Fanboi Channel

ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับการรอคอยให้ท่านฮิมาต่อพร้อมกับการเปิดตัวพระเอกที่เหล่าโม่งกำลังสับสน [การย้ายเรือไปมารอบที่29จากการเมากาวของเหล่าโม่งฟิค]

Last posted

Total of 1000 posts

342 Nameless Fanboi Posted ID:3AGM+asnzT

กาลครั้งหนึ่งในฝัน (ตอนจบ 1/2) >>>/webnovel/6040/434-436

-----------------------------

เอ็นโจหันกลับมา สีหน้าดูประหลาดใจ

“มีอะไรงั้นเหรอ คุณคิโชวอิน”

“เอ๋!! เอ่อ…” ฉันปล่อยมือออกจากเสื้อเอ็นโจแบบเงอะงะ “คือว่า….”

เอ็นโจเอียงคอมองเล็กน้อย ส่วนฉันเม้มปากแน่น นิ่งเงียบไปครู่หนึ่งเพื่อเค้นความกล้า ก่อนจะตัดสินใจเอ่ยคำพูดที่ดูยากลำบากออกมา

“ฉัน...คิโชวอิน เรย์กะ อายุสิบแปดปี นักเรียนเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยของโรงเรียนซุยรัน เป็นสมาชิกของ Pivoine สังกัดชมรมงานฝีมือ งานอดิเรกคือการทำอาหาร มีพี่ชายอยู่หนึ่งคน ไม่ถูกกับนกหรือสัตว์ซักเท่าไหร่นัก...”

อ๋า!! นี่ฉันพูดอะไรอยู่คะเนี่ย ไม่ใช่นะ สิ่งที่ฉันอยากพูดไม่ใช่เรื่องนี้ซักหน่อย

แล้วสิ่งที่พูดออกไป ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่รู้กันอยู่แล้ว เอ็นโจเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงสงสัยว่าฉันจะพูดขึ้นมาทำไม แต่ก็ปล่อยให้พูดไปเรื่อยๆ ใบหน้านั้นมีรอยยิ้มน้อยๆ

และเมื่อฉันกล่าวถึงว่าชีวิตที่ผ่านมาไม่เคยมีแฟนเลย ไม่เคยมีใครมาจีบด้วย เอ็นโจก็ยิ้มกว้างออกมาเหมือนกำลังจะขำ

“....และวันนี้ ฉันมีผู้ชายคนหนึ่งมาสารภาพรัก ก็ออกจะน่าตกใจอยู่”

ฉันสูดลมหายใจเข้าลึกเหมือนกำลังจะเดินขึ้นสู่ลานประหาร ความกล้าที่มีอยู่น้อยนิดบีบรัดกะเพาะ

“สำหรับฉันเขาเป็นคนที่น่ากลัว อ่านใจคนได้ แล้วก็ไม่รู้มีแผนร้ายอะไรอยู่ เป็นบุคคลน่าหวาดระแวงไม่น่าเข้าใกล้ นอกจากหน้าตาฉันแทบจะหาข้อดีจากเขาไม่ได้เลย...”

“.....”

“แต่ฉันก็เพิ่งรู้ว่าเขามีน้องชาย เด็กคนนั้นน่ารักและอ่อนโยน ไม่เหมือนพี่ชายเลย” ฉันอมยิ้มเมื่อนึกถึงความน่ารักของเทวดาน้อยอย่างยูกิโนะคุง “และนั่น ก็ทำให้ฉันได้เห็นแง่มุมอื่นๆของผู้ชายคนนี้”

“...”

“คนเจ้าเล่ห์แบบนั้นน่ะเหรอจะยอมไปปั้นตุ๊กตาหิมะให้น้องชายที่กำลังป่วย คนแบบนั้นน่ะเหรอที่จะเข้าไปดูดาวกับน้องชายพร้อมถ้วยโกโก้ร้อน คนแบบนั้นน่ะเหรอที่จะออกไปเดินทางลำบากเพื่อตามหาเพื่อนที่หนีไปฆ่าตัวตาย ยิ่งได้รู้ก็ยิ่งมีแต่เรื่องที่น่าประหลาดใจเต็มไปหมด”

“.....”

