เริ่มที่โปร 1,500 แถมแก๊ก ร้านจับมือกับสนพ.ชุบตัว พวกทำไมกูสงสัยว่าเป็นเจ้าของเดียวกันพวกมึงคิดว่าไง
Last posted
Total of 1000 posts
เริ่มที่โปร 1,500 แถมแก๊ก ร้านจับมือกับสนพ.ชุบตัว พวกทำไมกูสงสัยว่าเป็นเจ้าของเดียวกันพวกมึงคิดว่าไง
แว่วเสียงมีดสับกระทบเขียงมาแต่ไกล ในครัวสำหรับฝึกสอนทำอาหารตกแต่งสไตล์โมเดิร์น เหล่านิสิตชายหญิงภาควิชาคหกรรมศาสตร์กำลังเดินสวนกันบริเวณทางเดินตรงกลางให้วุ่น สองข้างทางคือเคาน์เตอร์บาร์ขนาดย่อมฝั่งละหกเคาน์เตอร์ที่ถูกกั้นเป็นสัดส่วน ในเคาน์เตอร์หมายเลขหนึ่ง เด็กหนุ่มตัวสูงกำลังก้มตัวแล่ปลาอย่างตั้งใจ
เนื้อปลาทับทิมสดทั้งสองด้านถูกแล่ออกจากโครงปลาอย่างประณีต นายเปมทัตในชุดเชฟสีขาวกระดุมดำวางเนื้อปลาลงบนเขียงก่อนจะแบ่งเป็นหกส่วนเท่าๆ กัน เขาหยิบผ้าเช็ดมือสีขาวออกมาจากผ้ากันเปื้อนสีดำแบบครึ่งตัวที่สวมอยู่เพื่อเช็ดมือ รอจนน้ำมันในกระทะร้อนได้ที่เด็กหนุ่มก็หย่อนโครงปลาลงไปจนเกิดเสียง มือหนาจับตะหลิวพลิกโครงปลาอย่างชำนาญ พักกระทะไว้ ก่อนจะหันมาเทแป้งสาลีใส่ถุงร้อนปริมาณหนึ่งในสี่ของถุง
“เปรมจ๋า ข้าวสุกแล้วนะ”
เปมทัตหันไปพยักหน้า เส้นผมสีดำประบ่าถูกรวบเก็บเข้าไปในหมวกเชฟสีขาวเผยให้เห็นใบหน้าหล่อเหลาที่ขึ้นเงาเพราะอยู่หน้าเตาเป็นเวลานาน “ไอมาทำปลาคลุกแป้งที เดี๋ยวเค้าไปเอากะทิ” เด็กหนุ่มหย่อนเนื้อปลาทับทิมสองชิ้นลงถุงไป ใช้นิ้วปิดปากถุงไว้ เขย่าให้ดูแล้วพูดว่า “ทำแบบนี้นะ”
ไอริณขานรับ เด็กสาวอยู่ในชุดเชฟแบบเดียวกับพาร์ทเนอร์ เธอเห็นเพื่อนหันไปมองโครงปลาในกระทะจึงพูดว่า “เดี๋ยวไอเอาขึ้นให้เอง เปรมไปทำต้มข่าไก่เถอะ”
เปมทัตเดินออกมาจากเคาน์เตอร์ เครื่องปรุงทั้งหมดวางอยู่บนรถเข็นแสตนเลสหน้าห้อง เขาตวงกะทิตามปริมาณที่ต้องการ แบ่งเครื่องปรุงที่จำเป็นใส่ถ้วยเล็ก ก่อนจะเรียงทุกอย่างลงบนถาดแล้วถือกลับเข้ามา โดยไม่ลืมที่จะหยุดหน้าเคาน์เตอร์ตัวเองเพื่อหยิบเนื้อไก่ ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูดและวัตถุดิบอื่นๆ ที่ต้องใช้มาจากโต๊ะยาวกลางห้องด้วย
“เอ้าห้าโมงกว่าแล้วนะเด็กๆ เร่งมือเข้า” อาจารย์สาวประจำวิชาเดินตบมือเข้ามาเรียกความสนใจ “วันนี้เคาน์เตอร์หมายเลขหนึ่งเป็นเวรเก็บกวาดใช่ไหม ทำเสร็จแล้วมาเช็ดรถเข็นกับเอาผ้าขี้ริ้วไปต้มด้วยนะลูก”
“ค่า” ไอริณขานรับ เธอคลุกเนื้อปลากับแป้งเสร็จแล้ว กำลังเตรียมทอด
เปรมพูดว่า “เดี๋ยวเค้าจัดการต้มข่าไก่เอง ไอริณทำปลาสามรสไปนะ” เด็กสาวหันขวับ เธอพูดตาถลน “ไอทอดปลาให้ได้ แต่น้ำจิ้มสามรสเปรมทำนะ!”
เปรมทำท่าจะท้วง แต่พอเห็นสายตาอ้อนวอนจากอีกฝ่ายเขาก็ยอมพยักหน้าให้
“เย้! เค้าอยากกินปลาสามรสฝีมือเปรมมานานแล้ว” ไอริณร้องอย่างร่าเริง เปรมล้างตะไคร้กับข่าพลางพยักหน้าหงึกหงัก เมื่อเด็กสาวหันไปทอดปลาต่อ เขาก็เอาผักมาสะเด็ดน้ำแล้วเริ่มทุบตะไคร้ก่อนจะหั่นเฉียง มือหนาหั่นข่าเป็นแว่น ฉีกใบมะกรูด ตามด้วยนำหางกะทิใส่หม้อ ขึ้นตั้งเตาที่ไฟแรงปานกลาง
ไอริณทอดปลาเสร็จแล้ว เด็กสาวช่วยหั่นไก่เป็นชิ้นพอดีคำระหว่างรอเปรมทำน้ำจิ้มสามรส
“หม้อเดือดได้ที่แล้ว ไอใส่เครื่องได้เลย แต่อย่าเพิ่งใส่ไก่นะ” เปรมกำชับ ไอริณทำตามอย่างว่าง่าย เด็กหนุ่มเทน้ำจิ้มสามรสที่ปรุงเสร็จใส่ถ้วยแสตนเลส เด็กสาวเดินมายืนข้างกัน
“ให้ไอจัดจานเสิร์ฟแล้วเปรมไปเคี่ยวเถอะ ไอไม่โปรว่ะ” ไอริณพูดเสียงอ่อน เปรมหันไปมอง “ไม่เห็นเป็นไร ใครๆ ก็ทำได้ ไอไม่ลองเคี่ยวดูล่ะ” เด็กสาวส่ายหน้าก่อนจะยิ้มแป้น “ไม่เอาอะ รอกินฝีมือเปรมดีกว่า เปรมทำอร่อย”
เด็กหนุ่มมองแล้วยิ้มตาม เขาเดินไปเคี่ยวต้มข่าในหม้อ ระวังไม่ให้กะทิแตกมัน ช่วงเวลานี้เองที่เปรมได้ยืนนิ่งๆ บ้างเสียที ดวงตาสีนิลกวาดมองรอบตัว เพื่อนๆ เองก็ดูวุ่นวายกับเมนูที่ได้รับไม่แพ้กัน
แต่ละคู่จะได้รับสองเมนูที่แตกต่างกันออกไป เคาน์เตอร์ที่ทำเสร็จก็เริ่มยกอาหารของตัวเองมาวางบนโต๊ะกลางกันบ้างแล้ว ในท้ายชั่วโมงพวกเขาทั้ง 19 คนจะรับประทานอาหารที่แต่ละกลุ่มปรุงร่วมกันเหมือนทุกที
“เฮ้ยไอ้เปรม!” เด็กหนุ่มผมโกรกสีทองเดินมาหา เปรมเรียกชื่อเขา “ไงไอ้ได หมูต้มเค็มถึงไหนแล้วมึง”
ไดนาไมต์ทำหน้าเหยเก “โคตรเค็มอะ ใครแดกหมดมึงมาเอาไตกูไปได้เลย กูให้” เปรมหัวเราะเพื่อนสนิท ก่อนจะชะเง้อหาอีกคน “ครัวไอ้สามทำไรวะ”
“ไอ้สามมันทำไอ้นี่...แกงจืดหมูสับกับไข่พะโล้ แม่งโคตรน่าแดกอะ” ไดนาไมต์ตาวาว เปรมพ่นลมหายใจกลั้วขำ ตอนนี้เขาใส่ไก่ลงไปในหม้อแล้ว เป็นจังหวะที่ไอริณเอาจานปลาทับทิมสามรสที่ตกแต่งสวยงามไปวางเรียบร้อย
เกิดเสียงฝีเท้าตรงทางเดินหน้าห้องครัว เปรมมองลอดมุ้งลวดเหนืออ่างล่างจานของเคาน์เตอร์ตัวเองออกไป พบกลุ่มนิสิตหญิงหน้าตาน่ารักเดินหัวเราะคิกคักเดินผ่านมา ไดนาไมต์ตาวาว “แม่เจ้าโว้ย แจ่มว่ะ คณะไรวะน่ะ”
“ชุดกาวน์ขาวแบบนี้ หมอล่ะมั้ง” เปรมว่า สอดคล้องกับห้องข้างๆ เป็นแลปวิทยาศาสตร์ที่พวกนักเรียนแพทย์ชอบมาเรียนให้เห็นบ่อยๆ ไดนาไมต์ขมวดคิ้ว “หมออะไรไม่เห็นแขวนที่ฟังเสียงหัวใจไว้ที่คอเหมือนในหนังเลย”
“มึงจะให้เขาห้อยเป็นจตุคามเลยรึไงล่ะ ก็แขวนเฉพาะตอนใช้งานมั้ย” เปรมพูดหน้าเหนื่อยๆ เขาเติมเกลือป่นเล็กน้อย ใส่หัวกะทิกับมะเขือเทศแล้วคนให้เข้ากัน
“เปรมจ๋า ใส่มะนาวเลยมั้ย” ไอริณเดินเข้ามา เปรมชิมต้มข่าไก่ด้วยช้อนส่วนตัวโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า “ยังก่อน ใส่เปรี้ยวตอนร้อนๆ เดี๋ยวขม”
ไดนาไมต์ผิวปากหวือก่อนจะส่งยิ้มให้เด็กสาว “ยังไงน้องไอ ครัวนี้มีอะไรกินจ๊ะ”
“ปลาทับทิมสามรสกับต้มข่าไก่ค่ะคุณพี่ อร่อยเหมือนคนทำนะคะพูดเลย” เสียงหวานเจื้อยแจ้ว เปรมสั่นหัวขำๆ เขาปิดเตา เติมน้ำมะนาว พอรู้สึกว่ารสชาติได้ที่แล้วก็โรยหน้าด้วยผักชี จากนั้นจึงตักใส่ชามเตรียมเสิร์ฟ
“มาๆ เดี๋ยวไอจัดจานเอง” ไอริณอาสา เปมทัตถอยฉากให้ เขาเริ่มเก็บล้างภาชนะโดยมีไดนาไมต์ชวนคุยอยู่ข้างๆ
“พวกหมอนี่เรียกหนักน่าดูเลยนะ” เด็กหนุ่มผมทองพูดพลางมองกลุ่มนักเรียนแพทย์ชายที่เดินตาโหลออกไป “ดูดิ แม่งทำแลปกันหน้าซีดเลย เรียนทั้งวันเอาเวลาไหนไปแดกวะน่ะ”
“ใครจะเหมือนสาขาเรา แดกทั้งวันไม่รู้เอาเวลาไหนไปเรียน” เปรมสั่นหัว ไดนาไมต์ยืนกอดอก “กูว่าแลปสาขาเราแม่งจอยสุดละ”
“ห่า แลปแดก”
“พวกมึ้งงงง!” เสียงทุ้มดังขึ้นด้านหลังตามด้วยแขนยาวที่ตวัดรัดคอเพื่อนทั้งสองเข้าอ้อมอกตัวเองเต็มรัก เปรมกับไดนาไมต์ตาเหลือก เด็กหนุ่มผมดำเค้นเสียงเรียกอีกฝ่าย “อะ...ไอ้สาม...พะโล้มึง...”
“เสร็จแล้วเว้ย! เหลือต้มข่ามึงอะเปรม หูยกลิ่นหอมว่ะ” สามสีน้ำลายสอ เขาเป็นเด็กหนุ่มหน้าตาดีที่ตัวสูงที่สุดในสาขา สามสีกดจมูกลงบนหัวของเพื่อนทั้งสองคนละทีอย่างหมันเขี้ยว “หึม พวกมึงนี่...หัวเหม็นฉิบหาย!”
