Fanboi Channel

ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับถุงกาวที่ไม่มีวันหมด ไม่เหนื่อยล้าแม้จะร้องไห้ [เติมถุงกาวครั้งที่ 28]

Last posted

Total of 1000 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:qJxl7gG/lO

เอาไว้พูดคุยเรื่อง "นอบน้อมและหนักแน่น คือคติประจำใจในการใช้ชีวิตของฉันค่ะ!"

รักใคร อวยใคร ชอบใคร อยากให้ใครเข้าวิน เชิญได้ที่กระทู้นี้

.

謙虚、堅実をモットーに生きております!
นอบน้อมและหนักแน่น คือคติประจำใจในการใช้ชีวิตของฉันค่ะ!
(RAW) http://ncode.syosetu.com/n4029bs/
(TH) http://www.nekopost.net/novel/3015

♕ คลังกระทู้ ♕
>>>/webnovel/3289 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ [เรือลำที่ 1 : องค์ชายเอ็นโจ]
>>>/webnovel/3364 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำชายามบ่ายของโม่งซุยรัน [ซาลอนที่ 2]
>>>/webnovel/3451 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันยามบ่ายกลางจักรวาลแห่งกาว (ยานแม่ลำที่3)
>>>/webnovel/3507 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับสตูดิโอกาวโปรดักชั่นหมายเลข 4
>>>/webnovel/3543 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับปฏิบัติการปลูกไร่กัญชาบนดาวเคราะห์ดวงที่ 5
>>>/webnovel/3572 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับหลุมดำดูดเวลา กาวแลคซี่ที่ 6
>>>/webnovel/3588 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับเรือกาวฟิคที่ไปไกลกว่าเรืออฟช. ลำที่ 7
>>>/webnovel/3600 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับการผนึกกำลังของเหล่าพันธมิตรเรือเพื่อล่มเกาะแห่งคาน ครั้งที่ 8
>>>/webnovel/3628 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับนิทรรศการเรืออับปางใต้ท้องทะเลลึก ครั้งที่ 9
>>>/webnovel/3689 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับฤดูใบไม้ผลิอันฟรุ้งฟริ้งของเรย์กะจัง♡ ~โดขิโดขิ หัวใจของเธอเป็นของฉันนะ! ♡♡ กาวยกกำลัง10! ♡♡ (,,,ゝ∀・,,,)ノシ *:・゚✧*:・゚✧
>>>/webnovel/3786 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับการหายตัวไปอย่างปริศนาของฟิคกาวในห้องซาลอนปิดตาย [คานที่กำลังก่อตัวชั้นที่11]
>>>/webnovel/3805 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับแท็ก love ปริศนา ที่ไม่ตั้งใจจะใส่มาหรอกนะ แค่มันอยู่ใกล้มือเท่านั้นเอง [แท็กที่ 12]
>>>/webnovel/3856 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับกองเรือรบสยบคาน ประจัญบาน​พิชิต​ใจ​เธอ! [ศึกรักที่ 13]​
>>>/webnovel/3899 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ :ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับคำอธิษฐานรักผ่านเส้นผม (ผมลอนสลวยเก๋เส้นที่ 14)
>>>/webnovel/3953 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ :ปาร์ตี้​น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับสูตรอาหารคิวปิดสื่อ​รัก​สุดมิราเคิล​ของยอดเชฟสาวเจ้าเสน่ห์​เร​ย์​กะ​ ~"แค่คำเดียว"เป็นจานที่ 15 แล้วนะ!
>>>/webnovel/4018 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ :ปาร์ตี้​น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับท่านเทพเกศาบันดาลรัก โปรดรับบรรณาการนี้ไปด้วยเถิด!!! (บรรณาการจานที่ 16)
>>>/webnovel/4099 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับการซื้อบ้านพร้อมที่ดินในหมู่บ้านมีรักถวายเจ้าแม่ [หลังที่ 17]
>>>/webnovel/4218 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับไอเดียบรรเจิดเพ้อฝันของเจ้าแม่ [ขอปฏิเสธรอบที่ 18]
>>>/webnovel/4296 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับการขี่โพนี่พุ่งทะยานข้ามแดนไปหาเจ้าชาย [หน้าตาสมัยศตวรรษที่ 19]
>>>/webnovel/4454 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับโอนิวาบังในเงามืด [ชั่วช้าสามานย์ ทุกประการเพื่อฮาเร็มทั้ง 20]
>>>/webnovel/4574 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับสังเวียนความรักของจักรพรรดินี โอ้! ทรุดลงไปแล้วครับ! [กรรมการชูมือนับครั้งที่ 21]
>>>/webnovel/4659 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับศึกแย่งชิงพื้นที่การออกอากาศ [ชัยชนะของ tag food ครั้งที่ 22]
>>>/webnovel/4903 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ (กัญ) ชาซุยรันกับซูชิไข่ปลวกและหนังสือหนังมนุษย์ [หนอนตัวที่ 23 กระดึ๊บออกมาแล้วค่า]
>>>/webnovel/5102/ : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับแผนการล้างสมองของจักรพรรดิจอมมาร [วิ่งเข้าไปซะ! เจ้าสัตว์กีบคู่! รอบที่ 24]
>>>/webnovel/5401 : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับงานชมดอกไม้ไฟในฝัน [ขอตอนต่อไปรอบที่ 25]
>>>/webnovel/5719 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับประกายแสงแห่งความหวัง งานดอกไม้ไฟมันก็ต้องหน้าร้อนสิ!!! [ระเบิดแห่งกาวครั้งที่ 26]
>>>/webnovel/5876 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับเสียงโหยหวนของเหล่าโม่ง [กรีดร้องขอตอนใหม่รอบที่ 27]

2 Nameless Fanboi Posted ID:qJxl7gG/lO

♕ สนธิสัญญา ♕
1) สปอยล์ได้ แต่รบกวนเตือนและจุดลากยาวทุกครั้ง(อย่างน้อย7-8บรรทัด) ช่วยป้องกันให้คนที่ไม่ต้องการอ่านสปอยล์เนื้อเรื่อง
1.1) ไม่สปอยล์เนื้อหาที่แปลไทยใกล้จะถึงแล้ว
1.2) ไม่สปอยล์เนื้อหามากจนเกินไป คนอยากโดนสปอยล์ก็อดใจรอไว้หน่อย ไว้ไปฟินพร้อมๆกัน

2) อย่าเร่ง อย่ากดดันโม่งแปล !!!!

3) งดเว้นการตั้งชื่อกระทู้ด้วยถ้อยคำที่ไม่เป็น​มงคล (หรือถ้อยความ​ที่เป็นแง่ลบ อาทิ คาน, จมเรือ, เรืออับปาง, หักธง, ซากเรือ เป็นต้น) "ห้ามแก้เคล็ดเด็ดขาด" หากฝ่าฝืนตั้งมา ชื่อนั้นก็จะไม่เอามาโหวตนับคะแนนแต่อย่างใด

4) แจ้งดิบตอนใหม่​​หลังเที่ยง เพื่อ​ไม่ให้​ทับซ้อนกับแปลไทย

.

♕ สารบัญแฟนฟิค-แฟนอาร์ต ♕
https://docs.google.com/document/d/1Jtm_XMsTD_t_6GWtvFfN3qDIm3yxYGeJCX29QUS1vIo/edit?usp=sharing

How to: วิธีการใช้และอัพเดตสารบัญ
https://docs.google.com/document/d/1ET-eMchwMQyJ8awYO1Q5yIcKWuTeJrJ0TVhXXVd8eD4/edit?usp=sharing

รวมไฟล์สารบัญ
https://drive.google.com/drive/folders/0BwR6XEqxsnTAZWdSckFqb182VDQ

3 Nameless Fanboi Posted ID:i01bkMDiHf

นี่เรามาเปิดกระทู้หรือเนี่ย

4 Nameless Fanboi Posted ID:tZCqdzwrxJ

แท้งกิ้วโม่งฟิก

5 Nameless Fanboi Posted ID:HdaisnGAsi

ย้อนอ่านรายชื่อกระทู้ดู แม่งเหมือนจะเอามารวมเป็นเรื่องอีกเรื่องได้เลยว่ะถถถถ

6 Nameless Fanboi Posted ID:d.zmSN3xxj

เพิ่งเคยเห็นแบบปิดมู้จริงๆไม่ต้องวิ่งให้ถึง 1000 ฮา

7 Nameless Fanboi Posted ID:eGinRQU9yE

ฟิคมู้ที่แล้วโคตรหน่วงอ่า กูว่าความจริงคาบุก็รักเจ้าแม่ไปแล้วเหมือนกัน แต่เจ้าแม่ยึดติดกับความเป็นเฟรนด์โซนค่อนข้างมากเลยมองไม่เห็น

8 Nameless Fanboi Posted ID:I/H6wbFndY

>>7 กูก็ว่างั้น เผลอ ๆ ชาวบ้านชาวช่องคงรู้กันหมดแล้วมั้ง ก็เล่นเอาใจทุกอย่าง เป็นทุกอย่าง แถมแต่ละอย่างก็จัดใหญ่ด้วย แต่ก็นะ นิสัยเจ้าแม่ที่คิดเองเออเอง และก็ฟุ้งซ่านมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วนี่ แก้ไม่หายหรอก สงสัยท่านที่ในฟิค คงฟังน้องเล่าไปก็คงกลุ้มใจแทนคาบุไปล่ะมั้ง

9 Nameless Fanboi Posted ID:scuMsCeihG

ชีวิตกูอยู่ได้เพราะกาวจริงๆ อ๊ากกกก เหมือนโดนฮีลลิ่ง 55555

10 Nameless Fanboi Posted ID:DkXb3xS1PL

>>9 จริงกูแอบหลบจากการอ่านหนังสือมาเติมกาว ขอบคุณโม่งฟิคค

11 Nameless Fanboi Posted ID:39Gey9pmsw

มีคนเอาตอนเดียวจบจากบอร์ดที่แล้วเข้าสารบัญยัง

12 Nameless Fanboi Posted ID:GGYhOdh55G

>>11 น่าจะยัง ฟิคหลายๆอันก็ไม่เอาเข้าสารบัญกัน

13 Nameless Fanboi Posted ID:yWujO1x8Kt

W - Wild

ถ้าฉันเคยเปรียบเทียบว่าเอ็นโจเป็นอัศวินที่ช่วยเจ้าหญิงไว้จากมังกร แต่พอไปแต่งงานไปอยู่กินกันแล้ว เจ้าหญิงดันโดนรังแกมากกว่าตอนที่อยู่กับมังกรเสียอีก คาบุรากิก็คงจะเป็นราพันเซลที่อยู่บนหอสูง เพราะว่ากะหล่ำปลีที่สวนของคิโชวอินหอมหวานเกินกว่าจะปล่อยให้หลุดมือไปได้ ดังนั้นเขาจึงต้องรับผลจากสิ่งที่ครอบครัวคาดหวังไว้

หากเป็นผู้ชายคนอื่น ราพันเซลก็คงจะหย่อนเส้นผมสีทองสวย ให้เจ้าชายปีนขึ้นมาพลอดรักและพาหนีไป แต่คาบุรากิกลับซื่อตรงจนถ้าคนอื่นรู้ ก็คงจะโดนหัวเราะเยาะ ทั้ง ๆ ที่บนหอคอยมีบันไดให้เดินลงไปแท้ ๆ ก็ยังคงดื้อด้านอยู่บนหอคอยนั้น เพียงเพราะว่าครอบครัวของเขาได้กินหัวกะหล่ำและรับปากกับแม่มดไปแล้ว

ตอนที่ฉันออกจากโรงพยาบาล คาบุรากิมารับกลับบ้านด้วยตนเอง ฉันเอ่ยปากขอหย่ากับเขาในห้องครัวขณะที่พวกเรากำลังกินขนมกันอยู่

“เราหย่ากันเถอะค่ะ ท่านคาบุรากิ”

ขนมโครนัทจากโดมินิท แอนแซล ทั้งหอมหวานและกรุบกรอบ หากแต่ไม่รู้ว่าเพราะฉันเพิ่งหายป่วยหรือในใจขมไปหมดกันแน่ ดังนั้นเลยไม่รับรู้รสชาติมันแม้แต่น้อย

คาบุรากิชะงัก เขามองหน้าฉันอย่างงุนงง ก่อนจะพูดด้วยสีหน้ายิ้ม ๆ “เธอไม่ชอบหนังสือปริศนาภาพนั่นน่ะสิ ไว้วันหลังฉันจะเอาดอกไม้ไปเยี่ยมก็แล้วกัน” เขาพูดเมื่อตอนที่เข้ามาเยี่ยมแล้วเห็นดอกไม้ในห้องที่มาจากท่านอิมาริ

ฉันอยากจะยิ้ม แต่ก็ยิ้มไม่ออก “ฉันทราบดีค่ะว่าท่านคาบุรากิยังรักเธอ ถ้าเราอยู่ด้วยกันแบบนี้ต่อไป ไม่ว่าความรักครั้งนี้ หรือความรักครั้งไหน ๆ ของท่านคาบุรากิก็จะไม่มีวันสมหวังอีก”

“เธอไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นแทนฉันหรอก คิโชวอิน” คาบุรากิบอก เขาวางส้อมขนมหวานลง “ที่ผ่านมาเธอทำหน้าที่ภรรยาของฉันได้ดีกว่าที่คิดไว้ซะอีก ตำแหน่งมาดามของบ้านคาบุรากิสมควรเป็นของเธอ”

ฉันพยายามจะรักษาสีหน้าให้เป็นปกติที่สุด “ท่านคาบุรากิคะ ฉันดำรงตำแหน่งมาดามบ้านคาบุรากิก็จริง แต่ตำแหน่งคนรักของคาบุรากิ มายาซะ ล่ะคะ” ฉันมองเขา มองสีหน้าที่เหม่อลอยของคาบุรากิ “ท่านคาบุรากิมองตาของฉันแล้วบอกสิคะ ว่าคุณไม่ได้ชอบอายูคาวะ ชิสึกะ ไม่ได้คิดอะไรกับเธอเลยแม้แต่น้อย”

คาบุรากิสบตากับฉัน หากแต่เขาไม่ได้เอ่ยปากอะไรออกมา

ฉันเป็นแพลนไดเอ็ทที่ดีต่อสุขภาพซึ่งพ่อแม่ของคาบุรากิบังคับให้เขาทำตาม คาบุรากิเองก็เคร่งครัดไม่เคยออกนอกลู่นอกทาง หากแต่ในใจของเขากลับต้องทุกข์ทรมานตลอดเวลาด้วยความโหยหาสิ่งที่ฉันไม่สามารถเติมเต็มให้เขาได้

ในเมื่อฉันไม่ใช่โดลเช่ของเขา ฉันก็จะปล่อยให้เขาไปหาโดลเช่ที่เขาปรารถนา

.....

14 Nameless Fanboi Posted ID:yWujO1x8Kt

ถ้าฉันเปรียบเอ็นโจเป็นซามอยด์ขนฟูน่ารักจนใคร ๆ ก็อยากจะเข้ามาจับ แต่จริง ๆ ขี้เบื่อจนชอบก่อเรื่องลับหลังคนอื่น คาบุรากิก็คงเป็นเหมือนไซบีเรียน ฮัสกี้ ที่ภายนอกดุดันจนใครต่อใครก็ต่างเลื่อมใสอยู่ห่าง ๆ แต่ความจริงมีความเป็นเด็กและความป่าเถื่อนอยู่ในตัวค่อนข้างมาก

คาบุรากิชอบบังคับ ชอบเป็นจุดสนใจ ถึงเวลาเงียบจะน่ากลัวแต่ถ้าให้พูดแล้วบ่นหงุงหงิงราวกับไซบีเรียนที่หอนได้ทุกเวลา บทจะบ้า ก็แรงบ้าเยอะจนใครก็เอาไม่อยู่ แต่ถึงอย่างนั้นเวลาอยู่กับเขาก็ไม่เคยรู้สึกเบื่อเลยแม้แต่น้อย

คาบุรากิยืนยันว่าเขาจะไปอธิบายให้กับพ่อแม่ของเขาและพ่อแม่ของฉันด้วยตัวเอง ฉันบอกเขาว่าฉันจะเป็นคนบอกเพราะว่าฉันเป็นคนขอหย่า ทำไปทำมาก็ตัดสินใจว่า เรียกทุกคนมาบอกพร้อม ๆ กันนั่นแหล่ะน่าจะปัญหาน้อยที่สุด ใครจะคิดอะไรยังไง ถามอะไร จะได้พูดออกมาทีเดียวเลย

ทั้ง ๆ ที่เป็นงานเลี้ยงมื้ออาหารเย็นสำหรับการประกาศหย่าระหว่างฉันกับคาบุรากิแท้ ๆ แต่พวกเราก็ยังไม่สามารถทิ้งนิสัยนักจัดงานเลี้ยงไปได้ ฉันคุยกับคาบุรากิว่าธีมของงานน่าจะผ่อนคลาย เพื่อไม่ให้ทุกคนเห็นว่านี่เป็นเรื่องใหญ่ แต่ไม่ควรจะจัดงานที่บ้านของใครซักฝั่ง เพราะจะทำให้คนที่อยู่ในบ้านระลึกถึงเหตุการณ์นี้และรู้สึกไม่ดีกับห้อง ๆ นั้นได้ คาบุรากิกลับบอกว่าควรจะจัดงานให้เป็นทางการหน่อย เพื่อที่คนในบ้านจะได้ไม่คิดว่าพวกเราทะเลาะกันแล้วประกาศหย่าแบบไม่จริงจัง

สุดท้ายแล้วพวกเราจัดงานที่บ้านของตัวเอง เพราะคุยกันว่าอาจจะมีใครซักคนระเบิดก่อเรื่องใหญ่โตออกมา ฉันแอบเดาว่าคนที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดก็คือทานูกิ ดังนั้นถ้าจัดในที่สาธารณะ อาจจะมีข่าวซุบซิบออกไปทำให้เกิดปัญหาเรื่องความเชื่อมั่นในโปรเจคการร่วมทุนได้

“คิโชวอิน เธอแพลนงานเลี้ยงไปถึงไหนน่ะ?” คาบุรากิถาม ฉันเปิดไฟล์แพลนจัดงานให้กับเขา ฉันแพลนงานเลี้ยงของเครือคาบุรากิคร่าว ๆ ไว้แค่ถึงครึ่งปีหน้า แต่มีแพลนละเอียดแค่ถึงเดือนมกราคม คาบุรากิขอให้ฉันเขียนแพลนละเอียดทั้งหมดในไตรมาสแรกให้ก่อนที่พวกเราจะหย่ากัน

“เผื่อท่านแม่ของฉันตกใจจนแพลนงานแทนเธอไม่ได้ จะได้ให้คนอื่นช่วยจัดการแทน” คาบุรากิบอก ฉันหน้าเศร้าลง แม้ว่าบ้านของคาบุรากิจะคลุมถุงชนพวกเรา แต่มาดามก็ดีกับฉันมาก เครื่องเพชรของมีค่า ทั้งของเก่าเก็บและคอลเล็คชั่นใหม่ของฉัน มากกว่าครึ่งล้วนมาจากมาดามทั้งนั้น เธอมักจะบอกฉันเสมอว่าถ้าโดนคาบุรากิรังแกก็ให้มาฟ้องเธอได้ เธอจะจัดการเขาเอง

พวกเราตกลงว่าจะประกาศหย่ากันในอีกสองเดือนข้างหน้าเพราะฉันยังมีอีกหลายงานที่สะสางไม่เสร็จ และยังมีงานเลี้ยงสำคัญ ๆ อีกหลายงานที่จะต้องเป็นเจ้าภาพ เนื่องจากแพลนของพวกเราถูกลงตารางงานไว้อย่างแน่นในช่วงก่อนวันหยุดยาวปลายปี วันที่พอจะใช้เป็นวันประกาศหย่าให้ทางบ้านได้รับรู้จึงเหลืออยู่แค่วันเดียว

วันฉลองครบรอบแต่งงานสามปีของพวกเรา

.....

คาบุรากิเป็นเหมือนสิงโตในทุ่งหญ้าที่แสนอิสระ เขาอาจจะพักพิงใต้ต้นไม้ในยามที่เหน็ดเหนื่อย แต่ฉันไม่อาจทวงบุญคุณนั้นกับเขาและยึดเขาไว้กับตัวเอง

ฉันจะปล่อยให้เขาไปเจอกับสายลม สายลมที่พัดพาในขณะที่เขาห้อตะบึงไปตามใจปรารถนา ส่วนฉันคงทำได้แค่เฝ้าดูเขา

ถึงฉันจะไม่ใช่สายลม ไม่ใช่ขนมหวาน ไม่สามารถเป็นคนที่คาบุรากิรักได้ แต่อย่างน้อยก็ขอให้ฉันเป็นคนที่ปลดเขาออกจากตรวน มองเขามีความสุขในที่ ๆ เขาอยากจะไป เป็นสิ่งที่เขาอยากจะเป็น กับคนที่เขาอยากจะอยู่ด้วย

ในขณะที่ฉันรู้สึกขมขื่นที่เห็นเอ็นโจแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น ฉันกลับมีความสุขที่เห็นคาบุรากิไปกับคนที่เขารัก นี่เป็นความรักในอีกรูปแบบหนึ่งซึ่งงดงามและน่าจดจำ

ความรักของฉัน ได้เพียงเท่านั้นก็น่ายินดีแล้ว

จบ

15 Nameless Fanboi Posted ID:kftrXpfVrS

เศร้า

16 Nameless Fanboi Posted ID:nD9V47CJEm

XOXO...

17 Nameless Fanboi Posted ID:nD9V47CJEm

>>16 มันเป็นศัพท์ได้เปล่าวะ5555

18 Nameless Fanboi Posted ID:yWujO1x8Kt

>>16 XOXO นี่ในภาษาจีนหมายถึงเรื่อง H นะ

19 Nameless Fanboi Posted ID:nD9V47CJEm

>>18 จริงมั้ยเนี่ย5555 นี่ตั้งใจจะเอาเพราะเป็นตัวย่อของkissอะไรพวกนั้นอ่ะ ลงท้ายจดหมายๆ5555

20 Nameless Fanboi Posted ID:A5xrIRFExH

ถ้า x ยังไมาได้ขอ X Ray

21 Nameless Fanboi Posted ID:ULjBmAnfBd

หน่วงโว้ยยยย

22 Nameless Fanboi Posted ID:a0xligWx07

>>20 ok, x = x-ray

23 Nameless Fanboi Posted ID:gvfSRmzKYi

x-xanadu สถานที่สวยงาม
(กูเพิ่งเจอในดิคตะกี้)

24 Nameless Fanboi Posted ID:dIOcE7aLvP

โฮวววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว

XOXO นี่คือกอดจูบหรือ H ล่ะ????

แงแง

25 Nameless Fanboi Posted ID:a0xligWx07

>>23 ปล.โดน X-ray ตัดหน้าละ รอ Y ละกันนะ ส่วน Z กูขอเอง

26 Nameless Fanboi Posted ID:a0xligWx07

>>24 ฝรั่ง = กอดจูบ
จีน = xxx

27 Nameless Fanboi Posted ID:fqlx01pdJ0

>>13-14 มันหน่วง มันจุกกก ฮืออ ท่านเรย์กะะะ คาบุ กูพูดไม่ออกเลย หรือเจ้าแม่ชะตากับต้องกับคานซังจริงๆ ไม่นะะ

28 Nameless Fanboi Posted ID:w2roj6/q1r

มีพูดถึงโดลเซ่ด้วย ใช่ชื่อเรื่องต้นฉบับหรือเปล่า

29 Nameless Fanboi Posted ID:E2.7trabfQ

เศร้าาาา อร๊ากกกก คาบุ๊!!!!!
อย่าปล่อยไปง่ายๆ แบบนี้เซ่!!!

30 Nameless Fanboi Posted ID:u5F5qxwAcc

>>13-14 ลืมเม้นท์ตอนนี้ T-T คาบุรากิ ปฏิเสธสิเฟ้ยยยยย ไม่เอานะ นายชอบยัยฟาร์มม้าอะไรนั่นจริงหรอ

31 Nameless Fanboi Posted ID:2dl4ljylSh

>>13-14 ทำไมบากะรากิไม่ยื้อเจ้าเเม่ไว้้ ;--;)

32 Nameless Fanboi Posted ID:kftrXpfVrS

โฮหาคนมาดามใจเจ้าแม่ที😳

33 Nameless Fanboi Posted ID:F+FTFyXOwG

บากะรากิ! รั้งท่านเรย์กะเอาไว้เลยนะ!!!! แงงง ฟน่วงมาก กูรับไม่ดั้ย เจ้าแม่จะต้องไม่สถิตอยู่บนคาน โม่งคนแต่งแต่งดีมากจนกูแบบ วหากสกสกใ แง อันที่จริงคาบุรากิถ้ารักเจ้าแม่จริงทำไมไม่พูดอะไรออกมาเลย กูคาดหวังตอนจบดีๆแบบจริงๆคาบุคิดเหมือนกับเจ้าแม่ในมุมกลับกันได้ไหม แล้วแบบประกาศหย่าเพื่อจะจีบใหม่//ฝันอยู่หรอกู— ไม่มีทางที่เพื่อบริษัทไม่น่าทำงี้ อีกทางเลือกคือไม่หย่าไปเลย
วันครบรอบสามปีอะ กรี๊สสสส จริงหรอ;_;

34 Nameless Fanboi Posted ID:CYu.ER8S07

>>32 ฟู้ดซังไง ที่จะเยียวยาได้ทุกสิ่ง

35 Nameless Fanboi Posted ID:dE1rwsy5PJ

วนอ่านอีกรอบก็ยังหน่วง เป็นไปได้ไหมว่าจะเข้าใจผิดทั้งคู่ เจ้าแม่คิดว่าคาบุชอบคนอื่น คาบุก็คิดว่าเจ้าแม่ยังชอบจอมมารงี้ เลยต่างฝ่ายต่างถอยย /สูดกาวแรงมาก กูอยากให้ถึงตัวzไวๆเลย อยากรู้ตอนจบบ

36 Nameless Fanboi Posted ID:6K.b1gP57B

กูเชียร์ให้เจ้าแม่มั่นๆมาช่วยด้านธุรกิจตระกูลตัวเองไปเลยว่ะ ถ้ายื้อไว้มันก็เจ็บทั้งสองฝั่ง คาบุมันก็หน้าที่ค้ำคอส่วนเจ้าแม่ ยิ่งอยู่ไปจะยิ่งผูกพันทำให้ตัดยากไปเปล่าๆ ตัดตอนนี้อย่างน้อยก็ตั้งตัวได้ทั้งสองฝ่าย
ปล.แอบตลกที่คาบุคิดว่าหย่าเพราะเอาหนังสือปริศนาภาพมาให้ถถถถถ ก็รู้ปะวะว่ามันแปลก55555

37 Nameless Fanboi Posted ID:dWv8G+pypi

คาบุ ทำไมไม่ปฏิเสธไปตรงๆล่ะว่าไม่ได้ชอบคุณอายุคาวะ

38 Nameless Fanboi Posted ID:K+La+GsuS3

อะไรก็ได้ เจ้าแม่ของกูแกร่งอยู่แล้ว ถ้าคาบุรากิมันไม่ได้รู้สึกอะไร ก็คงต้องปล่อยไปอะ กูรับได้หมดเว้ย ขนาดนี้ละ

39 Nameless Fanboi Posted ID:.zrGDdO2fA

ชีวิตจริงนี่ การจะหย่ากันมันต้องเตรียมการมากขนาดนั้นเลยเร้อ

40 Nameless Fanboi Posted ID:teG7ci4md0

>>39 ชีวิตจริงน่าจะง่ายกว่านี้หน่อย บังเอิญอันนี้คนนึงก็เพอเฟคชั่นนิส อีกคนก็ห่วงหน้าตัวเองยิ่งชีพ ระเบิดออกมาเป็นคนบ้าสองคนที่จัดงานเลี้ยงเพื่อการหย่า

ว้อยยยยย
เออ ไม่หลุดคาร์ต้นฉบับดีนะ 😂

41 Nameless Fanboi Posted ID:gOkZZ6b6mv

'คนบ้าสองคนที่จัดงานเลี้ยงเพื่อการหย่า' เออ บ้าจริงๆ ด้วย ขอชมโม่งฟิคนี้ที่แต่งให้ทั้งฟิน ทั้งหน่วง ทั้งเดาตอนต่อไปไม่ได้ และยังคงคาร์ต้นฉบับได้อีก

42 Nameless Fanboi Posted ID:Nw384KI5X8

จู่ๆก็คิดถึงฟิคคู่หูทะลุมิติ พยาย๊ามพยายามคิดยังไงก็คิดให้มันแฮปปี้เอนไม่ได้สักที

43 Nameless Fanboi Posted ID:7NqccWxe9I

>>42 มาต่อเร็วๆเข้า กุชอบฟิกทะลุมิติมาก

44 Nameless Fanboi Posted ID:gOkZZ6b6mv

>>43 จบแล้วไม่ใช่เหรอ ที่บ้านพักคนชราไง

45 Nameless Fanboi Posted ID:Zu1hrwR+hO

กูควรจะลงฟิคดีมั้ย กลัวขัดมู้ดพวกมึงจัง 555555555555555

46 Nameless Fanboi Posted ID:CJws/X10ru

>>45 มาเลยค่าาา

47 Nameless Fanboi Posted ID:E2.7trabfQ

>>45 มาโลด กุรับได้หมด

48 Nameless Fanboi Posted ID:ZUmUdQMpcc

>>45 กระเพาะคาว-หวานแยกกันฉันท์ใด โม่งซุยรันก็แยกมู้ดได้ฉันท์นั้น
กูต้องการ ลงเลยค่ะ

49 Nameless Fanboi Posted ID:D1bYSlwjql

>>45 เชียร์ลงเลยอีกเสียง มีกาวหลายกระป๋อง แยกได้หมดอ่ะ 555555

50 Nameless Fanboi Posted ID:cnreuVm/so

ทำไมพอนึกถึง Y ในหัวกูมีแต่คำว่า Yaoi วะ อห

51 Nameless Fanboi Posted ID:eRJELdg2Pb

>>50 เราพันธุ์เดียวกัน 5555

52 Nameless Fanboi Posted ID:ZUmUdQMpcc

>>50 มึงจะหักอารมณ์มา yaoi ก่อนจบฟิคนอร์มอลไม่ได้นะ55555

53 Nameless Fanboi Posted ID:D1bYSlwjql

>>50 งั้นกู yuri ช่วย คอนทราสดี 555555555

54 Nameless Fanboi Posted ID:cnreuVm/so

>>52 มึงไม่อยากรู้คู่ท่านพี่กับอิมาริหรอ Yaoi ก็ดีนะมึง เดี่ยวก่อนจบไม่เคลียร์ 5555

55 Nameless Fanboi Posted ID:E2.7trabfQ

>>54 สรุป คาบุได้กะเอ็นโจ เรย์กะไปต่อที่ฟิคบ้นพักคนชรา

56 Nameless Fanboi Posted ID:eRJELdg2Pb

>>54 เดะจบคู่คาบุเจ้าแม่ก่อน ละมีท่านอิมาริท่านพี่เป็นตอนพิเศษมะ 555

57 Nameless Fanboi Posted ID:Zu1hrwR+hO

>>55 กูสนับสนุนรูทนี้ //ชูมือสูงๆ

58 Nameless Fanboi Posted ID:Kj+tsnzioQ

Yaoiนี่ สรุปหย่าเสร็จคาบุก็ไปคู่กับจอมมาร ท่านพี่กะท่านอิมาริ ส่วนเจ้าแม่ขึ้นคานอย่างสงบ

59 Nameless Fanboi Posted ID:cnreuVm/so

>>55 กูก็อุส่าเลี่ยง รูทเจ้าแม่บ้านพักคนชรา ขนาดกูพึ่งกลับมาเข้าโม่ง กูยังจำติดตาอะ

60 Nameless Fanboi Posted ID:eRJELdg2Pb

>>59 รูทนั้นน่ารักดีออกมึง

61 Nameless Fanboi Posted ID:cnreuVm/so

>>60 เกรงใจแท็ก love ของเจ้าแม่ด้วย 5555

62 Nameless Fanboi Posted ID:myUJIUoM9Z

X - X-ray

“ได้ยินว่าวันครบรอบแต่งงานปีที่สามของคุณคิโช— มาดามกับมาซายะจะมีเซอร์ไพรส์”

ฉันเหลือบตาขึ้นมาจากแก้วไวน์ มองเอ็นโจที่นั่งลงบนเก้าอี้ข้าง ๆ ถ้ารู้ว่าจะมีตัวก่อกวน ฉันคงไม่เลือกนั่งบาร์ด้านหน้า แต่ไปนั่งตรงที่นั่งมุมลับตาคน

“สายัณห์สวัสดิ์ค่ะท่านเอ็นโจ” ฉันทักทายเอ็นโจอย่างเป็นทางการ ก่อนจะเหลือบตามองข้างตัวเขา “แล้วมาดามเอ็นโจล่ะคะ?”

เอ็นโจยิ้มบาง สายตาคู่นั้นเหมือนรังสีเอ็กซ์เรย์ที่พยายามจ้องมองให้ทะลุถึงจิตใจของฉัน “มาดามคาบุรากิยังขี้ระแวงเหมือนเดิมไม่มีผิด” ก่อนจะสั่งเปิดไดมอนด์จูบิลี ฉันเลิกคิ้วสูง แม้ว่าจะอยู่ท่ามกลางเหล่าเศรษฐีเสียจนเคยชินกับความฟุ่มเฟือยที่ใช้เงินราวกับเททิ้งแม่น้ำ แต่สำหรับเอ็นโจ ฉันไม่เคยเห็นเขาทำตัวฟุ่มเฟือยเกินเหตุ โดยเฉพาะกับแอลกฮอลล์

ไดมอนด์จูบิลีคือวิสกี้ที่ผลิตขึ้นมาเพียงแค่ 60 ขวด เพื่อมอบเป็นของที่ระลึกให้กับควีนอลิซาเบธในวันฉลองครองราชย์ 60 ปี มันเป็นวิสกี้ที่บ่มนานถึง 60 ปี ถือว่าเป็นของลิมิตเตทที่ราคาสูงลิ่ว ท่านพ่อของคาบุรากิประมูลมันมาตั้งโชว์ไว้ที่บาร์ในโรงแรมสาขาแรกของเครือคาบุรากิ ฉันเองตอนมานั่งดื่มที่บาร์ก็ชอบมองขวดแก้วที่ขึ้นทรงเป็นรูปเพชร บรรจุวิสกี้สีอำพันงดงามนั่น แต่ไม่คิดว่าวันหนึ่งจะมีคนสั่งเปิดมันจริง ๆ

วิสกี้ถูกเสิร์ฟในแก้วเจียรไน เมื่อกระทบกับแสงไฟคล้ายกับอัญมณีที่งดงามจนฉันละสายตาไม่ได้ เอ็นโจเห็นฉันมองไม่วางตาก็เรียกให้บาร์เทนเดอร์รินเพียวให้ฉันอีกแก้ว

หากเป็นตัวฉันในสมัยก่อนก็คงจะปฏิเสธ แต่ว่าฉันในตอนนี้กลับคิดว่าไหน ๆ ก็ต้องนั่งรอคาบุรากิอยู่แล้ว อีกอย่างของที่มีจำกัดแบบนี้ ถึงมีเงินก็ไม่ใช่ว่าจะมีโอกาสหาดื่มได้อีก เพราะอย่างนั้นจึงรับไว้และขอบคุณเขา

“วันนี้มาดามดูสง่างามเป็นพิเศษเลยนะครับ ถ้าคุณไปยืนหน้าร้านทิฟฟานี่ ผมก็คงนึกว่าตัวเองตาฝาดเห็นฮอลลี่แล้ว” เอ็นโจชมฉันอย่างคล่องปาก

วันนี้ฉันแต่งตัวโดยมีต้นแบบมาจากฮอลลี่ในเรื่องเบรคฟาสต์แอททิฟฟานี่จริง ๆ ทว่าชุดของฉันถูกสั่งตัดเป็นพิเศษเพราะชุดสไตล์นั้นไม่มีขายในช้อปอีกแล้ว นอกจากนั้น ถุงมือ เครื่องประดับ และทรงผมก็ยังเหมือนเคาะออกมาจากหนัง แม้ว่าจะใส่แล้วสง่างามสมใจ แต่ปัญหากลับมีมากมายสารพัด เริ่มจากเพราะว่าฉันไม่ได้มีหุ่นผอมบางและสูงเปรียวเหมือนออเดรย์ เฮปเบิร์น ดังนั้นชุดจึงต้องตัดให้เข้ารูปที่สุด เพื่อให้ฉันดูมีทรวดทรงมากที่สุด

หลังจากชุดมาถึงที่บ้าน ฉันก็พบกับปัญหาที่สองซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ นั่นคือ ฉันไม่สามารถยัดตัวเองเข้าไปในชุด หรือถอดชุดเองได้โดยไม่มีผู้ช่วย แย่ยิ่งไปกว่านั้นคือ แค่จะเข้าห้องน้ำก็ยังทำไม่ได้ เพราะว่าชุดของฉันถูกตัดมาให้เข้ารูปตั้งแต่บอดี้ถึงเข่า และหมายถึงกระโปรงช่วงเข่าของฉันถูกบีบแคบซะจนถ้าไม่ปลดซิปข้างหลังชุด ก็จะไม่สามารถถกขึ้นได้เลย

แม้คาบุรากิจะบอกให้ฉันเปลี่ยนเป็นเดรสตัวอื่น แต่ฉันก็ยืนยันว่าวันนี้ฉันจะปรากฏตัวในรูปลักษณ์แบบสาวสังคมนิวยอร์กในยุควินเทจ เพราะอุตส่าห์ไดเอ็ทตามโปรแกรมที่คาบุรากิจัดให้ทุกกระเบียดนิ้วอยู่เกือบครึ่งเดือน กว่าจะกำจัดหน้าท้องย้วย ๆ จนยัดตัวเองลงในชุดได้ ดังนั้นฉันจะไม่มีวันล้มเลิกความตั้งใจอย่างเด็ดขาด ซึ่งผลลัพธ์ก็คุ้มค่ากับความทรมาน เพราะทันทีที่ก้าวลงจากรถ ฉันก็ได้รับคำชมอย่างล้นหลาม แม้ว่าจะต้องแลกกับการที่ไม่กินไม่ดื่มอะไรในงานเลี้ยงเลยก็ตาม

หลังจากงานเลี้ยงเลิก ฉันก็คอแห้งจนเสียงเริ่มแหบ ทว่ายังต้องอยู่รอคาบุรากิซึ่งไปคุยธุรกิจกับคู่ค้ารายใหม่ เพราะว่าพวกบรรดาคู่ค้าไม่ได้พาภรรยามาด้วย ฉันเลยขอตัวออกมานั่งที่บาร์แทน และสั่งไวน์มาดื่มรอ กะว่าเมื่อคาบุรากิคุยธุระเสร็จ ฉันก็คงดื่มไวน์หมดไปซักสองแก้ว แล้วก็จะได้กลับไปเข้าห้องน้ำที่บ้านพอดี

ไม่รู้เป็นเพราะว่าฉันท้องว่างจนแค่ดื่มไวน์ลงไปแก้วเดียวก็เมา หรือว่าหงุดหงิดโมโหหิวกันแน่ ดังนั้นแทนที่ฉันจะยิ้มรับคำชมนั่นเหมือนมาดามน้อยที่มีมารยาท ฉันกลับยิ้มแล้วจิกกัดเขาตอบ “ถ้าฉันเจอท่านเอ็นโจที่ฟิฟต์อเวนิว ก็คงจะคิดว่าคุณหล่อเหลาเหมือนพอลเช่นกันค่ะ”

เรื่องที่เราพูดถึงกันเป็นเรื่องเกี่ยวกับเบรคฟาสต์แอททิฟฟานี่ แม้ว่าฉันจะหลงรักสไตล์แฟชั่นของฮอลลี่อย่างที่สุด แต่กลับไม่อยากถูกเปรียบเทียบกับเธอ เพราะฮอลลี่เป็นสาวบ้านนอก แต่เข้ากรุงมายกระดับตัวเองด้วยการแต่งงานกับผู้ชายรวย ๆ แม้ว่าฉันจะมาจากบ้านคิโชวอินที่ร่ำรวยพอกัน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเหตุผลในการแต่งงานของฉันกับคาบุรากิมีเหตุผลอยู่แค่ 2 ประการ นั่นคือ เงินและหน้าตาทางสังคม

63 Nameless Fanboi Posted ID:eRJELdg2Pb

>>61 เรื่องนี้มันเป็นแท็ก love แค่ในนามต่างหาก !

64 Nameless Fanboi Posted ID:myUJIUoM9Z

ทว่าคำตอบโต้ของฉันก็ไม่ได้เบาไปกว่ากันเลย สามปีที่ฉันกลายเป็นมาดามน้อยคือช่วงเวลาที่ฉันได้ลับคมเล็บนับครั้งไม่ถ้วนในวงสังคม ฉันเรียนรู้ว่าการทำตัวเรียบร้อยสงบเสงี่ยมนั้นบางทีก็อาจจะทำให้เกิดเรื่องขึ้นมาในภายหลังได้

พอลคือตัวละครนักเขียนไส้แห้งที่นอนกับผู้อุปถัมป์ซึ่งเป็นเศรษฐีนีอายุมากกว่า เป็นนัยว่าเอ็นโจเองก็แต่งงานเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจเช่นกัน

ทว่าเอ็นโจไม่เพียงไม่โกรธฉัน เขายังยิ้มน้อย ๆ ดวงตาเป็นประกายราวกับพวกเราย้อนกลับไปสมัยมัธยม ช่วงเวลาที่เขาสามารถแกล้งฉันโดยที่ฉันตอบโต้อะไรไม่ได้เลยแม้แต่น้อย “ถ้าผมเป็นพอล คุณจะล้มเลิกการไปบราซิล ใส่แหวนหมั้นแล้ววิ่งฝ่าฝนมาหาผมรึเปล่าครับ มาดาม”

ฉันชะงัก นึกเสียใจที่ส่งคาบุรากิกับเอ็นโจไปหาท่านอิมาริ คนหนึ่งก็ไม่ได้อะไรแม้แต่เสี้ยวเดียวกลับมา อีกคนแทบจะเจริญรอยตามท่านอิมาริติด ๆ “พอลที่ยังมีคนอุปถัมป์ไม่มีสิทธิ์โยนแหวนหมั้นใส่ตักใครหรอกค่ะ” ฉันตัดคำ ก่อนจะยกแก้ววิสกี้ขึ้นแกว่งดูของเหลวสีอำพันที่ไหลวน กลิ่นของมันหอมหวานกว่าวิสกี้ทั่วไป หากทว่าสำหรับฉันแล้ว รสของวิสกี้ก็คือวิสกี้ แม้ว่าจะราคาแพงเท่าใด ก็ยังบาดคออยู่ดี

ฉันปฏิเสธวิสกี้แก้วต่อไปแล้วดื่มไวน์ต่อ พวกเราดื่มท่ามกลางความเงียบ ฉันที่เกลียดความรู้สึกแบบนี้จึงยกไวน์ขึ้นจิบครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อให้ไม่รู้สึกอึดอัด รู้ตัวอีกทีก็ตอนบาร์เทนเดอร์มาถามฉันว่าไวน์ที่ฉันเปิดหมดขวดแล้ว จะเปิดขวดใหม่ไหม ฉันปฏิเสธไปเนื่องจากตอนนี้ภาพข้างหน้าเบลอจนต้องเพ่ง และฉันก็รู้สึกอยากเข้าห้องน้ำ

มือของฉันยันลงบนบ่าของเอ็นโจ ก่อนจะปีนลงจากเก้าอี้สตูลตัวสูง ทว่ารองเท้าส้นสูงห้านิ้วทำเอาฉันเกือบหน้าคว่ำถ้าไม่ได้เอ็นโจช่วยประคอง ฉันกระพริบตาถี่ ๆ ก่อนจะเอนตัวพิงบาร์แล้วยกมือถือขึ้นโทรหาคาบุรากิ

คาบุรากิรับสายแล้วบอกฉันว่าเขาใกล้จะเสร็จธุระแล้ว แต่ฉันบอกเขาไปว่าฉันจะไปเข้าห้องน้ำ และให้เวลาเขาแค่สิบนาทีเท่านั้น

“ความจริงแล้วคุณไม่ต้องเรียกมาซายะมาก็ได้นะครับ มาดาม ให้ผมประคองพาคุณไปก็ได้” เอ็นโจบอก

ฉันส่งเสียงฮืมม์ ก่อนจะก้มลงกระซิบข้างหูเขาว่าถ้าฉันจะเข้าห้องน้ำ ต้องลอกคราบฉันออกทั้งตัวก่อนฉันถึงจะทำธุระได้ ดังนั้นนอกจากจะประคองพาไปส่งถึงในห้องน้ำแล้ว ผู้ช่วยของฉันจึงต้องทำหน้าที่ถอดชุดให้ด้วย

เอ็นโจอึ้งไป ฉันไม่ทันได้หัวเราะหน้าตาตกตะลึงของเขา คาบุรากิก็วิ่งเหยาะ ๆ เข้ามาในบาร์ เพราะว่าฉันอยู่ในสภาวะกระเพาะปัสสาวะล้นปรี่ แต่ดันไม่สามารถทรงตัวได้ เขาเลยต้องอุ้มฉันแล้วเดินเร็ว ๆ ออกไปจากบาร์

65 Nameless Fanboi Posted ID:eRJELdg2Pb

Y - yearn ความปรารถนา

66 Nameless Fanboi Posted ID:myUJIUoM9Z

ทว่าแทนที่จะตรงไปยังห้องน้ำหญิง คาบุรากิบอกฉันว่าเขาสั่งให้พนักงานเปิดห้องเอาไว้ เพราะถ้าเป็นไปได้เขาก็ไม่ค่อยอยากจะเข้าไปหมุนตัวเล่นกับฉันในห้องน้ำโรงแรมแคบ ๆ เท่าไหร่ คาบุรากิบ่นว่าเพราะฉันดึงดันที่จะใส่ชุดบ้านี่ก็เลยต้องลำบากขนาดนี้ ส่วนฉันบอกว่าเป็นความผิดของเขา เพราะเขาปิดดีลไม่ได้ซักที ฉันถึงต้องรอเงกดื่มไวน์ไปทั้งขวด

พอเข้าห้อง คาบุรากิก็วางฉันให้นั่งตรงขอบเตียง ก่อนจะก้มลงถอดรองเท้าส้นสูงให้ แล้วบอกให้ฉันเอี้ยวหลังมา เพื่อที่เขาจะได้รูดซิปให้ฉัน ฉันที่อยู่ในสภาวะมึนงงเต็มที่ถอดชุดอย่างเงอะ ๆ งะ ๆ ก่อนจะขว้างชุดทิ้งข้างเตียง เพราะว่าท่อนบนยังมีคอร์เซ็ต ส่วนท่อนล่างนอกจากกางเกงชั้นในแล้วก็ยังมีถุงน่องเนื้อหนา ก็เลยไม่รู้สึกโป๊มากนัก

คาบุรากิที่เอาแต่มองเพดานตอนประคองฉันไปเข้าห้องน้ำเกือบจะทำพวกเราลื่นล้มหัวฟาด พอฉันทำธุระเสร็จ เขาก็พามานั่งบนเตียง มองชุดของฉันอย่างลำบากใจ

“เธอจะใส่ชุดนี้กลับบ้านจริง ๆ เหรอ?” คาบุรากิยกชุดขึ้นดูแล้วพลิกไปมา “นี่น่าจะไซส์เล็กกว่าขนาดที่เธอใส่ปกติซักสองไซส์ได้นะ คิโชวอิน”

ฉันยกเท้าขึ้นถีบเขา บอกว่าถ้าพวกเราไม่มีแพลนจะค้างคืนที่นี่ ก็ให้เขาหุบปากแล้วแต่งตัวให้ฉันซะ คาบุรากิหันมาจะต่อว่าฉัน แต่เขาชะงักแล้วมองขึ้นบนเพดานเหมือนเดิม ก่อนจะจัดการแต่งตัวให้ฉันโดยที่ตายังจ้องเพดานอยู่อย่างนั้น

ด้วยความอัจฉริยะของคาบุรากิ ชุดที่ต้องใช้ฉันและคุณเมดอีกสองคนในการใส่ เขาสามารถใส่ให้ฉันแบบไม่ต้องใช้ตามองได้ด้วยตัวคนเดียว พอใส่ชุดเสร็จ ฉันก็วางเท้าลงบนตักของคาบุรากิที่นั่งคุกเข่าอยู่บนพื้น แล้วสั่งให้เขาใส่รองเท้าให้ฉัน คาบุรากิหยิบรองเท้าของฉันขึ้นมาแล้วก็บ่นฉันว่าชอบใส่แต่รองเท้าสูง ๆ ฉันทำเสียงฮืม ๆ แต่ไม่บอกเขาว่าที่ฉันจำเป็นต้องใส่รองเท้าสูง ๆ เพราะความผิดของเขานั่นแหล่ะ คาบุรากิเป็นผู้ชายตัวสูงสมกับเป็นพระเอกการ์ตูนโชโจ ส่วนฉันไม่สูงขึ้นตั้งแต่มัธยมแล้ว ถ้าฉันไม่ใส่ส้นสูง เวลาถ่ายรูปกับเขาก็จะตกเฟรม แต่ในอนาคตฉันไม่ต้องทนใส่รองเท้าส้นสูงแบบนี้อีกแล้ว คุณชิสึกะเองก็คงไม่มีปัญหา เพราะเธอเป็นผู้หญิงตัวสูง ถึงจะใส่รองเท้าส้นเตี้ย แต่ก็คงจะถ่ายรูปกับคาบุรากิได้อย่างสง่างาม

เพราะว่าได้พักเข้าห้องน้ำ ฉันที่สร่างขึ้นหน่อยก็สามารถเดินได้โดยมีคาบุรากิประคอง พอพวกเราขึ้นรถ ฉันก็ถามเขาว่าพรุ่งนี้ตารางงานของพวกเราทั้งคู่แคนเซิล เขาอยากจะไปฟาร์มอายูคาวะไหม

คาบุรากิมองฉันด้วยสายตาลังเล ก่อนจะตอบตกลง ฉันหัวเราะกับท่าทีอึก ๆ อัก ๆ ของเขา แต่ไหนแต่ไรคาบุรากิเป็นพวกพุ่งเข้าชนกับความรัก สมัยวาคาบะจังก็ไม่สนใจเลยด้วยซ้ำว่าคนอื่นจะคิดยังไงหรือเธอจะเดือดร้อนเพราะเขารึเปล่า แต่ตอนนี้กลับมีท่าทางลังเล ไม่รู้เพราะคิดได้ว่าถ้าเขาไปมาหาสู่กับอายูคาวะบ่อย ๆ จากนั้นก็หย่ากับฉัน แล้วก็มีข่าวว่าเขาออกเดทกับคุณชิสึกะ คุณชิสึกะจะถูกครหารึเปล่า หรือแค่เกรงใจฉันกันแน่ แต่ฉันก็รู้สึกว่าเขาโตขึ้นมาอีกหน่อยแล้ว

รถลีมูนซีนแล่นไปตามท้องถนน ตอนที่ฉันกำลังจะเคลิ้มหลับ คาบุรากิก็เอ่ยปากถามฉัน “เธอ...ไม่ได้ชอบชูสึเกะแล้วเหรอ?”

พอพูดถึงเอ็นโจ ฉันก็เงยหัวขึ้นมา “อา...” ฉันพยายามจะตอบ “ทำไมถึงคิดอย่างนั้นล่ะ?” เพราะว่าหาคำตอบที่ตรงกับความรู้สึกไม่ได้ ก็เลยถามเขากลับแทน

“เธอไม่ได้ทำหน้าเหมือนอยากจะร้องไห้ตอนอยู่กับเขาแล้ว” คาบุรากิบอก “ฉันรู้สึกได้ เพราะสมัยตอนยูริเอะ ฉันก็เป็นอย่างนั้นเหมือนกัน”

“ก็คงจะเป็นอย่างนั้นมั๊งคะ” ฉันตอบ “ถึงยังไงเขาก็มีคุณยุยโกะอยู่แล้ว”

คาบุรากินิ่งไป ก่อนจะบอกว่า “ถ้าเธอเอ่ยปาก ฉันคิดว่าชูสึเกะจะเลือกเธอ ไม่ว่าจะเป็นตอนนั้น หรือแม้แต่ตอนนี้ก็ตาม”

แม้ว่าฉันจะคิดว่าความคิดของคาบุรากิช่างไร้สาระ แต่ฉันก็ไม่ได้แก้ความเข้าใจผิดของเขา ฉันเอนหัวลงซบลงบนท่อนแขนแข็ง ๆ ของคาบุรากิ กอดแขนของเขาใช้แทนหมอน บอกกับตัวเองว่าขอทำตามใจอีกซักนิด เพราะอีกเพียงแค่อาทิตย์เดียว ฉันก็จะกลายเป็นคิโชวอิน เรย์กะ แล้ว และฉันคืนเขาให้กับคุณชิสึกะอย่างแน่นอน

จบ

67 Nameless Fanboi Posted ID:myUJIUoM9Z

>>65 ลงใหม่นะคะซิส

68 Nameless Fanboi Posted ID:eRJELdg2Pb

Y - Yearn ความปรารถนา

69 Nameless Fanboi Posted ID:eRJELdg2Pb

ขอโทษค่ะมึงงง ตอนแรกนึกว่าจบแล้ว

70 Nameless Fanboi Posted ID:myUJIUoM9Z

>>68 OK, Y=Yearn

ส่วน Z กูคิดเองละกัน

71 Nameless Fanboi Posted ID:kY7J5ys02O

>>70 จัดไปค่ะโม่งฟิค

72 Nameless Fanboi Posted ID:myUJIUoM9Z

>>68 ไม่เป็นไร มึงมาได้จังหวะมาก กูไล่อ่านอันบน อห. Challenge แต่ละคน นำพาเจ้าแม่กูขึ้นคานทั้งนั้นเลย 555

73 Nameless Fanboi Posted ID:kY7J5ys02O

>>62-66 โอยยย กูรักมึงจังเลยค่ะโม่งฟิค ละมุนละเกิน

74 Nameless Fanboi Posted ID:eRJELdg2Pb

>>72 คำแรกที่กูนึกได้คือ yeast ยีสต์ทำขนมปังอะ แต่กูนึกไม่ออกเลยว่าตัว z จะจบยังไง เลยเอา yearn ดีกว่า 555

75 Nameless Fanboi Posted ID:myUJIUoM9Z

>>74 สมกับเป็นเรื่องที่ tag food ถีบ tag love ขนาดโม่งรีเควสยังมีแต่ของแดก

76 Nameless Fanboi Posted ID:m/AvFmI4/e

y กูนึกได้แต่ youth อ่ะ 555555

จะจบแล้ว แงง โม่งฟิคสู้ๆ

77 Nameless Fanboi Posted ID:Q5m/TlmU.D

>>45 มึงลงเลยค่ะซิส อย่าเกรงใจ กรูขอไปหมกตัวเขียน y,z ก่อน จบซีรีย์แล้วกูจะกลับไปเป็นผีเหมือนเดิมละ 55

78 Nameless Fanboi Posted ID:l8lOtSc5gN

กลับมาอีกครั้งกับซีรีย์สาววายซุยรัน
ความเดิมตอนที่แล้ว >>>/webnovel/5401/182-184
------------------------

หลังจากได้คำแนะนำจากคิโชวอินในเรื่อง “โมเมนต์ระหว่างชายหนุ่มทั้งสองที่มีร่วมกันทำให้สาวน้อยหัวใจเต้นตึกตัก” ฉันก็รีบตรงดิ่งไปที่ร้านหนังสือเพื่อศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่จะไปคนเดียวมันก็เหงาอยู่ ก็เลยพาชูสุเกะกับคิโชวอินไปด้วย มีแนวร่วมเยอะๆมันก็อุ่นใจดี

น่าแปลกที่คิโชวอินเวลาถูกลากไปไหนมักบ่นนั่นบ่นนี่ แต่ตอนนี้กลับไม่บ่นอะไรซักแอะ แถมยังมีสีหน้าระรื่นอีกต่างหาก

คิโชวอินแจ้งความประสงค์กับพนักงานที่เข้ามาถามว่าหาหนังสืออะไรอยู่ กระซิบกระซาบเหมือนว่าเรากำลังจะทำผิดกฎหมาย พนักงานคนนั้นก็มีสีหน้าแปลกๆ แต่ก็เดินนำหน้ามาที่มุมในสุดของร้าน บอกให้เลือกได้ตามสบายก่อนจะขอตัวไปดูแลส่วนอื่นๆ แต่ก็ยังไม่วายที่จะเหลียวหลังกลับมามองพวกเราด้วยสายตาเคลือบแคลง

“เอ้า รีบๆหน่อยสิคะ ฉันต้องไปเรียนพิเศษต่อนะ” คิโชวอินไปยืนรอที่หน้าชั้นหนังสือแล้ว ชูสุเกะก้าวตามเข้าไป ส่วนฉันสูดลมหายใจเข้าลึกเป็นการเตรียมใจที่จะเข้าไปยังล็อกที่ดูเหมือนจะมีรังสีอะไรบางอย่างแผ่ออกมาแบบไม่สิ้นสุด

ถ้าฉันตาไม่ฝาด ดูเหมือนจะเห็นมือมากมายเต็มไปหมดคอยจับตัวพวกที่พลั้งเผลอหรือไม่ระวังให้เข้าไปข้างใน ที่นี่มันแม่น้ำซันสึใช่มั้ย ข้ามไปแล้วจะไม่สามารถกลับมาได้อีก

แต่มาถึงแล้ว ก็ลุยเข้าไปเลยละกัน

“สำหรับผู้เริ่มอ่าน ฉันแนะนำว่าให้อ่านพวกซอฟท์ๆ เรื่องเบาๆไม่หวือหวาก่อนดีกว่านะคะ” คิโชวอินชี้ไปยังชั้นหนังสือที่อยู่สูงกว่าตัวเองเล็กน้อย “จากหมวดพวกนี้เขาเรียกว่า Shonen-Ai ค่ะ จะเน้นความรักและความอ่อนโยนระหว่างผู้ชายกับผู้ชาย แล้วก็จะไม่มีเรื่องแบบนั้นเข้ามาข้องเกี่ยว อย่างเช่นเรื่องนี้….”

คิโชวอินเขย่งเท้าพยายามจะหยิบหนังสือที่อยู่สูงกว่าตัวเองขึ้นไป ชูสุเกะเลยเอื้อมไปหยิบให้

“เล่มนี้ใช่มั้ย”

“ใช่แล้วค่ะ” คิโชวอินพยักหน้าแล้วยื่นหนังสือให้ฉัน “ท่านคาบุรากิลองเริ่มจากเรื่องนี้ดูสิคะ เป็นแนวรักโรแมนติค...เนื้อเรื่องก็ประมาณว่านักเรียนชายม.ปลายแอบหลงรักเพื่อนสนิทของตัวเองที่เป็นผู้ชาย แต่ไม่กล้าบอกออกไปเพราะกลัวผิดหวัง เป็นแบบเล่มเดียวจบด้วยนะคะ”

“อะ โอ้ จัดมาเลยคิโชวอิน”

“ส่วนเรื่องนี้ก็...เพื่อนสมัยเด็กที่เป็นคู่แข่งกัน ต่างฝ่ายต่างแอบรักกันแต่ไม่กล้าบอกเลยใช้การแข่งขันบังหน้าค่ะ เป็นแนวตลกเฮฮาปนกุ๊กกิ๊กค่ะ อ๊ะ ท่านเอ็นโจวานหยิบเล่มที่สามจากทางซ้ายให้หน่อยสิคะ ฉันเอื้อมไม่ถึง”

“ได้สิ”

คิโชวอินแนะนำหนังสือเรื่องนั้นเรื่องนี้ไป ชูสุเกะก็หยิบออกมาให้ตามที่บอก ส่วนฉันก็พลิกดูเรื่องย่อจากปกหลังไปเรื่อยๆ นอกจากคำแนะนำของคิโชวอินแล้ว คิดว่าเรื่องไหนน่าสนใจก็วางลงในตะกร้า

แต่ว่าเรื่องที่คิโชวอินเลือกมา รู้สึกว่าฝ่ายอุเคะจะมีผมสีทองหรือผมสีน้ำตาลแลดูอ่อนโยน ส่วนฝ่ายเซเมะผมดำท่าทางเคร่งขรึมจริงจังทั้งนั้น นี่รสนิยมเธอเรอะ

“แล้วก็มีแนวดราม่าเคล้าน้ำตารักไม่สมหวังอยู่ด้วยนะคะ ไม่ทราบว่าท่านคาบุรากิเป็นพวกสุขนิยมรึเปล่า”

“ก็ไม่นะ ฉันอ่านได้ทุกแนว”

“สนใจจะลองอ่านดูรึเปล่าคะ”

พอฉันพยักหน้า คิโชวอินก็เอ่ยชื่อมาสองสามเรื่อง รับประกันว่าที่แนะนำมาน่ะเศร้ามากๆให้เตรียมหาทิชชู่ไว้ซับน้ำตาด้วย ขนาดนั้นเชียวเรอะ

“อืม ผมก็ชักสนใจขึ้นมาเหมือนกันนะ” ชูสุเกะเหลือบมองหนังสือในตะกร้าของฉัน แล้วก็หันไปยิ้มให้คิโชวอิน “คุณคิโชวอินก็ช่วยแนะนำให้ผมบ้างสิ”

“เอ...สำหรับท่านเอ็นโจ ฉันแนะนำเรื่องนี้ค่ะ” คิโชวอินหยิบหนังสือมาสามเล่ม ดูเหมือนจะเป็นหนังสือชุด “อาจจะหนาไปหน่อยแต่รับรองว่าสนุกมาก อ่านแล้วจะวางไม่ลงเลยล่ะค่ะ”

“งั้นเหรอ…” ชูสุเกะก็เชื่อตามนั้น หยิบใส่ตะกร้าของตัวเองไป

79 Nameless Fanboi Posted ID:l8lOtSc5gN

ฉันมองไปรอบๆ เผื่อจะเจออะไรที่เข้าท่าหรือน่าสนใจอีก เห็นชูสุเกะก้มหน้าอ่านตัวอย่างหนังสือเล่มที่คิโชวอินแนะนำให้ ท่าทางจะน่าสนุก ฉันก็เลยไปยืนข้างๆ ดูว่าชูสุเกะอ่านอะไรอยู่

พอลองกวาดตาคร่าวๆ มาแนวแอบหลงรักคนใกล้ตัวของตัวเองอีกแล้วแฮะ

ฉันกำลังจะเลิกสนใจแล้วไปหาอย่างอื่นก็ต้องสะดุ้งนิดๆตอนที่รู้ตัวว่ากำลังอยู่ในท่าแบบไหน

ชูสุเกะยืนอยู่ข้างๆฉัน เราอยู่ใกล้กันมากจนสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิร่างกายของอีกฝ่าย ทั้งๆที่เราก็ยืนข้างกันมานับครั้งไม่ถ้วนแต่ไม่เคยมีครั้งไหนใกล้เท่าครั้งนี้ เพราะฉันก้มหน้า เขยิบตัวไปอ่านหนังสือเล่มเดียวกับชูสุเกะรึไงกัน

ฉันได้แต่ตัวแข็งทื่อไม่กล้าขยับ เพราะถ้ามีคนขยุกขยิกแม้แต่นิด ปากชูสุเกะได้ชนแก้มฉันแหงๆ

บ้าเอ้ย!! ทำไมเราต้องตัวสูงเท่ากันด้วยฟะ มันจะสะดวก(?)เกินไปแล้วนะ

มองหาความช่วยเหลือจากคิโชวอินก็เห็นยัยนั่นไปยืนห่างๆตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ทำเป็นเลือกหนังสือจากชั้น แต่ฉันเห็นว่าหล่อนแอบอมยิ้มอยู่นะเฮ้ย!!

“เป็นอะไร มาซายะ”ชูสุเกะเงยหน้าขึ้นจากหนังสือ เลิกคิ้วแบบสงสัย

“ปะ เปล่า” ฉันรีบผละตัวออกมายืนห่างๆ “เราไปจ่ายเงินกันเถอะ”

เราสามคนเดินผ่านหน้าพนักงานที่กำลังปีนบันไดเพื่อจัดเรียงหนังสือขึ้นไปบนชั้น ใกล้ๆกันมีเด็กประถมสองคนกำลังวิ่งเล่นไล่จับกันในร้าน เฮ้ย!! มันอันตรายนะเจ้าเด็กพวกนี้ เดี๋ยวก็หกล้มกันหรอก

ไม่ทันขาดคำ เด็กที่เหมือนจะเป็นหัวโจกก็วิ่งชนบันไดที่พนักงานเอาหนังสือมาเรียงไว้เตรียมจัดขึ้นชั้นอยู่ หนังสือที่กองอยู่บนนั้นก็เกิดร่วงลงมา กำลังจะหล่นใส่หัวชูสุเกะ

“อันตราย!!” ฉันรีบพุ่งเข้าไปผลักให้พ้นทาง ชูสุเกะเลยรอดพ้นจากการโดนหนังสือหล่นใส่หัวไปฉิวเฉียด ส่วนฉันถูกหนังสือตกใส่สองสามเล่มตรงไหล่ โชคดีที่เล่มไม่หนามากมายเลยไม่เจ็บเท่าไหร่

คิโชวอินหันหลังกลับมามองอย่างตกใจ “ท่านเอ็นโจ!! ท่านคาบุรากิ!! …เป็นอะไรรึเปล่าคะ”

“ฉันไม่เป็นไร” ฉันส่ายหน้าแล้วก็มองสำรวจชูสุเกะ “ชูสุเกะเป็นอะไรมั้ย”

“ผมไม่เป็นไร” ชูสุเกะกระพริบตาปริบๆเหมือนยังไม่เข้าใจเหตุการณ์

พอรู้สึกโล่งอก ฉันก็เลยถอนหายใจออกมา แต่ก็ต้องสะดุ้งเมื่อเพิ่งจะรู้ตัวว่ากำลังอยู่ในท่วงท่าแบบไหน

ฉัน….กำลังกอดชูสุเกะอยู่นี่หว่า!!

นี่มันกอดแบบช่วยเหลือคน ฉันไม่ได้คิดอะไรเลยนะ ชูสุเกะก็คงไม่คิดอะไรเหมือนกัน มันเป็นอุบัติเหตุน่ะ เข้าใจมั้ย อุบัติเหตุ!!

ฉันรีบผละตัวออกห่าง ยกมือทั้งสองข้างชูขึ้นเหนือศีรษะเหมือนกำลังจับของร้อน ชูสุเกะเลิกคิ้วแบบสงสัยนิดๆ พอหันไปมองคิโชวอินก็เห็นยัยนั่นกำลังเหมือนพยายามห้ามไม่ให้ตัวเองยิ้ม

สังหรณ์ใจไม่ดีเกี่ยวกับรอยยิ้มนั่นยังไงชอบกล

ผู้จัดการร้านก็ตรงเข้ามาหาพร้อมพนักงาน ก้มหัวขอโทษขอโพยกันยกใหญ่ ส่วนเด็กประถมสองคนนั้นก็ก้มหัวขอโทษด้วยเหมือนกัน สีหน้าดูจ๋อยแบบเห็นได้ชัด

เราสามคนยืนยันว่าไม่มีใครเป็นอะไร ส่วนเด็กสองคนนั้นก็ให้คำสัญญาว่าจะไม่วิ่งเล่นซนกันในร้านอีกแล้ว เรื่องก็จบลงด้วยดีและแยกย้ายกันไปคนละทาง

เป็นหนึ่งวันที่เหนื่อยชะมัด
.
.
.

80 Nameless Fanboi Posted ID:l8lOtSc5gN

พอกลับมาถึงบ้าน ฉันก็นอนแผ่หราบนเตียง อ่านมังงะและนิยาย Boy’s Love ที่คิโชวอินเป็นคนแนะนำมาให้ เนื้อเรื่องก็เบาๆสบายๆเหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มอ่านอย่างที่ยัยนั่นว่า อย่างน้อยก็ไม่มีฉากเรทมากมายอะไรให้รู้สึกตะลึงตาค้างแบบตอนที่อ่านนิยายของทาคามิจิ

ถ้าไม่นับเรื่องที่ทั้งคู่เป็นผู้ชายเหมือนกัน ก็เป็นความรักที่หวานแหววโรแมนติคอยู่

แต่อ่านอะไรเบาๆซอฟท์ๆมากเกินไปก็รู้สึกอยากได้อะไรที่มันหนักหน่วงมาตัดอารมณ์และความรู้สึกเหมือนกัน แถมฉันเป็นผู้ชายที่ผ่านการอ่านนิยายชายรักชายที่มีฉากติดเรท SM มาแล้ว คงได้เวลาที่จะยกระดับไปอีกขั้น

ว่าแล้วฉันก็แกะนิยายที่คิโชวอินบอกว่ามันเศร้ามากให้หาทิชชู่มาเตรียมไว้ตอนอ่านด้วย ตอนที่พลิกอ่านบทแรกๆก็คิดในใจว่าจะแค่ไหนกันว้า

เนื้อเรื่องเป็นแนวแฟนตาซีที่มีพระเอกเป็นพ่อมดผู้เหี้ยมโหดเย็นชากับนายเอกที่เป็นคนธรรมดาที่บังเอิญหลงเข้ามาในป่า ผู้ชายตัวเล็กๆที่ไม่มีเวทมนต์ แต่อบอุ่นอ่อนโยน ทำให้พ่อมดรู้จักสิ่งที่เรียกว่าความรัก และเรียนรู้ที่จะรักใครซักคน ช่วงนี้ก็อบอุ่นหัวใจและเผลออมยิ้มไปกับความน่ารักของสองคนนี้ ฉันกลิ้งไปมาบนเตียงแล้วหัวเราะคิกคักกับฉากจูบครั้งแรกที่ดูจะขัดเขินกันทั้งคู่

แต่พออ่านไปถึงกลางเล่ม เฉลยอดีตของพ่อมดและคนธรรมดา ความดราม่าก็เริ่มปรากฎ แท้จริงแล้วนายเอกคือแม่ทัพของเมืองหลวง ผู้ซึ่งอาสาเดินทางมาปรายพ่อมดด้วยความแค้นที่พ่อมดเคยเผาทำลายหมู่บ้าน สังหารพ่อแม่ต่อหน้า แต่พ่อมดนั้นแข็งแกร่งไร้จุดอ่อนเกินไป จึงต้องสร้างจุดอ่อนขึ้นมา ซึ่งนั่นคือความรัก

มาถึงบทท้ายๆ ฉันก็ถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เมื่อนายเอกจะลงมือสังหารพ่อมดแต่ทำไม่ได้ แต่จะปล่อยศัตรูที่ฆ่าพ่อแม่ไว้ก็ทำไม่ได้เหมือนกัน ดังนั้นนายเอกเลยฆ่าตัวตายต่อหน้า พูดถ้อยคำเย็นชาเสียดแทงหัวใจว่าไม่เคยรักพ่อมดเลยแม้แต่น้อย ทุกอย่างที่ผ่านมาคือความลวงหลอก และสิ้นใจไปในอ้อมกอดของพ่อมดที่หัวใจแหลกสลาย

ฉันคว้าทิชชู่มาซับน้ำตา ไม่ไหวแล้ว อะไรจะเศร้าได้ขนาดนี้ พวกนายรักกันไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงไม่พูดคุยแก้ไขกันดีๆล่ะ แล้วจุดอ่อนคือความรักอะไรกันเล่า ความรักต่างหากที่ทำให้คนเราเข้มแข็งขึ้นน่ะ

ฉันพิมพ์เมล์หาคิโชวอิน บรรยายความรู้สึกหลังจากอ่านไปแบบละเอียดยิบๆ ตอนนี้ตีสองยัยนั่นคงนอนไปแล้ว แต่ความรู้สึกหน่วงๆในอกก็ยังไม่หายไป ฉันเลยพิมพ์ชื่อนิยายเรื่องนี้เข้าไปในช่องการค้นหา เจอกระทู้ที่เอาไว้พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่พอดี

ทีแรกฉันกะว่าจะระบายความรู้สึกเฉยๆก็เลยพิมพ์คอมเมนต์ไปซะยืดยาว แต่พอรีเฟรชหน้าเว็บก็เห็นคอมเมนต์เข้ามาตอบกลับอยู่หลายอัน ทุกคนล้วนเห็นด้วยกับฉันพร้อมกับชมเชยว่าวิเคราะห์ได้ละเอียดลึกซึ้งดีมาก มีบางคอมเมนต์แนะนำว่าถ้าชอบเรื่องนี้ก็ให้ลองอ่านอีกเรื่องที่แนวคล้ายๆกัน การันตีความสนุกและดราม่าแน่นอน

รู้ตัวอีกทีฉันก็โต้ตอบกับผู้ใช้งานนิรนามทั้งหลายในเว็บบอร์ดจนถึงตีห้า รู้สึกคุยได้สนุกเพลิดเพลินมาก เหมือนเป็นโลกใหม่ที่ฉันไม่เคยสัมผัสมาก่อน ได้ชื่อนิยายกลับมาอีกหลายเรื่องด้วย แต่ละเรื่องน่าสนใจทั้งนั้น

เดี๋ยวอาทิตย์หน้าชวนชูสุเกะกับคิโชวอินไปซื้อหนังสืออีกดีกว่า

------------------
ข้างบนแม่งคุยกันเหมือนกับรู้ว่ากูกำลังจะลงอะไรวายๆยังไงยังงั้นเลยว่ะ 55555555555

81 Nameless Fanboi Posted ID:PoYox8Uilu

>>80 ข้ามฝั่งแม่น้ำไปแล้วสินะ ข้ามไปแล้วสินะ

82 Nameless Fanboi Posted ID:+JHEHap69H

ไซซายะ กู่ไม่กลับแล้วล่ะ นายข้ามแม่น้ำสติงก์ไปแล้ว

83 Nameless Fanboi Posted ID:+JHEHap69H

เออ ฟิคx-ray นี่เจ้าแม่ดูร้ายยยยยยยย
แต่งงานแล้วก๋ากั่นขึ้นนะเรา 55555

84 Nameless Fanboi Posted ID:knFaslq13y

>>82 กู่ไม่กลับแน่นอน เบิกเนตร เปิดมุมมองใหม่ไปซะแล้ว

85 Nameless Fanboi Posted ID:vFd0kI0epb

Ky หน่อย จำได้ลางๆว่า มีคนบอกเจ้าแม่เหมือนตุ๊กตาฝรั่งเศส คือกูลองหาในเน็ตดู คือ โคตรหลอนนะเฮ้ย!!

86 Nameless Fanboi Posted ID:l8lOtSc5gN

>>85 แค่อิมเมจมั้งมึง เพราะตุ๊กตาพวกนี้มันชอบทำผมม้วนๆใส่ชุดลูกไม้หวานๆ
แต่พูดก็พูด ตุ๊กตาพวกนี้แม่งรวมคุณลักษณะในฝันของสาวๆเลยนะ อย่างเช่นตาโต แก้มอมชมพู ผิวขาว แต่พอรวมๆกันออกมาแม่งไม่น่ารักแล้วเสือกหลอนอีก 5555555

87 Nameless Fanboi Posted ID:elWGcc8G4X

กูโม่งฟิค A-Z นะ ในพาร์ท Y ทั้งพาร์ท จะเป็นมุมมองของคาบุรากิทั้งพาร์ท มีทั้งหมด 22 ตอน จะแบ่งลงเป็น 3 ส่วน

ชี้แจงไว้เพื่อใครคิดว่ากูฟลัชกระทู้

88 Nameless Fanboi Posted ID:elWGcc8G4X

Y - Yearn (A-W with Kaburagi’s POV)

1.

วันนี้เป็นวันแต่งงานของเขา

หากแต่ผู้หญิงที่เขารักและคิดจะอยู่ร่วมกับเธอชั่วชีวิตกลับนั่งอยู่ที่โต๊ะสำหรับแขก ผู้หญิงในชุดแต่งงานกลับเป็นเพื่อนสมัยเด็กของเขาที่ท่านแม่จับคู่ให้

มาซายะไม่อยากจะมองวาคาบะที่ยิ้มให้กับเขาด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน เขายังรู้สึกผิดที่ตัวเองไม่มีอำนาจพอที่จะต่อสู้กับบ้านคาบุรากิและฝ่าฟันอุปสรรคเพื่อที่จะได้อยู่กับเธอได้ ดังนั้นเขาจึงมองคิโชวอินที่พยายามปั้นสีหน้ายิ้มน้อย ๆ เพื่อให้กล้องที่จับภาพพวกเราจับได้แต่ภาพการแต่งงานอันยิ่งใหญ่อลังการของบ้านคาบุรากิกับบ้านคิโชวอิน ไม่มีเรื่องให้เอาไปซุบซิบนินทาทีหลังอย่างการที่เจ้าบ่าวมีคนรักอยู่แล้วหรือเจ้าสาวยังไม่อาจตัดใจจากเพื่อนสนิทของเจ้าบ่าวซึ่งแต่งงานไปเมื่อสามเดือนก่อน

เขาสงสัยว่าชีวิตต่อจากนี้จะเป็นยังไง คิโชวอินจะคาดหวังให้เขาปฏิบัติต่อเธอเหมือนสามีคนหนึ่งปฏิบัติต่อภรรยาหรือไม่ คาบุรากิเหลือบมองเพื่อนสมัยเด็กของเขา แม้ในช่วงต้นของชีวิตเขาจะไม่ได้สนิทกับเธอมากนัก แต่ในช่วงมัธยมปลายเธอกลายเป็นอีกคนหนึ่งที่เขาเล่าเรื่องต่าง ๆ และไปไหนมาไหนด้วยกันได้ แม้ว่าความสนิทสนมของเขาและเธอจะทำให้ท่านแม่ไม่ยอมลดละความตั้งใจในการแต่งคิโชวอินเข้าบ้าน แต่เขาก็ไม่รู้สึกเสียดายเลยแม้แต่น้อยที่ได้รู้จักเธอ

ช่วงเวลาเข้าหอเป็นช่วงเวลาที่คาบุรากิรู้สึกอึดอัด

ในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง เขาสามารถทำเรื่องที่ผู้ชายคนหนึ่งทำกับผู้หญิงอีกคนหนึ่งได้ มันก็เป็นแค่เรื่องทางร่างกาย แม้ว่าเขาจะไม่เคยทำมาก่อนแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร หากให้เขาพูดถึงคิโชวอิน เธอก็เป็นผู้หญิงที่หน้าตาสวยคนหนึ่ง แต่ในฐานะที่เธอเป็นเพื่อนกับเขามาทั้งชีวิต ซ้ำยังคงรักเพื่อนสนิทของเขา มาซายะเลยไม่รู้สึกมีอารมณ์เลยซักนิด

โชคดีที่คิโชวอินเองก็เหนื่อยจนแทบสลบพอ ๆ กัน เขาสังเกตว่าตลอดทั้งงานเธอก็ไม่ได้กินอะไรเหมือนเขา พอเขาเปิดตู้เย็นชวนกินขนมที่เตรียมไว้ คิโชวอินก็ดูแจ่มใสขึ้น ทว่ากินไปได้ไม่กี่คำ เธอกลับร้องไห้ออกมา

ไม่บ่อยครั้งนักที่คิโชวอินร้องไห้ เลยทำให้เขารู้สึกตกใจไม่น้อย แต่พอถามคิโชวอินกลับบอกว่าเพราะชุดแน่นเกินไป เลยกินอะไรไม่ได้

สุดท้ายแล้วเขาก็เป็นคนช่วยแก้คอร์เซ็ตของเธอ ผิวขาว ๆ ที่ถูกคอร์เซ็ตรัดจนแน่นขึ้นรอยแดงทำให้เขาร้อนวูบ มาซายะเองก็เป็นผู้ชายเช่นกัน เมื่อมีผู้หญิงคนหนึ่งเปลือยหลังในชุดหลุดรุ่ยที่เขาเป็นคนถอดให้มาอยู่ต่อหน้าแล้วจะไม่รู้สึกรู้สาอะไรนั่นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย

แต่ถึงกระนั้นมาซายะก็ไม่ได้ทำอะไรนอกจากบ่นเรื่องน้ำหนักของเธอ เพราะถ้าหากว่าเธอผอมกว่านี้ คอร์เซ็ตก็คงไม่รัดซะจนหายใจไม่ออก คิโชวอินมีสีหน้าเหมือนกลืนของขม แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรเพราะมัวแต่สนใจขนม

ในคืนนั้นคิโชวอินไม่ได้เรียกร้องให้เขาเข้าไปนอนในห้องอย่างที่เขาแอบกลัว มาซายะอาบน้ำแล้วนอนลงบนโซฟา ก่อนจะหวนคิดไปถึงคำพูดของคิโชวอิน

‘ฉันไม่รังเกียจหรอกนะถ้าท่านคาบุรากิจะแอบพบกับคุณทาคามิจิอย่างลับ ๆ’

ชั่ววูบหนึ่งเขาคิดถึงความเป็นไปได้ที่เขาจะแอบคบกับวาคาบะ แต่มาซายะก็ตัดความคิดนั้นไปอย่างรวดเร็ว เขารู้ว่าวาคาบะเป็นผู้หญิงที่มีศักดิ์ศรีมากเกินกว่าที่จะแอบคบกับสามีของคนอื่น และเขาเองก็มีศักดิ์ศรีมากพอที่จะไม่ทำเรื่องต่ำช้าแบบนั้น

ในคืนนั้นเขาหลับไปโดยความคิดสุดท้ายคืองานที่ทำค้างเอาไว้ที่บริษัทและโปรแกรมลดน้ำหนักของคิโชวอิน

.....

89 Nameless Fanboi Posted ID:elWGcc8G4X

2.

“ท่านคาบุรากิ ได้โปรดเถอะค่ะ”

คิโชวอินออดอ้อนเขาด้วยสีหน้าที่เขาได้เห็นเฉพาะตอนเคี่ยวเข็ญให้เธอออกกำลังกายเท่านั้น แม้ว่าเขาจะแอบหวั่นไหวไปชั่ววูบ คิดในใจว่านี่สินะสีหน้าที่ทำให้พี่ชายของเธอมาหาเขาในวันก่อนวันแต่งงาน แล้วขู่เขาว่าถ้าเขาทำให้เธอเจ็บปวด คิโชวอิน ทาคาเทรุ จะเป็นคนที่ขุดหลุมฝังเขาด้วยตนเอง แม้ว่ารอยยิ้มนั่นจะอ่อนโยนมาก แต่เขากลับสัมผัสได้ถึงรังสีสังหารแบบที่คำตอบมีอยู่อย่างเดียวคือการก้มหัวให้อีกฝ่าย แล้วบอกว่าเขาจะดูแลเธอให้ดีที่สุด

หากทว่าเขาไม่ได้ใจอ่อนกับลูกอ้อนของเธอ คิโชวอินอ้วนขึ้นจากตอนสมัยเรียนจบจริง ๆ เขาเดาว่าเธอคงเครียดเรื่องแต่งงานจนตะลุยกินไม่ยั้ง เธอเองก็ลั่นวาจาออกมาแล้วว่าจะตั้งใจลดน้ำหนัก ดังนั้นเขาจะอ่อนข้อไม่ได้อีกเป็นอันขาด แม้กระทั่งตอนที่ลงไปทานอาหารมื้อค่ำกับท่านพ่อและท่านแม่ของเขาก็ตามที

ท่านแม่พอเห็นคิโชวอินขาลากเพราะออกกำลังกายหนักไปหน่อยก็ติงเขา แต่มาซายะบอกไปว่าถ้าฝึกให้ชินก็ดีขึ้นเอง ตอนนี้ตัวทั้งตัวของเธอไม่มีกล้ามเนื้อเลยแม้แต่น้อย ก็น่าอยู่หรอกที่จะขาลากหลังจากวิ่งบนลู่นานขนาดนั้น

เขามองคิโชวอินที่มองเขากินขนมมื้อเย็นที่เธอไม่ได้รับอนุญาตให้กิน ก่อนจะขยับปากดุเธอว่า ‘อ้วน’ แล้วลงมือกินต่อ เริ่มเข้าใจความรู้สึกของชูสึเกะแล้วว่าทำไมถึงชอบแกล้งเธอนัก

.....