“แต่ฉันก็ยังกลัวเขาอยู่ดี ก็ฉันแทบจะไม่รู้จักอะไรในชีวิตเขาคนนั้นเลยนี่คะ” ฉันเงยหน้าสบตากับเอ็นโจ พยายามควบคุมตัวเองไม่ให้เสียงสั่น “คนลึกลับแบบนั้น แถมยังไม่เคยเผยใจจริงให้เห็น ไม่คิดว่าน่ากลัวเหรอคะ”

เอ็นโจยิ้มขื่นๆตอบกลับมาให้ฉัน

“ฉันเพิ่งรู้ว่าเขามีน้องชายก็เมื่อปีที่แล้ว ฉันเพิ่งรู้ว่าเขาไม่ชอบหนังรัก ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาชอบทานกาแฟจนเมื่อไม่กี่เดือนก่อนมานี้เอง ฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลยซักอย่าง ไม่รู้ว่าชอบทานอะไรหรือไม่ชอบทานอะไร ไม่รู้ว่าชอบฟังเพลงแบบไหน สีที่ชอบล่ะ ของที่เกลียดล่ะ แล้วเขาก็ไม่เคยบอกฉันซักคำด้วย”

ฉันสูดลมหายใจเข้าลึก รู้สึกเหมือนกะเพาะภายในบีบรัดเสียแน่น แต่จุดนี้จะถอยหลังกลับไม่ได้แล้ว

“คนแบบนี้มาสารภาพรักกับฉัน จะให้ตอบตกลงง่ายๆไปได้ยังไงล่ะ ก็เรายังไม่รู้จักกันดีเลยนี่นา”

ขาฉันก้าวเดินไปหยุดยืนต่อหน้าเอ็นโจที่ยืนนิ่ง ยื่นมือออกไปหา

“ฉันอยากเห็นตัวตนจริงๆของเขาว่าเป็นยังไง...ให้ฉันรู้จักผู้ชายคนนั้นได้มั้ยคะ”

ใจฉันเต้นตุ้มๆต่อมๆตอนยื่นมือไปข้างหน้า อ๋า ฉันทำอะไรลงไปคะนั่น เกิดเอ็นโจขำออกมาตอนนี้ แล้วถามฉันว่ากำลังสวมบทบาทดาราคนไหนอยู่เหรอ ฉันคงจะอายจนแทรกแผ่นดินหนีแน่ๆ

ไม่ไหวอะ อายจะแย่อยู่แล้ว วิ่งหนีตอนนี้เลยดีกว่ามั้ยนะ

แต่สิ่งที่ยังรั้งไว้ไม่ให้ฉันวิ่งหนีไปคือสายตาหวั่นไหวที่มองมา เอ็นโจมองมือฉันอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็ค่อยๆเลื่อนสายตาขึ้นมาสบตากับฉัน นี่อาจจะเป็นครั้งแรกที่ฉันรู้สึกเหมือนได้สัมผัสกับตัวตนจริงๆของคนคนนี้

ไม่สิ ไม่ใช่ครั้งแรกหรอก

ครั้งแรกนั่น ในห้องสโมสรที่ฉันอยู่กับเอ็นโจสองคนต่างหาก มันเป็นครั้งแรกที่เอ็นโจเปิดใจและความคิดของตัวเองออกมาให้ฉันเห็น

เวลาเหมือนจะผ่านไปเนิ่นนาน แต่ที่จริงอาจจะผ่านไปไม่กี่นาที แต่ในที่สุดมือของเอ็นโจก็ค่อยๆยกขึ้นมาวางลงบนมือของฉัน

สัมผัสจากมือที่ส่งผ่านปลายนิ้วแล่นไปตามเส้นเลือดในตัวจนรู้สึกร้อนผ่าวที่ข้างแก้ม หัวใจของฉันเต้นรัวเหมือนเลือดจะสูบฉีดมาอยู่แค่บริเวณใบหน้าจนรู้สึกเหมือนจะเป็นลม

“ผม...เอ็นโจ ชูสุเกะ อายุ 18 ปี เป็นนักเรียนชั้นม.6 ของโรงเรียนซุยรันครับ” เอ็นโจสบตากับฉัน ดูท่าทางประหม่าแบบที่ไม่เคยเป็น “มีน้องชายอยู่หนึ่งคนที่เรียนอยู่ชั้นป.2 ชื่อยูกิโนะ เป็น Pivoine เหมือนกันกับผม ของที่ชอบคือกาแฟ ไม่ค่อยชอบขนมหวานเท่าไหร่…”

