Fanboi Channel

ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับถุงกาวที่ไม่มีวันหมด ไม่เหนื่อยล้าแม้จะร้องไห้ [เติมถุงกาวครั้งที่ 28]

Last posted

Total of 1000 posts

62 Nameless Fanboi Posted ID:myUJIUoM9Z

X - X-ray

“ได้ยินว่าวันครบรอบแต่งงานปีที่สามของคุณคิโช— มาดามกับมาซายะจะมีเซอร์ไพรส์”

ฉันเหลือบตาขึ้นมาจากแก้วไวน์ มองเอ็นโจที่นั่งลงบนเก้าอี้ข้าง ๆ ถ้ารู้ว่าจะมีตัวก่อกวน ฉันคงไม่เลือกนั่งบาร์ด้านหน้า แต่ไปนั่งตรงที่นั่งมุมลับตาคน

“สายัณห์สวัสดิ์ค่ะท่านเอ็นโจ” ฉันทักทายเอ็นโจอย่างเป็นทางการ ก่อนจะเหลือบตามองข้างตัวเขา “แล้วมาดามเอ็นโจล่ะคะ?”

เอ็นโจยิ้มบาง สายตาคู่นั้นเหมือนรังสีเอ็กซ์เรย์ที่พยายามจ้องมองให้ทะลุถึงจิตใจของฉัน “มาดามคาบุรากิยังขี้ระแวงเหมือนเดิมไม่มีผิด” ก่อนจะสั่งเปิดไดมอนด์จูบิลี ฉันเลิกคิ้วสูง แม้ว่าจะอยู่ท่ามกลางเหล่าเศรษฐีเสียจนเคยชินกับความฟุ่มเฟือยที่ใช้เงินราวกับเททิ้งแม่น้ำ แต่สำหรับเอ็นโจ ฉันไม่เคยเห็นเขาทำตัวฟุ่มเฟือยเกินเหตุ โดยเฉพาะกับแอลกฮอลล์

ไดมอนด์จูบิลีคือวิสกี้ที่ผลิตขึ้นมาเพียงแค่ 60 ขวด เพื่อมอบเป็นของที่ระลึกให้กับควีนอลิซาเบธในวันฉลองครองราชย์ 60 ปี มันเป็นวิสกี้ที่บ่มนานถึง 60 ปี ถือว่าเป็นของลิมิตเตทที่ราคาสูงลิ่ว ท่านพ่อของคาบุรากิประมูลมันมาตั้งโชว์ไว้ที่บาร์ในโรงแรมสาขาแรกของเครือคาบุรากิ ฉันเองตอนมานั่งดื่มที่บาร์ก็ชอบมองขวดแก้วที่ขึ้นทรงเป็นรูปเพชร บรรจุวิสกี้สีอำพันงดงามนั่น แต่ไม่คิดว่าวันหนึ่งจะมีคนสั่งเปิดมันจริง ๆ

วิสกี้ถูกเสิร์ฟในแก้วเจียรไน เมื่อกระทบกับแสงไฟคล้ายกับอัญมณีที่งดงามจนฉันละสายตาไม่ได้ เอ็นโจเห็นฉันมองไม่วางตาก็เรียกให้บาร์เทนเดอร์รินเพียวให้ฉันอีกแก้ว

หากเป็นตัวฉันในสมัยก่อนก็คงจะปฏิเสธ แต่ว่าฉันในตอนนี้กลับคิดว่าไหน ๆ ก็ต้องนั่งรอคาบุรากิอยู่แล้ว อีกอย่างของที่มีจำกัดแบบนี้ ถึงมีเงินก็ไม่ใช่ว่าจะมีโอกาสหาดื่มได้อีก เพราะอย่างนั้นจึงรับไว้และขอบคุณเขา

“วันนี้มาดามดูสง่างามเป็นพิเศษเลยนะครับ ถ้าคุณไปยืนหน้าร้านทิฟฟานี่ ผมก็คงนึกว่าตัวเองตาฝาดเห็นฮอลลี่แล้ว” เอ็นโจชมฉันอย่างคล่องปาก