“สัดเอ๊ยใครให้มึงมาดมล่ะโว้!” ไดนาไมต์โวยวาย เขาถอดหมวกเชฟแล้วเลยโดนสามสีหอมเต็มๆ ในขณะที่เปรมได้แต่ยืนปลง โชคดีที่เขายังมีหมวกเชฟคอยคุ้มภัยกบาลน้อยๆ ของตัวเองจากจมูกไอ้สามอยู่ แม้สุดท้ายมันจะโดนแรงกดทับจนแบนติดหัวเขาเลยก็ตาม
“ส่องหมออยู่เหรอพวกมึง” สามสีถามขึ้น เขาปล่อยเพื่อนออกจากแขนแล้ว ไดนาไมต์หันไปตอบ “มึงช้าอะ แจ่มๆ เพิ่งผ่านไปเมื่อกี้เลย เห็นแล้วอยากโดนรักษา”
“ให้เขาฉีดยาเหรอมึง” สามสีแขวะ ไดนาไมต์ยิ้มกริ่ม พูดว่า “กูนี่แหละจะฉีดเขา”
“ตื่นเถอะ กูว่าชาตินี้มึงไม่มีปัญญาได้แตะแม้แต่ขี้เล็บเขาหรอก”
“ทำม้ายยยย” ไดนาไมต์ร้องไห้แบบไม่มีน้ำตา สามสีพูดว่า “พวกหมอแม่งดูสูงส่งสัดอะ จะสวยหล่อเกินมนุษย์มนากันไปเพื่อใครก็ไม่รู้”
“แม่งเข้าถึงยากฉิบหาย ถึงกูไม่ติดหมอก็อยากมีหมอมาติดนะเว้ย” ไดนาไมต์เบ้หน้า ก่อนมันสองคนจะกอดคอกันร้องไห้ เป็นจังหวะที่เปรมล้างอุปกรณ์ทั้งหมดเสร็จพอดี
“แล้วมึงอะเปรม สนใจอยากมีหมอมาติดบ้างมั้ย” สามสีหันมาถาม เปรมหยิบผ้าขึ้นมาเช็ดมือหน้าเหนื่อยๆ “หมอนะมึงไม่ใช่สติกเกอร์”
พูดจบอาจารย์ก็ตบมือเรียกความสนใจ
“เอ้าเด็กๆ ใครเรียบร้อยแล้วมานั่งประจำที่เลยนะ เราจะได้เริ่มสรุปแลปสักที หกโมงกว่าแล้วเดี๋ยวมืด รีบกินจะได้รีบกลับนะ” พวกเปรมได้ยินจึงรีบเข้ามาประจำที่ เมื่ออาจารย์สรุปแลปจบทุกคนก็ลงมือจัดการอาหาร
เสียงอึกทึกคึกโครมดังไปทั่วบริเวณ เหล่านิสิตชายหญิงพูดคุยกันพลางหัวเราะสังสรรค์อย่างสบายใจ เปรมอาศัยจังหวะนี้มาตั้งอ่างแสตนเลสต้มน้ำเตรียมต้มผ้าขี้ริ้วเงียบๆ
“เปมทัตเช็ดรถเข็นยัง” อาจารย์สาวเดินเข้ามาถาม เด็กหนุ่มพยักหน้า “เรียบร้อยแล้วครับอาจารย์ นี่กำลังจะต้มผ้าขี้ริ้ว”
“เหรอ เออ เดี๋ยวอาจารย์มีประชุมนะ พอเสร็จเปมทัตดูเพื่อนออกไปให้หมดแล้วฝากปิดไฟล็อคห้องด้วย กุญแจเอาไปหย่อนไว้ในห้องพักอาจารย์นะ” หล่อนนัดแนะ เปรมพยักหน้ารับ ถามว่า “อาจารย์กินต้มข่ากับปลาผมยัง”
“เออ กินแล้ว” อาจารย์ตอบ เปมทัตยิ้มทะเล้น “เด่อ อร่อยอะดิ”
“งั้นๆ แหละ” หล่อนขึ้นเสียงสูง เป็นอันรู้กันว่าฝีมือเด็กหนุ่มเข้าขั้นอัจฉริยะ รสชาติอาหารของเขาไม่เป็นสองรองใคร แต่เธอไม่อยากชมออกไป เพราะมันกวนตีน
“โห่ อร่อยก็บอก ทำเป็นซึน” นั่น พูดยังไม่ทันขาดคำ
“เออ อร่อยดี ปิดห้องด้วย อาจารย์ไปละ” พูดจบก็เดินถือกระเป๋าออกไป เปรมยกมือไหว้ตามหลัง ก่อนจะหยิบผ้าขี้ริ้วทั้งหมดใส่อ่างแสตนเลสเพื่อต้ม
“กูไปก่อนนะเว้ยไอ้เปรม” พอคนเริ่มสลายตัวกลับ สามสีก็เดินมาทักตรงเคาน์เตอร์ เปรมพยักหน้า “เออ เจอกันพรุ่งนี้”
“แม่งเสียดายต้มข่ามึงว่ะ อร่อยนะ แต่กูอิ่มแล้วอะดิ” เด็กหนุ่มตัวสูงพูดตาละห้อย เปรมหัวเราะ ตอบว่า “กับข้าววันนี้แม่งเยอะไง แดกกันไม่หมดหรอก”
“แล้วมึงทำไงกับที่เหลือวะ” สามสีถาม เปรมกลอกตาอย่างใช้ความคิด ตอบส่งๆ “คงเอาให้หมากินล่ะมั้ง”
“โอ๊ย บุญของหมา” สามสีสัพยอก พูดว่า “เออกูไปจริงๆ ละ กูไม่ได้ช่วยไม่ว่ากูนะมึง มีธุระจริงๆ” เปรมพยักหน้าหงึกหงัก เขามองเพื่อนตัวสูงวิ่งจากไป ตอนนี้คนอื่นๆ เริ่มทยอยเดินออกจากห้องกันบ้างแล้ว หลายคนตะโกน ‘สู้ๆ นะเปรม’ มาให้ ซึ่งเด็กหนุ่มทำได้เพียงขานรับยิ้มๆ เท่านั้น
“เปรมจ๋า แม่โทรตามไอแล้วอะ เปรมปิดห้องคนเดียวได้ใช่มั้ย” เด็กสาวเดินเข้ามาหน้าเศร้า เปรมหันไปมองตาโต “อื้อ ได้ดิ ไอไปก่อนเลย ดึกแล้วอันตรายนะ กลับคนเดียวให้เค้าไปส่งมั้ย”
“ไม่เป็นไร ไอไปกับกู” ไดนาไมต์โผล่มา ไอริณยกมือไหว้ปลกๆ “แอ๊ ขอโทษน้าเปรมมม”
“โอเคๆ ไปกันเหอะ เดี๋ยวเค้าปิดห้องเอง มึงก็ไปพาไอไปดีๆ ล่ะได” เปมทัตกำชับเพื่อน เด็กหนุ่มผมทองยิ้มทะเล้น “อะเครๆ เจอกันพรุ่งนี้นะเพิ่ล”
“เพิ่ลพ่ง เจอกันพรุ่งนี้” เปรมตอบรับ ก่อนทั้งห้องจะเงียบสงบเมื่อเหลือเขาอยู่คนเดียว
ระหว่างต้มผ้าขี้ริ้วเด็กหนุ่มก็คิดหาวิธีจัดการกับต้มข่าไก่ เขาพึมพำว่า “เหลือเยอะซะ เป็นกะทิด้วยอะ บูดแน่เลยเสียดายเหมือนกันแฮะ” สงสัยคงต้องเอาไปให้หมากินจริงๆ ล่ะมั้ง
เด็กหนุ่มไล่เดินล็อคหน้าต่างมาจากหลังห้อง จากนั้นจึงเก็บกวาดโต๊ะกลาง ตอนนั้นเองที่ห้องข้างๆ เกิดเสียงดัง
โคร้ม! เคร้ง!
เปรมสะดุ้ง เขาเงี่ยหูฟัง มั่นใจว่าได้ยินเสียงมาจากแลปวิทยาศาสตร์ห้องข้างๆ ตอนที่กำลังคิดว่าจะทำไม่รู้ไม่เห็นแล้วรีบเก็บกวาดให้เสร็จเร็วๆ อยู่นั่นเอง
กึง! เพล้ง!
พ่อครัวหนุ่มสะดุ้งอีกครั้ง เขากลอกตาไปรอบๆ อย่างชั่งใจ สุดท้ายความอยากรู้ก็ชนะจนทำให้เปมทัตออกมาจากแลปครัวของตัวเอง เด็กหนุ่มเดินไปหยุดอยู่หน้าห้องแลปวิทยาศาสตร์ที่เปิดไฟอยู่ ในมือเขาถือตะหลิวหนึ่งด้าม
ครืด...
เด็กหนุ่มเลื่อนประตูเปิด เขามองด้านในห้องแลปวิทยาศาสตร์ที่ไร้ผู้คนแล้วสูดลมหายใจเต็มปอดคล้ายเรียกสติ
เอาวะ...เป็นไงเป็นกัน!
“ใครน่ะ!” เปรมพุ่งตัวพลางยกตะหลิวชี้ไปข้างหน้า ก่อนจะมีเสียงจิ้งหรีดยามค่ำคืนตอบกลับมา เปรมลดมือลงช้าๆ กล้ามเนื้อเขาคลายโดยอัตโนมัติ นึกปลงตัวเองที่มาทำอะไรน่าอายอยู่แบบนี้
หมับ!
“เหวอ!” แต่ยังไม่ทันได้วางใจเปรมก็โดนแรงปะทะจากด้านหลังชนจนล้มคว่ำ เด็กหนุ่มโงหัวขึ้นมา สะดุ้งเมื่อโดนอะไรบางอย่างสัมผัสลำตัว
มะ...มือ...
เปรมหน้าเสีย แล้วก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงลมหายใจแผ่วๆ อยู่ข้างหู อะไรบางอย่างรัดตัวเขาจนอึดอัด พอตั้งสติได้เปรมถึงรู้ตัวว่ามีคนๆ หนึ่งกำลังทับเขาอยู่
แถมคนๆ นั้นยังตัวใหญ่มากเสียด้วย เปรมพยายามแกะมืออีกฝ่ายออกจากลำตัว เขาส่งเสียง “เฮ้! แกเป็นใครเนี่ย ปล่อยฉันนะโว้ย!” เพราะโดนทับจากด้านหลังเปรมเลยไม่สามารถหันไปมองอีกฝ่ายได้ เด็กหนุ่มสะดุ้งเฮือกยามมือเย็นไล้สัมผัสร่างกายของเขาอย่างจาบจ้วง
“เฮ้ย! ไอ้บ้านี่!” ใบหน้าที่ปรกไปด้วยเส้นผมและหนวดเคราไล้ซุกไปทั่วลำคอของเด็กหนุ่ม เปรมขนลุก ร้องลั่นเมื่อโดนอีกฝ่ายกัดเข้าที่หลังคอ
“โอ๊ย! ฉันเจ็บนะ! นี่...อึ๊ก อย่ากัด...” แขนใหญ่ล็อคเขาไว้แน่น เปรมดิ้นจนหมดแรง เจ็บจนน้ำตาเล็ด ก่อนริมฝีปากร้อนของอีกฝ่ายจะแนบลงข้างหู เปรมสะดุ้ง ได้ยินเสียงทุ้มเป็นครั้งแรก
“หอมจัง...”
เปรมขมวดคิ้ว พยายามย่นคอหนีจมูกโด่งสันที่ไล่หอมเขาเป็นว่าเล่น “หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
“ขอกินหน่อย...”
“ไม่ได้!” เปรมพยายามดันหัวอีกฝ่ายออกสุดแรง “ฉันไม่ใช่ของกินนะ เลิกดมฉันสักทีไอ้นี่ !” เขาโวยวาย เด็กหนุ่มได้ยินเสียงอีกฝ่ายครั้งสุดท้าย
“หิว...”
จ๊อกกกกก...ฟุ่บ! แล้วร่างนั้นก็แน่นิ่งไป
“หา...” เปรมหน้าเหวอ พยายามหันไปหาอีกฝ่ายได้สำเร็จ ตอนนั้นเองที่เขาได้เห็นผู้ชายตัวใหญ่ผมเผ้ารุงรังหนวดเป็นตอเต็มสายตา เด็กหนุ่มลุกขึ้นอย่างทุลักทะเล ชุดกาวน์ที่อีกฝ่ายสวมใส่บอกให้รู้ว่าเป็นทั้งคู่นิสิตเหมือนกัน เปรมเขย่าคนใหญ่ “เฮ้ยนาย...ตื่น!”
“หิวจัง...” เสียงทุ้มนั่นแผ่วหวิว เปมทัตพรูลมหายใจอย่างอ่อนแรง เขาเขย่าตัวอีกฝ่ายอีกที “เดี๋ยวค่อยพูดกัน ที่ห้องข้างๆ มีต้มข่าไก่อยู่ นายเดินไหวไหม”
“อุ้ม...”
“อะไรนะ?”
“อุ้มหน่อย...”
“...”
เปรมใช้เวลาห้านาทีในการ ‘ลาก’ ผู้ชายตัวโตแปลกหน้ามาแลปอาหารที่อยู่ข้างๆ หลังจากจับอีกฝ่ายนั่งเก้าอี้เรียบร้อย เปรมก็เดินไปตักข้าวสวยกับต้มข่าไก่ใส่ชามมาให้ เขาเลื่อนถ้วยกับข้าวหาอีกฝ่ายก่อนจะนั่งลงตรงข้ามกัน
ทันทีที่ได้กลิ่นแกงคนแปลกหน้าในชุดกาวน์ก็คว้าชามไปโซ้ยอย่างหิวโหย ท่าทางมูมมามขัดกับกาวน์สีขาวที่เจ้าตัวสวมใส่ เปรมนั่งมองเงียบๆ จนร่างสูงกินหมดแล้วจึงยื่นชามกลับมาให้เขา
“เอาอีกมั้ย?” เปรมถามตามความเคยชิน เมื่ออีกฝ่ายพยักหน้า เขาก็ไปตักมาให้
รอบสองหมดลงภายในเวลาอันรวดเร็ว อีกฝ่ายยังคงยื่นชามกลับมาให้เขาเงียบๆ
“จะเอาอีกเหรอ?” เปรมหน้าเหยเก กระพริบตาเมื่ออีกฝ่ายพยักหน้า เขาลุกขึ้นไปตักให้ใหม่อีกรอบ
รอบที่สามหมดลงภายในเวลาต่อมา อีกฝ่ายยื่นชามให้เขาเงียบๆ อีกครั้ง เปรมยกมือกุมหน้าผาก ก่อนจะลุกไปยกหม้อต้มข่าไก่กับหม้อหุงข้าวมาตั้งบนโต๊ะดังปึ้ง
“...”
ผู้ชายตัวโตผมรุงรังนิ่งไป มือใหญ่ใช้ช้อนกินคดข้าวด้วยท่าทีเงอะๆ งะๆ เปรมมองท่าทางนั้นแล้วปวดหัว ชิงพูดว่า “จะคดข้าวต้องใช้ทัพพีสิ แบบนี้” ว่าแล้วก็คดให้ดูพร้อมตักแกงให้ด้วยเสร็จสรรพ อีกฝ่ายรับไปกินอย่างหิวโหย จนพอมีแรงแล้วถึงเริ่มพูด
“แกงนี่...ซื้อจากร้านไหน” เสียงทุ้มนั้นเป็นแบบโมโนโทน เปมทัตตอบเรียบๆ “ฉันทำเอง”
“อร่อย”
ตึกตัก...ตึกตัก...
เปรมชะงักอย่างตกใจ โดนอีกฝ่ายชมแค่นี้ทำไมเขาต้องเขินด้วยวะ
“ขอโทษ” เสียงทุ้มเปล่งออกมา เปรมขมวดคิ้ว “เรื่อง?”
“ขอโทษที่กัดนาย ตัวนายมีกลิ่นอาหาร เราก็เลยเผลอไป”
เผลอไปเนี่ยนะ...เปรมมองบน ตอบปัดตัดบท “ช่างมันเหอะ แล้วนี่ทำท่าไหนถึงได้ไปล้มอยู่ในนั้น”
“เรากำลังตัดเซคชั่นใส่สไลด์ส่งอาจารย์ แล้วง่วงนิดหน่อย”
ไม่นิดแล้วมั้ง...เปรมเหงื่อตก พูดว่า “เอาเถอะ กินเสร็จก็รีบกลับบ้านนายไปสักที ฉันจะปิดห้องแล้ว”
“แต่เรายังไม่อิ่มเลยนะ”
“ใจคอนายจะกินให้หมดหม้อเลยรึไงล่ะ” เปรมประชด
“มันอร่อย เราว่าเรากินหมด” คำตอบนั้นทำเปรมนิ่งงันไป แก้มเขาร้อนอย่างไร้สาเหตุ สุดท้ายก็นั่งลงพูดปลงๆ ว่า “นายเนี่ย พูดเรื่องน่าอายได้หน้าตาเฉยเลยนะ”
เปมทัตตักข้าวให้อีกฝ่าย มือหนารับไป เสียงทุ้มถามเขาว่า “นายชื่ออะไร”
“เปรม” เด็กหนุ่มตอบ
“นายเป็นกุ๊กของที่นี่เหรอ”
“จริงๆ เป็นนิสิตอะ” เปรมตอบพลางมองเวลา สองทุ่มกว่าแล้ว ตัวเขาน่ะอยู่หอแถมมีมอเตอร์ไซค์ไม่เป็นไรหรอก แต่หมอนี่จะไม่กลับบ้านกลับช่องรึไง “นายควรรีบกินแล้วรีบกลับบ้านนะ ดึกแล้ว รถตู้หน้าม.หมดสามทุ่มนะ”
“ไม่ต้องห่วง เรามีคนมารับ”
“อ้อ งั้นเหรอ” เปรมเชิดหน้า มองอีกฝ่ายยื่นถ้วยมาให้แล้วขมวดคิ้ว “จะกินก็ตักเองซะบ้างเซ่! เป็นเด็กเรอะ!”
