Last posted
Total of 1000 posts
มีทางสืบหาคนเขียนไหม จุดนี้กูไม่แคร์เรื่องตอนต่อละ ได้รู้ว่าท่านฮิยังอยู่ดีมีสุขก็พอใจ
ควรตั้งแท็กเรียกร้องให้อาจารย์กลับมากันมั้ย 55555
กูอยากให้มีคนแปล ภาคสาเลนไทน์ ทำเนิดไซซายะ ไปให้ทางอังกฤษอา่านอ่ะ เผื่อทางนู้นจะเรียกเหมือนที่ไทย 55555555555
มู้ข้าง ๆ เค้าคุยกันเรื่องพระออกอ่อย กูกลับมาดูมู้นี้แล้วเศร้าใจ โอ๊ย เจ้าแม่กู ปักธงได้แต่นางเอหของเรื่องที่สุดท้ายแล้วไปคู่กะพระเอก เศร้าใจ
>>830 ตอนนี้กูไม่สะดุ้งสะเทือนล่ะ พล็อตในหัวกูเดินเรื่องไปจนจบแล้ว เดี๋ยวในงานดอกไม้ไฟ คาบุรากิจะสารภาพรักกับวาคาบะแล้วนางก็ยอมรับรัก เป็นอันใจตรงกัน คู่คาบุวาคาบะคบกันอย่างเปิดเผยไม่ต้องเกรงสายตาใครอีกต่อไป ส่วนทางท่านเรย์กะก็ต้องเผชิญหน้ากับคุณยุยโกะในร้านอาหาร เจ้าแม่อดรนทนไม่ไหวต้องผุดลุกหนีออกมากลางคัน แล้วก็ไปบังเอิญชนเข้ากับหนุ่มหล่อมากกกก คุยไปคุยมาพบว่าเป็นน้องชายท่านอิมาริที่ตกหลุมรักท่านเรย์กะตั้งแต่แรกพบ ทั้งคู่เลยช่วยกันนั่งทำตุ๊กตาเฟลต์ทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาววางคู่กันในงานโรงเรียน สวีทจี๋จ๋าจนคาบุยังต้องระย่อ ก่อนจะเรียนจบทั้งคู่ก็หมั้นกันและให้สัญญาว่าจะมารับเรย์กะไปอยู่ด้วยกันที่อเมริกาหลังเรียนจบมหาลัย Happy Ending! เฮ~
ใจคอพวกมึงจะให้ท่านพี่กับท่านอิมาริขึ้นคานไปพร้อมเจ้าแม่เหรอวะ อย่างน้อยให้ท่านพี่คู่ท่านอิมาริ หรือท่านอิมาริคู่เจ้าแม่ก็ยังดี
ยังไม่มีใครเอาไม้9 มีใครอยากแปลมั้ย
>>832
..นี่คือสถาน แห่งบ้านคานทอง ที่ฉันปองมาสู่
..ฉันยังไม่รู้ เขาจะต้อนรับ ขับสู้เพียงไหน
..อาจมี(k)calอาบ ฉาบบนใบหน้า ว่ามีน้ำนวลไง
..แต่สิ่งซ่อนไว้ ใน เดรสปกปิด คือ fat cells หนา
..เขตรั้วไพศาล โอบบ้านคานทอง
คือแขนของ ท่านพี่
..ขอจงเอื้อมมือ และโอบกอดน้อง
ผู้ผ่านเข้ามา
เพียงเดียวดาย อาจตายเพราะอ้วน โอ้อนิจจา
..โปรดอย่าอิจฉา สมาชิกใหม่
ของบ้านคานทองงงงงงงงง
ต่อฟิคเวียนในตำนาน >>>/webnovel/5401/15-18
-------------------------------------
หลังจากคุณหมอตรวจเช็คแล้วเช็คอีกเพื่อให้แน่ใจว่าผู้สืบทอดตระกูลเอ็นโจไม่เป็นอะไร เอ็นโจก็ได้ออกจากโรงพยาบาลก่อนวันสิ้นปีพอดี ช่างเป็นคนที่ทำให้รอบข้างวุ่นวายไปหมดไม่เสื่อมคลายจริงๆ
อย่างเมื่อวันก่อนที่เอ็นโจหลับไปในช่วงบ่ายเพราะยาที่คุณหมอจัดมาให้ทานหลังอาหาร แต่ก่อนนอนก็มาอ้อนขอให้ฉันอยู่ข้างๆอย่าเพิ่งไปไหน คิดว่าคนเขาไม่มีการมีงานหรือมีธุระที่ต้องไปรึไงกันยะ
“อยากเห็นหน้าคุณตอนตื่นนี่ครับ” เอ็นโจทำหน้าหงอยๆ “ไม่ได้เหรอ”
อย่ามาทำหน้าแบบนั้นนะ ถึงนายจะหน้าเหมือนยูกิโนะคุง แต่สายตากับสีหน้าเว้าวอนออดอ้อนนั่นไม่เข้ากับนายเลยซักนิด
ตลอดบ่ายวันนั้นฉันเลยต้องมานั่งเฝ้าคนป่วย ส่วนยูกิโนะคุงพอไปส่งมาดามเอ็นโจขึ้นรถแล้วก็กลับเข้ามาในห้อง นั่งคุยสัพเพเหระเบาๆไม่ให้เสียงรบกวน แล้วก็ทำงานฝีมืออย่างนีดเดิลเฟลท์ไปด้วย
เห็นยูกิโนะคุงบอกจะทำกระต่ายให้ท่านพี่เป็นของขวัญปีใหม่ ช่างเป็นน้องชายที่น่ารักและอ่อนโยนอะไรเช่นนี้
แถมวันจะออกจากโรงพยาบาล ยูกิโนะคุงก็มาอ้อนให้ฉันไปให้กำลังใจพี่ชายอีก เพราะเห็นแก่ยูกิโนะคุงหรอกนะฉันถึงได้ไป ไม่งั้นฉันไม่ยอมสละเวลาอันมีค่ามารับมือกับคนป่วยจอมงอแงเอาแต่ใจนี่หรอก
ผลตรวจการตรวจสุขภาพออกมาว่าแข็งแรงดีทุกอย่าง แต่ฉันจะประสาทเสียเอากับคำพูด “พอออกจากโรงพยาบาลก็อยากทานอาหารฝีมือเรย์กะจังเลยครับ”
อีตาบ้าเอ้ย!! มาบอกเอาตอนนี้จะไปเตรียมตัวทันได้ยังไงล่ะยะ!!!
ทั้งยูกิโนะคุงและมาดามเอ็นโจก็มาช่วยพูดอีกแรง “เป็นงานเล็กๆในครอบครัวที่มีแต่พวกเรากันเองทั้งนั้นล่ะค่ะ คุณเรย์กะ”
“อย่างจิราชิซูชิที่ทำมาตอนนั้นก็อร่อยดีนะฮะ ผมชอบมากเลยล่ะ”
ฉันเปิดหนังสือเมนูอาหาร หาเมนูที่พอจะทำได้ง่ายๆแต่อร่อยล้ำ สุดท้ายคิดไม่ตกก็ต้องโทรไปรบกวนคุณอาคิมิอีกจนได้
ปรึกษาไปปรึกษามา คุณอาคิมิก็ออกปากว่าจะมาช่วยสอนที่บ้าน แม้ฉันจะท้วงไปด้วยความเกรงใจ ช่วงปีใหม่แบบนี้ใครๆก็อยากใช้เวลาอยู่กับครอบครัวทั้งนั้นล่ะเนอะ
คุณอาคิมิยืนยันว่าจะช่วยอีกแรง ฉันเลยจะขอรบกวนเวลาให้น้อยที่สุดคือแค่ช่วงเช้าเท่านั้น อาหารที่ทำก็ของง่ายๆอย่างนิโมโนะ น่าจะเข้ากับพวกอาหารที่ทานกันในช่วงปีใหม่
แต่ถ้ามีเวลาก็อยากจะลองเอาแกงกระหรี่ไปให้ชิมเหมือนกันนะ สูตรที่เป็นออริจินอลกับความเปล่งประกายของเชฟเรย์กะที่เพิ่งคิดได้เมื่อคืน ถ้าใส่เยลลี่แอปเปิ้ลลงไปก็น่าจะประหยัดเวลาการใส่แอปเปิ้ลลงไปเคี่ยวทั้งชิ้นแถมยังได้ความหวานจากน้ำตาลอีกด้วย แต่ก็อยากให้มีกลิ่นหอมของดอกกุหลาบกับสีชมพูสวยๆด้วยน้า จะได้สมเป็นราชินีโรโคโค่ งั้นลองใส่น้ำหวานกลิ่นกุหลาบกับซากุระเด็มบุลงไปด้วยดีกว่า ให้สีออกมาสวยๆแบบเตอร์กิชดีไลท์ ดูแปลกใหม่น่ารักกว่าสีน้ำตาลตุ่นๆแบบดั้งเดิม
อื้ออื้อ นี่ล่ะความสร้างสรรค์ ขอตั้งชื่อให้ว่าแกงกระหรี่กุหลาบของราชินีโรโคโค่
ฉันฮัมเพลงพลางพลิกดูสูตรนิโมโนะไปมา นึกถึงผลตรวจสุขภาพของเอ็นโจ จะว่าไปก็นึกถึงวาคาบะจังขึ้นมา
เย็นวันเดียวกันนั้นคาบุรากิก็มาเยี่ยมเพื่อนพร้อมกับตะกร้าของเยี่ยมใหญ่ยักษ์ ข้างๆเป็นวาคาบะจังที่สีหน้าดูอ่อนเพลียเล็กน้อย ฉันทักทายสองคนนั้นแล้วก็ถามวาคาบะจังด้วยความเป็นห่วง
“คงเพลียจากการตรวจสอบเอกสารที่บริษัทน่ะค่ะ” วาคาบะจังยิ้มแห้งๆ
“เอ๋ ไหนๆมาโรงพยาบาลแล้ว ลองตรวจสุขภาพดูมั้ยคะ”
“ก็ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกนะคะ เดี๋ยวกลับไปพักผ่อนก็หาย ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรหรอกค่ะ”
“ตอนนั่งมาในรถฉันก็บอกแบบนั้นเหมือนกัน” คาบุรากิโอบเอววาคาบะจัง “อย่าฝืนตัวเองสิ วาคาบะ ให้หมอตรวจดูหน่อยจะเป็นไรไป”
“ฉันไม่เป็นไรจริงๆนะคะ กลับไปพักผ่อนก็หายแล้วล่ะ”
เอ็นโจยังหลับอยู่ ฉันกับวาคาบะจังเลยนั่งคุยกันสัพเพเหระถามความเป็นไป ส่วนคาบุรากิไปคุยกับยูกิโนะคุง ท่าทางสนุกสนานกันทั้งคู่ แม้จะได้ยินแว่วๆมาอย่าง “ผีในบ้านร้าง” “มีด” “เก็บไอเท็มได้ที่ชั้นสอง” “ฆาตกรรมหมู่ยกครอบครัว” ลอยมาก็เหอะ นี่คุยอะไรกันน่ะห๊า!!!
เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง เอ็นโจก็ลืมตาตื่นขึ้นแบบแช่มช้า พอฉันเข้าไปดูอาการใกล้ๆ เจ้าตัวก็ยิ้ม จับมือฉันแล้วเอาไปแนบแก้มตัวเอง หลับตาพริ้มดูมีความสุข
ทำอะไรของนายห๊า!! คนอยู่ตั้งเยอะตั้งแยะนะยะ!!!
ฉันดึงมือออกแบบเงอะงะ แต่หมอนี่ก็จับไว้ไม่ปล่อย จนคาบุรากิกระแอมขึ้นมาแบบหลอกๆเพื่อขัดจังหวะ
“เฮ้ยๆ มีคนอยู่ในห้องนี้นะ ถ้าเผื่อนายไม่รู้”
ฉันแทบจะเอาหน้ามุดดินหนีตอนเห็นสายตายิ้มๆของวาคาบะจังกับยูกิโนะคุง พอสลัดมือปลาหมึกนั่นทิ้งมาได้ฉันก็ไปหลบอยู่อีกมุมกับวาคาบะจังทันที ปล่อยพวกผู้ชายคุยกันไป
เวลาอาหารเย็นของคนป่วยมาถึง พยาบาลสาวน้อยเข็นรถส่งอาหารมาเสิร์ฟถึงที่ วาคาบะจังที่ยิ้มๆคุยกับฉันอยู่ พอได้กลิ่นอาหารก็มีสีหน้าไม่สู้ดีเท่าไหร่
ยังไม่ทันจะถามว่าไหวรึเปล่า วาคาบะจังก็ยกมือปิดปากวิ่งเข้าห้องน้ำไป มีสายตาของพวกเรามองกันเป็นตาเดียว
“วาคาบะ” คาบุรากิเดินตามเข้าไปในห้องน้ำ ฉันยืนมองอยู่ด้านหน้าด้วยความเป็นห่วง พี่น้องเอ็นโจก็มายืนด้วยเหมือนกัน
ผ่านไปนานพอดูสองคนนั้นก็ออกมา วาคาบะจังมีท่าทีเหนื่อยล้าให้คาบุรากิประคอง หน้านี่ซีดหยั่งกะกระดาษเลยล่ะ ไหวมั้ยจ๊ะวาคาบะจัง
“ให้หมอตรวจเลยดีกว่า”
“ขอโทษด้วยค่ะ”
“บอกแล้วว่าอย่าฝืนตัวเองไงล่ะ”
ยูกิโนะคุงกดปุ่มเรียกเจ้าหน้าที่ ไม่ถึงสองนาทีหลังจากนั้นวาคาบะจังก็ถูกหามขึ้นใส่เปลแล้วเข็นออกไปนอกห้อง มีคาบุรากิตามไปติดๆ ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากเหมือนฉากในหนัง
แล้วความวุ่นวายก็สงบลง ในห้องมีแค่ฉันกับเอ็นโจและยูกิโนะคุงเหมือนเดิม
“จะเป็นอะไรรึเปล่านะ”
“คงไม่หรอก” เอ็นโจมองตามแบบยิ้มๆ “น่าจะได้ยินข่าวดีมากกว่า”
“ข่าวดี….”
“เดี๋ยวเรย์กะก็คงรู้เอง” พอมายืนใกล้ๆแบบนี้ ปลายนิ้วของเอ็นโจเล่นปอยผมม้วนของฉันแบบมืออยู่ไม่สุข เอ๊ะ!! เสียมารยาท นี่มันคุกคามทางเพศนะคะ
ฉันถลึงตาใส่ หนอย….พอเห็นไม่โวยวายนี่ก็เอาใหญ่เลยนะ
มัวแต่เคืองเอ็นโจ ฉันเลยไม่ได้ครุ่นคิดว่าข่าวดีนั่นคืออะไร หลังจากวันนั้น คาบุรากิกับวาคาบะจังก็ดูยุ่งๆไม่รับโทรศัพท์ เมล์ไปยังไม่ตอบมาทั้งคู่เลย เอาไว้เดี๋ยวค่อยโทรไปถามก็ได้มั้ง
.
.
.
.
.
วันสิ้นปี ฉันที่วุ่นอยู่กับการทำอาหารตามแต่คุณอาคิมิจะสอน ลืมไปซะสนิทว่าจะต้องโทรไปถามอาการของวาคาบะจัง
นิโมโนะเนี่ยดูเหมือนจะง่าย แต่พอลองมาทำจริงมันไม่ง่ายเลยซักนิด กินแล้วก็ต้องสำนึกบุญคุณ สรรเสริญเยินยอท่านเรย์กะให้มากๆเข้าไว้ล่ะ
อาหารเสร็จทันฉิวเฉียดตอนบ่ายสองพอดี ฉันเลยอาสาจะไปส่งคุณอาคิมิด้วยตัวเองถึงที่บ้าน วันนี้ไม่มีใครอยู่เลย ท่านพ่อกับท่านแม่ไปเกียวโตเพื่อพบญาติเหมือนทุกปี แต่ท่านพี่ไปทริปเที่ยวยุโรปกับท่านอิมาริ ท่านพี่ได้ไปเที่ยวกับเพื่อน ผ่อนคลายจากงานที่ยุ่งๆมาทั้งปีก็ดีแล้วล่ะเน้อ
จะให้ทิ้งคุณอาคิมินั่งคนเดียวในห้องรับแขกก็กระไรอยู่ ฉันเลยพามารอในห้องส่วนตัว ให้คุณเมดยกชาสมุนไพรมาให้ดื่มรอฆ่าเวลา คุณอาคิมิดูตื่นเต้นกับเตียงนอนสี่เสาแบบเจ้าหญิงของฉัน เอ่ยปากชมว่าห้องสวยเหมือนในนิทานภาพที่เคยอ่าน...แหม ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกนะคะ
ฉันรีบแต่งตัวและแต่งหน้าให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้ เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เครื่องประดับอะไรก็เลือกไว้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว เหลือแค่แต่งหน้าเพิ่มเติมอีกนิดหน่อย หมุนตัวเช็คความเรียบร้อยอีกนิดก็ได้เวลาออกจากบ้าน
เวลาที่นัดกับเอ็นโจไว้คือตอนหกโมงเย็น ไปส่งคุณอาคิมิแล้วก็เผื่อรถติดนิดหน่อยก็ทันเวลาถมถืด
มาถึงคฤหาสน์เอ็นโจในเวลาเร็วกว่ากำหนดเล็กน้อย คนที่ออกมารับคือเอ็นโจที่อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวมีแจ็คเก็ตสีครีมสวมทับ เข้ากับกางเกงสีกรมท่าที่ใส่อยู่ อยู่ในลุคสบายๆเพิ่งออกจากโรงพยาบาลก็ยังดูดีอยู่เหรอยะ
“เอ่อ สวัสดีค่ะ ท่านเอ็นโจ”
“ยินดีต้อนรับครับ เรย์กะ” เอ็นโจยิ้มอบอุ่น “วันนี้ก็ใส่สีขาวล้วนเหรอ น่ารักเหมือนคุณกระต่ายเลยนะ”
ฉันหัวใจกระตุกวูบกับคำชม หนอย เจ้าคนจากหมู่บ้านคาสโนว่านี่มัน….
พอฉันหน้าบึ้งใส่ เอ็นโจก็ยิ้มตอบกลับมา พร้อมกับสายตาที่ทำให้รู้สึกหน้าร้อนวูบจนต้องมองไปทางอื่น เป็นช่องให้หมอนี่เข้าประชิดตัวฉัน ฉวยสัมภาระที่ถืออยู่มาถือให้ แล้วก็จูงมือฉันเข้าบ้าน
อะ...อะไรยะ ยังไม่ทันจะอนุญาตให้จับมือเลยนะ
-----------------------
ส่งต่อจ้า
ที่กูอยากเขียนคือสูตรทำอาหารอันเตลิดเปิดเปิงของนางนี่ล่ะ แต่เขียนออกมารู้สึกจะได้ไม่เท่าอฟช. กูไม่สามารถคิดสูตรที่มันมิราเคิลไปได้มากกว่านี้อีกแล้ว ต้องกราบขออภัยเพื่อนโม่งทุกท่านด้วย 5555555555555555555555
ฟิคมีแต่เอ็นโจ แต่ไลน์หลักทำไมกูคิดว่าเรือล่มแหงว่ะ... แต่คาบุรากิก็ไม่มีวี่แววจะเรือรอด สงสัยคานทองนิเวศน์ของจริง
กรี้ดดดดดดโม่งพระผู้มาโปรด มีผู้ตาต่อฟิคเวียนในตำนานแล้ว ดีใจจริมๆเอื้อสสสส์ #นอนตัย
>>840-841 ขอบคุณที่มาต่อค่ะ มึงทำกูใจบาง ฮือออออ ท่านเอ็นโจต้องอยู่ในโรงพยาบาลนานเหลือเกินค่ะกว่าจะมีคนมาไถ่ตัวออกไป แต่กูว่าถ้าแดกแกงกระหรี่สุดบรรเจิดนั่นเดี๋ยวก็ได้กลับเข้าไปนอนร.พ.เพราะอาหารเป็นพิษแน่เลยว่ะ คราวนี้มียูกิโนะเข้าไปนอนเป็นเพื่อนด้วย
แล้วก็ใช้เรื่องนี้ขู่ให้เจ้าแม่แต่งงานด้วยความรู้สึกต้องรับผิดชอบไปตลอดชีวิตเลยก็ได้นะ ถถถถถถ
บทสนทนาระหว่างนูกิโนะและท่านพี่
“ท่านพี่ฮะ ท่านพี่เป็นอะไรกับคุณพี่เรย์กะฮะ?”