วันนี้ฉันแต่งตัวโดยมีต้นแบบมาจากฮอลลี่ในเรื่องเบรคฟาสต์แอททิฟฟานี่จริง ๆ ทว่าชุดของฉันถูกสั่งตัดเป็นพิเศษเพราะชุดสไตล์นั้นไม่มีขายในช้อปอีกแล้ว นอกจากนั้น ถุงมือ เครื่องประดับ และทรงผมก็ยังเหมือนเคาะออกมาจากหนัง แม้ว่าจะใส่แล้วสง่างามสมใจ แต่ปัญหากลับมีมากมายสารพัด เริ่มจากเพราะว่าฉันไม่ได้มีหุ่นผอมบางและสูงเปรียวเหมือนออเดรย์ เฮปเบิร์น ดังนั้นชุดจึงต้องตัดให้เข้ารูปที่สุด เพื่อให้ฉันดูมีทรวดทรงมากที่สุด

หลังจากชุดมาถึงที่บ้าน ฉันก็พบกับปัญหาที่สองซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ นั่นคือ ฉันไม่สามารถยัดตัวเองเข้าไปในชุด หรือถอดชุดเองได้โดยไม่มีผู้ช่วย แย่ยิ่งไปกว่านั้นคือ แค่จะเข้าห้องน้ำก็ยังทำไม่ได้ เพราะว่าชุดของฉันถูกตัดมาให้เข้ารูปตั้งแต่บอดี้ถึงเข่า และหมายถึงกระโปรงช่วงเข่าของฉันถูกบีบแคบซะจนถ้าไม่ปลดซิปข้างหลังชุด ก็จะไม่สามารถถกขึ้นได้เลย

แม้คาบุรากิจะบอกให้ฉันเปลี่ยนเป็นเดรสตัวอื่น แต่ฉันก็ยืนยันว่าวันนี้ฉันจะปรากฏตัวในรูปลักษณ์แบบสาวสังคมนิวยอร์กในยุควินเทจ เพราะอุตส่าห์ไดเอ็ทตามโปรแกรมที่คาบุรากิจัดให้ทุกกระเบียดนิ้วอยู่เกือบครึ่งเดือน กว่าจะกำจัดหน้าท้องย้วย ๆ จนยัดตัวเองลงในชุดได้ ดังนั้นฉันจะไม่มีวันล้มเลิกความตั้งใจอย่างเด็ดขาด ซึ่งผลลัพธ์ก็คุ้มค่ากับความทรมาน เพราะทันทีที่ก้าวลงจากรถ ฉันก็ได้รับคำชมอย่างล้นหลาม แม้ว่าจะต้องแลกกับการที่ไม่กินไม่ดื่มอะไรในงานเลี้ยงเลยก็ตาม

หลังจากงานเลี้ยงเลิก ฉันก็คอแห้งจนเสียงเริ่มแหบ ทว่ายังต้องอยู่รอคาบุรากิซึ่งไปคุยธุรกิจกับคู่ค้ารายใหม่ เพราะว่าพวกบรรดาคู่ค้าไม่ได้พาภรรยามาด้วย ฉันเลยขอตัวออกมานั่งที่บาร์แทน และสั่งไวน์มาดื่มรอ กะว่าเมื่อคาบุรากิคุยธุระเสร็จ ฉันก็คงดื่มไวน์หมดไปซักสองแก้ว แล้วก็จะได้กลับไปเข้าห้องน้ำที่บ้านพอดี

ไม่รู้เป็นเพราะว่าฉันท้องว่างจนแค่ดื่มไวน์ลงไปแก้วเดียวก็เมา หรือว่าหงุดหงิดโมโหหิวกันแน่ ดังนั้นแทนที่ฉันจะยิ้มรับคำชมนั่นเหมือนมาดามน้อยที่มีมารยาท ฉันกลับยิ้มแล้วจิกกัดเขาตอบ “ถ้าฉันเจอท่านเอ็นโจที่ฟิฟต์อเวนิว ก็คงจะคิดว่าคุณหล่อเหลาเหมือนพอลเช่นกันค่ะ”

เรื่องที่เราพูดถึงกันเป็นเรื่องเกี่ยวกับเบรคฟาสต์แอททิฟฟานี่ แม้ว่าฉันจะหลงรักสไตล์แฟชั่นของฮอลลี่อย่างที่สุด แต่กลับไม่อยากถูกเปรียบเทียบกับเธอ เพราะฮอลลี่เป็นสาวบ้านนอก แต่เข้ากรุงมายกระดับตัวเองด้วยการแต่งงานกับผู้ชายรวย ๆ แม้ว่าฉันจะมาจากบ้านคิโชวอินที่ร่ำรวยพอกัน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเหตุผลในการแต่งงานของฉันกับคาบุรากิมีเหตุผลอยู่แค่ 2 ประการ นั่นคือ เงินและหน้าตาทางสังคม

63 Nameless Fanboi Posted ID:eRJELdg2Pb

>>61 เรื่องนี้มันเป็นแท็ก love แค่ในนามต่างหาก !

