง แต่สำหรับเซี่ยเหลียนผู้เคยแต่งหญิงมาครั้งหนึ่ง แถมยังประกาศกลางตลาดว่าตัวเองไม่ขัน คำพูดของอีกฝ่ายเลยทำดาเมจให้เขาไม่ได้แม้แต่น้อย เขาก้มลงบอกหลางเชียนชิวว่าถ้าจะนับว่าเขาขี้โกงจริงแล้วทำไม ชนะก็คือชนะ หากคู่ต่อสู้ไม่ใช่เขา หลางเชียนชิวก็คงตายไปแล้ว ได้ยินดังนั้นฮวาเฉิงก็หัวเราะเบาๆ ในขณะที่หลางเชียนชิวผู้ถูกสอนวิธีสู้ตามธรรมเนียมมาตลอดอึ้งที่บุคคลที่สอนเขามาพูดแบบนั้น แต่เมื่อเห็นเซี่ยเหลียนกำลังจะเดินจากไป เขาก็ตะโกนบอกว่าเซี่ยเหลียนยังติดค้างคำอธิบายกับเขา
หลางเชียนชิวบอกว่าเขาเข้าใจความแค้นระหว่างราชวงศ์เซียนเล่อกับหย่งอันดี แต่พ่อแม่ของเขา เรื่องที่หลางเชียนชิวพูดเป็นความจริง แม้ต้นราชวงศ์หย่งอันจะปกครองชาวเซียนเล่ออย่างโหดร้าย จนชาวเซียนเล่อที่ทนไม่ได้สร้างองค์กรใต้ดินลอบสังหารราชวงศ์หย่งอันหลายครั้งส่งผลให้ชาวบ้านของสองอาณาจักรเต็มไปด้วยความเกลียดชัง ทว่าเมื่อพ่อของหลางเชียนชิวครองราชย์เขาก็หันมาปฏิบัติต่อชาวเซียนเล่อด้วยความเมตตา และให้ชาวเคารพต่อราชวงศ์เซียนเล่อที่เหลือรอด หลางเชียนชิวที่ถูกเลี้ยงมาเช่นนี้จึงไม่มีอคติใดๆ ต่อชาวเซียนเล่อ แม้ภายหลังเหตุการณ์งานเลี้ยงอาบเลือดความเกลียดชังที่ฝั่งแน่นจะทำให้ราชวงศ์ที่รอดชีวิตต่างต้องการกำจัดความเซียนเล่อให้สิ้นซาก แต่หลางเชียนชิวก็ต่อต้านมาตลอด และเขาปกป้องชีวิตชาวเซียนเล่อไว้ได้มากมาย
หลางเชียนชิวมองเซี่ยเหลียนด้วยดวงตาแดงก่ำ ถามว่าสิ่งที่เขาทำไม่เพียงพอหรือ พ่อแม่ของเขาทำอะไรผิดเซี่ยเหลียนจึงต้องกระทำกับพวกเขาเช่นนั้น และเซี่ยเหลียนบอกว่าเขาไม่อาจให้คำอธิบายใดๆ กับอีกฝ่ายได้ หลางเชียนชิวจึงถามอีกว่าเป็นเพราะเซี่ยเหลียนต้องทนทุกข์ทรมานตอนอายุ 17 ปี จึงทำให้เขาต้องเจอสิ่งเดียวกันตอนอายุ 17 ปีหรือ หากเป็นเช่นนั้นเขาก็จะไม่ยอมให้เซี่ยเหลียนสมใจ ถ้าเซี่ยเหลียนอยากย้อมให้ใจของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง เขาจะไม่เป็นอย่างนั้น ถ้าเซี่ยเหลียนอยากให้เขาทอดทิ้งตัวตนของตัวเอง เขาจะไม่ทำ และเขาจะไม่มีวันกลายเป็นเหมือนเซี่ยเหลียนเด็ดขาด
หลังจากได้ยินคำเหล่านั้นเซี่ยเหลียนก็เงียบไปพักหนึ่ง แต่แล้วเขาก็ส่งเสียงหัวเราะออกมา เขาหัวเราะดังขึ้นเรื่อยๆ จนน้ำตารินไหล อีกทั้งยังปรบมือไปด้วย แล้วเขาจึงพูดว่า ดีมาก จำสิ่งที่เจ้าพูดวันนี้ให้ดีว่าเจ้าจะไม่มีวันกลายเป็นเหมือนข้า
.
.
.
.
.
>>727 ขอบใจเพื่อนโม่ง
ฟาฟากอดปลอบสุดที่รักนายหน่อยเค้าร้องไห้แล้ว ที่จริงฉันอยากเป็นกอดเองนะแต่ไม่ใช่ซานหลางของเกอเกอทำแทนไม่ได้
>>729 อย่าโกรธน้องเลย เซี่ยเหลียนเจ็บ น้องก็เจ็บเหมือนกันนะ ในบรรดาคนที่มีคดีกับเซี่ยเหลียนกูสงสารเชียนชิวที่สุดแล้ว โกรธไม่ลงเลย
.
.
.
.
.
.
ถึงเคสนี้มันจะมีเบื้องลึกเบื้องหลัง แต่ไม่ว่าจะเป็นความจริงหรือคำโกหก ที่เซี่ยเหลียนทำลงไปมันก็ทำร้ายจิตใจน้องจริงๆ
.
.
.
.
.
สปอยเทียนกวานต่อจาก >>727 เทียนกวาน Part.44
.
.
.
.
.
หลังจากเซี่ยเหลียนพูดจบ จู่ๆ ควันสีแดงก็ระเบิดขึ้นตรงหน้าแล้วหลางเชียนชิวก็กลายเป็นตุ๊กตาล้มลุกซึ่งโยกไปมาอย่างกราดเกรี้ยว เซี่ยเหลียนขอให้ฮวาเฉิงคืนร่างเดิมให้อีกฝ่าย ทว่าอ๋องผีกลับบอกปัด เรียกให้ตามเขาไปและพาหลางเชียนชิวมาด้วย เซี่ยเหลียนถามว่าจะไปที่ไหนแต่อีกฝ่ายก็ไม่ตอบ ฮวาเฉิงทอยลูกเต๋า จากนั้นก็เดินนำเข้าไปในถ้ำแห่งหนึ่ง เซี่ยเหลียนอุ้มหลางเชียนชิวขึ้นมา กลับไปเก็บกระบี่ฟางซิ่นมาสะพายบนหลังแล้วเดินตามอ๋องผีไป ทั้งคู่เดินด้วยกันไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเซี่ยเหลียนได้ยินเสียงร้องเพลง และเห็นแสงจางๆ อยู่เบื้องหน้า
ฮวาเฉิงส่งสัญญาณให้เซี่ยเหลียนเงียบ ไม่นานนักก็มีกลุ่มผีชุดเขียวตัวเล็กซึ่งเหนือศีรษะมีลูกไฟวิญญาณสีเดียวกันลอยอยู่เดินผ่านมา เมื่อผีกลุ่มนั้นเดินผ่านไป อ๋องผีก็เดินนำเขาออกมาจากซอกถ้ำที่ซ่อนตัว ทว่าตอนนี้ร่างของอีกฝ่ายกลับกลายเป็นผีผิวซีดในชุดสีเขียวไม่ต่างจากพวกผีกลุ่มนั้น และการที่ผีตนอื่นไม่มีทีท่าตกใจที่เห็นพวกเขาก็ทำให้เซี่ยเหลียนรู้ว่าฮวาเฉิงได้ใช้พลังเปลี่ยนผิวปลอมให้เขาเช่นกัน แล้วคนตรงหน้าจึงอธิบายว่าเป็นเพราะผีเขียวฉีหรงสั่งให้ลูกน้องของตนต้องแต่งกายแบบนี้ พวกเขาจึงจำเป็นต้องใช้ร่างกายเช่นนี้ลอบเข้าไป
เซี่ยเหลียนไม่คาดคิดมาก่อนว่าอ๋องผีจะพาเขามายังที่ซ่อนตัวของผีเขียว เขากอดตุ๊กตาหลางเชียวชิวแน่นขึ้น บอกว่าเช่นนั้นก็น่าจะปลดคำสาปให้หลางเชียวชิวก่อน แล้วพวกเขาสองคนค่อยไปด้วยกันต่อ แต่ฮวาเฉิงกลับบอกว่าเขาอยากให้หลางเชียนชิวพบกับใครบางคน แม้จะสงสัย เซี่ยเหลียนก็ไม่ได้ถามต่อ เพราะอย่างไรเขาก็อยากให้ความร่วมมือกับอีกฝ่าย พวกเขาเดินมาถึงลานกว้างภายในถ้ำที่มีผีในชุดเขียวเข้าออกเต็มไปหมด และผีกลุ่มหนึ่งก็กำลังลากมนุษย์เข้ามาภายในถ้ำ แม้การแต่งกายจะต่างกัน แต่ทุกคนล้วนเป็นคนหนุ่มสาวอายุต่ำกว่า 30 ปี รวมไปถึงเด็กชายคนหนึ่งซึ่งเกาะแขนเสื้อของชายที่น่าจะเป็นบิดาไว้แน่น พวกเขาเดินตามผีกลุ่มนั้นไป ก่อนที่ฮวาเฉิงจะเปลี่ยนผิวปลอมของพวกเขาเป็นมนุษย์วัยรุ่นอย่างรวดเร็ว
ไม่มีข่าวว่าในบรรดาเจวี๋ยทั้ง 3 ตน จะมีตนใดกินมนุษย์ หากแต่ฉีหรงกลับมีพฤติกรรมเช่นนั้น การจะเข้าถึงผีเขียวโดยไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัวคือการแฝงตัวไปกับอาหาร เซี่ยเหลียนยื่นมือไปจับมือของฮวาเฉิง แม้ตอนแรกอีกฝ่ายจะเหมือนอยากดึงมือออก แต่สุดท้ายก็จับมือเขากลับ เขียนตอบบนมือเซี่ยเหลียนว่าเขาจะปกป้องทุกคนให้ ก่อนจะเพิ่มว่าให้ระวังศีรษะ เมื่อเซี่ยเหลียมองขึ้นไปก็พบศพมนุษย์มากกมายแขวนห้อยหัวอยู่ข้างบน ศพเหล่านั้นมีใบหน้าเหมือนเจ็บปวดทรมาน ทั้งยังมีเกลือทาไว้ตามตัว
พวกเขาเดินมาถึงด้านในสุดของถ้ำที่มีการจัดตกแต่งราวกับงานเลี้ยงฉลอง ที่เหนือโต๊ะยาวมีหม้อเหล็กใบใหญ่ที่สามารถจุคนลงไปมากกว่า 10 คนตั้งอยู่ น้ำที่อยู่ภายในนั้นกำลังเดือดได้ที่ชนิดที่หากใครตกลงไปคงสุกแน่ๆ เมื่อเห็นชะตาที่รออยู่พวกมนุษย์ก็กรีดร้องร่ำไห้ด้วยความหวาดกลัว แม้ปรกติฮวาเฉิงมักมีรอยยิ้มประดับบนใบหน้าปกปิดความรู้สึกที่แท้จริง ทว่าตอนนี้แววตาของอ๋องผีกลับเต็มไปด้วยความโกรธรุนแรง เมื่อมองตามสายตาของอีกฝ่ายไปเขาก็เห็นว่าที่หน้าเก้าอี้หรูหรานั้นมีรูปปั้นในท่าคุกเข่า หน้าก้มลงมองพื้นไม่ต่างจากท่าสุนัขยืน ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันถูกปั้นขึ้นเพื่อใช้เหยียดหยามบุคคลต้นแบบ และโดยไม่ต้องหันรูปปั้นมา เซี่ยเหลียนก็รู้ว่ามันจะต้องมีใบหน้าเหมือนกันเขาแน่นอน
ในตอนที่อาณาจักรเซียนเล่อล่มสลาย และอารามทั้ง 8000 แห่งของเขาถูกเผาทำลายจนสิ้น พวกชาวบ้านที่เคียดแค้นเซี่ยเหลียนก็เกิดไอเดียสร้างรูปปั้นเขาในเวอร์ชันคุกเข่าสำนึกผิดขึ้นมา มันถูกตั้งไว้ทั่วมุมเมืองเพื่อให้คนได้ถ่มน้ำลายถีบเตะยามเดินผ่าน และบางคนก็ถึงกับสร้างรูปปั้นของเขาไว้เป็นธรณีประตูเพื่อข้ามทุกวัน เซี่ยเหลียนจึงจดจำมันได้เป็นอย่างดี
.
.
.
.
.
>>735 เว่ยอิงจะเกิดอะไรขึ้นอย่างน้อยก็มีคนอยู่ด้วยตลอดอะ ตอนแรกก็ตระกูลเจียง ตอนออกจากตระกูลเจียงก็ยังมีคนตระกูลเวิน หลังจากกลับมาอยู่ในร่างโม่ก็มีหลานจ้านมาเคียงข้าง แต่ช่วงที่เซี่ยเหลียนไม่มีใครเลยมันยาวนานมาก เว่ยอิงยังมีท่าเรือสัตตบงกชให้อยากกลับ แต่เซียนเล่อถูกทำลายเหลือแต่ซาก ความทรงจำสุดท้ายเกี่ยวกับบ้านก็มีแต่เรื่องเจ็บปวด ถึงเว่ยอิงจะไม่ได้คืนดีกับเจียงเฉิง แต่ก็ยังมีอีกฝ่ายกับจินหลิงให้คิดถึงเป็นห่วง ส่วนราชวงศ์เซียนเล่อตายไปหมดแล้ว แถมเชื้อสายคนสุดท้ายก็ยัง...
สปอยเทียนกวานต่อจาก >>733 เทียนกวาน Part.45
.
.
.
.
.
ชายในชุดสีเขียวคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นพร้อมพูดสมน้ำหน้าเผยซู่ที่ถูกเนรเทศจากสวรรค์ด้วยวาจากักขฬะเป็นอย่างมาก เซี่ยเหลียนลอบมองแต่ก็พบว่าอีกฝ่ายสวมหน้ากากปิดบังใบหน้าเอาไว้ ตอนที่ได้ยินหนานเฟิงเอ่ยชื่อฉีหรงเป็นครั้งแรก เขาอดสงสัยไม่ได้ว่าผีเขียวจะเป็นฉีหรงคนที่เขารู้จักหรือเปล่า หากแต่พวกผีมีธรรมเนียมในการปกปิดภูมิหลังของตัวเองและมักใช้ชื่อปลอม เขาจึงเปลี่ยนความคิดในภายหลัง แต่จะมีฉีหรงคนอื่นที่ชื่นชอบรูปปั้นเจ้าชายรัชทายาทคุกเข่าอีกหรือ แถมอีกฝ่ายยังมีเสียงที่ฟังคุ้นหูอีกต่างหาก
เมื่อฟังสิ่งที่ลูกน้องฉีหรงพูดแล้ว เซี่ยเหลียนจึงได้รู้ว่าหลังจากก่อความวุ่นวายในเมืองผีจนถูกฮวาเฉิงจัดการ พวกผีเขียวก็กำลังจะเตรียมบุกอีกระลอกทว่ากลับเจอเผยซู่เข้าเสียก่อน แม้จะไร้พลังทิพย์แม่ทัพเผยน้อยก็ยังสามารถจัดการพวกของผีเขียวได้ทั้งหมด ฉีหรงสบถด่าเผยซู่และเผยหมิงแล้วยังลามไปยังถึงจวินอู๋ หลิงเหวิน หลางเชียนชิว เฉวียนอี้เจิน เทพแห่งน้ำ แถมยังด่าเทพแห่งลมว่าเป็นหญิงชั่วช้า ท่าทางไม่ได้รู้ว่าความจริงซือชิงเสวียนเป็นผู้ชาย ก่อนจะด่าฮวาเฉิงกับธาราทมิฬล่มเรือที่ดูถูกเขา สุดท้ายผีเขียวก็หันไปถามความคืบหน้าในการทำงานของลูกน้อง ปรากฏว่าเขาคือผู้ที่ปล่อยข่าวลือว่าเผยหมิงพยายามหาทางกำจัดเฉวียนอี้เจินเพื่อเอาตำแหน่งให้เผยซู่ แถมเป็นคนจุดชนวนให้ผู้ศรัทธาของทั้งสองฝั่งตีกันด้วย ไม่น่าแปลกเลยที่เจ้าหน้าที่สวรรค์ต่างบอกว่าผีเขียวมีพลังไม่มากแต่ชอบสร้างปัญหาไม่หยุด
เซี่ยเหลียนดึงแขนห้ามฮวาเฉิงไว้ขณะที่ฟังฉีหรงสั่งงานลูกน้องต่อ แล้วผีเขียวก็หันมาเอาเท้าพาดบนรูปปั้นของเซี่ยเหลียนดั่งเป็นที่รองเท้า พอเห็นดังนั้นพวกลูกน้องผีจึงหันมาเลือกอาหารจากกลุ่มมนุษย์ที่พามาให้เจ้านาย เด็กชายที่เซี่ยเหลียนเห็นก่อนหน้านี้กรีดร้องด้วยความหวาดกลัว เมื่อพวกผีสังเกตเห็นเขาก็จะพาออกไป ทว่าอ๋องผีกลับเดินหน้าออกไปอย่างเอื่อยเฉื่อย บอกให้ฉีหรงให้ความเคารพเชื้อพระวงศ์ของเซียนเล่อมากกว่านี้ ได้ยินดังนั้นผีเขียวก็ตกใจว่ายังมีผู้รู้จักเซียนเล่อ พอคิดไปว่าอีกฝ่ายอาจเป็นราชวงศ์ที่เหลือรอดเลยถามคนตรงหน้าว่าสืบเชื้อสายมาจากเจ้าคนใด ฮวาเฉิงตอบไปว่าเป็นเจ้าชายอันเล่อ
ตุ๊กตาหลางเชียนชิวกระตุกตกใจ เซี่ยเหลียนเข้าใจดีว่าที่อดีตลูกศิษย์มีปฏิกิริยาเช่นนั้นเป็นเพราะเจ้าชายอันเล่อกับหลางเชียนชิวเคยเป็นเพื่อนกัน อีกด้านหนึ่งฉีหรงกลับหัวเราะลั่นบอกว่าฮวาเฉิงโกหกเขา เนื่องจากเจ้าชายอันเล่อผู้เป็นทายาทคนสุดท้ายของราชวงศ์เซียนเล่อตายไปโดยไร้ผู้สืบทอด อ๋องผีจึงถามว่าอันเล่อตายได้อย่างไร แต่ผีเขียวก็ตะโกนสั่งลูกน้องให้จัดการกับเขา ทว่าพริบตาเดียวฮวาเฉิงก็ไปปรากฏตัวด้านหลังฉีหรง แล้วจับหัวของอีกฝ่ายกระแทกจนจมลงไปในพื้น ภาพที่เห็นทำเอาทั้งคนทั้งผีกรีดร้องวิ่งหนีเอาตัวรอด แม้เซี่ยเหลียนจะตะโกนห้ามเพราะเกรงว่าพวกมนุษย์จะหนีไปเจอผีตนอื่นในถ้ำฆ่า แต่ก็ไม่มีใครฟังเสียงของเขา อ๋องผีดึงหัวของผีเขียวขึ้นมาด้วยใบหน้าดุร้ายพร้อมหัวเราะเสียงดัง เซี่ยเหลียนที่กำลังใช้รั่วเย่จัดการพวกผีซึ่งพยายามจับมนุษย์ไว้หันมาเรียกฮวาเฉิง แต่อีกฝ่ายก็ยังจับฉีหรงทุ่มจนร่างนั้นจมกองเลือด หน้ากากของผีเขียวแตกร้าว เผยให้เห็นใบหน้าครึ่งล่างที่ดูเหมือนเซี่ยเหลียนมาก ทว่าเมื่อหน้ากากแตกจนเห็นใบหน้าทั้งหมดจึงได้รู้ว่าทั้งสองไม่ได้เหมือนกัน
ฮวาเฉิงกลับร่างเดิมของตน และแม้ฉีหรงจะไม่เคยพบกับอ๋องผีตรงๆ เขาก็รู้ในทันทีว่าอีกฝ่ายเป็นใคร ชายเสื้อแดงยังคงถามผีเขียวว่าเจ้าชายอันเล่อตายได้อย่างไร ขณะนั้นเองเซี่ยเหลียนก็รีบร้องเรียกอีกฝ่ายพร้อมวิ่งเข้าไปยืนอยู่ข้างๆ พยายามลูบหลังปลอบให้ใจเย็นลงด้วยวิธีเดียวกับที่พ่อแม่เคยทำกับเขาตอนเด็กๆ ในที่สุดอ๋องผีก็สงบ แต่เมื่อเขายื่นมือมาตบบ่าเซี่ยเหลียนเบาๆ เซี่ยเหลียนก็พบว่าตอนนี้เขาไม่สามารถขยับร่างกายหรือเปล่งเสียงได้เลย ฉีหรงสบถด่าฮวาเฉิงไม่หยุด แล้วฮวาเฉิงก็ถามคำถามเดิมอีก และเมื่อถูกอ๋องผีจับกระแทกพื้นอีก 2 ครั้ง ในที่สุดผีเขียวก็แหกปากร้องบอกว่าอันเล่อตายเพราะถูกหลางเชียนชิวฆ่า
.
.
.
.
.
เพิ่งดูปรมจซีรี่ส์จบ(ไม่เคยอ่านหนังสือ)ตอนดูรู้สึกว่ามีหลายจุดที่มันอีหยังวะเยอะเลย กะว่าดูจบจะมาถามในนี้ แต่ตอนท้ายๆมันก็เคลียร์ได้ จนกูลืมไปแล้วว่าอิหยังวะตรงไหนอีกบ้าง
ตอนนี้เหลือสงสัยแค่ว่าสรุปแล้วในหนังสือเค้าได้กันไหมวะ 555555
>>743 แซม กูคาใจมาก ไม่เห็นศพก็เหมือนมีความหวังว่านางจะกลับได้ สรุปตายจริง 555
ตลคผญอย่างเวินชิง หรือศิษย์พี่กูว่าเป็นนางเอกเรื่องได้เลยนะ ฉากเวินชิงบอกลาถ้าเติมข้ารักเจ้าเข้าไปประโยคเดียวแม่งเป็นนางเอกไปแล้ว กูนี่ลุ้นให้จูบสุดไรสุด หรือพี่บอดกับน้องแกล้งบอดในพาร์ทเมืองอี้แม่งก็ดันให้คู่กันได้เลย
กูนี่โคตรลมๆแล้งๆมาเชียร์ให้ผชมีคู่ผญในซีรี่ส์ชช 555
สปอยเทียนกวานต่อจาก >>737 เทียนกวาน Part.46
.
.
.
.
.
