อยากลองเขียนนิยาย ราชาปกครองประเทศเป็นแกนหลัก ดูบ้าง มีนิยายแนวๆ นี่แนะนำมะ จะดูเป็นตัวอย่างหน่อย
ปล. เอาประวัติศาสตร์มา mock up ได้ปะวะ
>>808 เน้นการเมืองการปกครองลองอ่านไตรภาคสุยถังดู นิยายไทยไม่ค่อยมีหรอก แทรปเกิดใหม่กูไม่ได้อ่าน แต่น่าจะพอไหว
เอาจริงเรื่องการปกครองมันยากนะ เขียนให้สนุกนี่ยากยิ่งกว่า หาหนังสือปวศ.อ่านง่ายกว่าเยอะ ถ้าอยากได้มุมมองด้านตัวบุคคลและนโยบายเชิงเปรียบเทียบ กูแนะนำหนังสือของมติชนเรื่อง ราชสำนักจีนหันซ้าย โลกหันขวา สนุกสุดๆ
โหลๆ คือกูกำลังหาเว็บอธิบายรายละเอียดของชุดผู้ชายอะ คือมันจะเป็นแบบอธิบาย ว่าชุดนั้นชุดนี้เรียกว่าอะไร ที่กูกำลังหามันเป็นชุดแนวแฟนตาซีหน่อยๆ ด้วย มียศ มีอะไรประดับแบบหรูๆ หน่อย ทีนี้กูควรจะหายังไงดี ไม่รู้จะเสิร์ซว่ายังไง โม่งช่วยแนะนำหน่อยนะ อยากได้จริงๆ กูค่อนข้างโง่เรื่องแฟชั่น
ราชปะแตน มาจาก ราช แพตเทิร์น... Raj Pattern
ไปรเวท... มาจาก ไพรเวต... Private
-ยุคกลาง ออกแนวแฟนตาซี มีความทันสมัยหน่อยก็ได้ พวกชุดของผู้ชาย เกราะอัศวิน ชุดเครื่องแบบประดับยศ
-ชาติก็ ยุโรป-อังกฤษ ประมาณนี้แหละ
ไม่รู้จะหารูปจากไหน จากเกมละกัน ก็น่าจะประมาณนี้ https://pin.it/6hhpylpjwbmijh
https://pin.it/j4g7vz6xullpsa
พูดถึงแล้วก็แอบติดปัญหาเรื่องนี้หน่อยๆ เหมือนกัน
นิยายที่กูแต่งมันเป็นแฟนตาซีแต่อิงเซ็ตติ้งวัฒนธรรมให้คล้ายกับประเทศที่มีในโลก (ตัวอย่างเช่นแทนที่ประเทศอังกฤษว่าอาณาจักรA) ทีนี้มันมีตัวละครที่แต่งตัวด้วยชุดประจำถิ่นอย่างยูคาตะหรือชุดมิโกะอยู่ แต่เพราะโลกในเรื่องมันไม่มีประเทศญี่ปุ่นอยู่ก็เลยไม่รู้ว่าควรจะเขียนยังไงดี จะบรรยายเลี่ยงๆ ก็อาจนึกภาพไม่ออกด้วย
>>820 ไม่ๆ กูหมายถึงการแต่งกายเด่ะ
คือในเรื่องที่กูเขียนมันมีประเทศญี่ปุ่นที่สมมติชื่ออยู่แล้ว แต่ด้วยการที่มันไม่ใช่ญี่ปุ่นแบบในโลกของเราจริงๆ ชื่อสิ่งของที่เป็นชื่อเฉพาะอย่างยูคาตะก็เลยต้องไม่มีด้วย และปัญหาที่ตามมาคือกูจะบรรยายลักษณะของยูคาตะยังไงให้คนรู้ว่าเป็นยูคาตะ โดยไม่ใช้คำว่ายูคาตะตรงๆ
เขียนมาแบบนี้กูก็นึกเพิ่มได้อีกอย่าง พวกหน่วยวัดสมัยใหม่ที่กำหนดโดยมนุษย์ (กรัม เมตร) ในโลกแฟนตาซีมันก็ไม่ควรมีนะ กูอ่านเรื่องนึงเจอโลกเวทมนตร์ใช้หน่วยไมล์วัดระยะทางแล้วรู้สึกแหม่งๆ ขึ้นมาทันที
>>821 บางทีมันพูดยากนะ ถ้าแฟนตาซีจริง ๆ หลา นิ้ว เอเคอร์ ก็ต้องห้าม แต่จะให้เรียนทั้งหมดใหม่เลยนี่ลำบากมาก เช่นถ้าจะแสดงให้คนอ่านเห็นว่าไกลเท่าไหร่ แล้วต้องใช้หน่วยใหม่นี่ลำบากคนอ่านอีก
