N - Nothing
สิ่งแรกที่ฉันทำหลังจากตื่นขึ้นมา คือการเดินไปเคาะห้องของคาบุรากิ
ฉันเคาะอยู่นานซะจนเกือบจะบิดประตูเปิดเข้าไปโดนพลการ ทว่าคาบุรากิเป็นฝ่ายเปิดประตูก่อน ฉันมองคาบุรากิที่อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตกับกางเกงยีนส์สะอาดเรียบร้อย แต่ตาของเขามีรอยช้ำเหมือนไม่ได้นอนทั้งคืน
“สภาพเธอดูไม่ได้เลย คิโชวอิน”
ฉันมองตัวเองที่ยังอยู่ในชุดหลุยส์จิ บนเอี๊ยมมีคราบน้ำจิ้มกระเซ็นเป็นจุด ๆ ผมยุ่งเหยิงไม่ได้หวี หน้าไม่ได้ล้าง แถมปากยังมีกลิ่นอ้วก ก็เลยไม่ได้แก้ตัวอะไรไป
“มาหนีไปที่อื่นด้วยกันเถอะค่ะ” ฉันโพล่งออกไป เพราะคิดว่าถ้าพาคาบุรากิหนีไปก่อนที่เขาจะหนีไปเอง อย่างน้อยเวลาเกิดอะไรขึ้นเขาก็ยังมีคนปลอบใจ แต่ก่อนเขายังมีเอ็นโจคอยตามตัว แต่ตอนนี้เอ็นโจก็มีครอบครัวเป็นของตัวเองแล้ว ดังนั้นหน้าที่ดูแลเขาจึงตกเป็นของฉันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
คาบุรากิจ้องฉันเหมือนฉันชวนเขาไปบุกตีปราสาทมัตสึโมโต้ หรือไปขโมยประกาศอิสรภาพของประเทศอเมริกา แต่พอเห็นฉันทำหน้าซีเรียส เขาก็ตกลง แต่บอกว่าเขาจะไม่มีทางออกไปกับฉันในสภาพแบบนี้เด็ดขาด
หลังจากที่คาบุรากิเก็บกระเป๋าตัวเองเสร็จก็มาหาฉันที่ห้อง ฉันแพคชุดชั้นในลงในถุงแล้วขอให้เขาช่วยจัดเสื้อผ้ากับรองเท้าให้ในขณะที่ตัวเองไปอาบน้ำ พอออกมาจากห้องน้ำ กระเป๋าก็ถูกรูดซิปแล้วเรียบร้อย คาบุรากินั่งเล่นโทรศัพท์ในขณะที่ฉันหาชุดใส่
“ระหว่างเดรสของคาโรลิน่า เฮอร์เรร่า กับปีเตอร์ พิลอตโต ท่านคาบุรากิว่าตัวไหนดีกว่ากันคะ?” ฉันยกไม้แขวนเสื้อขึ้นโชว์ทั้งสองตัว
คาบุรากิทำหน้าไม่โอเคกับทั้งสองชุด “หนาวจะตาย ยังจะใส่ชุดเดรสบาง ๆ อีก”
ฉันในโลกก่อนที่ใส่แต่เสื้อยืดกับกางเกงยีนส์มีความฝันแบบสาวน้อยว่าอยากจะเป็นผู้หญิงที่เหมาะกับชุดเดรส พอทะลุมิติมาอยู่ในร่างของคุณหนูที่เหมาะกับชุดเดรสก็เลยจัดซะเต็มที่ คาบุรากิเห็นหน้าฉันแล้วก็ถอนหายใจ ก่อนจะลุกขึ้นไปคุ้ยในห้องเสื้อผ้าแล้วเหวี่ยงกับเจอร์ซี่เดรสของกุชชี่ กับบอมบ์เบอร์แจ็กเก็ตขนเฟอร์ในวินเทจคอลเลคชั่นของฌอง ปอล กอติเย่ มาให้ สีขาวในหน้าหนาวทำให้ฉันรู้สึกเหมือนกระต่ายขาว ถ้าเป็นเอ็นโจ เขาก็คงจะชมฉันว่าน่ารักเหมือนกระต่าย แต่อีตาคาบุรากิคนปากเสียนี่เค้นให้ตายยังไงก็ไม่มีทางชมฉันซักครึ่งคำ
