เริ่มที่โปร 1,500 แถมแก๊ก ร้านจับมือกับสนพ.ชุบตัว พวกทำไมกูสงสัยว่าเป็นเจ้าของเดียวกันพวกมึงคิดว่าไง
Last posted
Total of 1000 posts
เริ่มที่โปร 1,500 แถมแก๊ก ร้านจับมือกับสนพ.ชุบตัว พวกทำไมกูสงสัยว่าเป็นเจ้าของเดียวกันพวกมึงคิดว่าไง
แว่วเสียงมีดสับกระทบเขียงมาแต่ไกล ในครัวสำหรับฝึกสอนทำอาหารตกแต่งสไตล์โมเดิร์น เหล่านิสิตชายหญิงภาควิชาคหกรรมศาสตร์กำลังเดินสวนกันบริเวณทางเดินตรงกลางให้วุ่น สองข้างทางคือเคาน์เตอร์บาร์ขนาดย่อมฝั่งละหกเคาน์เตอร์ที่ถูกกั้นเป็นสัดส่วน ในเคาน์เตอร์หมายเลขหนึ่ง เด็กหนุ่มตัวสูงกำลังก้มตัวแล่ปลาอย่างตั้งใจ
เนื้อปลาทับทิมสดทั้งสองด้านถูกแล่ออกจากโครงปลาอย่างประณีต นายเปมทัตในชุดเชฟสีขาวกระดุมดำวางเนื้อปลาลงบนเขียงก่อนจะแบ่งเป็นหกส่วนเท่าๆ กัน เขาหยิบผ้าเช็ดมือสีขาวออกมาจากผ้ากันเปื้อนสีดำแบบครึ่งตัวที่สวมอยู่เพื่อเช็ดมือ รอจนน้ำมันในกระทะร้อนได้ที่เด็กหนุ่มก็หย่อนโครงปลาลงไปจนเกิดเสียง มือหนาจับตะหลิวพลิกโครงปลาอย่างชำนาญ พักกระทะไว้ ก่อนจะหันมาเทแป้งสาลีใส่ถุงร้อนปริมาณหนึ่งในสี่ของถุง
“เปรมจ๋า ข้าวสุกแล้วนะ”
เปมทัตหันไปพยักหน้า เส้นผมสีดำประบ่าถูกรวบเก็บเข้าไปในหมวกเชฟสีขาวเผยให้เห็นใบหน้าหล่อเหลาที่ขึ้นเงาเพราะอยู่หน้าเตาเป็นเวลานาน “ไอมาทำปลาคลุกแป้งที เดี๋ยวเค้าไปเอากะทิ” เด็กหนุ่มหย่อนเนื้อปลาทับทิมสองชิ้นลงถุงไป ใช้นิ้วปิดปากถุงไว้ เขย่าให้ดูแล้วพูดว่า “ทำแบบนี้นะ”
ไอริณขานรับ เด็กสาวอยู่ในชุดเชฟแบบเดียวกับพาร์ทเนอร์ เธอเห็นเพื่อนหันไปมองโครงปลาในกระทะจึงพูดว่า “เดี๋ยวไอเอาขึ้นให้เอง เปรมไปทำต้มข่าไก่เถอะ”
เปมทัตเดินออกมาจากเคาน์เตอร์ เครื่องปรุงทั้งหมดวางอยู่บนรถเข็นแสตนเลสหน้าห้อง เขาตวงกะทิตามปริมาณที่ต้องการ แบ่งเครื่องปรุงที่จำเป็นใส่ถ้วยเล็ก ก่อนจะเรียงทุกอย่างลงบนถาดแล้วถือกลับเข้ามา โดยไม่ลืมที่จะหยุดหน้าเคาน์เตอร์ตัวเองเพื่อหยิบเนื้อไก่ ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูดและวัตถุดิบอื่นๆ ที่ต้องใช้มาจากโต๊ะยาวกลางห้องด้วย
“เอ้าห้าโมงกว่าแล้วนะเด็กๆ เร่งมือเข้า” อาจารย์สาวประจำวิชาเดินตบมือเข้ามาเรียกความสนใจ “วันนี้เคาน์เตอร์หมายเลขหนึ่งเป็นเวรเก็บกวาดใช่ไหม ทำเสร็จแล้วมาเช็ดรถเข็นกับเอาผ้าขี้ริ้วไปต้มด้วยนะลูก”
“ค่า” ไอริณขานรับ เธอคลุกเนื้อปลากับแป้งเสร็จแล้ว กำลังเตรียมทอด
เปรมพูดว่า “เดี๋ยวเค้าจัดการต้มข่าไก่เอง ไอริณทำปลาสามรสไปนะ” เด็กสาวหันขวับ เธอพูดตาถลน “ไอทอดปลาให้ได้ แต่น้ำจิ้มสามรสเปรมทำนะ!”
เปรมทำท่าจะท้วง แต่พอเห็นสายตาอ้อนวอนจากอีกฝ่ายเขาก็ยอมพยักหน้าให้
“เย้! เค้าอยากกินปลาสามรสฝีมือเปรมมานานแล้ว” ไอริณร้องอย่างร่าเริง เปรมล้างตะไคร้กับข่าพลางพยักหน้าหงึกหงัก เมื่อเด็กสาวหันไปทอดปลาต่อ เขาก็เอาผักมาสะเด็ดน้ำแล้วเริ่มทุบตะไคร้ก่อนจะหั่นเฉียง มือหนาหั่นข่าเป็นแว่น ฉีกใบมะกรูด ตามด้วยนำหางกะทิใส่หม้อ ขึ้นตั้งเตาที่ไฟแรงปานกลาง
ไอริณทอดปลาเสร็จแล้ว เด็กสาวช่วยหั่นไก่เป็นชิ้นพอดีคำระหว่างรอเปรมทำน้ำจิ้มสามรส
“หม้อเดือดได้ที่แล้ว ไอใส่เครื่องได้เลย แต่อย่าเพิ่งใส่ไก่นะ” เปรมกำชับ ไอริณทำตามอย่างว่าง่าย เด็กหนุ่มเทน้ำจิ้มสามรสที่ปรุงเสร็จใส่ถ้วยแสตนเลส เด็กสาวเดินมายืนข้างกัน
“ให้ไอจัดจานเสิร์ฟแล้วเปรมไปเคี่ยวเถอะ ไอไม่โปรว่ะ” ไอริณพูดเสียงอ่อน เปรมหันไปมอง “ไม่เห็นเป็นไร ใครๆ ก็ทำได้ ไอไม่ลองเคี่ยวดูล่ะ” เด็กสาวส่ายหน้าก่อนจะยิ้มแป้น “ไม่เอาอะ รอกินฝีมือเปรมดีกว่า เปรมทำอร่อย”
เด็กหนุ่มมองแล้วยิ้มตาม เขาเดินไปเคี่ยวต้มข่าในหม้อ ระวังไม่ให้กะทิแตกมัน ช่วงเวลานี้เองที่เปรมได้ยืนนิ่งๆ บ้างเสียที ดวงตาสีนิลกวาดมองรอบตัว เพื่อนๆ เองก็ดูวุ่นวายกับเมนูที่ได้รับไม่แพ้กัน
แต่ละคู่จะได้รับสองเมนูที่แตกต่างกันออกไป เคาน์เตอร์ที่ทำเสร็จก็เริ่มยกอาหารของตัวเองมาวางบนโต๊ะกลางกันบ้างแล้ว ในท้ายชั่วโมงพวกเขาทั้ง 19 คนจะรับประทานอาหารที่แต่ละกลุ่มปรุงร่วมกันเหมือนทุกที
“เฮ้ยไอ้เปรม!” เด็กหนุ่มผมโกรกสีทองเดินมาหา เปรมเรียกชื่อเขา “ไงไอ้ได หมูต้มเค็มถึงไหนแล้วมึง”
ไดนาไมต์ทำหน้าเหยเก “โคตรเค็มอะ ใครแดกหมดมึงมาเอาไตกูไปได้เลย กูให้” เปรมหัวเราะเพื่อนสนิท ก่อนจะชะเง้อหาอีกคน “ครัวไอ้สามทำไรวะ”
“ไอ้สามมันทำไอ้นี่...แกงจืดหมูสับกับไข่พะโล้ แม่งโคตรน่าแดกอะ” ไดนาไมต์ตาวาว เปรมพ่นลมหายใจกลั้วขำ ตอนนี้เขาใส่ไก่ลงไปในหม้อแล้ว เป็นจังหวะที่ไอริณเอาจานปลาทับทิมสามรสที่ตกแต่งสวยงามไปวางเรียบร้อย
เกิดเสียงฝีเท้าตรงทางเดินหน้าห้องครัว เปรมมองลอดมุ้งลวดเหนืออ่างล่างจานของเคาน์เตอร์ตัวเองออกไป พบกลุ่มนิสิตหญิงหน้าตาน่ารักเดินหัวเราะคิกคักเดินผ่านมา ไดนาไมต์ตาวาว “แม่เจ้าโว้ย แจ่มว่ะ คณะไรวะน่ะ”
“ชุดกาวน์ขาวแบบนี้ หมอล่ะมั้ง” เปรมว่า สอดคล้องกับห้องข้างๆ เป็นแลปวิทยาศาสตร์ที่พวกนักเรียนแพทย์ชอบมาเรียนให้เห็นบ่อยๆ ไดนาไมต์ขมวดคิ้ว “หมออะไรไม่เห็นแขวนที่ฟังเสียงหัวใจไว้ที่คอเหมือนในหนังเลย”
“มึงจะให้เขาห้อยเป็นจตุคามเลยรึไงล่ะ ก็แขวนเฉพาะตอนใช้งานมั้ย” เปรมพูดหน้าเหนื่อยๆ เขาเติมเกลือป่นเล็กน้อย ใส่หัวกะทิกับมะเขือเทศแล้วคนให้เข้ากัน
“เปรมจ๋า ใส่มะนาวเลยมั้ย” ไอริณเดินเข้ามา เปรมชิมต้มข่าไก่ด้วยช้อนส่วนตัวโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า “ยังก่อน ใส่เปรี้ยวตอนร้อนๆ เดี๋ยวขม”
ไดนาไมต์ผิวปากหวือก่อนจะส่งยิ้มให้เด็กสาว “ยังไงน้องไอ ครัวนี้มีอะไรกินจ๊ะ”
“ปลาทับทิมสามรสกับต้มข่าไก่ค่ะคุณพี่ อร่อยเหมือนคนทำนะคะพูดเลย” เสียงหวานเจื้อยแจ้ว เปรมสั่นหัวขำๆ เขาปิดเตา เติมน้ำมะนาว พอรู้สึกว่ารสชาติได้ที่แล้วก็โรยหน้าด้วยผักชี จากนั้นจึงตักใส่ชามเตรียมเสิร์ฟ
“มาๆ เดี๋ยวไอจัดจานเอง” ไอริณอาสา เปมทัตถอยฉากให้ เขาเริ่มเก็บล้างภาชนะโดยมีไดนาไมต์ชวนคุยอยู่ข้างๆ
“พวกหมอนี่เรียกหนักน่าดูเลยนะ” เด็กหนุ่มผมทองพูดพลางมองกลุ่มนักเรียนแพทย์ชายที่เดินตาโหลออกไป “ดูดิ แม่งทำแลปกันหน้าซีดเลย เรียนทั้งวันเอาเวลาไหนไปแดกวะน่ะ”
“ใครจะเหมือนสาขาเรา แดกทั้งวันไม่รู้เอาเวลาไหนไปเรียน” เปรมสั่นหัว ไดนาไมต์ยืนกอดอก “กูว่าแลปสาขาเราแม่งจอยสุดละ”
“ห่า แลปแดก”
“พวกมึ้งงงง!” เสียงทุ้มดังขึ้นด้านหลังตามด้วยแขนยาวที่ตวัดรัดคอเพื่อนทั้งสองเข้าอ้อมอกตัวเองเต็มรัก เปรมกับไดนาไมต์ตาเหลือก เด็กหนุ่มผมดำเค้นเสียงเรียกอีกฝ่าย “อะ...ไอ้สาม...พะโล้มึง...”
“เสร็จแล้วเว้ย! เหลือต้มข่ามึงอะเปรม หูยกลิ่นหอมว่ะ” สามสีน้ำลายสอ เขาเป็นเด็กหนุ่มหน้าตาดีที่ตัวสูงที่สุดในสาขา สามสีกดจมูกลงบนหัวของเพื่อนทั้งสองคนละทีอย่างหมันเขี้ยว “หึม พวกมึงนี่...หัวเหม็นฉิบหาย!”
“สัดเอ๊ยใครให้มึงมาดมล่ะโว้!” ไดนาไมต์โวยวาย เขาถอดหมวกเชฟแล้วเลยโดนสามสีหอมเต็มๆ ในขณะที่เปรมได้แต่ยืนปลง โชคดีที่เขายังมีหมวกเชฟคอยคุ้มภัยกบาลน้อยๆ ของตัวเองจากจมูกไอ้สามอยู่ แม้สุดท้ายมันจะโดนแรงกดทับจนแบนติดหัวเขาเลยก็ตาม
“ส่องหมออยู่เหรอพวกมึง” สามสีถามขึ้น เขาปล่อยเพื่อนออกจากแขนแล้ว ไดนาไมต์หันไปตอบ “มึงช้าอะ แจ่มๆ เพิ่งผ่านไปเมื่อกี้เลย เห็นแล้วอยากโดนรักษา”
“ให้เขาฉีดยาเหรอมึง” สามสีแขวะ ไดนาไมต์ยิ้มกริ่ม พูดว่า “กูนี่แหละจะฉีดเขา”
“ตื่นเถอะ กูว่าชาตินี้มึงไม่มีปัญญาได้แตะแม้แต่ขี้เล็บเขาหรอก”
“ทำม้ายยยย” ไดนาไมต์ร้องไห้แบบไม่มีน้ำตา สามสีพูดว่า “พวกหมอแม่งดูสูงส่งสัดอะ จะสวยหล่อเกินมนุษย์มนากันไปเพื่อใครก็ไม่รู้”
“แม่งเข้าถึงยากฉิบหาย ถึงกูไม่ติดหมอก็อยากมีหมอมาติดนะเว้ย” ไดนาไมต์เบ้หน้า ก่อนมันสองคนจะกอดคอกันร้องไห้ เป็นจังหวะที่เปรมล้างอุปกรณ์ทั้งหมดเสร็จพอดี
“แล้วมึงอะเปรม สนใจอยากมีหมอมาติดบ้างมั้ย” สามสีหันมาถาม เปรมหยิบผ้าขึ้นมาเช็ดมือหน้าเหนื่อยๆ “หมอนะมึงไม่ใช่สติกเกอร์”
พูดจบอาจารย์ก็ตบมือเรียกความสนใจ
“เอ้าเด็กๆ ใครเรียบร้อยแล้วมานั่งประจำที่เลยนะ เราจะได้เริ่มสรุปแลปสักที หกโมงกว่าแล้วเดี๋ยวมืด รีบกินจะได้รีบกลับนะ” พวกเปรมได้ยินจึงรีบเข้ามาประจำที่ เมื่ออาจารย์สรุปแลปจบทุกคนก็ลงมือจัดการอาหาร
เสียงอึกทึกคึกโครมดังไปทั่วบริเวณ เหล่านิสิตชายหญิงพูดคุยกันพลางหัวเราะสังสรรค์อย่างสบายใจ เปรมอาศัยจังหวะนี้มาตั้งอ่างแสตนเลสต้มน้ำเตรียมต้มผ้าขี้ริ้วเงียบๆ
“เปมทัตเช็ดรถเข็นยัง” อาจารย์สาวเดินเข้ามาถาม เด็กหนุ่มพยักหน้า “เรียบร้อยแล้วครับอาจารย์ นี่กำลังจะต้มผ้าขี้ริ้ว”
“เหรอ เออ เดี๋ยวอาจารย์มีประชุมนะ พอเสร็จเปมทัตดูเพื่อนออกไปให้หมดแล้วฝากปิดไฟล็อคห้องด้วย กุญแจเอาไปหย่อนไว้ในห้องพักอาจารย์นะ” หล่อนนัดแนะ เปรมพยักหน้ารับ ถามว่า “อาจารย์กินต้มข่ากับปลาผมยัง”
“เออ กินแล้ว” อาจารย์ตอบ เปมทัตยิ้มทะเล้น “เด่อ อร่อยอะดิ”
“งั้นๆ แหละ” หล่อนขึ้นเสียงสูง เป็นอันรู้กันว่าฝีมือเด็กหนุ่มเข้าขั้นอัจฉริยะ รสชาติอาหารของเขาไม่เป็นสองรองใคร แต่เธอไม่อยากชมออกไป เพราะมันกวนตีน
“โห่ อร่อยก็บอก ทำเป็นซึน” นั่น พูดยังไม่ทันขาดคำ
“เออ อร่อยดี ปิดห้องด้วย อาจารย์ไปละ” พูดจบก็เดินถือกระเป๋าออกไป เปรมยกมือไหว้ตามหลัง ก่อนจะหยิบผ้าขี้ริ้วทั้งหมดใส่อ่างแสตนเลสเพื่อต้ม
“กูไปก่อนนะเว้ยไอ้เปรม” พอคนเริ่มสลายตัวกลับ สามสีก็เดินมาทักตรงเคาน์เตอร์ เปรมพยักหน้า “เออ เจอกันพรุ่งนี้”
“แม่งเสียดายต้มข่ามึงว่ะ อร่อยนะ แต่กูอิ่มแล้วอะดิ” เด็กหนุ่มตัวสูงพูดตาละห้อย เปรมหัวเราะ ตอบว่า “กับข้าววันนี้แม่งเยอะไง แดกกันไม่หมดหรอก”
“แล้วมึงทำไงกับที่เหลือวะ” สามสีถาม เปรมกลอกตาอย่างใช้ความคิด ตอบส่งๆ “คงเอาให้หมากินล่ะมั้ง”
“โอ๊ย บุญของหมา” สามสีสัพยอก พูดว่า “เออกูไปจริงๆ ละ กูไม่ได้ช่วยไม่ว่ากูนะมึง มีธุระจริงๆ” เปรมพยักหน้าหงึกหงัก เขามองเพื่อนตัวสูงวิ่งจากไป ตอนนี้คนอื่นๆ เริ่มทยอยเดินออกจากห้องกันบ้างแล้ว หลายคนตะโกน ‘สู้ๆ นะเปรม’ มาให้ ซึ่งเด็กหนุ่มทำได้เพียงขานรับยิ้มๆ เท่านั้น
“เปรมจ๋า แม่โทรตามไอแล้วอะ เปรมปิดห้องคนเดียวได้ใช่มั้ย” เด็กสาวเดินเข้ามาหน้าเศร้า เปรมหันไปมองตาโต “อื้อ ได้ดิ ไอไปก่อนเลย ดึกแล้วอันตรายนะ กลับคนเดียวให้เค้าไปส่งมั้ย”
“ไม่เป็นไร ไอไปกับกู” ไดนาไมต์โผล่มา ไอริณยกมือไหว้ปลกๆ “แอ๊ ขอโทษน้าเปรมมม”
“โอเคๆ ไปกันเหอะ เดี๋ยวเค้าปิดห้องเอง มึงก็ไปพาไอไปดีๆ ล่ะได” เปมทัตกำชับเพื่อน เด็กหนุ่มผมทองยิ้มทะเล้น “อะเครๆ เจอกันพรุ่งนี้นะเพิ่ล”
“เพิ่ลพ่ง เจอกันพรุ่งนี้” เปรมตอบรับ ก่อนทั้งห้องจะเงียบสงบเมื่อเหลือเขาอยู่คนเดียว
ระหว่างต้มผ้าขี้ริ้วเด็กหนุ่มก็คิดหาวิธีจัดการกับต้มข่าไก่ เขาพึมพำว่า “เหลือเยอะซะ เป็นกะทิด้วยอะ บูดแน่เลยเสียดายเหมือนกันแฮะ” สงสัยคงต้องเอาไปให้หมากินจริงๆ ล่ะมั้ง
เด็กหนุ่มไล่เดินล็อคหน้าต่างมาจากหลังห้อง จากนั้นจึงเก็บกวาดโต๊ะกลาง ตอนนั้นเองที่ห้องข้างๆ เกิดเสียงดัง
โคร้ม! เคร้ง!
เปรมสะดุ้ง เขาเงี่ยหูฟัง มั่นใจว่าได้ยินเสียงมาจากแลปวิทยาศาสตร์ห้องข้างๆ ตอนที่กำลังคิดว่าจะทำไม่รู้ไม่เห็นแล้วรีบเก็บกวาดให้เสร็จเร็วๆ อยู่นั่นเอง
กึง! เพล้ง!
พ่อครัวหนุ่มสะดุ้งอีกครั้ง เขากลอกตาไปรอบๆ อย่างชั่งใจ สุดท้ายความอยากรู้ก็ชนะจนทำให้เปมทัตออกมาจากแลปครัวของตัวเอง เด็กหนุ่มเดินไปหยุดอยู่หน้าห้องแลปวิทยาศาสตร์ที่เปิดไฟอยู่ ในมือเขาถือตะหลิวหนึ่งด้าม
ครืด...
เด็กหนุ่มเลื่อนประตูเปิด เขามองด้านในห้องแลปวิทยาศาสตร์ที่ไร้ผู้คนแล้วสูดลมหายใจเต็มปอดคล้ายเรียกสติ
เอาวะ...เป็นไงเป็นกัน!
“ใครน่ะ!” เปรมพุ่งตัวพลางยกตะหลิวชี้ไปข้างหน้า ก่อนจะมีเสียงจิ้งหรีดยามค่ำคืนตอบกลับมา เปรมลดมือลงช้าๆ กล้ามเนื้อเขาคลายโดยอัตโนมัติ นึกปลงตัวเองที่มาทำอะไรน่าอายอยู่แบบนี้
หมับ!
“เหวอ!” แต่ยังไม่ทันได้วางใจเปรมก็โดนแรงปะทะจากด้านหลังชนจนล้มคว่ำ เด็กหนุ่มโงหัวขึ้นมา สะดุ้งเมื่อโดนอะไรบางอย่างสัมผัสลำตัว
มะ...มือ...
เปรมหน้าเสีย แล้วก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงลมหายใจแผ่วๆ อยู่ข้างหู อะไรบางอย่างรัดตัวเขาจนอึดอัด พอตั้งสติได้เปรมถึงรู้ตัวว่ามีคนๆ หนึ่งกำลังทับเขาอยู่
แถมคนๆ นั้นยังตัวใหญ่มากเสียด้วย เปรมพยายามแกะมืออีกฝ่ายออกจากลำตัว เขาส่งเสียง “เฮ้! แกเป็นใครเนี่ย ปล่อยฉันนะโว้ย!” เพราะโดนทับจากด้านหลังเปรมเลยไม่สามารถหันไปมองอีกฝ่ายได้ เด็กหนุ่มสะดุ้งเฮือกยามมือเย็นไล้สัมผัสร่างกายของเขาอย่างจาบจ้วง
“เฮ้ย! ไอ้บ้านี่!” ใบหน้าที่ปรกไปด้วยเส้นผมและหนวดเคราไล้ซุกไปทั่วลำคอของเด็กหนุ่ม เปรมขนลุก ร้องลั่นเมื่อโดนอีกฝ่ายกัดเข้าที่หลังคอ
“โอ๊ย! ฉันเจ็บนะ! นี่...อึ๊ก อย่ากัด...” แขนใหญ่ล็อคเขาไว้แน่น เปรมดิ้นจนหมดแรง เจ็บจนน้ำตาเล็ด ก่อนริมฝีปากร้อนของอีกฝ่ายจะแนบลงข้างหู เปรมสะดุ้ง ได้ยินเสียงทุ้มเป็นครั้งแรก
“หอมจัง...”
เปรมขมวดคิ้ว พยายามย่นคอหนีจมูกโด่งสันที่ไล่หอมเขาเป็นว่าเล่น “หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
“ขอกินหน่อย...”
“ไม่ได้!” เปรมพยายามดันหัวอีกฝ่ายออกสุดแรง “ฉันไม่ใช่ของกินนะ เลิกดมฉันสักทีไอ้นี่ !” เขาโวยวาย เด็กหนุ่มได้ยินเสียงอีกฝ่ายครั้งสุดท้าย
“หิว...”
จ๊อกกกกก...ฟุ่บ! แล้วร่างนั้นก็แน่นิ่งไป
“หา...” เปรมหน้าเหวอ พยายามหันไปหาอีกฝ่ายได้สำเร็จ ตอนนั้นเองที่เขาได้เห็นผู้ชายตัวใหญ่ผมเผ้ารุงรังหนวดเป็นตอเต็มสายตา เด็กหนุ่มลุกขึ้นอย่างทุลักทะเล ชุดกาวน์ที่อีกฝ่ายสวมใส่บอกให้รู้ว่าเป็นทั้งคู่นิสิตเหมือนกัน เปรมเขย่าคนใหญ่ “เฮ้ยนาย...ตื่น!”
“หิวจัง...” เสียงทุ้มนั่นแผ่วหวิว เปมทัตพรูลมหายใจอย่างอ่อนแรง เขาเขย่าตัวอีกฝ่ายอีกที “เดี๋ยวค่อยพูดกัน ที่ห้องข้างๆ มีต้มข่าไก่อยู่ นายเดินไหวไหม”
“อุ้ม...”
“อะไรนะ?”
“อุ้มหน่อย...”
“...”
เปรมใช้เวลาห้านาทีในการ ‘ลาก’ ผู้ชายตัวโตแปลกหน้ามาแลปอาหารที่อยู่ข้างๆ หลังจากจับอีกฝ่ายนั่งเก้าอี้เรียบร้อย เปรมก็เดินไปตักข้าวสวยกับต้มข่าไก่ใส่ชามมาให้ เขาเลื่อนถ้วยกับข้าวหาอีกฝ่ายก่อนจะนั่งลงตรงข้ามกัน
ทันทีที่ได้กลิ่นแกงคนแปลกหน้าในชุดกาวน์ก็คว้าชามไปโซ้ยอย่างหิวโหย ท่าทางมูมมามขัดกับกาวน์สีขาวที่เจ้าตัวสวมใส่ เปรมนั่งมองเงียบๆ จนร่างสูงกินหมดแล้วจึงยื่นชามกลับมาให้เขา
“เอาอีกมั้ย?” เปรมถามตามความเคยชิน เมื่ออีกฝ่ายพยักหน้า เขาก็ไปตักมาให้
รอบสองหมดลงภายในเวลาอันรวดเร็ว อีกฝ่ายยังคงยื่นชามกลับมาให้เขาเงียบๆ
“จะเอาอีกเหรอ?” เปรมหน้าเหยเก กระพริบตาเมื่ออีกฝ่ายพยักหน้า เขาลุกขึ้นไปตักให้ใหม่อีกรอบ
รอบที่สามหมดลงภายในเวลาต่อมา อีกฝ่ายยื่นชามให้เขาเงียบๆ อีกครั้ง เปรมยกมือกุมหน้าผาก ก่อนจะลุกไปยกหม้อต้มข่าไก่กับหม้อหุงข้าวมาตั้งบนโต๊ะดังปึ้ง
“...”
ผู้ชายตัวโตผมรุงรังนิ่งไป มือใหญ่ใช้ช้อนกินคดข้าวด้วยท่าทีเงอะๆ งะๆ เปรมมองท่าทางนั้นแล้วปวดหัว ชิงพูดว่า “จะคดข้าวต้องใช้ทัพพีสิ แบบนี้” ว่าแล้วก็คดให้ดูพร้อมตักแกงให้ด้วยเสร็จสรรพ อีกฝ่ายรับไปกินอย่างหิวโหย จนพอมีแรงแล้วถึงเริ่มพูด
“แกงนี่...ซื้อจากร้านไหน” เสียงทุ้มนั้นเป็นแบบโมโนโทน เปมทัตตอบเรียบๆ “ฉันทำเอง”
“อร่อย”
ตึกตัก...ตึกตัก...
เปรมชะงักอย่างตกใจ โดนอีกฝ่ายชมแค่นี้ทำไมเขาต้องเขินด้วยวะ
“ขอโทษ” เสียงทุ้มเปล่งออกมา เปรมขมวดคิ้ว “เรื่อง?”
“ขอโทษที่กัดนาย ตัวนายมีกลิ่นอาหาร เราก็เลยเผลอไป”
เผลอไปเนี่ยนะ...เปรมมองบน ตอบปัดตัดบท “ช่างมันเหอะ แล้วนี่ทำท่าไหนถึงได้ไปล้มอยู่ในนั้น”
“เรากำลังตัดเซคชั่นใส่สไลด์ส่งอาจารย์ แล้วง่วงนิดหน่อย”
ไม่นิดแล้วมั้ง...เปรมเหงื่อตก พูดว่า “เอาเถอะ กินเสร็จก็รีบกลับบ้านนายไปสักที ฉันจะปิดห้องแล้ว”
“แต่เรายังไม่อิ่มเลยนะ”
“ใจคอนายจะกินให้หมดหม้อเลยรึไงล่ะ” เปรมประชด
“มันอร่อย เราว่าเรากินหมด” คำตอบนั้นทำเปรมนิ่งงันไป แก้มเขาร้อนอย่างไร้สาเหตุ สุดท้ายก็นั่งลงพูดปลงๆ ว่า “นายเนี่ย พูดเรื่องน่าอายได้หน้าตาเฉยเลยนะ”
เปมทัตตักข้าวให้อีกฝ่าย มือหนารับไป เสียงทุ้มถามเขาว่า “นายชื่ออะไร”
“เปรม” เด็กหนุ่มตอบ
“นายเป็นกุ๊กของที่นี่เหรอ”
“จริงๆ เป็นนิสิตอะ” เปรมตอบพลางมองเวลา สองทุ่มกว่าแล้ว ตัวเขาน่ะอยู่หอแถมมีมอเตอร์ไซค์ไม่เป็นไรหรอก แต่หมอนี่จะไม่กลับบ้านกลับช่องรึไง “นายควรรีบกินแล้วรีบกลับบ้านนะ ดึกแล้ว รถตู้หน้าม.หมดสามทุ่มนะ”
“ไม่ต้องห่วง เรามีคนมารับ”
“อ้อ งั้นเหรอ” เปรมเชิดหน้า มองอีกฝ่ายยื่นถ้วยมาให้แล้วขมวดคิ้ว “จะกินก็ตักเองซะบ้างเซ่! เป็นเด็กเรอะ!”
“ตักให้หน่อย”
“ทำไมฉันต้องตักให้นายด้วย!”
“นายเป็นกุ๊ก เราเป็นลูกค้า” คนในชุดกาวน์พูดหน้านิ่งจนเปรมนึกโมโห
“นายยังไม่ได้จ่ายตังค์ฉันเลยสักกะบาทเดียว!”
“เดี๋ยวเราเซ็นเช็คให้”
“คนบ้าที่ไหนเซ็นเช็คซื้อต้มข่าไก่กันบ้างเล่า! ตักเองเดี๋ยวนี้!”
สองสายตาสบกัน ก่อนคนตัวใหญ่จะเป็นฝ่ายตัดพ้อ “ใจร้ายอ่ะ”
“อย่ามาง้องแง้งน่า! ฮึ่ย...เอามานี่” สุดท้ายก็ต้องยอมมันจนได้ ให้ตาย เด็กโข่งชะมัด แล้วอย่ามากินไปมองกันไปแบบนั้นจะได้ไหม ฉันกลัวนะเฟ้ย
“กุ๊ก เราอยากกินปลา”
“ปลาหมดแล้ว”
“ในบ่อหน้าตึกก็มีอะ”
“นั่นมันปลาคาร์ฟ”
“จะกิน...”
“...ไว้ชีวิตมันด้วยเถอะ” เปรมเกาหัว พูดออกมาว่า “วันหลังละกัน ถ้ามาที่แลปจะทำให้กิน”
“จริงเหรอ” เปรมมองใบหน้าที่รกไปด้วยผมกับหนวดและตาวาวๆ ของอีกฝ่ายอย่างละเหี่ยใจ พยักหน้าแกนๆ “เออ”
“เราอยากเรียนทำอาหารบ้าง”
“แถวหน้าม.มีเปิดสอนเยอะแยะ”
“เราจะเรียนกับกุ๊ก”
“หา?” เปรมหน้าเหวอ มองคนพูดอย่างไม่เชื่อหู ดวงตาหลังเส้นผมรุงรังดูจริงจังจนพ่อครัวต้องลอบกลืนน้ำลาย “เงินเรายินดีจ่ายให้ กุ๊กเอาเท่าไหร่ก็ว่ามาเลย”
“ขอปฏิเสธ”
“ทำไมอะ”
เปรมพรูลมหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน พูดว่า “ฉันไม่มีเวลามาดูแลเด็กโข่งอย่างนายหรอกนะ แล้วนายเรียนหมอก็หนักพออยู่แล้ว จะเพิ่มภาระให้ตัวเองทำไม”
“จะเรียน” เสียงนั้นยืนยัน
เปรมคิ้วกระตุก คิดมาตั้งนานแล้ว ไอ้หมอนี่มันสปีชีส์คุณชายฟีทเจอริ่งเด็กโข่งหน้าตายชัดๆ เขาเอามือเท้าโต๊ะ จิกตาพร้อมพูดว่า “นี่พ่อคุณ โตแล้วนะ จะเอาแต่ใจไปถึงไหน”
“ไม่ได้เหรอ...” คนพูดทำตาละห้อย เปรมยกนิ้วชี้หน้า “หยุดเลย! ถึงจะทำสายตาแบบนั้นก็ไม่ช่วยอะไรหรอกนะ!”
“ขอร้อง”
“ฉันบอกว่าไม่ก็คือไม่เด้!”
“เราจะเป็นเด็กดี”
“นายนี่มัน...”
“กุ๊ก...สอนเรานะ”
“...”
เปรมนิ่งไป ให้ตาย ไอ้หมอนี่มันรับมือยากสุดๆ ไปเลย!
“ก็ได้โว้ย!”
