ทว่าแทนที่จะตรงไปยังห้องน้ำหญิง คาบุรากิบอกฉันว่าเขาสั่งให้พนักงานเปิดห้องเอาไว้ เพราะถ้าเป็นไปได้เขาก็ไม่ค่อยอยากจะเข้าไปหมุนตัวเล่นกับฉันในห้องน้ำโรงแรมแคบ ๆ เท่าไหร่ คาบุรากิบ่นว่าเพราะฉันดึงดันที่จะใส่ชุดบ้านี่ก็เลยต้องลำบากขนาดนี้ ส่วนฉันบอกว่าเป็นความผิดของเขา เพราะเขาปิดดีลไม่ได้ซักที ฉันถึงต้องรอเงกดื่มไวน์ไปทั้งขวด
พอเข้าห้อง คาบุรากิก็วางฉันให้นั่งตรงขอบเตียง ก่อนจะก้มลงถอดรองเท้าส้นสูงให้ แล้วบอกให้ฉันเอี้ยวหลังมา เพื่อที่เขาจะได้รูดซิปให้ฉัน ฉันที่อยู่ในสภาวะมึนงงเต็มที่ถอดชุดอย่างเงอะ ๆ งะ ๆ ก่อนจะขว้างชุดทิ้งข้างเตียง เพราะว่าท่อนบนยังมีคอร์เซ็ต ส่วนท่อนล่างนอกจากกางเกงชั้นในแล้วก็ยังมีถุงน่องเนื้อหนา ก็เลยไม่รู้สึกโป๊มากนัก
คาบุรากิที่เอาแต่มองเพดานตอนประคองฉันไปเข้าห้องน้ำเกือบจะทำพวกเราลื่นล้มหัวฟาด พอฉันทำธุระเสร็จ เขาก็พามานั่งบนเตียง มองชุดของฉันอย่างลำบากใจ
“เธอจะใส่ชุดนี้กลับบ้านจริง ๆ เหรอ?” คาบุรากิยกชุดขึ้นดูแล้วพลิกไปมา “นี่น่าจะไซส์เล็กกว่าขนาดที่เธอใส่ปกติซักสองไซส์ได้นะ คิโชวอิน”
ฉันยกเท้าขึ้นถีบเขา บอกว่าถ้าพวกเราไม่มีแพลนจะค้างคืนที่นี่ ก็ให้เขาหุบปากแล้วแต่งตัวให้ฉันซะ คาบุรากิหันมาจะต่อว่าฉัน แต่เขาชะงักแล้วมองขึ้นบนเพดานเหมือนเดิม ก่อนจะจัดการแต่งตัวให้ฉันโดยที่ตายังจ้องเพดานอยู่อย่างนั้น
ด้วยความอัจฉริยะของคาบุรากิ ชุดที่ต้องใช้ฉันและคุณเมดอีกสองคนในการใส่ เขาสามารถใส่ให้ฉันแบบไม่ต้องใช้ตามองได้ด้วยตัวคนเดียว พอใส่ชุดเสร็จ ฉันก็วางเท้าลงบนตักของคาบุรากิที่นั่งคุกเข่าอยู่บนพื้น แล้วสั่งให้เขาใส่รองเท้าให้ฉัน คาบุรากิหยิบรองเท้าของฉันขึ้นมาแล้วก็บ่นฉันว่าชอบใส่แต่รองเท้าสูง ๆ ฉันทำเสียงฮืม ๆ แต่ไม่บอกเขาว่าที่ฉันจำเป็นต้องใส่รองเท้าสูง ๆ เพราะความผิดของเขานั่นแหล่ะ คาบุรากิเป็นผู้ชายตัวสูงสมกับเป็นพระเอกการ์ตูนโชโจ ส่วนฉันไม่สูงขึ้นตั้งแต่มัธยมแล้ว ถ้าฉันไม่ใส่ส้นสูง เวลาถ่ายรูปกับเขาก็จะตกเฟรม แต่ในอนาคตฉันไม่ต้องทนใส่รองเท้าส้นสูงแบบนี้อีกแล้ว คุณชิสึกะเองก็คงไม่มีปัญหา เพราะเธอเป็นผู้หญิงตัวสูง ถึงจะใส่รองเท้าส้นเตี้ย แต่ก็คงจะถ่ายรูปกับคาบุรากิได้อย่างสง่างาม
