เมื่อผมเดินเข้าไปในห้องโถงที่สว่างไสวจากโคมไฟระย้า ผมก็เบื่อขึ้นมาทันทีทันใด
ผมยืนอยู่ที่ริมขอบห้องกับเพื่อนสนิทของผม ผู้ที่กำลังวุ่นวายอยู่กับการคุยกับคนที่เขาชอบ เรากลับมาจากทริปที่เมดิเตอร์เรเนียนไวกว่าปกติเพื่อเข้าร่วมงานวันเกิดยูริเอะ ทั้งหมดนี้ แน่นอนว่าเป็นการบงการของมาซายะ
ผมนั้นใส่ใจยูริเอะก็จริงอยู่ ไม่ว่ายังไงเธอก็เป็นเพื่อนสมัยเด็กของเรา แต่ผมก็คิดว่ามันออกจะน่ารำคาญหน่อยๆ ที่ล้มเลิกแผนการวันหยุดที่ครอบครัวเราวางแผนเอาไว้แค่เพื่อเข้าร่วมงานเลี้ยงวันเกิด ก็ไม่ใช่ว่ายูริเอะจะโกรธพวกเราเสียหน่อยถ้าไม่ไป แล้วทำไมมาซายะต้องย่นทุกอย่างให้สั้นลงด้วย
สองคำสั้นๆ แรกรัก
ในความคิดผมนะ เขาชัดเจน ชัดมากไปเสียด้วยซ้ำสำหรับความรักที่เขามีต่อยูริเอะ ช่างเป็นความชัดเจนที่แสนเจ็บปวด ผมแปลกใจจริงๆ ที่เธอไม่แม้แต่จะพยายามหยุดความรักของเขาไว้ก่อน
เห็นได้ชัดเลยว่าตัดปัญหาไปตั้งแต่แรกเป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้ว
ผมได้ยินเสียงเพลงเปลี่ยนจึงมองไปยังฟลอร์เต้นรำ มองเห็นเด็กผู้หญิงอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับผมที่น่ารักและสดใสมากๆ เต้นวอลซ์กับเด็กผู้ชายที่อายุเยอะกว่า ผมชะงักไปชั่วอึดใจ
หืมม… เธอหน้าตาคุ้นๆ อยู่หน่อยนะ…? “นี่ มาซายะ จำเด็กผู้หญิงคนนั้นได้มั้ย?” ผมกำลังจะสะกิดให้เขาดูแต่เขาก็มองเธออยู่เหมือนกัน เขาเหล่มองผมจากข้างๆ พร้อมเอ่ยถามว่า “ยัยคนนั้นทำไมเหรอ?”
“ฉันคุ้นหน้าเธอยังไงไม่รู้ นายรู้จักเธอมั้ย?”
“ไม่รู้หรอก” ในขณะที่มอง เขาทำหน้ามุ่ย พึมพำเบาๆ ว่า “เต้นกับยูริเอะ…”
ผมส่ายหัวและถอนหายใจ ถ้าอยากเต้นกับยูริเอะก็ไปขอสิ ไม่เห็นจะต้องเล่นบทสาวน้อยผู้เขินอายเลยเนอะ? มาซายะเอ๊ย
เด็กผู้หญิงคนนั้นหมุนตัว หัวเราะคิกคักไปพลาง เมื่อการเต้นรำจบ เธอหันมองไปรอบๆ และตัวแข็งทื่ออย่างสมบูรณ์ในตอนที่สายตาเธอปะกับของมาซายะ ใบหน้าของเธอกระตุกทั้งยังหันหน้าหนีทันทีพร้อมเดินออกไป เธอมีสีหน้าที่ราวกับว่าถ้ามองเขาต่อไปนานกว่านี้อีกแม้แต่นิดเดียว มันจะทำให้เธอเปรอะเปื้อน มาซายะที่อยู่ข้างผมบ่นอย่างสับสนและไม่พอใจ “สีหน้าแบบนั้นคืออะไรวะเนี่ย?”