3.

คิโชวอินจัดงานแรกในฐานะมาดามน้อยของบ้านคาบุรากิได้อย่างสมบูรณ์แบบอย่างที่แม้แต่มาซายะเองก็ยังหาข้อติไม่ได้ และงานเปิดตัวโรงแรมสาขาใหม่ก็คงจะจบลงอย่างสมบูรณ์แบบเช่นกันหากคิโชวอินไม่ยืนบื้อใบ้เหม่อลอยกลางงานหลังจากที่คุยกับชูสึเกะและผู้หญิงจากตระกูลอุริว

ดังนั้นมาซายะจึงเข้าไปหาเธอ เธอแก้ตัวกับเขาว่านึกถึงเปียโนที่เขาดีดให้สมัยมัธยม เขาจึงถามเธอว่าอยากฟังเพลงไหน เมื่อเธอขอเพลงของเดอบูว์ซี เขาก็เล่นให้ตามที่เธอขอ

เมื่อดีดเปียโนจนจบเพลงสั้น ๆ คิโชวอินก็เดินเข้ามาโอบเอวเขา แม้ว่าท่าทางนั้นจะเป็นการแสดง แต่ความพึงพอใจในเสียงดนตรีนั่นเป็นของจริง

เขาพาเธอไปคุยกับคู่สามีภรรยานักการเมืองคู่หนึ่ง มือของคิโชวอินยังคงโอบเอวเขา ส่วนมือของเขาแตะอยู่เหนือสะโพกของเธอ ปลายนิ้วสัมผัสได้ถึงผิวเนื้อเนียนละเอียดที่โผล่พ้นจากชุดราตรีผ่าหลังลึก เขาหัวเราะให้กับมุขตลกของนักการเมืองคนนั้น ทำเป็นไม่เห็นสายตาของชูสึเกะที่จ้องอย่างไม่วางตาตั้งแต่ตอนที่คิโชวอินเดินเข้ามาหาเขา

.....

4.

มาซายะเคยฝันว่าเขาจะได้อยู่กับผู้หญิงที่เขารัก หากแต่ความฝันนั้นเป็นไปไม่ได้แล้ว และเขาก็ไม่ใช่คนเพ้อฝันที่จะเอาแต่คิดในสิ่งที่ลงมือทำไม่ได้ ดังนั้นมาซายะจึงคิดว่า ในเมื่อเขาอยู่กับผู้หญิงที่เขารักไม่ได้ เขาก็จะเปิดใจยอมรับคิโชวอินในชีวิตของเขา แม้ว่าเขาไม่ได้รักเธอ แต่ถ้าเป็นเธอ ถึงจะอยู่ในฐานะไหน เขาก็คิดว่าตัวเองน่าจะมีความสุขได้ไม่ยากนัก

.....

90 Nameless Fanboi Posted ID:Uc4W17vWkN

5.

เขารู้ได้เลยว่าคิโชวอินกำลังโกหกอยู่

ในระหว่างที่ต้องบินไปทำงานที่ต่างประเทศ เขาสั่งให้คิโชวอินถ่ายภาพอาหารส่งมาให้เขา ทว่าภาพถ่ายอาหารที่เธอส่งมาให้มันดูคลีนเกินไป ปริมาณน้อยเกินไป คำโอดครวญและคำขอร้องที่แนบมากับรูปถ่ายพวกนั้นก็สั้นเกินไป

มาซายะเหลือบมองกองเอกสาร ในตอนนี้เป็นเวลาสี่ทุ่มแล้ว ความจริงเขาควรจะกลับไปพักผ่อน แต่เขาหยิบอีกกองมาอ่าน เพราะถ้าขืนเขาไม่รีบกลับไป คิโชวอินมีหวังได้น้ำหนักพุ่งจนกู่ไม่กลับแน่นอน

.....

6.

เสียงงุ้งงิ้งน่ารำคาญของผู้หญิงที่มาเกาะแกะเขาทำให้มาซายะรู้สึกเหมือนตัวเองกลับไปอยู่ตอนมัธยม

ดาราสาวที่เขาจำชื่อไม่ได้ แต่เธอเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับไลน์เครื่องสำอางวัยรุ่นในธุรกิจคาบุรากิพยายามเกาะแขนออดอ้อนให้เขาพาเธอออกไปทานอาหารมื้อค่ำ มาซายะบอกปัดเธออย่างสุภาพอยู่หลายครั้ง เขาไม่ใช่เด็ก ๆ ที่สามารถระเบิดความโกรธออกมาได้เหมือนตอนที่อยู่มัธยมอีกแล้ว แต่เธอก็น่ารำคาญจนเขารู้สึกอยากจะทำอย่างนั้นอยู่หลายครั้ง

เช้าวันต่อมาข่าวพาดหัวบนอินเตอร์เน็ตถูกส่งมาให้เขาในตอนเช้าหลังจากที่มาซายะอาบน้ำเสร็จ ชูสึเกะแคปหน้าจอของตัวเองส่งมาทางไลน์ แล้วส่งอีโมติค่อนเลิกคิ้วมาให้

มาซายะยักไหล่ พิมพ์ตอบกลับไปว่าก็แค่ผู้หญิงน่ารำคาญคนหนึ่ง

ดาราสาวคนนั้นยังไม่เลิกตามตื้อเขา

ตั้งแต่ใช้เธอเป็นพรีเซ็นเตอร์ ยอดขายก็พุ่งขึ้นมากว่าเดิม 250% ดังนั้นเขาจึงไม่อยากจะมีเรื่องขัดแย้งโดยตรง หรือทำให้เธอร้องห่มร้องไห้จนเกิดเรื่องฉาว แต่เธอกลับใช้ประโยชน์ตรงนั้นตามตื้อเขาไปยังที่ต่าง ๆ

เขาเกือบจะคิดถึงสมัยเรียนมัธยมที่มีคิโชวอินทนเสียงกรี๊ดกร๊าดปวดประสาทเป็นเพื่อนเพราะอยู่ห้องเดียวกัน แต่แล้วเขาก็คิดถึงคำพูดของเธอที่ตำหนิว่าแค่เรื่องเล็ก ๆ เขายังจัดการไม่ได้ เขาจะเหมาะสมกับการเป็นผู้นำตระกูลคาบุรากิได้ยังไง

มาซายะเริ่มยิ้มไม่ถึงตา หวังว่าดาราสาวจะอ่านสีหน้าของเขาออกบ้าง แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย เขาเลยตะคอกเธอไปเหมือนตอนที่ตะคอกสาว ๆ ซุยรัน

เย็นวันนั้นข่าวพาดหัวถูกแคปโดยชูสึเกะส่งมาทางไลน์ของเขาก่อนที่ผู้ช่วยของเขาจะส่งมาเหมือนเคย มาซายะพิมพ์ไลน์ตอบกลับไปว่า ถ้ามัวแต่จ้องข่าวฉาว เอาเวลาไปจัดการปัญหาของตัวเองดีกว่า หรืออย่างน้อยก็ช่วยเขาแก้ปัญหาเรื่องดาราสาวคนนี้

ชูสึเกะพิมพ์ไลน์ตอบกลับมาว่าเขาจัดการปัญหาของเอ็นโจเรียบร้อยแล้ว และถ้าอยากให้ช่วยจัดการปัญหาของมาซายะ แค่ปล่อยข่าวไปว่าพวกเขาเป็นคู่เกย์กันสมัยเรียน รับรองว่ากลบข่าวเรื่องดาราสาวคนนี้ได้มิดอย่างแน่นอน

มาซายะพิมพ์ด่าหยาบคายกลับไป บอกว่าแค่นี้คิโชวอิน เรย์กะ ก็แอบสงสัยว่าเขากับชูสึเกะเป็นคู่รักลับ ๆ กันแล้ว จะให้คิโชวอิน ทาคาเทรุ คิดไปด้วยรึไง

ชูสึเกะเงียบไป เขาเองก็ไม่ได้พิมพ์อะไรไปต่อ ในบรรดาคนทั้งหมดที่คอยปกป้องคิโชวอิน พี่ชายของเธอเป็นคนที่พวกเขาไม่อยากจะรับมือด้วยมากที่สุด

ครั้งที่สามหลังจากที่ข่าวถูกพาดหัว ไลน์ของเขาเด้งขึ้นมาอีกครั้ง ทว่าไม่ใช่จากชูสึเกะ ไม่ใช่จากผู้ช่วยของเขา แต่จากคิโชวอิน ทาคาเทรุ

ไม่มีคำพูดอะไรต่อท้าย มีแต่เนื้อหาข่าวสามฉบับ และนั่นก็เป็นคำขู่ที่น่ากลัวที่สุด

ในตอนที่เขาจะให้ผู้ช่วยไปจัดการทำให้เธอสงบเสงี่ยมหน่อย สายข่าวในสถานีโทรทัศน์ก็ไลน์มาบอกผู้ช่วยของเขาว่าคิโชวอินไปดูกองถ่ายด้วยตนเอง ดูเหมือนเธอจะพูดอะไรกับดาราคนนั้นเล็กน้อย แต่ชมว่าดาราสาวมีฝีมือดี ขยันขันแข็ง และหลังจากที่เธอกลับไป ผู้จัดการดาราคนนั้นก็ส่งจดหมายมาหาผู้ช่วยของเขา ทั้งขอโทษเรื่องที่ดาราของตัวเองไปก่อเรื่องวุ่นวาย และรับปากว่าจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก

แม้ว่าการรังแกคนที่อ่อนแอกว่าจะไม่ใช่สิ่งที่เขาชมชอบ แต่ก็อดยอมรับไม่ได้ว่าคิโชวอินจัดการเรื่องพวกนี้ได้เด็ดขาดสมกับเป็นน้องสาวของพี่ชายที่แสนจะน่ากลัวของเธอ

.....

91 Nameless Fanboi Posted ID:g7EI/GraoM

7.

ในวันครบรอบแต่งงานหนึ่งปี เขากับคิโชวอินไปฟินแลนด์

เธอไม่เคยมีทักษะในด้านกีฬายังไง ในตอนนี้ก็ยังคงไม่มีอย่างนั้น ทั้ง ๆ ที่เขาเคี่ยวเข็ญให้เธอฝึกสกี แต่เธอกลับทำได้แค่ร่วงลงไปวัดพื้น พยายามอยู่นานเท่าไหร่ก็ไม่สำเร็จ ดังนั้นเขาจึงเบื่อและปล่อยให้เธอนั่งดื่มชาที่จุดนั่งรอ ส่วนเขาออกไปเล่นสกีคนเดียว นึกสงสัยว่าชูสึเกะทนได้ยังไงที่แต่งงานกับผู้หญิงแบบอุริว ภรรยาของชูสึเกะเป็นผู้หญิงประเภทที่เอาแต่อยู่เงียบ ๆ กับบ้าน เธอจัดงานเลี้ยงบ้างแต่ก็น้อยเต็มที ข้อดีอย่างเดียวก็น่าจะเป็นความสวยที่ผู้ชายส่วนมากอยากปกป้อง แต่มาซายะกลับคิดว่าเธอน่ารำคาญ

มาซายะสงสัยว่าหากในอดีตชูสึเกะกับคิโชวอินลงเอยกัน ท่านแม่ของเขาจะยอมรับวาคาบะหรือเปล่า หรือจะหาเจ้าสาวคนใหม่ที่ดูนุ่มนิ่มเหมือนอุริวให้กับเขา

แค่คิดว่าต้องใช้ชีวิตอย่างสุภาพเรียบร้อยตลอดเวลาแม้กระทั่งอยู่ที่บ้าน มาซายะก็รู้สึกเบื่อแล้ว แม้ในตอนแรกจะไม่ยอมรับการแต่งงานแบบคลุมถุงชน แต่เขาก็ต้องยอมรับว่าท่านแม่เลือกผู้หญิงได้เหมาะสมกับตำแหน่งมาดามคาบุรากิมาก

ถึงคิโชวอินจะห่วยเรื่องกีฬา แต่เรื่องอื่น ๆ เธอกลับทำได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นการช่วยงานเขา การจัดงานเลี้ยงเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ และการออกงานเป็นหน้าเป็นตาให้กับบ้านคาบุรากิ

อีกอย่างเวลาอยู่กับเธอเขาก็ไม่เคยเบื่อเลยแม้แต่น้อย

พวกเขาพักในบับเบิ้ลโดมที่เป็นกระจกทั้งหลัง เขาเคาะกระจกเนื้อหนา รู้สึกสนใจจะทำที่พักที่เป็นกระจกเช่นกัน แต่อาจจะไม่ได้ใช้กระจกทั้งแผ่นแบบนี้ เพราะญี่ปุ่นอุณหภูมิระหว่างหน้าร้อนกับหน้าหนาวต่างกันมาก พื้นผิวที่เป็นกระจกทั้งหมดอาจจะเกิดปัญหาได้หากใช้ไปนาน ๆ

ตอนที่คิโชวอินที่ออกมาจากห้องอาบน้ำ เขาตั้งใจจะถามเธอว่าคิดยังไงกับที่พักที่เป็นเหมือนเรือนกระจก แล้วคำพูดก็หายวับไปเมื่อเห็นเธอในชุดเสื้อสเวตเตอร์ตัวโคร่ง

เขาไม่ได้นึกถึงเธอในฐานะผู้หญิงนัก ในความคิดของเขา คิโชวอินเป็นเพื่อนและผู้ช่วยที่ดี เขาพวกมีความสัมพันธ์กันแบบมืออาชีพ เวลาไปพักที่โรงแรมไหนก็มักจะจองห้องสวีทที่มีห้องนอนใหญ่และห้องนอนแขกเสมอในคราวนี้เขาอยากลองพักในบับเบิ้ลโดม แต่การจองห้องพักสองห้องก็เป็นเรื่องประหลาดสำหรับคู่สามีภรรยา ดังนั้นเขาจึงจองห้องที่มีเตียงสองชั้นแทน

ไม่บ่อยครั้งนักที่เขาจะได้เห็นคิโชวอินหลังอาบน้ำ เส้นผมที่ปกติม้วนจนเป็นเกลียวแน่นเหมือนตุ๊กตาคลายตัวยาวถึงกลางหลัง ใบหน้าปราศจากเครื่องสำอางทำให้ดูเด็กลงกว่าเดิม คอระหงและไหล่แคบโผล่พ้นจากสเวตเตอร์สีขาวตัวโคร่งที่ยาวลงมาปิดถึงต้นขา เธอเดินเท้าเปล่าบนพื้นพรม และตอนที่ก้มตัวลงไปหยิบของในกระเป๋าเดินทาง เขาก็เกือบหัวใจวายเมื่อชายเสื้อเลิกขึ้น แต่ก็ต้องโล่งใจเมื่อเธอใส่กางเกงขาสั้นไว้ข้างใน

คิโชวอินเดินมานั่งลงข้าง ๆ เขา มาซายะพยายามไม่มองขาเปลือยที่โผล่พ้นเสื้อสเวตเตอร์ออกมา อันที่จริงเขาเห็นเธอใส่กระโปรงสั้นหลายครั้ง แต่ในเวลานี้มันกลับให้ความรู้สึกอีโรติกเป็นพิเศษ ผิวสีขาวกลายเป็นสีชมพูเพราะอาบน้ำอุ่นจัด กลิ่นแชมพูหอม ๆ ที่ฟุ้งกระจายออกมาจากเส้นผมทำให้เขารู้สึกเหมือนคิดอะไรไม่ออก จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเขาตั้งใจจะพูดอะไรกับเธอ

เธอยื่นอะไรซักอย่างให้เขา พอเขาเหลือบมองก็พบว่ามันเป็นกล่องของขวัญ เลยนึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองก็เตรียมของขวัญมาเหมือนกัน

ในคืนนั้นเขาแทบไม่ได้นอนเพราะถูกโจมตีด้วยศีลธรรมในจิตใจ เขาเห็นคิโชวอินเป็นแค่เพื่อน แต่กลับไม่สามารถห้ามความคิดตัวเองไม่ให้นึกถึงต้นคอขาวสะอาด แนวไหล่แคบ ๆ ที่แค่วางมือลงไปก็เต็มแล้ว และต้นขาที่โผล่วับ ๆ แวม ๆ ตอนที่เธอขยับตัวเปลี่ยนอิริยาบทได้

เขาอยากจะส่งข้อความถามชูสึเกะว่าควรจะทำยังไงดี แต่แล้วก็เปลี่ยนใจวางโทรศัพท์ลงแล้วข่มตาหลับแทน เรื่องแบบนี้ก็เป็นแค่เรื่องทางกายภาพ เขาแค่ทำงานหนักแล้วก็เก็บกดมากเกินไป ไม่มีอะไรแก้ไขไม่ได้ด้วยการปลดปล่อยความต้องการของร่างกายในตอนที่เขามีเวลาส่วนตัว แล้วปัญหานี้ก็จะผ่านไปอย่างราบรื่นแน่นอน

.....

92 Nameless Fanboi Posted ID:eow/PLcRWc

8.

แต่เขาคิดผิด

มาซายะไม่รู้ว่าเป็นความผิดของคิโชวอินที่มักจะทำให้เขาระลึกเสมอว่าเธอเป็นผู้หญิง หรือเขามีจิตใจหยาบช้าลามกกันแน่ แต่เขาแอบโทษว่าต้นเหตุ 70% มาจากคิโชวอิน เพราะตอนที่เขาตามตื้อยูริเอะ หรือแม้กระทั่งตอนคบกับวาคาบะ เขายังไม่เจอปัญหาแบบนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว

ไม่ใช่ว่าเขาไม่ได้รู้สึกอยากจะกอดผู้หญิงที่ชอบ แต่เขาคิดว่าเรื่องแบบนี้ควรจะเกิดขึ้นหลังแต่งงาน ดังนั้นเวลาที่อยู่กับพวกเธอในใจของเขาจึงมีแต่ความรู้สึกตื่นเต้น อบอุ่น และมีความสุข ส่วนกลไกลตามธรรมชาติของผู้ชายก็เป็นไปตามปกติ เขาไม่เคยคิดถึงพวกเธอในแง่สกปรกเลยแม้แต่น้อย เพราะตั้งมั่นอยากจะให้ความรักของเขาเป็นความรักที่บริสุทธิ์ที่สุด

ทว่าในกรณีของคิโชวอินกลับต่างออกไป ถึงเธอจะเป็นภรรยาของเขา แต่ก็เป็นภรรยาแค่ในนามเท่านั้น ฐานะจริง ๆ ของเธอคือเพื่อนร่วมชะตากรรมในงานแต่งคลุมถุงชนครั้งนี้ เขาไม่ควรจะคิดกับเธอในแง่ไหนก็ตามที่ไม่เหมาะสม แต่เขาก็ห้ามความคิดตัวเองไม่ได้

ตอนที่กลับมาถึงโรงแรมหลังจากที่เกิดอุบัติเหตุเล็ก ๆ น้อย ๆ ในร้านอาหาร มาซายะก็กลับเข้าห้องด้วยความรู้สึกเหนื่อยล้ากว่าปกติ ตอนที่เขาจะถอดชุดเข้าไปอาบน้ำ ก็พบว่าในกระเป๋ากางเกงของตัวเองยังคงมีกล่องผ้าอนามัยที่ซื้อให้กับคิโชวอินในครั้งแรก เธอยัดใส่มือเขาตอนที่เขาบ่นถามว่าทำไมเธอถึงไม่ยอมใช้อันที่เขาซื้อมาให้อันแรก คิโชวอินฝากเขาให้ไปทิ้ง แต่มาซายะหาถังขยะไม่เจอเขาเลยใส่ไว้ในกระเป๋า

ทั้ง ๆ ที่อยู่ในช่วงเวลาฉุกเฉิน เธอกลับยังเรื่องมาก เขาแอบบ่นเธอในใจแล้วมองเจ้ากล่องผ้าอนามัยนั่น ตั้งใจจะเอาทิ้งลงถังขยะ แต่รูปที่แสดงข้างหน้ากล่องดึงดูดความสนใจของเขา

ความอยากรู้อยากเห็นของมาซายะพุ่งขึ้นทันที เขาเพิ่งสังเกตว่ารูปลักษณ์มันแตกต่างจากผ้าอนามัยที่คิโชวอินใช้ให้เขาไปซื้อในครั้งที่สอง

ไหน ๆ ของก็จะต้องทิ้งแล้ว มาซายะเลยคิดว่าเขาควรจะศึกษามันเพื่อประโยชน์ในภายภาคหน้า เผื่อว่าคิโชวอินเกิดอุบัติเหตุฉุกเฉินแบบนี้อีก พอแกะกล่องออกมาก็พบว่าของข้างในถูกดึงออกไปใช้แล้วชิ้นหนึ่ง เขาเลยหยิบเอาอีกชิ้นมาแกะดู

มันเป็นสำลีที่ขึ้นรูปเป็นทรงกระบอกปลายมน เขาพลิกมันเล่นไปมาอย่างสนใจ ก่อนจะพลิกดูวิธีการใช้หลังกล่อง และตัวแข็งเมื่ออ่านพบว่าเจ้าของชิ้นนี้ไปอยู่ตรงส่วนไหนของร่างกายผู้หญิง

ในตอนแรกคิโชวอินเหมือนจะหายไปในห้องน้ำกับเจ้ากล่องนี้อยู่นานพอสมควร ซ้ำในกล่องยังมีร่องรอยการดึงสินค้าไปใช้แล้ว ก็หมายความว่าในห้องน้ำนั่นคิโชวอินพยายามจะ...

เขาโยนผ้าอนามัยในมือทิ้งเมื่อในหัวมีภาพคิโชวอินในชุดกระโปรงสีขาวรั้งกระโปรงขึ้นมา ชุดชั้นในกองอยู่ที่เข่า ใบหน้าที่เหมือนตุ๊กตามุ่ยลงน้อย ๆ ดวงตาชุ่มไปด้วยน้ำตาขณะพยายามจะสอดแท่งสีขาวเล็ก ๆ เข้าไป...

มาซายะรู้สึกได้ว่าหน้าของตัวเองร้อนผ่าว เขาพยายามลบภาพนั้นออกจากหัว แต่ภาพขาเปลือยทั้งสองข้างของคิโชวอินกลับเข้ามาแทนที่ ทำให้ร่างกายของเขาเกิดปฏิกริยาอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้

แต่ถึงยังไงเขาก็ปฏิเสธที่จะใช้ภาพของคิโชวอินเสริมสร้างจิตนาการในกิจกรรมส่วนตัวของเขา เพราะว่าเขาส่งไลน์ถึงคิโชวอินไม่ได้อย่างเด็ดขาด เขาเลยส่งข้อความหาเพื่อนสนิทของเขา

‘ชูสึเกะ ฉันรู้สึกเหมือนจะเป็นบ้า ตอนนี้ฉันแข็งจนเลือดไม่ไปเลี้ยงสมองแล้ว’

แม้ว่าไลน์จะขึ้นว่าอ่านแล้วทันที แต่ชูสึเกะกลับใช้เวลาเกือบสองนาทีในการตอบเขา

‘มาซายะ นายจะชวนฉันเล่นเซ็กซ์เท็กซ์รึไง’

เขาพิมพ์ตอบกลับไปอย่างขัดใจ

‘จะบ้าเหรอ ฉันขอคำแนะนำจากนายต่างหาก’

ชูสึเกะเงียบไปซักพัก ก่อนจะตอบกลับมาสั้น ๆ

‘มือ?’

เขาพิมพ์ตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว

‘ฉันทำอย่างนั้นไม่ได้ อีกฝ่ายเป็นคิโชวอิน’

คราวนี้ชูสึเกะเงียบไปนานมาก นานจนเขาเพิ่งคิดได้ว่า การเอาเรื่องนี้มาปรึกษาชูสึเกะน่าจะเป็นความคิดที่ไม่ดีเท่าไหร่ ทว่าแทนที่ชูสึเกะจะเงียบไม่สนใจเขา อีกฝ่ายดันพิมพ์กลับมา

‘นายเคยบอกฉันว่าความสัมพันธ์ของนายกับคุณคิโชวอินเป็นแค่เพื่อน นายที่เห็นเธอเป็นเพื่อนก็ไม่ควรคิดเรื่องแบบนั้นกับเธอ ถ้าฉันใช้นายเป็นตัวละครในเซ็กซ์แฟนตาซี นายก็คงไม่พอใจเหมือนกันใช่ไหมล่ะ มาซายะ’

เขามองโทรศัพท์ รู้สึกอารมณ์ดับวูบทันทีที่อ่านข้อความของชูสึเกะ ถึงแม้จะยังรู้สึกขยะแขยงไม่หาย แต่อย่างน้อยเขาก็กำจัดปัญหาเฉพาะหน้าลงไปได้อย่างหนึ่ง

จบ Y - Yearn (part 1 ใน3)

93 Nameless Fanboi Posted ID:2yC3+TcedK

เดี๋ยวดึก ๆ กูมาต่อ Y พาร์ท 2

94 Nameless Fanboi Posted ID:pxjThXLnAD

โอยยยย5555555 เจ้าบากะรากิ คิดยังไงถึงปรึกษาชูสุเกะเนี่ย55555

อ้อ ลืมไป มันมีเพื่อนอยู่คนเดียว

95 Nameless Fanboi Posted ID:l8lOtSc5gN

>>92 แล้วปกตินายใช้มาซายะเป็นตัวละครในจินตนาการแฟนตาซีที่ว่านี่ด้วยมั้ยคะ//ครุ่นคิส

96 Nameless Fanboi Posted ID:tTsTP0SqOj

บากะรากี๊!!!!! อิบร้าาาาา

97 Nameless Fanboi Posted ID:.fG8RU47SF

เดี๋ยวๆๆๆ ทำไมถึง text หาเอ็นโจให้เป็นหลักฐานแบบน้านนน

98 Nameless Fanboi Posted ID:Z3SGY7QzU3

>>88-92 กูฟินมาก นี่คือสิ่งที่กูรอคอย ฮือออ คาบุรากี๊ //ปาใจไปล้านล้านดวง
ขอให้จบแบบ Happy End คาบุเรย์ ด้วยเถอะ
แต่ว่านะคาบุรากิ นายรู้ว่าเพื่อนนายชอบภรรยานาย นายไม่ควรเอาเรื่องนี้ไปปรึกษากับเพื่อนนายป่ะวะ ...

99 Nameless Fanboi Posted ID:lbOv3+faDY

>>98 เขาคงมีเพื่อนคงเดียว แถมตอนนั้นคงอึดอัดจนลืมไปแล้วน่ะสิ

100 Nameless Fanboi Posted ID:wzmyq2mIul

อิบากะรากิ โอ๊ย จะว่ามันน่ารักก็น่ารัก จะว่าบ้าก็บ้า ดีนะไม่บ้าถึงขั้นคิดจะเอาเอ็นโจไปลองใช้ในจินตนาการ 555555555
/โม่งฟิคมึงขยันมากกกกก แถมเขียนดีโคตรรร กูมอบรางวัลกาวดีเด่นให้มึงเลย พร้อมฟรีกาว1ปีให้

101 Nameless Fanboi Posted ID:xWyI+0yuWI

เดี๋ยวคาบุ เวลาไม่รู้จะช่วยตัวเองยังไงนี่ต้องปรึกษาเพื่อนด้วยอ่ออออออ

102 Nameless Fanboi Posted ID:+1RjapqOwj

รู้สึกเหมือนเอ็นโจจะพยายามโยงเข้าเรื่องวายๆตลอดเลยนะ หืมมมมมม

103 Nameless Fanboi Posted ID:8mNt1GwWWb

อ่านฟิค a-z ภาคมาซายะแล้วคิดว่า
1 เอ็นโจก็รักเรย์กะเหมือนกัน แต่ติดที่ทางบ้านหาคู่หมายไว้ให้แล้ว จึงเป็นไปไม่ได้ ทีแรกคิดว่าเรย์กะรักเขาข้างเดียวซะอีก
2 เอ็นโจคงจะรู้ว่าทั้งคู่แต่งงานแค่ในนาม
3 เรื่องที่จะประกาศหย่ากัน เอ็นโจก็น่าจะรู้

สุดท้ายนี้ ไอ้บ้าคาบุเอ้ย แม้แต่มีอารมณ์หื่นก็ยังจะปรึกษาเพื่อนนะ เอ็นโจเห็นข้อความคงแทบอยากเอาเท้าก่ายหน้าผาก และคงคิดในใจว่าทำไมกรูต้องมาเป็นเพื่อนหมอนั่นด้วย😁😁😁😁😁

104 Nameless Fanboi Posted ID:B4j+SV5zFU

ตอนใหม่มายัง หรือกาวล้วนๆ

105 Nameless Fanboi Posted ID:l8lOtSc5gN

>>104 กาวล้วนจ้า ถถถถถถถถถถถ

106 Nameless Fanboi Posted ID:wzmyq2mIul

>>104 พูดแล้วเศร้า มึงดูชื่อทู้ตอบได้ทุกอย่างอ่ะ กาวทั้งนั้น TOT

107 Nameless Fanboi Posted ID:xWyI+0yuWI

>>104 กาวกันมาล้วนๆจ้า ตอนนี้มีกาวก็ชื่นใจ ถ้าตอน 300 มานี่ต้องไถลไปอีกสามกระทู้แหงมๆ ดอกไม้ไฟ ดอกไม้ไฟ สรุปท่านฮิให้ท่านเรย์กะท้องเสียไม่ได้ไป

108 Nameless Fanboi Posted ID:C/fcqr4Nuh

>>107 .........กรุจะไม่ยอมให้ความกระดี๊กระด๊ากระโดดไปเลือกชุดทันทีที่วางสายจากเขาพังง่ายๆแบบเน้!!! *สูดกาว*
**สวดชินบัญชร*

109 Nameless Fanboi Posted ID:2yC3+TcedK

>>107 มึ๊ง อย่าแช่งสิ โธ่ จอมมารกู 300 ตอนกง่าจะได้เดท ยังไม่ทันเดทก็ถูกดอง ฮรือ

110 Nameless Fanboi Posted ID:l8lOtSc5gN

>>107 โปรดเห็นใจจอมมาร กว่าจะได้เดทแบบเป็นกิจลักษณะก็ล่อไป 300 ตอนแล้วมาถูกดองข้ามปีแค่นี้ยังอนาถาไม่พอเหรอ

111 Nameless Fanboi Posted ID:XHyf5xe.FM

>>103 ผ่านๆมาที่คาบุยังไม่ทำอะไรก็เพราะโดนขอมมารขัดขวางแบบไม่รู้ตัวสินะ

112 Nameless Fanboi Posted ID:AzNODLS0xU

ถ้าเรื่องนี้จอมมารเป็นพระเอก กูว่าต้องเป็นพระเอกที่น่าอนาถสุดในหมวดโชโจแน่ๆ มีแต่เขาจะพรีเซนต์ด้านความเท่ ความหล่อและโมเมนต์ที่ทำให้นางเอกโดขิๆ นี่เห็นแต่ด้านมืดและความไก่อ่อนบ่มีไก๊ ชวนสาวเที่ยวก็โดนขัดขวางมั่งอะไรมั่ง แถมต้องเอาน้องมาอ้างทุกรอบไป ทำอะไรให้ไปเขาก็ไม่เห็นค่าอีก แถมยังโดนคนอ่านสาปแช่งให้นกอยู่พักหนึ่งด้วย 555555555

113 Nameless Fanboi Posted ID:8mNt1GwWWb

>>112 ส่วนหนึ่งเจ้าตัวก็ทำตัวเองด้วยแหล่ะ มีอย่างที่ไหนไปใช้บุญคุณข่มขู่เขาล่ะ อีกฝั่งเขายิ่งกลัวธงมรณะอยู่ด้วย ก็ยิ่งหนีสิ

114 Nameless Fanboi Posted ID:Z3SGY7QzU3

กูอ่านกาวฟิคทะลุมิติ กับฟิค a-z ซ้ำมาหลายรอบละ กูอยากให้คาบุรากิเป็นพระเอกในนอบน้อมฯ จริงๆ เลยวะ ; - ;
ความเชียร์เอ็นโจของกูสั่นคลอนหนักมาก ตั้งแต่คาบุรากิมีโม้เม้นท์กับเรย์กะช่วงหลังๆ ในนิยายแล้ว

115 Nameless Fanboi Posted ID:AzNODLS0xU

>>114 กูเชียร์เอ็นโจนะ แต่ตอนนี้คือแบบ...อะไรก็ได้ละ จบกับคานซังยังได้เลยแต่ช่วยมาต่อทีเหอะ ถ้าไม่เขียนต่อก็บอกกันก่อน กูจะได้ทำใจ ;w;

116 Nameless Fanboi Posted ID:98wx+e95jU

ตอนนี้กูเอาอะไรก็ได้ ขอแค่ท่านฮิมาต่อ ;--;)

117 Nameless Fanboi Posted ID:8mNt1GwWWb

>>115 ใช่เลย ตอนนี้ไม่สนแล้วว่าจะจบยังไง ขอให้จบเถอะ ถ้าไม่เขียนต่ออย่างน้อยก็บอกกันบ้าง

118 Nameless Fanboi Posted ID:dMEP.pmjDz

9.

ชูสุเกะได้รับอุบัติเหตุ

มาซายะมาที่โรงพยาบาลทันทีที่ได้รับแจ้งข่าว หมอแจ้งว่าชูสุเกะต้องเข้าห้องฉุกเฉินเพราะซี่โครงทิ่มปอด

เขากับคิโชวอินนั่งอยู่หน้าห้องผ่าตัด คิโชวอินเหมือนจะสติหลุดไปแล้วเขาเลยต้องตั้งสติเพื่อที่จะจัดการเรื่องต่าง ๆ เพราะนอกจากเขาแล้ว ตอนนี้ครอบครัวของชูสุเกะไม่มีใครอยู่ในบริเวณใกล้เคียงเลยซักคน

แค่คิดว่าต่อไปเขาจะต้องใช้ชีวิตอยู่โดยไม่มีชูสุเกะ มาซายะก็นึกภาพไม่ออก ชูสุเกะเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวของเขา อยู่เคียงข้างเขาตลอดมาไม่ว่ายามที่เขาจะแย่งชิงความโดดเด่น ทำตัวงี่เง่า หรือพยายามจะฆ่าตัวตายก็ตาม

ในตอนนั้น คนเพียงคนเดียวที่เข้าใจความรู้สึกของเขาได้มากที่สุดคือคิโชวอิน เขาเลยกอดเธอไว้ ใช้เธอเป็นที่ยึดเหนี่ยว เธอเองก็ใช้เขาเป็นที่ยึดเหนี่ยวเช่นกัน

เขาพอจะรู้ว่าเธอรักชูสุเกะ แต่ไม่เคยได้ยินออกมาจากปากเธอเลยซักครั้ง ชูสุเกะที่พยายามไล่ตามเธอมาตลอดเองก็ไม่มั่นใจกับท่าทีของเธอเช่นกัน แต่เห็นภาพในตอนนี้แล้วเขาสงสัยว่าทำไมชูสุเกะถึงไม่รู้ว่าคิโชวอินชอบตัวเอง ในเมื่อเธอแสดงออกอย่างชัดเจนขนาดนี้

แต่ไม่ว่าใครจะคิดยังไง ในตอนนี้เขาหวังแต่เพียงว่าเพื่อนสนิทของเขาจะออกมาจากห้องผ่าตัดได้อย่างปลอดภัย เขาจะไม่หวังอะไรอีก แค่เท่านั้น เท่านั้นก็พอ

.....

119 Nameless Fanboi Posted ID:dMEP.pmjDz

10.

ในช่วงเวลาที่ชูสุเกะกำลังพักฟื้น มาซายะก็ไม่ได้สนใจอะไรนอกจากสุขภาพของเพื่อนเขา ความรู้สึกที่ไม่สมควรมีต่อคิโชวอินจืดจางไปท่ามกลางความโล่งใจของมาซายะ

แต่แล้วก็ดูเหมือนเขาจะไม่ได้โชคดีถึงขนาดนั้น

ตอนที่มาซายะไปทำงานที่ฮอกไกโด เขาได้เจอกับคุณโมโมโซโนะที่มากับพี่ชายของคิโชวอินในงานเลี้ยงแห่งหนึ่ง หลังจากเลิกงาน พี่ชายของคิโชวอินกลับโรงแรม แต่คุณโมโมโซโนะกลับชวนเขาไปดื่มต่อ

พวกเขาคุยถึงเรื่องสัพเพเหระ คุยถึงเรื่องธุรกิจ และเกือบ ๆ ตีหนึ่ง ตอนที่ความสามารถในการประมวลผลของสมองลดต่ำลงถึงขีดสุดจากฤทธิ์ของความง่วงและแอลกอฮอลล์ คุณโมโมโซโนะก็ถามถึงเรื่องส่วนตัวของเขากับคิโชวอิน

ตอนแรกมันมาในรูปแบบของคำแนะนำเรื่องความสัมพันธ์ก่อน หลังจากนั้นก็ค่อย ๆ คืบลึกลงเรื่อย ๆ ไปจนถึงเรื่องการคุมกำเนิด

‘เรื่องนั้น—” มาซายะหน้าร้อนผ่าว ‘ผมไม่ได้ใช้หร—’

แน่นอนว่าเขาจะใช้ได้ยังไง ในเมื่อเขากับคิโชวอินไม่ได้ทำอะไรกันเลยแม้แต่น้อย แต่อีกฝ่ายกลับเข้าใจผิดโดยสิ้นเชิง คุณโมโมโซโนะตบบ่าเขา บอกว่าอย่าให้แต่ฝ่ายผู้หญิงกินยาคุม อีกอย่างถุงยางอนามัยเดี๋ยวนี้ก็มีลูกเล่นสนุก ๆ เพิ่มสีสันให้กับห้องนอนด้วย

มาซายะมองอีกฝ่ายที่หยิบถุงยางอนามัยทั้งกล่องจากกระเป๋าสูทตัวเองมาใส่กระเป๋าสูทของเขา ‘ไม่ต้องห่วง ฉันยังมีอีกเยอะ’ คุณโมโมโซโนะบอก แล้วกระซิบทิ้งท้ายว่าถ้าอยากได้คำแนะนำอะไรก็ถามเขาได้ เขามีเว็บไซต์ซื้อของเล่นผู้ใหญ่ดี ๆ แนะนำเพียบ รับรองว่า ‘เรย์กะจัง’ จะต้องชอบอย่างแน่นอน

เขาไปฮอกไกโดอีกหลายครั้ง และได้รับ ‘คำแนะนำ’ ของคุณโมโมโซโนะอีกหลายหน อีกฝ่ายบอกว่าถ้าเขามัวแต่ทำตัวน่าเบื่อ อาจจะโดนหาว่าเป็นสามีที่ขี้เกียจก็ได้ แล้วยังให้เว็บไซต์เว็บหนึ่งกับเขามา บอกว่าโดยปกติผู้หญิงมักจะอยากให้สามีซื้อของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปเซอร์ไพรส์ โดยเฉพาะของที่เธอไม่กล้าซื้อเอง

เขาเข้าไปดูในเว็บไซต์นั่น และรู้สึกเหมือนตัวเองได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจมาจนถึงทุกวันนี้

มาซายะไม่ได้สั่งซื้อของขวัญออนไลน์ตามคำแนะนำของคุณโมโมโซโนะ แต่ตอนที่กดไปดูในพาร์ทที่สะเทือนขวัญน้อยที่สุดของเว็บไซต์ เขาแอบสงสัยว่าถ้าต้องเลือก คิโชวอินจะเลือกชุดชั้นในแบบไหน บางทีเธออาจจะเลือกชุดชั้นในสีชมพูฟูฟ่องเหมือนเจ้าหญิงแบบชุดที่เธอชอบใส่รึเปล่า

ในคืนนั้นระหว่างที่มาซายะทำเรื่องที่ผู้ชายบนโลกทำกันเป็นปกติก่อนนอน เขาสาบานได้ว่าเขาไม่ได้คิดถึงคิโชวอิน และสาบานว่าไม่ได้คิดถึงคิโชวอินในชุดชั้นในสีชมพูชุดนั้น

โอเค เขาโกหก แต่อย่างน้อยเขาก็พยายามห้ามไม่ให้ตัวเองจินตนาการ อย่างน้อยก็ช่วงต้น ๆ แต่ไม่ว่าใครก็มีช่วงเวลาวิกฤต และตราบเท่าที่คิโชวอินไม่รู้ พี่ชายของเธอไม่รู้ ไม่มีใครรู้ ก็คงไม่ได้มีปัญหาอะไรมากไปกว่าศีลธรรมอันดีงามของเขาซึ่งได้รับความเสียหายเล็กน้อยเท่านั้น

เขาควรจะรู้ว่านั่นก็แค่คำปลอบใจตัวเอง

คิโชวอินเจอถุงยางในกระเป๋าเดินทางของเขา และเกือบจะเข้าใจผิดว่าเขากับคุณโมโมโซโนะมีความสัมพันธ์เกินเลยกัน

ตอนที่เธอท่องคุณสมบัติพิเศษของถุงยางอนามัย เขารู้สึกเหมือนอยากจะขุดหลุมบนพื้นแล้วลงไปหลบอยู่ในนั้น ตอนที่เธอชวนเขาแกะกล่องถุงยางอนามัยออกมาดู เขารู้สึกอายจนพูดไม่ออก แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังอยากรู้ว่าข้างในเป็นยังไง

มาซายะไม่เคยสัมผัสถุงยางอนามัยของจริง เขาเคยเห็นในรูปภาพชั่วโมงสุขศึกษา และในวีดีโอผู้ใหญ่ที่เขาเปิดเข้าไปดูเพราะความอยากรู้อยากเห็นเท่านั้น

ถุงยางอนามัยที่คุณโมโมโซโนะให้มาดูอัปลักษณ์กว่าที่เขาคาดไว้มาก คิโชวอินเองก็ดูเหมือนจะคิดอย่างนั้นเช่นกัน ดังนั้นเธอเลยจะเอามันไปทิ้งในถังขยะ

มาซายะอยากจะบอกเธอว่าเธอไม่ต้องปีนขึ้นไปบนเก้าอี้เพื่อหยิบกระดาษทิชชู่ก็ได้ ให้เขาเป็นคนเอื้อมมือหยิบเองน่าจะดีกว่า เพราะเก้าอี้ตัวนี้ไม่เหมาะกับการยืน แต่เขาห้ามเธอไม่ทัน และสาบานได้ว่าเขาไม่ได้แอบมองใต้กระโปรงของเธอ หรือเห็นว่าวันนี้เธอใส่กางเกงในสีขาวเลยด้วยซ้ำ เพราะเขามัวแต่ก้มหน้าอยู่

เขาควรจะเดาได้ว่าเธอน่าจะตกลงมา แต่เพราะว่าเอาแต่ก้มหน้าก็เลยคว้าร่างของเธอไว้ไม่ทัน ตอนคิโชวอินหงายหลัง เขาจึงต้องใช้ร่างของตัวเองรองเพื่อที่เธอจะได้ไม่กระแทกโต๊ะ

เขาได้ยินเสียงกรีดร้องของสาวใช้ แต่ไม่ได้ใส่ใจเพราะคิโชวอินอยู่บนตักของเขา พอก้มลงไปมองก็เห็นลำคอขาว ๆ กับร่องอกที่โผล่พ้นคอเสื้อ จมูกรับรู้ได้ถึงกลิ่นน้ำหอมบาง ๆ และตักสัมผัสได้ถึงร่างนุ่มนิ่มเบียดลงมาที่—

เขาผลักคิโชวอินออกจากตัก รู้สึกเหมือนทั้งตัวร้อนเป็นไฟ

.....

120 Nameless Fanboi Posted ID:dMEP.pmjDz

11.

คิโชวอินแต่งหน้าไม่เก่ง

เขาเห็นเธอแต่งหน้าลบแล้วลบอีก ก็รู้สึกรำคาญจนต้องแย่งมาทำ

การแต่งหน้าไม่ต้องใช้ทักษะอะไรมาก แค่ทาสีลงบนจุดที่ต้องทาเท่านั้น แค่เห็นช่างแต่งหน้าแต่งให้เธอไม่กี่ครั้ง เขาก็จำได้

เขาไม่ได้ชอบการแต่งหน้า ไม่ได้ชอบกลิ่นเครื่องสำอาง

แต่เขาชอบตอนที่เธอเงยหน้าให้เขาแต่งแต้มสีต่าง ๆ ลงไปบนหน้าของเธออย่างวางใจ เขาชอบตอนที่ได้ไล้นิ้วไปบนผิวหน้าเนียนนุ่ม เขาชอบตอนที่เธอปรือตาลงเพื่อให้เขาวาดอายไลน์เนอร์ เขาชอบตอนที่ได้เห็นมุมตลก ๆ ของเธอตอนที่เธอแหงนหน้าให้เขาวาดขอบตาล่าง เขาชอบตอนที่ได้ใช้พู่กันค่อย ๆ ทาลิปสติกลงบนริมฝีปากของเธอ

เขาชอบที่เธอค่อย ๆ งดงามขึ้นด้วยมือของเขา เขาชอบช่วงเวลานั้นที่สุด เพราะเป็นช่วงเวลาเดียวซึ่งมีแต่เขาเท่านั้นที่จะได้เห็นเธอในมุมนี้ มุมที่ผู้ชายคนอื่นไม่ได้รับสิทธิพิเศษได้เห็นมัน

.....

121 Nameless Fanboi Posted ID:06363l6C09

กูลุ้นทุกคน ขนาดคนถูกเอ่ยแค่มีตัวตนอย่างน้องท่านอิมาริกูยังลุ้นเลย ตอนนี้มันอยู่ในฟีลที่จะใครก็ได้แล้ว ขอแค่มาต่อนิยาย ขอแค่เรื่องนี้จบ หรือถ้าไม่ต่อแล้ว จะหมดไฟหรือยังไงก็อยากให้มาแจ้งกันหน่อย หายต๋อมไปแบบนี้ไม่โอเคมากๆ แง

122 Nameless Fanboi Posted ID:dMEP.pmjDz

12.

คิโชวอินบอกว่าเขาโกหกไม่เก่ง

อันที่จริงเขาก็อยากบอกว่าเธอโกหกได้แย่มากเหมือนกัน

วันงานเลี้ยงอาหารมื้อค่ำที่ตึกตะวันตกของบ้านคาบุรากิ คิโชวอินซึ่งถูกถามเกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์ของพวกเราดูเครียดหนักพอสมควร นอกจากจะสวาปามอาหารไปมากพอตัวแล้ว เธอยังดื่มไวน์ราวกับว่าตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปจะถือศีลกินเจ งดเหล้าไปตลอดชีวิต

คิโชวอินไม่ใช่คนคออ่อน แต่ก็ไม่ใช่คนคอแข็งเหมือนอย่างท่านคิโชวอินพ่อของเธอ ดังนั้นพอดื่มไวน์หมดไปแก้วที่สี่ เธอก็เริ่มออกอาการเมาจนเขาต้องปราม พอถึงแก้วที่ห้า พี่ชายเธอเริ่มเตือน พอถึงแก้วที่หก เธอก็ไม่ห่วงเรื่องมารยาทที่อุตส่าห์รักษามานานตลอดทั้งมื้ออาหารอีกต่อไป

มือที่กดลงมาบนตักบ่งบอกว่านอกจากมารยาทแล้วความสามารถในการทรงตัวของเธอก็หายไปพร้อมกับไวน์ในแก้วด้วย คิโชวอินพยายามลุกขึ้น เซอยู่หลายครั้ง บ่นเรื่องรองเท้าส้นสูงที่เขาเตือนเธอหลายต่อหลายครั้งว่ามันสูงเกินไปสำหรับเธอ แต่เธอไม่เคยฟังเลยซักครั้ง

เขาเห็นเธอทำท่าไม่ดีจึงพาไปเข้าห้องน้ำ ตอนแรกตั้งใจจะส่งถึงแค่หน้าห้องน้ำ แต่เธอกลับทำราวกับว่า ทันทีที่เขาปล่อยมือ เธอจะร่วงลงไปอย่างแน่นอน ดังนั้นเขาเลยบอกตัวเองว่าในฐานะที่เขาเป็นสามีของเธอ เขาควรจะรักษาหน้าของเธอเอาไว้ด้วยการช่วยเหลือไม่ให้เธอทำเรื่องขายหน้าอย่างการฉี่ราดในบ้านของพ่อแม่สามี

ในขณะที่เขาพยุงเธอ เขาก็คิดว่าคิโชวอินไม่น่าจะบ้าได้มากกว่านี้แล้ว แต่เธอพิสูจน์ให้เขาเห็นว่าเขาคิดผิด เมื่อเธอถกกระโปรงขึ้น แล้วดึงกางเกงในลูกไม้สีดำลงอย่างไม่สนใจสายตาเขาเลยด้วยซ้ำ

มาซายะสะกดจิตตัวเองว่าเขาไม่เห็นอะไรทั้งนั้น

เมื่อกลับไปถึงโต๊ะอาหาร ท่านแม่ของเขาก็ถามถึงเรื่องลูก มาซายะไม่มีคำตอบให้เธอเลยนั่งเงียบ แต่เขาคิดว่าคิโชวอินรับมือได้แย่กว่าเขามาก เพราะเธอบอกว่าจะพยายามและเริ่มตั้งแต่ตอนนี้เลย จากนั้นก็ฉุดเขาวิ่งขึ้นชั้นสองของตัวตึก

มาซายะแอบกลัวว่าเธอคิดที่จะชวนเขาเข้าห้องนอนไปทำเรื่องอย่างที่ประกาศไว้จริง ๆ เพราะในคืนนี้เธอทำเรื่องที่เหนือความคาดหมายของเขาไว้มาก หากเป็นปกติเขามั่นใจว่าเธอจะไม่มีวันเอ่ยปากชวนเขาทำเรื่องแบบนั้นเด็ดขาด

แต่คืนนี้ไม่แน่

ในระหว่างที่เขากำลังสู้รบกับวิกฤตในสมอง อย่างเช่นว่าตอนนี้คิโชวอินกำลังเมา ถ้าทำลงไปก็เท่ากับเป็นการฉวยโอกาส แต่ถ้าเธอคิดจะทำจริง ๆ เขาจะปฏิเสธอย่างงั้นหรือ แล้วอีกอย่างพวกเขาก็ไม่มีถุงยาง ซ้ำมาซายะเองก็ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน ถ้าเขาเกิดฝีมือแย่ขึ้นมาจะทำยังไง

ทว่าคิโชวอินไม่ได้ชวนเขาเข้าห้องจริง ๆ เธอทรุดลงไปบนระเบียงทางเดิน หัวเราะลั่นเหมือนคนบ้า เธอเอาเท้าข้างที่ทำรองเท้าหลุดหายไประหว่างทางแล้วถีบขาของเขา จากมุมที่เขานั่งเมื่อทำองศากับมุมที่เธอล้มตัวลงนอน ก็ค่อนข้างจะหมิ่นเหม่ เขาอยากจะดุคิโชวอินว่าถ้าใส่กระโปรงแล้วไม่รู้จักระวังก็ควรจะเปลี่ยนเป็นกางเกงซะ แต่เขาไม่ได้พูดออกไป เพราะกระโปรงเหมาะกับคิโชวอินมากกว่า และเขาก็ไม่อยากให้เธอเลิกใส่กระโปรง ดังนั้นเขาเลยเบี่ยงสายตาไปอีกทางแทน

123 Nameless Fanboi Posted ID:dMEP.pmjDz

“นายเห็นสีหน้าของทุกคนไหม”

คิโชวอินถาม ปกติแล้วเธอเป็นคนที่สังเกตสีหน้าของคนอื่นค่อนข้างมาก และจะไม่ก่อเรื่องวุ่นวายแบบนี้เป็นอันเด็ดขาด แต่ในตอนนี้เธอเมาเละต่อหน้าผู้ใหญ่ พูดเรื่องไม่สมควรออกไป แล้วยังลากเขาขึ้นห้องอีกหาก ทว่าเสียงหัวเราะไม่หยุดของเธอทำให้เขารู้สึกว่าอันที่จริงแล้วเรื่องนี้มันก็ตลกดีเหมือนกัน

ทำไมเขาจะไม่เห็น โดยเฉพาะสีหน้าพี่ชายของเธอที่แข็งค้าง ทำราวกับอยากจะขโมยตัวเธอกลับบ้านแล้วซ่อนเธอไว้ในห้องนอนที่ตกแต่งเหมือนเจ้าหญิงในบ้านคิโชวอิน ให้เธอเป็นเจ้าหญิงตัวน้อย ๆ ที่ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับเรื่องแปดเปื้อนตลอดไป

แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังตลกอยู่ดี โดยเฉพาะสีหน้ายิ้มค้างของท่านแม่ที่พยายามจะส่งเสริมให้เขากับคิโชวอินคู่กัน แต่พอมาเจอเรื่องแบบนี้ก็ไปต่อไม่เป็น

เขากับเธอหัวเราะจนหายใจแทบไม่ออก คิโชวอินยิ้มน้อย ๆ แล้วสั่งให้เขาไปเอาไวน์มาเพิ่ม

ปกติแล้วเขาไม่ค่อยชอบทำตามคำสั่งของใคร แต่เขากลับลงไปเอาไวน์ให้คิโชวอิน บอกกับตัวเองว่ายังดีกว่าให้เธอลงไปเอาเอง เขาหลีกเลี่ยงทางผ่านไปห้องโถงสำหรับทานอาหาร หยิบไวน์จากห้องใต้ดินแล้วกลับขึ้นไปหาคิโชวอิน

คิโชวอินยังคงนอนอยู่บนพื้นในชุดกระโปรงที่สั้นเหนือเข่า สภาพของเธอดูไม่เหมือนมาดามน้อยของบ้านคาบุรากิเลยซักนิด เขาเลยลากเธอเข้าห้องนอนเพื่อให้เธอพักผ่อน แต่คิโชวอินกลับยังไม่หลับ เธอชวนเขาให้ออกไปดูดาวข้างนอก

“หนาวจัง”

เธอบอกอย่างนั้น ก็แน่ล่ะสิ เพราะทั้งเนื้อทั้งตัวเธอมีแค่เดรสชุดเดียว เขาเลยดึงผ้าห่มจากเตียงมาให้ รู้สึกโล่งใจที่ผ้าห่มผืนใหญ่พอที่จะคลุมทั้งตัวเธอ รวมถึงขาที่โผล่พ้นกระโปรงของเธอด้วย

”ดื่มกันเถอะ” คิโชวอินยกขวดขึ้นมา แต่เธอไม่ได้รินใส่แก้วที่เขาเอาขึ้นมาด้วย แต่กลับดื่มจากปากขวดแล้วยื่นส่งต่อให้เขา

มาซายะมองเธอดื่มเหล้าราวกับสาวบาร์ในภาพยนตร์ ก่อนจะหัวเราะออกไป เอาเถอะ ยังไงวันนี้เธอก็ก่อเรื่องตั้งมาก กับอีแค่ดื่มไวน์ราคาหมื่นดอลลาร์จากขวดจะเป็นอะไรไป

เขารับขวดไวน์มาดื่มจากขวดเช่นกัน รสของไวน์แดงในคืนนั้นนุ่มนวลกว่าทุกที

.....

124 Nameless Fanboi Posted ID:dMEP.pmjDz

13.

ในวันครบรอบการแต่งงานสองปีของเขากับคิโชวอิน พวกเขาจัดงานเลี้ยงแฟนซี

เขารู้ว่าคิโชวอินชอบแต่งตัวบ้า ๆ ถึงแม้ว่าเธอจะพยายามปฏิเสธก็ตาม

ในคืนนั้นพวกเขาแต่งชุดคู่พี่น้องมาริโอ้ คิโชวอินชอบมากถึงขนาดพอลงจากรถปุ๊บ ก็วิ่งเข้าไปอวดคนอื่นในงานปั๊บ นอกจากชุดแล้วพรอพของพวกเขายังมีบล็อกเหรียญ ตุ๊กตาเห็ด และวอลล์เปเปอร์ปราสาท

“นายดูมีความสุขดีนะ มาซายะ”

ชูสุเกะทักเขาเมื่อบรรดาสาว ๆ ไปรวมตัวกันอีกด้านหนึ่ง ส่วนผู้ชายรวมตัวกันอีกด้านหนึ่ง

“อื้อ งานแฟนซีแบบนี้น่าสนุกดีนี่นา” มาซายะบอก ก่อนจะลากอีกฝ่ายไปยังมุมลับตามุมหนึ่ง แล้วปรึกษาเรื่องที่เขากำลังรู้สึกอัดอั้น “ชูสุเกะ ในฐานะที่นายเป็นผู้มีประสบการณ์ ถามหน่อยสิว่าคน ๆ หนึ่งจะรู้ได้ยังไงว่าตัวเองเก่งหรือแย่ในเรื่องเซ็กส์น่ะ”

ชูสุเกะยิ้มค้าง ยกแก้วเบียร์ขึ้นดื่ม แล้วพูดด้วยน้ำเสียงระมัดระวัง “มายาซะ นายคงไม่ได้ให้ฉันช่วยประเมินคะแนนในห้องนอนของนายหรอกใช่ไหม แบบ ขึ้นไปบนห้องแล้วลองมีอะไรกันจริง ๆ แต่ไม่นับว่าเป็นเซ็กส์เพราะว่าพวกเราเป็นเพื่อนกัน?”

“จะบ้าเหรอ ไม่ใช่อย่างนั้นซะหน่อย” มาซายะทำหน้าขยะแขยง “ก่อนนายจะเริ่ม...” เขาหน้าแดง พยายามคิดว่าการแก้ไขปัญหาจะต้องเล่าปัญหาออกมาตามตรง เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญประเมินได้ถูกจุด “แบบว่าก่อนที่นายจะมีเซ็กส์ มันต้องมีแบบทดสอบไหมว่า นายเตรียมตัวพร้อมแล้วสำหรับการมีเซ็กส์ เหมือนการสอบเอนทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัย อะไรประมาณนั้น”

ชูสุเกะดื่มเบียร์อีกอึกใหญ่ “ทำไมนายถึงถามแบบนั้นล่ะ?”

“เพราะว่านายจะรู้ได้ยังไงว่านายพร้อมแล้วสำหรับการมีเซ็กส์ ฉันยังต้องเรียนทฤษฎีอ่านโน๊ตขั้นต้นก่อนเริ่มเรียนเปียโน หรือเวลาจะเล่นกีฬา ก็ยังต้องอ่านกติกาเลย หรือขนาดตอนที่ฉันจะไปออกเดทกับวาคาบะ ก็ยังต้องหาข้อมูลก่อนตั้งเยอะ” เขาพยายามยกตัวอย่าง เผื่อเพื่อนสนิทจะได้เข้าใจยิ่งขึ้น

“อืมม์” ชูสุเกะวางมือไว้บนบ่าของเขา ก่อนจะยิ้มกว้าง “ใช่ มันก็มีล่ะนะ ปกติแล้วผู้ชายทั่วไปก็จะดูวิดีโอผู้ใหญ่เพื่อทำการศึกษาก่อนจะลงมือปฏิบัติจริง เพราะฉะนั้นมาซายะ ฉันแนะนำให้นายหาวิดีโอเอวีดูก่อนที่เริ่มคิดจะทำอะไรก็ตาม ซัก เจ็ดร้อยห้าสิบชั่วโมง เหมือนฝึกคอร์สภาษาเยอรมันยังไงล่ะ”

มาซายะชะงัก เขาไม่ค่อยชอบดูวิดีโอผู้ใหญ่เท่าไหร่ เซ็กส์เป็นเรื่องที่ค่อนข้าง...เละเทะ โดยเฉพาะวิดีโอที่คนอื่น ๆ ชอบกัน “เจ็ดร้อยห้าสิบชั่วโมงเลยเหรอ?” เขาถามออกมา รู้สึกไม่ค่อยเต็มใจนักกับการเสียเวลาไปแบบนั้น อันที่จริงมาซายะเรียนคอร์สภาษาเยอรมันแค่สองร้อยกว่าชั่วโมงเขาก็พูดได้คล่องแล้ว

“แล้วพอนายมั่นใจว่าทฤษฎีแม่น ก่อนจะลงมือจริงก็มีสอบข้อเขียน เพื่อวัดประเมินผลก่อนออกสู่ภาคสนาม นายสามารถหาสอบได้ตามออนไลน์ เพราะงั้นพยายามเข้าล่ะ”

125 Nameless Fanboi Posted ID:dMEP.pmjDz

เขาอยากจะไปถามคุณโมโมโซโนะเพื่อยืนยันว่าที่ชูสุเกะแนะนำมาจริงหรือเปล่า เขาต้องเรียนถึงเจ็ดร้อยกว่าชั่วโมงจริง ๆ เหรอ หรือนั่นเป็นแค่ค่าเฉลี่ยเวลาที่คนปกติใช้เรียนกัน แต่เพราะว่าคุณโมโมโซโนะอยู่กับพี่ชายของคิโชวอินตลอดเวลา เขาเลยไม่กล้าเข้าไปถาม

และในขณะที่เขากำลังคำนวนระยะเวลาว่างในแต่ละวันเพื่อวางแผนการเรียนจากวิดีโอผู้ใหญ่สำหรับการสอบในภาคทฤษฎี เขาก็เห็นกับภาพที่ไม่คิดว่าจะได้เห็น

แม้ว่าเขาจะแต่งงานไปแล้ว แต่ในใจก็ยังรักวาคาบะอยู่ การเห็นเธอยืนอย่างใกล้ชิดกับมิซึซากิเป็นภาพที่ถ้าทำได้ เขาก็ไม่อยากจะเห็น

และเมื่อวาคาบะเขย่งเท้าขึ้นไปจูบมิซึซากิ เขาก็รู้สึกเหมือนงานปาร์ตี้จืดชืดจนแทบทนไม่ได้ ในขณะที่กำลังจะหมุนตัวเดินออกไปจากงาน คิโชวอินก็ชวนเขาไปหาอะไรกินข้างนอก

เธอพาเขาขึ้นรถไฟไปย่างรปปงงิ

เขามาคุยธุรกิจย่างรปปงงิบ่อยครั้ง แต่ไม่เคยมาร้านข้างทางเลยซักครั้ง คิโชวอินกินร้านนึงแล้วไปต่ออีกร้าน ราวกับว่าวันนี้เป็นวันที่กินเท่าไหร่ แคลอรี่ก็ไม่เพิ่ม ทว่าก็คงไม่เพิ่มจริง ๆ เพราะเธออาเจียนออกมาจนเกือบหมดท้อง อาเจียนเสร็จก็ร้องไห้ ร้องไห้เสร็จก็อาเจียนเอาแต่น้ำย่อยออกมา

มาซายะปล่อยให้เธอเช็ดปากกับชุดเอี๊ยมมาริโอ้ของเขา แม้ว่าคิโชวอินจะเมาเละเทะ แต่เขาก็ขอบคุณเธอที่ไม่ปล่อยให้เขาอยู่คนเดียวในเวลาแบบนี้

.....

126 Nameless Fanboi Posted ID:dMEP.pmjDz

14.

มาซายะไม่ได้นอนทั้งคืน

ภาพของวาคาบะกับมิซึซากิวนเวียนอยู่ในหัวไม่หายไปไหน เขารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นไอ้ขี้แพ้ที่ต่อสู้เพื่อผู้หญิงที่ตัวเองรักก็ไม่ได้ ซ้ำยังไม่อยากปล่อยให้เธอไปมีความสุขกับคนอื่นอีก

คิโชวอินมาหาเขาในตอนเช้า สภาพของเธอดูอนาถซะยิ่งกว่าเมื่อวาน

“มาหนีไปที่อื่นด้วยกันเถอะค่ะ”

เธอบอกอย่างนั้น ทำท่ากระตือรือล้นเพื่อทำให้เขารู้สึกดีขึ้น เขาสงสัยว่าตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เธอไม่พยายามหนีเขาเหมือนเขาเป็นตัวปัญหา อาจจะตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัย หรือตั้งแต่หลังพวกเขาถูกจับแต่งงานกัน

เธอให้เขาจัดกระเป๋าให้ เขาเตรียมกระโปรงหลายตัวกับชุดขี่ม้าให้เธอ ช่วยเธอเป่าผมที่เปียกในขณะที่มองเธอทำงานอย่างขันแข็ง

ในตอนนั้น เขาสงสัยว่าถ้าเขาหลงรักเธอแทนที่จะเป็นวาคาบะ ชีวิตของเขาจะมีความสุขมากกว่านี้หรือไม่ แต่พอมองเธอแล้วเขากลับคิดว่าเป็นเพื่อนกันแบบในตอนนี้ก็ดีอยู่แล้ว

.....

15.

พวกเขาขับรถไปตามทางด่วน คิโชวอินนั่งข้าง ๆ เขา สวมชุดที่เขาเลือกให้ นิ้วไถหน้าจอมือถือดูสถานที่ท่องเที่ยวในขณะที่ปากบ่นพึมพำว่า ‘อา บะหมี่โฮโตนี่น่ากินจังน้า’ อีกไม่นานเท่าไหร่ก็ส่งเสียงท้องร้องดังลั่น ทำทีถามเขาว่าเขาหิวแล้วหรือยัง ท่าทางอย่างนั้นทำให้เขาคิดว่าคิโชวอินนี่น่ารักดีเหมือนกัน

ดูเหมือนกับการอกหักจะทำให้เขาประสาทกลับไปแล้ว

.....

127 Nameless Fanboi Posted ID:dMEP.pmjDz

16.

การแวะดูโบสถ์เป็นประสบการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในรอบปี

ไม่ เขาพูดเกินจริงไปหน่อย การเห็นวาคาบะกับมิซึซากิจูบกันนั่นเป็นเรื่องที่เลวร้ายที่สุดในรอบปี แต่เหตุการณ์นี้ถือเป็นลำดับที่สอง

คิโชวอินที่ทำของแตกดันคิดเรื่องงี่เง่าอย่างการพยายามซ่อนตัวในห้องสารภาพบาป ผู้หญิงที่มาสารภาพบาปเองก็แย่ไม่แพ้กัน

คิโชวอินวางหน้าผากไว้บนเก้าอี้บริเวณที่ว่างระหว่างขาของเขา หัวของเธอเกือบจะชนกับ... แล้วยังบทสารภาพบาปที่ดูบาปยิ่งขึ้นเมื่อมันถูกบรรยายในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แบบนี้

มาซายะรู้สึกเหมือนตัวเองถูกทดสอบโดยพระเจ้าเมื่อคิโชวอินขยับตัวยุกยิกไปมาใต้โต๊ะ ใบหน้าของเธอแนบอยู่กับเข่าของเขา เขาไม่ ไม่ได้จินตนาการจริง ๆ ว่าจะเป็นยังไงถ้าเธอขยับตัวขึ้นมาจากใต้โต๊ะ ปลดซิปกางเกงของเขา แล้ว—

เขาต้องการกำลังเสริมอย่างด่วนในสภาวะฉุกเฉินแบบนี้

‘ฉันอยู่ในห้องสารภาพบาป’ เขาพิมพ์ไปหาชูสุเกะ ไม่นานนักอีกฝ่ายก็พิมพ์ตอบกลับมา

‘ฉันอยู่ในห้องประชุม นายไปโบสถ์เพื่อสารภาพบาปกับพระเจ้างั้นเหรอ มาซายะ ฉันนึกว่านายไม่นับถือศาสนาซะอีก’

เขาพิมพ์กลับไป หวังว่าผู้หญิงที่อยู่ด้านตรงข้ามห้องจะไม่ได้สังเกตว่าเขากำลังเล่นโทรศัพท์ แต่ดูเหมือนเธอจะไม่ได้สังเกตจริง ๆ เพราะเธอเล่าต่ออย่างไม่ติดขัด

‘ไม่ ฉัน -อยู่- ในห้องสารภาพบาป ในฐานะบาทหลวง แล้วมีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังสารภาพเรื่องที่เธอมีเซ็กส์กับพี่ชายตัวเองแบบละเอียด ฉันควรจะทำยังไงดี’

ข้อความของเขาถูกอ่านแล้ว แต่อีกฝ่ายยังไม่ตอบกลับมาซักที มาซายะรู้สึกร้อนใจ เลยพิมพ์ต่อไปอีก

‘ฉันไม่ได้ล้อเล่น ฉันนั่งในห้องสารภาพบาป โดยที่คิโชวอินนั่งอยู่ที่หว่างขาของฉัน’

คราวนี้คำตอบถูกพิมพ์กลับมาอย่างรวดเร็ว ‘มาซายะ ฉันกำลังประชุมกับผู้ถือหุ้นโรงพยาบาล ไม่มีเวลามาฟังนายเล่าจินตนาการเรื่องเซ็กส์เกี่ยวกับคุณคิโชวอินให้ฟังหรอกนะ’

เขากดกล้องถ่ายรูป แล้วเอนตัวถ่ายรูปให้เห็นคิโชวอินที่อยู่ใต้โต๊ะ ก่อนจะกดส่งไปโดยที่ลืมว่าติดเป้ากางเกงของตัวเองที่มีหลักฐานแสดงอย่างดีว่าเขากำลังรู้สึกยังไงอยู่

มาซายะสบถในใจ แต่รูปก็ส่งไปแล้ว ชูสุเกะก็เห็นแล้ว เพราะงั้นก็ช่างเถอะ

แม้ว่าภาพจะมืดมาก และกล้องไม่ได้เปิดแฟลช แต่โทรศัพท์ของเขาก็มีฟังก์ชั่นถ่ายในที่มืดอัตโนมัติ ใต้โต๊ะซึ่งบนขอบโต๊ะมีสัญลักษณ์คริสตจักร คิโชวอินในเสื้อขนเฟอร์สีขาวและชุดกระโปรงผ้าลูกไม้นั่งอยู่บนพื้นใต้โต๊ะ ใบหน้าของเธอแดงก่ำ ตาวาวไปด้วยน้ำตาราวกับถูกใครรังแก ภาพนั้นคงจะน่ารักน่าสงสารถ้าไม่ถ่ายติดเป้ากางเกงที่ถูกดันเต็มที่ของเขา พอเห็นภาพถ่ายแล้วมาซายะก็สบถอีกครั้ง มันดูลามกกว่าสถานการณ์จริงมาก

128 Nameless Fanboi Posted ID:dMEP.pmjDz

‘สงบใจเอาไว้ แล้วก็คิดถึงหน้าพี่ชายของคิโชวอินซะ’ ชูสุเกะพิมพ์ตอบกลับมาในที่สุด

‘ฉันไม่คิดถึงหน้าพี่ชายคิโชวอินในสภาพแบบนี้หรอกนะ’ มาซายะพิมพ์ตอบกลับไป ‘ฉันควรจ—s;ldkfjsk’

‘?’

‘ไม่มีอะไร คิโชวอินแค่บอกฉันว่าเธอขาชาเฉย ๆ’ เขาพิมพ์ไป ก่อนจะนิ่งไปซักพัก แล้วสารภาพออกไปในที่สุด ‘คิโชวอินเอาโทรศัพท์จิ้มตรงนั้นของฉัน -โดยบังเอิญ- แล้วตอนนี้ก็ขยับตัวไปมาในหว่างขาของฉัน ฉันควรจะทำยังไงดี ชูสุเกะ ฉันไม่อยากจะทำเรื่องบัดสีในโบสถ์อย่างการหลั่งในกางเกงโดยที่หน้าของคิโชวอินอยู่ห่างออกไปแค่คืบเดียวหรอกนะ’

สาบานได้ว่ามาซายะมีเจตนาบริสุทธิ์ตอนที่เขาพิมพ์ออกไป แต่เวลาส่งแล้วกลับมาอ่านอีกรอบ เขารู้สึกเหมือนตัวเองไม่ต่างอะไรจากผู้หญิงที่กำลังสารภาพบาปอีกฝั่งหนึ่งของผนัง

‘มาซายะ ถ้านายทำแบบนั้น ฉันจะบอกพี่ชายของคิโชวอิน เพราะงั้นสงบสติอารมณ์ไว้ซะ’

คำขู่ของชูสุเกะได้ผลชะงัก เขารู้สึกเหมือนควบคุมตัวเองได้หน่อยจนกระทั่งผู้หญิงแปลกหน้าเล่าเรื่องของเธอจบและจากไป

คิโชวอินพยายามจะออกมาจากใต้โต๊ะ มาซายะกดหัวของเธอกลับลงไปทันทีเมื่อหน้าผากของเธอเบียดลงบนเป้าของเขา เขาสะกดจิตตัวเองว่าไม่ได้เกิดอะไรขึ้นทั้งนั้น แล้วกระโดดออกจากเก้าอี้หันหน้าเขาหามุมทันที

‘ชูสุเกะ เมื่อกี้ฉันเกือบจะถึงจริง ๆ แล้ว’

‘มาซายะ ความสัมพันธ์ของพวกเราพัฒนาจนมาถึงขั้นที่นายบอกฉันว่านายกำลังจะถึงจุดสุดยอดตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะ’ ชูสุเกะพิมพ์ตอบกลับมา ส่งสติ๊กเกอร์ร้องไห้มาให้เขาด้วย

‘หน้าของคิโชวอินซบเข้ามา -บนเป้า- ของฉันตอนที่เธอพยายามจะออกมาจากใต้โต๊ะ แล้วยังบอกอีกว่าเธอไม่รังเกียจถ้าฉันจะช่วยตัวเองในห้องที่พวกเราอยู่’ นี่มันวิกฤตศีลธรรมชัด ๆ มาซายะรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกทดสอบด้วยพระเจ้า หรือไม่ก็ซาตาน

หรือไม่ก็คิโชวอิน

‘อย่าทำอะไรบ้า ๆ เป็นอันขาด คุณคิโชวอินเป็นเพื่อน เป็นเพื่อนนายเหมือนกันฉัน นายไม่อยากจะชักว่าวให้ฉันดูหรอก แล้วฉันก็ไม่อยากจะดูด้วย คุณคิโชวอินแค่พูดตามมารยาทเท่านั้น’

เขาพยายามสูดหายใจลึก ๆ ก่อนจะคิดว่าถ้าพี่ชายของคิโชวอินรู้ว่าเขากับคิโชวอินทำอะไรกันในห้องสารภาพบาปจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ภาพในจินตนาการสยองจนเขาสามารถสงบสติอารมณ์ได้ในที่สุด

เขากับคิโชวอินออกไปนอกโบสถ์ได้อย่างที่ไม่มีใครทำเรื่องน่าขายหน้า—อย่างน้อยก็น่าขายหน้าไปมากกว่านี้ หลังจากนั้น เขากับคิโชวอินไม่พูดถึงเรื่องนี้เลยตลอดทั้งทริป

จบ Y - Yearn (part 2 ใน3)

129 Nameless Fanboi Posted ID:6tFpROHLGh

คาบุรากี๊๊๊๊๊๊๊๊๊๊

130 Nameless Fanboi Posted ID:Z3SGY7QzU3

>>128 คาบุรากี๊ ------------ ตลอดเวลาในห้องสารภาพบาปนายแชทอยู่หรอวะ 55555555555555555555555555
พาร์ทต่อไปหน่วงแน่ๆ ทำไตแปบ ฮือ

131 Nameless Fanboi Posted ID:06363l6C09

ขอโทษที่กูแทรกฟิคนะ
อมกอมกอมกอมกอมกอมกอมกอมกอมกอมกมอมก จริงๆ แล้วนึกว่าจะตายด้านซะอีก ยังเป็นผช.หนุ่มแน่นอยู่นี่นาเจ้ามาซายะ! มีการแอบเหล่เรย์กะบ่อยๆ ด้วย
โอ่ย กูขำการที่มีอะไรก็แชทไปพูดกับเพื่อนทุกสิ่งอย่างของคาบุมากๆ55555555555555555 โอ๊ยกูสงสารเอ็นโจ55555555555555555

132 Nameless Fanboi Posted ID:QlGos.C.3O

อะไรคือการส่งรูปแบบนี้ไปหาเพื่อนชายคนสนิทคะ เดี๋ยววันนึงเขาหน้ามืดจับสอนวิชาเพศศึกษาขึ้นมาแล้วจะยุ่งนะคะ
แต่กูก็สงสัยว่ะ เนื้อเรื่องหลักพวกเอ็นโจกับคาบุมันจะมีคุยทะลึ่งๆห่ามๆกันตามประสาวัยรุ่นชายบ้างมั้ยวะ หรือจะเป็นสุภาพบุรุษคุณชายกันทุกกระเบียดนิ้ว เซ็กส์คืออัลไลเค้าไม่ยู้เยื่อง

133 Nameless Fanboi Posted ID:43FRWVks7q

กูว่าเอ็นโจนั่นล่ะที่ควรแต่งงานกับคาบุที่สุดแล้ว มีความเป็นทุกอย่างให้เธอจริงๆ เป็นเพื่อนสนิท เป็นที่ปรึกษา เป็นคนปลอบ เป็นคนตามไปหาตอนจิตใจย่ำแย่ที่สุด คอยอยู่ข้างๆไม่ห่าง ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นหญิงกูว่าได้กันเองแน่ๆ ถถถถถถถ ขนาดในฟิคยังต้องมาฟังเรื่องบนเตียง ได้ดูรูปเป้า แถมยังได้ฟังว่ากำลังจะถึงจุดสุดยอดอีก ใครมาเห็นได้เข้าใจผิดว่าสองคนนี้กำลังเล่นเซ็กส์แชทกันอยู่แหงๆ

134 Nameless Fanboi Posted ID:MHXICQGlS+

กรี๊ดดดด โม่งฟิคมาต่อให้จุใจเรยยยย
Yearn นี่มันสมเป็น Yearn เต็มไปด้วยความปรารถนาของเด็กหนุ่ม 5555
แต่มาอ่านมุมมองคาบุแล้วก็รู้สึกน่ารักดีนะ คาบุก็เป็นหนุ่มเวอร์จิ้นไม่ใช่พระอิฐพระปูนก็ต้องมีหวั่นไหวบ้างเป็นธรรมดา แต่ฮาที่มีอะไรบอกเอ็นโจหมดนี่แหละ สรุปตอนอยู่นโบสถ์ ที่เรย์กะเห็นว่าเล่นมือถือชิลๆ นั่นคือกำบังปรึกษาเอ็นโจอย่างร้อนรนสินะ 555

135 Nameless Fanboi Posted ID:xWyI+0yuWI

คาบุรากิ 555555555 ทำไมต้องปรึกษาเอ็นโจทุกเรื่อง 555555555 แล้วไอ้คอส av ศึกษา 750 ชม.นี่เป็นคำแนะนำที่โคตรเลว 555555

136 Nameless Fanboi Posted ID:QlGos.C.3O

พอกลับมาอ่านซ้ำอีกทีก็อยากแย้งนิดนึง กูว่าเจ้าแม่น่าจะแต่งหน้าเก่งอยู่นะ ตอนคิ้วร่วงยังเขียนคิ้วซะเทพให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ เรื่องแต่งหน้าน่าจะฝีมือดีเลยล่ะ

137 Nameless Fanboi Posted ID:wzmyq2mIul

คาบุ โอ๊ยยย กูสงสารเอ็นโจ ทำไมต้องรับรู้+ช่วยเหลือทุกอย่างขนาดนี้ บอกยันว่าจะแตกไม่แตก กูทั้งขำทั้งสงสาร 55555555555

138 Nameless Fanboi Posted ID:hQeyZiFFdq

กูนี้อยากอ่านพาทที่ท่านเรย์กะยัดจีสตริงฝั่งคาบุเลย ฟิคนี้โครตเรียล หัวผู้ชายแม่งก็ต้องมีเรื่องลามกแบบนี้แหละ 555

139 Nameless Fanboi Posted ID:.8x8Hldz.+

สงสารเอ็นโจวร้อยยยยยยยย 555555555555ฮือออออ

ฟีลแบบ ทำไมกูต้องเจอเรื่องแบบนี้ด้วย 5555555

140 Nameless Fanboi Posted ID:WX2pL/6Bvq

บากะรากรี๊ ทำไมหนูเป็นแบบนี้ 55555555

สงสารเอ็นโจ ต้องมาคอยฟังปัญหาเรื่องเซ็กส์ของเพื่อนรักกับเพื่อนที่ตนรัก(?) มีขู่จะไปฟ้องท่านพี่ด้วย 55555

141 Nameless Fanboi Posted ID:uSx1wWq9ZH

กูนึกภาพเอ็นโอกำลังประชุมอยู่แล้วกดภาพที่คาบุรากิส่งมาดู ไหนจะ sex chat บนจออีก ถ้าคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆดันเห็นเข้าจะทำหน้าแบบไหน...

142 Nameless Fanboi Posted ID:QLrtoDUXVI

>>136 +1 ตอนอ่านคิดเรื่องนี้เหมือนกัน นางน่าจะเชี่ยวเรื่องนี้ เพราะแนะนำเรื่องความงามให้อิวามุโระคุงได้ แล้วก็ตอนสารภาพบาป ถ่ายรูปน่าจะได้ยินเสียงชัตเตอร์นะ เพราะว่าโทรศัพท์ญป.ปิดเสียงไม่ได้
//ปล. ขอบคุณโม่งฟิคa-z เป็นฟิคที่ต่อลมหายใจระหว่างรอตอนใหม่อัพเดทอย่างสิ้นหวังได้ดีมาก เขียนโคดดี

143 Nameless Fanboi Posted ID:R3LKqO3bEX

สงสารเอ็นโจ ถถถถถถถถถถถถ เพื่อนกันไม่จำเป็นต้องรู้ทุกอย่างไหมมมมม คาบุรากินายเด็กมัธยมพึ่งมีฝันเปียกรึไง

144 Nameless Fanboi Posted ID:iyFwFDzaUx

ทำไมกูรู้สึกว่าคำแนะนำแต่ละอย่างของจอมมารคือพยายามกันท่าคาบุวะ แบบ 750hr มึงดูไประหว่างนี้อย่ายุ่งกับคุณคิโชวอินนะเว้ย

145 Nameless Fanboi Posted ID:D.CNooheZB

>>142 ใช่ นางเป็นคนแต่งหน้าให้อิวามุโระเองจะแต่งหน้าไม่เก่งได้ไง แถมเขียนคิ้วได้เป๊ะจนไม่มีใครรู้อีกว่าคิ้วหาย ตอนอ่านก็ตงิดเรื่องนี้ แต่กูจะปล่อยเบลอไปละกัน

146 Nameless Fanboi Posted ID:JC3G5uSYUh

นี่มัน sex chat ชัดๆ lol

147 Nameless Fanboi Posted ID:2yC3+TcedK

lol กูขออภัย อันที่จริงกูพอรู้ว่าท่านเรย์กะแต่งหน้าได้ แต่ในเรื่องให้เกลียดการแต่งหน้าแบบบล็อกจัดเต็มออกงานเฉย ๆ ปล่อยเบลอกูไปละกันนะคะซิส (กราบ 3 ที)

148 Nameless Fanboi Posted ID:g8fE1JHJ5w

>>147 รับคำขอโทษเป็นตอนใหม่ 555 รอมาอัพนะโม่งฟิค

149 Nameless Fanboi Posted ID:QlGos.C.3O

กูลองทำตามคลิปเมอร์ลิน BB สกาดี้สามเทิร์นจบดูแล้ว แม่งหยั่ง DW แกล้งกูอยู่เลยว่ะ มันขึ้นอาร์ตเชนให้กูรัวๆมาห้าตารวดแล้ว ทั้งที่ปกติแม่งชอบขึ้นการ์ดคละสีให้กู กูก็ต้องรีเกมรัวๆเหมือนกัน

150 Nameless Fanboi Posted ID:.8x8Hldz.+

>>149 ผิดมู้สัส

151 Nameless Fanboi Posted ID:0+akuYORvq

เอ็นโจนี่มีความคิดy เยอะนะ sex text กับมาซายะบ้าง คิดว่ามาซายะจะขอมีเซ็กส์ด้วยบ้าง ความคิดเอ็นโจแม่ง...

