Fanboi Channel

ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับเสียงโหยหวนของเหล่าโม่ง [กรีดร้องขอตอนใหม่รอบที่ 27]

Last posted

Total of 1000 posts

190 Nameless Fanboi Posted ID:mqSZvD2Qek

ดรอปมาจะครบปีแล้ว​ปะ

191 Nameless Fanboi Posted ID:A1lXpD+cso

รวบรวมข่าวสาร? ขนาดข่าวลือของตัวเองนางยังไม่รู้เลยนะ 55555

192 Nameless Fanboi Posted ID:1KUzbJOWrb

>>183 เป็นบล็อกเกอร์ทำอาหารชื่อดัง มีรายการของตัวเองร่วมกับคันตะคุง

>>190 ตุลานี้ก็ครบปีละมั้ง....

193 Nameless Fanboi Posted ID:+tVq0qtfDS

>>192 แต่กูก็สงสัยนะ ตอนเรียนทำอาหารกะพวกคันตะ วาคาบะ นางชอบใส่อะไรแปลกๆลงไปเรื่อย แล้วตอนเรียนกับคุณอาคิมินางใส่อะไรพิลึกๆลงไปบ้างมั้ย หรือทำแบบดีๆ แบบมนุษย์ปกติเขาทำกัน

194 Nameless Fanboi Posted ID:G9PQCkCen5

>>193 กูว่ากะคุณอาคิมินี่นางยังไม่กล้าซ่ามาก เพราะต้องคีพลุคคุณหนู บวกกับกลัวคุณอาคิมิรับไม่ได้เผ่นหนีไป
จริงๆ ที่เรียนนี่ยังอยู่ในขั้นหั่นผักปอกเปลือกอยู่เลยมั้ง น่าจะยังไปไม่ถึงไหน 5555

195 Nameless Fanboi Posted ID:miUOq6AISx

>>194 กูว่านางก็เรียนทำอาหารจริงๆจังๆนั่นล่ะ ยังเห็นทำพวกอบขนมปัง กราแตงอะไรอยู่เลย แต่อยู่กับคุณอาคิมินางคงไม่กล้าใส่อะไรแปลกๆลงไปหรอก คงกลัวคุณอาคิมิเผ่นไปแบบซากุระโกะมั้ง 555555

196 Nameless Fanboi Posted ID:ew8JbghpaE

ตะ แต่นางยังคิดจะเอาแกงกะหรี่มิราเคิลไปคุยกับคุณอาคิมิอยู่เลยนะ....

197 Nameless Fanboi Posted ID:VqlJ.jxOY5

กูไม่เข้าใจ ทำไมบางคนต้องชอบเข้ามาตอกย้ำจังเลย "ดองมานานแล้ว" "ดองทำลายสถิติ" "เกือบปีแล้วนะ" "ยังไม่มาอัพเลย"
คือบางทีกำลังสดชื่นกับกาว กำลังดีใจว่าเห้ย! มีคนเปิดประเด็นใหม่อีกแล้วนู่นนี่นั่น แล้วมาเจอข้อความแบบนี้บางทีก็ท้อเหมือนกันนะ

198 Nameless Fanboi Posted ID:u8EAdUJk.+

>>197 เพื่อนโม่งซุยรันอาจจะแค่เหงาเลยมาระบายก็ได้มึง รู้แหละว่ามันเงียบเหงา ใจกูเองก็คาดหวังกาวเหมือนกันแต่กูไม่อยากทักว่า "กูหิวกาว!!" กลัวจะไปกดดันโม่งฟิค ไม่อยากให้ใครโดนกดดันทั้งโม่งฟิคทั้งท่านฮิโยโกะ เอาเป็นว่าเรามาหาประเด็นคุยกันเถอะ

199 Nameless Fanboi Posted ID:G9PQCkCen5

>>197 โอ๋ๆ นะมึง //เอาน้ำเย็นเข้าลูบ กูคิดว่าในใจลึกๆ ของทุกคนมีความคิดประมาณว่า หรือท่านฮิโยโกะจะ... *ตู๊ด* อยู่ แต่ไม่อยากพูดออกมาดังๆ เพราะกลัวจะกลายเป็นความจริง ตราบที่นักเขียนไม่ออกมาประกาศเองมันก็มีความเป็นไปได้ร้อยแปดอะเนอะ ก็มาหาเรื่องมุ้งมิ้งๆ กันไปก่อนแล้วกัน

200 Nameless Fanboi Posted ID:87JXcYeu53

มา กูเปลี่ยนเรื่องให้
คิดว่ากรงหิ่งห้อยที่ได้รับมา นางเอาไปไว้ที่ไหนวะ ในห้องเก็บของหรือห้องนอนตัวเอง แต่กรณีเลวร้ายที่สุดน่าจะเป็นทิ้งไปแล้ว....

201 Nameless Fanboi Posted ID:1KUzbJOWrb

>>200 กูให้ทิ้งไปแล้ว ลืมไว้ในป่าซุยรันน่ะแหละ... ไม่งั้นก็น่าจะเผลอเฟี้ยงทิ้งไปตอนกรี๊ดๆ จักจั่นเกาะหัว 555

202 Nameless Fanboi Posted ID:ew8JbghpaE

>>201 ถ้าเอาไปทิ้งจริงๆก็น่าวงวารจอมมารโครตๆ แต่ถ้าเฉลยมาว่านางยังเก็บไว้อยู่ในห้องนอนจะฟินมากเลยน้าาาาาา

203 Nameless Fanboi Posted ID:uNB+vATkCB

เราอยากแต่งเอนโจความจำเสื่อมมากหลังอ่านท่านเรย์กะความจำเสื่อมแล้ว ขอระบายหน่อยเน้ออ
พรุ่งนี้แล้วสินะที่จะดูดอกไม้ไฟพร้อมกับเรย์กะแล้วก็ยูกิโนะ ตื่นเต้นนิดหน่อยนะเนี่ย พรุ่งนี้ต้องมีเรื่องน่าสนใจแน่ๆ เอาล่ะ นอนได้แล้วเรา
'คุณชูสุเกะ '
ใครน่ะ กำลังเรียกผมอยู่ อ่ะ ปวดหัวจัง
"คุณชูสุเกะ รู้สึกตัวแล้วหรือคะ คุณยังเจ็บหัวอยู่รึเปล่า"
"เอ๊ะ คุณคิโชวอิน" ผมอุทานเบาๆ คนที่ผมเห็นหลังจากลืมตาตื่นเป็นเรย์กะหรือเนี่ย แถมยังเรียกชื่อของผมอีก
"คุณตกบันไดแล้วสลบน่ะค่ะ ดีจังเลยที่คุณฟื้นแล้ว ฉันตกใจแทบแย่" เธอพูดทั้งน้ำตาแล้วก็กอดผมแน่น
"ฉันจะให้คนไปตามหมอมาดูอาการคุณแล้วก็ไปบอกลูกๆว่าคุณฟื้นแล้วนะคะ" พูดจบแล้วเธอก็วิ่งออกจากห้องไป
ตอนนี้มีผมอยู่ในห้องคนเดียว เมื่อกี้เรย์กะเรียกชื่อจริงของผม กอดผม ไหนเธอยังพูดว่าลูกๆอีก แปลว่าพวกเราแต่งงานมีลูกแล้วเหรอเนี่ย จะว่าไปแล้วในห้องก็มีรูปคู่กับรูปครอบครัวอยู่ เด็กสองคนในรูปคงเป็นลูกๆของผมกับเรย์กะสินะ

204 Nameless Fanboi Posted ID:KJRay85Ds1

>>203 มีต่อมั้ยมึง เอากาวมาอีก

205 Nameless Fanboi Posted ID:zH+kVpAPWT

>>200 ไม่รู้มีใครเคยวิแคะมาหรือยัง เคยไปอ่านบล็อกคนญี่ปุ่นที่เป็นแฟนเรื่องนี้ แล้วมีคนไปสืบค้นข้อมูลแล้วบอกว่า ในสมัยเฮอัน มีธรรมเนียมที่ว่าหากผู้ชายให้หิ่งห้อยเป็นของขวัญแก่ผู้หญิง หมายถึงเขากำลังบอกรักเธออยู่ กรีดร้องงง ทุกคนคิดว่าเอ็นโจเขาตั้งใจบอกความนัยนี้ไหม แต่อย่างไร เจ้าแม่เราก็เอาไปปล่อยแล้วนี่เนอะ จบข่าวค่ะ

206 Nameless Fanboi Posted ID:628cZW871E

>>205 ความจริงเขาคนนี้ชอยทำอะไรแอบแฝง ทุกการกระทำล้วนมีความหมายตีความได้ทั้งนั้น
กูว่าตัวละครที่มีความซับซ้อนมากๆที่เห็นมีอยู่สองคนคือท่านพี่กับเอ็นโจนี่ล่ะ ดูเก็บงำความคิดชอบกล ส่วนท่านอิมารินี่กูว่าพี่แกออกแนวกะล่อน+กวน มากกว่าซับซ้อน 555

207 Nameless Fanboi Posted ID:IqkTXWVhFA

>>205 หรือเจ้าแม่รู้ว่ะ ว่าฮีบอกรักผ่านหิ่งห้อยนางเลยเอาไปปล่อย.... ก็นางรู้เรื่องวัฒนธรรมเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเยอะนี่นา แบบพิธีสะกดบุปผาอะไรนั่นอะ ที่โม่งแปลบอกข้อมูลมันไมเนอร์มากหาแทบไม่ได้ด้วยซ้ำแต่นางเสือกรู้ เพราะงั้นกูเลยคิดว่านางเอาไปปล่อยเพราะไม่อยากรับรักแหงๆ

แต่ไม่อยากรับรักเขา พอเห็นเขาไปกับสาวอื่นก็อารมณ์ขุ่นมัวหมดอาลัยตายอยากไปเลยนี่มันหมายความว่ายังไงกันน้อ หุๆๆๆๆ

208 Nameless Fanboi Posted ID:hK+29NvybQ

>>205 แล้วถ้าฝ่ายหญิงเอาไปปล่อย หมายความว่าไงเหรอ ส่วนตัวก็เห็นด้วยที่เอาไปปล่อยนะ เพราะเอาไว้ในกรงน่าจะไม่รอดมือนาง

209 Nameless Fanboi Posted ID:nFuh6WX5rI

>>205 กูว่าบอกรักอยู่ชัวร์ๆ ได้ประโยชน์สองต่อ เจ้าแม่อยากดูหิ่งห้อยใกล้ๆฮีเลยจับให้ตามความปรารถนาเผื่อจะเพิ่มคะแนนนิยม และได้บอกรักแบบอ้อมๆสุดแสนจะโรแมนติค //ตัดฉากมาที่เจ้าแม่ปล่อยหิ่งห้อยคืนสู่ป่า....

210 Nameless Fanboi Posted ID:AQKNGAeKRZ

เรื่องดอง กูก็ถามนะว่าอัพครั้งสุดท้ายเมื่อไรเพราะกูไม่รู้จริงๆ โม่งที่ถามก็อาจไม่รู้แบบกูก็ได้

>>205 กูว่าเป็นไปได้ ฮีเป็นแนวแฝงความนัยตลอดๆ ส่วนท่านฮิก็ชอบสอดแทรกเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยไว้ประจำ(เอาจริงๆกูนับถือความรู้ของท่านฮิมาก โคตรกว้างขวาง)

แต่กูขอมโนว่าท่านเรย์กะไม่รู้นะ(ความเรือเอ็นโจนี้555) เพราะตอนเอาไปปล่อยดูนางไม่ได้คิดอะไรเลย ต่อให้ท่านเรย์กะรู้ความหมายแฝง(เพราะชีรอบรู้เหลือเกิน)ก็คงไม่มีทางคิดว่าเอ็นโจส่งมาเพื่อบอกรักแน่ๆ ไหนจะระแวงฮีอีก เริ่มสงสารเอ็นโจ555

211 Nameless Fanboi Posted ID:EkCYJsNqOk

>>210 แต่พอเป็นเรื่องเอ็นโจทีไร ท่านเรย์กะก็ทำเฉยๆ ไม่รู้ไม่ชี้ไม่อะไร แต่ดันรู้เรื่องเขาดี(มาก) ทั้งๆที่(ในบทบรรยาย)พูดถึงแต่คาบุ.... พอมีเรื่องอะไรท่านเรย์กะเหมือนแบบ หันไปแล้วก็จะเจอเอ็นโจก่อนเสมอ ใครพูดถึงเขานี่ก็ตั้งใจฟังแบบไม่รู้ตัว(?)ซะด้วย

212 Nameless Fanboi Posted ID:evQW5bEgwc

>>211 ยังจำได้นะคะที่หันไปเห็นวาคาบะกับเอ็นโจอยู่ด้วยกันตอนไปทัศนศึกษาแล้วเผลอมองไม่วางตาจนคนอื่นรู้ตัวน่ะค่ะ หุหุหุ

213 Nameless Fanboi Posted ID:o7UqmDGWnU

>>205 แต่มันโรแมนติคมากเลยนะ เอาหิ่งห้อยบอกรักเนี่ย ความมืดที่มีแสงนวลๆของหิ่งห้อยรายล้อม ค่อยฟังดูเป็นแท็กโชโจหน่อย

214 Nameless Fanboi Posted ID:sbjhJb1CkA

อห เพิ่งเคยอ่าน นี่ยังไม่ได้นอนเลยจะ 10 โมงเช้า

215 Nameless Fanboi Posted ID:evQW5bEgwc

>>214 ยินดีต้อนรับสู่ความค้าง... ว่าแต่ไปเจอเรื่องนี้มาจากไหนอ่ะ

216 Nameless Fanboi Posted ID:sbjhJb1CkA

>>215 ในนี้นี่แหละ เห็นชื่อมู้มานานละ เลยลองหาอ่านดู นี่อ่านไป 180 ในหนึ่งคืน วันนี้ได้ค้างเติ่งแน่ๆ เลือกเรือไม่ถูกเลยจ้าาาา

217 Nameless Fanboi Posted ID:EcZATnOye6

>>212 นั่นน่ะ หึงสินะ หึงสิน้าค้า

218 Nameless Fanboi Posted ID:dMkn2GnpEk

>>216 มึงใจเย็นๆ อ่านถนอมเผื่อไว้วันข้างหน้าบ้างก็ได้ นี่ก็ยังเหลืออีก 119 ตอน ถ้าเซฟไว้อ่านละตอนก็ยังกักตุนไว้ได้ถึง 3 เดือนเลยนะกว่ามึงจะค้่าง!

219 Nameless Fanboi Posted ID:EcZATnOye6

>>216 เรือไขมันคุงกับอาหารคุงนี่แหละมึงยั่งยืนสุด

220 Nameless Fanboi Posted ID:o7UqmDGWnU

>>216 เรือคานยั่งยืนที่สุดมึง เชื่อกู

221 Nameless Fanboi Posted ID:sbjhJb1CkA

>>218 ไม่เป็นไรสหาย เดี๋ยวอ่านวนๆได้ รู้สึกยังเก็บรายละเอียดไม่ครบ
>>219-220 เรือนั้นมันแน่นอนอยู่แล้ว... ตอนนี้ใจนึงแอบเชียร์คาบุรากิ แต่ดูท่าคงเหลว เพราะพี่ท่านชอบวาคาบะนี่นะ เลยจะกลับไปซบเรือแรกที่ลง เรือเอ็นโจ....

222 Nameless Fanboi Posted ID:VO51Q/Bcvu

>>221 ไม่ว่าเรือจะล่มไปกี่ลำก็ตาม แต่เรือคานนั้นจะอยู่ยงคงกระพันค่ะ

223 Nameless Fanboi Posted ID:HuZKMqxv0g

ไม่ว่าจะเรือลำไหน แต่สุดท้ายก็เทียบท่าบ้านพักคนชราแน่นวลค่ะ

224 Nameless Fanboi Posted ID:dMkn2GnpEk

>>219 >>220 >>222 พวกมึงพูดอะไรช่วยเกรงใจแท็กเลิฟด้วยคร่ะ!

225 Nameless Fanboi Posted ID:8jRHO/wqV+

>>224 แท็กเลิฟกับคาน และเลิฟกับอาหารไงคะ

226 Nameless Fanboi Posted ID:X1IXloa2ls

>>203 ดีงามมากมึง เอากาวมาอีก

227 Nameless Fanboi Posted ID:wc3akg/bwC

เปิดประเด็นต่อ พวกมึงว่าท่านพี่แอบคบใครอยู่หรือเปล่าวะ ดูนางเหมือนจะมีแผนในวันเทศกาล วันสำคัญต่างๆไรงี้ เหมือนมีแผนจะเดทใครหรือให้จองขวัญใครเลยอ่ะ แต่กูไม่อยากให้ท่านพี่มีใครเลย อยากให้เป็นซิสค่อนอย่างนี้ตลอดไปปป

228 Nameless Fanboi Posted ID:LpdcDQOrhP

>>214 เวลคัมเพื่อนโม่ง มึงเป็นเหมือนกูเลย555 ไม่หลับไม่นอนอ่านโต้รุ่งทุกวัน ซีรงซีรี่ไม่สนใจ ติดท่านเรย์กะหนึบ555

229 Nameless Fanboi Posted ID:dMkn2GnpEk

>>227 กูคิดว่ามีแล้วว่ะ ดูเรย์กะนางรำพึงในใจบ่อยมากว่าอย่าให้แฟนท่านพี่เป็นคนประหลาดๆ กลัวรับไม่ได้ เห็นนางระแวงเรื่องไหนได้เรื่องนั้นทุกที แต่ก็คิดอยู่ว่าไม่น่าเพิ่มตัวละครใหม่....
กูยังติดใจตอนนั้นที่ท่านอิมาริมาหาบอกว่ามีธุระกับท่านพี่เนี่ยสิ แล้วถามเรย์กะเป็นนัยๆ ด้วยว่าอยากรู้ไหมว่ามีธุระอะไร กูว่ามันต้องมีลับลมคมนัย...

230 Nameless Fanboi Posted ID:H/44p2huU8

>>227 กูว่าถ้าคบในเรื่องก็น่าจะเป็นท่านไอระ จำได้รางๆ ว่าท่านพี่เคยโทรไปหาหรือปรึกษาเรื่องเรย์กะด้วยนี่แหละ เป็นคนที่ท่านพี่นึกถึงอะนะแล้วเป็นตัวละครหญิงที่เหมือนจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องหลักแต่โดนพูดถึงว่าติดต่อกับเรย์กะบ่อยๆ ส่วนท่านไอระถ้าคบก็คงไม่กล้าให้เรย์กะรู้เพราะกลัวว่าเรย์กะเป็นซิสค่อนแล้วจะเสียใจหนักมาก เหมือนโดนหักหลัง เลยคบแบบเงียบๆ ไม่อย่างงั้นก็เป็นบุคคลที่ 3 นอกเนื้อเรื่องไปเลย ถ้าเอาผู้หญิงในเรื่องนี่นึกออกแค่ท่านไอระอีกคนก็อาคิมิที่สอนเรย์กะทำอาหารที่มีโอกาสได้คุยกับท่านพี่นิดหน่อยแต่เอาตัวละครหญิงในเรื่องกูคิดว่าท่านไอระมีความเป็นไปได้มากกว่า หรืออาจจะคบกันจนเลิกกันไปแล้วก็ได้

231 Nameless Fanboi Posted ID:VUY/qy53X5

>>229 กูสงสัยมากว่าเป็นใคร ทำไมท่านพี่ถึงไม่เปิดตัว กลัวที่บ้านหรือท่านเรย์กะรับไม่ได้?

กูก็คิดว่าน่าจะเป็นตัวละครเก่า แต่ถ้าเป็นตัวละครเก่าก็นึกไม่ออกว่าเป็นใครท่านพี่ถึงไม่กล้าเปิดตัว หรือจะเป็นคนธรรมดาๆรักต่างชนชั้นงี้? ดูท่านพี่มีปมกับเรื่องชนชั้น ไม่ชอบการแบ่งแยกชนชั้น เกลียดคนเหยียดคนอื่น

ไม่ใช่หักมุมว่าคนนั้นคือแฟนรุ่นพี่โทโมเอะนะ...กูยังคาใจที่ท่านอิมาริกำลังพูดถึงคู่รุ่นพี่โทโมเอะให้ท่านเรย์กะฟังแต่โดนท่านพี่เบรคไว้ก่อน ไม่รู้เบรคทำไม

232 Nameless Fanboi Posted ID:o7UqmDGWnU

>>227 เอาตัวละครที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดในเรื่องก็อิมารินี่ล่ะว่ะ อันนี้พูดจริงๆจังๆเลยนะ ถ้าอ.ฮิโยโกะแกจะเขียนให้ท่านพี่และอิมาริเป็นแฟนกันก็ไม่มีใครแปลกใจหรอก

ไอระก็เคยไปเที่ยวด้วยกันตอนเรย์กะอยู่ประถม ปรึกษากันเรื่องน้องสาว พามาบ้านสอนทำช๊อกโกแลตให้น้องสาว แต่บทน้อยเกินไปจนดูไม่มีความสัมพันธ์อะไรมากไปกว่านี้เลยว่ะ เหมือนคุยกันเพราะเรื่องเรย์กะล้วนๆ หาได้สนใจอะไรในตัวไอระไม่ ถ้าเป็นไอระจริงๆท่านพี่ก็คงเปิดตัวไปนานละนะกูว่า เรย์กะก็ปลื้มไอระจะตาย ฐานะก็เท่าเทียมกัน ทางบ้านคงไฟเขียวสามผ่าน

คุณอาคิมิดูจะปลื้มๆอิมาริแต่ก็บทน้อยเกินเหมือนกัน แถมยังมีคุณอาของมาโอะที่น้องเขาพยายามชงจับคู่ให้ด้วย คนนี้กูว่าไม่น่าจะใช่

งั้นกูขอสันนิษฐานว่าคงเป็นตัวละครใหม่ที่อาจจะออกมาในอนาคตอันไกลโพ้น และเนื่องจากท่านพี่กับเอ็นโจนิสัยเหมือนกัน ดังนั้นคนที่ชอบต้องมีลักษณะนิสัยใกล้เคียงกับเรย์กะถึงจะดึงดูดความสนใจจากท่านพี่ได้ พวกที่เข้าหาก่อนหรือเสนอตัวให้ก่อน ท่านพี่ไม่เอาหรอก ไม่แน่ท่านพี่อาจจะยังจีบคนคนนั้นไม่ติดด้วยซ้ำ //ผายมือไปทางจอมมารในไร่แห้ว

>>231 กูว่าสาวคนนั้นไม่ใช่หรอก เขารักกันกับแฟนดีอยู่แล้ว แถมไม่มีความข้องเกี่ยวอะไรกันกับท่านพี่เลย ยกเว้นแค่ตอนท่านพี่สืบเรื่องโทโมเอะเซมไปเพราะกลัวคนมาหลอกน้องเท่านั้นเอง กูว่าที่เบรกอิมาริไว้เพราะกลัวว่าไปสะกิดแผลรักแรกของน้องสาวมั้ง

233 Nameless Fanboi Posted ID:dMkn2GnpEk

พูดถึงประเด็นที่ยังเหลืออยู่ กูยังนึกอยู่นะว่าท่านอิมาริเห็นคุณชายเอ็นโจที่โรงละคร ...ซึ่งดูน่าจะไปกับสาว... นี่เห็นแล้วได้เข้าไปทักยิ้มๆ ป่ะวะ หรือชนักปักหลังเลยได้แต่มองห่างๆ

234 Nameless Fanboi Posted ID:2wpuWqwNXm

เดี๋ยวผลออกมาท่านพี่กิ๊กกับนารุคุง ผ่าม ผ่าม ผ่าม

235 Nameless Fanboi Posted ID:JjhQM70LRb

>>232 กูก็คิดว่าไม่ใช่ แค่แซวเฉยๆว่าไม่ใช่ว่าหักมุมไรงี้555 อีกอย่างคือคาใจว่าเบรคทำไม ดูท่านเรย์กะก็ทำใจได้ตั้งนานแล้ว แถมยังชอบยังอวยพรคู่นี้อีก ทำกูสงสัยว่ามันต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆกับคู่นั้น

แต่กูเห็นด้วยว่าถ้าว่าถ้าหักมุมเป็นท่านอิมารินี่ก็ดูได้อยู่นะ หรืออาจจะเป็นตัวละครใหม่แต่ท่านพี่ยังจีบไม่ติดอย่างเพื่อนโม่งบอกเลยยังไม่เปิดตัว(เลยเรียกท่านอิมาริมาบ่อยๆเพื่อปรึกษาปัญหาหัวใจไรงี้555) ถ้าเป็นคนแบบท่านเรย์กะก็ดีสิ บันเทิงเลยทีนี้ สนุกแน่นอน กูเชียร์ๆ แต่...กูว่าไม่น่าใช่555 ถ้าไม่เป็นคนแปลกๆอย่างที่ท่านเรย์กะกลัว กูก็ยังเดาว่าพล็อตรักต่างชนชั้นต้องมา(ถึงกูจะไม่ชอบเลยเหอะ)

236 Nameless Fanboi Posted ID:CTj4YarLx7

ต่อจาก >>235 เรื่องของคู่รุ่นพี่โทโมเอะนี่กูหมายถึงอาจ้ป็นทั้งเรื่องดีหรือเรื่องร้ายก็ได้นะ อาจจะหมั้นกันก็ได้ไรงี้

ส่วนพล๋อตรักต่างชนชั้นของท่านพี่ กูลืมไปว่าท่านฮิอินดี้ กูจะใช้ตรรกะเหมือนตอนอ่านนิยายรักหรือมังงะโชโจทั่วไปไม่ได้555 พล็อตรักต่างชนชั้นสงวนไว้ให้ตัวเอกในมังงะ(คาบุรากิ+วาคาบะ)ที่ท่านเรย์กะอ่านพอ กูขอถอนคำพูด555

237 Nameless Fanboi Posted ID:LgR.Iq7+xD

>>235 แต่ท่านพี่ไม่บริสุทธิ์ผุดผ่องแล้วนะ 5555 ใครกันน้อที่พรากความบริสุทธิ์ของท่านพี่ไป

238 Nameless Fanboi Posted ID:DBR05OrYfD

>>237 กูเองแหละ​

239 Nameless Fanboi Posted ID:C1mtoYxGM0

>>238 ตื่นมึง ตื่น

240 Nameless Fanboi Posted ID:TVWgP4s0gu

>>237 พูดถึงความบริสุทธิ์ของท่านพี่กันตอนไหนวะ จำไม่ได้ พลาดดดดด

241 Nameless Fanboi Posted ID:Q9iRlNFzjq

>>240 ตอนที่ 237 ที่ท่านพี่โมโหอิมาริตอนแว้บไปหาสาวที่ปารีส อิมาริเลยหยอกกลับว่าทาคาเทรุก็ไม่ได้ใสสะอาดไร้ราคีแบบปากว่าซักหน่อย รู้ได้ไงน้อ~~~

242 Nameless Fanboi Posted ID:WXMwEsvkmK

ไม่ใสสะอาดไม่ได้แปลว่าไม่บริสุทธิ์โว้ย มึงอย่ามาใส่ร้ายท่านพี่กูวววว ไม่งั้นอีตาเอ็นโจที่มองก็รู้ว่าไม่ใสสะอาดไร้ราคีก็ไม่บริสุทธิ์ด้วยน่ะสิ—//โดนแฟนคลับรุมกระทืบ

243 Nameless Fanboi Posted ID:z+/VcHrE6E

>>242 ถ้าเป็นเรื่องอื่นกูจะคิดว่าทั้งคาบุและเอ็นโจไม่ซิงแล้ว แต่พอเป็นเรื่องนี้กูจะมีความรู้สึกว่าพวกนี้เวอร์จิ้นกันอยู่แหงๆ ส่วนท่านพี่กูว่าไม่เหลือความบริสุทธิ์ใสสะอาดนานแล้ว ยิ่งมีเพื่อนแบบอิมาริด้วยน่าจะพากันไปแอ๊วสาว(?) แถมอายุก็ไม่ใช่น้อยๆแล้ว ชายหนุ่มผู้ร่ำรวยและหน้าตาดี ยังไงก็ต้องมีเข้ามาในชีวิตมั่งล่ะ

244 Nameless Fanboi Posted ID:KrXlT65NPp

>>241 ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่

245 Nameless Fanboi Posted ID:yuFaBweW67

ขอ ky แปป ไม่มีใครอ่านแล้วรู้สึกท่านไอระกับยูริเอะเขาปลูกลิลลี่กันอยู่เหรอ

246 Nameless Fanboi Posted ID:Q9iRlNFzjq

>>245 ก็รู้สึกนะ แต่บทน้อยเกินไปเลยไม่อิน แถมไม่มีเหตุการณ์ให้เป็นที่จดจำ ไม่เหมือนเรย์กะกับวาคาบะที่แสดงให้เห็นว่าสองคนนี้เขารักและเป็นห่วงกันขนาดไหน

247 Nameless Fanboi Posted ID:3kbcUmWgXM

>>233 อยู่ๆอิมาริก็พูดถึงเอ็นโจขึ้นมา กูรู้สึกว่าเอ็นโจมันน่าจะไปทักอิมาริด้วยอะไรซักเรื่องที่เกี่ยวกับเรย์กะนี่ล่ะ ไม่แน่อาจจะเป็นเรื่องกอล์ฟมาร์กเกอร์//ไม่ใช่หรอกมั้ง ทำให้อิมาริมาคิดว่าสองคนนี้มีซัมติงกันอ๊ะป่าว หรือไม่ก็จอมมารแสดงความเปิดเผยว่าชอบเขาซะขนาดนั้น ผู้ใหญ่บ้านคาสโนว่าก็หยอกล้อลูกบ้านฝึกหัดซะไปไม่เป็น แล้วก็เก็บกลับมาถามว่าสนิทมั้ย แต่เรย์กะดันบ่ายเบี่ยงประเด็นซะก่อน ทำไมไม่ตอบตรงๆไปก็ม่ายรุ

248 Nameless Fanboi Posted ID:I.uYtn2DHR

>>247 อาจจะไปเจอกันที่ลานกอล์ฟ
"อะ มาร์คเกอร์อันนี้คืออันที่ผมกับคุณเรย์กะช่วยกันเลือกสองคนตอนไปปารีสนี่นา ถูกใจมั้ยครับ"

249 Nameless Fanboi Posted ID:HS0/5m6d4Z

ระหว่างที่รอตอนใหม่กูไปอ่านฟิคในกระทู้เก่า เจอฟิคอิมาริกับเรย์กะ เลยคิดว่า ไม่แน่นะว่าอิมาริอาจจะจองเรย์กะไว้ตั้งแต่แรกแล้ว แต่ที่ยังไม่จีบจริงจังเพราะจะรอให้จบ ม. ปลายก่อน ถ้าจบ ม. ปลายแล้วน่งยังไม่มีแฟนก็อาจเอาจริงเลยก็ได้นะ ที่ถามเรย์กะเกี่ยวกับหนุ่ม ๆ ทั้งสองคนก็เพื่อจะเช็คก่อนว่านางมีใครหรือยังก็เป็นได้

250 Nameless Fanboi Posted ID:wbLrCOWqIt

เม้นบนๆทำให้กูมีความหวัง ดมกาวฟืดฟาด จุดนี้ใครก็ได้ ขอเลิฟไลน์ให้ชุ่มฉ่ำหัวใจจจจจจ

251 Nameless Fanboi Posted ID:3kbcUmWgXM

>>249 ก็เป็นไปได้นะ แต่ท่านพี่น่าจะเอาอิมาริไปถ่วงอ่าวซะก่อนจะได้มาขอน้องเขาเป็นแฟนจริงๆจังๆ

252 Nameless Fanboi Posted ID:hsVgN3DMYb

>>249 กูว่าถ้าจริงนี่นรกของท่านพี่เลย และนรกของท่านอิมาริด้วย 555 จากเพื่อนไปเป็นน้องเขย เป็นกู กูก็รู้สึกเชี่ยยย

253 Nameless Fanboi Posted ID:gLr40QJPBK

เท่าที่สังเกตมา อิมาริจะชอบเต๊าะเรย์กะหรือทำตัวเจ้าชู้ใส่แค่ต่อหน้าท่านพี่เท่านั้น แต่พออยู่กันสองคนไม่มีท่านพี่ในบทสนทนา อิมาริจะคุยเรื่องทั่วๆไปแทน ดูแล้วไม่เหมือนคนที่จะจีบเลย ถ้าอิมาริจะจีบเรย์กะจริงๆฮีน่าจะรุกมากกว่านี้ เผลอๆสำเร็จภายในหนึ่งเดือนด้วยซ้ำ 5555555

254 Nameless Fanboi Posted ID:EepmI6XVnB

>>253 ถ้าเรย์กะชอบอิมาริแบบจริงๆ จังๆ มันจะกลายเป็นโศกนาฎกรรมแบบ Card Captor Sakura เลยนะเว่ย ฉันแอบชอบเขา แต่เขาเป็นแฟนพี่ชายฉัน...

255 Nameless Fanboi Posted ID:re9o8Eydwd

สงสัยมาพักนึงละ ในแมวดุ้น เขาพิมพ์ เนอะ เป็น เน้อ รึเปล่าหว่า? อ่าน “นั่นสิเน้อ~” ทีไร กึ้ดว่าคนเมืองก่นั่น

256 Nameless Fanboi Posted ID:p2tfFsF9BA

>>255 คำว่า "เน้อ" มันจะดูลากเสียงยาวกว่าทำให้ได้ฟีลน่ารักหรือฟีลเฮฮาเป็นกันเองมากกว่าคำว่า "เนอะ" รึเปล่าอะ

257 Nameless Fanboi Posted ID:re9o8Eydwd

>>256 ถ้าจะบอกอย่างนั้นมันก็ได้ ที่กูรู้สึกแปร่งๆ คงเพราะชีวิตจริงออกเสียง “เนาะ” แต่เวลาเขียนดันเป็น “เนอะ” พอเวลาอ่านออกเสียงในใจเป็น “เน้อออ” มันเลยแปร่งๆ มั้ง

258 Nameless Fanboi Posted ID:XrbYJCc+3w

>>255 เอ้า กนเมียงก่ะฮั่น? คิงคนบ้านใด?

259 Nameless Fanboi Posted ID:OMJOgYI1HH

>>258 บ่จ้ายกนเมือง ฮาอู้เมืองปะแล้ด แต่สลิดจะอู้ 5555 ว้อยยย

260 Nameless Fanboi Posted ID:i0RNFjSc2u

ว้าว นี่คือคำเมืองเหรอ

261 Nameless Fanboi Posted ID:EepmI6XVnB

เปิดประเด็นนิด พวกมึงว่าท่านเรย์กะแต่งตัวดีหรือแต่งตัวเชยสุดกู่วะ กูว่าบ้านนางก็รวย น่าจะใช้ของแบรนด์ดีๆ แพงๆ เยอะ แต่มันดูหรูจนล้าสมัยไปรึป่ะวะ
ถึงขั้นคนมองเป็นรุ่นแม่.... แต่ก็คิดว่าถ้าอยู่ในหมู่พวกสาวสังคม ถ้าแต่งตัวเชยๆ มีหวังโดนนินทายับ ตรงนี้นางน่าจะเอาตัวรอดได้อยู่นะ

262 Nameless Fanboi Posted ID:XrbYJCc+3w

>>259 ว้อยยยยยย 5555555555555555555555

>>261 พวกแบรนด์แพงๆ มันมีอยู่สองแบบว่ะ
1. ออกของใหม่ทุกซีซั่น
2. คลาสสิคตลอด

ดูจากผมทรงโคโรเน่แล้วกูว่าท่านแม่น่าจะให้ใส่ชุดโบราณๆ ล่ะมั้งนะ ยังเคยถูกคิดว่าเป็นคุณแม่ที่พาลูกมาฝึกตนที่น้ำตกเลยนี่หว่า มันต้องแก่พอควรแหละ

เจ้าแม่คงเอาอยู่ แต่ก็น่าจะบวกอายุอีกหลายขวบปี

263 Nameless Fanboi Posted ID:p2tfFsF9BA

>>261 ไม่หรอก น่าจะเรียบหรูดูดีเนี้ยบไปทั้งตัวจนคนเขาคิดว่าเป็นผู้ใหญ่แล้วมากกว่าจะดูเชยหรือดูป้าว่ะ แถมพุงออกนอกหน้าเขาเลยนึกว่าท้อง....

264 Nameless Fanboi Posted ID:mS93oC0ybU

>>263 เรื่องชุดที่ดูเนี๊ยบไม่น่าใช่ เพราะวันนั้นฟุยุโกะก็ไปด้วย ซึ่งน่าจะแต่งคล้าย ๆ กันตามสไตล์คุณหนู สาเหตุน่าจะมาจากทรงผมมากกว่า เพราะทรงผมม้วนนั่นเหมาะกับชุดออกงานมากกว่านะ

265 Nameless Fanboi Posted ID:Gf7qxNjHUS

>>264 คนทำผมม้วนแล้วดูเป็นสาววัยรุ่นก็มีเยอะแยะไปนะมึง เรย์กะน่าจะออกแนวสวยคลาสสิคมากกว่า แบบดารายุคเก่าๆที่สวยจริงนะ แต่ก็ดูออกว่าสวยแบบสมัยก่อน กูคิดอิมเมจนางคล้ายๆเจนนิเฟอร์ คอนเนลลี่จากเรื่อง labyrinth ว่ะ คนนี้สวยจริงอะไรจริง ผมม้วนๆใหญ่ๆ ใส่ชุดเจ้าหญิง ลองหารูปดูได้ สวยคลาสสิคมากๆ

266 Nameless Fanboi Posted ID:hsVgN3DMYb

กูว่าหน้าตาปนบุคลิกด้วย
น่าจะประมาณนากามะ ยูกิเอะ ดูเป็นผู้ใหญ่ตลอดเวลา 555

267 Nameless Fanboi Posted ID:UE+/qdJzL4

>>264 ไม่น่าจะแค่ทรงผมหรอก กูว่าคงหลายๆอย่างรวมกันเลยทำให้ดูมีอายุ อย่างบุคลิกหรือการแต่งตัว ถ้าได้เจอผู้หญิงที่ดูเรียบร้อยยืนตัวตรงดูบุคลิกดี ใส่ชุดเดรสที่ดูปราณีตมีรสนิยม ก็คงคิดกันว่าอยู่วัยผู้ใหญ่ 20+ แล้วล่ะ

268 Nameless Fanboi Posted ID:LIAklkvCMz

รวมพุงด้วยมั้ง คนมองอาจจะไม่คิดว่าคนสวยแบบนี้จะอ้วน...ท้อง ท้องแน่ๆ ใช่แล้ว!
/เสียงคาบุลอยมาว่ายัยขาหมู...
พอคิดว่าท้อง รวมกับบุคลิก การแต่งตัว ทรงผม อะไรทั้งหลายที่โม่งๆ ว่ามา ก็เดาไปว่าเป็นผู้ใหญ่งี้

269 Nameless Fanboi Posted ID:Xg0I4L5lxn

>>261 คงแต่งตัวดี แต่ออกแนวผู้ใหญ่หน่อยๆว่ะ แนวๆเดรสสวยๆหวานๆที่เข้าชุดกันกับรองเท้ากระเป๋า เสื้อผ้าแบบที่วัยรุ่นเขาใส่เดินห้างกันอย่างเสื้อยืดกางเกงยีนส์รองเท้าผ้าใบไม่น่าจะได้สัมผัสร่างกายเจ้าแม่ เท่าที่อ่านมานางใส่แต่เดรส มีใส่เลคกิ้งแค่ตอนไปเจอเบียทันเท่านั้นเอง

270 Nameless Fanboi Posted ID:++9uWMDJOX

เราเพิ่งอ่านเรื่องนี้จบ ค้างมากเลยลองหาฟิคอ่านดูแล้วเจอกระทู้นี้เข้า ทีแรกก็นึกว่าคงมีฟิคไม่กี่เรื่องหรอกมั้ง ที่ไหนได้เจอคลังสมบัตินี่นา เราเลยลองสุ่มอ่านไปสองฟิค สนุกมากๆเลยค่ะ เขียนได้เก่งกันจังเลย แต่ก็ค้างมากมายเหมือนต้นฉบับ อยากอ่านต่อจัง

271 Nameless Fanboi Posted ID:k.oKWD8r4P

>>270 เราตามรอยท่านฮิไง ท่านดองเราดอง

272 Nameless Fanboi Posted ID:02jjs/rEx2

>>270 นี่แหละอ่านกันไปยาวๆ มีทุก AU รองรับ ถ้าค้างมากมาช่วยกันกวนกาวต่อได้นะ 5555

273 Nameless Fanboi Posted ID:mF1N0/GaLn

>>271 คนแต่งหายไปนานขนาดนี้ ถ้าจะไม่ลงต่อ ก็อยากให้บอกนะ จะได้ไม่ต้องรอคอย

274 Nameless Fanboi Posted ID:pcRh/GdYfn

>>273 อย่าพูดงั้นซี่ เราว่าเดี๋ยวท่านฮิก็คงมาต่อ ในอดีตก็เคยมีประวัติดองยาวมาก่อนเหมือนกัน(ถึงจะไม่ยาวเท่าครั้งนี้ก็เถอะ) ท่านฮิอาจจะเป็นแม่ลูกอ่อนกำลังยุ่งเลี้ยงลูกก็ได้นะ เหมือนที่หลายคนสันนิษฐานกัน

275 Nameless Fanboi Posted ID:02jjs/rEx2

ที่โหดกว่านั้นคือท่านฮิอาจจะอินดี้จัด โดนทวงๆ มากเลยลบทิ้งแม่ง... Orz

276 Nameless Fanboi Posted ID:pcRh/GdYfn

>>275 ตบปาก ตบป๊ากกกกก อย่าพูดเป็นลางดิเว้ย

277 Nameless Fanboi Posted ID:3glvznXKie

ฟิก เอ็นโจเป็นโฮส มาต่อเร้ววว

278 Nameless Fanboi Posted ID:QlgJ1mk5vy

เอ้อ ตอนนั้นฟิคทะลุมิติจบยังนะ

279 Nameless Fanboi Posted ID:Txfr3v+JG.

>>278 เหมือนใกล้ๆ จะจบแล้วแต่แยกมาเล่าเรื่องอีกภาคของเรย์กะนางร้ายก่อน
ว่าแต่กูชอบคาบุตอนเป็นโลลิมากเลยนะโม่งทะลุมิติ อุ๊อิ๊

280 Nameless Fanboi Posted ID:afQVoSosKV

>>279 โลลิเขาเอาไว้ใช้กับเด็กผู้หญิง ถ้าเป็นเด็กผู้ชายต้องโชตะ

281 Nameless Fanboi Posted ID:Txfr3v+JG.

>>280 กรี๊ซ เขิลล์ ไม่ได้อ่านนานแล้วเบลอค่ะ ขออภัย

282 Nameless Fanboi Posted ID:ST/rh7uhvD

มะหมาเฉพาะ​กิจ

วันนี้เจ้านายพาเหล่าหมาเด็กที่พักอยู่ที่อีกคอกมาเดินเล่น​ที่คอกหมาใหญ่กันล่ะค่ะ
"สวัสดี​ฮะ! คุณพี่เรย์ทัน!"
"สวัสดี​จ้ะ ปอมกิโนะคุง!"
ปอมกิโนะคุงเป็นลูกหมาที่ฉันเพิ่งรู้จัก​เร็วๆมานี้ ลูกหมาตัวป้อมพันธ์​ปอมเมอเรเนียน ขน​สีขาวตนดูอย่างกะก้อนขน เห็นแล้วอยากจะเข้าไปฟัดซุกไซ้ขนฟูๆนั่นจัง เสียก็แต่ว่า...
"สวัสดี​ฮะ ท่านพี่ชูสุมอย!"
ปอมกิโนะดอดตัวไปเล็กน้อย ทักทายชูสุมอยที่นั่งเยื้องอยู่ข้างหลังฉัน
ใช่แล้ว ปอมกิโนะเป็นพี่น้องกับชูสุมอยนั่นเองค่า! หวาาา ทำไมถึงไปนับญาติ​กับหมาตัวโตน่ากลัวแบบนั้นกันล่ะ!? ถ้าฉันไปทำมิดีมิร้าย​กับปอมกิโนะ ต้องโดนพี่ชายเขากัดตายแน่ๆ แค่คิดก็น่ากลัวแล้ว ไม่นะ!!
ถ้าเป็นเวลาปกติฉันคงเผ่นแน่บไปแล้ว แต่มีหมาเด็กอยู่ต่อหน้า ต้องรักษาภาพพจน์​เข้าไว้นะ ไม่กลัวหรอก ไม่เล้ย อย่าตัวสั่นซิ่

+

"ไม่รวมฝูงกับหมาเด็กด้วยกัน เดี๋ยว​ก็โดนไซซายะดุหรอก" ชูสุมอยว่า
ที่อีกฟากของสนาม ไซซายะกำลังไล่กวด​หมาเด็กที่แตกแถวให้มานั่งคุมความประพฤติ​ในฐานะที่ตัวเองเป็นจ่าฝูง​หมาใหญ่ คงดูเท่มากจนหมาสาวๆส่งเสียง​เห่าเชียร์​กันลั่นสนาม
"เอ๋~ นั่นก็แค่ข้ออ้างไม่ใช่เหรอฮะ ่ท่านพี่ไซซายะแค่คึกอยากเล่นวิ่งไล่จับเท่านั้น​แหละ​"
อ อ่านขาดมาก ปอมกิโนะคุง!

+

ปอมกิโนะคุงหางฟูๆส่ายดุกดิก​ไปมาอย่างมีความสุข​ ขณะโดดตัวไปมารอบตัวฉัน น่ารัก​จังเลยน้า~
"เมื่อวานเจ้านายพาผมไปที่สปาครั้ง​แรกมาล่ะฮะ ตอนแรกผมกลัวมากๆเลยเพราะท่านพี่ไซซายะเคยขู่อย่างนั้นอย่างนี้​ตั้งหลายอย่าง​แน่ะ แต่เอาเข้าจริงไม่เห็นน่ากลัว​เลย แถมรู้สึก​ขนเบาโหยงเลยล่ะ! "
"แหม สปาไม่ได้น่ากลัวเท่าโรงบาลหรอกน้า แค่อ่บน้ำตัดแต่งขนเสริมความงาม​เท่านั้น​แหละน่า"
"คุณพี่เรย์​ทันไปสปาบ่อยเลยสินะฮะ?"
"ใช่จ้ะ ก็พี่เป็นสายพันธุ์​ที่เน้นเรื่องความสวยงาม​มากกว่า​ล่ะน้า"
" อย่างนี้นี่เอง! ท่านพี่​เรย์​ทันถึงดูขนฟูฟ่องเสมอเลยสินะฮะ!"
... ที่ดูพองๆไม่น่าจะเป็นเพราะขนฟูหรอกจ้ะ ปอมกิโนะคุง....

283 Nameless Fanboi Posted ID:5RW4qE.VM1

>>282 วรั้ยยยยยยย คิดถึงฟิคนี้ค่า ในที่สุดน้องยูกิโนะก็ออกมาแล้ว แต่ไม่ใช่สายพันธุ์เดียวกับชูสุมอยเร้อ 555555555
ที่เรย์ทันดูพองๆนี่น่าจะไม่ใช่แค่ขน แต่พุงด้วยใช่มั้ย.....

284 Nameless Fanboi Posted ID:Txfr3v+JG.

>>282 อะ กูคิดถึงฟิคนี้มากๆ เลย ฮืออออ ทุกวันนี้ไม่สามารถมองหมาซามอยด์ด้วยความรู้สึกเดิมๆ ได้อีกต่อไป แกเป็นหมาหน้าซื่อซ่อนเหลี่ยมไม่ใช่เรอะ 555 ไม่ควรไปน้วยคุณพี่เรย์กะตรงพุงนะจ้ะ ปอมกิโนะคุง

285 Nameless Fanboi Posted ID:09l1VK9LmB

>>282 กรี๊ดดดดดด วันนี้หลับอย่างเป็นสุขแล้ว
/ขนาดเป็นมะหมา เรย์กะทันก็สนิทสนมกับไขมันคุง...

286 Nameless Fanboi Posted ID:hEHgZIY23Q

>>282 โหววว ฟิกมะหมา โคตรคิดถึง ว่าแต่ประโยคจบตึ่งโป๊ะนั่นมันอะไรกั๊น พวกหมาขนฟูนี่เวลากร้อนขนแล้วข้างในมันไม่ได้ผอมกะหร่องทุกตัวหรอกเรอะ

287 Nameless Fanboi Posted ID:qBvFiImWAq

>>286 มันมีหมาที่ฟูจริงกับฟูเก๊นะมึง
แต่อ่านฟิคนี้ละนึกถึงพี่น้องลาบราดอร์ที่บ้าน ตัวนึกแดกข้าวสามชามหุ่นยังเพรียวยังกะโดเบอร์แมน ส่วนอีกตัว แดกลมก็ยังกลมเลยมึงถถถถถ

288 Nameless Fanboi Posted ID:csj452bzxJ

>>286 มันจะมีบางตัวที่กินดีอยู่ดีมาก ต่อให้โกนขนออกพุงก็ย้อยลงมานะมึง แบบไซบีเรียนบ้านญาติกู เจ้าของเขาเอาไปหาหมอแล้วต้องโกนขนเพราะมันเป็นโรคผิวหนัง ทีแรกนึกว่าจะผอมกะหร่องแบบตัวอื่นๆ ที่ไหนได้ พุงย้อยมาเลยจ้า ถึงเจ้าของจะพาเดินทุกวันยังอ้วนได้อะคิดดูว่ากินดีอยู่ดีแค่ไหน 555555555

289 Nameless Fanboi Posted ID:/GsFHn2gFA

>>286 เรย์ทันน่าจะฟูจริง อ้วนจริง เพราะกินอย่างเดียวไม่ได้ออกกำลังกาย....

290 Nameless Fanboi Posted ID:uYrFFfYDd+

นึกสภาพตอนไซซายะเป็นโค๊ชลดน้ำหนักให้เรย์ทัน.... ต้องบ้าบอบ้าพลังยิ่งกว่าต้นฉบับแหงๆ 55555555

291 Nameless Fanboi Posted ID:RvMUeRMpEn

พูดถึงลดน้ำหนัก.... มึงว่าออกกำลังกายแบบสปาร์ตันแบบบากะรากิมันจะลดได้สักกี่โลวะ

292 Nameless Fanboi Posted ID:A7EjulO69r

>>291 คงไม่เยอะหรอก เพราะสายพันธุ์ของเรย์กะทันก็เป็นหมาเล็กอยู่แล้ว แต่ตามสไตล์บ้าพลังแบบหมาไซก็จับวิ่งจนกว่าไซซายะจะเหนื่อยมั้ง 5555

293 Nameless Fanboi Posted ID:PUvpOcWoPL

>>292 หมาไซวัยรุ่นบ้าพลังวิ่งจนเหนื่อยนี่กูว่านักกีฬาเท่านั้นที่วิ่งตามได้นะ เนเจอร์มันเป็นหมาลากเลื่อน ถ้าไม่ร้อนตับแตกนี่วิ่งได้แทบทั้งวัน

294 Nameless Fanboi Posted ID:oWPZzOmDLy

>>293 แล้วซามอยด์ล่ะ เป็นหมาลากเลื่อนเหมือนกันน่าจะบ้าพลังไม่ต่างกันกับไซบีเรียนนะ แต่ภาพลักษณ์มันดูอ่อนโยนกว่า

295 Nameless Fanboi Posted ID:Ys0hTO1UkK

>>294 ซามอยด์กูว่ามุ้งมิ้งกว่า นิสัยโฉดน้อยกว่าไซเยอะ แต่ก่อนกูชอบไซเพราะหน้าตา แต่พอรู้จัก กูไม่มีทางเลี้ยงมันแน่นอน แต่ถึงซามอยด์จะน่ารัก เอาเข้าจริงก็แรงควายเหมือนกันเพราะตัวใหญ่เบิ้ม

296 Nameless Fanboi Posted ID:3eGs36N/r7

>>294 ซามอยด์จะน่ารักกว่า ดูสง่า แต่กูไม่เคยเห็นคนเลี้ยงแถวบ้านเลยไม่รู้ว่าเป็นไง คาดว่าน่าจะชอบอ้อนเจ้าของ ส่วนไซบีเรียนนี่จะไฮเปอร์ บ้าพลังอยู่นิ่งไม่ค่อยได้ หมาที่ชอบเล่นที่สุดไม่มีใครเล่นด้วยแม่งก็เล่นกับตัวเองได้
หมาลากเลื่อนทั้งสองแต่คนละทาง ซามอยด์ไซบีเรีย ไซบีเรียนทางอลาสกา กูว่าสองพันธุ์นี้ไม่ควรเลี้ยงในไทย เพราะเปลืองแอร์สุดๆ นอกจากจะไถขนจนเกลี้ยง

297 Nameless Fanboi Posted ID:.XMUj7/7LH

ขอเปลี่ยนเรื่องคุย ตอนแรก ๆ ที่เรย์กะให้ฉายาท่านพ่อว่าทานุกิน่ะ คิดว่านางจะหมายถึงอะไร หุ่น หรือ นิสัย

298 Nameless Fanboi Posted ID:jRFje058hB

>>296 แถวบ้านกูเลี้ยงซามอยด์ หล่อมาก เฟรนด์ลี่มาก เจอใครก็ยิ้มให้อย่างเดียว กิจวัตรประจำวันของฮีตอนห้าโมงเย็นจะมานั่งมองคนเดินผ่านไปผ่านมาหน้าบ้านแล้วยิ้ม กูชอบแอบไปลูบหัวหมาเขาเล่นประจำแล้วฝันว่าตัวเองจะเลี้ยงซามอยด์บ้าง ตอนหน้าร้อนฮีจะไม่ค่อยออกจากบ้านเท่าไหร่ แล้วบางทีเจ้าของเขาก็พาไปโกนขนออกเหลือแต่หน้าด้วย ส่วนตัวล่อนจ้อนจ้า 55555555555

299 Nameless Fanboi Posted ID:jRFje058hB

>>297 หุ่นแน่ๆ ยังชวนพ่อเล่นฮูลาฮุปจนเอวเดาะเข้าโรงบาล แถมท่านแม่บอกท่านพ่ออดอาหารไปก็ไม่ผอมหรอก

300 Nameless Fanboi Posted ID:3eGs36N/r7

>>299 กูว่า เพราะ ท่านพ่ออดไม่ได้ต่างหาก นิสัยชอบกินถ่ายทอดมาถึงลูกสาวเลย

301 Nameless Fanboi Posted ID:jRFje058hB

>>300 สมัยหนุ่มๆทานุกิอาจจะเป็นหนุ่มหน้าสวยร่างเพรียวสะโอดสะองเหมือนตุ๊กตาฝรั่งเศส ท่านแม่เลยตกลงแต่งงานด้วย แต่พออยู่ๆกันไปก็กลายเป็นตุ๊กตาทานุกิไปซะงั้น...

302 Nameless Fanboi Posted ID:P7rEQjAZMA

>>301 กรุว่าต้องหน้าตาละม้ายคล้ายท่านพี่นี่แหละ 555555

303 Nameless Fanboi Posted ID:tK6JPh1DbX

>>302 ท่านพี่พอแก่ตัวลงไปก็อาจจะ.... เพราะงี้ท่านพี่ถึงได้พยายามไปฟิตเนสสม่ำเสมอใช่มั้ย 55555555

304 Nameless Fanboi Posted ID:JMXXUgRFPh

>>303 แม่ง เผลอนึกภาพฟิคบ้านพัก​คนชรา แล้วท่านพี่กลายเป็น​ทานุกิ 5555555

305 Nameless Fanboi Posted ID:DUKchspBgu

>>304 อย่าทำร้ายท่านพี่อย่างน้านนนน 5555

306 Nameless Fanboi Posted ID:HtoiMuQS+U

เฮ้อ เหงาจัง ไล่อ่านตอนเก่าก็แล้ว ไล่อ่านกระทู้เก่า ๆ ก็แล้ว ดิบใหม่ยังไม่มาเลย เรายังมีประเด็นอื่นที่ยังไม่ได้พูดถึงอีกมั้ย

307 Nameless Fanboi Posted ID:GWU9TRxhxd

>>306 ยังเหลืออีกเหรอวะ ประเด็นที่ยังไม่ได้คุย กูว่าฟิค AU มะหมานี่คือก้าวล้ำนำหน้าชาติไหนๆ ไปหมดละนะ....

308 Nameless Fanboi Posted ID:8RhmFI9kd4

>>302 เห็นด้วย ท่านแม่ก็ดูหัวสูงขนาดนี้(จากการพยายามแต่งตัวเจ้าแม่) รวยอย่างเดียวท่านแม่คงไม่มอง ต้องหล่อด้วย 555

309 Nameless Fanboi Posted ID:YwX3QXmu10

นึกถึงที่มีคนแต่งฟิคคุณแม่ยังสาวว่ะ โม่งฟิคคนนั้นยังอยู่มั้ยยยยย

310 Nameless Fanboi Posted ID:fftdv2bfZo

>>307 อ่ะ งั้นเอาประเด็นเก่าล่ะกัน คือไปอ่านทู้เก่า ๆ ก็มีคนมาวิเคราะห์ไว้ว่าหลัง ๆ เอ็นโจเริ่มหึงแล้ว และจะเข้ามาแทรกกลางระหว่างเรย์กะกับคาบุตลอด เลยสงสัยว่าทั้งสองมีอะไรให้เอ็นโจหึง เพราะตัวคาบุเองก็ยึดมั่นใจรักกับวาตาบะขนาดนั้น กับตัวเรย์กะเองก็ไม่ได้แสดงทีท่าอะไร

311 Nameless Fanboi Posted ID:hq.5gUpY9U

>>310 เห็นสองคนครุ่นคิดหัวชนกันแล้วหงุดหงิดมั้งคะ ทำไมพอผมเข้าใกล้ล่ะคุณคิโชวอินก้าวหนีตลอด

312 Nameless Fanboi Posted ID:TQnXI4sSdp

>>310 กูว่าพี่แกหึงผู้ชายทุกคนที่เข้าใกล้นางว่ะ อิมาริน่าจะโดนหนักสุดมั้ง เพราะเหมือนมีธงในใจไปแล้วว่าเรย์กะชอบผู้ชายอายุมากกว่า ตอนไปเลือกของฝากก็รู้ทันทีว่าเอาไปให้ใครเลยเลือกอีกอล์ฟมาร์กเกอร์นั่นมา เพราะของฝากให้ผู้ชายมีเยอะแยะไป กระเป๋าสตางค์ ผ้าพันคอ นาฬิกา ฯลฯ เสือกวกกลับเข้าหาของที่มันเฉพาะทางมากๆเฉย ถ้าคนรับไม่ได้เล่นกอล์ฟจะทำไงอะ และถ้าอ.ฮิโยโกะตั้งใจจะใช้ความหมายแฝงของกอล์ฟมาร์กเกอร์นั่นแบบที่โม่งคนนึงเอามาแปะไว้ กูว่าเหมือนส่งสาส์นท้ารบกันเลย แถมตอนปะเหลาะถามมาโอะเรื่องไปเที่ยวอควอเรียม พี่แกก็ไม่ยอมให้เปลี่ยนเรื่องด้วย จ้องเอาๆเหมือนกำลังจับผิดเลย

ตอนไปขัดโต๊ะกับอาริมะก็สัมผัสได้ว่าฮีอารมณ์ไม่ดี หงุดหงิดตลอด พูดจาแนวๆผมรู้นะว่าคุณทำอะไรให้รีบๆเลิกทำซะ ส่วนคาบุกูว่าเอ็นโจมั่นใจนะว่าเพื่อนจะไม่หักหลัง ถึงยอมปล่อยให้ไปกันสองต่อสองหรืออยู่กันสองคนในที่ลับตาคนตั้งหลายหน แต่น่าจะออกแนว...ไปเที่ยวกับคุณคิโชวอินเหรอ ไปด้วยคนจิ แล้วก็กันไว้ก่อนก็ดี

313 Nameless Fanboi Posted ID:hAkJ9A44TB

>>312 ประมาณว่า ก็รู้ว่าไม่มีอะไร แต่ไม่ชอบที่สนิทกัน ใช่มั้ย นี่ถ้ายูกิโนะโตพอ ๆ กับคันตะก็คงถูกหึงเหมือนกันสินะ

314 Nameless Fanboi Posted ID:koQmUCUivp

>>310 คนเรามันจะหึงอะเน้อ เดินสวนกันก็หึงได้ เขาทำอะไรก็ระแวงไปหมด ฮีคงกลัวด้วยล่ะมั้งว่าสองคนนี้อัพเลเวลความสนิทสนมเพิ่มขึ้นเยอะ อาจจะเข้าทำนองรักแท้แพ้ใกล้ชิดไรเงี้ย แล้วตัวเองก็มีชนักปักหลังอันเบ้อเร่อ พอจะลงมือจีบก็ติดๆขัดๆไปหมดทุกอย่าง กลายเป็นไม่มั่นใจขึ้นมา เลยต้องตามขัดขวาง เขาไปไหน ตูไปด้วย

315 Nameless Fanboi Posted ID:LcKsM73kAE

เอ๋ เอ็นโจมีออกอาการหึงขนาดนั้นเลยเหรอ ตอนอ่านกูไม่ค่อยรู้สึกนะ ช่วงแรกๆเหมือนฮีอวยให้คาบุกับเรย์กะใช้เวลาด้วยกันด้วยซ้ำ หางานให้ท่านเรย์กะตลอด

แต่จังหวะที่คาบุเดินมาเหวี่ยงอาริมะที่ทางเดิน เพราะนึกว่าเรย์กะโดนรังแกนี่เหมือนคาบุหงุดหงิดเพราะหึงหน้ามืดมาก มีการบอกอาริมะว่าไม่ต้องมาขอบคุณ ประกาศความเป็นศัตรูอย่างชัดเจน กรูฟินนนนน (ถึงแม้เป็นไปได้ว่าฮีหมั่นไส้อาริมะมานาน เพราะมองว่าเป็นคู่แข่งเรื่องวาคาบะ เลยถือโอกาสเหวี่ยงใส่ก็เหอะ)

ตอนคาเฟ่ คาบุรู้ว่าเอ็นโจอยู่กับเรย์กะก็รีบตามมาอีก

ถ้าไม่ให้กูคิด ท่าฮิโยโกะใส่ฉากพวกนี้มาทำมัยยย มันต้องมีเหตุผลเซ่

//ใส่ฟิลเตอร์แล่นเรือคาบุเรย์กะ

316 Nameless Fanboi Posted ID:6+awfhxE6m

>>315 ที่ออกอาการชัดเจนก็ตอนเกิดมาไม่เคยโดนทิ้งนี่ล่ะว่ะ ทะเลาะกับเขาจนตัวเองคะแนนร่วงไปเลย
แต่กูก็สงสัยนะ ตอนแรกๆฮีก็ดูพยายามจับคู่เรย์กะกับคาบุเหมือนกัน หรือแค่อยากเห็นอะไรสนุกๆ แล้วมีคนที่นิสัยเหมือนกันแบบนี้สองคนมาอยู่ด้วยกันท่าทางจะบันเทิงดี เลยชงให้ได้กันแต่แผนล้มเหลววะ 5555555555555555

317 Nameless Fanboi Posted ID:LcKsM73kAE

>>316 อาจเป็นอย่างที่โม่งว่า ตอนแรกๆฮีอาจจะเห็นด้วยกะกองเชียร์ซุยรัน ในชั้นปีเดียวกัน ท่านเรย์กะน่าจะคู่ควรกับคาบุที่สุดแล้ว ฮีเลยชงให้เพื่อนได้กับสาวที่คิดว่าฮีคิดว่า(ตลก)ดี หรือก็อย่างที่กาวนอกว่าไว้ ตอนแรกๆฮีมโนว่าฮีเป็นพ่อคาบุ ท่านเรย์กะเป็นแม่ พอคาบุสร้างปัญหาก็เลยโยนให้เรย์กะมาช่วยแก้ ประมาณว่า ถึงตาคุณแม่ดูแล้วลูกมั่ง 555

318 Nameless Fanboi Posted ID:T00zy4TC/.

กูว่าการกระทำเอ็นโจนี่แม่งเป็นปริศนาทุกอย่าง เดี๋ยวเหมือนอ่อยเดี๋ยวเหมือนจะเป็นพ่อสื่อให้คาบุ ผีเข้าผีออกมากๆ ตอนคาบุอกหักจากท่านยูริเอะนี่เหมือนยังอยากให้เรย์กะมาช่วยเยียวยาหัวใจให้อยู่เลย ตอนคาบุก้มหัวขอโทษเด็กปี 1 แล้วเดินหนีมา ตัวเองก็ยังเป็นคนบอกให้เรย์กะไปปลอบใจคาบุอยู่เลย
ถึงหลังๆ มานี่คือจีบชัดเจนมาก แอบดูมือถือฯ ชวนไปเที่ยวอควอเรี่ยมตั่งต่าง แต่รวมๆ แล้วแม่งมีความไม่ชัดเจนสูง จะเอาไงก็บอกมา

319 Nameless Fanboi Posted ID:T00zy4TC/.

ส่วนคาบุนี่.... จะว่าหวงเพื่อน หรือหวงเกินเพื่อนก็ยังไม่ชัดเจนนะ คิดดูตัวอยู่กับวาคาบะแต่โทรหาท่านเรย์กะนี่คือไรคะ แล้วที่ทำอะไรงุบงิบๆ ไม่บอกท่านเรย์กะหลายอย่างนี่คือรู้สึกผิดหรือเปล่าเอ่ยยยยย

320 Nameless Fanboi Posted ID:6+awfhxE6m

>>318 กูถือว่าจีบตั้งแต่เอากรงหิ่งห้อยให้แล้ว พอมาอ่านในนี้บอกว่าสมัยเฮอันเขาจะเอาหิ่งห้อยบอกรักกัน กูยิ่งฟินเข้าไปใหญ่ แต่เสือกเป็นการจีบที่สโลว์ไลฟ์เหลือเกิน เพราะเรื่องมันสโลว์ไลฟ์ ทุกอย่างก็เลยสโลว์ไปหมดใช่มั้ยนะ 55555

321 Nameless Fanboi Posted ID:j3b.PZBnm8

>>312 ความหมายแฝงของกอล์ฟมาร์กเกอร์คืออะไรวะ ช่วยบอกทีกูหาไม่เจอ

322 Nameless Fanboi Posted ID:6+awfhxE6m

>>321 >>>/webnovel/4018/398

323 Nameless Fanboi Posted ID:j3b.PZBnm8

>>322 ถ้าเป็นความหมายแฝงตามนี้จริงๆกูจะกรี้ดท่านจอมมารมากกกกก

324 Nameless Fanboi Posted ID:wZr080ZEEs

>>323 แต่กูเอนเอียงไปทางเชื่อว่าอ.ฮิโยโกะจงใจใช้ความหมายแฝงนี้นะ เพราะอยู่ๆฮีโพล่งมาเองเลยว่าของที่ให้ได้อย่างสบายใจ แต่ทีแรกกูแค่คิดว่า marker = ตีตราจองเฉยๆ พอรู้ความหมายแฝงที่ว่านี่ถึงกับ...อะหือ เอ็นโจแม่งเลวสัส //ดึงเหนียงชูสุมอยด้วยความหมั่นไส้

325 Nameless Fanboi Posted ID:j3b.PZBnm8

>>324 รู้สึกมาอ่านที่วิเคราะห์กันนี่ฟินกว่าอ่านในนิยายเยอะเลย ทำไมโมเม้นในนิยายมันซ่อนซะมิดชิดขนาดนี้ 55555

326 Nameless Fanboi Posted ID:1wfeI5Kmel

>>323>>324 แต่จากที่คลุกคลีกับวงการญี่ปุ่นมา คนญี่ปุ่นเขาไม่น่าจะคิดเรื่องนี้นะ ยังมีโฆษณาเชิญชวนซื้อกอล์ฟมาร์กเกอร์ให้กับแฟนเลย จัดอันดับรูปแบบให้ด้วยซ้ำนะ ไปอ่านบล็อกคนญี่ปุ่นที่เขาแคะทุกจุดของเรื่องนี้ก็ยังไม่เขียนถึงเลยนะ คิดว่าอาจารย์ฮิไม่น่าจะใส่ความหมายแบบนั้นนะ คือเอนโจดูมืดดำ ลึกลับ อาจจะเจ้าเล่ห์นิดๆหน่อย แต่ไม่ใช่พวกทำความหมายเเฝงแบบแนวนั้น(แบบที่ฝรั่งเขาแฝง)อะ (ความเห็นส่วนตัวนะ)

327 Nameless Fanboi Posted ID:1wfeI5Kmel

ว่าไปแล้วมีตอนนึงที่น่าสนใจนะ ตอนงานเลี้ยงดูหิ่งห้อย แล้วเอนโจถือน้ำมาให้เรย์กะ ตอนแรกอ่านเหมือนไม่มีอะไร แต่!!! เดี๋ยวก่อน คิดว่าเอนโจ หนุ่มที่แสนสุดฮอตต้องคอยสังเกตท่านเรย์กะที่ต้องทักทายคนเยอะแยะอยู่สิ ไม่งั้นจังหวะนี้ไม่ได้ พอท่านเรย์กะเหนื่อยกำลังหาที่นั่งพัก ถึงได้ถือเครื่องดื่มมาให้ ถ้าแค่จะทักทายกันตามประสาคนรู้จัก ก็ต้องไม่รู้ว่าเจ้าหล่อนหิวน้ำอยู่สิ คีย์เวิร์ดคือ เครื่องดื่มนี่แหละทำให้เราคิดได้ว่า ฮีเฝ้ามองท่านเรย์กะอยู่ตลอดจรืงๆ ไม่ใช่แค่บังเอิญเห็นเลยเข้ามาทัก ฟันธงงงงงง

328 Nameless Fanboi Posted ID:wZr080ZEEs

>>326 ก็ได้แต่เดากันไปล่ะนะ แต่ส่วนตัวกูคิดว่าผู้หญิงซื้อให้แฟนด้วยความตั้งใจของตัวเอง กับผู้ชายแนะนำให้ซื้อมันให้ฟีลต่างกัน ที่บล็อคคนญี่ปุ่นเขาไม่ได้เขียนถึงเรื่องนี้เพราะเขาไม่ได้เล่นกอล์ฟเลยไม่รู้ความหมายแฝงรึเปล่า มันก็ดูเป็นของขวัญปกติทั่วไปที่เชิญชวนให้ซื้อให้แฟนก็เลยปล่อยผ่านไป กูก็ไม่รู้ความหมายจนกระทั่งมีคนเอามาแปะนี่ล่ะ

แต่จากที่โม่งกอล์ฟบอกมาก็เห็นว่าคนที่เล่นกอล์ฟเขาไม่ซื้อของแบบนี้ให้กัน อิมาริเล่น เอ็นโจก็คงเล่นด้วยตามประสากีฬาคนรวย แล้วเอ็นโจก็ต้องรู้ดิว่าของแบบนี้เขามีความหมายยังไง หรืออ.ฮิโยโกะเขาไม่ได้คิดอะไร เป็นของทั่วๆไปไม่มีอะไรแอบแฝงก็ไม่รู้สิ

329 Nameless Fanboi Posted ID:DqgmFB5tLM

เออ ตอนหิ่งห้อยนี่ก็คิดว่าเอ็นโจมองเรย์กะนะ คือสงสารที่ไม่ได้สัมผัสหิ่งห้อยอย่างใกล้ชิด อุตสาห์หามาให้ กรูว่าตอนที่ฮีแนะนำคุณยุยโกะว่าเป็นว่าที่คู่หมั้นก็ด้วย คืออยากเห็นปฏิกริยาเจ้าแม่ว่าจะหึงหรือเปล่า

330 Nameless Fanboi Posted ID:e30FP/3Jbf

>>327 แอบมองเธออยู่นะจ๊ะ~~ แต่เธอไม่รู้บ้างเลย แอบส่งใจให้นิดๆ แต่ดูเธอช่างเฉยเมย เอาล่ะเตรียมใจไว้หน่อย มันจะหัวก้อยต้องเสี่ยงกัน~~~

331 Nameless Fanboi Posted ID:xUwoV69+Qr

ที่หลังๆเอ็นโจเริ่มเดินหน้าเพราะแผนการผ่าเอาชนักติดหลังออกกำลังเดินหน้าไปด้วยดีรึเปล่า ฮีถึงได้มีความมั่นใจเดินหน้าเข้าหาท่านเรย์กะได้แบบนี้ ในมังงะ เอ็นโจก็เป็นมันสมองทลายตระกูลคิโชวอินด้วยนี่นา ถ้าฮีคิดหาทางที่จะแงะชนัก"นั่น" ออกไปจริงๆจังๆก็น่าจะใกล้สำเร็จแล้วมั้ง?

