“นายเห็นสีหน้าของทุกคนไหม”
คิโชวอินถาม ปกติแล้วเธอเป็นคนที่สังเกตสีหน้าของคนอื่นค่อนข้างมาก และจะไม่ก่อเรื่องวุ่นวายแบบนี้เป็นอันเด็ดขาด แต่ในตอนนี้เธอเมาเละต่อหน้าผู้ใหญ่ พูดเรื่องไม่สมควรออกไป แล้วยังลากเขาขึ้นห้องอีกหาก ทว่าเสียงหัวเราะไม่หยุดของเธอทำให้เขารู้สึกว่าอันที่จริงแล้วเรื่องนี้มันก็ตลกดีเหมือนกัน
ทำไมเขาจะไม่เห็น โดยเฉพาะสีหน้าพี่ชายของเธอที่แข็งค้าง ทำราวกับอยากจะขโมยตัวเธอกลับบ้านแล้วซ่อนเธอไว้ในห้องนอนที่ตกแต่งเหมือนเจ้าหญิงในบ้านคิโชวอิน ให้เธอเป็นเจ้าหญิงตัวน้อย ๆ ที่ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับเรื่องแปดเปื้อนตลอดไป
แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังตลกอยู่ดี โดยเฉพาะสีหน้ายิ้มค้างของท่านแม่ที่พยายามจะส่งเสริมให้เขากับคิโชวอินคู่กัน แต่พอมาเจอเรื่องแบบนี้ก็ไปต่อไม่เป็น
เขากับเธอหัวเราะจนหายใจแทบไม่ออก คิโชวอินยิ้มน้อย ๆ แล้วสั่งให้เขาไปเอาไวน์มาเพิ่ม
ปกติแล้วเขาไม่ค่อยชอบทำตามคำสั่งของใคร แต่เขากลับลงไปเอาไวน์ให้คิโชวอิน บอกกับตัวเองว่ายังดีกว่าให้เธอลงไปเอาเอง เขาหลีกเลี่ยงทางผ่านไปห้องโถงสำหรับทานอาหาร หยิบไวน์จากห้องใต้ดินแล้วกลับขึ้นไปหาคิโชวอิน
คิโชวอินยังคงนอนอยู่บนพื้นในชุดกระโปรงที่สั้นเหนือเข่า สภาพของเธอดูไม่เหมือนมาดามน้อยของบ้านคาบุรากิเลยซักนิด เขาเลยลากเธอเข้าห้องนอนเพื่อให้เธอพักผ่อน แต่คิโชวอินกลับยังไม่หลับ เธอชวนเขาให้ออกไปดูดาวข้างนอก
“หนาวจัง”
เธอบอกอย่างนั้น ก็แน่ล่ะสิ เพราะทั้งเนื้อทั้งตัวเธอมีแค่เดรสชุดเดียว เขาเลยดึงผ้าห่มจากเตียงมาให้ รู้สึกโล่งใจที่ผ้าห่มผืนใหญ่พอที่จะคลุมทั้งตัวเธอ รวมถึงขาที่โผล่พ้นกระโปรงของเธอด้วย
”ดื่มกันเถอะ” คิโชวอินยกขวดขึ้นมา แต่เธอไม่ได้รินใส่แก้วที่เขาเอาขึ้นมาด้วย แต่กลับดื่มจากปากขวดแล้วยื่นส่งต่อให้เขา
มาซายะมองเธอดื่มเหล้าราวกับสาวบาร์ในภาพยนตร์ ก่อนจะหัวเราะออกไป เอาเถอะ ยังไงวันนี้เธอก็ก่อเรื่องตั้งมาก กับอีแค่ดื่มไวน์ราคาหมื่นดอลลาร์จากขวดจะเป็นอะไรไป
เขารับขวดไวน์มาดื่มจากขวดเช่นกัน รสของไวน์แดงในคืนนั้นนุ่มนวลกว่าทุกที
.....