152 Nameless Fanboi Posted ID:0+akuYORvq

>>149 เดี๋ยวๆๆๆ ใจเย็นมึง

153 Nameless Fanboi Posted ID:QlGos.C.3O

สัส กูตอบผิดกระทู้นี่หว่า ถึงว่าดิแม่งไม่ขึ้นในกระทู้เฟท ทีแรกนึกว่าเนตดีแทคแม่งเด๋อ จริงๆเป็นกูที่เด๋อเอง //กราบขอโทษทุกคนแล้วจากไป T_T

154 Nameless Fanboi Posted ID:0+akuYORvq

ความจริงตอนกูเสนอ yearn ไป กูก็ไม่คิดว่าความปรารถนามันจะแรงกล้าขนาดนี้อะ

155 Nameless Fanboi Posted ID:vFd0kI0epb

>>133 พูดถึงจุดนี้ ถ้าสอบเสร็จกูอยากแต่งเป็นฟิคได้มั้ย รู้สึกว่าผู้ชายกลายเป็นผู้หญิงเนี่ย น่ารักกว่าผู้หญิงปกติอีก//ยิ้มอ่อน

156 Nameless Fanboi Posted ID:RvbzU8bg.O

>>155 เอาเลยมึง ว่าแต่ใครจะเป็นผู้หญิงวะ 555555

157 Nameless Fanboi Posted ID:htiElw3sLr

>>155 กูว่าคาบุร่าง C ก็คือเรย์กะนี่ล่ะ ส่วนเอ็นโจร่าง C กูล่ะนึกถึงยุยโกะขึ้นมาทันควัน 55555555555

158 Nameless Fanboi Posted ID:l./yfYXMI5

>>157 เดจาวูนี่มัน !?

159 Nameless Fanboi Posted ID:gl4jF2+Vhh

กูจะปล่อยเบลอหลายอย่าง ดีใจที่แต่งฟิคให้อ่านนะเว้ย

160 Nameless Fanboi Posted ID:v9TY4iW1.E

>>157 กูว่าถ้าสองคนนี้ คาบุจะออกแนวนางเอก Special A ส่วนถ้าเป็นเอ็นโจนี่คงแนวแมรี่ซูมั้ง ฉลาด สวย เก่ง อ่อนโยน ตอแหลเป็น

161 Nameless Fanboi Posted ID:htiElw3sLr

>>160 กูว่าเอ็นโจหญิงไม่น่าจะแมรี่ซูเพราะตอแหลนี่ล่ะ 555555

162 Nameless Fanboi Posted ID:.zG0s9SC4W

>>55 สาดเกลือรอบบ้านเท่าอายุเดี๋ยวนี้!

163 Nameless Fanboi Posted ID:.zG0s9SC4W

>>162 ต่อ อะไรเนี่ย ไม่เม้นก็ไม่ยอมเด้งอัพเดทมู้เลยงั้นเรอะ....

164 Nameless Fanboi Posted ID:a0bu1dsuDv

17.

บางครั้ง เขาก็สงสัยว่าคิโชวอินรู้ความแตกต่างระหว่างผู้ชายกับผู้หญิงรึเปล่า

จริงอยู่ว่าเวลาที่เธออยู่กับผู้ชายทั่วไป คิโชวอินวางตัวห่างเหินราวกับเธอเป็นพระราชินี และผู้ชายที่รายล้อมเธอเป็นขุนนางข้ารับใช้ เธอเป็นคิโชวอินโดยกำเนิด เหมือนที่เขาถูกเลี้ยงมาให้เป็นคาบุรากิ

แต่ตอนที่เธอบ่นว่าปวดตัว แล้วขอให้เขานวดให้ มาซายะรู้สึกเหมือนเขากำลังถูกจับเล่นเกมส์ทดสอบอะไรบางอย่าง ในห้องสารภาพของโบสถ์ คิโชวอินที่เป็นตะคริวนั่งบนเก้าอี้ และเขาก็ช่วยนวดขาให้เธอเพราะรู้สึกผิดที่คิดกับเธอไปในทางไม่เหมาะสม

แต่ตอนนี้สถานการณ์กลับไม่เหมือนกันเลยซักนิด

พอเข้าห้องพัก คิโชวอินก็ถอดบอมบ์เบอร์แจ็กเก็ตออก เหลือแต่เดรสตัวในที่เขาเลือกให้ มันเป็นเดรสเจอร์ซี่ที่มีลูกไม้ประดับอยู่ขอบกระโปรง คิโชวอินชอบใส่กระโปรงสั้นเพราะมันทำให้เธอดูขายาวขึ้น ตอนปกติแล้วมันก็น่ารักดีถ้าเธอไม่นอนคว่ำอยู่บนฟูกแบบไม่ระวังตัวเลยแม้แต่น้อย

กระโปรงที่สั้นอยู่แล้วยิ่งสั้นขึ้นไปอีกเมื่อเธอนอนลง ยังดีที่คิโชวอินระวังตัวมากพอที่เอาเสื้อนอกขนสัตว์ของเธอมาปิดบริเวณสะโพกเอาไว้เพื่อไม่ให้เขาเห็นไปถึงข้างใน

มาซายะเริ่มจากน่องของเธอก่อน เป็นเป็นจุดที่ปลอดภัยที่สุด คิโชวอินส่งเสียงฮืม ๆ อย่างพอใจ มาซายะบีบนวดน่องของเธอทั้งสองข้าง ก่อนจะไล่ลงไปถึงฝ่าเท้า

ฝ่าเท้าขาวจัดของเธอมีรอยแดงเพราะใส่รองเท้าส้นสูงเดินตลอดวัน มาซายะขมวดคิ้ว เขาบอกคิโชวอินหลายรอบแต่เธอไม่เคยฟังเลยแม้แต่น้อย เขากดลงไปกลางฝ่าเท้าของเธอเหมือนอย่างที่พนักงานนวดเคยทำให้

“อื้อ!” เสียงร้องเล็ก ๆ แหลม ๆ ในลำคอของคิโชวอินทำให้เขาชะงัก มาซายะชักมือกลับราวกับเท้าของเธอคือน้ำร้อน

คิโชวอินยันตัวขึ้นแล้วเอี้ยวตัวมามองเขา “หยุดทำไมคะ ท่านคาบุรากิ” ตากลมโตของเธอมองเขาอย่างแปลกใจ ราวกับว่าเมื่อครู่เธอไม่ได้ส่งเสียงครางแหลม ๆ ออกมา

มือของมาซายะเลื่อนลงไปจับเท้าของเธออีกครั้ง ก่อนจะแตะนิ้วโป้งลงบนบริเวณเอ็นตรงกลางฝ่าเท้าที่แข็งจากการเกร็งเท้าบนส้นสูงทั้งวัน คิโชวอินทำเสียงฮืม ๆ เขาเลยชักมือออกอีกครั้ง

คิโชวอินเงยหน้าขึ้นมาก่อนจะออกปากสั่งเขา “ท่านคาบุรากิ กดลงไปแรง ๆ กว่านี้หน่อยสิคะ” พอเขากดลงไปตามที่เธอสั่ง เธอก็ทำเสียงอืมม์ยาว ๆ แล้วสั่งให้เขาอย่าหยุด

แม้ว่าเขาจะไม่เชื่อเรื่องพระเจ้าหรือศาสนา แต่มาซายะก็คิดว่าจะต้องมีใครซักคนที่มีพลังเหนือธรรมชาติพยายามจะกลั่นแกล้งเขาอยู่แน่ ๆ เพราะคิโชวอินเอาแต่ส่งเสียงครางในคอเหมือนแมว สลับกับชมเขาเป็นระยะด้วยคำชมแบบที่ว่า ‘มือของท่านคาบุรากิวิเศษที่สุดเลย’ หรือไม่ก็ ‘ตรงนั้นแหล่ะค่ะท่านคาบุรากิ’ หรือไม่ก็ ‘ทำอีกครั้งเหมือนเมื่อครู่นี้ได้ไหมคะ’

มาซายะอยากจะไลน์หาชูสุเกะถามอีกฝ่ายว่าจะลบความทรงจำยังไงดี โดยเฉพาะพาร์ทที่เขาคร่อมอยู่เหนือร่างของเธอ แล้วกดนิ้วลงบนบริเวณบ่าใต้ต้นคอ แล้วคิโชวอินบอกกับเขาว่า ‘ท่านคาบุรากิ ทำต่อสิคะ ตรงนั้น รู้สึกดีมาก ๆ เลย’

แว่บหนึ่ง เขาคิดว่าคิโชวอินพยายามจะยั่วเขา แต่พอเห็นเธอหลับสนิท เขาก็ได้แต่ไปจัดการธุระของตัวเอง เขารู้สึกเสียใจที่ไม่ได้ไลน์หาชูสุเกะก่อนที่จะไปเข้าห้องน้ำ เพราะจินตนาการระหว่างนั้นของเขาที่ของเดิมมีแค่ภาพ คราวนี้กลับเพิ่มเสียงเข้ามาด้วย

165 Nameless Fanboi Posted ID:a0bu1dsuDv

หลังจากที่พวกเขาทานมื้อเย็นแล้วเรียบร้อย เขากับคิโชวอินก็ไปนั่งเล่นกันที่ระเบียงแล้วคุยกันจนอาหารย่อยจึงไปอาบน้ำ เธอใส่ชุดนอนที่เขาเตรียมให้ มาซายะไม่ทำเรื่องผิดพลาดอย่างการหยิบสเวตเตอร์ให้กับเธอ แม้ว่าคิโชวอินจะไม่มีชุดนอนที่เป็นกางเกง แต่เธอก็มีชุดนอนที่ยาวจนถึงข้อเท้า

พอเขาอาบน้ำเสร็จ เธอก็หลับไปแล้วเรียบร้อย เขาหยิบโทรศัพท์ส่งข้อความถึงชูสุเกะ

‘ชูสุเกะ นายมีวิธีลบความจำไหม’

ชูสุเกะไม่ตอบ แต่ส่งเว็บไซต์ที่พอกดเข้าไปแล้วขายยาผิดกฏหมาย เขาเลยปิดทิ้ง แล้วบอกว่าขอเป็นวิธีทางจิตเวชดีกว่า

‘นายทำอะไรอีกแล้วน่ะ มาซายะ’

เขาพิมพ์ตอบกลับไปทันทีว่าเขาไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น

‘ถ้านายไม่ได้ชอบคุณคิโชวอิน ก็อย่าคิดถึงเธอในแง่นั้นอีก’

มาซายะมองข้อความที่อีกฝ่ายส่งมา ก่อนจะวางโทรศัพท์ลงแล้วเข้านอน

เช้าวันต่อมาเขากับคิโชวอินไปที่สนามขี่ม้า คิโชวอินทำท่าแหยง ๆ ตอนที่เขาบอกให้เธอเข้าไปทำความรู้จักกับม้าในคอก เธอบอกเขาว่าเธอไม่ค่อยถูกกับสัตว์เท่าไหร่

เขานึกไปถึงตอนที่เธอโดนกวางกัด และโดนนกอึใส่ อันที่จริงเธอก็ไม่ค่อยถูกกับสัตว์จริง ๆ ล่ะนะ

จนแล้วจนรอดคิโชวอินก็ขี่ม้าได้แค่ช่วงสั้น ๆ พอเธอเกือบจะตกลงมาก็ไม่ยอมขึ้นขี่ม้าอีก เขาได้แต่ทำใจว่าเธอคงไม่สามารถเล่นกีฬาอะไรได้

ผลจากการที่บังคับให้เธอขี่ม้าตกอยู่กับมาซายะอีกครั้งเมื่อคิโชวอินขอให้เขานวดขาให้ มาซายะตัดสินใจว่ากลับไปคราวนี้เขาจะซื้อเครื่องนวดให้เธอ หรืออย่างน้อยก็ที่อุดหูสำหรับตัวเอง

.....

166 Nameless Fanboi Posted ID:a0bu1dsuDv

18.

อายูคาวะ ชิสึกะ เป็นผู้หญิงแบบที่เขาไม่ได้เจอมานาน

หลังจากที่อยู่ในวงสังคมชั้นสูง มาซายะก็เจอแต่ผู้หญิงที่สง่างาม หรือทำตัวเรียบร้อยน่ารัก ผู้หญิงที่ทำตัวห่าม ๆ ได้เป็นธรรมชาติแบบเธอทำให้เขานึกถึงวาคาบะ

เขารู้สึกสนุกตอนที่ได้แข่งม้ากับเธอ ชอบที่เธอโวยวายตอนที่เขาเข้าเส้นชัย เธอไม่ยอมแพ้แม้ว่าจะแพ้เขาราบคาบ

เขารู้สึกเหมือนตัวเองกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง กลับไปในช่วงวันเวลาที่ทุกอย่างไม่ได้ซับซ้อนเหมือนตอนนี้ ในช่วงเวลาที่เขารู้สึกว่าโลกอยู่ภายใต้ฝ่าเท้าของเขา และไม่มีสิ่งใดหยุดยั้งเขาได้

เขาเจอเธออีกครั้งในงานเลี้ยงชมดอกไม้ เธออยู่ในชุดยูคาตะเรียบ ๆ ดูสดชื่นผิดกับผู้หญิงคนอื่น ๆ ที่แต่งชุดกิโมโนเต็มยศ แม้ว่าเธอจะเทียบไม่ได้กับคิโชวอินที่แต่งตัวราวกับภาพวาด แต่เธอทำให้เขานึกถึงทุ่งหญ้าที่แสนอิสระ

เขาไปฟาร์มอายูคาวะอีกหลายครั้ง และได้เล่นกับเธออีกหลายหน เขาส่งข้อความหาชูสุเกะเล่าเรื่องของชิสึกะให้เพื่อนสนิทของเขาฟัง ชูสุเกะตอบมาแค่สั้น ๆ ว่า ‘อืม’ เหมือนตอนสมัยมัธยมที่มาซายะส่งอีเมล์ไปเล่าเรื่องต่าง ๆ ให้อีกฝ่าย เขาเลยเล่าเรื่องของเธอให้คิโชวอินฟังแทน

และในวันหนึ่งตอนที่พวกเขากลับมาจากฟาร์ม คิโชวอินก็เรียกเขาไว้ก่อนที่เขาจะเข้าห้องนอน

“สิ่งที่ฉันบอกท่านคาบุรากิในคืนแต่งงาน ตอนนี้ฉันก็ยังคงยืนยันคำเดิมนะคะ”

เธอบอกอย่างนั้น เขาไม่เข้าใจว่าเธอหมายถึงอะไร

“ฉันไม่รังเกียจหรอกนะคะ ถ้าท่านคาบุรากิจะมีคนรัก ฉันจะช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถ ไม่ขัดขวางอย่างเด็ดขาดค่ะ”

เขาขมวดคิ้ว รู้สึกโมโหที่เธอดูถูกเขา ทั้ง ๆ ที่เขาบอกเธอแล้วแท้ ๆ ว่าเขาจะไม่สนใจผู้หญิงคนไหนอีกในระหว่างที่เธอ—-

มาซายะนิ่งไปเมื่อใบหน้าของหญิงสาวคนหนึ่งปรากฏขึ้นมาในหัวของเขา

คิโชวอินกลับเข้าห้องไปแล้ว แต่มาซายะยังคงไม่สามารถก้าวขาขยับออกจากที่เดิมได้ เขาพยายามทบทวนตัวเองว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

ในคืนนั้นเขาส่งข้อความถึงชูสุเกะ

‘ฉันชอบ อายูคาวะ ชิสึกะ?’

ชูสุเกะตอบมาด้วยข้อความสั้น ๆ เพียงคำเดียว

‘อืม’

หลังจากนั้นเขาก็หลบหน้าคิโชวอิน รู้สึกโกรธตัวเองที่ไม่กล้าสู้หน้าเธอ เขาต้องการเวลาคิดมากกว่านี้ แต่ถึงจะพยายามคิดเท่าไหร่ เขาก็คิดไม่ออกว่าควรจะทำอย่างไรดี เขาบอกกับตัวเองว่าเขาไม่ได้ชอบชิสึกะ แต่ก็รู้ดีว่าเขาโกหกเวลาพูดคำนั้นออกไป

เขารู้สึกผิดกับคิโชวอินเลยอยากจะมอบขอบขวัญปลอบใจให้กับเธอ ท่านแม่ของเขาตื่นเต้นมากตอนที่เขาไปขอให้ท่านช่วยเลือกเครื่องประดับให้คิโชวอิน สร้อยคอที่เขาประมูลมาราคาค่อนข้างสูง แต่ดูเหมาะสมกับการอยู่บนคอของเธอมากกว่าใคร ๆ

ในค่ำคืนทานาบาตะ เขาเตรียมเซอร์ไพรส์ให้เธอ ทั้งการเล่นเพลงที่เธอชอบ การเต้นรำ ในค่ำคืนนี้เธองดงามยิ่งกว่าผู้หญิงคนไหน สายตาทุกคู่ของพวกผู้ชายมองเขาด้วยความอิจฉา เขาทำเป็นไม่เห็นว่าหนึ่งในนั้นคือสายตาของชูสุเกะ

เขาบอกกับเธอว่าตราบเท่าที่เธอยังคงเป็นคาบุรากิ เขาจะไม่มีวันทรยศเธออย่างเด็ดขาด

167 Nameless Fanboi Posted ID:a0bu1dsuDv

19.

มาซายะไม่รู้จริง ๆ ว่าเขาควรจะรู้สึกยังไงตอนที่คิโชวอินเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นด้วยชุดเดรสผ้าไหมสีบรอนซ์สั้นขึ้นมาจากเข่าคืบกว่า แนบไปกับสะโพกจนเขาอดเพ่งไม่ได้ว่าข้างในนั่นเธอใส่ชุดชั้นในรึเปล่า ซ้ำคอรูปตัววียังผ่าลึกซะจนเขาไม่รู้จะวางสายตาตรงไหน มาซายะต้องสั่งให้ตัวเองมองหน้าเธอและห้ามลดสายตาลงต่ำกว่าลำคอเด็ดขาด

“ชุดนั่น ไม่เซ็กซี่ไปหน่อยสำหรับเธอเหรอ?” เขาถาม ปกติแล้วถึงชุดของคิโชวอินจะแหวก แต่ไม่มีชุดไหนให้ความรู้สึกน่าฉีกมันออกจากตัวของเธอแบบชุดนี้ เขารู้สึกเสียใจที่ช่วยให้เธอลดน้ำหนักได้ ถ้าเธอยังคงมีพุง ก็คงไม่กล้าใส่ชุดแนบเนื้อขนาดนี้

คิโชวอินปฏิเสธที่จะเปลี่ยนชุด มาซายะพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่มองไปทางคิโชวอินตอนเธอปีนขึ้นบูกัตติ เขาเกือบจะทำสีรถถลอกหลายครั้งเพราะตาไม่ได้อยู่บนถนน แต่จ้องอยู่ตรงคอเสื้อเธอ

เขาอยากจะบอกคิโชวอินว่าชุดนั่นถ้าอยู่บนตัวของผู้หญิงที่ผอมอย่างนางแบบก็คงจะดูสวยดี แต่พออยู่บนตัวของผู้หญิงที่มีหน้าอกค่อนข้างมากอย่างเธอ มีแต่จะทำให้ผู้ชายคิดถึงเรื่องที่ไม่สุภาพเท่าไหร่นัก ดูเหมือนว่าคิโชวอินจะชอบชุดนี้เอามาก ๆ แม้ว่ากระโปรงที่ค่อนข้างรัดจะทำให้เธอเดินแปลก ๆ ก็ตาม

พอถึงงาน เขารีบลงจากรถแล้วอ้อมมาเปิดประตูให้กับเธอเพราะอยากจะบังตอนเธอก้าวลงจากรถ และเขาก็ได้เห็นเธอจากมุมสูงแบบที่เขาต้องเหลือบตามองบนแล้วบอกว่าเขาไม่ได้เห็นอะไรทั้งนั้น มาซายะโล่งใจขึ้นมากเมื่องานนั้นคืองานค็อกเทลที่ไม่มีที่นั่ง ไม่งั้นงานเลี้ยงนี่คงเกิดหายนะแน่ ๆ ถ้าคิโชวอินนั่งในที่มีใครเดินผ่านไปผ่านมาแล้วเห็นในมุมที่เขาเห็น

พี่ชายของเธอยิ้มไม่ถึงตาเมื่อเห็นว่าคิโชวอินลงจากรถด้วยชุดแบบไหน เขาสละตำแหน่งข้างกายให้พี่ชายเธออย่างเต็มใจ คิโชวอิน ทาคาเทรุ โอบไหล่น้องสาวของตัวเองแล้วส่งสายตาพิฆาตให้กับผู้ชายทุกคนในงาน ราวกับว่าถ้ามีใครเข้าใกล้เธอเกินกว่าที่เขาอนุญาตจะต้องมีเหตุการณ์นองเลือดแน่ ๆ

คุณโมโมโซโนะเป็นตัวอย่างที่ดีของการทำตัวรุ่มร่ามใส่คิโชวอิน เพราะทำได้ไม่นานก็ต้องลงไปงอก่องอขิงกุมหน้าแข้งเพราะโดนพี่ชายของเธอเตะหวดไม่ยั้งแรง

มาซายะถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อพี่ชายของเธอพาเธอไปปล่อยในวงไฮยีน่าสาวที่ไม่มีผู้ชายคนไหนกล้าเข้าใกล้ในรัศมีสิบฟุต ในระหว่างที่เขาคุยธุรกิจ เขาพยายามมองหาเธอบ่อยครั้ง ในค่ำคืนนี้มีผู้ชายเข้าหาเธอมากเป็นพิเศษ แต่ได้ท่านพี่ของเธอกันท่าสุดฤทธิ์ ในคืนนั้นพี่ชายของเธอแทบไม่ได้คุยอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย เพราะมัวแต่หวงก้างน้องสาว เขาก็เลยวางใจคุยธุรกิจได้อย่างไม่ว่อกแว่กมากนัก

ตอนเวลาราว ๆ ห้าทุ่ม คิโชวอินเดินมาถามเขาว่าเขาคุยธุระเสร็จหรือยัง เขาถามเธออย่างเป็นห่วงว่าเธอไม่สบายรึเปล่า ปกติแล้วคิโชวอินจะเดินร่อนในงานมากกว่านี้ เธอตอบเขาว่าไม่ และหายตัวไปในงาน

หนึ่งชั่วโมงต่อมา เธอก็เดินมาหาเขาอีกครั้ง คิโชวอินแนบร่างของเขาลงกับร่างของเขาในขณะที่เธอโอบเอวเขาไว้ คู่สนทนาของเขาหยุดพูดทันควันราวกับทำลิ้นหายไปเพราะสายตามัวแต่จับจ้องร่างของเธอ เขาเองก็ไม่ได้สนใจอีกฝ่ายเช่นกันเพราะหน้าอกของคิโชวอินแนบเข้ามาบนร่างของเขา เธอเขย่งตัวขึ้น แนบริมฝีปากกับใบหูของเขาแล้วกระซิบว่า

“ฝากของหน่อย”

168 Nameless Fanboi Posted ID:a0bu1dsuDv

มือของเธอเอื้อมมาสอดของบางอย่างลงในกระเป๋าเสื้อสูทของเขา เขาล้วงมือลงไปโดยสัญชาตญาณ และสัมผัสของเชือกและผ้าเนื้อบางก็ทำให้เขาตัวแข็งเหมือนโดนไฟช็อต

เขามองมือของเธอที่ข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ อีกข้างโอบเอวของเขา มองร่างในชุดผ้าไหมที่เบียดร่างของเขาตั้งแต่หน้าอกเรื่อยลงไปจนถึง...

ภายใต้กระโปรงผ้าไหมสั้นแค่ครึ่งขาอ่อน คิโชวอินแนบร่างกายท่อนล่างที่ไม่ได้ใส่อะไรภายใต้กระโปรงบาง ๆ ตัวนั้นลงมาบนสะโพกของเขา

“ฉันจะไม่มีวันซื้อกางเกงในยี่ห้อนี้อีกเด็ดขาด” เธอแก้ตัวด้วยริมฝีปากที่คลอเคลียอยู่บนใบหูของเขา สมองเขามาซายะเหมือนจะลัดวงจรเมื่อเขาสัมผัสได้ถึงร่างที่บดเบียดเข้ามา เขาหันไปมองใบหน้าแดงก่ำของเธอที่แดงลงไปถึงคอ เรื่อยลงไปถึงหน้าอกอิ่ม สายตาของเขามองลงไปถึงสะโพกที่ไม่มีรอยชุดชั้นในแม้แต่น้อยเพราะเธอถอดมันใส่กระเป๋าสูทของเขา

มาซายะสบถหยาบคายในใจ คิโชวอินพยายามยั่วเขาชัด ๆ ช่างหัว 750 ชั่วโมงที่เขายังเรียนไปได้ไม่ถึง ถ้าคิโชวอินจะยั่วถึงขนาดนั้น เขาก็จะพาเธอออกไปจัดการในบูกัตติตอนนี้เ—

หัวของมาซายะมีแต่ความคิดที่จะกดเธอลงกับเบาะแข็ง ๆ ของรถ จากนั้นก็ให้เธอรู้ว่าเขาไม่ใช่พระอิฐพระปูนที่จะทนให้เธอยั่วได้นานขนาดนั้น จนกระทั่งเขาดันไปสบเข้ากับสายตาเยือกแข็งจากพี่ชายของเธอ

ในคืนนั้นเขาพาเธอกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ ไม่มีใครทำเรื่องไม่สุภาพบนเบาะรถ

พอกลับถึงบ้าน คิโชวอินก็ดึงกางเกงชั้นในออกจากกระเป๋าเสื้อของเขาอย่างอาย ๆ มันเป็นกางเกงชั้นในสีดำ ผ้าน้อยจนเขาไม่กล้ามอง

ในคืนนั้นเขาไม่ได้ส่งข้อความหาชูสุเกะ เพราะเขาจะไม่มีวันบอกเด็ดขาดว่าวันนี้คิโชวอินทำอะไร และถ้าพี่ชายของเธอไม่ส่งสายตาปรามไว้เขาจะทำอะไร ครึ่งหนึ่งเป็นเพราะมาซายะไม่อยากให้ชูสุเกะเห็นภาพของคิโชวอินแบบที่เขาเห็น อีกครึ่งหนึ่งเพราะมือของเขาไม่ว่างพอที่จะพิมพ์ข้อความตลอดทั้งคืน

.....

169 Nameless Fanboi Posted ID:a0bu1dsuDv

20.

มาซายะตัดใจไปอย่างสิ้นเชิงกับความคิดที่จะพยายามเก็บคิโชวอินไว้ในความสัมพันธ์แบบ ‘สุภาพและเป็นมืออาชีพ’ เขาโยน 750 ชั่วโมงของชูสุเกะทิ้ง เพราะเขามีความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่าตัวเองคงอายุไม่ยืนจนเก็บชั่วโมงเรียนได้ครบ เนื่องจากเขาน่าจะเป็นบ้าเพราะคิโชวอินเสียก่อน

การไปเที่ยวในช่วงเดือนสิงหาคมทำให้เขาผ่อนคลายขึ้น อย่างน้อยก็มีเรื่องคิดมากกว่าเรื่องงาน เรื่องคิโชวอิน หรือเรื่องของชิสึกะ เขายังคงนึกถึงรอยยิ้มของเธอตอนที่ควบม้าไปบนสนามแข่ง เขาอยากจะไปหาเธอและขี่ม้าเล่นกับเธออีกครั้ง ฟังเธอตะโกนสั่งม้าของเธอให้วิ่งไปข้างหน้าไม่ให้แพ้เขา แต่เขาสัญญากับคิโชวอินไว้แล้วว่าเขาจะไม่ทรยศเธอเด็ดขาด

ทริปในครั้งนี้ครึ่งหนึ่งมาเพราะงาน อีกครึ่งหนึ่งจัดเพื่อเอาใจคิโชวอิน คิโชวอินรักออเครสต้าพอ ๆ กับเขา การได้บินมาดูออเครสต้าที่เวียนนาและชิมของอร่อย ๆ ที่นี่ถือว่าเป็นการตอบแทนที่เธอทำงานอย่างหนักเพื่อคาบุรากิ

เขากับเธอชิมอาหารท้องถิ่นหลายอย่าง คิโชวอินกินจนกินไม่ไหวเพราะทริปนี้ถือเป็นชีทเดย์ทริป เขาชอบที่เธอพยายามกินทุกอย่างจนหมดแม้ว่าบางอย่างกิน ๆ ไปจะทำหน้าเลี่ยน ชอบที่เธอพยายามจะกินฮอตดอกให้เรียบร้อยที่สุด (มาซายะสาบานว่าเขาไม่ได้จ้องคิโชวอินหรือคิดเป็นอย่างอื่นตอนที่เธอกินฮอตดอก โอเค เขาอาจจะจ้องเธอบ้าง แล้วก็คิดเรื่องต่ำช้าบ้าง แต่มาซายะไม่มีอะไรจะเสียอะไรแล้ว อะไรที่เขาคิดออกในตอนกลางวัน ก็ถูกใช้ในตอนกลางคืนเสียจนหมด ช่างหัวความคิดสุภาพ เพราะเขารู้คนเดียว ไม่ได้บอกใครเรื่องแบบนี้อีกแล้ว แม้แต่ชูสุเกะ)

เขากับเธอไปดูออเครสต้าหลายวง ออกงานปาร์ตี้หลังออเครสต้าหลายงาน เขาชอบที่จะคุยกับเธอเรื่องดนตรี ชอบที่จะเดินไปตามท้องถนนแล้วฟังเธอฮัมเพลงขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

เขากับเธอไปช้อปปิ้งของต่าง ๆ เธอซื้อช็อกโกแล็ตโมสาร์ทเพียงเพราะว่ามันแสดงถึงเวียนนา เธอแวะดูเครื่องดนตรีแล้วถามเขาว่านอกจากเปียโนแล้วเขาเล่นเครื่องดนตรีอย่างอื่นเป็นรึเปล่า เขาบอกเธอว่าสมัยเด็ก ๆ เขาเคยเล่นไวโอลิน เธอบอกว่าเธออยากฟัง เขาสัญญาว่าจะเล่นให้เธอฟังหากว่าเขาส่งมันไปจูนสายแล้วเรียบร้อย

เขากับเธอพักในห้องสวีทของโรงแรมที่มีห้องนอนเพียงแค่ห้องเดียว ในคืนแรกที่นอนเตียงเดียวกับเธอมาซายะเกือบจะนอนไม่หลับ เขาควรจะช่วยเธอจัดกระเป๋าเพื่อบังคับให้เธอใส่ชุดนอนตัวยาว ไม่ใช่ชุดเดรสแขนตุ๊กตาน่ารักที่สั้นแค่ต้นขา กับกางเกงขาสั้นระบายลูกไม้เบาบาง เขาอยากจะหยิบโทรศัพท์ส่งข้อความไปถามชูสุเกะว่าจะทำยังไงดี แต่เขาวางมันลงทันทีที่หยิบขึ้นมา

โชคดีที่ในตอนเช้าเขาตื่นก่อนคิโชวอิน สัญญาตญาณบางอย่างบอกว่าเธอคงไม่กล้านอนร่วมเตียงกับเขาอีกเลยถ้ารู้ว่าโพสิชั่นในตอนเช้าหลังจากที่มาซายะลืมตาแล้วพวกเขาอยู่ในท่าไหน แล้วร่างกายของเขามีปฏิกริยายังไง

ในวันสุดท้ายของทริปเดินทาง เขาเตรียมคอนเสิร์ตส่วนตัวไว้ให้เธอ เพลงที่เขาเลือกให้เป็นเพลงที่เธอเคยอยากฟัง และเป็นเพลงที่เธอชอบ เขาปิดท้ายการแสดงด้วยเพลง All I ask of you จากเรื่องแฟนท่อม ออฟ ดิ โอเปร่า เพราะจำได้ว่าตอนที่เธอไปยุโรปสมัยเรียนมัธยม เธอไปดูละครเรื่องนี้

เขาชอบที่หลังการแสดงจบ เธอขอบคุณเขาและบอกว่าคืนนี้เธอมีความสุขที่สุด เขาเห็นรอยยิ้มของเธอ และอยากบอกเธอว่าเขาเองก็มีความสุขที่ได้ทำสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เพื่อเธอเช่นกัน

.....

170 Nameless Fanboi Posted ID:a0bu1dsuDv

21.

วาคาบะแต่งงานแล้ว

เขาไม่รู้ว่าเขาควรจะรู้สึกยังไง

งานแต่งงานของวาคาบะเป็นงานเล็ก ๆ เรียบง่ายจนน่าตกใจ เขาไม่เคยไปงานแต่งงานที่ไม่ได้จัดในโรงแรมหรูมาก่อน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้มางานแบบนี้

แม้ว่าทางจะลำบาก คิโชวอินก็ยังคงยืนยันว่าจะใส่ส้นสูง เขากับเธอมาถึงงานและมองดูวาคาบะกับมิซึซากิแต่งงานกัน ในใจของเขารู้สึกว่างเปล่า แต่ก็ไม่ได้เจ็บปวดอีกต่อไปแล้ว

ฝนตกลงมาตอนขากลับ เขามองรองเท้าของคิโชวอินแล้วรู้สึกว่าเธอจะต้องลื่นแน่ ๆ เลยอาสาเป็นคนแบกเธอไปที่รถ ความจริงแล้วเขาไม่ต้องทำแบบนั้นก็ได้ แต่เขารู้สึกว่ายอมหนักดีกว่าให้เธอต้องลำบาก

เธอเป็นภรรยาของเขา ถึงจะเป็นแค่ในนาม แต่เขาก็อยากจะดูแลเธอจนถึงที่สุด

.....

22.

คิโชวอินไม่สบาย

ดูเหมือนช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง เธอจะได้รับผลกระทบจนกระทั่งล้มป่วย

เขาพยายามจะไปหาเธอให้บ่อยที่สุดเท่าที่ตารางงานจะอำนวย ตอนแรกเขาตั้งใจจะซื้อดอกไม้ไปให้เธอ แต่ดอกไม้ก็มีประโยชน์แค่ดู เธออยู่ในโรงพยาบาลทั้งวันน่าจะต้องรู้สึกเบื่อแน่ เขาเลยซื้อห่วงกลไปให้เธอบ้าง ปริศนาภาพไปให้เธอบ้าง แต่ดูเหมือนเธอจะไม่ชอบใจนัก

ตั้งแต่ป่วย คิโชวอินก็ดูซึมไปมาก เขาพยายามจะหาของเล่นอีกหลายชิ้นมาให้เธอ แต่เธอก็ยังคงซึม ๆ อยู่ดี เขาคิดว่าเธอคงจะยังไม่ค่อยมีแรง เลยไม่ได้ใส่ใจมากนัก

และความผิดพลาดนั้น ก็ดูเหมือนจะนำไปสู่เหตุการณ์ที่พลิกผันชีวิตของพวกเขา

.....

171 Nameless Fanboi Posted ID:a0bu1dsuDv

23.

สองชั่วโมงหลังจากที่เธอออกจากโรงพยาบาลและกลับมาบ้าน คิโชวอินก็ขอหย่า

เธอบอกว่าเธอรู้ดีว่าเขายังรักชิสึกะ ถ้าเธอกับเขายังอยู่ด้วยกันแบบนี้ เขาจะไม่สามารถไปหาชิสึกะได้

เธอบอกให้เขามองตาเธอและบอกเธอว่าเขาไม่ได้ชอบชิสึกะ

เขามองตาคิโชวอิน แต่ไม่สามารถโกหกออกไปได้

เขาชอบชิสึกะ เขาชอบที่จะได้พูดคุยกับเธอ ชอบที่เธอเป็นอิสระ ไม่อยู่ภายใต้กฏเกณฑ์อันน่าอึดอัดของสังคม

เขารู้สึกผิดต่อคิโชวอินที่ไม่สามารถทำตามที่เขาสัญญาไว้ได้ คิโชวอินเพียงแค่ยิ้มน้อย ๆ เท่านั้น

สุดท้ายแล้วพวกเราตกลงจะจัดงานเลี้ยงมื้ออาหารค่ำเพื่อประกาศให้ครอบครัวรู้ว่าพวกเราจะหย่ากัน

มาซายะมองคิโชวอินที่นั่งทำแพลนล่วงหน้าในขณะที่เขาเป่าผมให้เธอ เขาสงสัยว่าต่อจากนี้ไปเขาควรจะมอบหมายงานนี้ให้ใครดี

บางทีอาจจะเป็นผู้ช่วยคนหนึ่งของเขา

เขามองคิโชวอินแล้วพยายามจินตนาการถึงชีวิตหลังจากนี้ แต่เขานึกภาพไม่ออกเลยแม้แต่น้อย

เขาอยากจะขอโทษเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า อยากจะบอกเธอว่าเขาจะพยายามเลิกคิดถึงชิสึกะ อยากจะบอกเธอว่าถึงแม้ว่าเธอจะไม่ใช่คนรักของเขา แต่เขาก็อยากจะอยู่กับเธอ

มาซายะไม่ได้บอกมันออกไป เขามองคิโชวอินที่ขยี้ตาเพราะจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ยาวนาน ผมของเธอแห้งแล้ว ดังนั้นเขาจึงขอตัวกลับห้องไป

.....

172 Nameless Fanboi Posted ID:a0bu1dsuDv

24.

คิโชวอินชอบการแต่งตัวคอสเพลย์ วันนี้เธอคอสเพลย์เป็นนางเอกจากหนังเรื่องเบรคฟาสต์ แอท ทิฟฟานี่ เธอดูสวยสง่าในชุดที่ถูกตัดเย็บอย่างดี แต่ใส่ลำบากจนเหมือนเครื่องทรมาน

ทุกคนต่างจ้องมองเธอด้วยสายตาชื่นชม เขาโอบเอวของเธอและพาเธอเดินสังสรรค์กับบรรดานักธุรกิจข้ามชาติ ภาษาอังกฤษของคิโชวอินยังติดสำเนียงญี่ปุ่น แต่เธอพูดได้คล่องแคล่วกว่าคนทั่วไปมาก เขามองเธอที่คุยกับบรรดามาดามในอีกมุมห้องหนึ่งแล้วคิดว่าเธอเกิดมาเพื่องานเลี้ยงแบบนี้โดยเฉพาะ ในอนาคต เธอก็คงจะช่วยงานที่บ้านคิโชวอิน หรือบางทีเธออาจจะแต่งงานใหม่กับผู้ชายซักคนที่รักเธอและกล้าหาญมากพอที่จะอยู่กับเธอ

เขารู้สึกขมปร่าในลำคอเมื่อนึกภาพผู้ชายคนอื่นโอบกอดเธอ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองรู้สึกแบบนั้น เขาชอบชิสึกะ เขาน่าจะดีใจที่คิโชวอินเอ่ยปากขอหย่ากับเขา ชิสึกะเป็นลูกสาวของบ้านอายูคาวะ แม้จะไม่ร่ำรวยมีหน้าตาเท่าคิโชวอิน แต่ก็ไม่ได้ห่างชั้นจนท่านแม่ของเขาสามารถกีดกันได้เหมือนตอนวาคาบะ

ตอนที่งานเลี้ยงเลิกและเขาไปคุยธุระต่อกับนักธุรกิจจากจีน คิโชวอินไปรอเขาที่บาร์

ดีลของเขาปิดได้เลทกว่าที่ตั้งใจไว้มาก เพราะนักธุรกิจจากจีนตกลงแล้วก็ยังจะลากเรื่องให้ดีลต่ำลงอีก เขาแอบรู้สึกโมโห แต่ก็แสดงท่าทีออกไปไม่ได้ ในที่สุดดีลสุดท้ายก็ถูกปิดลง เขายังคงต้องคุยสัพเพเหระต่อ และคงจะอีกยาวถ้าคิโชวอินไม่บอกว่าเธอต้องเข้าห้องน้ำ -เดี๋ยวนี้-

มาซายะขอตัวจากคู่ค้าของเขาแล้ววิ่งออกจากห้องประชุมโดยที่ไม่ใส่ใจด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายจะคิดว่าเขาเสียมารยาทรึเปล่า และเมื่อเห็นเธออยู่กับชูสุเกะ เขาก็รู้สึกไม่พอใจขึ้นมา เขาเป็นคนไลน์บอกชูสุเกะว่าพวกเขาจะหย่ากันปลายปี แต่ไม่คิดว่าชูสุเกะจะตั้งใจเข้าหาเธอเร็วถึงขนาดนี้

เขาเปิดห้องพักด้านบนและแบกเธอขึ้นไปที่นั่น ถอดรองเท้าส้นสูงที่เธอชอบใส่และเห็นว่าเท้าของเธอแดงไปหมดเพราะมัน ก่อนจะช่วยรูดซิปชุดของเธอ

มาซายะพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่มองเธอที่สวมใส่แต่คอร์เซ็ตสีดำและกางเกงชั้นในลูกไม้เข้าชุด รวมถึงถุงน่อง แต่หลังจากที่เขาเกือบทำเธอหัวโหม่งชักโครก มาซายะก็เลิกล้มความตั้งใจนั้น เขาหันหน้ากลับไปตอนที่เธอทำธุระเรียบร้อยแล้ว ช่วยเธอล้างมือและพากลับเข้าไปในห้องนอน

เขาไม่รู้ว่าเธอยัดตัวเองลงชุดนี้มาได้ยังไง แต่เป็นหน้าที่ของเขาที่ต้องใส่มันกลับเข้าไป มาซายะพยายามท่องว่าเขาจะไม่มองเธอเด็ดขาด ไม่มองตาของคิโชวอินที่หยาดเยิ้มด้วยแอลกอฮอลล์ ไม่มองคอและช่วงไหล่ที่ขาวโพลนสวมใส่สร้อยมุกซึ่งทิ้งตัวลงบนผิวเนียนละเอียด ไม่มองหน้าอกอวบอิ่มที่ล้นจากคอร์เซ็ตลูกไม้สีดำ ไม่มองกางเกงชั้นในลายลูกไม้ที่แทบไม่ได้ปกปิดอะไรเลยซักนิด ไม่มองขาที่อยู่ภายใต้ถุงน่องของเธอ

เขาบอกกับตัวเองว่าอย่างน้อยเขาก็พยายามแล้ว ถึงไม่สำเร็จ แต่อย่างน้อยก็ได้พยายาม

ชูสุเกะกับพี่ชายของคิโชวอินควรจะภูมิใจในตัวของมาซายะที่เขาทำแค่มองเธอเท่านั้น ไม่ได้ดันเธอลงบนเตียงแล้วทาบทับร่างของตัวเองลงตาม ไม่ได้ก้มลงชิมริมฝีปากคู่นั้นว่ายังมีรสของไวน์ที่เธอดื่มจนเมามายรึเปล่า ไม่ได้แนบจมูกสูดดมกลิ่นน้ำหอมบนร่างที่ผสานรวมเข้ากับกลิ่นกายของเธอ ไม่ได้พรมจูบลงบนผิวขาวสะอาดบนลำคอระหง ร่องอกลึก ไม่ได้ฉีกทิ้งถุงน่องของเธอเพื่อที่เขาจะได้ฝังใบหน้าลงไประหว่าง—-

เขาควรจะหยุดคิด หยุดคิดก่อนที่เขาจะทำเรื่องที่ตัวเองเสียใจลงไป

ในที่สุดความพยายามของเขาก็เป็นผล เขาสามารถยัดเธอลงในชุดนั้นได้ก่อนที่ตัวเองจะขาดสติ เธอส่งเสียงฮืม ๆ แบบที่ชอบทำ วางเท้าลงบนตักของเขาแล้วสั่งให้เขาใส่รองเท้าให้เธอ

เขาชอบเวลาที่เธอออกคำสั่งแบบนั้นกับเขา เขามองสีหน้ายิ้มกริ่มเหมือนแมวของเธอแล้วรู้สึกเหมือนจะคลั่ง

ทว่าเขาไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่าการพยุงเธอลงไปที่รถ รู้สึกสับสนตอนที่เธอถามเขาว่าอยากจะไปฟาร์มอายูคาวะไหม เขาควรจะตกลงเพราะว่าเขาอยากจะเจอหน้าชิสึกะ แต่เขาคิดเพียงแต่ว่าถ้าได้เห็นคิโชวอินสวมซันเดรส นั่งจิบชาอยู่ในสวนก็คงดี

จบ Y - Yearn (part 3 ใน3)

.....

173 Nameless Fanboi Posted ID:NmAui.+cJg

มาซายะะะะะะะะะ ไอ้หื่นนนนนนน

ชูสุเกะ นายรุกหนักไม่ได้นะ นายยังมียันอัริวนั่นอยู่ TvT

174 Nameless Fanboi Posted ID:htiElw3sLr

ท่านเอ็นโจนี่จะเจริญรอยตามอิมาริไปติดๆเรื่องเป็นชู้กับเมียชาวบ้านเหรอ อย่าไปเอาอย่างสิ

สารภาพเลยว่ากูไม่เคยคิดถึงเรื่องคาบุจะหื่นได้ คือคาบุในความรู้สึกกูแม่งเหมือนหมาไซบ้าพลังต๊องๆไร้พิษภัยตัวนึง ใสๆเหมือนเด็กน้อยไม่ประสีประสาเพิ่งเคยออกมาเจอโลกภายนอก หรือไม่ก็เป็นเพื่อนสาวขาเม้าคนนึงของเจ้าแม่ แม่งให้ฟีลเพื่อนผู้ชายที่อยู่กับเรามานานจนเราไม่มองว่ามันเป็นผู้ชายอีกต่อไป แต่พอได้อ่านฟิคก็รู้สึก อืมมมม จริงๆมันก็เป็นผู้ชายนี่เนอะ ขอโทษด้วยนะไซซายะ 5555555555

175 Nameless Fanboi Posted ID:NmAui.+cJg

ว่าแต่ สรุป เอ็งก็ไปเรียน750ชั่วโมงตามคำเพื่อนจริงๆสินะ(...)

176 Nameless Fanboi Posted ID:DJ3ygTBI/P

คาบุเอ้ย ดีมากที่เลิกพิมพ์บอกชูสุเกะทุกเรื่อง เชื่อเหอะ เฉพาะเรื่องนี้ที่เจ้าตัวพร้อมเป็นเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด 5555555 คาบุผู้ผ่านแบบทดสอบท้าทายความอดทนมาถึงสามปี ดีใจด้วยที่ผ่านมันมาได้//ตบไหล่แปะๆ

177 Nameless Fanboi Posted ID:rD3F8u3r4o

คาบุรากิ นายรีบรู้ใจตัวเองได้แล้วว่าขาดเรย?กะไม่ได้ !!
เอ็นโจก็รุกไวไปนะ แล้วคุณยุยโกะทำไงวะ

178 Nameless Fanboi Posted ID:xfQZZJrl3c

>>177 เหมือนตอนที่1หรือ2นี่แหละ เอ็นโจบอกว่าจัดการเรื่องฝั่งเอ็นโจเรียบร้อยแล้ว hintอะไรปะเนี่ย 55555

179 Nameless Fanboi Posted ID:4BI7XXrxLQ

>>178 มาจัดการอะไรตอนนี้ มันไม่ทันแล้ว...ไก่อ่อนจริงๆ ถ้าจัดการแต่ต้นคงสมหวังไปแล้ว
ตอนนี้กูเชียร์มาซายะ เอ็นดูเค้าจริงๆ

180 Nameless Fanboi Posted ID:meuAArkbds

ท่านพี่นี่สมเป็นลาสบอสจริงๆ ขนาดคาบุก็เอ็นโจยังกลัว

181 Nameless Fanboi Posted ID:v/uIsGBoid

ฮืออออออ กูอ่านฟิครวดเดียวตั้งแต่มู้ที่แล้วมายังมู้นี้
ดีงามมมมมชิบหย ดีจนกูไม่อ่านหนังสือสอบแม่งแล้ว!

182 Nameless Fanboi Posted ID:71TlzeXdOd

คาบุเอ๊ยยไม่คิดว่านายจะมีด้านแบบนี้กับเขาด้วยปกติเห็นแต่ด้านบ้าๆ5

183 Nameless Fanboi Posted ID:FuoeBo4Ssl

>>181 กูก็สอบพรุ่งนี้ แต่นั่งรีเฟชหน้าจอรัวๆ555

184 Nameless Fanboi Posted ID:KewGNz.chJ

>>181 >>183 กูก็ต้องสอบเหมือนกัน แต่ยังไม่ได้อ่านหนังสือสักตัว55555

185 Nameless Fanboi Posted ID:EaNeTQ6FQT

750 ชั่วโมงมันมากเกินไปนะ 5555555555 คาบุโคตรจะ sexually frustrated สงส๊ารรร

186 Nameless Fanboi Posted ID:71TlzeXdOd

คาบุคงคับข้องใจน่าดูสงสารแท้

187 Nameless Fanboi Posted ID:t6.RbR1ffV

>>183 อยู่มอเดียวกะกูป่าววะ ทำไมสอบพรุ่งนี้เหมือนกัน!?

188 Nameless Fanboi Posted ID:09Z+c6EwgC

>>187 >>181 >>184 >>183 กูด้วย เดี๋ยวนะพวกเมิ้งงงง

189 Nameless Fanboi Posted ID:4FuOfZgLT.

>>174 กูก็คิดเหมือนมึง อ่านด้านเจ้าแม่อารมณ์เหมือนอยู่กับเพื่อนสาวที่จู้จี้ขี้บ่น นางถึงไม่ระวังตัวเลย แต่พออ่านอีกด้านแล้ว ยังไงก็ผู้ชายนี่นะ ทนมาได้สามปีก็เก่งแล้ว

ไม่รู้ว่าที่ยังไม่ทำอะไรเจ้าแม่ เพราะห้ามใจตัวเองได้ หรือเพราะท่านพี่กันแน่

แต่ท่านพี่ไปทำอะไรมาสองหนุ่มถึงได้เกรงกลัวขนาดนั้น จะว่าไป ต่อให้คาบุห้ามตัวเองไม่ไหว ท่านพี่ก็ทำอะไรไม่ได้แล้วมั้ง ยังไงก็สามีภรรยากันนี่นะ

190 Nameless Fanboi Posted ID:DJ3ygTBI/P

>>189 ช่วงแรกๆท่านพี่ก็ยังทำให้เหี่ยวลงไป 1 ระดับได้ หลังๆคาบุช่างแม่งอย่างเดียวเลย 5555555

191 Nameless Fanboi Posted ID:DCQ6+/S8hi

Z - Zero to Hundred

ฉันกับคาบุรากิไปฟาร์มอายูคาวะ คุณชิสึกะทำท่าดีใจมากที่พวกเราไปหาอีกครั้ง ฉันมองสีหน้ายิ้มแย้มของเธอแล้วรู้สึกว่าดีแล้วล่ะ ดีแล้วที่ความรักของคาบุรากิจะไ้ด้สมหวังซักที

ในวันนั้นคาบุรากิกับเธออยู่แค่ในสนามซ้อม ฉันดื่มชากับมาดามดูพวกเขาฝึกม้าแล้วก็คิดในใจว่า ปีหน้าของช่วงเวลานี้ลูกม้าที่คาบุรากิจองเอาไว้ก็คงจะโตพอให้ขี่ได้แล้ว ดีที่เขามีคุณชิสึกะเป็นคนฝึกพวกมัน

หลังกลับจากฟาร์มอายูคาวะ คาบุรากิก็ชวนฉันในยังบ้านต้นแบบที่เขาสร้างเอาไว้ในสถานที่ที่แพลนว่าจะทำรีสอร์ท สมัยตอนไปฟินแลนด์ พวกเราได้รับแรงบันดาลในให้สร้างที่พักที่ทำจากกระจกเพื่อให้สามารถดูวิวภายนอกได้จากห้องนอน

พอพวกเราไปถึงสถานที่ ก็พบว่าห้องพักของเราเป็นเรือนกระจกแบบห้องสตูดิโอตกแต่งเปิดโล่งเพื่อให้แขกสามารถดูวิวได้เกือบ 360 องศา แม้แต่ผนังห้องน้ำยังทำจากกระจก แต่กระจกทุกแผ่นที่ใช้สร้างมีฟังก์ชั่นที่สามารถเปลี่ยนเป็นกระจกทึบในกรณีที่ต้องการความเป็นส่วนตัวได้ ตรงกลางห้องตั้งไว้ด้วยเตียงขนาดใหญ่พิเศษ ปูด้วยผ้านวมหลายชั้นจนดูหนานุ่ม พื้นห้องทำจากไม้ นอกจากเตียงแล้วก็มีเพียงแต่ชั้นวางของที่ทำเป็นรูปหีบเตี้ย ๆ เท่านั้น ไม่มีเฟอร์นิเจอร์อะไรบังทัศนียภาพอีก

ฉันนั่งลงบนเตียงแล้วสำรวจดูว่าเฟอร์นิเจอร์แค่นี้พอไหม เพราะบางทีแขกที่เป็นผู้หญิงอาจจะต้องการเฟอร์นิเจอร์อย่างโต๊ะเครื่องแป้ง คาบุรากินั่งลงข้าง ๆ ฉันก่อนที่เราจะคุยกันเรื่องการตกแต่งภายใน ดีไซน์ของรีสอร์ทในภาพรวม และอีเวนท์ต่าง ๆ

”ฉันเอาไวโอลินที่ส่งไปจูนเสียงเสร็จแล้วมาด้วย” คาบุรากิบอกฉัน เขาเขยิบเข้ามาใกล้จนปลายนิ้วของพวกเราแตะกัน ฉันมองคาบุรากิอย่างแปลกใจ ปกติแล้วคาบุรากิไม่เคยทำตัวใกล้ชิดฉันในเวลาส่วนตัวขนาดนี้มาก่อน ถ้าไม่ได้ทำเรื่องต่าง ๆ อย่างการแต่งหน้า นวดตัว เป่าผม หรือช่วยฉันแต่งตัว เขาจะรักษาระยะห่างในระดับหนึ่ง “เธอยังอยากฟังอยู่รึเปล่า”

ฉันยิ้ม เขายังจำทุกอย่างที่ฉันพูดได้เสมอ และแค่คำพูดเล่น ๆ ของฉัน เขากลับทำให้อย่างจริงจังทุกครั้ง เขาถามฉันว่าฉันอยากฟังเพลงไหน คาบุรากิเคยบอกว่าเล่นไวโอลินสมัยยังเป็นเด็ก แสดงว่าเขาไม่ได้ฝึกฝนมากนักและอาจจะเล่นไม่ได้ทุกเพลง จึงบอกเขาไปว่าให้เขาเลือกให้ฉัน

“Salut d’Amour เป็นยังไง?” คาบุรากิถาม มือของเขาวางลงบนมือของฉัน เพราะว่าใบหน้าที่มีรอยยิ้มของเขาอยู่ห่างฉันแค่คืบเดียว ฉันเลยคิดอะไรไม่ออกนอกจากพยักหน้าอย่างอัตโนมัติเพราะหัวใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

เมื่อโบว์ของไวโอลินจรดลงบนสาย คาบุรากิ มาซายะ ก็เหมือนพ่อมดที่บรรเลงเพลง Salut d’Amour ออกมาได้อ่อนหวานจับใจทุกตัวโน๊ต ฉันมองร่างของคาบุรากิที่ยืนอยู่กลางห้องกระจก เบื้องหลังของเขาคือวิวภูเขาฟูจิและทะเลสาป สีไวโอลินเพลงรักที่เอ็ดเวิร์ด อัลการ์ เขียนให้กับคู่หมั้นของเขา แล้วก็รู้สึกเจ็บในอก

ช่วงเวลาเพียงไม่กี่นาทีของผลงานลำดับที่ 12 อันโด่งดังของเอ็ดเวิร์ด อัลการ์ จบลงไปอย่างน่าเสียดาย คาบุรากิวางไวโอลินกับโบว์ลงในกล่อง แล้วเดินเข้ามาคุกเข่าต่อหน้าฉัน ก่อนจะยกมือปาดน้ำตาให้

“เป็นบทเพลงที่ยอดเยี่ยมมากค่ะ ท่านคาบุรากิเล่นได้ดีจริง ๆ” ฉันชมเขา แต่น้ำตากลับร่วงลงมาอีก

“อย่าร้องไห้“ คาบุรากิบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ยิ่งทำให้ฉันอยากจะร้องไห้หนักเข้าไปอีก “บอกฉันสิว่าฉันจะทำยังไงเพื่อให้เธอหยุดร้องไห้ได้บ้าง”

ได้โปรดอยู่ข้าง ๆ ฉันเถอะค่ะ

อย่าไป อย่าเลือกคุณชิสึกะ ฉันจะพยายามเป็นภรรยาที่ดีกว่านี้ จะทำทุกอย่างเพื่อเป็นคนรักที่ดีให้ได้ ฉันจะพยายามฝึกขี่ม้า พยายามวิ่งให้เร็ว พยายามเป็นผู้หญิงอย่างที่คุณต้องการ

แต่ฉันกลืนคำเห็นแก่ตัวเหล่านั้น เพราะรู้ดีว่าฉันแทนที่เธอไม่ได้ ฉันไม่มีวันเป็นเหมือนอายูคาวะ ชิสึกะ

“มาดูเฟอร์นิเจอร์กันเถอะค่ะว่าห้องนี้น่าจะต้องมีอะไรเพิ่ม” ฉันยกไอแพดขึ้นมา คาบุรากิมองฉัน มองเหมือนจะมองให้ทะลุเข้าไปในใจของฉันด้วยสายตาที่ทำให้ฉันต้องหลบตาเขา

“อืม เธอว่าน่าจะต้องมีอะไรเพิ่มล่ะ คิโชวอิน”

พวกเราวางหมอนลงกับหัวเตียงเหล็กดัดแล้วนั่งพิงในขณะที่ดูเฟอร์นิเจอร์จากไอแพด ไหล่ซ้อนกันเพราะต้องดูจากหน้าจอเดียวกัน แขนของคาบุรากิโอบไหล่ฉันเอาไว้ มืออีกข้างถือจอฝั่งหนึ่ง หัวของพวกเราเอียงจนติดกัน ส่วนฉันถือหน้าจออีกฝั่ง มือข้างที่ว่างเลื่อนเฟอร์นิเจอร์ดูไปเรื่อย ๆ ขาของพวกเราเกยกันบนที่นอน

192 Nameless Fanboi Posted ID:VodNy.JZj6

ฉันไม่เคยได้ใกล้ชิดคาบุรากิขนาดนี้มาก่อน

บางครั้งเขาก็กระซิบอะไรตลก ๆ ข้างหูของฉัน ทำให้ฉันหัวเราะออกมา ลมหายใจของคาบุรากิร้อนผ่าว กลิ่นเหมือนยาสีฟันรสมินต์กับกาแฟ เวลาที่มันเป่าลงบนแก้มของฉันทำให้ฉันรู้สึกประหลาดในท้อง และหัวใจเต้นผิดจังหวะ ดังนั้นฉันเลยขยับเบียดตัวเข้ากับร่างของเขา เพื่อทำให้ความรู้สึกตลก ๆ เหล่านั้นหายไป

ร่างกายของคาบุรากิอุ่น ตัวของเขามีกลิ่นน้ำหอมของผู้ชายจาง ๆ กลิ่นของมันหวานกว่าน้ำหอมผู้ชายทั่วไป น้ำผึ้ง กุหลาบ และมัสค์ ถ้าคาบุรากิคือขนม ฉันจะกินเขาเข้าไปเพื่อไม่ให้เขาจากฉันไปที่ไหนได้

มือของคาบุรากิวางอยู่บนไหล่ของฉัน มันเป็นเรื่องไม่ดีรึเปล่านะถ้าฉันอยากจะให้เขาสัมผัสที่อื่นด้วย ฉันจำความรู้สึกของมือเขาตอนที่กดลงมาบนร่างกายของฉันได้ สัมผัสจากปลายนิ้วของเขาทำให้ฉันรู้สึกดีจนอยากจะขอให้เขาเลื่อนมือไปสัมผัสทั่วทั้งร่างของฉัน

ฉันพยายามจะเพ่งสมาธิอยู่กับเฟอร์นิเจอร์ แต่มันกลับเป็นเรื่องที่ยากลำบากเพราะคาบุรากิเลื่อนมือลงมาบนแขนของฉัน ในช่องท้องของฉันรู้สึกวูบเหมือนตกจากที่สูง และคงเป็นเพราะเบียดกับคาบุรากิอยู่นาน ร่างกายก็เลยร้อนขึ้นเรื่อย ๆ

จะผิดรึเปล่านะที่ฉันอยากจะใกล้ชิดกับคาบุรากิมากกว่านี้ แม้ว่าอีกไม่กี่วันเขาจะเป็นของคนอื่นแล้ว แต่ในตอนนี้ ฉันอยากจะให้เขาเป็นของฉัน ฉันเกี่ยวขาลึกแล้วแนบร่างลงไปชิดกว่าเดิม เบียดส่วนที่อุณหภูมิพุ่งขึ้นสูงกว่าส่วนอื่นลงบนแนวลำตัวของคาบุรากิ

คาบุรากิพึมพำอะไรซักอย่าง เสียงของเขาเครือต่ำในลำคอฟังแปลกหู ฉันอยากจะแนบริมฝีปากลงบนลำคอของเขา สัมผัสความสั่นสะเทือนของกล่องเสียง เพื่อที่จะได้รู้ว่าเขากำลังพูดอะไร

มือของคาบุรากิที่ลูบขึ้นลงบนแขนของฉันเลื่อนลงมาที่เอว ฉันรู้สึกจั๊กจี๋เล็กน้อยเลยหัวเราะออกมา ฉันขยับตัวหนี ส่วนที่แนบอยู่กับสะโพกของคาบุรากิถูกเสียดสีจนรู้สึกดีขึ้นมา ฉันส่งเสียงอืมม์อย่างพอใจ สงสัยว่าจะแปลกไหมถ้าฉันจะขยับอีกครั้งหนึ่งเพื่อที่จะได้รู้สึกดีแบบนั้นอีกครั้ง

ดูเหมือนว่าคาบุรากิจะพึมพำอะไรซักอย่าง แต่ฉันไม่ได้ฟังเพราะมือของเขาเลื่อนจากเอวลงมาที่สะโพกของฉัน ดันร่างของฉันให้แนบเกยขึ้นมาบนสะโพกของเขา ทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นไปอีก พวกเราควรจะตั้งใจเลือกเฟอร์นิเจอร์กันอย่างจริงจังเพราะเหลือเวลาไม่มากแล้ว แต่ร่างกายของคาบุรากิทำให้ฉันรู้สึกดีจนลืมที่จะเลื่อนภาพซึ่งค้างอยู่บนหน้าจอ

กลิ่นของน้ำหอมชัดเจนขึ้นเมื่อจมูกของฉันฝังอยู่ในซอกคอของคาบุรากิ ฉันสงสัยว่าจะดีจริง ๆ เหรอที่ฉันเข้าใกล้เขาถึงขนาดนี้ พวกเราไม่ได้เป็นอะไรกันซักหน่อย แต่มือของเขาที่เลื่อนลงมาบนสะโพกของฉันเลื่อนต่ำลงเรื่อย ๆ เพราะว่าฉันยกขาขึ้นเกี่ยวขาของเขาเอาไว้ กระโปรงก็เลยรั้งขึ้นจนปิดสะโพกไว้ได้แค่ครึ่งเดียว ฉันรู้ว่าฉันควรจะดึงกระโปรงลงเพราะว่าเราอยู่ในห้องพักที่เป็นเรือนกระจก ถ้ามีใครผ่านไปมาคงเห็นกางเกงชั้นในของฉันอย่างแน่นอน แต่ฉันลืมคิดเพราะมือของคาบุรากิเลื่อนลงมาต่ำเข้าไปอีก เขากดสะโพกของฉันลงกับตัวของเขา และร่างกายของฉันส่วนที่แนบลงบนตักของเขาก็รู้สึกดีแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน

193 Nameless Fanboi Posted ID:VodNy.JZj6

ฉันเกือบจะแกะขาของตัวเองที่เกี่ยวขาของเขาเอาไว้ แล้วอ้อมพาดข้ามขาอีกข้างหนึ่งของเขา ปีนขึ้นไปบนตักของคาบุรากิแล้ว ถ้าหากว่าท่านพี่ไม่โทรเข้าไลน์มาในไอแพด

ร่างของฉันกระเด้งออกมาจากร่างของคาบุรากิลงไปนั่งทับขาเรียบร้อยทันที มือคว้าไอแพดไปกดรับสาย

“ท...ท่านพี่”

ท่านพี่ถามฉันว่าไม่สบายตรงไหนรึเปล่า ฉันบอกว่าฉันสบายดี แต่ไม่ได้บอกไปว่าคงจะดีกว่านี้ถ้าท่านพี่โทรมาเลทไปอีกซักครึ่งชั่วโมง ท่านพี่โทรมาถามฉันเรื่องงานเลี้ยงในวันครบรอบแต่งงานของฉันกับคาบุรากิ ฉันฟังแล้วหัวโล่งทันที

พอวางสายจากท่านพี่ ฉันก็มองไปทางคาบุรากิที่มองมาทางฉัน ตาของเขาเข้มจนฉันไม่กล้าสบตากับเขา เขายังคงน่ามองแม้ว่าเสื้อผ้าจะยุ่งเหยิงเพราะถูกฉันฉวยโอกาสกระทำชำเราไปครึ่งรอบแล้วก็ตามที

ฉันอยากจะขอโทษเขา แต่นึกคำขอโทษของตัวเองไม่ออก ‘ขอโทษนะคะที่ฉวยโอกาสลวนลามท่านคาบุรากิ’ ไม่ ฉันไม่มีทางพูดแบบนั้นเด็ดขาด ‘ฉันจะรับผิดชอบท่านคาบุรากิเองค่ะ’ ถ้าเขาไม่มีคุณชิสึกะ ฉันอาจจะพูดออกไปแบบนั้นจริง ๆ ก็ได้นะ

เพราะว่าพูดอะไรออกไปก็ดูเหมือนเป็นผู้หญิงไม่ได้เรื่อง ดังนั้นฉันเลยบอกกับเขาว่าฉันขอตัวไปเติมแป้งเพราะตอนกลางคืนพวกเรายังต้องกลับไปทำงานต่อ ฉันล้างหน้าในห้องน้ำ ในใจคิดขึ้นมาแว่บหนึ่งว่าไหน ๆ คาบุรากิก็จะไปแล้ว ฉันควรจะฉวยโอกาสลวนลามให้มากกว่านี้เขาก่อนที่จะหมดโอกาสดีรึเปล่า แล้วก็รู้สึกสะเทือนใจที่ตัวเองมีความคิดแบบนั้น

พวกเรากำลังจะประกาศหย่า ฉันควรจะทำตัวสำรวมกว่านี้

ในระหว่างช่วงเวลาก่อนวันหย่า คาบุรากิลางานและหายตัวออกไปจากบ้านในตอนกลางคืนอีกหลายครั้ง แม้ว่าฉันจะไม่ได้วางแผนฉวยโอกาสกับเขา แต่ก็ยังรู้สึกเสียดายที่พวกเราไม่ได้ใช้เวลาร่วมกันก่อนจะจากลา

.....

194 Nameless Fanboi Posted ID:VodNy.JZj6

มาซายะรู้สึกเหมือนคิดอะไรไม่ออก

ตอนนี้เขาควรจะอยู่ในออฟฟิศ แต่เขากลับออกมาเดินลอยชายอยู่ในเมือง

พรุ่งนี้จะเป็นวันครบรอบแต่งงานสามปีของเขากับคิโชวอิน

ตั้งแต่วันที่เธอร้องไห้เพราะว่าคอร์เซ็ตรัดจนกินอะไรไม่ได้ จากตอนนั้น ก็สามปีแล้ว

เขาขึ้นรถประจำทางเพียงเพราะว่าตัวเองไม่รู้จะทำอะไรหรือไปไหนดี เขาควรจะรู้สึกดีใจที่หลุดพ้นจากกรงขังที่ท่านแม่ครอบไว้ให้เขาในฐานะคาบุรากิ หลุดจากการแต่งงานแบบคลุมถุงชนกับผู้หญิงที่เขาไม่ได้รัก หลุดจากการแสดงว่าเขากับคิโชวอินเป็นคู่สามีภรรยาที่สมบูรณ์แบบในที่สาธารณะ

หลุดจากชีวิตที่อยู่ร่วมกันคิโชวอิน ผู้หญิงเขาเห็นตั้งแต่เด็ก เขายังจำได้ว่าเธอเต้นรำกับพี่ชายในปาร์ตี้ฤดูร้อน ดูมีความสุขมากซะจนเขามองเธอแล้วคิดว่า เขาเองก็อยากมีความสุขแบบนั้นมากเช่นกัน
ในตอนแรก เขาคิดว่าคิโชวอินที่เป็นผู้นำของนักเรียนหญิงมาตลอด จะเป็นผู้หญิงในแบบที่เหมือนกับแม่ของเขา สูงศักดิ์ สง่างาม เข้าสังคมเก่ง ไร้ข้อติ เธอเองก็เป็นศูนย์กลางของคนอื่น ๆ เหมือนแม่ของเขา สูงศักดิ์ สง่างาม เข้าสังคมเก่ง ได้สมกับเป็นมาดามน้อยของตระกูลคาบุรากิ แต่เธอห่างไกลจากคำว่าไร้ที่ติ

คิโชวอินไม่มีความยับยั้งชั่งใจตัวเอง เธอมักจะแอบกินขนมจนน้ำหนักขึ้นบ่อยครั้ง เกลียดการออกกำลังกายเป็นที่สุด ห่วยด้านกีฬา เข้ากับสัตว์ไม่ได้ บางครั้งก็ทำอะไรลวก ๆ กว่าที่คิด ตอนที่เผลอก็มักจะพูดอะไรแปลก ๆ ออกมา ฮัมเพลงเวลาคิดว่าตัวเองอยู่คนเดียว ซุ่มซ่าม ขี้ลืมจนเขาสงสัยว่าชื่อเสียงในด้านความเพียบพร้อมของเธออาจจะมีใครซักคนอยู่เบื้องหลัง คอยปลุกปั่นให้เธอมีภาพลักษณ์ที่เหมือนราชินีแทนที่จะเป็นผู้หญิงแบบที่เธอเป็น

แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้รู้สึกว่าข้อด้อยนั่นมีอะไรแย่แม้แต่น้อย เขารู้สึกสนุกตอนที่ได้เคี่ยวเข็ญเธอให้ลดน้ำหนัก มองเธอวิ่งจนหน้าแดงบนลู่วิ่ง ช้อนตามองเขาแล้วส่งเสียงออดอ้อนขอความเห็นใจ เขารู้สึกชอบตอนที่เธอกินอาหารอย่างมีความสุข กินขนมเป็นเพื่อนเขาแล้ววิจารณ์ข้อดีข้อเสียของขนมแต่ละร้าน เธอไม่เก่งทางด้านกีฬาก็ไม่เป็นไร ตอนที่เธอทำอะไรไม่ได้แล้วเขาต้องช่วยนั้นดูน่ารักสมกับเป็นผู้หญิงดี ถึงจะเข้ากับสัตว์ไม่ได้ โดนรังแกอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็เป็นเรื่องตลกที่ทำให้เขามีเรื่องล้อเธอได้เสมอ เธอชอบทำอะไรลวก ๆ ดังนั้นถ้าในสิ่งที่ต้องการระเบียบ เขาก็จะทำให้เธอเอง ถึงจะทำอะไรแปลก ๆ ซุ่มซ่ามขี้ลืมก็ไม่เป็นไร มาซายะเองก็ไม่เหมือนคนอื่น และเขาก็ไม่อยากให้เธอเหมือนคนอื่น ๆ เช่นกัน

เขานึกไปถึงชิสึกะ ชิสึกะเป็นสายลมที่แสนอิสระ เขาชอบฟังตอนเธอหัวเราะ เขาชอบขี่ม้าแข่งกับเธอ คิโชวอินถามเขาว่าเขาชอบเธอรึเปล่า ให้เขาปฏิเสธว่าเขาไม่ชอบเธอ แต่เขาทำไม่ได้

เขาชอบชิสึกะ แต่เขาชอบเธอในสนามแข่งม้า นอกจากนั้นแล้ว เขาคิดไม่ออกว่าเธอจะอยู่ส่วนไหนในชีวิตของเขา

เขาจินตนาการไม่ออกว่าในยามเช้าตอนที่ตื่นมาเจอกันเธอควรจะอยู่ตรงไหน ในตอนที่เขาทำงานเธอจะทำอะไร ในตอนที่เขามีเรื่องกลุ้มเขาจะปรึกษาเธอยังไง ตอนที่เขาจัดงานเลี้ยงเธอจะช่วยอะไร ตอนที่เขาเข้านอนเธอจะอยู่ในส่วนไหนของความรู้สึกวาบหวามที่เขาต้องจัดการ

คิโชวอินเป็นทุกส่วนในชีวิตของเขา เขาจินตนาการชีวิตของตัวเองที่ไม่มีเธอหลังจากนี้ไม่ได้

เสียงโทรศัพท์ของเขาดังขึ้น มาซายะก้มหน้าลงมองจอไอโฟนของเขา และนิ่งไปเมื่อปลายสายคือพี่ชายของคิโชวอิน

.....

195 Nameless Fanboi Posted ID:VodNy.JZj6

“อา เป็นเรื่องที่น่ายินดีจริง ๆ น้า” อิมาริมองภาพคู่บ่าวสาวที่สาบานรักกับบาทหลวงอยู่ริมชายหาด ปากยิ้มไม่หุบเมื่อหันไปเห็นสีหน้าราบเรียบของเพื่อนสนิท

“อือ” ทาคาเทรุส่งเสียงอือในลำคอ ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรทั้งนั้น แม้ว่าน้องสาวของตัวเองจะอยู่ในชุดเจ้าสาวอีกหน

อิมาริมองน้องสาวของเพื่อนที่เขาเห็นเธอตั้งแต่เด็ก เรย์กะจังผู้น่ารักของเขาโตขึ้นอีกแล้ว เขาอยากจะบอกทาคาเทรุว่าไหน ๆ เรย์กะจังก็แต่งงานเป็นรอบที่สองแล้ว ยังไงก็เพลา ๆ ท่าทีหวงก้างลงบ้างเถอะ แต่ก็พูดไม่ออก ยิ่งโต เรย์กะจังก็ยิ่งสวย แม้ว่าจะโตแล้วแต่ก็ยังทำตัวออดอ้อนน่ารัก ผิดกับน้องชายของเขาลิบลับ ถ้าเขามีน้องสาวอย่างเรย์กะจัง ก็คงจะขี้หวงเหมือนกัน

เขาไม่รู้ว่าทาคาเทรุพูดอะไรกับมาซายะคุง แต่ว่างานประกาศหย่ากลับกลายเป็นอีเวนท์ในการขอแต่งงานรอบที่สอง อีกยี่สิบสี่ชั่วโมงต่อมาสองคนนั้นก็ร่อนการ์ดแต่งงานเชิญคนสนิท งานแต่งงานบนชายหาดของเกาะส่วนตัวบ้านคาบุรากิทำเอาคนอื่นอดรำพึงรำพันไม่ได้ว่า ‘คู่นี้จะหวานแหววกันออกหน้าออกตาเกินไปแล้ว’ แต่ไม่ว่ายังไง ขอแค่เรย์กะจังมีความสุขก็พอแล้ว

“งั้นไอ้ที่หา ๆ มาก็คงไม่ได้ใช้แล้วสินะ เหนื่อยเปล่าจริง ๆ” อิมาริกระซิบกับเพื่อนสนิทของเขา

ถึงแม้ว่าเจ้าหนูมาซายะจะซื่อบื้อจนเขาอยากจะตบหัวอยู่หลายครั้ง โดยเฉพาะกรณีที่อีกฝ่ายยืนยันว่าตัวเองไม่ได้ชอบเรย์กะจัง เพราะว่าดันคิดเกินเลยกับเธอไปในทางที่ไม่เหมาะสม อิมาริไม่รู้ว่าใครเอาความคิดที่ว่ารักแท้คือความรู้สึกสะอาดบริสุทธิ์ ไร้ราคะหรือความต้องการทางเพศใส่หัวของมาซายะ แล้วความคิด 750 ชั่วโมงของการเรียนรู้ภาคทฤษฎีก่อนเปิดซิงนั่นมันปีศาจชัด ๆ

เห็นได้ชัดว่ามาซายะคุงหลงเรย์กะจังหัวปักหัวปำขนาดไหน เขารู้สึกว่าเรื่องราวของทายาทคาบุรากิน่าจะเป็นหนึ่งในเรื่องมหัศจรรย์ที่ควรเล่าขานต่อ เพราะเขาคิดไม่ออกเลยว่าอีกฝ่ายทนได้ยังไงที่ต้องอยู่กับผู้หญิงที่ตัวเองชอบโดยไม่ได้ทำอะไรเลยแม้แต่น้อย

“อา เก็บเอาไว้ก่อนน่ะ ใครจะรู้ว่าหมอนั่นจะทำให้เรย์กะร้องไห้เมื่อไหร่”

อิมาริยิ้มแห้ง ๆ “นายนี่มัน...ต้องขนาดนั้นเลยเหรอ?”

เขานึกถึงข้อมูลความลับทางธุรกิจของคาบุรากิ ไม่ว่าบริษัทไหน ๆ ก็ต้องมีมุมดำมืดที่ไม่สามารถเปิดเผยแก่สาธารณะชนอยู่แล้ว ตั้งแต่เรย์กะจังแต่งงาน พี่ชายของเธอก็ขุดหาหลักฐานของด้านสีเทาของคาบุรากิออกมาสะสมไว้ ถ้ามันเผยแพร่ออกไปสู่สายตาสื่อมวลชน หุ้นของคาบุรากิก็คงดิ่งลงเหว

ยังดีที่เจ้าหนูมาซายะรักเรย์กะจังจริง ๆ เพราะคนที่ทำให้เรย์กะจังร้องไห้... เขามองไปทางทายาทตระกูลเอ็นโจที่มากับภรรยาของตัวเอง ก่อนจะถอนหายใจ ช่วงฮันนีมูนชูสุเกะคุงแทบไม่ได้นอนเลยด้วยซ้ำ ไม่ใช่เพราะมัวหวานชื่นอยู่กับสาวสวย แต่เพราะจู่ ๆ บุคคลากรตัวท๊อปของโรงพยาบาลก็ถูกดึงตัวไปครึ่งหนึ่ง เป็นวิกฤตที่ต้องเจรจาเสนอค่าตัวให้กลับมา หรือหาคนมาแทนในตำแหน่งนั้นอยู่นานหลายเดือน แม้ว่าจะไม่กระทบต่อธุรกิจนัก แต่ก็ทำให้กำไรลดลงเพราะค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งชูสุเกะยังต้องเครียดเพราะแก้ไขปัญหาให้ได้ก่อนที่หุ้นจะร่วงจนกลายเป็นช่วงเวลาดำมืดในประวัติศาสตร์การทำงานอันไร้ที่ติของเจ้าตัว

และคนที่ก่อเรื่องวุ่นวายให้กับทายาทตระกูลเอ็นโจก็ไม่ใช่คนอื่นไกล นอกจากคนที่นั่งข้าง ๆ เขา

อิมาริมองคู่รักที่จับมือพากันมาเต้นรำบนหาดเพื่อเปิดฟลอร์ ก่อนจะอวยพรให้ทั้งคู่รักกันนาน ๆ ไม่อย่างนั้นมาซายะคุงคงต้องเจอบอสตัวใหญ่อย่างทาคาเทรุแน่ ๆ

จบซีรีย์ A-Z

196 Nameless Fanboi Posted ID:VodNy.JZj6

ขอบคุณพวกมึงมากนะคะโม่ง ที่โยน prompt และติดตามอ่าน 7 วันมานี้กูสนุกมาก ไม่เคยเขียนฟิคหรือนิยายอะไรเร็วเท่านี้มาก่อน เขียนอะไรวืดไป พลาดไป ขออภัยด้วย

รักนะ

โม่งฟิค

197 Nameless Fanboi Posted ID:DJ3ygTBI/P

ขอบคุณโม่งฟิกมาก กรุแม่งมีความสุขเหมือนปลากระดี่ได้น้ำหลังจากแห้งเหี่ยวมาเนิ่นนาน ฮือ รักมึงนะ กราบในความสามารถของมึงด้วย ทำได้ยังไงแต่งรัวๆจนผวา แต่ก็ชอบค่ะ ขออีก แต่ง ก-ฮ ต่อไหม//โดนโม่งฟิกโบก

198 Nameless Fanboi Posted ID:jLqH8sezGg

>>196 กูรักมึงเช่นกันโม่งฟิค ปลื้มมาก ในที่สุดก็ลงเอยกัน แต่แอบเสียดายไม่มีฉากคาบุรากิขอเรย์กะแต่งงาน กูอยากอ่านโฮกๆๆ

199 Nameless Fanboi Posted ID:Vvh8i8ixk7

>>196 กูก็ขอบคุณมึงมากที่แต่งรัวๆให้เสพย์ กูปลื้มมม มึงจบได้ละมุนมากกกกก น้ำตากูจะไหล แต่กูแอบอยากเห็นว่าตกลงกันยังไงถึงแต่งงานอีกรอบจริง มีสเปเชี่ยลมั้ย 555555

200 Nameless Fanboi Posted ID:jLqH8sezGg

>>196 กูอยากให้มึงรวมเล่มฟิคซีรีย์ A-Z มากๆ เลยวะ กูอยากเก็บ ///w/// ) ถ้ามึงมีแพลนอย่าลืมบอกกูนะ

201 Nameless Fanboi Posted ID:DCQ6+/S8hi

>>198-199 เรื่องนี้สุดแค่นี้ละ เดี๋ยวกูไปปั่นนิยายกูก่อนค่ะซิส เส้นตายกู 1 ตค. ยังมิได้แก้คำผิดเลย เดี๋ยวกูมีเวลาหายใจจากงานราษฎร์งานหลวงจะมาเปิด kinkmeme ปั่นฟิคอีกรอบไม่ให้บอร์ดเหงา ถึงตอนนั้นอยากอ่าน รีเควสทัน กูเขียนแน่นอน

202 Nameless Fanboi Posted ID:DCQ6+/S8hi

>>200 อ่านฟรีเหอะมึง คือกูไม่มีเวลา ใครมีเวลาก็รวมเล่มทำ e-book ฟรีไปเลยค่ะ กูไม่หวังตังค่ะ ขอแค่บอร์ดไม่ร้างก่อนตอน 300 มาพอ

203 Nameless Fanboi Posted ID:htiElw3sLr

แง น่ารักกกกกก กูชอบจัง อ่านแล้วรู้สึกละมุนมีความสุข ขอบคุณนะที่เขียนฟิคให้อ่าน มึงปั่นเร็วมากเลยกูยอมใจ

จะมีตอนพิเศษของอิมาริกับท่านพี่มั้ย กูก็อยากเห็นอิมาริคุกเข่าขอท่านพี่แต่งงานอีกเหมือนกัน//แค่กๆๆๆๆ

204 Nameless Fanboi Posted ID:DCQ6+/S8hi

>>203 ไปรอรอบ kinkmeme ละกันนะมึง เดี๋ยวว่างละมาเปิด

205 Nameless Fanboi Posted ID:NmAui.+cJg

ฟงกสกสงฟวสกหวงหว ขอบคุณณณณณ

206 Nameless Fanboi Posted ID:FuoeBo4Ssl

กูกำลังลุ้นเลยว่าหลังจากท่านพี่โทร คาบุรากิที่ตาเป็นสีเข้มแล้วจะพุ่งเข้ามาอีก แล้วมีฉาก... แค่กๆ อกุศลยิ่งนัก ตบปากตัวเองสามที

207 Nameless Fanboi Posted ID:meuAArkbds

ขอบคุณโม่งฟิคมากก 7วันนี้ กุฟินมาก เมิงเป็นผู้ผลิตกาวชั้นดี คือแต่งดีมาก หัวไว ใครโยนไรมาก็แต่งต่อได้ แถมพิมพ์ไว ไม่ให้พวกุรอจนลงแดงอีก และยังคงเส้นเรื่องกับคาแรคเตอร์ของแต่ละคนไว้ไม่ออกทะเล กุนับถือเมิงจริงๆเน้อ แต้งกิ้วๆ

208 Nameless Fanboi Posted ID:UX/.dmPxs6

ก่อนอื่นก็ ขอบคุณมากค่ะโม่ง

ส่วนตอนจบนั้น เอ่อ ท่านพี่คะ ไม่ทราบว่าท่านติดที่ดักฟังขนาดเท่าฝุ่นไว้ที่ตัวน้องสาวหรือคะ ช่างโทรมาขัดจังหวะได้พอดีแท้

สงสัยจังว่าท่านพี่คุยอะไรกับคาบุ ถึงได้ happy ending ได้

209 Nameless Fanboi Posted ID:meuAArkbds

จริงๆ อยากอ่านช่วงที่สองคนนี้ปรับความเข้าใจกันต่ออีกสักนิด แต่ก็ขอบคุณโม่งฟิคมากที่สละเวลามาปั่นกาวให้พวกกู

210 Nameless Fanboi Posted ID:K9pzOfuzMZ

กราบโม่งฟิก กรูรอ kinkmeme นะจ้ะ จุ๊บจุ๊บ
ว่าแต่ kinkmeme ลงบอร์ดได้ป่าววะ

211 Nameless Fanboi Posted ID:UX/.dmPxs6

kinkmeme คืออะไร นิยายใหม่เหรอ

212 Nameless Fanboi Posted ID:71TlzeXdOd

เป็นตอนจบที่ดีจริงๆรักท่านพี่จัง😊😊

213 Nameless Fanboi Posted ID:q+jnmD.QlQ

กราบขอบคุณโม่งฟิคมากค่ะ มึงช่วยทำให้วันๆ ของกูกลับมามีความฝันและความหวัง มีกำลังใจในการรอต่อไปอีกครั้ง ฮือ...