“เอ๋ เป็นเพื่อนไงล่ะ”
“ผมชอบคุณพี่เรย์กะฮะ ผมอยากให้คุณพี่เรย์กะมาเป็นพี่สาวผมอีกคน”
“ยังไงกันน้า...อาจจะลำบากหน่อยล่ะนะ”
“ผมให้เวลาท่านพี่นะฮะ...ถ้าอีกสิบปีคุณพี่เรย์กะยังไม่มีใคร ไม่ได้คบกับท่านพี่ ผมจะขอไว้เองนะ”
“เฮ้ เดี๋ยวสิยูกิโนะ!”
“ถ้าเป็นตอนนี้ ผมจะยอมเป็นน้องชายที่แสนดีนะฮะ แต่ถ้าผมโตกว่านี้ ผมไม่ยอมท่านพี่หรอก”
//เบื้องหลังการรุกหนักของจอมมาร
>>851 เพลงนี้55555 ขอสารภาพบาปว่าเป็นปีเลยที่คิดว่าเนื้อมันคือ …เมื่อไหร่*น้อง*ฉันจะได้เป็นแฟนของเธอ… คือไม่เคยไปเปิดเนื้อดูเลย แล้วก็แบบงง อะไรของเนื้อเพลงมัน ทำไมเป็นแฟนพี่ละน้องต้องรอน้องมาเป็นแฟนด้วยอีกอะ ผู้หญิงคนนี้มันทำไม จนแบบสิบปีต่อมาถึงได้บางอ้อว่า เออ ไม่ใช่ หนอต่างหาก ตอนเด็กๆนี่จำมั่วจริงๆ
ความจริงแล้วอยู่บนเรือเอ็นโจ(ยูกิโนะ)ต่างหากค่ะ อีตาชูสุเกะผู้ขมขื่นอะไรเนี่ย หลบไปไกลๆ//ขยับเรือคุกอย่างกล้าหาญ แค่กๆๆ ก็สาววัยรุ่นตอนปลาย(?)วัยเลขสามบนคานกับเจ้าชายของแผนกม.ปลาย มันน่ารักงุงิดีนี่นา (ขออภัยท่านเรย์กะ แต่เปอติต์นี่อนุบาลซัก
ขอเรือไซซายะบ้าง
>>855 แต่กูล่ะยอมใจแกจริงๆเลย ประเด็นเล็กๆน้อยๆแกหยอดทิ้งไว้นานมากจนคนอ่านลืมไปแล้ว แกยังเก็บเอามาใช้ต่อได้อีก อย่างคุณโมชิดะที่เรย์กะช่วยไว้แล้วหายไป ยังกลายมาเป็นกุญแจที่ช่วยยามคับขัน หรือคุณอิโคมะที่โผล่มาแค่ปลาบปลื้มและแข่งวิ่งสามขาด้วยกันยังกลายมาเป็นปมหลักของเรื่องได้ กูว่าทุกอย่างที่ใส่มามีความหมายว่ะ ไม่งั้นไม่ทิ้งปมไว้ยาวขนาดนั้นหรอก ถึงจะอืดเอื่อยเป็นนิยายชิมอาหารแต่ก็มีโครงเรื่องหลักเหมือนกัน คือการไดเอ็ทนั่นเอง//ผิดๆๆๆ
>>856 กูแอบเชียร์คาบุอยู่ในใจนะ//มายกมือ แค่ไม่มีคนหวีดด้วยเท่าไหร่เลยเงียบๆ55555 จริงๆถ้าตัดวาคาบะออกไป(ไม่คยมีมุมมองทั้งคู่อยู่ด้วยกัน ตัดสินอะไรไม่ได้ทั้งนั้น มองผ่านฟิลเตอร์ท่านเรย์กะ คาบุทำอะไรก็ดูซื่อบื้อไปหมดเลยจริงๆ ฟฟฟฟ) คาบุกับเรย์กะก็ค่อนข้างเข้ากันได้ดีมาก ประมาณว่าถ้าโดนปฏิเสธก็มีโอกาสแวบมาหาท่านเรย์กะได้ แต่จะลงเอยกันจริงจังก็คงต้องรอตอนชอบกันหน่อยๆ ก็ดูไม่ใช่คนที่จะยอมแต่งงานการเมืองละนะ เป็นชนเผ่าบูชาความรักอันร้อนแรง…
>>858 โอ้ยยย กุกะเรือคาบุ เวลาสองนางอยู่ด้วยกันมันฮา มันรู้ทันกันไปหมดอ่ะ เรย์กะทำเหมือนกลัว แต่จริงๆรับมือคาบุได้หมด ส่วนคาบุเองก็กล้าจี้จุดข้อเสียต่างๆของเจ้าแม่ เอาจริงๆกุว่าคาบุก็ถูกใจเรย์กะไม่น้อยนะ แต่ปัญหาคือ กุยังมองไม่ออกว่ามันจะเลิกชอบวาคาบะได้ยังไง คนที่มุ่งมั่นรักจริงขนาดนั้น คงไม่ตัดใจง่ายๆ เลยเปลี่ยนมาหวีดเรืออื่นแทนบ้างเป็นครั้งคราว 555
ถึงจะลงเรือเอ็นโจแต่กูก็ชอบโมเมนต์ที่คาบุกับเรย์กะอยู่ด้วยกันนะเว้ย ปากเจ้าแม่บอกกลัวๆ แต่เถียงกลับฉอดๆ กูว่าคาบุจริงๆ ก็ประทับใจเจ้าแม่หลายอย่างแล้ว ทั้งช็อกโกแลตที่เจ้าแม่เลือก แฮนด์ครีมที่เจ้าแม่ใช้ ขนาดห่วงกลที่เลือกมาให้ยูกิโนะยังถูกใจ แต่คาบุยังเห็นแต่ภาพพจน์ภายนอกที่เป็นความไม่เอาไหน ความขี้เกียจ ความฟุ้งซ่านของนาง ถ้าคาบุรู้เมื่อไหร่ว่าตัวจริงนางคือโคโระจังที่คอยช่วยโคโระจังลับหลังมาตลอด ความรู้สึกดีๆ อาจพุ่งขึ้นจนเขื่อนแตกเลยก็ได้ใครจะไปรู้ กูจะรอคอยวันนั้นนะคะ เจ้าแม่จะได้เอาคืนที่โดนเรียกว่ายัยขาหมู สัตว์กีบคู่บ้าง ถถถถถถถถถ
>>860 บวกกกก คือคาบุจะเลิกชอบได้ก็คือโดนปฏิเสธอย่างจริงจังมาแบบยูริเอะ แต่ยังไม่เห็นทีท่าว่าวาคาบะจังจะปฏิเสธเลยอะ แล้วตามที่คาบุทำจริงๆก็ดูไม่น่าต่างกับในมังงะขนาดนั้น ต้องดูว่าการที่เรย์กะไม่แกล้ง+มาเป็นเพื่อนจะส่งผลต่อความชอบคาบุในวาคาบะมั้ย
เอาจริงๆเวลาวาคาบะพูดถึงคาบุ ไม่เห็นจะมีมุมเขินๆเลย อาจจะเพื่อนเฉยๆก็ได้ เอ๊ะ แต่คนที่รู้ว่าคนที่แอบช่วยเอาระเบียบรรมาให้เป็นท่านเรย์กะก็ควรจะรู้ความรู้สึกของคาบุนะ อืมมม/อยากอ่านฟิคโว้ยยยยย
>>865 เอาจริงๆวาคาบะนางก็เขินนะตอนหนุ่มเขาชวนเที่ยวตอนไปทัศนศึกษาเมืองนอก หรือบอกจะปกป้องตอนถูกท่านโยโกะมาด่าถึงที่ ตอนเขาชวนไปเดทนางยังเปลี่ยนทรงผมเลย วาคาบะนางฉลาดจะตาย แถมเขาแสดงออกโต้งๆว่ามาจีบ ถ้าไม่เล่นด้วยคงปฏิเสธไปนานละ ไม่ได้เอ๋อๆไม่รู้ตัวว่าโดนจีบอยู่แบบที่เรย์กะคิด
เดือนมิถุนาที่เงียบเหงา
จะว่าไปเดือนมิถุนาเป็นเดือนแห่งการแต่งงานนี่ มีใครอยากแต่งกาวธีมงานแต่งงานมาใหม่มั้ย กูรอเสพค่ะ---
