Fanboi Channel

ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับถุงกาวที่ไม่มีวันหมด ไม่เหนื่อยล้าแม้จะร้องไห้ [เติมถุงกาวครั้งที่ 28]

Last posted

Total of 1000 posts

88 Nameless Fanboi Posted ID:elWGcc8G4X

Y - Yearn (A-W with Kaburagi’s POV)

1.

วันนี้เป็นวันแต่งงานของเขา

หากแต่ผู้หญิงที่เขารักและคิดจะอยู่ร่วมกับเธอชั่วชีวิตกลับนั่งอยู่ที่โต๊ะสำหรับแขก ผู้หญิงในชุดแต่งงานกลับเป็นเพื่อนสมัยเด็กของเขาที่ท่านแม่จับคู่ให้

มาซายะไม่อยากจะมองวาคาบะที่ยิ้มให้กับเขาด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน เขายังรู้สึกผิดที่ตัวเองไม่มีอำนาจพอที่จะต่อสู้กับบ้านคาบุรากิและฝ่าฟันอุปสรรคเพื่อที่จะได้อยู่กับเธอได้ ดังนั้นเขาจึงมองคิโชวอินที่พยายามปั้นสีหน้ายิ้มน้อย ๆ เพื่อให้กล้องที่จับภาพพวกเราจับได้แต่ภาพการแต่งงานอันยิ่งใหญ่อลังการของบ้านคาบุรากิกับบ้านคิโชวอิน ไม่มีเรื่องให้เอาไปซุบซิบนินทาทีหลังอย่างการที่เจ้าบ่าวมีคนรักอยู่แล้วหรือเจ้าสาวยังไม่อาจตัดใจจากเพื่อนสนิทของเจ้าบ่าวซึ่งแต่งงานไปเมื่อสามเดือนก่อน

เขาสงสัยว่าชีวิตต่อจากนี้จะเป็นยังไง คิโชวอินจะคาดหวังให้เขาปฏิบัติต่อเธอเหมือนสามีคนหนึ่งปฏิบัติต่อภรรยาหรือไม่ คาบุรากิเหลือบมองเพื่อนสมัยเด็กของเขา แม้ในช่วงต้นของชีวิตเขาจะไม่ได้สนิทกับเธอมากนัก แต่ในช่วงมัธยมปลายเธอกลายเป็นอีกคนหนึ่งที่เขาเล่าเรื่องต่าง ๆ และไปไหนมาไหนด้วยกันได้ แม้ว่าความสนิทสนมของเขาและเธอจะทำให้ท่านแม่ไม่ยอมลดละความตั้งใจในการแต่งคิโชวอินเข้าบ้าน แต่เขาก็ไม่รู้สึกเสียดายเลยแม้แต่น้อยที่ได้รู้จักเธอ

ช่วงเวลาเข้าหอเป็นช่วงเวลาที่คาบุรากิรู้สึกอึดอัด

ในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง เขาสามารถทำเรื่องที่ผู้ชายคนหนึ่งทำกับผู้หญิงอีกคนหนึ่งได้ มันก็เป็นแค่เรื่องทางร่างกาย แม้ว่าเขาจะไม่เคยทำมาก่อนแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร หากให้เขาพูดถึงคิโชวอิน เธอก็เป็นผู้หญิงที่หน้าตาสวยคนหนึ่ง แต่ในฐานะที่เธอเป็นเพื่อนกับเขามาทั้งชีวิต ซ้ำยังคงรักเพื่อนสนิทของเขา มาซายะเลยไม่รู้สึกมีอารมณ์เลยซักนิด

โชคดีที่คิโชวอินเองก็เหนื่อยจนแทบสลบพอ ๆ กัน เขาสังเกตว่าตลอดทั้งงานเธอก็ไม่ได้กินอะไรเหมือนเขา พอเขาเปิดตู้เย็นชวนกินขนมที่เตรียมไว้ คิโชวอินก็ดูแจ่มใสขึ้น ทว่ากินไปได้ไม่กี่คำ เธอกลับร้องไห้ออกมา

ไม่บ่อยครั้งนักที่คิโชวอินร้องไห้ เลยทำให้เขารู้สึกตกใจไม่น้อย แต่พอถามคิโชวอินกลับบอกว่าเพราะชุดแน่นเกินไป เลยกินอะไรไม่ได้

