8.
แต่เขาคิดผิด
มาซายะไม่รู้ว่าเป็นความผิดของคิโชวอินที่มักจะทำให้เขาระลึกเสมอว่าเธอเป็นผู้หญิง หรือเขามีจิตใจหยาบช้าลามกกันแน่ แต่เขาแอบโทษว่าต้นเหตุ 70% มาจากคิโชวอิน เพราะตอนที่เขาตามตื้อยูริเอะ หรือแม้กระทั่งตอนคบกับวาคาบะ เขายังไม่เจอปัญหาแบบนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว
ไม่ใช่ว่าเขาไม่ได้รู้สึกอยากจะกอดผู้หญิงที่ชอบ แต่เขาคิดว่าเรื่องแบบนี้ควรจะเกิดขึ้นหลังแต่งงาน ดังนั้นเวลาที่อยู่กับพวกเธอในใจของเขาจึงมีแต่ความรู้สึกตื่นเต้น อบอุ่น และมีความสุข ส่วนกลไกลตามธรรมชาติของผู้ชายก็เป็นไปตามปกติ เขาไม่เคยคิดถึงพวกเธอในแง่สกปรกเลยแม้แต่น้อย เพราะตั้งมั่นอยากจะให้ความรักของเขาเป็นความรักที่บริสุทธิ์ที่สุด
ทว่าในกรณีของคิโชวอินกลับต่างออกไป ถึงเธอจะเป็นภรรยาของเขา แต่ก็เป็นภรรยาแค่ในนามเท่านั้น ฐานะจริง ๆ ของเธอคือเพื่อนร่วมชะตากรรมในงานแต่งคลุมถุงชนครั้งนี้ เขาไม่ควรจะคิดกับเธอในแง่ไหนก็ตามที่ไม่เหมาะสม แต่เขาก็ห้ามความคิดตัวเองไม่ได้
ตอนที่กลับมาถึงโรงแรมหลังจากที่เกิดอุบัติเหตุเล็ก ๆ น้อย ๆ ในร้านอาหาร มาซายะก็กลับเข้าห้องด้วยความรู้สึกเหนื่อยล้ากว่าปกติ ตอนที่เขาจะถอดชุดเข้าไปอาบน้ำ ก็พบว่าในกระเป๋ากางเกงของตัวเองยังคงมีกล่องผ้าอนามัยที่ซื้อให้กับคิโชวอินในครั้งแรก เธอยัดใส่มือเขาตอนที่เขาบ่นถามว่าทำไมเธอถึงไม่ยอมใช้อันที่เขาซื้อมาให้อันแรก คิโชวอินฝากเขาให้ไปทิ้ง แต่มาซายะหาถังขยะไม่เจอเขาเลยใส่ไว้ในกระเป๋า
ทั้ง ๆ ที่อยู่ในช่วงเวลาฉุกเฉิน เธอกลับยังเรื่องมาก เขาแอบบ่นเธอในใจแล้วมองเจ้ากล่องผ้าอนามัยนั่น ตั้งใจจะเอาทิ้งลงถังขยะ แต่รูปที่แสดงข้างหน้ากล่องดึงดูดความสนใจของเขา
ความอยากรู้อยากเห็นของมาซายะพุ่งขึ้นทันที เขาเพิ่งสังเกตว่ารูปลักษณ์มันแตกต่างจากผ้าอนามัยที่คิโชวอินใช้ให้เขาไปซื้อในครั้งที่สอง
ไหน ๆ ของก็จะต้องทิ้งแล้ว มาซายะเลยคิดว่าเขาควรจะศึกษามันเพื่อประโยชน์ในภายภาคหน้า เผื่อว่าคิโชวอินเกิดอุบัติเหตุฉุกเฉินแบบนี้อีก พอแกะกล่องออกมาก็พบว่าของข้างในถูกดึงออกไปใช้แล้วชิ้นหนึ่ง เขาเลยหยิบเอาอีกชิ้นมาแกะดู
มันเป็นสำลีที่ขึ้นรูปเป็นทรงกระบอกปลายมน เขาพลิกมันเล่นไปมาอย่างสนใจ ก่อนจะพลิกดูวิธีการใช้หลังกล่อง และตัวแข็งเมื่ออ่านพบว่าเจ้าของชิ้นนี้ไปอยู่ตรงส่วนไหนของร่างกายผู้หญิง
ในตอนแรกคิโชวอินเหมือนจะหายไปในห้องน้ำกับเจ้ากล่องนี้อยู่นานพอสมควร ซ้ำในกล่องยังมีร่องรอยการดึงสินค้าไปใช้แล้ว ก็หมายความว่าในห้องน้ำนั่นคิโชวอินพยายามจะ...