“ตักให้หน่อย”
“ทำไมฉันต้องตักให้นายด้วย!”
“นายเป็นกุ๊ก เราเป็นลูกค้า” คนในชุดกาวน์พูดหน้านิ่งจนเปรมนึกโมโห
“นายยังไม่ได้จ่ายตังค์ฉันเลยสักกะบาทเดียว!”
“เดี๋ยวเราเซ็นเช็คให้”
“คนบ้าที่ไหนเซ็นเช็คซื้อต้มข่าไก่กันบ้างเล่า! ตักเองเดี๋ยวนี้!”
สองสายตาสบกัน ก่อนคนตัวใหญ่จะเป็นฝ่ายตัดพ้อ “ใจร้ายอ่ะ”
“อย่ามาง้องแง้งน่า! ฮึ่ย...เอามานี่” สุดท้ายก็ต้องยอมมันจนได้ ให้ตาย เด็กโข่งชะมัด แล้วอย่ามากินไปมองกันไปแบบนั้นจะได้ไหม ฉันกลัวนะเฟ้ย
“กุ๊ก เราอยากกินปลา”
“ปลาหมดแล้ว”
“ในบ่อหน้าตึกก็มีอะ”
“นั่นมันปลาคาร์ฟ”
“จะกิน...”
“...ไว้ชีวิตมันด้วยเถอะ” เปรมเกาหัว พูดออกมาว่า “วันหลังละกัน ถ้ามาที่แลปจะทำให้กิน”
“จริงเหรอ” เปรมมองใบหน้าที่รกไปด้วยผมกับหนวดและตาวาวๆ ของอีกฝ่ายอย่างละเหี่ยใจ พยักหน้าแกนๆ “เออ”
“เราอยากเรียนทำอาหารบ้าง”
“แถวหน้าม.มีเปิดสอนเยอะแยะ”
“เราจะเรียนกับกุ๊ก”
“หา?” เปรมหน้าเหวอ มองคนพูดอย่างไม่เชื่อหู ดวงตาหลังเส้นผมรุงรังดูจริงจังจนพ่อครัวต้องลอบกลืนน้ำลาย “เงินเรายินดีจ่ายให้ กุ๊กเอาเท่าไหร่ก็ว่ามาเลย”
“ขอปฏิเสธ”
“ทำไมอะ”
เปรมพรูลมหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน พูดว่า “ฉันไม่มีเวลามาดูแลเด็กโข่งอย่างนายหรอกนะ แล้วนายเรียนหมอก็หนักพออยู่แล้ว จะเพิ่มภาระให้ตัวเองทำไม”
“จะเรียน” เสียงนั้นยืนยัน
เปรมคิ้วกระตุก คิดมาตั้งนานแล้ว ไอ้หมอนี่มันสปีชีส์คุณชายฟีทเจอริ่งเด็กโข่งหน้าตายชัดๆ เขาเอามือเท้าโต๊ะ จิกตาพร้อมพูดว่า “นี่พ่อคุณ โตแล้วนะ จะเอาแต่ใจไปถึงไหน”
“ไม่ได้เหรอ...” คนพูดทำตาละห้อย เปรมยกนิ้วชี้หน้า “หยุดเลย! ถึงจะทำสายตาแบบนั้นก็ไม่ช่วยอะไรหรอกนะ!”
“ขอร้อง”
“ฉันบอกว่าไม่ก็คือไม่เด้!”
“เราจะเป็นเด็กดี”
“นายนี่มัน...”
“กุ๊ก...สอนเรานะ”
“...”
เปรมนิ่งไป ให้ตาย ไอ้หมอนี่มันรับมือยากสุดๆ ไปเลย!
“ก็ได้โว้ย!”
“เย่” คนตัวโตชูมือขึ้นพร้อมช้อนส้อมด้วยดวงตาเป็นประกาย แม้อวัยวะบนใบหน้าจะไม่ได้ขยับไปด้วยเลยก็ตาม เปรมสูดลมหายใจ ถามว่า
“นายแน่ใจเหรอที่จะมาเรียนกับฉัน ฝึกโหดนา”
“เราโอเค” เสียงทุ้มตอบกลับมา เปรมหรี่ตา ลอบนวดขมับตัวเองป้อยๆ ไม่วายหันไปกำชับเสียงดุ “นายต้องสัญญาก่อนว่าการเรียนพิเศษกับฉันจะต้องไม่ทำให้นายเสียการเรียน”
“เราสัญญา” ร่างสูงรับคำเป็นมั่นเหมาะ
“ดี ว่าแต่นายชื่ออะไร”
“เราชื่อเท็น” หมอผมรุงรังตอบเสียงโมโนโทน เปรมพยักหน้าหงึกหงักพลางเริ่มเก็บล้างหม้อ พอเห็นสภาพก็อดทึ่งไม่ได้ว่าหมอนี่มันกินหมดจริงๆ ด้วยเว้ย
“กุ๊ก ต้มข่าไก่หม้อนี้กี่บาท”
ร่างสูงพูดพลางควักกระเป๋าตังค์ออกมา เปรมขมวดคิ้ว ตอบส่งๆ ขณะขัดหม้อต้ม “ฟรี”
“แล้วสอนเราเอาเท่าไหร่” เท็นถือแบงค์พันปึกใหญ่ค้างไว้ คิดจะจ่ายค่ามัดจำ
“ฟรี” เปรมตอบเป็นหุ่นยนต์ เท็นมองแผ่นหลังที่เล็กกว่าของตัวเองมากกำลังล้างจานอยู่งกๆ แล้วพูดว่า “มาทำนู่นทำนี่ให้เรา ตังค์ก็ไม่เอาแล้วกุ๊กจะเอาอะไร”
“ตารางเรียนนายก็แล้วกัน” เปรมสวนมา “ฉันจะได้เช็คได้ว่านายไม่ได้โดดเรียนมาหาฉัน”
“ก็ได้อยู่หรอก” เท็นพูดแล้วขมวดคิ้ว “แต่เราไม่อยากติดค้างบุญคุณใคร”
“ก็อย่าไปล้มให้ต้องลากมาอีกละกัน” เปรมเช็ดมือหลังล้างทุกอย่างเสร็จแล้ว เขาเก็บหมวกเชฟใส่กระเป๋า ตอนนั้นเองที่แผ่นหลังชนเข้ากับอกกว้าง พ่อครัวตกใจ เจ้าเด็กโข่งหน้าตายไปยืนอยู่ข้างหลังเขาตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้
“อะ...”
จุ๊บ...
รู้ตัวอีกทีจมูกโด่งสันกับริมฝีปากเอาแต่ใจนั่นก็กดลงมาบนแก้มของนายเปรมเสียแล้ว พ่อครัวยืนตัวชา เหลือกตามองอีกฝ่ายคล้ายกำลังช็อค ในหัวขาวโพลนแต่ยังทันได้ยินอีกฝ่ายพูดว่า
“ค่าอาหารครับ”
ยกที่ 01 >>>/801/2253/
ยกที่ 02 >>>/801/2374/
ยกที่ 03 >>>/801/2498/
ยกที่ 04 >>>/801/2736/
ยกที่ 05 >>>/801/2860/
ยกที่ 06 >>>/801/2956/
ยกที่ 07 >>>/801/3025/
ยกที่ 08 >>>/801/3119/
ยกที่ 09 >>>/801/3197/
ยกที่ 10 >>>/801/3241/
ยกที่ 11 >>>/801/3287/
ยกที่ 12 >>>/801/3381/
ยกที่ 13 >>>/801/3495/
ยกที่ 14 >>>/801/3626/
ยกที่ 15 >>>/801/3705/
ยกที่ 16 >>>/801/3926/
ยกที่ 17 >>>/801/4012/
ยกที่ 18 >>>/801/4097/
ยกที่ 19 >>>/801/4199/
ยกที่ 20 >>>/801/4290/
ยกที่ 21 >>>/801/4406/ **(วาระ ภกด แห่งมู้)**
ยกที่ 22 >>>/801/4451/
ยกที่ 23 >>>/801/4488/
ยกที่ 24 >>>/801/4539/
ยกที่ 25 >>>/801/4606/
ยกที่ 26 >>>/801/4640/
ยกที่ 27 >>>/801/4731/
ยกที่ 28 >>>/801/4832/
ยกที่ 29 >>>/801/4920/
ยกที่ 30 >>>/801/5011/
ยกที่ 31 >>>/801/5115/
ยกที่ 32 >>>/801/5323/ (ชื่อเป็น 31)
ยกที่ 33 >>>/801/5436/
ยกที่ 34 >>>/801/5612/
ยกที่ 35 >>>/801/5704/
ยกที่ 36 >>>/801/5731/
ยกที่ 37 >>>/801/5749/
ยกที่ 38 >>>/801/5764/
ยกที่ 39 >>>/801/5788/
ยกที่ 40 >>>/801/5825/
ยกที่ 41 >>>/801/5887/
ยกที่ 42 >>>/801/5950/
ยกที่ 43 >>>/801/6027/
ยกที่ 44 >>>/801/6071/
ยกที่ 45 >>>/801/6147/ **(วาระตัวร้ายฯแห่งชาติ)**
ยกที่ 46 >>>/801/6179/
ยกที่ 47 >>>/801/6271/
ยกที่ 48 >>>/801/6324/
ยกที่ 49 >>>/801/6410/
ยกที่ 50 >>>/801/6464/
ยกที่ 51 >>>/801/6500/
ยกที่ 52 >>>/801/6538/
ยกที่ 53 >>>/801/6635/
ยกที่ 54 >>>/801/6726/
ยกที่ 55 >>>/801/6822/
ยกที่ 56 >>>/801/6880/
ยกที่ 57 >>>/801/6963/
ยกที่ 58 >>>/801/7058/
ยกที่ 59 >>>/801/7127/
ยกที่ 60 >>>/801/7254/
ยกที่ 61 >>>/801/7760/
ยกที่ 62 >>>/801/8148/
ยกที่ 63 >>>/801/8348/
ยกที่ 64 >>>/801/8452/
ยกที่ 65 >>>/801/9043/
ยกที่ 66 >>>/801/9298/
ยกที่ 67 >>>/801/9901/
ยกที่ 68 >>>/801/10239/
ยกที่ 69 >>>/801/10413/
ยกที่ 70 >>>/801/10725/
ยกที่ 71 >>>/801/10806/
ยกที่ 72 >>>/801/10877/ **(วาระกุ้งม่วง & LGBT+)**
ยกที่ 73 >>>/801/10929/ **(วาระ Minikikaboo)**
ยกที่ 74 >>>/801/10980/
ยกที่ 75 >>>/801/11125/ **(วาระ ละ-ล่ะ)**
ยกที่ 76 >>>/801/11312/
ยกที่ 77 >>>/801/11591/ (ชื่อเป็น 76)
ยกที่ 78 >>>/801/11716/ **(วาระนักเขียนฉลามและแก๊งค์หมาหมู่ของเค้า)
ยกที่ 79 >>>/801/11726/ **(วาระนักเขียนฉลามและแก๊งค์หมาหมู่ของเค้า ภาคสอง)**
ยกที่ 80 >>>/801/11739/
ยกที่ 81 >>>/801/11796/
ยกที่ 82 >>>/801/12157/
ยกที่ 83 >>>/801/12315/
ยกที่ 84 >>>/801/12585/
ยกที่ 85 >>>/801/12792/
Hall of shame
https://docs.google.com/spreadsheets/d/1IXpef-npDJdoj427b04gY6GsDqyJWw38QagqNXVkLik
Hall of shame 2
https://docs.google.com/document/d/1A0T0jr1Kt9mYtcIr4ECK2LRVmaqkCBtpOUYdDwLIb3k/edit?usp=drivesdk27b04gY6GsDqyJWw38QagqNXVkLik
เมิฃว่าอีคนที่มาฟลัดนี่ใคร ตอนนี้ไม่มีใครไปเหยียบตีนมันแต่มีสองคนที่มีโม่งมาแฉว่ามีประเด็นคืออีอ กับอีกตตงจ ที่ทะเลาะกันตอนนี้
กูเดาว่าอีกตตงจ เพราะมันร้อนตัวกลัวคนมานินทาเลยรีบมาฟลัดก่อน ก่อนหน้านี้มันก็มาฟลัดหาตีนให้อี อ โดนขุดมาด่าอยู่เรื่อยๆ
>>9 ผิดมึงไม่ใช่ เกิดเหตุการณ์หยิกหีกันเองในแก๊งค์ คืออีเดือนพรายทะเลาะกับอีเอลต่างหาก แล้วอีฮซน.ก็เหมือนจะเข้าข้างอีเอล เพราะมันป่วนเป็นโรคปสด เอ้ย ป่วยซึมเส้าเลยโอ๋อีเอลมากกว่า เดือนพรายตอนนี้เหมือนโดนแก๊งค์หมาขับออกจากฝูงตามอีรังเจียวไปติดๆ อันฟอลกันวุ่นวายไปหมด
ปกวายเดี๋ยวนี้ชอบเอาปกคู่ตัวละครขึ้นเนอะ
กุเห็นในเฟส ขนาดหนังสือต่าง 1 มิล โปสแถมแต่ละเล่มไม่เท่ากัน (คิดว่าไม่น่าจะต่างถึงซม.นะ) คือ กุอยากบอกว่า ปล่อยวางกันบ้างเถิด😑
ดันนนนนนน
มึงกูสงสัย https://ทวต.com/arriettybb/status/1400684045109907456?s=21
วัฒนธรรมการแก้ต่างให้ตัวละครทั้งที่เค้าไม่ได้ถามนี่มันเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วไปสปอยชาวบ้านเค้าอีก ถามจริง มันปกติเหรอวะ
เคสจิบิสวนสัตว์กุเห็นคนด่าคนวาดว่ามักง่ายแล้วสงสัยว่ะ ของแบบนี้มันน่าจะผิดที่คนบรีฟมากกว่าป่าว นักวาดไม่น่าถือวิสาสะวาดตามแบบอนิเมะเองมั้ย
กุหลาบมีแต่เรื่องพลาด ยังไม่เจอเล่มไหนที่ไม่มีปัญหาเลยช่วงนี้ เคลมนู้นนี่วุ่นวายมากมึง กูผิดไหมที่กูเสียดายทรัพยากรต้นทุนต่างๆที่ต้องมานั่งงมเคลมเนี่ย เสียดายเวลาด้วย บางทีกูตกข่าวกูไม่ทันเคลมแล้วกูก็ต้องผิดหวังซ้ำๆงี้อ่อ นี่เห็นประเด็นเพิ่มว่าชื่อเรื่องปั๊มฟลอยมันแหว่งมันหายอีก โคตรแย่เลยเจอแต่ละอย่าง
>>22 ก็ยังสงสัยว่าสนพ.ถือสิทธิ์อะไรห้ามทำแฟนอาร์ต โดนแหกรอบใหญ่ แถลงก็กำกวมหน่อยๆ มีคนอินบ็อกซ์ไปถามว่าทำแฟนอาร์ตเธรด/แลกกันได้ไหม ตอบไม่อนุญาต/ขอความกรุณาไม่ทำนะคะ งงชิบว่าจะยึดเอาอันไหน หน้าเพจว่าอย่างตอบภายในอีกอย่าง
ใดๆตอนนี้แต่ละสนพ.งานหยาบกันเหลือเกิน เร่งแต่ออกหนังสือกันมา เจอปัญหาแทบทั้งนั้น เง้อ