332 Nameless Fanboi Posted ID:vyPVC+ZolF

>>331 ใกล้เร้อ.. ก็ยังเห็นหนีออกจากบ้านมานั่งเงียบๆในห้องสโมสรคนเดียว

333 Nameless Fanboi Posted ID:QAzCVTtEef

เรื่องแงะว่าที่คู่หมั้นนี่ใช่ว่าเด็ก ม.ปลายจะทำได้ อีกอย่างคุณยุยโกะก็ดีกับเอ็นโจ ไม่เห็นนางจะร้าย

334 Nameless Fanboi Posted ID:e30FP/3Jbf

>>333 นางอาจจะดีกับชูคนเดียว แต่ไม่ดีกับคนอื่นก็ได้มั้ง อย่างยูกิโนะที่ดูไม่ชอบนางอย่างแรง หรือคาบุที่ดูจะไม่ทักทายยุยโกะตอนเจอหน้ากัน

335 Nameless Fanboi Posted ID:2Q5wekjq6Z

กูเห็นโม่งซุยรันหลงมิติไปตำหนัก​จีน ถถถถ

336 Nameless Fanboi Posted ID:eLeQvZLqCJ

>>335 กูก็เห็น อิอิ กลับมากระทู้นี้เร็วมึง ทุกคนให้อภัยแล้ว 555555555555555

337 Nameless Fanboi Posted ID:Y3hDud5aZE

ขอทักถึงโม่งฟิคทุกคน กลับมาเถอะกูรออยู่;__;

338 Nameless Fanboi Posted ID:UQF13jWbCQ

รอด้วยยยย

339 Nameless Fanboi Posted ID:nYY.1gGOGu

กูรู้สึกติดเค้กเวิร์สว่ะมึง แต่กูไม่กล้าแต่งกับเรื่องเนนนนนนนนนนนนนนนนนน้
กูเผลอคิดว่าถ้าเรย์กะเป็นฟอร์คแม่งคนแดกเค้กหมดโลกแหง T_T

340 Nameless Fanboi Posted ID:nYY.1gGOGu

แม่งคง สิ แม่งคนอะไรล่ะ 5555

341 Nameless Fanboi Posted ID:3PRHPXYjgG

>>339 แต่งแนวๆฆาตกรจับคนมากินแบบฮันนิบาลไปเลยสิ

342 Nameless Fanboi Posted ID:BPabECdwBP

เห็นมะมหากลับมาแล้วคิดถึง​ฟิคพ่อมดชูสุมอยจุง ถถถ

343 Nameless Fanboi Posted ID:IFjR7pO2sV

>>341 มึงเอาจริงเหรอ 5555 กูแม่งชอบฮานิบาลอยู่

344 Nameless Fanboi Posted ID:D5vRgstPvn

-ฟิคเค้กเวิร์ส-

ช่วงนี้มีข่าวฆาตกรรมต่อเนื่องสยองขวัญเกิดขึ้น

ทุกศพมีสภาพเละเทะเหมือนถูกฉีกกระชาก นี่มันป่าเถื่อนยิ่งกว่าฮันนิบาลอีก!

ผมนวดขมับ ขมวดคิ้วอย่างปวดหัว หวังว่าฆาตกรนั่นจะไม่บุกเข้ามาในซุยรันหรอกนะ แต่รู้สึกสังหรณ์ไม่ดียังไงพิกล

นั่งอ่านข่าวจากมือถือ ก็รู้สึกถึงสายตาแปลกประหลาดที่จ้องมองมา เอ๊ะ? นั่นมัน...

"คุณคิโชวอิน อรุณสวัสดิ์"

คนจ้องสะดุ้งโหยง เธอค่อยๆยิ้มออกมาทั้งที่ลักยิ้มมุมปากสั่นกระตุก เอ๋? ตื่นเต้นที่ผมทักเหรอ? หรือว่าเธอจะหวั่นไหวกับผมแล้ว???

"อรุณสวัสดิ์ค่ะ ท่านเอ็นโจ"

เธอทักตอบแล้วเดินมาหาผมอย่างเชื่องช้า ห๊ะ? เธอเดินมาหาผมเหรอ? แปลกจังนะ?

"ไม่ทานของว่างเหรอ? วันนี้มีเค้กแบทเท่นเบิร์กนะ" ผมถามออกไป ปกติเธอจะมีของว่างติดมือเสมอนี่นา

ดวงตาเรย์กะทอประกายวาววับ เอ๊ะ นี่ผมพูดอะไรผิดไปรึเปล่า? หรือว่า...ลดน้ำหนักอีกแล้วสินะ

"ไม่ล่ะค่ะ ช่วงนี้ไม่ค่อยสบายนัก ทานอะไรไม่ค่อยรู้รส" เธอยิ้มอย่างสุภาพ ก่อนจะไอค่อกแค่กเบาๆ แค่ดูก็รู้แล้วนะครับว่ากำลังแสดงอยู่...

ผมไม่พูดอะไร แต่แล้วมือเธอก็เอื้อมมาคว้าแก้วน้ำชาของผมไปยกดื่ม

"อืม...ไม่ได้รังเกียจหรอกนะ แต่นั่นถ้วยผมนะครับคุณคิโชวอิน"

"ฉันไม่ถือหรอกค่ะ" ดวงตาเธอยังจับจ้องผมไม่เว้นทั้งที่ถ้วยน้ำชายังแตะริมฝีปาก จูบทางอ้อมเหรอ??? หรือว่าเธอเริ่มชอบผมขึ้นมาแล้วจริงๆ??? พอคิดแบบนั้นมือก็เริ่มสั่นขึ้นมาซะแล้ว!

เด็กสาวที่เหมือนตุ๊กตาเบื้องหน้าผมสูดลมหายใจเข้าลึก สายตาทอดมองแก้วน้ำชาในมืออีกเล็กน้อยก่อนจะวางลง

"หวานกว่าจริงๆ..."

เสียงพึมพำลอยเข้าหู ผมไม่ได้เติมน้ำตาลนะครับ...ความรักทำให้ทุกอย่างหวานขึ้นรึเปล่านะ?

แล้วจู่ๆ เธอก็ตวัดสายตามองผมอีกครั้ง ใบหน้าแดงก่ำ "ท่านเอ็นโจ ไม่ทราบเย็นนี้ว่างไหมคะ?"

ผมยิ้ม "ครับ ทำไมเหรอ?"

เธอกัดริมฝีปากเล็กน้อย ดูสวยกว่าปกติรึเปล่านะ "อยากจะชวนท่านไปหาอะไรอร่อยๆ ทานน่ะค่ะ"

หัวใจผมเต้นแรงจนแทบทะลุออกจากอก เกิดอะไรขึ้นกับเรย์กะคนนั้นที่วิ่งหนีผมมาตลอดกันแน่? หัวฟาดพื้นมาเหรอ? แต่เป็นการป่วยที่ดีมากๆ เลยครับ!!!

"รับทราบ"

ดวงตาของเธอทอประกายแวววาวราวกับดาวนับล้านดวง ท่าทางตื่นเต้นดีใจจนแทบจะรอไม่ไหว นี่เธอรอไปเที่ยวกับผมไม่ไหวแล้วสินะ

"ค่ะ! จะรอนะคะ!!!"

---------------

วันต่อมา

ทายาทเครือเอ็นโจกรุ๊ปหายตัวปริศนา ตำรวจยังคงพยายามหาร่องรอยแต่ไม่พบ

ตัดจบ-ฉับ-

345 Nameless Fanboi Posted ID:QkFG/oe7tH

>>344 ตกลงเค้กเวิร์สนี้ทำมาเพื่อ cannibalism ใช่มะ 555555555555

346 Nameless Fanboi Posted ID:1fdjiaNILD

ใครก็ได้ช่วยอธิบายเค้กเวิร์สอย่างง่ายที

347 Nameless Fanboi Posted ID:QkFG/oe7tH

>>346 เป็นยูนิเวิร์สนึง จะแบ่งคนออกเป็นสองประเภทคือส้อมกับเค้ก คนเป็นส้อมจะกินอะไรก็ไม่รู้รสชาติจนกว่าจะได้มาเจอกับคนที่เป็นเค้ก ซึ่งอีคนเป็นเค้กนี่ก็ไม่รู้ตัวเหมือนกันจนกว่าจะได้เจอคนเป็นส้อม แล้วคนที่เป็นเค้กก็จะมีรสชาติอร่อยมากสำหรับคนที่เป็นส้อม ทุกส่วนในร่างกายกินได้หมด ก็พูดง่ายๆว่าเป็น cannibalism ดีๆนี่เอง

348 Nameless Fanboi Posted ID:A2CQsqeotJ

จำได้ว่ามีน้ำแข็งเวิร์สด้วย แต่ใช่ชื่อนี้เปล่าหว่า จำได้แค่มีละลายตายแค่นั้น

349 Nameless Fanboi Posted ID:wjT2wnbhoz

>>348 ใช่เวิร์สนั้นปะวะ มีน้ำแข็ง น้ำหวาน ละก็ซัมติง คือถ้าน้ำแข็งสารภาพละกะน้ำหวานคือจะละลาย=ตายเว้ย กูเคยอ่านแบบมีคนนึงรู้นะว่ารักกันแต่พูดว่ารักกันไม่ได้ จนแบบป่วยใกล้ตายถึงจะกล้าพูดออกมา

350 Nameless Fanboi Posted ID:8yuHphsPoz

>>348 ไอซ์เวิร์ส ป่าว

351 Nameless Fanboi Posted ID:1Rz7YJqulE

ทำไมมีแต่เวิร์สที่ดูเจ็บปวดกันทั้งนั้นเลยวะ เค้กเวิร์สก็โดนส้อมฆ่ากินศพ ไอซ์เวิร์สก็สารภาพรักไม่ได้เดี๋ยวตาย อ่านแล้วก็รู้สึกเอิ่ม...คนคิดนี่มาโซป่ะวะ 5555555

352 Nameless Fanboi Posted ID:Gy9LHoObQy

เวน กุกลายเป็นคนลามกไปเลย 55555 กุนึกว่ากิน=จุ๊บๆตามผิว คนที่เป็นส้อมก้จะรู้ว่าคนที่เป็นเค้กมีรสชาติเหมืินเค้กรสอะไร

แต่มันปรับไม่ได้เหรอมีง กุอยากอ่านแบบ กินอะไรก็ไม่อร่อยไม่รู้รสชาติ จนกว่าจะได้ไปกินข้าวกับคนที่เป็นคู่ของตัวเอง วันนั้นถึงจะรู้รสชาติและความอร่อยที่แท้จีิงของอาหาร

353 Nameless Fanboi Posted ID:HCc/twz34u

>>352 ดูเหมือนมันเซ็ตมาให้คนเป็นส้อม กินอะไรก็ได้จากตัวคนเป็นเค้กน่ะ ทั้งเลือด กระดูกอะไรพวกนี้ก็กินได้หมด แต่คนที่เป็นเค้กก็มีรสชาติต่างกันไป ส้ม วานิลา ช็อกโกแลต ฯลฯ เคยอ่านเจอครั้งแรกในบอร์ดนอกแห่งหนึ่งก็คิดว่าแปลกดี แต่ฟิคนั้นมันติดเรท เพราะคนเป็นส้อมที่เป็นพวกโรคจิตนิดๆจับเค้กมาขังแล้วรีดอาหารกินทุกวัน วิธีรีดก็น่าจะเดาได้อยู่แล้วเนอะ 555555

354 Nameless Fanboi Posted ID:r.56N.VHxC

เจ้าแม่เหมาะเป็นเค้กที่อยู่กลางดงส้อมมากกว่านะ นึกภาพนางทานอะไรก็ไร้รสไม่ออกเลยจริงๆ

คาบุเป็นส้อมน่าจะได้

355 Nameless Fanboi Posted ID:CZDvBsDv9Q

>>352 ถ้าเป็นพล็อตนี้คือน่าจับเอ็นโจเป็นตัวเอกมากเลยว่ะ กินอะไรก็ไม่อร่อย ของหวานก็ไม่ค่อยแตะ แต่พอไปกินข้าวกับคุณคิโชวอินก็เติมเอ๊าเติมเอา คุณคิโชวอินกินอีกสิครับ อะไรนะครับ ลังเลไม่รู้จะเลือกอันไหน สั่งมาเลยครับ แบ่งกันคนละครึ่ง วรั๊ยยยยยยยยย

356 Nameless Fanboi Posted ID:DE7y3OQIDz

>>352 กูก็คิดเหมือนมึงงง กูนึกว่ากินนี่คือจูบกับกินตับตับตับ นึกไม่ถึงว่าแม่งคือกิน "ตับ" จริงๆ

357 Nameless Fanboi Posted ID:oPqKthZZOm

>>356 จากที่กูเจอฟิคเค้กเวิร์สมามันก็มีกินในหลายความหมายนะ ถ้าเอาติดเรท R ก็กินบนเตียง แต่ถ้าเอากุโระก็กินแบบความหมายตรงตัว

358 Nameless Fanboi Posted ID:oYz5Izpi5i

ความหมายจริงๆคือแบบกุโระนั่นแหละ เพราะงั้นถ้าจะปรับให้ซอฟต์กว่านี้คงตามที่เม้นบนๆบอก ถถถถ

359 Nameless Fanboi Posted ID:D/Kz7D.aE7

ต้นทางเค้าว่ากินแบบ "แดก" จริงๆ นี่นา

"ทั้งนี้เลยมีการเกิดคดีที่ส้อมบุกขย้ำแหลกเค้กด้วย ทำให้คนที่เป็นส้อมคนอื่น ๆ โดนหางเลขว่าเป็นฆาตกรไปด้วย"

แต่อันที่จริงจะเอาไปแต่งให้มันเรทลามก20+++ก็ได้ แบบว่าอร่อยที่สุดเท่าที่เคยกินมาจนไม่อยากจะให้หายไป
เก็บไว้รีดทุกวันเลยละกัน

360 Nameless Fanboi Posted ID:G/iT9gc/2H

กริ๊ดดดดด>>359
แค่คิดกูก็เขิลลลตัวแตกแล้ว
อร่อยจนอยากรีดกินทุกวันเลย(>\\\\<) ¬

361 Nameless Fanboi Posted ID:Ms1KepExeO

>>355 เจ้าแม่อาจจะตีความไปอีกทาง คะยั้นคะยอให้ฉันกินเยอะๆ จะขุนให้อ้วนก่อนจับกินใช่มั้ยล่ะ //หรือไม่ต้องขุน อ้วนอยู่แล้ว...

362 Nameless Fanboi Posted ID:oYz5Izpi5i

อย่างเจ้าแม่นี่ไม่เหมาะกับเค้กหรอก เจ้าแม่ต้องเป็นฝ่ายแดก ฝ่ายส้อมสิ!

363 Nameless Fanboi Posted ID:uXbzsK.zbV

ถ้าเวิร์สกูชอบเรนเวิร์สนะ โรแมนติกและไม่กามไม่สยองไม่ดราม่าด้วย 555

364 Nameless Fanboi Posted ID:cfWMcSUjdw

>>363 เหลามา

365 Nameless Fanboi Posted ID:u/napwRRZe

>>362 แต่เจ้าแม่ลิ้นจระเข้ น่าจะแดกได้ทุกอย่างนะ...

366 Nameless Fanboi Posted ID:s92TPvgOyd

>>364 เป็นเวิร์สที่เวลาฝนตกเราจะหูดับ ไม่ได้ยินเสียงรอบข้างเลย นอกจากเสียงคู่ของเราเอง ไม่ว่าเขาจะอยู่ไกลแค่ไหนก็ตาม

367 Nameless Fanboi Posted ID:3deeGVs6a7

ไม่สันทัดเรื่องพวกนี้อะ... น่าสนใจดีจัง มันมีเวิร์สอะไรบ้างบอกหน่อยสิ

368 Nameless Fanboi Posted ID:4mmwXD2OjI

>>367 กูรู้จักแค่สามนะ โอเมก้าเวิร์ส เค้กเวิร์ส ไอซ์เวิร์ส

แต่กูชอบเรื่องที่คล้ายๆเรนเวิร์สที่พวกมึงเล่ามาอ่ะ คือแบบประมาณว่าทุกคนจะมองเห็นโลกตัวเองเป็นสีหม่นหมองกระทั่งเจอคู่ของเราจะมองเห็นสีสันของโลกนี้ชัดเจนขึ้นมา กูนึกถึงแบบ... โลกนี้สดใสตั้งแต่พบเธอ อะไรแบบเนี๊ยย

369 Nameless Fanboi Posted ID:AV+h5cmyg7

>>368 อรั้ยยยย ดูโรแมนติคมาก นึกถึงเพลงก่อนเลยอะ ที่มันร้อง...ในใจไม่เคยมีผู้ใด จนความรักเธอเข้ามา ทำให้ดวงตาฉันเห็นความสดใส
>>366 นี่ก็โรแมนติค กูชอบ

370 Nameless Fanboi Posted ID:z6TchWYUu7

โซลเมทเอยูนี่นับเป็นเวิร์สได้มะะก็มีนะะ เคยอ่านในao3 คือหลากหลายตั้งแต่
- มีคำแรกที่พูดตอนเจอหน้ากันเขียนไว้ที่แขน (หรือที่อื่น) > อันนี้ถ้าไม่หวานจ๋อยไปเลยก็จะมีคนพูดคำนั้นก่อนแล้วพระเอกก็แค่มาอ่านบนแขนงี้ ก็จะเข้าใจผิดแบบคอเมดี้ ช่างเหมาะแก่การเขียนรักสามเศร้า(?)ที่ท่านเรย์กะหนีคาบุรากิจนหัวซุกหัวซุน ส่วนเอ็นโจรู้อยู่ฝ่ายเดียวว่าตัวเองเป็นโซลเมทของเรย์กะ
- มีชื่อของอีกฝ่ายเขียนไว้ (literally แค่ชื่อ แบบสมมติเรย์กะ ก็ไม่รู้เรย์กะไหน หรือถ้าเป็นคิโชวอินก็ไม่รู้คนพี่คนน้อง/มวออองท่านอิมาริ)
- มีสัญลักษณ์ที่ตัวเหมือนกัน
- มีสัญลักษณ์ที่สื่อถึงอีกฝ่าย แต่ส่วนใหญ่จะแตะตัวกันเปรี๊ยะๆจะรู้
- ถ้าเขียนอะไรไว้ที่ตัว โซลเมทจะเห็นที่ตัวของโซลเมทในตำแหน่งเดียวกันด้วย
- ความคิดบางอย่างอีกฝ่ายจะมาอยู่บนตัว
หรือบางครั้งคือ ต้องอีกฝ่ายเกิด/อายุครบกำหนดถึงจะมีรอยสัญลักษณ์หรือชื่อไรงี้//ละมีบางคนไม่มีโซลเมทอีก คือเวลารอเป็นสิบปีก็จะเศร้าๆ เจ้าแม่ผู้คิดว่าตัวเองจะขึ้นคานกับน้องยูกิโนะ! (ไม่ห่างกันขนาดนั้น)

371 Nameless Fanboi Posted ID:i5RvlgTduj

>>368 นึกถึงนิยายเรื่องนึงที่เคยอ่านเมื่อนานมาแล้ว พวกพระเอกเป็นแวมไพร์ที่อยู่มานานเป็นพันปี ตอนเกิดมาแรกๆก็เห็นสีสันทุกอย่างปกติ พออยู่ไปนานๆเริ่มจะเห็นเป็นสีหม่นๆเทาๆ แต่ถ้าเจอคู่ชีวิตของตัวเองเมื่อไหร่จะกลับมาเห็นสีสันสดใสอีกครั้ง ซึ่งเวลาเจอคู่ชีวิตที่ว่านี่ก็จะรู้ได้เอง แต่อีกฝ่ายจะไม่รู้ ฝั่งแวมไพร์ต้องไปทำให้คู่ชีวิตรักตัวเองให้ได้ จำไม่ได้ว่าถ้าคู่ชีวิตไม่ได้รักตอบจะตายมั้ย ว่าแล้วก็อยากอ่านแนวๆนี้อีกจัง

372 Nameless Fanboi Posted ID:72Z2LE8o6D

>>371
อึ๊ยยยยยยยยย พล็อตนี้มันคือได้มาก อารมณ์คุณชายเอ็นโจคือแวมไพร์สายเลือดแท้ที่ต้องแต่งกับยุยโกะที่เป็นญาติกันเพื่อสืบสายเลือดแวมไพร์บริสุทธิ์ แต่ทันทีที่ได้พบเธอ หัวใจของฉันก็กลับมาเห็นสีสันอีกครั้ง ฮีไม่รู้จะทำไงตอนแรกเลยผลักไสให้ท่านเรย์กะไปคู่กับคาบุฯ ที่เป็นเชื้อสายมนุษย์หมาป่าไซซาเรียน แต่ความรักมันคับอก
ส่วนวาคาบะ อยากให้รับบททายาทตระกูลแวมไพร์ฮันเตอร์จอมเอ๋อว่ะ คงมันส์ 555555

373 Nameless Fanboi Posted ID:tSvXvnfKf+

เห็นเค้กเวิร์สแล้วนึกถึงคาบุ-วาคาบะคิมิดอลอ่ะ เธอนี่ล่ะความหวานในชีวิตฉัน

374 Nameless Fanboi Posted ID:026CW73Pmj

รู้จักแค่จากนิยายเรื่องGODอะ อันที่ตัวเอกจะเป็นเผ่าคล้ายๆปีศาจ ที่ตลอดชีวิตจะมีคู่ชีวิตแค่คนเดียวที่ทำให้ตัวเองยอมทำให้ได้ทุกอย่าง แบบที่ไม่เกี่ยงว่าจะเป็นเผ่าไหน พี่น้องตัวเองมั้ย ไม่จำเป็นต้องรักตอบด้วย แสดงอาการชัดเจนเมื่อได้เจอเป็นตัวๆ ถ้าเห็นแค่รูปถ่ายก็พอบอกได้บ้าง แบบที่ว่ามีการไล่ฆ่าคู่ชีวิตของราชวงศ์ก่อนได้เจอหน้ากันเลยกันไม่ให้จับเป็นตัวประกันมาบงการอะนะ ถ้าคู่ชีวิตตายนี่ไม่ต่างจากตายทั้งเป็นอะ ถึงขั้นฆ่าตัวตายตามไปเลย เรียบง่ายดีแต่ว่าเล่นได้เยอะอะนะ

375 Nameless Fanboi Posted ID:i5RvlgTduj

>>373 วาคาบะเป็นส้อมใช่มั้ย 555555555555555

376 Nameless Fanboi Posted ID:1u4W+P9K+N

กุชอบฟิคที่รุกเป็นเค้กนะมึง ต่างคนต่างได้แดกอีกฝั่งดีถถถ

377 Nameless Fanboi Posted ID:03y5hW1vRH

เรย์​กะเป็นส้อมจะไม่แบบ "อ๊ะ เค้กนี้ใส่แกงกะหรี่มิราเคิลน่าจะอร่อยดีนะ" ไรงีีเหรอวะ 55555555

378 Nameless Fanboi Posted ID:i5RvlgTduj

>>377 จะเอาแกงกะหรี่มิราเคิลไปราดตัวเค้กแล้วค่อยกินเหรอ 555555555

379 Nameless Fanboi Posted ID:1u4W+P9K+N

เจ้าแม่เป็นส้อมเอ็นโจเป็นเค้กนี่นึกถึงแต่แบบ "กินผมยังไงก็ไม่อ้วนนะครับ"//ตรัยส์

380 Nameless Fanboi Posted ID:03y5hW1vRH

>>379 คาบุ "จะกินฉันก็ไปวิ่งมาก่อนสิบกิโล!!!"

381 Nameless Fanboi Posted ID:1u4W+P9K+N

>>380 สัส ถถถถถ ละกูว่าแม่งเป็นไปได้ด้วยถถถถถถถถ
ถ้าแต่ละคนเป็นเค้ก จะเป็นเค้กไรกันวะ
กูว่าเจ้าแม่น่าจะเค้กนมสด เนื้อนุ่มๆเนียนๆ
เอ็นโจอาจเป็นเค้กกาแฟ หอมๆ ขมนิดๆแต่อยากกินอีก

382 Nameless Fanboi Posted ID:72Z2LE8o6D

>>381 น้องยูกิโนะเป็นเค้กนางฟ้าที่เจ้าแม่กินตอนเจอกันครั้งแรกที่ห้องเปอติต์ หวานๆ เบาๆ นุ่มๆ แต่เนื้อในจะมีเซอไพรส์หรือเปล่าไม่รู้นะ

383 Nameless Fanboi Posted ID:i5RvlgTduj

>>381 คาบุน่าจะเค้กช็อกโกแลตแบบ Rich ช็อกโกแลตหนักๆเข้มๆหน่อย
วาคาบะ เค้กส้มมั้ง ดูสดใสเปรี้ยวๆอมหวานดี
อาริมะ เค้กบัตเตอร์วานิลาแบบมาตรฐาน
ริรินะ Red Velvet เค้ก
ท่านพี่ ทีรามิสุ
อิมาริ นึกถึงพวกไวน์มากกว่าเค้กอะดิ

384 Nameless Fanboi Posted ID:1u4W+P9K+N

>>383 อิมารินี่เค้กรัมมะ? นายบ้าหมากูนึกถึงเค้กปอนด์ที่แม่งตกแต่งน้ำตาลปั้นข้างบนเยอะๆไงชอบกล

385 Nameless Fanboi Posted ID:i5RvlgTduj

>>384 นายบ้าหมากูนึกถึงพวกคัพเค้กที่แต่งหน้าตาเป็นรูปหมาว่ะ แน่นอนว่าต้องเป็นรูปเบียทันสุดที่รัก.....

386 Nameless Fanboi Posted ID:HD/O5kWLE8

>>385 รสชาติก็เหมือนเบียทัน.. ไม่ใช่สิ!?

387 Nameless Fanboi Posted ID:Nz9FpGuexm

>>386 ทำเอาคิดถึงเค้กรูปหมาที่คนเอาช้อยมาตัดต่อหน้าหมาเลย

388 Nameless Fanboi Posted ID:u9ULxgbn.f

>>384 รู้สึกมันจะมีพวกเค้กใส่เหล้าอยู่นะ เอาพวกเหล้าหวานมาใส่ครีมปาดหน้าเค้ก แล้วก็ใช้วิสกี้ผสมเป็นซอสราดอะไรแบบนั้น กูเคยกินตอนไปเที่ยวอังกฤษแต่จำชื่อไม่ได้ว่ะแม่งยาวเกิน จะหอมๆกลิ่นเหล้าหน่อย แต่ไม่มีรสเหล้านะ กินแล้วไม่เมาแน่นวล 55555555

389 Nameless Fanboi Posted ID:jV3K28kMrG

เปิดโลกทัศน์กูมากเลยเพื่อนโม่ง คำว่าเวิร์สนี่มาจากคำว่าไรอ่ะ ยูนิเวิร์สป่ะ?

ว่าแต่ใครมีอิมเมจท่านเรย์กะเวอร์คนเป็นๆในใจบ้าง จริงๆแล้วตอนอ่านนิยายไม่ค่อยชอบนึกอิมเมจเป็นคนเป็นๆเท่าไร ชอบจิ้นเป็นภาพวาดมากกว่า แต่กูคาใจกับลุคท่านเรย์กะ กูพยายามนึกภาพสาวญี่ปุ่นที่เหมือนราชินีโรโคโค่หรือตุ๊กตาฝรั่งยังไงก็นึกไม่ออก ถ้าแนวตุ๊กตากูคิดถึงเคียวโกะกับอายูมิ แต่ถ้าหน้าสวยคมๆลุคผู้ใหญ่(อ้างอิงจากที่เจ้าแม่โดนทักว่าท้อง)ก็นานาโอะ

ปล กูทึ่งว่าจากอิมเมจสุนัขเรามากันถึงเค้กแล้ว555

390 Nameless Fanboi Posted ID:ffCVd5rCQK

>>389 เวิร์ส เขาใช้ภาษาอังกฤษคำนี้กันอะ verse

391 Nameless Fanboi Posted ID:PMEJ743.N.

>>389 มาจากuniverseเนี่ยแหละ เป็นจักรวาลที่อยากแต่งไรก็แต่งอะ ตั้งกฎตั้งอะไรขึ้นมากันเอง หลายๆอันมันก็ดังขึ้นมาให้คนอื่นเอาไปใช้

392 Nameless Fanboi Posted ID:yLGbIqFtMK

>>389 อิมเมจแบบคนเป็น ๆ นึกไม่ออกว่ะ เพราะว่าช่วงนี้ไม่ได้ดูหนังดูละครเลยทั้งไทยทั้งเทศ (เอาแต่อ่านมังงะ นิยาย) จึงไม่ค่อยจะรู้จักดาราสมัยนี้สักเท่าไร

แต่ถ้าให้เทียบอิมเมจกับมังงะ หรือนิยายที่อ่านมานะ
ท่านพี่ บุคลิค นิสัย น่าจะคล้ายกับยูจอง พระเอกเรื่อง cheese in the trap

เรย์กะ ถ้าบุคลิคภายนอกที่เป็นเจ้าแม่กาลี หรือมาดจักรพรรดินี น่าจะเหมือนคุณนายอลินจากนิยายเรื่องสูตรเสน่หา

393 Nameless Fanboi Posted ID:pL9WoRLQ8M

อิมเมจคนเป็นๆ กุว่าน่าจะฟีลคล้ายๆ เจมม่า เฉิน ที่รับบทเป็นแอสทริด เหลียง ใน Crazy Rich Asian แต่เป็นสมัยเด็กไรงี้นะ คือมีความยิ้มสวยๆ เป็นมิตรกับเด็กๆ แต่ปกติจะดูเริ่ดๆ เชิดๆ ทุกคนไม่กล้าเข้าหาไรงี้

แต่รายนั้นนางเป็นเจ้าแม่แฟชั่น T_T! ส่วนนเจ้าแม่เรานี่...อืมมมมมมมมมมม

ปล.นึกภาพอิมาริเป็นเค้กไม่ออก อย่างอีตานี่น่าจะเป็นส้อมที่หาเรื่องลิ้มเลียสาวๆไปทั่วนั่นแหละ
"รสชาติคุณช่างหอมหวานกว่าใครที่ผมรู้จักมา"

394 Nameless Fanboi Posted ID:1BelbF904b

>>389 ถ้าจิ้นเรย์กะแบบคนจริงๆ กูจิ้นเป็นหน้า aragaki yui ตลอดว่ะ คนนี้สวยน่ารักเหมือนตุ๊กตา คาบุกูจิ้นเป็นหน้าเคนโกะ โคระสมัยหนุ่มๆ ส่วนเอ็นโจนี่ข้ามเชื้อชาติไปหน่อย แต่กูจิ้นเป็นหน้าหยางหยางทุกที กูรู้สึกว่าหยางหยางละมุนต่อใจกูมาก เหมาะแก่การยืมหน้ามาจิ้นเป็นเอ็นโจที่สุดละ

395 Nameless Fanboi Posted ID:kdiYbrNHOD

>>394 แต่ Yui แขนเล็กนะ

396 Nameless Fanboi Posted ID:cap.W76mqw

>>395 เอาหน้าตาเฉยๆจิ 555555555555

397 Nameless Fanboi Posted ID:T+QtugBxjL

>>395 มึงจะสื่อว่าเร​ย์​กะ​ต้องบวมๆกว่าสินะ--

398 Nameless Fanboi Posted ID:buFsvPRUUa

แรงบันดาลใจ​จาก >>368 >>>369

'เราทุกคนล้วนอยู่ในโลกสีเทา'​
โลกในสายตาผม แม้จะเป็นสีเทาหม่น อึมครึม​ ชวนอึดอัด แต่ก็เป็นโลกที่คุ้นเคย ชินชา ไม่ได้รู้สึกแย่อะไร แต่แล้วโลกของผมก็เปลี่ยนไปในวันที่เจอเธอคนนั้น
ดวงตากลมโต แก้มสีชมพู​ระเรื่อ ผมทรงเจ้าหญิงยิ่งทำให้เธอคนนั้นเสมือนเป็นเจ้าหญิงน้อยที่หลุดออกมาจากในนิทาน เธอแตกต่างจากคนอื่นๆ ทุกครั้งที่ผมมองเธอ โลกสีเทาของผมเริ่มมีสีสันขึ้นมาทีละนิดทีละนิด ความสดใสรอบๆตัวเธอดึงดูด​สายตาผมเสมอ กว่าจะรู้ตัวอีกทีผมก็ไม่สามารถ​ละสายตาไปจากเธอได้ซะแล้ว
ท่ามกลางผู้คนมากมาย มีเพียงเธอเท่านั้นที่ส่องประกายเจิดจ้า ทำให้ผมสามารถ​สังเกตเห็น​เธอได้อย่างรวดเร็ว เธอเดินเข้ามาในงานพร้อมครอบครัว ผมรู้ดีว่าเธอเป็นคนสวย ปกติเธอเหมือนเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์​ แต่วันนี้เธอเกล้าผมสวมกิโมโนคล้ายท่านหญิงผู้งดงามบอบบางน่าทะนุถนอม ระหว่างที่เธอและครอบครัว​ทักทายคุณ​พ่อคุณแม่ของมาซายะที่เป็นเจ้าภาพงานชมหิ่งห้อย​ในคืนนี้ ผมสังเกต​เห็นผู้ชายหลายคนแอบมองเธอ แต่ดูเหมือนเธอไม่รู้สึกถึงสายตาเหล่านั้นโดยสิ้นเชิง​ ผมลอบมองเธออยู่ห่างๆ จนกระทั่งเธอปลีกตัวหลบออกมาจากฝูงชน ผมถือโอกาส​ตามเธอไปพร้อมส่งเครื่องดื่มให้เธอ เธอดูแปลกใจเล็กน้อย แต่ก็รับเครื่องดื่มที่ผมส่งให้
"ท่าน​เอ็นโจ"
"สวัสดี​คุณ​คิโชอิน วันนี้ใส่กิโมโน​เหรอ เหมาะมากเลยนะ"
ผมอดไม่ได้ที่จะพูดชมเธอออกไป กิโมโน​วันนี้ช่างทำให้เจ้าหญิงของผมดูงดงามนุ่ม​นวลเหลือเกิน แต่ดูเหมือนเธอไม่รู้​เลยสักนิดว่าผมชื่นชมเธอขนาดไหน เธอเพียงตอบรับคำชมของผมตามมารยาทเท่านั้น
โชคดีจริงๆที่เมื่อผมเอ่ยชวนเธอไปดูหิ่งห้อย เธอไม่ได้หาทางบ่ายเบี่ยง ทำให้ผมได้ไปดูหิ่งห้อย​พร้อมกับเธอ ฝูงหิ่งห้อยที่ส่องสว่างในสวนนั้นแม้จะงดงาม แต่ก็เทียบไม่ได้กับเธอ แสงระยิบระยับ​จากหิ่งห้อยห้อมล้อมเธอไว้เหมือนภาพฝัน เป็นฝันที่ทำให้หัวใจของผมอบอุ่นเหลือเกิน​
เธอเปรยขึ้นมาว่าคงจะดีถ้าได้เห็นหิ่งห้อยใกล้ๆ ทั้งที่อยากใกล้ชิดหิ่งห้อยขนาดนั้น แต่พอเข้าใกล้เหล่าหิ่งห้อยกลับบินหนีออกไป ผมว่าหิ่งห้อยพวกนั้น​คงกลัวหมองเมื่อต้องส่องแสงเทียบกับเธอ เธอดูผิดหวังเล็กน้อย ผมจึงปรารถนา​ให้เธอสมหวัง
"คุณคิโชวอิน ถ้าอยากดูหิ่งห้อยใกล้ๆขนาดนั้น ผมไปจับมาให้ซักตัวมั้ย"
"แค่ความรู้สึกก็พอแล้วค่ะ ท่านเอ็นโจ"
คืนนั้นผมใช้เวลาที่เหลือ​จับหิ่งห้อยใส่กรงส่งไปให้เธอ
แค่ได้พบเธอ โลกสีเทาของผมก็มีสีสัน ผมสงสัยว่าหากผมมีเธอเคียงข้างโลกของผมจะเปลี่ยนเป็นสีชมพู​รึเปล่านะ แค่คิดโลกก็ดูจะชมพู​ขึ้นมาแล้ว

399 Nameless Fanboi Posted ID:1+Jdn4h07O

>>398 ขอบคุณมากๆ สำหรับกาวหอมๆ นะคะ

400 Nameless Fanboi Posted ID:U+5lsyEgq9

>>389 เจ้าแม่กูมโนเป็น Hosho Reiko ในละครเรื่อง Nazotoki wa Dinner no Ato de มีความคุณหนูขี้โวยวายที่โดนรังแกเหมือนกันดีด้วย
เอ็นโจช่วงนี้กูมโนเป็น Yoshisawa Ryou รู้สึกจะเหมาะกับแนวหนุ่มหน้าหวานมากกว่า
ส่วนคาบุรากิกูยังไม่มโนหน้าใครเป็นพิเศษ ประมาณ Akanishi Jin สมัยยังละอ่อนล่ะมั้ง

401 Nameless Fanboi Posted ID:NU2/YZ5CJt

>>398 ขอบคุณสำหรับน้ำตาลยามเช้าค่ะ กระชุ่มกระชวยหัวใจจริงๆ

>>400 เออ เอ็นโจเหมาะดี แต่คาบุกูมโนเป็นนิชิคิโดะ เรียวตอนยังละอ่อนว่ะ

402 Nameless Fanboi Posted ID:Ge7Qv3dNQ.

>>400 ไปตามดูมาเลย กูว่าคนนี้ให้อิมเมจเป็นเจ้าแม่จริงๆ ด้วย หน้าสวยแบบคมเข้มไว้ผมหลอด และถ้าแต่งหน้าเข้มจะดูมีความหน้าแก่นิดๆ 5555

>>398 หวานแหววมากเลยค่ะ นึกภาพคุณชายเอ็นโจยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไล่จับหิ่งห้อยในชุดสูทอยู่คนเดียวแล้วกูใจบางละเกิน ฮื้อออออออออออ

403 Nameless Fanboi Posted ID:UnCexgrNGt

>>398 มึงงง มันเขินนนน ตอนหิ่งห้อยนี่คือแบบบ โง้ยยยย น่ารักกกกก//ตีเบลอเรื่องเจ้าแม่ก็เอาไปปล่อยไป

404 Nameless Fanboi Posted ID:1kZ5wJs18Z

คาบุรากิกูมโนเป็น แมคแคนยู
ท่านเรย์กะ ขอเป็น suzu hirose ได้ไหม ชอบนาง

405 Nameless Fanboi Posted ID:smYq5cM6RX

>>400 เฮ้ย มันได้มาก 55555555555555555555 ผมหลอดเหมือนกันด้วยยยยยยยย

406 Nameless Fanboi Posted ID:2mfUMN1X3S

>>400 อ๋อ คนแสดงโอคิตะในกินทามะนี่เอง ตอนกูเห็นฮีโผล่มากูก็นึกถึงเอ็นโจอยู่เบาๆ ส่วนคาบุกูว่าคนแสดงเป็นฮิจิคาตะก็เหมาะอยู่นะ 555555

407 Nameless Fanboi Posted ID:i59Wuka7dV

วันนี้ว่างเลยลองอ่านท่านเรย์กะดู เห็นมานานแล้วล่ะแต่ยังไม่ได้อ่าน พออ่านแล้วก็ติดหนึบเลยว่ะ อ่านตั้งแต่ต้นยัน 299 ใช้เวลาสามวัน ฮืออออ กูลงแดงอยากอ่านต่อเหลือเกิน

408 Nameless Fanboi Posted ID:Gett+oOc/R

One shot เรนเวิร์ส ว่างๆเลยแต่งเล่น ไม่เคยอ่านauพวกนี้แต่แต่งฟิคสนองนี้ดตัวเองล้วนๆ ตบๆตีๆยังไงก็รู้สึกไม่เข้าที่ ได้แค่นี้แหละจ้ะTwT
Enjou x Reika (Rainverse)
ฝนตกอีกแล้ว

ผมยืนเหม่อมองสายฝน ทุกอย่างเงียบงันเหมือนทุกครั้งที่ฝนตก ไม่มีเสียงใดเล็ดรอดออกมาให้ได้ยิน ช่วงเวลาแบบนี้ต่อให้พูดเสียงดังแค่ไหนก็ไม่มีใครได้ยิน (แน่ละ ผมกับมาซายะเคยตะโกนจนเจ็บคอทั้งคู่แต่ไม่มีใครได้ยินเสียงกันจนกระทั่งฝนหยุดตก)
เพราะทุกครั้งที่ฝนตก ทั้งเมืองจะเงียบ สรรพสิ่งไร้เสียง เคยได้ยินท่านแม่บอกว่า 'มีแค่คนที่เป็นคู่กันเท่านั้นถึงจะได้ยินเสียงกันยามฝนตก' ผมคิดว่าเป็นเรื่องไร้สาระสิ้นดี คงเป็นแค่ตำนานเล่าขานเพื่อปลอบประโลมใจในวันที่ไม่ได้ยินเสียงใคร หึ ถ้าเป็นเรื่องจริง ผมคงไม่ถูกบังคับให้ทำ'เรื่องนั้น' ทั้งที่ทุกคนทราบว่าเราทั้งคู่ไม่ได้ยินเสียงกัน

ยิ่งเติบโต ผมยิ่งชอบวันที่ฝนตก
ไม่ต้องคุยกับใคร ไม่ได้ยินเสียงใคร เป็นช่วงเวลาที่สงบสุขทีเดียว เพราะรู้กันดีว่าเวลาฝนตกจะไม่ได้ยินเสียง จึงไม่เสียเวลาปริปากพูดคุยกัน ต่างคนต่างวุ่นวายอยู่ในโลกส่วนตัว
ผมเอง ใช้เรื่องไม่ได้ยินเสียงเป็นข้ออ้างในการปลีกตัว ยังไงก็คุยกันไม่ได้อยู่แล้วนี่นะ กับคนบางคน ผมก็ไม่ได้สบายใจมากพอจะนั่งเงียบๆ อยู่มุมห้องด้วยกันได้ ช่างน่าอึดอัดเสียจนอยากเสกให้ตัวเองหายไปได้

วันนี้ฝนก็ตก

ผมถอนหายใจ ตั้งใจจะไปคุยกับยูกิโนะให้หายเหงาสักหน่อย อยู่โรงพยาบาลคนเดียวทั้งวัน ฝนตกแบบนี้คงไม่พ้นต้องอ่านหนังสือหรือไม่ก็นอนจ้องเพดานห้องเงียบๆ อีกแล้ว
ผมกางร่ม ก้าวขาออกไปนอกอาคาร มุ่งหน้าสู่รถที่จอดรออยู่ ในใจคิดหาวิธีชวนยูกิโนะคุยนอกเหนือจากพิมพ์ เขียน หรืออ่านปาก
น้องชายผมเป็นเด็กช่างพูด ผมรักเวลาเขาคุย ถึงแม้เราจะอายุห่างกันมาก แต่ผมคิดว่าเราสนิทกันนะ ยูกิโนะมักจะเล่าเรื่องต่างๆ ให้ผมฟังเสมอ เขาเป็นเด็กอัธยาศัยดี แต่ผมไม่เคยเห็นเขาทำแบบนี้กับใครนอกจากผม มาซายะ และคุณคิโชวอิน ผมอดยิ้มไม่ได้เมื่อนึกถึงคุณคิโชวอิน เธอเป็นคนพิเศษ ใครอยู่ใกล้ก็สบายใจ เพราะงี้แหละมั้ง ใครก็อยากเข้าใกล้เธอ มาซายะที่ค่อนข้างถือตัวยังชอบไปคุยกับเธอบ่อยๆ เลยนี่นะ

รถเริ่มปรากฎในระยะสายตา อีกไม่กี่ก้าวก็ถึง ฉับพลัน ผมรู้สึกเหมือนสายฟ้าฟาด หูอื้ออึง ไม่แน่ใจว่าฝนหยุดตกกะทันหันหรือไรแต่ผมมั่นใจว่าผมได้ยินเสียงคนเรียก ท่ามกลางความเงียบของทั้งเมือง เสียงนั้นดังเสียจนใจผมสั่นระรัว
"ท่านเอ็นโจ!"

เมื่อหันไปมองก็เป็นคุณคิโชวอินที่รีบวิ่งฝ่าฝนมา ผมที่ตะลึงงันกับเรื่องที่เพิ่งเกิดเมื่อครู่ ตอนนี้แน่ใจเสียยิ่งกว่าแน่ เสียงหอบจากความเหน็ดเหนื่อย เสียงเจื้อยแจ้วบอกว่าฝากของไปให้ยูกิโนะ แล้วรีบร้อนขอตัวกลับ ถ้าผมพูดออกไป เธอจะได้ยินเสียงผมด้วยไหมนะ?
"คุณคิโชวอิน เอาร่มไปสิ"
"ไม่เป็นไรค่ะ"
ไม่มีวี่แววความประหลาดใจบนดวงตาคู่นั้น ให้ตายเถอะ เธอได้ยินหรือเปล่านะ? เธอกังวลใจกับอาการของยูกิโนะจนไม่ได้ใส่ใจว่าผมได้ยินเสียงเธอ? ในเมืองที่เงียบเวลาฝนตกแบบนี้ ใครๆ ก็มีความสามารถพิเศษคืออ่านปากคู่สนทนาทั้งนั้น แต่ให้ตายเถอะ ประโยคยาวๆ แบบนั้น ถ้าไม่ได้ยินเสียงก็ไม่มีทางเดาถูกได้ทั้งหมดหรอก ใช่ไหมละ? คุนคิโชวอิน! รู้สึกตัวหน่อยสิครับ

ผมใช้เวลาในการเดินทางทั้งหมดคิดไปกับเรื่องเมื่อครู่ ให้ตายเถอะ ผมฝันไปหรือเปล่านะ เรื่องทุกอย่างดูน่าประหลาดเกินกว่าจะเป็นความจริง
ผมที่ไม่ได้ยินเสียงใครตอนฝนตกมาตลอดชีวิต กลับได้ยินเสียงคุณคิโชวอิน
แม้กระทั่งถึงโรงพยาบาลแล้วผมก็ยังหยุดคิดไม่ได้
'ท่านพี่ มีเรื่องไม่สบายใจหรือเปล่าฮะ' หือ? ผมก้มหน้าอ่านข้อความบนแผ่นกระดาษที่ยูกิโนะส่งมาให้แล้วเขียนตอบกลับไป
'อ่า มีเรื่องวุ่นวายใจนิดหน่อย ไม่ต้องกังวลหรอกนะ' ผมส่งยิ้มให้เขา
'บอกผมหน่อยสิ ผมพอจะช่วยได้บ้างไหมฮะ'

ไม่รู้ว่าผมคิดอะไรอยู่ แต่รู้สึกตัวอีกที ยูกิโนะก็กำลังอ่านที่ผมเขียนตอบกลับไป
'ยูกิโนะเคยได้ยินเสียงใครตอนฝนตกไหม'
เขาหันมามองหน้าผมอย่างงุนงง มือเล็กๆ เขียนตอบกลับมา
'ไม่เคยหรอกฮะ' อ่า นั่นสินะ... ผมอาจจะหูฝาดไปก็ได้
'แต่ถ้าผมได้ยิน ผมก็คงไปถามเจ้าตัวว่าได้ยินเสียงผมเหมือนกันหรือเปล่า ก็ผมเป็นเด็กขี้สงสัยนี่นา ผมไม่ยอมปล่อยให้ค้างคาใจนานๆหรอก'

และเป็นอีกครั้งที่ผมพบว่าผมส่งเมลไปหามาซายะ'อย่างไม่รู้ตัว'
'มาซายะ ขอเมลคุณคิโชวอินหน่อยสิ'

409 Nameless Fanboi Posted ID:Cly1MfU+sa

>>408 ฮือ ขอบคุณน้า เสียใจตรงเป็น one shot อยากอ่านต่อ 5555

410 Nameless Fanboi Posted ID:HZM95jT/yi

>>408 ฟิคนี้มาได้จังหวะที่บ้านกูฝนตกและกำลังฟังเพลง rain ของ the script อยู่พอดี กูชอบจัง เหมือนรู้สึกถึงไอเย็นๆของละอองฝน มันโรแมนติคแบบละมุนๆดีจังเน้อ

411 Nameless Fanboi Posted ID:ZghC7vUC.T

>>410 แต่ rain - the script มันเพลงอกหักนะมึง....

412 Nameless Fanboi Posted ID:HZM95jT/yi

>>411 umbrella ของ rihanna ก็ได้ 5555555

413 Nameless Fanboi Posted ID:hIL6vubPtt

>>408 one shot หัวเรื่องเป็นแค่คำลวงใช่มั้ยโม่งฟิค มันช่างรู้สึกค้างคาเหลือเกินนนน

414 Nameless Fanboi Posted ID:Du4bHqM5Ik

กูเพิ่งได้อ่านเรื่องนี้แล้วก็ติด อ่านยาวๆเหี้ยๆจนจบ กูขอถามตรงๆนะ
กูยังมีหวังตอนใหม่ไหม

415 Nameless Fanboi Posted ID:dNnkNOGmKb

>>414 คนเราต้องมีความหวัง​
... ถึงแม้เดือนหน้าก็ครบปีแห่งการดองแล้วก็เถอะ​

416 Nameless Fanboi Posted ID:jbDa.QsLYh

จุดนี้ขอเปิดเพลงไม่ยอมหมดหวังของป้าคิ้มฟังประกอบ ทำไมพอมีโมเม้นต์ท่านเรย์กะกับเอ็นโจวได้นึง ท่านฮิโยโกะก็เทกันซะได้ล่ะคะ //น้ำตานอง

417 Nameless Fanboi Posted ID:rUO9MkxgT0

>>416 สมเป็นเจ้าชายแสนรันทด มีบทออกมาทีไรก็ได้แต่ยิ้มขื่นๆ กับเสยผม พอจะนัดเดทกับสาวได้ทีนึงก็โดนคนเขียนเทซะงั้น...

418 Nameless Fanboi Posted ID:f/xkSmloKQ

>>414 คนเราต้องมีความหวังเว้ยมึงงงงง ไม่แน่อาจจะกลับมาอัพวันนี้ก็ได้

419 Nameless Fanboi Posted ID:+U/yUkBGxM

>>418 สาธุ999

ถ้ามาจริงกูจะวิ่งไปซื้อไอติมมากินฉลองตอนใหม่

420 Nameless Fanboi Posted ID:A.jkiLr5I1

เข้าโฟลเดอร์ reika sama ไฟล์หายไปหมดเลยว่ะ เหลือสารบัญอาหารอยู่อันเดียว อากู๋ไดรฟ์มันรวนเหรอ หรือใครไปเผลอลบอะไรเข้าอะ

421 Nameless Fanboi Posted ID:dvxxEKqxmN

>>420 เชี่ยยยย อีกแล้วอ่อวะ MAYDAY!!!!MAYDAY!!!!!

422 Nameless Fanboi Posted ID:dvxxEKqxmN

กูเพิ่มเท่าที่กูมีลงไปในนั้นละ มีไฟล์อะไรเพิ่มอีกปะวะ

423 Nameless Fanboi Posted ID:BeFL5ya/8u

>>422 รู้สึกว่าจะกลับมาเกือบครบ ยกเว้นไฟล์กาลครั้งหนึ่งในฝันกับฟิคแปลอีกเรื่องน่ะ

424 Nameless Fanboi Posted ID:dvxxEKqxmN

>>423 เชี่ย.....มึงเคยเปิดไว้ปะ ถ้าเคยมึงเอาจากที่เคยเปิดมายัดใส่ให้ที//กูไม่เคยเปิดสองไฟล์นั้น;__;

425 Nameless Fanboi Posted ID:vIZ+EZ/E2q

แงงง รอคนใจดีมาซ่อมให้นะคะ ชอบฟิคกาลครั้งหนึ่งในฝันมากๆ ToT
แก้ปัญหาด้วยการล็อคสารบัญไปเลยดีไหมอ่ะ...

426 Nameless Fanboi Posted ID:hY.o6yLQ0M

เนื่องจากเราเป็นนศ.ปีหนึ่งผู้โม่งไม่เนียนเท่าไหร่ ดังนั้นจะขอใช้ประเพณีที่ต้องทำทุกปีเป็นของเซ่นให้ท่านฮิโยโกะอัพตอนใหม่เถอะนะ....

427 Nameless Fanboi Posted ID:BMoYTFbZcF

กูมีไทม์ไลน์เนื้อเรื่อง ใส่ไปละ เดี๋ยวลองขุดๆ เผื่อเจออะไรเพิ่ม

428 Nameless Fanboi Posted ID:NWHNlyhJFa

>>426 วิ่งขึ้นดอยเรอะ

429 Nameless Fanboi Posted ID:vVqtB.DF1m

>>426 ลงฟิคเลยมึง นี่ล่ะประเพณี 55555555555555

430 Nameless Fanboi Posted ID:aCPV2adTIY

>>429 ++ ประเพณีโม่ง 55555555

431 Nameless Fanboi Posted ID:mtu+m8NWmn

ทำไมไฟล์สารบัญทั้งหลายนี่หายได้ตลอดเลยวะ รู้สึกจะมีเหตุการณ์แบบนี้หลายครั้งแล้ว มีใครเผลอลบเหรอ ตั้งค่าล็อคได้มั้ยอะ

432 Nameless Fanboi Posted ID:YU.98etzpF

>>428 พูดซะรู้เลยว่าอยู่มหาลัยไหน

433 Nameless Fanboi Posted ID:ZP/il123CF

>>407 ยินดีต้อนรับนะ ได้ผู้ร่วมชะตากรรมค้างเติ่งมาอีกราย...

434 Nameless Fanboi Posted ID:i3/rE5jMT1

ทำไมคาบุรากิมันปากหมาจังวะ เจอท่านเรย์กะกูยกประเด็นไร้เพื่อนขึ้นมานี่จะหงอย

435 Nameless Fanboi Posted ID:N8zK5N8CZU

>>434 โดนจี้ใจดำทีไรก็โกรธกลบเกลื่อนตลอดนะ ถถถถถถถถ

436 Nameless Fanboi Posted ID:zSDKrHKwge

>>434 แต่คนที่เป็นศูนย์กลางเรื่องแบบคาบุทำไมมีเพื่อนแค่เอ็นโจคนเดียววะ แอบไม่เข้าใจ ปกติคนแบบนี้ต้องเพื่อนเยอะ ไปไหนมาไหนเป็นกลุ่มใหญ่ดิ นี่เห็นคบกันอยู่สองคนเหมือนชาวบ้านไม่คบด้วยอ่ะ 5555555555

437 Nameless Fanboi Posted ID:i3/rE5jMT1

>>436 กูว่ามันมีจุดให้สังเกตุถึงเหตุผลอยู่นะ คาบุรากิมันได้ฉายาว่า จักรพรรดิ ใช่ปะ ส่วนท่านเรย์กะเป็นจักรพรรดินี

คิดตามส่วนของพวกผู้หญิงก่อน 1.คาบุรากิอยู่สูงเกินกว่าจะมาเป็นเพื่อนกับตัวเอง 2.กรี๊ดกร๊าดเป็นแฟนคลับ ไม่คิดจะเป็นเพื่อน เพราะคาบุรากิคงเหมือนมีเพื่อนเยอะแล้ว 3.อยู่เรืออวยคาบุxเรย์กะ 4.กลัวท่านเรย์กะไม่พอใจเลยไม่ยุ่ง (อันนี้ตามเนื้อเรื่องเลย ตั้งแต่แรกตัวละครจะชอบคิดกันว่าท่านเรย์กะสนใจคาบุรากิ) 5.อาจมีคนพยายามตีสนิทเป็นเพื่อนอยู่ แต่คาบุรากิค่อนข้างเลือก บางทีก็ไม่สนใจใครเลย

438 Nameless Fanboi Posted ID:i3/rE5jMT1

>>436 ส่วนพวกผู้ชายก็คงคล้ายๆ กัน ยิ่งซุยรันเป็นโรงเรียนของคุณหนูคุณชายนี่คิดได้ง่าย คงสนใจฐานะความเหมาะสมกันอะ 1.คิดว่าท่านจักรพรรดิอยู่สูงเกินไป 2.กลัว 3.อาจมีสาเหตุมาจากเอ็นโจก็ได้ ใครจะรู้ (?) คือเอ็นโจอาจจะมาเหนือ หวงเพื่อน เพื่อนข้าใครห้ามยุ่ง 555555 #ข้ามข้อสุดท้ายไป

439 Nameless Fanboi Posted ID:S+6O1Eznum

>>438 ข้อสุดท้ายดูแผ่ออร่าวายๆยังไงชอบกลนะมึง 5555555

440 Nameless Fanboi Posted ID:i3/rE5jMT1

>>439 มันน่าคิดเว้ย 5555 สังเกตุตอนที่เอ็นโจแผ่ออร่าน่ากลัวตามที่ท่านเรย์กะเล่ามา เอ็นโจต้องเป็นคนขี้หวงในระดับนึงอะ

441 Nameless Fanboi Posted ID:DZItoUnqX/

เจ้าแม่อัพแล้วโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
.
.
.
.
.
..
.
.
.
.
.
.
.
กุอยากพิมพ์เอาฤกษ์เอาชัยเฉยๆ น่ะ T_T

442 Nameless Fanboi Posted ID:stuK20w/5H

>>441 ขออนุญาตินะคะทุกท่าน
อีเหี้ยยยยยยยยยย
กูก็นึกว่ามาจริง แว้บไปแมวดุ้นมาแล้วด้วยตะกี้ ;----;

443 Nameless Fanboi Posted ID:stuK20w/5H

>>442 อนุญาต* กูเขียนผิด ขออภัยด้วย
แต่ตะกี๊กูไปดูที่แมวดุ้นมาเลยนะ ขอให้เป็นฤกษ์ดีด้วยเถิด

444 Nameless Fanboi Posted ID:zk0y/dFbYC

>>441 ล้อเล่นกันแบบนี้ ไม่ดีนะมึง
>>442 อนุญาตค่ะมึง เต็มที่เลย มากกว่านี้ก็ได้

445 Nameless Fanboi Posted ID:ImDR/oy1Ve

>>441 กูเกลียดมึงงงง โป้งงงงงงงงง ไปกินแกงกะหรี่มิราเคิลข้อหาพูดโกหกเลยค่ะ! ;-;)

446 Nameless Fanboi Posted ID:ImDR/oy1Ve

ความรู้สึกเหมือนเจอคนที่แอบชอบ ที่ไม่ได้เจอมานาน แต่พอกะพริบตาอีกทีก็รู้ตัวว่ามองผิด ฮืออออออออออออ ;;-;;)!

ขอให้เป็นจริงเถอะะะ

447 Nameless Fanboi Posted ID:9fu44auI58

>>441 แจ้งเซิร์นให้แบนเลยได้มั้ย.............

448 Nameless Fanboi Posted ID:t2zH7zOiDI

>>441 ใจกุเต้นตึกๆ เลื่อนลงมาหล่นตุ้บ

449 Nameless Fanboi Posted ID:zSDKrHKwge

>>441 มึงงงงงงงงง กูดีใจเก้อเลยนะ ใจร้ายมาก ;w;

450 Nameless Fanboi Posted ID:zvZRthhWFi

ดีที่กูมาช้า รอดจากศพผู้เสียชีวิตก่อนหน้าแท้ๆ

451 Nameless Fanboi Posted ID:83Fdz8iBIq

*ตบๆไหล่พวกมึงนะ* อย่าได้โกรธเคืองกันเลย คิดซะว่าเอาฤกษ์เอาชัยอย่างเขาว่า อย่างน้อยเราก็ได้ดีใจแม้ซักเสี้ยววิก็ยังดี............. Y_______Y

452 Nameless Fanboi Posted ID:9fu44auI58

>>451 ต้องแต่งฟิคมาขอขมาเยียวยาเหล่าโม่งผู้ถูกหลอก

453 Nameless Fanboi Posted ID:twxuVXkqs0

วันนี้จะเป็นวันที่โม่งจะสังเวยตนเอง วิ่ง14km ขึ้นดอยไปไหว้พระขอให้ท่านเรย์กะอัพตอนใหม่แล้ว-------

454 Nameless Fanboi Posted ID:46C06nnuA4

>>441 กูกำลังจะไปอัพสเตตัสอยู่เลยเเม่ง ดีนะ เหลือบมาเห็นข้างล่างก่อน
ใจฟูจากนั้นก็แฟบลงภายในพริบตา

455 Nameless Fanboi Posted ID:HBFjzAREKn

>>441 มึงแม่งทำให้กูรู้สึกเหมือนดิ่งจากรถไฟเหาะ เลวมากกกก
>>454 //ตบบ่า เช่นกันค่ะมึง

456 Nameless Fanboi Posted ID:aDQau32QlW

>>436 ไม่ใช่คาบุไม่มีใครคบ แต่คาบุไม่คบใครไหมอ่ะ แบบเมื่อก่อนอะไรก็ยูริเอะๆ

457 Nameless Fanboi Posted ID:8CBhnvF6kb

>>456 จริงๆคาบุมีคนบูชาเยอะนะ ทำอะไรใครๆก็ให้ความร่วมมือ. แต่ฮีสนิดกับเอ็นโจเท่านัลลลลล /คิดสิคิด

458 Nameless Fanboi Posted ID:TsiPGSkjhd

>>457 กูว่าเพราะบุคลิกมากกว่า ระหว่างหนุ่มหล่อสองคนที่อยู่กลุ่มเดียวกันโปรไฟล์เลิศเลอพอกัน คนนึงดูเงียบๆ เย็นชา บรรยากาศคูลๆ อีกคนขยันยิ้ม ชอบช่วยเหลือคนอื่น บรรยากาศเป็นมิตร ยังไงฝ่ายหลังก็น่าจะมีคนรู้จักเยอะกว่า
เอาเข้าจริงสองหน่อนี้ เป็นเพื่อนสนิทกันและกัน ถ้านิยายเรื่องนี้เป็นนิยายวาย ช่วงนี้อาจจะเป็นช่วงดราม่า ว่าจะเลือกชอบผู้หญิงหรือผู้ชายดี แค่กๆๆ//สำลักควัน

459 Nameless Fanboi Posted ID:XVZmPIchr8

กู >>458 เอง เพิ่มเติม อาจจะอยู่ในช่วง เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ 555

460 Nameless Fanboi Posted ID:Ug/tH547LK

>>459 ฝั่งไหนที่คิดไม่ซื่อกันคะ//ครุ่นคิส

461 Nameless Fanboi Posted ID:XVZmPIchr8

>>460 ถ้านำความซื้อ(บื้อ) ของคาบุมาพบกับความ(ร้าย)เดียงสาของเอ็นโจ น่าจะเป็นคุณชายเอ็นโจที่จะรู้ตัวก่อนจักรพรรดิคาบุนะ หุๆ ส่วนใครบนล่างนั้นแม้แต่เจ้าแม่ยังเดา(จิ้น)ไม่ถูกเลยเน้อ

462 Nameless Fanboi Posted ID:eDL6wyhUL+

จริงๆคิดว่าคาบุมันมีผู้หญิงคอยล้อมหน้าล้อมหลัง ตอนว่างก็ชอบหนีไปอยู่ห้อง Pivoine ตอนพักกลางวันก็กินข้าวที่โต๊ะพิเศษ เข้ายากขนาดนี้พวกผู้ชายเลยไม่ค่อยอยากเข้าไปตีสนิทมั้งพอรู้ตัวอีกทีก็เหลือเอ็นโจผู้ร่วมชะตากรรมเป็นเพื่อนอยู่คนเดียว 55555

463 Nameless Fanboi Posted ID:sDr.Sw4UZL

>>457 ฉันมีแค่ชูสุเกะก็พอแล้ว//ทำหน้าแดงๆมองไปทางอื่น

ฝั่งชูสุเกะก็คงแบบ...มาซายะเป็นของผมคนเดียวเท่านั้น//แผ่รอยยิ้มดำมืดใส่คนที่คิดจะตีสนิท

464 Nameless Fanboi Posted ID:XVZmPIchr8

>>463 ตัดภาพไปที่คาบุมีอะไรจะปรึกษาก็เมลล์รัวๆ

465 Nameless Fanboi Posted ID:Gb7q5WWmmh

ตอนแรกๆ ที่อ่านฉากคาบุรากิชอบวาคาบะ กูไม่พอใจอย่างแรง เพราะท่านเรย์กะคล้ายตัวประกอบไปเลย แต่พอเป็นฉากท่านเรย์กะกับวาคาบะ กูโอเคว่ะ 55555

466 Nameless Fanboi Posted ID:nDYX49eFFM

>>462 พวกผู้ชายอาจจะกลัวโดนฝึกแบบสปาร์ต้าด้วย...

