ตอนที่ 18 : บทที่ 4 : สิทธิของจำเลย (6) โหสัส มี 6 พาร์ทเลยเรอะ
น้องเน่เห็นไอ้ไนท์ปฏิเสธก็พยายามขอร้อง บอกว่าถ้าไอ้ไนท์เข้าทีมประลอง ด้วยพื้นฐานที่พระเอกมีกับสกิลติดตัว ถ้าฝึกไปนานๆ แล้วจะต้องเก่ง จนพาทีมชนะทัวร์นาเม้นท์ได้แน่ ถ้าชนะแล้วฝันของน้องเน่ก็จะเป็นจริง (ไม่รู้กูอ่านข้ามหรือเปล่า แต่จำไม่ได้ว่าถ้าชนะแล้วเน่จะได้อะไร) ไอ้ไนท์ได้ยินก็มองเหยียดบอกกลับไปว่า มึงก็เหมือน ผ.อ. ทำทุกอย่างเพราะมีผลประโยชน์มาเกี่ยว นางเอกปรี๊ดแตกบอกว่าไม่ใช่ แล้วบอกว่าที่ผ่านมานี่กูรักษามึงนะ พระเอกเลยเหยียดหนักกว่าเก่า ว่าแล้วมึงนี่มันปฏิกูลอย่างที่ชาวบ้านว่าไว้จริงๆ ช่วยคนแล้วทวงบุญคุณแบบนี้ ทุเรศสัสๆ ว่าจบก็เอาเอาหัวแตะหน้าผากนางเอกแล้วเชื่อมจิตแบบเดียวกับของลุงลำดับ 2 ตัดฉากเข้าไปในความทรงจำของพระเอกสมัยยังหัวเกรียน เล่าผ่านเหตุการณ์ที่พระเอกโดนลุงหลอกให้ต้องไปแข่งรูบิคเรื่อยๆ เพื่อเอาเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายดูแลปู่ที่ป่วยติดเตียง เฉลยปมว่าทำไมพระเอกถึงไม่อยากถูกคนอื่นใช้งาน พออถึงจุดนี้กูแม่งรู้สึกว่าพระเอกด้านชามาก เมินแม้กระทั้ง ผ.อ. ก่อนจะออกจากห้องมีดราม่าบีบคั้นอารมณ์โผล่มา นางเอกพยายามถามถึงสัญญาที่เคยเกี่ยวก้อยกันไว้ก่อนดวลกับไอ้กัส พระเอกตอบกลับแบบมองด้วยหางตาว่า "มึงจริงจังกับคำพูดของคนความจำเสื่อมด้วยเหรอ" แล้วก็เดินจากไป แบบไม่สนใจน้ำตานางเอกเลย
การบรรยาย : สำนวนภาษาถือว่าค่อนข้างดี การบรรยาย 5W มีครบ เห็นภาพชัดทั้งฉากหลัง บรรยากาศในฉาก และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในฉาก มีกิมมิคสำนวนคล้ายกับเรื่องน้องมัวร์ แต่เป็นแบบคล้องจองระหว่างประโยคที่ถูกใส่มาค่อนข้างบ่อยในบทบรรยาย ทำให้รู้ว่านักเขียนคนนี้น่าจะมีพื้นฐานด้านโคลงกลอนในระดับหาตัวจับยาก สับเรื่องนี้แล้วรู้สึกเหมือนกำลังเล่น Photo hunt เพราะหาคำซ้ำ คำซ้อน คำผิด เจอยากจริงๆ แทบจะไม่มี แต่ยังมีความฟุ่มเฟือยอยู่หลายจุด ไม่รู้ว่าเป็นที่วิธีการสื่อหรือจงใจสร้างคำใหม่ใช้เองซึ่งเจอได้กับทุกคนทุกเรื่อง ความลื่นไหลน่าจะพอๆ กันกับน้องมัวร์อีกเช่นเคย แต่ด้วยแนวและการดำเนินเรื่องที่มีข้อมูลเยอะ ทำให้อ่านเร็วเกินไปไม่ได้ บางจุดถ้าไม่ตั้งใจอ่านก็จะพลาดข้อมูลสำคัญ ฉากต่อสู้ที่เคร่งเครียดกดดันทำได้ดีจนกลัวว่าพระเอกแม่งจะตายตั้งแต่ต้นเรื่องแล้ว (เอาเหอะ ยังไงก็เห็นมี Plot Armor มาช่วยอยู่) ใช้ Show มากกว่า Tell อย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะภาษากายที่ตัวละครต่างๆ แสดงออก ช่วยเสริมให้สิ่งที่ตัวละครรู้สึกอยู่ดูน่าเชื่อ
ตัวละคร : ใช้ Show แสดงสีหน้าท่าทางเสริมได้ดีในอารมณ์ต่างๆ ของตัวละคร ทุกๆ ตัวมีมิติด้านนิสัยและแนวคิดชัดเจน เวอร์เน่ดูแม่พระเหลือเกิน ส่วนบากัสที่ Tell มาว่าขี้โมโหพอเจอตัวเข้าจริงๆ ก็ยั๊วะได้โล่ ส่วนไนท์ช่วงยังจำอะไรไม่ได้ก็เป็นเด็กหนุ่มอัธยาศัยดี พูดจากน่าฟัง มองโลกในแง่ดี แต่พอได้ความทรงจำกลับคืนมา หลายๆ อย่างพลิกหน้ามือเป็นหลังตีน ทำหน้าเบื่อโลกตาก็หรี่ลง (เริ่มเข้าใจว่าทำไมถึงใช้รูปตรงหน้าปก) นิสัยอินดี้ไม่สนใจใคร ดูเป็นพวกเก็บกดด้วย ซึ่งตรงนี้มันมีเคมีบางอย่างที่เข้ากันได้ระหว่างคู่พระ-นาง คนหนึ่งดู introvert ส่วนอีกคนก็โดนสังคมรังเกียจ ต้องดูกันไปนานๆ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นด้านความสัมพันธ์ (หากมองเรื่องนี้ในแนวเลิฟแฟนตาซี) สรุปว่าตัวละครดูเรียลไม่แบนราบ และใช้ Show เพื่อเน้นนิสัยได้ถูกจุด มีเอกลักษณ์จนจำได้ทั้งฝั่งดีและฝั่งร้าย แต่ที่น่าแปลกคือ ไม่อธิบายลักษณะตัวประกอบเลย หรือถ้าจะพูดถึงก็พูดแค่นิดเดียวเท่านั้น