KY ทำไมเดี๋ยวนี้เขียนนิยายต้องใส่ประเด็นทางสังคมไปด้วยวะ สมมติกูอยากเขียนให้นายเอกนั่งรถเมล์ไปทำงานเฉยๆแต่ต้องมาฉอดการเมืองว่าเพราะว่าร้าบานมันห่วยรถเมล์ไทยเลยไม่พัฒนา บลาๆๆ
ขอแทรกแป๊ป กูเจอนักเขียนมาตัดพ้อคนอ่านที่เม้นต์ด่าตัวละครว่ะ งงใจมาก ไม่เม้นต์ก็เฟล เม้นต์ทวงก็เฟล เม้นต์แก้คำผิดก็นอย ติเนื้อเรื่องก็ดิ่ง ด่าตัวละครก็ไม่ได้ คือต้องการอพไรวะ ต้องการเม้นต์ชมอย่างเดียวเหรอวะ ไม่คิดรับฟังคำตำหนิไปปรับปรุงเลยเรอะ บางเม้นต์ที่แคปมาฟ้องลูกหาบกูเห็นไม่เห็นมีอะไรเลยไม่หยาบคายด้วยติเพื่อก่อจริงๆ ไอ้พวกมาแกล้งอะกูแยกออก แต่หลายกรณีคืองงมาก อยากถามว่าจะเอายังไงกันเรอะ
>>28 + บางคนยิ่งแปลกกว่ามึง ทั้งที่ตัวเองเขียนดีมาก ทำให้คนอินเลยด่าตัวละครนั้น ดันโกธรนักอ่านหาว่านักอ่านไม่มีสิทธิมาด่าตัวละครที่ตัวเองเขียน ทั้งที่ไม่รู้อะไร เอ้า ก็คนอ่านมันยังอ่านไม่ถึง อัพก็ยังไม่ถึง มึงเป็นนักเขียนมึงเขียนเองมึงก็รู้ปมดิ มาโว้ยอะไร มันควรดีใจไม่ใช่เรอะว่าตัวเองเขียนดีทำให้คนอินได้ขนาดนี้ งง
>>30 ในฐานะคนชอบอ่านคอมเมนต์นิยายนะ บางทีกูก็แยกไม่ออกนะว่าคนอ่านคนนั้นเขาด่าตัวละคร หรือด่านักเขียน 55555 ถึงจะเมนต์ถึงตัวละครแต่สุดท้ายคนอ่านก็คือนักเขียน ก็ควรใช้คำที่สุภาพและไม่เกรี้ยวกราดเกินไปนะ เราควรพูดดีๆกับคนที่ไม่รู้จักอะ(กูมองว่านักเขียนคือคนที่กูไม่รู้จักอะนะ) เคยเจอคนด่าตัวร้ายนิยายเรื่องนึงแบบ ไอ้ชั่ว หัวค*ยเอ๊ย กูสะดุ้งเลย 5555
>>31 กูเจอนักเขียนแคปมา นอ ด่าประมาณว่านายเอกแบบโง่ ดักดานโดนเขาทำขนาดนี่แล้วยังคิดไม่ได้ พระเอกก็ชั่วเห็นแก่ตัวราวๆเนี้ย คำแรงสุดคือโง่กับชั่ว นข ตัดพ้อว่าถึงเขาไม่ดียังไงก็ลูกเรานะคะ ถ้ายังไม่รู้เรื่องราวทั้งหมดอย่าด่าลูกเราเลย
เอ๊าาาาา ใครจะไปรู้เรื่องในหัว นข ได้วะ เนี่ยที่ตรูงง คือจนกว่าจะเขียนจบลงจบต้องการแค่ สู้ๆนะคะ จะรอติดตามนะคะ เอาแต่เม้นต์แบบนี้จริงๆเหรอวะ
ชวนคุย พอดีกุเพิ่งไปตามดราม่าห่อนส.ในทวิตมา มีหลายคนมากที่คิดว่าแค่กระดาษลังดามก็เพียงพอ คือ กุเจอมาแล้ว ไปรฯบ้านเรา(ทุกยี่ห้อ)คือไม่ได้มีความคิดจะพัฒนาขั้นตอนหรือมาตรฐานการลำเลียงให้มันปลอดภัยขึ้นเลยมึง มันโยนโบ๊ะบ๊ะ กล่อง 5 ชั้นยังบุบได้ แล้วแค่ลังดามชั้นเดียวมันจะไปรอดได้ยังไง คือกุเจอมาแล้วแหละ เลยกล้าบอกได้ว่าหนายังไงก็มีโอกาศไม่รอดเสมอ แค่รอแจคพอตเท่านั้นแหละว่าจะตกกับกล่องไหน
>>33 ต่างประเทศที่ขนส่งดีกว่าเลยส่งแบบนั้นแล้วปลอดภัย แต่ขนส่งที่ไทยมันไม่ใช่โว้ย เห็นล่าสุดมีจะทำกล่องเปเปอร์แพ็ค คือมันดีนะ หนังสือที่กูสั่งจากตปท.ก็ใส่กล่องแบบนี้ แต่ส่งมาไทยแล้วไม่รอดจ้า บุบไปตามระเบียบ ถามว่ามีที่รอดมั้ย มันมีอยู่แล้ว แต่ถ้าเอามาใช้จริงแล้วคนได้รับหนังสือที่ไม่รอดจะทำไง จะให้เคลมมั้ย พูดตรงๆนะถ้าขนส่งดี ใส่แค่กล่องเปล่าๆแล้วมันปลอดภัยใครจะอยากมาห่อหนาๆวะ
>>34 กูสั่งร้านนี้ทีไรได้มุมบุบทุกรอบจนเลิกสั่งละ
เคยได้กระดาษลังดามกูว่ามันดีอยู่นะ แต่คนดามต้องตั้งใจดามหน่อยอ่ะเพราะต้องเล็งให้ตรงไม่ใช่สักแต่จะดาม
คนที่คิดว่าแค่กระดาษลังก็พอน่าจะเจอคนห่อเก่งๆมาอ่ะ อย่างกูตอนเห็นครั้งแรกคือว้าวมาก
คือด่าขนส่งแล้วไม่ได้ผล เลยด่าคนห่อเพราะได้ผลมากกว่า
>>36 ที่กุเจอมันไม่ใช่การกระแทกแบบเกิดเพราะกลิ้งไปมา หรือแบบกระเทาะซอฟท์ๆอ่ะมึง มันคือแรงกระแทกแบบอัดกด บีบเข้าไปในกล่อง กุเจอ 2 แบบ คือ 1 บุบยุบทั้งกล่องและตัวเล่ม กับ 2 อัดกล่องแน่น กล่องแทบไม่มีรอย แต่ข้างในบุบแบบยุบเห็นชัด กุว่าแรงอัดมันต้องหนักพอควรอ่ะมึง เหมือนมึงพันบับหนา 10ชั้น เิาเข้าเครื่องบีบ บับคงไม่ช่วยอะไรว่ะ กุนึกไม่ออกจริงๆว่าแรงประเภทนี้มันจะเอาอะไรมากันไหว จริงๆกุสาปส่งขนส่งนะ มึงหาอุปกรณ์กับวิธีมาช่วยพนักงานขนของหนักดีๆ จะได้ลดความอาฆาตพัสดุของพนักงานมึงได้บ้าง
จากประสบการณ์แพ็คหนังสือ กูกล้าฟันธงเลยว่ากระดาษลังทำให้หนังสือมีโอกาสเสียหายมากขึ้น เพราะตัวกระดาษมันแข็ง โดนกระแทกมันก็ไปกดมุมหนังสือ เทียบกับพันบับอย่างเดียวเจอแรงกระแทกเท่ากันยังมีโอกาสรอดมากกว่า ถ้าอยากใช้กระดาษลังหุ้มจริงต้องพันบับก่อน ซึ่งเปลืองกระดาษชิบหายคงไม่มีใครหาทำ
ดามกระดาษแข็งกระดาษลังนี่อย่าทำเลย เหมือนฮัสกี้เล่ม 1 อะ เอากระดาษแข็งหนาๆดามสมุดเก็บจิบิ ตัวนิยายด้านหลังของกูเยินมาก ยับเป็นรอยขนาดคนไม่คลั่งกริบแบบกูยังสะเทือนใจ
กูเข้าใจว่าคนที่เอาด้ามกระดาษแข็งคงไปเห็นเธรดการส่งหนังสือของญี่ปุ่นมั้ง แต่ญี่ปุ่นกับไทยมันไม่เหมือนกัน 555 ถ้าอัดจนกระดาษแข็งที่ดามไว้หัก หนังสือพินาศยิ่งกว่ามุมยับจากบับเบิ้ลแน่นอน หรือใครอยากจะลอง
เห็นฝรั่งฉอดนิยายที่มีประเด็นอ่อนไหวทางการเมืองแล้วสงสัยว่านิยายวายจีนที่อวยชาติตัวเองนี่รอดมาได้ไงวะ หรือฝรั่งอ่านแต่จีนโบ พวกอวยชาติเลยรอดพ้นจากการฉอด
พอเป็นของที่ชอบมันก็มีข้อยกเว้นได้หมดแหละ เหมือนคนเรียกร้องสิทธิอุยกูร์แต่ใช้รูปโปรไฟล์ป๋อจ้านอ่ะ
จีนโบมันไม่มีชาติแล้วไงมึง มึงจะอวยยุคไหนล่ะแม่งล่มไปหมดแล้ว
มึงเดี๋ยวนี้เราสามารถแนะนำนิยายแปลเถื่อนในทวิตได้โต้งๆแล้วหรอ กุจำได้ว่าตอนมีกระแสคนปิดงานแปลกันเยอะก้เริ่มมาจากในทวิตที่ด่าพวกแปลเถื่อน(แต่ตอนนั้นมีบางแอครับโดเนท)แต่เดี๋ยวนี้กุเหยแคปนิยายชวนกันมาอ่านแปลเถื่อนกันเยอะเลยงงเขาไม่ด่ากันแล้วหรอม
กูงงตรรกะเรื่องลิขสิทธิ์หลายๆคนมากเลย มีคนนึงเป็นเซเลบด้อมนิยายเกา นางแอนตี้แปลเถื่อนของด้อมนางมากเพราะแปลผิดบานเบอะ แต่ตอนมีดราม่านิยายจีนแปลเถื่อนในรอรปิดรัวๆ นางดันอยู่ฝ่ายเคลมว่าแปลเถื่อนช่วยให้นิยายมีกระแสในไทยซะงั้น อิหยังวะ 555555555555
ปกติอ่ะ บางคนด่านิยายวายเถื่อนแต่ดูอนิเมะเถื่อน ซรวายเถื่อน การ์ตูนเถื่อน บางคนสายผลิตวาดการ์ตูนขายแต่แค้ปการ์ตูนวายจากเวปเถื่อนมาป้ายยา เพื่อนๆนักวาดก็เข้าไปหวีดน่าสนุกๆ
ใครจะไปทักต้องมั่นใจว่าแอคใหญ่นะ ไม่งั้นโดนเมิน ไม่ก็โดนฟาดกลับ 555
>>52 จริง กูเห็นเคร่งเรื่องลิขสิทธิ์เป็นหย่อมๆกันทั้งนั้น นักวาดนั่นแหละตัวดี หวงงานตัวเองแต่อ่านสแกนเถื่อนกันเป็นปกติ แล้วนักวาดการ์ตูนเขาไม่ใช่นักวาดรึไงวะถึงไปละเมิดเขาได้น่ะ เป็นนักวาดแท้ๆแทนที่จะเข้าใจเรื่องพวกนี้มากกว่าคนอื่น เพราะอย่างนี้กูเลยไม่ตามนักวาดไทยสักคน
ทวีตที่แนะนำไอดอลยมทูตลบทิ้งไปแล้วเพราะมีคนไปทักว่าของไทยแปลโดยไม่ได้ขอคนแปลอิ๊ง แถมเคยรับโดเนทด้วย
กุเลยเบื่อพวกเซเลปนิยายวายในทวิต ปากก็ด่าปลิงแต่ตัวเองก็ทำตัวปลิง ย้อนแย้งเก่ง และข่มในคนอ่านเถื่อนในเฟส แต่ตัวเองไปอ่านเถื่อนในรอร แล้วเอามารีวิว แล้วพวกนี้แมสง่ายด้วยนะ ดัดจริตดีเนอะสังคม
อยู่ที่ว่าใครขยันหวีด ขยันแท็ก ขยันพูดก็เป็นเซเลบได้นะนะกุว่า
เห็นด้วยว่าความเป็นเซเลบกับความสามารถไม่ได้แปรผันตามกันเสมอไป
พูดเก่ง มั่นหน้า คือคำตอบสุดท้าย
เด็กชอบฟอล
ร้านหนังสือเจ้ไฝมีปัญหาอีกแล้วอ่อวะ รอบก่อนก็ปิดไปทีละปะ ลูกค้าร้องเรียนจนชปแบน ส่วนรอบนี้คือติดต่อร้านกันไม่ได้เลย สักแต่จะขาย บริการหลังการขายไม่มี ได้ของผิดของไม่ครบก็เรื่องของลูกค้าจ้าอย่างนี้หรอ
http://imgur.com/a/O6yTthm แชร์ความเหี้ยของอีเอลจ้า
http://imgur.com/a/O6yTthm แชร์ความเหี้ยของอีเอลจ้า
ว้าย กูก็ว่าอีหมามาฟลัดทำไม พวกเมิงจุดธูปเรียกมันในห้องหมาหมู่นี่เอง จุดธูปในไลน์ จุติในโม่ง อีดอก
คือไม่ใช่โม่งทุกตัวที่อนู่ในห้องหมาอ่ะ มาฟลัดแบบนี้ก็ดีกูจะได้รับส่วนบุล จะได้รู้ว่าพวกเทิงอัพเดตไปถึงไหนแบ้ว
ยินดีกับอีดพด้วยค่าที่ grad แล้ว ขอให้ไปดี ระวังขาด้วยค่า หมามันรอกัดอยู่
Ky มึง กูสงสัยอะในกลุ่มสปอยที่มีคนหนึ่งแจกการ์ดตลอด ถี่มากๆเก็บค่าส่งต่อใบใบละ 30- คือต่อใบนะแล้วคนไปเม้นรับก็คนเดิมๆ นักสะสมกันทั้งนั้นแหละมันเรียกว่าการแจกไหมวะ ทำไมไม่รวบรวมต่อที่อยู่จ่ายครั้งเดียว จะกี่ใบก็เก็บค่าส่งรอบเดียว ปกติกูก็เจอแต่แบบนี้ไง พอเห็นโพสต์คนนี้แล้วกูแบบ เอ๊ะ หรือกูคิดมากไป 😅 คือกูเข้ากลุ่มไปทีไรเจอโพสต์แจกคนนี้ทุกครั้งเลย เลยข้องใจว่าแบบนี้เรียกแจกรึเปล่า เจ้เจ้าของร้าน/เจ้าของสนพ.เคยโดนแอดมินกลุ่มเตือนนะเรื่องเก็บค่าส่ง อย่างกูก็เคยเม้นรับนะ นานๆ คนแจกมาแปะลายใหม่ที ห่างหลายเดือนเก็บค่าส่งแต่ละรอบกูก็พอเข้าใจว่าเขาส่งห่างกันไรงี้
>>72 กูว่าเเบบนี้เเม่งได้หน้า เเละหากินอ้อมๆด้วยนะ กูไม่ค่อยชอบเท่าไร พวกนี้ผลิตไม่เกิน 5 บาท น่าจะสั่งจากจีน เเล้วค่าส่ง ลทบก็ 18 บาทเอง อย่างน้อยๆ ถ้าได้กำไรสักสาทบาท ( หักค่าคอมมิชชัน) มีสิบลาย เท่ากับ สามสิบบาท คนรับร้อยคนรวมๆเฉลี่ย ได้เงินเฉยๆ เป็นพัน เเถมพวกทำๆเห็นเป็นแม่ค้าอีก คือขายเเฝงอะ
กูทำการ์ดใสเป็นสคส.แจกเพื่อนทุกปีใหม่ ต้นทุน 2 บ. ส่งธรรมดา 3 บ. ถถถถ
