นอกจากนี้เธอยังเล่าอีกว่า สำหรับเด็กสาว ๆ การออกไปกับบุรุษที่พึงใจนั้นแม้จะเขียนข้อกำหนดไว้อย่างชัดเจนว่าไม่ควร และการอยู่กับบุรุษนั้นต้องมีเมดอยู่ด้วยเพื่อรักษาชื่อเสียง แต่ส่วนมากมักจะฝ่าฝืนกัน ขอเพียงแค่ไม่ทำจนถึงขั้นสุดจนเสียพรหมจารีย์และตั้งท้อง คนส่วนมากก็จะเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ดังนั้นนอกจากจะต้องดูต้นทาง คุณเมดที่น่าสงสารยังต้องคอยดูด้วยว่าคู่รักที่กำลังนัวเนียกันนั้นไปถึงขั้นไหนแล้ว (?!!!!)
กว่าจะได้เข้านอนจริง ๆ ก็ตอน 3.00 นาฬิกา ถ้าหากพาชู้รักมาที่บ้าน คุณพ่อบ้านก็จะต้องให้รถม้าไปส่งชู้รักของท่านหญิง ส่วนคุณเมดที่เหลือจัดการเปลี่ยนผ้าปูที่นอน อาบน้ำหรือเช็ดเนื้อตัวให้กับท่านหญิงที่สลบไสลไปจากการร่วมรัก จากนั้นก็พาท่านหญิงเข้านอน รอจนกระทั่งถึงวันใหม่ค่อยตื่นขึ้นมารับใช้อีกที
ในหนึ่งสัปดาห์ ชีวิตของท่านหญิงจะเป็นเช่นนี้ 5 วัน อีก 2 วันที่เหลือ วันหนึ่งใช้เวลาไปกับการเตรียมจัดงานปาร์ตี้ (ซึ่งหัวแรงหลักคือคุณพ่อบ้านกับคุณเมด) และอีกวันจะต้องเดินทางไปร่วมพิธีในโบสถ์ยามเช้า พักผ่อนตามอัธยาศัย ทำงานอดิเรกเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างการอ่านหนังสือหรือปักผ้า ในยามเย็น
โดยรวมแล้วช่างเป็นชีวิตที่...เหลวแหลก เกียจคร้าน เริ่ดหรู และไร้แก่นสารเสียจริง ๆ
ฉันปิดหนังสือลงด้วยความรู้สึกสะพรึง อันที่จริงทุกคนก็คงไม่เป็นเช่นนี้ ท่านหญิงที่ฉันอ่านน่าจะเป็นตัวอย่างที่สุดขั้ว แต่เรื่องราวแบบนี้กลับได้จารึกและเก็บไว้ในหอหนังสือของราชวงศ์ แถมท่านพ่อของคาบุรากิยังเป็นคนแนะนำหนังสือเล่มนี้อีกต่างหาก นี่มันเป็นหนังสือที่ควรแนะนำให้เด็กสาวที่ยังไม่ออกเรือนอ่านจริง ๆ เหรอ นอกจากความเหลวแหลกแล้ว ฉากบรรยายเกี่ยวกับเรื่องน่าอายก็ยังละเอียดยิบราวกับหนังสือนิยายทำมือแบบอันคัตสำหรับสาวฟุอีกต่างหาก หรือว่าเด็กสาวของที่นี่จะเรียนรู้เพศศึกษาผ่านหนังสือแบบนี้กันนะ!? น่าตกใจเกินไปแล้ว!!
ฉันวางหนังสือเล่มนี้ให้ห่างจากตัวที่สุด เพราะตั้งใจจะเอาไปคืน ไม่เก็บไว้ให้มาโอะจังเห็นเด็ดขาด และพอเงยหน้าขึ้นมาอีกที ก็พบว่าเป็นตอนเย็นแล้ว
ฉันมองตารางเวลาที่ทำไว้สำหรับอ่านหนังสือเรื่องธรรมเนียมปฏิบัติต่าง ๆ แล้วรู้สึกตกใจ จริง ๆ แล้ววันนี้ฉันต้องอ่านมารยาทบนโต๊ะอาหารให้จบ แต่ดันอ่านเรื่องของท่านหญิงผู้เหลวแหลกจนเพลินไปซะนี่ สงสัยพรุ่งนี้ต้องเร่งอ่านหนังสือแล้ว!
.....