343 Nameless Fanboi Posted ID:3AGM+asnzT

เอ็นโจยังพูดข้อมูลตัวเองออกมาเรื่อยๆ บางเรื่องก็รู้กันอยู่แล้ว บางเรื่องก็เพิ่งจะรู้ แต่ฉันพยายามจะไม่ทำให้ตัวเองหลุดขำออกมาเพราะกลัวว่าจะถูกคิดบัญชีย้อนหลังเข้าให้ หมอนี่ยิ่งเป็นเจ้าหนี้หน้าเลือดอยู่ด้วย ขืนพลาดล่ะก็ต้องจ่ายจนหมดตัวแน่ๆ

“....สัตว์ที่ชอบที่สุด….คือกระต่ายครับ” ฉันพยักหน้าหงึกๆแบบเข้าอกเข้าใจกับความชอบนั้น ก็คุณกระต่ายน่ะน่ารักมากเลยนี่ ใครจะต้านทานเสน่ห์ของเจ้าสัตว์ตัวเล็กขนฟูตากลมโตได้ล่ะเนอะ

ที่แท้เอ็นโจก็ชอบกระต่ายนี่เอง มิน่าล่ะ ถึงได้ทำลาเต้อาร์ทรูปกระต่ายให้ฉัน แล้วก็ชอบชมว่าฉันเหมือนกระต่าย...

เอ๊ะ!! ชมว่าฉันเหมือนกระต่ายงั้นเหรอ!?

หน้าฉันร้อนซู่ขึ้นมาทันที ส่วนเอ็นโจก็ยิ้มเป็นปริศนา

อ๊ากกกก!!! บ้าเอ้ย ตกหลุมอีตาเจ้าเล่ห์อีกแล้ว คิดจะทำให้ฉันเขินไปถึงไหนกันยะ ตกลงจะหลอกฉันมาฆาตกรรมด้วยการทำให้หัวใจทำงานหนักเกินไปจริงๆสินะ

พอฉันก้มหน้าหนีจากสายตาที่จ้องมองแบบทะลุละทวง เอ็นโจที่ยังจับมือฉันไว้อยู่ก็บีบเบาๆ ก้มลงมากระซิบข้างหู

“....และคนที่ชอบที่สุดคือคิโชวอิน เรย์กะครับ”

ฉันสะดุ้งโหยงกับคำพูดที่ได้ยิน จะหนีก็ไม่ได้เพราะยังถูกจับมือไว้อยู่

“ดะ เดี๋ยว เดี๋ยวก่อนค่ะ” จะทำอะไรน่ะห๊า!! ฉันยังไม่พร้อมนะ!!!

“เอ๋ อะไรกัน บอกว่าอยากเห็นตัวตนจริงๆของผมไม่ใช่เหรอ” เอ็นโจฉีกยิ้ม แววตาวิบวับดูเจ้าเล่ห์ “ยังไม่หมดซักหน่อยนะ…”

“เอาไว้วันหลังก็ได้ค่ะ”

“ไม่ล่ะ วันนี้เลยดีกว่า”

กรี๊ด!! ใครก็ได้ช่วยด้วยค่าาาา!!!

“ไม่อยากรู้ว่าผมคิดยังไงกับคุณเหรอ”

ไอ้อยากมันก็อยากอยู่หรอกนะ แต่ฉันยังไม่พร้อมง่ะ เขียนใส่กระดาษแล้วเอามายื่นใส่ล็อคเกอร์แบบที่เคยดูในหนังไม่ได้เหรอ

พอฉันนิ่งเงียบไป เอ็นโจก็ยิ้มแล้วพูดต่อ

“ที่จริงแล้ว...ตอนที่ผมเห็นคุณครั้งแรก ผมคิดว่าคุณเป็นคนเพี้ยนๆที่ทำผมม้วนๆแบบเต็มยศมาโรงเรียน ตอนที่คุณรบเร้าจะไปสั่นระฆังกับพี่ชาย ผมคิดว่าคุณเป็นคนประหลาด แต่ก็น่ารักดี ตอนคุณมองมาซายะแบบไม่วางตาผมก็คิดว่าคุณคงเหมือนกับผู้หญิงงี่เง่าคนอื่นๆที่พยายามเข้าใกล้พวกเรา แต่พอมีโอกาสคุณกลับไม่คว้าไว้ทำให้ผมแปลกใจมาก การได้ใกล้ชิดกับมาซายะเป็นความใฝ่ฝันของเด็กผู้หญิงในซุยรันไม่ใช่เหรอ”

