ตอนที่ 5 : เจ้าสาวของเสนาบดี
ช่วงแรกของตอนคือการเดินเท้าของเซอร์เกรกับท่านหญิงฟิลตัวจริง ด้วยความที่เป็นคุณหนูไม่เคยลำบากก็บ่นไปตามเรื่อง ตาลุงเซอร์เกรก็ไม่ได้สนอะไรเท่าไหร่ มีบทสนทนาเกี่ยวกับแผนการสลับตัวฟิลกับมัวร์ของเซอร์เกร เป็นการคลายปมย่อยรายทางที่ปิดฉากด้วยคำถามของฟิลว่า คนเป็นพ่อรู้สึกยังไงกับการส่งลูกสาวไปแต่งงานกับปีศาจ ตัดฉากกลับไปที่มัวร์ ตอนนี้คือไม่ได้กระอักเลือดแล้ว เธอตื่นขึ้นมาในห้องนอนของปราสาทปลายทาง มีคนรับใช้เป็นเอลฟ์คอยดูแลอย่างดี เอลฟ์สาวเล่าให้ฟังว่าพวกเธอไปรับนางเอกช้าจนเกือบสายไป แต่ก็คงไปทันแบบฉิวเฉียดเพราะตอนนี้นางเอกรอดตาย เดินทางมาถึงที่นี่ได้เรียบร้อย มัวร์ก็คิดระหว่างพักฟื้นว่าต้องทำตัวให้เนียนๆ หน่อย มีบรรยายข้อมูลเกี่ยวกับสนธิสัญญาระหว่างเผ่าและการแต่งงานข้ามเผ่ากับเสนาบดีฝ่ายต่างประเทศ มีการเมืองติดมาด้วยนิดหน่อย มีคลิฟแฮงเกอร์ท้ายตอนคือ ผ่านไปครึ่งเดือนนางเอกเปลี่ยนลุคไปเยอะ พระเอกก็กลับมาถึงปราสาทแล้วเรียกให้นางเอกไปพบ แล้วปิดตอนตรงนี้
หลังอ่านจบ 5 ตอน อิมเมจบิวตี้แอนเดอะบีสต์จางไป แล้วโดนแทนที่ด้วยอนิเมะเรื่องเจ้าสาวผมแดง ตอนหน้าคงเปิดตัวพระเอกในฉากการพบกันครั้งแรก แล้วจุดเริ่มต้นของความรักแบบหวานขมก็คงเกิดขึ้นด้วยเช่นกัน
การบรรยาย : สำนวนภาษาถือว่าดีมาก ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังอ่านนิยายแปลแฟนตาซีจากนักเขียนฝั่งยุโรป บทสนทนาเป็นธรรมชาติ แสดงให้เห็นถึงตัวตนของตัวละครนั้นๆ ได้อย่างมีมิติ แล้วก็ต้องขอชมเรื่องคำผิด, คำตก, คำซ้ำ เพราะเจอบ้างแต่น้อยมาก เช่น คล่ำหวอด-คร่ำหวอด เขียนบรรยายฉากต่างๆ ได้ดี ครบ 5 W สำนวนลื่นไหลอ่านง่าย มีการเล่นสัมผัสแบบคำสุดท้ายกับประโยคข้างเคียงเป็นระลอก เช่น "ศักดิ์สิทธิ์ดังคำสั่งของนักบวช สองเผ่าพันธุ์ปฏิบัติตามอย่างเข้มงวด" พบการใช้คำแปลกๆ ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนอยู่บ้าง รวมไปถึงการใช้คำหายากแบบที่เจอในนิยายเก่าๆ เท่านั้น เท่าที่ไปสำรวจใน My iD ของนักเขียน เห็นว่ามีอยู่แค่ 2 เรื่อง ทำให้ไม่กล้าฟันธงว่าเจ้าของเรื่องเป็นนักเขียนมือเก๋ารุ่นเก่ามาแต่งในไอดีใหม่ หรือว่าเป็นเด็กใหม่ฝีมือดีกันแน่ เพราะทั้งสำนวนและการใช้คำนั้นเหนือกว่านิยายตลาดล่างเกือบค่อนเว็บ