>>865 ไม่รู้สิ แต่กูก็คิดว่าถ้าวาคาบะคิดแค่เพื่อนคงไม่ยอมไปไหนสองต่อสองในที่ที่มันโรแมนติคแบบล่องเรือดูดอกไม้ไฟหรือทำข้าวกล่องไปให้หรอก ถึงจะบอกว่าทำให้น้องกับที่บ้านอยู่แล้ว แต่ยังไงๆคนที่ต้องแบกไปให้กินก็ตัววาคาบะอยู่ดี แถมยังต้องขึ้นรถไฟไม่ได้มีรถรับส่งแบบคนอื่นๆในเรื่อง ลำบากไปอีก ถ้าไม่ใช่คนดีเว่อร์ๆขนาดนั้นก็ต้องคิดอะไรมากกว่าเพื่อนแน่นอน แต่จากเรื่องราวที่ผ่านมาเราก็ได้เห็นว่าวาคาบะจริงๆก็ไม่ใช่คนดีประเสริฐแม่พระผู้ให้อภัยอะไร มีด้านดำมืดเหมือนกัน
อย่างตอนแบ่งซอสมะเขือเทศกันกินกูคิดว่านางอ่อยอยู่ด้วยซ้ำ ขนาดเอ็นโจที่เพิ่งเข้าครั้งแรกยังเรียกพนักงานเอามาให้ได้เลย แล้ววาคาบะที่เข้าร้านแมคมาไม่รู้กี่ครั้งในชีวิต แค่ลืมขอซอสจะเดินไปขอแป๊บเดียวก็ได้ แต่ที่ไม่ทำคงเพราะไม่อยากหักหน้าหรือปฏิเสธความกระตือรือร้นของคาบุ คงคิดว่าฮีน่ารักด้วยล่ะถึงยอมนั่งกินด้วยกัน การวางตัวของนางนับว่าฉลาดจิตาย รู้ว่าอะไรควรทำหรือไม่ควรทำ อย่างเรย์กะไม่อยากให้ใครรู้ว่าช่วยอยู่ นางก็ไม่พูด บ่ายเบี่ยงไปเรื่องอื่นแทน หรือตอนเที่ยวกับคาบุแล้วมีคนเห็น นางก็บอกบังเอิญเจอกัน ที่เห็นบอกเอ๋อๆไม่รู้เรื่องรู้ราวนี่เพราะฟิลเตอร์สาวซุยรันทั้งหลายรึเปล่า
>>870 กูว่าบางจุดนางก็เอ๋อจริงนะ อย่างตอนโดนรุมด่าอยู่ตรงทางเดินแล้วท่านเรย์กะไปช่วย นางยังเอากล่องดินสอขึ้นมาเขย่าๆ ทำดนตรีประกอบอยู่เลย แต่โดยรวมๆ คือเป็นคนฉลาดรู้จังหวะอยู่แหละ คาบุมันก็ทำอะไรโจ่งแจ้งซะขนาดนั้น ถ้ามาชวนไปล่องเรือดูดอกไม้ไฟกันสองต่อสองนี่คิดยังไงก็เกินเพื่อนแน่ๆ ล่ะ กูให้ 90% คือนางมีใจไปแล้วนะ
จักรพรรดิที่เอ๋อ ๆ ก็แค่เอ๋อเรื่องสามัญชนกับขาดความละเอียดอ่อนกับสาวทั่วไปเฉย ๆ ด้านอื่นฉลาดเลยนะ กระทั้งตอนที่รุ่นน้องก่อเรื่องก้มหัวขอโทษเองก่อนเนี่ย เรียกว่ารู้จักกาลเทศะมาก คนอีโก้เยอะปกติไม่ทำหรอก นี่ฉลาดใช้ได้เลยล่ะถึงจัดการได้ดีแบบนั้น เพราะงั้นไอ้เรื่องเอ๋อ ๆ ของวาคาบะมันก็คงไม่ได้อ่อยไรลึกมากแบบวางแผนตกหรอก แต่ฉากเขย่ากล่องดินสอนึกทีไรยังฮาดีจริง ๆ
>>874 กูว่าคาบุก็บริหารจัดการอะไรได้ดีนะ อย่างเรื่องงานกีฬาคนนอกมองว่าฮีทำให้ห้องสามัคคี แถมมาช่วยซ้อม ช่วยดูแลอะไรแบบที่คนระดับนี้ไม่น่าจะลดตัวลงมาทำ แต่เรย์กะก็มองในแง่ลบเป็นบ้าแข่งขี่ม้าส่งเมืองไปซะได้ วาคาบะที่บอกเอ๋อๆเพี้ยนๆ ก็มองผ่านฟิลเตอร์ แต่ที่เป็นคนเอ๋อๆเพี้ยนๆตัวจริงคือเรย์กะต่างหาก 555555
>>870 ขอโทษนะ…แต่ขออนุญาตขำตรงอ่อยด้วยซอสมะเขือเทศ555555 เราไม่รู้ธรรมเนียมญี่ปุ่น คนคิดก็คงจะคิดแหละมั้ง แต่คนไม่คิดก็คงจะไม่คิดเลย
ไม่เข้าใจระบบความคิดวาคาบะจังเท่าไหร่ เราว่าสามัญสำนึกคนทั่วไปของวาคาบะจังก็เหมือนนางเอกโชโจทั่วๆไปอยู่หน่อยนึง ความเอ๋อๆอย่างการตามผีเสื้อไปอีกเมืองเกิดขึ้นตอนเด็ก แต่บอกได้ว่า เป็นคนค่อนข้างโฟกัสกับเป้าหมายแบบไม่ค่อยสนใจสิ่งรอบข้างเท่าไหร่ เขย่ากล่องดินสอดูเป็นอะไรที่…ทำไปทำไมนะ แปลกๆดี ไม่รู้อารมณ์ไหนของนาง แต่ก็ด้านอื่นค่อนข้างฉลาด เหมือนบนๆว่าแหละ ปิดความลับให้ท่านเรย์กะ รู้จักใช้คำหลบเลี่ยง
>>875 คาบุจริงๆ ก็เป็นผู้นำที่ดีเลยแหละ ตอนงานเทศกาลโรงเรียนก็ทำห้องผีสิงจนคนขวัญผวา แถมยังไปกินเลี้ยงกับที่ห้องด้วย ถึงจะบ่นรำคาญๆ พวกผู้หญิงก็เหอะ กับพวกรุ่นน้องก็ดูแลใกล้ชิด ถึงขนาดจะไปหาหมอฉี่เป็นเลือดด้วยกันเลยนะเว้ย 555555
คนที่เดาใจไม่ออกที่สุดก็น่าจะเป็นวาคาบะนี่แหละ ไม่รู้ไม่คิดอะไรเลยหรือคิดลึกซึ้งสุดๆ แบบยากแท้หยั่งถึง
>>876 แต่ตอนซอสมะเขือเทศ จะว่าอ่อยก็ไม่เชิงนะ กูอยากเรียกว่ามารยาหญิงแบบน่ารักๆพองามมากกว่า มาแนวๆแกล้งโง่เพื่อให้อีกฝ่ายดีใจหรือภูมิใจในตัวเองน่ะ ถ้าคาบุอยากโชว์แมนโชว์ป๋าก็ยอมปล่อยให้ผู้ชายเป็นฝ่ายนำ ฉลาดวางตัว มีลูกล่อลูกชนด้วย ได้มาก็ให้กลับคืนไปบ้าง เขาจะได้ไม่คิดว่าโดนเอาเปรียบหรือเป็นคนเอาแต่ได้ อย่างแบ่งลูกอมหรือกับข้าวให้ ตอนเที่ยวงานเทศกาลก็พาทัวร์ ซื้อของที่ระลึกด้วยกัน ซื้อกระดิ่งลมให้ ถ้าเป็นการอ่อยก็อยู่ในระดับพอดีไม่น่าเกลียดนะ กูยังเคยอ่อยคนที่กูแอบชอบเลย วิธีก็คล้ายๆกันนี่ล่ะ 5555555555555
เราว่าวาคาบะก็ชอบคาบุนั่นแหละ เหลือแต่ให้คาบุขอเป็นแฟนอย่างเป็นทางการ....//เหม่อมองเครื่องบินพ่นควันหลากสี วงออเครสต้า
>>879 มองในแง่นี้ก็ถือว่าคาบุมันพัฒนาขึ้นมากเหมือนกันนะ ตอนไปงานนิทรรศการไดโนเสาร์ยังเป็นของที่ระลึกแบบคิดเองเออเองอยู่ข้างเดียวเลย พอไปงานเทศกาลก็ได้กระดิ่งลม ได้ดอกอาซากาโอะกลับมาปลูกด้วยกันคนละกระถางแล้ว กูว่านี่หวานสุดๆ ล่ะ เมื่อเทียบกับเจ้าแม่ที่ถ่อขึ้นรถไฟไปเที่ยวซื้อขนมกลับมาอย่างเดียวดาย....