สุดท้ายแล้วเขาก็เป็นคนช่วยแก้คอร์เซ็ตของเธอ ผิวขาว ๆ ที่ถูกคอร์เซ็ตรัดจนแน่นขึ้นรอยแดงทำให้เขาร้อนวูบ มาซายะเองก็เป็นผู้ชายเช่นกัน เมื่อมีผู้หญิงคนหนึ่งเปลือยหลังในชุดหลุดรุ่ยที่เขาเป็นคนถอดให้มาอยู่ต่อหน้าแล้วจะไม่รู้สึกรู้สาอะไรนั่นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย

แต่ถึงกระนั้นมาซายะก็ไม่ได้ทำอะไรนอกจากบ่นเรื่องน้ำหนักของเธอ เพราะถ้าหากว่าเธอผอมกว่านี้ คอร์เซ็ตก็คงไม่รัดซะจนหายใจไม่ออก คิโชวอินมีสีหน้าเหมือนกลืนของขม แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรเพราะมัวแต่สนใจขนม

ในคืนนั้นคิโชวอินไม่ได้เรียกร้องให้เขาเข้าไปนอนในห้องอย่างที่เขาแอบกลัว มาซายะอาบน้ำแล้วนอนลงบนโซฟา ก่อนจะหวนคิดไปถึงคำพูดของคิโชวอิน

‘ฉันไม่รังเกียจหรอกนะถ้าท่านคาบุรากิจะแอบพบกับคุณทาคามิจิอย่างลับ ๆ’

ชั่ววูบหนึ่งเขาคิดถึงความเป็นไปได้ที่เขาจะแอบคบกับวาคาบะ แต่มาซายะก็ตัดความคิดนั้นไปอย่างรวดเร็ว เขารู้ว่าวาคาบะเป็นผู้หญิงที่มีศักดิ์ศรีมากเกินกว่าที่จะแอบคบกับสามีของคนอื่น และเขาเองก็มีศักดิ์ศรีมากพอที่จะไม่ทำเรื่องต่ำช้าแบบนั้น

ในคืนนั้นเขาหลับไปโดยความคิดสุดท้ายคืองานที่ทำค้างเอาไว้ที่บริษัทและโปรแกรมลดน้ำหนักของคิโชวอิน

.....

89 Nameless Fanboi Posted ID:elWGcc8G4X

2.

“ท่านคาบุรากิ ได้โปรดเถอะค่ะ”

คิโชวอินออดอ้อนเขาด้วยสีหน้าที่เขาได้เห็นเฉพาะตอนเคี่ยวเข็ญให้เธอออกกำลังกายเท่านั้น แม้ว่าเขาจะแอบหวั่นไหวไปชั่ววูบ คิดในใจว่านี่สินะสีหน้าที่ทำให้พี่ชายของเธอมาหาเขาในวันก่อนวันแต่งงาน แล้วขู่เขาว่าถ้าเขาทำให้เธอเจ็บปวด คิโชวอิน ทาคาเทรุ จะเป็นคนที่ขุดหลุมฝังเขาด้วยตนเอง แม้ว่ารอยยิ้มนั่นจะอ่อนโยนมาก แต่เขากลับสัมผัสได้ถึงรังสีสังหารแบบที่คำตอบมีอยู่อย่างเดียวคือการก้มหัวให้อีกฝ่าย แล้วบอกว่าเขาจะดูแลเธอให้ดีที่สุด

หากทว่าเขาไม่ได้ใจอ่อนกับลูกอ้อนของเธอ คิโชวอินอ้วนขึ้นจากตอนสมัยเรียนจบจริง ๆ เขาเดาว่าเธอคงเครียดเรื่องแต่งงานจนตะลุยกินไม่ยั้ง เธอเองก็ลั่นวาจาออกมาแล้วว่าจะตั้งใจลดน้ำหนัก ดังนั้นเขาจะอ่อนข้อไม่ได้อีกเป็นอันขาด แม้กระทั่งตอนที่ลงไปทานอาหารมื้อค่ำกับท่านพ่อและท่านแม่ของเขาก็ตามที

ท่านแม่พอเห็นคิโชวอินขาลากเพราะออกกำลังกายหนักไปหน่อยก็ติงเขา แต่มาซายะบอกไปว่าถ้าฝึกให้ชินก็ดีขึ้นเอง ตอนนี้ตัวทั้งตัวของเธอไม่มีกล้ามเนื้อเลยแม้แต่น้อย ก็น่าอยู่หรอกที่จะขาลากหลังจากวิ่งบนลู่นานขนาดนั้น

เขามองคิโชวอินที่มองเขากินขนมมื้อเย็นที่เธอไม่ได้รับอนุญาตให้กิน ก่อนจะขยับปากดุเธอว่า ‘อ้วน’ แล้วลงมือกินต่อ เริ่มเข้าใจความรู้สึกของชูสึเกะแล้วว่าทำไมถึงชอบแกล้งเธอนัก

.....

