“ท่านเอ็นโจ!” เธอตะครุบมือเขาไว้ ทำเสียงเหมือนจะร้องไห้
เขาถอนมือจากใต้กระโปรงของเธอโดยดี เธอเป็นคุณหนูบ้านคิโชวอิน เขาไม่ควรทำเรื่องไม่สุภาพแบบนี้กับเธอในที่สาธารณะตอนที่เธอยังไม่ได้เป็นแม้แต่แฟนสาวของเขา
เขากล่าวคำขอโทษ มองเธอก้มหน้างุดแล้วดึงกระโปรงลงต่ำ เขาถามเธอว่าเธอโกรธไหม เธอส่งสายตาดุดันให้เขา “อ—อย่าทำแบบนี้อีกนะคะ” เธอบอกเสียงจริงจัง เขารู้สึกโมโหที่รุกเธอเร็วเกินไป เขาขอโทษเธออีกครั้งที่จูบเธอโดยไม่ได้รับอนุญาต และจะไม่ทำอีก พวกเขานั่งเงียบกันท่ามกลางลมหนาว จนกระทั่งเธอพูดเสียงอุบอิบขึ้นมา
“ฉันไม่ได้หมายถึงจูบ” เธอบอกด้วยเสียงเบาจนเขาเกือบไม่ได้ยิน “ตอนที่บอกว่าอย่าทำแบบนี้อีก”
รอยยิ้มของเขาผุดขึ้นบนริมฝีปากอย่างห้ามไม่ได้ เขาโอบไหล่เธอไว้ แล้วจูบลงบนหมวกของเธอ
จนแล้วจนเล่า ความสัมพันธ์ของเขาและเธอก็ไม่ได้ก้าวข้ามเกินกว่าจูบ เขาไม่เคยสารภาพรักกับเธอ และเธอก็ไม่เคยบอกรักเขา พวกเขาแค่อยู่ด้วยกันเท่านั้น เขาพยายามไม่วางมือลงไปในที่ไม่ควรวาง คุณคิโชวอินไม่เคยเริ่มต้นก่อน แต่เธอไม่เคยปฏิเสธเขาถ้าอยู่ในที่ลับตาคน
‘หนีไปด้วยกันเถอะครับ คุณคิโชวอิน’ เขาไม่เคยพูดกับเธอแบบนั้น แม้ว่าจะอยากพูดออกมาก็ตาม เขาอยากพาเธอหนีไปในที่ ๆ ไม่มีเอ็นโจ คิโชวอิน คาบุรากิ และสังคมชั้นสูง แต่เขาไม่ได้ทำแบบนั้น เขารู้ดีว่าเขาและเธอถูกเลี้ยงมาในฐานะเอ็นโจและคิโชวอิน พวกเขามีภาระหน้าที่ที่จำเป็นต้องเติมเต็ม พวกเขาครอบครองได้ทุกอย่างยกเว้นอิสรภาพในการใช้ชีวิตของตัวเอง
ตอนที่รถคู่กรณีปะทะเข้ากับรถที่เขาโดยสาร ตอนที่เสียงโครมดังสนั่นอยู่รอบ ๆ ตอนที่เซฟตี้เบลท์กระชาก ตอนที่ร่างของเขาท่วมท้นไปด้วยความเจ็บ ตอนที่เขาหายใจไม่ออก ชูสุเกะสงสัยว่าถ้าเขาบอกกับคุณคิโชวอินว่า ‘หนีไปด้วยกันเถอะครับ หนีไปในประเทศที่ไม่มีใครหาพวกเราพบ ที่ ๆ พวกเราเป็นเพียงแค่สามัญชน ผมจะตั้งใจทำงานหาเลี้ยงคุณ ถึงแม้ว่าจะไม่สุขสบายเหมือนที่นี่ ไม่มีเงินมากมายให้ใช้จ่าย แต่ผมจะทำให้คุณมีความสุขเอง’ เธอจะไปกับเขาไหม และชีวิตต่อจากนั้นจะเป็นอย่างไร เขาจะนึกเสียใจเหมือนวันนี้ไหม เธอจะมีความสุขมากกว่าตอนนี้รึเปล่า
หากแต่เขาย้อนเวลากลับไปไม่ได้ เหมือนกับที่สั่งให้ร่างกายหายใจไม่ได้ ชูสุเกะค่อย ๆ หลับตาลง ไม่ว่าเธอจะร้องไห้ให้กับเขา หรือสาปแช่งเขา แต่หลังจากนั้น ขอแค่เธอมีความสุข หัวเราะได้อีกครั้ง มีชีวิตอย่างที่เธออยากมีก็พอ
แค่นั้นก็พอแล้ว
.....