เมื่อ money management อาจสร้างความชิบหายให้คุณ
เราทุกคนเรียนรู้กันมาในโลกการลงทุนและโลกการพนันว่า money management (หรือ bankroll management) เป็นเรื่องสำคัญที่จะทำให้เอาตัวรอดจากตลาด/บ่อนได้
แต่ถ้าคุณเล่นเกมส์ที่ใช้จิตวิทยาในการต่อสู้เพื่อเอาชนะ เช่น texas hold'em การมีวินัยแบบสุดๆ กับ bankroll management อาจจะทำให้คุณแพ้ฝ่ายตรงข้ามได้
เป็นไปได้ยังไง วินัยทำให้แพ้..?
คืองี้ครับ เกมส์ poker เป็นเกมส์ที่ไม่ได้สู้กันด้วยดวงอย่างเดียว แต่สู้กันด้วยจิตวิทยา ประเด็นสำคัญก็คือ เราต้องอ่านใจคู่แข่ง และประเมินว่าคู่แข่งอ่านใจเราอย่างไรไปพร้อมๆ กันด้วย
ยกตัวอย่างง่ายๆ สมมติว่าช่วง preflop คุณได้ไพ่เทพมาก เช่น A♠,K♠ การที่คุณ raise เงิน นั่นเป็นการบ่งบอกคู่ต่อสู้ว่า "กูไพ่ดีนะเฮ้ย พวกเมิงหมอบไปซะเถอะ"
หลังจากแจกไพ่ flop สมมติไพ่ออกมาเป็น A♥,K♦,9♣ เท่ากับคุณติดไพ่ 2 คู่ใหญ่ แน่นอนว่า คุณย่อมจะเลือกการ bet หนัก เพื่อเพิ่มเงินใน pot สูงที่สุด รวมถึงไล่คู่แข่งที่รอลุ้นไพ่ให้หมอบทิ้งไป เหมือนคุณบอกคู่แข่งว่า "กูติดชุดใหญ่นะ ไพ่ไม่ดีจริง อย่ามาซ่าส์"
เอาล่ะ แต่ถ้าช่วง flop สมมติไพ่ออกมาเป็น J♥,8♠,7♥ ล่ะ คุณไม่ติดชุดอะไรเลยทั้งๆ ที่ starting hand เทพมาก มันก็มีเทคนิคการเล่นอย่างนึงที่เรียกว่า continuation bet นั่นก็คือ ตามหลักสถิติแล้ว โอกาสที่คู่แข่งจะไม่ติดไพ่อะไรเลยในช่วง flop จะอยู่ที่คนละประมาณ 60%-70% (ถ้า flop ออกมาเน่าๆ)
นั่นหมายถึงการที่เรา bet สู้ จะมีโอกาสประมาณ 2 ใน 3 ที่คู่แข่งจะหมอบเพราะไม่อยากเสี่ยง (แต่ถ้า flop ไม่เน่า เราก็ไม่ควรเล่น continuation bet นะครับ) ซึ่งกลยุทธ์นี้ใช้ได้ผลกับพวกผู้เล่นที่มีตรรกะ ถ้าไปเจอผู้เล่นมือใหม่ ที่สู้ทุกมือ โอกาสการใช้ continuation bet ได้ผลก็จะน้อยลง เพราะไม่ว่าคุณจะ bet เท่าไหร่ เค้าก็มีโอกาสจะ call เพื่อดูไพ่ และเมื่อเค้า call โอกาสที่เค้าจะติดชุดไพ่ในรอบ turn หรือ river ก็จะมากขึ้น
คำแนะนำพื้นฐานที่นักเล่นโปกเกอร์ส่วนใหญ่ได้รับคำแนะนำมา คือ ให้ continuation bet เพียงแค่ 2/3 ของ pot เท่านั้น (หมายถึง ถ้าเงินกองกลางมี 3000 บาท ให้เรา bet เพิ่ม 2000 บาทก็พอ) นี่คือ bankroll management ครับ คือคุณกำลังเล่นกับความเสี่ยง ก็อย่าโลภมาก ถ้าดันมีใครติดชุดแล้ว call ตามมา คุณจะได้ไม่เสียเงินเยอะนัก
และนี่คือจุดสำคัญ..!!