3.

คิโชวอินจัดงานแรกในฐานะมาดามน้อยของบ้านคาบุรากิได้อย่างสมบูรณ์แบบอย่างที่แม้แต่มาซายะเองก็ยังหาข้อติไม่ได้ และงานเปิดตัวโรงแรมสาขาใหม่ก็คงจะจบลงอย่างสมบูรณ์แบบเช่นกันหากคิโชวอินไม่ยืนบื้อใบ้เหม่อลอยกลางงานหลังจากที่คุยกับชูสึเกะและผู้หญิงจากตระกูลอุริว

ดังนั้นมาซายะจึงเข้าไปหาเธอ เธอแก้ตัวกับเขาว่านึกถึงเปียโนที่เขาดีดให้สมัยมัธยม เขาจึงถามเธอว่าอยากฟังเพลงไหน เมื่อเธอขอเพลงของเดอบูว์ซี เขาก็เล่นให้ตามที่เธอขอ

เมื่อดีดเปียโนจนจบเพลงสั้น ๆ คิโชวอินก็เดินเข้ามาโอบเอวเขา แม้ว่าท่าทางนั้นจะเป็นการแสดง แต่ความพึงพอใจในเสียงดนตรีนั่นเป็นของจริง

เขาพาเธอไปคุยกับคู่สามีภรรยานักการเมืองคู่หนึ่ง มือของคิโชวอินยังคงโอบเอวเขา ส่วนมือของเขาแตะอยู่เหนือสะโพกของเธอ ปลายนิ้วสัมผัสได้ถึงผิวเนื้อเนียนละเอียดที่โผล่พ้นจากชุดราตรีผ่าหลังลึก เขาหัวเราะให้กับมุขตลกของนักการเมืองคนนั้น ทำเป็นไม่เห็นสายตาของชูสึเกะที่จ้องอย่างไม่วางตาตั้งแต่ตอนที่คิโชวอินเดินเข้ามาหาเขา

.....

4.

มาซายะเคยฝันว่าเขาจะได้อยู่กับผู้หญิงที่เขารัก หากแต่ความฝันนั้นเป็นไปไม่ได้แล้ว และเขาก็ไม่ใช่คนเพ้อฝันที่จะเอาแต่คิดในสิ่งที่ลงมือทำไม่ได้ ดังนั้นมาซายะจึงคิดว่า ในเมื่อเขาอยู่กับผู้หญิงที่เขารักไม่ได้ เขาก็จะเปิดใจยอมรับคิโชวอินในชีวิตของเขา แม้ว่าเขาไม่ได้รักเธอ แต่ถ้าเป็นเธอ ถึงจะอยู่ในฐานะไหน เขาก็คิดว่าตัวเองน่าจะมีความสุขได้ไม่ยากนัก

.....

90 Nameless Fanboi Posted ID:Uc4W17vWkN

5.

เขารู้ได้เลยว่าคิโชวอินกำลังโกหกอยู่

ในระหว่างที่ต้องบินไปทำงานที่ต่างประเทศ เขาสั่งให้คิโชวอินถ่ายภาพอาหารส่งมาให้เขา ทว่าภาพถ่ายอาหารที่เธอส่งมาให้มันดูคลีนเกินไป ปริมาณน้อยเกินไป คำโอดครวญและคำขอร้องที่แนบมากับรูปถ่ายพวกนั้นก็สั้นเกินไป

มาซายะเหลือบมองกองเอกสาร ในตอนนี้เป็นเวลาสี่ทุ่มแล้ว ความจริงเขาควรจะกลับไปพักผ่อน แต่เขาหยิบอีกกองมาอ่าน เพราะถ้าขืนเขาไม่รีบกลับไป คิโชวอินมีหวังได้น้ำหนักพุ่งจนกู่ไม่กลับแน่นอน

.....