467 Nameless Fanboi Posted ID:L4FPDhdg9w

>>466 แต่ดูแต่ละคนก็พอใจดีนะ เห็นมีหลายคนเข้ามาขอเป็นลูกศิษย์คาบุด้วย... กูว่าที่มันไม่มีเพื่อนเพราะคนรอบข้างยอมลดตัวลงขั้นนึงไม่ยอมตีตัวเทียบเท่านี่แหละ กวาดตามองไปเลยเหลือเอ็นโจอยู่คนเดียว

468 Nameless Fanboi Posted ID:vzM/4eMxgu

>>465 ตอนท่านเรย์กะอยู่กับวาคาบะกูเอาแต่คิดว่า รีบไปหาคนที่จะมาเป็นพระเอกเดี๋ยวนี้! เพื่อนผู้หญิงและเหล่าสาวกมีเป็นกองทัพแล้ว พระเอกอยู่ไหนๆ!!

469 Nameless Fanboi Posted ID:YnSjndWB9q

>>468 เออออ กูก็ประมาณนั้นเลย

470 Nameless Fanboi Posted ID:X24DtBuFRq

>>467 แต่ก็น่าจะมีเพื่อน pivoine ชายคนอื่นบ้างนะ ในรุ่นมีตั้งสิบคน ออกมาแค่ห้าเอง อีกห้าไม่กล่าวถึงว่าเป็นยังไงเลยด้วย

471 Nameless Fanboi Posted ID:YJ9/0EbQy2

แรกๆ กูก็เฉย แต่คิดดูอีกทีมันก็แปลก คนที่ระดับเท่ากันก็น่าจะมีอยู่ จะไม่มีใครอยากเป็นเพื่อนเลยเหรอ กุเลยหันมาสงสัยเอ็นโจ.... มันต้องมีเบื้องหลัง huhu

472 Nameless Fanboi Posted ID:GNqP4JP2AU

เป็นเรื่องที่จิ้นวายคู่อื่นนอกจากท่านพี่กับอิมาริไม่ลงจริงๆว่ะ =_=

473 Nameless Fanboi Posted ID:V35.ME5ihi

>>472 +1

คนรู้จักที่เป็นเพศเดียวกันของคาบุอะมีแน่ๆแต่ที่สนิทใจ คบหาได้ เรียกว่าเพื่อนได้ ไปไหนมาไหนด้วยได้ก็คงมีแค่เอ็นโจ

474 Nameless Fanboi Posted ID:AM.Wsg9Q9A

>>470 ให้เดานะ pivoine ในรุ่นเดียวกันคงมีผู้ชายสองคน อยู่ในโรงเรียนก็เจอแต่ผู้หญิงรุมจนผู้ชายไม่กล้ามาคุยด้วย อยู่ในห้อง pivoine ก็ไม่มีผู้ชายรุ่นเดียวกัน ชมรมก็ไม่เข้า เลยทำให้ไร้เพื่อน

475 Nameless Fanboi Posted ID:Yu4ua3j.IY

>>472 ท่านพี่กับอิมาริต้องจิ้นด้วยเหรอ ไม่ใช่คู่นี้ is real แล้วเหรอ//แค่กๆๆๆ

476 Nameless Fanboi Posted ID:XyM8ZGFX2g

>>470 >>474 สรุปมี pivoine ที่เป็นผู้ชายรุ่นเดียวกันกับเอ็นโจและคาบุกี่คนนะ? ไม่เคยเห็นรุ่นเดียวกันที่เป็นผู้ชายคนอื่นนอกจากสองคนนี้เลย

ว่าแต่สมาชิกpivoineที่เป็นผู้ชายที่ยังเรียนอยู่มัธยมซุยรันตอนนี้ที่โผล่มาในเรื่องมีใครบ้างอ่ะ

477 Nameless Fanboi Posted ID:+bKl0OnvRa

>>476 รุ่นน้องฉี่เป็นเลือด...

478 Nameless Fanboi Posted ID:/wC.4Y4+6S

>>477 น้องฉี่เลือดกับผองเพื่อนนี่ยังไม่มีแม้แต่ชื่อด้วยซ้ำ...

479 Nameless Fanboi Posted ID:BUKXfgDjZI

>>478 แสดงให้เห็นว่าไม่มีบทสำคัญแน่ไงล่ะ ขนาดชื่อยังไม่มีติดให้เลย โถๆๆ

480 Nameless Fanboi Posted ID:mOdg8ex6Kt

>>479 หัวหน้าห้องก็ไม่มีชื่อ.......

481 Nameless Fanboi Posted ID:Yu4ua3j.IY

>>480 หัวหน้าห้องก็ชื่อหัวหน้าห้องไงล่ะ

482 Nameless Fanboi Posted ID:RQTpKVVSno

ไปตามอ่านตำนานกุหลาบสีแดงกับนกไนติงเกลมา อ่านจบเริ่มไม่ชอบกุหลาบแดงขึ้นมาเลย

483 Nameless Fanboi Posted ID:UGkOBlN2NJ

กูชอบสีแดงของกุหลาบนะ แต่พออ่านตำนานละก็ อื่มมมมม

484 Nameless Fanboi Posted ID:nFtuHDjhwr

>>482 กุหลาบแดงไม่ผิดนะมึง ในเรื่องต่างคนต่างทำความต้องการของตนเองทั้งนั้น

485 Nameless Fanboi Posted ID:H5ZLjIueH4

>>484 ไม่ใช่ว่าผิดอะไรนะ แต่มันน่ากลัวๆ ยังไม่รู้

486 Nameless Fanboi Posted ID:E3Y3KkKxk9

>>485 กูว่าไม่น่ากลัวนะ ออกจะน่าสมเพชด้วย ถ้าจะพูดง่ายๆคือนกไนติงเกลมันเสือกเอง ไอ้หนุ่มมันก็พร่ำเพ้ออะไรของมันไปเรื่อยว่าไม่มีกุหลาบแดงแล้วสาวจะไม่แลมัน ไอ้นกนี่ก็อุทิศตัวเกินกำลังสุดท้ายก็ตายไปแบบไร้ค่า โดยที่ไอ้หนุ่มมันไม่ได้ร้องขอให้ทำเลยซักนิด

487 Nameless Fanboi Posted ID:jQuhLZZ3m4

>>486 เหมือนในชีวิตจริงดี ผู้หญิงบางคนก็รักแบบไม่ลืมหูลืมตาคล้ายนกไนติงเกลนี้เลย

488 Nameless Fanboi Posted ID:2FpXda634S

พูดถึงกุหลาบแดงทีไร นึกถึงนางมัทนาทุกที คน ๆ นี้ซวยเพราะรักจริง ๆ

489 Nameless Fanboi Posted ID:oco9lga0nj

Kyกลับไปเรื่อง​คาบุไม่มีเพื่อน​คนอื่นคบ
ท่านพี่ก็มีแต่อิมาริเหมือนกัน​แหละวะ 55555

490 Nameless Fanboi Posted ID:UKv5ZCcZHj

คุยถึงท่านพี่กับท่านอิมาริ อยากอ่านวีรกรรมที่ก่อไว้ในอดีตจุง ท่าทางจะแสบใช่เล่น หลังจากเจอท่านอิมาริ คาบุรากิดูหวาดผวามากอะ ไม่รู้วันนั้นไปเห็นอะไรเข้า

491 Nameless Fanboi Posted ID:I6BtAoTy.F

>>489 นั่นเขาแฟนกัน//แค่กๆๆๆ

492 Nameless Fanboi Posted ID:8WGOUUiod9

>>490 เอาแบบไม่จิ้นอะไรก็คงเจอแบบตอนงานทานาบาตะที่อิมาริจีบสาวแบบเลี่ยนๆ แต่เอาแบบจิ้นวายกูว่าอิมาริจีบคาบุแน่ๆ 55555555555

493 Nameless Fanboi Posted ID:nnBsNDvma8

>>492 กูว่าเจอคาเบะด้งใส่ในที่ลับตา 55555 ถ้าจิ้นวายหนักๆ หน่อยคือได้เอ็นโจช่วยออกมาค่ะ เผลอๆ จะโดนติดหนี้เป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้

494 Nameless Fanboi Posted ID:8WGOUUiod9

>>493 จากพระเอกมังงะโชโจ กลายเป็นนายเอกในนิยายตลกไปซะงั้น ถถถถถถถถถถ

495 Nameless Fanboi Posted ID:ppSM+nSi6B

>>494 ก็นะ ในโชโจมังมะ ไม่มีตัวละครท่านพี่กับอิมารินี่ คู่หูคาบุกับเอ็นโจเลยเด่นสุด

496 Nameless Fanboi Posted ID:./i5JOogVk

>>493
" มาซายะติดหนี้ผมมาเยอะเเล้ว ช่วยอะไรสักอย่างหน่อยได้ไหม "
" ว่ามาสิชูสุเกะ "
" ช่วยอยู่ห่างๆคุณคิโชวอินทีสิ เวลาผมเห็นทั้งสองคนอยู่ด้วยกันแล้วรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเลย "
" แต่ว่ายัยนั่นเป็นเบ๊ของฉั... "
" มาซายะ.. *ยิ้มจอมมาร*
บอกว่าคุณคิโชวอินเป็นเบ๊ของตัวเองนี่มันก็เกินไปหน่อยนะ อีกฝ่ายเป็นถึงจักรพรรดิณีของซุยรันแท้ๆ
แล้วก็... เธอคนนั้นเป็นผู้หญิงของผมด้วยนะ อย่าลืมสิ "

ชีวิตกูต้องการกาวหวานเจี๊ยบ ;_;)

497 Nameless Fanboi Posted ID:XTLrO+i4nF

>>496 นึกว่าจะบอกว่ามาซายะเป็นของผมซะอีก//แค่กๆ
นอกจากจะต้องการกาวหวานแล้วชีวิตกูยังต้องการกาวม่วงด้วย 5555555

498 Nameless Fanboi Posted ID:bJmthARgHY

>>497 ตอนพิมพ์กูก็ลังเลอยู่ 5555555

499 Nameless Fanboi Posted ID:bJmthARgHY

ฉบับกาวม่วง(?)

" มาซายะติดหนี้ผมมาเยอะเเล้ว ช่วยอะไรสักอย่างหน่อยได้ไหม "
" ว่ามาสิชูสุเกะ "
" ช่วยอยู่ห่างๆคุณคิโชวอินทีสิ เวลาผมเห็นทั้งสองคนอยู่ด้วยกันแล้วรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเลย "
" หึงที่ฉันเข้าใกล้คิโชวอินหรอชูสุเกะ? นายก็รู้ไม่ใช่หรอว่าฉันชอบทาคามิจิ เพราะงั้นไม่ต้องห่วงหรอกน่า *ตบหลัง(แรงๆ)* "
" อึ่ก.. นายนี่มันซื่อบื่อจริงๆเลยนะมาซายะ ใครบอกว่าผมคิดแบบนั้นกันล่ะ
ผมจะไม่ปล่อยให้มาซายะเข้าใกล้คนอื่นง่ายๆแบบนั้นอีกแล้ว ทั้งคุณคิโชวอิน ทั้งคุณทาคามิจิเลยด้วย
..เพราะว่ามาซายะจะต้องเป็นของผมคนเดียว.. "

500 Nameless Fanboi Posted ID:AxugEDAZXG

ปกติกูเป็นสายแต่งกาวสีชมพูนะแต่ตอนนี้กูอยากแต่งกาวตลก แต่ที่ตลกกว่ากาวคือกูไม่มีไอเดียเลยขร่ะ555555 //หลบเข้ามุมเหมือนเดิม

501 Nameless Fanboi Posted ID:zbhD5rmo7d

>>499 อุตส่าห์เลี้ยงต้อยมาตั้งแต่อนุบาล จะให้ยัยพวกนั้นมาชุบมือเปิบได้ยังไงกัน!

502 Nameless Fanboi Posted ID:CAehACmoDN

>>501 เลี้ยงต้อย 55

503 Nameless Fanboi Posted ID:CAehACmoDN

หากอ่านจากมุมมองของแต่ละคน กูคิดว่าน่าจะเป็นงี้

ท่านเรย์กะ >> ตลก ของกิน
คาบุรากิ >> ตลกสัส ทึ่ม สตอล์กเกอร์
เอ็นโจ >> รักหวานขม ปมดราม่า

504 Nameless Fanboi Posted ID:XTLrO+i4nF

>>503 ของวาคาบะจะเป็นแนวๆนางเอกนิยายแจ่มใสป่ะวะ 555555

505 Nameless Fanboi Posted ID:r03NVMNicS

>>503 กูอยากรู้มุมมองคาบุตอนที่มันไปทักเรย์กะเรื่องเก็บแต้มนักษัตรมากๆ คือ...มันประมวลผลออกมาได้ยังไงว่ามีคนต้องการเก็บแต้มอะไรพรรค์นี้วะ ในหัวมีอะไรอยู่มั่งเนี่ย 5555555

506 Nameless Fanboi Posted ID:fjMOgwb/hW

>>504 กูไม่เข้าใจว่าวาคาบะกำลังคิดอะไรอยู่ แต่ก็คงสดใสประมาณแจ่มใสนั่นแหละ

507 Nameless Fanboi Posted ID:gKIp5o+F+J

>>505 ฮากว่าท่านเรย์กะก็คาบุรากินี่แหละ กูก็อยากรู้เหมือนกันว่าเอาอะไรคิด 555555 ไม่ใช่แค่ความคิดนะที่สุดโต่ง สกิลปากนี่ก็ไม่แพ้กัน ในหัวมันคิดอะไรอยู่วะ ต้องเป็นคนขาดความละเอียดอ่อนขนาดไหนถึงจะกล้าพูดออกมาได้

508 Nameless Fanboi Posted ID:EhAuZzHaMT

อยาก​อ่าน​ฟิคเวียนต่อจังค่า

509 Nameless Fanboi Posted ID:YOph7tzwn3

>>505 เพราะคาบุเคยเก็บแต้มนักษัตรมาก่อนเลยคิดว่าจะมีคนแบบเดียวกับตัวเองอยู่บนโลกแหงๆ
>>508 กูก็อยากอ่านต่อจังค่าาา

510 Nameless Fanboi Posted ID:rGJLcZ2Ose

>>509 คิดเหมือนกูเลยว่าาบุต้องเคยเก็บแต้มมาก่อน
>>507 เรื่องปากหมาก็สงสัยเหมือนกันนะ ต้องถามโม่งชายที่มีเพื่อนสนิทผู้หญิงน่ะ ว่ากล้าด่าเพื่อนแบบคาบุแบบ ขาหมู แพนด้า หรือเปล่า

511 Nameless Fanboi Posted ID:YOph7tzwn3

>>510 กูเป็นโม่งหญิงที่มีเพื่อนสนิทเป็นผู้ชาย แม่งด่ากูอีอ้วนประจำ แรกๆก็เคืองมากโกรธมาก หลังๆปลงแล้ว เออกูอ้วนแล้วไง หนักหัวอาม่ามึงหรอม

512 Nameless Fanboi Posted ID:GyD2gjlk6m

>>510 แขนใหญ่ด้วย อ่านการ์ตูนตาหวานที่พระนางมีฉากแตะเนื้อต้องตัวกัน มีแต่พระเอกวาบหวาม ใจเต้น อันนี้คือจับแล้วรู้สึกว่าแขนย้วยชิหัย ไปออกกำลังกายได้แล้วนะหล่อน คาบุนี่แม่งมีความเป็นเพื่อนหญิงสูงมาก

513 Nameless Fanboi Posted ID:6Ki/3JCPK+

>>512 กูว่ามันเหมือนเพื่อนสาวตั้งแต่เอาเรื่องหวานแหววที่ทำกับแฟนมาเล่าให้ฟังแล้วว่ะ 5555555

514 Nameless Fanboi Posted ID:mN0KsYSJQh

ควรดีใจใช่ป่าววะ ที่มันด่าออกมาได้ตรงๆ หมายความว่ามันยอมรับเป็นเพื่อนซี้ อะไรงี้แล้วใช่ปะ ด่าไม่เกรงใจเลยอีห่า ควรดีใจหรือเศร้าดี สัตว์กีบกับขาหมู.... ไอร่สึส 55555

515 Nameless Fanboi Posted ID:Uy3RzeGSL1

ผมจาไมก้า​อีกนะ 5555

516 Nameless Fanboi Posted ID:zKU+8vaFGL

>>514 คือ ฝั่งคาบุคงคิดว่าเป็นเพื่อนซี๊กันแล้วมั้ง แต่ฝั่งเรย์กะไม่เคยคิดจะซี้ด้วยน่ะสิ

517 Nameless Fanboi Posted ID:mN0KsYSJQh

>>516 อนาถจิต คาบุรากิผู้ไม่ถูกท่านเรย์กะยอมรับในถานะเพื่อน กับสหายเอ็นโจผู้แอบรักเขาข้างเดียวแบบหงอยๆ

518 Nameless Fanboi Posted ID:GyD2gjlk6m

>>517 คิดๆ แล้วไม่รู้คาบุมันจะช็อคอะไรมากกว่ากัน ระหว่างรู้ว่าโคโระจังคือท่านเรย์กะ กับรู้ว่าความจริงท่านเรย์กะไม่เคยเห็นตัวเองเป็นเพื่อนเลย แถมยังรำคาญอยากเสือกไสไล่ส่งไปให้พ้นๆ อีก 55555

519 Nameless Fanboi Posted ID:mN0KsYSJQh

>>518 สตอล์กเกอร์ก็มีมุมที่เจ็บปวด ว่าแต่เอ็นโจจะรู้ป่าววะ ว่าท่านเรย์กะพยายามไล่ตัวเองกับเพื่อนอยู่ตลอด 55555

520 Nameless Fanboi Posted ID:GyD2gjlk6m

>>518 กูว่ารู้นะ ตอนท่านเรย์กะไล่ให้คาบุไปบวชยังออกปากชัดๆ เลยนะว่าอยากไล่ตัวน่ารำคาญไปให้ไกลๆ ใช่ไหม เวลาไปชวนอะไรเขาต้องมีเหน็บแนมเล็กๆ น้อยตลอด แหม่มมมมมมม

521 Nameless Fanboi Posted ID:YOph7tzwn3

>>516 กูว่าเรย์กะนางซึนไปงั้น ตอนอาริมะจับได้ว่ามาขัดโต๊ะให้วาคาบะ นางยังมโนไปไหนต่อไหนว่าคาบุกับเอ็นโจคงไม่เข้ามาคุยด้วยเหมือนเดิมแล้วมองด้วยสายตารังเกียจแทน ถ้าไม่แยแสสองคนนั้นจริงคงคงรู้สึกดีใจมากกว่าที่ไม่เข้ามายุ่งยากวุ่นวายในชีวิตอะนะ
>>519 กูว่ารู้ แถมแอบน้อยใจด้วย 55555555555555

522 Nameless Fanboi Posted ID:mN0KsYSJQh

>>521 องค์ชายเอ็นโจมีมุมหงอยๆ อีกแล้ว ถถถถถถ

523 Nameless Fanboi Posted ID:J3SR8HA2QK

เฮ้ย ไปอ่านบอร์ดญี่ปุ่นมา มีคนบอกว่าพบเชื้อแห่งความน่าสงสัยแรกแล้วว่าเอ็นโจสะดุดตาเรย์กะตั้งแต่เมื่อไหร่ คือตอนไปซัมเมอร์ปาร์ตี้ครั้งแรกที่เรย์กะกับท่านพี่ไปสั่นระฆังด้วยกัน จากนั้นมาตอนที่ 10 ท่านไอระก็เอาภาพท่านเรย์กะกับท่านพี่ตอนสั่นระฆังมาให้ บอกว่ามีคนรู้จักถ่ายไว้ เห็นว่าเป็นคู่ที่น่ารักเลยอยากฝากมาให้ใช่มะ คนที่ฝากมาจะเป็นใครได้ คนที่สนิทกับท่านไอระและรู้ว่าท่านไอระสนิทกับท่านเรย์กะน่ะ คิดสิคิด!

แถมตอนหลังจอมมารก็ยังมาเปรยๆ เรื่องท่านเรย์กะไปสั่นระฆังกับพี่ชายอยู่เลยนะ นี่เป็นสตอล์กเกอร์แอบถ่ายรูปเค้าตั้งแต่ป.1 เลยเรอะ ชูสุเกะคุง!?

ถ้าเป็นจริงตามที่คนนี้ว่านะ กูก้มกราบอ.ฮิโยโกะเลย คนอะไรทิ้ง clue ไว้โคตรเนียน อ่านวน 5 รอบไม่เจอ แมร่งเอ๊ย

524 Nameless Fanboi Posted ID:x05fRWIzQa

>>523 คาบุรากิควรเรียนรู้จากเอ็นโจ นี่แหละวิถีตอล์กเกอร์ที่แท้จริง 55555555

ตอนงานสั่นระฆังท่านเรย์กะก็เด่นจริงๆ มีแววว่าเริ่มสนใจตั้งแต่ตอนนั้น ภาพสาวน้อยผมม้วนที่ราวกับตุ๊กตาฝรั่งเศษ กำลังเต้นรำกับท่านพี่ของเธออย่างงดงาม อาฮ้าาา~~ ตกหลุมรักเลยซี่ ได้ข่าวพี่น้องเอ็นโจชื่นชอบสาวผมม้วน โฮะโฮะโฮะ

525 Nameless Fanboi Posted ID:cSYh9CD9SO

>>523 คือ เคยคิดนะว่ารูปนั้นอาจเป็นฝีมือเอ็นโจ แต่ก็ไม่มั่นใจตรงที่
1 ถ้าเอ็นโจถ่ายจริงๆ ไอระน่าจะบอกไปเลยว่าใครถ่ายมา เพราะยังไงก็เพื่อนร่วมชั้นเดียวกัน
2 เด็ก ป 1 ไม่น่าจะพกกล้อง และไม่แน่ใจว่าช่วงนั้นมือถือจะถ่ายรูปได้หรือเปล่า
3 ไม่รู้ว่าเป็นเพราะกาวหรือเปล่า แต่กูคิดว่าทั้งคาบุ กับเป็นโจน่าจะมางานช่วงเต้นรำพอดี ไม่น่ามาทันตอนสั่นกระดิ่งน่ะ

526 Nameless Fanboi Posted ID:oQWHIBUSWS

กู >>525 นะ ขอแก้ตรงข้อ 3 ล่่ะกัน พอดีว่านึกขึ้นได้มีตอนนึงที่เอ็นโจบอกว่าคาบุมองสองพี่น้องสั่นกระดิ่งอย่างอิจฉาน่ะ แสดงว่าทั้งคู่เห็นตอนสั่นกระดิ่ง

527 Nameless Fanboi Posted ID:6Ki/3JCPK+

>>525 กูว่าเอ็นโจมาก่อนช่วงสั่นระฆังว่ะ ยังถามอยู่เลยว่าเคยสั่นระฆังกับท่านพี่ไม่ใช่เหรอ มาซายะมองแบบอิจฉาเลยนะ แปลว่าสองคนนี้เห็นว่าเรย์กะไปสั่นระฆัง

เรื่องถ่ายรูปกูก็คิดว่าน่าจะเป็นเด็กชั้นโตๆกว่าหน่อยที่พกกล้อง เด็กป.หนึ่งไม่น่าจะพกกล้องว่ะ แต่ถ้าเป็นเอ็นโจที่ถ่ายรูปส่งให้จริงๆกูจะฟินมากกกกก นี่ล่ะสตอล์กเกอร์ตัวจริง มาซายะคุงอยู่แค่ระดับชั้นอนุบาลริจะมาเทียบมือโปรอย่างชูสุเกะมันเร็วไปล้านปี ถถถถถถถถถ

528 Nameless Fanboi Posted ID:Uy3RzeGSL1

อาจจะกล้องมือถือก็ได้ เดี๋ยวนี้เด็กอนุบาลก็มีมือถือกันละมั้ง...

หรือคาบุอาจจะถ่ายไว้ด้วยแรงริษยา ปีหน้าๆฉันจะสั่นระฆังกับยูริเอะบ้าง 5555

529 Nameless Fanboi Posted ID:UimY.A.oxc

>>528 กูว่าสมัยสามคนนี้อยู่ประถม มือถือยังไม่น่าจะมีกล้องนะ อาจจะเป็นมือถือฝาพับส่งเมล์โทรเข้าโทรออกตามสมัยนิยมในช่วงนั้น พอโตมาค่อยมีเทคโนโลยีสมาร์ทโฟนใช้กัน

530 Nameless Fanboi Posted ID:iWw99MAIaP

คิดไปคิดมา อาจเป็นเด็กคนอื่นถ่ายแล้วเอ็นโจไปข่มขู่เอารูปมาปะวะถถถถ

531 Nameless Fanboi Posted ID:Uy3RzeGSL1

ตอนทัศนศึกษา​ที่โดนกวางเตะ คาบุก็ใช้มือถือ​ถ่ายนี่

532 Nameless Fanboi Posted ID:gpEE9WnqaC

>>531 คาบุมันก็ขี้เม้าท์แต่เด็กเนอะ 5555 จะมีผชกี่คนวะเจอเรื่องอะไรแล้วถ่ายรูปส่งไปเม้าท์กับเพื่อน(ถึงแม้ว่าจะหยวนๆได้ว่าอยากหาเรื่องไปคุยกับคนที่ชอบ)

533 Nameless Fanboi Posted ID:pL.BqgASRL

>>531 ตอนนั้นน่าจะอยู่ ป 4 หรือ ป 5 หลังจากที่ท่านเรย์กะเป็นสปายให้คาบุแล้วนี่

534 Nameless Fanboi Posted ID:rdqnrKK8Qx

คาบุรากิแม่งคาแรคเตอร์เพื่อนสาว

535 Nameless Fanboi Posted ID:TguNvIjYEF

>>532 เห็นนิ่งๆเย็นชาๆ จริงๆเป็นพวกขี้เม้า ขี้เหงา อยากคุยกับคนอื่นจะแย่แต่เสือกไม่มีใครมาคุยด้วย เพื่อนก็มีอยู่คนเดียวแถมเพื่อนเลี้ยงแบบบุฟเฟ่ต์ ปล่อยหากินเองตามยถากรรมไม่ค่อยสนใจ พอได้คนเม้ามอยด้วยก็ยาวเลย 5555555555555

536 Nameless Fanboi Posted ID:M0RDFS/3J5

>>535 อาจจะเคยส่งเมลรัวๆใส่เอ็นโจ แล้วโดนบล็อค​ก็ได้​นะ 55555

537 Nameless Fanboi Posted ID:rdqnrKK8Qx

>>536 อาจจะเคยพยายามเม้าท์ให้เอ็นโจฟัง แต่โดนเอ็นโจทำหน้าจอมมารใส่ กูนี่เห็นภาพลอยมาเลย

538 Nameless Fanboi Posted ID:jSmMaf5Yx1

>>537 กูว่าน่าจะเล่าเป็นต่อยหอยไปแล้ว เอ็นโจมีปฏิกริยากลับมาจางมาก อารมณ์ขอไปทีสุดฤทธิ์ "อื้อ" "เหรอ" "ก็ดีนี่นา มาซายะ" ไปๆ เลยหมดอารมณ์เล่าไปเอง พอเจอท่านเรย์กะที่ต่อต้านไม่ได้เลยระเบิดความเก็บกดทั้งมวลออกมา 5555

539 Nameless Fanboi Posted ID:rdqnrKK8Qx

>>538 รู้สึกว่าเพื่อนชายของท่านเรย์กะ แต่ละคนจะยังคงคอนเซป 'สาวน้อยนะ' คาบุรากิก็ไม่เว้น มันต้องมีสักอย่างอะที่เป็นสาวน้อย

540 Nameless Fanboi Posted ID:TguNvIjYEF

>>539 เพื่อนสาวม.ปลายของท่านเรย์กะ อาริมะก็แม่บ้านแม่เรือนทีวีไดเรค คาบุก็พวกคุณป้าขาเม้าท์ หัวหน้าห้องกับอิวามุโระก็สาวน้อยในห้วงรัก แล้วจอมมารนี่มีด้านสาวน้อยแบบไหนวะ 55555555555555555

541 Nameless Fanboi Posted ID:jSmMaf5Yx1

>>540 จอมมารไม่ใช่เพื่อนไง เป็นแค่คนเคยเห็นหน้ากัน เคะเคะเคะ

542 Nameless Fanboi Posted ID:rdqnrKK8Qx

>>540 แอบรัก แอบหึง แอบยิ้มให้เขาป่าว ก็สาวน้อยอยู่นะ หรือถ้าไม่มีก็แปลว่าไม่ใช่เพื่อนแล้วล่ะ อาจจะเป็นคนพาท่านเรย์กะลงจากคาน 5555

543 Nameless Fanboi Posted ID:AaLM87gwpx

>>538 กูว่าอาจจะดองเมลล์ด้วย อารมณ์เม้าท์ไม่ต่อเนื่อง พอเจอเจ้าแม่ที่ข่มขู่ให้ตอบเมลล์ไวได้ อาการขี้เม้าท์แตกเลย
>>535 กูว่าคาบุเป็นสาวน้อยขี้อวดด้วยนะมึง เหมือนเพื่อนบางคนกู อิดอกกก อวดผัวจนเอือม ถ้าเล่นไอจีสตอรี่นางอาจจะทีของกินเลิศหรูกับของกินขากบ้านวาคาบะแหง ระดับคาบุ ขยันไปมองหลังคาบ้านสาวแน่นอน

544 Nameless Fanboi Posted ID:pivX5EsP+0

>>540 อยากให้เขากินเครื่องดื่มหรืออาหารฝีมือตัวเองนี่มันถือเป็นด้านสาวน้อยป่ะวะ 55555

545 Nameless Fanboi Posted ID:yYwE0IY5Oc

>>544 น่าจะได้อยู่นะ ประดิษฐ์ลาเต้อาร์ทเป็นกระต่ายน้อยน่ารักก็ได้อีกตะหาก ถ้าเรื่องยังมีต่อกูว่าต้องมาช่วยเจ้าแม่นั่งทำตุ๊กตาเจ้าบ่าวเจ้าสาวชัวร์ๆ พูดแล้วแมร่ง....

546 Nameless Fanboi Posted ID:maxvWD88qY

อุหวาาาา โดนคำสาปคนกลายเป็นสาวน้อยกันซะแล้ว

547 Nameless Fanboi Posted ID:Z1QR/iOIaA

ขนาดท่านพ่อกะเลขายังต้องมาช่วยปักตุ๊กตา​เลย ถถถ

548 Nameless Fanboi Posted ID:X8rTa8RsnU

นี่ไม่ได้เข้ามานาน กระทู้ที่ 27 แล้วดิ เวิ่นรอตอนใหม่มานานละ

549 Nameless Fanboi Posted ID:L9UMdLMUm0

นี่เรารอตอนใหม่มากี่กระทู้แล้ววะ

550 Nameless Fanboi Posted ID:Ms.pUDHvXn

>>549 2 กระทู้นิดๆ ได้มั้ง อีกไม่นานก็จะครบขวบปีแห่งการดองล่ะ จะว่าไปพวกเราก็อึดกันดีเหมือนกันนะ...//กอดคอสหายโม่งซุยรัน

551 Nameless Fanboi Posted ID:/vfaNerCG6

>>550 ซู้ดดดดด ฟิคกาว เพื่อความสดชื่น

552 Nameless Fanboi Posted ID:3./8pJUKlP

กูเหนื่อย กูตากฝน กูอยากอ่านเจ้าแม่ กูคิดถึงเอ็นโจ ฮือออออออออออออออออออ

553 Nameless Fanboi Posted ID:/vfaNerCG6

หมดประเด็นเฮฮาก็กลับมาลงแดง เดี๋ยวนี้กูลงแดงหลายเรื่องมาก กูรอเจ้าแม่เสมอ ฮรืออออออววว

554 Nameless Fanboi Posted ID:lAUYD2uJAv

#กระต่ายน้อยกับเสียงฟ้าผ่า#

มันไม่ควรจะเป็นแบบนี้

ฝนตกหนักเสียจนทุกอย่างคล้ายอยู่ภายใต้ม่านหมอก กลบภาพของเด็กสาวแต่งตัวดีสองคนซึ่งเป็นภาพที่ดูแปลกตาในตรอกแคบ ๆ ของย่านซบเซาแห่งนี้ ตกหนักเสียจนกลบเสียงกรีดร้องแหลมลั่นของเด็กสาวไปจนหมดสิ้น ตกหนักเสียจนชะล้างคราบเลือดที่ไหลจากบาดแผล ไม่เหลือร่องรอยให้สืบสาวอีก

ร่างหนึ่งนอนอยู่ท่ามกลางกองขยะราวกับตุ๊กตาหุ่นขี้ผึ้งถูกทิ้ง เส้นผมแนบลู่ติดใบหน้าอ่อนเยาว์ ชุดเดรสที่ถูกตัดเย็บอย่างดีเปียกโชก กระโปรงสั้นเลิกขึ้นสูงจนเห็นกางเกงชั้นในทว่าเจ้าตัวไม่อาจใส่ใจหรือขยับมือเอื้อมลงมาปกปิดร่างกายของตนเองได้อีกแล้ว พอ ๆ กับคนมองที่ไร้สติเกินกว่าจะคิดถึงเรื่องความสุภาพ เพราะดวงตาที่เต็มไปด้วยแววหวาดกลัวสุดขีดจ้องมองดวงตาที่ไร้ชีวิตตรงหน้า

ร่างที่ยืนอยู่สั่นเทา แม้ความหนาวเหน็บยามฝนเม็ดใหญ่กระทบร่างจะส่งอุณหภูมิที่เย็นเฉียบ ทว่ายังไม่เท่ากับความยะเยือกจับขั้วหัวใจของเหตุการณ์ตรงหน้า

.....

555 Nameless Fanboi Posted ID:lAUYD2uJAv

ในอดีต คิโชวอิน เรย์กะ คิดว่าหากเธอทำตัวสงบเสงี่ยม ใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง เธอจะไม่พบกับบทจบที่เลวร้ายอย่างเช่นถูกคนประณามหรือบ้านล้มละลาย

หากแต่เธอคิดผิด

ชีวิตในชาตินี้ของเธอไม่ราบรื่น แต่ก็ไม่มีเรื่องอะไรให้ต้องวิตกกังวล พ่อไม่ได้ทำเรื่องทุจริต พี่ชายของเธอคอยดูแลกิจการที่นับวันก็รุ่งเรืองขึ้นทุกที เธอเป็นเพื่อนกับวาคาบะนางเอกของเรื่อง และยังเป็นเพื่อนกับคาบุรากิที่เป็นพระเอกอีก

ทั้ง ๆ ที่ทุกอย่างน่าจะเป็นไปได้ด้วยดีแล้ว แต่ซึรุฮานะกลับลักพาตัวเธอ

เย็นวันนั้นเป็นเย็นวันหยุดธรรมดาวันหนึ่งที่เธอไม่ต้องไปงานสังคม เรย์กะคิดว่าคงจะดีถ้าหากว่าเธอได้ไปเดินเล่นหาอะไรกินในที่ห่างไกลผู้คน ดังนั้นเธอวางแผนหาสถานที่เดินเล่นตั้งแต่วันศุกร์และเมื่อถึงบ่ายวันเสาร์ เธอก็จับรถไฟออกไปนอกเมืองด้วยหัวใจที่พองโต

หากแต่ตอนที่กำลังนั่งกินขนมในสวนสาธารณะอย่างครึ้มอกครึ้มใจ ปล่อยตัวตามสบายเพราะไม่ต้องกังวลว่าใครจะมาเห็นคิโชวอิน เรย์กะ นั่งกินขนมบ้าน ๆ ผู้ชายที่แต่งตัวธรรมดาสองคนก็พุ่งเข้ามาจับตัวเธอ กว่าเรย์กะจะได้ทันคิดว่าเธอไม่ควรนั่งในที่ลับตาคนก็สายไปเสียแล้ว ร่างของเธอถูกจับยัดลงไปในกระสอบ แล้วโยนเข้ากระโปรงท้าย ก่อนที่รถจะขับออกไป

556 Nameless Fanboi Posted ID:lAUYD2uJAv

เรย์กะนึกโกรธตัวเองสารพัดที่มาเที่ยวคนเดียวแล้วยังเลือกนั่งในที่ลับตาคน เธอไม่ได้บอกที่บ้านเอาไว้ว่าจะไปไหน สวนสาธารณะที่นั่นก็ดูท่าทางจะไม่มีกล้องวงจรปิด ซ้ำข้าวของทุกอย่างและโทรศัพท์มือถือของเธอก็ตกอยู่ในสวนนั้นด้วย

เธอลองทุกอย่างเท่าที่จะนึกออก ทั้งพยายามถีบล็อค โวยวายกรีดร้อง ทว่าทำอะไรก็ไร้ผล หลังจากที่รถวิ่งมาได้พักใหญ่ มันก็หยุดลง จากนั้นก็มีเสียงเปิดฝากระโปรงและคนคุยกัน

ทันทีที่ได้ยินเสียงสบถหยาบคาย เรย์กะก็นอนนิ่งตัวแข็ง เธอไม่รู้ว่าทั้งสองคนจับเธอมาเพราะอะไร พวกเขารู้รึเปล่าว่าเธอคือใคร ถ้าหากพวกนี้แค่อยากจะจับตัวเธอเรียกค่าไถ่ก็แล้วไป แต่ถ้าพวกเขาคิดจะค้ามนุษย์หรือขายอวัยวะ...

กระสอบที่บรรจุร่างของเธอถูกแก้ปมออก พวกนั้นเทร่างของเธอลงบนพื้นราวกับว่าเธอเป็นพืชผัก ทว่าก่อนที่เธอจะได้ทันพูดอะไรหรือร้องขอความเมตตา เสียงสบถด่าของผู้หญิงคนหนึ่งก็ดังขึ้น ผ้ากระสอบถูกโยนลงปิดหน้าเธอ แต่ยังไม่เร็วพอที่ใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นจะพ้นจากสายตาของเรย์กะ

แม้จะเห็นใบหน้าไม่ชัด แต่โครงหน้าที่คุ้นเคยเมื่อรวมเข้ากับน้ำเสียงที่คุ้นหู เรย์กะก็เดาได้ทันที

557 Nameless Fanboi Posted ID:lAUYD2uJAv

ซึรุฮานะ

เรย์กะไม่ได้เห็นเด็กสาวมาพักใหญ่แล้ว ตั้งแต่ตระกูลซึรุฮานะมีปัญหาทางด้านกิจการอย่างหนักจนต้องลาออกจากซุยรัน

เสียงทะเลาะกันดังลั่น เรย์กะตะกายตัวขึ้นจะวิ่งหนี รองเท้าส้นสูงเตะอัดเข้าที่ปลายคางของเธอทันที ทว่าไม่แรงพอที่ทำให้เธอสลบ ใครซักคนกระชากผมของเธอ เรย์กะหันไปทั้งข่วนทั้งกัด เธอปัดมือไปทั่ว คว้าอะไรได้ก็หวดใส่คนที่ทำร้ายเธอ

ผู้ชายคนที่โดนเธอคว้ารองเท้าส้นสูงของซึรุฮานะร้องลั่นเมื่อส้นรองเท้าเรียวแหลมปักเข้าไปในลูกตา เรย์กะไม่มีเวลาที่จะให้ตกใจ พอหลุดจากการเกาะกุมได้ เธอก็ลุกขึ้นวิ่งหนีทันที

เสียงกรีดร้องของซึรุฮานะดังลั่น สั่งให้ผู้ชายอีกคนจับเธอเอาไว้เพราะรู้ดีว่าหากเรย์กะหลุดไปได้ ไม่เพียงแต่ตัวของซึรุฮานะเอง แม้แต่ตระกูลของเธอก็ต้องพบกับจุดจบด้วยฝีมือคิโชวอินอย่างแน่นอน

เรย์กะสลัดรองเท้าคัชชูทิ้งแล้ววิ่งเท้าเปล่า เธอไม่กล้าแม้แต่จะมองว่าผู้ชายที่วิ่งตามเธอมาวิ่งมาใกล้ขนาดไหนแล้ว ปอดของเธอร้อนผ่าวจนเหมือนจะฉีกขาด สีข้างปวดร้าวหากแต่เธอไม่สามารถหยุดวิ่งได้ ฝนที่เริ่มตกลงมาทำให้พื้นลื่นซะจนเรย์กะเกือบหกล้มหลายที เธอภาวนาให้เจอใครซักคน หรืออย่างน้อยก็วิ่งไปในที่ชุมชน

ฝนค่อย ๆ ตกหนักขึ้นเรื่อย ๆ เรย์กะยังคงวิ่งแม้ว่าเท้าของเธอจะเหยียบถูกอะไรซักอย่างจนรับรู้ได้ถึงเท้าที่อุ่นขึ้นเพราะเลือด และเมื่อเธอวิ่งมาจนถึงตรอกหนึ่ง เธอก็วิ่งต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว จึงหยุดซ่อนตัวในนั้น

558 Nameless Fanboi Posted ID:lAUYD2uJAv

ทั้ง ๆ ที่เธอคิดว่าน่าจะหลบพ้น แต่ซึรุฮานะก็ตามหาเธอจนพบ ในมือของอีกฝ่ายมีมีดพับเล่มหนึ่ง ต่อหน้าซึรุฮานะที่ดูเหมือนจะเป็นบ้า เรย์กะพบว่าเธอไม่ใช่คิโชวอิน เรย์กะ ที่มีอำนาจสูงส่งเหนือเด็กคนอื่น ๆ ในซุยรันแล้ว เธอเป็นแค่เด็กผู้หญิงคนหนึ่งเท่านั้น

เรย์กะพยายามจะกล่อมอีกฝ่าย หากแต่ซึรุฮานะไม่ยอมฟังเธอเลยแม้แต่น้อย แม้เรย์กะจะพยายามบอกว่าถ้าเลิกราตั้งแต่ตรงนี้เธอจะไม่ติดใจเอาความ แต่เด็กสาวกลับบอกว่าเธอไม่เชื่อ ถ้าเรย์กะไม่ได้คิดอะไรจริง ๆ ทำไมคาบุรากิถึงได้เล่นงานธุรกิจของบ้านซึรุฮานะ

แม้ว่าเรย์กะจะพยายามบอกว่านั่นไม่เกี่ยวข้องกับเธอ แต่ซึรุฮานะก็ไม่ฟัง

มีดคมกริบบาดเข้าที่แขนของเธอจนเลือดโชก เรย์กะพยายามเบี่ยงตัวหลบมีด แผลบนตัวของเธอเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนเลือดโชกไปหมด ในขณะที่เธอคิดว่าคงจะต้องตายแน่แล้ว ซึรุฮานะก็ถูกเบี่ยงเบนความสนใจด้วยอะไรบางอย่าง เรย์กะจึงฉวยโอกาสผลักอีกฝ่ายออกไป

ร่างของซึรุฮานะไถลไปตามพื้นลื่น ๆ ถูกหยุดลงเมื่อกระเด็นไปกระแทกเก้าอี้ออฟฟิศ เก้าอี้ที่เก่าพังและน้ำหนักตัวที่กดทับทำให้ขาเก้าอี้ที่เป็นเหล็กเสียบทะลุท้องของอีกฝ่าย

หัวใจของเรย์กะคล้ายจะหยุดเต้นเมื่อเห็นภาพตรงหน้า ซึรุฮานะพยายามยันตัวขึ้น หากไม่สามารถลุกขึ้นได้ เลือดท่วมทะลักอย่างรวดเร็ว แต่ไม่เร็วพอที่ฝนจะซะล้างออกไปได้

“ช่วย—“

เรย์กะยกมือขึ้นปกปิด ได้แต่ยืนสั่นมองภาพนั้นอย่างตกตะลึง หากทว่าซึรุฮานะไม่แม้แต่จะสามารถพูดคำว่า ‘ช่วยด้วย’ ได้จบ มือของเธอที่พยายามยกขึ้นกดแผลตกห้อยลง แล้วร่างก็แน่นิ่งไป

มือที่เอื้อมมาจะสัมผัสทำให้เรย์กะกรีดร้อง เธอหมุนตัวเตรียมจะวิ่งหนีอีกครั้งหากแต่มือนั้นคว้าแขนของเธอไว้ได้ก่อน เรย์กะตะโกนลั่น ทั้งถีบทั้งกัด แต่ร่างนั่นก็กอดเธอไว้แน่น

559 Nameless Fanboi Posted ID:lAUYD2uJAv

“คุณคิโชวอิน ปลอดภัยแล้วนะครับ”

ร่างที่กอดเธอไว้พูดซ้ำ ๆ แบบนั้น เรย์กะร้องไห้โฮขอร้องให้อีกฝ่ายปล่อยเธอไป แต่เขาก็ยังคงไม่ปล่อย

“อย่าฆ่าฉันเลย ได้โปรดอย่าฆ่าฉันเลย ฉันยังไม่อยากตาย”

เรย์กะคร่ำครวญด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง เธอร้องไห้สะอื้นจนเหมือนจะหายใจไม่ทัน ร่างของเธอเจ็บไปทั้งร่าง ทั้งจากเท้าที่เลือดออกและลำตัวที่เต็มไปด้วยแผลมีดบาด

“คุณปลอดภัยแล้ว คุณปลอดภัยแล้วนะ เรย์กะ”

น้ำเสียงนั่นกระซิบอย่างอ่อนโยน แขนแข็งแรงกอดเธอไว้แน่น แต่ก็ไม่ได้มีท่าทีจะทุบตีเธอ

”ท่าน...เอ็นโจ?”

“ผมเอง ผมเอง”

เรย์กะไม่รู้ว่าจะหัวเราะดีเมื่ออีกฝ่ายตอบด้วยมุขที่เธอเคยกล่าวหาเขา หรือว่าร้องไห้ดีเมื่อนึกว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เธอหัวเราะไม่ออก จึงร้องไห้แล้วกอดเขาแน่น

“ท่านเอ็นโจ ท่านเอ็นโจ” เธอร้องไห้โฮ

“ไม่เป็นไรนะ ผมจัดการคนไม่ดีหมดแล้ว พวกเขาทำร้ายคุณไม่ได้อีกแล้ว เรย์กะ”

หลังจากนั้นเธอจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น จำได้เพียงใครซักคนพยายามแกะเธอออกจากอ้อมกอดนั้น เธอได้ยินเสียงไซเรนและกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ ใครซักคนพยายามจะพูดกับเธอ หากแต่ทุกอย่างผ่านไปอย่างมึนงง

เรย์กะกรี๊ดลั่นเมื่อในความฝันเธอโดนไล่ล่าอีกครั้ง ใครซักคนพยายามปลอบเธอ หากแต่เธอต่อสู้เต็มที่ เธอจะไม่มีวันยอมให้พวกนั้นจับตัวเธอได้ หากเธอโดนจับตัวแล้ว ซึรุฮานะต้องแทงเธอได้อย่างแน่นอน

เธอตะโกนเรียกใครซักคน หากแต่ใครคนนั้นไม่ยอมตอบกลับมา เรย์กะขดตัวแน่นบนเตียง เลือดซึมออกจากปากแผล หากแต่เธอกลัว กลัวว่าถ้าเธอถูกจับตัวได้ซึรุฮานะจะฆ่าเธอ

“ผมไม่มีทางปล่อยให้พวกเขาทำร้ายคุณได้อีก” เสียงที่อ่อนโยนนั่นกระซิบข้างหู พอเธอจำได้ว่าเป็นเสียงของใคร เธอก็คว้าร่างของเขาแล้วกอดไว้แน่น เอ็นโจยอมให้เธอกอดด้วยแรงทั้งหมดที่มีแต่โดยดี เขาพูดปลอบเธอซ้ำ ๆ จนเธอหลับไป

.....

560 Nameless Fanboi Posted ID:lAUYD2uJAv

เรย์กะหลับไปแล้ว พี่ชายของเธอก้มหัวขอบคุณเขา สีหน้าของชายหนุ่มขมขื่นเพราะตัวเองช่วยเหลือน้องสาวไม่ได้เลยแม้แต่น้อย เขาบอกกับครอบครัวคิโชวอินว่าไม่ต้องเกรงใจหากมีเรื่องต้องการให้เขาช่วยเหลืออีก

ประตูห้องพักพิเศษถูกปิดลง เอ็นโจกดลิฟต์ขึ้นไปยังเพนท์เฮาส์ด้านบนของโรงพยาบาลในเครือธุรกิจเอ็นโจ ทว่าก่อนลิฟต์จะปิด ร่างบอบบางราวภูติพรายก็แทรกตัวเข้ามา

”ชู เหนื่อยแย่เลย ตีสองแล้วยังต้องลุกขึ้นมาปลอบคุณคิโชวอินอีก”

ชูสุเกะยิ้ม “คุณคิโชวอินได้รับความกระทบกระเทือนทางด้านจิตใจมาก ผมในฐานะเพื่อนและผู้ช่วยเหลือเธอถ้าทำอะไรเพื่อเธอได้ผมก็อยากทำ”

“ก็ลงแรงไปขนาดนั้นแล้วนี่เนอะ จะเก็บเกี่ยวซักหน่อยก็ไม่น่าแปลก” ยุยโกะเงยหน้าขึ้นปรายตามองเขาอย่างรู้ทัน

ชูสุเกะยิ้มด้วยรอยยิ้มขื่น ๆ “อา มองผมในแง่ร้ายขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย”

“ถ้าไม่มีคนให้ความหวังกับคุณซึรุฮานะ เธอก็คงจะไม่รังแกคนรักของท่านคาบุรากิขนาดนั้นหรอก เฮ้อ คุณซึรุฮานะนี่ไม่รู้จะเรียกว่าโง่หรือน่าสงสาร แค่ชูบอกกับเธอคำเดียวว่าคุณคิโชวอินสนับสนุนเธอ ก็กร่างได้ถึงขนาดนั้น แต่พอสุดท้ายกิจการทางบ้านล้มละลาย แต่บ้านคิโชวอินกลับลอยชาย เป็นใครก็คงแค้นทั้งนั้นแหล่ะ”

“อืมม์ เป็นข่าวลือที่มีสีสันจังเลยนะ”

“ก็ดูน่าเชื่อกว่าการที่จู่ ๆ บุตรสาวบ้านคิโชวอินถูกลักพาตัว แล้วบุตรชายคนโตบ้านเอ็นโจ ‘บังเอิญ’ โผล่ไปแถวนั้นก็แล้วกัน”

“แล้วผมจะทำแบบนั้นไปเพื่ออะไรกันล่ะ มาซายะก็เพื่อนผม คิโชวอินก็เพื่อนผมเหมือนกัน”

ใบหน้าสวยหวานเอียงคอน้อย ๆ ราวกับกำลังครุ่นคิด “กระต่ายที่ขี้กลัวไม่ยอมให้จับ ต้องให้ฟังเสียงฟ้าผ่าหน่อยถึงจะกระโดดเข้ามาให้กอดไม่ยอมปล่อยน่ะสิ”

ชูสุเกะยิ้ม หากแต่ใบหน้าไม่เปลี่ยนสี “เอ ยังไงกันน้า”

ประตูลิฟต์เปิดออกเมื่อถึงชั้นบนสุด ชูสุเกะเอามือง้างประตูลิฟต์ไว้แล้วหันหน้ามาหาเด็กสาว “ดึกขนาดนี้รีบกลับไปนอนเถอะครับ คุณยุยโกะเองร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ ถ้าจู่ ๆ เกิด ‘ไม่สบาย’ เป็นอะไรไปล่ะก็แย่แน่เลย”

ประตูลิฟต์ปิดลงแล้ว พื้นผิวโลหะที่ขัดมันส่องให้เห็นเด็กหนุ่มที่ไม่ได้ยิ้มอีก บ้านของเขาคิดจะควบรวมกิจการกับอุริวเลยพยายามให้เขาผูกสัมพันธ์กับเธอ แต่ดูเหมือนว่าเธอจะยื่นจมูกเข้ามาส่อในเรื่องของเขามากเกินไปแล้ว

ในอดีตเขาพยายามอดทน หากแต่วันนี้ความอดทนของเขาลิมิตต่ำกว่าปกติมาก แม้ว่าเขาจะให้คนเฝ้าสะกดรอยทุกฝีก้าวของซึรุฮานะ แต่คนของเขากลับพลาดตอนที่ไล่ตามรถของคนที่ลักพาตัว เนื่องจากรถคันที่ใช้เป็นคนละคันกับที่แอบติด GPS ทำให้เขาไปถึงช้ากว่าที่ควร

ชูสุเกะหยิบคีย์การ์ดจากกระเป๋าสตางค์ขึ้นมาแตะประตูห้อง มือที่ยื่นออกไปนั้นแขนเสื้อเลิกขึ้นเผยให้เห็นรอยช้ำจากนิ้วมือเกาะกุมไว้แน่น

กระต่ายที่ได้ยินเสียงฟ้าผ่าจะกระโดดเข้ามาให้กอดไม่ยอมปล่อย

รอยยิ้มของลูกชายคนโตบ้านเอ็นโจขยายออก เขายกข้อมือที่มีรอยช้ำแนบริมฝีปาก

พืชผลที่เขาอุตส่าห์หว่าน รอคอยอย่างอดทน ในที่สุดก็เติบโตให้เก็บเกี่ยวแล้ว

จบ

561 Nameless Fanboi Posted ID:0GPv8RJCr1

>>560 อ่านๆมาจนถึงบรรทัดสุดท้าย....กูว่าแล้วววววว 55555555555555
นี่มันตัวร้ายสายยันบวกโรคจิตชัดๆ นุ้งต่ายหนีไปค่ะ หนีไปปปปปป

562 Nameless Fanboi Posted ID:./Ax/qDgoE

>>560 กาวคือชีวิต 55555555

563 Nameless Fanboi Posted ID:zy/6u4be60

>>560 กูว่าถ้าเปลี่ยนเป็นท่านพี่คงจะฟินกว่านี้แน่ ท่านพี่กอดน้องสาวที่ตื่นตระหนกอย่างอ่อนโยนแต่เผยใบหน้าของลาสบอสที่แท้ทรู ~

564 Nameless Fanboi Posted ID:rzwHVzbt/z

>>554-560 อ่านจนจบแล้วแบบ... เอ็นโจโคตรร้าย..... หลังจากนี้จะไปทวงหนี้กับนุ้งกระต่ายอีกไหมคะ--

565 Nameless Fanboi Posted ID:Y0oHRIpke.

จะว่าไป ฉายาจอมมารของท่านพี่ กับเอ็นโจนี่ มาจากตอนไหนนะ ลืมไปแล้ว

566 Nameless Fanboi Posted ID:/SNhgEG5/4

>>565 กูจำได้ว่าเรียกกันเล่นๆในโม่งตั้งแต่กระทู้แรกเลย ส่วนท่านพี่เป็นเทพมารที่บียอนด์กว่าจอมมาร

567 Nameless Fanboi Posted ID:FI+tMTqPqY

>>563 ท่านพี่คือลาสบอสสินะ

568 Nameless Fanboi Posted ID:Lls/adTvKC

>>566 หนึ่งในสิ่งที่น่ารื่นรมย์ของเรื่องนี้คือการมอบฉายาต่างๆนี่ล่ะ 555
>>567 ช่ายแล้ว ช่วยนี้กูสิงนิยายเข้าไปในเกม ลาสบอสนี่สมกับท่านพี่ที่สุด ผลุบๆโผล่ๆ ฉบับคนค่าตัวแพง ลาสบอสเขาไม่ออกมาบ่อยเพื่อภาพลักษณ์ที่ดีไงมึง 555

569 Nameless Fanboi Posted ID:LtIR4NnXgb

>>566 กูรู้แหล่ะว่าชาวโม่งเรียกกันเอง แต่อยากรู้ว่าตอนไหน ช่วงไหน ที่อ่านแล้วแบบว่า นี่มันจอมมารชัด ๆ

570 Nameless Fanboi Posted ID:LOnYCZAjQL

>>569 ช่วงที่ท่านเรย์กะแอบทำอะไรลับหลังคาบุรากิ แล้วเอ็นโจชอบพูดเป็นนัยต์ให้ท่านเรย์กะสะดุ้งมั้ง กูว่าช่วงนั้นนี่จอมมารชัดๆ ไหนจะเรื่องทวงบุญคุณอีก 555

571 Nameless Fanboi Posted ID:s.Ef7bzBe5

>>569 กูว่าตอนที่เอ็นโจพูดเป็นนัย ๆ ว่าคนเป็นสปายมีจุดจบไม่ดีนี่เห้สุด

572 Nameless Fanboi Posted ID:waJQ+lGuV6

>>569 อ่านใจเรย์กะได้ประหนึ่งเข้าสิงร่าง ข่มขู่ ดักทาง บีบบังคับให้เรย์กะร่วมมือ ช่วงที่ไปเคลียร์เรื่องเขียนโต๊ะวาคาบะก็ฮีวางกับดักคำพูดให้เรย์กะจนมุมเอง มีรอยยิ้มดำมืดเอาไว้ข่มขู่ นี่มันตัวร้ายชัดๆ เพื่อนพระเอกผมสีน้ำผึ้งผู้อ่อนโยนหายไปไหน ถถถถถถถถถ

573 Nameless Fanboi Posted ID:WZMIf6mqR8

>>572 กูว่าวาคาบะในการ์ตูนแม่ง มองผ่านฟิลเตอร์โชโจมังกะแน่นอน ถถถถถ

574 Nameless Fanboi Posted ID:RuhNPecwmt

พูดถึงสีผมน้ำผึ้งของเอ็นโจ กูนึกถึงสีผมที่ควรจะเป็นสีขาวของนายตัวสำรอง ซึ่งตอนนี้เป็นผมดำกันทั้งคู่ กูเริ่มคิดเกี่ยวกับความน่าจะเป็น

ในโลกนี้หลายๆ อย่างดำเนินไปตามเนื้อเรื่องที่ท่านเรย์กะเกริ่นไว้ก็จริง แต่มันไม่ได้ตรง 100% โดยเฉพาะนิสัยตัวละครที่ผิดแปลกไปจากความจริง เป็นไปได้ไหมวะ ว่าเหตุการณ์บริษัทล้มละลายจะไม่เกิดขึ้น

เพราะกูเชื่อใจท่านพี่เว้ย ระดับท่านพี่ถ้าตรวจดูแบบละเอียดถี่ถ้วนแล้ว มันก็น่าจะไม่มีอะไรจริงๆ ท่านพ่อก็ดูเป็นคนดีออก แต่กูไม่กล้าฟันธงว่าจะไม่เกิดขึ้น นี่ก็ลุ้นอยู่ว่าจะเป็นตามเนื้อเรื่องไหม

575 Nameless Fanboi Posted ID:Lls/adTvKC

ถ้าจัดตัวละครในเรื่อง ก็มีพวกไม่ใสที่เห็นชัดเจนไม่กี่คนนะ ท่านพี่ ท่านอิมาริ ซากุระ เอ็นโจ ริรินะ สองสาวผู้พิทักษ์ อืม ประมาณนี้ป่าววะ ส่วนยูกิโนะน้องยังใสอยู่ 555

576 Nameless Fanboi Posted ID:Lls/adTvKC

>>574 กูก็ลุ้น ลุ้นว่าเมื่อไหร่ท่านฮิจะกลับมา

577 Nameless Fanboi Posted ID:0ncfLvvLeW

>>574 กูว่าอาริมะที่เห็นว่าเป็นผมเงินจริงๆคือผมหงอก เพราะเครียดจากปัญหาที่เรย์กะคิมิดอลก่อได้ไม่ว่างเว้น เลยหงอกทั้งหัว //โอ๊ยๆ อย่าตีกูววว

578 Nameless Fanboi Posted ID:IxvvDvFQaY

>>577 ไม่ก็อาริมะปัจจุบันผมดำเพราะใช้ยาบำรุงจากทีวีไดเร็ก---

579 Nameless Fanboi Posted ID:lBw+aGKIIY

เป้นตัวสำรอง​ คนวาดเลยขี้เกียจ​ถมดำแค่นั้น​แหละ​

580 Nameless Fanboi Posted ID:waJQ+lGuV6

>>579 จริงๆคาบุ เอ็นโจ อาริมะหน้าตาเหมือนกันทั้งสามคนเลยต้องถมดำ ติดสกรีนโทน ปล่อยขาวทิ้งไว้เพื่อให้คนอ่านแยกหน้าตัวละครออกต่างหาก

581 Nameless Fanboi Posted ID:/aqoDMWUYp

>>554-560 อยากให้มาต่อจังเลยยย ฮือออ ;wwww; สนุกมากๆๆๆ

582 Nameless Fanboi Posted ID:qiCNO4wxFl

>>580 เป็นงึีสินะ 5555
http://img.in.th/image/5K2TVw

583 Nameless Fanboi Posted ID:yXpoZmlAZW

>>582 อส 55555555555

584 Nameless Fanboi Posted ID:+cpcwXW6hl

A - Arrangment Marriage

สุดท้ายแล้วฉันกับคาบุรากิก็ถูกจับแต่งงานกัน

"ทำอะไรน่ะ"

คาบุรากิถามอย่างหงุดหงิดเมื่อเห็นฉันเปิดม่านมองออกไปนอกหน้าต่างเพื่อหาทางหนี แน่นอนว่าพอเห็นความสูงของชั้นที่พวกเราอยู่ ฉันก็คิดว่าห้องใหญ่ขนาดนี้อันที่จริงเราแบ่ง ๆ กันอยู่ก็ไม่เสียหายอะไร

"ด...ดูวิวน่ะ"

ฉันแก้ตัว หันไปมองคาบุรากิในชุดเจ้าบ่าวสีขาว ใบหน้าของเขามีร่องรอยเหน็ดเหนื่อย ฉันเองพอคิดอย่างนั้นก็รู้สึกเหมือนขาจะทรุดเช่นกัน

งานแต่งงานระหว่างบุตรชายของตระกูลคาบุรากิและบุตรสาวตระกูลคิโชวอินคือข่าวใหญ่ที่สุดในรอบปี บรรดาแขกเหรื่อและนักข่าวมากันอย่างคราคร่ำ ไม่มีงานสังคมคราวไหนที่ฉันจะรู้สึกเหนื่อยเหมือนครั้งนี้

ในงานแต่งงานฉันเห็นคาบุรากิมองไปทางวาคาบะจังบ่อยครั้ง วาคาบะเองก็ยิ้มให้กับพวกเราและแสดงความยินดีออกมาอย่างใจจริง ฉันรับฟังแล้วอยากจะร้องไห้

สิ่งที่ฉันต้องการไม่ใช่คำยินดี แต่เป็นบทสวดปัดเป่าให้แคล้วคลาดปลอดภัย

ฉันมองเตียงนอนขนาดพิเศษในห้องสวีทของโรงแรมเจ็ดดาวที่แสนจะหรูหราในเครือคาบุรากิ ในห้องชุดขนาดใหญ่มีทุกสิ่งเท่าที่เงินจะสรรหามาได้ ทั้งชาสมุนไพรแบรนด์ดังจากอังกฤษที่ทำพิเศษเพื่อชนชั้นสูงเท่านั้น ตู้ไวน์ทั้งตู้เรียงรายไปด้วยไวน์ฝรั่งเศสที่ฉันเคยดื่มแล้วบอกว่าชอบ

แม้ว่าฉันจะไม่ได้ชนกับแบดเอนในตอนประกาศหมั้น แต่แต่งงานไปแล้วก็ไม่ได้การันตีว่าฉันจะไม่ได้เจอแบดเอน เพราะการแยกคู่พระเอกกับนางเอกนั้นถือเป็นลางร้ายที่นำไปสู่ธงแห่งความตาย ในอนาคตถ้าไม่ระวังให้ดี ฉันอาจจะตายไปอย่างลึกลับ หรือโดนฟ้องหย่าโดยไม่ได้เงินค่าเลี้ยงดูซักเยน หรือบ้านคิโชวอินโดนยึดกิจการ แค่คิดฉันก็รู้สึกปวดท้อง...