ตุ๊กตาหลางเชียวชิวในมือของเซี่ยเหลียนสั่นรุนแรงจนหล่นลงบนพื้น แล้วฮวาเฉิงก็ปลดคำสาปให้อีกฝ่ายในทันที หลางเชียนชิวที่กลับร่างเดิมเอานิ้วชี้ฉีหรง ต่อว่าอีกฝ่ายด้วยความโกรธเกรี้ยวที่มาใส่ความว่าเขาเป็นผู้ฆ่าเจ้าชายอันเล่อ ทั้งๆ ที่เขากับอันเล่อเป็นเพื่อนกัน และอันเล่อก็เสียชีวิตเพราะโรคร้ายต่างหาก แม้จะตกใจที่คนซึ่งตัวเองกล่าวหาปรากฏตัว แต่ผีเขียวก็ยังถ่มน้ำลาย ตอกกลับว่าใครจะไปเชื่อว่าอันเล่อตายเพราะป่วย เพราะหลังจากงานเลี้ยงอาบน้ำเลือดอันเล่อก็เสียชีวิตทันที ถึงคนที่ส่งคนมาลอบฆ่าจะไม่ใช่หลางเชียวชิว อย่างไรก็ต้องเป็นคนของหย่งอัน หลางเชียวชิวกับพ่อแม่ของเขาล้วนเป็นพวกเสแสร้งจอมปลอม ทำเป็นเมตตาเอาของให้ทั้งๆ ที่หย่งอันขโมยทุกอย่างไปจากเซียนเล่อ แม้พวกเขาจะไม่สามารถฆ่าหลางเชียนชิวได้ แต่อย่างน้อยก็ทำให้หลางเชียวชิวต้องลิ้มรสการได้เห็นราชวงศ์ของตัวเองต้องจบสิ้น
หลางเชียวชิวอึ้ง ถามว่าหมายความว่าอย่างไรที่บอกว่าไม่สามารถฆ่าเขา ได้ยินดังนั้นเซี่ยเหลียนก็อยากพุ่งไปอัดฉีหรงแบบที่ฮวาเฉิงทำ แต่เขาติดที่ยังไม่สามารถขยับร่างกาย ผีเขียวจึงยังกล่าวต่อไปได้ว่าหลางเชียวชิวช่างโง่งมที่คิดว่าราชวงศ์เซียนเล่อกับราชวงศ์หย่งอันจะเป็นเพื่อนกันได้ หลางเชียนชิวตัวแข็ง ไม่คิดว่าทั้งเพื่อนและอาจารย์ที่เคารพจะร่วมมือกันหักหลังเขา หลังจากเงียบไปพักหนึ่งเขาก็ถามว่าเจ้าชายอันเล่อกับราชครูฟางซิ่นเป็นพวกเดียวกันหรือ แต่ฉีหรงปฏิเสธ อธิบายว่าชาวเซียนเล่อเป็นผู้ลงมือก่อเหตุงานเลี้ยงอาบเลือด แต่จู่ๆ ราชครูฟางซิ่นนั่นก็โผล่เข้ามา อันเล่อที่คิดว่าแผนล้มเหลวจึงได้หนีมาขอความช่วยเหลือจากเขา แต่ใครจะไปรู้ได้ว่าหลังจากผ่านไปคืนหนึ่งราชครูฟางซิ่นกลับถูกประกาศเป็นคนร้ายแทน การมีแพะรับบาปย่อมเป็นเรื่องดี พวกเขาจึงไม่มีใครพูดอะไรออกไป และหลางเชียนชิวก็ฆ่าคนผิด แถมยังจับอาจารย์ของตัวเองใส่ในโลงศพฝั่งดินทั้งเป็นอีกต่างหาก
เซี่ยเหลียนข่มตาลงด่าฉีหรงในใจขณะที่อีกฝ่ายหัวเราะเสียงดัง หลางเชียวชิวตัวสั่นอย่างไม่อาจยอมรับความจริง เขาหันมาถามเซี่ยเหลียนว่าถ้าอย่างนั้นทำไมถึงไม่พูดความจริง ทำไมถึงต้องรับความผิดไว้เองด้วย ตอนนั้นจู่ๆ ฮวาเฉิงก็ปลดคำสาป ร่างของเซี่ยเหลียนจึงล้มลงกับพื้น เขาค่อยๆ ลุกขึ้นมา ก่อนบอกว่าฉีหรงปั้นน้ำเป็นตัว ไม่มีหลักฐานใดว่าชาวเซียนเล่อเป็นผู้ลงมือสังหารราชวงศ์หย่งอัน ผีเขียวจึงเถียงกลับว่าผ่านมาหลายร้อยปีแล้ว จะมีหลักฐานเหลือได้อย่างไร ทุกคนในตอนนั้นก็ล้วนตายไปหมด แล้วเซี่ยเหลียนก็ต่อว่าว่าในเมื่อทั้งเซียนเล่อกับหย่งอันต่างก็ล่มสลายไปนานแล้ว จะไปคุ้ยเขี่ยเปลี่ยนประวัติศาสตร์ไปทำไม
คำพูดของเขาทำให้ฉีหรงหรี่ตาเหมือนนึกอะไรบางอย่างออก เซี่ยเหลียนหันไปหาหลางเชียวชิวกล่าวด้วยน้ำเสียงสงบว่าอีกฝ่ายก็เห็นกับตาตัวเองไม่ใช่หรือว่าเขาเป็นผู้ฆ่าราชาด้วยมือของเขาเอง ตอนนั้นเขาเพิ่งตกสวรรค์ครั้งที่ 2 จิตใจเต็มไปด้วยความโกรธเกลียดจึงได้ทำเรื่องผิดพลาดไป ทุกอย่างเป็นความผิดของเขา อย่าได้ลากคนที่ไม่เกี่ยวข้องอย่างเจ้าชายอันเล่อมายุ่งด้วย เรื่องราวนี้ฟังดูน่าสงสัย เหตุใดถึงได้มีคนพยายามแย่งชิงเคลมว่าตัวเองเป็นฆาตกร หลางเชียนชิวเต็มไปด้วยความสับสน ทว่าเขาก็เห็นเซี่ยเหลียนดึงกระบี่ออกจากร่างของพ่อของเขาจริงๆ เพราะฉะนั้นจะเป็นฝีมือผู้อื่นไปได้อย่างไร แต่ตอนนั้นเองผีเขียวที่นอนอยู่บนพื้นก็เอ่ยบางอย่างขึ้นมา
ฉีหรง : เสด็จพี่องค์ชายรัชทายาท นั่นท่านใช่หรือเปล่า
เซี่ยเหลียน : ... ฉีหรง ดูเหมือนหลายปีมานี้เจ้าจะใช้ชีวิตมีสีสันมากนะ
(คำว่าพี่ที่ฉีหรงใช้ตามศัพท์จีนเป็นคำที่ใช้เรียกลูกพี่ลูกน้อง แต่พอดีคำไทยไม่มีคำนี้เลยแปลว่าพี่ไปนะ)
หลังจากที่เซี่ยเหลียนพูดจบ ฮวาเฉิงก็เอาผิวปลอมออกเผยให้เห็นร่างจริงของเซี่ยเหลียน และหลางเชียนชิวก็ยิ่งงุนงงกับคำว่าเสด็จพี่ หลังจากฟังที่ผีเขียวพูดเขาก็พอจับได้ว่าอีกฝ่ายเป็นชาวเซียนเล่อ แต่ก็ไม่นึกว่าฉีหรงจะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเซี่ยเหลียนถึงขนาดนี้ ฉีหรงมองญาติผู้พี่ตั้งแต่หัวจรดเท้า และเมื่อเขาสังเกตเห็นกระบี่บนหลังของอีกฝ่าย ผีเขียวก็หัวเราะลั่นที่ได้รู้ว่าแท้จริงแล้วเซี่ยเหลียนคือราชครูฟางซิ่น
.
.
.
.
.
สปอยเทียนกวานต่อจาก >>749 เทียนกวาน Part.47
.
.
.
.
.
ฉีหรงกล่าวสมน้ำหน้าที่ญาติผู้พี่ถูกลูกศิษย์ชาวหย่งอันของตัวเองฆ่า ฮวาเฉิงจึงจับหัวของผีเขียวกระแทกกับพื้นอีก แต่ฉีหรงก็ตะโกนคำว่าเซี่ยเหลียนว่าโง่ออกมาในทุกครั้งที่เขาถูกอ๋องผีทำร้าย เซี่ยเหลียนบอกให้ฮวาเฉิงหยุด เมื่อรอดพ้นมาได้ผีเขียวก็หาเรื่องเอ่ยต่อว่าเป็นเพราะเซี่ยเหลียนไปไหนมาไหนกับอ๋องผี ลูกน้องที่เขาส่งไปตามหาตัวเซี่ยเหลียนจึงถูกจัดการ ได้ยินดังนั้นเซี่ยเหลียนจึงได้รู้ว่ากลุ่มผีที่เจอตอนกำลังกลับอารามผูจี้เป็นฝีมือของคนตรงหน้า แล้วฉีหรงก็ชี้ชวนให้ดูว่าเขาคิดถึงญาติผู้พี่มากแค่ไหนถึงได้ปั้นรูปปั้นมาไว้ข้างกาย ถามเซี่ยเหลียนชอบหรือไม่ ถ้าไม่ชอบเขาจะได้ปั้นเพิ่ม
เซี่ยเหลียนรู้ดีว่าหากยิ่งตอบโต้รุนแรงญาติผู้น้องจะยิ่งชอบใจ เขาจึงใช้วิธีตรงข้ามบอกไปว่ารูปปั้นไม่มีปัญหาแต่ผีมือการปั้นด้อยไป ฉีหรงไม่พอใจ บอกว่าเซี่ยเหลียนเป็นคนล้มเหลว เซี่ยเหลียนยิ้มรับบอกว่าเป็นเพราะเขาไม่เหมือนฉีหรงที่ผ่านมา 800 ปีแล้วก็ยังเป็นเจวี๋ยไม่ได้ ผีเขียวจึงโมโหพาลไปด่าฮวาเฉิงว่าพอเขาพูดไม่ดีเกี่ยวกับเซี่ยเหลียนก็ทำท่าไม่พอใจ สงสัยคงตาบอดเพราะแสงความดีงามของเซี่ยเหลียน แต่อีกฝ่ายก็ตาบอดข้างหนึ่งอยู่แล้วจึงไม่น่าแปลกใจ ทันใดนั้นฉีหรงก็ถูกเซี่ยเหลียนต่อยหน้าหัน
ฉีหรงยิ่งตื่นเต้นที่เซี่ยเหลียนต่อยเขา ทำให้หลางเชียนชิวถึงกับแขยงว่าผีเขียวจิตไม่ปรกติ เซี่ยเหลียนรีบเสริมว่าฉีหรงเป็นบ้า คำพูดย่อมเชื่อถือไม่ได้ แต่ผีเขียวกลับหัวเราะดังขึ้นแล้วถามเซี่ยเหลียนว่าเจ้าชายอันเล่อตายได้อย่างไร เขาลุกขึ้นนั่ง เล่าให้ฟังว่าหลังจากอันเล่อตายเขาก็เอาศพของอีกฝ่ายมาผ่าตรวจสอบ ปรากฏว่าอวัยวะภายในของอันเล่อถูกกระบี่ทำให้สั่นสะเทือนจนแหลกเหลว ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีบาดแผลภายนอกให้เห็นและสรุปผิดไปว่าป่วยตาย พอมาคิดตอนนี้แล้วคนที่มีผีมือทำอย่างนั้นได้จะเป็นใครอื่นนอกจากลูกพี่ลูกน้องคนดีของเขา
ฮวาเฉิงเข้าไปซัดผีเขียวอีก ขณะที่หลางเชียนชิวตะโกนสั่งให้ฉีหรงเล่าความจริงทั้งหมด เซี่ยเหลียนเอื้อมมือไปจับกระบี่ แต่หลางเชียนชิวก็เอาดาบยาวมาขวางเขาเอาไว้ เขาใช้กระบี่ฟางซิ่นปัดดาบของอีกฝ่ายจนหลุดจากมือ แต่ตอนนั้นดาบโค้งเอ้อมิ่งก็กระแทกใส่จนกระบี่ฟางซิ่นกระเด็นออกไปด้านข้าง เซี่ยเหลียนเรียกชื่อซานหลางอย่างขอร้อง แต่ฮวาเฉิงก็ไม่ให้ความร่วมมือ ทั้งยังกันไม่ให้เขาเข้าไปห้ามสถานการณ์ตรงหน้าด้วย
เห็นว่าเซี่ยเหลียนร้อนใจฉีหรงก็ยิ่งยินดี ปากจึงขยับรัวเร็วบอกว่าอันเล่อเชื่อฟังคำพูดของเขาแสร้งไปเป็นเพื่อนกับหลางเชียนชิว รวมไปถึงลงมือสังหารหมู่ในงานเลี้ยงอาบเลือด เมื่อราชครูฟางซิ่นโผล่มา อันเล่อก็รีบหนี เซี่ยเหลียนย่อมสงสัยว่าเรื่องเป็นเช่นนี้ได้อย่างไรเลยออกตามหาอันเล่อ แต่เมื่อทราบความจริงก็คิดหนัก เนื่องจากอันเล่อมีท่าทีต้องการก่อความวุ่นวายอีก ซึ่งนั่นจะทำให้ชาวหย่งอันต้องล้มตาย และหากมีใครรู้ว่าอันเล่อเป็นผู้ฆ่าราชวงศ์หย่งอัน ชาวเซียนเล่อทั้งหมดคงถูกกำจัด เซี่ยเหลียนเลยสังหารสายเลือดคนสุดท้ายของราชวงศ์ด้วยมือของตัวเอง นอกจากเซี่ยเหลียนจะทำให้เซียนเล่อต้องสูญเสียทุกสิ่ง เขายังทำให้ตระกูลของตัวเองต้องสิ้นสุด เหตุใดเขาจึงไม่ตายไปเสีย เหตุใดจึงยังมีหน้ามีชีวิตอยู่อีก
ส่วนเรื่องที่หลางเชียนชิวเห็นเซี่ยเหลียนแทงพ่อของตน ผีเขียวบอกว่าน่าจะเป็นเพราะตอนที่อันเล่อลงมือราชายังไม่ตาย และเซี่ยเหลียนคงพยายามเข้าไปช่วยชีวิตอีกฝ่าย แต่สิ่งที่ราชาผู้เห็นญาติพี่น้องของตัวเองถูกฆ่าทำเป็นสิ่งแรกคงไม่แคล้วบอกราชครูฟางซิ่นว่าคนร้ายคือเจ้าชายอันเล่อ จงไปสังหารอันเล่อเสีย หรือที่จริงน่าจะบอกว่าเขาต้องการกำจัดชาวเซียนเล่อให้สิ้นซาก แม้ตอนแรกราชาจะไม่คิดทำร้ายชาวเซียนเล่อ แต่เมื่อราชวงศ์ของตัวเองถูกฆ่าล้างจึงไม่แปลกที่จะคิดล้างแค้น เซี่ยเหลียนในยามนั้นคิดแล้วว่าหากปล่อยให้ราชามีชีวิตต่อไปจะต้องเกิดการนองเลือด ถ้าประหารอันเล่อก็จะทำให้ชาวเซียนเล่อโกรธแค้น และหย่งอันกับเซียนเล่อก็จะยิ่งมีแต่ความเกลียดชังไร้ที่สิ้นสุด เขาจึงใช้กระบี่ปลิดลมหายใจของราชา จากนั้นก็รับความผิดไว้เองเพื่อไม่ให้ชาวหย่งอันกันเซียนเล่อผิดใจกัน ญาติผู้พี่คนดีของเขาก็เป็นแบบนี้ อยากช่วยทุกคนแต่สุดท้ายก็ช่วยใครไม่ได้เลย
.
.
.
.
.
เห็นในทวิตมีแชร์ภาพเงาตัวละครเทียนกวาน เหมือนจะเป็นคนวาดมังฮวาวาด กูก๊าวมากอะ มีสิ่งที่ติดใจคือ
- จวินอู๋โคตรสูง ชุดอลังการดาวล้านดวง
- ลุงเผยเกล้าผมสูง นึกว่าจะมัดเป็นมวยผม
- หลิงเหวินสูงกว่าเซี่ยเหลียนจริงๆ ด้วย 5555 ตอนแรกเห็นในวิกิยังไม่ค่อยอยากเชื่อ
- เฮียตู้สูงกว่าที่คิดไว้ แถมทั้งๆ ที่เป็นเมจ แต่ตัวดันใหญ่หนากว่าเซี่ยเหลียนที่เป็นสายแทงค์ + STR อาจารย์เหม่ยก็อีกคน
จะว่าไปพวกใบปิดโฆษณา กูแอบหวังว่าถ้าซีรีย์ทำแล้ว อยากให้มีภาพรูปปั้นของเทพแต่ละองค์เอามาวางเรียงกันอะ น่าจะให้ความรู้สึกขลังดี
ในการ์ตูนม่านฮวานี่ศิษย์พี่หญิงปรากฏตัวรึยังนะ (ไม่ใช่ฉากที่เว่ยอิงคิดถึงเห็นภาพ) เอาแบบปรากฏตัวมีบทอ่ะ
แล้วในนิยายศิษย์พี่หญิงกับเวินฉิงมีบทเยอะมั้ย กูดูจากซีรีย์แล้วเทใจให้สองคนนี้มากเลย สาวๆ ในเรื่องนี้เก่ง เท่ คูล และไม่งี่เง่าดี เสียแต่ว่าชะตา(คนเขียน)ลิขิตช่างโหดร้าย
Ky พวกมึงกูต้องการสิ่งฮีลจิตใจมาก..คุยกับกูหน่อย ฮือๆ กูไม่รู้จะชวนคุยไรแต่ๆชอบเจียงเฉิงนะ...พวกมึงว่าเขาน่าเอ็นดูไหม กูละอยากจะเข้าไปกอดเขาล่ะเกินตอนเสียทุกอย่าง ต้องโคตรเปราะบางงงง
กูขอโทษ กูแค่เส้าอะ...อยากมาร้องโวยวายสักที่แล้วปรมจกับแม่โม่โคตรฮีลกู กูไปล่ะๆ...
>>753 อ่านเเล้วจะสังเกตได้ว่าต่างฝ่ายต่างปกป้องกันนะ คือใครจะว่าไงตัวเองไม่สนแค่อย่าล้ำเส้นว่าคนในใจของตัวเองก็พอ
อีผีฉีหลงคือปากน่าตบ แต่กูแอบฮานางนะ จังหวะโดนฟาฟาตีก็ด่าเซี่ยเหลียน เเล้วยิ่งจะอวดว่าหยามเขา ก็โดนเซี่ยเหลียนตอกกลับคือจับจุดก็อยู่หมัดอ่ะ
สปอยด์นี้จบแบบจุกๆคือเซี่ยเหลียนกูปกป้องใครไว้ไม่ได้เลย ร้อง
>>758 มึ๊งงงงงง โม่งสปอยกูยกมือ+โบกป้ายสูงๆ กูตามเรื่อยๆเว้ย คือโม่งปิดจริงแล้วมึงยังสปอยด์ไม่จบก็อยากคุกเข่าอ้อนวอนมึงไปไลน์โอเพนด้วยนะนะนะน 555 เอาจริงก็กว่านิยายจะออก กูหน้าแห้งสัส ทุกวันนี้ปรมาจารย์ยังอยู่ในซีล กลัวค้างว้อยยยย
กูเพิ่งอ่านม่านฮวาปรมจตอนล่าสุด คือกูอ่ะไม่มีอิมเมจเสี่ยงซิงเฉินในหัวเลย พอดูซีรีส์ก็ติดภาพน้องซ่งจี้หยางมา แต่พอมาดูม่านฮวาคือแบบ มึง พี่เขาคือมีความผัวอ่ะ แบบดูเป็นผู้ชายนุ่มนวลดี คือดูสง่างามมากกว่าสวยอ่ะ กูแบบ ฮือออออ เขินเฉย
สปอยเทียนกวานต่อจาก >>753 ตอนนี้ขอแบ่งเป็น 2 พาร์ทนะ เพราะโม่งห้ามโพสโพสหนึ่งเกิน 1000 อักษร แต่ให้ตัดตอนอารมณ์มันจะไม่ต่อเนื่อง เทียนกวาน Part.48-1
.
.
.
.
.
เซี่ยเหลียนสั่งให้ฉีหรงหยุดพูด แต่หลางเชียนชิวก็โกรธขึ้นมา คนที่เขาคิดว่าเป็นเพื่อนอย่างอันเล่อฆ่าล้างตระกูลของเขา ส่วนอาจารย์อย่างเซี่ยเหลียนก็เป็นผู้ดับลมหายใจของบิดา ฉีหรงยังคงด่าเซี่ยเหลียนว่าเป็นผู้ทำลายแผนการของเขากับอันเล่อ เพราะหลางเชียนชิวควรตายตั้งแต่ตอนที่พวกเขาลักพาตัวอีกฝ่ายตอนอายุ 12 ปี ไม่มีโอกาสได้กลายเป็นเทพอย่างที่เป็นอยู่ หลางเชียนชิวหันไปหาเซี่ยเหลียน บอกว่าอีกฝ่ายก็โกหกเขาเหมือนกัน เซี่ยเหลียนสอนเขาว่าเซียนเล่อกับหย่งอันมีรากเหง้าเดียวกันและทุกคนล้วนเป็นดั่งคนในครอบครัว ทุกอย่างจะต้องดีขึ้นเรื่อยๆ ความโกรธแค้นชิงชังในอดีตจะค่อยๆ มลายหายไป และเขาก็เชื่อคำพูดนั้น แต่ทุกอย่างคือความผิดพลาด คำของเซี่ยเหลียนเป็นเพียงเรื่องโกหกโลกสวยทั้งนั้น
เซี่ยเหลียนรีบร้องบอกว่าแต่สิ่งที่หลางเชียนชิวทำก็ทำให้ทุกอย่างดีขึ้นจริงๆ ไม่ใช่หรือ หลางเชียนชิวทำให้ชาวเซียนเล่อกับชาวหย่งอันอยู่ด้วยกันอย่างสุขสงบ ความบาดหมางก็ลดลงเรื่อยๆ แล้วมันจะเป็นความผิดพลาดไปได้อย่างไร แต่หลังจากได้ยินคำพูดนั้นน้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตาของหลางเชียนชิว เขาถามว่าแล้วพ่อแม่ของเขาล่ะ ทั้งสองต่างปรารถนาอย่างยิ่งให้เซียนเล่อกับหย่งอันรวมเป็นหนึ่งเดียว พวกเขาจึงช่วยตั้งชื่อให้สายเลือดคนสุดท้ายของเซียนเล่อ (อันเล่อ แปลว่าดำรงซึ่งสันติสุข) ทำไมทั้งสองถึงต้องมีจุดจบแบบนั้น
ฉีหรงเอ่ยดูถูกหลางเชียนชิวว่าขี้แยไม่ต่างจากญาติผู้พี่ของเขาในสมัยก่อน และยังพูดจาหยาบคายจนเซี่ยเหลียนต้องตะคอกใส่ หลางเชียนชิวหันไปหาผีเขียว ถามว่าอีกฝ่ายเป็นคนเสี้ยมอยู่เบื้องหลังใช่หรือไม่ ฉีหรงหัวเราะ บอกว่าทั้งเขา อันเล่อ และเซี่ยเหลียน ชาวเซียนเล่อทั้ง 3 คนต่างก็เป็นส่วนหนึ่งที่ก่อให้เกิดงานเลี้ยงอาบเลือด ทันใดนั้นหลางเชียนชิวก็ยกดาบฟันผีเขียวตัวขาดเป็นสองท่อน ทว่าฉีหรงกลับยิ่งหัวเราะราวคนบ้า บอกว่าเขาไม่เจ็บแม้แต่น้อย และหลางเชียนชิวก็เป็นแค่คนไร้ค่า หลางเชียนชิวจิกหัวผีเขียวลากไปโยนลงหม้อที่อีกฝ่ายเตรียมไว้ต้มมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นสมัยที่ยังเป็นมนุษย์ธรรมดาหรือได้เป็นเทพสงครามแห่งทิศตะวันออกแล้ว หลางเชียนชิวก็ไม่เคยทำเรื่องโหดร้ายแบบนี้ และท่าทางเย็นชาของคนตรงหน้าก็ทำให้เซี่ยเหลียนรู้สึกว่าหลางเชียนชิวกลายเป็นคนที่เขาไม่รู้จัก
แม้จะกรีดร้องด้วยเสียงที่ไม่อาจรู้ได้ว่ากำลังเจ็บปวดหรือหัวเราะบ้าคลั่ง ฉีหรงก็ยังพยายามพูดจาทำร้ายจิตใจเซี่ยเหลียน หลางเชียนชิวจัดการกดเขาลงในหม้อจนไม่ลอยขึ้นมาอีก เซี่ยเหลียนเรียกชื่อญาติผู้น้องอย่างไม่รู้ตัว ในสมัยเด็กฉีหรงมักเอ่ยชื่นชมสรรเสริญเสด็จพี่องค์ชายรัชทายาทของตนไม่หยุดปาก ไม่ว่าเซี่ยเหลียนจะทำอะไรอีกฝ่ายก็ยกย่องเทิดทูล ทว่าเมื่ออาณาจักรเซียนเล่อล่มสลายทุกอย่างก็พลิกเป็นหลังมือ ฉีหรงกลายเป็นแกนนำนำคนเผาอารามของเขา เป็นคนสั่งทำรูปปั้นองค์ชายรัชทายาทคุกเข่าไปวางไปทุกที่ และอะไรก็ตามที่ทำให้เซี่ยต้องเจ็บปวด เขาก็ล้วนกระทำ แต่การได้มาเห็นหน้าคนคุ้นเคยหลังจากผ่านมานานก็ทำให้เซี่ยเหลียนไม่แน่ใจว่าตัวเองรู้สึกอย่างไร เพราะไม่ว่าอย่างไรตอนนี้ราชวงศ์เซียนเล่อก็เหลือพวกเขาแค่ 2 คนแล้ว
.
.
.
.
.
สปอยเทียนกวานต่อจาก >>766 เทียนกวาน Part.48-2
.
.
.
.
.
