Fanboi Channel

ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับการรอคอยให้ท่านฮิมาต่อพร้อมกับการเปิดตัวพระเอกที่เหล่าโม่งกำลังสับสน [การย้ายเรือไปมารอบที่29จากการเมากาวของเหล่าโม่งฟิค]

Last posted

Total of 1000 posts

441 Nameless Fanboi Posted ID:F+kx.U/5Q.

เห็นกระทู้เงียบๆเลยมาลงฟิคให้
กาลครั้งหนึ่งในฝัน ตอนพิเศษ 1 >>>/webnovel/6114/357-359
---------------------------

จากวันนั้นจนถึงวันนี้ รู้ตัวอีกทีเวลาก็ผ่านไปถึงเจ็ดปีแล้ว

ฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อเลย เจ็ดปีเชียวนะที่คบกันมาในฐานะแฟน เอ่อ...จริงๆก็ไม่ถึงเจ็ดปีหรอก เพราะฉันก็เพิ่งจะตกลงยอมรับคำขอเป็นแฟนจากเอ็นโจไปเมื่อสองสามปีที่ผ่านมานี่เอง

แต่ก่อนหน้านั้นเอ็นโจเทคแคร์ฉันเหมือนที่เทคแคร์แฟนทุกอย่าง ไปรับส่งถึงที่ ช่วงเทศกาลก็ซื้อของขวัญพิเศษๆให้ พาไปเที่ยวที่นั่นที่นี่ในช่วงวันหยุด หรือชวนไปกินอะไรด้วยกันหลังเลิกเรียน บางทีก็พ่วงคาบุรากิกับยูกิโนะคุงไปด้วย บรรยากาศก็คล้ายๆกับช่วงมัธยมที่เราสามคนจะไปกินนั่นกินนี่หลังเลิกเรียน ก็เลยไม่รู้สึกเกร็งอะไรอะนะ

ไม่รู้เมื่อไหร่ที่การจับมือ คล้องแขนหรือโอบเอวกันคือเรื่องปกติ แต่มันก็เป็นไปโดยธรรมชาติ ที่นั่งข้างๆเอ็นโจก็จะเป็นที่ของฉัน จนบางทีคาบุรากิก็กลอกตาขึ้นมองเพดาน อะไรยะ!! ทีนายหวานแหววกับวาคาบะจังต่อหน้า ฉันยังไม่เห็นบ่นอะไรเลยซักคำ

อ๋อ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีอุปสรรคเลยนะ มีเยอะกว่าที่คิดด้วยซ้ำ

อันดับแรกเลยคือทางบ้านของเอ็นโจที่เตรียมการหาคู่หมั้นคู่หมายเอาไว้ให้แต่งงานหลังเรียนจบ

พอเราขึ้นปีสี่ เอ็นโจก็พาฉันไปที่บ้าน บอกกับพ่อและแม่ว่าฉันคือคนที่เขารักมาตลอดและอยากอยู่ด้วยกันตลอดไป

ท่าทีของเอ็นโจในวันนั้นดูเด็ดเดี่ยวและแน่วแน่เหมือนคาบุรากิในตอนที่พาวาคาบะจังไปพบกับมาดามคาบุรากิไม่มีผิด แถมยังถึงขั้นยื่นคำขาดว่าถ้าไม่ให้แต่งก็จะพาหนีตามกันไปด้วย ตระกูลเอ็นโจจะเป็นยังไงก็ไม่สน นี่เอาจริงดิ เตรียมใจไว้ถึงขั้นนั้นแล้วเหรอ….

