A&A - 8.
ในช่วงเวลาที่ฉันรู้สึกหดหู่ กลับมีเรื่องเซอร์ไพรส์ขึ้นมาในชีวิตอันราบเรียบของฉัน
มันเป็นเวลากลางดึกของวันที่ฉันรู้สึกเหน็ดเหนื่อยจากการพยายามหาวิธีจุดเตาในครัวจนกระทั่งสามารถปิ้งขนมปังได้สำเร็จในที่สุด ขณะที่ฉันกำลังจะพลิกตัวนอน ก็ได้ยินเสียงบานประตูหน้าบ้านเปิดออก
เนื่องจากฉันยังไม่ได้ขอน้ำมันมาหล่อลื่นบานพับ ประตูด้านหน้าจึงส่งเสียงแหลม ๆ ทุกครั้งที่เปิดปิด ฉันได้ยินเสียงอะไรซักอย่างนอกจากเสียงประตูดังขึ้นมา ก่อนจะตามมาด้วยเสียงฝีเท้า
หัวใจของฉันเต้นระรัว ฉันลุกขึ้นนั่งแล้วพยายามหาอะไรซักอย่างเป็นอาวุธ เสียงฝีเท้าดังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ฉันหยิบเก้าอี้ไม้ขึ้นมาแล้วยกขึ้น กะว่าถ้าคนร้ายเข้ามาในห้อง ฉันจะฟาดมันด้วยเก้าอี้
ประตูห้องถูกเปิดออก เก้าอี้ในมือของฉันปลิวออกไปทันที
เสียงกรีดร้องดังระงม ตามด้วยเสียงฝีเท้า ฉันหยิบเก้าอี้แล้ววิ่งตามไปอย่างรวดเร็ว กะว่าจะฟาดให้สลบเผื่อว่ามันจะย้อนกลับมาอีกครั้ง และเมื่อออกไปยังห้องด้านนอก ฉันจะก็บานประตูเปิดค้างไว้แบบนั้น แสงจันทร์ที่ส่องสว่างในคืนเดือนเพ็ญส่องให้เห็นร่างเล็กของเด็กน้อยวิ่งออกไปเป็นสายตรงไปยังประตูรั้วด้านหน้า แต่มีร่างหนึ่งที่ล้มลงบนพื้นหินหน้าบ้าน วิ่งตามเด็กคนอื่นไม่ทัน
ฉันวางเก้าอี้ลงทันทีเมื่อเห็นว่าเด็กคนนั้นเป็นใคร
ร่างเล็กกึ่งนั่งกึ่งนอนล้มลุกคลุกคลานบนพื้น ดวงตากลมโตเบิกกว้าง เขาหอบอย่างรุนแรงเหมือนจะขาดใจ
ฉันเรียกชื่อเขาซ้ำ ๆ แต่เขาไม่ตอบสนองเลยแม้แต่น้อย เอาแต่หอบหายใจแรง ๆ ฉันนึกถึงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ยูกิโนะในโลกก่อนเป็นโรคหอบหืด ในโลกนี้เองก็ดูเหมือนว่าโรคนี้จะตามติดเขามาเช่นกัน และถ้าเขาไม่ได้รับการรักษาก็อาจจะตายได้
ในวินาทีนั้นฉันไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าการช่วยยูกิโนะ ฉันอุ้มร่างเล็กของเขาขึ้นมา ใส่รองเท้าแล้ววิ่งออกไปยังรั้วด้านหน้าเพื่อขอความช่วยเหลือจากทหารที่เฝ้าฉัน ทว่าด้านหน้านั้นกลับไม่มีใครอยู่เลยแม้แต่คนเดียว
ฉันรู้สึกร้อนใจซะจนเหมือนอยากจะกรี๊ดออกมา ยูกิโนะในอ้อมกอดของฉันยังคงหายใจถี่ เขามีท่าทางทรมานมาก ฉันตัดสินใจวิ่งออกไปด้านนอก พุ่งตรงไปยังราชวังที่ดูเหมือนจะสว่างไสวกว่าปกติ คิดในใจว่าถ้าวิ่งไปเรื่อย ๆ จะต้องเจอคนที่ขอความช่วยเหลือได้แน่
ทั้ง ๆ ที่ระยะทางระหว่างตัววังหลวงและที่คุมขังของฉันจะค่อนข้างไกลจากกัน ถ้าเป็นปกติฉันคงขาดใจอยู่กลางทางไปแล้ว แต่ยูกิโนะในอ้อมกอดที่กำลังจะตายสั่งให้ฉันวิ่ง รู้ดีว่าถ้าตัวเองไม่ไหว เขาจะต้องตายอย่างแน่นอน
ในที่สุดฉันก็วิ่งมาถึงหน้าราชวัง ทหารยามเห็นฉันก็ชะงัก แล้วตวาดไล่ฉัน แต่ฉันยังไม่ยอมหยุด พวกเขาส่งเสียงไล่ฉันอีกครั้ง คราวนี้ชักดาบออกมาด้วย ฉันพยายามขอร้องพวกเขา บอกว่าฉันมีเด็กที่ป่วยมาด้วย
“เสียงเอะอะอะไรกันน่ะ”
ร่างในชุดอัศวินเกราะเงินโผล่ออกมา พอเขาเห็นฉัน เขาก็ชะงักไป “คิโชวอิน เรย์กะ?”
ฉันมองร่างที่โผล่ขึ้นมา รู้สึกโล่งอกเหมือนเทพมาโปรดเมื่อเห็นว่าคน ๆ นั้น คือนายตัวสำรอง
.....