จู่ๆ ฮวาเฉิงก็พูดขึ้นว่าฉีหรงไม่ตายเพราะเรื่องแค่นี้ หากต้องการสังหารผีเขียวจริงๆ จำเป็นต้องหาเถ้ากระดูกของอีกฝ่ายให้พบ หลางเชียนชิวจึงบอกว่าเขาจะตามล่าฉีหรงแล้วเอาเถ้ากระดูกของผีเขียวมาเซ่นไหว้พ่อแม่ และเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้วเขาจะกลับมาสะสางเรื่องราวกับเซี่ยเหลียน ห้ามเซี่ยเหลียนคิดหนีไปไหนเด็ดขาด หลางเชียนชิวเอาดาบฟันหม้อทิ้งแล้วเดินจากไป เมื่อเห็นเซี่ยเหลียนทำท่าอยากตามไป อ๋องผีก็เข้ามาบอกว่าปล่อยให้หลางเชียนชิวได้อยู่คนเดียวสักพักดีกว่า เซี่ยเหลียนรำพึงว่าทำไมต้องให้หลางเชียนชิวรู้ความจริง ฮวาเฉิงก็บอกว่าอีกฝ่ายจำเป็นต้องรู้ความจริงว่าสิ่งใดที่เซี่ยเหลียนทำ สิ่งใดที่ไม่ได้ทำ รวมไปถึงเหตุผลว่าทำไมเซี่ยเหลียนถึงต้องทำเช่นนั้น แต่เซี่ยเหลียนก็พูดเสียงเย็นว่ารู้ไปแล้วจะได้อะไรขึ้นมา หากเขาฆ่าคนน้อยลงแล้วจะถูกประณามน้อยลงด้วยหรือ หากรู้ความจริงแล้วจะทำให้รู้สึกแย่น้อยลงหรือ
เซี่ยเหลียนรู้สึกโกรธหากแต่ไม่รู้ว่าควรโกรธผู้ใด เขาโผล่งว่าไม่ว่าเรื่องทุกอย่างจะเป็นความผิดของเขาหรือไม่ การรับความผิดนั้นไว้เองก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร อย่างไรเขาก็ไม่สามารถตายได้อยู่แล้ว เขาเป็นผู้นำโชคร้ายมาให้คนรอบตัว ทั้งอันเล่อ ฉีหรง ทุกคนในเซียนเล่อ ให้ทุกคนพุ่งความเกลียดชังมาที่คนๆ เดียวไม่ดีกว่าหรือ หลางเชียนชิวจะได้ไม่คิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำลงไปเป็นความผิดพลาดไร้ค่า ฮวาเฉิงฟังเขาโดยไม่เอ่ยอะไร สักพักเซี่ยเหลียนจึงสงบลงและกล่าวขอโทษอีกฝ่าย อ๋องผีบอกว่ามันไม่ใช่ความผิดของเซี่ยเหลียน ถ้าการสังเวย 3 ชีวิตจะสามารถรักษาความสงบสุขของทั้งอาณาจักร หากเขาเป็นเซี่ยเหลียนในตอนนั้นก็คงทำในสิ่งเดียวกัน
หลังจากเงียบไปพักหนึ่งเซี่ยเหลียนก็บอกว่าอย่างไรเขาก็คิดว่ามันไม่ถูกต้อง ถึงจะเป็นเรื่องโกหกทั้งหมด เขาก็ยังอยากให้หลางเชียนชิวจดจำว่าความเมตตาที่เขามีต่อประชาชนชาวเซียนเล่อจะได้รับการตอบแทน การทำในสิ่งที่ถูกต้องจะนำไปสู่อนาคตมากมายไร้ที่สิ้นสุด เขาไม่อยากให้หลางเชียนชิวมีความคิดแบบนั้น เขาไม่อยากให้มีใครต้องเดินในเส้นทางเดียวกับที่เขาเคยผ่าน ราชารุ่นแรกๆ ของหย่งอันปกครองชาวเซียนเล่อด้วยความโหดร้าย แต่ก็ไม่มีใครต้องเผชิญโศกนาฏกรรมในยามเสียชีวิต แต่พ่อแม่ของหลางเชียนชิวผู้พยายามทำดีกลับต้องตายเช่นนั้น แม้เซี่ยเหลียนในตอนนั้นจะเป็นแค่นักแสดงข้างถนน ราชาก็ยังแต่งตั้งเขาเป็นราชครู ปฏิบัติต่อเขาด้วยความเคารพ และเขาก็ไม่อาจลืมสีหน้าของอีกฝ่ายในตอนที่เขาใช้กระบี่แทงได้เลย
ฮวาเฉิงบอกว่านั่นเป็นความผิดของฉีหรง แต่เซี่ยเหลียนกลับส่ายหน้า นั่งเอาหน้าซุกกับเข่า ตอนที่พ่อของหลางเชียนชิวขึ้นครองราชย์ สิ่งแรกที่เขาทำคือทำลายธรรมเนียมที่ปฏิบัติต่อชาวเซียนเล่ออย่างไม่ชอบธรรม หลังจากจมในความขัดแย้งมาเป็นเวลานาน นั่นคือครั้งแรกที่ชาวหย่งอันกับเซียนเล่อเริ่มใช้ชีวิตด้วยกันอย่างสงบสุข ในที่สุดก็อาจรวมเป็นหนึ่ง ในที่สุดก็จะสามารถทิ้งความขุ่นเคืองในอดีตไว้ข้างหลัง แต่อันเล่อกลับเลือกทำลายทุกอย่าง ในคืนที่เซี่ยเหลียนหลบหนีการจับกุมมาตามหาอันเล่อ เขาพยายามเตือนไม่ให้อีกฝ่ายก่อเรื่องราวอีก แต่เมื่ออันเล่อรู้ตัวจริงของเขา อันเล่อกลับเข้ามาจับตัวเขาไว้ด้วยความตื่นเต้น ชักชวนให้มาร่วมล้างแค้นแล้วสร้างอาณาจักรขึ้นใหม่ และทั้งๆ ที่เพิ่งก่อเหตุงานเลี้ยงอาบเลือดไป เขากลับเอ่ยแผนสังหารหลางเชียนชิว นำพาหายนะสู่หย่งอันต่อทันที
แต่สุดท้ายฆ่าก็คือฆ่า ไม่ว่าเหตุผลจะคืออะไรหรือดีมากแค่ไหน ความจริงก็คือเขาได้ลงมือสังหารราชาผู้มีจิตใจสูงส่งคนหนึ่ง รวมไปถึงทายาทคนสุดท้ายของตระกูลของตัวเอง เพราะฉะนั้นการที่เขาจะถูกผู้คนรุมประณามก็เป็นเรื่องสมควรแล้ว
.
.
.
.
.
>>767 โอ้โห เรื่องนี่แม่งเทายิ่งกว่าปรมจอีก ปรมจมันยังแบบเข้าใจผิดกันบ้างอะไรบ้าง แต่นี่คือทำจริง ถึงจะมีเหตุผลแต่การกระทำก็ยังเกิดขึ้นจริงอยู่ดี เล่นกับคำว่าคุณธรรมสุด แล้วที่บอกว่าตายไม่ได้นี่คือถ้าได้ขึ้นเป็นเทพแล้ว ถึงจะโดนเนรเทศลงมาจากสวรรค์แต่ยังไงก็ยังนับว่าเป็นเทพเลยตายไม่ได้งี้เหรอ หรือเหมือนฟิลพวกเทพในการ์ตูนญี่ปุ่นที่แบบจะหายไปก็ต่อเมื่อไม่เหลือผู้ที่ศรัทธาแล้วงี้เหรอ
>>771 ถอดออกได้ ตอนนี้คนที่ทำหน้าที่ลงคำสาปพันธนาการคือจวินอู๋ เลยต้องให้จวินอู๋เป็นคนเอาออก (คนอื่นเอาออกให้ได้ แต่เป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะจวินอู๋คือซุปเปอร์ไซยาของเทพ พลังแกร่งกล้าขั้นสุด) แต่เนรเทศนี่คือโทษขั้นสูงสุดแล้ว เป็นการเนรเทศถาวร ยกเว้นสามารถบำเพ็ญจนกลับขึ้นสวรรค์มาได้อีกก็จะเอาออกให้ ที่จริงหลังจากขึ้นสวรรค์ครั้งที่ 3 เซี่ยเหลียนจะขอให้เอาออกก็ได้ แต่เจ้าตัวไม่ขอเอง
สปอยเทียนกวานต่อจาก >>767 เทียนกวาน Part.49
.
.
.
.
.
เมื่อมองไปยังรูปปั้นที่ฉีหรงทำ เซี่ยเหลียนก็คิดว่าฉีหรงพูดถูกว่าเขาเป็นคนล้มเหลว แต่ฮวาเฉิงก็บอกว่าอย่าเชื่อคำพูดของขยะไร้ค่าอย่างผีเขียว จากนั้นเซี่ยเหลียนก็นึกถึงหลางเชียนชิว ตอนที่ได้เจอกันบนสวรรค์ เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังเป็นคนตรงไปตรงมาและยังชอบคงแอบหลับระหว่างประชุมไม่ต่างจากในอดีต เขาก็รู้สึกโล่งใจอย่างมาก ทว่าหลังจากนี้ไม่รู้หลางเชียนชิวจะเปลี่ยนไปหรือเปล่า แล้วสุดท้ายอีกฝ่ายจะสะสางเรื่องกับเขาอย่างไร เซี่ยเหลียนลุกขึ้นเดินไปที่รูปปั้นของเขาซึ่งมีใบหน้าโศกเศร้าน้ำตาอาบแก้ม เขาวางมือลงบนศีรษะของมันแล้วปล่อยพลังทำลาย เมื่อเขาหันกลับมาหาฮวาเฉิง บนใบหน้าก็กลับไปมีรอยยิ้มใจดีเหมือนเดิม แล้วเขาก็ชวนอ๋องผีสำรวจถ้ำว่ายังมีมนุษย์ถูกนำมาขังไว้อีกหรือไม่
เซี่ยเหลียนกับฮวาเฉิงจับลูกน้องของฉีหรงให้มานำทางไปปลดปล่อยมนุษย์ที่ถูกนำมาเก็บไว้เป็นเสบียง ระหว่างนั้นเซี่ยเหลียนก็ถามอ๋องผีว่ารู้ได้อย่างไรว่าผีเขียวอยู่เบื้องหลังงานเลี้ยงอาบเลือด ฮวาเฉิงจึงอธิบายว่าฉีหรงเป็นคนเซียนเล่อ มีความแค้นต่อหย่งอันมาก และยังยั่วยุก่อเรื่องเก่ง การลอบสังหารราชวงศ์หย่งอันส่วนมากล้วนเป็นแผนของเขา และเหตุการณ์งานเลี้ยงอาบเลือดก็ดูเป็นสไตล์ของผีเขียว ถึงอย่างนั้นตอนแรกเขาก็นึกว่าราชครูฟางซิ่นเป็นลูกน้องของฉีหรง แต่เมื่อหลางเชียนชิวกล่าวว่าเซี่ยเหลียนคืออาจารย์ของตน บวกกับการที่อันเล่อตายอย่างน่าสงสัย แต่กลับไม่มีชาวเซียนเล่อคนอื่นได้รับผลกระทบ ก็ทำให้เขาสรุปเรื่องราวทั้งหมดได้ไม่ยาก
แม้จะไม่ได้อยู่บนสวรรค์ แต่อ๋องผีกลับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นบนภพเทพ อีกทั้งยังรู้ความสัมพันธ์ของเซี่ยเหลียนกับฉีหรงเป็นอย่างดี เซี่ยเหลียนเปลี่ยนไปถามว่าแล้วทำไมถึงรู้ว่าคนคิดแผนร้ายคือฉีหรง ไม่ใช่เขา ฮวาเฉิงจึงตอบว่าเขาแค่เชื่อว่าเซี่ยเหลียนจะไม่ทำเช่นนั้น ทว่าเซี่ยเหลียนกลับบอกอ๋องผีไปว่าอย่ามองว่าคนอื่นสมบูรณ์แบบ เพราะสิ่งที่ได้เห็นในตัวคนๆ นั้นอาจเป็นแค่ด้านเดียว หากต่อมาได้รู้ว่าคนๆ นั้นไม่ได้เป็นอย่างที่คิดแล้วจะทำให้ผิดหวังเอาได้ ถึงอย่างนั้นอ๋องผีก็เอ่ยว่าเขาไม่สนว่าคนอื่นจะผิดหวังหรือเปล่า เพราะสำหรับคนบางคน แค่การที่ใครคนหนึ่งมีตัวตนอยู่บนโลกนี้ก็เป็นความหวังแล้ว
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เซี่ยเหลียนก็ถามว่าอีกฝ่ายคือใครกันแน่ พวกเขาเคยพบกันมาก่อนใช่หรือไม่ ฮวาเฉิงรู้เรื่องราวของเขามากมาย ทำให้เขารู้สึกว่าอีกฝ่ายเป็นคนรู้จักของเขาในอดีต ต้องรู้จักมานานมาก อาจเป็นก่อนที่เขาจะได้ขึ้นสวรรค์ครั้งแรกด้วยซ้ำ แต่เขาจำไม่ได้ว่าได้พบกับคนที่มีลักษณะเหมือนอ๋องผีเมื่อไร ทว่าอ๋องผีกลับไม่เอ่ยอะไรและยกยิ้มขึ้นเท่านั้น เซี่ยเหลียนจึงไม่เซ้าซี้เอาคำตอบ อย่างไรพวกผีก็มักปกปิดความเป็นมาของตนไม่เหมือนผีจิตไม่ปรกติอย่างฉีหรง ขณะที่เขาเอ่ยขอโทษที่เสียมรรยาท ทั้งสองก็ได้ยินเสียงของผู้หญิงดังขึ้นมา เมื่อฟังดีๆ จึงได้รู้ว่าอีกฝ่ายคือซือชิงเสวียนที่เปลี่ยนร่างเป็นสตรีเพื่อเพิ่มค่า Luck ให้ตัวเองสามารถทอยลูกเต๋าได้แต้มที่ถูกต้อง เซี่ยเหลียนเลยรีบตะโกนเรียก
ตาของเทพแห่งลมเป็นประกาย เธอรีบร้องเรียกให้ใครอีกคนตามมา แต่เมื่อหันไปเห็นฮวาเฉิงก็ถึงกับหน้าเจื่อน รีบถอยไปตั้งหลักพร้อมหยิบพัดออกมา จากนั้นเมื่อเฟิงซิ่นตามมาสมทบ เขาก็รีบง้างธนูไปทางอ๋องผีพร้อมบอกให้เซี่ยเหลียนมาอยู่ข้างพวกเขา แต่เซี่ยเหลียนกล่าวให้ทุกคนค่อยๆ คุยกันพร้อมเดินไปบังหน้าให้ฮวาเฉิง โดยไม่คาดคิด จู่ๆ อ๋องผีก็จับตัวเขาดึงไปด้านหลัง ซือชิงเสวียนจึงรีบตะโกนบอกให้ฮวาเฉิงอย่าเพิ่งใจร้อน เรื่องไฟไหม้ที่อนุสรณ์สุขาวดีเป็นอุบัติเหตุ ถ้าไม่พอใจสวรรค์จะชดใช้ค่าเสียหายให้ ปล่อยเซี่ยเหลียนแล้วมาคุยกันดีๆ ดีกว่า อ๋องผีตอบกลับไปว่าจวินอู๋แอบส่งสายลับมาสืบเรื่องในเมืองของเขา จึงไม่มีอะไรต้องคุย แล้วเซี่ยเหลียนจึงสังเกตได้ว่าเทพแห่งลมรู้ดีว่าฮวาเฉิงไม่ได้ประสงค์ร้าย เพียงแต่ช่วยทำให้เรื่องราวดูเหมือนอ๋องผีต้องการแก้แค้นจึงมาจับตัวเซี่ยเหลียนไป ไม่เช่นนั้นสวรรค์อาจกล่าวหาได้ว่าเซี่ยเหลียนคิดหลบหนีคดี ส่วนฮวาเฉิงก็แค่ให้ความร่วมมือกับแผนของอีกฝ่าย เขาจึงบอกให้ทุกคนเลิกเล่นละคร ทว่าเมื่อซือชิงเสวียนหันไปบอกให้เฟิงซิ่นลดอาวุธลง เฟิงซิ่นกลับไม่ยอมทำตาม
.
.
.
.
.
775 นั่นสวนสัตว์ที่ไหนทำโทรลหลุดมา... กูบ่นแค่นี้แหละ ถ้าโผล่มาอีกกูจะ ignore all ปล่อยให้มันไร้ตัวตน
>>776 ขอบคุณสปอย
เตี้ยนเซี่ยอย่าคิดมากค่ะ ท่านจะไม่เพอร์เฟ็คต์ จะขาดจะเกินยังไงฟาฟาก็รักท่านค่ะ ฉีหรงไม่เต็มบาท แต่ฟาฟาบ้ากว่าอีกนะคะ(เผา) บ้ารักไท่จื่อเตี้ยนเซี่ยนามเซี่ยเหลียนน่ะ แล้วก็ท่านเทพลมคะ แน่ใจนะว่าแปลงร่างเป็นหญิงเพิ่มค่าLuck ไม่ใช่แค่อยากจะแปลงหรือเจ้าคะ รู้สึกท่านจะสนุกกับร่างนี้มาก
ชอบบบบบบบบบ ชอบความรู้สึกเชื่อใจกันแบยเกินร้อยนี้ ฮือออออออ มันดีอ่ะ ดีต่อใจมากๆ
โม่งสปอยกุว่ามึงสปอยละเอียดำปเอาประเด็นหลักๆก็ได้ กูกลัวอ่านนิยายไม่สนุก
แต่กูอยากได้ละเอียด ถ้ากลัวสปอยทำให้ไม่สนุกจะอ่านทำไมแต่ต้น กูชอบสปอยแบบนี้นะโม่งสปอย
กูชอบเจอแฟนอาร์ตเทพแห่งลมเวอร์ชั่นหญิงละไปอี๋อ๋อกับ(ใครหว่าลืมชื่อ) พอเขารุกกลับ แพ้ทุกที 555
>>779 ถ้ามึงไม่ชอบสปอยแนวนี้ กูแนะนำว่าอย่าอ่านแล้วหาสปอยจากแหล่งอื่นแทน บางคนยิ่งเสพสปอยเยอะแล้วยิ่งอยากอ่านมากขึ้นบางคนก็อ่านจริงแล้วเสียอรรถรส ลางเนื้อชอบลางยาว่ะ
แต่ที่มึงบอกว่าเอาแต่ประเด็นหลักๆ กูว่าโม่งสปอยเค้าก็สรุปแต่ประเด็นหลักแล้วนะ ถ้าอ่านเองจริงๆ จะรู้เลยว่าแต่ละตอนมีอะไรมากกว่านั้นเยอะ
กุงง อยากอ่านละเอียดๆทำไมไม่ไปอ่านเองว่ะ มาอ่านสปอยทำไม
กูก็ติดสปอยแบบละเอียดด้วยสิ ปรกติกูจะเขียนทั้งหมดลงไปก่อนแล้วมาอ่านซ้ำลบบางจุดออกไป แต่บางทีก็ไม่มีเวลามาเกลาให้น้อยลง (เช่นเดียวกับการตรวจคำผิด) บางจุดมันก็เป็นโมเมนท์อยากให้อิน หรืออยากให้มีประเด็นถกกัน อย่างเรื่องพ่อของหลางเชียนชิว ถ้าเขียนแค่ว่า "เป็นคนดีที่พยายามทำให้หย่งอันกับเซียนเล่ออยู่ด้วยกันอย่างสงบ" มันดูเข้าไม่ถึงอารมณ์รู้สึกผิดของเซี่ยเหลียน หรือความเสียใจของหลางเชียนชิว หรือโมเมนท์เล็กๆ บางจุดมันก็โยงไปถึงเรื่องในอนาคตเหมือนกันอะ (ตอนนี้กูยังอยากกลับไปเสริมเลยว่าวันที่เซี่ยเหลียนเจอซานหลางบนเกวียนคือเทศกาลซ่างหยวน เพราะในเรื่องจะพูดถึงเทศกาลนี้อีกหลายครั้ง)
เอาเป็นว่าถ้ากูมีเวลาจะพยายามเกลาเรียบเรียงเอาจุดที่ไม่สำคัญเท่าไรออก แต่ก็ยังสปอยละเอียดระดับหนึ่งเหมือนเดิมนะ
สปอยเทียนกวานต่อจาก >>776 เทียนกวาน Part.50
.
.
.
.
.
เห็นเฟิงซิ่นยังไม่ยอมลดอาวุธลง ซือชิงเสวียนเลยเอาตัวกระแทกจนหนองโพไปโดนแขนของอีกฝ่าย ทำเอาเฟิงซิ่นที่กลัวผู้หญิงแทบสิ้นพลัง สบถด่าเสียงดังพร้อมถอยกรูดออกห่าง ท่าทางของอีกฝ่ายทำให้ซือชิงเสวียนผู้มั่นใจในความงามเสียเซลฟ์เล็กน้อย แต่ก็เปลี่ยนกลับมาใช้ร่างชายแล้วถามถึงหลางเชียนชิว เซี่ยเหลียนตอบว่าอีกฝ่ายไปตามล่าฉี และฮวาเฉิงก็เสริมว่าคนร้ายตัวจริงในคดีงานเลี้ยงอาบเลือดคือผีเขียว ได้ยินดังนั้นซือชิงเสวียนกับเฟิงซิ่นก็มีท่าทางยินดีที่เซี่ยเหลียนพ้นผิด ก่อนที่เซี่ยเหลียนจะถามอดีตผู้ติดตามว่ารู้หรือเปล่าว่าฉีหรงก็คือฉีหรงที่พวกเขารู้จัก เฟิงซิ่นหน้าเครียด อย่างไรฉีหรงก็เป็นถึงลูกชายของน้องสาวของแม่ของเซี่ยเหลี่ยนซึ่งเป็นราชินีของเซียนเล่อ เฟิงซิ่นที่ติดตามเซี่ยเหลียนตั้งแต่เด็กจึงได้เห็นความเป็นเด็กเปรตของฉีหรงอยู่เนืองๆ และเขาเองก็เคยมีเรื่องกับอีกฝ่ายมาก่อน แต่เพราะเขาเองก็ไม่เคยเจอกับผีเขียวโดยตรงจึงไม่เคยทราบเรื่องนี้
พอได้รู้ความสัมพันธ์ระหว่างเซี่ยเหลียนกับผีเขียว ซือชิงเสวียนก็อดเอ่ยไม่ได้ว่าเซี่ยเหลียนสุดยอด มีเทพสงครามแห่งทิศตะวันออกเฉียงใต้ กับเทพสงครามแห่งทิศตะวันตกเฉียงใต้เป็นเพื่อนเก่า เทพสงครามแห่งทิศตะวันออกเป็นลูกศิษย์ ผีเขียวเป็นลูกพี่ลูกน้อง มีฮวาเฉิงเป็นน้องร่วมสาบาน แถมยังมีเทพแห่งลมอย่างเขาเป็นเพื่อนอีกต่างหาก แม้เฟิงซิ่นกับอ๋องผีจะมีท่าทีไม่เห็นด้วยกับคำว่าน้องร่วมสาบาน แต่คำพูดนั้นก็ทำให้เซี่ยเหลียนอารมณ์ดีขึ้นและยิ้มออกมา
เฟิงซิ่นเร่งให้เซี่ยเหลียนกลับสวรรค์ไปเคลียร์เรื่อง ฮวาเฉิงเลยหัวเราะแดกดันว่าที่จริงอีกฝ่ายไม่อยากให้เซี่ยเหลียนมายุ่งกับผีอย่างเขามากกว่า เซี่ยเหลียนรีบเข้าไปห้ามทัพบอกว่าเขากับอ๋องผีจะจัดการลูกน้องของฉีหรงกับช่วยเหลือมนุษย์ที่ถูกจับมาก่อน แต่เฟิงซิ่นกลับบอกว่าจะจัดการทางนี้ให้เอง ทำให้ฮวาเฉิงพูดเกรียนไปอีกประโยค ทั้งสองจ้องตาราวกับจะบวกกันให้ได้ แต่ก่อนที่เซี่ยเหลียนจะเปลี่ยนเรื่อง จู่ๆ อ๋องผีก็หยิบร่มสีแดงมากางออก ยกมันขึ้นเหนือศีรษะของตัวเองกับเซี่ยเหลียน บอกว่าท้องฟ้ากำลังจะเปลี่ยน พอสิ้นคำฝนเลือดก็ตกโครมลงมาทันทีสมฉายาฝนโลหิตตามหาดอกไม้ แล้วเฟิงซิ่นก็ยืนตัวท่วมไปด้วยเลือดอยู่คนเดียว เพราะเซี่ยเหลียนอยู่ใต้ร่มกับฮวาเฉิง ส่วนซือชิงเสวียนยืนอยู่ใต้สิ่งก่อสร้างทำให้ไม่โดนลูกหลงไปด้วย
ฮวาเฉิงหุบร่มพร้อมส่งเสียงหัวเราะ ขณะที่เซี่ยเหลียนพยายามหาเศษผ้า เทพแห่งลมก็ดึงสายส่วนหนึ่งของแส้ปัดของตัวเองไปเช็ดหน้าให้เฟิงซิ่นจนเส้นใยติดเต็มหน้า จากนั้นเซี่ยเหลียนจึงรู้สึกว่าร่างที่อยู่ข้างหลังกำลังเดินจากไป เขาจึงวิ่งตามแล้วถามอีกฝ่ายว่าจำกลับเมืองผีหรือ ฮวาเฉิงพูดติดตลกถามว่าอยากตามมาด้วยหรือเปล่า เซี่ยเหลียนตอบว่าหากคราวหน้ามีโอกาสเขาจะไปหาและช่วยก่ออิฐสร้างกำแพงอนุสรณ์สุขาวดี แต่อ๋องผีก็บอกว่าแค่มานั่งดูเฉยๆ ก็พอแล้ว เซี่ยเหลียนยิ้มแห้งบอกว่าเขาไม่รู้ว่าเรื่องเกี่ยวกับหลางเชียนชิวเป็นสิ่งที่ถูกหรือไม่ แต่มันก็อาจไม่แย่ที่ลงเอยอย่างนี้ และขอบคุณอีกฝ่าย ฮวาเฉิงบอกว่าเซี่ยเหลียนคิดมากไป ต่อไปนี้อยากทำอะไรก็ทำไปเลย จากนั้นเขาก็หันหลังไปพร้อมโบกมือให้ แล้วร่างของอ๋องผีก็กลืนหายไปกับความมืดในถ้ำ และไม่ทราบว่าเพราะเหตุใด เซี่ยเหลียนก็รู้สึกมีความกล้าขึ้นมา
เซี่ยเหลียน ซือชิงเสวียน กับเฟิงซิ่นสำรวจถ้ำอีก 2 รอบว่ายังมีมนุษย์ซึ่งถูกจับมาหลงเหลืออยู่หรือไม่ จากนั้นทั้งสามก็กลับขึ้นสวรรค์เข้าร่วมประชุมที่หอมหายุทธ์ พวกเทพกล่าวว่าฮวาเฉิงบังอาจใส่ความว่าสวรรค์ส่งสายลับไปที่เมืองผี เข้าออกสวรรค์ตามใจ สร้างคาถาเชื่อมต่อกับตำหนักเซียนเล่อ อีกทั้งยังมาลักพาตัวเซี่ยเหลียนไปอีก ปล่อยไว้เช่นนี้อนาคตจะมาทำอะไรอีกก็ไม่รู้ ต้องรีบจัดการอีกฝ่ายเสีย มู่ฉิงกลับชักใบให้เรือเสียว่าไม่มีทางที่คนอย่างฮวาเฉิงจะบุกมาสวรรค์เพียงเพราะเซี่ยเหลียนไปทำเรื่องให้ไม่พอใจ และจะต้องมีเหตุผลอื่นอยู่แน่นอน ซือชิงเสวียนจึงบอกว่าอ๋องผีเป็นคนเอ่ยออกมาเอง แล้วเขาก็ถามหาเทพสงครามที่เป็นเวรรักษาความปลอดภัยบนสวรรค์ในเดือนนี้ให้มารับผิดชอบที่ปล่อยให้ฮวาเฉิงทำตามอำเภอใจได้ ตอนแรกเขานึกว่าเป็นมู่ฉิง แต่ปรากฏว่าเขาจำผิด เพราะคนๆ นั้นกลับเป็นเผยหมิง ถึงอย่างนั้นแม่ทัพเผยก็ยืดอกรับผิด และในตอนนั้นเองหลิงเหวินก็เอ่ยขึ้นมาว่าหลางเชียนชิวใช้โทรจิตติดต่อเข้ามาแล้ว
.