ฉันแอบถามเอ็นโจเกี่ยวกับเรื่องนี้ในภายหลัง ก็ได้รับคำตอบว่าจริงทุกอย่างที่พูด

เอ็นโจเตรียมทรัพย์สินไว้ที่ต่างประเทศมากพอสมควร เราสองคนอาจจะไม่ได้มีชีวิตสุขสบายเหมือนเดิม แต่ก็ไม่ได้ลำบากยากแค้นอะไรขนาดนั้น ตอนที่พูดก็ท่าทางเอาจริงเอาจังจนฉันไม่กล้าแหย่เล่นเลยล่ะ

ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเอ็นโจจะเป็นผู้ชายร้อนแรงได้ถึงขนาดนั้น ฉันคิดว่าการอยู่ใกล้คาบุรากิมากเกินไปจะทำให้เอ็นโจติดเชื้อบ้ารักมาได้ น่ากลัวชะมัด

อีตานั่นก็ไปยื่นคำขาดกับมาดามคาบุรากิในเรื่องความรักของตัวเองเหมือนกัน แต่คนที่ซวยน่ะคือวาคาบะจังไม่ใช่เหรอยะ

วาคาบะจังเองก็ต้องเจอเรื่องทดสอบมากมายที่ถาโถมเข้ามาไม่หยุด แต่สองคนนั้นก็ยังเชื่อใจและไม่ยอมปล่อยมือออกจากกันไม่ว่าจะเจอเรื่องร้ายๆแค่ไหน ฉันเองก็ต้องเอาอย่างบ้างล่ะเนอะ

จะว่าไป ฉันเองก็รอดจากการถูกจับหมั้นหมายกับคาบุรากิไปอย่างฉิวเฉียด ด้วยเพราะฉันยืนกรานหนักแน่นกับท่านพ่อและท่านแม่ในเรื่องที่คบหากับเอ็นโจ และขอร้องให้ท่านพี่ช่วยพูดด้วย บีบน้ำตาอีกเล็กน้อยท่านพ่อก็ใจอ่อนยวบยาบ ยินยอมให้เราคบหากันได้แบบเปิดเผย

และอาจจะเพราะเกรงว่าตระกูลเอ็นโจจะไม่มีผู้สืบทอดสายตรงหรืออะไรก็ตามแต่ ประธานเอ็นโจก็ยอมรับการคบกันของเราสองคน ล้มเลิกการหมั้นหมายที่เคยเอ่ยไว้กับตระกูลอุริว ผลที่ตามมาคือหุ้นของเอ็นโจกรุ๊ปตกลงอย่างมหาศาล ซ้ำยังมีข่าวร้ายหลุดออกมาเรื่อยๆจนนักลงทุนไม่เชื่อมั่นพากันถอนทุน อาจเป็นวิกฤตหนักในรอบสิบปีเลยก็ว่าได้

ฉันถามไถ่เรื่องนี้ด้วยความเป็นห่วง แต่เอ็นโจก็ยิ้มน้อยๆ บอกว่านี่คือสิ่งที่คาดการณ์ไว้อยู่แล้ว ก็ต้องค่อยๆแก้ปัญหากันไปทีละอย่าง

แต่ท่าทางเหนื่อยขนาดนั้น จะไหวแน่เหรอ

ฉันรู้ว่าเอ็นโจทำงานหนักมากและเครียดมาก แต่ฉันก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลยซักอย่าง ก็เจ็บใจตัวเองอยู่เหมือนกันนะ

พอเห็นฉันทำท่าสลดหดหู่ เอ็นโจก็หัวเราะแล้วดึงแก้มฉันเบาๆ

“อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ คุณน่ะเหมาะกับรอยยิ้มมากกว่านะ”

ถ้าเป็นเมื่อก่อนฉันอาจจะโมโหนิดหน่อยที่ถูกแหย่เล่นแบบนี้ แต่ตอนนี้ฉันกลับยื่นมือออกไปหา ดึงเอ็นโจเข้ามากอด

“ฉันช่วยอะไรไม่ได้เลยก็จริง แต่ถ้าเป็นการส่งกำลังใจให้ก็พอจะทำได้อยู่นะคะ” ก็นะ เขาว่ากอดกันก็เหมือนกับการส่งกำลังใจให้นี่นา