6.

เสียงงุ้งงิ้งน่ารำคาญของผู้หญิงที่มาเกาะแกะเขาทำให้มาซายะรู้สึกเหมือนตัวเองกลับไปอยู่ตอนมัธยม

ดาราสาวที่เขาจำชื่อไม่ได้ แต่เธอเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับไลน์เครื่องสำอางวัยรุ่นในธุรกิจคาบุรากิพยายามเกาะแขนออดอ้อนให้เขาพาเธอออกไปทานอาหารมื้อค่ำ มาซายะบอกปัดเธออย่างสุภาพอยู่หลายครั้ง เขาไม่ใช่เด็ก ๆ ที่สามารถระเบิดความโกรธออกมาได้เหมือนตอนที่อยู่มัธยมอีกแล้ว แต่เธอก็น่ารำคาญจนเขารู้สึกอยากจะทำอย่างนั้นอยู่หลายครั้ง

เช้าวันต่อมาข่าวพาดหัวบนอินเตอร์เน็ตถูกส่งมาให้เขาในตอนเช้าหลังจากที่มาซายะอาบน้ำเสร็จ ชูสึเกะแคปหน้าจอของตัวเองส่งมาทางไลน์ แล้วส่งอีโมติค่อนเลิกคิ้วมาให้

มาซายะยักไหล่ พิมพ์ตอบกลับไปว่าก็แค่ผู้หญิงน่ารำคาญคนหนึ่ง

ดาราสาวคนนั้นยังไม่เลิกตามตื้อเขา

ตั้งแต่ใช้เธอเป็นพรีเซ็นเตอร์ ยอดขายก็พุ่งขึ้นมากว่าเดิม 250% ดังนั้นเขาจึงไม่อยากจะมีเรื่องขัดแย้งโดยตรง หรือทำให้เธอร้องห่มร้องไห้จนเกิดเรื่องฉาว แต่เธอกลับใช้ประโยชน์ตรงนั้นตามตื้อเขาไปยังที่ต่าง ๆ

เขาเกือบจะคิดถึงสมัยเรียนมัธยมที่มีคิโชวอินทนเสียงกรี๊ดกร๊าดปวดประสาทเป็นเพื่อนเพราะอยู่ห้องเดียวกัน แต่แล้วเขาก็คิดถึงคำพูดของเธอที่ตำหนิว่าแค่เรื่องเล็ก ๆ เขายังจัดการไม่ได้ เขาจะเหมาะสมกับการเป็นผู้นำตระกูลคาบุรากิได้ยังไง

มาซายะเริ่มยิ้มไม่ถึงตา หวังว่าดาราสาวจะอ่านสีหน้าของเขาออกบ้าง แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย เขาเลยตะคอกเธอไปเหมือนตอนที่ตะคอกสาว ๆ ซุยรัน

เย็นวันนั้นข่าวพาดหัวถูกแคปโดยชูสึเกะส่งมาทางไลน์ของเขาก่อนที่ผู้ช่วยของเขาจะส่งมาเหมือนเคย มาซายะพิมพ์ไลน์ตอบกลับไปว่า ถ้ามัวแต่จ้องข่าวฉาว เอาเวลาไปจัดการปัญหาของตัวเองดีกว่า หรืออย่างน้อยก็ช่วยเขาแก้ปัญหาเรื่องดาราสาวคนนี้

ชูสึเกะพิมพ์ไลน์ตอบกลับมาว่าเขาจัดการปัญหาของเอ็นโจเรียบร้อยแล้ว และถ้าอยากให้ช่วยจัดการปัญหาของมาซายะ แค่ปล่อยข่าวไปว่าพวกเขาเป็นคู่เกย์กันสมัยเรียน รับรองว่ากลบข่าวเรื่องดาราสาวคนนี้ได้มิดอย่างแน่นอน

มาซายะพิมพ์ด่าหยาบคายกลับไป บอกว่าแค่นี้คิโชวอิน เรย์กะ ก็แอบสงสัยว่าเขากับชูสึเกะเป็นคู่รักลับ ๆ กันแล้ว จะให้คิโชวอิน ทาคาเทรุ คิดไปด้วยรึไง

ชูสึเกะเงียบไป เขาเองก็ไม่ได้พิมพ์อะไรไปต่อ ในบรรดาคนทั้งหมดที่คอยปกป้องคิโชวอิน พี่ชายของเธอเป็นคนที่พวกเขาไม่อยากจะรับมือด้วยมากที่สุด