>>881 ตามอฟช.เดิม ฮีจะไปสารภาพรักกลางสี่แยกนี่นา กูล่ะนึกภาพความเว่อร์วังประมาณขึ้นอักษรหน้าจอ LCD บนตึกทุกตึกย่านชินจูกุว่า "ฉันชอบเธอ" ตอนวาคาบะเดินข้ามถนนยังไงไม่รู้ดิ 555555555555555555555555
>>883 กูคิดว่าตอนงานไดโนเสาร์นางแกล้งคาบุนะ ประมาณว่ามาเดทกันสองต่อสอง แต่ไอ้หนุ่มดันซื่อบื้อลากคนนอกมาด้วยแบบไม่ได้ตั้งใจเลยแกล้งซักหน่อย เพราะฟังจากที่เล่านางดูเมินๆคาบุไปสนใจภัณฑารักษ์กับผอ.ที่ตามมาเป็นขบวนเสด็จ แถมยังไม่ยอมให้ออกตังให้ด้วย ให้คาบุมันเหี่ยวๆไป แต่พอไปกันสองคนที่อควอเรียมก็ดูหวานแหววกันดีจะตาย อย่างนับปลาด้วยกัน หรือดูโชว์แมวน้ำทำนองนั้น
ถ้าตอนจบเป็นเทวดาน้อยบอกเจ้าแม่ว่ารอผมบรรลุนิติภาวะก่อนนะฮะ ผมจะขอพี่เรย์กะเป็นเจ้าสาว กูฟินกว่าเรือจอมมารอีก
/กินเด็กมันดีต่อใจ
>>884 …อฟชเดิม เอ็นโจไม่กล้าปล่อยให้มาซายะทำได้หรอกมั้ง แอลซีดีเนี่ย คุณพ่อคุณแม่จะรู้หมดเลยด้วยนะ ความเว่อร์แบบนี้ไม่น่าพ้นหูพ้นตา แต่สารภาพกลางสี่แยก… ไม่หรอกอาจจะตะโกนอยู่บนรถลีมูซีนใส่วาคาบะที่ขี่จักรยานอยู่ วาคาบะ ฉันชอบเธอ!! แบบนี่ก็ได้//นึกถึงเพลง กรุณาฟังๆฉันให้จบ จบ จบ…
คาบุเรย์กะดูเข้ากันมาก อยากรู้เหมือนกันว่าคาบุจะเลิกชอบวาคาบะจีงได้ยังไง ฮีอาจจะเดทๆไปแล้วเบื่อ หรือพบว่ามีแง่มุมปรัชญาชีวิต บางอย่างที่เข้ากันไม่ได้ เช่นบ้านคาบุเลือกพรรคอนุรักษ์นิยม บ้านวาคาบะจังสนับสนุนพรรคเลเบอร์ ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมรอมชอมกันไรงี้
จะ900แล้ว เสนอชื่อมู้ต่อไปมั้ยมึง
>>892 น่าจะโดนฮารุฮิมองด้วยสายตาปลาตาย แล้วเดินผ่านไปอย่างรวดเร็ว
บ้าจริง ถ้าคาบุทำจริงๆละก็/ปิดหน้า/ วาคาบะจังไม่รู้จะตอบยังไงนะ55555 แต่ท่านเรย์กะต้องขีดฆ่ารายชื่อออกจากหมู่บ้านคานทองอย่างเกรี้ยวกราดแน่ๆ อย่าไปบอกใครว่าฉันเคยเป็นที่ปรึกษานะ—บอกกี่รอบแล้วว่าอย่าทำ
อะไรที่ทำให้ผู้ชายคิดว่าสารภาพรักสาวเว่อร์วังแล้วสาวจะชอบวะ.. กูไม่เข้าใจความคิดคาบุเลย
>>894 แสดงความรักในใจฉันมั้ง จะไปพูดแค่สองคนว่าฉันรักเธอก็จะดูไม่สมเกียรติ์และศักดิ์ศรีอันยิ่งใหญ่ของตระกูลคาบุรากิ อีกอย่างก็เดี๋ยวเขาจะไม่เชื่อว่าเรารักจริง พูดแค่เล็กๆเบาๆเขาจะคิดว่าความรักเธอบอกว่ารักฉันมันนิดเดียวเองเหรอ แบบตอนที่ฮีจะส่งดอกไม้ช่อบิ๊กเบิ้มไปง้อยูริเอะน่ะ
นี่ไง งานดอกไม้ไฟที่กำลังจะถึง บนเรือส่วนตัวบรรยากาศดีสุดๆ พอคาบุกำลังจะสารภาพรักก็.....เฟี้ยววววววว ตู้ม ปุปุปุ เมื่อกี้คาบุรากิคุงว่าอะไรนะจ๊ะ//วงวารสไตล์โชวโจ
กรูเห็นแฟนอาร์ตตอน 224 ที่ไปซื้อของฝาก เลยย้อนกลับไปอ่าน อร๊าาาาาากกกกกกก อ่านไปกรูก็ยกมือปิดปากกรี๊ดไป ทำไมตอนนี้มันช่างมุ๊งมิ๊งอะไรอย่างงี้นะ รอยยิ้มมีนัยของเอ็นโจตอนที่เจ้าแม่บอกเลือกของฝากไปให้ปู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่ท่านพี่นั้น กรูรู้สึกว่า เอ็นโจ นายนี่มันจอมมารจริง ๆ แล้วยังเรียนเจ้าแม่ว่าองค์หญิงต่อหน้าคนอื่นอีก โอย นี่ถ้าไม่มีคนเอาไปเมาท์ต่อ ไม่ใช่ซุยรันละ อ่านไปน้ำตาจะไหลไป ไหนล่ะตอน 300 ไหนล่ะตอนไปเดท กลับมาเถิดท่านฮิ ฮืออออ
แล้วพอมาอ่านตอน 225 มีตอนที่คาบุไปร้านจิล แล้วเอ็นโจไปด้วย เจ้าแม่ก็คิดว่า ไปซื้อแหวนหมั้นมั๊ง กรูแอบรู้สึกในใจว่า นี่เจ้าแม่แดกไหน้ำส้มเหรอคะ โอย คือดี (กรูมโนมาก) แล้วกรูก็คิดว่า เฮ้ย แล้วถ้าเอ็นโจแอบไปซื้อจิลมาจริง ๆ แล้วมาให้เจ้าแม่ตอนที่ไปเดทกัน แนวว่าเป็นของตอบแทนที่ออกมาเที่ยวกับยูกิโนะ (อันนี้คือมโนขั้นเทพ แดกกาวครึ่งกระป๋อง) คงจะฟินมาก
มุมมองของยูกิโนะ
Note: ฟิคนี้มีกลิ่นอายโชตะ ผู้ที่ไม่นิยมควรข้ามไป
นุ่มนิ่มและหอมหวาน คุณพี่เรย์กะมักจะให้ความรู้สึกแบบนั้นเสมอ
“ถ้าเอามือทำเป็นวง ๆ แบบนี้ ก็จะสามารถเป่าลูกโป่งได้ด้วยล่ะ พี่ชอบเล่นมาก ๆ เลย เวลาที่แช่ฟองสบู่”
“งั้นคุณพี่เรย์กะสอนผมหน่อยนะฮะ นะ” ผมเขยิบเข้าประชิด ดึงชายเสื้อแล้วใช้สายตาที่ท่านแม่บอกว่า ‘ใคร ๆ ก็ปฏิเสธไม่ได้’ อ้อนคุณพี่เรย์กะ “ให้ผมอาบน้ำด้วยนะฮะ”
ดวงตากลมโตของคุณพี่เรย์กะเบิกกว้าง ก่อนจะอ่อนลงเมื่อเห็นสายตาอ้อนวอนของผม
เธอมักจะใจอ่อนกับเด็ก
ไม่สิ ถ้าพูดให้ถูก เธอใจอ่อนกับผมเป็นพิเศษ
สิทธิพิเศษหนึ่งเดียวที่ผม เอ็นโจ ยูกิโนะ ได้รับ แต่ท่านพี่ไม่เคยได้รับมัน ผมรู้ดี หัวใจพองโตทุกครั้งที่ทำตัวเอาแต่ใจกับเธอ และเธอก็ยอมตามใจผม เหมือนอย่างที่เมื่อตอนหัวค่ำ ผมดื้อดึงจะค้างบ้านคุณพี่เรย์กะเหมือนอย่างที่มาโอะเคยค้าง ท่านพี่ได้แต่ทำหน้าลำบากใจที่ผมไม่ยอมกลับ เขาพูดดุหน่อย ๆ สุดท้ายเมื่อผมไม่ยอมลง ก็ได้แต่ฝากฝังผมเอาไว้คืนหนึ่ง
แม้ว่าผมจะรักท่านพี่มากที่สุด แต่ลึก ๆ แล้วก็อดตั้งตัวเป็นศัตรูกับเขาไม่ได้ เพราะเขาเลือกผู้หญิงคนนั้นที่ท่านพ่อท่านแม่ชอบ แต่ผมและเขาไม่ชอบ ผมมองท่านพี่แล้วยิ้มหวาน ครึ่งหนึ่งสมน้ำหน้าที่ผมทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการในขณะที่เขาทำไม่ได้ ครึ่งหนึ่งสะใจที่ได้แก้แค้นตอนที่เขาให้ผมกลับบ้านพร้อมกับเขาไปเจอผู้หญิงคนนั้นแทนที่จะได้อยู่กับคุณพี่เรย์กะ
ห้องอาบน้ำของคุณพี่เรย์กะก็เหมือนกับห้องนอนและบุคลิกเจ้าหญิงของเธอ ทุกตารางนิ้วสวยงามหรูหรา ภายในห้องอาบน้ำกว้างขวาง ห้องทั้งห้องหอมด้วยกลิ่นกุหลาบ แยกเป็นส่วนแห้งที่ปูพรมสีครีมนุ่มนิ่ม มีโต๊ะแต่งหน้าและเก้าอี้นั่งนุ่มสบาย ด้านในส่วนเปียกมีอ่างอาบน้ำสีขาวขาตั้งแกะลายสลักสีทอง ของประดับสวยน่ารักน่าตื่นตา ผิดกับห้องของผมหรือห้องของท่านพี่มาก
ผมมองคุณพี่เรย์กะที่ค่อย ๆ ถอดเสื้อผ้าออก แล้วเปรียบเทียบกับท่านแม่ที่เคยอาบน้ำด้วยตอนที่ยังเด็กมาก ๆ ร่างกายของคุณพี่เรย์กะดูนุ่มนิ่มกว่าท่านแม่ ผิวอมเลือดฝาดดูสุขภาพดี คุณพี่เรย์กะช้อนเส้นผมม้วนเกลียวเหมือนเจ้าหญิง แล้วคาดด้วยผ้าขนหนูคาดผมรูปโบว์สีชมพู ก่อนที่พวกเราจะปีนเข้าไปในอ่างอาบน้ำด้วยกัน
น้ำในอ่างอุ่นจัด คุณพี่เรย์กะหยิบลูกบอลสีชมพูอ่อน ๆ ออกมาบีบใต้น้ำ แม้ว่าจะตื่นเต้นที่ได้เล่นฟองสบู่ แต่เมื่อร่างเปลือยที่ปกติผมไม่เคยได้เห็นของเธอถูกฟองสีขาวซึ่งแผ่ไปทั่วผิวน้ำบดบัง ผมก็แอบเสียดายไม่ได้
เป็นครั้งแรกที่ผมได้เล่นในห้องอาบน้ำ โดยปกติแล้วคุณพี่เลี้ยงจะเร่งให้ผมอาบน้ำเร็ว ๆ เพราะกลัวจะไม่สบาย พวกเราเล่นฟองสบู่กันอย่างสนุกสนาน คุณพี่เรย์กะสอนผมทำนิ้วเป็นกลม ๆ แล้วเป่าฟอง พวกเราเล่นกันอยู่นานจนฟองบนผิวน้ำจางหาย คุณพี่เรย์กะก็ชวนให้ผมอาบน้ำเข้านอน เธอช่วยผมขัดหลังด้วยผ้านุ่ม ๆ ผมเลยอาสาช่วยเธอขัดหลังเช่นกัน
ผิวของคุณพี่เรย์กะเป็นสีชมพูเพราะแช่น้ำอุ่นอยู่นาน มันเรียบลื่นเหมือนเยลลี่ และยิ่งลื่นเข้าไปใหญ่เมื่อฟอกสบู่ เนื้อตัวนุ่มนิ่มขาวโพลน ทั้งลำคอ ไหล่ แผ่นหลัง ช่วงเอว และสะโพกที่ผายออกเป็นส่วนโค้งเว้า เธอหัวเราะคิกคักเมื่อมือของผมลูบถูกเอว ผมแปลกใจที่เธอบ้าจี้ เลยอยากทดลองดูว่าจะเป็นเหมือนยูริคุงรึเปล่า จึงลูบตรงเอวอีกครั้ง คราวนี้เธออุทานออกมาแล้วบิดตัวหนี อาจจะเพราะว่าผมนิสัยไม่ดี เมื่อเห็นเธอทำท่าแบบนั้นจึงลงมือจั๊กจี้จริงจัง คุณพี่เรย์กะอุทานออกมาเสียงดังอย่างที่ผมไม่เคยได้ยินมาก่อน
“ยูกิโนะคุง! อย่าแกล้งพี่สิ!”
