เพียงครู่เดียวหลังจากทานอาหารกลางวันเสร็จ ผมก็ถูกมาซายะที่แสนกระตือรือล้นลากไปเปอร์ติต์ อดรู้สึกสงสารตัวเองไม่ได้ ทีแรกผมยังคิดว่าตัวเองเป็นผู้ปกครอง แต่ตอนนี้รู้สึกเหมือนกำลังกลายเป็นเบ๊ของหมอนี่ไปซะแล้ว
คุณคิโชวอินกับผมลงเรือลำเดียวกันซะแล้วล่ะครับ
ขณะที่รอคุณคิโชวอินอยู่นั้น ผมก็ให้มาซายะอ่านรายงานแล้วอธิบายให้เขาฟังไปทีละส่วน ว่าแต่ละส่วนหมายความว่าอะไร ผมรู้สึกจริงๆ นะว่าตัวเองเป็นคุณพ่อที่กำลังพยายามสอนลูกน้อยผู้ตั้งอกตั้งใจให้อ่านหนังสือ
หืม? ถ้าผมเป็นพ่อ งั้นคุณคิโชวอินจะเป็นแม่มั้ยนะ?...แต่ไม่ใช่ว่าคุณแม่จะต้องเป็นคนคอยดูแลลูก ส่วนพ่อก็เป็นคนพาลูกไปเที่ยวหรอกเหรอ?
ระหว่างที่คิดเรื่องเปื่อยเรื่องใครจะเป็นพ่อและแม่ของมาซายะในครอบครัวสมมติอยู่นั้น คุณคิโชวอินก็ก้าวเข้ามาในห้องเปอร์ติต์
สีหน้าเธอดีกว่าก่อนหน้านี้มาก และดูเหมือนจะใจเย็นลงมากแล้วเช่นกัน มาซายะร้องทักเธอด้วยการบ่นเรื่องที่เธอช้า
"คุณคิโชวอิน นั่งก่อนไหมครับ?"
"ท่านเอ็นโจ ที่มาช่วยตอนก่อนหน้านี้ต้องขอบคุณมากนะคะ" โอ้ สังเกตด้วยสินะ ผมยิ้มให้คำขอบคุณของเธอ
"เฮ้ พูดเรื่องอะไรกัน"
"ไม่มีอะไรเป็นพิเศษหรอก แล้วนายคิดไว้บ้างหรือยังว่าต่อจากนี้คิดจะทำยังไงต่อ"
"จริงด้วย! ถ้าจะให้ยูริเอะเห็นว่าชั้นสำนึกผิดแล้วเนี่ย ต้องทำยังไงบ้างล่ะ?" มาซายะเข้าเรื่องทันที แล้วมองมาที่พวกเราอย่างอยากรู้อยากเห็น หืม ผมอยากให้เขาคิดเองมากกว่านะ แต่...ไม่ล่ะ ลองดูก่อนว่าหมอนี่จะมีไอเดียดีๆ บ้างมั้ย "ลองถามความเห็นของมาซายะดูก่อนเป็นไง?"
"ชั้นคิดว่าจะไปขอโทษยูริเอะทุกวันจนกว่าเธอจะเข้าใจความรู้สึกของชั้นน่ะ" เขาประกาศความคิดของตัวเองอย่างภาคภูมิ
มาซายะ นั่น...ผมนิ่วหน้าและพยายามห้ามตัวเองไม่ให้แบ็คแฮนด์ใส่หมอนี่เข้าจริงๆ นั่นมันความคิดของคนที่ไม่ได้สำนึกผิดเลยนี่หว่า!!!
"มาซายะ ทำแบบนั้นเธอจะยิ่งโกรธนะ" ผมต้องหยุดเอาไว้ก่อนที่หมอนี่จะลงมือทำจริงๆ ใครจะรู้ว่าเจ้าโง่นี่จะทำอะไรอีกถ้าผมไม่ห้ามไว้
"ทำไมล่ะ?!" มาซายะร้องอย่างสับสน เขาดูโกรธมากทีเดียว "ชูสิเกะ แล้วนายคิดว่าต้องทำยังไงล่ะ?"