ครั้งที่สามหลังจากที่ข่าวถูกพาดหัว ไลน์ของเขาเด้งขึ้นมาอีกครั้ง ทว่าไม่ใช่จากชูสึเกะ ไม่ใช่จากผู้ช่วยของเขา แต่จากคิโชวอิน ทาคาเทรุ

ไม่มีคำพูดอะไรต่อท้าย มีแต่เนื้อหาข่าวสามฉบับ และนั่นก็เป็นคำขู่ที่น่ากลัวที่สุด

ในตอนที่เขาจะให้ผู้ช่วยไปจัดการทำให้เธอสงบเสงี่ยมหน่อย สายข่าวในสถานีโทรทัศน์ก็ไลน์มาบอกผู้ช่วยของเขาว่าคิโชวอินไปดูกองถ่ายด้วยตนเอง ดูเหมือนเธอจะพูดอะไรกับดาราคนนั้นเล็กน้อย แต่ชมว่าดาราสาวมีฝีมือดี ขยันขันแข็ง และหลังจากที่เธอกลับไป ผู้จัดการดาราคนนั้นก็ส่งจดหมายมาหาผู้ช่วยของเขา ทั้งขอโทษเรื่องที่ดาราของตัวเองไปก่อเรื่องวุ่นวาย และรับปากว่าจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก

แม้ว่าการรังแกคนที่อ่อนแอกว่าจะไม่ใช่สิ่งที่เขาชมชอบ แต่ก็อดยอมรับไม่ได้ว่าคิโชวอินจัดการเรื่องพวกนี้ได้เด็ดขาดสมกับเป็นน้องสาวของพี่ชายที่แสนจะน่ากลัวของเธอ

.....

91 Nameless Fanboi Posted ID:g7EI/GraoM

7.

ในวันครบรอบแต่งงานหนึ่งปี เขากับคิโชวอินไปฟินแลนด์

เธอไม่เคยมีทักษะในด้านกีฬายังไง ในตอนนี้ก็ยังคงไม่มีอย่างนั้น ทั้ง ๆ ที่เขาเคี่ยวเข็ญให้เธอฝึกสกี แต่เธอกลับทำได้แค่ร่วงลงไปวัดพื้น พยายามอยู่นานเท่าไหร่ก็ไม่สำเร็จ ดังนั้นเขาจึงเบื่อและปล่อยให้เธอนั่งดื่มชาที่จุดนั่งรอ ส่วนเขาออกไปเล่นสกีคนเดียว นึกสงสัยว่าชูสึเกะทนได้ยังไงที่แต่งงานกับผู้หญิงแบบอุริว ภรรยาของชูสึเกะเป็นผู้หญิงประเภทที่เอาแต่อยู่เงียบ ๆ กับบ้าน เธอจัดงานเลี้ยงบ้างแต่ก็น้อยเต็มที ข้อดีอย่างเดียวก็น่าจะเป็นความสวยที่ผู้ชายส่วนมากอยากปกป้อง แต่มาซายะกลับคิดว่าเธอน่ารำคาญ

มาซายะสงสัยว่าหากในอดีตชูสึเกะกับคิโชวอินลงเอยกัน ท่านแม่ของเขาจะยอมรับวาคาบะหรือเปล่า หรือจะหาเจ้าสาวคนใหม่ที่ดูนุ่มนิ่มเหมือนอุริวให้กับเขา

แค่คิดว่าต้องใช้ชีวิตอย่างสุภาพเรียบร้อยตลอดเวลาแม้กระทั่งอยู่ที่บ้าน มาซายะก็รู้สึกเบื่อแล้ว แม้ในตอนแรกจะไม่ยอมรับการแต่งงานแบบคลุมถุงชน แต่เขาก็ต้องยอมรับว่าท่านแม่เลือกผู้หญิงได้เหมาะสมกับตำแหน่งมาดามคาบุรากิมาก

ถึงคิโชวอินจะห่วยเรื่องกีฬา แต่เรื่องอื่น ๆ เธอกลับทำได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นการช่วยงานเขา การจัดงานเลี้ยงเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ และการออกงานเป็นหน้าเป็นตาให้กับบ้านคาบุรากิ