คุณพี่เรย์กะหันมามองผม ดวงตากลมโตเหมือนจะต่อว่า แต่แทนที่ผมจะรู้สึกจ๋อยเหมือนทุกครั้งที่โดนผู้ใหญ่ดุ หัวใจของผมกลับเต้นแรงขึ้นมาอีกนิดจากปกติ ผมยิ้มหวานประจบด้วยรอยยิ้มที่ทำให้เธอใจอ่อนทุกครั้ง ก่อนจะเอียงคอขอโทษ บอกว่าผมไม่ได้ตั้งใจ
และเป็นเหมือนทุกครั้ง คุณพี่เรย์กะยกโทษให้ผม แล้วยอมให้ผมขัดหลังขาว ๆ ของเธอต่อ
หลังจากอาบน้ำเสร็จ พวกเราก็เปลี่ยนเป็นชุดนอน ผมใส่ชุดสมัยเด็กของท่านพี่ของคุณพี่เรย์กะ ส่วนคุณพี่เรย์กะใส่ชุดกระโปรงลายเถากุหลาบ พอพวกเราซุกตัวเข้าไปใต้ผ้าห่ม ผมก็เรียกร้องให้เธอเล่านิทานก่อนนอนให้ฟัง
แสงจากโคมไฟสีเหลืองส้มสลัวทำให้ร่างของคุณพี่เรย์กะให้ยิ่งนุ่มนวลลึกลับกว่าทุกครั้งที่เห็น ขนตายาวทอเงาบนแก้มเนียน ท่อนแขนที่วางอยู่เหนือผ้าห่มชวนลูบไล้สัมผัส ผ้าลูกไม้บริเวณคอชุดนอนที่เว้าต่ำทำให้เห็นหน้าอกอวบอิ่มใต้ชุดชั้นในสีขาว ริมฝีปากของเธอขยับน้อย ๆ เล่าตำนานเจ้าหญิงคางูยะให้ผมฟังด้วยน้ำเสียงแผ่วหวาน แสงกระทบบนความมันเงาของริมฝีปากที่ทาออยล์บำรุง ผมแลบลิ้นเลียริมฝีปากตัวเองที่เธอทาออยล์บำรุงให้เช่นกันก่อนเข้านอน มันมีรสหวาน ๆ ของวนิลลา
ผมขยับตัวเข้าใกล้ รับรู้ได้ถึงความร้อนของร่างกาย ปลายนิ้วใต้ผ้าห่มแตะถูกชุดนอนแบบเดรสตัวยาวที่ให้สัมผัสลื่นมือ จมูกได้กลิ่นหอมของสบู่และครีมบำรุงผิว เป็นกลิ่นที่คล้ายกุหลาบ วานิลลา และน้ำผึ้ง ราวกับขนมเค้กที่ที่หวานละมุน ต่างจากกลิ่นของท่านแม่ที่เหมือนดอกมะลิ แต่ก็ให้ความรู้สึกอยากแนบชิดเข้าใกล้เหมือนกัน
คุณพี่เรย์กะพลิกตัวลูบหัวผม นิ้วมือสางไปตามเส้นผมอย่างอ่อนโยน
“ราตรีสวัสดิ์ ยูกิโนะคุง”
ผมคิดว่าตัวเองอาจจะบอกราตรีสวัสดิ์กลับไป แต่จำไม่ได้เพราะรู้สึกง่วงเหลือเกิน จึงได้แต่ซุกหน้าลงกับไหล่ของคุณพี่เรย์กะ และหลับไปด้วยความสงสัยว่า ถ้าผมโตขึ้นเท่าท่านพี่ คุณพี่เรย์กะจะยอมให้ผมอาบน้ำแล้วเข้านอนกับเธออยู่อีกรึเปล่า
จบ
..............................
>>907 กูขอโทษที่กูมัวแต่นึกว่า น้องยูกิโนะจับไม่เจอห่วงยาง(?)รอบเอวเจ้าแม่เหรอจ้ะ//คาบุรากี๊ ต้องเป็นนายที่สาดเชื้อใส่ชั้นแน่ๆ นึกถึงตอนคาบุจับแขนย้วยๆของเจ้าแม่ตลอดเลยย
ถ้าเป็นคนพี่นี่คงโดนว่าไปละว่าชั่วร้ายแต่เด็กเลยนะ!! แต่น้องยูกิโนะก็เอาเป็นแค่แก่แดดไปหน่อยนะค้า~ ไว้พ้นวัยคุกก่อนเนอะ/สรุปน้องหรือเราที่หื่น น้องแค่ชอบผิวนุ่มๆลื่นๆขาวอมชมพูของคุณพี่เรย์กะกับเวลาซุกผ้าห่มด้วยกันเจ๋ยๆ น้องใสๆ*ฟิลเต้อหนาม้วก*
พวกมึงนี่... ความโรแมนติกโดขิๆ หายหดหมดกันพอดี มาห่วงยงห่วงยางอะไรกันว้า
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรัน ท่านฮิโยโกะซามะ...จะทิ้งให้เราลงแดงอย่างนี้จริงๆหรอ! < กรีดร้องครั้งที่26 >
กูขอเสนอ!
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับประกายแสงแห่งความหวัง งานดอกไม้ไฟมันก็ต้องหน้าร้อนสิ!!! [ระเบิดแห่งกาวครั้งที่ 26]
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับ6เดือนแห่งการรอคอย [ น้ำตาร่วงหยดที่ 26 ]
>>902 ใช่ กูล่ะแอบจิ้นเบาๆอยู่คนเดียวว่าหลังจากเรย์กะบอกจะซื้อของให้ชายอื่น ฮีรีบประกาศแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของทันทีด้วยการเรียกเขาว่าองค์หญิง เพราะฉายาฮีก็องค์ชาย ทั้งที่จริงจะเสนอตัวรับใช้ก็พูดคุณหนูก็ได้ แถมยังเลือกกอล์ฟมาร์คเกอร์ให้ได้อย่างสบายใจ... เอ็งสบายใจคนเดียวอะเด่ะ 55555555555
เออๆๆ มีเม้นท์หนึ่งที่เสนอทฤษฎีเอ็นโจขาเจ็บปีที่ยูกิโนะเกิด กุก็เคยเขียนฟิคเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้(ประมาณ เหตุการณ์นี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกับยุยโกะด้วย) แต่กุทิ้งห่างไปนานมากจนกุลืมไปหมด ตอนนี้อ่านทวนยังไงกุก็คิดตอนจบไม่ออก โฮฮฮฮฮ ไฟกุมอดหมดแร้ว ช่วยด้วยยT_T
อะ งั้นกุอัพเดทเป็น
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับ7เดือนแห่งการรอคอย [ น้ำตาร่วง26ลิตร ]
ตอนแรกจะเอา7(+)เดือน แต่แม่งเป็นลาง เลยเอาแค่นี้ละกัน...