นิ่งไปซักพักก็ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆข้างหู เอ็นโจซุกหน้าลงกับไหล่ฉัน กอดตอบกลับมาแนบแน่นเหมือนคนต้องการที่พึ่ง

“ใครบอกล่ะ นี่ช่วยได้เยอะเลยต่างหาก”

อืมม เห็นว่าทำงานหนักขนาดนี้ ฉันจะให้กำลังใจอะไรได้อีกนะ

….งั้นคงได้เวลาของข้าวกล่องแห่งรักโดยเชฟเรย์กะจังแล้วล่ะเน้อ

442 Nameless Fanboi Posted ID:F+kx.U/5Q.

ฉันบอกกับเอ็นโจว่าจะทำข้าวกล่องมาให้ เอ็นโจก็ยิ้มแล้วบอกว่าซื้อวัตถุดิบมาช่วยกันทำจะดีกว่า

พอตกลงเมนูได้ เราสองคนเลยไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตเพื่อเลือกซื้อวัตถุดิบมาทำอาหาร แต่เอ็นโจดูมีเป้าหมายแน่วแน่ไม่ค่อยจะแวะข้างทางเท่าไหร่ อย่างเช่นซื้อซอสก็เดินตรงลิ่วๆเข้าล็อคขายซอสเลยทันที ไม่เหมือนคาบุรากิที่ดูจะสนใจไปทุกอย่างเลยแวะทุกซุ้มชิมอาหารเหมือนคราวนั้น

ถึงเอ็นโจจะเคยเข้าครัวมาก่อน แต่ในฐานะที่ฉันที่มีประสบการณ์ในงานครัวมากกว่า จากการเป็นลูกศิษย์ของคุณอาคิมิและคันตะคุงมานานหลายปี จะให้เห็นความเท่และความเชี่ยวชาญที่สั่งสมมาของเชฟเรย์กะจังเอง

ฉันวางท่าเป็นรุ่นพี่อวดความรู้เรื่องการทำอาหารใส่ แต่ต้องถอยกรูดกลับมาแทบไม่ทันเมื่อเจอทักษะการใช้มีดอย่างชำนาญของเอ็นโจเข้าไป…..หนอย ฉันยังแตงกวาหนาไม่เท่ากันอยู่เลยนะยะ

เอ็นโจมีเซนส์ของพ่อบ้านเกินคาดแฮะ รู้ว่าต้องซื้ออะไรหรือใส่เครื่องปรุงแบบไหนถึงจะออกมาอร่อย ไหนบอกว่าปกติไม่ได้ทำอาหารเองยังไงล่ะยะ นี่มันอร่อยเหมือนมืออาชีพมาทำให้ชัดๆเลยนะ หมอนี่จะความสามารถเยอะเกินไปแล้ว

พอฉันหน้ามุ่ย เอ็นโจก็ใช้ช้อนตักทีรามิสุช่วยกันทำเมื่อครู่นี้ยื่นมาที่ปาก “อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ ทานของหวานช่วยให้อารมณ์ดีนะ เอ้า อ้ามมม”

ฉันเหลือบมองคนป้อนนิดหน่อยแล้วอ้าปากงับขนม อ๊ะ อร่อยจัง...ขออีกคำจะได้มั้ยนะ

เหมือนเอ็นโจจะรู้เรื่องที่ฉันคิดอยู่ เพราะตักป้อนให้เรื่อยๆจนหมดถ้วย อืมม อร่อยมากเลยล่ะ ทำอาหารกินกันเองมันก็ได้บรรยากาศอบอุ่นแบบที่ซื้อไม่ได้จากร้านอะเน้อ

เรื่องนี้ทำเอาฉันนึกถึงเรื่องหนีตามกันขึ้นมา ถ้าหนีไปอยู่กันแบบสามัญชนด้วยกันสองคน ฉันอาจจะได้กินอะไรแบบนี้ทุกวันจนน้ำหนักขึ้นแล้วใส่กระโปรงตัวเดิมไม่ได้ก็ได้นะ

