2.
“ชู ชุดนี้เป็นยังไงบ้าง?”
ยุยโกะปรากฏตัวออกจากตู้เสื้อผ้าแบบวอร์คอินในกระโปรงสีขาว ดูงดงามบอบบางราวกับจะหายไปเมื่อละสายตา
“อืมม์ สวยดี” เขาตอบ
เธอเป็นคนสวย เขาเองก็ไม่ใช่คนตาบอด แต่ความสวยที่ทำให้ผู้ชายรุมล้อมบูชาเธอนั้นไม่ส่งผลกระทบอะไรกับเขาแม้แต่น้อย เพราะเธอไม่ใช่คุณคิโชวอิน
สีหน้าของยุยโกะมีเพียงรอยยิ้มที่เยือกเย็นเท่านั้น ก่อนจะกลับเข้าไปแต่งหน้าในตู้เสื้อผ้าอีกครั้ง
เขาสงสัยว่าวันนี้คุณคิโชวอินจะแต่งชุดยังไง บางทีเธออาจจะแต่งชุดกระโปรงสีชมพูอ่อนอย่างที่เธอชอบ หรืออาจจะแต่งชุดกระโปรงสีเข้มเพื่อให้ดูขรึมขึ้นสมกับเป็นมาดามน้อย เขารู้สึกตื่นเต้นเมื่อคิดว่าจะได้เจอเธอ และเมื่อได้พบกับเธอในงาน เขาก็รู้สึกเหมือนใครซักคนล้วงมือเข้ามาในอก แล้วบีบหัวใจของเขาเอาไว้
คุณคิโชวอินอยู่ในชุดกระโปรงลูกไม้สีเทาอ่อน ราวกับนิมฟ์คลอริสผู้งดงามในภาพพรีมาเวร่า ชวนให้ไล่ติดตามและกักขังเธอเอาไว้ในสวนฤดูใบไม้ผลิที่งดงามตลอดไป
“ขอบพระคุณที่มางานเปิดตัวของโรงแรมนะคะ ท่านเอ็นโจ มาดามเอ็นโจ” เธอเขามาทักทายด้วยรอยยิ้มสง่าเป็นกันเอง คล่องแคล่วราวกับเกิดมาเพื่อเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงหรูหราเช่นนี้ เธอกับยุยโกะคุยกันถึงเรื่องฮันนีมูน เขาพยายามรักษารอยยิ้มสุภาพเอาไว้บนใบหน้าเมื่อนึกได้ว่าช่วงเวลาฮันนีมูนของเธอถูกมาซายะเคี่ยวเข็ญให้ออกกำลังกายหนักขนาดไหน
ยุยโกะดึงเขาเข้าไปในบทสนทนาเมื่อคุณคิโชวอินบอกว่าจะส่งไวน์ที่ชิมที่อิตาลีมาให้ เขาไม่ได้ชื่นชอบไวน์เป็นพิเศษ ดื่มได้บ้างตามแต่โอกาส แต่ไม่ว่าจะเป็นอะไร หากเป็นของที่เธอให้ เขาก็ยินดีรับและจะทะนุถนอมอย่างดีที่สุด
คุณคิโชวอินชักชวนให้พวกเราไปดื่มเวลคัมดริงค์ที่ผสมมาให้แขกแต่ละคนโดยเฉพาะ ของยุยโกะเป็นเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอลล์สีชมพูสวย ส่วนของเขาคือเครื่องดื่มที่คล้าย ๆ กับซิซิเลียโน่ เป็นเครื่องดื่มที่ผสมระหว่างกาแฟสกัดเย็น โซดา สปิริตจำพวกเวอร์มุธและอื่น ๆ
เครื่องดื่มแบบคัสท่อมเมดของเขารสดีกว่าที่คิด เขาเอ่ยปากชมออกไป ก่อนจะถามเธอว่าเธอมีเครื่องดื่มที่ผสมพิเศษให้กับตัวเองรึเปล่า