เพราะว่าได้พักเข้าห้องน้ำ ฉันที่สร่างขึ้นหน่อยก็สามารถเดินได้โดยมีคาบุรากิประคอง พอพวกเราขึ้นรถ ฉันก็ถามเขาว่าพรุ่งนี้ตารางงานของพวกเราทั้งคู่แคนเซิล เขาอยากจะไปฟาร์มอายูคาวะไหม
คาบุรากิมองฉันด้วยสายตาลังเล ก่อนจะตอบตกลง ฉันหัวเราะกับท่าทีอึก ๆ อัก ๆ ของเขา แต่ไหนแต่ไรคาบุรากิเป็นพวกพุ่งเข้าชนกับความรัก สมัยวาคาบะจังก็ไม่สนใจเลยด้วยซ้ำว่าคนอื่นจะคิดยังไงหรือเธอจะเดือดร้อนเพราะเขารึเปล่า แต่ตอนนี้กลับมีท่าทางลังเล ไม่รู้เพราะคิดได้ว่าถ้าเขาไปมาหาสู่กับอายูคาวะบ่อย ๆ จากนั้นก็หย่ากับฉัน แล้วก็มีข่าวว่าเขาออกเดทกับคุณชิสึกะ คุณชิสึกะจะถูกครหารึเปล่า หรือแค่เกรงใจฉันกันแน่ แต่ฉันก็รู้สึกว่าเขาโตขึ้นมาอีกหน่อยแล้ว
รถลีมูนซีนแล่นไปตามท้องถนน ตอนที่ฉันกำลังจะเคลิ้มหลับ คาบุรากิก็เอ่ยปากถามฉัน “เธอ...ไม่ได้ชอบชูสึเกะแล้วเหรอ?”
พอพูดถึงเอ็นโจ ฉันก็เงยหัวขึ้นมา “อา...” ฉันพยายามจะตอบ “ทำไมถึงคิดอย่างนั้นล่ะ?” เพราะว่าหาคำตอบที่ตรงกับความรู้สึกไม่ได้ ก็เลยถามเขากลับแทน
“เธอไม่ได้ทำหน้าเหมือนอยากจะร้องไห้ตอนอยู่กับเขาแล้ว” คาบุรากิบอก “ฉันรู้สึกได้ เพราะสมัยตอนยูริเอะ ฉันก็เป็นอย่างนั้นเหมือนกัน”
“ก็คงจะเป็นอย่างนั้นมั๊งคะ” ฉันตอบ “ถึงยังไงเขาก็มีคุณยุยโกะอยู่แล้ว”
คาบุรากินิ่งไป ก่อนจะบอกว่า “ถ้าเธอเอ่ยปาก ฉันคิดว่าชูสึเกะจะเลือกเธอ ไม่ว่าจะเป็นตอนนั้น หรือแม้แต่ตอนนี้ก็ตาม”
แม้ว่าฉันจะคิดว่าความคิดของคาบุรากิช่างไร้สาระ แต่ฉันก็ไม่ได้แก้ความเข้าใจผิดของเขา ฉันเอนหัวลงซบลงบนท่อนแขนแข็ง ๆ ของคาบุรากิ กอดแขนของเขาใช้แทนหมอน บอกกับตัวเองว่าขอทำตามใจอีกซักนิด เพราะอีกเพียงแค่อาทิตย์เดียว ฉันก็จะกลายเป็นคิโชวอิน เรย์กะ แล้ว และฉันคืนเขาให้กับคุณชิสึกะอย่างแน่นอน
จบ