“เย่” คนตัวโตชูมือขึ้นพร้อมช้อนส้อมด้วยดวงตาเป็นประกาย แม้อวัยวะบนใบหน้าจะไม่ได้ขยับไปด้วยเลยก็ตาม เปรมสูดลมหายใจ ถามว่า
“นายแน่ใจเหรอที่จะมาเรียนกับฉัน ฝึกโหดนา”
“เราโอเค” เสียงทุ้มตอบกลับมา เปรมหรี่ตา ลอบนวดขมับตัวเองป้อยๆ ไม่วายหันไปกำชับเสียงดุ “นายต้องสัญญาก่อนว่าการเรียนพิเศษกับฉันจะต้องไม่ทำให้นายเสียการเรียน”
“เราสัญญา” ร่างสูงรับคำเป็นมั่นเหมาะ
“ดี ว่าแต่นายชื่ออะไร”
“เราชื่อเท็น” หมอผมรุงรังตอบเสียงโมโนโทน เปรมพยักหน้าหงึกหงักพลางเริ่มเก็บล้างหม้อ พอเห็นสภาพก็อดทึ่งไม่ได้ว่าหมอนี่มันกินหมดจริงๆ ด้วยเว้ย
“กุ๊ก ต้มข่าไก่หม้อนี้กี่บาท”
ร่างสูงพูดพลางควักกระเป๋าตังค์ออกมา เปรมขมวดคิ้ว ตอบส่งๆ ขณะขัดหม้อต้ม “ฟรี”
“แล้วสอนเราเอาเท่าไหร่” เท็นถือแบงค์พันปึกใหญ่ค้างไว้ คิดจะจ่ายค่ามัดจำ
“ฟรี” เปรมตอบเป็นหุ่นยนต์ เท็นมองแผ่นหลังที่เล็กกว่าของตัวเองมากกำลังล้างจานอยู่งกๆ แล้วพูดว่า “มาทำนู่นทำนี่ให้เรา ตังค์ก็ไม่เอาแล้วกุ๊กจะเอาอะไร”
“ตารางเรียนนายก็แล้วกัน” เปรมสวนมา “ฉันจะได้เช็คได้ว่านายไม่ได้โดดเรียนมาหาฉัน”
“ก็ได้อยู่หรอก” เท็นพูดแล้วขมวดคิ้ว “แต่เราไม่อยากติดค้างบุญคุณใคร”
“ก็อย่าไปล้มให้ต้องลากมาอีกละกัน” เปรมเช็ดมือหลังล้างทุกอย่างเสร็จแล้ว เขาเก็บหมวกเชฟใส่กระเป๋า ตอนนั้นเองที่แผ่นหลังชนเข้ากับอกกว้าง พ่อครัวตกใจ เจ้าเด็กโข่งหน้าตายไปยืนอยู่ข้างหลังเขาตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้
“อะ...”
จุ๊บ...
รู้ตัวอีกทีจมูกโด่งสันกับริมฝีปากเอาแต่ใจนั่นก็กดลงมาบนแก้มของนายเปรมเสียแล้ว พ่อครัวยืนตัวชา เหลือกตามองอีกฝ่ายคล้ายกำลังช็อค ในหัวขาวโพลนแต่ยังทันได้ยินอีกฝ่ายพูดว่า
“ค่าอาหารครับ”
ยกที่ 01 >>>/801/2253/
ยกที่ 02 >>>/801/2374/
ยกที่ 03 >>>/801/2498/
ยกที่ 04 >>>/801/2736/
ยกที่ 05 >>>/801/2860/
ยกที่ 06 >>>/801/2956/
ยกที่ 07 >>>/801/3025/
ยกที่ 08 >>>/801/3119/
ยกที่ 09 >>>/801/3197/
ยกที่ 10 >>>/801/3241/
ยกที่ 11 >>>/801/3287/
ยกที่ 12 >>>/801/3381/
ยกที่ 13 >>>/801/3495/
ยกที่ 14 >>>/801/3626/
ยกที่ 15 >>>/801/3705/
ยกที่ 16 >>>/801/3926/
ยกที่ 17 >>>/801/4012/
ยกที่ 18 >>>/801/4097/
ยกที่ 19 >>>/801/4199/
ยกที่ 20 >>>/801/4290/
ยกที่ 21 >>>/801/4406/ **(วาระ ภกด แห่งมู้)**
ยกที่ 22 >>>/801/4451/
ยกที่ 23 >>>/801/4488/
ยกที่ 24 >>>/801/4539/
ยกที่ 25 >>>/801/4606/
ยกที่ 26 >>>/801/4640/
ยกที่ 27 >>>/801/4731/
ยกที่ 28 >>>/801/4832/
ยกที่ 29 >>>/801/4920/
ยกที่ 30 >>>/801/5011/
ยกที่ 31 >>>/801/5115/
ยกที่ 32 >>>/801/5323/ (ชื่อเป็น 31)
ยกที่ 33 >>>/801/5436/
ยกที่ 34 >>>/801/5612/
ยกที่ 35 >>>/801/5704/
ยกที่ 36 >>>/801/5731/
ยกที่ 37 >>>/801/5749/
ยกที่ 38 >>>/801/5764/
ยกที่ 39 >>>/801/5788/
ยกที่ 40 >>>/801/5825/
ยกที่ 41 >>>/801/5887/
ยกที่ 42 >>>/801/5950/
ยกที่ 43 >>>/801/6027/
ยกที่ 44 >>>/801/6071/
ยกที่ 45 >>>/801/6147/ **(วาระตัวร้ายฯแห่งชาติ)**
ยกที่ 46 >>>/801/6179/
ยกที่ 47 >>>/801/6271/
ยกที่ 48 >>>/801/6324/
ยกที่ 49 >>>/801/6410/
ยกที่ 50 >>>/801/6464/
ยกที่ 51 >>>/801/6500/
ยกที่ 52 >>>/801/6538/
ยกที่ 53 >>>/801/6635/
ยกที่ 54 >>>/801/6726/
ยกที่ 55 >>>/801/6822/
ยกที่ 56 >>>/801/6880/
ยกที่ 57 >>>/801/6963/
ยกที่ 58 >>>/801/7058/
ยกที่ 59 >>>/801/7127/
ยกที่ 60 >>>/801/7254/
ยกที่ 61 >>>/801/7760/
ยกที่ 62 >>>/801/8148/
ยกที่ 63 >>>/801/8348/
ยกที่ 64 >>>/801/8452/
ยกที่ 65 >>>/801/9043/
ยกที่ 66 >>>/801/9298/
ยกที่ 67 >>>/801/9901/
ยกที่ 68 >>>/801/10239/
ยกที่ 69 >>>/801/10413/
ยกที่ 70 >>>/801/10725/
ยกที่ 71 >>>/801/10806/
ยกที่ 72 >>>/801/10877/ **(วาระกุ้งม่วง & LGBT+)**
ยกที่ 73 >>>/801/10929/ **(วาระ Minikikaboo)**
ยกที่ 74 >>>/801/10980/
ยกที่ 75 >>>/801/11125/ **(วาระ ละ-ล่ะ)**
ยกที่ 76 >>>/801/11312/
ยกที่ 77 >>>/801/11591/ (ชื่อเป็น 76)
ยกที่ 78 >>>/801/11716/ **(วาระนักเขียนฉลามและแก๊งค์หมาหมู่ของเค้า)
ยกที่ 79 >>>/801/11726/ **(วาระนักเขียนฉลามและแก๊งค์หมาหมู่ของเค้า ภาคสอง)**
ยกที่ 80 >>>/801/11739/
ยกที่ 81 >>>/801/11796/
ยกที่ 82 >>>/801/12157/
ยกที่ 83 >>>/801/12315/
ยกที่ 84 >>>/801/12585/
ยกที่ 85 >>>/801/12792/
Hall of shame
https://docs.google.com/spreadsheets/d/1IXpef-npDJdoj427b04gY6GsDqyJWw38QagqNXVkLik
Hall of shame 2
https://docs.google.com/document/d/1A0T0jr1Kt9mYtcIr4ECK2LRVmaqkCBtpOUYdDwLIb3k/edit?usp=drivesdk27b04gY6GsDqyJWw38QagqNXVkLik
เมิฃว่าอีคนที่มาฟลัดนี่ใคร ตอนนี้ไม่มีใครไปเหยียบตีนมันแต่มีสองคนที่มีโม่งมาแฉว่ามีประเด็นคืออีอ กับอีกตตงจ ที่ทะเลาะกันตอนนี้
กูเดาว่าอีกตตงจ เพราะมันร้อนตัวกลัวคนมานินทาเลยรีบมาฟลัดก่อน ก่อนหน้านี้มันก็มาฟลัดหาตีนให้อี อ โดนขุดมาด่าอยู่เรื่อยๆ
>>9 ผิดมึงไม่ใช่ เกิดเหตุการณ์หยิกหีกันเองในแก๊งค์ คืออีเดือนพรายทะเลาะกับอีเอลต่างหาก แล้วอีฮซน.ก็เหมือนจะเข้าข้างอีเอล เพราะมันป่วนเป็นโรคปสด เอ้ย ป่วยซึมเส้าเลยโอ๋อีเอลมากกว่า เดือนพรายตอนนี้เหมือนโดนแก๊งค์หมาขับออกจากฝูงตามอีรังเจียวไปติดๆ อันฟอลกันวุ่นวายไปหมด
ปกวายเดี๋ยวนี้ชอบเอาปกคู่ตัวละครขึ้นเนอะ
กุเห็นในเฟส ขนาดหนังสือต่าง 1 มิล โปสแถมแต่ละเล่มไม่เท่ากัน (คิดว่าไม่น่าจะต่างถึงซม.นะ) คือ กุอยากบอกว่า ปล่อยวางกันบ้างเถิด😑
ดันนนนนนน
มึงกูสงสัย https://ทวต.com/arriettybb/status/1400684045109907456?s=21
วัฒนธรรมการแก้ต่างให้ตัวละครทั้งที่เค้าไม่ได้ถามนี่มันเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วไปสปอยชาวบ้านเค้าอีก ถามจริง มันปกติเหรอวะ
เคสจิบิสวนสัตว์กุเห็นคนด่าคนวาดว่ามักง่ายแล้วสงสัยว่ะ ของแบบนี้มันน่าจะผิดที่คนบรีฟมากกว่าป่าว นักวาดไม่น่าถือวิสาสะวาดตามแบบอนิเมะเองมั้ย
กุหลาบมีแต่เรื่องพลาด ยังไม่เจอเล่มไหนที่ไม่มีปัญหาเลยช่วงนี้ เคลมนู้นนี่วุ่นวายมากมึง กูผิดไหมที่กูเสียดายทรัพยากรต้นทุนต่างๆที่ต้องมานั่งงมเคลมเนี่ย เสียดายเวลาด้วย บางทีกูตกข่าวกูไม่ทันเคลมแล้วกูก็ต้องผิดหวังซ้ำๆงี้อ่อ นี่เห็นประเด็นเพิ่มว่าชื่อเรื่องปั๊มฟลอยมันแหว่งมันหายอีก โคตรแย่เลยเจอแต่ละอย่าง
>>22 ก็ยังสงสัยว่าสนพ.ถือสิทธิ์อะไรห้ามทำแฟนอาร์ต โดนแหกรอบใหญ่ แถลงก็กำกวมหน่อยๆ มีคนอินบ็อกซ์ไปถามว่าทำแฟนอาร์ตเธรด/แลกกันได้ไหม ตอบไม่อนุญาต/ขอความกรุณาไม่ทำนะคะ งงชิบว่าจะยึดเอาอันไหน หน้าเพจว่าอย่างตอบภายในอีกอย่าง
ใดๆตอนนี้แต่ละสนพ.งานหยาบกันเหลือเกิน เร่งแต่ออกหนังสือกันมา เจอปัญหาแทบทั้งนั้น เง้อ
KY ทำไมเดี๋ยวนี้เขียนนิยายต้องใส่ประเด็นทางสังคมไปด้วยวะ สมมติกูอยากเขียนให้นายเอกนั่งรถเมล์ไปทำงานเฉยๆแต่ต้องมาฉอดการเมืองว่าเพราะว่าร้าบานมันห่วยรถเมล์ไทยเลยไม่พัฒนา บลาๆๆ
ขอแทรกแป๊ป กูเจอนักเขียนมาตัดพ้อคนอ่านที่เม้นต์ด่าตัวละครว่ะ งงใจมาก ไม่เม้นต์ก็เฟล เม้นต์ทวงก็เฟล เม้นต์แก้คำผิดก็นอย ติเนื้อเรื่องก็ดิ่ง ด่าตัวละครก็ไม่ได้ คือต้องการอพไรวะ ต้องการเม้นต์ชมอย่างเดียวเหรอวะ ไม่คิดรับฟังคำตำหนิไปปรับปรุงเลยเรอะ บางเม้นต์ที่แคปมาฟ้องลูกหาบกูเห็นไม่เห็นมีอะไรเลยไม่หยาบคายด้วยติเพื่อก่อจริงๆ ไอ้พวกมาแกล้งอะกูแยกออก แต่หลายกรณีคืองงมาก อยากถามว่าจะเอายังไงกันเรอะ
>>28 + บางคนยิ่งแปลกกว่ามึง ทั้งที่ตัวเองเขียนดีมาก ทำให้คนอินเลยด่าตัวละครนั้น ดันโกธรนักอ่านหาว่านักอ่านไม่มีสิทธิมาด่าตัวละครที่ตัวเองเขียน ทั้งที่ไม่รู้อะไร เอ้า ก็คนอ่านมันยังอ่านไม่ถึง อัพก็ยังไม่ถึง มึงเป็นนักเขียนมึงเขียนเองมึงก็รู้ปมดิ มาโว้ยอะไร มันควรดีใจไม่ใช่เรอะว่าตัวเองเขียนดีทำให้คนอินได้ขนาดนี้ งง
>>30 ในฐานะคนชอบอ่านคอมเมนต์นิยายนะ บางทีกูก็แยกไม่ออกนะว่าคนอ่านคนนั้นเขาด่าตัวละคร หรือด่านักเขียน 55555 ถึงจะเมนต์ถึงตัวละครแต่สุดท้ายคนอ่านก็คือนักเขียน ก็ควรใช้คำที่สุภาพและไม่เกรี้ยวกราดเกินไปนะ เราควรพูดดีๆกับคนที่ไม่รู้จักอะ(กูมองว่านักเขียนคือคนที่กูไม่รู้จักอะนะ) เคยเจอคนด่าตัวร้ายนิยายเรื่องนึงแบบ ไอ้ชั่ว หัวค*ยเอ๊ย กูสะดุ้งเลย 5555
>>31 กูเจอนักเขียนแคปมา นอ ด่าประมาณว่านายเอกแบบโง่ ดักดานโดนเขาทำขนาดนี่แล้วยังคิดไม่ได้ พระเอกก็ชั่วเห็นแก่ตัวราวๆเนี้ย คำแรงสุดคือโง่กับชั่ว นข ตัดพ้อว่าถึงเขาไม่ดียังไงก็ลูกเรานะคะ ถ้ายังไม่รู้เรื่องราวทั้งหมดอย่าด่าลูกเราเลย
เอ๊าาาาา ใครจะไปรู้เรื่องในหัว นข ได้วะ เนี่ยที่ตรูงง คือจนกว่าจะเขียนจบลงจบต้องการแค่ สู้ๆนะคะ จะรอติดตามนะคะ เอาแต่เม้นต์แบบนี้จริงๆเหรอวะ
ชวนคุย พอดีกุเพิ่งไปตามดราม่าห่อนส.ในทวิตมา มีหลายคนมากที่คิดว่าแค่กระดาษลังดามก็เพียงพอ คือ กุเจอมาแล้ว ไปรฯบ้านเรา(ทุกยี่ห้อ)คือไม่ได้มีความคิดจะพัฒนาขั้นตอนหรือมาตรฐานการลำเลียงให้มันปลอดภัยขึ้นเลยมึง มันโยนโบ๊ะบ๊ะ กล่อง 5 ชั้นยังบุบได้ แล้วแค่ลังดามชั้นเดียวมันจะไปรอดได้ยังไง คือกุเจอมาแล้วแหละ เลยกล้าบอกได้ว่าหนายังไงก็มีโอกาศไม่รอดเสมอ แค่รอแจคพอตเท่านั้นแหละว่าจะตกกับกล่องไหน
>>33 ต่างประเทศที่ขนส่งดีกว่าเลยส่งแบบนั้นแล้วปลอดภัย แต่ขนส่งที่ไทยมันไม่ใช่โว้ย เห็นล่าสุดมีจะทำกล่องเปเปอร์แพ็ค คือมันดีนะ หนังสือที่กูสั่งจากตปท.ก็ใส่กล่องแบบนี้ แต่ส่งมาไทยแล้วไม่รอดจ้า บุบไปตามระเบียบ ถามว่ามีที่รอดมั้ย มันมีอยู่แล้ว แต่ถ้าเอามาใช้จริงแล้วคนได้รับหนังสือที่ไม่รอดจะทำไง จะให้เคลมมั้ย พูดตรงๆนะถ้าขนส่งดี ใส่แค่กล่องเปล่าๆแล้วมันปลอดภัยใครจะอยากมาห่อหนาๆวะ
>>34 กูสั่งร้านนี้ทีไรได้มุมบุบทุกรอบจนเลิกสั่งละ
เคยได้กระดาษลังดามกูว่ามันดีอยู่นะ แต่คนดามต้องตั้งใจดามหน่อยอ่ะเพราะต้องเล็งให้ตรงไม่ใช่สักแต่จะดาม
คนที่คิดว่าแค่กระดาษลังก็พอน่าจะเจอคนห่อเก่งๆมาอ่ะ อย่างกูตอนเห็นครั้งแรกคือว้าวมาก
คือด่าขนส่งแล้วไม่ได้ผล เลยด่าคนห่อเพราะได้ผลมากกว่า
>>36 ที่กุเจอมันไม่ใช่การกระแทกแบบเกิดเพราะกลิ้งไปมา หรือแบบกระเทาะซอฟท์ๆอ่ะมึง มันคือแรงกระแทกแบบอัดกด บีบเข้าไปในกล่อง กุเจอ 2 แบบ คือ 1 บุบยุบทั้งกล่องและตัวเล่ม กับ 2 อัดกล่องแน่น กล่องแทบไม่มีรอย แต่ข้างในบุบแบบยุบเห็นชัด กุว่าแรงอัดมันต้องหนักพอควรอ่ะมึง เหมือนมึงพันบับหนา 10ชั้น เิาเข้าเครื่องบีบ บับคงไม่ช่วยอะไรว่ะ กุนึกไม่ออกจริงๆว่าแรงประเภทนี้มันจะเอาอะไรมากันไหว จริงๆกุสาปส่งขนส่งนะ มึงหาอุปกรณ์กับวิธีมาช่วยพนักงานขนของหนักดีๆ จะได้ลดความอาฆาตพัสดุของพนักงานมึงได้บ้าง
จากประสบการณ์แพ็คหนังสือ กูกล้าฟันธงเลยว่ากระดาษลังทำให้หนังสือมีโอกาสเสียหายมากขึ้น เพราะตัวกระดาษมันแข็ง โดนกระแทกมันก็ไปกดมุมหนังสือ เทียบกับพันบับอย่างเดียวเจอแรงกระแทกเท่ากันยังมีโอกาสรอดมากกว่า ถ้าอยากใช้กระดาษลังหุ้มจริงต้องพันบับก่อน ซึ่งเปลืองกระดาษชิบหายคงไม่มีใครหาทำ
ดามกระดาษแข็งกระดาษลังนี่อย่าทำเลย เหมือนฮัสกี้เล่ม 1 อะ เอากระดาษแข็งหนาๆดามสมุดเก็บจิบิ ตัวนิยายด้านหลังของกูเยินมาก ยับเป็นรอยขนาดคนไม่คลั่งกริบแบบกูยังสะเทือนใจ
กูเข้าใจว่าคนที่เอาด้ามกระดาษแข็งคงไปเห็นเธรดการส่งหนังสือของญี่ปุ่นมั้ง แต่ญี่ปุ่นกับไทยมันไม่เหมือนกัน 555 ถ้าอัดจนกระดาษแข็งที่ดามไว้หัก หนังสือพินาศยิ่งกว่ามุมยับจากบับเบิ้ลแน่นอน หรือใครอยากจะลอง
เห็นฝรั่งฉอดนิยายที่มีประเด็นอ่อนไหวทางการเมืองแล้วสงสัยว่านิยายวายจีนที่อวยชาติตัวเองนี่รอดมาได้ไงวะ หรือฝรั่งอ่านแต่จีนโบ พวกอวยชาติเลยรอดพ้นจากการฉอด
พอเป็นของที่ชอบมันก็มีข้อยกเว้นได้หมดแหละ เหมือนคนเรียกร้องสิทธิอุยกูร์แต่ใช้รูปโปรไฟล์ป๋อจ้านอ่ะ
จีนโบมันไม่มีชาติแล้วไงมึง มึงจะอวยยุคไหนล่ะแม่งล่มไปหมดแล้ว
มึงเดี๋ยวนี้เราสามารถแนะนำนิยายแปลเถื่อนในทวิตได้โต้งๆแล้วหรอ กุจำได้ว่าตอนมีกระแสคนปิดงานแปลกันเยอะก้เริ่มมาจากในทวิตที่ด่าพวกแปลเถื่อน(แต่ตอนนั้นมีบางแอครับโดเนท)แต่เดี๋ยวนี้กุเหยแคปนิยายชวนกันมาอ่านแปลเถื่อนกันเยอะเลยงงเขาไม่ด่ากันแล้วหรอม
กูงงตรรกะเรื่องลิขสิทธิ์หลายๆคนมากเลย มีคนนึงเป็นเซเลบด้อมนิยายเกา นางแอนตี้แปลเถื่อนของด้อมนางมากเพราะแปลผิดบานเบอะ แต่ตอนมีดราม่านิยายจีนแปลเถื่อนในรอรปิดรัวๆ นางดันอยู่ฝ่ายเคลมว่าแปลเถื่อนช่วยให้นิยายมีกระแสในไทยซะงั้น อิหยังวะ 555555555555
ปกติอ่ะ บางคนด่านิยายวายเถื่อนแต่ดูอนิเมะเถื่อน ซรวายเถื่อน การ์ตูนเถื่อน บางคนสายผลิตวาดการ์ตูนขายแต่แค้ปการ์ตูนวายจากเวปเถื่อนมาป้ายยา เพื่อนๆนักวาดก็เข้าไปหวีดน่าสนุกๆ
ใครจะไปทักต้องมั่นใจว่าแอคใหญ่นะ ไม่งั้นโดนเมิน ไม่ก็โดนฟาดกลับ 555
>>52 จริง กูเห็นเคร่งเรื่องลิขสิทธิ์เป็นหย่อมๆกันทั้งนั้น นักวาดนั่นแหละตัวดี หวงงานตัวเองแต่อ่านสแกนเถื่อนกันเป็นปกติ แล้วนักวาดการ์ตูนเขาไม่ใช่นักวาดรึไงวะถึงไปละเมิดเขาได้น่ะ เป็นนักวาดแท้ๆแทนที่จะเข้าใจเรื่องพวกนี้มากกว่าคนอื่น เพราะอย่างนี้กูเลยไม่ตามนักวาดไทยสักคน
ทวีตที่แนะนำไอดอลยมทูตลบทิ้งไปแล้วเพราะมีคนไปทักว่าของไทยแปลโดยไม่ได้ขอคนแปลอิ๊ง แถมเคยรับโดเนทด้วย
กุเลยเบื่อพวกเซเลปนิยายวายในทวิต ปากก็ด่าปลิงแต่ตัวเองก็ทำตัวปลิง ย้อนแย้งเก่ง และข่มในคนอ่านเถื่อนในเฟส แต่ตัวเองไปอ่านเถื่อนในรอร แล้วเอามารีวิว แล้วพวกนี้แมสง่ายด้วยนะ ดัดจริตดีเนอะสังคม
อยู่ที่ว่าใครขยันหวีด ขยันแท็ก ขยันพูดก็เป็นเซเลบได้นะนะกุว่า
เห็นด้วยว่าความเป็นเซเลบกับความสามารถไม่ได้แปรผันตามกันเสมอไป
พูดเก่ง มั่นหน้า คือคำตอบสุดท้าย
เด็กชอบฟอล
ร้านหนังสือเจ้ไฝมีปัญหาอีกแล้วอ่อวะ รอบก่อนก็ปิดไปทีละปะ ลูกค้าร้องเรียนจนชปแบน ส่วนรอบนี้คือติดต่อร้านกันไม่ได้เลย สักแต่จะขาย บริการหลังการขายไม่มี ได้ของผิดของไม่ครบก็เรื่องของลูกค้าจ้าอย่างนี้หรอ
http://imgur.com/a/O6yTthm แชร์ความเหี้ยของอีเอลจ้า
http://imgur.com/a/O6yTthm แชร์ความเหี้ยของอีเอลจ้า
ว้าย กูก็ว่าอีหมามาฟลัดทำไม พวกเมิงจุดธูปเรียกมันในห้องหมาหมู่นี่เอง จุดธูปในไลน์ จุติในโม่ง อีดอก
คือไม่ใช่โม่งทุกตัวที่อนู่ในห้องหมาอ่ะ มาฟลัดแบบนี้ก็ดีกูจะได้รับส่วนบุล จะได้รู้ว่าพวกเทิงอัพเดตไปถึงไหนแบ้ว
ยินดีกับอีดพด้วยค่าที่ grad แล้ว ขอให้ไปดี ระวังขาด้วยค่า หมามันรอกัดอยู่
Ky มึง กูสงสัยอะในกลุ่มสปอยที่มีคนหนึ่งแจกการ์ดตลอด ถี่มากๆเก็บค่าส่งต่อใบใบละ 30- คือต่อใบนะแล้วคนไปเม้นรับก็คนเดิมๆ นักสะสมกันทั้งนั้นแหละมันเรียกว่าการแจกไหมวะ ทำไมไม่รวบรวมต่อที่อยู่จ่ายครั้งเดียว จะกี่ใบก็เก็บค่าส่งรอบเดียว ปกติกูก็เจอแต่แบบนี้ไง พอเห็นโพสต์คนนี้แล้วกูแบบ เอ๊ะ หรือกูคิดมากไป 😅 คือกูเข้ากลุ่มไปทีไรเจอโพสต์แจกคนนี้ทุกครั้งเลย เลยข้องใจว่าแบบนี้เรียกแจกรึเปล่า เจ้เจ้าของร้าน/เจ้าของสนพ.เคยโดนแอดมินกลุ่มเตือนนะเรื่องเก็บค่าส่ง อย่างกูก็เคยเม้นรับนะ นานๆ คนแจกมาแปะลายใหม่ที ห่างหลายเดือนเก็บค่าส่งแต่ละรอบกูก็พอเข้าใจว่าเขาส่งห่างกันไรงี้
>>72 กูว่าเเบบนี้เเม่งได้หน้า เเละหากินอ้อมๆด้วยนะ กูไม่ค่อยชอบเท่าไร พวกนี้ผลิตไม่เกิน 5 บาท น่าจะสั่งจากจีน เเล้วค่าส่ง ลทบก็ 18 บาทเอง อย่างน้อยๆ ถ้าได้กำไรสักสาทบาท ( หักค่าคอมมิชชัน) มีสิบลาย เท่ากับ สามสิบบาท คนรับร้อยคนรวมๆเฉลี่ย ได้เงินเฉยๆ เป็นพัน เเถมพวกทำๆเห็นเป็นแม่ค้าอีก คือขายเเฝงอะ
กูทำการ์ดใสเป็นสคส.แจกเพื่อนทุกปีใหม่ ต้นทุน 2 บ. ส่งธรรมดา 3 บ. ถถถถ
แจกฟรีคิดค่าส่ง 30 สำหรับกูคือคนทำหวังกำไรแหละ แต่ก็นะ เงินเขาความสุขเขาอะ
>>75 ต้นทุนการ์ดใสมึงต่ำจัง ของกูที่ทำเป็นแบบรองขาว ตกใบละ 13-15฿ ประจำ เคยลองทำงานไทย คุณภาพไม่ค่อยดี กูชอบงานจีนมากกว่า คม เนื้อดี ชอบตรงแผ่นกันรอยด้วย เคยแจกไปรอบหนึ่ง กูคิดค่าส่ง 25-30฿ หักลบกลบหนี้ยังไงก็เข้าเนื้อนะ แต่มันคือความสุข กูอยากให้คนอื่นร่วมหวีดกับกู 55555 แต่แจกไปรอบนั้นคือหมดแรงเลย การนั่งตัดกระดาษแข็ง ห่อบับ ทำกูท้อ กูกะรอพวกอีเว้นงานหนังสือ มีตติ้ง แล้วแจกในงานมากกว่า สบายกู 5555
>>77 กูบวกพวกค่าชิปปิ้งนะ ต้นทุนการ์ดมันใบละ 5-6฿ แล้วเจอค่าส่งสองรอบจีนรอบ ไทยรอบ กูทำน้อยด้วยแหละมั้ง นานๆ ทำที ทำครั้งก็ได้ 1-2 ลาย รวมยังไงก็เกิน 10+ ต่อใบ ส่วนตอนแจก กูอยากลองไงเห็นเขาคิดค่าส่งกัน 25-30฿ เอาวะ อย่างน้อยก็ไม่เข้าเนื้อ แต่เอาจริงค่าอุปกรณ์ ต้นทุนการ์ด ค่าส่ง ค่าเวลา ยังไงก็เข้าเนื้อ จะคุ้มก็แค่คนรับได้หวีดร่วมกับกูนี่แหละ แต่ครั้งนั้นแค่แพ็คใส่ซอง ดามกระดาษลัง ห่อบับเบิ้ล โอ้โห หลังกู 555555 เพี้ยงๆ ขอให้โควิดหาย กูอยากเดินงานหนังสือ กูอยากรวมกลุ่มมีตติ้งทั้งเม้าท์ทั้งแจกของ
กูละขำนักเขียนคนไทยคนหนึ่งเขียนตรงคำแนะนะว่า นิยายทุกเรื่องมีลิขสิทธิ์ รวมถึงเรื่องนี้ด้วยนะจ๊ะ พอถามเจ้าของคนที่นางไปเอาผลงานภาพเขามา เขาตอบกลับว่านางคือขโมย กูละขำฉิบหาย5555555 แล้วแม่งกลัวคนอื่นเอาไปแต่ไม่กลัวที่จะไปเอาของคนอื่นมาเลยหรอวะ
KY
เพราะแบบนี้เด๋วนี้นข.เลยน้อยขึ้นเรื่อยๆรึป่าววะแม่งห้ามทุกอย่าง
>>86 นักเขียนเดี๋ยวนี้ไม่เป็นตัวเองแล้วกุว่า ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะกลัวนิยายจะโดนพวกพิทักษ์สังคมลากไปด่า เพราะไม่สอดแทรกความรู้ ไม่สนับสนุน ต้องขับเคลื่อนปัญหาทุกอย่างในสังคม นข.บางคนดูออกว่าฝืนมากเวลาเขียนประเด็นอะไรสักอย่างลงไปในนิยาย เพราะกลัวโดนหาว่าไม่รับผิดชอบสังคม
>>87 แต่การเขียนทุกอย่างด้วยเติชและแฟนตาซี มันก็จะเหมือนกับผู้ชายเรียนรู้เรื่องเพศจากหนังโป๊อะ (จริงๆผู้หญิงก็มี) แบบคิดง่ายๆว่าแค่เสียบผู้หญิงก็ฟิน ผู้หญิงก็แบบเวลาทำกันแล้วไม่เสร็จไม่เสียวก็ไม่กล้าพูด คิดว่าตัวเองผิดปกติเพราะไปยึดนอร์มจากหนังโป๊ Aka สื่อใกล้มือ
ไม่บอกว่ามันถูกหรือผิด แต่คนเรารับรู้ข้อมูลจากสื่อ และนิยายเป็นสื่อใกล้มือที่หยิบง่ายไม่จำกัดเพศวัย อะไรที่ไม่ใช่หรือไม่ตรงกับความจริง มีคนหยิบมาวิจารณ์ได้ และเขาก็ไม่ได้ห้ามนักเขียนแต่ง แต่งเอาฟินเอาสนุกก็เรื่องของนักเขียน ส่วนการวิพากษ์วิจารณ์เป็นเรื่องของคนอ่าน คนชอบก็ฟินไป คนจะชี้จุดที่เขาว่าไม่ใช่ก็ได้ เหมือนคนดูหนังโป๊แล้วบอกว่ามันไม่ใช่เรื่องจริงทั้งหมดนั่นล่ะ ห้ามมึงเขียนไม่ได้ มึงก็ห้ามเขาพูดไม่ได้เหมือนกัน
และใช่ ถ้าบ้านเราสอนเรื่องเพศถูกต้องทั่วถึง แฟนตาซีก็จะเป็นแค่แฟนตาซีที่ไม่ทำร้ายใคร แต่ความเป็นจริงมันไม่ใช่ไง มันมีคนเลียนแบบหนังโป๊นิยาย18+จริง มันถึงมีคนออกมากระทุ้งเรื่อยๆ
https://www.facebook.com/groups/ybooks4share/permalink/3764915536953609 ป้ามาเอารัย บอกคนในทวิตแคปเม้นไปแบบไม่เห็นชื่อบอกไม่มีมารยาท เค้ายังไม่ได้ด่าไรเลยซักคำ แต่ตัวเองเอามาประจานกลางฟบ.อ่ะนะ ป่ดหัว สมแล้วทิมาจากด้อมปจ.
