Fanboi Channel

ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับการรอคอยให้ท่านฮิมาต่อพร้อมกับการเปิดตัวพระเอกที่เหล่าโม่งกำลังสับสน [การย้ายเรือไปมารอบที่29จากการเมากาวของเหล่าโม่งฟิค]

Last posted

Total of 1000 posts

232 Nameless Fanboi Posted ID:jr+3Nni8G0

<<Fan Fic : เอ็นโจ ชูสุเกะ PoV Chapter 22 >>
หลังจากใช้เวลาตลอดช่วงวันหยุดฤดูหนาวเพื่อค้นหาเพื่อนรักที่พยายามจะฆ่าตัวตาย เราก็กลับถึงบ้านจนได้

ต่างจากทริปที่ผ่านๆ มา เพราะการเดินทางกลับบ้านครั้งนี้เงียบงันตลอดทาง

มาซายะหลับอยู่ข้างๆ กาย ผมเอาเสื้อโค้ทกันหนาวของตัวเองห่อตัวเขาไว้ระหว่างงีบ ดวงตาหรี่ลงเมื่อเห็นถุงดำใต้ตาและสัมผัสถึงผิวของหมอนั่นที่เย็นเฉียบ

ถ้าไปถึงช้ากว่านี้อีกนิดเดียวล่ะก็...

ผมดึงสติตัวเองกลับมา กัดฟันแน่น ไม่ต้องไปคิดว่า 'ถ้าหาก' อีกแล้ว ผมเอาตัวเขากลับมาบ้านได้แล้ว อย่างมีชีวิต นี่คือสิ่งสำคัญในตอนนี้ และต่อไปคือต้องมั่นใจว่าหมอนี่จะไม่ทำแบบนี้อีก

ผมเอนกายพิงเบาะ มองมาซายะที่หลับไหล

"นายมันงี่เง่า..."
-

พามาซายะกลับบ้านเสร็จแล้ว หมอนั่นก็ถูกพ่อแม่ของตัวเองจับตามองอยู่ในบ้าน เนื่องจากพ่อแม่ของมาซายาเป็นห่วงมาก หมอนั่นเลยต้องถูกกักตัวไว้โดยมีข้าราชบริพาร คุณหมออีกหลายคน คนใช้อีกเพียบคอยเฝ้าดูและบริการตลอดเวลาทั้งวัน ผู้สืบทอดตระกูลคาบุรากิที่กระตือรือล้นอยู่เสมอคนนั้นกลายเป็นแค่ร่างเปล่าๆ นายท่านและมาดามของบ้านพากันเป็นห่วงลูกชายแทบบ้า ร่องรอยตีนกาที่โผล่ขึ้นมาบนใบหน้าของทั้งคู่สะท้อนถึงความเป็นห่วงรุนแรงของทั้งสองคน
ความหวาดกลัวนี้เองทำให้ทั้งคู่เพิ่มความแน่นหนาทางด้านความปลอดภัยในทุกที่ที่อาจเป็นอันตรายได้ พื้นที่อย่างห้องครัวและระเบียงกลายเป็นสถานที่เฝ้าจับตา และทุกครั้งที่มาซายะจะไปที่ไหน เขาต้องมีบอดี้การ์ดหรือคนใช้ส่วนตัวติดตามไปด้วยเสมอ พวกนั้นตัวติดหนึบตั้งแต่หมอนี่กลับถึงบ้าน เท่าที่ผมรู้ตอนนี้คือ มาซายะถูกสั่งห้ามไม่ให้ไปไหนโดยไม่มีคนพวกนี้ไปด้วย

ตอนนี้มาซายะอยู่ในสภาพเลวร้ายสุดๆ

ผมนั่งบนเก้าอี้ มองมาซายะที่กำลังทานอย่างเชื่องช้า ปกติหมอนี่เป็นพวกที่กินได้มากจนน่าตกใจ กลับเลวร้ายถึงจุดที่บอกว่าอิ่้มทั้งที่กินข้าวต้มไปแค่ไม่กี่ช้อน อันที่จริง เราพยายามจะให้เขาทานอะไรหนักๆ บ้าง ทว่าเขากลับอ้วกออกมาจนหมด

ต่อจากออกเดินทางแล้ว ก็จะอดอาหารเรอะ?!

สิ่งนี้มีแต่เพิ่มความกังวลและแพนิคของพวกเราเท่านั้น

ผมส่งแก้วน้ำให้มาซายะตอนที่หมอนั่นยื่นมือมา ดวงตาผมยังจับจ้องทุกการเคลื่อนไหวของเขา มือสั่น เสียงแหบพร่า ผิวซีดเผือดทำให้หมอนี่ดูเหมือนคนที่กำลังต่อสู้กับอาการป่วยสาหัส

ช่วงนี้ห้ามคนเข้าเยี่ยม เพียงไม่กี่คนที่อนุญาตให้พบมาซายะได้มีแค่คุณหมอ, พ่อแม่ของเขา และผมเท่านั้น กระทั่งญาติสนิทก็ห้ามเข้าคฤหาสน์คาบุรากิ กฏข้อนี้ใช้กับทุกคน โดยเฉพาะยูริเอะ

เนื่องจากเหตุผลที่มาซายะออกเดินทางคืออกหัก เธอเลยถูกปฏิเสธและห้ามเข้าใกล้มาซายะในช่วงนี้ ใครจะรู้ว่ามาซายะจะเป็นยังไงถ้าเห็นเธอปรากฏตัว? นี่อาจเป็นการผลักมาซายะไปขอบผาเลยก็ได้

แล้วยูริเอะล่ะ?