ใครมันจะไปอยากใกล้ชิดกับพวกนายกันห๊ะ!! หลงตัวเองเกินไปแล้วย่ะ

“แต่ผมคิดว่าคุณคงเล่นตัวไปอย่างนั้นแต่จริงๆอยากให้มาซายะสนใจ ผมถึงได้ทดสอบคุณหลายอย่าง แต่คุณก็ยังวิ่งหนีพวกเราอยู่ดี มันทำให้ผมอยากรู้มากว่าคุณเป็นคนยังไงกันแน่ แบบไหนคือตัวตนจริงๆของคุณ และผมก็เฝ้ามองคุณมานับตั้งแต่นั้น”

ปลายนิ้วของเอ็นโจค่อยๆสอดประสานเข้ากับนิ้วของฉันจนฝ่ามือเราแนบติดกัน ถะ...ถ้าเหงื่อออกฝ่ามือตอนนี้จะทำยังไงดีล่ะ จะหยะแหยงมั้ยนะ หรือจะสะบัดออกแล้วเช็ดก่อนแล้วค่อยให้จับใหม่ดี

“ทุกวันที่ผมได้พบคุณคือเรื่องมหัศจรรย์ มีแต่หลายสิ่งให้ประหลาดใจเต็มไปหมด คิดว่าคงไม่มีอะไรที่ผมคาดการณ์ไม่ได้ แต่คุณกลับอยู่เหนือความคาดหมายของผมทุกครั้ง ยิ่งมอง ผมก็รู้สึกเหมือนตัวเองไม่สามารถละสายตาจากคุณได้เลย จะมีอะไรให้ตกใจอีก จะมีเรื่องสนุกๆให้ดูมั้ยนะ การไปโรงเรียนในแต่ละวันก็เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นขึ้นมา”

เอ๋!! ถึงขนาดนั้นเลยเหรอ….รู้สึกเขินแปลกๆแฮะ

“พอเราขึ้นชั้นมัธยม ผมก็ไม่ชอบที่คุณหลงรักโทโมเอะคนนั้น เขาเป็นสภานักเรียน เป็นศัตรูของ Pivoine นะ แล้วผมก็สมน้ำหน้าคุณด้วยที่คุณลำดับตกลงมาเพราะมัวแต่ไปสนใจความรักบ้าบอนั่น”

“ห๊า!!” ฉันถลึงตาใส่เอ็นโจ นี่คิดแบบนี้กับฉันมาตลอดงั้นเรอะ!! ร้ายกาจอะไรอย่างนี้!!!

“หลุดเสียงแหบต่ำที่เป็นข้อห้ามของกุลสตรีออกมาแล้วนะ คุณคิโชวอิน” เอ็นโจหัวเราะ ไม่สะทกสะท้านต่อท่าทีโกรธเกรี้ยวของฉันแม้แต่นิด หนอย เอาเล็บข่วนหน้าซักทีจะดีมั้ยห๊ะ!!

ให้ตายสิ พี่ชายของเทวดาน้อยที่แสนใสซื่อบริสุทธิ์ทำไมเป็นคนดำมืดได้ขนาดนี้นะ

“ไม่นึกเลยว่าคำนี้อีกไม่กี่ปีมันจะย้อนกลับมาหาผมได้” เอ็นโจยิ้มขื่นๆ “ผมลำดับตกเพราะมัวแต่สนใจความรักบ้าบอนั่น”

ฉันพยักหน้าอย่างเห็นด้วย ดีย่ะ หัดรู้ถึงความลำบากของคนอื่นซะบ้าง

“แต่นั่นก็ทำให้ผมรู้ว่าผมแคร์คุณยิ่งกว่าที่ตัวเองคิด…”