64 Nameless Fanboi Posted ID:myUJIUoM9Z

ทว่าคำตอบโต้ของฉันก็ไม่ได้เบาไปกว่ากันเลย สามปีที่ฉันกลายเป็นมาดามน้อยคือช่วงเวลาที่ฉันได้ลับคมเล็บนับครั้งไม่ถ้วนในวงสังคม ฉันเรียนรู้ว่าการทำตัวเรียบร้อยสงบเสงี่ยมนั้นบางทีก็อาจจะทำให้เกิดเรื่องขึ้นมาในภายหลังได้

พอลคือตัวละครนักเขียนไส้แห้งที่นอนกับผู้อุปถัมป์ซึ่งเป็นเศรษฐีนีอายุมากกว่า เป็นนัยว่าเอ็นโจเองก็แต่งงานเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจเช่นกัน

ทว่าเอ็นโจไม่เพียงไม่โกรธฉัน เขายังยิ้มน้อย ๆ ดวงตาเป็นประกายราวกับพวกเราย้อนกลับไปสมัยมัธยม ช่วงเวลาที่เขาสามารถแกล้งฉันโดยที่ฉันตอบโต้อะไรไม่ได้เลยแม้แต่น้อย “ถ้าผมเป็นพอล คุณจะล้มเลิกการไปบราซิล ใส่แหวนหมั้นแล้ววิ่งฝ่าฝนมาหาผมรึเปล่าครับ มาดาม”

ฉันชะงัก นึกเสียใจที่ส่งคาบุรากิกับเอ็นโจไปหาท่านอิมาริ คนหนึ่งก็ไม่ได้อะไรแม้แต่เสี้ยวเดียวกลับมา อีกคนแทบจะเจริญรอยตามท่านอิมาริติด ๆ “พอลที่ยังมีคนอุปถัมป์ไม่มีสิทธิ์โยนแหวนหมั้นใส่ตักใครหรอกค่ะ” ฉันตัดคำ ก่อนจะยกแก้ววิสกี้ขึ้นแกว่งดูของเหลวสีอำพันที่ไหลวน กลิ่นของมันหอมหวานกว่าวิสกี้ทั่วไป หากทว่าสำหรับฉันแล้ว รสของวิสกี้ก็คือวิสกี้ แม้ว่าจะราคาแพงเท่าใด ก็ยังบาดคออยู่ดี

ฉันปฏิเสธวิสกี้แก้วต่อไปแล้วดื่มไวน์ต่อ พวกเราดื่มท่ามกลางความเงียบ ฉันที่เกลียดความรู้สึกแบบนี้จึงยกไวน์ขึ้นจิบครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อให้ไม่รู้สึกอึดอัด รู้ตัวอีกทีก็ตอนบาร์เทนเดอร์มาถามฉันว่าไวน์ที่ฉันเปิดหมดขวดแล้ว จะเปิดขวดใหม่ไหม ฉันปฏิเสธไปเนื่องจากตอนนี้ภาพข้างหน้าเบลอจนต้องเพ่ง และฉันก็รู้สึกอยากเข้าห้องน้ำ

มือของฉันยันลงบนบ่าของเอ็นโจ ก่อนจะปีนลงจากเก้าอี้สตูลตัวสูง ทว่ารองเท้าส้นสูงห้านิ้วทำเอาฉันเกือบหน้าคว่ำถ้าไม่ได้เอ็นโจช่วยประคอง ฉันกระพริบตาถี่ ๆ ก่อนจะเอนตัวพิงบาร์แล้วยกมือถือขึ้นโทรหาคาบุรากิ

คาบุรากิรับสายแล้วบอกฉันว่าเขาใกล้จะเสร็จธุระแล้ว แต่ฉันบอกเขาไปว่าฉันจะไปเข้าห้องน้ำ และให้เวลาเขาแค่สิบนาทีเท่านั้น

“ความจริงแล้วคุณไม่ต้องเรียกมาซายะมาก็ได้นะครับ มาดาม ให้ผมประคองพาคุณไปก็ได้” เอ็นโจบอก