พระเจ้า ผมคิดไม่ออกเลยว่ายัยนั่นจะรู้สึกเจ็บปวดและรู้สึกผิดขนาดไหน ถึงจะไม่ใช่ความผิดของเธอสักนิด แต่ยูริเอะก็เป็นคนจิตใจอ่อนโยนมาก เธอต้องร้องไห้แน่ถ้าเห็นมาซายะตอนนี้

ผมก็ร้องไห้เหมือนกัน ตอนที่พบตัวเขา

สุดท้ายผมก็นึกถึงตอนที่ผมเจอเข้าขึ้นมา ทั้งมืดมน สิ้นหวัง รอบตาดำปื้น ทั้งยังใบหน้าซีดเซียวแข็งทื่อ ตอนที่ผมเจอมาซายะนั้นเขาดูทั้งน่าสงสารคล้ายจะแตกสลาย

มาซายะดูจะแปลกใจและตกใจที่ผมปรากฏตัวอย่างกระทันหัน ผมไม่โทษเขาหรอก หมอนั่นคงคิดว่าตัวเองจะหนีออกไปฆ่าตัวตายได้ล่ะมั้ง ไอ้โง่เง่าน่ารังเกียจนี่

233 Nameless Fanboi Posted ID:jr+3Nni8G0

"นายร้องไห้น่าเกลียดชะมัด"

คำแรกที่เขาพูดกับผมหลังผ่านไปเดือนนึงโดยไร้การติดต่อใดๆ หลังจากที่ผมต้องค้นหาเขาอย่างไร้จุดหมายตลอดวันหยุดฤดูหนาว หลังจากตามหาเขาไปทั่วอย่างยากลำบาก...

หมอนี่โชคดีแล้วที่ผมควบคุมตัวเองได้ดีขนาดนี้ ไม่งั้นผมคงต่อยเขาไปแล้ว

คุยให้เขายอมล้มเลิกเป็นอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดการค้นหาครั้งนี้ ไอ้หัวดื้อนี่เป็นเหมือนการลงทัณฑ์จากสวรรค์ของผม การกล่อมเขาเป็นสิ่งที่ทำให้ผมตึงเครียดที่สุดเท่าที่เคยทำมา

พูดผิดแค่คำเดียว ผมอาจส่งหมอนี่เข้าโลงได้เลย

ผมสะบัดไล่ความทรงจำในหัวเมื่อได้ยินเสียงเรียก มาซายะ

"ชูสุเกะ...?"

"ทานหมดแล้วเหรอ?"

"ยัง"

ผมยิ้มอ่อน "ไม่เอาน่ามาซายะ ถ้านายทานหมดเดี๋ยวฉันแอบเอาช็อคโกแล็ตมาให้"

แอบเอาช็อคโกแลตมาให้

ทำให้ผมนึกถึงตอนเด็กๆ เวลามาซายะทำตัวดื้อกับคุณแม่ เธอก็จะห้ามเขาทานขนม แล้วหมอนี่ก็จะโมโหกระฟัดกระเฟี้ยด วิธีทำให้หมอนี่อารมณ์ดีขึ้นคือผมจะเอาช็อคโกแลตใส่กระเป๋าและแอบเอาให้เขาเวลาที่แม่เขาไม่ได้มองอยู่ จากนั้นนก็กลายเป็นนิสัยที่ผมต้องคอยแบกช็อคโกแลตมาให้มาซายะเวลาหมอนี่อยากกินขนม

"ฉันไม่อยากได้"

ผมยิ้มแข็งๆ ซ่อนความเจ็บปวด 'นายไม่เคยปฏิเสธขนมมาก่อนเลยนะ'

เหมือนมาซายะจะไม่สังเหต หรือไม่ก็อาจจะเหม่อลอยเกินไป เขาสั่นกระดิ่งเป็นสัญญาณให้พวกคนใช้เข้ามาทำความสะอาดเก็บจานอาหาร ผมนั่งกระดิกเท้าอย่างไม่สบายใจเมื่อเห็นท่าทีเหม่อลอยของเขา

"จะทุ่มนึงแล้ว"

"ฉันรู้"

"ไม่ใช่ว่านายต้องรีบกลับบ้านเหรอ?"

"ฉันจะค้างที่นี่ เดี๋ยวนอนห้องรับแขก"

มาซายะพยักหน้าแล้วกลับไปทำหน้าว่างเปล่าเหมือนเดิม

ผมทนความเงียบแบบนี้ไม่ได้...

"นี่ มาซายะ เรามาคุยกันจนกว่าจะนอนดีกว่า"

"ฉันไม่อยากคุย..."

"งี่เง่า ถ้านายอยากพูด ก็พูด ฉันคุยได้ทุกเรื่อง"

"นายจะตัดสินฉัน"

ผมมองมาซายะอย่างเงียบงัน ก่อนจะเปิดปาก "ฉันเป็นเพื่อนสนิทนายนะ ฉันไม่ตัดสินนายหรอก แค่บอกฉันมา โอเค้?"

ผมเห็นมาซายะยังลังเล เลยยิ้มอ่อนโยนไปให้ "ฉันจะอยู่นี่ตอนที่นายพร้อม"

ผมเดินไปยังประตู ทว่าถูกหยุดเอาไว้เสียก่อนด้วยแรงดึงที่แขนเสื้อ

"หืม?"

"ชูสุเกะ...ขอบใจ...ที่ตามหาฉัน"

"ฉันต้องตามหานายอยู่แล้ว ถ้านายหายไปแล้วใครจะมาเป็นเพื่อนสนิทฉันเล่า?" ผมหัวเราะแล้วตบหัวเขาเบาๆ

"เจอกันพรุ่งนี้เช้า"

"ฝันดี...ชูสุเกะ"

"ฝันดี"

*จบ Ch22*

กุจิ้นบทนี้มาก แง

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.