ผมได้ยินสาวๆแถวนั้นซุบซิบกันถึงเรื่องเครื่องเพชรที่มาซายะซื้อให้คุณวาคาบะใส่ออกงาน ท่าทางข่าวจะไปไวยิ่งกว่าที่คิด ว่าด้วยคุณชายคาบุรากิหลงแม่สาวสามัญชนจนโงหัวไม่ขึ้น ยอมเสียเงินหลายล้านเยนเพื่อเอาใจสาวคนนั้น ดูแล้วกลุ่มสาวๆพวกนี้จะอิจฉาริษยากันไม่เบา เห็นมีบางคนจ้องคุณวาคาบะอย่างขุ่นเคืองด้วย
เมื่อเพลงจบทุกคนก็ปรบมือให้แก่สองคู่ที่อยู่ในฟลอร์ แสงแฟลชจากนักข่าวสาดใส่มาซายะและคุณวาคาบะอย่างบ้าคลั่ง พรุ่งนี้ก็น่าจะได้ข่าวลงพาดหัวนิตยสารกอสซิปเรื่องซินเดอเรล่าออกงานสังคมอะไรเทือกๆนั้น
มาซายะโอบเอวเธอไปเดินทักทายแขกคนอื่นๆต่อ คราวนี้เป็นกลุ่มคณะรัฐมนตรีจากกระทรวงพาณิชย์ ท่าทางของคุณวาคาบะไม่ได้ดูประหม่าหรือเขินอายแบบงานที่ผ่านมาก่อนหน้า แต่เดินตัวตรงอย่างสง่างามบนส้นสูงสี่นิ้ว แม้จะอยู่ต่อหน้าคนใหญ่คนโตในคณะรัฐบาลก็ยังมีรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ นับว่าการฝึกหนักของมาดามคาบุรากิได้ผล
เดินวนเวียนจนครบในงาน มาซายะก็พาคุณวาคาบะเดินตรงมาหา ผมเลยดีดนิ้วเรียกบริกรให้เอาเครื่องดื่มมาเสิร์ฟให้สองคนนั้น
“เหนื่อยมั้ย คุณวาคาบะ” ผมถามเธอยิ้มๆตอนที่มาซายะหันไปเลือกน้ำจากถาด
“ไม่หรอกค่ะ สนุกดี” คุณวาคาบะยิ้มกว้าง “ได้ฟังเรื่องสนุกๆตั้งหลายเรื่อง ท่านทูตแนะนำเรื่องการเรียนให้ฉันด้วยล่ะ อ๊ะ ขอบคุณนะมาซายะคุง”
พวกเรายืนคุยสัพเพเหระเกี่ยวกับเรื่องที่ท่านทูตเล่าให้คุณวาคาบะฟังอยู่ครู่หนึ่ง คุณวาคาบะก็ขอปลีกตัวไปห้องน้ำ ทีแรกมาซายะว่าจะไปเป็นเพื่อน แต่คุณวาคาบะกลับโบกมือไปมา
“ฉันไปคนเดียวได้จ๊ะ ไม่เป็นไรหรอก”
“แต่ว่า...”
“ไม่ต้องเป็นห่วงน่า เดี๋ยวฉันมานะ”
มาซายะจะเดินตาม แต่ถูกขัดขวางด้วยกลุ่มนักธุรกิจเข้ามาคุยด้วยเสียก่อน เขาชะเง้อคอมองไปยังทิศทางที่คุณวาคาบะเดินไปด้วยความเป็นห่วง
เมื่อครู่นี้ผมก็เห็นกลุ่มสาวๆที่ซุบซิบเรื่องเครื่องเพชรของคุณวาคาบะเดินตามเธอไป น่าจะตามไปหาเรื่องเพราะมีโอกาส และมาซายะก็เห็น แต่ติดที่ตัวเองต้องคุยกับแขกเหรื่อของแม่ หน้าที่ของคุณชายคาบุรากิต้องมาก่อน ผมก็เลยเข้าช่วยเหลือ
“เดี๋ยวผมเดินไปดูเองก็แล้วกัน” ผมกระซิบใส่หูมาซายะ ตบบ่าเขาเบาๆแล้วเดินออกมา
ห้องน้ำในชั้นนี้มีอยู่สองจุด ผมเดินไปยังจุดที่ใกล้ห้องประชุมจัดเลี้ยงที่สุดก่อน รออยู่ราวๆห้านาทีก็เห็นสาวๆขี้อิจฉากลุ่มนั้นเดินออกมาจากห้องน้ำ ได้ยินพวกเธอบ่นกันว่าคุณวาคาบะไม่อยู่ที่นี่ พลาดโอกาสเล่นงานไปอย่างน่าเสียดาย แสดงว่าเธอคงเดินไปอีกฟากหนึ่ง
ผมเลยเดินไปยังห้องน้ำที่ว่านั่น ยืนรออยู่พักหนึ่งก็เห็นคุณวาคาบะเดินออกมาจากห้องน้ำ กำลังคุยโทรศัพท์ด้วยสีหน้ารื่นเริง คงเป็นมาซายะที่โทรหา
ผมเลยปล่อยให้เธอเดินไป ไม่ได้เรียกไว้ และเธอก็คงไม่เห็นผมเพราะกำลังคุยกับมาซายะอยู่
รอเธอเดินไปจนลับสายตา ผมก็จะเดินกลับไปที่ห้องจัดเลี้ยงบ้าง แต่เสียงประตูที่เปิดออกเรียกความสนใจให้หันไปมองเสียก่อน
คิโชวอิน เรย์กะเดินออกมาจากห้องน้ำนั้น เธอตาเบิกกว้างอย่างตกใจที่เห็นผม ส่วนผมก็อึ้งที่ได้เห็นเธอเหมือนกัน
เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง
คุณคิโชวอินยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเชิดหน้าขึ้น เดินฉับๆผ่านไป ทำเหมือนผมไม่ได้ยืนอยู่ตรงนั้น
“เดี๋ยวก่อน” ผมเดินไปดักหน้า เธอเบ้ปากเล็กน้อยเหมือนกำลังรำคาญ “เมื่อกี้คุณวาคาบะออกมาจากห้องน้ำ แล้วคุณก็เดินตามออกมา...คุณทำอะไรเธอ”
“แหม มองโลกในแง่ร้ายจังเลยนะคะ น่าเสียใจจัง”
“คุณคิโชวอิน” ผมกดเสียงลงต่ำ จ้องหน้าเธออย่างคาดคั้น
เธอแค่นยิ้มออกมาแล้วเริ่มต้นพูดด้วยเสียงแหลมสูงเหมือนกำลังประชดประชัน
“ใครจะไปทำอะไรได้ล่ะคะ ก็ตอนนี้ฉันไม่มีอิทธิพลอะไรหนุนหลังแล้วนี่นา จะไปแตะต้องคนรักของทายาทตระกูลคาบุรากิได้อย่างไรกันล่ะเจ้าคะ”