ละเลียดเค้กมาจนถึงคำสุดท้ายก็คิดว่าน่าจะได้เวลากลับ แต่ชิฟฟ่อนรสส้มนี่อร่อยชะมัด...สั่งกลับบ้านอีกดีกว่า
คราวก่อนที่เอาเค้กลูกพลัมกลับไปฝากคนที่บ้านก็ได้รับคำชมเชยอย่างมากในด้านรสชาติ เพราะฉะนั้น เรย์กะก็คิดว่าจะสั่งกลับไปให้กินอีก พี่ชายของเธอต้องชอบแน่ๆ
“ขอโทษนะคะ ขอสั่งเค้กกลับบ้านหน่อย”
“ครับ”
คุณบาริสต้าคีบเค้กจากตู้ใส่กล่องตามที่สั่งแล้วคิดเงิน
“ไม่ทราบว่าเค้กนี่...ทางร้านทำเองรึเปล่าคะ”
“เปล่าหรอกครับ ขนมส่วนใหญ่รับมาจากร้านของเพื่อนน่ะ แต่บางอันผมก็ทำเอง...อย่างคีชผักโขมเมื่อตอนนั้น”
“เอ๋!! จริงเหรอคะ”
“อื้อ แต่ทำไว้ไม่เยอะหรอก ประมาณสามสี่อัน ให้ขายหมดในแต่ละวันเป็นพอ”
“คีชอร่อยมากเลยล่ะค่ะ”
“ดีใจที่ได้ยินแบบนั้นนะ”
"คนที่ทำของอร่อยขึ้นมาก็ต้องได้รับคำชมสิคะ"
“อ้อ จริงสิ” คุณบาริสต้าเปิดลิ้นชักแล้วหยิบสิ่งที่หน้าตาเหมือนนามบัตรขึ้นมา “พอดีบัตรสะสมแต้มอันเก่ามันมีข้อผิดพลาดในการพิมพ์นิดหน่อย...เอาใบใหม่ไปแทนนะครับ”
บัตรสะสมแต้มใบใหม่ก็ไม่ค่อยต่างอะไรจากของเดิมมากนัก เรย์กะลองพลิกดูก็พบว่ามีเบอร์โทรของร้านเพิ่มมาด้วย
“ถ้าจะมาทานก็โทรบอกตามเบอร์นี้ได้เลยนะ ผมจะเก็บไว้ให้”
“ขอบคุณมากนะคะ” เรย์กะโค้งหัวให้
แต่ก่อนออกจากร้านก็เหลือบมองผู้ชายผมดำที่ดูเหมือนเสือดำนั่น ตอนนี้ผู้ชายคนนั้นนั่งเอกเขนกไขว่ห้าง จิบชา อ่านหนังสือเหมือนกับอยู่ในห้องนั่งเล่นบ้านตัวเองยังไงยังงั้น
เหมือนรู้ตัวว่าถูกมอง เพราะคนชื่อมาซายะละสายตาจากหนังสือขึ้นมาสบตากับเธอ คิ้วขมวดหน่อยๆอย่างไม่พอใจแล้วหันกลับไปสนใจหนังสือต่อ ไม่มองมาทางนี้อีก
แค่นั้นก็ทำเรย์กะกลัวลนลานต้องรีบออกจากร้านแล้ว
ระหว่างเดินทางกลับบ้าน เรย์กะลองมาคิดๆดูถึงสาเหตุของสายตาคมปลาบที่มองมานั่น...
เอ...หรือว่าคนที่ชื่อมาซายะจะไม่พอใจเพราะเห็นเธอเข้าใกล้แฟนหนุ่มของตัวเองมากเกินไป ใช่มั้ยนะ
เอาไงดี อยากกินเค้กก็อยากกิน แต่ควรจะอธิบายให้เข้าใจกันไปเลยมั้ยนะว่าเธอไม่ได้คิดอะไรกับคุณบาริสต้าเลยซักนิด อย่าหึงหวงเธอเลย และเธอยินดีสนับสนุนความรักของทั้งคู่อย่างเต็มที่
เรย์กะกลับบ้านไปพร้อมกับกล่องเค้กและความคิดที่สับสนว่าจะอธิบายอย่างไรดีให้ผู้ชายคนนั้นเข้าใจ
-------------------------
ชื่อยังไม่ถาม แต่แจกเบอร์โทรไว้อ่อยซะแล้ว ชูสุเกะคุงงงงง