คุณยึดหลัก bankroll management อย่างเคร่งครัด คุณจะ bet 2/3 ของ pot เมื่อคุณจะเล่น continuation bet เสมอ
เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณมี logic ตายตัวชัดเจนแบบนี้ นั่นหมายถึง "bet ของคุณ กำลังบอกหน้าไพ่ให้คู่ต่อสู้รู้"
สมมติผมเป็นคู่ต่อสู้ของคุณ แล้วเห็นคุณ bet ประมาณ 2/3 ของ pot ทุกครั้งที่คุณเล่น continuation bet ผมจะเดาได้เลยว่า ถ้าเมื่อไหร่ไอ้คนนี้ bet มา 2/3 ของ pot แปลว่า "ไอ้นี่ไม่ติดไพ่ชุดในช่วง flop"
กรู call ตามไปดูเลย ความเสี่ยงเท่ากัน หรือถ้ากรูมีไพ่ชุดอะไรซักหน่อย กรูจะ raise หนักๆ ให้มันถอดใจหมอบไปซะ
มันเป็นเหมือนปัญหาไก่กับไข่ ที่ว่า การมีวินัยเป็นเรื่องที่ดี แต่คู่แข่งเค้าไม่เห็นว่าคุณมีอะไรในมือ ดังนั้นเค้าจะประเมินคุณจาก "เดิมพันที่คุณวาง"
นั่นหมายความว่า การวางเดิมพันของคุณควรจะต้องมีความยืดหยุ่น หรือหลอกคู่ต่อสู้ไปด้วย และระมัดระวังไม่ให้ "การหลอก" นั้นทำให้คุณต้องรับความเสี่ยงที่มากเกินไปในระยะยาว (บางเกมส์ อาจจะ bluff บ้าง บางเกมส์ ไพ่ดี อาจจะ slow play หลอกให้คนตามบ้าง)
ผมพูดมาเยอะนี่ใช่ว่าผมจะเก่ง poker นะครับ ก็ยังคงเป็นมือสมัครเล่นที่ฝึกพัฒนาฝีมืออยู่เรื่อยๆ
แต่ที่เล่าให้ฟัง เพราะวันที่ผมโพสเรื่องจิตวิทยาโปกเกอร์ มีเพื่อนคนนึงมาคุยเรื่องโปกเกอร์กันยาว ว่ามันเป็นเกมส์ที่ใช้ดวงแค่ 30% แต่ใช้ฝีมือถึง 70% ซึ่งมันก็เป็นความจริงอยู่
และเรื่องการยืดหยุ่นใน bankroll management เพื่อป้องกันคู่ต่อสู้อ่านไพ่เราออก ก็เป็นเรื่องอีกอย่างที่แยกนักโปกเกอร์มืออาชีพ ออกจากพวกมือสมัครเล่น
พูดมาตั้งยาว ทิ้งท้ายเรื่องหุ้นนิดนึงเนอะ.. 😅
เรื่องหุ้นก็เหมือนกันครับ คุณอย่าคิดว่า พฤติกรรมการวาง bid/offer หรือการซื้อของเจ้ามือเป็นเรื่องตายตัว
มืออาชีพเค้ารู้ดีว่ามือสมัครเล่นกำลังเล็งหรือมองอะไรอยู่ เค้าไม่ bet 2/3 pot ทุกครั้งที่ทำ continuation bet หรอกครับ บางทีเค้าก็ slow play ลากเราตามไปเรื่อย บางทีเค้าก็จัดชุดใหญ่ โยนเองรับเอง บางทีเค้าตั้ง bid/offer แบบนึง หลอกให้เราเข้าใจว่าเราอ่านเกมส์เจ้ามือออก
มือสมัครเล่นก็มักจะคิดว่า เฮ้ยกูเก่ง กูรู้หมดเจ้ามือกำลังทำอะไร
เกมส์การเงินมันไม่ง่ายขนาดนั้น เมื่อไหร่ที่คิดว่าตัวเองเก่ง เมื่อนั้นโอกาสแพ้ก็มาถึง
ลงทุนด้วยความระมัดระวังนะครับ