โลกของท่านเรย์กะที่หมุนไปด้วยอาหารซามะแต่ทั้งหมดคือดิ้นอยู่บนมือคานซามะสินะ
เจ้าแม่อาจจะคานนานหน่อยถ้าไม่ลงเรือใครในรุ่นนาง แต่นางโดนยูกิโนะคุงสอยแน่นอนตอนโตถ้ายังไม่แต่งออกน่ะนะ
>>931 มึงอย่าประมาทคำสาปคานทองของนาง เข้าใกล้ชายใด ถ้าไม่ถูกเฟรนด์โซน เขาก็มีหญิงในดวงใจอยู่ร่ำไป ยกเว้นคนนึงที่จะเป็นเพื่อนก็ยังเป็นไม่ได้เลย ผ่านมา 284 ตอน เจ้าแม่เพิ่งจะรู้สึกว่าเป็นเพื่อนสมัยเด็กกัน 555555555555555555 กูว่ายูกิโนะโตแล้วคงไม่แคล้วมีแฟนแหงๆ
>>934 ไม่อะ มาซายะตอนเด็กๆไปหายูริเอะไปรับส่งแทบทุกวัน หายใจเข้าออกเป็นยูริเอะ โดดเตะคนที่มาจีบยูริเอะ พร่ำเพ้อหายูริเอะๆๆ แต่ยูกิโนะระดับความสตอล์กเกอร์ยังไม่มากพอ ไม่ได้ตามมาเฝ้า ไม่ได้ไม่พอใจหึงหวงเวลาที่นางไปคุยกับใครที่ไม่ใช่ตัวเองด้วย แต่ไม่รู้พอโตแล้วน้องแกจะความรู้สึกเปลี่ยนไปมั้ย ก็รอดูกันไป
>>937 แต่น้องเขาถูกเลี้ยงมาในบ้านเอ็นโจนะ คิดสภาพเอ็นโจคนพี่อ้อน-น้องยูกิโนะดูจะเป็นธรรมชาติกว่าเยอะ//ไม่รู้เพราะป่วยบ่อย+ลูกคนเล็กด้วยรึเปล่า กูมองไม่เห็นความเอาแต่ใจของเอ็นโจเท่าไหร่เลยแม้แต่ตอนเด็กๆก็เหอะ(เพราะบทฮีน้อยซ้า-) โตมาก็ดูความยิ้มขมขื่นนู่นนี่นั่นแล้วดูเป็นคนยอมอดทน(แค่ก ย้ำว่ามากกว่าน้องยูกิโนะเฉยๆนะ ในด้านพวกความรับผิดชอบต่อตระกูลอะไรเงี้ย) การที่น้องโทรมาอ้อน ส่งโปสอะไรมาให้ท่านเรย์กะนี่ กูว่าแบบ เหย ถ้าเทียบกับนิสัยเอ็นโจคนพี่แล้วกูว่าก็ไม่ทำมะดาาา
แต่แบบกูไม่รู้ว่ะ นิสัยผู้ชายรอบตัวท่านเรย์กะ aka นายบ้าหมาและคาบุรากิ คือรัวส่งไดอารี่(?)อีเมล์มาหาท่านเรย์กะเช้าเย็น ท่านเรย์กะไม่น่าจะรู้สึกตัว+ฟิลเตอร์ท่านเรย์กะต่อน้องยูกิโนะหนามาก ถ้าสมมติน้องชอบจริงอะนะ ท่านเรย์กะไม่มีทางรู้แน่นอน รู้อีกทีคือเขามาเป็นส่วนนึงของชีวิตประจำวันไปแล้วงี้//จ้วงพาย ช่วงนี้มีฟิคน้องออกมา เรามีกำลังใจจจจ
แต่ในฐานะที่ก็พายเรือเอ็นโจคนพี่ด้วย ถ้ามั่นใจว่าชอบเรย์กะจริงๆคงจะเนียนเงียบๆ แต่ยากเพราะโดนระแวงจัด5555 แต่พอมั่นใจแล้วว่าท่านเรย์กะชอบน่าจะมีแรงต่อต้านคุณ”ว่าที่”คู่หมั้นอยู่นะ ทุกครั้งที่ท่านเรย์กะเผยไต๋ว่าแอบไม่ชอบใจเล็กๆเรื่องคุณยุยโกะเนี่ย เอ็นโจดูพูดมาก+ระริกระรี้ขึ้นมาสิบเปอร์55555
เดทในชุดนักเรียน
“งั้นไปดูด้วยกันก็ได้นะ คันตะคุง”
โคโรเน่บอกอย่างนั้นตอนที่เราชวนพี่ไปดูหนังที่รอมานานแสนนาน แต่พี่กลับบอกว่าดูกับคนอื่นไปแล้ว
พอโคโรเน่บอกแบบนั้น พี่ก็รีบปฏิเสธเพราะกลัวว่าเราจะเป็นภาระ (อะไรกัน ถ้าไปด้วยกัน ดูเหมือนคนที่เป็นภาระน่าจะเป็นโคโรเน่มากกว่านะ) โคโรเน่รีบบอกว่า วันก่อนได้ตั๋วฟรีมา ถ้าไม่ได้ไปดูก็จะหมดอายุ ดังนั้นจึงไม่ได้ลำบากอะไรเลย
เพราะอย่างนั้น เย็นวันศุกร์เราเลยนัดดูหนังกับโคโรเน่ที่ย่านการค้าใกล้โรงเรียนของเรา เพื่อนของเราพอรู้ว่าเราจะไปดูหนังกับสาวม.ปลายก็แซวเรากันใหญ่ หาว่าเราควงสาวที่โตกว่า เราเถียงว่าไม่ใช่ซักหน่อย โคโรเน่เป็นเพื่อนพี่ อีกอย่าง ถึงจะอายุมากกว่า แต่โคโรเน่ที่บ๊อง ๆ แบบนั้น ยังดูเด็กกว่าผู้หญิงบางคนในห้องของเราด้วยซ้ำ
โคโรเน่นั่งรอเราในร้านกาแฟที่ดูดีมีระดับ แม้ว่าจะไม่ได้นั่งติดกระจกด้านหน้า แต่เราก็เห็นได้ทันที โคโรเน่ในแบบฟอร์มนักเรียนซุยรันดูโดดเด่นมาก แต่ก็ไม่ได้ไม่เข้ากับร้านกาแฟหรู ๆ แบบนั้น เราต่างหากที่รู้สึกเขินตอนที่ต้องผลักประตูเข้าไปในที่แบบนั้น
ดวงตาของโคโรเน่เป็นประกายขึ้นมาทันทีที่เห็นเรา พอเรามาถึง ก็รีบดึงเราไปหน้าตู้ขนม แล้วก็ถามเราใหญ่ว่าอยากจะกินอะไร เราเห็นราคาขนมแล้วรู้สึกตกใจ ขนมที่นี่เป็นช็อคโกแล็ตชิ้นเล็ก ๆ มีหลากหลายรูปแบบ แค่ชิ้นเดียวก็ราคาแพงกว่าเค้กปอนด์ทั้งก้อนของบ้านเราแล้ว โคโรเน่บอกว่าเลี้ยงขอบคุณที่เราออกมาดูหนังเป็นเพื่อน แต่เราคิดว่าโคโรเน่หาเพื่อนมาช่วยกินมากกว่า เพราะเชียร์ให้เราสั่งขนมมาเยอะมาก ปากก็บอกว่า ตัวเองจะดื่มชาเฉย ๆ แต่ก็แบ่งของเราไปชิมตั้งเยอะ สรุปคือคนที่บอกว่าจะดื่มแค่ชากลับกินขนมที่สั่งมาให้เราไปเกือบครึ่ง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ นั่นแหล่ะว่าช็อคโกแล็ตพวกนี้อร่อยมาก และโคโรเน่ที่จ่ายเงินโดยไม่สะดุ้งสะเทือนซักนิดก็ทำให้เรารู้สึกว่า จริง ๆ แล้วโคโรเน่นี่เป็นคุณหนูนี่นา
หลังจากดื่มชากินขนมเสร็จ ทว่ายังไม่ถึงรอบฉายหนัง เรากับโคโรเน่ก็ออกไปเดินดูของ ไม่รู้ว่าเพราะผมม้วน ๆ ของโคโรเน่ หรือเครื่องแบบซุยรันกันแน่ แต่ทุกคนที่เดินผ่านต่างแอบมองโคโรเน่จนเหลียวหลัง โคโรเน่เองก็ดูเหมือนจะชินกับสายตาแบบนั้น ไม่ได้รู้สึกขัดเขินอะไร ยังชวนเราดูของไร้สาระไปเรื่อย ๆ
อันที่จริงเราก็พอรู้ล่ะนะว่าสาว ๆ น่ะชอบของชิ้นเล็ก ๆ น่ารัก เลยไม่ได้แปลกใจเลยตอนที่โคโรเน่ดูเครื่องประดับกระจุกกระจิก แต่นอกจากของพวกนั้นโคโรเน่ยังดูแผ่นแปะแก้ปวดด้วย ดูอย่างเดียวไม่พอ ยังแนะนำเราว่าแผ่นแปะอันไหนใช้ดี แผ่นแปะอันไหนร้อนทนนาน เดี๋ยวนะ ถึงเราจะไม่ได้อยู่ในวงโคจรของสาวม.ปลาย แต่ของแบบนี้มีแต่คนรุ่นแม่เท่านั้นแหล่ะที่ใช้ นี่เธอเป็นคุณหนูสาวม.ปลายจริง ๆ งั้นเหรอ โคโรเน่ นอกจากจะทำอาหารประหลาด ๆ แล้ว ยังใช้ของป้า ๆ อีก น่าขายหน้าชะมัด
พอถึงเวลาดูหนัง โคโรเน่ก็ซื้อป๊อปคอร์นกับน้ำอัดลมชุดใหญ่ บอกว่าซื้อไปเผื่อเราหิว แต่พอเอาเข้าจริงตัวเองก็จ้วงเอาจ้วงเอาจนป๊อปคอร์นหมดตั้งแต่กลางเรื่อง ไหนวันก่อนยังให้เราสอนทำวุ้นแคลอรี่ต่ำอยู่เลย ไม่รู้หรือไงว่าป๊อปคอร์นน่ะมันอ้วนขนาดไหน
พอดูหนังเสร็จ โคโรเน่ก็ชวนเรากินข้าว เดี๋ยวนะ ยังไม่อิ่มอีกเหรอ? ทำไมสาวม.ปลายถึงได้กินจุขนาดนี้นะ โคโรเน่ เธอเอาอาหารที่กินทั้งหมดไปเก็บไว้ไหนน่ะ คราวนี้เราอาสาจะเลี้ยงโคโรเน่เอง เพราะว่าโคโรเน่จ่ายทั้งค่าขนมทั้งตั๋วหนัง พอถามโคโรเน่ว่าอยากกินอะไร ก็ชวนเราไปกินราเม็งยืนกิน
ตอนแรกเรานึกว่าโคโรเน่ชวนเราไปกินร้านนั้น เพราะกลัวว่าเราจะไม่มีเงินจ่าย แต่ตอนที่เข้าแถวรอแล้วโคโรเน่บรรยายว่า ร้านนี้เป็นหนึ่งในสิบร้านราเม็งยืนกินที่ลงในนิตยสาร มีชิโอะราเม็งที่แสนจะโด่งดังได้อันดับสองปีซ้อน เราก็รู้สึกว่าอันที่จริงโคโรเน่แค่อยากกินเฉย ๆ ไม่ได้เกรงใจหรืออะไรทั้งนั้นแหล่ะ
กินราเม็งเสร็จฟ้าก็มืดตื๋อ ตอนเดินออกจากร้าน เราก็เห็นคุณคาบุรากิเดินคุยกับพี่ที่อีกฟากถนน แต่พอจะส่งเสียงทัก ก็ถูกตะครุบปากไว้ แล้วก็ถูกลากเข้าไปในร้านขายยาทันที
“ทำบ้าอะไรของเธอน่ะ โคโรเน่!” เราบ่นขึ้นมาเมื่อมือของโคโรโน่ชักกลับไป ปกติเห็นปวกเปียกเป็นพุดดิ้งน้ำเต้าหู้ แต่บทจะบ้าก็แรงเยอะยิ่งกว่าพี่ซะอีก
โคโรเน่ชะโงกมองกระจกร้าน เราชะโงกมองตาม เห็นพี่กับคุณคาบุรากิค่อย ๆ เดินห่างออกไป พอหันกลับมามอง ก็พบโคโรเน่ที่ถอนหายใจเฮือก ก่อนจะยิ้มหวาน
“วันนี้สนุกมากเลยค่ะ แต่คงต้องขอตัวกลับบ้านก่อน จะให้รถไปส่ง...” โคโรเน่ชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะบอกต่อว่า “คันตะคุงกลับบ้านเองได้ใช่ไหมคะ?”