นั่นหรือไม่ก็ตลอดทั้งงาน ฉันไม่ได้กินอาหารซักคำ เพราะต้องทำตัวให้ผอมที่สุดเพื่อที่จะยัดเข้าไปในชุดแต่งงานที่ท่านแม่มีพระราชเสาวนีย์ว่าจะเป็นตายยังไงก็จะไม่แก้ไซส์เด็ดขาด

แล้วท้องทรยศของฉันก็ส่งเสียงคำรามเหมือนสิงโตในสารคดี ท่ามกลางห้องที่เงียบกริบ มันชัดเจนซะยิ่งกว่าทีวีที่มีสเตริโอครบชุดเปิดเร่งเสียงจนสุด

คาบุรากิมองฉันด้วยสายตาตกตะลึง ก่อนจะถอนหายใจ ดูเหมือนเขาเองก็ไม่ได้กินอะไรในงานเช่นกัน พวกเราเลยคุ้ยห้องและพบว่าในตู้เย็นมีถาดเค้กหลากชนิด อัดแน่นเสียจนถ้าหากไม่รู้ว่านี่คือห้องสวีทสำหรับบ่าวสาว ก็คงนึกว่าพวกเราเตรียมจะจัดปาร์ตี้น้ำชาสำหรับแขกสามสิบคน

พอคาบุรากิเรียงเค้กบนโต๊ะ พวกเราก็ลงมือกินอย่างหิวโหย ทว่ากินไปได้ไม่กี่คำ ฉันก็น้ำตาไหลออกมา

คาบุรากิทำหน้าเหมือนโดนผีหลอก คั้นอยู่นานฉันก็สารภาพว่าคอร์เซ็ตมันรัด ดังนั้นถึงจะหิวจนกระเพาะแทบจะย่อยตัวเอง ฉันก็ไม่สามารถกินอะไรได้ คาบุรากิสั่งให้ฉันไปถอด แต่ฉันจะถอดได้ยังไง ในเมื่อบิดตัวไปด้านหลังเพื่อแก้เชือกก็ยังแก้ไม่ได้

สุดท้ายแล้วก็ต้องเป็นคาบุรากิที่คลายชุดแต่งงานและคอร์เซ็ตให้กับฉัน แต่มันไม่ได้มีความอีโรติกเหมือนในนิยายเลยแม้แต่น้อย เพราะคาบุรากิด่าฉันว่าถ้าไม่มีปัญญาลดน้ำหนัก ก็ควรจะแก้ชุดให้หลวมกว่านี้ ในตอนนี้ฉันดูเหมือนหมูชาชูที่ถูกมัดลงไปต้มไม่มีผิด

ถึงแม้จะเจ็บใจ แต่ก็เถียงไม่ออก พอสูดหายใจได้เต็มปอด ฉันก็นั่งซัดเค้กทั้ง ๆ ที่ชุดแต่งงานหลุดลุ่ยแบบนั้น คาบุรากิเองก็กินเหมือนอดอยากมาทั้งสัปดาห์เช่นกัน พอกินเสร็จแล้วทุกอย่างก็กลับเข้าไปสู่สภาพเดิม นั่นคือความเงียบ ความเงียบที่ทำให้ฉันอึดอัดจนกระทั่งโพล่งสิ่งที่อยู่ในใจออกมาในที่สุด

"ฉันไม่รังเกียจหรอกนะถ้าท่านคาบุรากิจะแอบพบกับคุณทาคามิจิอย่างลับ ๆ"

585 Nameless Fanboi Posted ID:+cpcwXW6hl

นอกจากจะไม่รังเกียจแล้ว ฉันยังจะสนับสนุนเต็มที่ด้วย ฉันยอมเป็นภรรยาที่แห้งเหี่ยวดีกว่าถูกฆาตกรรมอำพรางหรือทำให้กิจการทางบ้านล่มสลาย อีกอย่างอาจจะมีผู้ชายคนไหนที่มองทะลุผ่านถึงเปลือกนอกอันรักใคร่คู่สามีภรรยาคาบุรากิ-คิโชวอิน มีความรักอันผิดศีลธรรมกับฉัน เขาผู้นั้นอาจจะรู้สึกทุกข์ตรมในตอนแรก แต่แล้วความจริงก็เปิดเผยว่าพวกเราแต่งงานบังหน้ากันเท่านั้น และคาบุรากิก็มีคนรักอยู่แล้ว สุดท้ายพวกเราก็หย่าขาดกัน แต่ยังคงความสัมพันธ์ทางด้านธุรกิจและเพื่อนเอาไว้ แฮปปี้เอนดิ้งกันทั้งฉันและคาบุรากิ

"พูดอย่างงั้นคิดจะดูถูกฉันรึไง คิโชวอิน"

น้ำเสียงโกรธจัดของคาบุรากิทำให้ฉันชะงัก ทั้ง ๆ ที่ตอนที่บ้านของพวกเราประกาศหมั้น และตอนที่คาบุรากิพยายามต่อสู้อย่างเต็มที่เพื่อความรักของตัวเอง ฉันยังไม่เคยเห็นเขาโกรธขนาดนี้

"ฉันไม่ใช่ผู้ชายที่คิดจะนอกใจภรรยาตัวเองหรอกนะ" คาบุรากิพูดด้วยสีหน้าจริงจัง ถึงคาบุรากิจะนิสัยเด็กมาก โรคจิตเข้าขั้นสโตรกเกอร์แถมยังมีนิสัยสาวน้อย แต่ในเรื่องหลาย ๆ เขาเป็นสุภาพบุรษ ดูสมกับที่ถูกบ้านคาบุรากิเลี้ยงดูมา

ฉันอึ้งไป พอคิดได้อย่างงั้นแล้วก็รีบขอโทษ คาบุรากิวางส้อมลง ก่อนจะถอนหายใจอีกครั้ง

"ถึงแม้ว่าพวกเราจะไม่ได้รักกัน แต่ยังไงก็แต่งงานกันแล้ว ในระหว่างที่เธอใช้นามสกุลคาบุรากิ ฉันจะไม่มีวันทำเรื่องขี้ขลาดสกปรกแบบนั้นเป็นอันขาด เธอวางใจได้ ในตอนนี้...ฉัน...ตัดใจจากวาคาบะไปแล้ว ถ้าฉันจะรักใครซักคน ฉันก็ไม่อยากให้เธอคนนั้นกลายเป็นคนรักลับ ๆ ที่ต้องแอบไปหาเหมือนกัน"

ในคืนนั้นคาบุรากินอนในห้องนั่งเล่น ส่วนฉันนอนในห้องนอน บนเตียงนอนที่สั่งทำใหญ่พิเศษ ฉันมองเพดานที่แกะสลักลายฉลุวิคตอเรียนงดงามแล้วคิดว่า ตัวฉันเองก็เคยผ่านการทะลุมิติมายังโลกในการ์ตูนแล้ว ทำไมจะผ่านชีวิตแต่งงานกับคาบุรากิไม่ได้

ฉันหลับตาลง นึกถึงใบหน้าของใครคนหนึ่งที่มักจะมีรอยยิ้มเสมอ แต่คน ๆ นั้นก็แต่งงานไปแล้ว

ตัวฉันเอง...ก็ควรจะตัดใจเช่นกัน

จบ

586 Nameless Fanboi Posted ID:ZCueqC5bYW

>>584 >>585 เดี๋ยวๆๆๆ อย่างเพิ่งจบ!! เรือกะลังออกจากท่า แหม~

587 Nameless Fanboi Posted ID:U5d93O3mVZ

ขอบคุณสำหรับฟิคคค
อ่านตอนจบแล้วอยากเข้าไปกอดท่านเรย์กะเลย ฮือ บากะรากิฝากดูแลลูกเมียของเจ้าให้ดี แทนไก่อ่อนเพื่อนเจ้าด้วยนะ

588 Nameless Fanboi Posted ID:KvEetz50/x

>>585 พออ่านจบกูนึกถึงภาคต่อระหว่างลูกบ้านเอนโจกับบ้านคาบุเลยว่ะ 555

589 Nameless Fanboi Posted ID:sBo8slU.UJ

อืม........ จะว่าไป บ้านเอ็นโจเขาก็หาว่าที่คู่หมั้นให้ลูกชายแล้ว บ้านคาบุรากิก็เล็ง ๆ หญิงที่เหมาะสม (ท่านเรย์กะ) ให้ แล้วบ้านคิโชวอินนี่ ไม่เคยพูดถึงลูกสาวบ้านอื่นกับท่านพี่เลยนะ พูดแต่ลูกชายบ้านอื่นกับลูกสาว ซึ่งก็แปลกนะ คืออย่างน้อยน่าจะมองหาสะใภ้ก่อนลูกเขยไม่ใช่เหรอ

590 Nameless Fanboi Posted ID:O+pK+xW+VR

ท่านพ่อท่านแม่อาจจะทำใจเรื่องท่านพี่แล้วก็ได้มั้ง เลยไม่เซ้าซี้

591 Nameless Fanboi Posted ID:jYtll61u1e

>>589 ใครจะกล้ามา หาสาวให้ท่านลาสบอส ท่านลาสบอสยังไม่มีเวลาชายตา ทั้งงานทั้งดูแลท่านอิมาริ 555555

592 Nameless Fanboi Posted ID:Mp3pft6mvW

>>589 เห็นเรย์กะกับริรินะพูดถึงสาวตระกูลอื่นๆที่พยายามเข้าหาท่านพี่ผ่านทางผู้หลักผู้ใหญ่อยู่เหมือนกันนะ ดูเหมือนท่านพี่ก็ต้องไปกินข้าวดูหนังกับสาวๆพวกนั้นด้วยนี่

593 Nameless Fanboi Posted ID:k9T45WHJnP

>>584-585 ฟิคนี้สงสารท่านเรย์กะจับใจ ;_;)

594 Nameless Fanboi Posted ID:4W.wEXFi60

>>589 กูจะเกลียดผู้หญิงคนนั้นมากที่มาพรากท่านพี่ไปจากกู!!!

595 Nameless Fanboi Posted ID:zPZWCKdGk6

>>592 ตอนนี้ท่านพี่ทำงานแล้ว มีเรื่องดูตัวก็ไม่แปลก กูหมายถึงช่วงเด็ก ๆ น่ะ ขนาดเรย์กะตอนประถม ท่านพ่อท่านแม่ยังจะให้สนิทกับคาบุรากิเลย แล้วตอนที่ท่านพี่ยังเรียนหนังสือจะไม่มีคุณหนูที่เข้าตาพวกเขาเลยเหรอ แบบมอง ๆ ไว้ก่อนเหมือนที่มาดามคาบุรากิทำน่ะ

596 Nameless Fanboi Posted ID:zPZWCKdGk6

>>594 โอ๋ ๆ มึง ตื่นเถอะนะ 5555

597 Nameless Fanboi Posted ID:CCA5awJjuP

>>595 ท่านแม่อาจจะยังไม่เจอเด็กผู้หญิงที่เหมือนตุ๊กตาฝรั่งเศส เลยไม่จับคู่ให้ท่านพี่

598 Nameless Fanboi Posted ID:N60gat5ZcD

กูโม่งฟิค 584-585 นะ คือกูกะจะแต่งต่อ แต่ใครก็ได้โยน Prompt คำสั้น ๆ ที่ขึ้นต้นด้วยตัว B มาให้กูที ขอ 1 คำ ตามคนแรกที่แปะ

599 Nameless Fanboi Posted ID:Mp3pft6mvW

>>598 begging you

600 Nameless Fanboi Posted ID:igYEt+AWBH

>>595 อาจจะมี แจ่ทั่นเรย์กะไม่ได้สนใจเอง อย่าลืมนะว่านี่มองในมุมมองเจ้าแม่ ซึ่งสมัยท่านพี่อยู่ในวัยเรียนก็ห่างกับน้องพอสมควรอยู่ ไม่แปลกที่จะไม่รู้

601 Nameless Fanboi Posted ID:N60gat5ZcD

B - Begging You

"ท่านคาบุรากิ ได้โปรดเถอะค่ะ" ฉันส่งสายตาแบบที่มักจะใช้ออดอ้อนท่านพี่ไปหาคาบุรากิ แม้รู้ว่าจะไม่ได้ผล แต่อย่างน้อยก็ขอลองซักนิด

"คิโชวอิน ไหนเมื่อสามวันก่อนเธอบอกว่ายังไง" คาบุรากิติงเสียงเข้ม ส่งสายตาเย็นชามาให้ฉัน

สมัยมัธยม คาบุรากิเคยเป็นโค้ชลดน้ำหนักให้กับฉัน ซึ่งก็ได้ผลค่อนข้าง...ไม่เลวเท่าไหร่ เนื่องจากแม้ว่าฉันจะออกกำลังกาย แต่ก็ห้ามใจไปกับของกินอันแสนอร่อยไม่ได้ เวลาคาบุรากิสั่งให้ถ่ายรูปอาหารที่กินไปเพื่อคำนวนแคลอรี่ที่ได้รับต่อวัน แน่นอนว่าฉันถ่ายไปแต่ของที่แคลอรี่ต่ำ ๆ ทั้งนั้น ส่วนพุดดิ้ง ข้าวปั้น แครกเกอร์ข้าว บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เจลลี่น้ำผลไม้น่ะเหรอ ละไว้ในฐานที่เข้าใจก็แล้วกัน

"แต่ท่านคาบุรากิคะ ฉันได้กินแต่ข้าวกล้องกับเนื้อปลาแล้วก็ผักสลัดไม่ใส่น้ำสลัดมาสามวันแล้วนะคะ"

เนื่องจากโดนคาบุรากิด่าตอนที่คลายคอร์เซ็ตของฉันว่าเป็นหมูชาชู ดังนั้นฉันเลยบอกเขาว่าในช่วงเวลาต่อจากนี้จะไดเอ็ทเต็มที่ คาบุรากิก็เลยอาสาเป็นโค้ชให้ฉัน

แน่นอนว่าฉันอยากจะปฏิเสธข้อเสนอนั่น แต่พอโดนกดดันหนัก ๆ เข้า ก็ต้องรับอย่างเสียไม่ได้ ซึ่งเป็นความผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่ เพราะตอนสมัยมัธยม ฉันไม่ค่อยได้เจอกับคาบุรากิบ่อยนัก ก็เลยแอบหาของกินเสริมระหว่างมื้อได้ แต่ตอนนี้พวกเราติดแหง่กอยู่ในช่วงฮันนีมูน ดังนั้นคาบุรากิที่เป็นสโตรกเกอร์โดยสันดานจึงตามติดฉันทุกฝีก้าว เริ่มต้นจากการให้คุณแม่บ้านเก็บเค้กและไวน์ทั้งหมดออกจากห้อง เหลือเพียงชากับน้ำเปล่าเท่านั้น อาหารแต่ละมื้อก็แสนจะคลีน ส่วนมากเป็นข้าวกล้องก็ปริมาณน้อยนิดกินไม่อิ่มท้อง เนื้อปลาก็เป็นแบบนึ่งไม่ปรุงรส สลัดก็มีแต่ผักใบ แถมซุปยังเป็นซุปใสแบบโซเดียมต่ำอีก

เท่านั้นยังไม่พอ แทนที่ฉันจะได้ไปสปานวดตัว คาบุรากิกลับลากฉันไปฝึกหนักในห้องออกกำลังกายส่วนตัวที่อยู่ในห้องสวีท ตกเย็นฉันถึงกับต้องเกาะแขนคาบุรากิเดินตอนที่ลงไปทานอาหารเย็นที่ภัตตราคารด้านล่าง มาดามคาบุรากิถึงกับเข้าใจผิดไปไกล มากระซิบบอกฉันว่าจะให้สาวใช้เตรียมยาบำรุงกำลังไปให้ที่ห้อง และดุคาบุรากิว่าอย่าหักโหมเกินไป

ฉันเกือบสำลักซุปคอนโซเม่เมื่อคาบุรากิตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า

'วันนี้ยังแค่วอร์มอัพครับท่านแม่ พรุ่งนี้จะเริ่มฝึกจริงจัง ฝึกบ่อย ๆ เดี๋ยวก็ชินเอง ท่านแม่ไม่ต้องห่วงหรอกครับ'

มาดามคาบุรากิถึงกับหัวเราะโฮะ ๆๆ ยาว ๆ ใช้พัดตีแขนคาบุรากิ แล้วบอกว่าให้อ่อนโยนกับภรรยาของตัวเองหน่อย ส่วนฉันก้มมองซุปไม่ได้สบตากับใคร และทำเป็นว่าไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น

"วันชีทเดย์ของเธอมีแค่สัปดาห์ละวันเท่านั้น ฝึกมาได้แค่สามวันเอง เหยาะแหยะเกินไปหน่อยแล้วนะ คิโชวอิน ถึงได้อ้วนตัวเป็นมัดแบบนี้ยังไงล่ะ! ยัยสัตว์กีบคู่เอ๊ย!"

คำด่าของคาบุรากิเหมือนฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมากลางใจ สั่นสะเทือนไปทั่วร่างซะจนความอยากของฉันหายไปจนหมดเกลี้ยง คาบุรากิผลักฉันเข้าไปในห้องนอน แล้วบอกให้ฉันเปลี่ยนเป็นชุดออกกำลังกาย เพื่อที่จะมาฝึกกล้ามเนื้อต่อ

หลังจากจบช่วงฮันนีมูน 7 วัน ฉันก็น้ำหนักลดลง 2 กิโล ทุกคนต่างกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ว่าฉันสวยขึ้น ท่านแม่เลียบ ๆ เคียง ๆ ถามฉันว่าเป็นยังไงบ้าง พอฉันเผลอตอบความจริงออกไปว่า "เหนื่อยค่ะ" ท่านแม่ก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ส่วนฉันไม่มีความรู้สึกอยากจะแก้ความเข้าใจผิดเลยแม้แต่น้อย เพราะว่าบนโต๊ะมีขนมมาเดอลีนที่ทานูกิซื้อมาให้ ซึ่งฉันต้องรีบสวาปามมันอย่างรวดเร็วก่อนที่คาบุรากิจะมารับ เพราะแม้ว่าวันนี้จะเป็นวันชีทเดย์ แต่มาเดอลีนกล่องใหญ่ขนาดสามสิบหกชิ้นก็ถือว่าเป็นโคตรชีทของความชีท ดังนั้นจะให้คาบุรากิรู้ไม่ได้เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นเขาต้องจับฉันให้วิ่งลู่จนตายแน่นอน

จบ

(หมายเหตุ: มาเดอลีนแคลอรี่ชิ้นละ 115 กิโลแคลอรี่)

602 Nameless Fanboi Posted ID:ptF/90KpUX

>>595 กูว่ามีตลอด หนุ่มหล่อไฮโซอย่างท่านพี่มีหรือจะว่างเว้นจากผู้หญิง แต่เรย์กะไม่ได้เล่าออกมาเท่านั้นล่ะ แบบตอนเซริกะมาเที่ยวบ้านก็ไม่เคยบอกนะ แต่พอท่านแม่พูดก็...เอ้า ก็มีเพื่อนคนอื่นมาเที่ยวบ้านนี่นา ทีแรกนึกว่าไม่เคยมีเพื่อนนอกจากซากุระจังมาหาที่บ้านซะอีก

603 Nameless Fanboi Posted ID:xJ1ssmeJI9

>>601 ฟิคแบบนี้มันควรจะดราม่าไม่ใช่เหรอวะ

604 Nameless Fanboi Posted ID:hj/q6YrQyN

>>601 อ่านจบกูอยากร้องดังๆ อิบากะรากิ แกมันบ้าสมเป็นฉายาจริงๆ ตอบแบบนั้นไปได้ ส่วนเรย์กะ ทำไมชีวิตถึงน่าสงสารเยี่ยงนี้กันละ แต่ฟาดมาเดอลีนหมดนั่นก็จบกันที่ทำมาเลยนะ 55555

605 Nameless Fanboi Posted ID:E6YdNKibTy

>>601 นี่มันฟิคดราม่าใช่มั้ย5555555555555
ปล.กูลองคูณเล่นๆ 115*36= 4140 ........กินทีได้ชีทยาวถึง3เดือนหน้าเลยเหอะ

606 Nameless Fanboi Posted ID:afbR8Q4E.y

ทำไมขำยาวๆ โว้ย พวกนายจริงจังกันเกินไปแล้ว 55555555

607 Nameless Fanboi Posted ID:3rOWIQNHvy

โม่งฟิคคนขยันนน
เปิดตอนแรกอย่างดราม่า ทำไมตอนที่สองมันตลกแบบนี้ 55555555
ปล. กะจะแต่งถึง z เลยมั้ย จะได้ขุดๆคำศัพท์เตรียมไว้---

608 Nameless Fanboi Posted ID:cqYa4ep/Lb

>>605 ดราม่าแห่งการลดน้ำหนักยังไงล่ะมึง

609 Nameless Fanboi Posted ID:4K2.OdZh6D

>>607 แต่ง ๆ แต่บางตอนอาจช้าหน่อยนะ โยนมาทีละตัวหลังแต่งจบนะ อย่าโยนมาทีเดียวเดี๋ยวคิดยาว 555

ขอตัว C ต่อเลย

610 Nameless Fanboi Posted ID:cqYa4ep/Lb

>>609 cancel

611 Nameless Fanboi Posted ID:gXxnVRU6ou

>>609 cannibal

612 Nameless Fanboi Posted ID:CjhCC/NSHW

โม่งฟิคนี่เข้าทรงท่านฮิโยโกะมาเหรอ ถ้าเกิดเรื่องมันจบที่2คนนี้แต่งงานกันจริงคนจะไม่พ้นแบบนี้อ่ะ555555

613 Nameless Fanboi Posted ID:1TQ.0wUnVx

>>611 c 610 เอา cancel ไปแล้ว ไว้ตัวอื่นละกันนะมึง กูชอบความ challenge นี้มาก prompt ได้โหดสัส

614 Nameless Fanboi Posted ID:1TQ.0wUnVx

>>612 เป็นคู่ที่เหมือนเพื่อนสาวมากกว่าสามีภรรยา กูจะร้องหั้ย

615 Nameless Fanboi Posted ID:+HMkLx5i/M

จะมีโมเมนต์ที่เรียกชื่อจริงกันบ้างไหมเนี่ยคู่นี้

616 Nameless Fanboi Posted ID:W8qCgx4Bql

>>613 ได้เลยค่ะซิส รอโม่งฟิคประทานพร

617 Nameless Fanboi Posted ID:iCcxgZOjQW

>>615 ยากนะมึง ตอนนี้กูว่าอยู่ในข่ายเพื่อนสนิทยังเรียกคิโชวอิน-ท่านคาบุรากิอยู่เลย
ท่านเรย์กะเหมือนอยู่ในกรอบอะไรหลายๆ อย่าง ทัศนคติต่อเพศตรงข้าม ธรรมเนียมคุณหนู มารยาท ความสนิทสนม ดูเป็นคนที่แผ่ออร่าคุณหนูผู้ไว้ตัวอยู่ในจารีตด้วย ตอนลองเรียกวาคาบะจังวาคาบะยังตกใจเลย ตอนซากุระจังเนี่ยก็ต้องใช้ความกล้าประมาณนึงเช่นกันถึงฝ่ากำแพงคำเรียกได้ คือต้องจุดประเด็นขึ้นมาเป็นเรื่องเป็นราวเลยอ่ะ ไอ้การจะเปลี่ยนคำเรียกเนียนๆ อย่างเป็นธรรมชาติเนี่ยเป็นไปไม่ได้ ถ้าเป็นท่านพี่ท่านอิมาริที่เรียกชื่อมาแต่แรกอ่ะไม่อะไร แต่คนที่เป็นฝ่ายเปลี่ยนคำเรียกจากที่เคยก่อนนี่ยังไม่เห็นมีใครกล้าทำ (เคสซากุระกับวาคาบะท่านเรย์กะเริ่มเองทั้งคู่)
แหม มิจฉาชีพผมเองๆ ตรงนั้นที่ว่ามีสกิลหลอกลวงสูงส่งยังไม่เห็นกล้าลองเลย ทั้งๆที่ลองวิชากับวาคาบะมาแล้ว ท่านเรย์กะตั้งกำแพงสูงใช่มั้ยล่ะ กับรุ่นเดียวกันคราวเพื่อนคิตาซาวะยังแตกตื่นแทบแย่

618 Nameless Fanboi Posted ID:AFE2yqB3.d

>>614 ความรู้สึกคงเหมือน เป็นเพื่อนสนิทกันอยู่ดี ๆ โดนจับพลัดจับผลูให้มาแต่งงานกัน น่าจะปรับอารมณ์ไม่ทัน ไม่รู้จะทำยังไงต่อดี ก็ทำแบบเดิม แบบเพื่อนต่อไปล่ะกัน

619 Nameless Fanboi Posted ID:0xB372aupP

>>617 แต่นางก็เปลี่ยนจากเรียกคุณโนโนเสะมาเป็นมาโฮะนะ ตอนม.4 ยังเรียกนามสกุลอยู่เลย แสดงว่ากับเพื่อนผู้หญิงที่คุยด้วยบ่อยนางจะเรียกชื่อเขาหมด แต่เพื่อนผู้ชายนางจะมีระยะห่างประมาณหนึ่ง ต่อให้สนิทแค่ไหนก็ไม่เรียกชื่อ วางตัวให้ดูไม่สนิทสนมเกินไป เป็นมารยาทสไตล์คุณหนูมั้ง

620 Nameless Fanboi Posted ID:sIkoo4ZV/3

C - Cancel

ตอนที่ฉันยืนอยู่ท่ามกลางวงล้อมของบรรดาคุณหนูและมาดามในงานเปิดตัวโรงแรมสาขาใหม่อย่างเป็นทางการแล้วเห็นคู่สามีภรรยาเอ็นโจเดินควงแขนกันเข้างาน แว่บหนึ่งฉันคิดว่าถ้าตัวเองสามารถแคนเซิ่ลการบัตรเชิญเข้าร่วมงานเหมือนสมัยก่อนได้ก็คงดี

หากแต่ตอนนี้ฉันไม่ใช่คุณหนูบ้านคิโชวอินแล้ว แต่เป็นมาดามน้อยของตระกูลคาบุรากิ

ในฐานะภรรยาของคาบุรากิ ฉันจำเป็นต้องช่วยงานของเขาเหมือนกับที่มาดามคาบุรากิช่วยงานท่านพ่อของคาบุรากิ การปรากฏตัวของฉันในงานเปิดตัวโรงแรมเป็นไฮไลท์สำคัญของงาน ยิ่งเป็นงานเปิดตัวครั้งแรกในฐานะมาดามคาบุรากิแล้ว ยิ่งสำคัญเข้าไปใหญ่

ฉันที่เป็นเจ้าภาพต้องเตรียมงานทันทีหลังจากที่กลับมาจากทริปฮันนีมูน ตั้งแต่ตรวจดูความพร้อมของสถานที่ รายชื่อแขกและสื่อมวลชน ไปจนถึงเลือกเมนูอาหาร ขนม และเครื่องดื่มด้วยตัวเอง

งานนี้ฉันทุ่มเทมาก เพราะนอกจากจะเป็นหน้าตาของบ้านคาบุรากิแล้ว ยังเป็นหน้าตาของบ้านคิโชวอินอีกต่างหาก โดยเฉพาะเรื่องอาหาร งานนี้ฉันถึงขนาดขอตัวเชฟฝีมือดีที่สุดของบ้านคิโชวอินให้มาช่วยงานและฝึกสอนเชฟที่นี่ล่วงหน้าถึงหนึ่งเดือนเต็ม ที่สำคัญคือทีมขนมหวานในงานใช้ปาร์ติซิเย่มีประสบการณ์ถึงสามสิบคน แต่ละคนทำขนมหวานที่ตัวเองถนัดเท่านั้นเพื่อไม่ให้มีอะไรผิดพลาดเลยแม้แต่น้อย ส่วนทีมเครื่องดื่มฉันให้พวกเขาคิดค้นเครื่องดื่มใหม่ขึ้นมาโดยเฉพาะให้กับแขกทุกคนที่มางาน โชคดีที่ผู้จัดการโรงแรมของคาบุรากิเป็นผู้จัดการที่มีประสบการณ์สูงมาก เขามีโปรไฟล์ ประวัติการสั่งอาหารและเครื่องดื่มของแขกทุกคนที่มางาน พวกเราจึงค่อนข้างมั่นใจว่าเครื่องดื่มที่ผสมขึ้นมาให้กับแขกนั้นจะเป็นเครื่องดื่มที่อย่างน้อยแขกคนนั้นก็ไม่ได้เกลียดถึงขนาดดื่มไม่ได้

เพราะว่าฉันต้องชิมอาหารและเครื่องดื่มจำนวนมาก การออกกำลังกายก็สาหัสขึ้นตามจำนวนแคลอรี่ที่เพิ่มมากขึ้นด้วย คาบุรากิไม่เพียงแต่โค้ชฉันข้าง ๆ อีกแล้ว เขาออกกำลังกายไปพร้อม ๆ กับฉัน แต่ตัวเองออกหนักกว่ามาก ถ้าฉันวิ่งด้วยความเร็ว 8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เขาจะวิ่งด้วยความเร็ว 12 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถ้าฉันต้องยกเวทหนัก 2 กิโลกรัม เขาก็จะยกเวทหนัก 7 กิโลกรัมไปด้วย เพราะว่าเขาไม่ได้ยืนนิ่ง ๆ คอยด่าฉันอย่างเดียว ฉันก็เลยรู้สึกว่าการออกกำลังกายไม่ได้แย่อย่างที่คิด

แม้น้ำหนักของฉันจะลดไปได้ไม่มากนัก แต่สัดส่วนกลับลดไปได้ค่อนข้างมาก อย่างพุงกลม ๆ แบบทานูกิก็ยุบลงไปจนไม่ต้องใส่กางเกงสเตย์เวลายัดตัวเองลงไปในชุดที่ท่านแม่สั่งตัดให้ แขนก็เฟิร์มขึ้นจนใส่ชุดราตรีได้โดยไม่ต้องหาผ้าคลุมไหล่มาปิด แม้ว่าจะไม่ผอมอย่างที่ฉันตั้งใจไว้ แต่ในระยะเวลาหนึ่งเดือน ได้แค่นี้ก็ดีมากแล้ว

ในวันนี้ฉันอยู่ในชุดของเปาโลเซบาสเตียน เป็นชุดในแบรนด์ที่ท่านแม่โปรดปรานเป็นพิเศษ แม้ว่าจะเป็นชุดในไลน์ชุดแต่งงานแต่สำหรับเจ้าสาวใหม่อายุน้อยอย่างฉันก็สามารถใส่ได้อย่างไม่ขัดเขินอะไร พวกคุณหนูและมาดามทั้งหลายต่างห้อมล้อมถามฉันเกี่ยวกับเรื่องชีวิตหลังแต่งงาน ฉันได้แต่ตอบอย่างกลาง ๆ ว่าบ้านคาบุรากิดูแลฉันอย่างดี อันที่จริงพวกเขาก็ดูแลฉันดีจริง ๆ เพราะมาดามคาบุรากิและท่านพ่อของคาบุรากิปฏิบัติต่อฉันเหมือนลูกสาวแท้ ๆ

สายตาของคุณหนูบ้านหนึ่งที่เบนออกไปจากวงสนทนาดึงดูดให้ทุกคนหันไปมองด้านประตูทางเข้า บนพื้นพรมสีน้ำเงินขลิบทองหรูหรา คู่สามีภรรยาตระกูลเอ็นโจเดินเข้ามาด้วยท่าทางสง่างามราวกับกำลังถ่ายทำภาพยนตร์อยู่

621 Nameless Fanboi Posted ID:sIkoo4ZV/3

สีผมของเอ็นโจอ่อนลง แม้ว่าจะไม่ได้เป็นสีน้ำผึ้งเหมือนอย่างในการ์ตูนแต่ก็ทำให้ฉันนึกถึงยามที่พวกเรานั่งดื่มชาอยู่ในห้องสโมสรกันตามลำพัง เอ็นโจในตอนนี้สูงขึ้น ดูหล่อเหลาสุภาพเหมือนเจ้าชายในฝันของสาว ๆ หลายคน ส่วนคุณยุยโกะที่อยู่เคียงข้างเขานั้นบอบบางราวกับวิญญาณภูติหิมะ ชุดสีขาวประดับคริสตัลเล็ก ๆ ตัดเย็บอย่างเรียบง่ายนั้นทำให้เธอเหมือนหญิงสาวที่สูงส่งและมีสไตล์ เหมาะสมกับการเป็นมาดามของบ้านตระกูลเอ็นโจ

นี่เป็นครั้งแรกหลังจากงานแต่งงานของฉันที่ได้พบกับสามีภรรยาคู่นี้ พวกเขาแต่งงานกันก่อนหน้าฉันกับคาบุรากิแค่สามเดือน ถือว่าเป็นเหตุการณ์เขย่าวงการสังคมเช่นกันแต่ไม่เท่างานแต่งระหว่างบ้านคาบุรากิกับบ้านคิโชวอิน

แม้ว่าฉันจะไม่ได้ใส่คอร์เซ็ตที่รัดเหมือนเครื่องทรมาน แต่ในอกรู้สึกแน่นเหมือนจะหายใจไม่ออก บรรดาคุณหนูและมาดามชื่นชมความสง่างามของเอ็นโจและความสวยของคุณยุยโกะ บอกว่าทั้งสองคนเหมาะสมกันเหมือนกิ่งทองใบหยก

แน่นอนว่าในฐานะเจ้าภาพที่ดี ฉันไม่สามารถวิ่งไปซ่อนตัวในไลน์อาหารได้เหมือนสมัยตอนที่เป็นคุณหนูคิโชวอินแขกในงานสังคมของบ้านคาบุรากิได้ ฉันจึงขอตัวจากบรรดาผู้ที่ห้อมล้อมแล้วเข้าไปต้อนรับทั้งคู่

"ขอบพระคุณที่มางานเปิดตัวของโรงแรมนะคะ ท่านเอ็นโจ มาดามเอ็นโจ" ฉันทักทายด้วยรอยยิ้มที่ก๊อปปี้มาจากมาดามคาบุรากิ "ไม่ได้เจอกันแค่ไม่กี่เดือน มาดามเอ็นโจดูสดใสขึ้นมาก คงเป็นเพราะชีวิตหลังแต่งงานที่แสนมีความสุขสินะคะ"

คำว่าสดใสกับคุณยุยโกะดูเป็นคำบรรยายที่ออกจะเกินจริงไปหน่อย แต่เธอก็ดูมีชีวิตชีวาขึ้นกว่าแต่ก่อนมากจริง ๆ

"มาดามคาบุรากิเองก็เช่นกันค่ะ สวยขึ้นกว่าที่พบหน้าในงานแต่งงานซะอีก เป็นเพราะช่วงเวลาหวานชื่นหลังจากกลับจากฮันนีมูนสินะคะ อิตาลีเป็นยังไงบ้างคะ?"

ฉันกับคาบุรากิไปฮันนีมูนกันที่อิตาลี เพราะนอกจากจะไปฮันนีมูนแล้ว พวกเรายังต้องไปงานชิมไวน์ตัวใหม่ที่ออกมาในปีนั้นอีก ถ้าเป็นไวน์ชื่อดังก็จะทำสัญญาขอซื้อเข้าโรงแรม แต่ถ้าเป็นไวน์หน้าใหม่ที่มีรสชาติดี ก็อาจจะติดต่อขอให้ผู้ผลิตช่วยผลิตให้เฉพาะกับโรงแรมในเครือคาบุรากิ หากเป็นเจ้าสาวคนอื่นอาจจะรู้สึกว่าช่างจืดชืดยิ่งนักที่แม้แต่ช่วงเวลาฮันนีมูนก็ยังต้องทำงาน แต่สำหรับฉันแล้วถือเป็นการหลบหนีจากโปรแกรมหฤโหดของคาบุรากิได้ดีมาก เพราะในงานพวกเราจะได้ชิมไวน์ ชีส และผลไม้แห้งเป็นจำนวนมาก ถึงจะต้องกลับมาออกกำลังกายเพิ่ม แต่ก็คุ้มแสนคุ้ม

"สถาปัตยกรรมที่นั่นยังคงสวยน่าประทับใจมากค่ะ โรงแรมในเครือคาบุรากิที่ไปพักก็มีวิธีนำเสนออาหารพื้นถิ่นที่น่าสนใจมาก" ฉันบรรยาย แน่นอนว่าบรรดาอาหารพื้นถิ่นเหล่านั้นฉันไม่ได้แตะเลยแม้แต่น้อย เพราะคาบุรากิสั่งให้โรงแรมเก็บอาหารน่าอร่อยออกไปหมด แล้วให้ฉันกินแต่อาหารลดน้ำหนักแทน "ปีนี้ผลผลิตองุ่นดีเลยมีนักผลิตไวน์หน้าใหม่ที่น่าสนใจอยู่หลายรายเลยทีเดียว อายุน้อย ๆ กันทั้งนั้นเลย ถ้าของเข้ามาแล้วฉันจะส่งให้มาดามลองชิมดูนะคะ"

"ขอบคุณมาดามคาบุรากิมากเลยค่ะ ฉันเองไม่ค่อยได้ดื่มไวน์เท่าไหร่ คงต้องเป็นชูแล้วล่ะค่ะ" คุณยุยโกะเอียงหัวซบไหล่ของเอ็นโจแล้วยิ้มน้อย ๆ "ตอนที่ไปฮันนีมูนกันที่ตาฮิติ พวกเราดื่มไวน์กันหลายขวดเลยทีเดียว แต่ฉันคออ่อนมาก เปิดไวน์ทีไรชูต้องรับไปดื่มเกินครึ่งทุกครั้งเลย น่าอายจริง ๆ"

"คุณยุยโกะชอบค็อกเทลมากกว่านี่ครับ แต่ก็ยังอุตส่าห์ดื่มเป็นเพื่อนผม" เอ็นโจส่งรอยยิ้มสุภาพไปให้กับภรรยาตัวเอง ฉันมองพวกเขาแล้วรู้สึกมวนท้อง เลยเชื้อเชิญพวกเขาให้ลองเครื่องดื่มเวลคัมดริงค์ที่ทำมาให้พวกเขาโดยเฉพาะ ก่อนจะขอตัวไปต้อนรับแขกคู่อื่นที่ทยอยมา

622 Nameless Fanboi Posted ID:sIkoo4ZV/3

ในค่ำคืนนั้นฉันได้รับคำชมล้นหลาม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโรงแรมที่หรูหราสะดวกสบาย การต้อนรับด้วยเวลคัมดริงค์ซึ่งทำขึ้นเพื่อแขกแต่ละคนที่แสนวิเศษ อาหารและขนมรสเลิศ ของใช้ในงานทุกชิ้นที่เป็นของแอนทีครสนิยมผู้ดีเก่า รวมถึงชุดโอต์กูตูร์ในซีซั่นล่าสุดของเปาโลเซบาสเตียนที่ดูเหมือนตัดมาเพื่อฉันโดยเฉพาะ

ถึงแม้ใคร ๆ จะบอกว่าฉันเป็นนักจัดงานปาร์ตี้ที่ล้ำเลิศไม่แพ้มาดามคาบุรากิ เป็นมาดามน้อยที่ทั้งสวยและเก่งกาจ ดูเหมาะสมกับคาบุรากิยิ่งนัก แต่สำหรับฉันที่ไม่สามารถปฏิเสธการเข้าร่วมงานปาร์ตี้นี้ได้เพราะตัวเองเป็นเจ้าภาพ กลับอยากให้งานนี้จบลงและฉันจะได้หนีกลับขึ้นไปบนห้อง และแกล้งทำเป็นว่าฉันไม่ได้เป็นมาดามคาบุรากิที่ถูกบังคับให้แต่งงานกับผู้ชายที่ไม่ได้รัก และต้องทนมองคนที่ฉันรักมีความสุขกับผู้หญิงอื่นโดยไม่สามารถปั้นสีหน้าอย่างอื่นนอกจากรอยยิ้มรับแขกได้เลย

"เรย์กะ"

ฉันสะดุ้งเมื่อคาบุรากิเรียกฉันด้วยชื่อจริง แม้ว่าตอนอยู่กันตามลำพัง เขาจะเรียกฉันว่าคิโชวอิน แต่ตอนอยู่ต่อหน้าคนอื่น พวกเรากลับไม่สามารถทำอย่างนั้นได้ เพราะฉันคือคาบุรากิ เรย์กะ ภรรยาของเขาที่ไม่ใช่ คิโชวอิน เรย์กะ แล้ว

ฉันที่ตื่นจากภวังค์หันไปยิ้มให้กับเขา เนื่องจากรอบข้างของพวกเรามีคนอื่น ๆ ยืนอยู่ จึงต้องเล่นละครให้สมจริง "ท่านคาบุรากิ" ฉันยังคงเรียกชื่อเขาด้วยคำเรียกเดิม เพราะไม่ได้ผิดธรรมเนียมมากนัก พอมองไปเบื้องหน้าก็พบกับแกรนด์เปียโน เลยพูดขึ้นมาลอย ๆ เพื่อกลบเกลื่อน "กำลังคิดถึงตอนที่ท่านคาบุรากิเล่นเปียโนในห้องสโมสรฉันฟังเลยค่ะ ในตอนนั้น Fantasie Impromptu ของโชแปงไพเราะมากจริง ๆ"

แม้ว่าในตอนนั้นเขาจะต้องเล่นอย่างเสียไม่ได้เพราะเอ็นโจขอให้เล่นเปียโนตอบแทนฉัน แต่พอพูดแบบนั้นความสัมพันธ์ของพวกเราก็ดูโรแมนติกไม่น้อย ดูได้จากการที่คุณหนูรอบข้างฉันถอนหายใจด้วยความอิจฉาและปลาบปลื้ม

คาบุรากินิ่งไปซักพัก ก่อนจะบอกว่า "อยากจะฟังเพลงอะไรล่ะ"

พอได้ยินอย่างนั้นฉันก็อึ้งไปเล็กน้อย อันที่จริงคาบุรากิเองก็เป็นผู้ชายที่แสนจะร้อนแรงและโรแมนติกจนเข้าขั้นน่าสยอง ไม่แปลกเลยซักนิดหากว่าเขาจะดีดเปียโนให้ 'ภรรยาที่รัก' ต่อหน้าแขกที่มางาน ฉันเองเห็นคาบุรากิพยายามอย่างเต็มที่เพื่อรักษาภาพพจน์ของพวกเราในสังคม ก็เลยเล่นตามน้ำไป

"ถ้าอย่างนั้นก็ช่วยเล่น Clair de Lune ของเดอบูว์ซี ให้หน่อยนะคะ" ฉันตอบกลับไป อันที่จริงไม่ได้อยากจะฟังเพลงโรแมนติกอะไรขนาดนั้นหรอก เพียงแต่ถ้าให้เล่น Hungarian rhapsody หรือ Turkish march ก็ออกจะไม่เข้ากับบรรยากาศไปซักหน่อย

คาบุรากิก็สมกับเป็นคาบุรากิ แม้ว่าฉันจะไม่เคยได้ยินเขาเล่นเพลงของเดอบูว์ซี แต่เขาก็ตอบตกลงและเดินไปหาบริกร ซักพักเพลงที่เปิดคลอในงานก็เงียบลง ทุกคนต่างมองคาบุรากิที่เดินเข้าไปยังแกรนด์เปียโนที่อยู่ตรงกลางงานเป็นตาเดียว

Clair de Lune ที่แสนอ่อนหวานของนักประพันธ์ชาวฝรั่งเศสถูกคาบุรากิใช้นิ้วเรียวยาวของเขาพร่างพรมออกมาราวกับใช้เวทย์มนต์ ช่วงเวลาที่น่าหลงใหลจบลงอย่างรวดเร็ว เสียงปรบมือดังสนั่นเมื่อเขาบรรเลงเพลงจบแล้วลุกขึ้น

ฉันเดินเข้าไปหาเขาแล้วทำราวกับเป็นภรรยาที่ซาบซึ้งในความรักที่สามีแสดงออกต่อหน้าสาธารณชน

แม้ว่างานในวันนี้ฉันจะไม่สามารถแคนเซิ่ลได้ แต่อย่างน้อยฉันก็ได้ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างสมบูรณ์ และคาบุรากิเองก็ทำทุกอย่างได้อย่างไม่ผิดพลาดเช่นกัน

แม้ว่าพวกเราจะไม่ได้รักกัน แต่ฉันกับคาบุรากิก็เป็นคู่ที่เหมาะสมกันที่สุด

แค่นั้น...ก็เพียงพอแล้วไม่ใช่งั้นหรือ?

แม้ว่าหัวใจของฉันจะเจ็บปวดเมื่อเห็นสามีภรรยาเอ็นโจประคองกันออกจากงาน กลับไปยังเรือนหออันแสนสุขของพวกเขาก็ตาม

จบ

623 Nameless Fanboi Posted ID:+xP.b+S9K4

>>622 น้ำตาจิไหล ฮรึกๆๆ //ซับน้ำตา

624 Nameless Fanboi Posted ID:3mkLQkNQ21

>>622 ตกลงจะเป็นฟิคตลกหรือดราม่าเนี่ย กูปรับตัวไม่ถูก 555555555555555555
อะไรคือการไปฮันนิมูนแต่ไม่ได้กินอาหารท้องถิ่น ต้องกินอาหารสำหรับไดเอท โถ...... ตอนท้ายนี่ปวดหัวใจจัง เห็นคนที่รักไปกับคนอื่นแต่ทำอะไรไม่ได้ น่าจะเจ็บทั้งคู่นั่นล่ะน้า //ซับน้ำตาให้เรย์ทันและชูสุมอย

ตัวอักษรต่อไปนี่ตัว D ใช่มะ เอาเป็น Dream ได้มะ ถ้าไม่ใช่ก็แล้วแต่โม่งฟิคเลยจ้า

625 Nameless Fanboi Posted ID:1TQ.0wUnVx

>>624 โอเค ต่อเป็นเป็น Dream นะ

626 Nameless Fanboi Posted ID:912YU5.Ulk

มาไม่ทัน ตัว D กะจะเสนอ Draling สักหน่อย 555

627 Nameless Fanboi Posted ID:xXjxX0G2HB

D - Dream

ในความฝัน ฉันสารภาพรักกับเอ็นโจในเทศกาลชมดอกไม้ไฟครั้งที่สองที่พวกเราไปดูด้วยกัน

หลังจากงานเทศกาลชมดอกไม้ไฟครั้งแรก ฉันก็เริ่มรู้สึกดีกับเอ็นโจ

ผู้ชายที่มักจะมีรอยยิ้มบนสีหน้าอ่อนโยนเหมือนอย่างเจ้าชาย แต่กลับมีมุมที่ดำมืดจนบางทีก็อยากจะถอยห่าง ผู้ชายที่คอยช่วยเหลือฉันถ้าหากคนอื่นรังแก แต่ตัวเองกลับชอบรังแกฉัน ผู้ชายที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็มองมาจนฉันรู้สึกอึดอัด แต่จากความอึดอัดนั่นก็กลายเป็นความขัดเขิน กลัวว่าเขาจะรู้ว่าฉันหัวใจเต้นแรงกับสีหน้าเจ้าเล่ห์ที่เขาเก็บซ่อนไว้และเผยออกมาต่อหน้าฉันเท่านั้น ผู้ชายที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็อ่านใจของฉันได้เสมอ เพราะเขาเอาแต่เฝ้ามองฉัน

เฝ้ามองแต่ฉันเพียงคนเดียว

ในความฝัน คาบุรากิกับวาคาบะลงเอยเป็นแฟนกัน ฉันกับเอ็นโจที่ถูกคาบุรากิทิ้งหลังจากพวกเราไปไหนมาไหนด้วยกันมาตลอดเริ่มออกไปเที่ยวด้วยกัน ในตอนแรก ๆ ก็มียูกิโนะคุงไปด้วย ทั้งไปดูดอกไม้ไฟ ไปภัตตราคารที่ลงในนิตยสาร ในตอนหลัง ๆ มีเพียงแค่เราสองคนเท่านั้น เอ็นโจขอให้ฉันช่วยพาทัวร์ซุปเปอร์มาร์เก็ต ฉันเริ่มเปิดเผยให้เขารู้ว่าคิโชวอิน เรย์กะ นั้นมีชีวิตอีกด้านที่ไม่ใช่คุณหนูแสนเริ่ดหรู แต่มีความเป็นเด็กสาวบ้าน ๆ ด้วยเช่นกัน

ในความฝัน เอ็นโจกระซิบบอกกับฉันว่าเขาเฝ้ามองแต่ฉันเท่านั้น เขามองฉันตั้งแต่สมัยประถม คิโชวอิน เรย์กะ ที่เป็นเหมือนดอกโบตั๋น คิโชวอิน เรย์กะ ที่เป็นเหมือนกระต่ายน้อยสีขาว คิโชวอิน เรย์กะ ที่เป็นเด็กสาวหน้าแดงกับคำสารภาพรักครั้งแรกจากผู้ชายที่เธอชอบ

ผู้ชายคนนั้นคือ เอ็นโจ ชูสุกะ

คิโชวอิน เรย์กะ ที่ร้องไห้ตอนที่ผู้ชายในฝันของเธอคุกเข่าขอแต่งงาน

หากแต่นั่นเป็นเพียงแค่ความฝัน

เป็นเพียงแค่ความฝันเท่านั้น

จบ

628 Nameless Fanboi Posted ID:xXjxX0G2HB

Ps. ในพาร์ท Dream เรย์กะฝันว่าเอ็นโจสารภาพรักกับตัวเอง แล้วให้เวลาเรย์กะไปคิด ตอนที่ไปเที่ยวเทศกาลชมดอกไม้ไฟครั้งที่สอง เรย์กะก็สารภาพกับเอ็นโจว่าตัวเองก็ชอบอีกฝ่ายเช่นกัน เผื่อใครงง ตกลงใครสารภาพใคร

629 Nameless Fanboi Posted ID:C0OFFo3/Al

>>627 ขอเสนอ effect จากตัว E !!

630 Nameless Fanboi Posted ID:19HhdHySxT

มีฟิคให้อ่านรัวๆ เลย ชีวิตกูไม่เงียบเหงาเปล่าดายแล้ว ขอบคุณโม่งฟิคทุกคนและโม่งขามุงทุกท่าน ฮือๆ

631 Nameless Fanboi Posted ID:o9m7NIaKJc

โฮฮ กูมาไม่ทัน กะจะเสนอ dilemma...

632 Nameless Fanboi Posted ID:o9m7NIaKJc

ฟิคนี้อ่านแล้วจี๊ดมากๆ ; ;) *บีบๆนวดๆโม่งฟิค*

633 Nameless Fanboi Posted ID:C0OFFo3/Al

กีส-- กะจะเสนอ Do you love me....

634 Nameless Fanboi Posted ID:gxzyem/mz7

กูก็กำลังจะ daddy .....

635 Nameless Fanboi Posted ID:xXjxX0G2HB

E - Effect

หลังจากโรงแรมในเครือคาบุรากิเริ่มขยายไปยังทวีปยุโรป ทำให้คาบุรากิกับท่านพ่อของคาบุรากิต้องบินข้ามประเทศกันเป็นว่าเล่น
อันที่จริงฉันต้องไปกับคาบุรากิด้วย แต่เนื่องจากท่านพ่อขอให้ฉันไปช่วยงานที่บริษัทเพราะว่าเราจะต้องต้อนรับลูกค้าจากต่างประเทศ ดังนั้นการไปตรวจงานสาขาครั้งนั้นฉันเลยไปไม่ได้โดยปริยาย

ตั้งแต่แต่งงานกับคาบุรากิมาเกือบสี่เดือน นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันสามารถสลัดคาบุรากิออกได้ ดังนั้นหลังจากช่วยงานท่านพ่อเสร็จ ฉันที่เป็นอิสระจากการฝึกแบบสปาร์ตัน จึงตรงบ้านวาคาบะจังทันที

หลังจากที่วาคาบะจังเรียนจบ เธอก็เปิดสำนักงานทนายความเล็ก ๆ ในบางครั้งก็ต้องนอนค้างที่นั่น หรือที่อื่น ๆ ตามแต่จะต้องไปว่าความ ทว่าพอฉันบ่นคิดถึง วาคาบะจังก็ชวนไปบ้านซึ่งเป็นร้านเค้กทันที

ไม่ทันจะก้าวเข้าไปในบ้าน ก็ได้ยินเสียงทักของคันตะคุง ในเวลานี้คันตะคุงไม่ใช่เด็กน้อยอีกต่อไปแล้ว เขาโตขึ้นมาเป็นเชฟหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา รับช่วงกิจการต่อจากคุณพ่อคุณแม่ ร้านเค้กของบ้านทาคามิจิจึงโด่งดังขึ้นมาก เห็นวาคาบะจังเล่าว่ามีเด็กผู้หญิงมาสารภาพรักบ่อย ๆ แต่คันตะคุงกลับไม่สนใจพวกเธอเลยซักนิด ซ้ำยังบอกว่าพวกเธอน่ารำคาญ

ในกรณีของคาบุรากิซึ่งในช่วงแรกของชีวิตสนใจแต่คุณยูริเอะ หลังจากนั้นก็หลงรักวาคาบะจัง ฉันก็ยังพอเข้าใจได้บ้าง แต่ในกรณีคันตะคุงนี่ถือว่าอันตรายไม่น้อย ฉันเคยกระซิบถามวาคาบะจังว่าคันตะคุงหลงรักผู้ชายแต่ไม่กล้าเปิดเผยตัวตนรึเปล่า ถึงวาคาบะจังจะส่ายหน้าปฏิเสธ แต่ฉันก็ยังแอบสงสัยอยู่ดี

"โคโรเน่ ไม่เจอตั้งนาน ซูบเชียว"

พอคันตะคุงทัก ฉันก็พรั่งพรูความข้นแค้นในใจให้เขาฟังทันที ฉันได้กินแต่ผักสลัดกับเนื้อปลาและอกไก่ ซ้ำยังกินขนมชิ้นนิดเดียวได้แค่อาทิตย์ละครั้งเท่านั้น ชีวิตของฉันช่างแห้งเหี่ยวแต่ไม่สามารถบ่นให้ใครฟังได้ เพราะไปบ่นให้ท่านแม่ฟัง ท่านแม่ก็จะบอกว่า 'ดีแล้วล่ะค่ะ ขืนไม่ควบคุมอาหาร คุณเรย์กะจะต้องน้ำหนักขึ้นจนใส่กระโปรงไม่สวยอีกแน่ ๆ'

ฉันที่เค้นน้ำตาออกมาอยู่หลายสายสุดท้ายก็ได้กินกราแตงมะเขือม่วงใส่เบคอนกับโฟร์ชีส มันฝรั่งอบกระเทียมใส่ไข่กับใบโหระพา แล้วก็ตามด้วยเค้กช๊อกโกแล็ตก้อนเท่าจานข้าว จริง ๆ แล้วฉันไม่ได้กะจะกินเยอะขนาดนั้นหรอกนะ เพียงแต่คันตะคุงคะยั้นคะยอ ฉันก็เลยกินตามมารยาท อีกอย่างนี่ก็เป็นชีทเดย์ของฉันด้วย

ระหว่างที่คาบุรากิไม่อยู่ ฉันก็มาเยี่ยมบ้านของวาคาบะจังทุกวัน การได้มาเจอเพื่อนเก่านี่ดีจริง ๆ เลยน้า ไอเดียจากกับข้าวของคันตะคุงช่วยฉันไว้ได้มาก เพราะพอฉันขอสูตรจากคันตะคุงไปให้คุณเชฟเสิร์ฟให้แขกของท่านพ่อทาน บรรดาแขกทั้งหลายก็ถูกใจกันมาก ดังนั้นฉันเลยเอาของจำพวกซาลามี่หรือไส้กรอกจากในครัวที่คุณเชฟทำกลับไปฝากบ้านทาคามิจิทุกครั้งที่ไป

แม้คาบุรากิพยายามจะขัดขวางช่วงเวลาอันแสนหอมหวานของฉันด้วยการส่งอีเมล์มาบังคับให้ฉันถ่ายรูปอาหารที่กินส่งไปให้เขาดูทุกมื้อ แต่ฉันก็ทำวิธีเดิม โดยการถ่ายแต่รูปสลัดแล้วก็เนื้อปลาส่งไป แต่ไม่กล้าโกหกว่าตัวเองออกกำลังกายเพราะกลัวว่าคาบุรากิจะให้คนเฝ้าดูยิมเอาไว้ แล้วบอกเขาไปว่าช่วงนี้ฉันยุ่งมาก คาบุรากิก็เลยบอกว่าถ้าฉันไม่ออกกำลังกาย ก็ตัดชีทเดย์ออกไปซะ

แน่นอนว่าฉันบ่นไปแต่ก็ตอบตกลง ซึ่งในตอนนี้ฉันก็ไม่ได้มีชีทเดย์จริง ๆ นั่นแหล่ะ เพราะไม่ได้มีวันไดเอ็ทเลย

และผลกรรมจากการที่ฉันหละหลวมก็ปรากฏขึ้นสองอาทิตย์หลังจากนั้นในวันที่คาบุรากิกลับมา เขามีสีหน้าทะมึนทันทีที่เห็นฉัน

"ยัยหมูตอน เธอแอบกินขนมแล้วไม่ยอมถ่ายรูปส่งมาใช่ไหม" เขาพูดด้วยน้ำเสียงโมโห ฉันรีบปฏิเสธยกใหญ่ ดังนั้นคาบุรากิก็เลยลากฉันไปชั่งน้ำหนัก

เสียงกรี๊ดหลังจากที่ฉันเห็นว่าตัวเลขบนตาชั่งดีดขึ้นมา 5 กิโลกรัมภายในเวลา 2 สัปดาห์ ทำเอาสาวใช้ทั้งบ้านกรูมายังห้องออกกำลังกายเพราะนึกว่าฉันประสบอุบัติเหตุหรือไม่ก็มีโจรขึ้นบ้าน หลังจากที่ฉันจนมุมด้วยหลักฐาน คาบุรากิก็บอกกับฉันว่าเขาจะไม่มีวันให้ฉันอยู่บ้านคนเดียวอีกเด็ดขาด ถ้าฉันดูแลตัวเองไม่ได้แล้วเขาไม่ว่าง เขาก็จะหาคนเฝ้าเอาไว้

นับจากนั้นเป็นต้นมา ดีกรีความเป็นมนุษย์สโตรกเกอร์ของคาบุรากิก็เพิ่มขึ้นจนน่าตกใจ พอ ๆ กับความหนักหน่วงในตารางออกกำลังกายของฉัน ฉันได้แต่หลั่งน้ำตาในใจก้มรับผลกรรมจนกว่าน้ำหนักของตัวเองจะกลับลงไปเท่าเดิมอีกครั้ง และสาบานกับคาบุรากิว่าฉันจะไม่โกหกเขาอีกเป็นอันขาด

จบ

636 Nameless Fanboi Posted ID:.t+kQLh4yo

>>635 โถ...นี่ล่ะน้า ผลของการกินแล้วไม่ยอมออกกำลังกาย สรุปคือฟิคนี้จะวนเวียนอยู่กับการกินใช่มั้ย อะไรนะ เรื่องหลักก็วนเวียนอยู่กับการกินอย่างนั้นเหรอ

ตัว F รีเควสเป็น Fight ค่าาาา

637 Nameless Fanboi Posted ID:xXjxX0G2HB

>>636 OK, F = Fight นะ

638 Nameless Fanboi Posted ID:D7wk2roNSC

ฟิคนี่มันคือดราม่าลดน้ำหนักจริงๆใช่มั้ย 55555 ดราม่าตอน ลดน้ำหนักตอน

639 Nameless Fanboi Posted ID:912YU5.Ulk

>>635 555555 ชอบความเป็นธรรมชาติของคู่นี้ เมื่อใหร่เขาจะรักกันจริงๆ
มาไม่ทันตัว F อีกละ อุส่าห์หาศัพท์ไว้รอเลยนะ

640 Nameless Fanboi Posted ID:+xP.b+S9K4

>>635 คาบุรากิแม่งคือสีสันของเรื่องจริงๆ อะ ตลกชิบหาย ฮรือออ 555555

641 Nameless Fanboi Posted ID:3mkLQkNQ21

จะมีไปถึงตัว Z เลยมั้ยวะ 555555555555

642 Nameless Fanboi Posted ID:O8Hj9uwd+l

คราวนี้กูก็ไม่ทันอีกแล้ว..

643 Nameless Fanboi Posted ID:/UJKtjAEIQ

งั้นกูจอง G - Grieve

644 Nameless Fanboi Posted ID:IFLbA/egBW

>>643 หยุดเลยนะมึง กูนั่งรีโพสทุกๆ 2-3 นาทีรอฟิคโม่งมาโพสจะได้สอยตัว G ต่อเลยนะ

645 Nameless Fanboi Posted ID:O8Hj9uwd+l

>>643 ไม่ได้้ มึงโก๊งงงงง

646 Nameless Fanboi Posted ID:xXjxX0G2HB

>>643 โพสต์หลังโพสต์ตัว F อีกครั้งเน้อ คือ ถ้าแปะก่อนมันจะมารัว ๆ กูรับไม่ทัน ขออภัย

647 Nameless Fanboi Posted ID:xXjxX0G2HB

F - Fight

"เรย์กะ เธอเห็นข่าวนั่นรึยังน่ะ?"

ซากุระโกะโทรหาฉันในตอนเช้าวันอาทิตย์ ฉันยังไม่ตื่นด้วยซ้ำตอนที่รับโทรศัพท์ของเธอ เนื่องจากเมื่อคืนพนักงานของโรงแรมไปทำให้ภรรยานักการเมืองคนหนึ่งโกรธ ฉันเลยต้องตามไปขอโทษเธอแทนพนักงานคนนั้น พอเห็นหน้าฉัน คุณซาซาเอะจากที่โมโหจนแทบจะฟ้องร้องประจานลงหนังสือพิมพ์ก็อ่อนลงทันที เธอชวนฉันไปเลาจน์หรูและหยอกล้อกับโฮสต์หนุ่มหลายคน ฉันที่มีภูมิต้านทานเพราะท่านอิมาริเลยไม่ได้เคลิบเคลิ้มเลี้ยงดูเด็กหนุ่ม ๆ ไปด้วย แต่ก็เปิดแชมเปญราคาแพงให้เธอเลี้ยงเด็กไปหลายขวด กว่าจะได้กลับบ้านก็เกือบตีสาม

ฉันที่กำลังไม่หายเมาค้างเปิดลิงค์ที่ซากุระโกะส่งมาทางไลน์ พอกดเข้าไปก็เจอรูปคาบุรากิยืนคุยกับดาราสาวคนหนึ่งอย่างใกล้ชิด ท่าทางเลื้อยเป็นงูของดาราสาวหน้าตาจิ้มลิ้มกับสีหน้าอดทนใกล้จะเดือดเต็มที่ของคาบุรากิทำให้ฉันถอนหายใจเฮือก ความป๊อปปูล่าร์ของคาบุรากิสมัยมัธยมว่าหนักแล้ว ตอนนี้ยังยิ่งเป็นปัญหาหนักกว่าเก่า เพราะสมัยตอนที่อยู่ซุยรัน ทุกคนต่างจับจ้องการกระทำของเด็กคนอื่น ๆ จะมาโฉ่งฉ่างเหมือนซึรุฮานะหรือริรินะถือว่าน้อยมาก แต่พอคาบุรากิทำงานก็ต้องเจอกับคนหลากหลาย คราวนี้วงสาว ๆ ไม่ได้จำกัดอยู่ที่เด็กซุยรันเท่านั้น แต่รวมถึงผู้หญิงบนโลกใบนี้ที่เห็นว่าคาบุรากิคือถังข้าวสารหน้าตาน่ากระโดดใส่

ดาราสาวที่เป็นข่าวกับคาบุรากิคือดาราลูกครึ่งที่กำลังดังอยู่ตอนนี้ เธอได้ชื่อว่าเป็นเด็กสาวหัวขบถที่เด็กญี่ปุ่นทุกคนอยากเป็นแต่ไม่กล้าทำ สินค้าด้านความงามในเครือธุรกิจของคาบุรากิตอนนี้ก็ได้เธอเป็นพรีเซนต์เตอร์อยู่ และขายดีติดอันดับในหมู่เด็กวัยรุ่น ดังนั้นคาบุรากิจึงอดทนกับเธอเป็นพิเศษ

"อา เรื่องปกติน่ะ" ฉันตอบซากุระโกะ ก่อนจะนอนต่อ

อาทิตย์ต่อมามีข่าวอื้อฉาวระหว่างคาบุรากิกับดาราสาวคนนี้อีกครั้ง คราวนี้เป็นวาคาบะจังส่งข้อความมาหาฉัน บอกฉันว่าถ้ามีเรื่องกลุ้มใจอะไรก็ปรึกษาได้

แน่นอนว่าฉันเองก็มีเรื่องกลุ้มใจไม่น้อย ไม่ใช่เรื่องคาบุรากิ แต่เป็นเรื่องผิวแตกลายที่จู่ ๆ โผล่ขึ้นมาที่พุงตรงข้างสะดือ ถึงจะเป็นแค่รอยเล็ก ๆ ขนาดความยาวแค่เซ็นต์เดียว แต่การที่ร่างกายของฉันมีรอยแตกลายหมายถึงว่าฉันเดินทางมาสู่ความอ้วนในอีกมิติหนึ่ง ถ้าคาบุรากิรู้เขาต้องประนามฉันจนไม่ได้ผุดได้เกิดแน่ ๆ

ฉันทั้งทาครีมทั้งไปหาสถาบันความงามเพื่อให้เลเซอร์ลบรอยแผล ในตอนนี้แผลจางไปจิ๊ดนึงแล้ว แต่ก็ยังไม่หายไป ฉันกลุ้มใจซะจนรู้สึกเหมือนประสาทกิน

แน่นอนว่าเรื่องนี้ให้ตายยังไงก็บอกคนอื่นไม่ได้เด็ดขาด

วาคาบะจังชวนฉันไปกินขนมที่บ้าน แต่ฉันปฏิเสธไปเพราะกลัวรอยแตกลายตรงพุงเพิ่มขึ้นอีก

สองวันต่อมาข่าวของคาบุรากิกับดาราสาวคนนั้นก็ยังไม่หยุด คราวนี้ท่านแม่ถึงกับแล่นมาหาฉันที่บ้าน

"คุณเรย์กะจะปล่อยอย่างนี้ไปไม่ได้นะคะ" ท่านแม่ทำหน้าเครียด ก่อนจะลากฉันไปเข้าคอร์สไดเอ็ทหลายคอร์สเพื่อที่จะได้ 'ผอมสวยพิชิตใจสามี' ลำพังคอร์สไดเอ็ทของคาบุรากิก็นรกบนดินอยู่แล้ว ฉันยังต้องเข้าคอร์สกับท่านแม่อีก

ดังนั้นฉันจึงปล่อยเรื่องนี้ไว้ไม่ได้อีก

648 Nameless Fanboi Posted ID:IFLbA/egBW

G galaxy สู่ความเวิ้งว้าง —

649 Nameless Fanboi Posted ID:xXjxX0G2HB

สี่วันหลังจากที่ท่านแม่มาหาฉัน ฉันก็ให้ผู้ช่วยแคนเซิ่ลตารางงาน แล้วนั่งรถตรงไปยังกองถ่ายของดาราสาวคนนั้น

ฉันที่อยู่ในชุดสปริงคอลเลคชั่นของชาแนลก้าวลงจากโรลส์รอยซ์คันหรูที่จอดเทียบอยู่ตรงหน้าสถานีโทรทัศน์ พอเดินเข้าไปผู้อำนวยการก็ลงมาต้อนรับแล้วพาฉันไปยังกองถ่ายด้วยตัวเอง

ผู้กำกับถึงกับหน้าซีดมือสั่นเมื่อฉันเดินเข้าไปถึงกองถ่าย บรรดาสตาฟฟ์วิ่งวุ่นหาเก้าอี้มาให้ฉันนั่ง

"ฉันแค่มาดูการถ่ายทำโฆษณาตัวใหม่น่ะค่ะ ทำงานกันต่อเถอะ อย่าให้ฉันรบกวนเลย" ฉันพูดอย่างนั้นด้วยรอยยิ้มสบาย ๆ พลางโบกพัดไปมาอย่างอ้อยอิ่ง ทุกคนมีสีหน้าระแวง ราวกับกลัวว่าขยับตัวผิดแม้แต่มิลเดียว ฉันจะพิโรธฟ้าผ่ากลางกอง

ผู้จัดการของดาราคนนั้นไม่กล้าแม้แต่จะเหลือบตามองฉัน เขาหันไปดุเด็กของตัวเองอยู่หลายคำ แต่ดาราสาวคนนั้นหันมามองฉันด้วยสีหน้าท้าทาย

ฉันมองดาราสาวลูกครึ่งถ่ายทำโฆษณาต่อแล้วก็ต้องยอมรับว่าเธอช่างสวยน่ารักผิดกับคนธรรมดา หน้าเรียว ตากลมโต หุ่นเพรียว แขนขายาว ใส่ชุดอะไรก็ขึ้นไปหมด

พอถึงตอนพักกอง ผู้กำกับก็เข้ามาก้มหัวมือกุมเป้าถามฉันว่ามีอะไรจะชี้แนะเขาไหม ฉันไม่ใช่ผู้กำกับเลยบอกเขาไปว่าฉันจะรอดูผลงานของเขา เขามีสีหน้าแช่มชื่นขึ้นมากที่ฉันไม่ดุใส่ แต่พอหันไปมองดาราสาวก็ทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก

ผู้กำกับและผู้จัดการของดาราคนนั้นมองหน้ากันอยู่หลายนาที ก่อนที่คุณผู้จัดการจะลากดาราสาวมายืนต่อหน้าฉัน แล้วบังคับให้เธอก้มหัวคำนับตามมารยาทของเด็กที่ต้องทักทายผู้หลักผู้ใหญ่

"ชื่อโทชิฮานะ มายูมิ ใช่ไหมจ๊ะ" ฉันยิ้มอ่อนโยนให้กับเธอ "แหม เด็กสมัยนี้หน้าตาสวยจริง ๆ นอกจากสวยแล้วก็ต้องมีคาแร็กเตอร์ที่ชัดเจนด้วยสินะ อย่างการเป็นเด็กหัวขบถหรือเด็กที่ไม่เคารพกฏ ถ้าแค่นั้นก็ดีหรอกจ่ะ แต่อย่าให้ข่าวอื้อฉาวแบบที่ว่าแต่ก่อนเธอเป็นเด็กไซด์ไลน์ไปถึงหูสื่อมวลชนก็แล้วกันนะจ๊ะ อันนั้นแฟน ๆ จะรับไม่ไหวเอา"

ก่อนที่โทชิฮานะ มายูมิ จะเป็นดารา เธอเคยเป็นเด็กไซด์ไลน์มาก่อน ไซด์ไลน์ที่ว่าคือการที่รับเงินแลกกับการไปเที่ยวกับพวกหนุ่ม ๆ หรือคุณลุง มีบางคนที่ทำโดยไม่ได้ขายตัวจริง ๆ แต่ถ้าข่าวหลุดออกไปได้ว่าเธอเคยถูกผู้ชายใช้เงินซื้อตัว ภาพลักษณ์หัวกบฏไม่ยอมลงให้กับกฏจะเปลี่ยนกลายเป็นโสเภณีทันที สังคมตะวันตกในบางที่อาจจะรับได้ แต่ไม่ใช่กับสังคมญี่ปุ่นที่มือถือสากปากถือศีล พร้อมที่จะเหยียบย่ำคนตกต่ำเต็มที่

ดาราสาวที่เมื่อครู่ทำหน้าเย่อหยิ่งตัวแข็งค้าง ปากสั่นระริก ก่อนจะเถียงว่า "ม...ไม่มีเรื่องแบบนั้นซักหน่อย!"

