แล้วเมื่อวาน คุณโคะโทก็ทำให้คาบุรากิยัวะเข้าจนได้
รู้สึกว่าเธอจะเฉียดเข้าไปร้องเรียกตอนคาบุรากิกำลังจะไปส่งท่านยูริเอะ
กฎเหล็กในการตามกรี๊ดคาบุรากิมีอยู่ว่า ห้ามเข้าไปรบกวนเวลาที่คาบุรากิอยู่กับท่านยูริเอะเป็นอันขาด แต่เธอก็ยังเมินเฉยกับกฎนี้
ตามธรรมดาแล้วมาซายะจะไม่สนใจพวกผู้หญิงที่มาตามกรี๊ดกร๊าด ไม่ว่าจะทำอะไรก็มองผ่านๆ แต่ถ้ามียูริเอะเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยก็เป็นอีกเรื่อง
ถ้ามีคนมาขัดขวางเวลาแสนสำคัญที่ได้อยู่กับยูริเอะ เขาจะถอดหน้ากากไร้อารมณ์ตามปกติทิ้ง ระเบิดอารมณ์ออกมาทันที แล้วก็เป็นอารมณ์ตรงข้ามกับที่พวกสาวๆ ต้องการจากมาซายะเสียด้วย
เพราะรู้แบบนี้ กองเชียร์สาวๆ จึงไม่กล้าเข้าไปเกะกะยามมาซษยะอยู่กับยูริเอะเป็นอันขาด
แต่สงสัยว่าผู้หญิงคนนั้นจะไม่รู้กฎข้อนี้ ถลาเข้าไปเกาะมาซายะแจเพราะเห็นว่าเป็นโอกาสดีไม่มีตัวขัดขวางอยู่ข้างๆ
ทั้งที่ใกล้จะถึงเวลาเรียนพิเศษของยูริเอะ แต่เธอกลับเอาแต่ดึงไปดึงมาอยู่ได้ไม่รู้จังหวะ เล่นเอามาซายะยัวะขาดตะคอกว่า "พอได้แล้ว ! อย่าเข้ามาใกล้ฉันเป็นครั้งที่สองนะ !" จากนั้นก็ทิ้งคุณโคะโทไว้ตรงนั้นเดินไปขึ้นรถกับยูริเอะที่พยายามปลอบโยน
เมื่อได้เห็นเธอยืนอยู่อย่างโดดเดี่ยวในที่จอดรถ คนอื่นข้างๆ พากันหัวเราะเยาะล้อเลียน ผมก็อดสะใจไม่ได้จริงๆ ที่แม่สาวจอมเชิ่ดจะโดนมาซายะตะคอกใส่ซะบ้าง จนเมื่อเธอหันไปทางทางอื่น ผมก็ถึงกับเผลอหลุดหัวเราะหึๆ ขณะเดินจากมา
-
ข่าวลือว่าคุณโคะโททำให้มาซายะโกรธแพร่สะพัดอย่างรวดเร็วราวกับไฟป่าลามไปทั่วโรงเรียน กระทั่งพวกผู้หญิงทั่วไปที่คอยห้อมล้อมผมกับมาซายะก็ยังเว้นระยะห่างออกไปไกลอีกนิด และคอยกระซิบกระซาบเรื่องผู้หญิงคนนั้นอย่างเห็นใจฟังดูมีมนุษยธรรมที่สุดเท่าที่ทำได้
ในทางกลับกัน เรย์กะกลับทำคอตก สีหน้าดูกระวนกระวายอยู่ตลอดเวลา
แม้ผมจะหัวเราะอย่างสะใจเมื่อคุณโคะโทโดนมาซายะตะคอกใส่ แต่ก็จำต้องยอมรับว่าเรย์กะเป็นทุกข์เพราะเรื่องนี้ด้วยเหมือนกัน...
เรื่องนี้ทำให้ผมปวดหัวหนักกว่าปกติ ผมจึงไป Pivoine พร้อมกับมาซายะ
ผมไม่ได้เตรียมใจจะเจอสิ่งที่ตามมาจริงๆ
-