เช่น มังกรกัลลิวัลล์หนัก 22 รานัต เดินทางได้ 250 นาลีต่อคาเด ดำน้ำลึกได้ 750 พาเซ คนอ่านคงแบบ แล้วกูจะรู้กับมึงไหม ต้องทำตารางเทียบให้ทั้งหมดเหรอ อีกอย่างเรื่องเวลาก็เหมือนกัน อันนี้รุนแรงกว่า ถ้าเป็นดาวคนละดาว วันต่อปี ฤดูกาล ชั่วโมงต่อวัน ไม่เท่ากับโลก ถ้าต้องอธิบายใหม่หมด ทุกหน่วยวัด กูว่าคนอ่านหนีอ่ะ คือบางอันก็เปลี่ยนได้ แต่ไม่ใช่ทั้งหมดว่ะ
ระยะทางหรือน้ำหนักกูใช้วิธีเปรียบเปรยแบบอื่นเอาอ่ะ อย่างพระเอกโดนตัวร้ายถีบจนกระเด็นไปหลายสิบก้าว ดาบที่มีความยาวใบมีดประมาณสองช่วงแขน
จริงๆ ถ้าพูดแบบนี้ การนิยามจำนวนตัวเลขในโลกแฟนตาซีมันก็ต้องเปลี่ยนใหม่หมดตั้งแต่การนับ 1-10 เลย แต่พอดีกว่าเดี๋ยวยาว
ถ้ามึงแต่งแฟนตาซียุโรปก็ใช้มาตรฐานยุโรปไปเลยก็ได้ แต่ถ้าต่างโลกแบบเพียวๆ แล้วอยากสร้างมาตรวัดใหม่ก็ไม่เป็นไร
>>821 กูไม่มีปัญหานะถ้าจะใช้คำพวกนั้น ประเด็นไม่น่าใช่เซตติเงแต่น่าจะเป็นยุคมากกว่า คือต่อให้เป็นแฟนตาซีมันก็ต้องมียุคสมัยของมัน ถูกมะ ถ้ามันเป็นแฟนตาซีที่ติดกลิ่นโบราณๆ ก็เลือกใช้คำที่เฉพาะกับยุคหน่อย แต่ถ้าเป็นแฟนตาซีโลกอนาคต กูก็ไม่ติดใจที่จะใช้คำที่มีอยู่แล้วนะ ในฐานะคนอ่าน กูรู้สึกว่าถ้ากูต้องมาจำคำเรียกใหม่หมด บางทีมันก็น่ารำคาญเหมือนกัน ยิ่งอีพวกมาเป็นตารางๆ คือกูโบกมือลาก่อนเลย ไม่ใช่ทุกคนที่อยากมานั่งท่องตารางคำศัพท์ใหม่ว่ะ
มันก็ไม่ต่างกับชื่อตำแหน่ง หรือลำดับชั้นหรอก กุว่า
เอางี้มั้ย หน่วยมาตราอะไรก็ตาม
100 เมล็ด = 1 โกโก้
100 โกโก้ = 1 ช็อคโกแล็ต
100 ช็อคโกแล็ต = 1 มอคค่า
4 มอคค่า = 1 ลาเต้
4 ลาเต้ = 1 คาปูชิโน่
4 คาปูชิโน่ = 1 อเมริกาโน่
4 อเมริกาโน่ = 1 เอสเพรซโซ่
ตำนานราสปูตินมีใครเอามาเขียนนิยายหรือยัง?
กุเพิ่งรู้ว่าหมวดบู๊แอคชั่นแม่งเงียบขนาดนี้ ลงไปไม่กี่ตอนขึ้นท็อป
เว็บเด็กดวกชอบตั้งหมวดใหม่ให้หมวดที่คนเขียนเยอะจนดันเเนวอื่นที่ใกล้เคียงตกหมดน่ะ
หมวดร้างมันก็ร้างจริงๆ นั่นล่ะ
ข้อดีอย่างนึงคือนิยายจมยาก ลงนิยายผ่านไป 2-3 วันยังคาอยู่หน้าแรกของหมวดอยู่เลย
วิวหลักพันเนี่ย ถ้านิยายไม่ห่วยจริงๆ และจำนวนตอนเยอะพอ เขียนยังไงมันก็น่าจะถึงมั้ง
ลงหมวดแฟตาซียังไงก็ถึงพัน
ยอดวิวนิยายที่กูเขียนจบไปแล้วนี่ 40k แต่ไม่รู้สึกเลยว่าประสบความสำเร็จว่ะ
เพราะคนแม่งอ่านกันแค่ 10 กว่าตอนแรก ยอดอ่านตอนละ 3000+ แต่พอมาตอนหลังๆ ยอดอ่านลดเหลือตอนละ 200-300 คนเอง
>>847 กูจบภาคแรกไปที่ 30k ก็รู้สึกไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่ (กูไม่ได้ลงหมวด ฟตซ. นะ) แต่ของกูก็พอขายอีบุ๊คได้นะ กูแบ่งเป็นสองเล่ม เดือนนึงรวมก็ 30+ เล่ม อาจไม่เยอะสำหรับคนที่เขาประสบความสำเร็จ แต่สำหรับกูมันคือรายได้เสริมที่โอเคและมีความสุข
ของกูเหมือนมึงอ่ะ ตอนแรกๆ 3-4 พัน+ ปัจจุบันภาคสอง เหลือ 200ต้น ๆ กว่าจะจบคงลดลงกว่านี้อีก แต่พอขายได้แบบนี้เรื่อยๆกูก็พอใจในระดับหนึ่ง