ฉันเอียงคอ ยิ้มอย่างเกียจคร้าน "นั่นสินะ เด็กที่มาจากโรงเรียนยูริโนะมิยะจะทำเรื่องแบบนั้นได้ยังไง ซากุระโกะเพื่อนของฉันเองก็มาจากโรงเรียนนั้นเหมือนกัน เธอรู้จักรุ่นน้องเด็ก ๆ หลายคนเลยทีเดียว ถึงมีข่าวโคมลอยขึ้นมาจริง ๆ ให้เพื่อน ๆ ในชั้นมาแก้ตัวก็ได้เนอะ"

เด็กจากโรงเรียนยูริโนะมิยะปกติแล้วจะเก็บเรื่องฉาวโฉ่เอาไว้ภายใน การจะมาเปิดปากบอกว่านักเรียนในโรงเรียนเคยทำงานไซด์ไลน์น่ะไม่มีหรอก แต่ถ้าได้แรงสนับสนุนจากซากุระโกะ รับรองว่าบรรดาหลักฐานในอดีตพรั่งพรูออกมาผึ้งแตกรังแน่ ๆ

ผู้จัดการของโทชิฮานะเองก็ดูเหมือนจะรู้เรื่องนี้ดีอยู่แล้ว เขาก้มหัวปะหลก ๆ แล้วบอกกับฉันว่ามายูมิเป็นเด็กดี จะไม่ทำให้ภาพลักษณ์ของธุรกิจเสียหายเป็นอันขาด โทชิฮานะ มายูมิ เองก็ตัวสั่น รับปากกับฉันอย่างแข็งขันเช่นกัน

ฉันปิดพัดดังฉึบ ก่อนจะลุกขึ้นแล้วโปรยยิ้มนางพญาให้กับคนในกองถ่ายที่มองดูพวกเราห่าง ๆ อย่างสนอกสนใจ แต่ไม่ใกล้พอที่จะได้ยินบทสนทนานั้น ฉันเอ่ยชมดาราสาวคนนั้นอีกครั้งว่าเธอเป็นเด็กที่ขยันขันแข็ง จะต้องเป็นพรีเซนเตอร์ที่ดีให้กับสินค้าไลน์วัยรุ่นอย่างแน่นอน ก่อนจะขอตัวจากไปอย่างสง่างาม

เย็นวันนั้นคาบุรากิกลับบ้านมาแล้วมองฉันด้วยสายตาเนือย ๆ

"ไปก่อเรื่องมาอีกล่ะสิ"

ฉันยิ้มด้วยรอยยิ้มสุภาพให้กับเขา

"แค่ไปดูพรีเซนต์เตอร์ของไลน์เครื่องสำอางเองค่ะ ว่าแต่ท่านคาบุรากิคะ ถ้าวันหลังไม่จัดการกับปัญหาคาราคาซังของตัวเอง ปล่อยให้ยืดเยื้อ อย่าได้คิดนะคะว่าฉันจะเก็บกวาดให้อีก"

คาบุรากิถอนหายใจเฮือก เขาทำหน้าเหมือนจะดุฉันอีกครั้ง แต่พอเห็นฉันไม่มีสีหน้าหวาดกลัว เขาก็บอกว่าเย็นนี้จะพาออกไปทานมื้อค่ำที่ภัตตราคาร และอนุญาตให้ฉันสั่งของหวานเป็นพิเศษได้

จบ

650 Nameless Fanboi Posted ID:xXjxX0G2HB

>>648 แปะอีกครั้งหลัง 649 นะ กรูขอโทษ

651 Nameless Fanboi Posted ID:IFLbA/egBW

G galaxy สู่ความเวิ้งว้าง —

652 Nameless Fanboi Posted ID:1TQ.0wUnVx

>>651 OK, G = Galaxy

653 Nameless Fanboi Posted ID:IFLbA/egBW

>>650 กูจ้องแรงมาก เห็นมาไม่อ่านรีบโพสโดยพลัน อ่านจบปุ๊บ อ่าวยังตาอไม่จบนี่หว่า รีโพสต่อด้วยความใจหาย โดขิๆ เลยมึง ดีนะที่ทัน ขออ่านต่อแปบ ดูท่านเรย์กะไฝว้

654 Nameless Fanboi Posted ID:O8Hj9uwd+l

อหหหห พลาดอีกแล้ว..

ปล. โม่งฟิคขยันมากกก รักมึง จุ๊บๆ

655 Nameless Fanboi Posted ID:3mkLQkNQ21

>>651 นึกว่าตัว G จะเป็น Glue ซะอีก 55555555555555 หรือไม่ต้องขอ ปกติก็มีอยู่แล้ว

656 Nameless Fanboi Posted ID:rzDz84VYE6

โม่งฟิคปั่นไวมากกกกก เหมือนปลุกเหล่าโม่งๆซุยรันให้กลับมาคึกคักอีกรอบอ่ะมึง//กูคุ้ยศัพท์hรอหลาววว

657 Nameless Fanboi Posted ID:7hAaVujeW1

>>656 hentai-----

658 Nameless Fanboi Posted ID:mwG6RQQKcJ

>>656 >>657 มึงทำความใสๆ กูหายเลย ถ้าพวกมึงไม่ทักกูไม่ทันคิดถึงตัว H แบบนั้นเลยนะ

659 Nameless Fanboi Posted ID:rzDz84VYE6

>>658 กูคิดว่าเป็น H.pyroli.... อย่าด่ากุ;__;

660 Nameless Fanboi Posted ID:aluFtCHOoS

>>657 ตบตีมึง ในกระทู้มีแต่โม่งวัยใสไร้เดียงสากันทั้งนั้น จะมาเฮนตงเฮนไตได้ยังไง๊

661 Nameless Fanboi Posted ID:O8Hj9uwd+l

>>657 ถ้ามึงมาทัน f จะต่อเป็น f-word ป่ะวะ 555555

662 Nameless Fanboi Posted ID:+xP.b+S9K4

F - friend โบกพัดไปมากับคำๆ นี้ โอะโฮะโฮะ

663 Nameless Fanboi Posted ID:0ialzzYIg6

G - Galaxy

ในฤดูหนาวหลังจากที่ฉันกับคาบุรากิแต่งงานกันได้ครบหนึ่งปีพอดี พวกเราไปฉลองหนึ่งปีของการแต่งงานที่ฟินแลนด์

อันที่จริงจะต้องพูดว่า คาบุรากิไปหาที่เล่นสกี ส่วนฉันถูกเขาผู้ไร้เพื่อนลากไปเป็นตัวแก้เขินที่ฟินแลนด์

หลังจากที่พยายามสอนฉันเล่นสกีอยู่นาน คาบุรากิก็หมดความอดทนแล้วทิ้งฉันไว้ในคาเฟ่ ส่วนตัวเองออกไปเล่นสกีคนเดียว กว่าจะกลับมาอีกทีก็ตกเย็น ขากลับเขากลับมาพร้อมกับหมาไซบีเรียน ฮัสกี้ ตัวหนึ่ง หมาตัวนั้นพุ่งเข้ามาหาเจ้าของซึ่งเป็นเด็กสาวที่นั่งข้าง ๆ ฉัน ส่วนคาบุรากิพุ่งเข้ามาหากาแฟร้อนเพราะออกไปเล่นท่ามกลางหิมะอยู่นานจนตัวสั่นไปหมด

แม้ฟินแลนด์จะไม่ได้ถือว่าเป็นสุดยอดของดินแดนอาหาร แต่ก็มีบางอย่างที่ฉันกินแล้วรู้สึกชอบ อย่างขนมปังใส่แยมเบอร์รี่รสเปรี้ยวหวาน ขนมปังที่ทำจากข้าวไรน์จะหยาบ ๆ หน่อยแต่ก็อร่อยไปอีกแบบ แต่ที่กินไม่ได้คือ ซาลมิอัคคิหรือลิโคไรซ์เค็มที่พวกชาวฟินนิชใส่ในทุกอย่างเหมือนที่คนญี่ปุ่นใส่ชาเขียวลงในขนมส่วนมากของญี่ปุ่น รวมถึงของหน้าตาประหลาดที่กินเข้าไปแล้วแทบอยากจะคายออกมาทันที คาบุรากิมองฉันที่ลองกินอาหารพื้นถิ่นด้วยสีหน้ารังเกียจ ก่อนจะลงมือกินสเต็กเนื้อกวางเรนเดียร์ของเขาโดยไม่ยอมแบ่งให้ฉันเลยแม้แต่คำเดียว

ไฮไลท์สำคัญของการมาฟินแลนด์ของคาบุรากิอาจจะเป็นการเล่นสกี แต่สำหรับฉันคือการนอนในบ้านบับเบิ้ลที่เป็นโดมกระจกขนาดใหญ่ ทำให้สามารถเห็นดวงดาวบนท้องฟ้าและแสงออโรร่าได้โดยไม่ต้องทนหนาวสั่นท่ามกลางอุณหภูมิติดลบด้านนอก

ห้องของพวกเราคือโดมขนาดใหญ่ที่เป็นแบบสตูดิโอ ประกอบด้วยห้องนั่งเล่น ห้องน้ำ และเตียงสองชั้น คาบุรากิผู้ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็เป็นเด็กเสมอจองเตียงชั้นบน ส่วนฉันที่ขี้เกียจปีนเตียงขึ้นไปนอนยอมรับเตียงชั้นล่างแต่โดยดี

ท่านแม่ผู้รักความโรแมนติกของฉันไม่ยอมปล่อยให้พวกเราพลาดโอกาสนี้ไปอย่างเด็ดขาด จึงลากฉันออกไปช้อปปิ้งของขวัญให้กับคาบุรากิ ฉันไม่เห็นว่าจะต้องเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์ตรงไหนเลยยื่นให้เขาทันทีที่พวกเรานั่งลงบนพรม

คาบุรากิทำหน้าเหมือนเด็กที่อวดการบ้านเลขของตัวเองต่อหน้าคุณครูแล้วยื่นกล่องของขวัญที่เขาเตรียมมาให้กับฉัน พอฉันถามว่าอะไรเขาก็ตอบตามว่าให้ลองทายดู ฉันมองห่อของขวัญที่แสนจะปราณีตแล้วบอกว่าจะแกะทีหลัง เขาก็บังคับให้ฉันแกะตอนนี้เลย

ฉันแกะกล่องที่แค่มองภายนอกก็รู้ว่าเป็นเครื่องประดับ พอแกะออกมาก็เป็นเครื่องประดับจริง ๆ มันเป็นต่างหูเพชร ไม่ใช่ของที่มีความรู้สึกอัดแน่นเหมือนอย่างสร้อยเพชรของวาคาบะจัง แต่ก็เป็นต่างหูเพชรน้ำงามราคาแพง

“เป็นไงบ้าง?” เขาถามอย่างพยายามกลบเกลื่อนสีหน้าตื่นเต้น พอฉันบอกว่าก็สวยดี เขาก็ทำหน้ามุ่ย แต่พอบอกว่ากำลังกลุ้มใจเรื่องไม่มีเครื่องประดับใส่ไปงานเลี้ยงค็อกเทลที่ท่านพี่เชิญไปพอดี และจะใส่คู่นี้ไป คาบุรากิก็ปิดสีหน้ากลั้นยิ้มไม่มิด

จะผ่านมากี่ปีตานี่ก็ยังไม่เคยโตเลยแฮะ

พอเขาเปิดของขวัญที่ฉันให้ก็เป็นนาฬิกา อันที่จริงคาบุรากิมีนาฬิกาเป็นร้อยเรือนได้ แต่เพราะว่าฉันไม่รู้จะซื้ออะไรให้เขา ท่านแม่ก็เลยแนะนำนาฬิกาให้

664 Nameless Fanboi Posted ID:0ialzzYIg6

คาบุรากิถอดนาฬิกาของตัวเองแล้วเปลี่ยนใส่นาฬิกาที่ฉันให้ทันที ช่างเป็นคนที่เคร่งมารยาทจริง ๆ พอการแลกของขวัญผ่านไป พวกเราก็เข้าสู่สภาวะความเงียบ แต่เงียบได้ไม่นานเท่าไหร่ คาบุรากิก็เริ่มพล่ามออกมาตามประสาคนขี้เหงา

เขาเริ่มเล่าให้ฟังว่าออโรร่าเกิดจากการชนกันระหว่างก๊าซในชั้นบรรยากาศกับอนุภาคไฟฟ้าที่ถูกปล่อยออกมาจากพลังงานแสงอาทิตย์ โดยสีของแสงขึ้นอยู่กับชนิดของก๊าซในความสูงนั้น ๆ ฉันฟังเขาพล่ามศัพท์วิทยาศาสตร์ไปเรื่อย ๆ ฟังรู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง แต่ก็เพลินดี

หลังจากอรรถาธิบายเรื่องเกี่ยวกับแสงออโรร่า เขาก็เล่าเกี่ยวกับทางช้างเผือกและดวงดาวบนท้องฟ้า ศัพท์ที่ใช้ก็เริ่มจะยากและไม่คุ้นหูขึ้นเรื่อย ๆ แต่ฉันก็ปล่อยให้เขาเล่าอย่างที่เขาอยากจะพูด ดูเหมือนคาบุรากิจะเก็บกดมาก เขาเลยพูดยาวเหมือนเรานั่งดูสารคดีกันสองชั่วโมงเต็ม

พอเขาพูดจนเหนื่อย ฉันที่ง่วง ๆ กำลังจะหลับก็หาเรื่องพูดต่อ เพราะแสงเหนือบนฟ้ายังสวยอยู่ จึงไม่อยากเข้านอน

“นาย...เชื่อเรื่องโลกคู่ขนาน หรือการทะลุมิติอะไรแบบนี้ไหม?”

ฉันถามเล่น ๆ แต่คาบุรากิตอบจริงจัง

ทั้ง ๆ ที่คิดว่าคาบุรากิผู้ชื่นชอบในวิทยาศาสตร์จะบอกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องแฟนตาซีไร้สาระ เขากลับเล่าให้ฟังว่ามีนักปรัชญาและนักฟิสิกส์หลายคนเชื่อในเอกภพคู่ขนานเช่นกัน ซ้ำยังพูดถึงทฤษฎีต่าง ๆ ของจักรวาลวิทยาอีก เขาเล่าให้ฟังถึงทฤษฎีสตริงก์ที่ฉันฟังไม่เข้าใจ ฉันก็พยายามสรุป ๆ ว่าเขาเชื่อว่าในโลกนี้มีโลกคู่ขนาน

“ในจักรวาลมีอยู่กาแล็คซี่อยู่หลายแสนล้านกาแล็คซี่ ในกาแล็คซี่เองก็มีระบบดาวอยู่หลายระบบ เรายังสำรวจไปได้แค่ดาวเคราะเพื่อนบ้านไม่กี่ดวงเอง ฉันไม่เชื่อหรอกว่าในจักรวาลนี้จะไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นอีก อาจจะมีโลกคู่ขนานที่เกิดจากการตัดสินใจที่แตกต่างกันออกไปก็ได้”

ฉันฟังเขาแล้วก็คิดในใจว่าที่เขาพูดถึงจะฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่ก็น่าจะเป็นจริง ไม่อย่างนั้นฉันคงจะไม่ทะลุมิติมาเป็นคิโชวอิน เรย์กะ ไม่แน่ว่าในโลกอื่น ๆ อาจจะมีคิโชวอิน เรย์กะ ที่เป็นนางร้ายเหมือนในการ์ตูนก็ได้

“ถ้าสมมติว่าฉันทะลุมิติมา นายจะจับฉันส่งนาซ่าหรืออะไรไหม” ฉันถามเขาเล่น ๆ แต่แอบไว้ท่าทีเพราะกลัวเขาทำอย่างนั้นจริง ๆ

คาบุรากิส่ายหน้า ฉันเลยถามเขาว่าทำไม ถ้าเขาจับคนที่ทะลุมิติไปศึกษาได้ ก็คงจะมีชื่อเสียงโด่งดัง หรืออย่างน้อยก็ได้ตังค์เยอะมาก

“เพราะเธอเป็นเพื่อนฉัน”

ฉันฟังคำตอบนั้นแล้วก็รู้สึกตื้อ ๆ ในอก

ถึงแม้ว่าคาบุรากิจะเป็นคนบ้า ๆ จริงจังกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง แล้วก็ปากเสียไปซักหน่อย แต่เขาก็เป็นเพื่อนที่ดี

ในคืนนั้นฉันไม่ได้บอกว่าเขาเป็นเพื่อนของฉันเหมือนกัน แต่ต่างหูที่เขาให้มา ฉันเก็บมันเอาไว้ในกล่องเครื่องประดับรวมกับเครื่องประดับที่ฉันรักที่สุด

จบ

665 Nameless Fanboi Posted ID:rzDz84VYE6

H -h.pylori จองงงง

666 Nameless Fanboi Posted ID:O8Hj9uwd+l

ไม่ทันอีกแล้วว 5555555

ต่อไปตัว i กูต้องทันให้ได้้

667 Nameless Fanboi Posted ID:0ialzzYIg6

โม่งฟิค: มีใครแอบสังเกตบ้างว่าหลังแต่งงานมา 1 ปี คำสุภาพของท่านเรย์กะเริ่มจะหายไปแล้วในตอนง่วง แต่จนแล้วจนรอด ก็ยังไม่เรียกชื่อจริง =_=;;; ความเป็นเฟรนด์โซนหนาแน่นมากคู่นี้

668 Nameless Fanboi Posted ID:aluFtCHOoS

>>667 มึงขยันมากค่ะ ไปโด๊ปมาจากไหนคะ เคยปั่นฟิคช่วงยังพีคๆ กูยังสปีดไม่ได้เท่านี้เลย 555555

669 Nameless Fanboi Posted ID:0ialzzYIg6

>>668 วันนี้กูว่าง ไม่ต้องทำงาน พรุ่งนี้ทำงาน ฮือออออ

670 Nameless Fanboi Posted ID:0ialzzYIg6

>>665 โอเค H = H.pylori

671 Nameless Fanboi Posted ID:hGN/sWzWKK

>>669 งั้นคืนนี้ปั่นให้ถึง Z มั้ย / ล้อเล่นน๊า ~~~

672 Nameless Fanboi Posted ID:hGN/sWzWKK

>>670 เอ่อ เอาจริงเหรอ H.pylori น่ะ มาคำนี้เดาพล็อตไม่ออกเลย

673 Nameless Fanboi Posted ID:+xP.b+S9K4

H Hanabi - v -

674 Nameless Fanboi Posted ID:+xP.b+S9K4

>>664 หัวใจได้รับการฮีลลิ่ง อะเฮื้อออ

675 Nameless Fanboi Posted ID:RWRaqlES08

ขอบคุณสำหรับฟิคเชื้อไพโรไลอินค่ะ

676 Nameless Fanboi Posted ID:LICna9gwqP

ถึงขนาดต้องมีฟิคเชื้อไพโรไลอินแล้วหรอเนี่ย...

677 Nameless Fanboi Posted ID:LICna9gwqP

H ต้อง Healing!!!!

678 Nameless Fanboi Posted ID:+xP.b+S9K4

H ต้อง Harem ฮุฮุ

679 Nameless Fanboi Posted ID:g1PNV3SeFU

>>663 >>664 ดูแล้วคาบุรากิรักเรย์กะแล้วสินะ กูว่าใช่ ! กูไม่ได้มโนไปเอง ความรู้สึกมันแรง เซ้นต์มันฟ้อง ขอบคุณสำหรับโม่งฟิคมาก ฮรืออ

680 Nameless Fanboi Posted ID:D7wk2roNSC

>>663 >>664 โม่งฟิคมึงโด๊ป(กัญ)ชามาหนักมาก กูรักความสร้างสรรค์เหมือนท่านฮิสิงมึงมาก เขียนได้โคตรดี ขอบคุณมึงมาก จุ๊บที ส่วนฟิค ทำไมพอผ่านไป1ปีมันดูหวานขึ้นล่ะ กูคิดไปเองใช่มั้ยยยยย ทำไมมีออร่าคู่รักแล้วล่ะะะ กูรู้สึกฮีลลิ่ง เริ่มเชียร์คู่นี้แล้ววว

681 Nameless Fanboi Posted ID:0ialzzYIg6

H - H.pylori

“เป็นอะไรน่ะ คิโชวอิน ทำหน้าน่าเกลียดเชียว” คาบุรากิทักขึ้นมาอย่างไม่ไว้หน้าฉันเลยซักนิด

ฉันพยายามสูดหายใจลึก ๆ หลายครั้ง “ป...ปวดท้องนิดหน่อยค่ะ”

“ติดเชื้อเฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร อีกแล้วเหรอ เธอนี่ชอบกินอะไรซี้ซั้ว ไปเก็บของตกข้างทางมากินรึเปล่าน่ะ” คาบุรากิพูดจาเสียหายเหมือนฉันเป็นเด็กอดอยากในเอธิโอเปีย ฉันมองเขาตาขวางเพราะรู้สึกอารมณ์ไม่ดีเท่าไหร่ มาเที่ยวประเทศไทยแดนของกินแท้ ๆ แต่กลับปวดท้องในมื้อกลางวันทั้ง ๆ ที่สั่งอาหารมาเต็มโต๊ะซะนี่

“ม...ไม่ได้ติดเชื้อแปลก ๆ นั่นซะหน่อยค่ะ“ ฉันนึกถึงฝันร้ายที่โดนล้อว่าเป็นไพโลไรอินขึ้นมา ถึงจะติดเชื้อจริง ๆ ก็จะไม่บอกให้คาบุรากิรู้เป็นอันขาด ความรู้สึกปวดจุกพุ่งขึ้นมาอีกระลอก ฉันเลยขอตัวไปเข้าห้องน้ำ

พอนั่งชักโครกลงไปเท่านั้นแหล่ะ ฉันก็รู้ว่าสาเหตุของการปวดท้องครั้งนี้คืออะไร

ประจำเดือนสีแดงสดทะลักพรวดออกมาราวกับฉันโดนแทง ฉันก้มลงมองในโถอย่างตกตะลึง อะไรกัน ยังไม่ถึงวันประจำเดือนมาซักหน่อย ทำไมจู่ ๆ ถึงได้มาก่อนกำหนดตั้ง 5 วันนะ หรือเป็นเพราะว่ากินของที่มีเครื่องเทศเยอะไปหน่อย ประจำเดือนก็เลยมาไม่ปกติ

ฉันถอนหายใจ แอบโล่งใจว่ายังโชคดีที่ประจำเดือนไม่ได้มาตอนนั่งตรงเก้าอี้ วันนี้อากาศค่อนข้างร้อน ฉันเลยใส่ชุดเดรสสีขาว ขืนประจำเดือนเปื้อน คงเห็นรอยเลือดชัดเจนจนไม่รู้จะชัดยังไง

หากทว่าความโล่งใจของฉันผ่านไปได้ไม่เท่าไหร่ ฉันก็ตัวแข็งค้าง

เพราะว่าโดยปกติ ประจำเดือนของฉันมาตรงเวลาเสมอ ดังนั้นในเวลาอื่นเลยไม่เคยพกผ้าอนามัยฉุกเฉินเอาไว้

ในตอนนี้พวกเราออกมาทานข้าวในร้านอาหาร แม้จะใช้ทิชชู่รองเอาไว้ แต่เป็นไปไม่ได้เลยที่จะสามารถทนได้จนกว่าฉันจะกลับถึงโรงแรม อย่าได้พูดถึงเรื่องที่ฉันเดินออกไปซื้อผ้าอนามัยที่ร้านสะดวกซื้อเลย แค่เดินออกไปไม่พ้นประตูห้องน้ำ เลือดก็น่าจะซึมเปื้อนกระโปรงแล้ว

ฉันนั่งเครียดอยู่กว่ายี่สิบนาทีจนกระทั่งไลน์เด้งขึ้นมา คาบุรากิถามฉันว่าฉันอาเจียนเป็นน้ำย่อยออกมาไหม หรืออาเจียนออกมาเป็นเลือดแล้ว ฉันนั่งจ้องข้อความนั้นอยู่นาน ก่อนจะกล้ำกลืนฝืนทน ท่องว่าถึงคาบุรากิจะเป็นแค่สามีในนาม แต่เขาก็เป็นสามีของฉัน

เพราะฉะนั้น หน้าที่ช่วยเหลือภรรยาตอนเดือดร้อน ก็ต้องเป็นของเขา

ทันทีที่ตัดสินใจแบบนั้น ฉันก็พิมพ์ไลน์ขอร้องให้เขาออกไปซื้อผ้าอนามัยมาให้

682 Nameless Fanboi Posted ID:0ialzzYIg6

คาบุรากิเงียบหายไปเกือบครึ่งชั่วโมงจนฉันคิดไปสารพัดแล้วว่าเขาทิ้งฉันเอาไว้ในร้านอาหาร แล้วโบกแท็กซี่กลับโรงแรมคนเดียว แต่ตอนที่ฉันกำลังจะร้องไห้อยู่ร่ำ ๆ ไลน์ก็เด้งขึ้นมา

‘อยู่ห้องไหน’

ฉันพิมพ์ตอบกลับไปว่าห้องท้ายสุด ไม่นานนักรองเท้าหนังคู่หนึ่งก็มาหยุดอยู่ที่หน้าประตู แล้วกล่องผ้าอนามัยก็ถูกโยนเข้ามาเกือบหล่นใส่หัวฉัน

ฉันได้แต่แอบด่าเขาในใจ ทว่าชะงักไปเมื่อเห็นกล่องผ้าอนามัย

มันเป็นผ้าอนามัยแบบสอด

ฉันอึ้งไป ฉันเคยใช้แต่ผ้าอนามัยปกติ ไม่เคยใช้แบบสอดเลยซักครั้ง แต่จะบอกคาบุรากิแบบนั้นก็อายจนไม่รู้จะพูดยังไง หนำซ้ำคาบุรากิยังเดินออกไปจากห้องน้ำหญิงแล้วด้วย เลยหยิบกล่องผ้าอนามัยแบบสอดขึ้นมา แล้วลองพยายามใช้ดู

ได้ยินมาว่าพวกนักกีฬาหรือดาราเองก็ใช้กันออกบ่อย ฉันพยายามจะใช้สุดชีวิต แต่พยายามสอดยังไงก็สอดไม่เข้า ฉันมองผ้าอนามัยแบบสอดที่มีขนาดเท่ากับนิ้วชี้ แต่สั้นกว่าครึ่งนึงแล้วสงสัยว่าชาตินี้ฉันคงมีเซ็กส์ไม่ได้อย่างแน่นอน เพราะขนาดผ้าอนามัยอันจิ๋วเดียวยังสอดเข้าไปไม่ได้ แล้วประสาอะไรกับ...

สิบห้านาทีต่อมา ไลน์เด้งขึ้นมาอีกครั้ง เป็นคาบุรากิที่เร่งฉันให้รีบออกมา เพราะเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำหญิง แล้วคนมองกันใหญ่ แต่ฉันบอกว่าฉันยังไม่เสร็จธุระ

อีกสิบนาทีต่อมา คาบุรากิส่งไลน์มารัว ๆ ถามฉันว่าฉันยังมีชีวิตอยู่รึเปล่า ฉันเลยบอกให้เขาไปซื้อผ้าอนามัยแบบใหม่มา พร้อมกับส่งตัวอย่างให้เขาดูว่าฉันต้องการแบบไหน

ห้านาทีต่อมาแม่บ้านเคาะประตูห้องน้ำของฉัน พูดอะไรที่ฉันไม่เข้าใจเลยแม้แต่น้อย ฉันเลยบอกเป็นภาษาอังกฤษไปว่าฉันกำลังใช้อยู่

สิบนาทีต่อมาคาบุรากิบอกว่าแบบที่ฉันอยากได้ไม่มี เขาส่งรูปถ่ายมาให้ มันเป็นผ้าอนามัยยี่ห้ออื่น ฉันเลยบอกเขาว่าอันไหนก็ได้ เอามาซักอัน

อีกสิบห้านาที รองเท้าหนังปรากฏขึ้นหน้าห้องน้ำฉันอีกครั้ง พร้อมกับถุงพลาสติกที่เต็มไปด้วยผ้าอนามัยหย่อนลงมา บนชั้นวางของวางขายอะไร คาบุรากิซื้อมันมาทุกอย่าง ตั้งแต่แบบมีปีก ไม่มีปีก แบบกลางคืน แผ่นอนามัย ซื้อมันทุกยี่ห้อสิบกว่าแพ็คได้

ห้านาทีต่อมาฉันออกไปนอกห้องน้ำด้วยสีหน้าอายจนแทบไม่รู้จะอายยังไง ส่วนคาบุรากิเองก็หน้าแดงเช่นกัน

ห้านาทีต่อมา พวกเร็วเช็คบิลออกจากร้านนั้นโดยที่ฉันไม่ได้กินอะไรลงท้องเลยแม้แต่นิดเดียว ทว่าอย่างน้อย กระโปรงสีขาวของฉันก็อยู่รอดจนกระทั่งเข้าไปในโรงแรมได้อย่างปลอดภัย

จบ

683 Nameless Fanboi Posted ID:C0OFFo3/Al

H. Hurt

684 Nameless Fanboi Posted ID:C0OFFo3/Al

>>681-682 บากะรากิน่ารักจังวุ้ย /ทำหน้าคนที่เคยเจอเหตุการณ์แบบท่านเรย์กะแต่ไม่มีใครมาช่วย ...

685 Nameless Fanboi Posted ID:AueIoSQ1..

>>682 น้ำตาจิไหล ท่านเรย์ก่าาาา

686 Nameless Fanboi Posted ID:D7wk2roNSC

I - Injury >>681-682 น่ารักชิบหาย ทำไมอ่านแล้วกูต้องเขินตามวะะะะ

687 Nameless Fanboi Posted ID:CjhCC/NSHW

นี่กุห่างหายไปแค่8ชั่วโมง ฟิคโผล่มารัวๆแถมชาเลนจ์ตั้งชื่ออีกเรอะ นี่กุวาปหรือตายแล้วเกิดใหม่เนี่ย555555

688 Nameless Fanboi Posted ID:yvSLqH0CP1

>>686 I = Injury

689 Nameless Fanboi Posted ID:C0OFFo3/Al

อ่าว กูลืม H ไปแล้วนี่หว่า...

690 Nameless Fanboi Posted ID:/+/TLHoe8t

กุไล่อ่านแล้ว พนมมือชาบูโม่งฟิค มึงปั่นเร็วมากกกกฟฟฟฟฟฟฟฟฟ ตอนH นี่กูคิดสภาพคาบุไปกว้านซื้อผอนมทั้งเชลฟ์แล้วไปจ่ายตังออกเลย555555555
ปล.เคยมีปสกใกล้เคียง ขอจากเพื่อนหน้าห้องน้ำก็ไม่มีจนห้องข้างๆยื่นมาให้ อายยยยยสัสสสส;//////;

691 Nameless Fanboi Posted ID:EgI7q9U0Hv

>>681 >>682 โคตรน่ารัก กูไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว @#%^* !!!

692 Nameless Fanboi Posted ID:78lGSKvRMY

น่ารักเกินไปแล้ววววว งุ้ยยยยยยยย

//กูยอมแพ้กับการมาช่วงชิงชื่อตอนเเล้ว--- 😂

693 Nameless Fanboi Posted ID:aluFtCHOoS

>>690 กูเคยเจอเหตุการณ์นี้ตอนไปเที่ยวห้างกับแฟน แต่กูระบุยี่ห้อและแบบให้มันไปซื้อในซุปเปอร์มาร์เก็ตข้างล่าง ซื้อเสร็จมันให้แม่บ้านที่ถูพื้นแถวๆนั้นเอาเข้ามาให้น่ะ

694 Nameless Fanboi Posted ID:iDL832KOa5

>>692 มึงก็คิดศัพท์Jไว้ก่อนเลย โม่งฟิคลงปุ๊ปแปะปั๊ปถถถ

695 Nameless Fanboi Posted ID:78lGSKvRMY

>>694 กูคิดคำได้ แต่ความไวกูไม่ได้ 55555555

696 Nameless Fanboi Posted ID:yvSLqH0CP1

I - Injury

มันเป็นวันเสาร์ที่ฉันรอคอยตั้งแต่คืนวันศุกร์ เฝ้าคิดอย่างตื่นเต้นว่าขนมสำหรับชีทเดย์ในวันพรุ่งนี้จะกินแพนเค้กใส่ริคอตต้าชีสหรือเป็นโมจิแพนเค้กที่ร้าน MICASADECO&cafe ดี อันที่จริงแพนเค้กแกรโนล่าเองก็น่ากินเหมือนกัน ฉันพิมพ์ไลน์ไปหาคาบุรากิที่นอนอยู่ห้องข้าง ๆ พยายามคะยั้นคะยอให้เขาเลือกเมนูที่ฉันอยากกินเพราะจะได้แบ่งกันชิม คาบุรากิพิมพ์ไลน์ตอบกลับมาบอกว่าเขานอนแล้ว แล้วสั่งให้ฉันเข้านอนเหมือนกัน

ฉันมองนาฬิกาก็พบว่ามันเป็นเวลาตีหนึ่งกว่า ฉันวางโทรศัพท์ที่ข้างหัวเตียงแล้วหลับตาลงนอนเพราะกลัวว่าพรุ่งนี้จะมีรอยคล้ำใต้ตา แต่นอนไปได้ไม่ทันง่วง ไลน์ก็เด้งขึ้นมา

คาบุรากิส่งรีวิวร้านราเมนที่ฮาราจูกุมา แล้วชวนฉันไปกินร้านนี้ก่อนไปร้านแพนเค้ก ฉันหัวเราะ พิมพ์ไลน์ตอบกลับไปว่าถ้าเขาเลือกแพนเค้กริคคอตต้าชีส ฉันก็ตกลงที่จะไปร้านนั้น

วันเสาร์นั้นเป็นฤดูใบไม้ผลิที่อากาศอบอุ่น ฉันเลือกเดรสสีขาวของซิมเมอร์แมนน์กับสเว็ตเตอร์สีชมพูของเบอร์เบอร์รี่ พอใส่คู่กับรองเท้ากีฬาสีขาวเรียบ ๆ ของอดิดาสแล้วก็ดูน่ารักคล่องตัวดี ส่วนคาบุรากิที่ครึ่งนึงของตู้เสื้อผ้ายกมาจากรันเวย์ของอาร์มานี่ ใส่เสื้อเชิ้ต แจ็กเก็ต กับแสล็คสบาย ๆ แล้วก็รองเท้ากีฬาของไนกี้ ทำให้พวกเราเหมือนเป็นเพื่อนร่วมมหาลัยมากกว่าคู่สามีภรรยาวัยทำงาน

หลังจากกินราเมน เดินย่อยซักพัก ก็ไปกินขนมที่คาเฟ่ต่อ ฉันกินแพนเค้กซูเฟล่แล้วรู้สึกเหมือนตัวเองขึ้นสวรรค์ เนื้อแป้งที่ฟูนุ่มกับริคอตต้าชีสเค็ม ๆ เข้ากันได้ดีมาก ส่วนอีกจานเป็นแพนเค้กโมจิชาเขียว ที่เนื้อหยุ่น ๆ รสชาเขียวขม ๆ ไม่เลี่ยนมาก

หลังจากกินอาหารมื้อชีทเดย์ พวกเราก็เดินดูของในซุปเปอร์มาร์เก็ต คาบุรากิยังคงติดนิสัยซื้อของแปลก ๆ ตอนจ่ายเงิน เขาไม่ยอมให้ฉันเป็นคนใส่ของลงถุงเช่นเคย เนื่องจากฉันชอบที่จะยัดลวก ๆ ส่วนเขาทนไม่ได้เลยซักนิดถ้าของไม่เป็นระเบียบ

ตอนที่พวกเรากำลังจะเรียกรถที่บ้านมารับเพราะฉันรู้สึกเมื่อยขาเดินไม่ไหวแล้ว คาบุรากิก็หยุดเดิน เขารับโทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงเครียด

ฉันรอให้เขาวางโทรศัพท์แล้วจึงถามว่างานมีปัญหาอะไรรึเปล่า แต่คาบุรากิตอบกลับมาว่ารถที่ครอบครัวเอ็นโจนั่งประสบอุบัติเหตุ

คาบุรากิพาฉันไปโรงพยาบาลด้วยวิธีไหนฉันก็จำไม่ได้ รู้สึกเหมือนหัวถูกกระแทกด้วยของแข็งเพราะมึนงงไปหมด ฉันได้สติอีกทีก็ตอนที่คาบุรากิคุยกับหมอ หมอบอกว่าคุณยุยโกะไม่เป็นอะไรมาก แค่ช็อคและบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนเอ็นโจซี่โครงหักทิ่มปอด ตอนนี้กำลังอยู่ในห้องฉุกเฉิน

พวกเรารออยู่ที่บริเวณด้านนอกห้องผ่าตัด ฉันตัวสั่นทำอะไรไม่ถูก ถ้าไม่ได้คาบุรากิกอดไว้คงร่วงลงไปนั่งกองกับพื้น ส่วนคาบุรากิเองก็มือเย็นมากเช่นกัน พวกเรานั่งนิ่ง ๆ ราวกับว่าถ้าขยับจะเป็นลางร้าย รอคอยประตูห้องผ่าตัดที่เปิดออก

ฉันรู้สึกกลัว กลัวอย่างที่ไม่เคยกลัวมาก่อน จำไม่ได้ว่าตัวเองร้องไห้ตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้ตัวอีกทีก็กอดคาบุรากิไว้แน่นแล้ว ฉันสะอื้น ทุกสิ่งที่เคยเก็บไว้ในอกพรั่งพรูออกมา

697 Nameless Fanboi Posted ID:yvSLqH0CP1

“ทั้งที่ ๆ ฉันคิดว่าถ้าตอนนั้นสารภาพรักออกไป—“

“ถ้าฉันมีความกล้าที่จะต่อสู้เพื่อความรักของตัวเองเหมือนนาย—-“

“แค่คิดว่าโลกนี้ไม่มีเขาอยู่ฉันก็รู้สึกเหมือนมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกไม่—-“

ความในใจที่ไม่เคยบอกใครมาก่อนแม้กระทั่งเซริกะจัง คิคุโนะจัง ซากุระโกะ หรือวาคาบะจัง ถูกสารภาพไปต่อหน้าคาบุรากิทั้งหมด

ฉันรักเอ็นโจ ฉันรักเขา

ถึงแม้ว่าเขาจะแต่งงานแล้วฉันก็ยังเรารัก

รัก...แม้กระทั่งถึงตอนนี้ ตอนที่เขามีความสุขกับคุณยุยโกะ ผู้หญิงที่เขารัก

คาบุรากิไม่ได้พูดอะไร เขากอดฉันไว้แน่น พวกเรากอดกันอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งฉันไม่มีอะไรจะพูด ไม่มีน้ำตาจะร้องไห้ ประตูห้องก็เปิดออกมา

พวกเรารีบเข้าไปถามอาการหมอกับพยาบาลที่เดินออกมา หมอบอกว่าเอ็นโจพ้นขีดอันตรายแล้ว พวกเราถอนหายใจเฮือก รอยยิ้มแรกตั้งแต่รู้ข่าวผุดขึ้นมาในที่สุด

พ่อกับแม่ของเอ็นโจที่ไปต่างจังหวัดรีบมาดูอาการเอ็นโจทันที พวกเขาไม่ได้ส่งข่าวให้กับยูกิโนะคุงที่ไปรักษาตัวที่ต่างประเทศเพราะกลัวว่ายูกิโนะคุงจะได้รับความกระทบกระเทือน

พวกเราได้รับอนุญาตให้เข้าไปเยี่ยมเอ็นโจแค่แว๊บเดียวเท่านั้น กว่าจะกลับถึงบ้านก็เกือบตีห้า คาบุรากิต้องรีบแต่งตัวเพราะมีขึ้นเครื่องตอนเก้าโมงเช้า ส่วนฉันได้แต่ช่วยเขาจัดกระเป๋าเดินทางเพราะไม่ได้ไปกับเขาด้วย

คาบุรากิไปทริปสั้น ๆ ที่ฮอกไกโด เขาบอกฉันว่าฝากดูอาการเอ็นโจด้วย เขาจะรีบไปแล้วรีบกลับมาทันที คาบุรากิออกไปจากบ้านได้ไม่นาน ท่านพี่ก็มาหาฉันที่บ้าน เขาบอกว่าคาบุรากิโทรไปหาเขาแล้วบอกว่าฉันยังคงอยู่ในอาการช็อค เลยอยากให้มาดู

ในเช้าวันนั้นฉันนอนหนุนตักท่านพี่หลับไปในห้องนั่งเล่น รู้สึกเหนื่อยจนเหมือนร่างกายแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ

แต่โชคดีเหลือเกิน...ที่เขาไม่เป็นอะไร

จบ

698 Nameless Fanboi Posted ID:912YU5.Ulk

J John-bag -- กุขอโทษ (///_///) สำหรับใครไม่รู้ว่ามันแปลว่าอะไร มันแปลว่า ถุงยาง ..... ตอนแรกกุกะจะเอา jockey 5555

699 Nameless Fanboi Posted ID:yvSLqH0CP1

>>698 โอเค J = John-bag

กูไปกินข้าวอาบน้ำแพรพ เดี๋ยวกลับมาแต่งต่อแน่นอน

700 Nameless Fanboi Posted ID:912YU5.Ulk

>>699 กูขอโทษ (กูคนรีเควส>>698) เหมือนกูคิลมู้ดความดราม่า รีบโพสก่อนอ่านอีกแล้ว 555 กูไม่คิดว่า I มันจะดราม่าขนาดนี้

701 Nameless Fanboi Posted ID:C0OFFo3/Al

>>699 เดี๊ยว---- มึงเอาจริงดิ--

702 Nameless Fanboi Posted ID:M2Q.n2u4tR

กูเอา กูชอบ 555555

703 Nameless Fanboi Posted ID:D7wk2roNSC

>>696-697 แม่ง ดราม่าสมหัวข้อ กูสงสารท่านเรย์กะะะ รีบๆตัดใจละมองคนใกล้ตัวมั้ยท่าน แค่กๆ
>>699 มึงแน่มากอ่ะ กูชอบ 5555 ขอ K-Kiss ต่อเลยได้มะ เอารวมกันเลย

704 Nameless Fanboi Posted ID:4rA6QBucH/

อยากได้ K-Kids มากกว่าอ่าาาา

705 Nameless Fanboi Posted ID:N+mUqw0cB+

>>697 กรี๊ดดดดด ดราม่า แต่กูชอบนะเพราะหน่วงดี อ่านตอนนี้แอบนึกถึงฟิคเอ็นโจเลี้ยงต้อยที่เอ็นโจนอนโคม่าอยู่โรงบาลเลย และฟิคนั้นก็ยังไม่มาต่อ//ซับน้ำตา

706 Nameless Fanboi Posted ID:C0OFFo3/Al

สัมผัสได้ว่าไม่กามก็ฮาสุดๆแน่

707 Nameless Fanboi Posted ID:Up3.y1IwnW

ถถถถถ ขยันปั่นโครต

708 Nameless Fanboi Posted ID:vyD0oytQwy

เห็นความดราม่าตอนล่าสุดแล้ว....พวกมึงชอบแนวตัดฟิลด้วยความฮากันสินะถถถถถ

709 Nameless Fanboi Posted ID:vyD0oytQwy

>>703-704 พวกมึงก็ไปแย่งชิงกันตอนลงJครบไง555

710 Nameless Fanboi Posted ID:XT4YM4uqap

ยังไงก็ตาม กูจอง S-Shusuke //กูรีบบบ

711 Nameless Fanboi Posted ID:aluFtCHOoS

>>710 มึงต้องถ่างตารีเฟรชทั้งคืนห้ามนอนแล้วล่ะ เพราะโม่งฟิคจะลงเรื่อยๆจนกว่าจะครบตัว z หรือจะต่อ ก-ฮ ไปเลยก็ดีนะ //อะไรนะ โม่งฟิคไม่ได้พูดเหรอ

712 Nameless Fanboi Posted ID:912YU5.Ulk

>>703 >>704 >>710
เอาตามที่โม่งฟิคว่าเนอะ หลังลงหัวข้ออักษรนั้นๆ เสร็จ ก็ค่อยชิงตัวถัดไป
ไม่งั้นถ้าจองล่วงหน้ารัวๆ ได้ โม่งฟิคจะปั่นไม่ทัน + คนที่เขารอชิงอยู่ เฝ้าอยู่ตลอดจะเสียเปรียบอ่ะ TwT

713 Nameless Fanboi Posted ID:tGne9UFcT1

>>712 กู >>703 กูขอโทษ กูแค่พิมพ์เล่นๆน่ะ ถ้าแย่งได้เดี๋ยวกูค่อยแย่งนะ แต่ถ้าไม่ได้กูก็ไม่ซีหรอก กูอ่านได้หมดขอแค่เพื่อนโม่งลง

714 Nameless Fanboi Posted ID:UK5sTynGcl

>>710 งั้นกูก็ M - Masaya 55555

715 Nameless Fanboi Posted ID:UK5sTynGcl

>>714 กูพิมพ์ขำๆ นะ ไม่ได้จะแย่งหรือจองอะไร เพราะยังไงก็มาเสนอชื่อไม่เคยทัน ถถถถ

716 Nameless Fanboi Posted ID:C0OFFo3/Al

อยากอ่าน R - Raika จัง

717 Nameless Fanboi Posted ID:aluFtCHOoS

>>716 ไลก้า... หมาอวกาศรัสเซียสินะ

718 Nameless Fanboi Posted ID:912YU5.Ulk

>>717 ทำร้ายยยยย 5555555555555

719 Nameless Fanboi Posted ID:C0OFFo3/Al

>>717 ท่านเรย์กะสิ😂😂😂😂

720 Nameless Fanboi Posted ID:vyD0oytQwy

>>717 บ้าจริง ดูน่าสนจนกูอยากเอาหัวข้อนี้ไปช่วยแข่งด้วยถถถถถ

721 Nameless Fanboi Posted ID:eHyMB3xDFb

งั้นกุจอง Z-zephyr

722 Nameless Fanboi Posted ID:78lGSKvRMY

>>717 ร้ายย 555555555 รอช่วงชิงตัว l เลยมึง
แต่ถ้าได้น้องหมา laika โม่งฟิคจะแต่งไงวะ เพื่อนหมาของเบียทันหรอ---

723 Nameless Fanboi Posted ID:78lGSKvRMY

เออใช่ มีคนเอาฟิค a-z(?) ไปลง doc ยัง

724 Nameless Fanboi Posted ID:912YU5.Ulk

>>723 ยังเลย เดี๋ยวกูเอาลงให้ละกัน ระหว่างรอโม่งฟิคมาต่อ ว่างง

725 Nameless Fanboi Posted ID:aluFtCHOoS

เออใช่ โม่งฟิคที่มาลงๆฟิคไว้อย่าลืมเข้าไปอัพในสารบัญกันเน้อ เพื่อความสะดวกในการหาอ่านย้อนหลัง ใช้ไม่เป็นวิธีใช้อยู่หัวกระทู้จ้า

726 Nameless Fanboi Posted ID:912YU5.Ulk

กูเอาลงสารบัญให้เรียบร้อยแล้วนะ แต่กูจัดหน้าสารบัญไม่เป็น หน้ามันเหลือที่ว่างอีกเยอะ แต่ไม่รู้ทำไมมันตัดไปขึ้นหน้าใหม่อ่ะ ; v ; ใครจัดเป็นไปแก้ให้กุที

727 Nameless Fanboi Posted ID:m0JJ8XqeKc

J - John-bag

วันต่อมาพวกเราก็ได้รับแจ้งว่าเอ็นโจฟื้นขึ้นมาในช่วงสั้น ๆ และวันมะรืนหลังจากที่เขาประสบอุบัติเหตุ เขาก็ฟื้นขึ้นมา แต่เนื่องจากหมอบอกว่าเขาต้องการการพักผ่อน เราจึงไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าเยี่ยม

ถ้าเป็นคาบุรากิ ก็คงใช้เส้นสายเข้าไปดูอาการของเอ็นโจ แต่ฉันที่เป็นเพื่อนผู้หญิง เป็นภรรยาของเพื่อนเขา การกระทำแบบนั้นไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง แม้ว่าฉันจะอยากเข้าไปดูอาการเขามากเพียงใด ก็ได้แต่บอกตัวเองว่าถึงไปก็ช่วยอะไรเขาไม่ได้ ซ้ำยังทำให้เกิดข่าวลือเสียหายขึ้น ซึ่งไม่ดีต่อบ้านคาบุรากิ คิโชวอิน หรือเอ็นโจเลยซักนิด

ท่านพี่เฝ้ามองฉันด้วยความเป็นห่วง ในตอนที่เขาไม่ว่าง เขาก็ให้ท่านแม่มาอยู่เป็นเพื่อนฉัน บางทีก็พาท่านอิมาริมาด้วย ท่านอิมาริซื้อของขวัญมาฝากฉันเยอะแยะไปหมด มีทั้งขนมในขวดแก้วสวย ๆ แล้วก็เครื่องประดับชิ้นเล็กชิ้นน้อย เขาบอกกับฉันว่าถึงใบหน้าเศร้าสร้อยของฉันจะงดงามเพียงใด แต่ชอบฉันในตอนยิ้มมากกว่า

ฉันยิ้มตอบ แม้ว่าจะยิ้มได้ไม่เต็มที่ แต่ก็รู้สึกว่าความอึดอัดในอกคลายลงบ้าง ท่านพี่มองท่านอิมาริด้วยสีหน้าตึง ๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

วันต่อมาคาบุรากิก็กลับมาจากฮอกไกโด

พวกเราไปเยี่ยมเอ็นโจด้วยกัน พอมองภาพคุณยุยโกะที่ลำพังตัวเองก็หน้าซีดพออยู่แล้ว แต่ก็ยังมาเฝ้าข้างเตียงเอ็นโจอีก หัวใจของฉันก็รู้สึกหน่วง ๆ ฉันเข้าไปถามอาการของเธอ คุณยุยโกะเองก็เหมือนผ่านการร้องไห้มาหลายครั้ง บอกซ้ำ ๆ ว่าถ้าเอ็นโจไม่เอาตัวเข้ามากันไว้ เธอคงตายไปแล้ว เพราะรถที่พุ่งประสานงาเข้ามาพุ่งมาทางเธอ

หนึ่งเดือนต่อมา เอ็นโจก็ออกจากโรงพยาบาล ในระหว่างนั้นฉันไปเยี่ยมเขาอีกสองสามครั้ง แต่ไม่ได้รู้สึกเหมือนกับว่าถ้าเขาตายไปฉันก็อยากจะตายตามไปด้วยอีกแล้ว ภาพของสองสามีภรรยาเอ็นโจที่ประคองกันทำให้ฉันรู้สึกเศร้าน้อย ๆ เท่านั้น

คาบุรากิไปกลับฮอกไกโดอีกหลายรอบ ฉันเองก็งานยุ่งเลยไม่ได้ไปกับเขา และสองเดือนหลังจากที่เอ็นโจประสบอุบัติเหตุ ฉันก็พบกับปัญหาใหญ่อีกปัญหาหนึ่ง

ฉันเจอถุงยางอนามัยในกระเป๋าเดินทางของคาบุรากิ

กล่องถุงยางอนามัยขนาดฟรีไซส์ชนิดบางพิเศษมีปุ่มขรุขระและเจลหล่อลื่นในตัวคือคุณสมบัติที่เขียนอยู่บนกล่องนั้น ฉันอ่านทวนซ้ำไปมาเผื่อจะเข้าในผิดคิดว่าลูกอมเป็นถุงยางอนามัย

แต่ไม่ผิดแน่ นี่มัน...ถุงยางอนามัยชัด ๆ

แม้ว่าจะยังไม่ได้เปิดกล่อง แต่ถุงยางอนามัยก็คือถุงยางอนามัย และคนที่พกถุงยางอนามัยไว้ในกระเป๋าเดินทางก็หมายความว่าเป็นคนที่คิดจะมีเพศสัมพันธ์ในระหว่างที่เขาออกทริปไปเดินทาง

เพราะว่าฉันเป็นผู้ใหญ่ที่มีเหตุผลแล้ว ซ้ำยังไม่ได้เป็นอะไรกับคาบุรากิอีก ดังนั้นฉันเลยทำในสิ่งที่ผู้ใหญ่ทั่วไปทำกันเมื่อตัวเองเป็นภรรยาและเจอกล่องถุงยางอนามัยในกระเป๋าเดินทางของสามี

นั่นคือการตั้งกระทู้ถามในอินเตอร์เน็ต

728 Nameless Fanboi Posted ID:m0JJ8XqeKc

/จขกท: (รอคำตอบ) ฉันเจอกล่องถุงยางอนามัยในกระเป๋าเดินทางของสามี จะทำยังไงดีคะ?/

ไม่นานนัก ก็มีคนมาตอบกระทู้

/โยโกะ: เป็นถุงยางอนามัยของพวกคุณที่เขาลืมพกติดไปด้วยรึเปล่าคะ จขกท.ใจเย็น ๆ นะ/

คำตอบนี้ถ้าเป็นสามีภรรยาทั่วไปก็คงพอกล้อมแกล้มไปได้ แต่สำหรับฉันกับคาบุรากิแล้ว ความสัมพันธ์ของพวกเราใกล้เคียงกับคำว่า ‘เพื่อนสาว’ มากกว่าสามีภรรยาซะอีก เพราะงั้นอันนี้ผ่าน

/โอโนะ โทโมเอะ: เขาต้องแอบนอกใจคุณแน่ ๆ จ้างนักสืบตามสืบเลยค่ะ คุณจขกท. อย่ายอมให้สามีสวมเขาง่าย ๆ ถ้าสืบว่าเขานอกใจ ก็ฟ้องหย่าเรียกค่าเลี้ยงดูเลย/

แน่นอนว่าถ้าเขาทำแบบนั้นจริง ฉันมีสิทธิ์ฟ้องหย่าเขาได้ตามกฏหมาย แต่ว่าความเสียหายที่ตามมานั่นมากกว่าค่าเลี้ยงดูน่าจะหลายสิบหลายร้อยเท่า เพราะหมายความว่าความสัมพันธ์ทางด้านธุรกิจของคาบุรากิและคิโชวอินจะย่ำแย่ และอาจมีกิจการและธุรกิจหลายธุรกิจที่ต้องเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหัน อาจทำให้พนักงานหลายพันคนตกงานได้ เพราะงั้นอันนี้ผ่าน

/ซีนาดีน ซีดาน: เขาก็แค่พกเอาไว้เฉย ๆ น่ะ ไม่มีอะไรหรอก ถ้าพวกคุณยังมีความสัมพันธ์ที่ดีกันอยู่ ก็ไม่น่าเป็นห่วงอะไร ยกเว้นคุณแย่มาก ๆ เรื่องเซ็กส์ เขาอาจจะไปหาความสุขนอกบ้านก็ได้/

ฉันชะงัก อันที่จริงก็พอเข้าใจอยู่ว่าคาบุรากิเป็นผู้ชาย เพราะงั้นไม่แปลกที่เขาอาจจะอยากมีอืมม์... ฉันแอบรู้สึกเห็นใจคาบุรากิขึ้นมา เพราะยังจำที่เขาพูดตอนวันแต่งงานได้ว่า เขาจะไม่ยอมนอกใจฉันเด็ดขาด แต่ไม่ได้นอกใจไม่ได้หมายความว่าจะไม่หาเศษหาเลยนี่ สมัยคุณพ่อของฉันเองก็ชอบไปร้านคาราโอเกะเหมือนกัน ผู้ชายน่ะร่างกายกับจิตใจแยกกัน เพราะงั้นอาจจะไม่ได้นอกใจ แต่นอกกายเฉย ๆ โอเค อันนี้อาจจะมีเค้า

/นัตสึมิจังผู้น่ารัก: เขาต้องนอกใจแน่นอนค่ะ ไม่งั้นจะพกถุงยางติดกระเป๋าเดินทางไว้ทำไม มีพิรุธชัด ๆ!/

ฉันมองคอมเมนต์อันมากมายที่บอกว่าคาบุรากิต้องนอกใจฉันแน่ ๆ แม้ฉันจะคิดว่าคาบุรากิเป็นคนที่ไม่มีทางผิดคำพูดของตัวเองด้วยการไปมีคนรักเด็ดขาด แต่เขาอาจจะไปร้านอาบอบนวดก็ได้ ฉันเคยได้ยินว่าสำหรับผู้ชายแล้ว การไปร้านอาบอบนวดก็เหมือนผู้หญิงไปสปา ฉันมองถุงยางแล้วคิดในใจว่า อย่างน้อยคาบุรากิก็ยังรู้จักป้องกันตัวเอง ถึงแม้ว่าฉันกับเขาจะไม่ได้มีอะไรกัน แต่ถ้าต้องมีสามีที่เป็นเอดส์ ก็คงจะรู้สึกแปลก ๆ

ฉันเก็บถุงยางไว้ในช่องใส่ของที่เดิม ก่อนจะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น

สองวันต่อมา ฉันที่หวาดระแวงว่าตัวเองอาจจะไปขวางทางหาความสุขของใคร และอาจถูกฆาตกรรมอำพรางหรือโดนปักธงมรณะโดยไม่รู้ตัว ตัดสินใจคุยกับคาบุรากิตรง ๆ

ในขณะที่คาบุรากิกำลังคีบไก่ทอดเข้าปาก ฉันก็โพล่งออกไปว่าฉันสนับสนุนให้เขาหาเศษหาเลยซื้อนอกนอกบ้านได้ตราบเท่าที่เขารู้จักป้องกันและไม่มีเล็ดลอดไปถึงหูนักข่าวคอลัมภ์ซุบซิบ

คาบุรากิที่กำลังจะเอาไก่ทอดเข้าปากทำไก่ตกลงในชามข้าว เขามองหน้าฉันเหมือนจู่ ๆ ฉันใส่กระโปรงบัลเล่ต์แล้วลุกเต้นไปรอบ ๆ ห้องกินข้าวโดยไม่ได้บอกกล่าว

“คิโชวอิน เธอเป็นบ้าอะไรของเธอน่ะ”

ฉันตัดสินใจสารภาพไปตามตรงว่าเจอถุงยางในกระเป๋าเดินทางของเขา

“นั่น—!” คาบุรากิหน้าแดงแจ๋ “ของคุณโมโมโซโนะต่างหาก!”

729 Nameless Fanboi Posted ID:m0JJ8XqeKc

ฉันอ้าปากค้าง ถุงยางอนามัยของท่านอิมาริแต่มาอยู่กับคาบุรากิก็หมายความว่า...

โลกที่ปกติสุขของฉันจู่ ๆ ก็ถูกจินตนาการความวายเข้าโถมทับเหมือนคลื่นซึนามิซัดเข้าฝั่ง อันที่จริงฉันก็เคยแอบคิดว่าคาสโนว่าอย่างท่านอิมาริกับท่านพี่สุดเพอร์เฟคของฉันทำไมถึงยังไม่แต่งงานซักที บางทีพวกเขาอาจจะมีความรักที่หันหลังให้กับตะวันและจันทราก็ได้ แต่ฉันไม่คิดเลยว่าคาบุรากิผู้ที่ชอบแต่ผู้หญิงมาตลอดจะหลงเสน่ห์ของท่านอิมาริไปด้วย ฝีมือของคาสโนว่านี่แน่จริง ๆ แม้แต่ผู้ชายด้วยกันก็ยังหลงใหล อย่าบอกนะว่าตอนที่ฉันให้เขาไปศึกษาวิธีการปฏิบัติต่อผู้หญิงของท่านอิมาริแล้วคาบุรากิจะโดนท่านอิมาริสอนภาคปฏิบัติมาน่ะ มิน่าถึงไม่กล้าบอกว่าสอนกันอีท่าไหน อันที่จริงเขาสอนกันท่าไหนฉันเองก็ไม่อยากรู้หรอกนะ มันเรทเกินไป แต่ก็แอบอยากรู้เหมือนกันว่าใครเป็นฝ่ายรุกฝ่ายรับ ถ้าคาบุรากิของว่าถุงยางอันนี้เป็นของท่านอิมาริ ก็หมายความท่านคาบุรากิเป็นฝ่ายรั—-

“คิดบ้าอะไรของเธอน่ะยัยสมองหมู!” คาบุรากิตวาดลั่นด้วยสีหน้าแดงก่ำ ฉันมองเขาที่เป็นเหมือนราชาตัวสูงมาดแมนแล้วคิดในใจว่าอุเคะในโลกแห่งความจริงนั้นช่างไม่เหมือนในการ์ตูนวายเลย “คุณโมโมโซโนะคิดว่าพวกเรา—“ คาบุรากิหน้าแดงขึ้นไปอีก “คิดว่าพวกเราเป็นสามีภรรยากัน ก็เลยให้เจ้านั่นมาต่างหาก บอกว่าจะช่วยเพิ่ม—-“ คาบุรากิเบือนหน้าหนีเหมือนสาวน้อย ฉันเองที่เป็นสาวน้อยตัวจริงเสียงจริงยังไม่เหนียมเท่าเขา แต่เอาเข้าจริง ๆ ถ้านับอายุฉันในชาตินี้กับในชาติก่อน ก็เกือบ ๆ ห้าสิบแล้วล่ะนะ ถือว่าห่างไกลจากสาวน้อยมากเลยทีเดียว

“ถุงยางบางพิเศษแบบมีปุ่มพร้อมเจลหล่อลื่น” ฉันทวนคำที่อ่านประมาณสิบรอบบนกล่องถุงยางอนามัย คาบุรากิหน้าแดงจนฉันตกใจว่าถ้าแดงกว่านี้ก็ดำแล้ว เพราะงั้นเลยไม่พูดสิ่งที่อยู่ในหัวออกมาต่อ พวกเราเงียบไปซักพัก ก่อนฉันจะถามต่อ “แล้ว...จะเอายังไงกับ...อืมม์ ถุงยางกล่องนั้นดีคะ ท่านคาบุรากิ?”

คาบุรากิหน้าบึ้ง “ก็ทิ้งไปสิ” เขาตอบทันควัน ทั้ง ๆ ที่ไม่ชอบในขนาดนั้น แต่กลับเก็บกลับมาด้วย เพราะเคร่งมารยาทสินะ เป็นคาบุรากินี่ลำบากจริง ๆ

“แล้วถ้าท่านอิมาริมาถามล่ะคะว่าของขวัญที่ได้รับไปเป็นยังไงบ้าง?” ท่านอิมาริเป็นพวกใส่ใจความรู้สึกคนอื่น อย่างตอนที่ให้ของขวัญฉัน ก็มักจะถามว่าชอบไหม ถูกใจรึเปล่า

“แล้วจะให้ฉันทำยังไงเล่า!” คาบุรากิแว้ดลั่น ฉันมองเขาแล้วรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้หญิงหน้าหนารึเปล่าที่อายน้อยกว่าเขา แต่พอฉันก็อายุเยอะแล้ว กะอีแค่ถุงยางอนามัย ก็อืมม์ ก็อายอ่ะนะ แต่ความอยากรู้มีมากกว่า

“ลองเอามาแกะเล่นดูไหมคะ?” ฉันถามขึ้นมา ไหน ๆ ชาตินี้จะต้องแห้งเหี่ยวไม่มีโอกาสให้สัมผัสกับถุงยางอนามัยและผู้ชายตัวเป็น ๆ ไปชั่วชีวิตแล้ว เรียนรู้ไว้เผื่อมีสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างมีคนเดินมาถามว่า เคยใช้ถุงยางอนามัยไหม ฉันที่ตอนนี้แต่งงานมาแล้วปีครึ่งยังไงก็ควรจะโกหกออกไปได้บ้าง

แม้ว่าคาบุรากิจะทำเหนียมเหมือนสาว ๆ แต่ก็เป็นเด็กที่อยากรู้อยากเห็นพอควร พอฉันเอามาวางไว้บนโต๊ะกินข้าว เขาก็บอกว่าของแบบนี้ห้ามวางไว้บนโต๊ะกินข้าวเด็ดขาด แล้วก็ชวนฉันไปแกะกล่องถุงยางอนามัยบนโต๊ะทำงาน

730 Nameless Fanboi Posted ID:m0JJ8XqeKc

พวกเราจ้องห่วงสีชมพูนีออนที่มีเจลหล่อลื่นเหลว ๆ แล้วฉันแอบคิดว่าไม่น่าแกะออกมาเล่นเลย ถุงยางอนามัยนี่ดูน่าขยะแขยงกว่าที่คิด พอค่อย ๆ คลี่ออกมา ก็รู้สึกว่าดีแล้วที่ไม่เคยมีเซ็กซ์ ถ้าขืนอะไรก็ตามที่สามารถใส่เข้าไปในถุงยางอันนี้ได้พอดีต้องเข้ามาในตัวฉัน คงต้องตายแน่ ๆ ฉันไม่มีเป็นข่าวพาดหัวหน้าหนึ่งหรอกนะ ว่าคาบุรากิ เรย์กะ ตายระหว่างอืมม์...น่ะ น่าขายหน้าน่าดู

หลังจากคลี่ถุงยางออกมาได้จนหมด ฉันก็มองดูถุงยางสีแสบตาที่มีจุดตะปุ่มตะป่ำเหมือนเห็ดมีพิษและเจลหล่อลื่นสีขาวขุ่นเละเทะ พวกเราจ้องเศษซากถุงยางบนโต๊ะอยู่พักใหญ่ ก่อนที่จะสงสัยว่าพวกเรากำลังเล่นบ้าอะไรกันอยู่ ฉันเลยจะเอาทิชชู่เพื่อจับเศษถุงยางไปทิ้ง ทว่าทิชชู่ในห้องทำงานของคาบุรากิเก็บเอาไว้บนชั้นหนังสือด้านหลังโต๊ะทำงานที่ค่อนข้างสูง ฉันเลยต้องปีนเก้าอี้ขึ้นไปหยิบ

ไม่รู้ว่าเพราะว่าซวยหรือเคราะห์ซ้ำกรรมซัด เก้าอี้ทำงานแบบมีล้อของคาบุรากิก็เลื่อนไถลจนฉันหงายหลัง เก้าอี้ล้มดังโครมใหญ่ ส่วนตัวฉันถูกคาบุรากิรับไว้ได้ทันพอดีไม่งั้นคงหัวฟาดโต๊ะทำงานสลบ

“นายท่านเป็น—” สาวใช้ที่อยู่แถวหน้าถลาเข้ามาหน้าห้องทำงานที่เปิดประตูทิ้งไว้ ก่อนที่จะชะงัก มองคาบุรากิกับฉันและมองโต๊ะทำงาน

ฉันมองตามสายตาของเธอ คาบุรากิที่นั่งบนโต๊ะ ฉันที่นั่งบนตักของคาบุรากิ และเศษถุงยางสีบาดตาชนิดที่ว่าโยนทิ้งไว้บนโลกก็สามารถมองเห็นได้จากดาวอังคารที่แกะแล้วบนโต๊ะ...

“ขอโทษค่ะ ดิฉันไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้เห็นอะไรทั้งนั้น!” สาวใช้ผู้เข้าใจผิดไปแล้วเรียบร้อยว่าฉันกับคาบุรากิประกอบกิจกรรมเข้าจังหวะในห้องทำงานกลางวันแสด ๆ ปิดประตูดังปัง คาบุรากิผู้ไม่สันทัดในการอ่านสถานการณ์เลยแม้แต่น้อยไม่ได้เข้าใจเลยว่าตัวเองโดนเข้าใจผิดไปไหนต่อไหนแล้ว เขาผลักฉันออกจากตัก แล้วบ่นว่าฉันซุ่มซ่าม ก่อนจะบอกว่าฉันตัวหนัก เพราะงั้นให้จะต้องเริ่มกลับมาคุมอาหารอีกครั้ง

แม้ว่าหลังจากนั้นสายตาของพวกสาวใช้จะเปลี่ยนไป และมาดามคาบุรากิจะส่งอาหารบำรุงร่างกายมาให้พวกเราจำนวนมาก แต่ว่าฉันทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น แล้วส่งอาหารบำรุงร่างกายพวกนั้นไปให้ท่านพี่กับท่านอิมาริแทน

จบ

731 Nameless Fanboi Posted ID:912YU5.Ulk

K kneel "Kneel before me !" "Kneel before you Queen !"