344 Nameless Fanboi Posted ID:3AGM+asnzT

มือของฉันที่ถูกเกาะกุมอยู่ค่อยๆถูกจับให้เอามาแนบกับใบหน้าเอ็นโจเอง ฉันอยากจะหลบตาแต่เหมือนถูกสะกดไว้ไม่ให้เบือนหน้าหนี

“ผมไม่ชอบเวลาที่มีผู้ชายคนไหนเข้าใกล้คุณ ทั้งโทโมเอะ อิชิโนะคุระ หรือกระทั่งมาซายะเอง...ผมไม่ชอบเวลาที่คุณซื้อของฝากผู้ชายอื่นที่ไม่ใชพี่ชาย ผมไม่พอใจตอนเห็นมาซายะนั่งข้างๆคุณ แล้วคุณก็ไม่สนใจผมเลย มันยิ่งทำให้ผมโกรธ ตอนที่พูดจาไม่ดีใส่คุณ ผมเสียใจจนไม่มีสมาธิอ่านหนังสือ ลำดับก็เลยร่วงขนาดนั้น…”

...นึกว่าเป็นเพราะคำสาปของฉันซะอีก

แต่ขนาดลำดับตกก็ยังไม่ได้ตกมาไกลมากมายอะไรเลยนะ ถ้ามองจากมุมคนที่ได้ที่ 1 หรือ 2 เป็นประจำอย่างเอ็นโจแล้ว ได้ที่ 4 ก็คงถือว่าตกมากล่ะมั้ง

“...แม้แต่ตอนที่คุณไปขัดโต๊ะกับมิซึซากิ ผมก็โกรธ ทำไมคุณต้องไปอยู่กับหมอนั่นสองต่อสองในทุกๆเช้าด้วยล่ะ ถ้าผมไม่พูดเตือนหน่อยคุณจะขัดโต๊ะให้คุณทาคามิจิไปตลอดหนึ่งปีเลยรึยังไง คนที่จะแย่ทีหลังก็คือคุณเองนั่นล่ะ”

“เอ๊ะ เดี๋ยว เดี๋ยวก่อนค่ะ!!” ฉันอ้าปากค้าง “ท่านเอ็นโจรู้ได้ยังไงว่าฉันไปขัดโต๊ะกับมิซึซากิคุงน่ะ”

“เอ ยังไงกันน้า”

“อย่ามาเฉไฉนะคะ” ฉันจ้องเขม็ง ดึงมือเอ็นโจออกแล้วเปลี่ยนมายืนกอดอก ทำท่าเอาจริงเอาจังว่าถ้าไม่ได้คำตอบจะไม่ยอมปล่อยผ่านแน่

เอ็นโจยิ้มเฝื่อนๆอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะค่อยๆเปิดปากพูดออกมา

“ที่จริงแล้ว...ตอนได้ยินว่าโต๊ะของคุณทาคามิจิถูกขัดเป็นมันวับ ผมก็เดาออกทันทีว่าคุณต้องเป็นคนทำแน่ๆ ผมก็เลยมาดูที่โรงเรียน แล้วก็เห็นคุณกับมิซึซากิอยู่ด้วยกันทุกเช้า…”

หมอนี่รู้ด้วยอย่างนั้นเรอะ!! แย่แล้ว!!!

จินตนาการเลวร้ายผุดขึ้นมาในหัว เมื่อเอ็นโจจับฉันลากไปกลางห้องสโมสร Pivoine มีเหล่าสมาชิกยืนรายล้อม ทุกคนจ้องมองฉันด้วยสายตาโกรธเกรี้ยว ด่าทอว่าฉันคือคนทรยศ ยูกิโนะคุง มาโอะจัง ยูริคุง เด็กๆจากเปอติต์ก็มองฉันด้วยความผิดหวัง และคาบุรากิก็พิพากษาโทษตายให้ฉันข้อหาสมคบคิดกับศัตรู เป็นหนอนบ่อนไส้ ตระกูลล่มสลาย ต้องออกไปเร่ร่อนข้างถนน อดมื้อกินมื้อ ต้องคุ้ยถังขยะหาของกินเหลือๆจากคนอื่น….