พอพยายามนึกว่าลืมอะไรไปรึเปล่า ฉันก็นึกขึ้นมาได้ว่าลืมบอกคาบุรากิเรื่องผู้รับเหมาเลื่อนวันส่งงาน ส่วนตัวเองลืมเลือกธีมงานเลี้ยงของโรงแรมในเครือ แม้ว่าพวกเราคิดจะหนีไปเที่ยว แต่อย่างน้อยก็ต้องเคลียร์งานบางส่วนให้เสร็จก่อน ฉันบอกกับคาบุรากิเรื่องผู้รับเหมา เขาเลยโทรไปบอกผู้ช่วยว่ายังไงก็ต้องกดดันให้อีกฝ่ายส่งงานให้ทันให้ได้ เพราะต้องเตรียมโรงแรมรับแขกที่มาเยือนในโอลิมปิกปี 2020 ส่วนฉันนั่งบนเตียงเลือกธีมด้วยความร้อนรนเพราะไม่อยากให้คาบุรากิรอ น้ำจากผมที่เพิ่มสระเสร็จหมาด ๆ หยดจนแทบจะท่วมคีย์บอร์ดจนต้องเอาชายเสื้อคลุมอาบน้ำเช็ดอยู่บ่อยครั้ง คาบุรากิเห็นอย่างนั้นเลยอาสาเป่าผมให้
ฉันสาธยายวิธีการดูแลผมแล้วยกตะกร้าบรรดาเซรั่มบำรุงมาสั่งเขายาวเหยียด คาบุรากิก็สมกับเป็นคาบุรากิ เขาฟังโดยที่ไม่ต้องให้ทวนอีกรอบเลยด้วยซ้ำ ก่อนจะลงมาเป่าผมของฉันในขณะที่ฉันนั่งทำงานงก ๆ
“ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้” คาบุรากิบอกด้วยน้ำเสียงรำคาญ
“แต่ว่า” ฉันเหลือบไปมองคาบุรากิ
“ฉันไม่หนีไปไหนหรอกน่า ก็สัญญาไว้แล้วนี่” คาบุรากิบอก ฉันเลยลดสปีดในการตัดสินใจเลือกชาที่จะใช้ในงานเลี้ยงช่วงกลางวัน อันที่จริงฉันยังคงติดใจชาที่ใส่ซินนามอนกับโคลฟซึ่งใช้ชงในช่วงคริสต์มาส แต่ว่าในช่วงปีใหม่ก็อยากจะเปลี่ยนเป็นชาตัวอื่น เลยตัดสินใจเลยชาที่ใส่ส้มแมนดารินแทน
กว่าจะเสร็จงาน ผมก็ฉันก็แห้งพอดี แต่มันเป็นลอนหลวม ๆ ไม่แน่นเหมือนที่ม้วนปกติ ทว่าวันนี้ไม่ได้จะออกงานสังคม ก็เลยไม่ได้แก้ทรง พอหันไปหาคาบุรากิจะถามว่าเขาอยากไปไหน ก็เห็นว่าเขามองมาด้วยสีหน้ายิ้มน้อย ๆ แบบที่แปลกตาออกไป ฉันเลยถามเขาว่าฉันดูตลกหรือมีอะไรแปลกตรงไหนรึเปล่า
“ไม่มี เธอก็ดูปกติดี ดีกว่าสภาพน่าเกลียดเมื่อกี้มาก” คาบุรากิตอบ ฉันกลอกตาใส่เขา มันก็แน่อยู่แล้ว ก่อนอาบน้ำ พอฉันเห็นสภาพตัวเองในกระจกแล้วก็เพิ่งรู้ว่าผู้หญิงตอนแต่งตัวนี่ดูไม่ได้จริง ๆ อย่างน้อยก็ฉันคนหนึ่งน่ะแหล่ะ
“เสร็จแล้วก็ไปกันเถอะ”
พวกเราขับเมอร์ซิเดสที่เตะตาน้อยที่สุดในโรงรถของคาบุรากิออกจากบ้าน ไม่รู้ว่าปลายทางจะไปที่ไหน แต่อย่างน้อย ที่ ๆ คาบุรากิจะไป เขาก็ไม่ต้องไปคนเดียว
จบ