732 Nameless Fanboi Posted ID:4rA6QBucH/

Kids///

733 Nameless Fanboi Posted ID:912YU5.Ulk

หึหึ รีเฟรชรัวต่อฟิคโม่งลงจบใน 2 วิ -w- +

734 Nameless Fanboi Posted ID:4rA6QBucH/

>>731 ช้าไปนิดเดียวเองงงงงง

735 Nameless Fanboi Posted ID:m0JJ8XqeKc

>>698 กูโม่งฟิค กราบโจทย์มึงมาก โคตรยาก 555

736 Nameless Fanboi Posted ID:m0JJ8XqeKc

>>731 K - Kneel

737 Nameless Fanboi Posted ID:912YU5.Ulk

>>727-730 อ่านแล้ว อะหืออออ อะหือออ อะหือออออออ //กูพูดไม่ออกแล้ว ฟินเกินไป *ระเบิดตัว*

738 Nameless Fanboi Posted ID:vyD0oytQwy

>>733 คนจริงสาสสสสส
>>735 มึงแต่งได้พีคมาก55555555555 พวกเธอเป็นเด็กม.ปลายที่จะเอาถุงยางแจกฟรีมาเป่าลูกโป่งกันเหรอ55555555555
ปล.ท่านอิมาริชอบสีสันสดใสแบบนี้สินะ.....
ปลล.ให้ของบำรุงสองคนนั้นคืออะร๊ายยยย5555

739 Nameless Fanboi Posted ID:912YU5.Ulk

>>735 กูคนรีเควสโจทย์มึงเองนะ G J K ล้วนเป็นกูเอง วันนี้กูจะเป็นวิญญาตามติดจนกว่าโม่งฟิคจะนอน ไม่เหงานะมึง <3

740 Nameless Fanboi Posted ID:98ZMfgv8Wz

แย่งกันไป กูจะรออ่านเอง //เหมือนจะไม่แคร์ แต่เปล่าเลย กูรีเควสไม่ทัน ฮรื้อออวว ;w;

741 Nameless Fanboi Posted ID:KszF/YF/QO

K - Kneel

ทำไปทำมา ฉันกับคาบุรากิก็แต่งงานกันจะได้สองปีแล้ว

แม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเราจะเป็นแค่เพื่อน แต่ฉันก็คิดว่าการแต่งงานของพวกเราไม่ได้เลวร้ายอะไรมากนัก คาบุรากิออกจะชอบบังคับไปนิด ขี้โมโหไปหน่อย แต่ในหลาย ๆ ครั้ง ฉันก็ได้เห็นมุมที่ไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นจากเขา

อย่างเช่นเรื่องการแต่งหน้าของฉัน

ฉันเกลียดการแต่งหน้า

การแต่งหน้าเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างเช่นการทาแป้งหรือลงลิปสติกในสมัยมัธยมนั้นถือว่าเป็นเรื่องเบสิคที่ผู้หญิงทุกคนจะต้องทำ แต่การแต่งหน้าเต็มยศออกงานกลางคืนคือฝันร้ายของฉัน ปกติตอนอยู่บ้านคาบุรากิ ฉันจะมีคุณเมดคอยแต่งหน้าให้ แต่บางครั้งตอนที่พวกเราต้องไปทำงานที่ต่างประเทศกันสองคน ฉันก็ต้องแต่งหน้าเอง

ไม่มีใครเคยรู้ว่าเครื่องสำอางค์ที่แต่งแต้มได้อย่างพอเหมาะราวกับเมคอัพอาร์ตทิสของฮอลลีวู้ดรังสรรค์ให้บนใบหน้าของฉันจะเป็นฝีมือของคาบุรากิ

ในครั้งแรกตอนที่เขาเห็นฉันแต่งลบแต่งลบอยู่หลายครั้งจนรู้สึกรำคาญ เลยดึงปากกาอายไลน์เนอร์ไปเขียนขอบตาให้ฉัน ฉันไม่ควรจะรู้สึกเซอร์ไพรส์เลยด้วยซ้ำว่าผู้ชายอย่างเขาสามารถแต่งหน้าได้ด้วย คาบุรากิที่สามารถักลูกไม้อย่างเพอร์เฟคด้วยการมองวิธีถักเพียงแว๊บเดียวบ่งบอกได้ว่าเขาเป็นอัจฉริยะ กับอีแค่การแต่งหน้าที่เห็นฉันแต่งบ่อย ๆ เขาทำมันได้อย่างคล่องแคล่วราวกับช่างแต่งหน้ามืออาชีพ

หลังจากที่คาบุรากิแต่งหน้าให้กับฉันในคราวนั้น คราวต่อ ๆ ไป ฉันก็ไม่เคยให้คุณเมดแต่งหน้าให้อีกเลย ฉันมักจะขอให้คาบุรากิแต่งหน้าให้ฉันทุกครั้ง เขามักจะทำสีหน้าเบื่อ ๆ แต่ก็ยอมแต่งหน้าให้ฉันโดยดี เพราะถ้าให้ฉันแต่งหน้าเอง ก็อีกสามชั่วโมงนั่นแหล่ะกว่าจะได้ออกจากบ้าน

ช่างแต่งหน้าโดยทั่วไปจะยืนแต่งหน้า แต่คาบุรากิชอบให้ฉันนั่งกับเตียง ส่วนตัวเขาคุกเข่าอยู่บนนั้น ค่อย ๆ บรรจงแต่งแต้มใบหน้าของฉันด้วยนิ้วมือที่แผ่วเบาราวกับปีกผีเสื้อ

มอยส์เจอร์ไรเซอร์ ไพรม์เมอร์ คัลเลอร์คอลเล็คชั่น คอนซีลเลอร์ ฟาวเดชั่น เขาเกลี่ยมันด้วยนิ้วมืออย่างแผ่วเบาแตะจนกระทั่งซึมลงไปบนผิว ปัดแป้งฝุ่นโปร่งแสงบาง ๆ คาบุรากิเกลียดแป้งรองพื้นดังนั้นนั่นจึงเป็นสิ่งที่เขาโยนทิ้งเป็นอันดับแรก ๆ เมื่อเริ่มแต่งหน้าให้ฉัน

อายโบรว์เพนซิลที่วาดลงไปบนสันคิ้วแทรกไปกับขนคิ้วจริงนั่นดูเป็นธรรมชาติจนแทบแยกไม่ออกว่าเส้นไหนของจริงเส้นไหนวาดเอา อายแชโดว์สีอ่อนเข้มถูกเกลี่ยสร้างเบ้าตาให้ลึกเพื่อให้ดวงตากลมโตขึ้นอย่างแนบเนียน ขนตาของฉันไม่ต้องใช้มาสคาร่า เพียงแต่หนีบเบา ๆ ก็งอนขึ้นแล้ว จากนั้นเขาจึงไล้อายไลน์เนอร์ไปบนขอบตาของฉัน

ตอนที่เขาวาดอายไลน์เนอร์ ฉันสามารถลืมตาได้โดยไม่ต้องกลัวว่าคาบุรากิจะทำพู่กันจิ้มตา คาบุรากิไม่เคยพลาดเลยซักครั้ง แม้ว่าตัวฉันเองจะพลาดบ่อยขนาดไหนก็ตาม

คอนทัวร์เลอร์ ไฮไลต์เตอร์ถูกลงเพื่อสร้างมิติให้กับโครงหน้า ทำให้ฉันดูเหมือนน้ำหนักลดลงไปซักห้ากิโลกรัม พอบอกอย่างนั้นไป คาบุรากิก็บอกว่าถ้าฉันอยากลดให้ได้อีกห้ากิโลกรัม แต่ไม่แอบกินคุกกี้ที่ซ่อนอยู่ในลิ้นชักนั่นก็พอ

ฉันหัวเราะเก้อ ๆ เมื่อโดนจับได้ แต่ไม่ได้พูดอะไรเมื่อเขาปัดพู่กันขนม้าลงบนโหนกแก้มของฉัน ก่อนจะวาดลิปสติกลงบนปาก

ตอนที่เขาแต่งหน้าให้ฉัน ฉันไม่เคยรู้สึกเบื่อเลยแม้แต่น้อย เพราะภาพคาบุรากิที่คุกเข่าบนเตียงในชุดสูทสามชิ้นที่เสื้อนอกพาดไว้บนพนักเก้าอี้ แต่งหน้าให้ฉันอย่างตั้งอกตั้งใจนั่นดูมีเสน่ห์อย่างน่าประหลาด

จบ

742 Nameless Fanboi Posted ID:912YU5.Ulk

H - hailstorm (พายุลูกเห็บ) ขอเน้นว่าคำนี้แปลว่า 'พายุลูกเห็บ' พายุนะมึง มันจึงไม่ใช่แค่ระดับลูกเห็บตกเปาะแปะธรรมดา นึกภาพไม่ออกพิมพ์ hailstorm ไปหาภาพดูใน Google ได้เลย

743 Nameless Fanboi Posted ID:4rA6QBucH/

Lie////

744 Nameless Fanboi Posted ID:aluFtCHOoS

เออ แล้วท่านพี่ฟิคนี้แต่งงานรึยังวะ หรือแต่งกับอิมาริ มีโอกาสได้ใช้ของขวัญชิ้นนั้นที่ให้มามั้ยคะ//แค่กๆๆๆ

745 Nameless Fanboi Posted ID:912YU5.Ulk

>>741 อ่านแล้วกูอยากกรีดร้องดังๆ ว่า คุณสามี !! คาบุรากิสามีแห่งชาติจริงๆ ว่าแต่ผ่านไป 2 ปีแล้วหรอนี่....

746 Nameless Fanboi Posted ID:912YU5.Ulk

กู >>742 เองนะ กูจำพลาด นึกว่าตัว H ตัว L หรอกหรอ ม้ายยย

747 Nameless Fanboi Posted ID:e5EjjsWDCf

>>741 แก้จากคัลเลอร์คอลเล็คชั่นเป็น คัลเลอร์คอร์เร็คชั่น (Color correction/หรือบรรดาเบสเขียว เบสม่วง เบสส้มสีต่าง ๆ นั่นเอง) กูพิมพ์เพลินไปนิด ผิดเลย

748 Nameless Fanboi Posted ID:zB/UTqh+vR

โอ้โห วันนี้โคตรดีด กราบโม่งฟิค บ้าพลังมาก
ฮรืออออ โมเม้นแต่งหน้าให้โคตรน่ารักอ่ะ!

749 Nameless Fanboi Posted ID:e5EjjsWDCf

>>742 H ไปแล้ว H.pylori ข้างบนน่อ

750 Nameless Fanboi Posted ID:e5EjjsWDCf

>>743 L = Lie

751 Nameless Fanboi Posted ID:0dDNvgnUR.

l-laika กูจะสานต่อเจตนารมณ์ด้านบนถถถ

752 Nameless Fanboi Posted ID:Jst0uR81rw

>>751 ไม่ทันแล้วมึงง 555555

753 Nameless Fanboi Posted ID:0dDNvgnUR.

>>744 ดูจากตอนถุงยางน่าจะยังไม่แต่งว่ะถถถ
>>741 ฉากแต่งหน้าคือเขินจริ๊งงง มึงแต่งได้ละมุนจนกูอยากหอมหัวมึงรัวๆ ฮือออคุกเข่าแต่งหน้านี่คือกูตาย กู ตายยยย;//////;

754 Nameless Fanboi Posted ID:XLqIKa8tdL

อะเหอ มึงบ้าพลังมาก ไปดีดมาจากไหนกันคะ แบ่งความขยันมาให้กูหน่อย เผื่อกูจะทลายไหดองได้บ้าง//คารวะ
โมเมนต์แต่งหน้านี่เหมือนเพื่อนสาว แต่ก็น่ารักดีนะ กูเรือเอ็นโจแต่กูชอบ 55555555

พออ่านฟิคจากสองเรือ กูรู้สึกว่าฟิคเรือเอ็นโจถ้าไม่มาแนวแอบรักข้างเดียวหม่นๆสีทึมๆแต่ให้ความรู้สึกละมุน ก็จะเป็นแนว passion ฉันอยากครอบครองเธอไปเลย แต่ฟิคฝั่งคาบุนี่ดูน่ารักกุ๊กกิ๊กแบบหนังรอมคอมอ่านแล้วอมยิ้ม จะแบบไหนก็ดี กูชอบ ลงอีกเยอะๆนะ เป็นกำลังใจให้จ้า

755 Nameless Fanboi Posted ID:0dDNvgnUR.

>>752 วืดดด ไม่เป็นไร ถ้าตัวmทันกูอยากได้ masochistถถถถ

756 Nameless Fanboi Posted ID:E+kIjjCfBA

กูเข้ามาสะพรึงเจอกาวต่อมาถึง J พวกมึงจะคึกกันไปไหนนน นี่เที่ยงคืนแล้วนะ ไม่ใช่ไรกูเป็นห่วงทั้งโม่งฟิคและบรรดาโม่งที่รอแย่งกัน พรุ่งนี้พวกมึงไม่มีเรียน/งานกันเรอะ
กูแค่จะบอกว่าถ้าไม่ไหวก็พักก่อนดีกว่าค่อยต่อพรุ่งนี้ แต่ถ้าไหวจะต่อก็ได้เพราะกูก็รออ่านอยู่ ถถถ

757 Nameless Fanboi Posted ID:Jst0uR81rw

คือฉากคุกเข่าแต่งหน้าใจนึงกูก็ฟินนะ แต่อีกใจนึงกูก็คิดว่ามันจะเป็นยังไง
เพราะคาบุรากิคุกเข่าบนเตียง เตียงมันก็ต้องนุ่มๆ ยุบๆ ป่ะ ไม่น่าจะขุกเข่าทรงตัวแบบท่าคุกเข่าของแต่งงานได้ หรือคาบุรากิจะคุกเข่าแบบคุกเข่าสองข้าง.... //พับเก็บความคิดสลายความหล่อ

758 Nameless Fanboi Posted ID:Jst0uR81rw

>>756 +1 โม่งฟิค ถ้าเหนื่อยก็ไปนอนพักเถอะนะ แม้ว่ากูอยากจะอ่านมากก็ตาม
ส่วนพรุ่งนี้กูว่าง กูอยู่เป็นเพื่อนได้ยาวๆ แต่กูไม่ได้อยู่ดึกนานแล้ว สักตี 2-3 กูอาจขอตัวไปนอน

759 Nameless Fanboi Posted ID:kzH/F7DbtH

มาวี๊ดดดดดดด ค่ะ------ ถ้ามึงดีดมากไม่ต้องกลัวเหงานะ กูรออ่านฟิคอยู่ ถ้าเหนื่อยกูก็ยังอยู่อยู่ดี เห็นความขยันกูก็ต้องขยันบ้าง แต่งแนวสยองขวัญต่อไป กูต้องเป็นคนยังไง แวะมาอ่านคอมเมดี้แล้วไปเขียนสยองขวัญต่อ 5555555 วี๊ดอีกสักรอบบบ---- //นอนกอดฟิคโม่งอยู่ในอ้อมอก

760 Nameless Fanboi Posted ID:e5EjjsWDCf

L - Lie

คาบุรากิเป็นคนโกหกไม่เก่ง ตอนที่เขากำลังโกหก หรือตอนที่กำลังเขิน เขามักจะทำท่าโกรธ

ฉันเองก็โกหกไม่เก่งเช่นกัน ท่านพี่มักจะบอกฉันเสมอว่าเวลาฉันโกหก ไม่ว่าใครที่รู้จักฉันดีต่างก็จับได้ทั้งนั้น

ดังนั้น ตอนที่มาดามคาบุรากิถามขึ้นมาว่าเมื่อไหร่พวกเราจะมีลูกกันซักที ฉันกับคาบุรากิเลยวงแทบแตก

คืนนั้นเป็นคืนก่อนวันคริสต์มาสอีฟ แม้ว่าในครอบครัวของพวกเราจะไม่มีใครนับถือศาสนาคริสต์ แต่มาดามคาบุรากิกับท่านแม่ก็คิดว่า วันคริสต์มาสอีฟกับวันคริสต์มาสต้องจัดงานเลี้ยง แต่ถ้าทุกคนได้มาทานข้าวกันพร้อมหน้ากันในครอบครัวในวันก่อนหน้านั้นก็คงดี ดังนั้นพวกเราทุกคนเลยมาทานข้าวที่บ้านใหญ่ของคาบุรากิกันพร้อมหน้า

สมาชิกของพวกเราประกอบด้วยท่านพ่อกับท่านแม่ฝั่งคาบุรากิและฉัน คาบุรากิ ฉัน ท่านพี่ และท่านอิมาริ (ในตอนนี้ฉันชักจะสงสัยจริง ๆ แล้วว่าท่านพี่กับท่านอิมาริเป็นแฟนกันจริง ๆ รึเปล่า ท่านแม่เองก็ดูคิดหนักเช่นกัน จะหาสะใภ้ให้ท่านพี่ แต่ก็แอบคิดว่าตระกูลโมโมโซโนะก็ไม่เลวเลย ท่านอิมาริก็เป็นลูกชายคนโต น่าจะได้สมบัติของตระกูลในสัดส่วนสูง แต่ก็ไม่กล้าถามท่านพี่จริงจังว่าตกลงท่านพี่กับท่านอิมาริเป็นอะไรกัน เลยคาราคาซังมาจนถึงทุกวันนี้)

อาหารบนโต๊ะช่างวิเศษสมกับเป็นฝีมือเชฟบ้านคาบุรากิ เนื่องจากเป็นวันเฉลิมฉลอง ฉันเลยได้รับอนุญาตให้มีชีทเดย์ได้หลายวันในรอบสัปดาห์ ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่วิเศษที่สุด ซี่โครงหมูอบน้ำผึ้งนั่นถูกอบจนกระทั่งเนื้อหลุดออกจากกระดูกได้อย่างง่ายดาย มันบดก็นุ่มนวลเค็มกำลังดี เนื้อเวลลิงตันแป้งพายด้านนอกกรุบกรอบ เนื้อด้านในก็นุ่มฉ่ำซอสกำลังดี มีทโลฟก็ทานง่ายกรุ่นด้วยกลิ่นเครื่องเทศหวานละมุน ผักย่างก็หอมหวานเคี้ยวเพลิน ฉันพยายามห้ามใจไม่ให้กินจนพุงออกเพราะถูกคาบุรากิบังคับให้ใส่เดรสเข้ารูปเพื่อกันการกินเกินขนาด แต่สามารถละเลียดอาหารไปได้เรื่อย ๆ ทุกอย่างเข้ากับไวน์แดงได้ดีมากจนฉันดื่มไวน์ไปหลายแก้ว

หลังจากอาหารมื้อใหญ่ก็ยังมีพายแอ๊ปเปิ้ลที่แสนอร่อยใส่ซินนามอนให้กลิ่นอายคริสต์มาสอย่างเต็มที่ จากนั้นก็มีเลมอนพายแก้เลี่ยน พอดื่มคู่กับไวน์แดงที่เหลืออยู่ในแก้วแล้วก็เข้ากันมาก ๆ

รู้ตัวอีกที ฉันก็เซตอนลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำ คาบุรากิเห็นแล้วก็บ่นว่าฉันไม่รู้จักประมาณตัว ฉันบอกว่าฉันเดินได้เองไม่ต้องให้เขาช่วย แต่พอเดินไปได้ก้าวหนึ่งก็ต้องจับเก้าอี้เอาไว้ เพราะส้นสูงบ้านี่มันเครื่องทรมานที่สร้างมาเพื่อรังแกผู้หญิงชัด ๆ

ฉันบ่นเรื่องนี้กับคาบุรากิ เขาเองก็คอมเมนต์เรื่องรองเท้าส้นสูงที่ทำให้กระดูกสันหลังต้องรับน้ำหนักเป็นพิเศษ เขาเตือนฉันแล้วก่อนออกจากบ้าน แต่ว่ามาโนโล บลาห์นิค คือของขวัญที่พระเจ้าประทานมาให้ผู้หญิงบนโลกนี้ ฉันเลยไม่ฟังเขาแล้วยืนยันว่ารองเท้าคู่นี้เกิดมาเพื่อฉัน ถึงแม้ว่าตอนนี้มันจะกลายเป็นเครื่องทรมานก็ตามที

ฉันมองคาบุรากิที่ก้มลงถอดรองเท้าให้กับฉัน ก่อนที่จะสั่งให้สาวใช้ไปเอาสลิปเปอร์มาให้ฉันใส่แทน แล้วประคองฉันไปเข้าห้องน้ำ

คาบุรากิถามฉันสามรอบว่าฉันเข้าห้องน้ำเองไหวไหม พอฉันบอกว่าไหว แต่พอเขาปล่อยก็ลื่นตั้งแต่หน้าประตู เขาบ่นอะไรซักอย่าง ก่อนจะเปิดประตูห้องน้ำแล้วจับฉันนั่งลงบนชักโครก

ตอนนั้นฉันไม่ได้สนใจอะไรมากไปกว่าการระบายของเหลวออกจากร่างกาย ก็เลยจับชายกระโปรงแล้วถกขึ้นก่อนจะดึงกางเกงในลงมาที่เข่า คาบุรากิสะดุ้งเฮือก หันหลังให้กับฉันทันควัน ฉันนั่งฉี่ในขณะที่จ้องมองแผ่นหลังของเขาแล้วคิดว่า จะดีจริง ๆ เหรอที่ฉี่ต่อหน้าคาบุรากิ แต่อย่างน้อยก็ยังดีกว่าฉี่ราดชุดโดลเช่แอนด์กาบบาน่ากับกางเกงในลอเพอร์ลาก็แล้วกัน

761 Nameless Fanboi Posted ID:e5EjjsWDCf

หลังจากทำธุระเรียบร้อย ฉันก็ใช้คาบุรากิเป็นไม้ค้ำยันไปยังอ่างล้างมือ ก่อนจะล้างมือลวก ๆ คาบุรากิเห็นแล้วก็ทำหน้าขยะแขยง เขาให้ฉันล้างมืออีกรอบ ฉันเลยส่งมือให้เขา เขาทำหน้าเหนื่อยแล้วจับมือของฉันไปล้างด้วยวิธีที่เห็นในแผ่นป้ายสาธารณสุข พอล้างเสร็จก็เช็ดมือให้ฉัน ก่อนจะประคองกลับไปที่โต๊ะ

มาดามคาบุรากิเห็นแล้วก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ก่อนจะปล่อยคำถามที่เหมือนทิ้งบอมบ์

“แหม รักกันดีขนาดนี้ เมื่อไหร่จะมีหลานให้แม่อุ้มบ้างล่ะจ๊ะ?”

ฉันแทบสร่างเมื่อเจอคำถามนั้น คาบุรากิเองก็อึกอักอยู่ไม่น้อย พวกเราพยายามคิดหาข้อแก้ตัวที่ดีที่สุดเท่าที่สมองซึ่งโชกไปด้วยแอลกอฮอลล์จะสามารถทำได้ (ในกรณีของฉัน) ด้วยการบอกว่าฉันก็คาบุรากิเราจะพยายามกันอย่างเต็มที่ และเนื่องจากว่าฉันรู้สึกอยากจะลี้ภัยก่อนที่จะพ่นอะไรไปอย่างเช่น ‘จะมีได้ยังไงล่ะคะมาดาม ในเมื่อฉันกับคาบุรากิเป็นแค่เพื่อนสาวกัน’ ก็เลยบอกออกไปอีกว่า เริ่มต้นจากตอนนี้เลย แล้วก็ลากคาบุรากิด้วยฝีเท้าตุปัดตุเป๋ขึ้นไปชั้นสอง

พวกเราล้มลงบนพื้นก่อนที่จะได้ทันเข้าห้องนอนของคาบุรากิ คาบุรากิทำหน้าอิหลักอิเหลื่อ ฉันเอาเท้าถีบเขา แล้วหัวเราะ

“นายเห็นสีหน้าทุกคนไหม”

สีหน้าตะลึงของสมาชิกในครอบครัวเรานั้น สำหรับฉันในตอนที่เมาอย่างเต็มที่รู้สึกว่าตลกมาก

“อา” คาบุรากิตอบรับ เขามองฉันที่หัวเราะเหมือนเป็นบ้า ก่อนจะหัวเราะออกมา พวกเราหัวเราะอยู่อย่างนั้นจนเหมือนกับท้องจะเป็นตะคริว ฉันถามคาบุรากิว่านอกจากห้องอาหารแล้วยังมีไวน์เหลืออยู่อีกรึเปล่า คาบุรากิถามฉันว่ายังเมาไม่พออีกเหรอ พอฉันบอกว่าถ้าไม่เมาในเทศกาล แล้วจะเมาตอนไหน เขาก็ถอนหายใจออกมาแล้วบอกว่าฉันมันบ้า ก่อนจะหายไปพักใหญ่แล้วกลับมาพร้อมกับไวน์

พวกเราออกไปนั่งที่ระเบียง ในคืนนี้ดาวไม่สวย ไวน์ราคาแพงจากห้องเก็บไวน์ของคาบุรากิก็ถูกดื่มจากปากขวดเหมือนไวน์ถูก ๆ จากซุปเปอร์มาร์เก็ต ฉันกับคาบุรากิผลัดกับดื่มคนละอึกราวกับว่าพวกเราเป็นเด็กมัธยมแอบเอาเหล้าของพ่อแม่มาดื่ม เรื่องที่คุยล้วนแต่เป็นเรื่องสัพเพเหระ แต่ฉันรู้สึกว่าค่ำคืนนี้เป็นค่ำคืนที่น่าประทับใจกว่าค่ำคืนไหน ๆ

จบ

*แก้จากกางเกงในลอเพอร์ล่า เป็นลาเพอร์ล่า กุพิมพ์ผิด ปล. ไปนอนแล้ว พรุ่งนี้มาแต่งต่อ

762 Nameless Fanboi Posted ID:Jst0uR81rw

M mustachio หนวดแบบที่มันโค้งๆ ตรงปลายทั้ง 2 ข้าง ไม่ใช่แค่หนวดธรรมดา (moustache)

763 Nameless Fanboi Posted ID:Jst0uR81rw

>>760-761 กรีดร้องคำเดิม คาบุรากิ !!! คุณสามี !!! นายมันสุดยอดสามี !!! กรี๊ดดดด ฝันดีโม่งฟิค ถึงจะบอกว่าอยู่เป็นเพื่อนยาวๆ แต่ตอนที่รอตัว L ก็แทบไม่ไหวแล้วเหมือนกัน (ฮา)

764 Nameless Fanboi Posted ID:kzH/F7DbtH

>>761 สามีกับเพื่อนสาว มีเส้นบางๆ กั้นกันอยู่ ว่าแต่จะทำยังไงกันแต่ ท่านแม่ต้องการหลานแล้ว!!

765 Nameless Fanboi Posted ID:PztJiP+OJU

วันนี้กาวดีจริง ๆ ฟืดฟาดดด ฟืดฟาดดด

766 Nameless Fanboi Posted ID:Dq8K6tSik6

เคมีคู่นี้มันน่ารักจังว้อยยยย เพื่อนสาว โฮฮฮฮ

767 Nameless Fanboi Posted ID:fyNep2ufDS

ขอบใจโม่งฟิควันนี้มาก กูเครียดจากงานมาหลายวันแล้ว มีฟิคนี้แหล่ะ ทำให้หายเครียดมาบ้าง ขอบใจอีกครั้งนะ ดูแลสุขภาพด้วย

768 Nameless Fanboi Posted ID:9qYPeJBj7n

กูไม่ได้เข้ามู้มาวันเดียวนึกว่าเข้าผิดมู้555555 มีกาวแล้วมู้มันไหลเร็วดีอย่างนี้นี่เอง

769 Nameless Fanboi Posted ID:h/0/MnYgNh

คารวะโม่งฟิค ปั่นเร็วมาก แปบๆมาถึงตัว L ละ

770 Nameless Fanboi Posted ID:.qnPVJLPG4

ฮือออ ละมุนมากกก ;//////;

ลบล้างภาพลักษณ์บากะรากิที่คลั่งแข่งขี่ม้าส่งเมืองในสมองกูไปเลย พ่อคนละมุนนน

771 Nameless Fanboi Posted ID:8.6IlkVEVc

ถ้ามีคนอยากได้ M-Masaya กะ S-Shusuke แล้ว กูขอ Y-Yukino บ้างได้มั้ย 555555

772 Nameless Fanboi Posted ID:zB/UTqh+vR

กลิ่นกาวหอมเหลือเกิน โอยยย กูกรี๊ดมาซายะ สามีแห่งชาติ พระเอกโชโจมังงะ ละมุนเหลือเกินพี่จ๋า

773 Nameless Fanboi Posted ID:iFYIUi..Rp

>>771 y - yuiko--- อยากเห็นยุยโกะ pov แต่น่าจะยาก..

774 Nameless Fanboi Posted ID:Ydb4oARyVB

โอ๊ย โม่งฟิคคะ อยากบอกว่ามึงทำให้กูสำลักความสุขหลังจากหัวใจแห้งผากมากนาน คาบุแม่งน่ารักชี้บหายเลย ฮือออออออออ ขอบคุณนะคะที่ทำให้วันนี้ของกูสดใส

775 Nameless Fanboi Posted ID:DB4J0jjCeo

ถ้าลงถึง Z เมื่อไหร่ กุขอภาวนาให้ท่านฮิโยโกะอัพตอนใหม่สักที

776 Nameless Fanboi Posted ID:+RWAFr.SoQ

>>762 M=mustachio นะ ดึก ๆ มาแปะ แล้วปั่นต่อยาว ๆ เลย

777 Nameless Fanboi Posted ID:h/0/MnYgNh

>>776 เลิฟโม่งฟิค ปาหัวใจรัวๆ

778 Nameless Fanboi Posted ID:Ydb4oARyVB

อยากส่งแบรนด์ซุปไก่บำรุงกำลังให้โม่งฟิคมากเลยว่ะ รักนะคะ ชอบคาบุรากิฟิคนี้มาก มีความเป็นทุกอย่างให้เธอแล้วตั้งแต่ซื้อผ้าอนามัยยันแต่งหน้า เทรนเนอร์ ดูแลโภชนาการ 5555

779 Nameless Fanboi Posted ID:vAUxqmyFs0

>>776 รักมึงงงฟิตเวอร์ ♡♡♡♡♡♡♡♡

780 Nameless Fanboi Posted ID:VFfQ.X+egP

>>776 ขอบคุณมากโม่ง 😘😘😘😘

781 Nameless Fanboi Posted ID:VFfQ.X+egP

ชักอยากเห็นฟิคในมุมมองคาบุแล้วสิ ว่าตอนที่ต้องเอาใจนางสารพัด จะรู้สึกอย่างไร

782 Nameless Fanboi Posted ID:fJoX66AHe5

ฟิคนี้คาบุน่ารักจริงๆ😊😊

783 Nameless Fanboi Posted ID:C66iJp34pO

M - Mustachio

วันครบรอบการแต่งงานสองปีของฉันกับคาบุรากิ พวกเราตัดสินใจไม่ไปเที่ยวต่างประเทศเพราะปีนี้ทั้งฉันกับคาบุรากิอยู่บนเครื่องบินนานกว่าอยู่บนรถเสียอีก ดังนั้นเลยตกลงกันว่าจะจัดงานเลี้ยงเล็ก ๆ กันในหมู่เพื่อน และนอนขี้เกียจอยู่บ้าน

ฉันจินตนาการไว้ว่า พวกเราอาจจะจัดปาร์ตี้ค็อกเทลสบาย ๆ มีขนมและอาหารอร่อย ๆ มีฟลอร์เต้นรำ เหมือนสมัยที่จัดงานเลี้ยงฤดูร้อนของ Pivoine แต่พอบอกคาบุรากิเขาก็บ่นว่าน่าเบื่อ แล้วเสนอให้พวกเราจัดปาร์ตี้แฟนซีแทน

“เธอชอบแต่งชุดแฟนซีนี่”

ฉันไม่ได้ชอบ แต่ลองคาบุรากิเชื่ออย่างนั้นไปแล้ว ใครจะเปลี่ยนความคิดเขาได้

ยังไงปาร์ตี้ค็อกเทลสบาย ๆ แบบนั้นก็จัดได้ตลอดทั้งปีอยู่แล้ว ฉันเลยไม่อยากขัดใจเขา เพราะขี้เกียจง้อคาบุรากิที่งอนตุ๊บป่อง ดังนั้นพวกเราเลยตกลงจัดปาร์ตี้แฟนซีในที่สุด

พอเป็นเรื่องแบบนี้คาบุรากิก็กระตือรือล้นมาก ฉันมองเขาแล้วก็ปล่อยเลยตามเลย ให้เขาจัดการทุกอย่างเพราะตัวเองกำลังยุ่งกับการเตรียมงานปาร์ตี้ปีใหม่ของโรงแรมในเครือคาบุรากิอยู่ ช่วงวันหยุดมีแต่คาบุรากิที่มอบหมายงานให้ลูกน้องเสร็จตั้งแต่ต้นซีซั่นการท่องเที่ยวเท่านั้นที่ยุ่งน้อยลง แต่ฉันซึ่งเป็นแม่งานการจัดปาร์ตี้และคอยดูแลเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ในเครือธุรกิจนั้นวิ่งจนหัวหมุน

นั่นเป็นความผิดพลาดอย่างที่หนึ่ง

ตอนที่พวกเราไปเข้าสปาสำหรับคู่สามีภรรยาในโรงแรมเครือคาบุรากิ เพื่อทวนสอบดูว่าระบบการบริการยังมีจุดหนที่สามารถพัฒนาได้อีก หลังจากนอนให้พนักงานนวดตัวบนเตียงข้าง ๆ กันซึ่งกั้นด้วยผ้าม่านสีขาวเสร็จ ก็ห่อตัวด้วยเสื้อคลุมหนานุ่มออกมายังโซฟาขนาดเลิฟซีทบริเวณสำหรับสปาเท้า ตอนที่ฉันกำลังจะเคลิ้มหลับ คาบุรากิก็ถามว่าชุดแฟนซีที่ส่งไปเมื่อวานทางไลน์โอเคไหม ฉันซึ่งอ่านไลน์ของเขาบ้างไม่ได้อ่านบ้างก็ตอบอือส่ง ๆ ไป เพราะถ้าบอกว่ายังไม่ได้ดูเลยเขาก็จะโกรธที่ฉันไม่ยอมตั้งใจอ่านข้อความของเขา ฉันเลยกะว่าจะไปอ่านทีหลังแล้วมาบอกเขาอีกที

หลังจากสปาเท้าเสร็จ ฉันก็ให้คาบุรากิทาสีเล็บเท้าให้ อันที่จริงที่นี่ก็มีบริการเพนท์เล็บ แต่สำหรับฉันที่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ค่อยมั่นใจในการจับคู่สีของตัวเองตัดสินใจมอบหน้าที่นั้นให้กับคาบุรากิ

“จะใส่รองเท้าคู่ไหนล่ะ?” คาบุรากิถาม พอฉันบอกว่ายังเลือกไม่ได้ แต่จะใส่ชุดมินิเดรสของวาเลนติโน่ที่ไปช้อปปิ้งด้วยกันวันก่อนเพราะจะไปงานกลางวัน แม้จะเป็นฤดูหนาว แต่ห้องจัดงานที่อบอุ่นนั้นก็สามารถใส่มินิเดรสกับแซนดัลส์ได้อย่างสบายมาก คาบุรากิเลยแนะนำรองเท้าแซนดัลส์ของแซงต์โลรองต์ที่ซื้อมาเมื่อครึ่งปีที่ก่อนตอนที่ไปทริปธุรกิจที่ยุโรปด้วยกันแต่ยังไม่เคยได้ใส่เลยซักครั้ง แม้ว่าคาบุรากิจะไม่ได้มีความสนใจในเรื่องแฟชั่นเป็นพิเศษ แต่เขาจำเสื้อผ้ากับรองเท้าและเครื่องประดับที่ฉันเคยใส่ได้ทุกชุด บางครั้งฉันเองยังจำไม่ได้เลยด้วยซ้ำว่าชุดไหนใส่ไปแล้วบ้าง ก็ต้องส่งไลน์ไปถามเขาเพื่อไม่ให้ปรากฏตัวต่อหน้าสื่อด้วยชุดที่ใส่ซ้ำ

คาบุรากิเลือกยาทาเล็บสีน้ำเงินให้ ก่อนจะทาลงบนเล็บเท้าแต่ละเล็บบนเท้าของฉันที่วางอยู่บนตักของเขา แล้วก็บ่นว่ากลิ่นยาทาเล็บที่นี่แย่สุด ๆ ดังนั้นเพื่อไม่ให้เป็นการเสียบรรยากาศในห้องสปาสุดหรูที่มีกลิ่นหอม พวกเราจึงสั่งผู้จัดการให้เปลี่ยนไลน์ผลิตภัณฑ์ยาทาเล็บและน้ำยาล้างเล็บทั้งหมดให้เป็นแบบไม่มีกลิ่นสารเคมี

นอกจากเรื่องยาทาเล็บแล้วก็ยังมีผลิตภัณฑ์สปาที่ฉันจะต้องเปลี่ยนใหม่อีกหลายตัว ดังนั้นจึงลืมเรื่องชุดแฟนซีที่เขาถามไปซะสนิท

และนั่นเป็นความผิดพลาดอย่างที่สอง

เมื่อรวมความผิดพลาดสองอย่างนี้เข้าด้วยกัน คืนปาร์ตี้แฟนซีฉันเลยต้องไปปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนด้วยชุดหลุยส์จิเข้าคู่กับชุดมาริโอ้ของคาบุรากิ

784 Nameless Fanboi Posted ID:C66iJp34pO

ตอนที่ลงมาจากรถลีมูซีนฉันก็รีบจ้ำเข้างานอย่างรวดเร็ว เผื่อว่าปาปารัสซี่จะแอบดักถ่ายรูปจากที่ไหนซักแห่ง แต่คาบุรากิกลับเข้าใจผิดว่าฉันกระตือรือล้นอยากจะเข้างานเร็ว ๆ เพราะอวดชุดหลุยส์จิให้กับทุกคน ฉันเข้าไปในงานก็เห็นบรรดาเพื่อน ๆ ของตัวเองอยู่ในชุดแฟนซี วาคาบะจังกับนายตัวสำรองอยู่ในชุดปิกะจูกับนักจับโปเกม่อน เอ็นโจกับคุณยุยโกะอยู่ในชุดเจ้าชายกับสโนว์ไวท์ ริรินะกับสามีอยู่ในชุดมาเลฟิเซนต์กับเจ้าหญิงนิทรา (ฉันแอบไว้อาลัยให้กับคุณสามีของริรินะที่ต้องแต่งชุดเจ้าหญิงนิทราฟูฟ่อง) ซากุระจังกับอาคิซาวะอยู่ในเกอิชากับซามูไร ท่านยูริเอะ ท่านไอระ ท่านพี่ และท่านอิมาริ อยู่ในชุดเจ้าหญิงและอัศวินทั้งสาม ส่วนเซริกะจัง คิคุโนะจัง อายาเมะจัง รุเนะจัง และท่านฟุยุโกะ แต่งตัวเป็นกลุ่มนักดนตรีญี่ปุ่น แล้วยังมีบรรดาเพื่อนมหาวิทยาลัยของฉันอีก ทว่าแต่ละคนแต่งตัวเป็นคอสเพลย์จากอนิเมชั่นดิสนีย์บ้าง ตัวละครเท่ ๆ บ้าง ถึงจะดูแปลกตา แต่ส่วนมากดูดีทั้งนั้น
มีเพียงคู่ฉันกับคู่ของวาคาบะจังเท่านั้นที่ดูโดดออกมาจากทุกคน แต่ถึงแม้ว่าวาคาบะจังจะแต่งตัวเป็นปิกะจู แต่ก็เป็นตัวละครน่ารัก ผิดกับฉันที่ต้องใช่ชุดเอี๊ยมสีเขียวน่าเกลียด แถมยังติดหนวดอันเบ่อเริ่ม

ทุกคนที่หันมาเห็นฉันกับคาบุรากิเดินเข้ามาก็ตกตะลึงไปพักหนึ่ง ก่อนจะพยายามชมอย่างสุภาพ มีเพียงวาคาบะจังเท่านั้นที่ชมอย่างจริงใจ

เพราะว่าต้องติดหนวดอันใหญ่ เวลากินอะไรก็ลำบากไปหมด คาบุรากิลงทุนถึงขนาดที่ในงานมีบล๊อกเคาะเหรียญมาริโอ้แขวนไว้ บนผนังก็สกรีนรูปปราสาท ถึงจะดูบ้าบอไปหน่อย แต่อาหารในงานก็อร่อยมาก สมกับที่คาบุรากิคนช่างเลือกเป็นคนจัด

อาหารแต่ละอย่างถูกจัดไว้เป็นคำเล็ก ๆ ให้กินได้อย่างถนัด ฉันกินกุ้งคอกเทลไปหลายตัว วนเวียนอยู่ที่ชีสแพลทเทอร์อยู่นานพอสมควร ทว่างดแอลกฮอลล์เพราะยังขายหน้าไม่หายจากงานเลี้ยงคราวก่อน

ฉันคุยกับบรรดาสาว ๆ ที่ไม่ได้เจอหน้ากันพักใหญ่เพราะงานยุ่งมาก ทุกคนเองก็ต่างแต่งงานไปกันหมดแล้ว ยกเว้นท่านฟุยุโกะ แต่ท่านฟุยุโกะก็มีคู่หมั้นอยู่แล้วเลยต้องกังวลอะไรมาก บรรดาเพื่อน ๆ ของฉันต่างถามถึงชีวิตของฉันกับคาบุรากิ ซึ่งฉันไม่มีอะไรโรแมนติกจะเล่าเลยซักนิด ได้แต่บอกไปว่าฉันตามคาบุรากิไปทำงานในที่ต่าง ๆ ทุกคนฟังอย่างนั้นก็ถอนหายใจ บอกว่าฉันน่าอิจฉาที่สามารถช่วยงานคาบุรากิได้ ผิดกับพวกเธอที่ส่วนมากเป็นแม่บ้าน อยู่บ้านเฉย ๆ

ฉันเองก็อยากอยู่บ้านเฉย ๆ นอนขี้เกียจไปวัน ๆ เหมือนกัน แต่ก็ยอมรับว่าการช่วยงานบ้านคาบุรากิมีส่วนช่วยให้ชะตามรณะของฉันลดลง เพราะถ้าฉันมีประโยชน์ต่อคาบุรากิ เขาคงไม่คิดจะกำจัดฉันง่าย ๆ เหมือนในการ์ตูน

ในขณะที่ฉันมองหาคาบุรากิเพราะผู้จัดการโรงแรมสาขาใหม่ในโตเกียวไลน์มาแจ้งว่าผู้รับเหมาขอเลื่อนเวลาส่งงานออกไป ก็เห็นเขายืนอยู่ตรงแถว ๆ มุมห้อง ฉันฝ่าฝูงคนไปหาเขา ทว่าก่อนที่จะได้เรียกเขา ก็เห็นภาพที่ดึงดูดความสนใจไปก่อน

นายตัวสำรองกับวาคาบะจังกำลังยืนคุยกันอยู่ พวกเขายืนใกล้กันมาก ถึงจะเป็นท่ามกลางแสงไฟสลัว ก็เห็นได้ชัยว่านายตัวสำรองหน้าแดง ในอีกไม่กี่วินาทีต่อมา วาคาบะจังก็พูดอะไรซักอย่าง แล้วก้าวเข้าไปจูบนายตัวสำรอง

แม้ว่าฉันที่ไปยุโรปบ่อย ๆ จะเห็นคนจูบกันกลางถนนจนชินตาแล้ว แต่ก็ไม่เคยเห็นคนรู้จักจูบกันมาก่อน ฉันเบือนหน้าหนี แต่พอหันไปก็เจอกับคาบุรากิที่ยืนนิ่งมองพวกเขาเช่นกัน

785 Nameless Fanboi Posted ID:C66iJp34pO

ใบหน้าของคาบุรากินิ่งจนน่ากลัว แม้ว่าฉันจะไม่ได้เป็นนักอ่านใจเหมือนเอ็นโจ แต่ฉันกับคาบุรากิก็รู้จักกันมาตั้งแต่ประถม ซ้ำยังแต่งงานด้วยกันมาแล้วสองปี ดังนั้นฉันเลยรู้สึกได้ว่าภายใต้สีหน้านั้นของเขา คาบุรากิรู้สึกยังไง

“ไปหาอะไรกินกันเถอะค่ะ”

ฉันดึงคาบุรากิออกไปจากงานปาร์ตี้ แล้วขึ้นรถไฟไปรปปงงิ

พวกเราคือคู่สามีภรรยาที่มีอิทธิพลอันดับต้น ๆ ของญี่ปุ่น แต่ในตอนนี้ฉันกับคาบุรากิอยู่ในชุดมาริโอ้กับหลุยส์จิ ติดหนวดอันเบ่อเริ่มใต้จมูก สายตาจำนวนมากแอบมองพวกเรา แต่ไม่มีใครจำได้เลยซักคน พอลงจากสถานีรถไฟ ฉันก็พาเขาเข้าไปกินในร้านอิซาคายะ คาบุรากิไม่แตะอะไรเลยซักนิด ในขณะที่ฉันกินอยู่คนเดียว

เขาไม่ได้พูดอะไร ฉันเองก็ไม่ได้บังคับให้เขาพูด พอกินเสร็จฉันก็พาเขาไปเดินเล่น ตลอดเวลาฉันจับมือเขาไว้แน่น เพราะกลัวว่าเขาจะแอบหนีไปสถานที่ฆ่าตัวตายเหมือนอย่างตอนที่อกหักจากท่านยูริเอะ

เพราะว่าเขาไม่ยอมพูด ไม่ยอมกิน ไม่ยอมดื่มเหล้า ไม่ยอมร้องไห้ ฉันเลยทำมันทุกอย่างแทนเขา ฉันพาเขาแวะเข้าไปกินร้านอิซาคายะอีกร้าน แล้วดื่มสาเกที่ฉันไม่ชอบเลยแม้แต่น้อยเพราะว่าในร้านนั้นไม่มีไวน์ พูดเรื่องซุบซิบไร้สาระที่อ่านจากนิตยสารแฟชั่น ต่อจากร้านอิซาคายะก็ไปบาร์ ฉันดื่มค็อกเทลไปหลายแก้วแล้วก็ร้องไห้ออกมาเมื่อนึกถึงเอ็นโจกับคุณยุยโกะ

ในตอนนี้ฉันไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดเมื่อเห็นพวกเขาอีกแล้ว แต่เข้าใจความรู้สึกของคาบุรากิ ในกรณีของเขาน่าสงสารกว่าฉันมาก ฉันแอบชอบเอ็นโจแต่ไม่ได้แม้แต่จะสารภาพออกไปด้วยซ้ำ ได้แต่ไปไหนมาไหนด้วยกันในสถานะเพื่อน แล้วมองเขาแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น แต่คาบุรากิพยายามฝ่าฟันเพื่อความรักของเขาอยู่นานหลายปี เขากับวาคาบะเคยคบกันในช่วงมหาวิทยาลัย แต่ก็ต้องเลิกกันเพราะที่บ้านไม่ยอมรับ

ฉันกินซะจนกินไม่ไหว จากที่ลากคาบุรากิก็ต้องเป็นฝ่ายให้เขาประคอง หมวกหลุยส์จิหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ หนวดเองก็ถูกฉันขว้างทิ้งไปนานแล้วเพราะเกะกะเวลากิน ในตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ฉันไม่อยากให้ใครเห็นทั้งนั้นเพราะคาบุรากิ เรย์กะ มาดามน้อยของบ้านคาบุรากิ กำลังโก่งคออ้วกอยู่ที่อ่างล้างมือของบาร์ในย่านรปปงงิ คาบุรากิตามมาช่วยจับผมของฉันไม่ให้ร่วงลงไปเปื้อนอ้วกแล้วคอยลูบหลังให้ แม้ว่าเขาจะต้องเข้ามาในห้องน้ำหญิงกับฉันแต่ก็ไม่มีท่าทางขัดเขินเลยแม้แต่น้อย

กว่าจะได้ออกมาจากย่านรปปงงิก็ฟ้าสาง พวกเราเรียกรถจากที่บ้านมารับ ฉันเองพอได้อ้วกจนหมดท้องก็เริ่มสร่าง ตอนที่จะแยกย้ายเข้าห้องของตัวเอง ฉันก็หันไปจับข้อมือของเขาไว้แน่น

“ถ้าท่านคาบุรากิอยากจะไปที่ไหน ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน เวลาไหนก็แล้วแต่ พาฉันไปด้วยนะคะ”

คาบุรากิยิ้มเศร้า ๆ แต่พอเห็นว่าฉันจะไม่ยอมปล่อยเด็ดขาดถ้าหากเขาไม่ตอบ เขาก็พยักหน้า

ในเช้าวันนั้นฉันพยายามเงี่ยหูฟังตลอด กลัวว่าเขาจะแอบหนีไปโดนไม่บอก แต่เพราะว่าฉันยังเมาอยู่ สุดท้ายก็เลยหลับไปโดยคิดว่า ถ้าเขาหายตัวไป จะเริ่มตามหาที่ไหนดี

จบ

786 Nameless Fanboi Posted ID:C66iJp34pO

แอบปั่นระหว่างช่วงเวลาพัก เลยมาลงได้เร็วกว่ากำหนด แต่ยังไม่เลิกงานนาจา

787 Nameless Fanboi Posted ID:Dx09GiLgpY

รีเควส n - nothing จ้า

788 Nameless Fanboi Posted ID:9zK1Sn2Owe

>>787 ok, n - nothing

789 Nameless Fanboi Posted ID:1.d5HrmmPg

>>783-785 กูควรจะดราม่าแต่ทำไมตลกทั้งตอนแรก+เขินตอนท้ายได้วะฟฟฟฟ แต่เอาจริงการทาเล็บเท้านี่คือสุดจริงจังนะเว้ย พนงโรงแรมที่เห็นต้องมีตายกันไปข้างอ่ะ หวานเวอร์ หวานวายวอด คาบุต้องมีข่าวว่าโอ๋เมียยิ่งกว่าอะไร แถมการจับผมให้ตอนอ้วกอีก อย่าทิ้งกันไปนะ;__;

790 Nameless Fanboi Posted ID:GkNDLG6kOk

กูรักมึงโม่งฟิค มึงอย่าปั่นมากเกินไปล่ะ พักบ้าง แต่กูตามอ่านฟิคมึงแล้วกูอยากย้ายเรืออออ กูจะเลิกเรียกว่าบากะรากิชั่วคราว มันดราม่าแต่มันก็หวานอมเปรี้ยว ได้กันเถอะะะ คาบุน่ารักชิบหายยย ดูแลเทคแคร์ดีเว่อร์ๆ (ไม่นับเรื่องชุดมาริโอ้+หลุยส์จิ กูยอม สมเป็นบากะจริงๆ 55555 )

791 Nameless Fanboi Posted ID:Ydb4oARyVB

โอ๊ยยย ตามอ่านถึงตัว M กูยอมแล้วจ้า กุยอมเปลี่ยนเรือก็ได้ถ้าคาบุแม่งจะเป็นให้ได้ทุกอย่างขนาดนี้ กระทั่งแฟชั่นดีไซเนอร์อ่ะ แต่ด้วยความเป็นเพอร์เฟคชั่นนิสต์ มันต้องพาเรย์กะไปหัดกระโดดดึ่๋งๆ ด้วยแน่นอน 5555

792 Nameless Fanboi Posted ID:zB/UTqh+vR

>>783 โม่งฟิค มึงเป็นหัวเรือใหญ่คาบุรากิจริงๆ //ซับน้ำตาแห่งความปลาบปลื้ม ช็อตทาเล็บเท้าให้นี่กูตายแล้วววว ฮรืออ ละมุนมากเขินมาก ถ้ากูเห็นคู่รักที่ไหนทำแบบนี้คือเขินตัวแตกแทนอ่ะ กรี๊ดดด

793 Nameless Fanboi Posted ID:Vl9mMeHm8S

กูฟินนนนน งุ้ยยย เขินตัวปริเลยอ่าา ////.,////

สามีแบบนี้หาจากที่ไหนได้บ้างค้าาา---

794 Nameless Fanboi Posted ID:c+JaQFeK0p

ฟิคน่ารักจนกูรู้สึกผิดกับฟิคที่กำลังจะลงเลยว่ะ 55555 ให้โม่งฟิค a-z ลงไปจนจบแล้วกูค่อยลงละกัน กลัวไปขัดมู้ดพวกมึง

795 Nameless Fanboi Posted ID:D+/Tz61iSN

>>794 ลงมาเลยยย กูไม่ขัดมู้ด1 กูต้องการอาหารรร

796 Nameless Fanboi Posted ID:GkNDLG6kOk

>>794 มึงลงเลยยย กูอ่านได้หมด ขอแค่มีกาว กูสลับโหมดได้ 55555555

797 Nameless Fanboi Posted ID:wEy9uN90gD

>>794 มาเลยยยยย ตอนนี้กูหิวกาววว

798 Nameless Fanboi Posted ID:rs3Sg/T+7h

ฟิคน่ารักจนกูเริ่มสงสัยแล้วว่า ปกติคนไม่รักกัน เขาจะเอาใจใส่ คอยดูแลขนาดนี้มั้ย
>>794 ลงมาเถอะ ถือว่าเปลี่ยนรสชาติ

799 Nameless Fanboi Posted ID:vU+2fgsco+

รีเควส o - omission จ้ะ

800 Nameless Fanboi Posted ID:IpsYU/6PFK

>>799 แปะหลังลง N เน้อ ไม่รับล่วงหน้า ขออภัยด้วยจริง ๆ

801 Nameless Fanboi Posted ID:CpUpvBGkPm

ครบ a-z จะมี ก-ฮ มั้ย¬

802 Nameless Fanboi Posted ID:0m1FI/7I8o

คือกูไม่ได้เข้ามาประมาณอาทิตย์นึง กะจะมาแอบส่องๆ อห ตกใจมากกกกกกก รีพลายขึ้นหลายร้อย จะบอกว่ากูดีใจมากจริงๆ นะ ที่มู้เรากลับมาคึกคักแบบนี้ ขอบคุณโม่งฟิคมากที่มาเทกาวให้อาบ กูเป็นกำลังใจให้นะ อย่าหักโหมมากล่ะ!

803 Nameless Fanboi Posted ID:MOscPpeNEH

ตัวo กูนึกถึงoppaiว่ะถถถถ พวกมึงว่าเจ้าแม่มีนมกันปะวะ

804 Nameless Fanboi Posted ID:VWQPqc3oYy

>>803 เจ้าแม่มีพุงว่ะ แทนกันได้มั้ย

805 Nameless Fanboi Posted ID:MOscPpeNEH

>>804 ...ทำไมมึงเป็นคนโหดร้ายแบบนี้

806 Nameless Fanboi Posted ID:fyNep2ufDS

ไปอ่าน >>784 มาใหม่ สะดุดคำว่า 'ส่วนเซริกะจัง คิคุโนะจัง อายาเมะจัง รุเนะจัง และท่านฟุยุโกะ แต่งตัวเป็นกลุ่มนักดนตรีญี่ปุ่น' คุ้น ๆ ยังไงชอบกล ว่ามะ

807 Nameless Fanboi Posted ID:VWQPqc3oYy

>>805 ก..ก..กูขอโทษ Σ (゜д゜;),

808 Nameless Fanboi Posted ID:kIEHW3zsJj

>>806 คณะสังคีตตตตตตต

809 Nameless Fanboi Posted ID:eoRtfOQMpv

คาบุ๊..... นี่พัฒนาไปทาเล็บได้แล้วเรอะ

แต่เอาจริงๆ พอมาคิดๆดูคาบุออฟฟิเชียลเองก็คงทำได้แหงๆเรย นางมีสกิลพระเอกเทพ ทำเป็นทุกอย่าง (เอ๊ะ รึสกิลเพื่อนสาว?)

810 Nameless Fanboi Posted ID:Xn6wlsytnj

>>809 สกิลงานแฮนด์เมดฮีก็อัพมาเต็ม แค่ทาเล็บไม่น่าจะยาก แต่การที่ผู้ชายทำงานแฮนด์เมดถักลูกไม้ได้ดีนี่มันสาวน้อยชิบ...

811 Nameless Fanboi Posted ID:PXYlfyH+5A

N - Nothing

สิ่งแรกที่ฉันทำหลังจากตื่นขึ้นมา คือการเดินไปเคาะห้องของคาบุรากิ

ฉันเคาะอยู่นานซะจนเกือบจะบิดประตูเปิดเข้าไปโดนพลการ ทว่าคาบุรากิเป็นฝ่ายเปิดประตูก่อน ฉันมองคาบุรากิที่อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตกับกางเกงยีนส์สะอาดเรียบร้อย แต่ตาของเขามีรอยช้ำเหมือนไม่ได้นอนทั้งคืน

“สภาพเธอดูไม่ได้เลย คิโชวอิน”

ฉันมองตัวเองที่ยังอยู่ในชุดหลุยส์จิ บนเอี๊ยมมีคราบน้ำจิ้มกระเซ็นเป็นจุด ๆ ผมยุ่งเหยิงไม่ได้หวี หน้าไม่ได้ล้าง แถมปากยังมีกลิ่นอ้วก ก็เลยไม่ได้แก้ตัวอะไรไป

“มาหนีไปที่อื่นด้วยกันเถอะค่ะ” ฉันโพล่งออกไป เพราะคิดว่าถ้าพาคาบุรากิหนีไปก่อนที่เขาจะหนีไปเอง อย่างน้อยเวลาเกิดอะไรขึ้นเขาก็ยังมีคนปลอบใจ แต่ก่อนเขายังมีเอ็นโจคอยตามตัว แต่ตอนนี้เอ็นโจก็มีครอบครัวเป็นของตัวเองแล้ว ดังนั้นหน้าที่ดูแลเขาจึงตกเป็นของฉันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

คาบุรากิจ้องฉันเหมือนฉันชวนเขาไปบุกตีปราสาทมัตสึโมโต้ หรือไปขโมยประกาศอิสรภาพของประเทศอเมริกา แต่พอเห็นฉันทำหน้าซีเรียส เขาก็ตกลง แต่บอกว่าเขาจะไม่มีทางออกไปกับฉันในสภาพแบบนี้เด็ดขาด

หลังจากที่คาบุรากิเก็บกระเป๋าตัวเองเสร็จก็มาหาฉันที่ห้อง ฉันแพคชุดชั้นในลงในถุงแล้วขอให้เขาช่วยจัดเสื้อผ้ากับรองเท้าให้ในขณะที่ตัวเองไปอาบน้ำ พอออกมาจากห้องน้ำ กระเป๋าก็ถูกรูดซิปแล้วเรียบร้อย คาบุรากินั่งเล่นโทรศัพท์ในขณะที่ฉันหาชุดใส่

“ระหว่างเดรสของคาโรลิน่า เฮอร์เรร่า กับปีเตอร์ พิลอตโต ท่านคาบุรากิว่าตัวไหนดีกว่ากันคะ?” ฉันยกไม้แขวนเสื้อขึ้นโชว์ทั้งสองตัว

คาบุรากิทำหน้าไม่โอเคกับทั้งสองชุด “หนาวจะตาย ยังจะใส่ชุดเดรสบาง ๆ อีก”

ฉันในโลกก่อนที่ใส่แต่เสื้อยืดกับกางเกงยีนส์มีความฝันแบบสาวน้อยว่าอยากจะเป็นผู้หญิงที่เหมาะกับชุดเดรส พอทะลุมิติมาอยู่ในร่างของคุณหนูที่เหมาะกับชุดเดรสก็เลยจัดซะเต็มที่ คาบุรากิเห็นหน้าฉันแล้วก็ถอนหายใจ ก่อนจะลุกขึ้นไปคุ้ยในห้องเสื้อผ้าแล้วเหวี่ยงกับเจอร์ซี่เดรสของกุชชี่ กับบอมบ์เบอร์แจ็กเก็ตขนเฟอร์ในวินเทจคอลเลคชั่นของฌอง ปอล กอติเย่ มาให้ สีขาวในหน้าหนาวทำให้ฉันรู้สึกเหมือนกระต่ายขาว ถ้าเป็นเอ็นโจ เขาก็คงจะชมฉันว่าน่ารักเหมือนกระต่าย แต่อีตาคาบุรากิคนปากเสียนี่เค้นให้ตายยังไงก็ไม่มีทางชมฉันซักครึ่งคำ

พอพยายามนึกว่าลืมอะไรไปรึเปล่า ฉันก็นึกขึ้นมาได้ว่าลืมบอกคาบุรากิเรื่องผู้รับเหมาเลื่อนวันส่งงาน ส่วนตัวเองลืมเลือกธีมงานเลี้ยงของโรงแรมในเครือ แม้ว่าพวกเราคิดจะหนีไปเที่ยว แต่อย่างน้อยก็ต้องเคลียร์งานบางส่วนให้เสร็จก่อน ฉันบอกกับคาบุรากิเรื่องผู้รับเหมา เขาเลยโทรไปบอกผู้ช่วยว่ายังไงก็ต้องกดดันให้อีกฝ่ายส่งงานให้ทันให้ได้ เพราะต้องเตรียมโรงแรมรับแขกที่มาเยือนในโอลิมปิกปี 2020 ส่วนฉันนั่งบนเตียงเลือกธีมด้วยความร้อนรนเพราะไม่อยากให้คาบุรากิรอ น้ำจากผมที่เพิ่มสระเสร็จหมาด ๆ หยดจนแทบจะท่วมคีย์บอร์ดจนต้องเอาชายเสื้อคลุมอาบน้ำเช็ดอยู่บ่อยครั้ง คาบุรากิเห็นอย่างนั้นเลยอาสาเป่าผมให้

ฉันสาธยายวิธีการดูแลผมแล้วยกตะกร้าบรรดาเซรั่มบำรุงมาสั่งเขายาวเหยียด คาบุรากิก็สมกับเป็นคาบุรากิ เขาฟังโดยที่ไม่ต้องให้ทวนอีกรอบเลยด้วยซ้ำ ก่อนจะลงมาเป่าผมของฉันในขณะที่ฉันนั่งทำงานงก ๆ

“ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้” คาบุรากิบอกด้วยน้ำเสียงรำคาญ

“แต่ว่า” ฉันเหลือบไปมองคาบุรากิ

“ฉันไม่หนีไปไหนหรอกน่า ก็สัญญาไว้แล้วนี่” คาบุรากิบอก ฉันเลยลดสปีดในการตัดสินใจเลือกชาที่จะใช้ในงานเลี้ยงช่วงกลางวัน อันที่จริงฉันยังคงติดใจชาที่ใส่ซินนามอนกับโคลฟซึ่งใช้ชงในช่วงคริสต์มาส แต่ว่าในช่วงปีใหม่ก็อยากจะเปลี่ยนเป็นชาตัวอื่น เลยตัดสินใจเลยชาที่ใส่ส้มแมนดารินแทน

กว่าจะเสร็จงาน ผมก็ฉันก็แห้งพอดี แต่มันเป็นลอนหลวม ๆ ไม่แน่นเหมือนที่ม้วนปกติ ทว่าวันนี้ไม่ได้จะออกงานสังคม ก็เลยไม่ได้แก้ทรง พอหันไปหาคาบุรากิจะถามว่าเขาอยากไปไหน ก็เห็นว่าเขามองมาด้วยสีหน้ายิ้มน้อย ๆ แบบที่แปลกตาออกไป ฉันเลยถามเขาว่าฉันดูตลกหรือมีอะไรแปลกตรงไหนรึเปล่า

“ไม่มี เธอก็ดูปกติดี ดีกว่าสภาพน่าเกลียดเมื่อกี้มาก” คาบุรากิตอบ ฉันกลอกตาใส่เขา มันก็แน่อยู่แล้ว ก่อนอาบน้ำ พอฉันเห็นสภาพตัวเองในกระจกแล้วก็เพิ่งรู้ว่าผู้หญิงตอนแต่งตัวนี่ดูไม่ได้จริง ๆ อย่างน้อยก็ฉันคนหนึ่งน่ะแหล่ะ

“เสร็จแล้วก็ไปกันเถอะ”

พวกเราขับเมอร์ซิเดสที่เตะตาน้อยที่สุดในโรงรถของคาบุรากิออกจากบ้าน ไม่รู้ว่าปลายทางจะไปที่ไหน แต่อย่างน้อย ที่ ๆ คาบุรากิจะไป เขาก็ไม่ต้องไปคนเดียว

จบ

812 Nameless Fanboi Posted ID:LnjowAnyeZ

Own.....

813 Nameless Fanboi Posted ID:PXYlfyH+5A

>>812 O-Own นะ

814 Nameless Fanboi Posted ID:LnjowAnyeZ

อัตราการแข่งขันลดลงมากเว่อร์5555

815 Nameless Fanboi Posted ID:v53unWAYFh

จากการอยู่ยาวเมื่อคืน พอไปนอนกูดันนอนไม่หลับ หลับลงอีกทีก็ตี 5 วันนี้ไม่มีแรงตามสตอกเกอร์แย่งชิงรีเควส กูอ่านแล้วอยากได้คาบุมาเป็นสามีอ่ะมึง ดีงามจริงๆ นะ ฟิคคู่นี้ยิ่งน้อยๆ พอมาทีจัดเต็มเฟ่อร์

816 Nameless Fanboi Posted ID:Jst0uR81rw

มา กูเปิดคอมพร้อมมาแย่งชิงตัว P ต่อหลังจบ O ละ //ฟืดด (>>815)

817 Nameless Fanboi Posted ID:MOscPpeNEH

กูเผลอไปสิงอีกห้องมา กลับมาก็มีอาหารแหล่ว//พนมมือ กูขอย้ำอีกครั้งว่าคาบุมึงละมุนมาก สามีมาก ว่าแต่มาขนาดนี้แล้วเจ้าแม่ไม่ต้องจัดกระเป๋าเองทั้งอันยังได้เลยมั้งเนี่ย เป็นทุกอย่างให้เธอแล้วที่แท้ทรู

818 Nameless Fanboi Posted ID:wEy9uN90gD

อ่านไปเรื่อยๆ แล้วรู้สึกอยากกระโดดข้ามเรือไปเรือคาบุเรย์กะ กูอยากแย่งชิงตัว w, z มากตอนนี้---

819 Nameless Fanboi Posted ID:+ihQEY9vPa

>>811 กูชอบบบบบ หนีไปด้วยกัน ช๊อบชอบ 55555

820 Nameless Fanboi Posted ID:kIEHW3zsJj

อ่านถึงตอนนี้กรุอยากตะโกนว่า"พวกแกไปแต่งงานกันเลยไป๊"ก่อนจะคิดได้ว่า เออ แต่งกันอยู่แล้วนี่นะ คาบุละมุนเวอร์อ่ะ ชอบเวอร์ชั่นนี้ 55555

821 Nameless Fanboi Posted ID:RHDMrez1No

O - Own

มีคนเคยกล่าวไว้ว่า ‘ครึ่งหนึ่งของทรัพย์สมบัติบนโลกนี้ถูกครอบครองด้วยคนเพียงจำนวน 1%’ และในบรรดาคน 1% ของประเทศญี่ปุ่นนั้น ฉันกับคาบุรากิอยู่บนจุดสูงสุดของคนเหล่านั้น

จริงอยู่ที่การลงทุนหลักของคาบุรากิอยู่ที่โรงแรมและอสังหา ส่วนของคิโชวอินอยู่ที่อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม แต่ในความเป็นจริงพวกเราคือนักลงทุน มีอะไรที่เอาเงินลงไปแล้วได้กำไรกลับมาโดยที่คุ้มกับความเสี่ยง ก็ไม่เกี่ยงทั้งนั้น

ไม่ว่าจะสินค้าอุปโภคบริโภค ร้านอาหาร อสังหาริมทรัพย์ การศึกษา สาธารณะสุข การเมือง ราชการ พวกเราต่างมีความเกี่ยวข้องด้วยทั้งหมด ไม่จากการลงทุนก็มีผลประโยชน์ได้เสียกับผู้มีอำนาจในวงการนั้น ๆ ในอดีตฉันเคยคิดว่าการเมืองเป็นที่ ๆ สกปรก แต่หลังจากที่ฉันได้ขึ้นมาเป็นมาดามน้อยบ้านคาบุรากิแล้ว ฉันก็ได้รับรู้ว่า ไม่ว่าที่ไหน อำนาจและเงินตราก็สามารถขับเคลื่อนทุกสิ่งได้ทั้งนั้น และถ้าหากว่าสามารถควบคุมการขับเคลื่อนของสิ่งต่าง ๆ ได้ ท้ายที่สุดแล้ว จะนำมาซึ่งเงินจำนวนมหาศาลที่ย้อนกลับคืนเข้าสู่กระเป๋า ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น เพิ่มพูนมากขึ้นเรื่อย ๆ ไปตามกาลเวลา

ดังนั้น ตั้งแต่เกิดมาพวกเราก็อยู่ในกองเงินกองทอง ได้ทุกอย่างที่อยากได้ มีทุกอย่างที่อยากมี ฉันแทบไม่เคยต้องใส่เสื้อผ้าซ้ำตัว อาหารหรือของใช้ทุกอย่างที่ทางบ้านประเคนให้ล้วนแล้วแต่เป็นของที่ดีที่สุด อาจจะเป็นเพราะอย่างนั้น คิโชวอิน เรย์กะ ที่อยู่ในการ์ตูนถึงเข้าใจผิดว่าคาบุรากิเป็นของเธอ

ฉันที่แต่ก่อนเคยรู้สึกอิจฉาคนรวย เพราะสำหรับพวกเขาเหล่านั้นแล้ว ไม่ว่าต้องการอะไรก็ได้มาง่าย ๆ ไม่ว่าจะของอร่อย ๆ เสื้อผ้าสวย ๆ หรือเครื่องบำรุงผิวราคาแพง แต่ในความเป็นจริงแล้วชีวิตของฉันกับคาบุรากิกลับไม่ง่ายดายเช่นนั้น

แม้ว่าท่านแม่จะบอกว่าฉันไม่ต้องเรียนให้ได้ลำดับดี ๆ ก็ได้ เพราะสำหรับบุตรสาวตระกูลคิโชวอินแล้ว ฉันไม่จำเป็นจะต้องทำโจทย์ตรีโกณมิติได้ถูกต้อง หรือรู้ว่าเรือดำมาประเทศญี่ปุ่นในปีอะไร ขอเพียงแค่สวยน่ารัก รสนิยมดี เป็นสะใภ้ตระกูลคาบุรากิก็พอ ชีวิตของคิโชวอิน เรย์กะ ถูกขีดไว้อย่างนั้นตั้งแต่เกิดมาแล้ว

สำหรับคาบุรากิ ถึงชีวิตของเขาจะน่าอิจฉา หน้าตาดี หัวดี บ้านรวย เล่นกีฬาเก่ง เพอร์เฟคไปแม้กระทั่งสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องทำได้ แต่ชีวิตของเขากลับถูกขีดเส้นเอาไว้อย่างเคร่งครัดไม่ต่างจากฉัน

คาบุรากิสามารถมีบ้านหลังโต มีเครื่องบินส่วนตัว มีเรือยอร์ชสุดหรู จะซื้อของแบรนด์เนมมาโยนทิ้งก็ไม่มีใครว่า แต่สิ่งที่เขาไม่สามารถมีได้คืออิสรภาพ

ราคาของอิสรภาพของฉันกับคาบุรากิแพงเสียจนไม่ว่าพวกเราจะจ่ายออกไปเท่าไหร่ก็ไม่สามารถซื้อได้ ในกรณีของฉันต้องโทษตัวเองที่ขี้ขลาดไม่เคยพยายามออกจากพื้นที่ปลอดภัย แต่สำหรับคาบุรากิกลับเป็นโศกนาฏกรรมที่ทำให้อยากเบือนหน้าหนียิ่งนัก เพราะมันตอกย้ำให้เห็นว่า ความแตกต่างระหว่างชนชั้นของสังคมนั้นสามารถฉีกคู่รักออกจากกันได้ แม้กระทั่งกับคนหัวดื้อที่สุดอย่างคาบุรากิ

ทว่าแม้พวกเราจะคร่ำครวญอีกนานเท่าไหร่ ก็ไม่สามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขอะไรได้ เอ็นโจแต่งงานแล้ว ฉันแต่งงานแล้ว คาบุรากิแต่งงานแล้ว วาคาบะจังก็มีคนรักแล้ว

“ท่านคาบุรากิหิวแล้วรึยังคะ?” ฉันถามคาบุรากิที่มือข้างนึงท้าวกับขอบประตู อีกข้างจับพวกมาลัย

“เธอหิวแล้วล่ะสิ ก็เมื่อคืนอ้วกเอาที่กินออกมาทั้งหมดเลยนี่” คาบุรากิกระตุกยิ้ม ส่วนฉันหน้าแดงจัด ถ้าขืนฉันยังเป็นสาวน้อยที่ยังไม่แต่งงาน ทำตัวแบบนั้นมีหวังคงขายไม่ออกแน่ ๆ “อยากกินอะไรล่ะ?”

