2.
“ท่านคาบุรากิ ได้โปรดเถอะค่ะ”
คิโชวอินออดอ้อนเขาด้วยสีหน้าที่เขาได้เห็นเฉพาะตอนเคี่ยวเข็ญให้เธอออกกำลังกายเท่านั้น แม้ว่าเขาจะแอบหวั่นไหวไปชั่ววูบ คิดในใจว่านี่สินะสีหน้าที่ทำให้พี่ชายของเธอมาหาเขาในวันก่อนวันแต่งงาน แล้วขู่เขาว่าถ้าเขาทำให้เธอเจ็บปวด คิโชวอิน ทาคาเทรุ จะเป็นคนที่ขุดหลุมฝังเขาด้วยตนเอง แม้ว่ารอยยิ้มนั่นจะอ่อนโยนมาก แต่เขากลับสัมผัสได้ถึงรังสีสังหารแบบที่คำตอบมีอยู่อย่างเดียวคือการก้มหัวให้อีกฝ่าย แล้วบอกว่าเขาจะดูแลเธอให้ดีที่สุด
หากทว่าเขาไม่ได้ใจอ่อนกับลูกอ้อนของเธอ คิโชวอินอ้วนขึ้นจากตอนสมัยเรียนจบจริง ๆ เขาเดาว่าเธอคงเครียดเรื่องแต่งงานจนตะลุยกินไม่ยั้ง เธอเองก็ลั่นวาจาออกมาแล้วว่าจะตั้งใจลดน้ำหนัก ดังนั้นเขาจะอ่อนข้อไม่ได้อีกเป็นอันขาด แม้กระทั่งตอนที่ลงไปทานอาหารมื้อค่ำกับท่านพ่อและท่านแม่ของเขาก็ตามที
ท่านแม่พอเห็นคิโชวอินขาลากเพราะออกกำลังกายหนักไปหน่อยก็ติงเขา แต่มาซายะบอกไปว่าถ้าฝึกให้ชินก็ดีขึ้นเอง ตอนนี้ตัวทั้งตัวของเธอไม่มีกล้ามเนื้อเลยแม้แต่น้อย ก็น่าอยู่หรอกที่จะขาลากหลังจากวิ่งบนลู่นานขนาดนั้น
เขามองคิโชวอินที่มองเขากินขนมมื้อเย็นที่เธอไม่ได้รับอนุญาตให้กิน ก่อนจะขยับปากดุเธอว่า ‘อ้วน’ แล้วลงมือกินต่อ เริ่มเข้าใจความรู้สึกของชูสึเกะแล้วว่าทำไมถึงชอบแกล้งเธอนัก
.....
3.
คิโชวอินจัดงานแรกในฐานะมาดามน้อยของบ้านคาบุรากิได้อย่างสมบูรณ์แบบอย่างที่แม้แต่มาซายะเองก็ยังหาข้อติไม่ได้ และงานเปิดตัวโรงแรมสาขาใหม่ก็คงจะจบลงอย่างสมบูรณ์แบบเช่นกันหากคิโชวอินไม่ยืนบื้อใบ้เหม่อลอยกลางงานหลังจากที่คุยกับชูสึเกะและผู้หญิงจากตระกูลอุริว
ดังนั้นมาซายะจึงเข้าไปหาเธอ เธอแก้ตัวกับเขาว่านึกถึงเปียโนที่เขาดีดให้สมัยมัธยม เขาจึงถามเธอว่าอยากฟังเพลงไหน เมื่อเธอขอเพลงของเดอบูว์ซี เขาก็เล่นให้ตามที่เธอขอ
เมื่อดีดเปียโนจนจบเพลงสั้น ๆ คิโชวอินก็เดินเข้ามาโอบเอวเขา แม้ว่าท่าทางนั้นจะเป็นการแสดง แต่ความพึงพอใจในเสียงดนตรีนั่นเป็นของจริง
เขาพาเธอไปคุยกับคู่สามีภรรยานักการเมืองคู่หนึ่ง มือของคิโชวอินยังคงโอบเอวเขา ส่วนมือของเขาแตะอยู่เหนือสะโพกของเธอ ปลายนิ้วสัมผัสได้ถึงผิวเนื้อเนียนละเอียดที่โผล่พ้นจากชุดราตรีผ่าหลังลึก เขาหัวเราะให้กับมุขตลกของนักการเมืองคนนั้น ทำเป็นไม่เห็นสายตาของชูสึเกะที่จ้องอย่างไม่วางตาตั้งแต่ตอนที่คิโชวอินเดินเข้ามาหาเขา
.....
4.
มาซายะเคยฝันว่าเขาจะได้อยู่กับผู้หญิงที่เขารัก หากแต่ความฝันนั้นเป็นไปไม่ได้แล้ว และเขาก็ไม่ใช่คนเพ้อฝันที่จะเอาแต่คิดในสิ่งที่ลงมือทำไม่ได้ ดังนั้นมาซายะจึงคิดว่า ในเมื่อเขาอยู่กับผู้หญิงที่เขารักไม่ได้ เขาก็จะเปิดใจยอมรับคิโชวอินในชีวิตของเขา แม้ว่าเขาไม่ได้รักเธอ แต่ถ้าเป็นเธอ ถึงจะอยู่ในฐานะไหน เขาก็คิดว่าตัวเองน่าจะมีความสุขได้ไม่ยากนัก
.....