Fanboi Channel

ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับการรอคอยให้ท่านฮิมาต่อพร้อมกับการเปิดตัวพระเอกที่เหล่าโม่งกำลังสับสน [การย้ายเรือไปมารอบที่29จากการเมากาวของเหล่าโม่งฟิค]

Last posted

Total of 1000 posts

532 Nameless Fanboi Posted ID:qHc9blhpw9

AU ฮอกวอตส์ค่ะ ได้แรงบันดาลใจจากการไปดู FB2 วันนี้

--------------------

ชูสุเกะเดินลากขาเอื่อยๆไม่เร่งร้อนตามหลังมาซายะที่ก้าวไปข้างหน้าฉับๆแบบกระตือรือร้น ข้างๆตัวเขาคือเรย์กะที่มีสีหน้าดูละเหี่ยใจไม่ต่างกันมากนัก

หลังมื้อเย็น มาซายะก็วิ่งตรงจากโต๊ะกริฟฟินดอร์มาหาเขาที่โต๊ะของสลิธีรีน บอกแค่ว่ามีที่ที่อยากให้มาด้วยกันแล้วก็ลากเขาออกมาโดยที่ยังไม่ทันจะวางช้อนลงเลยด้วยซ้ำ

เรย์กะเองก็ถูกลากออกมาด้วยเหมือนกัน เธอยังดูอาลัยอาวรณ์กับขนมหวานอยู่เลย ตอนเดินก็จ้องมองมาซายะด้วยความขุ่นเคืองเหมือนว่าถ้าเป็นเรื่องไร้สาระเธอจะวีนใส่แน่ๆ

เดินผ่านระเบียงหลายที่และบันไดอีกหลายแห่งก็มาหยุดที่ห้องเรียนห้องหนึ่ง มาซายะอธิบายว่าเมื่อหลายวันก่อน ตอนที่กำลังหลบกลุ่มสาวๆที่มาตามตื๊อให้ไปฮอกส์มี้ดด้วยอย่างน่ารำคาญก็ได้บังเอิญมาเจอที่นี่เข้า แล้วก็เดินนำหน้าเราสองคนเข้าไป

ข้างในคือห้องเรียนโล่งๆ เครื่องเรือนมีผ้าคลุมเอาไว้ ดูจากฝุ่นที่จับหนาเตอะก็เข้าใจว่าไม่มีใครมาใช้ที่นี่นานมากแล้ว

“ฉันมีอะไรจะให้พวกนายทั้งสองคนดู”

มาซายะเดินอาดๆไปยังผนังที่ถูกคลุมผ้าไว้ อันที่จริงมันก็ไม่ใช่ผนังหรอก เพราะเมื่อดึงผ้าออกมา ชูสุเกะและเรย์กะก็เห็นว่ามันคือกระจกเงาที่สูงมากเกือบจรดเพดาน กรอบทองสลักลวดลายงดงามและเหมือนจะมีอะไรบางอย่างเขียนไว้ เขาอ่านออกไม่กี่คำ

Erised...เอริเซด คืออะไรน่ะ

“มาตรงนี้สิ” มาซายะกวักมือให้พวกเขาเข้าไปหา เรย์กะดูอิดออดเล็กน้อย

“มันจะไม่เป็นอันตรายเหรอคะ ถ้าเกิดว่าเราถูกดูดเข้าไปในอีกมิติจะทำยังไงล่ะ”

“ก็ไม่นะ ฉันมาที่นี่หลายครั้งแล้ว...มันออกจะ….ดูมีความสุข”

“อื๋อ”

“ก็ภาพในกระจกยังไงล่ะ ภาพของฉันกับทาคามิจิ” มาซายะตอบอย่างกระตือรือร้น “ฉันกับทาคามิจิแต่งงานกัน เธอเป็นเพื่อนเจ้าสาวด้วยคิโชวอิน มาดูสิ”

