-
ต่อมาผมได้คุยกับมาซายะในตอนเช้า ปรากฎว่าเขาได้รับข้อความจากยูริเอะที่ส่งมาดุเรื่องที่เขาปล่อยให้พวกเด็กผู้หญิงก่อเรื่องได้ตามใจชอบ เขาดูกลุ้มอกกลุ้มใจจนผมต้องยื่นช็อคโกล่าให้ปลอบใจเขา
ไม่เป็นไรหรอกน่า มาซายะ ยูริเอะไม่ได้โมโหซะหน่อย ไม่เห็นต้องซึมขนาดนั้นเลยนี่นา
-
ระหว่างวัน พวกเรายังได้เดินไปเยี่ยมชมศาลเจ้าและวิหารต่าง ๆ และต่อด้วยการไปช้อปปิ้ง
มาซายะไปซื้อของฝากให้ยูริเอะ ในขณะที่ผมมองผ่านพิธีอวยพรในศาลเจ้าไป ผมก็เห็นมีผู้ชายบางคนรีบไปขอคำอวยพรในด้านความรัก พอคนน้อยลงหน่อยผมก็ค่อยเดินไปบ้าง
ผมดึงเซียมซีออกมาหนึ่งแผ่น “โชคร้าย“
อะไรเนี่ย? [1]
-
เมื่อพวกเราถึงจังหวัดนารา ก็พบว่ามีเด็กผู้หญิงคนนึงกำลังท่องบทกลอนมังโยชู ดังนั้นพวกเราหลาย ๆ คนก็เลยหยุดเพื่อที่จะชื่นชมในความประณีตละเอียดอ่อนของเธอ มีเด็กบางคนถึงกับลองท่องเลียนแบบออกมาด้วยซ้ำ แต่กลับลงเอยด้วยอะไรที่ฟังดูงี่เง่าแทน
ผมมองเรย์กะที่ทำสีหน้าไปด้วยในขณะที่ฟัง เธอดูเหมือนจะจำอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ แต่สุดท้ายแล้วเธอก็แค่อยู่เงียบ ๆ และนำพวกเราทั้งหมดไปที่สถานที่ต่อไป
อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเราเข้าไปในหอยูเมโดโนะ เรย์กะก็ไม่ได้อยู่เงียบ ๆ อีกต่อไป เธอพูดขึ้นมาด้วยเสียงค่อนข้างดังว่า “จักรพรรดิแห่งดินแดนอาทิตย์อุทัย” ไกด์ที่มีสีหน้าพอใจก็กล่าวชมเธอยกใหญ่ ทำให้เด็กผู้หญิงคนอื่น ๆ เองก็เอ่ยชื่นชมเธอไปตาม ๆ กัน
แก้มทั้งสองข้างของเรย์กะกระตุกและยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อได้รับคำชม
นี่การทำให้เธอดีใจมันง่ายขนาดนี้เลยใช่ไหม?
-
ที่สวนสาธารณะนารา[2] มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น
ผมไม่ได้เห็นกับตาตัวเอง แต่ก็ได้ฟังมาจากมาซายะที่ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา แม้ว่าในส่วนตัวแล้วผมค่อนข้างจะเป็นห่วงว่าเธอได้รับบาดเจ็บรึเปล่าเพราะผมเห็นเธอเดินสะโหลสะเหลไปตลอดทางกลับโรงแรม แต่มาซายะก็ยังย้ำกับผมอยู่นั่นล่ะว่าที่เธอเดินแปลก ๆ เป็นเพราะเธอเหยียบมูลของกวางเข้าต่างหาก
ผมตัดสินใจอย่างเงียบ ๆ ว่าอีกเดี๋ยวจะไปดูเรย์กะ และพบว่าเธอก็เดินได้ปกติดี แสดงว่าเธอคงจะเหยียบมูลกวางอย่างที่มาซายะบอกจริง ๆ นั่นละ
-
ต่อมาพวกเราก็ไปมหาศาลเจ้าคาสุกะหลังจากนั้น ผมก็ตั้งใจภาวนาให้เพื่อน ๆ ทุกคนและครอบครัวมีสุขภาพที่ดี
ที่นี่ก็ยังมีเซียมซีกวางน้อย[3] แต่ผมบังเอิญหันไปเจอเรย์กะที่มองพวกมันด้วยสายตาพิฆาตเหมือนอยากจะเอาพวกมันทั้งหมดไปเผาทีละตัว ๆ ผมก็เลยไม่ค่อยอยากซื้อ รู้สึกเหมือนว่ามันจะไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีซะเท่าไหร่ และก็ตัดสินใจซื้ออันอื่นให้ครอบครัวของผมแทน
มาซายะชวนผมไปเสี่ยงเซียมซีกับเขา แต่พอผมนึกถึงอันที่แล้วที่ผมได้มาผมเลยปฏิเสธเขาไป แต่ก็นั่นละมาซายะยอมให้ผมทำแบบนั้นที่ไหนและลากผมไปด้วยอยู่ดี
นี่นายไม่ได้คิดจะไปเองตั้งแต่แรกอยู่แล้วสินะ?
สุดท้ายพวกเราก็ได้รับเซียมซีว่าโชคร้ายกันมาทั้งคู่ มาซายะโมโหถึงขั้นโยนคำทำนายของเขาทิ้งลงถังขยะ บอกว่ายังไงเขาก็ไม่เชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติพวกนี้อยู่แล้ว
แหม แต่เมื่อกี้นายยังมีความสุขที่ได้มาเสี่ยงเซียมซี /ขนาดนั้น/ เลยนะ…
แต่พอผมคิดถึงโชคร้ายของผมบ้าง ผมก็อดขมวดคิ้วไม่ได้
ไม่รู้ว่าผมควรจะรู้สึกยังไงกับเรื่องนี้ดีนะ…