แจกฟรีคิดค่าส่ง 30 สำหรับกูคือคนทำหวังกำไรแหละ แต่ก็นะ เงินเขาความสุขเขาอะ
>>75 ต้นทุนการ์ดใสมึงต่ำจัง ของกูที่ทำเป็นแบบรองขาว ตกใบละ 13-15฿ ประจำ เคยลองทำงานไทย คุณภาพไม่ค่อยดี กูชอบงานจีนมากกว่า คม เนื้อดี ชอบตรงแผ่นกันรอยด้วย เคยแจกไปรอบหนึ่ง กูคิดค่าส่ง 25-30฿ หักลบกลบหนี้ยังไงก็เข้าเนื้อนะ แต่มันคือความสุข กูอยากให้คนอื่นร่วมหวีดกับกู 55555 แต่แจกไปรอบนั้นคือหมดแรงเลย การนั่งตัดกระดาษแข็ง ห่อบับ ทำกูท้อ กูกะรอพวกอีเว้นงานหนังสือ มีตติ้ง แล้วแจกในงานมากกว่า สบายกู 5555
>>77 กูบวกพวกค่าชิปปิ้งนะ ต้นทุนการ์ดมันใบละ 5-6฿ แล้วเจอค่าส่งสองรอบจีนรอบ ไทยรอบ กูทำน้อยด้วยแหละมั้ง นานๆ ทำที ทำครั้งก็ได้ 1-2 ลาย รวมยังไงก็เกิน 10+ ต่อใบ ส่วนตอนแจก กูอยากลองไงเห็นเขาคิดค่าส่งกัน 25-30฿ เอาวะ อย่างน้อยก็ไม่เข้าเนื้อ แต่เอาจริงค่าอุปกรณ์ ต้นทุนการ์ด ค่าส่ง ค่าเวลา ยังไงก็เข้าเนื้อ จะคุ้มก็แค่คนรับได้หวีดร่วมกับกูนี่แหละ แต่ครั้งนั้นแค่แพ็คใส่ซอง ดามกระดาษลัง ห่อบับเบิ้ล โอ้โห หลังกู 555555 เพี้ยงๆ ขอให้โควิดหาย กูอยากเดินงานหนังสือ กูอยากรวมกลุ่มมีตติ้งทั้งเม้าท์ทั้งแจกของ
กูละขำนักเขียนคนไทยคนหนึ่งเขียนตรงคำแนะนะว่า นิยายทุกเรื่องมีลิขสิทธิ์ รวมถึงเรื่องนี้ด้วยนะจ๊ะ พอถามเจ้าของคนที่นางไปเอาผลงานภาพเขามา เขาตอบกลับว่านางคือขโมย กูละขำฉิบหาย5555555 แล้วแม่งกลัวคนอื่นเอาไปแต่ไม่กลัวที่จะไปเอาของคนอื่นมาเลยหรอวะ
KY
เพราะแบบนี้เด๋วนี้นข.เลยน้อยขึ้นเรื่อยๆรึป่าววะแม่งห้ามทุกอย่าง
>>86 นักเขียนเดี๋ยวนี้ไม่เป็นตัวเองแล้วกุว่า ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะกลัวนิยายจะโดนพวกพิทักษ์สังคมลากไปด่า เพราะไม่สอดแทรกความรู้ ไม่สนับสนุน ต้องขับเคลื่อนปัญหาทุกอย่างในสังคม นข.บางคนดูออกว่าฝืนมากเวลาเขียนประเด็นอะไรสักอย่างลงไปในนิยาย เพราะกลัวโดนหาว่าไม่รับผิดชอบสังคม
>>87 แต่การเขียนทุกอย่างด้วยเติชและแฟนตาซี มันก็จะเหมือนกับผู้ชายเรียนรู้เรื่องเพศจากหนังโป๊อะ (จริงๆผู้หญิงก็มี) แบบคิดง่ายๆว่าแค่เสียบผู้หญิงก็ฟิน ผู้หญิงก็แบบเวลาทำกันแล้วไม่เสร็จไม่เสียวก็ไม่กล้าพูด คิดว่าตัวเองผิดปกติเพราะไปยึดนอร์มจากหนังโป๊ Aka สื่อใกล้มือ
ไม่บอกว่ามันถูกหรือผิด แต่คนเรารับรู้ข้อมูลจากสื่อ และนิยายเป็นสื่อใกล้มือที่หยิบง่ายไม่จำกัดเพศวัย อะไรที่ไม่ใช่หรือไม่ตรงกับความจริง มีคนหยิบมาวิจารณ์ได้ และเขาก็ไม่ได้ห้ามนักเขียนแต่ง แต่งเอาฟินเอาสนุกก็เรื่องของนักเขียน ส่วนการวิพากษ์วิจารณ์เป็นเรื่องของคนอ่าน คนชอบก็ฟินไป คนจะชี้จุดที่เขาว่าไม่ใช่ก็ได้ เหมือนคนดูหนังโป๊แล้วบอกว่ามันไม่ใช่เรื่องจริงทั้งหมดนั่นล่ะ ห้ามมึงเขียนไม่ได้ มึงก็ห้ามเขาพูดไม่ได้เหมือนกัน
และใช่ ถ้าบ้านเราสอนเรื่องเพศถูกต้องทั่วถึง แฟนตาซีก็จะเป็นแค่แฟนตาซีที่ไม่ทำร้ายใคร แต่ความเป็นจริงมันไม่ใช่ไง มันมีคนเลียนแบบหนังโป๊นิยาย18+จริง มันถึงมีคนออกมากระทุ้งเรื่อยๆ
https://www.facebook.com/groups/ybooks4share/permalink/3764915536953609 ป้ามาเอารัย บอกคนในทวิตแคปเม้นไปแบบไม่เห็นชื่อบอกไม่มีมารยาท เค้ายังไม่ได้ด่าไรเลยซักคำ แต่ตัวเองเอามาประจานกลางฟบ.อ่ะนะ ป่ดหัว สมแล้วทิมาจากด้อมปจ.
>>88 ถ้าแค่'วิจารณ์'มันตะเป็สอีกเรื่อง แต่สิ่งที่นักฉอดทำคือบีบบังคับให้ทำตามที่ตัสเองต้องการและลากคอนักเขียน วิจารณ์ด้วยความาุภาพทันก็ทำได้ แค่ไม่ทำ กุขอถามหร่อยว่ามึงได้เห็นตอนนักฉอดเริ่มพูดถึงประเด็นต่างๆในนิยายมั้ยว่ามันเรื้อนกันขนาดนไหน ถึงมีคนไปบอกทาวแก้ต่างๆนาๆแม่งก็ปัดทิ้ง ไม่รับรู้ไม่ฟัง ต้องทำตามอย่างที่มันต้องการ ต้องเป็นแบบนี้ๆๆเท่านั้น แล้วอะไรคือการนิยายต้องถูกตามศีลธรรม เออ ไว้มึงไปฉอดวรรณกรรมเก่าๆด้วยแล้วกันนะ
ไม่ขอรับคนพวกนี้ว่าวิจารณ์นะ ขอเรียกว่าหิวแสง ไม่แมสมันก็ไม่ฉอดกันหรอก
>>89 >>92 +1 นักฉอด aka แอคเห็บส่วนมากเวลาอยากมีบทคือมันไม่เคยมาดดีนะ แต่มันง้างฝ่ามือมาแต่ไกลเลย เอาคำว่าความถูกต้องมาบังหน้าแล้วจิกหัวด่านักเขียน เรื่องแบบนี้มันสามารถถกกันดีๆได้นะ แต่การที่พวกมันพยายามพิทักษ์สัมคมด้วยการจิกหัวคนอื่นออกมาด่านี่กูไม่มองว่ามันคือคำวิจารณ์ แต่เหมือนว่าจะด่าเอาสะใจเพราะนักเขียนทำไม่ถูกใจพวกมัน เหมือนกำลังบีบคอนักเขียนแล้วบอกว่าเนี่ยทำไมมึงไม่เขียนแบบนี้ บทความนั้นอาจจะไม่ถูกใจตัวเองไม่เป็นไปตามที่ประเพณีอันดีง๊ามงามมากกว่า แต่การพิทักสังคมด้วยการด่ากราดนี่นักเขียนควรปล่อยผ่านนะ ปัดตกไปเลย นอกจากจะไม่ได้ประโยชน์แล้วยังบั่นทอนตัวเอง มันเหมือนหมาจรจัดที่เอาแต่เก่าและไล่กวดคนที่เดินผ่านไปมา
>>93 เพิ่มเติมนะ คหสน.กุนะ ถ้านักเขียนติด Tw ยาวเป็นกิโล ล็อกนิยายสำหรับ18+ ก็ยังกระเสือกกระสนหามาอ่าน แล้วยังจะลากหัวนักเขียนไปฉอดเพื่อแลกกับคำอวยของลูกเห็บลูกเหาว่าทำดีแล้วทำดีมาก เรียกพวกมาฉอดมารุมด่ามารุมขุด อันนี้กูไม่โทษนักเขียนนะ แต่กุคิดว่าการศึกษาของคนพวกนั้นน่าจะมีปัญหาแล้วอ่ะ
พระคาถาอาการะวัตตาสูตร
พระพุทธเจ้าทั้งหลาย ๒๘ พระองค์ที่ล่วงไปแล้วก็ดี พระพุทธเจ้าในปัจจุบันก็ดี ได้ทรงกระทำตามกันมาทุกๆพระองค์
พระสูตรนี้เป็นพระสูตรอันใหญ่ยิ่งหาสูตรอื่นมาเปรียบมิได้ ด้วยมีทั้ง พระสูตร พระวินัย พระปรมัตถ์ พระปิฎก
ขอท่านทั้งหลายอย่าได้ทิ้งวางในที่อันไม่สมควรเลย จงทำการสักการะบูชา สวดมนต์ ภาวนา ฟัง ตามสติกำลังด้วยเทอญ
1. อิติปิโสภะคะวา อะระหัง
อิติปิโสภะคะวา สัมมาสัมพุทโธ
อิติปิโสภะคะวา วิชชาจะระณะสัมปันโน
อิติปิโสภะคะวา สุคะโต
อิติปิโสภะคะวา โลกะวิทู
อิติปิโสภะคะวา อะนุตตะโรปุริสะธัมมะสาระถิ
อิติปิโสภะคะวา สัตถาเทวะมะนุสสานัง
อิติปิโสภะคะวา พุทโธ
อิติปิโสภะคะวา ภะคะวาติ
(พุทธะคุณะวัคโค ปะฐะโม)
2. อิติปิโสภะคะวา อะภินิหาระ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโสภะคะวา อุฬารัชฌาสะยะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโสภะคะวา ปะนิธานะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโสภะคะวา มะหากะรุณา ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโสภะคะวา ญาณะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโสภะคะวา ปะโยคะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโสภะคะวา ยุติ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโสภะคะวา ชุติ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโสภะคะวา คัพภะโอกกันติ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโสภะคะวา คัพภะฐิติ ปาระมิสัมปันโน
(อะภินิหาระวัคโค ทุติโย)
3.อิติปิโสภะคะวา คัพภะวุฏฐานะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโสภะคะวา คัพภะมะละวิระหิตะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโสภะคะวา อุตตะมะชาติ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโสภะคะวา คะติ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโสภะคะวา อะภิรูปะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโสภะคะวา สุวัณณะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโสภะคะวา มะหาสิริ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโสภะคะวา อาโรหะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโสภะคะวา ปะรินาหะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโสภะคะวา สุนิฏฐะ ปาระมิสัมปันโน
(คัพภะวุฏฐานะวัคโค ตะติโย)
4. อิติปิโสภะคะวา อะภิสัมโพธิ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโสภะคะวา สีละขันธะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโสภะคะวา สะมาธิขันธะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโสภะคะวา ปัญญาขันธะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโสภะคะวา ทะวัตติงสะมะหาปุริสะลักขะณะ ปาระมิสัมปันโน
(อะภิสัมโพธิวัคโค จะตุฏโฐ)
5. อิติปิโสภะคะวา มะหาปัญญา ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโสภะคะวา ปุถุปัญญา ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโสภะคะวา หาสะปัญญา ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโสภะคะวา ชะวะนะปัญญา ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโสภะคะวา ติกขะปัญญา ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโสภะคะวา ปัญจะจักขุ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโสภะคะวา อัฏฐาระสะพุทธะกะระ ปาระมิสัมปันโน
(มะหาปัญญาวัคโค ปัญจะโม)
เด๋วนี้นข.นิยมโพสอวดจำนวนเงินที่คนโดเนทมาให้เหรอเพราะเท่าที่เห็นแต่ก่อนก็มีคนเปย์ให้เยอะอยู่แล้วนะพึ่งเห็นเอามาโชว์กันช่วงหลังๆ