กูทำมือฝากในร้านขายการ์ตูนแถวบ้านขายได้สิบเล่มละ
ว่าไปก็อยากรู้ว่าบางคนเริ่มแต่งเรื่องแรกยอดวิวไม่ได้เยอะมาก แต่เสนอ สนพ ผ่านแล้วได้พิมพ์นี่ มันใช้วิธีเสนอยังไง
>>850 บางคนพอผ่านค่อยเอานิยายลงเน็ตเพื่อโปรโมต บางเรื่องเขียนจนจบแล้วส่งถูกจังหวะ สำนวนดีพลอตโอเคบก.ชอบก็ได้รับโอกาสแล้วเพื่อน นักเขียนบางคนถึงพูดไงว่ายอดวิวไม่ได้เป็นตัววัดว่าจะได้ตีพิมพ์เสมอไป แต่เรื่องขายออกรึไม่ออกขอละไว้ในฐานที่เข้าใจ เพราะบางเรื่องไม่เอาลงเน็ต ขายแค่ตัวเล่ม คนซื้อก็น้อยเพราะเขาไม่อยากลงทุนกับนักขียนใหม่แล้ว นิยายกากเยอะ ถ้ามีฐานมาก่อนนักอ่านที่เขาชอบเห็นชื่อก็จัดเลยก็มี
สำหรับกูเอาลงเน็ตเพราะอยากให้คนมาอ่านแล้วแสดงความคิดเห็น บางทีอาจได้ข้อเสนอแนะที่กูพลาดไปด้วย เหมือนหาเพื่อนคุยกลายๆ เขียนเงียบๆไม่เอาลงเน็ตเลยกูทำได้ แต่กูเหงา บิบิ
ebook ต้นทุนน้อยกว่าเล่มรึเปล่า
>>852 น้อยกว่าเล่มแน่นอน แค่ลงทุนจ้างวาดหน้าปกงามๆ อาจเสียค่าโปรโมตเพจในเฟซสักนิด ไม่ต้องเสียค่ากระดาษค่าพิมพ์ บลาๆ
>>853 ทำเถอะ โอกาสขาดทุนต่ำมาก ถ้ามีเรื่องที่เคยเขียนจบแล้วก็เอามารีไรต์แล้วทำซะ ไม่ยากเลย ส่วนตัวกูจ้างวาดปก ปกละ 2500 สองปกก็ 5000 ทีแรกกูก็เสียวๆ อยู่นะว่าจะไม่ได้ทุนคืน แต่คือแป๊บเดียว แป๊บเดียวจริงๆก็ได้แล้ว (กูไม่ใช่แนวกระแสนะ) แล้วเปิดเติมเหรียญตามเว็บไซต์ที่ลงด้วย รายได้เข้าหลายทาง ลงทุนครั้งเดียว กินได้เรื่อยๆ ควรลองทำนะ สู้ๆ
>>855 ใช่แล้ว แต่แนะนำนะ ถ้าฝีมือยังไม่ถึงขั้นจริงๆ อย่าวาดเองเลย ปกสวยปกดี มีโอกาสขายออกมากกว่า ยิ่งนิยายแฟนตาซีควรจ้างนะ กว่าจะขายได้มันต้องผ่านหลายชั้น
สมมตินักอ่านเห็นอีบุ๊คเราจาก meb
เริ่มจากประทับใจแรกพบ คือปกและชื่อเรื่อง แล้วเขาก็จะเลื่อนมาอ่านโปรย ถ้าโปรยเข้าท่าอ่ะโหลดตัวอย่าง เฮ้ยตัวอย่างดีงาม จะซื้อ โอ้พิจารณาราคา (บางคนอาจดูราคาตั้งแต่แรก) เห็นป่ะ ผ่านตั้งหลายชั้น ถ้าด่านแรก(ปก) ไม่เวิร์ค ต่อให้อย่างอื่นดี ก็ไม่มีประโยชน์
Test net ais
ถามหน่อย นิยายพระเอกเทพเเบบชนะโดยไม่มีอะไรต้องลุ้น เนี่ย มันสนุกตรงไหนอะ เห็นคนชอบเยอะ ส่วนตัวอ่านเเล้วบอกเลยว่าโคตรน่าเบื่อทุกเรื่องเลย
เพื่อนในเฟซกูที่ชอบแนวนี้ให้เหตุผลว่าเพราะมันไม่เครียดนั่นแหละ แบบเจออะไรในชีวิตจริงมาเหนื่อยๆ จะมานั่งอ่านอะไรซีเรียสหรือหดหู่อีกก็ใช่ที่
แต่ถ้าถามกู กูก็ไม่ชอบหรอกนะ
ถ้าเป็นพวกเมพเเบบทุกอย่างเป็นไปตามเเผนนี่ชอบนะ เเต่เทพเเบบเอาพลังเทพเข้าว่านี่รับไม่ได้อะ ไปอ่านเรื่องนึงในนมสวยมา เชี้ยมพวกเเม่งเสกสกิลเองได้ เละเทะฉิบหาย
ประเด็นนี้ นึกถึงนักดาบแกรี่คนแรกเลย คนเขียนช่วยเยอะเกิน
Ky กูถามไรหน่อย
พวกมึงเคยเข้าไปคอมเม้นแซะนักเขียนที่ชอบกันมั๊ยวะ
