ต่อฟิคเวียนในตำนาน >>>/webnovel/5401/15-18
-------------------------------------
หลังจากคุณหมอตรวจเช็คแล้วเช็คอีกเพื่อให้แน่ใจว่าผู้สืบทอดตระกูลเอ็นโจไม่เป็นอะไร เอ็นโจก็ได้ออกจากโรงพยาบาลก่อนวันสิ้นปีพอดี ช่างเป็นคนที่ทำให้รอบข้างวุ่นวายไปหมดไม่เสื่อมคลายจริงๆ
อย่างเมื่อวันก่อนที่เอ็นโจหลับไปในช่วงบ่ายเพราะยาที่คุณหมอจัดมาให้ทานหลังอาหาร แต่ก่อนนอนก็มาอ้อนขอให้ฉันอยู่ข้างๆอย่าเพิ่งไปไหน คิดว่าคนเขาไม่มีการมีงานหรือมีธุระที่ต้องไปรึไงกันยะ
“อยากเห็นหน้าคุณตอนตื่นนี่ครับ” เอ็นโจทำหน้าหงอยๆ “ไม่ได้เหรอ”
อย่ามาทำหน้าแบบนั้นนะ ถึงนายจะหน้าเหมือนยูกิโนะคุง แต่สายตากับสีหน้าเว้าวอนออดอ้อนนั่นไม่เข้ากับนายเลยซักนิด
ตลอดบ่ายวันนั้นฉันเลยต้องมานั่งเฝ้าคนป่วย ส่วนยูกิโนะคุงพอไปส่งมาดามเอ็นโจขึ้นรถแล้วก็กลับเข้ามาในห้อง นั่งคุยสัพเพเหระเบาๆไม่ให้เสียงรบกวน แล้วก็ทำงานฝีมืออย่างนีดเดิลเฟลท์ไปด้วย
เห็นยูกิโนะคุงบอกจะทำกระต่ายให้ท่านพี่เป็นของขวัญปีใหม่ ช่างเป็นน้องชายที่น่ารักและอ่อนโยนอะไรเช่นนี้
แถมวันจะออกจากโรงพยาบาล ยูกิโนะคุงก็มาอ้อนให้ฉันไปให้กำลังใจพี่ชายอีก เพราะเห็นแก่ยูกิโนะคุงหรอกนะฉันถึงได้ไป ไม่งั้นฉันไม่ยอมสละเวลาอันมีค่ามารับมือกับคนป่วยจอมงอแงเอาแต่ใจนี่หรอก
ผลตรวจการตรวจสุขภาพออกมาว่าแข็งแรงดีทุกอย่าง แต่ฉันจะประสาทเสียเอากับคำพูด “พอออกจากโรงพยาบาลก็อยากทานอาหารฝีมือเรย์กะจังเลยครับ”
อีตาบ้าเอ้ย!! มาบอกเอาตอนนี้จะไปเตรียมตัวทันได้ยังไงล่ะยะ!!!
ทั้งยูกิโนะคุงและมาดามเอ็นโจก็มาช่วยพูดอีกแรง “เป็นงานเล็กๆในครอบครัวที่มีแต่พวกเรากันเองทั้งนั้นล่ะค่ะ คุณเรย์กะ”
“อย่างจิราชิซูชิที่ทำมาตอนนั้นก็อร่อยดีนะฮะ ผมชอบมากเลยล่ะ”
ฉันเปิดหนังสือเมนูอาหาร หาเมนูที่พอจะทำได้ง่ายๆแต่อร่อยล้ำ สุดท้ายคิดไม่ตกก็ต้องโทรไปรบกวนคุณอาคิมิอีกจนได้
ปรึกษาไปปรึกษามา คุณอาคิมิก็ออกปากว่าจะมาช่วยสอนที่บ้าน แม้ฉันจะท้วงไปด้วยความเกรงใจ ช่วงปีใหม่แบบนี้ใครๆก็อยากใช้เวลาอยู่กับครอบครัวทั้งนั้นล่ะเนอะ
คุณอาคิมิยืนยันว่าจะช่วยอีกแรง ฉันเลยจะขอรบกวนเวลาให้น้อยที่สุดคือแค่ช่วงเช้าเท่านั้น อาหารที่ทำก็ของง่ายๆอย่างนิโมโนะ น่าจะเข้ากับพวกอาหารที่ทานกันในช่วงปีใหม่
