เมื่อเลือกชาได้ก็เป็นเวลาของการชงชา เรย์กะมองบาริสต้าหนุ่มที่มือไม้คล่องแคล่ว เดี๋ยวก็วัดอุณหภูมิน้ำร้อนในการอุ่นกา เดี๋ยวก็เทใบชาใส่ที่กรอง กลิ่นหอมบางเบาของใบชาที่ถูกน้ำร้อนแทรกปะปนในอากาศผสมกับกลิ่นของกาแฟไม่ได้ทำให้รู้สึกขัดกันแต่อย่างใด
เรย์กะจดบันทึกไว้ในใจว่าต้องมาที่ร้านนี้อีก
“คุณพี่สาวไม่รับขนมหวานทานเพิ่มเหรอฮะ อย่างเค้กผลไม้รวมก็อร่อยนะฮะ”
“แหม..ตายจริง ถ้าพูดถึงขนาดนั้นก็ต้องขอลองชิมซักหน่อยแล้วล่ะค่ะ”
เรย์กะส่งยิ้มให้หนุ่มน้อยที่พยายามเสนอขายสินค้าแบบเอ็นดู เดินไปหยุดตรงหน้าตู้ใส่เค้กที่มีสินค้าให้เลือกหลากหลาย ส่วนใหญ่ก็เป็นขนมอบและเค้กที่ดูน่าทาน ถ้าจะสั่งมาทานอย่างละชิ้นจะดูตะกละไปรึเปล่านะ
สุดท้ายก็ตัดใจเลือกแค่คีชผักโขมมารับประทาน ส่วนของหวานเอาเป็นเค้กลูกพลัมที่เป็นเมนูเด่นวันนี้ เพราะนี้ใกล้จะเที่ยงแล้ว เธออยากทานให้เป็นกิจลักษณะไปเลยดีกว่ามานั่งเล็มของทานเล่นแบบนี้
เรย์กะมองไปรอบๆเพื่อหาที่นั่ง แล้วก็ไปสะดุดตากับมุมหนึ่งที่เป็นโซฟาแบบอาร์ตนูโวแบบนั่งคนเดียวมีโคมไฟน่ารักติดอยู่ แถมมุมนั้นก็ถูกจัดไว้อย่างสวยงามเหมือนภาพที่ลงนิตยสารแต่งบ้าน เหมาะที่จะนั่งพักผ่อนหย่อนใจ
เธอเดินเข้าหาโซฟาตัวนั้นแบบไม่ลังเล
คุณบาริสต้ายกถาดชามาให้เธอพร้อมกับโถใส่นม น้ำผึ้ง น้ำตาล มะนาวฝาน ยิ้มแย้มให้เธอ บอกว่าให้ทานให้อร่อยแล้วกลับไปทำงานต่อ
เรย์กะลองจิบแบบยังไม่ใส่อะไรดู….อืม...อร่อยกว่าที่เธอลองชงกินเองที่บ้านซะอีก ให้เธอชงเองนี่ไม่ต่างอะไรกับการเอาใบไม้แห้งๆใส่ลงไปในน้ำร้อนแล้วก็ได้ของเหลวรสชาติเฝื่อนๆทุกที
ไม่กี่นาทีหลังจากนั้น เด็กชายผมสีอำพันก็เดินเข้ามาหา ถือถาดใส่อาหารที่เธอสั่งไปเมื่อครู่นี้มาให้
“ระวังร้อนนะฮะ”
“ขอบใจมากนะ”
คีชที่สั่งไปนั้นร้อน คงจะเอาไปอุ่นให้เมื่อครู่นี้ พอตักเข้าปากก็ได้รสชาติของครีม ชีส ผักโขม นม ที่ผสมกันอย่างลงตัวจนอยากจะสั่งอีกชิ้น เค้กลูกพลัมก็ไม่น้อยหน้า เนื้อแป้งเบาและฟูกำลังดี ลูกพลัมเชื่อมบนตัวเค้กก็อร่อย ไม่หวานมากไปหรือน้อยไป ทานกับชาก็เข้ากันดีเยี่ยม
เรย์กะคิดในใจว่าต้องซื้อกลับไปฝากคนที่บ้านอย่างแน่นอน
เธอนั่งละเลียดเค้กมองคนที่เดินเข้าเดินออกแบบเพลิดเพลิน บางคนก็แวะเข้ามาสั่งเครื่องดื่มแล้วก็ไป แต่บางคนก็มานั่งอ่านหนังสือหรือทำงานอะไรไปด้วยไม่รบกวนกัน