เธอรีบเร่งเดินออกไปไวท่ามกลางฝูงชนจนผมตามไม่ทัน คนที่เธอเต้นด้วยรีบตามเธอไปในขณะที่ร้องตะโกนชื่อที่ผมเหมาเอาว่าเป็นชื่อเธอ
“เรย์กะ” หือ เป็นชื่อที่น่ารักดีนะ
ผมยิ้มระหว่างที่เดินตรงไปยังโซนเครื่องดื่ม นั่นเป็นเรื่องที่แปลกดี ไม่เคยมีเด็กผู้หญิงคนไหนแสดงอาการแบบนั้นต่อมาซายะมาก่อนเลย ผมสงสัยจังว่าทำไมเธอถึงทำแบบนั้น
เมื่อผมเดินเข้าไปใกล้ขึ้นก็สังเกตเห็นเด็กผู้หญิงคนก่อนหน้านั้นอยู่ตรงนั้นด้วย ดื่มน้ำผลไม้อะไรสักอย่าง ในขณะที่คุณพี่ชายที่เธอเต้นด้วยกำลังคุยกับคนอื่นอยู่ พอผมมองดูดีๆ แล้วก็บอกได้เลยว่าพวกเขาเป็นพี่น้องกัน
ผมมองสองคนนั้นสลับไปมาและมองเธออย่างจดจ่อ พวกเด็กจากเปอติต์ทุกคนที่เข้าร่วมงานเลี้ยงไม่มีใครกล้าเต้นแต่เธอกล้า แถมยังเต้นอย่างไร้กังวลใดๆ เสียด้วย ฮืม… เธอมีภาพลักษณ์ที่เด่นเอาการ ตอนที่โรงเรียนเปิดแล้วการถามหาตัวเธอคงไม่ยากอะไร
ผมเดินกลับไปเมื่อได้ยินมาซายะเรียกผม
เด็กผู้หญิงคนนั้น… ช่างเป็นเด็กที่แปลกเสียจริง
-
เมื่อเรากลับมาโรงเรียน เราก็ทำกิจวัตรของเราไปตามเดิม ในระหว่างคาบเรียนก็เรียน หลังจากนั้นก็ไปทานของว่างที่เปอติต์กับยูริเอะและไอระเมื่อถึงตอนพักและหลังจบคาบ
ไอระเป็นเพื่อนสนิทของยูริเอะ กำลังสนใจรุ่นน้องจากชั้นเดียวกับผมอยู่
บังเอิญที่เด็กคนนั้นก็เป็นเด็กผู้หญิงคนเดียวกันกับคนที่เต้นวอลซ์อยู่กลางฟลอร์เต้นรำ
เมื่อผมหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาพูด มาซายะก็มองไปที่เธอแล้วเอ่ยต่อว่า “อ๋อ… จากตอนนั้นนี่เอง” นายยังอิจฉาอยู่หรือไง? ถ้านายอยากเต้นกับยูริเอะนายก็ทำได้น่า ถึงแม้ผมจะสงสัยว่ายูริเอะจะเต้นรำกับคู่เต้นนำที่เตี้ยกว่าได้สบายหรือเปล่าเถอะ ไม่ต้องเศร้าเสียใจไปหรอกนะมาซายะ
เด็กผู้หญิงคนนั้นที่ยังไม่ได้แนะนำตัวเอง จ้องมองผมด้วยสายตาดำมืดทันทีเมื่อมาซายะถอนสายตาออกไป หือ? มีเรื่องอะไรให้คุณไม่พอใจขนาดนั้นหรือครับ?
หลังจากนั้น ผมมองเธอต่ออีกหน่อยจนกระทั่งเวลาพักหมด ผมสังเกตเห็นบางอย่างที่แปลกมาก…
เธอจะมองมาซายะอยู่ตลอดเวลาแต่ไม่ใช่ในแบบที่แฟนคลับมองเขา
กลับกัน สายตาเธอดูไม่แน่ใจและหวาดหวั่น เหมือนกับเธอคาดว่าอะไรบางอย่างที่แย่มากๆ จะเกิดขึ้น และเขาเป็นผู้กระทำ นั่นคือทั้งหมดที่ผมสังเกตได้ในขณะที่เธอนั่งส่งยิ้มสดใสอยู่กับที่
ผมถามมาซายะอีกครั้งว่าเขารู้จักเธอมั้ย
มาซายะตอบกลับว่าเขาไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อเธอ
งั้นแล้วทำไมเธอถึงมองมาซายะแบบนั้นกันนะ?