ใครเพิ่งมาโม่งอยากรู้ว่าทำไมโดนฟลัดบ่อยไปนี่เลย
ยกที่ 78 >>>/801/11716/ **(วาระนักเขียนฉลามและแก๊งค์หมาหมู่ของเค้า)
ยกที่ 79 >>>/801/11726/ **(วาระนักเขียนฉลามและแก๊งค์หมาหมู่ของเค้า ภาคสอง)**
https://docs.google.com/document/d/1o6HQnF3W4HYL41qlsg2iKLCZ7RidC-Vs-Qh1NfCv2do/edit?usp=drivesdk **บัญชีหนังหมาจ้า**
http://imgur.com/a/O6yTthm แชร์ความเหี้ยของอีแม่ฉลามจ้า
>>98 สูตรอาหารยอดนิยม สำหรับวันนี้ขอนำเสนอ อาหารผัดแบบง่ายๆ โดยมีไข่เค็มเป็นตัวชูโรง คือ กุ้งผัดไข่เค็ม ซึ่งเคล็ดลับความอร่อยของอาหารเมนูนี้ คือ วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการทำอาหาร และ การปรุงรสชาติ ต้องได้กุ้งที่สุกพอดี หอมมันไข่เค็ม และ รสชาติพอดี
สูตรกุ้งผัดไข่เค็ม อาหารผัดแบบง่ายๆ ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูไข่
ส่วนผสมสำหรับทำกุ้งผัดไข่เค็ม
กุ้งขาว 15-20 ตัว
ไข่เค็ม 3 ฟอง เลือกใช้เฉพาะไข่แดง
ไข่ไก่ 1 ฟอง แยกเอาเฉพาะไข่ขาว
ต้นหอม 1 ต้น ซอยเป็นทอน
หอมหัวใหญ่ ครึ่งหัว หั่นเป็นท่อนใหญ่หน่อย
พริกหยวก 2 ผล นำมาผ่าครึ่งและหั่น
ซอสน้ำมันหอย 1 ช้อนโต้ะ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
เกลือป่น 1 หยิบมือ
พริกไทยป่น 1 หยิบมือ
แป้งมัน 1 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำเปล่า 1 ช้อนโต้ะ
น้ำมันพืชสำหรับผัด
วิธีทำกุ้งผัดไข่เค็ม
เริ่มจากตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อน จากนั้นใส่ไข่แดงของไข่เค็ม ลงผัดจน โดยผัดจนเนื้อไข่เนียนละเอียด
จากนั้นปรุงรสด้วย น้ำตาลทราย น้ำมันหอย เกลือ และ พริกไทยป่น
จากนั้นใส่ กุ้งลงไปผัด พร้อมด้วย หอมหัวใหญ่ และ พริกหยวกทอด ลงผัดเบาๆ รอจนกุ้งสุก
จากนั้นปิดไฟ ใส่ต้นหอมลงไปผัด เพียงเท่านี้ก็เสร็จ สามารถเสริฟรับประทานได้
เคล็ดลับการทำกุ้งผัดไข่เค็ม
การเลือกกุ้ง ให้เลือกกุ้งขาว ขนาดใหญ่หน่อน โดยการเตรียมกุ้ง ต้องล้างให้สะอาด เอาหัวออก แกะเปลือก ผ่าหลัง และ เอาเส้นที่หลังออก ก่อนนำมาทำอาหาร ให้ล้างให้สะอาดจนน้ำล้างใส
เทคนิคการผัดกุ้ง กุ้งอย่าผัดนานเกินไป เนื่องจากหากกุ้งสุกเกินไปเนื้อกุ้งจะแข็ง ขาดความหวานของเนื้อกุ้ง
เทคนิคหนึ่งสำหรับการทำให้เนื้อกุ้งมีรสชาติ คือ การปรุงรสกุ้ง โดยให้นำเนื้อกุ้งไปหมักก่อน จะได้เนื้อกุ้งที่มีรสชาติอร่อยกว่าเนื้อกุ้งทั่วไป
การเลือกใช้ไข่เค็ม แนะนำให้ใช้ ไข่เค็มไชยา เนื่องขากไข่เค็มขึ้นชื่อ ต้องไข่เค็มไชยา เป็น ไข่เค็มใหม่ รสชาติจะพอดี ไม่เค็มเกินไป
สำหรับการนำกุ้งมาผัด หากอยากเพิ่มความอร่อย สามารถนำกุ้งมาคลุกแป้งและทอดก่อน จะได้กุ้งกรอบๆ โดยน้ำมัน สำหรับทอดกุ้ง ให้เลือกใช้น้ำมันใหม่ ให้น้ำมันท่วมตัวกุ้ง น้ำมันเก่า ห้ามนำมาใช้งาน เนื่องจาก กลิ่นของอาหารเก่า จะทำให้ อาหารเสียรสชาติ
หอมหัวใหญ่ ต้องหั่นให้เนื้อหอมใหญ่หนาหน่อย เวลาผัดสุกจะยังได้เนื้อของหอมหัวใหญ่
ต้นหอม ให้หั่นหนาๆหน่อย โดยก่อนนำลงไปผัดให้ปิดไฟ และ ให้ความร้อนของอาหารในกระทะทำให้ต้นหอมสุกเอง หากนำลงไปผัดโดยกระทะร้อนๆจะทำให้ใบหอมเละ
กุ้งผัดไข่เค็ม สูตรอาหารจากไข่เค็ม แสนอร่อย วิธีทำกุ้งผัดไข่เค็ม ไม่ยากง่ายๆทำกินเองได้ สำหรับคนรักการทำอาหาร และ ชอบกินไข่เค็ม อาหารไทย เมนูผัด ไข่เค็มทำอะไรกินได้บ้าง เคล็ดลับความอร่อย มีอะไรบ้าง
>>100 ใครเพิ่งมาโม่งอยากรู้ว่าทำไมโดนฟลัดบ่อยไปนี่เลย
ยกที่ 78 >>>/801/11716/ **(วาระนักเขียนฉลามและแก๊งค์หมาหมู่ของเค้า)
ยกที่ 79 >>>/801/11726/ **(วาระนักเขียนฉลามและแก๊งค์หมาหมู่ของเค้า ภาคสอง)**
https://docs.google.com/document/d/1o6HQnF3W4HYL41qlsg2iKLCZ7RidC-Vs-Qh1NfCv2do/edit?usp=drivesdk **บัญชีหนังหมาจ้า**
http://imgur.com/a/O6yTthm แชร์ความเหี้ยของอีแม่ฉลามจ้า
>>100 ใครเพิ่งมาโม่งอยากรู้ว่าทำไมโดนฟลัดบ่อยไปนี่เลย
ยกที่ 78 >>>/801/11716/ **(วาระนักเขียนฉลามและแก๊งค์หมาหมู่ของเค้า)
ยกที่ 79 >>>/801/11726/ **(วาระนักเขียนฉลามและแก๊งค์หมาหมู่ของเค้า ภาคสอง)**
https://docs.google.com/document/d/1o6HQnF3W4HYL41qlsg2iKLCZ7RidC-Vs-Qh1NfCv2do/edit?usp=drivesdk **บัญชีหนังหมาจ้า**
http://imgur.com/a/O6yTthm แชร์ความเหี้ยของอีแม่ฉลามจ้า
เห็นมีคนตั้งโพสต์เรื่องแจก(ไม่ฟรี มีค่าส่งต่อใบ) ในกลุ่มแล้ว จริงๆกูโอเคกับการคิดค่าส่ง 30-35 ต่อใบ แต่พอแจกหลายใบ ส่งห่อเดียว คิด 30+30+30+... มันก็อิหยังวะจริงๆแหละ
ลดละเลิกการเก็บการ์ดดีกว่ากู ไว้เจอลายที่ชอบจริงๆ ค่อยรับ
หาแดกกันทุกทาง เวทนา แต่เข้าใจนะ ศก.มันเหี้ยอะ
>>103 เเต่กูงงนะ บางคนบอกว่สเเบกรับต้นทุนไม่ไหว เเล้วทำทำไม ชอบเรื่องนี้จริงๆ หรือทำเป็นกระเเส คือกูเคยเจอแบบเเจกตามงาน เเล้วเเจกคือเเจก หรือบางคนเอาค่าส่งเเบน่ารักๆ ไม่ใช่สามสิบบาทอะ
บางคนบอกว่าทำการ์ดใสกระตุ้นยอดายให้เล่ม ซึ่งจริงเหรอวะ เพราะเเม่งทำเเต่เรื่องดังๆอยู่เเล้ว
เอ้อเพิ่งมานึกออกเรื่องค่าคมชด้วย อย่างที่เคยกูเคยพูดว่ายังไงมันต้องได้กำไร คือเชิงพาณิชย์เเน่ เเต่ย่าจะไปขอค่าคมชเเบบปกติ นี่ได้ทั้งขึ้นทั้งล่องเลยนะ
>>105 แบกรับไม่ไหวก็ไม่ต้องแจกดิ จะยากอะไรวะ 55555 กูก็คลั่งแจก แจกแบบแจกจริง กูติ่งเกาด้วย เวลาไปคอนไปงานมีตก็ทำแจก แจกในงานเลย ในงานหนังสือกูก็แจก พักหลังๆนี่ถึงได้เริ่มแจกแบบส่งไปรฯ ค่าส่ง 30฿ สำหรับกูคือเข้าเนื้อนะ กูไม่นับค่าคมช เพราะถึงไม่ทำแจกกูก็คมช เก็บไว้อยู่แล้ว
ถ้าเรียงค่าใช้จ่ายจริงๆ กูทำการ์ด 100 ใบต่อลาย ชอบงานจีน คุณภาพดีชอบพลาสติกเคลือบบนแผ่นกันรอยกับความที่การ์ดมันหนา ราคาต่อใบรวมพวกชิปปิ้งก็ตก 8-10฿ / ใบละ เพราะกูทำไม่เยอะ (จะทำเยอะหน่อยก็เวลามีคอน สเกลแจกมันจะใหญ่กว่า ทุนต่อใบก็ต่ำลง)
ค่าอุปกรณ์การแพ็ค (ซองจดหมาย / ซองแก้วใส่การ์ด (อันนี้หลายคนอาจจะคิดว่าไม่จำเป็น แต่กูชอบส่วนตัว กูว่าใส่แล้วมันไม่เลอะเก็บง่ายสะอาดตา)) กูให้เต็มที่ 2฿ ต่อการส่ง 1 ครั้ง
ส่วนค่าส่งไปรฯ อย่างถูกสุดก็ลงทะเบียน 16-18฿ ถ้าพวกโปสการ์ด 18฿ อะ
รวมแล้วยังไงก็บวกลบจาก 30฿ ไม่มากอะ สัก 1-2฿ ได้อยู่มั้ง แล้วมันมีต้นทุนยิบย่อยที่ตีราคาเป็นเงินเป๊ะๆ ไม่ได้อีก ค่าเวลาแพ็ค เวลาทำลิสรายชื่อ เวลาเช็คตอบข้อความ ซึ่งถ้ารวมยังไงก็เข้าเนื้อ 55555 แต่ความสุขกูอะกูชอบเวลาเห็นคนหวีดกับกู มาบอกว่าได้รับแล้ว การ์ดน้องๆลายน่ารักมาก มันคุ้มแล้วมึง แต่ใดๆ กูไม่ชอบแพ็ค แค่ใส่ซองแก้วไปแจกในงานก็กินแรงกูแล้ว 555555555 ชอบงานจีนอีกตรงที่บางเจ้าใส่ซองใสมาให้เลย กูโหยหาการรวมกลุ่ม กูอยากหวีด อยากเจอคน!
ส่วนประเด็นที่เกิดขึ้นน่าจะมาจากคนก่อนหน้าที่โม่งคุยกันอยู่แล้วป่าว มันอิหยังจริงตรงค่าส่งต่อใบ จะกี่ใบก็เก็บค่าส่ง x เข้าไป มันบ้าบอจ้า อย่าเรียกว่าแจก เลย ตอนแรกกูยังงงเลยว่าขยันคมช จังวะแจกทุกวีควัคละไม่รู้ตั้งกี่ลาย มาถึงบางอ้อก็ตรงเก็บค่าส่งต่อใบนี่แหละ ชื่อที่อยู่เดียวกันก็คิดต่อใบ! ตอนนี้คนๆนี้ลบโพสในกลุ่มไปหมดแล้ว ทำอะไรรู้แก่ใจดีอยู่แล้วนะกูว่า
วันนี้ม่าเยอะจัง มีคนแหกเจ้าของร้านหนังสือร้านนั้นหน่อยๆที่ว่ารวมหารสแตนดี้เแต่รูปที่หารทำไปจิ๊กเขามา ร้านนี้ไปโพสไว้ไงในโพสม่าแจกการ์ดแต่มีคนไปเม้นว่าได้ขอสิทธิ์นำรูปไปใช้ไหม สงสัยเงิบว่ะ จากตอนแรกมาอย่างกูรูว่าตูรับทำนะ ตอนนี้ลบเม้นตัวเองไปแล้ว
https://twitter.com/omelette_13/status/1407568540715012096 ละจะไม่ให้บ่นเรื่องโดนจำกัดขอบเขตการแต่งนิยายได้ไงวะ นิดก็ด่าหน่อยก็ด่า
>>108 กูไม่ค่อยเข้าทวิตแล้ว เครียดเปล่าๆ สารพัดเรื่อง ยิ่งวงการนิยายวายเข้าไปประสาทจะแดก คือบางครั้งมันก็เป็นรสนิยมไง กูชอบอ่านพระเอกร้ายๆๆ แล้วตอนหลังมันเป็นหมา คือก่อนที่จะไปชี้หน้าด่าใครก็ควรเข้าใจคำว่ารสนิยมของแต่ละคนด้วย คือมันเป็นเรื่องแต่งไม่ใช่เรื่องจริง แต่ละคนฉอดเก่งเกิน แล้วนักเขียนเดี๋ยวนี้ก็ใส่คำเตือนกันทั้งนั้น ไม่ชอบก็กดปิดง่ายๆดี แต่ก็ไม่ได้อีกเพราะเดี๋ยวจะไม่มีคอนเท้นมาฉอดให้คนรีทวิต5555555
>>111 ถูกต้องมึง ตอนแรกไม่ค่อยมีในไทยเพราะมันอยู่ในวงการเกาซะมากกว่า กูเริ่มทำแจกจริงๆ สมัย 10 กว่าปีตอนไปดูคอนที่เกา แล้วแม่ๆ เกาเขาแจกกันหน้างาน พอไปคอนรอบถัดๆ ไปกูเลยเอาไปแลกกับเขาที่หน้างาน บางทีก็ติดขนมไทยไปด้วย ก็ชินกับการเอาของไปแจกหน้าคอน แต่เวลาไปดูคอนที่จีน / ญี่ปุ่น แม่จีนจะแบบรุมๆ เลย ส่วนญี่ปุ่นจะเขินๆ เวลาเดินมารับของก็จะยิ้มหวานๆ ให้ แต่หลังจากนั้นก็อิมพอร์ตมาใช้กับคอนเกาในไทยจนมาถึงทุกวันนี้ ไปคอนไปมีตยังไงก็เจอของแจก แต่ก่อนก็การ์ดใบเล็ก / พัด เดี๋ยวนี้เยอะไปหมด 5555 พักหลังกูเองก็มาเริ่มทำกับนิยายจะบอกว่าเข้ามาในวงการวายจีนได้สัก 5-6 ปีนี้เอง ปกติสิงแต่ในกลุ่มพีเรียดจีนชญ ทำแจกทำแลกมันสนุกนะ แต่กูกลับไม่ค่อยชอบพรีเมี่ยมที่มากับหนังสือว่ะ กูว่าหนังสือคือหนังสือ จะมาเก็บสะสมงานอาร์ตพร้อมหนังสือมันแปลกๆ แยกกันให้ชัดไปเลยดีกว่า