คือกูมีนักเขียนที่ตามอ่านมาตั้งแต่สมัยม.ต้นจนตอนนี้จะจบมหาลัยแล้วคนนึง
ชาตินึงจะอัพที อัพทีกูน้ำตาแทบไหล มาแบบผลุบๆ โผล่ๆ นักอ่านคนอื่นเม้นขอร้องอ้อนวอนดีๆไม่ตอบ
กูเลยเข้าไปคอมเม้นแซะ แซะให้นักเขียนกระเตื้องActiveขึ้นหน่อย ปรากฎว่ามีปฏิกิริยากับเม้นกูเฉย
แซะแบบnegative อ่ะ แซะเสร็จอัพเลย พวกมึงว่ากูควรแซะต่อไปมั๊ยหรือกลับไปเป็นนักอ่านน่ารักเด็กน้อยดี
แซะมากๆ ก็กลัวนักเขียนนอยด์หายไปเป็นชาติอีก
หมวดสืบสวนมีไรน่าอ่านบ้างอะ แนะนำหน่อย
ใครสับนิยายกูที่ไม่ต้องเกรงใจด่าอะไรรับได้
https://my.dek-d.com/kate-matc5/writer/view.php?id=1843046
ปล.แม่งนิยายตอนโครตสั่นวะ บรรยายห่าไรไม่รู้
ใครเเม่มส่องคำถามในนี้เเล้วไปตั้งทู้ในบอร์ดฟะ5555
https://www.dek-d.com/board/view/3889743/
Ky มีนักอ่านคนนึงบอกว่าไม่อยากได้นางเอกคนปัจจุบัน...แต่ทั้งเรื่อง 50 กว่าตอนกูปูให้คนนี้เต็มที่ ถ้าไม่เอาคนนี้จะให้เอาคนไหนแฟะ...
กูกำลังเขียนนิยายผจญภัยแฟนตาซีเล็ก ๆ (
เล็กจริง ๆ นะ)
แต่พอกูไปดูจำนวนคนอ่านในหมวดผจญภัย พบว่าน้อยยิ่งกว่าหมอยแมว
ถ้ากูเอาไปลงหมวดแฟนตาซีจะมีคนมาด่ากูไหมวะ
ได้แหละ แต่ถ้าแต่งเรื่องอื่นแล้วมีแฟนคลับมาก่อน ก็น่าจะมีฐานเสียงอยู่บ้างนะ
ลงแฟนตาซีนี่เสี่ยงทั้งดวงทั้งการแข่งขัน ดวงไม่ดีพอนิยายมึงจะจมหน้า 3+ ภายในหนึ่งชั่วโมงโดยที่คนอ่านขาจรยังไม่ทันเห็นด่วยซ้ำ
กูเป็นคนเดียวเหรอวะ ที่ชอบระบบหมวดหมู่ แต่เปลี่ยนก็ดีเหมือนกัน ฮ่าฮ่า
>>888 ไม่หรอก ระบบแบ่งหมวดหมู่ก็ดี แต่ของเด็กดวกมักห่วย
มึงคิดดูนะ คำว่านิยายแฟนตาซีแม่งเป็นอะไรที่โคตรจะกว้างเลย สามารถแบ่งยิบย่อยได้หลากหลาย ทั้งแฟนตาซีแนว Sword & Magic แนว Resurrection แนว Isekai แนว Game Online ไหนยังมีแนว Love Fantasy กับแฟนตาซีสืบสวนอีก ซึ่งทั้งหมดมันเป็น Sub-set ของแนวแฟนตาซีทั้งสิ้น
แต่เด็กดวกแม่งดันแยกไอ้ Sub-set ทั้งหลายนี่ออกมาเป็นหมวดใหม่ไง แทนที่จะให้คนอ่านไปกระจุกรวมอยู่ในหมวดแฟนตาซี เพื่อให้กลุ่มผู้อ่านทั้งชาย - หญิง เด็ก - ผู้ใหญ่ มาอยู่หมวดเดียวกันแล้วแยกหาตาม Tags ที่ตัวเองชอบ แทนที่จะกระจายไปอยู่หมวดโน้นที หมวดโน้นที
อย่างปัจจุบันเนี่ยแม่งแยกชัดเจนมาก หมวดแฟนตาซี เป็นกลุ่มผู้อ่านวัยรุ่ย หมวดรักแฟนตาซี และอดีต - ปัจจุบัน - อนาคต เป็นกลุ่มผู้อ่านหญิง และหมวดเกมออนไลน์เป็นกลุ่มผู้อ่านเด็ก แถมยังแยกกันแบบเด็ดขาดอีกต่างหาก ทำให้การลงนิยายทีต้องคิดหนักเลยว่าจะเล็งกลุ่มผู้อ่านกลุ่มไหน ทั้งที่บางทีนิยายแม่งอ่านได้ทุกเพศทุกวัยไง
>>889 จริงว่ะ มึงนี่พูดได้ตรงใจดูเลย ทุกวันนี้กูอยู่ในเด็กดวกยากมาก นิยายกูเป็นรักชายหญิงที่มีความแฟนตาซี กูจึงลงรักแฟนตาซี แต่พระนางกูเป็นวัยที่ค่อนข้างโต ซึ่งรักแฟนตาซีมีแต่ 'เด็ก' ผู้หญิง อายุผู้อ่านกูเหมาะกับหมวดซึ้งกินใจ แต่หมวดนั้นก็จะนิยมนิยายที่มันไม่แฟนตาซีอีก เฮ้อ กูช่างอยู่ยากแท้หนอ