อีกอย่างเวลาอยู่กับเธอเขาก็ไม่เคยเบื่อเลยแม้แต่น้อย

พวกเขาพักในบับเบิ้ลโดมที่เป็นกระจกทั้งหลัง เขาเคาะกระจกเนื้อหนา รู้สึกสนใจจะทำที่พักที่เป็นกระจกเช่นกัน แต่อาจจะไม่ได้ใช้กระจกทั้งแผ่นแบบนี้ เพราะญี่ปุ่นอุณหภูมิระหว่างหน้าร้อนกับหน้าหนาวต่างกันมาก พื้นผิวที่เป็นกระจกทั้งหมดอาจจะเกิดปัญหาได้หากใช้ไปนาน ๆ

ตอนที่คิโชวอินที่ออกมาจากห้องอาบน้ำ เขาตั้งใจจะถามเธอว่าคิดยังไงกับที่พักที่เป็นเหมือนเรือนกระจก แล้วคำพูดก็หายวับไปเมื่อเห็นเธอในชุดเสื้อสเวตเตอร์ตัวโคร่ง

เขาไม่ได้นึกถึงเธอในฐานะผู้หญิงนัก ในความคิดของเขา คิโชวอินเป็นเพื่อนและผู้ช่วยที่ดี เขาพวกมีความสัมพันธ์กันแบบมืออาชีพ เวลาไปพักที่โรงแรมไหนก็มักจะจองห้องสวีทที่มีห้องนอนใหญ่และห้องนอนแขกเสมอในคราวนี้เขาอยากลองพักในบับเบิ้ลโดม แต่การจองห้องพักสองห้องก็เป็นเรื่องประหลาดสำหรับคู่สามีภรรยา ดังนั้นเขาจึงจองห้องที่มีเตียงสองชั้นแทน

ไม่บ่อยครั้งนักที่เขาจะได้เห็นคิโชวอินหลังอาบน้ำ เส้นผมที่ปกติม้วนจนเป็นเกลียวแน่นเหมือนตุ๊กตาคลายตัวยาวถึงกลางหลัง ใบหน้าปราศจากเครื่องสำอางทำให้ดูเด็กลงกว่าเดิม คอระหงและไหล่แคบโผล่พ้นจากสเวตเตอร์สีขาวตัวโคร่งที่ยาวลงมาปิดถึงต้นขา เธอเดินเท้าเปล่าบนพื้นพรม และตอนที่ก้มตัวลงไปหยิบของในกระเป๋าเดินทาง เขาก็เกือบหัวใจวายเมื่อชายเสื้อเลิกขึ้น แต่ก็ต้องโล่งใจเมื่อเธอใส่กางเกงขาสั้นไว้ข้างใน

คิโชวอินเดินมานั่งลงข้าง ๆ เขา มาซายะพยายามไม่มองขาเปลือยที่โผล่พ้นเสื้อสเวตเตอร์ออกมา อันที่จริงเขาเห็นเธอใส่กระโปรงสั้นหลายครั้ง แต่ในเวลานี้มันกลับให้ความรู้สึกอีโรติกเป็นพิเศษ ผิวสีขาวกลายเป็นสีชมพูเพราะอาบน้ำอุ่นจัด กลิ่นแชมพูหอม ๆ ที่ฟุ้งกระจายออกมาจากเส้นผมทำให้เขารู้สึกเหมือนคิดอะไรไม่ออก จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเขาตั้งใจจะพูดอะไรกับเธอ

เธอยื่นอะไรซักอย่างให้เขา พอเขาเหลือบมองก็พบว่ามันเป็นกล่องของขวัญ เลยนึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองก็เตรียมของขวัญมาเหมือนกัน

ในคืนนั้นเขาแทบไม่ได้นอนเพราะถูกโจมตีด้วยศีลธรรมในจิตใจ เขาเห็นคิโชวอินเป็นแค่เพื่อน แต่กลับไม่สามารถห้ามความคิดตัวเองไม่ให้นึกถึงต้นคอขาวสะอาด แนวไหล่แคบ ๆ ที่แค่วางมือลงไปก็เต็มแล้ว และต้นขาที่โผล่วับ ๆ แวม ๆ ตอนที่เธอขยับตัวเปลี่ยนอิริยาบทได้

เขาอยากจะส่งข้อความถามชูสึเกะว่าควรจะทำยังไงดี แต่แล้วก็เปลี่ยนใจวางโทรศัพท์ลงแล้วข่มตาหลับแทน เรื่องแบบนี้ก็เป็นแค่เรื่องทางกายภาพ เขาแค่ทำงานหนักแล้วก็เก็บกดมากเกินไป ไม่มีอะไรแก้ไขไม่ได้ด้วยการปลดปล่อยความต้องการของร่างกายในตอนที่เขามีเวลาส่วนตัว แล้วปัญหานี้ก็จะผ่านไปอย่างราบรื่นแน่นอน

.....