เขาโยนผ้าอนามัยในมือทิ้งเมื่อในหัวมีภาพคิโชวอินในชุดกระโปรงสีขาวรั้งกระโปรงขึ้นมา ชุดชั้นในกองอยู่ที่เข่า ใบหน้าที่เหมือนตุ๊กตามุ่ยลงน้อย ๆ ดวงตาชุ่มไปด้วยน้ำตาขณะพยายามจะสอดแท่งสีขาวเล็ก ๆ เข้าไป...
มาซายะรู้สึกได้ว่าหน้าของตัวเองร้อนผ่าว เขาพยายามลบภาพนั้นออกจากหัว แต่ภาพขาเปลือยทั้งสองข้างของคิโชวอินกลับเข้ามาแทนที่ ทำให้ร่างกายของเขาเกิดปฏิกริยาอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้
แต่ถึงยังไงเขาก็ปฏิเสธที่จะใช้ภาพของคิโชวอินเสริมสร้างจิตนาการในกิจกรรมส่วนตัวของเขา เพราะว่าเขาส่งไลน์ถึงคิโชวอินไม่ได้อย่างเด็ดขาด เขาเลยส่งข้อความหาเพื่อนสนิทของเขา
‘ชูสึเกะ ฉันรู้สึกเหมือนจะเป็นบ้า ตอนนี้ฉันแข็งจนเลือดไม่ไปเลี้ยงสมองแล้ว’
แม้ว่าไลน์จะขึ้นว่าอ่านแล้วทันที แต่ชูสึเกะกลับใช้เวลาเกือบสองนาทีในการตอบเขา
‘มาซายะ นายจะชวนฉันเล่นเซ็กซ์เท็กซ์รึไง’
เขาพิมพ์ตอบกลับไปอย่างขัดใจ
‘จะบ้าเหรอ ฉันขอคำแนะนำจากนายต่างหาก’
ชูสึเกะเงียบไปซักพัก ก่อนจะตอบกลับมาสั้น ๆ
‘มือ?’
เขาพิมพ์ตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว
‘ฉันทำอย่างนั้นไม่ได้ อีกฝ่ายเป็นคิโชวอิน’
คราวนี้ชูสึเกะเงียบไปนานมาก นานจนเขาเพิ่งคิดได้ว่า การเอาเรื่องนี้มาปรึกษาชูสึเกะน่าจะเป็นความคิดที่ไม่ดีเท่าไหร่ ทว่าแทนที่ชูสึเกะจะเงียบไม่สนใจเขา อีกฝ่ายดันพิมพ์กลับมา
‘นายเคยบอกฉันว่าความสัมพันธ์ของนายกับคุณคิโชวอินเป็นแค่เพื่อน นายที่เห็นเธอเป็นเพื่อนก็ไม่ควรคิดเรื่องแบบนั้นกับเธอ ถ้าฉันใช้นายเป็นตัวละครในเซ็กซ์แฟนตาซี นายก็คงไม่พอใจเหมือนกันใช่ไหมล่ะ มาซายะ’
เขามองโทรศัพท์ รู้สึกอารมณ์ดับวูบทันทีที่อ่านข้อความของชูสึเกะ ถึงแม้จะยังรู้สึกขยะแขยงไม่หาย แต่อย่างน้อยเขาก็กำจัดปัญหาเฉพาะหน้าลงไปได้อย่างหนึ่ง
จบ Y - Yearn (part 1 ใน3)