214 Nameless Fanboi Posted ID:FuoeBo4Ssl

แต่ที่จริงแล้วในเรื่องก็ไม่เห็นมีบอกนะว่าชิสึกะชอบคาบุแล้ว ทั่นเรย์กะบอกจะอย่าๆ เกิดอย่าไปชิสึกะไม่เอาคาบุ คาบุนี้นกอีกตลบเลยนะ
จากที่กูอ่านกูนึก ชิสึกะให้อารมณ์เป็นเด็กมัธยมกับคาบุเรย์กะคุณสามีภรรยารูปงาม แนวหลานเจอคุณอาคุณน้าใจดียังไงยังงั้นเลย

215 Nameless Fanboi Posted ID:wKh.t4.usQ

>>210

ก็อย่ารีเควส kinkmeme หื่นมากสิคะซิส

>>211

คือการรีเควสฟิคอย่างหนึ่ง (สำหรับกูนะ คนอื่นไม่รู้) โดยการรีเควสว่า อยากอ่านอะไร เช่น รีเควสฟิคตัวละครเจ้าแม่ใน setting Harry Potter ปกติเล่นกันในบอร์ดรีเควสทิ้งไว้ ให้โม่งคนอื่นมาเขียนให้

216 Nameless Fanboi Posted ID:Vvh8i8ixk7

>>201 จุ๊บๆมึง สู้ๆกับนิยายมึงนะ พักผ่อนเยอะๆด้วย กูจะรอวันที่มึงเปิดรีเควสล่ะ

217 Nameless Fanboi Posted ID:tbZY9BO6r+

>>188 พวกมึง..... คือกูก็สอบพรุ่งนี้ว่ะ โลกนี้น่ากลัวเกินไปแล้วอิผี! ;-;

218 Nameless Fanboi Posted ID:k5bh4bJ71v

>>217 มันจะพีคมากถ้าพวกเราเสือกอยู่ม.เดียวกัน

219 Nameless Fanboi Posted ID:G2DIk.82o8

ขอบคุณสำหรับฟิคค่ะ มึงเขียนได้ดีและเขียนได้ไว ลงรัวๆมากจนกูละอายใจกับไหดองของกูเลยข่ะ 555555555

220 Nameless Fanboi Posted ID:Hgn.OMu+B.

กุอยู่คนละ มอ แน่ กูยังไม่มีสอบ แต่ใกล้ละ อห เหม่อมองกองชีท

221 Nameless Fanboi Posted ID:4PF0sGHBYA

โม่งฟิคคคคคคคคค ขอบคุณมาก สนุกมากๆเลยซีรีส์A-Zคือที่สุดแล้วค่า สำนวนก้อดี๊ๆ แง อยากให้มีโม่งฟิคท่านอื่นๆมาแต่งตอนที่ท่านพี่โทรมา กับการปรับความเข้าใจของทั้งคู่จัง คงจะโดขิโดขิเว่อๆ //บิดตัวสูดกาวต่อไปยยยย

222 Nameless Fanboi Posted ID:FbUbu7Eo5.

กูอาจจะมอเดียวกันกับโม่งหลายๆคนแถวนี้ สอบอาทิตย์นี้เหมือนกันเลย 555555

223 Nameless Fanboi Posted ID:PVvbAJiO4W

เป็นกำลังใจให้โม่งสอบทุกคนนะ

224 Nameless Fanboi Posted ID:kT0AWXMhQn

>>215 ขอบคุณมากค่ะ
ขอถามอีกที ชื่อตอน Zero to Hundred หมายถึงความรักที่เริ่มจากศูนย์ไปถึงร้อยหรือเปล่า เห็นคำแปลแล้วก็นึกถึงเพลง ๆ นึงขึ้นมาน่ะ

225 Nameless Fanboi Posted ID:wKh.t4.usQ

>>224 ใช่เลย คู่นี้เริ่มจากแต่งงานที่ความรักที่ = 0 แต่จบด้วยการแต่งงานที่ความรัก = 100

226 Nameless Fanboi Posted ID:EP8Xn529vj

โม่งฟิคคคคคคค เขียนจากมุมมองคุณชายบ้านเอ็นโจบ้างได้ไหมมมมมม

227 Nameless Fanboi Posted ID:wKh.t4.usQ

>>226 อห. เควสนี้กูรับเลยค่ะ แต่ขอกูเคลียร์งานแพรพนะ เดี๋ยวจัด

228 Nameless Fanboi Posted ID:BvuMxQbpdH

>>227 อร๊าย ดีใจ รักโม่งฟิค จุบุจุบุ

229 Nameless Fanboi Posted ID:xbVRhJ5qeQ

>>227 กรี๊ดดดด รออ่านค่าาา

230 Nameless Fanboi Posted ID:FbUbu7Eo5.

>>227 งุ้ยยย ขอบคุณค่ะโม่งฟิค <333

231 Nameless Fanboi Posted ID:c35SSYtTV/

>>227 แบบไหนล่ะ ภาคต่อจากฟิค a-z หรือเขียนฟิคใหม่เลย

232 Nameless Fanboi Posted ID:KewGNz.chJ

ภาคต่อ!!>>231

233 Nameless Fanboi Posted ID:wKh.t4.usQ

เป็นมุมมองในเรื่อง A-Z นะคะซิส แต่ต้องรอหน่อย น่าจะไม่เกินสองสามวัน ขอกูทำงานบ้าง ปั่นฟิคมา 7 วันละ

234 Nameless Fanboi Posted ID:Vvh8i8ixk7

>>233 มึงโหดมาก กุรักมึงจุง <3 <3 <3 แต่ปั่นงานให้เสร็จค่อยปั่นฟิคก็ได้นะ รอได้

235 Nameless Fanboi Posted ID:wKh.t4.usQ

>>234 ได้ มาจัดแน่ค่ะ

236 Nameless Fanboi Posted ID:C670.ZMWa4

>>233 มึงเก่งมาก สู้ๆนะ จุ๊บๆ กูรอได้

237 Nameless Fanboi Posted ID:.Q2erSMGyO

>>222 มึงรีบอ่านเถอะ กูไฟไหม้แล้ว one night miracle แบบเจ้าแม่ใช้ไม่ได้ผลกับวิชาต้องจำ!!!

238 Nameless Fanboi Posted ID:meuAArkbds

>>233 กุจะรออ่านมุมมองเอ็นโจ ตอนได้ sex text จากคาบุนะ 5555

239 Nameless Fanboi Posted ID:gLNvQV5axm

>>238 ตอนได้ sex chat แล้วหายไปนานใจกูมันก็คิดอกุศลไปว่าฮีจะแอบไปทำมิดีมิร้ายตัวเองอยู่ป่ะวะ//ปิดตาขวยเขิน

แต่พูดก็พูด เห็นคาบุหื่นในฟิคแบบนี้ทำเอากูนึกถึงเรื่องหลักเลยว่ะว่าอีเอ็นโจจะหื่นบ้างมั้ย แต่กูพนันเลยว่าฮีคิดชัวร์ๆ มองทั้งคอ ทั้งชุด แถมโอบประคองถึงเนื้อถึงตัวอีก ถ้าบอกว่าไม่คิดอะไรหื่นๆกูไม่เชื่อเด็ดขาดข่ะ ถถถถถถ

240 Nameless Fanboi Posted ID:1o.a5Xmlzn

กรุเพิ่งเห็นว่าสารบัญจอมมารปลิวไปแล้ว omg

241 Nameless Fanboi Posted ID:gLNvQV5axm

>>240 จอมมารงอนป่ะวะ นอกจากจะให้ผมอกหักรักคุดในฟิคแล้วยังจะต้องให้ผมเห็นเป้ามาซายะและฟังมาซายะบอกว่ากำลังจะถึงจุดสุดยอดอีก เฟดตัวเองหนีแม่มเลย 555555555555555555555

242 Nameless Fanboi Posted ID:i4BdFxSu08

กูรอคนง้อจอมมาร แต่งฟิคเรือนางถวายนะ 555

243 Nameless Fanboi Posted ID:f7tfdd7ELB

>>240 ยังอยู่นะมึง หรือมีคนยัดคืนแล้ว?

244 Nameless Fanboi Posted ID:1o.a5Xmlzn

>>243 โอเค กูคงเพิ่งเห็น เมื่อกี้งมนานมาก แต๊งที่ช่วยกูหาอีกที

245 Nameless Fanboi Posted ID:D5H/ZGzcmU

>>239 คิดชัวร์ แต่แปลกใจกับเจ้าแม่มากกว่า ที่ไม่รู้สึกอะไรเลยกับหนุ่มหล่อสองคนในห้องออกกำลังกาย

246 Nameless Fanboi Posted ID:gLNvQV5axm

>>245 กูว่าถ้าเจ้าแม่คิด นางน่าจะจิ้นวายแทนที่ตัวเองจะโดขิๆว่ะ 5555555555555

247 Nameless Fanboi Posted ID:NbVfzJibEb

>>245 นางเห็นหุ่นสองหนุ่มนั่นแล้วก็คิดนอยพุงยุ้ยๆของตัวเองน่ะสิ อาจจะมีเอฟเฟคเกลียดกล้ามเนื้อ ตัดใจซบคานซังอย่างเป็นทางการ

248 Nameless Fanboi Posted ID:KIKg1qg9Eu

จริงๆเจ้าแม่ก็ชิปเอ็นโจคาบุไม่ใช่ *แค่ก*

249 Nameless Fanboi Posted ID:+RZgcIPl55

>>248 อ่านละนึกถึงฟิคสาววายซุยรัน เจ้าแม่จะมีทะเลาะกับวาคาบะเรื่องรีบะคู่ชิพบ้างมั้ย แบบเจ้าแม่ชิพคาบุเอ็นโจ แต่วาคาบะชิพเอ็นโจคาบุไรเงี้ย การรีบะคู่ชิพมันละเอียดอ่อนห้ามเอามาคุยกันเด็ดขาด เดี๋ยวมีตีกัน 55555555555555555

250 Nameless Fanboi Posted ID:KIKg1qg9Eu

เจ้าแม่: รับไมาได้เด็ดขาดค่ะ! รีบะไม่ได้เด็ดขาด! ต้องเป็นบุโจสิคะ
วาคาบะ: แต่เคะแข็งกร้าว เมะอ่อนโยนภายนอกแต่มีมุมโหดร้ายเนี่ย ดีต่อใจที่สุดเลยนะคะ ยังไงคู่โจบุก็ดีกว่าเห็นๆ
เจ้าแม่: ข้างนอกอ่อนโยน ข้างในแข็งกร้าวนี่ล่ะค่ะ เคะเข้มแข็งที่จะไม่ถูกรังแกไงคะ
วาคาบะ : แหม คุณคิโชวอินเนี่ย รสนิยมแปลกจริงๆ
เจ้าแม่: แปลกตรงไหนกันคะ? วาคาบะจังจะเกินไปแล้วนะ!!! มิตรภาพของเราคงถึงจุดวิ้นสุดแล้วสินะคะ!!!

นายตัวสำรอง: เฮ้ๆ พวกเธอเถียงกันเรื่องอะไรน่ะ ถึงขั้นต้องเลิกคบเลยเรอะ
วาคาบะ: เงียบน่ามิซึซากิคุง นายมันเคะหัวทื่อ จะไปรู้เรื่องอะไรกัน
เจ้าแม่: เอ๊ะ คู่นี้คิดเหมือนกันเลยนะคะ รุ่นพี่มิซึสินะคะ
วาคาบะ: อ๋า ใช่แล้วล่ะ แสดงว่าจริงๆแล้วเราก็ยังเป็นเพื่อนกันได้สินะ!
เจ้าแม่ : นั่นสินะคะ!!!

นายตัวสำรอง: .............

251 Nameless Fanboi Posted ID:IKPG71RM6L

>>250 โว้ย ยัยพวกนี้ 555555555555555

252 Nameless Fanboi Posted ID:BN/6AnC6ek

>>250 ชอบตรงที่เหมือนจะแตกหัก แต่หาทางลง(ไปทางมิสึซากิ)ได้อย่างสวยงาม 555555

253 Nameless Fanboi Posted ID:+dJDUueBWU

>>250 อืม ความจิ้นชิปนี่มาจากความชอบส่วนตัว แต่เรื่องมิสึซากิคือของแน่นอนสินะ 555

254 Nameless Fanboi Posted ID:BWIZXyo8aA

>>250 เป็นมิตรภาพของสาววายที่น่าประทับใจมากข่ะ 55555555555555555

255 Nameless Fanboi Posted ID:8owqnzEGwF

ฟิค A-Z กูอยากรู้ตอนพวกนางมีลูกจัง555555
เรามีแต่auลูกท่านเรย์กะกับเอ็นโจ อยากอ่านลูกท่านเรย์กะกับคาบุรากิบ้างง

256 Nameless Fanboi Posted ID:AlUGV4jRmJ

>>250 *กระซิบเบาๆ* ลองเปิดโลกสามพีสิคะ วนคู่ยังไงก็ได้—

257 Nameless Fanboi Posted ID:/MeSbDZqa2

>>255 เป็นไปได้สองอย่าง ไม่บ้าตามพ่อแม่ก็เหนื่อยใจกับพ่อแม่

258 Nameless Fanboi Posted ID:W39OW3kWY9

>>257 กูว่าสมัยเด็กๆ คือบ้าจี้ตามพ่อแม่หมด ส่วนลูกเอ็นโจยุยโกะเป็นฝ่ายรั้งๆ เพื่อนไว้ 5555

259 Nameless Fanboi Posted ID:xeo2Wu+HOo

>>257 ทำไมกูนึกถึงลูกๆของอุซุยในเมดซามะภาคพิเศษ

260 Nameless Fanboi Posted ID:Dhr+RtWJZH

>>255 ทำไมกูคิดว่าลูกต้องเซ็งหนีไปอยู่กับท่านลุงทาคาแหงๆ

261 Nameless Fanboi Posted ID:W39OW3kWY9

>>260 ขอเป็นลูกสาวด้วยนะคะะะะะะะ โอจี้ซามะสุดหล่อกับสาวน้อยน่ารักผมม้วนนี่มันเกินห้ามใจจริงๆ ค่า~

262 Nameless Fanboi Posted ID:HvucyXTxae

>>261 แล้วทานุกอก็จะเอาขนมมาประเคณ

263 Nameless Fanboi Posted ID:Y0j249EaG4

>>261 คุณพ่ออาจจะทำตัวเป็นหมาหวงก้างเหมือนท่านพี่... ผู้ชายคนไหนที่เข้าใกล้ลูกสาว พ่อจะไล่กระทืบ---

264 Nameless Fanboi Posted ID:W39OW3kWY9

>>263 ผู้ชายที่ลูกสาวพามาบ้านต้องผ่านการประลองขี่ม้าส่งเมืองกับพ่อ เพื่อทดสอบว่าเป็นผู้ชายที่เข้มแข็งจริงใจ ปกป้องลูกสาวที่รักเหมือนแก้วตาได้หรือไม่

265 Nameless Fanboi Posted ID:QVCrVgBRXL

แล้วถ้าเป็นลูกชายล่ะ...
บากะรากิมินิ?

266 Nameless Fanboi Posted ID:+dJDUueBWU

>>264 จะว่าไป พ่อคาบุกับมาดามคาบุดูเลิศเลอมากไหงคาบุออกมาสุดโต่งขนาดนี้หว่า

267 Nameless Fanboi Posted ID:+pkZImYcRq

>>266 อาจจะต๊องหลบในไงมึง แบบผ่านฟลิตเตอร์แฟนเกิร์ลของเจ้าแม่ เหมือนโม่งซุยรันมองเจ้าแม่ผ่านฟลิตเตอร์อะ

268 Nameless Fanboi Posted ID:x.G9I3jY/.

>>267 กูเพิ่งนึกได้ว่า พ่อคาบุสะสมหนังสือปกมนุษย์ ส่วนมาดามคาบุ น่าจะ ชอบเป็นแม่สื่อ? คลั่งความสมบูรณ์แบบ?

269 Nameless Fanboi Posted ID:64dEkbBG19

ถ้าลูกออกมาเป็นผู้ชายนี่ ถ้าไม่ใช่คาบุรากิมินิ ก็ต้องเป็นเพื่อนสาวในหมู่คณะ ถ้าออกมาสมบูรณ์ปกติก็คงปวดหัวกับท่านพ่อท่านแม่ไม่เว้นแต่ละวัน บรื๋ออออ.

270 Nameless Fanboi Posted ID:O+kqC7Aq2A

>>268 คอสไดเอ็ตอดอาหาร มาดามคาบุเป็นคนคิด คลั่งผอม???

271 Nameless Fanboi Posted ID:BWIZXyo8aA

>>270 ไม่หรอก กูว่ามาดามนางจับจุดผู้หญิงได้ถูกมากกว่า ถึงได้มีคอร์สอะไรพวกนี้อยู่เรื่อย อย่างคอร์สอดอาหารก็แบบว่า ผู้หญิงบางคนก็อยากผอมแต่ไม่อยากออกกำลังกาย จ่ายแพงได้แค่ไหนก็จ่ายขอแค่ไม่ต้องเหนื่อย มาดามคงเล็งเห็นตรงนี้เลยเอามาทำกำไรซะเลย แถมลูกค้าเป็นพวกไฮโซก็น่าจะได้ไปหลายตังอยู่

272 Nameless Fanboi Posted ID:BN/6AnC6ek

>>271ในขณะที่ลูกชายพานับแคลแล้วให้ออกกำลังกายรัวๆ

273 Nameless Fanboi Posted ID:Y496.dqFr2

นอกเรื่อง ชาวโม่งที่มีสอบวันนี้ เป็นไงบ้าง ทำข้อสอบได้มั้ย

274 Nameless Fanboi Posted ID:QVCrVgBRXL

>>273 พอไหว....

275 Nameless Fanboi Posted ID:2YUlK30DoH

ซิสคะ กูจะเริ่มทยอยลง A-Z part Enjou เรื่อย ๆ นะคะ ไม่รู้มีกี่ตอน ยังเขียนไม่จบ แต่คุยแทรกได้ ไม่ได้ลงรัวเร็วขนาดนั้น

โม่งฟิค

276 Nameless Fanboi Posted ID:2YUlK30DoH

A-Z fic (Enjou’s POV)

1.

‘นายรู้ไหมว่าลายนิ้วมือของโคอาล่าไม่สามารถแยกได้จากลายนิ้วมือของคน ซึ่งบางครั้งอาจจะทำให้สับสนได้ในพื้นที่เกิดเหตุ’

ข้อความของมาซายะเด้งขึ้นมาในไลน์ของเขาตอนเที่ยงคืนสิบสี่นาทีในวันแต่งงานของทายาทตระกูลคาบุรากิและตระกูลคิโชวอิน

‘ขอบคุณมากสำหรับข้อมูล เผื่อว่าตอนฉันก่ออาชญากรรมแล้วอยากทำให้ตำรวจสับสน จะได้ลองใช้ดู’ ชูสุเกะพิมพ์ตอบกลับ ก่อนจะพิมพ์เข้าไปอีก ‘นายยังไม่นอน?’

ปกติแล้วมาซายะเป็นเด็กอนามัย เข้านอนก่อนห้าทุ่ม แต่วันนี้เป็นวันแต่งงานของอีกฝ่าย ตารางเวลาจะเปลี่ยนไปบ้างก็ไม่แปลก เขาพยายามบอกตัวเองให้สะกดความรู้สึกเอาไว้ คืนนี้เป็นคืนแรกของการแต่งงาน เขาไม่คิดว่าคนอย่างมาซายะจะทำอะไรคุณคิโชวอิน

‘ยังนอนไม่ได้ เพิ่งกินเค้กไป 4 ก้อน’ อีกฝ่ายพิมพ์ตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว ‘ฉันเองก็ลืมบอกคิโชวอินว่าถ้ากินของแคลอรี่สูง ๆ ขนาดนั้นแล้วเข้านอนเลยการย่อยจะไม่ดี แต่ยัยนั่นคงหลับไปแล้วมั๊ง’

อ่านข้อความของมาซายะ เขาก็โล่งใจเมื่อเดาได้ว่าทั้งสองคนไม่ได้อยู่ในห้องเดียวกัน ‘นายนอนบนโซฟา?’

‘ฉันไม่นอนเตียงเดียวกับคนอื่น นายก็รู้’ มาซายะพิมพ์ตอบกลับมา ตั้งแต่เด็กแล้วมาซายะที่เป็นคนระเบียบจัดจะไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับคนอื่น คิดแบบนั้นแล้วเขาก็ยิ้มออกมาได้ ดูท่าว่าเขาจะไม่ต้องกังวลเรื่องของสองคนนี้ไปอีกพักใหญ่ ‘แล้วยีราฟก็ไม่มีเส้นเสียง’ มาซายะพิมพ์มาต่อ

เขาคุยกับมาซายะจนอีกฝ่ายง่วง ก่อนจะวางโทรศัพท์ลงบนหัวเตียง หลับตาลงแล้วคิดภาพของคุณคิโชวอินในชุดแต่งงานสีขาวสะอาด ใบหน้าที่แต่งแต้มเครื่องสำอางหวานละมุน เส้นผมนุ่มนิ่มถูกม้วนกลัดขึ้นด้วยเทียร่า เผยให้เห็นลำคอระหงที่สวมใส่สร้อยเพชรชุดใหญ่

ถ้าเขาเป็นมาซายะ เขาจะปลดสร้อยเพชรนั่นออกแล้วจูบหลังคอขาวโพลนของเธอ ถ้าเขาเป็นมาซายะ เขาจะปลดเทียร่าแล้วมองดูเส้นผมสีดำเงางามร่วงลงมาบนไหล่ลาดเนียน สูดดมกลิ่นหอมและแทรกนิ้วมือเข้าไปในกลุ่มผมนุ่มสลวยของเธอ ถ้าเขาเป็นมาซายะ เขาจะกระซิบคำหวานกับเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า บอกว่าในค่ำคืนนี้เธองดงามเพียงใด และเขาโชคดีเพียงใด

แต่เขาเป็นเอ็นโจ ชูสุเกะ ดังนั้นในคืนนี้เขาได้แต่หลับตาลงบนเตียง ทำเป็นไม่รับรู้ถึงร่างบอบบางของภรรยาที่นอนอยู่ด้านข้าง แล้วหลอกตัวเองซ้ำ ๆ ว่าผู้หญิงในชุดเจ้าสาวของค่ำคืนนี้ยังคงเป็นของเขา แม้จะรู้ดีว่าความจริงเป็นเช่นไรก็ตาม

.....

277 Nameless Fanboi Posted ID:.xcXi225r1

โห ไวมากค่ะโม่ง ไหนว่าขอสัก 3-4 วันไง

278 Nameless Fanboi Posted ID:LNwWTJ5uBc

>>276 เรื่องมันเศร้าว๊อยยยย ฮรือออ เอ็นโจวววว //ซับน้ำตา

279 Nameless Fanboi Posted ID:03cRrQp.K9

>>277 เอ็นโจมายืนส่งรอยยิ้มดำมืดในหัว เลยปั่นฟิคถีบส่งออกมา จะได้ทำงานทำการแบบไม่หลอนมากค่ะ

280 Nameless Fanboi Posted ID:CNY/jfCKSm

>>276 ขอบคุณมากจ้า

281 Nameless Fanboi Posted ID:2DxTpuDpsp

ดีใจจจจจ ได้อ่านต่อเลี้ยวววว
//ซื้ดดดดกาว

282 Nameless Fanboi Posted ID:oozrzhf8Vz

>>276 โถ ฟิคนี้ก็เอาน้ำใบบัวบกไปซดซะนะพ่อหนุ่ม เขาแต่งงานไปแล้วนายจะไป ntr เมียเพื่อนม่ายด้ายยยยย

283 Nameless Fanboi Posted ID:SfmR6VGwJ5

อ่านปุป รู้สึกว่าจอมมารกระชากหัวกลับเรือ เศร้าสัด

284 Nameless Fanboi Posted ID:Cs27uog8YT

>>276 ไวเกินไปแล้วค่ะ ส่วนจอมมารจะขอเรือคืนไม่ได้นะ แต่งงานก่อนเขาแท้ๆ อย่ามาสำออยทำเศร้านะ กูย้ายเรือแล้ววววว /กำไม้พายแน่น

285 Nameless Fanboi Posted ID:jSsjS2q+yJ

2.

“ชู ชุดนี้เป็นยังไงบ้าง?”

ยุยโกะปรากฏตัวออกจากตู้เสื้อผ้าแบบวอร์คอินในกระโปรงสีขาว ดูงดงามบอบบางราวกับจะหายไปเมื่อละสายตา

“อืมม์ สวยดี” เขาตอบ

เธอเป็นคนสวย เขาเองก็ไม่ใช่คนตาบอด แต่ความสวยที่ทำให้ผู้ชายรุมล้อมบูชาเธอนั้นไม่ส่งผลกระทบอะไรกับเขาแม้แต่น้อย เพราะเธอไม่ใช่คุณคิโชวอิน

สีหน้าของยุยโกะมีเพียงรอยยิ้มที่เยือกเย็นเท่านั้น ก่อนจะกลับเข้าไปแต่งหน้าในตู้เสื้อผ้าอีกครั้ง

เขาสงสัยว่าวันนี้คุณคิโชวอินจะแต่งชุดยังไง บางทีเธออาจจะแต่งชุดกระโปรงสีชมพูอ่อนอย่างที่เธอชอบ หรืออาจจะแต่งชุดกระโปรงสีเข้มเพื่อให้ดูขรึมขึ้นสมกับเป็นมาดามน้อย เขารู้สึกตื่นเต้นเมื่อคิดว่าจะได้เจอเธอ และเมื่อได้พบกับเธอในงาน เขาก็รู้สึกเหมือนใครซักคนล้วงมือเข้ามาในอก แล้วบีบหัวใจของเขาเอาไว้

คุณคิโชวอินอยู่ในชุดกระโปรงลูกไม้สีเทาอ่อน ราวกับนิมฟ์คลอริสผู้งดงามในภาพพรีมาเวร่า ชวนให้ไล่ติดตามและกักขังเธอเอาไว้ในสวนฤดูใบไม้ผลิที่งดงามตลอดไป

“ขอบพระคุณที่มางานเปิดตัวของโรงแรมนะคะ ท่านเอ็นโจ มาดามเอ็นโจ” เธอเขามาทักทายด้วยรอยยิ้มสง่าเป็นกันเอง คล่องแคล่วราวกับเกิดมาเพื่อเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงหรูหราเช่นนี้ เธอกับยุยโกะคุยกันถึงเรื่องฮันนีมูน เขาพยายามรักษารอยยิ้มสุภาพเอาไว้บนใบหน้าเมื่อนึกได้ว่าช่วงเวลาฮันนีมูนของเธอถูกมาซายะเคี่ยวเข็ญให้ออกกำลังกายหนักขนาดไหน

ยุยโกะดึงเขาเข้าไปในบทสนทนาเมื่อคุณคิโชวอินบอกว่าจะส่งไวน์ที่ชิมที่อิตาลีมาให้ เขาไม่ได้ชื่นชอบไวน์เป็นพิเศษ ดื่มได้บ้างตามแต่โอกาส แต่ไม่ว่าจะเป็นอะไร หากเป็นของที่เธอให้ เขาก็ยินดีรับและจะทะนุถนอมอย่างดีที่สุด

คุณคิโชวอินชักชวนให้พวกเราไปดื่มเวลคัมดริงค์ที่ผสมมาให้แขกแต่ละคนโดยเฉพาะ ของยุยโกะเป็นเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอลล์สีชมพูสวย ส่วนของเขาคือเครื่องดื่มที่คล้าย ๆ กับซิซิเลียโน่ เป็นเครื่องดื่มที่ผสมระหว่างกาแฟสกัดเย็น โซดา สปิริตจำพวกเวอร์มุธและอื่น ๆ

เครื่องดื่มแบบคัสท่อมเมดของเขารสดีกว่าที่คิด เขาเอ่ยปากชมออกไป ก่อนจะถามเธอว่าเธอมีเครื่องดื่มที่ผสมพิเศษให้กับตัวเองรึเปล่า

“น้ำแอ๊ปเปิ้ล วอดก้า เหล้าแอ๊ปเปิ้ล และน้ำมะนาว” น้ำเสียงนุ่มนวลของคิโชวอิน ทาคาเทรุ ดังขึ้นมาจากด้านหลังของเขา ก่อนจะเดินผ่านเขาเข้าไปหาคุณคิโชวอิน ส่งรอยยิ้มอ่อนหวานไปทักทายเธอ เธอทักทายเขาตอบ แต่ถูกแขกอีกคนดึงความสนใจไป “บางคนอาจจะเรียกมันว่าแอ๊ปเปิ้ลมาร์ตินี่และฉันตั้งชื่อให้ว่า-อีเด็น-”

“แอ๊ปเปิ้ลแห่งอีเด็น ผลไม้ที่เย้ายวนที่สุดในสวนสวรรค์” เขายิ้ม ช่างเป็นชื่อที่เจ็บแสบและเหมาะสมกับเธอยิ่งนัก ผู้ชายที่เขาต้องระวังเป็นอันดับหนึ่งไม่ใช่ผู้ชายที่เข้ามาป้วนเปี้ยนรอบ ๆ ตัวเธอ ไม่ใช่แม้กระทั่งมาซายะ แต่เป็นพี่ชายของเธอ

สายตาของพี่ชายเธอลดอุณหภูมิต่ำจนเหยียบจุดเยือกแข็ง “อีฟคิดว่าเธอจะสามารถเอาชนะพลาอำนาจของพระเจ้า ล่วงรู้ประจักษ์ถึงปัญญาที่พระองค์แอบซ่อนเอาไว้ แต่สุดท้ายแล้วก็ตกสวรรค์ ช่างโง่เขลายิ่งนัก ผลไม้อันเป็นที่รักยิ่งของพระเจ้า เธอซึ่งเป็นแค่ตุ๊กตาดินปั้นมีสิทธิ์แตะต้องได้ที่ไหน”

เขาหัวเราะ “แอ๊ปเปิ้ลที่เติบโตขึ้นกลางสวนอีเด็นที่เห็นกับตาทุกวัน ทั้ง ๆ ที่พระเจ้าน่าจะรู้ดีว่าซักวันจะอดัมหรืออีฟต้องคิดอยากลิ้มลอง แต่ก็ยังปล่อยให้เติบโตอยู่ตรงนั้น จะโทษพวกเขางั้นหรือครับ ในเมื่อตัณหาและความอยากรู้อยากเห็นคือพื้นฐานของการขับเคลื่อนเผ่าพันธุ์มนุษย์อยู่แล้ว”

“แอ๊ปเปิ้ลที่ปลูกในเรือนกระจกจะไม่โต สิ่งสำคัญที่ต้องทำไม่ใช่การกักขังแอ๊ปเปิ้ล แต่เป็นการกำจัดแมลงร้ายหรือผู้โง่เขลาที่คิดจะลิ้มลองต่างหาก”

คุณคิโชวอินที่ถูกแขกคนอื่นชวนคุยหันมามองพวกเราแต่ไม่ทันได้ยินบทสนทนานั้น เขาพยักหน้าให้กับพี่ชายของเธอ

“ผมจะจดจำไว้ครับ คุณคิโชวอิน”

“ประวัติศาสตร์เป็นสิ่งที่ควรเรียนรู้เพื่อป้องกันไม่เห็นเกิดความผิดพลาดซ้ำสอง เธอเป็นคนฉลาดน่าจะเข้าใจได้เป็นอย่างดีสินะ เอ็นโจคุง”

ในคืนนั้นเขาไม่ได้พยายามเข้าใกล้หรือพูดคุยกับเธอเป็นการส่วนตัว ได้แต่มองเธอเต้นรำบนฟลอร์เต้นรำกับมาซายะ จินตนาการว่าหากในอดีตเขากล้าพอจะกัดผลแอ๊ปเปิ้ลที่หวานฉ่ำเช่นอีฟ ลิ้มรสจนหยดสุดท้าย ยินยอมให้ถูกสาปส่งจนตกสวรรค์ เขาจะเสียใจเหมือนตอนนี้หรือไม่

.....

286 Nameless Fanboi Posted ID:51tuuUelED

>>276 >>285 ฝืดด ขอบคุณค่ะ ;--;)<3

287 Nameless Fanboi Posted ID:51tuuUelED

>>286 ต้องฮือสิ กูเบลอ..

288 Nameless Fanboi Posted ID:oozrzhf8Vz

>>285 จริงๆกูชอบพาร์ทเอ็นโจมากกว่านะ เรื่องช้ำรักอกหักไม่สมหวังแม่งสนุกกว่าสมหวังเป็นไหนๆ กูชอบเห็นตัวละครเจ็บปวดทุกข์ทรมานข่ะ//โดนจอมมารยิ้มดำมืดใส่

289 Nameless Fanboi Posted ID:.xcXi225r1

>>285 ท่าทางเอ็นโจจะยังยืนส่งรอยยิ้มไม่ไปไหนเลยนะคะ

ไหน ๆ แล้วก็ขอภาคท่านพี่สักตอนได้ไหมคะ อยากรู้ว่าหวงน้องขนาดนั้นยอมให้แต่งงานกับคาบุได้ยังไง

290 Nameless Fanboi Posted ID:fgiSHDWowU

>>289 ค่าตัวบอสแพงเกินค่า กูไม่กล้าจุดธูปเชิญฮีมาเข้าทรง

291 Nameless Fanboi Posted ID:T+9cggDf0o

3.

ในบางคืน ชูสุเกะฝันถึงอดีต

ยามหลับใหล เขาฝันไม่บ่อยนัก แต่ทุกครั้งในความฝัน มักจะปรากฏภาพของคุณคิโชวอิน เธอที่สง่างามในชุดราตรียาวท่ามกลางงานเลี้ยงหรูหรา เธอที่หัวเราะเสียงใสยามเคาะระฆังกับพี่ชายในวัยเด็ก เธอที่จ้องมองเขาอย่างหวาดระแวงในห้องสโมสร เธอที่เขาต้องเหยียบย่ำหัวใจของตัวเองแล้วกล่าวคำบอกลา

ในค่ำคืนนี้เขาฝันถึงบทสนทนาบนโต๊ะอาหารในคฤหาสน์เอ็นโจ

“ชูสุเกะ ได้ยินว่างานเลี้ยงของบ้านทาคากิ แกหายตัวไปกระทันหัน ทิ้งให้หนูยุยโกะกลับบ้านคนเดียว”

ท่านพ่อของเขาพูดขึ้นหลังจากยูกิโนะทานอาหารเสร็จแล้วถูกพี่เลี้ยงพากลับขึ้นไปห้องนอนแล้ว

“ผมมีธุระกระทันหันครับท่านพ่อ” เขาตอบออกไปแบบนั้น

“ธุระกับคุณหนูบ้านคิโชวอินกระทันหันขนาดนั้นเลยหรือไง” ร่างของเขาเกร็งขึ้น เขาควรจะรู้ดีว่าหูตาของพ่อเขากว้างขนาดไหน “แกสนิทกับมาซายะคุง ฉันก็ดีใจ จะคบหากับคุณหนูบ้านคิโชวอิน ก็ถือว่าเป็นการสร้างคอนเนคชั่นที่ดีในอนาคต แต่แกไม่ควรจะวางตัวใกล้ชิดเธอเกินไป ตั้งแต่เกิด เธอก็ถูกวางตัวให้เป็นหนึ่งในว่าที่เจ้าสาวของบ้านคาบุรากิแล้ว ยิ่งมาดามคาบุรากิถูกใจเธอขนาดนั้น แกยังสงสัยอีกเหรอว่าในอนาคตเธอจะแต่งงานกับใคร”

“ผมทราบครับ” เขาตอบไปแบบนั้น แต่ท่านพ่อของเขาคงไม่สามารถเป็นผู้ปกครองบ้านเอ็นโจได้โดยขาดความสามารถในการอ่านคน

“ถ้าแกกำลังหวังให้มาซายะคุงเลือกเด็กที่ชื่อทาคามิจิ วาคาบะ แกก็ไร้เดียงสาเกินกว่าที่จะเป็นเอ็นโจแล้ว ชูสุเกะ แกคิดว่าบ้านคาบุรากิคิดจะทำการค้าขาดทุนหรือยังไง โดยเฉพาะเรื่องใหญ่อย่างการเกี่ยวดองกับเครือธุรกิจคิโชวอิน” ท่านพ่อของเขากล่าวเสียงเรียบ ๆ “ฉันเคยเห็นคุณหนูบ้านคิโชวอิน เป็นคุณหนูที่สวย วางตัวดี ได้ยินว่ามีความสามารถไม่น้อย แต่หนูยุยโกะเองก็ไม่ด้อยไปกว่ากัน เธอจะเป็นมาดามเอ็นโจที่ดี”

เขาไม่พูดจาไร้สาระอย่าง ‘แต่ผมไม่ได้รักคุณยุยโกะ’ หรือ ‘ผมรักคุณคิโชวอิน’ เขาทานอาหารต่อเงียบ ๆ ปล่อยให้ท่านพ่อของเขาพูดอย่างที่ท่านต้องการ

“นักธุรกิจที่ดีสามารถมีคู่แข่งได้ แต่ไม่ควรสร้างศัตรู แม้จะไม่มีศัตรูถาวรในวงธุรกิจ แต่ความสัมพันธ์ระหว่างบ้านเอ็นโจและบ้านคาบุรากิจะมีรอยร้าวไม่ได้ และฉันก็คิดว่าบ้านคิโชวอินเองก็คงคิดเช่นกัน อย่าทำเรื่องโง่เขลา ตระกูลอุริวกับเอ็นโจมีผลประโยชน์ร่วมกันในธุรกิจหลายอย่าง ชูสุเกะ ฉันเลี้ยงให้แกสืบทอดธุรกิจของเอ็นโจ ไม่ใช่ทำลายมัน”

“ครับ ท่านพ่อ” เขาตอบไปอย่างนั้น หากแต่ในใจยังคงมีความหวัง

แต่มันถูกทำลายไปเมื่อมาซายะไลน์มาบอกเขาว่าเลิกกับทาคามิจิแล้วในอีกหนึ่งเดือนต่อมา

.....

292 Nameless Fanboi Posted ID:oozrzhf8Vz

>>291 โอย เศร้า ความรักกับหน้าที่มันก็สวนทางกันแบบนี้ล่ะเน้อ //ตบบ่าจอมมาร

293 Nameless Fanboi Posted ID:lPvZ2P1b+D

วันนี้เขาเงียบกันหรือมือถือผมมันไม่โหลดข้อความใหม่น่ะ

294 Nameless Fanboi Posted ID:8xI3CPfTZA

โม่งฟิค รักกกก❤️❤️

ทำไมกุเห็นบอร์ดเป็นสีเหลืองๆฟ้าๆวะ

295 Nameless Fanboi Posted ID:cMvYngBixl

>>294 ฟ้าเหลือง?!!!

296 Nameless Fanboi Posted ID:dv/kfodVfD

ไม่นะโม่งฟิคคคคคค เราที่อยู่เรือเอนโจมาตลอดเปลี่ยนมาเรือคาบุเพราะซีรี่ย์a-zนี้เลยนะ แต่พอมาต่อเอนโจPOVแล้วแบบ ช้านเหยียบเรือสองแคมไปเลย วงวารรรรร ขอบคุณโม่งฟิคมากๆ มาไวมากๆค่ะ //สูดกาวรอต่อ ซื้ดดดดด

297 Nameless Fanboi Posted ID:t8g8R/mCmB

4.

เขากำลังเดินเข้าบ้านหลังกลับจากงานเลี้ยงสังสรรรค์ของวงธุรกิจตอนที่มาซายะไลน์มา

‘ชูสุเกะ ฉันรู้สึกเหมือนจะเป็นบ้า ตอนนี้ฉันแข็งจนเลือดไม่ไปเลี้ยงสมองแล้ว’

ชูสุเกะหยุดเดิน เขาจ้องโทรศัพท์อยู่นาน นึกว่าตัวเองอ่านผิด

“ชู” ยุยโกะเรียกเขาจากด้านในของห้องนอน ชูสุเกะเดินพิมพ์ตอบไป

‘มาซายะ นายจะชวนฉันเล่นเซ็กส์เท็กซ์รึไง’

“ชู มัวทำอะไรอยู่น่ะ” เขาเดินเข้าไปในห้องแล้วชะงักเมื่อเห็นยุยโกะนั่งอยู่บนเตียงในชุดชั้นใน เธอเอียงคอแล้วยิ้มอย่างเย้ายวน “มานี่สิ”

เขาเดินไปนั่งข้าง ๆ เธอ ข้อความของมาซายะเด้งขึ้นมาอีกครั้ง

‘จะบ้าเหรอ ฉันขอคำแนะนำจากนายต่างหาก’

ยุยโกะวางมือลงบนบ่า ก่อนจะเริ่มจูบใบหูและต้นคอของเขา “ชู” เธอเรียกเขาด้วยน้ำเสียงผะแผ่ว เขาใช้เวลานี้รีบพิมพ์ตอบมาซายะ

‘มือ?’

”ชู” น้ำเสียงของยุยโกะบ่งบอกว่าเธอไม่พอใจที่เขาไม่ใส่ใจเธอ เขาเกือบจะวางโทรศัพท์ไปแล้วถ้าไม่เห็นข้อความต่อมา

‘ฉันทำอย่างนั้นไม่ได้ อีกฝ่ายเป็นคิโชวอิน’

ร่างกายของเขาแข็งค้าง ยุยโกะปีนขึ้นมานั่งบนตักของเขา ก่อนจะเริ่มปลดเน็คไทและกระดุมเสื้อของชูสุเกะ เขาปล่อยให้เธอทำตามใจ รู้สึกว่าตัวเองพลาดที่พักนี้ไม่ได้ถามเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างมาซายะกับคุณคิโชวอิน

เขาไม่รู้ว่านั่นเกิดขึ้นตอนไหน และเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่แค่คิดว่ามาซายะใช้คุณคิโชวอินในเซ็กส์แฟนตาซีแล้วเขาก็รู้สึกโกรธ มาซายะไม่ได้ชอบเธอเลยด้วยซ้ำ

‘นายเคยบอกฉันว่าความสัมพันธ์ของนายกับคุณคิโชวอินเป็นแค่เพื่อน นายที่เห็นเธอเป็นเพื่อนก็ไม่ควรคิดเรื่องแบบนั้นก็เธอ ถ้าฉันใช้นายเป็นตัวละครในเซ็กส์แฟนตาซี นายก็คงไม่พอใจเหมือนกันใช่ไหมล่ะ มาซายะ’ เขาพิมพ์ตอบกลับไปโดยไม่สนใจเลยด้วยซ้ำว่าจะเป็นการเสียมารยาทต่อยุยโกะ เธอเองก็หงุดหงิดเหมือนกันที่เขาไม่สนใจทั้ง ๆ ที่ตัวเองพยายามรุกอย่างหนัก

“คุยกับใครอยู่น่ะ?” ยุยโกะถาม น้ำเสียงเย็นชากว่าปกติ

เขาเลื่อนบทสนทนาลงมาให้เป็นบทสนทนาเรื่องไร้สาระ ก่อนจะพลิกหน้าจอให้เธอดูว่ากำลังคุยกับใคร “ถ้าไม่ตอบข้อความของเขา เขาจะโมโหน่ะ”

ยุยโกะปรายตามองเขา “ชูนี่สนิทกับท่านคาบุรากิจังเลยนะ”

“ผมเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวของเขา” ชูสุเกะบอก อันที่จริงนั่นก็ไม่ผิดนัก เพื่อนอีกคนของมาซายะกลายเป็นภรรยาในนามแล้ว ดังนั้นเพื่อนจริง ๆ ที่เหลือของมาซายะก็มีเขาแค่คนเดียว

เขาวางโทรศัพท์ลง ก่อนจะประคองใบหน้าของยุยโกะไว้แล้วหลับตาลง แสร้งทำเป็นว่าผู้หญิงในอ้อมกอดเขาคือคนที่เขารัก เขาจินตนาการถึงคุณคิโชวอินในชุดกระโปรงลูกไม้สีเทาเบาบาง นึกภาพเธอมีสีหน้าเอียงอายในขณะที่ให้เขารูดซิปเดรสลง

เขานึกภาพชุดอันบอบบางนั้นร่วงลงแทบเท้าของเธอ เผยให้เห็นชุดชั้นในสีอ่อน เขานึกภาพตัวเองพรมจูบลงบนทุกตารางนิ้วบนร่างของเธอ ฟังเสียงครางเมื่อลิ้นของเขาลากไปบนผ้าลูกไม้เบาบาง ชิมรสหวานที่ซึมออกมาจนชุ่ม ‘ได้โปรด’ เธอบิดเร่า ต้นขาขาวสั่นริก ร้องขอเขาให้หยุด ให้ทำมากกว่านี้ ให้หยุดหยอกเล่นกับร่างกายของเธอและรักเธอด้วยร่างกายของเขาเสียที และเขาก็จะทำตามนั้น เขาจะไม่ทำตามคำขอของเธอได้อย่างไร ในเมื่อเธอเป็นทุกอย่างของเขา เป็นราชินีของเขา เป็นเจ้าหญิงของเขา เป็นเทพธิดาของเขา เป็นผู้หญิงคนเดียวที่เขารัก ร่างกายของเขาและเธอหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว เธอเป็นของเขา เขาเป็นของเธอ ไม่มีวันที่ใครจะพรากพวกเขาได้ตลอดไป

.....

298 Nameless Fanboi Posted ID:oozrzhf8Vz

>>294 มีงเผลอไปโดนปุ่ม theme ข้างล่างป่ะ ถ้าเป็นคำว่า topaz ก็เป็นสกินขาวแดงแบบดั้งเดิมของโม่งน่ะ

299 Nameless Fanboi Posted ID:8xI3CPfTZA

>>295 ฟวย ไม่ใช่เด้!!! อธิบายไม่ถูก

https://www.img.in.th/image/5G4jRu แบบเนี้ย

300 Nameless Fanboi Posted ID:DrwgWgxAWs

>>299 มึงโดนปุ่มสกินของบอร์ด กดคำว่า topaz ก็กลับมาเป็นสีขาวแดงแบบเดิมเอง

301 Nameless Fanboi Posted ID:8xI3CPfTZA

>>300 กราบบบบ ขอบคุณค่ะ ;_; เพิ่งรู้ว่าเปลี่ยนธีมได้ด้วย

302 Nameless Fanboi Posted ID:wrsVMzzRon

กรุอยู่เรือจอมมารมาตั้งแต่ยังไม่มีมู้ จอมมารระเบิดเรือตัวเองบ่อยขนาดไหนก็ไม่หวั่น เป็นคนใจแข็ง มาเจอฟิคนี้แล้วกรุเซเลย ฮือออออ /ตั้งหม้อต้มน้ำใบบัวบก

303 Nameless Fanboi Posted ID:oozrzhf8Vz

>>297 อ้าว กูเพิ่งเห็นว่าฟิคมา กูไม่ได้แทรกใช่มั้ย ;w;
อ่านแล้วก็แอบปวดใจแทน จะมีอย่างว่าต้องจินตนาการเป็นหน้าคนอื่น หน่วงไม่ไหวแล้วข่ะ แต่ก็สนุกดีจัง//อ้าว

304 Nameless Fanboi Posted ID:8xI3CPfTZA

วงวารเอ็นโจ ฮือออออ

305 Nameless Fanboi Posted ID:oozrzhf8Vz

>>302 เยส กูก็อยู่เรือจอมมาร กูไม่เคยหวั่นแม้วันมามาก จอมมารจะระเบิดเรือแค่ไหนก็บ่ยั่น กูเป็นลูกเรือเดนตายพร้อมจมไปกับเรือ

จริงๆกูชอบฟิคนี้นะ แม้จะสงสารที่ต้องยิ้มขื่นๆตลอด แต่ความทุกข์ระทมของจอมมารนี่แม่งอร่อยฝุดๆ //เสิร์ฟน้ำใบบัวบกให้ทุกคน

306 Nameless Fanboi Posted ID:ZErh71VBet

>>303 ไม่แทรกๆ อันนี้ไม่ได้กะลงพรวดเดียวจบข่ะซิส เมาท์ได้เรื่อยๆเลย

307 Nameless Fanboi Posted ID:2DxTpuDpsp

ท่านพี่ร้ายยยย 5555 รู้สึกหน่วงๆ ขมๆแทนเอ็นโจ

กุวงวารเอ็นโจนะ แต่ฟิคนี้กุอยู่เรือคาบุเรย์กะแล้ว เอ็นโจช่วยพาเรือผีไปคนเดียวก่อนนะ 5555

308 Nameless Fanboi Posted ID:xeo2Wu+HOo

ฮรืออ กูเรือจอมมาร กูอยากอ่านฟิคแต่กูอ่านแล้วปวดใจตลอดเลย (แต่กูก็จะอ่านอยู่ดี) กูชอบฟิคมึงมากไม่ว่าจะพาร์ทไหน กูรอนะ ตอนนี้ขอไปฮีลตัวเองด้วยฟิคมะหมาก่อน

309 Nameless Fanboi Posted ID://Ym5mPd4z

กูอยู่เรือจอมมาร (พึ่งโดนลากกลับหลังจากอ่านพาร์ทเอ็นโจ)และไม่ชอบกินน้ำใบบัวบก ใครก็ได้ส่งน้ำตาลมาให้กูที ส่งฟิคเถอะ ที่จริงกูก็อยากเขียนเองนะ แต่แค่เรียงความกูยังใช้เวลาข้ามคือนต่อย่อหน้า ปล่อยมันสะเถอะ

310 Nameless Fanboi Posted ID:PU8I5clQpC

5.

ตอนที่เขานั่งรถกลับจากงานเลี้ยงอาหารกลางวันกับบอร์ดบริหาร รถยนต์ที่เขานั่งประสบอุบัติเหตุ

เขาดึงยุยโกะเข้าหาตัวเพราะถ้าเขาไม่ทำอย่างนั้น เธอจะต้องเสียชีวิตคาที่แน่ ในวินาทีนั้นเขาสงสัยว่าถ้าเขาตายไป คุณคิโชวอินจะเสียใจไหม หรือว่าจะสมน้ำหน้าเขาที่เขาไม่กล้าพอจะทิ้งทุกอย่าง และชวนเธอหนีไปสุดหล้าฟ้าเขียวเหมือนในภาพยนตร์รักที่เธอชอบดู

“ฉันเคยคิดด้วยค่ะว่า ถ้าฉันได้เป็นแฟนกับดารานักร้องขวัญใจวัยรุ่นก็คงดีสิน้า”

ในคืนวันคริสต์มาสที่เขากับคุณคิโชวอินไปเดทกัน คุณคิโชวอินสารภาพความลับเล็ก ๆ กับเขาในขณะที่เขาและเธอหยุดพักบนเก้าอี้ในสวนสาธารณะยามค่ำคืน เขาฉวยโอกาสโอบเธออ้างว่าอากาศหนาว ไม่รู้ว่าเพราะเธอยังคงมึนกับไวน์ที่ดื่มไปเมื่อมื้อค่ำ หรือรู้สึกหนาวจริง ๆ เลยนั่งเบียดเขาและปล่อยให้เขาโอบไหล่แต่โดยดี

“คุณคิโชวอินชอบดารานักร้องหรือครับ?” เขาถาม สงสัยเพราะไม่เคยได้ยินเธอพูดถึงใครที่ชอบมากเป็นพิเศษ

“อืมม์ ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก” เธอบอก ซุกหน้าลงกับคอเสื้อที่เป็นขนสัตว์ของเขา “แต่ว่าถ้ามีแฟนเป็นนักร้องนี่น่าตื่นเต้นดีออก แบบว่า รักกันแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ ไงคะ”

เขายิ้มน้อย ๆ “เหมือนโรมิโอกับจูเลียตสินะครับ ผมไม่ยักรู้นะครับเนี่ย ว่าคุณคิโชวอินเป็นพวกชอบเรื่องตื่นเต้น”

“ฉันเป็นคนขี้ขลาดน่ะค่ะ แต่ว่าการได้จินตนาการถึงเรื่องน่าตื่นเต้นก็สนุกดีเหมือนกัน” คุณคิโชวอินยิ้ม เธอวางคางเกยบนไหล่ของเขา “แล้วท่านเอ็นโจล่ะคะ?”

เธอมองเขาด้วยดวงตาหยาดเยิ้ม ในเวลานี้ไม่มีท่าทีระมัดระวังเหมือนยามปกติ “ผมก็ชอบเรื่องตื่นเต้นอะไรประมาณนั้นเหมือนกัน”

เธอทำหน้าสนใจ “เรื่องอะไร พอจะเล่าให้ฟังได้ไหมคะ?”

เขากวาดตามองเธอ ก่อนจะวางมือลงบนเข่าของเธอแล้วโน้มหน้าลงไปกระซิบข้างหู “คุณอยากรู้จริง ๆ หรือครับ คุณคิโชวอิน” ร่างของเธอสั่นสะท้าน ก่อนจะพยักหน้า เขาจึงแนบริมฝีปากลงบนใบหูที่เย็นเฉียบ “เอ...ยังไงดีน้า บางทีในตอนนี้ผมอาจจะอยากจูบคุณมาก ๆ นั่นเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นพอไหมครับ คุณคิโชวอิน”

ตอนที่เขาถอนริมฝีปากออกจากใบหูของเธอ สีหน้าของเธอแดงก่ำ เธอเผยอริมฝีปากขึ้น ช้อนดวงตาที่ล้อมกรอบด้วยขนตายาวเหมือนตุ๊กตามองเขา “แล้วท่านเอ็นโจจะจูบฉันไหมคะ”

เขาแค่อยากจะหยอกเธอเล่น ดูปฏิกริยาเขินอายของเธอ แต่ไม่คาดว่าเธอจะพูดอย่างนั้นออกมา เขารู้สึกเหมือนใครซักคนทลายเขื่อนที่สะกัดกั้นความอดทนของเขาเอาไว้

จูบแรกที่เขาจินตนาการไว้หลายต่อหลายครั้งนั้นนุ่มนวล เบาบาง อ่อนหวาน หากทว่าในความเป็นจริงกลับตรงข้าม เขาจู่โจมเธอด้วยจูบที่ทำให้เธออุทานออกมาด้วยความตกใจ ลิ้นของเขาเลียไปบนริมฝีปากที่มีลิปกลอสจาง ๆ ก่อนจะแทรกเข้าไปในริมฝีปากที่เผยอออกอย่างเผลอไผล ชิมได้ถึงรสของไวน์และของหวานจากมื้อเย็น ลิ้นของเขาหยอกล้อกับลิ้นอ่อนนุ่มที่อยู่ในโพรงปากของเธอ คุณคิโชวอินได้แต่รับจูบของเขาอย่างทำอะไรไม่ถูก

แต่แล้วเมื่อเขาลดจังหวะให้ช้าลง เธอก็ดูเหมือนจะค่อย ๆ หายตกใจ เขาถอนลิ้นออกมาให้เธอพักหายใจ เล็มจูบกลีบปากสีชมพู ขบกัดน้อย ๆ แล้วเลียซ้ำเหมือนปลอบประโลม

มือของเขาลูบไล้ไปบนขาอ่อนที่เย็นเฉียบจากอุณหภูมิเบื้องนอก สัมผัสเธอผ่านถุงน่องเนื้อหนา ก่อนจะเลื่อนขึ้นไปเรื่อย ๆ หาความอบอุ่นจากผิวส่วนที่อยู่ใต้กระโปรง

311 Nameless Fanboi Posted ID:PU8I5clQpC

“ท่านเอ็นโจ!” เธอตะครุบมือเขาไว้ ทำเสียงเหมือนจะร้องไห้

เขาถอนมือจากใต้กระโปรงของเธอโดยดี เธอเป็นคุณหนูบ้านคิโชวอิน เขาไม่ควรทำเรื่องไม่สุภาพแบบนี้กับเธอในที่สาธารณะตอนที่เธอยังไม่ได้เป็นแม้แต่แฟนสาวของเขา

เขากล่าวคำขอโทษ มองเธอก้มหน้างุดแล้วดึงกระโปรงลงต่ำ เขาถามเธอว่าเธอโกรธไหม เธอส่งสายตาดุดันให้เขา “อ—อย่าทำแบบนี้อีกนะคะ” เธอบอกเสียงจริงจัง เขารู้สึกโมโหที่รุกเธอเร็วเกินไป เขาขอโทษเธออีกครั้งที่จูบเธอโดยไม่ได้รับอนุญาต และจะไม่ทำอีก พวกเขานั่งเงียบกันท่ามกลางลมหนาว จนกระทั่งเธอพูดเสียงอุบอิบขึ้นมา

“ฉันไม่ได้หมายถึงจูบ” เธอบอกด้วยเสียงเบาจนเขาเกือบไม่ได้ยิน “ตอนที่บอกว่าอย่าทำแบบนี้อีก”

รอยยิ้มของเขาผุดขึ้นบนริมฝีปากอย่างห้ามไม่ได้ เขาโอบไหล่เธอไว้ แล้วจูบลงบนหมวกของเธอ

จนแล้วจนเล่า ความสัมพันธ์ของเขาและเธอก็ไม่ได้ก้าวข้ามเกินกว่าจูบ เขาไม่เคยสารภาพรักกับเธอ และเธอก็ไม่เคยบอกรักเขา พวกเขาแค่อยู่ด้วยกันเท่านั้น เขาพยายามไม่วางมือลงไปในที่ไม่ควรวาง คุณคิโชวอินไม่เคยเริ่มต้นก่อน แต่เธอไม่เคยปฏิเสธเขาถ้าอยู่ในที่ลับตาคน

‘หนีไปด้วยกันเถอะครับ คุณคิโชวอิน’ เขาไม่เคยพูดกับเธอแบบนั้น แม้ว่าจะอยากพูดออกมาก็ตาม เขาอยากพาเธอหนีไปในที่ ๆ ไม่มีเอ็นโจ คิโชวอิน คาบุรากิ และสังคมชั้นสูง แต่เขาไม่ได้ทำแบบนั้น เขารู้ดีว่าเขาและเธอถูกเลี้ยงมาในฐานะเอ็นโจและคิโชวอิน พวกเขามีภาระหน้าที่ที่จำเป็นต้องเติมเต็ม พวกเขาครอบครองได้ทุกอย่างยกเว้นอิสรภาพในการใช้ชีวิตของตัวเอง

ตอนที่รถคู่กรณีปะทะเข้ากับรถที่เขาโดยสาร ตอนที่เสียงโครมดังสนั่นอยู่รอบ ๆ ตอนที่เซฟตี้เบลท์กระชาก ตอนที่ร่างของเขาท่วมท้นไปด้วยความเจ็บ ตอนที่เขาหายใจไม่ออก ชูสุเกะสงสัยว่าถ้าเขาบอกกับคุณคิโชวอินว่า ‘หนีไปด้วยกันเถอะครับ หนีไปในประเทศที่ไม่มีใครหาพวกเราพบ ที่ ๆ พวกเราเป็นเพียงแค่สามัญชน ผมจะตั้งใจทำงานหาเลี้ยงคุณ ถึงแม้ว่าจะไม่สุขสบายเหมือนที่นี่ ไม่มีเงินมากมายให้ใช้จ่าย แต่ผมจะทำให้คุณมีความสุขเอง’ เธอจะไปกับเขาไหม และชีวิตต่อจากนั้นจะเป็นอย่างไร เขาจะนึกเสียใจเหมือนวันนี้ไหม เธอจะมีความสุขมากกว่าตอนนี้รึเปล่า

หากแต่เขาย้อนเวลากลับไปไม่ได้ เหมือนกับที่สั่งให้ร่างกายหายใจไม่ได้ ชูสุเกะค่อย ๆ หลับตาลง ไม่ว่าเธอจะร้องไห้ให้กับเขา หรือสาปแช่งเขา แต่หลังจากนั้น ขอแค่เธอมีความสุข หัวเราะได้อีกครั้ง มีชีวิตอย่างที่เธออยากมีก็พอ

แค่นั้นก็พอแล้ว

.....

312 Nameless Fanboi Posted ID:NZbMFO3/Ok

>>309 ตกเรียงความเหมือนกันเลย อาจารย์ให้เขียนหนึ่งหน้า กูเขียน 10 บรรทัดได้ก็บุญแล้ว

313 Nameless Fanboi Posted ID://Ym5mPd4z

>>312 กู 309 นะ กูสกิลแย่ถึงขั้นเค้าให้สรุปกลอน 2 หน้า ภาษาไทยตอน ม.6 ละกูส่งไป 2 บรรทัดอะ 2 หน้ากับ 2 บรรทัด กูเลยรับรู้ว่ากูเป็นผู้เสพที่ให้กำลังใจนักเขียน นักวาดอะ ดีแล้ว

314 Nameless Fanboi Posted ID:8zWA8f6A2P

ปกติเหยียบสองเรือ เอนไปทางเอ็นโจหน่อยแล้วแต่ว่ามีดมเม้นในตอนนั้นยังไง แต่คืออ่านฟิคนี้แล้วกูจะร้องไห้ เชียร์ท่านเอ็นโจก็เชียร์ เชียร์ท่านคาบุรากิ(นานๆพิมพ์ท่านที จั๊กจี้ไงไม่รู้)ก็เชียร์ แต่แบบนายแต่งงานไปก่อนแล้วว่ะเอ็นโจ ทำใจเอานะ พอพีโอวียิ่งมาคือแบบ
กูนี่แหล่ะที่ต้องทำใจไปกับท่านเอ็นใจ ใจกูนี่แหล่ะสลาย ท่านเอ็นโจขราาาาา//ยกเหยือกใบบัวบกมาซด แง แต่คุณยุยโกะเองก็น่าสงสารแหล่ะ ก็นะไม่ใช่ทุกคนจะโชคดีที่ทำได้ทั้งตำแหน่งทั้งคนรักแบบคู่ที่แต่งงานใหม่นั่น

พรุ่งนี้(ก็คือวันนี้แล้ว)มีเอสเสหนี่งถึงสองหน้าเอสี่สองอันที่ต้องส่งยังไม่ได้เริ่มเขียนเลย

315 Nameless Fanboi Posted ID:QahytBEbqQ

>>310-311 มึงกูอ่านแล้วร้องไห้ ท่านจอมมารกับเจ้าแม่ของกู ขอ ver.ที่ท่านสมหวังกันที กูจุกไปหมดแล้ว ใจกูรับความเศร้าของท่านจอมมารไม่ไหวแล้ว

316 Nameless Fanboi Posted ID:ccNLRcf.Mb

เรือหลวงกูวววว โฮววววววววว

รักท่านเอ็นโจนะคะ

317 Nameless Fanboi Posted ID:bTwUc/7PMZ

กูว่าจะไปนอนเพราะพรุ่งนี้มีประชุม แต่ตีหนึ่งแล้วกูกลับมาไถมือถืออ่านฟิค ฮือออออ กูสงสารเขา กูควรจะเขียนอะไรช่วยชูสุมอยใช่มั้ย //เปิดกรุไหดองคุ้ยหาฟิคที่มีน้ำตาล

318 Nameless Fanboi Posted ID:PU8I5clQpC

ตี 3 แล้วค่ะซิส แต่กูก็ยังไม่นอน เพราะมัวแต่นั่งวาดแฟนอาร์ต orz ใครอยากเห็นภาพวาดของ A-Z ไปดูได้นะคะ กุวาดตามอิมเมจตอนเจ้าแม่กับคาบุไปฟินแลนด์

กูวาดไปแล้วก็คิดว่า อา...ท่านเรย์กะเห็นคาบุเป็นเพื่อนสาวจริง ๆ สินะ ไม่ระวังเลย orz นี่สินะทั่นพี่ถึงต้องคอยระวังให้แทน

http://imgur.com/8moz9BM

319 Nameless Fanboi Posted ID:omBttWBv/w

>>318 กูยังอยู่เป๋นเพื่อนเมิงค่ะโม่ง ท่านเรย์กะมุมนี้เอ็กซ์มาก มิน่าคาบุนี่เลยเข้าโหมดหื่นรัวๆ

320 Nameless Fanboi Posted ID:EcmSX2E+Mw

>>318 เจ้าแม่เซะซี่มากเบย------ คาบุ แกอดทนได้ดี สมกับเป็นเจ้าคนคลั่งความเพอเฟกต์ ทำได้ดีมาก ปรบมือๆ //กูเศร้า จอมมารอยู่ระทมอีกล้าว

321 Nameless Fanboi Posted ID:EysHPS6lJr

เจ้าแม่เซ็กซี่แท้ไม่แปลกใจที่คาบุหื่น55

322 Nameless Fanboi Posted ID:jhwBa8ReDY

กูพึ่งสังเกตุว่าในมุมมองหลัก เจ้าแม่ไม่ได้บรรยายถึงหน้าตาตัวเองในด้านดีเท่าไหร่เลย แต่ในมุมมองของตัวละครอื่น ก็น่าจะคิดว่าเจ้าแม่สวยกันอยู่นั่นแหละ แรกๆ กูจินตนาการภาพเจ้าแม่ไม่ค่อยออก เพราะโดนมุมมองหลักหลอกตา สรุปคือยังสวยสินะ ส่วนตอนแรกกูจินตนาการเจ้าแม่เอาไว้แบบไหน อย่าไปพูดถึงเลย.... //โดนพัดตบ

323 Nameless Fanboi Posted ID:MsbLWPG9sV

จริง ๆ ก็ไม่คิดว่าเจ้าแม่จะมีหน้าอกด้วยซ้ำ แต่คิดอีกที เนื้อเรื่องหลักเป็นช่วงมัธยม แต่ในฟิคนี้เรียนจบแล้ว คงโตตามเวลาล่ะมั้ง

324 Nameless Fanboi Posted ID:f3qCQ1FAnE

โอ้ยโม่งฟิก เจ้าแม่ในฟิกช่างนุ่มนิ้มน่ากอด เป็นกูกูก็หื่นวะ

325 Nameless Fanboi Posted ID:bTwUc/7PMZ

>>323 กูคิดว่ามี แต่ไม่ได้อึ๋มมากมายนักหรอก เพราะตอนนั้นก็เห็นบอกว่าตัวเองแบนแต๋ไร้สัดส่วนโค้งเว้านี่

326 Nameless Fanboi Posted ID:omBttWBv/w

>>322 จริงๆมุมมองตัวละครอื่นก็ชมเจ้าแม่กันทุกคนนะ อย่างของท่านอิมาริงี้อวยซะ เซริกะจังงี้ก็ว่าน่ารัก พวกซากุระจังก็เคยพูดว่าสวยหมดจด (แต่ดูโบราณ 555)

327 Nameless Fanboi Posted ID:J/t+ngCzed

>>322 สวยสิ มุมมองคนนอกทีไรก็บรรยายว่าสวยเหมือนเจ้าหญิง น่ารักเหมือนตุ๊กตากันหมดทุกคนเลยนะ

328 Nameless Fanboi Posted ID:jhwBa8ReDY

>>326 >>327 บางทีกูก็แยกไม่ออกว่าชมจากใจจริง หรือชมเพราะเกรงใจเจ้าแม่กันแน่

329 Nameless Fanboi Posted ID:JivzEC5D1e

>>328 มึงร้ายยยยยยยย

330 Nameless Fanboi Posted ID:T/xbWSqApH

กูอ่านแล้วเอ็นโจแม่งไม่แมนเลย จากที่บรรยายคือจูบกันแล้ว เดทๆ กันแล้ว แต่มันไม่สู้เพื่อความรักไง ยอมๆตามน้ำคนอื่นไป แต่งงานก่อนอีก อารมณ์เรย์กะตอนนั้นคือช็อคอ่ะ กิ๊กๆกันอยู่แล้วอีกฝ่ายที่รุกจีบเราทิ้งเราไปแต่งงานซะงั้น
สมควรแล้วที่ท่านพี่จะโกรธทำกับเรย์กะแบบนี้
นายทำตัวเองเอ็นโจ ดีแล้วละที่ตอนนี้เรย์กะไปได้ดีกับมาซายะ ส่วนนายที่ขี้แพ้ไม่กล้าสู้เพื่อความรักของตัวเองก็เสียใจไปชั่วชีวิตเถอะ

ปล.กูแค่อินกับฟิค ไม่ใช่เรื่องในอฟช.

331 Nameless Fanboi Posted ID:eYJAhPL.2M

>>328 กูว่ามุมมองมินามิคุงนี่น่าจะดูเป็นกลางสุดละนะ ตอนเข้ามาดูชมรมใหม่ๆ นี่ยังไม่ทันรู้จักเจ้าแม่ด้วยซ้ำก็เผลอมองผิดเป็นตุ๊กตาขนาดเท่าตัวจริงแล้ว ต้องสวยน่ารักขนาดนั้นถึงให้คนมองผิดเป็นตุ๊กตาได้อ่ะคิดดู แต่พอนางเคลื่อนไหวกับพูดจาปุ๊บก็เข้าข่ายสวยเสียของทันที...

332 Nameless Fanboi Posted ID:1QFjTWK/Hv

>>331 เหมือนบากะที่เจ้าแม่บอกว่าหล่อเสียของสินะ คือ อ่านตอนง๊องแง๊งแล้วกูจิ้นไม่ออกเลยว่าหล่อ

333 Nameless Fanboi Posted ID:1QFjTWK/Hv

>>330 เป็นกู กูก็ shock ค่ะ แบบอ้าว แล้วที่ผ่านมาคือไรอ่ะ

334 Nameless Fanboi Posted ID:w/5Dqx1PPn

>>331 นึกภาพว่าเดินเข้าห้องไปเจอตุ๊กตาฝรั่งเศสยักษ์...
มันหลอนสัสๆ เลยนะ

>>332 กูนึกถึงมุมมองเซริกะจัง ขนาดเจ้าแม่สวยเสียของนางยังแอบเฟลนิดๆ ถ้ารู้ว่าจริงๆไซซายะอาการหนักกว่าเจ้าแม่ พวกนางจะเป็นยังไงกันวะ?

แบบ ไอ้สามผู้ทรงอำนาจเป็นบ้าไปแล้วสองคน ส่วนอีกคนก็จอมมารไก่อ่อน...

335 Nameless Fanboi Posted ID:1QFjTWK/Hv

>>334 โลกนี้แม่งหาคนที่เพอร์เฟคจริง ๆ ไม่มีสินะ แต่กูยังนึกสงสัยเลยว่าท่านพี่มีข้อเสียอะไร

336 Nameless Fanboi Posted ID:eYJAhPL.2M

>>335 ข้อเสียของท่านพี่ก็คือท่านอิมาริยังไงล่ะ!

337 Nameless Fanboi Posted ID:J/t+ngCzed

>>335 ซิสค่อนนี่นับว่าเป็นข้อเสียมั้ยวะ 555555555

338 Nameless Fanboi Posted ID:dP0Ttsaovn

>>336 คบเพื่อนผิดสินะ

>>337 ซิสค่อนถือเป็นข้อดีเว้ย แหม่ น้องสาวทั้งคน ถ้าฉลาด ๆ แบบวาคาบะก็ว่าไปอย่าง เจ้าแม่นางเอ๋อ ๆ ไม่ดูแลนี่กูว่าอาจเข้าฮาเร็มอิมาริไปก็ได้นะ

339 Nameless Fanboi Posted ID:jhwBa8ReDY

>>335 ข้อเสียของท่านพี่คือแพ้น้องสาว ชัดเจน!

340 Nameless Fanboi Posted ID:dP0Ttsaovn

6.

คุณคิโชวอินมาเยี่ยมเขาพร้อมกับมาซายะอีกหลายครั้ง ครั้งแรกเขาไม่ได้สติ แต่ถัด ๆ ไปสามารถลุกขึ้นมาคุยได้ หัวใจพองโตเมื่อได้ยินมาซายะแซวว่าเธอร้องไห้เหมือนคนบ้าเมื่อคิดว่าเขาจะตาย

กว่าเขาจะหายดีกลับไปออกงานเลี้ยงสังสรรค์ได้อีกครั้ง ก็ตอนที่มาซายะประกาศว่าจะจัดงานเลี้ยงแฟนซีในงานครบรอบวันแต่งงานของตัวเอง ตอนที่เขาไปงานแล้วเห็นธีมมาริโอ้ เขาก็พอเดาได้ว่ามาซายะจะโผล่มาในชุดไหน แต่คนที่ทำให้เขารู้สึกเซอร์ไพรส์คือคุณคิโชวอิน แทนที่เธอจะโผล่มาในชุดเจ้าหญิงพีช เธอกลับโผล่มาในชุดหลุยส์จิสีเขียว ติดหนวดอันใหญ่เหนือริมฝีปาก เขามองแล้วก็รู้สึกตกตะลึงที่เธอกล้าแต่งชุดแบบนี้ออกจากบ้าน ในขณะเดียวกันก็รู้สึกว่าเธอน่ารักจนเขาทำอะไรไม่ถูก

เขาเข้าไปทักมาซายะแล้วก็ถูกอีกฝ่ายลากเข้าไปในมุมมืด ตอนที่เขากำลังจะบอกว่า ‘มาซายะ นายรู้ตัวไหมว่ามีคนแอบคิดว่าพวกเราคบกันอย่างลับ ๆ น่ะ ทำตัวมีพิรุธอย่างงี้เดี๋ยวข่าวลือก็หนักกว่าเดิมหรอก’ มาซายะก็โพล่งคำถามน่าเข้าใจผิดออกมา แบบที่ถ้ามีคนแอบฟังแล้วอัดเสียงไว้ หลังจากนี้พวกเขาคงแก้ตัวไม่ขึ้นอีก

“ชูสุเกะ ในฐานะที่นายเป็นผู้มีประสบการณ์ ถามหน่อยสิว่าคน ๆ หนึ่งจะรู้ได้ยังไงว่าตัวเองเก่งหรือแย่ในเรื่องเซ็กส์น่ะ”

คำถามนั้นสร้างความหนักใจให้เขา ไม่ใช่เพราะมันชวนให้คนอื่นคิดว่าเขากับมาซายะเป็นอะไรกัน แต่เพราะปกติมาซายะไม่ค่อยคิดเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้นัก ทว่าวันนี้ที่ถามขึ้นมาแสดงว่าต้องมาสาเหตุ และสาเหตุที่เขาพอจะรู้ก็มีอยู่แค่สาเหตุเดียว

คุณคิโชวอิน

“มาซายะ นายคงไม่ได้ให้ฉันช่วยประเมินคะแนนในห้องนอนของนายหรอกใช่ไหม แบบ ขึ้นไปบนห้องแล้วลองมีอะไรกันจริง ๆ แต่ไม่นับว่าเป็นเซ็กส์เพราะว่าพวกเราเป็นเพื่อนกัน?”

ชูสุเกะคิดว่าการที่เขาเป็นเพื่อนกับมาซายะนานเกินไป หรือไม่ก็เพราะว่าผ่านเหตุการณ์เฉียดตายมาครั้งหนึ่งกันแน่ เขาถึงพิจารณาว่าถ้ามาซายะเดินมาหาเขา แล้วบอกให้เขาเข้าร่วมกิจกรรมในห้องนอนของตัวเองกับคุณคิโชวอิน ในกรณีที่เขาหยุดมาซายะที่คิดพาเธอขึ้นเตียงไม่ได้ เขาอาจจะพยักหน้าตอบตกลง เพราะอย่างน้อยเขาก็ได้มีส่วนร่วมในครั้งแรกของเธอ

หัวของเขาจินตนาการต่อไปอีกถึงภาพที่เขา คุณคิโชวอิน กับมาซายะอยู่บนเตียงกันสามคน เขาจูบคุณคิโชวอิน ประคองหน้าอกอันอ่อนนุ่มไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง สอดมืออีกข้างเข้าไปในกระโปรงของเธอและทำให้เธอรู้สึกดีจนครางเหมือนลูกแมว ดึงชุดชั้นในที่เปียกชื้นของเธอลงมาและสอดนิ้วเข้าไปในช่องทางที่ตอดรัด และให้มาซายะสอดอีกนิ้วเข้ามาเพื่อเรียนรู้ว่าจุดจีสปอร์ตของคุณคิโชวอินอยู่ตรงไ—

เขาควรจะหยุดคิด หยุดคิดเดี๋ยวนี้ และลบความทรงจำนั้นไปซะ จะให้ใคร— โดยเฉพาะพี่ชายของคุณคิโชวอินรู้ไม่ได้เด็ดขาด

ความน่ากลัวของความคิดนั้นคือ เขาเกือบจะมั่นใจว่าถ้าเขาพูดกับมาซายะอย่างจริงจัง หรือฝังความคิดนั่นให้กับมาซายะไปเรื่อย ๆ อีกฝ่ายอาจจะตกลงจริง ๆ ก็ได้ มาซายะรู้ว่าเขารักคุณคิโชวอิน ถ้าเขาบอกไปว่า—

หยุดคิด เดี๋ยวนี้.

มาซายะบอกว่าไม่ใช่ ก่อนจะถามเขาว่าก่อนที่จะลงมือปฏิบัติจริงจะต้องมีทฤษฎีอะไรไหม เขาเลยโกหกไปว่าอีกฝ่ายต้องดู AV นาน 750 ชั่วโมง แล้วสอบก่อนลงมือปฏิบัติจริง

ในคืนนั้นทาคามิจิตกลงคบกับมิซึซากิ มาซายะได้รับความกระทบกระเทือนใจอย่างหนักเลยออกจากงานไปพร้อมกับคุณคิโชวอิน เขาถอนหายใจอย่างโล่งอก อย่างน้อยอีกฝ่ายก็คงจะเลิกคิดเรื่องเซ็กส์ไปพักใหญ่

.....

341 Nameless Fanboi Posted ID:J/e92alIHL

เอ็นโจเลวมาก...

342 Nameless Fanboi Posted ID:p3HNpDtNTR

>>340 แกรรรร แกนะแก =' =

343 Nameless Fanboi Posted ID:QodJjRu1TZ

โอ้ยวงวารท่านเอ็นโจ โดนรถชนเลยเพี้ยนไปอีก 3Pก็มา มาซายะคือลูกสมุนหรือเพื้อนนะ มีจะเซต mind trap 555555 ขอบคุณโม่งฟิคมากนะ นี่รีโหลดทุก30นาที 555

344 Nameless Fanboi Posted ID:lk2BizI+x3

ฟิคนี้ทำเอาเอ็นโจในฟิคเอ็นโจ side story หรือฟิคอื่นๆดูเป็นคนดีไปเลยว่ะ 5555555555

345 Nameless Fanboi Posted ID:w/5Dqx1PPn

เอ็นโจโว้ยยยยยยยยยยยยย อีเล๊วววววววววววววววววววววววววว

5555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555

346 Nameless Fanboi Posted ID:EysHPS6lJr

เอ็นโจร้ายกาจจจ

347 Nameless Fanboi Posted ID:K6V5NBZnzS

ต่อให้เขาไม่ได้เป็นอะไรกับตัวเองแล้วก็ยังอยากครอบครองเขาไว้ แถมจะขอแจมแบ่งเมียเขาด้วย
ทิ้งเขาไปแล้วยังมีหน้ามีคิดอะไรแบบนี้อีก
เป็นผู้ชายที่แย่มากๆ แล้วเมียนายล่ะ
นายนอนกับเธอไหม ถ้าจะทำสินะ
ไม่ใช่มาซายะสุดซื่อนิ ที่จะไม่ทำ
เลวมาก เห็นแก่ตัวสัดๆ

348 Nameless Fanboi Posted ID:iMk27tQPAA

ส่วนตัวจากฟิคนี้ไม่ได้คิดว่าท่านเอ็นโจเลวนะ นางก็แค่ยังตัดใจไม่ได้เหมือนกัน หน้าที่กับความรู้สึกมันสวนทางกัน ทุกอย่างก็แค่เป็นจินตนาการในหัวของหนุ่มน้อยคลั่งรัก ถถถถ ท่านเรย์กะบาปมากค่ะ

349 Nameless Fanboi Posted ID:lk2BizI+x3

>>347 ใจเย็นมึง

350 Nameless Fanboi Posted ID:w4.NFUgie9

>>348 คิดว่าเพี้ยนมากกว่า ยังไม่ถึงขั้นเลวหรอก
คิดอยู่ว่าฉากในโบสถ์จะเพี้ยนได้ขนาดไหน

351 Nameless Fanboi Posted ID:TYVWRPi2Kw

กูรู้สึกว่ามาซายะคิดผิดมากๆ ที่ไปปรึกษาเพื่อน(เพียงคนเดียว)ของตัวเองเกือบทุกครั้ง 555555555 ไซซายะเอ้ยยย เพื่อนนายจินตนาการไปไกลแล๊วววววว

แล้วถ้าท่านเรย์กะรู้ว่าผู้ชายสองคนนี้จินตนาการอะไรกับนางบ้างจะเป็นไงวะ..

