ฉันบอกกับเอ็นโจว่าจะทำข้าวกล่องมาให้ เอ็นโจก็ยิ้มแล้วบอกว่าซื้อวัตถุดิบมาช่วยกันทำจะดีกว่า
พอตกลงเมนูได้ เราสองคนเลยไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตเพื่อเลือกซื้อวัตถุดิบมาทำอาหาร แต่เอ็นโจดูมีเป้าหมายแน่วแน่ไม่ค่อยจะแวะข้างทางเท่าไหร่ อย่างเช่นซื้อซอสก็เดินตรงลิ่วๆเข้าล็อคขายซอสเลยทันที ไม่เหมือนคาบุรากิที่ดูจะสนใจไปทุกอย่างเลยแวะทุกซุ้มชิมอาหารเหมือนคราวนั้น
ถึงเอ็นโจจะเคยเข้าครัวมาก่อน แต่ในฐานะที่ฉันที่มีประสบการณ์ในงานครัวมากกว่า จากการเป็นลูกศิษย์ของคุณอาคิมิและคันตะคุงมานานหลายปี จะให้เห็นความเท่และความเชี่ยวชาญที่สั่งสมมาของเชฟเรย์กะจังเอง
ฉันวางท่าเป็นรุ่นพี่อวดความรู้เรื่องการทำอาหารใส่ แต่ต้องถอยกรูดกลับมาแทบไม่ทันเมื่อเจอทักษะการใช้มีดอย่างชำนาญของเอ็นโจเข้าไป…..หนอย ฉันยังแตงกวาหนาไม่เท่ากันอยู่เลยนะยะ
เอ็นโจมีเซนส์ของพ่อบ้านเกินคาดแฮะ รู้ว่าต้องซื้ออะไรหรือใส่เครื่องปรุงแบบไหนถึงจะออกมาอร่อย ไหนบอกว่าปกติไม่ได้ทำอาหารเองยังไงล่ะยะ นี่มันอร่อยเหมือนมืออาชีพมาทำให้ชัดๆเลยนะ หมอนี่จะความสามารถเยอะเกินไปแล้ว
พอฉันหน้ามุ่ย เอ็นโจก็ใช้ช้อนตักทีรามิสุช่วยกันทำเมื่อครู่นี้ยื่นมาที่ปาก “อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ ทานของหวานช่วยให้อารมณ์ดีนะ เอ้า อ้ามมม”
ฉันเหลือบมองคนป้อนนิดหน่อยแล้วอ้าปากงับขนม อ๊ะ อร่อยจัง...ขออีกคำจะได้มั้ยนะ
เหมือนเอ็นโจจะรู้เรื่องที่ฉันคิดอยู่ เพราะตักป้อนให้เรื่อยๆจนหมดถ้วย อืมม อร่อยมากเลยล่ะ ทำอาหารกินกันเองมันก็ได้บรรยากาศอบอุ่นแบบที่ซื้อไม่ได้จากร้านอะเน้อ
เรื่องนี้ทำเอาฉันนึกถึงเรื่องหนีตามกันขึ้นมา ถ้าหนีไปอยู่กันแบบสามัญชนด้วยกันสองคน ฉันอาจจะได้กินอะไรแบบนี้ทุกวันจนน้ำหนักขึ้นแล้วใส่กระโปรงตัวเดิมไม่ได้ก็ได้นะ
เหมือนเป็นข้อตกลงเล็กๆว่าเราจะทำอาหารด้วยกันในวันหยุดที่มีเวลาว่าง บางคราวเราก็เชิญคาบุรากิกับวาคาบะจังมาทานด้วย และบางครั้งก็มียูกิโนะคุง มาโอะจัง ยูริคุง ท่านพี่ ท่านอิมาริเข้ามาก็เป็นปาร์ตี้เล็กๆที่สนุกสนาน อาหารก็อร่อยด้วยฝีมือวาคาบะจังและเอ็นโจที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลัก
ฉันจะเข้าไปช่วยบ้างแต่ก็ถูกใช้ให้ทำอะไรเล็กๆน้อยๆอย่างเช่นตักฟองออกจากน้ำซุป จัดจาน หรือไม่ก็โปรยสาหร่ายหั่นฝอย ระหว่างนั้นทั้งคู่ก็จะชมตลอดว่าฉันเก่งมาก ทำได้ดีมาก ฉันยิ่งมีกำลังใจเต็มเปี่ยมในการช่วยเหลือ
บางที เอ็นโจก็เรียกฉันเข้าไปช่วยชิมตอนปรุงรส ภาพที่เอ็นโจตักอาหารป้อนฉันถึงปากคงไปกระตุ้นต่อมหมั่นไส้อะไรของคาบุรากิก็ไม่ทราบ ถึงไปทำท่าอาเจียนใส่กระถางต้นไม้ มารยาทแย่อะไรอย่างนี้นะ
อิจฉาล่ะสิ วาคาบะจังไม่ค่อยมีเวลาให้เลยพาลใช่มะ
ว่าแล้วฉันก็เข้าไปกระแซะวาคาบะจัง เสนอตัวเป็นลูกมือช่วยทำของหวาน วาคาบะจังก็ยินดีให้ช่วย เป็นการกีดกันคาบุรากิที่ทำงานครัวอะไรไม่เป็นเลย ออกไปเป็นคนนอกโดยปริยาย
โอะโฮะโฮะโฮะ ตรงนี้น่ะมันพื้นที่สำหรับคนทำอาหารเป็นเท่านั้นย่ะ บ้าพลังอย่างนายไปยกเตาบาร์บีคิวออกไปจุดไฟข้างนอกไป๊!!
พอฉันกับวาคาบะจังยกถาดเนื้อที่เสียบไม้ออกไปให้พวกหนุ่มๆข้างนอกย่างบาร์บีคิว คาบุรากิก็รีบพาวาคาบะจังไปนั่งที่โซฟาตัวเดียวกัน เป็นโซฟาสองที่นั่ง อีกฝั่งก็เป็นสระว่ายน้ำไม่มีที่ให้วางเก้าอี้ ไม่เปิดช่องให้ฉันไปนั่งข้างๆวาคาบะจังแม้แต่น้อย หมอนี่ใจแคบชะมัดเลยอ่ะ
เดี๋ยวเหอะ!! ถ้าฉันเอาจริงขึ้นมานายจะหนาว มาลองดูกันมั้ยล่ะว่าวาคาบะจังจะเลือกใครน่ะ
ฉันส่งสายตาไปท้าทายใส่คาบุรากิ เกิดเป็นสายฟ้าแลบแปลบปลาบในอากาศ มีวาคาบะจังอยู่ตรงกลางมองทางนั้นทีทางนี้ทีเหมือนพยายามจะห้าม
ยังไม่ทันจะไปท้าพนันอะไร ก็ได้กลิ่นหอมๆของบาร์บีคิวที่ย่างสุกแล้วโชยมา เอ็นโจเรียกฉันให้ไปทานบาร์บีคิวที่กำลังย่างอยู่ เป็นอันว่าสงครามครั้งนี้ยุติกันไปก่อน
กองทัพต้องเดินด้วยท้องนะคะ
--------------------------
ตอนพิเศษยังไม่หมดนะ