มาซายะกระเถิบตัวไปข้างๆให้เรย์กะมายืน ปากก็ยังคงพูดต่อไป ส่วนเรย์กะทำหน้าแปลกๆตอนเดินเข้าไปใกล้ๆกระจกเงา ดวงตากลมโตเบิกกว้างจ้องมองสิ่งที่อยู่ในนั้นอย่างพิศวง

“เอ...ไม่เห็นจะมีงานแต่งเลยนี่คะ”

“มีสิ ต้องมีสิ เธอยังไปยืนรอรับช่อดอกไม้จากเจ้าสาวอยู่เลย นั่นไง ไม่เห็นเหรอ”

“ก็ไม่นี่คะ”

“ถ้าไม่ใช่งานแต่งแล้วจะเป็นอะไร”

“เอ่อ...ฉันเห็นตัวเองมีชีวิตที่สงบสุขค่ะ”

มาซายะขมวดคิ้ว ดูท่าทางไม่เข้าใจและเริ่มจะหาพวก

“ชูสุเกะ มาช่วยยืนยันซิว่านายเห็นแบบเดียวกับฉัน”

“คร้าบๆ”

ชูสุเกะเดินเข้าไปยืนซ้อนด้านหลังเรย์กะ เธอตัวเล็กกว่าพวกเขามาก ความสูงก็เท่าไหล่ เลยไม่จำเป็นต้องเขยิบที่ให้

เขาจ้องมองเข้าไปในกระจก มาซายะพยายามชี้ให้ดูว่าภาพที่เห็นมันควรจะเป็นอะไร เขาไม่ได้อยากรู้ว่ามาซายะเห็นอะไรหรอก

สิ่งที่เขาอยากรู้คือเรย์กะเห็นอะไรมากกว่า และเขาก็อยากเห็นมันด้วย

น่าแปลกที่ชูสุเกะไม่ได้เห็นอะไรแบบที่มาซายะหรือเรย์กะว่ามาเลยสักนิด เขาเห็นตัวเองยืนอยู่ด้านหลังของเรย์กะ มีเธอยืนอยู่ตรงหน้าเหมือนเดิม เหมือนมันเป็นแค่กระจกเงาธรรมดา แต่ไม่มีมาซายะยืนอยู่ด้วยทั้งที่ยืนข้างๆกัน

“เห็นมั้ยชูสุเกะ นายยืนอยู่ตรงนั้นข้างๆฉัน เป็นเพื่อนเจ้าบ่าวน่ะ” มาซายะชี้ชวนให้ดู หันมามองเขาอย่างกระตือรือร้น “พวกนายว่ากระจกนี้มันบอกอนาคตได้ใช่มั้ย ฉันกับทาคามิจิจะได้แต่งงานกัน...”

“เอ...ไม่รู้สิ”

ชูสุเกะไล่สายตามองขึ้นไปด้านบน ลวดลายสลักที่เขาเห็นเหมือนจะเป็นตัวอักษร ไม่น่าจะใช่อักษรรูน เขาอ่านไม่ออกและแปลไม่ได้ว่ามันคืออะไร

“Erised stra ehru oyt ube cafru oyt on wohsi”

เรย์กะละสายตาออกจากกระจกเป็นคนแรก ร้องเตือนให้พวกเขากลับไปที่หอนอน มาซายะเดินจากมาอย่างอ้อยอิ่งดูเสียดาย

ชูสุเกะหันไปมองกระจกเป็นหนสุดท้าย ภาพในกระจกก็ยังสะท้อนเป็นภาพเขายืนข้างๆเรย์กะเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

.
.
.
.

533 Nameless Fanboi Posted ID:qHc9blhpw9

กระจกนั่นมันคืออะไรกันนะ

ชูสุเกะครุ่นคิดเรื่องนี้ไปในขณะที่ทำการบ้านวิชาแปลงร่าง ปกติเขากับมาซายะก็มาสุมหัวกันในห้องเรียนว่างๆเพื่อทำการบ้านด้วยกันมาตั้งแต่ปีหนึ่งแล้ว ตอนนี้ห้องก็มีสมาชิกเพิ่มมาอีกคนคือเรย์กะ