352 Nameless Fanboi Posted ID:ZhqCGKnUCA

>>351 อาจจะหนีไปซบทุ่งดอกยูริแทน ไม่ไหวแล้วค่ะ ผู้ชายช่างน่ากลัวเหลือเกิน อยู่ในทุ่งดอกไม้ที่มีแต่สาวๆรายล้อมนี่ชวนให้รู้สึกดีกว่าตั้งเยอะ

353 Nameless Fanboi Posted ID:iMk27tQPAA

>>350 เรา348เอง เราก็ไม่ได้ว่าเลวนะ แต่ความเห็นก่อนหน้าheat upมาก ถถถถ

354 Nameless Fanboi Posted ID:w/5Dqx1PPn

>>347 อินทร์เว้อออออออ

355 Nameless Fanboi Posted ID:nMTG8mlBzE

>>353 โทษที พูดไม่เคลียร์ คือ เราเห็นด้วยกับแกน่ะ

356 Nameless Fanboi Posted ID:Gm3jHVeYHR

อ่านมุมเอ็นโจรวดเดียวแล้วทั้งขำทั้งสงสารจอมมาร ติดหน้าที่ไม่กล้าพาหนี ท่านเรย์กะก็สาวน้อยรอให้เขาชวนแน่ๆ ตัวเองดันแต่งงานก่อนก็ตัดใจให้ได้ไป นอนกับเขาละด้วยแท้ๆ แต่เพราะคาบุขยันคุยเลยยังตัดใจแอบมีหวังด้วยปะวะ เผื่อจะเลิกกันไรแบบนี้ เลยยังตัดใจไม่ได้ 55555555

357 Nameless Fanboi Posted ID:lk2BizI+x3

กูควรจะเขียนอะไรมากอบกู้ภาพลักษณ์จอมมารใช่มั้ยวะ อ่านแล้วก็สมน้ำหน้า สงสาร เห็นใจ และรู้สึกเศร้าไปในเวลาเดียวกัน แง ;w;

358 Nameless Fanboi Posted ID:dP0Ttsaovn

>>357 กูเห็นด้วย ผลิตกาวออกมาเลยคร่ะ

359 Nameless Fanboi Posted ID:1DirCBSG5L

แม่ๆเรือเอ็นโจผลิตกาวกุ๊งกิ๊งมาด่วนเลยยย ตอนนี้ภาพลักษณ์ท่านเอ็นโจติดลบอย่างหนัก ชนิดที่ว่าอาจจะโดนติดป้ายว่าเป็นสายNTRไปตลอดกาลเหมือนที่โดนแปะไปแล้วว่าเป็นจอมมารไก่อ่อน 555555555//เกาะขาโม่งฟิค ส่วนท่านมาซายะที่อย่างไรก็ยังคงถามเรื่องไม่เข้าท่าทั้งนั้น ไซซายะก็ยังคงเป็นไซซายะนะคะ เสมอต้นเสมอปลาย

กูมองมุมมองดำมืดของเอ็นโจแล้วหัวคิดดีไม่ได้เลย นี่ต่อไปอีก(หลังจากคาบุเรย์กะแต่งงานใหม่)ถ้าสมมตินะสมมติ ท่านเอ็นโจหย่ากับคุณยุยโกะตอนอายุสามสิบบวกกำลังเป็นท่านประธานหล่อๆ ตอนนั้นคงจะไม่ใช่ว่าฝังหัวมาซายะเรื่องสามพีไปเสร็จแล้วไรงี้หรอกนะ
(แต่ท่านเอ็นโจคงมีมโนธรรมกว่านั้นแหล่ะ เห็นยังหยุดตัวเองได้อยู่ในตอนนี้ ไม่รู้ว่าพอเจอว่าทั้งสองแต่งงานกันจริงจังไปแล้ว จะเป็นบ้าไปเลยมะ)

เอออีกอย่างคืออ่านแล้วแบบ ในหัวเอ็นโจไม่แบลงก์ไปเลยหรอวะงี้ตอนที่ท่านเรย์กะกระซิบว่าปวดฉี่ ต้องถอดทั้งชุดอะ อีเหี้ย ถ้าคาบุมาไม่ทัน ท่านเรย์กะอาจจะได้โดนท่านเอ็นโจทำอะไรไปแล้วจริงๆ จิบไวน์ไปแล้วด้วย ดูความคิดก็แบบข่มขืนทางสายตาได้ก็คงทำ (ทำเหมือนเล่นแต่แค่คิดกูก็สยองมาก ท่านเอ็นโจ มุมมองดี ๆ เถอะนะ ภรรยาเพื่อนอะภรรยาเพื่อน!! แง ตัวเองก็มีภรรยาอยู่แล้วด้วย อย่าทำให้ภาพลักษณ์มันดิ่งลงไปสุดกู่เลย กราบบบบบ)<<อินเกินเบอร์มาก

แต่คือสงสัยโม่งซุยรันชายคือกูถามหน่อย กับคนที่ชอบอะ ถ้ามึงเจอแบบคาบุหรือเอ็นโจแบบนั้นมึงจะคิดขนาดสองคนนั้นมั้ยวะ แบบเอาตรงๆเลยไม่ใช่ในแฟนตาซีอะ กูคือแอบสยองหน่อยๆ อันที่จริงก็ไม่หน่อย มันดูเป็นความคิดที่ อะแฮ่ม คุกคาม คาบุยังรับได้บ้างเพราะแต่งงานกันแล้ว แต่เอ็นโจคือสยองจริ๊งง

360 Nameless Fanboi Posted ID:yapZWgDtni

ท่าทางจะอินกับฟิคนี้กันไปใหญ่แล้วมั้ง 😁😁😁😁 ดีนะที่เราไม่ขึ้นเรือไหนเป็นพิเศษ

361 Nameless Fanboi Posted ID:/TVWa/ERxM

>>359 กุเห็นด้วย จัดฟิคมาเหอะ น้ำใบบัวบกเอาไม่อยู่ละ อห

362 Nameless Fanboi Posted ID:dP0Ttsaovn

>>359 กูโม่งฟิค อยากได้ยินคำสารภาพจากโม่งชายเหมือนกัน เวลากูเขียน อ้างอิงมาจากผลการศึกษาที่บอกว่า เฉลี่ยแล้วผช.ปกติจะคิดเรื่อง sex วันละ 8,000 ครั้ง & อ่านคำสารภาพจากผช.บางคนว่าแค่ผู้หญิงที่ชอบทักสวัสดีก็แข็งแล้ว ตอนอ่านกูยัง wtf เลย

363 Nameless Fanboi Posted ID:w/5Dqx1PPn

>>362 กูโม่งหญิงยังคิดเรื่องอย่างว่าวันละเกือบตลอดเวลา หรือกูหมกมุ่นวะ ช่วยด้วยจ้า

364 Nameless Fanboi Posted ID:dP0Ttsaovn

>>363 กูโม่งญ.ก็คิดนะ แบบเรื่อยๆตลอดวัน แต่กูว่าผช.น่าจะถี่กว่า

365 Nameless Fanboi Posted ID:k46nAhuBgn

>>362 ถ้ากูไม่ได้เครียดไรอยู่กูก็คิดนะ....

366 Nameless Fanboi Posted ID:dP0Ttsaovn

>>365 โอ้ว ถี่ขนาดนั้นเลยเหรอวะ เฉลี่ยนี่ คิดทุกนาทีเลยนะ

367 Nameless Fanboi Posted ID:lk2BizI+x3

>>359 กูโม่งหญิง แต่กูคิดว่ะ คิดถี่ด้วย ตอนแฟนอยู่ใกล้ๆกูนี่คิดลามกเยอะมาก แต่ด้วยความเป็นกุลสตรีกูเลยต้องทำเป็นเขินอายเวลาโดนจับมือ ทั้งที่กูอยากจับคร่อมจะแย่ ถถถถถถถ

368 Nameless Fanboi Posted ID:dP0Ttsaovn

>>367 อห. คนจริงกล้าสารภาพ 5555

369 Nameless Fanboi Posted ID:677de75IdZ

7.

แต่เขาคิดผิด

ตอนที่เขานั่งประชุมผู้ถือหุ้นเรื่องการจัดสรรสวัสดิการสำหรับพนักงาน ไลน์จากมาซายะก็เด้งขึ้น

‘ฉันอยู่ในห้องสารภาพบาป’

ชูสุเกะเหลือบอ่านไลน์ เขาหวังว่ามาซายะคงไม่ฆ่าใครไปซักคน แล้วรู้สึกผิดเลยไปสารภาพบาป

‘ฉันอยู่ในห้องประชุม นายไปโบสถ์เพื่อสารภาพบาปกับพระเจ้างั้นเหรอ มาซายะ ฉันนึกว่านายไม่นับถือศาสนาซะอีก’ เขาลองหยั่งเชิง

‘ไม่ ฉัน -อยู่- ในห้องสารภาพบาป ในฐานะบาทหลวง แล้วมีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังสารภาพเรื่องที่เธอมีเซ็กส์กับพี่ชายตัวเองแบบละเอียด ฉันควรจะทำยังไงดี’

งบประมาณทางด้านประกันสุขภาพสำหรับพนักงานผ่านหูซ้ายทะลุหูขวาเมื่อเขาอ่านข้อความนั้น เขาสงสัยว่าตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่กฏของความเป็นเพื่อนระหว่างพวกเขาอนุญาตให้เล่าเรื่องเซ็กส์แฟนตาซีให้ฟังทางไลน์ ชูสุเกะคบเพื่อนแบบผิวเผินกับคนหลายแบบ เขามีเพื่อนที่ส่งภาพโป๊ในกลุ่มไลน์ แต่ไม่มีใครเคยเล่าเซ็กส์แฟนตาซีให้เขาฟัง

‘ฉันไม่ได้ล้อเล่น ฉันนั่งในห้องสารภาพบาป โดยที่คิโชวอินนั่งอยู่ที่หว่างขาของฉัน’

เขาถามกับตัวเองว่าทำไมมาซายะถึงได้อยากให้เขารู้ว่าตัวเองคิดอะไรระหว่างกิจกรรมบรรเทาความเครียดส่วนตัว เขาไม่อยากจะรู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไรทั้งนั้น แม้ว่าจะเป็นข้อมูลที่ดีในการเช็คว่ามาซายะจะตบะแตกตอนไหน และอาจจะจับคุณคิโชวอินกดตอนไหน เขาจะได้ห้ามทันก็ตามที

‘มาซายะ ฉันกำลังประชุมกับผู้ถือหุ้นโรงพยาบาล ไม่มีเวลามาฟังนายเล่าจินตนาการเรื่องเซ็กส์เกี่ยวกับคุณคิโชวอินหรอกนะ’

ภาพที่ส่งมาทำให้เขารีบลดโทรศัพท์ลงอย่างรวดเร็ว

จังหวะแรกเขาไม่ได้มองอะไรทั้งนั้นนอกจากภาพของคุณคิโชวอินที่นั่งอยู่ใต้โต๊ะ เธอใส่เดรสสีขาวประดับลูกไม้ คลุมทับด้วยเสื้อขนสัตว์ตัวสั้น แม้ว่าจะอยู่ในที่ ๆ แสงน้อย แต่ก็เห็นได้ชัดว่าใบหน้าของเธอแดงจัด ตาวาวด้วยน้ำตาที่ใกล้จะล้นออกมา บนขอบโต๊ะที่เธอซุกตัวอยู่คือสัญลักษณ์ศาสนจักร เขารู้สึกเหมือนโดนเธอหวดกำปั้นอัดท้องอีกครั้ง ลมหายใจหายไปจากปอดราวกับประสบอุบัติเหตุอีกครั้ง

เขาไม่รู้ว่าเธอเข้าไปอยู่ในนั้นได้ยังไง แต่เมื่อผนวกกับสิ่งที่มาซายะเล่า เขาก็จินตนาการภาพเธอนั่งอยู่ใต้โต๊ะนั่น ร่างกายร้อนผ่าวด้วยความต้องการเมื่อฟังเรื่องราวในห้องนอนของคนที่มาสารภาพบาป ชูสุเกะคิดภาพตัวเองประคองต้นคอของเธอจนกระทั่งใบหน้าของเธอจ่ออยู่ที่เป้ากางเกงของเขา ดวงตารื้นไปด้วยน้ำตาเหลือบขึ้นมองอย่างไม่มั่นใจ ในขณะที่ริมฝีปากคู่นั้นจุมพิตลงไป

‘เด็กดี’ เขากระซิบชม เธออ้าปากแล้วประกบลงบนส่วนที่ถูกดันจนตึง พ่นลมหายใจร้อน ๆ ใส่เขา จูบไล่ขึ้นไปเรื่อย ๆ จนถึงซิป ใช้ฟันลากมันลงมา ก่อนจะเอื้อมมือมาปลดตะขอกางเกงของเขา ‘ท่านเอ็นโจ’ เธอกระซิบด้วยน้ำเสียงเขินอาย เหมือนตอนที่เธอมองเขาแล้วอยากให้เขาจูบ คุณคิโชวอินไม่เคยจูบเขาก่อน แต่ถ้าเธออยากให้เขาเริ่ม เธอจะมองเขาแล้วกระซิบเรียกชื่อเขาแบบนั้น

เขาสงสัยว่า Oral Fixation ของเธอจะเป็นเฉพาะในเรื่องกิน หรือรวมไปถึงเรื่องอื่นกันแน่ เขานึกภาพตัวเองเกี่ยวนิ้วพันกับเส้นผมม้วนนุ่ม ๆ ชมเธออย่างให้กำลังใจก่อนจะบอกเธอว่าเธอจะต้องทำยังไง เขาชมเธอซ้ำ ๆ อย่างที่เธอชอบในขณะที่เธอใช้ลิ้นเลียตรงส่วนปลาย ทำหน้าเหมือนไม่รู้ว่าชอบหรือไม่ชอบรสชาติที่ได้ชิม แต่คำชมองเขาทำให้เธอยอมเปิดริมฝีปากสีชมพูโอบรอบแก่นกายของเขา ดูดกลืนด้วยท่าทีไม่ชำนาญของสาวบริสุทธิ์ เขาอาจจะจงใจทำให้เธอสำลักเล็กน้อย เพราะสีหน้าตอนโดนเขารังแกของเธอน่ารักยิ่งกว่าตอนไหน

370 Nameless Fanboi Posted ID:677de75IdZ

เขาเหลือบมองมุมล่างของรูปที่ปรากฏหลักฐานว่ามาซายะเองก็มีความคิดที่ไม่ต่างไปจากเขา ดังนั้นเขาเลยรีบพิมพ์ตอบกลับไปก่อนที่อีกฝ่ายจะสติหลุด

‘สงบใจเอาไว้ แล้วก็คิดถึงหน้าพี่ชายของคิโชวอินซะ’ เขาทั้งปลอบทั้งขู่

‘ฉันไม่คิดถึงหน้าพี่ชายคิโชวอินในสภาพแบบนี้หรอกนะ ฉันควรจะ — s;ldkfjsk’

เขาอ่านด้านท้ายที่กลายเป็นภาษาต่างดาวแล้วรู้สึกกังวลใจ ‘?’

‘ไม่มีอะไร คิโชวอินแค่บอกฉันว่าเธอขาชาเฉย ๆ’ โกหก ‘คิโชวอินเอาโทรศัพท์จิ้มตรงนั้นของฉัน -โดยบังเอิญ- แล้วตอนนี้ก็ขยับตัวไปมาในหว่างขาของฉัน ฉันควรจะทำยังไงดี ชูสุเกะ ฉันไม่อยากจะทำเรื่องบัดสีในโบสถ์อย่างการหลั่งในกางเกงโดยที่หน้าของคิโชวอินอยู่ห่างออกไปแค่คืบเดียวหรอกนะ’

ชูสุเกะไม่รู้ว่าเขาควรจะรู้สึกยังไงระหว่างตื่นตัวทางเพศเพราะคำบรรยายที่ยิ่งทำให้นึกถึงภาพคุณคิโชวอินใช้ปากให้เขา โกรธที่มาซายะอยู่ตรงนั้น หรือควรจะพิจารณาจริงจังเรื่องการหย่อนเมล็ดพันธุ์ความคิดเรื่องเซ็กส์หมู่ลงไปในหัวของมาซายะและคุณคิโชวอินดี

โอเค อันหลังไม่ใช่ออปชั่น หยุดคิด. เดี๋ยวนี้.

‘มาซายะ ถ้านายทำแบบนั้น ฉันจะบอกพี่ชายของคิโชวอิน เพราะงั้นสงบสติอารมณ์เอาไว้ซะ’ เขาพิมพ์กลับไป การประชุมเลิกพอดี แต่เขาบอกว่าเขาจะนั่งเคลียร์งานต่อในห้องก่อน เพราะไม่อยู่ในสภาพที่ลุกออกไปไหนได้

‘ชูสุเกะ เมื่อกี้ฉันเกือบจะถึงจริง ๆ แล้ว’

ไซเรนในหัวของเขาดังลั่น เขาไม่เคยใส่ใจเรื่องซุบซิบระหว่างเขากับมาซายะ แต่นี่มันข้ามเส้นเพื่อนสนิทไปแล้วเรียบร้อย

‘มาซายะ ความสัมพันธ์ของพวกเราพัฒนาจนมาถึงขั้นที่นายบอกฉันว่านายกำลังจะถึงจุดสุดยอดตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะ’ เขาส่งสติกเกอร์ร้องไห้ตามไปด้วย

‘หน้าของคิโชวอินซบเข้ามา -บนเป้า- ของฉันตอนที่เธอพยายามจะออกมาจากใต้โต๊ะ แล้วยังบอกอีกว่าเธอไม่รังเกียจถ้าฉันจะช่วยตัวเองในห้องที่พวกเราอยู่’

เขาอึ้งไป แต่เกือบ ๆ จะมั่นใจว่ามาซายะตีความคำพูดของคุณคิโชวอินผิดอะไรไปบางอย่าง และสาบานจริง ๆ ว่าเขาไม่ได้ตั้งใจจะคิดภาพคุณคิโชวอินใช้ปากให้กับมาซายะ ในขณะที่เขาสอดใส่เข้าไปในตัวของเธอจากทางด้านหลังในห้องสารภาพบาปแคบ ๆ เขารู้สึกเกลียดตัวเองที่จินตนาการเรื่องเลวทรามแบบนั้นกับคุณคิโชวอิน เธอเป็นเทพธิดาของเขา เขาอยากให้เธอเป็นของเขาเพียงคนเดียว แต่เขาห้ามความคิดของตัวเองไม่ได้

ความคิดนี้จะถูกฝังลงไปในหลุมศพพร้อมกับร่างในวาระสุดท้ายของเขา ไม่ได้เห็นแสงเดือนแสงตะวันเด็ดขาด เพราะถ้าพี่ชายของคิโชวอินรู้ เขาคงถูกฝังจริง ๆ ณ ตอนนั้น

‘อย่าทำอะไรบ้า ๆ เป็นอันขาด คุณคิโชวอินเป็นเพื่อน เป็นเพื่อนนายเหมือนกับฉัน นายไม่อยากจะชักว่าวให้ฉันดูหรอก แล้วฉันก็ไม่อยากจะดูด้วย คุณคิโชวอินแค่พูดตามมารยาทเท่านั้น’

เขาพิมพ์ตอบกลับไป วางโทรศัพท์ ก่อนจะคิดว่าคิโชวอิน ทาคาเทรุจะฆาตกรรมเขายังไงหากรู้ความคิดในหัวของเขาเพื่อให้ตัวเองสามารถสงบสติอารมณ์ลง แล้วสามารถออกจากห้องประชุมได้ในที่สุด

.....

371 Nameless Fanboi Posted ID:JivzEC5D1e

โว้ยยยยย ท่านเอ็นโจจจจจ

บ่นไซซายะเรื่องเซ็กส์แฟนตาซี แต่ตัวเองคือไปไกลมาก 555555555

ปล.>>367 มึงไม่ใช่คนเดียว บางทีกูก็อยากใช้กำลังปลุกปล้ำแฟนเหมือนกัน
กุเริ่มสงสัยแล้วว่าผู้ชายคิดวันละ8000ครั้งแล้วผู้หญิงคิดวันละกี่ครั้งวะ
เพราะมันอยู่ในหัวเกือบตลอดเวลาอะ (สติ๊กเกอร์ร้องไห้แบบท่านเอ็นโจ)

372 Nameless Fanboi Posted ID:lk2BizI+x3

>>369-370 อืมมมมม จินตนาการของท่านเอ็นโจนี่แม่ง.... แต่กูเข้าใจนะ กูเข้าใจจริงๆ//ตบบ่า

>>371 แฟนกูผู้ชายนะ แต่ออกแนวน่ารักน่าแกล้งว่ะ กูชอบแหย่ให้เขาเขิน บางทีกูก็อยากทำบางสิ่งกับเขาแต่พิมพ์ลงไปในนี้ไม่ได้ เอาเป็นว่ากูก็จิ้นคล้ายๆท่านเอ็นโจก็แล้วกัน 5555555555

373 Nameless Fanboi Posted ID:+JQ+yvNT+g

หืม จินตนาการของเอ็นโจ ยิ่งกว่าคาบุอีกนะ ก็นะ ประสบการณ์มันต่างกัน 😁😁😁

374 Nameless Fanboi Posted ID:JivzEC5D1e

อยากให้ห้องกามากลับมาจังเลยค่า บางทีก็อัดอั้น แต่ในนี้ไม่มีที่ให้ระบายอีกต่อไป

375 Nameless Fanboi Posted ID:51M1Toz8Sr

ช่วยด้วยยยย กูอ่านตอนล่าสุดแล้วหยุดยิ้มหื่นไม่ได้ ท่านเรย์กะแต่งงานแล้วมี sex appeal สูงจังโว้ยยยยย

376 Nameless Fanboi Posted ID:753Go0ZfWS

อ่านตอนนี้แล้วจั๊กจี้แปลกๆ555😂😂

377 Nameless Fanboi Posted ID:omdHNtHUcm

ตอนเอ็นโจบอกให้ครบุนึกถึงท่านพี่ ทำไมเราคิดเป็น3P 555

378 Nameless Fanboi Posted ID:4GAhcwG.hc

>>354 >>355 นี่353เอง เค้าอินทร์มากจนกูไม่กล้าtag ถถถ ขอบคุณที่อยู่เปนเพื่อนกู

379 Nameless Fanboi Posted ID:MDFmROtGM0

จากเรื่องที่โบสถ์ในมุมมองทั้งสามคน สรุปแล้ว เจ้าแม่ใสสุดสินะ สองหนุ่มที่เหลือ คิดไม่ซื่อทั้งนั้น

380 Nameless Fanboi Posted ID:qIaz+/8Ty9

โว๊ย 5555555 ตอนอ่านของคาบุก็สงสารเอ็นโจ พออ่านของเอ็นโจ......เอาความสงสารนั้นคืนมา! ความไสยฯของพวกคนหนุ่มนี่มันขุ่นจริงๆ

381 Nameless Fanboi Posted ID:9Cu7kpGbIT

เห็นฟิคแต่ละฟิคแล้วกูก็คิดว่าอิพวกธุรกิจที่สามตรพกูลใหญ่ทำนี่คืออะไรวะ
ที่เห็นชัดๆกูเดาว่าเครือคาบุเหมือนจะเป็นโรงแรมที่มีสาขาที่เมดิเตอร์เรเนียน
แต่คิโชวอินกับเอ็นโจยังไม่แง้มออกมาเลย
แต่เอาจริงๆจาก http://forbesthailand.com/world-detail.php?did=1945
พวกเด่นจะเป็นบ.ลงทุนกับรถมากกว่า กูเห็นเขาพูดๆกันว่าบ.ที่กำไรดีเศรษฐีเป็นพวกเงิน อสังหาริมทรัพย์(คอนโด บ้าน รร) คาบุนี่น่าจะควบอสังหาไปแล้ว อีกสองกูเดาไม่ออกว่าคืออะไรว่ะ//โม่งสายธุรกิจช่วยตอบกูที กูเด็กสายวิทย์ แต่อยากเสือก 555

382 Nameless Fanboi Posted ID:lk2BizI+x3

>>381 กูว่าเอ็นโจน่าจะด้านโรงบาล เพราะเซนส์กูมันบอกว่าโรงบาลที่เจ้าแม่ไปรักษาคิ้วแหว่งมันคือโรงบาลในเครือเอ็นโจ 55555555

383 Nameless Fanboi Posted ID:MDFmROtGM0

>>381 ธุรกิจที่กำไรดี นึกถึงธุรกิจแบบ CP ในบ้านเราน่ะ ที่จะเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของเรา หรือไม่ก็ธนาคาร การเงิน

384 Nameless Fanboi Posted ID:9Cu7kpGbIT

>>382 โดยส่วนตัวกูว่าธุรกิจโรงพยาบาลไม่น่าจะใหญ่พอให้เอ็นโจเทียบคาบุได้เลยว่ะ ถ้าจะทำต้องควบๆกะธนาคารแบบดอกบัว 555
>>383 เออจริง cp นี่คือของกิน ขายได้แน่นอน ทุกวันนี้7 จะขายทุกอย่างแข่งแม่ค้าแล้วเหอะ

385 Nameless Fanboi Posted ID:GiEGgygCXd

>>383 CP ทั้งเครือ net margin อยู่ประมาณ 5% เองนะ เพียงแต่คุมให้ไม่สวิงได้ เลยดูเหมือนกำไรดี ไม่มีขาดทุน ส่วนธนาคารนี่แต่ก่อนแม่งเสือนอนกิน แดกค่าธรรมเนียม เดี๋ยวนี้ E-banking เปิดเยอะ หน้ามืดพอตัวเหมือนกัน

ในหัวกูคิดเหมือน >>382 นะ แต่ก็ไม่มีหลักฐาน orz กูมโน ส่วนของคิโชวอิน กูจำได้ว่าอ่านว่าทานุกิเป็นนักชิมกัวเม่ต์ตัวยง เลยคิดว่าอาจจะทำธุรกิจเกี่ยวกับอาหาร

386 Nameless Fanboi Posted ID:NEo90d12q1

>>371 ในงานทดลองเค้าบอกว่าผู้หญิงคิดเรื่องเซ็กซ์แค่ครึ่งเดียวของผู้ชาย ก็วันละ 4000 ครั้ง

ปล.งานทดลองดังกล่าวทำในคนอายุประมาณ 2X-3X ก็วัยเจริญพันธุ์อ่ะนะ แต่กูว่า พวกอายุ 17-18 น่าจะคิดถี่กว่า เพราะฮอร์โมนมันกำลังพลุ่งพล่าน

387 Nameless Fanboi Posted ID:0IZF0zEuzr

>>384 โรงพยาบาลดี ๆ เครือใหญ่ ๆ เงินหนาไม่แพ้พวกอสังหานะ มึงลองดู BDMS มูลค่าในตลาดหุ้นจะ 4 แสนล้านละ ในขณะที่พวกอสังหาอย่าง PSH QH ก็แค่หลักหมื่นล้าน กูว่ารพ.ทำดี ๆ ก็โอเคนะ แต่ในเรื่องบ้านคาบุน่าจะรวยกว่ามากอ่ะ

388 Nameless Fanboi Posted ID:omdHNtHUcm

>>381 คิดว่าน่าจะเป็นเครือธุรกิจเก่าแก่ อย่างมิตซูบิชิ มิตซุย พวกนี้ป่าวไม่น่าจะทำธุรกิจแค่อย่างเดียว โรงแรมอาจจะเป็น pet project ของท่านแม่คาบุเท่านั้น ส่วนโรงบาลก็แค่หนึ่งในหลายธุรกิจของบ้านเอ็นโจ หร

389 Nameless Fanboi Posted ID:UVEAlou4pn

>>385 คือในไทยน่ะ ธุรกิจที่รวยโดดเด่น ก็น่าจะเป็นบริษัทที่ได้สัมปทานจากรัฐส่วนใหญ่นะ เช่น ปตท การคมนาคม (เรือ ขนส่ง รถไฟฟ้า) รับเหมาก่อสร้าง (ช การช่าง อิตัลไทย หรืออิตาเลี่ยนไทยสักอย่าง) หรือพวกธุรกิจสื่อสารอย่าง true ais dtac

พวกโรงพยาบาล จะรวยได้ก็ต้องมีสาขาทั่วไทยอย่าง รพ. กรุงเทพ (BDMS) ที่ขยายสาขาไปทั่ว ไม่ว่าจะสร้างเอง หรือไปซื้อ รพ. อื่น หรือซื้อธุรกิจอื่นเพื่อขยายฐานของตัวเอง

แบบ central ก็ไม่เลวนะ มีทั้งห้าง ทั้งโรงแรม

390 Nameless Fanboi Posted ID:dqVO0W6sq6

กลายเป็นห้องธุรกิจแล้ว//พนมมือ 555

391 Nameless Fanboi Posted ID:b9DssbVQc6

>>390 เราจะหื่นไปด้วยกันอย่างมีคุณภาพ

392 Nameless Fanboi Posted ID:ZB0WqW2C7Z

>>390 โม่งซุยรันเป็นมาทุกห้องแล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นของกิน เช่น น้ำชา ไวน์ เป็นต้น

393 Nameless Fanboi Posted ID:dqVO0W6sq6

>>391 >>392 กูพึ่งกลับมาไงมึง ตกใจความธุรกิจ แต่ตอนนั้นกูน่าจะเชื่อพวกโม่งไว้บ้าง ว่าบัญชีไม่ใช่เลข อห

394 Nameless Fanboi Posted ID:RbwFdTZejM

>>381 สำหรับกูคิดว่าบ้านเอนโจเหมือน BDMS แต่ใหญ่กว่าอาจมีบริษัทยาในสังกัดด้วย เม็ดเงินเยอะนาเหวยพวกการแพทย์และเคมีภัณฑ์
ส่วนบ้านคิโชวอินกูคิดแบบพวกสินค้าอุปโภคบริโภคแนวๆยูนิลีเวอร์ ของกินของใช้ในชีวิตประจำวัน
ส่วนบ้านคาบุคงเป็นแนวการเงินการธนาคารมั้งหรืออาจแตกไลน์ไปเยอะเพราะดูเหมือนใครๆก็เกรงใจ

395 Nameless Fanboi Posted ID:dP0Ttsaovn

กูมานั่งนึก ๆ ดูก็สงสัยว่า ในเรื่องคาบุฝ่าฟันคบกับวาคาบะได้ยังไงวะ คือมึงคิดสภาพลูกชายธุรกิจแสนล้าน แต่งกับคนปกติอ่ะ พ่อแม่จะยอมเหรอวะนั่น เสียดุลการค้าชิบหาย

396 Nameless Fanboi Posted ID:M+NYYlFK43

>>393 หลงเข้าเรียนคณะบัญชีมาหรือไง

>>394 เออ ลืมเรื่องสิทธิบัตรยาไปเลย

>>395 ชีวิตจริงมันก็มีนะ รักต่างชนชั้นน่ะ เมืองไทยเองก็เยอะ แต่อีกฝ่ายต้องเก่งพอตัวเลยล่ะ หรือไม่ก็ฝ่ายชายรวยมากพอ มีอำนาจมากพอ ที่ไม่ต้องมีใครมาเกื้อหนุนน่ะนะ

397 Nameless Fanboi Posted ID:gNUm0OdgB0

>>396 วาคาบะก็เก่งนะมึง ชีดูเอ๋อๆแต่ชีจีเนียสจ๊ะ จากนิสัยมองโลกในแง่ดี และลักษณะนิสัย กูว่าวาคาบะคือสุดยอดนางเอกจริงๆมึง
โดนแกล้ง แต่ไม่ใส่ใจ มุ่งไปที่เป้าหมาย มองเห็นอนาคตไกลอยู่นะมึง ทำกิจกรรมสภานักเรียนอีก ถ้าเอาตามสังคมญี่ปุ่นนี่คงอยู่ในกลุ่มว่าที่นักกฎหมายเลยเถอะ
สำหรับกูวาคาบะนี่น่านับถือในเรื่องนิสัยใจคอกว่าเจ้าแม่เยอะ 555(ขี้เกียจ กิน ผลัดวันประกันพุ่ง) 555
เห็นได้ชัดว่า คาบุ เอ็นโจ วาคาบะนี่เป็นพวกมีเป้าหมายของตัวเองและควบคุมตัวเองได้ดี ส่วนเจ้าแม่ออกนอกลู่นอกทางตล๊อด

398 Nameless Fanboi Posted ID:L7AP8Nel8w

>>395 เพราะวาคาบะเป็นเด็กดีและเข้มแข็งไม่ยอมแพ้มั้ง ส่วนคาบุก็พิสูจน์ว่ารักจริงๆ เลยชนะใจมาดามได้ตามตรรกะการ์ตูนโชโจ ส่วนเรย์กะที่มาดามเล็งก็โดนแฉทุจริตเลยโดนซิวเข้าคุกไป

เล่าในเคสที่มันคล้ายๆกันที่กูเคยเห็นนะ เคสนี้เป็นลูกสาวท่านประธานของบริษัทที่กูทำงานถึงจะไม่รวยเท่าคาบุแต่ก็จัดว่าใหญ่อยู่ แต่งงานกับพนักงานธรรมดาๆกลายมาเป็นลูกเขยแต่งเข้า ฐานะทางบ้านเดิมของผู้ชายก็ปานกลางไม่ได้รวย แต่คนนี้เขาเก่งไง ทำงานเก่ง ขยัน สอบชิงทุนที่ยากมากๆไปเรียนต่อเมืองนอกด้วยตัวเอง ท่านประธานเลยโอเคเพราะแกชอบคนเก่งและขยัน เอาง่ายๆว่ามีดีเข้าตาเขาน่ะ

399 Nameless Fanboi Posted ID:ccNLRcf.Mb

กูเคยกิ๊กกะลูกเศรษฐีนะ ระดับแนวหน้าเมืองไทยอยู่เหมือนกัน

คือบ้านกูก็ไม่จน แต่เทียบแล้วก็เศษๆของเค้า ถูกมองว่าจะมาเกาะลูกเค้าแดก 55555555

กุนี่งงมากว่ามันจะฝ่าฟันกันอิท่าไหนหว่า แต่ถ้าวาคาบะจีเนียสจริงๆก็ได้แหละ

แต่อย่างกูเลิกกันไป เพราะสุดม้ายฝ่ายชายก็หมั้นไปกับลูกไฮโซอีกตระกูลนึง

ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยาย

400 Nameless Fanboi Posted ID:gNUm0OdgB0

>>399 มึงมองโลกในแง่ดีไว้ อย่าน้อยมึงก็ได้เชยชมของที่ดีมานด์สูง อย่างกูแม้แต่โอกาสเดินเฉียดเขายังไม่มีเลย ถถถถถ

401 Nameless Fanboi Posted ID:k46nAhuBgn

อยู่ดีๆกูก็รู้สึกว่าห้องน้ำชาซุยรันอยู่ซุยรันจริงๆด้วยว่ะถถถถถ โม่งแม่งมีอยู่ทุกระดับจริงจัง

402 Nameless Fanboi Posted ID:vDoorPWvzJ

>>399 ไม่เป็นไรนะมึง
กูว่า มันต้องแล้วแต่วัตถุประสงค์จองแต่ละบ้านด้วยแหล่ะ ว่าต้องการอะไรจากการแต่งงาน บางบ้านไม่ต้องการอะไร ขอแค่อีกฝ่าย เก่ง ขยัน ไม่เกาะเค้าแดก บางบ้านก็หวังเชื่อมธุรกิจน่ะนะ

ถึงบอกไงว่ารักต่างชนชั้นมันมี แต่น้อย ก็เท่านั้น

403 Nameless Fanboi Posted ID:Zc0F09kFnF

>>399 โคตรเรียล ฟังแล้วปลงเลย

404 Nameless Fanboi Posted ID:dqVO0W6sq6

>>396 หลงมาเรียนโลจิส บัญชีกับการตลาดมาจร้า เหลือบมองคะแนนแพท 1ที่ยื่นเข้า ตอนกุสัมจารณ์เน้นว่าคณิตกับอิงใช้เยอะมากใส่กุ 5 รอบ ไม่มีเลยโว้ยยยย

405 Nameless Fanboi Posted ID:Zc0F09kFnF

>>404 โลจิสติกเก่ง ๆ เงินดีนะมึง

406 Nameless Fanboi Posted ID:ccNLRcf.Mb

>>399 เอง
จริงๆไม่ได้เศร้าอะไรนะ แต่โม่งฟิคนี่ทำให้กุนึกถึงขึ้นมาบ้างนอดหน่อย 555
ตอนนั้นก็รู้สึกอยู่ว่าน่าจะคบกันไม่รอด อีกฝั่งรวยเกิน เหมือนอยู่คนละโลก กูกลัว
(เรื่องเหมาซีทโรงหนังเพื่อขอเป็นแฟนมีอยู่จริง พูดได้แค่นี้ก็ขนลุก)
กุไม่จน แต่กุก็ไม่รวยขนาดนั้น การวางตัวเข้าสังคมก็ค่อนข้างลำบาก เวลาโดนถามประวัติจะรู้สึกประดักประเดิดหน่อยๆ (ใครดูเครซี่ริชเอเชี่ยนบ้างวะ อารมณ์เหมือนตอนนางเอกโดนญาติพระเอกถามว่ามาจากตระกูลไหน ไรงี้ อันนี้ก็เกือบๆจะเหมือนละ)
ตอนเลิกกันไปเลยเป็นความอึนๆมากกว่าว่าเออ สรุปก็เลิกกันงงๆ เลิกได้สองสามวีค อยู่ดีๆฝั่งนั้นก็หมั้น โม่งฟิคแม่งก็ทำให้กุนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา 555555

ทุกวันนี้กุโอเคแล้ว มีแฟนใหม่ละ รักกันดี
/หมู่บ้านมีรักไม่เสื่อมคลาย ฮุฮุ อิจฉาได้นะคะทุกท่าน

407 Nameless Fanboi Posted ID:p4exb78.Mv

>>406 เหม็น มึงจงโดนเจ้าแม่สาดเกลือใส่ซะ!!!

408 Nameless Fanboi Posted ID:DdVFTDKU7a

>>406 อ่านถึงตอนท้ายจากเศร้า ๆ กูอิจเลยค่ะ

409 Nameless Fanboi Posted ID:kO5Dzgx9bH

>>406 ใช่กูอิจมึง // สาดเกลือพร้อมเจ้าแม่

410 Nameless Fanboi Posted ID:6kIOlKDQ/a

>>406 เรื่องมึงคล้ายๆกู กูเจอเขาตอนไปเรียนต่อโทเมืองนอก บ้านเขารวยมากกกกก ส่วนกูฐานะปานกลางค่อนไปทางจน ทีแรกกูไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขารวยมาก คิดว่าบ้านมีกะตังแต่ไม่ได้คิดว่าจะรวยขนาดนี้ ตอนเขาพากูไปบ้านกูนี่ตะลึงมากแม่งหยั่งกะวัง แล้วเจอญาติๆเขาแม่งเหมือนอยู่คนละโลกอะ กูไม่รู้เรื่องซักอย่างที่เขาคุย พ่อแม่เขาก็ไม่ได้มาดูถูกหรือกีดกันออกนอกหน้านะ แต่ก็รู้ว่าเขาก็ไม่ได้อยากได้กูเป็นสะใภ้แน่นอน ก็สำเหนียกตัวเองได้เลยขอเป็นเพื่อนกันดีกว่า แล้วก็ห่างๆกันไปแล้วก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลยเป็นสิบปี เอาไว้เป็นความทรงจำว่าครั้งนึงเคยมีหนุ่มไฮโซหลงผิดมาจีบ แต่ที่ต่างจากมึงคือกูในปัจจุบันนั้นสังกัดหมู่บ้านคานทองว่ะ 5555555555

411 Nameless Fanboi Posted ID:aRuGzV2foF

>>410 มีความละครมากมึง ยินดีต้อนรับเข้าสู่หมู่บ้านคานทองข่ะ

412 Nameless Fanboi Posted ID:AmODzB20OZ

>>410 กอดๆ กุเข้าใจฟีลตกตะลึงนั้น 5555555
แบ่งปันเลิฟโฮย่าแจกจ่ายทุกคนเพื่อความโชคดีนะคะ

413 Nameless Fanboi Posted ID:xDe5JH/0cA

ส่วนกู ไม่มีปัญหาอะไรทั้งนั้นเพราะไม่เคยมีคนเป็นแฟนด้วยเลย.......มันควรจะดีใจใช่มะ5555

414 Nameless Fanboi Posted ID:oMRxRU4U+v

>>413 สมุนเจ้าแม่ตัวจริงไงพรรคพวก

415 Nameless Fanboi Posted ID:6kIOlKDQ/a

>>411 มันก็ไม่ได้ละครขนาดนั้นหรอก คือพ่อแม่เขาก็ไม่ได้มาร้ายๆกีดกันแบบที่เห็นในละครอย่างเช่น คุณหญิงแม่ขอสั่งห้ามไม่ให้ชายคบกับผู้หญิงคนนี้และแม่เตรียมหาคู่หมั้นแล้วให้อะไรแบบนั้น ญาติๆเขาก็ไม่ค่อยสนกูเท่าไหร่ แต่เป็นกูเองที่รู้สึกอึดอัดเพราะรู้สึกแม่งอยู่คนละโลกเลยต้องขอเลิกอะ ไลฟ์สไตล์ไม่ตรงกัน

416 Nameless Fanboi Posted ID:pp/Af5vtjE

8.

‘ชูสุเกะ นายมีวิธีลบความทรงจำไหม’

มาซายะไลน์มาหาเขาตอนเที่ยงคืน ยังดีที่อีกฝ่ายไลน์มาหาเขาในเวลานี้ เพราะถ้าไลน์มาเร็วกว่านี้ซักสิบห้านาทีแล้วเขาเกิดเผลอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาตอบไลน์ในระหว่างที่กำลังอยู่บนร่างของยุยโกะ เธอคงคิดว่าข่าวลือของเขากับมาซายะเป็นจริง

ชูสุเกะนิ่งไปเมื่อเขาคิดว่า ถ้าเกิดเธอคิดว่าเขาเป็นเกย์ เขาอาจจะใช้นั่นเป็นข้ออ้างในการไม่ร่วมเตียงกับเธอ

เขาตัดสินใจโยนตัวเลือกตัวนั้นทิ้ง เขาไม่ได้อับจนหนทางถึงขนาดใช้ข้ออ้างเป็นเกย์กับมาซายะหนีกิจกรรมบนเตียงกับภรรยาของตัวเอง

เขาส่งเว็บขายยาเถื่อนซึ่งขายยากล่อมประสาทให้กับมาซายะ แล้วพิมพ์ถามไป ‘นายทำอะไรอีกแล้วน่ะ มาซายะ’ เผื่อว่ามาซายะจะเอามันไปใช้กับคุณคิโชวอิน เขาจะได้ห้ามได้ทัน

‘ไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น’ มาซายะพิมพ์ตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว

โกหก

เขาถอนหายใจ ฟังเสียงฝักบัวในห้องอาบน้ำที่เงียบไป ยุยโกะคงใกล้ออกมาแล้ว และเขาก็อยากอาบน้ำก่อนนอน ‘ถ้านายไม่ได้ชอบคุณคิโชวอิน ก็อย่าคิดถึงเธอในแง่นั้นอีก’

มาซายะไม่ได้พิมพ์อะไรตอบกลับมา เขาจึงเข้าไปอาบน้ำต่อจากยุยโกะ เธอมองเขาถือโทรศัพท์เข้าไปในห้องอาบน้ำด้วย เมื่อเขาออกมาจากห้องน้ำ เธอก็หลับไปแล้ว

เขาจ้องมองหน้าจอไลน์ แล้วสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

มาซายะไม่ได้คุยเรื่องคิโชวอินกับเขาหลายเดือนแล้ว พอเขาเลียบ ๆ เคียง ๆ ถาม มาซายะก็บอกว่าถ้าไม่นับกิจกรรมเดี่ยวในห้องนอน ความสัมพันธ์กับคุณคิโชวอินก็เป็นไปอย่าง ‘สุภาพและมีความเป็นมืออาชีพ’ เป็นอย่างที่สุด ยกเว้นแต่บางเรื่องเช่น

‘แล้วคิโชวอินก็ให้ฉันทาเล็บเท้าให้ ก็ไม่ได้จะมีปัญหาอะไรหรอกนะถ้ายัยนั่นไม่ได้อยู่ในระหว่างนวดน้ำมันแล้วสวมเสื้อคลุมแค่ตัวเดียว นายคิดภาพสิว่ามุมที่ฉันอยู่มันล่อแหลมขนาดไหน (ชูสุเกะไม่รู้ว่าเขาควรจะขอบคุณมาซายะหรือโมโหหมอนี่ดี มาซายะลืมไปแล้วสินะว่าเขาชอบคุณคิโชวอิน การได้ยินเรื่องแบบนี้จากปากผู้ชายคนอื่นเป็นเรื่องชวนหัวร้อนอย่างที่สุด) แต่สาบานได้ว่าฉันไม่ได้แอบมองเลยแม้แต่นิดเดียว (โกหก) โอเค ฉันอาจจะมองผ่านแว๊บ ๆ เพราะต้องเงยหน้าคุยกับเธอ ฉันก้มหน้ามองแต่เท้าของเธออย่างเดียวตอนที่คุยด้วยไม่ได้นี่นา มันดูเสียมารยาทจะตาย (นายแคร์เรื่องนั้นด้วยเหรอ?) นายคิดว่าฉันควรจะทำยังไงดีในสถานการณ์แบบนั้น (เก็บสายตาของนายไว้ในที่เหมาะที่ควรซะ แล้วก็คิดถึงเรื่องอื่นที่ไม่ใช่เรื่องของเธอ) ฉันไม่รู้ว่าฉันควรจะทำยังไงอีกต่อไปแล้ว นายคิดว่าเธอกำลังยั่วฉันรึเปล่า (เขาตอบไปว่าไม่ แต่สงสัยว่าเธอที่ขี้ระแวงจะไม่ระวังขนาดนั้นเลยจริง ๆ งั้นเหรอ?) ฉันไม่รู้จะทำยังไงต่อไปดีแล้ว (ก็แค่อย่าทำอะไรทั้งนั้น)’

หรือเรื่องอย่าง

‘นายคิดว่าช่วยตัวเองกี่ครั้งต่อวันถึงเรียกว่ามากเกินไป (มาซายะ นี่มันตีสาม แล้วคำถามแบบนั้นมันอะไรน่ะ นายคาดหวังให้ฉันตอบอะไรไปเหรอ?) นายคิดว่าเจ็ดครั้งมากเกินไปรึเปล่า? (เดี๋ยวนะ เจ็ดครั้ง? ใช่ มันมากเกินไป นายทำเจ็ดครั้งจริง ๆ น่ะ? เขาคิดสงสัย แต่ไม่ได้ถามออกไป มันเลยเส้นของความเป็นเพื่อนไปแล้ว) นายคิดว่าเซ็กส์บนเก้าอี้ทำงานนี่เป็นไปได้ไหม? (พระเจ้า นี่มันเริ่มอีกแล้วใช่ไหมเนี่ย) ฉันคิดว่าถ้าพูดกันตามความจริงแล้วมันอาจจะเป็นไปได้ แต่ไม่น่าปลอดภัยเลย นายคิดว่ามีเก้าอี้ออฟฟิศที่ผ่านการรับรองว่าสามารถมีกิจกรรมทางเพศบนนั้นรึเปล่า (มาซายะ นี่มันตีสามกว่าแล้วนะ นายอยากจะให้ฉันช่วยนายเสิร์จหาเก้าอี้ที่ผ่านการรับรองว่าสามารถมีเซ็กส์บนนั้นได้อย่างปลอดภัยงั้นเหรอ?) แค่นี้ก่อนนะ พรุ่งนี้ฉันต้องทำงาน (ขอบคุณพระเจ้า) .... นายคิดว่าช่วยตัวเองแปดครั้งติดกันนี่มันมากเกินไปรึเปล่า ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคิโชวอินจะเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นในชุดแบบนั้น แล้วถึงจะเป็นชีทเดย์ก็เถอะ กินขนมตอนตีสามเนี่ยนะ? (ไปช่วยตัวเองรอบที่แปดแล้วก็แห้งตายไปซะ มาซายะ)

417 Nameless Fanboi Posted ID:pp/Af5vtjE

จากความคืบหน้าของระดับความสัมพันธ์ระหว่างมาซายะกับคุณคิโชวอิน และความอัดอั้นที่สั่งสมของมาซายะแล้ว เขาก็คิดถึงเรื่องทรีซั่มขึ้นมาอีกครั้ง แต่ก็คิดแค่แว่บเดียวเท่านั้น แล้วปัญหาของเขาก็หมดไปเมื่อความถี่ในการพูดถึงอายูคาวะ ชิสึกะ มากขึ้นเรื่อย ๆ

ชูสุเกะเป็นเพื่อนกับมาซายะตั้งแต่เกิด ถ้าเขาไม่สังเกตเห็นถึงสัญญาณนั้น ใครจะเห็น

ดูเหมือนว่าคนที่สังเกตได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในตัวของมาซายะ นอกจากเขาแล้วก็มีคุณคิโชวอิน

ในงานเทศกาลชมดอกไม้ของสวนอะจิไซอันโด่งดังในโรงแรมสาขาหนึ่งของเครือคาบุรากิ อายูคาวะ ชิสึกะ ตามติดมาซายะกับคุณคิโชวอินราวกับเป็นเงาสายหนึ่ง เขามองมาซายะที่คุยกับคุณอายูคาวะอย่างสนิทสนม และมองคุณคิโชวอินปฏิบัติต่อเธออย่างอ่อนโยน ในขณะเดียวกันก็พยายามแนะนำเธอให้กับบรรดาชายโสด แต่ดูเหมือนเธอจะไม่สนใจพวกเขามากนัก แล้วเขาก็ได้รู้อีกเรื่องหนึ่งนอกจากเรื่องมาซายะเริ่มรู้สึกดีกับคุณอายูคาวะ นั่นคือคุณคิโชวอินเองก็เริ่มชอบมาซายะแล้ว

เขาที่เฝ้ามองเธอมาตลอดสังเกตได้ถึงความเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ ในความสัมพันธ์นั้น รู้สึกเหมือนพื้นที่เขายืนอยู่สั่นคลอนและค่อย ๆ ถล่มลงไป ในเวลานี้สายตาของคุณคิโชวอินไม่ได้มองหาเขาอีกต่อไปแล้ว แต่กลับไล่ตามมาซายะ เขาอยากจะไปยืนต่อหน้าเธอแล้วบอกกับเธอว่าอย่าทิ้งเขาไว้ให้เป็นแค่ความทรงจำ อยากจะขอโทษที่เขาไม่มีความกล้าพอที่จะต่อสู้เพื่อความรักของตัวเอง อยากจะอ้อนวอนขอโอกาสกับเธออีกครั้ง อยากจะบอกเธอว่าเขารักแต่เธอเสมอ จนถึงตอนนี้ก็ยังรัก

หากแต่เขารู้ตัวดีว่าไม่มีสิทธิ์นั้น

เขาจึงเฝ้ามองอย่างเงียบ ๆ และอดทน จนกระทั่งในคืนหนึ่งที่ไลน์จากมาซายะเด้งขึ้นมา

‘ฉันชอบอายูคาวะ ชิสึกะ?’

เขาตอบไปแค่สั้น ๆ ว่า ‘อืม’

ตอนที่พวกเขายังอยู่มหาวิทยาลัยหรือเพิ่งจบ พวกเขาไม่มีอำนาจหรือสิทธิ์เสียงในการเลือกทางเดินชีวิตของตัวเองเลยแม้แต่น้อย เขาที่ถูกจับแต่งงานกับยุยโกะ มาซายะที่ถูกบังคับให้เลิกกับทาคามิจิและแต่งงานกับคุณคิโชวอิน แต่ในตอนนี้พวกเขาเริ่มมีฐานอำนาจขึ้นมาแล้ว

สิ่งที่เขาต้องทำก็คือการเฝ้าดู ดูว่ามาซายะจะทำยังไง และถ้ามาซายะมีแนวโน้มที่จะเลือกคุณอายูคาวะ เขาก็จะเข้าหาคุณคิโชวอิน แม้ว่าในตอนนี้พ่อแม่ของพวกเขาจะยังมีอำนาจสูงสุดในตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ แต่ถ้าเขากับมาซายะดึงดันที่จะทำอย่างที่ตัวเองต้องการ เขาคิดว่าใครก็ไม่อาจขัดขวางพวกเขาได้

แว่บหนึ่งเขานึกถึงสายตาของคุณคิโชวอินที่มองตามแต่มาซายะ หากทว่าทั้งเขาและคุณคิโชวอินต่างรู้ดีกว่า ถ้ามาซายะรักแล้ว อีกฝ่ายหัวดื้อและทุ่มเทเพียงใด เขาเองก็ช่วยอะไรเธอไม่ได้ แต่ถึงจะช่วยได้ เขาก็ไม่คิดจะช่วย

เขามันก็แค่คนเห็นแก่ตัวคนหนึ่งเท่านั้น

.....

418 Nameless Fanboi Posted ID:35CoZHWa8v

กรี๊ด โม่งฟิคมาเช้ามาก ดีที่เราแวะมาดูก่อนไปทำงาน ฟินนนนน ขอบคุณนะ

419 Nameless Fanboi Posted ID:jVjaQ04IR0

วงวารเอ็นโจ มาซาย๊าาาาาาาาาา

420 Nameless Fanboi Posted ID:CVZad4B8Ew

ได้อ่านก่อนสอบนี่ดีจริงๆ😂😂

421 Nameless Fanboi Posted ID:fUymVrxHme

เมื่อไหร่ตอนใหม่จะมา 😭

422 Nameless Fanboi Posted ID:wxycd1c/+w

>>421 ให้โม่งฟิคทำงานมั่ง นี่ก็มาเร็วกว่าที่บอกมากๆละนะ วิญญาณแค้นท่านเอนโจกดดันโม่งฟิค 555

423 Nameless Fanboi Posted ID:YlsanOWwJC

>>422 เขาหมายถึง​ดิบเปล่ามึง

424 Nameless Fanboi Posted ID:s3AtBkf5tK

>>422 กูว่า >>421 หมายถึงตอน 300

425 Nameless Fanboi Posted ID:/2BB9MAQKT

เสพกาวจนลืมออริกันซะละ

426 Nameless Fanboi Posted ID:CjNyjydBKE

กาวนี่มีฤทธิ์มอมเมาประสาทจริงๆ 555555555555555

427 Nameless Fanboi Posted ID:wxycd1c/+w

>>423 >>424 อ้าวกูขอโทษ รอ300มาปีนึงละไง กูมึนกาวไปละ //ซื้ดดดด 555

428 Nameless Fanboi Posted ID:a5rJaXzDCt

>>422 กูหมายถึงดิบกูคิดถึงตอนใหม่ กูจะลงแดงแล้ว ปีกว่าแล้วป่ะวะ 😭

429 Nameless Fanboi Posted ID:wxycd1c/+w

>>428 กูขอโทด555 เรายังมีหวังกันโว้ย จับมือสูดกาวไปด้วยกัน

430 Nameless Fanboi Posted ID:f0bArS6bmo

ขอบคุณโม่งฟิคค มาเยียวยากูจากการทำสอบแท้ๆ ;--;)

431 Nameless Fanboi Posted ID:M3wd1oIGVo

>>428 20 ตุลาก็จะครบหนึ่งปีแห่งการดองละว่ะ เราก็มารมกาวตัวเองรอกันไปพลางๆ

432 Nameless Fanboi Posted ID:A2XjDb1bQQ

นี่เราดมแต่กาวมาจะปีนึงแล้วสินะ

433 Nameless Fanboi Posted ID:IA4gPpA0/f

คืออะไร กูกำลังจะสอบแต่มานั่งรีเฟรชรอกาว ถถถถถ

434 Nameless Fanboi Posted ID:CjNyjydBKE

กูเสิร์ฟกาวให้เพื่อกอบกู้ภาพลักษณ์ท่านเอ็นโจบ้าง

กาลครั้งหนึ่งในฝัน >>>/webnovel/5401/249-250/
-----------------------------

ฉันไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อไป ได้แต่ยืนกระพริบตาปริบๆอยู่ตรงนั้น หัวใจเต้นถี่รัว พยายามเรียกสติที่หลุดลอยหายไปให้กลับเข้าร่าง

ดูเหมือนว่าเมื่อกี้ฉันจะถูกจูบ...ไม่สิ ไม่ดูเหมือนว่าหรอก นั่นมันจูบจริงๆเลยต่างหาก

จูบแรกของฉัน จูบแรกของฉัน จูบแรกของฉัน….

“คุณคิโชวอิน” เอ็นโจกระพริบตาปริบๆ โบกไม้โบกมือไปมาตรงหน้า “เป็นอะไรรึเปล่า...”

เสียงของเอ็นโจลากฉันกลับมาเผชิญกับความจริงได้ในที่สุด ฉันอ้าปากพะงาบๆ ชี้นิ้วใส่โจรขโมยจูบแบบไม่ทันให้ตั้งตัว

“ทำอะไรลงไปน่ะค้าา ท่านเอ็นโจ”

บ้าที่สุด!! นี่มันจูบแรกของฉันนะยะ ไม่ทันเตรียมตัวเตรียมใจเลยนะ ทำเอาเมื่อกี้เกือบช็อคหัวใจวายตายขึ้นมาแล้วไง

“ขอโทษด้วยนะ ก็คุณคิโชวอินน่ารักเกินไปเลยเผลอ..…”

ว๊ากกกกก!!!

ฉันสะดุ้งเฮือกที่ได้ยินคำนั้น ถอยกรูดไปด้านหลังให้ห่างจากเอ็นโจให้ได้มากที่สุด

เจ้าคนจากหมู่บ้านคาสโนว่าอันตรายเหลือเกิน ขนาดสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานขนาดนี้ก็ยังไม่วายจะพูดอะไรเลี่ยนๆออกมาได้หน้าตาเฉยจนเป็นอันตรายต่อหัวใจฉัน มันกำลังเต้นโครมครามแบบน่ากลัว ใบหน้าร้อนเหมือนเลือดในตัวไหลไปรวมกันอยู่ที่นั่นหมด

หมอนี่กำลังวางแผนฆาตกรรมให้หัวใจฉันทำงานหนักเกินขนาดใช่มั้ย ทำให้ระบบต่างๆของร่างกายฉันผิดปกติใช่มั้ย!!!

“ยกโทษให้ผมได้มั้ยนะ”

ถึงจะมาทำหน้าหงอยๆแบบนั้นก็ไม่ยกโทษให้หรอก มุกนี้ใช้กับฉันไม่ได้ผลซ้ำสองหรอกนะยะ!!

ฉันทำใจแข็ง เชิดหน้าใส่เอ็นโจเป็นเชิงว่าจะไม่อ่อนข้อให้เด็ดขาด

“ถ้าคุณคิโชวอินคิดมากเรื่องนี้ จะจูบผมคืนก็ได้นะ” เอ็นโจยิ้ม เอานิ้วเคาะริมฝีปากตัวเองเบาๆ “จะได้แฟร์ๆไง”

“ไม่แฟร์เลยซักนิดค่ะ” ฉันถลึงตาใส่ จะให้จูบคืนนี่มันฉันเสียเปรียบอยู่ทั้งขึ้นทั้งล่องไม่ใช่เหรอห๊ะ คนที่ได้กำไรที่สุดมันก็นายไม่ใช่รึไง

เอ็นโจไม่ตอบอะไรเอาแต่หัวเราะ โอ๊ย!! จะน่าโมโหไปถึงไหนกันยะ!!

แถมเวลายิ้มหน้าก็เหมือนยูกิโนะคุงอีก ฉันจะโกรธก็โกรธได้ไม่สุด ยิ่งมายืนใต้เงาของกระจกสีประดับโบสถ์ที่ส่องประกายเรืองรอง เอ็นโจก็ยิ่งเหมือนเทวดามากขึ้นทุกที

หนอย เจ้าเทวดาตกสวรรค์นี่...คิดจะล่อลวงฉันให้หลงมัวเมาในบาปรึไง ฝันไปเถอะย่ะ

ฉันท่องบทสวดขับไล่ปีศาจอยู่ในใจ แต่ไม่ได้ผลเลยซักนิด เอ็นโจยังคงอยู่ดีมีสุข แถมยังก้าวเท้าเข้าหาฉัน เผลอแป๊บเดียวก็ประชิดตัว คว้ามือฉันขึ้นมาจับ จูบปลายนิ้วเบาๆเหมือนกับที่ทำเมื่อตอนอยู่ในห้องท้องฟ้าจำลอง อุแว้กกก!!

นี่มันไม่ถูกต้องนะ คนที่มาสารภาพรักควรจะเคารพนอบน้อมต่อคนถูกสารภาพรักมากกว่านี้สิ แถมเมื่อกี้ฉันยังเป็นฝ่ายไล่ต้อนอยู่เลย แล้วไหงตอนนี้สถานการณ์มันถึงได้กลับกันล่ะยะ!!!

“อะ เอ่อ นี่ก็ดึกแล้ว ฉันว่าเรากลับกันดีกว่ามั้ยคะ ทางบ้านคงเป็นห่วงแย่แล้ว”

ไม่ใช่ข้ออ้างซักหน่อยนะ มือถือก็ไม่ได้พกติดตัวไว้ เกิดท่านพี่หรือท่านแม่โทรมาตอนนี้แล้วติดต่อไม่ได้คงวุ่นวายกันน่าดูเลยล่ะ

“นั่นสินะ” เอ็นโจพยักหน้ายิ้มๆ จับมือฉันเดินช้าๆลงจากบันไดหิน

ค่อยยังชั่วหน่อย

ฉันแอบถอนหายใจแบบโล่งอกที่ผ่านพ้นความอึดอัดตรงนั้นมาได้ ขืนให้จ้องตากับเอ็นโจตรงนั้นต่อไปไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง อาจจะเลือดกำเดาไหลแบบตอนอยู่ในห้องพยาบาลก็ได้

435 Nameless Fanboi Posted ID:CjNyjydBKE

วิวหน้าโบสถ์ที่เห็นจากขั้นบันไดคือซุ้มต้นแปะก๊วยที่มองอีกหนก็ยังรู้สึกงดงามไม่เปลี่ยน น่าเสียดายในตอนที่ฉันแต่งงานในฝันไม่ใช่ฤดูหนาวที่ต้นไม้พวกนี้จะผลัดใบจากสีเขียวเป็นสีเหลืองทอง แต่เป็นฤดูใบไม้ผลิที่ดอกไม้ทั้งหลายบานสะพรั่งสมบรรยากาศของงานแต่ง ตอนที่นั่งรถออกจากโบสถ์ไปโรงแรมที่ใช้จัดงาน ดอกซากุระสองข้างทางก็บานสะพรั่งเต็มที่เหมือนกับจะอวยพรให้ยังไงยังงั้น

แต่เอ๊ะ!! ทำไมฉันจำได้เยอะขนาดนี้เลยล่ะ ไม่เอานะ อย่าไปนึกถึงมันสิ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าบ่าวที่อยู่ในฝันนั้น ต้องลืมๆไปให้หมด

ฉันขับไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกไปจากหัว เอ็นโจก็หันมามองแล้วก็ยิ้ม

“คิดอะไรอยู่เหรอ…”

“ปะ เปล่าค่ะ”

“หืม”

“เอ่อ...คิดว่าต้นแปะก๊วยพวกนี้สวยดีนะคะ” ฉันทำเป็นมองไปรอบๆเผื่อหนีจากสายตานั้น

“นั่นสินะ” เอ็นโจมองต้นไม้พวกนั้น แล้วก็ทำหน้าเหมือนนึกอะไรขึ้นได้ “อ้อ จริงสิ คุณคิโชวอิน….”

“คะ…”

“งานแต่งที่อยู่ในฝันของผมน่ะ...ต้นไม้พวกนี้ ใบยังเป็นสีเขียวอยู่เลย ก็จัดงานในฤดูใบไม้ผลินี่นะ”

ฉันแทบสำลักอากาศกับคำพูดนั้น ไหงทะลุกลางปล้องขึ้นมาเรื่องงานแต่งล่ะเฮ้ย!!

แต่เอ๊ะ!! จัดงานในฤดูใบไม้ผลิอย่างนั้นเหรอ…

ฉันขนลุกวาบกับเรื่องนี้ ไหงเอ็นโจถึงได้ฝันว่าแต่งงานในฤดูใบไม้ผลิแบบเดียวกับฉันเลยล่ะ มันจะบังเอิญเกินไปหน่อยรึเปล่า

ไม่สิ ช่วงฤดูใบไม้ผลิก็เป็นช่วงเวลาที่นิยมจัดงานแต่งงานกันอยู่แล้วนี่นา จะฝันว่าแต่งงานตอนนั้นก็ไม่แปลกหรอก

เอ็นโจยังคงจ้องเอาๆจนฉันรู้สึกลุกลี้ลุกลนขึ้นมาก็เลยรีบดึงมือออกพร้อมกับก้าวเดินเพื่อจะรีบหนีจากสายตานั้น

“คุณคิโชวอิน วิ่งแบบนั้นมันอันตรายนะ…”

ไม่ทันขาดคำ เท้าฉันก็สะดุดเข้ากับแผ่นหินตรงบันไดขั้นสุดท้ายเข้าให้ หน้าจะทิ่มพื้นแล้วเจ้าข้าเอ้ยยย!!!

ฉันหลับตาปี๋ เตรียมใจรับการกระแทกเข้ากับพื้นในวินาทีใดวินาทีหนึ่งข้างหน้า

อ้าว ไม่เจ็บแฮะ….

คำตอบที่ว่าทำไมฉันถึงไม่เจ็บอยู่ตรงหน้า กลิ่นหอมอ่อนๆของน้ำหอมผู้ชายโชยเข้าจมูกและความอบอุ่นจากร่างกายคน พอเงยหน้าก็เห็นสายตาของเอ็นโจที่มองลงมาด้วยความเป็นห่วง

“ไม่เป็นไรนะ คุณคิโชวอิน”

“ไม่ค่ะ...ขอบคุณนะคะ”

“ค่อยยังชั่วหน่อย”

ฉันก็โล่งอกเหมือนกันนั่นล่ะที่หน้าไม่ฟาดพื้นให้เจ็บตัว แต่โล่งใจได้ไม่ถึงสิบวินาทีก็ฉุกคิดขึ้นมาได้หนึ่งเรื่อง

ถึงจะเป็นอุบัติเหตุแล้วถูกช่วยไว้ก็เหอะ แต่ถ้ามองจากมุมอื่นมันเหมือนฉันถลาเข้าไปหาอ้อมแขนของเอ็นโจเองเลยนี่นา

แล้วก็รู้สึกเหมือนเหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นที่ไหนนะ

ราวกับจะตอบคำถามเพราะภาพในความฝันก็ปรากฎขึ้นมาในหัว เอ็นโจในชุดเจ้าบ่าวสีขาวส่งยิ้มให้อย่างอ่อนโยนตอนยื่นมือมาให้ฉันแล้วจับลงบันไดก้าวเดิน แต่ฉันก็สะดุดล้มจนได้ จะว่าด้วยชุดเจ้าสาวที่รุ่มร่ามและหนักหรือความซุ่มซ่ามของตัวเองก็เถอะ แต่เอ็นโจที่อยู่ข้างๆก็เข้ามาประคองไว้ได้ทันท่วงทีจนคล้ายฉันถลาเข้าไปกอดด้วยตัวเอง ทำเอาพวกเซริกะจังและคนอื่นๆที่อยู่ใกล้ๆวี้ดว้ายแซวกันยกใหญ่

เพราะมาอยู่ในสถานที่ที่ใช้แต่งงานในฝันรึเปล่านะ ถึงจำได้ไม่มีตกหล่นแบบนี้

ฉันเงยหน้าสบตากับเอ็นโจก็เห็นสายตาที่อ่อนโยนมองตอบกลับมา อ้อมแขนที่ประคองกอดไว้อย่างนุ่มนวลทำให้รู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย เป็นความรู้สึกที่คุ้นเคยและฉันก็เป็นเจ้าของ

“คุณชูสุเกะ”

พอหลุดปากออกไป เวทมนต์ในฝันก็จางหาย เหลือแค่เอ็นโจที่ใส่ชุดไปรเวทยืนอยู่ ท่าทางอึ้งๆเหมือนไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง

“คุณคิโชวอิน..เมื่อกี้ว่าอะไรนะ”

“.....ไม่มีอะไรหรอกค่ะ”

“เมื่อกี้คุณเรียกชื่อผมอย่างนั้นเหรอ”

“หูฝาดแล้วล่ะค่ะ”

“คุณคิโชวอิน”

“.....”

“เรย์กะ”

มือของเอ็นโจจับข้อมือฉันไว้ ปิดทางหนีโดยสิ้นเชิง อุกรี๊ด!!!!

“เรย์กะ”

แล้วยังเอาหน้ามาใกล้ๆอีก อ๊าก!! จะใกล้เกินไปแล้วนะยะ

436 Nameless Fanboi Posted ID:CjNyjydBKE

ฉันหัวหมุนกับความคิดเรื่องระยะห่างที่เหมาะสมระหว่างชายและหญิง แต่เอ็นโจกลับแตะใบหน้าฉันให้หันมองสบตากัน แววตาดูสับสนและประหลาดใจ

“เรย์กะ”

“มะ ไม่ได้อนุญาตให้เรียกชื่อซักหน่อยนะคะ ท่านเอ็นโจ”

“เรย์กะฝันแบบเดียวกับผมใช่มั้ย”

“พะ พูดเรื่องอะไรกันคะ ไม่เห็นเข้าใจเลย”

“งั้นเหรอ” สายตาของเอ็นโจที่ใช้มองในตอนนี้ทำฉันต้องหลบตาไปมองที่อื่น รู้สึกร้อนผ่าวตรงที่ถูกจ้องมอง “...นั่นสินะ คนเราจะฝันแบบเดียวกันได้ยังไงล่ะเนอะ”

พอเอ็นโจทำท่าจะปล่อยผ่าน ฉันก็ถอนใจออกมาแบบโล่งอก แต่พอกำลังจะยันตัวออกจากอ้อมแขนนั่น เอ็นโจก็โพล่งขึ้นมา

“แต่รู้มั้ย ในฝันของผมน่ะ เรย์กะขี้อ้อนมากเลยนะ”

“เอ๋”

“เดี๋ยวก็เข้ามาซุกแล้วก็กอด เรียกชูคะ ชูขา แถมยังชอบขโมยจุ๊บผมตอนเผลอด้วย...”

เฮ้ยๆๆๆๆ พูดอะไรของนายยะ!! ฉันไปทำแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่

แล้วในฝันน่ะกว่าจะเรียกชื่อคุณชูสุเกะได้ก็ตอนเข้าห้องหอโน่น แถมตอนเรียกก็ยังไม่ชินปากอีกต่างหาก

หน้าฉันร้อนผ่าวเมื่อนึกถึงความทรงจำในตอนนั้น เอ็นโจก็เข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆทำฉันหัวหมุนวนสับสนไปหมด

“....แล้วเรย์กะก็ชอบอ้อน ชูคะ คิดถึงจังเลยค่ะ เป็นห่วงชูนะคะ รักชูที่สุดเลยค่ะ”

“มะ ไม่ได้เรียกชูเฉยๆซักหน่อยนะคะ เรียกคุณชูสุเกะต่างหาก แล้วก็ไม่ได้พูดแบบนั้นเลยด้วย”

ฉันตัวเย็นวาบ รีบตะครุบปากตัวเองแทบไม่ทันเมื่อได้สติว่าเผลอพูดอะไรออกไป เห็นแววตาของเอ็นโจที่ส่องประกายวิบวับก็รู้ตัวว่าตกหลุมพรางเข้าให้แล้ว

“เห…” เอ็นโจยิ้มละมุนละไม “...ผมพูดถึง ‘เรย์กะ’ ที่อยู่ในฝันของผมต่างหาก แต่คุณคิโชวอินแก้ต่างให้อย่างนี้ แสดงว่าคุณคิโชวอินก็คือเรย์กะที่อยู่ในฝันของผมใช่มั้ยนะ”

“....”

“อื๋อ ว่ายังไงล่ะ”

ปลายนิ้วของเอ็นโจเกี่ยวเข้ากับนิ้วของฉัน เข้ามาเกาะกุมมืออย่างช้าๆ สายตาสบประสานกันในระยะประชิดแบบนี้พาให้รู้สึกเหมือนจะหน้ามืดเป็นลม

“คุณคิโชวอินคือเรย์กะของผมใช่มั้ย”

“คิดไปเองแล้วล่ะค่ะ”

ฉันตั้งใจว่าจะยืนกรานปฏิเสธไปอย่างนี้ ถ้าไม่พูดซะอย่าง เอ็นโจก็คาดคั้นฉันไม่ได้อยู่แล้ว

“ความฝันก็คือความฝัน ไม่ใช่ความจริงซักหน่อย เขาว่ากินมากก็ฝันมากไม่ใช่เหรอคะ แล้วก็ไม่มีใครบนโลกที่จะฝันเหมือนกันได้หรอกนะ ท่านเอ็นโจน่ะคิดไปเองแล้วล่ะค่ะ ฉันไม่ใช่เรย์กะในฝันหรอกนะคะ”

“งั้นเหรอ”

มือของเอ็นโจปล่อยมือฉันออกจากการเกาะกุมได้ในที่สุด

ขณะที่กำลังจะโล่งใจ แต่พอเงยหน้ามองก็เห็นเอ็นโจยิ้มเศร้าๆเหมือนกำลังขมขื่น ท่าทีหลุบสายตามองพื้นเหมือนคนหมดเรี่ยวแรงทำให้รู้สึกโหวงเหวงขึ้นมาได้อย่างน่าประหลาด

“กลับกันเถอะ” เอ็นโจพูดเสียงเบา แล้วก็ออกเดินนำหน้าไป

ทั้งที่ควรจะยินดีที่ทุกอย่างมันจบ แต่ในใจฉันกลับรู้สึกสับสนไปหมด

จะว่าไปนี่มันเหมือนฉากในหนังตอนที่คุณชูจิอ้อนวอนขอความรักจากเรย์นะเป็นครั้งสุดท้าย แต่เรย์นะเอาแต่ปฏิเสธ ผลักไสคุณชูจิให้ออกไปห่างๆด้วยคำพูดทำร้ายจิตใจ

คุณชูจิทำแค่ยิ้มเศร้าๆ ปล่อยมือออกจากเรย์นะ เดินจากไปด้วยหัวใจที่แหลกสลาย

ฉันแทบจะกรี๊ดออกมาตอนที่อยู่ในโรง ทั้งคู่รักกันแล้วแท้ๆ แต่ยัยเรย์นะเอาแต่ปฏิเสธความรู้สึกตัวเองอยู่ได้ หล่อนจะกลัวอะไรนักหนายะ ยัยบ้าเอ้ย!!

...กลัว…อย่างนั้นเหรอ

ก็แหงอยู่แล้ว อีตาเจ้าเล่ห์นี่น่ากลัวจะตายไป จะไม่ให้กลัวได้ยังไงกันล่ะ ทั้งรอยยิ้มและสายตาที่อ่านใจคนได้ เดี๋ยวก็พูดจากดดันข่มขู่ เดี๋ยวก็หาเรื่องเดือดร้อนมาให้ เดี๋ยวก็ฉวยโอกาสแตะเนื้อต้องตัวทำรุ่มร่ามใส่ ต่างจากเอ็นโจที่เป็นเจ้าชายผมสีน้ำผึ้งผู้อ่อนโยนใน Kimi Dolce ลิบลับ เจ้าชายคนที่ฉันชอบในการ์ตูนไม่ใช่จอมเจ้าเล่ห์แบบนี้

ไม่สิ ไม่ๆๆๆ ฉันจะเอาหนังมาปะปนกับความเป็นจริงไม่ได้ นั่นมันเรื่องของคุณชูจิกับเรย์นะ ไม่ใช่ฉันกับเอ็นโจซักหน่อย

ฉันมองคนที่เดินนำหน้าแบบสับสน แล้วก็พยายามจะไม่คิดถึงเนื้อหาของหนัง แต่กลับจำได้ทุกรายละเอียด

นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่เรย์นะได้เจอกับคุณชูจิ เพราะหลังจากนั้น คุณชูจิก็ปฏิเสธการพบเรย์นะในทุกทาง โหมทำงานหนักบวกกับตรอมใจจนร่างกายอ่อนแอ แล้วก็ป่วยตายไปในที่สุด

กรี๊ดดด!! ไม่นะ!! อย่าให้ทุกอย่างมันสายไปแบบนั้นสิ

ฉากที่เรย์นะนั่งร้องไห้อย่างหนักเพราะเพิ่งรู้สึกตัวว่าสูญเสียคนรักไป แต่ก็แก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้วสร้างความสะเทือนใจให้ฉันอย่างรุนแรงจนต้องร้องไห้ตาม ถ้าเพียงแต่เรย์นะจะกล้าเปิดใจให้คุณชูจิ เรื่องราวคงไม่ลงเอยเป็นโศกนาฎกรรมแบบนั้น

ฉันเผลอยื่นมือออกไปดึงชายเสื้อเอ็นโจเอาไว้ไม่ให้เดินจากไป

-----------------------------
ตอนหน้าจบชัวร์

437 Nameless Fanboi Posted ID:4Z5n+E1u8e

>>417 เอ็นโจ เมิงเหี้ยมาก คือแต่งกับคุณยุยโกะ มีอะไรกันไปแล้ว แต่พอมีอำนาจขึ้มาได้ ก็คิดว่าจะทิ้งคุณยุยโกะมาหาท่านเรย์กะเหรอวะ คุณยุยโกะผิดอะไร เอ็นโจเลวววววววววมากกกกกกกกกกกกกก

438 Nameless Fanboi Posted ID:YlsanOWwJC

>>434-436 กรี๊ดดดดดดดดด ฟิคนี้ที่รอคอยยยยย ขอบคุณค่าเพื่อนโม่ง

439 Nameless Fanboi Posted ID:wgIT8hIuuz

>>416-417 เอ็นโจ แกมันจอมมารรรรพยายามขัดขวางมากก มีคิดจะแย่งคืน จอมมารจริงๆ ถึงจะน่าสงสารที่ต้องนั่งตอบบากะรากิ แต่แกควรตัดใจได้แล้วบ้างมั้ยยย ทำไมกูสงสารยุยโกะไงไม่รู้ โดนลากมาแต่งงานแถมยังมีอะไรกันแล้วทั้งๆที่ไม่ได้รู้สึกเลยย

ส่วน >>434-436 นี่มันฟิคที่รอคอย กรี๊ดดดดดด กูเพิ่งจะด่าจอมมารแต่ฟิคนี้ทำให้ไม้พายสั่นอีกแล้ว จอมมารฟิคนี้ละมุนมากกกก ท่านเรย์กะต้องสู้นะ!

ขอบคุณโม่งฟิคทั้งสองคนที่แบ่งปันกาวด้วยค่ะ เติมพลังได้ดีมากกกกก

440 Nameless Fanboi Posted ID:nV0GSpEfeB

>>434-436 อ่านแล้วเขินมากกกก โอยยยยยยยย *กระโดดกลับเรือท่านเอ็นโจ*

441 Nameless Fanboi Posted ID:elGFGj1Ef.

สองฟิคนี้มาพร้อมกัน ทำเอาไม้พายสั่นกึกๆๆๆ เหยียบเรือสองแคมได้มั้ยคะ
แต่จริงๆกุอยากอ่านฟิค อิมาริ-เรย์กะ นะ ไม่มีคนชิปคู่นี้บ้างเหรอ? #เรือน้อยกลอยใจ #โดดเดี่ยวเดียวดายในท้องเล

442 Nameless Fanboi Posted ID:+oWyGVLrTt

ฟิคA-Zของเอ็นโจ กูนี่ลุ้นมากกว่าตอนจบเอ็นโจจะยืนยัน3P หรือวางแผนntr

443 Nameless Fanboi Posted ID:.Dy9bSV7Oq

>>442 บอกคาบุไปว่าเรียน750ชมจบแล้วยังต้องผ่านการสอบ แล้วคนสอบต้องอยู่ในเหตุการณ์จริงด้วย...

444 Nameless Fanboi Posted ID:nW50fd7vzF

>>441 กูก็เคยจิ้นท่านอิมาริท่านเรย์กะอยู่แว้บๆ แต่ตอนจบท่านพี่ทาคาเทรุมาจิกหัวท่านอิมาริกลับเรือตลอด สรุปคือเรือล่มว่ะ แต่ 3P พี่น้องคิโชวอินก็โอเคนะ 5555

445 Nameless Fanboi Posted ID:8L3kBH8pcc

>>441 กูกูกู กูว่ามันก็กร๊าวใจดีตอนที่เพื่อนสนิทพี่ชายดูก็รู้ว่าช่ำชองมากด้วยประสบการณ์มาสะดุดน้องสาวของเพื่อนสนิทที่ตอนแรกก็เป็นน้องน้อยน่ารักๆ แต่รู้ตัวอีกทีสาวเจ้าก็โตขึ้นมาเป็นสาวสวยที่ดูเหมือนจะมีผู้ชายมาสนใจเต็มไปหมด

446 Nameless Fanboi Posted ID:CjNyjydBKE

>>442 กูเชียร์ 3P แต่มาซายะอยู่ตรงกลางนะ//แค่กๆๆๆๆๆ
>>441 กูเคยคิดจะเขียนคู่นี้นะ แต่ต้านทานท่านพี่ไม่ไหวจริงๆ ยิ่งมาเจอโมเมนต์ท่านพี่ถ่างตารออิมาริที่หนีเที่ยวกลางคืน คอยจัดการบรรดากิ๊กที่มาวุ่นวายถึงที่ให้ ตำแหน่งภรรยาของอิมาริคงหนีไม่พ้นท่านพี่แล้วว่ะ 55555555555555

447 Nameless Fanboi Posted ID:YlsanOWwJC

>>441 เหมือนเคยมีคนเขียนเป็นมุมมองอิมาริอยู่หน่อยนึงนิ

448 Nameless Fanboi Posted ID:IMeeQ0g7Tr

>>441 กุก็จิ้นคู่นี้ค่า กุชอบโมเม้นแบบแอบหลงรักน้องเพื่อนแต่เพื่อนคอยกีดกันมาก ดูโรมิโอ จูเลียตดี เรย์กะก็ใสๆ ท่านอิมาริก็เชี่ยวๆ ท่านพี่ก็หวงๆ กลัวน้องโดนหลอก กรี๊ดดดด

449 Nameless Fanboi Posted ID:Q9XbcrWZm5

>>434-436 ขอบคุณสำหรับกาวค่ะมึง ฟิคนี้กูก็รอคอยเหมือนกัน//กอดขอบคุณโม่งฟิค มีโอกาสก็พูดออกไปเลย อย่าให้จบแบบเรย์นะกับชูจิเลยน้าาา

450 Nameless Fanboi Posted ID:KdbTFEU304

>>441 ลงเรืออิมาริด้วยคน กรูว่าฮีออกจะน่ารัก อยากได้ฟิกแบบว่าทีแรกแหย่เล่นเพราะเพื่อนหวงน้องสาวดีนัก. แต่พอเห็นมีหนุ่มๆมาสนใจเรย์กะก็ไม่พอใจซะงั้น ประมาณว่าช่วยเพื่อนหวงน้อง หุหุ

451 Nameless Fanboi Posted ID:A2XjDb1bQQ

กูไมืใช่คนเดียวสินะ ฮือออ อยากได้กาวคู่นี้จัง หรือต้องแต่งเองวะ แงแง

452 Nameless Fanboi Posted ID:wxycd1c/+w

>>451 แต่งเลยๆๆๆ กูโม่งเสพสูดกาวรอ ให้กำลังใจมึงนะ 555

453 Nameless Fanboi Posted ID:Ka3EdU5JFk

>>451 +1 กูรอเสำนะคะ

454 Nameless Fanboi Posted ID:Ka3EdU5JFk

*รอเสพ

455 Nameless Fanboi Posted ID:dSJC/RkMvN

กูอยากให้ฟิคเกอิชามาต่อ...

456 Nameless Fanboi Posted ID:zgmcVlhU73

โหยหากาว

457 Nameless Fanboi Posted ID:ci.+.TW+eW

ท่านอิมาริกูก็อวยนะ นายตัวสำรองกูก็อวย แต่ฟิคไม่มี T-T
ฟิคท่านอิมาริในโม่งเห็นมีตอนหนึ่งนะ เป็น POV ของท่านสั้นๆ

458 Nameless Fanboi Posted ID:mcGQAM9HON

9.

ตอนที่เขาคิดว่าจะได้พบคุณคิโชวอินซึ่งสวมเดรสเจ้าหญิงที่เธอชอบ ใบหน้าน่ารักมีสีหน้าเศร้าสร้อยในขณะที่เข้าร่วมงานปาร์ตี้ริมสระน้ำของบ้านโมโมโซโนะ เธอก็ปรากฏตัวใน-ชุดนั้น-

ในฐานะมาดามน้อยของบ้านคาบุรากิ หน้าที่การเป็นแฟชั่นไอคอนของวงสังคมถือเป็นหน้าที่หลักของเธอ คุณคิโชวอินปรากฏตัวต่อหน้าคนอื่นด้วยชุดที่ไม่เคยซ้ำกัน แต่เครื่องแต่งกายของเธอมักจะเป็นเครื่องแต่งกายที่เหมือนเจ้าหญิงผู้อ่อนหวานหรือราชินีผู้สูงศักดิ์

แต่เดรส-ชุดนั้น-เป็นภาพลักษณ์ใหม่ของเธอ

ในตอนที่ยังเรียนอยู่ คุณคิโชวอินไม่ค่อยได้อดอาหาร หรือพยายามแต่ไม่สำเร็จเท่าไหร่ ดังนั้นเธอเลยดูมีเนื้อหนังมากกว่าเด็กสาวคนอื่น ๆ ซึ่งคลั่งความผอม และดูเหมือนว่าการได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่ในช่วงกำลังเติบโตจะส่งผลถึงตอนที่เธอกลายเป็นหญิงสาว เพราะเธอกลายร่างจากราชินีโรโคโค่ที่บรรดาผู้ชายเคารพแต่ขอมองแค่ห่าง ๆ เป็นความใฝ่ฝันของผู้ชายทุกคนด้วยใบหน้าแบบตุ๊กตาที่มากับรูปร่างแบบดาราเอวี

ทว่าการวางตัวที่เรียบร้อยสง่างามของเธอทำให้ใครต่อใครมองข้ามในจุดนั้นไป คุณคิโชวอินไม่ใช่ผู้หญิงที่จะถูกเรียกว่าเป็นคนเซ็กซี่ เธออาจมีรูปร่างอวบอิ่ม แต่บรรยากาศที่อยู่รอบตัวทำให้คนอื่น ๆ รู้สึกว่าเธอน่านับถือ ในความคิดของเขา เธอเป็นเหมือนนางฟ้าที่บริสุทธิ์ผุดผ่อง

และเธอก็ทำให้เขาเซอร์ไพรส์อีกครั้งเมื่อประตูของรถบูกัตติสีขาวที่จอดเทียบข้างเปิดออก และเธอก็ก้าวลงมาจากในรถที่มาซายะอ้อมมาเปิดประตูให้

เดรสสีบรอนซ์ชุดนั้นไม่ได้ติดอันดับเดรสที่โป๊ที่สุด คอรูปตัววีอาจจะผ่าต่ำลงมามากกว่าเดรสปกติที่ผู้หญิงญี่ปุ่นนิยมใส่ ผ้าไหมสีบรอนซ์แนบลู่กับร่างทว่าไม่ได้รัดจนไม่เหลืออะไรให้จินตนาการ ชายกระโปรงของเดรสตัวนั้นไม่ได้สั้นกว่ากระโปรงนักเรียนเลยด้วยซ้ำ ทว่าพอมันอยู่บนร่างของเธอ กลับทำให้ผู้ชายที่เห็นตบะแตก

เขารู้สึกนับถือมาซายะที่ขับรถมาได้ตลอดรอดฝั่งโดยไม่เกิดอุบัติเหตุซะก่อน

สายตาของชูสุเกะเหมือนถูกตรึงไว้บนร่างของเธอ แต่อาการหยาบคายของเขากลับไม่ได้เป็นปัญหาอะไรในเมื่อทุกคนที่อยู่ในงานทำอย่างนั้น แม้แต่ผู้หญิงเองก็ยังหันไปจ้อง เขาที่ยืนอยู่กลางกลุ่มผู้หญิงได้ยินเสียงกระซิบของหญิงสาวคนหนึ่งที่อุทานกับเพื่อนสาวของเธอ ‘พรุ่งนี้ไปช้อปปิ้งกันเถอะ พนันได้เลยว่ายัยซึงิอุระจะต้องใส่ชุดผ้าไหมตามท่านเรย์กะในงานปาร์ตี้ครั้งหน้าแน่ ๆ ฉันไม่มีวันยอมตกเทรนด์นี้หรอกนะ!’ นอกจากนั้นเขายังได้ยินคำซุบซิบแบบที่ว่า ‘เธอว่าท่านเรย์กะเป็นไบรึเปล่า? ความสัมพันธ์แบบเลสเบี้ยนนี่ไม่ถือว่านอกใจสามีใช่ไหม?’