>>88 ถ้าแค่'วิจารณ์'มันตะเป็สอีกเรื่อง แต่สิ่งที่นักฉอดทำคือบีบบังคับให้ทำตามที่ตัสเองต้องการและลากคอนักเขียน วิจารณ์ด้วยความาุภาพทันก็ทำได้ แค่ไม่ทำ กุขอถามหร่อยว่ามึงได้เห็นตอนนักฉอดเริ่มพูดถึงประเด็นต่างๆในนิยายมั้ยว่ามันเรื้อนกันขนาดนไหน ถึงมีคนไปบอกทาวแก้ต่างๆนาๆแม่งก็ปัดทิ้ง ไม่รับรู้ไม่ฟัง ต้องทำตามอย่างที่มันต้องการ ต้องเป็นแบบนี้ๆๆเท่านั้น แล้วอะไรคือการนิยายต้องถูกตามศีลธรรม เออ ไว้มึงไปฉอดวรรณกรรมเก่าๆด้วยแล้วกันนะ
ไม่ขอรับคนพวกนี้ว่าวิจารณ์นะ ขอเรียกว่าหิวแสง ไม่แมสมันก็ไม่ฉอดกันหรอก
>>89 >>92 +1 นักฉอด aka แอคเห็บส่วนมากเวลาอยากมีบทคือมันไม่เคยมาดดีนะ แต่มันง้างฝ่ามือมาแต่ไกลเลย เอาคำว่าความถูกต้องมาบังหน้าแล้วจิกหัวด่านักเขียน เรื่องแบบนี้มันสามารถถกกันดีๆได้นะ แต่การที่พวกมันพยายามพิทักษ์สัมคมด้วยการจิกหัวคนอื่นออกมาด่านี่กูไม่มองว่ามันคือคำวิจารณ์ แต่เหมือนว่าจะด่าเอาสะใจเพราะนักเขียนทำไม่ถูกใจพวกมัน เหมือนกำลังบีบคอนักเขียนแล้วบอกว่าเนี่ยทำไมมึงไม่เขียนแบบนี้ บทความนั้นอาจจะไม่ถูกใจตัวเองไม่เป็นไปตามที่ประเพณีอันดีง๊ามงามมากกว่า แต่การพิทักสังคมด้วยการด่ากราดนี่นักเขียนควรปล่อยผ่านนะ ปัดตกไปเลย นอกจากจะไม่ได้ประโยชน์แล้วยังบั่นทอนตัวเอง มันเหมือนหมาจรจัดที่เอาแต่เก่าและไล่กวดคนที่เดินผ่านไปมา
>>93 เพิ่มเติมนะ คหสน.กุนะ ถ้านักเขียนติด Tw ยาวเป็นกิโล ล็อกนิยายสำหรับ18+ ก็ยังกระเสือกกระสนหามาอ่าน แล้วยังจะลากหัวนักเขียนไปฉอดเพื่อแลกกับคำอวยของลูกเห็บลูกเหาว่าทำดีแล้วทำดีมาก เรียกพวกมาฉอดมารุมด่ามารุมขุด อันนี้กูไม่โทษนักเขียนนะ แต่กุคิดว่าการศึกษาของคนพวกนั้นน่าจะมีปัญหาแล้วอ่ะ
พระคาถาอาการะวัตตาสูตร
พระพุทธเจ้าทั้งหลาย ๒๘ พระองค์ที่ล่วงไปแล้วก็ดี พระพุทธเจ้าในปัจจุบันก็ดี ได้ทรงกระทำตามกันมาทุกๆพระองค์
พระสูตรนี้เป็นพระสูตรอันใหญ่ยิ่งหาสูตรอื่นมาเปรียบมิได้ ด้วยมีทั้ง พระสูตร พระวินัย พระปรมัตถ์ พระปิฎก
ขอท่านทั้งหลายอย่าได้ทิ้งวางในที่อันไม่สมควรเลย จงทำการสักการะบูชา สวดมนต์ ภาวนา ฟัง ตามสติกำลังด้วยเทอญ
1. อิติปิโสภะคะวา อะระหัง
อิติปิโสภะคะวา สัมมาสัมพุทโธ
อิติปิโสภะคะวา วิชชาจะระณะสัมปันโน
อิติปิโสภะคะวา สุคะโต
อิติปิโสภะคะวา โลกะวิทู
อิติปิโสภะคะวา อะนุตตะโรปุริสะธัมมะสาระถิ
อิติปิโสภะคะวา สัตถาเทวะมะนุสสานัง
อิติปิโสภะคะวา พุทโธ
อิติปิโสภะคะวา ภะคะวาติ
(พุทธะคุณะวัคโค ปะฐะโม)
2. อิติปิโสภะคะวา อะภินิหาระ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโสภะคะวา อุฬารัชฌาสะยะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโสภะคะวา ปะนิธานะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโสภะคะวา มะหากะรุณา ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโสภะคะวา ญาณะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโสภะคะวา ปะโยคะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโสภะคะวา ยุติ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโสภะคะวา ชุติ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโสภะคะวา คัพภะโอกกันติ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโสภะคะวา คัพภะฐิติ ปาระมิสัมปันโน
(อะภินิหาระวัคโค ทุติโย)
3.อิติปิโสภะคะวา คัพภะวุฏฐานะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโสภะคะวา คัพภะมะละวิระหิตะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโสภะคะวา อุตตะมะชาติ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโสภะคะวา คะติ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโสภะคะวา อะภิรูปะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโสภะคะวา สุวัณณะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโสภะคะวา มะหาสิริ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโสภะคะวา อาโรหะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโสภะคะวา ปะรินาหะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโสภะคะวา สุนิฏฐะ ปาระมิสัมปันโน
(คัพภะวุฏฐานะวัคโค ตะติโย)
4. อิติปิโสภะคะวา อะภิสัมโพธิ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโสภะคะวา สีละขันธะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโสภะคะวา สะมาธิขันธะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโสภะคะวา ปัญญาขันธะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโสภะคะวา ทะวัตติงสะมะหาปุริสะลักขะณะ ปาระมิสัมปันโน
(อะภิสัมโพธิวัคโค จะตุฏโฐ)
5. อิติปิโสภะคะวา มะหาปัญญา ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโสภะคะวา ปุถุปัญญา ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโสภะคะวา หาสะปัญญา ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโสภะคะวา ชะวะนะปัญญา ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโสภะคะวา ติกขะปัญญา ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโสภะคะวา ปัญจะจักขุ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโสภะคะวา อัฏฐาระสะพุทธะกะระ ปาระมิสัมปันโน
(มะหาปัญญาวัคโค ปัญจะโม)
เด๋วนี้นข.นิยมโพสอวดจำนวนเงินที่คนโดเนทมาให้เหรอเพราะเท่าที่เห็นแต่ก่อนก็มีคนเปย์ให้เยอะอยู่แล้วนะพึ่งเห็นเอามาโชว์กันช่วงหลังๆ
ใครเพิ่งมาโม่งอยากรู้ว่าทำไมโดนฟลัดบ่อยไปนี่เลย
ยกที่ 78 >>>/801/11716/ **(วาระนักเขียนฉลามและแก๊งค์หมาหมู่ของเค้า)
ยกที่ 79 >>>/801/11726/ **(วาระนักเขียนฉลามและแก๊งค์หมาหมู่ของเค้า ภาคสอง)**
https://docs.google.com/document/d/1o6HQnF3W4HYL41qlsg2iKLCZ7RidC-Vs-Qh1NfCv2do/edit?usp=drivesdk **บัญชีหนังหมาจ้า**
http://imgur.com/a/O6yTthm แชร์ความเหี้ยของอีแม่ฉลามจ้า
>>98 สูตรอาหารยอดนิยม สำหรับวันนี้ขอนำเสนอ อาหารผัดแบบง่ายๆ โดยมีไข่เค็มเป็นตัวชูโรง คือ กุ้งผัดไข่เค็ม ซึ่งเคล็ดลับความอร่อยของอาหารเมนูนี้ คือ วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการทำอาหาร และ การปรุงรสชาติ ต้องได้กุ้งที่สุกพอดี หอมมันไข่เค็ม และ รสชาติพอดี
สูตรกุ้งผัดไข่เค็ม อาหารผัดแบบง่ายๆ ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูไข่
ส่วนผสมสำหรับทำกุ้งผัดไข่เค็ม
กุ้งขาว 15-20 ตัว
ไข่เค็ม 3 ฟอง เลือกใช้เฉพาะไข่แดง
ไข่ไก่ 1 ฟอง แยกเอาเฉพาะไข่ขาว
ต้นหอม 1 ต้น ซอยเป็นทอน
หอมหัวใหญ่ ครึ่งหัว หั่นเป็นท่อนใหญ่หน่อย
พริกหยวก 2 ผล นำมาผ่าครึ่งและหั่น
ซอสน้ำมันหอย 1 ช้อนโต้ะ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
เกลือป่น 1 หยิบมือ
พริกไทยป่น 1 หยิบมือ
แป้งมัน 1 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำเปล่า 1 ช้อนโต้ะ
น้ำมันพืชสำหรับผัด
วิธีทำกุ้งผัดไข่เค็ม
เริ่มจากตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อน จากนั้นใส่ไข่แดงของไข่เค็ม ลงผัดจน โดยผัดจนเนื้อไข่เนียนละเอียด
จากนั้นปรุงรสด้วย น้ำตาลทราย น้ำมันหอย เกลือ และ พริกไทยป่น
จากนั้นใส่ กุ้งลงไปผัด พร้อมด้วย หอมหัวใหญ่ และ พริกหยวกทอด ลงผัดเบาๆ รอจนกุ้งสุก
จากนั้นปิดไฟ ใส่ต้นหอมลงไปผัด เพียงเท่านี้ก็เสร็จ สามารถเสริฟรับประทานได้
เคล็ดลับการทำกุ้งผัดไข่เค็ม
การเลือกกุ้ง ให้เลือกกุ้งขาว ขนาดใหญ่หน่อน โดยการเตรียมกุ้ง ต้องล้างให้สะอาด เอาหัวออก แกะเปลือก ผ่าหลัง และ เอาเส้นที่หลังออก ก่อนนำมาทำอาหาร ให้ล้างให้สะอาดจนน้ำล้างใส
เทคนิคการผัดกุ้ง กุ้งอย่าผัดนานเกินไป เนื่องจากหากกุ้งสุกเกินไปเนื้อกุ้งจะแข็ง ขาดความหวานของเนื้อกุ้ง
เทคนิคหนึ่งสำหรับการทำให้เนื้อกุ้งมีรสชาติ คือ การปรุงรสกุ้ง โดยให้นำเนื้อกุ้งไปหมักก่อน จะได้เนื้อกุ้งที่มีรสชาติอร่อยกว่าเนื้อกุ้งทั่วไป
การเลือกใช้ไข่เค็ม แนะนำให้ใช้ ไข่เค็มไชยา เนื่องขากไข่เค็มขึ้นชื่อ ต้องไข่เค็มไชยา เป็น ไข่เค็มใหม่ รสชาติจะพอดี ไม่เค็มเกินไป
สำหรับการนำกุ้งมาผัด หากอยากเพิ่มความอร่อย สามารถนำกุ้งมาคลุกแป้งและทอดก่อน จะได้กุ้งกรอบๆ โดยน้ำมัน สำหรับทอดกุ้ง ให้เลือกใช้น้ำมันใหม่ ให้น้ำมันท่วมตัวกุ้ง น้ำมันเก่า ห้ามนำมาใช้งาน เนื่องจาก กลิ่นของอาหารเก่า จะทำให้ อาหารเสียรสชาติ
หอมหัวใหญ่ ต้องหั่นให้เนื้อหอมใหญ่หนาหน่อย เวลาผัดสุกจะยังได้เนื้อของหอมหัวใหญ่
ต้นหอม ให้หั่นหนาๆหน่อย โดยก่อนนำลงไปผัดให้ปิดไฟ และ ให้ความร้อนของอาหารในกระทะทำให้ต้นหอมสุกเอง หากนำลงไปผัดโดยกระทะร้อนๆจะทำให้ใบหอมเละ
กุ้งผัดไข่เค็ม สูตรอาหารจากไข่เค็ม แสนอร่อย วิธีทำกุ้งผัดไข่เค็ม ไม่ยากง่ายๆทำกินเองได้ สำหรับคนรักการทำอาหาร และ ชอบกินไข่เค็ม อาหารไทย เมนูผัด ไข่เค็มทำอะไรกินได้บ้าง เคล็ดลับความอร่อย มีอะไรบ้าง
>>100 ใครเพิ่งมาโม่งอยากรู้ว่าทำไมโดนฟลัดบ่อยไปนี่เลย
ยกที่ 78 >>>/801/11716/ **(วาระนักเขียนฉลามและแก๊งค์หมาหมู่ของเค้า)
ยกที่ 79 >>>/801/11726/ **(วาระนักเขียนฉลามและแก๊งค์หมาหมู่ของเค้า ภาคสอง)**
https://docs.google.com/document/d/1o6HQnF3W4HYL41qlsg2iKLCZ7RidC-Vs-Qh1NfCv2do/edit?usp=drivesdk **บัญชีหนังหมาจ้า**
http://imgur.com/a/O6yTthm แชร์ความเหี้ยของอีแม่ฉลามจ้า
>>100 ใครเพิ่งมาโม่งอยากรู้ว่าทำไมโดนฟลัดบ่อยไปนี่เลย
ยกที่ 78 >>>/801/11716/ **(วาระนักเขียนฉลามและแก๊งค์หมาหมู่ของเค้า)
ยกที่ 79 >>>/801/11726/ **(วาระนักเขียนฉลามและแก๊งค์หมาหมู่ของเค้า ภาคสอง)**
https://docs.google.com/document/d/1o6HQnF3W4HYL41qlsg2iKLCZ7RidC-Vs-Qh1NfCv2do/edit?usp=drivesdk **บัญชีหนังหมาจ้า**
http://imgur.com/a/O6yTthm แชร์ความเหี้ยของอีแม่ฉลามจ้า
เห็นมีคนตั้งโพสต์เรื่องแจก(ไม่ฟรี มีค่าส่งต่อใบ) ในกลุ่มแล้ว จริงๆกูโอเคกับการคิดค่าส่ง 30-35 ต่อใบ แต่พอแจกหลายใบ ส่งห่อเดียว คิด 30+30+30+... มันก็อิหยังวะจริงๆแหละ
ลดละเลิกการเก็บการ์ดดีกว่ากู ไว้เจอลายที่ชอบจริงๆ ค่อยรับ
หาแดกกันทุกทาง เวทนา แต่เข้าใจนะ ศก.มันเหี้ยอะ
>>103 เเต่กูงงนะ บางคนบอกว่สเเบกรับต้นทุนไม่ไหว เเล้วทำทำไม ชอบเรื่องนี้จริงๆ หรือทำเป็นกระเเส คือกูเคยเจอแบบเเจกตามงาน เเล้วเเจกคือเเจก หรือบางคนเอาค่าส่งเเบน่ารักๆ ไม่ใช่สามสิบบาทอะ
บางคนบอกว่าทำการ์ดใสกระตุ้นยอดายให้เล่ม ซึ่งจริงเหรอวะ เพราะเเม่งทำเเต่เรื่องดังๆอยู่เเล้ว
เอ้อเพิ่งมานึกออกเรื่องค่าคมชด้วย อย่างที่เคยกูเคยพูดว่ายังไงมันต้องได้กำไร คือเชิงพาณิชย์เเน่ เเต่ย่าจะไปขอค่าคมชเเบบปกติ นี่ได้ทั้งขึ้นทั้งล่องเลยนะ
>>105 แบกรับไม่ไหวก็ไม่ต้องแจกดิ จะยากอะไรวะ 55555 กูก็คลั่งแจก แจกแบบแจกจริง กูติ่งเกาด้วย เวลาไปคอนไปงานมีตก็ทำแจก แจกในงานเลย ในงานหนังสือกูก็แจก พักหลังๆนี่ถึงได้เริ่มแจกแบบส่งไปรฯ ค่าส่ง 30฿ สำหรับกูคือเข้าเนื้อนะ กูไม่นับค่าคมช เพราะถึงไม่ทำแจกกูก็คมช เก็บไว้อยู่แล้ว
ถ้าเรียงค่าใช้จ่ายจริงๆ กูทำการ์ด 100 ใบต่อลาย ชอบงานจีน คุณภาพดีชอบพลาสติกเคลือบบนแผ่นกันรอยกับความที่การ์ดมันหนา ราคาต่อใบรวมพวกชิปปิ้งก็ตก 8-10฿ / ใบละ เพราะกูทำไม่เยอะ (จะทำเยอะหน่อยก็เวลามีคอน สเกลแจกมันจะใหญ่กว่า ทุนต่อใบก็ต่ำลง)
ค่าอุปกรณ์การแพ็ค (ซองจดหมาย / ซองแก้วใส่การ์ด (อันนี้หลายคนอาจจะคิดว่าไม่จำเป็น แต่กูชอบส่วนตัว กูว่าใส่แล้วมันไม่เลอะเก็บง่ายสะอาดตา)) กูให้เต็มที่ 2฿ ต่อการส่ง 1 ครั้ง
ส่วนค่าส่งไปรฯ อย่างถูกสุดก็ลงทะเบียน 16-18฿ ถ้าพวกโปสการ์ด 18฿ อะ
รวมแล้วยังไงก็บวกลบจาก 30฿ ไม่มากอะ สัก 1-2฿ ได้อยู่มั้ง แล้วมันมีต้นทุนยิบย่อยที่ตีราคาเป็นเงินเป๊ะๆ ไม่ได้อีก ค่าเวลาแพ็ค เวลาทำลิสรายชื่อ เวลาเช็คตอบข้อความ ซึ่งถ้ารวมยังไงก็เข้าเนื้อ 55555 แต่ความสุขกูอะกูชอบเวลาเห็นคนหวีดกับกู มาบอกว่าได้รับแล้ว การ์ดน้องๆลายน่ารักมาก มันคุ้มแล้วมึง แต่ใดๆ กูไม่ชอบแพ็ค แค่ใส่ซองแก้วไปแจกในงานก็กินแรงกูแล้ว 555555555 ชอบงานจีนอีกตรงที่บางเจ้าใส่ซองใสมาให้เลย กูโหยหาการรวมกลุ่ม กูอยากหวีด อยากเจอคน!
ส่วนประเด็นที่เกิดขึ้นน่าจะมาจากคนก่อนหน้าที่โม่งคุยกันอยู่แล้วป่าว มันอิหยังจริงตรงค่าส่งต่อใบ จะกี่ใบก็เก็บค่าส่ง x เข้าไป มันบ้าบอจ้า อย่าเรียกว่าแจก เลย ตอนแรกกูยังงงเลยว่าขยันคมช จังวะแจกทุกวีควัคละไม่รู้ตั้งกี่ลาย มาถึงบางอ้อก็ตรงเก็บค่าส่งต่อใบนี่แหละ ชื่อที่อยู่เดียวกันก็คิดต่อใบ! ตอนนี้คนๆนี้ลบโพสในกลุ่มไปหมดแล้ว ทำอะไรรู้แก่ใจดีอยู่แล้วนะกูว่า
วันนี้ม่าเยอะจัง มีคนแหกเจ้าของร้านหนังสือร้านนั้นหน่อยๆที่ว่ารวมหารสแตนดี้เแต่รูปที่หารทำไปจิ๊กเขามา ร้านนี้ไปโพสไว้ไงในโพสม่าแจกการ์ดแต่มีคนไปเม้นว่าได้ขอสิทธิ์นำรูปไปใช้ไหม สงสัยเงิบว่ะ จากตอนแรกมาอย่างกูรูว่าตูรับทำนะ ตอนนี้ลบเม้นตัวเองไปแล้ว
https://twitter.com/omelette_13/status/1407568540715012096 ละจะไม่ให้บ่นเรื่องโดนจำกัดขอบเขตการแต่งนิยายได้ไงวะ นิดก็ด่าหน่อยก็ด่า
>>108 กูไม่ค่อยเข้าทวิตแล้ว เครียดเปล่าๆ สารพัดเรื่อง ยิ่งวงการนิยายวายเข้าไปประสาทจะแดก คือบางครั้งมันก็เป็นรสนิยมไง กูชอบอ่านพระเอกร้ายๆๆ แล้วตอนหลังมันเป็นหมา คือก่อนที่จะไปชี้หน้าด่าใครก็ควรเข้าใจคำว่ารสนิยมของแต่ละคนด้วย คือมันเป็นเรื่องแต่งไม่ใช่เรื่องจริง แต่ละคนฉอดเก่งเกิน แล้วนักเขียนเดี๋ยวนี้ก็ใส่คำเตือนกันทั้งนั้น ไม่ชอบก็กดปิดง่ายๆดี แต่ก็ไม่ได้อีกเพราะเดี๋ยวจะไม่มีคอนเท้นมาฉอดให้คนรีทวิต5555555
>>111 ถูกต้องมึง ตอนแรกไม่ค่อยมีในไทยเพราะมันอยู่ในวงการเกาซะมากกว่า กูเริ่มทำแจกจริงๆ สมัย 10 กว่าปีตอนไปดูคอนที่เกา แล้วแม่ๆ เกาเขาแจกกันหน้างาน พอไปคอนรอบถัดๆ ไปกูเลยเอาไปแลกกับเขาที่หน้างาน บางทีก็ติดขนมไทยไปด้วย ก็ชินกับการเอาของไปแจกหน้าคอน แต่เวลาไปดูคอนที่จีน / ญี่ปุ่น แม่จีนจะแบบรุมๆ เลย ส่วนญี่ปุ่นจะเขินๆ เวลาเดินมารับของก็จะยิ้มหวานๆ ให้ แต่หลังจากนั้นก็อิมพอร์ตมาใช้กับคอนเกาในไทยจนมาถึงทุกวันนี้ ไปคอนไปมีตยังไงก็เจอของแจก แต่ก่อนก็การ์ดใบเล็ก / พัด เดี๋ยวนี้เยอะไปหมด 5555 พักหลังกูเองก็มาเริ่มทำกับนิยายจะบอกว่าเข้ามาในวงการวายจีนได้สัก 5-6 ปีนี้เอง ปกติสิงแต่ในกลุ่มพีเรียดจีนชญ ทำแจกทำแลกมันสนุกนะ แต่กูกลับไม่ค่อยชอบพรีเมี่ยมที่มากับหนังสือว่ะ กูว่าหนังสือคือหนังสือ จะมาเก็บสะสมงานอาร์ตพร้อมหนังสือมันแปลกๆ แยกกันให้ชัดไปเลยดีกว่า
>>113 มากไปยังไง ก็กูเข้าวงการวายจีนได้ 5-6 ปี กูเริ่มซื้อเล่มจริงๆ คือหนี้ดอกท้อ นับยังไงมันก็ 5 ปีแล้วปะ 55555 วายจีนมันเพิ่งมาบูมไม่กี่ปีแต่ไม่ได้นับรวมนี่ว่ากูต้องอ่านมาตั้งแต่ปีไหน ตั้งแต่กูเริ่มอ่านวายจีนนี่ไม่ได้ขึ้นบูธหลักแบบต้องรวมๆ กันวางขายเป็นหนึ่งบูธในงานหนังสือ ย้อนไปอีกหน่อยก็ต้องหลบๆ ซ่อนๆ หาซื้ออ่านด้วยซ้ำ กูว่ามึงอ่านแล้วตีความเร็วไปหน่อย กูเข้าวงการวายจีน ไม่ได้บอกว่าเริ่มทำของแจกตั้งแต่ 5-6 ปีที่แล้วนี่ รึกูเขียนผิดเอง น้อนไปดูแล้ว กูใช้คำว่าพักหลังเริ่มมาทำ แล้วก็บอกแค่ว่ากูเข้าวงการวายจีนมา แต่จริงๆ แล้วพวกการ์ดใสร้านหนังสือทำแจกมาตั้งแต่ยุคหนี้ดอกท้อแล้วนะ โปรฯ แลกซื้อโปรฯ แจก
ออกตัวก่อนว่าไม่ได้จะบอกว่าดีหรือไม่ดีนะ แต่ทำไมติ่งเกาหลีชอบเอาวัฒนธรรมการติ่งแบบเกาหลีไปใช้เวลาไปติ่งอย่างอื่นกันจัง ยังดีด้อมวายจีนไม่ค่อยมีปัญหาเพราะแค่แจกของกันน่ารักๆ แต่บางด้อมนี่เวลาเจอวัฒนธรรมแปลกๆที่ไม่เคยมีมาก่อนทีไรมาจากติ่งเกาหลีก่อนทุกที
>>115 เขาก็แยกถูกแล้วนะ แค่ลืมเว้นวรรค
>>112 แต่กูชอบงานอาร์ตที่มากับหนังสือลิขสิทธิ์นะ สวยถูกใจไหม ยังไงมันก็ออฟฟิเชียลอะมึง ไม่งั้นมันก็แค่งานแฟนอาร์ตทั่วไป งาน คมช ยังไงก็แค่แฟนอาร์ต เป็นลู่ทางทำเงินของนักวาดไปอีก
ก็จริงอยู่ว่าหนังสือคือหนังสือ แต่งานนิยายวายจีนมันเน้นวิชวลพอๆกับพวกไลท์โนเวลญี่ปุ่น มันแยกอาร์ตไม่ได้หรอก จะมาขายอาร์ตภาพสวยแนวจีนโบราณแต่พอไม่มีสตอรี่ว่ามาจากนิยายดัง มันก็ไม่แมสเท่า
ไม่ขอออกความเห็นเรื่องติ่งได้ไหม เพราะวงการมันใหญ่คนมันเยอะ มันก็มีจุดบอดให้เห็นกว่าวงการอื่น วงการหนังสือเองก็โกงก็อัพราคาไม่ใช่น้อย แต่กลุ่มมันปิดมากกว่าเฉยๆ
ไปส่องร้านมาแล้ว ร้านที่เจ้าของชอบตามทุกดราม่านี่หน่า 555 รอบนี้กลับเลือกลบเม้นและเปิดหารสแตนดี้ต่ออย่างสวยๆต่อไป ไม่เชื่อว่าเขาไม่เห็นม่านี้อะเพราะเขาร่วมวงแจมทุกม่าเลย
ร้านไหนเนี่ย ขอคำใบ้เพิ่มที
ร้านลบโพสหารสแตนดี้ออกหมดแล้วทั้งในเฟสส่วนตัวและในเพจร้าน แต่ในแอพชปยังกดสั่งได้อะ 55555 สแตนดี้ลายออฟฯ ในราคา 60+ เงิบกับราคาจริงๆ ปกติกูพรีจากร้านคุณวีสแตนดี้เริ่มตั้งแต่ 250-500฿ เห็นที่ร้านนสทำแล้วแบบ... ปกติกูพรีหนังสือกับเขา กดสั่งในแอพ เพิ่งมาเห็นม่ารอบนี้ตะขิดตะขวงใจ ว่าหมดหนังสือที่ค้างกับเขาแล้วจะหาสั่งกับเจ้าอื่นเอา
กุมาเม้าส์ในนี้ถูกมู้มั้ยวะเนี่่ย วอนเพื่อนโม่งอย่าเพิ่งเตะกุ5555 คือกุงงว่าเด่วนี้เพจใหญ่แบบนี้เขาสามารถแปลข้อมูลแปลบทต่างๆแบบดำน้ำแล้วเอามาลงให้คนอ่านหน้าตาเฉยได้แล้วเรอะวะ ผิดถูกไม่รู้แต่เฟสแอดมินบอกว่าแปลดำน้ำเลยมันก็...55555กุว่าอะไรที่ทำไม่ได้ก็อย่าฝืนดีกว่า
https://www.facebook.คอม/shonen2D/photos/a.288193807952126/3699938356777637/
Ky ช่วงนี้กุเห็นดราม่าโปสนักแสดงฮัสกี้ คือมันคือของแจกโปรโมทจากwetv อีกทีป่ะ สนพแค่รับมาแจกให้เป็นการโปรโมททั้งหนังสือและหนัง คชจ.ในการแจกแพคส่งเป็นของสนพ. ทำไมถึงต้องไปวีนสนพ.ให้เคลม จะเอาสภาพกริบด้วยวะ จริงอยู่ว่าวิธีการห่อมาอาจจะมีปัญหา แต่กุก็ว่าสนพ.พยายามแล้วแต่อาจคิดไม่ถึง ใส่บับอัดหัวท้ายมาคงกะเอามารองไม่ให้กระแทกฝาแบบปรมจ.แต่บับเสือกไปทำให้ยับแทนซะงั้น
>>129 ตั้งแต่ตอนแจกเขาเขียนชัดแล้วว่าไม่รับเคลมทุกกรณี กูแปลกใจมากกกว่าที่มีคนเคลมได้ ถ้าเคลมคนนั้นได้ควรต้องเคลมหมด มันควรใช้มาตราฐานเดียวกันป่าว ถ้าไม่รับเคลมคือไม่รับจริงๆ ไม่ใช่มีคนได้อีกคนไม่ได้ ยังคงงงว่าทำไมคนนั้นเคลมได้อะ ของกูมีมุมหักกับใบนังหมามุมล่างแหว่ง(ขาด) กูไม่กะเคลมอยู่แล้ว ขี้เกียจส่งขี้เกียจตาม เหนื่อย 555 แต่ก็ยังยืนยันว่าควรมาตราฐานเดียวกันนะ
ถ้ากูเป็นคนที่ฟลุ๊คเคลมได้ กูคงเงียบๆว่ะ เอามาโพสต์แบบนี้ ทีนี้คนแห่ไปเคลมแน่นวล ยับมุม ขอบย่น ขอเคลมทุกสิ่งอัน
>>131 กูเห็นหลายคนอ่านรายละเอียดไม่ครบ บวกกับสนพ.ทิ้งช่วงส่งนานด้วยคนไม่รู้ว่าเคลมได้ไม่ได้คงเยอะ คนเคลมก็ไม่ผิดนะมึง ในเมื่อเขาเคลมได้ แต่มันผิดที่กฎกับมาตราฐานป่าววะ กูยืนยันเหมือนเดิม ไม่ให้เคลมคือไม่ให้เลย ไม่ใช่มีคนได้เคลม อีกคนไม่ได้อะมึง กูว่าผิดที่คนให้เคลมนะประเด็นนี้
>>136 เรื่องขยันลงข่าวติ่งต้องยอมรับจริงๆว่าแม่งครอบคลุมมาก เวลากูเสิร์ชด้อมที่ไมเนอร์โคตรๆบางทีไม่เจอผลการค้นหาภาษาไทยเลยยกเว้นเพจนี้ คนจะติดตามเยอะก็ไม่แปลกแหละ แต่เนื้อหาแม่งมั่วจริง 5555555 แอดมินแม่งไม่มีใครแข็งภาษาญี่ปุ่นเลยมั้งนั่น ส่วนพฤติกรรมหิวแสงนี่กุเห็นหนึ่งในแอดมินก็เป็นมาตั้งแต่สมัยอยู่ด้อม k ละ ไม่แปลกใจเลย หลังๆเห็นเริ่มรีวิวนิยายวายจีนก็เร่เอารีวิวตัวเองไปแชร์ตามกลุ่มวายหลายๆกลุ่มด้วย หิวแสงจนกุยอมใจ
แอดมินคนที่อยู่ด้อม k นางเล่นโม่งด้วยนะ นางคุยในกระทู้ k แบบเปิดเผยตัวตนว่าเป็นนาง ไม่รู้ปจบ.ยังเล่นโม่งมั้ย แต่เห็นชอบอ่านวายจีน อาจจะมีมาส่องๆแถวนี้ด้วยก็ได้นะมึง 555555
ky แบบโคตรๆ ไปเจออันนี้มา https://www.facebook.คอม/yunepage/posts/3618144338411294 เห็นแล้วนึกถึงผู้ช่วยสถาปนิกที่เอาเหตุการณ์นี้มาเมคฟัน เฮ้อ
>>142 มึงเอาอันนี้ไปดูนะ https://youtu.be/qRKScRgsUaE เผื่อจะคิดได้ว่าเมคฟันเรื่องรังสีแม่งเลือดเย็นแค่ไหน
ที่น่าสะเทือนใจกว่าคือผู้นำประเทศนึงเมคฟันกับความตายของประชาชนที่เกิดจากการบริหารล้มเหลวของตัวเอง
กูแนะนำนิยายเรื่องไหนเนื้อหาเน้นด่าประเทศสารขัณฑ์ ติดแท็กบอกกูด้วย กูจะได้ไม่เข้าไปอ่าน กูเคารพสิทธิ์นักเขียน เขาอยากเขียนแต่กูไม่ชอบก็เซย์บาย แยกทางไม่อ่านต่อไม่เกิดปัญหา เขาสบายใจกูสบายใจผลลัพธ์วิว-วิว ทั้งสองฝ่าย นักเขียนตัดปัญหาสงครามตอมเม้นเถียงกันแซะกันเรื่องรบ.จากฝ่ายตรงข้าม นักอ่านบางคนก็ไม่รำคาญเพราะรู้แต่แรก อีกอย่างนั่นพื้นที่ส่วนตัวเขากูไม่ก้าวก่าย อยากทำไรทำไปเถอะ แต่ติดบอกกูหน่อย ใช่ว่าทุกคนจะชอบการเมืองไปซะหมด
ปล อย่าอ้างการเมืองเป็นเรื่องของทุกคนแล้วมายัดเยียด ด่ากูไม่มีความรับผิดชอบนะ กูเบื่อประโยคนี้ละ
ปล2 กูเคารพสิทธิ์คนอื่นแน่นนอน แต่คนอื่นที่ว่านั้นต้องเคารพสิทธิ์กูเช่นกัน ไม่ใช่หาข้ออ้างล้านแปดมายัดเยียด
ปล3 กูไม่ได้เป็นทั้งลิ่ม หรือสก.กูแค่ขว้างโลกทุกยุคทุกสมัยเฉยๆ
อันนี้กูบ่นใครไม่อยากฟังข้างไป
.
.