"ก็อะไรแบบไม่ติดต่อไปหาเธอเลย แล้วก็รออยู่เงียบๆจนกว่าเธอจะยกโทษให้ไง"
"ไม่เอา!"
ไอ้เวรนี่
มาซายะเปลี่ยนเป้าหมายและมองไปที่คุณคิโชวอินแทน "เฮ้ สปาย! ขอเสนอแนะของเธอล่ะ?"
คุณคิโชวอินแสดงสีหงุดหงิดตอบ "ท่านคาบุรากิคะ ชื่อของดิฉันคือคิโชวอิน เรย์กะค่ะ กรุณาเลิกเรียกว่าสปายได้ไหมคะ?"
"ใช่แล้วล่ะ มาซายะ เธอช่วยเหลือนายนะ อย่างน้อยๆ ก็เรียกเธอด้วยชื่อเถอะ"
"เหอะ"
"ไง? แล้วเธอมีความคิดอะไรดีๆ บ้างมั้ย" มาซายะเชิดคางขึ้น บังคับเอาคำตอบจากเธอทันที
คุณคิโชวอินกลับตอบอย่างที่ผมคาดไม่ถึง "ดิฉันคิดว่าใช้วิธีส่งจดหมายให้เธอทุกวันก็ดีนะคะ"
"จดหมาย?"
คุณคิโชวอินพยักหน้าและพูดต่อ "อธิบายไปว่าสำนึกผิดขนาดไหน แล้วก็บอกว่าคิดยังไงกับเรื่องนี้ แล้วก็ขอโทษไปตรงๆ ค่ะ ถ้าใช้เมลมันดูจับต้องไม่ได้แล้วก็ยากที่จะสื่อความรู้สึกออกไป เพราะอย่างนั้นถึงควรจะส่งจดหมายด้วยลายมือตัวเองไงคะ แล้วก็เขียนความรู้สึกของคุณที่มีต่อท่านยูริเอะลไปด้วยค่ะ ตั้งแต่อดีต ในญี่ปุ่นเองก็เป็นเรื่องปกติที่จะเริ่มความสัมพันธ์ด้วยจดหมายรักนะคะ"
"อย่างนี้นี่เอง!?" น้ำเสียงมาซายะดูตื่นเต้นมาก แม้กระทั่งผมเองก็ด้วย ที่พูดมาฟังดูโรแมนติกจริงๆ หรือพูดให้ถูก วิธีนี้เหมาะกับมาซายะมากทีเดียว
จากนั้น มาซายะและคุณคิโชวอินเริ่มลงถึงรายละเอียดต่างๆ รวมไปถึงยังห้ามไม่ให้มาซายะทำอะไรอลังการเกินเหตุ ดีเหลือเกิน คำแนะนำของคุณคิโชวอินดีมากๆ น่าจะทำให้มาซายะยุ่งจนไปก่อปัญหาอะไรไม่ได้อีก ผมจะได้พักจากออร่าดำมืดของหมอนี่ซะที
"เอาล่ะ! ความเห็นนี้ผ่าน! หลังจากเลิกเรียนพวกเราไปซื้อชุดเขียนจดหมายกัน! ทั้งสองคนเข้าใจแล้วนะ?!"
"ดิฉันไม่ไปหรอกนะคะ" คุณคิโชวอินตอบ
"หะ? ทำไมล่ะ?"
"หลังเลิกเรียนดิฉันมีบทเรียนส่งเสริมมารยาทและวัฒนธรรมค่ะ แล้วก็มีเขียนไว้ในรายงานด้วยนี่คะว่า 'อย่ารบกวนคนอื่น' ถ้าคุณไปกับฉัน ท่านยูริเอะอาจจะโกรธก็ได้ไม่ใช่หรือคะ?"
พอได้ยินว่ายูริเอะอาจจะโกรธอีก มาซายะเลยหงอยลง
"...เข้าใจแล้ว ลำบากแย่เลยนะ"
"ค่า ถ้าอย่างนั้นก็ ดิฉันขอตัวค่ะ ลาล่ะนะคะ" คุณคิโชวอินยิ้มอย่างสดใสก่อนจะจากไป โชคดีจังน้าที่หนีไปได้
"ชูสุเกะ นายไปกับฉัน"
ผมปฎิเสธได้มั้ยนะ?
-