เขาที่ยืนอยู่กลางกลุ่มผู้หญิงยังได้ยินเสียงกระซิบกระซาบแบบนี้ ไม่ต้องห่วงเลยว่าผู้ชายในงานจะคิดยังไง คิโชวอิน ทาคาเทรุปั้นสีหน้าอ่อนโยนเดินไปหาน้องสาวของตัวเอง โอบโหล่เธอแล้วกวาดตามองไปทั้งงานเหมือนกำลังส่งสายตาเตือนผู้ไม่ประสงค์ดีเหล่านั้น

ไม่รู้ว่าเพราะคุณโมโมโซโนะเป็นคาสโนว่าตัวท๊อปที่สามารถมองที่ไหนก็ได้ที่อยากมองโดยสายตาตรึงติดอยู่บนหน้าของคู่สนทนา หรือจริง ๆ แล้วเป็นคนรักของคิโชวอิน ทาคาเทรุ แบบที่ร่ำลืออย่างหนาหูกันแน่ แต่เขารู้สึกนับถืออีกฝ่ายที่สามารถคุยกับคุณคิโชวอินได้โดยไม่ละสายตาลงต่ำเลยแม้แต่ครั้งเดียว

เขามองคุณคิโชวอินที่ตาเป็นประกาย หน้าแดงเมื่อคุณโมโมโซโนะจูบข้อนิ้วของเธอ เขารู้สึกสะใจเมื่อพี่ชายของเธอเตะอัดหน้าแข้งของคาสโนว่าหนุ่ม

459 Nameless Fanboi Posted ID:mcGQAM9HON

มาซายะปล่อยให้พี่ชายของเธอเอสคอร์ทเธอไปหากลุ่มสาวไฮยีน่า ดวงตาจับจ้องอยู่บนสะโพกที่ผ้าไหมสีเมทัลลิกทิ้งตัวแกว่งไกวตามจังหวะการเดิน เขามองสะโพกที่กลมงอนแล้วสงสัยว่าข้างใต้นั่นเธอใส่ชุดชั้นในอะไร บางทีอาจจะเป็นจีสตริงตัวเล็กจิ๋วสีชมพู บางทีอาจจะเป็นชั้นในลูกไม้ที่เรียบลื่นไปกับผิวจนแทบไม่เห็นรอย

แม้ว่าจะอยู่ท่ามกลางงานเลี้ยง แต่ชูสุเกะก็อดจินตนาการไม่ได้ถึงตอนที่เขาอาศัยช่วงเวลาที่พี่ชายของเธอวุ่นวายกับคุณโมโมโซโนะพาเธออกไปในที่ลับตาคน มุมคฤหาสน์ที่มีเพียงแสงไฟสลัว เขากับเธออยู่กับเพียงลำพังในระเบียงแคบ ๆ แผ่นหลังของเธอติดกำแพง เบื้องหน้าคือร่างของเขาที่ค่อย ๆ รุกคืบเข้าไปใกล้ จนกระทั่งเธอทำได้แค่เพียงเงยหน้ามองเขาด้วยดวงตาที่สับสน ราวกับไม่รู้ว่าเธอยั่วยวนให้เขาคลุ้มคลั่งมากแค่ไหน

เธอเหลือบมองไปด้านข้างเพื่อหาทางหนีเหมือนที่เธอชอบทำสมัยอยู่มัธยม เธอมักจะหนีเขาเสมอ และนั่นกลับยิ่งกระตุ้นสัญชาตญาณดิบของผู้ชายในตัวเขาให้ออกไล่ตาม เขาล้อมกรอบเธอไว้ด้วยแขนทั้งสองข้าง โน้มตัวลงไปกระซิบข้างหูเธอถึงความปรารถนาที่ชั่วช้าโสมมของเขา มองใบหน้าขาวเนียนแดงขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยความอับอาย

ร่างกายของเขาแนบชิดจนกระทั่งสัมผัสได้ถึงอกอวบอิ่มที่ทะลักออกมาจากคอเสื้อลึก เขาจะบอกกับเธอว่าในค่ำคืนนี้มีคนกี่คนที่มองเธอแล้วเปลื้องผ้าเธอในสมองของพวกเขา มีคนกี่คนที่อยากจะฟอนเฟ้นหน้าอกนุ่มหยุ่นเต็มมือของเธอ มีคนกี่คนที่อยากจะแยกขาคู่นี้ของเธอออก ชำแรกร่างเข้าไปในช่องทางของเธอแล้วครั้งแล้วครั้งเล่า หากแต่มีเพียงเขาเท่านั้นที่สามารถทำแบบนั้นกับเธอได้

เธอบอกให้เขาหยุดพูดจาลบหลู่เธอ มือทั้งสองข้างของเธอพยายามยกขึ้นอุดหู เพราะคำพูดของเขาสกปรกเกินกว่าที่หญิงสาวไร้เดียงสาอย่างเธอจะทานทนไหว หากแต่เขาไม่ยินยอมให้เธอทำเช่นนั้น เขารวบข้อมือของเธอแล้วตรึงไว้กับกำแพง มืออีกข้างลากผ่านส่วนนูนของทรวงอก เรื่อยลงไปจนถึงหน้าขา เขาเลื่อนมือเข้าไปยังใจกลางระหว่างต้นขาเนียน หัวเราะออกมาเมื่อสัมผัสได้ถึงความเปียกชิ้นที่ซึมผ่านชุดชั้นใน

‘อืมม์ ดูเหมือนว่าคุณจะไม่ได้รังเกียจสิ่งที่ผมพูดอย่างที่ปากว่าซักเท่าไหร่นะครับ คุณคิโชวอิน’ เขาหยอกเธอ มองใบหน้าที่บิดเบี้ยวด้วยความขัดแย้งในตัวเอง เธอเป็นสุภาพสตรีที่แสนอ่อนหวาน หากแต่ร่างกายของเธอกลับเรียกร้องสิ่งที่หยาบช้าไม่ต่างจากสัตว์ในฤดูผสมพันธุ์

ในจินตนาการของเขา เธอร้องไห้ด้วยความอับอาย แต่สะโพกกลับบดเบียดเมื่อเขาแทรกท่อนขาของตัวเองเข้าไประหว่างขาทั้งคู่ของเธอ ร่างของเธอคร่อมลงบนขาของเขา เสียดสีท่อนล่างที่แฉะเยิ้มกับกางเกงสูทของเขาอย่างเย้ายวนและไร้เดียงสา เขาก้มลงชิมรสหวานจากกลีบปากคู่นั้น เธอเผยอริมฝีปากออกตามสัญชาตญาณเหมือนครั้งที่พวกเขาจูบกันครั้งแล้วครั้งเล่า เสียงสะอื้นและเสียงครวญครางของเธอถูกกลืนหายไปในปากของเขา ดังนั้นเขาจึงถอนห่างออกมาเพื่อฟังเสียงร่ำร้องของเธอ

‘ได้โปรดเถอะค่ะ ท่านเอ็นโจ’ เธอร่ำร้อง ราวกับว่าการเสียดสีร่างของเธอลงบนขาของเขาอย่างเชิญชวนนั้นไม่เพียงพอ เขา—

เขาควรจะหยุดคิดก่อนที่จะทำให้ตัวเองขายหน้า ชูสุเกะยิ้มให้กับมาดามที่เขามาทักทายเขา ก่อนจะเริ่มบทสนทนาอย่างไม่ติดขัด แม้ว่าในช่องท้องของเขาจะร้อนผ่าว แต่สูทเบลเซอร์ที่กลัดกระดุมไว้นั้นเพียงพอที่จะปิดปังปฏิกริยาทางร่างกายได้อย่างดีเยี่ยม

เขาเฝ้ามองเธอที่ดูจิตใจไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวเท่าไหร่ สีหน้าของเธอมีแววหงุดหงิด เธอไม่ได้พูดคุยไปทั่วเหมือนปกติ เขาสงสัยว่าเธอรู้สึกได้ถึงสายตาที่จาบจ้วงของคนอื่น ๆ ในห้องหรือไม่ ระหว่างงานมาซายะแทบไม่ได้คุยกับเธอเพราะมัวแต่คุยงาน ทว่าพี่ชายของเธอกลับแทบไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากดูแลเธอ แม้ว่าเขาจะเสียดายที่ไม่มีโอกาสได้เข้าไปคุยกับเธอ แต่ก็ยังดีกว่าใครซักคนพยายามเข้าใกล้เธอเกินกว่าการพูดคุยตามมารยาท

และในตอนเที่ยงคืน เขาก็เห็นเธอเดินไปหามาซายะอีกครั้ง จังหวะการเดินที่ค่อนข้างแข็งตลอดทั้งงานนั้นกลับมานุ่มนวลลากสายตาคนในงานให้หันมองเธอเป็นตาเดียว ทว่าสายตาของเธอจ้องมองแต่มาซายะเท่านั้น ไม่ได้สังเกตเลยด้วยซ้ำว่าเธอหยุดบทสนทนากี่บทของคนในงาน หรือทำให้หัวกี่หัวหันตามร่างที่เดินนวยนาดราวกับว่าเธอเป็นราชินีผู้ปกครองโลกใบนี้ ร่างของเธอบดเบียดเข้ากับร่างของมาซายะ คนเบียดอาจไม่รู้แต่คนถูกเบียดความคิดกระจุยกระจายไปไหนต่อไหน

460 Nameless Fanboi Posted ID:mcGQAM9HON

คุณคิโชวอินอาจจะคิดว่ามันเป็นความลับเล็ก ๆ ระหว่างเธอกับมาซายะ แต่ถ้าใครใจแข็งพอที่จะละสายตาจากร่องอกลึกและเรียวขาขาวได้นานกว่าสามวินาที แล้วสนใจมองตามมือของเธอ ก็สามารถเดาได้ว่าทั้งคู่กับกำลังเล่นเกมอะไรอยู่

มันไม่ใช่เกมใหม่ที่สุดของวงสังคม ดังนั้นชูสุเกะจึงได้ทันเห็นผ้าชิ้นเล็กจิ๋วลายลูกไม้สีดำที่เนื้อผ้าบางใสราวปีกแมลงปอถูกยัดเข้าไปในกระเป๋าเสื้อสูทของมาซายะ และโลกก็เหมือนจะระเบิดในสมองของชูสุเกะ

ตอนนี้คุณคิโชวอินไม่ได้ใส่ชุดชั้นใน

ภายใต้ชุดเดรสสีบรอนซ์แนบลู่ไปกับทุกส่วนสัด เบาบางพอจะทำให้ชายกระโปรงสะบัดน้อย ๆ ได้ในเวลาเดิน ความสั้นระดับนั้นถ้าเธอเกิดทำโทรศัพท์มือถือหล่น และก้มลงเก็บ...

เขาไม่รู้ว่าเธอเรียนวิธียั่วยวนแบบนั้นมาจากไหน แต่มาซายะตบะแตกไปแล้วเรียบร้อย เขาไม่โทษเพื่อนสนิท เพราะเขาเองก็รู้สึกอย่างนั้นเช่นกัน

ทว่าคนที่ทันเห็นเหตุการณ์นั้นไม่ใช่แค่เพียงเขาคนเดียว คุณโมโมโซโนะยิ่มกริ่ม ส่วนพี่ชายของคุณคิโชวอินกลับยิ้มไม่ออก เขารู้ว่าทำไม แม้คุณคิโชวอินกับมาซายะจะแต่งงานกันแล้ว และถ้าไม่ใช่คนที่ได้รับข้อมูลอย่างละเอียด (เกินไป) จากเจ้าตัวเองอย่างเขา ย่อมต้องคิดว่าทั้งสองคนมีความสัมพันธ์ทางร่างกายกันแล้ว แต่จากท่าทางของมาซายะ ชูสุเกะเดาว่าไม่ห้องซักห้องของคฤหาสน์คุณโมโมโซโนะ ก็มุมมืดซักที่ในสวน หรือในบูกัตติสีขาวที่ขับมา ซึ่งตัวเลือกเหล่านั้นล้วนโจ่งแจ้งในสายตาของคนอื่นทั้งนั้น คนที่เป็นพี่ชายของเธอคงไม่อยากให้ใครต่อใครซุบซิบไปว่าน้องสาวกับสามีปฏิบัติกิจกรรมในห้องนอนได้โลดโผนเพียงไหน

ดูเหมือนสายตาที่ต่ำกว่าศูนย์องศาของพี่ชายคุณคิโชวอินจะทำให้มาซายะเย็นลงได้ เขามองคู่สามีภรรยาที่พากันออกไปจากงานอย่างรวดเร็วโดยแทบไม่ร่ำลาเจ้าภาพเลยด้วยซ้ำ มือของเขากำแน่นเมื่อคิดว่าคุณคิโชวอินจะตกเป็นของคนอื่น ตกเป็นของมาซายะโดยที่เขาไม่สามารถทำอะไรได้เลยแม้แต่น้อย

.....

461 Nameless Fanboi Posted ID:ci.+.TW+eW

ทำไมยิ่งอ่าน a-z ของเอ็นโจยิ่งคิดว่าหมอนี่หื่น + เลวจังวะ ; w ;

462 Nameless Fanboi Posted ID:f5oYTpIIqj

โว้ยยยย สรุปช็อตนี้รู้กันถ้วนหน้าเลยสินะ

เรย์ก่าาาาาา ไม่รอดแล้ววววววว 555555555

ภาพลักษณ์เธอไม่เหลือแล้วววว

463 Nameless Fanboi Posted ID:SXSrD/ce4H

กูขำมาก ถ้าข่าวเรื่องท่านอิมาริกับท่านพี่จะลือกันขนาดนี้แต่งๆไปเถอะค่ะ จะได้หมดภาระกองอวย 55555
เอ็นโจววววว นายก็ใจเย็นหน่อยเว้ยยยยยย รุ่นกระทิงหรือไง เข้าวัดเข้าวาบ้าง

464 Nameless Fanboi Posted ID:35CoZHWa8v

เดี๋ยวๆๆๆๆ ‘ความสัมพันธ์แบบเลสเบี้ยนนี่ไม่ถือว่านอกใจสามีใช่ไหม’ ใช่เหรอๆ ท่านเรย์กะบาปหนักอีกแล้วจ้า ถถถถ

465 Nameless Fanboi Posted ID:YlsanOWwJC

>>457 นายตัวสำรองนี่ก็คุ้นว่าจะมีฟิคแต่ไม่จบรึเปล่านะ... แต่ที่แน่ๆกูจำได้ว่ามีซีรี่ส์ฟิคเปลี่ยนบุคลิกกันอะ 55555555

466 Nameless Fanboi Posted ID:r73Lk4y0qt

>>465 เออ กูก็คิดถึงฟิคนั้น อยากอ่านต่อ อยากรู้ว่าอาริมะจะเปลี่ยนบุคลิกเป็นอะไรยังไง 5555555

467 Nameless Fanboi Posted ID:wgIT8hIuuz

เจ้าแม่ขาาาา ทำไมเจ้าแม่เป็นคนงี้ 5555555 เกลียดการถามว่าเจ้าแม่เป็นไบมั้ย เสน่ห์เหลือร้ายมากเลยนะคะท่าน ส่วนเอ็นโจ แกหื่นมากกก เลวมากกก หยุดจินตนาการถึงเจ้าแม่แบบนั้นเลยนะ ใจเย็นลงด้วย ไม่งั้นจะสาดเกลือไล่ผีใส่แกแล้ว

468 Nameless Fanboi Posted ID:ipKx8e0Tl9

ถ้าอ่าน a-z เอ็นโจจบ แล้วออริยังไม่ออกภาพลักษณ์เอ็นโจคือกู่ไม่กลับแล้วแน่ๆเลยอ่ะ5555

469 Nameless Fanboi Posted ID:cRLpVHEiqx

>>467 ซึ่งตรงกันข้ามกับในเรื่องหลักเลยว้อย แค่กวาดสายตาไปทางไหนผู้ชายก็หลบตาหมดทุกคน แถมพวกขวัญอ่อนหน่อยก็กลัวหัวหดไม่กล้าแม้แต่จะเดินผ่านหน้า...

470 Nameless Fanboi Posted ID:IMeeQ0g7Tr

ว่าคาบุอัดอั้นแล้วนะ มาเจอเอ็นโจ กุยอมเลย เฮียจิ้นทุกตอนเลย 55555

471 Nameless Fanboi Posted ID:OB8ppcRKOK

>>468 ใกล้ ๆ เที่ยงคืนกูลงตอนจบค่ะซิส ท่านฮิไม่ทันกูแน่นอน

472 Nameless Fanboi Posted ID:r73Lk4y0qt

>>471 ไม่แน่นะ อ.แกอาจจะอัพก่อนหน้ามึงสองนาทีก็ได้ 5555

473 Nameless Fanboi Posted ID:Ka3EdU5JFk

>>472 กูจะกราบรัว ๆ เลย คือรอจนน้ำตาไม่มีจะร้องไห้ละ ค้างมากค่ะ เพราะเอาเข้าจริง เรือหลวงกูนี่จอมมาร ส่วนไซซายะคือเรือรอง

474 Nameless Fanboi Posted ID:CWOWOP6.fe

>>472 สาธุ99 เลยกู

475 Nameless Fanboi Posted ID:VMmdIWDIlN

>>463 ข่าวลือของเอ็นโจกับคาบุก็ใช่ย่อยนะมึง ขนาดแต่งงานกับสาวยังมีข่าวเลย
มึงว่า ยุยโกะจะเม้ากับเพื่อน ๆ นางมั้ย ว่าขนาดจะ....... กันสามียังต้องส่งข้อความกับคาบุเลยน่ะ

476 Nameless Fanboi Posted ID:r73Lk4y0qt

>>475 หรือนางจะเข้าใจผิดว่าชูคุยกับมาซายะทุกครั้งที่จะมีอย่างว่ากับนางเพราะจิ้นว่าได้ทำกับมาซายะเพื่อนรัก(?) ไม่ใช่นาง 5555555555555555

477 Nameless Fanboi Posted ID:pPuK++Z91e

>>476 กับมาซายะเพื่อนรัก 5555555 โคตรลั่นนนนนน

478 Nameless Fanboi Posted ID:N0rlUwEnIl

>>476 กูลั่น มีsex textเป็นหลักฐานด้วย น่าเข้าใจผิดชิบหาย 5555555

479 Nameless Fanboi Posted ID:f5oYTpIIqj

ยุยโกะใช้ชีวิตอย่างหงาดระแวง สามีฉันเป็นเกย์สินะ ฮือๆๆ

480 Nameless Fanboi Posted ID:HTAYql7owF

10.

เขารู้สึกประหลาดใจอย่างที่สุดเมื่อหลอกถามมาซายะไปเรื่อย ๆ แล้วพบว่าเพื่อนสนิทของเขากับคุณคิโชวอินยังไม่ได้มีความสัมพันธ์เกินเลย

หลังจากงานแต่งงานของทาคามิจิไม่นาน คุณคิโชวอินก็ป่วยจนเข้าโรงพยาบาล เขาจะเข้าเยี่ยมทว่าห้องของคุณคิโชวอินถูกระบุไว้ว่าให้เข้าเยี่ยมเฉพาะครอบครัวเท่านั้น

ในคืนที่คุณคิโชวอินออกจากโรงพยาบาล มาซายะไลน์มาหาเขาว่าคุณคิโชวอินขอหย่า

ถึงแม้ว่าชูสุเกะจะรอคอยช่วงเวลานี้มานาน แต่พอมันเกิดขึ้นจริง ๆ เขากลับไม่รู้สึกดีใจเลยซักนิด จริงอยู่ที่มาซายะกับคุณคิโชวอินยังคงทำงานและออกงานด้วยกันตามปกติ ไม่มีร่องรอยความบาดหมางของทั้งคู่เลยแม้แต่น้อย ทว่าความสดใสของคุณคิโชวอินก็หม่นลงราวกับรอบตัวเธอถูกปกคลุมด้วยความเศร้าที่ซ้อนเป็นชั้นบาง ๆ กั้นเธอออกจากคนรอบข้าง คนอื่นอาจจะมองไม่ออก แต่เขาที่เฝ้ามองเธอมาตลอดเห็นได้อย่างชัดเจน

มาซายะเองก็ดูเงียบ ๆ ไป จำนวนครั้งในการไลน์หาเขาน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด ในบางครั้งมาซายะก็ชวนเขาออกไปนั่งดื่ม พวกเขาพูดเรื่องธุรกิจและเรื่องสัพเพเหระ ทว่าหัวข้อเรื่องคุณคิโชวอินกับอายูคาว่าดูเหมือนจะเป็นหัวข้อต้องห้ามที่อีกฝ่ายไม่อยากให้เขาแตะ

เขาไม่มีโอกาสได้คุยกับคุณคิโชวอินจนกระทั่งหลังเลิกงานเลี้ยงรับรองนักธุรกิจจากจีนที่โรงแรมในเครือคาบุรากิ มายาซะมีคุยธุระต่อ คุณคิโชวอินเลยต้องอยู่รอ ดังนั้นเขาจึงตามเธอไปที่บาร์

ตลอดทั้งงานคุณคิโชวอินไม่ได้กินดื่มอะไรทั้งนั้น เขากังวลว่าคอร์เซ็ตของเธอรัดแน่นเกินไปเหมือนในวันแต่งงานที่มาซายะเล่าให้เขาฟังรึเปล่า และเมื่อมาถึงบาร์ก็พบว่าเธอกำลังนั่งดื่มไวน์อยู่

“ได้ยินว่าวันครบรอบแต่งงานปีที่สามของคุณคิโช—มาดามกับมาซายะจะมีเซอร์ไพรส์” เขาทักทายเธอ บางทีเขาอาจจะดูโหดร้าย แต่เขาเกลียดบรรยากาศหมองหม่นรอบตัวเธอ ให้เธอร้องไห้ออกมาซะยังจะดีกว่า

“สายัณห์สวัสดิ์ค่ะท่านเอ็นโจ” เธอทักทายเขาด้วยน้ำเสียงสุภาพ ดวงตาที่ถูกย้อมไปด้วยฤทธิ์แอลกอฮอลล์จนหยาดเยิ้มกวาดมองไปรอบ ๆ “แล้วมาดามเอ็นโจล่ะคะ?”

“มาดามคาบุรากิยังขี้ระแวงเหมือนเดิมไม่มีผิด” เขาจ้องมองเธอ อยากจะอ่านให้ทะลุว่าในตอนนี้เธอรู้สึกยังไงกันแน่ เธอรักมาซายะ แต่กลับปล่อยเขาให้ไปหาอายูคาวะทั้ง ๆ ที่ตัวมาซายะเองก็ประกาศชัดว่าเขาจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงอื่นในระหว่างที่มีเธอเป็นภรรยา เขามองเธอแล้วรู้สึกเจ็บปวดใจแทน ในตอนที่เขาบอกว่าตัวเองจะต้องหมั้นกับยุยโกะ เธอก็มีสีหน้าแบบนี้ ในตอนนั้นเขาอ่านเธอไม่ออกเพราะได้แต่เจ็บแค้นที่ตัวเองไม่มีกำลัง ไม่แม้กระทั่งจะปกป้องตัวเองหรือผู้หญิงที่รักได้ แต่ในตอนนี้เขากลับได้รู้ว่าความรักของเธอนั้นเป็นความรักที่บริสุทธิ์ที่สุด เธอรู้ว่าเขาไม่สามารถทิ้งกิจการบ้านเอ็นโจและหนีไปกับเธอได้ ดังนั้นเธอเลยไม่ร้องไห้ฟูมฟายขอให้เขาทำเช่นนั้น และในตอนนี้ก็เป็นเช่นเดียวกัน เธอรู้ว่ามาซายะรักผู้หญิงคนอื่น เธอจึงปล่อยให้เขาได้ไปกับคนที่เขารัก

เขาอยากจะบอกเธอว่าถึงแม้มันจะสายเกินไป แต่เขารู้แล้วว่าชีวิตที่ไม่มีเธอมันช่างไร้ความหมาย ไม่ว่าจะเงินทอง กิจการใหญ่โต ความนับหน้าถือตาจากสังคม หรือแม้กระทั่งภรรยาที่งดงาม ทุกสิ่งนั้นล้วนแต่เป็นตรวนที่ถ่วงเขา ในทุก ๆ วัน เขาจะต้องฝืนตื่นขึ้นมาเป็น เอ็นโจ ชูสุเกะ ทายาทเอ็นโจผู้เพียบพร้อม ชีวิตของเขาช่างสมบูรณ์แบบไปทุกด้าน ทว่าตั้งแต่วันที่ในชีวิตของเขาไม่มีเธอ เขาก็ไม่เคยมีความสุขอีกเลยแม้แต่วันเดียว

481 Nameless Fanboi Posted ID:HTAYql7owF

เขาสั่งเหล้าราคาแพงเพียงเพราะว่าเขาเห็นเธอมองเหล้าขวดนี้เสมอตอนที่นั่งดื่มในบาร์แห่งนี้ เธอทดลองดื่มมันดูทว่าไม่ชอบ เธอไม่ชอบวิสกี้เขาก็ไม่ได้ดึงดันจะให้เธอดื่มต่อ

“วันนี้มาดามดูสง่างามเป็นพิเศษเลยนะครับ ถ้าคุณไปยืนหน้าร้านทิฟฟานี่ ผมก็คงนึกว่าตัวเองตาฝาดเห็นฮอลลี่แล้ว “ เขาชมเธอเพราะรู้ดีว่าเธอชอบคำชม

เธอมีสีหน้าเย็นชาขึ้นมา “ถ้าฉันเจอท่านเอ็นโจที่ฟิฟต์อเวนิว ก็คงจะคิดว่าคุณหล่อเหลาเหมือนพอลเช่นกันค่ะ”

เขามองเธอซึ่งนั่งอยู่ที่บาร์เหล้าในชุดเดรสยาวสีดำ ท่าทางสง่างามเหมือนนางเอกจากเรื่องเบรคฟาสต์ แอท ทิฟฟานี่ เขาบอกว่าเธอเป็นฮอลลี่ และเธอบอกว่าเขาคือพอล แต่เขากลับรู้สึกเหมือนตัวเองเหมือนฮอลลี่มากกว่า ผู้หญิงชนบทที่เข้ามาในเมือง แต่งงานกับเศรษฐีเพื่อยกระดับตัวเอง หลงใหลความฟุ้งเฟ้อจนลืมความสุขที่แท้จริง

“แล้วถ้าผมเป็นพอล คุณจะล้มเลิกการไปบราซิล ใส่แหวนหมั้นแล้ววิ่งฝ่าฝนมาหาผมรึเปล่าครับ มาดาม” เขาถามกึ่งจริงกึ่งเล่น แต่ในใจยังหวังว่าเธอที่ตัดสินใจหย่ากับมาซายะจะให้โอกาสเขา

“พอลที่ยังมีคนอุปถัมป์ไม่มีสิทธิ์โยนแหวนหมั้นใส่ตักใครหรอกค่ะ” เธอพูดอย่างตัดรอน เขาเหม่อมองเธอแล้วนึกถึงเหตุผลที่เขาตัดสินใจแต่งงาน ตัวเขาเองไม่ได้รู้สึกเสียดายเงินมากมายก่ายกองหรือธุรกิจใหญ่โตของที่บ้าน หากแต่ถ้าเขาทิ้งหน้าที่ของทายาทตระกูลเอ็นโจ คนที่ต้องมารับหน้าที่สืบต่อคือยูกิโนะ

อาการของยูกิโนะหนักขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งต้องย้ายโรงพยาบาลไปรักษาที่อเมริกาแทน ถ้าเขาหายตัวไป ไม่ช้า ยูกิโนะก็จะต้องถูกเรียกตัวกลับมาเพื่อฝึกฝนการเป็นทายาทของเอ็นโจ การรับผิดชอบงานมากมายมหาศาลและความกดดันอย่างหนักไม่ใช่สิ่งที่ใครจะทำได้ง่าย ๆ โดยเฉพาะยูกิโนะที่ร่างกายอ่อนแอไม่เคยได้รับการเลี้ยงดูให้เติบโตเป็นทายาท ปลายทางของเส้นทางสายนี้คือเขาอาจจะต้องเห็นน้องชายของตัวเองรับภาระที่หนักเกินตัวจนร่างกายทนไม่ไหว หรือเฝ้ามองตระกูลเอ็นโจค่อย ๆ ถูกลดบทบาทและอาจจะโดนเทคโอเวอร์ธุรกิจเพราะผู้บริหารขาดความสามารถ ซ้ำยังสร้างความขัดแย้งไว้ทั้งกับคาบุรากิและอุริว

เพราะว่าเขาทนเห็นปลายทางที่ไม่ว่าทางไหนก็เลวร้ายเกินกว่าที่ครอบครัวของเขาจะรับได้ ในวันนั้น เขาจึงเลือกที่จะทิ้งเธอไป

ในวันนี้ หากว่ามาซายะเลือกอายูคาวะ เขาที่สร้างฐานอำนาจได้แล้วสามารถหย่าขาดกับยุยโกะได้อย่างไม่มีผลกระทบมากนัก เขารู้ดีว่ายุยโกะไม่ได้ทำอะไรผิดเลยแม้แต่น้อย การหย่ากับเธอเป็นความเลวร้ายเกือบจะที่สุดที่สามีคนหนึ่งกระทำต่อภรรยา แต่เขาไม่เคยรักเธอเลยแม้แต่น้อย ทุกครั้งที่ยุยโกะเรียกร้อง เขาจำเป็นจะต้องจินตนาการถึงผู้หญิงที่เขารักแทนที่เธอเพื่อให้เขามีอารมณ์พอที่จะทำหน้าที่ให้พ้น ๆ ไป

คุณคิโชวอินโทรหามาซายะเพื่อที่จะให้ช่วยพาไปเข้าห้องน้ำ เขาจึงเสนอตัว หากแต่เธอกระซิบบอกเขาว่าชุดของเธอจำเป็นจะต้องถอดทั้งร่างเพื่อให้สามารถทำธุระได้ เขารู้สึกเหมือนร่างของตัวเองร้อนวูบขึ้นมา เธอเหมือนไฟเหลวที่พอเข้าปาก ก็แผดเผาเขาไปทั่วทั้งร่าง

หากแต่ภาพมาซายะที่วิ่งมาหาเธออย่างร้อนใจทำให้ความต้องการของเขาดับลงอย่างไม่น่าเชื่อ สีหน้าของมาซายะตอนที่อุ้มคุณคิโชวอินไปนั้นคือสีหน้าของผู้ชายที่เปี่ยมรัก ณ วินาทีที่มาซายะอุ้มร่างของเธอขึ้น เขาก็รู้ว่าคำประกาศหย่าในวันครบรอบแต่งงานของทั้งคู่จะไม่มีวันมาถึง

.....

482 Nameless Fanboi Posted ID:HTAYql7owF

เขาตกหลุมรักคุณคิโชวอินตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นเธอสั่นระฆัง รอยยิ้มของเธอสว่างไสวราวกับแสงตะวันแสงแรกในชีวิตของเขา เขาตกหลุมรักเธออีกครั้งตอนที่เห็นเธอทำงานอย่างขันแข็งตอนเป็นกรรมการงานกีฬา ทั้ง ๆ ที่คิโชวอิน เรย์กะ จะชี้นิ้วสั่งใครก็ได้ทั้งนั้น เขาตกหลุมรักเธออีกครั้งตอนที่เธอก้มหัวให้ใครต่อใครไปทั่วเพื่อขอโทษแทนลูกพี่ลูกน้อง เธอไม่ควรจะต้องทำอย่างนั้นเลย เขาตกหลุมรักเธออีกครั้งตอนที่เธอกรีดพัดใส่ซึรุฮานะราวกับราชินีสั่งสอนสตรีไร้มารยาท เขาอยากจะคุกเข่าและจูบชายกระโปรงของเธอ บอกว่าเธอคือราชินีของเขา เขาตกหลุมรักเธออีกครั้งตอนที่เธอซัดกำปั้นใส่ท้องของเขาเต็มแรง คิโชวอิน เรย์กะ เธอทำให้เขาประหลาดใจราวกับว่าทุกวันที่ได้เจอเธอ คือวันที่เขาลงไปผ่านโพรงกระต่ายไปดินแดนมหัศจรรย์

เขาตกหลุมรักเธออีกครั้งตอนที่เธอบอกเด็ก ๆ อย่างอ่อนโยนเรื่องระฆังในงานเลี้ยงฤดูร้อน เขาชอบเด็ก เขาสงสัยว่าเธอจะชอบน้องชายแสนดื้อของเขาไหม เขาตกหลุมรักเธออีกครั้งตอนที่เธอพยายามวิ่งหนีความพยายามของมาดามคาบุรากิในการจับคู่เธอกับมาซายะ ทั้ง ๆ ที่นั่นเป็นความฝันสูงสุดของเด็กผู้หญิงคนอื่นแท้ ๆ เขาตกหลุมรักเธออีกครั้งตอนที่เธอกล้าพอจะใส่ชุดแฟนซีเป็นหนูวิ่งแข่งและใส่ชุดพ่อบ้านแกะรับแขกในคาเฟ่ คุณคิโชวอิน ทำไมคุณถึงได้น่ารักขนาดนี้นะ เขาคิดอย่างนั้น รู้สึกว่าตัวเองถอนสายตาจากเธอไปไม่ได้ เขาตกหลุมรักเธออีกครั้งตอนที่เธอฝากหนังสือภาพให้เมื่อรู้ว่ายูกิโนะเข้าโรงพยาบาล ภายใต้ใบหน้าและท่วงท่าของราชินีผู้เยือกเย็น เธอคือนางฟ้าที่เขาอยากจะอุทิศตัวบูชา

เขาตกหลุมรักเธออีกครั้งตอนที่เห็นเธอใส่กิโมโนสีฟ้าอ่อนตัวนั้นในงานชมหิ่งห้อย เขาไม่แปลกใจเลยด้วยซ้ำว่าทำไมท่านพี่ของเธอถึงจับตาเธออย่างใกล้ชิด เธอน่ารัก ออกจะตลกหน่อย ๆ ในคืนนั้นเขาจับหิ่งห้อยให้เธอ สงสัยว่าเธอจะรู้ไหมว่าเธอคือแสงสว่างเพียงหนึ่งเดียวในคำ่คืนที่มืดมิดสำหรับเขา เขาตกหลุมรักเธออีกครั้งตอนที่เธอยอมตามใจยูกิโนะแล้วเต้นวอลซ์คู่กันในงานเลี้ยงฤดูร้อน เขาอยากจะจับมือของเธอแล้วพาเธอเต้นรำไปรอบ ๆ ฟลอร์เช่นกัน เขาตกหลุมรักเธออีกครั้งตอนที่เธอช่วยน้องชายของเขาเอาไว้ คุณคิโชวอินที่อ่อนนุ่มไร้เรี่ยวแรงคนนั้นแบกน้องชายของเขาเขาวิ่งไปห้องพยาบาล เธอเป็นนางฟ้าตัวจริง และเขาอยากจะคุกเข่าแทบเท้าแล้วบอกเธอว่าได้โปรดอย่าทำให้เขาตกหลุมรักเธอไปมากกว่านี้ได้ไหม หัวใจของเขาเต็มไปด้วยเรื่องของเธอ และเขาก็รู้สึกเหมือนแทบทนไม่ไหว

เขาตกหลุมรักเธออีกครั้งตอนที่รู้ว่าเธอสามารถทำให้พวกหัวหน้าชมรมกีฬาสยบต่อเธออย่างสิโรราบ สายข่าวของเธอทำหน้าที่ได้ไม่เลวเลย เขาสงสัยว่าเธอจะรู้ตัวไหมว่าในหมู่พวกผู้ชาย เธอคือไอดอลที่พวกเขาไม่กล้าเข้าใกล้ เขาตกหลุมรักเธออีกครั้งตอนที่เธอแกล้งคนกระต่ายลาเต้อาร์ตที่เขาอุตส่าห์ตั้งใจทำไปให้ ทั้ง ๆ ที่ผู้หญิงคนอื่นยื้อแย่งเพื่อที่จะให้ได้มา เขาตกหลุมรักเธออีกครั้งตอนที่เธอทำหน้าตกใจเมื่อเขาบอกว่ายุยโกะเป็นว่าที่คู่หมั้น สงสัยว่าเธอจะรู้สึกหึงเหมือนที่เขารู้สึกตอนเธอตกหลุมรักผู้ชายคนอื่นรึเปล่า

เขาตกหลุมรักเธออีกครั้งตอนที่เธอปรากฏตัวในชุดกระโปรงสีเรดไวน์ในงานเลี้ยงของบริษัทคิโชวอิน สีแดงเข้มที่ทำให้เธอเหมือนดอกโบตั๋น โดดเด่นเหนือดอกหญ้าทั้งปวง เขาตกหลุมรักเธออีกครั้งตอนที่แจกช็อกโกแล็ตให้เด็ก ๆ และเหลือให้เขา ถ้าเขาจะนับว่าเธอให้ช็อกโกแล็ตเขาแล้ว ถึงจะเป็นช็อกโกแล็ตตามมารยาท ก็คงจะทำได้สินะ เขาตกหลุมรักเธออีกครั้งตอนที่ได้ชิมอาหารที่เธอสารภาพว่าไม่ได้ทำเอง สงสัยว่าอาหารที่เธอทำเองรสชาติเป็นแบบไหน เขาตกหลุมรักเธออีกครั้งตอนที่เธอฝากช็อกโกแล็ตให้กับน้องชายของเขาแล้วพยายามพูดให้คนอื่นรู้ว่าเขาไม่ใช่คนรับที่แท้จริง คุณคิโชวอิน คุณไม่รู้เลยสินะว่าพฤติกรรมแบบนั้นน่าสงสัยยิ่งกว่ายื่นช็อกโกแล็ตให้เฉย ๆ ซะอีก

เขาตกหลุมรักเธออีกครั้งตอนที่เธอโดนใส่ร้ายแล้วมีแต่คนอยากจะปกป้องเธอ เธอคือนางฟ้าที่ช่วยเหลือใครต่อใครไว้มากมาย เขาอยากจะถามเธอว่าได้โปรดช่วยเขาอีกคนได้ไหม เขาตกหลุมรักเธออีกครั้งเมื่อเห็นเธอในชุดกิโมโนฟุริโซเดะสีแดงเข้มท่ามกลางซากุระราตรี เขาอยากจะพาเธอเข้าไปในเงาไม้ ฉวยโอกาสกับเธอจนผิวสีขาวที่ตัดกับกิโมโนสีแดงเข้มกลายเป็นสีชมพู เขาตกหลุมรักเธออีกครั้งตอนที่เธอแพ้ลูกอ้อนยูกิโนะแล้วต้องไปดื่มชากับเขา เธอดื่มชาที่ท่าทางไม่น่าอร่อย แต่ดูเข้ากับอิมเมจ ในภายหลังเขาลองไปชิมชาลาเวนเดอร์ที่เธอดื่ม สงสัยว่าถ้าโน้มหน้าไปจูบเธอในตอนนั้นจะรสชาติเดียวกับชาที่เขาดื่มอยู่ไหม เขาตกหลุมรักเธออีกครั้งตอนที่เจอเธอที่ปารีส เธอที่พยายามจะปฏิเสธน้ำใจและรักษาระยะห่างจากเขา เธอบอกว่าเธอซื้อของให้ผู้ชายที่อายุเท่ากับพี่ชาย เขาสงสัยว่าเธอน่าจะซื้อของให้กับคุณโมโมโซโนะ ดูเหมือนว่าเขาจะต้องจับตาคุณโมโมโซโนะซักหน่อยแล้ว

483 Nameless Fanboi Posted ID:HTAYql7owF

เขาตกหลุมรักเธออีกครั้งตอนที่เธอกล่าวหาเขาว่าเป็นนักต้มตุ๋น อันที่จริงเขาอยากบอกเธอว่า ถ้าจะกล่าวหาเขาให้ตรงกว่านั้น สโตรกเกอร์น่าจะเข้ากับเขามากกว่า และอาจจะมีฉายาแย่ ๆ อย่างอื่นเพิ่มขึ้นมาด้วยหากว่าคนที่อยู่หลังประตูที่ถูกล็อคสองต่อสองคือเขา ไม่ใช่มาซายะ เขาตกหลุมรักเธออีกครั้งตอนที่เธอวางแผนเดทให้มาซายะแต่กลับกลายเป็นวางแผนตะลุยกิน เขาควรต้องระวังมาซายะไว้อีกคนสินะ เขาตกหลุมรักเธออีกครั้งตอนที่เขากับเธอพาเด็ก ๆ ไปอคาเรี่ยมกัน จินตนาการไปว่าถ้าวันหนึ่งเขากับเธอแต่งงานกัน จะพาลูก ๆ มาเที่ยวแบบนี้ เขาตกหลุมรักเธออีกครั้งที่เธอทำตัวเหมือนเคยชินกับร้านฟาสต์ฟู้ดส์ของสามัญชน คุณคิโชวอิน คุณนี่ชอบของกินจริง ๆ นะ เขาตกหลุมรักเธออีกครั้งตอนที่เธอใส่วิกผมตลก ๆ แล้วทำเหมือนเล่นเป็นสปายปลอมตัว ทั้ง ๆ ที่เขานึกว่าตัวเองรู้จักเธอดีแล้ว เธอมักจะมีเรื่องแปลกใหม่มาให้เขาประหลาดใจเสมอ

เขาตกหลุมรักเธออีกครั้งตอนที่เธอชมเขาว่าสอนหนังสือเก่งด้วยตาที่เป็นประกายผิดกับท่าทางขี้ระแวงปกติของเธอ เขาอยากจะบอกเธอว่านอกจากสอนหนังสือ เรื่องอื่นเขาก็ยินดีสอนให้เธอ เขาตกหลุมรักเธออีกครั้งในยามที่เธอปรากฏตัวในชุดเดรสสีขาวฟ้าโปร่งพลิ้วดูนุ่มนวลน่ามองในงานทานาบาตะ เธอดูเหมือนเจ้าหญิงที่น่าทะนุถนอม เขาอยากจะยืนอยู่ข้าง ๆ และปกป้องเธอจากสายตาของพวกผู้ชายที่แอบมองเธอ เขาตกหลุมรักเธออีกครั้งตอนที่เจอกับเธอโดยบังเอิญเหมือนพรหมลิขิตในห้องสโมสร ตอนที่เขาลี้ภัยจากที่บ้าน เขากับเธอคุยกันอย่างสนุกสนาน ท่าทีของเธอผ่อนคลายเมื่ออยู่กับเขาอย่างที่เธอไม่เคยทำมาก่อน

เขาตกหลุมรักเธออีกครั้งตอนที่เธอสอบสวนมาซายะราวกับภรรยามืออาชีพ เขาอยากจะให้เธอลองทำแบบนั้นกับเขา ดูว่าเธอจะเค้นคำตอบจากเขาได้ไหม เขาตกหลุมรักเธออีกครั้งตอนที่เธอทานคีชได้อย่างน่าเอร็ดอร่อย เธอเข้ากับน้องชายของเขาได้ดีมากจริง ๆ เขาตกหลุมรักเธออีกครั้งที่เมื่อเห็นเธอทำหน้ามุ่ยตอนที่เขาขโมยส้อมในร้านกาแฟเพื่อรั้งตัวเธอไว้ไม่ให้หนีไป สงสัยว่าถ้าวันนั้นเธอยอมให้เขาป้อน เขาจะยับยั้งชั่งใจตัวเองไหวไหม

เขาตกหลุมรักเธออีกครั้งตอนที่ร่างโชกเหงื่อหลังออกกำลังกายของเธอเอนพิงมาทางเขา ผิวของเธอร้อนผ่าวและเปียกชิ้น บนร่างมีกลิ่นกายหวาน ๆ กับกลิ่นเหงื่อซึ่งทำให้ร่างกายของเขาร้อนวูบ ทว่าได้แต่บอกให้ตัวเองอดทนเอาไว้ เขาตกหลุมรักเธออีกครั้งตอนที่เธอไปดูดอกไม้ไฟกับเขาและยูกิโนะ เธออยู่ในชุดเดรสสวมทับด้วยคาร์ดิแกนดูน่ารักเรียบร้อย ในคืนนั้นเขาไม่ได้ดูดอกไม้ไฟ เพราะมัวแต่จ้องเธอที่ตาเป็นประกายในขณะที่ดูดอกไม้ไฟดอกแล้วดอกเล่าระเบิดบนฟ้า

เขาตกหลุมรักเธออีกครั้งที่เธอยอมออกไปเดินเล่นกับเขาเพียงแค่สองคนโดยไม่ต้องใช้ยูกิโนะอ้างอีกแล้ว เธอบอกเขาว่าตอบแทนที่เขาเลี้ยงอาหารมื้อค่ำเธอวันนั้น เขาเลยให้เธอเลี้ยงกาแฟ มองดูเธอเลียฟองนมที่ติดอยู่บนริมฝีปากหลังดื่มคาปูชิโน่ด้วยลิ้นสีชมพู เขาตกหลุมรักเธออีกครั้งที่ตอนที่เห็นเธอใส่เดรสสีเขียวอ่อนในงานเลี้ยงของบ้านคาบุรากิ ชุดที่ทำให้เขานึกถึงงานเลี้ยงฤดูร้อนที่ได้พบกับเธอครั้งแรก รอยยิ้มของเธอสว่างไสวและงดงามยิ่งกว่าเดิม จนเขาขอบคุณที่ตัวเองเกิดมาและได้พบกับเธอ มีชีวิตอยู่และได้เฝ้ามองเธอแบบนี้

เขาตกหลุมรักเธออีกครั้งในวันจบการศึกษาที่พี่ชายของเธอหอบดอกไม้ช่อใหญ่มาให้ กุหลาบสีชมพูเข้ากับเธอได้ดีพอ ๆ กับดอกโบตั๋นสีแดง เขามองเธอแล้วนึกถึงภาพอนาคตที่เขากับเธอแต่งงานกันแล้วเดินเล่นในสวนกุหลาบหน้าบ้าน มีลูกเล็ก ๆ วิ่งเล่นอย่างสนุกสนานรอบตัว เขาตกหลุมรักเธออีกครั้งเมื่อเธอตกลงไปทานอาหารค่ำกับเขา เธอใส่ชุดกระโปรงแคบ ๆ ที่ผ่าสูงขึ้นไปให้เห็นขาอ่อนขาวเนียน ทำให้เขาเกลียดผ้าคลุมโต๊ะดินเนอร์ที่บังมันไว้

484 Nameless Fanboi Posted ID:HTAYql7owF

เขาตกหลุมรักเธออีกครั้งที่ใช้ค่ำคืนในวันคริสต์มาสเดินไปตามทางเดินประดับไปด้วยกัน เธอดูอบอุ่นในชุดเสื้อสีขาว ราวกับที่พักพิงในคืนอันเหน็บหนาวที่สุดของเขา เขาตกหลุมรักเธออีกครั้งเมื่อไปดูดอกไม้ไฟด้วยกันอีกครั้ง คราวนี้เธอมาในชุดยูคาตะสีอ่อน ดูราวกับภาพวาดสาวงามที่น่าตราตรึง เขาตกหลุมรักเธออีกครั้งเมื่อเธอพาเขาไปยังที่ต่าง ๆ ที่เขาไม่เคยไป ซุปเปอร์มาร์เก็ต งานออกร้าน เกมส์เซ็นเตอร์ เขาตกหลุมรักเธออีกครั้งตอนที่เธอนิ่งเงียบ มีเพียงรอยยิ้มน้อย ๆ ปกปิดสายตาที่ปวดร้าว เมื่อเขาบอกว่างานหมั้นของเขากับยุยโกะถูกกำหนดวันไว้แล้ว

เขาตกหลุมรักเธออีกครั้งในงานรับปริญญา เธอที่เป็นผู้ใหญ่และเงียบขรึมมากกว่าเดิมทำให้เขาทั้งรู้สึกเศร้าและนับถือ ตกหลุมรักเธออีกครั้งเมื่อเธอปรากฏตัวในชุดราตรีสีฟ้าอ่อนในงานแต่งงานของเขา เธองดงามเสียยิ่งกว่าในความทรงจำ คล้ายสิ่งดีงามเพียงสิ่งเดียวในงานแต่งงานที่เขาเกลียดงานนี้ เขาตกหลุมรักเธออีกครั้งเมื่อเห็นเธอใส่ชุดเจ้าสาวในงานแต่งงานของเธอ ชุดสีขาวสะอาด กระโปรงพลิ้วบางเบาพองฟูเหมือนเจ้าหญิง บนร่างประดับประดาด้วยอัญมณีมากมายสมกับตำแหน่งเจ้าหญิงของคิโชวอินและมาดามน้อยของคาบุรากิ นั่นเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาหวังว่าตัวเองจะเป็นคาบุรากิ ไม่ใช่เอ็นโจ

เขาตกหลุมรักเธออีกครั้งเมื่อเห็นเธอในเดรสสีเทาในงานวันเปิดตัวโรงแรมสาขาใหม่ของคาบุรากิ เธอดูสง่างามเพียบพร้อม เป็นจุดสนใจที่ใคร ๆ ก็อยากเข้าหา เขาอยากจะขโมยเธอกลับไปและซ่อนเธอเอาไว้ไม่ให้ใครเห็น เขาตกหลุมรักเธออีกครั้งเมื่อได้ยินว่าเธอจัดการดาราสาวที่มาเกาะแกะมาซายะยังไง เธอยังคงเฉียบขาดเหมือนเคย เป็นโบตั๋นสูงส่งที่แม้จะเจอลมหนาว ก็ไม่ร่วงลงมาเกือกกลั้วกับดิน เขาตกหลุมรักเธออีกครั้งเมื่อรู้ว่าเธอร้องไห้หน้าห้องผ่าตัดของเขา รู้สึกเหมือนมีกำลังใจในการอยู่ต่ออีกครั้งเมื่อคิดว่าในใจของเธอยังคงมีเขา เขาไม่ได้กลายเป็นคนแปลกหน้าและถูกเธอลืมเลือนไป

เขาตกหลุมรักเธออีกครั้งเมื่อเห็นเธอในชุดในเกมส์มาริโอ้ที่ติดหนวดอันใหญ่เหนือปาก เขาเดาได้ว่านั่นต้องเป็นความคิดของมาซายะแน่ ๆ เขาตกหลุมรักเธออีกครั้งเมื่อเห็นเธอในรูปถ่ายที่มาซายะส่งมาให้ เธอยังคงดูงดงามแม้ว่าภาพนั้นจะดูแปดเปื้อนเพียงใดก็ตาม เขาตกหลุมรักเธออีกครั้งในเทศกาลชมดอกไม้เมื่อเธอปรากฏตัวออกมาในชุดกิโมโนเต็มยศ โดดเด่นเสียยิ่งกว่าดอกไม้ดอกใดในงาน เขาตกหลุมรักเธออีกครั้งในงานทานาบาตะที่เธอใส่ชุดสีแชมเปญพลิ้วยาวราวกับเจ้าหญิง สง่างามเมื่อหมุนตัวบนฟลอร์เต้นรำภายใต้แสงไฟดวงเล็ก ๆ ราวกับความฝันอันเพริดแพร้วยามค่ำคืน เขาตกหลุมรักเธออีกครั้งเมื่อเห็นเธอใส่ชุดผ้าไหมสีบรอนซ์แนบเนื้อในปาร์ตี้ริมสระน้ำ เขาอยากจะควักลูกตาผู้ชายทุกคนที่อยู่ในงานนั้นเพื่อไม่ให้จ้องมองเธอ เขาตกหลุมรักเธออีกครั้งเมื่อเห็นเธอในชุดกระโปรงสีม่วงในงานแต่งงานของทาคามิจิ เธอดูบอบบางน่าทะนุถนอมภายใต้สายฝนที่โปรยปราย เขาตกหลุมรักอีกครั้งเมื่อเห็นเธออยู่ในชุดราตรีสีดำแบบในภาพยนตร์ นั่งดื่มไวน์ในบาร์เหล้าดูท่าทางเดียวดาย

เขาตกหลุมรักเธออีกครั้งแม้กระทั่งในตอนนี้ ตอนที่ข้างกายของเขามีภรรยาที่แต่งงานตามหน้าที่อยู่เคียงข้าง ตอนที่เธอสาบานรักกับเพื่อนสนิทของเขาในงานแต่งงานครั้งที่สองของทั้งคู่ เขาตกหลุมรักเธออีกครั้งเมื่อเธอเต้นรำกับมาซายะในชุดแต่งงานสีขาว หัวเราะราวกับว่าโลกทั้งโลกนี้เป็นของเธอ

เขาตกหลุมรักเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขารู้ดีว่าจะไม่สามารถเลิกรักเธอได้ ไม่ว่าจะเป็นเมื่อก่อน ตอนนี้ หรือต่อจากนี้ไปจนถึงวันตาย

คาบุรากิ มาซายะ อาจจะเคยตกหลุมรักและอกหักหลายต่อหลายครั้งจนกระทั่งได้เจอกับความรักที่สมหวัง หากทว่าสำหรับเขา ถึงจะเคยออกเดทกับผู้หญิงกี่คนก็ตาม แต่ความรักครั้งแรกและครั้งเดียวของ เอ็นโจ ชูสุเกะ คือเด็กผู้หญิงสวมชุดกระโปรงสีเขียวที่สั่นระฆังในงานเลี้ยงฤดูร้อน ผู้เติบโตขึ้นมาเป็นเจ้าสาวแสนสวยที่ไม่ใช่ของเขาคนนี้

ตลอดทั้งชีวิตเขารักผู้หญิงเพียงคนเดียว คน ๆ นั้นคือ คิโชวอิน เรย์กะ

จบซีรีย์ A-Z (Enjou’s Pov)

485 Nameless Fanboi Posted ID:HTAYql7owF

ขอบคุณโม่งทุกท่านที่ติดตามนะคะ (กราบสามครั้ง) โดยเฉพาะโม่งที่รีเควสพาร์ทของท่านเอ็นโจ กูได้ทำการ Fill Kink มึงละ กูหวังว่ามึงจะโอเคกับมัน (แต่ถึงไม่โอเคกูก็ไม่เขียนใหม่ให้หรอกนะคะซิส ทำใจค่ะ)

ขอบคุณสำหรับคอมเมนต์ หวังว่าโอกาสหน้าจะได้เจอกันใหม่

รักนะคะ

โม่งฟิค

486 Nameless Fanboi Posted ID:anYGMhEm0S

T-T

แงงงงงงงงง ขอบคุณค่ะโม่งฟิค น้ำตากุจะไหล ฮือออออ สงสารท่านเอ็นโจ ฮือออออออ

487 Nameless Fanboi Posted ID:SDLPuSyBsy

โม่งฟิคคคคคคคคคค ขอบคุณมากน้า สนุกมากจริงๆค่ะ โถ กู้เรือท่านเอ็นโจได้จากตอนจบเลย วงวารนางงงงงง โอกาสหน้ามีอารมณ์เมื่อไหร มาเปิดรับkinkนะคะ 555

488 Nameless Fanboi Posted ID:WeBcE.MaHG

โม่งฟิคคคค กราบ สนุกมากเลย

489 Nameless Fanboi Posted ID:H1rEqLlDkz

กรี๊ดดดดดด เศร้า กูฟังเพลงรักเธอให้น้อยลงอยู่พอดี มาเจอฟิคนี้กลายเป็นเข้ากับเพลงชิบหาย ;w; รักไม่สมหวังมันเจ็บปวด แต่ก็อร่อย ฮือออออ
ขอบคุณสำหรับฟิคค่ะ มึงทุ่มเทมากๆเลย รักมึงน้าาาาา //กอดๆขอบคุณ

490 Nameless Fanboi Posted ID:NcQ1yYBLDk

"ผมตกหลุมรักเธออีกครั้ง เพียงคุณอัพตอนที่ 300" ;w;

491 Nameless Fanboi Posted ID:FVe/F+OcwS

ผมตกหลุมรักเธออีกครั้ง เพียงโม่งฟิคทุกคนกลับมา

492 Nameless Fanboi Posted ID:Q61+SNsng4

ผมตกหลุมรักเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า ส่วนชั้นก็ตกหลุมคุณนี่แหละ จอมมารรรร กูชอบเหลือเกิน เจ็บปวดแต่ก็งดงาม คำบรรยายช่วงสุดท้ายทำกูบ่อน้ำตาแตก ขอบคุณโม่งฟิคมากก มึงเขียนดีมสกๆเลย

493 Nameless Fanboi Posted ID:D2BOUT+jQY

สงสารรรร เอ็นโจเอ๊ยยยย ถึงใครจะว่านายเลวยังไง แต่เราให้อภัยน้าาา (แพ้คำว่ารัก 555) ตอนแรกสงสัยอยู่ว่ามันจะจบยังไง โม่งฟิคจะให้เอ็นโจปลงแล้วไปคู่ยุยโกะแทนรึเปล่า พอจบแบบนี้โดนเลยค่า ทั้งหน่วงทั้งเจ็บ แต่กูชอบ 555 ชอบคนที่รักมั่นคง นี่ฮีคงจะรักไปจนวันตาย สงสารก็แต่ชีวิตต่อจากนี้ ต้องมาทนความหวานแหววที่มาซายะเพื่อนรักมาคอยเสิร์ฟ คราวนี้คงช้ำกว่าเดิม เพราะเค้ารู้ใจตัวเองกันแล้ว คงจะมีแบบ 'จะรู้ได้ยังไงว่ผู้หญิงชอบหรือไม่ชอบเซ็กซ์ของเรา' 'ก็พอทำxxx แล้วคิโชวอินก็ xxx รุนแรงไปรึเปล่า' 5555 วงวาร

494 Nameless Fanboi Posted ID:i2wEs7e4H2

>>493 เรื่องหลังจากนี้นี่ประมาณนั้นเลย ชีวิตจอมมารนี่ hellish กว่าเดิมเพราะเพื่อนเข้าเข้าสู่โลกใหม่ (หลุดพ้นจากความเวอร์จิ้น) เอ็นโจเลยต้องเป็นที่ปรึกษาส่วน

ที่บ้านชูสุเกะ

คาบุ: ท่าแบบนี้มัน...คนทำได้จริง ๆ เหรอเนี่ย ชูสุเกะ นายลงดัดตัวแบบในภาพซิ ฉันจะลองขึ้นไปอยู่ข้างบน ดูว่ามันทำได้จริง ๆ รึเปล่า

เอ็นโจ: ไม่

คาบุ: ชูสุเกะ ถ้าฉันไปลองใช้จริงแล้วคิโชวอินเกิดบาดเจ็บขึ้นมา เธอต้องโมโหฉันแน่ ๆ

เอ็นโจ: ครั้งนี้เท่านั้นนะ

คาบุ: นายทำเอวอ่อน ๆ กว่านี้ไม่ได้เหรอ มันกดลงไปไม่ลง

เอ็นโจ: ตัดใจเถอะมาซายะ ฉันว่าแม้แต่คุณคิโชวอินก็----

*ยุยโกะเปิดประตูเข้ามา*

ก็ประมาณนี้ล่ะค่ะซิส 555

495 Nameless Fanboi Posted ID:vbAuccDtYN

โฮฮฮ ท่านเอ็นโจจจจจจ ;;

โม่งฟิคงานดีมากกกก ขอบคุณสำหรับกาวค่ะ <3

496 Nameless Fanboi Posted ID:vbAuccDtYN

>>494 อห 555555555 วันถัดมาท่านเอ็นโจอาจจะโดนคุณยุยโกะลากเข้าห้องเย็นไปสอบสวน---

497 Nameless Fanboi Posted ID:i2wEs7e4H2

>>496

ซีนแบบนี้ไม่ว่าจะสารภาพตามตรงหรือว่าแก้ตัว ก็ดูน่าสงสัยทั้งนั้น 555

498 Nameless Fanboi Posted ID:j7aN0FAIvA

>>494 สงสารคุณยุยโกะ คุณยุยโกะผิดอะไร 555

499 Nameless Fanboi Posted ID:aBb+kDcOlC

นอบน้อมและหนักแน่น คือคติประจำใจในการใช้ชีวิตของฉันค่ะ!

คิโชวอิน เรย์กะ (ประถม )

ฉันกระพริบตาปริบๆ เมื่อได้รับสายตาคมกริบจากท่านเอ็นโจ ชูสุเกะ

แม้จะเป็นถึงมิตรสหายของท่านคาบุรากิ มาซายะ แต่ก็ไม่ยอมให้มาขัดขวางหรอกค่ะ ฉันสะบัดพัดในมือเบาๆ ทำเป็นไม่ใส่ใจในขณะที่ท่านเอ็นโจ ชูสุเกะ ค่อยๆ เบียดเข้ามาใกล้มากขึ้น จนแผ่นหลังฉันติดกับกำแพง ใบหน้าของเขายิ้มแย้ม แต่แววตากลับเยือกเย็นจนน่ากลัว ไม่คาดคิดเลยว่าคนที่ดูสง่างามและอ่อนโยนอย่างเขา จะมีมุมที่น่าเกรงกลัวเช่นนี้ด้วย

“คุณคิโชวอินกำลังทำอะไรอยู่งั้นหรือครับ?” เขายิ้ม ฉันจึงยิ้มตอบกลับ
“อะ...เอ๋ ฉันหรือคะ!? ฉันกำลังคิดว่าท่านเอ็นโจนี่ช่างสง่างาม เหมาะสมกับตำแหน่งสหายเคียงคู่ท่านคาบุรากิจริงๆ” ฉันหัวเราะโอะโฮะโฮะ

อุหวาาา ไม่นะ

จดหมายในมือของฉันถูกแย่งชิงไป ท่านเอ็นโจส่งรอยยิ้มมาให้พลางถือซองจดหมายในมือแล้วเดินออกไป
วันนี้ท่านคาบุรากิอารมณ์ไม่ดีอยู่ด้วย ถ้าถูกจับได้ว่าฉันไปขู่แย่งจดหมายมาจากเด็กที่ทำหน้าที่ส่งจดหมายให้ท่านยูริเอะ ฉันต้องแย่แน่!

แม้จะพยายามคิดหาทางออกจากสถานการณ์นี้มากแค่ไหน แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าท่านเอ็นโจแล้ว ฉันก็ไม่สามารถทำอะไรได้ พอกลับมาถึงบ้านฉันก็ระเบิดความอัดอั้นใจ ร้องไห้งอแงเข้าไปซุกกอดท่านพี่ในทันที ท่านพี่ถอนหายใจแล้วลูบหัวปลอบโยนฉันเหมือนทุกที ไม่มีคำพูดใดๆ ถามฉันแม้สักคำ อะไรกัน! ไม่ห่วงใยน้องบ้างหรือคะ?

ท่านแม่ได้ยินเสียงร้องไห้ของฉันก็โผล่หน้าออกมา แล้วเอ่ยถามขึ้น “เกิดอะไรขึ้นคะคุณเรย์กะ!?” ฉันเกิดอาการน้อยเนื้อต่ำใจที่ท่านพี่ไม่เอ่ยถามถึงสาเหตุ จึงโผเข้ากอดท่านแม่ซึ่งกำลังมาร์กหน้าอยู่แทน ท่านแม่มองด้วยสายตาเป็นห่วงเป็นใย ฉันรีบระบายความในใจแล้วถามสิ่งที่คาแคลงใจเสมอมา

“เรย์กะไม่เพียบพร้อมตรงไหนหรือคะ วันนี้เรย์กะให้คุกกี้ฝรั่งเศสกับท่านคาบุรากิ แต่ท่านคาบุรากิปฏิเสธไม่รับแล้วเมินเฉย เรย์กะไม่คู่ควรหรือคะ”

เมื่อพูดถึงท่านคาบุรากิ มาซายะ ท่านแม่ก็ยิ้มกริ่ม ย้ำกับฉันเหมือนอย่างเคยว่า “ท่านเรย์กะสมบูรณ์แบบที่สุดค่ะ” ฉันยิ้มตอบอย่างดีอกดีใจ ความกังวลสลายหายไปพร้อมกับวันใหม่ที่เข้ามา

ฉันเริ่มเกาะติดท่านแม่เพื่อเรียนรู้การเป็นคิโชวอินที่สมบูรณ์แบบมากขึ้น อยู่ในกฎระเบียบที่ถูกวางไว้ ดูแลตัวเองให้คงความงามเสมอ แม้กระทั่งในหน้าร้อนที่เดินทางไปเที่ยวทะเล ฉันก็ไม่ยอมลงน้ำทะเลเลยแม้แต่น้อย และนั่นทำให้ความสัมพันธ์ของฉันกับท่านพี่ค่อนข้างแย่ลง เราแทบจะไม่ได้พูดคุยแบบสนุกสนานกันเลยตลอดหน้าร้อน แต่ฉันไม่สนใจอีกต่อไป อย่างไรท่านพี่ก็คือท่านพี่ของฉัน เรื่องนั้นแน่นอนไม่มีทางเปลี่ยนแปลง ท่านพี่ทาคาเทรุจะยังคงอ่อนโยนและใจดีเสมอ ฉันไม่จำเป็นต้องกังวลว่าจะสูญเสียพี่ชายสุดที่รักคนนี้

ในที่สุดงานเลี้ยงฤดูร้อนของ Pivoine ที่ฉันไม่ปรารถนาจะไปเท่าไหร่ก็มาถึงจนได้ ฉันได้พบกับท่านคาบุรากิและท่านเอ็นโจในงานนี้ รู้สึกดีใจมากค่ะ ภายในงานมีสีสันขึ้นมาทันที ไม่เสียเวลาบำรุงผิวพรรณไปโดยเปล่าประโยชน์เหมือนในตอนแรก ฉันได้ยินเรื่องที่ทั้งสองจะไปเมดิเตอเรเนียนร์ในช่วงหน้าร้อนจากคุณเซริกะและคุณคิคุโนะ แต่ตอนนี้ทั้งสองกลับมาปรากฎตัว ณ ที่แห่งนี้ ต้องเป็นพรหมลิขิตแน่นอนค่ะ!
หัวใจของฉันเต้นรัวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ความรู้สึกนี้เรียกว่าอะไรกันนะ หวาาา~ น่าดีใจเกินไปแล้ว

500 Nameless Fanboi Posted ID:aBb+kDcOlC

..

ฉันเห็นกลุ่มเด็กน้อยสั่นกระดิ่งเสียงดังกริ๊งๆ แล้วมีคำถามขึ้นมาในใจว่า ‘ทำแบบนั้นจะดีหรือคะ? ไม่เกรงสายตาที่ได้รับมาหรือไงกันนะ’
ท่านพี่ซึ่งยืนอยู่เคียงข้าง เห็นฉันเอาแต่จ้องมองเด็กกลุ่มนั้น จึงก้มลงมากระซิบถามว่า “เรย์กะล่ะ อยากจะสั่นกระดิ่งบ้างไหม?” ฉันได้แต่ยกยิ้มอย่างเกรงอกเกรงใจ รีบตอบกลับไปว่า “ไม่เป็นไรค่ะท่านพี่ น้องอยากเต้นวอลซ์มากกว่า”

แหม หากคิโชวอิน เรย์กะอย่างฉัน ไปสั่นกระดิ่งเป็นเด็กน้อยอย่างนั้นในงานเลี้ยงคงจะไม่ดีล่ะมั้งคะ ฉันและท่านพี่เต้นวอลซ์ คู่กันในงานอย่างสง่างาม ฉันภูมิใจที่ยังคงความสมบูรณ์แบบของคิโชวอิน เรย์กะเอาไว้ได้เหมือนอย่างเคย เมื่อเราเต้นวอลซ์จบก็ได้รับเสียงปรบมืออย่างล้นหลาม ท่านคาบุรากิหน้าบึ้งไปแล้ว เอ๋? เกิดอะไรขึ้นกันคะ

“โย่ ทาคาเทรุ”

“อิมาริ…”

หวาาาา ช่างสง่างามเหลือเกิน ดูเหมือนจะเป็นสหายเพื่อนรักของท่านพี่ ฉันยิ้มอย่างยินดีแล้วเอ่ยทักทายอย่างสุภาพ “ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ หนูชื่อเรย์กะ เป็นน้องสาวของท่านพี่” ฉันโน้มตัวยื่นขาออกไปด้านหลังอย่างอ่อนน้อม

“โมโมะโซโนะ อิมาริครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะเรย์กะจัง” ท่านอิมาริโค้งตัวแล้วเผยรอยยิ้มเจิดจ้ามาให้ หลงรักแล้วค่า~ ทำไมท่านผู้นี้ถึงได้น่าหลงใหลเช่นนี้ วะ หวาาาาา!

ฉันเผลอทำน้ำผลไม้ในแก้วหกใส่ชุดสีสวยฟูฟ่องที่ท่านแม่ช่วยเลือกซื้อ ฉันตกใจมาก แต่ท่านอิมาริบอกว่า “ไม่เป็นไร~ ไม่เป็นไร~” แล้วคุกเข่าลงกับพื้น หยิบผ้าเช็ดหน้าผืนสีน้ำเงินขึ้นมาเช็ดคราบน้ำผลไม้เล็กๆ ที่กระเซ็นมาเลอะชุดให้กับฉัน ภาพในตอนนั้นราวกับเจ้าชายกำลังขอเจ้าหญิงแต่งงาน หัวใจของฉันเต้นรัวอีกครั้งกับสเน่ห์ของท่านผู้นี้ บรรยากาศช่างเหมือนในเทพนิยาย แต่แล้วท่านพี่ก็เข้ามาจบบรรยากาศนั้นลงแทบจะทันที ท่านพี่บอกว่ามีธุระด่วน อยากจะพูดคุยกับท่านอิมาริเป็นการส่วนตัว เลยขอแยกตัวออกไปสองคน ฉันใช้โอกาสนี้รีบไปห้องน้ำเพื่อเช็ดคราบน้ำผลไม้ให้เกลี้ยงเกลา ถ้าท่านแม่รู้เข้าอาจจะไม่ดีก็ได้ ฉันต้องสมบูรณ์แบบ ต้องกลบเกลื่อนความผิดพลาดนี้ให้จมมิด…

เมื่อมาถึงห้องน้ำก็พบหญิงสาวอายุมากกว่าสามคน บทสนทนาหยุดลงเมื่อฉันปรากฎตัวขึ้น ซึ่งฉันก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรแม้แต่น้อย

ดีใจจริงๆ ค่ะ ที่ได้พบกับท่านคาบุรากิในงานเลี้ยงโดยบังเอิญ

คงจะดีไม่น้อยเลยนะคะ ถ้าเรย์กะจะได้เต้นวอลซ์คู่กับท่านคาบุรากิ!

...

501 Nameless Fanboi Posted ID:aIvxrEik0g

>>485 ขอบคุณมากๆเลย กูเป็นคนขอเองแล มารอมึงที่ท่าน้ำทุกวันเลยเนี่ย เขียนได้ดีมากๆๆๆ ขอบคุณมากนะ

502 Nameless Fanboi Posted ID:l6w6z9yG++

>>494 ประเด็นนี้กูสนใจอยู่อย่างเดียว ใครเมะใครเคะ//ครุ่นคิสสมการ
>>499-500 เรย์กะนางร้ายสินะ ดูเป็นนางร้ายที่เอ๋อๆดีจัง เหมือนเอาเรย์กะในนิยายมาปั่นรวมกันเลยว่ะ 55555555

503 Nameless Fanboi Posted ID:5wZOnzcfsZ

>>485 ขอบคุณโม่งฟิคมากค่ะ มึงขยันมากๆ รักษาคาแรคเตอร์ตัวละครครบสมบูรณ์ กูอ่านพาร์ทตอนจบของท่านเอ็นโจแล้วเหมือนจะขาดใจตายไปพร้อมๆ กับความรักของผู้ชายคนเน้ วงวารจอมมารหื่นๆ ของบ่าวจริงๆ ToT

504 Nameless Fanboi Posted ID:l6w6z9yG++

>>480-484 มึงงงงงงงงง กูเศร้า กูสงสาร โถ จอมมารยิ้มขื่นๆของบ่าว อ่านแล้วรู้สึกว่าเรย์กะนี่คือความสุขหนึ่งเดียวในชีวิตจริงๆ กูอยากให้เขามีความสุขว่ะ แต่ไม่ว่าจะฟิคไหนก็โดนทำร้ายจิตใจตลอดเลย ปวดหัวใจแทน

505 Nameless Fanboi Posted ID:c3WlzQCYnJ

>>499-500 เหมือนอ่านมาซายะร่างหญิง

506 Nameless Fanboi Posted ID:dR81Stk5jD

ของคุณโม่งฟิคA-Zมาก กูอิ่มกาว หนุกหนานมาก สงสารเอ็นโจ แต่จำความใช้สมองใต้เข็มขัดคิดแทนบ่อยๆในตอนก่อนหน้าได้นะยะ นายมีเวลาล้างสมองเพื่อนสนิทให้3Pอยู่นะ สู้ๆ

507 Nameless Fanboi Posted ID:crjg/Amt3j

>>494 ท่าไหนวะเนี่ย...ทำไมกูนึกถึงเฮลิคอปเตอร์ *แค่ก*

508 Nameless Fanboi Posted ID:l6w6z9yG++

>>507 คนใจบาป....

509 Nameless Fanboi Posted ID:i2wEs7e4H2

>>507 ท่ายากเกิน พลาดทีนี่อาจจะต้องเรียกรถพยาบาลเลยนะนั่น

510 Nameless Fanboi Posted ID:aBb+kDcOlC

>>499 >>500 กูเมาๆ อึนๆ ง่วงด้วย ปั่นแบบโครตเบลอ ถถถถถถ กูทำไรลงไป

511 Nameless Fanboi Posted ID:QIEGg.KRGm

>>455 กำลังเขียนอยู่แจ้ ถ้าไม่ติดอะไรคืนนี้น่าจะลงได้

512 Nameless Fanboi Posted ID:pnV7PGsY9g

>>511 ถ้ามึงลงเกอิชาคืนนี้ พรุ่งนี้กูจะลงโฮสต์เอ็นโจเลย!!!!
//รอแรงบันดาลใจจากมึงนะคะ

513 Nameless Fanboi Posted ID:vBh5ICVNdb

>>511 >>512 คนดียย์ย์ กูรออ่านนะคะ *v*

514 Nameless Fanboi Posted ID:AUW.nT6zBE

รอคนอัพสารบัญนะ กุลืมเนื้อเรื่องละ

515 Nameless Fanboi Posted ID:oFY1BKN52b

ช่วงนี้เป็นฤดูกาลฟิคเหรอวะ กูจะรอนะ

516 Nameless Fanboi Posted ID:7IBlNJ8.ZL

ก็รู้สึกว่ากูกำลังจะกลายเป็นหนึ่งในหมู่บ้านไร้เพื่อนแบบคาบุรากิว่ะ อยากจะทักแชทไปสาธยายเรื่องราวทุกๆ 4 ชม. แบบมันไม่มีคนจะคุย มีอยู่คนเดียวอะ อะฮรื้อๆๆ //มโนว่าคาบุรากิส่งรอยยิ้มเข้าอกเข้าใจมาให้กู

517 Nameless Fanboi Posted ID:oFY1BKN52b

>>516 ทำใจว่ะ ยิ่งโตยิ่งเพื่อนน้อยลงเรื่อย ๆ

ปล.แบบคาบุนี่มันก็... แต่เพื่อนก็ก็เล่าเรื่องของตัวเองกะผัวขั้นฮาร์ดคอร์เหมือนกันนะ คือ ทุกเรื่องราวบนเตียง แม่สาธยายหมด ทั้งขนาด ท่วงท่า ระยะเวลา กูก็ อห. กูยังต้องมองหน้าผัวมึงอยู่นะคะ พอมองแล้วนึกถึงตอนมันเยเพื่อนกูด้วยลีลาxxxxแล้วก็เอิ่ม...