แต่ถ้ามีเวลาก็อยากจะลองเอาแกงกระหรี่ไปให้ชิมเหมือนกันนะ สูตรที่เป็นออริจินอลกับความเปล่งประกายของเชฟเรย์กะที่เพิ่งคิดได้เมื่อคืน ถ้าใส่เยลลี่แอปเปิ้ลลงไปก็น่าจะประหยัดเวลาการใส่แอปเปิ้ลลงไปเคี่ยวทั้งชิ้นแถมยังได้ความหวานจากน้ำตาลอีกด้วย แต่ก็อยากให้มีกลิ่นหอมของดอกกุหลาบกับสีชมพูสวยๆด้วยน้า จะได้สมเป็นราชินีโรโคโค่ งั้นลองใส่น้ำหวานกลิ่นกุหลาบกับซากุระเด็มบุลงไปด้วยดีกว่า ให้สีออกมาสวยๆแบบเตอร์กิชดีไลท์ ดูแปลกใหม่น่ารักกว่าสีน้ำตาลตุ่นๆแบบดั้งเดิม
อื้ออื้อ นี่ล่ะความสร้างสรรค์ ขอตั้งชื่อให้ว่าแกงกระหรี่กุหลาบของราชินีโรโคโค่
ฉันฮัมเพลงพลางพลิกดูสูตรนิโมโนะไปมา นึกถึงผลตรวจสุขภาพของเอ็นโจ จะว่าไปก็นึกถึงวาคาบะจังขึ้นมา
เย็นวันเดียวกันนั้นคาบุรากิก็มาเยี่ยมเพื่อนพร้อมกับตะกร้าของเยี่ยมใหญ่ยักษ์ ข้างๆเป็นวาคาบะจังที่สีหน้าดูอ่อนเพลียเล็กน้อย ฉันทักทายสองคนนั้นแล้วก็ถามวาคาบะจังด้วยความเป็นห่วง
“คงเพลียจากการตรวจสอบเอกสารที่บริษัทน่ะค่ะ” วาคาบะจังยิ้มแห้งๆ
“เอ๋ ไหนๆมาโรงพยาบาลแล้ว ลองตรวจสุขภาพดูมั้ยคะ”
“ก็ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกนะคะ เดี๋ยวกลับไปพักผ่อนก็หาย ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรหรอกค่ะ”
“ตอนนั่งมาในรถฉันก็บอกแบบนั้นเหมือนกัน” คาบุรากิโอบเอววาคาบะจัง “อย่าฝืนตัวเองสิ วาคาบะ ให้หมอตรวจดูหน่อยจะเป็นไรไป”
“ฉันไม่เป็นไรจริงๆนะคะ กลับไปพักผ่อนก็หายแล้วล่ะ”
เอ็นโจยังหลับอยู่ ฉันกับวาคาบะจังเลยนั่งคุยกันสัพเพเหระถามความเป็นไป ส่วนคาบุรากิไปคุยกับยูกิโนะคุง ท่าทางสนุกสนานกันทั้งคู่ แม้จะได้ยินแว่วๆมาอย่าง “ผีในบ้านร้าง” “มีด” “เก็บไอเท็มได้ที่ชั้นสอง” “ฆาตกรรมหมู่ยกครอบครัว” ลอยมาก็เหอะ นี่คุยอะไรกันน่ะห๊า!!!
เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง เอ็นโจก็ลืมตาตื่นขึ้นแบบแช่มช้า พอฉันเข้าไปดูอาการใกล้ๆ เจ้าตัวก็ยิ้ม จับมือฉันแล้วเอาไปแนบแก้มตัวเอง หลับตาพริ้มดูมีความสุข
ทำอะไรของนายห๊า!! คนอยู่ตั้งเยอะตั้งแยะนะยะ!!!
ฉันดึงมือออกแบบเงอะงะ แต่หมอนี่ก็จับไว้ไม่ปล่อย จนคาบุรากิกระแอมขึ้นมาแบบหลอกๆเพื่อขัดจังหวะ
“เฮ้ยๆ มีคนอยู่ในห้องนี้นะ ถ้าเผื่อนายไม่รู้”
ฉันแทบจะเอาหน้ามุดดินหนีตอนเห็นสายตายิ้มๆของวาคาบะจังกับยูกิโนะคุง พอสลัดมือปลาหมึกนั่นทิ้งมาได้ฉันก็ไปหลบอยู่อีกมุมกับวาคาบะจังทันที ปล่อยพวกผู้ชายคุยกันไป