.
.
.
.
สปอยอย่างกับแปลวางแบบนี้ไม่เข้าข่ายละเมิดลิขสนพหรอ
เพื่อนโม่งเราเพิ่งมาใหม่ ขอสปอยเทียนกวานซื่อได้ไหม มีสารบันหรือหมุดสปอยเรื่องไหม ไม่มีข้อมูลเรื่องนี้เลยนอกจากพระเอกตาบอดข้างและเป็นงานอ.โม่
>>793 โม่งสปอย ขอบคุณนะ ที่มาทุกวัน ไม่อ่านของสปอยก็ไม่รู้จะไปหาอ่านสปอยจากไหนจริงๆละ
เพราะให้อ่านอังกฤษก็ไม่ไหว
ชอบที่สปอยละเอียดแบบนี้ ยิ่งทำให้อยากให้ต่อ สปอยวันละนิด ยังทำให้รู้สึกอยากตามต่อทุกวันเลย
เห็นเซี่ยเหลียนบอกจะไปช่วยก่ออิฐ กุนี้ยิ้มแก้มปริ่มเลย เอ็นดู รู้สึกไม่ดีที่ไปเผาเลยจะรับผิดชอบไปก่ออิฐ
ฟาฟานี่สุดยอกพระเอกจริงๆ เท่จัง ก่อนฝนเลือดจะเทลงมาก็กางร่มให้อีก
ไม่น่าละเมิด เพราะไม่ได้แปลประโยคต่อประโยคนิ
ฝนเลือดคือไรอ่ะ มีคำอธิบายเพิ่มไหม
>>793 หัวใจฟาฟากรีดร้องแล้วค่ะเตี้ยนเซี่ย "ถึงข้าจะเรียกท่านว่าเกอเกอ แต่ข้าไม่ได้อยากเป็นพี่น้องกับท่าน ข้าอยากเป็นมากกว่านั้น" //ฟาฟาไม่ได้พูดแค่คิด
>>799 ฝนเลือด
.
.
.
.
.
เป็นหนึ่งในความสามารถของฮวาเฉิง โจมตีแบบ AoE เปลี่ยนเป้าหมายในระยะโจมตีให้กลายเป็นฝนเลือด
(ไม่อยากนึกสถาพพวกที่โดนเลย แอปเปิ้ลคั้นบดละเอียดยันเปลือกยันเม็ด?)
.
.
.
.
.
ขอถามอีกนิดนึง ไอ้ด้ายแดงที่ผูกติดนิ้วฮวาเฉิงกับเซี่ยเหลียนนี่มีที่มาที่ไป มีความหมายอะไรป่ะ
>>801 ที่ >>800 หมายถึงคือใครที่โดนการโจมตีนี้ไปจะถูกคั้นเป็นฝนเลือดน่ะ คนที่โดนเลือดไม่เกี่ยว ส่วนเลือดในตอนนี้น่าจะเป็นของพวกลูกน้องฉีหรงที่ยังอยู่ในถ้ำ
>>802 หลักๆ ก็หมายถึงด้ายแดงผูกกันอะไรอย่างนั้นแหละ แต่มันน่าจะเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่อยู่ในอาร์คที่ 2 ด้วย
.
.
.
.
.
เซี่ยเหลียนถูกพิษ แล้วขอยืมอาวุธของฮวาเฉิงไว้ แต่ทำอย่างนั้นฮวาเฉิงจะไม่มีอาวุธ เซี่ยเหลียนเลยตัดที่รัดผมของตัวเองไปผูกนิ้วอีกฝ่ายไว้ใช้เป็นเครื่องรางแก้ขัดไปก่อน (อาร์ค 2 เป็นช่วงอดีต เซี่ยเหลียนยังมีพลังทิพย์อยู่ เครื่องรางเลยมีพลังป้องกัน)
.
.
.
.
.
ถ้าไม่เห็นแก่ได้อ่ะนะ กุว่าโม่งสปอยๆละเอียดมากไป มาเป็นประโยคเลย ลิขสิทธิ์ก็มีแล้วนะ ไม่รู้อ่ะแล้วแต่จะคิด
เค้ามาสปอยเค้าจะได้อะไรวะ ช่วงนี้ทำไมมีโม่งมาต่อว่าโม่งสปอยจัง กูไม่รู้นะว่าคนเดียวกันไหม วันก่อนเห็นมาด่าว่าสปอยละเอียดไป ละโม่งคนอื่นๆรวมทั้งกูเลยมาเม้นว่าสปอยดีแล้วนะ (ถ้าใครว่าละเอียดไป มึงไม่อ่าน เลื่อนผ่าน ก้อได้นะ)
วันนี้มีมาอีก คราวนี้บอกว่าละเมิด ว่าเค้าเกินไปอ่ะ นิยายยาวแปดเมตรนะมึง ไม่ใช่เล่มเดียวจบ เนืัอหามันมีรายละเอียดอื่นอีกมากมาก แล้วเวลาคนละเมิดเช่นพวกแผ่นผีซีดีเถื่อน แบรนเนม เป็นต้น คือเค้าละเมิดแล้วได้เงินเข้าตัว แต่ที่โม่งสปอยมันมาเล่าเรื่องให้ฟัง มันได้อะไรวะ นอกจากนิ้วล็อค
กูว่ามันไม่ใช่ละเมิดนะ อย่าด่ากันแรงขนาดนั้นเลย กลุ่มนี้มันกลุ่มคุยนิยายคุยงานโม่เซียง เหมือนเพื่อนๆกลุ่มคนที่ชอบเรื่องเดียวกันมาคุยกัน หวีดกัน กูก้อเป็นคนหนึ่งที่อยากอ่านสปอยเทียนกวานก่อนที่เล่มจะออกเพราะมันน่าจะอีกนานนมาก (แต่กูก้อรอซื้อ) แล้วกูก้อมีความสุขเวลาได้ก๊าวโมเม้นต่างต่างกับเหล่าโม่ง วิเคราะห์เหตุการณ์นั่นนี่ไปด้วยกัน
อย่าโจมตีกันเลยเหอะว่ะ
กูว่าที่โม่งสปอยมาสปอยให้ฟังนี่ก็ฟิลแบบเพื่อนที่อ่านหนังสือจบแล้วมาเล่าให้ฟังอ่ะ ถ้าการเล่าให้คนอื่นฟังมันละเมิดลิขสิทธิ์ก็ไม่ต้องมีสปอยบนโลกใบนี้ล่ะมั้ง ถ้าเขาสปอยแบบแกะประโยคต่อประโยคมานั่งแปล นั่งพิมพ์ให้อ่านก็ว่าไปอย่าง มาพูดแบบนี้ก็นึกถึงใจโม่งสปอยบ้างเหอะ เลิกงานมานั่งสปอยให้ฟัง นั่งพิมพ์ให้อ่านดึกๆดื่นๆเงินก็ไม่ได้ ชื่อเสียงเหรอ ก็รู้จักกันแค่ในนามโม่งสปอยแต่ก็ไม่รู้อยู่ดีว่าจริงๆเป็นใคร และสุดท้ายถึงจะสปอยละเอียดยังไงสุดท้ายกูก็ซื้อเล่มอยู่ดี
ว่าโม่งสปอยว่าสปอยละเอียดไปละเมิดลิขสิทธิ์ ถ้างั้นพวกกระทู้ฉายหนังในพันติบไม่หนักกว่าเหรอวะ แคปจอฉากต่อฉากเลย 55555555555
สปอยเทียนกวานต่อจาก >>793 เทียนกวาน Part.51
.
.
.
.
.
หลิงเหวินบอกว่าหลางเชียนชิวแจ้งว่าเรื่องงานเลี้ยงอาบน้ำมีเบื้องหลัง และเขาจะเคลียร์เรื่องกับเซี่ยเหลียนเอง ทำเอาพวกเทพถึงกับเซ็งเป็ดเพราะอดดูดรามา เมื่อทุกคนกลับไปหมดแล้ว เซี่ยเหลียนจึงเข้าไปขอโทษจวินอู๋ที่สร้างความวุ่นวาย และเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง จวินอู่กล่าวว่าสุดท้ายสิ่งที่เซี่ยเหลียนพยายามทำก็ไม่ได้ช่วยเหลือใครเลย และถามว่าจะเตรียมเผชิญหน้ากับหลางเชียนชิวอย่างไร แต่เซี่ยเหลียนก็เปลี่ยนหัวข้อถามเรื่องที่หมิงอี้เป็นสายลับในเมืองผี จวินอู๋ยอมรับว่าเขาส่งเทพแห่งดินไปทำอย่างนั้นจริงๆ ทว่านั่นเป็นเพราะฮวาเฉิงเป็นฝ่ายส่งสายลับเข้ามาในสวรรค์ก่อน เซี่ยเหลียนก็คิดอย่างนั้นเพราะอ๋องผีก็ดูรู้เรื่องของเทพมากเกินไป
จวินอู๋กล่าวว่าเขาไม่ว่าอะไรเรื่องที่เซี่ยเหลียนไปเป็นเพื่อนกับอ๋องผี แต่ก็อย่าลืมระวังตัว เพราะอย่างไรเจวี๋ยก็เกิดจากผู้ที่เคยได้รับความทรมานอย่างมาก จะต้องเป็นคนที่น่ากลัวกว่าที่คาดไว้แน่นอน จากนั้นเซี่ยเหลียนจึงขอตัวจากมา ตอนนี้ตำหนักเซียนเล่อของเขาถูกกันไม่ให้ผู้ใดเข้าไปเพื่อตรวจสอบคาถาที่ฮวาเฉิงใช้เข้ามายังสวรรค์ แม้ก่อนหน้านี้ซือชิงเสวียนจะเอ่ยชวนให้เซี่ยเหลียนไปพักที่ตำหนักของเขา แต่ เซี่ยเหลียนก็ตัดสินใจกลับลงไปยังภพมนุษย์ จุดหมายในครั้งนี้คือภูเขาไท่ชางซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางแห่งการบำเพ็ญของอาณาจักเซียนเล่อ
ทุกทิวทัศน์ล้วนเปลี่ยนไปจากเมื่อ 800 ปีก่อน ความยิ่งใหญ่ของสิ่งก่อสร้างเหลือเพียงซากปรักหักพัง ถนนที่เคยมีผู้ศรัทธาเดินไม่ขาดสายมีเพียงต้นไม้ปกคลุม เซี่ยเหลียนไต่ขึ้นเขาด้วยกำลังขาของตัวเองพลางใช้กระบี่ฟางซิ่นกรุยทางไปเรื่อยๆ ในที่สุดเขาก็มาถึงยอดเขา เซี่ยเหลียนกระโดดลงไปบ่อน้ำแห้งขอดแห่งหนึ่ง ใช้มือคลำก้อนอิฐแล้วกดลงเพื่อเปิดทางลับเข้าสู่สุสานลับของราชวงศ์เซียนเล่อ เขาเดินตรงไปยังห้องโถงใหญ่ซึ่งยังตกแต่งไม่เสร็จ ในนั้นมีโลงศพอยู่ 2 โลง และหุ่นฟางองค์รักษ์ตัวหนึ่งซึ่งสวมหน้ากาก มือถือกระบี่ยืนอยู่ใกล้ๆ เหนือฝาโลงมีถาดทองคำที่มีซากผลไม้เหี่ยวแห้งวางอยู่ เซี่ยเหลียนหยิบมันออก และขอโทษบิดามารดาที่คราวนี้เขาลืมนำของไหว้มาด้วย
เซี่ยเหลียนนั่งลงพิงโลงศพของแม่ของเขา เล่าให้อีกฝ่ายฟังว่าวันนี้เขาได้พบกับฉีหรง แต่แล้วเขาก็ได้ยินเสียงสะอื้นดังออกมาจากโลงศพ เซี่ยเหลียนรีบเปิดฝาโลงออกแล้วก็พบว่าข้างในนั้นมีเด็กชายคนหนึ่งสวมเสื้อของแม่ของเขานอนขดตัวอยู่ เสื้อตัวนั้นถูกถักทอขึ้นมาเป็นพิเศษให้สามารถรักษาสภาพศพได้หลายพันปี แต่ตอนนี้ไม่ปรากฏร่างของสตรีอยู่ในโลงเลย เขารีบอุ้มเด็กชายขึ้นมาถามด้วยความตื่นตระหนกว่าแม่ของเขาหายไปไหน แต่อีกฝ่ายก็เอาแต่ร้องไห้ด้วยความหวาดกลัว และเมื่อเขายกเด็กชายออกมาผงสีขาวก็หลุดร่วงออกมาจากเสื้อของอีกฝ่าย
เซี่ยเหลียนรู้ทันทีว่านั่นคือขี้เถ้าของมารดา ขณะกำลังตื่นตระหนก จู่ๆ หุ่นฟางตัวนั้นก็พุ่งกระบี่เข้าใส่เขา เขาหักกระบี่ของอีกฝ่ายด้วยมือเปล่า ก่อนเตะท้องและเหยียบร่างนั้นไว้ เมื่อปัดหน้ากากออกก็เห็นว่าข้างในหุ่นเป็นชายนุ่มคนหนึ่ง เขาตะคอกถามว่าอีกฝ่ายเป็นใคร เข้ามาที่นี่ได้อย่างไร เมื่อเห็นดังนั้นเด็กชายก็ร้องว่าพ่อออกมา ทำให้เซี่ยเหลียนนึกออกว่าทั้งสองอยู่ในกลุ่มมนุษย์ที่ฉีหรงกำลังจะต้มกินในตอนนั้น เขาเดาเรื่องออกทันทีแล้วหันไปรัวหมัดใส่ชายคนนั้น ร้องสั่งให้ฉีหรงออกจากร่าง พร้อมต่อว่าว่าแม่ของเขาดูแลอีกฝ่ายดีไม่ใช่หรือ ทำไมถึงมาทำกับแม่ของเขาเช่นนี้
ฉีหรงที่สิงร่างของชายที่เป็นพ่อเด็กหัวเราะบ้าคลั่ง บอกว่าศพหรือขี้เถ้าจะต่างกันอย่างไร แล้วตอนที่ฆ่าอันเล่อเซี่ยเหลียนไม่นึกถึงแม่บ้างหรือ ที่แม่ของเซี่ยเหลียนเป็นอย่างนี้เป็นความผิดของเซี่ยเหลียนคนเดียว เซี่ยเหลียนกระทืบอีกฝ่ายไปอีกหลายที แต่มันกลับทำให้ฉีหรงยิ่งสะใจที่ญาติผู้พี่เผยธาตุแท้ออกมา เด็กชายเข้ามาพยายามยกเท้าของเซี่ยเหลียนออกเพื่อช่วยพ่อของตน ทำให้เซี่ยเหลียนคิดได้ว่าอย่างไรร่างที่ฉีหรงสิงอยู่ก็เป็นผู้บริสุทธิ์จึงลดแรงกดที่เท้า บอกให้อีกฝ่ายออกจากร่างนั้นอีกครั้ง ทว่าผีเขียวไม่ยอมออก อีกทั้งพูดจาหาเรื่องกวนประสาทเซี่ยเหลียน ท้าทายให้ฆ่าเขาเสีย ส่วนเด็กชายก็กอดขาของเซี่ยเหลียน ขอร้องไม่ให้ฆ่าพ่อของเขา หลังจากฟังคำพูดดูถูกยั่วยุอีกหลายประโยค ในที่สุดเซี่ยเหลียนก็ทนไม่ไหว แล้วมือของเขาก็ยกฟางซิ่นขึ้นมา
จบอาร์คที่ 1
.
.
.
.
.
โอเคจบอาร์คแรกพอดี เคลียร์ให้จบไป หันมาถกกันเกี่ยวกับเหตุการณ์ในอาร์คแรกกันก่อนดีกว่า มีใครมีจุดไหนในอาร์คแรกที่อยากมาถกกันไหมอะ
เจวี๋ยเกิดจากผู้ที่เคยได้รับความทรมานอย่างมาก แสดงว่าชีวิตฟาฟาต้องบัดซบพอกันสินะ ในอนาคตจะมีเล่าพาร์ทความรันทดของฟาฟาบ้างป่ะ
>>817 พาร์ทอดีตมีเล่าบ้าง แต่เพราะเรื่องดำเนินในมุมมองของเซี่ยเหลียนเป็นหลัก ความบัดซบในชีวิตฮวาเฉิงเลยค่อนข้างถูกกลบ แต่เหตุการณ์ที่ทำให้ฮวาเฉิงอีโวลูชัน (เพราะความโกรธ และเสียใจ) จนเอาไปฝึกต่อจนเป็นเจวี๋ยได้อยู่ในอาร์คที่ 4
>>818 เซี่ยเหลียนรู้แต่แกล้งเนียนไม่รู้ สองคนนั้นเลยคิดว่าเซี่ยเหลียนไม่รู้ ส่วนดรามาหนักอยู่ในพาร์ท 2 กับ 4
มึง กูขอถามหน่อย เว่ยอิงในภาษาจีนนี่ออกเสียงเว่ยอิง หรือเว้ยยิงวะ คนที่แปลงี้เขาบอกว่าภาษาจีนไม่มีเสียงอิง เขาชอบเขียนตามการออกจริงในภาษาจีนและอยากแปลที่มันตรงตามต้นฉบับมากสุด คือกูงงอ่ะ มันจริงใช่มั้ย ภาษาจีนกูไก่กาใตรเป็นผู้รู้ขอไขความกระจ่างที
เสริมจาก 824
ที่จริงเสียง -ิง ในภาษาจีนก็คือตัว ing แต่มันเป็นสระในพินอินไง เวลาจะเขียนต้องมีพยัญชนะด้วย เลยเติมตัว Y เข้ามา ดังนั้นจีนเลยเรียกตัวนี้ว่า ต้าอี หรือ อีตัวใหญ่ เพราะอย่างนั้นถ้าเห็นพินอินY+i จะออกเสียงกึ่งๆ อ เหมือนเลขหนึ่ง 一 อะ พินอินเขียนว่า Yī แต่ออกเสียงอี ไม่ใช่ อู
ขอกาวหน่อย... กูไปแอ่วด้อมนอกเทียนกวานมา เจอเค้าคุยกันเรื่องคู่
.
.
.
.
.
WMกับสุดที่รักของเค้า(มีอยู่คนเดียวแหละ) รูทดำดิ่งสู่ Dark Side โคตรกร๊าวเลยว่ะ มีใครแนะนำแฟนฟิกคู่นี้ให้กูอ่านได้มั่ง Eng ก็ได้ ไทยก็ดี กรุณาอย่าบอกให้กูแต่งเองนะ กูไม่มีปัญญาแต่ง ในหัวกูมีแต่กาวไม่มีความสามารถ
ป.ล.คนที่ไม่อยากโดนสปอยไม่ต้องค้นนะว่าคู่ที่เราเราพูดถึงคือใครกับใคร มันสปอยแรงมาก สปอยเลเวล9999
.
.
.
.
.
มาบอกก่อนว่าไม่มีสปอยนะฮว๊าฟ เผื่อมีคนรอ
แล้วใครขอให้สปอย อยากหาเพื่อนคุย ไปลงแอคทวิตตัวเองก็ได้น้า เซเลปทวิตแล้วอ่า
กุต่อ
พอลงแล้วจะมีเรื่องละเมิดลิขสิทธิ์มั้ยน้า มาดูกัน ว่าแต่โม่งเกลียดงานเถื่อนมากไม่ใช่หรออ่า ทำไมทำซะเองน้าสงกะสัย
>>833 ถ้ามึงตาไม่บอดก็ต้องมองเห็นแล้วนะว่าในมู้มีหลายคนชอบสปอยของโม่งสปอยและอยากให้ลงต่อ
>>834 มีกฎหมายข้อไหนห้ามสปอยวะ นิยายแปดเมตร(กูขอยืมคำหน่อยชอบจริงๆ แปดเมตรเนี่ย) ย่อมาเหลือกะจิ๊ด กูไม่แน่ใจว่ะว่ามึงเป็นแค่โทรลหรือมีเอี่ยวกับสนพ. ถ้าเป็นทางสนพ.ประกาศขอความร่วมมืองดสปอยแบบละเอียดกูว่าเหล่าโม่งพร้อมให้ความร่วมมือนะ (แต่ดูจากสันดานกูคิดว่ามึงโทรลว่ะ)
ขอพูดหน่อย ในฐานะคนที่ไม่ได้ตามด้อมนี้ แต่เลื่อนผ่านๆกี่ทีก็เห็นมึงด่าเรื่องสปอย
สปอยไม่ได้เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ ละเมิดลิขสิทธิ์คือตัดหน้าสนพแปลลงเหมือนพวกนักแปลในเด็กดี มึงจะโกรธทำไม นอกจากเป็นคนที่เสียประโยชน์การจากการที่โม่งคนนี้เที่ยวสปอย หรือว่ามึงเป็นสนพที่กลัวยอดขายไม่ดีเพราะคนรู้เรื่องไปหมดแล้ว หรือไม่มึงก็มาเรียกตีนให้สนพ มีอยู่สองอย่าง ถ้าหวงนิยายไม่อยากให้ใครได้รู้นักก็ไปทำแคมเปญบนดินซะ ถ้ามีคนเข้ามาเย้วๆกับมึงก็ยินดีด้วย ไร้สาระชิบหาย
กูคิดว่า 833 โทรลนะ วันก่อนกูสปอยล์พันสารทก็มีโทรลมาแซะ จริตประมาณนี้ บอกกูโม่งแตก รู้ทวิตกู ทั้งที่กูไม่ได้เล่นทวิต นางคงมาปั่นอะ ถ้ามีโม่งไม่เห็นด้วยเรื่องสปอยล์น่าจะเม้นแบบมีหลักการ+สมองกว่านี้
พวกมึง ๆ อย่าไปสนใจโทรลเลย ก็แค่พวกทำเป็นคุณธรรมจ๋าแค่เปลือกแต่ตามโม่งแบบเกาะติด แล้วดูเป็นพวกขี้อิจฉาไม่มีใครคุยด้วยแค่นั้น
แต่คนสปอยล์โดนกระทบบ่อยกูไม่รู้ตอนนี้มึงรู้สึกยังไงนะ แต่อย่าใส่ใจโทรลมันเลยมึงยังมีพวกกูให้คุยถกสาระผสมกาวด้วยอยู่ 555 มึงทำต่อไปตามที่มึงสบายใจแหล่ะ ถ้าถึงจุดที่สนพ.ขอความร่วมมือทั้งโม่งสปอยล์และโม่งตามสปอยล์ที่พูดกันด้วยเหตุผลรู้เรื่องก็พร้อมจะเคารพให้ความร่วมมือเอง
.