518 Nameless Fanboi Posted ID:0plNnAqbjN

>>517 เพื่อนมึงน่ากลัวชิบหาย

519 Nameless Fanboi Posted ID:NwOF7EVwuh

>>518 เอาจริง ๆ กูว่าผู้หญิงเมาท์เรื่องxxxโหดกว่าผช.อีกนะ แต่บางทีกูก็คิดในใจว่า กูต้องรู้เรื่องแบบนั้นของพวกมึงด้วยเหรอคะ อินไซด์เกิน

ปล.แต่ถ้าเรื่องปกติ กูก็คุยได้ทุกเรื่องนะ เพลิน ๆ ดี ถึงเป็นเรื่อง xx ก็ยังเพลินนะ 555

520 Nameless Fanboi Posted ID:f+PMXlzVFr

พอกูจะลงฟิค เนตบ้านกูก็ดับซะงั้น ฮือออออ
KimiDolce ~after story >>>/webnovel/4018/756-759
-----------------------

“กำลังรออยู่เลยครับ”

พนักงานต้อนรับโค้งหัวให้ผมเมื่อไปถึงร้านอาหารและแจ้งความประสงค์ว่ามาพบคาบุรากิ มาซายะ เดินนำหน้าไปยังมุมที่เป็นโซนส่วนตัว

มาซายะที่นั่งรออยู่ก่อนแล้วยกมือขึ้นทักทาย ผมเดินเข้าไปนั่งยังเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม วางกระเป๋าลงแล้วขอเมนูจากบริกร

“โทษที วันนี้คลาสเลิกช้าไปหน่อย”

“ไม่เป็นไร ฉันรู้ว่าโปรเฟสเซอร์คนนี้ชอบสอนเลท” มาซายะพยักหน้าเนิบๆ ไล่สายตาดูเมนูอาหาร

วันนี้เรานัดทานมื้อกลางวันที่ร้านในโรงแรมของคาบุรากิ มาซายะแนะนำเมนูยอดนิยมที่ควรสั่งเมื่อมาที่ร้าน พร้อมกับบ่นพึมพำเล็กน้อยว่าอยากให้วาคาบะได้มาทานด้วย

“แล้วคุณวาคาบะไปไหนซะล่ะ”

“วันนี้วาคาบะต้องช่วยงานแม่ฉันน่ะสิ มะรืนนี้ก็จะมีงานเลี้ยงแล้ว แม่อยากให้ไปทำหน้าที่ดูแลทุกอย่างแทนตัวเอง...เหมือนโยนเนื้อลงไปในดงไฮยีน่าชัดๆ”

เขาโอดครวญอีกเล็กน้อยว่าไม่ได้พบหน้ากับคุณวาคาบะมาหลายอาทิตย์แล้ว เพราะวุ่นอยู่กับการเตรียมงานเลี้ยงต้อนรับท่านทูตที่จะใช้โรงแรมของคาบุรากิเป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงและงานประชุม บางทีถ้ามีเวลาส่วนตัวก็คือตอนที่ติวหนังสือด้วยกัน มาซายะพยายามจะช่วยเธอทบทวนบทเรียนแต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้มากเท่าไหร่เพราะเราเรียนกันคนละคณะ

วิชาที่คุณวาคาบะเรียนนั่นคือวิชาที่เฉพาะทางมากอย่างรัฐศาสตร์ ไม่ใช่คณะบริหารธุรกิจแบบพวกเรา

มาดามคาบุรากิเข้มงวดกับคุณวาคาบะมาก วันที่ว่างจากการเรียนต้องเข้ามาเรียนรู้งานของบ้านคาบุรากิ และสั่งห้ามทุกคนเข้าช่วยเหลือใดๆทั้งสิ้น ไม่เว้นกระทั่งลูกชายตัวเอง

นี่คือบททดสอบสำหรับการเป็นสะใภ้ของบ้านคาบุรากิ เจอสถานการณ์แค่นี้ถ้าแก้ไขด้วยตัวเองไม่ได้ก็ถือว่าขาดคุณสมบัติ สะใภ้บ้านคาบุรากิต้องดีพร้อมในทุกๆด้านและยืนได้ด้วยตัวเองอย่างเข้มแข็ง

แต่มาซายะก็ยังแอบไปช่วยเธอลับหลังมาดามอยู่ดี

คราวที่คุณวาคาบะกลุ้มใจเพราะเต้นวอลซ์ไม่ได้แต่ต้องเต้นเปิดฟลอร์ มาซายะก็สอนให้ด้วยตัวเองจนเธอเต้นได้อย่างสง่างาม เปียโนที่เล่นไม่เป็นเขาก็เจียดเวลามาสอนให้อีกนั่นล่ะ กริยามารยาทแบบคุณหนูที่ไม่ได้มีมาตั้งแต่เกิด มาซายะก็จัดหาครูที่ดีที่สุดมาให้ ถึงแม้จะถูกบรรดาคุณหนูทั้งหลายถากถางว่ามันเป็นแค่เปลือกที่คอยเลียนแบบ เขาก็คอยช่วยซับน้ำตาและปลอบเธอให้หัวเราะได้

คุณวาคาบะเองก็เป็นนักเรียนที่ดี เรียนรู้ไว หัวไว สมกับที่ขับเคี่ยวชิงลำดับท็อปกันมาตั้งแต่สมัยมัธยมปลายกับพวกผม บอกสอนอะไรไปแป๊บเดียวก็จำได้ มีความพยายามและตั้งใจที่จะอยู่เคียงข้างกับมาซายะ สำหรับบางคนถ้าเจอการเคี่ยวเข็ญและการดูถูกหนักขนาดนี้อาจจะถอดใจไปแล้วก็ได้

ฟังมาซายะบ่นพร่ำเพ้ออยู่จนอาหารมาถึงก็ลงมือรับประทาน เราทานไปคุยไปไม่รีบร้อนเพราะตอนบ่ายไม่มีนัดที่ไหน วันนี้เหมือนเป็นวันอิสระของพวกเราจากตารางงานที่รัดตัว

บทสนทนาดำเนินมาถึงเรื่องผู้หญิงที่คอยจ้องจะกลั่นแกล้งวาคาบะ เมื่อเราพ้นออกมาจากสังคมแคบๆในรั้วโรงเรียนซุยรัน ผู้หญิงที่มีจิตใจอิจฉาริษยาเหมือนคิโชวอิน เรย์กะก็มีอยู่ให้เต็มไปหมดที่โลกภายนอก ต่อให้อยากปกป้องแค่ไหนแต่มาซายะไม่สามารถยื่นมือเข้าไปทำลายทิ้งได้หมดแบบผู้หญิงคนนั้น ทุกอย่างเป็นเรื่องของผลประโยชน์ และเขาก็ไม่ใช่เด็กๆที่จะระเบิดอารมณ์ออกมาให้เสียการเสียงานได้

ผมปลอบมาซายะให้ใจเย็นและบอกว่ามันก็เป็นบททดสอบที่คุณวาคาบะจะต้องเจอเพื่อพิสูจน์ตัวเอง เขาก็ดูจะสงบลง และหันไปสนใจกับข้าวในจานต่อ

แต่อยู่ๆมาซายะก็พูดขึ้นมาประโยคหนึ่งที่ทำให้ผมตัวแข็งค้าง ใจหล่นวาบไปข้างล่าง

“จะว่าไป...นายได้ยินข่าวของคิโชวอิน เรย์กะบ้างมั้ย”

521 Nameless Fanboi Posted ID:f+PMXlzVFr

ผมก้มลงมองจาน ทำเป็นง่วนอยู่กับการคีบกับข้าวใส่ปากตัวเอง แต่ในใจคิดว่าจะหาทางออกอย่างไรดีเกี่ยวกับเรื่องนี้

“...ก็ไม่นะ”

“ข่าวสุดท้ายที่ฉันรู้คือผู้หญิงคนนั้นกลับเกียวโตไปพึ่งพิงญาติที่นั่น”

“อื๋อ...แล้วยังไงล่ะ”

“ก็เวลาผ่านไปนานขนาดนั้น ผู้หญิงคนนั้นอาจจะวางแผนอะไรอยู่ก็ได้ ฉันไม่เชื่อหรอกว่าคนแบบนั้นจะยอมอยู่เฉยๆ”

“กังวลเหรอ”

“ก็นิดหน่อย” มาซายะยักไหล่แล้วยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม “งานเลี้ยงที่จะมาถึงนี้คืองานใหญ่มาก มีแขกจากหลายประเทศแล้วก็ยังท่านทูตอีก ฉันอยากให้วาคาบะเปิดตัวในฐานะคู่หมั้นของฉันกับคู่ค้าทางธุรกิจชาวต่างชาติให้มีข้อผิดพลาดน้อยที่สุด และคิโชวอิน เรย์กะคนนั้นก็อาจจะมาป่วนงานก็ได้”

“เธอจะเข้ามาได้ยังไงล่ะ ไม่มีบัตรเชิญ”

“ก็ไม่รู้สิ อาจจะใช้วิธีใดวิธีหนึ่งแอบเข้ามาก็ได้” มาซายะเบ้ปากเหมือนกำลังนึกถึงอะไรบางอย่างที่ดูน่ารังเกียจ “วิธีสกปรกก็เป็นเรื่องที่ผู้หญิงคนนั้นถนัดอยู่แล้วนี่”

“คิดมากไปแล้วน่า”

“มันก็ต้องคิดเผื่อไว้ก่อน วางแผนกันตั้งแต่เนิ่นๆ เกิดมีอะไรผิดพลาดมาก็จะได้รับมือทันยังไงล่ะ”

“ไม่เอาน่า ไม่เชื่อมั่นในระบบรักษาความปลอดภัยของโรงแรมเหรอ” ผมส่งยิ้มให้เขาขัดตาทัพ “อีกอย่างนะ ผู้หญิงคนนั้นอาจจะยังอยู่เกียวโต ไม่รู้ข่าวงานเลี้ยงที่ว่านี่ก็ได้”

เงียบไปพักหนึ่ง เขาก็พยักหน้าเนิบๆคล้ายกับคล้อยตามผม

“นั่นสินะ…ฉันคงคิดมากไปเอง”

ผมแอบถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกที่มาซายะปล่อยผ่านไปในเรื่องนี้ แต่ก็ต้องมาสับสนอยู่ในใจว่าทำไมผมถึงช่วยปกปิดเรื่องคิโชวอิน เรย์กะกลับมาโตเกียว เป็นเกอิชาอยู่ในร้านหรูหราย่านอาซากุสะ พยายามอ่อยคู่ค้าทางธุรกิจของตระกูลเอ็นโจ มีแผนจะทำลายล้างตระกูลคาบุรากิ ติดอยู่ที่ว่ายังไม่มีปัญญาทำได้

ไม่เข้าใจตัวเองเลย

หรือจะเป็นเพราะช่วงนี้มาซายะก็วุ่นๆ ผมเลยไม่อยากเอาเรื่องหนักใจไปเพิ่มให้เขากันนะ

อีกอย่างผู้หญิงคนนั้นก็คงยังไม่สามารถทำอะไรในช่วงนี้หรอก และผมก็ยังจับตาดูอยู่ ยังไม่มีอะไรร้ายแรงน่าเป็นกังวลให้บอกกล่าว

หลังทานข้าว มาซายะชวนผมไปรับของขวัญที่สั่งจองให้คุณวาคาบะไว้เมื่อหลายอาทิตย์ก่อน เป็นชุดเครื่องเพชรที่มีสร้อย ตุ้มหู แหวน กำไลเข้าชุดกัน เห็นว่าจะให้เอาไว้ใส่ในงานเลี้ยงที่กำลังจะมาถึง เขาดูวางแผนว่าจะกลับไปรับคุณวาคาบะให้ทันเวลาเลิกงาน

คุณวาคาบะเดินออกมาส่งดีไซเนอร์จากออร์แกไนซ์จัดงานอีเวนท์เจ้าประจำของตระกูลคาบุรากิขึ้นรถที่ด้านหน้าโรงแรมอยู่พอดี พอหันมาเห็นพวกผมเธอก็ยิ้มกว้าง เดินตรงเข้ามาทักทาย

มาซายะเปิดฉากบ่นเรื่องที่แม่ใช้แรงงานของคุณวาคาบะหนักเกินไป แต่คุณวาคาบะก็ส่งยิ้มแบบอ่อนโยนและปลอบให้เขาสงบลง

เมื่อสองคนนั้นสร้างบรรยากาศหวานแหวว ผมที่เป็นส่วนเกินเกะกะก็ขอตัวกลับก่อน แต่ไม่ลืมที่จะแซวให้สองคนนั้นเขินอายกันบ้าง มาซายะชูกำปั้นใส่ผม ส่วนคุณวาคาบะก็หน้าแดง

เมื่อมองกระจกหลังก็เห็นทั้งคู่โบกมือส่งผมแล้วจูงมือเข้าไปด้านในโรงแรม คุยอะไรกันก็ไม่ทราบ แต่เห็นสองคนนั้นมีรอยยิ้มกว้างที่ดูมีความสุข ผมก็ยิ้มตาม

ระหว่างที่รถติดไฟแดงอยู่ ผมเคาะนิ้วลงกับพวงมาลัย คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยเกี่ยวกับสองคนนั้น เห็นแล้วก็อดที่จะนึกถึงตัวเองไม่ได้

ถ้าตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน ผมจะสู้เพื่อรักได้แบบสองคนนี้มั้ยนะ หรือจะปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่ทางบ้านเห็นว่าเหมาะสมคู่ควร

ไม่น่าถามเลยนี่นะ

ผมหัวเราะหึๆให้ตัวเองแล้วก็ปัดเรื่องนี้ออกไปจากสมอง ความคิดไร้สาระแบบนี้ไม่ควรจะมีอยู่ในหัวผมด้วยซ้ำ

ความรักอะไรนั่นมันไม่จำเป็นชีวิตที่ถูกกำหนดไว้แล้วหรอก
.
.
.
.

งานเลี้ยงรับรองท่านทูตเป็นงานใหญ่สมอย่างที่มาซายะว่าไว้จริงๆ มีคนใหญ่คนโตจากคณะรัฐบาลกับ ข้าราชการกระทรวงต่างๆเข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง มองไปทางไหนก็เห็นคนคุ้นหน้าในแวดวงการเมืองทั้งนั้น

ผมทักทายกับผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีคอนเนคชั่นกับตระกูลเอ็นโจจนทั่ว เป็นคู่สนทนาให้กับกลุ่มคนเหล่านั้นอยู่พักหนึ่งก่อนจะปลีกตัวมายืนเป็นไม้ประดับข้างกำแพง จิบเครื่องดื่มมองคนเดินผ่านไปผ่านมาตรงหน้า

พระเอกและนางเอกของงานวันนี้คือมาซายะที่กำลังเต้นวอลซ์คู่กับภรรยาของท่านทูตอยู่กลางฟลอร์เต้นรำ และคุณวาคาบะที่มีคู่เต้นเป็นท่านทูตที่ดูจะคุยถูกคอกับเธอเป็นอย่างยิ่ง

522 Nameless Fanboi Posted ID:f+PMXlzVFr

ผมได้ยินสาวๆแถวนั้นซุบซิบกันถึงเรื่องเครื่องเพชรที่มาซายะซื้อให้คุณวาคาบะใส่ออกงาน ท่าทางข่าวจะไปไวยิ่งกว่าที่คิด ว่าด้วยคุณชายคาบุรากิหลงแม่สาวสามัญชนจนโงหัวไม่ขึ้น ยอมเสียเงินหลายล้านเยนเพื่อเอาใจสาวคนนั้น ดูแล้วกลุ่มสาวๆพวกนี้จะอิจฉาริษยากันไม่เบา เห็นมีบางคนจ้องคุณวาคาบะอย่างขุ่นเคืองด้วย

เมื่อเพลงจบทุกคนก็ปรบมือให้แก่สองคู่ที่อยู่ในฟลอร์ แสงแฟลชจากนักข่าวสาดใส่มาซายะและคุณวาคาบะอย่างบ้าคลั่ง พรุ่งนี้ก็น่าจะได้ข่าวลงพาดหัวนิตยสารกอสซิปเรื่องซินเดอเรล่าออกงานสังคมอะไรเทือกๆนั้น

มาซายะโอบเอวเธอไปเดินทักทายแขกคนอื่นๆต่อ คราวนี้เป็นกลุ่มคณะรัฐมนตรีจากกระทรวงพาณิชย์ ท่าทางของคุณวาคาบะไม่ได้ดูประหม่าหรือเขินอายแบบงานที่ผ่านมาก่อนหน้า แต่เดินตัวตรงอย่างสง่างามบนส้นสูงสี่นิ้ว แม้จะอยู่ต่อหน้าคนใหญ่คนโตในคณะรัฐบาลก็ยังมีรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ นับว่าการฝึกหนักของมาดามคาบุรากิได้ผล

เดินวนเวียนจนครบในงาน มาซายะก็พาคุณวาคาบะเดินตรงมาหา ผมเลยดีดนิ้วเรียกบริกรให้เอาเครื่องดื่มมาเสิร์ฟให้สองคนนั้น

“เหนื่อยมั้ย คุณวาคาบะ” ผมถามเธอยิ้มๆตอนที่มาซายะหันไปเลือกน้ำจากถาด

“ไม่หรอกค่ะ สนุกดี” คุณวาคาบะยิ้มกว้าง “ได้ฟังเรื่องสนุกๆตั้งหลายเรื่อง ท่านทูตแนะนำเรื่องการเรียนให้ฉันด้วยล่ะ อ๊ะ ขอบคุณนะมาซายะคุง”

พวกเรายืนคุยสัพเพเหระเกี่ยวกับเรื่องที่ท่านทูตเล่าให้คุณวาคาบะฟังอยู่ครู่หนึ่ง คุณวาคาบะก็ขอปลีกตัวไปห้องน้ำ ทีแรกมาซายะว่าจะไปเป็นเพื่อน แต่คุณวาคาบะกลับโบกมือไปมา

“ฉันไปคนเดียวได้จ๊ะ ไม่เป็นไรหรอก”

“แต่ว่า...”

“ไม่ต้องเป็นห่วงน่า เดี๋ยวฉันมานะ”

มาซายะจะเดินตาม แต่ถูกขัดขวางด้วยกลุ่มนักธุรกิจเข้ามาคุยด้วยเสียก่อน เขาชะเง้อคอมองไปยังทิศทางที่คุณวาคาบะเดินไปด้วยความเป็นห่วง

เมื่อครู่นี้ผมก็เห็นกลุ่มสาวๆที่ซุบซิบเรื่องเครื่องเพชรของคุณวาคาบะเดินตามเธอไป น่าจะตามไปหาเรื่องเพราะมีโอกาส และมาซายะก็เห็น แต่ติดที่ตัวเองต้องคุยกับแขกเหรื่อของแม่ หน้าที่ของคุณชายคาบุรากิต้องมาก่อน ผมก็เลยเข้าช่วยเหลือ

“เดี๋ยวผมเดินไปดูเองก็แล้วกัน” ผมกระซิบใส่หูมาซายะ ตบบ่าเขาเบาๆแล้วเดินออกมา

ห้องน้ำในชั้นนี้มีอยู่สองจุด ผมเดินไปยังจุดที่ใกล้ห้องประชุมจัดเลี้ยงที่สุดก่อน รออยู่ราวๆห้านาทีก็เห็นสาวๆขี้อิจฉากลุ่มนั้นเดินออกมาจากห้องน้ำ ได้ยินพวกเธอบ่นกันว่าคุณวาคาบะไม่อยู่ที่นี่ พลาดโอกาสเล่นงานไปอย่างน่าเสียดาย แสดงว่าเธอคงเดินไปอีกฟากหนึ่ง

ผมเลยเดินไปยังห้องน้ำที่ว่านั่น ยืนรออยู่พักหนึ่งก็เห็นคุณวาคาบะเดินออกมาจากห้องน้ำ กำลังคุยโทรศัพท์ด้วยสีหน้ารื่นเริง คงเป็นมาซายะที่โทรหา

ผมเลยปล่อยให้เธอเดินไป ไม่ได้เรียกไว้ และเธอก็คงไม่เห็นผมเพราะกำลังคุยกับมาซายะอยู่

รอเธอเดินไปจนลับสายตา ผมก็จะเดินกลับไปที่ห้องจัดเลี้ยงบ้าง แต่เสียงประตูที่เปิดออกเรียกความสนใจให้หันไปมองเสียก่อน

คิโชวอิน เรย์กะเดินออกมาจากห้องน้ำนั้น เธอตาเบิกกว้างอย่างตกใจที่เห็นผม ส่วนผมก็อึ้งที่ได้เห็นเธอเหมือนกัน

เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง

คุณคิโชวอินยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเชิดหน้าขึ้น เดินฉับๆผ่านไป ทำเหมือนผมไม่ได้ยืนอยู่ตรงนั้น

“เดี๋ยวก่อน” ผมเดินไปดักหน้า เธอเบ้ปากเล็กน้อยเหมือนกำลังรำคาญ “เมื่อกี้คุณวาคาบะออกมาจากห้องน้ำ แล้วคุณก็เดินตามออกมา...คุณทำอะไรเธอ”

“แหม มองโลกในแง่ร้ายจังเลยนะคะ น่าเสียใจจัง”

“คุณคิโชวอิน” ผมกดเสียงลงต่ำ จ้องหน้าเธออย่างคาดคั้น

เธอแค่นยิ้มออกมาแล้วเริ่มต้นพูดด้วยเสียงแหลมสูงเหมือนกำลังประชดประชัน

“ใครจะไปทำอะไรได้ล่ะคะ ก็ตอนนี้ฉันไม่มีอิทธิพลอะไรหนุนหลังแล้วนี่นา จะไปแตะต้องคนรักของทายาทตระกูลคาบุรากิได้อย่างไรกันล่ะเจ้าคะ”

523 Nameless Fanboi Posted ID:f+PMXlzVFr

ผมได้แต่ขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจ ไม่ชอบทุกอย่างที่รวมออกมาเป็นผู้หญิงคนนี้ ไม่ชอบที่เธอแต่งหน้าทาปากเสียเข้มจนเหมือนผู้หญิงจัดจ้านกร้านโลก ไม่ชอบชุดเดรสสีแดงนั่นที่เปิดเนื้อหนังใต้ร่มผ้ามากไป ไม่ชอบสร้อยไข่มุกเส้นยาวที่อยู่บนลำคอของเธอ ไม่ชอบรองเท้าส้นสูงที่โผล่มาแว้บๆตรงชายกระโปรง ไม่ชอบถุงมือยาวถึงข้อศอกที่เธอใส่ เห็นแล้วมันน่าหงุดหงิดชะมัด

“เรื่องนั้นช่างเถอะ….” ผมมองทั่วตัวเธอเหมือนกำลังหาข้อตำหนิ “คุณใส่ชุดบ้าอะไรของคุณน่ะ โชว์เนื้อหนังขนาดนี้เนี่ยนะ น่าเกลียดชะมัด”

“แล้วมีปัญหาอะไรไม่ทราบคะ ฉันจะใส่อะไรมันก็เรื่องของฉัน ไม่เกี่ยวกับท่านเอ็นโจซักหน่อย” เธอเหยียดยิ้ม ม้วนปลายนิ้วเล่นกับสร้อยไข่มุกที่สวม

ให้ตายสิ เธอไม่คิดว่ามันจะโป๊ไปหน่อยเหรอ เกาะอกที่มันเกาะแบบหมิ่นเหม่นั่น ถ้าหลุดขึ้นมาจะทำยังไง

“อ้อ แต่คนที่ซื้อชุดนี้ให้เขาก็ไม่เห็นจะบอกน่าเกลียดตรงไหนเลย บอกว่าเหมาะกับฉันออกนะ รสนิยมคุณมีปัญหาแล้วล่ะ”

“คนที่ซื้อให้…” ใคร...ผู้ชายคนไหน แขกในร้านหรือที่อื่น เธอไปหลอกลวงผู้ชายคนไหนมาได้อีก

คุณคิโชวอินแย้มรอยยิ้มที่ดูน่าเกลียด มองผมด้วยสายตาที่เหมือนมองไอ้โง่คนหนึ่ง

“ก็ท่านอิมาริยังไงล่ะค้า”

ชื่อที่ออกจากปากนั่นทำให้ผมตกใจ พอเธอเห็นแบบนั้นก็เปล่งเสียงหัวเราะแหลมสูง ค้อมหัวลงอย่างล้อเลียน

“ต้องขอบพระคุณท่านเอ็นโจมากเลยนะคะที่ช่วยแนะนำท่านอิมาริมาเป็นแขก ฉันก็เลยได้ลูกค้ากระเป๋าหนักที่ยอมจ่ายไม่อั้น อย่างสร้อยไข่มุกแพงๆเส้นนี้เขาก็ซื้อให้อีกนั่นล่ะ แหม... ไม่รู้จะขอบคุณยังไงเลยล่ะค่ะ”

“คุณคิโชวอิน อย่าไปยุ่งกับเขานะ ผู้ชายคนนั้นน่ะ…” ผมรีบเอ่ยปากเตือน บางทีคุณคิโชวอินอาจจะไม่รู้ถึงกิตติศัพท์ของคุณโมโมโซโนะในด้านของความเจ้าชู้ก็ได้

“ถ้าเรื่องที่เขาเป็นคนแบบนั้นน่ะฉันรู้ค่ะ ไม่จำเป็นต้องเตือนหรอก” เธอตอบกลับมาอย่างเย็นชา แล้วก็มองผมขึ้นๆลงๆด้วยสายตาดูถูก “คุณเองก็เถอะ เที่ยวตามก้นแฟนเพื่อนสนิทไปทุกที่อย่างนี้มันไม่งามนะคะ คงไม่ใช่ว่าคุณก็แอบเล็งทาคามิจิคนนั้นอยู่หรอกนะ เห็นเป็นห่วงเป็นใยกันดีเหลือเกินนี่ แต่แย่หน่อยน้าที่เธอก็ไม่เอาคุณอยู่ดี”

ผมขบกรามแน่น ต้องนับหนึ่งถึงสิบตั้งสติอยู่ในใจเป็นการสะกดกลั้นอารมณ์โกรธก่อนจะพูดตอบออกไป

“คุณคิโชวอิน...เลิกพูดอะไรต่ำๆแบบนั้นได้แล้ว ผมไม่ได้คิดอะไรทำนองนั้นกับคุณวาคาบะเลยซักนิด”

“นั่นพูดแก้เก้อรึไงคะ” เธอหัวเราะเสียงแหลมสูงเหมือนกำลังเย้ยหยัน “แต่ก็อย่างว่าล่ะ...ท่านคาบุรากิสุดแสนจะเลิศเลอออกขนาดนั้น เป็นฉันก็เลือกท่านคาบุรากิอยู่วันยังค่ำ ไม่มาคว้าเอาตัวรองๆหรือกรวดหินไร้ค่าข้างทางหรอก”

คงเป็นเพราะความโกรธ ผมถึงได้รู้สึกจุกแน่น พูดไม่ออก เจ็บแปลบขึ้นมาในหัวใจ แถมเนื้อตัวก็เหมือนจะไร้เรี่ยวแรงได้อย่างน่าประหลาด

คุณคิโชวอินยิ้มเยาะที่เห็นผมพ่ายแพ้ในการโต้เถียง ยกกระโปรงถอนสายบัวให้อย่างงดงามอ่อนช้อย

“ฉันต้องขอตัวล่ะค่ะ ป่านนี้ท่านอิมาริคงรอแย่แล้ว...ไปก่อนนะคะ”

คงเป็นเพราะความโกรธ ผมถึงได้ก้าวตามเธอไป ดึงแขนไว้จากด้านหลัง ฉีกยิ้มให้ดูเป็นคนเลือดเย็นที่สุดเท่าที่จะทำได้

“แล้ว... คุณคิโชวอินไม่อยากรู้เหรอ ว่าวันนี้คุณวาคาบะมาที่นี่ทำไม”

เธอดูตกใจที่ผมเข้าใกล้ขนาดนี้ แววตาเริ่มปรากฎร่องรอยของความหวาดหวั่น แต่ยังคงเชิดหน้าเหมือนไม่ได้กลัวเกรง

“ไม่จำเป็นหรอกค่ะ ฉันไม่ได้อยากรู้”

ผมยิ้มมุมปาก นึกแต่คำพูดที่จะทำให้เธอเจ็บปวดบ้าง ผมรู้จุดอ่อนของเธอ ไม่ได้ยากอะไรเลยสำหรับการทำร้ายจิตใจใครซักคน

“มาซายะพาคุณวาคาบะออกงานสังคมในฐานะคู่หมั้นอย่างเป็นทางการยังไงล่ะ” ผมไม่ได้เหลือบมองสีหน้าเธอ “คุณคงไม่ได้ตามข่าวสินะ แต่มาซายะน่ะเพิ่งจะหมั้นหมายกับคุณวาคาบะไปเมื่อไม่กี่เดือนนี้เอง คุณอิมาริก็ไปงานมาด้วยนะ...เขาไม่ได้บอกคุณเหรอ”

พูดไป ผมก็หัวเราะไป ทำเหมือนมันเป็นเรื่องตลกขบขันที่ไม่สำคัญ

“มาซายะนี่ก็ใจร้อนจริงๆ คุณวาคาบะบอกให้เรียนจบแล้วค่อยหมั้นกันแบบเป็นทางการก็ได้ แต่ยังไงมาซายะก็ไม่ยอมท่าเดียว บอกว่าประกาศไปแล้วตั้งแต่ตอนนั้นก็ต้องทำให้เรียบร้อย...อ้อ...ตอนนั้นที่ว่าก็ตอนที่ยกเลิกการหมั้นกับคุณเพื่อคุณวาคาบะไงล่ะ”

ผมก้มลงไปกระซิบข้างหูเธอ เอาคำพูดที่พูดเมื่อครู่นี้คืนกลับไปให้

“แย่หน่อยน้า ที่เขาก็ไม่เอาคุณเหมือนกัน”

524 Nameless Fanboi Posted ID:f+PMXlzVFr

พูดจบผมก็ถอยออกมา รอดูว่าเธอจะโต้ตอบกลับมาอย่างไร

แต่ผิดคาดที่เธอยืนนิ่งค้าง ริมฝีปากสั่นระริก ดวงตากลมโตมีน้ำตาเอ่อคลอ และเมื่อสบตากันผมก็เห็นร่องรอยของความเสียใจและความผิดหวังปรากฎอยู่

ใจผมอ่อนลงยวบยาบ ความสำนึกผิดทิ่มแทงจนรู้สึกเจ็บปวด ผมได้แต่ยืนอ้ำอึ้งเพราะไม่รู้จะพูดอะไรต่อไปเหมือนตัวเองได้สูญเสียการพูดไปแล้ว

“คุณคิโชวอิน...ผม….”

เธอสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงผม ขณะที่ก้าวเท้าไปด้านหลังก็ยังจับจ้องผมไม่วางตา ก่อนจะหมุนตัวกลับหลังหันวิ่งหนีไป ดูแล้วคล้ายสัตว์ตัวเล็กๆที่ได้รับบาดเจ็บ

ต้องใช้เวลาอีกหลายสิบวินาทีกว่าผมจะตั้งสติได้และวิ่งตามในทิศที่คุณคิโชวอินมุ่งหน้าไป แต่เธอหายไปแล้ว ผมเดินวนเวียนหาแถวๆนั้นก็ไม่พบ

ผมไม่รู้จะไปตามหาต่อได้ที่ไหนเลยต้องกลับมาตั้งหลักที่ห้องจัดเลี้ยง มาซายะอยู่กลางฟลอร์ กำลังเต้นวอลซ์กับคุณวาคาบะอยู่พอดี แต่ผมไม่มีอารมณ์จะคุยกับใครหน้าไหนทั้งสิ้นเลยส่งเมล์ถึงมาซายะว่าขอตัวกลับก่อน แล้วปลีกตัวออกจากงาน

แม่ดูแปลกใจที่ผมกลับมาถึงบ้านเร็วกว่าที่คิด ผมอ้างว่ารู้สึกไม่ค่อยสบายเลยอยากกลับมาพักผ่อนและไม่อยากให้ใครรบกวน แม่ก็ไม่เซ้าซี้ถามต่อ ปล่อยให้ผมอยู่คนเดียวตามที่ร้องขอ

ผมคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ เปิดฝักบัวให้ความเย็นของสายน้ำดับความร้อนที่อยู่ในตัว แต่ไม่ค่อยจะได้ผล ความโกรธก็ยังกรุ่นอยู่ในอกไม่ยอมหายไปจนต้องทุบผนังห้องน้ำแรงๆเป็นการระบายอารมณ์

คืนนี้ อะไรก็ผิดพลาดไปหมด ตั้งแต่ผู้หญิงคนนั้นโผล่มา

ไม่สิ...มันผิดพลาดตั้งแต่ผมบอกคุณอิมาริเรื่องที่เธอไปทำงานแบบนั้นแล้ว

ผมมันโง่เองที่มองโลกในแง่ดีเกินไป คิดว่าถ้าบอกคุณอิมาริ แล้วเขาก็คงจะเอาไปบอกต่อคุณทาคาเทรุ พี่ชายของเธอให้มาห้ามเธอทำงานแบบนั้น เป็นความคิดตื้นๆที่มีช่องโหว่มากมาย แต่ตอนนั้นผมกลับไม่รู้สึกตัวเพราะแค่อยากระบายอารมณ์หงุดหงิดที่สุมอยู่ในอก ถ้าพ่อรู้ว่าผมปล่อยตัวตามอารมณ์แบบนี้คงถูกเรียกไปด่า

แล้วผลก็เป็นอย่างที่เห็น คุณอิมาริไม่ได้บอกพี่ชายเธอ คุณคิโชวอินได้ผู้ชายร่ำรวยไว้ให้เกาะสมใจปรารถนา ผมทำพลาด เป็นไอ้โง่ที่ใช้อารมณ์นำหน้าเหตุผล

ผมถูกสอนให้ควบคุมอารมณ์มาตั้งแต่เล็กแต่น้อย เจอสถานการณ์ที่น่าหงุดหงิดหรือลำบากใจแค่ไหนก็ต้องแสดงออกว่าไม่เป็นอะไร และผมก็ทำมันได้ดีซะด้วย ยกเว้นอยู่เรื่องเดียวคือเรื่องของคิโชวอิน เรย์กะ

พออยู่ใกล้เธอ ผมก็ไม่สามารถควบคุมตัวได้เลยสักครั้ง

ผมไม่สามารถห้ามตัวเองไม่ให้โมโหเธอได้ ผมไม่พอใจที่เห็นเธอใส่ชุดบ้าๆนั่น การมีตัวตนอยู่ของเธอมันช่างทำให้ผมโกรธได้ทุกสิ่งอย่าง

เธอเป็นผู้หญิงน่ารำคาญที่เอาแต่ไล่ตามมาซายะ ผู้หญิงที่มองผมด้วยสายตาดูถูก ผู้หญิงที่เอาแต่พ่นคำร้ายๆออกมา ผู้หญิงเห็นแก่ตัวที่ไม่สนใจอะไรไปมากกว่าตัวเอง ไม่แยแสว่าจะทำให้ใครเดือดร้อน แต่ชั่วแว้บหนึ่งที่ผมเห็นน้ำตาของเธอ หัวใจก็สั่นไหว ผมเกือบจะยื่นมือออกไปแล้วพูดปลอบ

เป็นอะไรไปนะ ไม่เข้าใจตัวเองเลย

เมื่อเช็ดผมและเช็ดตัวจนแห้งก็ได้เวลาเข้านอน ผมบอกให้ตัวเองข่มตาให้หลับเพราะพรุ่งนี้มีเรียนงานบริหารตั้งแต่เช้า แต่ทำได้ยากเย็นเต็มทีเพราะภาพที่คุณคิโชวอินร้องไห้ยังติดตรึงอยู่ในหัว

คืนนั้นผมฝัน

ในห้วงฝัน ผมเห็นนางเงือกร้องไห้ หยดน้ำตาร่วงลงมาเป็นไข่มุกเม็ดงามรายล้อมตัว

ผมรู้สึกเสียใจแต่ทำอะไรไม่ได้ และไม่มีความกล้าพอที่จะยื่นมือเข้าไปหา เพราะผมคือหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้นางเงือกต้องหลั่งน้ำตา

ในความฝัน ผมทำได้แค่เฝ้ามองเธอดูเธอ และกล่าวซ้ำไปซ้ำมาด้วยคำว่าขอโทษที่เหมือนจะส่งไปไม่ถึง

---------------------------------
ไม่ได้เขียนซะนานกูเขียนซะยาวเลย ถ้าอ่านแล้วรู้สึกขัดๆหรืแปร่งๆตรงจุดไหนก็ขออภัยด้วยเน้อ

525 Nameless Fanboi Posted ID:hUGCMH4E+7

ท่านเรย์กะเป็นนางร้ายว่ะช่วงนี้ 55555 เอ็นโจกูก็ยังคงความจอมมารหงอยเหมือนเดิม อนาถาเกินไปแล้วเว้ยยย

526 Nameless Fanboi Posted ID:OQx14XhUF+

>>520 เขียนดีแล้วโม่งฟิค อ่านลื่นๆไม่ติดขัดเลย ว่าแต่ช่วงนี้ฟิคไหนก็ขัดใจท่านเอ็นโจมาก เรือหลวงกูววววววววว

527 Nameless Fanboi Posted ID:N.1UifeBCl

>>520-524 แง กูอยากให้ท่านพี่ลงมาช่วยมากอ่ะ แต่ถ้าเป็นเรย์กะคิมิ ท่ายพี่น่าจะเกลียดคนแบบนี้มาก ฮือ

528 Nameless Fanboi Posted ID:PeuVpNy/pT

>>520-524 การขาดสติทำให้นายพังพินาศมากี่หนแล้วฮึ ชูสุเกะคุง รู้สึกพอเป็นเรื่องคุณคิโชวอิน นายจะหัวร้อนบ่อยนะ
กูก็คิดถึงท่านพี่เหมือนกัน แต่ท่านพี่ฟิคนี้ไม่รักน้องรึเปล่าวะ น่าจะไม่สนใจที่น้องไปทำอะไรแบบนี้

529 Nameless Fanboi Posted ID:YgLfU3pdqZ

ฟิคไหนๆ เอ็นโจก็เป็นนายไก่อ่อน วงวารรร

530 Nameless Fanboi Posted ID:TUHWOJWnyg

ไม่ชอบเขา แต่เก็บรายละเอียดตัวเขาทุกอย่างเลย ทั้งชุดที่ใส่ เครื่องประดับที่สวม แน่ใจนะว่าไม่ชอบจริงๆอ่ะ 5555

531 Nameless Fanboi Posted ID:ivpDg.sPDW

จอมมารไก่อ่อน

532 Nameless Fanboi Posted ID:TieFJwK1xj

จอมมารเอ๊ยยยย ซึนนะเรา ปากแข็งได้อีก //โม่งฟิคเกอิชา มึงเขียนดีมากกก ลื่นเลยแหละ

533 Nameless Fanboi Posted ID:TUHWOJWnyg

มีใครใจดีจะโปรยกาวอีกมั้ยคะ//มองหาด้วยสายตามีความหวัง

534 Nameless Fanboi Posted ID:gzxVw5cMn+

พอมีกาวนี่มู้วิ่งไวมาก 555

535 Nameless Fanboi Posted ID:nonxjkBnFc

เอ็นโจ ไอคนโง่ พูดจาไม่ดีละพอเค้าทนไม่ไหวน้ำตาร่วงเผาะๆ ก็มาเสียใจทีหลัง ดูหงุดหงิดกับเรื่องของเค้าบ่อยเหลือเกินนะ ชอบเค้ารักเค้าแล้วล่ะสิ เหอะ
--อินมากมั้ยตอบเลยว่ามากกก5555555 ฟิคมึงยังอ่านไหลลื่นเหมือนเดิมรวมทั้งตอนนี้ยาวมั่ก กู้ดจ๊อบ

536 Nameless Fanboi Posted ID:RpNhFU1DCN

กูไม่ไหวแล้ววว.... พยายามรมกาวตัวเองแต่แม่งก็อดนึกถึงต้นฉบับไม่ด้ายยย แค่กๆๆ
ๆ ซู้ดกาวอีกรอบ ;_;

537 Nameless Fanboi Posted ID:90HVBPyxZk

>>536 อดทนไว้มึง เราจะผ่านมันไปด้วยกัน สูดกาวไปก่อนนะ

นี่กูนั่งรอโม่งฟิคกาวเอ็นโจโฮสต์ที่ประกาศว่าถ้าเกอิชาลงกาว โม่งโฮสต์จะมาต่ออยู่เนี่ย

538 Nameless Fanboi Posted ID:q11Yc0nG4X

>>537 กูก็รออยู่เหมือนกัน//ปูเสื่อนอนรอ
แต่เมื่อคืนกูฝันว่าได้อ่านตอนใหม่ว่ะ เป็นตอนเรย์กะไปเที่ยวบ้านเอ็นโจตามคำชวนของยูกิโนะแล้วเจอพ่อของสองพี่น้องที่หน้าเหมือนชูสุเกะเด๊ะๆ แต่พอจะคลิกอ่านตอนถัดไปแม่งไม่มีต่อ มันขึ้นว่ากลับไปหน้าหลักของโปรเจค ฮือออ กูเศร้า กูอยากรู้มากว่าพ่อของเอ็นโจเป็นคนยังไง ตอนต่อไปจะมีอะไรเกิดขึ้น ยุยโกะจะบุกมามั้ย แม่งลงแดงมาก 555555555555555555

539 Nameless Fanboi Posted ID:shBDgNzjha

>>538 ถ้าตอนต่อไปเป็นแบบนี้จริง กูหาน้ำแดงมาถวายมึงเลยเอ้า

540 Nameless Fanboi Posted ID:RpNhFU1DCN

>>538 ฮรึกฮรือออออออ ลงแดงอย่างแรง กูก็อยากฝันแบบนั้น ในฝันก็ยังดี

541 Nameless Fanboi Posted ID:q11Yc0nG4X

>>539 ขอเป็นน้ำทับทิมแทนนะคะ พอดีน้ำอัดลมมันระคายคอเดี๊ยนน่ะค่ะ//จิบชาด้วยท่าทางสง่างาม
>>540 กูตื่นมาเปิดแมวดุ้นก่อนเลย แล้วก็พบกับความว่างเปล่า...... Orz
แต่กูว่ายังไงก็ต้องมีอีเวนท์ไปเที่ยวบ้านเอ็นโจล่ะวะ ยูกิโนะชวนตอนไปกินคีชแล้ว นั่นอาจเป็นการเปิดตัวพ่อของเอ็นโจก็ได้

542 Nameless Fanboi Posted ID:5k8ljWk9Pm

แต่กูก็อยากรู้เหมือนกันว่าพ่อเอ็นโจเป็นยังไง ดูลึกลับดำมืดพอๆกับลูกชายมั้ย แล้วอีกนานมั้ยกว่าจะเฉลยปมบ้านเอ็นโจ ตอนนี้ก็ได้แต่ดมกาวไปไม่รู้วันนั้นจะมาถึงเมื่อไหร่ T_T

543 Nameless Fanboi Posted ID:8lbt83Tcqf

พูดถึงพ่อเอ็นโจ นี่ถ้าฟิคเกอิชาจับพ่อเอ็นโจเป็นผู้อุปถัมภ์นี่แม่งจะพีคสุด ดราม่าสุด ฟฟฟฟฟ

544 Nameless Fanboi Posted ID:4gs5Qv9uU.

>>543 เชี่ยแค่คิดภาพยังโคตรพีค มีความแดดดี้ลองเลกและลูกชายที่คิดไม่ซื่อไปอีก

545 Nameless Fanboi Posted ID:5k8ljWk9Pm

>>544 คุณอาโอจิผมทองที่เหลี่ยมจัดกว่าลูกชาย มีรอยยิ้มหวานแต่ข้างในดำมืดมันก็กร๊าวหัวใจอยู่นะ =w=

546 Nameless Fanboi Posted ID:q11Yc0nG4X

พ่อเอ็นโจอาจจะมาแนวเดียวกับพ่อเรย์กะก็ได้นะ เป็นทานุกิพุงพลุ้ยหัวเถิกเหมือนกัน....

547 Nameless Fanboi Posted ID:edEAVFVgjf

>>546 ไม่มีทาง! ทานุกิจะออกลูกมาป็นองค์ชายได้ยังไง!

548 Nameless Fanboi Posted ID:Q+BjDtTHUc

>>547 ก็ดูท่านพี่กับเรย์กะสิ

549 Nameless Fanboi Posted ID:Sz6ceUMBdV

>>547 สมัยเรียนทานุกิ พ่อคาบุ พ่อเอ็นโจ อาจจะเป็นแก๊งค์สามหนุ่มหล่อคนละสไตล์ประจำซุยรัน แต่พอเวลาผันผ่าน หนุ่มหล่อในตำนานสองในสามมีห่วงยางกองที่เอว เหลือป๊ะป๋าคาบุรากิคนเดียวที่ยังฟิตแอนด์เฟิร์มอยู่ก็เป็นได้นะ

550 Nameless Fanboi Posted ID:Bj/mB6vTbd

พวกมึงกำลังจินตนาการถึงอะไรกันวะเนี่ย 555555 อย่าลากกูเข้าไปในจินตการของพวกมึงแล้วกัน กูยังคงเชื่อว่าทานุกิมีแค่ท่านพ่อของเจ้าแม่ ที่เหลือไม่น่าจะปล่อยตัวเองมีพุง

551 Nameless Fanboi Posted ID:g5o0PcwSE8

>>550 +1 ทานุกิมีแค่ท่านพ่อก็พอแล้ว พ่อเอ็นโจอาจจะเป็นแนวคาสโนว่าฆ่าไม่ตาย ไอด้อลของท่านอิมาริ

552 Nameless Fanboi Posted ID:5k8ljWk9Pm

>>551 ไม่ใช่มาแนวองค์ชายยิ้มขื่นๆเหมือนกันทั้งพ่อทั้งลูกนะ สืบทอดความระทมจากรุ่นสู่รุ่น 55555555

553 Nameless Fanboi Posted ID:4gs5Qv9uU.

>>552 ไม่แน่นะ ท่านเรย์กะยังบรรยายท่านแม่ของเอ็นโจเป็นคนสวยบอบบางคิดถึงไปทางคุณยุยโกะด้วยซ้ำ หรือชะจารันทดจะมีจริง

554 Nameless Fanboi Posted ID:Sz6ceUMBdV

>>553 อาจจะเป็นไปได้นะ ดูท่าทางพ่อก็ไม่ค่อยจะอยู่บ้านซะด้วย

555 Nameless Fanboi Posted ID:Gw.DfUqBLy

>>553 อาจจะมาแนวหนุ่มหน้าสวยผิวซีดบอบบางกว่าน่าทะนุถนอมก็ได้นะ แบบยูกิโนะ+ยุยโกะงี้ 555555555

556 Nameless Fanboi Posted ID:Bj/mB6vTbd

สัสเอ๊ย ยิ่งหนักกว่าทานุกิไหมเนี่ย 5555555 ยิ้มขื่นกันทั้งตระกูล

557 Nameless Fanboi Posted ID:TrIy3Ns35i

Again and Again

.....

A&A - 1.

คืนก่อนหน้านัดไปดูดอกไม้ไฟกับยูกิโนะคุงและเอ็นโจ ฉันเกิดเปลี่ยนใจเลือกเสื้อผ้าใหม่อีกครั้งจนทั้งคืนแทบไม่ได้นอน และนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ฉันเบลอจัดจนกระทั่งตอนเช้าที่ตื่นนอนแล้วเดินลงมาชั้นล่าง ฉันเกิดก้าวพลาดแล้วตกบันไดลงมา

ถ้าฉันคิดว่าความอับอายจากการตกบันได มีแผลถลอก กระโปรงเปิดให้คุณเมดที่บังเอิญอยู่ตรงนั้นเห็นกางเกงใน เป็นเรื่องที่แย่มากแล้ว แต่สิ่งที่ฉันเห็นตอนลืมตาตื่นขึ้นมานั้นยิ่งแย่เข้าไปใหญ่

ตอนที่เข้ามาในโลกของคิมิดอล ความทรงจำแรกเริ่มของฉันชัดเจนขึ้นมาตอนที่ท่านแม่พามาดูโรงเรียนซุยรัน ในตอนนั้นคิโชวอิน เรย์กะ ยังอายุแค่ 5 ขวบ และเธอยังไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์ใด ๆ กับตัวละครเอกเลยแม้แต่น้อย ซึ่งทำให้ฉันสามารถเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของตัวเอง และมีชีวิตอยู่อย่างสงบสุข (ในระดับหนึ่ง) ได้ ทว่าภาพที่ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าของฉันนั้นกรีดร้องว่านี่คือธงมรณะ แม้ว่าทุกอย่างจะดูแปลกประหลาดราวกับพวกเรากำลังแสดงละครเวทีอยู่ แต่ฉันก็รู้ว่านี่คือฉากในคิมิดอลที่ตัวฉันหลบเลี่ยงไปได้จากการไม่ไปตามตื้อคาบุรากิ

ท่ามกลางงานเลี้ยงที่หรูหรา คาบุรากิยืนอยู่ต่อหน้าฉัน ประกาศความชั่วร้ายของคิโชวอิน เรย์กะ ต่อหน้าธารกำนัล ข้างกายของเขาคือวาคาบะจังและเอ็นโจ ด้านข้างคือทานูกิ ท่านแม่ และท่านพี่ ส่วนฉันยืนอยู่โดดเดี่ยวในใจกลางวงล้อม

ในขณะที่ทุกอย่างเป็นไปตามเซ็ตติ้งในการ์ตูน แต่ความแปลกประหลาดแฝงอยู่ในทุกอณูของภาพเบื้องหน้าฉัน คิมิดอลเป็นการ์ตูนมัธยมที่ดำเนินเรื่องอยู่ในญี่ปุ่นปัจจุบัน แต่ทุกอย่างที่ล้อมรอบฉัน แม้กระทั่งตัวฉันเอง กลับไม่เป็นไปตามนั้น

เริ่มต้นจากตัวฉันที่แม้จะแต่งชุดเดรสงดงาม แต่ชุดกลับรัดแน่นซะจนแทบหายใจไม่ออก คอเสื้อคว้านต่ำเผยให้เห็นหน้าอกครึ่งหนึ่ง ฉันก้มมองตัวเองแล้วรู้สึกอยากจะกรีดร้อง ฉันที่เป็นเด็กสาวไม่บรรลุนิติภาวะแต่งตัวโป๊ขนาดนี้ ในอนาคตใครจะอยากรับไปเป็นเจ้าสาว ครึ่งบนยังไม่เท่าไหร่ แต่ครึ่งล่างกลับยิ่งแปลกประหลาดเข้าไปอีก เพราะกระโปรงที่ฉันใส่บานกว้าง แข็งทื่อเหมือนใส่สุ่มไว้ด้านใน หากเป็นบนเวทีแฟชั่นหรือเวทีละครอาจจะไม่แปลก แต่ในงานเลี้ยงปกติแบบนี้ให้ตายยังไงฉันก็ไม่มีวันใส่ของที่ดูผิดแปลกโดดเด่นแบบนี้เด็ดขาด

558 Nameless Fanboi Posted ID:TrIy3Ns35i

ทว่าการแต่งกายของฉันที่ดูราวกับออกมาจากภาพยนตร์กลับไม่ได้แปลกประหลาดไปจากรอบข้างเลยแม้แต่น้อย ฉันเงยหน้าขึ้นมองคาบุรากิที่กำลังร่ายข้อกล่าวหา เขาอยู่ในชุดอัศวินเกราะทองหรูหรา ดูทั้งหนักและเว่อร์วังอลังการสมกับเป็นคาบุรากิ หนำซ้ำยังคอสเพลย์ได้ครบชุดเพราะนอกจากเกราะแล้ว ข้างเอวเขายังเหน็บดาบเล่มหนึ่งอีก

ด้านข้างของคาบุรากิคือวาคาบะจังในชุดกระโปรงโบราณ ฉันมองวาคาบะจังที่ปกติใส่แต่ชุดนักเรียน หรือไม่ก็ชุดสบาย ๆ เพราะเจ้าตัวชอบขี่จักรยานไปไหนต่อไหนแล้วอึ้งไป วาคาบะตรงหน้าฉันไม่เหมือนวาคาบะจังที่ฉันรู้จักแม้แต่น้อย วาคาบะจังในโลกของฉันหน้าตาเอ๋อ ๆ แต่ก็ดูเป็นผู้หญิงเฉลียวฉลาดแข็งแกร่ง ทว่าวาคาบะจังตรงหน้าของฉันกลับมีท่าทีอ่อนหวานราวกับลูกกวางตัวน้อย ๆ ทำให้ฉันนึกถึงนางเอกการ์ตูนโชวโจทั่วไปที่ทั้งสวยและน่าปกป้อง

อีกข้างหนึ่งของคาบุรากิคือเอ็นโจ เอ็นโจไม่ได้อยู่ในชุดเกราะ แต่อยู่ในชุดที่ดูท่าทางแฟนซีราวกับเจ้าชายในเทพนิยาย ฉันสบเข้ากับสายตาเย็นชาที่มองมาของเขาแล้วสะดุ้ง ปกติเอ็นโจมักจะมีท่าทางอ่อนโยนและแฝงไว้ด้วยความดำมืดเล็ก ๆ แบบที่ทำให้ฉันต้องระมัดระวังตัวเสมอ ทว่าเขาไม่เคยมองฉันอย่างเป็นปรปักษ์โดยตรงแบบนี้ ครั้งสุดท้ายที่ฉันเห็นเขามีสีหน้าแบบนี้ ก็เป็นตอนที่เขาดุริรินะซึ่งทำเรื่องไปทั่ว แต่สายตาของเขาในตอนนี้เต็มไปด้วยความเกลียดชังยิ่งกว่าครั้งนั้นมาก

ฉันมองไปรอบ ๆ เห็นท่านแม่ยืนหน้าซีด เธอดูเหมือนจะแล่นออกมาหาฉันได้ทุกเมื่อ แต่ถูกทานุกิยึดข้อมือไว้แน่น ฉันมองทานุกิที่มีท่าทางชั่วร้ายเหมือนตัวโกงในหนังแล้วรู้สึกประหลาดใจ นั่นไม่ใช่ทานุกิท่านพ่อที่ไม่ได้เรื่องของฉัน เขาไม่เหมือนท่านพ่อที่ชอบตามใจและดูท่าทางบื้อ ๆ เลยแม้แต่น้อย เขายืนอยู่ในชุดแฟนซีที่ดูราวกับเตรียมพร้อมไปร่วมงานคาลนิวาลด้วยสีหน้าบิดเบี้ยว แต่เขาไม่ได้มองฉันด้วยความเป็นห่วงเหมือนท่านแม่เลยแม้แต่น้อย

แต่คนที่ทำให้ฉันประหลาดใจมากที่สุดคือท่านพี่

ในการ์ตูนเรื่องคิมิดอลไม่มีฉากที่ท่านพี่ของคิโชวอิน เรย์กะ ปรากฏตัวออกมา ทว่าโลกที่ฉันอยู่มาทั้งชีวิตในฐานะคิโชวอิน เรย์กะ เขาคือพี่ชายสุดที่รักของฉัน ท่านพี่ที่อ่อนโยน เป็นผู้ชายที่เพียบพร้อมสมบูรณ์แบบกว่าคาบุรากิและเอ็นโจรวมกันเสียอีก ทว่าในตอนนี้ท่านพี่คนนั้นกลับมองฉันด้วยสายตาเย็นชา ราวกับว่าฉันเป็นจุดด่างพร้อยเพียงอย่างเดียวในชีวิตที่เขาอยากจะกำจัดไปให้พ้น ๆ

ฉันไม่สามารถทนสายตาแบบนั้นของเขาได้ จึงกวาดตามองไปรอบ ๆ ตัว มีคนที่ฉันคุ้นหน้าบ้าง ไม่คุ้นหน้าบ้าง ทุกคนอยู่ในชุดที่ราวกับพวกเรากำลังเล่นละคร ฉันเหลือบมองสถานที่ที่พวกเราอยู่ มันคือห้องโถงที่งดงามราวกับราชวังแวร์ซายด์ ฉันมองไปรอบ ๆ ตัวแล้วไม่เจอเทคโนโลยีเลยแม้แต่น้อย บนโคมแชนเดอเลียนั่นคือเทียนจริง ๆ หลายพันเล่ม

ฉันมองจนกระทั่งสายตากลับมาหยุดอยู่ที่ตัวเอง และระลึกได้ว่า ฉันมาในโลกใหม่ที่เป็นโลกซึ่งอ้างอิงตัวละครจากคิมิดอล แต่อยู่ในเซ็ตติ้งที่ต่างออกไป โดยที่ไม่ได้มีความทรงจำของตัวคิโชวอิน เรย์กะ ที่เคยอยู่ในโลกนี้เลยแม้แต่น้อย

.....

559 Nameless Fanboi Posted ID:5k8ljWk9Pm

>>557 โอ้ว ฟิคใหม่ในเซ็ตติ้งยุโรป แอบนึกถึงท่านไอริสที่ถูกพระเอกเกมลากมาประกาศความผิดต่อหน้าทุกคนเลยว่ะ หลังจากนี้จะไปพัฒนาเขตต่อมั้ยท่านเรย์กะ 5555

560 Nameless Fanboi Posted ID:sKjxHO.BzK

เครๆ แทคสร้างบ้านแปลงเมืองก็มา

561 Nameless Fanboi Posted ID:TrIy3Ns35i

A&A - 2.

ไม่มีการขึ้นศาล ไม่มีการไต่สวนคดี ไม่มีคำอุธรณ์จากครอบครัวของฉัน คิโชวอิน เรย์กะ ถูกตัดสินให้จองจำอยู่ในแท่นบูชาร้างในเขตราชวัง

ฉันปล่อยให้พวกเขาพาตัวไปโดยดี ก่อนที่จะถูกทหารลากออกไปจากห้องโถง ฉันหันไปมองหน้าครอบครัวของตัวเอง ท่านแม่ยืนตัวสั่น พยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ ในขณะที่ท่านพี่กำลังคุยอะไรซักอย่างกับคาบุรากิ สีหน้าของเขามีความเสียใจอย่างสุดซึ้ง แต่เขาไม่ได้มองมาทางฉัน หรือมีท่าทีจะขอร้องแทนฉันเลยแม้แต่น้อย

ฉันถูกผลักขึ้นไปบนรถม้า แต่การขึ้นรถม้าแคบ ๆ โดยที่ใส่กระโปรงสุ่มนั้นเป็นเรื่องยากลำบากยิ่งกว่าการบีบตัวเองเข้าไปในรถไฟญี่ปุ่นช่วงเวลาเร่งด่วน ทหารที่จับกุมฉันด่าว่าฉันอีกครั้งและเตือนฉันไม่ให้ก่อเรื่องวุ่นวาย ฉันพยายามอยู่นานกว่าจะยัดตัวเองเข้าไปในรถม้าแคบ ๆ อับ ๆ ได้ รู้สึกเหมือนยังมึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่หาย

ทั้ง ๆ ที่คืนนี้น่าจะเป็นคืนฉันได้ไปดูดอกไม้ไฟบนดาดฟ้าตึกอย่างสนุกสนานกับพี่น้องเอ็นโจแท้ ๆ แต่กลับทะลุเข้ามาในอีกโลกหนึ่ง แถมยังเป็นโลกที่คิโชวอิน เรย์กะ ก่อเรื่องจนมาถึงตอนที่โดนธงมรณะปักไปแล้วเรียบร้อย

รถม้าที่ล้อไม่ได้มีการหุ้มยางเสริมนั้นกระแทกรุนแรงราวกับเป็นบทลงโทษบทหนึ่ง แย่ยิ่งกว่านั้นคือฉันที่อยู่ในกระโปรงสุ่มไม่สามารถนั่งได้เลยต้องนั่งเก้าอี้อากาศ ในหัวของฉันแว่บไปถึงตอนที่คาบุรากิเคี่ยวเข็ญให้ออกกำลังกาย ในตอนนั้นก็ยังไม่ลำบากเท่านี้ เพราะยังมีช่วงเวลาพักบ้าง แต่ตอนนี้ฉันต้องเอามือยันผนังรถไว้ ขาทั้งสองข้างใต้กระโปรงสั่นริก อยากจะนั่งลงไปก็นั่งไม่ได้เพราะโครงกระโปรงแข็งโป๊ก อยากจะยืนก็ยืนไม่ได้เพราะหัวติดเพดานรถ

ตอนที่ประตูเปิดออก ฉันแทบร้องได้ออกมาด้วยความยินดี ทหารด้านนอกตะคอกให้ฉันลงจากรถ ฉันพยายามจะออกไปทว่าขาที่เกร็งตลอดการเดินทางสั่นริก พอลงจากรถก็ล้มลงไปทันที ทหารที่ดูแลฉันส่งเสียงเอะอะ พวกเขาจับแขนของฉันแล้วดึงให้ฉันลุกขึ้น ก่อนจะกึ่งลากกึ่งพยุงไปยังรั้วที่มีต้นไม้ขึ้นเต็ม ไขกุญแจรั้วแล้วโยนฉันเข้าไปในนั้น ก่อนจะกระแทกประตูปิดแล้วลั่นกุญแจ

ฉันนอนในพงหญ้าที่ขึ้นสูง รอจนขาทั้งสองข้างหายสั่นแล้วตะกายตัวขึ้นมา ท่ามกลางความมืด มีเพียงแสงจันทร์เท่านั้นที่ส่องให้เห็นถึงอาคารหลังหนึ่งที่ขนาดพอ ๆ กับบ้านเดี่ยวของครอบครัวญี่ปุ่นซึ่งมีฐานะปานกลาง

การเข้าไปในอาคารร้างในตอนกลางคืนเป็นเรื่องที่เสี่ยงอันตรายมาก ฉันจึงเดินไปจนกระทั่งถึงชานหน้าประตูที่ปูด้วยหิน รู้สึกเหมือนขมับทั้งสองข้างเต้นตุบ ๆ

หลังจากพยายามอยู่นาน ฉันก็ถอดชุดกระโปรงได้ในที่สุด กระโปรงที่สวมอยู่นั้นชั้นนอกทำด้วยผ้ากะมะหยี่ รองใต้ด้วยกระโปรงซับใน และมีโครงกระโปรงที่สานจากกระดูกปลาวาฬ ส่วนท่อนบนนั้นชุดด้านนอกตัดเย็บด้วยผ้ากำมะหยี่ปักลายและประดับอัญมณีงดงาม ข้างใต้คือคอร์เซ็ตที่ต้องปล้ำอยู่นานกว่าจะหลุดออกจากร่างของฉันได้ และถึงแม้จะถอดทั้งหมดนั่นออกไป บนตัวฉันก็ยังมีกระโปรงซับในที่เป็นผ้าฝ้ายยาวคลุมข้อเท้า กระโปรงรองด้านในที่เป็นผ้าเนื้อนุ่มยาวถึงเข่า และกางเกงชั้นในสุดที่เป็นกางเกงผ้ายาวถึงเข่าเช่นกัน ส่วนท่อนบนมีเสื้อที่ตัดเย็บด้วยผ้าเนื้อนุ่มคว้านอกลึก แขนพองยาวถึงศอก ชายเสื้อยาวถึงสะโพก

ฉันมองชุดที่กองพะเนินอยู่บนพื้นแล้วไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผู้หญิงสมัยก่อนถึงต้องมีคนรับใช้จำนวนมาก แค่เสื้อผ้าก็ไม่รู้ว่าจะต้องใส่กี่ชั้น ขืนใส่หมดนี่คนเดียวคงใช้เวลาแต่งตัวทั้งวันไม่ต้องทำอะไร

ในคืนนั้นฉันนอนที่ลานหินหน้าประตูโดยใช้ชุดกระโปรงกำมะหยี่เป็นผ้าปูรองนอน กระโปรงซับในตัวนอกสุดเป็นผ้าห่ม ม้วนเสื้อกำมะหยี่รองเป็นหมอนหนุน แกะเครื่องประดับจำนวนมากออกจากหัวเสร็จ ฉันก็ล้มตัวลงนอนอย่างเหนื่อยล้า อธิษฐานให้พอตื่นขึ้นมา ฉันกลับไปยังโลกคิมิดอลโลกเดิมที่มีครอบครัวที่รักฉัน มีเพื่อน ๆ และถึงแม้ว่าคาบุรากิกับเอ็นโจจะเป็นตัวปัญหา แต่ก็ไม่ได้ทำท่าเกลียดฉันเหมือนอย่างตอนนี้

.....

562 Nameless Fanboi Posted ID:tjn96e8yL1

>>561 แอร๊ยเซตติ้งยุโรปกลางงงงงงง เรือท่านเอ็นโจใช่มั้ยเพคะ กอดโม่งฟิค3ทีค่ะ

563 Nameless Fanboi Posted ID:s7wE5vXZkc

ตัวละครก็เกลียดท่านเรย์กะซะขนาดนี้ กูควรลงเรือใครดีวะ อะฮรื้อวๆ

564 Nameless Fanboi Posted ID:5k8ljWk9Pm

>>563 อาริมะ เซริกะ คิคุโนะ ฟุยุโกะ ริรินะ ซึรุฮานะ ไมฮามะ ฯลฯ เยอะจะตาย 55555

565 Nameless Fanboi Posted ID:Gw.DfUqBLy

กาวใหม่ โฮรววว ท่านเรย์กะช่างน่าสงสาร แทนที่จะได้ดูดอกไม้ไฟต้องมาเจออะไรแบบเน้

566 Nameless Fanboi Posted ID:QGDyPQMQ/X

ฮืออออ มีฟิคใหม่มาแล้ว โม่งฟิค พวกมึงขยันกันมาก

567 Nameless Fanboi Posted ID:QGDyPQMQ/X

>>564 จะลากกูเข้าทุ่งลิลลี่เรอะ

568 Nameless Fanboi Posted ID:ZBK0lOHAvs

การดูดอกไม้ไฟทำไมมีอุปสรรคเยอะเยี่ยงนี้ล่ะเจ้าคะ แล้วเรย์กะโลกเดิมนี่อย่าบอกว่าคอหักตายเพราะตกบันได วิญญาณเลยลอยละลิ่วเข้าร่างเรย์กะเวอร์ชั่นยุโรปนะ ถ้าเป็นแบบนั้นจอมมารต้องใจสลายแน่นวล T_T

569 Nameless Fanboi Posted ID:uosh+7o3Fl

เออ...จะว่าไป เอ็นโจฟิคใหม่นี้ก็จอมมารยิ้มขื่นอีกแล้วว่ะ กำลังจะได้ไปเดท...เอ๊ย ดูดอกไม้ไฟแม่งก็เป็นซะอย่างนี้ โถโถ 555555555

570 Nameless Fanboi Posted ID:ZBK0lOHAvs

>>569 เรื่องหลักก็โดนดอง ในฟิคก็ไม่ได้ดูซักที โธ่ น่าวงวารเขานะครับ

571 Nameless Fanboi Posted ID:TrIy3Ns35i

A&A - 3.

ฉันตื่นขึ้นมาเพราะแสงอาทิตย์แยงตา

แม้ว่าบริเวณพื้นหินที่นอนจะมีซุ้มหลังคาบังแดด แต่แดดเจ้ากรรมก็ยังส่องลอดเข้ามาปลุกให้ฉันตื่น ฉันตื่นขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกเหมือนร่างกายกลายเป็นก้อนหิน แค่ขยับตัวก็ต้องร้องโอยออกมา

ทั้งต้นคอ บ่า และหลังของฉันประท้วงอย่างหนักจากการนอนบนพื้นหิน ส่วนขาเหมือนกลายเป็นสัมภาระไร้ประโยชน์ ฉันนอนทรมานอยู่ซักพัก ก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นมาเพราะทนแสงแยงตาไม่ไหว

นั่งทบทวนและทำใจอยู่สักพัก ฉันก็ลุกขึ้นมาสำรวจบริเวณรอบ ๆ สถานที่แห่งนี้ มันเป็นพื้นที่ขนาดราว ๆ ร้อยตารางวาซึ่งนอกจากตัวตึกขนาดชั้นเดียวแล้ว ก็มีเพียงแค่หญ้าสูง ต้นไม้ใหญ่ บ่อน้ำ ลานหิน และสระน้ำรกร้างซึ่งน้ำมีสีเขียวจัดจากตะไคร่น้ำเท่านั้น

ฉันเดินอยู่นานก็รู้สึกอยากเข้าห้องน้ำ เลยจำใจเดินเข้าไปในตัวตึกในที่สุด

ประตูด้านหน้าเปิดยากซะจนตอนแรกฉันนึกว่าล็อค แต่มันแค่ติดเฉย ๆ บานประตูส่งเสียงเอี๊ยดบาดหูเหมือนสนิมจับเพราะไม่มีใครเปิดนานแล้ว ฉันเดินเข้าไปใน ‘คุก’ ของฉัน

พอเปิดเข้าไปก็เห็นห้องโถงร้างมีโต๊ะเก้าอี้ตัวยาวระเกะระกะอยู่สี่ห้าชุด บนผนังคือรูปแกะสลักที่แตกหักไปตามกาลเวลา พอเข้าไปด้านในก็พบว่าส่วนในมีห้องนอนเล็ก ๆ ในห้องนั้นยังมีเตียงไม้ที่ไม่มีฟูกที่นอน โต๊ะเขียนหนังสือและโต๊ะด้านข้างที่ตั้งอ่างทองเหลืองเอาไว้ พอออกมาสำรวจนอกห้องนอนก็พบว่ามีห้องครัวเล็ก ๆ ที่มีเตาโบราณเหมือนเตาย่างพิซซ่าในอิตาลี และพื้นที่สำหรับทานอาหาร นอกจากนั้นยังมีห้องเก็บของที่มีของใช้ฝุ่นเขรอะอีกมากมาย

หลังจากสำรวจอยู่นาน นอกจากถังไม้ขนาดใหญ่สำหรับอาบน้ำ ฉันก็ไม่พบกับสิ่งที่เรียกว่าห้องน้ำเลยแม้แต่น้อย และฉันก็คิดได้ว่าในยุคนี้อาจจะยังเป็นยุคที่ไม่มีห้องน้ำ หรืออย่างน้อยก็ไม่มีห้องน้ำในแท่นบูชาแห่งนี้

ชั่งใจอยู่นาน ฉันก็ไปทำธุระในพงหญ้าหลังบ้านจุดที่ไกลจากตัวบ้านที่สุด แม้จะขุดหลุมด้วยจอบเล็ก ๆ ที่เจอในห้องเก็บของ ทำการกลบฝังอย่างดี แต่ฉันก็รู้สึกว่าการเข้ามาในยุคอัศวินนั้นไม่มีความโรแมนติกเลยแม้แต่น้อย ห้องน้ำก็ไม่มี กระดาษทิชชู่ก็ไม่มี ฉันจำเป็นจะต้องแบกน้ำออกมาล้าง ดูเป็นอะไรที่ทุลักทุเลยิ่งนัก

หลังจากที่ทำธุระแล้วเรียบร้อย ฉันก็มานั่งอยู่ที่ลานหินหน้าประตู

ตอนที่บอกว่าจะถูกขัง ฉันนึกว่าตัวเองจะอยู่ในคุกแคบ ๆ ถูกล่ามติดกับผนังเหมือนในหนังโบราณที่ดู ขับถ่ายในถัง และกินของที่ถูกสาดลงบนพื้น ถึงที่นี่จะไม่ได้เรียกว่าน่าอยู่ แต่ถ้าเทียบกับในจินตนาการ ก็ไม่แย่นัก

ทว่าปัญหาใหญ่กว่าที่กินอยู่ขับถ่ายก็คืออาหาร และในบ้านไม่มีอาหารเลยแม้แต่น้อย

ฉันออกไปที่หน้าประตูรั้ว แม้จะเปิดออกไปไม่ได้ แต่ช่องว่างระหว่างรั้วบ่งบอกให้รู้ว่าหน้าประตูมีคนเฝ้าอยู่

“เอ้อ ขอโทษนะคะ แต่ว่า...อาหารจะมาเมื่อไหร่เหรอคะ?”

ยามหน้าประตูหันมา ก่อนจะบอกด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดว่าอาหารจะมาส่งตอนเที่ยงของทุกวัน ฉันกินได้ก็กิน กินไม่ได้ก็อดตายไปซะ

ฉันมองขึ้นไปบนท้องฟ้า ก่อนจะมองเงาที่ดวงอาทิตย์ส่อง น่าจะอีกซักพักกว่าจะเที่ยง ท้องของฉันร้องคราดครืด นึกถึงขนมที่แอบซุกไว้ในห้องนอน รู้อย่างงี้กินให้หมดรวดเดียวเลยดีกว่า

ร่างของคิโชวอิน เรย์กะ ที่อยู่ที่นี่ผอมกว่าร่างเดิมของฉันมาก ทว่าฉันไม่รู้สึกแปลกใจเลยแม้แต่น้อย เอวที่ถูกคอร์เซ็ตบีบให้เล็กราวยี่สิบนิ้วไม่น่าจะกินอะไรได้ลงอยู่แล้ว ฉันมองคอร์เซ็ตที่ยังคงกองบนพื้นแล้วโบกมือลาเอวเล็ก ๆ ของเรย์กะ อันที่จริงถูกขังไว้อย่างนี้ก็ดีเหมือนกัน ถึงจะไม่ใส่คอร์เซ็ต ปล่อยให้ตัวเองอ้วนอืดก็ไม่มีใครเห็น

ฉันนั่งรออาหารจนกระทั่งได้ยินเสียงประตูเปิดออก จึงลุกขึ้นแล้วเดินเร็ว ๆ ไปยังหน้าประตู พอประตูเปิดออก ฉันก็เห็นคันตะคุง

.....

572 Nameless Fanboi Posted ID:UaJFLmlP7v

>>517 โอเคร ลงเรือคันตะล่ะ//ตัดสินใจโดยว่อง

573 Nameless Fanboi Posted ID:1S+hM27hq3

อ๊ากกกก ไม่นะ!!! ใครกันช่างใจร้ายกับท่านเรย์กะกู ท่านเรย์กะต้องการสารอาหารที่ครบถ้วนและขนมหวานๆ เพื่อการคงอยู่ของพุงพุ้ยและต้นแขนที่คอยสะกิดใจคาบุรากิ จะปล่อยให้ท่านเรย์กะอยู่ทนท้องร้องตัวผอมแห้งไม่ได้ว้อยยย กร๊าซซ //โดนท่านเรย์กะเหวี่ยงใส่ด้วยคอร์เซ็ต

574 Nameless Fanboi Posted ID:s98ZUuLVZw

>>553 จริงตอน 42 บรรยายว่าคุณแม่ดูสวยเปราะบาง
ส่วนมาดามคาบุนี่แนวงดงาม
ท่านแม่แนวหรูหรา
กูเดาว่า
ท่านพ่อเอ็นโจน่าจะแนวสุภาพบุรุษ
ท่านพ่อคาบุสง่างาม เนี๊ยบ
ทานุกิน่าจะแนวสำอางและไว้ตัวหน่อยๆ
เวลาเข้าคู่กันน่าจะลงตัวพอดี

575 Nameless Fanboi Posted ID:pRLW40WRtL

จากตอน207 266 และอื่นๆเท่าที่จำได้
บรรยายยุยูโกะว่า ตัวตากลมโต ขนลุก ยิ้มเหมือนจันทร์ส่อง ร่างอรชรบอบบาง ยืนกะเอ็นโจสวยหล่อเหมือนภาพวาด
เจ้าแม่ เครื่องหน้าคมเข้ม ตุ๊กตาฝรั่งเศส คนท้อง สง่างาม
วาคาบะ อืม น่ารักสดใส? เอวบาง
ซากุระ คุณหนูสไตล์ญี่ปุ่น เรียบร้อย บอบบาง
ท่านไอระ สาวเท่ สง่างาม
ท่านยูริเอะ คุณหนูตัวอย่าง สวย อ่อนโยน สง่างาม

576 Nameless Fanboi Posted ID:ZBK0lOHAvs

>>571 กูเคยมโนว่าตัวเองอยากเป็นนางเอกทะลุมิติไปอยู่ในยุคโบราณ มีชีวิตสวยๆเป็นคุณหนูสูงศักดิ์พบรักกับพระเอกรูปงาม แต่คิดได้แค่สามนาทีก็เลิกมโน เพราะเข้าห้องน้ำก็ลำบาก โรคภัยไข้เจ็บก็รักษาแทบไม่ได้ ชีวิตที่ไม่มีเน็ต ไม่มีมือถือกูต้องขาดใจตายก่อนแน่ แถมบางทีอาจจะไม่ได้เกิดเป็นคุณหนู แต่ไปเป็นบ่าวเป็นทาสไรเงี้ย แม่งมีแต่ตายกับตายอย่างเดียว เพราะฉะนั้นเกิดในยุคปัจจุบันน่ะดีที่สุดเลยว่ะ 5555555555555555555

577 Nameless Fanboi Posted ID:sKjxHO.BzK

>>576 ถูก ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีเครื่องซักผ้ากูก็แย่แล้ว ผ้าอนามัยไม่มี ทิชชู่ไม่มี กูจะอยู่ได้ไง

578 Nameless Fanboi Posted ID:Diqjj3wosb

>>576 จริง กูนึกถึงเรื่องหนูไมน์คลั่งหนังสือเลย ถ้ากูไปเกิดใหม่พร้อมความทรงจำในโลกเดิม แล้วเจอชีวิตแบบนั้นก็ไม่ไหวนะ รันทดเกิ๊น

579 Nameless Fanboi Posted ID:rAnhvh6v6z

ไม่มีห้องน้ำ ไม่มีผ้าอนามัย ไม่มีอินเตอร์เน็ต แล้วยุคนั้นผู้หญิงถูกปฏิบัติไม่เท่าเทียมกับผู้ชายด้วย มีหน้าที่แค่ออกเรียนเป็นหน้าเป็นตา ผู้หญิงอยากเรียนหนังสือนี่เป็นตัวประหลาด ไม่ค่อยได้อาบน้ำ ถ้ามึงเกิดเป็นขุนนางก็ต้องทนใส่คอร์เซ็ตรัดๆ ทั้งวันทั้งปี ใส่กระโปรงสุ่มไก่เดินไปมา ถ้าเกิดเป็นสามัญชนก็ถูกคนมีอำนาจเอารัดเอาเปรียบ ไหนจะสงคราม โรคภัยไข้เจ็บ การฆ่ากันที่มีได้ทั่วไป ถ้าถูกชนชั้นสูงใส่ร้ายมีโอกาสรอดยาก โทษประหารตัดคอโหดๆ บรื๋ออออ กูไม่เอาด้วยหรอก โดยเฉพาะมีชีวิตไปวันๆ เพื่อออกเรือน ให้กูอยู่อย่างนี้แหละดีแล้ว ถถถถถ ยุคนี้เท่าเทียม แกล้งพวกผู้ชายได้สนุกจะตาย

580 Nameless Fanboi Posted ID:d.aE6wVJYz

>>579 เป็นชนชั้นสูงก็ใช่ว่าจะรอดด้วยนะ แบบแอนน์ โบลีนที่เก่งเกินหน้าผู้ชาย ผัวหมดรักก็อยากมีเมียใหม่แต่หย่าไม่ได้ แถมไม่มีลูกชายให้เลยป้ายความผิดสั่งประหารแม่งเลย แต่ที่กูรับไม่ได้ในยุคโบราณคือเรื่องสุขอนามัยที่โครตจะซกมกกันทั้งชนชั้นล่างและชนชั้นสูง แถมแม่งไม่อาบน้ำกันนี่ล่ะ ถ้าเกิดหลุดไปอยู่ยุคนั้นจริงๆกูจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร จะเอาน้ำหอมมากลบกลิ่นทุกครั้งก็ไม่ไหวนะมึง 5555555555

581 Nameless Fanboi Posted ID:unkxKlucc1

>>580 กูเข้าใจมึงนะ อ่านกระวัติยุคกลาง ความฝันกูถึงกับสลาย แถมแม่งอ่านแล้วได้กลิ่นตุๆ โชยออกมาเบย 555555 โครจซกมก น้ำตาจิไหล

582 Nameless Fanboi Posted ID:UKlTGGA59Z

>>580 อ่านประวัติพวกนี้แล้ว กูรู้สึกชอบไทยแบบโบราณๆ ขึ้นมาทันที อย่างน้อยมันก็ไม่ใส่เสื้อซกมกๆ เป็นชั้นๆ แล้วเอาน้ำหอมกลบละวะ มันยังมีอาบน้ำอาบท่ากันบ้าง ฮรื้อวววว 555555

583 Nameless Fanboi Posted ID:eSeCXmhTtq

>>582 เทียบสภาพอากาศแล้วพอเข้าใจรางๆ ขณะที่ไทยร้อนเหงื่อซกไม่อาบก็ไม่ได้ ทางนั้นก็น้ำเย็นแทบแข็งตายจะต้มน้ำอาบทุกวันก็ยุ่งยาก

584 Nameless Fanboi Posted ID:0vZ3RGcAZv

ฟันผุก็อุดไม่ได้นะเมิง ทนปวดฟันไป ยาปฏิชีวนะก็ไม่มี

585 Nameless Fanboi Posted ID:d.aE6wVJYz

>>581 กูรู้สึกว่าพระราชวังแวร์ซายจะไม่มีห้องน้ำด้วยนะ ถ้าเป็นชนชั้นสูงหน่อยก็เรียกสาวใช้เอากระโถนมาให้ แต่นอกนั้นหาที่ปล่อยกันตามพุ่มไม้ในป่า โธ่ ถ้าเจ้าแม่กูไปอยู่ในยุคนั้นจะเป็นอย่างไร 55555555

586 Nameless Fanboi Posted ID:L0wtvpFkZp

แค่ไล่อ่านตรงนี้ก็รู้สึกกลิ่นตุๆละ เปลี่ยนเรื่องคุย​เห๊อะ 555+

587 Nameless Fanboi Posted ID:R4stgqJWsb

A&A - 4.

คันตะคุงที่ยืนถือตะกร้าสีหน้าบูดเบี้ยวเอาเรื่องหน้าแดงจัดทันทีเมื่อเห็นฉัน ประตูรั้วถูกปิดดังโครม เขาตะโกนด่าฉันว่าเป็นผู้หญิงไร้ยางอาย ฉันก้มมองตัวเองแล้วสงสัยว่ามีอะไรผิดปกติตรงไหน ก่อนออกมาที่ประตู ฉันใช้ผ้าที่พาดตกแต่งกระโปรงมาพันปิดบริเวณคอเพื่อบังอกเสื้อที่คว้านจนลึกและหน้าอกที่ไม่ได้ใส่บราจนมิด ไม่มีส่วนไหนอนาจารเลยแม้แต่น้อย

เขาบ่นอะไรยาวเหยียด แล้วฉันก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าในยุคที่ผู้หญิงใส่เสื้อสามชั้น กระโปรงหกชั้น ฉันที่ใส่เสื้อชั้นเดียวกับกระโปรงสองชั้นนั้นไม่ต่างกับไปเจอหน้าแขกที่มาเยือนในชุดชั้นใน

แต่ถ้าจะให้กลับไปใส่ชุดเต็มยศนั้นก็แทบเป็นไปไม่ได้เลย ฉันมองชุดบนร่างที่เป็นแขนเสื้อยาวถึงศอก กระโปรงยาวถึงตาตุ่ม แถมผ้าก็ไม่ได้บางขนาดเห็นทะลุปรุโปร่ง แล้วก็คิดว่าผู้หญิงในยุคนี้ช่างลำบากจริง ๆ ก่อนจะส่งเสียงตะโกนเรียกคันตะคุงออกไปอีกครั้งเพราะกลัวว่าเขาจะจากไปโดยไม่ได้เอาตะกร้าอาหารทิ้งไว้

โชคดีที่คันตะคุงยังคงอยู่นอกรั้วไม่ได้หนีไปหนี เขาแง้มประตูแล้วโยนถุงผ้าในตะกร้าเข้ามาในรั้วเหมือนฉันเป็นสิงโต ก่อนจะงับประตูปิดอย่างรวดเร็ว

ฉันเข้าไปสำรวจถุงผ้า รู้สึกประหลาดใจเมื่อในนั้นมีขนมปังก้อนขนาดขนาดสองฝ่ามือ ชีสขนาดเท่ากำปั้น กับผลไม้จำพวกแอ๊ปเปิ้ลและเบอร์รี่

ในตอนแรกฉันนึกว่าพวกเขาจะส่งอาหารกินเหลือแล้วคลุกผสมเหมือนอาหารหมูมาให้ ไม่รู้ว่าถึงฉันจะเป็นนักโทษแต่ก็มียศก็เลยได้รับการปฏิบัติด้วยดี หรือว่าพวกเขามีมนุษยธรรมต่อนักโทษสูง จึงส่งอาหารแบบนี้มาให้

ฉันพยายามจะจุดเตาไฟในครัว แต่ทำยังไงก็จุดไม่ได้ซักทีก็เลยเลิกล้มความตั้งใจแล้วกินขนมปังที่ค่อนข้างแข็งกับชีสเย็น ๆ ถึงขนมปังจะหยาบสาก แต่ก็เหมือนขนมปังออร์แกนิคที่เคยกินตอนลดน้ำหนัก ชีสที่เย็นเฉียบค่อนข้างเปรี้ยวและขม แต่พอกินแกล้มขนมปังก็ไม่แย่นัก ซ้ำยังมีแอ๊ปเปิ้ลกับเบอร์รี่อีก รวม ๆ แล้วอาหารของฉันรสชาติไม่เลว แถมยังมีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วนอีกต่างหาก

พอท้องอิ่มแล้วฉันที่นั่งผึ่งพุงอยู่ลานหินหน้าบ้านก็ตัดสินใจว่า ถึงฉันจะไม่ได้กลับไปยังโลกเดิมอีกแล้ว ถึงฉันจะถูกคุมขัง แต่ฉันก็จะใช้ชีวิตอยู่ต่อไปให้ดีที่สุด

คิดอย่างนั้นแล้วฉันก็เริ่มลงมือจัดการกับส่วนที่อยู่อาศัยทันที แม้ว่าจะเป็นงานหนักมาก แต่ฉันจะกังวลอะไร ในเมื่อฉันมีเวลาตลอดทั้งชีวิต หรือไม่ก็จนกว่าจะถูกย้ายข้ามไปยังมิติอื่นอีก

ฉันตักน้ำจากบ่อน้ำแล้วทั้งยกทั้งลากถังเข้าไปในห้องนอนทันที บอกกับตัวเองว่าในคืนนี้ฉันจะต้องมีที่นอนที่ดีกว่าลานหน้าบ้านให้ได้

588 Nameless Fanboi Posted ID:R4stgqJWsb

ฉันเริ่มจากการเปิดหน้าต่างระบายอากาศแล้วใช้ผ้าขี้ริ้วเช็ดฝุ่นออก ไม่กล้าปัดเพราะกลัวฝุ่นฟุ้ง ฉันต้องเปลี่ยนน้ำในถังเกินสิบรอบกว่าฝุ่นในห้องถึงจะถูกทำความสะอาดจนหมด

แม้ว่าในชาติก่อนโน้นฉันจะต้องทำงานบ้านตามปกติ แต่พอเป็นคิโชวอิน เรย์กะ ฉันก็ไม่เคยต้องหยิบจับงานบ้านเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นกว่าจะทำความสะอาดห้องเสร็จ ฉันก็เหนื่อยจนแทบจะนอนหลับบนพื้นห้อง

ทว่ามองห้องนอนที่สะอาดไร้ฝุ่นแล้วฉันก็รู้สึกดีขึ้นมาก ฉันจุดเทียนที่เจอในห้องเก็บของด้วยหินจุดไฟเหมือนสมัยที่ออกค่ายตอนประถม สงสัยว่านอกจากอาหารพวกเขาจะยอมให้เทียนหรือหินจุดไฟแก่ฉันไหม อันที่จริงถ้าได้เสื้อผ้ามาเพิ่มก็คงดีไม่น้อย เพราะในตอนนี้เสื้อผ้าของฉันทั้งสกปรกและชุ่มเหงื่อหมดแล้ว คงไม่สามารถใส่นอนได้แน่นอน

ฉันตัดสินใจลากอ่างไม้ขนาดใหญ่ออกไปยังข้างบ่อน้ำ ก่อนจะตักน้ำใส่อ่าง ในหนังยุคโบราณ คุณเมดจะต้องแบกน้ำทีละถังขึ้นไปใส่ในอ่าง เพื่อให้เจ้านายได้อาบน้ำในห้องนอน แต่ฉันไม่มีแรงขนาดนั้น อีกอย่างที่นี่ก็ไม่มีใคร ฉันเลยตัดสินใจอาบน้ำกลางแจ้ง

สิ่งที่น่าหนักใจอีกอย่างคือแม้ว่าจะมีน้ำเพียงพอ แต่กลับไม่มีสบู่หรือผงซักฟอกเลยแม้แต่น้อย ฉันซักชุดที่ใส่ด้วยน้ำเปล่า รู้สึกว่าตัวเองซกมกเกินบรรยาย แต่ก็ไม่มีทางเลือกอีก ฉันพาดชุดที่ซักเสร็จแล้วไว้กับขอบบ่ออย่างระมัดระวัง ก่อนจะชำระร่างกายของตัวเองจนสะอาดแล้วค่อยลงไปแช่น้ำ

พอได้แช่น้ำเย็น ๆ ร่างกายของฉันก็ผ่อนคลายขึ้น ฉันสงสัยว่าครอบครัวของฉันจะเป็นยังไง พวกเขาทำอะไรผิดกฏหมายรึเปล่า แล้วจะถูกขังเหมือนฉันหรือไม่ แต่ดูท่าทีของท่านพี่กับคาบุรากิก่อนที่ฉันจะถูกลากออกมาแล้ว ฉันมีความรู้สึกว่าคิโชวอิน เรย์กะ ทำผิดแค่คนเดียว โดยที่ครอบครัวของฉันไม่ได้ทำอะไรผิดด้วย ดังนั้นพวกเขาน่าจะปลอดภัยดี

ในตอนจบของคิมิดอล มีเพียงแค่ภาพของคาบุรากิกับวาคาบะแต่งงานกันอย่างมีความสุข ส่วนคิโชวอิน เรย์กะ ถูกกล่าวถึงสั้น ๆ ว่าครอบครัวล้มละลายเท่านั้น ทว่าชีวิตของฉันกลับเริ่มต้นจากจุดนั้น แถมยังไม่ได้อยู่ในโลกปกติอีกต่างหาก

ฉันหลับตาลง แล้วนึกภาพตัวเองทะลุมิติกลับไปยังโลกเก่า เล่าความฝันที่ไร้สาระให้กับท่านพี่ฟัง ท่านพี่ฟังแล้วหัวเราะ บอกว่าฉันคิดมาก ไม่ว่าจะโลกไหน ๆ หรือสถานการณ์จะเป็นอย่างไร ครอบครัวคิโชวอินจะไม่มีทางทิ้งให้ฉันตกระกำลำบากคนเดียวอย่างเด็ดขาด

ฉันร้องไห้ออกมาเมื่อนึกถึงสายตาที่เย็นชาของท่านพี่ ท่าทีที่ไม่แยแสของท่านพ่อ และท่านแม่ที่ท้ายที่สุดแล้วก็ไม่ได้เข้ามาช่วยฉัน

.....