คราวแรกเธอปฏิเสธมาซายะไม่ยอมให้สอนการบ้าน และดูอิดออดเมื่อชูสุเกะนั่งลงข้างๆและขอดูในส่วนที่เธอติดขัด แต่พออธิบายให้ฟังจนเข้าใจ สายตาเธอก็เปล่งประกายขึ้นมาคล้ายๆกับจะเป็นความนับถือและเต็มไปด้วยความคาดหวัง

ชูสุเกะชอบเวลาที่เธอมองมาแบบนี้ มันน่ารัก ดวงตากลมโตทำให้เขานึกถึงกระต่ายขาว

ถ้าเขาใช้คาถาแปลงร่างให้เธอกลายเป็นกระต่ายแล้วเอากลับหอนอนสลิธีรีนจะเป็นอะไรมั้ยนะ

ระหว่างที่รอให้เรย์กะเขียนการบ้านของตัวเอง เขาก็มองมาซายะที่ทำการบ้านของตัวเองเสร็จไปนานแล้ว กำลังขีดเขียนอะไรท่าทางเคร่งเครียด พอชำเลืองดูก็เห็นว่าเป็นข้อความที่ลอกมาจากกระจกเมื่อวาน คงจะเอามาถอดรหัสตามนิสัยที่ชอบอะไรแบบนี้

มาซายะเปิดตำราตัวอักษรวิเศษวุ่นวายไปหมดเขาเลยกลับมาสนใจเรย์กะเหมือนเดิม คอยอธิบายการบ้านวิชาปรุงยาต่อไป

ผ่านไปหลายสิบนาที มาซายะก็โห่ร้องออกมา เขากับเรย์กะที่กำลังทำการบ้านวิชาสมุนไพรศาตร์อยู่ก็เงยหน้าขึ้นแบบตกใจนิดๆ

“มีอะไรเหรอ”

“ฉันนี่มันอัจฉริยะจริงๆ”

“อะไรหรือคะ”

“ดูสิ พวกนายดู” มาซายะยืดอกขึ้นแล้วชูกระดาษที่มีร่องรอยการขีดเขียนเต็มไปหมดให้ดู

“นี่คือ….”

“รหัสที่ฉันคิดมาหลายวันแล้ว” มาซายะนั่งลงบนเก้าอี้ตามเดิมแล้วหยิบกระดาษแผ่นใหม่ขึ้นมาเขียนข้อความจากกระจก “ทีแรกฉันก็เปิดตำราอ้างอิงจากที่นั่นที่นี่แต่ก็ไม่เจอคำที่มีความหมายเลย”

“อือฮึ แล้วไงต่อ”

“แล้วฉันก็แยกออกเป็นคำๆ ลองเขียนสลับตัวอักษรสร้างคำใหม่ดู ไอ้เราก็คิดไปโน่นแต่ความจริงมันง่ายแค่นี้เอง”

ปากกาขนนกในมือของมาซายะลากเป็นตัวอักษร Erised

“แล้วพวกนายดูนะ” มาซายะเขียนข้างใต้คำว่า Erised ด้วยการเรียงอักษรสลับจากหลังไปหน้า

“Desire...” ชูสุเกะอ่านแล้วเงยหน้าขึ้นมอง “ถ้าอย่างนั้น...ตัวอักษรแรกก็...”

“ใช่ เราก็ใช้หลักการเดียวกันในการถอดความยังไงล่ะ” มาซายะลากปากกาขนนกอีกหน “ถ้าเอาตัวอักษรพวกนี้มากลับจากหลังไปหน้า...เราก็จะได้ข้อความนี้”

มันเป็นข้อความที่ไม่ประติดประต่อกัน แต่ยังพออ่านใจความได้อยู่บ้าง มาซายะเขียนเว้นวรรคจัดถ้อยคำใหม่ให้อ่านง่ายขึ้นทีละตัว

“I show not your face but your hearts desire” คุณจะไม่ได้เห็นใบหน้า หากแต่จะเห็นความปรารถนาในหัวใจ