กูเสียใจด้อมนิยายแต่ละด้อมเริ่มเปลี่ยนเป็นด้อมฉอดการเมืองแทน กลุ่มเฟสนิยายบางกลุ่มกูนึกว่าตัวเองเข้าผิด ตอนหลังๆนิไม่มีเนื้อหาเหี้ยไรเกี่ยวกับนิยายเลย กลุ่มเฟสฉอดรบ.ชัดๆ ที่กูเศร้าคือเอาเนื้อเรื่อง ตัวละครมาโยงฉอดรบ.นิแหละ ทั้งที่แม่งไม่เชี่ยไรเกี่ยวข้องกันเลย ตรงๆคือกูกระอักกระอ่วนจะหาคนหวีดเนื้อเรื่องเป็นเพื่อน ตั้งโพสกี่ทีก็ไม่วายโยงแซะเข้าการเมือง จนปัจจุบันชื่อกลุ่มเกี่ยวกับนิยายแต่เนื้อหาคือฉอดรบ. ฮือ กูคิดถึงกลุ่มสมัยก่อนที่มีแต่คนถกเห็นผล วิเคราะห์เนื้อเรื่อง คาดเดาตัวละคร มากกว่ากลุ่มฉอดการเมืองแบบนี้ T T
สอดแทรกมาก็ได้แต่เอาให้เนียน ไม่ใช่อยู่ดีๆตลคลฏขึ้นมาฉอดๆ ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นหาผัวเยๆอย่างเดียว
ก็เหมือนกับพวกที่ชอบใส่ทอร์คยาวๆมาสุดท้าย เล่าแต่เรื่องตัวเอง บ่นนู้นบ่นนี่ ยังดีที่สมัยนี้ไม่มีเยอะ แต่พึ่งกลับมาบูมใส่ทอร์คเรื่องการเมือง คือกูไม่ได้มีปัญหาอะไรมากกับการเมือง แต่มันขัดมู้ด พอคนไม่สนใจทอร์คตอนท้ายก็สร้างทั้งตอนมาบ่นคั่น รำคาญตอนมากดข้ามอีก สาเหตุที่ไม่ชอบอ่านในเว็บเพราะงี้
>>163 ว่าบาป เคยมีคนเทียบเอบีโอแต่ละประเทศนะเว้ย แต่กูจำไม่ได้ละว่าประเทศไร อเมริกากับญี่ปุ่นมั้ง ในขณะที่โอเมก้าประเทศนึงต้องรอคิวนานๆ ต้องหายาระงับฮีตซื้อเอง โอเมก้าอีกประเทศมีครอบคลุมอยู่ในประกันสุขภาพหรืออะไรสักอย่าง การเมืองมั้ยล่ะ555555 แต่ถ้าแบบนี้กูโอเคนะ ดีกว่าท่องๆมาหรือก๊อปทวิตแมสๆมาฉอด
>>163 ต้องทำรีเสิชดีๆ เรื่องระบบสุขภาพ การประเมินเทคโนโลยีด้านสุขภาพ จะดูแค่ที่ประสิทธิภาพดีอย่างเดียวไม่ได้ เพราะงบชาติมีจำกัด ต้องศึกษาความคุ้มค่า อยากได้ยาแพงยาใหม่คนไข้ต้องชำระเงินเองนะ ติดต่อการเงินช่องเบอร์ 1 ค่ะ (แต่วัคซีนโควิดนี่เถียงไม่ได้จริง แพงสุดกากสุด) ถ้าเขียนออกมาให้คนในวงการยอมรับได้กูว่าปัง แต่ถ้ามาฉอดกลวงๆก๊อปวาง ปัดตกอิสัส เหมือนคนเอาแต่ใจ
พวกรีวิวนิยายวายตามยูทูปแม่งมีแต่อวย พวกมึงซักตัวไปทำบ้างดิขอแบบฉอดๆ
กุไถผ่านกรุ๊ปสปอยมีคนมาหานิยายแล้วเล่าเรื่องย่อให้ฟัง กุอ่านเรื่องย่อแล้ว? มาก แอบรักเค้า เค้าไม่รัก แต่เมาได้กัน เลยท้องแล้วหนี กุสตั๊นไปแป๊บว่าดูถูกกลุ่มมั้ย พลอตมันขนบน้ำเน่านิยายชญไทยเหลือเกิน ไถลงมาดูคนรอปักเพียบ เอ่อ น้ำเน่าไม่มีวันตายจริงๆ อวว ต้องติดใหม่แล้วมั้ยที่ไม่เอา mpreg
>>169 หลังๆวายฮิตแนวนี้กันมากจริงๆ ขึ้นอย่างหงส์ลงอย่างหมา นายเอกท้องแล้วหนี หรือมีลูกเล็กๆแล้วหอบลูกหนี ให้พระเอกที่เหี้ยมาทั้งเรื่องตามงอนง้อพร้อมหอนบรู๊ววววเป็นหมา กูเบื่อมากเพราะปกติกูอ่านนิยายชญด้วย เจอพล็อตแบบนี้มาเยอะแล้ว พอวายแม่งฮิตพล็อตแนวนี้อีกกูเลยเซ็งๆ เฮ้อ แต่ก็ทำไรไม่ได้นอกจากทำใจแหละ พล็อตน้ำเน่ามันคงอ่านแล้วบันเทิงสำหรับคนหมู่มากจริงๆ
ชญ.เอาพล็อตมาแปลงเป็นชช.ท้องได้ แปลงแบบก็อปปี้เพสต์แค่ชื่อ ทำแล้วยอดปังระเบิด นักเขียนดังก็ทำกัน กลเกมกานต์เป็นตัวอย่างที่ซัคเซซ หรือบางทีเล่มที่มีอยู่ในมือพวกมึงก็ใช่ บางเรื่องมึงไม่ได้อ่านชญ.แนวตลาดปกฝรั่งหรือปกชีคๆ มึงแทบดูไม่ออกหรอก ยกเว้นเรื่องที่ยกมานั่นเห็นชัดเพราะชื่อตลค.เก่ายังแก้ไม่หมดก็เอามาลง
>>172 ที่กุเศร้าคือพวกมักง่ายแบบนี้ยังมีสนใจเยอะอ่ะ ถ้าแปลงแค่พลอตหลักแล้วแก้บทให้มันเป็นชายบ้างกุยังพอว่า อันนี้แม่งไม่แก้อะไรเลย เป็นผู้แค่เซทติ้ง 1 บรรทัด นอกนั้นท้องได้ ตบกับผู้หญิงแย่งผู้ได้ กรี๊ดน้ำตาแตก งอนน้ำตาหกเป็นว่าเล่นก็มี เพิ่มเติมแค่แปะแท่งตรงหว่างขา(ซึ่งมีรึเปล่าก็ไม่รุ้บางที nc แม่งก็เอามาทั้งดุ้น)
เอาเถอะ กุก็มุดงมหาวายแมนๆในดงวายไทยยากขึ้นอีกหน่อยเท่านั้นเอง
>>179 จากใจกูเลยมึง แม่งชอบรีไรท์ลวกๆ นิสัยผญมา หลุดชื่อหลุดคาร์ ตั้งใจรีไรท์มาแค่ตอนแรกพอติดฮิตแล้วปล่อยเบลอ กูว่าก็ฮิตสำหรับคนไม่เคยอ่านชญหรือไม่ค่อยอ่านแบบ เฮ้ยพล็อตแปลกใหม่สำหรับชช. ก็คนแต่งชช.เข้าไม่แต่งแบบสาวแตกงี้ไง ncด้วย แม่งก็อปมาเพราะคำที่แทนรูแม่งใช้ได้ทั้งรูหน้ารูหลัง
กูเคยบ่นในโม่งนี่แหละว่าวายสมัยนี้แม่งเขียนออกมาไม่ต่างจากชญ ฮิตแต่แนวท้องได้ เขียนฝ่ายรับออกมาเป็นน้องนางแน่งน้อย หาวายที่มีความเป็นเพศชายยากขึ้นมากๆ สรุปมีโม่งอ้างว่าเป็นเกย์บอกว่าเกย์ก็ชอบอ่านแบบนี้ เกย์ก็มีความฝันอยากท้องได้ กูเพลียเลย กูแค่มาบ่นว่ากูไม่ชอบเฉยๆ ไม่ได้ห้ามใครเขียนนิ กูแค่อยากอ่านวายที่มันต่างจากชายหญิงโว้ยไอ้ห่า
>>181 เป็นเพราะประชากรสาววายมือใหม่เยอะขึ้นจากซี่รีย์ป่าววะ ตอนกุเข้าวงการแรกๆก็ชอบสไตล์นั้นอยู่ แต่มานั่งนึกๆไอ้พลอต mpreg แบบบทจะท้องก็ท้องเลยนี่มันก็ฮิตมานานแล้วนิหว่า ความนิยมเหมือนไม่เคยเสื่อม กุยังจำสมัยซี่รีย์ช่างกลเล้าเป็ด(หรือป่าววะ นานจนลืม) เด็กช่างห่ามๆ ถูกจิ้มทีเดียวท้องกันเป็นแถว จิ้มกันจนท้องแทบจะทั้งรร.แระ สาเหตุก็แม่งสไตล์เมนต์บน ร่างกายคนเราอัศจรรย์มากนะครับ - -"
นิยายมันแฟนตาซีได้ แต่กุก็ขอความสมเหตุสมผลในโลกอีกใบนั้นนิดนึงเถอะว่ะ
ไอ้จะแยกmpregกับอมก.เวิสกุเข้าใจนะ แต่พวกชอบอย่างนึงแล้วมายี้อย่างนึงนี่มันยังไงกันวะ 55555555
อมกวแต่ไม่ใช่ mpreg คือไรวะ หรืออมกไม่ใช่ผู้ชาย อมกก็คืออมก อย่ามิสเจนเดอร์
>>188 ตามที่กุเข้าใจคือที่บอกว่า"ไม่ใช่mpreg"มันไม่ได้หมายถึงแค่การที่ผช.ท้องได้=อมกว.
แต่หมายถึงการที่ไม่มีเพศรองต่างๆ=mpreg ในอมก.เวิร์สจะท้องได้คือต้องเป็นโอเมก้า/เบต้าหญิง แต่ในmpregคือผช.ท้องได้>แล้วแต่คน บางคนก็เขียนมห้ผช.บางคนมีจิมิแบบหายากสัดๆๆ บางคนอยู่ดีๆก็ท้องได้
อย่างกุก็ไม่นับรวม แค่ผช.ท้องได้ก็ไม่ใช่อมกว.เพราะองค์ประกอบมันไม่ครบ
>>192 กุลืม ต้องบอกว่า "omgv ที่ผู้ชายท้องได้" เป็นซับเซทของ mpreg สิ
กูเข้าใจว่าจุดหลักของ omgv คือระบบชนชั้นแบบหมาป่า จะท้องไม่ท้อง ท้องยังไงขึ้นกับคนแต่ง omgv ที่ท้องไม่ได้ก็มี เบต้าชายท้องได้ก็มี บางเรื่องอัลฟ่าชถูกซุปเปอร์อัลฟ่าช(จะแกรมม่า เดลต้าอะไรก็แล้วแต่คนเขียนตั้ง) ซั่มแล้วท้องได้ก็ยังมีอีก เพราะมันแล้วแต่คนเขียนจะเซต
นั่นแหละ พูดรวมๆคือmpreg=ผช.ท้องได้ไม่ว่าจะทำได้เพราะเรื่องเหี้ยอะไรก็ตาม
ส่วนอมกว.จะท้องได้ต่อเมื่อมีเพศรอง(ลฟ/บต/อมก)เข้ามาเกี่ยวข้อง
กุก็ยังงงว่ามันจะแข่งกันยี้อีกฝั่งทำไมวะ 555555 แยกกันอ่ะเข้าใจ แต่ไม่เข้าใจว่าจะตีกันทำไม
พวกมึงไปถามสนพ.ก่อนเลย รับแนวโอเมก้าเวิสแต่ไม่รับmpreg แม่งต้องเป็นหมันเหรอวะ5555555
>>199 เหมือนเป็นซับเซตอีกทีของ mpreg
mpreg แบบที่ไม่ได้เกิดมาแล้วท้องได้เลยมีถมเถไป
แบบที่ผู้ชายท้องได้ทุกคนก็มีเหมือนกัน แล้วแต่คนแต่งจะเซตติ้งแบบไหน
ส่วนตัวกูรับ mpreg ได้แม้มันจะเวอร์แต่มันก็นิยาย นิยายที่เวอร์ๆก็มีหลายเรื่อง
ถ้าแต่งออกมาแล้วมันมีเหตุผลตามเซตติ้งของโลกที่แต่งก็ไม่เอ๊ะเท่าไหร่
ปกติกูเวลากูอ่าน mpreg จะเจอแต่พวกแดรกยาแปลกๆแล้วท้อง บางเรื่องอิยานี่จะมาแบบไม่มีเหตุมีผลพอๆกับคนให้เลย เหมือนมาแค่ยัดปากให้นอ.กินแล้วชิงหนีหายไปแบบงงๆจนจบก็ไม่เจอคนให้ยาอีกเลย คือมันมีเหตุผลในการท้องนะ แต่ทำไมอ่านกูรู้สึกว่าบางเรื่องมันใส่มาแบบมักง่ายว่ะ เหมือนอยากแปะป้ายเพิ่มว่าเป็น mpreg ตอนใกล้จบเลยมีคนหายามายัดปากนายเอกให้ท้อง
เพิ่มเติมคือจากนั้นทุกคนจะปกติมากไม่มีใครตกใจสงสัยอะไรทั้งนั้น เหมือนแนวนี้ถ้าวางพล็อตดีคือผ่านฉลุยแต่ถ้าว่าพล็อตพังคือบ้งทั้งเรื่อง
>>202 อันนี้อย่างน้อยยังมียามาเป็นเหตุ(เป็นบ๊งแบบพยายามใส่เหตุผล?ให้แล้วนะ) ไอ้ที่แบบจิ้มกันแล้วป่องเลย สังคมไม่มีใครสงสัย หมอพยาบาลไม่คิดจะจับมาทำวิจัยทั้งๆที่ผู้ทั้งโลกไม่มีใครท้องได้ คุณนายแม่พระเอกเกิดดีใจจะเอาหลานที่ยังไม่รู้จะออกทางไหน
ตัวเอกบ่นเป็นไปไม่ได้กุเป็นผู้ชายนะหนึ่งวันก็ทำใจได้แบกท้องหนีพระเอก อันนี้กุไม่ไหว แบบเมนต์บนๆว่าแหละ คือแบบลอกพลอตชญมาเปลี่ยนคำลงท้ายกับคำแทนตัว บอกคนอ่านอีกประโยคนึงว่าผมผู้ชายนะครับ จากนั้นก็ go! สู่บ่อน้ำเน่าตามขนบชญ.ได้เลย
เอาท้องได้มาใส่โดยไร้เหตุผลเพราะนิยายตัวเองแปลงจากนิยายชญ.มาจะทำยังไงให้ท้องหว่า ขก.รีไรท์แล้ว เอาเป็นโลกใบนี้มันอัศจรรย์ดีนะครับ:)
ต...แต่ลืมรีไรท์นิสัยนายเอก เอาไง ช่างมันเถอะ ติดท็อปแล้วออกเล่มได้
ไม่ใช่เวิร์สไหนทั้งนั้นแหละค่ะ ย้ำ!นายเอกท้องได้เป็นธรรมชาติ (แค่นอนกับพระเอกติดปุ้บ) กูเปล่าพูดถึงเรื่องไหนนะ อุ้ปปปปป
ถ้าหมายถึงนิยายชายหญิงรียูสก็กลเกมกานต์ไง
คือนิยายมันติดท้อปอ่ะ นักเขียนก็ตัวท้อปโคตรแม่ ถึงมึงจะว่านิสัยนายเอกสาวแตกแบบไม่รีไรท์หรือตรรกะบ้งยังไงแฟนคลับก็ไม่ว่าหรอก เขาเต็มใจซื้อ
แต่ที่กูอยากรู้คือคนเขียนกลาง ๆ มากกว่า อันนี้สิดัชนีวัดตลาดที่แท้ทรู จะมีใครช่วยตอบคำถามนี้ของกูในห้องศาลานักเขียนมั้ยวะ TOT
>>211 แบบที่ยอดไม่ได้เปรี้ยงปร้าง พิมพ์กับสนพ.หรือพิมพ์เองแต่ไม่ถึงกับขึ้นท็อปของเม็ป กูแปะลิสต์ให้
https://campaign.mebmarket.com/MebTopVote2020/reward_30.php
เอาว่าพวกที่ไม่ได้อยู่ในลิสต์นี้คือกลางๆละกัน กูรู้ว่ามันเป็นการจำแนกแบบหยาบ แต่เห็นในห้องนักเขียนยกตัวอย่างตัวท็อปมาแล้วมันอ้างอิงไม่ค่อยได้เพราะฐานคนอ่านแน่นกันอยู่แล้ว
ไม่ใช่แค่แนวmpreg นักเขียนหญิงหลายๆคนมีปัญหาเรื่องเขียนนิยายวายเหมือนนิยายชญ มุมมองต่างๆถูกใส่filterของนักเขียนที่เป็นผู้หญิงเข้าไป และdialogueที่มึงอ่านจะรู้เลยว่าเหมือนสาวๆจับเข่าคุยกันมากกว่า อาจเขียนมาโดยลืมคำนึงไปว่ามันต้องเล่าออกมาให้จูงใจคนอ่านว่าเป็นนิยายวาย ตัวเอกเป็นผู้ชายนะ ต้องเขียนในมุมมองตัวเอกที่เป็นชายไม่ใช่มุมมองตัวเองที่เป็นหญิง
ถ้าเป็นเรื่องที่บนๆพูดกัน คนเขียนแต่งมาเยอะแล้วนะ แนวเมะชนเมะก็มีมาหลายเล่ม เรื่องที่เอาพล็อตชญ.เก่ามาใส่ขวดขายใหม่ ไม่ใช่ว่านอ.สาวแตกเพราะมือไม่ถึง แต่ขี้เกียจรีไรท์มากกว่า ชื่อพอ.นอ.เวอร์ชั่นชญ. ยังเอาออกไม่หมดเลย มึงคิดว่าใส่ใจแค่ไหนล่ะ
>>214 กุว่าไม่ใช่ว่าความเข้าใจเพศไม่ดีพอนะมึง ที่กุไม่ชอบมันคือประเภทที่ เอาทุกสิ่งของเพศหญิงไปใส่ให้นายเอกเหมือนเป็น norl เฉพาะของนายเอกเพียงคนเดียวในโลกนั้น จะมีแค่นายเอกเท่านั้น ที่ท้องได้ แต่งได้ และมีสเตอริโอไทป์แบบหญิ๊งง หญิง โดยไม่มีใครสงสัยว่ามันเป็นผู้ชายไปทำไม ซึ่งมันขัดกับสามัญสำนึกปกติอ่ะมึง
การที่นายเอกจะออกสาวบ้างเพราะผ่านฟิลเตอร์ผู้หญิงกุว่าโอเคนะ กุแค่ไม่ชอบเสพสายน้องเฉยๆ แต่ไอ้อย่างข้างบนนี่มันมีปัญหาด้านความสมเหตุสมผลพื้นฐานอ่ะมึง
และวงการสาววายดันต้อนรับเรื่องแนวนี้ดีด้วย กูเลยรู้สึกนิดๆ บวกกับกุเคยเห็นพวกกรุ๊ปนักเขียนคุยกัน งานสายชญขายยากอยากเข้าสายวายไม่เคยอ่านวายเลยทำไงคะ ตอบ แค่เปลี่ยนนางเอกเป็นผชก็พอคับ กุเลยรู้สึกว่าเรื่องแนวนี้คือไม่ใช่คนในวงการวายแต่ง คือกะได้สองทาง ถ้าชญไม่รุ่งเปลี่ยนเพศลงวายก็ได้วะอะไรงี้เหรอ ขอแค่นายเอกมีดุ้นพวกกุก็กรี๊ดหมดงี้เหรอ อารมณ์แบบดูถูกพวกกุจังนะ อ่ะมึง
/เบนหางานสายแปลต่อไป เห้อ
บูมก็ดี แต่จะมีนข.มาตัดพ้อว่าที่ขาจไม่ดีเพราะแค่เป็นชญงั้นเหรอ
มันน่าเศร้าเหมือนกันนะ สายชญการแข่งขันสูง สายวายก็ชอบอ่านฟรี ติดเหรียญปุ๊บโดนด่า เห็นใจนักเขียน
Ky ขอพื้นที่ด่า ความจริงเคยคุยกันไว้ในมู้ชั้นหนังสือ แต่คุยในนั้นกูกลัวโดนไล่ที่ วันนี้กูเข้าใจเลยว่าทำไมวงการวายอวยซบ. เพราะเป็นวงการที่ไฮป์กับหน้าปก ของพรีเมี่ยมต่างๆมาก เพราะซบ.ลงทุนกับหน้าหน่อยโอเค ซบ.ดีที่สุดค่า ที่อื่นเป็นเเค่ไก่รองบ่อนจากซบ. 555555555555555กูชอบเนื้อหานิยายวายนะ แต่เจอนิสัยแบบนี้ของคนในวงการนี้กูก็เหน่ยเหมือนกันว่ะ หน้าปกดีคือจบ แปลทับศัพท์ อภิทานเป็นหน้าจนกลายเป็นหนังสือเรียนนิยายจีนก็ช่างมัน มีใครเขาซื้อมาอ่านเขาซื้อมาสะสม หน้าปกสวยไม่พอ แถมได้เอาไว้ด่าสนพอื่นด้วย กูยอมรับว่าหน้าปกซบสวย แลกมากับราคาที่สูงจากยอดขายที่ไม่น้อยเลย ค่าส่งที่ต้องส่งแยกทุกเรื่อง และกูว่าเราสามารถชมสนพที่ตัวเองชอบได้โดนมีมารยาทที่จะไม่ทำเรื่องไร้มารยาทอย่างการแท็กสนพ.อื่นที่เขาก็เป็นคนทำงานเหมือนกันมาเปรียบเทียบอ่ะ กูสงสารทั้งบกรทั้งกุหลาบ ช่วงโควิดข่าวสารต่างๆนานาๆก็เครียดอยู่แล้ว มาเจอลูกค้าชอบเอาไปเปรียบเทียบอีก ไม่เครียดตายเลยอ่อวะทั้งสองที่ ใครเป็นสายสองที่นี้ฝากบอกด้วยว่ากูเป็นกำลังใจให้ แล้วเรื่องปกที่บอกให้กุหลาบไปแก้บรีฟปกฮักกี้ ให้มาดูงานซบ. ที่ซบ.ฆมป.ออกมาคล้ายเหมือนลิ่วเหยาขนาดนั้นยังอ้างว่าบรีฟไว้นานได้เลย แก้ไม่ได้ กูเบื่อแอออออออออแอแอ
>>227 เรื่องการเปรียบเทียบถ้ามองดีๆ สนพนั่นก็ตัวชงนะมึง เวลาใครม่าเค้าจะออกตัวทันทีให้ลูกหาบมีที่เปรียบเทียบอวยว่านี่สิของดีที่แท้ทรู
คนยิ่งเครียดยิ่งต้องหาเหยื่อยำตีนคลายเครียดน่ะสิ วงการเราเป็นแบบนี้เสพแต่หนังสือไม่ร่วมม่าสบายใจกว่าอ่ะมึง ส่วนสนพ.เดี๋ยวนี้ลูกค้ารับมือยากยิ่งกว่า level god แล้วเป็นจะทุกวงการค้าแหละ
>>228 เออ สงสัยกูไม่น่าเอาตัวเองไปอ่านการรวมกลุ่มของคนเลย กูเห็นซบ.แล้วก็คิดถึงจงหยวนทุกที มันตามหลอนกูมากจากอดีตลูกกวางเขาหัก เวลากูเห็นที่ไหนโดนอวยเอาไปกดที่อื่นกูจะอึดอัดปสดกับตัวเองตลอดคงต้องเริ่มที่ตัวกูคือสนใจแค่นิยายไม่สนใจดราม่า ขอบใจมึงมากที่ทำให้กูคิดได้
>>229 อันนี้จริงมึง กูอาจจะเฉยๆกับหน้าปกสวยไม่สวยมั้ง สตกูเลยไม่ได้มองปกเป็นพ้อยสำคัญ อะไร สำหรับยุคนี้มันก็ต้องแบบนี้แหละถึงจะดัง
>>227 กูเห็นด้วย มึงจะอวยอีซบ.มึงก็อวยของมึงไป ยังมะแชะเปรียบเทียบกับสนพอื่นอีก ไม่มีมารยาทสุดๆว่ะ เห็นแล้วยิ่งอี๋ยิ่งเหม็นอีซบ. ลายเส้นของสวรรค์ฯมันสวยแต่ถ้าเห็นเยอะๆมันก็เอียนเหมือนอจเลล่า
เรื่องทับศัพท์กูซีเรียสนะ กูอ่านบางเรื่องที่ทับศัพท์ไม่เยอะกูยังขี้เกียจอ่านเชิงอรรถ ปรมจที่ติ่งที่ชอบทับศัพท์มันด่ากัน กูไม่ได้ดูเมะไม่ได้ดูซีรี่ย์ อ่านแต่นิยายเขาก็แปลดีนะแปลชื่ออาวุธชื่อสถานที่แปลได้เพราะดี พวกนั้นด่าจนกูสงสารคนแปลเลยว่ะ ตอนพิเศษฉากเยกันเยอะไปหน่อย สวรรค์ฯกูเทแล้วกลัวรำคาญอ่านไม่จบ ปกสวยทำอะไรกูไม่ได้กูเลยรอด
เออ กูอยากเม้าท์เหมือนกัน วันนี้กูพึงได้อ่านปีนั้นหลังจากดองมานาน อห.(ที่ไม่ใช้โอ้โห) กูเข้าใจเลยทำไมโม่งชั้นหนังสือถึงเดือดขนาดนั้นเวลาพูดถึงงานแปลเรื่องนี้ คำเดียว สุดจริง5555 กูเปิดเจอเชิงอรรถรสครึ่งยาวครึ่งหน้าไปหลายแผ่นละ อยากจะพิมพ์ไปบอกซบ.เหลือเกินว่าขนาดนี้มึงทำอภิธานท้ายเล่มแทนเถอะ จะได้ไม่ลำบากชีวิตกูแต่อีกใจนึงกูก็คิดว่าทำไมบางคำแม่งไม่แปลว่ะ
กูอยากเอาเรื่องนี้ไปบ่นมู้ชั้นเหมือนกันเกี่ยวกับหนังสือเกี่ยวกับงานแปล แต่ดูทรงแล้วหลังจากเห็นพวกเมิงโดนไล่ที่ก็เข้าใจได้ว่ามู้ชั้นหาบซบ.คงไม่น้อย หรือเดี๋ยวนี้นกฟ้ามันหันมาเล่นโม่งเยอะขึ้นว่ะ โม่งเก่าๆไม่น่าโดนค่านิยมปสด.ล้างสมองขนาดนี้ปะ โดยเฉพาะอิค่านิยมเรื่องปกเรื่องใหญ่ คือมันสามารถทำให้ทั้งสองอย่าง(ทั้งงานแปลทั้งปก)ดีขึ้นได้จริงนะ แต่ในกรณีที่ปกมันไม่ดีมึงก็ไม่ควรเป็นเดือดเป็นร้อนกับเรื่องนี้ขนาดนั้นปะ ปกสวยแล้วไงถ้างานแปลบัดซบจนอ่านไม่ได้ สุดท้ายก็มีค่าแค่ตั้งโชว์อย่างเดียว
ปกมันก็สวยอะนะ เห็นแล้วก็ว้าว ตอนปกหนึ่งเทียนกวานกูก็ว้าวนะ กูชอบปกเน้นบรรยากาศมากกว่าปกเน้นตัวละคร ถึงเล่มหนึ่งจะมีคนมาบ่นทีหลังว่าลายเส้นมันรกๆเหมือนไม่ลบไม่เก็บงาน แต่ก็เงียบๆไป กูเห็นปกเล่มสองสามนี้ กูแอบน้อยใจแทนฆ่าหมาป่า แม่งลูกเมียน้อยสนพ. แน่เลย เปิดปกสองเล่มนี้ปุ๊บ แชร์เต็มเฟสเต็มเพจ แล้วปกลิ่วเหยาฆมปล่ะ ลืมกันหมด
กูก็บ่นปกฮัสกี้เหมือนกัน ถ้าในระดับนิยายบิ๊กเนม กูว่าปกฮัสกี้มันด้อยไปหน่อย คนคาดหวังเยอะด้วยแหละ แต่เอาจริงฮัสกี้ทำดีมากตรงการแปลและเรียบเรียง เป็นเรื่องที่สายดองอย่างกูหยิบมาอ่าน อ่านได้สนุก รู้สึกเหมือนเป็นคนธรรมดาที่อ่านหนังสือนิยายสักเรื่อง ไม่ต้องรวบรวมลมปราณ ไม่ต้องสวมบทติ่งจีนติ่งด้อมติ่งนิยายใดๆเพื่อมาอ่าน
ส่วนเทียนกวานกูยังไม่มั่นใจว่ากูจะหยิบแกะมาอ่านไหม กูคงต้องสะสมเลเวลหลายๆด้านก่อน
กลับมาโรสหน่อย กูแอบคิดว่ากราฟฟิกโรสไม่ค่อยเก่งยังไงไม่รู้ กูรู้สึกเค้าตั้งใจทำนะ แต่เหมือนมือไม่ถึงอะ เซนส์ไม่ให้ แป้กหลายงานอยู่นะ แต่ปกฮัสกี้1น่ะปังอยู่ หลายๆปกที่ดูสวยดีก็ซื้อปกจีนมาเลย ตัดปัญหา แต่ก็นะ ขนาดใช้ปกตามต้นฉบับ ยังทำออกมาดรอปเลย อย่างม.ซอมบี้ ปกรูปเดียวกันแท้ๆ ทำไมกูดูว่าปกจีนมันสวยกว่าวะ แล้วเล่มแรกชื่อเรื่องฟอนท์สีแดง ทำไมกูขำ ดีนะไม่แดงทุกเล่ม เล่มสองภาพก็ซูมออกแล้วไหลลงมาเยอะอีก
>>227 ซบเมื่อก่อนที่จะมาทำวายแปลถูกหลายคนเรียกว่าสนพมีดีแค่ปก อย่าโดนปกจากสนพนี้ตก นางบรีพปกสวยนะแต่สำหรับกูบางทีมองว่าเส้นรกไป พอมาทำวายแปลแล้วแต่ละเรื่องมันคือเรื่องดังยิ่งปกสวย คนก็อวยแล้ว วงการนิยายวายปัจจุบันมันคือวงการสะสมมึง สะสมเพราะสวย สะสมเพราะไว้เก็งราคามีคนปั่นอีก คนเลยไปโฟกัสที่พรีเมี่ยน หน้าปกกันหมด เข้ากลุ่มรีวิวทีแทบไม่มีรีวิวแล้วเหลือแต่อวดปก อวดบ็อกกัน แปลกลางๆหน่อยก็รอด
เอ๊ะ หรือหนังสือสำหรับสมัยนี้มีค่าแค่ตั้งโชว์อย่างเดียวจริงๆว่ะ
กูชอบปกเทียนกวานมากกว่าฮัสกี้นะ แต่เห็นคนอวยเทียนกวานข่มฮัสกี้เพราะเทียนกวานปกสวยกว่าแล้วกูก็เอิบเหมือนกัน ขนาดกูเคยไม่ชอบคนแปลฮัสกี้มาก่อน มารอบนี้ถ้าวัดกันที่การแปลเพียวๆ กูว่าฮัสกี้แปลดีกว่าเทียนกวานเยอะ ซึ่งการแปลมันคือส่วนที่สำคัญกว่าปกไหมวะ
พวกมึงดูเดือดเรื่องปกกันจัง555 กูคือคนที่บอกว่าหลังเจอปกผู้ช่วยเหรียญท.เข้าไป ทุกปกคืองดงาม เหอะๆ
แต่กูสงสัยอย่าง ทำไมสนพ.วายส่วนใหญ่ถึงดูนิยมจ้างนว.ต่างชาติกันจัง คือจ้างนว.ไทยมีนะแต่มันน้อยอะทั้งที่นักวาดไทยวาดสวยๆก็มีเยอะอยู่ แถมถ้าจ้างนว.ไทยโนเนมบางคนต้นทุนยังถูกกว่าของนว.ต่างชาติอีกแถมได้ปกสวยเหมือนกันด้วย คนก็ไม่น่าด่านะถ้าปกสวย อย่างปกสนพ.พนกที่กูเคยอ่านสมัยมัธยมเงี้ย กูว่างามอยู่นะ
กูก็ไม่ชอบซบ. ด้วยอะไรหลายๆ อย่าง ทั้งเรื่องโยนกลองให้ชาวบ้าน แท็กเหี้ย หรือปัดค่าส่งแยกรอบพรี รอบพร้อมส่ง
แต่เช้าวันนี้ตอนเห็นประกาศปกก็เออวุ้ย แม่งดวงแข็ง รู้จังหวะดีว่ะ คนทั่วไปเลยไม่ด่ากัน 5555
แต่ยอมรับว่าเรื่องปกอย่างน้อยๆ เทียนกวานก็ต้องยกให้ซบ. อะ มันสวยอยู่ และเพราะเรื่องนี้แปลไม่ขี้เหร่ด้วยมั้ง
ส่วนตัวกูไม่ชอบทับศัพท์ แต่ก็ปลงแล้วว่ามันคงเป็นรสนิยมมากกว่าถูกผิด
อย่างคนร่วมตัวกูก็คือมีออกตัวเลยด้วยซ้ำว่า ซื้อมาตั้งโชว์เฉยๆ ยังไงก็คุ้มเพราะปกสวย
กูว่าวงการนี้ก็เริ่มกลายเป็นของสะสมเต็มตัวแล้วมั้ง
กูยังซื้อหนังสือเพื่ออ่านเป็นหลักอยู่ดีว่ะ แต่ไม่ปฏิเสธว่าถ้าปกสวยด้วยก็ดีมาก
อย่างฮัสกี้ กูว่ามันไม่สมกับความเกรียงไกรของเนื้อเรื่องและสำนวนแปล
แต่ก็นั่นแหละ กูก็มีปัญหาอื่นๆ กับกุหลาบ เพราะรู้สึกแม่งก็เอาแต่เรื่องดังๆ เรื่องอื่นก็ปกไม่ค่อยสวย
แปลชุ่ยเหมือนกัน เท่าที่อ่านตัวอย่างโอตาคุ ฝ่ากฎรัก กับซอมบี้อะนะ แบบ บก. ไม่ค่อยทำงานแก้สำนวน
ส่วน บกร. กูสงสาร กูว่าโดนเกินเบอร์กว่าชาวบ้านไปมาก ทั้งเรื่องปก เรื่องแปล กูว่าไม่ได้มีปัญหาอะไรขนาดนั้นเลย
>>240 นักวาดไทยเรื่องมากอะ จากประสบการณ์ตรง บรีฟละเอียดจนเยอะกว่านี้คือทำคลิปให้เลยนะ ยังบอกบรีฟไม่ละเอียดพอต้องนึกตามเยอะขอคิดตังเพิ่มอีกนะ พอได้งานมีบอกถ้าอยากได้ไฟล์ต้นฉบับต้องจ่ายตังเพิ่มนะ ไม่อยากให้เอางานไปโพสเป็นแกลอลี่ก็จ่ายตังเพิ่มด้วยนะ จะสอบถามความคืบหน้าหาว่ากูทวง กดดัน เร่งเร้า เครียดจัง อาการเจ็บป่วยกำเริบ เผาให้หาบฟังอีกว่าเจอลูกค้า(เออกูนี่แหละ)มาเซ้าซี้ตามงาน ก็แหมเห็นมึงทำงานงานทุกอย่างที่ไม่ใช่งานกูเลยต้องถามไง ปั่นอดอปลงคอมมูงอกแฟนอาร์ตเป็นตับ แต่ความคิบหน้างานกูคือเส้นยังตัดไม่เสร็จเลย กูละเครียด จ้าง 10 คนเจองี้สัก 6-7 คนเลยอะ
>>242 อันนี้ก็มีส่วน5555 งานจีนนี่นักวาดต่างชาติมันดังกว่าอะ นักวาดไทยเกิดน้อยแถมมีดราม่าบ้อยอีกอย่างล่าสุดไปก็อปงานนักวาดเวียดนามมางี้ พอเรื่องแดงนักวาดตัวดีลอยตัวไม่รู้ไม่ชี้ คนเขียนกับสนพ.สิซวยออกงานไปเท่าไหร่แล้ว
เรื่องปกกูไม่ค่อยเอามาเป็นพ้อยในการซื้อเท่าไร ทำให้ซบ.แม่งไม่ได้เหนืออะไรจากที่อื่นใจกูเลย ปกที่กูชอบก็คือปกบันทึกปิ่นหลากสีที่ชอบโดนเอามาแซะอ่ะ ตอนเห็นนี่กูถูกใจจนกดซื้อเลยนะ555555555555555 อีกเรื่องหนึ่งที่ซบ.กำลังสร้างวัฒนธรรมที่กูไม่ชอบ สำหรับกูมันเป็นค่านิยมที่ผิด คือเรื่องการแปลกูไม่ได้อยากมาเรียนศัพย์จีนในนิยาย กูอยากอ่านนิยายแปลจีนที่คนแปลสามารถดึงอารมณ์และอรรรสของนิยายออกมาเป็นภาษาไทยสื่อให้ผู้อ่านได้รู้สึกร่วมกัน กูเลยชื่นชมนักแปลมาตลอดเลยว่ามีความสามารถ มันเริ่มมาจากยุคกูกูทับศัพท์ ซึ่งคนหรือเด็กๆยุคนี้คงมองว่ามันเท่มันดี มันมีเอกลักษณ์แต่กูไม่ชอบ กูโกธรซบมากที่มำแบบนี้ เอาตรงๆกูกลัวมันจะทำให้นิยายในอนาคตคนแปลต้องแปลเเบบนี้ถึงจะถูกใจนักอ่าน ซบ.นี้เรียกบกทำงานหรอปล่อยให้มีแต่เรื่องทับศัพท์ออกมาได้สงสัยเอาเวลาไปมัทวบรีฟปก ทำไมไม่หัดทำงานให้มันบาลายกันบ้าง ยุคนี้มันมาในรูปแบบของสะสม หน้าตาเลยสำคัญสัด และถ้าจะตีตลาดยุคนี้ที่งานอาร์ตมาแรง ทำเอาคนที่ไม่อ่านหนังสือมาซื้อได้หูก็คงต้องปลงเรื่องปกสำคัญกว่าตัวเนื้อหาในสายตาของคนในนกฟ้าและเฟส
กูคือ>>240นะ ลืมไปประเด็นนึงที่พวกมึงถกกันอยู่สำหรับกูที่ไม่ซีเรื่องปก กูขอกดเกลียดซบ.ได้มะ กูรู้นะว่าทับศัพท์มันเป็นรสนิยมแต่บางเรื่องนิคือมันเกินคำว่ารสนิยมไปไกลแล้วว่ะ เรียกว่าทับจนเป็นความชุ่ยของนป.จะดีกว่า มึงกูรู้บางคนชอบกูรู้บางคนอ่านได้แต่ให้พูดจริงๆคือหนังสือแปลอะมึง ปัจจัยสำคัญก่อนคำว่ารสนิยมมันคือการถ่ายทอดสารจากภาษาสู่อีกภาษาให้ผู้อ่านเข้าใจในวงกว้างไม่ใช่หรอ(รึกูเข้าใจผิดว่ะ555)
แปลทับศัพท์ค่าตัวแพงด้วยนะ ทั้งเซ็ตรับไปหลักล้าน กูจำฝังใจกับคำอธิบายว่าเรียกเกอฟังดูอ้อนกว่าพี่ชาย
เทียนกวานกูอ่านเล่มแรกไปสามตอนยังไม่ได้อ่านต่อเลย ปวดหัวกับทับศัพท์มาก
ถ้าให้เลือกระหว่างปกสวยแต่ทับศัพท์เป็นแบบเรียนภาษาจีนแบบเทียนกวาน กับปกธรรมดาแต่แปลดีแบบฮัสกี้ กูเลือกอย่างหลังนะ แต่มันทำทั้งปกสวยและแปลดีไปพร้อมกันไม่ได้อ่อวะ
รู้ได้ไงอะว่ารับไปหลักล้าน แต่ค่าตัวแพงเพราะหาบป่าว งานแปลเทียบกับฟ.หรือมร.แล้วยังห่างชั้นกันอยู่นะ
ค่าแปลฮัสกี้ก็ไม่ทำดาน้า อุ๊ป แต่คุณภาพดีกว่าคนที่คิดเอาเองว่าเกออ้อนกว่าพี่ชายมากเลย ส่วนหนึ่งก็เพราะคนด่ามันเลยดีขึ้นมั้ยอ่า บก.ทำงานเคร่งขึ้น แต่อิเซนที่โดนโอ๋อยู่เนี่ยได้วันๆจะได้พัฒนาป่ะ
ค่าตัวสายแปลจีนขึ้นอยู่กับความดังเหรอวะ ประหลาด ปกติงานแปลสายอื่นเค้าไม่เป็นแบบนี้กันนะ
>>247 นักวาดไทยดีๆก็มีแต่คิวทองไง จองไม่ทันก็อดแหละ แต่เขาทำงานดีกันจริงๆคุ้มค่าคุ้มราคา ไม่ต้องมาแยกจ่ายจุกจิก คิวงานความคืบหน้าชัดเจน มีวาดเล่นมั่งแต่ไม่สะเทือนถึงงานหลักแน่นอน แต่ดันเป็นพวกส่วนน้อยนี่สิ ส่วนใหญ่ก็แบบที่กูว่านั่นละ เรื่องเยอะสัส ถ้ารอคิวทองไม่ไหวก็ไปหานักวาดต่างชาติอะยังดีกว่านักวาดไทยจำพวกที่เหลือ ต่างชาตินี้ดูกะตือรือร้นในการขายงานมากต่อให้เป็แค่โนเนม กูบรีฟด้วยภาษาผ่านทรานสเลด แม่งยังออกงานมาตรงเผงแทบไม่เพี้ยนเลย ส่วนที่ไม่ตรงมีน้อยมากๆแต่เขาก็ทำออกมาดีจนแทบหาคำติไม่ได้ งานมีความคืบหน้าจริงด้วยไม่ใช่ลอยลมมาว่ากำลังทำเรื่อยๆ แต่ส่งมาแล้วแม่งเพิ่งเริ่มสดๆเลยปะวะเผายับๆ
เออ แต่มึงอาจดวงซวยเจอคนเหี้ยเหมือนในไทยก็มีนะ รับงานแต่เชิดเงินหายไปเลย ตามตัวลำบากอีกคราวนี้ แต่มีน้อยมากๆอะ โอกาสเจอพอๆกับถูกหวย
>>242 เจอลูกค้าแบบนี้บ่อยๆก็ดีนะ สนพยิ้มกริ่ม ไม่ต้องเลือกพล็อตแต่เลือกนักวาดดัง
>>239 ไม่ใช่ทุกคนจะชอบลายเส้นฉยมั้ยวะ อย่างกูคิดว่ามันอ้อนช้อยเหมือนผู้หญิงไปอะ ถึงปกฮัสกี้มันโล่งไม่สมราคา แต่ลายเส้นก็สวยดีนะ ไม่ค่อยซ้ำด้วย
>>248 เชี่ยมึง กุช้อค งานแปลเงินดีขนาดนี้เลยเหรอวะ เล่มละเป็นแสน เยอะไปมั้ยมึง ไม่รู้ว่าปกติได้เล่มละเท่าไหร่ แต่เทียนกวานไม่ได้แพงนะ แบบถ้าเทียบค่า lc ค่านักวาด
>>251 งงเลยถ้าบค่าตัวแพง ถ้าค่าตัวแพงแล้วยังต้องใช้บกมาทำให้มันเข้าที่เข้าทาง จะจ้างแพงไปทำไม จ้างบกดีๆสักคนสองคนก็พอละมั้ง
>>252 ประหลาดตั้งแต่อยากให้คนแปลเถื่อนมาแปลตอนที่ได้ lc ติดใจไรกันวะ
กลับไปอ่านตัวร้ายละรำคาญซือจุนชิบหาย ไม่ได้อารมณ์ลูกศิษย์เย็บอาจารย์เลย
>>254 ทำไมมึงเชื่อว่าคนที่มาจากแปลเถื่อนได้เล่มล่ะแสนแต่ไม่เชื่อว่าบ.คุงค่าตัวเหมือนกันอ่า น้อยใจแทนบ.คุงเลย 5555555555555555555555555555 วงการนักแปลค่าตัวแพงกว่าที่มึงคิดเยอะ ยิ่งเดี๋ยวนี้แปลจีนกำลังบูมอีก กูไม่แปลกใจเลยว่านักแปลจะได้เรทต่อเล่มที่ 70000-120000+ กูน่าจะขยันเรียนสมัยเด็กไม่น่ามัวแต่หิวข้าวเพราะคาบจีนติดพักเที่ยง กูมันโง่!