“คุณคิโชวอิน….” มือของเอ็นโจโบกไปมาตรงหน้า เรียกสติที่หลุดลอยไปของฉันให้กลับคืนมาสู่ความเป็นจริง

“ทะ ทำไมถึงคิดว่าเป็นฉันล่ะคะ เพื่อนคนอื่นของคุณทาคามิจิก็มีอยู่นี่นา” ฉันละล่ำละลักหาข้อแก้ตัว จะยอมถูกจับได้ตรงนี้ไม่ได้เด็ดขาด เพื่อจุดยืนของฉันเองด้วย

“คนที่หวังดีอย่างแท้จริงกับคุณทาคามิจิในโรงเรียนนี้นอกจากมาซายะแล้ว ก็มีแต่คุณเท่านั้นล่ะ” เอ็นโจยิ้มอ่อนโยน “ก็คุณสองคนเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ”

ฉันสะดุ้งโหยงเหมือนถูกหวดแส้ใส่ หมอนี่รู้ได้ยังไงน่ะ เรื่องนี้ไม่น่าจะมีใครรู้ได้นี่นา

“คนที่มีอะไรก็แสดงออกทางสีหน้าหมดแบบคุณน่ะ เดาไม่ยากหรอก อย่างตอนนี้ก็คิดว่ารู้ได้ยังไง ไม่น่าจะมีใครรู้ใช่มั้ยล่ะ”

ถูกเผง!!

สกิลอ่านใจของเอ็นโจช่างน่ากลัวเหลือเกิน ฉันถอยกรูดไปด้านหลังเตรียมเผ่น แต่เอ็นโจก็ก้าวตามมา อุกรี๊ดดดด!! ถูกจับตัวไว้แล้วเจ้าข้าเอ้ย!!!

“ที่จริงผมก็แค่สังเกตท่าทางของคุณตอนเจอคุณทาคามิจิ แล้วก็ดูจากการกระทำที่คุณออกหน้าปกป้องเธอในหลายๆหน ถึงคุณทาคามิจิจะไม่ยอมพูดอะไรเลย แต่ก็พอจะเดาออกว่าพวกคุณมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน…”

ดูออกง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ

“แล้วผมก็แน่ใจมากขึ้นตอนที่คุณทาคามิจิออกตัวปกป้องคุณเรื่องล็อคเกอร์ เธอพูดเหมือนรู้จักคุณดี ทั้งที่คุณสองคนไม่น่าจะมีอะไรข้องเกี่ยวกันด้วยซ้ำ แสดงว่าก่อนหน้านั้นอาจจะมีเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้คุณและคุณทาคามิจิพบกันและได้รู้จักกัน”

ก็เรื่องทำน้ำจิ้มปลาหมึกเปื้อนชุดเลยต้องกลับไปซักที่บ้านของวาคาบะจังอะนะ แต่ไม่เอาไม่นึกถึงดีกว่า เดี๋ยวโดนอ่านใจ

“ผมก็ไม่รู้หรอกนะว่าเหตุการณ์ไหน แต่ก็ไม่สำคัญเท่าที่คุณลงมือช่วยเธอหรอก เพราะคุณเป็นคนแบบนั้น ผมถึงได้ชอบคุณมาก”

สมกับเป็นผู้สืบทอดของท่านอิมาริ พูดอะไรเลี่ยนๆแบบนี้ออกมาได้หน้าตาเฉย

345 Nameless Fanboi Posted ID:3AGM+asnzT

เอ...แล้วตอนนี้ฉันทำหน้าแบบไหนอยู่นะ ที่รู้สึกร้อนๆตรงแก้มนี่เพราะอุณหภูมิหนาวเย็นในเดือนธันวาคมใช่มั้ยนะ

“การที่คุณยอมตกลงไปไหนมาไหนกับผม ถึงจะเป็นเพราะยูกิโนะก็ตาม แต่นั่นทำให้ผมมีความสุขมากถึงได้เก็บไปฝันแบบนั้น” เอ็นโจมองลึกลงมาในตาของฉันพร้อมกับรอยยิ้มที่อ่อนโยน “และถ้าคุณฝันเหมือนกัน ผมจะขอคิดเข้าข้างตัวเองว่ามันคือพรหมลิขิตจะได้รึเปล่านะ”

พรหมลิขิต….