คุยต่อ ๆ เทียนกวานกูอยากรู้คร่าว ๆ อ่ะ นอกจากคู่หลักเขาชิปคู่ไหนกันบ้างวะ
ส่วนตัวกูก็ค่อนข้างแน่ใจว่าโทรลอะ เพราะว่าถ้าเป็นสำนักพิมพ์ก็คงไม่ทำให้ตัวเองเสียเครดิทด้วยคำพูดเหมือนเด็กกะโปกแบบนี้ (ถ้า สนพ ตัวจริงมาบอกทุกคนก็ให้ความร่วมมืออยู่แล้ว) หรือถ้าเป็นคนที่ห่วงเรื่องลิขสิทธิ์จริงๆ ก็คงงัดหลักการ เหตุผล ข้อกฎหมายมา ไม่ใช่แค่พูดลอยๆ กัดจิกไปทั่ว แถมจงใจกวนตีนมากด้วย
แต่กูก็รู้ว่าเรื่องสปอยกับลิขสิทธิ์มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ช่วงนี้เลยหยุดสปอยก่อนเพราะจบอาร์คแรกพอดี แล้วรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการสปอยเท่าที่เป็นไปได้ เท่าที่ค้นเจอมาคือไม่ได้ผิดกฎหมาย เพราะว่าการสปอยกับสื่ออินเตอร์เน็ตที่ทุกคนเข้าถึงได้ง่ายมันยังเป็นเรื่องใหม่อยู่ มันเลยไม่ได้มีกฎหมายที่ว่าด้วยเรื่องนี้โดยตรง มีแต่แนวทางปฏิบัติที่ดีขึ้นมาเป็นไกด์ไลน์ให้ทำตาม คือไม่สปอยละเอียดเกินไป และไม่สปอยเกินครึ่งเรื่อง หรือสปอยตอนจบ (ซึ่งก็อย่างที่บอกว่ามันแค่ไกด์ไลน์ ไม่อย่างนั้นตอนแฮร์รี่ พอตเตอร์ เกมออฟโทรน วอร์คกิ้งเดธ อะไรพวกนี้ฟ้องร้องกันกระจายแล้ว ถึงขนาดสปอยข้ามน้ำข้ามทะเลจากอังกฤษผ่านในไม่กีนาทีหลังหนังสือเล่มจบออก ถึงกับมีบริษัทรับจ้างไปสปอยหนังให้คนที่ไม่ชอบหน้าฟัง สกรีนเสื้อบอกสปอยตอนตบมาขาย หรือแม้แต่กรณีทอม ฮอลแลนด์มาสปอยหนังที่ตัวเองเล่นให้ชาวโลกรับรู้ก็ไม่มีเคสโดนโทษ ก็แสดงว่ามันยังไม่ได้ผิดกฎหมาย แม้แต่ในประเทศที่เรื่องลิขสิทธิ์เขาแรงกว่าบ้านเรา และในไทยเองในพันทิพย์ก็สปอยหนัง ละคร ซีรีย์ นิยายกันปรกติ)
เพราะฉะนั้นสรุปว่าถ้ากูจะสปอยต่อก็อาจจะสปอยถึงแค่ถึงจบอาร์คที่ 2 (ที่จริงกูอยากถกช่วงอาร์ค 3 กับ 4 มาก รู้สึกมีประเด็นให้คุยเยอะ เป็นเหตุผลหลักที่มาสปอยแต่ต้นเพื่อให้รู้ที่มาที่ไปเลย เพราะกูเห็นที่เพื่อนโม่งแต่ละคนวิเคราะห์ ปรมจ แล้วชอบมาก อยากให้คุยกันแบบนั้น) และน่าจะสปอยให้ละเอียดน้อยลงแต่จะพยายามให้อารมณ์เดิมอยู่ (ซึ่งกูก็ว่า 80 เปอร์เซนท์ที่กูสรุปมาก็เนื้อแล้วนะ อีก 20 เปอร์เซนท์เป็นโมเมนท์ที่กูก๊าว+อยากดึงอารมณ์บางจุดให้เห็น เรื่องเทียนกวานกูนับถือแม่โม่จริงๆ ที่จุดเล็กๆ การกระทำบางอย่าง คำพูดบางคำพูด มันโดนเอาไปอ้างอิง มีผลต่อตอนหลัง หรือเป็นเหตุผลอธิบายการกระทำ อย่างเฉวียนอี้เจินที่แพลมๆ ชื่อมาหนสองหนนี่ ตอนหลังบทเยอะพอควรนะครัช ปั้นเยวี่ย เผยซู่ เซวียนจี เค่อหมอ ตอนหลังก็มีบท แม้แต่คุณโสที่ทักเซี่ยเหลียนในเมืองผีก็มีบทสำคัญเถอะ กูเลยตัดไม่ได้)
ส่วนอาร์คที่เหลือค่อยมาคุยกันเชิงวิจารณ์ วิเคราะห์ อันนี้จะไม่ผิดเรื่องลิขสิทธิ์แน่ๆ เหมือนที่เพื่อนโม่งวิเคราะห์เนื้อเรื่องเล่มสุดท้ายของ ปรมจ กันถึงพริกถึงขิง ทั้งๆ ที่ลิขสิทธิ์ก็ยังแปลไม่จบเหมือนกัน) หรือที่จริงถ้าสามารถสปอยในระบบปิดกว่านี้เหมือนอ่านหนังสือจบไปสปอยให้เพื่อนที่โรงเรียนฟังก็ดี เพราะส่วนหนึ่งโม่งมันก็เปิดสาธารณะให้คนเข้ามาอ่านได้หมดด้วย
สรุปก็คือตอนนี้กูก็กำลังหาข้อมูลเพื่อทำจุดพอเหมาะพอดีอยู่ ไม่ได้เกี่ยวกับโทรลกวนประสาท เพราะเราจะคุยกันด้วยหลักเหตุผล หรือเพื่อนโม่งมีความเห็น+คำแนะนำยังไงกันบ้าง
>>838 มันมีหลายคู่ที่ถ้าเขียนออกไปแล้วมันจะสปอยอะ เอาเป็นว่าจะจะจุดสปอยไว้ก่อนนะ
.
.
.
.
.
คู่ที่คนส่วนมากชิปคู่อื่นก็จะมี เฟิงซิ่นxมู่ฉิง หมิงอี้xซือชิงเสวียน เฉวียนอี้เจินxอิ๋นอวี้ ส่วนคู่สุดท้ายที่กูไถทวิตเห็นบ่อยๆ กูขอข้ามนะเพราะมันสปอยเรื่องแบบฮาร์ดคอร์เกิน
.
.
.
.
.
>>839 สำหรับกูความเซนซิทีฟพวกนี้มันแปะติดกับมาตรฐานคนอ่ะ ถ้าไม่มีเคสทางกฎหมายออกมากูว่าก็หามาตรฐานยาก
แต่สำหรับกูต่อให้สปอยหมดเรื่องกูก็คิดว่าเหมือนเพื่อนเล่าเรื่องอ่ะ อรรถรสของการอ่านนิยายที่มีรายละเอียดคำต่อคำ ยังไงก็ไม่เหมือนสปอย สำหรับกูถ้าสปอยแล้วพบว่าเนื้อหาหนังสือมันตรงเทสกู กูจะยิ่งอยากอ่านเล่ม และยิ่งมั่นใจจะซื้อเล่มเพราะรู้ว่ากูไม่เสียดายเงินที่ซื้อแน่ๆ อีกอย่างสนพ.ก็รู้แหละ ว่าอ่านแปล eng นี่ละเอียดยิบกว่าโม่งสปอยก็ไม่ใช่ว่าจะหาแหล่งกันไม่ได้ กูกลับมองว่าเป็นการโฆษณาอย่างนึง ซึ่งโม่งสปอยก็ไม่ได้กำไรอะไรเลย
ปล.กูขอบคุณในความเสียสละเวลามาสปอยของมึงนะโม่งสปอย
คนซื้อยังไงก็ซื้อ คนไม่ซื้อก็หาเหตุผลอ้างโน่นนี่ ถึงจะไม่มีสปอยก็มีเหตุผลอื่นมาสนับสนุนการไม่ซื้ออยู่ดี กูไม่ได้ว่าคนที่ไม่ได้สนใจจะซื้อนะ หมายถึงพวกมากรี้ดๆชอบเรื่องนี้ชอบโน่นนี่แต่ไม่สนับสนุนลิขสิทธิ์
กูเป็นคนนึงที่ติดสปอยมาก นิยายเรื่องไหนไม่มีสปอยมาก่อนหรือไม่รู้เนื้อเรื่องมาก่อนกูไม่ซื้อ กูเข็ดมากกับการจ่ายแพงแต่ได้อิหยังวะมาอ่าน ตอนแรกกูว่าจะไม่ซื้อเทียนกวานเพราะดูชื่อแล้วเหมือนแนวเรื่องมันหรูๆอาจไม่ใช่แนวกู แต่ขอบคุณโม่งสปอยที่ทำให้รู้ว่าเนื้อเรื่องจริงๆมันน่าสนใจกว่าที่คิด กูเกียมเสียตังค์แล้ว
สำหรับกูถ้าจะซื้อสปอยก็ทำอะไรกูไม่ได้ ยิ่งสปอยยิ่งอยากซื้อ อย่างปรจ บอกตรงๆ ว่ากูอยากได้มากกกกเพราะสปอยล์นี่แหละ และก็ได้มาแล้วดอง....55555 รีบซื้อเพราะกลัวขาดตลาด
สปอยต่อไปเถอะเพื่อน อันไหนที่มึงเล่าถึงเพราะมึงมองว่ามีผลต่อเนื้อเรื่อง กูว่ามันก้อไม่ได้ละเอียดไป อย่างที่บอกว่าใครอยากหลบสปอย อย่าอ่าน หรืออ่านข้ามๆบางจุดเอา ควบคุมที่ลูกกะตามึงอ่ะไม่ใช่ควบคุมมือคนอื่นที่พิม
กูเข้าใจฟีลที่แบบอยากมาแชร์กะเหล่าโม่ง จะได้มีเพื่อนร่วมหวีดเรื่องที่ชอบเหมือนๆกัน กลุ่มนี้มันเหมือนเพื่อนมาเล่าเรื่องให้ฟังกัน (เพื่อนในชีวิตจริงกู ดูเกาหลี ดูซีรี่ย์ช่องวัน แต่ไม่ดูจีนอ่ะ ยิ่งอ่านหนังสือพวกแม่งยิ่งไม่อ่าน กูชอบอ่านหนังสือคนเดียวในกลุ่มเลย อุแง)
ส่วนคนที่มาตามด่า เท่าที่อ่าน กูเดาว่ามันอิจฉาโม่งสปอย
จริงอยู่ที่เราไม่รู้ว่าโม่งสปอยจริงๆเป็นใคร แต่ตอนนี้คือในด้อมเล็กๆของเราสปอยของเพื่อนโม่งมีคนตามเยอะอยู่
โม่งโทรลอาจจะหมั่นไส้แกมอิจฉาเลยตามเบรคตามด่า และเพื่อให้ดูมีความชอบธรรมในการด่าเลยยกคุณธรรมเรื่องพิทักษ์ลิขสิทธิ์ขึ้นมา ถถถถถ
ดีที่มึงไม่เก็บเรื่องโทรลมาใส่ใจ อ่านจากที่มึงพิมสปอย การวิเคราะห์ต่างต่าง และการรับฟังคนอื่น กูว่ามึงเป็นคนมีอีคิว อารมณ์ความคิดหนักแน่นพอสมควร
ไม่หัวร้อนง่าย พลังฝึกจิตช่างกล้าแข็ง 5555 /คารวะด้วยสุราเทียนจื่อเซี่ยว
ky ไหนๆก็มีการพูดเรื่องลิขสิทธิ กูถามหน่อย กูซื้อหนังสือมา(เรื่องที่พูดถึงไม่มีอีบุคขาย) แต่กูจะไปเที่ยว กูอยากเอาไปอ่าน แต่มันหนัก+กูอ่านหนังสือไว กูจับสแกน ใส่แทปเล็ทไปอ่าน โดยที่การสแกนคือการทำซ้ำใช่มะ แต่กูไม่ได้เอาไปแจกใคร แค่เอาสะดวกกูพกพาไปอ่าน แบบนี้ผิดปะวะ กูคิดเอาเองว่าไม่ผิด เพราะกูไม่ได้เผยแพร่ ใครรู้บ้าง ไขข้อข้องใจกูที
>>839 กูชอบตอนคนวิเคราะห์ปรมจในนี้เหมือนกัน เพราะเป็นบอร์ดเปิดที่ใครก็เข้าได้เลยมีหลายความเห็น และไม่ระบุตัวตนทำให้ออกความเห็นได้ตรงไปตรงมา ไม่ต้องกลัวโดนถล่มหรือแซะย้อนหลัง ดังนั้นการหาที่สปอยให้ปิดกว่านี้ความหลากหลายในความเห็นมีโอกาน้อยลง หลายคนคงไม่อยากเปิดโม่งเพื่อเข้าถึงสปอยและการออกความเห็นจะไม่ง่ายแบบสปอยในโม่งเม้าในโม่ง
แล้วกูก็รู้สึกว่าพอหนังสือออกเป็นเล่ม คนอ่านเล่มจบก็จบเลยไม่ค่อยมีคนมาเม้าต่อเนื่องเป็นเหตุการณ์เท่าไหร่เพราะหนึ่งเล่มเนื้อหาเยอะ ไม่ใช่แค่กับเรื่องของแม่โม่ วายเรื่องอื่นก็เหมือนกัน ก็เสียดายถ้าจะไม่มีสปอยแล้ว
กู 847 ขอบใจเพื่อนโม่งที่ให้ความรู้ กูจัดละ สแกนเป็นชุด ต้นเดือนหน้าจะไปนั่งชิวริมทะเลอาทิตย์นึง ขืนแบกหนังสือไปอ่าน กูคงกล้ามขึ้น
เพื่อนกูก็ทำนะ แต่ไม่ถึงขั้นแสกน มันแค่ถ่ายรูป ไว้เปิดอ่านเวลาอยู่นอกบ้าน คืออยากอ่านแต่ขี้เกียจแบกหนังสือ+กลัวหนังสือพังด้วย
>>858 ใช้ออนไลน์ small pdf แต่ถ้ามี illustrator ก็น่าจะสะดวกกว่ามั้ง
>>859 ไม่สามารถแนะนำ เพราะใช้ของที่ทำงาน อาศัยมาทำงานเช้ากว่าคนอื่น เลยนั่งสแกนไปเรื่อยๆ แต่ที่ทำงานใช้เป็นแบบ all in one ปริ๊น สแกน ก๊อปปี้ เครื่องเดียวจบ แล้วห้องทำงาน นั่งอยู่คนเดียวเปลี่ยวเปล่าเหงาหงอย เลยทำไรก็ได้ แค่งานออกตามเวลา ที่เหลือก็นั่งอ่านสปอย กะเม้าท์มอยอยู่นี่ไง
มึงๆอย่าแนะนำเรื่องสแกนหนังสือกันเลย ถ้าใครทำเป็นอยู่แล้ว จะทำเล็กๆน้อยๆอ่านส่วนตัวก้อแล้วแต่ แต่ถ้าจะแนะนำเครื่อง โปรแกรมกัน อย่าเลยเพื่อน ถ้าอยากทำใช้ส่วนตัวจริงๆลองหาข้อมูลที่อื่นดู มู้โม่เซียงแต่มาสอนวิธีสแกนหนังสือกูตงิดๆไงไม่รู้อ่ะ ซอรี่เด้อ
ถ้าบอกว่าสแกนไว้อ่านเองรอบเดียวแล้วลบ กูนับถือเลย ทั้งซื้อเครื่องสแกน เวลาที่ใช้ในการแสกนที่น่าจะพอๆกับการเปิดอ่านให้จบ แล้วยังเสี่ยงหนังสือเสียสันแตกหลุดเป็นแผ่นๆ กูชอบพกหนังสือไปอ่านเวลาไปเที่ยวทั้งทะเลภูเขา ไม่ได้หนักมาก หลังๆพกทั้งหนังสือ คินเดิล แล้วก็อ่านในมือถือ เรื่องไหนที่เล่มหนามากลำบากมากไม่เหมาะกับทริปก็เลือกเล่มอื่นที่เล็กๆเบาไม่ห่วงว่าจะยับจะเลอะไปแทน มีทางเลือกอื่นที้ไม่ต้องสแกน
ไหนๆ ก็นอกเรื่องแล้ว ขอต่อหน่อย กูเป็นประเภทค่อนข้างหวงหนังสือ ถึงจะไม่ถึงขั้นห้ามเป็นรอยแม้แต่นิดเดียว แต่ถ้าจะให้กูแหกหนังสือมาแสกนนี่ทำไม่ลงว่ะ ยิ่งใช้เครื่องแสกนมันก็แทบจะต้องแหกหนังสือออกมาเป็นแผ่นๆ เลยปะวะ ถ้าจะบอกว่าแสกนไว้อ่านคนเดียวเพราะขี้เกียจหิ้วหนังสือไปอานแค่ไม่กี่วันนี่กูขอไม่เชื่อไว้ก่อน ถ้าเรื่องสุ่มเสี่ยงผิดลข พวกนี้อย่าเอามาคุยเลยดีกว่า
ขอบั๊มหน่อย
บั๊มจ้า
>>863 มึงนี่คิดเยอะ มึงไม่แต่ไม่ได้หมายความว่าคนทั้งโลกจะไม่ ใช่ หนังสือแหก แต่หนังสือกรูซื้อ กรูจะฉีกจะแหกก็หนังสือกูอะ
ทู้โม่เซียง เอาปรมาจารย์ลัทธิมารไปดูเล่น เพิ่งเสร็จหมาดๆ แล้วมึงหาเลยว่ามีไฟล์สแกนแบบนี้แจกที่ไหน ถ้ามีไฟล์แบบนี้แจกค่อยด่ากรู ขอบอกว่าถ้ากรูจะหาโหลด กรูหาได้ แค่กรูไม่หา กรูก็ไม่หนับหนุนพวกไฟล์แจก
อ่อกรูไม่รู้นะว่าฝากรูปได้นานแค่ไหนกะเว็บนี้ มึงก็เข้าไปดูเอาเน้อ ว่ากรูสแกนชัวร์ หนังสือแหกก็ใช่อีก กรูไม่ปฏิเสธ
https://www.bpicc.com/image/9YSB6J
https://www.bpicc.com/image/9YSHQj
ไม่ได้ว่านะ แต่พอไม่มีสปอยล์เทียนกวานเหมือนชีวิตขาดอะไรไป เพราะว่าปกติได้อ่านทุกวัน กูติดสปอยล์แล้วววว T_T
กูก็รอคอยสปอยเหมือนกัน ไม่รู้ว่าโม่งสปอยแค่หยุดให้เราย่อยเนื้อหาอาร์กแรกก่อน หรือว่าท้อใจจนเลิกสปอยแล้วก็ไม่รู้ ฮืออออ
มันบอกไปหาข้อมูลหาจุดพอดีในการสปอยนะ เดวมาๆ /นั่งเขี่ยพื้นรอ
โม่งมอดเเล้ว กูพึ่งมา แต่กูมารอโม่งสปอยนะ
เข้ามานั่งรอโม่งสปอยด้วย
พึ่งได้อ่านอาจารย์ตัวร้าย เริ่มเมื่อวานจบวันนี้ 3 เล่ม เกือบไม่ได้นอน วางไม่ลงจริงๆ
ว่าแต่กูอ่านจบไปแล้วก็ยังตะหงิดๆ ใจอยู่ดีว่านี้ไม่มีอะไรต่ออีกหน่อยเหรอออออออ กูอยากอ่านของท่านโม่เป่ยกับชั่งชิงต่อออออออออออออ
ขอบคุณมึงงง กูลองตามไป แต๊งส์ๆ
>>875 ตอนสุดท้ายของฉบับไทย จะมีบทสัมภาษณ์คู่รัก แล้วปิงเหอตอบเอาไว้ว่า อยากให้อีกฝ่ายเรียกเขาว่าเซียงกง (คำเรียกหลัวแบบเคารพยกย่อง) ใช่ป่ะ
ส่วนตอนพิเศษแต่งงาน กูเคยดำ ๆ งม ๆ จำได้แค่ว่าในที่สุดเสิ่นชิงชิวก็ยอมเรียกแบบนั้น (ระหว่างโดนจับกิน บอกปิงเหอว่าทำช้า ๆ หน่อย ปิงเหอเลยต่อรอง+อ้อนว่่าถ้าอยากให้ทำช้าลง ก็เรียกเขาแบบที่คนแต่งงานแล้วเรียกกันสักคำสิ)
กูแวะกลับมาหวีดแพ่บ ไปขุดหาแปลตอนพิเศษในทวิตมา ยังไม่เจอ เจอแต่อนิเมะ 3D อ.เสิ่น
อมกกก เลือดกำเดากูจะไหล ต้องวิ่งกลับมาหวีดในโม่งก่อน พึ่งเห็นงานอนิเมะเค้าทำซือจุนออกมาหน้าหล่อแบบสวยๆดี กูชอบ
พึ่งเคยดูซีรี่ย์ ปรมจ ทำไมเว่ยอิงถึงใส่หน้ากากอะ ตามนิยายต้องแต่งหน้าใช่ป่าว
ตามนิยายแต่งหน้าแบบบ้าๆบอๆเพราะเจ้าของร่างเดิมน้องโม่มันเพี้ยนๆอ่ะ พอเว่ยอิงเข้าร่างแรกๆก้อต้องทำตัวบ้าๆแต่งหน้าประหลาดแบบเดิม คนจะได้ไม่ผิดสังเกตุ แต่ซีรี่ย์เปลี่ยนจากแต่งหน้าเป็นใส่หน้ากากแทน กูเดาว่าที่ปรับบทตรงนี้คงเพราะใส่หน้ากากมันอาจจะดูเท่กว่า ดีขึ้นกว่าแต่งหน้าประหลาดๆ และก้อซีรี่ย์มันสื่อว่าพอเว่ยอิงเข้าร่างแล้ว หน้าตาคือเป็นหน้าเว่ยอิงเลย ถ้าใส่หน้ากาก มันปิดบังใบหน้าได้มากกว่าการแต่งหน้ามั้ง คนจะได้จำหน้าไม่ได้ด้วยว่าคือเว่ยอู๋เซี่ยน
ส่วนในอนิเมะก้อใช้แต่งหน้าแบบนิยายนะ ถ้ามึงอยากเห็นลองไปเปิดเมะดู
พึ่งอ่านจบเล่ม 2 ตัวละครเยอะจริงเลย จำได้แต่ หลานจ้าน เว่ยอิง จินหลิง —*
ไม่รู้จะโพสห้องไหนดี แต่เลือกห้องนี่เพราะคิดว่าทุกคนน่าจะช่วยถกกันได้
เห็นในทวิตมีคนรีวิวว่าปรมจแปลไม่ดี มีคำติดขัด อ่านแล้วไม่ลื่น มีบางคำที่สงสัยว่าอาจจะไม่ได้แปลจากต้นฉบับ(?) กูเลยสงสัยว่าไม่ดีขนาดนั้นเลยหรอ กูอ่านแล้วก็โอเคนะ ไม่ได้ติดขัดอะไร แต่เห็นคนเมนชั่นบ่นกันตรึม โดยเฉพาะเรื่องคำทับศัพท์ กูเลยอยากรู้ว่าพวกมึงอ่านจบ 2 เล่มแล้วคิดยังไงบ้างกับการแปล