แหม วงในเต็มไปหมดเรยน้าาา อ่านโม่งหารเยอะๆจ้า
กูเบื่อติ่งเซ้น
ให้กูเลือก กูเลือกนิยายแปลดี มากกว่านิยายปกสวย
กูพนันฮัสกี้สุดตัวเลย อนาคตซีรี่ส์ฉาย แม่งต้องปังแน่ๆ
พวกมึงจำความแค้นของกูไว้ 5555
แปลนิยายวายจีนต่อเล่มได้เงินเยอะขนาดนั้นเลยหรอวะ กูรู้แค่เรทฝั่งญปเอง จะว่าไปกูสงสัยเหมือน >>252 นะ ค่าแปลขึ้นอยู่กับความดังหรอ ถ้าใช่คือกูขอกลอกตานิดนึง 55555555 สำหรับกูเน้นนะว่ากูทั้งบ.ทั้งลวด.แปลได้เฉยมากทั้งคู่ บ.กับฮัสกี้นี่โอเคเลย คิดว่าคงพัฒนาขึ้น+ได้บกดี ส่วนลวด.ก็เทียนกวาน…กูไม่มีอะไรจะพูดตั้งแต่เจอคำว่าเกอเกอ ลาขาดนักแปลคนนี้แล้วว่ะ
>>255 กุเคยเห็นเรทค่าแปลแบบจ้างแปล หน้าa4 ราคาตก 100-300 แล้วแต่เนื้อหา ฮัสกี้เล่มละ 300 กว่าหน้าปัดเป็น 400 กุตีค่ากลาง หน้าละ150*400 ก็ตก 60,000 ต่อเล่ม มี 10 เล่ม ตก 6 แสน ได้ยินว่าจีนพีเรียดราคาจะแรงกว่าจีนปัจจุบันด้วยใช่มั้ย ก็อาจจะเฉียดป่าววะ ถ้าสนพ.ไม่กดราคาเกินไปเหมือนที่กุเคยอ่านม่าของพวกเวบโนเวลที่กดราคาจนงานแปลกากสัส
ทั้งนี้กุเป็นคนนอกทั้งหมดนั่นกุเดา
ถ้าค่าตัวเยอะแล้วยังแปลมักง่ายทับศัพท์ทุกคำที่ทับได้นี่น่าด่า
>>249 กูเห็นด้วย ทับเกออ้อนกว่าพี่ชาย แต่ไม่ทับพี่ใหญ่ คือไง อะไรคือเกณฑ์การทับไม่ทับของนาง
>>251 อิเซนกูฟันธงอีกสักสิบเรื่องนิยายค่ายนี้จะไม่แปลไทยแล้วแปลแบบภาษาคาราโอเกะแทน
>>252 หาบเยอะอวยว่าแปลดี>ดัง>งานเข้าเยอะ>เป็นที่ต้องการของสนพ.>เริ่มขึ้นค่าตัว จบ
ก็ช่วงกอบโกยตัวเองกำลังดัง ขอขึ้นค่าตัวได้ไหมละ งานแปลโดนหาบอวยรัวๆจนอุปทานหมู่เชื่อตามกันมาว่าแปลดีจริงๆยิ่งจากดราม่าดังทำให้ยิ่งเป็นกระแส คนรู้จักเยอะหาบตามอวยเยอะ อีกอย่างถ้าจ้างมาจริงสนพ.คงไม่ต้องกลัวเรื่องดราม่างานแปลด้วยเดี๋ยวพอมีปัญหาเจอคนฉอดงานแปลนางหาบก็ไปถล่มเองเรียกว่าจ้างทีตัดปัญหาเรื่องม่างานแปลเลยด้วย ส่วนแปลดีจริงไหมสนพ.สมัยนี้คงไม่สนใจละเน้นขายได้ยอดสูงๆอย่างเดียว คุณภาพด้านอื่นๆช่างมัน
>>254 กอดมึงเห็นด้วยกับมึงทุกอย่าง
กูอ่านงานแปลจีนแต่ก่อน เจอนักแปลพยายามแปลคำแทนตัวเยอะอยู่ อย่างบางเรื่องแทนตัวเองว่า ตัวข้าผู้เป็นองค์หญิงงี้ ชอบน่ะ แต่เดี๋ยวนี้ก็นั่นแหละ หาไม่ค่อยได้แล้วมั้ง
กูจะรอฮัสกี้ดัง แล้วจะมาทับถมติ่งซบ พวกมึงรอดู
กูกลัวว่าซบมันจะสร้างค่านิยมผิดๆในอนาคตอันใกล้เหมือนกัน กูเสยดายปี้นั้นฯนะแต่กูพยายามไม่ได้จริงๆ ฮัสกี้กูยังสะดุ้งตอนมีคนไปท้วงว่าอยากให้เปลี่ยนอาจารย์เป็นซือจุน ดีที่คนแปลหรือบกหรืออะไรก็ตามไม่บ้าจี้เปลี่ยน
กูเชื่อว่าต้องมีคนไม่ชอบทับศัพท์เหมือนกันเยอะอยู่แน่กับซบกูไม่กล้าท้วงท้วงไปไม่มีความหมายกลัวลูกหาบมัน สร้างค่านิยมผิดๆแบบนี้เอาแค่ปกสวยข้างในเป็นยังไงช่างหัวมัน อนาคตนิยายแปลวายจีนคงกายเป็นหนังสือเรียนภาษาจีนแทน
เกออ้อนกว่าจริงอ่อวะ
นี่กูอ่านเทียนกวานเล่มแรกแล้วยังเฉยมาก
ตัดมาฮัสกี้เจอพี่โม่หราน กูแทบใจเต้นตึกตักตามตัวละคร 555
และเออ กูเลือกอาจารย์ > ซือจุน
>262 ประเด็นนักแปลมีลูกหาบแล้วด่าไม่ได้ ลอยตัวพ้นดราม่า สนพ. สบายของมึงน่าคิดมาก
เออ กูก็หวังว่าให้ฮัสกี้แมสขึ้น เผื่อการแปลที่ไม่ทับศัพท์หมดจะได้รับการอวยยศเปลี่ยนกระเเสมาทางนี้แทน กูสงสัยอีกเรื่อง ทำไมคนยุคนี้มันไม่มีมารยาทกันจัง ชอบแทร็กสำนักพิมพ์หนึ่งมาที่โพสอีกสำนักพิมพ์หนึ่ง แล้วก็เทียบนู่นนี่ ใช้ให้มาดูจะเอาแบบนี้บลาๆ เหมือนป้าข้างบ้านมาอวดผลสอบของลูกตัวเอง กูงงว่ายุคเสรีมันไม่ต้องคำนึงถึงใจอีกฝ่ายบ้างวะ
กูแม่งโคตรเกลียดติ่งซบเลยว่ะ
เอะอะอะไรก็ทับถมสนพอื่น อย่าให้ถึงตากูบ้างนะ
แล้วเป็นเหี้ยไรกับหน้าปก ติ่งซบซื้อหนังสือมาดูหน้าปกอย่างเดียว ไม่อ่านเนื้อหาเหรอ
ขอแค่ปกสวย จะแปลยังไงก็ได้ จะไม่สนุกยังไงก็ได้ ว่างั้น
ถล่มบกรไม่พอ ยังจะมายุ่งกับฮัสกี้กูอีก
ยากกกก ความแมสมันอยู่คู่กะความปสด กลุ่มคนอ่าน/ดูมันจะมาจากไหนซักเท่าไร
คนเดี๋ยวนี้อ่านนิยายแปลเถื่อนฟรีจากนักแปลมือสมัครเล่นในเว็บเป็นหลักไง เลยมองว่าทับศัพท์คือเรื่องปกติ ทั้งที่ในแปลเถื่อนที่ทับศัพท์เพราะคลังศัพท์น้อยแปลไม่ออก ยิ่งแปลเถื่อนมันฟรีคนอ่านเยอะชิบหาย พอมีเรื่องที่อ่านเถื่อนชอบมากๆมาขายก็ซื้อง่ายๆแล้วบอกว่าแปลดี ทั้งที่นักแปลจีนนิยายวายที่มือถึงในวงการมีไม่ถึง5คนเลยมั่ง นอกนั้นใช้มือสมัครเล่นคลังศัพท์น้อยไปหมด แต่กูเศร้าตรงมิเก๋าที่แปลช-ญไม่รับงานแปลวายด้วยแหละ มือสมัครเล่นเลยเต็มวงการแปลวาย ลวด.ถ้าจำไม่ผิดเมื่อก่อนนางแปลเถื่อนเว็บ ดังจากแปลนิยายในเว็บจนสนพไปดึงตัวมา ปรมจนางก็แปลในเว็บ ติ่งเลยตามนางตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว และใช่ตอนแปลเถื่อนนางทับศัพท์เต็ม ติ่งเลยด่าอ.ที่ไม่ทับศัพท์อีก ยิ่งซีรีส์ก็ทับศัพท์ชื่ออีก ติ่งไม่ชินเลยทัวส์ลง
>>274 มันเป็นเทรนด์อ่า กุยังนึกถึงสมัยนิยายอีโมจิรุ่งเรืองแล้วดับไป หรือที่สำนวนกำลังภายในโดนก่นด่าว่าอ่านไม่รู้เรื่องไปแล้ว เทรนด์ทับศัพท์จะหายไปสักวันมั้ยวะ หรือจะมุ่งสู่ความกว้างใหญ่อันไกลโพ้นกู่ไม่กลับเป็น new normal วะ T^T
สมาคมนักแปลกับนักวิชาการแบบควรมาช่วยพวกกูนะ..
สาววายเดี๋ยวนี้แปลกนะ
เวลาซื้อนิยายวายมา ไม่ชมว่าเรื่องไหนสนุก แต่ชมว่าเรื่องไหนปกสวย
เหมือนไม่เน้นเนื้อหากันอะ ทำไมไม่คุยเนื้อหากันวะ หมายถึงบนบก ในนกฟ้านะ ไม่ใช่ในนี้
มานั่งชมแต่สิ่งภายนอก ปกสวย ปกไม่สวย ของแถมเยอะ ของแถมไม่เยอะ
กูงง ไม่อ่านนิยายเหรอ ไม่วิเคราะห์เนื้อหาที่คนแต่งต้องการสื่อเหรอ
กูเจอในนกฟ้าส่วนใหญ่ซื้อมาสะสม ไม่อ่านดูซีรีย์กับเมะเอา
นกฟ้าก็กระแสป่ะ เซเลปหวีดนิดหน่อยก็ทวิตตามหาให้ควับแล้ว ไม่เคยอ่านรีวิวอ่านเรื่องย่อ หลายมาตรฐานโคตร ปั่นง่ายจะตายกระเเสในนกฟ้าน่ะ ถ้ากูเป็นสนพ.กูจะจ้างคนไปปั่นกระแสเรื่องที่กูจะออกให้ไปเทียบกับอีกสนพ แค่นี้คนก็เชื่อแล้วว่าอีกที่มันแย่กว่า ของกูชั้นสูง มาตราฐานสูง อาร์ตก็สวย ผิดพลาดยังไงทุกคนก็ลืม ได้ดิสเครดิสอีกที่มีภาพจำที่เป็นสนพแย่ๆ คุ้มว่ะ
กูงงวันก่อนเจอสาววายในนกฟ้าบอกว่า ขอให้คุณภาพเนื้อหาดีมากกว่า อย่าไปเน้นพรีเมี่ยม รูปลักษณ์ให้มาก มาใส่ใจเนื้อหาในนิยายกันดีกว่าค่ะ คนก็มาจริงค่ะเต็มไปหมด มาวันนี้ปกเทียนกวานสวยมากค่ะ สวยกกว่าฮัสกี้มากเลย ฮัสกี้แปลดีนะคะ แต่ปกเทียนกวานสวยกว่า ฮัสกี้จะทำเนื้อหาดีแต่ยังไงปกเทียนกวานสวยกว่าค่ะ ปกฮัสกี้มาดูงานเทียนกวานสิ เอออ่า มีใครพูดถึงคุณภาพการแปลของเทียนกวานมั้ยนะยังไง ย้อนแย้งชิบหายผ่านไปไม่กี่วัน สรุปพวกเธอก็ยกอาร์ตสูงกว่าเนื้อหาอยู่ดี
กูโอเคกับที่ซบทำสวรรค์นะ ทับศัพท์อยู่ในขั้นรับได้ (เพราะกูผ่านปีนั้นที่โคตรเหี้ยมาได้แล้ว) พอจะมองให้เป็นรสนิยมได้อยู่ แล้วนอกนั้นซบก็ทำดีอ่ะ พรู้ฟก็โอเค เหมือนกูไม่เห็นคำผิดเลย แปลไม่นับทับศัพท์ก็ใช้ได้ สรุปสำหรับกูฮัสกี้แปลดีกว่าแต่พิสูจน์อักษรเหี้ยกว่า ปกสวยน้อยกว่า ก็ไม่แปลกที่จะมีคนเปรียบเทียบนะเพราะมันเป็นเรื่องดังที่ออกใกล้ๆกัน แต่กูว่าพวกที่สรุปว่าซบใส่ใจตั้งใจทำหนังสือมากเพราะปกสวยกว่านี่ก็ไม่ใช่อ่ะ เพราะถ้าพูดถึงคุณภาพของข้างใน กูว่าฮัสกี้ดีกว่าสวรรค์ แต่บรีฟปกกากไปหน่อยถถถถถ
>>284 ถ้าตัดเรื่องที่ลวดตอบประเด็นนี้ไว้เหี้ยมากว่าทับศัพท์เพราะ"ดูอ้อนกว่า" กูก็ว่าครึ่งนึงมันกลายเป็นกระแสนิยมไปแล้วว่ะไอ้การทับศัพท์ชื่ออาวุธ สถานที่ หรืออะไรที่เป็นกิมมิคของตัวละครเนี่ย อย่างฮัสกี้ก็ทับ หว่านเยี่ยอวี้เหิง เป่ยโต้วเซียนจุน (ถูกมั้ยวะ555) ชื่ออาวุธ ชื่อสถานที่ ทับหมดเลยทั้งๆที่ปกติคนนี้แปลไทยเรียบ กูว่ามันเพราะกุหลาบเห็นกระแสคนด่าปรมจขนาดนั้นแล้วคงไปบรีฟบ.ให้คงทับศัพท์ไว้เป็นหย่อมๆ ไม่งั้นซีรี่ส์ออกเดี๋ยวจะมีติ่งปสด.ตามด่าเหมือนปรมจ อิค่านิยมเรื่องทับศัพท์=ดี แปลไทย=เหี้ย นี่ต้องเริ่มด่าที่ติ่งปรมจประสาทแดกว่ะ
>>287 ใช่ กระนิยมนี้มันเริ่มมาจากล.ที่แปลเถื่อนปรมจ ติ่งไปเรียกร้องที่อื่นจนเป็นแบบนี้อ่ะกูเลยเกลียด อยากอ่านนิยายแปล ไม่ได้อยากเรียนรู้ศัพท์เป็นค่านิยมที่ทั้งซบ.และกูกูทำให้มันแย่ ยังดีที่ตอนกูกูมาแรง สนพชญอื่นไม่เล่นด้วย ไม่รู้ว่ามึงเคยอ่านเรื่องว่าด้วยอาชีพนางสนมไหม อันนั้นนักแปลก็มาจากแปลเถื่อนทับศัพท์เจิ้นอย่างนู่นเจิ้นอย่างนี้เหมือนกันแต่สนพปรับหมดเลย ตอนแรกคนก็งอแง จะเอาแบบแปลเถื่อน แต่กูขอบคุณบก.แจ่มที่ไม่ยอมให้ผ่านมาก เรื่องอื่นของวงการแปลจีนชญเลยไม่ต้องมารับเคราะห์กรรมแบบนี้(ไม่แน่ใจว่าสมัยนี้เป็นไง) การทับศัพท์เกอเกอด้วยเหตุผลว่าอ้อนกว่า อยากไล่ให้ไปอ่านเรื่องนิยายเรื่องนี้ข้าไม่ได้เขียน นางเอกเรื่องนั่นเรียกพี่ชายพี่ชายทุกคำ ข้าว่ามันน่ารักนุบนิบมาก ใช้พี่ชายก็ไม่ได้ไม่อ้อนไหมอ่ะ เปิดโลกให้กว้างหน่อย
และปีนั้นที่ทับศัพท์อภิธานครึ่งหน้ากูโมโหซบที่มันสร้างกระเเสให้เป็นแบบนี้ เรื่องทับชื่ออาวุธกูก็พอหยวนๆถึงกูจะเสียดายก็เถอะเพราะกูชอบการครีเอตชื่ออาวุธพวกนี้สุดเช่นหานซานหรืองปรมจ แต่ทับศัพท์เรื่องอื่นกูกรี๊ดดดดดกกกกกกกกกก
พูดถึงปกฮัสกี้แล้วกูคนนึงที่เซ็ง สายอ่านเถื่อนจบแล้วเฝ้ารอเล่มแปลไทยมากๆ อย่างกูดีใจมากที่กุหลาบใส่ใจการแปลของเรื่องนี้ แต่ผิดที่กูดันไปสืบจนรู้ว่าคนที่กูตามอยู่คนนึงเป็นคนบรีฟปก ทีนี้ทุกครั้งที่กูแอบรู้สึกว่าปกฮัสกี้ไม่สวย แล้วเห็นเค้าทวิตอวยปกเกินจริงบ้าง จิกกัดคนที่หาว่าปกไม่สวยบ้าง ยกปกจีนที่เรียบๆขึ้นมาประกอบการแซะของตัวเองบ้าง กูก็เลยอคติสะสมจนกลายเป็นมองปกฮัสกี้ติดลบโคดๆไปเลย ย้ำอีกครั้งว่าผิดที่กูที่ไปเสือกจนรู้เอง ไม่งั้นคงจะแค่มองว่าปกมันแค่เฉย ไม่ได้มองว่าเหี้ยอย่างทุกวันนี้ นอยด์แดกชิบหาย ไม่รู้จะไปบ่นที่ไหนขอบ่นอยู่ในโม่งนี่แล้วกัน
มีแต่คนเปรียบเทียบปก
กูอยากรู้เรื่องความสนุก ใครอ่านจบสองเรื่อง
คิดว่าเรื่องไหนสนุกกว่า
ไหนๆจะตีกันแล้ว ตีกันให้สุดไปเลย
กูไม่อ่านเถื่อนอะ เคยเปิดๆดู2-3เรื่องสำนวนบ้งเกินควรไปพักแถมทับศัพท์สิ้นคิดอีกกูเลยขอผ่านไม่อ่านของเถื่อน พอกูมาเจอกระแสสมัยนี้ที่ว่าทับศัพท์เยอะเป็นรสนิยม ทับศัพท์เยอะเป็นนักแปลที่เข้าใจถึงความละเอียดอ่อนของภาษา กูแบบมันใช่หรอ5555 ส่วนใหญ่นักแปลที่อ้างอย่างนี้คือพวกคลังศัพท์น้อย คิดคำแปลไม่ออก เลยพยายามยัดตรรกะบ้งๆใส่นักอ่านว่าแปลแบบนี้ดีกว่า เป็นงานแปลที่เข้าใจความละเอียดของภาษา เป็นรสนิยมชั้นสูง พวกอ่านไม่ได้คือกากเองจำไม่ได้ ใครอ่านงานจีนมาเยอะเดี๋ยวก็รู้เองแหละ มากกว่านะ(แล้วก็ดันมีคนเชื่อเออออตามไปอีกกก)
คนแปลพูดตอนไหนว่าเกอเกออ้อนกว่า ? แล้วไม่มีคนแย้งมั้งเหวอวะ
>>296 https://www.img.in.th/image/Oh5k6a โพสในเฟส
เออ อีกอย่างเรื่องลวด.ใครอวยงานดี กูว่าไม่อะ นักแปลเก่งๆเค้าไม่อ้างอะไรที่มันผลักภาระให้นักอ่านอย่างงี้หรอก คำแถลงนางทำกูติดใจหลายเรื่องเลย อ้อนไม่อ้อนก็เรื่องนึง แต่อะไรคือใครอ่านงานจีนมาเยอะเดี๋ยวคงรู้เดี๋ยวคงจำได้เอง โห ประโยคนี้ทำกูเคืองอะบอกเลย อ้าวงี้ถ้ากูอ่านมาไม่เยอะอะทำไง ศัพท์จีนมันไม่เหมือนศัพท์ไทยที่ต่อให้กูไม่รู้ก็เสิร์จเจอแน่ๆนะเว้ย กูบอกเลยกูจุกมากกับประโยคนี้ผลักภาระมากๆขนาดนี้ยังมีคนอวยว่าใส่ใจอีกหรอ ใส่ใจบ้านไหนฟ่ะ หาบลวด.คะ ตื่นก่อนตื่นๆๆ นี้ไม่ใช่นักแปลที่ใส่ใจ นี้มันนักแปลมักง่ายขี้เกียจแปลค่า
เห็นความ ปสด เรื่องทับศัพท์ ฝั่งมังงะ ญป ด่ากันยับที่ จจส พิมพ์ใหม่ทับศัพท์แหลก เสือกนึกว่าคนจะชมแบบนิยายจีนมั้ง555
กูเห็นเป็นทุกภาษาเลยนะ เรื่องไหนทับศัพท์ไม่จำเป็นนิ คนด่าแหลกหมด ไม่ว่าจะญี่ปุ่น หรือเกาหลี แล้วอิจีนเป็นห่าไรถึงขอให้ทับศัพท์เยอะๆว่ะกูงง
อยากแปลก็แปล อยากทับศัพท์ว่าเกอก็ทับ ตามใจกู
ไอ้สัส นี่คนทำงานสายอาชีพหรือหน้าด้านเบอร์ไหนวะ แปลตามใจแต่เดือดร้อนคนอ่าน สำเร็จค.ใคร่ด้วยการทับศัพท์เพราะมึงคิดว่าอ้อนกว่า ฟินน้ำแตกเลย
กูจะรอดูว่าแนวพีเรียดมันยังบูมได้อีกนานมั้ยจีนพีเรียดมันทับศัพท์เยอะเพราะติ่งปสดแท้ๆ กูเริ่มเอียนแนวพีเรียดใกล้ถึงจุดอิ่มตัวแล้ว แนวปัจจุบันหลายเรื่องก็น่าสนใจไม่เจอปัญหาทับศัพท์เยอะเจอแต่นักแปลหน้าใหม่มือสมัครเล่นแทน
>>303 ใช่แหละลูกรักสนพ.ดูออก อีกอย่างคนโอ๋เยอะอีก ปจบ.เหลิงไปเรียบร้อย ใครไปตินิรอเตรียมตัวโดนหาบถล่มได้เลย
>>282 ดีใจด้วยมึงที่ผ่านปีนั้นมาได้ พูดถึงปีนั้นกูเคยไปเปรยๆเรื่องทับศัพท์เยอะไว้ในนกฟ้า ยังไม่วายโดนคนแซะเลยว่าแค่นี้ก็จำไม่ได้ แค่นี้? นั่นแค่หรอว่ะ55
>>279 วงการวาย นิยายคือของสะสม สินะ
>>287 ด้อมปรมจ.ท็อปฟอร์มมากเรื่องความปสด.เป็นด้อมที่ยืนยันสถิติคนไทยอ่านหนังสือปีละ 8 บรรทัดจริงๆ(ตอนปรมจ.ไม่ได้มีแค่ความรักวั่งเซียน คือสุดมาก ตราตรึงกูเหลือเกิน) แต่กูขอแถมนิยามใหม่ให้อีกอย่างคือ ภาษาแม่ไม่เข้าใจ ภาษาพ่อไม่รู้เรื่อง
กูไปลองอ่านตัวอย่างปีนั้นในเน็ตมา โอเค กูเก็ตที่พวกมึงว่าละ อ่านแล้วรู้สึกทรมานตั้งแต่บทแรก
หลายๆ คนติดชื่อจีนจากการแปลเถื่อนที่ทับศัพท์ เรื่องนี้จริง
แต่ขอแก้นิดนึง วันนั้นไปฟังคฮ. เรื่องการแปลจีนตั้งแต่อดีตถึงปจบ.
