ไม้สองแปลดีจนกุละอายใจ ยังกะโม่งแปลตัวจริงมาเอง ;_;
ขอรับช่วงต่อไม้สามนะเจ้าคะ ติดขัดยังไงขออภัยล่วงหน้า
<<Fan Fic : เอ็นโจ ชูสุเกะ PoV Chapter 3 >>
หลังจากที่ผมเรียนพิเศษเสร็จ มาซายะก็โทรมาหา
"ฮัลโหล?"
"ชูสุเกะ! นายต้องไม่เชื่อแน่ว่ายัยนั่นพูดกับฉันว่ายังไง!" มาซายะตะโกนลั่นจนผมต้องเอาโทรศัพท์ออกห่างจากหู ทำบ้าอะไรน่ะ ตะโกนใส่โทรศัพท์เนี่ยนะ
"แล้วเธอว่าไงล่ะ?" ผมถามกลับอย่างใจเย็นพร้อมๆ กับที่ลดเสี่ยงโทรศัพท์ลง เป็นการคุยที่มีชีวิตชีวาดีนะ
"ยัยนั่นบอกว่าไม่อยากช่วยฉัน! ทั้งที่เข้ามายุ่งกับเรื่องฉันเองแท้ๆ ยังกล้าบอกว่าข่มขู่อีกนะ เชื่อมั้ยล่ะ!" ฟังแล้ว เสียงหมอนั่นกำลังโกรธสุดๆ
"นายขู่ให้เธอมาช่วยนะ..." ผมเริ่ม ตั้งท่าจะดุมาซายะ แล้วก็ได้ยินเสียงฮึ่มฮั่มมาจากปลายสาย ทำให้ผมต้องหยุดตัวเองไว้ก่อน ผมกรอกตาอย่างสงสัยว่าผมควรจะแก้ไขนิสัยของเขาดีมั้ยนะ
ในมุมนึง มาซายะเป็นคนที่หยาบคายไร้มารยาทเอามากๆ แต่อีกมุมนึงก็เป็นคนที่บันเทิงดี...ขอโทษทีนะ คุณคิโชวอิน แต่ผมว่าจะปล่อยให้หมอนี่เป็นแบบนี้ต่อไปนี่แหละ
"แล้ว มีอะไรคืบหน้าบ้างมั้ย"
น้ำเสียงของมาซายะเปลี่ยนไปทันที และเริ่มรายงานทุกสิ่งอย่างที่ได้รับรู้มา
"ยัยนั่นไม่มีมือถือ ไม่แปลกไปหน่อยรึไง? เราอยู่ตั้งประถมสี่แล้วนะ พ่อแม่ยัยนั่นคิดอะไรอยู่?"
"บางทีอาจจะไม่อยากให้เธอเสียเวลาเล่นเน็ตล่ะมั้ง?" ผมตอบด้วยเหตุผลขณะที่ดื่มชาไปด้วย "เมื่อไหร่นายจะอัพเดทเรื่องยูริเอะ?"
"วันจันทร์เช้า"
ผมกรอกตาเมื่อได้ยินเรื่องนี้ "...ตอนเช้า? นั่นไม่ใช่วันเดียวกับที่คุณคิโชวอินจะไปถามไอระเรื่องยูริเอะหรอกเหรอ?"
"ก็ใช่น่ะสิ ฉันจะได้รู้เรื่องให้เร็วที่สุด ยูริเอะจะได้รีบยกโทษให้ฉันซะที"
...ฉันว่าไม่น่าจะเป็นงั้นนะ มาซายะ
ผมถอนหายใจ ยอมแพ้ที่จะมีเหตุผลกับหมอนี่แล้ว "เข้าใจล่ะ เอาเถอะ ตอนรับรายงานวันพรุ่งนี้ ฟังให้ดีๆ แล้วก็สำนึกผิดซะล่ะ ว่ายูริเอะโกรธนายเรื่องอะไร"
"ฉันคิดแล้วไงว่าต้องใจเย็นลง แล้วก็โทรไปขอโทษตั้งหลายครั้ง แต่ยูริเอะไม่ยอมยกโทษให้ฉันซะที"
ก็แหงอยู่แล้ว ตราบใดที่นายยังตอบได้แบบนี้แถมน้ำเสียงยังไม่สำนึกผิดเลยด้วย!
เฮ้อ "บาย มาซายะ"
"บาย" หมอนั่นวางสายไป
ผมมองเพดานห้องแล้วถอนหายใจออกมา ทำไมถึงรู้สึกเหมือนเป็นผู้ปกครองที่ต้องดูแลเด็กมีปัญหาล่ะ? ผมอายุแค่เก้าขวบเองนะ ผมไม่ควรมีลูกชายเร็วขนาดนี้!
-