ฉันส่งเสียงฮืมม์ ก่อนจะก้มลงกระซิบข้างหูเขาว่าถ้าฉันจะเข้าห้องน้ำ ต้องลอกคราบฉันออกทั้งตัวก่อนฉันถึงจะทำธุระได้ ดังนั้นนอกจากจะประคองพาไปส่งถึงในห้องน้ำแล้ว ผู้ช่วยของฉันจึงต้องทำหน้าที่ถอดชุดให้ด้วย

เอ็นโจอึ้งไป ฉันไม่ทันได้หัวเราะหน้าตาตกตะลึงของเขา คาบุรากิก็วิ่งเหยาะ ๆ เข้ามาในบาร์ เพราะว่าฉันอยู่ในสภาวะกระเพาะปัสสาวะล้นปรี่ แต่ดันไม่สามารถทรงตัวได้ เขาเลยต้องอุ้มฉันแล้วเดินเร็ว ๆ ออกไปจากบาร์

65 Nameless Fanboi Posted ID:eRJELdg2Pb

Y - yearn ความปรารถนา

66 Nameless Fanboi Posted ID:myUJIUoM9Z

ทว่าแทนที่จะตรงไปยังห้องน้ำหญิง คาบุรากิบอกฉันว่าเขาสั่งให้พนักงานเปิดห้องเอาไว้ เพราะถ้าเป็นไปได้เขาก็ไม่ค่อยอยากจะเข้าไปหมุนตัวเล่นกับฉันในห้องน้ำโรงแรมแคบ ๆ เท่าไหร่ คาบุรากิบ่นว่าเพราะฉันดึงดันที่จะใส่ชุดบ้านี่ก็เลยต้องลำบากขนาดนี้ ส่วนฉันบอกว่าเป็นความผิดของเขา เพราะเขาปิดดีลไม่ได้ซักที ฉันถึงต้องรอเงกดื่มไวน์ไปทั้งขวด

พอเข้าห้อง คาบุรากิก็วางฉันให้นั่งตรงขอบเตียง ก่อนจะก้มลงถอดรองเท้าส้นสูงให้ แล้วบอกให้ฉันเอี้ยวหลังมา เพื่อที่เขาจะได้รูดซิปให้ฉัน ฉันที่อยู่ในสภาวะมึนงงเต็มที่ถอดชุดอย่างเงอะ ๆ งะ ๆ ก่อนจะขว้างชุดทิ้งข้างเตียง เพราะว่าท่อนบนยังมีคอร์เซ็ต ส่วนท่อนล่างนอกจากกางเกงชั้นในแล้วก็ยังมีถุงน่องเนื้อหนา ก็เลยไม่รู้สึกโป๊มากนัก

คาบุรากิที่เอาแต่มองเพดานตอนประคองฉันไปเข้าห้องน้ำเกือบจะทำพวกเราลื่นล้มหัวฟาด พอฉันทำธุระเสร็จ เขาก็พามานั่งบนเตียง มองชุดของฉันอย่างลำบากใจ

“เธอจะใส่ชุดนี้กลับบ้านจริง ๆ เหรอ?” คาบุรากิยกชุดขึ้นดูแล้วพลิกไปมา “นี่น่าจะไซส์เล็กกว่าขนาดที่เธอใส่ปกติซักสองไซส์ได้นะ คิโชวอิน”

ฉันยกเท้าขึ้นถีบเขา บอกว่าถ้าพวกเราไม่มีแพลนจะค้างคืนที่นี่ ก็ให้เขาหุบปากแล้วแต่งตัวให้ฉันซะ คาบุรากิหันมาจะต่อว่าฉัน แต่เขาชะงักแล้วมองขึ้นบนเพดานเหมือนเดิม ก่อนจะจัดการแต่งตัวให้ฉันโดยที่ตายังจ้องเพดานอยู่อย่างนั้น