“แวะที่พักบนไฮเวย์ได้ไหมคะ?”

คาบุรากิพยักหน้า อีกยี่สิบนาทีพวกเราก็ถึงที่พักผ่อนกลางไฮเวย์ ฉันมองคาบุรากิที่ตอนอยู่บนรถเก๊กท่าเหม็นเบื่อ แต่ตอนได้มาเห็นร้านค้าข้างทางก็ระริกระรี้อยากจะชิมไปซะทุกอย่าง แล้วก็ยิ้มออกมาได้ในที่สุด

ถึงแม้ว่าจะมีบางสิ่งที่พวกเราซื้อไม่ได้ แต่ไม่มีใครเกิดมาแล้วได้ทุกสิ่ง อย่างน้อย ในตอนนี้พวกเราก็สามารถมีความสุขกับสิ่งเล็ก ๆ กับสิ่งที่เงินซื้อได้อย่างทาโกะยากิหรือยากิโทริ และสำหรับฉัน แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว

จบ

822 Nameless Fanboi Posted ID:Jst0uR81rw

P padre (บาทหลวง)

823 Nameless Fanboi Posted ID:b6OP/+4mqA

>>822 จะพาบากะรากิไปบวชเรอะ---

824 Nameless Fanboi Posted ID:RHDMrez1No

>>822 โอเค P=Padre

825 Nameless Fanboi Posted ID:Jst0uR81rw

>>823 ไม่ใช่มึงงงงงงง โถ่ววววว กุอุส่าห์เอาที่แปลว่าบาทหลวงไม่ใช่นักบวชนะ

826 Nameless Fanboi Posted ID:Xn6wlsytnj

>>823 ชิงพาไปโกนหัวบวชตัดหน้าก่อนไปโดดผาโทจิมโบสินะ

827 Nameless Fanboi Posted ID:b6OP/+4mqA

>>826 อาจจะบวชยาวจนละทางโลก---

828 Nameless Fanboi Posted ID:qE1QoWMdE+

เอิ่มมมม 5555

829 Nameless Fanboi Posted ID:8llL67Ynbl

P-Pretty

830 Nameless Fanboi Posted ID:MOscPpeNEH

อย่าบอกนะว่าที่ขับรถกันคือไปเข้าวัดแล้วบอก อิสรภาพคือการละจากทางโลกนนั่นเองถถถถถถ

831 Nameless Fanboi Posted ID:wEy9uN90gD

>>830 หนีทางโลกไปเข้าสู่ทางธรรมด้วยกัน... ไม่ใช่สิ!

832 Nameless Fanboi Posted ID:CpUpvBGkPm

>>830 จะกลายเป็นพวกชวนเข้าลัทธิเรอะ

833 Nameless Fanboi Posted ID:Xn6wlsytnj

>>830 กูว่าถ้าเป็นเนื้อเรื่องหลักคงออกมาประมาณนั้นล่ะ อะไรคือความโชโจ มันสะกดยังไง

มีอย่างที่ไหน พระเอกอกหัก เพื่อนพระเอกขอให้ช่วยปลอบใจ แต่นางเอก(?)ดันไล่ไปโกนหัวบวช ถ้าเรื่องอื่นมันต้องเป็นอีเวนท์เยียวยาใจจนเกิดเป็นความรักแล้ว พอมาเป็นเรื่องนี้แม่ง..... 55555555

834 Nameless Fanboi Posted ID:+RWAFr.SoQ

P - Padre

“เข้าไปดูข้างในกันเถอะ”

คาบุรากิชวนฉันในขณะที่เราเดินเล่นไปตามถนนแล้วผ่านโบสถ์เก่า ๆ หลังหนึ่ง แม้ว่าฉันจะชอบสถาปัตยกรรมของตะวันตกที่ให้ความรู้สึกโรแมนติก แต่ว่าโบสถ์เก่า ๆ แบบนี้ดูเหมือนจะมีวิญญาณสิงมากกว่าเป็นที่อยู่ของพระเจ้า ทว่าพอเห็นสีหน้ากระตือรือล้นของคาบุรากิ ฉันก็ต้องพยักหน้าตกลงอย่างเสียไม่ได้

ประตูไม้เก่า ๆ ลั่นเอี๊ยดในตอนที่ผลักเข้าไป แม้จะเป็นตอนกลางวัน ด้านในโบสถ์กลับค่อนข้างมืดสลัว ฉันนึกถึงหนังผีที่เคยดูสมัยเด็ก ๆ ขึ้นมาก็ขนลุกซู่ แต่คาบุรากิกลับเดินเข้าไปได้อย่างสบายใจเฉิบ ฉันที่ไม่อยากโดนทิ้งไว้คนเดียวเลยรีบเดินตามเขา

พอเดินไปจนถึงสุดทางตรงหน้าพระเยซู คาบุรากิก็เดินขึ้นไปบนแท่นแล้วเปิดดูหนังสือไบเบิ้ลที่วางเอาไว้ใต้เท้าของรูปสลักที่ถูกตรึงบนกางเขน

“เอ่อ...กลับกันดีกว่า ที่นี่ดูไม่มีใครเลย” ฉันพยายามคะยั้นคะยอคาบุรากิ

คาบุรากิยักไหล่ “เพิ่งเข้ามาเอง แค่เดินดูคงไม่เป็นอะไรหรอก”

ฉันกำมือแบมืออยู่ซ้ำ ๆ เพื่อทำให้ตัวเองสงบลง ทว่าเงาดำที่พรวดเข้ามาทำให้ฉันกรี๊ดลั่น คาบุรากิเองก็ตกใจเช่นกันที่ฉันร้องขึ้นมา เขาเอ็ดฉันยกใหญ่เมื่อเจ้าเงาดำ ๆ นั่นเป็นแค่แมว

ฉันมองแมวดำแล้วจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว คาบุรากิยังคงมุ่งหน้าเดินสำรวจโบสถ์ต่อไป พอเขาเดินเข้าไปด้านหลัง ฉันที่กลัวจนขาอ่อนจึงต้องเดินตามเขาเข้าไปด้วยเพราะไม่อยากอยู่คนเดียว

แมวดำอีกตัวที่เผ่นแผล่วทำให้ฉันสะดุ้งเฮือก ผงะถอยหลังหนีไปชนกับชั้นวางของด้านหลัง วินาทีต่อมาก็ได้ยินเสียงกึงบางอย่าง พอมองที่พื้นอีกที ก็เห็นจอกที่ดูท่าทางเก่าแก่มีราคาร่วงลงบนพื้น ตัวจอกกับก้านจับหักออกจากกัน ฉันเบิกตากว้าง ตกใจที่ทำของเสียหาย

“คุณพ่อคะ” เสียงที่ดังออกมาจากห้องโถงด้านหน้าทำเอาฉันสะดุ้งอีกครั้ง ฉันมองจอกบนพื้น ก้มเก็บมันแล้วหันซ้ายหันขวาเลิกลั่กพยายามจะปกปิดความผิดเหมือนเด็ก ๆ อันที่จริงถึงแม้มันจะเป็นของเก่าแก่มีราคา แต่ด้วยฐานะของบ้านคาบุรากิในตอนนี้มีเงินซ่อมได้สบายมาก ทว่าสัญชาตญาณเก่าของฉันผุดขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ฉันเลยลากคาบุรากิเข้าไปในห้องเล็ก ๆ เพื่อที่จะได้ซ่อนจากพยานผู้พบเห็น

เงาตะคุ่ม ๆ ที่ทอดใกล้เข้ามาทำให้ฉันคลานต่ำลง คาบุรากิกระซิบดุถามว่าฉันเล่นบ้าอะไร ฉันเอานิ้วชี้แตะปากเป็นสัญญาณให้เขาทำตัวเงียบ ๆ ตอนที่กำลังจะดึงคาบุรากิให้ย่อตัวลงซ่อนหลังผนังด้านล่างที่ค่อนข้างทึบ เสียงนั้นก็ดังขึ้นอีก

“อา คุณพ่ออยู่ในห้องสารภาพบาปนี่เอง”

835 Nameless Fanboi Posted ID:yjQID0JbYe

ฉันกับคาบุรากิมองตากันเลิ่กลั่ก ตอนนี้ทางเลือกมีอยู่สองทาง คือพวกเราออกไปด้านนอกแล้วสารภาพว่าทำจอกเงินหัก ซึ่งดูจะเป็นเรื่องน่าขายหน้ามากเพราะทำของเสียหายแล้วยังคิดจะซ่อน รู้ไปไหนก็อายไปถึงนั่น อีกทางหนึ่งคือเล่นละครตบตาอีกฝ่ายไป ซึ่งเป็นเรื่องปัญญาอ่อนที่มีแต่ในหนังเท่านั้น

หญิงสาวที่อยู่อีกด้านของกำแพงไม่ปล่อยให้พวกเราตัดสินใจ เธอนั่งลงบนม้านั่งด้านนอก แล้วเอ่ยปากต่อทันที “คุณพ่อช่วยรับฟังเรื่องของฉันหน่อยเถอะค่ะ ฉันมีเรื่องร้อนใจมากจริง ๆ เป็นเรื่องที่เล่าให้ใครฟังไม่ได้ ดีจริงที่มาเจอคุณพ่อในเวลานี้”

ฉันสบตากับคาบุรากิ เขาทำตาดุใส่ฉัน ก่อนจะตอบว่า “อืม” เบา ๆ ทั้ง ๆ ที่คิดว่าความจะต้องแตกแล้วแน่ ๆ แต่หญิงสาวด้านตรงข้ามกลับไม่ได้มีท่าทีประหลาดใจเลยแม้แต่น้อย

ถึงด้านบนของผนังห้องจะถูกตีด้วยไม้สานเพื่อทำให้ไม่เห็นหน้าคนสารภาพบาป ซึ่งในทางกลับกัน ทำให้ไม่เห็นคนด้านในด้วย แต่การจำเสียงบาปหลวงในย่านที่อยู่อาศัยของตัวเองไม่ได้นี่พึลึกสุด ๆ ฉันขยับปากพูดคำว่า ‘บ้าไปแล้ว’ ให้กับคาบุรากิ ส่วนคาบุรากิขยับปากตอบฉันว่า ‘เธอนั่นแหล่ะ’ ก่อนสวมบทบาทคุณพ่อ แล้วพยายามนั่งลง

ห้องสารภาพของที่นี่ถูกสร้างอย่างอัตคัตถึงที่สุด เพราะเป็นห้องขนาดหนึ่งคูณหนึ่งจุดห้าเมตรเท่านั้น ยิ่งคนตัวสูงอย่างคาบุรากินั่งลง เรียกได้ว่า หลังชนผนังด้านหนึ่ง ยังมีที่ไม่พอให้ยืดเข่าเลยด้วยซ้ำ พอคาบุรากินั่งลงมา ฉันก็ต้องเขยิบตัวเข้าไปใต้โต๊ะ นั่งบนพื้นใต้โต๊ะอันคับแคบ หน้าผากพาดหมิ่น ๆ ไว้บนพื้นที่ว่างบนเก้าอี้ตรงกลางระหว่างขาทั้งสองข้างของคาบุรากิ

ในระหว่างที่หญิงสาวอีกด้านของห้องสารภาพสาธยายว่าเธอขอโทษที่ไม่เคยมาช่วยงานที่โบสถ์เลย แต่พอมีเรื่องเดือดร้อนกลับต้องมาพึ่งคุณพ่อให้ช่วยคลายความทุกข์ในใจให้ จากนั้นก็เล่าถึงความรักต้องห้ามระหว่างเธอกับพี่ชาย ฉันก็นั่งเมื่อยขบอยู่บนพื้น มีจอกหักที่ยังคงเป็นหลักฐานอยู่คามือ คิดในใจว่าไม่น่าหาเรื่องเลย ทำไมตัวเองถึงไม่เอาจอกนั่นเก็บกลับไปไว้ที่เดิมแล้วทำไม่รู้ไม่ชี้ไปซะก็หมดเรื่อง

‘ขาชาแล้ว’ ฉันพิมพ์ใส่โทรศัพท์มือถือแล้วยื่นออกไปให้คาบุรากิอ่าน คาบุรากิสะดุ้งเฮือกเมื่อขอบโทรศัพท์ของฉันทิ่มใส่เป้ากางเกงเขา ฉันกระซิบ ‘ขอโทษ’ ไป คาบุรากิก็ล้วงมือลงมาจิ้มหน้าผากฉันให้ลงไปจากเก้าอี้ แต่เพราะว่าโต๊ะมันเตี้ยมาก หัวฉันเลยโขกกับโต๊ะดังปัง!

หญิงสาวที่อยู่ฝั่งตรงข้ามสะดุ้ง หยุดเล่าทันทีแล้วถามอย่างเป็นห่วงว่าเป็นอะไรไหม ดูเหมือนว่าคาบุรากิจะส่งอวัจนภาษาอย่างการส่ายหน้าไปให้ เธอเลยเล่าต่อ

ฉันรับฟังความรักที่อัดแน่นในใจของหญิงสาว เริ่มต้นด้วยในวัยเด็กเธอสนิทกับพี่ชาย ในเวลาต่อมาที่เธอเริ่มโตขึ้น พี่ชายก็เริ่มกีดกันผู้ชายที่เข้ามาหาเธอ จนกระทั่งเขาสารภาพว่าหลงรักเธอมานานแล้ว และเธอก็เพิ่งรู้ตัวว่าหลงรักเขาเหมือนกัน

ฉันฟังเรื่องของหญิงสาวแล้วคิดว่าดีจริง ๆ ที่ตัวเองไม่ได้หลงรักท่านพี่ อันที่จริงท่านพี่กับฉันถ้านับตามวิญญาณแล้วก็ไม่ได้เป็นพี่น้องจริง ๆ แต่ถึงยังไงก็ยังมีสายเลือดเดียวกัน ซึ่งก็ผิดผีอยู่ดี

แทนที่ฉันจะได้ยินคำถามประมาณว่า ‘ฉันควรจะทำยังไงดีคะ’ หรือ ‘ท่านบาทหลวงคิดอย่างไรคะ’ หญิงสาวนอกห้องสารภาพบาปกลับเล่าต่อไปว่าพี่ชายของเธอเข้ามาในห้องนอนของเธอ จุมพิตเธอ และเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละอียดถี่ยิบ ราวกับเธอกำลังอ่านนิยายอีโรติกให้กับพวกเราฟัง

836 Nameless Fanboi Posted ID:+RWAFr.SoQ

ฉันอ้าปากค้าง จะเอามือยกขึ้นมาอุดหูก็ติดเข่าของคาบุรากิ ก็เลยต้องทนฟังว่ามือพี่ชายของเธอล้วงเข้าไปตรงไหนบ้าง ใส่เข้าไปกี่นิ้ว เธอเปียกขนาดไหน รู้สึกยังไง ฉันฟังแล้วอยากจะร้องไห้ เรื่องแบบนี้ถ้าเก็บไว้ฟังคนเดียวตอนอยู่ในห้องนอนก็เอ้อ...เป็นเรื่องธรรมชาติอ่ะนะ แต่มันใช่เรื่องที่จะมาสารภาพบาปให้บาทหลวงไหมล่ะ โดยเฉพาะคนที่อยู่ในห้องเป็นบาทหลวงปลอม ๆ อย่างคาบุรากิอีก

ฉันจับเวลาแล้วก็พบว่าตัวเองฟังนิยายโป๊อยู่สิบห้านาทีเต็ม ๆ แทบจะร้องไห้ออกมาจริง ๆ ตอนที่ครั้งแรกเสร็จแล้วยังมีต่อยกสอง แต่สุดท้ายพวกเขาก็ทำกันแค่สองยก ถ้าขืนทำซักสิบครั้ง ฉันคงอายจนเป็นลมสลบไป

“ขอบคุณคุณพ่อมากนะคะที่รับฟัง ฉันรู้ว่ามันเป็นเรื่องผิดบาป แต่ฉันห้ามใจไม่ได้จริง ๆ ค่ะ ขอให้คุณพ่อช่วยขอร้องพระเจ้าไม่ให้ลงโทษพวกเราด้วยนะคะ”

หญิงสาวนอกห้องสารภาพจากไปอย่างรวดเร็ว ทว่าฉันกับคาบุรากิยังคงตัวแข็งค้างราวกับมีคนกดปุ่มสต๊อป พอฉันพยายามจะยื่นหน้าออกไปบอกให้คาบุรากิช่วยเขยิบไปหน่อย คาบุรากิก็กดหัวฉันลงไปใต้โต๊ะทันควัน แล้วค่อย ๆ ขยับตัวก้าวออกจากเก้าอี้ ก่อนจะไปยืนตรงบริเวณประตู หันหน้าเข้าหามุมห้อง

ฉันขยับเก้าอี้แล้วค่อย ๆ คลานออกมา ส่งเสียงโอดโอยเมื่อขาชาริก เมื่อคลานออกมาได้ ฉันก็ซบตัวลงกับเก้าอี้ ปวดไปทั้งร่างเพราะขดอยู่ใต้โต๊ะเกือบยี่สิบนาที

พอมองคาบุรากิที่ยืนหันหลังให้ฉัน ตอนแรกฉันจะเอ่ยปากถามเขาว่าเป็นอะไรรึเปล่า แต่นึกขึ้นมาได้ว่าปฏิกริยาของผู้ชายที่ฟังเรื่องอย่างว่าไม่น่าจะมีอะไรอย่างอื่นนอกจาก...

ความเงียบเข้าครอบคลุมในห้อง ก่อนที่ฉันจะกระแอมออกมา ตอนแรกฉันกะจะบอกว่า ‘เชิญตามสบายนะ เดี๋ยวฉันออกไปรอข้างนอก’ แต่แค่คิดว่าถ้าต้องออกไปยืนในโบสถ์น่ากลัวคนเดียวน่ะไม่เอาเด็ดขาด พอเทคที่สองจะบอกว่า ‘นายออกไปทำข้างนอกก็ได้นะ เดี๋ยวฉันรอในนี้’ ก็ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ การทำเรื่องแบบนั้นต่อหน้าพระเยซูนี่มันน่ากลัวเกินไปแล้ว เลยบอกทางเลือกสุดท้ายออกไป

“จะให้ฉันหลับตาอุดหูแล้วหันหลังให้ก็ได้นะ จะได้จัดการ—“

คาบุรากิเอี้ยวตัวมามองฉันตาเขียว ทำเหมือนสาวน้อยที่ถูกลวนลาม ฉันอยากจะบอกว่าฉันอายยิ่งกว่าเขาอีก แต่ฉันโตแล้ว ก็พอเข้าใจว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมชาติ อีกอย่างเราก็เป็นเพื่อนกัน เขายังเคยเห็นฉันถกกระโปรงนั่งฉี่แล้ว ทำไมฉันจะเห็นเขา—

เอ่อ คิดอีกที ไม่เอาดีกว่า

ตอนที่คาบุรากิหันมาเต็มตัว ฉันพยายามบังคับไม่ให้ตัวเองมองต่ำ คาบุรากิบอกว่าพวกเราควรจะไปได้แล้ว เขาพยายามจะดึงให้ฉันลุกขึ้น ฉันลุกแล้วก็นั่งพรวดลงไป ทำเอาเขาตกใจใหญ่

สุดท้ายแล้วเขาก็ต้องนวดขาให้ฉันเพราะว่าฉันตะคริวกิน หลังจากออกไปจากโบสถ์นั้น พวกเราก็ไม่เอ่ยปากถึงเรื่องนี้เลยแม้แต่คำเดียว

จบ

837 Nameless Fanboi Posted ID:Jst0uR81rw

Q quirt (แส้)

838 Nameless Fanboi Posted ID:VWQPqc3oYy

Q-Quibble!

839 Nameless Fanboi Posted ID:VWQPqc3oYy

>>837 ต่างกันไม่กี่วิ!

840 Nameless Fanboi Posted ID:Jst0uR81rw

>>834-836 หล่อนมาสารภาพอะไรในโบสถ์วะ 55555555555555555
สงสารท่านเรย์กะ สงสารคาบุรากิ ยิ่งรีเควสกุต่อด้วยแส้อีก จบแล้ว 55555555555

841 Nameless Fanboi Posted ID:Jst0uR81rw

>>839 >.O ) ตัวหน้ากุขอผ่านละกัน พักมือบ้าง จ้องรีเฟรชมาหลาย ชม. ละเหนื่อยโฮกๆ

842 Nameless Fanboi Posted ID:VWQPqc3oYy

>>841 ตัว R กูขอผ่านเซม ฝากเพื่อนโม่งด้วยนะคะ แล้วก็ขอบคุณโม่งฟิคมาก คืนนี้น่าจะอีกยาว

843 Nameless Fanboi Posted ID:fyNep2ufDS

>>840 มึงตั้งใจต่อด้วยแส้หรือเปล่าเนี่ย 😄😄😄😄

844 Nameless Fanboi Posted ID:BaNwCu70Il

>>837 Ok, q=quirt

845 Nameless Fanboi Posted ID:0dDNvgnUR.

>>834-836 ถ้าหลวงพ่อเปิดมาเจอสองคนนี้นั่งอยู่สภาพนั้นี่น่าจะดูบาปกว่าเล่าเรื่องเสียวให้ฟังอีกนะถถถถถถ//ว่าแต่คิดไงถึงมาเล่าเรื่องนี้ในโบสถ์วะ แชร์ประสบกาม?ถถถถถถ

ปล. กูขอโทษกูเผลออ่าน >>837 เป็น squirt //ดูเหี้ยในพริบตาเลย555555

846 Nameless Fanboi Posted ID:Xn6wlsytnj

>>845 เจ้าคนใจบาปหยาบช้า!!

847 Nameless Fanboi Posted ID:Jst0uR81rw

>>845 ใจบาปหยาบช้า +1 !! ; - ; กูออกจะใสๆ

848 Nameless Fanboi Posted ID:7PYQdfVtzr

กุผิดไปล้าววว (☍﹏⁰) อ่านไปถึงกับช็อคอ่ะ เชี่ยยย เอาคำนี้จริงดิ ดูอีกที อ่อ..ไม่ใช่ กูกามเองท่ดข่ะ

849 Nameless Fanboi Posted ID:Jst0uR81rw

>>848 วงเล็บคำแปลภาษาไทยกุก็ใส่ให้ เห็นได้ชัดว่าจิตใจมึงไม่บริสุทธิ์ ------

850 Nameless Fanboi Posted ID:fyNep2ufDS

>>849 แต่มาต่อด้วยแส้ หลังจากฟิคหมวด P จบ ดูจะไม่ใสเท่าไรนะ หรือจิตใจกูไม่บริสุทธิ์วะ

851 Nameless Fanboi Posted ID:ZYkYnqTpG6

>>850 แส้เฆี่ยนม้าอะไรงี้ไงมึง --- มึงคิดถึงแส้ใช้ทำอะไร กูว่าอยู่ที่จิตใจมึงแล้วล่ะ -///-

852 Nameless Fanboi Posted ID:0Y+/Zj84sp

ตอนแรกกุเห็น Padre ก็คิดว่าจะออกมาแบบศักดิ์สิทธิ์ๆ ใสๆ ไปงานแต่ง สาบานในโบสถ์อะไรงี้ ไหงกลายเป็นอีโรติคคอมมาดี้ไปได้ 5555 คารวะโม่งฟิค

853 Nameless Fanboi Posted ID:7Al7gbtgD+

>>849-851 ชั่ยย พวกมึงก็ไม่บริสุทธิ์>___< กูจะไม่ลงหลุมคนบาปคนเดียว5555555
ปล.เห็นคำมึงแล้วมันเผลอเติมsจริงๆถถถถ

854 Nameless Fanboi Posted ID:A1gzNcNSAA

Q - Quirt

หลังจากที่ออกมาจากเหตุการณ์ที่พวกเราก็รู้ว่าอะไร ฉันกับคาบุรากิก็ขึ้นทางด่วนไปยังภูเขาฟูจิ

พวกเราไม่ได้พักโรงแรมหรูในย่านนั้น ทว่าพักในโรงแรมเล็ก ๆ ที่สร้างขึ้นแบบชนบทซึ่งคาบุรากิเปิดไปเจอรีวิว ในโรงแรมมีห้องพักแบบที่เป็นห้องเล็ก ๆ ในบ้าน กับบ้านหลังเล็กที่แยกออกมา แน่นอนว่าคาบุรากิผู้ไม่เคยใช้ของร่วมกับคนอื่นเลือกพักบ้านหลังเล็ก

พอไปถึงที่พัก คุณป้าที่เป็นคนดูแลก็เข้ามาต้อนรับพวกเราอย่างอบอุ่น บอกว่าพวกเรามาได้เวลาพอดี เพราะที่นี่จะมีจัดเตรียมอาหารมื้อเย็นกับมื้อเช้าไว้ให้ และถ้าอยากให้จัดเพิ่มในมื้อกลางวันก็สามารถสั่งได้ พอเข้าไปในที่พักก็พบว่าเป็นบ้านญี่ปุ่นหลังเล็ก ๆ ที่มีห้องนอน ห้องน้ำ และระเบียงไม้ติดสวนด้านหน้า

ในห้องนอนมีฟูกหนาปูเรียงกันสองผืนบนเสื่อตาตามิ ฉันแอบโล่งใจที่หมอนเป็นหมอนแบบปกติ ไม่ใช่หมอนแข็ง ๆ ริมด้านหนึ่งตั้งโต๊ะเอาไว้สำหรับใช้ทานอาหารในห้อง ไฟก็เป็นไฟที่ดึงเชือกปิดเปิด

ฉันที่ยังปวดตัวไม่หายนอนกลิ้งเกลือกไปเรื่อย ๆ กลิ้งไปชนคาบุรากิได้หลายทีก็ถูกเขามองอย่างรำคาญแล้วถามว่าจะเอาอะไร ฉันเลยทำท่าเรียบร้อยแล้วบอกเขาว่าปวดตัว

ถึงเหตุการณ์ในโบสถ์จะไม่น่าเอ่ยถึง แต่จากประสบการณ์สยองครั้งนั้นกลับทำให้ฉันได้รู้ว่าคาบุรากินวดเก่งมาก แม้คาบุรากิจะมือเบาสุด ๆ ตอนลงเครื่องสำอางบนหน้าของฉัน แต่เวลานวดกลับกดลงไปได้อย่างพอดีราวกับคุณป้ามือนวดในร้านนวดแผนโบราณแถวบ้านในชาติก่อน กดจุดแต่ละทีก็ทำให้ร่างกายหายตึงไปเหมือนใช้เวทย์ ฉันถอนหายใจเฮือก ถ้าพนักงานสปาของโรงแรมในเครือคาบุรากินวดได้เก่งแค่ครึ่งเดียวของคาบุรากิ รายได้ที่เข้าสปาคงทะลุเป้าอย่างแน่นอน

ฉันที่ถูกคาบุรากินวดจนหลับตื่นด้วยเสียงเคาะประตู คุณป้าคนดูแลถามพวกเราว่าจะรับมื้อเย็นเลยไหม ฉันที่ท้องร้องจ๊อก ๆ ก็ตอบตกลงทันที คุณป้าเลยยกหม้อไฟมาให้

หม้อไฟที่ยกมาเป็นหม้อไฟเส้นโฮโต ซึ่งเป็นบะหมี่ชื่อดังในย่านนี้ คุณป้าบอกว่าที่โรงแรมนวดบะหมี่เองสด ๆ ทุกวัน เส้นบะหมี่อ้วน ๆ แบน ๆ เข้ากันได้ดีกับซุปผักป่าที่ใส่ผักมาเยอะมาก ดูสุขภาพดีสุด ๆ แล้วยังมีผักดองรสชาติสดชื่นมาให้เป็นเครื่องเคียง ความจริงมีซาซิมิเนื้อม้ามาด้วย แต่ว่าฉันไม่กล้ากินเนื้อม้าดิบ ๆ ก็เลยเอาลงไปลวกในหม้อไฟ รสชาติไม่เลวเลย นอกจากนี้ยังมีหมูทอดที่เนื้อหมูชุ่มฉ่ำ แป้งบางกรุบกรอบ กินกับมัสตาร์ดไม่เลี่ยนเลยซักนิด ฉันกับคาบุรากิกินข้าวเย็นอย่างแช่มชื่น กว่าจะกินหมดก็อิ่มแทบจุก ต่อจากของคาวก็มีของหวานเป็นขนมชิ้นเล็ก ๆ ที่ข้างในเป็นไส้ถั่วกวนใส่ชาเขียว รสชาติธรรมดาแต่ว่าทำหน้าตาออกมาเป็นรูปภูเขาฟูจิ ให้ความรู้สึกพรีเมี่ยมดีมาก

พอกินเสร็จพวกเราก็ออกไปนั่งพักให้อาหารย่อยที่ระเบียง ความจริงฉันอยากจะไปอาบน้ำนอนแล้ว แต่คาบุรากิบอกว่ากินหมูทอดเข้าไปไม่ควรนอนเลย ไม่อย่างนั้นจะปวดท้อง ก็เลยฝืนตื่นนั่งเล่นเป็นเพื่อนเขา นั่งไปก็เลื้อยไปจนหัวไปพิงไหล่คาบุรากิ แต่ไหล่ของผู้ชายช่างแข็งกระด้างเสียจนฉันสงสัยว่านางเอกในหนังโรแมนติกทำไมถึงชอบพิงไหล่พระเอกจัง เลยไปเอาหมอนมารองอีกชั้นก่อนจะนอนพิงลงไป ค่อยสบายขึ้นหน่อย

855 Nameless Fanboi Posted ID:A1gzNcNSAA

พวกเราพูดคุยกันถึงความเป็นไปได้ในการเปิดที่พักแนวคันทรี่แบบนี้ ฉันส่งเสียงฮึม ๆ แล้วบอกเขาว่าถ้าจะเปิดจริง ๆ ฉันอยากได้บ้านแบบที่มีประตูเลื่อน ดอกไม้ประดับ ภาพพู่กัน แล้วก็มีสวนแบบเซนอยู่หลังบ้าน แน่นอนว่าจะต้องมีสวนไผ่กับบ่อปลาด้วย ฉันค่อนข้างจะประทับใจบ้านใหญ่โซนที่จัดเป็นญี่ปุ่นจ๋าของคาบุรากิ ถ้าจะมีที่พักที่เป็นแบบญี่ปุ่น ก็อยากจะได้ที่พักแบบนั้น

นอกจากที่พักแบบญี่ปุ่นแล้วพวกเราก็พูดถึงที่พักแบบยุโรป คาบุรากิบอกว่าเขาอยากจะทำที่พักที่มีสนามซ้อมขี่ม้า แล้วก็ไร่องุ่น พรุ่งนี้เขาก็จะไปดูสนามขี่ม้าแถวนี้ด้วย ฉันพยักหน้า แล้วบอกเขาว่าถ้ามีไร่องุ่นก็น่าจะมีไวน์ที่ทำจากองุ่นของไร่ อันที่จริงถ้ามีคอร์สสอนทำไวน์ แล้วมีที่ให้ฝากหมัก พอหมักเสร็จก็ส่งไปให้ลูกค้าถึงที่บ้านก็น่าจะดี ฉันเองก็อยากจะลองหมักไวน์ด้วยตัวเองเหมือนกัน

คาบุรากิบอกว่าน่าจะยาก เพราะไวน์เป็นเครื่องดื่มที่ละเอียดอ่อน ถ้าขืนมือสมัครเล่นทำน่าจะดื่มไม่ได้เอา แต่เขาชอบความคิดของฉันตรงที่เอาองุ่นจากในไร่มาผลิตไวน์

นั่งคุยกันจนอาหารย่อยฉันกับคาบุรากิก็ผลัดกันไปอาบน้ำแล้วเข้านอน เนื่องจากพรุ่งนี้พวกเราต้องไปสนามม้ากันต่อ

แม้ว่าท่านพี่กับท่านอิมาริจะเป็นนักขี่ม้าตัวยง แต่ฉันกลับไม่เคยลงสนามขี่ม้าเลยซักครั้ง เพราะฉันไม่ค่อยถูกกับสัตว์เท่าไหร่

“เพราะว่าโดนกวางกัด แล้วก็โดนนกอึใส่สินะ”

“อ..เอ๋?!! เห็นด้วยเหรอคะ” ฉันตะลึง หมดกัน ภาพลักษณ์ของฉัน แม้แต่ตอนสมัยมัธยมก็ไม่เหลือหลอเหรอเนี่ย

คาบุรากิยิ้มตาโค้งเป็นสระอิเหมือนนึกเรื่องตลก ๆ ออก ฉันเดาได้ว่าต้องเป็นเรื่องของฉันอย่างแน่นอน เขาสั่งให้ฉันฝึกขี่ม้าตั้งแต่เบื้องต้น เริ่มจากการสวมอานและบังเหียน ฉันคิดว่าไหน ๆ คาบุรากิก็อุตส่าห์เตรียมชุดขี่ม้าเต็มยศมาให้ฉัน แถมฉันก็เปลี่ยนใส่ชุดนั้นแล้ว จะลองดูก็ไม่เสียหาย

เจ้าม้าตัวที่คาบุรากิเลือกให้ฉันดูน่าหมั่นไส้มาก เพราะแบ่งแยกชนชั้นอย่างเห็นได้ชัด กับคาบุรากิมันดูเชื่องมาก แต่กับฉันมันกลับมองด้วยสายตาหวาดระแวง

“เพราะเธอทำท่ากลัว ม้ามันก็เลยกังวลยังไงล่ะ” คาบุรากิบอก แต่ฉันกลัวจริง ๆ นี่ เพราะม้าตัวใหญ่เบ่อเริ่ม แถมถ้าโดนมันถีบเอา ไม่ใช่แค่เจ็บ แต่อาจถึงตาย

หลังจากฟัดกับอุปกรณ์สำหรับการขี่ได้พักใหญ่จนสวมอานม้าได้ไม่ผิดด้านแล้ว คาบุรากิก็หยิบแส้ขึ้นมา แม้ว่าฉันจะรู้ว่ามันเป็นแส้ที่ไว้ใช้สำหรับบังคับม้า แต่คาบุรากิที่ถือแส้แล้วสะบัดหวดอย่างคล่องแคล่วช่างดูเหมือนราชินียิ่งนัก

คาบุรากิสอนให้ฉันใช้แส้ แต่เขาบอกว่าปกติแค่แตะเบา ๆ ม้าก็กลัวแล้ว ไม่ต้องหวดก็ได้ แต่เขาอยากให้ฉันฝึกไว้ แส้แรกที่ฉันหวดออกไป ผิดทิศไปหน่อยเลยฟาดโดนคาบุรากิ เขาทำตาเขียวแล้วขยับถอยห่างออกไป แส้ที่สองก็ดันโดนอีก

“นี่เธอจงใจรึเปล่าเนี่ย”

คาบุรากิถามตาขวาง ๆ มือลูบป้อย ๆ บริเวณที่โดนแส้หวด ฉันยิ้มกะเรี่ยกะราด ไม่กล้าหวดแส้ออกไปอีก

หลังสอนวิธีบังคับเดิน ไปซ้าย ไปขวา หยุด คาบุรากิก็ให้ฉันเหยียบโกลนขึ้นไปนั่ง แล้วพาจูงเดินไปรอบ ๆ อันที่จริงการขี่ม้าเองก็ไม่เลวเช่นกัน พอฉันขี่ไปได้ซักพัก เขาก็ไปขี่ม้าของตัวเองแล้ววิ่งเพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อย ๆ ม้าของฉันเองเห็นแบบนั้นก็เกิดคึก วิ่งควบตามม้าคาบุรากิ

ฉันกรี๊ดลั่น คาบุรากิชะลอม้าของตัวเองแล้วดึงบังเหียนม้าของฉันเอาไว้ มันหยุดแทบจะทันทีทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ฉันพยายามดึงบังเหียนจนสุดแท้ ๆ

คาบุรากิถอนหายใจเฮือก บอกว่าฉันคงไม่มีโชคกับสัตว์จริง ๆ ยังดีที่ไม่ได้ตกลงมา

ในคืนนั้นฉันต้องให้คาบุรากินวดขาอีกครั้ง เพราะตอนที่ขี่อยู่ก็ไม่เท่าไหร่ แต่ตอนลงจากหลังม้ามาแล้วกล้ามเนื้อขาสั่นริก ๆ คาบุรากิบ่นว่าฉันอ่อนแอเกินไปแล้ว และเริ่มบังคับให้ฉันออกกำลังกายอีกครั้งหลังจากกลับจากทริปครั้งนี้

จบ

856 Nameless Fanboi Posted ID:ZYkYnqTpG6

R radar

857 Nameless Fanboi Posted ID:A1gzNcNSAA

>>856 โอเค R=Radar แต่กูไปนอนก่อนนะ พรุ่งนี้มาต่อแน่นอน

858 Nameless Fanboi Posted ID:0Y+/Zj84sp

มีอะไรที่คาบุทำไม่เป็นมั่งเนี่ย แต่งหน้า เพ้นท์เล็บ ทำผม ไปยันนวด 555

859 Nameless Fanboi Posted ID:ZYkYnqTpG6

>>854-855 ทำไมเธอถึงเปรียบเทียบฝีมือการนวดของสามีเป็นคุณป้าไปซะได้ล่ะ เรย์ก่าาาาาา
>>857 ขอบคุณโม่งฟิคสำหรับวันนี้ เมื่อโม่งฟิคไป โม่งสตลอกเกอร์โม่งฟิคอย่างกูก็ได้เวลาไปนอน เฮือก

860 Nameless Fanboi Posted ID:U4qS2EKdTG

>>858 ให้เรย์กะลดความอ้วนไง ที่ทำไม่ได้

861 Nameless Fanboi Posted ID:A1gzNcNSAA

ในตอน Q นี้กูแอบใส่ hint จากเรื่องหลักลงไป ใครหาเจอช่วยบอกกูด้วยนะคะซิส

862 Nameless Fanboi Posted ID:ss9hQwDCAF

>>861 “เพราะว่าโดนกวางกัด แล้วก็โดนนกอึใส่สินะ” รึเปล่าา

863 Nameless Fanboi Posted ID:A1gzNcNSAA

>>862 (ยิ้ม) คำเฉลยคำเดียวคือ ตอนพิเศษที่ 70 พาร์ทหัวหน้าห้อง ในแมวดุ้นของโม่งแปล

864 Nameless Fanboi Posted ID:EzWHH5dOyA

ขอบคุณค่ะโม่งฟิค กูนับถือมึงมาก ปั่นรัวๆ ไฟแล่บแถมยังได้คุณภาพด้วย ตอนนี้คือสงสัยมากว่าคาบุอดทนอยู่ได้ไงวะ สองปีแล้วนะเว้ยสองปี!

กูว่ากูจับ hint ได้ล่ะ เหมือน >>863 ค่ะ

865 Nameless Fanboi Posted ID:EzWHH5dOyA

อ่าว มาดูดีๆ >>863 คือโม่งฟิคมาเฉลยนี่หว่า 5555 ตามนั้นเลยค่ะที่รัก

866 Nameless Fanboi Posted ID:uT6xH+CiiD

>>863 ไปนั่งไล่อ่านมาใหม่ ท้ายตอนมีประโยคที่ว่า เขาเองก็คอยสอดส่องอยู่ท้ายตอนด้วย รึโม่งฟิคจะหมายความว่าคนที่ส่องไม่ใช่เอ็นโจ แต่เป็นคาบุรากิ////ถุงกาวหมด

867 Nameless Fanboi Posted ID:Tm/5FBHpLM

นั่งไล่อ่านแล้วอยากกรี๊ด คาบุละมุนมากก มีแอบแฝงความแอบมองมานาน(แต่มองเพราะชอบหรือท่านเรย์กะฮาดี ) แต่กูสับสนจริง มองแบบสามีก็โคตรเทคแคร์เพอเฟค แต่ฟิลเตอร์เพื่อนสาวก็ดูหนาแน่น ทำเป็นทุกอย่างแต่งหน้าทาเล็บ เพื่อนเที่ยวผับพาเข้าห้องน้ำ เทียบเป็นป้าเป็นราชินีอีก มึงง เป็นทุกอย่างให้เธอแล้วจริงๆ

868 Nameless Fanboi Posted ID:l6580HAJk6

คืนนี้น่าจะมาดึกๆ นะ ขับรถตะลุยข้ามภูมิภาคก่อน น่าจะลงอีกทีตอนตีหนึ่ง

869 Nameless Fanboi Posted ID:i1Xw84ypw3

>>868 พักผ่อนเยอะนะมึงง อย่าฝืนตัวเอง

870 Nameless Fanboi Posted ID:i1Xw84ypw3

*เยอะๆดิวะ

871 Nameless Fanboi Posted ID:ZYkYnqTpG6

>>868 อย่าหักโหมนะโม่งฟิค ถ้ามันดึกก็ไปพักเถอะ ไว้ต่อพรุ่งนี้ได้

872 Nameless Fanboi Posted ID:aBYZl.4NwY

>>868 ถ้าดึกมากก็ไปพักผ่อนเหอะมึง กูรอได้

873 Nameless Fanboi Posted ID:OvyTNZLb4n

>>868 ถ้ากลับมาดึกขนาดนั้น ก็ไปพักเถอะ ไม่ต้องลงหรอก กูและพวกโม่ง ๆ ทั้งหลายเขารอกันได้ รอเนื้อเรื่องหลักเกือบปีแล้ว ยังรอได้เลย แค่นี้จิ้บ ๆ

874 Nameless Fanboi Posted ID:QE+60Xkpoy

>>873 มันเป็นเรื่องที่น่าภูมิใจใช่มั้ยวะ555555555555555555555555555TvT55555555555555555

875 Nameless Fanboi Posted ID:ZLuJt14EVO

>>874 ในเลข 5 มีน้ำตาของโม่งซุยรันซ่อนอยู่..

876 Nameless Fanboi Posted ID:BwC5n9+leZ

>>868 โม่งฟิกพักผ่อนเหอะ รอได้

877 Nameless Fanboi Posted ID:821I9wmaxp

>>873 ทำไมจุก😂😂😂😂😂😂
จะว่าไปสิ่งมาจะเก้าร้อยล่ะคิดหัวกระทู้หน้ากันพลางๆเหอะะะะะะ

878 Nameless Fanboi Posted ID:S1y79dRHsM

ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับการอ่านตอนเดิมซ้ำรอบแล้วรอบเล่า [เติมถุงกาวครั้งที่ 28]

879 Nameless Fanboi Posted ID:uT6xH+CiiD

ขอเสนอ
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับถุงกาวที่ไม่มีวันหมด ไม่เหนื่อยล้าแม้จะร้องไห้ [การเรียกร้องให้กลับมาครั้งที่ 28]

880 Nameless Fanboi Posted ID:lKWsNzhgE0

ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับกะละมังกาวที่กำลังจะล้นแล้วค่าาา [ทุบไหใบที่ 28]

881 Nameless Fanboi Posted ID:c/d/T+73pk

อยากได้ >>879 ที่ในวงเล็บเป็น >>878
แบบ
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับถุงกาวที่ไม่มีวันหมด ไม่เหนื่อยล้าแม้จะร้องไห้ [เติมถุงกาวครั้งที่ 28]

882 Nameless Fanboi Posted ID:YuuUgG+sm5

ขอเสนอบ้างฮัฟ
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับการตัดริบบิ้นเปิดโรงงานนรกกวนกาว [สาขาที่ 28]

883 Nameless Fanboi Posted ID:ZYkYnqTpG6

กูชอบ >>879 นะ >>881 ก็ดี รอสัก 900 ถ้าไม่มีคนมาเสนอเพิ่มกูค่อยโหวตละกัน

884 Nameless Fanboi Posted ID:cu5uoriS3j

กลับมาอีกทีมีกาววววว โม่งฟิค กูขอบคุณมึงมาก กูมีความสุขมาก ยิ้มปากถึงหูเลย ละมุนมาก โอ๊ยมีความสุขมาก

885 Nameless Fanboi Posted ID:P8cnxGowht

เสนอด้วยสิ 555555
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับการมอมเมาลงคานจากฟิคกาว [จงดิ่มด่ำถุงที่28]

886 Nameless Fanboi Posted ID:uT6xH+CiiD

ชอบแนวของ >>882
เสนอบ้างๆ
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับโรงงานกวนกาวของเหล่าโม่งที่เฝ้ารอ [ติดฉลากปลอมครั้งที่28]

887 Nameless Fanboi Posted ID:mCjE9M5JvQ

จะสังเกตว่าทุกชื่อจะมีคำว่ากาว 5555

888 Nameless Fanboi Posted ID:mCjE9M5JvQ

พวกเรามาถึงจุดจุดนี้ได้ยังไง จุดที่กาวคือสิ่งขับเคลื่อนความเป็นไปของมู้

889 Nameless Fanboi Posted ID:VcyD81KGu3

>>888 ไม่ใช่เพราะเราแดกกาวตั้งแต่มู้แรกถึงได้มาไกลขนาดนี้อ่อวะถถถ

890 Nameless Fanboi Posted ID:nt1DKBcLRP

>>888 กาวคือพระเจ้าเว้ย ดลบันดาลได้ทุกอย่างที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ อยู่เหนือขึ้นไปยิ่งกว่าคานซังและฟู้ดซัง

891 Nameless Fanboi Posted ID:vmonhAOGIe

ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับโรงงานผลิตกาวของเหล่าโม่ง การขึ้นคานที่ยั่งยืนของเจ้าแม่ [เสียงกรีดร้องลงแดงครั้งที่ 28]

892 Nameless Fanboi Posted ID:oDD4GweGaZ

R - Radar

สามเดือนหลังจากวาคาบะจังคบกับนายตัวสำรอง คาบุรากิก็ดูเหมือนจะตัดใจได้แล้ว และเริ่มสนใจผู้หญิงคนหนึ่ง
อันที่จริงจะเรียกว่าสนใจก็เรียกได้ไม่เต็มปากนัก เพราะว่ามันเป็นความรู้สึกเล็ก ๆ ที่แม้แต่ตัวคาบุรากิเองก็ยังคงไม่รู้ ผู้หญิงคนนั้นหรือคนอื่น ๆ รอบข้างก็ยังไม่รู้เช่นกัน

แต่เรดาร์ของฉันบอกว่า คาบุรากิกำลังสนใจผู้หญิงคนหนึ่ง และคน ๆ นั้นก็คือเธอคนนี้

อายูคาวะ ชิสึกะ เป็นลูกสาวของเจ้าพ่ออาณาจักรปศุสัตว์ญี่ปุ่น แม้ว่าอายูคาวะจะมีฟาร์มวัวจำนวนมาก แต่สิ่งที่ทำรายได้หลักของพวกเขาคือ การเพาะพันธุ์และซื้อขายม้าแข่งและบรรดาม้าขี่ของพวกเศรษฐี

เนื่องจากคาบุรากิมีโครงการที่จะทำรีสอร์ทที่มีสนามขี่ม้าและสนามแข่งโปโล ดังนั้นเขาเลยไปสนามกีฬาโปโลของบ้านอายูคาวะ คาบุรากิลงแข่งโปโลโดยอาศัยคำเชิญจากเพื่อนในวงการธุรกิจของเขาอีกที แม้ว่าคาบุรากิจะบอกว่าตัวเองเคยเล่นโปโลแค่ครั้งสองครั้ง แต่กลับทำแต้มจากทีมที่เล่นเป็นประจำได้ แม้ว่าจะไม่ชนะ แต่ก็ดึงดูดความสนใจของบรรดาพวกคลั่งโปโลได้ ยิ่งบวกกับป้ายยี่ห้อบ้านคาบุรากิ ใคร ๆ ต่างรุมล้อมเขา

เย็นวันนั้นพวกเราได้รับจดหมายเชิญจากบ้านอายูคาวะให้เข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำของโปโลคลับ พวกเรากลับที่พักด้วยคำสัญญาจากเจ้าพ่ออาณาจักรปศุสัตว์ว่าจะพาคาบุรากิไปชมฟาร์มม้าของเขา

สองสัปดาห์ต่อมา พวกเราได้รับเชิญให้ไปเยี่ยมชมฟาร์มม้าของอายูคาวะ ในขณะที่พวกผู้ชายไปดูม้า ฉันกับมาดามอายูคาวะก็นั่งดื่มชาเข้าสังคมกัน แต่อายูคาวะ ชิสึกะ กลับไม่ใช่หญิงสาวที่จะมานั่งจิบชากินขนมในที่ร่ม พอเธอได้ยินว่าคาบุรากิทำแต้มจากทีมที่พี่ชายของเธออยู่ เธอก็ท้าเขาแข่งม้า

ฉันมองคาบุรากิที่เจอคู่แข่งในด้านความเป็นเด็กไม่รู้จักโตก็ได้แต่ยิ้มน้อย ๆ มาดามอายูคาวะรำพันถอนหายใจหลายต่อหลายครั้งว่าลูกสาวของเธอก็อายุไม่น้อยแล้ว แต่กลับแก่นแก้วไม่สมหญิง ตัวของมาดามอายูคาวะนั้นมีร่างกายอ่อนแอ และไม่ชอบไปที่ ๆ มีคนจำนวนมาก เลยออกงานน้อยครั้ง ทำให้คุณชิสึกะออกงานน้อยตามไปด้วย มาดามเลยขอให้ฉันช่วยอบรมและแนะนำเธอให้กับผู้ชายที่ยังโสดในวงสังคมบ้าง เผื่อว่าเธอจะได้เจอชายหนุ่มที่ถูกใจแล้วทำตัวเรียบร้อยขึ้นซักที

คุณชิสึกะทำให้ฉันนึกถึงวาคาบะในเวอร์ชั่นคาบุรากิ อันที่จริงถ้าทั้งสองคนแต่งงานมีลูกด้วยกัน ลูกสาวของพวกเขาก็คงจะเป็นเหมือนคุณชิสึกะ ฉันรับปากมาดามว่าจะเชิญเธอไปงานชมดอกไม้บ้านคาบุรากิและดูแลให้เธอเข้าสังคมกับคนวัยเดียวกัน

ในเย็นวันนั้นคาบุรากิเป็นผู้ชนะการแข่งขัน เขาเล่าให้ฟังว่าชิสึกะถึงกับร้องไห้ตอนเข้าเส้นชัยหลังเขา แล้วท้าเขาแข่งอีกครั้ง แต่ก็แพ้อีกครั้ง คราวนี้เธอเลยร้องไห้หนักขึ้นไปอีก และบอกว่าจะไปซ้อมเพื่อที่วันหลังจะได้มาขอท้าแข่งอีกครั้ง

ตอนนั้นฉันได้แต่ตอบอืม ๆ แม้จะรู้สึกถึงธงมรณะลาง ๆ แต่เพราะเพลียแดด ก็เลยไม่ได้คิดอะไรมาก

อายูคาวะ ชิสึกะ มางานชมดอกไม้ด้วยชุดยูคาตะสบาย ๆ ผิดกับบรรดาคุณหนูที่แต่งตัวกันหรูเริ่ด เธอเกาะติดฉันและคาบูรากิตลอดทั้งงานเพราะเข้ากับพวกคุณหนูคนอื่น ๆ ไม่ได้ ฉันพยายามแนะนำเธอให้รู้จักกับชายหนุ่มในวัยเดียวกัน แต่คุยกันได้พักเดียวเธอก็แอบไปหลบอยู่มุมห้องจนฉันต้องไปเก็บกลับมาบ่อยครั้ง คุณชิสึกะบอกว่าชายหนุ่มพวกนั้นขี่ม้า แต่ไม่รู้จักอะไรเกี่ยวกับม้าเลย เธอเองก็ไม่รู้เรื่องอะไรนอกจากม้า เลยคุยกันไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่

สุดท้ายฉันก็ได้แต่ให้เธอตามติดฉัน เด็กสาวผิวสีแทนที่ผมเป็นสีแดงจากแสงแดดใส่ชุดยูคาตะไม่สะดุดตา พอยืนข้างหลังฉันที่แต่งกิโมโนจากห้องเสื้อที่ตัดเย็บมาให้ฉันโดยเฉพาะแล้ว คุณชิสึกะก็ดูราวกับสาวใช้ยังไงยังงั้น

คาบุรากิกับฉันไปฟาร์มม้าหลายต่อหลายครั้งเพื่อคัดเลือกลูกม้า ส่วนฉันก็พาคุณชิสึกะออกงานอีกหลายครั้ง พวกเราได้ลูกม้าที่ต้องการครบแล้ว แต่คุณชิสึกะยังไม่มีผู้ชายที่ถูกใจซักที

แล้วในวันหนึ่งของฤดูร้อน ตอนที่ฉันกำลังดื่มชาดูคาบุรากิกับคุณชิสึกะแข่งม้ากัน ฉันก็รับรู้ได้ว่า คาบุรากิชอบผู้หญิงคนนั้น คนที่หัวเราะดัง ๆ แบบไม่ปิดปาก คนที่ออกแดดทั้งวันโดยไม่กลัวผิวเสีย คนที่ขี่ม้าอย่างคล่องแคล่ว เขาชอบเธอคนนั้น เธอที่ตัวสูง แขนขายาว ดูอิสระราวกับสายลม

893 Nameless Fanboi Posted ID:oDD4GweGaZ

ฉันมองดูพวกเขาแข่งม้า และดื่มชาอย่างเงียบ ๆ จนกระทั่งพวกเรากลับถึงบ้าน

ในตอนที่พวกเรากำลังจะเดินแยกย้ายเข้าห้องนอน ฉันเรียกคาบุรากิเอาไว้ คาบุรากิที่เล่นในสนามแข่งทั้งวันจนผมยุ่งกว่าปกติแต่ก็ยังคงดูหล่อเหลาหันมามองฉันแล้วเลิกคิ้ว ฉันมองหน้าเขาแล้วตัดสินใจพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกไป

“สิ่งที่ฉันบอกท่านคาบุรากิในคืนแต่งงาน ตอนนี้ฉันก็ยังคงยืนยันคำเดิมนะคะ”

คาบุรากิทำหน้างง เหมือนไม่เข้าใจว่าฉันหมายถึงอะไร เขามองหน้าฉันด้วยสีหน้า ‘เป็นบ้าอะไรของเธอน่ะ คิโชวอิน’ อย่างที่เขาชอบทำ ฉันจึงพูดต่อ

“ฉันไม่รังเกียจหรอกนะคะ ถ้าท่านคาบุรากิจะมีคนรัก ฉันจะช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถ ไม่ขัดขวางอย่างเด็ดขาดค่ะ”

คาบุรากิขมวดคิ้วแล้วทำหน้าโกรธ ก่อนจะพูดอะไรบางอย่างแล้วชะงักไป

เขามองหน้าฉัน ในหัวสมองบ้าบอแต่ปราดเปรื่องของเขาครุ่นคิดอะไรบางอย่าง สีหน้าของคาบุรากิเคร่งเครียดขึ้นทันที ดูเหมือนว่าก่อนหน้านี้เขาจะไม่รู้สึกตัวเลยซักนิดว่าตัวเองคิดยังไงกับคุณชิสึกะ

ฉันยิ้มให้กับเขา ก่อนจะหมุนตัวกลับเข้าห้องของตัวเอง ตราบใดที่เรื่องนี้ไม่ไปถึงหูนักข่าว หรือรู้ไปในวงสังคม เรื่องส่วนตัวของคาบุรากิเป็นเรื่องที่เขาต้องจัดการเอาเอง ฉันไม่มีวันเอาคอไปพาดเขียง ยุ่มย่ามกับความรักของคนอื่นอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะคนที่ร่ำ ๆ จะปักธงมรณะให้ฉันได้ตลอดเวลาอย่างคาบุรากิ

หลังจากนั้น คาบุรากิก็หลบหน้าฉัน ฉันเข้าใจดีเลยไม่ได้ต่อว่าอะไร ตอนออกงานสังคม พวกเราเดินเคียงข้างกันอย่างสง่างาม แต่พอกลับถึงบ้านก็แยกย้ายกันเข้าห้องนอนของใครของมัน เสมือนเป็นเพื่อนร่วมบ้านที่ดี

ในคืนนี้ก็เป็นงานสังคมอีกคืนหนึ่งที่ฉันจะต้องออกไปพร้อมกับคาบุรากิ ฉันรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อคาบุรากิมาเคาะห้อง แล้วให้คุณเมดที่ทำหน้าที่แต่งหน้าออกไป ฉันยิ้มแล้วยอมรับสัญญาสงบศึกชั่วคราวของเขา งานในคืนนี้เป็นงานที่มาดามคาบุรากิเป็นคนจัด ถ้าพวกเราไม่แสดงละครให้แนบเนียน รับรองว่าไม่มีทางพ้นสายตาของมาดามอย่างแน่นอน

แม้ว่าจะเป็นงานทานาบาตะ แต่ก็จัดสไตล์ยุโรป ดังนั้นฉันจึงใส่ชุดเดรสยาวสีแชมเปญของเอลี ซาบ เพราะว่าเป็นเดรสที่โชว์ไหล่และอกค่อนข้างมาก ดังนั้นเลยต้องใส่สร้อยคอเพื่อไม่ได้คอดูโล่งเกินไป

ช่วงนี้ฉันออกงานค่อนข้างบ่อย ดังนั้นเลยเอาสร้อยออกจากเซฟมาไว้ที่บ้านหลายเส้น ในขณะที่กำลังคิดว่าจะใส่เส้นไหนดี คาบุรากิก็เปิดกล่องที่เขาเอาติดมือเข้ามาในห้องด้วยต่อหน้าฉัน

ในกล่องที่บุอย่างดีคือสร้อยคอเส้นหนึ่ง มันเป็นสร้อยเพชรของคาร์เทียแบบที่ไม่สามารถหาซื้อได้ตามร้าน แต่มาจากงานประมูลเท่านั้น ฉันมองเพชรจำนวนมหาศาลบนสร้อยแล้วพูดไม่ออก

“ท่านคาบุรากิคะ สร้อยเส้นนี้ยืมมาจากมาดารึเปล่าคะ?” ฉันถาม อันที่จริงพอจะรู้คำตอบอยู่แล้ว

คาบุรากิยักไหล่ “เปล่า ฉันไปประมูลเอง”

แม้ว่าฉันจะชอบเครื่องประดับ แต่ที่มีอยู่ก็มากพอใส่เวียนได้ไม่ซ้ำทั้งปีแล้ว หากเป็นสร้อยเส้นเล็ก ๆ ก็ไม่เป็นไร แต่สร้อยชุดใหญ่ขนาดนี้เห็นแล้วรู้สึกปวดใจ

“ประมูลมาเท่าไหร่คะ?” ฉันถาม ใจหนึ่งอยากรู้คำตอบ อีกใจไม่ค่อยอยากรู้เท่าไหร่

”เจ็ดล้านกว่า” เขาตอบราวกับมันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ฉันสูดหายใจเฮือก เงินเจ็ดล้านกว่าดอลล่าร์ไม่ใช่เงินจำนวนน้อย ๆ ฉันมองเครื่องเพชรที่หนักเกือบสองร้อยกะรัตแล้วรู้สึกเหนื่อยใจ เอาเถอะ จะทำอะไรก็ทำ ในเมื่อเงินก็ไม่ใช่เงินของฉัน แล้วจะเดือดร้อนไปทำไมกัน

คาบุรากิสวมเครื่องเพชรให้ฉัน ฉันมองกระจกแล้วคิดว่าแค่สร้อยเส้นเดียวก็เหลือแหล่ ไม่ต้องมีเครื่องประดับอะไรอีก เลยทำผมง่าย ๆ คาบุรากิแต่งหน้าต่อจากคุณเมดให้กับฉัน ก็เป็นอันว่าพร้อมออกงาน

พวกเราไปงานทานาบาตะที่โรงแรมในเครือของคาบุรากิ มาดามเดินเข้ามาหาฉันทันทีที่พวกเราเดินเข้างาน เธอชมฉันว่าเหมาะกับสร้อยเพชรเส้นนี้มาก ไม่เสียแรงที่เธออุตส่าห์บินไปประมูลเป็นเพื่อนคาบุรากิ

ฉันยิ้มขอบคุณมาดาม แล้วบ่นเสียดายเงิน แต่มาดามบอกว่าคาบุรากิอยากให้ของขวัญฉัน เงินแค่นี้เป็นเงินเล็กน้อยเท่านั้น ฉันที่ทำงานเหนื่อยมาทั้งปีควรจะได้อะไรตอบแทนบ้าง

พวกเราเข้าไปยังงานเลี้ยงในห้องโถงที่ค่อนข้างกว้าง ด้านหนึ่งเป็นมุมอาหาร อีกด้านเป็นฟลอร์เต้นรำกับแกรนด์เปียโน ฉันเจอคนรู้จักหลายคนในงาน รวมถึงเอ็นโจด้วย จนแล้วจนเล่าเอ็นโจก็ยังไม่ทิ้งนิสัยปากหวาน เขาชมฉันอยู่หลายคำ บอกว่าฉันสวยที่สุดในงาน ถ้าเขาเป็นหนุ่มเลี้ยงวัวก็คงจะปวดใจที่ได้เจอฉันแค่ปีละครั้ง

ฉันทำเป็นไม่ได้ยินคำชมนั่น นับวันเอ็นโจก็ยิ่งเจริญรอยตามท่านอิมาริเข้าไปทุกที เจอหน้าทีไรก็เอาแต่ป้อนคำหวานใส่ ดีที่ฉันยังจำได้ว่าเขามีคุณยุยโกะอยู่แล้ว เลยไม่ได้รู้สึกหวั่นไหวเท่าไหร่นัก

คาบุรากิหายจากข้างตัวฉันไปคุยธุระ ฉันกวาดสายตามองหาเขาแต่ดันไปเจอกับคุณชิสึกะเสียก่อน

894 Nameless Fanboi Posted ID:oDD4GweGaZ

คุณชิสึกะโบกมือให้ฉันแล้วเดินเข้ามาหาอย่างกระตือรือล้น ฉันยิ้มบาง ๆ รับคำชมของเธอ วันนี้คุณชิสึกะใส่ชุดเดรสสีชมพูดูสมหญิงขึ้นมาหน่อย อันที่จริงพอแต่งตัวแล้วเธอก็จัดได้ว่าเป็นคนสวยคนหนึ่ง

ไฟที่ดับลงอย่างกระทันหันก่อให้เกิดเสียงพึมพำไปทั่ว และสปอร์ตไลท์ที่ส่องลงบนเปียโนทำให้ทุกคนหันไปมองเป็นตาเดียวกัน

คาบุรากิที่นั่งอยู่หน้าแกรนด์เปียโนสีดำมันวับเป็นภาพที่ชวนให้หยุดหายใจ เสียงฮือฮาเงียบลงเมื่อเขาจรดนิ้วลงบนคีย์เปียโน

แม้ Piano Concerto หมายเลขสองของโชแปงจะเป็นเปียโนที่ใช้บรรเลงคู่กับออเครสต้า แต่พอคาบุรากิเป็นคนเล่น มันกลับงดงามสมบูรณ์โดยไม่ต้องมีวงออเครสต้าเปิดนำเลยด้วยซ้ำ ฉันยืนมองเขาที่ดีดเปียโนแล้วรู้สึกแน่นในอก ผลงานชิ้นนี้เป็นผลงานชิ้นแรกของโชแปงที่แต่งให้กับหญิงสาวคนหนึ่งที่เขาแอบรัก แต่เธอแต่งงานไปซะก่อนที่เขาจะได้บอกความในใจ

ฉันสงสัยว่าเขามอบมันให้ใคร ระหว่างวาคาบะจังหรือคุณชิสึกะ ทว่าไม่ว่าเขาจะมอบมันให้ใคร แต่ในตอนนี้ฉันทำแค่ดื่มด่ำกับคีย์โน๊ตที่แสนละมุนละไมหวานใสนั่น ซาบซึ้งจนรู้สึกเหมือนน้ำตาจะเอ่อออกมาที่ขอบตา

สิ้นสุดโน๊ตตัวสุดท้าย ห้องโถงทั้งห้องก็เงียบกริบคล้ายยังไม่หลุดออกจากมนต์สะกดของเสียงเพลง กระทั่งคาบุรากิลุกขึ้น เสียงปรบมือถึงดังสนั่น ฉันเองก็ปรบมือให้เขาจากใจจริงเช่นกัน

ไฟในห้องโถงยังไม่สว่าง แสงสปอร์ตไลท์ส่องตามคาบุรากิที่เดินเข้ามาหาฉัน เขาหยุดยืนต่อหน้า ก่อนจะยื่นมือให้กับฉัน

ฉันส่งมือให้เขาโดยอัตโนมัติ จนเขาจูงพาฉันไปยังฟลอร์เต้นรำนั่นแหล่ะ ฉันถึงเพิ่งจำได้ว่าในงานวันนี้พวกเราก็เป็นหนึ่งในแม่งาน ฉันกับคาบุรากิจำเป็นต้องเต้นเปิดงานเพื่อให้ทุกคนได้เต้นต่อ

ในขณะที่พวกเราเต้นรำกันบนฟลอร์ เขาถามฉันว่าเพลงที่เขาบรรเลงเป็นยังไงบ้าง ฉันบอกว่ามันงดงามที่สุดแม้ว่าจะไม่ได้เล่นกับวงออเครสต้าก็ตาม

“อืมม์ เธอชอบโชแปงนี่” เขาพึมพำ แต่ฉันไม่ได้ฟัง เพราะมัวแต่มองไฟสปอร์ตไลท์ที่ค่อย ๆ หรี่ลง แต่มีไฟดวงเล็ก ๆ คล้าย ๆ หิ่งห้อยลอยอ้อยอิ่งอยู่รอบตัวแทน ฉันเบิกตากว้าง เอื้อมมือจะไปคว้าแต่ก็พบว่ามันเป็นแค่แสงไฟ ไม่ใช่ตัวหิ่งห้อยจริง ๆ “ถ้าเป็นไฟแบบนี้ ก็หนีไปไหนไม่ได้ใช่ไหมล่ะ”

ฉันงงไปชั่วขณะหนึ่ง ก่อนจะพ่นลมหายใจพรืดออกมา คาบุรากิยังอุตส่าห์จำได้ว่างานทานาบาตะของบ้านคาบุรากิที่ฉันไปครั้งแรกนั่นน่าขายหน้าสิ้นดี เพราะหิ่งห้อยดันหนีฉันเหมือนฉันเป็นตัวน่ารังเกียจ

คาบุรากิมองหน้าฉันแล้วก็ยิ้ม ๆ ก่อนที่เขาจะเปลี่ยนเป็นสีหน้าจริงจัง

“ฉันเองก็ยังคงยืนยันคำเดิมว่า ในระหว่างที่เธอยังใช้ชื่อคาบุรากิ ฉันจะไม่มีทางทำเรื่องแบบนั้นเด็ดขาด”

ฉันมองหน้าเขา รู้สึกสงสารขึ้นมาจับใจ

“แต่ท่านคาบุรากิชอบเธอ”