แต่พอไปลง ฟชล. คนอ่านเยอะแบบผิดกัน คือดีขึ้นกว่าเดิมเยอะ อ่ะคิดดูนี่มันเพราะอะไร
ปัญหาของระบบ Tag คือคนไทยใช้ tag มั่วชิบหายเลย หาดูตามเฟสหรือเด็กดวกบางเรื่องได้
กูเห็นหลายเรื่อง เน้นจำนวน Tag เข้าว่า นอกนั้นไม่สนห่าไรเลย
ระบบ tags มันควรมี tags ที่ทางเว็ปจัดให้เว้ย ดูอย่าง pantip ดิ มีการจัดหมวดไม่พอยังมีจัดแยก tags เพื่อหาแนวที่เราชอบอีกต่างหาก
แต่ถ้าถามว่ากูชอบระบบ tags ไหนที่สุดนะ กูขอตอบว่าแบบ Novelupdate อะ เข้าใจง่ายดี
นิยายภาษาอังกฤษล้วนในเด็กดี คนเขียนแม่งเดือดมาจากไหนวะเนี่ย
เหมือนจะคนละคนกันว่ะ คิดว่านะ
กูว่าเขาไม่ได้อินดี้ ถึงขนาดเขียนนิยายให้เป็นภาษาอังกฤษขนาดนั้น ถึงจะรัวอังกฤษกับอะไรที่ไม่ใช่นิยายก็เหอะ 55
มันก็แค่อยากอวดสติปัญญาตัวเองให้คนอื่นเห็น แต่เสือกไม่ทำให้คนอื่นรู้เรื่อง ผลก็เลยแม่งควรไปพบจิตแพทย์
และประเด็นคือคนที่ก็รู้ว่าใครนี่แกรมม่าผิดกระจุย 55555
https://writer.dek-d.com/pleumfortune/story/view.php?id=1886284 ก็พอใช้ได้อยู่นะ
การเเก้ปัญหาสร้างสรรค์ดีวุ้ย เขียนบรรยายไทยเเย่ก็เขียนเป็นอังกฤษเเม่มเลย555
//ใช่เหรอวะ....เอาเหอะ
แต่งนิยายอีงกฤษต้องใช้ past tense บรรยายมั้ย
ใช่เล่นนะนั่น รูปประกอบอีกเรื่องก็ฝีมือพอตัว
แต่เห็นยอดวิวแล้วก็แอบสงสาร ว่าเรื่องแบบนี้ดันแพ้อีพวกนิยายตามกระแสโง่ๆ ไม่เห็นฝุ่นเลย
กูไม่รู้ว่าหมายถึงใครง่ะ แต่ถ้าหมายถึงคนที่กูไม่อยากเอ่ยชื่อรายนั้นไม่เขียนนิยายภาษาอังกฤษ แต่ถ้าหมายถึง 905 กูว่าไม่นะ เข้าไปลองอ่านเรื่องหลักที่เป็นภาษาไทยมานิดหน่อยละ ถ้าจะให้สับก็สับได้ มีเรื่องให้สับเยอะแหละ แต่งานแม่งจัดว่าชั้นดีเลย เสือกไปหลบอยู่ในซอก
His rugged voice uttered the words in urgent as they sounded so confusing, while outside... Outside uttered only the voice of chaos and that 'war technology', "The age of magic is bad, but this... Catapult? This is far worse. The Castle of Red Hills never fell in the times of Cordelia. I can't believe I have to go farther south".
เขียนได้ดีเขียนได้ถูกต้อง เราอ่านแล้วเราชอบมาก
กูเขียนนิยายแล้วจะหลบอยู่ในหลืบ คำโปรยอะไรไม่ใส่ แต่แม่งสบายใจดี
ว่าเเต่เอจจี้นี่เเปลว่าอัลไลวะ
โอเค พอจะนึกภาพออกละ555
นิยายซอมบี้ควรไปหมวดไหน?
ซาสึเกะเอจจี้เหรอวะ ไม่รู้สึกตัว 55
พระเอกละครไทยก็ edgy เหมือนกัน แต่เสือกหูเบาเกินมนุษย์
อยากศึกษาเรื่องความ edgy ไปดูไอน์ซามะในโอเว่อร์หลวมเลย edgy lord เหี้ยๆ
ซีนี้ก็ก็อบสเลนั่นไง
บากิ edgy ไหมวะ?