เขาบอกว่าจริงๆ แล้วขนบการแปลชื่อฉายา ชื่ออาวุธสมัยก่อนในนิยายกำลังภายใน
มันไม่ต้องเลือกว่าจะแปลหรือไม่แปลนะ เขาจะใส่มาทั้งคู่เลย
เพิ่งนึกได้อีกประเด็นนึงที่คนด่ากุหลาบเยอะเรื่องความใส่ใจก็คือ มันไม่ใช่แค่การบรีฟปก
แต่ขั้นตอนการผลิตเป็นเล่มก็มีปัญหาเหมือนกัน ถ้าจำไม่ผิด มีเคสหนังสือไม่เท่ากัน ปั๊มฟอยล์ไม่ตรงกับตัวนูน ฯลฯ
อะไรพวกนี้ด้วย แบบหนังสือหลุด QC มาวางขายอะ
ก็เลยคิดว่านี่อาจเป็นอีกสาเหตุนึงที่ทำให้หลายคนด่าว่าไม่ใส่ใจ ยังไม่เห็นมีคนตีซบ. เรื่องนี้
>>309 ปีนั้น ถ้าเลยไปหลังๆจะสบายขึ้นหน่อย เพราะไม่ค่อยมียศทับศัพท์ประหลาดๆโผล่มา ส่วนหวังเยีย กุว่าที่ไม่แปลอ๋องเพราะคนแปลคงแม่งไม่รู้จะแปลพวกเสี่ยวหวัง เสี่ยวเฟย อดีตจักรพรรดิยังไง มันซ้อนกันเยอะ เลยแม่งทับไปให้หมดเลย กะจะคีพอรรถรสและความสูงต่ำ กุพอเข้าใจแต่กุอ่านแล้วเหนื่อยมาก แต่กุอยากจะบอก ว่ากุไม่รู้สึกถึงความสูงต่ำของพวกหนูปี้ หนูไฉ่หรอก ทับมานอกจากจะไม่สื่อความสูงต่ำแล้วมันทำให้กูเหนื่อยที่จะอ่านอย่างเดียวเท่านั้นแหละ กุยอมให้ลดทอนลำดับศักดิ์กับอะไรที่ไทยสื่อไม่ได้ลงบ้างแต่อ่านเข้าใจง่ายสมเป็นภาษาบ้านเกิดกุหน่อยดีกว่า นี่ขนาดกุชินกับแปลจีนนะ (แต่กุไม่ได้เรียนจีน) ยังอ่านแล้วเหนื่อยโคตรๆเลย
อยากคุยว่าเรื่องไหนสนุกกว่ากัน ไปมู้ชั้นจ้า ไล่ที่
ทับศัพท์เยอะๆ เป็ยรสนิยมไปแล้วเหรอวะ การแปลต้องแปลให้คนอ่านเข้าใจดิ งี้นักแปลสบายโคตรเลย แปลอะไรไม่ออกทับศัพท์ไว้ก่อนอ้างเป็ยรสนิยม เป็นกระแส คนเรียนแปลร้องไห้หมดแล้วมั้ง มันก็เกิดจากติ่งปรมจ. ไปดูซีรีส์ แล้วมาปสด. ใส่นิยายปะ ไอ้ทับศัพท์เนี่ย ลามไปถึงมังงะแล้ว กูเอือม ในโม่งก็พูดเป็นร้อยรอบ ในนกฟ้าก็มีคนพูด แต่เสียงไม่ดังเท่าพวกปสด. อนิเมะสวรรค์ประทานพรก็แปลว่าพี่ชาย กูไม่เห็นจะต้องมาเกอเกออะไรเลย มันก็บอกถึงความออดอ้อนได้ ลวด.น่ะ มีฝีมือนะ แต่เอาแต่ใจตัวเอง ไม่แคร์นักอ่านทั่วไป เอาใจแต่ลูกหาบ นักอ่านคนอื่นอ่านแล้วงงไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ ภูมิใจเหรอวะ แปลให้คนอ่านงง ต้องไปหาความรู้เอาเอง
ถ้ากูเป็นครูภาษาไทย กูคงร้องไห้แล้วอะ
ภาษาไทย คำตั้งเยอะแยะ ไม่เอามาใช้ ใช้คำทับศัพท์กันหมด
ถ้าชอบแปลทับศัพท์ภาษาจีนกันนัก ทำไมไม่คอมเมนต์เป็นภาษาจีนไปเลยล่ะ
>>302 https://twitter.com/lazysomedaysss/status/1404362882565898240?s=21 ลองอ่านทวิตนี้ได้ มี ตย อันนี้เหี้ยคือแปบใหม่รอบสอง เสร่อทับศัพท์เยอะกว่าเดิม
คือเดี๋ยวนี้สนพ.ต้องลดระดับคุณภาพงานแปลนิยาย ทับศัพท์เพื่อเอาใจพวกอ่านเถื่อนเงี้ยหรอ ปกติกูไม่ได้จะอคติกับพวกเถื่อนนะ ถ้ามึงอ่านแล้วเงียบๆไปไม่ได้มาตีโพยตีพายจะเอางั้นงี้ แต่คือเดี๋ยวนี้แม่งไม่ใช่อะนักแปลจะต้องแปลยังงั้นอย่างงี้ แปลทับศัพท์นั้นนี่ แล้วงานแปลเถื่อนใครจะมาแปลก็ได้ เกณฑ์การวัดคุณภาพไม่มีแค่คิดว่านักแปลสละเวลามาแปลให้อ่านฟรีพวกอ่านเถื่อนเลยยอมตามเป็นหาบ พอได้ลส.มาแปลไม่เหมือนอ่านเถื่อนเสือกไม่ชินไปตามด่านักแปลแท้ โทษนะ ค่าหนังสือเป็นร้อยอิพวกหาบจะให้แปลคุณภาพเท่าแปลเถื่อน เหอะ
อีกอย่างเวลาแปลเถื่อนใช้ศัพท์คำไหน คำนั้นแปลลส.จะไม่ใช้ กูว่าไม่แปลก ถ้าเค้าใช้เหมือนแปลเถื่อนคงมีหาบไปด่าว่าก๊อปคำแปลเอามาจากแปลเถื่อน(ต่อให้เจ้าตัวนักแปลลส.จะไม่ได้ก๊อปมาก็ตาม แต่คงถูกหายยัดเยียดอยู่ดี) บลาๆ มีดราม่านั้นนี่ไปอีก สนพ.เลยสู้เปลี่ยนคำแปลแต่พอเปลี่ยนแม่งก็ไม่ตรงตัวไม่สละสลวย คำไทยที่ใช้ได้ก็มีน้อยลง เออ กูพิมพ์ๆไปรู้สึกการแปลเถื่อนมีแต่ปัญหา ข้อดีน้อยๆคือไม่เสียตัง แค่นั้นจริงๆ
ทำไมกูรู้สึกว่ายังไง "พี่ชาย" ก็ยังดูอ้อนกว่า "เกอเกอ" วะ คือลองนึกดูในชีวิตประจำวันอะ ถ้ามีน้องเรียก "พี่ชาย" ยังไงก็อ้อนนะ เพราะเรากำลังพูดถึงคำว่า "พี่ชาย" ในบทสนทนาใช่ปะ ไม่ใช่คำว่า "พี่ชาย" ในบทบรรยาย
>>327 การให้เหตุผลว่า เกอเกอ อ้อนกว่า พี่ชาย มันเป็นอะไรที่โคตรจะ subjective เลยนะ ไม่ใช่ว่าคนอ่านทุกคนจะสัมผัสได้ถึงความอ้อนจากคำว่าเกอเกอ นักแปลอ้างเหตุผลนี้ก็เรื่องนึง แต่กูงงคนที่หยิบยกมาอวยว่านักแปลใส่ใจ ใส่ใจยังไงวะะะ ทอดทิ้งคนไม่รู้ภาษาจีนขนาดนั้นอะ ทึกทักเอาเองอีกว่าคนอ่านต้องรู้จักคำว่าไท่จื่อกันแน่ๆอยู่แล้ว นี่คือใส่ใจเหรอ?????
>>327 กูเชื้อสายจีนนะ แต่กูชอบให้แปลเป็นภาษาไทยมากกว่าอะ55 รู้สึกพี่ชาย พี่สาว ท่านพี่ อาจารย์ มันทำให้เส้นศีลธรรมในใจกูสั่นได้มากกว่า555
>>330 กูเหมือนมึงเลยเรียกจนชิน ตั๋วอี๊ ยี่อี๊ ซาอี๊ ตั๋วกู๋ ตั๋วกิ๋ม ไม่ก็เรียกกู๋/อี้/แปะแล้วตามด้วยชื่อเค้า ตอนเด็กๆกูจำได้ว่าตัวเองสับสนกับคำเรียกญาติฝ่ายพ่อฝ่ายแม่สุดๆ คงเพราะญาติกูเยอะด้วยมั้ง แต่ใดๆเวลาอ่านนิยายกูดันชอบให้เค้าแปลคำพวกนี้มากกว่า55
>>330 >>332 ใช่เลย คำเรียกญาติพวกนี้ คนใช้เองมันก็จะชิน รู้ว่าหมายถึงใคร แต่พอคนนอกถาม(คนที่ไม่ใช่ญาติ หรือคนที่ไม่เชื้อจีน) มึงก็ต้องเรียบเรียงออกมาเพื่อถ่ายทอดเค้าอีกที ว่าคุณอาฝั่งพ่อกูอะ(น้องชายพ่อ)
แล้วทีนี้การแปล ดันไม่แปลให้คนนอกที่มีพื้นฐานต่างกันสามารถเข้าใจได้ ก็เหมือนตั้งใจเอาไว้คุยกันเองเฉพาะกลุ่ม คำว่า "สำหรับผู้แปล" มันก็ชัดเจนแล้วว่าไม่ได้ทำมาเพื่อสำหรับผู้อ่าน
เกอเกอ มันคำปกติพี่ชายทั่วไปเลย ไปดูรายการจีนดิ นักแสดง ดารา นักร้องไอดอลเขาก็เรียกว่าเกอเกอง่ายๆเลย ไม่มีฟิลแบบ.... เกอเกอ อ้อนดีจัง
Ky จะว่าไป เทียนกวานนี่ สรุปสแตนดี้นี่คือกั๊กจำนวนจำกัดแล้วใช่มั้ยวะ ไหนตอนเล่มแรกออกมาบอกว่าได้ทุกคนที่ซื้อตรงกับสนพ. ได้หมดเลยคร้า(ตอนที่มีดราม่าฮัสกี้ของหมดใช่มั้ย หรือเรื่องอะไรวะ แต่มีออกมาบลัฟเรื่องจำนวนแจกนี่แหละ) พอเล่ม 2_3 กลับออกมาบอกว่ามีแค่รอบพรีและแจกจนกว่าจะหมดอีก แหม๊ สนพขวัญใจชาวด้อมจิงจิง
KY พวกมึงมีใครอยู่กลุ่มป้าส้มในเฟสบ้างวะ กลุ่มนี้มันคนตรรกะพังกันไม่น้อยเลย โดยเฉพาะพวกไม่สนสี่สนแตดขอให้ได้อ่านเป็นพอ จะผิดลิขสิทธิ์ จะแปลงฟิคมาไหมไม่สน ให้กำลังใจกันรัวๆ จ้าาา แอดมินกลุ่มก็คนดี๊คนดีบอกว่าไม่สนนิยายว่าเป็นแฟนฟิคมาก่อนไหมด้วย ให้กำลังใจนักเขียน นักเขียนที่แอดมินสนิทด้วยก็ตัวท็อปๆเรื่องแปลงฟิคทั้งน้านนน ล่ะตั้งชื่อกลุ่มรักนิยายวาย เหอะๆ กลุ่มนี้มีแต่เรื่องบันเทิงทั้งน้านนน
สอบถามหน่อย เรื่องอ่านชะตาวันสิ้นโลกนี่ ชื่อแท้กในทวิตคืออะไรหรอ ภาษาอังกฤษหรือญี่ปุ่นก็ได้ ที่คนใช้กันเยอะๆอะ ขอบใจ
>>339 กูอยู่ บางเรื่องเหมือนนักเขียนอยู่คนละฝ่าย แอดมินมั้งก็มาถามจี้คนรีวิวว่าใช่นักเขียนร่างแปลงมาอวยนิยายตัวเองหรือเปล่า บลาๆ ไว้เสพเรื่องบันเทิง
>>341 มึงจะเอาแท็กชื่อเรื่องหรือแท็กคู่อะ เวลาลงคู่ชิปเขาไม่ค่อยใช้แท็กชื่อเรื่องกันนะเดี๋ยวโดนด่า หาไม่เจอก็พิมพ์แท็ก#อ่านชะตาวันสิ้นโลกไปแล้วดูแท็กที่คนติดพ่วงก็ได้
>>342 เคสนี้ตลกโคตร หลับหูหลับตาอวยเหมือนเด็กไม่เคยแกะนิยายอ่าน กดหัวคนอื่นเพื่ออวยตัวเอง มารยาทแย่
>>339 กูอยู่ บันเทิงดีนะมึง ตรระกะตลกตั้งแต่แอดมินแล้ว เข้ากลุ่มแล้วมึงต้องไปรายงานตัวว่าเป็นคนเขียนหรือคนอ่านนิยาย วันดีคืนดีเรียกคนไปรายงานตัวนับเลขต่อ ๆ กัน ดรามามีตั้งแต่ปญอ. ไปจนถึงโกงจริงจัง ความบันเทิงแบบที่เน็ตฟลิกซ์หรือฮ็อตสตาร์ก็ให้กูไม่ได้
ฮัสกี้กูมีแววดังแล้วว่ะ
ขนาดเว้นช่องไฟยังเอามาด่าได้
แหม่ เทียนกวานดีมากเลยมั้ง
อย่าพลาดนะ กูจะเหยียบให้จมตีน
เคสช่องไฟกับฟ้อนต์ในเล่ม อันนี้กูก็ว่าเกินไปหน่อย
แต่คิดว่ามันก็เป็นตัวบ่งบอกเหมือนกันว่า
ก่อนหน้านี้ (อาจเป็นก่อนหน้า ปรมจ. และต่อมากับเทียนกวาน) ไม่อ่านนิยายเป็นปกติอะ
เพราะกูเคยเห็นคนวิจารณ์ฟอนต์แจ่มใสกับฟอนต์ที่โรส (และทั้งเครือของอมรินทร์) ใช้เหมือนกัน ซึ่งเขาก็ใช้กันมาอ่า... เป็นสิบปีแล้ว
>>347 ด้อมวายในนกฟ้าเนี่ย ปสด
ปสด มากๆ เหมือนไม่ใช่นักอ่าน
นักอ่านปกติ ไม่ว่าผช หรือ ผญ เค้าไม่มานั่งซีเรียสปกกัน
กูเคยเห็นบางเรื่อง ไม่มีรูปตัวละคร มีแต่ชื่อเรื่องกับชื่อคนแต่งด้วยซ้ำ
ไม่เห็นนักอ่านจะโวยวายอะไร
คุณค่าของหนังสือ แม่งวัดกันที่เนื้อหา ไม่ได้วัดกันที่หน้าปก
มีแต่พวกปสดเท่านั้นแหละ ที่ออกมาฉอด
ช่องไฟนี่ถ้าที่เห็นคือคนเดียวกัน เค้าก็ดูเป็นติ่งฮัสกี้อยู่แล้ว ดูจะตามหลายเรื่องเลยด้วย
เรื่องวัดจีนนี่กูจำฝั่งใจไว้ วันไหนซบ.ล้มกูจะเอามาขยี้พวกติ่ง
ว่าแต่ทำไมต้องอวยเทียนกวานด้วยการยกฮัสกี้มาเทียบ งง ทั้งเรื่องปก เรื่องช่องไฟ
เอาจริงกุอยากให้กุหลาบมันโดนวิจารณ์บ้างจะได้ปรับปรุงคุณภาพ แต่เห็นคนกดหัวกุหลาบแล้วอวยเทียนกวานนี่กุก็อเมซิ่งเหมือนกัน อิเซ้นมันก็ไม่ได้ประเสริฐเลิศล้ำขนาดนั้นง่ะ
เดี๋ยวนี้ในนกฟ้าแม้แต่สายนิยายก็แปลกๆ
>>359 กุหลาบมันก็กากจริง กูก็เคยมาบ่นเล่ม2-3ในนี้ว่าดรอป เล่มแรกอุตส่าห์ทำมาสวยแท้ๆ ปกติกูตามแต่ฝั่งตปทเขาก็หวีดตอนปกเล่มแรกออก แต่พอเล่ม2-3แม่งกริบ
นขแม่งไม่คุมคุณภาพ ส่วนบกก็ไม่ไฟว์เพื่องานตัวเอง เขาป้อนไรก็กิน เล่ม2ก็หน้าแปลกๆ ถ้าบอกว่าคนวาดคนละคนกับเล่ม1,3กูก็เชื่อ ส่วนเล่ม3ก็เชยๆชืดๆ จิบิก็จืดๆเชยๆ ลงสีแบบจิบิมินิมอลจุ่มเงาจิ้กสองจิ้ก ตัดเส้นปากกาเมจิกตรงๆ ในขณะที่จิบิคนอื่นเดี๋ยวนี้เขาลงสีละเอียดแทบจะเทียบเท่างานปกติกันแล้ว
คงโดนเทียบกันยาวๆแหละ กูเป็นซบกูแกล้งเปิดพรีใกล้ๆกันแม่งเลย ให้กุหลาบโดนด่าทุกครั้งที่ออกเล่ม สะใจๆ
>>359 กูดีใจนะที่กุหลาบโดนวิจารณ์จนปรับปรุง(บางเรื่อง)ขึ้นมาได้ แต่…การเอาอิซบ.มาเทียบแล้วกดหัวกุหลาบนิทำกูขำไม่ออกจริงๆ แถมติ่งซบ.ก็อวยเวอร์เกิน ดราม่าที่ฉอดแต่ละอย่างทำยังกะทั้งชีวิตไม่ค่อยอ่านนิยาย ขนาดซบ.มันพลาดเรื่องวัดปุ่นแบบไม่น่าให้อภัย ยังมองเบลอหาเรื่องแก้ตัวให้ซบ.แทนเองเลย แม่โม่รู้จะกระอักเลือดไหมนะ ที่เอาวัดปุ่นมาใส่ในนิยายจีนของตัวเอง
>>349 เห็นด้วยกับมึงทุกอย่าง คุณค่าของหนังสือไม่ได้วัดกันที่ภาพปก เนื้อหาต่างหากที่จะตัดสินคุณค่าของหนังสือ แต่สำหรับอิพวกปสด.คงไม่ได้มองนิยายเป็นหนังสือที่มีไว้อ่านแล้วมั้ง คงมองเป็นของสะสมที่มีไว้วางสวยๆบนหิ้งมากกว่า วันดีคืนดีค่อยหยิบมาลูบหยิบมาคลำแล้วค่อยถ่ายอวดคนลงโซเชี่ยลให้ชาวบ้านกรี๊ดกร๊าดเล่น จากนั้นก็วางแมะอยู่บนชั้นไม่แตะต้องประดุจหิ้งพระจริงๆ วันไหนเงินช๊อตก็ค่อยปล่อยขายหาเงินโปะหนี้ วนลูปแนวๆนี้
กูอยากพูดเรื่องหนึ่งมากเลย กูไม่ชอบปกฉางหยางกูว่ามันรก แต่กูดันพูดไม่ได้ พูดไปก็โดนติ่งซบ.ด่า ถล่มว่าเข้สใม่ถึงผิดที่ตัวกูเองทั้งๆที่มันเป็นเรื่องรสนิยม ดูดิว่าแค่จะวิจารณ์ว่าไม่ชอบนักวาดแค่นี้ยังวิจารณ์ไม่ได้เลยกับสนพ.นี้แล้วจะมีใครกล้าไปเปิดแรงๆบนนกฟ้าให้มีกระแสวะ
>>287 กูอยากให้เค้าแปลฉายาจารย์เหมียวนะ อวี้เหิงกลางราตรีก็ได้ (แต่ไม่ต้องถึงกับท่านเซียนดาวหมีใหญ่) เพราะมันมีบทบรรยายที่เล่นคำอะ ว่าใครมองอวี้เหิงฯ พี่ท่าจะควักลูกตาเอามากิน 55 แปลไทยแล้วอาจารย์ดูสว่างไสวดี แต่กูว่าฮัสกี้ก็ทับศัพท์เยอะนะ แต่ก็ดีที่ไม่ทับสรรพนาม เกี่ยวกับคัลเจอร์สนพด้วยมั้ยวะ ที่เค้าอยู่มานาน เฮดใหญ่น่าจะไม่ชอบการทับศัพท์ไปเรื่อย
กูคถงานแบบมกร อาศรมไร้รัก กระบี่ตัดอาลัย ไม่ต้องเว่อมากก็ได้ แต่ให้อารมณ์เท่ๆหน่อย
>>364 เห็นมึงพูดเรื่องจิบิ ก็อยากด่ากุหลาบ ขนาดใหญ่ซะ ลำพังงานของนวเองก็ไม่ได้ดีเด่ เหมือนขยายจุดด้อยอะ
ตลกปะ เปรียบเทียบนิยายสองเรื่อง เปรียบเทียบเฉพาะหน้าปกกับช่องไฟ แต่ไม่ยอมเปรียบเทียบว่าเนื้อเรื่องเรื่องไหนสนุกกว่ากัน
เหมือนดูละครช่อง 3 ช่อง 7 เปรียบเทียบหน้าตานางเอกพระเอก แต่ไม่ยอมเปรียบเทียบว่าละครเรื่องไหนสนุกกว่ากัน
ถ้าจะยกเทียนกวานมาเทียบกับฮัสกี้ ทำไมไม่เทียบเนื้อเรื่องไปเลยอะ
หรือเอาชนะได้แค่หน้าปก?
กูว่าไม่ใช่เทียบไม่ได้แต่ไม่รู้จะเทียบยังไง เพราะปกติเอานิยายมาไว้ขึ้นหิ้งเฉยๆไม่เคยอ่าน จะเอาเนื้อเรื่องอะไรมาฉอดละ
>>386 มึง! จับมือ กูก็ชอบแปลไทยแบบมากกว่ารัก อาศรมสิ้นรักกับตัดอาลัยคือดีมาก ฮัสกี้ก็ไม่แปลศาลาหงเหลียนนะ (ศาลาบัวแดง) หรืออาจจะปัดไปเชิงอรรถ จำไม่ได้ กระบี่ตัดอาลัย กูว่าพออยู่ในบริบทอ่านแล้วได้อารมณ์กว่ามาก แบบ “อาจารย์… ศิษย์ขอร้อง ไม่เอากระบี่ตัดอาลัย ท่านอย่าใช้”
และกูจะบอกว่าจริงๆ ฉายาอาจารย์เขาแปลไว้ให้ในเชิงอรรถเล่มแรกนะ แต่พออ่านนานๆ ก็ลืมอะ
กูก็ลืม
“อวี้เหิงยามราตรี” ซึ่งถ้าเคยลองไปเปิดอิ้งค์ เขาจะ “Yuheng of the Night Sky” ทุกครั้งเลย อ่านแล้วแบบมันโรแมนติก นุบนิบในใจมาก เสียดายที่ sense นี้หายไปในภาษาไทยเหมือนกัน
>>370 คงไม่ได้ตั้งใจข่มเนื้อเรื่องมั้ง ข่มสนพมากกว่า แต่ถ้าจปสคือข่มเนื้อเรื่องจริงกูโกรธนะไอสัส ปกป้องจารย์เหมียวยิ่งชีวิตด้วยเกียรติของทาสแมวหยิ่ง
>>369 พ้อยท์ของเรื่องมันมีอยู่แค่นั้นเหรอวะ 555 แต่กูก็ยังไม่ได้อ่าน ไม่ได้ซื้อด้วย
>>367 เดะมึงเจอ เป็นบุญของประเทศไทยที่ได้ปกลายเส้น อ. ที่ออกแบบคาร์แรคเตอร์ ภูมิใจในเวอร์ชั่นไทยมากๆ สินค้า OTOP ส่งออก
มีแต่มดสินะที่ลอยตัวเหนือดราม่าไม่มีดร่ามาอะไรที่ทำให้สะดุ้งสะเทือนได้ ส่วน อวว ขนม กุหลาบเนี่ยโดนยำเละ
นอกเรื่องแปบ น้ำตาจะไหลไม่เห็นโม่งคึกคักขนาดนี้มานานแล้ว อบอุ่นเหมือนอยู่ห้องแชทโม่ง 5555555 แต่กูชอบคุยในบอร์ดมากกว่า คิดถึงโม่งทุกคนนะ จุ๊บ
ให้กูพูดจริงๆคือขนาดบกร.ยังโดนเละทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิด(คือจุดผิดแม่งน้อยมากเมื่อเทียบกับอิซบ.หรือ กล.)ยังโดนถล่มแบบไม่มีเหตุผล ปัญหาจริงๆแล้วไม่ได้ขึ้นอยู่กับสนพ.แต่มันขึ้นอยู่คนในด้อมมันหิวแสงอยากหาตีนให้บกร.เฉยๆ ที่อวยๆซบ. จริงๆมันเคยอ่านนิยายของสนพ.นี้บางป่าวก็ไม่รู้(ถ้าอ่านจริงมันคงไม่ใช้อิซบ.มากดบกร.แน่ๆอะ) ที่กูสงสัยจริงๆคือิพวกคนหูเบาที่เชื่อค่านิยมลูกหาบกับเออออห่อหมกไปกับตรรกะแปลกๆของด้อมนี้มากกว่า กูอยากเข้าใปตบหน้าแล้วบอกให้พวกแม่งตั้งสติก่อนอะไรจะไหลตามน้ำกันขนาดนั้น บางคนอ่านนิยายเป็นสิบยี่สิบเรื่อง แปลห่วย ปกเหี้ย ออกช้าบัดซบก็เจอมายิ่งกว่านี้ไม่เคยด่า แต่พอเป็นเรื่องม่าปรมจ.เท่านั้นแหละ เหมือนโยนทั้งความทรงจำทั้งตรรกะทิ้งให้หมาคาบไปแดก อะไรจะด่าได้หน้ามืดตามัวกันขนาดนั้น อิซบ.ที่ยกมาอวยๆกันวีรกรรมเหี้ยกว่าบกร.อีก
เอาจริงนะ อิพวกอวยๆซบ.มันไม่รู้หรอ ว่าสนพ.นี้วีรกรรมเหี้ยขนาดไหน
ถ้ายุบสนพอื่นให้หมด เหลือแต่ซบอย่างเดียว จะสมใจพวกติ่งปะวะ
เอางั้นเลยปะ
>>385 กุก็บอกแล้ว ทำตัวลอยๆ นิ่งๆ อย่าลงมายุ่งกับลูกค้าเทพปสด.จะดีเอง ตอนเคลมสารบัญ2 โดนไปใช้น้อยมั้ยล่ะเพราะมาคลุกคลีกะสายปสด.ไง
แต่แม่ง ไอ้นี่น่าด่ากว่าทุกสนพ.อีก พิมพ์ผิด พรูพพลาด แปลผิดเวอร์ยังทำมาแล้ว ปล่อยคนแปลแปลมั่วออกมาจนโดนจนคนอ่านเปิดโปง ถ้าวัดในแง่คุณภาพงานหนังสือที่นี่ควรโดนสาบที่สุดแล้ว กุถึงว่าสายโซเซียลio แม่งทำงานได้ผลดีจริง
มึงว่าซบมีโพเทนเชี่ยลเป็นจงหยวน2มั้ยวะ
เบื่อหาบซบ แหกตาดูความเป็นจริงกันหน่อยจ้า ไม่ใช่คิดจะอวยกันอย่างเดียว แต่ละม่าที่เอามากดสนพอื่นคือกลัวคนอื่นไม่รู้หรอว่าตัวเองปสด
สิ่งที่กูเหม็นที่สุดเกี่ยวกับซบคือมีปัญหาอะไรก็โยนขี้ให้นักวาดกับนักแปลก่อน หนังสือออกช้าเหรอ? อ๋อ นักวาดส่งงานช้าค่ะ นักแปลติดต่อไม่ได้ค่ะ ปกคอมโพสซ้ำกับนิยายค่ายอื่นเหรอ? อ๋อ บรีฟไปนานแล้ว รอนักแปลส่งงานค่ะ
อิกุหลาบถึงงานมันจะแย่แต่มันก็ปกป้องนักแปลมันเต็มที่เลยนะ กลายเป็นนักแปลนั่นแหละออกมาบอกว่าตัวเองผิดเอง สนพ.ไม่ผิด ขณะที่อิซบเอาสนพ.รอดก่อนจ้า นักวาดนักแปลเป็นกระสอบทรายแทนให้หน่อยน้า มุแง
กูว่าถ้าวันไหนลวด.ล้ม ซบ.มันคงถีบหัวส่งอารมณ์แบบสนพ.ไม่รู้เรื่อง นักแปลอยากแปลเอง งานแปลเป็นแบบนี้เป็นความผิดของนักแปลสนพ.ไม่เกี่ยว สนพ.ดูแลแค่เรื่องจัดปกรูปเล่ม บลาๆโบ้ยๆ
ซบ บอก เราไม่มีปกจูบนะคะเพราะว่าศีลธรรมอันดีงาม เกรงว่าจะวางขายหน้าร้านหนังสือไม่ได้ ติ่งก็อวยๆเห็นด้วย ผ่านไปเปิด 3 ปก คู่หมด ติ่งก็ไปเทียบกับกุหลาบทำไมไม่ทำปกเนื้อเรื่องๆบลาๆ กุงงอีพวกนี้ มันได้อ่านที่ตัวเองเคยทวิตไว้มั้ยอ่ะ
อีกหน่อยวงการวายคงชิบหาย ถ้าอิติ่งพวกนี้ยังไม่หยุดสำรอกความเน่าเหม็นออกมา(หรือมันชิบหายไปนานแล้วว่ะ?)
