เวลาอาหารเย็นของคนป่วยมาถึง พยาบาลสาวน้อยเข็นรถส่งอาหารมาเสิร์ฟถึงที่ วาคาบะจังที่ยิ้มๆคุยกับฉันอยู่ พอได้กลิ่นอาหารก็มีสีหน้าไม่สู้ดีเท่าไหร่
ยังไม่ทันจะถามว่าไหวรึเปล่า วาคาบะจังก็ยกมือปิดปากวิ่งเข้าห้องน้ำไป มีสายตาของพวกเรามองกันเป็นตาเดียว
“วาคาบะ” คาบุรากิเดินตามเข้าไปในห้องน้ำ ฉันยืนมองอยู่ด้านหน้าด้วยความเป็นห่วง พี่น้องเอ็นโจก็มายืนด้วยเหมือนกัน
ผ่านไปนานพอดูสองคนนั้นก็ออกมา วาคาบะจังมีท่าทีเหนื่อยล้าให้คาบุรากิประคอง หน้านี่ซีดหยั่งกะกระดาษเลยล่ะ ไหวมั้ยจ๊ะวาคาบะจัง
“ให้หมอตรวจเลยดีกว่า”
“ขอโทษด้วยค่ะ”
“บอกแล้วว่าอย่าฝืนตัวเองไงล่ะ”
ยูกิโนะคุงกดปุ่มเรียกเจ้าหน้าที่ ไม่ถึงสองนาทีหลังจากนั้นวาคาบะจังก็ถูกหามขึ้นใส่เปลแล้วเข็นออกไปนอกห้อง มีคาบุรากิตามไปติดๆ ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากเหมือนฉากในหนัง
แล้วความวุ่นวายก็สงบลง ในห้องมีแค่ฉันกับเอ็นโจและยูกิโนะคุงเหมือนเดิม
“จะเป็นอะไรรึเปล่านะ”
“คงไม่หรอก” เอ็นโจมองตามแบบยิ้มๆ “น่าจะได้ยินข่าวดีมากกว่า”
“ข่าวดี….”
“เดี๋ยวเรย์กะก็คงรู้เอง” พอมายืนใกล้ๆแบบนี้ ปลายนิ้วของเอ็นโจเล่นปอยผมม้วนของฉันแบบมืออยู่ไม่สุข เอ๊ะ!! เสียมารยาท นี่มันคุกคามทางเพศนะคะ
ฉันถลึงตาใส่ หนอย….พอเห็นไม่โวยวายนี่ก็เอาใหญ่เลยนะ
มัวแต่เคืองเอ็นโจ ฉันเลยไม่ได้ครุ่นคิดว่าข่าวดีนั่นคืออะไร หลังจากวันนั้น คาบุรากิกับวาคาบะจังก็ดูยุ่งๆไม่รับโทรศัพท์ เมล์ไปยังไม่ตอบมาทั้งคู่เลย เอาไว้เดี๋ยวค่อยโทรไปถามก็ได้มั้ง
.
.
.
.
.
วันสิ้นปี ฉันที่วุ่นอยู่กับการทำอาหารตามแต่คุณอาคิมิจะสอน ลืมไปซะสนิทว่าจะต้องโทรไปถามอาการของวาคาบะจัง
นิโมโนะเนี่ยดูเหมือนจะง่าย แต่พอลองมาทำจริงมันไม่ง่ายเลยซักนิด กินแล้วก็ต้องสำนึกบุญคุณ สรรเสริญเยินยอท่านเรย์กะให้มากๆเข้าไว้ล่ะ
อาหารเสร็จทันฉิวเฉียดตอนบ่ายสองพอดี ฉันเลยอาสาจะไปส่งคุณอาคิมิด้วยตัวเองถึงที่บ้าน วันนี้ไม่มีใครอยู่เลย ท่านพ่อกับท่านแม่ไปเกียวโตเพื่อพบญาติเหมือนทุกปี แต่ท่านพี่ไปทริปเที่ยวยุโรปกับท่านอิมาริ ท่านพี่ได้ไปเที่ยวกับเพื่อน ผ่อนคลายจากงานที่ยุ่งๆมาทั้งปีก็ดีแล้วล่ะเน้อ
จะให้ทิ้งคุณอาคิมินั่งคนเดียวในห้องรับแขกก็กระไรอยู่ ฉันเลยพามารอในห้องส่วนตัว ให้คุณเมดยกชาสมุนไพรมาให้ดื่มรอฆ่าเวลา คุณอาคิมิดูตื่นเต้นกับเตียงนอนสี่เสาแบบเจ้าหญิงของฉัน เอ่ยปากชมว่าห้องสวยเหมือนในนิทานภาพที่เคยอ่าน...แหม ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกนะคะ
ฉันรีบแต่งตัวและแต่งหน้าให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้ เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เครื่องประดับอะไรก็เลือกไว้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว เหลือแค่แต่งหน้าเพิ่มเติมอีกนิดหน่อย หมุนตัวเช็คความเรียบร้อยอีกนิดก็ได้เวลาออกจากบ้าน
เวลาที่นัดกับเอ็นโจไว้คือตอนหกโมงเย็น ไปส่งคุณอาคิมิแล้วก็เผื่อรถติดนิดหน่อยก็ทันเวลาถมถืด
มาถึงคฤหาสน์เอ็นโจในเวลาเร็วกว่ากำหนดเล็กน้อย คนที่ออกมารับคือเอ็นโจที่อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวมีแจ็คเก็ตสีครีมสวมทับ เข้ากับกางเกงสีกรมท่าที่ใส่อยู่ อยู่ในลุคสบายๆเพิ่งออกจากโรงพยาบาลก็ยังดูดีอยู่เหรอยะ
“เอ่อ สวัสดีค่ะ ท่านเอ็นโจ”
“ยินดีต้อนรับครับ เรย์กะ” เอ็นโจยิ้มอบอุ่น “วันนี้ก็ใส่สีขาวล้วนเหรอ น่ารักเหมือนคุณกระต่ายเลยนะ”
ฉันหัวใจกระตุกวูบกับคำชม หนอย เจ้าคนจากหมู่บ้านคาสโนว่านี่มัน….
พอฉันหน้าบึ้งใส่ เอ็นโจก็ยิ้มตอบกลับมา พร้อมกับสายตาที่ทำให้รู้สึกหน้าร้อนวูบจนต้องมองไปทางอื่น เป็นช่องให้หมอนี่เข้าประชิดตัวฉัน ฉวยสัมภาระที่ถืออยู่มาถือให้ แล้วก็จูงมือฉันเข้าบ้าน
อะ...อะไรยะ ยังไม่ทันจะอนุญาตให้จับมือเลยนะ
-----------------------
ส่งต่อจ้า
ที่กูอยากเขียนคือสูตรทำอาหารอันเตลิดเปิดเปิงของนางนี่ล่ะ แต่เขียนออกมารู้สึกจะได้ไม่เท่าอฟช. กูไม่สามารถคิดสูตรที่มันมิราเคิลไปได้มากกว่านี้อีกแล้ว ต้องกราบขออภัยเพื่อนโม่งทุกท่านด้วย 5555555555555555555555