ตกลง antihero แม่ง edgy ทุกตัวเลยเรอะ งั้นใครเป็น hero ไม่ต้องเป็น edgy ล่ะสิ
>>935 จากที่กูเคยอ่านมา Anti-hero มักออกออร่า edgy ชัดเจนมากกว่า Hero ปรกติ สงสัยเพราะธีมที่มักออกมาโทนหม่นๆ ค่อนทางดาร์ก เวลาพวกนี้โผล่เลยมักจะยืนเก๊กกอดอกแล้วมองอยู่มุมนอก บางคนก็หลับตาด้วยนะ แต่ถามว่า Hero มันมีที่เป็น edgy ไหม ก็ขอตอบเลยว่า มี เพราะเคยเห็นอยู่ในเด็กดีซึ่งกูมักจำชื่อเรื่องไม่ได้อ่ะนะเพราะอ่าน 3 ตอนเลิก
ฮีโร่เอจจี้น่ะเรอะ ไรเดอร์คาบูโตะไง
มีอะไรไม่เอจจี้บ้างวะ 55555
อวด Edgy กันเข้าไป เอาให้หมดมู้เลยจะได้ตั้งมู้ใหม่
ใกล้จะขึ้นภาคใหม่แล้ว มีใครโหวตชื่อกระทู้รึยัง เอาภาคเด็กดวกสายดาร์คหนุ่มแกรี่มืดมนคนเอจจี้ ไปเลยดีมั้ยเห็นพูดถึงกันดีนัก
นิยายเด็กดี บทที่ 20 (DDN XX) ภาคนิยายสมัยนี้ พระเอกต้อง EDGY เบียวซู ทำอะไรไม่เคยผิด ใครไม่ได้เป็นพระเอก สมควรตายห่าซะ
นิยายเด็กดี ตอนที่20 ภาค เเม้สิ่งที่มันคิดกับสิ่งที่มันทำจะคนละเรื่อง ราวกับระยะทางเเข่งวิ่งมาราธอน50กิโล เเต่มันเป็นพระเอกอ่ะ จะทำไม
นิยายเด็กดี บทที่ 20 ภาคนักหลวมแห่งเด็กดวก เจ้าหนุ่มแกรี่กับชายฉกรรจ์ EDGY และเหล่าตัวละครที่มีแต่ความเบียว แม่รี่ซู แต่ทำไมยังมีคนอ่าน
ก่อนปิดมู้ กูขอสรุปประเด็นของหัวมู้นี้ก่อน เพราะวันนี้ครบรอบสองเดือนของ "กิจกรรมแข่งกันติดท๊อป" พอดี กูจะขอสรุปให้เข้าใจง่ายที่สุดเลยนะ
คือ เจ๊งไม่เป็นท่าจ้า ไม่มีใครซักคนเดียว แม้แต่อีคนต้นเรื่องที่เอื้อมไปแตะท๊อปหมวดได้ ตอนนี้กลายเป็นบุคคลสาบสูญ ตั้งกระทู้สุดท้ายทิ้งทวนรับสับนิยายเมื่อเดือนที่แล้วแล้วไม่โผล่หน้าเข้ามาในบอร์ดอีกเลย
ขึ้นท๊อปมันจะยากซะแค่ไหนกันเชียวมั้ยล่ะมึง ถถถถ
กูเคยเป็นขาประจำบอร์ดคนหนึ่ง ปัจจุบันส่องเฉยๆ แล้วว่ะ เพราะตอบบอร์ดไปแม่งคนอ่านก็ไม่เห็น กูเลยเอาเวลาไปแต่งนิยายแทนให้มันมีความคืบหน้าบ้าง ดีกว่ามาฝอยแต่ไม่เคยมีผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน Mil**** ไรนี่ก็เหมือนกัน บอกดองมา 10 ปีแล้ว ก็เอาเวลาไปแต่งต่อดิวะ มามัวโม้ทำไมในบอร์ดที่มีแต่เด็กขอชื่อตัวละคร ขอพล็อต บ่นนิยายกระแสเนี่ย
กิจกรรมนั่นทำจริงจังกันด้วยหรอวะ กูนึกว่าตั้งกระทู้เล่นๆ เฉยๆ ซะอีก
กูอยู่ในบอร์ดตอบกระทู้เรื่อยๆ นะ แต่กูแอบไม่เข้าใจว่าทำไมมีกระทู้ชวนคุยทุกวัน เยอะสัสๆ
เดี๋ยวนี้นิยมนินทาในนี้แล้วเหรอวะ หรือมู้นินทาเด็กดวกร้างจนไม่ไป