>>113 มากไปยังไง ก็กูเข้าวงการวายจีนได้ 5-6 ปี กูเริ่มซื้อเล่มจริงๆ คือหนี้ดอกท้อ นับยังไงมันก็ 5 ปีแล้วปะ 55555 วายจีนมันเพิ่งมาบูมไม่กี่ปีแต่ไม่ได้นับรวมนี่ว่ากูต้องอ่านมาตั้งแต่ปีไหน ตั้งแต่กูเริ่มอ่านวายจีนนี่ไม่ได้ขึ้นบูธหลักแบบต้องรวมๆ กันวางขายเป็นหนึ่งบูธในงานหนังสือ ย้อนไปอีกหน่อยก็ต้องหลบๆ ซ่อนๆ หาซื้ออ่านด้วยซ้ำ กูว่ามึงอ่านแล้วตีความเร็วไปหน่อย กูเข้าวงการวายจีน ไม่ได้บอกว่าเริ่มทำของแจกตั้งแต่ 5-6 ปีที่แล้วนี่ รึกูเขียนผิดเอง น้อนไปดูแล้ว กูใช้คำว่าพักหลังเริ่มมาทำ แล้วก็บอกแค่ว่ากูเข้าวงการวายจีนมา แต่จริงๆ แล้วพวกการ์ดใสร้านหนังสือทำแจกมาตั้งแต่ยุคหนี้ดอกท้อแล้วนะ โปรฯ แลกซื้อโปรฯ แจก
ออกตัวก่อนว่าไม่ได้จะบอกว่าดีหรือไม่ดีนะ แต่ทำไมติ่งเกาหลีชอบเอาวัฒนธรรมการติ่งแบบเกาหลีไปใช้เวลาไปติ่งอย่างอื่นกันจัง ยังดีด้อมวายจีนไม่ค่อยมีปัญหาเพราะแค่แจกของกันน่ารักๆ แต่บางด้อมนี่เวลาเจอวัฒนธรรมแปลกๆที่ไม่เคยมีมาก่อนทีไรมาจากติ่งเกาหลีก่อนทุกที
>>115 เขาก็แยกถูกแล้วนะ แค่ลืมเว้นวรรค
>>112 แต่กูชอบงานอาร์ตที่มากับหนังสือลิขสิทธิ์นะ สวยถูกใจไหม ยังไงมันก็ออฟฟิเชียลอะมึง ไม่งั้นมันก็แค่งานแฟนอาร์ตทั่วไป งาน คมช ยังไงก็แค่แฟนอาร์ต เป็นลู่ทางทำเงินของนักวาดไปอีก
ก็จริงอยู่ว่าหนังสือคือหนังสือ แต่งานนิยายวายจีนมันเน้นวิชวลพอๆกับพวกไลท์โนเวลญี่ปุ่น มันแยกอาร์ตไม่ได้หรอก จะมาขายอาร์ตภาพสวยแนวจีนโบราณแต่พอไม่มีสตอรี่ว่ามาจากนิยายดัง มันก็ไม่แมสเท่า
ไม่ขอออกความเห็นเรื่องติ่งได้ไหม เพราะวงการมันใหญ่คนมันเยอะ มันก็มีจุดบอดให้เห็นกว่าวงการอื่น วงการหนังสือเองก็โกงก็อัพราคาไม่ใช่น้อย แต่กลุ่มมันปิดมากกว่าเฉยๆ
ไปส่องร้านมาแล้ว ร้านที่เจ้าของชอบตามทุกดราม่านี่หน่า 555 รอบนี้กลับเลือกลบเม้นและเปิดหารสแตนดี้ต่ออย่างสวยๆต่อไป ไม่เชื่อว่าเขาไม่เห็นม่านี้อะเพราะเขาร่วมวงแจมทุกม่าเลย
ร้านไหนเนี่ย ขอคำใบ้เพิ่มที
ร้านลบโพสหารสแตนดี้ออกหมดแล้วทั้งในเฟสส่วนตัวและในเพจร้าน แต่ในแอพชปยังกดสั่งได้อะ 55555 สแตนดี้ลายออฟฯ ในราคา 60+ เงิบกับราคาจริงๆ ปกติกูพรีจากร้านคุณวีสแตนดี้เริ่มตั้งแต่ 250-500฿ เห็นที่ร้านนสทำแล้วแบบ... ปกติกูพรีหนังสือกับเขา กดสั่งในแอพ เพิ่งมาเห็นม่ารอบนี้ตะขิดตะขวงใจ ว่าหมดหนังสือที่ค้างกับเขาแล้วจะหาสั่งกับเจ้าอื่นเอา
กุมาเม้าส์ในนี้ถูกมู้มั้ยวะเนี่่ย วอนเพื่อนโม่งอย่าเพิ่งเตะกุ5555 คือกุงงว่าเด่วนี้เพจใหญ่แบบนี้เขาสามารถแปลข้อมูลแปลบทต่างๆแบบดำน้ำแล้วเอามาลงให้คนอ่านหน้าตาเฉยได้แล้วเรอะวะ ผิดถูกไม่รู้แต่เฟสแอดมินบอกว่าแปลดำน้ำเลยมันก็...55555กุว่าอะไรที่ทำไม่ได้ก็อย่าฝืนดีกว่า
https://www.facebook.คอม/shonen2D/photos/a.288193807952126/3699938356777637/
Ky ช่วงนี้กุเห็นดราม่าโปสนักแสดงฮัสกี้ คือมันคือของแจกโปรโมทจากwetv อีกทีป่ะ สนพแค่รับมาแจกให้เป็นการโปรโมททั้งหนังสือและหนัง คชจ.ในการแจกแพคส่งเป็นของสนพ. ทำไมถึงต้องไปวีนสนพ.ให้เคลม จะเอาสภาพกริบด้วยวะ จริงอยู่ว่าวิธีการห่อมาอาจจะมีปัญหา แต่กุก็ว่าสนพ.พยายามแล้วแต่อาจคิดไม่ถึง ใส่บับอัดหัวท้ายมาคงกะเอามารองไม่ให้กระแทกฝาแบบปรมจ.แต่บับเสือกไปทำให้ยับแทนซะงั้น
>>129 ตั้งแต่ตอนแจกเขาเขียนชัดแล้วว่าไม่รับเคลมทุกกรณี กูแปลกใจมากกกว่าที่มีคนเคลมได้ ถ้าเคลมคนนั้นได้ควรต้องเคลมหมด มันควรใช้มาตราฐานเดียวกันป่าว ถ้าไม่รับเคลมคือไม่รับจริงๆ ไม่ใช่มีคนได้อีกคนไม่ได้ ยังคงงงว่าทำไมคนนั้นเคลมได้อะ ของกูมีมุมหักกับใบนังหมามุมล่างแหว่ง(ขาด) กูไม่กะเคลมอยู่แล้ว ขี้เกียจส่งขี้เกียจตาม เหนื่อย 555 แต่ก็ยังยืนยันว่าควรมาตราฐานเดียวกันนะ
ถ้ากูเป็นคนที่ฟลุ๊คเคลมได้ กูคงเงียบๆว่ะ เอามาโพสต์แบบนี้ ทีนี้คนแห่ไปเคลมแน่นวล ยับมุม ขอบย่น ขอเคลมทุกสิ่งอัน
>>131 กูเห็นหลายคนอ่านรายละเอียดไม่ครบ บวกกับสนพ.ทิ้งช่วงส่งนานด้วยคนไม่รู้ว่าเคลมได้ไม่ได้คงเยอะ คนเคลมก็ไม่ผิดนะมึง ในเมื่อเขาเคลมได้ แต่มันผิดที่กฎกับมาตราฐานป่าววะ กูยืนยันเหมือนเดิม ไม่ให้เคลมคือไม่ให้เลย ไม่ใช่มีคนได้เคลม อีกคนไม่ได้อะมึง กูว่าผิดที่คนให้เคลมนะประเด็นนี้
>>136 เรื่องขยันลงข่าวติ่งต้องยอมรับจริงๆว่าแม่งครอบคลุมมาก เวลากูเสิร์ชด้อมที่ไมเนอร์โคตรๆบางทีไม่เจอผลการค้นหาภาษาไทยเลยยกเว้นเพจนี้ คนจะติดตามเยอะก็ไม่แปลกแหละ แต่เนื้อหาแม่งมั่วจริง 5555555 แอดมินแม่งไม่มีใครแข็งภาษาญี่ปุ่นเลยมั้งนั่น ส่วนพฤติกรรมหิวแสงนี่กุเห็นหนึ่งในแอดมินก็เป็นมาตั้งแต่สมัยอยู่ด้อม k ละ ไม่แปลกใจเลย หลังๆเห็นเริ่มรีวิวนิยายวายจีนก็เร่เอารีวิวตัวเองไปแชร์ตามกลุ่มวายหลายๆกลุ่มด้วย หิวแสงจนกุยอมใจ
แอดมินคนที่อยู่ด้อม k นางเล่นโม่งด้วยนะ นางคุยในกระทู้ k แบบเปิดเผยตัวตนว่าเป็นนาง ไม่รู้ปจบ.ยังเล่นโม่งมั้ย แต่เห็นชอบอ่านวายจีน อาจจะมีมาส่องๆแถวนี้ด้วยก็ได้นะมึง 555555
ky แบบโคตรๆ ไปเจออันนี้มา https://www.facebook.คอม/yunepage/posts/3618144338411294 เห็นแล้วนึกถึงผู้ช่วยสถาปนิกที่เอาเหตุการณ์นี้มาเมคฟัน เฮ้อ
>>142 มึงเอาอันนี้ไปดูนะ https://youtu.be/qRKScRgsUaE เผื่อจะคิดได้ว่าเมคฟันเรื่องรังสีแม่งเลือดเย็นแค่ไหน
ที่น่าสะเทือนใจกว่าคือผู้นำประเทศนึงเมคฟันกับความตายของประชาชนที่เกิดจากการบริหารล้มเหลวของตัวเอง
กูแนะนำนิยายเรื่องไหนเนื้อหาเน้นด่าประเทศสารขัณฑ์ ติดแท็กบอกกูด้วย กูจะได้ไม่เข้าไปอ่าน กูเคารพสิทธิ์นักเขียน เขาอยากเขียนแต่กูไม่ชอบก็เซย์บาย แยกทางไม่อ่านต่อไม่เกิดปัญหา เขาสบายใจกูสบายใจผลลัพธ์วิว-วิว ทั้งสองฝ่าย นักเขียนตัดปัญหาสงครามตอมเม้นเถียงกันแซะกันเรื่องรบ.จากฝ่ายตรงข้าม นักอ่านบางคนก็ไม่รำคาญเพราะรู้แต่แรก อีกอย่างนั่นพื้นที่ส่วนตัวเขากูไม่ก้าวก่าย อยากทำไรทำไปเถอะ แต่ติดบอกกูหน่อย ใช่ว่าทุกคนจะชอบการเมืองไปซะหมด
ปล อย่าอ้างการเมืองเป็นเรื่องของทุกคนแล้วมายัดเยียด ด่ากูไม่มีความรับผิดชอบนะ กูเบื่อประโยคนี้ละ
ปล2 กูเคารพสิทธิ์คนอื่นแน่นนอน แต่คนอื่นที่ว่านั้นต้องเคารพสิทธิ์กูเช่นกัน ไม่ใช่หาข้ออ้างล้านแปดมายัดเยียด
ปล3 กูไม่ได้เป็นทั้งลิ่ม หรือสก.กูแค่ขว้างโลกทุกยุคทุกสมัยเฉยๆ
อันนี้กูบ่นใครไม่อยากฟังข้างไป
.
.
กูเสียใจด้อมนิยายแต่ละด้อมเริ่มเปลี่ยนเป็นด้อมฉอดการเมืองแทน กลุ่มเฟสนิยายบางกลุ่มกูนึกว่าตัวเองเข้าผิด ตอนหลังๆนิไม่มีเนื้อหาเหี้ยไรเกี่ยวกับนิยายเลย กลุ่มเฟสฉอดรบ.ชัดๆ ที่กูเศร้าคือเอาเนื้อเรื่อง ตัวละครมาโยงฉอดรบ.นิแหละ ทั้งที่แม่งไม่เชี่ยไรเกี่ยวข้องกันเลย ตรงๆคือกูกระอักกระอ่วนจะหาคนหวีดเนื้อเรื่องเป็นเพื่อน ตั้งโพสกี่ทีก็ไม่วายโยงแซะเข้าการเมือง จนปัจจุบันชื่อกลุ่มเกี่ยวกับนิยายแต่เนื้อหาคือฉอดรบ. ฮือ กูคิดถึงกลุ่มสมัยก่อนที่มีแต่คนถกเห็นผล วิเคราะห์เนื้อเรื่อง คาดเดาตัวละคร มากกว่ากลุ่มฉอดการเมืองแบบนี้ T T
สอดแทรกมาก็ได้แต่เอาให้เนียน ไม่ใช่อยู่ดีๆตลคลฏขึ้นมาฉอดๆ ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นหาผัวเยๆอย่างเดียว
ก็เหมือนกับพวกที่ชอบใส่ทอร์คยาวๆมาสุดท้าย เล่าแต่เรื่องตัวเอง บ่นนู้นบ่นนี่ ยังดีที่สมัยนี้ไม่มีเยอะ แต่พึ่งกลับมาบูมใส่ทอร์คเรื่องการเมือง คือกูไม่ได้มีปัญหาอะไรมากกับการเมือง แต่มันขัดมู้ด พอคนไม่สนใจทอร์คตอนท้ายก็สร้างทั้งตอนมาบ่นคั่น รำคาญตอนมากดข้ามอีก สาเหตุที่ไม่ชอบอ่านในเว็บเพราะงี้
>>163 ว่าบาป เคยมีคนเทียบเอบีโอแต่ละประเทศนะเว้ย แต่กูจำไม่ได้ละว่าประเทศไร อเมริกากับญี่ปุ่นมั้ง ในขณะที่โอเมก้าประเทศนึงต้องรอคิวนานๆ ต้องหายาระงับฮีตซื้อเอง โอเมก้าอีกประเทศมีครอบคลุมอยู่ในประกันสุขภาพหรืออะไรสักอย่าง การเมืองมั้ยล่ะ555555 แต่ถ้าแบบนี้กูโอเคนะ ดีกว่าท่องๆมาหรือก๊อปทวิตแมสๆมาฉอด
>>163 ต้องทำรีเสิชดีๆ เรื่องระบบสุขภาพ การประเมินเทคโนโลยีด้านสุขภาพ จะดูแค่ที่ประสิทธิภาพดีอย่างเดียวไม่ได้ เพราะงบชาติมีจำกัด ต้องศึกษาความคุ้มค่า อยากได้ยาแพงยาใหม่คนไข้ต้องชำระเงินเองนะ ติดต่อการเงินช่องเบอร์ 1 ค่ะ (แต่วัคซีนโควิดนี่เถียงไม่ได้จริง แพงสุดกากสุด) ถ้าเขียนออกมาให้คนในวงการยอมรับได้กูว่าปัง แต่ถ้ามาฉอดกลวงๆก๊อปวาง ปัดตกอิสัส เหมือนคนเอาแต่ใจ
พวกรีวิวนิยายวายตามยูทูปแม่งมีแต่อวย พวกมึงซักตัวไปทำบ้างดิขอแบบฉอดๆ