คาบุรากิส่ายหน้า “ตำแหน่งภรรยาของฉันเป็นของคิโชวอิน เรย์กะ ไม่สิ เป็นของคาบุรากิ เรย์กะ แล้วมันก็จะเป็นแบบนั้น จนกว่าเธอจะเปลี่ยนใจ”

ฉันหัวเราะ ก่อนจะบอกเขาว่า ถึงเขาจะน่ารำคาญไปซะหน่อย แต่ก็เป็นรูมเมทสารพัดประโยชน์ เพราะฉะนั้นฉันไม่มีวันปล่อยเขาไปง่าย ๆ เหมือนปล่อยหิ่งห้อยอย่างแน่นอน

จบ

895 Nameless Fanboi Posted ID:EK8J+o3X84

S- Secret

896 Nameless Fanboi Posted ID:oDD4GweGaZ

>>895 Ok, S=Secret

897 Nameless Fanboi Posted ID:EK8J+o3X84

ขอบคุณโม่งฟิค อุตส่าห์มาลงให้
ตอนนี้แอบหน่วงๆไงไม่รู้ แต่จบได้น่ารักอบอุ่นดี
ฮือๆๆๆ หวังว่าคาบุจะไม่ไปชอบใครแล้ว สงสารเรย์กะ

898 Nameless Fanboi Posted ID:EggqlsvPx2

ท่านเรย์กะจะไม่หวั่นไหวหน่อยเหรอค้าาาา เพื่อนสาว แค่ก สามีทำถึงขนาดนี้แล้วว

899 Nameless Fanboi Posted ID:gWtPrSbRpg

เป็นกูนี่คงละลายลงไปกองกับพื้นเรียบร้อย ท่านเรย์กะน่ะมีภูมิต้านทานแข็งแกร่งเกินไปแล้วนะ! ส่วนคาบุน่ารักเกินไปแล้ว ใจบ่ดี ;;----;;

900 Nameless Fanboi Posted ID:m.DFQN1kTD

>>892-894 ละมุนได้อีก แอบดราม่าแต่ละมุนดีต่อใจมาก ขอบคุณโม่งฟิคมากๆที่แต่งให้อ่าน แต่ท่านเรย์กะคะ ท่านช่วยนึกว่าคาบุชอบท่านบ้างสักเสี้ยวหรือหวั่นไหวหน่อยได้มั้ยยย คุณสามีทำขนาดนี้ละแท้ๆ

901 Nameless Fanboi Posted ID:1cpAaiCECI

มันหน่วงแบบไม่แน่ใจว่าคาบุมันไม่ได้เลยพูดแบบนั้นไปหรือจงใจพูดแบบนั้นว่ะ...แต่ถ้าชอบชิสึกะจริง ขอแค่ทำตัวเป็นเพื่อนสาวที่ดีอยู่ก็พอโอเคอ่ะนะ

902 Nameless Fanboi Posted ID:1cpAaiCECI

>>901 *ไม่ได้คิดอะไรเลย

903 Nameless Fanboi Posted ID:eGinRQU9yE

ขอบคุณโม่งฟิคมากๆๆๆ พักผ่อนเยอะๆนะมึง โหมลงขนาดนี้กูเป็นห่วง
ความจริงตอนนี้ไม่ว่าบากะรากิจะเป็นแค่เพื่อนสาวหรือคิดเกินเพื่อน อยากเป็นสามีเจ้าแม่จริงๆกูก็โอเคหมดเลยนะ น่ารักทั้งสองแบบ

904 Nameless Fanboi Posted ID:eGinRQU9yE

ความจริงฟิคนี่เพิ่งเริ่มตัว A ไม่นานเองนะ แป๊บๆจะถึงตัว Z ละ โม่งฟิคขยันจริงไรจริง //จบ Z แล้วมีใครอยากต่อ ก - ฮ ไหมคะ

905 Nameless Fanboi Posted ID:d.zmSN3xxj

ตัว s ล่ะอ่อ ใจบางแล้ว ;w; อยากอ่านต่อไปเรื่อยๆจัง

906 Nameless Fanboi Posted ID:Q9agmHr0Gm

ก - ฮ นี่หลายตอนเลยนา เกรงว่าคงรีเฟรชทั้งวันทั้งคืนไม่ได้นอนกันแล้ว5555

907 Nameless Fanboi Posted ID:Km2VBNc9DF

S - Secret

เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่แล้วฉันดูภาพยนตร์วินเทจเรื่องหนึ่งซึ่งฉายทางทีวีที่เปิดทิ้งไว้ตามข่าวสารในวงการแฟชั่นของยุโรป ฉันจำไม่ได้แล้วว่าเรื่องนั้นเรื่องอะไร รู้แต่ว่านางเอกใส่ชุดเดรสผ้าไหมแบบไมโครมินิแล้วดูน่ารักเซ็กซี่มาก ตอนที่ท่านอิมาริร่อนจดหมายเชิญร่วมงานเลี้ยงค็อกเทลริมสระน้ำในตอนค่ำ ฉันก็เลยออกไปช้อปปิ้งเสื้อผ้าแล้วซื้อเดรสผ้าไหมของแซงค์ โลรองต์ มันเป็นชุดเดรสแขนกุดสีบรอนซ์หรูหรา อกเสื้อค่อนข้างลึกไปซักหน่อย กระโปรงก็สั้นไปซักนิด แต่ในงานเลี้ยงมีแต่คนในวัยเดียวกันกับฉัน ไม่มีพวกผู้ใหญ่เคร่งมารดาท ดังนั้นชุดนี้ถือว่าใส่แล้วดูเก๋ราวกับนางแบบ เหมาะกับโอกาสมาก ๆ

เนื่องจากตอนซื้อชุดฉันไม่ได้หนีบคาบุรากิไปด้วย แถมยังไม่ได้คิดอย่างละเอียดถี่ถ้วน ตอนแต่งตัวออกงานจริงเลยเจอปัญหาใหญ่

เดรสของพวกดีไซน์เนอร์ส่วนมากอกเสื้อค่อนข้างแหวก ดังนั้นฉันเลยมีบราซิลิโคนไร้สายติดตู้ไว้เยอะพอสมควร ข้อดีของบราซิลิโคนคือทำให้หน้าอกดูสวยมาก ๆ แต่ไร้รอยตะเข็บเหมือนไม่ได้ใส่บรา แต่จะเป็นปัญหาใหญ่ถ้ารีไซเคิลหลายครั้ง เนื่องจากความสามารถในการเกาะติดผิวจะลดลง ฉันไม่อยากคิดเลยว่าจะทำยังไงถ้าจู่ ๆ บราหลุดโพล๊ะ แล้วหล่นลงไปตรงเอวกลางงานเลี้ยงในระหว่างที่พูดคุยอย่างออกรสกับแขกเหรื่อ โชคดีที่เครดิตการ์ดของคาบุรากิไม่จำกัดวงเงิน ดังนั้นซิลิโคนบราที่ฉันใช้เลยใช้ครั้งเดียวทิ้ง

ส่วนด้านล่าง ปกติแล้วตอนใส่เดรสผ้าไหมฉันจะใส่กางเกงสแปนเด็กซ์ที่ยืดได้ดีแทนกางเกงชั้นใน เพราะหายนะครั้งยิ่งใหญ่ของกระโปรงผ้าไหมคือรอยขอบกางเกงที่จะประกาศให้โลกรู้ว่า ฉันใส่กางเกงในทรงไหน หรือเนื้อล้นจากขอบกางเกงในออกมาเท่าไหร่ ซึ่งให้ตายยังไงฉันก็ไม่มีวันยอมกลายเป็นที่ซุบซิบนินทาในวงสังคมเด็ดขาด

ในคืนนี้ฉันก็คิดจะใส่กางเกงสแปนเด็กซ์ข้างใต้กระโปรงเหมือนเดิม แต่ติดว่า ชุดที่ซื้อมาค่อนข้างสั้น ไม่ต้องทำอะไรก็เห็นชายขากางเกงโผล่ออกมา ดึงขึ้นให้สั้นลงก็ไม่ได้อีก เพราะจะเห็นรอยย่น ๆ ของกางเกง ซึ่งยิ่งอุบาวท์เข้าไปใหญ่

ฉันมองภาพตัวเองในกระจกด้วยความรู้สึกสยอง ฉันมีทางเลือกอยู่สองทางคือ ขอให้คาบุรากิมาเลือกชุดชั้นในที่เห็นรอยน้อยที่สุดให้ หรือพิมพ์หาคำตอบในกูเกิ้ล ฉันเลยเลือกอย่างหลัง

ไม่ว่ายังไงฉันก็ไม่กล้าไม่ใส่ชุดชั้นในถ้าสวมเดรสสั้นขนาดนี้ ฉันเลยคุ้ยตู้เสื้อผ้าดูว่าตัวเองมีกางเกงในจีสตริงที่พอดีตัวรึเปล่า คุ้ยไปคุ้ยมาปรากฏว่าอันที่จริงฉันก็มีกางเกงในเซ็กซี่กับเขาเหมือนกัน

ฉันทดลองใส่กางเกงในจีสตริงแล้วมองกระจกอย่างประหลาดใจ ในตอนแรกฉันกลัวสายจีสตริงจะรัดจนเห็นเนื้อปลิ้น ๆ แต่จีสตริงตัวที่ซื้อมาพอดีเป๊ะ ออกจากค่อนข้างหลวมนิดหน่อยด้วยซ้ำเพราะว่าคาบุรากิบังคับให้ฉันลดน้ำหนักได้สำเร็จไปขั้นหนึ่ง ถึงจะแอบหวิว ๆ ที่ใต้กระโปรงไปนิด แต่ช่วงสะโพกที่สมูทไร้ตะเข็บชั้นในทำให้ฉันพอใจมาก ฉันเลยรีบออกไปหาคาบุรากิที่นั่งรออยู่ในห้องนั่งเล่น

คาบุรากิขมวดคิ้ว “ชุดนั่น ไม่เซ็กซี่ไปหน่อยสำหรับเธอเหรอ?” ฉันบอกว่าฉันอายุ 25 แล้ว จะให้ใส่ชุดดอลลี่เกิร์ลฟูฟ่องตลอดเวลาก็รู้สึกน่าเบื่อเกินไป อีกอย่างชุดนี้ก็สวยมากด้วย พอแต่งหน้าแบบอายไลน์เนอร์เป็นตาแมว ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นนางเอกภาพยนตร์ในยุคเก่า ผิดแต่คาบุรากิไม่ได้พาฉันนั่งรถคาดิแลคสีขาว ทว่านั่งบูกัตติไป ซึ่งก็ไม่เลวเหมือนกัน

ทุกอย่างในคืนนี้น่าจะเพอร์เฟค ถ้ากางเกงในจีสตริงของฉันไม่เสียดสีร่องก้นและขอบเนื้ออ่อน ๆ บริเวณรอยต่อขาในเวลาเดิน จนอยากจะกลับไปเปลี่ยนเป็นกางเกงในปกติตลอดทุกสามสิบวินาที แต่เพื่อความงามแล้ว ฉันที่มีสายเลือดของท่านแม่จึงยอมเสียสละความสบายเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อให้เดรสผ้าไหมออกมาเพอร์เฟคที่สุด

908 Nameless Fanboi Posted ID:Km2VBNc9DF

ท่านพี่ออกมารับฉันที่ตั้งแต่หน้างานแล้วโอบไหล่พาฉันเดินเข้าไป พอเดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็เจอกับท่านอิมาริ ท่านอิมาริทำท่าจะกอดฉัน แต่ท่านพี่ส่งสายตาพิฆาตไปให้ ท่านอิมาริเลยได้แต่ชมฉันว่าฉันโตขึ้นแล้วสวยมากจริง ๆ ชุดนี้ก็เข้ากับฉันมาก ฉันดูเหมือนนางเอกฮอลลีวู้ดทรงเสน่ห์ พร้อมกับประคองมือของฉันขึ้นจูบข้อนิ้ว ชมฉันอีกยาวเหยียดเป็นภาษาฝรั่งเศส ฉันรู้สึกเคลิบเคลิ้มซะจนเกือบเข่าอ่อนร่วงลงไปในอ้อมกอดของท่านอิมาริ แต่ท่านพี่เตะหวดเข้าไปที่หน้าแข้งของท่านอิมาริเต็มเหนี่ยว แล้วพาฉันเดินเข้างานไปปล่อยไว้รวมกับบรรดาสาว ๆ ขาเมาท์ของวงสังคม

ทุกคนต่างชมฉันว่าเดรสชุดนี้เหมาะกับฉันมาก ฉันเองก็ยิ้มรับน้อย ๆ รู้สึกว่าตัวเองคิดถูกที่อุตส่าห์ออกไปช้อปปิ้งตามนางเอกในเรื่อง ทว่าปัญหาเพียงอย่างเดียวคือกางเกงในจีสตริงที่สีไปมาทำให้ช่วงล่างที่เพิ่งไปแว็กซ์ออกจนเกลี้ยงแสบซะจนรอยยิ้มของฉันไม่เป็นธรรมชาติซักเท่าไหร่

สามทุ่มสิบห้านาทีใครซักคนชวนฉันไปหาเพื่อนที่เป็นลูกสาวนักลงทุนจากต่างประเทศ ฉันสูดหายใจลึกแล้วเดินไปหาเธอด้วยท่าทางที่สง่างามที่สุด แต่ในใจกรีดร้องสามสิบรอบ

สามทุ่มสี่สิบสองนาที มีคนเปิดไวน์ที่ฉันชอบ แต่ฉันไม่มีกะใจจะดื่ม เพราะเส้นเชือกของเกงเกงในเสียดสีเนื้ออ่อน ๆ สร้างความรำคาญจนแทบบ้า

สี่ทุ่มสิบนาที ฉันขอตัวจากนักธุรกิจหนุ่มหลายคน แล้วเดินไปเข้าห้องน้ำเพื่อจัดระเบียบกางเกงใน ก่อนจะออกมาด้วยความรู้สึกแสบไม่ต่างไปจากก่อนเดินเข้าไป

สี่ทุ่มยี่สิบสามนาที ฉันเดินกลับเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้ง แล้วจัดกางเกงในอีกรอบ เสียใจที่ตัวเองพกแค่โทรศัพท์มือถือมา ไม่ได้พกแป้งฝุ่นมาด้วย

สี่ทุ่มห้าสิบนาที ท่านพี่มาพาตัวฉันออกจากวงพวกผู้ชายที่อยากจะรู้เกี่ยวกับโรงแรมของคาบุรากิ ฉันเลยถือโอกาสโฆษณาเต็มที่ พวกเขารับปากว่าจะไปลองใช้บริการอย่างแน่นอน

ห้าทุ่มสองนาที ฉันถามคาบุรากิว่าเราจะกลับบ้านกันได้รึยัง คาบุรากิที่ติดพันกับการคุยเรื่องธุรกิจถามฉันอย่างเป็นห่วงว่าฉันไม่สบายรึเปล่า แต่ฉันบอกไปว่าฉันไม่ได้ไม่สบาย และกลับเข้าห้องน้ำไปจัดกางเกงในอีกครั้ง

ห้าทุ่มสามสิบเอ็ดนาที ฉันยืนฟังบรรดาสาว ๆ พร่ำเพ้อเกี่ยวกับท่านอิมาริ คิดในใจว่าทุกคนในนี้น่ะหมดสิทธิ์ ท่านอิมาริน่าจะเป็นพี่เขยของฉันอย่างแน่นอน

ห้าทุ่มห้าสิบห้านาที ฉันตัดสินใจเข้าห้องน้ำไปถอดกางเกงใน ตอนแรกกะจะปาทิ้งในถังขยะห้องน้ำ แต่ถ้าคุณเมดมาเจอเข้าคงเป็นข่าวฉาวแน่ ๆ ฉันเลยกำกางเกงในตัวจิ๋วเอาไว้ในมือ แล้วเดินตรงไปหา ‘กระเป๋า’ ของฉัน

เที่ยงคืนตรง ฉันเดินไปประกบกับคาบุรากิ แล้วเขย่งตัวกระซิบบอกเขาว่า ฉันฝากของหน่อย ก่อนจะสอดกางเกงในเจ้าปัญหาลงไปในกระเป๋าเสื้อสูทของเขา คาบุรากิดูสมาธิไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวเท่าไหร่ เขาขมวดคิ้วแล้วล้วงมือลงมาในกระเป๋าเสื้อสูทที่ฉันฝาก ‘ของ’ เอาไว้ พอสัมผัสได้ถึงของในนั้น เขาก็ชะงัก

สายตาของคาบุรากิมองมาที่มือของฉันซึ่งมือหนึ่งถือโทรศัพท์มือถือ อีกมือกอดเอวเขาไว้ จากนั้นมองลงมาที่กระโปรงของฉัน

เนื่องจากฉันไม่ได้เอาอะไรติดตัวเข้างานมานอกจากโทรศัพท์มือถือ บวกกับสัมผัสที่ได้จากกระเป๋าสูท ไม่ต้องให้บอกว่าอะไร คนหัวดีอย่างคาบุรากิก็คิดออกทันที ฉันแทบจะเห็นพัฒนาการความคิดของเขาได้จากหน้าที่แดงขึ้นเรื่อย ๆ เห็นเขาหน้าแดง ฉันก็อดหน้าแดงตามไปด้วยไม่ได้

“ฉันจะไม่มีวันซื้อกางเกงในยี่ห้อนี้อีกเด็ดขาด“ ฉันกระซิบข้างหูคาบุรากิเพราะไม่อยากให้ใครได้ยิน คาบุรากิหันมามองฉัน มองต่ำลงไปที่กระโปรง แล้วกระซิบที่ข้างหูฉันว่าเขาเสร็จธุระแล้ว พวกเราควรจะกลับบ้านเพราะดูเหมือนฉันจะไม่ค่อยสบายเท่าไหร่

ตอนที่จะก้าวขึ้นรถ คาบุรากิถอดเสื้อสูทปิดขาฉันไว้เพราะบูกัตติโหลดต่ำ ขืนขึ้นรถไม่ดีมีหวังเห็นไปไหนต่อไหน เขาสั่งให้ฉันคลุมขาด้วยเสื้อนอกของเขาตลอดเวลาที่อยู่บนรถ ตอนที่กลับถึงบ้านคาบุรากิก็ถามออกมา

“เธอเดินตัวเปล่าอย่างงั้นตลอดทั้งงานเลยเหรอ คิโชวอิน”

ฉันบอกเขาว่าฉันเดินใส่ไอ้กางเกงในบ้านั่นตลอดทั้งงาน แสบจนทนไม่ไหวแล้วจึงถอดมาฝากเขา ถ้าเขาไม่พากลับ ฉันก็คงต้องเดินแบบนั้นทั้งงาน

คาบุรากิทำท่ากลุ้มใจ แล้วบอกฉันว่าเขาจะพาฉันไปช้อปปิ้งชุดชั้นในที่ใส่แล้วไม่เห็นรอย ต่อจากนั้นเป็นต้นมา ชุดชั้นในสำหรับออกงานทั้งคอลเล็คชั่นของฉันก็ได้คาบุรากิเป็นคนอนุมัติ แน่นอนว่าเรื่องนี้เป็นความลับของฉันกับคาบุรากิเท่านั้น

จบ

909 Nameless Fanboi Posted ID:1w6jK6cYgX

แงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง ละมุนมาก หน่วงมาก ฮืออออออออออออออ

910 Nameless Fanboi Posted ID:df7.ffo5/X

>>908 T - thank you

911 Nameless Fanboi Posted ID:LyHf5lgpHB

>>910 Ok, T=Thank you

912 Nameless Fanboi Posted ID:XMXnPb2/Fe

>>892-894 อย่ามายุ่งกับท่านคาบุรากิของกูววววววว T^T
>>907-908 เรย์ก่าาา เธอจะถอดออกแล้วเเินตัวเปล่าไม่ด้ายย

913 Nameless Fanboi Posted ID:1w6jK6cYgX

ห่าเอ๊ย กู >>909 คอมเม้นทีแรกคือตอน R อีเหี้ย ตอน Sแม่งตัดฟีลสัสๆ 555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555

914 Nameless Fanboi Posted ID:1w6jK6cYgX

คือถ้าเป็นคู่อื่นทำแบบนี้มันคือชวนขึ้นเตียงแล้วมะ อย่างยั่วเลยนะ ทำไมพอเป็นอิคู่นี้แล้วกลายเป็นตลกคาเฟ่ ฮือ 555555555555555555555555555

915 Nameless Fanboi Posted ID:nJQHiF8cqm

กูไม่อยากจะคิดว่าถ้ามันหล่นกลางงานจะเกิดอะไรขึ้น5555555555555555
ท่านประธานบ.ยักษ์ใหญ่พกจีสตริงเมียติดตัวตลอดเวลา5555555555555555
ปล.แต่เกงในบางตัวแม่งเสียดสีจริง เคยทำขาหนีบกูถลอกไปรอบแล้ว;__;

916 Nameless Fanboi Posted ID:eGinRQU9yE

ถ้าเป็นเรื่องอื่นจะเริ่มเข้าสู่ฉากอีโรติก แต่ไหงพอเป็นสองคนนี้แล้วตลกชิบหายแบบเน้!!

917 Nameless Fanboi Posted ID:eGinRQU9yE

>>915 ข่าวใหญ่ยิ่งกว่าตอนแต่งงานอีกนะ 555

918 Nameless Fanboi Posted ID:I0vd11tlvK

อ่าน ฟิค-s แล้วสงสัยว่า พวกดาราที่ใส่ชุดแนบเนื้อออกงาน เขาก็ใส่ชั้นในแบบนี้กันใช่มั้ย

919 Nameless Fanboi Posted ID:LyHf5lgpHB

>>918 ถ้าไม่อยากให้มีรอยชั้นในเลย เค้าไม่ใส่ หรือใส่พวก C-string กัน แต่ส่วนมากใส่พวก G-string/body suit นะ อันแรกที่ใส่ตามปกติ อันหลังเพื่อความผอม ในกรณีใส่ชุดราตรียาว

920 Nameless Fanboi Posted ID:LyHf5lgpHB

>>918 จริง ๆ พวก Lace short หรือ Laser cut underwear ก็พอใส่ได้นะ แต่สำหรับคนตัวนิ่ม ๆ มันมีปัญหาเนื้อล้นถ้าไซส์ไม่ตัดมาพอดีเป๊ะ ยังไงก็เห็นขอบกางเกงใน แต่อาจจะน้อยกว่าพวก Bikini ธรรมดา

921 Nameless Fanboi Posted ID:9U1fl3k7if

>>907-908 โอ๊ย ท่านเรย์กะะะ ถ้าคนอื่นทำคือชวนขึ้นเตียงชัดๆ หรือถ้ามีคนเห็นในงานต้องลือสะบัดแน่ แต่ทำไมตลกงี้ 5555555 ทำไปได้ถอดละยัดลงเป๋าสูท คือต้องไว้ใจเชื่อใจแค่ไหนถึงกล้า หรือแค่บ้า มีจะเดินต่อแบบไม่ใส่ด้วย ไม่ได้นะะะะะ 55555 แล้วคาบุดูแลทุกอย่างในชีวิตละ จะเพื่อนสาวหรือสามีก็เถอะ ขาดคาบุไม่ได้แล้วมั้งท่านน

922 Nameless Fanboi Posted ID:ytUXOgmESB

คาบุละมุนมากเลยย😊😊

923 Nameless Fanboi Posted ID:1w6jK6cYgX

สารภาพบาปว่าเวลาไม่อยากให้มีรอย กุไม่ใส่ -///////////-

ส่วนยกทรงนี่ก็แปะซิลิโคนเอา มันจะหวิวๆ หน่อย บางทีก็รู้สึกเหมือนตัวเองโรคจิต แต่คือถ้าใส่แล้วมันเห็นรอย น่าเกลียดกว่าไม่ใส่อีก
ชั้นในไร้ตะเข็บก็โอ แต่ถ้าชุดแนบเนื้อมากๆ กุก็ต้องเลือกระหว่างจีสตริงกับไม่ใส่ ซื่อกุว่าไม่ใส่ยังดีกว่าจีสตริง มันระบมตูด

924 Nameless Fanboi Posted ID:eGinRQU9yE

>>923 คือบางทีกูก็อยากไม่ใส่อ่านะ แต่กูทำไม่ด้ายยยย ก้นกุนี่ห้อยแบบอีกนิดจะแตะพื้นไรเงี้ย กูไม่หาไรดันดันไม่ได้จริงๆ

925 Nameless Fanboi Posted ID:zFBtXAYMsL

กูขำชิบหายเลย ตั้งแต่ชีเดินเข้าร่วมงาน 555

926 Nameless Fanboi Posted ID:ROMNpZLvXW

T - Thank you

ในช่วงเดือนสิงหาคมที่อากาศของญี่ปุ่นน่าอึดอัด ฉันกับคาบุรากิไปเที่ยวกันที่เวียนนา

อันที่จริงจะว่าไปเที่ยวทั้งหมดก็ไม่ถูก เพราะพวกเราไปหาแรงบันดาลใจจากเวียนนาเพื่อที่จะจัดงานเลี้ยงที่มีการบรรเลงซิมโฟนี่ ออเครสต้าให้กับแขกวีไอพีของโรงแรมในปีหน้า แม้ว่าในใจจะมีลิสต์วงที่จะอยากจะเชิญมาเปิดคอนเสิร์ตแล้วเรียบร้อย แต่ก็อยากสัมผัสว่าตอนนี้อะไรที่กำลังเป็นกระแสในเวียนนา และอาจจะเชิญพ่อครัวของที่นี่ไปเป็นเชฟหลักในการทำอาหารเลี้ยงแขกในงานด้วย

คาบุรากิเป็นคนแพลนทริป ส่วนฉันเป็นคนเลือกว่าอยากจะดูวงไหนหรือไปชิมอาหารอะไร

ฉันเคยมาเวียนนาสองครั้ง ครั้งนี้ครั้งที่สามแล้วแต่ถึงยังไงก็จะไม่พลาด Schnitzel ซึ่งเป็นเนื้อลูกวัวชุบแป้งทอด อาหารประจำชาติของเวียนนาอย่างเด็ดขาด ร้านที่พวกเราไปกินเป็นร้านเก่าแก่ต้นตำรับของเวียนนา เนื้อลูกวัวนุ่ม ๆ ชุบแป้งแล้วทอดกรอบ กินกับมันฝรั่งทอดก็อร่อยดี แต่พอกินไปได้เกินครึ่งชิ้นแล้วก็คิดว่า อยากได้น้ำจิ้มทงคัตสึจังเลยน้า ก็ถึงแป้งจะเค็ม แต่เนื้อมันไม่ได้ปรุงรสเลยนี่นา

นอกจากกิน Schinitzel แล้วฉันกับคาบุรากิก็ตระเวนกินไส้กรอก ร้านขายไส้กรอกของเวียนนามีอยู่บนถนนแทบทุกเส้น ไส้กรอกของที่นี่เวลากินจะใส่ขนมปังฮอตดอกมาไห้ ฮอตดอกชิ้นโตต้องอ้าปากกว้าง ๆ เวลากิน ทำให้รู้สึกลำบาก แต่ก็อร่อยดีเหมือนกัน ต่อจากนั้นก็ไปกิน Leberkase ที่เป็นแฮมซึ่งทำจากตับและชีส พอประกบด้วยขนมปังร้อน ๆ เองก็อร่อยไม่ใช่เล่น ฉันที่ปกติไม่ค่อยได้ทานพวกเครื่องในยังกินได้อย่างเอร็ดอร่อยคนเดียวทั้งชิ้น แต่ที่ถูกใจฉันที่สุดคงไม่พ้น Sachertorte ซึ่งเป็นเค้กช็อกโกแล็ตสอดไส้แยมแอพพริคอต แยมไม่หวานมาก เข้ากับช็อกโกแล็ตที่ขม ๆ ได้ดี

นอกจากตะลุยกินแล้วพวกเราก็ยังตะลุยดูคอนเสิร์ต ในบางครั้งหลังคอนเสิร์ตก็จะมีงานเลี้ยงเพื่อให้แขกได้สังสรรค์ หรือวิจารณ์ผลงานเพลงและศิลปะด้วย พวกเราได้คุยกับโปรดิวเซอร์ของวงดนตรีหลายวง ถึงแม้ว่าฉันจะเฉย ๆ กับไวน์ของออสเตรียแต่ก็แพลนว่าจะสั่งซื้อแก้วไวน์ของ Riedel กลับประเทศเพื่อไว้ใช้ในโรงแรมเพราะถูกใจทั้งดีแคนเตอร์ทั้งแก้ว

ในทริปวันสุดท้ายก่อนกลับ พวกเราไปดูวงออเครสต้าอีกวง แต่คราวนี้ไม่ได้มีโปรแกรมโน๊ตแนบมาด้วยว่าวงที่เราเข้าชมนั้นจะแสดงอะไร

พอเดินเข้าไป พนักงานก็พาพวกเราเข้าไปในโถงชมคอนเสิร์ต นักดนตรีนั่งกันครบทุกคนแล้ว แต่กลับไม่มีผู้ชมเลยแม้แต่คนเดียว ฉันมองไปรอบ ๆ อย่างประหลาดใจ เลยถามคาบุรากิว่าพวกเรามาก่อนเวลาหรือเปล่า คาบุรากิบอกว่าพวกเรามาตรงเวลาพอดี

ฉันมองเขาแล้วแอบตกใจเล็กน้อยที่คาบุรากิเหมาที่นั่งทั้งรอบ ช่างเวอร์จริง ๆ แต่เขาอยากทำอะไรใครห้ามได้ที่ไหน พวกเรามองนักดนตรีที่ทดลองเสียงเครื่องดนตรีบนเวที วาทยกรออกมาแล้ว ฉันเลยขยับตัวเตรียมพร้อมรับฟังดนตรี ทว่าคาบุรากิกลับลุกขึ้น

ตอนที่ฉันกำลังจะถามเขาว่าไปไหน คาบุรากิก็เดินขึ้นไปบนเวทีแล้วนั่งลงบนเก้าอี้หน้าเปียโน ก่อนจะยิ้มน้อย ๆ ให้กับฉัน ฉันเบิกตากว้าง จ้องมองวาทยกรที่เริ่มออกคำสั่งกับวงด้านหลัง แล้วเสียงโหมโรงของ Piano Concerto No.2 ของโชแปงก็เริ่มขึ้น

927 Nameless Fanboi Posted ID:ROMNpZLvXW

ในเทศกาลทานาบาตะเดือนที่แล้ว คาบุรากิซึ่งเล่น Piano Concerto ของโชแปงแบบ Solo นั้นน่าประทับใจมาก แต่พอบรรเลงโดยมีวงออเครสต้ามืออาชีพทั้งวงเสริมให้ ก็ดูอลังการเสียจนมือที่กุมอยู่บนตักของฉันกำแน่น ตัวสั่นริกด้วยความรู้สึกเหมือนหัวใจจะกระโดดออกมานอกร่างกาย

สามสิบกว่านาทีของ Piano Concerto จบลงด้วยเสียงของเครื่องสีแผ่วเบา แม้ว่าทั้งโถงจะมีแค่ฉันคนเดียว แต่เสียงปรบมือก็ดังไปจนถึงหน้าเวที

ตอนแรกฉันนึกว่าโปรแกรมจะจบแล้ว แต่คาบุรากิกลับบรรเลง Fantasie Impromptu ของโชแปงต่อ เพลงนั้นเป็นเพลงที่ฉันจำได้ว่าตัวเองเคยขอให้คาบุรากิเล่น แต่ไม่คิดว่าเขาเองก็จำได้เช่นกัน

ต่อจาก Fantasie Impromptu ก็เป็น Dream of Love ของ ลิทซ์ ซึ่งอยู่ในสมัยโรแมนติกคลาสสิคเช่นเดียวกับโชแปง ฉันฟัง Dream of Love ท่อนที่ 3 ซึ่งประพันธ์จากกลอนของของเฟอร์ดินานด์ซึ่งเป็นกลอนรักอันแสนเศร้า ว่าด้วยความรักที่ถูกความตายพรากจาก จึงย้ำเตือนให้ผู้อ่านมีความรักให้เนิ่นนานที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ ในบรรดานักดนตรีคลาสสิค ลิทซ์เองก็เป็นนักดนตรีอีกคนหนึ่งที่ฉันชอบมากเช่นกัน

ต่อจากลิทซ์ก็เป็นเพลง Clair de Lune ของเดอบูว์ซีซึ่งอยู่ในยุคเดียวกับลิทซ์เช่นกัน พอได้ยินเสียงเพลง Clair de Lune ฉันก็นึกถึงตอนที่คาบุรากิเล่นเพลงนี้ปลอบฉันซึ่งเห็นเอ็นโจควงคู่กับกับคุณยุยโกะในงานเลี้ยงครั้งแรกหลังการแต่งงาน แม้ Dream of Love ของลิทซ์และ Clair de Lune ของเดอบูว์ซีจะถูกประพันธ์โดยมีแรงบันดาลใจจากกลอนเช่นเดียวกัน แต่ Clair de Lune กลับไม่ได้นำเนื้อความของกลอนมาใช้ในการเขียนมู้ดของเพลง แต่กับสื่อให้เป็นถือความลึกลับของความงามแห่งศิลปะ ซึ่งตัวฉันเองไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่เพราะว่าไม่เข้าใจ ถึงได้หลงใหลในผลงานของเขา

อันที่จริงฉันนึกว่าเพลงจบของคอนเสิร์ตจะเป็นเพลงในยุคโรแมนติกเช่นเดียวกับเพลงที่เล่นมาทั้งงาน แต่พอทำนองของ All I ask of you จากเรื่องแฟนท่อม ออฟ ดิ โอเปร่า ฉันก็รู้สึกประหลาดใจไม่น้อย แต่ไม่ได้รู้สึกว่าขัดหู ซ้ำยังเป็นความประหลาดใจที่รู้สึกยินดีซะด้วยซ้ำ

ทว่าแทนที่คาบุรากิจะเพียงแค่บรรเลงเปียโนเพียงอย่างเดียว เขากลับร้องเนื้อเพลงในส่วนของราอูลและคริสเตียนด้วย ฉันมองเขาด้วยความรู้สึกทึ่งเมื่อเสียงทุ้มต่ำกังวาลดังอย่างแผ่วเบา วงออเครสต้าลดเสียงเครื่องดนตรีลง จนกระทั่งเสียงของคาบุรากิค่อย ๆ ชัดขึ้นเรื่อย ๆ

928 Nameless Fanboi Posted ID:ROMNpZLvXW

No more talk of darkness,
Forget these wide-eyed fears;
I'm here, nothing can harm you,
My words will warm and calm you.

Let me be your freedom,
Let daylight dry your tears;
I'm here, with you, beside you,
To guard you and to guide you.

Say you love me every waking moment,
Turn my head with talk of summertime.
Say you need me with you now and always;
Promise me that all you say is true,
That's all I ask of you.

Let me be your shelter,
Let me be your light;
You're safe, no one will find you,
Your fears are far behind you.

All I want is freedom,
A world with no more night;
And you, always beside me,
To hold me and to hide me.

Then say you'll share with me one love, one lifetime;
Let me lead you from your solitude.
Say you need me with you, here beside you,
Anywhere you go, let me go too,
That's all I ask of you.

แม้ว่าจะมีท่อนที่ต่อจากนี้ แต่คาบุรากิกลับไม่ได้ร้องต่อ เขาบรรเลงเปียโนคลอสลับกับเสียงจากออเครสต้าไปจนจบเพลง

ฉันลุกขึ้นปรบมือเมื่อการบรรเลงเสร็จสิ้นลง วงออเครสต้าและวาทยกรโค้งทำนับให้ฉัน ส่วนคาบุรากิเดินเข้ามาหาฉัน ฉันเลยชมการแสดงของเขาว่าเป็นการแสดงที่วิเศษสุดเท่าที่ฉันเคยได้รับชมมา และนั่นก็ไม่ใช่การพูดเกินจริงเลยแม้แต่น้อย เปียโนของคาบุรากิโดดเด่นไม่แพ้พวกมืออาชีพ เสียงเพลงของเขาก็ไพเราะเหมือนไม่ใช่พวกมือสมัครเล่น พอฉันถามออกไปว่าการแสดงครั้งนี้เนื่องในโอกาสอะไร เขาก็ตอบด้วยสีหน้ายิ้ม ๆ กลับมา

“เพราะเธออยากฟัง”

ฉันมองเขา แล้วนึกไปถึงเทศกาลทานาบาตะ ฉันเคยเอ่ยกับเขาถึง Piano Concerto ของโชแปงที่เขาเล่นแบบ Solo ไม่คิดเลยว่าคำเปรยเล่น ๆ ในตอนนั้นจะทำให้คาบุรากิจัดคอนเสิร์ตพร้อมวงออเครสต้าให้ฉันฟัง

ฉันยิ้มออกมาอย่างอ่อนใจ รู้สึกเอ็นดูผู้ชายคนข้างหน้าอย่างที่สุด คาบุรากิผู้ชอบทำเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ใหญ่โตนั่นไม่เคยเปลี่ยนเลยแม้แต่น้อย

“ขอบคุณนะคะ ท่านคาบุรากิ คืนนี้ฉันมีความสุขที่สุด”

คาบุรากิยิ้มให้กับฉัน พวกเราขอบคุณวงออเครสต้า ก่อนจะกลับโรงแรม

ในคืนนั้น ฉันฝันถึงเพลง All I ask of you ของคาบุรากิ แล้วคิดว่าฉันเองก็อยากจะอยู่ข้าง ๆ เขาเช่นกัน

จบ

929 Nameless Fanboi Posted ID:9ecUpNAdA8

ขอ U - umbrella

930 Nameless Fanboi Posted ID:cBw/veal0/

u - umbrella

931 Nameless Fanboi Posted ID:cBw/veal0/

>>929 เชี่ย ใจตรงกัน 5555

932 Nameless Fanboi Posted ID:9ecUpNAdA8

>>931 ตกใจเลย55555

933 Nameless Fanboi Posted ID:LyHf5lgpHB

>>929 ok, U - umbrella

934 Nameless Fanboi Posted ID:0/KNSHCts4

>>926-928 สามีแห่งชาติจริงๆ ใจกูไปหมดแล้ว

935 Nameless Fanboi Posted ID:3qcGaybZAU

โอ้ยยยย กราบโม่งฟิก ฟินมากกกกกก

936 Nameless Fanboi Posted ID:3qcGaybZAU

U - Unremarkable

937 Nameless Fanboi Posted ID:3qcGaybZAU

V- Voyage

938 Nameless Fanboi Posted ID:LyHf5lgpHB

>>936 โดน umbrella สอยไปแล้ว ไว้ตัวหน้านะ

939 Nameless Fanboi Posted ID:LyHf5lgpHB

>>937 ไม่รับล่วงหน้า ไว้ลงหลัง U เด้อ

940 Nameless Fanboi Posted ID:5R7vqK8Dr9

>>926-928 โม่งฟิค มึงงงง มึงทำกูใจบาง กูจะละลาย กูนอนกุมอกแล้ว ฮืออออ หวานละมุนเว่อร์ กูชอบมากกกก อย่าดราม่าหรืออย่าชอบคนอื่นกันเลยยย

941 Nameless Fanboi Posted ID:2QegDAU.+5

ฟิค A-Z มีตอนจบมั้ยวะ แค่อยากรู้เฉยๆ 55555555

942 Nameless Fanboi Posted ID:LyHf5lgpHB

>>941 มี จบที่ Z ฉากจบยังไงกูไม่สามารถบอกได้ค่ะซิส คืออัพทูคำที่โยนมาให้เลย

943 Nameless Fanboi Posted ID:NCyrp6FDTl

กูเล็งตัวvอยู่ถถถถถ ส่วนตัวzนี่....มีศัพท์ไรบ้างวะ

944 Nameless Fanboi Posted ID:eGinRQU9yE

>>942 จบ Z ละจะมีต่อไหมอ่า ชอบภาษาของมึงมากมาย

945 Nameless Fanboi Posted ID:eGinRQU9yE

>>943 zebra ไหมมึง

946 Nameless Fanboi Posted ID:nffj3BJs7s

>>940 ไม่น่าจะมีดราม่าแล้วมั้ง ตอนท้ายนางก็บอกเองว่าอยากอยู่ข้าง ๆ น่าจะรู้สึกอะไรบ้างแล้วล่ะ

เคยเม้นไปนะว่า คนเราถ้าไม่ได้รัก ไม่ได้ชอบ จะทำให้ขนาดนี้เลยเหรอ พอมาอ่านตอนนี้เพิ่งฉุกคิดได้ (ถ้าไม่ใช่การมโนเอง) ถ้ายึดตามเนื้อเรื่องหลัก การกระทำของคาบุนี่ เป็นการจีบแบบเล่นใหญ่ล้วน ๆ เลยนะ แบบเอาอกเอาใจทุกอย่าง สารพัดจะประเคนให้ แค่สาวเอ่ยปากว่าต้องการอะไร ฮีจัดให้ได้หมด

เมื่อไรนางจะรู้สักที ว่านอกจากท่านพ่อ ท่านพี่แล้ว ก็คนนี้แหล่ะ ที่โครตตามใจเลยนะ

947 Nameless Fanboi Posted ID:eGinRQU9yE

>>943 zombie

948 Nameless Fanboi Posted ID:piSzWrPkJO

>>943 กูพยายามคิดอยู่เหมือนกัน zebra zoo zoom zero zimbabwe zodiac แม่ง ตอนจบคือเก็บจักรราศีครบ ไหนๆ นักษัตรก็เคยมีแบ้ว 555555

949 Nameless Fanboi Posted ID:eGinRQU9yE

>>943 zygote เซลล์ตัวอ่อน

950 Nameless Fanboi Posted ID:LyHf5lgpHB

>>944 อาจจะมีมาบ้างเป็นระยะ ๆ แต่ไม่ต่อรัว ๆ เว้นวรรคให้คนอื่นผลิตกาวบ้าง

951 Nameless Fanboi Posted ID:ddpS3LgASr

>>946 กูว่าไม่ตามใจนะ ออกแนวบังคับเข้มงวดด้วยซ้ำ อย่างเรื่องพาไปไดเอทก็พูดเองล้วนๆไม่ได้ร้องขอ เจอคอร์สสุดโหดแถมยังโดนพูดจาถากถางเรื่องความอ้วนเลยโดนผ้าเปียกปิดหน้าเลย เป็นไงล่ะ ถถถถถถถถถถถถถ

952 Nameless Fanboi Posted ID:ChHjIGNasi

กูคิดว่าโม่งฟิคน่าจะกำหนดตัว z เองว่ะ ประมาณว่าเป็นคนเริ่มตัว a ก็ต้องเป็นฝ่ายจบด้วยตัว z เอง

953 Nameless Fanboi Posted ID:fT0sVWq7mD

จะครบ 1000 ละ ชื่อมู้ใหม่กูโหวต >>881 ละกัน

954 Nameless Fanboi Posted ID:LyHf5lgpHB

>>952 โอเค งั้นตัว Z กูขอจบเองละกันนะ

955 Nameless Fanboi Posted ID:d.zmSN3xxj

ขอโหวต >>880 ค่าาาา
คาบุรากิคือละมุนสุดอะไรสุด ><

956 Nameless Fanboi Posted ID:o9jTAHE6T3

โอยยย เขินมากกกก ท่านเรย์กะเริ่มหวั่นไหวแล้วใช่มั้ยย ////////////

957 Nameless Fanboi Posted ID:o9jTAHE6T3

>>956 กูอ่าน t ค้างไว้ พึ่งเห็นตอนต่อ 555555

958 Nameless Fanboi Posted ID:o9jTAHE6T3

>>957 กูดูผิด ขอโทษ...

959 Nameless Fanboi Posted ID:ChHjIGNasi

จากชื่อกระทู้ที่ร้องขอตอนใหม่ กลายมาเป็นร้องขอกาวกันแล้วสินะ

960 Nameless Fanboi Posted ID:fT0sVWq7mD

>>959 ตอนใหม่กูก็อยากได้ แต่กาวกูก็ต้องการ --- //สูด

961 Nameless Fanboi Posted ID:Y/zMz3Uuqw

โหวต >>881

962 Nameless Fanboi Posted ID:2QegDAU.+5

รวบรวมไว้ให้โหวต ปิดโหวตที่ 990 ก็แล้วกัน

>>878 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับการอ่านตอนเดิมซ้ำรอบแล้วรอบเล่า [เติมถุงกาวครั้งที่ 28]

>>879 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับถุงกาวที่ไม่มีวันหมด ไม่เหนื่อยล้าแม้จะร้องไห้ [การเรียกร้องให้กลับมาครั้งที่ 28]

>>880 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับกะละมังกาวที่กำลังจะล้นแล้วค่าาา [ทุบไหใบที่ 28]

>>881 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับถุงกาวที่ไม่มีวันหมด ไม่เหนื่อยล้าแม้จะร้องไห้ [เติมถุงกาวครั้งที่ 28]

>>882 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับการตัดริบบิ้นเปิดโรงงานนรกกวนกาว [สาขาที่ 28]

>>886 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับโรงงานกวนกาวของเหล่าโม่งที่เฝ้ารอ [ติดฉลากปลอมครั้งที่28]

963 Nameless Fanboi Posted ID:LyHf5lgpHB

โหวต >>881 ละกัน

964 Nameless Fanboi Posted ID:ZzI3zMK9Zi

โหวต >>881 ค่ะ กระทู้วิ่งโคตรไวกูตามอ่านเกือบไม่ทัน ดีใจจนอยากร้องไห้ ฮืออออ

965 Nameless Fanboi Posted ID:SMOgjs9K9g

>>886

966 Nameless Fanboi Posted ID:ApfqW+sNtj

โหวต >>878

967 Nameless Fanboi Posted ID:1w6jK6cYgX

ไมมีอะไร กุแค่มา +1 ให้ Z-Zebra
555555555555555555555555555555555

968 Nameless Fanboi Posted ID:zFBtXAYMsL

>>879 กูโหวตอันนี้

969 Nameless Fanboi Posted ID:EQ/7REMKT6

โหวตให้ >>881

970 Nameless Fanboi Posted ID:1T2ejbGE56

U - Umbrella

ในวันอาทิตย์ที่ฉันไม่ได้มีตารางงานอะไรเป็นพิเศษ ฉันนัดกับวาคาบะจังออกไปเดินเที่ยวในเมือง พวกเราไปดูของจุกจิกน่ารัก หาของกินอร่อย ๆ พอเดินผ่านหน้าร้านชุดราตรี ฉันเห็นวาคาบะจังมอง ๆ ก็เลยชวนเธอเข้าไปในร้าน

วาคาบะจังหยิบ ๆ จับ ๆ เดรสสีขาวตัวหนึ่ง มันเป็นเดรสผ้าชีฟองน่ารัก มีดอกไม้สีชมพูระบายตรงสายคาดไหล่และเอว วาคาบะถามฉันว่าคิดยังไงกับกระโปรงตัวนี้ ฉันเลยตอบไปตามตรง

“มันก็น่ารักดีอยู่หรอกค่ะ แต่ออกจะเหมือนชุดแต่งงานไปหน่อย” ฉันตอบ อันที่จริงชุดราตรีของฉันหลายชุดก็มาจากไลน์ชุดแต่งงานเหมือนกัน แต่ฉันพยายามไม่เลือกสีขาว ดังนั้นก็เลยไม่น่าเกลียดนัก

วาคาบะจังหัวเราะ ก่อนจะตอบว่า “อา ก็ฉันกำลังเลือกชุดแต่งงานอยู่นี่คะ คุณคิโชวอิน”

หลังจากนั้นอีกหนึ่งอาทิตย์ต่อมา การ์ดแต่งงานของเธอก็ถูกส่งมาถึงฉันกับคาบุรากิ

เพราะว่าวาคาบะจังกำลังลงทุนเปิดสำนักงานทนายความแห่งใหม่ร่วมกันกับนายตัวสำรอง ดังนั้นงานแต่งงานจึงจัดแบบหรูหรามากไม่ได้ ตอนแรกฉันอยากจะให้เธอยืมห้องที่โรงแรม แต่คิดอีกทีไม่เอาดีกว่า เพราะตอนที่คาบุรากิคบกับวาคาบะจัง เรื่องราวของเธอไปถึงหูของท่านพ่อและมาดามคาบุรากิ ดูเหมือนว่าจะมีการพบหน้ากันหลายครั้งด้วย เมื่อสุดท้ายแล้วเรื่องจบได้ไม่ดี วาคาบะจังคงลำบากใจที่จะต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องของคาบุรากิอีก

สุดท้ายแล้วเธอก็ไปจัดงานแต่งงานในรีสอร์ทเล็ก ๆ แห่งหนึ่งที่ไกลจากตัวเมืองออกไป รีสอร์ทแห่งนั้นไม่เคยจัดงานแต่งงาน แต่วาคาบะเคยช่วยเจ้าของรีสอร์ทต่อสู้คดีโดยที่ไม่คิดค่าใช้จ่าย คุณป้าคนนั้นก็เลยอยากตอบแทนเธอ

แขกที่มางานมีไม่มากนัก ในบรรดาเด็กที่มาจากซุยรันก็มีเพียงฉัน คาบุรากิ เอ็นโจ รุ่นพี่โทโมเอะกับรุ่นพี่คาซึมิ แล้วก็เพื่อน ๆ ในสภานักเรียนที่สนิทกับวาคาบะและนายตัวสำรองแค่สองคน รวม ๆ แล้วแขกที่มาทั้งหมดก็ห้าสิบกว่าคนเท่านั้น แต่เนื่องจากรีสอร์ทมีพื้นที่ในร่มค่อนข้างเล็ก ซ้ำยังเป็นห้องพักซะส่วนมาก คุณป้าเจ้าของเลยจัดงานในสวน

งานพิธีจัดอย่างเรียบง่าย มีบาทหลวงทำพิธีให้ และทุกคนก็ทานอาหารร่วมกัน แม้ว่าอาหารจะไม่หรูหรา แต่ก็มีรสชาติดี ในระหว่างที่กำลังพูดคุยกันหลังมื้ออาหารเตรียมจะลาเจ้าภาพแยกย้ายกลับ ฝนก็ตั้งเค้าอย่างรวดเร็ว ก่อนจะตกลงมาในที่สุด

971 Nameless Fanboi Posted ID:1T2ejbGE56

ฉันกับคาบุรากิมองหน้ากันแล้วตกลงว่าเราน่าจะต้องไปกันได้แล้วแม้ว่าฝนกำลังตกก็ตามที เพราะอีกสี่ชั่วโมงพวกเราต้องขึ้นเครื่องไปปารีส หากเป็นที่โรงแรมจะไม่มีปัญหาอะไรเลย เนื่องจากพวกเราสามารถให้คนขับรถวนมารับได้ แต่เพราะทางเข้าของที่นี่ค่อนข้างแคบ รถไม่สามารถเข้ามาได้ โรลส์รอยซ์เลยต้องจอดตรงไหล่ทางไกลออกไปเกือบหนึ่งกิโลเมตร

ฉันเอาร่มติดมาด้วยเพราะขามาทางไกล เลยต้องกางร่มบังแดด แต่ร่มของฉันใหญ่พอจะกางให้คน ๆ เดียวเท่านั้น ตอนที่เอ่ยปากขอยืมร่มจากคุณป้าเจ้าของที่พัก คาบุรากิก็บอกว่าไม่ต้อง

เขาหันหลังให้ฉันแล้วคุกเข่าลงข้างหนึ่ง พอฉันยืนจ้องเขา เขาก็หันมาแล้วบอกว่าทางที่เดินมาหากเป็นเวลาปกติก็สามารถเดินได้ไม่ลำบากนัก แต่ตอนนี้ฝนตก พื้นทางเดินเฉอะแฉะมาก รองเท้าส้นสูงจะต้องลื่นมากแน่ ๆ เขาเลยจะให้ฉันขี่หลังไป

ฉันปีนขึ้นไปบนหลังของเขาอย่างอาย ๆ เพราะพวกเราอยู่ต่อหน้าคนรู้จัก แต่ก็ต้องยอมรับว่าคาบุรากิพูดถูก รองเท้าของฉันไม่เหมาะกับการเดินบนพื้นทางเดินที่ฝนกำลังตก ดีที่ฉันใส่กระโปรงทรงกว้าง เลยขี่หลังเขาได้โดยไม่ลำบากมากนัก

คาบุรากิลุกขึ้นแล้วบอกให้ฉันกางร่ม ฉันกางร่มสีขาวประดับลูกไม้แล้วพวกเราก็เดินไปท่ามกลางฝนตก ฉันมองเขาที่เดินอย่างระมัดระวังแล้วถามเขาว่าหนักไหม

“หนักน่ะสิ” คาบุรากิตอบอย่างไม่รักษาน้ำใจ ฉันแอบรู้สึกสะเทือนใจเล็ก ๆ อันที่จริงน้ำหนักของฉันดีดขึ้นมาหลังกลับจากทัวร์ที่เวียนนา ฉันเลยบอกว่าถ้าเขาหนักฉันเดินเองก็ได้ ถ้าพวกเราเบียด ๆ กันใต้ร่ม ค่อย ๆ เดินไป ก็คงจะไปถึงรถได้โดยที่ไม่มีใครหกล้มหรือหัวเปียก แต่คาบุรากิกลับกระชับมือที่จับขาฉันไว้แน่น “แต่ถ้าฉันไม่อุ้มเธอ จะปล่อยให้คนอื่นมาทำแทนรึไง”

ฉันทำเสียงฮืม ๆ บอกเขาว่าถึงไม่มีใครอุ้ม ฉันก็เดินเองได้ มากสุดก็แค่ถอดรองเท้าเดิน

คาบุรากิหน้าแดงไปถึงหู บอกฉันว่าเขาเป็นสามีของฉัน หน้าที่ดูแลฉันก็ต้องเป็นของเขาอยู่แล้ว เขาไม่มีวันปล่อยให้ฉันเดินเท้าเปล่าบนพื้นแข็ง ๆ น้ำเจิ่งนองแบบนี้หรอก

ฉันกอดไหล่เขาไว้แน่น แนบแก้มลงกับหูของเขา แม้ว่าตอนนี้ฝนจะพรำจนชายกระโปรงของฉันชื้นไปหมด แต่ฉันกลับอยากให้ทางเดินสายนี้ยาวออกไปไม่มีที่สิ้นสุด เขาจะได้อุ้มฉันภายใต้ร่มคันน้อยคันนี้ตลอดไป

จบ

972 Nameless Fanboi Posted ID:xf6kRmJ/RA

Vow สาบาน

973 Nameless Fanboi Posted ID:LyHf5lgpHB

>>972 V=Vow

974 Nameless Fanboi Posted ID:xf6kRmJ/RA

>>970-971 แม่ค่ะ หนูอยากได้เขา —— คาบุรากี๊ เรย์ก๊า ขอให้มีความสุขมากๆ นะ โคตรโรแมนติกเลยบทนี้

975 Nameless Fanboi Posted ID:eGinRQU9yE

แต่อืม.... ถ้าให้แบกตลอดไป คาบุจะไม่หลังหักตายห่าก่อนอ่อวะ //ที่บอกว่าหน้าแดงนี่คือเหนื่อยใช่ไหม เจ้าแม่หนักมากสินะ...โดนตบ

976 Nameless Fanboi Posted ID:tZCqdzwrxJ

>>975 ผัวะ นี่แหนะ

977 Nameless Fanboi Posted ID:5R7vqK8Dr9

>>975 ตบปากตัวเองเลยนะ! อย่าว่าเจ้าแม่สิ หมดมู้ดกันพอดี 555555555

978 Nameless Fanboi Posted ID:I/H6wbFndY

แบกตลอดไป ไม่ดีมั้ง เดี๋ยวเข่าทรุด ข้อเสื่อมกันพอดี

979 Nameless Fanboi Posted ID:vyi42aAQZJ

คาบุไม่ว่าจะอยู่ฟิคไหน(ที่ได้เป็นพระเอกในฟิคนั้น)จะต้องโรแมนติกตลอดเว้ย แต่เอาจริงๆคาบุก็โรแมนติกตามประสาพระเอกโชโจนั่นแหละ

980 Nameless Fanboi Posted ID:eGinRQU9yE

ความจริงสิ่งที่คาบุทำให้เจ้าแม่ในฟิคก็เหมือนที่คาบุจะทำให้ยูริเอะกับวาคาบะในเรื่องหลักนั่นแหละ มองจากมุมเจ้าแม่ในเรื่องหลักรู้สึกแม่งโคตรโอเวอร์ แต่พอมาอ่านฟิคกลับรู้สึกโรแมนติกฉิบหาย

981 Nameless Fanboi Posted ID:hJR9rBMTsp

เป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว~~

982 Nameless Fanboi Posted ID:vyi42aAQZJ

W-Wooing

983 Nameless Fanboi Posted ID:vyi42aAQZJ

อ้าว ยังเหรอ โทดๆ

984 Nameless Fanboi Posted ID:tZCqdzwrxJ

โหวด >>886

985 Nameless Fanboi Posted ID:tZCqdzwrxJ

โมงฟิก กรุอยากได้ฟิกท่านพี่กับท่านไอระ. Please

986 Nameless Fanboi Posted ID:Y/zMz3Uuqw

แปปๆก็จะzแล้วหรอเนี่ย เร็วเว่อร์5555

987 Nameless Fanboi Posted ID:Y/zMz3Uuqw

>>886 โหวตๆ

988 Nameless Fanboi Posted ID:.aHuIVa+RW

V - Vow

“เป็นไงบ้าง”

หลังจากที่ฉันส่งเสียงตอบรับ คาบุรากิก็เปิดประตูเข้ามาถามอาการของฉัน

ไม่รู้ว่าเพราะโหมงานหนักมากเกินไป หรือว่าไปติดเชื้อไวรัสจากที่ไหน ทว่าสามวันก่อน จู่ ๆ ฉันก็รู้สึกเหมือนตัวร้อน ๆ และในเย็นวันนั้นเอง ฉันก็ถูกหามส่งโรงพยาบาล

หมอสั่งให้ฉันนอนดูอาการเพื่อตรวจดูว่าติดเชื้อไวรัสตัวอื่นนอกจากหวัดรึเปล่า ตั้งแต่ฉันเข้าโรงพยาบาล คาบุรากิก็มาเยี่ยมฉันทุกวัน ในแต่ละวันเขาจะเอาของประหลาด ๆ มาให้ อย่างเช่นตัวต่อห่วงกล แม้ว่าฉันจะตาลาย ป่วยขนาดที่ว่าจะเข้าห้องน้ำพยาบาลก็ยังต้องมาช่วยประคอง ดูยังไงก็เล่นตัวต่อที่เขาเอามาไม่ได้แน่นอน แต่ฉันก็ยังรู้สึกดีที่เขามาเยี่ยม

ในวันนี้เขาหอบหนังสือปริศนามาให้ บอกว่าให้ฉันเล่นแก้เบื่อตอนที่เขาไม่อยู่ แม้ว่าฉันจะเข้าโรงพยาบาล แต่ก็ยังห่วงเรื่องงาน ดังนั้นเลยชวนเขาคุยเรื่องความคืบหน้าของโปรเจคและงานเลี้ยงต่าง ๆ คาบุรากิเล่าให้ฉันฟังทุกโปรเจค ยกเว้นโปรเจครีสอร์ทที่มีสนามขี่ม้า

ฉันรู้ว่าคาบุรากิไม่ได้ไปที่ฟาร์มอายูคาวะอีก และถึงแม้ว่าพวกเราจะได้เจอคุณชิสึกะในงานสังคมบ้าง แต่เขาก็วางตัวห่างจากเธอในระดับหนึ่ง

หากแต่ฉันรู้ว่าในใจของคาบุรากินั้นยังคงคิดถึงเธอ เขาเป็นผู้ชายที่หากรักแล้วก็จะทุ่มเทลงไปสุดหัวใจ ทว่าเขาไม่สามารถทำแบบนั้นได้เพราะติดที่มโนธรรมของตัวเอง

ฉันคุยกับเขาจนกระทั่งคาบุรากิถูกคุณเลขาตามตัวในตอนบ่าย พอเขาไป ฉันก็ส่งข้อความหาท่านพี่ ถามว่าเขาจะปลีกเวลามาเยี่ยมฉันได้หรือเปล่า อันที่จริงท่านพี่มาเยี่ยมฉันแล้วตั้งแต่วันแรกที่เข้าโรงพยาบาล แต่วันถัด ๆ มาเขายุ่งมากจนไม่ได้มาอีก

ท่านพี่ตอบข้อความของฉันอย่างรวดเร็ว บอกว่าเคลียร์ธุระเสร็จแล้วเย็นนี้จะไปหา ฉันรอท่านพี่อยู่จนกระทั่งใกล้ถึงเวลาปิดวอร์ด เขากับท่านอิมาริก็เข้ามาเยี่ยม ท่านอิมาริแบกดอกไม้ช่อโตกับตะกร้าผลไม้มาให้ บอกว่าอยากให้ฉันรู้สึกสดชื่นขึ้น ฉันยิ้มขอบคุณเขา ก่อนจะบอกออกไปตามตรงว่ามีเรื่องที่อยากคุยกับท่านพี่ตามลำพัง

ทั้งสองคนมองหน้ากัน ก่อนที่ท่านอิมาริจะยิ้มแล้วบอกว่าเขาจะไปซื้อกาแฟด้านล่าง พอท่านอิมาริไป ท่านพี่ก็ถามเรื่องอาการของฉัน ฉันบอกเขาไปว่าตอนนี้ดีขึ้นมากแล้ว จากนั้นจึงเข้าประเด็นทันทีเพราะพวกเรามีเวลาก่อนปิดวอร์ดไม่นานนัก

“ท่านพี่คะ ถ้าน้องหย่ากับท่านคาบุรากิ ธุรกิจของพวกเราจะเกิดผลกระทบยังไงบ้างเหรอคะ?”

ท่านพี่ชะงักเมื่อได้ยินคำถามของฉัน เขามองสีหน้าของฉันแล้วตอบออกมาอย่างระมัดระวังว่าหุ้นของพวกเราอาจจะร่วงลงช่วงสั้น ๆ เพราะการหย่าของฉันกับคาบุรากิอาจจะทำให้นักลงทุนทั้งสองฝ่ายไม่มั่นใจว่าโครงการที่พวกเราทำด้วยกันจะมีปัญหาไหม

“เรย์กะ น้องกับคาบุรากิทะเลาะกันเหรอ?”

ฉันนิ่งไป มองหน้าท่านพี่ก่อนจะพูดความจริงออกไปทั้งหมดว่าความสัมพันธ์ของฉันกับคาบุรากิที่ผ่านมานั้นเป็นเพียงแค่การแต่งงานเพื่อผลประโยชน์ของตระกูลจริง ๆ ตัวเขามีคนที่รักอยู่แล้ว ตัวฉันเองในตอนนั้นก็ยังตัดใจจากเอ็นโจไม่ได้ พวกเราจึงเป็นได้แค่เพียงเพื่อนที่ดีต่อกัน

989 Nameless Fanboi Posted ID:LyHf5lgpHB

ในช่วงเวลาที่พวกเราไม่มีใคร ฉันกับเขาถือว่าเป็นคู่ที่เหมาะสมกับที่สุด เขาเป็นผู้นำตระกูลคาบุรากิ เป็นสามีที่อ่อนโยนใจดีช่างดูแล ส่วนฉันเป้นภรรยาที่คอยช่วยงานเขา จัดการเรื่องต่าง ๆ รอบตัวเขา ทำให้งานดำเนินไปได้อย่างราบรื่นที่สุด

หากแต่เมื่อคาบุรากิหลงรักคุณชิสึกะ ความสัมพันธ์ของพวกเราจึงไม่สามารถดำรงอยู่ในรูปแบบนั้นได้อีกต่อไป คาบุรากิเป็นผู้ชายที่รักใครรักจริง เขารักท่านยูริเอะ ตอนโดนทิ้งในคราวนั้นเขาคงตายไปแล้วถ้าไม่ได้เอ็นโจช่วยลากกลับมา เขารักวาคาบะจัง และสู้เต็มที่เพื่อที่จะได้อยู่กับเธอ แม้ว่าสุดท้ายแล้วจะไม่ได้สมหวัง แต่เขาก็ได้พยายามแล้ว

ทว่ากับคุณชิสึกะ ความรักนั้นถูกตัดไฟตั้งแต่ต้นลมเพียงเพราะว่าเขามีภรรยาอยู่แล้ว หากฉันเป็นภรรยาของเขาจริง ๆ เขาก็คงเป็นผู้ชายสารเลวหลายใจ ทว่าฉันเป็นเพียงแค่ภรรยาในนามของเขาเท่านั้น

เขาเคยสัญญากับฉันว่าตราบเท่าที่ฉันยังใช้ชื่อคาบุรากิ เขาก็จะไม่มีวันไปหาผู้หญิงคนอื่นอย่างเด็ดขาด แม้ว่าเขาจะรักเธอมากเท่าไหร่ก็ตาม และฉันรู้ว่าเขาจะไม่มีทางผิดสัญญาที่ตัวเองเคยได้ลั่นวาจาออกไป

เพราะฉะนั้น ฉันจะคืนชื่อคาบุรากิให้กับเขา เพื่อที่จะทำให้เขาเป็นอิสระอีกครั้ง ความรักของคาบุรากิไม่สมหวังมาหลายครั้งแล้ว เขาควรจะได้อยู่กับผู้หญิงที่เขารัก ไม่ใช่ผู้หญิงที่พ่อแม่หาให้

ท่านพี่ยื่นมือมากุมมือฉัน เขาบอกให้ฉันคิดดี ๆ ทว่าพอเห็นสีหน้าของฉัน เขาก็บอกว่าการหย่าของฉันกับคาบุรากิอาจจะส่งผลกระทบมากก็จริง แต่เขาสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ฉันไม่ต้องเป็นห่วง ไม่ว่าฉันจะเป็นคาบุรากิ หรือคิโชวอิน ฉันก็ยังเป็นน้องสาวของเขา และเขาจะปกป้องฉันจนถึงที่สุด

ฉันปล่อยให้น้ำตาไหลลงอาบแก้ม แล้วเอนตัวซบลงไปในอกของท่านพี่ นึกถึงช่วงเวลาต่าง ๆ ที่ฉันกับคาบุรากิอยู่ด้วยกันมาสามปี ในสามปีนี้คาบุรากิดีต่อฉันอย่างที่ไม่เคยมีใครดีกับฉันมาก่อน

ฉันรักเขา

แต่เขารักคนอื่น ดังนั้น ฉันก็จะปล่อยเขาไป

จบ

990 Nameless Fanboi Posted ID:Y/zMz3Uuqw

Wild.

991 Nameless Fanboi Posted ID:LyHf5lgpHB

>>990 ok, W = Wild

992 Nameless Fanboi Posted ID:DR+DKAMk7z

เหมือนเรื่องใกล้ดำเนินมาถึงจุดจบแล้ว.....

993 Nameless Fanboi Posted ID:F/IxDyjmqo

>>988-989 หน่วง... ท่ายเรย์ก่าาา TT

994 Nameless Fanboi Posted ID:z2PAnzpnPV

ท่านเรกะะะ ประโยคทิ้งท้ายทำน้ำตากูจะไหล โม่งฟิคมึงทำให้กูอยากอ่านตอนจบมากกก กูลุ้นนน

995 Nameless Fanboi Posted ID:Y/zMz3Uuqw

>>988-989 อยากอ่านต่อโว้ยย
จะจบยังไงเนี่ย T^T
ปล.กูโหวต >>879

996 Nameless Fanboi Posted ID:9.bV0D5iM+

ขอเสนอ
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับถุงกาวที่ไม่มีวันหมด ไม่เหนื่อยล้าแม้จะร้องไห้ [การเรียกร้องให้กลับมาครั้งที่ 28]ฃ

997 Nameless Fanboi Posted ID:qJxl7gG/lO

เฮ้ยๆ ใจเย็น ปิดโหวตนับคะแนนกันก่อน กระทู้จะเต็มแล้ว

998 Nameless Fanboi Posted ID:LyHf5lgpHB

>>985 เดี๋ยวไว้อึกซักพัดกูเปิด kinkmeme ให้รีเควสฟิคแล้วมาลงนะ ตอนนี้ขอกูปั่น A-Z ให้จบก่อน

999 Nameless Fanboi Posted ID:qJxl7gG/lO

>>878 1 คะแนน

>>879 2 คะแนน

>>880 1 คะแนน

>>881 5 คะแนน

>>882 0 คะแนน

>>886 4 คะแนน

สรุป >>881 คือชื่อกระทู้หน้าจ้า

1000 Nameless Fanboi Posted ID:qJxl7gG/lO

เปิดวาร์ปไปเม้าท์ต่อ
>>>/webnovel/6040/

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.