589 Nameless Fanboi Posted ID:HSaJOqu8rJ

ขอบคุณมากมึงงงงง สงสารเจ้าแม่เหมือนกันนะ ชาติก่อนมีครอบครัวที่รักมากแท้ๆ พอทะลุมิติปุ๊บเจอครอบครัวที่หน้าตาเหมือนกันแต่พฤติกรรมคนละขั้วเลย

590 Nameless Fanboi Posted ID:LRO.tQ222l

แต่กุไม่ค่อยฟินเจ้าแม่กับคันตะ ฟิกนี้ขอรีเควสท่านอิมาริได้ไหมวะ

591 Nameless Fanboi Posted ID:cA3ZfVYOQE

/ก้าวขาขึ้นเรือคันตะเงียบๆ--

592 Nameless Fanboi Posted ID:zrXUz.IpN5

กูอวยหมดว่ะ ไม่เข้าใจตัวเอง อารมณ์ประมาณว่าอะไรก็ได้ ตัวละครเป็นคนดีก็พอ เอิ่มนะ 5555555 สงสารท่านเรย์กะเว้ย แต่ของกินจะอุดมณ์ครบโภชนาไปไหน นี่สินะ เกิดมาดีมีชัยไปกว่าครึ่ง เพราะมียศฐาโทษเลยไม่ร้ายแรงเท่าสามัญชน คือดีมากจริงๆ อย่างน้อยในความโชคร้าย มันก็ยังมีเรื่องดีๆ บ้างล่ะวะ เอ๊ะ...หรือในโลกนั้น การที่คนชั้นสูงลดตัวมาใช้แรงงาน มันจะเลวร้ายกันวะ? แต่พอดีกับท่านเรย์กะมันไม่ได้แย่ขนาดนั้น

593 Nameless Fanboi Posted ID:jUu3So2UHa

A&A - 5.

แม้ว่าเตียงเปล่า ๆ ไม่มีฟูกจะนอนไม่สบายนัก แต่ก็ยังดีกว่าพื้นหินนอกบ้าน

ในตอนเช้าที่เสื้อผ้าชุดเดิมของฉันยังไม่แห้ง ฉันใส่เสื้อกำมะหยี่ตัวนอกที่ผูกหลังอย่างลวก ๆ กับกระโปรงรองตัวยาว กระโปรงกำมะหยี่ตัวนอกที่ไม่คิดจะใส่อีกแล้วถูกแปรสภาพไปเป็นผ้าห่มแทน หลังจากพันผ้าพันคอปิดหน้าอกเอาไว้ ฉันก็ไปรับตะกร้าอาหารในตอนเที่ยงอีกครั้ง

ดูเหมือนว่าคนที่เอาอาหารมาให้ฉันจะเป็นคันตะเหมือนเดิม ฉันมองเขาที่ไม่ยอมเปิดประตูมากไปกว่าการอ้าประตูออกแล้วโยนอาหารเข้ามาอีกครั้ง

“เดี๋ยวก่อนค่ะ!” ฉันตะโกนเรียก จากเงาลาง ๆ ระหว่างช่องประตู ฉันเห็นเขาทำท่าจะวิ่งหนี แต่แล้วก็หันกลับมา ฉันเลยแจ้งความจำนงค์ของตัวเองออกไป “ถ้าไม่เป็นการรบกวน ฉันขอเทียนกับเสื้อผ้าเพิ่มได้ไหมคะ”

คันตะคุงไม่ได้ตอบอะไร เขาวิ่งจากไปอย่างรวดเร็ว ฉันรู้สึกผิดหวัง แต่ฉันเป็นนักโทษเลยไม่ได้ตั้งความหวังไว้สูงมากนัก อาหารในห่อผ้าวันนี้ก็ยังคงเป็นขนมปัง ชีส กับผลไม้เหมือนเดิม ฉันมองผ้าที่ถูกส่งมากับอาหาร แล้วนึกถึงผ้าที่อยู่ในห้องเก็บของ สงสัยว่าในบ้านจะมีชุดเข็มกับด้ายไว้สำหรับเย็บผ้ารึเปล่า เพราะถ้าพวกเขาไม่ให้เสื้อผ้าฉัน ฉันคงต้องลงมือตัดเย็บเสื้อผ้าไว้สำหรับผลัดเปลี่ยนเอาเอง

ในวันนี้ฉันลงมือรื้อห้องเก็บของเพื่อหาของที่เป็นประโยชน์ ฉันได้ถังก้นทะลุถังหนึ่งมา ฉันเลยคิดว่าไหน ๆ จะต้องอยู่ยาวแล้ว คงต้องทำห้องน้ำที่ถาวรซักหน่อย ตัวฉันไม่เคยทำห้องน้ำเวลาเข้าแคมป์เลยแม้แต่น้อย แต่ก็พอรู้ว่ามันมีส่วนประกอบอะไรบ้าง ฉันใช้เวลาทั้งวันในการขุดหลุมให้ลึกพอที่จะฝังถังลงไปใต้ดิน กว่าจะขุดหลุมเสร็จ มือก็พองไปหมด ดีที่ไม่มีแดด ไม่อย่างนั้นนอกจากมือ ผิวก็คงพองเพราะตากแดดทั้งวัน

ในคืนนั้นฉันอาบน้ำโดยที่ไม่ได้จุดเทียนเพราะอยากจะประหยัดไว้ยามจำเป็น ภายใต้แสงจันทร์ ฉันมองมือที่พองจนขึ้นตุ่มน้ำใส ๆ แล้วสงสัยว่าชาตินี้จะได้มีวันออกจากที่นี่รึเปล่า ท่านพี่ของฉันจะคิดสงสารแล้วหาทางช่วยฉันไหม หรือว่าฉันควรจะทำใจให้ได้แล้วอยู่กับมันโดยคิดว่าแค่นี้ก็โชคดีมากแล้ว

.....

594 Nameless Fanboi Posted ID:t+zE/YIywF

>>593 เจ้าแม่แอ๊ดว๊านซ์มาก ทำส้วมเองเลยเรอะ

595 Nameless Fanboi Posted ID:9bnd/Ok5a0

เรื่องส้วมเรื่องใหญ่นี่นา นอนพื้นได้แต่ส้วมไม่มีหรือสกปรกนี่ทนไม่ได้จริงๆ

596 Nameless Fanboi Posted ID:zrXUz.IpN5

>>593 ท่านพี่ใจร้ายจังว้า อย่าปล่อยให้ท่านน้องทนทุกข์สิเพคะ .-.

597 Nameless Fanboi Posted ID:B+yoQ8sERL

A&A - 6.

ในเที่ยงของวันต่อมา นอกจากอาหารแล้ว คันตะคุงยังเอาเสื้อผ้าสองชุดและเทียนมาให้ฉัน

ทว่าก่อนที่ฉันจะได้ขอบคุณ หรือได้ทันเรียกร้องอะไร เขาก็วิ่งหนีไปซะก่อน เสื้อผ้าในห่อผ้านั้นตัวเล็กแคบ ฉันแอบสะเทือนใจว่าเอวของเรย์กะในโลกนี้น่าจะอยู่ที่ยี่สิบนิ้ว แต่ชุดปกติก็ยังเล็กกว่าไซส์ของเธออยู่ดี ผู้หญิงในโลกนี้จะตัวเล็กไปถึงไหน แม้จะใส่เสื้อตัวนอกไม่พอดี แต่เสื้อซับในที่หลวมกว้างกับกระโปรงนั้นใส่ได้สบายมาก วันนั้นฉันนั่งทำห้องน้ำต่อ โดยการพยายามรื้อไม้จากเก้าอี้เก่า ๆ ที่กองอยู่ในห้องโถงด้านหน้ามาพาดไว้ขอบถัง ก่อนจะยึดมันไว้โดยโครงกระโปรงและลวดยึดโครงที่ผูกแผ่นไม้ให้ติดกับถัง เนื่องจากความสามารถในการทำงานประดิษฐ์ของฉันไม่ได้ดีอย่างที่ตัวเองเคยคิดไว้ ดังนั้นกว่าจะทำได้สำเร็จ ก็ใช้เวลาทั้งวัน ฉันมองมือที่นอกจากแผลพุพองแล้วยังมีรอยบาดของลวดแล้วรู้สึกสลดใจ ในชาติก่อนฉันใช้ครีมบำรุงผิวราคาแพง ซ้ำยังไม่ต้องถือของหรือทำงานหนัก ดังนั้นมือจึงเนียนสวย ในชาตินี้มือของเรย์กะเองก็สวยเนียน แต่สองสามวันมานี้โดนฉันใช้งานซะจนพองแดงไปหมด

วันถัดมา ฉันเรียกคันตะคุงไว้ได้ก่อนที่เขาจะวิ่งหนีไป ฉันขอให้เขานำทรายหรือขี้กบจากการไสไม้มาให้หน่อย เขาถามฉันว่าฉันจะเอาไปทำอะไร ฉันบอกเขาว่าฉันจะเอาไปสร้างห้องน้ำ เขาถามฉันว่าทำไมไม่ใช้ห้องน้ำดี ๆ เหมือนคนอื่น ฉันเลยเพิ่งรู้ว่าในโลกนี้มีระบบห้องน้ำแล้ว จากนั้นจึงตอบเขาไปว่าที่นี่ไม่มีห้องน้ำ

เขาเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะบอกว่าพรุ่งนี้เขาจะเอามาให้

วันต่อมา นอกจากขี้กบจากการไสไม้แล้ว ฉันยังได้เนยกับแยมมาด้วย คันตะบอกว่าตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงเตรียมงานหมั้นของเจ้าชายคาบุรากิ ดังนั้นในครัวจึงทำอาหารเพิ่มเป็นพิเศษ

ฉันขอบคุณเขา แต่คันตะคุงก็ยังไม่จากไปเหมือนอย่างทุก ๆ ที เขาถามฉันว่าเขาเสียใจไหมที่จะต้องตกระกำลำบากแบบนี้ ฉันเลยถามเขากลับว่าทั้ง ๆ ที่ฉันรังแกพี่สาวของเขา ทำไมเขาถึงยังเอาอาหารและของที่ขอไปมาให้ฉัน

คันตะคุงอึ้งไป เขาถามฉันว่ารู้ด้วยเหรอว่าเขาคือใคร เขาบอกว่าข้างนอกลือกันว่าฉันเป็นแม่มดเลยอยากมาดูว่าแม่มดที่รังแกพี่สาวของเขาเป็นยังไง แต่ฉันดูท่าทางโง่ ๆ ไม่น่าจะเป็นแม่มดได้เลยซักนิด

ฉันบอกว่าวันนั้นเขามองฉันแค่แว๊บเดียวเอง จะรู้ได้ยังไงว่าฉันไม่ใช่แม่มด เขาบอกฉันว่าจะไม่มีทางเข้าไปดูฉันโป๊ให้เสียสายตาอีกเป็นอันขาด ฉันเลยบอกเขาว่าวันนี้ฉันใส่ชุดหลายชั้นแล้ว แต่ถ้าเขาไม่อยากเข้ามาก็ตามใจ

ในที่สุด คันตะคุงก็เข้ามาในรั้วด้วยท่าทีระมัดระวังราวกับว่าถ้าเขาเผลอ ฉันจะทำเรื่องสะเทือนขวัญเขาอีกครั้ง พอเงยหน้าขึ้นมองฉัน คันตะก็หน้าแดง แล้วละล่ำละลักถามฉันว่าทำไมฉันไม่ยอมแต่งตัวให้ดีกว่านี้

ฉันบอกเขาว่าชุดที่เขาเอามาให้ต้องผูกเชือกด้านหลัง เนื่องจากเสื้อตัวเล็กจัด ฉันผูกได้แค่ช่วงใต้อกเท่านั้น ส่วนช่วงอกกับช่วงเอวต้องปล่อยเสื้อให้ด้านหลังเปิดแบะออกเพราะความยาวเชือกไม่ถึง แต่ฉันก็ไม่ได้เปลือยหลังเลยแม้แต่น้อย เพราะนอกจากเสื้อตัวนอก ฉันก็ใส่เสื้อตัวในที่เป็นเสื้อผ้าฝ้ายตามปกติ ถ้าเป็นโลกที่จากมา ฉันใส่เสื้อผ้าเทอะทะเกินไปด้วยซ้ำ แต่พอมาอยู่ที่นี่ กลับถูกหาว่าแต่งตัวไม่เรียบร้อย

คันตะกล่าวหาฉันว่าเป็นแม่มด แล้ววิ่งหนีไปเหมือนกลัวว่าฉันจะไล่ตามเขา ฉันมองเขาอย่างเป็นกังวล กลัวว่าพรุ่งนี้จะต้องอดข้าวเพราะเขาไม่กล้ามาอีก

.....

598 Nameless Fanboi Posted ID:mheGlQAuHL

>>597 กางใบเรือคันตะ ---- แค่ก

599 Nameless Fanboi Posted ID:B+yoQ8sERL

A&A - 7.

โชคดีที่คันตะคุงยังคงมีมโนธรรมในใจพอที่จะไม่ให้ฉันอดตาย วันต่อมาคุณเมดมาส่งอาหารแทน เธอบอกกับฉันว่าถ้ามีของอะไรที่จำเป็นต้องใช้ก็สามารถบอกกับเธอได้ ถ้าเจ้านายของเธออนุญาต เธอก็จะเอามาให้ในวันรุ่งขึ้น

ฉันขอเสื้อผ้าที่ใส่ได้ง่ายไปเพิ่ม กับเศษผ้าสำหรับใช้เป็นกระดาษทิชชู่และผ้าอนามัย ฉันนึกภาพโลกที่ไม่มีผ้าอนามัยแบบที่สามารถซึมซับเลือดประจำเดือนได้อย่างแห้งสะอาดแล้วรู้สึกเหมือนอยากจะร้องไห้อ้อนวอนขอให้พระเจ้าส่งกลับบ้าน แต่ในเมื่อในคืนก่อน ๆ ฉันเคยลองอ้อนวอนแล้วไม่สำเร็จ เลยต้องเตรียมผ้าไว้สำหรับซับเลือดประจำเดือน

ชีวิตของฉันผ่านไปอย่างเรียบง่ายและรวดเร็วเพราะมีงานต้องทำทุกวัน หลังจากทำความสะอาดห้องนอน ทำห้องน้ำที่ใช้ขี้กบจากการไสไม้แทนน้ำราดเหมือนเวลาไปเข้าแคมป์ เคลียร์ห้องเก็บของ ฉันยังต้องทำความสะอาดห้องโถงและห้องครัว พอตัวบ้านสะอาด ก็ต้องจัดการตัดหญ้ารกรอบ ๆ บ้าน เพราะกลัวพวกงูหรือหนูจะมาซุกซ่อน

ทำไปทำมา นับจากวันที่ฉันถูกลงโทษจองจำไว้ในที่แห่งนี้ ก็ผ่านไปเกือบเดือนแล้ว

แม้ว่าอาหารและของใช้ที่จำเป็นจะถูกส่งมาทุกวัน แต่กลับไม่มีข่าวจากท่านพี่เลยแม้แต่น้อย

ฉันนั่งอยู่บนโต๊ะเขียนหนังสือ ด้านข้างจุดเทียนให้แสงสว่าง บนโต๊ะมีหนังสือคัมภีร์คำสอนสำหรับโลกนี้ มันเป็นหนังสือเพียงเล่มเดียวที่ฉันได้รับอนุญาตให้ครอบครองได้ มันไม่ใช่ไบเบิ้ล และฉันก็พบว่าโลกนี้เป็นโลกสมมติ ไม่ได้เป็นอดีตในประวัติศาสตร์

อันที่จริงฉันควรจะรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าคิมิดอลเองก็เป็นโลกสมมติ ดังนั้นก็ไม่แปลกที่ที่นี่เป็นโลกสมมติเช่นกัน แต่ผิดตรงที่ว่าคิมิดอลเรื่องยังคงอิงประเทศญี่ปุ่น พื้นฐานในด้านต่าง ๆ ก็ยังอิงกับความเป็นจริง แต่ที่นี่กลับเป็นโลกที่ไม่ได้อิงกับประวัติศาสตร์ที่ฉันเคยรู้จักมา

ตอนที่ฉันระลึกได้อย่างนั้น ในใจก็รู้สึกว้าเหว่เปล่าเปลี่ยว ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่เป็นของฉัน ไม่มีสิ่งที่ฉันรู้จัก คนที่ฉันคิดว่าเป็นครอบครัว เป็นเพื่อน เป็นคนที่รัก พวกเขาเหล่านั้นกลับเป็นเหมือนคนแปลกหน้า

ในคืนนั้นฉันนอนไม่หลับทั้งคืน ได้แต่พลิกตัวไปมาบนเตียงแข็ง ๆ คิดอยากจะร้องไห้ แต่บ่อน้ำตาก็เหมือนจะแห้งเหือดไม่มีน้ำตาไหลออกมา

.....

600 Nameless Fanboi Posted ID:zrXUz.IpN5

>>597 "แม่มดท่าทางโง่ๆ!!!?" แม่มดท่าทางโง่ๆ..... //แปลงร่างเป็นเซริกะจังไล่ตะครุบพวกปากร้ายหยาบคาย

601 Nameless Fanboi Posted ID:.Htx/V72+S

A&A - 8.

ในช่วงเวลาที่ฉันรู้สึกหดหู่ กลับมีเรื่องเซอร์ไพรส์ขึ้นมาในชีวิตอันราบเรียบของฉัน

มันเป็นเวลากลางดึกของวันที่ฉันรู้สึกเหน็ดเหนื่อยจากการพยายามหาวิธีจุดเตาในครัวจนกระทั่งสามารถปิ้งขนมปังได้สำเร็จในที่สุด ขณะที่ฉันกำลังจะพลิกตัวนอน ก็ได้ยินเสียงบานประตูหน้าบ้านเปิดออก

เนื่องจากฉันยังไม่ได้ขอน้ำมันมาหล่อลื่นบานพับ ประตูด้านหน้าจึงส่งเสียงแหลม ๆ ทุกครั้งที่เปิดปิด ฉันได้ยินเสียงอะไรซักอย่างนอกจากเสียงประตูดังขึ้นมา ก่อนจะตามมาด้วยเสียงฝีเท้า

หัวใจของฉันเต้นระรัว ฉันลุกขึ้นนั่งแล้วพยายามหาอะไรซักอย่างเป็นอาวุธ เสียงฝีเท้าดังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ฉันหยิบเก้าอี้ไม้ขึ้นมาแล้วยกขึ้น กะว่าถ้าคนร้ายเข้ามาในห้อง ฉันจะฟาดมันด้วยเก้าอี้

ประตูห้องถูกเปิดออก เก้าอี้ในมือของฉันปลิวออกไปทันที

เสียงกรีดร้องดังระงม ตามด้วยเสียงฝีเท้า ฉันหยิบเก้าอี้แล้ววิ่งตามไปอย่างรวดเร็ว กะว่าจะฟาดให้สลบเผื่อว่ามันจะย้อนกลับมาอีกครั้ง และเมื่อออกไปยังห้องด้านนอก ฉันจะก็บานประตูเปิดค้างไว้แบบนั้น แสงจันทร์ที่ส่องสว่างในคืนเดือนเพ็ญส่องให้เห็นร่างเล็กของเด็กน้อยวิ่งออกไปเป็นสายตรงไปยังประตูรั้วด้านหน้า แต่มีร่างหนึ่งที่ล้มลงบนพื้นหินหน้าบ้าน วิ่งตามเด็กคนอื่นไม่ทัน

ฉันวางเก้าอี้ลงทันทีเมื่อเห็นว่าเด็กคนนั้นเป็นใคร

ร่างเล็กกึ่งนั่งกึ่งนอนล้มลุกคลุกคลานบนพื้น ดวงตากลมโตเบิกกว้าง เขาหอบอย่างรุนแรงเหมือนจะขาดใจ

ฉันเรียกชื่อเขาซ้ำ ๆ แต่เขาไม่ตอบสนองเลยแม้แต่น้อย เอาแต่หอบหายใจแรง ๆ ฉันนึกถึงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ยูกิโนะในโลกก่อนเป็นโรคหอบหืด ในโลกนี้เองก็ดูเหมือนว่าโรคนี้จะตามติดเขามาเช่นกัน และถ้าเขาไม่ได้รับการรักษาก็อาจจะตายได้

ในวินาทีนั้นฉันไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าการช่วยยูกิโนะ ฉันอุ้มร่างเล็กของเขาขึ้นมา ใส่รองเท้าแล้ววิ่งออกไปยังรั้วด้านหน้าเพื่อขอความช่วยเหลือจากทหารที่เฝ้าฉัน ทว่าด้านหน้านั้นกลับไม่มีใครอยู่เลยแม้แต่คนเดียว

ฉันรู้สึกร้อนใจซะจนเหมือนอยากจะกรี๊ดออกมา ยูกิโนะในอ้อมกอดของฉันยังคงหายใจถี่ เขามีท่าทางทรมานมาก ฉันตัดสินใจวิ่งออกไปด้านนอก พุ่งตรงไปยังราชวังที่ดูเหมือนจะสว่างไสวกว่าปกติ คิดในใจว่าถ้าวิ่งไปเรื่อย ๆ จะต้องเจอคนที่ขอความช่วยเหลือได้แน่

ทั้ง ๆ ที่ระยะทางระหว่างตัววังหลวงและที่คุมขังของฉันจะค่อนข้างไกลจากกัน ถ้าเป็นปกติฉันคงขาดใจอยู่กลางทางไปแล้ว แต่ยูกิโนะในอ้อมกอดที่กำลังจะตายสั่งให้ฉันวิ่ง รู้ดีว่าถ้าตัวเองไม่ไหว เขาจะต้องตายอย่างแน่นอน

ในที่สุดฉันก็วิ่งมาถึงหน้าราชวัง ทหารยามเห็นฉันก็ชะงัก แล้วตวาดไล่ฉัน แต่ฉันยังไม่ยอมหยุด พวกเขาส่งเสียงไล่ฉันอีกครั้ง คราวนี้ชักดาบออกมาด้วย ฉันพยายามขอร้องพวกเขา บอกว่าฉันมีเด็กที่ป่วยมาด้วย

“เสียงเอะอะอะไรกันน่ะ”

ร่างในชุดอัศวินเกราะเงินโผล่ออกมา พอเขาเห็นฉัน เขาก็ชะงักไป “คิโชวอิน เรย์กะ?”

ฉันมองร่างที่โผล่ขึ้นมา รู้สึกโล่งอกเหมือนเทพมาโปรดเมื่อเห็นว่าคน ๆ นั้น คือนายตัวสำรอง

.....

602 Nameless Fanboi Posted ID:q0dzo7od5A

>>601 วรั้ยย นายตัวสำรอง อัศวินมาช่วยเจ้าหญิง(?)ไปจากที่คุมขังเร็วเข้า แต่ยูกิโนะออกมาแบบนี้ก็ต้องพาพี่ชายเขามาด้วยสินะ....

603 Nameless Fanboi Posted ID:hqOnzVEEXN

อ่าว ทำไมออกมาง่ายนักวะ

604 Nameless Fanboi Posted ID:zrXUz.IpN5

>>603 สมัยก่อนมันไม่ได้คุมที่ขังหนาแน่นอะไรมั้ง คงเห็นเป็นสตรีด้วยเลยละหลวม ==

605 Nameless Fanboi Posted ID:zrXUz.IpN5

โม่งฟิค โลกยุควิคตอเรีย คือกูชอบมาก.... กูชอบยุคกลางอยู่แล้ว ได้เห็นท่านเรย์กะผจญภัยในยุคนั้น คือดีต่อใจกูมาก โอะโฮะโฮะโฮะ ท่านเรย์กะไม่ต้องอายเวลาหัวเราะแบบนี้แล้วเว้ย 5555555

606 Nameless Fanboi Posted ID:ddSMrD4bnb

A&A - 9.

“ได้โปรดช่วยเขาด้วยเถอะค่ะ” ฉันอุ้มยูกิโนะคุงแล้ววิ่งเข้าไปใต้แสงคบเพลิง พอนายตัวสำรองเห็นร่างที่อยู่ในอ้อมกอดของฉัน เขาก็ชะงักแล้วหันไปสั่งทหารให้ตามหมอ บอกว่าน้องชายของท่านเอ็นโจต้องการยาด่วน

ฉันกอดยูกิโนะคุงไว้แน่น มองเขาที่ใบหน้ากลายเป็นสีม่วงเพราะหายใจไม่ออก รู้สึกเหมือนจะร้องไห้ มิซึซากิเองก็มีสีหน้าเครียดเหมือนกัน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังถอดเสื้อคลุมด้านหลังออกมา แล้วสั่งให้ฉันห่มเอาไว้ ฉันมองเขาอย่างไม่เข้าใจ เขาบอกให้ฉันทำตามด้วยน้ำเสียงดุ ๆ ฉันจึงคลายมือออกจากร่างของยูกิโนะ แล้วห่มผ้าคลุมของเขาเอาไว้

ไม่นานนัก หมอก็ถูกตามตัวมา เมื่อเอาผ้าที่ด้านในห่ออะไรซักอย่างโปะลงไปบนปากและจมูก ไม่นานนัก ยูกิโนะก็ดูจะหายใจสะดวกขึ้น หมอคนนั้นสั่งให้ทหารพายูกิโนะไปยังห้องรักษา แล้วก็จากไปโดยทิ้งฉันกับนายตัวสำรองเอาไว้

“เธอ...ไปเจอท่านยูกิโนะได้ยังไง”

ฉันเล่าให้ฟังว่ามีกลุ่มเด็ก ๆ บุกเข้ามาในบ้านตอนที่ฉันนอนอยู่ พอออกไปดู ก็พบว่ายูกิโนะเป็นอย่างนั้นแล้ว

นายตัวสำรองทำหน้าเครียด แล้วบอกฉันว่าเขาจะไปส่งฉันยังที่คุมขัง เพราะฉันไม่ได้รับอนุญาตให้ออกมาจากที่นั่น เขาขอโทษฉัน ก่อนจะอุ้มฉันขึ้นม้าแล้วพาขี่กลับไปยังที่ ๆ ฉันจากมา

“เธอ...ไม่ควรจะออกจากที่พักด้วยชุดแบบนั้น”

มิซึซากิบอกด้วยเสียงซีเรียส

ฉันบอกเขาว่าในตอนนั้นเป็นสถานการณ์ฉุกเฉิน เขาบอกฉันว่าถึงอย่างนั้นฉันก็ควรจะแต่งตัวให้เรียบร้อย ทหารบางคนไม่ได้มีจิตใจแข็งแกร่ง ถึงฉันจะเป็นนักโทษและทำเรื่องร้ายแรงหลายอย่าง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาอยากเห็นฉันโดนฆ่าข่มขืนกลางทาง

ฉันพยักหน้า บอกเขาว่าฉันจะไม่ทำอย่างนั้นอีก รู้สึกหงอยลงไปมาก ทั้ง ๆ ที่รู้ดีว่าที่นี่กับที่ ๆ ฉันจากมาต่างกัน แต่ในตอนนั้นฉันไม่ได้คิดอะไรนอกจากความปลอดภัยของยูกิโนะคุง

“ยังไงก็...ขอบใจมาก ถ้าไม่ได้เธอ ท่านยูกิโนะอาจจะ...” เขาเงียบไป “ความจริงเรื่องนี้เป็นความผิดของทหารที่เฝ้ายามเธอ และฉันในฐานะหัวหน้าองครักษ์ของวังหลวงก็ถือเป็นความรับผิดชอบด้วย ฉันจะไปขอรับโทษจากท่านคาบุรากิ ส่วนเรื่องของเธอ...เธอออกจากที่คุมขังโดยพละการ แต่เพื่อช่วยท่านยูกิโนะ ฉันจะพยายามหาทางช่วยเรื่องนั้นเอง”

ฉันมองมิซึซากิที่มาส่งฉันถึงหน้าประตูรั้ว ฉันจะคืนเสื้อคลุมให้เขา แต่เขากลับบอกว่าให้ฉันห่มกลับเข้าไปในที่พักให้เรียบร้อย เผื่อทหารเฝ้ายามฉันอยู่แถวนั้น

เช้าวันถัดมา เอ็นโจก็ปรากฏตัวอยู่หน้าประตูรั้วของฉัน

.....

607 Nameless Fanboi Posted ID:mheGlQAuHL

>>606 อยากให้ฟิคนี้เข้ารูทนายตัวสำรอง มิซึซากิโคตรพระเอกเลยนะ แต่เหมือนฉายาที่เจ้าแม่ตั้งให้ ตัวสำรอง 5555555555 เศร้า อยากได้ฟิคคู่นี้

608 Nameless Fanboi Posted ID:zrXUz.IpN5

เอ็นโจมาแว้ว กรี๊ดดดดดด บทจะเด่นๆ ไหมน้อ

609 Nameless Fanboi Posted ID:.U+yzlYICE

ฟิคนี้เชียร์ทั้งคันตะคุงทังนายตัวสำรอง

610 Nameless Fanboi Posted ID:rxPDQV1f63

A&A - 10.

โชคดีที่ในวันนั้นฉันแต่งตัวได้ค่อนข้างเรียบร้อยเพราะสังหรณ์ใจว่าน่าจะมีแขกมา และลางสังหรณ์ของฉันก็แม่นจริง ๆ แม้เอ็นโจจะเป็นแขกที่ฉันไม่อยากต้อนรับก็ตามที

ฉันยังจำสายตารังเกียจของเขาตอนที่คาบุรากิประนามฉันกลางงานเลี้ยงได้ เอ็นโจตอนที่เป็นคนรู้จักนั้นปกติก็น่ากลัวอยู่แล้ว ยิ่งตอนนี้เขาเป็นศัตรูของฉัน ยิ่งต้องระมัดระวังเข้าไปใหญ่

เขามองฉันด้วยรอยยิ้มจาง ๆ แบบที่มักจะอยู่บนใบหน้าของเขาเสมอ แต่ฉันรู้ดีว่าจะประมาทไม่ได้

“ได้ยินว่าคุณเรย์กะช่วยน้องชายของผมเอาไว้” ตอนคาบุรากิฉันยังช็อคเกินกว่าจะคิดออก แต่ตอนนี้...ฉันมองหน้าเอ็นโจ มองรูปแบบการสนทนาที่ไม่เหมือนกับในนิยายโบราณหรือยุคปัจจุบันแล้วรู้สึกแปลก ๆ อันที่จริงเรื่องนี้มันประหลาดตั้งแต่เซ็ตติ้งเป็นธีมยุโรป แต่ชื่อกับหน้าตาตัวละครดันเป็นคนญี่ปุ่นทั้งหมดแล้ว ยิ่งโดยเฉพาะเขาเรียกชื่อฉันว่า ‘คุณเรย์กะ’ แทนที่จะเป็น ‘คุณคิโชวอิน’ ยิ่งแปลก แต่ก็ถือว่าเหมาะสม เพราะในตอนนี้ฉันถูกถอดออกจากตระกูลคิโชวอิน ไม่มีนามสกุลอีกต่อไปแล้ว

ฉันพยักหน้า ตอบออกไปว่า “ค่ะ” เป็นครั้งแรกที่พอมีแขกมาแล้วฉันอยากจะปิดประตูใส่หน้า แล้วหลบกลับเข้าไปในบ้าน

“ผมจะจำบุญคุณครั้งนี้เอาไว้” เอ็นโจบอก ตาคู่นั้นจ้องฉันจนฉันสงสัยว่าตัวเองใส่ชุดผิดประหลาดอะไรไปอีกรึเปล่า แต่ในเมื่อเขาไม่ได้พูดอะไร ฉันก็จะทำเป็นว่าตัวเองไม่ได้มีอะไรประหลาด

เอ็นโจมาพูดแค่นั้นแล้วก็จากไปโดยที่ไม่ได้เข้ามาในเขตรั้ว ฉันถอนหายใจอย่างโล่งออก รีบวิ่งไปตักน้ำจากบ่อมาส่อง เพราะน้ำในถังสะท้อนได้ไม่ดีเท่ากระจก และยังส่องให้ได้นิดเดียว ดังนั้นฉันจึงไม่เห็นอะไรผิดปกติ

ในตอนเที่ยงที่คุณเมดคนเดิมเอาอาหารมาส่งให้ฉัน ฉันขอให้เธอเอาชุดผู้ชายมาให้ฉันพร้อมกับผ้าพันแผลและรองเท้าคู่ใหม่ เธอมองฉันอย่างฉงน พอฉันบอกว่าฉันรู้สึกลำบากเวลาต้องแต่งตัว เพราะชุดผู้หญิงจำเป็นต้องใช้เมดในการช่วยแต่ง เธอมองฉันอย่างเห็นใจ ก่อนจะรับปากว่าเธอจะหามาให้

.....

611 Nameless Fanboi Posted ID:zrXUz.IpN5

หวาดระแวงเอ็นโจคนนี้มากๆ 5555

612 Nameless Fanboi Posted ID:O1sVMShrkO

เอ็นโจน่าระแวงทุกโลกจริงๆ555

613 Nameless Fanboi Posted ID:nMskkWED12

>>611 >>612 ไม่เฉพาะเอ็นโจ ตัวละครในฟิคนี้น่าระแวงกันทุกคน

614 Nameless Fanboi Posted ID:zrXUz.IpN5

>>613 กลัวใจว่าจะทำร้ายท่านเรย์กะ .-. โดยเฉพาะเจ้าบากะรากิ ยิ่งบ้าๆ อยู่ด้วย

615 Nameless Fanboi Posted ID:qLU6ISpVBQ

จอมมารโลกนี้มาดีเกินว่ะ ต้องมีเบื้องหลังแน่ๆ!!

616 Nameless Fanboi Posted ID:b+K70TT7yW

นายตัวสำรองนี่ไม่ว่าโลกไหนก็เป็นคนที่เข้มงวดต่อตัวเองและผู้อื่นไม่เปลี่ยนเลย//ครอมขาจากเรือคันตะไปเรือนายตัวสำรอง....เหยียบสองเรือไว้ก่อน

617 Nameless Fanboi Posted ID:.U+yzlYICE

>>616 เหยียบคร่อมเป็นเพื่อนนาย

618 Nameless Fanboi Posted ID:OszLP4AQ5b

>>616 คร่อมด้วยอีกคนเรือจะล่มมั้ยวะ5555

619 Nameless Fanboi Posted ID:.U+yzlYICE

>>618 ไม่มีใครมาเจาะเรือ ไม่ล่ม

620 Nameless Fanboi Posted ID:tLYF0nwt+J

>>616 อะไรนะ! นายตัวสำรองกับคันตะงั้นเหรอ อืม...
ชายหนุ่มจู้จี้หัวแข็งกับเด็กขี้บ่นแต่คอยห่วงใยทำนั่นนี่ให้ตลอด นี่มัน อาจจะพอไปได้ก็ได้นะ

621 Nameless Fanboi Posted ID:FjrN99Z89a

พวกมึงๆ ด้านบนเนี่ย ยังเห็นหัวของเอ็นโจกับเจ้าบากะรากิอยู่ไหมวะ มันอาจบทพลิกก็ได้นะเว้ย 5555555

622 Nameless Fanboi Posted ID:dtYNKp34sm

>>621 โลกก่อนเพื่อนกันแท้ๆยังเครียดจนผมหงอก ถ้าโลกนี้สองคนนั้นมาจีบไม่ขาวโพลนเป็นนางพญางูขาวเลยเหรอวะ 5555 สงสารเถอะ

623 Nameless Fanboi Posted ID:19ejmZYZ/R

พวกมึงอย่าลืมบรรดาเรือลิลลี่!

624 Nameless Fanboi Posted ID:uxd/81XtYs

>>623 กูปักธงเรือวาคาบะไว้ก่อนเลย!!!

625 Nameless Fanboi Posted ID:j1o1RcBrEf

>>622 ผมหงอกเพราะกังวลว่าจะโดนปักธงมรณะ แต่ตอนนี้หลีกเลี่ยงไม่ได้ น่าจะไม่เครียด แค่คิดเรื่องใช้ชีวิตประจำวันให้รอดก็หมดเวลากลุ้มละ

626 Nameless Fanboi Posted ID:65FYCSMC6Y

>>623 ถ้าเป็นงั้นท่านเรย์กะกูเจองานหนักเลยนะ ลักลอบแอบรักกับวาคาบะ คาบุรากิพิโรธแหงๆ สยอง.... 55555

627 Nameless Fanboi Posted ID:UEdABsTRO2

พวกมึงอย่าลืมเรือคาน นี่พระเอกของเรื่องนะเว้ย!!

628 Nameless Fanboi Posted ID:uxd/81XtYs

>>627 มันต้องไม่ใช่กับฟิคนี้!!

629 Nameless Fanboi Posted ID:RJK8ACUf2m

แต่ทำไมกูรู้สึกว่าฟิคนี้ออกแนวต้องรอด มากกว่าโดขิโดขิวะ

630 Nameless Fanboi Posted ID:dtYNKp34sm

ต้องรอดไปเจอผู้ชายที่ดี!!

631 Nameless Fanboi Posted ID:GVlmuiXc44

>>622 เดี๋ยวๆ มึง ใช่นางพญาผมขาวไหมวะ กลายเป็นนางพญางูขาวไปได้ไง
โด๊ปกาวมากไปแล้วววววว

632 Nameless Fanboi Posted ID:h8.XC4Afmx

>>631 มันก็มีหนังชื่อนี้ทั้งสองชื่อเลยนะ 5555555

633 Nameless Fanboi Posted ID:b+K70TT7yW

>>620 เบิกเนตรแล้วเฮ้ย อาจจะเข้าท่าก็ได้นะ นายตัวสำรองที่พลาดรักจากวาคาบะก็มาพบกับน้องชายแทน

634 Nameless Fanboi Posted ID:FCis4qi5Qu

พวกมึงในนี้ก็รมกาวตัวเองไม่ต่างกันหรอกว่ะ ปะ!! เรือคาน!!! //รอโดดลงเรือคาน กระซิกๆ

635 Nameless Fanboi Posted ID:NqScms+JpA

เรือไหนก้ได้​ ตอนนึ้เหมือน​ลอยเคว้ง​กลางมหาสมุทร​ เฮ้อ เมื่อไหร่300จะมา

636 Nameless Fanboi Posted ID:33vY/w00.u

กูเชียร์หมดแม้กระทั่งเมดที่มาส่งข้าวอ่ะ ขอแค่ไม่คาน TT

637 Nameless Fanboi Posted ID:Z.odFepcf6

https://twitter.com/inktober/status/1035886145173745664?s=09
โม่งฟิกๆ ใครก็ได้แต่งตาม prompt นี้หน่อย อยากอ่าน

638 Nameless Fanboi Posted ID:RJK8ACUf2m

>>635 มึงพูดเหมือนกับว่ากำลังเกาะขอนไม้ในมหาสมุทร รอขึ้นเรือที่ชื่อว่าตอนที่ 300 เลยว่ะ

639 Nameless Fanboi Posted ID:y1KgM0FBIL

>>637 เห็นแล้วโคตรน่าสนใจ แต่แต่งเองไม่น่ารอด ปักหลักรอโม่งฟิค...

640 Nameless Fanboi Posted ID:F13D1PRpod

>>637 กูติดปั่น A&A ค่ะ เพื่อความต่อเนื่องเลยไม่รับงานนอก (เพราะนอกจากฟิค นิยายตัวเองก็ยังต้องปั่น งานก็ต้องทำ) ดังนั่นส่งไม้ต่อให้โม่งฟิคคนอื่นละกัน

641 Nameless Fanboi Posted ID:TWJsqEMxPz

กูไม่ไหว ตายก่อนพอดี 555555

642 Nameless Fanboi Posted ID:h8.XC4Afmx

>>637 กูเคยพยายามลองชาเลนจ์แต่งฟิคจากคำที่กำหนดให้ 30 วัน 30 คำ ทำไปได้ 2 วัน ความขี้เกียจเข้าแทรก หมดมุกจะเขียน ไม่มีเวลาเขียน แล้วชาเลนจ์นั้นก็คาไว้ที่ 2 วันแบบนั้นมา 5 ปีแล้ว 55555555555

643 Nameless Fanboi Posted ID:FT/eeH5sNc

>>637 กูอยากทำแต่ช่วงนี้กูติดสอบ ฮืออออออออออ

644 Nameless Fanboi Posted ID:wPAMj9WwTk

A&A - 11.

เพราะกังวลเรื่องคำพูดของมิซึซากิ หลังจากนั้นฉันเลยใช้ผ้าพันหน้าอกเอาไว้ ถึงแม้ว่าจะอึดอัด แต่ก็ยังอึดอัดน้อยกว่าใส่คอร์เซ็ต ชุดของผู้ชายที่คุณเมดให้มาสวมใส่ได้สบายมาก มันเป็นเสื้อทูนิกกับกางเกงผูกเอว รู้อย่างงี้ฉันน่าจะขอชุดผู้ชายใส่ตั้งแต่แรก

ในช่วงเวลาที่ว่าง ฉันใช้เวลาตัดเย็บกางเกงชั้นใน เนื่องจากในโลกนี้ไม่มียางยืด ฉันเลยเย็บให้เป็นแบบผูกข้างเอา แม้จะใส่ไม่สะดวกเหมือนยางยืด ซ้ำฝีเข็มยังเบี้ยว ๆ แต่ก็ยังดีกว่าใส่กางเกงชั้นในของผู้หญิงในโลกนี้ภายใต้กางเกงของผู้ชาย

นอกจากนี้ ฉันยังขอเมล็ดพันธุ์พืชผักกับดอกไม้ไปด้วย เพราะคิดว่ายังไงก็มีพื้นที่เยอะแยะ อยากจะปลูกอะไรซักหน่อย ดีไม่ดีช่วงเวลาเก็บเกี่ยวผลฉันอาจจะได้ผลไม้กินเพิ่มขึ้น แถมยังเป็นงานอดิเรกที่ดีด้วย

ฉันจับจอบขุดดินอีกครั้ง ขุดไปได้ไม่นานมือก็พองอีก เพราะคราวก่อนขุดดิน มือของฉันก็เลยหนังลอกอยู่นาน ฉันมองมือของตัวเองแล้วสงสัยว่าเมื่อไหร่มันจะด้านซักที เพราะมือของฉันพองไปแล้วเรียบร้อย งานขุดดินเลยค้างอย่างงั้นไม่คืบหน้าไปไหน ฉันมองที่ดินแล้วตัดสินใจขว้าง ๆ เมล็ดพันธุ์ลงไป ในธรรมชาติยังไม่ต้องอาศัยคนปลูกเลย ถึงแม้จะขึ้นมาไม่งามนัก แต่ก็คงไม่เป็นอะไรหรอก

ในวันถัดมา คุณเมดมาหาฉันอีกครั้ง แล้วบอกฉันว่าหลังจากนี้ไปอีกสองสามเดือน เธออาจจะมาหาฉันทุกวันไม่ได้อีกแล้ว เธอจะขนอาหารมาให้ฉันมากขึ้นในแต่ละครั้งแทน พอถามออกไป เธอก็มีสีหน้าลังเล ก่อนจะบอกฉันว่าตอนนี้ในวังเตรียมงานหมั้นระหว่างเจ้าชายกับพระคู่หมั้น นอกจากงานหมั้นแล้ว ยังมีงานเลี้ยงฉลองที่จะจัดเจ็ดวันเจ็ดคืนทั่วอาณาจักรอีก ดังนั้นคุณเมดจึงต้องทำงานเพิ่มขึ้นกว่าเดิม

ฉันถามเธอว่านับตั้งแต่วันที่ฉันถูกถอนหมั้น ผ่านไปกี่วันแล้ว คุณเมดคนนั้นบอกว่าสามเดือนแล้ว

ฉันมองคุณเมดที่ไม่ยอมบอกแม้แต่ชื่อของตัวเองให้ฉันรู้เดินจากไป เหม่อมองไปที่ราชวัง แล้วคิดว่าครอบครัวของฉันคงจะตัดใจจากเรื่องของฉันไปแล้วจริง ๆ

.....

645 Nameless Fanboi Posted ID:Mx.F6eH0hd

เชี้ย... กูนั่งเขียนฟิคเจ้าแม่ผจญภัยในวันเดอร์แลน พอออกมาค้นข้อมูลนิดๆ หน่อย ปรากฎว่าลืมกดบันทึก จบแล้วววว มันจบแล้วว 555555 แล้วกูเขียนไปยาวเหยียดมาก อะเหื้อออ น้ำตามายาไหลริน

646 Nameless Fanboi Posted ID:Mx.F6eH0hd

>>644 ฟิคดีต่อใจเว้ย ฮรือออออ กอดโม่งฟิค

647 Nameless Fanboi Posted ID:wPAMj9WwTk

>>645 rip ค่ะมึง เขียนใหม่อาจจะดีกว่าเดิมนะ

648 Nameless Fanboi Posted ID:N8a0scoO.X

>>647 กูรออ่านอย่างเดียวละ 555555 กูอาจจะโดนคำสาปเจ้าแม่ก็ได้ ไม่เคยพลาดแบบนี้จนกระทั่งเขียนให้ท่านเรย์กะก้นกระแทกพื้นนี่แหละ ฮรือออออ เสพฟิควิตอเรีย (///7///)

649 Nameless Fanboi Posted ID:wPAMj9WwTk

A&A - 12.

ในยามเย็นของวันที่สามในระหว่างการเฉลิมฉลองพิธีหมั้นหมายของคาบุรากิกับวาคาบะจัง หน้าประตูรั้วของฉันก็มีแขกมาเยือนอีกครั้ง

ฉันมองประตูที่เปิดออกแล้วก็รู้สึกแปลกใจเมื่อเจอยูกิโนะคุง

“เอ้อ...สวัสดีจ่ะ” ฉันทักทายออกไป

ยูกิโนะคุงมีท่าทางประหม่าอย่างเห็นได้ชัด เบื้องหลังของเขาคือพี่เลี้ยงที่ท่าทางดุ จ้องมองฉันเหมือนถ้าเธอคลาดสายตา ฉันจะจับยูกิโนะคุงกิน

“สวัสดีครับ คุณพี่เรย์กะ”

ฉันมองยูกิโนะคุงแล้วรู้สึกเหมือนฤดูหนาวในหัวใจกลายเป็นฤดูใบไม้ผลิอีกครั้ง ฉันเชิญให้เขาเข้ามาในรั้ว เขาเข้ามาอย่างรวดเร็ว คุณพี่เลี้ยงหน้าตึงเหมือนจะเอ่ยปากปฏิเสธแต่ก็ไม่ทันซะแล้ว

ฉันชวนยูกิโนะคุงไปนั่งที่ม้านั่งใต้ต้นไม้ใหญ่ เพราะในห้องโถงมีโต๊ะเก้าอี้เหลือ ๆ เป็นจำนวนมาก ฉันเลยขนไปไว้ในที่ต่าง ๆ เพื่อที่จะนั่งเล่นได้ทุกมุมของที่พักอาศัย กว่าจะลากออกมาได้ก็เหนื่อยสายตัวแทบขาด แต่คุ้มค่ามากเพราะในวันที่มีแสงแดดอ่อน ๆ ฉันสามารถนั่งชมธรรมชาติใต้ต้นไม้ได้อย่างรื่นรมย์ ไม่ต้องนั่งอุดอู้อยู่ในบ้าน

ฉันเอาเบอร์รี่ที่เก็บไว้ในครัวออกมานั่งกินกับยูกิโนะคุง ยูกิโนะขอบคุณที่ฉันช่วยเขาไว้ และขอโทษที่บุกรุกบ้านของฉัน เขาเล่าให้ฟังว่าในวันนั้นพวกเด็ก ๆ ประลองความกล้ากัน เนื่องจากยูกิโนะป่วยบ่อย ๆ ทำให้เขาไม่ค่อยมีเพื่อนในวัยเดียวกัน และเมื่อคนอื่น ๆ ไป เขาก็ไม่อยากจะทำตัวแปลกแยก

“ท่านพี่เรย์กะดูไม่เหมือนแม่มดเลย” ยูกิโนะคุงบอก ฉันฟังแล้วอมยิ้ม ถึงคนทั้งโลกจะคิดว่าฉันเป็นแม่มดหรือปีศาจก็ช่าง ขอแค่ยูกิโนะคุงไม่กลัวฉันก็พอ

นอกจากกล่าวคำขอบคุณ ยูกิโนะคุงก็ยังเอาของขวัญมาให้ฉันด้วย มันเป็นเครื่องประดับผม แต่เขากลับดูเป็นกังวล

“คุณพี่เรย์กะเป็นผู้หญิงใช่ไหมฮะ?” พอฉันตอบรับว่าใช่ เขาก็มีสีหน้างุนงง “แล้วทำไมถึงใส่ชุดผู้ชายล่ะฮะ?”

ฉันบอกเขาไปว่าชุดผู้หญิงใส่ไม่สะดวกเพราะฉันต้องทำงาน อีกอย่างก็ไม่มีเมดช่วยฉันแต่งตัวด้วย เขามีสีหน้างง ๆ ถามฉันว่าฉันต้องการเมดไหม เขาจะขอให้ท่านพี่ส่งมาให้ ฉันรีบบอกเขาว่าฉันชอบอยู่คนเดียวมากกว่า

“คุณพี่เรย์กะไม่เหงาเหรอฮะ?”

ฉันนิ่งไป

ฉันนึกถึงโลกของคิมิดอลอย่างที่ไม่ได้นึกถึงมาซักพักแล้ว ฉันคิดถึงครอบครัวของฉัน นึกถึงเพื่อนที่โรงเรียน นึกถึงขนมอร่อย ๆ และชีวิตที่สะดวกสบาย แต่มันคงเป็นไปไม่ได้แล้ว

ฉันโกหกเขาไปว่าฉันไม่เหงาเลยแม้แต่น้อย

วันต่อมายูกิโนะคุงก็มาหาฉันอีก คราวนี้เขาเอาขนมมาด้วย คุณพี่เลี้ยงยังคงหน้าบึ้งเช่นเคย แต่ไม่ได้ทำเหมือนกับว่าฉันจะฉีกเนื้อยูกิโนะกินถ้าเธอไม่จ้องฉันไว้ทุกวินาทีแล้ว

เพื่อตอบแทนยูกิโนะคุง ฉันเล่านิทานก่อนนอนจากโลกเก่าให้เขาฟัง ยูกิโนะคุงตั้งใจฟังมาก ภาพที่เขามองฉันตาแป๋ว บอกฉันว่านิทานที่ฉันเล่าสนุกกว่านิทานที่พี่เลี้ยงของเขาเล่าตั้งเยอะทำให้หัวใจของฉันละลาย ฉันอยากจะยึดตัวของเขาไว้เหมือนที่แม่มดยึดตัวราพันเซล แต่ในตอนบ่าย ก็ต้องปล่อยเขากลับไปแต่โดยดี

ยูกิโนะคุงบอกว่าเหลืออีก 3 วันที่เขาจะต้องอยู่เฉลิมฉลองในราชวัง เขาจะมาเยี่ยมฉันอีกแน่นอน

ทว่าวันรุ่งขึ้น กลับเป็นเอ็นโจที่มายืนอยู่หน้าประตูรั้วของฉัน

.....

650 Nameless Fanboi Posted ID:ZiSYbg3/Si

>>649 เอ้า จอมมารมาวนเวียนหน้าบ้านแล้ว มาสมัครเป็นเมดใช่มั้ย ต้องใช่สิ ตอบแทนบุญคุณไงล่ะ

651 Nameless Fanboi Posted ID:U6O3t2eWWD

>>650 ให้เอ็นโจเป็นเมดส่วนตัวนี่มันเกมลงทัณฑ์ประเภทไหนกัน ฮา😂😂😂😂😂

652 Nameless Fanboi Posted ID:IPhM21movd

>>650 จอมมารจะมาเป็นเมดหรือผู้คุมเนี่ย 5555555

653 Nameless Fanboi Posted ID:3OmUc0/bDY

แต่เป็นเมดนี่... ต้องช่วยแต่งตัวด้วยนะ

654 Nameless Fanboi Posted ID:ZiSYbg3/Si

>>653 กูว่าหวังผลแบบนั้นอยู่แหงๆ 55555555555

655 Nameless Fanboi Posted ID:EW321manLN

>>649 อร๊ายยยย ยูกิโนะคุงของโลกนี้ดูใสจริงอะไรจริงว่ะ สงสัยถ่ายโอนความดำมืดในใจให้พี่ชายไปหมดแล้ว ถถถถถ

656 Nameless Fanboi Posted ID:3OmUc0/bDY

>>655 ยูกิโนะโลกคิมิดอลก็ไร้เดียงสาออกมึง

657 Nameless Fanboi Posted ID:EW321manLN

>>656 ถ้าเป็นโลกคิมิดอลในการ์ตูนที่ท่านเรย์กะอ่านนี่ยูกิโนะไม่มีตัวตนเลยนะมึง พอๆ กับท่านพี่อ่ะ แต่ถ้าเอาในฟิคก็ตามนั้นแหละ กูเริ่มแยกไม่ออกล่ะอันไหนกาวอันไหนของจริง

658 Nameless Fanboi Posted ID:HRsZnOE+q9

จอมมารมาทำไม. เจ้าแม่อย่าใจอ่อนนะ

659 Nameless Fanboi Posted ID:qTLXi/UvKy

A&A - 13.

เอ็นโจบอกฉันว่ายูกิโนะไม่สบายเลยฝากให้เขามาบอกว่าจะมาหาฉันไม่ได้ ฉันรีบถามอาการของยูกิโนะคุง เอ็นโจบอกว่าน้องชายของเขาไม่ค่อยชินกับการเข้าร่วมงานเลี้ยง จึงไม่สบายและต้องพักรักษาตัว

ฉันรู้สึกเป็นกังวล และเสียใจที่เขามาเยี่ยมฉันไม่ได้อีก ฉันจึงบอกเอ็นโจว่าก่อนที่เขาจะกลับไปยังดินแดนของเขา ช่วยแวะมาหาฉันอีกครั้งได้ไหม ฉันมีของที่จะฝากเขาไปให้น้องชายของเขา

เขามีท่าทางประหลาดใจ แต่ก็รับปากฉัน

“ได้ยินว่ายูกิโนะมอบที่ประดับผมให้คุณ”

ฉันตอบรับไป เขาเลยถามฉันว่าถูกใจไหม ฉันตอบเขาว่าฉันรู้สึกดีใจมากที่ได้รับของขวัญ แต่การติดเครื่องประดับที่ดูน่ารักแบบนั้นตอนใส่ชุดผู้ชายดูไม่เข้ากันเลยแม้แต่น้อย ฉันเลยเก็บมันไว้ที่หัวเตียง

“ผมไม่เคยนึกเลยว่าจะมีวันได้เห็นคุณในชุดแบบนี้ ปกติแล้วคุณชอบเครื่องประดับกับชุดหรูหราที่สุด”

เอ็นโจบอก ฉันไม่รู้จะตอบเขายังไงดี อันที่จริงฉันก็ชอบชุดสวย ๆ เครื่องประดับหรู ๆ แต่ในโลกที่ชุดสำหรับผู้หญิงใส่ยากขนาดนี้ คอร์เซ็ตก็รัดจนหายใจไม่ออก ซ้ำฉันยังต้องทำงานบ้านทุกอย่าง พ่วงทำสวนเข้าไปด้วย การใส่ชุดผู้หญิงเลยไม่สะดวกเลยแม้แต่น้อย และเมื่อทรัพยากรมีอย่างจำกัด ฉันเลยแปรสภาพชุดกระโปรงที่ได้รับมาไปใช้เป็นผ้าขี้ริ้วบ้าง ทำผ้าอนามัยบ้าง ทำกระดาษทิชชู่บ้าง สุดท้ายแล้วเสื้อผ้าผู้หญิงที่มีทั้งหมดเลยไม่เหลืออีก

“มีชุดอยู่แค่ไหนฉันก็ใส่แค่นั้นแหล่ะค่ะ ท่านเอ็นโจ ก่อนกลับอย่าลืมแวะมานะคะ” ฉันพูดตัดบท รู้สึกเหมือนไม่มีอารมณ์สนทนาต่อไปอีก

สองวันที่ไม่มีแขกมาเยือน ฉันเขียนนิทานมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ลงในกระดาษ แทบไม่ได้ทำอะไรนอกจากกิน นอน เขียนนิทาน พอเอ็นโจแวะมาอีกครั้ง ฉันก็เขียนนิทานได้ยี่สิบกว่าเรื่อง ใช้กระดาษไปจนเกือบหมด ฉันส่งม้วนกระดาษให้เขา

เขารับมันไปดู เลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ เอ็นโจขอบคุณฉันแล้วจากไปในที่สุด

.....

660 Nameless Fanboi Posted ID:EW321manLN

>>659 ท่านเรย์กะฟิคนี้แม่งโคตรลงทุน ไม่มีตังค์ซื้อหนังสือก็ลงทุนเขียนเองเลยว้อย ถ้านางวาดภาพเก่งคงกัดนิ้วเอาเลือดวาดแสดงความจริงใจแล้วมั้ง

661 Nameless Fanboi Posted ID:hoiGQwUAr.

ยูกิโนะคุงโครตสดใส ฮีลใจชั้นเกลือเกิ้นนน

662 Nameless Fanboi Posted ID:WUx3EsXgb4

>>659 ขาดอีกนิด ขาดฝนตกปรอยๆกับร่ม

663 Nameless Fanboi Posted ID:C5+AB59od+

โอ๊ย ท่านเรย์กะฟิคนี้น่าสงสารแต่ก็น่าชื่นชมชิบหาย ขอให้เจอเจ้าชายดีๆนะท่านนน กูจะก้าวขาลงเรือยูกิโนะละ ฮีลดีเหลือเกินนน

664 Nameless Fanboi Posted ID:cP3DkQ+J0b

A&A - 14.

หลังจากที่อากาศเย็นขึ้น ฉันก็ขอเสื้อหนาวและฟืนจากคุณเมดเพิ่ม แต่คนที่ขนมาให้ฉันกลับเป็นคันตะคุง ไม่ใช่คุณเมด

เมื่อเห็นฉัน เขาก็มีท่าทางประหลาดใจ

“แต่งตัวอะไร น่าเกลียดชะมัด เป็นผู้หญิงทำไมแต่งชุดผู้ชาย”

พอฉันบอกเขาว่าถ้าให้ฉันแต่งชุดผู้หญิงเอง คงจะใส่ได้แค่ชุดชั้นในแบบที่เขาเห็นในวันแรก เขาก็หุบปากเงียบ ฉันขอบคุณคันตะคุงสำหรับฟืนที่เขาขนมาให้ นอกจากนั้นยังมีเสื้อกันหนาว ขนมปังกับชีสและแยมอีกจำนวนมาก

ฉันชวนเขาเข้ามานั่งเล่น คันตะคุงที่ขนฟืนมาจนเหงื่อออกท่ามกลางฤดูใบไม้ร่วงตกลงนั่งพักซักครู่ ฉันอาสาปิ้งขนมปังให้เขากิน พอยกไปให้ เขาก็บ่นว่าฉันปิ้งไหม้เกินไป

“เธอกินขนมปังใหม้ ๆ แบบนี้ทุกวันเลยงั้นเรอะ” เขาถาม ทำหน้าสยดสยอง

ฉันปฏิเสธไป อันที่จริงเพราะฉันรีบไปหน่อย ก็เลยหนีบขนมปังแล้วจ่อไฟเพื่อให้มันร้อนเร็ว ๆ แต่ผลปรากฏว่าจ่อไฟนานไปหน่อย ด้านนอกเลยไหม้

“ไม่ใช่ซักหน่อยค่ะ ปกติมันไม่ได้ไหม้ขนาดนี้...” ฉันแก้ตัว

เขามองฉันอย่างระอา “ฉันลืมไปว่าเธอเป็นลูกขุนนาง ไม่เคยต้องเข้าครัวทำอาหารเอง” เขามองครัวของฉัน มองฉัน แล้วบอกว่าคราวหน้าเขาจะเอาเนื้อรมควันมาให้

ฉันที่ไม่ได้กินเนื้อสัตว์มานานได้ยินแล้วก็น้ำลายไหล ฉันมองคันตะคุงที่หั่นขนมปังออกเป็นแผ่นบาง ๆ แล้วปิ้งบนตะแกรงอย่างใจเย็น พอเกรียมนิด ๆ แล้วจึงค่อยปาดเนยแล้วไปย่างต่ออีกนิด

แม้แต่ย่างขนมปัง คันตะคุงกับฉันทำแล้วยังออกมาต่างกัน ฉันมองขนมปังชิ้นนั้นแล้วกลืนน้ำลาย เขาส่งต่อให้ฉัน ก่อนจะย่างเพิ่ม ในที่สุดขนมปังในถาดก็เรียงพูน ส่งกลิ่นหอมหวาน พวกเราออกมานั่งที่สวนแล้วกินขนมปังกับชาเปปเปอร์มินท์

“รสประหลาด” คันตะคุงบอก แต่ก็ดื่มชาลงไป

พวกเรานั่งอยู่ตรงนั้นกันพักใหญ่ จนกระทั่งฉันถามเรื่องที่อยากรู้มานาน

“บ้านคิโชวอิน...เป็นยังไงบ้างคะ?”

คันตะคุงนิ่งไป เขามองหน้าฉัน ก่อนจะตอบออกมาเหมือนไม่เต็มใจตอบ

“ก็ดี พี่ของเธอ เขาได้รับสืบทอดตำแหน่งดยุกจากพ่อของเธอแล้ว”

ฉันฟังแล้วรู้สึกตกใจ แม้ว่าบ้านคิโชวอินจะไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่การที่ฉันก่อปัญหา แล้วบ้านคิโชวอินยังสามารถดำรงตำแหน่งดยุกได้ดังเดิม ซ้ำท่านพี่ยังสามารถรับตำแหน่งนั้นได้ด้วยทำให้ฉันประหลาดใจอย่างมาก แม้ว่าฉันจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับโลกนี้เลย แต่ก็พอรู้เรื่องเกี่ยวกับขั้วอำนาจและการเมืองเพราะใช้ชีวิตในฐานะคิโชวอินนานหลายปี ถ้าบ้านคิโชวอินไม่ได้มีฐานอำนาจมาก ก็ต้องสนิทกับราชวงศ์มากจนกระทั่งคาบุรากิไม่ถือโทษแม้ว่าฉันจะทำเรื่องเลวร้ายลงไป

ไม่ว่ายังไงก็แล้วแต่ ข่าวจากคันตะคุงเป็นข้อสรุปที่บ่งบอกว่าคิโชวอินตัดหางปล่อยวัดเรย์กะแล้ว การที่พวกเขาไม่พยายามช่วยเรย์กะน่าจะทำให้คาบุรากิพอใจ ฉันได้ฟังแบบนั้นก็รู้สึกทั้งเศร้าที่ไม่เหลือใครอีก ทั้งดีใจที่บ้านคิโชวอินไม่ได้ตกต่ำเหมือนการ์ตูนคิมิดอล

ฉันมองขนมปังกองพะเนินข้างหน้าแล้วไม่รู้สึกหิวอีกต่อไป คันตะเองก็เงียบไปเช่นกัน

“เธออยากเขียนจดหมายหาครอบครัวของเธอรึเปล่า?” คันตะคุงบอกขึ้นมาในที่สุด ฉันเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว

“ทำได้ด้วยเหรอคะ?”

ฉันถาม รู้สึกหัวใจเต้นแรงอีกครั้ง

“ก็ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้หรอกนะ ถ้าเธออยากเขียน ฉันจะเอาไปส่งให้เอง”

ฉันพยักหน้าแล้วบอกว่าฉันจะเขียนจดหมายให้พวกเขา และขอให้พรุ่งนี้เขามาอีกครั้ง

.....

665 Nameless Fanboi Posted ID:EW321manLN

>>664 โอ๊ยยยย คันตะคุง น้องมีความบ่นไปทำไปเอาขนมปังอุดปากโคโรเน่ไปเรื่อยๆ ตามท้องเรื่องเดิมไม่มีผิด
อ่านแล้วหวั่นใจกับตอนหน้าจัง ท่านพี่อย่าทำร้ายน้องเลยนะคะ

666 Nameless Fanboi Posted ID:uhUQBCppNB

ถึงโม่งฟิคA&A กูชอบฟิคมึงมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ฮือออ ถูกจริตกูเหลือเกินนน ใจน้องนี่ไม่ไหวแล้ว อยากจะกราบมึงหลายๆทีละเกิน ฮอลลลลล

667 Nameless Fanboi Posted ID:HRsZnOE+q9

แท้งกิ้วโม่งฟิก กุอยากรู้ว่าเรย์กะในฟิกทำอะไรถึงโดนขัง. แต่ครอบครัวไม่เป็นไรเลยวะ

668 Nameless Fanboi Posted ID:3OmUc0/bDY

>>667 กูว่าเรย์กะในฟิคก็คงรังควานวาคาบะกับคาบุเหมือนเดิมนั่นแหละ แต่โลกนี้ท่านพี่อาจจะให้ความสำคัญกับตระกูลมากกว่าคิมิดอล ฉลาดๆอย่างท่านพี่น่าจะหาทางออกให้คิโชวอินได้อยู่ละล่ะ

669 Nameless Fanboi Posted ID:BHGYt6FqGx

>>664 โอ๊ยยย ความซึนๆ บ่นแต่ก็ทำให้ของคันตะ ไม่ว่าในต้นฉบับหรือฟิคก็กร๊าวใจเจ้เหลือเกินนนน

670 Nameless Fanboi Posted ID:d+EqWqh/HT

กูสงสัยอย่างนึง คันตะคุงในโลกนี้อายุใกล้เคียงกับท่านเรย์กะเหรอวะ?? กูอ่านไปในหัวนี่จินตนาการภาพชายหนุ่มในชุดยุคกลางเลย แล้วเรียกท่านเรย์กะว่าเธอด้วย หรือกูก็มโนเพ้อเจ้อไปเอง

671 Nameless Fanboi Posted ID:y9dFyP6zpK

A&A - 15.

ฉันนั่งลงบนโต๊ะหนังสือ บนโต๊ะมีกระดาษที่ดีที่สุดเท่าที่จะหาได้ ปากกาขนนกที่หมึกในขวดเริ่มแข็งเป็นก้อน และเทียนให้แสงสว่าง

ฉันตั้งใจจะเขียนจดหมายสองฉบับ ฉบับแรกให้ท่านพ่อกับท่านแม่ อีกฉบับให้ท่านพี่

‘เรียนท่านพ่อและท่านแม่ที่เคารพรัก

หวังว่าตอนที่จดหมายฉบับนี้จะไปถึง ท่านพ่อกับท่านแม่จะมีสุขภาพแข็งแรงดี หนูอยู่ที่นี่สบายดี ไม่ได้ลำบากอะไร ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ

ขอโทษด้วยที่ทำให้ลำบาก หนูคงไม่สามารถขอโทษและชดใช้กับเรื่องที่ก่อลงไปได้อย่างสาสมกับที่ต้องทำให้ทุกคนเดือดร้อน หวังแต่เพียงว่าท่านพ่อกับท่านแม่จะไม่ลำบากมากนัก

ด้วยความเคารพ

เรย์กะ’

ฉันมองจดหมายที่แสนสั้นเพราะไม่รู้ว่าจะเขียนอะไร ก่อนจะคิดว่าฉบับของท่านพี่น่าจะยาวขึ้นกว่านี้

‘สวัสดีท่านพี่ที่รัก

เรย์กะเองนะคะ ตอนนี้อากาศกำลังหนาว หวังว่าท่านพี่จะรักษาสุขภาพ ไม่เจ็บป่วยไปซะก่อน น้องอยู่ที่นี่สุขสบายดี ไม่ได้ลำบากอะไร ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ

บ้านหลังที่น้องอยู่ หลังจากที่ทำความสะอาดแล้วก็อยู่ได้สบายมาก ในห้องนอนมีเตียงแล้วก็โต๊ะหนังสือด้วย ถึงเตียงจะแข็งไปหน่อย แต่ก็ทำให้ตื่นได้อย่างรวดเร็วในตอนเช้า ตอนนี้น้องชินแล้ว อันที่จริงเตียงแข็ง ๆ แบบนี้ก็ดีต่อหลังเหมือนกันนะคะ ส่วนโต๊ะหนังสือก็แข็งแรงดี โชคดีที่คันตะคุงส่งเทียนมาให้น้องเป็นจำนวนมาก ทำให้น้องสามารถอ่านหนังสือและเขียนหนังสือได้อย่างสบายบนโต๊ะตัวนี้

เรื่องอาหารการกินค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ทีเดียวค่ะ น้องไม่เคยต้องอดเลยแม้แต่มื้อเดียว ถือว่าเป็นความกรุณาสูงสุดที่ราชวงศ์ประทานมาให้แล้ว ในช่วงที่สตรอว์เบอร์รี่สุก น้องยังได้กินสตรอว์เบอร์รี่จำนวนมากด้วย รสชาติเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ ของมันสดชื่นดีมากเลยค่ะ ความจริงน้องอยากจะตากสตรอว์เบอร์รี่เก็บไว้ทำชา แต่เสียดายที่ไม่ค่อยมีแดดเท่าไหร่ พอตากไว้ก็ราขึ้น น่าเสียดายจริง ๆ ค่ะ

ในสวนของน้องปลูกพืชหลายชนิดเลยทีเดียว เสียดายที่ส่วนมากจะขึ้นเป็นวัชพืชมากกว่าต้นไม้ที่น้องอยากปลูก คันตะคุงบอกว่าต้นไม้บางอย่างชอบน้ำ บางอย่างไม่ชอบ น้องดันปลูกรวมกัน มันเลยขึ้นบ้างไม่ขึ้นบ้าง สงสัยว่าน้องจะต้องเรียนรู้การปลูกพืชให้มากกว่านี้แล้วค่ะ

ได้ยินว่าท่านพี่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นดยุก น้องขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ น้องเสียดายที่ไม่ได้ไปเข้าร่วมงานแสดงความยินดี ได้แต่ส่งหัวใจไปให้กับท่านพี่ อวยพรให้ท่านพี่ก้าวหน้าในการงาน

สุดท้ายนี้น้องขอโทษด้วยที่ทำเรื่องเดือดร้อนให้กับครอบครัวของเรา น้องหวังว่าท่านพี่จะโกรธน้องไม่นาน และถ้าหากว่าท่านพี่มีเวลา อย่าลืมเขียนจดหมายมานะคะ น้องจะรอจดหมายของท่านพี่

ด้วยรักและห่วงใย

เรย์กะ

.....

672 Nameless Fanboi Posted ID:5lgaflC.s+

อย่าใจร้ายกับท่านเรย์กะเลย / จดหมายท่านพี่ยาวยืดกว่าท่านพ่อท่านแม่ 55

673 Nameless Fanboi Posted ID:C5+AB59od+

โอ๊ย กุมใจแบบ หวังว่าท่านพี่โลกนี้พอได้จดหมายจะใจดีนะ กูกลัวว่าท่านพี่จะหาว่าน้องตอแหลด้วยความไม่ชอบน้องอยู่แล้วนี่สิ

674 Nameless Fanboi Posted ID:BHGYt6FqGx

>>670 คันตะในต้นฉบับก็เรียกเจ้าแม่ว่าเธอปะ โม่งฟิคอาจจะอยากรักษาคาร์แรกเตอร์

675 Nameless Fanboi Posted ID:J3e0mpZtdl

>>673 ท่านพี่น่าจะสงสัยมากกว่าว่านี่เรย์กะตัวจริงหรือใครแอบอ้าง

676 Nameless Fanboi Posted ID:aF3UtQmoH2

A&A - 16.

หลังจากที่คันตะคุงไปส่งจดหมาย เขาก็หายไปและส่งคุณเมดคนเดิมมาแทน

ฤดูหนาวกำลังจะใกล้เข้ามาแล้ว ฉันมองพืชในสวนที่แห้งเหี่ยว ในตอนนี้ที่นั่งด้านหน้าหนาวเกินกว่าที่จะออกไปนั่งอีกแล้ว ฉันเลยได้แต่อุดอู้อยู่ในบ้าน

คุณเมดบอกว่าหลังจากนี้หิมะจะตก เธอจึงขนเสบียงจำนวนมากมาให้ฉัน แบบที่สามารถกินไปได้อีกทั้งฤดูหนาว เผื่อว่าหิมะตกแล้วการสัญจรถูกตัดขาด นอกจากนี้ยังขนฟืนมาให้อีกจำนวนหนึ่ง บอกว่าจะขนมาให้อีกเรื่อย ๆ

ทว่าหิมะกลับตกลงมาซะก่อน

ฉันมองกองฟืนแล้วรู้สึกเป็นกังวล ฟืนจำนวนแค่นี้ใช้ไม่ถึงสองสัปดาห์ก็หมดแล้ว ฉันหวังว่าทางจะไม่แย่นักและคุณเมดจะขนฟืนมาให้ฉันได้อีก

แต่หิมะกลับตกไม่หยุด คุณเมดไม่ได้ปรากฏตัวอยู่ที่หน้าประตูรั้วของฉัน แม้แต่ยามเฝ้าด้านหน้าก็หายไปด้วย

ฉันนั่งตัวสั่นอยู่หน้าเตาผิง พยายามใช้ฟืนเท่าที่จำเป็นเพื่อประหยัดฟืนให้ใช้ได้ยาวนานที่สุด อากาศเลวร้ายลงจนกระทั่งผิวบนร่างแทบไม่รู้สึกอะไรในขณะที่ความหนาวเสียดแทงในกระดูก ฉันขดตัวเข้าใกล้กองไฟ ผ้าในบ้านมีกี่ผืนก็ห่มบนร่างจนหมดสิ้น แต่ฉันมีข้าวของไม่เยอะมาก นอกจากชุดผ้าฝ้ายบาง ๆ สองชุดที่ใส่สลับกัน ก็มีเสื้อหนาว และผ้าห่มที่ทำจากกระโปรงกำมะหยี่

ฉันนอนขดจนกระทั่งหลับไป และตื่นขึ้นมาอีกทีเพราะทนหนาวไม่ไหว พอตื่นขึ้นมาปุ๊บ ฉันก็ไอโขลก ๆ อย่างแรง

ลำคอที่ปวดบวมทำให้ฉันกังวลว่าตัวเองจะเป็นหวัด เลยดื่มชาสมุนไพรลงไปเป็นจำนวนมาก หิมะยังคงตกลงมาไม่หยุด และในบ่ายวันนั้น ฉันก็ไข้ขึ้น

ในโลกก่อน ฉันไม่ค่อยได้ป่วยจริงจัง และถึงจะป่วย แค่ไข้ขึ้นนิด ๆ ไอหน่อย ๆ ท่านแม่ก็รีบพาฉันไปหาหมอแล้ว ในตอนนี้ฉันไม่หวังว่าตัวเองจะได้เจอหมอ ขอแค่แอสไพรินเม็ดเดียวก็พอ หรืออย่างน้อยก็ให้ห้องอุ่นขึ้นกว่านี้

ฉันลากสังขารตัวเองขึ้นมาจุดไฟ แล้วพยายามกลืนขนมปังแข็ง ๆ ที่บาดคอกับชีสลงไปให้มากที่สุด ฉันรู้ดีว่าตัวเองจะต้องสะสมพลังงานเพื่อไว้ใช้ต่อสู้กับความหนาว แต่ร่างกายที่กำลังป่วยไม่อยากกลืนอะไรลงไปแม้แต่อย่างเดียว

ฉันคิดถึงซุปร้อน ๆ เลยเอาขนมปังกับชีสลงไปต้ม รสชาติของมันไม่ดีอย่างที่คิดไว้ แต่ก็ไม่เลวนัก ขนมปังนิ่มลง ชีสก็น่าขยะแขยงน้อยลง กินจนกลืนไม่ลง ฉันก็คลานกลับไปยังห้องโถงด้านหน้าเพื่ออังไฟ

ฉันตื่นขึ้นมาอีกครั้งด้วยความรู้สึกว่าฉันกำลังป่วยอย่างหนัก ไอจนปอดแทบหลุด หัวของฉันร้อนเป็นไฟ แต่ร่างกายหนาวจนเหมือนเนื้อจะหลุดจากกระดูก ฉันปวดหัวจนร้องไห้ออกมา นั่นยิ่งทำให้แย่เข้าไปใหญ่เพราะนอกจากจะปวดหัวแล้วยังหายใจไม่ออก

ฉันหลับตาอีกครั้ง สติเลื่อนลอยจนคิดสงสัยว่าท่านพี่จะกลับบ้านมาเมื่อไหร่ ฉันอยากจะให้ท่านพี่ลูบหัวแล้วบอกฉันว่าแค่กินยาพักผ่อนตามที่หมอบอก อีกไม่นานฉันจะดีขึ้น อยากให้ท่านแม่และท่านพ่อร้อนใจ เรียกหมอให้มาดูอาการฉันอีกครั้ง แต่แล้วเสียงไม้ถูกไฟเผาแตกเปรี๊ยะก็ปลุกฉันจากความฝันนั้น

ในโลกนี้ ฉันไม่ใช่คิโชวอิน เรย์กะอีกแล้ว แต่เป็นแค่เรย์กะ นักโทษที่ถูกจองจำเท่านั้น

.....

677 Nameless Fanboi Posted ID:C5+AB59od+

>>676 ท่านเรย์กะ ท่านเรย์กะะะะะ กูกรีดร้องแทน หมอคะ หมออออออ

678 Nameless Fanboi Posted ID:282ncw3M16

ท่านพี่ของน้องงงงงงงงงงงงงงงงง ท่านพี่โปรดมาดูท่านเรย์กะที

679 Nameless Fanboi Posted ID:oeAEoIm1xO

>>676 กรี๊ดดดดดด ใครก็ได้รีบมาเร๊วววววววว ฮือออออออออ

680 Nameless Fanboi Posted ID:S1iS8BUEXE

>>676 กรี๊ดดดด!! ท่านเรย์ก้าาา ทำไมชีวิตทรหดเยี่ยงนี้ ใครมาช่วยท่านเรย์กะ กูยอมลงเรือคนนั้นแล้วยกย่องให้ขึ้นแท่นพระเอกต่อจากคานซังเลย เอ้า!!

681 Nameless Fanboi Posted ID:bia7Tiiwz+

>>680 ปรากฎว่าเป็นดิเทมาสีไวโอลีนรบกวนการนอนอยู่ข้างๆบ้าน เจ้าแม่เลยหงุดหงิดลากสังขารไปด่า กลายเป็นหายป่วยไปซะงั้น//เผ่นจ้า

682 Nameless Fanboi Posted ID:S1iS8BUEXE

>>681 พีคไปไหมวะ5555555 โอ้ย...น้ำตาจิไหล คิดภาพดิเทสีไวโอลินแล้วแบบ... ชิบผาย มันใช่เวลาไหม 55555

683 Nameless Fanboi Posted ID:oeAEoIm1xO

>>681 เชี่ย กูเผลอจินตนาการแล้วแม่งอารมณ์ดราม่ากูหายหมด 555

684 Nameless Fanboi Posted ID:axmOEkejcx

A&A - 17.

ฉันตื่นขึ้นมาอีกครั้งในสถานที่ที่ไม่รู้จัก

คอของฉันบวมอักเสบจนแค่กลืนน้ำลายยังเจ็บ ตาพร่าเบลอ ฉันพยายามมองไปรอบ ๆ สงสัยว่าที่นี่เป็นที่ไหนกันแน่

เสียงของคนคุยกันดังมาเข้าหู แต่กลับไม่เห็นใคร ข้าง ๆ ฉันมีคนอื่นที่นอนหลับอยู่บนเตียงที่เรียงต่อกันเป็นแถบ ฉันมองไปรอบ ๆ อีกครั้ง มองโถที่เรียงรายอยู่บนชั้น ฟังเสียงไอโขลก ๆ ของคนอื่น แล้วก็ประมวลผลว่าที่นี่คือห้องพยาบาล

เสียงพูดคุยหยุดลง ตามมาด้วยเสียงฝีเท้า และร่างในชุดเกราะเงินก็โผล่พ้นมุมห้องออกมา

นายตัวสำรองมองมาที่ฉันอย่างแปลกใจ ก่อนจะเดินเข้ามาหาฉัน ฉันจะเอ่ยทักทายเขา ถามเขาว่าฉันมาที่นี่ได้ยังไง แต่เสียงกลับไม่ออกมาแม้แต่น้อย

“เป็นยังไงบ้าง?” มิซึซากิถาม ฉันพยายามจะตอบ ทว่าส่งได้แต่เสียงครืด ๆ เครือ ๆ เขาเลยบอกให้ฉันพักผ่อน

ฉันนอนลง คิดอยากจะถามเขาว่าใครเป็นคนพาฉันมาที่นี่ แต่ก็หลับไปก่อน

ฉันหลับ ๆ ตื่น ๆ ในห้องพยาบาลของพวกคุณเมดอยู่นานหลายคืน เพราะฤดูนี้อากาศหนาวรุนแรง คนที่เข้ารับการรักษาจึงมีมากกว่าปกติ บางเตียงถึงขนาดต้องนอนเบียดกันสองคน แต่ฉันกลับครอบครองเตียงไว้คนเดียว

เมื่อฉันรู้สึกดีขึ้นจนสามารถถามนายตัวสำรองที่มาเยี่ยมด้วยเสียงแหบ ๆ ได้ เขาก็เล่าให้ฟังว่าไปเจอคนที่เข้าเวรเฝ้าฉันนั่งดื่มเหล้าอยู่แถวหน้าประตูวัง เลยลงโทษทางวินัยกับนายทหารคนนั้น เพราะได้ยินว่าคุณเมดของคันตะคุงฝากให้เขาเอาฟืนมาให้ฉัน แต่ถ้าเขาไม่ได้มาเฝ้า ฟืนก็มาไม่ถึง มิซึซากิเลยมาดูฉัน พอเรียกอยู่นานไม่มีใครตอบ ก็ถือวิสาสะเข้ามาในบ้านและเจอฉันป่วยหนัก

ฉันขอบคุณเขา รู้สึกซาบซึ้งที่เขาห่วงใยฉันถึงขนาดนี้ เขาถอนหายใจ แล้วบอกว่าเขาอบรมวินัยทหารย่อหย่อน ฉันเลยต้องรับเคราะห์ไปด้วย

ฉันบอกเขาว่าไม่เป็นไร ฉันดีขึ้นแล้วและอยากออกจากห้องพยาบาลเพราะสงสารคุณเมดที่ต้องนอนเบียดกันถึงเตียงละสามคนแล้วในตอนนี้ ถ้าฉันออกไป ห้องพยาบาลน่าจะว่างขึ้น

เขาบอกฉันว่าฉันยังไม่หายดี ถ้ากลับไปตอนนี้จะต้องป่วยอีกแน่ เขารู้ดีกว่าห้องพยาบาลแน่น และจะหาทางช่วยฉัน

ในคืนนั้น มิซึซากิมาเยี่ยมฉันอีกครั้ง พร้อมกับแจ้งข่าวว่าฉันได้รับอนุญาตให้ย้ายไปอยู่ในห้องพักสำหรับแขกขุนนาง เพื่อที่ฉันจะได้ไม่กินพื้นที่ในห้องพยาบาล และมีหมอที่คอยดูแลขุนนางมาตรวจรักษา

.....

685 Nameless Fanboi Posted ID:5nyV4ukZm4

>>684 ท่านพี่ไม่ขี่ม้าขาวมาหาเรย์กะว่ะ ฮรึก ตะเตือนไต T^T

686 Nameless Fanboi Posted ID:sojV0zyTEd

>>685 กูว่าครอบครัวนางโลกนี้หมดหวังว่ะ
ดีไม่ดีท่านพี่เป็นบอสใหญ่ด้วย
แบบต้องการจะยึดอำนาจจากพ่อเพราะพ่อตัวเองบริหารไม่ดีงี้ นางสาวตัวเองแย่
หรือกูอาจคิดมากไปเองก็ได้

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.