กุเคยพูดเรื่องปกเดี่ยวปกคู่ในมู้โม่เซียง กุก็โดนไล่ ลูกหาบเยอะมาก อีพวกปสด เนื้อเรื่องสนุกพวกมึงทำฉิบหายหมดสนแต่ว่าเขาจะรักกันตอนไหน กุรำ
จะว่าไปปกเล่มสามไม่ตรงกับเนื้อหา ถ้าเป็นบกร.เละแล้ว เจอแต่หาบอวยถามว่าอ่านยัง ก็ยัง
สุดท้ายไม่ว่าจะบกร.หรือกุหลาบ ก็โดนติ่งปสด.สับเละเรื่องปกคู่อยู่ดี ปากบอกไม่สนปกคู่แต่การกระทำสวนทางกับคำพูดสุดๆ ที่เห็นด่าๆมาตั้งยืดยาวสุดท้ายก็สรุปได้แค่ว่าทำไมไม่ทำปกคู่
ปกเล่มสามไม่ตรงเนื้อหาไม่โดนม่าหรอ(ยังไงปกคู่ก็สำคัญกว่า) จริงๆถ้าไม่ใช่อิเซนคงไม่รอดตั้งแต่อิภาพวัดญป.ล่ะ แต่บังเอิญเป็นสนพ.ในดวงใจติ่งปสด.ทำไงเลยรอด มองเบลอเห็นเป็นเรื่องขำขัน ไม่รู้นานๆไปโม่งในนี้จะโดนติ่งหรือสนพ.ล้างสมองอีกไหม กูเห็นเป็นกันมาหลายคนละ อิทธิพลของอุปทานหมู่ช่างน่ากลัวววว
>>394 ถ้าซบมันทำงั้นจริง มันก็ทุเรศเกินทนน่าขยะแขยงซิบหาย กูรอวันที่อีซบมันล้ม กูไม่เชื่อว่ามันอยู่เป็นดาวค้างฟ้าได้อีกนาน มันต้องล้มแน่นอนถ้ามันยังเพิ่มเลเวลความเหี้ยขื้นไปอีก
ใดๆคือกูรำคาญพวกติ่งปสดนี้ซิบหาย หายๆไปสักทีเถอะ อีซบกูเกลียดมึง อีตัวนำพาวงการซิบหาย
อีพวกขยะ ติ่งเทียนกวาน ติ่งซบ ส่วนมากอยู่ที่นกฟ้าด้วยนะ
ใช่สิ พวกมึงด่าได้โดยที่ไม่ต้องเปิดเผยตัวนิ
คิดว่าพอไม่มีคนรู้จัก ก็สำรอกคำพูดเน่าๆออกมาได้หน้าตาเฉย ทุเรศจริงๆ แหวะ
นี่ก็ไม่มีใครรู้ว่าเป็นใครไงเลยกล้าพูดขนาดนี้ กล้าทั้งที่มีกระทู้ให้กลับไปดูย้อนหลังได้
มู้โม่เซียงนี่เทียบกับมู้นี้และมู้ชั้นคือตีกันเบากว่ามาก ติดจะงอแงด้วยซ้ำแทบจะเป็นพันทิบอยู่ละ กูก็ใช่ว่าจะพิศวาสซบตอนตรยขกูก็ยังไม่ลืม
>>411 คิดว่าคนในมู้มาเห็นไม่ได้หรือยังไงวะเนี่ย5555
แล้วที่เค้าให้ย้ายไปคุยมู้อื่น เพราะเมาท์ติ่งนสด.พูดถึงเรื่องอื่นทั้งที่เป็นมู้แม่โม่ เมาท์นิดๆหน่อยมันเป็นสีสันห้อง พูดยาวแล้วเริ่มหลุดจากหัวมู้ไปมู้อื่นก็ถูกแล้ว เทียบกับในมู้อื่นคือตีกันเบาจริง ใช้คำว่าตียังไม่ได้เลยด้วยมั้ง
แถมตอนนั้นซีรี่ย์ที่พูดถึงก็ไม่ใช่ฮัสกี้ด้วยนะ ในนั้นทั้งพูดว่าปกเดี่ยวไม่เป็นไร ขุดซบตอนดราม่าปรมจ บ่นเรื่องทับศัพท์ ไม่พอใจอะไร5555
หรือเคืองที่คนอื่นเค้าไม่ด่ากราดติ่งอย่างที่หวัง แหม่...ถึงบางคนเค้าไม่ชอบติ่งปสด เอือมซบ ≠ ใครมาพูดอะไรแล้วเชื่อเลยนา จะบอกว่าด้อมนี้มันปสดสุดก็ว่าไปเถอะ แต่สงสัยจะลืมว่าครั้งนึงคนด้อมนั้นเย้วๆจะเอาทับศัพท์ โชคดีที่ทางสนพ.เค้าไม่เอาด้วย ทำเหมือนดีนักหนากุก็สามารถเหม็นลูกหาบปสดที่อวยเว่อๆไปพร้อมกะเหม็นเมิงได้เหมือนกัน
>>418 กุจำได้ ช่วงหลังเหมือนมู้เละเทะ บางเรื่องที่เอาเข้ามาถามเหมือนไม่อ่านชื่อมู้เลยตอนนั้นที่ดราม่ากันเองในมู้กุไม่ได้พูดอะไร เพราะกุเห็นด้วยทั้งสองฝั่ง แบบด่าเยอะจริงคนอื่นพูดเรื่องอื่นก็ไปโยงเข้ามาด่า เค้าไม่ได้ห้ามด่าแต่เหมือนหาพวกอะ มันเยอะเกิน เสียดายตอนนั้นกุน่าจะบอกว่าให้อ่านข้ามๆบางคนไปแบบมู้ชั้นดีกว่า ปล่อยให้ตีกับติ่งปากแจ๋วที่บุกมาไปซะ พักหลังบรรยากาศมู้โคตรอึดอัด ใดๆกุเห็นด้วยถ้าพูดถึงเรื่องอื่นยาวควรไปมู้อื่น
ปล.นี่ก็ข้ามๆไปเถอะ จบๆไป
ใครตามดราม่าเวบตูนเกาหลีบ้างมั้ย กุอ่านตั้งแต่เมื่อคืน
ของ yd
ก็จนปจบมู้ดับ เพราะไม่มีคนคุยต่อ คนเข้ายี้หมดแล้วจ้า
งั้นก็แล้วแต่เลย สรุปเลยคือถึงในมู้จะบ่นเรื่องทับศัพท์ บ่นซบ ชอบปกเดี่ยวแต่ถ้าไม่ด่าติ่งตามๆกัน ไม่เข้าข้างต่อให้รู้สึกว่าบางประเด็นที่ด่ามันมั่ว ไม่ใช่แฟคก็ต้องด่าตามๆที่บางคนชักจูงกันไปนะจ๊ะ การกระทำคุ้นมากๆ สุดท้ายเป็นแค่นกฟ้ากลับด้าน ดับไปก็ดี นับถือในความกล้าพูดไรมั่วๆทั้งที่มันเข้าไปดูอยู่ได้ตลอดจริงๆอย่างว่าล่ะนะเพราะไม่รู้ว่าใครเป็นใคร
เวลามีทอร์คของนักเขียนใส่มาทีไร กูต้องรีบเลื่อนข้ามทุกที กลัวอ่านทัศนคติคนเขียนแล้วจะผิดหวังว่ะ
กุไม่เห็นชอบปกเล่ม2ของเทียนกวานเลย ตัวพอ.ยาวเกินไปดูเป็นคนสันหลังยาวไปเลย ส่วนฮัสกี้กุว่าตั้ง10 เดี๋ยวปกคู่ก็มา มีแต่ปกคู่เหมือนเทียนกวานกุคงเบื่อแย่ จัดหน้ากุก็ชอบแบบของกุหลาบนะ อย่าไปดิ้นตามนะ กุอ่านสบายตาดีแก่แล้ว
โดนจับข้อหาปั่นเฟคนิวส์ซะงั้น ทั้งที่พูดกันก็แฟคทั้งนั้น แค่พูดในโม่ง เพราะพูดนกฟ้าก็หาเจอแต่สนพทำดีที่สุดแล้วววว บลาๆ ไหลตามทลเซเลบทั้งนั้น
ถ้ากุไปเม้นว่า พอ.นี่สงสัยจะขี้เกียจนะคะ สันหลังย๊าวยาวววว กุจะโดนลูกหาบถล่มมั้ยวะ 5555
มันเริ่มจาก401มะ ความจริงประเด็นปกเดี่ยว-ปกคู่เค้าก็คุยกันหมดไม่มีใครไล่ ประเด็นทับศัพท์,ซบ มู้แม่โม่ก็พูดไปทิศทางเดียวกับมู้อื่น ด่ามั่วกูหมายถึงในมู้แม่โม่ตอนนั้น กูก็ขี้เกียจแล้วนะ เพราะมันผ่านมาละพูดไปมากกว่านี้ก็ไม่ได้อะไร กูแค่แย้งเพราะเห็นแล้วทึ่งกับความกล้า ไอไหลตามกระแสในนกฟ้านี่มันก็เห็นๆกันอยู่ ถ้ามันจริงจะแย้งทำไม สรุปปัญหามันอยู่ตรงไหนหรือแค่รับความเห็นต่างไม่ได้
เอาจริงๆกูเข้าใจคนที่ไม่ชอบปกฮัสกี้เพราะมันไม่มีเรื่องราวนะ แต่ถ้าจะวิจารณ์ปกฮัสกี้ก็พูดถึงแต่ปกฮัสกี้ก็ได้มั้ยวะ จะยกเรื่องอื่นมาข่มเพื่ออะไรเนี่ย
55555555555555555555555555 กูขำ
ไม่ใช่แค่ศาล ชุดเซี่ยเหลียนก็ไม่ตรง ชุดมันหรูเกินกว่าจะเป็นชุดนักพรตธรรมดา
ดิฉันได้ฟังข่าวคนฉีดแอสตร้าแล้วยังเสียชีวิตจากโควิด รู้สึกตกใจมากๆ แสดงว่าไม่มีวัคซีนตัวไหนที่ทำให้เรารอดแล้วใช่ไหม😭😭
กุว่าปก เทียนกวาน ของ ซบ ดูรกมาก ไก่เขี่ยยังไงไม่รุ้
เป็นสนพน่ารังเกียจ ที่คู่กับติ่งไร้สมอง
กุก็ไม่ชอบอิเซ้นนะ วีรกรรมเยอะจัด แต่เริ่มจะรำคาญคนปั่นไปเรื่อยในกระทู้นี้เหมือนกัน ไม่ดีตรงไหนก็ยกมาวิจารณ์กันเป็นเรื่องๆไปสิ ไม่ใช่พาลด่าไปเรื่อย มึงก็แค่เกลียดติ่งปรมจปะแบบนี้
เม้นปั่นไร้สาระเยอะนะ ที่บอกมู้โม่เซียงมีแต่ติ่งปรมจจะเอาปกคู่นี่เลอะเทอะจนกูขำอ่ะ 55555555
กุยอมแล้ว 55555 ทั้งด่า ทั้งวิจารณ์ยังทำอะไรซบไม่ได้ หาว่าปั่นไปอีก เอาที่พวกมึงสบายใจจะอวยกันเลยแล้วกัน
ต่อ เผลอกดส่ง เดี๋ยวกูเริ่มให้เลยแล้วกัน ซบเห็นถึงความรักของฮวาเหลียน ใช้ปกคู่ทุกปกเลย ดีมากๆ ฉากซีนไม่สปอยเนื้อเรื่อง ฉางหยางคู่บุญโม่เซียง ของแถมไม่ต้องแย่งชิงกัน ดีกว่าทุกๆสนพในโลกนี้ ออกช้าได้ไม่เป็นไรรอได้ แปลดีมากๆ
ดูร้อนตัวเหมือนเป็นขายความน่าสงสารโดนเบียดทั้งๆที่ไม่มีใครทำ ถถถถ
กุก็ไม่ชอบปก แล้วจริงๆสิ่งที่ทำให้เกลียดมากจนบางทียอมรับว่าอดแซะไม่ได้ก็เพราะวีรกรรมของซบกะติ่ง เพราะชอบยกซบโดยการกดคนอื่น กับเวลาสนพ.อื่นไม่ถูกใจก็ว่าๆๆแล้วยกซบมาเปรียบเทียบ ที่หนักๆเลยก็อลิสกะขนม แค่แปลไม่ถูกใจก็ว่าเค้าแปลผิดแปลพลาด แค่ปกไม่ถูกใจก็ว่าเค้าทำไม่ดีไม่สวย ด่าซะมันเกินไปวะ ทั้งๆที่เอาจริงๆไม่ได้ผิดเลยแค่ไม่ถูกใจ จำได้ก่อนซีรี่ย์ฉายเล่มแรกออกก็ไม่ได้มีดราม่าอะไรเลยสักนิด ขอโทษที่ต้องเอาเรื่องนี้มาพูดอีก แต่มันเป็นเรื่องที่นึกถึงทีไรก็ว่ามันไม่ถูก
ดันจ้า หาไรไม่เจอเลย
>>457 +1 คือกูว่า ปก ของ ซบ มันก็สวยดี แต่พฤติกรรมเอาปกไปข่ม ปก สนพ อื่น ไปทำให้ สนพ อื่นโดนด่า โดนไปงอแง ดราม่าไร้สาระ ทั้งที่ปกมันไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น มันทำให้กูรังเกียจ สนพ นี้ แถม สนพ ยังชอบไปโหนดราม่าให้เพื่อนร่วมวงการโดนด่าแบบงงๆ อีก เลยทำให้กูอดแซะปกดีงามพระรามแปดของแม่งไม่ได้แหละ
มีกุคนเดียวปะที่ไม่ค่อยเข้าใจว่าดราม่ากันเบอร์นี้ทำไม เมื่อก่อนกุว่ากุเคยเห็นคนคุยกันเรื่องปกที่ไหนสวยสุด พวกนิยายชญอะ รู้สึกสายวายทุกอย่างสามารถเป็นเรื่องใหญ่ได้หมดแม้กระทั่งการเว้นช่องไฟ
>>466 เรื่องมันเริ่มจากอีติ่งซบมันสันดานเสีย ระรานสนพอื่นไปทั่ว
คนอื่นเขาอยู่ของเขาดีๆ เวลาชม เวลาด่า ไม่เคยไปพาดพิงเรื่องอื่น สนพอื่น
อีนี่ มาถึงก็เปรียบเทียบเลยจ้า กลัวคนไม่รู้ ลากเขามาประจาน เหมือนไปฆ่าคนตาย ทั้งๆที่มันพลาดแค่นิดเดียว จุดอื่นมันโอเคหมด
ด่าเหมือนไม่มีอะไรดี ทั้งๆที่ตัวเองก็ไม่ได้ดีเด่อะไร เชิญอยู่กับเกอเกอของพวกปสดไปเถอะ
>>466 กุผิดเองที่พูดไม่ชัด ที่กุจะสื่อคือทำไมมันเป็นเรื่องใหญ่จัง สายอื่นเค้าคุยกันปกติปะอะ ปกสนพ.ไหนสวยสุดเค้าก็คุยกันได้ มีการออกความเห็นเกี่ยวกะปกแต่ล่ะที่ รึว่าเป็นกฎเฉพาะของสายวายอ่อ กุอ่านวนทวิตนั้นหลายรอบละ มองแล้วก็แค่ความเห็นของคนๆนึงเอง ความเห็นเค้ากะปกฮัสกี้ก็คล้ายคนอื่น แค่เรื่องอื่นนอกจากปกเหมือนจับผิดเกินไป พวกที่กุมองว่ามาอวยแล้วข่มคือคนอื่น อย่างมากกุก็เห็นด้วยกับ >>433 ครึ่งหนึ่งเพราะจำเพาะเจาะจงเทียบแต่กะเทียนกวานกัน
แล้วกุพูดแค่นี้แปลว่ากุต้องเลือกแค่เกอเกอเหรอ5555เรื่องไหนออกมาดีกุก็ซื้อ กุไม่ได้ทำตัวเองให้ไร้ทางเลือก กุแค่คนมุงม่าไม่ได้ตามทั้งสองเรื่องเลยจ้า
>>468 เพราะมันออกพร้อมๆกันมั้ง แถมดังในจีนมากเหมือนกัน
>>469 ปกติมันพูดได้ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเป็นปกติ แต่พอมาอยู่กับเรื่องเทัยนกวานอกจากแฟนคลับจะเอาไปใช้เหยียดแล้วยังฟันธงไปเลยว่าหน้าปกฮัสกี้ไม่สวยทั้งที่มันเป็นเรื่องรสนิยมอ่ะ แล้วก็ไปตามกันว่าเทียนกวาสวยกว่า เหมือนตัดสินว่าปกฮัสกี้ผิด และอีกอย่างคือไม่สามารถวิจารณ์ปกเทียนกวาได้ว่าไม่ชอบ เพราะไม่งั้นจะเป็นการหลบลู่นักวาด
กูขรรมความแซะ “ไม่ใส่ใจในการบรีฟปก” ถ้าแขวะตรงๆ ว่างกค่าวาดก็จะรู้สึกว่ามีเหตุผลนะ คาร์ 1 ตัวกับคาร์ 2 ตัวราคาต่างกัน ระยะเวลาทำงานก็ไม่เท่ากัน ความดังนักวาดก็ทำให้ราคาไม่เท่ากัน คิวยาวไม่เท่ากัน ปัจจัยเยอะมากๆ แต่ดันแซะแค่เรื่อง “ไม่ใส่ใจการบรีฟ”
สำหรับกู วิจารณ์ปกได้ แต่ไม่ควรเอามาเทียบกัน
บอกปกไม่สวย ก็บอกไม่สวย
ไม่ใช่บอกปกไม่สวย ไม่เหมือนอีกเรื่อง สวยกว่าตั้งเยอะ แบบนี้มันโพสล่อตีน
ทีทวิตอวยการแปลฮัสกี้
คนโพสอวยการแปลฮัสกี้ ยังไม่เหยียดเทียนกวานเลย
เขาไม่โพสเหยียดเทียนกวาน ว่าเทียนกวานแปลห่วย ไม่เหมือนฮัสกี้ แปลดีกว่าทั้งเยอะ
จะโพสแบบนี้ก็ได้ แต่ไม่โพสอะ ้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้ เข้าใจปะ
จะชมก็ชม จะด่าก็ด่า แต่อย่าเปรียบเทียบ
มันจะทำให้ด้อมทะเลาะกัน
อารมณ์มันเหมือนมึงตามไอดอล
ชม bts ว่าเพลงดีกว่า exo ไรงี้
เปรียบเทียบกัน มันก็ทะเลาะกันดิ
กูคนนึงอะ เจอแบบนี้แล้วจะไม่เก็บเทียนกวาน
>>478 สำนวนบางคนก็เหมาะจะทับศัพท์ บางคนไม่เหมาะ บางเรื่องบริบทควรทับ บางเรื่องไม่ควร กูว่าถ้าซัดกันอย่างมึงบอก แทนที่จะสร้างสรรค์มันจะกลายเป็นการตีกรอบการใช้คำมากกว่านะ นอกจากหัวร้อนด่ากันแล้วไม่เห็นจะได้อะไร
แล้วว่าก็ว่า บางคำนี่กูคิดว่าควรทับศัพท์นะ อย่างกั๋วซือเงี้ย เห็นแปลออกมาทีไรก็ได้ว่าราชครูเกือบทุกที ซึ่งกูเข้าใจว่ากั๋วแปลว่าประเทศ ซือคืออาจารย์ แต่จริงๆแล้วกั๋วซือไม่ใช่ราชครูไง ออกแนวปุโรหิตมากกว่า แต่จะใช้ปุโรหิตก็โคตรพราหมณ์ พอนักแปลจะแก้ปัญหาด้วยการทับศัพท์แล้วอธิบาย ก็มีคนออกมากรีดร้องว่าไม่เอาทับศัพท์นะ นักแปลก็ต้องแปลตามใจคนอ่าน ทั้งๆที่อาจจะเห็นภาพผิดไปก็ได้ จากนักบวชกลายเป็นราชครูผังอะไรงี้ กูว่านักอ่านบางคนทำตัวเก่งเกินนักแปลว่ะ ทั้งที่ก็ไม่ได้รู้ภาษาจีนสักหน่อย
>>479 ถ้าทับศัพท์แล้วมีเหตุผลฟังขึ้นมันก็โอเค แต่หลักการแปลที่ดีจริงๆตามที่สอนกันคืออะไรแปลได้ก็ควรแปล บางคำมันไม่มีทางได้ตรงตามต้นฉบับเป๊ะๆขนาดนั้นอยู่แล้วไง ถ้าอยากอ่านเป๊ะขนาดนั้นมึงก็ต้องไปอ่านต้นฉบับอ่ะ "คนอ่านไม่ได้รู้ภาษาจีน" ก็นั่นแหละเหตุผลสำคัญเลยว่าทำไมถึงควรแปลเป็นภาษาไทยให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
>>479 แล้วยังไง จะบอกว่าเพราะนักอ่านโง่ภาษาจีนงานมันเลยต้องทับศัพท์? เพื่อที่ความหมายจะได้ไม่ตกหล่น? กูบอกแค่นี้เลยนะอยากทับมึงทับไป แต่ขอให้มันมีลิมิตหน่อย ไม่ใช่เอะอะอะไรก็ทับหมด เกอเกอไท่จื่อยังทับนี่มันบ้าบอ ตัวอย่างที่มึงยกมามันไม่ได้ใกล้เคียงกับระดับความบ้าทับศัพท์ของลวด.เลย
ถ้าวงการการ์ตูน ใช้คำว่า โอนี่จังบ้าง
แม่งคงโดนด่าว่า เบียว อะ
แต่อย่างว่า สนพนี้ ลูกหาบไร้สมองมันเยอะ คุณภาพต่ำ
เรื่องทับศัพท์นี่โม่งคุยกันไปหลายรอบละ กูเห็นหลายๆคนก็คิดเหมือนกันนะว่าถ้าเป็นพวกตำแหน่งที่มันไม่มีในไทย จะทับศัพท์ไปก็ไม่มีใครว่าหรอก ญี่ปุ่นยังมีคำทับศัพท์พวกซามูไร เกอิชา โชกุน นินจาไรงี้เลย แต่ที่ทับศัพท์กันในวายจีนตอนนี้แม่งไม่ใช่แค่คำที่จำเป็นไง แม่งทับยันคำเรียกพ่อแม่พี่น้อง ทั้งๆที่มันมีคำไทยให้ใช้ได้เลย แบบนี้มันมากไป
>>464 อห 55555555 มึงให้เกียรติพี่เว่ยที่ปลุกผีมาฆ่าคนด้วยค่ะ 5555555
>>477 กูก็ว่าจะไม่ละ หมั่นไส้ 5555555
>>479 อันนี้กูเห็นต่าง กูว่าแปลแล้วมีเชิงอรรถดีกว่า ว่าราชครูในที่นี้มันคือท่านราชครูแบบอาจารย์กษัตริย์ หรือราชครูที่เป็นนักบวช สับสนกับตำแหน่งมาก บางทีนึกว่าทั้งพืดนั่นคือชื่อคน แต่ที่จริงคือแซ่+ตำแหน่ง (ไอห่า) คำมันไม่ได้ well known แบบอ๋อง ฮองเฮา ไทเฮา ที่นึกออกว่าเป็นตำแหน่งอะไรอะ แล้วแต่เซนส์มั้ง ถ้าให้กูแปลเอง กูก็คงแปลออกมาแล้วมีคนด่า กูจะทับแต้จิ๋วบ้าง จีนกลาง และแปลไทย แล้วแต่เซนส์ของกู 555
+หนึ่ง่ไม่แปลชื่อตำแหน่งยากๆที่ไม่มีให้เทียบใกล้เคียงได้หรือชื่ออาวุธอันนี้ไม่ว่า แต่พวกสรรพนามหรือคำเรียกที่ในไทยมีก็อยากให้แปลเป็นไทยดีกว่า อยากให้คนไม่คิดว่านิยายจีนอ่านยากเพราะชื่อต่างๆ ไม่อยากให้ต้องมาฟีลว่าเราชั้นสูงเลยใช้ทับศัพท์จีนพวกที่ไม่อ่านคือเข้าไม่ถึง(มันมีคนที่คิดงี้) หนังสือควรเข้าถึงง่ายสิจะมาแบ่งแยกทำไม แปลเป็นไทยแล้วก็ต้องขจัดกำเเพงด้านภาษาออกไปให้หมดไม่งั้นเรียกว่านิยายแปลได้ยังไง เห็นด้วกับเพื่อนโม่งที่เคยบอกว่าการทับศัพท์จีนของล.เป็นการโยนภาระให้นักอ่าน
โยนภาระให้นักอ่าน และสำเร็จความใคร่ทางตัวอักษร เพราะคำว่าเกอมันฟินและออดอ้อนกว่ามากกกกกกค่ะ
งงใจ รับค่าแปลเต็มเม็ดเต็มหน่วย แต่งานออกมาเหมือนแปลแค่ครึ่งเดียว
ทำไมหลายคนเหมือนเกลียดลวดจนหน้ามืดอะ กูว่ากูยกตัวอย่างดีแล้วนะ คือบางคำมีคนอวดรู้จะให้แปล แต่ความหมายไม่ใช่ กูไม่ได้พูดถึงกรณีคำที่มีในภาษาไทยอย่างเกอเกอห่าอะไรเลยจ้า
ว่าแต่อันนี้สงสัยจริง คนที่แอนตี้ทับศัพท์จีน มึงเจอคำว่ามิสซิส มิสเตอร์ ด็อกเตอร์ ในนิยายฝรั่งแล้วรู้สึกไงมั่ง ชินหรือคิดว่าใช้คำว่าคุณ คุณนาย คุณหมอก็ได้
เพิ่มเติมอีกนิดนึง กูว่าทับศัพท์จีนกับทับศัพท์ฝรั่งเทียบกันยากนะ เพราะภาษาอังกฤษมันอยู่ในการศึกษาพื้นฐานนะมึง แต่ภาษาจีนมันไม่ใช่ไง ความรู้สึกเวลาเจอทับศัพท์จีนกับทับศัพท์อิ๊งมันก็ไม่เหมือนกัน
>>489 กุว่าคนไม่ได้แอนตี้การทับเลยนะ ที่ลวด.โดนโม่งรุมเพราะมันทับเรี่ยราดมากกว่า ทับจนคนไม่เคยอ่านจีนงุนงงนั่นล่ะ ซึ่งมันก็ผิดจุดหลักของงานแปลที่ต้องสื่อความให้คนปลายทางที่ไม่รู้ภาษาต้นทางอ่านเข้าใจ อ่านลื่นไหลมั้ยวะ แล้วชีเองก็ดันคิดว่าตัวเองถูกที่แปลทับเยอะแบบนั้นด้วยคิดว่าสื่ออรรถรสแบบจีนได้ดีกว่า
ส่วนความหมั่นลูกหาบนางนั่นอีกประเด็นนะ แต่ที่ดูแรงเพราะโดนเอาไปรวมกันนั่นล่ะ เพราะชีกับลูกหาบคิดตรงกัน แต่โม่งไม่เห็นด้วยก็ด่า+ถกกันไป
จนบัดนี้กูยังสงสัย talkหรือว่าอ้างอิงที่ถามโม่เซียงนั้นมันของจริงป่าว??
เกอเกอ
เกอเกอ
เกอเกอ
กูว่าในนี้หลายคนก็ด่าเกินไปอ่ะ ตามอ่านมาแทบไม่ต่างอะไรกับนกฟ้ากลับด้าน เอาแต่พอสมควรเถอะ กูไม่ใช่ลูกหาบซบ ไม่ชอบทับศัพท์ ไม่ชอบที่ลวด.อ้างแบบนั้นในการแปลทับศัพท์ด้วย แต่มันก็ไม่ใช่ว่าเขาจะทำออกมาไม่มีอะไรดีเลยอ่ะ ลวด.เรียงประโยคโอเค ถึงกูจะติดขัดเยอะไปหน่อยตอนทดลองอ่านแต่พออ่านในเล่มก็ลื่นดี พอเทียบทดลองอ่านกับเล่มจริงก็เห็นว่าบก.ช่วยตบเยอะเลย เข้าใจว่าซบมันน่าหมั่นไส้จริงๆ โดยเฉพาะพอมีลูกหาบเสริมทัพเข้าไปด้วย แต่กูว่าเขาก็ทำเทียนกวานออกมาค่อนไปทางดีสำหรับกูอ่ะ ใครจะชมว่าซบใส่ใจมันก็ไม่ผิดหรอก
>>497 +1 กูก็ไม่ได้ชอบแบบทับศัพท์อลังการ แต่กูเก็ตที่ >>479 บอกนะ ยิ่งตีกันเรื่องทับศัพท์มันก็ยิ่งลามไปไกล แทนที่จะวิจารณ์เป็นคำๆก็เหมารวมหมดว่าทับศัพท์แปลว่าชุ่ย ผลักภาระให้คนอ่าน แล้วบางคนไม่ได้ดูเลยว่าบางคำไม่เหมาะกับการแปล คนที่ชอบทับศัพท์เขาก็แค่ชอบแบบนั้นปะวะ คนไม่ชอบก็แค่ไม่ชอบ บางทีคนแปลก็ไม่ได้ผิดอะไร อาจจะแค่ด้วยประสบการณ์ส่วนตัวเขา เขาคิดว่ามันเข้ากับอารมณ์ของเรื่องมากกว่า ใครไม่เห็นด้วยแค่บอกว่าไม่ชอบก็ได้ แต่ทุกวันนี้แม่งด่าซะเหมือนเขาโกงนักอ่าน เกินไป๊
ทำผิดก็ว่าผิด
แปลไร้วิจารณญาณเอาอารมณ์ส่วนตัวเข้ามาใส่ในงานแปล แล้วจะให้ชมได้ไง? งง
เกอเกอนี่คือน่าชมชิบหาย?
เกอเกอคือถูกแล้ว พวกมึงเลิกเถียงเห้อ กูรำคาญ
เวลาทำงานแปล ไม่เอาอารมณ์ส่วนตัวมาใส่จ้า
ถึงเผลอทำ คนตรวจควรปัดตกให้มาแก้
นั่นคือสิ่งที่กูเรียกว่าวิจารณญาณในการทำงานของคนแปลและสำนักพิมพ์
จะบอกว่าปสก.หล่อหลอมให้มาทางนี้ เลยจะขอใส่เกอได้ไง อห.