>>888 กูชอบมาก อาจจะเป็นเพราะกูอ่านตวตมาตลอด มาเจอคำสวยๆฝั่งจีนบ้างก็รู้สึกแปลกใหม่ดี ตวตมีแต่ศัพท์ตรงๆแมนๆ หล่อคือหล่อน่าเย ไม่ได้หล่อเป็นน้ำแข็งแห้งแกะสลักแบบที่จีนบรรยาย มันเลยคนละบรรยากาศกัน กูถือว่าทำได้ดี ส่วนเรื่องคำทับศัพท์กูเดาว่ามันเริ่มมาจากสุยเปี้ยนที่ถ้าไม่แปลว่าแล้วแต่ จะไม่รู้เลยว่านายเอกตั้งชื่อแบบแล้วววแต่ เพราะสำหรับคนไทย สุยเปี้ยนคือสุยเปี้ยน คือภาษาจีนคำหนึ่ง ไม่รู้คำแปล ไม่บ่งบอกนิสัยนายเอก ทีนี้พอแปลสุยเปี้ยนแล้วมึงเลยต้องแปลทุกอัน ไม่งั้นก็หลายมาตรฐานแปลกๆ
นานาจิตตัง ด้วยความที่เรื่องมันดัง แต่หวังต้องแปลดีเลิศประเสริฐฟ้า ซึ่งกูอ่านแล้วก็ไม่ได้ติดขัดอะไร เล่ม 2 แปลดีขึ้นนะ กูอ่านสบายๆเลย ถ้าคนจะไม่ซื้อแค่เพราะรีวิวจากคนที่อ่านทั้งเกาจีนไทยออก ก็ต้องคิดแล้วล่ะ ส่วนตัวกูอ่านออกแค่อิ้ง แปลดีกว่าอิ้งกว่าอิ้ง อ่านแล้วไม่ปวดหัว ก็สบายใจกูแล้ว
พวกบ่นเรื่องทับศัพท์เด็กน้อยเอาแต่ใจว่ะ เขาแปลชื่อกระบี่ก่อนพวกมันเกิดกันอีก กูงงมากว่ามีพวกอยู่ในกะลาขนาดนี้เลยเหรอ หนังจีนเคยดูบ้างมั้ย มังกรหยกก็ได้ คิดว่าไม้เท้าตีสุนัขเป็นคำจีนเหรอ พูดมาได้ว่าคนเขาไม่แปลชื่อกระบี่กัน พึ่งมาสายจีนก็อย่าโชว์โง่ อย่าให้ค่ากับคำพูดพวกนี้เลย ฟาดงวงฟาดงาเท่านั้นแหละ เวนเอ้ย กูโกด เพราะอิพวกพึ่งตามเอาแต่บ่นๆๆๆๆๆ ถ้าสนพอื่นมาเห็นก็อาจไหลตามพวกนี้ แต่พวกนี้ก็ตามเอากระแสอะไม่งั้นคงไม่ด้อยปัญญาขนาดนี้ คนที่ยังต้องอ่านนิยายแปลจีนต่อไป รับกรรมจากที่พวกมันเย้วๆก็คือกู
กูว่าแปลดีนะ รู้สึกแปลแบบมีมาตรฐาน เหมือนหนังสือแปลที่มีกลั่นกรองเรียงเรียง เป็นรูปประโยคที่อ่านเข้าใจได้ทุกวัยและไม่ต้องติ่งก็อ่านได้ย่อยได้ ไม่ได้ใช้สำนวนแปลเฉพาะกลุ่มเกินไป ไม่เหมือนอ่านฟิคอ่านนิยายตามเนต ที่เวลากูอ่านประโยคไหนแล้วบางทีต้องคิดประมวลซ้ำอีกรอบว่ามันสื่ออะไรเพราะประโยคหรือคำบางทีมันสำนวนวัยรุ่นไป บอกไม่ถูกว่ะ
ส่วนเรื่องแปลถูกผิดจากต้นฉบับ กูไม่รู้เพราะไม่รู้จีน
เรื่องทับศัพท์/ไม่ทับศัพท์ กูไม่มีปัญหาเลย อาจจะไม่ชินบ้าง แต่พอเริ่มชินก็รู้สึกว่ามันเป็นสไตล์การแปลของเรื่องนี้ มันเป็นคำศัพท์ประจำเรื่องนี้ ชื่อเฉพาะสำหรับสิ่งนี้ ก็เท่านั้น ถ้าอยากได้ฟีลเหมือนเวลาดูซีรีส์ก็อ่านในหัวไปว่า สุยเปี้ยน
กูว่าก็แปลดีนะ มีสะดุดมั้ยจำไม่ได้ แต่ชอบที่แปลชื่อสถานที่ชื่อกระบี่ ถึงกูจะขำชังชาติแบบชิบหายก้เถอะ ละเทียบกับตัวร้าย กูว่าโทนเรื่องคนละแนวว่ะ จะให้แปลขำโบ๊ะบ๊ะคงไม่ใช่มั้ง ตัวร้ายคือแปลดีเรียบเรียงดีจริง แต่กุหักคะแนนตรงไม่เรียกอาจารย์นี่แหละ ความบาปกุลดไปกว่าครึ่ง เสียดาย
#อุกหังอิสเรียล #อหปฟก
555 อย่างอื่นไม่รู้ แต่พวกบ่นเรื่องทับศัพท์นี่ไปพุกก่อนเลย จะบอกรสนิยมหรือความเคยชินมันก็ส่วนหนึ่งอะ แต่การแปล คือการแปลปะ การมาทับศัพท์ปล้วบอกว่ามีความเป็นจีนมากกว่านี่คือตลกมากๆ กูเบื่อ ขี้เกียจไปคุยด้วย
กูชอบปรมจ แปลดีอะ ได้รู้สึกติดขัดอะไร
กู 888 เองนะ
>>890 แหม มึงก้อออ กูอุตส่าห์ไม่บอกว่ารีวิวไหน 55555555 กูไม่ชอบใจตรงที่เกริ่นแนวๆว่าสนพ.อาจจะแปลมาจากอิ๊งนี่แหละ สนพ.ซื้อจากไต้หวันมาทำไมไม่เอาฉบับไต้หวันมาเทียบละ ไปเอาฉบับจีนกับเกาหลีมาเทียบทำไม หนหวย
ส่วนตัวกูอ่านจีนมานานแล้ว ส่วนมากเป็นมกร. แต่พอมาอ่านปรมจก็ไม่ได้ติดอะไร แปลชื่อไทยโอเคดี ถึงจะแอบตลกชังชาติไปหน่อยก็เถอะ ส่วนที่แปลได้ก็ควรแปล ไม่งั้นจะเรียกว่านิยายแปลทำไม อ่านมากๆเดี๋ยวก็ชิน จะมางอแงขอให้สนพ.เปลี่ยนให้ถูกใจตัวเองมันก็ไม่ใช่ ฝั่งนิยายกำลังภายในไม่เห็นจะมีคนงอแงเพราะเรื่องแบบนี้เลย แล้วยังมาถล่มนักแปลอีก คนก็อุปทานหมู่กันตาม ถ้ามันแย่จริงก็กางหนังสือมาเลยว่ามันไม่ดีตรงไหน แย่ตรงไหน ไม่ใช่บ่นๆๆๆๆ เอาฉบับนู้นนี้ที่ไม่ใช่ฉบับที่สนพ.ซื้อมา เอาของแปลอิ๊งมาเทียบ ไปกางฉบับไต้หวันมาเทียบสิ ถ้าแปลผิดจริงก็ค่อยมาลง มาแหกสนพ.กับนักแปล ไม่ใช่มาตีโพยตีพายฟูมฟายไปเองแบบนี้
หนหวยละ ว่าจะมาถกเถียงกับเพื่อนโม่งแบบเป็นกลาง สุดท้ายก็หัวร้อนนน
กูไม่ได้อะไรกับแปลชื่อกระบี่นะ แต่ส่วนตัวก็รู้สึกว่าเรื่อง ปรมจ แปลสำนวนภาษาในเรื่องแข็งๆ ภาษาพูดตอนตัวละครคุยกันมันเหมือนภาษาเขียน การใช้คำดูโบราณ ซึ่งเรื่องแนวย้อนยุคเรื่องอื่นที่กูอ่านมาก็ไม่ใช้คำดูเก่าขนาดเรื่องนี้ อะไรที่คำน่าจะดูลื่นไหลมันเลยดูทื่อๆ ซึ่งกูก็ไม่แน่ใจว่าเป็นที่ต้นฉบับเลยหรือเปล่า เพราะเห็นคนแปลเขาแปลอีกเรื่องหนึ่งกูก็ไม่รู้สึกว่าคำมันแข็งมันเรื่อง ปรมจ อะ
ในทวิตมีคนแปลเทียนกวานคำต่อคำด้วย แปลซะไม่กลัวโดนฟ้องเลย
อืมมม ส่วนตัวกูเฉยๆ กะแปลชื่อ แต่รู้สึกสำนวน การเรียบเรียงของปรมจมันไม่ค่อยลื่นๆ สละสลวยเท่าไหร่ บางพาร์ทก็เรียบเรียงงงๆ กูอ่านแล้วสับสน สำหรับตัวกูนะ ไม่ได้แย่ แต่ก็ไม่ได้ดีขนาดนั้นอะ 5555
กูขอเห็นต่างหน่อยนึงนะสำหรับเรื่องทับศัพท์ พวกมึงอย่าเพิ่งรุมด่าขอเสนอแนวคิดตัวเองนิด
กูว่าไม่ทับศัพท์แล้วบอกว่ามันใช้กันมาตั้งแต่นุคกำลังภายในอ่ะ กูว่าอันนี้มองได้อีกแง่ คือกูคิดว่ากลุ่มนักอ่านของกำลังภายในกับกลุ่มหน้าใหม่อ่านวายมันคนละกลุ่มกัน (อาจจะมีซ้อนกันบ้างแหละ) ซึ่งกูก็เชื่ออย่างหนึ่งว่านักแปลหรือบริษัทอาจจะต้องคิดถึงกลุ่มเป้าหมายให้ดีด้วยอ่ะ ถ้าแปลโบราณจ๋าไปแบบยุคเก่ามันอาจจะเข้าไปถึงคนส่วนหนึ่งหรือเปล่าอะไรแบบนี้ แล้วยิ่งเรื่องนี้มีแปลทั้งอนิเมะทั้งซีรี่ย์การอยู่เป็นจักรวาลเดียวกันกูว่าก็สำคัญนะ คือไม่รู้ว่าเบื้องลึกเบื้องหลังเป็นไงแหละ แต่พอมีเสียงวิจารณ์เยอะแบบนี้กูว่าไม่ใช่ว่าพวกเราควรอวยว่า สนพ. ทำดีแล้ว แต่อาจจะต้องให้ สนพ. ลองดูทิศทางในอนาคตไหมว่าถ้ามีนิยายที่มีทั้งอนิเมะ ซีรี่ แล้วแมสแบบนี้ใช้ภาษาแบบไหนถึงจะเหมาะที่สุด
ส่วนตัวกูว่าภาษาดีเลย แต่บางทีเสพหลายอย่างเกิน ก็คิดว่าซับในอนิเมะในนิยายก็ทำไม่แย่ไง พอมาอ่านนิยายบางทีเลยโดดๆ
** ซับในเมะ ในซีรี่
>>900 ไม่ค่อยโอเคกับแนวคิดแบบนี้นะ
แต่พอมีเสียงวิจารณ์เยอะแบบนี้กูว่าไม่ใช่ว่าพวกเราควรอวยว่า สนพ. ทำดีแล้ว แต่อาจจะต้องให้ สนพ. ลองดูทิศทางในอนาคตไหมว่าถ้ามีนิยายที่มีทั้งอนิเมะ ซีรี่ แล้วแมสแบบนี้ใช้ภาษาแบบไหนถึงจะเหมาะที่สุด
ก็สนพ.ทำดีแล้วนี่หว่า "การแปล"อะ แบบนี้สนพ.ต้องทำตามทาร์เก็ตของคนกลุ่มหนึ่ง(ใหญ่หรือเล็กไม่รู้) แต่ใจความหลักของการแปลนิยาย ก็คือการถอดภาษาป่ะ (พุดแบบคนไม้รูู้หลักการแปลอะไรทัั้งสิ้น)
ทับศัพท์นี่มันเหมือนเป็นอุปทานหมู่อะ ใช้เยอะๆ จะได้คงความเป็นจีนไว้ พอคนเสพลักษณะนี้มากๆเข้าก็นิยมชมชอบการใช้ทับศัพท์ เรียกว่าเคยชิน
แต่การแปลไทย ถอดคำจีนมาเป็นไทย มันคือใจความของภาษาไม่ใช่เหรอวะ ง่ายไปอย่างสุ่ยเปี้ยน ถ้าแปลมางี้ แล้วใส่เชิงอรรถ/หรือวงเล็บ มันก็อาจลืมหรือมองผ่านๆในครั้งต่อไป
แต่แปลมาเป็น แล้วแต่ มันก็ชัดแล้วอะ
สำหรับกูนะ การแปลมันควรแปลออกมาให้เราเข้าใจอะ แต่การทับศัพท์มันคือการที่คนแปลเลือกจะใช้ และคนอ่านชินและคุ้ยเคยไปกับมัน ทำไมเราต้องให้สนพ.ปรับด้วยละ ในเมื่อสนพ.ก็แปลในแบบที่ควรจะแปลจริงๆ นึกออกมะ
เกาหลีชื่อคนยังแปล
ญี่ปุ่นก็ด้วย
>>900 กูมองว่าวัตถุประสงค์ของหนังสือคือการอ่านว่ะ และจากที่คุยกันหลายมู้ก็เห็นได้ว่าถ้าไม่แปลก็ถอดความหมายไม่ครบ(แม่โม่เล่นมุกภาษาบ่อย) และหลักการแปลคือการถอดใจความจากภาษานึงมาเป็นอีกภาษานึง การทับศัพท์คือความขี้เกียจของนักแปลที่จะหาสอดคล้องใส่ฟุตโน้ตไปก็แล้วกัน ทัศนคติมักง่ายแบบนี้แผ่ลามไปถึงไหนอะ ถึงเรื่องนักอ่านกับตัวเอก ที่แปลสรรพนาม'เขา'แล้วใส่ฟุตโน้ตว่าในต้นฉบับคำนี้หมายถึงได้ทั้งคนและสิ่งของ ซึ่งคำนี้ใช้มันได้
อีกอย่างพวกที่โวยส่วนใหญ่กูเห็นในทวิตเตอร์ซึ่งตามปรมาจารย์จากอนิเมะบ้าง ซีรีส์บ้าง หลายคนที่ออกมาด่าทับศัพท์ก็พูดว่าพึ่งมาอ่านนิยายจีนครั้งแรกทำไมต้องมาเจอแปลแบบนี้ งที่ตัวเองไม่เคยอ่านเรื่องอื่นเลย และถ้าย้ายมาทั้งในเพจสนพ และกลุ่มสปที่เป็นกลุ่มใหญ่อ่านวายกันเยอะ คนก็เห็นด้วยกับการแปลหทดแล้วไปรุมจวกพวกจะเอาๆทับศัพท์ ซึ่งพวกนี้อะที่เป็นกลุ่มลูกค้าเขา ไม่ใช่พวกที่โหวกเหวก จบเรื่องนี้ก็ไปอ่านอะไรที่เขาจากมา
การทับศัพท์มันงี่เง่าตรงไหนเหรอ ลองไม่เอาความเคยชินมาเทียบโดยเอานิยายภาษาอังกฤษ พระเอกทีฉายาว่าNight knight แปลเป็นอัศวินราตรี คนบอกไม่เอา การอ่านเป็นแค่น้ำจิ้ม กูไปติ่งกับเพื่อนต่างชาติแล้วเดี๋ยวเขางงอัศวินราตรีคืออะไร แปลเป็นไนท์ไนท์ซะ โอย อิดอก คนอ่านอื่นๆก็แบบ ต้องมาจำว่าไนท์ไนท์มันหมายความว่ายังไงแทนที่จะอ่านแล้วรับแซบว่าเป็นอัศวินเพื่อให้พวกหอยหลอดนี่เอาไปเมาท์กับต่างชาติได้ ยิ่งเป็นคำจีนคนไม่ค่อยอยากจำด้วย สรุปจำแค่พระเอกมีฉายาไนท์ไนท์
>>906 เผลอกดส่ง สรุปคือมึงอยากเมาท์กับเพื่อนต่างชาติก็จำอีกชื่อ ไม่ใช่มาสร้างภาระระหว่างอ่านให้คนอื่นจำอีกชื่อ แล้วถ้าด้อมอังกฤษแปลชื่อเฉพาะจีนเป็นอังกฤษแบบฉวนจื๋อจะทำไงวะ ใหแปลเป็นร่มแสนกล หรือเชียนจีส่าน หรือMyriad Manifestations Umbrella เหตุผลว่าควรแปลทับศัพท์เดี๋ยวคุยกับต่างชาติไม่รู้เรื่องกูว่าเอาแต่ใจว่ะ ถ้าต่างชาติถอดเสียงผิดก็ห้ามแก้เพราะเดี๋ยวไม่ชินงั้นเหรอ
พูดอีกที พวกหน้าใหม่ที่บ่นเรื่องทับศัพท์ที่มึงว่าไม่ใช่กลุ่มนักอ่านหน้าใหม่แต่เป็นพวกพึ่งมาอ่านแนวนี้ครั้งแรกเพราะดังและใช่ว่าจะตามไปซื้อเรื่องอื่น ในกลุ่มคนที่อ่านวายเยอะๆคนก็โอเคกับการแปลกัน ชัดๆก็เรื่องราชันย์คู่บัลลังค์ของอววที่แปลอาวุธเหมือนกันแต่ไม่มีใครว่า หลายครั้งยกมาชมด้วยว่าแปลชื่ออาวุธดี(ซึ่งกูว่าเรื่องนี้แปลชื่ออาวุธเท่จริง)
>>908 นอกเรื่องแปป ราชันคู่บัลลังก์ของอววคือเรื่องไหน มึงหมายถึงปราชญ์กู้บัลลังก์ของอวว หรือราชันคืนบัลลังก์ของมด สองเรื่องนี้นักเขียนคนเดียวกัน กูคิดว่ามึงจับมาสมาสรวมชื่อกันใช่มั้ย ถ้าแปลชื่อกระบี่น่าจะราชันคืนบัลลังก์ป่าว หรือมีเรื่องที่มึงบอกจริงๆ ถ้าใช่ กูขออภัย
แปล ปรมจ กูว่าโอเคแล้วนะ ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนอะไร
เรื่องแปลทับศัพท์แม่งเริ่มไหนวะ เจ๊หลินเหรอ ตอนแรกกูก็ตื่นตาตื่นใจดีอยู่หรอก อาเหนียง ฟูจวินตั่งต่าง หลังๆพอเหอะ กูขกมาใส่ใจกับอะไรแบบนี้ ต้องจำอีกว่าหมายถึงอะไร
ว่าแต่เล่มสามออกเมื่อไหร่ TT
เรื่องชื่อเฉพาะเช่น สถานที่หรืออาวุธนี่ สำหรับกูแปลได้ก็ดี ไม่แปลก็ช่าง แต่ที่ไม่ชอบคือสรรพนาม เช่น
อาเตีย อาเหนียง เกอ ทำไมวะ พ่อ แม่ พี่ มันใช้ไม่ได้รึไง
>>913 มีมานานแล้ว สมัยดึกดำบรรพ์ กำลังภายในที่ ว.ณ เมืองลุงแปลก็มี แต่ไม่ใช่จีนกลาง เนี่ย เตีย เตียเตีย กอกอ ม่วยม่วย แต่ขของกูกูถอดเสียจีนกลาง มีเพิ่มที่สมัยก่อนฮ่องเต้ ฮองเฮา หรืออื่นๆจะแทนตัวเองว่าเรา ข้าน้อย ก็ทับศัพท์ เป็นเจิ่น เปิ่นกง เปิ่นหวาง หนูปี้ อื่นๆอีกมากมาย ทำให้รู้ว่าภาษาจีนก็มีลำดับขั้นของภาษา
มีช่วงนึงพวกคอลัมนิสต์ชอบบอกว่า ไทยเป็นเจ้าของภาษาที่ยอดเยี่ยม มีลำดับขั้นของภาษา จีน ฝรั่งไม่มีราชาศัพท์ ไม่มีหัวมีหาง
กูก็โอเคกับที่เขาแปลนะปรมจอะ คือแค่ติงเรื่องเดียวคือมุกตอนกระบี่แล้วแต่55 ตรงนั้นความขำสำหรับกูลดลงไปมากแต่ตรงอื่นไม่เท่าไหร่ กูโอเคกับการแปลชื่อนะเพราะกูก็สายนิยายเก่าๆมาก่อน แต่ตรงมุกอย่างน้อยก็อันหนึ่งอาจจะแปลจีนหน่อยก็ได้ แบบ สุยเปี้ยนแล้วอีกอันมาแล้วแต่ให้รู้ว่า เออ แบบนี้นะ..แล้วต่อจากนั้นจะเรียกกระบี่แล้วแต่ยาวๆไปเลยก็ได้ กูโอเค น่ารักดีด้วยชื่อกระบี่ แต่นี่มาแล้วแต่กับแล้วแต่ มันเลยดรอปความขำกูนิดนึง แต่ที่เหลือกูไม่ติ อันนี้ในความเห็นกูนะ
อารมณ์แบบ พวกถามชื่อก็เหมือนกัน สมมติ ฮวา แล้วจะมีต่อว่ามาจากดอกไม้ไม่ใช่คำนี้ ไรเงี้ย กูว่ามันไม่ทำให้งงอะไรและอ่านลื่นไหลดี..ติเรื่องเดียว..พวกมึงเก็ทฟีลกูมะ555
โพสล่าสุด สนพ ก็โดนบ่นเรื่องนี้เหมือนกัน กูว่าส่วนนึงคนติดมาจากซีรี่ย์แล้วก็เมะมั้ย พอมีนิยายก็อยากให้แปลเหมือนกัน แต่ส่วนตัวกูชอบให้แปล บ้างคำมันสวยดีอะ แบบคนแปลเก่งจัง คิดคำออกมาได้ ในโพสกูเห็นบ้างคนบอกแปลไม่ดี ไม่คุ้มกับการรอ กูเสียใจแทนสนพ เลยวะ แม่ง
เรื่องโดนติ่งโวยจนทำการแปลเสียก็มาแล้วตอนดิสไทม์ อววแปลชื่อนายเอกเป็นหยูแทนที่จะเป็นอวี้ เพราะคนอ่านชินกับแปลเถื่อนที่ใช้หยู คราวปรมาจารย์กูเลยโกรธพวกโวยวายเรื่องไม่ทับศัพท์เพราะเอาแต่ใจจากความเคยชินมาก เสพสื่ออื่นที่ไม่ใช่หนังสือถูกลิขสิทธิ์แล้วชินเลยบังคับให้คนอ่านหนังสือครั้งแรกต้องแบกรับภาระเนี่ย การแสดงความเห็นปัญญาอ่อนใช่ว่าจะไม่มีผลกับสนพ อววก็ตามใจคนอ่านจนไม่รักษามาตรฐานตัวเอง เหอะๆ
wetv ของแท้สิวะ
สปอยเทียนกวาน อาร์ค 2 ต่อจาก >>815 เทียนกวาน Part.52
.
.
.
.
.