ชูสุเกะและเรย์กะอ่านข้อความพร้อมกัน มาซายะดูยืดอกอย่างภาคภูมิใจคล้ายๆจะอวดว่า “เป็นไงล่ะ”

“นี่คงเป็นคอนเซปท์ของกระจกนี้” มาซายะอธิบายด้วยท่วงท่าสง่างาม “สะท้อนให้เห็นถึงความปรารถนาข้างในใจ...ที่ฉันเห็นว่าตัวเองได้แต่งงานกับทาคามิจิก็คือความปรารถนาของฉัน”

“ถ้าอย่างนั้นที่ฉันเห็นว่าตัวเองใช้ชีวิตแบบสงบสุขนี่ก็…” เรย์กะพึมพำ

“นั่นความปรารถนาของเธออย่างนั้นเรอะ” มาซายะพยักหน้าหงึกหงัก “ออกจะเรียบง่ายไปหน่อยนะ”

“ชีวิตแบบเรียบง่ายนี่ล่ะค่ะดีที่สุดแล้ว”

“แล้วชูสุเกะล่ะ เห็นอะไรในกระจกเมื่อวาน”

มาซายะหันมาจ้องมองเขา เรย์กะเองก็ด้วย ทั้งคู่ดูจะลุ้นอยู่หน่อยๆ

“สิ่งที่เห็นอย่างนั้นเหรอ”

ชูสุเกะจ้องมองเรย์กะแล้วอมยิ้ม

“กระต่ายน่ะ”

“เอ๋”

“อื้อ กระต่ายสีขาว ตากลมโต น่ารักมากๆ”

“....”

“ไม่เห็นจะเข้าใจเลย” มาซายะขมวดคิ้ว “หรือนายเห็นข้อสอบว.พ.ร.ส. เราต้องแปลงร่างกระต่ายอะไรทำนองนั้นใช่มั้ย นั่นความปรารถนาของนายเหรอชูสุเกะ”

เรย์กะมีท่าทีงุนงงไม่แพ้กัน แต่พอสบตากับชูสุเกะก็ก้มหน้างุดๆเขียนการบ้านลงบนกระดาษวิชาสมุนไพรศาสตร์ต่อจากเมื่อครู่นี้ที่ถูกขัดจังหวะ กลับเข้าสู่ภาวะเดิมกันอีกครั้ง

บางทีเมื่อครู่นี้ ชูสุเกะคิดว่าตัวเองอาจจะออกนอกหน้ามากเกินไปหน่อย เพราะเรย์กะไม่ยอมสบตาอีกเลย เอาแต่ก้มหน้ามองหนังสือ เขาเลยต้องไปกระซิบข้างหูคอยสอนการบ้านให้เธอใกล้ๆด้วยเสียงที่นุ่มนวลกว่าปกติ จ้องมองเธอที่แก้มเป็นสีแดงระเรื่ออย่างเพลิดเพลิน

เขาได้แต่ยิ้มเมื่อเข้าใจในปริศนาของกระจกว่าทำไมเขาถึงเห็นแค่เรย์กะและตัวเขาเอง

นี่สินะ ความปรารถนาของเขา

ชูสุเกะคิดว่ามาซายะช่างใสสะอาดและตรงไปตรงมา แม้กระทั่งความปรารถนาก็ยังนับรวมพวกเขาเป็นเพื่อนไปจนถึงวันแต่งงาน มีทุกคนรายล้อมอวยพร แต่ชูสุเกะไม่เห็นใคร เห็นแค่เรย์กะคนเดียว

ถ้ามีแค่เรย์กะ เขาก็ไม่ต้องการใครอีกแล้ว

.
.
.
.
.

คุณจะไม่ได้เห็นใบหน้า หากแต่จะเห็นความปรารถนาในหัวใจ

534 Nameless Fanboi Posted ID:qHc9blhpw9

ฉากที่เป็นแรงบันดาลใจคือฉากดัมเบิลดอร์มองกระจกแล้วเห็นกรินเดลวัลล์ข้างในนั้น ไม่สปอยใช่มั้ยนะ มันมีอยู่ในตัวอย่างหนัง

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.