ก็ไม่ตกขนาดนั้น แต่มันเริ่มร้าง https://fanboi.ch/netwatch/5647/recent/#reply
>>962 อายุมากขึ้นจะให้มาเล่นบอร์ดเหมือนแต่ก่อนมันก็ยังไงๆ อยู่วะ
ก็มีชีวิตทำงานทำการ ออกไปมีกิจกรรมนอกบ้าน ไม่ได้นังเฝ้าหน้าจอ
เหมือนนีทติดเกมนี่หว่า ดูหนัง เที่ยวห้าง เล่นกีฬาอะไรก็ว่าไป
บางคนก็มีธุรกิจเป็นของตัวเองต้องไปบริหารค้าคงค้าขาย หรือแต่งงาน
มีลูกแล้วต้องดูแล ถ้าไม่ได้แต่งนิยายเป็นอาชีพหลักก็คงต้องมีห่างๆ ไป
ไม่เหมือนยุคนิยายโรงเรียนเวทมนตร์ที่คนอายุ 35+ ก็ยังแต่งเพราะกระแส
มันแรงนะเว้ย
มาเฟียคืออะไร ใช่พวกที่มีอิทธิพลป่ะหรือพวกที่ทำอะไรก็ได้ตามอำเภอใจป่ะ กูเห็นคนที่ตั้งกระทู้คุยเล่นกับขอบคุณนักอ่านรัวๆรกฉิบเข้าข่ายมั้ย แล้วที่แปะลิ้งค์ไปหน้านิยายตัวเองทุกกระทู้เป็นมาเฟียมั้ย ออกตัวก่อนกูไม่เข้าใจจริงๆเพิ่งเล่นเด็กดี
>>964 เรื่องมันยาวมากเด็กใหม่
มาเฟียบอร์ดเป็นชื่อใช้เรียกขาประจำยุคโบราณมากหลายๆ คน ถ้าจำไม่ผิดเหมือนจะเริ่มมา
จากเมมเบอร์ชื่อ "เคเซย์" ยุคนั้นถ้าใครตั้งกระทู้ไร้สาระ เกรียน หรือขอให้ช่วยทำการบ้าน
จะมีขาประจำเข้าไปด่า แขวะ หรือจงใจพูดข่มเพียบ บางทีพวกกระทู้ที่ดราม่ามันก็สมควร
โดนจริงๆ เช่น แนะนำนิยาย NC หรือจงใจใช้ภาษาวิบัติในบอร์ดนักเขียน แยกร่างอวยนิยาย
ตัวเองออกสื่อ ฯลฯ
ความมาเฟียมันมาหนักขึ้นตอนที่จู่ๆ เคเซย์ก็พูดเหมือนว่าอยากจะตั้งกลุ่มผู้คุมกฏในบอร์ด
ขึ้นมาเอง(จำไม่ได้ว่าไปคุยกับเว็บมาสด้วยรึเปล่า) ตอนนั้นกระแสต่อต้านมีเยอะมาก บางที
ก็มีนอนเมมมาตั้งกระทู้โจมตีมาเฟียเหมือนกัน อย่างวัฒนธรรมที่ชอบเรียกกันด้วยคำนำหน้า
ว่า "ท่าน" (-sama) แทนการเรียกชื่อเมมปกติ
ปัจจุบันที่เห็นขาประจำพวกนี้ บอกได้เลยว่าขี้ตีนมาก เหมือนเป็นแค่คนที่โผล่หัวในบอร์ดถี่
แล้วคุยกันไปมากับเมมที่รู้จักกันเฉยๆ ไม่ถึงกับมาเฟียหรอก เพราะยังไม่ได้มีการโหวตลบ
กระทู้ที่ไม่เข้าตา เข้าไปด่าคนที่ใช้ภาษาไทยผิด หรือบังคับให้สมาชิกหน้าใหม่ต้องเคารพ
สมาชิกหน้าเก่า (ถึงขั้นมีการตั้งกระทู้ให้หน้าใหม่มารายงานตัวเลยนะมึง)
ยุคมาเฟียนี่เด็กใหม่อยู่ยาก ตั้งกระทู้อะไรทีถ้ารกบอร์ดก็จะเจอเข้าไปบอกเลยว่ากระทู้แบบนี้
รกบอร์ด อย่าตั้งแบบนี้อีก หรือใครโฆษณานิยายตัวเองบ่อยเกินจะเจอดีถึงหน้า My iD เวลา
จะขอชื่อตัวละคร ขอให้ช่วยแต่งชื่อเรื่อง จะไม่มีคนเข้ามาแนะนำ แต่เจอด่าว่าคิดเองไม่ได้?
