10.
เขารู้สึกประหลาดใจอย่างที่สุดเมื่อหลอกถามมาซายะไปเรื่อย ๆ แล้วพบว่าเพื่อนสนิทของเขากับคุณคิโชวอินยังไม่ได้มีความสัมพันธ์เกินเลย
หลังจากงานแต่งงานของทาคามิจิไม่นาน คุณคิโชวอินก็ป่วยจนเข้าโรงพยาบาล เขาจะเข้าเยี่ยมทว่าห้องของคุณคิโชวอินถูกระบุไว้ว่าให้เข้าเยี่ยมเฉพาะครอบครัวเท่านั้น
ในคืนที่คุณคิโชวอินออกจากโรงพยาบาล มาซายะไลน์มาหาเขาว่าคุณคิโชวอินขอหย่า
ถึงแม้ว่าชูสุเกะจะรอคอยช่วงเวลานี้มานาน แต่พอมันเกิดขึ้นจริง ๆ เขากลับไม่รู้สึกดีใจเลยซักนิด จริงอยู่ที่มาซายะกับคุณคิโชวอินยังคงทำงานและออกงานด้วยกันตามปกติ ไม่มีร่องรอยความบาดหมางของทั้งคู่เลยแม้แต่น้อย ทว่าความสดใสของคุณคิโชวอินก็หม่นลงราวกับรอบตัวเธอถูกปกคลุมด้วยความเศร้าที่ซ้อนเป็นชั้นบาง ๆ กั้นเธอออกจากคนรอบข้าง คนอื่นอาจจะมองไม่ออก แต่เขาที่เฝ้ามองเธอมาตลอดเห็นได้อย่างชัดเจน
มาซายะเองก็ดูเงียบ ๆ ไป จำนวนครั้งในการไลน์หาเขาน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด ในบางครั้งมาซายะก็ชวนเขาออกไปนั่งดื่ม พวกเขาพูดเรื่องธุรกิจและเรื่องสัพเพเหระ ทว่าหัวข้อเรื่องคุณคิโชวอินกับอายูคาว่าดูเหมือนจะเป็นหัวข้อต้องห้ามที่อีกฝ่ายไม่อยากให้เขาแตะ
เขาไม่มีโอกาสได้คุยกับคุณคิโชวอินจนกระทั่งหลังเลิกงานเลี้ยงรับรองนักธุรกิจจากจีนที่โรงแรมในเครือคาบุรากิ มายาซะมีคุยธุระต่อ คุณคิโชวอินเลยต้องอยู่รอ ดังนั้นเขาจึงตามเธอไปที่บาร์
ตลอดทั้งงานคุณคิโชวอินไม่ได้กินดื่มอะไรทั้งนั้น เขากังวลว่าคอร์เซ็ตของเธอรัดแน่นเกินไปเหมือนในวันแต่งงานที่มาซายะเล่าให้เขาฟังรึเปล่า และเมื่อมาถึงบาร์ก็พบว่าเธอกำลังนั่งดื่มไวน์อยู่
“ได้ยินว่าวันครบรอบแต่งงานปีที่สามของคุณคิโช—มาดามกับมาซายะจะมีเซอร์ไพรส์” เขาทักทายเธอ บางทีเขาอาจจะดูโหดร้าย แต่เขาเกลียดบรรยากาศหมองหม่นรอบตัวเธอ ให้เธอร้องไห้ออกมาซะยังจะดีกว่า
“สายัณห์สวัสดิ์ค่ะท่านเอ็นโจ” เธอทักทายเขาด้วยน้ำเสียงสุภาพ ดวงตาที่ถูกย้อมไปด้วยฤทธิ์แอลกอฮอลล์จนหยาดเยิ้มกวาดมองไปรอบ ๆ “แล้วมาดามเอ็นโจล่ะคะ?”
“มาดามคาบุรากิยังขี้ระแวงเหมือนเดิมไม่มีผิด” เขาจ้องมองเธอ อยากจะอ่านให้ทะลุว่าในตอนนี้เธอรู้สึกยังไงกันแน่ เธอรักมาซายะ แต่กลับปล่อยเขาให้ไปหาอายูคาวะทั้ง ๆ ที่ตัวมาซายะเองก็ประกาศชัดว่าเขาจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงอื่นในระหว่างที่มีเธอเป็นภรรยา เขามองเธอแล้วรู้สึกเจ็บปวดใจแทน ในตอนที่เขาบอกว่าตัวเองจะต้องหมั้นกับยุยโกะ เธอก็มีสีหน้าแบบนี้ ในตอนนั้นเขาอ่านเธอไม่ออกเพราะได้แต่เจ็บแค้นที่ตัวเองไม่มีกำลัง ไม่แม้กระทั่งจะปกป้องตัวเองหรือผู้หญิงที่รักได้ แต่ในตอนนี้เขากลับได้รู้ว่าความรักของเธอนั้นเป็นความรักที่บริสุทธิ์ที่สุด เธอรู้ว่าเขาไม่สามารถทิ้งกิจการบ้านเอ็นโจและหนีไปกับเธอได้ ดังนั้นเธอเลยไม่ร้องไห้ฟูมฟายขอให้เขาทำเช่นนั้น และในตอนนี้ก็เป็นเช่นเดียวกัน เธอรู้ว่ามาซายะรักผู้หญิงคนอื่น เธอจึงปล่อยให้เขาได้ไปกับคนที่เขารัก
เขาอยากจะบอกเธอว่าถึงแม้มันจะสายเกินไป แต่เขารู้แล้วว่าชีวิตที่ไม่มีเธอมันช่างไร้ความหมาย ไม่ว่าจะเงินทอง กิจการใหญ่โต ความนับหน้าถือตาจากสังคม หรือแม้กระทั่งภรรยาที่งดงาม ทุกสิ่งนั้นล้วนแต่เป็นตรวนที่ถ่วงเขา ในทุก ๆ วัน เขาจะต้องฝืนตื่นขึ้นมาเป็น เอ็นโจ ชูสุเกะ ทายาทเอ็นโจผู้เพียบพร้อม ชีวิตของเขาช่างสมบูรณ์แบบไปทุกด้าน ทว่าตั้งแต่วันที่ในชีวิตของเขาไม่มีเธอ เขาก็ไม่เคยมีความสุขอีกเลยแม้แต่วันเดียว