92 Nameless Fanboi Posted ID:eow/PLcRWc

8.

แต่เขาคิดผิด

มาซายะไม่รู้ว่าเป็นความผิดของคิโชวอินที่มักจะทำให้เขาระลึกเสมอว่าเธอเป็นผู้หญิง หรือเขามีจิตใจหยาบช้าลามกกันแน่ แต่เขาแอบโทษว่าต้นเหตุ 70% มาจากคิโชวอิน เพราะตอนที่เขาตามตื้อยูริเอะ หรือแม้กระทั่งตอนคบกับวาคาบะ เขายังไม่เจอปัญหาแบบนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว

ไม่ใช่ว่าเขาไม่ได้รู้สึกอยากจะกอดผู้หญิงที่ชอบ แต่เขาคิดว่าเรื่องแบบนี้ควรจะเกิดขึ้นหลังแต่งงาน ดังนั้นเวลาที่อยู่กับพวกเธอในใจของเขาจึงมีแต่ความรู้สึกตื่นเต้น อบอุ่น และมีความสุข ส่วนกลไกลตามธรรมชาติของผู้ชายก็เป็นไปตามปกติ เขาไม่เคยคิดถึงพวกเธอในแง่สกปรกเลยแม้แต่น้อย เพราะตั้งมั่นอยากจะให้ความรักของเขาเป็นความรักที่บริสุทธิ์ที่สุด

ทว่าในกรณีของคิโชวอินกลับต่างออกไป ถึงเธอจะเป็นภรรยาของเขา แต่ก็เป็นภรรยาแค่ในนามเท่านั้น ฐานะจริง ๆ ของเธอคือเพื่อนร่วมชะตากรรมในงานแต่งคลุมถุงชนครั้งนี้ เขาไม่ควรจะคิดกับเธอในแง่ไหนก็ตามที่ไม่เหมาะสม แต่เขาก็ห้ามความคิดตัวเองไม่ได้

ตอนที่กลับมาถึงโรงแรมหลังจากที่เกิดอุบัติเหตุเล็ก ๆ น้อย ๆ ในร้านอาหาร มาซายะก็กลับเข้าห้องด้วยความรู้สึกเหนื่อยล้ากว่าปกติ ตอนที่เขาจะถอดชุดเข้าไปอาบน้ำ ก็พบว่าในกระเป๋ากางเกงของตัวเองยังคงมีกล่องผ้าอนามัยที่ซื้อให้กับคิโชวอินในครั้งแรก เธอยัดใส่มือเขาตอนที่เขาบ่นถามว่าทำไมเธอถึงไม่ยอมใช้อันที่เขาซื้อมาให้อันแรก คิโชวอินฝากเขาให้ไปทิ้ง แต่มาซายะหาถังขยะไม่เจอเขาเลยใส่ไว้ในกระเป๋า

ทั้ง ๆ ที่อยู่ในช่วงเวลาฉุกเฉิน เธอกลับยังเรื่องมาก เขาแอบบ่นเธอในใจแล้วมองเจ้ากล่องผ้าอนามัยนั่น ตั้งใจจะเอาทิ้งลงถังขยะ แต่รูปที่แสดงข้างหน้ากล่องดึงดูดความสนใจของเขา

ความอยากรู้อยากเห็นของมาซายะพุ่งขึ้นทันที เขาเพิ่งสังเกตว่ารูปลักษณ์มันแตกต่างจากผ้าอนามัยที่คิโชวอินใช้ให้เขาไปซื้อในครั้งที่สอง

ไหน ๆ ของก็จะต้องทิ้งแล้ว มาซายะเลยคิดว่าเขาควรจะศึกษามันเพื่อประโยชน์ในภายภาคหน้า เผื่อว่าคิโชวอินเกิดอุบัติเหตุฉุกเฉินแบบนี้อีก พอแกะกล่องออกมาก็พบว่าของข้างในถูกดึงออกไปใช้แล้วชิ้นหนึ่ง เขาเลยหยิบเอาอีกชิ้นมาแกะดู