เราพยักหน้า อาสารอรถที่บ้านของโคโรเน่มารับ รถคันยาวเหมือนของคุณคาบุรากิ เท่ชะมัด พอโคโรเน่จะขึ้นรถ เราก็พึ่งนึกขึ้นมาได้
“วันเสาร์หน้าศาลเจ้าใกล้ ๆ บ้านจะจัดงานออกร้าน ถ้าว่างมา จะพาไปเลี้ยงทาโกะยากิร้านที่ชอบเป็นค่าตอบแทนที่เลี้ยงขนมวันนี้”
โคโรเน่ยิ้มจนตาหยี ก่อนจะตอบตกลง
จบ
ช่วงนี้เพิ่งอ่านท่านเรย์กะจบอีกรอบ เลยมาแบ่งปันพลังโชตะ เผื่อว่ารุ่นเดียวกันจะไปไม่รุ่ง ก็รอน้อง ๆ โตขึ้นมาสอยท่านเรย์กะลงจากคาน
เผื่อจะแต่งฟิคบ้างงน่ะนะะ คันตะตอนเรย์กะอยู่ม6นี่คืออายุเท่าไหร่เหรออ/เห็นกาวเยอะแล้วใจชื้น เราไม่ได้พายโชตะคนเดียววว
950 แล้ว โหวตชื่อใหม่ได้แล้วมั้ง
วันนี้กูมีโอกาสได้มานารา
กุเห็นภาพซ้อนทับคนแถวนี้กะท่านเรย์กะเลยว่ะ
คนหนึ่งคนมีกวางเกือบสิบตัวรุมทึ้ง
เกือบดดนชนล้มก็มี
>>954 กูเคยไปเที่ยว เห็นลูกกวางน่าร๊ากน่ารักเลยไปซื้อแครกเกอร์(เขาเรียกงี้ป่ะวะ) กะจะมาป้อนแบบมุ้งมิ้งแบบป้อนนมให้ลูกแพะหรือป้อนหญ้ากระต่าย ที่ไหนได้ กูเพิ่งจะฉีกซองออกยังไม่ถึงสิบวิแม่งมารุมทึ้งกูจนต้องรีบปล่อยเลย กวางแถวนี้แม่งเถื่อนเหี้ยๆ เกือบโดนกัดมือด้วย ;w;
>>954 กูเกลียดกวางที่นั่นมากกก ไม่สิ กูเกลียดทุกที่ เถื่อนสุดๆ เห็นขนมในมือกูนี่รีบวิ่งมารุมทึ้งอย่างกับแร้งลง เจ็บตัวโคตรๆ กวางแม่งทั้งกัดทั้งเตะ
มีอีกทีนึงไปเกาะอะไรสักอย่างที่มีเสาโทริอิกลางน้ำ ขนาดถุงขนมที่หมดแล้วยังแย่งไปแดก กูต้องไปยื้อดึงออกมาจากปากมัน แรงก็เยอะชิบหายยย กูแทบจะตกทะเลเพราะดึงถุงออกจากปากมัน
ปล. เซมเบ้ที่ให้กวางแดกอร่อยดี..
ประสบการณ์น่าจะคล้ายๆกูตอนไปฟาร์มอัลปาก้า ในไทยนี่แหละ
แม่งโคตรดุ พนักงานให้คนถือหญ้าคนละกำแล้วเข้าไปในคอก ซึ่งพอเข้าไปปุ๊บแม่งกรูเข้ามาหากูยังกะซอมบี้ เข้ามาทีนึง6-7ตัว กูก็พยายามชูหญ้าไว้สูงๆนะ แต่แม่งก็ยังทึ้งกูอยู่อีก สุดท้ายมีตัวนึงปีนตัวกู เอากีบเหยียบเข้าเต็มๆท้อง เลยยอมแพ้ ปาหญ้าทิ้งแล้ววิ่งหนีออกมา อัลปาก้าแม่งก็ไปทึ้งแย่งหญ้ากันต่อ
ตัวกูก็หอบร่างหนีตายออกมา เป็นประสบการณ์สยองขวัญติดท็อปเท็นของชีวิตกูเลย หลังจากนั้นกูก็ไม่สามารถมองสิ่งมีชีวิตนี้ให้น่ารักได้อีกเลย...
คือฟาร์มพวกนี้ก็จะให้อาหารน้อยๆเข้าไว้เวลามีนทท.จะได้เข้าไปหา แต่มันก็สยองขวัญไปนะ...
แอบ KY นิด เผลอไปเห็น gif ลูกหมาปอมเดินดุ๊กดิ๊กๆ ในไทม์ไลน์แล้วโคตรน่ารัก ถ้าชูสุมอยเป็นซามอยด์ กุก็อยากให้น้องนูกิโนะเป็นหมาปอมนี่แหละ ฮือออออ
ท่านแม่กูนึกถึงหมาไฮโซที่พันธ์ขายาวๆมีขนที่หูม้วนๆอ่ะ//นึกชื่อไม่ออก
ท่านอิมารินี่กูนึกถึงโกลเด้นขนพริ้วๆเลย5555
>>974 ถ้าท่านฮิไม่มาสาววายจริงจัง กูว่าผู้หญิงของท่านพี่ต้องเป็นสามัญชน หรือมีเหตุให้เปิดตัวไม่ได้เพราะดูวาเลนไทน์ไวท์เดย์ แต่ละวันนี่พฤติกรรมงุบงิบๆ ทั้งนั้น แต่ถ้ามีจริงก็น่าจะเปิดตัวละครใหม่นะ สาวๆ ที่มีอยู่ตอนนี้ดูไม่มีใครเข้าเค้าซักคน กับท่านไอระที่ดูมีซัมธิงก็ไม่เห็นมีอะไรให้น่าปิดบังนี่น้า
โหวต ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับประกายแสงแห่งความหวัง งานดอกไม้ไฟมันก็ต้องหน้าร้อนสิ!!! [ระเบิดแห่งกาวครั้งที่ 26]
>>975 กูว่าไอระไม่น่าใช่ว่ะ บทน้อยเกิน แถมยังไม่เห็นการพัฒนาความสัมพันธ์อะไรกับท่านพี่มากเท่าไหร่ ยกเว้นจะแอบไปงุบงิบๆสานต่อกันโดยที่เรย์กะไม่รู้
ที่เห็นความเป็นไปได้มากสุดก็อิมารินั่นล่ะ ถ้าอ.แกให้สองคนนี้เป็นคู่วายกันจริงๆ อิมารินอนมาแน่ๆในตำแหน่งคู่ชีวิตของท่านพี่ 55555555555555
สรุปท่านพี่แอบกิ๊กกับนารุคุง---
เอ้าๆรีบปิดโหวตแล้วสร้างมู้ใหม่เร็วเข้า เสร็จแล้วก็แข่งกันว่าคำทิ้งท้ายของมู้นี้คืออะไร
อะ รวบรวมมาให้
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรัน ท่านฮิโยโกะซามะ...จะทิ้งให้เราลงแดงอย่างนี้จริงๆหรอ! < กรีดร้องครั้งที่26 >
-คะแนนโหวต
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับประกายแสงแห่งความหวัง งานดอกไม้ไฟมันก็ต้องหน้าร้อนสิ!!! [ระเบิดแห่งกาวครั้งที่ 26]
-คะแนนโหวต //////
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับ6เดือนแห่งการรอคอย [ น้ำตาร่วงหยดที่ 26 ]
-คะแนนโหวต
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับ7เดือนแห่งการรอคอย [ น้ำตาร่วง26ลิตร ]
-คะแนนโหวต //
จะปิดโหวตเลยมั้ย หรือจะต่ออีกหน่อย
ปิดเลยๆ
ทู้หน้าอย่าลืมเพิ่มลิ้งกาวฝรั่งลงสารบัญ
แล้วฟิคเวียนแปลไม้ 9 สรุปมีคนเอาไปยัง?
เปิดวาร์ปกระทู้ใหม่ >>>/webnovel/5719/
เชิญวิ่งควายกันได้
วาคาบะเรย์กะบันไซ
ขอท่านฮิโยโกะบันดาลตอนใหม่ให้ผองเรา!
สวัสดีคานซามะ
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.