แต่ก็นั่นแหละ ลวด.ดีที่หนึ่ง กูขี้เกียจกับพวกมึงแระ อวยต่อตามสบาย
กูว่ามันก็ต้องมีความพอดีว่ะ กูก็เห็นว่าคนอื่นแปลทับศัพท์บ้างก็ไม่เห็นเพื่อนโม่งบ่นอะไร มันต้องรู้จังหวะและเหมาะสม ไม่ใช่เอ๊ะอ่ะอยากใส่อยากสร้างคัจเจอร์ขี้นมาในนิยายแปลจีน ก็เคสเหมือนตอนบ.ก็โดนด่าเพราะใช้ศัพท์ยากไป สำนวนยากก็โดนด่าโดนว่าจนบก.หรือไม่ก็ตัวบ.เองต้องปรับปรุง แล้วทำไมจะมีเพื่อนโม่งที่ออกมาบอกว่าไม่ชอบที่ล.ทับศัพท์เยอะขนาดนี้ไม่ได้
ใช่ ส่วนพวกมึงคือลวด. ถูกเทสมึง เกอคือดีย์ จอบอ
>>489 กูก็ว่ามึงยกตัวอย่างไม่ดีอะ ไม่ขัดว่าบางคำทับได้หรือทับเหมาะกว่า แต่บางคำก็แปลแล้วใส่เชิงอรรถขยายดีกว่า ถ้าคิดว่าถอดมาเป็นไทยแล้วความหมายหดจากจีน
แล้วจะทับไม่ทับ กูว่านอกจากประเด็นว่าเป็นคำไหนแล้ว ต้องพิจารณาว่าคำนั้นมีความสำคัญในเรื่องที่แปลระดับไหนด้วย แบบใช้บ่อยมีผลต่อความเข้าใจพล็อตหลัก หรือแค่เอ่ยถึงไม่กี่ครั้ง แต่ถ้าจะทับศัพท์ทั้งเรื่องเพื่อสะดวกต่อการเล่นมุกภาษาหนึ่งครั้ง มันไม่ใช่
ตรงนี้แหละ การแปลถึงต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์อย่างโม่งบนว่า ว่าแค่ไหนถึงกำลังดี
>>506 อารมณ์ของเรื่อง ตามโทนเรื่องน่ะใช่ แต่อารมณ์ส่วนตัวน่ะไม่ใช่ กูยังจำคำว่า"สำหรับผู้แปล"ของลวด.ได้อยู่นะ กับอะไรหลายๆอย่าง เหมือนเค้าใส่ใจคนอ่านน้อยกว่าใส่ใจความพอใจตัวเองอะ คนอ่านไหนเข้าทางกับเค้าได้ก็ไปกะเค้าได้ แค่นั้นแหละ
สำนวนมันก็มีหลายแบบนะ สำหรับกู อะไรที่ไม่ได้แปลผิดกูรับได้ทั้งนั้น กูอ่านได้ตั้งแต่กำลังภายในยันนิยายลูกกวาดนั่นแหละ ถ้าไม่ชอบก็วิจารณ์ไปดิว่าไม่ชอบ ชอบแบบไหนก็ว่าไป แต่จะบอกว่าคนแปลมักง่าย กูว่าเกินเบอร์ ความชอบหรือไม่ชอบมันไม่ใช่มาตรฐานอะมึง มึงไม่ชอบ คนอื่นอาจชอบ ไม่เหมาะของมึง คนอื่นเค้าอาจเห็นว่าเหมาะ กูว่าเถียงกันไปก็ไม่ได้ประโยชน์ปะ แค่ชอบไม่เหมือนกันแค่เนี้ย
>>510 กูเห็นด้วยการแปลคือดึงอารมณ์ของผู้เขียนสื่ออกมาให้นักอ่านได้รับสารที่ถูกต้อง ไม่ควรเอาอารมณ์ของนักแปลมาเกี่ยวด้วย อยากยึดตัวนักเเปลเป็นมาตราต้องคำนึงถึงสิ่งที่นักอ่านส่วนใหญ่ บอกว่าล.เติบโตมาแบบนั้นเลยแปลออกมาแบบนี้ แล้วทำไมล.ไม่คิดถึงคนอื่นวะว่าเติบโตมาแบบตัวเองไหม มีประสบการณ์แบบตัวเองไหม ถึงมาตัดสินว่าแปลแบบที่โดยส่วนตัวนักแปลคิดแบบนี้เลยคิดว่าต้องแปลแบบนี้หรอ ยึดเอาตัวเองเป็นใหญ่มากไปป่าว
กู 497 นั่งยันนอนยันว่าไม่ใช่ลูกหาบลวด.แน่นอน มึงจะปัดใครก็ตามที่เห็นต่างเป็นลูกหาบหมดก็ไม่ได้ดิ กูแค่บอกว่ามึงด่าเกินไปไม่ใช่ห้ามมึงด่า เพราะส่วนตัวกูไม่ชอบทับศัพท์ แต่ก็มองว่าทับศัพท์มันสามารถเรียกว่ารสนิยมได้จริง คือบางคนเขาก็ชอบอ่านแบบนี้จริงๆนะ แล้วนิยายจีนแปลช่วงแรกๆในไทยแม่งก็ทับศัพท์แต้จิ๋วล้วนเลยไม่ใช่เหรอ แต่พอเวลาผ่านไปก็กำเนิดหลักการอะไรแปลได้ก็ควรจะแปลขึ้นมา ซึ่งส่วนตัวกูชอบแบบนี้มากกว่าแหละ แต่ใครจะชอบทัพศัพท์ก็ไม่มีปัญหา แค่ไม่มาเหยียดว่าต้องทับศัพท์ถึงจะรสนิยมดี หรือต้องแปลเท่านั้นถึงจะโดน ที่โม่งกับนกฟ้าแม่งใช้หลักเกณฑ์นี้กันอ่ะ ในนกฟ้าใครด่าลวด.โดนจวกแน่นอน มาในโม่งยังไม่ทันอวยลวด.แค่เห็นต่างนิดหน่อยก็โดนจวกละ อะไรกันวะ
>>511 มันควรจะถกกันได้รึป่าว เรื่องที่หาข้อสรุปไม่ได้แล้วคนยังถกเรื่อยๆมีเยอะแยะ
แล้วมีคนบ่นหรือแซะติ่งกะลูกหาบปสด.ก็ไม่แปลก คุณอ.กะขนมยังมีพวกติ่งที่ไม่หยุดอยู่เลย
แต่กูเข้าใจคนที่บอกว่าด่าเกินไปเหมือนกัน พาลแซะโม่งกันเองทะเลาะกันเอง แค่นี้กูว่ามันไม่สั่นคลอนคนบ่นทับศัพท์หรอก บางคนก็ประชดเกินไป
ถ้าเเปลแบบล.แล้วนักอ่านส่วนเข้าใจสื่อถึงอารมณ์ของผู้เขียน จะไม่มีกรณีที่นั่งคลุมโม่งมาบ่นกันอยู่แบบนี้หรอก จะมีนักอ่านมาด่าๆแบบนี้ไหม ล.เลือกที่จะยึดตัวเองเป็นหลักก็ควรที่จะรับคำวิจาร์ณจากคนที่ไม่โอเคด้วย และคนที่คิดว่ามันไม่เหมาะสมคือคนที่ไม่ได้เติบโตมาแบบล.ไง เขาจะยึดและมุมมองแบบนี้มันจะทำไมล่ะ มันต่างจากล. ที่เอาตัวเองเปฺง็นที่ตั้งตรงไหน
>>506 อันนี้กูของพูดหน่อย มันไม่เรียกว่าเอาอารมณ์นักแปลเข้าไปเอี่ยวเรียกว่าปรับให้เข้ากับบริบทภาษาของประเทศนั้นๆเพราะต้องรักษาอารมณ์ของผู้เขียนให้ได้มากที่สุดและคิดว่าคนส่วนใหญ่จะเข้าใจได้ง่ายขึ้น แต่ที่ล.ทำคือยึดถือปสกของตัวเองเป็นหลัก เก็ทไหม
กูอยากให้คิดว่างานนักแปลคือแปลสิ่งที่นักเขียนและอารมณ์ของนักเขียนออกมาให้มากที่สุด ไม่เอาอารมณ์ตัวเองใส่เข้าไปด้วยเป็นสิ่งที่ต้องระมัดระวัง เป็นการให้เกียรติในงานเขียนของนักเขียนที่เป็นผู้สร้าง นักแปลก็คือนักแปลจะมาเพิ่มตำแหน่งให้นักแปลเป็นนักเขียนร่วมด้วยหรอ กูถึงคิดว่าการแปลเป็นงานที่ยาก นักแปลที่เก่งจะต้องรู้ว่าตรงไหนควรสื่อยังไง ใช้คำอย่างเหมาะสมยังไงให้คนในประเทศนี้เข้าใจได้คนเก่ง
จากใจคนอ่านสายชิลไม่แปลผิดไม่แปลตกก็พอที่เจอแต่วอร์ดราม่าจนหมดอารมณ์หาเพื่อนคุยเนื้อเรื่องแล้ว
ทับศัพท์ไม่ทับศัพท์ต่อให้เถียงกันข้ามชาติก็ไม่จบไม่สิ้นหรอก ชนวนความไม่พอใจจริงๆ มันก็มาจากจุดเริ่มต้นเดียวคือ "รสนิยมกู" แค่นั้น เหตุผลอื่นแค่มาเสริมทีหลัง ต่อให้ทับศัพท์หรือไม่ทับศัพท์ยังไงนักแปลแต่ละคนก็มีทั้งคนชมคนด่าว่ะ
ลวดเขาอาจจะ “นึก” ว่าแบบนี้มันดึงอารมณ์ของคนเขียนออกมาได้มากกว่าไง เขาอาจจะอ่านงานทับศัพท์เป็นปกติแล้วคิดว่า เออ มันอินดีนะ แปลแบบนี้น่าจะดี มันอาจจะไม่ใช่เขาไม่ใส่ใจเสียงนักอ่าน คนแปลก็ต้องอยากแปลให้ออกมาดีที่สุดอยู่แล้ว แต่ดีที่สุดของเขาดันไม่ตรงรสนิยมคนไม่ชอบทับศัพท์เท่านั้นเอง ประเด็นของกูคือ ไม่ชอบทับศัพท์ อ่านไม่รู้เรื่องใช่ไหม เออ งั้นวิจารณ์แค่นั้น ไม่ใช่ไปบอกว่าเอาตัวเองเป็นใหญ่ ไม่นึกถึงคนอื่น ใช้อารมณ์ส่วนตัวทำงาน รับค่าแปลเต็มเม็ดเต็มหน่วยแต่งานออกมาครึ่งเดียว เฮ้ย มึงเป็นใคร สิ่งศักดิ์สิทธิ์เหรอถึงได้อ่านใจเขาได้ เขาอาจจะคิดมาแล้ว มันแค่ไม่ตรงใจมึงแค่นั้นเอง
55555 ลวด.มีสิทธิ์ "นึก"
แต่คนอ่านไม่ชอบ ไม่มีสิทธิ์นึกจ้า อย่าไปนึกว่าลวด.คิดไง เพราะเค้าทำมาดีย์แล้ว
จากใจลูกค้านิยายคนนึงขอระบายในฐานะผู้บริโภค แปลองค์ไท่จื่อกุยังพอหยวนๆให้ได้ว่ารสนิยมบางคนชอบให้ทับตำแหน่งบางคนชอบให้แปล แต่ไอ้ เกอเกอ นี้ทำกุหมดอารมณ์อ่านจริงๆ ปกอ.ฉางหยางสวยตาแตกแค่ไหน คนแม่งจะอวยบรีฟดีบรีฟเลิศยังไง กุแม่งก็ทำใจซื้อไม่ได้ทุกที วายจีนออกทุกวันแต่เงินกุมีน้อย เทียนกวานจากเป็นอันดับหนึ่งที่กุต้องรีบซื้อแน่ๆ ตอนนี้กุให้เป็นอยู่ก๊กเดียวกับลิ่วเหยาแล้วไว้รวยใช้เงินทิ้งๆขว้างๆได้เมื่อไหร่ค่อยซื้อ
>>518 กูอยากให้มึงคิดนะว่าพวกกูเป็นผู้บริโภคที่ผ่านการคิดวิเคราห์จากผลงานของลวด.ที่ออกมาเป็นรูปธรรมแล้วเหมือนกันถึงได้มีความคิดแบบนี้
ทำไมกูไม่มีสิทธิตัดสินว่างานเขาเป็นยังไงทั้งที่มีผลงานให้จับต้องได้ ไม่มีสิทธิว่าหรือไม่มีสิทธิด่าเลยหรอ กูรู้ว่ามึงไม่พอใจที่คนด่รว่าแบบนั้น แต่มึงก็
ต้องเข้าใจด้วยว่ามันออกมาได้เพราะผลงานของลวด.ทำให้รู้สึกแบบนั้นจริง ผลงานลวดดีจะมีคำวิจาร์ณที่ทำให้นักอ่านรู้สึกแบบนั้นอ่อ ถ้าเขาใส่ใจนัก
อ่านตั้งใจทำงานเต็มที่แล้วทำไมยังมีนักอ่านที่รู้สึกแบบกูที่ออกมารู้สึกแบบตามคำด่าที่ว่าได้ๆ กูอยากให้มึง "นึก"ดูเอาเองนะ
เกอเกอมันทับตามด้อมตปทมั้ง กูเฉยๆ พอเดาได้อยู่ละว่าต้องทับแน่ๆ
แปลภาษาอื่นๆเขามีปัญหาเรื่องทับศัพท์กันมั้ยวะ หรือแค่ในไทย 555
กูก็ขอยืนยันนั่งยันนอนยัน อะไรแปลได้ก็ควรแปล ยกเว้นตำแหน่ง ยศต่างๆ หรืออะไรที่ไม่สามารถแปลไทยได้ถึงจะเหมาะที่สุด
รวบรวมรายชื่อส่งเมลไปบอกสนพ.ดิ บ่นในนี้ก็ได้แต่บ่น ไม่เปลี่ยนอะไรหรอก
>>525 เมิงขุดอันนี้ขึ้นมากูเลยนึกได้ว่าอ.นี่โดนด่าไร้สาระเยอะจนน่าสงสาร แต่ที่นางพลาดแปล “ลืมอิจฉา” แค่อันเดียวคำเดียวแต่ชวนกำหมัดแถมด่าได้ยาวๆ เหมือนเป็นตัวอย่างของคนคลังศัพท์ไม่เยอะแต่ดิ้นรนแปลให้หมดทุกอย่างเพื่อเอาใจกลุ่มคนอยากให้แปลให้หมด
ขนาดมือเก๋ายังพลาด ก็ไม่แปลกที่คนคลังศัพท์ไม่เยอะจะเลี่ยงไปทับศัพท์ว่ะ พลาดทีก็โดนยาวๆ
>>274 จริงๆมือเก๋ามีรับแปลวายเหมือนกันนะ แต่ส่วนใหญ่เปลี่ยนนามปากกา แล้วพอแปลมาไม่ตรงกับที่แปลเถื่อนก็โดนด่ายับหาว่าเป็นเด็กหัดแปลก็มี ทั้งที่ความจริงก็แปลดีนะ แค่คนอ่านเถื่อนมาก่อนไม่ชิน แต่เจอโดนวิจารณ์แบบประสาทแดกแบบนั้นนักแปลมือเก๋าหลายคนก็ถอยแหละ ส่วนใหญ่เลยเหลือแต่สำนวนเลเวลเดียวกับแปลเถื่อน
>>518 กุเข้าใจประเด็นวิจารณ์ผลงานโดยไม่ยุ่งกับตัวคนของมึง และเห็นด้วยตรงจุดนี้
แต่ก็เพราะคำอธิบายที่ลวด.มีให้นักอ่านกลุ่มนี้ ในลักษณะว่ายังยืนยันจะทำต่อไป ขอให้นักอ่านไปฝึกคำทับศัพท์ให้ชินเองแล้วจะได้ได้รับอรรสรสที่เหมือนกับคนแปล ซึ่งมันเหมือนทิ้งนักอ่านกลุ่มนึงไปเลย โดยลืมว่าอรรสรสนั้นแต่ละคนเซนท์ต่างกันไม่ใช่ว่าจะได้รับเหมือนกันหมด จะไม่ให้นักอ่านกลุ่มนั้นเกลียดตัวตนคนแปลจากจุดนี้อาจจะเป็นไปไม่ได้ว่ะ จากจุดนี้เลยลามไปถึงการวิจารณ์ตัวตนและอีโก้ต่อ เพราะลงมาคลุกวงด้านความรู้สึกไปแล้วอ่ะมึง
จากกระแสจริงๆกุค่อนข้างหมดหวังนะมึง ถ้าคนเสพรุ่นเก่าๆหดไปแล้วเหลือแต่ลูกค้าเด็กที่ชินคำแบบแปลเถื่อน ทับจนเป็นสารานุกรม เอาแต่สำนวนอ่านง่าย แต่เรียกร้องเสียงดัง สุดท้ายตลาดมันจะเทไปทางนั้นแหละ
อยากบอกว่าสริ่มนักแปลหยุดดิ้นก่อน ทีตอนวิจารณ์บ.กันยาวเป็นพรืดไม่เห็นพวกมึงมากทงปีกปกป้อง ส่วนเรื่องวิจารณ์นิสัยนี่มึงอย่าโลกสวยได้มั้ย ลวด.นางออกมาแถลง+แสดงคห.ของนางในที่สาธารณะแบบนั้นอล้ว ไม่เท่ากับนางแสดงนิสัยออกมาให้คนเห็นละเหรอ คนจะวิเคราะห์ความเป็นตัวนางหรือมายเซ็ตของนางออกมาจากตรงนั้นไม่ได้เหรอ ถามมม
เป็นบุคคลสาธารณะไม่อยากโดนคนวิจารณ์มุมมองความคิดก็อยู่เงียบๆไป รอไปแก้ตัวงานหน้าหรือไม่ก็ไม่ต้องทำอะไรเลย ถ้าลงมาคลุกวงในกับดราม่าแล้วมันก็เป็นแบบนี้เรื่องปกติ เหยดแหม่
งานกับนิสัยมันแยกไม่ได้ป่ะ กูทำงานกูส่งงานไปจุดเล็กกูชอบลืมแก้จุดประจิ๋ว แต่จุดใหญ่ๆจุดสำคัญกูไม่พลาดงี้ เมเนเจอร์เห็นงานกูก็คิดไปแล้วส่วนหนึ่งว่ากูเป็นคนสะเพร่าไม่ระวัง แค่นี้ก็บอกนิสัยกูได้เยอะแล้ว
งานแปลเป็นรสนิยม งานปกก็เป็นรสนิยมเหมือนกัน
คนอื่นวิจารณ์ปกห่วยได้ ทำไมกูจะวิจารณ์แปลห่วยไม่ได้
ทำไมคนอื่นวิจารณ์ปก ด่าเหมือนไปฆ่าคนตาย
พอกูจะวิจารณ์งานแปล บอกให้กูด่าเบาๆหน่อย
2 มาตรฐานจริงๆว่ะ
อย่างว่า ติ่งมันไร้สมอง
>>540 มันไม่ได้เกี่ยวกันว่าเถียงกันเข้มข้นขนาดไหนเพราะปัจจัยของนักแปล2คนนึ้ก็ไม่เหมือนกันด้วย บ.มันไม่ได้ลงมาคลุกวงดราม่า ไม่เห็นไดเมาแถลงห่าเหวยืดยาวให้ตัวเองถูก แล้วกูจะบอกให้เฉยๆนะว่าบ.เคยยอมรับในทวิตตัวเองด้วยยังไม่เก่ง อยากให้ทุกคนให้โอกาสแล้วจะพัฒนาตัวเองขึ้นไปเรื่อยๆ
ละมึงหันมาดูทางลวด.กับสิ่งที่นางแถลงค่ะ
มาทรงนึ้จะเอาฟี้ดแบ็คแบบไหนคะ?
พิจารณาเอาก่อนนะเพื่อน
กูอ่านๆคนด่าลวดแล้วได้ขอสรุปว่าเกลียดเขาแหละ ไม่เกี่ยวกับทับศัพท์อะไรหรอก ที่ผ่านๆมานี่แทบไม่เห็นด่าเรื่องอ่านไม่รู้เรื่องเลยนะ เห็นแต่แบบ เอาตัวเองเป็นใหญ่ สริ่มนักแปล เกอเกออออออ
แล้วกูไม่เคยด่าคุณบ. หรืออ. หรือใครเลยนะ ตอนคุณบ.กับอ.โดนว่า กูก็แย้งให้เขาเหมือนกัน ถึงกูจะชอบคำว่าเสือซุ่มมังกรซ่อนมากกว่าพยัคฆ์หมอบมังกรขนดของเขาก็เหอะ ที่จริงในสามคนนี้ กูชอบลวดน้อยสุดด้วยซ้ำที่เคยแปลเถื่อน ไม่ต้องมาว่ากูสองมาตรฐาน แต่กูมองว่าการวิจารณ์เกินเบอร์นี่แหละ มันจะส่งผลกับนักแปลคนอื่นๆด้วย บางคนเขาจะแปลอะไรก็เกร็งไปหมดไม่รู้จะโดนด่าไหม นักอ่านบางคนก็นึกว่าตัวเองจะด่าอะไรก็ได้ ไม่ต้องเป็นความจริงก็ได้ มโนเอาเองก็ได้ กูอ่านที่ลวดเขาออกมาตอบ เขาก็ตอบในส่วนของเขา เขาคิดว่าแบบที่เขาแปลมันดีกว่า ซึ่งเขามีสิทธิ์ตัดสินนะ เขาเป็นคนเลือกสำนวน และก็ต้องยอมรับว่ามีคนชอบ ถ้ามึงด่าสาดเสียเทเสียจะให้เปลี่ยนเป็นแบบที่มึงชอบให้ได้ โดยไม่สนคนที่เขาชอบแบบทับศัพท์ ไม่สนเหตุผลนักแปลเลย อันนี้ใครกันแน่ที่ยึดตัวเองเป็นหลัก ก่อนจะบอกให้คนอื่นพิจารณา ลองพิจารณาตัวเองดูก่อน
>>542 555555555555444444455555 ตลกอ่ะ มึงได้อ่านที่กูพยายามอธิบายเรื่องทับศัพท์ไม่ทับศัพท์จริงหรอวะ กูงง เหมือนมึงอ่านแค่พวกสองสามบรรทัด กูไม่ได้เกลียดลวด. มึงอ่านยังไงถึง’นึก’ว่ามีแต่พวกเกลียดลวด.เข้าเส้นมาวิจารณ์การแปล ถ้าการวิจารณ์ไปทำให้เขาเกร็งไม่กล้าแปลไม่เป็นตัวของตัวเองก็ไม่ต้องทำงานเถอะ มึงเคยทำงานไหม ถ้ามึงเคย มึงต้องรู้ว่าเวลาทำงานยังไงก็ต้องมีจุดให้วิจารณ์จุดให้เเก้ไขอยู่ดี และมันก็ต้องปรับปรุงพัฒนากันไป มึงต้องนำคำวิจารณ์มาคิดวิเคราะห์แยกแยะว่าควรปรับปรุงตรงไหน และนะวังมากขึ้น กูเคยพบหมอ หมอบอกกูว่ามีไม่กี่คนหรอกที่กล้าฟังฟีดแบคตัวเองแล้วเอากลับมาคิดวิเคราะห์ให้ดี กูเลยชอบขอฟีดแบคจากเพื่อนว่าตอนนี้กูเป็นไง โอเคไหม ถ้ากูปรับได้กูก็จะปรับนิสัยที่กูเห็นด้วยกับเพื่อนว่ามันไม่ดี ถ้ากูคิดว่ามันโอเคอยู่แล้วและไม่เป็นป้ญหากับเพื่แนมากหนักกูก็จะไม่ปรับ และกูก็พยายามพิจารณาตัวเองอยู่ว่าตรงไหนที่ควรปรับปรุง เนี่ยกูอยากจะให้มึงเห็นว่าคนเรามันวิจารณ์ได้ คนรับคำวิจารณ์ก็ต้องคิดดูเองอีกทีว่าจะเอาไง ไม่ใช่ทุกคนรับคอมเม้นต์จากโม่งแล้วจะไม่กล้าทำอะไร ดูอยากบ. สมัยก่อนก็แบบหนึ่ง แก้ไขแล้วก็แบบหนึ่ง
กูอยากบอกว่ารู้จักนักแปลคนนึง แปลชญมีชื่อเสียงพอควร มาแปลวายแล้วเจอวิจารณ์สาดเสียเทเสียนี่แหละ โดนด่าว่าสะกดผิด ทำไมใช้ ราศี ต้องเป็น ราศรี ต่างหาก ทำไมใช้คำว่าปัสสาวะอุจจาระ ทำไมไม่ใช้ขี้เยี่ยว สมัยโบราณใช้ขี้เยี่ยวนี่ แปลไม่สมจริงนี่หว่า แล้วทำไมใช้คำว่ากุ้ยเฟย ไม่ใช้พระสนมเอก ทำไมใช้คำว่าไท่ไท่ ไม่ใช้คุณนาย (นิยายโบราณนะเออ) ฯลฯ ถึงสุดท้ายงานจะออกมาดีไม่มีดราม่า มีแค่คนพยายามแซะแล้วเงียบหายไปไม่กี่คน แต่นักแปลเซ็ง เลิกแปลวายไปแล้ว ซึ่งผลเสียไม่ได้ตกอยู่กับนักแปลเลยนะ เขามีงานชญกับนักอ่านที่ชอบสำนวนเขารองรับอยู่แล้ว แต่วงการวายนี่แหละที่หมดตัวเลือกไปหนึ่ง ขอบคุณจริงๆ
"กูอ่านๆคนด่าลวดแล้วได้ขอสรุปว่าเกลียดเขาแหละ ไม่เกี่ยวกับทับศัพท์อะไรหรอก"
สุดติ่ง ติ่งสุดๆ
>>542 ใช่ ลวด.เป็นคนแปล ลวด.มีสิทธิ์ตัดสินว่าจะแปลยังไงก็ได้ และคนอ่านที่เสียเงินซื้องานแปลของลวด.มาก็มีสิทธิ์วิจารณ์เหมือนกัน
ส่วนตรงที่มึงบอกว่า "ส่งผลกับนักแปลคนอื่นๆด้วย" อยากให้ลองคิดเรื่องที่ลวด.เคยแปลเถื่อนจนทำให้คนติดสไตล์การแปลเถื่อนของนางแล้วด่าของลิขสิทธิ์ กับการเซ็ตเทรนด์ทับศัพท์ว่าได้อรรถรสกว่าด้วย ตรงนี้ส่งผลกับนักแปลคนอื่นๆยิ่งกว่าที่โม่งวิจารณ์งานแปลของนางอีกจ้า
>>543 มึงต่างหากได้อ่านที่กูเขียนไหม กูไม่ว่าอะไรเลยถ้าวิจารณ์ "งาน" แต่นี่จินตนาการไปเองไงว่านักแปลเป็นยังไงแล้ว "ด่า" ตัวตนนักแปล เท่าที่อ่านดูนี่มึงน่าจะเป็นนักเขียนใช่ไหม หรือว่านักวาด กูเดาไปทางนักเขียนแล้วกัน กูอยากบอกว่าการรับฟังฟีดแบคเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้ามึงเป็นมืออาชีพแล้ว มันจะมีสิ่งที่สำคัญกว่านั้น คือ "ลายเซ็น" ในงานของมึง ซึ่งมึงต้องพยายามบาลานซ์ให้ดี งานน่ะต้องพัฒนาจริง แต่สิ่งที่เป็นตัวตนก็ขาดไม่ได้ บางคนก็หาไม่เจอหรอกว่าสิ่งนี้ควรเก็บไว้หรือเปลี่ยนแปลง กูว่าลวดก็อาจจะเป็นแบบนี้ คืออาจจะเป็นหรือไม่เป็นก็ได้ แต่กูจะไม่ตัดสินน่ะ กูไม่รู้จักเขา ยิ่งมึงเป็นสายผลิต ถ้ามึงกระเหี้ยนกระหือรือในการตัดสินคนมากๆ แล้ววันนึงถูกด่วนตัดสินเหมือนกัน กูว่าเจ็บเป็นสองเท่า เชื่อกู ผ่านมาแล้ว
>>549 ไม่ไหวว่ะ ขอโทษน่ะกูรู้ว่านิสัยนี้ของกูอาจจะทำให้มึงหงุดหงิดมากขึ้น แต่กูกวนตีนเอง กูขำ 55555555555555 ไม่ต้องรอวันหนึ่งหรอกวันนี้มึงก็ด่วนตัดสินกูว่าเป็นสายผลิตแล้ว มึงคิดหรอว่ามีแต่สายผลิตที่จะต้องรับฟีดแบค สายอื่นๆก็ต้องรับความฟีดแบคเหมือนกันเด้อ สาบานเลยว่าตั้งแต่เกิดมากูไม่เคยผลิตอะไรแต่กูเคารพคนที่ผลิตงานเสมอ กูชื่นชมคนพวกนั้นมาก แต่นักแปลไม่เหมือนสายผลิตอื่น พวกเขาเป็นตัวกลางระหว่างสารนั้นจะให้ใส่คำว่าลายเซ็นเหมือนสายผลิตอื่นมันทำไม่ได้ ไม่ตำเป็นต้องสร้างเอกลักษณ์ในผลงานตัวเอง นิยายเป็นของนักเขียน มึงต้องพยายามใส่ลายเซ็นต์ของตัวเองเขาไปในผลงานของคนอื่นขนาดนั้นเลยอ่อ มันควรมีความพอดี มีบาลานซ์อย่างที่มึงบอก แต่ตอนนี้มันบาลานไม่ไง คนเลยออกมาวิจารณ์และกูยังย้ำคำเดิมว่างานที่ออกมาบ่งบอกนิสัยแล้วความคิด ทัศนคติของคนทำได้ส่วนหนึ่ง ถึงจะไม่ทั้งหมด คำวิจารณ์ในโม่งที่ลามไปถึงนิสัยเพราะเขาสัมผัสได้จากลายเซ็นของนักแปลท่านนั้นไง ไม่รู้มึงเคยอ่านงานฝูไหม กูว่าแบบนั้นเป็นลายเซ็นต์ของฝู ไม่รู้สึกพยายามเกินไป เข้าถึงอารมณ์ที่รู้สึกเจ็บไปกับตัวละครจริงๆ
>>549 และถ้าเขารับคำวิจารณ์ได้เขาต้องทำได้อยู่แล้วการปรับลายเซ็นเขาให้เข้ากับคำวิจารณ์ที่ได้รับมา มันถึงจะเรียกว่าเหมาะสม กูรอวันที่ลวด.พัฒนาเหมือนบ.อยู่ กูรักนิยายกูก็อยากให้มันดีขึ้น อยากให้มีคนอ่านเยอะๆ อยากให้มีคนรักเหมือนกูมากขึ้น ไม่ใช่คนยี้นิยายจีนเพราะมันอ่านยาก จำชื่อยาก
>>549 ลายเซ็นนึกถึงจงหยวนเลย5555 การใส่ลายเซ็นต้องเป็นคนเขียนไม่ใช่เหรอ คนแปลจะใส่ทำเพื่อ? การใส่ลายเซ็นอาจไปกระทบความหมายที่คนเขียนต้องการสื่อได้ ดูอย่างจงหยวนมีลายเซ็นเป็นของตนเอง การใส่กะปิน้ำปลาทำให้ต้นฉบับมันผิดเพี้ยน หรือลิ่วเหยาที่บ.แปลใส่สำนวนอ่านยาก300% มันทำให้ผลงานแปลเขามันอ่านยากจนคนเข้าไม่ถึงทั้งที่คนเขียนสำนวนก็ไม่ยาก หรือจะเอาคนดังอย่างหลินโหม่ว ทับศัพท์แบบบรรลัยซึ่งเป็นลายเซ็นเด่นของเขาเลยอะ มึงลองไปถามดิว่าป่าท้อมีคนอ่านแล้วรู้เรื่องซักกี่คน เนี่ยแค่ใส่ลายเซ็นคนแปลก็ทำให้คนอ่านเข้าใจคนเขียนผิดเพื้ยน แล้วยังจะใส่ทำไมอะ
ว่าแต่ไม่มีใครพูดถึงกองบก.เซ้นเลยเหรอ ปกติงานแปลมันต้องมีบก.คุมอีกขั้น สนพ.ดีๆนี่บก.เค้าแก้งานนักแปลกันยับเลยนะ งานแปลมันควรผ่านหลายๆสายตา หลายๆคนแก้ก่อนถึงจะออกมาดีและเป็นมิตรกับคนอ่านที่สุด แต่สนพ.วายสมัยนี้ (อิเซ้นและอื่นๆ) ดูเหมือนให้นักแปลฉายเดี่ยว อยากแปลยังไงแม่งก็แปลๆมา กองบก.ตรวจการสะกดคำอย่างเดียว บางกองแม่งไม่พรูฟด้วยซ้ำ เหมือนเอาคำแปลมาจัดหน้าเฉยๆแล้วโยนเข้าแท่นพิมพ์เลย เพราะอย่างนี้แหละแต่ละเรื่องมันเลยต้องมาลุ้นกันเอาเองว่าจะแปลออกมาอีท่าไหนวะ ในเมื่อสนพ.แม่งไม่มีนโยบายกลางให้นักแปลทุกคนยึดถือ
>>542 "เสือซุ่มมังกรซ่อน" กับ "มังกรขนดพยัคฆ์หมอบ" เป็นคนละสำนวน มีความหมายต่างกัน
卧虎藏龙 อันนี้คือเสือซุ่มมังกรซ่อน แปลว่าคนมีวิชา หรือคนเก่งที่เก็บตัว หรือเร้นกาย ไม่แสดงความเก่งกาจออกมาให้เห็น ณ ตอนนี้
สำนวนไทยที่ใกล้เคียงอาจจะเป็น คมในฝัก
龙盘虎踞 อันนี้มังกรขนดพยัคฆ์หมอบ ที่มีตบันใช้ในต้นฉบับตอนแรก แปลว่าอันนี้แดนคนเถื่อน ระวังอันตรายให้ดี มีคนซุ่มรอจังหวะทำร้ายเราได้เสมอ
เอกลักษณ์ของคนแปลไม่มีหรอกนะ อยากมีเอกลักษณ์ก็เขียนเองอย่าไปเอางานคนอื่นมาแปล
>>555 ถ้าเชื่อตามที่เพื่อนโม่งเม้าๆ กันข้างบนก็คือ บก. ซบ. ค่อนข้างเอียงไปทางให้ทับศัพท์มากกว่า ก็อาจจะเป็นแนวทางการทำงานของสนพ. ส่วนตัวเลยด้วย เอาจริงๆ อ่านงานลวด. มา 2 เรื่อง (ตัวร้ายกับสวรรค์ฯ ) ก็ยังไม่รู้สึกว่าหนักหรืออ่านยากเท่าปีนั้นฯ ที่คนอื่นแปล แต่ของซบ. เหมือนกัน
>>558 กูก็ว่าเป็นไปได้สูงที่จะเป็นนโยบายสนพ. แต่ปัญหาคือถ้าจะมีนโยบายทับศัพท์ก็ควรมีหลักการให้นักแปลทุกคนยึดถือให้ตรงกันว่าอะไรทับได้ อะไรทับไม่ได้ แบบทำเป็นอภิธานศัพท์แจกนักแปลไปเลย แต่สิ่งที่เซ้นเป็นอยู่ตอนนี้คือมันทับแบบไม่มีหลักการ หลักขึ้นอยู่กับนักแปลล้วนๆ บางคนทับเยอะ บางคนทับน้อย แม้แต่ในเรื่องเดียวกันยังทับศัพท์แบบไม่มีหลักการในตัวเองเลย คำเรียกญาติพี่น้องเหมือนกันแท้ๆแต่ดันมีทั้งทับและไม่ทับในเรื่องเดียวงี้อะ มันยุ่งเหยิงนะ
>>556 โอ้วววว อันนี้เพิ่งรู้ ขอบคุณที่บอกค่ะ ถ้างั้นกูเข้าใจแล้วว่าทำไมถึงใช้คำนี้ ขอโทษคุณนักแปลด้วยที่เข้าใจผิด
ส่วนคนที่เข้าใจว่าสนพ.ดีๆ บก.แก้งานนักแปลยับ มึงเข้าใจผิดแล้วล่ะ พิสูจน์อักษรแล้วแก้เยอะน่ะใช่ แต่สนพ.ใหญ่ๆหลายแห่งค่อนข้างเปิดให้นักแปลใช้สำนวนแปลของตัวเอง ส่วนเรื่องลายเซ็นนักแปล มึงลองอ่านเรื่องที่แปลกันหลายสำนวนดูก่อน อย่างมังกรหยกก็ได้ ของคุณจำลอง พิศนาคะ คุณ ว ณ เมืองลุง กับคุณ น นพรัตน์ ไม่เหมือนกันสักเวอร์ชั่นเลย หรือไม่ก็ลองอ่านงานแปลของคุณแดนอรัญ แสงทอง ดู งานแปลก็มีลายเซ็นได้โดยที่ไม่ต้องทำลายใจความและอารมณ์ของต้นฉบับ กูบอกไม่ได้ว่าที่ลวดทำอยู่ถูกหรือผิด แต่บางทีการยืนกรานของนักแปลที่จะใช้ทับศัพท์หรือคำอะไรก็ตาม มันอาจจะมาจากความพยายามรักษาลายเซ็นของเขาหรือสาเหตุอื่นๆ ถ้าไม่ชอบงานก็บอกว่าไม่ชอบงาน ไม่ใช่บอกว่านักแปลนิสัยไม่ดีสิ การอ่านแถลงของเขาแล้วคิดว่าเขาเอิด ไม่เห็นหัวคนอ่าน เป็นการตีความไปเอง ไม่ควรเอามาด่าประหนึ่งเป็นข้อเท็จจริง
>>554 ยกมือคนนึงกูอ่านป่าท้อไม่ไหว อ่านแล้วท้อมากยอมแพ้
แต่ก็อยากให้ลวด.ลองเอาอย่างหลินโหม่วบ้างเหมือนกันนะ จะได้รู้กันไปเลยว่าพวกอยากให้ทับศัพท์เจอทับขนาดนั้นจะไหวมั้ย ทับจนนส.หนาแบบปาหัวหมาแตก55555 หรือว่าปีนั้นพอๆกับหลินโหม่วแล้วแต่ก็ยังไม่มีคนด่าวะ? พอดีกูลองอ่านไปแค่ไม่กี่บท
>>561 เห็นคำว่า "มีคนมาแซะแล้วเงียบหายไป 'ไม่กี่คน'" ไหม นักอ่านส่วนใหญ่จะปสดไหมกูไม่รู้ แต่ที่แน่ๆคือคนปสดน่ะมาด่า มันบั่นทอนกำลังใจ ทำคนเขาเสียใจ ชักจูงบรรยากาศไปทางลบหมดเลย แต่กูสงสัย กูยกตัวอย่างขนาดนี้ สิ่งที่มึงได้คือความคิดแง่ลบแค่ประโยคเดียวเนี่ยเหรอ อย่างอื่นคือมองไม่เห็นเลยใช่มั้ย
>>562 กูไม่ได้พูดถึงนิยายจีนอย่างเดียว แต่พูดถึงนิยายทั่วๆไปทั้งหมดเลย นิยายฝรั่ง นิยายญี่ปุ่น วายไม่วายรวมหมด กูเคยคุยกับกองบก.หลายๆคน (ไม่ใช่สายวาย) ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่านักแปลชื่อดังหลายๆคนเนี่ย ถ้ามึงได้เห็นงานดิบรับรองมีช็อกตาตั้งกันไปข้าง ซึ่งกูว่านิยายวายไม่ใช่แบบนี้น่ะ งานที่เห็นมันน่าจะไม่ต่างจากงานดิบสักเท่าไร
แต่อย่างว่าแหละ ที่นี่โม่งอะเนอะ ใครจะพูดอะไรก็ได้ จะอ้างตัวเป็นนักเขียนนักแปลเป็นกองบก.ยังได้เลย 555555 ฝากถึงหลายๆคนที่มุงอยู่ละกันว่าอ่านแล้วก็อย่าไปเชื่อมาก สนพ.ที่แก้ยับมันมีจริง สนพ.ที่ให้อิสระนักแปลเยอะก็มีแหละ สนพ.มีเป็นร้อยๆแห่งน่ะ ในฐานะผู้บริโภคแล้วมึงชอบไม่ชอบการแปลแบบไหนก็มาถกกัน กูว่าเป็นเรื่องดีนะ
ลวด. เรื่องหน้ากูจะรอดูผลงานแปล ว่ามีความเปลี่ยนแปลงไปทิศทางไหน ถ้าเปลี่ยนไปทางทิศที่กูไม่ชอบมากยิ่งขึ้น กูคงเทจริงจังไม่ลังเล ยกเว้นเขาจะได้แปลเรื่องที่ดังกว่าเทียนกวาน กูอาจจะมีลังเล
กุมีเพื่อนคนนึงมันไม่อ่านวายจีนเลย มันดูเมะเทียนกวานแล้วชอบ กุเลยเอาเล่มแรกไปให้มันยืม ผลคือมันบอกว่าขอดูเมะอย่างเดียวก็แล้วกัน เจอทับศัพท์เยอะๆแล้วมึน การทับศัพท์แม่ง exclude คนกลุ่มนี้ไปจริงๆอะ เป็นข้อเสียที่หลายคนนึกไม่ถึง แต่คนที่ชอบทับศัพท์บางคนจะเหยียดว่าไม่รู้จักจำเอง ก็เอาที่ชอบๆละกัน ใครใคร่อ่านก็อ่าน
>>570 ที่ทำให้ออกมาแถลงก็คำวิจารณ์แต่ตัวผลงานนั่นแหละ ว่าทับส่วนที่ไม่ควรทับ ส่วนที่แปลได้ที่น่าแปลก็ยังทับ จนทำให้คนอ่านที่ไม่ชินจีนรู้สึกอ่านลำบาก
คำตอบก็แนว เราทำดีคิดมาดีแล้วค่ะ คนอ่านพยายามหน่อยน้าจะได้เข้าถึง~
ระเบิดถึงลงคนแปลไงมึง
ส่วนคนดีๆที่โดนระเบิดลงทั้งๆที่ไม่ผิด มึงไปดู อ. กับขนมนั่น อันนั้นเหยื่อของจริง คำวิจารณ์ผลงานคือ ไม่เข้าถึงความรักวั่งเชียนก็อย่าสะเออะมาทำำ เล่นเอากุอเมซซิ่งการวิจารณ์ของผู้บริโภคยุคนี้จริงๆ
วายจีน ปสด ที่สุดแล้วจ้าาา
คงได้ใจแฟนๆเพราะบอกว่าคุยกับนักเขียนด้วย ถ้าจะให้ส่งผลจริงๆเสียงข้างแปลไม่ทับต้องมากกว่านี้อีก
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.