อาณาจักรเซียนเล่อกำลังคึกคัก ผู้คนเต็มท้องถนนมุ่งหน้ามายังพระราชวังเพื่อเข้าร่วมเทศกาลซ่างหยวน ซึ่งจะมีการแสดงการต่อสู้ระหว่างเทพสงครามกับปีศาจร้าย ทุกอย่างเตรียมพร้อมหมดแล้ว มีเพียงองค์ชายรัชทายาทที่รับบทแสดงเป็นเทพสงครามที่หายตัวไป มู่ฉิงผู้รับบทเป็นปีศาจเอ่ยว่าเซี่ยเหลียนฝากมาบอกว่าให้ทำตามกำหนดการณ์เดิมได้เลย ทำเอาราชครูซึ่งเป็นผู้ดูแลการแสดงแทบของขึ้น ทางราชวงศ์เองก็ส่งเฟิงซิ่นมาสอบถามว่าทำไมยังไม่เริ่มเดินขบวนอีก เมื่อราชครูถามว่าเห็นเซี่ยเหลียนหรือไม่ เฟิงซิ่นก็หันไปมองมู่ฉิงอย่างไม่พอใจ แต่ก็บอกให้ผู้อาวุโสว่าเริ่มงานได้เลย เซี่ยเหลียนมาร่วมงานทันแน่ ราชครูจึงจำใจประกาศเริ่มการแสดงและจัดขบวนออกไป มู่ฉิงถือดาบโค้งยาวแสดงบทผีร้ายอาละวาด แต่คนส่วนมากอยากเห็นการแสดงเทพปราบปีศาจมากกว่าจึงเริ่มโวยวายกัน รวมไปถึงเจ้าชายฉีหรงผู้โอชิเจ้าชายรัชทายาทที่ไม่พอใจจนหยิบข้าวของมาขว้างปา ทำให้ราชินีต้องสั่งให้คนมาหยุดหลานไว้ ขณะที่สีหน้าของเชื้อพรวงศ์เครียดขึ้นเรื่อยๆ เสียงเชียร์โห่ร้องก็ดังขึ้นจากฝูงชน
ร่างของชายใส่ชุดขาวสวมหน้ากากสีทอง มือถือกระบี่คนหนึ่งกระโดดจากหอคอยป้อมปราการลงมายังเวที ทำให้ผู้คนรู้สึกราวกับได้เห็นเทพเซียนตัวจริงกระโดดลงมาจากฟากฟ้า เสียงปรบมือและเสียงร้องด้วยความตื่นเต้นดังกระหึ่ม ในที่สุดเซมบัตสึองค์ชายรัชทายาทก็ปรากฏตัว ราชาถึงกับหันไปชมราชครูที่ออกแบบการแสดงได้ตื่นเต้นยิ่งนัก แต่อีกฝ่ายก็บอกว่านี่เป็นความคิดของเซี่ยเหลียน และเอ่ยชมความสามารถของลูกศิษย์ให้ราชากับราชินีฟัง
เซี่ยเหลียนรู้สึกได้ว่ามู่ฉิงใช้แรงโจมตีมากกว่าตอนที่ซ้อม ทำให้เขาต้องเอาจริงมากขึ้นจนการแสดงยิ่งดุเดือดเรียกเสียงเชียร์ได้มากขึ้น แต่ในตอนที่เขากำลังจะโจมตีปิดฉากปีศาจร้าย จู่ๆ ก็มีเสียงหวีดร้องดังขึ้น เมื่อเขาหันไปก็เห็นเงาคนกำลังร่วงหล่นลงมาจากกำแพง โดยไม่ต้องคิดเขาก็รีบกระโดดไปรับร่างนั้นไว้ก่อนจะกระแทกพื้น ในอ้อมกอดของเขาคือเด็กชายอายุราว 7-8 ขวบคนหนึ่งซึ่งที่ศีรษะมีผ้าพันแผลสกปรกพันอยู่ อีกฝ่ายจ้องมองชายที่ช่วยชีวิตตนไว้ตาไม่กระพริบ และในตอนที่เซี่ยเหลียนเงยหน้าขึ้นมา เขาก็เห็นว่าหน้ากากทองของเขาหล่นอยู่บนพื้น เหตุการณ์นอกสคริปที่เกิดขึ้นทำเอาทุกคนชอค แต่เซี่ยเหลียนก็พลิกสถานการณ์หันไปชี้กระบี่ไปทางมู่ฉิง ซึ่งอีกฝ่ายก็เข้าใจจึงกระโดดลงมารับบทผีชั่วพยายามฆ่าเด็กในอ้อมแขนของเทพ ก่อนค่อยๆ เนียนพากันเคลื่อนกลับขึ้นไปบนเวที และมู่ฉิงก็อาศัยจังหวะหนึ่งช่วยหยิบหน้ากากของเซี่ยเหลียนขึ้นมาด้วย
เซี่ยเหลียนแกล้งเนียนทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น ขณะที่เด็กชายร้องด้วยความกลัว เขาก็กระชับอีกฝ่ายพร้อมปลอบว่าไม่ต้องกลัว เขาส่งซิกให้มู่ฉิง แล้วพวกเขาก็โจมตีจบการแสดงเทพปราบปีศาจได้ตามบทที่วางไว้แต่ต้น ทำเอาคนดูปลาบปลื้มประทับใจพากันดันทหารป้องกันเพื่อเข้าใกล้องค์ชายรัชทายาท คณะแสดงรีบกลับเข้าเขตราชวังแล้วปิดประตูกันผู้คนไว้ เซี่ยเหลียนถอดเสื้อหนาหลายชั้นออกอย่างโล่งอก ลืมไปสนิทว่ายังอุ้มเด็กชายไว้จนเฟิงซิ่นร้องถาม เซี่ยเหลียนหันไปสอบถามเด็กชายหลายประโยค แต่อีกฝ่ายก็ยังหวาดกลัวจนพูดอะไรไม่ออก เขาลูบหัวเด็กชาย ก่อนเรียกให้เฟิงซิ่นพาอีกฝ่ายไปให้คนดูแลต่อ แต่ตอนที่เขาส่งเด็กชายให้เฟิงซิ่นอุ้ม เด็กชายกลับเกาะเสื้อเขาแน่นไม่ยอมปล่อย ทำเอาทุกคนหัวเราะด้วยความเอ็นดู แต่สุดท้ายเด็กชายก็ยอมปล่อยมือ ทว่าดวงตาคู่นั้นยังคงจับจ้องมาทางเซี่ยเหลียนราวกับต้องมนต์ ก่อนจากไปเฟิงซิ่นก็ไม่ลืมบอกให้เซี่ยเหลียนรีบไปพบราชครู เพราะอีกฝ่ายดูโกรธมาก
เซี่ยเหลียน มู่ฉิง กับเฟิงซิ่น เดินทางมายังศาลาหลวง ไม่นานนักราชครู กับรองราชครูทั้ง 3 คน ก็เดินเข้ามา ราชครูต่อว่าลูกศิษย์ที่ทำเรื่องนอกบท ที่สำคัญยังทำหน้ากากหลุดระหว่างการแสดงอันเป็นลางร้าย ทำให้ประวัติศาสตร์ของเซียนเล่อต้องมัวหมอง แต่เซี่ยเหลียนแย้งอาจารย์ว่าถ้าปล่อยให้เด็กชายตกกำแพงลงมาตายจะเป็นเรื่องอัปมงคลมากกว่า ท่าทางเชื่อมั่นในตัวเองของลูกศิษย์ ทำให้ราชครูทั้งรู้สึกโกรธและภูมิใจในคราวเดียว ก่อนเปลี่ยนไปต่อว่าเรื่องที่เซี่ยเหลียนทำนอกบทไปกระโดดจากหอคอยโดยไม่แจ้งก่อน เซี่ยเหลียนบอกว่าอีกฝ่ายอนุญาติเขาแล้วไม่ใช่หรือ แต่เมื่อเห็นราชครูทั้ง 4 คนไม่รู้เรื่อง เขาก็หันไปหามู่ฉิง เพราะอีกฝ่ายคือคนที่เขาฝากเรื่องไปขออนุญาติจากราชครูตั้งแต่เมื่อวาน
.
.
.
.
.
Ky กูซื้อเล่มปรมจ.มา อ่านแล้วรู้สึกการแปลมันแปลกๆ กูว่าแปลไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ไม่รู้นะ กูอาจจะคิดไปเอง เพราะนี่ก็ครั้งแรกที่ซื้อนิยายแปลจีนมาอ่าน
สปอยมาแล้ววว เย~~
ปรมจสองเล่มกูยังไม่แกะซีลเลย กะดองจนครบค่อยอ่าน แต่เห็นมีประเด็นถกเถียงนี่อยากแกะอ่านดูเลยว่าเป็นยังไง กูเคยตามอ่านม่านฮวาที่มีคนแปลไทยไว้ กูก้อจะชินกะสุยเปี้ยนอ่ะนะ แต่กูก้อเคยอ่านนิยายแปลบางเรื่อง แปลให้พอ.แทนตัวว่าเจิ้น คือมึงแปลว่าแทนตัวว่า เรา ไปเลยก้อได้มั้ยวะ
ส่วนชื่ออาวุธ ส่วนตัวกูอยากให้เรียกแบ่บ กระบี่สุยเปี้ยน (สุยเปี้ยน แปลว่า แล้วแต่) คือวงเล็บความหมายชื่อในครั้งแรกสุดไว้ ละมึงก้อรับรู้ว่าเออความหมายของชื่อคืองี้นะ จากนั้นถ้าจะเล่นมุกไรต่อจะได้เข้าใจความหมาย แต่เรียกด้วยชื่อจีนไปไรงี้ แต่ถ้าจะเรียกชื่อไทยไปตลอดก้อได้นะ กระบี่แล้วแต่ มันก้อฮาทุกครั้งที่เรียก ทำให้เราระลึกได้ถึงตัวตนของเว่ยอิงทุกครั้งที่เรียกชื่อกระบี่ ว่านางเกรียน ความปรมจ.อี๋หลิง 5555
ม่านฮวาวายจีนนี่วาดเรทได้แค่ไหน คือปรจมันมีฉากเรทอยู่ท้ายๆ ตอนจบ กูอยากรู้ว่าจะได้อ่านมั้ย (แม้ว่าจากสปอย ณ ปัจจุบันจะเพิ่งขึ้นภาคเมืองอี้หมาดๆ ก็ตาม สิ้นปีนี้ภาคเมืองอี้จะจบมั้ยนะ)
เออกูก้อชอบอ่านแบบรูปเล่ม ชอบอ่านมังงะแต่ไม่ค่อยอ่านการ์ตูนออนไลน์ ตามแค่ม่านฮวาปรมจนี่แหละ lcแปลไทยปล่อยฟรีแค่วันละตอน อยากอ่านก่อนต้องเปย์ แง แล้วมันกี่ร้อยตอนจบวะ กูอยากจะปริ้นออกมาละรวมเล่มเก็บไว้เอง 55555 ถ้าเค้าทำรวมเล่มขายสวยๆกูก้อซื้อ อยากฟีลแบบเปิดอ่านได้อ่า
เห็นเขาว่าม่านฮวาก็ไม่ได้เหมือนนิยาย 100% ป่ะ ไอ้ฉากเรทนี่อยู่ตอนพิเศษป่ะหรือกูจำผิด กูว่าถ้าเป็นตอนพิเศษก็อาจจะไม่ได้วาดถึงตอนนั้นมั้ย หรือถ้ามีก็อาจจะวาดแบบตัดเข้าโคมไฟไรงี้ป่ะ
ky วีทีวีลงโปรโมทอนิเมะตัวร้าย จะมาแล้วจ้าพี่จ๋าา
เพิ่งอ่านจบแล้วขอบ่นพวกที่ติงการแปลเรื่องไม่ทับศัพท์หน่อยเหอะ อ่านผิดลิขสิทธิ์จนเคยตัวรึไงถึงมาบอกว่าควรเปลี่ยนการแปลเพราะไม่ชิน ความจริงนิยายมันเป็นออริจินอลปะ อยากไปหาแบบอื่นอ่านเองก็รับผิดชอบตัวเองดิ กูยอมไม่ดูทั้งอนิเมทั้งอ่านสปอย ซีรี่ส์อะไรก็ไม่ดูเพราะกูอยากอ่านแบบนิยายยังมีคนมาบอกให้นิยายแปลตามการ์ตูน/ซีรี่ส์เนี่ยนะ กูว่าเล่มนี้ไม่ได้แปลแย่จนต้องติเลยด้วยซ้ำ ไม่ได้จะอวยแต่คือกูก็เรื่องมากกับการแปลระดับนึงอะ กูว่ามันโอเค มีคำผิดอยู่บ้างแต่ไม่ได้ถึงกับอ่านแล้วไม่เข้าใจอ่านแต่สื่อที่มีแต่ประโยคสั้นๆ กันจนตีความประโยคซับซ้อนไม่ออกกันรึไงวะ งง
เพิ่มอีกอย่าง กุไม่ได้อยากให้ท้ายสนพ.นะ แต่คือตั้งแต่มันออกช้า คนก็ด่าจ้ำจี้จ้ำไชว่าต้องทำแบบนี้ๆๆๆ เห็นแล้วมันตลกอะ กูเห็นด้วยว่าช้าจริง แต่ให้ไปนั่งวางแผนการตลาดให้สนพ.ว่าควรทำตามนี้ๆๆ แม่งเกิ๊น เค้าจะขายช้าจนคนไม่ซื้อผลเสียมันก็ตกที่เค้าอยู่ดีนั่นแหละ เจอนิยายเล่มหนาๆ ที่คนแปลบอกจะออกให้ได้เดือนละเล่มแต่คุณภาพการแปลห่วยๆ แล้วกูว่ารอนานหน่อยก็เฉยๆ ว่ะ (ถึงออกเร็วกว่านี้หน่อยก็ดี)
>>941 คนที่บอกแปลแปลกๆ คืออ่านแล้วสะดุด กูสังเกตว่าเขามีการใช้คำศัพท์โบราณด้วยอาจจะต้องการให้เป็นจีนโบราณ แล้วคนอ่านที่สะดุดคือเขาอาจจะมีคลังศัพท์น้อยอ่านแล้วแล้วก็ไม่เข้าใจ จะว่าเขาก็ไม่ได้แต่ถ้าเปิดใจหน่อยก็เป็นการพัฒนาทางภาษาด้วยอะไรไม่เข้าใจก็เปิดพจนานุกรม จะได้ความรู้เพิ่มด้วย
>>941 บวกหนึ่ง กูชอบการแปลเป็นไทยมาก รำคาญพวกงอแงให้ทับศัพท์แบบชาตินี้ไม่เคยแตะนิยายหรือหนังจีนเพราะเหตุนี้อะ กูวนเวียนกับนิยายมาหลายปีรู้ว่าจะอนิเมะหรือซีรีส์ก็ตีความเพี้ยนจากนิยายอยู่แล้ว เลยทนไม่เสพสื่ออื่นรออ่านนิยาย สุดท้ายกูต้องมาเจอไรไม่รู้เพราะพวกเสพสื่ออื่นแล้วไม่ชินๆ นิยายต้องงี้ๆเหรอ
ส่วนเรื่องแปล กูว่าเพราะสำนวนที่ใช้แปลด้วย จีนโบราณกูแบ่งระดับความสวยของภาษาเป็น
1.แนวข้ามมิติ/เกิดใหม่ ค่อนข้างคอมมาดี้ตบมุกโบ๊ะ ภาษาจะอ่านง่ายเพราะส่วนมากตัวเอกเป็นยุคปัจจุบันและโทนเรื่องค่อนข้างเบา ตัวเอกไม่เครียด ภาษาเลยไม่ซับซ้อนมาก เช่น ตัวร้าย
2.แนวจีนโบราณธรรมดา เช่น รัชศก ปราชญ์กู้ ภาษากลางๆคนทั่วไปใช้ไม่ลำลองแบบแบบแรก
3.แนวเทพเซียน ภาษาที่ใช้แปลจะเลือกคำสวยกว่าปกติ ซึ่งแนวนี้วายไม่ค่อยมีจะเป็นฝั่งนอมอลมากกว่า
แล้วปรมาจารย์เลือกใช้สำนวนแบบ3 กูเลยพอเข้าใจที่บางคนบอกว่าภาษามันสวยเกินอ่านไม่ลื่น ซึ่งจะให้อ่านลื่นปรื๊ดแบบแบบแรกก็ไม่ใช่เพราะแนวต้นทางไม่ใช่แต่ต้น คนที่ไม่เคยเจอเลยไม่ชินแล้วโวย ซึ่งกูว่าถ้าเป็นแบบ2อาจเอื้อต่อความเคยชินคนที่ไม่เสพนิยายแนวนี้มากกว่า แต่อีกใจ มันแนวผู้ฝึกเซียนอะ ทำไมต้องลดระดับภาษาด้วย บางคำที่คนบอกว่ายากคือพบได้ตามแบบเรียนอะ เห็นแล้วกูก็ท้อแท้นะ ต้องมั่นขนาดไหนถึงกล้าประกาศต่อสาธรณชนว่าไม่รู้ แถมไปด่าสนพอีก
พวกมึงไม่ต้องกังวลเรื่องแปลกับออกช้าแทนสนพเลยจ้า กูเห็นคนไปถล่มผ่านทุกช่องทางทั้งเพจ ทวิต ib dm สนพเฉยมาก ไม่ตอบโต้ หรือแสดงความเห็นใดๆทั้งสิ้น สนพมีแนวทางในการทำงานอยู่แล้ว เสียงนกเสียงกาไม่สามารถสั่นคลอนได้ พวกมึงรออ่านเล่มสวยๆพอ ปล่อยให้พวกสมองไม่ปกติดิ้นไป เห็นพวกปสดดิ้นแล้วสนุกดี
เล่ม3 ยังไม่มีวึ่แววจะเปิดจองสินะ 😔
>>946 บ้างคนก็บ่นแรงเกินอะมึง บอกไม่คุ้มราคาบ้าง แปลราคาตลาดนัด?บ้าง ซีรี่ย์กับเมะออกมาก่อน นิยายมาทีหลังทำไมไม่แปลทับศัพท์เหมือนเค้า กูอ่านแล้วกูท้อแทนสนพ กับคนแปลจริงๆวะ เอาแต่ใจกันเกินเบอร์มาก ไม่หันมามองดูตัวเองบ้างว่าปัญหาอยู่ที่การแปลหรือปัญหาอยู่ที่ตัวเอง
>>946 มันไม่ใช่กระทบแค่เรื่องนี้อ่ะมึง บ่นกันในที่เปิดทั้งนั้นกูเลยกลัวสนพอื่นๆที่มุงจะเข้าใจว่าคนอ่านต้องการแบบนี้ แปลต้องทับศัพท์เยอะๆลูกค้าชอบ ของออกเร็วให้ทันกระแสพอคุณภาพไม่ต้องใส่ใจ ให้นักแปลสลับก็ได้ ของแถมต้องบึ้มๆ ดังนั้นเวลามีคนด่ากูเลยออกมาขัดว่าที่ด่าปาวๆนั่นไม่ใช่ลูกค้าสายนิยาย คนอ่านไม่ได้ต้องการแบบนั้นหมด
สิ่งที่โดนผลกระทบจริงๆจากเรื่องนี้เห็นเป็นตัวเป็นตนอยู่อย่างแล้ว จากที่สนพไหนได้ลิขสิทธิ์จะประกาศทันที ตอนนี้แค่กระซิบบอกนักแปลว่ามีคนได้แล้วแต่ห้ามบอกชื่อสนพ เพราะคนด่าบกรซะเสียหมาว่าออกช้า ดองงาน ทั้งที่ออกหลังประกาศลิขสิทธิ์ปีเดียว คนด่าว่าออกช้าตั้งแต่ไม่ถึงครึ่งปี ทั้งที่นิยายแปลดังๆในเน็ตเมื่อก่อนกว่าจะออกเล่มก็หลังจากประกาศราวๆปีนึงทั้งนั้น ขนาดเซเลบที่แต่งโม่ซั่งยังบอกว่าบกรดองสามสี่ปี แค่ปีเดียว โก่งจำนวนปีเก่ง
>>942 กูเห็นด้วยกับมึงเรื่องคนที่บ่นมีปัญหาคลังคำน้อย กุเห็นหลายคนบ่นเรื่องทับศัพท์อาวุธว่าอ่านแล้วต้องแปลในแปลอีกที ไม่รู้ว่าตรี=สาม วัชระ=สายฟ้า คำไวพจน์แบบโคตรพื้นฐานเรียนภาษาไทยมาตั้งแต่เล็กจนโตไม่ใช่คำซับซ้อนอะไรเลย แล้วมาโทษว่าคนแปล แปลงานห่วย แปลไม่รู้เรียน
บางทีกุบ่นในที่ของกุนะ แต่มีคนหาว่ากุไปด่าสนพ อีพวกนี้ปสดกว่า กุแค่บอกว่า กุโง่ ศัพท์มันยาก กุไม่รู้จริงๆ แล้วของแถมเพราะประเทศอื่นเค้าตั้งใจทำให้สายสะสม สายสะสมไทยไม่มีสิทธิ์บ่นหรอวะ ก็สนพทำออกมาราคาเกือบสี่ร้อย แต่ได้แค่ที่คั่นห่วยๆ
ออกมาพันสามให้ป้ายแขวนกุก็ซื้อ จบการบ่นในที่ของกุ สนพ. จะคิดไงฟีดแบคต่อคนอ่านขนาดไหน ไปใช้สมองคิดเอาเอง
ต่อให้เรื่องดังแค่ไหน ถ้าสนพทำงานออกมาห่วยๆไม่มีคุณภาพ คนก็ไม่สนับสนุนนะ เอาที่เห็นชัดๆเลย ตู้เจ๋อ กูเห็นคนรอเยอะมาก พอออกเล่มเป็นไงล่ะ แปลใช้คำศัพท์แบบงงๆ พิมพ์ผิดเยอะมาก เชิงอรรถหายอีก กระแสเงียบ
.
วีรชนอีกเรื่องนึง แต่อันนี้ดูแค่ตัวอย่างที่ลงให้อ่านนะ แปลยังงงๆอยู่ แถมใช้นักแปลสองคนอีก กูไม่กล้าเสี่ยงพรีเลย กลัวออกมาไม่ดี แถมราคาแพงมาก ครบชุดร่วมสามพัน
.
สนพที่ทำงานเป็นมืออาชีพ ไม่ควรจะเอาแค่เสียงนักอ่านในเนตมาทำให้จุดยืนและวิธีการทำงานไขว้เขวได้นะ ซึ่งกูคิดว่าบกรมั่นคงในจุดยืนมากพอ ดูจากที่ผ่านๆมา ไม่ว่าจะมีใครไปต่อว่าแค่ไหน บกรก็ไม่ออกมาเปลี่ยนอะไรทั้งการแปล ระยะเวลาการออกเล่ม ส่วนสนพอื่นๆ ดูจากผลงานละกัน เงินในมือคุณ คุณเลือกเองว่าจะสนับสนุนหรือไม่
สมัยนี้กลายเป็นเสียเงินซื้อของแถมแล้วหรอวะ ปกติต้องเสียเงินซื้อหนังสือดิ ตรรกะป่วยๆแบบนี้ควรไปพักว่ะ
.
ฝากถึงสนพไหนก็ตามที่มาอ่านโม่งนะ มีอ่านแน่นอน หยุดการขายแพงๆได้แล้ว พวกของแถมรอบจองบ้าบอคอแตกเลิกๆให้หมด เอาเวลาไปทำหนังสือให้มีคุณภาพดีๆเถอะ แปลให้ถูกต้องครบถ้วน ใช้ภาษาไทยให้ถูก พิสูจน์อักษรเยอะๆ รูปเล่มมีคุณภาพ สันกาวแข็งแรง ราคาสมเหตุสมผล ไม่ใช่ตั้งราคาประหนึ่งจะเอาไปสร้างบ้านสิบหลัง
ถ้าที่คั่นกลิตเตอร์กระดาษแบบเดียวกับหน้าปกนิยายเป็นแค่ที่คั่นห่วยๆ ที่คั่นอาร์ตมันธรรมดาๆของนิยายเรื่องอื่นมึงไม่มองเป็นที่คั่นขยะเลยเหรอวะ
พูดถึงของแถมสำหรับสายสะสม กุเห็นคนพรีปรมจ.ver เวียดนามที่ของมาแล้วบ่นโคตรเยอะ หนังสือไสกาวแย่มาก กระดาษเหมือนทิชชู่ ของแถมอื่นๆไม่เนียบ ก๊องแก๊ง ไม่ได้สวยเหมือนตัวอย่างเจ็บกันระนาว
ดีนะกูไม่ใช่สายสะสมของแถม กูขอที่ตัวนิยายแปลดี พิมพ์ผิดน้อย หน้าไม่หาย กระดาษไม่แย่ เปิดอ่านง่ายและหนังสือไม่เสียหายง่าย ของแถมไม่สำคัญ กูต้องการอ่านนิยายยยย
>>955 มึงอยากสะสมก็ซื้อของอฟชจีน มีตั้งแต่พวงกุญแจยันลิปสติก กระเป๋า ร่ม ตุ๊กตา ด๋อย เป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว จะมาเรียกร้องให้แถมกับหนังสือไมวะ สายสะสมจริงมึงก็เลือกซื้อไปสิไม่ใช่เอะอะให้รกบ้านคนอื่น เป็นข้ออ้างให้สนพขึ้นราคานิยายมากขึ้นด้วย ไม่ต้องการ เลือกเองได้ด้วยว่าอยากได้ผลิตภัณฑ์ไหน พูดถึงภาพแขวนแล้วกูกลอกตา พรีตัวร้ายกูไมเกรนขึ้นทุกครั้งตั้งแต่ก่อนเปิดพรี หลังเปิดพรีแม่งก็ยังมีดราม่า ขอซื้อแบบปกติชนเถอะ
>>960 บวกหนึ่ง หลายเรื่องดังแต่ถ้าสนพทำไม่ดีก็ดับจริง การ์เดี้ยนที่ทำเป็นซีรีส์ยังดับ คนบ่นมากน้อยยังไงสุดท้ายสิ่งตัดสินจริงๆคือคุณภาพอยู่ดี ตอนนี้หลายสนพเล่นตลาดวาย ต่อให้ได้เรื่องดียังไงถ้าคุณภาพไม่ดีคนก็ทำใจปล่อยวางไปหาเรื่องที่จัดการดีๆอื่นได้
กูงงคนที่โวยวายจะเอาของแถมนู่นนั่นนี่ ตกลงซื้อนิยายเพราะจะเอาเล่มนิยายไปอ่านหรือจะเอาของแถม กูอยากได้แค่เล่มอย่างเดียว อย่างอื่นเฉยมาก ไม่มีที่จะเก็บแล้ว ของเวียดนามกับเกาหลีที่ยกๆมาโวยวายจะเอาของแถมตามนี่ก็ราคาบวกค่าของแถมไปเท่าไร มันไม่ได้แถม แต่คิดราคารวมกับหนังสือไปแล้วว้อย ถึงจะมีให้เลือกซื้อเป็นออปชั่นก็แพงอยู่ดีมั้ย น่าจะคิดกันเยอะๆก่อนมาบ้งเบ้งใส่สนพ.
