ถ้าฉันเปรียบเอ็นโจเป็นซามอยด์ขนฟูน่ารักจนใคร ๆ ก็อยากจะเข้ามาจับ แต่จริง ๆ ขี้เบื่อจนชอบก่อเรื่องลับหลังคนอื่น คาบุรากิก็คงเป็นเหมือนไซบีเรียน ฮัสกี้ ที่ภายนอกดุดันจนใครต่อใครก็ต่างเลื่อมใสอยู่ห่าง ๆ แต่ความจริงมีความเป็นเด็กและความป่าเถื่อนอยู่ในตัวค่อนข้างมาก
คาบุรากิชอบบังคับ ชอบเป็นจุดสนใจ ถึงเวลาเงียบจะน่ากลัวแต่ถ้าให้พูดแล้วบ่นหงุงหงิงราวกับไซบีเรียนที่หอนได้ทุกเวลา บทจะบ้า ก็แรงบ้าเยอะจนใครก็เอาไม่อยู่ แต่ถึงอย่างนั้นเวลาอยู่กับเขาก็ไม่เคยรู้สึกเบื่อเลยแม้แต่น้อย
คาบุรากิยืนยันว่าเขาจะไปอธิบายให้กับพ่อแม่ของเขาและพ่อแม่ของฉันด้วยตัวเอง ฉันบอกเขาว่าฉันจะเป็นคนบอกเพราะว่าฉันเป็นคนขอหย่า ทำไปทำมาก็ตัดสินใจว่า เรียกทุกคนมาบอกพร้อม ๆ กันนั่นแหล่ะน่าจะปัญหาน้อยที่สุด ใครจะคิดอะไรยังไง ถามอะไร จะได้พูดออกมาทีเดียวเลย
ทั้ง ๆ ที่เป็นงานเลี้ยงมื้ออาหารเย็นสำหรับการประกาศหย่าระหว่างฉันกับคาบุรากิแท้ ๆ แต่พวกเราก็ยังไม่สามารถทิ้งนิสัยนักจัดงานเลี้ยงไปได้ ฉันคุยกับคาบุรากิว่าธีมของงานน่าจะผ่อนคลาย เพื่อไม่ให้ทุกคนเห็นว่านี่เป็นเรื่องใหญ่ แต่ไม่ควรจะจัดงานที่บ้านของใครซักฝั่ง เพราะจะทำให้คนที่อยู่ในบ้านระลึกถึงเหตุการณ์นี้และรู้สึกไม่ดีกับห้อง ๆ นั้นได้ คาบุรากิกลับบอกว่าควรจะจัดงานให้เป็นทางการหน่อย เพื่อที่คนในบ้านจะได้ไม่คิดว่าพวกเราทะเลาะกันแล้วประกาศหย่าแบบไม่จริงจัง
สุดท้ายแล้วพวกเราจัดงานที่บ้านของตัวเอง เพราะคุยกันว่าอาจจะมีใครซักคนระเบิดก่อเรื่องใหญ่โตออกมา ฉันแอบเดาว่าคนที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดก็คือทานูกิ ดังนั้นถ้าจัดในที่สาธารณะ อาจจะมีข่าวซุบซิบออกไปทำให้เกิดปัญหาเรื่องความเชื่อมั่นในโปรเจคการร่วมทุนได้
“คิโชวอิน เธอแพลนงานเลี้ยงไปถึงไหนน่ะ?” คาบุรากิถาม ฉันเปิดไฟล์แพลนจัดงานให้กับเขา ฉันแพลนงานเลี้ยงของเครือคาบุรากิคร่าว ๆ ไว้แค่ถึงครึ่งปีหน้า แต่มีแพลนละเอียดแค่ถึงเดือนมกราคม คาบุรากิขอให้ฉันเขียนแพลนละเอียดทั้งหมดในไตรมาสแรกให้ก่อนที่พวกเราจะหย่ากัน
“เผื่อท่านแม่ของฉันตกใจจนแพลนงานแทนเธอไม่ได้ จะได้ให้คนอื่นช่วยจัดการแทน” คาบุรากิบอก ฉันหน้าเศร้าลง แม้ว่าบ้านของคาบุรากิจะคลุมถุงชนพวกเรา แต่มาดามก็ดีกับฉันมาก เครื่องเพชรของมีค่า ทั้งของเก่าเก็บและคอลเล็คชั่นใหม่ของฉัน มากกว่าครึ่งล้วนมาจากมาดามทั้งนั้น เธอมักจะบอกฉันเสมอว่าถ้าโดนคาบุรากิรังแกก็ให้มาฟ้องเธอได้ เธอจะจัดการเขาเอง
พวกเราตกลงว่าจะประกาศหย่ากันในอีกสองเดือนข้างหน้าเพราะฉันยังมีอีกหลายงานที่สะสางไม่เสร็จ และยังมีงานเลี้ยงสำคัญ ๆ อีกหลายงานที่จะต้องเป็นเจ้าภาพ เนื่องจากแพลนของพวกเราถูกลงตารางงานไว้อย่างแน่นในช่วงก่อนวันหยุดยาวปลายปี วันที่พอจะใช้เป็นวันประกาศหย่าให้ทางบ้านได้รับรู้จึงเหลืออยู่แค่วันเดียว
วันฉลองครบรอบแต่งงานสามปีของพวกเรา
.....
คาบุรากิเป็นเหมือนสิงโตในทุ่งหญ้าที่แสนอิสระ เขาอาจจะพักพิงใต้ต้นไม้ในยามที่เหน็ดเหนื่อย แต่ฉันไม่อาจทวงบุญคุณนั้นกับเขาและยึดเขาไว้กับตัวเอง
ฉันจะปล่อยให้เขาไปเจอกับสายลม สายลมที่พัดพาในขณะที่เขาห้อตะบึงไปตามใจปรารถนา ส่วนฉันคงทำได้แค่เฝ้าดูเขา
ถึงฉันจะไม่ใช่สายลม ไม่ใช่ขนมหวาน ไม่สามารถเป็นคนที่คาบุรากิรักได้ แต่อย่างน้อยก็ขอให้ฉันเป็นคนที่ปลดเขาออกจากตรวน มองเขามีความสุขในที่ ๆ เขาอยากจะไป เป็นสิ่งที่เขาอยากจะเป็น กับคนที่เขาอยากจะอยู่ด้วย
ในขณะที่ฉันรู้สึกขมขื่นที่เห็นเอ็นโจแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น ฉันกลับมีความสุขที่เห็นคาบุรากิไปกับคนที่เขารัก นี่เป็นความรักในอีกรูปแบบหนึ่งซึ่งงดงามและน่าจดจำ
ความรักของฉัน ได้เพียงเท่านั้นก็น่ายินดีแล้ว
จบ