ด้วยความอัจฉริยะของคาบุรากิ ชุดที่ต้องใช้ฉันและคุณเมดอีกสองคนในการใส่ เขาสามารถใส่ให้ฉันแบบไม่ต้องใช้ตามองได้ด้วยตัวคนเดียว พอใส่ชุดเสร็จ ฉันก็วางเท้าลงบนตักของคาบุรากิที่นั่งคุกเข่าอยู่บนพื้น แล้วสั่งให้เขาใส่รองเท้าให้ฉัน คาบุรากิหยิบรองเท้าของฉันขึ้นมาแล้วก็บ่นฉันว่าชอบใส่แต่รองเท้าสูง ๆ ฉันทำเสียงฮืม ๆ แต่ไม่บอกเขาว่าที่ฉันจำเป็นต้องใส่รองเท้าสูง ๆ เพราะความผิดของเขานั่นแหล่ะ คาบุรากิเป็นผู้ชายตัวสูงสมกับเป็นพระเอกการ์ตูนโชโจ ส่วนฉันไม่สูงขึ้นตั้งแต่มัธยมแล้ว ถ้าฉันไม่ใส่ส้นสูง เวลาถ่ายรูปกับเขาก็จะตกเฟรม แต่ในอนาคตฉันไม่ต้องทนใส่รองเท้าส้นสูงแบบนี้อีกแล้ว คุณชิสึกะเองก็คงไม่มีปัญหา เพราะเธอเป็นผู้หญิงตัวสูง ถึงจะใส่รองเท้าส้นเตี้ย แต่ก็คงจะถ่ายรูปกับคาบุรากิได้อย่างสง่างาม

เพราะว่าได้พักเข้าห้องน้ำ ฉันที่สร่างขึ้นหน่อยก็สามารถเดินได้โดยมีคาบุรากิประคอง พอพวกเราขึ้นรถ ฉันก็ถามเขาว่าพรุ่งนี้ตารางงานของพวกเราทั้งคู่แคนเซิล เขาอยากจะไปฟาร์มอายูคาวะไหม

คาบุรากิมองฉันด้วยสายตาลังเล ก่อนจะตอบตกลง ฉันหัวเราะกับท่าทีอึก ๆ อัก ๆ ของเขา แต่ไหนแต่ไรคาบุรากิเป็นพวกพุ่งเข้าชนกับความรัก สมัยวาคาบะจังก็ไม่สนใจเลยด้วยซ้ำว่าคนอื่นจะคิดยังไงหรือเธอจะเดือดร้อนเพราะเขารึเปล่า แต่ตอนนี้กลับมีท่าทางลังเล ไม่รู้เพราะคิดได้ว่าถ้าเขาไปมาหาสู่กับอายูคาวะบ่อย ๆ จากนั้นก็หย่ากับฉัน แล้วก็มีข่าวว่าเขาออกเดทกับคุณชิสึกะ คุณชิสึกะจะถูกครหารึเปล่า หรือแค่เกรงใจฉันกันแน่ แต่ฉันก็รู้สึกว่าเขาโตขึ้นมาอีกหน่อยแล้ว

รถลีมูนซีนแล่นไปตามท้องถนน ตอนที่ฉันกำลังจะเคลิ้มหลับ คาบุรากิก็เอ่ยปากถามฉัน “เธอ...ไม่ได้ชอบชูสึเกะแล้วเหรอ?”

พอพูดถึงเอ็นโจ ฉันก็เงยหัวขึ้นมา “อา...” ฉันพยายามจะตอบ “ทำไมถึงคิดอย่างนั้นล่ะ?” เพราะว่าหาคำตอบที่ตรงกับความรู้สึกไม่ได้ ก็เลยถามเขากลับแทน

“เธอไม่ได้ทำหน้าเหมือนอยากจะร้องไห้ตอนอยู่กับเขาแล้ว” คาบุรากิบอก “ฉันรู้สึกได้ เพราะสมัยตอนยูริเอะ ฉันก็เป็นอย่างนั้นเหมือนกัน”

“ก็คงจะเป็นอย่างนั้นมั๊งคะ” ฉันตอบ “ถึงยังไงเขาก็มีคุณยุยโกะอยู่แล้ว”

คาบุรากินิ่งไป ก่อนจะบอกว่า “ถ้าเธอเอ่ยปาก ฉันคิดว่าชูสึเกะจะเลือกเธอ ไม่ว่าจะเป็นตอนนั้น หรือแม้แต่ตอนนี้ก็ตาม”

แม้ว่าฉันจะคิดว่าความคิดของคาบุรากิช่างไร้สาระ แต่ฉันก็ไม่ได้แก้ความเข้าใจผิดของเขา ฉันเอนหัวลงซบลงบนท่อนแขนแข็ง ๆ ของคาบุรากิ กอดแขนของเขาใช้แทนหมอน บอกกับตัวเองว่าขอทำตามใจอีกซักนิด เพราะอีกเพียงแค่อาทิตย์เดียว ฉันก็จะกลายเป็นคิโชวอิน เรย์กะ แล้ว และฉันคืนเขาให้กับคุณชิสึกะอย่างแน่นอน

จบ

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.