A&A - 34.
ปรากฏว่าที่ปวดท้องหน่วง ๆ เมื่อวานไม่ใช่แค่เพราะความเครียด แต่เป็นเพราะประจำเดือนมา
ฉันมองชุดที่เปรอะเลือดประจำเดือน รวมไปถึงผ้าห่มที่ทำมาจากกระโปรงกำมะหยี่ของฉัน มันเปื้อนเลือดแดงแจ๋เป็นวงกว้าง ฉันเลยต้องซักผ้าตั้งแต่เช้าตรู่
การซักผ้าโดยที่ไม่มีผงซักฟอกเป็นเรื่องน่าลำบากยิ่งนัก ฉันเลยตัดสินใจที่จะทำสบู่
ความสามารถแรก ๆ ที่ตัวเอกในนิยายทะลุมิติแสดงออกมาคือการทำสบู่ ต่อจากนั้นก็คิดสร้างสรรค์สารพัด ไปจนกระทั่งออกนโยบายพัฒนาประเทศ ฉันอ่านแล้วสงสัยว่าตัวเอกพวกนั้นใช้ชีวิตในโลกเก่ายังไง ทำไมถึงได้รู้ว่าตัวเองจะต้องทำอะไร แล้วทั้ง ๆ ที่เป็นเด็กในเมือง ทว่าสามารถประดิษฐ์ของที่ใช้ทุ่นแรงในการทำเกษตรได้อย่างง่ายดาย แต่พอคิดว่าถ้าเกิดทะลุมิติมาแล้วง่อยเกินไป ผู้อ่านน่าจะปาหนังสือทิ้งตั้งแต่บทแรก ๆ ดังนั้นเลยต้องมีความสามารถเยอะ ๆ ไว้ก่อน
แม้ว่าฉันจะไม่ได้มีความสามารถมากเหมือนพวกตัวเอกในหนังสือนิยายทะลุมิติที่เคยอ่าน แต่เรื่องทำสบู่นี่สบายมาก ฉันจำได้ว่าแค่เอาน้ำด่างกับไขมันมาผสมกัน เติมน้ำหอมลงไปก็เรียบร้อย
น้ำด่างนั้นสามารถเอามาจากขี้เถ้าในเตา ส่วนไขมันนั้นสามารถขอเนยจากคันตะมาได้ แม้ว่าจะไม่มีน้ำหอม แต่ส่วนผสมหลักที่ใช้ทำสบู่ก็มีครบ
ฉันนึกภาพตัวเองประดิษฐ์สบู่ส่งขายหารายได้เข้ากระเป๋า ถึงแม้ว่าในโลกนี้จะมีสบู่ ทว่ามีแต่ชนชั้นสูงเท่านั้นที่ได้ใช้ ถ้าได้สบู่ช่วยน่าจะพัฒนาเรื่องสุขอนามัยไปได้มาก
ปัญหาคือฉันจำสัดส่วนไม่ได้
แม้ในอดีตฉันจะเคยทำสบู่ส่งอาจารย์ในวิชางานประดิษฐ์ แต่ก็แค่เดินไปซื้ออุปกรณ์สำเร็จที่บอกสัดส่วนไว้อย่างเรียบร้อย แต่เวลานี้กลับไม่ง่ายแบบนั้น
ฉันตั้งหม้อบนเตา แล้วเอาน้ำลงไปต้ม จากนั้นใส่ขี้เถ้าลงไป กะ ๆ เอาว่าน่าจะประมาณนี้แหล่ะ แล้วก็เทเนยลงไปคน ฉันยืนคนส่วนประกอบหน้าเตาแล้วสงสัยว่าไอ้ที่อยู่ในหม้อนี้จะกลายเป็นสบู่ไปได้ยังไง ดูมันไม่ตกตะกอนเหมือนในความทรงจำของฉันเลยแม้แต่น้อย ฉันจ้องหม้ออยู่พักหนึ่ง ก่อนจะใส่ขี้เถ้าลงไปอีก น้ำกลายเป็นสีดำข้น ๆ ฉันคนอีกพักใหญ่ พักกินข้าวเที่ยง กลับมาดูในหม้อก็พบว่ามีตะกอนสีประหลาด ๆ เกิดขึ้นมา แต่ดูหน้าตาไม่น่าจะเป็นสบู่ได้
พอทำถึงตรงนี้ ฉันก็เพิ่งคิดได้ว่า น่าจะต้องละลายขี้เถ้ากับน้ำ แล้วเอาแค่น้ำด่างมา เลยยกหม้อออกจากเตาแล้วตั้งทิ้งไว้ มองหม้อที่อยู่กลางครัวแล้วฉันก็คิดว่า สบู่นี่มันทำง่ายจริง ๆ งั้นเหรอ ทำไมนางเอกการ์ตูนทะลุมิติทุกคนถึงทำได้อย่างง่ายดายขนาดนั้น
ฉันนั่งทำสบู่อยู่หลายวัน ขอเนยจากคันตะคุงจนเขาบ่นว่าฉันเอาไปกินหรือเอาไปใช้แทนฟืนกันแน่ ฉันเลยสารภาพว่าฉันกำลังทำสบู่อยู่
คันตะคุงมาช่วยดูสบู่ของฉัน พอเห็นแล้วเขาก็ส่ายหน้า บอกว่าทักษะในการทำสบู่ของฉันแย่ยิ่งกว่าทำอาหารซะอีก แล้วบอกว่าฤดูกาลแบบนี้เป็นฤดูที่ไม่เหมาะกับการทำสบู่เลยแม้แต่น้อย เพราะอากาศยังชื้นเกินไป ปกติแล้วฤดูทำสบู่จะเริ่มขึ้นในฤดูใบไม้ผลิ ตากตลอดทั้งหน้าร้อน แล้วถึงเอามาใช้ได้ ฉันทำตั้งแต่ตอนนี้จะได้สบู่คุณภาพแย่ มีกลิ่นหืน แถมยังอาจทำให้ผิวถลอกได้อีก
“คันตะคุง...ทำสบู่เป็นด้วยเหรอคะ?”
ฉันมองเขาอย่างทึ่ง ๆ นอกจากทำอาหารเป็นแล้ว ยังทำสบู่เป็นด้วย
“พี่น่ะทำสบู่ใช้เอง ฉันแค่รู้พื้นฐานเบื้องต้นเท่านั้นแหล่ะ”
ฉันฟังแล้วอึ้งไป การทำสบู่เป็นคุณสมบัติพื้นฐานของนางเอกนิยายสินะ ถึงในเรื่องนี้วาคาบะจังจะไม่ได้ทะลุมิติมา แต่ก็ยังทำสบู่เป็น ช่าง...สมกับเป็นนางเอกของเรื่องจริง ๆ
ในเย็นวันนั้นคันตะคุงขนหม้อสบู่ของฉันจากไป บอกว่าจะลองเอาไปแก้ไขดู วันต่อมาเขาส่งสบู่สำหรับซักผ้าและอาบน้ำมาแทน ฉันมองสบู่เหล่านั้นแล้วสงสัยว่า ถ้าการที่ฉันเข้าไปอยู่ในร่างเรย์กะชาติก่อนคือการเล่นเกมส์แบบอีซี่โหมด เข้ามาอยู่ในโลกนี้คือการเล่นเกมส์อย่างนอร์มอลโหมด แล้วถ้าต้องไปอยู่ในโลกที่เจอวิกฤตการณ์แบบซอมบี้บุกโลก ฉันคงตายไปตั้งแต่เรื่องยังไม่เริ่มแน่นอน
.....