เหมือนเป็นข้อตกลงเล็กๆว่าเราจะทำอาหารด้วยกันในวันหยุดที่มีเวลาว่าง บางคราวเราก็เชิญคาบุรากิกับวาคาบะจังมาทานด้วย และบางครั้งก็มียูกิโนะคุง มาโอะจัง ยูริคุง ท่านพี่ ท่านอิมาริเข้ามาก็เป็นปาร์ตี้เล็กๆที่สนุกสนาน อาหารก็อร่อยด้วยฝีมือวาคาบะจังและเอ็นโจที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลัก

ฉันจะเข้าไปช่วยบ้างแต่ก็ถูกใช้ให้ทำอะไรเล็กๆน้อยๆอย่างเช่นตักฟองออกจากน้ำซุป จัดจาน หรือไม่ก็โปรยสาหร่ายหั่นฝอย ระหว่างนั้นทั้งคู่ก็จะชมตลอดว่าฉันเก่งมาก ทำได้ดีมาก ฉันยิ่งมีกำลังใจเต็มเปี่ยมในการช่วยเหลือ

บางที เอ็นโจก็เรียกฉันเข้าไปช่วยชิมตอนปรุงรส ภาพที่เอ็นโจตักอาหารป้อนฉันถึงปากคงไปกระตุ้นต่อมหมั่นไส้อะไรของคาบุรากิก็ไม่ทราบ ถึงไปทำท่าอาเจียนใส่กระถางต้นไม้ มารยาทแย่อะไรอย่างนี้นะ

อิจฉาล่ะสิ วาคาบะจังไม่ค่อยมีเวลาให้เลยพาลใช่มะ

ว่าแล้วฉันก็เข้าไปกระแซะวาคาบะจัง เสนอตัวเป็นลูกมือช่วยทำของหวาน วาคาบะจังก็ยินดีให้ช่วย เป็นการกีดกันคาบุรากิที่ทำงานครัวอะไรไม่เป็นเลย ออกไปเป็นคนนอกโดยปริยาย

โอะโฮะโฮะโฮะ ตรงนี้น่ะมันพื้นที่สำหรับคนทำอาหารเป็นเท่านั้นย่ะ บ้าพลังอย่างนายไปยกเตาบาร์บีคิวออกไปจุดไฟข้างนอกไป๊!!

พอฉันกับวาคาบะจังยกถาดเนื้อที่เสียบไม้ออกไปให้พวกหนุ่มๆข้างนอกย่างบาร์บีคิว คาบุรากิก็รีบพาวาคาบะจังไปนั่งที่โซฟาตัวเดียวกัน เป็นโซฟาสองที่นั่ง อีกฝั่งก็เป็นสระว่ายน้ำไม่มีที่ให้วางเก้าอี้ ไม่เปิดช่องให้ฉันไปนั่งข้างๆวาคาบะจังแม้แต่น้อย หมอนี่ใจแคบชะมัดเลยอ่ะ

เดี๋ยวเหอะ!! ถ้าฉันเอาจริงขึ้นมานายจะหนาว มาลองดูกันมั้ยล่ะว่าวาคาบะจังจะเลือกใครน่ะ

ฉันส่งสายตาไปท้าทายใส่คาบุรากิ เกิดเป็นสายฟ้าแลบแปลบปลาบในอากาศ มีวาคาบะจังอยู่ตรงกลางมองทางนั้นทีทางนี้ทีเหมือนพยายามจะห้าม

ยังไม่ทันจะไปท้าพนันอะไร ก็ได้กลิ่นหอมๆของบาร์บีคิวที่ย่างสุกแล้วโชยมา เอ็นโจเรียกฉันให้ไปทานบาร์บีคิวที่กำลังย่างอยู่ เป็นอันว่าสงครามครั้งนี้ยุติกันไปก่อน

กองทัพต้องเดินด้วยท้องนะคะ

--------------------------
ตอนพิเศษยังไม่หมดนะ

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.