สปอยเทียนกวาน อาร์ค 2 ต่อจาก >>924 เทียนกวาน Part.53
.
.
.
.
.
มู่ฉิงอธิบายว่าเขาได้แจ้งเรื่องกับราชครูแล้ว แต่ช่วงนั้นเป็นเวลาพัก การบำเพ็ญเป็นเรื่องน่าเบื่อ มีเกมเพียงน้อยนิดที่ช่วยให้ความบันเทิง และสิ่งที่เหล่าราชครูโปรดปรานที่สุดก็คือการเล่นไพ่ ในช่วงพักพวกเขาจึงปิดศาลาตั้งวงคิดเลขกันอย่างเมามันส์จนไม่รับรู้สิ่งรอบตัว และเนื่องจากมู่ฉิงถูกศิษย์ร่วมสำนักคนอื่นตั้งแง่รังเกียจเพราะเห็นว่าพวกราชครูไม่ชอบศิษย์คนนี้ พวกเขาเลยไม่ยอมฟังและไล่มู่ฉิงออกไป มู่ฉิงจึงเดินวนหาหน้าต่างห้องที่ราชครูอยู่แล้วแจ้งเรื่อง ซึ่งอีกฝ่ายก็ตอบว่าเข้าใจแล้ว ทำเอาราชครูพูดไม่ออกเพราะระหว่างการดูเอลหากได้ยินใครพูดอะไรด้วยเขาก็คงตอบรับไปส่งๆ จริงๆ แต่เฟิงซิ่นกลับยิ่งโมโห เซี่ยเหลียนเข้ามาประณีประนอมว่าคงเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน ราชครูเองก็ไม่อยากพูดเรื่องนี้อีกจึงบอกว่าพวกเขาจะปรึกษาหาวิธีแก้ไขสถานการณ์ และให้ทั้งสามกลับ แต่ราชครูก็ไม่ลืมเอ่ยว่าราชากับราชินีฝากมาบอกให้เซี่ยเหลียนกลับไปเยี่ยมบ้าง
ที่ตำหนัก เซี่ยเหลียนยืนให้มู่ฉิงช่วยถอดเสื้อผ้าที่ใช้แสดงไปเก็บ ขณะรอให้อีกฝ่ายเอาเสื้อใหม่มาให้เปลี่ยน มู่ฉิงก็สังเกตเห็นรอยเปื้อนรูปมือเล็กๆ บนเสื้อของเซี่ยเหลียน ท่าทางจะเป็นเพราะเด็กชายคนนั้น เซี่ยเหลียนจึงหันไปสอบถามองครักษ์ เฟิงซิ่นบอกว่าเขาไปส่งอีกฝ่ายออกจากราชวัง แต่พอจะดูแผลที่หัวให้ เด็กชายกลับเตะเขาแล้ววิ่งหนีไป แล้วมู่ฉิงก็เอ่ยว่าการที่เสื้อของเทพสกปรกเป็นลางร้าย แต่เซี่ยเหลียนคิดว่าแค่เอาไปซักก็จบ มู่ฉิงจึงตอบเสียงเบาว่าเขาจะซักด้วยความระวัง
เซี่ยเหลียนเอ่ยชมว่าวันนี้มู่ฉิงสู้ได้ดีมาก และแนะนำว่าอีกฝ่ายเหมาะกับดาบโค้ง แม้ตอนแรกคนถูกชมจะดูเครียดแต่สุดท้ายก็ยิ้มอย่างผ่อนคลาย จากนั้นเซี่ยเหลียนจึงโม้การต่อสู้อย่างโอตาคุ แต่แล้วเขาก็พบว่าตุ้มหูไข่มุกปะการังสีแดงของตัวเองหายไปข้างหนึ่ง เฟิงซิ่นเดินหาตรงทางเดิน ส่วนมู่ฉิงหยิบไม้กวาดมากวาดหาตามซอกหลืบ แม้จะไม่ใส่ใจนัก แต่พอเห็นความพยายามของทั้งสอง เซี่ยเหลียนเลยเสนอให้ไปตามคนมาช่วย ทว่าเฟิงซิ่นกลับบอกว่าคนอื่นอาจจะขโมยเก็บไว้เอง พอได้ยินดังนั้นไม้กวาดในมือของมู่ฉิงก็หักเป็น 2 ท่อน คิดว่าเฟิงซิ่นกล่าวหาว่าเขาเป็นคนขโมยไป ทั้งสองทะเลาะกัน แล้วมู่ฉิงก็หันมาว่าเซี่ยเหลียนว่าไม่รักษาสัญญา ก่อนวิ่งจากไปอย่างดรามาควีน
เซี่ยเหลียนรีบตามมู่ฉิง โดยมีเฟิงซิ่นตามมาด้วย เขาอธิบายว่าอีกฝ่ายไปพูดจี้ใจมู่ฉิงเข้า เฟิงซิ่นเลยถามว่ามู่ฉิงเคยขโมยของของเซี่ยเหลียนมาก่อนหรือเปล่า เซี่ยเหลียนปฏิเสธ แต่เฟิงซิ่นไม่เชื่อ และบอกให้เซี่ยเหลียนเล่าเรื่องทั้งหมดให้เขาฟัง เซี่ยเหลียนจึงจำเป็นต้องเล่าว่าตอนที่พวกเขามาที่นี่ครั้งแรก ราชินีซึ่งกลัวว่าลูกชายจะเบื่อจึงส่งของเล่นมาให้ หนึ่งในนั้นคือแผ่นทองคำ แต่ในตอนเตรียมส่งของกลับเขาพบว่ามีแผ่นทองหายไปใบหนึ่ง พอหาไม่เจอจึงไปบอกราชครู อาจารย์ของเขาเลยไล่ค้นห้องทุกคน ตอนนั้นเองมู่ฉิงก็มาสารภาพกับเขาว่าเจอแผ่นทองตกอยู่ในพุ่มไม้ระหว่างไปตักน้ำ แต่เพราะไม่รู้จะทำอย่างไรจึงเก็บมันไว้กับตัว ด้วยความสงสารเกรงว่ามู่ฉิงจะถูกไล่ออก เซี่ยเหลียนจึงออกรับหน้าบอกทุกคนว่าเขาลืมไปเองว่าแผ่นทองหายไปตั้งแต่เขาอยู่ที่ราชวังแล้ว เฟิงซิ่นโกรธที่เซี่ยเหลียนปกป้องอีกฝ่าย อีกทั้งยังไม่พอใจที่ปกปิดเรื่องนี้กับเขาด้วย แต่เซี่ยเหลียนก็อธิบายไปว่าเป็นเพราะเขาสัญญากับมู่ฉิงว่าจะไม่บอกใคร ก่อนสั่งไม่ให้เฟิงซิ่นบอกคนอื่นหรือพูดเรื่องนี้อีก
เฟิงซิ่นสันนิษฐานว่ามู่ฉิงคงเข้าใจผิดว่าที่เขาชอบชวนทะเลาะเป็นเพราะเขารู้เรื่องแผ่นทองคำ ทั้งๆ ที่ความจริงเป็นเพราะเขาไม่ชอบนิสัยชอบคิดเล็กคิดน้อยของอีกฝ่าย เซี่ยเหลียนช่วยแก้ต่างให้มู่ฉิงว่าเป็นความผิดครั้งแรก แถมฝ่ายนั้นก็สัญญาแล้วว่าจะไม่ทำอีกจึงควรให้โอกาส แต่เฟิงซิ่นก็ยังตั้งประเด็นขึ้นอีกว่ามู่ฉิงจงใจไปส่งข่าวตอนราชครูตั้งวงไพ่เพื่อทำให้ทุกคนต้องเดือดร้อน ถึงจะคิดเหมือนกัน แต่เซี่ยเหลียนก็พอเข้าใจความรู้สึกของมู่ฉิงที่อยากเอาคืนทุกคนเบาๆ แม้เขาจะใช้มู่ฉิงทำงานบ่อยๆ เพื่อให้ทุกคนรู้ว่าคนๆ นี้เป็นคนของเขา ทว่าแทนที่คนอื่นจะเกรงใจ กลับกลายเป็นการเพิ่มโอกาสให้คนอื่นรังแกมู่ฉิงแทน เซี่ยเหลียนจึงแอบรู้สึกผิดต่ออีกฝ่ายอยู่บ้าง แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่อยากปล่อยให้เพชรน้ำงามมีฝีมือแบบมู่ฉิงให้กลายเป็นเพียงก้อนกรวดไร้คนสนใจ
ถึงเฟิงซิ่นจะไม่เห็นดีเห็นงาม แต่เขาก็ไม่ขัดอะไรเจ้านายอีก เซี่ยเหลียนสอบถามถึงมู่ฉิงจากศิษย์ร่วมสำนักที่บังเอิญเจอระหว่างทาง แล้วทั้งสองก็เดินมาถึงป่าต้นเชอร์รี่บนยอดเขาไท่ชาง ซึ่งที่นั่นเองพวกเขาก็ได้เห็นคนที่ตามหากำลังถูกศิษย์ในสำนัก 4 คนรุมบูลลี่อยู่
.
.
.
.
.
กูว่าเผลอๆ บกร.แพงที่อิปกวิ้งๆ ที่คั่นวิ้งๆ นี่แหละ 55555 ไม่ต้องแถมเหี้ยไรแล้วเดี๋ยวราคาแม่งขึ้นอีก แค่นี้กูก็อ่วมแล้วจ้า
ราคาปกติของบกรคือ จำนวนหน้า + 20-30 บาท แต่ปรมจกับชายาคุณธรรม สองเรื่องนี้ราคาปกต่ำกว่าจำนวนหน้า เป็นนิมิตหมายอันดีว่า สนพเริ่มรับฟังเสียงผู้บริโภคบ้าง
สปอยเทียนกวาน อาร์ค 2 ต่อจาก >>968 เทียนกวาน Part.54
.
.
.
.
.
ศิษย์กลุ่มนั้นรุมใส่ร้ายว่ามู่ฉิงว่าเก็บผลไม้ไปคนเดียวเกือบหมดป่า เพราะทุกคนต่างรู้ว่าบ้านของมู่ฉิงยากจน อีกทั้งมารดายังมองไม่ค่อยเห็นจึงต้องอาศัยลูกชายทำงานหาเงิน ก่อนที่พวกเขาจะทำร้ายมู่ฉิง เซี่ยเหลียนก็เข้าไปห้าม ประกาศว่ามู่ฉิงเป็นผู้ติดตามของเขา และเขาเป็นคนสั่งให้อีกฝ่ายมาเก็บผลไม้เอง ลูกศิษย์กลุ่มนั้นจึงรีบขอโทษแล้ววิ่งหนีไป มู่ฉิงไม่ขอบคุณเจ้านาย ทั้งยังถามว่าทำไมชอบโผล่มาในเวลาแบบนี้ แม้เฟิงซิ่นจะไม่พอใจที่อีกฝ่ายพูดจาอย่างนั้น เขาก็ยอมขอโทษว่าที่พูดก่อนหน้านี้ตนไม่ได้หมายถึงอีกฝ่าย เลิกอารมณ์เสียได้แล้ว ได้ยินแบบนั้นเซี่ยเหลียนก็หัวเราะบอกให้ทุกคนลืมเรื่องที่เกิดขึ้นให้หมด และถ้าคราวหน้ามู่ฉิงจะมาเก็บผลไม้ก็อ้างชื่อเขาได้เลย ในที่สุดมู่ฉิงจึงเอ่ยขอบคุณเซี่ยเหลียน
วันต่อมาเซี่ยเหลียนพาเฟิงซิ่น กับมู่ฉิงติดตามกลับไปเยี่ยมราชากับราชินีที่ราชวัง ซึ่งฉีหรงก็ขับรถม้าทองคำมารอรับญาติผู้พี่ที่ตีนเขา แต่ฝีมือขับรถของฉีหรงเลวร้ายมาก เขาบังคับม้าไปชนแผงขายของ และเกือบชนคนในเมืองจนแทบวอดวายกัน แต่ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงที่หมาย เมื่อได้พบลูกชาย ราชินีก็ตัดพ้อว่าเซี่ยเหลียนไม่ค่อยจะกลับมาเยี่ยมหญิงชราคนนี้เลย เซี่ยเหลียนเลยพูดเอาใจไปว่าอีกฝ่ายยังไม่แก่ และมีใบหน้าอ่อนเยาว์ราวอายุรุ่นเดียวกับเขา ราชินียิ้มพอใจ สังเกตว่าลูกชายผายผอมลงจึงตั้งใจจะเลี้ยงอาหารขุน ก่อนที่เธอจะถามเรื่องที่เกิดขึ้นในเทศกาลซ่างหยวน และเซี่ยเหลียนถูกลงโทษหรือไม่ ฉีหรงจึงเอ่ยแทรกว่าคนที่สมควรถูกลงโทษคือเด็กชายที่หล่นจากกำแพงคนนั้นต่างหาก
เซี่ยเหลียนจึงแนะนำมู่ฉิงให้มารดา และบอกว่าอีกฝ่ายคือคนที่แสดงเป็นผีร้าย พอรู้เช่นนั้นฉีหรงก็เอาถ้วยชาปาใส่ แต่เซี่ยเหลียนซัดแขนขอญาติผู้น้องไว้ทันแล้วส่งอีกฝ่ายไปให้เฟิงซิ่นจับตัวไว้ เขาหันไปบอกแม่ให้ยึดรถม้าของฉีหรง พร้อมเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างทางให้ฟัง ฉีหรงไม่พอใจมาก เขาสะบัดมือออกจากการจับกุมแล้ววิ่งจากไป ราชินีบอกว่าไว้ตนจะคุยกับหลานให้ แต่ก็อธิบายว่าที่ฉีหรงอยากได้รถม้าก็เป็นเพราะอยากใช้มันไปรับเซี่ยเหลียนกลับบ้าน
เย็นวันนั้นเซี่ยเหลียนบอกลาราชากับราชินี เป็นที่รู้กันว่าตั้งแต่เข้าสู่หนทางการบำเพ็ญเพียรองค์ชายรัชาทายาทก็กลับมาเยี่ยมทั้งคู่น้อยลงเรื่อยๆ เขาตามมู่ฉิงกลับไปหาแม่ที่บ้าน พอเห็นเด็กๆ แถวนั้นเข้ามาเกาะ เรียกมู่ฉิงว่าเกอเกอด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม มู่ฉิงไม่ได้ใช้น้ำเสียงเย็นชาเช่นปรกติ แถมยังแบ่งผลไม้ให้พวกเด็กๆ ก็ทำให้ให้เซี่ยเหลียนกับเฟิงซิ่นรู้สึกแปลกใจไม่น้อย ตอนที่เขากำลังหาว่าตัวเองมีอะไรพอให้เด็กๆ ก็มีเสียงฝูงชนกรีดร้องจึงได้รู้ว่าฉีหรงขับรถม้าออกมาสร้างความวุ่นวายอีก ในครั้งนี้เขายังผูกกระสอบเปื้อนเลือดไว้ที่หลังรถม้าด้วย พอเห็นกระสอบขยับเขาจึงรู้ว่าข้างในนั้นมีคนอยู่
เฟิงซิ่นไปหยุดม้าตามคำสั่ง ส่วนเซี่ยเหลียนวิ่งไปตัดเชือกที่ผูกกระสอบไว้ เมื่อเปิดออกก็พบว่าข้างในคือเด็กชายคนหนึ่ง นอกจากการบาดเจ็บจากการถูกลากแล้ว ร่างนั้นยังเต็มไปด้วยรอยเท้าราวถูกคนกระทืบมาก่อน เขาสั่งให้เฟิงซิ่นจับตัวฉีหรงไว้ เมื่อเซี่ยเหลียนถามอาการของเด็กชาย อีกฝ่ายก็เงยหน้าขึ้นมองเขา เอามือปิดหน้าข้างหนึ่งราวกับไม่อยากให้เซี่ยเหลียนเห็น ตอนนั้นเองฉีหรงก็บอกว่านั่นคือเด็กชายที่หล่นจากกำแพงในตอนนั้น เขาจึงล้างแค้นให้ญาติผู้พี่ เซี่ยเหลียนด่าและสั่งไม่ให้อีกฝ่ายยุ่งกับเด็กคนนี้อีก แต่ดูเหมือนฉีหรงก็ไม่ยอมเข้าใจอยู่ดีว่าตนทำผิด
เซี่ยเหลียนลูบหลังปลอบเด็กชายที่ซุกหน้ากับอกของเขา บอกว่าจะพาไปหาหมอ ภาพที่เห็นทำให้ฉีหรงโกรธมาก เขาพุ่งเข้าไปหมายจิกหัวของเด็กชาย เมื่อเฟิงซิ่นเห็นอย่างนั้นจึงรีบเตะแขนของฉีหรงเพื่อหยุดไว้ ส่งผลให้แขนของอีกฝ่ายหักโดยไม่ได้ตั้งใจ และการที่ข้าราชบริพารทำร้ายเชื้อพระวงศ์ก็เป็นเรื่องใหญ่มาก
.
.
.
.
.
>>975 โอ้โห น้องฉีหรง น้องมีความโรคจิตอ่ะ คือเหมือนบูชาเซี่ยเหลียนจนแบบใครก็ห้ามเข้าใกล้ มีความหวง เกิดเรื่องอะไรก็คือคนอื่นผิด ท่านพี่เตี้ยนเซี่ยไม่ผิด เข้าใจเลยว่าทำไมพอเซียนเล่อล่มสลายแล้วถึงได้เกลียดเซี่ยเหลียนขนาดนั้น เหมือรผิดหวังในตัวไอดอลอ่ะ รักแรงเกลียดแรงจริงๆ ส่วนฟาฟาตอนเด็กคือแบบ แงงงงง น้อนครับบบบ อยากอุ้มมากอดปลอบ อุ้มมาหอมหัว น้องไม่ควรโดนอะไรแบบนี้ ฮืออออ ขอบคุณสำหรับสปอยเหมือนเดิมนะเพื่อนโม่ง
กูพึ่งเลิกงานเปิดมาเจอสปอยมึง 5555 มาดึกเหมียนเดิม ขอบใจจ้าา
กุสายอ่าน ของสะสมไม่สนใจ กุเน้นแปลครบ แปลดีก็พอใจแล้ว ส่วนของแถมจะห่าเหวไรก็แค่ของแถม ไม่มีส่วนในการตัดสินใจซื้อหนังสือของกุ
กูว่า ความจริงสนพ.ควรแจ้งกำหนดการคร่าวๆเนอะ ว่าจะออกทุกกี่เดือนไรงี้ บางคนบอกว่าแฮร์รี่รอปีละเล่มก็รอมาแล้ว กูไม่เห็นด้วยว่ะ เพราะเจเคเขาเขียนยังไม่จบ แต่นี่เขียนจบแล้วรอแค่แปล ตอนนี้เหมือนรอเรื่อยๆ เลยว่ะ
>>984 เออ อันนี้แอบเห็นด้วย คือกูก็รอได้นะ แต่ก็อย่างที่ว่าอ่ะ อย่างน้อยถ้ากำหนดเวลาคร่าวๆให้ได้ก็คงดี เผื่อว่าคนอยากรอเก็บยกเซ็ททีเดียว หรืออยากจะซื้อแยกทีละเล่มจะได้ตัดสินใจได้ อันนี้เหมือนซื้อทีละเล่มแล้วก็รอต่อไปแบบไม่มีปลายทางอ่ะ จนกูก็แอบคิดนะว่าเขาแปลงานกันแบบมีเดดไลน์มั้ยวะ หรือว่าเรื่อยๆไปเรื่อยๆ เสร็จก็ปล่อย ไม่เสร็จก็รอกันต่อไป
กูว่าที่ไม่กำหนดเพราะมันมีเหตุขัดข้องได้ตลอดว่ะ สนพเกือบทุกที่ก็ไม่มีกำหนด มีแต่พวกเปิดพรีซึ่งบางที่ก็เลื่อนจนกูอยากแจ้งความ เวนเอ้ย กูไม่เทียบกับแฮร์รีแต่เทียบกับนิยายทั่วไป เช่นนานมี เซ็นชู เด็กส์ แต่ละเรื่องต้นฉบับนำไปไกลก็ออกกันปีละเล่มสองเล่ม ไม่ใช่แฮร์รีเป็นกรณีพิเศษที่รอกันข้ามปี นิยายปกติรอกันนานอยู่แล้วถ้าจะเอาเรื่องนี้มาเทียบก็เทียบกับวายด้วยกัน ที่ออกก็มีพวกโรสกับอวว ซึ่งใช้เวลาประมาณสามเดือน บกรก็ออกช้ากว่าวายทั่วไปจริง แต่แต่ละเรื่องที่ออกก็ไม่มีใครตามจิกตั้งแต่ได้ลิขสิทธิ์ อาจแปลตุนก่อนแล้วค่อยๆดำเนินการก็ได้
>>986 กูว่ามีเดดไลน์นะ เทียบกับเรื่องอื่นของสนพนี้ก็ออกเรทประมาณนี้อยู่แล้ว
กูมองว่าบกรรอนานกว่าปกติจริง แต่ก็ไม่นานขนาดนั้นเพราะกูเสพนิยายแปลที่ไม่ใช่วายเยอะ อัตรานี้เร็วกว่าปกติที่กูรอ และไม่ค่อยอยากเร่งเท่าไหร่หลังการ์เดี้ยนกูโดนโรคเร่งจนกลายเป็นอะไรก็ไม่รู้ นั่นขนาดสนพใหญ่ของตลาดหนังสือไทยอ่ะ หนังสือซื้อทีอ่านได้อีกนานไม่อยากได้ของแปลพลาดเพราะต้องการเอาใจตลาดแป๊บๆ เหอะๆ กูยังโกรธการ์เดี้ยนไม่หาย ตอนแรกอุตส่าดีใจที่อววได้
กุสายสะสม ขอบ่นบ้างคือกุนอกจากแปลครบแปลดีหนังสือกริบ กุดูที่ความใส่ใจด้วย เหมือนทางเวียตเกา เค้าทำหาเงินล่ะ แต่เค้าดูทุ่มเพราะรู้ว่ามีแฟนๆรอเรื่องนี้เยอะ อันนี้คหกุนะ เพราะกุรักเรื่องนี้เป็นพิเศษ แต่คงไม่ไปโวยวายสนพนะ ใครสายหนังสือก็คงไม่คิดอะไรอยู่แล้ว แต่สำหรับสายสะสมมองไม่เห็นสิ่งที่ให้ความพิเศษกับเรื่องนี้จริงๆ
ถ้าทำของสะสมออกมามันจะทำให้หนังสือแพงจนคนที่จะจองรอบที่มีของแถมในไทยน้อยจนได้ไม่คุ้มทุนหรือเปล่า จะทำของแถมกับหนังสือต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์เพิ่ม แล้วราคาหนังสือในไทยเทียบกับค่าครองชีพมันก็แพง ชห ไม่เข้าใจว่าทำไมหนังสือในไทยมันถึงแพงกันขนาดนี้ ถ้ามาบวกค่าของสะสมไปราคามันจะยิ่งเพิ่ม
>>996 เหอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ กูหัวเราะเป็นภาษาเวียดนามให้แล้วกัน จากใจคนสั่งพรีจากเวียดนาม หนังสือบอบบางมากกกกกก รูปเล่มตำหนิเต็มคราบกาวเลอะเทอะ ใช้ของคุณภาพแย่มากเทียบกับหนังสือปกติของไทยเลยไม่ต้องสายวายที่คุณภาพดีจัดให้เคลมกระทั่งตำหนิรอยแมวข่วน ที่โดดเด่นคือตอนขายของแถมเยอะเลยดูอลังแต่ในฐานะสายอ่านที่ชอบหนังสือ ขอหนังสือที่แข็งแรงหยิบจับไปไหนมาไหนได้เถอะ ส่วนของแถมนั่นกูสะสมจริง กูมีเงินเปย์อฟชจีนได้ ทำสินค้าหลักอย่างหนังสือให้ดีก่อน พวกชมเวียดนามอ้างว่าชอบสะสมกูอคติก่อนเลยว่าได้แต่ปากดี ไม่ได้ซื้อจริงถึงไม่รู้ว่าปรมาจารย์ของเวียดนามคุณภาพแย่
กูเคยเห็นคนพูดบ่อยๆว่าเวียดนามเหมือนซื้อของแถมแถมหนังสือ ของแถมเยอะมาก ซึ่งกูว่าจริง คุณภาพหนังสือกากชิบหาย
ปิดมู้
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.