“น้ำแอ๊ปเปิ้ล วอดก้า เหล้าแอ๊ปเปิ้ล และน้ำมะนาว” น้ำเสียงนุ่มนวลของคิโชวอิน ทาคาเทรุ ดังขึ้นมาจากด้านหลังของเขา ก่อนจะเดินผ่านเขาเข้าไปหาคุณคิโชวอิน ส่งรอยยิ้มอ่อนหวานไปทักทายเธอ เธอทักทายเขาตอบ แต่ถูกแขกอีกคนดึงความสนใจไป “บางคนอาจจะเรียกมันว่าแอ๊ปเปิ้ลมาร์ตินี่และฉันตั้งชื่อให้ว่า-อีเด็น-”
“แอ๊ปเปิ้ลแห่งอีเด็น ผลไม้ที่เย้ายวนที่สุดในสวนสวรรค์” เขายิ้ม ช่างเป็นชื่อที่เจ็บแสบและเหมาะสมกับเธอยิ่งนัก ผู้ชายที่เขาต้องระวังเป็นอันดับหนึ่งไม่ใช่ผู้ชายที่เข้ามาป้วนเปี้ยนรอบ ๆ ตัวเธอ ไม่ใช่แม้กระทั่งมาซายะ แต่เป็นพี่ชายของเธอ
สายตาของพี่ชายเธอลดอุณหภูมิต่ำจนเหยียบจุดเยือกแข็ง “อีฟคิดว่าเธอจะสามารถเอาชนะพลาอำนาจของพระเจ้า ล่วงรู้ประจักษ์ถึงปัญญาที่พระองค์แอบซ่อนเอาไว้ แต่สุดท้ายแล้วก็ตกสวรรค์ ช่างโง่เขลายิ่งนัก ผลไม้อันเป็นที่รักยิ่งของพระเจ้า เธอซึ่งเป็นแค่ตุ๊กตาดินปั้นมีสิทธิ์แตะต้องได้ที่ไหน”
เขาหัวเราะ “แอ๊ปเปิ้ลที่เติบโตขึ้นกลางสวนอีเด็นที่เห็นกับตาทุกวัน ทั้ง ๆ ที่พระเจ้าน่าจะรู้ดีว่าซักวันจะอดัมหรืออีฟต้องคิดอยากลิ้มลอง แต่ก็ยังปล่อยให้เติบโตอยู่ตรงนั้น จะโทษพวกเขางั้นหรือครับ ในเมื่อตัณหาและความอยากรู้อยากเห็นคือพื้นฐานของการขับเคลื่อนเผ่าพันธุ์มนุษย์อยู่แล้ว”
“แอ๊ปเปิ้ลที่ปลูกในเรือนกระจกจะไม่โต สิ่งสำคัญที่ต้องทำไม่ใช่การกักขังแอ๊ปเปิ้ล แต่เป็นการกำจัดแมลงร้ายหรือผู้โง่เขลาที่คิดจะลิ้มลองต่างหาก”
คุณคิโชวอินที่ถูกแขกคนอื่นชวนคุยหันมามองพวกเราแต่ไม่ทันได้ยินบทสนทนานั้น เขาพยักหน้าให้กับพี่ชายของเธอ
“ผมจะจดจำไว้ครับ คุณคิโชวอิน”
“ประวัติศาสตร์เป็นสิ่งที่ควรเรียนรู้เพื่อป้องกันไม่เห็นเกิดความผิดพลาดซ้ำสอง เธอเป็นคนฉลาดน่าจะเข้าใจได้เป็นอย่างดีสินะ เอ็นโจคุง”
ในคืนนั้นเขาไม่ได้พยายามเข้าใกล้หรือพูดคุยกับเธอเป็นการส่วนตัว ได้แต่มองเธอเต้นรำบนฟลอร์เต้นรำกับมาซายะ จินตนาการว่าหากในอดีตเขากล้าพอจะกัดผลแอ๊ปเปิ้ลที่หวานฉ่ำเช่นอีฟ ลิ้มรสจนหยดสุดท้าย ยินยอมให้ถูกสาปส่งจนตกสวรรค์ เขาจะเสียใจเหมือนตอนนี้หรือไม่
.....