มันเป็นสำลีที่ขึ้นรูปเป็นทรงกระบอกปลายมน เขาพลิกมันเล่นไปมาอย่างสนใจ ก่อนจะพลิกดูวิธีการใช้หลังกล่อง และตัวแข็งเมื่ออ่านพบว่าเจ้าของชิ้นนี้ไปอยู่ตรงส่วนไหนของร่างกายผู้หญิง

ในตอนแรกคิโชวอินเหมือนจะหายไปในห้องน้ำกับเจ้ากล่องนี้อยู่นานพอสมควร ซ้ำในกล่องยังมีร่องรอยการดึงสินค้าไปใช้แล้ว ก็หมายความว่าในห้องน้ำนั่นคิโชวอินพยายามจะ...

เขาโยนผ้าอนามัยในมือทิ้งเมื่อในหัวมีภาพคิโชวอินในชุดกระโปรงสีขาวรั้งกระโปรงขึ้นมา ชุดชั้นในกองอยู่ที่เข่า ใบหน้าที่เหมือนตุ๊กตามุ่ยลงน้อย ๆ ดวงตาชุ่มไปด้วยน้ำตาขณะพยายามจะสอดแท่งสีขาวเล็ก ๆ เข้าไป...

มาซายะรู้สึกได้ว่าหน้าของตัวเองร้อนผ่าว เขาพยายามลบภาพนั้นออกจากหัว แต่ภาพขาเปลือยทั้งสองข้างของคิโชวอินกลับเข้ามาแทนที่ ทำให้ร่างกายของเขาเกิดปฏิกริยาอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้

แต่ถึงยังไงเขาก็ปฏิเสธที่จะใช้ภาพของคิโชวอินเสริมสร้างจิตนาการในกิจกรรมส่วนตัวของเขา เพราะว่าเขาส่งไลน์ถึงคิโชวอินไม่ได้อย่างเด็ดขาด เขาเลยส่งข้อความหาเพื่อนสนิทของเขา

‘ชูสึเกะ ฉันรู้สึกเหมือนจะเป็นบ้า ตอนนี้ฉันแข็งจนเลือดไม่ไปเลี้ยงสมองแล้ว’

แม้ว่าไลน์จะขึ้นว่าอ่านแล้วทันที แต่ชูสึเกะกลับใช้เวลาเกือบสองนาทีในการตอบเขา

‘มาซายะ นายจะชวนฉันเล่นเซ็กซ์เท็กซ์รึไง’

เขาพิมพ์ตอบกลับไปอย่างขัดใจ

‘จะบ้าเหรอ ฉันขอคำแนะนำจากนายต่างหาก’

ชูสึเกะเงียบไปซักพัก ก่อนจะตอบกลับมาสั้น ๆ

‘มือ?’

เขาพิมพ์ตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว

‘ฉันทำอย่างนั้นไม่ได้ อีกฝ่ายเป็นคิโชวอิน’

คราวนี้ชูสึเกะเงียบไปนานมาก นานจนเขาเพิ่งคิดได้ว่า การเอาเรื่องนี้มาปรึกษาชูสึเกะน่าจะเป็นความคิดที่ไม่ดีเท่าไหร่ ทว่าแทนที่ชูสึเกะจะเงียบไม่สนใจเขา อีกฝ่ายดันพิมพ์กลับมา

‘นายเคยบอกฉันว่าความสัมพันธ์ของนายกับคุณคิโชวอินเป็นแค่เพื่อน นายที่เห็นเธอเป็นเพื่อนก็ไม่ควรคิดเรื่องแบบนั้นกับเธอ ถ้าฉันใช้นายเป็นตัวละครในเซ็กซ์แฟนตาซี นายก็คงไม่พอใจเหมือนกันใช่ไหมล่ะ มาซายะ’

เขามองโทรศัพท์ รู้สึกอารมณ์ดับวูบทันทีที่อ่านข้อความของชูสึเกะ ถึงแม้จะยังรู้สึกขยะแขยงไม่หาย แต่อย่างน้อยเขาก็กำจัดปัญหาเฉพาะหน้าลงไปได้อย่างหนึ่ง

จบ Y - Yearn (part 1 ใน3)

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.