กุไถผ่านกรุ๊ปสปอยมีคนมาหานิยายแล้วเล่าเรื่องย่อให้ฟัง กุอ่านเรื่องย่อแล้ว? มาก แอบรักเค้า เค้าไม่รัก แต่เมาได้กัน เลยท้องแล้วหนี กุสตั๊นไปแป๊บว่าดูถูกกลุ่มมั้ย พลอตมันขนบน้ำเน่านิยายชญไทยเหลือเกิน ไถลงมาดูคนรอปักเพียบ เอ่อ น้ำเน่าไม่มีวันตายจริงๆ อวว ต้องติดใหม่แล้วมั้ยที่ไม่เอา mpreg
>>169 หลังๆวายฮิตแนวนี้กันมากจริงๆ ขึ้นอย่างหงส์ลงอย่างหมา นายเอกท้องแล้วหนี หรือมีลูกเล็กๆแล้วหอบลูกหนี ให้พระเอกที่เหี้ยมาทั้งเรื่องตามงอนง้อพร้อมหอนบรู๊ววววเป็นหมา กูเบื่อมากเพราะปกติกูอ่านนิยายชญด้วย เจอพล็อตแบบนี้มาเยอะแล้ว พอวายแม่งฮิตพล็อตแนวนี้อีกกูเลยเซ็งๆ เฮ้อ แต่ก็ทำไรไม่ได้นอกจากทำใจแหละ พล็อตน้ำเน่ามันคงอ่านแล้วบันเทิงสำหรับคนหมู่มากจริงๆ
ชญ.เอาพล็อตมาแปลงเป็นชช.ท้องได้ แปลงแบบก็อปปี้เพสต์แค่ชื่อ ทำแล้วยอดปังระเบิด นักเขียนดังก็ทำกัน กลเกมกานต์เป็นตัวอย่างที่ซัคเซซ หรือบางทีเล่มที่มีอยู่ในมือพวกมึงก็ใช่ บางเรื่องมึงไม่ได้อ่านชญ.แนวตลาดปกฝรั่งหรือปกชีคๆ มึงแทบดูไม่ออกหรอก ยกเว้นเรื่องที่ยกมานั่นเห็นชัดเพราะชื่อตลค.เก่ายังแก้ไม่หมดก็เอามาลง
>>172 ที่กุเศร้าคือพวกมักง่ายแบบนี้ยังมีสนใจเยอะอ่ะ ถ้าแปลงแค่พลอตหลักแล้วแก้บทให้มันเป็นชายบ้างกุยังพอว่า อันนี้แม่งไม่แก้อะไรเลย เป็นผู้แค่เซทติ้ง 1 บรรทัด นอกนั้นท้องได้ ตบกับผู้หญิงแย่งผู้ได้ กรี๊ดน้ำตาแตก งอนน้ำตาหกเป็นว่าเล่นก็มี เพิ่มเติมแค่แปะแท่งตรงหว่างขา(ซึ่งมีรึเปล่าก็ไม่รุ้บางที nc แม่งก็เอามาทั้งดุ้น)
เอาเถอะ กุก็มุดงมหาวายแมนๆในดงวายไทยยากขึ้นอีกหน่อยเท่านั้นเอง
>>179 จากใจกูเลยมึง แม่งชอบรีไรท์ลวกๆ นิสัยผญมา หลุดชื่อหลุดคาร์ ตั้งใจรีไรท์มาแค่ตอนแรกพอติดฮิตแล้วปล่อยเบลอ กูว่าก็ฮิตสำหรับคนไม่เคยอ่านชญหรือไม่ค่อยอ่านแบบ เฮ้ยพล็อตแปลกใหม่สำหรับชช. ก็คนแต่งชช.เข้าไม่แต่งแบบสาวแตกงี้ไง ncด้วย แม่งก็อปมาเพราะคำที่แทนรูแม่งใช้ได้ทั้งรูหน้ารูหลัง
กูเคยบ่นในโม่งนี่แหละว่าวายสมัยนี้แม่งเขียนออกมาไม่ต่างจากชญ ฮิตแต่แนวท้องได้ เขียนฝ่ายรับออกมาเป็นน้องนางแน่งน้อย หาวายที่มีความเป็นเพศชายยากขึ้นมากๆ สรุปมีโม่งอ้างว่าเป็นเกย์บอกว่าเกย์ก็ชอบอ่านแบบนี้ เกย์ก็มีความฝันอยากท้องได้ กูเพลียเลย กูแค่มาบ่นว่ากูไม่ชอบเฉยๆ ไม่ได้ห้ามใครเขียนนิ กูแค่อยากอ่านวายที่มันต่างจากชายหญิงโว้ยไอ้ห่า
>>181 เป็นเพราะประชากรสาววายมือใหม่เยอะขึ้นจากซี่รีย์ป่าววะ ตอนกุเข้าวงการแรกๆก็ชอบสไตล์นั้นอยู่ แต่มานั่งนึกๆไอ้พลอต mpreg แบบบทจะท้องก็ท้องเลยนี่มันก็ฮิตมานานแล้วนิหว่า ความนิยมเหมือนไม่เคยเสื่อม กุยังจำสมัยซี่รีย์ช่างกลเล้าเป็ด(หรือป่าววะ นานจนลืม) เด็กช่างห่ามๆ ถูกจิ้มทีเดียวท้องกันเป็นแถว จิ้มกันจนท้องแทบจะทั้งรร.แระ สาเหตุก็แม่งสไตล์เมนต์บน ร่างกายคนเราอัศจรรย์มากนะครับ - -"
นิยายมันแฟนตาซีได้ แต่กุก็ขอความสมเหตุสมผลในโลกอีกใบนั้นนิดนึงเถอะว่ะ
ไอ้จะแยกmpregกับอมก.เวิสกุเข้าใจนะ แต่พวกชอบอย่างนึงแล้วมายี้อย่างนึงนี่มันยังไงกันวะ 55555555
อมกวแต่ไม่ใช่ mpreg คือไรวะ หรืออมกไม่ใช่ผู้ชาย อมกก็คืออมก อย่ามิสเจนเดอร์
>>188 ตามที่กุเข้าใจคือที่บอกว่า"ไม่ใช่mpreg"มันไม่ได้หมายถึงแค่การที่ผช.ท้องได้=อมกว.
แต่หมายถึงการที่ไม่มีเพศรองต่างๆ=mpreg ในอมก.เวิร์สจะท้องได้คือต้องเป็นโอเมก้า/เบต้าหญิง แต่ในmpregคือผช.ท้องได้>แล้วแต่คน บางคนก็เขียนมห้ผช.บางคนมีจิมิแบบหายากสัดๆๆ บางคนอยู่ดีๆก็ท้องได้
อย่างกุก็ไม่นับรวม แค่ผช.ท้องได้ก็ไม่ใช่อมกว.เพราะองค์ประกอบมันไม่ครบ
>>192 กุลืม ต้องบอกว่า "omgv ที่ผู้ชายท้องได้" เป็นซับเซทของ mpreg สิ
กูเข้าใจว่าจุดหลักของ omgv คือระบบชนชั้นแบบหมาป่า จะท้องไม่ท้อง ท้องยังไงขึ้นกับคนแต่ง omgv ที่ท้องไม่ได้ก็มี เบต้าชายท้องได้ก็มี บางเรื่องอัลฟ่าชถูกซุปเปอร์อัลฟ่าช(จะแกรมม่า เดลต้าอะไรก็แล้วแต่คนเขียนตั้ง) ซั่มแล้วท้องได้ก็ยังมีอีก เพราะมันแล้วแต่คนเขียนจะเซต
นั่นแหละ พูดรวมๆคือmpreg=ผช.ท้องได้ไม่ว่าจะทำได้เพราะเรื่องเหี้ยอะไรก็ตาม
ส่วนอมกว.จะท้องได้ต่อเมื่อมีเพศรอง(ลฟ/บต/อมก)เข้ามาเกี่ยวข้อง
กุก็ยังงงว่ามันจะแข่งกันยี้อีกฝั่งทำไมวะ 555555 แยกกันอ่ะเข้าใจ แต่ไม่เข้าใจว่าจะตีกันทำไม
พวกมึงไปถามสนพ.ก่อนเลย รับแนวโอเมก้าเวิสแต่ไม่รับmpreg แม่งต้องเป็นหมันเหรอวะ5555555
>>199 เหมือนเป็นซับเซตอีกทีของ mpreg
mpreg แบบที่ไม่ได้เกิดมาแล้วท้องได้เลยมีถมเถไป
แบบที่ผู้ชายท้องได้ทุกคนก็มีเหมือนกัน แล้วแต่คนแต่งจะเซตติ้งแบบไหน
ส่วนตัวกูรับ mpreg ได้แม้มันจะเวอร์แต่มันก็นิยาย นิยายที่เวอร์ๆก็มีหลายเรื่อง
ถ้าแต่งออกมาแล้วมันมีเหตุผลตามเซตติ้งของโลกที่แต่งก็ไม่เอ๊ะเท่าไหร่
ปกติกูเวลากูอ่าน mpreg จะเจอแต่พวกแดรกยาแปลกๆแล้วท้อง บางเรื่องอิยานี่จะมาแบบไม่มีเหตุมีผลพอๆกับคนให้เลย เหมือนมาแค่ยัดปากให้นอ.กินแล้วชิงหนีหายไปแบบงงๆจนจบก็ไม่เจอคนให้ยาอีกเลย คือมันมีเหตุผลในการท้องนะ แต่ทำไมอ่านกูรู้สึกว่าบางเรื่องมันใส่มาแบบมักง่ายว่ะ เหมือนอยากแปะป้ายเพิ่มว่าเป็น mpreg ตอนใกล้จบเลยมีคนหายามายัดปากนายเอกให้ท้อง
เพิ่มเติมคือจากนั้นทุกคนจะปกติมากไม่มีใครตกใจสงสัยอะไรทั้งนั้น เหมือนแนวนี้ถ้าวางพล็อตดีคือผ่านฉลุยแต่ถ้าว่าพล็อตพังคือบ้งทั้งเรื่อง
>>202 อันนี้อย่างน้อยยังมียามาเป็นเหตุ(เป็นบ๊งแบบพยายามใส่เหตุผล?ให้แล้วนะ) ไอ้ที่แบบจิ้มกันแล้วป่องเลย สังคมไม่มีใครสงสัย หมอพยาบาลไม่คิดจะจับมาทำวิจัยทั้งๆที่ผู้ทั้งโลกไม่มีใครท้องได้ คุณนายแม่พระเอกเกิดดีใจจะเอาหลานที่ยังไม่รู้จะออกทางไหน
ตัวเอกบ่นเป็นไปไม่ได้กุเป็นผู้ชายนะหนึ่งวันก็ทำใจได้แบกท้องหนีพระเอก อันนี้กุไม่ไหว แบบเมนต์บนๆว่าแหละ คือแบบลอกพลอตชญมาเปลี่ยนคำลงท้ายกับคำแทนตัว บอกคนอ่านอีกประโยคนึงว่าผมผู้ชายนะครับ จากนั้นก็ go! สู่บ่อน้ำเน่าตามขนบชญ.ได้เลย
เอาท้องได้มาใส่โดยไร้เหตุผลเพราะนิยายตัวเองแปลงจากนิยายชญ.มาจะทำยังไงให้ท้องหว่า ขก.รีไรท์แล้ว เอาเป็นโลกใบนี้มันอัศจรรย์ดีนะครับ:)
ต...แต่ลืมรีไรท์นิสัยนายเอก เอาไง ช่างมันเถอะ ติดท็อปแล้วออกเล่มได้
ไม่ใช่เวิร์สไหนทั้งนั้นแหละค่ะ ย้ำ!นายเอกท้องได้เป็นธรรมชาติ (แค่นอนกับพระเอกติดปุ้บ) กูเปล่าพูดถึงเรื่องไหนนะ อุ้ปปปปป
ถ้าหมายถึงนิยายชายหญิงรียูสก็กลเกมกานต์ไง
คือนิยายมันติดท้อปอ่ะ นักเขียนก็ตัวท้อปโคตรแม่ ถึงมึงจะว่านิสัยนายเอกสาวแตกแบบไม่รีไรท์หรือตรรกะบ้งยังไงแฟนคลับก็ไม่ว่าหรอก เขาเต็มใจซื้อ
แต่ที่กูอยากรู้คือคนเขียนกลาง ๆ มากกว่า อันนี้สิดัชนีวัดตลาดที่แท้ทรู จะมีใครช่วยตอบคำถามนี้ของกูในห้องศาลานักเขียนมั้ยวะ TOT
>>211 แบบที่ยอดไม่ได้เปรี้ยงปร้าง พิมพ์กับสนพ.หรือพิมพ์เองแต่ไม่ถึงกับขึ้นท็อปของเม็ป กูแปะลิสต์ให้
https://campaign.mebmarket.com/MebTopVote2020/reward_30.php
เอาว่าพวกที่ไม่ได้อยู่ในลิสต์นี้คือกลางๆละกัน กูรู้ว่ามันเป็นการจำแนกแบบหยาบ แต่เห็นในห้องนักเขียนยกตัวอย่างตัวท็อปมาแล้วมันอ้างอิงไม่ค่อยได้เพราะฐานคนอ่านแน่นกันอยู่แล้ว
ไม่ใช่แค่แนวmpreg นักเขียนหญิงหลายๆคนมีปัญหาเรื่องเขียนนิยายวายเหมือนนิยายชญ มุมมองต่างๆถูกใส่filterของนักเขียนที่เป็นผู้หญิงเข้าไป และdialogueที่มึงอ่านจะรู้เลยว่าเหมือนสาวๆจับเข่าคุยกันมากกว่า อาจเขียนมาโดยลืมคำนึงไปว่ามันต้องเล่าออกมาให้จูงใจคนอ่านว่าเป็นนิยายวาย ตัวเอกเป็นผู้ชายนะ ต้องเขียนในมุมมองตัวเอกที่เป็นชายไม่ใช่มุมมองตัวเองที่เป็นหญิง
ถ้าเป็นเรื่องที่บนๆพูดกัน คนเขียนแต่งมาเยอะแล้วนะ แนวเมะชนเมะก็มีมาหลายเล่ม เรื่องที่เอาพล็อตชญ.เก่ามาใส่ขวดขายใหม่ ไม่ใช่ว่านอ.สาวแตกเพราะมือไม่ถึง แต่ขี้เกียจรีไรท์มากกว่า ชื่อพอ.นอ.เวอร์ชั่นชญ. ยังเอาออกไม่หมดเลย มึงคิดว่าใส่ใจแค่ไหนล่ะ
>>214 กุว่าไม่ใช่ว่าความเข้าใจเพศไม่ดีพอนะมึง ที่กุไม่ชอบมันคือประเภทที่ เอาทุกสิ่งของเพศหญิงไปใส่ให้นายเอกเหมือนเป็น norl เฉพาะของนายเอกเพียงคนเดียวในโลกนั้น จะมีแค่นายเอกเท่านั้น ที่ท้องได้ แต่งได้ และมีสเตอริโอไทป์แบบหญิ๊งง หญิง โดยไม่มีใครสงสัยว่ามันเป็นผู้ชายไปทำไม ซึ่งมันขัดกับสามัญสำนึกปกติอ่ะมึง
การที่นายเอกจะออกสาวบ้างเพราะผ่านฟิลเตอร์ผู้หญิงกุว่าโอเคนะ กุแค่ไม่ชอบเสพสายน้องเฉยๆ แต่ไอ้อย่างข้างบนนี่มันมีปัญหาด้านความสมเหตุสมผลพื้นฐานอ่ะมึง
และวงการสาววายดันต้อนรับเรื่องแนวนี้ดีด้วย กูเลยรู้สึกนิดๆ บวกกับกุเคยเห็นพวกกรุ๊ปนักเขียนคุยกัน งานสายชญขายยากอยากเข้าสายวายไม่เคยอ่านวายเลยทำไงคะ ตอบ แค่เปลี่ยนนางเอกเป็นผชก็พอคับ กุเลยรู้สึกว่าเรื่องแนวนี้คือไม่ใช่คนในวงการวายแต่ง คือกะได้สองทาง ถ้าชญไม่รุ่งเปลี่ยนเพศลงวายก็ได้วะอะไรงี้เหรอ ขอแค่นายเอกมีดุ้นพวกกุก็กรี๊ดหมดงี้เหรอ อารมณ์แบบดูถูกพวกกุจังนะ อ่ะมึง
/เบนหางานสายแปลต่อไป เห้อ
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.