ฉันนึกถึงคำพูดเมื่อครั้งตอนที่เจอเอ็นโจในร้านกาแฟ...ครั้งแรกคือความบังเอิญ ครั้งที่สองและที่สามคือพรหมลิขิต ฉันจะเชื่อในพรหมลิขิตที่ว่านี่ได้ใช่มั้ยนะ

นิ่งเงียบกันไปซักพัก ฉันก็หลุบตาลงมองไปทางอื่น พูดเสียงอุบอิบในลำคอ

“จะกี่สิบกี่ร้อยพรหมลิขิตก็ไม่สู้ลงมือทำหรอกนะคะ”

“...คุณคิโชวอิน”

“ถ้าฝันถึงงานแต่งงานในฝัน ก็ทำให้มันเป็นจริงขึ้นมาสิคะ ทำได้รึเปล่าล่ะ ว้าย!!”

ฉันร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อจู่ๆก็ถูกรวบเข้าไปกอด เอ็นโจซุกหน้าลงกับไหล่ของฉัน อีตานี่ตัวก็ไม่ใช่จะเล็กๆอยู่ๆมาทิ้งน้ำหนักใส่ตัวแบบนี้ มันหนักนะยะ

“ขอบคุณ ขอบคุณนะ ขอบคุณ…” เอ็นโจพึมพำอยู่ข้างหู รู้สึกว่าน้ำเสียงจะสั่นๆด้วยล่ะ อ๊ะ!! หรือว่าจะร้องไห้

ฉันยกมือขึ้นมาลูบหลังเอ็นโจแบบปลอบๆด้วยว่าไม่รู้จะทำอะไรที่ดีไปกว่านั้น เอ็นโจยิ่งกอดฉันแน่นมากขึ้นไปอีก

แต่ก็น่าแปลกที่ไม่รู้สึกอึดอัดเลยง่ะ ตรงกันข้ามด้วยซ้ำ...

ความคิดนี้ฉันไม่มีวันยอมพูดออกไปแน่ๆล่ะ เรื่องอะไรจะบอก เดี๋ยวได้ใจแย่

ยืนอยู่ในท่านั้นอีกครู่หนึ่ง เอ็นโจก็ค่อยๆคลายอ้อมแขนออก ก้าวถอยหลังไปเล็กน้อย แล้วก้มหัวลงตั้งฉากกับพื้น

“คุณคิโชวอิน...ถึงตอนนี้ผมจะยังไม่พร้อมที่จะทำฝันนั้นให้เป็นจริง...แต่ได้โปรด….ได้โปรดช่วยรอหน่อยจะได้รึเปล่าครับ”

ทำอะไรของเขานะอีตาคนนี้นี่ แต่ถ้าไม่ตอบอะไรออกไปก็จะก้มหัวอยู่แบบนี้ใช่มะ

ทีแรกก็กะว่าจะกลั่นแกล้งให้ยืนก้มหัวอยู่แบบนั้นไปนานๆ แต่ก็ออกจะน่าสงสารอยู่ ฉันเลยก้าวเท้าเข้าไปหา ปั้นหน้าให้จริงจังที่สุดเท่าที่สามารถจะทำได้

“....อย่าให้รอนานก็แล้วกันนะคะ”

เอ็นโจเงยหน้าขึ้นมาแล้วส่งยิ้มสว่างไสว

“ครับ”

เอ....จะเพราะรอยยิ้มนั่นรึเปล่านะ มันไม่อึมครึม ดำมืด หรือมีอะไรในใจแบบที่ผ่านมา เป็นยิ้มแบบเดียวกับคุณชูสุเกะที่ฉันเห็นในฝัน เต็มไปด้วยความสุข สดใส มีชีวิตชีวา เห็นแล้วอดยิ้มตามไม่ได้

ฉันกับเอ็นโจจ้องตากันซักพักก็หัวเราะออกมาทั้งคู่ ความรู้สึกในตอนนี้เหมือนกลับไปตอนที่ฉันกับเอ็นโจคุยกันสองต่อสองในห้องสโมสร มันเป็นความรู้สึกที่เบาสบาย ปลอดโปร่ง และมีความสุข ไม่ต้องกังวลเรื่องร้ายๆอะไรแม้แต่อย่างเดียว แค่เราอยู่ด้วยกันและหัวเราะกันอยู่อย่างนี้

ใช่ แค่เราอยู่ด้วยกัน

---------------------------------
พาร์ทสองมาคืนนี้แน่นอน กูสัญญา

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.