คุณบาริสต้าทำงานง่วนอยู่ตรงเคาน์เตอร์แทบไม่ได้หยุดพัก นอกจากจะชงชาคล่องแคล่วแล้ว เรื่องกาแฟก็ไม่ค่อยแตกต่างมากนัก ถึงเรย์กะจะไม่ค่อยชอบกาแฟแต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าถ้าลองสั่งกาแฟดื่มดู คุณบาริสต้าจะชงได้อร่อยเหมือนที่ชงชารึเปล่า
เมื่อเค้กและชาหมดลง เรย์กะก็คิดว่าสมควรได้เวลาที่จะต้องไปจึงคว้ากระเป๋าสะพายพาดบ่าลุกขึ้นจากโซฟาที่นั่ง อีกมือถือกล่องเค้กที่สั่งกลับบ้าน
เด็กชายผมสีอำพันที่กำลังเช็ดโต๊ะอยู่ไม่ไกลหันมาเห็นก็ส่งยิ้มน่ารักๆให้
“แล้วมาใหม่นะฮะ คุณพี่สาว”
“จ๊ะ” เธอรับคำด้วยรอยยิ้ม
แต่ยังไม่ทันก้าวออกจากร้าน คุณบาริสต้าก็เดินตามหลังเธอมา ยื่นกระดาษแผ่นเล็กๆขนาดเท่านามบัตรที่มีตราประทับโลโก้ร้านให้
“บัตรสะสมแต้มครับ สิบแก้วฟรีหนึ่ง จะสั่งเมนูอะไรในร้านก็ได้”
“..เอ่อ ขอบคุณนะคะ” เรย์กะโค้งหัวให้เล็กน้อย
“ขอบคุณที่มาใช้บริการนะครับ” คุณบาริสต้าสบตากับเธอพลางส่งยิ้มให้อย่างนุ่มนวล “โอกาสหน้าขอเชิญมาที่ร้านเราอีกนะ”
“เอ่อ ค่ะ” เธอรับคำอย่างเงอะงะ รู้สึกเหมือนตากำลังจะบอดเพราะรอยยิ้มเจิดจ้านี้อย่างไรชอบกล
ออกจากร้านไป เรย์กะก็รู้สึกอารมณ์ดีสุดๆ เพราะได้พบสถานที่ดีๆ ชาอร่อยๆ ขนมอร่อยๆ
ทีแรกเธอคิดว่าร้าน Castle จะเป็นร้านเงียบเหงาไม่ค่อยมีลูกค้า ชั่วแว้บหนึ่งจึงคิดอยากจะช่วยโปรโมทลงบล็อคให้ แต่พอเห็นคนที่แวะเวียนเข้ามาใช้บริการ ถึงจะไม่มากมายแบบร้านกาแฟแฟรนไชส์ชื่อดังตามศูนย์การค้า แต่ก็ถือว่าไม่น้อยเลยทีเดียว
เรย์กะจึงตกลงใจว่าจะไม่เอาเรื่องนี้ลงบล็อค ให้เป็นสถานที่ลับๆโอเอซิสของเธอไปดีกว่า เกิดถ้าวันหนึ่งมันได้รับความนิยมมาก โซฟาที่เธอชอบตัวนั้นอาจจะโดนแย่งที่ไปก็ได้
อีกอย่าง ร้านที่บรรยากาศสงบเงียบแบบนี้ก็ควรรักษาบรรยากาศดีๆเอาไว้ ไม่ควรให้มันถูกทำลายด้วยเสียงจ๊อกแจ๊กจอแจของคนที่มาใช้บริการ
ไม่ได้เกี่ยวกับบาริสต้ายิ้มหวานคนนั้นแต่อย่างใดเลยนะ
-------------------------------
บัตรสะสมแต้ม กินครบสิบครั้งได้เจ้าของร้านไปนอนกอด//ผิดๆๆ
เวิ่นเว้อเพราะกาแฟยามดึกเลยออกมาเป็นฟิคนี้ คือกูควรจิบกาแฟเพื่อปั่นงานไง แต่กลายเป็นว่ากูปั่นฟิคแทน แล้วงานล่ะ..........