ถ้าเป็นเมมเก่าแต่ช่วยเด็กใหม่ พูดดีๆ ด้วย ก็ไปหาว่าเขาโลกสวย พูดอะไรสวยหรูปลุกใจทั้งๆ
ที่นิยายตัวเองก็ไม่จบ โอ้ยสารพัดสารเพเป็นยุคเกือบมืดเลย ปัจจุบันนี้ Easy mode มากๆ
ไม่มีการกดดันเด็กใหม่ ถึงจะมีขาประจำชวนรำคาญอยู่บ้าง แต่มันไม่หนักขนาดเมื่อก่อน
ยิ่งตอนมีเมมเบอร์เกรียนๆ จงใจเปิดวอร์นี่นะมึง ดราม่ากัน 4-5 วันไม่หลับไม่นอนก็มี ดูตอนนี้ดิ
โคตรสงบสุข
เรื่องคำว่ามาเฟียเนี่ย อย่าไปคิดอะไรมาก กูให้คำนิยามพวกในบอร์ดได้แค่ อวดภูมิ โชว์พาว แต่ไม่เคยเห็นผลงาน พวกที่มีผลงานจริงๆ เขาไม่พูดเยอะหรอก แต่งจบเอาไปขายกี่เรื่องไม่รู้แล้ว
>>965 กูทันยุคนั้น แต่ไม่ค่อยเข้าบอร์ดเท่าไหร่ เคเซย์นี่ เคยเขียนนิยายออกกับสนพ.ฟิสิกส์เซ็นเตอร์ด้วยใช่ป่ะ จะยิ่งกร่างก็คงไม่แปลกเพราะแบบตัวเองมีผลงานแล้วไง กูยังจำได้ว่าเพื่อนร่วมชั้นมัธยมของกูก็ท่าทางเคยเป็นหนึ่งในมาเฟียด้วยมั้ง ไม่รู้ดิ เห็นนางเป็นคนดังเหลือเกินในบอร์ด แต่สุดท้ายก็หายไปตามกาลเวลาซะละ 555
เคย์เซย์เนี่ยเป็นหนักมาก ไม่ใช่แค่ในเด็กดี แต่ในบอร์ดอื่นที่นางอยู่ด้วย กูเคยอยู่บอร์ดวายเดียวกับนาง ภาษาวิบัติ พิมพ์ผิด จะโดนจับผิดตลอดเวลา เหมือนนางเคยทำงานพวกพิสูจน์อักษรอ่ะ
แล้วนางก็เรื่องมากสุด ปีนึงบอร์ดมีกิจกรรมให้แต่งเรื่องสั้น/นิยาย ธีมนายโลม ตอนแรกมีนักวาดคนหนึ่งที่รู้เรื่องจีนเยอะเป็นแม่งาน แล้วนางมาเป็นด้วย ตอนแรกกิจกรรมคนสนใจเยอะมาก แต่พอประกาศออกมา คซ เล่นวางกฎละเอียดแบบห้ามแหก ห้ามนั่นห้ามนี่ จะต้องตามขนบธรรมเนียมประเพณีที่วางเอาไว้ สรุปถึงเวลาจริงมีคนร่วมแค่ 3-4 คน กิจกรรมร้างสุด นี่ยังไม่นับความเบียวในแชทบอร์ด เหมือนช่วงนั้นนางก็สถาปนาตัวเป็นขาใหญ่เด็กดีเช่นกัน แต่เรื่องหลายปีละ 6-7 ปีได้มั้ง
ไอ้หมอนี่รึเปล่า เคเซย์
https://my.dek-d.com/keisei/
https://my.dek-d.com/keisei/writer/
มู้ใกล้เต็มแล้วนะเว้ย ชื่ออะ ติดสินใจกันยัง
ย้อนวันวานกันเหรอ ท่านโม่ง
คิดถึงช่วงที่ห้องในเน็ตวอชยังอยู่นะ ปสดดี เหมือนถูกสังคมบุลลี่ เครียด หดหู่ไปหลายวัน เป็นประสบการณ์ที่รว้าย ๆ แต่ทำไมคิดถึงก็ไม่รู้ นึกย้อนไปแล้วก็ตลกดีอะ 555555
จะขึ้นมู้ใหม่ละเหรอ ยินดีด่วยนาจา
ใช้ท่านยังพอทน แต่ซามะนี่มึงจงใจเบียวแน่ๆ
คนมีงานมีการทำเขาไม่เรียกใครท่านเล่นๆหรอกนะ ส่วนใหญ่ที่ใช่ท่านทั่วๆไปที่เห็น มันไม่ได้มีความท่านอยู่จริงเลย เวลาจะเรียกใคร ท่านครับ ท่านคะ คุณท่าน ไม่เคยต้องมีชื่อตามนะออเจ้า
ท่านเครื่องบิน ท่านเคเซย์ ท่านเดธ ท่านโนวัน เบียวเกินเยียวยาทุกตัว
กูว่าคนที่ชอบเรียกท่านๆๆๆๆ ในชีวิตจริงไม่น่าจะเรียกท่านหรอก โลกไซเบอร์คือสังคมหน้ากาก อยากเล่นจูนิเบียวก็เรื่องของเขา ใครจะไปรู้ว่าชีวิตจริงจะมีนิสัยเบียวเหมือนในบอร์ดกับเกมรึเปล่า เพราะไม่มีทางจับได้ว่าตัวจริงเป็นคนยังไง
ท่านกูก็ใช้เรียกเล่นๆ เบียวๆนั่นแหละ แต่คงไม่เอาไปใช้ในชีวิตจริงถ้าไม่จำเป็นจริงๆ 555
นับถอยหลังสู่ความเอจจี้ใน 9...
8....
7...
6....
5....
4....
3.....
2.....
1.....
เพื่อ?
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.