ตัวละคร : มีมิติเด่นชัด แม้แต่ตัวประกอบตามฉากก็ยังเขียนให้รู้สึก ชอบ/เกลียด ได้อย่างมีชั้นเชิง ใช้บทสนทนากับการกระทำของตัวละคร ช่วย show ความเป็นคนคนนั้นออกมาได้ดี ตาเฒ่าเซอร์เกรดูกวนๆ เจ้าเล่ห์ ท่านหญิงฟิลก็คุณหนูจ๋ามาก ส่วนมัวร์นางเอกของเราก็อ่านแล้วชวนให้ลุ้นตาม ตัวละครแต่ละตัวมีชีวิตจิตใจ มีความรู้สึกต่างๆ เหมาะสมตามสถานการณ์ที่ควรเป็น ใช้บทบรรยายผสมกึ่ง show กึ่ง tell เป็นตัวขับให้อินกับนิสัยตัวละครต่างๆ ได้
เนื้อเรื่อง : หลังจากผ่านช่วงตอนที่ 2 ไป รู้สึกว่าจะเข้าประเด็นได้ไวขึ้น การบรรยายสภาพแวดล้อมที่ล้นและไม่จำเป็นลดลง การเขียนบรรยายและบทสนทนาไม่ปนกันแล้ว แต่จังหวะการเล่ายังต่อเนื่องลื่นไหลเหมือนเดิม ตรรกะในเรื่องไม่มีอะไรให้ข้องใจ เดินเรื่องด้วยความเร็วปานกลางสม่ำเสมอ มีปริศนาให้ขบคิดทั้งปมหลักและปมรอง ความลับต่างๆ ของมัวร์และเซอร์เกรที่ยังไม่เปิดเผย นางเอกเจอเรื่องหนักๆ ให้ต้องเอาใจช่วยตั้งแต่ต้น จนบางทีก็รู้สึกสงสาร เจ็บทั้งตัวเจ็บทั้งใจ หยอดดราม่ากันไปเป็นระยะๆ โดยสรุปคือน่าติดตาม ความสนุกอาจไม่ถึงขั้นดีเลิศ แต่ไม่ใช่นิยายที่ควรถูกมองข้าม
สิ่งที่ชอบ : ทักษะการใช้สำนวน ระดับภาษาที่ใช้ในเรื่องซึ่งเหมาะสมกับสถานการณ์ และการไม่ลืมวางคลิฟแฮงเกอร์อ่อนๆ ไว้ท้ายตอนทุกครั้ง
สิ่งที่เกลียด : จะว่าเกลียดก็ไม่เชิง แต่การใช้คำเก่าๆ หลายจุดอาจทำให้นักอ่านรุ่นใหม่ไม่เข้าใจความหมายของคำคำนั้น ถ้าเป็นไปได้อยากให้เร่งความเร็วของการเดินเรื่องเพิ่มขึ้นอีกหน่อย และหลังอ่าน 5 ตอนจบไป พบว่านางเอกนี่เป็นคนโชคดีมากๆ ได้รับการช่วยเหลือไว้ในทุกที่ที่เดินทางไป จะว่าเป็นความแมรี่ซูเบาๆ ก็ว่าได้ แต่ถือเป็นเรื่องเล็กน้อยที่นักอ่านพร้อมมองข้าม
คะแนน : 8/10 คะแนน (ส่วนที่หักแยกเป็น คำโปรย+ภาพปลากรอบยังไม่ดึงดูดพอ -0.5 / คำผิดรายตอน -0.5 / บทบรรยายผสมบทพูดช่วงแรก -1)
ความเห็นส่วนตัว : เป็นนิยายที่ดีมีอนาคต ควรค่าแก่การสนับสนุน ถ้าเป็นนักเขียนน้องใหม่ถือว่ามีแววรุ่ง แต่ถ้าเป็นรุ่นเก๋าก็แปลว่าหมั่นลับเขี้ยวเล็บมาเป็นอย่างดี โม่งคนไหนที่เคยถามถึงการสับนิยายดีๆ นี่เป็นตัวอย่างหนึ่งให้สังเกตได้ว่า ถ้าเป็นนิยายคุณภาพการสับจะค่อนข้างสั้น เพราะไม่มีอะไรให้ติสักเท่าไหร่ และสิ่งที่ควรทำทุกครั้งคืออย่าเชื่อคนสับ 100 % ให้ลองกดลิงก์เข้าไปอ่านนิยายเทียบดูอีกทีว่าเห็นด้วยกับการสับหรือไม่ และทำให้เห็นภาพมากขึ้นด้วยกรณีอยากนำไปปรับใช้ สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นอยู่แล้ว